อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น. ตอนจบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น. ตอนจบ  (อ่าน 88783 ครั้ง)

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 4/6/2555
«ตอบ #210 เมื่อ05-06-2012 13:59:16 »

โดนเข้าแล้วสิปืน
น้องปอใจแข็งแฮะ
รักนี้ต้องพิสูจน์เนอะ

หวังว่าตอนต่อๆไปจะหวานนนน~ ชิมิคุณนู o18

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 4/6/2555
«ตอบ #211 เมื่อ05-06-2012 14:13:07 »

ปืนสู้ๆ ทำให้ปอกลับมารักเหมือนเดิม

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #212 เมื่อ06-06-2012 00:25:03 »





 :z3:

ยังไม่มีอำนาจบันดาล + ให้ใครได้

ตอนนี้ก็แจกเป็ดกันไปพลาง ๆ่ก่อนนะครับ

ทีแรกที่บอกไว้ว่า จะตัดตัวประกอบคู่นึงออกไป

พอเอาเข้าจริงมันไม่ง่ายอย่างงั้นเลยครับ

ถ้าตัดไปผมก็ต้องเรียบเรียงเรื่องช่วงท้ายใหม่หมด

ที่เีขียนไว้แล้วก็ใช่ว่าจะดี ตัดออกเลยจะยิ่งแย่ แถมจะอ่านไม่รู้เรื่องเอาด้วย

เอาเป็นว่าไม่ตัดครับ

ถ้าเผื่อตอนที่จะลงต่อไปนี้ ตัวประกอบจะกลายเป็นตัวเอก

ผมก็คงต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย  :mc4:

ิมิได้มีเจตนาจะแย่งซีนปอเลยจริง ๆ ให้ตาย   :L1:












 เป็นวันสำหรับการพักผ่อนอย่างจริง ๆ ของพี่นิว โดยมีพี่นูคอยปรนนิบัติอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา

พอพี่นิวหลับพี่นูถึงจะปลีกตัวไปเล่นน้ำคนเดียว บางทีปอนึกสนุกก็กระโจนลงไปเล่นเป็นเพื่อนด้วย

แต่ด้วยความที่น้ำตื้นแค่ตาตุ่ม ตรงที่ลึกหน่อยก็แค่หน้าอก (ตอนนั่งแช่) จะกระโดดลงไปก็ต้องระวังให้ลงไปพอดีกับพื้นทราย

ไม่งั้นเจอหินก้อนกลม ๆ ก็อาจจะเจ็บตัวได้เหมือนกัน

      คนที่ดูน่าสงสารที่สุดเห็นจะเป็นพี่ปืน เพราะปอเองก็แทบจะไม่เข้าใกล้ เลยต้องนั่งอยู่คนเดียวเป็นส่วนใหญ่

จิบเบียร์อย่างเหงา ๆนั่งมองฟ้า มองน้ำ แล้วก็มองปอเล่นน้ำ ใบหน้าพี่ปืนดูหมอง ๆ ขอบตาคล้ำ แววตาหม่น

เหมือนคนอดนอน

      ที่ปอไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะรู้ว่ายิ่งใกล้ก็ยิ่งทำให้พี่ปืนรู้สึกแย่และบังคับตัวเองไม่ค่อยได้

ปอรู้ว่าพี่ปืนแอบมองเวลาพี่นูเอาใจพี่นิว แล้วก็คงจะนึกอยากให้ปอทำอย่างนั้นบ้าง แต่ปอไม่กล้าหรอก

อายพี่นูที่ชอบส่งสายตามาเชียร์ปอบ่อย ๆ เผลอ ๆ ก็ยังแอบล้ออีกต่างหาก

ส่วนพี่นิวมักจะเก็บอาการไว้ไม่เคยล้อปอเลย แถมยังส่งยิ้มให้กำลังใจเป็นบางทีอีกด้วย

      คืนที่สองเป็นคืนสุดท้ายที่จะพักกันที่นี่ ก็เลยตกลงว่าจะทำอาหารปิ้งย่างกลางแจ้งตรงลานซีเมนต์ริมตลิ่ง

มีเตาขนาดกลางวางอยู่ที่ระเบียงก็ย้ายออกมาวางกลางลาน ของปิ้งย่างง่าย ๆ หาได้ในท้องถิ่นแถวนั้น

เพราะไม่มีตู้เย็นที่จะเก็บอาหารสดได้ มีก็แค่ถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ให้ร้านค้าในหมู่บ้านมาส่งเพื่อจะแช่เบียร์

กับอาหารสำเร็จรูปต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยความเย็นในการเก็บรักษา แต่ด้วยบรรยากาศทำให้อาหารง่าย ๆ อร่อยขึ้นเป็นทวีคูณ


      รอบ ๆ ตัวมืดสนิท มีเพียงเสียงจักจั่นอย่างเคย จะเป็นตัวเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะมันร้องกันระงมเหมือนเมื่อคืนเปี๊ยบ

สายน้ำในลำธารดังแผ่ว ๆ อยู่ข้างล่าง แต่คืนนี้มีเงาสะท้อนจากคบไฟที่พี่นิวสร้างบรรยากาศ

ด้วยการเอาไปปักไว้ที่ริมตลิ่งเป็นแถวเป็นแนว ส่วนตรงลานที่นั่งกันอยู่ ก็ได้แสงจากตะเกียงที่แขวนไว้กับเสาของชายคาทั้งสี่เสา

      ปอหยิบกุ้งเผาใส่จานมาเสิร์ฟบนโต๊ะปิกนิก ที่ยกออกมาจากโรงเก็บอุปกรณ์ทำสวน

พี่ปืนกำลังเปิดเบียร์กระป๋องที่สอง แค่นี้ยังไม่เมาหรอก แต่ตาเยิ้มไปหมดแล้ว

      “แกะให้พี่หน่อย”

      ปอเหลือบมองพี่นิวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน พอพี่นิวส่งยิ้มมาให้....กำลังใจก็มา

ปอหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้ด้านขวาของพี่ปืน ซึ่งถ้าเป็นพี่นู ปออาจจะต้องเจอกับสายตาล้อเลียนซะจนไม่กล้าทำตามคำขอก็ได้

แกะกุ้งเรียบร้อยหมดแล้ว พี่นูก็ถือจานเดินลิ่ว ๆ มาที่โต๊ะบ้าง ปอก็ว่าจะถือโอกาสกลับไปดูของย่างบนเตาแทน

“ไม่ป้อนพี่ด้วยเหรอ”

  พี่ปืนกระซิบก่อนปอจะลุกขึ้นเดินออกมา หันไปก็เห็นสายตาจ้องมาอย่างมีความหวัง

ใจหนึ่งปอก็อยากจะสนองตอบอยู่หรอก ติดที่มันยังไม่ชินนี่สิ ก็เลยทำเป็นไม่ได้ยิน จะได้ไม่ต้องตอบ

...แต่อีกใจน่ะคล้อยตามไปกว่าครึ่งแล้ว

      “ปอครับ ช่วยหยิบถ้วยน้ำจิ้มตรงนั้นมาให้หน่อย”

      พี่นูถือจานเต็มสองมือ ร้องบอกปอระหว่างที่เดินสวนกัน ปอเดินไปหยิบถ้วยใบเล็กที่ใส่น้ำจิ้มสีออกเหลืองส้มไปให้

น้ำจิ้มสูตรนี้ปอทำเองกับมือมาจากบ้าน เพราะพี่นูขอไว้ว่าจะปิ้ง ๆ ย่าง ๆกันก็เลยให้ปอทำมา

รสชาติน้ำจิ้มฝีมือปอได้สูตรมาจากแม่พี่ปืน ใครได้ชิมแล้วเป็นต้องชมทุกคน ส่วนพี่ปืนไม่ต้องพูดถึง

สูตรแม่ก็ว่าอร่อยแล้ว แต่เมื่อเป็นขี้มือปอก็ยิ่งอร่อยไม่มีอะไรเปรียบ (มันเว่อร์มากกกกก)

      “โฮฮฮฮฮฮฮฮฮ....ซื้ดดดดดด....อ้าสสสสส”

      วางน้ำจิ้มเสร็จ ปอคล้อยหลังออกมาไม่ทันไร ก็ได้ยินเสียงพี่ปืนร้องดังมาก ปอเดินกลับไปไม่ถึงเตายังสะดุ้งเพราะเสียงนั้นเลย

หันไปดู ก็เห็นท่าทางประกอบเสียง ทั้งน่าตกใจ ทั้งน่าสงสาร เพราะอาการพี่ปืนตอนนี้คงกินอะไรเผ็ดจัดเข้าไปแน่ ๆ

ปอรีบรินน้ำร้อนจากกระติกน้ำร้อนใส่ถ้วยมักใบใหญ่ เอาไปส่งให้ถึงมือ

      “น้ำครับพี่ปืน ดื่มก่อนนะครับจะได้หายผะ....”

      พี่ปืนคว้าถ้วยจากมือปอไปยังไม่ทันที่ปอจะพูดจบประโยค

      “โอววววว....”

      พี่ปืนกระแทกถ้วยลงบนโต๊ะดังกึก

      “มันยังร้อนจัดอยู่อ้ะพี่ปืน”

      ปอหน้าเสีย โทษตัวเองทันที ที่ไม่ทำให้น้ำร้อนอุ่นพอที่จะดื่มได้ซะก่อน

ตอนนี้แม้กระทั่งความสว่างจากแสงตะเกียงเพียงรำไร ก็เห็นได้ชัดว่า หน้าพี่ปืนแดงก่ำ น้ำตาคลอเบ้า ปากแดงจัด

แถมยังอ้าปากจนเห็นลิ้นแดง ๆอีกต่างหาก ก็แหงล่ะ น้ำร้อนจัดขนาดนั้น ซดเข้าไปดังโฮก ลิ้นไม่พองจนสุกก็นับว่ายังโชคดี

      “พี่ปืนผมขอโทษ คอยเดี๋ยวนะครับ”

       ปอลนลานยกถ้วยน้ำร้อนขึ้นมาเป่า พี่ปืนยังพูดไม่ออกได้แต่พ่นลมออกจากปากเพื่อระบายความเผ็ดร้อน

บวกกับความปวดแสบจากน้ำร้อนลวกลิ้นเข้าอีก ในขณะที่ปอพยายามจะทำให้น้ำร้อนกลายเป็นน้ำอุ่น

พี่ปืนจ้องมองดูปอ แล้วหันไปมองพี่นู และน่าจะด้วยความเผ็ดร้อนมากกว่าที่ทำให้พี่ปืนดูทุรนทุราย

ไม่ได้ตั้งใจจะใช้สายตากล่าวโทษใคร แต่เป็นพี่นูเองที่ร้อนตัวสารภาพความจริงออกมาเสียงอ่อย ๆ

      “ผมขอโทษครับพี่ปืน ก็แค่ล้อเล่น ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ”

      พี่ปืนโบกไม้โบกมือด้วยภาษากายที่ไม่มีใครแปลออก แล้วหยิบเบียร์เย็น ๆ ขึ้นซดอึกใหญ่

แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้อาการดีขื้นเท่าไร ปอวัดอุณหภูมิของน้ำร้อนด้วยการลองจิบ แล้วส่งให้พี่ปืนอีกครั้ง

      “มันไม่ร้อนจัดแล้วนะครับ แต่ก็ยังร้อนอยู่ พี่ปืนฝืนจิบหน่อยนะครับ จะได้หายเผ็ดเร็ว ๆ”

      พี่ปืนยังแสดงสีหน้าเข็ดขยาด แต่คงทนเผ็ดไม่ไหว ประกอบกับคำยืนยันจากปอว่าไม่ร้อนเท่าตะกี้

ถึงได้ยอมรับถ้วยน้ำมาจิบติด ๆกันหลายหน

      “เฮ่อออออ....ซื้ดดดด”

      หลังจากจิบไปสักพักก็ค่อยยังชั่วขึ้นจนพอจะพูดออกมาได้ ตามมาด้วยเสียงสูดจมูกพรืด

ปอหยิบกระดาษชำระส่งให้ทั้งกล่อง พี่ปืนก็ยังไม่ยอมรับ....โกรธปอเหรอเนี่ย

เมื่อไม่รับปอก็วางมันไว้ตรงหน้านี่แหละ จะหยิบไม่หยิบก็ตามใจ อยากจะโกรธก็ตามสบาย

ปอไปเกี่ยวอะไรด้วย ถึงจะมาพาลโกรธกันแบบนี้

      “ไม่เคย....ซื้ดดด....รู้สึกเผ็ดขนาดนี้มาก่อนเลย”

      แล้วพี่ปืนก็ดึงกระดาษไปสั่งน้ำมูกเบา ๆ จะหยิ่งทำไมไม่หยิ่งให้ตลอดเล่า

      “ผมขอโทษ”

      พี่นูเสียงอ่อย ๆ บอกขอโทษ แต่ลูกกะตาเต้นยิบ ๆ แฝงอารมณ์ขันซะปิดไม่มิด หรือตั้งใจจะให้พี่ปืนรู้ว่าโดนแกล้งก็ไม่แน่

      “แต่น้ำจิ้มถ้วยนี้ของผมทำมาหนิครับพี่นู แล้วมันยังไงกันแน่”

      ปอเอานิ้วแตะน้ำจิ้มเจ้าปัญหาจะส่งเข้าปาก พี่ปืนก็ปัดมือออก

      “ก็รู้ว่า...ซื้ดดดด ว่าเผ็ดขนาดพี่ยังทนไม่ไหว แล้ว....ซื้ดดดดด...จะชิมทำไม”

      “พี่ตำพริกเพิ่มน่ะปอ เมื่อเย็นตอนไปที่โรงเก็บของ เห็นสวนครัวข้าง ๆ มีพริกสีส้ม ๆเต็มต้นดูน่ากินดีอ่ะ ก็เลย....”

      “ใส่ไปกี่เม็ดล่ะครับ”

      พี่นูกางนิ้วทั้งหมดชูขึ้นทั้งสองข้าง ปอเห็นแล้วต้องกลอกตา ถ้วยแค่เนี้ย พี่นูซัดซะสิบเม็ด

ไอ้พริกพันธุ์นั้นมันก็แสนจะเผ็ดแสบร้อน บอกว่าล้อเล่นเห็นจะเชื่อไม่ลง อารมณ์นี้คงอยากจะแกล้งมากกว่า

แต่ด้วยเหตุผลอะไรปอก็ไม่เข้าใจพี่นูเหมือนกัน

      “เล่นเรงนะเรา”

      พี่นิวเอ็ดเสียงเรียบ ๆ ไม่รุนแรงถึงขั้นดุ แต่ตางี้ขุ่นเชียว (ลองดุสิ ขนาดนั้นเค้าเรียกพ่อ ไม่เรียกแฟนแล่ว....นู)

      “ไม่เป็นไร...ซื้ดดดด พอทนได้”

      พี่ปืนยังคงสูดปากตามด้วยจิบน้ำร้อนจากถ้วยเป็นระยะ ๆ

      “แต่ที่แย่...ซื้ดดดด ก็อีตอนซดน้ำร้อนเข้าไปเนี่ยแหละ ลิ้นแทบพองเลย”

      พี่ปืนไม่ได้หันมามองหน้าปอเป็นเชิงกล่าวหา แต่คำพูดที่ออกจากปากก็แปลเป็นอื่นไปไม่ได้เลยว่า ที่ “แย่”

เพราะปอเอาน้ำร้อนจัดมาให้เค้าดื่ม ทำคุณบูชาโทษแท้ ๆ สินะ

      “ผมขอโทษ ไม่ทันคิดว่ามันจะร้อนจัด ก็แค่คิดว่าจิบน้ำร้อนแล้วมันจะหายเผ็ดเร็วขึ้นเท่านั้นเองครับ”

   ....แต่ปอก็แก้ตัวด้วยการเป่าให้หายร้อนแล้วไม่ใช่เหรอ....

      ปอพูดจบก็เดินถอยออกไปที่เตาย่าง อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก มัวตื่นเต้นกับเรื่องพี่ปืนซะจนลืม

ป่านนี้จะอาหารไหม้เกรียมไปหมดแล้วก็ไม่รู้ ปอทำเป็นหันไปเอาใจใส่เรื่องอื่น เผื่อว่าจะทำให้รู้สึกผิดเรื่องพี่ปืนน้อยลงบ้าง

      พอหายจากอาการเผ็ด พี่ปืนก็เจริญอาหารได้เหมือนเดิม ถ้วยน้ำจิ้มเจ้าปัญหายังวางที่เดิมโดยไม่มีใครแตะ

ปอก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมไม่เอาไปทิ้งให้พ้นหูพ้นตา หลังจากที่พี่นูไปเทน้ำจิ้มถ้วยใหม่แล้ว

ปอเดินไปเดินมาอยู่หน้าเตาซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรให้ทำ นอกจากคอยพลิกของบนเตาให้อังไฟอย่างทั่วถึง

ไม่กล้าเหลือบมองไปที่โต๊ะอาหาร เพราะกลัวจะได้สบสายตาโกรธ ๆ ของคนแถวนั้น

      “ปอมานั่งกินได้แล้วเหอะ ของเต็มโต๊ะไปหมดแล้ว”

      พี่นูร้องบอกให้ไปนั่งร่วมโต๊ะ แต่ในสถานการณ์ที่เพิ่งจะผ่านไป ปอไม่นึกอยากเข้าไปนั่งด้วยเลย

อาการมึนตึงของพี่ปืนทำให้ปอทำตัวไม่ถูก พี่ปืนน่าจะรู้ว่าปอไม่ได้มีเจตนาให้น้ำร้อนลวกปากเค้าซักหน่อย

ไม่รู้บ้างหรือยังไงว่า การจะทำให้พี่ปืนเจ็บตัว เดือดเนื้อร้อนใจ ไม่เคยอยู่ในความคิดของปอเลย

แต่คำพูดที่ออกจากปากพี่ปืนเมื่อตะกี้ มันกลับทำร้ายความรู้สึกของปออย่างช่วยไม่ได้

       “ไม่เป็นไรครับ ผมยืนชิมโน่นชิมนี่จนอิ่มแล้วครับพี่นู”

       “มาเหอะปอ ไม่กินก็มานั่งคุยกันตรงนี้ก่อน”

       พี่นิวช่วยสนับสนุนอีกคน เขาเป็นคนที่มีน้ำใจ แต่ก็ไม่ใช่คนชอบเซ้าซี้

ความเป็นเป็นผู้ใหญ่ใจดีจึงมักจะทำให้ปอรู้สึกเกรงใจจนต้องคล้อยตามอยู่เสมอ

      สายตาของพี่ปืนพุ่งเป้ามาที่ปอ แต่ปอมองไม่เห็นหรอกว่าแววตาและอารมณ์ตอนนี้เป็นแบบไหน

จะหายโกรธปอหรือยัง ด้วยแสงสลัวของตะเกียง แค่รู้สึกว่ามีสายตาพี่ปืนจับจ้องอยู่ก็ทำให้ปอแทบจะเดินขาขวิดอยู่หลายหน

จนกระทั่งเดินเข้าไปถึงโต๊ะแล้วทรุดตัวลงนั่งตรงกันข้ามกับเจ้าของสายตานั่นแหละ

ปอถึงรู้ว่าแววตาคู่นั้นตัดพ้อต่อว่าแทนคำพูดหลายสิบคำที่ปอเคยได้ยินออกจากปากของเค้า....

ก็แล้วปอไปทำอะไรให้เล่า ปอไม่ใช่ต้นเหตุซะหน่อย ทำแบบนี้ไม่ให้ปอรู้สึกน้อยใจเลยก็คงไม่ได้

      มานั่งร่วมโต๊ะปอก็ได้แต่นั่งเงียบ ๆ พี่นูกับพี่นิวขยันส่งของกินใส่จานปอก็กินอย่างไม่ค่อยจะรู้รส

ส่วนพี่ปืนก็พูดคุยกับพี่สองคนไป สายตาก็เบนมาจับจ้องปอเป็นครั้งคราว แต่ปอไม่บังอาจไปต่อตาด้วย

บอกตรง ๆว่าปอไม่รู้เลยว่าตอนนี้ พี่ปืนคิดอะไรอยู่หลังจากที่คำพูดคล้ายจะกล่าวโทษปอออกจากปากแล้ว.....

