Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Don't call Me BaBy!! ** You're My BaBy!!  (อ่าน 401106 ครั้ง)

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
Don’t call Me BaBy!!

เกือบไปแล้วไหมล่ะ ไอ้เน่านะไอ้เน่า แหมนะมายั่วผมจนตะบะแตกเลยอ่ะ อายที่สุดนะตอนตื่นก็ไม่กล้ามองหน้ามันนะ ผมกลัวจังเลย กลัวเวลาที่อยู่กับมันสองคน ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ของผมกับมันปฏิเสธไม่ได้เลยนะครับว่ามันมากและแน่นกว่าเดิมเยอะมาก มันพูดไม่เพราะหรอกนะกับผม อันนี้ผมเฉยๆเพราะมันเคยพูดยังไงมันก็พูดอยู่อย่างนั้น มันห่ามๆอันนี้ก็เรื่องของมันเพราะเวลามันอยู่กับผม ผมกลับรู้สึกดีนะว่ามันจริงใจไม่มีอะไรปิดบัง อยากได้ก็บอกตรงๆ ไม่ทำก็ไม่ทำ อีกอย่างหลายเหตุการณ์แสดงให้รู้ว่ามันห่วงใยผมมาก มากเหลือเกิน นี่ผมมีแฟนแล้วจริงๆเหรอเนี่ย แว้กก
   “อ้าวจอย เล็กมาเร็วจัง” พอผมไล่ให้ไอ้เน่าไปรับปูสักพักเสียงรถเครื่องก็มาจอดหน้าบ้านล่ะครับ ผมรีบลงไปดูก็เห็นจอยกับเล็กมาถึงแล้วครับแบกเป้สัมภาระมาแล้วเรียบร้อยผมเองก็เก็บของไว้แล้วล่ะครับ ไม่อยากบอกเลยว่าเสื้อผ้าของไอ้เน่ามันก็อยู่ในกระเป๋าของผมล่ะครับ ของใช้ด้วยเพราะมันไม่ยอมกลับบ้านผมเลยต้องเอาเผื่อมันล่ะครับ ส่วนเสื้อผ้าเนื่องจากมันมานอนบ้านผมบ่อยมากเสื้อผ้ามันก็มีอยู่บ้างล่ะครับ เอาเสื้อผมไปเผื่อมันด้วย ไม่ใช่แบบนั้นนะอย่าคิดลึก
   “ฟ้าวมาตั้ว สิสิบโมงพอแฮงล่ะ ไอ้เดี๋ยวไปฮับหมู่ติ๊อุ่น” จอยมันหิ้วกระเป๋าเดินเข้าบ้านล่ะครับ เล็กมันทำท่าเหมือนอยากเข้าห้องน้ำเลยนะ
   “ทำหน้าเหมือนปวดขี้เลยเล็ก” ผมแซวครับ
   “แม่นคั่ก ปวดแฮงหลาย” มันวิ่งไปหลังบ้านเลยครับ ผมกับจอยก็หัวเราะ เราคุยกันอยู่สักพักไอ้เน่ามันก็มา
   “ปู” ผมวิ่งออกไปรับเพื่อนล่ะครับ ปูมันสวมกางเกงยีนส์ใส่เสื้อยืดมีเสื้อยีนส์แขนยาวทับอีก นี่มันหน้าหนาวเหรอเนี่ย ปูเองมันก็ดีใจนะที่เจอผมทิ้งกระเป๋าลงหน้าบ้านเลย
   “โอ๊ย ซาดคึดฮอด หน้าใสขึ้นแม่นบ่อุ่น” ปูมันยิ้มๆล่ะครับ ผมรีบเอามือจับหน้าตัวเอง
   “เหรอ เหมือนเดิมล่ะ” “บ่แม่นดอกเฮาว่าน่ะ ทรงคือคนกำลังมีควมฮักนี่ล่ะ มันมีออร่า” นะ เข้าใจพูด ผมก็แนะนำให้ปูรู้จักกับจอยล่ะครับ ไอ้เน่ามันบอกมันจะไปเอารถกระบะที่บ้าน
   “เป็นจั่งได๋ สอบได้อยู่บ่พวกโต ข้อสอบยากบ่” ปูมันถามจอยล่ะครับ
   “เซาๆ อย่าสิมาถามเรื่องเฮียนยามนี้เด้อค่า ดิฉันหน่าย” จอยมันออกลีลาท่าทางด้วยนะ
   “ฮ่าๆ บู๊ย ถามไปซั่นล่ะ เบิ่งทรงเป็นตาหน่ายอีหลีเนาะ”
   “หน่ายคั่กๆ จบไปสิไปสอบเข้าไสบู้เพิ่นจั่งสิเอา”
   “เฮาว่าสิเรียนรามต่อเด้ล่ะ ตาหลูโตนพ่อกับแม่ ว่าสิเฮ็ดงานไปนำ” ปูมันพูดล่ะครับ
   “อ้าว คั่นเฮียนรามอยู่นี่กะมีรามเด้ล่ะ” “เฮาเรียนนอนดีกรีอยู่เด้ล่ะ ได้หลายโตแล้ว” จอยมันหันมามองหน้าผมทันทีครับ ผมเองก็ตาวาว เออนั่นสินะ ผมรู้ตัวว่าผมน่ะมันไม่เก่ง รามนี่ก็เป็นทางออกที่ดีเหมือนกันนะ สักพักเล็กมันก็ออกมาจากห้องน้ำล่ะครับ มันยืนนิ่งแป๊บหนึ่งตอนเจอปู นั่นๆ อย่าบอกนะว่าปิ๊งกัน
   “คนสารคามผู้งามเนาะ” เอ่อ ไอ้เล็กครับ อยู่ๆก็พูดขึ้นปูมันอายทันที จอยมันมองหน้าผม
   “ไปหาแนวมาให้หมู่กินป่ะอุ่น เฮาสองคนน่ะ” จอยมันสะกิดผมครับ ผมก็ยิ้มแล้วเดินตามจอยเข้าไปในครัว
   “บู๊ย ผู้สาว ไสล่ะอีกผู้หนึ่งน่ะ คือมาผู้เดียวครับ” เสียงนายเคนครับ เรื่องแซวสาวนี่ไม่ต้องห่วง
   “บ่ทันมาจ้า อยู่คนละหม่อง เดี๋ยวเพิ่นกะสิมาแล้วล่ะ” ปูมันบอก ทำไมต้องจ้าด้วยวะ
   “ข่อยซื่อเคนเด้อ นี่บักไม้ คือตัดผมหน้าม้า หน้าผากมีสิวติ๊ผู้สาว ฮ่าๆ” อ้าวๆ ผมรีบเดินออกไปทันทีครับ ปูมันอาจจะไม่ชินกับการล้อแบบนี้ก็ได้นะ
   “ฮ่วยบักห่าเคน เขากำลังฮิตมึงน่ะบ่ฮู้เรื่อง” เอ่อไอ้เล็กมันออกตัวแทนครับ ผมเลยไม่เดินออกไป พอดีกับฝ้ายมันโทรเข้ามา
   “ถึงแล้วเหรอฝ้าย รออยู่ตรงนั้นล่ะเดี๋ยวเราให้เน่าไปรับ” ผมบอกฝ้ายไปล่ะครับ
   “ผู้ได๋เน่า หมู่โตติ๊อุ่น” “เอ่อ อ้อ ไอ้เดี๋ยวนั่นล่ะ รอตรงนั้นล่ะนะฝ้ายแป๊บเดียว” เออลืมเรียกมันจนติดปาก ผมเคยเล่าให้ปูฟังคนเดียวนี่นะว่าผมเรียกมันว่าไอ้เน่าเพราะฝ้ายผมจะไม่หลุด
   “ว้ายค่า เฮาตกข่าวแม่นบ่เนี่ย เว้ามาเลยเด้อบัดยามเฮาไปฮอดน่ะ ปิดเฮาดีเนาะอุ่น ตาซังหลาย”
   “บ้าเหรอฝ้าย เราลืมอ่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกัน” ผมบอกฝ้ายไปล่ะครับ เขินนะเนี่ย
   “เน่าๆ ฝ้ายมาถึงแล้วอ่ะ” ผมโทรไปหามันล่ะครับ
   “อ้าว มาถึงแล้วเหรอ นี่กูต้องเอาของไปร้านก่อนว่ะ บอกสัดเคนไปรับให้หน่อยดิ กลัวฝ้ายจะรอนาน” มันบอกครับ
   “อ้าวเหรอ เคๆ เร็วนะ อย่าอู้”
   “เร็วเชี่ยไรยกของนะมึง หรือจะมาช่วยกู”
   “ก็ไม่พาไปเองอ่ะ รีบมานะ” “ไมคิดถึงกูไง” อ่านะ ผมเงียบครับเพราะเขิน
   “เงียบนะ เออแค่นี้ล่ะ กูจะไปแล้ว คุยกับไอ้โบ้ป่ะ”
   “ไหนอ่ะ โบ้ๆ” ผมไมได้บ้าจี้นะครับก็ไอ้โบ้มันเห่านี่ ผมเรียกชื่อมัน มันก็เห่าแต่ไม่ได้หมายความว่าผมพูดภาษามันรู้เรื่องหรอกนะเว้ย อย่าๆ อย่าคิดมาเหน็บกันนะ
   “แค่นี้ล่ะ” มันจะวางสายครับ
   “เน่าๆ” “ไรอีก กูรีบนะมึงเบบี๋” “ขับรถดีๆนะ” “คร้าบ เมียรัก” “จิ๊ ไอ้บ้าเน่า แค่นี้นะ”
   “ยิ้มดีเนาะสู เป็นตาอิจฉาเด้ค่า” จอยครับ แว้กก ลืมไปเลยว่าอยู่ในครัว ผมอายมากๆเลยอ่ะไม่เคยคุยแบบนี้ต่อหน้าเพื่อนด้วยนะ
   “เฮาว่าโตกับไอ้เดี๋ยวน่ะ ฮักกันแฮงอีหลีล่ะอุ่น เฮาดีใจนำเด้อ จากใจเฮาเลย” จอยมันเดินมาจับมือผมล่ะครับ ผมก็ยังเขินอยู่แต่ก็พยักหน้า
   “ไม่รู้หรอกนะอนาคต”
   “สิไปคิดเฮ็ดหยังเนาะ มื้อนี้มีความสุขออกปานนี้ อนาคตคือคันแทนางอเด้ล่ะ” จอยมันพูดแล้วหัวเราะครับ ผมงงนี่คิดว่าพอจะซึมซับบ้างแล้วนะแต่พูดไวเกินก็ไม่ทันครับ ผมรีบเดินออกไปนอกบ้านล่ะครับต้องไปบอกเคนให้ไปรับฝ้ายแล้ว
   “เคนๆ ไปรับเพื่อนให้หน่อยสิ เพื่อนมาถึงแล้วเน่ามันเอาของไปที่ร้านอ่ะ” ผมเดินไปกระซิบบอกเคนล่ะครับ แหมนะเข้ากันได้เร็วจริงๆพวกนี้ หัวเราะสนุกสนาน
   “อ้าว เป็นผู้จั่งได๋ล่ะหมู่โตน่ะ” เคนถามครับ
   “ชื่อฝ้ายนะ สูงเท่าๆจอยนี่ล่ะ ใส่แว่นตา ทรงผม เอ่อ” ผมหันไปหาตัวช่วยครับ
   “เพิ่นไว้ผมยาวแล้วเด้อุ่น ฝ้ายคือสิบ่ทันส่งรูปให้เบิ่งแม่นบ่ อ่ะนี่มาเบิ่ง” ปูมันล้วงเอาโทรศัพท์มันออกมาเปิดรูปให้เคนดูล่ะครับ ผมเองก็ชะโงกหน้าไปดูด้วย ผมเริ่มยาวแล้วนี่ฝ้าย
   “อ้อๆ ได้ๆ” นายเคนมันมองอยู่แป๊บหนึ่งล่ะครับแล้วก็ขับรถเครื่องออกไป ระหว่างนั้นพี่ต้อยก็เอาขนมกับน้ำอัดลมมาให้เพื่อนๆกิน อ้อ พ่อผมไปทำงานแล้วนะครับเห็นบอกมีประชุม วันเสาร์นะเนี่ยขยันจริงๆ
   “แล้วยามกลางคืนพวกเฮาสิพากันเฮ็ดหยังล่ะ” ปูถามครับ
   “เว้าเรื่องผีบ่ มันจั่งตื่นเต้น” นายเล็กเสนอครับ
   “ผีบ้าติ๊เล็ก บ่เอาดอกย้าน” จอยทำท่าทางว่ากลัวจริงๆ ผมเองก็เถอะอย่านะ อย่ามาเล่าเรื่องผีมีหวังได้นอนซุกกันทั้งคืนแน่
   “เล่นไพ่เด้สู” นายไม้ครับ เราหันขวับไปทันที
   “โตมีติ๊” จอยถามครับ
   “มีล่ะเนาะ ดับนี้แล้วขอบทองพู้นเด้อหล่า” ไม้มันหัวเราะครับ เออนะเอากับมัน
   “เล่นเฉยๆมันจะหนุกเหรอ” ผมสงสัยครับเพราะเล่นไม่เป็นล่ะ
   “ไผบอก เล่นกินเหล้ากันเด้ หรือสิเล่นเอาเงิน”
   “ว้าย บ่ๆ อย่ามาเว้าเรื่องเงิน เล่นกินเหล้านั่นล่ะ” สาวปูทำท่ากระหายเหล้า เอ่อ ผมมองหน้าเธอแปลกๆ อย่าบอกนะว่าเหมือนจอย คอทองแดงมาเจอกันนี่มันจะยังไงอยู่นะเนี่ย
   “แล้วเหล้าไรอ่ะไม้” “แสงโสมกะหรูแล้ว โตมีเหล้าติ๊” “มันเหม็นอ่ะ กินว้อดก้ากันป่าว” คือไม่ได้กระแดะนะครับแต่เหล้าแสงโสมกับแม่โขงนั่นน่ะมันกลิ่นแรงจริงๆนะ ผมจิบไปแล้วครั้งกลิ่นแบบว่า อื้อหือ และที่ได้กลิ่นมากกว่าใครก็จากได้เน่านั่นล่ะครับ กินมาทีไรผมนอนหันหลังให้มันทุกที เอ้ย คือไม่ได้นอนด้วยกันบ่อยหรอกนะครับ ก็เวลามีงานพิเศษเท่านั้นล่ะน่า คิดเยอะนะ
   “บู๊ย แพงกะด้อ บ่มีเงินซื้อดอกอุ่น” จอยพูดครับเพื่อนๆก็พยักหน้าเห็นด้วย
   “พี่ต้อยๆ ว้อดก้าพ่อยังเหลืออยู่ป่ะ” ผมร้องไปถามพี่ต้อยที่เตรียมขนมและเครื่องดื่มให้เราอยู่ล่ะครับ
   “ยังอยู่ค่า สามขวดบ้อ คุณอุ่นสิเอาไปนำบ่ค่า”
   “เอาไปด้วย ของไรอ่ะพี่ต้อย” “บู๊ย เว้าปานเอื้อยอ่านภาษาเขาออกเนาะค่า ขวดใหย่ๆนั่นล่ะ คั่นเอาเอื้อยสิเอาใส่ถุงให้ กินแล้วสิพากันขับรถขับเรือเด้อล่ะ สิซวยเอา” ผมยิ้มล่ะครับแล้วยักคิ้วให้เพื่อนๆ
   “บ่ทันมาอีกบ่สาวฝ้ายน่ะ” ไอ้เน่ามาแล้วครับ มันขับรถกระบะของมันมา คือรถมันเป็นแบบสี่ประตูนะครับ ยี่ห้อที่ตุ๊กกี้โฆษณาล่ะสีบรอนซ์
   “จักเด้ คือไปโดนแท้บ่แม่นสิบ่พ้อกันเบาะ ลองโทรหากะนะอุ่น” นายไม้บอกผมครับ ผมเลยหยิบโทรศัพท์ออกมากดหาฝ้าย
   “เจอเพื่อนเราหรือยังอ่ะฝ้าย” ผมถามทันทีที่ฝ้ายมันรับสายครับ
   “อ้อ พ้อแล้วๆ ไอ้อันนี่เพิ่นเว้าหลายเนาะ มาท้วงแว่นตาเฮาแหมะอุ่น เป็นตาซังหลาย” อ้าว เหมือนจะไม่ถูกกันเลยนะ ผมคิดถูกหรือเปล่าเนี่ยทีให้นายเคนไปรับฝ้าย
   “บู๊ยเว้าโพดหลายเนาะผู้สาว ท้วงกะบ่ได้ งามคั่กเนาะเพิ่น” เอ่อ เสียงนายเคนลอดมาครับ
   “อย่ามาเว้าแนวนี้เด้ งามบ่งามกะบ่สนคนคือเจ้าดอก”
   “ป้าด เป็นตาย้านหลาย โอ๊ย ตาหลูโตนผมแน๊คร้าบ อย่าสิมาแนมผมเถาะ ผมย้าน”
   “ว้าย บักอันนี่ จิกหัวเอาเด้ ปานเพิ่นหล่อกะด้อกะเดี้ยเนาะ หน้าคือแมวโพงนี่ล่ะ”
   “หวืย เพิ่นกะหน้าคือหอยไข่นี่เด้ล่ะ” “กรี๊ด” เอ่อ เขาคุยกันอยู่เหรอ ทำไมกรี๊ด
   “ฝ้ายๆ โอเคไหม อย่าทำไรกันนะ” ผมร้องออกไปครับ
   “โอ๊ยๆๆ ตีข่อยเฮ็ดหยังบ่านนี้ ป้าดคือมือหนักแท้ผู้สาว แม่นไปลักเตะมวยมาบ่น้อ” นายเคนมันยังไม่หยุดครับ อ้อ เสียงที่ลอดออกมามีเสียงลมโกรกด้วยนะแสดงว่ากำลังมา ผมทนฟังอยุ่สักพักสายก็หลุดไปล่ะครับ
   “ไมวะ ทำไมทำหน้าแบบนั้นเบบี๋” ไอ้เน่ามันเดินมาหาผมล่ะครับ
   “เหมือนจะทะเลาะกันเลยอ่ะเน่า” ผมชักสีหน้าไม่ดีครับ
   “ฮ่าๆ สัดเคนมันก็ปากหมาแบบนี้ล่ะ ไม่มีไรหรอกน่า เฮ้ย สู ขนของไปขึ้นรถแหมะ พวกนั้นมาสิได้ไป” ไอ้เน่ามันร้องบอกเพื่อนๆล่ะครับ พวกนั้นก็ลุกยกของขึ้นรถ
   “โอ้ย เป็นตาซังเนาะคนอำนาจนี่แหมะ ปากบ่ดีหลาย” เสียงฝ้ายดังขึ้นทันทีที่รถจอดล่ะครับ หน้าหงิกลงมาเลยนะผมรีบเดินเข้าไปหา
   “อุ่นๆ จัดการให้เฮาเด้อ เว้าโพดคือหยังนี่ล่ะ” ฝ้ายหันหน้าไปทางเคน ไอ้นั่นก็ทำหน้าทะเล้นใส่
   “เอาน่า ไม่มีอะไรหรอกฝ้าย นี่เพื่อนๆเรา ไม้ เล็ก จอย ส่วนนั่น”
   “ฮู้แล้ว เคน ตีนกบ” ฝ้ายมันพูดครับแล้วเหมือนจะอดขำไม่ได้ ผมเองก็หัวเราะ
   “ไรอ่ะเคนตีนกบ” “ป้าดๆ สาวฝ้ายเม็ดใน” นายเคนครับ ยอมที่ไหน
   “เบิ่งแน่ล่ะอุ่น มันว่าเฮาแหมะ” เอ่อ ทีตัวเองว่าเขาล่ะฝ้าย
   “บ่ถืกกันแนวนี้ บ่แม่นสิมักกันทีหลังเด้อล่ะฝ้าย บักเคนมันมักแท้เด้ล่ะ สาวแว่นนี่น่ะ” ไอ้เน่าแซวครับ
   “บักห่ามึง แม่นอยู่แล้ว สาวแว่นผู้อื่นเขากะผู้จบเป็นตาเบิ่งเด้ล่ะ นี่กูว่าแม่นใส่แว่นขยาย แม่นลักมาตาห้องวิทย์บ่น้อ ผู้สาวสกล”
   “กรี๊ดด บักอันนี้แหมะ สิตบเอาเด้ล่ะ ตัดมาแพงเด้นี่ บ่แม่นถืกๆ” เอ่อ สงครามเล็กๆครับ ฝ้ายมันกรี๊ดขึ้นมาทันทีเลยนะ ผมเองก็ตกใจ แต่เหมือนมันสองคนไมได้ทะเลาะกันหรอกนะครับเหมือนเล่นกันมากกว่า เพราะสีหน้าไม่จริงจัง
   “ไปๆสูมันสิสวย” ไอ้เน่ามันบอกล่ะครับแล้วเดินขึ้นรถไป ผมเองก็เดินตาม
   “เรานั่งหลังดีกว่า ท่าทางหนุกดี” ผมทำท่าจะปีนขึ้นนั่งกับพวกเพื่อนๆผู้ชายล่ะครับ
   “ไม่ได้ มึงมานั่งกับกูนี่” เอ่อ ไอ้เน่ามันตวาดมาครับ เพื่อนๆหัวเราะคิกคัก
   “แม่นแล้วล่ะอุ่น บัดยามไอ้เดี๋ยวเพิ่นอยากกินนั่นกินนี่ไผสิป้อน พวกเฮา ไม่ใช่แฟนทำแทนบ่ได้เด้อค่า” แล้วก็หัวเราะขึ้นพร้อมกัน แปลว่า? นี่แซวกูเหรอ แว้กก อายนะเว้ย
   “ก็อยากนั่งให้ลมโกรกอ่ะ” ผมท้วงมันล่ะครับ
   “เดี๋ยวไม่สบาย นั่งข้างในนี่ล่ะ ขึ้นมา” มันทำเสียงนิ่งๆครับ
   “ซั่นพวกเฮาไปนั่งหลังป่ะ เพิ่นสองคนคือสิมีแนวคุยกันเนาะ อิอิ” อ้าวๆ ปูครับดึงแขนฝ้ายกับจอยไปด้านหลัง
   “ไปนั่งหลังซ่อยเฮาด่าบักอันนั้นเด้อล่ะ” ฝ้ายครับ เอาไปเอามา กระเป๋าอยู่เบาะคนนั่ง มีผมกับไอ้เน่าอยู่หน้ารถสองคน ส่วนท้ายรถนายไม้ดีดกีตาร์ร้องรำทำเพลงแล้วครับ ผมหันไปมองตาปริบๆ ไรอ่ะ อยากจะสนุกกับเพื่อนแบบนี้บ้างนะ
   “อยากไปสนุกกับพวกมันว่างั้น” ไอ้เน่ามันถามครับ รู้แล้วไม่น่ามาถามนะมึง
   “เออดิ นั่งอยู่ในนี้ไม่เห็นมีไรทำอ่ะ”
   “อ้าว มึงไปแล้วกูล่ะวะสัด” อ่า ผมอ้าปากค้างเลยครับ มันหันมาพอดี
   “ไปไหนก็ได้ที่มีกูไปด้วย เข้าใจไหม” อายสิครับ แหมนะยิ่งไม่มีเพื่อนมันยิ่งเอาใหญ่เลยนะไอ้เน่า
   “อยากได้ยินเพื่อนร้องเพลงอ่ะ” มันเสแสร้งไปล่ะครับ
   “งั้นกูปิดแอร์นะ” มันพูดแล้วลดกระจกรถลงทันทีครับ เสียงร้องเพลงดังเข้ามา ลมก็โกรกทันที ผมยิ้มออกมา
   “น่ารักนะเนี่ยเน่า” ผมยิ้มให้มันครับ
   “กูรู้เว้ย ไม่น่ารักอย่างเดียวนะ เจี้ยวใหญ่ด้วย ฮ่าๆ”
   “อ่านะ ใหญ่แล้วไงอ่ะ ทำไรก็ไมได้” แว้กก ทำไมพูดแบบนั้นอุรดิศ ไปเปิดช่องให้มันทำไมเนี่ย ตายๆอยากจะตบปากตัวเองจังเลย
   “เออ คืนนี้ล่ะกูจะทำให้ได้ มึงคอยดูเถอะ จะเอาให้บานเลย” มันทำสีหน้าจริงจังล่ะครับ เห็นไหมอุรดิศพูดไม่คิดแล้วเป็นยังไง ตายๆคืนนี้ต้องเกาะกลุ่มเพื่อนเอาไว้ให้ดีๆ
   “ไม่ต้องคิดจะอยู่กับเพื่อนหรอกนะ กูจะบอกพวกมันเองว่าคืนนี้กูกับมึงจะเอากัน”
   “บ้าเหรอเน่า พูดไรอ่ะ ไม่อายไง”
   “อายจะพูดเหรอวะ อายกูก็ไม่ได้มึงสักทีดี แม่งเมื่อคืนเป็นไรไม่รู้ กูไม่เข้าใจ”
   “เนอะ ทีกับคนอื่นคงจะหลายยกแล้วสินะ” อ้าว อุรดิศ โอ๊ย พูดอะไรออกไปเนี่ย คือว่าไม่ได้คิดเลยนะประโยคนี้อ่ะมันออกไปเอง ไม่พอใจอ่ะไม่รู้สิ
   “งอนเหรอ งั้นกูทำกับมึงห้ายกก็ได้ จะได้ทำลายสถิติ” มันทำเป็นเล่นครับ ผมรู้สึกจี๊ดในใจขึ้นมา
   “เราไม่ใช่ตัวทดลองสถิติให้นายนะ”
   “แป่ว งอนจริงอ่ะเบบี๋” มันหันหน้ามาทำท่าล้อเลียนครับ ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไอ้ลมบ้านี่ก็พัดซะต้องหลับตาเลยนะ
   “อย่างอนดิ นั่นมันแต่ก่อนเว้ย ตอนนี้มีมึงคนเดียวไง”
   “เปิดเพลงได้ป่ะ อยากฟังเพลง” ผมหันมาล่ะครับไม่มองหน้ามันเอื้อมมือจะไปเปิดเพลง
   “เออ งอนได้งอนไปวะ แม่งพูดเรื่องจริงทำงอน ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริงๆนะ”
   “ใครผู้หญิง เราไม่ใช่ผู้หญิง” ผมแว้ดเสียงใส่มันทันทีครับ
   “อ้าว ไม่ใช่ไมงอนวะ” “ใครงอน เราไมได้งอน” “ไม่งอนทำไมทำหน้าเป็นตูดแบบนี้”
   “ไม่พอใจ ไม่ใช่งอน” “เหมือนกันไหมนั่นสัด”
   “ไม่เหมือน ยังไงก็ไม่เหมือนวะ” ผมเริ่มรำคาญมันล่ะครับ แหกปากใส่เต็มที่
   “โว้ พูดวะกับผัวเลยนะมึง อยากตายเหรอ”
   “แล้วทีตัวเองล่ะ พูดเพราะมากว่างั้น คำก็สัดสองคำก็เชี่ย พูดจนชิน จนมันสิงอยู่ในปากแล้วใช่ไหมล่ะ” ผมไม่ยอมครับ มันทำหน้าเหวอๆแล้วนิ่งไป
   “เออๆ กูขอโทษ กูไม่ชินนี่หว่า กูนึกว่ามึงไม่ถือ” มันทำเสียงอ่อยๆล่ะครับ ผมเองก็สะอึกไป นี่กูพูดแรงไปเหรอ สรุปว่าเราเงียบไปประมาณห้านาที
   “เบบี๋ เค้าหิวน้ำอ่ะ” มันหันมายิ้มเขินๆให้ผมล่ะครับ แหมนะมีด้วยหน้าแบบนี้
   “อ่ะ” ผมเลยยื่นมือไปเบาะท้ายควานหาน้ำขวดมาเปิดแล้วเอาหลอดใส่ยื่นไปให้มันล่ะครับ
   “กินหนมด้วยได้ป่ะอ่ะตัวเอง” เอ่อ เยอะไปไหมเนี่ย
   “นี่เน่า ไม่ต้องฝืนหรอกนะ อยากพูดอะไรก็พูดเถอะ จะเชี่ยจะสัดก็พูดมาเถอะ ถ้าให้นายพูดแบบนี้เราเองล่ะที่อึดอัด” มันจริงนะ ผมไม่ใช่รับไม่ได้นะแต่บางทีมันก็มีบ้างล่ะนะ แหมเรียกปาวๆว่ากูเป็นแฟนนะ แต่เวลาพูดกันนี่เหมือนด่ากูล่ะ แต่จะไปว่ามันก็ไม่ถูกเหมือนผมเองล่ะที่ชอบแบบที่มันเป็น
   “ไม่เอาอ่ะ กลัวเบบี๋ไม่ชอบ” มันเหมือนล้อผมเลยนะครับ
   “ชอบ พูดๆมาเถอะ อย่ามาแอ๊บ แอ๊บเก่งนะเน่า ไหนบอกไม่ใช่ตุ๊ด”
   “สัด ใครตุ๊ด กูติดมาจากมึงนั่นล่ะ” ผมกลั้นหัวเราะครับ หนอยแน่คิดว่าจะไปได้สักกี่น้ำคนเรานะ ทีนี้มันก็หัวเราะออกมาล่ะครับ
   “นี่แกล้งกูเหรอมึงไอ้เบบี๋” มันหันมายื่นมือมาด้วยนะ
   “นี่ๆ ขับรถอยู่นะคุณ” “เออ ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ลงเมื่อไหร่กูข่มขืนมึงแน่ๆ” อ่านะ
   “โอ๊ย อย่านะเน่า อย่าข่มขืนเรานะ เรายอมเองดีกว่า อิอิ” ผมแลบลิ้นใส่มันครับ มันหน้าแดงแต่ก็ยิ้ม เอ๊ะ นี่ผมกับมันเยอะไปหรือเปล่าครับ ไม่รู้สิเพราะตอนนี้เพื่อนๆยื่นหน้ามาโห่อ่ะ เคาะกระจกด้วย อายจัง

ยังมีต่อนะคร้าบ

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
“บู๊ย น้ำคือขุ่นแท้ล่ะ สิลงได้บ่น้อ” พอถึงฝ้ายมันก็ลงก่อนใครล่ะครับมีไอ้เคนตามติด เหมือนจะเถียงกันมาตลอดทางเลยนะนั่น
   “ไปติดต่อเจ้าของบ้านก่อนเถอะ” ผมบอกครับแล้วเอาเอกสารที่พ่อจัดการให้ออกมาจากกระเป๋า
   “มาโฮมสเตย์แม่นบ่หล่า” ตอนที่เราลงมาจากรถหมดแล้วมีป้าแก่ๆคนหนึ่งแกเดินมารับล่ะครับ
   “แม่นยาย ยายบ่เจ้าของบ้าน” ไอ้เน่ามันถามขึ้นล่ะครับ
   “แม่นแล้วหล่า ยายเตรียมห้องไว้ให้แล้ว” พอยายแกออกตัวพวกเราก็ยกมือขึ้นไหว้แกล่ะครับ
   “แต่น้ำหลายเด้อหล่าซ่วงนี้ อย่าสิลงเล่นน้ำกันเด้อ มันไหลแฮงคั่ก” ยายแกพุดไปเรื่อยๆล่ะครับระหว่างเดินนำหน้าเราไปยังบ้านพักที่แกเตรียมไว้
   “ยายๆ เฮือนยายอยู่ติดน้ำบ่จ้า” ปูมันถามครับ
   “ติดล่ะเนาะอีนาง น้ำหลายมันโซ่ฮอดนอกซาน ยามหน้าแล้งย่างไปไกลเติบอยู่”
   “แล้วยายอยู่กับไผครับ” นายไม้ถามครับ
   “ยายอยู่ผู้เดียวหล่า ลูกมันไปเฮ็ดงานอยู่กรุงเทพฯ” ยายแกก็แนะนำนั่นนี่ไปตามเรื่องล่ะครับ พอถึงบ้านก็ขึ้นไปบนบ้าน คือเหมือนว่าบ้านยายแกจะติดตลิ่งแม่น้ำเลยนะครับ เพราะเสาบ้านครึ่งนึงมันยื่นออกไปในแม่น้ำนอกชานเหมือนว่าจะหย่อนเท้าลงไปแช่น้ำได้เลยนะ แต่ทางขึ้นบ้านเป็นเนินน้ำไม่ถึงครับ
   “บู๊ยยาย คั่นน้ำมาหลายๆนี่มันบ่ท่วมเฮือนเอาติ๊” ไอ้เล็กถามครับพวกเราก็คิดเหมือนกัน
   “ท่วมอยู่หล่า ยายไปอยู่เฮือนเทิง เฮือนลูกเขย” ยายแกบอกล่ะครับ นี่แสดงว่าเราโชคดีนะเนี่ยที่น้ำมันยังมาไม่มากนัก สภาพบ้านไมได้ดีเด่อะไรหรอกนะครับ เป็นบ้านไม้ยกใต้ถุนสูง แบ่งเป็นแค่สองห้องคือยายแกให้เราอยู่ห้องหนึ่ง ส่วนอีกห้องเหมือนแกจะอยู่เอง นอกชานก็กว้างขวาง ลมโกรกมาเย็นสบายดีนะ ผมวางของแล้วไปถ่ายรูปกับเพื่อนๆริมน้ำที่นอกชานบ้านล่ะครับ ส่วนไอ้เน่ามันก็ไปถามเรื่องต่างๆเช่นทำกับข้าวได้ไหม หาซื้อปลาหรือข้าวได้ที่ไหน ประมาณนี้ ยายแกก็บอกแกคงเห็นพวกเราเป็นเด็กด้วยล่ะครับแกจึงขนของใช้ออกมาให้เยอะแยะเลย
   “ยายสินึ่งเข่าเผื่อเด้อหล่า บ่ต้องซื้อดอกเข่าน่ะ ปลายายกะมีแต่ปลาบู่ใส่ไซไว้ มันบ่มีผู้ไปหา คั่นพวกเจ้าอยากได้ยายสิไปบอกยายหนาดเราเอามาขายให้ เพิ่นขายปลามีหลายอย่าง คันอยากได้ผักอยู่ทางเข้าบ้านมีฮ้านยายทอง ไปเบิ่งเอาเด้อหล่า” ยายแกบอกล่ะครับผมนั่งฟังอยู่อมยิ้ม คือพ่อผมจ่ายเงินให้นะครับมันไม่ได้เยอะแยะอะไรเลยนะ แต่ผมรู้สึกว่ายายแกน่ารักจังเลย ไม่รู้สิผมสัมผัสได้คือไม่เหมือนเห็นแก่ธุรกิจจนเกินไปล่ะครับ
   “นอนจั่กงีบแน่เด้อพี่น้อง ข่อยบ่ได้นอนเหมิดคืนเอาโลดมีคนกวน” เอ่อ พอยายแกเดินไปหาของให้เราไอ้เน่ามันก็ขึ้นมาบนบ้านล่ะครับ มันเดินไปหยิบหมอนมาแล้วลากเสื่อมาปูตรงริมของนอกชาน แค่มันพูดขึ้นเพื่อนๆก็กรี๊ดกร๊าดเสียงดัง
   “พอแม่นน้อ ในรถกะหวานกัน จนเฮาว่าอยู้ได้กลิ่นหยังหวานๆ คั่กน้ออุ่น” สาวฝ้ายครับ เอ่อ หมายถึงกูเหรอ
   “บ้าเหรอฝ้าย” ผมอายล่ะครับ
   “พากันนอนเว็นซะเนาะ ค่ำๆจั่งพากันไปตลาด” นายเคนพูดขึ้นล่ะครับ
   “หวืย มาตั้งกวงตั้งไกลสิพากันมานอน ไอ้เดี๋ยวเพิ่นนอนมันกะบ่แปลกดอกค่า เพราะเพิ่นขับรถ แต่คนบ่ได้ขับรถกะสินอนเนาะ เป็นตาขี้คร้านหลายผู้บ่าวทางนี้” ฝ้ายครับ อ้าวๆ เปิดศึกกันอีกแล้ว
   “ป้าด ผู้สาวเจ้าบ่นอนก็พู้นเด้ ไปนั่งตากแดดอยู่พู้นติ๊ล่ะ แห่งดำๆอยู่ ไปโลดพากันไปอาบแดด”
   “ว้าย โพดหลายบักห่านี่” พวกเราหัวเราะกันขึ้นอีกครั้งล่ะครับ ฝ้ายมันทำหน้างอประหลับประเหลือก
   “ไปย่างถ่ายรูปบ่อุ่น ไปเบิ่งไทบ้านเพิ่นเฮ็ดหยังแน่” จอยมันชวนล่ะครับ ผมเห็นดีด้วย สรุปก็มีผม จอย ปู ฝ้ายและเล็กเดินออกไปถ่ายรูปตามหมู่บ้านล่ะครับ ส่วนที่เหลือ มีไอ้เน่ามันนอน นายเคนกับไม้ เอ่อ ดวลแสงโสมกันครับ มันบอกว่าขอนำหน้าไปก่อนตอนเย็นค่อยกินว้อดก้า อ่านะ มีแบบนี้ด้วย
   “อ๊ะ ยายเขาทอเสื่อเหรอจอย” พอเดินเข้าไปในหมู่บ้านผมมองไปใต้ถุนบ้านก็เห็นยายคนหนึ่งกับตากำลังทอเสื่ออยู่ล่ะครับ
   “แม่นๆ เพิ่นต่ำสาด อยู่เฮือนเฮากะว่าสิต่ำอยู่แต่ผือมันบ่ทันใหญ่ แถวนี้ผือใหญ่ไวเนาะ” เอ่อ งงสิครับ พวกเราเลยเดินเข้าไปใต้ถุนบ้าน หลังจากยกมือไหว้ทักทายตากับยายเสร็เราก็นั่งล้อมวงล่ะครับ คือเพื่อนๆน่ะเขาไม่สนใจเท่าไหร่หรอกครับ มีผมนี่ล่ะที่กดชัตเตอร์รัวๆ ไม่เคยเห็นนี่นา
   “อันนี้ต้นผือเหรอครับยาย” ผมถามครับยิ้มให้แก ยายแกกินหมากปากแดงแจ๋เลยนะ น่ากลัวมากๆ
   “บ่แม่นดอกหล่า กก ผือซุมนั้น ยายฟ้าวต่ำก่อนปีนี้กกบ่หลาย ผือจั่งสิต่ำ” หันไปหาจอยทันที
   “อ้อ มันมีสองชนิดตั้วอุ่น อันนี้ต้นกก พู้นต้นผือ ต้นกกมันสิกลมๆ ต้นผือมันสิเป็นเหลี่ยมๆ กกทนกว่าผือเด้เนาะยาย” จอยมันหันไปถามยายล่ะครับเหมือนมันจะแปลให้ผมฟังนะแต่ เอ่อ งงอ่ะ
   “ห่วย บักหล่ามาแต่ไทยซั่นติ๊ กะบ่บอกยายเนาะ ยายสิได้เว้าไทย” ฮ่าๆ ยายแกพูดแบบว่าตลกมากๆครับ ผมหัวเราะออกมาเลยนะ
   “ผืมันบ่ทนเท่าต้นกก ต้นกกมันสิเส้นน้อยๆ ต่ำโดนหลาย” ฮ่าๆ ยายแกพูดสำเนียงไทยนะครับแต่ว่า มันน่ารักอ่ะ
   “ยายย้อมสีเองเหรอครับ” ผมยังสนใจอยู่ครับ
   “ย้อมเองล่ะบักหล่า ย้อมทีละหลายๆ พู้นเด้เพิ่นย้อมแล้วตากไว้ คือสิได้อยู่ดอกจักสามสี่ผืน” ตาแกพูดบ้างครับชี้มือไปที่ราวตากมัดต้นกกที่ย้อมสีแดง เขียว น้ำเงินไว้เต็ม ผมเดินไปดูทันที
   “ฝ้ายๆ ถ่ายรูปกัน” ผมชวนล่ะครับ เอาไปเอามาก็ฮือฮาอยู่ตรงนั้นสักพักแล้วก็ไปต่อ วิถีชีวิตแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะผมว่า มันไม่ต้องแข่งขันอะไรกับใครมากมาย ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวดูแน่นแฟ้นดีนะ อย่างยายกับตา ผมแอบถ่ายรูปมาด้วยล่ะมองอยู่แล้วสะท้อนใจยังไงไม่รู้อ่ะ คิดถึงแม่จัง
   “ไปวัดป่ะ” ปูมันชวนล่ะครับพอเดินผ่านมาเห็นกำแพงวัด พวกเราก็ตามกันเข้าไป แต่พอก้าวเข้าไปก็หยุดกึกลงเกือบพร้อมกันเพราะมันมีกลุมเด็กวัยรุ่นอายุน่าจะไม่แตกต่างจากพวกเรามากนัก แต่มีบางคนที่ยังเด็กอยู่ล่ะครับ
   “อย่าสิปากเด้อ” จอยมันกระซิบบอกล่ะครับ พวกเราเดินผ่านไปช้าๆ
   “แม่นผู้ได๋นี่ พากันมาแต่ไสน้อผู้สาว” เสียงคนแซวขึ้นล่ะครับ
   “ฮ่วยถามกะบ่ปาก คืออ่งแท้ล่ะผู้สาว คนผู้งามคือพากันอ่งแท้”
   “อ่งตั้วค่า บ่ได้ผู้ฮ้ายสิมาหาแซวผู้บ่าว เป็นคนผู้งามค่าเลยอ่ง” เอ่อ ฝ้ายครับ ไวไปไหมเธอพวกเราหน้าซีดกันเกือบทั้งหมดเลยนะ พอมันพูดไปแล้วจึงเหมือนจะรู้ตัว
   “ป้าด คือมั่นใจแท้ แม่นพากันมาแต่ไสล่ะคนผู้จบ” ไอ้เด็กคนหนึ่งมันถามขึ้นล่ะครับแล้วก็ปรี่เข้ามาหาเราด้วยนะ
   “มาแต่อำนาจ ในเมืองจ้า มาเที่ยวสิมาไหว้พระ” แหมทีแบบนี้ล่ะทำเสียงอ่อนเสียงหวานนะ
   “อ้อคนในเมืองติ๊ ว่าอยู้คือผู้จบแท้ สิไปไสบอกได้เด้อ ข่อยสิพาไป อิอิ” มันพูดล่ะครับ พวกเรารีบเดินไปทันที
   “อย่าสิไปปากกับเขากะบ่ฟังเนาะโตน่ะฝ้าย แม่นพวกมันสิมากวนบ่น้อยามแลงน่ะ”
   “เฮาลืมแหม่ะจอย ซังคนแซวคั่ก อยู่นั่นกะพ้อบักเคน มานี่กะพ้อซุมนี้ ซาดบ่มัก”
   “บ่มักกะทนเอาล่ะเนาะ บ่แม่นถิ่นเฮาเด้นี่” จอยมันพูดล่ะครับ ผมเห็นด้วยกับมันนะ พวกเราเดินขึ้นไปบนศาลาล่ะครับ เป็นศาลาปูนพระประธานองค์ใหญ่พอสมควร
   “ศีมเพิ่นงามเนาะ” ปูพูดขึ้นล่ะครับ ศีม? อ้อ คงจะหมายถึงศาลาการเปรียญนี่ล่ะครับ
   “เบิ่งซ่อฟ้าใบระกาแน่ล่ะ” อ้าว ไม่ใช่ครับ เพราะปูมันหันหน้าไปทางโบสถ์ ศีม? คือโบสถ์เหรอ แล้วศาลาล่ะ
   “หัวแจกกะใหญ่คั่ก” งงครับ ผมเลยสะกิดถามจอย ถูกแล้วล่ะครับ ศีมคือโบสถ์ หัวแจกคือศาลาการเปรียญ อืมน่าสนใจดีนะภาษาถิ่น พอกราบพระเสร็จพวกเราก็เดินลงมาเดินรอบๆศีมล่ะครับถ่ายรูปกันนิดหน่อยแล้วก็เดินออกมา ขาออกมาพวกเราไม่พูดครับ แต่ไอ้พวกนั้นมันขับรถเครื่องตาม เอาไงดีวะเนี่ย
   “เฮ็ดจั่งได๋น้อบ่านนี้” จอยมันเครียดครับ ผมเองก็เริ่มเครียดไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายจริงๆนะ
   “ไปเฮือนแม่ใหย่ว่างฮั่นบ่ ทำทรงเป็นหลานเพิ่น” เล็กมันเสนอครับ พวกเราเห็นดีด้วยเลยกลับไปที่บ้านยายที่ทอเสื่อต้นกก พอไปถึงก็ไปคุยกับแกล่ะครับ ไอ้เด็กพวกนั้นมันก็เข้ามาวุ่นวายด้วยนะ
   “แม่นสูมากวนเพิ่นเฮ็ดหยังบักสร ไปไกลๆเด้อ กูสิไปบอกผู้ใหย่บ้านเด้ แขกบ้านแขกเมืองสิมาเฮ็ดให้เสียหน้าเสียตา ไป” ยายตวาดไปครับ ไอ้พวกนั้นหน้าจ๋อยลงทันที ไม่นานพวกมันก็พากันไปล่ะครับ
   “ขอบคุณนะครับยาย” พวกเรายกมือขึ้นไหว้แกล่ะครับ
   “บ่ต้องย้านเด้อหล่า พวกนี้มันเด็กน้อยอึดเวียก บ่มีแนวเฮ็ดดอก คั่นมีอีหยังให้บอกแม่ใหย่น้อยโลด เพิ่นสิไปบอกผู้ใหย่บ้าน” ยายแกแนะนำล่ะครับ พวกเราจึงรีบกลับมาที่บ้านพัก ไอ้เน่ามันยังนอนอยู่เลยนะครับ แต่ เอ่อนะ ผมรีบเดินไปเอาผ้าเช็ดตัวออกมาจากกระเป๋าปิดเป้าให้มันล่ะครับ จะโด่ไปไหนเนี่ย
   “ว้าย อย่าฟ้าวๆพวกเฮา ให้อุ่นเพิ่นคัวผู้บ่าวเพิ่นก่อน อิอิ” จอยครับ แหมนะ หรือจะดูล่ะผมน่ะไม่อายหรอกนะกลัวพวกเธอนั่นล่ะจะอาย ส่วนนายเคนกับนายไม้แก้มแดงแล้วครับ
   “ได้หยังมาฝากล่ะผู้สาวสกล” นายเคนครับ เออนะ ว่าไปมันสองคนนี่ชอบกัดกันจริงๆนะ
   “ได้แต่ฝ่ามือนี่ล่ะค่าผู้บ่าวอำนาจ ลองซิมบ่แซ้บแซ่บ” ฝ้ายก็นะ ฮ่าๆ
   “ป้าด สิเป็นตาย้านแท้ มาๆกินเหล้านำอ้ายแน่ะ มานั่งข้างๆแน่น้า เห็นว่าผู้งามกะดาย”
   “บ่ค่า ฉันบ่กินเหล้ายามกลางเว็นเด้อค่า มันคะลำ ค่ำมาจั่งว่ากัน อิอิ” ผมอมยิ้มเลยนะครับ ตอนนี้ปูกับจอยเดินไปหยิบหนังสือออกมาปูเสื่อนอนอีกฝั่งหนึ่ง เคนกับไม้นั่งอยู่ตรงบันไดแถวๆนั้นล่ะครับ ถัดมาก็ไอ้เน่า มันนอนเหงื่อแตกเต็มหน้าเลยนะคงจะร้อน ตอนนี้ลมไม่พัดเท่าไหร่ พัดลมปูกับจอยเอาไปแล้ว อีกตัวเคนกับไม้ก็ใช้อยู่ ส่วนฝ้ายก็ตามไปสมทบกับเพื่อนๆที่อ่านหนังสือกัน
   “มาๆเฮาติวให้” ปูมันหยิบหนังสือออกมาล่ะครับ
   “ว้าย โพดแท้ค่าเธอ มาเที่ยวเอาหนังสือเรียนมานำ” จอยมันร้องขึ้นล่ะครับ
   “มันติดเนาะ ดีกว่าอยู่ซื่อๆเด้ล่ะจอย” จอยมันหันมามองผมล่ะครับ ผมก็พยักหน้า อยากจะไปติวด้วยนะแต่สงสารไอ้เน่ามันอ่ะ มันนอนเหมือนจะร้อนเลยนะ ผมเลยเดินไปหาพัดที่ครัวใต้ถุนบ้านมานั่งพัดให้มันครับ
   “เบิ่งเอาเด้อพี่น้อง นี่ล่ะเขาว่าคนฮักกัน โอ๊ย ข่อยอิจฉาเด้” นายไม้ครับมันร้องขึ้น อ่านะ ผมนั่งนิ่งตัวเกร็งเลยนะ
   “แม่นๆ ยามนอนกะมีคนมาพัดมาวีให้ซาดดีวะ บักเดี๋ยวมันโซคดีคั่ก” นายเคนเสริมล่ะครับ
   “อ้าว ก็นายมีพัดลมนี่” ผมตอบไปครับ
   “อย่าไปแซวเพิ่นหลายสู กินกะกินไปแน่ะซุมบ่มีคนฮัก ดีแต่หล่อบ่เป็นตาเอาเนาะ” ฝ้ายครับ มันดอดขึ้นผมอดขำไม่ได้ พวกสาวๆก็เฮกันขึ้น
   “บู๊ยเว้าปานเพิ่นมีผู้บ่าวน้อผู้สาว ไผน้อสิเป็นผู้บ่าวโซคร้ายผู้นั่นแหม่ะ” นายเคนครับ
   “กรี๊ด บักเคน โพดไปหลาย” เอาไปเอาก็เสียงดังมากครับไอ้เน่ามันงัวเงียแต่ไม่ตื่นมันเอาขามาพาดตักผมแล้วนอนคว่ำ อ้าวไอ้นี่ กูจะลุกไปไงล่ะทีนี้
   “เป็นจั่งได๋หล่า มีหยังขาดเหลืออยู่บ่” มีเสียงลุงคนหนึ่งดังขึ้นล่ะครับแกเดินขึ้นมาบนบ้านด้วยนะ
   “สวัสดีครับพ่อลุง ตอนนี้ยังบ่ขาดครับ” นายไม้มันตอบครับ
   “พ่อเป็นพ่อใหย่บ้านเด้อ อบตเพิ่นฝากมา ไสล่ะลูกปลัด” เอ่อ ผมรีบหันไปยกมือไหว้แกล่ะครับ
   “ผู้นี่บ่ บู๊ยคือผู้จบผู้งามสมกับลูกปลัดแท้น้อ บ้านพ่ออยู่หลังถัดไปนั่นล่ะเด้อหล่า บ่ต้องย้านหยังดอก พ่อสิเบิ่งให้ เมื่อแลงกะสิให้เด็กน้อยมานอนอยู่ตาล่างเฮือนเฝ้าให้ เที่ยวให้ม่วนโลดเด้อ แนวอยากแนวกินยายน้อยเพิ่นบอกแล้วแม่นบ่หล่า มีหยังย่างไปเฮือนพ่อโลดเด้อ” อ้อ ผู้ใหญ่บ้านนั่นเองครับ แกคงเดินมาบอกพวกเราขอบคุณแกแล้วแกก็คุยด้วยสักพักก็ไปล่ะครับ ตอนนี้ลมเริ่มมาแล้วแต่ไอ้เน่ามันยังไม่ตื่น เพื่อนๆเงียบเสียงไปแล้วครับ กลุ่มดูหนังสือเหมือนจะนอนกัน ส่วนพวกกินเหล้าก็คุยเรื่องบอลนะเท่าที่ได้ยิน ผมนั่งมองดูไอ้เน่าอย่างพิจารณา ทำไมนะ ทำไมผมถึงได้ชอบมันมากขนาดนี้ มันเริ่มมาตั้งแต่ตอนไหนกันนะความรู้สึกนี้ ยิ่งมองผมยิ่งหวงแหนมันมากขึ้น ยิ่งมองผมยิ่งรู้สึกชอบมันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นหัวเกรียนๆของมัน ท่าทางกวนๆ เท้าที่ใหญ่กว่าผมมาก ไม่สิทั้งมือทั้งเท้า ผมเอามือแตะที่มือของมันล่ะครับ ตอนนี้มันคงไม่ใช่ผมชอบมันแล้วล่ะนะผมว่า ความรู้สึกนี้แม้แต่กับโจ้มันก็ไม่เคยมี ผมว่าผมรักมันแล้วล่ะครับ รักแกนะไอ้เน่า

เขียนโดย อิ๊กกี้

ปล. ตื่นมากินข้าวนิเลยแอบมาลง อิอิ

ออฟไลน์ gupalz

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4911
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +604/-20
มันหวานกันจริงๆ

ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
อุ่นรักเดี๋ยวแล้ววว แล้วเน่ารักเบบี๋หรือยัง :-[

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
กรี๊ดๆๆๆ หวานกันจังเนาะคู่นี้
อิจฉาหล๊ายหลาย :-[

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดด ตอนนี้หวานเว่อร์ชอบมากกกกก ไม่มากไป ไม่น้อยไป ชอบมากๆๆๆๆๆๆ อิอิ เย็นนี้ไปทำงานอย่างมีความสุขล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2012 16:10:33 โดย mr.tou_chi »

ออฟไลน์ art

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 134
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
หวานไปไหนเนี่ยยย  :-[ :-[

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป
หนูอุ่นกับบักเดี๋ยวหวานกันมากเลย อิ  อิ :o8:

ออฟไลน์ omyim_jjj

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
อุ่นน่ารักดีอ่ะ :call: :call:

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook
อุ่นรักเดี่ยวแล้ว เย้ๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
« ตอบ #639 เมื่อ: 23-06-2012 18:15:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
หวานกันแท้ :L1:

kanda53

  • บุคคลทั่วไป
นู๋อุ่นหวานนนน...ถ้าเจ้าเดี๋ยวรู้ว่านั่งพัดวีให้ขนาดนี้
คงทั้งรักทั้งหลงขึ้นอีกพะเรอเลย...อิจฉาแท้เด้เจ้าเดี๋ยว  :-[

 :L2: น้องอิ๊ก  :กอด1:

ออฟไลน์ thanatphon

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
 :-[ :-[

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น้องอุ่นท่าทางจะเป็นแม่บ้านที่ดีเนาะ ดูแลใส่ใจเดี๋ยวซะ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อ่า....รักเรื่องนี้จัง บรรยายทุกอย่างจนผมอยากจะหลุดเข้าไปเจอบรรยากาศแบบนั้นบ้าง

theWinDy

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ น่ารักมากๆเลยอ่ะ ตั้งกะฉากนั่งข้างคนขับแหละ
นะ แล้วยังมานั่งพัดให้เดี๋ยวอีก แถมตอนนี้ยังรู้ใจตัวเองด้วย
ตอนหน้าจะหวานกันขนาดไหนน้า... :-[

ขอบคุณจ้า  :pig4:

Supermimt

  • บุคคลทั่วไป
รักแกนะไอเน่า '   :o8:

รู้สึกหลังๆ บักเน่า นิ บ่มี บทบาทเลยนะ :sad4:

หวานจังเลยอ่า กุ๊กกิ๊กๆ

เดี๋ยว อ่า หื่นตล๊อดดดดดดดดดดด :z1:

ออฟไลน์ Homepage

  • 520 - 我爱你
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-1
รักแกนะไอ่เน่า
ประโยคนี้น่ารักมากเลย เขิลอ่ะ อ่านแล้วเขิลเอง อิอิ

lvlax23

  • บุคคลทั่วไป
บอกได้คำเดียว น่ารักอะ :o8: น่ารักอะ  :o8:น่ารักค่ะ :o8:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สารภาพว่า บางประโยคอ่านไม่รู้เรื่ิองอ่ะค่ะ  :a5:



แต่รู้ว่าเค้าหวานกัน แค่นี้ก็วี๊ดวิ้วแย้วววว  :-[ :-[ :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: Don't call Me BaBy!! ตอน 18 Version (อุ่น) 23 June 12 หน้า 22
« ตอบ #649 เมื่อ: 24-06-2012 11:00:27 »





ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
สวีทโฮมสเตย์ อิจฉาน้องอุ่นนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ ToffeE_PrincE

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-4
หนูอุ่นหลงไอเน่าแล้วสินะ :impress2:

 :กอด1:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
รักกันแล้วหรอ อิอิ

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
รักนะเน่า   :-[ :-[ :-[

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8: :L2: :L2:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
แหม๋ อุ่นรักเน่าจนขึ้นสมองแล้วนะ จนฟังภาษาอีสานเก่งแล้ว หัดฟังไม่รู้เรื่องบ้างสิ บางประโยคมันงงน่ะ (ขี้เกียจเดา)
คนเขียนจะได้แปลให้บ้าง อิอิ คนอ่านจะได้ไม่ต้องคิดหาความหมายให้ยุ่งยาก 555 เน่าก็หัดพูดเพราะๆบ้างนะ

lvlax23

  • บุคคลทั่วไป
คุณเอกกี้ หายไปไหนค่ะ แฟนคลับคิดถึงงงงงง :m15: :really2: :really2: :really2: :m15:

pjny_tem

  • บุคคลทั่วไป
รับมาต่อเร็วๆนะค่ะ คิดถึง :monkeysad:

mr.tou_chi

  • บุคคลทั่วไป
คนเขียนหาย ยังไม่มาต่ออีกหรออออออออ คิดถึงงงงงงงงงงงง นี้มัน4วันแล้วน่ะ  :m15:  :m15:  :m15:

ออฟไลน์ eiky

  • Played Me!!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1760/-3
You’re My BaBy!!

   “อือ กี่โมงแล้ววะ” ทำไมมันอ้าวอย่างนี้วะเนี่ย นอนไปนานแค่ไหนไมรู้แต่รู้สึกตัวเพราะเหมือนมีใครมากระดุกกระดิกอยู่ข้างๆผมล่ะครับ
   “อือ” อ้าว ไอ้เบบี๋มันมานอนข้างๆผมตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ผมลุกขึ้นนั่งมองไปรอบๆ ฝั่งหนึ่งสาวๆนอนหลับกันอยู่ อีกฝั่งสัดเคนกับสัดไม้ก็นอนเผ้าขวดเหล้าอยู่ ผมหันมามองไอ้เบบี๋ในมือมันมีพัดนะ นี่มันมานั่งพัดให้ผมหรอกเหรอ
   “เบบี๋ๆ” ผมปลุกมันล่ะครับ
   “หือ ตื่นแล้วเหรอเน่า ร้อนเหรอ” มันงัวเงียตื่นครับ
   “ร้อนดิ มึงพัดให้กูเหรอ”
   “อื้ม เห็นนายร้อนอ่ะ” “น่ารักนะเนี่ย” “อ่า จะทำไรอ่ะ เพื่อนๆอยู่นะ” พูดจบผมก็จะยื่นปากไปหอมแก้มมันล่ะครับ มันก็หลบตามประสา
   “อยู่ก็ช่างดิ พวกมันหลับแล้ว” ผมยักคิ้วให้มัน
   “ไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ เหมือนจะค่ำแล้วเลยอ่ะ”
   “ค่ำไรสี่โมงเอง” เอาไปเอามาเราก็เดินลงมาล้างหน้าล้างตาที่ข้างล่างล่ะครับ สักพักก็ปลุกเพื่อนๆให้ตื่นเพราะต้องไปซื้อของมาทำอะไรกินกันด้วย
   “จอยไปตลาดกันป่ะ” ไอ้เบบี๋มันชวนสาวจอยล่ะครับ เพราะพวกนั้นแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกผมว่าจะไปกับมันนี่ล่ะครับ แต่สาวจอยไปด้วยก็ไม่เป็นไร
   “อืมไปดิ” พวกเราสามคนเดินเข้าไปในหมู่บ้านล่ะครับ
   “ยายๆ พวกผมสิไปตลาดไปทางได๋เกาะครับ” พอดีเห็นยายเดินมาล่ะครับ
   “ย่างนำทางนี่ล่ะบักหล่า ฮ้านยายทองเด้อเพิ่นขายผักขายปลา บอกว่าพวกโตมาอยู่เฮือนยายน้อยว่าซั่นเด้อ” ยายบอกครับ ผมก็เลยเดินนำไปเรื่อยๆ ชาวบ้านคงยังไม่กลับจากทำไร่ทำนากันเพราะมันยังไม่ค่ำมากครับ
   “สิพากันเฮ็ดหยังกินล่ะเดี๋ยว ผักน่ะสิเอาไปเฮ็ดหยัง” สาวจอยถามครับ เออนั่นสิวะ
   “จั่กแล้ว โตว่าสิเอาไปเฮ็ดหยังกินเฮาว่าสิเอาปลาไปเผา เฮ็ดแจ่วแกล้มท่อนแล้ว”
   “ซั่นกะเอาแต่แนวไปพอเฮ็ดติซั่น คือสิบ่มีไผกินผักดอกเนาะ” สรุปเมนูอาหารเย็นนี้ของเราคือย่างปลาช่อนครับแล้วก็คงทำน้ำจิ้มเผ็ดๆ
   “เน่าๆ อันนี้ปลาเนื้ออ่อนป่ะ ไม่เอาเหรอ” แฟนผมครับมันก็ไปก้มๆเงยๆดูเขาจับปลาช่อนให้
   “มึงอยากกินเหรอ” “อื้ม อยากกินอ่ะ กินแต่ปลาเผามันจะอยู่ท้องเหรอ”
   “ซั่นเอาปลาเนื้ออ่อนไปทอดบ่ล่ะอุ่น เอาไปอ่อมนำเฮาสิอ่อมให้กิน” สาวจอยแนะนำเมนูครับไอ้เบบี๋มันก็พยักหน้าทำหน้าตาตื่นทันที
   “กินหอยป่ะเบบี๋” ผมเหลือบไปเห็นหอยโข่งล่ะครับลูกเบ้อเร่อ
   “เอาไปทำไรกินอ่ะ” “เอาไปเผาไง หวานๆอร่อยนะ” มันพยักหน้าทันทีครับ สรปุเราได้ปลาช่อนมาสามโล ปลาเนื้ออ่อนมาโลนึงแล้วก็หอยโข่งอีกนิดหน่อยครับ
   “บ่เอาไก่เอาหมูแน่บ่เดี๋ยว เผื่อหมู่เพิ่นสิกิน” สาวจอยแนะนำครับ ผมก็เห็นด้วยนะเลยเอาไปอีกอย่างละนิดหน่อยพอให้เป็นทางเลือกครับ
   “เน่าๆ ลุงเขาทำไรอ่ะ” พอเดินจะถึงบ้านอยู่แล้วครับแต่มันต้องผ่านบ้านผู้ใหญ่บ้านไปก่อน แกเหมือนกำลังจะไปกางตาข่ายดักปลา ที่นี่เขาเรียกใส่มองนะครับ
   “อ้าว ไปซื้อของบ่หล่า ได้หยังมาแน่ล่ะ ฮ่วยปลาเนื้ออ่อนไปต้องไปซื้อดอก พ่อลืมบอกนี่กะว่าสิไปใส่มองอยู่” พ่อผู้ใหญ่แกร้องทักมาล่ะครับพวกเราเลยแวะ
   “ไปใส่ไสล่ะค่าพ่อใหญ่” สาวจอยถามครับ
   “หน้าบ้านพวกโตนั่นล่ะ นำไหลแฮงเอ้าพร้อม ปลาคือสิติดหลาย”
   “อ้อค่ะ คือมองห่างแท้ค่าพ่อใหญ่” สาวจอยเห็นไอ้เบบี๋มันสนใจล่ะครับมันเลยถามโดยที่มันจะต้องไม่หันมาถามผม
   “มันจั่งได้ปลาโตใหญ่ตั้วหล่า ยามนี้ปลามันพวมไข่เฮากะเอาแต่โตใหญ่ๆมากิน” รู้ไหมกว่าจะดึงมันกลับมาที่บ้านพักได้ก็นานอยู่นะเพราะมันตั้งท่าจะถามนั่นถามนี่พ่อผู้ใหญ่แล้วนะนั่นเอากับมันสิครับ
   “อยากไปดูเขาใส่มองจังอ่ะเน่า” นั่นไงครับ
   “จะไปดูทำไมผู้ใหญ่เขาก็มาใส่หน้าบ้านเรานี่ไง” ผมบอกมันล่ะครับ มันก็ยิ้มออกมา
   “มึงนี่นะไอ้เบบี๋ สนใจมากว่างั้น” ผมยื่นมือไปขยี้หัวมันล่ะครับ
   “ก็อยากดูอ่ะ เน่าเคยทำป่ะแบบนี้อ่ะ” มันตอบเขินๆล่ะครับ
   “เคยดิ กูเคยทำทุกอย่างล่ะ” “จริงดิ วันหลัง” “นั่น ไม่รู้เว้ย วันนี้ไปช่วยเพื่อนๆทำกับข้าวก่อนเริ่มหิวล่ะ” ผมยักคิ้วให้มันครับ มันก็หัวเราะ ตอนนี้เราแยกย้ายกันทำหน้าที่ล่ะครับ สัดเคนกับไอ้เล็กมันก่อไฟอยู่ข้างล่าง ส่วนสัดไม้มันจัดการกับปลากับสาวฝ้าย ส่วนสาวปูกับจอยช่วยกันทำน้ำพริก ส่วนผมกับไอ้เบบี๋ช่วยกันล้างหอย ที่จริงมันไม่ได้ทำอะไรมากมายนักหรอกครับ ผมไม่ให้มันทำมันก็ไปนั่งถามโน่นถามนี่ผมล่ะ ไม่รู้สิผมแค่อยากให้มันอยู่ใกล้ๆผมเท่านั้นเอง ไม่เวอร์ไปหรอกนะผมรู้สึกไม่อยากห่างมันล่ะครับ
   “บักหล่าไผว่างอยู่เบาะ มาซ่อยพ่อจับมองให้แน่ะ พ่อสิลอยไปฝั่งพู้น” พ่อผู้ใหญ่มาเรียกล่ะครับ สัดเคนมันอาสา
   “น้ำไหลแรงจังอ่ะเน่า พ่อผู้ใหญ่จะลอยไปได้เหรอ”
   “นั่นไงเขามีเชือก” คือมันมีเชือกอยู่อีกฝั่งล่ะครับ พ่อผู้ใหญ่แกก็ลอยน้ำข้ามไปโดยที่จับเชือกเพราะน้ำมันไหลแรงมากๆครับ ถึงจะว่ายน้ำแข็งยังไงก็อันตราย
   “เหมือนฝนจะตกเลยอ่ะ แล้วปลามันจะมาติดเหรอ” เอิ่ม ฟ้าร้องครับมืดมาซะขนาดนั้นจะเหลือไหมเนี่ย
   “ติดดิ ปลามันจะตื่นเวลาฝนจะตก มันคึกน่ะ” “อ้อ ทำไมอ่ะ” “ไม่รู้เว้ย กูไม่ใช่ปลา ถามไรเนี่ย”
   “อ่ะ ก็นึกว่ารู้นี่นา ลมแรงเนอะ อ่า ผู้ใหญ่ลอยไปแล้วๆ” มันทำท่าตื่นเต้นล่ะครับ แต่ดูอยู่ได้ไม่นานฝนก็เทลงมาครับ สัดเคนเหมือนจะไม่มีทางเลือกมันยืนตากฝนอยู่ ฮ่าๆ ส่วนพวกเราขึ้นมาหลบอยู่บนบ้านแล้วครับ ตอนนี้กำลังเผาปลาอยู่ด้านล่าง สัดไม้ไอ้เล็ก สาวฝ้ายกำลังง่วนอยู่ ส่วนสาวปูกับสาวจอยกำลังทำกับข้าวอย่างอื่นอยู่ครับ
   “เย็นจังเนอะ” “หนาวป่ะ มึงจะไปอาบน้ำก่อนไหม” ผมถามมันครับ มันส่ายหน้า
   “ไม่เอาหรอก เพื่อนๆยังทำกับข้าวอยู่เลยอ่ะ ไม่อยากเอาเปรียบ” ผมหัวเราะล่ะครับ จะว่าไปผมกับมันไมได้ทำอะไรมากเลยนะเหมือนว่าเพื่อนๆมันจะเห็นใจ นอกจากล้างหอยรอเผาแล้วเนี่ยไม่ได้ทำอะไรเลยนะมาจู๋จี๋กันซะส่วนมาก
   “อุ่นๆ โตสิเผาหอยอยู่เบาะ มาเผาแหม่ะพวกเฮาเผาปลาแล้วๆ” สาวปูเรียกมาจากด้านล่างล่ะครับ
   “ไปเผาหอยกัน” มันยิ้มครับแล้วลงไปด้านล่าง ผมก็ตามลงไป
   “กินมันทั้งอย่างนี้เหรอเน่า” มันถามครับ หอยโข่งส่วนมากเขาเอาไปต้มให้สุกแล้วเอามาแกะหั่นเป็นแว่นๆเอาลาบนะครับ อันนั้นอร่อยมากแต่เผากินก็ได้ครับมันจะออกหวานๆ จิ้มกับแจ่ว ซี๊ดด แล้วตบท้ายด้วยเหล้าหน่อย สุดยอดแล้วครับ
   “เดี๋ยวกูทำให้ดู มึงไปเอาเหล้าขาวฝรั่งมาให้กูหน่อยดิ” ผมบอกมันล่ะครับ มันก็วิ่งขึ้นไปบนบ้านอย่างว่าง่ายกลับลงมาพร้อมขวดว้อดก้าและแก้ว ผมเลยสาธิตให้มันดู
   “สัด ร้อนๆ” ฮ่าๆ มันร้อนครับเลยคายออกมา มันก็หัวเราะ
   “เป่าก่อนดิ มานี่” จะไม่ให้ผมรักมันได้ยังไงครับ สิ่งที่มันแสดงออกมา สิ่งที่มันทำกับผมเหมือนว่ามันเคยชินหรืออะไรไม่รู้ แต่สิ่งนี้มันทำให้หัวใจผมยิ้มครับ มันเอาส้อมจิ้มตัวหอยที่ผมเอาออกมาจากเปลือกไปเป่า
   “จิ้มน้ำจิ้มก่อนป่ะ” มันเป่าเสร็จมันก็ถามครับ ผมยิ้มแล้วพยักหน้า
   “อ่ะ” มันยื่นคืนมาครับ
   “ป้อนด้วยดิ” ผมยักคิ้วให้มันครับ
   “อ่า ไม่เอาอ่ะ เพื่อนจะล้อ” “ใครจะมาล้อวะ ยังจะอายอยู่อีก” ผมไม่ยอมครับ ผมเลยยอมป้อนหอยโข่งผมแต่โดยดี พอผมเคี้ยวหอยโข่งแล้วกลืนก็ตามด้วยวอดก้า อ่า สุดยอด
   “อ่ะมึงลองบ้าง” ผมทำให้มันบ้างครับ
   “เอาว้อดก้าป่ะ” ผมถาม มันพยักหน้าครับ
   “เฮ้ย กินด้วยเหรอวะมึง” ผมตกใจครับเรื่องเบียร์มันยังไม่ค่อยกินเลยนะแต่ดันจะมากินว้อดก้า โอ้แฟนกู
   “กินนิดหน่อยอ่ะ ทำไมอ่ะ”
   “เออๆ อ่ะ” ผมยื่นหอยให้มันครับแล้วมันก็เคี้ยว พอมันกลืนผมก็ยื่นแก้วว้อดก้าให้มันล่ะครับ
   “อ่า ร้อนๆ” มันร้อนคอมั้งครับทำหน้าแบบว่าเหยเกผมเลยหัวเราะ
   “บู้ย หมู่เขาสิได้กินบ่น้อ มัวแต่มาหวานกันอยู่นี่ล่ะค่า” สาวฝ้ายเดินลงมาครับแซวเลย ผมไม่อายนะแต่ไอ้เบบี๋มันก็อายตามระเบียบมันล่ะครับ พอเผาหอยเสร็จก็ขึ้นมารวมกับเพื่อนๆล่ะครับ ตอนนี้มืดแล้วครับ ยายแกเอาข้าวมาให้เป็นข้าวเหนียว สาวปูกับสาวจอยทำอ่อมปลาเนื้ออ่อนกับทอดมาสองจานไอ้เบบี๋มันกินใหญ่ ส่วนผมกับเพื่อนๆผู้ชายไม่มีใครแตะข้าวเลยครับ สัดเคนมันกลับมาแล้วปากม่วงเลยนะครับมันไปอาบน้ำก่อนใครแล้วมานั่งรินเหล้าให้เพื่อนๆ ปลาเผาก็หวานอร่อยลิ้นดีจังเข้ากันกับว้อดก้าเหลือเกิน พอกินเสร็จก็มานั่งล้อมวงกันล่ะครับ
   “ร้องเพลงกันบ่สู” สัดไม้เสนอครับ ทุกคนเห็นดีด้วย
   “มึงจะอาบน้ำก่อนป่ะเบบี๋” ผมหันไปถามมันล่ะครับเพราะเห็นมันลูบแขนตัวเองอยู่บ่อยๆคงจะหนาว
   “ไปอาบก่อนติ๊อุ่น บัดยามนอนสิได้นอนโลด” สาวจอยแนะนำครับแล้วยิ้มๆ อ้าวๆ มองมาที่กูทำไมวะเนี่ย
   “อือ แต่รอก่อนก็ได้” “อ้าว ไมวะกลัวเหรอ ฮ่าๆ” ผมหัวเราะครับเพราะผมดูจากหน้ามันก็รู้
   “ก็มันมืดนิ” มันตอบอ้อมแอ้มล่ะครับ
   “โตกะพาอุ่นไปอาบติ๊เดี๋ยว อิอิ” อ้าว สาวฝ้ายครับ เพื่อนๆทุกคนก็ยิ้มๆนะ
   “ป่ะเบบี๋ไปอาบน้ำ เดี๋ยวกูไปอาบเป็นเพื่อน” ผมหันไปบอกมันล่ะครับ
   “บ้าเหรอ ไปคนเดียวได้” มันอายครับ
   “อ้าว ผีเยอะนะมึงแถวนี้ เดี๋ยวผีเป้าเอาไปแดกหรอกนะ” มันทำหน้ากลัวผมก็หัวเราะไปตามประสา เอาไปเอามามันก็ไปเอาอุปกรณ์อาบน้ำมาจากกระเป๋าล่ะครับ
   “เน่าจะอาบด้วยป่าว” มันถามครับ เออดีเหมือนกันวะดีกว่าอยู่เฉยๆดึกมาเดี๋ยวกูก็ซักแห้งเหมือนเคย อิอิ
   “อืม อาบก็ดี” เราสองคนเดินลงมาอยู่ที่ใต้ถุนบ้านล่ะครับ เสียงฝนยังเทกระหน่ำลงมาไม่ยอมหยุด
   “อาบน้ำฝนป่ะเบบี๋” ผมชวนมันล่ะครับเพราะหลังบ้านเห็นมีตุ่มรองน้ำเอาไว้ น้ำฝนที่เทลงมามันเต็มจนล้นตุ่ม
   “อาบตรงนี้อ่ะเหรอ” “เออดิ เดี๋ยวกูไปยืมผ้าขาวม้าพ่อใหย่บ้านมาก่อน รอนี่ล่ะ” ผมเลยวิ่งตากฝนไปบ้านผู้ใหญ่บ้านล่ะครับ แกกำลังง่วนอยู่กับการกางตาข่ายอีกผืน พอผมบอกว่าจะมายืมผ้าขาวม้าไปอาบน้ำฝนแกก็หัวเราะใหญ่แล้วก็เรียกเมียแกให้เอามาให้ล่ะครับ ผืนใหม่เลยนะพอผมได้ผ้าขาวม้าก็วิ่งกลับมาแต่ว่า
   “อ้าวเชี่ย ไฟดับ” พรึ่บลงทันทีล่ะครับ ผมหยุดก้าวเลยนะ พอสักพักค่อยวิ่งไปหาไอ้เบบี๋
   “เน่าๆ เน่าหรือเปล่า” เสียงไอ้เบบี๋มันกลัวครับ
   “เออ ไฟดับว่ะ” “มองไม่เห็นอะไรเลยอ่ะเน่า” “แป๊บเดี๋ยวก็ชิน อ่ะผ้า” ผมไปถึงตัวมันแล้วล่ะครับ มันรีบมาจับแขนผมไว้ท่าทางคงจะกลัว
   “กูว่านะมืดๆแบบนี้แก้ผ้าอาบไปเลยไม่มีใครเห็นหรอก”
   “อ่า บ้าเหรอ เดี๋ยวฟ้าผ่าเอานะ”
   “ผ่าแป๊ะไรวะ เดี๋ยวกูทำให้ดู” ว่าแล้วผมก็ถอดเสื้อผ้าออกล่ะครับ เรื่องถอดน่ะไม่ถึงวินาทีเถอะ ไอ้เบบี๋มันไม่ทันตั้งตัว แต่พอมันเห็นผมถอดกางเกงออกมันก็รีบหันหน้าหนีล่ะครับ
   “อายไรวะ กูกับมึงเห็นกันไปไหนต่อไหนแล้ว” ผมพูดแล้วออกไปยืนให้น้ำฝนที่เทลงมาจากหลังคาหล่นใส่ตัว เย็นจริงๆครับ เย็นมากๆ มันเย็นคนละแบบกับน้ำในตู้เย็นนะ มันเย็นแบบว่าถึงกระดูกเลยล่ะผมว่านะ
   “อ่า ไอ้บ้า ไม่อายเลยเหรอ”
   “ไม่อายเว้ย กับมึงคนเดียวนั่นล่ะ เร็วดิ” ผมเร่งมันครับ มันก็ยืนอยู่พักหนึ่งแล้วเอาผ้าขาวม้ามาพันตัว แหมๆ กว่าจะถอดได้นะมึงลีลานักนะ
   “อ่า เย็นจังอ่ะ” พอมันเอาตัวมาโดนน้ำมันก็กระเด้งตัวออกล่ะครับ
   “นี่ล่ะน้ำฝน เร็วรีบอาบเดี๋ยวจะไม่สบาย”
   “ไม่ถูสบู่เหรอ” “ถูให้ดิ” ได้ทีครับ ผมเลยจับตัวมันออกมาจากสายน้ำฝน มันก็ยอมนะ เออ แปลกอยู่อย่างไอ้ลูกชายกูนี่มันยังไงไม่รู้ว่ะ หนาวจนหดไปหมดนะแต่มันดันทะลึ่งโด่ซะ ไม่รู้สิพออยู่ใกล้มันแล้วมันโด่ดีจริงๆว่ะ แต่พอจะให้เอาจริงๆแม่งเอ้ย ไม่ได้เรื่อง อะไรของมันวะเนี่ย
   “สระผมให้ด้วยนะ เหนียวหัว” “ไรอ่ะ ผมสั้นจะตาย”
   “ผมล่างเว้ย” มันเอามือตีผมทันทีครับ ผมเลยหันหน้ามาประชิดมัน มันก้มหน้า
   “อ้าวๆ ไหนบอกอาย ก้มมองใหญ่เลยนะมึง” ฮ่าๆ มันเงยหน้าขึ้นทันทีครับ แม้มันจะมืดแต่ผมก็รู้ได้เลยว่าหน้ามันแดง แววตามันตื่นๆจนไม่รู้ผมจะเปรียบกับอะไรดี
   “งั้นถูเองนะเน่า พูดมากจัง”
   “อ้าว ได้ไง มาๆกูถูให้มึง” ผมถูยังไงรู้ป่ะ ถ้าลูบธรรมดามันก็ไม่ใช่กูหรอกเว้ยจะบอก ผมก็เทสบู่ขวดที่มันเอามาใส่มือแล้วดึงตัวมันมากอด
   “อ๊ะ ตรงนั้นไม่ต้อง เราถูเองได้” ฮ่าๆ ร่องก้นเลยสิครับ มันเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญผมต้องทำให้มันสะอาดเข้าไว้สินะ มันจะถอยออกครับ ผมไม่ยอมหรอกนะ
   “อ้าว ก็ทำความสะอาดไงมึง ไรวะ หวงเหรอ”
   “อายนะ ไอ้บ้า” “อายไรวะ กูเห็นแล้วเถอะ แต่ตูดมึงนี่ไม่มีขนเลยนะ” ผมแซวมันครับ คราวนี้มันเขินจัด เอาเป็นว่าข้ามตรงนี้ไปนะครับ กว่าเราจะอาบน้ำฝนเสร็จปากก็สั่นดังกั๊บๆตัวเหี่ยวไปเลยครับ
   “ป้าดสู แม่นไปอาบน้ำอีหลีบ่น้อ ซาดไปโดนเนาะเฮ้ย” สัดไม้ครับ มันแซวทันทีพอเห็นผมกับไอ้เบบี๋เดินขึ้นบ้านไป
   “มีแน่ล่ะวะสู น้ำเย็นดีคือหยังนี่ ซ่วงเหล้าดีขนาด” ผมหัวเราะล่ะครับ
   “อีหยังอุ่น คือแก้มแดงแท้ ไปเฮ็ดหยังมา” สาวฝ้ายครับ
   “แดงไรอ่ะ อ่ากินหอยเผาเราหมดแล้วเหรอ” นั่นครับ มันเปลี่ยนเรื่องเก่งผมบอกแล้ว
   “ปัดสาหอยจี่ ไปจี่เอาใหม่กะได้ดอกน่า แซ่บเด้ล่ะอุ่น อิอิ”
   “เน่า มาใส่เสื้อก่อนดิ” มันเรียกผมครับ พอมันเรียกผมเพื่อนๆก็โห่ขึ้นทันที
   “โอ๊ย ซาดเฮ็ดบาปหมู่เนาะสู เพิ่นล่ะกูว่าแม่นมาฮันนีมูนกันเอาโลด แล้วซุมเฮามาหยังคั่นน่ะ” สัดเคนครับ
   “กะมาเป็นหมู่เจ้าบ่าวเจ้าสาวเด้ล่ะ ซ่ำนี่กะคึดบ่ออกเนาะ หวืย อิจฉาหมู่กะเป็น” สาวฝ้ายครับ
   “ฮ่วย หรือเจ้าบ่อิจฉาล่ะผู้สาว” “ว้าย บ่ค่าบ่ หมู่เพิ่นมีควมสุขกะดีใจนำแล้ว บ่เคยคึดอิจฉา คนผู้งามเขาบ่อิจฉาหมู่ดอก” “โอ๊ย กูเสียดดายหอยจี่เด้ สิฮาก” “ว้าย โพดพะโลหลายบักอันนี่” เสียงหัวเราะดังขึ้นล่ะครับ สองคนนี่มันยังไงๆอยู่นะ ชอบกัดกันแต่ไม่โกรธนะ กูว่านะเสร็จแน่ๆสาวฝ้ายเอ๋ย ฮ่าๆ
   “มึงทาไรวะ” พอผมรับเสื้อผ้าจากมันมาเสร็จผมก็เห็นมันทาครีมล่ะครับ
   “มอยส์เจอร์อ่ะ ทาป่ะ” “ทา ทาให้หน่อย” อิอิ
   “บ้าเหรอ เพื่อนอยู่นะ อาย” มันไม่ยอมครับ
   “กูมีวิธี” ผมก็ไม่ยอมครับท่าน ผมให้มันนั่งหันหลังให้เพื่อนๆล่ะครับ แล้วผมก็ไปนอนเอาหน้าไว้ตรงตักมันแล้วให้มันทา มันส่ายหน้านะคงไม่คิดว่าผมจะฉลาดขนาดนี้ เอิ๊กๆ
   “อ่อมปลาอร่อยจังอ่ะปู” พอแต่งตัวเสร็จเราก็ไปกินเหล้าล่ะครับ ตอนนี้ยายแกเอาตะเกียงเจ้าพายุมาให้ล่ะครับ มีเทียนไขอีกห่อใหญ่ แต่เทียนไขคงจะจุดไม่ได้เพราะลมมันแรงเหลือเกิน
   “แน่นอนบ่อุ่น อิอิ จอยปรุงตั้ว”
   “น่าจะมีส้มตำเนอะ เหมือนที่เรากินที่บ้าน”
   “ยามนี้แล้วบ่มีดอก กินแกล้มเหล้านี่ล่ะ” สาวจอยบอกครับ พวกเรากินข้าวกันอยู่สักพักก็เก็บกวาด เตรียมเหล้าออกมาตั้งวง ตอนนี้สัดไม้กับสัดเคนลงไปเผาปลาเพิ่มล่ะครับ ส่วนสาวๆไปรอคิวอาบน้ำ ไอ้เล็กมันก็ไปเฝ้าสาวปู เออ นี่ก็อีกคู่นึงล่ะน่าสงสัย ตามกันไม่ยอมห่างเลยนะ
   “เย็นสบายจังเนอะ” ตอนนี้ผมนอนอยู่บนตักมันล่ะครับ ไม่มีคนมันเลยยอม
   “มึงอย่าไปให้ละอองฝนมันโดนมากนะเดี๋ยวไม่สบาย”
   “แต่น้ำมันไหลแรงจังอ่ะเน่า น่ากลัวเนอะ”
   “เออดิ มึงรู้ไหมว่ามีจระเข้ด้วยนะเว้ย ตัวเท่าควายนี่ล่ะ”
   “อย่ามาโกหก เราไม่เชื่อหรอกนะ” “ใครโกหก ไม่เชื่อมึงลองหย่อนขาลงไปดิ มันงับเอากูไม่ช่วยนะเว้ย”
   “อ่า บ้าเหรอ แล้วจะนอนกันยังไงอ่ะเน่าคืนนี้อ่ะ” มันเปลี่ยนเรื่องอีกแล้วครับ
   “เออ ไปกางมุ้งรอเพื่อนๆดีกว่า” ผมลุกขึ้นล่ะครับ มันก็ลุกตาม ยายแกเตรียมมุ้งมาให้สามหลัง ผมก็ไปกางมัดกับเสาบ้านล่ะครับ มุ้งแรกติดฝาห้องยายให้สาวๆนอน ส่วนมุ้งกลางมันเล็กหน่อย แน่นอนครับผมกับไอ้เบบี๋ ส่วนริมสุดให้ไอ้พวกเพื่อนๆมันนอนกัน พอปลาเผามาผมก็เริ่มก่อนใครล่ะครับไม่รอทั้งนั้น เปรี้ยวปากมานานล่ะ ไอ้เบบี๋มันกินแต่ปลาเผาจิบว้อดก้านิดหน่อย ผมไม่ให้มันกินด้วยล่ะครับ พอมันจิบไม่หมดผมก็กระดกแทน เพื่อนๆมาครบแล้ว
   “บักเคนมึงไปเอากีตาร์มาเล่นแหม่ะ” ผมบอกสัดเคนไปล่ะครับ มันเอามาด้วยล่ะ พอมันเดินกลับมามันก็เริ่ม
   “เอาเพลงหยัง” สัดเคนถามครับ
   “พรหมลิขิต” สาวฝ้ายร้องขึ้นทันที
   “ฮ้องเป็นติ๊” “ว้าย ซ่างว่าแท้ค่า ดีดมาโลดเป็นบ่เป็นกะสิมั่วเอานี่ล่ะ อิอิ” อ้าวนะ สรุปก็ร้องรำทำเพลงกันไปตามเรื่องล่ะครับ ผมว่าจะร้องเพลงให้ไอ้เบบี๋มันฟังนะแต่ไม่เอาดีกว่า ถ้าจะร้องอยากร้องให้มันฟังคนเดียว พอเริ่มดึกฝนเริ่มซาครับ ถ้าไม่มีใครพูดอะไรนี่มันเงียบมากจริงๆนะ มีแต่เสียงน้ำไหลกบเขียดร้องระงมอยู่ทั่วบริเวณ
   “อุ่นๆ อยากนอนติ๊ คือตาเป็นตาหลับแท้” เสียงสาวจอยเรียกมันล่ะครับ ผมเองเริ่มมึนมากแล้ว
   “นิดหน่อยอ่ะ กี่โมงแล้วอ่ะจอย” “สิหาทุ่มแล้วเด้ โตไปนอนก่อนโลด แล้วเพิ่นนั่นแม่นเมาหรือหยังนั่นน่ะ เดี๋ยวๆ”
   “หือ อีหยัง บ่เมา บ่เมา” ผมได้ยินเหมือนสาวจอยเรียกล่ะครับ
   “บ่เมาหยังตากะบ่มืน พาอุ่นไปนอนไป ยุงกัดเพิ่นนั่นเห็นบ่”
   “ไม่เป็นไรอ่ะจอย เดี๋ยวเราไปนอนก่อนเอง” ไอ้เบบี๋มันบอกครับ ท่าทางมันคงงอมจัดล่ะ มันนั่งอยู่ข้างๆผมนี่ล่ะครับ ผมเอาข้อศอกพาดบ่ามันอยู่ เผลอปุ๊บก็หอมแก้มปั๊บ เพื่อนๆตอนแรกก็แซวเอาไปเอามาเหมือนพวกมันจะชินล่ะ ถึงผมจะเมาแต่ผมก็รู้นะเว้ยว่าใครควรอยู่ใกล้ ไอ้เบบี๋มันไปนอนแล้วครับ ผมเองก็อยากไปนอนกับมันนะ แต่เสียดายว้อดก้าว่ะ เหลือขวดหน่อยๆ นี่สามขวดนะ สาวปูกับสาวฝ้ายนี่ อื้อ น่ากลัวมากกระดกเอาๆ สาวจอยอีกคน ขนาดสาวๆยังคอแข็งขนาดนี้มีหรือผู้ชายมันจะยอมครับ ไอ้เล็กมันลงแล้ว ส่วนสัดเคนกับสัดไม้คอเริ่มตก ผมเองก็เหมือนจะแย่
   “อะ อ๊วกก” กูว่าแล้วพอลุกจะไปฉี่มันหมุนติ้วๆยังไงไม่รู้ว่ะ กูเลยต้องวิ่งไประเบียงติดน้ำปล่อยของเก่าออกเสียหน่อย เสียดายจังวะ ตามประวัตินี่กูไม่เคยอ๊วกเลยเถอะ จิ๊
   “ฮากติ๊ ไปลูบหลังให้เพิ่นแน่สู” เสียงใครไม่รู้ครับ
   “โอ๊ย ลุกบ่ได้ดอกเด้อค่า ลุกกะคือสิฮากคือกัน ว้อดก้าอีหยังนี่ แฮงหลาย”
   “เน่าๆ” เสียงไอ้เบบี๋ครับ มันมาลูบหลังให้ผม
   “กินเยอะเห็นไหมอ่ะ” มันลูบหลังไปบ่นไปตามประสาล่ะครับ ส่วนกูนี่เอาออกมาหมดท้องหมดไส้เลยนะ
   “อ่า ฮ่า” หายใจทางปากครับ ผมลงนอนกับพื้นเลยนะ
   “เดี๋ยวไปล้างหน้า ไหวไหมเน่า” มันลูบหน้าลูบตาให้ผมอยู่ครับ
   “หวายเด้” “ไหวไรอ่ะ รอตรงนี้ล่ะเดี๋ยวเราไปตักน้ำมาเช็ดหน้าให้” มันพูดแล้ววิ่งไปเลยครับ อ้าว ลงไปคนเดียวด้วยมันไม่กลัวเหรอวะเนี่ย ผมรอมันจนหลับตาไปก่อน สักพักเหมือนมีผ้าเย็นๆมาเช็ดตามหน้าผมล่ะครับ
   “บ้วนปากก่อน ไหวไหมลุกไปนอน” เสียงมันเหมือนคนกลัวหรือตกใจอะไรสักอย่างนี่ล่ะครับ เพราะมันสั่นๆ
   “อือ” ผมบ้วนปากตามมันบอกแล้วมันก็พยุงผมไปที่นอนครับ
   “เวียนหัวว่ะเบบี๋” คือหลับตาลงเหมือนว่าโลกมันกำลังหมุนเลยนะครับ ลืมตาก็ทรมานหลับตาก็เหมือนจะตาย
   “แป๊บเดียวนะ เดี๋ยวก็หาย” มันนวดหัวให้ผมอยู่นะครับ เหมือนผมกำลังนอนตักมันอยู่นะรู้สึกแบบนั้น
   “อือ เวียนหัวว่ะ เวียน” “อย่าพูดดิ หายใจลึกๆ นอนคว่ำไหมจะได้ไม่หนักหัว” มันจับตัวผมให้นอนคว่ำลงล่ะครับ แล้วมันก็มากอดผม รู้สึกเหมือนมีน้ำอุ่นๆหยดใส่ที่แก้มผมด้วยนะ อย่าบอกนะว่ามันร้องไห้ ไรวะแค่เมาก็ร้องไห้ ไอ้นี่มันเยอะไปไหมเนี่ย แต่เอ๊ะ กูเมาเยอะไปนี่หว่าเนอะ มันคงจะห่วงกูล่ะ กลัวเป็นหม้ายอ่ะดิมึง ฮ่าๆ

เขียนโดย อิ๊กกี้


ปล. พักนี้ผมพักผ่อนน้อยมากนะครับ คิดอะไรไม่ออกเลย เขียนแล้วก็ไม่ดีเท่าไหร่เลยไม่อยากลง ต้องรอเดือนหน้าเปลี่ยนกะถึงจะได้นอน ยังไงก็อ่านแก้ขัดไปก่อนนะครับผม

ขอบคุณคร้าบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด