It's Real เดี๋ยวรักเลย♥ พิเศษ HAPPY FAMILY♥
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: It's Real เดี๋ยวรักเลย♥ พิเศษ HAPPY FAMILY♥  (อ่าน 193277 ครั้ง)

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
It’s Real เดี๋ยวรักเลย

ตอนที่ ๔ ตามหาหัวใจ


ช่วงปิดภาคเรียนของตาต้ายังไม่หมดลง การดำเนินชีวิตในท้องไร่เป็นไปด้วยความสุขและสนุกทุกวัน ความใกล้ชิดของเขากับพี่โซลดูจะเพิ่มมากขึ้น แต่มันก็ยังคงไม่เพียงพอต่อการที่จะทำให้พี่มีใจผูกพันต่อเขาได้

ในไร่แห่งนี้น้องจินนี่คือคนที่เขาสนิทที่สุด และคนสนิทคนนี้ล่ะที่เป็นตัวกลางเชื่อมเด็กหนุ่มหน้าใสกับโซลเอาไว้ วันนี้หนูน้อยจินนี่ไม่ได้อยู่กับพี่ชายคนสนิทดังเคย เพราะต้องไปเรียนเต้นบัลเล่ที่จินนี่ไม่ชอบเลย แต่เพราะคุณพ่ออยากให้เรียน น้องจินนี่ถึงต้องเรียน ผู้ใหญ่นี่ชอบคิดอะไรแทนจินนี่ตลอดเลย จินนี่ไม่เห็นจะเข้าใจ

ตาต้าที่ต้องอยู่คนเดียวเพราะน้องสาวคนสนิทไม่อยู่จึงต้องตามติดพี่ไปโน่นมานี่ด้วย แล้วพอเบื่อๆก็เลยแอบแวบไปร่วมในคณะทัวร์ที่มาเยี่ยมชมไร่ เนียนๆไปเขาไม่ว่าอะไรหรอกเนอะ

คนในคณะเขาไม่ว่าแต่พี่โซลน่ะสิที่มองมาเหมือนตำหนิ ตาต้าเลยเดินไปเลียบๆเคียงๆขออนุญาตตามคณะทัวร์เขาไปด้วยอีกคน

“ต้าขอไปเดินดูด้วยได้ไหม?”

พอน้องมาขอแล้วก็ไม่กล้าปฏิเสธ อยู่ในไร่ในสวนนานๆตาต้าก็คงเบื่อ มันไม่ได้มีที่เที่ยวมากอย่างในเมืองกรุงที่น้องจากมานี่นะ มองไปทางไหนก็เจอแต่ต้นองุ่น

“ไปสิ คู่หูไม่อยู่นี่เนอะ คงเหงา”


ตาต้าเดินตามคณะทัวร์ที่มาดูไร่องุ่น พิมพิกาเป็นคนพาทัวร์และแนะนำในจุดต่างๆ ทั้งยังมีการให้นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์คณะนี้ได้ทำการเก็บองุ่นด้วยตนเองอีกด้วย ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคมเป็นช่วงที่ทางไร่ทำการเก็บเกี่ยวองุ่น นับว่านักท่องเที่ยวคณะนี้เลือกเวลามาลงพื้นที่ได้เหมาะ หลังจากได้เก็บองุ่นกันเพลินๆแล้ว พิมพิกาก็พาทั้งคณะไปที่สำนักงาน เพื่อจะได้ตรงไปยังโรงบ่มไวน์ที่ทางไร่ทดลองทำ และได้ผลผลิตออกมาเป็นที่น่าพอใจ จึงได้ให้ทุกคนได้ลองลิ้มชิมรสไวน์ของไร่รณวีร์โดยทั่วกัน

ตาต้าที่เห็นคนอื่นดื่มไวน์ท่าทางมีความสุขเหมือนมันจะอร่อยมาก เด็กหนุ่มหันมามองคนที่ยืนเคียงทันที แต่โซลกลับทำเป็นไม่เห็น ตาต้าจึงกระตุกชายเสื้อพี่เบาๆ

“พี่โซล ต้าอยากลองบ้าง”

“ไม่ได้ครับ เด็กดีต้องไม่ดื่มแอลกอฮอล์นะ”

“แค่นิดเดียวเอง นะ”

โซลส่ายหน้ายิ้มให้คนช่างตื้อ ตาต้าทำปากยื่นหน้างอเมื่อโดนขัดใจ กอดอกฉับแล้วว่า

“แค่นิดเดียวก็ไม่ได้ งก!”

ว่าแล้วก็เดินลิ่วออกไปจากหน้าโรงบ่ม โซลส่ายหน้าให้ความเอาแต่ใจเล็กๆนั้น หันกลับไปพยักเพยิดให้พิมพิกาน้องสาวของดิน ที่ทำการบรรยายรายละเอียดเกี่ยวกับไวน์อยู่ ว่าให้ดูแลจัดการให้ด้วย ซึ่งฝ่ายนั้นก็พยักหน้ารับ โซลจึงเดินตามเด็กดื้อไป

ตาต้าเดินไปตามทางเดินเรื่อยๆ ไม่ค่อยจะรู้เหนือรู้ใต้เท่าไหร่ ดังนั้นจึงเลือกที่จะเดินไปในที่ๆมีคนผ่านไปมา สักพักโซลจึงก้าวเข้ามาเดินเคียงข้าง

“ขี้งอน”

เปรยเหมือนพูดกับลมฟ้า แต่ปากและตากลับยิ้ม ตาต้าไม่สนใจคนกวนอารมณ์ แต่ก็ใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยที่มีพี่อยู่ข้างๆ ทั้งสองคนเดินไปเงียบๆ จนไปหยุดลงบ้านพักของครอบครัวดิน เห็นลุงสนพ่อพี่ดินกำลังก้มๆเงยๆทำอะไรอยู่ข้างบ้านตาต้าจึงเดินเข้าไปทัก

“ลุงสนทำอะไรอยู่น่ะครับ”

“อ้าว? คุณตาต้ามาที่นี่ได้ยังไงครับ โอ้ นายก็มาด้วย”

ลุงสนเอ่ยทักทายเด็กหนุ่มหน้าใส ก่อนจะทายทักผู้เป็นนายที่ยืนเยื้องกับเด็กหนุ่มไปเล็กน้อย

ตาต้าเกาะขอบรั้วที่ล้อมด้วยตาข่ายพลาสติก สำรวจบริเวณรอบภายในตาข่ายก็เห็นว่ามีแปลงผักหลายชนิดที่กำลังเจริญเติบโตได้ที่ เด็กหนุ่มจึงถาม

“ลุงปลูกผักพวกนี้เองหมดเลยเหรอ?”

“ครับ คนแก่น่ะ ไม่มีอะไรทำก็ปลูกผักปลูกหญ้าไปตามเรื่อง”

ลุงสนล้างไม้ล้างมือ แล้วเช็ดมือด้วยผ้าขาวม้าที่ผูกเอว เดินเข้ามาหาผู้เป็นนายกับน้องชายของนาย

“ต้ากับน้องจินนี่คุยกันไว้ว่าจะปลูกสตรอเบอร์รี่ แต่ก็ยังไม่ได้ทำสักทีเลย ไว้ถ้าลุงสนว่างช่วยสอนพวกเราหน่อยนะครับ”

“ได้ครับไม่มีปัญหา”

ลุงสนตอบรับด้วยความเต็มใจ นึกเอ็นดูหนุ่มน้อยนี้อยู่ไม่เบา ดูกระตือรือร้น อยากรู้อยากลอง ไม่กลัวเหนื่อยยาก ถูกใจคนทำไร่ทำสวนนักล่ะ

ลุงสน หนึ่งในคนงานของไร่รณวีร์ อยู่ที่นี่มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งไร่นี้ใหม่ๆ เรียกได้ว่าร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเจ้าของไร่มานานพอๆกับอายุไร่นี้เลยทีเดียว ภรรยาของลุงสนคือป้าพิศ ที่อายุค่อนข้างห่างกันอยู่พอประมาณ ตอนที่ทั้งคู่แต่งงานกันยังมีคนเสียดายที่ป้าพิศแกเลือกคนที่แก่กว่าแกหลายปี แต่เรื่องความรักมันไม่เลือกอายุ จะน้อยจะมากแค่รักกัน มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรเสียหาย ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคนคือ ดิน กับ พิมพ์ หรือพิมพิกา

ตอนนี้หน้าที่ของลุงสนคือคอยดูแลความเรียบร้อยของคนในเรือนพัก ว่างๆแกก็ปลูกผักปลูกอะไรไป พื้นที่มันมีอยู่ก็ใช้สอยให้เกิดประโยชน์ ซึ่งโซลก็เห็นด้วย จึงซื้อพันธุ์พืชผักมาให้แกทดลองปลูกอยู่หลายอย่าง และลุงแกก็ทำให้ผลผลิตออกมาได้ดี ที่ปลูกๆไว้ก็แบ่งๆกันไปไม่มีขี้เหนียว

ตาต้าที่ยืนมองลุงสนกับเด็กวัยรุ่นอีกสองสามคนเกลี่ยหน้าดินเพื่อจะทำการปลูกผักใหม่ก็คันไม้คันมืออยากทำบ้าง จึงบอกให้พี่กลับไปทำงาน ส่วนตนเองจะอยู่แถวนี้รอจินนี่กลับมาแล้วค่อยกลับบ้าน โซลจึงฝากลุงสนดูตาต้าให้ด้วย เดี๋ยวจะแอบไปเล่นซนที่ไหน

พอพี่เดินลับสายตาไปแล้ว ตาต้าจึงเข้าไปในแปลงนั้นด้วย ขอช่วยลุงสนปลูกผัก ในทีแรกลุงแกก็ไม่กล้าที่จะให้น้องชายเจ้านายมาทำงานแบบนี้ แต่ทนลูกอ้อนไม่ไหวจึงให้ลองลงต้นกล้าผักกาดที่เตรียมไว้ดู

ตาต้าใส่ถุงมือที่ลุงสนส่งให้ ก่อนจะนั่งยองลงข้างๆแปลงผักแล้วลงมือทำตามที่ลุงสอน ทำไปเรื่อยๆเด็กวัยรุ่นชายที่ด้อมๆมองๆมาตั้งแต่ตาต้าเดินเข้ามาแล้ว ก็ทำใจกล้าเข้ามาทักทาย

“นี่นาย”

“?”

“นายเป็นน้องชายเจ้านายใช่ไหม?”

“อือ”

ตาต้าตอบรับสั้นๆ ก็คนไม่รู้จักกันนี่

“เราชื่อกายนะ”

“ตาต้า”

หนุ่มกายแนะนำตัวพร้อมรอยยิ้มเป็นมิตรที่เปิดกว้าง ตาต้าจึงบอกชื่อตนเองไป อาจจะเป็นด้วยเพราะวัยใกล้กันทำให้สองหนุ่มพูดคุยกันถูกคอ และสนิทกันโดยง่าย

กายก็เป็นหนุ่มหน้าตาไม่ได้ขี้ริ้ว อาจไม่ได้หล่อคมเหมือนพี่โซลของเขา แต่กายเป็นหนุ่มผิวขาว ตาออกจะตี๋หน่อยๆ มีลักยิ้มข้างแก้มเวลาเปิดยิ้ม ดูรวมๆแล้วก็มีเสน่ห์ แต่ตาต้ากลับไม่รู้สึกอะไรกับหนุ่มคนนี้ นอกจากพี่โซลแล้วคงไม่มีใครทำให้ตาต้าหัวใจเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ได้ เหตุผลที่เขามาที่นี่ ใช่จะแค่มาเที่ยวอย่างที่บอกใครๆเสียเมื่อไหร่ จะไปเที่ยวไปที่ไหนก็เที่ยวได้ ไม่จำเป็นต้องบินไกลมาถึงที่นี่ แต่ที่ต้องเป็นที่นี่ก็เพราะ… คนที่เขาอยากเจอที่สุดอยู่ที่นี่ด้วยอย่างไรล่ะ



……………………


‘แม่ ทำไมพี่โซลต้องแต่งงานด้วยล่ะ?’

นั่นคือคำถามที่เด็กชายตาต้าถามกับผู้เป็นมารดาเมื่อครั้งที่ได้มาร่วมงานแต่งงานระหว่างพี่โซลกับคนรัก เด็กชายมองภาพคู่รักที่อิงแอบแนบชิด หน้าตายิ้มแย้มมีความสุขอย่างไม่เข้าใจ

‘ถามอะไรของเราน่ะตาต้า พี่เขารักกันน่ะสิถึงได้แต่งงานกัน’

คุณแม่ว่า ขำกับประโยคคำถามประหลาดของเด็กชาย โดยที่ไม่ได้สังเกตว่าเด็กชายตาต้ากำลังทำสีหน้าเช่นไรเมื่อเอ่ยถาม

‘ต้าก็รักพี่โซล ทำไมพี่โซลถึงไม่แต่งกับต้าบ้างล่ะ’

‘ตายแล้วตาต้า พูดอะไรออกมานี่ เราจะแต่งงานกับพี่เขาได้ยังไงเราเป็นผู้ชายนะ เด็กคนนี้นี่จะทำให้แม่หัวใจวายเข้าสักวัน ดูความคิดแต่ละอย่าง’

‘ที่ต้าแต่งงานกับพี่โซลไม่ได้ เพราะต้าเป็นผู้ชาย หรือเพราะพี่โซลไม่ได้รักต้า’

‘ตาต้า!!’

คุณแม่เรียกชื่อลูกชายอย่างตกใจกับความคิดนั้น เธอเห็นมาตลอดล่ะว่าลูกชายสนิทกับพี่ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่ไม่นึกว่าจะได้ยินคำพูดเช่นนี้จากปากลูกเลย

‘พี่โซลรักพี่สาวคนนั้นสินะ พี่โซลลืมต้าแล้ว’

‘ตาต้า…’

คุณแม่เห็นลูกชายที่น้ำตาไหลโดยไร้เสียงสะอื้นแบบนั้นแล้วก็ใจหาย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับลูกชายของเธอกัน มันเกิดอะไรขึ้น!!?


หลังจากวันนั้นก็ดูเหมือนว่าตาต้าจะไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก ผู้เป็นแม่จึงคลายใจว่าลูกชายแค่พูดไปเรื่อยตามประสาเด็ก แต่ก็ดูท่าว่าท่านจะคิดผิด เมื่อวันหนึ่งที่ตาต้ารู้ว่าพี่เลิกกับภรรยาแล้ว ตาต้าที่รักมั่นในตัวพี่ชายคนนั้นก็กลับมา จนถึงขั้นที่ว่ากล้ามาขอแม่ไปเที่ยวไร่รณวีร์ เพื่อพิสูจน์ว่าพี่รักหรือไม่รักตนเอง นี่มันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหรือเปล่า ยิ่งขวางก็ยิ่งอยากทำให้ได้

‘แม่ให้ต้าไปนะ นะครับ ต้าสัญญาว่าถ้าเกิดพี่โซลไม่ได้รักต้าตอบ ต้าจะตัดใจ นะแม่’

‘ไม่ได้ เรานี่มันยังไงกันฮึ แม่บอกตั้งกี่ทีแล้วว่าเราแค่คิดไปเองว่ารักพี่เขาแบบชู้สาว แต่ที่จริงเราก็แค่เด็กติดพี่เท่านั้นล่ะตาต้า!’

‘ต้าไม่เห็นรู้สึกแบบนี้กับพี่ต้นเลย ต่อให้พี่ต้นมีใครอีกมากมาย ต้าก็เฉยๆ ไม่เหมือนกับพี่โซลสักนิด’

ตาต้ายังคงเถียง เอาความรู้สึกที่มีต่อพี่ชายของตนเองมาอ้าง เพราะใจเขา เขารู้ดีที่สุดว่ามันเป็นอย่างไร ไม่ได้อยากจะเป็นเด็กไม่ดีที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ แต่เขาไม่อยากที่จะปล่อยความรู้สึกนี้ให้มันผ่านเลยไปโดยที่ไม่ทำอะไรเลยแบบนี้ หากมันจะจบ ก็ขอให้เขาได้เป็นคนจบความรู้สึกนี้เอง เมื่อได้คำตอบแน่ชัดว่า พี่โซลไม่รัก

ผู้เป็นมารดาเมื่อได้ฟังที่ลูกพูดก็ยิ่งเป็นกังวล นี่เธอเลี้ยงลูกไม่ดีหรืออย่างไร ถึงได้ผ่าเหล่าแบบนี้ แล้วแบบนี้เธอจะมองหน้าน้ำทิพย์เพื่อนสนิทของตนเองอย่างไร เมื่อลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเธอ ดันไปรักชอบลูกชายของเพื่อนเช่นนี้ แม้เธอจะแน่ใจว่าโซลคงจะไม่มีใจปฏิพัทธ์ต่อลูกของเธอ แต่เธอก็ไม่อยากเสี่ยง ความใกล้ชิดอาจทำให้เรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ

‘ในเมื่อแม่แน่ใจว่าพี่โซลไม่มีทางรักต้า แม่ก็ให้ต้าไปเถอะนะครับ ต้าอยากจะตัดความรู้สึกนี้ให้ขาดเสียที หากว่าพี่โซลไม่มีใจให้ต้าแม้สักน้อยนิด ต้าจะตัดใจจริงๆ จะเป็นเพียงน้องชายของพี่เขาเท่านั้น’

คุณแม่มองหน้าลูกชายที่ดูเว้าวอนและร้องขอแล้วน้ำตาก็แทบจะร่วง ทำไมจะไม่รู้ว่าลูกปักใจรักคนๆนี้มาเนิ่นนานแค่ไหน แต่ก็พยายามหลอกตัวเองมาตลอดว่า วันหนึ่งลูกก็ต้องรู้ว่าสิ่งที่รู้สึกอยู่มันไม่ใช่ สุดท้ายนั่นมันก็แค่การหลอกตัวเองไปวันๆเพียงเท่านั้น เมื่อวันนี้ลูกชายของเธอได้แสดงให้เห็นแล้วว่ามันไม่ใช่แค่ความรู้สึกชั่วครู่ชั่วยามอย่างที่เธอคิด

‘ลูกเอ๊ย… ตาต้า แม่ไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว’

ได้แต่กอดลูกแล้วร้องไห้อยู่อย่างนั้น ยากเกินไปที่เธอจะทำใจยอมรับได้ทัน แต่ที่สำคัญที่สุด เธอกลัวลูกเจ็บ หากว่าความรักที่ผิดแผกนี้จะไม่เป็นดังหวัง

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้มีเพียงแม่ของตาต้าเท่านั้นที่รู้ และท่านจะเตือนเสมอก่อนที่ตาต้าจะมาที่นี่

‘อย่าทำอะไรที่จะทำให้ตัวเองเสียใจไปตลอดชีวิต’

ตาต้ารู้ว่าแม่จะบอกว่าอะไร และเขาจะไม่ทำแบบนั้น


……………………….



จินนี่ที่กลับมาจากเรียนบัลเล่ในตอนสาย พอเข้าบ้านมาไม่เห็นพี่ชายคนสนิทก็ถามหาในทันที เมื่อคนในบ้านบอกว่าไปกับคุณพ่อ จินนี่จึงต่อสายตรงถึงคุณพ่อขาในทันที จึงได้รู้ว่าพี่ชายอยู่ที่บ้านลุงดิน จินนี่กับพี่เลี้ยงจึงตรงไปยังบ้านลุงดินของจินนี่ทันที

เมื่อไปถึงเห็นพี่กำลังปลูกผักก็เข้าไปลองทำด้วย ต้าตากับจินนี่เลยลองปลูกผักดูก่อน ก่อนที่จะไปปลูกสตรอเบอร์รี่ในวันหลัง คนที่ไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้พอได้ทำมันก็รู้สึกแปลกใหม่ ตาต้าเลยสนุกใหญ่กับการทำสวนผักของลุงสน มือเปื้อนดินเปื้อนโคลนกันทั้งพี่ทั้งน้อง แต่ตาต้าดูจะแย่หน่อยเพราะลองขุดดินอย่างที่ลุงสนกับกายทำเลยมือแดงเจ็บไปหมด


++++++++++++


ในบ้านไม้หลังใหญ่ของไร่รณวีร์ โซลกำลังทายาและนวดมือที่แดงช้ำให้น้อง เมื่อกลับมาเห็นว่าเด็กดื้อมือพองเพราะแอบไปขุดดิน ตาต้าก็ฟังเสียงบ่นไปอย่างไม่ใคร่จะใส่ใจนัก คนนวดก็นวดไปเรื่อยๆ ในใจก็แอบคิดแปลกๆกับเจ้าของมือที่ตนเองกุมอยู่

‘มือนิ่มชะมัด’

โซลแทบไม่กล้าจับ เพราะเกรงว่ามือสากๆของตนเองจะทำให้น้องเจ็บซ้ำอีก แต่ตาต้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเวลาเขานวดให้ โซลจึงนวดมือนิ่มนั้นต่อ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าใบหน้าของน้องก้มลงมาใกล้ขนาดที่ว่าแค่เขาเงยหน้าขึ้นมาก็แทบจะสัมผัสโดนกันแล้ว

โซลยังนิ่งค้างอยู่ท่านั้น มือยังคงกุมมือน้องอยู่ มองตากลมใสที่มองตอบมาแล้วพาให้ล่องลอยดีจริงๆ ล่องลอยจนเริ่มจะเอียงหามุมเหมาะๆ เพื่อที่จะ…

“พี่โซล”

“ครับ…”

โซลขานรับ แต่ดวงตากลับจับจ้องริมฝีปากอมชมพูที่ขยับยกเมื่อเอ่ยคำ อยากสัมผัส อา… ยิ่งลิ้นเล็กของเจ้าตัวเขาไล้เลียขอบปากแบบนั้นโซลยิ่งรู้สึกคอแห้ง อยากสัมผัสรสชาติหอมหวานตรงหน้าเพื่อดับความกระหายที่เกิดขึ้น โดยไม่รู้ตัวริมฝีปากของตนเองก็แตะสัมผัสเข้ากับริมฝีปากน้องไปแล้ว

ตาต้านิ่งอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาแค่คิดว่าพี่อาจจะจูบ แต่ไม่นึกว่าพี่จะจูบจริงๆ ใจเด็กหนุ่มเต้นรัวแรงจนแทบจับจังหวะไม่ได้ พี่ไม่ได้ทำอะไรที่เกินเลยมากกว่านั้น นอกจากกดย้ำๆอยู่หลายครั้ง

โซลผละห่างอย่างแสนเสียดาย แต่ก็ต้องห้ามทั้งใจห้ามทั้งกายไม่ให้ทำอะไรที่เกินเลยกว่านี้ ไม่เช่นนั้นคงมองหน้าน้องกับพ่อแม่น้องไม่ติด มือหนาลูบกลีบปากอิ่มสวย ก่อนจะสบตากับน้องที่สีหน้ามีความมึนงงฉายชัด

“ตาต้า ระวังตัวให้มากกว่านี้หน่อย ถ้าพี่ทำอะไรแบบนี้อีก ตาต้าชกพี่ได้ตามสะดวกเลย ไม่ต้องเกรงใจ พี่มันนิสัยเสีย”

“ต้ายังไม่ได้ว่าอะไรเลย”

คนเป็นน้องบอกเสียงเบา อดเขินไม่ได้กับเหตุการณ์เมื่อครู่

“ตาต้า…”

โซลถึงกับครางเมื่อได้ยินน้องพูด อย่าเปิดทางให้กันนักสิ เดี๋ยวพี่คิดจริงจังขึ้นมาแล้วมันจะยุ่งไปกันใหญ่ โซลมองท่าทางน้องที่ขยุกขยิก บิดซ้ายบิดขวาแล้วถาม

“เป็นอะไรน่ะตาต้า?”

“ต้าปวดไหล่”

พอได้ยินแบบนั้นแล้วคนเป็นพี่ก็ทำสีหน้าประมาณ ‘ว่าแล้ว’ ใส่

“ก็แล้วจะไปทำทำไมกันล่ะ หือ?”

“ก็ต้าอยากลองทำดูนี่นา อยากรู้ว่ามันเหนื่อยแค่ไหนกว่าจะได้ผลผลิตของผักแต่ละอย่างมาให้เราทาน”

ตาต้าตอบคำถามทั้งนวดไหล่ตนเองไปด้วยแต่มันก็ไม่ถนัด โซลอยากจะช่วยแต่ก็เกรงว่ามันจะเป็นอย่างเมื่อครู่อีก จึงต้องเก็บไม้เก็บมือนิ่งมองเท่านั้น

“แล้วเป็นไงล่ะ?”

โซลถามเย้ยๆ ตาต้าบุ้ยปากใส่ ก่อนจะยักคิ้วกวนๆแล้วบอก

“สนุกดี”

“แน้ ยังบอกว่าสนุกอีก ไม่เข็ดนะเรา” โซลว่าขำๆ

“ไม่เข็ดหรอก จะมีแฟนเป็นชาวไร่มันก็ต้องอดทน”

“ใครนะ?”

พอน้องพูดจบโซลก็สวนทันที อะไรแฟนๆไร่ๆนะ
 
“เปล้า”

“ทำไมต้องเสียงสูง?”

คนเป็นพี่หรี่ตามอง ตาต้ากลอกตาไปมาแล้วทำปากยื่นแก้มพองเมื่อแถต่อไม่ได้

“พี่โซลอ้า อย่าจับผิดต้าสิ ไปทานข้าวกันดีกว่านะ เดี๋ยวจินนี่รอ ป่ะ”

คนแถต่อไม่ได้รีบเปลี่ยนเรื่อง ชวนคนเป็นพี่ไปทานข้าว แล้วตัวเองก็ลุกทันทีทันใด แต่มือหนาของพี่ก็คว้าหมับที่ข้อมือไม่ให้ไป เด็กดื้อจึงได้แต่แอบทำหน้าแหย

“เดี๋ยว ไม่ต้องนอกเรื่อง เมื่อกี้บอกจะมีแฟนชาวไร่ หมายถึงใคร หืม หรือแอบไปจีบสาวที่ไหนโดยที่พี่ไม่รู้ สารภาพมา”

เมื่อพี่อยากให้พูด ตาต้าจึงไม่ขัดศรัทธา ขอมาก็จัดให้ พี่บังคับเองนะ

“ต้าไม่จีบหรอกสาวอ่ะ ต้าจะจีบหนุ่ม หนุ่มชาวไร่”

ตาต้าว่าน้ำเสียงรื่นเริง อมยิ้มเมื่อเห็นว่าพี่ทำหน้าอึ้ง ไม่เห็นต้องตกใจเลย แค่พูดเรื่องจริงเอง

“อะไรนะ ล้อเล่นอะไรของเราตาต้า?”

ต้าตาส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่ต่อความกับพี่ แล้วเดินฮัมเพลงออกไปด้านนอก ปล่อยให้คนตัวโตคิ้วขมวดด้วยความสงสัยไม่แน่ใจในสิ่งที่น้องบอก ได้แต่ร่ำร้องในใจถึงคำที่น้องว่ามาเมื่อครู่


‘ตาต้าจะจีบหนุ่ม จีบหนุ่มนี่นะ!!’



TBC



ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ บวกให้ทุกบวก :pig4:


ตอนนี้ปั่นนิยาย3เรื่องเลยช้าหน่อย ถ้าอีกสองเรื่องจบโดยสมบูรณ์แล้ว ก็จะเขียนเรื่องน้องตาต้าเพียงเรื่องเดียว ที่พักใจของคนเขียนจากเรื่องยุ่งยากในชีวิต ถ้าใครชอบแนวนี้ก็ยินดีต้อนรับนะคะ :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 19:47:45 โดย wanmai »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
พี่โซลจูบไปแล้ววว  :m1:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
พี่โซลจะรู้มั้ยว่าตาต้าหมายถึงตัวเอง

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
พี่โซลจะรู้ตัวมั้ยเนี้ย :impress2:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
ตาต้าจะรุกแล้วใช่มั้ย :z2:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
แนวน่ารักแบบนี้พี่ก็ชอบค่ะ

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 o13 o13 ชอบมากค่ะ รีบมาต่อนะค่ะ    :L2: :L2:

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
ตาต้าน่าร้ากกกกกกกกกกกก
 :m3:
แบบนี้เดี๋ยวอีกไม่นาน
พี่โซลก็จะต้องใจอ่อน
หันมาหลอกเด็กเป็นแน่แท้
 :z1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
จูบแล้ววว
ไวจริงพี่โซล

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่โซลนี่ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยยยยยย

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
ฤกษ์งามยามดี ตอนที่5 วันที่5 เดือน5 พ.ศ2555 (มาซะดึกดื่น=..=)



It’s Real เดี๋ยวรักเลย

ตอนที่ ๕ หวั่นไหว



โซลที่ได้ยินตาต้าพูดว่าจะจีบหนุ่มแบบนั้นก็อดกังวลไม่ได้ สายตาคอยแต่จะมองตามว่าน้องมี
ท่าทีกับใครที่ไหนบ้าง พักหลังมานี้ตาต้าสนิทกับกายมากขึ้น โซลไม่อยากจะคิดไปไกลขนาด
ที่ว่าสองคนนี้มีความรู้สึกที่พิเศษต่อกันหรอก เพียงแต่แอบสงสัยไปหมดทุกคนแล้วในตอนนี้
 แม้แต่ดินก็ยังถูกจับตามอง

“มีอะไรหรือเปล่าครับ นาย”

ดินที่คอยตรวจเอกสารงานอยู่ใกล้ๆโซลเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนเองมองมาทางนี้นาน
แล้ว หรือเจ้านายของเขามีอะไรจะใช้เขาหรือเปล่า

“เปล่า ฉันแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย”

โซลบอกปัด ก่อนจะชวนดินคุยเรื่องอื่น แต่ก็ไม่วายวนมาที่เรื่องของตาต้าอยู่ดี นี่เขาคิดมาก
จนเกินไปแล้วหรืออย่างไรกัน

“ตาต้ากับจินนี่จะไปให้ลุงสนสอนปลูกสตรอเบอร์รี่นี่ นายได้บอกชินไว้ก่อนหรือยัง?”

ชินที่ว่าคือคนคอยคุมงานทุกอย่างในไร่สตรอเบอร์รี่ที่ไร่รณวีร์ปลูก เรียกว่ามีหน้าที่ดูแลและสั่ง
การเด็ดขาด รอบรู้ด้านการพัฒนาสายพันธุ์ และเรื่องปัญหาอื่นๆของผลไม้ชนิดนี้ดี โซลจึงได้ให้
ดินติดต่อชินให้เรียบร้อย เผื่อลูกสาวกับน้องชายของเขาไปจะได้ไม่คลาดกัน

“ผมบอกชินเรียบร้อยแล้วครับ แต่จะว่าไปนี่ คุณตาต้าดูจะกระตือรือล้นกับเรื่องพวกนี้มากเลยนะ
ครับ เมื่อหลายวันก่อนก็มาถามพ่อผมว่าปลูกผักในต้นกล้วยด้วยหรือเปล่า เพราะคุณเขาเห็นมา
จากในทีวีว่ามันทำได้”

ดินพูดไปสีหน้าก็ฉายชัดถึงความนิยมชมชอบต่อน้องชายเจ้านาย โซลฟังที่ลูกน้องคนสนิทพูด
แล้วก็ยิ้มตาม นึกท่าทางน้องออกเลยทีเดียว

ตาต้ามาจากเมืองกรุงก็จริงอยู่ แต่โดยพื้นเพแล้วแม่ของตาต้าเป็นคนในพื้นที่นี้ ตอนเด็กตาต้าก็
เลยอยู่ที่นี่ ด้วยงานของคุณพ่อที่ต้องย้ายไปโน่นมานี่ตลอด ทำให้ตาต้าต้องอยู่กับยายและตา
หลายปี จนกระทั่งพ่อของตาต้าเปลี่ยนงานและมีที่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ตาต้าจึงได้ย้ายตาม
พ่อไปอยู่เมืองหลวง จะกลับมาเยี่ยมตายายบ้างเมื่อมีโอกาส มาคราวนี้ตาต้าก็ได้แวะไปหาท่าน
ก่อนที่จะมาหาพี่ที่นี่ และก่อนกลับก็คงจะไปพักกับพวกท่านสักสองสามวันให้ท่านได้หายคิดถึง
บ้าง


++++++++++


“สวัสดี หนุ่มน้อย”

เสียงทักทายที่ดังมาจากด้านหลัง ทำให้ตาต้าหันไปมอง ขมวดคิ้วนึกอยู่เล็กน้อย เมื่อเห็นผู้ชาย
ตัวโต หุ่นหนาล่ำ ดวงตาสีอ่อนกับจมูกที่โด่งขึ้นสันชัดเจนนั่นท่าทางจะเป็นลูกครึ่ง หรือไม่ก็ลูก
เสี้ยว มองอย่างพินิจพิจารณาแล้ว ตาต้าจึงยกยิ้มแล้วไหว้หนุ่มตัวใหญ่บึ้กตรงหน้า

“สวัสดีครับ พี่ผู้กองไต๋”

“หือ จำได้ด้วยเหรอ?”

ไต๋ หรือไตรภพ นายตำรวจหนุ่มเพื่อนโซลมองตาต้าอย่างแปลกใจ ที่แนะนำตัวกันไปคราวที่
แล้วเขาไม่ได้มาในรูปลักษณ์แบบนี้ แต่เด็กหนุ่มหน้าใสกลับจำเขาได้

“ท่าจะแย่แล้วมั้งไต๋ ขนาดตาต้ายังจำได้เลยว่าเป็นมึง แล้วอย่างนี้ผู้ร้ายมันไม่หมายหัวมึงไว้แล้ว
เหรอป่านนี้”

เสียงแซวของโซลดังมาก่อนตัว เดินเข้ามากอดคอเพื่อนรัก ไตรภพยังมองหน้าตาต้าอยู่

“ตาต้ารู้ได้ยังไงว่าเป็นพี่”

“ต้าเดาเอา แบบว่าลักษณะโดยรวมมันก็บ่งบอกตัวตนของเราได้เหมือนกันเนอะ”

ตาต้าหัวเราะแห้งๆให้นายตำรวจหนุ่มที่จ้องเหมือนเขาทำผิดอะไรมาอย่างนั้นล่ะ สายตากดดัน
กันได้อีก

“อือ”

ไตรภพเพียงทำเสียงในลำคอรับคำบอกเล่าของตาต้าเท่านั้น ก่อนรอยยิ้มเป็นมิตรจะกลับมาสถิต
บนริมฝีปากของนายตำรวจหนุ่มร่างยักษ์ ตาต้าถึงกลับลอบถอนหายใจโล่งอกที่เป็นแบบนั้น

สายตาคมของนายตำรวจหนุ่มมองตามดินที่เดินผ่านไป ไตรภพเอ่ยขอตัวกับเพื่อนและเด็กหนุ่ม
โซลรั้งแขนเพื่อนไว้ เอ่ยปรามเบาๆพอได้ยินกันสองคน

“อย่าไปตอแยดินมันนัก”

“…………..”

ไตรภพเพียงแต่ยิ้มไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะเดินช้าๆตามคนหน้าเข้มไป โซลส่ายหน้าที่เพื่อนทำเป็น
ไม่สนใจ ตาต้ามองพี่ผู้กองไต๋กับพี่โซลอย่างสงสัย สงสัยว่าเขาคุยอะไรกัน ท่าทางเหมือนมีลับ
ลมคมใน ไร่นี้นี่ความลับเยอะจัง

“เป็นอะไรน่ะเรา คิ้วขมวดเป็นปมหมดแล้ว”

“ต้าสงสัย”

“ว่า?”

“หลายอย่าง”

ตาต้าตอบไปแบบนั้นแล้วก็เผลอนึกไปว่ากำลังเล่นยี่สิบคำถามกับพี่อยู่หรือเปล่า

“งั้น เอามาสักอย่างซิ เผื่อพี่จะคลายความสงสัยของเราได้”

“ต้าไม่กล้าถาม”

ตาต้าทำหน้าแหยจนโซลสงสัย คำถามอะไรกัน ร้ายแรงแค่ไหนน้องถึงไม่กล้าถาม

“ทำไม?”

“เรื่องคุณปรเมศวร์ที่เจอที่น้ำตกกับ…”

เมื่อเห็นว่าพี่ทำหน้าเครียดทันทีที่เอ่ยชื่อบุคคลต้องห้าม ตาต้าจึงเม้มปากแล้วบอกเสียงค่อย
กว่าเดิม

“ขอโทษครับ ที่ต้าสงสัยอะไรไม่เข้าเรื่อง”

พอเห็นน้องทำหน้าจ๋อย โซลจึงลูบศีรษะปลอบ

“พี่ไม่รู้จะอธิบายกับตาต้าว่ายังไง ที่จริงมัน… เอาเป็นว่าเขาเป็นคนไม่น่าคบหา ดังนั้นถ้าตาต้า
เจอเขาก็หลีกให้ห่างรู้ไหม?”

ตาต้าพยักหน้ารับ แม้จะไม่ได้คลายความข้องใจของตนเองลงไป แต่คำเตือนของพี่สำคัญกว่า
โซลโยกศีรษะน้องด้วยความเอ็นดูในความว่าง่าย เรื่องปรเมศวร์เป็นเพียงเรื่องในอดีต เขาไม่
อยากจะนำมาบอกกล่าวให้น้องไม่สบายใจ เพราะเรื่องราวที่เกิดตาต้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
แม้แต่น้อย



++++++++++++


วันต่อมาตาต้ากับจินนี่ที่นัดกันว่าจะปลูกสตรอเบอร์รี่ก็ได้ฤกษ์ลงไร่กันสักที ลุงสนพาทั้งคู่ไปที่
แปลงสตรอเบอร์รี่ แนะนำให้รู้จักคนที่ดูแลรับผิดชอบงานตรงนั้น ชิน

ตาต้ากับน้องจินนี่ทักทายทำความรู้จักกับชิน ก่อนที่ชินจะพาทั้งคู่ลงพื้นที่จริง พอตาต้ากับน้อง
จินนี่เห็นแปลงสตรอเบอร์รี่ที่มีลูกสีแดงสดแล้วก็ตาวาว ร่ำๆว่าอยากจะลงไปเก็บเสียเดี๋ยวนั้น ชิน
จึงเตรียมอุปกรณ์ให้พี่น้องทั้งสองได้เก็บสตรอเบอร์รี่กันสมใจ โดยมีนุ่นคอยดูแลน้องจินนี่อยู่ไม่
ห่าง

เมื่อเก็บสตรอเบอร์รี่กันจนพอใจแล้ว ชินจึงนำสองพี่น้องมาที่โรงเพาะ ขณะที่เดินทางมาก็พูดคุย
ไต่ถามกันไปด้วยจนถึงที่ที่เป็นจุดหมาย

“ผมเคยเห็นที่เขาปลูกในกระถางกันด้วย เราจะทำแบบนั้นบ้างได้ไหมครับพี่ชิน”

“ลองดูก็ได้นะครับ เพราะพี่ก็ไม่เคยปลูกแบบนั้น แต่ก็ไม่น่าจะยากนะ”

ชินแบ่งรับเมื่อตาต้าเสนอความคิดเห็น พาเข้าไปในโรงเพาะและอธิบายคุณลักษณะและวิธีการ
ปลูกให้ฟัง

“ส่วนมากช่วงฤดูที่จะปลูกสตรอเบอร์รี่จะเป็นช่วงหน้าหนาวครับ ช่วงเดือนกันยาตุลานี่กำลังพอดี
เลย เพราะสตรอเบอร์รี่เป็นผลไม้เมืองหนาว ไม่ถูกกับความร้อนสักเท่าไหร่นัก ยิ่งเป็นต้นอ่อน
ด้วยแล้ว อาจจะเฉาตายได้ครับ”

“ว้า แล้วแบบนี้จินนี่กับพี่ตาต้าจะได้ปลูกไหมคะเนี่ย”

จินนี่ทำน้ำเสียงเสียดายที่ได้ยินแบบนั้น ชินยิ้มให้ก่อนจะบอกหนูน้อย

“ปลูกได้ครับน้องจินนี่ เพราะที่ไร่เรามีโรงปลูกที่ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมได้ครับ”

“ว้าว ดีเลยค่ะ งั้นพี่ชินพาจินนี่กับพี่ตาต้าไปปลูกเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

จินนี่ปรบมือเปาะแปะอย่างดีใจ กระตุกมือพี่ชินให้พาตนเองกับพี่ชายคนสนิทไปทำการปลูกโดย
ไว ตาต้าขำน้องที่ร่าเริงเกินเหตุ ดูท่าจะอยากไปจริงๆแล้วตอนนี้

“เดี๋ยวครับน้องจินนี่ ขั้นแรกเรามาเตรียมอุปกรณ์กันก่อนดีไหม?”

ชินอมยิ้มกับความน่ารักน่าเอ็นดูของลูกสาวตัวน้อยของเจ้านาย เสนอสิ่งที่ควรทำเป็นอย่างแรก
กับหนูน้อย เสียงใสๆนั้นก็ตอบรับกลับมาพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ค่า”

ชินขอให้ลุงสนช่วยเตรียมกระถางมาให้จินนี่กับตาต้า แต่สองพี่น้องก็ขอเพิ่มมาให้พี่นุ่นด้วย จะ
ได้มีครบทุกคน ขณะที่รอชินก็ไปเตรียมดินสำหรับปลูกและต้นพันธุ์สตรอเบอร์รี่ ลุงสนกลับมา
พร้อมกายและแก้วน้องสาวกายที่มาช่วยลุงแกดูแลแปลงผักในช่วงปิดภาคเรียน หาค่าขนม
เล็กๆน้อยๆ

เมื่อได้อุปกรณ์ทุกอย่างครบแล้วจึงเริ่มลงมือปลูก จัดแจงทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ตาต้าจึงขอ
กระดาษกับปากกาเมจิกและไม้เล็กๆอีก3อัน เพื่อเอามาเขียนชื่อของตนเองกับน้องจินนี่และพี่นุ่น
เสร็จแล้วก็ติดกาวแล้วเอาไปปักข้างกระถาง

“อันนี้ของพี่นุ่นนะคะ ติดป้ายเอาไว้เลย”

“ขอบคุณค่ะ”

จินนี่ยื่นป้ายชื่อที่เขียนว่าพี่นุ่นให้ คนรอบข้างมองอย่างเอ็นดูในความเอื้อเฟื้อของน้องหนู ที่
น่ารักและไม่ถือตัวว่าตนเองอยู่เหนือกว่า อาจซนบ้างในบางเวลา แต่จินนี่ก็รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่
เพราะการอบรมสั่งสอนที่ดีของพ่อเลี้ยงกับแม่เลี้ยงของไร่รณวีร์ คุณรณวีร์และคุณน้ำทิพย์


+++++++++++


เมื่อทำการปลูกสตรอเบอร์รี่กันได้อย่างใจแล้ว นุ่นก็พาน้องจินนี่กลับบ้านก่อน เพราะตาต้ามีนัด
กับหนุ่มกายว่าจะไปเที่ยวที่บ้านกายเลยให้น้องกลับก่อน ลากับจินนี่แล้วตาต้าก็เดินคุยสอบถาม
เรื่องการดูแลสตรอเบอร์รี่กับพี่ชินไปเรื่อย จนกายกับแก้วปั่นจักรยานมาจอดด้านหน้าแล้วเรียก

“ตาต้า ไปกันได้หรือยัง?”

“อืม ไปสิ”

ตาต้าพยักหน้ารับ ก่อนจะเอ่ยขอตัวกับชิน

“ผมขอตัวนะครับพี่ชิน”

“ครับ”

ชินยิ้มส่ง มองความร่าเริงของเด็กๆแล้วมีความสุขดี เป็นเด็กนี่มันดีแบบนี้ล่ะนะ

ตาต้าขึ้นซ้อนรถของกาย หนุ่มกายก็เตรียมออกตัวในทันที

“จับดีๆนะ จะพาซิ่งแล้ว”

“ว้ากกก”

ไม่เพียงแต่พูด กายทำอย่างนั้นจริงๆ จนตาต้าที่ยังไม่ตั้งตัวร้องลั่น ส่วนกายก็หัวเราะเสียงดัง
อยากแกล้งตาต้าจนไม่รอน้องสาวตัวเอง แก้วจึงร้องประท้วงมาแต่ไกล

“พี่กาย รอแก้วด้วยดิ๊”

“กายๆ รอน้องก่อน”

ตาต้ากระตุกชายเสื้อเพื่อนให้รอน้องแก้ว แต่กายกลับเหลียวกลับไปมองแล้วร้องท้าน้องสาว
เย้วๆ

“ฮ่าๆๆ ถ้าแน่จริงตามมาให้ทันเด้ วู้ววว”

จักรยานของสองพี่น้องปั่นแข่งกันไปตามทางในไร่ โซลที่เพิ่งออกมาจากสำนักงาน กำลังจะไป
ตรวจงานในไร่เห็นว่าน้องชายที่น่ารักของตนเองซ้อนท้ายรถคันหนึ่งในนั้นอยู่จึงชะงักเท้ามอง
ตาต้าที่เห็นพี่อยู่ไม่ไกลจึงบอกให้กายผ่อนความเร็วลงหน่อย ก่อนจะร้องทักพี่

“พี่โซล”

“จะไปไหนกันน่ะ?”

โซลรีบถามทันทีก่อนที่น้องจะผ่านไป

“ต้าไปเที่ยวบ้านกายนะ เดี๋ยวกลับ”

ตาต้าบอกก่อนโบกมือหยอยๆให้พี่ เกาะเบาะรถแล้วบอกให้เพื่อนเร่งความเร็ว โซลที่จะร้องถาม
ก็ไม่ทันน้องแล้ว เพราะฝ่ายนั้นไปไกลแล้ว

“เดี๋ยว ตาต้า…”

โซลมองตามจักรยานคันน้อยไปด้วยสีหน้าบอกไม่ถูก นี่ตาต้าสนิทถึงขนาดที่ไปเที่ยวบ้านกาย
ได้แล้วหรือ

‘ต้าจะจีบหนุ่ม’

เสียงห้าวนั้นดังแทรกเข้ามาในความนึกคิด คิ้วเข้มขมวดมุ่น ก่อนจะส่ายหน้าเมื่อไม่เชื่อในสิ่งที่
ได้ยิน คงไม่ใช่หรอกมั้ง?



+++++++++++



คนที่บอกกับตนเองว่าสิ่งที่คิดมันไม่น่าจะใช่ กลับรีบกลับมาก่อนที่จะค่ำตามเวลากลับปรกติของ
ตนเองด้วยซ้ำ ถือแฟ้มงานกลับมาตรวจที่บ้านทั้งที่ไม่เคยทำ เพราะระลึกอยู่เสมอว่าบ้านคือที่
พัก คือพื้นที่สำหรับปลดปล่อยความเมื่อยล้า และให้เวลากับครอบครัว การกลับมาที่บ้านจึงไม่
ควรนำเรื่องงานที่แสนวุ่นวายกลับมาด้วย แต่วันนี้ต่างไป ใจของโซลมันร่ำๆอยากกลับมาเสียตั้ง
นานแล้ว แต่ก็ยังติดภาระหน้าที่ที่ต้องทำให้เสร็จ

โซลเดินเข้ามาภายในบ้าน ทั้งที่บังคับสายตาให้มองตรงไปเท่านั้น แต่ก็อดไม่ได้ที่จะมองที่
ประจำของน้องชายกับลูกสาวตัวน้อย ตอนนี้เพิ่งจะบ่ายจินนี่คงยังไม่ตื่นจากนอนกลางวัน แล้ว
พี่ชายคนสนิทของลูกล่ะ กลับมาหรือยัง

“ตาต้ากลับมารึยัง”

โซลเอ่ยถามคนในบ้านที่เข้ามารับของที่โซลถือมาไปเก็บที่ห้อง

“กลับมาแล้วค่ะ อยู่ที่ครัวแหนะค่ะ”

“ขอบใจ”

เมื่อได้คำตอบหนุ่มตัวโตก็เปลี่ยนทิศทางการเดินไปยังห้องครัวในทันที เสียงหัวเราะกับเสียงพูด
คุยของคนหลายคนดังแว่วมาให้ได้ยินขณะที่เดินเข้าไปใกล้ หนึ่งในนั้นก็คือเสียงของตาต้าเอง

“อย่าให้กระเด็นนะกาย”

เสียงตาต้าว่ากลั้วหัวเราะ

“พี่กายตำถูกพริกไหมเนี่ย เดี๋ยวครกก็แตกหรอก ฟังเสียงโขลกแล้วไม่น่ารอด”

ตามมาด้วยเสียงเด็กผู้หญิง และเสียงทุ้มห้าวของเด็กหนุ่มปิดท้ายการสนทนา

“ฮื้อ มาทำเองเลยไหมแก้ว”

ภายในครัวแก้วแลบลิ้นใส่พี่ชาย กายก็ได้แต่ฮึ่มฮั่มใส่กัน จนป้าพิศต้องบอกให้รีบโขลก
เครื่องแกงให้เสร็จเพราะกำลังจะตั้งกะทะผัดเครื่องแกงแล้ว โซลที่เพิ่งก้าวเข้ามาในครัวมอง
ความวุ่นวายเล็กๆนั้นแล้วเอ่ยถาม

“ทำอะไรกันอยู่น่ะตาต้า”

“พี่โซล”

ตาต้าที่กำลังเด็ดใบโหระพากับสะระแหน่เงยหน้าขึ้นมามองพี่ โซลเลยเดินเข้าไปใกล้น้องเพื่อ
จะดูว่าน้องกำลังทำอะไร เห็นมีผักตั้งหลายอย่าง กายที่นั่งใกล้ตาต้าเลยขยับออกมาให้โซลได้
นั่งแทนที่ตนเอง

“วันนี้ต้าไปที่บ้านกายมา ยายของกายทำอาหารพื้นเมืองให้ต้าทานด้วย ชื่ออะไรนะกาย?”

ตาต้าหันไปถามเพื่อนใหม่ที่กำลังตักเครื่องแกงออกจากครกให้ป้าพิศไปผัดต่อ

“แกงโฮ๊ะ”

“แกง~ โฮ๊ะ!”

ตาต้าเลียนเสียงพูดของกายแล้วหัวเราะ ทำให้กายกับแก้วหัวเราะตามไปด้วย เพราะตาต้าพูดคำ
ว่าแกงโฮ๊ะนี่มาหลายรอบแล้ว ตั้งแต่ที่บ้านของกาย

“มันอร่อยดีอ่ะ ต้าเลยว่าจะให้ป้าพิศทำให้กินอีก เลยจะมาดูวิธีทำด้วย พออยู่กรุงเทพฯแล้วแม่ก็
ไม่ค่อยได้ทำอาหารพวกนี้ให้ทานเท่าไหร่ จะมีก็พวกน้ำพริก แต่ส่วนใหญ่ซื้ออาหารปรุงสำเร็จ
มากกว่า รสชาติไม่เหมือนกับที่ต้าทานวันนี้เลย”

ตาต้าขยายความให้พี่ฟัง ก่อนจะลุกไปล้างมือข้างๆกาย โซลมองตามคนเป็นน้องที่สนิทสนมกับ
หนุ่มกายมากเป็นพิเศษ เข้าใจได้ว่าเป็นเพราะช่วงอายุที่ไล่เลี่ยกันทำให้ตาต้าสนิทกับกายได้เร็ว
แต่พอนึกถึงที่น้องบอกว่าจะจีบหนุ่ม ถึงแม้จะบอกกับตนเองว่าน้องก็แค่ล้อเล่น แต่มันก็อดคิด
ไม่ได้ว่าถ้าน้องพูดจริง แล้วน้องจะจีบใครกัน

ตาต้าที่ล้างมือเสร็จแล้ว เดินเข้าไปดูป้าพิศผัดพริกแกงกับเนื้อสัตว์ที่เตรียมเอาไว้โดยมีกายมา
ยืนดูข้างๆ จนกรรมวิธีทุกอย่างเสร็จสิ้น ป้าพิศจึงให้เด็กๆได้ชิมรส

“ตาต้า ระวังร้อนนะ”

หนุ่มกายเอ่ยเตือนเมื่อเห็นว่าเพื่อนจะส่งน้ำแกงที่ร้อนควันฉุยเข้าปากโดยไม่ได้เป่าก่อน ตาต้าถึง
ได้หัวเราะแล้วเป่าลมไล่ความร้อนนิดหน่อยก่อนชิม โซลจ้องทุกการกระทำของเด็กทั้งสองเขม็ง
จนกายรู้สึกได้ถึงสายตามาคุ

กายหันกลับมามองด้านหลังที่โซลนั่งอยู่ สีหน้าแหยได้ที่ ก่อนจะอ้อมแอ้มบอก เพราะคิดว่า
ตนเองตีสนิทกับน้องชายนายมากไป นายคงไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่

“เอ่อ… ตาต้าเขาให้เรียกชื่อน่ะครับ”

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร”

โซลว่าเสียงเรียบ แต่คนฟังถึงกับกลืนน้ำลาย ท่าจะอยู่นานกว่านี้คงไม่แค่ว่า เพราะสายตาเริ่มไม่
พอใจแล้ว

“ตาต้า”

“หือ?”

ตาต้าเลิกคิ้วมองเหมือนจะถามว่ามีอะไร

“เราว่าเรากับน้องกลับก่อนดีกว่า”

“อ้าว”

หนุ่มน้อยร้องเบาๆ เห็นท่าทางเหงื่อแตกของเพื่อนแล้วก็ไม่ได้ขัด เดินออกมาส่งหน้าโรงครัว
กายยกมือไหว้คนหน้าเข้มที่ตามออกมาด้วย ก่อนจะโบกมือลาตาต้าอีกที

“เจอกันพรุ่งนี้”

“อืม เจอกันพรุ่งนี้”

พอเพื่อนขึ้นจักรยานปั่นออกไปแล้ว ตาต้าจึงพูดกับคนที่ยังยืนเป็นหลักอยู่ด้านหลัง

“พี่โซลน่ะ มายืนทำหน้ายักษ์อยู่แบบนี้คนเขาก็กลัวแย่สิ เห็นไหมกลับบ้านไปเลย”

“ให้เรียกกลับมาดีไหมล่ะ”

โซลประชดเสียงห้วน จนตาต้ารู้สึกฉุนปนงง

“ทำไมต้องทำเสียงแบบนี้ด้วย”

หนุ่มน้อยขมวดคิ้วใส่น้ำเสียงห้วนสั้นที่พี่ใช้กับตนเอง โซลมองตาใสๆที่เริ่มขุ่นแล้วยิ่งอารมณ์ไม่
ดี ทีเมื่อครู่อยู่กับเพื่อนนี่ยิ้มแย้มเฮฮา เฮอะ! เห็นเพื่อนดีกว่าแล้วนี่

โซลเดินหงุดหงิดจากไปโดยไร้คำอธิบาย เรื่องแค่นี้เองเขากลับรู้สึกอะไรไปมากมายแล้ว ทั้งที่
มันไม่มีอะไรเสียด้วยซ้ำ แต่ก็ตัดความหงุดหงิดนี้ไปไม่ได้ จะโดนเด็กปั่นหัวไม่รู้ตัวแล้วโซล

“อะไรของเขา?”

ตาต้ามองตามคนขี้หงุดหงิดอย่างไม่เข้าใจ เลือดจะไปลมจะมาหรืออย่างไรกันถึงได้มาอารมณ์
เสียใส่เขาแบบนี้ ท่าทางจะเข้าวัยทองแล้วมั้งนี่


+++++++++++



ตกค่ำ หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อย นั่งย่อยกันสักพักตาต้าก็ไปส่งน้องจินนี่นอน โดยที่
ตลอดเวลาที่ทานข้าวกันมีเพียงจินนี่กับตาต้าที่คุยกันอยู่สองคน ส่วนคนเป็นพ่อของน้องหนูจินนี่
นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดจนคนที่ร่วมโต๊ะไม่อยากเสวนา

หลังจากส่งน้องนอนแล้วตาต้าก็กลับมานอนที่ห้องของตนเอง ถึงจะอยากนอนห้องจินนี่มากกว่า
แต่มันก็ไม่สะดวกใจที่จะไปกวนน้องทุกวันแบบนั้น ตาต้าจึงต้องทำใจกล้ามานอนที่ห้องที่พี่จัด
ไว้ให้

กลับเข้าห้องตนเองแล้วสิ่งที่ต้องทำคือโทรหาแม่ รายงานทุกข์สุขให้แม่ทราบ มีคุยกับพี่ชาย
บ้างเป็นบางวันเมื่อพี่ชายอยู่กับแม่ด้วย หลังจากวางโทรศัพท์ไม่นานประตูห้องก็ถูกเคาะ ตาต้า
เก็บมือถือก่อนจะเดินไปเปิดประตู

โซลที่คิดวกวนอยู่แต่กับเรื่องเมื่อกลางวันจนปัดออกจากหัวไม่ได้ จึงต้องมาหาน้องในตอนนี้
ตาต้ายังยืนนิ่งอยู่หน้าประตูจนโซลต้องเอ่ยปาก

“ขอพี่เข้าไปได้ไหม?”

“อ๋อ! เอ่อ… ครับ”

ตาต้าเบี่ยงกายหลีกทางให้พี่เข้ามา ก่อนจะปิดประตูลง

โซลถือวิสาสะเดินไปเปิดประตูระเบียง แล้วออกไปยืนเท้าแขนมองบรรยากาศยามค่ำคืนที่นอก
ระเบียงห้องของตาต้า ตาต้าเดินตามออกไปยืนข้างๆ ไม่มีคำพูดใดจากปากพี่ นอกจากเสียง
แมลงกลางคืนที่ดังอยู่รายรอบ โซลถอนหายใจก่อนจะหันหน้ามามองน้องอย่างจริงจัง

“ที่ว่าจะจีบหนุ่มนี่ หมายถึงกายเหรอ?”

โซลกลั้นใจถามออกไปอย่างใจคิด ตาต้ามองพี่ตาโตกับคำถามนั้น ก่อนจะหัวเราะเบาๆ

“ทำไมพี่โซลถึงคิดว่าต้าจะหมายถึงกาย?”

“ถ้างั้นก็ชิน”

เมื่อคนแรกมีแววว่าจะไม่ใช่ โซลจึงเริ่มเดาสุ่ม โยงไปหาชินที่ตาต้าเพิ่งเจอวันนี้เสียอย่างนั้น

“ไปกันใหญ่แล้วพี่โซล กลายเป็นว่าใครที่อยู่รอบตัวต้าน่าสงสัยไปหมดแล้วเนี่ย”

ตาต้ายิ่งฟังยิ่งมึนตามคนเป็นพี่ เดาสุ่มแบบนี้มันจะถูกไหมล่ะนั่น คนที่ใช่ก็ดันไม่นึกถึงเสียอีก

“ถ้าอย่างนั้นแล้วใครล่ะ?” โซลกอดอก หน้าเริ่มเครียด

“พี่โซลไม่รู้จริงๆน่ะ?”

ตาต้าเอียงคอมองคนหน้าเครียด คิดไปถึงไหนแล้วน่ะ

“เรานี่ยังไงนะ ถ้าพี่รู้แล้วพี่จะถามไหม หื้ม”

“งื้อ พี่โซลอ่า ต้าเจ็บนะ!”

ตาต้าดึงมือพี่ที่บีบจมูกตัวเองออก แต่คนเป็นพี่ก็ยังเล่นไม่เลิก หนุ่มน้อยเลยสะบัดหน้าไปมาจน
มึนเสียเอง โซลปล่อยมือแล้วหัวเราะน้องที่ทำเป็นเวียนหัวจนเกินจริง ก่อนจะชะงักเมื่อสบตา
กลมโตนั้นเข้าเต็มเปา ตาต้ามองตอบสายตาพี่ไม่หลบ ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด ปากอิ่มเอ่ยบอก
เสียงแผ่ว

“นี่ไงล่ะ”

“หือ?”

โซลเลิกคิ้วเป็นเชิงถามกับสิ่งที่น้องพูด

“คำตอบที่พี่โซลอยากได้”

ตาต้าคว้ามือพี่มา โซลมองการกระทำนั้นงงๆ ก่อนที่ตาต้าจะเลื่อนมือหนามาที่อกข้างซ้ายของ
ตนเอง ดวงตากลมโตมองตาพี่ไม่ละไปไหน

“พี่โซลรู้สึกไหมว่าหัวใจต้ามันเต้นแรงกว่าปรกติ”

“…………..”

“มันไม่ได้เป็นแบบนี้กับกายหรือพี่ชิน”

“……………”

“แต่ที่มันเป็นแบบนี้ เพราะ… พี่โซลคนเดียว”

“ตาต้า นี่…”

โซลถึงกับนิ่งไป ในใจกระตุกกับคำพูดน้อง คนๆนั้นคือเขาหรือ คนที่น้องบอกว่าจะจีบนั่น
หมายถึงเขาเองหรือ แววตากลมมีแต่ความมุ่งมั่นและมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยมจนโซลแอบหวั่นใจ

แต่ความจริงที่ได้รู้นี้มันนำพาความรู้สึกแปลกประหลาดปนเปมาให้โซล มันมีทั้งความลิงโลดเมื่อ
รู้ว่าคนที่น้องชอบคือตนเอง แต่ในขณะเดียวกันก็มีความกังวลปนมาด้วย แต่โซลก็เลือกที่จะ
หยุดความนึกคิดที่แสนสับสนทุกสิ่งอย่าง เมื่อใบหน้าเนียนใสของอีกคนขยับเข้ามาใกล้ ใกล้จน
ความกังวลใจนั้นปลิวหาย หลงเหลือเพียงความล่องลอยและหลงไหล ปล่อยตัวปล่อยใจไป
ตามแต่ที่มันควรจะเป็น แตะสัมผัสกลีบปากอิ่มที่เผยอน้อยๆเหมือนรอคอย บดคลึงเชื่องช้าแต่
ร้อนแรง มือหนารั้งร่างเพรียวให้เข้ามาแนบชิดสนิทแน่นยิ่งกว่าเก่า หัวหมุนกับการเย้าหยอกของ
ลิ้นเล็กที่หลอกล่อให้เขาตามติด ในหูคล้ายได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอเบาๆ แต่โซลก็ไม่ได้ให้
ความสนใจมากไปกว่าความหวานหอมที่ได้รับจากน้องชายที่น่ารักนี้ เอ่ยกระซิบชิดริมฝีปากน้อง
เสียงพร่า

“ตาต้าหยุดพี่ที ห้ามพี่หน่อยคนดี”

ถึงจะพูดไปแบบนั้น แต่ปากก็ยังตามดูดชิมความหวานอยู่ไม่คลาย มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขา ทั้ง
ที่อายุก็ขนาดนี้แล้ว ไม่ใช่วัยรุ่นที่เพิ่งริจะลองรัก แต่กลับควบคุมตัวเองได้ยากเหลือเกินเมื่ออยู่
ใกล้คนนี้


‘ตาต้า พี่กำลังจะแย่แล้ว ช่วยหยุดความรู้สึกนี้ที’



TBC



•   พี่โซลไวไฟ ฮา รีบดึงน้องตาต้าออกมาอย่างไว >///<

•   ลองจัดหน้าใหม่ดู คลิกกันกระจาย ใช้แบบเดิมดีกว่าเนอะ

•   ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ :กอด1:

•   บวกให้ทุกบวกค่า :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 19:48:52 โดย wanmai »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
พี่โชลไปบอกตาต้าแบบนั้น  ตาต้ามีแต่เดินหน้าอ่ะ
จะหยุดให้เสียประโยชน์ทำม้ายยย

ออฟไลน์ Pigstar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านตอนท้ายๆแล้วแบบว่า...
 :z1: :z1:
ไม่รอดแล้วพี่โซล พี่หลงต้าเข้าซะแล้ว
อาการโคม่าเลยด้วยล่ะ 55+

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
พี่โซลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลเอาจริงอ่ะ !!!!!!!!

 :z1:


ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
 :haun4: :haun4: :haun4:
พี่โซลไปไหนไม่รอดแล้ว

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :-[
ตอนนี้น่ารักอ้า มดกัดเราแล้วเนี่ย
ดีใจกับตาต้าด้วยนะจ้ะ
แบบนี้พี่โซลไม่รอดแล้วล่ะ
อิหรอบนี้ไม่มีใครหยุดใครแล้วย่ะพี่โซล
จงรักตาต้าซะดีๆ
 :z1:
ตอนนี้กริ๊บกริ้วมาก แจก + กันเลยจ้า
 :m3:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
พี่โซลลลลลลลลลล
ไปไหนไม่รอดแล้ว :z1:

บวกเป็ด

ออฟไลน์ MooJi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 190
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-0
ชอบม๊ากอ่า
ตาต้าน่ารักม๊ากกกกกก
แบบนี้พี่โซลจะอดใจไหวได้ยังไง
เอาให้พี่โซลหลงหัวปักหัวปำถอนตัวไม่ขึ้นเลยน๊าตาต้าที่น่ารัก
^^

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6
โอ๊ย เขินแทนต้าร์กับพี่โซล :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pakbung Mazo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-3
  พี่โซลรู้แล้วว่าเป็นตัวเอง คิกคิก จูบ(จริงๆ)แล้วด้วยยยยยยย ><! พี่โซลก็ไม่ค่อยเลยนะ! อ๊ายยยยยย ชอบบบบ
  แอบตามมาจาก อาร์ต-ฟิว & เวย์-ข้าว คิคิ~
+1 ค๊า

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ไอ้พี่โซลลลลลลจะหยุดทำม้ายยยยยย 555

ออฟไลน์ love2y

  • (′~‵)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2059
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-11
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้เหมือนกัน อ่านรวดเดียวยาวเลย ดีนะ จำนวนตอนยังน้อย >_<

ออฟไลน์ wanmai

  • ★รักใสปิ๊ง★(>_<)
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 936
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1195/-5
It’s Real เดี๋ยวรักเลย

ตอนที่ ๖ อยากรักก็รักเลย



ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา โซลแทบจะห้ามใจตนเองไว้ไม่อยู่ อยากจะให้น้องช่วยห้ามปรามความรู้สึก
ที่เกิดขึ้นก็ดูท่าว่าจะไม่ให้ความร่วมมือกันสักนิด คนเป็นพี่ก็ไม่อยากปล่อยจนแทบจะเลยเถิด ยัง
ดีหน่อยที่นุ่นมาเคาะห้องตาต้าเพื่อเอานมอุ่นๆมาให้น้องก่อนนอนดังเช่นทุกคืน ไม่เช่นนั้นแล้ว
โซลแทบไม่อยากจะคิดว่ามันจะเลยเถิดไปไกลแค่ไหน เขาแปลกไปเพียงแค่ได้อยู่ใกล้น้อง มัน
เพราะอะไร หรือเพราะเขาเป็นพวกมักมากเองหรืออย่างไรกัน ทางที่ดีเขาควรอยู่ห่างตาต้าเอาไว้
ก่อน เพื่อความปลอดภัยของน้องเอง แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ

“พี่โซล นี่มันการ์ดเชิญอะไรอ่ะ สวยจัง”

ตาต้าที่ตอนนี้กำลังถือการ์ดที่ว่าไว้ในมือยื่นหน้าเข้ามาถามพี่ที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ตั้งแต่เขาเดินเข้ามาในห้องทำงานที่สำนักงานของพี่แล้ว งานยุ่งมากหรืออย่างไรกัน

โซลที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดน้องได้จำเป็นต้องละสายตาจากเอกสารงานตรงหน้า
ขึ้นมามองการ์ดในมือน้อง แต่เพราะมันใกล้เกินไปทำให้เขาต้องหลบสายตาวูบ ตาต้าเลิกคิ้ว
แปลกใจเล็กๆ แต่ก็ไม่ได้ติดใจไถ่ถาม เมื่อพี่หันกลับมาบอกเสียงเรียบเป็นปรกติ

“การ์ดเชิญงานเลี้ยงบ้านท่านผู้ว่าฯน่ะ อีกสองสามวันมั้ง?”

โซลตอบเหมือนไม่ได้ใส่ใจ แล้วกลับไปวุ่นอยู่กับกองเอกสารต่อ ไม่อยากสบตาใสๆนั่นเท่าไหร่
ใจไม่แข็งพอ

วันนี้ตาต้าขอมาที่สำนักงานด้วย เพราะมีนัดกับชินเรื่องสตรอเบอร์รี่ที่น้องปลูกกับจินนี่ลูกสาว
ของเขานั่นล่ะ ตอนนี้จินนี่ไปเล่นบ้านเพื่อนตามประสากับพี่นุ่น ชวนพี่ชายแล้วแต่พี่บอกว่าจะไป
กับคุณพ่อ หนูน้อยจึงไปบ้านเพื่อนกับพี่นุ่นกันสองคน

ตาต้ามองความวุ่นวายของพี่อย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดไปในแง่ไม่ดี เพราะงานในไร่ที่ใหญ่โต
ขนาดนี้พี่ต้องดูแลคนเดียวคงยุ่งมาก รออยู่ไม่นานชินก็มาที่สำนักงานและเรียกตาต้าไปที่โรง
เพาะด้วยกัน ตาต้าจึงขออนุญาตรวบยอดไปถึงการไปเที่ยวเล่นกับกายหลังจากนี้ด้วย โซลก็
พยักหน้าอนุญาตให้ไป แต่ก็กำหนดเวลากลับให้น้องเสร็จสรรพ ไม่ให้ไปเถลไถลที่ไหนอีก

ตาต้ากับชินเดินคุยกันออกจากสำนักงานไปแล้วโซลถึงได้ถอนหายใจอย่างอัดอั้น เมื่อครู่
ท่าทางน้องจะเริ่มสงสัย แต่จะทำอย่างไรได้ พี่หวังดีกับตาต้านะ ได้แค่เพียงบอกย้ำกับตนเองใน
ใจแบบนั้น ทั้งที่ไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ที่ทำอยู่… เพื่อใครกันแน่


++++++++++


ตาต้าที่เดินออกมาด้านนอกสวนกับไตรภพจึงไหว้ทักทายนายตำรวจหนุ่ม ไตรภพพูดคุยทักทาย
กับเด็กหนุ่มและชินเล็กน้อยก่อนจะขอตัวเข้าไปหาเพื่อนในสำนักงาน ตาต้ามองตามนายตำรวจ
เพื่อนพี่โซลด้วยความรู้สึกตงิดๆในใจ พักนี้พี่ผู้กองไต๋มาบ่อยจัง ปรกติก่อนหน้านี้เขามาบ่อย
แบบนี้หรือเปล่านะ เด็กหนุ่มส่ายศีรษะเบาๆไล่ความคิดแปลกๆของตนเอง ก็แค่เพื่อนมาเจอ
เพื่อนไม่เห็นมีอะไรแปลกเลย

ไตรภพเดินเข้ามาในห้องทำงานของโซลอย่างถือวิสาสะ ว่าจะเคาะประตูเรียก แต่เห็นว่าเพื่อน
นั่งเหม่อจึงเดินเข้าไปหา ก่อนจะเรียกสติคนเหม่อลอยให้กลับเข้าร่าง

“โซล… โซล!”

“อะไรวะ… อ้าว? ไต๋”

โซลสะดุ้งตอบรับคำเพื่อนงงๆ ไตรภพมองเพื่อนอย่างแปลกใจ นี่ไม่ได้รู้ตัวเลยหรือว่าเขาเดิน
เข้ามา ถ้าเป็นโจรมาปล้นมันคงเอาทรัพย์สินไปหมดเกลี้ยงแล้วล่ะป่านนี้

“เป็นอะไรของมึงวะ?”

“เปล่า ว่าแต่มึงมาไร่กูบ่อยๆแบบนี้เดี๋ยวคนในไร่กูก็สงสัยเอาหรอก”

โซลบอกปฏิเสธ ก่อนเบี่ยงประเด็นไปที่การเข้านอกออกในไร่ตนเองของนายตำรวจหนุ่ม ไตร
ภพขยับลงนั่งที่เก้าอี้ยาวที่เป็นส่วนนั่งพักผ่อนภายในห้อง ก่อนจะได้ตอบโต้อะไร พิมพิกาก็เอา
น้ำมาเสิร์ฟ ไตรภพเอ่ยขอบคุณ ก่อนพิมพิกาจะเดินออกไป

“อะไรวะ มีตำรวจมาคอยตรวจสอบดูแลความเรียบร้อยให้ มันไม่ดีหรือไง?”

ถามกวนเหมือนไม่เข้าใจ โซลมองเพื่อนด้วยหางตาแล้วส่ายหน้า

“ขอบใจที่มึงเป็นห่วง”

นายตำรวจหนุ่มเพียงหัวเราะหึหึตอบรับคำขอบใจนั้น เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เพื่อนสนิทหยุด
คุยกันแล้วหันไปทางต้นเสียง ดินผลักประตูเข้ามาด้านในก่อนจะชะงักเล็กๆเมื่อเห็นว่าเจ้านายมี
แขก เอาเอกสารงานมาวางให้โซลที่โต๊ะ ทำเป็นมองไม่เห็นคนที่นั่งร่วมห้องในตอนนี้

อยู่อธิบายรายละเอียดเรื่องผลประกอบการและอื่นๆสักพักดินก็ขอตัวไปตรวจงานในไร่ต่อ
สายตาคมของนายตำรวจหนุ่มมองตามจนคนหน้าเข้มลับสายตาไป

“กูเตือนมึงหลายทีแล้ว”

โซลพูดเหมือนแค่เปรยกับเพื่อนไปอย่างนั้น แต่ที่จริงก็รู้กันอยู่ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร

“มึงอย่าเตือนเลยว่ะ เสียน้ำลายเปล่า เพราะยังไงคนนี้กูก็ให้ไม่ได้”

ไตรภพว่าสีหน้ากวนๆ โซลหรี่ตามองเพื่อน ก่อนจะถาม

“ติดใจอะไรมันนักหนา”

“หึ ไม่รู้สิ เจอแล้วมันคลิกมั้ง”

“แค่นี้น่ะ?”

โซลทำหน้าเหมือนไม่เชื่อ แค่เจอแล้วคลิก แค่นี้เองหรือที่ทำให้เพื่อนเขาตามตอแยคนที่ไม่
สนใจตนเองอยู่แบบนี้ แถมลูกน้องเขาก็ใช่ว่าจะมีท่าทีหรืออะไรที่แสดงว่าเป็นแบบนั้นเสียด้วย
แล้วมันจะไปคลิกกันตอนไหนล่ะนี่

“ทำไมต้องมีเหตุผลอะไรให้มากความวะ ถ้ามึงจะรู้สึกว่าใครสักคนคือคนที่ใช่สำหรับมึง มึงเอา
มาตรฐานอะไรมาวัดว่าคนนี้ใช่ ส่วนคนนี้ไม่ใช่”

พอโดนถามอย่างนั้นคนฟังก็นิ่งไปบ้าง นั่นสิ อะไรคือมาตรฐานที่จะมาใช้วัดความรู้สึกของคนเรา

“ความรัก มันก็แค่นี้”

“ง่ายไปไหม?”

ไตรภพยักไหล่ไม่ใส่ใจคำประชดเพื่อน โซลมองท่าทีสบายๆของเพื่อนแล้วก็เริ่มคิดตาม หรือ
ตาต้าจะเป็นคนที่ใช่สำหรับเขา แต่… ทำไมเขาต้องมีคำว่าแต่ตลอดเลยนะ หรือนั่นอาจเป็น
เพราะตาต้าคือน้องชาย คือลูกชายของเพื่อนสนิทมารดา เขาจึงต้องคอยระวังทุกย่างก้าวไม่ให้
ก้าวล้ำเข้าไปในเขตที่จะถอยกลับมาไม่ได้อีกอยู่เสมอแบบนี้ ถ้าเพียงแค่ตัดเรื่องความเกี่ยวโยง
ระหว่างเขากับน้องออก แล้วถามหัวใจตนเองดูใหม่ แน่ล่ะว่าคำตอบไม่ต้องคาดเดาก็รู้แล้วว่า
โซลจะตอบกับตนเองว่าอย่างไร



++++++++++++



แม้ในใจโซลอยากจะคิดอย่างนั้น แต่มันก็ยังกังวล กังวลกับหนทางข้างหน้า กังวลกับอนาคต
ของน้อง กังวลกับความไม่จีรังของคำว่ารักอย่างที่เขาเคยเจอมา กังวลไปสารพัด จนทำให้เขา
เริ่มจะห่างน้องมากขึ้นไม่รู้ตัว

เพราะฉะนั้นเวลาค่ำคืนเช่นในตอนนี้โซลจึงยังคงอยู่ที่สำนักงานดังเช่นหลายวันที่ผ่านมา งาน
เขาไม่ได้เร่งสักเท่าไหร่ มาทำต่อในวันพรุ่งนี้ก็ได้ แต่เพราะการเผชิญหน้าเด็กหน้าใสเป็นสิ่งที่
เขาเริ่มจะรู้สึกตัว ว่าความรู้สึกของตัวเขามันเกินเลยกว่าความเป็นพี่น้องอย่างที่เขาเคยคิดเอาไว้
มันจะเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหนโซลไม่อยากรู้ แต่ที่รู้แน่ๆคือต้องหยุดมัน ก่อนที่มันจะทำร้ายน้องไป
มากกว่านี้

ขณะที่โซลยังจมอยู่กับความคิดของตนเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะความนึกคิด ชาย
หนุ่มขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ มองนาฬิกาบนผนังก็บ่งบอกเวลาดึกมากแล้ว พนักงานที่นี่ก็
กลับไปจนหมด แล้วใครกันล่ะที่มาที่นี่ในตอนนี้ หรือว่าจะเป็นพี่ยามหน้าสำนักงาน ไม่น่าใช่ หรือ
ว่า… โซลโคลงศีรษะเบาๆเมื่อนึกไปถึงว่าคนที่มาอาจจะเป็นน้องชายที่น่ารักของเขา จะเป็นไป
ได้อย่างไรกัน ก็ตาต้ากลัวผียิ่งกว่าอะไร คงกล้าเดินมาที่นี่ในเวลาแบบนี้หรอกนะ

แต่เมื่อโซลเดินเข้าไปใกล้ประตูที่มีช่องกระจกยาวให้มองเห็นด้านนอกได้ก็แทบจะกระชากประตู
เปิดในทันที

“ตาต้า มาที่นี่ได้ยังไง?”

โซลถามเสียงดังเมื่อเปิดประตูออกมาแล้ว ตกใจที่เห็นน้องอยู่ที่นี่ มืดค่ำขนาดนี้กล้าเดินมาคน
เดียวได้ยังไง

“ต้าให้พี่ดินพามา”

ตาต้าตอบเสียงค่อยยังไม่เงยหน้ามองพี่ โซลไม่ได้เอะใจกับท่าทางของน้องที่ก้มหน้าตั้งแต่ทีแรก

“แล้วนี่ ดินไปไหนแล้ว?”

เหลือบมองหาคนที่พาน้องมาก็ไม่เห็นวี่แวว มีก็แต่ยามที่เฝ้าอยู่หน้าสำนักงานเท่านั้น

“ต้าให้พี่เขากลับไปก่อน”

“ตาต้าพูดกับพี่มองหน้าพี่ด้วยสิ”

เมื่อเริ่มสังเกตว่าน้องเอาแต่ก้มหน้าโซลจึงต้องบอก แต่เด็กดื้อก็ยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองอยู่
ดี นอกจากจะส่งคำพูดกระแทกใจมาให้

“ที่พี่โซลต้องมานอนที่นี่ทุกคืนเพราะต้าเหรอ ต้าทำให้พี่ลำบากใจใช่ไหม?”

โซลนิ่งอึ้งกับคำถาม ที่จริงจะว่าเป็นเพราะตาต้าทั้งหมดก็ไม่ถูก เพราะเขาเองต่างหากที่เป็น
เหตุผลหลัก เพราะกลัวใจตัวเองจะถลำลึก จนพลอยทำให้น้องต้องมัวหมองไปด้วย

“ไม่ใช่หรอกตาต้า”

“ใช่สิ ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆเลย”

โซลถอนหายใจอย่างหนักอก จับมือคนที่เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นให้เดินตามตนเองเข้าไปในห้อง
ทำงาน เมื่อเข้ามาแล้วพาน้องไปนั่งที่เก้าอี้รับแขกจึงเปิดประเด็นที่ค้างไว้เมื่อครู่ต่อ

“ตาต้า เรายังเด็กมากนะ ยังต้องเจอสังคมใหม่ๆ ยังมีอะไรอีกเยอะที่ตาต้าจะต้องได้เรียนรู้ ต่อไป
เมื่อตาต้าโตขึ้น เราก็จะรู้ว่าสิ่งที่เราคิดกับพี่ เราก็แค่คิดไปเองว่ามันเป็นแบบนั้น…”

“อย่าดูถูกความรักของต้า พี่โซลไม่รู้ด้วยซ้ำว่าก่อนมาที่นี่ต้าเป็นยังไง ดังนั้นพี่โซลไม่มีสิทธิ์มา
ตัดสินว่าต้าไม่ได้รักพี่โซล”

เป็นครั้งแรกที่ตาต้าเงยหน้าขึ้นมามองพี่ตรงๆอย่างที่พี่ต้องการ แต่นั่นมันกลับทำให้โซลรู้สึกว่า
ตนเองคิดผิดที่อยากให้น้องเงยหน้ามาพูดกัน ทั้งสายตาตัดพ้อต่อว่า และน้ำเสียงที่เครือไม่แพ้
กันทำให้เขารู้สึกเจ็บไปทั้งใจ

“แค่บอกมาว่าพี่ไม่รัก แค่นี้ แล้วต้าจะไป แค่บอกมาว่าไม่รักต้า”

ตาต้ามองหน้าพี่ น้ำเสียงคาดคั้นอยากได้คำตอบ เขาจะทนมันไม่ไหวแล้ว ทำไมพี่ต้องทำกับ
เขาแบบนี้ด้วย ถ้ารังเกียจกันก็บอกมาสิ อย่าหนีหน้ากันแบบนี้ มันเจ็บเสียยิ่งกว่าการโดนปฏิเสธ
เสียอีก

“อย่าบังคับพี่ตาต้า!”

โซลบอกเสียงดังเพราะเริ่มจะควบคุมตัวเองไม่ได้ แค่เห็นแววตาตัดพ้อนั้นเขาก็แทบอยากจะลืม
มันให้หมดสิ้น ทั้งความเหมาะสมและอะไรทั้งหมดที่เขายกมากล่าวอ้างกับตนเอง

“ต้าแค่อยากได้ยินให้แน่ใจ บอกต้าหน่อยพี่โซล”

ตาต้ายังคงยืนยันคำเดิม แค่บอกมาคำเดียว เขาก็จะไม่อยู่กวนใจพี่แล้ว มันยากอะไรนักทำไมพี่
ไม่ยอมพูด

“พี่ว่าเราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลยนะ กลับบ้านไปก่อนไปตาต้า เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”

โซลว่าตัดบทจะคว้าแขนน้องให้ลุกขึ้นยืน แต่ตาต้าถกแขนกลับไม่ยอมให้พี่จับ ก่อนจะลุกเอง
และก้าวถอยห่างจากมือพี่ที่ยกค้าง

“ตาต้าอย่าดื้อ”

โซลเริ่มใช้น้ำเสียงดุ ยิ่งเห็นว่าน้องดื้อกับตนเองอารมณ์ยิ่งขุ่นมัว ตาต้าก้าวถอยหลังไปอีกสอง
ก้าว ก่อนจะบอกพี่ทั้งน้ำไม่สู้ดีนัก

“ต้ากลับได้ ขอบคุณสำหรับความเงียบ”

“ตาต้า…”

โซลแทบจะครางเรียกชื่อน้อง ดวงตากลมโตที่มองมาที่เขายังมีแววต่อว่า หัวใจเขาบีบรัดจนเจ็บ
ไปหมดแล้วตอนนี้ ยิ่งเห็นน้องกำลังจะก้าวเดินผ่านไป โซลยิ่งเจ็บในอก ทั้งที่คิดว่าตนเองทำถูก
แล้ว แต่ ณ ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่ามันผิดพลาดไปหมด แค่เห็นว่าน้องกำลังเสียใจ เขาก็แทบจะ
ขาดใจให้ได้

ร่างเพรียวกำลังจะก้าวจากไป แต่มือของอีกคนที่ยืนนิ่งอยู่ก็คว้าต้นแขนเรียวเอาไว้ และนิ่งอยู่
แบบนั้น ไม่มีใครหันกลับไปมองใครก่อน ตาต้าจะบิดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม แต่คนเป็นพี่ก็
จับแน่นเข้าจนเริ่มเจ็บ ตาต้าจึงต้องหันกลับมาแกะมือกาวออกจากแขนตนเอง ทั้งแกะทั้งทุบแต่
อีกคนก็ไม่สะเทือน ซ้ำยังกระตุกให้ร่างผอมเพรียวนั้นเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนเสียอีก

ตาต้ายืนนิ่งเมื่อถูกพี่กอด ทั้งสับสนและไม่เข้าใจ

“จะให้พี่ทำยังไงตาต้า”

โซลเอ่ยถามเหมือนหาทางออกให้ตนเองไม่ได้ กระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นไปอีก เมื่ออีกคนจะดัน
ตัวเขาออกห่าง

“พี่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นล่ะ ต้าจะไปเอง”

“ไม่เอา พี่ไม่ให้ไปไหนหรอก ทำให้พี่วุ่นวายขนาดนี้แล้วจะหนีไปง่ายๆหรือไง”

“ก็พี่โซลไม่รักต้า”

เสียงน้องยังพ้ออย่างน้อยใจและเสียใจ โซลลูบแผ่นหลังน้องอย่างต้องการปลอบประโลม แล้ว
พูดกับน้องในเรื่องที่ตนเองหนักใจ

“เด็กดื้อ รู้หรือเปล่าว่าหนทางข้างหน้ามันจะมีอุปสรรคมากแค่ไหนกับการที่เราจะรักกันแบบนี้”

“ต้าไม่เห็นสนใจ”

คนเป็นน้องตอบกลับมาเร็วไวเหมือนไม่ต้องคิด โซลทอดถอนใจอีกครั้งกับคำตอบ ดูยังไงตาต้า
ก็ยังเด็ก เด็กมากๆเลยด้วย

“พี่ถึงได้บอกไงว่าตาต้ายังเด็ก ตอนนี้ตาต้าอาจจะยังไม่คิดอะไร แต่ต่อไปมันไม่ง่ายหรอกนะ”

โซลยังเตือนให้น้องได้คิดพิจารณาใหม่ แต่คนในอ้อมแขนกลับยกเรียวแขนขึ้นกอดตอบ และ
กล่าวอ้างอย่างต้องการให้ความมั่นใจเสียอีก

“ต้ามั่นใจนะว่า ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนต้าก็ยังจะรักพี่โซลอยู่ พี่โซลอาจจะคิดว่าต้าคิดอะไร
แบบเด็กๆ อาจจะมองว่าต้ายังไม่โตพอที่จะตัดสินใจอะไรได้เอง หรืออะไรอีกมากมายก็แล้วแต่
แต่ต้ามั่นใจนะว่า หัวใจของต้าไม่เคยหลอกใครแน่ๆ”

“เด็กน้อย”

ยิ่งได้ฟังน้องพูดยิ่งตอกย้ำความขี้ขลาดของตนเอง คนที่ตนเองคิดว่ายังเด็ก กลับยอมรับใน
ความรู้สึกตนเองได้ง่ายดาย แตกต่างกับผู้ใหญ่อย่างเขา ที่คิดนั่นนี่วุ่นวาย ทั้งที่ความจริงก็แค่หา
เกราะป้องกันหัวใจตัวเองเท่านั้น นี่หรือ ทัชธร อัครบดินทร์ ขี้ขลาดยิ่งกว่าใครในโลกนี้เสียอีก

“พี่โซล แค่วันนี้ไม่ได้เหรอ?”

“หือ?”

“แค่วันนี้ ที่พี่โซลจะรักต้าโดยไม่มีข้อแม้ ไม่ต้องมีคำว่าแต่”

ตาต้าเงยหน้าสบตาพี่ที่ก้มลงมาหา วอนขอทั้งน้ำเสียงและแววตาใส โซลนิ่งอย่างตัดสินใจอยู่
ชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยปากในสิ่งที่ตนเองได้คิดและตัดสินใจแล้ว

“ต่อไปยังต้องเผชิญอะไรอีกเยอะเลยนะเด็กดื้อ”

“ครับ แค่พี่โซลรักต้า ต่อให้ต้องเผชิญปัญหาอีกมากมายต้าก็จะสู้!”

ตาต้ายิ้มบอกอย่างใจคิด โซลมองตาใสๆกับคำพูดซื่อๆแล้วก็ต้องยอมรับแล้วล่ะว่า เขาไปไหน
ไม่รอดแล้วจริงๆ

“เฮ้อ พี่อยากเป็นเด็กอย่างตาต้าจัง จะได้ไม่ต้องคิดเยอะ คิดแค่ว่าวันนี้จะกินอะไร จะเที่ยวเล่นที่
ไหน”

“ไม่ใช่แค่นั้นสักหน่อย คิดว่าจะทำยังไงให้พี่โซลรักด้วย”

เด็กดื้อรีบแย้ง ยังไม่วายหยอดตอนท้ายเสียอีก โซลหรี่ตามองเด็กหน้าเป็นที่ยังกอดเขาแล้วยิ้ม
หวานๆส่งมาให้

“หยอดเข้าไปสินั่น แบบนี้ไม่ให้รักยังไงไหว ฮึ!”

บีบจมูกโด่งเบาๆ หนุ่มน้อยตาต้าก็ย่นจมูกใส่อย่างอารมณ์ดีกว่าเดิม ก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นไป
กระซิบบอกข้างหูพี่


“อยากรักก็รักสิครับ”




TBC




•   พี่โซล อยากรักก็รักเลยเซ่ ฮา :laugh:

•   ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามเรื่องนี้ค่า :L2:

•   บวกให้ทุกบวกเมื่อบวกได้ค่ะ :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-10-2012 19:50:11 โดย wanmai »

Tiamo_jamsai

  • บุคคลทั่วไป
 :L2:เปนกำลังใจจร้า อิอิ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อยากรักก็รักไปเลยซิ
ชอบจริงๆเลย :กอด1:

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ไม่รอด ไม่รอด
เสร็จตาต้าจนได้

ออฟไลน์ pare_140

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1192
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-6

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4514
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ทำไมตาพี่โซลจึงได้โชคดีที่มีตาต้ามารักฟ่ะเนี่ย 555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด