ตอนที่ 52
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในยามเช้า ไม่ใช่สิ เช้ามืดต่างหาก มันเพิ่งตีห้าเองนะเว้ย
“เดี๋ยวนี้มึงติดแฟนจนลืมกูไปแล้วเหรอ” พี่สินทักทาย
“พี่โทรมาหาพระแสงอะไรตอนนี้ รู้ไหมว่ากี่โมง” ผมงัวเงีย แต่ไม่วายด่าพี่สินที่ไม่รู้จักเวล่ำเวลา
“พอดีกูมีเรื่องต้องบอกมึง”
“เรื่งอะไร” ผมถาม พยายามถ่างตาฟัง
“มึงไม่หากูตั้งนาน ตั้งแต่วันนั้น” พี่สินน้ำเสียงดูแปลกๆ
“วันนั้นวันไหน” ผมพยายามนึกว่า เจอพี่สินวันสุดท้ายก็คือวันที่พี่สินรู้ว่าผมมีแฟน
“ก็วันที่มึงได้กับแฟนมึง”
ผมช็อคตาค้าง เริ่มสังหรณ์ใจว่าต้องมีเรื่องอะไรแปลกๆแน่
“ตอนนี้เทปของมึง ก็ครบสิบม้วนแล้ว มึงรีบมาเอาตังค์ไปเลย”
“พี่พูดอะไร พี่รู้ได้ไงเรื่องผมกับแฟนผม” ผมใส่คำถามพี่สินไม่ยั้ง
“ตอนนี้กูก็อปปี้แผ่นทั้งสิบเรื่องแล้ว รับรองว่าได้กำไรเยอะแน่” พี่สินยังไม่หยุดพูด
“ได้ยังไง ใครถ่ายเทปม้วนที่สิบ แล้วใครเอาไปให้พี่” ยังไม่ทันจบประโยค พี่สินก็วางหูโทรศัพท์ไปแล้ว
ผมโทรกลับไปทันที “เลยหมายนี้ได้ขอยกเลิกใช้บริการ”
ผมตกใจ เมื่อกี้ก็ยังโทรมาหากูนี่หว่า แล้วเลิกใช้บริการแล้วจัง
ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..
ยังไม่ทันหายตกใจกับเรื่องที่ได้ยินจากปากพี่สิน ก็มีคนมาเคาะประตูเรียกแต่เช้า
“ใครว่ะ มาทำเหี้ยอะไรตอนนี้” ผมหัวเสีย เดินไปเปิดปรตู
คนมาเคาะประตู คือ โจ้ที่กำลังร้องไห้ พร้อมถือแผ่นซีดีอะไรก็ไม่รู้มาด้วย
“บั้มพ์ นายทำอย่างนี้ได้ยังไง” โจ้โวยวายเสียงดัง
“เบาๆก่อนซิ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน” ผมทำท่าจุ๊ปาก พร้อมลากโจ้เข้ามาในห้อง
“ปล่อยเดี๋ยวนี้” โจ้สะบัดแขนผม พร้อมตบหน้าผมอย่างแรง
ผมช็อคกับสิ่งที่เกิดขึ้น และรู้สึกเจ็บมากด้วย
“นี่มันคืออะไร” โจ้หยิบซีดีแผ่นหนึ่งยื่นให้ผม
ผมรับมาพร้อมมองซีดีแผ่นนั้น ซีดีหน้าปกเป็นรูปผมกำลังกอดกับโจ้ และอีกหลายรูปที่เป็นรูปการร่วมรักของเราสองคน
“โจ้ เราไม่รู้เรื่องจริงๆ เราไม่ได้ทำจริงๆ เชื่อเราซิ” ผมพยายามบอกความจริง
“แล้วพวกนี้อีกหละมันคืออะไร” โจ้ยื่นซีดีมาอีกเก้าแผ่น
ผมรับมาและมองดู หน้าปกแต่ละแผ่น คือ ภาพของผมที่มีอะไรกับคนอีกเก้าคน
“อย่าบอกนะว่าไม่ใช่ฝีมือของนาย” โจ้พูดด้วยน้ำตานองหน้า
ผมพูดอะไรไม่ออก
“พอกันที คนหลอกหลวง ไปตายเลยไป” โจ้วิ่งออกจากห้องผมไป
ผมวิ่งตามไปทันที “เดี๋ยวก่อนซิโจ้ ฟังเราก่อน แผ่นสุดท้ายเราไม่ได้ทำจริงนะ”
แต่ดูเหมือนว่าโจ้จะไม่ฟังอะไรทั้งนั้น วิ่งหนีผมอย่างเดียว
พอมาถึงด้านล่าง ลงมาถึงลานจอดรถข้างหน้าผม
โจ้ก็หายไปแล้ว
“หายไปไหนว่ะ เหมือนกี่เห็นออกมาทางนี้นี่หว่า” ผมพยามมองหารอบตึก แต่ก็ไม่วี่แววใครเลย
ผมเลยลองกดโทรศัพท์หาโจ้ รู้ทั้งรู้ว่ายังไงโจ้ก็คงไม่รับ
“เลยหมายนี้ได้ขอยกเลิกใช้บริการ”
เกิดอะไรว่ะเนี้ย นี้มันเรื่องอะไรกัน
************************************************************************************************
ผมกลับมานั่งที่ห้อง มองแผ่นซีดีทั้งสิบแผ่น แล้วลองเปิดดู
เก้าแผ่นแรก ไม่มีอะไรผิดปกติ ดูมุมกล้องแล้วมาจากกล้องที่ผมถ่าย
แต่แปลกที่ว่าใบหน้าของคนที่ผมมีอะไรด้วย ถูดเซนเซอร์หมด ยกเว้นผมที่เห็นหน้าชัดเจน
“ไหนพี่สินบอกว่าจะทำให้ภาพเบลอไงว่ะ”
ผมหยิบแผ่นสุดท้ายขึ้นมาดู
หน้าของโจ้ก็ถูกเซนเซอร์เหมือนกัน ยกเว้นผมอีกเช่นเคยที่เห็นหน้าตาอย่างชัดเจน
ผมลองสังเกตจากมุมกล้องรู้สึกว่ากล้องน่าจะวางไว้ข้างเตียง เพราะเห็นภาพผมกับโจ้ด้านข้าง
ผมลองนึกว่าด้านข้างเตียงคือโซฟา ของที่วางบนโซฟาวันนั้นคืออะไรว่ะ
ผมนั่งคิดอยู่นาน ยกมือมาเท้าค้าง
แล้วสายตาผมก็ไปสะดุดกับสายรัดข้อมือที่โจ้ให้ผมมา
ผมย้อนนึกภาพกลับไปวันนั้น
โจ้เดินไปหยิบสายรัดข้อมือจากเป้ที่วางไว้บนโซฟา
ใช้แล้ว เป้ของโจ้วางไว้บนโซฟา
หมายความว่า
เทปม้วนสุดท้ายเป็นฝีมือของ...
-----จบตอนที่52-----
ท่าทางความรักจะสะดุดซะแล้วนายบั้มพ์ แล้วเขาจะแก้ยังไงก็ติดตามนะครับ