: ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: : ~SCAR~ : ตราบาปไร้รอยเลือน UPDATE!! ประกาศ re-printค่ะ [05/01/17]  (อ่าน 229031 ครั้ง)

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
รอฉันรอเธออยู่  :o12:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ป๊าดดด  เดฟ กับ น้องปัน
เดี๋ยวใครผ่านไปผ่านมา  นึกว่าโดนผีหลอกกันพอดี  :z1:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ตอนแรกก็จะแฮปปี้ดี๊ด๊าแล้ว ก็พี่เดฟกับน้องปันเขาหวานกันซะจนน้ำตาลยังจืดเกินไปเลย :o8:
แต่คำลงท้ายนั่นมันอะไรอะคะ...ดาวมาม่า คราวหน้าต้องเตรียมชามมาม่ากับตะเกียบคอยเหรอ :monkeysad:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
มาอ่านรวดทีเดียวเลย
เพราะว่นวายกับชีวิตมาก
พี่เดฟกับน้องปันหวานไปไหมมมมม
ไปฮันนีมูนกันอีกแล้ว เราก็อยากไปที่นี่นะ
อิจฉาๆ

ออฟไลน์ nimfadora

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 129
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ...โฮกกกกกกก
มีความรู้สึกว่า บทจะหวานก็มาเต็มที่ บทจะมาม่าก็มาม่าชามโต
แต่มันก็สนุก มากกกกกกกกกกกกกกกก  แอบชอบคู่ซายน์อัสซี่อ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ อ่านแล้วมีความสุขดี
คาใจอย่างนึง  ตั้งกะตอนต้นแล้ว พอดีเราลำดับความไม่ค่อยปราดเปรื่องเท่าไหร่ =_=
คือตกลง บ้านนี้รุ่นลูกมีสามหรือสี่คนกันอ่ะ  นัท ปัน เดฟ แค่สามคนใช่ไหม 
แล้ว คนัสนันท์นี่คือ? (เขียนถูกไหมนะ) เป็นใครอ่ะ  หรือว่าเราเข้าใจผิด เป็นนามสกุลของบ้านนี้
ที่บอกว่าให้ชยางกูรมาอยู่บ้านนี้ก็เพื่อคานอำนาจกัน กับใคร....นัทเหรอ แล้วคานอำนาจทำไม มีเรื่องอะไรที่ซับซ้อนเกินกว่านั้นไหม
หรือว่าคห.นี้มึน คิดมากไปเอง เอิ้กกกกก
เอาเป้นว่า เป้นกำลังใจให้คนแต่งต่อไป นะ

snice_cz

  • บุคคลทั่วไป
โอ่ยยย หวานไปแล้วนะ :)

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
Kagehana : หายหน้าไปนานเลย ขอโทษที่ให้รอนะคะ  ติดภารกิจไปล่องใต้กับครอบครัว คุณแม่ปิดเทอมเราเลยต้องหอบงานไปปั่นตอนเที่ยว(ลำบากดีแท้...) เพิ่งกลับมาเองค่ะ แฮ่

เอามาม่ามาอุ่นเครื่องให้คนอ่านกินกันนะ ^^


ตอบคำถามนิดนึงค่ะ แฮ่ ชื่ออีบ้านนี้มันคล้ายกันบ้าง คนอ่านอาจจะงงนิดหน่อย เราเองยังต้องเขียนแฟมิลี่ทรี ของบ้านนี้ไว้กันงงเลย


คาใจอย่างนึง  ตั้งกะตอนต้นแล้ว พอดีเราลำดับความไม่ค่อยปราดเปรื่องเท่าไหร่ =_=
คือตกลง บ้านนี้รุ่นลูกมีสามหรือสี่คนกันอ่ะ  นัท ปัน เดฟ แค่สามคนใช่ไหม 
แล้ว คนัสนันท์นี่คือ? (เขียนถูกไหมนะ) เป็นใครอ่ะ  หรือว่าเราเข้าใจผิด เป็นนามสกุลของบ้านนี้
ที่บอกว่าให้ชยางกูรมาอยู่บ้านนี้ก็เพื่อคานอำนาจกัน กับใคร....นัทเหรอ แล้วคานอำนาจทำไม มีเรื่องอะไรที่ซับซ้อนเกินกว่านั้นไหม


รุ่นล่าสุด(?)มีสี่คนค่ะ คือเดฟ นันท์(คณัสนันท์ ที่ไม่ค่อยมีบท ฮ่าๆ) นัท ปันค่ะ

เรียงลำดับให้คร่าวๆกันงงเนอะ เพราะเดี๋ยวอีกสองสามตอนต่อไปจะเป็นเรื่องรุ่นพ่ออาจจะงงกัน จริงๆอยากวาดเป็นแผนภูมิให้ แต่อันที่วาดไว้ดูเองมันสปอยล์ เดี๋ยวไม่สนุกเนอะ^^





มนูญ(ปู่)  มีลูกสามคน เรียงตามลำดับ 


- พลภัทร (พ่อ) + เดน่า (แม่เดฟ) ----> เดฟ ชยางกูร
                +  เพ็ญแข ------> คณัสนันท์ (ตัวประกอบ 555 XD)
      

- แพรพรรณ  + พ่อน้องนัท(แต่งเข้า ใช้นามสกุลภรรยา)-----> น้องนัท ญาณัช  ตัวเอกในซีรีย์แรก กำลังเลิฟๆกับคุณเชฟ


- พิชญ์  อาพีทคนสวยของเรา<3 เลิฟๆกับคุณธัช เป็นคนสวยเนเวอร์ดาย ตายไปแล้วยังฟื้นมาได้ด้วยแรงรักจากคนเขียน อยู่ในซีรี่ย์แรกเหมือนกันค่ะ


ส่วนน้องปันเป็นลูกของ.... แฮ่ สปอยล์ไม่ได้ เอาเป็นว่า   

 ???+เพ็ญแข ----> น้องปัน ปัณวิทย์

เรื่องคานอำนาจ พลภัทรให้ อิเดฟ กลับมาที่ตระกูลเพื่อคานอำนาจกับน้องนันท์ ที่เป็นลูกแท้ๆที่เกิดกับเพ็ญแขค่ะ แต่เหตุผลจริงๆที่ให้กลับมาขออุบไว้ก่อน


ยังไงก็ขอฝากให้ติดตามเรื่องนี้กันต่อด้วยนะคะ ถึงหน้าฤดูมาม่าแล้ว  ขอให้ทุกคนมีความสุขไปกับมาม่านะคะ(<<ฟังดูขัดแย้งพิกล )



ขอให้สนุกในการอ่านค่ะ







-37-






“ไม่ไหว เมืองไทยนี่ร้อนชิบ รีบเปิดแอร์ในห้องดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยไปรับฟูกับฝุ่นก็ได้” ปัณวิทย์ดึงคอเสื้อเพื่อพัดไล่ความร้อนออกไปจากตัวเองขณะก้าวลงจากรถแท็กซี่ เพราะว่าคนรักยังมีงาน มีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ทำให้ไม่สามารถเที่ยวออสเตรเลียได้นานเท่าไหร่นัก


“สั่งครับสั่ง สั่งพี่ตลอด” เพราะตอนที่อยู่ออสเตรเลียตัวเองดูจะได้ใจไปนิด ทำให้พอกลับมาประเทศไทยกลับรู้สึกร้อนและเหี่ยวเหมือนลูกโป่งที่มีรอยรั่วค่อยๆฟีบลง


ชยางกูรหิ้วกระเป๋าเดินเคียงข้างคนรัก แต่เพราะด้านในตัวบ้านมีรถไม่คุ้นตาจอดอยู่ ลางสังหรณ์ในตัวสั่งให้เขาจับข้อมือของปัณวิทย์แน่น


“รถใคร...ปันคุ้นมั้ย”


“หือ” เด็กหนุ่มหันมองตาม รถยนต์สีดำคันยาวหรูจอดเทียบไม่เรียบร้อยเท่าไหร่นักทำให้ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที


“ไม่รู้... ไม่ใช่เพื่อนพ่อ ปันไม่เคยเห็นรถคันนี้” เร็วเท่าความคิด ขาสองข้างรีบก้าวเข้าไปให้ถึงประตูด้วยความรวดเร็ว ร่างบางหยุดยืนอยู่หน้าประตูก่อนจะหันมองคนข้างๆ ถ้ารีบเปิดประตูเสียงดังเข้าไป เกิดเป็นแขกคนสำคัญคงทำให้โดนดุเอาได้ เขาจึงตัดสินใจค่อยๆเปิดเข้าไปแทน


พลภัทรและเพ็ญแขยืนหน้าซีดขณะที่ชายสองคนยืนประจันหน้าโดยมีคนนึงเป็นฝ่ายพูดไม่หยุด บรรยากาศและข้อความที่ได้ยินทำให้ปัณวิทย์เผลอบีบมือของคนรักเอาไว้แน่น


ชายร่างสูงที่ชยางกูรไม่เคยเห็นหน้ายืนอยู่กลางห้องกับผู้ชายผมยาวอีกคนหนึ่งที่เขาค่อนข้างคุ้นตา ใบหน้าสวยของคนๆนั้นซีดเซียวทว่าเต็มไปด้วยแววตาที่มั่นคง


“ข้อหาอะไรดีคุณพลภัทร กักขังหน่วงเหนี่ยวให้หมดอิสรภาพ พยายามฆ่า หรือปลอมแปลงเอกสารทางราชการ” ชายร่างสูงถามพลภัทรด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ


“คุณทำอย่างนี้กับพีท... กับเราได้ยังไง คุณหลอกผมว่าพีทตายเพื่ออะไร? เพื่อที่จะจับเขาไปขังไว้ในโรงพยาบาลบ้าบอนั่นใช่ไหม?”


“มากล่าวหาอะไรพ่อผม” ปัณวิทย์ปล่อยมือข้างนั้นออกก่อนจะวิ่งเข้าไปยืนขวางกลางพลางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่สู้จะเป็นมิตรนัก ทว่าพอได้มองเห็นคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเต็มตา เขาก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ


“... โตขึ้นเยอะนะปัน” พิชญ์เอ่ยทักด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมกับรอยยิ้มจางๆบนใบหน้า


“อ อาพีท... ท ทำไมถึง....?! พ่อ... พ่อครับ?” คล้ายกับจะประมวลผลไม่ทัน เด็กหนุ่มจึงหันกลับไปหาบิดาทันที


“ปันออกไปก่อนไป” น้ำเสียงของคนเป็นพ่อแข็งขึ้นแล้วดึงลำแขนของลูกชายเอาไว้


“กลัวลูกของคุณรู้ความเลวของคุณหรือไง” ธัช...คนรักของพิชญ์ที่เข้ามาทวงถามความจริงจากตัวการพูดขึ้นไม่ออมเสียง


“บอกเหตุผลมาเดี๋ยวนี้คุณพลภัทร คุณต้องการอะไร สมบัติ..หรือชีวิตคน”


“ฉันไม่ต้องการอะไร...” พลภัทรจ้องหน้าธัชเขม็ง “...นอกจากให้ไอ้คนวิปริตผิดเพศมันตายไปจากครอบครัวฉัน ให้ความอัปยศ ความโสโครกสกปรกของเกย์อย่างพวกแกมันตายๆไปซะ ทั้งแกทั้งพีท พวกแกทำลายชื่อเสียงครอบครัว คิดจะรักกันออกนอกหน้า แกคิดว่าฉันจะยอมให้สิ่งที่ฉันสร้างมาต้องพังไปเพราะความรักโง่ๆหรือไง”


ชายวัยกลางคนโพล่งออกมาอย่างสุดกลั้น นัยน์ตาวาววับจับจ้องไปทางน้องชายที่เขาใช้โอกาสจากการที่อีกฝ่ายประสบอุบัติเหตุลักพาตัวไปซ่อนที่โรงพยาบาลแล้วแสร้งทำเป็นว่าเสียชีวิตไปแล้ว แววตาสั่นไหวของพลภัทรบอกทั้งความเกลียดชัง...และซ่อนบางสิ่งบางอย่างเอาไว้


เกลียด....ไอ้พวกวิปริต


เกลียด...จนไม่อาจอยู่ร่วมกัน


เป็นพิชญ์ที่ยื่นมือออกมาห้ามธัชที่ตั้งท่าว่าจะเข้าไปทำร้ายพลภัทร นัยน์ตาคู่สวยที่กลับมามีชีวิตชีวามองปรามร่างสูงก่อนจะเผชิญหน้ากับอีกคน


“ผมมารับนัท แล้วจะไปจากชีวิตพี่... พี่เอง ก็อย่ามายุ่งกับผมกับนัทอีก ขอแค่นี้ พี่คงทำให้ได้ใช่มั้ย ไม่อย่างนั้น ผมคงห้ามธัชไม่ให้ฟ้องร้องเอาความไม่ได้” ชายหนุ่มร่างบางเอ่ยพูดอย่างสงบ ไม่ได้ใส่อารมณ์ใดใดลงไปในน้ำเสียงนั้นทว่ากลับฟังแล้วรู้สึกยำเกรง


“แกไม่ต้องมาขู่ฉัน ไม่ต้องเอาไอ้เกย์แฟนแกมาขู่ฉันด้วย ฉันไม่กลัวแกหรอกพีท แกมันก็แค่ขยะสังคม ไม่มีค่า อย่างแกต้องตายที่โรงบาลบ้านั่นแหละเหมาะสมแล้ว” ปลายนิ้วสั่นระริกยกชี้ใบหน้าของพิชญ์ พลภัทรสูดลมหายใจแล้วเหลือบมองปัณวิทย์ที่ยืนอยู่ไม่ไกล


“จะมากไปแล้วนะ” นักธุรกิจเข้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศปราดเข้ามากระชากคอเสื้อ “แกนั่นแหละไอ้ขยะ ฉันกับพีทรักกันแล้วมันทำให้แกเดือดร้อนอะไร คนที่ทำกับคนที่เป็นน้องได้อย่างแกต่างหากที่ไม่สมควรมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้!”


“ธัช! พอแล้ว...” พิชญ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นกว่าเดิม “ผมขอแค่นั้น พี่อยากจะให้ผมฟ้องจริงๆเหรอ”


คนที่ไม่รู้สาเหตุและเบื้องหลังอย่างชยางกูรได้แต่ยืนมองคนทั้งสามโต้เถียงกันด้วยความสงบนิ่ง หากให้พูดตามตรง...เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาไปกับเหตุการณ์ตรงหน้าหรือการที่คนที่ตายไปแล้วมายืนอยู่ในบ้าน แต่ถ้อยคำของพลภัทรที่บ่งบอกว่าเกลียดตัวตนของคนรักร่วมเพศทั้งคู่ทำให้อดนึกสะท้อนใจไม่ได้


ก็เท่านี้...คนอย่างพลภัทร


นัยน์ตาสีฟ้ากระจ่างมองไปยังคนรักของเขา ปัณวิทย์ต่างหากที่เขาเป็นห่วง เด็กหนุ่มคล้ายกลับกลายไปเป็นเด็กชายตัวน้อยที่หวาดกลัวและขลาดเขลาไม่กล้า..แม้จะสบสายตาที่เขาส่งไปให้


“ปัน...” เสียงทุ้มกระซิบแผ่ว ร่างสูงเดินเข้าไปหาก่อนจะสอดมือเข้าไปแอบเกาะกุม


“อ..!?” เด็กหนุ่มสะดุ้งเมื่อถูกจับมือเอาไว้ สายตาไม่ได้มองตามพิชญ์ที่เดินไปกดลิฟท์ขึ้นชั้นบน แต่กลับจับจ้องอยู่ที่ผู้เป็นพ่อ


...แล้วปันล่ะ...


...พ่อรังเกียจปัน...


...อยากให้ปันตายเหมือนกันรึเปล่า...


“ขึ้นไปที่ห้องกันปัน” คนถามไม่รอคำตอบ เขาจับมือจูงเด็กชายที่ทำท่าเหมือนโลกถล่มอยู่ตรงหน้าให้เข้าไปในลิฟท์ ประตูที่กั้นสายตาในวินาทีสุดท้ายมองเห็นคนเป็นพ่อแท้ๆกำลังทำสีหน้าที่ยากจะบรรยาย


ไม่ใช่ว่าเกลียดไปทั้งหมด หากแต่ดูเหมือนจะเจือจางความแค้นและริษยา....ตัวตนที่น่าสมเพชของผู้ชายที่ไร้ความรัมผิดชอบคนนี้ทำให้เขายิ่งเกลียดพ่อแท้ๆของตัวเอง พ่อที่ต้องการแต่จะให้ทุกสิ่งเป็นไปตามอย่างที่ต้องการโดยไม่สนหัวใจของคนอื่น...หัวใจของมารดาเขา หัวใจของคณัสนันท์ เพ็ญแข พิชญ์ ญาณัช หรือกระทั่งปัณวิทย์...


“ปัน...เงยหน้ามองพี่” ชยางกูรประคองใบหน้าซีดเซียว


“ด เดี๋ยว” ปัณวิทย์ดันตัวเองออกจากฝ่ามือของร่างสูง “ถ้าพ่อมาเห็นจะว่ายังไง” นัยน์ตาเรียวเชิดของปัณวิทย์ในตอนนี้มีแต่ความหวาดหวั่นฉายอยู่ กระทั่งกับพิชญ์ พลภัทรก็หลอกว่าตายไปแล้วได้อย่างเลือดเย็น— แล้วตัวเขาที่รักชยางกูรล่ะ...


...จะเป็นยังไง


“ปันกลัวอะไร” แวบหนึ่ง... ชยางกูรนึกไปถึงใบหน้าของอิสรา อดีตคนรักของเขาที่แสนอ่อนไหว... หวั่นไหวไปตามความอ่อนแอ แม้จะรู้ดีว่าปันวิทย์แตกต่าง แต่เพราะแวบหนึ่งที่เขาแลเห็นความอ่อนแอและหวั่นไหว ทำให้ชยางกูรนึกกลัวว่าจะเสียคนรักไป


-ติ๊ง-


ประตูลิฟท์เปิดออกที่ชั้นแปด ชยางกูรได้ยินเสียงร้องไห้ของญาณัทดังมาจากประตูที่เปิดไว้ ภาพความประทับใจเหล่านั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของชยางกูรเพราะเขารู้ดีว่าปัญหาใหญ่ของเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้น


ปัญหา....ที่ไม่มีทางออก


“อาพีทโดนขนาดนั้น แล้วปันล่ะ พ่อจะอยากให้ปันตายด้วยรึเปล่า” น้ำเสียงของเด็กหนุ่มไม่มีความมั่นใจอวดดีแบบที่เคย ซ้ำยังสั่นระริกจนชวนให้ใจหาย


“พ่อบ้าไปแล้ว” ชายหนุ่มดึงร่างเล็กเข้ามากอด ประตูที่ปิดลงถูกล็อคจากภายในแต่เขารู้ดีว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย


“ปันอย่าไปฟังที่เขาพูด อย่าไปสน ปันไม่ต้องกลัวนะ”


“ไม่กลัวได้ยังไง” เขาโอบกอดร่างสูงเอาไว้แน่น “ก่อนหน้านี้พ่อร้ายกับปันขนาดไหน... ถ้าเป็นเรื่องนี้.. เรื่องนี้ไม่ได้”


คนในอ้อมกอดสั่นเทาคล้ายลูกนกพลัดรัง ท่อนแขนที่โอบกอดสัมผัสได้ถึงความกลัวของปัณวิทย์ที่แทรกซึมเข้ามาในร่าง มือหนายกขึ้นลูบศีรษะที่ซุกซบแผ่วเบาระวังไม่ให้แตกสลาย


“เขาต้องรู้...ไม่ใช่ตอนนี้สักวันก็ต้องรู้ ถ้าเขารับไม่ได้ปันก็ไม่ต้องสน ไปอยู่กับพี่ที่อเมริกา ไปอยู่ด้วยกัน...”


...ไปอเมริกา...


“...แต่...” เด็กหนุ่มรู้ตัวดีว่าเขาเป็นยังไง แม้จะเกิดเรื่องเลวร้ายชนิดที่ไม่คาดคิดมาก่อน เขาก็ยังรักพ่อ รักพลภัทรที่เคยใจร้ายกับตัวเอง— การไปอเมริกาฟังดูเป็นทางออกที่ดี แต่ปัณวิทย์ก็ยังไม่อาจหักใจให้เข้มแข็งแล้วไปด้วยกันกับชยางกูรได้


“คุณพลภัทรเป็นยังไงปันก็รู้นี่...เขาไม่มีทางเข้าใจเราได้หรอก เขาไม่มีทางรับเราได้”


แม้เสี้ยวหนึ่งในใจจะคิดว่าอาจจะ... อาจจะมีทางเป็นไปได้ที่พลภัทรที่ไม่เหลือใครจะยอมรับ แต่เพราะเป็นชยางกูร... ผู้ชายที่เห็นแก่ตัวอย่างเขาไม่อยากจะให้ปัณวิทย์แบ่งเศษเสี้ยวความรักและสงสารให้คนไม่มีหัวใจ


“เพราะงั้น เพราะงั้น อย่าให้รู้ ต้องไม่ให้พ่อรู้นะ นะพี่เดฟนะ ไม่บอกพ่อนะ” ปัณวิทย์เอ่ยอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า— จากที่เคยไม่ได้รับการยอมรับมาแล้วครั้งหนึ่ง เด็กหนุ่มก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก


...ต้องไม่ให้รู้...


“แล้วปันต้องอยู่ไปอย่างนี้น่ะเหรอ ต้องระวังตลอดเวลาไม่ให้เขารู้ จะต้องกลัวในสิ่งที่ไม่ใช่ความผิดไปตลอดชีวิตหรือไง” ชยางกูรกอดร่างเล็กแน่นขึ้น ความสุขของการไปเที่ยวดูจะหายวับไปกับตา


ความจริงตรงหน้าไม่ใช่เพียงเรื่องล้อเล่น ชยางกูรรู้ว่ามันจะต้องมาถึงในสักวัน แต่เพราะพลภัทรที่ประกาศชัดเจนว่าเกลียดเกย์ถึงขั้นทำร้ายพิชญ์ได้... ถ้าสักวันรู้ความจริงเรื่องของเขา ปัณวิทย์อาจจะโดนทำอะไรอย่างนั้นได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ


ถ้าจะต้องอยู่กับความกลัว...สู้เผชิญหน้าให้แตกหักไปเลยไม่ดีกว่าหรือไง


“พี่รับไม่ได้เรื่องที่เขาทำกับคุณพีท...คนที่น่ารังเกียจคือเขา คนผิดคือเขา...” ชยางกูรเน้นเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ “ปันไปอยู่กับพี่นะ”


ไม่ใช่ว่าไม่อยากไป เขารู้ดีว่าถ้าไปอยู่กับชยางกูร ชีวิตที่ได้อยู่เคียงข้างคนที่รักเขาขนาดนี้ทั้งๆที่ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันคงจะมีความสุขมากไม่น้อย แต่อีกใจหนึ่ง เขาก็นึกกลัวถึงอนาคตที่ยังมาไม่ถึง


“...พูดกับพ่อ... จะลองพูดกับพ่อดูก่อน....... เหรอ”


“อืม..บอกความจริงกับเขา ถ้ารับได้ก็อยู่...ไม่ได้ก็ไป...”


“ให้เวลาปันนะ ขอเวลา แล้วปันจะบอกพ่อ....” เขารับคำได้ไม่เต็มปากเท่าไหร่เพราะหัวใจยังไม่แน่นอน ถ้าบอกไปตอนนี้เลย เป็นเขาเองที่จะรับกับการตอบรับของพลภัทรไม่ไหว


แต่แล้ว...ราวกับจะแกล้งการร้องขอของปัณวิทย์เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก


“ปัน... เดฟ... เปิดหน่อยได้ไหม” เสียงอ่อนโรยที่ดังจากหลังบานประตู


“!?? ค ครับพ่อ” เจ้าของห้องรีบละออกมาจากร่างสูงแล้วมาเปิดประตูห้องออก พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติแม้มันจะไม่ช่วยอะไรเลยก็ตาม


ชายวัยกลางคนมองใบหน้าของปัณวิทย์ด้วยแววตาแห้งแล้ง สองแขนที่ยกขึ้นโอบกอดสั่นเทาจนเหมือนร่างจะแยกออก น้ำเสียงพร่าเอ่ยซ้ำๆ


“เขาไปแล้วปัน ทั้งพีท ทั้งนัท...ไม่มีใครเลย ไม่มีใครสักคน...” น้ำเสียงอ่อนแอราวกับคนละคนกับคนที่ตะโกนด่าทออยู่เบื้องล่าง ไม่มีใครเข้าใจพลภัทรสักนิดว่าในใจของคนๆนี้คิดอะไร ไม่มีใครได้ล่วงรู้ความรู้สึกที่เจ้าตัวหวาดกลัวและซุกซ่อนเอาไว้


“เป็นผมก็ไม่อยู่ครับ...สิ่งที่คุณทำมันเกินไปมาก...หัวใจคุณทำด้วยอะไร” เสียงเรียบของชยางกูรเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทีของพลภัทร หากแต่คนรักของเขากลับทำในสิ่งตรงข้าม


ปัณวิทย์โอบกอดคนที่เรียกว่าพ่อเอาไว้ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง “ปันอยู่นี่... ไม่ได้ไปไหนครับพ่อ”


“ทำไม...มันพลาดตรงไหน...” พลภัทรพูดซ้ำๆ พึมพำด้วยถ้อยคำที่ไม่รู้ความหมาย


“คุณทำตัวเอง คุณทำมันทุกอย่าง ทั้งนอกใจคุณเพ็ญแข ทอดทิ้งแม่ผม ทำร้ายทุกคนจนสุดท้ายมันก็สมควรแล้วไม่ใช่หรือไงที่คุณไม่เหลือใคร” ความอ่อนแอของคนตรงหน้าไม่ได้ทำให้หัวใจของชยางกูรอ่อนไหวสักนิด ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจเขากลับรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่สมควรเกิดอยู่แล้ว เพราะคนที่ไม่เคยมีความรักจริงใจให้ใครอย่างพ่อแท้ๆของเขาคนนี้...ไม่สมควรได้รับความรัก


แม้แต่จากปัณวิทย์...ที่รักพ่อด้วยใจจริง


“ปันกับผมจะไปอยู่อเมริกาด้วยกัน เร็วที่สุด”


“พี่เดฟ! ปันยังไม่ได้บอก... ว่าจะไป” ท้ายประโยคน้ำเสียงของปัณวิทย์อ่อนแรงลงจนราวกับเสียงกระซิบ


“ปัน...จะไปเหรอลูก” ชายวัยกลางคนที่ไร้สง่าราศีที่เคยมีเอ่ยถามลูก...ที่ไม่ใช่สายเลือด


“ใช่ ปันจะไปอยู่กับผมที่อเมริกา”


“พี่เดฟ!!” เขาเรียกเป็นครั้งที่สอง หมายจะปรามให้อีกฝ่ายหยุด


“นี่มันอะไรกัน...ปัน...ทำไมปันต้องไป” น้ำเสียงและท่าทางที่มากกว่าคนอยู่บ้านเดียวกันควรจะเป็นทำให้พลภัทรนึกเอะใจ ยิ่งสบกับประกายตาของลูกชายที่เกิดจากหญิงต่างชาติตรงหน้า ความรู้สึกที่น่าหวาดกลัวราวกับหลุมดำก็ผุดขึ้นไร้ที่มา


“ปัน...บอกพ่อมาหน่อย...ว่ามีอะไรกัน...”


“.........” ปัณวิทย์มีสีหน้าคล้ายกับอยากจะร้องไห้ออกมา เขาไม่แน่ใจว่าในตอนนี้ควรจะเลือกใช้คำไหนออกมาพูดเพื่อให้สถานการณ์ไม่เลวร้ายเกินไปกว่าที่เป็นอยู่


...แต่ก็อับจนคำพูด เพราะความรู้สึกของเขาที่มีกับชยางกูรไม่มีคำอื่นที่จะอธิบายได้นอกจากคำๆเดียว


“ปัน... รักพี่เดฟ... ครับพ่อ...”


“ไม่จริง..” คนเป็นพ่อปล่อยมือจากตัวลูก ดวงตาที่เต็มไปด้วยริ้วรอยแห่งกาลเวลามองปัณวิทย์สลับกับชยางกูร “ปัน...ไม่จริงใช่มั้ย...แกเป็นเกย์.....เป็นไอ้พวกผิดเพศเหมือนพีท....”


คำพูดร้ายกาจทำให้น้ำตาไหลออกมาโดยไม่มีเวลาแม้จะกลั้นเอาไว้ “พ่อครับ...”


“ใช่ คุณจะเรียกความสัมพันธ์ของผมกับปันแบบไหนก็ช่าง แต่สำหรับผม...” ร่างสูงดึงปัณวิทย์เข้ามาหาแล้วกอดเอาไว้ “...มันคือความรัก..”


“พ่อ... อย่าเกลียดปัน... อย่าเกลียดปันนะครับ... ปันรักพ่อ... ฮึก.... รัก....”


“ปัน..” ชยางกูรกอดคนในอ้อมกอดจนแน่น แม้ว่าปัณวิทย์จะสั่นเทาเท่าไรอ้อมแขนของเขาก็ต้องมั่นคงเท่านั้น


ไม่ผิด...สิ่งที่เขากำลังทำไม่ผิดหรอก


ปัณวิทย์จะไม่มีความสุข...ถ้าต้องอยู่อย่างมีความลับไปตลอดชีวิต


ความจริงของลูกชายที่รักแม้จะไม่มีสายเลือดเดียวกัน...กับลูกชายที่เกิดจากหญิงคนรักทำให้พลภัทรแทบล้มทั้งยืน ร่างสูงเอนวูบจนต้องดึงเก้าอี้ใกล้ตัวมานั่ง ร่างทั้งร่างสั่นไหวราวกับอารมณ์ภายในจะปะทุ


“ปัน...เดฟ..พวกแกมันอกตัญญู พวกแกเป็นพี่น้องกันยังมาทำตัวเลวอย่างนี้ในบ้านฉัน แกทำได้ยังไง!”


“พวกเราไม่ใช่พี่น้อง ไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันด้วยซ้ำคุณก็รู้ ถ้าคุณคิดว่าเราเลวนักก็เชิญอยู่ในบ้านแสนดีของคุณไปคนเดียวสิ”


“พอแล้ว! อึก-- พอ พอแล้วพี่เดฟ พอ......” แม้จะถูกกอดเอาไว้ แต่แขนสองข้างก็ยกขึ้น มือคว้าจับเอาอีกฝ่ายไว้ได้ก็ยื้อยุดให้หยุดพูด


“แก...เพราะแกใช่มั้ยเดฟ ปันถึงเป็นเกย์” น้ำเสียงของชายผู้สูญเสียเอ่ยถาม พลภัทรแน่ใจว่าปัณวิทย์...ลูกที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ไม่เคยมีพฤติกรรมอย่างนี้ จนกระทั่งชยางกูรกลับมา


“แก...แกมัน...แกทำให้น้องเป็นเกย์...แกบังคับน้องใช่มั้ย!”


“ไม่....” คนตอบกลับหลุดปากไปได้เท่านั้นเพราะความจริงที่พลภัทรพูดออกมากระแทกเข้าไปถึงหัวใจ เขาทำร้ายปัณวิทย์ก่อน...เขาทำให้ปัณวิทย์เป็นเกย์เหมือนที่เคยทำกับอิสรา...


เพราะพี่หรือเปล่า...ปันถึงได้เป็นเกย์


คำถาม...ที่เขาไม่กล้าถามออกมา


“.... ตอนแรกมันอาจจะเป็นอย่างนั้น...” เด็กหนุ่มมองใบหน้าผู้เป็นพ่อทั้งน้ำตา “แต่พี่เขารักปัน... ในตอนที่ไม่มีใครรักปันสักคนเดียว......”


คล้ายคำพูดของปัณวิทย์จะไม่เข้าหูคนเป็นพ่อ ปลายนิ้วสั่นเทาชี้มาที่ชยางกูร “เห็นมั้ย...เพราะแก ไอ้เดฟ เพราะแก ลูกฉันถึงเป็นแบบนี้ เพราะ...อึก...”


ชายสูงวัยกุมหน้าอกแน่น ใบหน้าของคนทั้งสองไม่อาจเห็นได้อีกเพราะความมืดเข้ามาบดบัง พลภัทรอึดอัดจนไม่สามารถหายใจเข้าออก ได้แต่งอตัวกุมหน้าอก


“อึก...เพราะแก...เพราะ...”


“พ่อ!” ปัณวิทย์ดันตัวเองออกจากอ้อมกอดพลางเข้ามานั่งคุกเข่าลงกับพื้นข้างๆพลภัทรที่นั่งอยู่บนเก้าอี้


“ไม่ใช่ครับพ่อ พี่เดฟเขา... พี่เขารักปัน ดูแลปัน อยู่กับปัน... พ่อครับ ปันไม่มีใคร ปันอยู่คนเดียว... สิบปี..... ถึงเจอพี่เดฟ พ่ออย่าว่าพี่เขา... พ่อจะว่า ก็ว่าปัน เถอะครับ” น้ำเสียงของปัณวิทย์คล้ายกับจะพยายามปลอบประโลมคนสูงวัย เจ้าตัวพยายามที่จะไม่ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง


ร่างที่นั่งคุดคู้สั่นไหวไปกับคำตอบของลูกชาย พลภัทรกำลำคอแน่น ภาพของพีทในโรงพยาบาลกับปัณวิทย์หมุนวนอยู่ในหัวจนแทบจะระเบิด ลมหายใจขาดห้วงของผู้เป็นพ่อกระตุกแผ่วๆอีกครั้งก่อนจะหมดสติไป...ภายใต้ความมืดและหนาวเย็นของคนที่ไม่เหลือใคร












To be continued...

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ตอน 36
น่ารักอะ เป็นการเที่ยวแบเดทที่น่ารักมากกก
ดีนะที่มาม่าเรื่องแฟนเก่า แถมน้องปันๆยังได้มีประสบการณ์เอาท์ดอร์ด้วย ฟฟุฟุ

ตอนน้ามาม่าเรอะ มาม่าเรื่องอะไรอะ แงแง (ร้องไห้นำ)

ตอน 37
บ่อน้ำตาแตก ไม่รู้จะสงสารใคร แต่ที่แน่ๆ ภัครพลทำเกินไปมากกก
ที่ขังน้องตัวเองไว้ในโรงบาลบ้า คนดีๆเค้าคิดกันไม่ได้หรอกนะแบบนี้นะ
ถึงจะเกลียดเกย์ยังไงแต่นี้ก็เกินไป น้องทั้งคน
ส่วนเรื่องปันกับพี่เดฟ อยากให้ภัครพลเข้าใจอะ
เสียน้องเสียลูกไปหนึ่งครอครัวแล้วนะ จากนี้อยากอยู่คนเดียวจริงๆรึไง :a14:
 :o211: :o211:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-10-2012 18:51:37 โดย Ryoooo »

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เห็นชื่อตอนแล้ว ขอยกไปอ่านตอนหน้านะ

 :sad3:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
แว้กกก  รีบเข้ามาเพราะเห็นชื่อตอน  o22 ทำเราใจแป่วเลยยย  :sad4:
ตอนที่แล้วหวานซะ แต่มาตอนนี้ดราม่า เง้ออ   :a5:
เราเริ่มคิดมากเหมือนพี่เดฟจิงๆแล้วนะปัน นน น นายจะไม่ทิ้งพี่เดฟใช่มั้ยอ่ะ  :z3:
รอนะฮะ  :')

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ hotladyanyavee

  • ขึ้นจากเกาะ มาใช้ชีวิตบนอ่าวนาง มันก็อินดี้ไปอีกแบบ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2384
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-10
ดราม่าน้ำตาคลอ สงสารน้องปันอะ ทีนี้เลือกใคร คนหนึ่งก็พ่อที่ยึดติด
อีกคนก็คนรักที่รักมาก สงสารน้องปัน

ออฟไลน์ 403

  • 4 0 3 Forbidden
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +309/-2
ไม่เข้าใจคุณพลภัทร ส่วนเดฟก็เอาแต่ตัวเองไม่ฟังปันเลย สรุปสงสารปัน  :เฮ้อ: +เป็ดให้คนเขียนด้วย สู้ๆจ้า

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :o12: พี่เดฟอย่าโทษตัวเอง อย่าทิ้งปันปันไปนะ... ปันเองก็อย่าปล่อยมือจากพี่เดฟล่ะ...

ให้เวลาอีกหน่อย พ่อคงพอเข้าใจว่าการไม่เหลือใครมันเหงา การที่ปันมีพี่เดฟมาเติมเต็มให้

มันก็ไม่ใช่เรื่องเเปลกที่ปันจะรักพี่เดฟ แล้วพี่เดฟที่เสียเเม่ไป การได้คนรักมาทดแทนมันก็ดีเเล้ว

 :กอด1: สู้ๆค่ะ... แบบกระเทือนอารมณ์ก็ตรงที่มันเป็นปัญหาครอบครัวนี่เเหละ... :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
+1 อั๊ยย่ะ ชื่อตอน :sad4:

ออฟไลน์ kny

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-16
จับมือไว้แล้วไปด้วยกัน  อาพีทที่น่าสงสารมาแล้วและไปแล้ว :monkeysad:

ออฟไลน์ suck_love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
มาม่าชามโต =``=
 เมื่อไหร่พลภัทรจะยอมรับซักทีว่าเรื่องแบบนี้มันไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ
สิ่งที่น่ารังเกียจคือจิตใจของพลภัทรต่างหาก อ่านแล้วอินมากมาย  :เฮ้อ:

ปันไปอยู่เมกาเหอะ ปล่อยพลภัทรอยู่คนเดียว จะได้รู้ซึ้งซะบ้าง เหอะ :beat:

ออฟไลน์ soluna

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ปัณอย่าหวั่นไหวนะ
เชื่อพี่เดฟ แล้วก้าวไปด้วยกัน

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
คุณพ่อรับให้ได้เถอะค่ะ

น้องปัณอย่าทิ้งพี่เดฟนะจ๊ะ

ออฟไลน์ RUMINA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
มาม่าเดือดแล้วนะคะนี่
คุณพ่อมีความลับอะไรอีกใช่มั้ยคะ เศร้าจังเลยTT

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
กระชากอารมณ์กันสุดๆเลยอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ หมอตัวเปียก

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1874
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
สงสารคุณพ่อนะ

แต่ว่าก็อยากรู้เหตุผลที่เกลียดเกย์เหมือนกัน  :serius2:

ออฟไลน์ chisarachi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1019
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +49/-1
แอบเห็นใจคุณพ่อนะค่ะ
แต่ก็อยากให้คุณพ่อมองรอบตัวบ้าง
ลดทิฐิอีกหน่อย ทุกอย่างจะโอเคมากกกกกก
น้องปันสู้เค้านะ!!

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
ก่อนที่จะไปโทษคนอื่น หรือโยนขี้ให้ชาวบ้านเนี่ย  :o211:
กรุณาหันกลับมามองตัวคุณเองก่อนนะคะ   ว่าตัวคุณน่ะ ดีพอแล้วหรือที่จะไปติติงด่าว่าเขาแบบนั้น    :amen:

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
กำลังสนุกเลยค่ะ
รอตอนต่อไป
 :L2:
 :pig4:

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
 :o12:....สงสารทุกคนเลย........แต่มันคงต้องมีนัยอะไรแน่นอน........ :sad11:...ถึงจะมีความลับอะไรขอแค่น้องปันเข้าใจพี่เดฟเป็นพอแล้ว.......

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1


kagehana : ในตอนนี้จะเริ่มเฉลยปมว่าทำไมคุรพลภัทรถึงได้เกลียดเกย์ เกลียดปันนะคะ จะเป็นเรื่องรุ่นพ่อ อาจจะมีชื่อไม่คุ้นหูโผล่มาบ้าง แต่รับประกันความแซ่บค่ะ

ป.ล. เขาว่ากันว่าเป็นอาถรรพ์รุ่นพ่อ ทำให้ความแซ่บมันจี๊ด----







-38-



ถ้าถามว่าเขาเริ่มเกลียดเกย์ตอนไหน...


คงเป็นตอนที่ถูกคนๆนั้น...หักหลัง


“พีท วันนี้ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง” พี่ชายคนโตของบ้านประสิทธิ์พรวิวัฒน์เอ่ยถาม ชายหนุ่มยิ้มให้น้องชายคนเล็กที่เพิ่งเดินกลับเข้ามาพร้อมน้องสาวคนกลางที่เรียนอยู่มหาวิทยาลัยใกล้ๆกัน


“สนุกดี อาจารย์สอนเป็นภาษาอังกฤษหมดเลย ตื่นเต้นสุดๆ” พิชญ์ยิ้มกว้างให้กับพลภัทรผู้เป็นพี่ชาย เด็กหนุ่มเพิ่งเข้าชั้นมัธยมสี่หลักสูตรนานาชาติ ทำให้คนเป็นพี่อดกังวลแทนไม่ได้


“ดีแล้วจะได้เก่ง กินอะไรมายัง” พลภัทรกวักมือเรียกทั้งสองคนให้เข้ามาใกล้ “แพรล่ะเป็นไง”


เด็กสาวในเครื่องแบบนักศึกษาได้แต่ยิ้มจางๆก่อนจะเอ่ยตอบเสียงเรียบ “เหนื่อย แพรต้องเข้าห้องว้ากอะไร... น่ากลัวมากเลยล่ะพี่พล”


“ฮ่ะๆๆ เอาน่าแพร อดทนหน่อย รุ่นพี่มันก็ว้ากไปงั้นแหละพี่ก็เคยโดนมาแล้ว” พลภัทรปลอบใจน้อง แม้ว่าตัวเองจะหลุดพ้นการว้ากเพราะว่าเป็นปีสี่แล้ว แต่ไม่ว่าใครก็คงยังจำประสบการณ์แบบนั้นได้ไม่มีลืม


“ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไอ้ภีมจะมารับไปกินข้าว มันให้ชวนเราสองคนไปด้วย” ภีมที่พูดถึงเป็นเพื่อนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ประถมจนถึงมหาลัย เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของพลภัทรที่ไม่ใช่เด็กกิจกรรม


“อื้อ” พิชญ์รับคำแล้วเป็นฝ่ายวิ่งไปที่ลิฟท์ก่อน โดยมีแพรพรรณเดินตามมาติดๆ


“พี่แพร... ระวังโดนผู้ชายไม่ดีมาหลอกเอานะ” คนเป็นน้องเอ่ยขึ้นลอยๆโดยไม่ได้หันไปมองพี่สาว ด้วยความที่โตมาอย่างสนิทสนม จึงรู้ว่าแพรพรรณเป็นคนอ่อนต่อโลกขนาดไหน


“ไม่มีหรอก... มีพี่พลกับพีท ใครจะกล้า” แพรพรรณว่าพร้อมกับเสียงหัวเราะ ก่อนจะก้าวเข้าไปในลิฟท์ด้วยกัน


พลภัทรมองน้องทั้งสองคนหายเข้าไปในลิฟท์ก่อนจะหันกลับมาใส่ใจหนังสือที่เปิดค้างเอาไว้นาน นักศึกษาปีสี่ที่ใกล้จะจบนั้นต้องทำวิทยานิพนธ์ ทำให้ไม่ต้องเข้ามหาวิทยาลัยมากเหมือนแต่ก่อน แม้จะเป็นอย่างนั้น ภีมก็ยังคงแวะเวียนมาหาบ่อยๆ


ในเวลาไม่นาน ชายหนุ่มผมยาวในชุดลำลองก็พาตัวเองเข้ามายังห้องนั่งเล่น ภีมยักคิ้วทักทายพลภัทรแล้วทรุดนั่งเอนหลังพิงตัวคนที่รอ


“ร้อนโคตรเลยว่ะพล รถแม่งติดชิบหาย” น้ำเสียงขุ่นๆระบายออกมา


“ระวังคำพูดหน่อยมึง อยู่ในบ้าน เดี๋ยวน้องกูลงมา” พลภัทรขยับตัวออกมา แกล้งให้อีกคนเสียหลักนอนราบลงบนโซฟา


“เชี่ย กูเจ็บ” คนที่โดนปล่อยกระแทกครางโอดโอยอย่างเสแสร้งเพราะใบหน้าหล่อเหลาพราวด้วยรอยยิ้ม


“อยู่บ้านทำเป็นคุณชายนะครับคุณพลภัทร ทีตอนอยู่กะกูไม่เห็นเป็นงี้”


“อ้าว อยู่บ้านก็ต้องทำตัวดีๆสิ พ่อกูเอาตายขืนได้ยินกูพูดแบบนี้” ชายหนุ่มเอื้อมมือไปขยี้ศีรษะของเพื่อนเบาๆจนเรือนผมยุ่งเหยิงไปหมด


“พี่ภีมมาแล้วเหรอคะ” เป็นแพรพรรณที่เดินลงมาก่อน เด็กสาวอยู่ในชุดกระโปรงยาวเรียบร้อยกับผมที่ถูกถักเป็นเปียสวยงาม


“หวัดดีครับน้องแพรคนสวย วันนี้ก็น่ารักเหมือนเดิมนะ” ภีมแซวเหมือนทุกครั้งอย่างไม่จริงจังอะไร “เรียนสนุกมั้ย”


“ยังไม่ได้เริ่มเรียนเลยค่ะ วันแรกก็งงๆ มีว้ากด้วย... ไม่ชอบเลย เมื่อกี๊เพิ่งบ่นกับพี่พลไป” แพรพรรณหันหลังไปมองคนที่ควรจะเดินมาด้วยกันก่อนจะเอ่ยเรียกด้วยเสียงที่ดังขึ้น


“พีท... พี่ภีมมาแล้ว วางหนังสือก่อนเลย”


“อ พี่ภีม... สวัสดีครับ” พิชญ์รีบปิดหนังสือแล้วยกมือขึ้นไหว้เพื่อนของพี่ชายก่อนจะรีบก้าวมายืนอยู่ร่วมวงด้วย


“หวัดดี...พีท...” น้ำเสียงของคนมาใหม่แปลกแปร่งไปเล็กน้อยแม้เจ้าตัวจะพยายามซ่อนมันไว้ นัยน์ตาคมเหลือบมองน้องชายเพื่อนที่เห็นมาตั้งแต่เล็กจนโต พิชญ์ในตอนนี้ดูแปลกและแตกต่างจากน้องชายตัวเล็กๆที่วิ่งตามในตอนนั้น


“ไม่ได้เจอกันนานเลย โตขึ้นนะเรา” มืออ่อนโยนเอื้อมไปโคลงศีรษะกลมมนที่มีเส้นผมสีน้ำตาลละเอียดนุ่มปกคลุม


พิชญ์ย่นคอก่อนจะแย้มรอยยิ้มกว้าง “ไม่โตเลยก็แย่สิครับ แล้ววันนี้พี่ภีมจะพาไปไหนเหรอครับ”


รอยยิ้มหวานของพิชญ์ทำเอามือที่ลูบอยู่หยุดไป ภีมหัวเราะเก้อๆ “ไปกินข้าวฉลองพีทขึ้นม.สี่กับแพรเข้ามหาลัยไง แต่ร้านให้เราเลือกแล้วกัน”


“ขอบคุณครับ งั้นไปกินร้านกุ้งกันนะพี่พล” พิชญ์เดินไปหาพี่ชายพลางเอาศอกกระทุ้งสีข้างสองสามที ร้านกุ้งที่ว่าเป็นร้านโปรดของพิชญ์ตั้งแต่ยังเล็ก ด้วยความที่มีเมนูบร็อคโคลี่ผัดกุ้งที่เจ้าตัวชอบนักชอบหนา


“ไม่ค่อยออกนอกหน้าเลยนะเรา หือ” คนตัวสูงกว่ายกมือขึ้นขยี้ศีรษะของน้องชายเบาๆ


“ตามใจน้องมึงเว้ย” ภีมพูดเบาๆ หากแต่แววตากลับทอประกายหวานซ่าน...ที่กลบไม่มิด


...จะแปลกหรือเปล่า...


...ที่นึกชอบคนตัวเล็กตรงหน้า..มากกว่าที่เคย...






///////////////////////////////////





“พล...กูมีอะไรจะบอกว่ะ” ภีมนั่งลงที่โต๊ะม้าหินใต้ร่มหางนกยูงสีแดงเจิดจ้าราวกับเปลวไฟ ดอกสีส้มอมแดงแม้จะหลุดร่วงอยู่บนพื้นหินแต่ยังคงงดงามเหมือนตอนที่อยู่บนต้น


“อะไรวะมึง ทำหน้าจริงจังเชียว” เขาถอดแว่นออกวางแล้วหันมามองเพื่อนที่เพิ่งนั่งลง


“มีอะไร”


“กู....” เรื่องที่จะพูดติดอยู่ในลำคอ ภีมมองไปมารอบตัวก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้หูพลภัทร “กู..ชอบพีทว่ะ”


“เฮ้ย! มึง— ไอ้ภีม อย่ามุขดิวะ กูไม่ขำ” พลภัทรสะดุ้งก่อนจะจ้องหน้าเพื่อนของตัวเองชัดๆ


“กูก็ไม่ขำ...น้องมึงแม่งน่ารักว่ะ กูชอบจริงๆนะ” ภีมขมวดคิ้วแล้วผลักไหล่เพื่อนเบาๆ “หรือกูจะเป็นเกย์วะ”


พลภัทรพูดไม่ออก เพราะภีมคงไม่ล้อเล่นด้วยเรื่องแบบนี้ เขานึกไปถึงใบหน้าของน้องชายคนเล็กแล้วก็อดคิดตามไม่ได้ว่าพิชญ์เป็นคนหน้าตาน่ารักน่ามองอยู่แล้ว แต่ด้วยความที่ดูแลในฐานะน้องชายมาตลอด ถึงได้ไม่เคยคิดว่าจะมีใครมาชอบพอน้องตัวเองอย่างนี้


“มึง... พีทเป็นผู้ชาย มึงเข้าใจใช่มั้ย”


“แล้วน้องมึงเป็นผู้หญิงรึไง กูรู้น่า...แต่แบบ..ก็ชอบว่ะ” ชายหนุ่มผมหยักศกเสยผมขึ้นแล้วขยี้หัวตัวเอง “....กูจะจีบนะ”


“ไม่เอามึง คนอื่นกูไม่ว่า นี่น้องกูไอ้ภีม” มือของพลภัทรตามไปตบเบาๆที่กลางกระหม่อมของเพื่อน


“น้องมึงแล้วไงวะ ถ้ากูจีบแล้วน้องมึงชอบกูมึงจะขัดขวางกูหรือไง” นัยน์ตาเจ้าชู้หรี่ลงอย่างท้าทาย


ภีมไม่เข้าใจว่าทำไมพลภัทรต้องขัดขวาง...เพียงแค่เขาเป็นเพศเดียวกับพิชญ์ แม้ว่าสังคมจะยังไม่ค่อยเปิดรับแต่พลภัทรที่ดูเป็นคนหัวสมัยใหม่ก็ไม่น่าจะขัดขวางทั้งๆที่ยังไม่รู้ผล


“ไม่ก็ไม่สิวะ กูเป็นพี่คนโต ถ้าปล่อยยอมให้น้องไปทำอะไรแบบนี้ พ่อคงไม่เอาไว้หรอก”


“งกว่ะ” ชายหนุ่มนัยน์ตาเจ้าชู้บ่นเบาๆแล้ววางคางพาดเกยบนโต๊ะม้าหินอ่อนที่มีดอกหางนกยูงสีส้มแดงร่วงหล่น “พีทไม่ใช่มึงสักหน่อย...กูไม่ได้จีบมึงนะพล แล้วที่กูบอกกูไม่ได้จะขออนุญาต...กูแค่บอก ถึงมึงจะไม่ให้จีบยังไงกูก็ไม่สน”


“ไอ้ภีม มึงฟังกูพูดบ้างดิวะ” พลภัทรลุกขึ้นยืนพลางก้มลงมองเพื่อนที่ดูจะไม่ใส่ใจสิ่งที่เขาพูดสักเล็กน้อย


“มึงจะหวงน้องทำเหี้ยไรวะ กูแค่จีบไม่ได้จะปล้ำ ถ้าน้องมึงไม่โอเคให้กูจีบกูก็ไม่จีบ แต่จะให้กูตัดใจตั้งแต่ไม่เริ่มน่ะไม่มีทาง”


ในตอนนี้จะโอเคหรือไม่โอเค พลภัทรก็ไม่อยากให้เกิดขึ้นทั้งนั้น


“ไว้เจอกัน กูกลับละ” เขาเป็นฝ่ายตัดบทแล้วหยิบเอากระเป๋าย่ามขึ้นสะพายไหล่ทันที


“ให้กูไปส่งปะ” แม้จะขัดเคืองแต่ภีมก็ยังเสนอตัวทำหน้าที่ที่ตนเองทำบ่อยๆ


คนที่ตัวเตี้ยกว่าเล็กน้อยเป็นฝ่ายเหลือบมองด้วยหางตาก่อนจะไม่เอ่ยตอบอะไร


“มองไรวะ..เอาไง ให้ไปส่งป่ะ” คนที่นอนเอนๆอยู่ลุกขึ้นยืนโอบไหล่


“กูสัญญานะเว้ยว่าถ้าน้องมึงไม่ชอบกู กูไม่บังคับเด็ดขาด เป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม...นะพลนะ”


...แต่ภีมไม่รู้เลยว่าคำสัญญานั้นจะไม่มีโอกาสได้ใช้...


...เพราะการตัดสินใจของคนเป็นพี่...ที่ต้องการปกป้องน้องชาย...







///////////////////////////////////








“พี่จะไปต่อโทเมืองนอก พีทไปกับพี่นะ” จู่ๆ...ในวันที่จบการศึกษา พลภัทรที่เรียกน้องชายเข้ามาหาในห้องก็เอ่ยขึ้นโดยไม่มีการเกริ่นนำใดๆ


“อ้าว ทำไมล่ะพี่พล พีทเพิ่งเข้าที่นี่เองนะ” พิชญ์ถามกลับด้วยความประหลาดใจขณะค่อยๆหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้นวมของพี่ชาย


“พี่อยากให้พีทฝึกภาษา ไปแล้วเทียบโอนเข้าโรงเรียนสักสองปีกว่าๆกำลังดี แล้วค่อยกลับมาเข้ามหาลัยที่ไทย” ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาเอ่ยตอบ


เปล่าเลย...เหตุผลของเขามีเพียงข้อเดียว


...กันพีทให้ห่างจากภีมที่สุด...เท่าที่ทำได้...


“นะ ไปกัน....”


“พีทยังไงก็ได้ แล้วพ่อว่าไงล่ะ” เขาถามไปถึงมนูญ ผู้ปกครองที่แสนเข้มงวด บิดาที่วางแผนทุกอย่างในชีวิตไว้ให้ลูกทุกคน


“เดี๋ยวพี่ลองขอพ่อดู”


คำขอไปเรียนต่อต่างประเทศของพลภัทรและพิชญ์ถูกตอบรับโดยง่าย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่วางไว้ของมนูญนั้นมาในภายใต้เงื่อนไขที่พลภัทรยากจะปฏิเสธ บิดาของเขามีเพื่อนสนิทที่คบค้ากันมานาน และเมื่ออีกฝ่ายมีลูกสาวจึงเป็นการดีที่จะกระชับความสัมพันธ์ให้แนบแน่นขึ้นด้วยการเป็นทองแผ่นเดียวกัน หญิงสาววัยรุ่นที่เคยเห็นหน้าบ้างกลายมาเป็นคู่หมั้น...ที่ตัวพลภัทรเองไม่อาจจะกล่าวว่ารักได้สักนิด


คู่หมั้น...ที่ไม่ได้เกิดจากความรัก


เพียงเพราะความเหมาะสม....เพ็ญแขคือผู้หญิงคนนั้น....


“ไม่ได้รักไม่ใช่เหรอ” พิชญ์เป็นคนหันมาถามคำถามนี้หลังจากรัดเข็มขัดนิรภัยบนเครื่องบินแล้ว


“อืม...” การตอบรับเนิ่นนานก่อนที่จะพูดต่อ “ไม่ได้รักหรอก แต่เดี๋ยวก็คงรัก”


พลภัทรตอบเรียบๆแล้วหันไปมองน้องชาย ฝ่ามือได้รูปยกขึ้นลูบศีรษะเบาๆด้วยความเอ็นดู


ไม่รู้ว่าการตัดสินใจพาพิชญ์หนีออกมาจากภีม โดยไม่ให้โอกาสภีมได้สนิทสนมไปมากกว่านี้เป็นความคิดที่ถูกต้องหรือดีแค่ไหน แต่เพราะเป็นพี่ชาย...จึงต้องปกป้องน้องจากทางเดินที่ไม่ปกติ แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นเพื่อนตัวเองก็ตาม


“เหรอ อืม พ่อให้ทำอะไรก็ต้องว่าตามนั้นใช่มั้ย”


“ก็ไม่ถึงกับทั้งหมด อะไรที่ทำได้...โดยไม่ลำบากใจมากก็ทำไป”


พี่ชายคนโต...ว่าที่หัวเรือใหญ่คนต่อไปได้แต่บอกตัวเองให้ทำตามคำสั่งในหัว ทุกคำสั่งของพ่อเป็นเหมือนกำแพงสูงที่ไม่มีวันปีนหนีพ้น หากดื้อรั้นก็รังแต่จะทำให้ถูกบีบเข้าหาจนหายใจไม่ออก ชีวิตที่ไร้อิสระของเขาเป็นมาตั้งแต่วันที่ลืมตาดูโลก ในบางครั้งที่ชายหนุ่มคิดอยากจะทุบกำแพงรอบด้านให้แตก ในสมองก็จะบอกเขาว่าไม่มีทาง....มันไม่มีทางทำได้


ชายหนุ่มก้มลงมองมือตัวเอง เขารู้...ว่าในตอนนี้พละกำลังของตนเองยังคงไม่เพียงพอ


แต่สักวัน...สักวัน...


วันที่จะเป็นตัวของตัวเองได้ต้องมาถึง













To Be Continued.....

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
มาม่าเดือดแล้วนะคะนี่
คุณพ่อมีความลับอะไรอีกใช่มั้ยคะ เศร้าจังเลยTT

มาม่ากำลังเพิ่งต้มค่ะ ส่วนเรื่องความลับคุณพ่อ....อีกไม่กี่ตอนได้รู้แน่นอนค่ะ ^^

ออฟไลน์ honeyhoon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 140
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 :m15:
น่าสงสารทุกคนเลยค่ะ
 :เฮ้อ:
เป็นกำลังใจให้ค่า
 :pig4:

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :a5:  โอ้วมันช่างซับซ้อนซะจริง ๆ
           รอตอนต่อไปจ้าาาาาา o13

ออฟไลน์ RUMINA

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
มาม่ากำลังเพิ่งต้มค่ะ ส่วนเรื่องความลับคุณพ่อ....อีกไม่กี่ตอนได้รู้แน่นอนค่ะ ^^
อ๋า อยากรู้เร็วๆจังค่ะ แง้!//ค้าง
รอตอนต่อไปอยู่นะคร้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด