ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องจักรกฤษณ์และจอมขวัญแน่นแฟ้นเช่นเก่าอย่างที่คุณพัชรีสบายใจว่าจะไม่เห็นลูกชายของเธอทำให้น้องชายวิตกกังวลกินไม่ได้นอนไม่หลับอีก…แต่…เจ้าสองพี่น้องนั่นชักจะเริ่มไม่รู้จักความพอดีเสียแล้ว เพราะช่วงนี้ความสัมพันธ์มันดีเกินไปจน จักรกฤษณ์แย่งเวลาของจอมขวัญไปจากอธิปเสียหมด!! นี่ถ้าเปรียบเป็นละครช่องมากสี น้อยสีอะไรนั่นแล้วล่ะก็ จักรกฤษณ์ก็คือพระรองดีๆที่มาทำให้นางเอกพระเอกเขาหมางเมินกันเลยนะเนี่ย!!!
“ของขวัญยังไม่กลับหรือครับ” วันนี้อธิปแวะมาที่บ้าน เพราะตามหาตัวจอมขวัญไม่เจอมาหลายวันแล้ว
“เอ่อ…พอดีผมแวะไปที่โรงแรมมา แต่เห็นว่าเขาออกจากที่นั่นตั้งแต่บ่าย” ชายหนุ่มคลาดกับจอมขวัญแทบทุกครั้งที่เขาไปหา บางครั้งแม้ไม่คลาด แต่จอมขวัญก็ติดนัดกับ ‘พี่ชาย’ จนเขาทำได้เพียงแค่ทักทายไม่กี่คำเท่านั้น
“จ้ะ ช่วงนี้ของขวัญกับจักรบ้าตีแบดยิ่งกว่าจะไปคัดทีมชาติ เลิกงานเร็ว แต่กลับบ้านช้าตลอดเพราะมัวแต่แวะไปตีแบดกันอยู่นั่น! นี่ถ้าเกเรจนงานเสียล่ะก็ ป้าจะสั่งตัดเงินเดือนจริงๆ” คุณพัชรีพูดแล้วก็ได้แต่เงียบเมื่อมองเห็นแววหม่นหมองและผิดหวังจากชายหนุ่มตรงหน้า เธอเองก็ผ่านช่วงเวลาแห่งความรักอันหวานชื่นมาแล้ว เหตุใดจะไม่รู้ว่ายามนี้ อธิปรู้สึกเช่นไรที่ตามหาตัวจอมขวัญแทบไม่พบ
…หลานชายของเธอก็เหลือเกิน…รักเขาแต่ไม่แบ่งเวลาให้เขา คิดว่าเขาเป็นของตายรึไง!...
เสียงรถเคลื่อนเข้ามาจอดในบริเวณบ้าน ทำเอาคุณพัชรีรีบเดินไปชะเง้อคอมองดู ก็ถึงได้รู้ว่าสองพี่น้องที่ยามนี้รักกันมาก กลับมาถึงบ้านแล้ว
เพียงครู่เดียว เสียงพูดคุยสนุกสนานถึงเกมแข่งแบดมินตันที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็ดังลั่นมาตั้งแต่ตีนบันได จนกระทั่งถึงบันไดขั้นบนสุด แล้วเสียงของจอมขวัญก็เงียบไปเมื่อเจ้าตัวเห็นว่าใครบางคนเป็นแขกยามเย็นของเรือนไทย
“พี่โต…สวัสดีครับ” เจ้าตัวเรียกชื่อ ก่อนจะส่งยิ้มแล้วยกมือไหว้ อธิปยกมือรับไหว้ ก่อนจะเหลือบตามองจักรกฤษณ์ แต่ดูเหมือนฝ่ายนั้นจะยังแข็งข้อต่อเขาเล็กน้อย เพราะเพียงแค่พยักหน้ารับสั้นๆเป็นเชิงทัก ก่อนจะหันไปทางมารดา
“แม่ มีอะไรกินมั่ง หิวแล้ว”
“ไข่เจียวหมูสับ แกงไตปลา แล้วก็ปลาทอด โตทานข้าวด้วยกันนะ ป้ามีเรื่องอยากจะคุยด้วยพอดี” คุณพัชรีรีบเดินเกมตัดหน้าไม่ให้อธิปขอแยกตัวกลับ เพราะเห็นว่าทั้งอธิปและจอมขวัญยังไม่ได้คุยกันสักคำ ร่างสูงอึกอักเล็กน้อย เขานึกเกรงใจจักรกฤษณ์ที่จะต้องนั่งร่วมโต๊ะกับเขา แต่เมื่อเห็นคุณพัชรีจ้องมองรอคำตอบอย่างคาดหวัง ชายหนุ่มจึงได้แต่ตอบรับสั้นๆ
พวกเขาย้ายไปนั่งที่โต๊ะเตี้ยบนพื้นยกกลางเรือน คุณชัยยังไม่กลับ เพราะไปรับประทานอาหารกับลูกค้ารายใหญ่ ที่เรือนจึงเหลือแค่คุณพัชรีและอีกสามหนุ่มเท่านั้น
บนโต๊ะอาหารนั้นเงียบกริบ มีเพียงเสียงช้อนส้อมกระทบกันบ้าง แต่ก็ไม่ดังมากนัก คุณพัชรีสังเกตสองหนุ่มอย่างอธิปและจอมขวัญมากเป็นพิเศษ หากแต่ทั้งสองไม่แสดงอาการอะไร เธอนึกชมที่อธิปไม่เสนอตัวบริการจอมขวัญด้วยการตักกับข้าวให้ เพราะนั่นอาจจะทำให้จักรกฤษณ์ยิ่งขวางหูขวางตา
…เอาเป็นว่า…กับจักรกฤษณ์ที่ทำตัวเป็น ‘พ่อหวงลูกสาว’ นั้น อธิปทำตัวถูกชะตาใช้ได้!...แต่… สำหรับคุณพัชรีคนนี้ ไอ้การไม่แสดงออกอะไรให้ขัดลูกหูลูกตาคนแก่ก็นับว่าดีหรอก แต่..ที่ไม่มอง ไม่คุยกันเลยนี่สิ! คอละครอย่างเธอล่ะกลัวใจพระเอกนางเอกจะเลิกกันจริ๊งจริง!!
“เออ โต ป้ามีเรื่องอยากจะรบกวนนิดหน่อย…คือ ป้าไปคุยกับเพื่อนของเพื่อนป้า ที่เขาเป็นจิตแพทย์ เขาแนะนำว่ามีอีกวิธีนึง ที่จะช่วยทำให้ของขวัญอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็วกว่านี้ นั่นก็คือ ให้ของขวัญลองเปลี่ยนบรรยากาศดูบ้าง อย่างเช่นไปนอนค้างที่อื่นบ้าง ได้เจอกิจกรรมใหม่ๆบ้าง ไอ้ออกกำลังกายปลูกต้นไม้มันก็ดี แต่ถ้าทำบ่อยๆมันซ้ำซากจำเจเกินไป นี่ป้าก็เลยว่าจะหาคอนโดให้ของขวัญสักที่นึง โตมีที่แนะนำมั้ย”
“เฮ้ย! หาคอนโดให้ไอ้ขวัญเนี่ยนะ!! มันจะไปอยู่ได้ยังไง! มันไม่ชอบหรอก!” จักรกฤษณ์ร้องลั่นอย่างไม่เห็นด้วยทันที ทั้งๆที่เจ้าตัวอย่างจอมขวัญยังไม่ทันอ้าปากพูดอะไรด้วยซ้ำ คุณพัชรีหันมาจิกตาใส่ลูกชาย อันที่จริงเธอก็ไม่อยากให้จักรกฤษณ์อยู่รับรู้รับฟังหรอกเพราะรู้ดีว่าเจ้าลูกชายต้องขัด แต่ถ้าขืนไม่ให้ฟัง แล้วมารู้เอาทีหลัง จะกลายเป็นโวยวายบ้านแตกสิคราวนี้
“ถ้าอย่างนั้นก็บ้านเดี่ยวก็ได้ โต…โตพอจะมีแนะนำให้ป้ามั้ย”
“บ้านเดี่ยวมันจะไปอยู่ได้ยังไงคนเดียว! ไม่ต้องหรอก! ให้มันอยู่ที่นี่แหละ!” เป็นอีกครั้งที่จักรกฤษณ์ขัดขึ้นมา ซึ่งอธิปเห็นด้วยกับจักรกฤษณ์อย่างไม่ต้องสงสัย
“จริงด้วยครับ อย่าให้อยู่คนเดียวเลย” อธิปสนับสนุน คุณพัชรีเลยหันมาทางจอมขวัญที่เพิ่งอ้าปากรับข้าวและไข่เจียวหมูสับคำโต ไม่ได้สนใจหัวข้อสนทนาที่เป็นเรื่องของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
“ของขวัญ หิวมากเลยเหรอลูก” คุณพัชรีอดหยอกหลานชายไม่ได้ด้วยความเอ็นดู ร่างโปร่งเลยต้องรีบกลืนอาหารในปากลงคอ แล้วส่งยิ้มเก้อๆ
“ก็…วันนี้บ้าพลังไปหน่อย แต่…เรื่องให้ขวัญไปอยู่ที่อื่น ขวัญไม่ไปได้มั้ยป้ารี ให้ขวัญไปอยู่คนเดียว ขวัญอยู่ไม่ได้หรอก”
“ไปอยู่แค่เสาร์อาทิตย์เอง อย่างมากก็สองสัปดาห์ไปทีนึง”
“แต่อยู่คนเดียว…ขวัญไม่อยาก”
“งั้นก็ต้องมีคนอยู่ด้วยสินะ แต่ว่าคุณหมอเขาแนะนำมาว่า ถ้ายกโขยงทั้งครอบครัวไปอยู่ด้วยเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนแค่สภาพแวดล้อมมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเท่าไหร่ เขาว่าทางที่ดีต้องให้อยู่กับคนที่สนิทในระดับหนึ่ง เพราะจะทำให้ไม่เกร็ง และก็จะช่วยให้ของขวัญได้ฝึกตัวเองในการเรียนรู้คนอื่นและยอมรับคนอื่น รู้จักเก็บอารมณ์ รู้จักควบคุมอารมณ์ คุณหมอเขายืนยันนะ ว่าได้ผลมาก”
“โอ๊ย! ไม่ต้องเอาผลมากไปกว่านี้แล้วล่ะแม่ ไอ้ขวัญมันก็ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว!” จักรกฤษณ์ค้านสุดลำ
“แต่แม่อยากให้ของขวัญหายขาด หรือจักรไม่อยาก?” พอถูกย้อนแบบนั้น จักรกฤษณ์ก็เงียบกริบ พูดไม่ออกขึ้นมาทันที คุณพัชรีทำหน้านิ่งคิด เหมือนหาทางออกไม่ได้ว่าจะให้หลานชายสุดที่รักไปอยู่ที่ไหนกับใครดี ทั้งๆที่ในความเป็นจริง เธอหมายตาไว้แล้วว่าจะให้ใครช่วย…หญิงวัยปลายนั่งรอเพียงอึดใจเดียว เสียงทุ้มอ่อนโยนก็ดังมาจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ
“ถ้า…คุณป้าไม่ว่าอะไร ให้ของขวัญมาอยู่กับผมก็ได้นะครับ” คำพูดของอธิปทำเอาทั้งจักรกฤษณ์ ทั้งจอมขวัญหันขวับมามอง
“ไม่!...”
“จริงเหรอจ๊ะ?! ดีเลย!!!” จักรกฤษณ์กำลังจะค้าน แต่มารดาของเขาตัดหน้าชื่นชมไปเรียบร้อย
“แล้วโตสะดวกให้ของขวัญไปค้างเมื่อไหร่”
“เมื่อไหร่ก็ได้ครับ แล้วแต่ของขวัญ”
“ถ้าอย่างนั้นเริ่มสัปดาห์นี้เลยนะจ๊ะ!” คุณพัชรีรวบรัดตัดความพร้อมรอยยิ้มเต็มแก้มอย่างที่ไม่มีใครสักคนกล้าค้านอะไรขึ้นมาอีก จักรกฤษณ์นึกเข่นเขี้ยวมารดา หากแต่ทำอะไรไม่ได้
…ถ้าจะทำกันถึงขนาดนี้! ทำไมไม่ผูกโบว์ไอ้ขวัญแล้วใส่พานทองยกให้คุณอธิปไปซะเลยล่ะ! วุ้ย! หงุดหงิด!!!!...
…………………………….
…แล้ว…จู่ๆ จอมขวัญก็ต้องไปค้างบ้านอธิปเสียแบบนั้น…
ร่างโปร่งนั่งตัวเกร็งมาในรถ เขายังงงๆอยู่เลยว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อยู่ดีๆคุณพัชรีก็บอกว่ามีจิตแพทย์แนะนำให้เขาลองเปลี่ยนที่อยู่ดูบ้าง แล้วอธิปก็เสนอให้ไปค้างที่บ้าน จากนั้นคุณพัชรีก็เห็นดีเห็นงามด้วย แล้ว…เขาก็กระโดดขึ้นรถมากับอธิป…
“พี่โต…ไม่น่าต้องลำบากเลย…” จอมขวัญเอ่ยปากขึ้นมา
“แล้วจะให้พี่ปล่อยของขวัญไปอยู่ที่ไหนคนเดียวอย่างนั้นน่ะเหรอ?” เสียงของอธิปค่อนข้างแข็งกระด้าง อย่างที่ทำเอาคนฟังขมวดคิ้วเล็กน้อย
“พี่…โกรธขวัญอยู่เหรอ” อธิปนิ่งไปเล็กน้อย อันที่จริงก็ไม่เชิงว่าเขาโกรธ เพียงแต่…เขาแค่รู้สึกว่าตัวเองไม่สำคัญสำหรับจอมขวัญ ไม่ต้องเจอหน้ากันเป็นสัปดาห์ก็ทำได้โดยไม่รู้สึกอะไร
“พี่โต โกรธขวัญเรื่องอะไร” เห็นไหม…เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำเรื่องให้เขานึกน้อยใจอีกแล้ว
ร่างสูงเลี้ยวรถเข้าจอดข้างทางแล้วเปิดไฟกะพริบขอทางเอาไว้ เขานั่งตัวตรง สายตามองตรงไปข้างหน้า ไม่แม้แต่จะหันมามองคนข้างกาย
“ช่วงนี้เราไม่ได้เจอกันเลย”
“…ก็…บริษัทพี่โตไม่มีดีลงานกับที่โรงแรมแล้วนี่นา”
“ต้องอยู่ในช่วงดีลงานเท่านั้นเหรอ เราถึงจะได้เจอกัน” จอมขวัญเผยอปากค้างเพราะเถียงไม่ออก
“พอพี่ไปหาตอนเที่ยง ของขวัญก็ไม่อยู่ พอพี่แวะไปตอนบ่าย ของขวัญก็ออกไปตีแบดกับคุณจักรแล้ว พอพี่โทร.หาตอนกลางคืน ของขวัญก็ง่วง…พี่ขอเวลาแค่นิดเดียวจากของขวัญ ของขวัญให้พี่บ้างได้มั้ย” ร่างสูงนึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เขารู้สึกว่าตัวเองเหมือนไม่มีคุณค่าในชีวิตของจอมขวัญ ทั้งๆที่รัก…แต่เหมือนอีกฝ่ายไม่ต้องการ…
“พี่โต คือขวัญ…ช่วงนี้ขวัญ…” จอมขวัญพูดไม่ออก ช่วงที่ผ่านมา เขาพยายามอยู่กับจักรกฤษณ์ให้มากที่สุด เพราะไม่อยากถูกจักรกฤษณ์หลบหน้าหรือมึนตึงใส่อีก แต่ในขณะเดียวกัน…เขากลับให้เวลากับอธิปน้อยลง
“ช่างมันเถอะ…”
“พี่โตโกรธขวัญอยู่ จะช่างมันได้ยังไง” จอมขวัญคว้าแขนอธิปเอาไว้
“…ขวัญขอโทษ ขวัญไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ดวงตาอ้อนวอนของจอมขวัญนั้น แทบจะทำเอาร่างสูงลืมความรู้สึกตลอดหลายวันที่ผ่านมาเสียสิ้น ให้ตายเถอะ…
อธิปเบือนสายตาหนีออกไปทางกระจกข้าง เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาหายโกรธหายเคืองแล้ว ขอแกล้งคนที่ชอบลืมเขาเสียหน่อยเถอะ
ร่างสูงบิดแขนตัวเล็กน้อย พอให้คลายออกจากการเกาะกุมของคนที่นั่งอยู่ข้างกาย ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเข้าเกียร์ กดถอนไฟกะพริบ แล้วจึงหมุนพวงมาลัยพารถออกสู่ถนนใหญ่อีกครั้ง เขาไม่พูดอะไรอีกเลย ทิ้งให้จอมขวัญได้แต่มองตามด้วยความเสียใจและสำนึกผิด
………………………….
บ้านเดี่ยวหลังเล็กที่จอมขวัญเคยมา ยังคงเหมือนเดิมทุกประการ หากแต่คราวนี้สิ่งที่ไม่เหมือนเดิม ก็เห็นจะเป็นเจ้าของบ้านอย่างอธิปที่ไม่สนใจใยดีเขาเลย จอมขวัญได้แต่เดินตามอีกฝ่ายต้อยๆขึ้นมาถึงห้องนอน แต่อธิปก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี
...แล้วต้องให้เขาเป็นฝ่ายง้อน่ะหรือ?...
จอมขวัญคิดหัวแทบแตกว่าจะง้ออธิปยังไง สมัยที่คบหากับน้ำทิพย์และหญิงสาวคนอื่นๆก่อนหน้านี้ ตอนจะง้อ เขาก็ซื้อดอกไม้ช่อโตๆ หรือขนมอร่อยๆ แล้วก็เทียวไล่เทียวขื่อตามสารภาพผิดจนอีกฝ่ายใจอ่อน แต่…กับอธิป…ถ้าเขาซื้อดอกไม้ช่อใหญ่ หรือขนมมาให้ มีหวังได้ถูกโกรธกว่าเดิมแน่ๆ…
“ของขวัญจะอาบก่อน หรือจะให้พี่อาบก่อน” เสียงของอธิปดังขึ้น ทำเอาคนกำลังคิดหาวิธีง้ออีกฝ่ายต้องเงยหน้ามอง
“ขวัญอาบมาแล้วจากสนามแบดฯ”
อธิปพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะรีบหมุนกายเดินหนีเข้าห้องน้ำ เพราะสายตาน้อยอกน้อยใจ เสียใจสำนึกผิดที่อีกฝ่ายใช้มองเขาอยู่ตอนนี้ ยิ่งทำให้ใจอ่อนหนักกว่าเดิม อยากจะเดินเข้าไปกอด อยากปลอบให้สบายใจว่าเขาไม่ได้โกรธเคืองอะไรอีกแล้ว แต่…ถ้าทำอย่างนั้น เขาก็จะอดเห็นว่าจอมขวัญจะมีวิธีการง้ออย่างไรบ้างน่ะสิ…
จอมขวัญมองตามแล้วยิ่งรู้สึกอ่อนล้าไปทั้งใจ เขาไม่รู้จะทำอย่างไรให้อธิปหายโกรธ…หรือจะปรึกษาใครสักคนดี? แล้วจะปรึกษาใครล่ะ? พี่จักรงั้นหรือ? มีหวังเรื่องของเขากับอธิปได้แตกน่ะสิ จะปรึกษาป้ารี…ก็กลัวป้ารีจะยกละครหลังข่าวก่อนข่าวมาเป็นตัวอย่างให้ปวดหัว ส่วนลุงชัย…ป่านนี้อาจจะยังคุยงานกับลูกค้าอยู่ก็ได้…ถ้าอย่างนั้น…ถ้าอย่างนั้น…หรือว่าปรึกษาน้ำทิพย์ดี?
ชายหนุ่มตัดสินใจเลือกตัวเลือกสุดท้าย เพราะน้ำทิพย์น่าจะให้คำแนะนำเขาได้ไม่มากก็น้อย ร่างโปร่งเปิดประตูระเบียงเดินออกไปด้านนอก เขาทรุดตัวลงนั่งบนม้านั่งยาว ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากด
‘ว่าไงคะ คุณจอม’
“คุณน้ำ…เอ่อ…ตอนนี้ สะดวกคุยมั้ยครับ”
‘สะดวกค่ะ คุณจอมมีอะไรหรือคะ’
“เอ่อ…คือ…คือ…เพื่อน…เพื่อนผม…เพื่อนผมเขา เขาทะเลาะกับแฟน…เอ่อ…ก็ไม่เชิงทะเลาะ คือ…คือแฟนโกรธเพื่อนผมน่ะครับ แล้ว…แล้วเพื่อนผมก็เลยมาปรึกษาว่าจะง้อยังไงดี คือ…แฟนเพื่อนเขาค่อนข้าง…ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ นิ่งๆ แล้วก็ไม่ค่อยแสดงอารมณ์ เอ่อ…คุณน้ำมีคำแนะนำมั้ยครับ” จอมขวัญคิดว่าตัวเองหูฟาด เพราะเขาได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักมาจากปลายสาย หากแต่ก็แค่แปบเดียว ก่อนที่น้ำทิพย์จะตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังกลับมา
‘ถ้าเป็นน้ำ น้ำจะไปกอดแฟนน้ำแน่นๆ เอาแบบกอดให้เดินหนีน้ำไม่ได้เลย แล้วน้ำก็จะขอโทษเขา บอกเขาว่าน้ำเสียใจ น้ำผิดไปแล้ว ทำให้เขาเห็นว่าน้ำสำนึกผิดจริงๆ แล้วก็ไม่อยากให้โกรธ น้ำเชื่อว่าพี่อธิ…เอ่อ…น้ำเชื่อว่าแฟนของเพื่อนคุณจอมจะต้องหายโกรธแน่นอนค่ะ’
“ก…กอดหรือครับ?”
‘ค่ะ ต้องกอดแน่นๆด้วยนะคะ’
“เอ่อ…ครับ…” จอมขวัญได้แต่รับคำ แม้จะไม่เชื่อนักว่ามันจะได้ผลจริง แต่ก็อย่างที่น้ำทิพย์ว่า ‘กอดแน่นๆ ให้เขาเดินหนีไม่ได้’ อย่างน้อยถ้าอธิปไม่เดินหนี เขาก็จะได้มีเวลาอธิบายว่าเพราะอะไร เขาถึงไม่มีเวลาให้อธิปเลย
‘แล้วถ้าง้อสำเร็จ โทร.มารายงานน้ำด้วยนะคะ’
“เอ่อ…ครับ…”
‘จริงสิ คุณจอม…คุณจักรกฤษณ์เขา…เอ่อ…เขาเป็นยังไงบ้างคะ’
“เป็นยังไงบ้าง หมายความว่ายังไงครับ”
‘เอ่อ…เขา…สบายดีใช่มั้ยคะ’
“ครับ พี่จักรสบายดี คุณน้ำมีอะไรรึเปล่าครับ”
‘เปล่าหรอกค่ะ’ จอมขวัญคุยกับหญิงสาวอีกหลายประโยค ดูเหมือนน้ำทิพย์จะอยากรู้เรื่องของจักรกฤษณ์จนเขายังนึกสงสัย หรือระหว่างสองคนนี่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหรือ? จอมขวัญไม่กล้าถามจากหญิงสาว หากแต่จะไปเค้นเอากับจักรกฤษณ์ เขาก็คิดว่าตัวเองอาจถูกพี่ชายเหวี่ยงใส่เสียก่อน
สองหนุ่มสาวล่ำลากันสั้นๆ ก่อนจอมขวัญจะกดตัดสาย พอดีกับที่ประตูระเบียงเปิดออก
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไป ของขวัญ” อธิปอาบน้ำเสร็จแล้ว ถึงได้ออกมาตาม เพราะแม้จอมขวัญจะบอกว่าอาบน้ำมาแล้ว แต่เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่ได้สบายพอจะกระโดดขึ้นเตียงแล้วนอนได้เลย จอมขวัญหันมามอง ยังไม่ทันโต้ตอบอะไร ร่างสูงก็หมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้อง จอมขวัญรีบลุกขึ้นเดินตาม เขาปิดประตูระเบียง รูดม่านแล้วจึงหันมาทางอธิปที่กำลังเอาผ้าเช็ดตัวไปตากที่ราวผึ่ง
ร่างโปร่งเดินตรงเข้าไปหาทันที และพออธิปหันกลับมา เขาก็สวมกอดแน่น ซุกหน้าลงกับอก กลิ่นผงซักฟอกจากเสื้อยืดสำหรับใส่นอนของอีกฝ่ายลอยเข้าจมูกจนจอมขวัญต้องซุกหน้าลงมากกว่าเดิม
“ของขวัญ…”
“ขวัญขอโทษ…ขวัญแค่อยากให้พี่จักรรับเรื่องของเราได้เร็วๆ ขวัญอยากให้เขาเห็นว่าถึงขวัญจะมีพี่โต แต่ขวัญก็ไม่ลืมเขา…แต่…มันกลายเป็นว่าขวัญให้เวลาพี่น้อยลง ขวัญขอโทษ” คำขอโทษในท้ายประโยคนั้นยิ่งฟังดูอ่อนระโหยจนอธิปหมดแรงจะแกล้งต่อไป
“เงยหน้าขึ้น” จอมขวัญเงยหน้าตามที่อีกฝ่ายบอก
“แล้วก็ปล่อยพี่” แต่พอประโยคถัดมาของอธิปเท่านั้น ร่างโปร่งถึงกับใจหาย สองแขนเหมือนจะล้าแรง แต่ก็ฮึดรัดแน่นกว่าเดิม แล้วส่ายหน้ารัว
“ไม่”
“พี่บอกให้ปล่อยพี่”
“ไม่” เจ้าตัวยังเอาแต่ส่ายหน้า ไม่ยอมปล่อยท่าเดียว จนอธิปต้องเป็นฝ่ายปลดสองแขนของจอมขวัญลง ร่างโปร่งใจเสีย ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะง้อยากขนาดนี้ เขาตัดสินใจจะเอ่ยปากถามว่าทำยังไง อธิปถึงจะหายโกรธ แต่ไม่ทันได้พูด ก็เป็นฝ่ายอธิปที่ก้มลงจูบปิดปากเขาเสียก่อน
“อื้อ…” รสจูบไม่ทันตั้งตัว แต่จอมขวัญกลับเต็มใจยอมรับมันอย่างยินดี เขาหลับตาลงรับรู้สัมผัสร้อนผ่าวแต่หวานจับใจ อธิปจูบเล็มไปตามริมฝีปาก สองมือยอมปล่อยแขนจอมขวัญแล้วเลื่อนไปลูบไล้แผ่นหลัง พลางดันให้เข้ามาใกล้
ริมฝีปากหนาถอนออกไปแล้ว ดวงตาคมมองทั่วใบหน้าขาวอย่างรักใคร่
“ที่บอกให้ปล่อย เพราะของขวัญกอดพี่แน่นเกิน จูบลำบาก” ดวงตาคมนั้นส่อแววอยากล้อเลียนและหยอกเย้าไปในคราวเดียวกัน อย่างที่ทำเอาจอมขวัญนึกหมั่นไส้…ทำอย่างกับตัวเองจูบเก่งอยู่คนเดียวนี่! ไม่รู้ซะแล้ว ว่าจอมขวัญ วิมลกิตติคนนี้ก็ ‘เชี่ยว’ ไม่น้อยหน้าหรอก…
แม้ร่างกายจะไม่สูงหนาเท่าอธิป แต่จอมขวัญก็มีเรี่ยวแรงอย่างที่ผู้ชายคนนึงมี เขาดันร่างสูงไปจนชิดผนังฝั่งหนึ่ง ก่อนจะเป็นฝ่ายยื่นริมฝีปากขึ้นไปประกบ เสียงครางเครือของชายหนุ่มสองคนดังเบาๆในห้องนอนที่เปิดเครื่องปรับอากาศเสียเย็นฉ่ำ ทว่ารสสัมผัสเริ่มร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆจนทำให้ชักจะร้อนรุ่มขึ้นทุกที อธิปเบี่ยงใบหน้าลงเข้าซุกไซ้กับซอกคอขาว กลิ่นสบู่อ่อนๆผสมปนเปกับกลิ่นกายของจอมขวัญทำให้อธิปอดใจไม่ไหว เขาดูดดึงผิวเนื้ออ่อนและเลียไล้ด้วยปลายลิ้นฉ่ำชื้น ขณะที่สองมือลูบบั้นเอวของจอมขวัญเบาๆแล้วรั้งให้เข้าแนบชิดรับรู้ตัวตนของเขา ริมฝีปากหน้าเลื่อนกลับขึ้นไปที่ข้างใบหูอีกครั้ง แล้วกระซิบเสียงสั่นพร่า
“ของขวัญ…คืนนี้จะเป็นฝ่ายง้อพี่ หรือจะให้พี่ง้อ”
จอมขวัญเหลือบตามอง กระตุกยิ้มบาง แต่อธิปกลับมองว่ามันเป็นรอยยิ้มยั่วเย้าเขาเหลือเกิน
“ขวัญ…ง้อเอง”
ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้า กับฉาก ‘ขวัญง้อเอง ’ ฮ่าฮ่า)
พาร์ทที่แล้ว ป้ารีโกยคะแนนนิยมไปอย่างท้วมท้น หลังจากปล่อยให้คุณรุ่งทิพแกนำโด่งเมื่อหลายพาร์ทก่อน
เดี๋ยวให้ สาว สาว สาว (วาย) เขาไปตกลงกันเองแล้วกันเนอะ ว่าใครจะเป็นประธานสมาคมแม่บ้านวายรุ่นเดอะ อิอิ
ส่วนพาร์ทนี้ ตอนที่เขียนฉากพี่จักรกับน้องขวัญเนี่ย โอยยยย ชอบมากกกกก
แบบว่าชอบผู้ชายอย่างจักรอ่ะ ปากร้ายใจดี กรี๊ดๆ อยากจะถือป้ายไฟให้พี่จักรในพาร์ทนี้ หรือว่าจะรอไปยกป้ายไฟให้พี่โตในพาร์ทหน้าดี? พาร์ทหน้ามีฉาก ‘ขวัญง้อเอง’ ด้วยอ่ะ
(พูดเหมือนพิมพ์พาร์ทหน้าแล้วเลยเนอะ ฮ่าฮ่า จริงๆแล้วแค่พล็อตเอาไว้เอง กร๊ากกกก ไฟจุกตูดคืองานของเรา )
ขอบคุณคนอ่าน คนเม้นท์ คนติดตาม และทุกกำลังใจนะคะ ขอบคุณพื้นที่บอร์ดด้วยค่ะ
เจอกันพฤหัสหน้าเด้ออออ