รู้สึกผิดน่ะปอก็รู้สึกอยู่ แต่ทำไมถึงได้มองข้ามเจตนาดีของปอล่ะ

คนเราเวลาตกใจมันก็ละล้าละลังทำอะไรไม่ถูกได้ไม่ใช่เหรอ เรื่องแค่นี้มันจะผิดอะไรนักหนา
 
ปอตัดสินใจที่จะไม่นั่งเฉย ๆ ให้ตกเป็นเป้าสายตากล่าวหาของพี่ปืนอีกต่อไปแล้ว

      “ผมขอไปเดินย่อยหน่อยนะครับ”

      “พี่ไปเป็นเพื่อนมั้ย”

      อย่าได้นึกเชียวว่าพี่ปืนจะอาสา

      “ไม่ต้องหรอกครับ พี่นูดูแลทางนี้ไปเหอะ ผมไปใกล้ ๆ นี่เอง”



      แล้วปอก็ได้มายืนริมตลิ่งที่เดียวกับเมื่อคืน อากาศกำลังเย็นสบาย มีสายลมพัดมาเป็นระยะ

สายน้ำเบื้องล่างสะท้อนแสงสีเหลืองส้มจากคบไฟ ดูระยิบระยับแทนแสงจันทร์ที่หลบหน้าไปชั่วคราว

      ถ้าได้อยู่กลางสายธารที่เย็นฉ่ำ ท่ามกลางความมืด อาจจะทำให้ปอหายหงุดหงิด น้อยใจคนบางคนได้บ้าง

ปอนึกอยากจุ่มเท้าลงแช่ในน้ำเย็น ๆ ก็เลยไต่ลงไปข้างล่าง

   ทางลาดลงไปพอมองเห็นได้ลาง ๆจากแสงคบไฟ ปออาศัยความจำเส้นทางที่ขึ้นลงบ่อย ๆ เมื่อตอนกลางวัน

ทั้งที่มองไม่เห็นอะไรได้ชัดนัก พอได้อาศัยเกาะกอหญ้าและไม้พุ่มเตี้ยประคองตัวจนลงมาได้สมใจ

      ปอเดินลุยน้ำตื้นไปนั่งหย่อนขาที่หินผิวหน้าเรียบกลางสายน้ำ แหงนหน้าขึ้นมองดาว

ช่วยกล่อมอารมณ์ให้หายจากอาการห่อเหี่ยวไปได้บ้าง อากาศเย็นกำลังดี เพราะยังหัวค่ำ น้ำค้างก็ยังไม่แรง

ความจริงถ้าได้ลงเล่นน้ำเย็นคงช่วยผ่อนคลายได้มากกว่านี้ แต่ก็กลัวปอดบวมจะถามหาซะก่อน

       เวลาที่จิตใจเรากำลังสับสนวุ่นวาย ถ้าได้ฝังตัวเองไว้ในมุมสงบที่ไหนสักแห่ง

ก็คงจะทำให้เราหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงได้ อาจจะเพื่อหาคำตอบให้อะไรบางอย่าง

หรืออาจจะเพียงแค่ขอให้ความเงียบภายนอก สยบเสียงอึกทึกภายในจิตใจของเราเอง

   ปอก็เช่นกัน....ความรู้สึกน้อยใจพี่ปืนค่อย ๆ มลายหายไปกับความเงียบสงบ เหลือไว้เพียงความเข้าใจ

ถ้าเป็นปอเจอแบบนั้นเข้าบ้างก็คงคล้าย ๆ กัน แล้วที่จริง....พี่ปืนก็ไม่เคยโกรธปอ

สายตาที่เขม้นมองมาที่ปอเป็นเพียงปฏิกิริยาทางอารมณ์เท่านั้น

เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ควรที่ปอจะเก็บมันมาใส่ใจเลยด้วยซ้ำ

   พอสติกลับคืนมา ปอก็ชักจะรู้สึกว่าตรงที่นั่งอยู่นี่มัน.....มืดมาก....เงียบ....

แม้จะมีเสียงจักจั่นเรไรร้องระงม แต่มันก็ไม่ใช่เสียงที่เราจะถือเอาเป็นเพื่อนได้

หนัก ๆ เข้ากลับจะยิ่งเพิ่มความวังเวงท่ามกลางความสงบเงียบและมืดทึบของผืนป่าเสียจนต้องบอกตัวเองให้ลุกขึ้นได้แล้ว

      สายตาที่ชินกับความมืด ทำให้มองเห็นย่างก้าวได้ชัดเจนขึ้น ปอก็ไม่ได้รีบร้อนไต่หินขึ้นจากน้ำจนลืมความระมัดระวัง

แต่หินบางก้อนที่แช่น้ำนาน ๆ ก็มักมีตะไคร่เกาะ ก้าวไม่ระวังก็อาจจะลื่นได้

แล้วมืดขนาดนี้ก็ยากที่จะแยกแยะให้ออก ว่าไหนผืนดิน ไหนก้อนหินลื่น ๆ ก้าวแต่ละครั้งก็เลยเชื่องช้ากว่าที่ควรจะเป็น

ปอได้ยินเสียงฝีเท้าเดินย่ำลงบนใบไม้แห้งข้างบนดังกรอบแกรบ ไม่ใครก็ใครอาจจะออกมาตามหา

ทำให้รู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนอยู่ใกล้ ๆ

      อาศัยการเหนี่ยวพุ่มหญ้าใกล้มือเพื่อพยุงตัวไต่กลับขึ้นไป แต่ในความมืดก็บอกไม่ได้ว่า

กอไหนที่มันแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักได้ แค่วาดมือไปขยุ้มแล้วก็เหนี่ยวตัวเองขึ้นจากน้ำได้เป็นพอ

คงเพราะโชคไม่ดี หรือตาไม่ดีก็ไม่รู้ ปอเจอกอหญ้าที่ก้านมันเหนียวดี แต่รากมันไม่ได้ยึดเกาะกับดินแน่นเท่าที่ควร

แถมหินที่กำลังเหยียบก็มีอันให้ลื่นไถลซะอีก หญ้าทั้งกอก็เลยถอนรากถอนโคนติดมือมา

มีผลให้ร่างที่กำลังยกตัวเองกลับรูดไถลลงไปตามทางที่ปีนขึ้นมา หล่นตุ้บกลับลงไปในน้ำ

พร้อมกับเสียงคุ้นเคยที่ตะโกนเรียกปอดังแทบจะก้องไปทั้งป่า

      “ปอ!!!!”

      ก็เพราะน้ำมันตื้นแถมข้างล่างเป็นก้อนหิน ร่วงลงไปในระดับสองเมตรมีหรือจะไม่เจ็บ แถมยังเปียกไปทั้งตัวอีก

ความเจ็บทำให้ปอร้องไม่ออก ได้แต่สูดปาก และคลำไปที่ก้นกบที่กระแทกลงไปบนหินก้อนกลม

      “พี่ปืน”

      ปอออกเสียงเรียกตอนที่ร่างสูงใหญ่เดินมาถึงชั้นล่างแล้วกำลังมองลงมาที่ปอ

ขายาว ๆก้าวลงจากตลิ่งระดับล่างสุดลงน้ำได้อย่างง่ายดาย แล้วก็จ้ำพรวด ๆ มาประคองปอให้ลุกขึ้น

      “ทำไมไม่ขึ้นทางบันได”

      “มันไกลอ่ะ”
      บันไดหินที่ทำไว้หยาบ ๆ ถึงจะไม่ไกลมาก แต่ระยะสิบเมตรมันก็ไกลเกินไปสำหรับคนขี้เกียจเดิน

ในเมื่อตรงนี้มันก็ขึ้นลงได้เหมือน ๆกัน ปอคะเนกำลังตัวเองแล้วคิดว่าทำได้ปอก็อาศัยขึ้นลงตรงนี้มาตลอดทั้งวัน

แต่นั่นมันตอนกลางวันที่มองเห็นอะไรได้ชัดเจนกว่านี้

      “ลุกไหวมั้ย”

      “ไหวครับ”

      ปอขยับตัวลุกขึ้น ถึงได้รู้สึกว่าปวดที่ก้นกบ ขัดยอกที่แขนนิดหน่อย คงจะเป็นตอนที่ร่วงลงมาแล้วเอาแขนค้ำไว้

ตรงข้อเท้าเคล็ดไม่ถึงกับแพลงจนเดินไม่ได้ แค่ขยับหน่อยก็แปล๊บ ๆ แต่แสบจัดตรงเข่าและขา

ที่คงจะครูดกับดินขรุขระตอนที่ตัวไถลลื่นลงมา

      เสียงพี่นิวตะโกนมาจากข้างบนแว่ว ๆว่า ปอเป็นอะไร พี่ปืนก็เลยตะโกนตอบไปว่าหกล้ม

จะได้ฟังดูไม่น่าเป็นห่วง อีกประเดี๋ยวขึ้นไปถึงก็คงรู้เอง

      พี่ปืนไม่อยากเสี่ยงพาปอปีนขึ้นทางเดิมกลัวจะร่วงลงมาอีก ซึ่งพี่ปืนก็คงจะแบกขึ้นไปไม่ไหวด้วย

ปอเลยได้เดินเขยกไปขึ้นทางบันไดจริง ๆ แต่ยังไงซะพี่ปืนก็ไม่ให้ปอได้เขยกนาน พอแตะพื้นข้างบนได้

ปอก็ถูกช้อนขึ้นอุ้มทั้งตัว

      “พี่ปืนผมเดินเองได้”

      “ชักช้า”

      จากตรงนี้ไปจนถึงลานซีเมนต์ก็แค่สิบกว่าเมตร เดินอีกนิดเดียวก็ถึง แต่เมื่อคนอุ้มเค้าเต็มใจ

ปอก็เลยอยู่นิ่ง ๆ และพอถึงที่หมายปอก็เจอสายตาล้อเลียนอีกแล้ว พี่นูกุลีกุจอเข้ามาดูขาปอก่อน

เมื่อเห็นเต็มตาว่าเลือดไหลเป็นทาง สายตาล้อเลียนที่เห็นก็เลยเปลี่ยนเป็นห่วงใยแทน

      “ไม่เป็นไรหรอกครับพี่นู นิดเดียวเอง”

      “พี่นิวครับ ที่นี่มีตู้ยารึป่าว”

      พี่นูหันไปถามเพื่อนเจ้าของบ้าน ฐานที่เคยมาก่อนคนอื่นเป็นหลายหน น่าจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ที่ไหน   

      “ไม่รู้สิ ไม่ได้สังเกต มาแต่ละทีก็ไม่มีเหตุต้องใช้หนิ”

      (นั่น....ไม่มีประโยชน์เลยคนเรา)

      “ไม่เป็นไรครับพี่นู ผมขอน้ำอุ่นละลายเกลือก็พอ”

      “จะเอามาทำอะไร”

      พี่นูทำหน้างง คงไม่เคยรู้มาก่อนว่าเกลือแกงละลายกับน้ำต้มสุกอาศัยใช้เป็นยาล้างแผลได้ด้วย

พอปออธิบายก็รีบไปทำมาให้ ส่วนพี่ปืนก็นั่งประกบปอไม่ไปไหนเลย ทั้งที่ปอก็ไม่ใช่คนเจ็บหนักซะหน่อย

พี่นิวนั่งจิบเบียร์เรื่อย ๆ ท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพราะว่ามีคนที่วิ่งวุ่นอยู่แล้วคนหนึ่ง กับอีกคนที่คอยเฝ้าไข้

ก็เพียงพอแล้วสำหรับอาการเจ็บเบาะ ๆ ของปอ

      “พี่ว่าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีมั้ยปอ”

      “ผมว่าล้างแผลก่อนดีกว่านะครับพี่ปืน เปียกแค่กางเกงเอง เชื้อโรคที่มากับน้ำมันก็น่ากลัวอยู่นะ”

      “งั้นรออยู่นี่แหละ พี่ไปหยิบผ้าขนหนูมาให้ผลัดก่อน”

      “ไม่ต้องครับ”

      ปอคว้าแขนคนพูดไว้ รีบปฏิเสธเสียงหลง ด้วยใบหน้าแดงก่ำ นึกภาพตอนที่ตัวเองจะต้องเปลี่ยนผ้าต่อหน้าสามคนนี้

ปอบอกตัวเองว่ายอมทนหนาวอีกนิดดีกว่า แค่ล้างน้ำเกลือใช้เวลาไม่นานอยู่แล้ว

      “ทำอีท่าไหนล่ะถึงหกล้ม”

      “ไม่ได้หกล้มหรอกนิว ร่วงตกจากตลิ่งน่ะ”

      “อ้าว....ทำไงถึงตกลงไปได้ล่ะปอ”

      พี่นิวตกใจเบิกตาโต ทะลึ่งพรวดจากเก้าอี้ที่นั่งถึงตัวปอ จากที่เห็นตะกี้เช้ย...เฉย

เพราะคิดตามที่พี่ปืนบอกว่าปอหกล้ม ซึ่งมันก็แค่เรื่องเด็ก ๆ

ตอนนี้ปอเลยมีพี่ปืนนั่งขนาบอยู่ข้างซ้าย พี่นิวยืนอยู่ข้างขวา ก้มลงมาดูแผลถลอกที่พี่นูคุกเข่าล้างแผลให้อยู่

แต่ละคนแสดงความห่วงใยจนปอชักจะคล้อยตามว่าตัวเองอาการหนักยังไงไม่รู้

      “ผมปีนขึ้นมาทางลัดอ่ะครับ แล้วก็เลยลื่นไถลตกลงไป”

      “สูงมั้ย”

      พี่นิวถามอย่างร้อนรน คิ้วเฉียง ๆ เริ่มขมวดเข้าหากัน

      “ไม่เท่าไหร่ครับ ไม่ถึงสองเมตรหรอก แต่ผมไม่ได้ตั้งตัวน่ะ คิดว่าเหนี่ยวกอหญ้าแล้วจะยกตัวขึ้นมาได้

แต่มันดันหลุดออกมาทั้งกออ่ะ”

      “สงสัยไอ้กอที่เราดึงกันทั้งวันตอนที่ขึ้น ๆลง ๆ มั้ง ดึงจนรากมันคลอนเลยหลุดติดมือมาด้วย”

       พี่นูเดา

      “ผมก็ว่างั้นแหละครับ เพราะผมก็เดินมันทางเดิมที่เราใช้กันประจำแหละ”

      “แล้วทำไมไม่เดินอ้อมไปทางบันไดล่ะครับปอ”

      “ก็มันต้องอ้อมตั้งไกลหนิครับพี่นิว”

      “ก็ไม่น้อยนะเนี่ย ไปอนามัยกันดีกว่ามั้ยครับ ไม่ไกลหรอก เอายาแก้อักเสบมากินซะหน่อย”

      พี่นิวเสนอ   
   
      “นั่นสิปอ พี่ว่าไปให้เค้าดูนิดนึงนะ จะได้ทำแผลด้วย”

      พี่ปืนเสริม

      “อนามัยอยู่ไม่ไกลจากนี่เท่าไหร่ ไปกันเหอะ”

      พี่นิวฉุดแขนปอจะให้ยืน แต่พี่ปืนรีบบอกซะก่อน

      “ไม่ต้องเดี๋ยวผมอุ้มไปเอง”

      “โอ๊ย....พี่สองคนนี่อะไรนักหนา แผลกะจิ๋วเดียวเนี่ย ไม่ถึงตายหรอกน่า”

      พี่นูมองหน้าสองคนสลับกันไปมา แล้วก็บ่นเสียงดังออกมาด้วยความรำคาญ

      “ไงปอ จะไปอนามัยรึป่าว พี่จะได้เลิกล้างแผล”

      พี่นูหยุดมือรอคำตอบจากปอ

      “ผมไม่ได้เป็นอะไรมากนี่ครับ แผลถลอกหน่อยเดียวเอง นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้วนะครับพี่นิว พี่ปืน

ขอบคุณนะครับพี่นู ที่จริงผมทำเองก็ได้”

      “พี่ก็ว่างั้นเหมือนกัน แต่คนบางคนเค้าทำยังกะปอถูกรถสิบล้อชนแน่ะ”

      “นู!!”

      พี่นิวกระชากเสียงต่ำอย่างที่ปอไม่เคยได้ยิน แล้วสีหน้าสีตาน่ะเหรอ อย่าให้บอก

ปอเพิ่งเห็นครั้งนี้เป็นครั้งแรก เล่นเอาสยองไปเหมือนกัน ส่วนพี่ปืนน่ะเอ๋อไปแล้ว

      พี่นูลุกขึ้นยืน ส่งอ่างน้ำเกลือกับผ้าเช็ดหน้าที่ใช้ชุบน้ำล้างแผลแทนสำลีใส่ตักปอ แล้วก็เดินเข้าบ้านไปเลย

      “พี่ขอโทษแทนนูด้วยนะครับปอ พูดอะไรไม่เป็นมงคลเลย”

      “ช่างเถอะครับพี่นิว ผมไม่ได้คิดอะไรหรอก มันก็จริงของพี่นู แค่แผลถลอกหกล้มนิดหน่อยเองครับ”

      ปอยิ้มกว้างให้พี่นิว แล้วบุ้ยหน้าให้ตามพี่นูไป ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคู่นี้เค้ามีอะไรกัน

ดูเหมือนตอนนี้พี่นูจะงอนพี่นิวซึ่งปอไม่รู้สาเหตุหรอก

แต่เรื่องแผลของปอถูกยกมาเป็นประเด็นในการกระฟัดกระเฟียดใส่พี่นิวแน่ ๆ

John Doe

  • บุคคลทั่วไป
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #213 เมื่อ06-06-2012 00:32:39 »

ดีใจมากเลย ในที่สุดก็ได้อ่านเรื่องนี้อีกรอบ
เคยอ่านเรื่องนี้แล้วรอบนึง แบบว่าเป็นนิยายเรื่องแรกเลยที่อดหลับอดนอนสองวัน (กลางวันเรียน) กลางคืนนิยาย เพื่อติดตาม จำได้เลยว่าตอนนั้นตามแบบ ติดมาก อ่านไปยิ้มบ้าง หัวเราะบ้าง ร้องไห้บ้าง จำคนเขียนได้คุณนู ^^
แต่อยู่ๆ ว่าจะกลับมาอ่านอีกรอบ... นิยายก็หายไป ช็อกมาก ไม่คิดว่านิยายสนุกๆ แบบนี้จะหายไป
แต่ในที่สุด นิยายก็กลับมาสู้อ้อมอกน้อยๆ ของเราอีกครั้ง เย้ ดีใจมาก >_<

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #214 เมื่อ06-06-2012 00:45:09 »

^
^
^
 :pig4:



ขอบคุณที่จำกันได้ครับ

พอเว็บนั้นปิดตัวไปผมก็ไปหาบ้านของตัวเองอยู่เป็นหลักแหล่ง

โพสท์เรื่องนี้จนจบ แล้วก็มาได้บ้านหลังใหม่ คราวนี้เก็บมันขึ้นเมล์็ไม่ได้เอามาลง

ที่มาที่นี่เพราะแฟน(นิยาย)เก่าชวนมาครับ

เค้าบอกว่ามีคนที่น่าจะรู้จักเรื่องนี้อยู่หลายคน ผมก็เลยมา ด้วยความรู้สึกว่า

ตัวเองติดค้างคนอ่่าน ที่เคยบอกว่าจะเขียนจนจบ




 :monkeysad:    ซึ้งอ่ะ แฟนเก่าจำเราได้

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #215 เมื่อ06-06-2012 00:51:32 »

ปืนอย่ายอมแพ้นะ...  :z10:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #216 เมื่อ06-06-2012 12:05:13 »

น้อยอกน้อยใจกันไป คู่ละจึกสองจึก
เมื่อไหร่จะหวานเนี่ย แง่มๆๆ

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #217 เมื่อ06-06-2012 13:46:16 »

คุณนูมาแล้ววววววววว
 :m4:

ช่วงนี้รู้สึกว่าทั้งพี่ปืนทั้งปอจะคิดเล็กคิดน้อยกันจังเลยน้า
ความรักนี่มันทำให้คนเปลี่ยนไปได้เหมือนกันเนอะ
ไหนๆก็ได้รักกัน ได้อยู่ด้วยกันแบบนี้แล้ว
อย่าเอาทิฐิและอารมณ์มาใช้กันเลยนะทั้งสองคน
คนอ่านอยากจะเห็นสองคนมีความสุขนะ
 :m17:

ปลล.ดูท่าทางคู่รองจะแย่งซีนจริงๆด้วยแหละคุณนู เด่นมาก
 :laugh:

ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #218 เมื่อ06-06-2012 17:52:50 »

อึดอัดใจกันอีกสักรอบ  :laugh:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #219 เมื่อ06-06-2012 18:07:58 »

เรื่องนี้ขาดความหวาน
อย่างมากกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
« ตอบ #219 เมื่อ: 06-06-2012 18:07:58 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 6/6/2555
«ตอบ #220 เมื่อ06-06-2012 19:11:53 »

รอตอนต่อไปนะ :call:

ออฟไลน์ BBlabong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555
«ตอบ #222 เมื่อ08-06-2012 00:32:22 »



ข้ามคืนจนได้ ว่าจะให้เป็นวันที่ 7  แต่ดันเลยมาเป็นวันรุ่งขึ้น  :z3:

ถ้าไม่ง่วงซะก่อน ผมจะลงจนถึงตอนอวสานเลยนะครับ   :t3:

แต่ถ้าไม่ไหว พรุ่งนี้บ่าย รับรองจบแน่ ๆ   :a5:







      สองคนนั้นเข้าบ้านไปแล้ว ปอก็หันมาทำความสะอาดแผลต่อ แต่ถูกพี่ปืนแย่งเอาไปทำซะเอง

ปอก็ได้แต่นั่งเฉย ๆ เริ่มรู้สึกแสบ ๆ แผลมั่งแล้ว ยิ่งตอนที่พี่ปืนบิดน้ำเกลือจากผ้าเช็ดหน้าให้ไหลชะล้างหน้าแผลให้สะอาด

ยิ่งแสบจนไม่รู้จะร้องออกมาเป็นภาษาอะไรดี สงสัยว่าพี่นูคงจะใส่เกลือมือหนักไปหน่อย

      “แสบเหรอ”

   พี่ปืนถามเมื่อเห็นปอทำหน้าเหยเก พอปอพยักหน้าก็ก้มลงเป่าลมให้ ทั้งที่มันก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นสักเท่าไร

แต่ผลทางใจน่ะเกินร้อย

   "ไม่มียาทาแผลสดเลยอ่ะปอ”

   พี่ปืนทำสีหน้าเป็นกังวลเกินเหตุอีกแล้ว นี่ไงพี่นูเค้าถึงได้หมั่นไส้เอา

      “ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่คืนเดียวเอง พรุ่งนี้เราก็กลับบ้านกันแล้ว”

      “เดินเข้าบ้านไหวมั้ย”

      “ไหวครับ แต่ข้าวของข้างนอกนี่ยังไม่ได้เก็บเลยนะครับ”

      “ทิ้งไว้นี่แหละ ปอเจ็บอย่างนี้จะทำได้ยังไง พรุ่งนี้เช้าค่อยมาดูแล้วกัน”

      พอปอลุกขึ้นยืนบนขาได้เต็มตัว ก็รู้สึกปวดระบมตรงก้นกบจนต้องทำหน้าเบ้ ร้องโอยขึ้นมาทันที

      “เป็นอะไรมากรึป่าวอ่ะปอ เจ็บตรงไหนอีก”

      ปอยังไม่ได้บอกพี่ปืนว่าปวดเคล็ดขัดยอกตรงไหนในร่างกายบ้าง นอกจากแผลภายนอกที่เห็นอยู่

      “ตอนตกลงไปก้นคงกระแทกกับหินข้างล่างอ่ะครับ”

      “แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก”

      พี่ปืนขึ้นเสียงสูง แต่ไม่ได้ดุว่า ออกจะเป็นห่วง(เกินเหตุ)ด้วยซ้ำไป

      “ก็ตอนนั้นมันแค่ยอก ๆอ่ะ”

      “งั้นเข้าบ้านเลย เดี๋ยวพี่ทายาให้ แผลนี่ก็ทิ้งไว้อย่างงี้ก่อนแล้วกัน”

      พี่ปืนทำท่าจะช้อนปอขึ้นอุ้มอีก แต่คราวนี้ปอเบี่ยงตัวจะเดินเอง พี่ปืนก็ทำได้แค่ทำปากจิ๊จ๊ะขัดใจไปเท่านั้น

      “เปลี่ยนเสื้อผ้าออกก่อนแล้วไปนอนที่เตียง เดี๋ยวพี่จะทายาให้”

      ปอนุ่งผ้าขนหนูก่อนจะรูดกางเกงขอบเอวยางยืดออกไปจากตัว ตามด้วยกางเกงในสีอ่อนที่เปียกชื้น

พาดไว้ที่ราวตากผ้าขนหนู เหลือแค่เสื้อยืดตัวเดียว เสร็จแล้วค่อย ๆหย่อนตัวลงนอน

ส่วนพี่ปืนไปค้นหายานวดในเป้ของตัวเองแล้วเดินไปล้างมือในห้องน้ำให้สะอาด

พอเดินกลับมาเห็นว่าปอนอนท่าไหนก็นิ่วหน้าใส่ซะงั้น

      “นอนหงายแล้วจะนวดยังไงล่ะเนี่ย แล้วก็ถอดเสื้อออกซะด้วย ชื้นออกอย่างงั้น เดี๋ยวได้ปอดบวมตายหรอก”

      ไม่พูดเปล่า พี่ปืนดึงตัวปอให้นั่ง แล้วจับชายเสื้อดึงออกทางศีรษะ ตอนนี้ปอก็เหลือแค่ผ้าขนหนูพันกายแค่ผืนเดียว

      “แค่นวดข้อเท้าเอง นอนแบบนี้ก็ได้ครับ”

      ปอบอกหน้าตาเฉย ทำเป็นไม่รับรู้ว่าพี่ปืนหมายความว่าอะไร

      “โอเค นวดข้อเท้าก่อนก็ได้”

      พี่ปืนตีความไปอีกทาง แล้วลงมือนวดยาไปเรื่อย ๆ ยาสมุนไพรเหมือนยาหม่องแต่มีส่วนผสมอะไรบ้างก็ไม่รู้

ถูกละเลงด้วยมือใหญ่หนาเบา ๆ ฝ่ามือของพี่ปืนทั้งนุ่มทั้งอุ่น ตอนนี้ปอไม่รู้แล้วว่าที่ร้อนผิววาบ ๆ อยู่น่ะ

มันร้อนยา หรือว่าร้อนอะไร ก็พี่ปืนเล่นนวดไป ส่งสายตาไป ปอทนสบตาไม่ไหวจะให้ทำไงได้

นอกจากขยับหนังตาลงมาปิดลูกตาตัวเอง

      “อ้ะ ทีนี้นอนคว่ำ”

      “ทำไมอ่ะครับ”

      “นวดสะโพก”

      ปอดีดผึงขึ้นจากหมอนนั่งตัวตรง ทำท่าไม่ยอมให้นวด เพราะถ้าเป็นอย่างงั้น ก็ต้องเปิดผ้าขนหนูถึงไหนต่อไหนล่ะสิ

ก็ไอ้ส่วนที่มันปวดระบมอยู่น่ะ มันอยู่ตรงก้นกบพอดี แล้วมีเหรอ ที่จะนวดแค่ก้นกบ

ขนาดที่ข้อเท้าพี่ปืนยังละเลงยานวดมาจนถึงหน้าแข้งเลยนี่นา

      “ผมไม่ได้ปวดตรงนั้นนะ”

      ปอโวยวาย แต่ดูเหมือนพี่ปืนจะฟังไม่รู้เรื่อง

      “ก็ใกล้ ๆ กันน่ะแหละ นอนลง”

      “ไม่เอาอ่ะ”

      ปอถอยร่นทั้งที่ก็ไปไหนไม่ได้ไกลเลย

      “ไม่นวดยาจะหายได้ไง พรุ่งนี้ได้ระบมจนลุกไม่ขึ้นหรอก”

      “นอนพักเอาก็หายแล้วอ่ะพี่ปืน...นะ....ไม่ต้องนวดหรอก...นะครับ”

      “ไม่ได้ เดี๋ยวจะระบมหนักกว่านี้อีก ไม่เอาอย่าเกเร นอนคว่ำเร็ว”

      ปอหรี่ตามองคนที่ดูจะมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะนวดให้ได้ แต่ก็มองไม่เห็นพิรุธอะไรเลย

สุดท้ายก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง

      “เอ้า...ไม่แก้ปมผ้านุ่งแล้วจะพี่จะทายาให้ยังไงเนี่ย”

      “ก็นี่ไง ผมดึงลงไปให้ตั้งเยอะแล้วอ่ะ”

      ปอร่นขอบผ้าขนหนูลงอีกหน่อย แต่ไม่ยอมปลดออก....ก็มันอายหนิ ถึงจะเคยอาบน้ำด้วยกันก็นาน ๆ หน

แล้วมันนานมาแล้วด้วย แถมยังนุ่งเตี่ยวกันคนละตัว ไม่ได้โป๊ซะหน่อย

      “ได้ยังอ่ะ”

      ปอก้มหน้าแนบหมอน ไม่รู้ไม่เห็น ไม่สบตาจะได้ไม่ต้องอาย

      “มา พี่เอง”

      พี่ปืนจับขอบผ้าขนหนูดึงออกจากตัวอย่างเร็ว จนปอรั้งไว้ไม่ทัน ถึงผ้าจะไม่หลุดออกไปทั้งผืน

เพราะมีร่างของปอนอนทับอยู่ แต่ส่วนที่ห่อหุ้มซาละเปาน้อย ๆสองลูกน่ะ ลงไปกองที่ต้นขาแล้ว

      “พี่ปืน!!!!”

      ปอทำท่าจะคว้าผ้ากลับมาคลุม แต่พี่ปืนปัดมือออกไปซะก่อน แถมยังขู่สำทับอีกแน่ะ

      “อยู่นิ่ง ๆนะ ไม่งั้นพี่จะบีบก้นแรง ๆ ไม่น่งไม่นวดมันแล้ว”

      ปอกดหน้าลงกับหมอน เพราะไม่รู้จะทำอะไรได้อีก อายก็อาย หน้างี้ร้อนไปหมดแล้ว

ยิ่งตอนที่ฝ่ามือลูบไล้ผ่านเนื้อนุ่ม ๆ ตรงนั้นตรงนี้ ทั้งที่พี่ปืนก็นวดยาอยู่ตรงใต้เอวนั่นแหละ

ทำไมมันถึงรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งหน้าได้ก็ไม่รู้ แต่จะว่าไปนอนให้เค้านวดนี่มันก็เคลิ้ม ๆ ได้เหมือนกันนะ

      “ดูซิ เขียวช้ำไปหมดเลย แล้วจะไม่ให้พี่ทายาได้ยังไง....เจ็บมั้ย...หือ....ปอ”

      “นอนเฉย ๆก็ไม่เจ็บครับ แต่ตอนเดินมันเคล็ด ๆ ปวด ๆอ่ะ”

      “ทายาแล้วพรุ่งนี้ก็ค่อยยังชั่วหรอก แต่ขากลับพี่ว่าแวะหาหมอหน่อยดีกว่านะ”

      “ไม่ต้องแล้วมั้งครับ ไม่ได้เป็นอะไรมากซะหน่อย”

      “ที่หายไปน่ะ หนีพี่ใช่มั้ย”

      พี่ปืนวกเข้ามาถึงเหตุการณ์ก่อนที่ปอจะขอตัวไปเดินเล่น

      “ป่าวซะหน่อย....บอกแล้วไง ผมไปเดินย่อยอาหาร กินเข้าไปตั้งเยอะมันเลยแน่นท้อง”

      เสียงพี่ปืนผ่อนลมหายใจก่อนจะพูดเสียงอ่อน ๆ ไม่สนใจที่ปอยังจะปากแข็งปฏิเสธ

      “พี่ไม่ได้โกรธปอเรื่องนั้นหรอกนะ”

      “แต่พี่ปืนจ้องผมตาเขียวปั๊ดเลย”

      ปอแย้งด้วยอารมณ์งอน ๆ ทั้งที่จริงมันมืดแทบมองไม่เห็นแววตาด้วยซ้ำ

      “ปอไม่ได้ทำผิดอะไรหรอก เรื่องมันก็เพราะนูเค้าอยากแกล้งพี่ แล้วเค้าก็ขอโทษแล้ว

พี่ก็ไม่ได้ถือโทษเค้า มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลย แต่ดูเหมือนนิวจะไม่ยอม เค้าว่านูเล่นอะไรเลยเถิด”

      “มิน่า...”

      “มิน่าอะไร”

      “พี่นูอารมณ์ไม่ดีผิดสังเกต ผมว่าพี่นิวคงไม่ได้ว่าแค่นั้นหรอกมั้งครับ”

      ปอนึกถึงตอนที่พี่นูทิ้งอ่างน้ำเกลือล้างแผลให้ปอ แล้วเดินเข้าบ้าน มันไม่มีเหตุผลสักนิด

ที่พี่นูจะไม่พอใจเพียงเพราะมีคนแสดงความห่วงใยอาการของปออย่างออกนอกหน้าถึงสองคน

ปอรู้ดีว่าแม้แต่พี่นูก็ห่วงปอเหมือนกันนั่นแหละ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องออกอาการไม่พอใจเมื่อคนอื่นแสดงออกบ้าง

      “อืม...นิวก็ดุไปหลายคำ แล้วยังสั่งสอนซะอีก ว่านิสัยชอบแกล้งคนเวลาหมั่นไส้น่ะ เลิกได้แล้ว”

      “สั่งสอนเลยเหรอครับ....หึหึ”   

      ปอหัวเราะในคอ คู่นี้มีอะไรให้ปอแปลกใจได้เรื่อย ๆเลยนะ มันก็จริงที่พี่นิวชอบทำตัวเป็นผู้ใหญ่เกินวัย

บ่อยครั้งที่ปอเคยเห็นพี่นิวดุพี่นูเหมือนผู้ใหญ่ดุเด็ก แต่ถึงกับสั่งสอนนี่ยังไม่เคย

      “นิวเค้าเป็นคนจริงจังนะ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนี้ก็คงจะเอานูไม่อยู่เหมือนกัน”

      “แล้วผมล่ะครับ”

      อยู่ ๆปอก็ถามถึงตัวเองขึ้นมาปืนเลยตอบไม่ถูก

      “ปอทำไมเหรอ”

      ปอเงียบไป แล้วกลับซบหน้ากับหมอนถามเสียงอู้อี้   
   
      “พี่ปืนเอาผมอยู่มั้ย”

      ข้อความที่พี่ปืนตอบมา แม้ว่าปอจะไม่เห็นหน้า แต่ก็รู้ว่าคนพูดคงจะพูดทั้งที่ยิ้มจนปากฉีกแหละ

      “ใครเอาใครอยู่กันแน่....หือ.....พี่ต่างหากที่ปอเอาซะอยู่หมัดเลย รู้มั้ย”

      ต่อจากประโยคนั้น ปอก็รู้สึกถึงรอยประทับ เบา ๆตรงจุดที่ปวดระบม ปอหลับตาพริ้ม

เมื่อสัมผัสนั้นส่งผ่านไออุ่นอันนุ่มนวลมาให้ จนรู้สึกวูบวาบซาบซ่านไปถึงข้างใน

      “อ้ะ....เสร็จแล้ว นอนได้”

      พี่ปืนผละออก พร้อมกับดึงผ้าขนหนูมาปิดให้เหมือนเดิม

      เหมือนจะมีกระแสไฟฟ้าบาง ๆ ไหลเวียนอยู่รอบ ๆตัวปอ จนทำให้แขนขาชาขยับไม่ได้

จะโวยวายว่าพี่ปืนฉวยโอกาสล่วงเกินก็พูดไม่ถนัด ด้วยว่าสิ่งที่เพิ่งผ่านไปมันช่างอ่อนโยน อบอุ่นละมุนหัวใจเหลือเกิน

ขอเวลาเลี่ยงออกไปให้ห่าง ๆเตียงนอนเพื่อตั้งหลักให้ดีก่อนดีกว่า

ไม่งั้นความตั้งใจจะวัดใจพี่ปืนที่อุตส่าห์ตกลงกันไว้มีอันได้พังทะลายกันคืนนี้แน่

      “ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย”

      “ไม่ต้องอาบแล้ว ดึกเกินไปอากาศเย็นเดี๋ยวจะไม่สบาย ก็ได้อีกซักเรื่องหรอก แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็พอแล้ว”

      “งั้นผมขอไปล้างหน้าหน่อยนะครับ”

      “เร็ว ๆนะ พี่ง่วงแล้ว”

   ปอออกไปล้างหน้าในห้องน้ำ กลับมาถึงได้เห็นคนบ่นว่าง่วง นอนแผ่อยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
 
จากที่เดินไปกลับห้องนอนกับห้องน้ำ ปอเพิ่งจะสังเกตว่าอาการเคล็ดขัดยอกค่อยยังชั่วขึ้นมากเลย

ฝีมือนวดใช้ได้เหมือนกันนะพี่ปืนเนี่ย


     
   อีกแล้วที่ปอรู้สึกเหมือนกำลังถูกรบกวนกลางดึก พอลืมตามาดู ก็ไม่ผิดจากที่คิดเลย

เผลอไม่ได้เลยเชียวพี่ปืนนี่

      “พี่ปืน!”

      ปอผลักพี่ปืนจนหงายกลับลงไปนอน และส่งเสียงให้ดังเท่าที่จะดังได้ในเวลาดึกอย่างนี้ โดยไม่ให้รบกวนห้องข้าง ๆ

      “อีกแล้วนะครับ”

      ปอลุกออกจากเตียงเดินไปเปิดไฟกลางห้อง ไม่กลัวแล้วเรื่องเปลืองไฟ ยังไงพรุ่งนี้ก็จะกลับอยู่แล้ว

คงไม่มีความจำเป็นอะไรมากมายที่จะต้องใช้ไฟฟ้าจากเครื่องปั่นไฟ

      “พี่รักปอ อย่าห้ามพี่เลยนะ ให้พี่ได้กอด ได้จูบปอบ้างเถอะ อกพี่จะระเบิดอยู่แล้ว”

      “แต่เราตกลงกันแล้ว”

      “ปอไม่เห็นใจพี่บ้างเหรอ พี่อยู่ใกล้ปอทีไร พี่ก็อยากกอด อยากจูบ เหมือนคู่อื่นเค้าทำกัน”

      ไม่ต้องมาอ้างคู่อื่นเลย ที่เห็นนี่ก็มีอยู่คู่เดียวแหละ

      “พี่ปืนจะเอาอย่างเค้าได้ไง เรื่องของเรามันเหมือนคู่อื่นเค้าที่ไหนล่ะ”

      “แล้วปอไม่สงสารพี่เหรอ ที่พี่ต้องทนดูคนอื่นเค้ารักกัน เห็นแล้วพี่อิจฉาแทบบ้าปอรู้มั่งมั้ย”

      ทำไมจะไม่รู้ ปอเองก็ไม่ต่างจากพี่ปืนหรอก แต่พี่ปืนยังพิสูจน์ตัวเองไม่พอ ปอหวั่นใจอยู่นี่นา

ขอเวลาให้ปอได้ทำใจอีกหน่อย แล้วปอจะตามใจพี่ปืนทุกอย่าง ไม่เกี่ยงเลย

      “ไหนพี่ปืนบอกว่าจะไม่ขออะไรมากไงอ่ะ”

   ปอสวนคำหน้าง้ำหน้างอ

   “ถ้าแค่คำว่ารัก เราไม่ต้องพูดกันก็ได้ไม่ใช่เหรอ เราสองคนรู้อยู่แก่ใจว่าเรารักกันมันก็น่าพอแล้ว  นะปอนะ”

      “แต่สำหรับผมมันมีความหมายมากนะครับ อย่างน้อยมันก็ยืนยันการกระทำที่เรามีต่อกันว่า

ไม่ใช่แค่เรื่องของอารมณ์เพียงอย่างเดียว”

      “สำหรับปอพี่ทำไปเพราะรัก เรื่องอย่างว่า พี่ไปหาเอาที่ไหนก็ได้ แต่พี่ไม่ทำเพราะพี่อยากให้ปอรู้ว่าพี่รักปอ

ให้เกียรติปอ แล้วก็ไม่มีวันจะมีคนอื่นได้อีก พี่อดทนรอให้ปออนุญาตให้พี่ได้รักปอ แต่ทำไมปอไม่สงสารพี่บ้างเลย

อยากให้พี่ทำแค่ไหน ปอบอกมาหน่อยเถอะ อย่าให้พี่รออย่างไม่มีจุดหมายอย่างนี้เลย”

      “ขอเวลาผมอีกหน่อยได้มั้ยครับ ผมก็อยากให้พี่ปืนมีความสุข แต่ว่าเรื่อง....นั้นน่ะ

มันต้องมาจากการยินยอมพร้อมใจของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดฉวยโอกาสเอาแต่ใจฝ่ายเดียวอย่างนี้”

      “พี่ไม่ได้ฉวยโอกาสนะ ถ้าจะพูดให้ถูก พี่มีสิทธิ์ที่จะยุ่งกับปอได้ตั้งนานแล้วด้วย ตั้งแต่ก่อนมาเที่ยว ที่นี่ด้วยซ้ำไป”

      “พี่ปืนมีสิทธิ์อะไร”

      ปอสะดุดหูกับคำอ้างลอย ๆ นั้น ก็เลยเถียงคอเป็นเอ็น คนอะไรฉวยโอกาสกับเค้าแล้วยังมาพูดว่าตัวเองมีสิทธิ์

อย่างนี้มันน่าโมโหน้อยซะเมื่อไหร่ เมื่อตะกี้ปอก็เกือบจะใจอ่อนอยู่แล้วเชียว

      “ก็ปอไม่ใช่เหรอที่ให้สิทธิ์พี่ ถ้าพี่ทำให้ปอพูดคำว่ารักอีกครั้งน่ะ”

      “ก็ใช่ครับ แล้วผมพูดคำนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอ”

      “พี่ได้ยินปอละเมอ”

      “ละเมอ? จะบ้าเหรอพี่ปืน อย่ามาโมเมนะ ผมไปละเมอให้พี่ปืนได้ยินตอนไหน ในเมื่อเราแยกห้องกันนอนน่ะ”

      ไม่มีทาง....พี่ปืนนี่เจ้าเล่ห์ไม่หาย ต่างคนต่างนอนจะมาได้ยินได้ยังไง

จะบอกว่าปอละเมอเสียงดังทะลุกำแพงห้องก็ใช่ที่ ถ้าเสียงมันดังขนาดที่พี่ปืนได้ยิน

ปอเองนั่นแหละที่จะต้องตกใจตื่นเพราะเสียงตัวเอง

      “มีอยู่คืนนึงพี่ไม่ได้นอนที่ห้องอ่ะ”

      พี่ปืนพูดเสียงอ่อย ๆ

      “พี่ปืนแอบเข้ามานอนในห้องผม?”

      พี่ปืนพยักหน้า ด้วยสีหน้าอย่างคนที่ทำผิดแล้วจำเป็นต้องสารภาพ เพราะถูกจับได้

      “แต่ที่จริงปอไม่ได้ห้ามพี่เข้าห้องใช่มั้ยล่ะ”

      ปอจะบอกว่าห้ามก็ยั้งปากไว้ทัน เพราะถึงยังไงพี่ปืนก็เป็นเจ้าของบ้าน พูดแบบนั้นมันก็ก้าวร้าวจนเกินไป   

      “แต่พี่ไม่ได้นอนนะ“

      “แล้วพี่ปืนเข้าไปทำอะไรในห้องผม”

      “พี่ขอแค่ได้นั่งมองปอ ได้เห็นปอเวลานอนหลับพี่ก็มีความสุขแล้ว”

      พี่ปืนก้มหน้างุด ๆพูดเสียงสั่นเครือ อาการยังกับนกเจ็บแบบนั้นทำเอาใจปออ่อนยวบ

      “เอาเถอะ ถ้าปอไม่อยากให้พี่สัมผัสตัวปอ ต่อไปพี่จะไม่ทำอีกแล้ว

พี่ขอโทษที่ทำให้ปอไม่สบายใจ หวาดระแวงในตัวพี่

ต่อไปนี้ก็แล้วแต่ปอก็แล้วกัน พี่ยอมหมดทุกอย่างแล้ว”

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 00.30 น.
«ตอบ #223 เมื่อ08-06-2012 00:34:24 »

      สองคนนอนหันหลังให้กันในความมืดปล่อยให้ราตรีกาลผ่านไปอย่างช้า ๆด้วยความทรมาน
 
กว่าจะมาถึงวันนี้ คนสองคนที่ไม่เคยรู้จักความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นในหัวใจของตัวเอง ต่างเพิกเฉย ปล่อยให้เวลาผ่านไป

ซึมซับไว้เพียงความสัมพันธ์ฉันท์พี่น้อง แล้วก็ผลัดกันวิ่งไล่ตามหัวใจตัวเอง เมื่อตระหนักว่าที่แท้แล้วมันคือความรัก....

.......รักที่ไม่หวังสิ่งใด  ขอเพียงได้อยู่ใกล้คนที่รัก ได้ประจักษ์แก่สายตาว่าคนที่เรารักมีความสุข


        เพราะเหตุนี้กระมัง ต่างคนจึงต่างมองไม่เห็นความปรารถนาของอีกฝ่ายว่าแท้ที่จริงคืออะไรกันแน่

 ไม่เคยรู้ว่าความปรารถนาดีของตนเอง หาใช่สิ่งที่อีกฝ่ายต้องการไม่

        ความจริงแล้ว ถ้าปอจะมองลึกเข้าไปในหัวใจตัวเองคงได้คำตอบว่า

    ณ วันนี้ คนสองคนใจตรงกัน มีความปรารถนาเดียวกัน ก็แล้วมันเรื่องอะไรถึงจะต้องสร้างเงื่อนไข

เพื่อยื้อเวลาแห่งความสุขสมให้มันเนิ่นนานออกไป....

....บางครั้งมนุษย์ก็ลืมคิดไปว่า ช่วงชีวิตมิได้ยาวนานชั่วนิรันดร์!!!

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 00.30 น.
«ตอบ #224 เมื่อ08-06-2012 00:36:01 »



       สามวันกับสองคืนที่บ้านพักริมลำธาร เรียกพละกำลังคืนกลับมาได้มากมาย พร้อมที่จะกลับไปต่อสู้กับภาระหน้าที่ที่รออยู่ข้างหน้า

คงเพราะบรรยากาศที่สดชื่นท่ามกลางธรรมชาติแบบป่าเขาลำเนาไพร ประกอบกับความเงียบสงบ

ทำให้จิตใจสบาย ทุกคนดูสดชื่น หน้าตาแจ่มใส

    คงมีแต่พี่ปืนที่ดูยังไง ๆ ก็ไม่สดชื่น หน้าตาหงอยเหงา ขอบตาก็ดูเหมือนจะคล้ำลง

ปอรู้ว่าตัวเองเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พี่ปืนดูเหมือนคนอมทุกข์ แต่ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปอย่างนั้น

ปอกำลังเรียกความมั่นใจในตัวพี่ปืนกลับมา ก็ได้แต่หวังว่าพี่ปืนจะไม่ถอดใจไปซะก่อน

เพราะที่จริงแล้วปอเองก็ยังไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไร


       กลับมาจากการพักผ่อนหนนี้แล้ว ความจริงทุกอย่างน่าจะเข้าที่เข้าทางเหมือนที่มันเคยเป็น แต่ก็ไม่.....

   พี่ปืนจัดการขนเครื่องนอนของตัวเองมาห้องปอ แล้วก็ปักหลักอยู่อย่างนั้นไม่ยอมกลับไปห้องตัวเอง

      ....ขอแค่นี้น่ะ ให้พี่ได้มั้ย....

       นั่นน่ะสิ....แล้วจะให้ปอปฎิเสธยังไง

  เตียงปอก็กว้างแค่นอนคนเดียวสบาย ๆ มีคนตัวโต ๆมานอนร่วมด้วย มันก็ต้องกระทบกระแทกกันมั่งนิด ๆหน่อย ๆ

ปอน่ะไม่เดือดร้อนหรอก เพราะไม่ใช่คนนอนดิ้นกินที่กินทาง คนที่แขนขายาวนี่สิ คงจะอึดอัดน่าดู

แต่ก็เห็นพี่ปืนทนนอนอยู่ได้ ปอสงสารก็เลยเปิดแอร์ทุกคืน

เรื่องอดทนของพี่ปืนก็เลยมีแค่เรื่องเดียวคือ พยายามที่จะไม่แตะต้องปอ

      เห็นคนตัวโต ๆเดินไปเดินมาในห้องของตัวเอง พื้นที่ที่เคยรู้สึกว่ากว้างก็แคบไปถนัด

เตียงนอนที่เคยนอนกลิ้งเกลือกหลังจากตื่นนอนแล้วยังไม่อยากลุกขึ้น ก็ทำไม่ได้เหมือนเคย

แต่ปอก็ไม่เคยบ่น ไม่เคยเบื่อหน่าย หรือรำคาญเลยแม้แต่น้อย

เพราะสิ่งที่ได้มาทดแทนคือการที่ปอได้เห็นพี่ปืนแทบจะตลอดเวลา ทั้งยามหลับและยามตื่น

ความสุขและความอิ่มเอมใจที่ได้รับทำให้ปอยื่นข้อเสนอใหม่ ตอนที่กำลังใช้เวลาร่วมกันบนโต๊ะอาหารเช้า

      “พี่ปืนย้ายกลับไปนอนห้องโน้นเถอะ”

      ไม่ได้ไล่หรอก แต่ปอก็ทำหน้าจริงจังซะคู่สนทนาหน้าสลดถึงกับวางช้อนกินอะไรไม่ลงไปเลย

      “อืม....คืนนี้นะ”

      “เตียงผมมันเล็กนิดเดียว นอนกันสองคนแล้วอึดอัดน่ะครับ”

      ปออธิบายขยายความต่อไป ในขณะที่มือก็เก็บจานเปล่าของตัวเองที่กินอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เป็นเวลาเดียวกับที่อีกคนวางช้อนทั้งที่อาหารยังเต็มจาน

      “พี่เข้าใจ”

      “พี่ปืนกลับไปนอนห้องตัวเอง จะได้เป็นตัวของตัวเองนะครับ ไม่ต้องนอนขดให้เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว”

      ปอยังพูดต่อ หางตาคอยสังเกตพฤติกรรมอีกฝ่ายที่ดูหงอยไปถนัด หลังจากได้ฟังข้อเสนอใหม่ของปอที่แกล้งทิ้งค้างไว้แค่นี้

ทั้งที่จริงยังมีต่อ

      “อิ่มแล้วเหรอครับ ทำไมวันนี้เหลือเยอะจัง”

      “พี่อิ่มแล้ว”

      พี่ปืนขยับลุกออกจากโต๊ะอาหาร ปอส่งสายตามองตามหลังไปแล้วรู้สึกใจไม่ดีสักเท่าไร

เห็นตาแดง ๆ คู่นั้นแล้วก็นึกสงสารซะจนอยากจะเฉลยให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ยังก่อน.....

ปออยากลองดูอีกสักนิด....ที่พี่ปืนบอกว่า ปอเอาพี่ปืนซะอยู่หมัดเนี่ย มันจะขนาดไหนกัน


      ได้เวลานอนปอก็เข้าห้องนอนของตัวเองตามเวลาปกติ แต่คืนนี้สภาพห้องแปลกออกไป

เพราะไม่มีเครื่องนอนอีกชุด ที่เคยวางเคียงกันบนเตียง ซึ่งปอก็คาดการณ์ไว้ก่อนแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้

ตั้งแต่ตอนที่กินข้าวเสร็จเมื่อหัวค่ำ แล้วพี่ปืนขอตัวขึ้นบ้านก่อน รอยยิ้มสมใจผุดขึ้นน้อย ๆ ที่ริมฝีปาก

ปอไม่ใช่คนชอบแกล้งคน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะทำอะไรบ้างนิด ๆหน่อย ๆ เวลาที่เราเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเป็นต่อใครอีกคน

เพื่อจะย้ำความมั่นใจให้ตัวเอง ว่าเราเป็นคนสำคัญของใครคนนั้นจริง ๆ....มันก็แค่นั้นเอง


      ประตูห้องเปิดออก เมื่อเสียงเคาะครั้งที่สองสิ้นสุดลง

  คนตัวโตที่อยู่ตรงช่องประตู หัวยุ่ง หน้ายุ่ง สีหน้าไม่ยินดียินร้าย แต่แววตานั่นตัดพ้อจนปอรู้สึกได้

      “มีอะไร”

      ปอไม่ตอบ แต่ผลักร่างหนาเบา ๆ ออกไปให้พ้นทาง แล้วเดินเข้าไปหน้าตาเฉย เหมือนกำลังเดินอยู่ในที่ทางของตัวเอง

      “จะทำอะไรน่ะ”

      แน่ะ...อย่ามาทำเสียงแข็งอย่างนี้นะ

      “มานอนไงครับ นอนกันเหอะพี่ปืน”

      ปอพูด แถมยังอ้าปากหาวใส่ซะอีก

      “อย่ามาเล่นตลกกับพี่แบบนี้นะปอ”

      “แล้วผมบอกว่าตลกตอนไหนล่ะครับ มานอนกันเหอะพี่ปืน ปิดไฟด้วยนะครับ มันแยงตาผมอ่ะ”

      ปอล้มตัวลงนอนบนหมอนอีกใบที่ยังไม่มีรอยบุ๋ม คว้าหมอนข้างที่มีอยู่ใบเดียวมานอนกอด

หันหลังให้พื้นที่ว่างที่เป็นที่สถิตย์ของอีกคน แล้วก็หลับตาลงเป็นการตัดบทให้ทำตามที่บอกซะดี ๆ

สักพักก็รับรู้ได้ว่าห้องนอนตกอยู่ในความมืดแล้ว

  ที่นอนข้าง ๆยุบตัวลง ปอหยุดหายใจโดยไม่รู้ตัว และรอคอยอะไรบางอย่างที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้
 
รออยู่นานก็ไม่เห็นจะมีอะไรเคลื่อนไหวก็เลยหันมามองคนที่เพิ่งล้มตัวนอนข้าง ๆ

นัยน์ตาสองคู่จ้องตอบกัน ต่างก็นิ่งเหมือนจะหยั่งเชิงอีกฝ่ายว่าใครจะเอ่ยอะไรออกมาก่อน

แต่นั่นแหละ ปอเริ่มจะมั่นใจแล้วว่าตัวเองเป็นเบี้ยบน ก็เลยรอเวลาให้เบี้ยล่างทุรนทุรายมากขึ้นจนทนไม่ไหวเอง

      “ทำกับพี่แบบนี้ทำไม สนุกมากใช่มั้ย”

      น้ำเสียงเรียบเรื่อย ถึงจะไม่บอกอารมณ์ แต่ประโยคที่พูดออกมาแสดงความน้อยอกน้อยใจของคนพูดได้อย่างไม่ต้องปิดบัง

      “พี่ปืนไม่อยากให้ผมมานอนด้วยเหรอครับ”

      “ถ้าจะย้ายมาห้องนี้ทำไมไม่พูดให้ชัด ๆตั้งแต่เมื่อเช้า ปล่อยให้พี่แทบจะเป็นบ้าอยู่ได้ทั้งวัน”

      ปอยิ้มยั่วแล้วพลิกตัวกลับมานอนท่าเดิม แต่ในเมื่อเริ่มเรื่องไว้แบบนี้ อีกคนก็คงจะขัดอกขัดใจไม่น้อย

ถึงได้รั้งไหล่ปอให้หันกลับมาหาตัวเอง

      “รู้มั้ยว่าพี่ทำงานอะไรแทบไม่รู้เรื่องเลย คอยแต่จะนึกว่าปอเป็นอะไรไป พี่ไปทำให้ปอไม่พอใจตอนไหน

ถึงได้ไล่พี่กลับมานอนที่ห้อง ทั้งที่พี่ขอไว้แล้ว ปอก็ไม่เคยปฏิเสธ มีความสุขมากเหรอ ที่ได้ปั่นหัวพี่ให้หมุนเป็นลูกข่างแบบนี้น่ะ”

      เอ่อ...ดูท่าเรื่องราวมันจะไปกันใหญ่

      “ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับพี่ปืน ผมก็แค่จะดูปฏิกิริยาของพี่ปืนแค่นั้นเอง”

      “แล้วเป็นยังไง พี่ดูเหมือนไอ้งั่งมากมั้ย”

      “ไม่เอาครับพี่ปืน อย่าพูดอย่างนี้”

      ปอใจไม่ดี เสียงก็พาลจะสั่น ๆ กลัวพี่ปืนจะโกรธ

แค่ตอนนี้ที่รู้ว่าพี่ปืนน้อยอกน้อยใจ ปอก็นึกเสียใจอยู่เหมือนกันว่าตัวเองทำเกินไปหรือเปล่า

ปอเอื้อมมือไปลูบแก้มสากของคนขี้น้อยใจเบา ๆ แต่ดึงกลับมาไม่ได้เพราะถูกจับไว้แน่น

แถมยังพยายามออกแรงดึงปอเข้าไปใกล้ ๆซะอีก ปอยอมโอนอ่อนผ่อนตาม เพราะใจจริงก็อยากขอโทษที่เล่นแรงเกินไป

และอันที่จริงปอก็ใจอ่อนลงเยอะแล้วด้วย ยิ่งเวลาที่พี่ปืนใช้คำพูดว่าร้ายตัวเอง ปอยิ่งไม่อยากฟัง

      “ผมขอโทษที่ทำให้พี่ปืนไม่สบายใจไปทั้งวัน แต่ผมไม่มีเจตนาจะปั่นหัวนะครับ”

      ปอพยายามพูดให้อีกฝ่ายรู้สึกดีขึ้น และหายน้อยใจซะที เพราะแผนต่อไปของปอก็ต้องอาศัยพี่ปืนมากอยู่

นี่ปอก็ลงมือปักเสาตอม่อแล้ว กำลังจะทำราวสะพานค่อย ๆทอดไปให้ถึงพี่ปืนทีละน้อย

แต่พี่ปืนก็ต้องช่วยปอบ้าง ช่วยปูพื้นสะพาน แล้วเดินข้ามมาเองได้มั้ย

      “จริงนะ”

      น้ำเสียงออดอ้อน น่าหมั่นไส้ซะจนปอคิดว่า ถ้าแกล้งตอบไปว่า...ไม่จริง...คนตัวโตจะรีบพลิกตัวหันหลังให้หรือเปล่าหนอ....

แต่ยังไงปอก็ยังไม่อยากลองตอนนี้หรอก พรุ่งนี้เป็นวันหยุด ยังมีเวลาเล่นเอาเถิดกับพี่ปืนทั้งวัน

      “จริงครับ พี่ปืนอย่าน้อยใจนะครับ ผมอยากให้พี่ปืนเซอร์ไพรส์ ตอนที่ผมเคาะประตูห้องขอมานอนด้วยน่ะ”

      “เซอร์ไพรส์มากเลย....พี่น้อยใจว่าทำไมปอถึงใจร้ายกับพี่ได้ลงคอ ทั้งที่พี่ก็ยอมหมดทุกอย่างแล้ว

ปอไม่รู้หรอกว่า พี่ทรมานแค่ไหน ที่ทำได้แค่นอนมองปอเฉย ๆ ทั้งที่อยู่ใกล้กันแค่มือเอื้อม

แต่พี่กอดปอก็ไม่ได้ จะจูบปอก็ไม่ได้ อย่าว่าจะทำอะไรต่ออะไรที่มันมากไปกว่านี้เลย”

      อย่าดีกว่า ปอรู้นะว่า พี่ปืนแอบหากำไรตอนที่คิดว่าปอหลับน่ะ ก็แค่ปอไม่อยากกระโตกกระตากแค่นั้นเอง

(ก็รออยู่เหมือนกันแหละปอ ทำปากแข็งใจแข็งไปอย่างงั้นเอง...นู)

      ปอชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กดริมฝีปากกับข้างแก้ม แล้วถอยห่างออกมา

      “ทำไมอ่ะ ตอนนี้รักพี่แล้วเหรอ นึกอยากจะบอกรักพี่แล้วใช่มั้ย”

      พี่ปืนเลยได้ใจ พูดจบปุ๊บก็พลิกตัวขึ้นเหนือร่างปอทันที แล้วทำท่าจะเรียกร้องอะไรมากกว่าที่ปอจะให้ได้

  “ฮื้อ เอาทีละอย่างสิพี่ปืนก็.....โลภนะเนี่ย”

   ปอยันหน้าพี่ปืนด้วยฝ่ามือเมื่อเห็นท่าแล้วว่าพี่ปืนกำลังเดินเกมต่อ ถึงปอจะอยากให้พี่ปืนเป็นฝ่ายก้าวเข้ามาหาปอบ้าง

อย่าให้ปอเป็นฝ่ายเดินเข้าหาอยู่ข้างเดียว แต่ไม่ได้คิดว่าพี่ปืนจะรุกเร็วอย่างนี้นี่นา

      “ก็แค่อยากขอชื่นใจบ้าง ปอจะใจดำกับพี่เหรอ พี่ใจเสียตั้งแต่ตอนที่ปอให้พี่กลับมานอนที่ห้องแล้วนะ จะไม่รับขวัญพี่หน่อยเหรอ”

      ปอจิ้มปากลงไปที่แก้มอีกทีเร็ว ๆ

      “ทำอะไรน่ะ ยังไม่ทันจะรู้สึกเลย”

      ปอค้อนเข้าให้ แต่พี่ปืนจะเห็นมั้ย??

      “ไม่อนุญาตพี่จริง ๆเหรอ”

      ปอส่ายหน้าไปมาบนหมอนหนุน ตาสบตาอีกฝ่ายแน่วนิ่ง บอกความตั้งใจที่ไม่เปลี่ยนแปลง

      “พี่มันแย่เนอะ”

      ร่างใหญ่หงายกลับลงไปนอนที่เดิมของตัวเอง บ่นว่าตัวเองประชดปออย่างไม่จริงจังนัก แต่ก็ดูจะยอมรับได้

      “นอนกันเหอะพี่ปืน บางทีพรุ่งนี้อาจจะมีอะไรดี ๆรออยู่ก็ได้นะครับ”

      “อืม...ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ สำหรับพี่ตอนนี้ ไม่มีอะไรดีไปกว่าได้นอนกอดปอแล้วล่ะ”

      พี่ปืนพูดแล้วก็นอนหันหลังให้ปอ...ถ้าเป็นปอก็คงทำแบบเดียวกัน

 ในเมื่อจะกอดก็กอดไมได้ สู้หันหลังให้จะได้ไม่ต้องเห็นกันซะเลย แบบนี้มันยังจะดีซะกว่า

      ปอค่อย ๆขยับตัวเข้าไปใกล้คนที่ออกอาการน้อยใจ สอดแขนโอบรอบเอวพี่ปืนก่อนจะนอนซุกหน้ากับแผ่นหลังกว้าง

      “ผมไม่ให้พี่ปืนกอดเพราะผมอยากเป็นฝ่ายกอดพี่ปืนมากกว่านี่ครับ”

      ริมฝีปากนุ่มสีชมพูอ่อน แตะเบา ๆ ไปบนแผ่นหลังที่มีเพียงผ้าฝ้ายเนื้อบางกั้น

  มือใหญ่ที่อบอุ่นแข็งแรงกุมมือของตัวเองไว้เหมือนจะยึดไว้ไม่ให้ปอเปลี่ยนใจถอยกลับไปนอนที่เดิมได้

ปออยากจะย้ำให้พี่ปืนรู้จัง ว่าไม่ต้องจับแน่นขนาดนั้นก็ได้

แค่นี้ปอก็ติดบ่วงพี่ปืนจนแม้แต่จะถูกไล่ออกจากบ้านเหมือนเมื่อก่อน ปอก็ไม่ยอมอีกแล้ว

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 00.30 น.
«ตอบ #225 เมื่อ08-06-2012 00:37:41 »



   เสียงไก่ขันเจื้อยแจ้ว ตอนใกล้รุ่งสาง ไม่ได้ปลุกปอให้ตื่น เพราะปอตื่นก่อนไก่นานแล้ว

ตื่นขึ้นมาก็ได้แต่นอนมองเงาที่ทอดร่างเคียงกันแทบไม่วางตา นึกย้อนไปถึงตอนแรกที่ได้รู้จัก

ภาพหลายภาพที่ผ่านเข้ามาในห้วงคำนึง ทำให้ปอยิ้มได้อย่างมีความสุข

แม้ว่าภาพที่กำลังนึกถึงอยู่ จะเป็นตอนที่คนสองคนไม่เข้าใจกัน และทำร้ายกันโดยไม่ตั้งใจ

เพราะไม่รู้ว่าที่แท้แล้วต่างก็มีใจตรงกันอย่างน่าแปลก


      ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าพี่ปืนรักปอแบบไหน เห็นพูดได้พูดดีว่า ป๊ากับแม่ไว้ใจให้คอยดูแล

แล้วนอกจากคืนนั้นบนรถไฟ ก็ไม่มีอะไรให้ปอแน่ใจได้สักอย่างว่า พี่ปืนจะรักปอได้มากกว่าคำว่า “น้องชาย”

ขนาดปอลงทุนสารภาพรักก่อน พี่ปืนก็ไม่รับรักปอสักคำ จนปอทำใจไปแล้วว่า แค่ได้อยู่ใกล้กัน ได้ดูแลกันก็พอ

      แต่ความรู้สึกตอนนี้มันยิ่งกว่าความฝันซะอีก

ภาพที่เห็นตรงหน้า เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแผ่วเบา ย้ำให้ปอแน่ใจว่า นี่ไม่ใช่ความฝัน

ปออยากจะปลุกคนที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นมารับรู้ถึงความตื้นตัน ความอิ่มเอม ที่ทำให้ปอรู้สึกสุขซะจนล้นใจในตอนนี้

      อยากถามว่า....พี่ปืนรู้สึกเหมือนผมมั้ย....


      ปอเคยหวั่นไหวกับความสัมพันธ์แปลกใหม่ระหว่างเพศเดียวกัน แต่นั่นไม่ใช่ความหวั่นกลัว

ก็แค่ยังไม่รู้ว่าจะวางตัวเองยังไงในสังคมที่ไม่ค่อยจะยอมรับเรื่องรักแบบนี้นัก

แต่ถ้าเทียบกันระหว่างสิ่งนั้น กับ การไม่มีพี่ปืน ปอว่าปอทนอย่างแรกได้มากกว่า

เพราะปอเคยได้ลิ้มรสมาแล้วว่า การที่อยู่โดยไม่มีพี่ปืนเป็นความเหงาและว่างเปล่าอย่างร้ายกาจ

ยิ่งช่วงเวลาที่ปออยู่ตามลำพัง เพราะถูกพี่ปืนเสือกไสให้ออกห่าง ปอก็ยิ่งแย่

ทั้งต้องทนเหงา และอ้างว้าง อยู่กับความเจ็บปวดที่ไม่รู้จะกำจัดออกไปได้ยังไง

ซ้ำยังต้องพยายามช่วยตัวเองให้หลุดพ้นจากความคิดถึงห่วงหาอาวรณ์ให้เร็วที่สุด

ทั้งที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันยากเย็นแสนเข็ญเพียงไหน


      มาตอนนี้ ปอไม่อยากต้องกลับไปเผชิญกับความรู้สึกเหล่านั้นอีกแล้ว

สำหรับปอความรักที่ค่อย ๆ เกิดและผลิบานในหัวใจ มันมีค่ามากมายเกินกว่าที่ปอจะยอมสูญเสียไปอีก

ส่วนพี่ปืน....หวังว่า คงจะคิดไม่ต่างกัน เวลาที่ผ่านมาคงเป็นบทเรียนสำหรับคนสองคนได้ดี

เมื่ออยากได้ก็ไขว่คว้า แต่เมื่อคว้ามาได้ คงไม่มีใครโง่พอจะปล่อยมันให้หลุดมือไปอีก

อย่างน้อยการทนุถนอมสิ่งนั้นก็เป็นทางเลือกที่ดี แม้ว่าวันข้างหน้าจะยังมองไม่เห็นเส้นทางรักสายนี้ว่าจะมุ่งไปทางไหนก็ตาม

       ปอชะโงกหน้าไปสัมผัสแก้มสากเบา ๆ

   ....ยังอีก....ยังไม่รู้สึกตัว แสงของฟ้ายามสาง ลอดหน้าต่างเข้ามาขับไล่ความมืดออกไปบางส่วน

จนพอมองเห็นใบหน้าคมที่หลับตาพริ้มอยู่ข้าง ๆ ไรหนวดเหนือริมฝีปากเป็นสีเข้ม รอยเขียวที่ขากรรไกรจนถึงคางก็เริ่มจะชัด

เห็นแล้วอยากเอามือไปลูบอีกนั่นแหละ แต่ใช้มือลูบมันก็คงจะธรรมดาไป

      ปอแนบแก้มไล้ไปมาที่ขากรรไกรของคนที่กำลังนอนหลับช้า ๆ มีเสียงอืออาที่แปลไม่ออกว่ารู้สึกชอบหรือไม่ชอบ

แต่การที่ไม่เบี่ยงหน้าหนีก็พอจะเดาได้ว่าไม่รังเกียจ

  ปอปัดจมูกตัวเองไปมากับจมูกโด่งเป็นสันของคนที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เอาแต่นอนท่าเดียว

คราวนี้ได้ผลมากขึ้นอีกหน่อย แขนข้างหนึ่งตวัดร่างของปอ แล้วเหนี่ยวให้ลงมานอนแนบอก

ใบหน้าปอเสมอหน้าอกพี่ปืนพอดี สาบเสื้อนอนผ้าฝ้ายแบะออกจนเห็นแผงอกที่มีไรขนบาง ๆ

ปลายนิ้วเรียวขาวแหวกสาบเสื้อให้กว้างออก เล่นปูไต่ไปบนเนื้อหนังตึงแน่น

      “อื๊อ...จั๊กกะจี้”

      เสียงบ่นพึมพำเบา ๆ ของคนที่ยังไม่ยอมลืมตา ยั่วให้ปออยากสนุกต่อ

นิ้วสองนิ้วช่วยกันแกะกระดุมออกจากรังช้า ๆ จนสาบเสื้อแยกออกจากกัน

เผยให้เห็นแนวขนบาง ๆ ที่ไต่ลงมาจากแผงอก เลื้อยเข้าไปใต้ขอบกางเกง

ชวนให้นึกถึง.....อีกมากมายที่หลบอยู่ใต้ผ้าฝ้ายท่อนล่าง

      “ซนนักนะ ทำไมไม่ต่อล่ะ”

      เสียงคนนอนหลับพูดซะชัดหูเชียว เมื่อปอชะงักมือไว้แค่รังดุมเม็ดสุดท้าย

      “พอละ”

      ปอสะบัดตัวออกจากการโอบรัดหลวม ๆ คนโอบไม่ทันตั้งตัวก็เลยหลุดออกมาอย่างง่ายดาย

      “จะรีบไปไหน ยังไม่สว่างเลย นอนต่ออีกหน่อยเหอะ”

      เสียงชักชวนไม่ได้ส่ออาการงัวเงียซักนิด

      “ไม่อ่ะครับ ผมตื่นแล้ว นอนไม่ลงแล้วล่ะครับ พี่ปืนนอนต่อนะ ผมจะลงไปเตรียมอาหารเช้า”

      “อืม....ซักเจ็ดโมงมาปลุกพี่ด้วยนะ”

       ปอปล่อยให้คนง่วงนอนได้พักผ่อนต่อ หมายมาดไว้ในใจว่า เตรียมอาหารเช้าเสร็จก่อนเถอะ ปอจะมาต่อจากที่ทิ้งค้างไว้



   แต่ที่ไหนได้ พอปอทำอาหารเสร็จ กะว่าจะขึ้นมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็จะปลุกพี่ปืนให้ลงไปข้างล่าง

เช้านี้จะได้ช่วยกันตัดแต่งกิ่งไม้ที่รก ๆออกซะบ้าง แต่พี่ปืนลุกหนีหายไปไหนก็ไม่รู้ ห้องนอนก็เท่านี้จะไปไหนได้

พอหมุนตัวกลับก็เจอกับอ้อมกอดที่อ้าแขนรออยู่ก่อนแล้ว

      “เล่นซนไว้กับพี่ตะกี้น่ะ คราวนี้พี่จะเอาคืนแล้วนะ”

      กลิ่นหอมอบอวลของผิวเนื้อ ทำให้ปอรู้ว่าพี่ปืนคงตื่นนานแล้วจนใช้เวลาจัดการธุระส่วนตัวซะเรียบร้อย

ในขณะที่ปอยังมีกลิ่นตุ่ย ๆ ไหนจะกลิ่นน้ำมันจากการทำอาหารอีกล่ะ

      “เอาเปรียบผมอ่ะ ตัวเองอาบน้ำแล้ว ปล่อยให้ผมอยู่ในครัวง่วนคนเดียวไม่ลงไปช่วยบ้าง”

      “ถ้าลงไปจะเจออะไรดี ๆเหรอ”

      “อะไรครับ”

      ปอทำหน้างง แล้วก็ต้องตาโต เมื่อเห็นว่า พี่ปืนละมือที่โอบปอเลื่อนมาตรงหน้า และมีอะไรติดมือมาด้วย

เมื่อตะกี้ปอก็มัวแต่สนใจหน้าคม ๆ ที่ส่งยิ้มจนตาเยิ้มมาให้ซะจนไม่ทันได้ดู

      “อะ....เอามานะ”

      ปอคว้าของที่อยู่ในมือพี่ปืนแต่ไม่ทัน เพราะคนที่ถือว่าตัวโตกว่าชูขึ้นสูงจนปอเอื้อมไม่ถึง

      “ทันมั้ย”

      พี่ปืนหัวเราะร่า แต่ปอตอนนี้หน้าแดงก่ำ ลามไปถึงหู คอ แล้วน่าจะลึกเข้าไปในคอเสื้อด้วย

ที่ถามว่าทันมั้ย ไม่ใช่จะถามว่าปอคว้าทันมั้ย แต่น่าจะหมายความว่า

ต่อให้แย่งของมาได้ “ความก็แตก” ซะแล้วมากกว่า

      “ของส่วนตัวของผมอ่ะ พี่ปืนทำงี้ได้ไง”

      เมื่อไม่ได้อย่างใจก็เริ่มพาลไปเรื่องส่วนตัวกันเลยทีเดียว

      “ของส่วนตัว แต่มันเกี่ยวกับพี่ด้วยนี่ ขอยุ่งหน่อยไม่ได้เหรอ”

      พี่ปืนยังคงยิ้มหน้าทะเล้นล้อเลียนปอไม่เลิก

      “พี่ปืนมาเกี่ยวอะไรด้วย อย่ามามั่ว”

      แทงใจดังฉึก ปอขอเถียงข้าง ๆ คู ๆก็เอา

      “งั้นจะให้พี่แปลว่าปอมีของพวกนี้ไว้ทำอะไรเหรอ”

      พี่ปืนยังไม่วายยั่วเย้าหยอกล้ออย่างคนเป็นต่อ เห็นแล้วปอก็ยิ่งหมั่นไส้ ทั้งฉุน ทั้งอายที่ตอบโต้อะไรไมได้

พูดอะไรไปก็มีแต่จะเข้าเนื้อ เห็นทีจะต้องถอยไปตั้งหลักก่อนแล้ว

      ปอก้มหน้าจนคางจรดอก ไม่ยอมสบตาด้วยแล้วทำเป็นพูดเหมือนไม่แคร์

      “ของธรรมดา ๆ แบบนี้ใคร ๆ เค้าก็มีกันทั้งนั้นแหละ ไม่เห็นจะแปลกเลย ทำยังกะพี่ปืนไม่เคยดู”

      “ก็เคย....แต่ใครจะไปนึกว่าปอจะ....ฮ่า ๆ”

      “ขำนักรึไงเล่า...หลีกไปเลย ผมจะไปอาบน้ำมั่ง”

      ปอดันร่างหนา ๆ ออกห่าง แล้วเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำปิดประตู บังสายตาจากคนที่คอยแต่จะยั่วโมโห

เดี๋ยวเหอะ จะเอาให้ขำไม่ออกเลย

      “พี่ปืนลงไปกินของเช้าก่อนนะครับ เดี๋ยวผมเสร็จแล้วจะตามลงไป”

      ปอตะโกนออกมาจากในห้องน้ำ

      “เร็ว ๆนะ พี่จะกินช้า ๆรอปอ”

      เสียงตะโกนตอบมา ตามด้วยเสียงปิดประตูห้องเบา ๆ เป็นสัญญาณให้ปออาบน้ำอย่างตั้งใจ

อาบเสร็จแล้วก็เลือกใส่เสื้อกล้ามแขนเว้าแบบที่มักจะใส่ไว้เป็นเสื้อตัวใน ตามด้วยกางเกงขาสั้นเนื้อนุ่ม

แถมขากางเกงยังกว้างพอให้ลมโกรกเย็นสบายซะอีก โลชั่นกลิ่นนี้พี่ปืนเป็นคนเลือก

ปอก็บรรจงละเลงลูบไล้ไปตามแขนขาทั่วทั้งตัวจนหอมกรุ่น....งานนี้ปอเล่นไม่เลิกแน่

กะว่าจะแค่มาต่อจากที่แกล้งไว้เมื่อตอนเช้าแท้ ๆ แต่พี่ปืนไปขุดเอาความลับของปอมาเปิดเผย

แถมล้อให้ได้อายอีกต่างหาก......ทีนี้ก็รอรับผลกรรมที่ทำไว้แล้วกันนะพี่ปืน

      “รอผมนานมั้ยครับ”

      “ไม่เป็นไร พี่รอได้”

      ปอเดินโฉบเข้าไปหลังเก้าอี้พี่ปืน แล้วก้มลงกระแทกจมูกตัวเองกับแก้มพี่ปืนแบบลงน้ำหนักให้รู้ว่า จูบเค้าทำกันอย่างงี้....

  พื่ปืนทำหน้าเหวอ แต่ก็ยังยิ้มกว้างด้วยความชอบใจกึ่งแปลกใจกับสิ่งที่ได้รับ แถมมองตามปอตาปรอย

ไล่สายตาไปตามเนื้อตัวปอที่วันนี้เปิดซะจนแทบจะเปลือย

      “กินช้าจริง ๆด้วย”     

      ปอลงมือกับอาหารตรงหน้าบ้าง ตักโน่นตักนี่ให้พี่ปืนบ้าง วันนี้พี่ปืนดูจะมีทักษะพิเศษที่กินไปยิ้มไปก็ได้ด้วย....

  ....มีความสุขเข้าปายยยยย

      อาหารตรงหน้าหมดลงในเวลาไม่ช้าไม่นาน ปอเก็บจานไปล้าง หลังจากบอกให้พี่ปืนไปเตรียมกรรไกรตัดกิ่งไม้

เสร็จจากในครัวแล้วปอก็ตามไปสมทบ

      “จะให้ตัดแค่ไหนอ่ะปอ”

      พี่ปืนเงยหน้าดูกิ่งต้นเล็บมือนางที่เริ่มจะรกซะจนกิ่งห้อยลงมาระพื้นอีกแล้ว มันโตเร็วซะจริง ๆ

      “เอากิ่งที่ห้อยตกลงมาเรี่ยม้านั่งข้างล่างนี่ออกก่อนนะครับ ถ้าหายรกแล้วค่อยดูกิ่งอื่นต่อ”

      ไม่มีความจำเป็นเลยที่ปอจะต้องเดินเข้ามาจนชิดพี่ปืน แล้วเกาะแขนเกาะไหล่ ชี้นู่นชี้นี่ ให้พี่ปืนจัดการ แต่ปอก็อยากจะทำ

และพี่ปืนก็ดูจะมีความสุข มีแอบแตะหน้าผากปอด้วยจมูกมั่ง จุ๊บขมับมั่ง หาเศษหาเลยไปตามอารมณ์

   ....ทำได้ทำไป

      “เดี๋ยวพี่ปืนเปลี่ยนกระถางต้นพยับหมอกด้วยนะครับ ตอนนี้ยังไม่มีดอกจะได้ค่อย ๆ เลี้ยงตัวกับบ้านใหม่

แล้วก็ที่ริมทางเดินอ่ะครับ ถอนต้นวัชพืชออกด้วยนะ เดี๋ยวมันจะแย่งอาหารหญ้าหมด...พี่ปืนเหนื่อยมั้ย

เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำมาให้ แดดชักร้อนแล้วด้วย รีบ ๆ ทำนะครับสายแล้ว”

      ก่อนเดินออกมาปอก็สั่งโน่นสั่งนี่ แล้วตบท้ายด้วยกำลังใจ 1 ทีที่แก้ม ทำเอาพี่ปืนยิ้มแก้มแทบปริ

      “คร้าบบบบ”


      หัวใจเบิกบาน งานก็เดิน สารพันงานสวน(เล็ก ๆ) ที่ปอบอกให้พี่ปืนทำ เสร็จสมอารมณ์หมายในไม่ช้า

พี่ปืนทำงานด้วยความสุขซะจนไม่รู้จักว่าความเหน็ดเหนื่อยหน้าตาเป็นยังไง เพราะมีปอเดินวนไปเวียนมาอยู่ใกล้ ๆ

คอยเช็ดเหงื่อ ให้น้ำ พูดจาเล้าโลมเป็นยาชูกำลังขนานเอก ยิ่งไปกว่านั้นปอยังรู้ตัวอีกว่าตัวเองตกเป็นอาหารตาของพี่ปืนไปแล้ว

พี่ปืนคงไม่รู้หรอกว่างานนี้น่ะ ปอตั้งใจ แล้วก็ไอ้ ”ของส่วนตัว” ของปอที่พี่ปืนอุตส่าห์ไปค้นเจอจนเอามาล้อปอซะหน้าม้านน่ะ

ระวังไว้เหอะ เดี๋ยวมันจะเข้าตัว


      กว่าพี่ปืนจะได้วางมือจากงาน (ที่ถูกใช้เยี่ยงทาส) เหงื่อก็ท่วมตัว ปอก็เลยไล่ให้ไปอาบน้ำอีกรอบ

วันหยุดสุดสัปดาห์ของพี่ปืน ไม่มีอะไรให้ทำมากมาย นอกจากพักผ่อน เพราะงานบ้าน งานครัวก็มีปอดูแลให้อยู่

อีกหน่อยพอเปิดเทอมแล้ว ปอก็คงจะมีเวลาให้งานเหล่านี้น้อยลงเรื่อย ๆ

      ระหว่างที่พี่ปืนขึ้นไปอาบน้ำ ปอก็เปิดหนังไปพลาง ๆ ส่วนตัวเองก็เข้าครัวไปเตรียมอาหารเที่ยงง่าย ๆ

  วันนี้มีผัดมักกะโรนี ราดซ้อสทะเล กับต้มซุปเม็ดมะม่วงหิมพานต์สดกับกระดูกหมู ซดน้ำอย่างเดียวก็อร่อยแล้ว

      ได้ยินเสียงฮัมเพลงของพี่ปืนที่ลงมาจากข้างบนแล้ว แต่ไม่ได้เลี้ยวเข้ามาในครัว แค่นี้ก็ทำให้ปอยิ้มอย่างสาสมใจ

ป่านนี้พี่ปืนคงนั่งดูหนังที่ปอตั้งใจเปิดไว้รอท่าแล้วล่ะ

      พักใหญ่ ๆ ผ่านไปปอถึงเดินออกจากครัวเพื่อเข้าไปดูผลงานของตัวเอง แต่ไม่เห็นใครที่คิดว่าน่าจะกำลังดูหนังอยู่

ทั้งห้องกลับว่างเปล่า มีแต่ภาพโฆษณาในจอโทรทัศน์ ไม่ใช่หนังที่ปอเปิดทิ้งเอาไว้ตั้งแต่แรก

      “ไปไหนหว่า”

      ยังไม่ทันจะได้เหลียวซ้ายแลขวา ภาพโฆษณาในจอก็เปลี่ยนเป็นหนัง พร้อมกับเสียงกระสันสวาทซี้ดซ้าดระเบิดออกมาจากลำโพงไม่เบานัก

      “เฮ้ย!!”

      ที่ตกใจก็เพราะตัวเองถูกพันธนาการด้วยแขนแข็งแรงจากข้างหลัง....มาจากไหนเนี่ย

      “เล่นแบบนี้กับพี่เหรอ...หือ”

      เสียงพี่ปืนเคล้าลมหายใจระอุ คลอเคลียอยู่ข้างขมับ เล่นเอาปอร้อนซู่ไปทั้งตัว ตั้งแต่หัวถึงเท้า

นั่นเพราะไม่ทันได้ตั้งตัว และเพราะเสียงเร้าอารมณ์จากตัวละครในหนังที่กำลังเล่นเสียวกันอย่างเพลิดเพลิน

      “เล่นอะไร ผมป่าวน้า”

      “อย่ามาไก๋ แกล้งเปิดหนังให้พี่ดู มีแผนอะไร บอกมาซะดี ๆ”

      “ไม่มี้”

      ถูกจับได้ แต่ปอก็ยังจะไถลเอาสีข้างเข้าถู

      “ลูกไม้ตื้น ๆ คิดจะเอาคืนกับพี่น่ะ มันเร็วไปสิบปีมั้งปอเอ๊ย”

      คนพูดแกล้งกัดฟัน แต่อารมณ์ขันยังเหลือเฟือ แถมยังแกล้งรัดปอให้แน่นขึ้นไปอีก

      “เมื่อเช้าเล่นอะไรค้างไว้ก็ไม่ยอมมาต่อ ปล่อยให้พี่ฝันค้างอยู่คนเดียวจนนอนต่อไม่ได้

แล้วนี่ยังจะมาแกล้งปลุกอารมณ์พี่อีกเหรอ แหย่เสือน่ะต้องใจกล้ารู้มั้ย”

      “เสือเหรอครับเนี่ย ไม่บอกไม่รู้นะ ผมนึกว่าลูกแมว”

      “แน่ะ ยังจะปากเก่ง....มานี่เลย”

      พี่ปืนลากปอทั้งที่แผ่นหลังปอยังแนบกับหน้าอกไปที่โซฟาอย่างทุลักทุเล

      “ปล่อยดี๊ ผมเดินเองได้”

      “ไม่ได้หรอกเดี๋ยวปอหนี”

      “จะหนีไปไหนได้ ยังไงผมก็ไปไม่พ้นบ้านนี้อยู่แล้วอ่ะ”

      พี่ปืนพาปอลงมานั่งด้วยกันที่โซฟาจนได้ ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวในหน้าจอโทรทัศน์ก็เข้มข้นขึ้นทุกที

เสียงหายใจหนัก ๆผสมเสียงครางอย่างหฤหรรษ์ ทำให้ปออดที่จะเงยหน้าขึ้นดูไม่ได้

แต่พอได้เห็นเต็มตา ใจมันก็พลอยเต้นตูม ๆ เนื้อตัวก็พาลจะสั่นระริก จนทำให้คนที่นั่งเบียดอยู่ด้วยกันรู้สึกได้

      “เป็นไง แกล้งพี่...ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว หึ หึ”

      “ไม่ทุกข์”

      ปอแค่จะกลั้นใจบอกว่าตัวเองไม่รู้สึกอะไร แต่พี่ปืนตีความไปอีกอย่างจนได้

      “ที่จริงก็ไม่ทุกข์หรอก เค้าเรียกว่าความสุขตะหาก”

      “ทะลึ่งใหญ่แล้วนะพี่ปืน”

      ปอค้อนขวับ ทำเอาพี่ปืนหัวเราะชอบใจ ก่อนจะกดจมูกลงมาบนหัวไหล่เกลี้ยงเนียนฟอดนึง

      “อย่าดี๊”

      ปอเอี้ยวตัวหนี แต่ไม่พ้น เลยต้องตกเป็นเหยื่ออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

      “หอมจัง”

      “เหม็นเหงื่อออก กลิ่นกับข้าวด้วย ผมยังไม่ได้อาบน้ำใหม่เลยนะ”

      “ไม่อาบก็หอม....ปอหอมไปทั้งเนื้อทั้งตัวแหละ”

      แล้วคนพูดก็สาธิตให้ดูว่าหอมไปทั้งเนื้อทั้งตัวเค้าทำกันยังไง เล่นเอาปอชักกระดาก ก็พี่ปืนอาบน้ำแล้วกลิ่นสบู่หอมฟุ้ง

แต่ปอน่ะทั้งหน้ามัน ทั้งเหงื่อที่ซึมไปทุกขุมขน พี่ปืนยังจะมาพูดว่าหอม อย่างงี้เค้าเรียกว่าแกล้งชม

ได้โอกาสปอก็เลยขอชิ่ง อยู่ตรงนี้ท่าทางจะไม่ปลอดภัย ที่หาเรื่องจะแกล้งพี่ปืนแต่มันกำลังจะเข้าตัวยังไงไม่รู้

      “ผมไปอาบน้ำมั่งดีกว่า เดี๋ยวจะได้ลงมากินข้าวด้วยกัน”

      “เดี๋ยวซี้.....ทำอะไรไว้กับพี่มาต่อให้จบก่อน”

      “ผมไปทำอะไรให้ตอนไหน อย่ามามั่วนะ”

       เอะอะอะไรก็ว่าคนอื่นมั่วเอาไว้ก่อน....ก็มันอายหนิ

   อายแรกน่ะ ตอนที่พี่ปืนแอบเข้าไปในห้องปอแล้วหยิบแผ่นหนังที่พี่นูให้ยืมมาอวด

   อายที่สองก็เนี่ยแหละ....เปิดหนังเรื่องนั้นแกล้งพี่ปืน แต่ตัวเองดันมาตกหลุมที่ตัวเองขุดดักล่อคนอื่น...

แล้วนี่ยังจะมีอายต่อไปอีก ก็พี่ปืนเล่นกอดไม่ปล่อยนี่นา แถมมือยังอยู่ไม่สุข ลูบมันอยู่นั่นแล้วกับต้นขาขาว ๆ....

   ....คิดถูกหรือเปล่าไม่รู้ที่นุ่งกางเกงขาสั้นแกล้งยั่วคนอื่นน่ะ

      “ใครมั่วกันแน่ ยังอ่อนหัดนักปอเอ๊ย....มันต้องอย่างงี้”

      ...อย่างงี้...ของพี่ปืนก็คือมือที่เลื้อยไล่ไปมายังกับหนวดปลาหมึก จับปอมานั่งที่หว่างขาของตัวเอง

แล้วรัดปอด้วยวงแขนให้หมดอิสรภาพ บังคับให้ดูหนังที่กำลังน่าตื่นเต้น

   ส่วนภาพตรงหน้านั่นจะเร้าใจไปไหน ตัวแสดงที่เปิดเปลือยผิวกายชุ่มเหงื่อเต็มแผ่นหลัง ผสานเสียงครางด้วยอารมณ์พิศวาส

จังหวะกระแทกกระทั้นเข้าหาสะโพกเต็มตึงของอีกฝ่ายถี่รัวซะจนแม้กระทั่งไม่หันไปมองก็ยังนึกภาพออกอย่างแจ่มแจ้ง

เพราะเสียงเนื้อกระทบเนื้อกับเสียงร้องครวญชวนสยิว สองเสียงที่สอดรับกัน มันช่างให้ความรู้สึกวูบวาบ หวิวไหวในอารมณ์ซะจริง ๆ....

ปอไม่ได้นึกอยากดูตอนนี้ แต่ก็ละสายตาไปที่อื่นไม่ได้เลย ก็หนังเรื่องนี้พี่นูเพิ่งจะให้ขอยืมมา แล้วปอก็ยังดูไม่จบ

พอเปิดได้ครึ่ง ๆ ก็มัวแต่อายแล้วรีบปิดซะก่อน แม้แต่ตอนที่กำลังดูอยู่ ก็เพิ่งจะได้เห็นพร้อมพี่ปืนนี่แหละ

      พี่ปืนกอดเอวปอไว้มือนึง ส่วนอีกมือก็ลูบไล้เข้าไปใต้เนื้อผ้า สอดมือเข้าไปในชายกางเกงขาสั้น ที่ปออุตส่าห์ตั้งใจใส่มายั่วโดยเฉพาะ

ไม่นึกเลยว่าจะย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองอย่างงี้

      “อ๊า....พี่ปืน....อย่า….”

      “รู้รึยังว่าแกล้งพี่ไว้น่ะ อันตรายขนาดไหน....หือ”

      พี่ปืนซุกไซ้ไปตามลำคอ ปลายลิ้นสัมผัสติ่งหูจนปอขนลุกเกรียว มือไม้อ่อนไปหมด แรงจะขัดขืนก็แทบไม่มี

แต่แล้วก็ต้องสะดุ้ง เมื่อรู้สึกเหมือนมีอะไรแข็ง ๆ ดุนอยู่ตรงบั้นท้าย อารมณ์บรรเจิดตะกี้ก็เลยกระเจิง เพราะมันชักจะอันตรายเกินไป

      “อื๊อ.....พี่ปืนปล่อยผมก่อน”

      เพิ่งรู้ตัวว่าเสียงตัวเองมันหอบกระเส่าก็ตอนเปล่งเสียงห้ามพี่ปืนนี่แหละ

      “ไม่ปล่อย ชอบแกล้งให้พี่อารมณ์ค้างกี่หนมาแล้วล่ะปอ”

      “พี่ปืนอย่านอกกติกาดิ”

      ปอพยายามเบี่ยงตัวออกจากหน้าพี่ปืนที่เกลือกไปมากับแผ่นหลัง ไหนจะหนวดปลาหมึกที่ยิ่งดิ้นก็ยิ่งรัด

แกะมือขวาออกได้ มือซ้ายก็นัวเนียไม่ยั้ง เหนื่อยกับการแย่งยื้อตัวเองออกจากอ้อมกอดพี่ปืนจนปอไม่รู้จะทำไงดี

เลยต้องเล่นไม้ตาย (เกือบตายจริง ๆนะ)

      “โอ๊ยยยยยย.....อ๊าก......ปอ....เล่นบ้า ๆอะไรเนี่ย”

      ได้ผลตรงที่พี่ปืนปล่อยมือออกจากปอทันที ปอกระเด้งตัวออกมายืนดูผลงานตัวเองให้ห่างไว้เพื่อความปลอดภัย

เห็นพี่ปืนนั่งคุดคู้ มือกุมเป้า....ทำมารยาอีกแล้วพี่ปืน ปอไม่ได้รุนแรงขนาดนั้นซักหน่อย

ก็แค่กระแทกบั้นท้ายตัวเองไปข้างหลัง (เบา ๆ) ตรงที่รู้สึกว่าดุ้นแข็ง ๆ มันดันปออยู่ก็แค่นั้นเอง

      “ผมขอโทษ ก็พี่ปืนไม่ปล่อยผมหนิ”

   “อูย....แล้วทำไมต้องทำกันขนาดนี้....โอยยยย.....เกิดพี่พิการไปทำไงเล่า”

   ทำเป็นโวยวาย ปอรู้กำลังตัวเองหรอก แล้วเคยเหรอที่ปอจะทำให้พี่ปืนเจ็บ

   “มันไม่แย่ขนาดนั้นหรอกน่า....ผมขอโทษแล้วด้วย”

   “มาดูผลงานตัวเองเลย พี่เจ็บจนลุกไม่ขึ้นแล้วนะ”

   พี่ปืนเปลี่ยนจากโวยวายมาเป็นอ้อน

   “เดี๋ยวจะลงมาดู แต่ตอนนี้ขอผมไปอาบน้ำก่อนนะครับ หิวแล้วด้วย”

   ว่าแล้วปอก็หันหลังกระโดดขึ้นบันไดไป รีบจะไปจัดการธุระของตัวเอง แต่ที่จริงน่ะ ปอเกือบจะทนไม่ไหวต่างหาก

ก็หนังมันก็ยั่วซะ แล้วไหนจะพี่ปืนก็กระตุ้นอารมณ์กันระดับมืออาชีพอีกล่ะ ปอกลัวว่าตัวเองจะทนต่อไปไม่ได้นานน่ะสิ

ไม่รีบชิ่งตอนนี้ มีหวังเสียประตูโดยไม่ตั้งใจ.....

.....ใช่ ปอไม่อยากให้มันเกิดบนความไม่ตั้งใจเหมือนประสบการณ์ครั้งแรกนี่นา

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 00.30 น.
«ตอบ #226 เมื่อ08-06-2012 00:39:37 »





     อาบน้ำยังไม่ทันจะเสร็จเลย คนบางคนก็มาเรียกอยู่หน้าประตูซะแล้ว

    “ปอ....เสร็จยาง”

    ยานคางมาเลย อะไรของเค้ากันเนี่ย

   “จวนแล้วครับ พี่ปืนหิวก็กินไปก่อนเลยนะ ไม่ต้องรอ กินช้า ๆเหมือนเมื่อเช้าก็ได้ครับ”

    “ม่ายอาว”

    “งั้นรอแป๊บนึงนะครับ”

    “ม่ายรอ เปิดประตูก่อน”

  อ้าว....จะมาไม้ไหนล่ะเนี่ย

    “เปิดประตูให้พี่หน่อย”

  คนหน้าประตูเริ่มเสียงแข็ง แล้วตบประตูเบา ๆ ปอหยุดมือที่กำลังฟอกสบู่ หันไปโต้ตอบอย่างจริงจัง

    “ผมยังอาบน้ำไม่เสร็จเลย”

    “ช่วยพี่หน่อย....ปอ.....”

  “พี่ปืนเป็นอะไรไป”

  “ปอ.....พี่เจ็บ....”

      เสียงพี่ปืนแผ่วลง แต่มือยังตบประตูอีกสองครั้ง ปอชักจะใจไม่ดี หรือว่าตะกี้ปอจะกะกำลังผิดไป ก็แค่ถอยตัวกลับไปไม่ได้แรงมาก

ปอทำพี่ปืนเจ็บขนาดไหนกันเนี่ย แล้วยังหนีขึ้นมาอาบน้ำไม่หันกลับไปดูดำดูดี เพราะคิดว่าพี่ปืนมารยาใส่ซะอีก   

     ปอลนลานเปิดน้ำฝักบัวราดฟองสบู่ออกอย่างรวดเร็ว หยิบผ้าขนหนูมาพันตัวลวก ๆ แล้วเปิดประตูห้องน้ำออกมา

เห็นคนตัวโตยืนตาโรย มือยังกุมอยู่ที่เดิม ปอก้มลงไปมองตาม แล้วก็เลยนึกด่าตัวเองว่าเล่นแรงเกินไป จนพี่ปืนเจ็บซะขนาดนี้

ปกติพี่ปืนไม่ใช่คนสำออย นอกจากว่าอยากจะอ้อนเล่น แต่อาการแบบนี้เห็นจะไม่อ้อนแล้วล่ะมั้ง

     “พี่ปืน ผมขอโทษ เจ็บมากมั้ยครับ ให้....ผม...เอ่อ....ดูหน่อย”

     “ดูแล้วจะช่วยพี่รึป่าว”

     พี่ปืนเสียงแหบพร่าจนปอยิ่งร้อนใจ คิดหาทางว่าจะต้องพาพี่ปืนไปหาหมอที่คลินิกไหนดี

     “จะให้ผมช่วยยังไงครับ ไปหาหมอกันมั้ย”

     “ไม่ต้องหรอก ไม่ได้หนักขนาดนั้น”

     “แล้วพี่ปืนจะให้ผมช่วยอะไร บอกมาสิครับ...พี่ปืนไปนั่งที่เตียงก่อน”

     ปอประคองพี่ปืนถอยกลับมาที่เตียง พี่ปืนก็ยึดไหล่ปอซะแน่นเชียว ก่อนจะนั่งลงบนเตียงพี่ปืนก็รูดกางเกงลงไปกองที่ข้อเท้า

เล่นเอาปอใจหายวาบ แต่ก็ต้องทำใจ ไหน ๆพี่ปืนก็มาเจ็บเพราะปอ จะทำเป็นขวัญหนีดีฝ่อไม่ได้แล้ว

     “เจ็บยังไงอ่ะครับ แล้วพี่ปืนจะให้ผมช่วยยังไง”

     “ช่วยแน่นะ”

      “ก็แน่สิครับ ผมทำพี่ปืนเจ็บหนิ....ไหนครับ”

      คนเจ็บตวัดร่างบาง ๆ ลงมานอนบนเตียงแล้วพลิกตัวขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว ท่าทางแข็งแรงยังกับว่าอาการเจ็บที่คร่ำครวญอยู่เมื่อกี้ไม่มีจริง

      “พี่ปืน!!”

      ด้วยอาการที่ตกใจ ปอทั้งผลักทั้งดัน ร่างหนาให้ออกจากตัว (ก็มันหนัก) แต่ก็เหมือนกำลังผลักหินผายังไงยังงั้นเลย

คนหายเจ็บซุกไซ้ไปทั่วหน้า แม้แต่ฝ่ามือก็ละเลงลูบไล้ไปทั่วลำตัวเปลือยเปล่าของปอ จนรู้สึกร้อนวูบวาบไปทุกพื้นที่ที่ฝ่ามือใหญ่ลากผ่าน

ทั้งที่เพิ่งจะเจอน้ำเย็นมาเมื่อกี้

      “ไหนบอกจะช่วยพี่ไง”

      พี่ปืนพึมพำด้วยเสียงแหบพร่า และยังรุกรานปออย่างไม่ลดละ

      “ก็ช่วย....แต่พี่ปืนไม่ได้เจ็บจริงหนิ”

      “ใครบอก....พี่เจ็บจริง ๆ”

      “เจ็บแล้วทำไมมีแรงทำกับผมอย่างงี้ล่ะ”

      “พี่เจ็บตรงนั้น.....เพราะ....มันค้าง.....”

      “อะไรค้าง?”

      “ปอแกล้งเปิดหนังให้พี่ดู.....”

      ปอเลิกคิ้ว

      “อย่ามาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อย่างนี้นะ ทำกับพี่ไว้ขนาดนี้แล้วยังปล่อยให้พี่ต้องทรมานน่ะ ไม่สงสารกันเลยใช่มั้ย”

      “อ๋อ....ผมรู้แล้ว”

       ปอลากเสียงยาว แล้วอมยิ้ม หรี่ตาใส่คนคนแกล้งเจ็บ

      “พี่ปืนช่วยตัวเองได้นี่นา ไม่เห็นต้องให้ผมช่วยเลย”

      “ทำไมพูดเหมือนคนไม่รักกันแบบนี้ล่ะปอ”

    ฟังพี่ปืนโอดครวญ ปอฟังแล้วหมั่นไส้เต็มที ที่ผ่าน ๆ มาไม่เห็นจะขอความช่วยเหลือ ทีอย่างงี้ล่ะมาตัดพ้อต่อว่า

      “ผมรู้นะ....”

    ปอพูดเองก็หน้าแดงเอง แก้มสองข้างร้อนผะผ่าว อยู่ ๆจะต้องมาพูดเรื่องทำนองนี้กันแบบซึ่งหน้า

ยังกับว่ามันเป็นปัญหาระดับชาติที่ต้องรีบแก้ไข ใครมันจะตีหน้าเฉยอยู่ได้

      “พี่ปืนเองก็เคยช่วยตัวเอง”   

       ปอกลั้นใจพูดให้จบ ๆ

      “แล้วไง”

       ดูทำหน้าเข้า....หน้าไม่อายมั่งเลยรึไง ยอมรับมาดื้อ ๆ อย่างงี้อ่ะนะ

      “เรื่องแค่นี้พี่ปืนไม่เห็นต้องให้ผมช่วยนี่นา”

      “ก็เพราะใครล่ะ ทำให้พี่ต้องเป็นแบบนี้น่ะ”

       “ผมก็ขอโทษแล้วนี่ครับ พี่ปืนจะเอาอะไรกับผมอีก หายเจ็บได้แล้วน่า”

      “ไม่ใช่แค่วันนี้ ที่พี่พูดน่ะพี่หมายความว่า ที่พี่ต้องทำแบบนั้นมาตลอดก็เพราะปอ”

    คำพูดที่ออกจากปากทำให้ปอมั่นใจว่า ที่พี่ปืนบอกว่าไม่เคยมีความสัมพันธ์กับใครอีกเลยหลังจากที่ได้รู้ใจตัวเองนั้น เป็นความจริง

แววตารุกเร้าทีเล่นทีจริงเมื่อครู่หายไปจากดวงตาคู่คมแล้ว เหลือเพียงคำพูดที่หนักแน่น จริงจัง พร้อมกับอาการที่พี่ปืนจ้องจะจู่โจมก็หยุดลงโดยปริยาย

      “ไม่เกี่ยวนะ ผมไม่เคย....”

      “พี่ไม่ได้ว่าปอเป็นคนทำ พี่รู้ว่าพี่ทำตัวเอง พี่รู้ว่าพี่คิดไม่ดีกับปอ แต่ถึงอย่างงั้นพี่ก็ไม่เคยฉวยโอกาสกับปอนะ

พี่ทำตามสัญญามาตลอด แล้วเมื่อไหร่ปอถึงจะเห็นใจพี่บ้าง....ปอรู้มั้ยว่ามันทรมานแค่ไหน ไม่รักพี่แล้วเหรอ”

      ปอแทบจะไม่กล้าจ้องตอบสายตาวิงวอน ชวนให้ใจอ่อน คู่นี้เลย แต่การจะให้นอนนิ่ง ๆ อยู่ใต้ร่างใหญ่หนาของคนตัวโต ๆนี่มันอึดอัดน่าดูนะ

อย่างน้อยน้ำหนักที่กดทับลงมาก็ทำเอาหายใจหายคอไม่ค่อยถนัด แล้วไหนจะอะไร ๆ ที่มันกำลังผงาดอยู่ตรงหน้าขาอีกล่ะ

แล้วภาพติดตาจากหนังที่เพิ่งผ่านสายตาไปเมื่อครู่ใหญ่ก็ทำเอาปอเตลิดไปซะจนคนที่นอนกดทับปออยู่ออกอาการยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

กับการรับรู้ว่าอะไรบางอย่างในตัวปอกำลังขยายตัว

       “คิดว่าพี่เป็นคนเดียวซะอีก”

     “อะไรเล่า”

      ปอสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง....ทางที่ไม่มีตาคมหลุกหลิกคู่นี้กระเซ้าเย้าแหย่

     “อย่าใจแข็งกับพี่นักเลยปอจ๋า....ให้พี่ได้ชื่นใจบ้างเถอะ มีประโยชน์อะไรที่เราจะปล่อยเวลาให้มันผ่านไปวัน ๆอย่างนี้”

      ปากที่ระดมจูบไปตามใบหน้า ระไปตามแก้ม กกหู ไม่วายจะพูดพึมพำเอาแต่ใจตัวเอง แล้วไอ้ลมร้อน ๆ ที่เป่าออกมาตอนพูดน่ะ

พี่ปืนรู้มั้ยว่ามันทำให้ปอขนลุกเกรียว เสียวซ่านไปถึงไหน ๆ

    เมื่อคนที่นอนเฉย ๆ ไม่ตอบโต้อะไรนอกจากหลบเลี่ยงเบี่ยงหน้าหนีเป็นบางครั้ง พี่ปืนก็ย่ามใจรุกหนักจนปอตั้งรับไม่ทันแล้ว

     “ไม่เอานะครับพี่ปืน ผมยังไม่พร้อม”

     ปอส่ายหน้าหนี พยายามดิ้นรนให้หลุดจากตำแหน่งที่เสียเปรียบเมื่อคิดได้ว่าคราวนี้พี่ปืนตั้งท่าจะเอาจริง

แต่กว่าจะนึกได้ว่าอะไรเป็นอะไร สองมือของปอก็ถูกพี่ปืนยึดไว้เรียบร้อยแล้ว

    ตอนนี้มือใหญ่แข็งแรงประสานกับมือเรียวขาวทั้งสองข้าง แถมยังกางไว้ออกห่างลำตัวเพื่อให้ตัวเองชื่นชมทั่วทั้งตัวได้ถนัดอีกต่างหาก

      พี่ปืนสัมผัสปอด้วยริมฝีปาก เกลี่ยจูบเรื่อยไปตลอดลำคอ ลาดไหล่ขาวเนียน ไปจนถึงหน้าอก

แล้วพอถึงตุ่มไตสีชมพูอมน้ำตาลจาง กลับไม่จูบเปล่า ลิ้นอุ่น ๆตวัดไปมาระรัวซะจนปอสะท้านเยือก

    “อ๊า....พี่ปืน อย่า...”

      แต่พี่ปืนในอารมณ์นี้คงไม่สนใจเสียงห้ามปรามของปอซะแล้ว เนื้อนุ่มเนียนที่ได้สัมผัสทำเอาพี่ปืนเคลิบเคลิ้ม

    ไม่อยากได้ยินเสียงห้าม พี่ปืนก็จูบปิดปากจะได้ไม่ต้องห้าม เอาแค่เสียงอืออา งึมงัมในลำคอก็พอ

ปอไม่รู้ตัวว่ากำมือตอบพี่ปืนตอนไหน อืม....คงเป็นตอนที่พี่ปืนรัวลิ้นให้ปอสะท้านสะเทือนไปทุกขุมขนแน่เลย

      ทันทีที่กลีบปากเป็นอิสระจากจูบเผาอารมณ์ ปอก็รีบบอก

    “พี่ปืน...ปล่อยผมก่อน”

      ปอจะรู้ตัวมั้ยนั่น ว่าปากกับตามันสื่อภาษาไปคนละทางเลย แล้วปอคิดว่าพี่ปืนจะเชื่ออะไรมากกว่ากัน

      “ไม่ปล่อย....ปอหอมไปทั้งเนื้อทั้งตัวแบบนี้ พี่จะขาดใจตายให้ได้รู้มั้ย”

    พี่ปืนคลายมือออกจากมือปอ เลื่อนมาสัมผัสเนื้อหนัง ทุกสัดส่วนบนร่างกายปอ
     
    ไม่มีที่ไหนที่มือพี่ปืนลากผ่านไปแล้วผิวกายจะไม่สั่นสะท้าน

      ส่วนกลางลำตัวของพี่ปืนกดทับลงมาไม่พอ หนำซ้ำยังบดส่ายสะโพกให้มันเสียดสีกับหน้าขาของปอจนรู้สึกมวนในท้องจนโหวงไปหมด

สองแขนโอบไปรอบคอ พร้อมกับมือเรียวก็ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังด้วยความรู้สึกอยากสัมผัสเนื้อตึงแน่นดูบ้าง

ทำเอาพี่ปืนหายใจแรง เนื้อตัวสั่นเทา

      “อืมมม.....อ้า......ปอจ๋า....”
     
    “พี่ปืนจะทำอะไรผม”

      ปากพูดทั้ง ๆที่ตายังหลับพริ้ม เพลิดเพลินไปกับมือใหญ่ที่ตระโบมโลมลูบไปทั่วร่างอย่างเร่าร้อนสองร่างเบียดแนบชิดกัน

เสียงเสียดส่ายของร่างกายกับผ้าปูนอน แทรกระหว่างเสียงครางหอบกระเส่า ด้วยเพลิงพิศวาสแผดเผา

เนื้อตัวปอราวกับจะลุกเป็นไฟอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

      “ปอจ๋า รักพี่นะ....พี่อยากได้ยินปอบอกว่ารักพี่”

      “อือ....”

       พี่ปืนประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากแย้มเผยอเป็นสีแดงเรื่อ เรียวลิ้นส่งออกไปพันกระหวัดรัดลิ้นเล็ก ๆ ที่ตอบรับอย่าเก้อเขิน

พี่ปืนถอยลิ้นออก ปอก็รุกไล่ด้วยลิ้นของตัวเองด้วยความไม่ชำนาญกึ่งกลัวกึ่งกล้า  ทำให้พี่ปืนต้องหัวเราะน้อย ๆ ด้วยความเอ็นดู

       พอรู้สึกว่าพี่ปืนหยุดการกระทำทุกอย่าง ปอก็ลืมตาขึ้นมาด้วยแววตาฉ่ำ

     ริมฝีปากแดงจากการถูกบดด้วยริมฝีปากของอีกคนเผยอออกรับลิ้นที่แลบออกมาแตะปากตัวเองแผ่วเบา

      “เจ็บปากอ่ะ”

    “หึ หึ พี่จูบแรงไปเหรอ”

       คนตัวโตพรมจูบเบา ๆอย่างปลอบขวัญไปตรงที่คนตัวเล็กบ่นเจ็บ

      “ปอ”

       “ครับ”

      “ไม่ห้ามพี่แล้วใช่มั้ย”

       ไม่มีเสียงตอบรับ แต่ก็ไม่มีการปฏิเสธจากคนที่ถูกยิงคำถาม ที่คิดยังไงก็คิดไม่ออกว่าจะตอบกลับไปยังไง เลยได้แต่นิ่ง

       “จากนี้ไปพี่คงหยุดตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ตอบพี่มาก่อนนะคนดี”

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 00.30 น.
«ตอบ #227 เมื่อ08-06-2012 00:57:07 »

ยอมเถอะนะปอ...   :haun4:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 00.30 น.
«ตอบ #228 เมื่อ08-06-2012 01:07:24 »

คร่อกก
 :m25: :jul1:
ปอจ๋าช่วยรักพี่ปืนทีเถอะ
พี่ล่ะสงสารพี่ปืน แถมยังสงสารตัวเองอีก
มันค้างมาหลายวันแล้วน้า
 :m15:

คุณนูสู้ๆ
 :z2:

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 :11.40 น.
«ตอบ #229 เมื่อ08-06-2012 11:38:32 »




ปอส่ายหน้า สายตาหลุบต่ำมองได้แค่ปลายคางที่ครึ้มด้วยไรเขียวของเคราที่เพิ่งโกนหมาด ๆ

     “แปลว่าอะไรล่ะส่ายหน้าเนี่ย”

     “อื๊อ....”

     พร้อมกับเสียงที่เปล่งออกมาอย่างไม่มีคำแปลคือเสียงทุบเบา ๆ ไปที่ไหล่บึกบึนของคนที่กำลังค้ำอยู่เหนือร่าง

ใบหน้าแดงซ่านจะหลบอายก็ไม่รู้จะไปซุกตรงไหน

     “งั้น....บอกพี่ซักคำนะ พี่ไม่อยากผิดกติกาของปอ”

     แค่ปอสบตาคมวาวเป็นประกายคู่นั้นก็พอจะเดาได้ว่าพี่ปืนอยากได้ยินคำไหน

แต่ปากมันหนักเกินกว่าจะพูดคำสั้น ๆ ที่มีความหมายเท่ากับโลกทั้งใบของตัวเอง

ใบหน้าร้อนผ่าวแค่คิดว่าทันทีที่พูดออกไปอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น

แต่สองสามนาทีที่แล้วที่ร่างกายกำลังถูกทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น ยังคงมีผลกับการตัดสินใจของปอ

บทพี่ปืนจะบอกรักด้วยร่างกายก็ทำเอาปอสั่นสะเทือนไปทั้งภายในภายนอก

     “อย่าหันหน้าหนีพี่อย่างนี้ มองตาพี่สิครับ แล้วบอกพี่อย่างที่หัวใจปออยากจะพูด”

     “ก็รู้อยู่แล้วทำไมต้องพูดด้วยเล่า”

   คนตัวเล็กบ่นเบา ๆ ยังคงเอาเชิง

   “ก็ใครล่ะตั้งกติกากับพี่ซะจนพี่ไม่กล้าแตะน่ะ....สิครับ...บอกพี่ ก่อนที่พี่จะขาดใจไปซะก่อน...นะ”

      ริมฝีปากล่างถูกขบเบา ๆ....ด้วยไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า คำสั้น ๆ ทำไมมันถึงได้พูดยากพูดเย็นแบบนี้

   “ปอจ๋า...”

      เมื่อไม่ยอมพูด ปืนก็เร่งเร้าจะเอาให้ได้ตามใจตัวเอง ก้มลงไปขบติ่งหูเล็ก ๆ ส่งลิ้นออกไปก่อกวนใบหู....ก็ไม่เห็นจะว่าอะไร

จูบไปทั่วหน้าก็แล้ว ก็ยังไม่เห็นจะหลบเลี่ยง กลับตอบรับด้วยการเกาะกุมไหล่ แล้วลูบไล้ด้วยฝ่ามือนุ่มให้ปืนสะท้านเล่นซะอย่างงั้น

...........จะให้เข้าใจว่าปอยอมรับแล้วใช่มั้ย


      ด้วยบทเรียนที่ผ่านมาปืนก็ไม่กล้าพอที่จะดึงดันให้ได้อย่างใจไปจนถึงที่สุด

แต่ลีลาชั้นเชิงที่จะให้คนตัวเล็กยอมเปิดปากทำตามกติกาที่ตัวเองตั้งไว้ก็พอมี....แล้วเราจะได้เห็นกัน


     ริมฝีปากประกบกลีบปากนุ่มดูดเบา ๆ แล้วไล้ลิ้นไปจนสุดที่มุมปากก่อนจะจ้วงลงไปควานหาลิ้นเล็ก ๆ ที่รอคอยอย่างกระวนกระวาย

ทันทีที่ปลายลิ้นแตะกัน ผู้ที่ถูกรุกล้ำก็เป็นฝ่ายถูกดูดกลืนแทบจะหายใจหายคอไม่ทัน ไอร้อนจากเรือนกายถูกถ่ายเทให้กันและกัน

จนอุณหภูมิยิ่งทวีสูงขึ้นในระยะเวลาอันสั้น

     ปืนลดกายถอยลงไปไล้ลิ้น ละเลงจูบบนร่างเปลือยเปล่าขาวนวลอย่างไม่ลืมหูลืมตา หวังจะพิชิตคำสั้น ๆ เพียงคำเดียวที่รอคอย

เพื่อที่ตัวเองจะได้ไม่รู้สึกผิด หากจะมีอะไรเลยเถิดจนยั้งไม่อยู่ เขาก็ไม่อยากผิดคำมั่น

      “พี่ปืน....อย่า....”

     ปอร้องเสียงหลง เมื่อแกนกลางกายอุ่นชื้นเพราะถูกลิ้นเปียก ๆลากวนไปวนมาก่อนจะกลืนหายลงไปในปาก

ปืนงึมงำอยู่กับท่อนลำขาวนวลส่วนปลายเป็นสีชมพูสวย ยั่วตายั่วใจซะจนไม่อยากผละออกมา

ยิ่งได้รู้สึกว่าเจ้าของร่างเล็ก ๆ กำลังบิดกายเร่า ๆ ด้วยความเสียวซ่าน ปืนก็เร่งลิ้นรัวรอบส่วนหัว

จนปอครางเสียงกระเส่าไม่เป็นภาษา สองขายกขึ้นชันกางออกกว้างพร้อมรับการรุกรานที่แสนเย้ายวน

แต่ก็ยังไม่วายหนีบเข้ามาเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกเหวี่ยงตกจากหน้าผา

     “ชอบมั้ยปอ....”

     ปืนหยุดละเลงลิ้น ผงกหัวขึ้นแค่ต้องการจะถาม แต่คนที่ได้นอนหลับตาพริ้ม แค่ครางอืออากลับไม่ยอมให้หยุดพยายามกดให้กลับลงไปที่เดิม

     “อืมมมม”

     ได้เวลาทวงคำตอบอีกครั้ง ปืนก็ขยับตัวขึ้นประกบใบหน้าที่กำลังปรือตาฉ่ำขึ้นมามอง

     “บอกพี่ได้รึยัง”

     เสียงแผ่ว ๆ กระซิบถามพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาหวาน ๆ พร้อมกับแตะลิ้นไปที่เรียวปากซ้ำแล้วซ้ำอีก

     “บอกอะไร....”

     อีกคนย้อนเป็นเสียงกระซิบเช่นกัน

     “รักพี่ได้มั้ย”

     “อืม”

     แค่เสียงที่เปล่งออกมาจากลำคอกับพยักหน้านิดหน่อยไม่ทำให้คนถามพอใจได้เลย

     “ไม่เอา...พูดมา”

      จ๊วบ...เสียงดูดปากแรง ๆเป็นการลงโทษที่คนตอบช่างไม่ได้อย่างใจเอาซะเลย

   ปอแกล้งยิ้มเยื้อนยั่วเล่นแล้วยกหัวขึ้นจะจูบตอบบ้าง แต่อีกฝ่ายเบี่ยงหน้าหนีไม่ยอมให้แตะถึง พอถูกขัดใจเข้าก็ประท้วง

     “ฮื้อ...พี่ปืนอ่ะ...”

     “บอกมา....”

     ทำหน้างอ แต่นัยน์ตางี้หวานฉ่ำซะขนาดนั้น ปืนก็รู้ว่าตัวเองถูกยั่วเข้าให้แล้ว ยั่วมาก็จะยั่วกลับ ดูซิใครจะต้านทานไหว

     “งั้นพี่ไป....”

     จบคำปืนก็ยกตัวขึ้นนั่งที่ปลายเท้า แต่มือยังลูบเรียวขาเบา ๆ หยั่งเชิงคนที่นอนมองตาแป๋ว

     “พี่ไปจริง ๆนะ”

     คราวนี้ปอนอนนิ่งอยู่ไม่ไหวแล้ว เพราะพี่ปืนหยุดมือ ถอยห่างออกไปเตรียมจะลุกออกจากเตียง

สองแขนเลยต้องรีบโผเข้ากอดคอไว้หวังว่าน้ำหนักของตัวเองจะช่วยถ่วงไม่ให้พี่ปืนลุกไปไหนได้   

     “ไม่เอา!! พี่ปืนอ่ะ ผมไม่ให้ไป”

     “งั้นตอบพี่ได้รึยัง”

     ใบหน้าที่ก้มงุด ๆ อยู่ที่ซอกไหล่ พยักเร็ว ๆ ตอบเสียงเบาแทบไม่ได้ยิน ถ้าริมฝีปากนั่นไม่ได้แนบชิดใบหู

     “รักครับ”

     “รักใคร?”

     “รักพี่ปืน”

     “งั้นถ้าพี่ขออะไรปอให้พี่ได้ใช่มั้ย”

     ปออายจะบ้าอยู่แล้ว พี่ปืนมัวแต่ถามอะไรอยู่ได้ อยากให้บอกว่ารัก ก็บอกไปแล้ว ทีนี้จะขออะไรอีกล่ะ

     “คราวนี้พี่ไม่ผิดกติกาแล้วใช่มั้ย”

      ปอพยักหน้าส่ง ๆ ไป พี่ปืนจะได้เลิกเซ้าซี้ซะที หารู้ไม่ว่าที่พี่ปืนต้องถามอย่างนี้

เพราะจำเป็นต้องยึดมั่นคำสัญญา กติกาของปอมาตลอด จนกลัวไปหมดแล้วว่า ถ้าปอไม่ยินยอม จะกลายเป็นการหักหาญน้ำใจปอ

กลัวปอจะเสียใจ เสื่อมศรัทธาในตัวพี่ปืนคนนี้

     “ถอดเสื้อให้พี่หน่อย”

     ปอทำตามอย่างว่าง่าย แต่ปากพึมพำเบา ๆ

     “เอาเปรียบผมได้ตั้งนาน”

     พอเสื้อพ้นตัว ปืนก็โถมทับอีกร่างให้ล้มตัวลงไปก่อน

   ลีลารักที่บรรเลงต่อจากนี้ไป ทำเอาปอหลังไม่ติดที่นอน เพราะถูกพี่ปืนทั้งรุกทั้งไล่จนตั้งตัวไม่ติด อย่างไม่คิดจะยั้งมือ

กว่าจะได้ยินคำรักจากปออีกครั้งทำเอาอกแทบระเบิด นอนอกไหม้ไส้ขมมาเป็นนาน

ไหนจะต้องทนฟังคู่รักอีกคู่เค้าพรอดพร่ำคำหวานกันยามค่ำคืนในบ้านสวนซะคืนสองคืน ปืนแทบจะคลั่งตายปอก็ไม่เคยจะรับรู้

ยิ่งเห็นเนื้อตัวขาว ๆ ได้จับจูบลูบไล้เนื้อนิ่ม ๆ ได้ยินเสียงออดอ้อน ร้องครางระงมด้วยลีลาเล่ห์รักของตัวเอง

ปืนยิ่งอยากจะระเบิดมันออกมาซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่เขาก็ไม่ใช่คู่นอนที่เห็นแก่ตัวมาแต่ไหนแต่ไร

ลงนาวาสวาทครั้งใด ก็เป็นฝ่ายจ้ำฝีพายไม่เคยยั้งจนกระทั่งเกาะกอดกันถึงฝั่งสุขสมไปด้วยกัน

      แล้วกับคนที่เขารักสุดหัวใจ ห่วงใยเท่าชีวิต กว่าจะได้แนบสนิทชิดเชยเช่นนี้ เลือดตาแทบกระเด็น มีหรือที่ปืนจะปล่อยให้ค้างคา

   อุปกรณ์ที่เตรียมไว้แต่ไม่ค่อยได้นำออกมาใช้อยู่ไม่ห่างมือ แค่เอื้อมออกไปเปิดลิ้นชักเล็กข้างเตียง หลับตาก็หยิบถูก

ดังนั้นปอมารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ผิวส่วนนั้นสัมผัสเจลเนื้อใสเย็น ตามด้วยนิ้วที่พยายามดันตัวเองผ่านช่องทางแคบ ๆ

     “อย่าเกร็งนะครับ พี่จะไม่ให้ปอต้องเจ็บ”

     เสียงกระซิบริมหูบอกอย่างนั้น ปอก็เชื่อจนต้องผ่อนลมหายใจเพื่อคลายอาการเกร็งตอบรับนิ้วมือที่เคลื่อนเข้ามาอย่างช้า ๆ

     “พี่ปืน....มันแน่นอ่ะ”

      “แล้วดีมั้ย”

     “อือฮึ.......อื๊อ”

      ตอนที่ปืนขยายช่องทางเป็นสองนิ้ว ปลายนิ้วของปอก็จิกลงบนไหล่กำยำเพื่อผ่อนคลายความเจ็บ

แล้วกลับโอบรอบคอรั้งเข้าหาตัว จนปืนแทบคะมำ

     “พี่ปืน....ผมเจ็บ”

     “อีกนิดนะครับคนดี....นิดเดียวนะ”

     ปอเผลอเดี๋ยวเดียวจากสองนิ้วของพี่ปืนก็กลายเป็นอย่างอื่นที่ตึงแน่นเต็มเนื้อที่กว่าแทรกเข้ามาแทน

     “อย่าเกร็งนะ....อา....”

   พร้อมกับคำปลอบ ปืนก้มลงจูบหน้าผาก ไรผม และขยับตัวช้า ๆ เข้าแนบชิด เห็นปอนิ่วหน้าโดยไม่ปริปาก

ปืนก็เดินหน้าแบบเนิบ ๆ เป็นจังหวะ ไม่ช้าปอก็ค่อย ๆ ขยับตอบรับเป็นจังหวะเดียวกัน

        “ดีใช่มั้ย”

        “อื้มมม”

        ปอลืมตาขึ้น ดวงตาสองคู่สบกันในระยะประชิด

        “ผมรักพี่ปืน”

        “พี่ก็รักปอ”

        ริมฝีปากผวาเข้าหากันราวกับกระหายในรสจูบที่หวานระรื่น

    ต่างฝ่ายต่างบดเบียดร่างกายเข้าหากัน ด้วยความรู้สึกอยากผสานให้เป็นหนึ่งเดียว

    คลื่นอารมณ์ที่ถาโถมเริ่มรุนแรงเร่งเร้าเข้าทุกขณะ จนปืนไม่อาจจะขยับโยกเนิบนาบได้อีกแล้ว

ขณะเดียวกันกับที่ปอเองเริ่มที่จะคลายความเจ็บแน่นในส่วนกลางลำตัวได้บ้าง และกล้าพอที่จะเป็นฝ่ายรุกเร้า

        ปืนยกตัวขึ้นในท่านั่งคุกเข่าบนเตียงระหว่างเรียวขาขาวเนียน มือช้อนข้อพับขาไว้เหนือบ่า ขยับให้ถนัด

ก่อนจะบดเบียดส่วนกลางลำตัวของตัวเองเข้าหาอีกฝ่ายอย่างร้อนแรง

        จังหวะเข้าและถอยออก ทั้งหนักหน่วงและล้ำลึก ทำเอาคนที่นอนอยู่เบื้องล่างผวาเฮือก จนอกแอ่นหลังไม่ติดฟูก

ปืนก้มลงดูดเลียติ่งไต เร้าอารมณ์ปรารถนาซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนปอแทบจะอ่อนแรงไปกับเรียวลิ้นที่พลิกพลิ้ว

        “พี่ปืน....อย่าหยุดนะ”

        “อืม”

        ปืนไม่รู้แล้วว่าปอหมายถึงการกระทำของอวัยวะส่วนไหน ได้แต่มอบความหวานซ่านซ่าไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

เสียงครวญครางของปอทำเอาปืนวูบวาบแถวท้องน้อย รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังใกล้เส้นชัยเข้าไปทุกที....แต่ยังก่อน

เขาไม่อยากให้เวลาแห่งความกระสันซ่านเสียวจบลงเร็วนัก จังหวะเร่งที่ล้ำลึกไปจนสุดลำก็เลยผ่อนลงช้า ๆ

จนคนตัวเล็กต้องปรือตามองอย่างไม่ชอบใจ

        “อื๊อ พี่ปืนบอกว่าอย่าหยุดไง”

        “หึ หึ....อย่าเร่งสิครับ ไปด้วยกันช้า ๆนะ พี่อยากมีเวลาอย่างนี้กับปอนาน ๆ”

        ลีลารักผ่อนลงเพื่อเติมรสหวานให้กันและกัน จนถึงจุดที่คลื่นรักค่อย ๆ ถาโถมอีกครั้งจนสุดแรง

เรียวขาโอบรัดร่างกำยำที่ตอกย้ำล้ำลึกเข้าสู่เรือนร่างบอบบาง ต่างฝ่ายต่างรินรดลมหายใจหอบกระเส่าให้แก่กัน

ความเจ็บปวดที่ได้รับไม่หลงเหลือ นอกจากความเสียวกระสันที่ปอสัมผัสได้

        ปอรู้สึกหวิว โล่ง เบาราวกับจะล่องลอย ร่างกายเหมือนจะกำลังเหิรสู่ฟากฟ้าจนแทบจะคว้าดาวลงมากอดได้

ปืนไม่ได้ลดแรงกระแทกกระทั้นลงแม้แต่น้อย ยิ่งใกล้จุดหมายก็ยิ่งถี่รัว เสียงครวญครางแผ่วหวิว สอดรับเสียงคำรามต่ำ ๆ

บอกอารมณ์สุขสมที่จวนเจียนจะถึงฝั่งฝัน

        สองแขนของปอโอบรอบคอแข็งแกร่ง ใบหน้าแหงนเงย ร่างกายเคลื่อนไหวสั่นสะเทือนตามแรงโยกคลึง

และแล้วแสงดาวก็พราวพร่างอยู่ในม่านตา กระพริบวิบวับ เจิดจ้า

ปอรู้สึกเหมือนภายในแตกกระจาย แล่นปราดไปทั่วร่างด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบไปด้วยความสุขสมในช่วงสุดท้าย

ก่อนจะผ่อนลมหายใจที่หอบถี่ให้เบาลงได้

       “ปอจ๋า....พี่จะ....อา....”

        ชั่วระยะที่ปอระเบิดตัวเอง แก่นกายของปืนก็ถูกบีบรัดจนกลั้นไม่อยู่เช่นกัน น้ำหนักที่กระแทกกระทั้น ก็เร่งรัวเร็วขึ้น ๆ

ก่อนจะเน้นย้ำอีกสองสามครั้งและตามด้วยอาการเกร็งกระตุกในเวลาต่อมา ปอรู้สึกได้ถึงของเหลวข้น ๆ ที่ทะลักทะลายเข้าภายในตัว

แล้วที่พี่ปืนก็ซุกซบลงมานอนข้าง ๆ
   
       อีกพักใหญ่ต่อมา คนตัวเล็กก็เริ่มบ่นกระปอดกระแปด

     “เลอะหมดเลย”

        ปืนหัวเราะคนขี้บ่น แล้วลุกขึ้นไปหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดหน้าท้องเรียบและแผ่นอกขาวเกลี้ยงเกลาให้สะอาด

แล้วเลยไปเช็ดตรงส่วนที่ตัวเองทำเลอะไว้

       “ไม่ต้อง....พี่ปืนอ่ะ”

       “พี่เช็ดให้ อยู่เฉย ๆนะครับ”

        ปืนจับมือที่พยายามจะคว้าผ้าขนหนูออกไปวางข้าง ๆตัว

        “เลอะดีกว่าไม่เลอะนะ แปลว่าพี่ยังมีฝีมือ”

        “ฮึ...ขี้คุย.....โอ๊ย...”

        แกล้งว่าเค้าแล้วตัวเองก็ต้องร้องเพราะโดนบีบจมูกเชิด ๆนั่นแรง ๆด้วยความหมั่นไส้

       “เฮ้อ....สบายจัง”

   พี่ปืนล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ขาก่ายบนขาของปอ แล้วรำพึงด้วยความสุขใจ

       “แต่ผมเจ็บอ่ะ”

     “เจ็บอย่างเดียวเหรอ”

        เพี้ยะ!!!

       “อูย....มือหนักเหมือนกันนะเนี่ย เดี๋ยวนี้ชักจะทำร้ายพี่เก่งขึ้นทุกวันแล้วนะ”

        “ก็หยุดล้อผมซะทีสิ”

        ปอพลิกตัวหันหลังให้พ้นหน้าพ้นตาเจ้าของนัยน์ตาคม ๆ คู่นั้น อายก็อาย

แต่จะว่าไป เจ็บคราวนี้ไม่เหมือนคราวแรกที่เจ็บกว่า ความสุขที่ได้ก็ทัดเทียมกัน แต่เป็นคนละอย่าง

        ครั้งนั้นเหมือนได้ลิ้มรสที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน เนิบนาบ นุ่มนวล และหอมหวาน เหมือนน้ำฝึ้งเคล้ากลีบดอกไม้

แต่ครั้งนี้กลับหวานซาบซ่านและร้อนแรง เร้าใจเสียจนไม่อยากให้มันสิ้นสุด

        ลมหายใจที่เป่ารดท้ายทอย แผ่วลงและสม่ำเสมอในที่สุด ทำให้ปอรู้ว่าคนตัวโตคงจะพักผ่อนเอาแรงไปเรียบร้อยแล้ว

ปอคว้ามือที่พาดอยู่ที่เอวมากอดไว้แนบอก ถอยหลังเข้าไปแนบแผ่นอกกว้างอีกนิด

อย่างจะซึมซับไออุ่นที่ไม่ว่าเมื่อไรอ้อมอกนี้ก็พร้อมสำหรับปอเสมอ....เขามั่นใจเช่นนั้น

   จังหวะเต้นของหัวใจสองดวงที่ผสานเป็นหนึ่งเดียว เต้นไปพร้อม ๆ กับลมหายใจที่ผ่อนลงจนสม่ำเสมอเช่นเดียวกัน

นับแต่นี้คงไม่มีอะไรที่จะทำให้ปอหวั่นไหวและเคลือบแคลงในตัวพี่ปืนได้อีกแล้ว



CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 :11.40 น.
« ตอบ #229 เมื่อ: 08-06-2012 11:38:32 »





ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 11.40 น.
«ตอบ #230 เมื่อ08-06-2012 12:17:58 »

สมหวังสักทีนะพี่ปืน :z1:

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 11.40 น.
«ตอบ #231 เมื่อ08-06-2012 12:38:34 »

อมยิ้มแก้มปริเลยอ่ะ :-[
พี่ปืนเป็นคนสวน เป็นทาส เป็นแมวน้อย ที่มีความสุขที่สุดเลยใช่ป่ะเนี่ย
ในที่สุดก็หวานกันแล้ว ไม่เสียแรงลุ้นอยู่หลายฮึบ อิอิ^^

ออฟไลน์ NuNew

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
Re: อ้อนนักรักซะดีแมะ 8/6/2555 : 12.45 น.
«ตอบ #232 เมื่อ08-06-2012 12:56:28 »




ขออภัยครับ ลงสองรอบห่างกัน 1 ชั่วโมง  เหตุเพราะแอบลงที่ทำงานครับ  :t2:  หัวหน้าเผลอถึงจะเปิดหน้าจอได้

ตอนนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้ว คาดว่าจะมีตอนพิเศษสั้น ๆ เร็ว ๆนี้ 

แต่ยังไม่ได้ขออนุญาตปอเลย ขอผมเรียบเรียงแล้วเอาไปถามเค้าก่อนนะ

ตอนลงที่เว็บอื่นไม่มีตอนพิเศษที่คาดว่าจะลงนี่นะครับ เพราะไม่เคยคิดว่าจะมี

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ประมาณสองอาทิตย์ได้มั้ง

ผมแวะไปหาคู่นั้นที่บ้าน หลังจากได้ข่าวว่าเค้าทะเลาะกัน

คิดว่า อาจจะมีคนคิดถึง เลยจะลองเขียนเล่น ๆ ยังไม่รู้เลยว่าจะมีประเด็นน่าสนใจรึป่าว



ลีลารักของพี่ปืนเป็นยังไง ลองติชมกันมานะครับ   :haun4:








   เย็นจวนค่ำ กว่าที่คนตัวเล็กจะขยับตัวตื่นด้วยความง่วงงุน

  หันหน้ามามองคนที่อิงแอบอยู่ข้างหลัง ก็เห็นรอยยิ้มจาง ๆ รออยู่ก่อนแล้ว

      “พี่ปืนตื่นแล้วทำไมไม่ปลุกผมครับ”

      “พี่เพิ่งตื่นเหมือนกัน ที่ไม่ปลุกเพราะอยากมองปอเงียบ ๆ”

      “ไม่เคยเห็นผมตอนหลับรึไง”

      ปอยิ้มน้อย ๆ ปนอาการเขินที่โดนแอบมองตอนไม่รู้สึกตัว

      “เห็นบ่อย แต่ไม่เคยเห็นตอนนี้”

      พี่ปืนยิ้มตอบ แต่แววตาแฝงเลศนัยแปลก ๆ เล่นเอาปอชักร้อน ๆ หนาว ๆ

กลัวคลื่นอารมณ์รอบสองเพราะยังระบมกับคลื่นลูกแรกไม่หาย

      “แล้วมันไม่เหมือนกันยังไงล่ะครับ”

      “ทุกทีเราไม่เคยนอนกอดกันแบบนี้หนิ”

      ปอเบือนหน้าหลบสายตา พี่ปืนแนบหน้าลงมาชิด แล้วพึมพำอยู่ตรงขมับ

      “พี่ฝันถึงวันที่เราจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้มานานแล้ว เคยนึกอยากจะทำแต่ก็ไม่กล้าซักที”

      “แล้วทำไมคราวนี้ถึงกล้า”

      “มันก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ อ่ะนะ แต่พี่คิดถึงวันที่ไม่มีปออยู่ด้วยแล้วใจมันวูบหายเลย อีกอย่างนึงป๊ากับแม่ก็อยู่ถึงโน่น

เหมือนที่นูบอก ยังไงเค้าก็คงยังไม่รู้”

      “อ๋อ...นี่กะจะตีท้ายครัว ไม่ไปขอผมเหรอ”

      ปอแกล้งขึ้นเสียงเบา ๆ แล้วเอาแต่หลบหน้า ถ้าเผลอให้พี่ปืนเห็นว่าปออมยิ้มแก้มแทบแตก เดี๋ยวจะไม่เนียน

      “ไม่ใช่นะ...พี่ก็อยากบอกป๊ากับแม่ปอ แต่ว่า...ปอแน่ใจเหรอว่าเค้าจะไม่โกรธพี่น่ะ”

      “แล้วพี่ปืนไม่คิดเหรอว่า เค้าโกรธพี่ปืน เค้าก็คงโกรธผมด้วยเหมือนกัน”

      “ไม่หรอก พ่อแม่จะโกรธยังไง ก็คงไม่ถึงกับเกลียด แต่พี่สิ เค้าอุตส่าห์เอ็นดู ไว้วางใจทุกอย่าง

แล้วยังมาทำกับเค้าแบบนี้ ปอว่าเค้าจะให้อภัยพี่เหรอ”

      “พี่ปืนคิดมากอ่ะ ผมว่าป๊ากับแม่ต้องเห็นแก่ความสุขของลูกมากกว่าอย่างอื่น

ถ้าพี่ปืนหลอกผมก็ว่าไปอย่าง นี่ผมก็....ยินยอมพร้อมใจ”

      ไอ้ประโยคต้น ๆ ก็พูดได้เต็มปากเต็มคำอยู่หรอก แต่พอถึงวรรคสุดท้าย มันเขิน ๆ ปากยังไงไม่รู้

ปอก็เลยอุบอิบ ๆ เอาแค่พอได้ยิน แล้วพี่ปืนก็ช่างหูดีกับคำพูดที่เปิดทางให้ตัวเองแบบนั้น

      “นั่นสิ....พี่ก็รู้นะว่าปอเต็มใจเป็นของพี่”

      “รู้ได้ไง”

      “ก็....ออกจะให้ความร่วมมือนี่นา”

      ผัวะ!!!

      “อูยยย....ปอพูดออกมาเองนะ พี่ก็แค่เห็นด้วยเฉย ๆ”

      หมั่นไส้คนเข้าข้างตัวเองนัก ปอก็ตั้งท่าจะลุกหนีซะเลย

      “จะรีบไปไหน”

      “เย็นแล้วผมจะไปทำกับข้าว พี่ปืนไม่หิวรึไงครับ”

      “หิว”

      “หิวก็ไปอาบน้ำ”

      “กินก่อนแล้วค่อยอาบ”

      นั่น...ส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาอีกแล้ว ขี้เกียจอาบน้ำล่ะสิท่า

      “สกปรก อาบน้ำให้สบายตัวก่อนแล้วค่อยตามผมลงไปก็ได้ ผมทำกับข้าวแป๊บเดียวเองครับ พี่ปืนอาบน้ำเสร็จก็คงเสร็จพร้อมกันพอดี”

      “กินเสร็จแล้วก็เลอะอีก ค่อยอาบทีเดียวเลยดีกว่า เสร็จแล้วเราไปหาอะไรกินนอกบ้านกัน”

      “ก็ได้ครับ งั้นผมอาบก่อน แล้วพี่ปืนอาบทีหลังนะ”

      “เอ๊....ก็บอกว่าจะกินก่อน”

      พี่ปืนเอื้อมมือมาคว้าปอฉุดให้กลับลงไปนอนตามเดิม

      “กินก่อนยังไงเล่า จะไปข้างนอกก็อาบน้ำก่อนสิครับ”

      “ทำไก๋ เดี๋ยวเหอะ”

      พี่ปืนใช้สายตาประกอบท่าทาง ปอเลยเข้าใจแล้วว่าที่พูดมาทั้งหมดหมายความกันไปคนละทาง

      “หื่นนะพี่ปืนเนี่ย ไม่เอาพอแล้ว ผมยังเจ็บอยู่เลย”

      ปอปัดมือที่เริ่มจะซุกซน ไต่แตะไปตามหน้าขาของตัวเอง แต่ปัดป้องยังไงก็ไม่พ้นสักทียังกับมีสิบมือเลยเชียว

      “คราวนี้ไม่เจ็บแล้ว...นะ”

      “ไม่เอา....พี่ปืนไม่เจ็บ แต่ผมเจ็บหนิ”

      “ใครบอกพี่ไม่เจ็บ ดูสิ...เห็นมั้ย”

      ปอก้มลงมองตามสายตาเชิญชวนของพี่ปืน ก็เห็นตัวต้นเหตุกำลังผงาดเตรียมพร้อมเต็มที่ ใบหน้าก็ซับสีเลือดขึ้นมาทันที

      เพี้ยะ!!!

      “ทำไมทำร้ายพี่เก่งจังเลยนะ...ฮึ”

      พี่ปืนพูดจบก็จับปอลงนอนราบแล้วพลิกตัวลงมาทาบหมดอิสรภาพกันพอดี

      “ต่อนะ”

      ปอส่ายหน้าจนผมกระจายเต็มหมอน

      “นะ....ช่วยพี่หน่อยนะ”

      “ไหนตะกี๊บอกหิวไงครับ”

      “ก็ยังหิวอยู่ แต่พี่หิวปอ....นะ...นะครับ”

      “บ้า...พี่ปืนอ่ะบ้า”

      “บ้าก็บ้ารักแหละ...นะ...ต่อนะครับ....น้า”

      เมื่อคนบ้ากับคนหิวอยู่ในคน ๆ เดียวกัน ปอเหรอจะต้านทานอะไรได้

 นอกจากจะคล้อยตามกันไปลอยคออยู่ในคลื่นลูกแล้วลูกเล่า ที่ซัดสาดมาจนอารมณ์กระเจิดกระเจิง

      กว่าจะได้ออกมาหาอะไรกินแก้หิวกันจริง ๆ ร้านอาหารก็เหลือแต่ตลาดโต้รุ่งนั่นแหละ



 :bye2:  จบแล้วคร้ับ........พบกันใหม่เรื่องหน้านะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-06-2012 13:58:04 โดย ์NOO »

John Doe

  • บุคคลทั่วไป
จบเสียแล้ว ^^
จะมีตอนพิเศษมั้ยคะ
ชอบเรื่องนี้มากๆ
ชอบทุกตัวละครเลย ทั้งพี่ปืน ทั้งปอ น่ารักมาก

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
คุณนู *โดดกอดรัดด้วยความคิดถึง
 :กอด1:

น้องปอกับพี่ปืนจบซะแล้ว
 :monkeysad:
ทุกครั้งที่ตามอ่านเรื่องนี้มา
อิคนอ่านมันต้องนั่งน้ำตาตกในแทนคู่นี้ทุกครั้ง
แต่พอลงเอยกันได้ด้วยความสุขแบบนี้
เราก็ดีใจไปด้วย
 :m4:
อยากอ่านตอนพิเศษจังน้อ
 :m26:

ปลล.จบเรื่องนี้แล้วอย่าลืมคนอ่านที่นี่นะคะ
เอาเรื่องอื่นมาลงอีกน้า นัทจะรอ
 :bye2: :กอด1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
สุขสมหวัง :L2:
รอตอนพิเศษน๊า
แล้วก็เรื่องใหม่ด้วย
 :กอด1:แน่นๆ1ที
ขยันลงมากมาย

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ปอช่างกล้านะเปิดหนังยั่วปืนเหรอ ปืนบทจะหื่นปอสู้ไม่ได้เลย อิอิ

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

tawan

  • บุคคลทั่วไป
จบลงอย่างมีความสุข :z1:

ชอบบบบบบบบบบบ

รอเรื่องใหม่อยู่นะ

 :call:

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
อ่านตอนจบแล้ววววววววววววว
รอมานานมากๆๆเลยกว่าจะได้อ่านตอนจบ
ขอบคุณครับน้องนู

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด