Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!  (อ่าน 425055 ครั้ง)

ออฟไลน์ kenghan

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1440
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +96/-2
อุ่นสุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ bebe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 672
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-5
อุ่นโมโหแล้วน่ากลัวอ่ะ แต่ก้นะ อยากตบอีสุชาติแทน

ออฟไลน์ chancha

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0
อุ่นก็สู้คน ไงล่ะ โดนเต็มๆ :z6:

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
เพิ่งได้อ่านค่า รู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง แต่ก็สนุกมากมาย
ชอบคุณพ่อน้องอุ่นจังเลย เป็นคุณพ่อที่เข้าใจลูก ดูอบอุ่นมากกก
ดีจังน้องอุ่นรักนวลสงวนตัว ถึงพี่จะแอบเชียร์ให้เสียตัวเร็วๆก็เถอะ :laugh:

ติดตามต่อไปนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
สนุกเหมือนเคยค่า ฝีมือไม่เคยตกเลยเนอะ รอตอนต่อไปค่า

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
สนุกมากๆๆ จัดเต็มเลยคร๊าน้องอุ่น สุดยอดดดดดดดดดดดดดดดดด :pig4:

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
อย่าไปยอมมัน อุ่น

 :z6:

ออฟไลน์ taroni

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2366
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +482/-27
น้องอุ่นก็สู้คน  o13

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ให้มันรู้บ้างว่าไผเป็นไผ

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
ฉันก็สู้คนคะ ฉันก็สู้คน หนูอุ่น เอาใจไปเต็มๆ เดี๋ยวเอ๊ยยย พลาดตลอดนะแกนะให้อุ่นพึ่งพาได้บ้างซี๊

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
โว.. อุ่นเจ๋งจริงๆ  o13 มันต้องอย่างนี้ นานๆทีเอาคืนซะบ้างจะได้เข็ด

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
คิดถึงแล้วเน้อ :z2:

ออฟไลน์ tsuyu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 472
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
เข้ามารอเจ้าเน่า ของน้องอุ่น
 :z2:

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป
คุณอิ๊กกี้  หายไปไหน  แฟนคลับคิดถึงอยู่นะค่ะ :monkeysad:  คิดฮอดเน่าและหนูอุ่นมากๆๆ   :call:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
You’re My BaBy!!

คือว่ากูไม่ได้ทิ้งมันหรือไม่ได้ดูแลมันนะเว้ยเฮ้ย ไม่อยากจะเชื่อแค่ช่วงเวลาที่กูวิ่งไปคุยกับพ่อกูเรื่องทีมตระกร้อไม่กี่นาทีจะเกิดเรื่องขึ้นกับมัน แต่ว่า จิ๊ เสียดายว่ะไมได้ดู ฮ่าๆ เขาบอกว่าแม่งไอ้เบบี๋สุดยอดเลยนะ กระโดดถีบอีสุชาติจนหงายหลังมิหนำซ้ำเข้าไปเหยียบหน้ามันอีก เจ๋งว่ะ ขนาดกูตีกันมานักต่อนักนะยังไม่เคยเหยียบหน้าใครเลยนะเว้ย มันนี่เด็ดจริงๆ
   “บ่น่าซวนไปหาจารย์เดชเลยมึง กูเลยบ่ได้เบิ่งซ่ำ” สัดเคนครับ แหมๆ กูเองก็อยากดูเถอะเว้ย
   “บักห่ามึง คั่นพวกเฮาบ่ไปอีสุชาติมันสิกล้าเข้ามาวอแวบ่” สัดไม้ครับ เออมีเหตุผล แต่ว่าไปแล้วกูก็นึกโมโห แม่งทำกับแฟนกูแบบนี้ได้ไงวะ ไมได้ล่ะเดี๋ยวกูต้องไปจัดการหน่อยล่ะ ปล่อยไว้แม่งเดี๋ยวเหลิงจะหาว่ากูไม่ปกป้องแฟนกูอีก มึงคอยดูๆ
   “เห็นมันโตน้อยๆแนวนั่นบ่คิดว่ามันสิใจเด็ดปานนี้ ฮ่วย แนวนี้บ่แม่นสิลักเตะกูอยู่บ่วะ” ผมพูดติดตลกแล้วรอไอ้เบบี๋มันลงมาจากห้องผอล่ะครับ
   “ทำไมหน้ามุ่ยๆวะ ผอทำโทษเหรอ” ผมเดินเข้าไปลากแขนมันมาล่ะครับ
   “อือดิ จิ๊เซ็ง ทำไมไม่พักการเรียนนะ” “อ้าว มึงอยากโดนพักการเรียนเหรอวะ ไอ้นี่แล้วผอลงโทษยังไง” ผมถามครับเพราะสีหน้ามันดูลำบากใจมากๆ
   “จะให้ทำไรล่ะ ก็ให้แสดงต้อนรับจารย์ใหม่ที่จะมาเดือนหน้าไง เห็นบอกมีงานคืนสู้เย้าอะไรไม่รู้อ่ะ โว้ย เซ็ง”
   “ฮ่าๆ มึงเนี่ยนะจะแสดง สม” ผมหัวเราะครับ มันทำหน้าค้อนใส่ผมทันที
   “ไรอ่ะ ไม่รู้ล่ะ เน่าต้องช่วยเราด้วยนะ” “อ้าวๆ เกี่ยวไรวะ กูไม่ได้ทำผิดด้วยซะหน่อยนี่หว่า” ผมแซวมันครับ มันหน้างอตามระเบียบ
   “แสดงหยังล่ะอุ่น งานใหญ่เด้นี่ ซู่ปีเพิ่นสิให้ชมรมการแสดงเด้ล่ะจัดงานน่ะ” สาวจอยพูดขึ้นล่ะครับ
   “นั่นน่ะดิ เฮ้อเราจะแสดงอะไรอ่ะ” มันทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะแตกล่ะครับ
   “ฟ้อนติ๊ล่ะ” สาวจอยเสนอ
   “ฟ้อนไรอ่ะคนเดียว” “ก็ซวนหมู่เด้เนาะอุ่น” “แม่นๆ เฮาสิซวนหมู่ห้องเฮามาซ่อย” สัดเคนครับ ไอ้เบบี๋มันทำตาวิ้งๆทันทีครับ
   “จริงนะเคน” “แหะๆ บ่ฮู้เขาสิซ่อยบ่บู้” “อ้าว”
   “เดี๋ยวลองซวนหมู่ในห้องลองเบิ่งติ๊อุ่น ซุมบ่แม่นพวกอีสุชาติกับอีเพ็ญน่ะมีอยู่เด้” คุยกันไปกันมาก็ไม่ได้ความหรอกครับ คงต้องคุยกันยาวล่ะเรื่องนี้ เฮ้ยๆ อย่ามองที่กูนะเว้ยไม่ฟ้อนไม่รำถ้าให้เต้นเหมือนเต้นหน้าเวทีหมอลำซิ่งน่ะว่ามาเลย ฮ่าๆ เออเรื่องที่ไปคุยกับพ่อกูมาก็เรื่องตระกร้อล่ะครับ พอดีผมไปเสนอแกมาเพราะแกสนิทกับจารย์จรูญซึ่งผมไม่สนิท คือประมาณว่าไม่กินเส้นกันนั่นเองครับ ฟังดูเข้าใจยากเนอะ เอาเป็นว่าผมอยากจะเตะตระกร้อทีมโรงเรียน ซึ่งเขามีทีมดีอยู่แล้ว ลำบากไปไหมเนี่ยกู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมก็รอปลัดล่ะครับเผื่อแกจะตั้งทีมประจำอำเภอขึ้นมาเท่กว่าเป็นไหนๆ
   “ป่ะเบบี๋รีบกลับ” พอเสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนผมก็มาดักรอมันหน้าอคารล่ะครับ คนก็มองเป็นเรื่องปกติแต่ไม่ได้มองกูนะเว้ยเฮ้ย มองไอ้เบบี๋ว่ะ ดังใหญ่ล่ะมึง
   “ว่าจะไป” “ไม่เอา ไม่ไปกลับบ้านจะรีบไปเตะตระกร้อ” ผมพูดสวนครับ
   “บู้ยซาดฟ้าวเนาะ” สาวจอยพูดขึ้นล่ะครับ
   “บ่ได้ดอก บัดลังเทื่อปลัดเพิ่นสิตั้งทีมอำเภอ บักเล็กพ้อกันอยู่บ้านปลัดเด้อ” ผมบอกไอ้เล็กครับแต่ เอ๊ะ ทีมมันยังไม่ครบนี่หว่า ผมมองไปถึงอนาคตล่ะครับเผื่อคุณปลัดแกตั้งทีมขึ้นมาจริงๆมันก็ต้องมีทีมเอทีมบี
   “จอยๆ บักโจ้มันว่างอยู่บ่เม่นบ่ มันบ่อยากเตะตระกร้อติ๊” ผมคิดถึงไอ้โจ้ขึ้นมาครับ
   “ถามกันเองโลดเฮาบ่ฮู้ดอก มันกะบ่ได้เฮ็ดหยังเด้ล่ะ” เออวะ ถามเองก็ได้
   “เอาเบอร์มันมาเบิ่งดู้สิถาม” ผมขอเบอร์ไอ้โจ้จากสาวจอยล่ะครับ
   “อ้าวเน่า แล้วไม้กับเคนล่ะ” ไอ้เบบี๋มันถามขึ้นล่ะครับ จิ๊ มาเสือกฉลาดเอาตอนนี้เนี่ยนะ
   “มันกลับบ้านไปเอาชุดก่อน นี่กูก็จะไปส่งมึงที่บ้านก่อนแล้วไปเอาชุด”
   “ชุดไรอ่ะ ชุดที่บ้านก็มี” “เออน่า กูก็ต้องกลับบ้านกูบ้างดิวะ” “อ่า งั้นไปด้วย จะไปหาโบ้” นั่น จิ๊
   “ไม่ได้ กูไปส่งที่บ้านนั่นล่ะ อย่าเรื่องเยอะนะมึง ขึ้นมาเร็วๆ” ผมขู่มันครับ มันก็บ่นอะไรไม่รู้ไม่สนใจฟัง รู้ไหมว่ากูจะไปไหน น่าจะเดาออกนะ
   “บักเล็กมึงกางเน็ทไว้ถ่าโลดเด้อ เดี๋ยวกูมา เออ เบบี๋มึงจะกินส้มตำป่ะกูจะแวะที่ร้าน” ผมหันไปถามมันล่ะครับ หน้ามันยังงออยู่เลยนะ
   “ไม่เอาอ่ะ” “ฮ่วย กินแน่น้าอยากกินของฟรีนี่แหม่ะ” อ้าวๆ สัดเล็กเห็นแก่กินนะมึง
   “อ้าวเล็กอยากกินเหรอ งั้นเอาตำส้มตำ ตำซั่ว ไก่ย่าง” “สัด เยอะไปไหมมึง ได้คืบเอาศอกนะเว้ย” ผมว่ามันแล้วก็ขับคุณปู่ออกมาเลยครับ ไม่ได้จงใจจะว่ามันหรอกนะเพราะจุดหมายปลายทางมันเร่งด่วนครับ ผมจะไปคนเดียวนั่นล่ะแต่เพื่อนสองตัวมันไม่ยอมเพราะมันกลัวผมจะไปทำอะไรเกินเลย ไปที่ไหนก็ไปหาไอ้สุชาตินั่นล่ะครับ สัดเคนกับสัดไม้มันรออยู่แล้วที่ทางไปบ้านไอ้สุชาติ
   “มันหน้าบวมอยู่เด้มึง มึงสิไปเฮ็ดหยังมันอีก” สัดไม้ครับ กูรู้แล้วว่ามันโดนเหยียบหน้าจนหน้าบวม กูไม่ได้จะไปทำอะไรมันสักหน่อยนะ แค่จะไปเตือนมัน
   “เออๆ กูฮู้แล้ว” ผมเซ็งๆล่ะครับ เราสามคนตรงไปยังบ้านมันทันที พอจอดหน้าบ้านมันผมก็เห็นมีแก๊งค์กะเทยเพื่อนมันและสาวเพ็ญนั่งอยู่หน้าบ้านรวมทั้งมันด้วย
   “ว้ายเดี๋ยว มาเยี่ยมญ่าเหรอ เนี่ยเห็นไหมว่าอีตุ๊ดนั่นมันร้ายกาจแค่ไหน เดี๋ยวต้องจัดการให้ญ่านะ” แหม ดัดจริตใส่ ไปเรียกแฟนกูว่าตุ๊ดแล้วมึงล่ะสัด หน้าเริ่มมีสีแล้วกู
   “เดี๋ยวเปลี่ยนใจใช่ไหม เพ็ญว่าแล้วว่าเดี๋ยวคิดแค่อยากลองของแปลก ยังไงเดี๋ยวก็ต้องกลับมาหาเพ็ญอยู่ดี” เธอพูดขึ้นเดินมาหาผมล่ะครับ ผมจอคุณปู่ไว้แล้วเดินผ่านเธอไป
   “อยากแดกตีนกูแม่นบ่อีสุชาติ กูมานี่กะมาเตือนมึงกับซุมสู อย่าไปยุ่งกับเมียกูอีก” ผมพูดเสียงดังๆชี้หน้ามัน พวกมันอ้าปากกันทุกคนครับ
   “คันมึงบ่ฟังอย่าหาว่ากูบ่เตือน มึงถืกตีนซ่ำนี้มันยังหน่อยไปแม่นบ่ หรือสิกินตีนผัวมันมึงจั่งสิฟัง อย่าให้กูได้ยินว่าสูไปวอแวมันอีก บ่ซั่นตาย” ผมครากเสลดแล้วถุยลงต่อหน้าต่อตาพวกมันครับ บอกแล้วทำตัวกุ้ยน่ะเรื่องปกติของกู ผมเดินกลับมาที่คุณปู่ สาวเพ็ญมองผมตาค้าง
   “นี่เดี๋ยว” “เซาเว้า เฮาบ่มีแนวเว้ากันอีก” ผมบอกเธอแล้วขับรถมาเลยครับ แค่นี้ล่ะที่จะมาบอกมันที่จริงอยากจะเตะก้านคอมันสักทีแต่เห็นสภาพแล้วแม่งกูขนลุก ปากอีสุชาติเจ่อคิ้วแตกด้วยมั้งเห็นมีผ้าแปะไว้ หน้าเชี่ยอยู่แล้วเหมือนผีเลยว่ะ ไอ้เบบี๋กูนี่ไม่เบานะเนี่ย
   “ป้าด กูคองตาเห็น ตีนหนักเติบอยู่เด้นี่” สัดเคนครับ
   “นั่นล่ะ สูอย่าสิไปปากบ่ดีกับมันเด้อล่ะ เดี๋ยวสิถืกตีนมัน” ผมเสริมครับ อิอิ เหมือนจะภูมิใจ
   “คนบ่ปากบ่เว้านี่บัดยามเฮ็ดนี่เฮ็ดคั่กเนาะ ซุมเด็กน้อยมาเว้าให้ฟังว่าเป็นตาย้านคั่กหน้าตาบ่เอาไผเลยว่าซั่นเถาะ มึงนั่นล่ะระวังดีๆ อย่าสิไปเจ้าซู้ให้เพิ่นเห็น ตายมากูบ่ซ่อยเด้อบักเดี๋ยว” สัดไม้ครับ
   “บ่แม่นเพิ่นลักเตะมึงอยู่บ่บักเดี๋ยว ฮ่าๆ นี่ล่ะมีเมียตีนหนักอย่าสิไปเจ้าซู้เด้อล่ะเฮ้ย”
   “ฮ่วย บ่ดอกสู บัดยามอยู่กับกูมันเป็นตาฮักกะด้อ จ้างมันกะบ่เตะกู”
   “หวืย ซาดมั่นใจเนาะ เออ ดีบ่ล่ะมึง” สัดเคนถามแล้วหัวเราะครับ
   “อีหยังดี” ผมพอจะรู้ล่ะครับว่ามันหมายถึงอะไรแต่แกล้งโง่ถามไปงั้นล่ะ
   “นั่นๆ ทำทรงคือหลาย บัดยามกลางคืนแหม่ะ ดีบ่”
   “ฮ่วย เรื่องผัวเมีย สิมาอยากฮู้เฮ็ดหยังบักห่านี่” ผมตอบเฉไฉไปครับ ไม่อยากบอกพวกมันว่ายังไมได้ทำอะไรกันเกินเลย
   “อีหยัง แต่ก่อนบ่เคยปิด บอกมาโลดน่า กูอยากฮู้” มันยังไม่ยอมครับ สัดไม้ก็ทำหน้าอยากรู้อยากเห็นเหมือนกัน
   “ดี ดีคั่ก” “ป้าด จั่งได๋” “ฮ่วย ดีกะดีโลดน้า อย่าสิมาถามหลายค้านเว้าว่ะ” ผมรีบไปล่ะครับขี้เกียจจะตอบ แวะที่ร้านเอาส้มตำให้ภรรยาก่อนล่ะครับแม่ผมก็เหมือนเดิมแจกแถมให้ถุงเบ้อเร่อคงกลัวลูกสะใภ้จะผอมมั้งนั่นน่ะ พอมาถึงที่บ้านปลัด ผมเห็นรถปลัดจอดอยู่แล้วหน้าบ้าน อ้าว ทำไมวันนี้กลับเร็ววะเนี่ย ผมเห็นไอ้โจ้ ไอ้เต้ ไอ้เล็กมันรออยู่ข้างๆบ้านล่ะครับ ทำหน้าตาแบบว่าไม่กล้าเข้าบ้าน
   “คือบ่ไปนั่งในเฮือนเฮ้ย ไปยืนเฮ็ดหยังอยู่นั่นเดี๋ยวเขากะหาว่าเป็นขี้กะโมยดอก” ผมร้องไปใส่พวกมันครับ
   “หวืย ปลัดมาตั้ว ข่อยว่าอ้ายอุ่นเพิ่นคือสิถืกพ่อเพิ่นด่าล่ะ เห็นหน้าเครียดๆ” ไอ้โจ้ครับ อ้าว ตายล่ะเมียกู เห็นพ่อมันไม่ค่อยดุแบบนี้แต่ว่าเอาเรื่องเหมือนกันนะ ไม่รู้สิผมว่าผมมองปลัดไม่น่าจะผิด เพราะจากคำพูดคำจาที่ดูนิ่งๆไพเราะๆ แต่มันแฝงไว้ด้วยความเด็ดขาดและมีอำนาจ ท่าทางแกก็ด้วยล่ะผมว่า บางทีผมยังคิดว่าไอ้เบบี๋มันติดท่าทางบางอย่างมาจากพ่อมันนะ อืม เขาเรียกว่าอะไรดี ผู้ดีหรือเปล่านะ ไม่รู้ดิ เพรากูไม่มี ฮ่าๆ จบป่ะ
   “เจ้ เพิ่นคุยหยังกันคือเป็นตาโดนแท้” ผมเดินเข้าไปในในบ้านล่ะครับ เห็นเจ้แกยืนทำท่าลุ้นอยู่มองขึ้นไปบนบ้านบ่อยๆ พอเห็นผมเจ้แกก็ทำท่าดีใจ
   “คือสิถืกหลายเติบอยู่ล่ะค่าเดี๋ยว โอ้ยนี่ล่ะน้อเอื้อยว่าอยู่ ว่ามันสิมีจักมื้อที่คุณอุ่นเอื้อยทนบ่ไหว”
   “ฮู้เรื่องอยู่ติ๊เจ้” ผมเปิดประเด็นครับ อยากรู้
   “ฮู้สู่เรื่องนั่นล่ะ คุณอุ่นเพิ่นมีหยังเพิ่นเว้าให้เอื้อยฟังเหมิดนั่นล่ะ”
   “อ้าว แล้วเรื่องผมกับมัน” ผมทำท่าอึ้งครับ แต่รู้อยู่แล้วล่ะ ผมว่าเจ้แกไม่ได้เป็นแค่คนงานที่บ้านหรือแม่บ้านหรอกนะเพราะท่าทางเวลาพูดดูสนิทกันมาก ไม่รู้ล่ะผมเดาเอาและเอาทุกอย่างมาประมวลผลจากความฉลาดของผม ฮ่าๆ
   “ฮู้เหมิดนั่นล่ะ คุณพ่อซายกะฮู้” เอ่อ อันนี้อึ้งจริงๆครับ
   “แต่เพิ่นบ่ว่าหยังดอก ตั้งแต่คุณผู้ยิงเพิ่นเสีย คุณพ่อซายกะตามใจคุณอุ่นสู่อย่าง เว้นเรื่องตีกันนี่ล่ะ เพราะว่าตอนอยู่หม่องเก่าตีเขาเกือบตายแหมะ เห็นผู้น้อยๆแนวนี้อย่าให้ได้เคียดแฮง เว้ามาเอื้อยล่ะย้าน หมอนั่นแม่นเสียโฉมไปเลยบ่บู้” เจ้แกทำท่าขนลุกครับ เออนะ กูรู้แต่ว่าพ่อมันขอไว้เรื่องไม่ให้มีเรื่องกัน แต่ไม่ยักรู้ว่ามันทำเขาปางตายขนาดนั้น กูเริ่มจะกลัวแล้วสิ มีเมียใจนักเลงเนี่ย เวลากูจะจิ๊จ๊ะกับใครกลับบ้านมากูไม่คางเหลืองตายไปข้างเหรอวะเนี่ย
   “เพิ่นขอหยังกันล่ะเจ้” ผมต้องเร้าให้ประเด็นมันคุล่ะครับ อยากรู้มากว่าทำไมไอ้เบบี๋มันถึงยอมพ่อมันจนกลายเป็นคนพูดน้อยเหมือนเนือยๆ
   “กะคุณพ่อซายเพิ่นขอว่าอย่าให้มีเรื่องกับไผอีกแลกกับเพิ่นสิบ่มีแม่ใหม่เด้ล่ะเดี๋ยว” อ้อ ผมพยักหน้าทันทีครับ
   “เพิ่นบ่เตะตระกร้อบ่น้อมื้อนี่แหมะเอื้อย” ผมพูดขึ้นเสียงดังๆล่ะครับ หน้าไม่ได้มองเจ้แกนะผมจงใจ ถือว่าเป็นตัวช่วยแฟนผมก็แล้วกัน คุยอะไรกันนาน ทำไปแล้วนี่หว่าจะมาด่าอะไรเยอะแยะวะ ได้ผลครับ ไม่นานคุณปลัดก็เดินลงมาจากบนบ้าน สีหน้าแกเครียดๆนะแต่พอเห็นหน้าผมแกก็ยิ้ม เออนะ
   “มากันแล้วเหรอลูก เดี๋ยวพ่อขอเปลี่ยนเสื้อผ้าแป๊บเดียวนะ” แกบอกครับแล้วเดินขึ้นไปใหม่อีกรอบ ผมเดินตามครับไมได้จะไปกับปลัดนะเว้ย ไปหาแฟนผมดิ
   “ไงมึง หน้ายังกะตูด โดนพ่อด่าเอาเหรอ” ผมเดินเข้าไปหามันในห้องล่ะครับ มันหน้าหงิกอยู่
   “อืม เซ็งเลยอ่ะ พ่อไม่ให้ไปข้างนอกด้วยล่ะ”
   “เฮ้ย เกี่ยวไรวะ กับกูก็ไมได้เหรอ” “ป่าว ไปได้แต่ห้ามเกินสองทุ่ม เดี๋ยวพ่อก็เรียกนายคุยล่ะ” อ้าวๆ เกี่ยวไรกับกูวะเนี่ย ไม่อยากเข้าห้องเย็นนะเว้ยเฮ้ย
   “อ้าว จะคุยไรวะ น่ากลัวป่าวเนี่ย” ผมไม่ได้ทำเสียงกลัวนะครับ ผมทำเสียงล้อเลียนมัน คนอย่างไอ้เดี๋ยวนั่นเหรอจะกลัวใคร ผอเอย ผู้ว่าเอยเคยป๊ะหน้ามาหมดแล้วเว้ย บ่ย้านๆ
   “น่ากลัวดิ พ่อดุนะจะบอก” “อ๊ะๆ ดุทำไมมึงไม่เห็นทำหน้าตากลัวเลยวะ แค่หน้างอๆ”
   “ไรอ่ะ เน่าไปเตะตระกร้อกับเพื่อนดิ เราอยากจะนอน”
   “ไล่นะมึง มานอนไรตอนนี้ กูอยากกินชาเย็นว่ะเบบี๋” ผมเดินเข้าไปกอดมันล่ะครับ หอมแก้มด้วยเป็นการให้กำลังใจมันไปในตัว
   “อือ เดี๋ยวไปทำให้ ขอนอนก่อน” “แล้วจะตื่นเหรอวะ มึงคิดมากหรือเปล่าวะเบบี๋” ผมยังคงกอดมันอยู่ครับ
   “ไม่หรอก เราโอเค” “ไหนมองหน้ากูดิถ้าโอเค” คือมันหันหลังให้กอดอ่ะนะครับ
   “ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากมองตอนนี้” “นั่น ไหนบอกโอเค” ผมจับหน้ามันมาให้มองหน้าผมล่ะครับ มันหลุบตาลงแต่กูก็ไม่ยอมจับหน้ามันเงยขึ้น ตายห่านล่ะ แววตามันดูเศร้ามากๆครับ
   “งั้นคืนนี้กูนอนกอดนะ มึงจะได้หาย” “ไม่ได้เป็น” มันพูดยังไม่ทันจบกูก็ประกบปากมันทันทีครับ แค่ประกบเฉยๆนะเว้ยเฮ้ยไมได้แลกลิ้น ผมทำปากดุนๆปากมันแล้วถอนออก
   “กูจะดูแลมึงเองนะเบบี๋ เชื่อใจกูนะ” ผมพูดกับมันเสียงเบาครับ มันเม้มปากไม่พูดแต่มันกอดผมแน่นเลยครับ
   “ไปเล่นตระกร้อได้แล้ว เพื่อนๆรอนะเน่า” มันพูดครับแต่มันยังคงซบอกผมอยู่เลยนะ
   “อือ เดี๋ยวคืนนี้มาต่อนะที่รัก” ผมหอมแก้มมันครับแล้ววิ่งออกจากห้อง มันอายล่ะผมรู้ ผมเองก็รู้สึกดีนะเหมือนตอนนี้มันต้องการกำลังใจและผมก็อยากให้กำลังใจมัน ไม่รู้ว่าได้หรือเปล่าแต่ผมว่าคนมันมีใจให้กันอ่ะนะแค่มองตากันจับมือกันก็ดีถมไปล่ะแต่นี่กูจูบเว้ยเฮ้ย ฮ่าๆ
   “เฮ้ยบักเคน อย่าสิเตะแฮงหลาย คุณปลัดเจ็บไหมครับ” พอเล่นไปได้หน่อยก็ลืมทุกสิ่งครับเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว คือข้างผมมีผม ปลัดไอ้โจ้ ส่วนข้างนั้นมีสี่คนสลับกันลงเอา ปลัดเป็นคนโยนลูกให้ผมล่ะครับ ผมเป็นคนส่งลูกกับชงให้ไอ้โจ้มันหวดตอนแรกนึกว่ามันจะหวดไม่เป็นซะอีกแต่มันตีลังกาได้แบบไม่กลัวเจ็บ ได้ใจจริงๆ ปลัดเองก็ไมได้ทำอะไรมากครับเพราะแกก้าวขาไม่ค่อยทันแก่แล้วนี่นะ
   “ไม่เป็นไรลูก เด็กๆนี่แรงดีกันจริงๆ อ้าวพ่อหนุ่มมาเล่นแทนพ่อหน่อย พ่อเหนื่อยล่ะเดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้กิน” พ่อตาผมบอกล่ะครับ ไอ้เล็กมันก็เลยมาเล่นข้างผมครับ จะว่าไปตระกร้อนี่มันสนุกดีนะครับ ได้กระโดดได้หวด เกมเร็วไม่เหนื่อยมาก อีกอย่างวัดกันที่กึ๋นด้วยนะผมว่าไม่ใช่แต่จะเตะให้แรง ดีว่ะผมชอบเหงื่อนี่ไหลยังกะน้ำ
   “แซ่บเนาะชาเย็นแหมะ” พอช่วงพักเราก็มากินชาเย็นที่ไอ้เบบี๋มันทำมาให้ล่ะครับ มีขนมทอดด้วยนะเหมือนจะเป็นกล้วยฉาบแต่มันชุบด้วยแป้งไม่รู้เขาเรียกอะไรอร่อยดี
   “กีฬาสีคือสิเป็นตาม่วนเนาะ กูล่ะอยากเตะกับพวกบักโต้ง” สัดเคนพูดครับ แหมๆฝีมือมึงยังห่างชั้นอยู่เยอะเว้ย ไอ้นั่นมันนักกีฬาโรงเรียนซึ่งกูก็ดันอยากจะเตะกับพวกมันทั้งที่ไม่กินเส้นกับอาจารย์สอนเท่าไหร่ เอ๊ะยังไง เอาเป็นว่าตอนนี้กูไม่สนใจแล้วล่ะคิดว่าปลัดแกคงมีทางออกให้
   “อยู่กินข้าวด้วยกันไหมลูก จะได้ให้ต้อยเขาทำกับข้าวเผื่อ” พ่อตาผมเอ่ยชวนตอนจะเริ่มเล่นอีกเกมล่ะครับ
   “บ่ดอกครับปลัด พวกผมเกรงใจ” สัดไม้ครับหน้าตานี่แบบว่าหงอยๆ
   “เกรงใจอะไรกันลูก หรือจะกินแจ่วฮ้อนดี พ่อนึกอยากกินพอดี ต้อยๆ” อ้าว นั่นไงล่ะ หวานปากกูล่ะผมกับเพื่อนๆหันไปมองหน้ากันทันทีแล้วอมยิ้ม
   “แต่หมูคือสิบ่พอดอกค่าคุณพ่อซาย เนื้อกะบ่มี ซั่นต้องไปตลาดเด้ค่า” เจ้แกบอกครับ
   “งั้นต้อยชวนอุ่นไปตลาดสิ ตังค์อยู่ในกระเป๋านะ” พ่อตาผมบอกครับ
   “คุณปลัดครับ งั้นผมพาไปเองครับ เอื้อยอยู่เตรียมของโลด เดี๋ยวผมพาไปเอง เอาหยังแน่เกาะ” ผมเดินออกมาเลยครับ ไม่ได้หรอกพอดีเลยล่ะผมจะพาแฟนไปจู๋จี๋ อิอิ เพราะมันหน้าตาหงอยๆอยู่
   “เอางั้นเหรอลูก” คุณปลัดแกถามครับ ผมไม่ตอบแต่เดินเข้าบ้านไปล่ะครับ เจ้แกไปหยิบเงินในกระเป๋าของปลัดให้ครับ เออว่ะ ผมเพิ่งจะเคยเห็นแกไว้ใจจริงๆนะ
   “ไปตลาดกันเบบี๋” ผมเดินขึ้นไปเรียกมันล่ะครับ มันก็นั่งหน้าบื้อๆอยู่ที่โต๊ะอ่านหนังสือ
   “เหรอ อืมไปดิ” “เดี๋ยวพาไปกินติม” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “ฝนจะตกไหมอ่ะเน่า เหมือนมันอึมครึมๆยังไงไม่รู้”
   “เอารถเก๋งไปดิจะได้ไม่เปียก” ผมบอกมันล่ะครับแล้วเดินไปเอากุญแจรถของปลัด ขับเก๋งเว้ยๆ ไม่เอาคุณปู่ไปหรอกน่า ผมขับรถออกมาแล้วครับเปิดเพลงฟัง แต่ เฮ้ย วันนั้นยังพอมีเพลงฟังนี่หว่าทำไมวันนี้มัน ดอน สอนระเบียบ กุ้ง อะไรเนี่ย พ่อตากูไม่ไหวๆ
   “ฟังวิทยุดีกว่า” ผมพูดครับ ในความหมายคือให้ไอ้เบบี๋มันเป็นคนหาคลื่นเพราะถ้าให้ผมทำคงอันตรายเกินไป
   “จะฟังหมอลำเหรอเน่า” “มึงฟังเป็นไง กูฟังได้หมดล่ะ” มันหัวเราะครับแล้วหาคลื่นไปเจอช่องหมอลำพอดี
   “แล้วเขารำกันยังไงอ่ะเน่า เปิดเพลงแล้วรำได้ป่ะ” มันถามครับ เออนะ มันต้องแสดงต้อนรับอาจารย์ใหม่นี่หว่า
   “ได้ดิ กูสอนเอาป่ะ” “รำเป็นเหรอ” “ดูถูกๆ กูเป็นทุกอย่างล่ะ” มันเบะปากครับ
   “ไม่เชื่อก็ตามใจ งั้นหัดเองก็แล้วกัน” “บ้าเหรอ ไม่ได้ไม่เชื่อ ไหนอ่ะ”
   “บ้าไง รำตอนนี้รถก็ชนตายห่าดิ เดี๋ยวคืนนี้กูฝึกให้ อิอิ”
   “อ่านะ จะฝึกไรอ่ะ รำหรืออะไร ทำไมทำหน้าน่ากลัวจัง”
   “ตรงไหนวะ อย่าถามมาก” ผมทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่มันล่ะครับแล้วมองถนน พอไปถึงตลาด็กเอารายการที่เจ้แกเขียนมาให้ไปซื้อพอได้ของครบก็เอาไปใส่ท้ายรถล่ะครับ
   “ป่ะกินติม” ผมจูงแขนมันทันทีครับ
   “ติมไรอ่ะ” นั่นดันรู้ทันกูอีกนะมึง
   “ติมเซเว่นไง มึงคิดไรเนี่ย คิดไรกะกูป่าว”
   “บ้าเหรอ ก็ดูทำหน้าดิ หื่นจะตาย รีบไปนะจะได้รีบกลับ”
   “ทำไมอยากรีบกลับวะ” “ก็จะได้รีบกินไง” “สัด กูรู้แล้ว มีจุดประสงค์ไรแอบแฝงป่ะเนี่ย”
   “ก็กินเสร็จจะได้นอนไง อยากนอนไวไว” อ่านะ แม่งกูหัวเราะเลยนะครับ มันอายด้วยล่ะ ก็จะทำไมล่ะก็คืนนี้กูบอกมันว่ากูจะนอนกอดมันไง เอาเป็นว่าไอติมไม่ต้องกินมันแล้วล่ะ กลับเลยก็แล้วกัน รีบไปกินรีบไปนอน อิอิ

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. อิอิ แอบขี้เกียจม๊ากกกก เอาไปอ่านขำๆก่อนนิ ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เวลาอุ่นอ้อนหรือง้องแง้งมันน่ารักจริง ๆ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
อุ่นมันอ้อนบักเดี๋ยว
ได้น่ารักจัง :o8:

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
โอ๊ะตายละ คืนนี้จะแค่กอดรึป่าวหว่า... :oo1:
น่ารักอ่า เดี๋ยว ดูเป็นแฟนที่ดีแล้วอ่า 55555

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ เดี๋ยวน่ารักจัง ปลอบอุ่นด้วย โอ้ยอิจฉา :impress2:

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
อุ่นน่ารัก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอ๊ย!.... เดี๋ยว ผัวอันดับหนึ่ง ... และอุ่น น่ารักจังคับ ชวนไปนอนเร็วๆ 555+

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
เดี๋ยวจ้องจะกดอุ่นตลอดเลยนะ

 :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-07-2012 19:26:08 โดย PetitDragon »

pahpai

  • บุคคลทั่วไป
น้องอุ่นหงอยเลย แต่เดี๋ยวก็จะกอดปลอบแระเนอะ

ออฟไลน์ ordkrub

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-12
ทั้งสองคนมีพัฒนาการขี้นจริงๆ
น่ารักขี้นเรื่อยๆ

ออฟไลน์ Homepage

  • 520 - 我爱你
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
หวานแหววมากคู่นี้   :z1:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
หวานจริงๆ 555

ออฟไลน์ nong PeePee

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-0
น่ารักอ่าาาาาาาาาาาาาาาาาา o13 :-[

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ด กรี๊ด น่ารักอ่ะ สองคนนี้ เดี๋ยวตอนนี้แกได้ใจฉันมาก อุ่นตอนนี้ก็น่ารักเหมือนเคย ลุ้นเมื่อไหร่ เดี๋ยวแกจะได้เป็น ผัว จริงๆไม่ใช่ลมปากสักทีนะ 5555 เอาใจช่วย(ให้ได้กันในเร็ววัน)5555

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
«ตอบ #778 เมื่อ15-07-2012 19:00:03 »

Don't call Me BaBy!!

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันครับว่าความรักนี่มันมีอานุภาพรุนแรงมากมายแค่ไหน แต่ตอนที่พ่อผมเรียกไปคุยบนบ้านนั้นน่ะ มันเครียดมากๆเลยนะ คือว่าพ่อเคยขอแล้วและผมก็ทำได้มาโดยตลอดกับเรื่องนี้แต่มาคราวนี้ผมทำมันพัง พ่อผมน่ะไม่ได้ดุอะไรมากหรอกครับเหมือนจะเรียกมาสอน เรียกมาทบทวนคำสัญญาซึ่งนั่นล่ะมันเจ็บยิ่งกว่าด่าเสียอีกครับสำหรับผมนะ แต่ว่าพอเจอหน้าไอ้เน่าทำไมผมกลับยิ้มขึ้นมาได้ รู้สึกเบิกบานขึ้นมามากทีเดียว นี่ผมรักมันมากขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย มันเหมือนยิ่งใกล้มันผมยิ่งอยากกอดมันอ่ะครับ ไม่รู้สิ ผมไม่รู้อะไรเลยในตอนนี้รู้แค่ว่าผมอยากอยู่กับมันนานๆที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องคุยกันก็ได้แค่ได้อยู่ใกล้ๆกัน นี่ผมเวอร์ไปไหมเนี่ย
   “เออลูกๆ พ่ออยากจะขอให้ช่วยพ่ออะไรสักอย่างได้ไหม” หือ อะไรนะ คือผมเดินไปเอาถ้วยน้ำจิ้มมาเพิ่มล่ะครับนายเคนมันทำหกหล่นลงพื้น ผมหยุดกึกลง ทุกคนก็เงียบมองหน้ากัน
   “คือเรื่องวันนี้ ทุกคนคงรู้แล้ว พ่ออยากจะขอให้ลูกๆช่วยเป็นหูเป็นตาให้พ่อหน่อยได้ไหม อุ่นเขาเป็นคนใจร้อน โมโหร้าย ดูเขาช่วยพ่อหน่อยนะ” อ่า อะไรอ่ะพ่อ ทำไมขอแบบนี้ เพื่อนๆทำไงรู้ไหม ก็หันมาอมยิ้มให้ผมน่ะสิครับ
   “ป้าด บ่แม่นพวกผมนั่นบ่ครับคุณปลัดสิขอให้อุ่นเพิ่นเบิ่ง เป็นตาตีนหนักเอาเหลือฮ้าย” นายเคนครับ พูดจบเสียงหัวเราะก็ดังขึ้น แหมนะผมเลยรีบเดินไปเอาถ้วยน้ำจิ้มมาให้มันล่ะครับ
   “เห็นไหมอุ่น เพื่อนๆเขาบอกว่าจะช่วยเป็นหูเป็นตาให้พ่อแล้วนะ อย่าไปเกเรที่ไหนอีกล่ะ พ่อให้โทรรายงานพ่อได้ตลอดเลยนะ” “อ่า พ่ออ่ะ ไรอ่ะ อุ่นไมได้เกเรซะหน่อย” ผมทำหน้างอใส่ครับ อายเพื่อนก็อายพ่อนะพ่อ
   “โดยเฉพาะเดี๋ยว รับปากพ่อแล้วนะเราน่ะ” พ่อผมหันไปหาไอ้เน่าครับ เอ๊ะ รับปากอะไรกัน
   “คร้าบคุณพ่อ” อ่า ไอ้เน่าก็เล่นด้วยกับพ่อครับ ผมนี่อายมากๆเลยนะเพราะเพื่อนๆหัวเราะกันเกรียวกราวส่วนพ่อผมก็นะหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจ แหมนะเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียวนะ
   “อุ่นไปอาบน้ำก่อนล่ะ” ผมงอนครับ รู้สึกเหมือนตัวเองจะกลายเป็นตัวตลกไปแล้วอ่ะ ใครจะมาทนนั่งให้เขาหัวเราะเยาะเนอะ
   “อายแล้วล่ะลูกๆ” “พ่ออ่ะ งอนแล้วนะ” ผมทำหน้าบึ้งใส่พ่อตัวเองครับแต่ไม่เห็นจะได้ผลอะไรเลยกลับเรียกเสียงหัวเราะดังกว่าเดิมเสียอีก ผมเลยรีบเดินขึ้นมาอาบน้ำล่ะครับ อาบอยู่นานเลยล่ะเพราะงอน เกี่ยวกันไหมแต่ผมว่ามันช่วยได้นะ น้ำอุ่นๆครีมอาบน้ำหอมๆ ค่อยๆอาบไปไม่รีบครับ การบ้านช่างหัวมัน เออ วันนี้ไอ้เน่ามันจะนอนด้วยนี่นาผมให้มันทำให้ดีกว่า อิอิ คิดได้ก็รีบเช็ดตัวแล้วเข้ามาในห้องล่ะครับ
   “อ๊ะ เพื่อนๆล่ะเน่า” ตกใจครับมันนอนแผ่หลาอยู่บนเตียงแล้วนะ แหวะเหมือนมันจะยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยนะนั่นน่ะ ตอนเล่นตระกร้อนี่เหงื่อเต็มตัวแล้วนั่นมันเตียงกูนะเว้ยเฮ้ย
   “กลับไปแล้ว” หา นี่ผมอาบน้ำนานขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย
   “อ้าวเหรอ แล้วไม่ช่วยพี่ต้อยเก็บของล่ะ” ผมพยายามจะหาเรื่องแถไปครับก็คนมันยังไมได้เปลี่ยนเสื้อผ้านี่นา อายแล้วนะดูสายตามันสิจ้องมองผมยังกะอะไรดี
   “เก็บเสร็จแล้วเว้ย มึงนั่นล่ะอาบน้ำนานเอง แต่กูไม่ว่าหรอก มึงล้างดีๆนั่นล่ะ กูจะได้กอดสบายใจหน่อย”
   “นี่ แล้วทีตัวเองล่ะ น้ำก็ยังไม่อาบแล้วไปนอนบนเตียงแบบนั้นไม่เหม็นไง ไรอ่ะเน่า”
   “มันแห้งแล้วเว้ย มาดมดูสิไม่เหม็น” อ่านะ ใครจะเข้าไปดมบ้าไปแล้ว กลิ่นเหงื่อมันนี่หึ่งมาถึงนี่เชียวนะ
   “ไม่เอาอ่ะ ไปอาบน้ำเลยๆ” ผมเร่งมันครับแล้วเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า
   “ใครเขากินข้าวเสร็จใหม่ๆให้อาบน้ำวะ มันไม่ดีมึงไม่รู้เหรอ”
   “มาจากไหนเนี่ย ไม่รู้อ่ะ เร็วเลยๆ มาช่วยทำการบ้านด้วย” ผมไม่สนใจมันครับรีบหาเสื้อออกมาจะเปลี่ยน
   “เอ้ย ทำไรอ่ะเน่า” กูว่าแล้ว คิดแบบนี้ใช่ไหมเนี่ย มันมาดึงผ้าเช็ดตัวออกจากเอวผมอ่ะ แว้กก อายจัง
   “สัด ขาวจัง” ชมหรือด่ากูวะเนี่ย ผมรีบเอามือกุมเป้าทันทีครับ
   “มึงไม่ต้องหันหน้ามาน่ะดีแล้วกูสนใจแต่ตูดมึง ขาวสัดๆ” โว้ย อารมณ์เสีย ผมรีบเอากางเกงมาสวมทันทีล่ะครับ
   “จะรีบใส่ทำไมอ่ะเบบี๋ กูยังไม่ได้จับเลย” “บ้าเหรอ อายเป็นนะ” ผมหันหน้าไปหามันหลังจากสวมกางเกงเสร็จแล้วล่ะครับ มัน เอ่อ ปฏิกิริยาเร็วไปไหมเนี่ยมึง กลางตัวมันโด่แบบว่า เอิ๊กก เอ่อ ไมได้กลืนน้ำลายนะคอมันฝืดเองอ่ะ
   “คงไมได้แล้วล่ะว่ะเบบี๋” มันเดินเข้ามาอีกครับผมถอยไปหลังติดตู้
   “จะทำไร” ผมเสียงติดขัดทันทีครับ
   “ขอถูหน่อยดิ” “ไม่เอาอ่ะ ไปอาบน้ำก่อน” ผมเขินครับ กูจะรอดไหมเนี่ยคืนนี้ มันไม่ตอบครับเหมือนคิดอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วมันก็ดึงเอาผ้าเช็ดตัวที่ผมเพิ่งใช้เสร็จนั่นล่ะเดินออกจากห้องไปเลย อ้าว ไอ้นี่อะไรของมัน ผมนั่งนิ่งๆทำใจอยู่สักพักครับ รีบทาโลชั่นทาแป้ง แล้วมากางหนังสือ
   “เสร็จแล้ว” “เอ้ย อาบน้ำหรือวิ่งผ่านเนี่ยเน่า ไรอ่ะเร็วมาก” คิดดูนะครับ ผมทาโลชั่นไม่นานนะ ทาแป้งก็ไม่นานแล้วก็กำลังจะกางหนังสือ เวลาแค่นั้นเองที่มันอาบน้ำเสร็จ ผมทำหน้าแบบว่าเหวอสุดขีด
   “อาบไรนาน” “ถูสบู่ป่าว” “ถูดิ มาดมดูมาไม่เชื่อ” มันไม่ได้พูดเฉยๆนะครับ มันเข้ามาแล้วยกรั้กแร้ใส่หน้าผมทันที
   “บ้าเหรอ ทำไรอ่ะเน่า” ผมเหวี่ยงหน้าออก สัปดนจริงๆได้นี่
   “มาเลยๆ” มันดึงแขนผมไปที่เตียงล่ะครับ ไม่อยากจะบอกว่ามันไมได้ใส่กางเกงนะมีเพียงผ้าเช็ดตัวที่พันเอวมันอยู่
   “ทำการบ้านก่อนดิ มาทำให้เลย” ผมหาทางไปครับ
   “เออน่า เดี๋ยวกูทำให้แป๊บเดียวเสร็จมาเลย เร็ว” มันเร่งครับ ทำไงดีเนี่ยกู
   “มาดิ” มันปล่อยมือผมแล้วไปนอนแผ่บนเตียงครับ เอ่อ ยั่วกูไปไหมแล้วไอ้นั่นมันจะโด่ไปไหนเนี่ยมึง โอ้ยนะ สวดมนต์ๆ จิตอยู่นี่ๆๆๆๆ ไม่ไหวติงๆๆ แต่ เดินไปทำไมเนี่ยอุรดิศ จิ๊ กูล่ะเบื่อตัวเองจังเลย
   “กอดเฉยๆนะ” ผมบอกมันทั้งที่ตัวของผมขึ้นไปนอนทับมันแล้วล่ะครับ
   “อือ กอดแน่นๆดิ ขยับตัวด้วย” อ่านะ พอผมไม่ทำมันก็เอามามาจับก้นผมล่ะครับขยับไปมา โอ้ย นี่ก็คนนะเว้ยรู้สึกเหมือนกันนะมึง พอผมเห็นว่าถ้าหากว่าเราถูกันอยู่แบบนี้คงไม่รอดแน่ๆ ผมเองนั่นล่ะจะทนไมไหว ผมเลยเหวี่ยงตัวออกครับไปนอนข้างๆมัน ไอ้เน่ามันก็กอดถูๆอยู่นั่นล่ะ เปียกเลย อิอิ
   “เออมึง แล้วเรื่องการแสดงน่ะ จะเอาไงวะ” พอเช้าตอนไปโรงเรียนไอ้เน่ามันก็ถามขึ้นล่ะครับ
   “ไม่รู้เลยอ่ะ เน่าว่าแสดงไรดีอ่ะ” ผมคิดไม่ออกจริงๆครับไม่มีความสามารถเลยนะในเรื่องนี้ นั่น อย่าด่าผมในใจสิว่าเรื่องอื่นก็คงไม่มี มันต้องมีสักทางล่ะน่า
   “ลองถามจอยดูดิ เผื่อเขาจะคิดออก” ช่วยได้เยอะมาก เออๆ ยังไงก็ต้องถามอยู่แล้วล่ะ พอไปถึงโรงเรียนวันนี้ผมให้มันจอดหน้าโรงเรียนล่ะครับเพราะเห็นจอยที่ซ้อนท้ายรถของโจ้น้องชายมัน ผมกวักมือเรียกแล้วเราสองคนก็ลง ส่วนไอ้เน่ากับโจ้เอารถไปจอดที่โรงรถล่ะครับ
   “จอยๆ เรื่องการแสดงอ่ะช่วยเราคิดหน่อยดิ เราคิดไม่ออกเลย” ผมเดินเข้าโรงเรียนไปกับจอยล่ะครับ ไม่อยากจะอุปโลกคิดไปเองนะว่าสายตาคนที่เดินเข้าโรงเรียนมามองผมแปลกยังไงไม่รู้ เอาเถอะไม่ได้สนใจหรอกนะซุบซิบกันด้วยนะเออ เอาเข้าไปทำให้กูประหม่าแต่เช้าเลยนะ
   “เพิ่นให้แสดงจักซุดเกาะอุ่น” อืมนั่นสิ ผมทำหน้างงๆ
   “ปีก่อน การแสดงมีตั้งแต่เปิดงานจนงานจบเด้ล่ะ ประมาณสามซุดได้”
   “หา อะไร ไม่เอานะเยอะไปอ่ะชุดเดียวนี่ก็ยังคิดไม่ออกเลยอ่ะ” ผมแหกปากออกมา ตกใจนี่ครับ
   “เฮาว่าโตไปถามผอเบิ่ง เอาให้แน่ๆ แต่ตอนนี้เฮาคึดออกซุดเดียว” จอยมันหน้าครุ่นคิดเหมือนผมล่ะครับ
   “แสดงไรอ่ะจอย” “ฟ้อนเด้ ฟ้อนใส่เพลง จินตรา อิอิ เฮาสิฟ้อนซ่อย มั่กค่ะ” อ่านะ เราสองคนคุยกันเดินไปที่โรงอาหารล่ะครับ สายตาคนก็ยังมองอยู่นะ นี่กูดังขนาดนี้แล้วเหรอ
   “เป็นตาฮักกะด้อเนาะ แต่ตีนหนักฮ้าย” เสียงแว่วๆมาล่ะครับ ไม่สนใจๆๆ พอดีเราเจอนายไม้อยู่ที่โรงอาหารก็เลยเข้าไปนั่งด้วย เดี๋ยวไอ้เน่ากับโจ้ก็คงตามมา
   “งั้นรอตรงนี้ก่อนนะ เราไปหาผอก่อน” ผมวางกระเป๋าของผมกับไอ้เน่าล่ะครับ
   “อ้าว สิไปผู้เดียวติ๊อุ่น” จอยร้องตามล่ะครับเพราะผมตั้งท่าวิ่งแล้ว เดี๋ยวก็เข้าแถวคงจะไม่ทัน
   “อืม เราไปแป๊บเดียว บอกเน่าให้ด้วยนะ” ผมบอกครับแล้ววิ่งไปเลย นักเรียนโรงเรียนนี้นี่มันเยอะใช้ได้จริงๆนะ วิ่งไปมุมไหนนักเรียนก็เต็มไปหมด มองกูเพื่อ? ผมวิ่งต่อไปล่ะครับ นั่นรถผอ เพิ่งมาถึงเหมือนกันผมเลยเข้าไปคุยกับแกล่ะครับ แกเพิ่งจะเปิดรถออกมาเห็นผมวิ่งเข้าไปก็ทำหน้าตาตกใจหน่อยๆ
   “อ้าวมีอะไรอุรดิศ” ผมยกมือไหว้ไปตั้งแต่สามร้อยเมตรได้ ฮ่าๆ
   “ครับผอ คือผมอยากจะทราบว่า การแสดงที่มอบหมายให้ผมน่ะครับ ผมต้องแสดงชุดเดียวใช่ไหมครับ” คือบอกไปเลยว่ากูจะแสดงชุดเดียว ไม่ต้องไปเสนอตัวลือกให้เยอะแยะครับ อิอิ แอบฉลาดนะเนี่ยผม
   “หือ ไม่ได้หรอกนะอุรดิศ การแสดงต้องสามชุดเป็นอย่างต่ำ เอาน่า ผอเชื่อฝีมือของเรา มีอะไรไปปรึกษากับอาจารย์กัลยาได้นะ แกถนัดเรื่องการแสดง ผอมอบหมายให้แกไปแล้ว” เอ่อ
   “หา สามชุด” ผมหน้าซีดกรีดร้องออกมา
   “ฮ่าๆ ตกใจอะไร หรือว่าน้อยไป เพิ่มเป็นสี่ห้าชุดก็ดีนะ ทุกคนคงชอบ” จิ๊ เข้าใจไหมเนี่ยว่าประชดผออ่ะ
   “อ่า ไม่ๆครับ ไม่ สามก็สาม” ผมคอตกทันทีครับแล้วรีบเดินหนีไปเลย ตายแน่ๆกู
   “อ้าว น้องอุ่นคือเฮ็ดหน้าแนวนั้น เป็นหยังอยู่บ้อ” อ่า พี่ขอมครับ ผมทำหน้าเหวอๆเพราะนานมากๆแล้วที่ไมได้เจอกับพี่เขา
   “อ้าว พ้อหน้ากันคือเฮ็ดหน้าแนวนั้นน้อบ่านนี้” พี่เขาหัวเราะครับ
   “อ้อ หวัดดีครับพี่ ปะป่าว คือผมเพิ่งคุยกับผอมาอ่ะ” ผมตอบออกไปแก้เขินครับ
   “ติ๊ เป็นจั่งได๋ ปรับโตได้แล้วบ้อ อ้ายได้ข่าวว่าโตนี่บู้คั่ก” แปลว่าไรอ่ะ
   “แหะๆ พี่ไม่ไปเข้าแถวเหรอครับ” ผมยิ้มๆให้แกล่ะครับ อ้อ พี่ขอมแกไมได้มาคนเดียวนะครับมากับพี่อีกคนใส่แว่นตาหน้าตี๋ๆ พี่เขาก็มองผมอยู่รู้สึกเขินขึ้นมาล่ะ
   “เดี๋ยวสิไปห้องจารย์ก่อน มื้อได๋ว่างมาคุยกับอ้ายแน่เด้ออุ่น อ้ายอยากคุยนำ” ผมยิ้มครับ ยิ้มไม่ได้ดีใจนะยิ้มแก้เขินอ่ะเขาเรียกกัน
   “แม่นๆ อ้ายกะอยากฮู้จัก ได้ยินแต่ซื่อ น้องอุ่นๆ เขาว่าเป็นตาฮักหลายแถมยังเด็ดขาดอีกต่างหาก” พี่ตี๋คนนั้นยิ้มล่ะครับ อ้าว จะมาอยากรู้จักกูเพื่อ
   “ฮู้จักได้ซื่อๆเด้อล่ะมึงบักคิม อย่าสิคึดเลิ่กกับน้องเขาเด้ล่ะ บักเดี๋ยวมันฆ่าเอาเด้อ” พี่ขอมแซวเพื่อนครับ
   “ครับพี่ งั้นผมไปก่อนนะครับ ไอ้เดี๋ยวคงรอกินข้าวแล้วอ่ะ” อิอิ วิ่งมาเลยครับ นี่แน่แซวกูดีนักเจอไม้นี้ไปหน่อยเป็นไร ผมวิ่งตรงไปยังโรงอาหารล่ะครับ พอเข้าไปในพื้นที่ไอ้เน่ามันยืนตาเขียวอยู่แล้วนะ
   “ไปไหนมาวะ” นะ จะมาทำเสียงดุใส่กูเพื่อ
   “ไปหาผอมาอ่ะ” ผมหอบอยู่เลยนะ
   “ไมไม่รอกู ไปคนเดียวได้ไง” แง่ว ผมยิ้มแห้งๆล่ะครับ มันตาเขียวไม่ยอมลง
   “ก็รีบไปรีบมาแล้วนี่ กินข้าวไรดีอ่ะเน่า” “อย่าๆ อย่ามเปลี่ยนเรื่อง กูบอกกี่ทีแล้วว่าอย่าไปไหนมาไหนคนเดียว ที่ไหนก็ไม่ได้ ไม่ฟังนะมึง” “สาธุ” ผมประชดมันครับ
   “ป๊าบ” “อ่า ตบหัวไมอ่ะเน่า” “กวนตีนนะมึง” อ่า ผมหน้าหงิกเลยครับ เพื่อนๆก็หัวเราะชอบใจ
   “อย่าไปไหนคนเดียวอีกนะมึง ได้ยินป่ะ” มันเข้ามาตะโกนใส่หูผมเลยนะครับ
   “ได้ยินแล้ว ไมต้องตะโกนอ่าเน่า” “กวนตีนกูไง จะแดกไร” ดูมันพูดกับผมนะครับ เพราะมากๆน่าฟังเนอะ นี่น่ะเหรอแฟนกู อารมณ์เสีย
   “บู้ย ซาดว่าบาปเพิ่นเนาะเดี๋ยว แล้วผอเพิ่นว่าจั่งได๋ล่ะอุ่น” จอยเห็นใจผมล่ะครับ ผมเลยหันไปหาจอย
   “ก็เหมือนที่จอยบอกอ่ะ สามชุด เซ็งมาก” ผมทำหน้าเซ็งที่สุดในสามโลก
   “เอาโจ๊กใส่ไข่ ไม่เอาขิงนะเน่า” ผมบอกมันไปล่ะครับแล้วหันมาหาจอยต่อ มันส่ายหน้าแล้วเดินไปกับนายไม้และน้องโจ้ ผมถอนหายใจทำหน้าเหนื่อยใส่จอย
   “เฮาคึดออกแล้วตอนโตไปหาผอน่ะ ซุดแรกกะฟ้อนเป็นคู่ใส่เพลงจินตหรา ฟ้อนจักสามสี่คนกะพอ ซุดสองกะฟ้อนภูไท ซุดสามกะ ฮ่วยสิเอ็ดหยังล่ะบ่านนี้” อ้าวนะ
   “ฟ้อนภูไทเป็นไงอ่ะจอย” งงป่ะครับ ผมอ่ะงงไปไม่เป็นเลย
   “กะฟ้อนคือกันนี่ล่ะ แต่จังหวะมันสิซ้าย้วยๆแต่งามคั่ก” อ้อ ผมสนใจขึ้นมาทันทีครับ
   “แล้วใครจะฟ้อนกับเราอ่ะ” นี่คือปัญหาใหญ่ล่ะครับไม่ใช่ว่าจะแสดงอะไร
   “เดี๋ยวลองไปซวนพวกอีตุ๊กกี้เบิ่ง คือสิซ่อยได้อยู่ดอก” ผมก็หวังว่าอย่างนั้นล่ะนะครับ
   “แล้วฟ้อนแบบเอาผู้ชายฟ้อนด้วยอ่ะ ดีไหมจะได้ไม่เปลืองผู้หญิงถ้าเพื่อนผู้หญิงเขาไม่ยอมช่วยอ่ะ”
   “นั่นล่ะ เฮากะคึดจั่งซั่นล่ะ โตกะแต่งเป็นแม่ยิงติ๊ล่ะ หน้าใสๆแนวนี้คือสิผู้จบคั่ก”
   “หวือ ไม่เอาอ่ะ ไม่อยากแต่ง” ผมดอดสวนขึ้นทันทีล่ะครับ
   “เออๆ เดี๋ยวไปคุยกับหมู่เบิ่งก่อน แล้วจั่งนัดซ้อมกัน ป่ะไปเข้าแถว” ตอนนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยล่ะครับ พอเสร็จจากเข้าแถวเราก็แยกย้ายกันเข้าห้อง ผมเดินไปที่โต๊ะสาวตุ๊กกี้
   “ว้าย อีหยังคะ ฟ้อนคืออะไรคะ คือแบบว่าเชอร์รี่เป็นแต่แดนซ์อ่ะนะ” คือมันเป็นแบบนี้ล่ะนะครับ ไม่ค่อยได้คุยพอคุยก็นะ สวยมากมึงน่ะ
   “เฮ็ดคือหลายอีรี่ ตอนหมอลำซิ่งกูเห็นไปฟ้อนอยู่หน้าฮ้าน ฟ้อนบ่เป็นแต่อีหยังน้อแหงแง้นอยู่น่ะ”
   “ว้ายอีนังจอย เว้าโพดหลายรี่เสียหายนะคะ”
   “ช่วยเราหน่อยนะตุ๊กกี้ เอ้ย เชอร์รี่ งานนี้เห็นผอบอกครูหนุ่มๆทั้งนั้นเลยนะ หล่อด้วยอ่ะ” ผมพอจะรู้ครับว่ามันเป็นยังไง แบบนี้มันต้องเอาผู้ชายมาล่อครับ
   “อุ้ย นี่เห็นแก่อุ่นขอร้องหรอกนะเนี่ย ปกติเฮา โอ๊ะ เราไม่ค่อยจะออกงานหรอกนะคะ คือ ไม่อยากให้ใครมาแอบถ่ายรูปไปลงเฟสอ่ะ” อยากจะอ๊วกครับ จะดีไหมเนี่ยที่ชวนอีนี่ไปด้วยน่ะ สรุปเพื่อนๆในห้องนอกจากนังตุ๊กกี้แล้วก็ไม่มีใครเลยนะครับที่จะช่วยผม อ่า ทำไงดีเนี่ย
   “อุ่นๆ ห้องเฮามีหมู่ผู้ยิงอยากสิฟ้อนซ่อยโตอยู่เด้” นายไม้บอกครับตอนพักเที่ยง
   “อ่าจริงเหรอไม้ ดีใจจังเลย” ผมจับแขนมันเขย่าล่ะครับ ทำตาโตๆดีใจนี่นา
   “อ่ะ แฮ่มๆ จับทำไม” เอ่อ ไอ้เน่าครับ ผมรีบเอามือออกจากแขนนายไม้ ไมได้กลัวไอ้เน่าหรอกนะจะบอก
   “หวืย โพดหลายบักห่ามึง ขนาดหมู่พวกกะมาหึงเนาะ” นายไม้แซวมันล่ะครับ
   “บ่ได้ดอก เรื่องแนวนี้กูบ่ไว้ใจ” “แต่ว่ามืออุ่นนุ้มนุ่มเด้ล่ะ ฮ่า” “นั่น” อ้าวๆ มันจะง้างเท้าใส่นายไม้แล้วครับผมเลยต้องลากมันออกมา
   “มาช่วยคิดการแสดงดีกว่านะเน่า ไรอ่ะไม่ช่วยแล้วยังไปว่าเพื่อนนะ” ผมทำหน้าดุใส่มันล่ะครับ
   “ไม่ช่วยไร ไม่รู้เว้ย แต่มึงห้ามไปวอแวกับใคร เข้าใจ๋ กูหึง” มันพูดตอกหน้าใส่ผมล่ะครับแล้วเดินไปที่ร้านน้ามัน อายอ่ะ อิอิ
   “มึงจะกินไร” มันหันมาถามเสียงดังล่ะครับ ไม่สนใจใครเลยนะ
   “เล็กแห้ง เหมือนเดิมนะครับน้า” ผมเองต้องเดินไปหามันล่ะครับ
   “เดินมาไม เดี๋ยวกูเอาไปให้” “มันต้องปรุงด้วยนี่” ผมแย้งครับ
   “เดี๋ยวน้าสิเฮ็ดพิเศษให้เด้อจ้า บู้ยมื้อวานล่ะมันหลาย ซาดถืกใจน้า” อ้าวน้าผู้หญิงแกพูดขึ้นล่ะครับผมอายเลยกระซิบบอกไอ้เน่าว่าปรุงอะไรบ้างแล้วกลับไปนั่งล่ะครับ คนก็ยังคงมองยังคงซุบซิบอยู่เป็นเรื่องปกติ เหมือนจะเริ่มชินแล้วล่ะครับ ไม่อายเหมือนตอนเข้ามาในตอนเช้าแล้ว เพื่อนๆก็เดินไปสั่งข้าวล่ะครับผมนั่งรออยู่
   “อ้าวน้องอุ่น มากินเข่าติ๊ อ้ายนั่งนำได้บ่” เอ่อ พี่คนที่ใส่แว่นตาที่เจอเมื่อตอนเช้าล่ะครับ แกนั่งลงเลยนะ อ้าวกูยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยนะนั่งแล้วอ่ะ
   “เอ่อ คือ” “โตกินหยัง สั่งแล้วติ๊ เดี๋ยวอ้ายไปสั่งให้” พี่แกเล่นแถเข้ามาหาผมเลยนะครับนั่งข้างๆผมด้วยล่ะ ผมเองก็ถอยออกไปกลัวไอ้เน่ามันจะโวยวายเอาน่ะสิ

To be continued

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 21 Version (Aun) 15 July 12 หน้า 27
«ตอบ #779 เมื่อ15-07-2012 19:01:08 »

   “ปึง” นั่นไงมันมาล่ะ “มีหยังบักคิม บ่มีหม่องอื่นนั่งบ่มานั่งอยู่นี่ หนีแหมะนี่หม่องกูนั่ง” มันทำยังไงรู้ไหมครับมันเอาเท้ามันมาแทรกระหว่างพี่เขากับผมเลยนะ พี่เขาคงไม่ทันมองล่ะว่าผมมากับใคร
   “อ้าว หม่องมึงติ๊ กูนึกว่าบ่มีไผนั่ง ไปกะได้วะ” พี่เขาลุกไปแล้วครับ
   “อย่าสิให้กูเห็นอีกเด้อมึง อย่าสิหาว่ากูบ่เตือน” มันขู่ครับเสียงดังมาก อายคนเป็นไหมนั่น ผมเริ่มก้มหน้าแล้วครับ
   “เสน่ห์แรงนะมึง เดี๋ยวเถอะ” อ้าว ซวยกูอีก
   “ไรอ่ะ พี่เขาเข้ามาทักเฉยๆหรอกเน่า” ผมพูดเสียงเบามาก
   “ทักเชี่ยไรหน้ามันจะดูดปากมึงอยู่แล้วนั่นน่ะ ปากน่ะมีไหม มีผัวแล้ว บอกเขาไปสิวะ อย่าให้เห็นอีกนะมึง มึงตาย” เอ่อ นี่มันขู่ผมเหรอ คือว่าผมไม่กล้ามองหน้ามันหรอกนะครับ อิอิ ก็มีบ้างล่ะนะเกรงมันนิดหน่อย ผมก้มหน้างุดๆเลยนะ
   “ไม่ได้ทำไรซะหน่อย” “ไร พูดเชี่ยไร นี่กูเผลอไม่ได้เลยใช่ไหม” มันพูดแบบเน้นคำนะ ผมเองก็นะจะให้ทำไรอ่ะ
   “ไหนมองหน้ากูดิ๊ ก้มทำไม ไหนบอกไม่ได้มีไร ทำไมหลบหน้า” อ้าว อะไรของมันเนี่ย จะให้มองได้ไงวะตวาดเอาๆ
   “ยังอีก” จิ๊ ผมก็เงยหน้าขึ้นมองมันล่ะครับ โอ้โหตาเท่าไข่เป็ดครับ หน้านี่หงิกเชียว ผมเลยหลบสายตามัน
   “มอง” บังคับกูจังวะ “ไรอ่ะเน่า จะกินข้าวนะ” “อย่านะมึง อย่าให้กูเห็นอีกนะ”
   “มีหยังกันสูเสียงดังแท้” นายไม้เดินมาล่ะครับ มาซะทีกูใจจะขาดตายอยู่แล้วเนี่ย ไอ้เน่ามันไม่ตอบครับแต่สายตาจิกจ้องมองผมอยู่ตลอดเวลาล่ะครับผมนี่กินข้าวแบบไม่อร่อยเลยนะครับ
   “คืนนี้มึงเสร็จกูแน่ๆ ไอ้เบบี๋ กูจะทำแรงๆคอยดู” เอ่อ พอกินข้าวเสร็จมันก็มากระซิบข้างๆหูผมล่ะครับ ผมนี่ขนลุกเกรียวเลยนะ อะไรของมัน จะทำอะไรอ่ะ แหมๆ อย่ามาเถอะ จะทำก็ทำพร้อมตั้งนานแล้วอ่ะ แว้กก
   “เย็นนี้เจอกันที่บ้านเรานะตุ๊กกี้ เอ้ย เชอร์รี่” ให้ตายเถอะผมเห็นหน้าเธอทีไรทำไมชื่อเชอร์รี่มันถึงไม่ลอยมาเลยนะ มาแต่ตุ๊กกี้ พอได้ยินเธอก็หันขวับล่ะครับทำตาเขียวใส่ผม
   “อืมๆ เลี้ยงข้าวด้วยนะ” จ้า อีเห็นแก่กิน แต่เอาเถอะยังไงผมก็ต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนๆจะมามัวตั้งแง่มากไม่ได้หรอก มอบหมายให้ทำอะไรก็ไม่รู้นะผอ
   “เฮาว่าเอาเพลงนี่ดีกั่วเนาะอุ่น” จอยมันลากผมไปห้องคอมฯล่ะครับเปิดยูทูปให้ดู จินตหรา พูนลาบ
   “อืม จังหวะเพราะดีเนอะ” ผมก็พยักหน้าเออออไปตามล่ะครับ เคยได้ยินพี่ต้อยเปิดแว่วๆนี่ล่ะ
   “สองเพลงเนาะ รักสลายดอกฝ้ายบาน กับ คอยพี่ที่มออีแดง เอ๊ะ หรือสิเอา วังสามหมอรอรัก ว้าย เพลงนี่กะม่วน รักโผล่โสนแย้ม” เอ่อ ผมอ้าปากค้างเลยครับเพราะไม่เคยฟัง
   “ค่อยเลือกที่บ้านก็ได้ แต่ท่ารำเขาก็สวยนะจอย” ผมเองก็ต้องค้นข้อมูลล่ะครับ แต่อันนี้ก็ไม่หนักใจเท่าไหร่นักหรอก ที่หนักใจน่ะคนจะรำเถอะ
   “ฮ่วย บ่เฮียนติ๊ พากันมาเบิ่งหมอลำอยู่นี่แหมะ” ผมหันไปตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลังล่ะครับ อ้าวไอ้น้องโจ้
   “มาเบิ่งแนวสิไปแสดงนี่ล่ะ” จอยมันบอกน้องมันครับ
   “ไผแน่ล่ะฟ้อนน่ะอ้ายอุ่น” ผมหันไปถอนหายใจใส่มันครับ
   “ยังไม่มีเลยอ่ะโจ้ พี่ไม่รู้จะหาใครดี”
   “ฮ่วย คือบ่บอกผม ผมฮู้จักสาวๆหลายเด้” “จริงดิ งั้นหาคนมารำช่วยพี่หน่อยดิ เอากี่คนดีนะจอย” ผมหันไปถามจอยครับ เธอก็ยิ้มเยาะน้องทันที
   “ซุดแรกผู้หยิง 5 กะพอ ซุดสองรำภูไท อีก 5 ซุดสาม เซิ้งกะติ๊บเนาะอีก 5 ตอนนี้มีแล้ว สอง” จอยมันมองหน้าน้องโจ้แล้วปรามาสว่าขนาดกูยังไม่มีปัญญาแล้วมึงจะเอาปัญญาที่ไหนหาประมาณนี้ล่ะครับ
   “บ่มีปัญหา เอาเด็กน้อยเนาะ มันจั่งสอนง่าย” มันยักคิ้วตอบครับแล้ววิ่งไปเลย อ้าว แล้วมันเข้ามาทำไมวะเนี่ย
   “จะได้เรื่องไหมเนี่ยจอย” ผมหันไปหาจอยล่ะครับ
   “อย่าสิไปคึดต่อมันอุ่น ลองไปซวนหมู่ห้องอื่นเบิ่ง ค่อยว่ากันบักโจ้มันคือสิบ่เป็นท่าดอกเฮาว่าน่ะ” อืมนะ สรุปคาบแนะแนวเราก็เดินไปชวนเพื่อนๆห้องอื่นล่ะครับ แต่พอเห็นหน้าผมก็พากันซุบซิบถามเรื่องทะเลาะกับอีสุชาติเสียส่วนใหญ่จนผมเบื่อ ไมได้ความอะไรคืบหน้ามาเลยอ่ะ
   “ป่ะกลับ” ไอ้เน่าครับ นี่ยังไมได้ออกนอกโรงเรียนเลยนะเอาเสื้อออกนอกชายกางเกงแล้วอ่ะ ไอ้นี่ไม่มีระเบียบเอาเสียเลยนะ
   “อืม” “เป็นไร” “ป่าว” “ป่าวเชี่ยไร หน้ายังกะตูด” “แล้วไงอ่ะ” “สัด เคยถึงไม่เคยคืนนี้มึงโดนแน่ๆ”
   “ทำหน้าแบบนี้หมายความว่าไง คิดว่ากูพูดเล่นเหรอ” อ้าวนะ รู้ตัวด้วย กูเซ็งล่ะ พูดอยู่ได้
   “ไม่มีคนไปรำช่วยเลยอ่ะเน่า” ผมเปลี่ยนเรื่องครับ
   “ฮ่าๆ กูว่าอยู่ มึงก็รำไปคนเดียวมึงสิวะ” ไม่น่าพูดเลยนะผม มีประโยชน์มาก ได้กำลังใจเยอะมาก
   “อ้าวๆ งอนๆ มึงลองไปชวนเพื่อนๆดูแล้วเหรอ”
   “อืม” “ไม่มีใครช่วยเลยเหรอวะ” “อืม” “เอาเท่าที่มีดิ อืมอีกคำมึงเจ็บตัวแน่” เอ่อ ผมเลยเงียบครับ
   “เงียบไม” อ้าวนะ จะเอายังไงเนี่ยไอ้นี่
   “ไรอ่ะ” “สัดกูถามน่ะ ไม่ได้ยินไง” “ก็ไม่รู้อ่ะ เครียดอยู่เนี่ย ไม่มีคนช่วยจะให้ทำไงอ่ะ” ผมตะโกนออกไปครับ รำคาญ ไม่ช่วยแล้วมาถามนะ ถามเพื่อ จะถามให้ได้อะไรวะให้กูเครียดเพิ่มขึ้นอีกล่ะสิ
   “ผู้ชายน่ะไม่ยาก กูหาให้ได้ แต่ผู้หญิง มึงหาเองดิ กูไม่อยากไปวอแว เดี๋ยวเกิดเรื่องอีก”
   “เรื่องไรอ่ะ” “อ้าว สัด เดี๋ยวมึงหึงกูไง กูขี้เกียจง้อ” อ่านะ หลงตัวเองมากไอ้รูปหล่อ พอมาถึงบ้านผมก็เห็นรถเครื่องจอดอยู่เต็มหน้าบ้านผมล่ะครับ ตายล่ะ ไม่ใช่พวกอีสุชาติมันพาเพื่อนมันมาถล่มผมซะล่ะ
   “ใครมาหามึงวะเยอะแยะ” มันหันมาทันทีพร้อมกับตาเขียวๆ
   “ไม่รู้อ่ะ เหมือนรถจอยป่ะ” ผมสังเกตที่รถจอดอยู่ล่ะครับมีคุ้นๆอยู่
   “ใครวะ” ไอ้เน่ามันจอดรถแล้วตรงดิ่งเข้าไปเลยนะครับ ผมเองก็รีบตามเข้าไปในบ้าน
   “ว้าย อ้ายเดี๋ยวอุ่น” เอ่อ เด็กผู้หญิงครับสิบกว่าคนได้ ผมยืนตะลึงอยู่
   “พากันมาหยังสู” ไอ้เน่ามันถามครับ
   “น้องๆเขามาซ่อยฟ้อนเด้เดี๋ยว” อ้าวจอยครับ มันมาตอนไหนวะเนี่ย ผมมัวแต่ทะเลาะกับไอ้เน่าเลยไม่ทันมอง
   “ผมซวนมาเองเด้ออ้าย ฮ่าๆ” ไอ้น้องโจ้ครับ น้องๆเด็กผู้หญิงก็ทักทายแนะนำตัวกันพอสมควร ทีนี้เราก็มานักแนะมอบหมายว่าควรจะให้ทำอะไรบ้าง
   “แต่เอ๊ะ มีแค่ 14 คนนี่จอย อีกคนไม่ใช่เหรอ” ผมนับรวมกันแล้วครับ นับนังตุ๊กกี้เข้าไปด้วยแต่มันยังไม่มา จะเบี้ยวไหมเนี่ย
   “โตว่าอีตุ๊กกี้มันสิมาอีหลีบ่ เฮาว่ามันบ่มาแล้วล่ะตอนเลิกเฮาเห็นมันไปคุยกับอีเพ็ญ” อ้าว ผมหน้าเสียเลยครับอุตส่าห์คุยกันไว้ซะดิบดี อะไรของมันวะ
   “เอาจั่งซี้ อ้าว อีหล่าแบ่งเป็นกลุ่มเด้อ กลุ่มล่ะ 5 คน” ตอนนี้เหลือ 13 ครับรวมจอย แบ่งแล้วเหลือเศษ สามคน
   “ไผสิฟ้อนซุดแรก ฟ้อนเพลงจินตหรา” จอยมันก็บอกไปล่ะครับว่าเพลงอะไร ชุดสองเป็นฟ้อนภูไทคือต้องหนักกว่าอยู่แล้ว ตอนนี้เองน้องๆเปลี่ยนกลุ่มกันเป็นว่าเล่นเพราะไม่มีใครอยากฟ้อนภูไทเพราะมันยากนะผมคิดว่า
   “เอาซี้ ซั่น ดาว แตง กบ โตสามคนมาฟ้อนภูไทกับเอื้อย เอื้อยสิฟ้อนออกหน้า อิอิ” อ้าวนะ จอยมันทำตาวาวๆครับ ดีนะที่มันเสนอตัว ตอนแรกน้องๆก็อวดครวญ สักพักเพื่อนๆผู้ชายก็มาล่ะครับคือพวกมันก็มาเล่นตระกร้อกันตามปกติล่ะครับ อ้อ ที่เลือกน้องสามคนนี้เพราะสูงกว่าทุกๆคน เกือบเท่าจอยล่ะครับหน้าตาก็น่ารักดีนะ
   “อีหยังค้า สิฟ้อนเป็นหยังบ่บอกเอื้อย ป้าด เอื้อยนี่หางเครื่องเก่าเด้ค่า” อ้าว พี่ต้อยครับเหมือนจะเพิ่งกลับมาจากตลาดคงตกใจเห็นคนเยอะๆที่บ้าน
   “อุ่นยังไม่ทันบอกอ่ะพี่ต้อย มาช่วยสอนหน่อยสิ” ผมก็อธิบายคร่าวให้แกฟังล่ะครับ สรุปก็แบ่งกันไปซ้อม กลุ่มแรกนำทีมโดยพี่ต้อยที่ชอบมาก อาสาเองเลย กลุ่มสองก็มีผมกับน้องตู่ที่ชุดนี้ต้องรำคู่กับผู้ชายผมก็หนึ่งในนั้นแต่คนอื่นๆยังไมได้หาครับ แต่เราก็แยกออกไปซ้อมท่าเลือกเพลงไว้ก่อน วันนี้คงไม่ได้ซ้อมอะไรมาก็มานั่งเลือกๆเพลงคิดท่ารำช่วยกันครับ น้องๆน่ารักดีนะ มีแซวผมบ้างแต่ก็เริ่มชิน
   “หนูล่ะเคยเบิ่งอยู่ไกลๆ มาเบิ่งใกล้ๆหน้าใสคั่กอีหลีเด้อค่ะอ้ายอุ่น” น้องคนหนึ่งพูดขึ้นล่ะครับ ผมก็หันไปยิ้มเขินๆ
   “แม่นๆแตง คนเว้าพื้นว่าอ้ายน่ะอ่งจั่งซั่นจั่งซี้ แต่โตจริงเป็นตาฮักกะด้อเนาะ” ผมคือประเด็นหลักล่ะครับ ได้แต่หัวเราะแหะๆ ไม่รู้จะตอบโต้ว่าไงดี ฟังออกบ้างไม่ออกบ้าง คือตอนนี้เราพักเบรกล่ะครับพี่ต้อยทำน้ำหวานออกมาให้น้องๆกินกับขนม
   “เป็นจั่งได๋ผู้สาวซ่ำน้อย ม่วนบ่” นายเคนครับคงจะพักจากการเตะตระกร้อเหมือนกัน เออ พ่อผมยังไม่กลับนะครับ วันนี้คงเย็นๆล่ะ
   “ว้าย อ้ายเคน อ้ายไม้ กรี๊ด” เอ่อ นึกว่าเห็นแล้วนะตอนที่มันเข้ามา สาวน้อยกรี๊ดกันใหญ่แต่ไอ้พวกนี้เหมือนมันจะชินล่ะครับ แหมนะ
   “เออ นายสองคนมารำกับเราด้วยนะ น้องเต้กับน้องโจ้ด้วย 5 คนพอดี” ผมได้ทีครับ
   “เฮ้ย ฟ้อนบ่เป็นดอก พ่อซายบ่ฟ้อนเด้อุ่น” นายเคนครับ
   “แม่นๆ ไผสิฟ้อนกะฟ้อนโลด เฮาบ่เอานำดอก” อ่านะบอกปัดแบบไม่เกรงใจกันเลยครับ
   “เน่า” ผมหันไปหาตัวช่วยครับ
   “ฟ้อน สูต้องฟ้อน” อิอิ ไอ้เน่ามันตวาดขึ้นเสียงดังครับ
   “หวืย ซาดโพดเนาะ มึงบ่ฟ้อนเองติ๊ มาบังคับหมู่” นายเคนพูดเสียงอ่อยๆครับ
   “บ่เกี่ยวเว้ย มึงสี่โตนั่นล่ะ อย่าๆ อย่ามาเถียงหรือสิเอา” มันกร่างใส่เพื่อนล่ะครับไม่มีใครพูดอะไรมีแต่ซุบซิบกันอยู่ น้องๆผู้หญิงก็เซ็งแซ่ขึ้นทันทีว่าใครจะคู่กับใคร เฮ้อนะ
   “อ้าว มีอะไรกันหรือเปล่าลูก” พ่อผมกลับมาแล้วครับ ทุกคนก็ยกมือไหว้
   “ก็มาช่วยอุ่นซ้อมการแสดงไงอ่ะพ่อ” ผมบอกพ่อไปล่ะครับ
   “อ้อ ดีลูกดี ขยันๆนะงานวันนั้นพ่อก็จะไปเดี๋ยวทำดีพ่อมีรางวัลให้นะ” พ่อผมบอกครับเสียงเฮดังขึ้นทันที แหมนะ
   “เออ กูฟ้อนกะได้วะ” นายเคนครับ แหมนะไวเชียวนะทีแบบนี้ เอาไปเอามาพ่อผมก็โทรไปสั่งไก่เคเอฟซีมาให้น้องๆเพื่อนๆกินกันล่ะครับ น้องผู้หญิงแยกกลับไปก่อนประมาณห้าโมงได้ ส่วนเพื่อนๆผู้ชายก็เตะตระกร้อต่อกับพ่อผม ส่วนผมกับจอยก็ช่วยกันดูเพลงและคิดท่ารำมีพี่ต้อยคอยเป็นคนทำตามที่เราบอก สนุกดีนะครับ
   “ว้ายเห็นบ่ค่าซวนแต่เอื้อยฟ้อนเลยบ่ทันเฮ็ดแนวกินแลงซ่ำ ไปก่อนเด้อค่า” พอเราคิดท่าไปได้หน่อยพี่ต้อยก็ร้องขึ้นล่ะครับ อ้าวนี่มันค่ำขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย สักพักจอยมันก็ชวนน้องโจ้กลับล่ะครับ วงเลยแตกเพื่อนๆกลับไปหมดแล้วเหลือแต่ไอ้เน่าซึ่งมันทำอะไรกับพ่อผมไม่รู้อยู่นอกบ้าน เหมือนจะปีนต้นมะยมเลยนะ
   “โอ๊ย” เสียงมันร้องครับ เกิดอะไรขึ้น
   “เป็นอะไรไหมลูกเดี๋ยว ขาจะหักไหมเนี่ย” เสียงพ่อผมร้องออกมา ผมเลยวิ่งออกไปดูครับเห็นไอ้เน่ามันนอนอยู่กับพื้นกลิ้งอยู่ ผมเลยวิ่งเข้าไปหา
   “ไรอ่ะพ่อ”  “เดี๋ยวตกต้นไม้ ขาจะหักหรือเปล่าไม่รู้ เจ็บมากไหมลูก” ผมตกใจครับ พ่อผมเองก็คงตกใจหน้าตาไอ้เน่ามันเหยเกมากเลยนะ
   “เจ็บครับ เจ็บ โอ๊ย” ไอ้เน่ามันจับข้อเท้ามันล่ะครับหน้าตานี่แบบว่าเจ็บสุด ผมเองสั่นแต่ก็นั่งลงจะจับก็กลัวมันจะเจ็บ
   “เน่า เจ็บมากไหม ไปหาหมอ พ่อพาเน่าไปหาหมอ” ผมเริ่มครองสติไม่อยู่แล้วครับน้ำตาหลอแล้วอ่ะ ใจมันมากกว่าสั่น มันจะเป็นอะไรไหม

Written by eiky


ปล. ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรมากนะคร้าบ อิอิ ติดตามอาการบักเดี๋ยวเอาตอนหน้าเด้อ
ขอให้มีความสุขในการอ่านนะคร้าบ
จุ๊บๆๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด