มื้อเช้าจบลงหลังจากที่ไม่มีใครพูดอะไรอีก แต่พลอยแพรวมองจอมขวัญแทบจะทุกวินาที จนคุณกนกนุชถือโอกาสตอนที่หญิงสาวขอตัวไปเข้าห้องน้ำและจอมขวัญแยกออกไปคุยโทรศัพท์นอกบ้าน รีบแวบเข้าไปคุยกับลูกชายที่ยืนล้างจานอยู่ในครัว
“น้องแพรวท่าทางจะชอบคุณจอมซะแล้ว” อธิปหันมามองมารดาแล้วยิ้มน้อยๆ ไม่เห็นด้วยหรือปฏิเสธ แม้จะตีความทุกการกระทำของเธอไปในทิศทางเดียวกับมารดาก็ตาม
“โถ! ตอนแรกแม่ก็หวังว่าจะพามาให้โตรู้จัก เผื่อจะชอบพอกัน ที่ไหนได้ น้องแพรวดันไปติดใจคุณจอมซะนี่! แต่คุณจอมเขาก็หน้าตาดีจริงๆนะ เป็นพระเอกได้สบายเลย” ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่คุณกนกนุชได้เห็นหน้าค่าตาจอมขวัญ และได้พิจารณาอีกฝ่ายด้วยเวลาอันเหลือเฟือบนโต๊ะอาหาร
…ทั้งหน้าตา บุคลิกภาพ มารยาท ดีไม่มีที่ติ!...
รวมๆแล้ว รูปลักษณ์ภายนอกของจอมขวัญ เธอให้ ‘ผ่าน’ ส่วนเรื่องนิสัยใจคอ เธอเคยได้ยินจากคุณรุ่งทิพว่านิสัยดีใช้ได้ ถ้าจะติดก็แค่เรื่องในอดีตที่จอมขวัญเคยทำเอาไว้เท่านั้น แต่จากที่เธอได้ยินได้ฟังมา ปัจจุบันนี้จอมขวัญก็ไม่ได้ทำตัวเหลวไหลอะไรแล้ว ซ้ำอธิปยังยืนยันว่าเอางานเอาการอีกต่างหาก แม้ตัวเธอเองจะยังไม่ได้รู้จักสนิทสนมกับจอมขวัญอย่างลึกซึ้ง แต่คุณกนกนุชว่า…อีกฝ่ายก็ไม่เลวร้ายนักหรอก
“นี่โต แล้วตั้งแต่เขาเลิกกับหนูน้ำ เขามีแฟนใหม่รึยัง” และเพราะว่าชายหนุ่มที่พลอยแพรวสนใจนั้น ‘ผ่านเกณฑ์’ คุณกนกนุชเลยคิดจะช่วยให้หญิงสาวได้ใกล้ชิดกับจอมขวัญเสียหน่อย
“ถามอะไรน่ะแม่” อธิปหันมาย้อน
“เอ้า! โตก็เห็นว่าน้องแพรวน่ะท่าทางจะชอบคุณจอม แม่เห็นโตสนิทกับเขา ก็เลยมาถามว่าเขามีแฟนรึยัง ถ้ายังไม่มี แม่จะได้ช่วยน้องแพรวเต็มที่” มือของอธิปที่กำลังล้างจานถึงกับชะงัก ชายหนุ่มนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองมารดาอีกครั้ง
“ผมว่าแม่อย่าช่วยเลย…คือ…รอดูเฉยๆดีกว่า เกิดทุ่มสุดตัว ช่วยดันไปแล้ว น้องแพรวของแม่แค่หลงใหลวันเดียวจบ แม่ไม่เสียผู้ใหญ่เหรอ” คุณกนกนุชนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบ
“หื้อ! แม่รู้จักน้องน่ะ! น้องแพรวไม่ใช่คนโลเลอย่างนั้นหรอก!...” อธิปอ้าปากจะเถียง แต่เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นเสียก่อน พร้อมกับที่พลอยแพรวเดินออกมา พวกเขาสองแม่ลูกเลยหยุดพูดเอาไว้แต่เพียงเท่านั้นก่อนที่คุณกนกนุชจะเดินไปชวนหญิงสาวกลับ สีหน้าของพลอยแพรวแสดงออกว่าเสียดาย แต่เธอก็ยังมีมารยาทยกมือไหว้ลาอธิป
“แล้ว…พี่จอมไปไหนล่ะคะ” นั่นไง! ลาอธิปอย่างเดียวไม่พอ ถามหาจอมขวัญอีกต่างหาก!! อธิปชักนึกหมั่นเขี้ยวคนรักของเขา ที่ดูเหมือนเสน่ห์จะล้นเหลือเสียเหลือเกิน
คุณกนกนุชหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเป็นฝ่ายพูด “อยู่ข้างนอกบ้านน่ะจ้ะ อ้าว! นั่นไง มาพอดี” จอมขวัญคุยโทรศัพท์เสร็จแล้ว จึงเดินเข้ามา เขาทำหน้างงเล็กน้อย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกลายเป็นเป้าสายตา
“ป้าจะกลับแล้ว คุณจอมกลับพร้อมป้ามั้ย” หญิงสูงวัยเริ่มหาทางให้สองหนุ่มสาวใกล้ชิดกัน เธอไม่เห็นรถคันอื่นนอกจากรถของอธิปที่จอดอยู่ จึงเดาเอาว่าจอมขวัญไม่ได้เอารถมา
พลอยแพรวเนื้อเต้นลุ้นในอกขอให้จอมขวัญตกปากรับคำจะไปพร้อมเธอ
“เดี๋ยวผมไปส่งเองแม่” แต่อธิปเอ่ยปากขัดขึ้นเสียก่อน “…พอดี…ผมจะจัดสวนใหม่ เขาต้องอยู่ช่วย” ชายหนุ่มเสริมเหตุผลเข้าไปอีก คุณกนกนุชทำหน้าไม่พอใจเล็กน้อยที่ลูกชายไม่ให้ความร่วมมือ แต่ก็ยอมกลับไปพร้อมกับพลอยแพรวที่หงอยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อหมดโอกาสจะได้ใกล้ชิดกับจอมขวัญอีก
เมื่อบ้านทั้งหลังเหลือกันเพียงแค่สองคนแล้ว จอมขวัญจึงหันมายักคิ้วใส่คนรักที่ยืนหน้าบูดอยู่ตรงประตูครัว มือสองข้างยังเต็มไปด้วยฟองน้ำยาล้างจาน บอกให้รู้ว่าเมื่อครู่นี้รีบพุ่งตัวออกมาจากหน้าอ่างล้างเพื่อต่อต้านไม่ให้เขากลับไปพร้อมกับคุณกนกนุชและพลอยแพรว
“ยักคิ้วทำไม? ชอบเหรอ มีผู้หญิงมาสนใจ” ร่างสูงหันมาถามเสียงดุ
“อย่าอิจฉาน่ะพี่โต”
“ไม่ได้อิจฉา” จอมขวัญขยับเข้าไปใกล้ ยักคิ้ว ยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเอ่ยปากถาม
“งั้นก็ ‘หึง’ ล่ะสิ”
“เออ!!!” สั้นๆ คำเดียวแต่ได้ใจความ ก่อนที่อธิปจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปล้างจานต่อในครัว เขาได้ยินเสียงหัวเราะดังมาจากข้างหลัง ก่อนที่เจ้าของเสียงจะเดินมายืนข้างๆเขาแล้วพูดประโยคที่ทำให้อธิปอยากจะหาสถานการณ์มาหึงอีกฝ่ายเป็นล้านๆครั้ง
“แต่ขวัญรักพี่โตคนเดียวนะ”
…………..
‘แต่ขวัญรักพี่โตคนเดียวนะ’
ประโยคที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูแน่นอก แต่…มันไม่อาจพองได้นาน ในเมื่อฝ่ายมารดาของเขาและพลอยแพรวนั้น เดินเกมขั้นกว่าด้วยการบุกไปหาจอมขวัญในตอนกลางวันของวันจันทร์ถัดมา อธิปมาทันตอนที่เห็นจอมขวัญกำลังนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับแม่ของเขาและหญิงสาวผู้นั้นในห้องอาหารของโรงแรมเครือวิมาลา และหลังจากนั้นเพียงครู่เดียว จอมขวัญก็ส่งข้อความมาบอกเขาทางโทรศัพท์ว่า
‘แม่พี่พาคุณแพรวมากินข้าวที่โรงแรม’
และพอพ้นมื้อเที่ยง ก็มีข้อความอีกอันถูกส่งเข้ามา
‘เย็นนี้ ขวัญต้องพาคุณแพรวไปห้างฯ แม่พี่ฝากให้ขวัญช่วย’
เป็นอันว่าคุณกนกนุชทำตัวเป็นแม่สื่อทุกประการให้จอมขวัญและพลอยแพรวได้เจอกัน เขาไม่รู้ว่าทำไมจอมขวัญถึงยอม หรือเป็นเพราะมารดาของเขาเป็นฝ่ายขอร้องอย่างนั้นหรือ…อธิปอึดอัด อยากบอกให้แม่รู้ว่าอย่าพยายามให้จอมขวัญไปกับผู้หญิงคนไหนเลย เพราะคนรักของจอมขวัญมีตัวตนอยู่ตรงนี้…ตรงนี้ที่ชื่อ ‘อธิป’ …
เสียงเคาะกระจกรถทำให้อธิปตื่นจากภวังค์ ชายหนุ่มมองไปรอบกายแล้วเพิ่งได้สติว่าหลังจากเลิกงานในตอนเย็น เขาขับรถมาที่บ้านเรือนไทยของครอบครัววิมลกิตติก่อนจะจอดใต้ร่มต้นไม้ใหญ่ริมรั้วบ้าน ส่วนคนที่กำลังเคาะกระจกรถของเขาก็คือ…คุณพัชรี…
อธิปรีบลงจากรถ แล้วยกมือไหว้สตรีร่างอวบ
“สวัสดีครับ”
“มาแล้วทำไมไม่เข้าบ้านล่ะ?”
“คือ…เอ่อ…”
“หรือว่าทะเลาะกับของขวัญ”
“ม…ไม่ใช่ครับ…เอ่อ…” ท่าทางอึกอักของชายหนุ่มร่างสูง ทำเอาคุณพัชรีเริ่มจะเดาทางได้ว่าอีกฝ่ายคงมีเรื่องคาใจเกี่ยวกับหลานชายของตน
“คุยตรงนี้ไม่สะดวก ไปคุยกันในบ้านเถอะ” เธอว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินนำเข้าไปในอาณาเขตของบ้านเรือนไทยหลังงามที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ อธิปล็อกรถก่อนจะเดินตามหญิงสูงวัย แม้จะรู้ว่าเรื่องที่เขากลุ้มใจอยู่ไม่อาจเล่าออกไปได้ก็ตาม
………………………….
สาวใช้นามว่าเต็มมองแขกคุ้นหน้าที่ชื่อ ‘คุณโต’ แล้วนึกในใจว่าถ้าบ้านนี้มีลูกสาวหลานสาว เธอคงคิดว่า ‘คุณโต’ กำลังตามจีบอยู่เป็นแน่แท้ แต่บังเอิญว่าบ้านนี้มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น เอ?...หรือจะมาตามจีบ ‘คุณรี’
“เต็ม…ลงไปข้างล่างไป” คุณพัชรีเห็นสาวใช้จ้องแขกอยู่นานเลยต้องเอ่ยปากไล่ สาวเต็มได้แต่ยิ้มแหย ก่อนจะหมุนกายเดินลงจากเรือนไป เมื่อเหลือเพียงแค่เจ้าบ้านและอธิปแล้ว คุณพัชรีเลยเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน
“วันนี้ของขวัญโทร.มาบอกว่าจะกลับเย็น เห็นว่าต้องพาใครไปซื้อของหรืออะไรนี่ล่ะ ตอนแรกป้าก็นึกว่าโตจะไปด้วยซะอีก”
“เปล่าหรอกครับ คือ…เขา…ไปกับหลานสาวของเพื่อนแม่ผมน่ะครับ”
“หื้ม?” คุณพัชรีขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ว่าเพราะอะไรหลานชายของเธอถึงไปรู้จักกับ ‘หลานสาวของเพื่อนแม่ของอธิปได้’
“คือ…เมื่อวันเสาร์ เขาเจอกันที่บ้านผม แล้ว…ดูเหมือนว่า…ผู้หญิงคนนั้นจะ…”
“จะชอบของขวัญใช่มั้ย” คุณพัชรีต่อให้ทันทีราวกับเดาได้ ก็หลานชายเธอมีเสน่ห์น้อยเสียเมื่อไหร่ล่ะ! ถึงจะเห็นไม่ค่อยพูดไม่ค่อยยิ้มกับคนแปลกหน้าก็เถอะ
“โต…ป้าถามตรงๆ…โตกับของขวัญน่ะ…ไม่ใช่แค่เพื่อนกันใช่มั้ย” อธิปชะงักทันที เขาเงยหน้ามองคนถามด้วยความตกใจ
“ไม่ใช่ป้าดูไม่ออกหรอกนะ แต่ป้าแค่อยากได้ยินจากปากโตว่าโตรักของขวัญจริงๆ ป้าไม่อยากให้ของขวัญเสียใจกับเรื่องความรักอีกแล้ว แค่ครั้งเดียวตอนเลิกกับหนูน้ำก็พอแล้ว ป้าสงสารหลานป้า”
“…แต่ถ้าโตแค่นึกสนุกชั่วคราว ก็ต้องบอกให้ของขวัญรู้ตัวตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าให้เขาถลำลึกมากไปกว่านี้”
คุณพัชรีตัดสินใจถาม เธอต้องการคำตอบแน่นอนเพื่อที่ตัวเองจะได้ถลำเข้าไปช่วยสุดความสามารถอย่างไม่อิหลักอิเหลื่อ เพราะดูแล้วตอนนี้ อธิปคงกำลังมีเรื่องอะไรในใจเกี่ยวกับจอมขวัญ ไม่อย่างนั้นคงไม่มาที่นี่ ทั้งๆที่น่าจะรู้ว่าจอมขวัญยังไม่กลับ…แหม!! นี่มันเหมือนกับละครที่เธอเพิ่งดูเมื่อคืนจริงๆ ประเภทพระเอกตามไปเฝ้าหลังคาบ้านนางเอก ประมาณว่าไม่ได้เห็นหน้า เห็นแต่หลังคาก็ยังดี! อุ๊ย! ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้มาเจอของจริงไม่อิงละครนะเนี่ย!!
“ผมรักของขวัญจริงๆครับ”
“เรื่องนี้ยังไม่ได้บอกที่บ้านใช่มั้ย”
“ยังครับ ผมเป็นลูกชายคนโต ถึงพ่อกับแม่จะไม่พูดแต่เขาก็คาดหวังว่าผมจะมีหลานให้เขาในวันใดวันหนึ่ง ผมไม่อยากทำลายความหวังของพ่อแม่ เลยคิดว่าให้ทุกอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป ให้เวลา…ทำให้พ่อแม่ชินกับผมที่ไม่แต่งงานมีลูก แต่กลายเป็นว่า…แม่พาน้องแพรวหลานของเพื่อนแม่มาให้ผมรู้จัก แต่น้องคนนั้นดันไปชอบของขวัญเข้า…”
คุณพัชรีพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย…เรื่องความคาดหวังของพ่อแม่นั้นพูดยาก ยิ่งกับลูกคนโตที่ดูแล้วฝากความหวังได้แบบบอธิป…
“ผมคิดว่าของขวัญไม่ได้ชอบเขา แต่…แม่ผมคงไปขอร้อง เขาถึงได้ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกัน ออกไปซื้อของด้วยกัน…” อธิประบายความคับข้องใจ แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่เพราะไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
“ถึงคุณนุชจะขอร้อง แต่ของขวัญก็ควรหาทางเลี่ยงสิ! นี่อะไร! ยอมตกลงไปไหนมาไหนกับเขา!” คุณพัชรีนึกขุ่นกับหลานชายตัวดี ก่อนจะหันมาแนะนำว่าที่หลานเขยอย่างตรงไปตรงมา “…ของขวัญน่ะมันเคยเจ้าชู้มาก่อนนะโต โตจะมาทำใจเย็นแบบนี้ไม่ได้! ฝั่งนึงผู้ชาย ฝั่งนึงผู้หญิง มันไม่ต่างอะไรกับน้ำตาลใกล้มดเลย! เดี๋ยวของขวัญกลับมา ป้าต้องดุสักหน่อยแล้ว!”
ในเมื่อนางเอกทำตัวไม่สมเป็นนางเอก ให้ท่าผู้หญิง เอ๊ย! โปรยเสน่ห์ให้ผู้หญิงคนอื่น จนคนรักของตัวเองร้อนเนื้อร้อนใจแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน! คุณพัชรีผู้ตั้งตนเป็นญาตินางเอกมีปณิธานว่าจะช่วยประคับประคองให้ความรักของพระเอกนางเอกยั่งยืนไปจนกว่าจะถึงคำว่า ‘อวสาน’ ก็เลยชักจะนึกฮึ่มหลานตัวดีขึ้นมา
…นี่ไม่ใช่ว่าลายเจ้าชู้มาออกเอาตอนที่มีคนรักจริงอย่างอธิปมาเคียงข้างหรอกนะ เดี๋ยวเธอจะเพ่นกบาลจอมขวัญให้!!!...
“ผมก็พอรู้ครับ แต่…ตั้งแต่เขาคบกับน้ำทิพย์ เขาก็เลิกเจ้าชู้ไปแล้ว…”
“อย่าวางใจอย่างนั้นโต ใครจะรู้ล่ะ เกิดนิสัยเก่ากำเริบ แล้วเรื่องเลยเถิดจะทำยังไง” อธิปได้แต่เงียบ จนคุณพัชรีนึกสงสาร
“เอาเถอะ! โตอย่าปล่อยให้ของขวัญไปไหนมาไหนกับผู้หญิงสองต่อสองอีกก็แล้วกัน ส่วนเรื่องแม่ของโต ป้าจะช่วยตะล่อมเขาอีกแรงให้เขายอมรับเรื่องของโตกับของขวัญได้เร็วๆ”
ไม่ใช่ว่าคุณพัชรียอมรับเรื่องหลานชายอย่างหน้าชื่นตาบาน แต่เป็นเพราะเธอรักหลานคนนี้มากเหลือเกิน จอมขวัญเคยผิดหวังกับความรักเมื่อครั้งน้ำทิพย์มาแล้วครั้งหนึ่ง และเธอไม่อยากให้จอมขวัญต้องเสียความรักไปอีก ถึงความรักครั้งนี้จะผิดแผกจากสังคมไปสักหน่อย แต่ในเมื่อไม่ได้ก่อความเดือดร้อนให้ใคร และทั้งอธิปกับจอมขวัญก็รักกันจริง เธอก็ไม่รู้จะไปห้ามทำไม
เสียงฝีเท้าวิ่งขึ้นเรือนตึงตังทำเอาคุณพัชรีต้องหยุดทุกคำพูดที่อยากจะแนะนำอธิป ก่อนจะตวัดสายตาไปมองอย่างไม่พอใจ สาวเต็มเจ้าของฝีเท้าเกาศีรษะเก้อๆ ก่อนจะบอกเสียงอ่อน
“ขอโทษค่ะคุณรี หนูรีบไปหน่อย”
“มีอะไร?!”
“คุณของขวัญค่ะ!”
“ทำไม? ของขวัญทำไม” คุณพัชรีลุกจากพื้นกลางเรือนทันที เมื่อสาวเต็มชี้นิ้วออกไปที่นอกเรือน
“คุณของขวัญกลับมาแล้วค่ะ” จบประโยค เสียงรถก็แล่นเข้ามาจอดในบ้าน
“รู้แล้ว ได้ยินเสียงรถ” แม้จะประหลาดใจเล็กน้อยที่สาวเต็มวิ่งขึ้นมาแจ้ง แถมแจ้งก่อนที่เสียงรถยนต์จะดังเข้ามาใกล้เสียอีก
“แต่…แต่คุณของขวัญไมได้มาคนเดียวนะคะ!” เมื่อกี้สาวเต็มเอาขยะออกไปทิ้งนอกบ้าน ถึงได้เห็นรถของจอมขวัญขับเข้ามาใกล้ และมันใกล้มากพอที่เธอจะเห็นว่า…จอมขวัญไม่ได้กลับมาคนเดียว
“…คุณของขวัญพาผู้หญิงมาบ้านค่ะ!” เธอโพลงต่ออย่างตื่นตระหนก เพราะนับตั้งแต่ผู้หญิงที่ชื่ออีฟมาที่นี่เมื่อสิบปีที่แล้ว เธอก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมาที่นี่อีกเลย สาวเต็มที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นเลยค่อนข้างจะตกใจกับคราวนี้ที่จอมขวัญขับรถพาผู้หญิงเข้าบ้าน
“ผู้หญิง?!!” คุณพัชรีร้อง ก่อนจะรีบวิ่งไปดูที่ชานเรือน มีอธิปเดินตามมาด้านหลัง
รถยนต์ของจอมขวัญจอดสนิทแล้ว และเจ้าของรถก็เปิดประตูลงมาจากฝั่งคนขับ ก่อนที่ประตูฝั่งที่นั่งด้านข้างคนขับจะถูกเปิดออก แล้ว…หญิงสาวคนหนึ่งก็ก้าวขาลงจากรถ
อธิปชะงัก เขาชาดิกไปทั้งร่าง ริมฝีปากขยับช้าๆและเปล่งเสียงออกมาได้เพียงแค่เบาๆ
“พลอยแพรว…”
ติดตามตอนต่อไป (พฤหัสหน้าค่ะ)
พี่โตโคตรจะให้อารมณ์แบบเมียหลวงอ่ะ ฮ่าฮ่า (อ้าวเฮ้ย!! พระเอกนะนั่น! พระเอก!! )
บัวแก้ฉาก ‘ขวัญง้อเอง’ หลายรอบมากกกกกก ชอบติดตรงฉากอย่างงี้ทุกทีเลย
สงสัยต้องไปหาหนังสือมาเรียนรู้ซะแล้ว อิอิ
ตอนแรกว่าจะตัดให้เป็นกล้องซูมลงพื้นพรมแล้วนกกาก็โบยบินออกมาหากิน
แต่เห็นทุกเม้นท์รอคอย ‘ขวัญง้อเอง’ เลยเข็นจนออกมาเป็นอย่างนั้นแหละ แหะๆ
ไปแหละ วันนี้มึนหัวสุดๆ ร้อนตับแล่บ อู้ยยยย ร้อนดิบมากกกกกก
ขอบคุณคนอ่าน คนติดตาม คนเม้นท์ และพื้นที่บอร์ดนะจ๊ะ
เจอกันพฤหัสหน้าค่ะ