ก่อนอื่น KURO ต้องขอโทษด้วยนะคะที่ช้าไปนาน
ก่อนอ่านตอนนี้ kuro อยากจะบอกว่า ตัวละครเรื่องนี้อาจเยอะไปหน่อยแต่บางตัวละครก็
เป็นตัวประกอบ ไม่ต้องจำทั้งหมดก็ได้นะคะ
จำแค่เพื่อนคีย์(กันต์ หมี ตูน เอส) โชน เชน แพรว ก็จะจำตัวละครได้ เวลาอ่านก็จะได้ไม่
สะดุด ถ้าคนเขียนว่างจะทำอิเมจตัวละครให้ค่ะจะได้จำง่ายขึ้น
ส่วนตอนของโดมนั้นที่ลงให้ก่อนเพราะว่าจะเอาไปใส่ไว้ในเรื่องหลักด้วยค่ะ จึงต้องเอามา
ลงไว้ก่อน
ถ้าเรื่องของโดมทำให้คนอ่านไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วยค่ะ
..............................................
ตอนที่ 7 หากรักแล้วทำไมต้องเจ็บ
กันต์ talk
ผมเดินออกจากห้องก็เจอกับหมีที่ยืนอยู่หน้าประตู
“คีย์เป็นไงบ้าง”ไอหมีถามผม
“มึงอยากรู้ทำเพื่อ”ผมถามถ้าไม่ใช่เพราะมันที่ออกความคิดบ้าๆ ทุกอย่างมันคงจะไม่เป็น
แบบนี้
“สัด กูก็ต้องอยากรู้ดิวะ กูเป็นห่วงคีย์นะเฟ่ย”มันบอกหน้าเหมือนสำนึกได้ว่ามันทำไรไว้
“คีย์หลับไปเฉยๆไม่นานก็ฟื้น”ผมบอกออกไป
“ไอกันต์ ไอหมี คีย์แย่แล้วเฟ่ย”เสียงดังมาจากตูนกับเอสที่ตะโกนออกมาพร้อมกันจนแสบ
แก้วหูแต่ก็ไม่เท่ากับความสงสัย คีย์จะแย่ได้ไงในเมื่อยังนอนอยู่ในห้องนอน
“มีไรวะ”หมีถามพวกมัน
“เมื่อกี้พ่อคีย์โทรมาถามว่าคีย์อยู่ไหน”ตูนบอก
“มึงบอกไป แล้วไงไม่เห็นมีไรเสียหาย”หมีมันพูด
“มีดิวะ ฟายหรือไง พ่อคีย์บอกว่าจะพาคนมารับคีย์ไปแต่งงานในวันพรุ่งนี้”ตูนมันพูดจบก็
โดนหมีตบหัวเข้าให้
“โอ๊ย เจ็บนะเฟ่ย ตบทำไมฟ่ะ”ตูนมันโวยวายแล้วตั้งท่าจะต่อยกับหมี
“ไมมึงไม่บอกให้เร็วว่ะ”หมีบอกก่อนที่จะตั้งท่ารับหมัด
“พวกมึงหยุดได้ยัง ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเล่นนะ คนของพ่อคีย์กำลังมาแล้ว เราต้องพาคีย์
ไปที่อื่นก่อน”ผมบอกพวกมัน
“กูว่าไม่ทันแล้วล่ะ”เอสมันบอกก่อนทำท่าให้ผมมองไปที่หลังมัน ที่มีชายสูทดำยืนอยู่สาม
คน คนตรงกลางคือคนที่ผมรู้จักดี พี่เป้ พี่เลี้ยงของคีย์
“ผมขอรับตัวคุณหนูคีย์ไปก่อนนะครับ”พี่เป้บอกก่อนที่จะอุ้มคีย์ออกมาจากห้องแล้วเดิน
จากไปกับชายชุดดำสองคนทิ้งให้ผมเจ็บที่หัวใจ
นี่ผมต้องเสียคีย์ไปจริงๆใช่ไหม
ผมต้องยกคีย์ให้กับมัน
คนที่ไม่เคยเห็นค่าของความรักอย่างมัน
ขอบอกว่าไม่มีทาง ผมจะไม่ยอมเด็ดขาด
ไม่ว่ายังไงผมต้องทำให้คีย์เป็นของผมทั้งกายและหัวใจ
ในเมื่อผมรักแล้วทำไมผมต้องเจ็บด้วย
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
คีย์
ผมตื่นขึ้นมาจากความฝันอันยาวนาน ผมฝันว่าผมท้อง ผมฝันว่าผมต้องแต่งงานกับคนที่ผม
เกียดและเขาก็เกียดผมไม่ต่างกัน แต่เมื่อผมมองดูภาพตัวเองในกระจกก็รู้ว่าผมไม่ได้ฝัน ผมยืนอยู่
โดยใส่ชุดกระโปงสีขาวของเจ้าสาว หน้าผมถูกแต่งจนผมจำตัวเองแทบไม่ได้ ผมของผมถูกต่อให้
ยาวขึ้นเหมือนผู้หญิงที่ไว้ผมยาว
นี่คงไม่ได้ฝันสินะ ผมพึมพำออกมาก่อนที่จะได้ยินเสียงเปิดประตู
“แม่หวังว่าลูกจะมีความสุขนะ”แม่เดินเข้ามาบอกผมใบหน้าแม่เหมือนจะร้องไห้ ผมเลยทำ
ไงได้ก็เลยตอบไปว่า “ผมมีความสุขครับ”ทั้งที่ในใจผมเจ็บปวด
“ดีแล้วล่ะ งานจะเริ่มแล้วนะ”แม่บอกก่อนที่ผมจะเห็นพ่อที่เดินมาพร้อมกับแพรวน้องสาว
ของผมที่วันนี้สวยเป็นพิเศษด้วยชุดราตรีสีชมพูหวานตัดกับผิวที่ขาว ผมของแพรวถูกรวบขึ้นแล้ว
ประดับด้วยมงกุฏอันเล็กตรงกลาง
“ไปกันเถอะ”พ่อบอกก่อนที่จะคล้องแขนผม ที่มือของผมถือช่อดอกไม้อยู่ มันสวยมาก ผม
คงจะชอบมันถ้ามันไม่มาอยู่ในมือผมตอนนี้
ผมเดินตามพ่อไปตามทางที่มีพรมแดงปูอยู่ แขกในงานยืนขึ้นก่อนแล้วในตอนที่เสียงดนตรี
เริ่มบรรเริงตอนนี้พวกเขามองมายังผมที่ถือช่อดอกไม้อยู่ ผมมองเห็นพวกเขาไม่ชัดเพราะผ้าคลุม
หน้าลูกไม้ที่ปิดบังหน้าผมไว้
ผมเดินจนสุดทางที่มีผู้ชายที่ผมเกียดยืนอยู่ผมหยุดลงข้างๆเขา
หลวงพ่อกล่าวคำสัญญาในวันแต่งงาน ก่อนที่จะถามผมว่า “คุณคีตา อัศวะเหมันต์ คุณจะ
ยอมรับคุณภารุต อัครวดีเป็นสามีหรือไม่”
“รับ”ผมบอกก่อนที่หลวงพ่อจะกล่าวถามคนข้างๆผม
“แล้วคุณภารุต อัครวดี คุณจะยอมรับ คุณ คีตา อัศวะเหมันต์เป็นภรรยาหรือไม่”
“รับครับ”โชนบอก
“เจ้าบ่าวเปิดผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวได้”สิ้นคำโชนก็เปิดผ้าคลุมหน้าผมก่อนที่จะจูบผม มือ
ข้างหนึ่งของเขากดหัวผมไว้ไม่ให้หนีเขาได้ ผมจูบกับโชนเนินนานจนผมเริ่มหายใจไม่ออก โชนถึง
ยอมปล่อย
“ไปโยนดอกไม้สิ หวังว่าจะมีคนรับนะ จากนี้ไปผมก็ขอฝากตัวด้วยแล้วกันคุณภรรยาที่ผม
ไม่ต้องการ...อ้อ ลืมบอกไป ผมจะทำทุกวิถีทางให้คุณไปไกลๆจากชีวิตผม”โชนกระซิบข้างหูผม
ผมเดินไปโยนดอกไม้พวกผู้หญิงต่างมารอรับช่อดอกไม้แต่ช่อดอกไม้กลับไปอยู่ในมือของ
เชน เชนยิ้มแล้วพูดว่า “ต่อไปคงถึงตาผม” ก่อนจะเดินออกจากโบสถ์ไป
TBC…………….