“Whenever you call” มันบอกออกมาครับ แล้วหันหน้ากลับไปหาเพื่อนๆทั้งสอง แล้วพยักหน้าให้กัน สาวจอยก็ส่งสัญญาณให้พวกไอ้เชี่ยแบงค์
“โห่ๆๆ วู้ เล่นของยากเลยนะจ๊ะ ระวังตกม้าตายน้า” เสียงเล็ดลอดมาจากด้านหลังครับ ผมหันกลับไปมองแต่ก็ต้องรีบหันกลับมาเพราะคนมันเยอะจัด ไม่รู้หรอกว่าใคร เดี๋ยวค่อยสืบ เสียงหัวเราะกับเสียงโห่ดังขึ้นด้านหลัง ทีนี้น้องๆด้านหน้าก็โห่กลับครับ โดยหันหน้าไปทางด้านหลัง เสียงโห่ดังอยู่นาน จนการแสดงไม่เริ่มเสียที อาจารย์พรจึงเอาไม้เคาะแสตนด์ เสียงดนตรีจึงเริ่มขึ้น
.”Love, wandered inside, stronger than you” เอ่อ เสียงมันดีนะครับ แต่ทำไมเสียงดนตรีมันตีมั่วแบบนั้นวะ
“เฮ้ย” ผมตะโกนขึ้น เพราะไอ้เบบี๋มันหันหลังกลับ แม่งจงใจแกล้งนี่หว่า มันหน้าเสียแล้วครับ เพราะพวกเล่นดนตรีตีมั่วไม่เข้ากันแล้วก็หยุดเล่นเลย เสียงโห่กับเสียงหัวเราะดังขึ้นทันที ไอ้เบบี๋มันเหมือนอายมาก มันยืนนิ่งอยู่บนเวทีไม่ถึงห้านาทีก็เลยวิ่งลงจากเวที ผมเลยวิ่งไปหามันครับ ผมเอาดอกไม้ยื่นให้น้องที่นั่งข้างๆผม
“สันดานหมา มันแกล้งพวกเฮาเดี๋ยว มันแกล้ง” สาวจอยครางเหมือนจะร้องไห้ครับ หน้าตาของทั้งสามคนเหมือนเห็นผี เสียงหัวเราะกับเสียงโห่ยังดังกึกก้องอยู่ ผมเสียวแปลบที่หัวใจ เพราะคนที่ผมรักที่สุดมันน้ำตาคลอแล้ว
“มันไม่สนุกนะคะนักเรียน ทำไมเล่นแบบนั้น นายแบงค์” เสียงอาจารย์พรดังก้องขึ้นครับ เสียงพวกที่โห่ก็เงียบกริบลง เหมือนผมได้ยินเสียงแก้ตัวของพวกนั้นล่ะครับ
“โน้ตมันยากเด้จารย์ เล่นบ่เป็นดอกเพลงหยังบู้” ผมเลือดขึ้นหน้าจัดครับ ผละออกจากไอ้เบบี๋ แต่มันดึงตัวไว้
“ไม่เอาเน่า ไม่เอา” มันครางไว้ ให้ตายเถอะ พอได้ยินเสียงมันผมกอดมันเลยครับ
“เล่นไม่เป็นก็ลงไปค่ะ พวกเธอรู้ไว้นะว่านี่มันไม่สนุก ถ้าเล่นไม่เป็นตั้งแต่แรกครูจะให้คนอื่นที่เขาเล่นเป็นมาเล่น ไม่ใช่มาทำให้เพื่อนๆเขาเสียกำลังใจแบบนี้ ใช้ไม่ได้ รอแป๊บนะคะนักเรียน” อาจารย์พรเงียบเสียงไปแล้วแกก็มาโผล่ที่หลังเวที
“เป็นไงบ้างอุรดิศ ร้องสดๆได้ไหม ครูขอโทษด้วยนะ” สีหน้าอาจารย์เองก็ไม่ดีครับ
“เอ่อ” “บักเดี๋ยว เล่นอีเล็กโทนได้ใช่ไหม อุรดิศ แค่อีเล็กโทนพอไหม”
“พอค่ะจารย์ เป็นหยังคือเฮ็ดแนวนี้ ให้ฮ้องเพลงนี่กะอายสิตายแล้ว มาแกล้งกันแนวนี้เฮ็ดหยัง” สาวจอยโพล่งออกมาครับ น้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ สัดไม้ก็กำมืออยู่ หน้าตามันเอาเรื่องไม่น้อย คงไม่ต่างจากผมหรอกครับ
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวครูจัดการให้ ทำแบบนี้ก็เหมือนกับไม่ไว้หน้าครูเหมือนกัน เอาล่ะ ครูขอนะอุรดิศ ทำให้ครูสักครั้ง ออกไปทำให้พวกนั้นเขาเสียใจที่โห่หรือหัวเราะเรา ครูเชื่อมั่นในเธอนะ ไปบักเดี๋ยว” อาจารย์พรบอกล่ะครับ แกเดินกลับไปด้านหน้า ผมเองก็ต้องรีบวิ่งเอากล้องมาให้ไอ้โจ้มันถ่ายให้ เรื่องดนตรีผมเป็นนะเว้ย ก็มีแคน กีตาร์ อีเล็กโทนนี่ล่ะ บอกแล้วผมมีพรสวรรค์ อัจฉริยะครับแต่ก็ไม่ได้เพราะอะไรมากมายพอเล่นได้ล่ะ
“ป่ะอุ่น ซ่างแม่มันเถาะ ฟ้าวเฮ็ดฟ้าวแล้ว มื้อแลงสิไปเตะปากคน” สัดไม้ครับ มันเดินขึ้นไปคนแรก
“จารย์ๆ หนูเปล่าฟลุทให้บ่ค่า” ทุกคนหันไปครับ เด็กม.ต้นที่กำลังจะเตรียมการแสดงชุดต่อไปล่ะ น้องวิ่งมาดักหน้าอาจารย์พร ท่าทางตื่นๆอยู่ ผมเองก็หันไปมอง
“นภัสสร ขอบใจมาก ไปเลยลูก หนูเป่าได้นะ”
“ได้ค่ะ หนูอยากเป่าให้อ้ายอุ่น” เอ่อนะ น้องมันมองไปทางไอ้เบบี๋ล่ะครับ ไอ้เบบี๋ก็ยิ้มให้ทั้งๆที่น้ำตาคลออยู่ มันดูสั่นๆเลยล่ะครับ คงจะตกใจ ตอนนี้ผมอยากเข้าไปกอดมันมากๆ แต่สถานการณ์มันเร็วมากครับ
“ขอบใจมากนะครับน้อง” มันเดินมาจับมือของน้องคนนี้ครับ แล้วสัดไม้ก็นำขึ้นเวทีไปคนแรก เสียงโห่ดังอื้ออึงมาไม่ขาดระยะ ผมเดินตามมันไปแล้วไปยืนตรงอีเล็กโทนประจำที่ เสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นทันที เพราะผมอยู่ในชุดนักเรียนครับ น้องคนนั้นก็อยู่ในชุดเหมือนนางฟ้า คงเล่นอะไรกันเกี่ยวกับอะไรประมาณนี้ล่ะ
“You may step over a fallen tree, don’t step a fallen man” เอ่อ อาจารย์พรครับ แกเดินไปตรงไอ้ขอมแย่งไมโครโฟนมาพูดเองเลย สายตาแกเอาเรื่องมากครับ ผมเห็นแล้วยังเสียวสันหลังวาบๆเลยนะ ทุกเสียงเงียบลงแล้วครับ ตอนนี้ทุกคนประจำที่ เว้นแต่ไอ้เบบี๋ที่มันเดินกลับมาดึงตัวน้องคนนั้นให้ไปยืนข้างๆมัน คงแก้เขินล่ะมั้งนะกูว่า
“Love wandered inside, Stronger than you,. พอได้สัญญาณจากสาวจอย ไอ้เบบี๋มันก็พยักหน้าให้น้องมัน คือน้องยืนมีโน๊ตเพลงอยู่ด้วยล่ะนะครับ มันก็คงไมได้เก่งกาจมาจากไหนหรอก พอน้องมันเริ่มเป่า เสียง อื้อฮื้อ อ้าฮ้าก็ดังขึ้น ผมจึงไล่นิ้วตามโน๊ตเพลงเหมือนกัน ไอ้เบบี๋มันเริ่มประโยคทันทีครับ หลังจากยืนสูดลมหายใจเข้าปอดอยู่นาน มันเหมือนกำลังทำสมาธิ เพลงนี้ผมว่ายากนะ ยิ่งมีท่อนเสียงสูงเหมือนไต่บันได
“Stronger than I And now that it has begun. We cannot turn back. We can only turn into one” เสียงมันใสมากครับ มากๆเลยล่ะ ยิ่งเสียงฟลุทของน้องมันใสอยู่แล้ว ยิ่งเข้ากันได้ดี ผมพยายามเบานิ้วลงเพราะอยากให้มันขับเสียงออกมาให้มากที่สุด
“I won’t ever be too faraway to feel you” ท่อนนี้เสียงคอรัสดังขึ้นคลอครับ เสียงของจอยกับเสียงของสัดไม้มันเข้ากันได้ดีเหลือเกินครับ จนกูขนลุกเถอะ แม่งไปแอบซ้อมกันตอนไหนวะเนี่ย เสียงสัดไม้มันหล่อเด่นออกมาคนละแนวกับไอ้เบบี๋ แต่มันไม่ขัดกันเลยกับเสียงสาวจอย ที่ใสกังวาน เพราะว่ะ
“And I won’t hesitate at all whenever you call and I always remember the part of you so tender. I’ll be the one to catch your fall, whenever you call” ส่วนท่อนนี้เสียงของคอรัสเบาลงมาก แต่จะไม่เชิงร้องออกมาแต่เหมือนกับคราง สาวจอยก็อย่างที่บอก ลูกสาวนางเอกหมอลำเก่า ลูกคอไม่ต้องห่วง พอจบท่อน เสียงกรี๊ดก็ดังกระหึ่มขึ้น แต่เฉพาะด้านหน้านะ ก็ห้องไอ้โจ้นั่นล่ะครับ แต่กรี๊ดแป๊บเดียวนะก็เงียบ
“And I will pray for you each day, comfort you through all the pain, gently kiss your fears away. You can turn for me and cry, always understand that I give you all I have inside” แม่กู ท่อนนี้เองที่ไอ้เบบี๋ มันเริ่มไม่ไหว ที่บอกไม่ไหวคือมันออกท่าทางครับ เหมือนมันหลุด จากที่ยืนร้องปกติมือหนึ่งแตะบ่าน้องเอาไว้ แต่ท่อนนี้เหมือนมันต้องใช้พลังเสียงเพิ่มขึ้น มันเลยหันหน้ากลับไป มันเอามือซ้ายมันมาแตะตรงหน้าอกมัน ยืดคอขึ้น มันเพิ่มเสียงสูงได้น่าฟังดีนะผมว่า ไมได้ลากยาวเหมือนนักร้อง แต่มันก็ไม่น่าเกลียด เสียงมันคนละแนวกับต้นฉบับเขาอยู่แล้ว และท่อนนี้เองที่สาวจอยกับสัดไม้เปล่งเสียงออกมาเต็มๆ ผมเองก็ได้ทีเพิ่มน้ำหนักนิ้วกดคีย์บอร์ด เหมือนจะเร่งให้นักร้องเขาเพิ่มพลังเสียงล่ะครับ
“I won’t ever be too far away to feel you and I won’t hesitate at all, whenever you call” ท่อนเด็ดครับ กูนี่ขนลุกขนชัน เมียกูมันเอาไม่อยู่แล้ว มันก้มเหมือนจะนั่งบ้างแต่ก็ไม่นั่ง ดีดตัวขึ้นบ้าง คอมันขึ้นเส้นเอ็นเลยนะครับ ส่วนคอรัส เหมือนฝึกมาเพื่อรับส่งกันโดยเฉพาะ เพราะไอ้เบบี๋มันขึ้นเสียงตรงคำต้องลากเสียง แล้วสาวจอยก็ต่อให้เพราะสาวจอยเสียงยาวกว่า ไอ้เบบี๋มันเลยมีเวลาได้หายใจ สัดไม้ก็คอยครางฮัมไม่ให้มันมีช่องว่าง เออว่ะ แม่งเข้าใจทำ ดังนั้น เพลงมันจึงออกมาเหมือนว่าเสียงไอ้เบบี๋มันร้องได้เก่งมากๆ และเสียงดีมากๆ ทั้งที่มันมีคอรัสดี พวกที่ดูอยู่ด้านล่างคงดูไม่ออก แต่กูอยู่หลังพวกมัน นับถือว่ะ มันเก่งๆ
“ฮ่า” พอเพลงจบ ไม่มีเสียงใดๆเลยครับ เงียบกริบ กูก็อึ้งอยู่เถอะ เพลินดีว่ะเลยไม่ทันได้ทำอะไร ไอ้เบบี๋มันหน้าเหวอไปครับ ผมมองไปที่หน้ามันเหมือนมันกำลังเม้มปากแน่น
“กรี๊ดดด อ้ายอุ่นๆ กรี๊ดด” เสียงน้องแตงดังขึ้นก่อนใคร หลังจากนั้นก็เสียงอะไรต่อมิเสียงอะไรดังจนกูฟังไม่รู้เรื่อง เอาละน่า ยังไงมันก็ผ่านไปได้ด้วยดีล่ะวะ
Written by eiky
ปล. อิอิ มาแว้ววๆ คือว่าตอนนี้ผมกำลังจะรวมเล่มนี้นะครับ จะทำออกมาพร้อมๆกับน้องญี่ปุ่น
ถ้าใครสนใจก็จองไว้ได้เลย เรื่องราคา คิดว่าจะทำให้มันไม่แพงมาก มีของแถมให้ด้วย อิอิ
ที่อยากทำรวมเล่ม เพราะคิดว่าอยากให้มันเป็นหนังสือเพื่อที่จะได้เก็บเป็นความทรงจำ เพราะปกติผมเองเขียนเรื่องแนวนี้ไม่ค่อยถนัดนัก แต่ก็ฝืนเขียนออกมาจนได้ ฮ่าๆๆ
ใครสนใจก็ลงชื่อไว้น้า ตอนนี้กำลังเร่งตอนพิเศษเจ๋งๆอยู่คร้าบ รับรองว่าจับใจ แหะๆ เพราะใครมีน้องภูมิอยู่ในมือ คงจะนึกภาพตอนพิเศษออก
ขอบคุณคร้าบ