โดม TALK
ผมชื่อโดม ชื่อจริงชื่อ รวิภา สุมานะ ผมกับเอสเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่เด็กแล้ว ถึงผมจะ
สนิทกับเอสแค่ไหนก็ตามผมก็รู้ดีว่าผมอายุมากกว่าเอส 5 ปีแต่มันกลับไม่ยอมเรียกผมว่าพี่เลยสัก
ครั้ง
ผมเคยถามมันว่าทำไมถึงไม่ยอมเรียกผมว่าพี่มันบอกผมว่าไงรู้ไหมครับ มันบอกกับผม
ว่า “ไว้นายสูงกว่าฉันให้ได้ก่อน แล้วฉันจะยอมเรียกนายว่าพี่”
ตั้งแต่วันนั้นมาผมเลยพยายามจะสูงขึ้นให้ได้แต่เจ้าเด็กบ้านั่นดันสูงตามผมทัน ไม่สิ มันสูง
เลยผมไปตลอด ทำให้ผมไม่ได้ยินมันเรียกผมว่าพี่สักที
ตอนที่ผมถูกชวนให้ไปสมัคเป็นนักร้องนั้นผมตัดสินใจว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี แต่พอถึงวัน
งานตัวผมที่เริ่มไม่อยากไปแล้วกลับถูกเอสลากขึ้นรถและพาผมมาส่งถึงเวทีประกวด
ตอนที่หมอนั่นจูงมือผมเข้าไปมันช่างอบอุ่นอย่างกับจะบอกว่า”นายไม่ได้อยู่คนเดียว”งั้น
ล่ะ ไม่ว่าในตอนนั้นมือนั้นจะสือถึงอะไรแต่มันทำให้ใจที่เป็นกังวลของผมเริ่มมีกำลังขึ้นจนสามารถ
เป็นนักร้องในสังกัดของ KIJUP ได้
หลังจากที่เป็นนักร้องแล้วผมได้ไปเจอกับไนท์ที่ร้านอาหารกึ่งผับย่าน....เสียงร้องของเขา
ทำให้ผมร้องไห้ได้เลย เพราะไนท์มันร้องเพลงเศร้าแล้วเสียงมันก็เศร้าไปด้วย นั่นเหล่ะที่โดนใจ
ผม ผมเลยชวนเข้าวงการ
จากนั้นไม่นานผมก็เจอกับตูนที่ร้านอาหารธรรดาหมอนั่นมันฮั่มเพลงตอนมาเสริฟอาหาร
แทนลูกน้องที่ป่วย เสียงตูนใส่มากบวกกับหน้าตาที่ใสจนน่ารักกว่านี้ไม่มีแล้วทำให้ผมชวนเข้าวง
การอีกคน
สามเดือนต่อมาผมก็เจอกับมิสและเดย์ในงานวันเกิดของเพื่อนผม เสียงของทั้งคู่ประสาน
เข้ากันได้อย่างลงตัวอย่างกับพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมก็เลยชวนเข้าวงการอีก
ส่วนวง kuruki เกิดขึ้นได้เพราะหลังจากที่อยู่ในวงการมาได้ปีกว่าทำให้ทุกคนเริ่มรู้จักกัน
มากขึ้นจนสนิทกันมาก ตูนเลยอยากให้พวกเรามาอยู่รวมกันเป็นวง
ผมว่าก็ดีนะก็เลยตกลงหลังจากนั้นวง KURUKI ก็ประสบกับความสำเร็จด้วยยอดขายล้าน
แผ่นในสัปดาห์เดียว ผมว่าส่วนหนึ่งที่เป็นแบบนี้เพราะ KURUKI รวบรวมพวกเราซึ่งแต่เดิมต่างคน
ก็ดังอยู่แล้วมารวมตัวกัน
ทุกอย่างมันจะลงตัวกว่านี้มากถ้าไม่มีไอบ้าที่ไหนไม่รู้ว่าผมต้องค้างอยู่ในห้องเดียวกันกับ
คนในวงก็เอาตัวเองมานั่งเป็นรูปปั้นได้ทุกวันๆจนทุกคนรู้จักมันกันไปหมดแล้ว ผมคงไม่ต้องบอก
ใช่ไหมครับว่ามันคือใคร ผมว่าคงมีคนเดาถูกแล้วนะ ถ้าไม่รู้ผมจะเฉลยให้ คนๆนั้นคือเอสไงครับ
มาทุกวันมันจะเคาะประตูเสียงดังๆหนวกหูชาวบ้านเขา ครั้งแรกที่มันมาผมบอกตามตรงถ้า
ไม่ใช่เห็นหน้ามันผมคงด่าไปแล้ว
ตอนนั้นมันตั้งหน้าเข้ามาถึงก็ขอค้างกับผมทันที ในคอนโดมีสามห้องเพราะมันมาค้างด้วย
ทำให้ห้องด้านในสุดเป็นของผมคนเดียวทันที
หลังจากมาครั้งแรกมันก็มาอีกจนคนทั้งคอนโดรู้จักมันหมดแล้ว ไม่สิจะไม่รู้จักมันได้ไงใน
เมื่อมันเป็นเจ้าของ มิน่าถึงคะยั้นคะยอให้ซื้อนัก บอกว่าที่นี่ดีนะมีพื้นที่กว้างแถมทั้งชั้นมีแค่สอง
ห้อง
และสิ่งที่ทำให้ผมอยากจะถีบหัวส่งมันนักก็คือมันดันออกแบบให้ห้องริมสุดของผมมีประตู
เชื่อมกับอีกห้องหนึ่งซึ่งก็คือห้องของมัน
ผมล่ะไม่เข้าใจเอสมันจริงๆว่าทำไมมันทำแบบนี้ ทำเหมือนกับว่ามันห่วงผมทั้งที่ความจริง
มันรักคีตา
วันนั้นก็เหมือนกันวันที่มันเมาแล้วมันก็มีอะไรกับผม ก่อนที่มันหลับไปมันพูดว่า “ฉันรักนาย
นะคีตา” มันทำผมเศร้า พอมันตื่นมาผมทำเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นยังคงทำตัวตามสบายกับมัน ซึ่ง
มันก็โอเคไม่ทักท้วงอะไร นั่นสินะครั้งแรกของผมจะไปมีค่าอะไรกับคาสโนว่าอย่างมัน
ตอนนี้ที่ผมยืนดูมันจ้องมองไปทางห้องที่คีตานอนพักอยู่ผมก็ยังเจ็บ
สายตาที่มันมองคีตาดูก็รู้ว่ามากกว่าเพื่อน
สายตานั้นมันทำให้หัวใจผมเริ่มเจ็บโดยที่ไม่มีสาเหตุ
ไม่รู้ว่าทำไม
รู้แค่ว่ามันเจ็บมาก
นี่อย่าบอกนะว่าผมหลงรักเด็กอย่างมัน?
ไม่มีทางหรอก....ถึงจะมีทางแต่มันคงเป็นได้แค่รักข้างเดียว
...ที่มีแต่ผมที่เจ็บ...
TBC…………….