Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Three Couple of love:Special Features:Sweet Couple  (อ่าน 153470 ครั้ง)

ranaways

  • บุคคลทั่วไป
กลัวจัง

ไม่อยากอ่านตอนที่ผิดหวังเลยอ่ะนะ

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป
เย่ ๆๆๆ มาต่อแล้ววว :m4:

 :a2: พยายามต่อไปนะ อิอิ

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 7 ชุลมุนวุ่นรักในงานกีฬาสี
คู่ที่ 1 ก่อนวันงาน
อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันงานกีฬาสีแล้ว ทุกคนต่างเตรียมพร้อมกันอย่างเต็มที่
แต่ละคนก็มีหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง
เชียร์(สีฟ้า)ก็เป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่ง อย่างที่ทุกๆคนทราบกันแล้ว มันต้องซ้อมหนักเพราะต้องซ้อมกับวงดุริยางค์ของโรงเรียนด้วย
พี่เต๋า(สีเขียว) แม้จะไม่ได้รับผิดชอบอะไร แต่ก็ต้องช่วยสีเตรียมขบวนพาเหรดและทำสแตนด์กองเชียร์
เชียร์กับพี่เต๋าช่วงนี้เลยไม่ค่ยจะกะหนุงกะหนิงกันเท่าไหร่
พี่หมิง(สีเหลือง) เป็นนักกีฬาแบดมินตันประจำสี พี่แกตบเก่งมากจนเข้ารอบชิง ต้องไปแข่งวันจริง
ปอ(สีแดง) เห็นมันมีโชว์ตอนพิธีเปิด ส่วนเรื่องกีฬามันไม่ได้ลงเล่นอะไรสักอย่าง
บิ๊ก(สีแดง) ทำทุกอย่างเหมือนปอเปี๊ยบ อยู่ด้วยกันไม่ห่างเลยคู่นี้ พักหลังดูบิ๊กจะอ้อนๆไอ้ปอบ่อย ซึ่งแต่ก่อนจะเป็นปอตามบิ๊กตลอด แต่ดูๆไปก็น่ารักดีคู่นี้
พี่หมี(สีเหลือง) เนื่องจากเป็นประธานนักเรียน เลยทำแทบทุกอย่าง ปกติก็ยุ่งอยู่แล้ว ยิ่งยุ่งเข้าไปใหญ่
โจ(สีฟ้า) ลงแข่งวิ่ง 400เมตร กะลงแข่งวิ่ง4X100เมตร ไม่ยักรู้ว่าคนอย่างมันเล่นกีฬาเป็นกะเค้าด้วย
ผม(สีฟ้า) นอกจากลงแข่งวอลเลย์แล้ว(ซึ่งได้เหรียญทองแดงมานอนกอดแล้ว) ผมยังได้รับมอบหมายให้ถือป้ายโรงเรียนในขบวนพาเหรดด้วย
“พี่หมีเค้าใช้เส้นให้มึงถือใช่มั้ย” ไอ้เชียร์เริ่มแซว
“ไม่รู้ดิ ไม่เห็นพี่หมีพูดอะไรเลย” ผมพูดพร้อมทำพู่เอาไว้ให้น้องๆม.4ใช้ตอนเชียร์
“แล้วมึงไม่เตรียมชุดเหรอ จะเดินอยู่วันพรุ่นี้อยุ่แล้ว” ปอถามผม
“ถือป้ายโรงเรียนก็ใช่ขุดนักเรียนดิ จะให้ไปใส่ชุดอะไรว่ะ” ผมหันไปบอกพวกมัน
“ไอ้เราก็นึกว่าจะใส่ชุดไทย จะได้ช่วยเตรียมชุด” เชียร์พูดพร้อมช่วยผมทำงาน
“คืนนี้กูจะไปช่วยพี่ๆที่โรงยิมนะ” ผมเก็บพู่ใส่ถุงจะเอาไปที่โรงยิมด้วย
“งั้นมึงลงไปพร้อมกู กูก็กะจะไปซ้อมดนตรี” ปอพูดเสร็จก็คว้ากีตาร์ไปด้วย
“เอ้า ไปกันหมดเลย พวกมึงก็อย่ากลับกันดึกนะ  กูกลัว” เชียร์ทำหน้าบ๊องแบ๊ว
“เออ.......” ผมกับปอพูดพร้อมกัน มันก็น่าจะรู้ว่าเตรียมงานกีฬาสี แทบจะไม่ได้นอน
ส่วนไอ้เชียร์มันซ้อมหนักอยู่แล้ว เลยไม่ต้องไปยุ่งกับงานที่สีของมัน อีกอย่างมันต้องตื่นแต่เช้าไปเตรียมขบวนอีก
ผมมาที่โรงยิม ทั้งสีสี่ก็จะอยู่กันคนละมุม เตรียมป้าย เตรียมชุด เตรียมของทำหรับกีฬาสีกันยกใหญ่
มีพวกเชียร์หลีดเดอร์ก็ยังซ้อมกันอยู่ แม้จะเกือบสามทุ่ม แต่ก็ยังครึกครื้นกันอยู่
ผมก็ไปช่วยพี่ๆเพื่อนๆที่กำลังวุ่นวายกับการเตรียมพาเหรดสี
ไอ้โจที่ช่วยทำอยู่ตั้งนานแล้ว เห็นผมก็ลุกขึ้นมารับถุงที่ใส่พู่จากผม
“ทำได้กี่อัน ครบที่สั่งไปหรือเปล่า”มันถาม
“ก็แหกตาดูเองเด่ะ” ผมตอบมันไป ปรากฏว่าคนแถวนั้นหันมามองผมกันยกใหญ่ คงตกใจที่คนแสนจะเรียบร้อยอย่างผม พูดจาแบบนี้
ผมเองก็ไม่รู้ตัวว่าพูดจาอะไรสงสัยติดนิสัยมันมาแน่ๆเลย
ไอ้โจเองก็ตกใจ แต่มันกลับหัวเราะ “เดี๋ยวนี้พูดจาห้าวจริงๆนะ”
ผมเลยเดินไปที่อื่น ไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้ๆมันเลย
ผมหางานให้ตัวเองทำเลยไปช่วนเพื่อนลงสีป้ายดีกว่า
ช่วยเพื่อนไปได้สักพักมันก็ไปหนีไปทำงานอื่น ปล่อยให้ผมนั่งทำคนเดียว
“มึงลงสีเข้มๆหน่อยดิว่ะ” มันมาอีกแล้ว มันนั่งลงข้างๆผม พร้อมเอาพู่กันาลงสีซ้ำของผม
“งั้นทำคนเดียวเลยป่ะ” ผมทำท่าจะลุกหนี แต่มันคว้าตัวผมไว้
“ทำไมมึงชอบหนีกูจริงว่ะ เกลียดกูขนาดนั้นเลยเหรอ” มันถาม ผมเองก็อยากจะตอบว่ามันคิดถูกแล้ว
“ก็มึงชอบแก้ลงกู ด่ากู กวนตีนกู ใครเค้าอยากจะอยู่ด้วยเล่า” ผมตะคอกมันกลับไป
“งั้นถ้ากูบอกว่า กูจะไม่แกล้งมึง ด่ามึง กวนตีนมึง มึงยังจะหนีกูไปอีกหรือเปล่า” มันถาม
ผมรู้สึกแปลกใจ และไม่เชื่อว่ามันจะทำได้
“กูแถมให้อีก เราจะเลิกพูดคำหยาบ จะพูดเพราะๆกับนาย” มันทำหน้าจริงจัง
“เออ....” ผมอึ้งไป ทำไมมันต้องเปลี่ยนแปลงอะไรขนาดนี้ด้วย 
“ตอนนี้เราไม่หนีก็ได้ แต่ถ้านายกลับมาเป็นเหมือนเดิม เราก็คง....” ผมค้างไว้ ไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
“โอเค ถ้าเราทำไม่ดีกับนาย เราจะเป็นคนไปเอง” มันพูดแบบนี้ผมรู้สึกหวั่นๆกับคำพูดแบบนั้นของมัน
“รีบลงสีเถอะ ยังมีอีกตั้งหลายป้าย” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง
“ลงสีฟ้าซิ ไปจุ่มสีเขียวทำไม” โจเตือนผม ผมเริ่มทำอะไรผิดๆถูกๆ
“เออๆ ลงๆไปเถอะ” ผมพูดแก้เก้อ
“ทำไมจับพู่กันแบบนี้ มาเดี๋ยวสอนให้” ว่าแล้วมันก็จับมือผมซะงั้น
แล้วก็ค่อยๆเขียน รอ เรือ ไม้หันอากาศ กอไก่
“เฮ้ย” ผมอุทานเสียงดัง
“อะไรของนาย” มันถามผม
ผมหันไปมองที่ป้าย
“รัก ในหลวง ห่วงลูกหลานช่วยกันต้านยาเสพติด”
ที่แท้ก็คำขวัญ ผมถอนหายใจ
แต่มันก็ยังจับมือผมไม่ปล่อย ยังคงเขียนตัวต่อไป ชอช้าง อออ่าง บอใบไม้
“เฮ้ย” ผมอุทานอีกแล้ว
“อะไรอีกเล่า” มันคงตกใจ
ผมหันไปดูที่ป้าย
“ชอบคนเล่นกีฬามากๆค่ะ” เป็นคำพูดของตัวการ์ตูนที่อยู่ในป้าย
“เราเขียนเองได้ไม่ต้องสอนหรอก” ผมรีบบอกปัดมันก่อน
มันก็ค่อยๆปล่อยมือผม
เราสองคนนั่งเขียนป้ายจะเกือบจะเที่ยงคืน
พี่หมีก็เดินมาหาผม “น้องโจ้กลับเถอะ เดี่ยวพรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าไม่ใช่เหรอครับ”
ผมพยักหน้า แล้วก็ลุกขึ้น
ผมสังเกตเห็นสายตาพิฆาต ของพี่หมี กับโจ
แล้วพี่หมีก็เอามือมาโอบผมพร้อมพาผมเดินออกจากโรงยิมไป ผมตกใจที่พี่หมีแสดงท่าทีแบบนี้ เพราะปกติพี่หมีแทบจะไม่แตะผมเลย
แต่ผมก็ยังแอบหันไปดูโจที่มองผมเดินไปกับพี่หมี
สายตาที่มองผมดูแปลกไปจริงๆ
-----จบคู่ที่1-----

คู่ของโจ้เป็นเรื่องก่อนวันงาน
คู่ของเชียร์เป็นเรื่องในวันงาน
คู่ของปอเป็นเรื่องหลังวันงาน

พอจบตอนกีฬาสี ก็จะเล่าตอนปิดเทอมของแต่ละคู่
ถือเป็นไคลแมกซ์ของภาคนี้ ยังไงก็ติดตามนะครับ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ดูท่าจะรันทดทุกคู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
ค้าบบ...แล้วจะรอติดตามต่อนะค้าบบ...^^

jobisuka

  • บุคคลทั่วไป
ว๊าว ๆๆๆๆ  :a2: มาต่อแล้ววว
 o13 ขอบคุงนะคร้า
มาต่อไว ๆ น้า ติดตามอยู่จ้า

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
มาแว้ววววววววววว

ขอบคุณคร้าบบบบ

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่ 2
ในวันงานกีฬาสี ก่อนที่จะผมเริ่มเดินขวบนเข้าสู่สนาม เราต้องจัดแถวกันตรงหน้าตึกเรียน แล้วค่อยๆเดินลงสู่สนาม ผมคือคนที่ยืนอยู่หน้าสุดของแถว
และแน่นอนทุกคนพุ่งความสนใจมาที่ผมโดยเฉพาะบรรดาน้องม.4 ที่ยืนมองผมอยู่ห่างๆ(เพราะตอนตั้งขบวนห้ามใครที่ไม่ได้เดินพาเหรดเข้ามายุ่งในขบวนนั้น)
รู้สึกว่าแสงแฟลชมีอยู่ตลอด แต่ตอนนั้นผมทำได้แต่ตัวตรง และนิ่ง ต้องทำระเบียบแถวก่อนเดินเข้าสู่สนาม
เวลาเดินขบวนผ่านไปอย่างรวดเร็ว แม้อากาศจะร้องเพียงใด แต่ผมก็ทนได้ และทำหน้าที่ของผมได้อย่างดี
เมื่อเสร็จสิ้นภาระหน้าที่ของผมแล้ว ผมก็ตัดสินใจจะไปเปลี่ยนชุด เพราะถ้าให้แต่งชุดดรัมเมอยร์เดินทั้งวันกรูคงร้อนในตายแน่ๆ
แต่แล้วก็มีผู้คนมาจากไหนก็ไม่รู้มาขอถ่ายรูปกันให้จ้าละหวั่น
ทั้งเพื่อนในห้อง พี่ๆในชมรม  น้องๆแฟนคลับ(อันนี้ล้อเล่นผมตั้งขึ้นมาขำๆเอง)
เกือบจะชั่วโมงที่ถ่ายรูปเสร็จ
แต่ แต่ ต้องมาถ่ายกับไอ้โจ้ ปอ บิ๊ก พี่เต๋า พี่หมี มีอาจารย์อีกสองสามท่าน
เบื่อจริง ที่ต้องมาเป็นคนดังในวันนี้
แต่ผมลืมไปหนึ่งคนที่ยังไม่ได้ถ่าย นั้นคือ พี่หมิง
พอหลังจากวันที่ไปร้องคาราโอเกะวันนั้น พี่หมิงก็เริ่มมีท่าทีรู้สึกแปลกไป ไม่ค่อยมาให้ผมเห็นสักเท่าไหร่
อาจจะเป็นเพราะผมเองก็เอาเวลาไปซ้อมดรัมเมเยอร์กับวงดุริยางค์ของโรงเรียน
เลยไม่ค่อยมีเวลาจะจเอทั้งพี่เต๋าและพี่หมิง
ผมเองก็ทึกทักว่าพี่เค้าคงไม่อยากเจอผมอยู่กับพี่เต๋ามั้ง
ทำไมน่าต้องมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าพี่หมิงคิดอะไรอยู่ และผมเองก็ไม่กล้าที่จะพูดกับพี่เค้าตรงๆ
พอเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จผมก็ไปนั่งดูกีฬากับไอ้โจ้ แต่ก็ไม่ค่อยได้ดูหรอก เราสองคนก็นั่งสนทนากัน
“อืมม กูมีเรื่องจะถามอ่ะ” ผมหันไปถามเพื่อน
“ว่ามา” โจ้พูดแต่ตายังมองคนเล่นกีฬา
“คือ ถ้ามีคนมาแอบชอบเรา แล้วเรา...แบบ...เออ... ไม่ได้ชอบเค้า แต่เราก็ไม่อยากพูดตรงๆกลัวมองหน้ากันไม่ติด เราจะทำยังอ่ะ” ผมทำมัน โจ้หันหน้ามามองทันที
“มึงหมายถึงใคร ใครชอบมึง” เพื่อนกูนี้อยากรู้จริงๆเลย
“เออ ขอยังไม่บอกตอนนี้ได้ป่ะ” ผมไม่ค่อยอยากบอกเท่าไหร่ เพราะตอนนี้ผมไม่ได้มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์สักเท่าไหรว่าพี่เค้าชอบผม
“อืมม ถ้ามึงไม่ชอบกูว่าก็ต้องบอกเค้าตรงๆ ถึงแม้เขาจะรับได้ ไม่ได้ ยังไง ถ้าเขาชอบมึงจริงๆเขาก็ต้องยอมรับความรู้สึกของมึง แต่ถ้ารับไม่ได้ เขาก็อาจจะไม่ได้ชอบมันจริงๆก็ได้”
ผมฟังอย่างนี้ก็ถอนหายใจ ผมเองก็นับถือพี่หมิงเป็นพี่ชายคนหนึ่งของผม แต่ถ้าเขาเกิดรับความรู้สึกของผมไม่ได้ ผมเองก็เสียดายที่ต้องเสียพี่ชายที่ดีอกีหนึ่งคนไป
“เออ ตอนบ่ายไปดูพี่หมิงแข่งแบดมินตันดีกว่า” โจ้หันมาชวนผม ผมดันสะดุ้งตกใจที่ได้ยินชื่อนี้
“แล้วพี่เต๋าอ่ะ ชวนไปดูด้วยกันดิ” โจ้เริ่มคะยั้นคะยอ ผมก็เลยไปเลยตามเลย
ผมกับโจ้เดินมาหาพี่เต๋าที่ศาลาข้างสแตนด์เชียร์ของสีเขียวที่พี่เค้าเตรียมของอยู่
“พี่เต๋าตอนบ่ายไปดูแข่งแบดป่าวอ่ะ” ผมชวน ในใจนึกภาพพี่เต๋ากับผมยืนเชียรืพี่หมิง พี่หมิงเห็นภาพนี้จะเล่นออกไหมเนี้ย
“พี่ว่า พี่คงไปไม่ได้” พี่เต๋าตอบแบบนี้หน้าตาเฉย
“ทำไมอ่ะ เพื่อนสนิทพี่นะ”
“เออ พี่มีงานต้องทำ วันนี้วุ่นๆ เชียร์ก็น่าจะรู้นี้” ว่าแล้วพี่เต๋าก็รีบทำเป็นจัดข้าวของ ดูแปลกๆแหะ ปกติพูดถึงพี่หมิงทีไรต้องกระตือรื้อร้นทุกที แต่เดี๋ยวนี้หลังจากวันไปคาราโอเกะ ผมก็เริ่มสงสัยว่าสองคนนี้ทะเลาะกันหรือเปล่า เพราะเจอกันไม่ค่อยบ่อยเหมือนเมื่อก่อน อย่าบอกนะว่าทะเลาะกันเรื่องของผม เฮ้อ....เราทำเพื่อนเค้าทะเลาะกันหรือเนี้ย
“เราไปกันสองคนก็ได้เชียร์” โจ้เลยชวนผมไปที่สนามแบด เพราะยังไงพี่เต๋าก็ไม่ไปท่าเดียว
พอเราเดินมาที่สนามแบด โจ้ก็ถามทันที “พี่เต๋ากับพี่หมิงเค้าทะเลาะกันเหรอ”
ผมไม่รู้จะตอบเพื่อนยังไง ปากก็คันหยิกๆอยากจะเล่าเรื่องใจจะขาด แต่มันยังไม่มั่นใจ เขาอาจจะทะเลาะกันเรื่องอื่นก็ได้
พอไปถึงสนามแข่ง คนมาดูเยอะพอสมควร แต่เราสองคนรู้สึกจะเด่นมาก เพราะมันเป็นการแข่งระหว่างสีเหลืองกับสีแดง แต่เราสองคนอยู่สีฟ้า
พี่หมิงนี้เป็นตัวเต็งอยู่แล้วจึงสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ไปได้อย่างรวดเร็ว
“เก่งจังเนอะ” โจ้พูดกรอกใส่หูผม ที่จริงมันคงไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่กลายเป็นว่าผมเริ่มจะคิดซะแล้ว
“กูว่า กูจะไปหาพี่เขาหน่อย มึงรออยู่ตรงนี้แป๊บนะ” แล้วผมก็แยกตัวจากโจ้ เดินไปหาพี่หมิงที่มีคนล้อมหน้าล้อมหลัง
ผมไม่รู้จะแทรกเข้าไปยังไง เลยกระโดดเหย่งๆให้พี่เขาเห็น
ได้ผลครับพี่เขาเห็นจริงๆ พี่หมิงเลยแหวกผู้คนมาหาผม “มีอะไรเหรอเชียร์” พี่หมิงถามผม น้ำเสียงราบเรียบต่างจากแต่ก่อนที่คุยกับผม
“เออ คือ ดีใจด้วยนะครับ” ผมพูดพร้อมยิ้มให้พี่เขา
“แค่นี้เหรอ” พี่เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ผมอึ้งไปเลย
“เออ พี่เต๋าเค้ามาไม่ได้ เชียร์เลยมาแทน” ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยเอาชื่อพี่เต๋ามาอ้าง
“อย่าโกหกเลย พี่รู้มันไม่อยากมาหรอก มันอ้างว่างานยุ่งอยู่ที่สีของมันใช่มั้ยหล่ะ”
เวร!พี่เค้ารู้ทันอีก ท่าทางสองคนนี้เค้าจะทะเลาะกันจริงๆ
“คือผมขอถามตรงๆได้ไหม” ผมเริ่มทนไม่ไหว
“พี่กับพี่เต๋าทะเลาะกันใช่ไหม” ผมถามไปจนได้
พี่หมิงถอนหายใจ “ไอ้เต๋ายังไม่เล่าใช่ไหม”
ผมส่ายหัว พร้อมถามพี่หมิงอีก “แล้วพี่สองคนทะเลาะกันเรื่องอะไร”
พี่หมิงถอนหายใจ ผมรู้สึกว่าพี่เค้าตัวสั่น
“พี่ขอโทษแล้วกัน มันเป็นเรื่องของพี่กับไอ้เต๋า พี่ไม่ขอเล่าแล้วกัน” พี่หมิงตอบแบบนี้ยิ่งทำให้ผมอยากรุ้
“พี่เล่ามาเถอะครับ เผื่อผมพอจะช่วยได้”
“พี่กับไอ้เต๋าจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้เอง เชียร์ไม่ต้องห่วงหรอก ยังไง เราก็ต้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ปล่อยให้มันทำร้ายเราสองคนหรอก” พี่หมิงพูดแบบนี้ ผมเองก็ไม่รู้จะตะล่อมถามต่อไปทำไม เค้าคงอยากจัดการปัญหาเองกันสองคน
“พี่ขอตัวก่อนนะ พี่ต้องไปรับเหรียญแล้ว” แล้วพี่หมิงก็เดินออกไป
โจ้ก็รีบเดินมาหาผม
“กูรู้มึงคงอยากจะมีเรื่องเล่าให้กูฟังใช่มั้ย” โจ้ถามผม เพราะเห็นสีหน้าผมมันก็คงรู้
“เรื่อง เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดแน่เลย” ไอ้โจ้สันนิษฐาน ทำไมมันเก่งอย่างนี้
ผมซิได้แต่ถอนหายใจ เราไม่น่าเป็นตัวปัญหาเลย
-----จบคู่ที่2-----

สองคู่ผ่านไปแล้ว เหลือคู่สุดท้าย จะรีบมาโพสต์ให้นะครับ
ยังรอคำติชมจากเพื่อนๆเสมอนะครับ

nartch

  • บุคคลทั่วไป
:m12:
งานนี้เชียร์เข้าใจผิดป่าวววว มันทะแม่ง ๆ
เหมือนพี่เต๋ากับพี่หมิงจะกิ๊กกันเองมากกว่า
 :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
:m12:
งานนี้เชียร์เข้าใจผิดป่าวววว มันทะแม่ง ๆ
เหมือนพี่เต๋ากับพี่หมิงจะกิ๊กกันเองมากกว่า
 :laugh:


555 เป็นงั้นไป ไม่หรอม้าง

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ..."เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด"...อิอิ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ทำไปทำมาถ้าหมิงกับเต๋ารักกันเองล่ะ.............................ฮึ ฮึ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ขอให้เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดละกันจะดีกว่า  :m23:

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
ทำไปทำมาถ้าหมิงกับเต๋ารักกันเองล่ะ.............................ฮึ ฮึ

เชียร์ก็นกสิจ๊ะหนู

เอิ๊กๆๆๆๆ

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่ 3
งานแข่งขันกีฬาสีจบลง ทุกคนต่างสุนกสนาน และประทับใจกับงานในวันนี้
แม้ผมเองจะไม่ได้ทำอะไรมากมาย แค่เล่นดนตรี ตอนพิธีเปิดเท่านั้น
และก็คลุกอยู่กับบิ๊กทั้งวัน ไม่ได้ไปไหนห่างกันเลย ผมไปเชียร์กีฬาที่ไหน ต้องมีบิ๊กไปด้วยที่นั้น
จำได้ว่าตอนเที่ยง โจ้กับเชียร์จะมาชวนผมไปดูแข่งกีฬาแบดมันตัน
แต่บิ๊กทำท่าเหมือนไม่อยากไป พร้อมบอกกับผมว่า“เราอยากไปดูแข่งบาสมากกว่า” ผมก็ต้องตามใจแฟนผม
พอเสร็จสิ้นกีฬาสี ก็เกือบจะดึกแล้ว ประมาณทุ่มหนึ่ง ผมเองก็จะพาบิ๊กไปกินข้าวกับเพื่อนๆผม
แต่บิ๊กยังไม่อยากไป ชวนให้ผมเดินเล่นสักพักก่อน
“เราหิวข้าวแล้ว ไปหม่ำข้าวเถอะ เดี๋ยวโจ้กับเชียร์รอ” ผมเริ่มถ้วง
“แป๊บนึง ขอเล่นบาสแป๊บ”
“จะเล่นทำไม สนามบาสอยู่ตั้งไกล” ผมเริ่มโวยวาย จะเดินมาถึงโรงอาหารอยู่แล้ว ยังจะเดินกลับไปเล่นบาสอีก
“เล่นตรงนี้ก็ได้” บิ๊กพูดกวนๆ ผมงง ลูกบาสก็ไม่มีจะเล่นได้ไง
“นายเอาลูกโยนลงห่วงดิ” บิ๊กพูดกับผม ผมยิ่งงง
“แล้วจะเอาลูกจากไหน” ผมเกาหัว
“ก็หัวใจนายไง โยนมาลงห่วงดิ” บิ๊กยิ้มน่าระรื่น
“ห่วงอะไรของนาย” ผมว่าแล้ว แฟนดันอยากเล่นมุข
“ก็ห่วงใยนายเสมอไง” แค่นั้นแหละ ผมทั้งหัวเราะ ทั้งอายกับมุขของแฟนผม
ท่าทางวันนี้อากาศร้อน จนแฟนผมเป็นเอามาก
“ทุเรศ อุตส่าห์คิดมาทั้งวัน ยังมาขำอีก เดี๋ยวเตะเลย” บิ๊กเริ่มงอน
“งั้นให้เตะ แต่ให้เตะที่หัวใจนะ แล้วรับดีดีละ อย่าให้พลาดเข้าประตู” ผมเริ่มมุขกลับ
“ประตูที่ว่า ประตูหลังหรือเปล่า” บิ๊กย้อน
“พูดอย่างนี้เดียวก็ปล้ำซะเลย” ผมพูดพร้อมเข้าไปกอด
“เฮ้ยๆ รู้ว่ารักกันมาก ไม่ต้องแสดงให้เค้ารู้หรอก” เชียร์กับโจ้เดินมาพอดี เชียร์มันคงอดแซวไม่ได้
“ปล่อยเค้าไปเหอะ เดี๋ยวปีหน้าเพื่อนเราคงนั่งบ่นคิดถึงแฟนทุกวันแน่ๆ” โจ้ก็แซวอีก เป็นครั้งแรกนะที่มันแซวผม
“แล้วคืนนี้จะไปนอนด้วยกันไหม” เชียร์ถามขึ้นมาซะงั้น
ผมกับบิ๊กหน้าแดงทันที
“ทำไมต้องเขินด้วย ปกติก็นอนด้วยกันแทบทุกวัน ยังจะมาเขินอีก” เชียร์มันแซวหรือมันด่าก็ไม่รู้
“ไม่ดีกว่า เราอยู่กับปอมาทั้งวันแล้ว” อ้าว บิ๊กพูดปฏิเสธซะงั้น ผมอยากไปนอนด้วยอ่ะ
“เฮ้ย บิ๊กแกพูดแบบนี้ ดูดิ เพื่อนเราหน้าบูดเป็นตูดหมาเลย” แล้วมันก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปติวหนังสือกันที่ห้องสมุดไม่ใช่เหรอ ยังไงก็เจอกันพรุ่งนี้อยู่แล้ว” บิ๊กพูดปลอบผม
“ได้ ได้ งั้นไปกินข้าวเถอะหิวแล้ว” ผมรีบตัดบท เพราะหิวจริงๆ
เราทั้งสี่คนก็ไปกินข้าวที่โรงอาหาร
******************************************************************************************************************************
เช้าวันรุ่งขึ้น ผมไปหาบิ๊กที่ห้องตามที่นัดไว้ว่าจะไปติวหนังสือกัน แต่เพื่อนๆที่ห้องบอกว่าบิ๊กออกไปนานแล้ว
ผมงง ไหนตอนแรกบอกว่าจะไปด้วยกันไง ดันไปก่อนซะนี้
ผมเลยรีบไปห้องสมุดทันที พอไปถึงก็เดินตามหาทั่วตึก ก็ไม่เจอสักกะที
ไปแอบที่ไหนเนี้ย ทำไมต้องให้หาด้วย
ผมเลนมานั่งสงบจิตสงบใจแถวที่นั่งตรงริมข้างหน้าต่าง แล้วจะอ่านหนังสือรอไปด้วย
ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผมก็ยังไม่เห็นวี่แววสุดที่รัก
ทำไมเหลวไหลอย่างนี้เนี้ย
ผมถอนหายใจ มองออกไปนอกหน้าต่าง
แต่แล้วผมก็เห็น คนสองคนยืนคุยกันอยู่ด้านหลังตึกเรียน ตรงข้ามกับหอสมุด
สักพักสองคนนั้นก็โผเข้ากอดกัน ผมอมยิ้ม ไม่นึกว่าโรงเรียนนี้จะมีคู่เกย์เยอะ
แต่แล้วรอยยิ้มผมก็หายไป เมื่อเห็นสองคนนั้นว่าคือใคร
มาสเตอร์เบิร์ด กับบิ๊ก ผมเห็นมาสเตอร์เบิร์ดกับบิ๊ก กอดกัน!!!!!!!!!!
-----จบคู่ที่3-----

เอาเป็นว่าตอนหน้า ทุกๆอย่างจะเฉลย ทั้งเรื่องของโจ้ เชียร์ ปอ
เตรียมใจ ช็อค (เฮ้ย ล้อเล่น ตกใจกันใหญ่)
รอตอนต่อไปนะคร้าบบบ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เออ....................จะให้ช๊อครอไว้เลยมั้ยคับ  :serius2:

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
เง้ออ...ปอ น่าสงสารอีกแย้วอ่า...งิงิ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
เหงม่ะ

ซื้อหวยไม่เคยถูก

สองคนนี้เขาสวมเขาให้น้องปอ

กราซิก กราซิก สงสารน้องปอ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
ตอนที่ 8 ความสัมพันธ์ที่แท้จริงเปิดเผย
คู่ที่ 1
ปิดเทอมสักที หลังจากเหน็ดเหนื่อยทั้งเรื่องการเรียน และกิจกรรมต่างๆมานาน
พวกเราก็มีฉลองกันเล็กน้อย พวกเราในที่นี้คือ แต่ละห้องก็จะมีกินเลี้ยงกัน
แต่เราสามคนกลับยกอาหารออกมากินกันนอกห้อง
โต๊ะ และม้านั่งหินอ่อน ข้างๆสนาม ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตึกเรียนเท่าไหร่
เรื่องปิดเทอมของแต่ละคนก็กลายเป็นหัวข้อสนทนาของพวกเรา
ผมเองก็คงต้องพักอยู่ที่หอพักตอนปิดเทอม อาจจะแวะเข้าไปเยี่ยมซิสเตอร์ที่สถานสงเคาระห์ เผื่อไปช่วยดูแลน้องๆด้วย
“เอ้า มึงไม่ไปไหนกับพี่หมีเหรอ” เชียร์ถาม
“ก็พี่เค้าไม่เห็นนัดนี้ คงงานยุ่งมั้ง” ผมทำหน้าเซ็งๆ
“ตั้งแต่มึงเป็นแฟนกับพี่หมี กูไม่ค่อยเห็นจะสวีทกันเลย” ปอถามอีก
ผมได้แต่ถอนหายใจ ทำไงได้ ก็พี่เค้ายุ่งจริงๆนี้
เชียร์เปลี่ยนเรื่อง ด้วยการแถลงว่ามันจะไปเที่ยวบ้านพี่เต๋า
“นานๆจะไปเที่ยวป่า เขา ลำเนาไพรสักที” มันพูดไปยิ้มไป
“จะไปเอากันนอกสถานที่ว่างั้น” ปอแซว
“ดีออก มีเสียงนกเสียงกา เสียงน้ำตก เสียงลมพัด ได้อารมณ์ดี” มันย้อนกลับ
คู่นี้มันกัดกันจริงๆ
ส่วนไอ้ปอ มันจะไปเที่ยวกลับแม่ที่ฮ่องกง
“ไม่พาแฟนมึงไปด้วยละ แม่ผัวจะได้ลูกจักลูกสะใภ้” เชียร์ปากดีใส่ไอ้ปอ แต่ไอ้ปอกลับไม่เถียง
“เป็นไรอ่ะ ทำไมพักหลังเห็นมึงทำหน้าง๋อยๆตอนอยู่กับบิ๊ก เห็นปกติทำหน้าระรื่น”
“ก็...ไม่มีอะไรหรอก” มันทำตัวแปลกๆ
“มีอาไรก็บอกพวกกูได้นะ เผื่อกูพอจะช่วยได้” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป้นไรหรอก กรูจัดการเองได้” มันยิ้มให้ เมื่อมันไม่พูดก็ไม่อยากรบเร้ามัน
“เฮ้ยๆ สุดที่รักมึงมาอ่ะ” เชียร์เรียกให้ผมไปดูชายหนุ่มที่กำลังเดินมาหาพวกเรา
พีหมีเดินยิ้มาแต่ไกล ผมเลยลุกไปหาพี่เขา ไม่ค่อยอยากให้สองคนนั้นได้ยินเราคุยกัน
“มีอาไรคับ” ผมถามพร้อมรอยยิ้ม
“คิดถึงเลยมาหาไง” พี่หมีตอบ
“แค่เนี้ยเหรอ” ผมทำท่าเขิน
“ว่าจะชวนโจ้ไปเที่ยวช่วงวปิดเทอม” พี่หมีพูดออกมา ผมอยากจะตะโกนใส่พวกมัน ว่าเห็นมั้ย กูก็ไม่ได้นั่งหงอยอยู่คนเดียว
“เที่ยวไหนบ้างอ่ะคับ” ผมถาม
“อืมม บอกไปเที่ยวไม่ได้ซิ ปิดเทอม โจ้ไปพักที่คอนโดพี่มั้ย” พี่หมีพูดออกมา ผมช็อคเล็กน้อย
“ให้ไปพักที่บ้านคงไม่สะดวก ไปคอนโดพี่พีกว่า มันเป็นส่วนตัวดี” พี่หมีอธิบาย
ผมก็ยังยืนอึ้งอยู่
“คงเป็นประมาณอีกสองอาทิตย์หน้านะครับ ขอพี่เคลียร์งานให้เรียนร้อยก่อน” พี่หมีพูดไม่หยุด ไม่ได้ดูเลยว่าผมยังยืนอึ้งอยู่
“ว่าไงครับโจ้ โอเคมั้ย” พี่หมีถามผม
“ครับ” ผมตอบเร็วกว่าความคิดผมซะอีก
******************************************************************************************************************************
เวลา 2 อาทิตย์ช่างยาวนานเหลือเกิน กว่ามันจะผ่านไปทำไมมันนานจัง
อาทิตย์แรกผมช่วยอาจารย์เกี่ยวกับการตรวจข้อสอบ ก็ทำให้เจอหน้าพี่หมีบ้าง แต่ก็แค่เจอ และคุยอะไรกันเล็กน้อยเท่านั้น
อาทิตย์ที่สองผมขออณุญาตท่านอธิการ ขอลากลับไปสถานสงเคราะห์ เพื่อไปเยี่ยมซิสเตอร์และน้องๆด้วย
และก็มาถึงวันที่ผมรอคอย พี่หมีมารับผมแต่เช้า
“ไม่เห็นต้องแบกอาไรมาเยอะเลย เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ที่บ้านพี่ก็มี มาแต่ตัวก็พอ” พี่หมีพูดพร้อมรับกระเป๋าของผมไปเก็บไว้หลังรถ
“พี่หมีให้ผมไปอยู่ตั้งอาทิตย์หนึ่ง ผมว่าผมเตรียมของเอาไปดีกว่า ไม่อยากรบกวนพี่มากอ่ะ” ผมหันไปยิ้มให้พี่หมี
“โจ้ครับ โจ้แน่ใจนะว่าเอาของมาครบแล้ว” พี่หมีหันมาถามผม
“ก็เอามาครบแล้วนี้ครับ” ผมทำหน้างง
“แล้วหัวใจเอามาหรือยังครับ ถ้าเอามาแล้วฝากพี่ไว้ก็ได้นะครับ” พี่หมียิ่งมุข ผมทั้งเขินทั้งขำ
“เล่นสุขแบบนี้เป็นด้วยเหรอครับ”
“ทำไมล่ะ พี่ก็อยากคุยในฐานะที่เราเป็นแฟนกัน เกือบทั้งเทอมพี่ไม่ได้อยู่แบบส่วนตัวอย่างนี้กับโจ้เลย” สักพักพี่หมีก็เข้ามากอดผม ผมอึ้งไปชั่วขณะ
“พี่ขอโทษนะ ที่ไม่ได้ดูแลโจ้เลย ไม่ได้ทำตัวเป็นแฟนที่ดี แต่พี่สัญญานะว่า สี่ ห้า วันนี้พี่จะดูแลโจ้อย่างดีเลย โจ้อยากทำอะไร โจ้อยากได้อะไร โจ้จะไปไหน พี่จะทำให้ทุกอย่างเลย”
ผมยิ้มดีใจ ไม่เคยมีใครทำอะไรให้ผมขนาดนี้มาก่อน
“ผมไม่ต้องการอะไรหรอกครับ แค่พี่ทำทุกอย่างด้วยความเต็มใจ และรักผมอย่างที่พี่พูดก็พอ”
ผมพูดแค่นั้นแหละ พี่หมีก็เข้ามาจุ๊บที่ปากผม
กลายเป็นว่า ผมตัวแข็งไปเลย จูบแรกของผมนะนั้น
ตอนนั้นผมคิดว่า นั้นคือความสุขที่ผมตามหามาทั้งชีวิต
******************************************************************************************************************************
ความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว พี่หมีไม่ค่อยพาผมไปไหน เพราะผมเองก็ไม่ค่อยอยากไปไหนเท่าไร อยากอยู่ด้วยกันกับพี่หมีมากกว่า เพราะที่คอนโดของพี่มีก็มีทุอย่างอยู่แล้ว ส่วนมากจะนั่งดูหนังกันมากกว่า
ส่วนกลางคืน หลายคนคงคิดว่า ต้องมีอะไรกันแน่ แต่เปล่าครับ ผมบอกพี่หมีตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมยังไม่พร้อมในเรื่องแบบนั้น ที่ไม่พร้อมคือ ผมอายทำอะไรไม่เป็นซะอย่างขายหน้าเค้า
“วันนี้ไปธุระเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ” พี่หมีเอ่ยขึ้น ขณะดูหนังช่องHBO
“อ๋อครับ ได้ซิครับ” ผมหันไปยิ้มให้พี่หมี
แล้วตอนเย็นของวันนั้นพี่ก็พาผมมาที่คอนโดใกล้ๆกับคอนโดของพี่หมี
พี่หมีพาเข้าไปในห้องของเพื่อนพี่เค้า ผมไม่เคยเห็นคนพวกนี้เลย คงไม่ใช่เพื่อนที่โรงเรียนมั้ง
ท่าทางคงมีปาร์ตี้กัน เพราะเห็นทั้งอาหาร และขวดเหล้า
“กินเหล้าแบบนี้ไม่ผิดเหรอครับ อายุเรายังไม่ถึงเลยนะ” ผมกระซิบถาม
พี่หมีไม่ตอบก็ได้แต่หัวเราะ
“เด็กมึงเหรอว่ะ” เพื่อนพี่หมีคนหนึ่ง เดินเข้ามาทัก พร้อมทำสายตาแปลกๆให้ผม
“เฮ้ย! กูแค่แวะมา เออเดี๋ยวขอยืมห้องแป๊บนะ” พี่หมีพูดกับเพื่อนคนนั้น
“ผมชื่อ ตาล นะ นายชื่อไรคับ” เพื่อนคนนั้นถามผม
“โจ้ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ผมตอบ
“เอ๊ะ ! แต่กูได้ยินมาว่า เด็กแก ชื่อ เจไม่ใช่เหรอ” เพื่อนพี่หมีพูดแปลกๆ
“มึงเมาแล้ว กูพาน้องเค้าไปรอที่ห้องแป๊บนะ” พี่หมีก็พาผมไปให้ห่างจากเพื่อนของเค้า
ผมหันไปมองผู้คนรอบๆห้องนั้น ทุกต่างที่แก้วเหล้าในมือ และก็ดูเหมือนคนไม่ค่อยมีสติ บ้างก็กินเหล้า บ้องก็กอดกัน
พอเข้าไปในห้อง พี่หมีก็พูดกับผม
“พี่ไม่ค่อยสนิทกับพวกนี้เท่าไร พอดีพ่อพี่กับพ่อมันเป็นเพื่อนกัน “ ผมก็เชื่อพี่หมี เพราะพี่หมีเป็นถึงประธานนักเรียน ไม่น่าจะคบกับคนพวกนี้ได้
“เดี๋ยวพี่ไปเอาของแป๊บนึงนะ พอดีพ่อพี่ฝากให้มาเอาของกับมัน รอในห้องนะ” แล้วพี่หมีก็เดินออกไป
ผมนั่งรอในห้องอยู่นานเหมือนกัน เกือบๆ20นาที รู้สึกง่วงๆเลยเผลอหลับบนโซฟาในห้องนั้น
ผมมารู้สึกตัวอีกที ก็เหมือนมีคนมาปลุก คงเป็นพี่หมีมั้ง ผมเลยรีบกระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง
แต่คนที่มาปลุกผมกลับเป็นตำรวจประมาณ 3 นาย
“กะ กะ เกิดอะไรขึ้นหรือครับ”  ผมตกใจ
คุณตำรวจไม่พูดอะไร จับผมหันหลังรวบแขนทั้งสองข้าง และใส่กุญแจมือ
“ไอ้หนู ถ้าพ่อแม่รู้ว่าแกมารวมกลุ่มเสพยา เค้าจะเสียใจมากรู้มั้ย”
เกิดอะไรขึ้นกับผม!!!!!!!!!!
------ จบคู่ที่ 1 -----

ช็อคไปแล้วกับคู่แรก เตรียมช็อตกับคู่ที่ 2 และคู่ที่ 3 เร็วๆนี้ครับ
 :serius2:
 :o12:
 :a5:

snowblack

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
อ้าววววววววววววววววววววววววววววววว ไอ้พี่หมี

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
:a5: จะเป็นไงต่อนะ

แค่ซวยที่มาตอนพวกนั้นเล่นยา

หรือพี่หมีก็เล่นยาด้วยนี่สิเฮ้อ

iamhappywood

  • บุคคลทั่วไป

meawkung02

  • บุคคลทั่วไป
ไหงกลายเปงปารตี้มั่วยา ไปได้ล่ะเนี้ย...???

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50

ออฟไลน์ jojoe

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 223
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-1
คู่ที่ 2
เป็นครั้งแรกที่ผมนั่งรถทัวร์ไปต่างจังหวัด ต้องโกหกพ่อว่าไปกับทางโรงเรียน ถ้าพ่อรู้ว่าแบกเป้ลุยป่าไปคนเดียว(เอ๊ะ! ไปกับพี่เต๋านะครับไม่ใช้ไปคนเดียว) พ่อคงไม่มีทางให้ผมไปแน่
ผมมองไปข้างทางตลอด ดูต้นไม้แปลกๆที่ผมไม่เคยเห็น ทุ่งนาก็ไม่เคยเห็น ผู้เขาเอยหุบเขาเอย สร้างความสนใจให้กับเด็กเมืองกรุงอย่างผม
จนผมไม่ได้สนใจผู้ชายที่นั่งข้างๆผมเลย
“พี่เต๋ารู้ป่าว เชียร์ดีใจมากเลยนะ ที่ได้มาเที่ยวแบบนี้” ผมเริ่มชวนพี่เต๋าคุย แต่สายตายังคงมองออกไปข้างนอก
“เหรอ” พี่เต๋าตอบผม
“ได้มาอยู่กับธรรมชาติแบบนี้ รู้สึกดีเป็นบ้าเลย” ผมทำเสียงดีใจสุดขีด
“อืมม” พี่เต๋าตอบแค่นั้น
“อีกอย่าง เหมือนมาฮันนีมูนเลยเนอะ” อันนี้ผมปล่อยมุขดูดิพี่เต๋าจะเล่นกลับว่าอะไร
“เหอะ เหอะ” พี่เต๋าได้แต่หัวเราะ แต่รู้สึกเหมือนไม่ได้อยากหัวเราะยังไงก็ไม่รู้
“เป็นอะไรเนี้ย” ผมชักสงสัยกับท่าทีของพี่เต๋า
“ป่าว” ตอบแล้วทำหน้าตาเฉย เห็นอยู่ชัดว่าต้องมีอะไร แต่ก่อนจะแซวจะพูดกันตลอด ไม่ก็จะมาอ้อนนู้นอ้อนนี้ ตั้งแต่ขึ้นรถมา ยังไม่แตะเนื้อต้องตัวกันเลย
“คิดว่าโกหกคนอย่างเชียร์ได้เหรอ” ผมเริ่มโวยวาย
พี่เต๋าถอนหายใจ “เชียร์ต้องการอะไร” น้ำเสียงเหมือนหมดอาไรตายอยาก
“เดี๋ยวนี้ทำไมพี่เป็นแบบนี้ ทำอย่างกับเชียร์ไม่ใช่แฟน” ผมพยายามเบาเสียง ไม่อยากเสียงดังบนรถทัวร์ อายเค้า
“เชียร์คิดไปเองหรือเปล่า พี่ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปนี้” พี่เต๋าเถียง
“นี้แหละ ที่เปลี่ยนไป ปกติพี่ไม่มาเถียงเชียร์ ฉอดๆ อย่างนี้หรอก” ผมโมโหจริงๆ
“พี่ไม่ใช่นักบุญนะ พี่ก็มีความอดทน” พี่เต๋ายังเถียงแต่ไม่มองผม
“ตกลงเต็มใจให้เชียร์มาหรือเปล่า ถ้าไม่เต็มใจ เชียร์จะลงตรงนี้” ผมโมโหถึงขีดสุด ทำท่าจะเดินไปหยิบกระเป๋า  แต่พี่เต๋าก็ยังจับตัวผมไว้
“อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลยได้ไหม” พี่เต๋าทำเสียงอ้อนวอน
“การที่พี่ไม่แคร์ความรู้สึกของเชียร์ เชียร์ถือว่าเรื่องใหญ่” ผมพยายามดิ้น
“พี่ขอโทษก็ได้ ขอร้องล่ะ นั่งอยู่เฉยๆได้ไหม” พี่เต๋าพยายามอีกครั้ง
ผมหยุดดิ้น ผมพยามยามสงบสติอารมณ์ กลายเป็นว่า จะมาอย่างมีความสุขสักหน่อย ต้องมาทะเลาะกันอีก เซ็งโว้ย!
ภาพข้างนอก แม้จะสวยงามเพียงไหน แต่ผมไม่มีอารมณ์สุนทรีย์แบบนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้ผมเหมือนรู้สึกว่า คนข้างๆผม เขาไม่ได้สนใจผมเหมือนเมื่อก่อน เขาปิดบังอะไรผมบางอย่าง ผมรู้ว่าถ้าคาดคั้นไป เขาก็คงไม่ตอบผม
ความรู้สึกเหล่านั้น ทำให้ผมเครียด ทำให้ผมกลัว กลัวจะผิดหวัง
ผมร้องไห้ออกมาตอนไหนไม่รู้
พี่เต๋าเห็นผม ก็เข้ามาโอบผมไว้
“พี่ขอโทษ อย่าร้องไห้นะครับ พี่เครียดจากเรื่องการสอบ และก็เรื่องงานนิดหน่อย พี่ขอโทษว่าพี่จะไม่ทำให้เชียร์ร้องไห้อีก”
พี่เต๋าพยายามพูดปลอบผม แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย
การโอบกอดผมของพี่เต๋า ถ้าเป็นคนอื่นเค้าคงรู้สึกดีที่มีแฟนมาง้อ
หากแต่ตอนนี้ ความรู้สึกของผมที่มีให้พี่เต๋า เปลี่ยนไปซะแล้ว!!!!
******************************************************************************************************************************
พี่เต๋ามีบ้านอยู่สองหลัง หลังแรกเป็นบ้านจัดสรรที่อยู่ในตัวเมือง พี่เต๋าแค่แวะไปเอาของและไปหาพ่อแม่กับญาติของเขาเฉยๆ แต่พี่เค้าจะพาผมไปบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นรีสอร์ทอยู่หลังเขา
ผมเริ่มสงบลงแล้ว ความรู้สึกโกรธ หรือ ความสงสัยในตัวพี่เต๋า ก็ลดลงเรื่อยๆ
เมื่อมาถึงรีสอร์ท ผมพยายามจะสนุกกับการผักผ่อนให้เต็มที่ ไม่ควรจะมาเครียดในวันดีดีแบบนี้
พี่เต๋ายังคงดูแลผมอย่างดี พาผมไปเล่นน้ำตก ล่องแก่ง พายเรือคะยัก ฯลฯ และอีกหลายกิจกรรมที่ทำให้ผมลืมเรื่องต่างๆ
“หนุกป่าว” พี่เต๋าเดินเข้ามากอดผม เมื่อเห็นผมยืนตรงระเบียงมองดูดาว
“อืมม ไม่เคยมาเที่ยวแบบนี้เลย รู้สึกเหมือนเป็นผู้ใหญ่เลย” ผมตอบ
“พรุ่งนี้จะพาไปไหนอ่ะ” ผมหันไปถาม
“ไปเดินป่ามั้ง ไม่รู้อ่ะ เดี่ยวดูก่อน” พี่เต๋าตอบ
“ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากเดินป่า ขอนอนพักสักวันได้ป่ะ เล่นมาทุกวันมามากพอแล้ว” ผมตอบ
“อืมม ตามใจ” พี่เต๋ายิ้มให้ก่อนจะมาจูบผม
“เออออ.....” พี่เต๋าไม่ได้แค่จูบแต่เริ่มเรื่อยตัวมาไซร้ผม
“ไปทำข้างในได้ไหม เดี๋ยวใครมาเห็น” ผมเริ่มเขิน ไม่รู้จะเขินทำไม ตั้งแต่มาที่นี้ก็ทำกันแทบทุกวัน บางวันก็หลายรอบ
พี่เต๋ายิ้ม แล้วจูงมือพาผมเข้าไปในห้อง
“ในเมื่อพรุ่งนี้เชียร์ไม่ไปเดินป่า งั้นก็ใช้แรงทั้งหมดในคืนนี้ก็แล้วกัน”
ผมหัวเราะปนเขิน ไม่นึกว่าแฟนเราจะหื่นขนาดนี้
******************************************************************************************************************************
ผมตื่นมาก็เกือบเที่ยงแล้ว ไม่นึกว่าจะตื่นสายขนาดนี้
แต่ก็สมควรอยู่หรอก เพราะเล่นกันซะเกือบเช้า ยิ่งนึกก็ยิ่งเขิน
ผมหันไปมองรอบๆห้องก็ไม่เห็นพี่เต๋า สงสัยคงไปเดินป่าแล้วมั้ง
รู้สึกหงุดหงิดยังไงก็ไม่รู้ ไม่อยากอยู่คนเดียวเลย
ผมเดินมาที่เคาน์เตอร์ สอบถามว่าการเดินป่าจะกลับมาถึงเมื่อไหร่ พนักงานบอกว่าคงประมาณเย็นๆเลย
ผมถอนหายใจ พอไม่มีพี่เต๋าอยู่ก็ไม่รู้จะทำอะไรดี
อย่างแรกคงไปหาอะไรใส่ท้องก่อน
ผมไปที่ห้องอาหารของรีสอร์ท ก็รีบจัดการกับกระเพราะตัวเองเพราะว่าหิวมากๆ
ขณะที่เอร็ดอร่อยอยู่นั้น สายตาผมก็มองไปเจอแขกของทางรีสอร์ทคนหนึ่งรู้สึกว่าหน้าคุ้นๆ
แต่ผมมองไม่ค่อยชัด เห็นเขาแบกเป้ เดินไปที่บ้านพักหลังหนึ่งซึ่งติดอยู่กับทางลงไปน้ำตก
แล้วผมก็เลิกสนใจ มาสนใจกับข้าวที่อยู่บนโต๊ะ
หลังจากกินเสร็จก็กลับมาที่พักของตัวเอง นั่งๆนอนๆไปสักพักก็ ง่วงอีกแล้ว เลยหลับไปอีกรอบ
**************************************************
ตื่นมาอีกที มองนาฬิกาก็ปาไปหกโมงเย็นแล้ว ป่านนี้พี่เต๋าน่าจะกลับมาแล้ว
ผมมองไปทั่วห้องก็ไม่เห็นวี่แวว หรือร่องรอยของพี่เต๋าเลย
อะไรกันเนี้ย ยังไม่กลับอีกเหรอ หรือว่ากินข้าวอยู่ที่ห้องอาหาร ผมเลยบึ่งไปที่นั่นทันที
ไม่เจออ่ะ หรือยังมาไม่ถึง ผมเลยไปถามพนักงาน
“อ๋อ กลับมาตั้งแต่สี่โมงแล้วคะ” พนักงานตอบแบบนี้ผมก็อึ้ง เริ่มเป็นห่วงพี่เต๋า
“แต่ผมยังไม่เห็นเขาเลยนี้ครับ” ผมตอบ พร้อมบอกชื่อพี่เต๋า และลักษณะท่าทางให้
“อ๋อ น้องคนนั้น เห็นเดินกลับไปพร้อมเพื่อนแล้วนี้ค่ะ” พนักงานคนนั้นตอบ
ผมอึ้งไปชั่วขณะ เพื่อนที่พนักงานคนนั้นก่อนคือใคร
“เออ คือคนผิดคนแล้วมั้งครับ ผมนั้นแหละคือเพื่อนของเค้า” ผมพยายามถามอีกครั้ง
“ไม่ผิดหรอกค่ะ เห็นเขาเดินกลับไปบ้านหลังนั้นคะ” พนักงานชี้ไปทางบ้านพักหลังที่ติดอยู่กับทางลงไปน้ำตก
ผมขอบคุณพนักงานพร้อมเดินไปที่บ้านหลังนั้น
ใจผมเต้นระรัว ในใจคิดไปต่างๆนาๆ
ขออย่าให้ผมรับรู้หรือเห็นภาพอะไรที่ไม่ควรเห็นเลย
เมื่อผมไปที่บ้านหลังนั้น ตอนแรกผมกำลังจะเคาะประตู แต่ผมว่าไม่เคาะดีกว่า ผมอยากรู้ด้วยตัวผมเอง
ผมจึงตัดสินใจเดินอ้อมไปด้านหลัง แล้วค่อยๆข้ามรั้วตรงระเบียง มาเดินบนคานที่สำหรับวางแอร์ ซึ่งพอเป็นทางเดินไปหน้าต่าด้านข้างได้
ใครมาเห็นผมตอนนี้คงนึกว่าเป็นขโมยแน่ๆ
ผมมองไปที่ประตู มันเป็นห้องนั่งเล่น มีกระเป๋าวางอยู่ มันเป็นกระเป๋าใบเดียวกับของนักท่องเที่ยวที่ผมคุ้นหน้าคนนั้น
เมื่อห้องนั่งเล่นไม่เห็น ผมเลยเดินไปเรื่อยๆ ไปอีกหน้าต่างอีกบานหนึ่ง ซึ่งเป้นหน้าต่างห้องนอน
เมื่อผมไปถึงหระหน้าต่างผมค่อยลอดมองไปดูไปข้างใน
“พี่เต๋า” ผมนึกในใจ เมื่อเห็นพี่เต๋า ยืนคุยอยู่กับใครบางคนซึ่งผมไม่เห็น เพราะเขาอยู่อีกฝั่ง
ผมค่อยๆเอามือแง้มหน้าต่างออก เพื่อให้ได้ยินว่าพี่เต๋าคุยกะใคร
“มึงจะให้กูบอกน้องเค้ายังไง” พี่เต๋าเอ่ยขึ้น
“มึงไม่บอกูบอกเองก็ได้” เสียงอีกคนดังขึ้น ผมว่ามันคุ้นจริงๆนะ
“อย่าเลย ทุกอย่างกูเป็นคนก่อ กูขอเป็นคนบอกเอง” พี่เต๋าทำเสียงอ๋อยๆ เหมือนรู้สึกผิด คนที่สองคนพูดถึง หมายถึงผมใช่มั้ย
“มึงอย่าคิดซิว่าเป็นความผิดมึง” เสียงอีกคนพูดปลอบ พร้อมเอามือมาลูปหัวพี่เต๋า ผมใจหายวูบ
“กูเหมือนเป็นคนเลวเลยว่ะ” พี่เต๋าก้มหน้า ผมเองก็รู้สึกถึงน้ำเสียงของเขา เขาหลอกอะไรผมเหรอ
“เอาน่า กูว่าน้องเค้าคงเข้าใจ” แล้วผู้ชายคนนั้นก็เอามือลูบหน้าพี่เต๋า ผมเจ็บแปลบๆขึ้นมา ไม่อยากเห็นภาพตรงนั้นเลย
“กูเองก็คงมีส่วนผิด กูรู้ที่มึงทำไปก็เพราะกู” แล้วผู้ชายคนนั้นก็ค่อยๆเดินเข้ามากอดพี่เต๋า
ตอนนั้นน้ำตาผมไหลไม่รู้กี่รอบแล้ว พยายามปิดปากตัวเองไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดเข้าไป
“ลันลา ลันลา ลันลา.......” เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น ทำให้สองคนนั้นเดินมาที่หน้าต่างทันที
ผมหนีไปไม่ได้อีกแล้ว เลยนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าต่างนั้น
พี่เต๋าแทบช็อคเมื่อเห็นผม
แต่ที่ผมช็อคกว่าก็คือผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆพี่เต๋า
“เชียร์ เมื่อกี้ได้ยินหมดเลยเหรอ” พี่หมิงถามผม
ผมพยักหน้าพร้อมร้องไห้ฟูมฟาย
พี่เต๋าถอนหายใจ “ก็ดี เราจะได้คุยกันสักที”
-----จบคู่ที่ 2-----

คู่ที่ 2 มีคนทายถูกว่าจะช็อคกันเรื่องอะไร
ตอนหน้าค่อยมาดูละกันว่า เต๋าทำไมถึง จั๊กกะแด๋ว กับหมิง

แต่ตอนต่อไปนี้ซิ จะมีอะไรมาให้ช็อคกับน้องปอของเรา
เขียรเศร้ามากไปจะทำให้คนเกลียดป่าวอ่ะ

ฝากติดตามต่อไปนะคร้าบบบบ

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
เอ่อ....พี่ครับจะไม่ให้มีใครสมหวังเลยใช่มั้ยนี่

 :serius2: :serius2: :serius2: ม่ายยยยยย

ออฟไลน์ Junrai_Hyper™

  • พูห์น้อยกลอยใจ
  • Global Moderator
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4842
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +777/-50
คนเขียนใจร้ายที่สุด

ฮืออออออออออออออออออออออออ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด