▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟  (อ่าน 118759 ครั้ง)

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ
กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ


6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


-----------------------------------------------------------------------------

ผลงานปัจจุบันที่กำลังเขียนอยู่

≡▉≡ interstellar ∘★∘ รักหมดใจ นายต่างดาว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49903.0

ผลงานที่ผ่านมา

▓ ▒ ░ ต้นสน: มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรักจะกลายเป็นความรักได้หรือไม่? (V2) ░ ▒ ▓
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32768.0

◐◑ I Love Kim Jong Hoon ◐◑
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32450.0

▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย (V3) ░ ▒ ▓
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46898.0

▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.0

✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46884.0

♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต ▚▚▚
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32020.0



▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 01 ☯ น้องเก้าและพี่คิมแตซอง





เรื่องมันเกิดขี้นเมื่อตอนปิดเทอมภาคเรียนคราวที่แล้วครับ น้าสาวของผมซึ่งแต่งงานกับคนเกาหลีชวนผมกับแม่ไปเที่ยวที่นั่น ส่วนพ่อผมไม่ยอมไปด้วยเพราะต้องทำงาน น้าสาวช่วยออกเงินให้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งเงินของเราเองอีกส่วนหนึ่ง ที่เราได้ไปเที่ยวที่เกาหลีบ่อยๆ ก็คงเป็นเพราะอานิสงฆ์ที่สมัยก่อนน้าสาวกับแม่เป็นพี่น้องที่รักกันมากครับ เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันไว้หลายอย่าง น้าสาวเลยค่อนข้างรักแม่ผมมากทีเดียว มักจะมีของฝากส่งมาให้จากเกาหลีบ่อยๆ


พวกเราไปอยู่ที่นั่นกันเกือบ 2 เดือน อยู่ที่บ้านน้าสาวเลยจึงไม่ต้องห่วงว่าจะเปลืองค่าที่พัก ที่ต้องอยู่นานขนาดนั้นก็คงเป็นเพราะน้าสาวเหงาครับ เป็นแม่บ้านที่คอยดูแลสามีไม่ค่อยได้ออกไปไหน จึงอยากให้แม่อยู่เป็นเพื่อนนานๆ หน่อย แม่ผมก็เลยต้องอยู่ที่เกาหลีนานเลย ด้วยความที่คิดถึงน้องสาวแม่ก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว


สำหรับผม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเกาหลีหรอกครับ ผมเคยมางานแต่งงานน้าสาวตั้งแต่สมัยหนังเกาหลียังไม่ฮิตในบ้านเรา หลังจากกลับมาคราวนั้นก็ทำให้ผมสนใจภาษาเกาหลี แล้วก็ลองไปหาหลักสูตรเรียนครับ ก็เกือบ 8 ปีแล้วที่ผมเรียนภาษานี้ ได้น้าสาวคอยช่วยสอนด้วย เมื่อก่อนผมโทรไปหาน้าสาวบ่อยๆ เพื่อฝึกคุยภาษาเกาหลีกัน ยิ่งหลังๆ พอหนังเกาหลีเริ่มดัง มีคนสนใจภาษาเกาหลีมากขึ้น ก็เลยหาที่เรียนและหนังสือสอนภาษาเกาหลีได้ง่ายมากขึ้น ตอนนี้ผมพูด ฟัง อ่าน เขียนได้ค่อนข้างดีทีเดียวครับ


ไปอยู่แรกๆ ก็สนุกดี น้าสาวพาไปเที่ยวหลายที่เลยครับทั้งในตัวเมืองโซลที่น้าสาวอยู่ ละเมืองใกล้เคียงอื่นๆ แต่มีอีกที่ที่ผมอยากไปมากแต่ไม่ได้ไปคือเกาะเชจู ซึ่งน้าสาวบอกผมว่าอาจจะพาไปก่อนที่พวกเราจะกลับ


พออยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มเบื่อครับ ไม่มีอะไรทำ เพื่อนก็ไม่มี น้าสาวเองก็ยังไม่มีลูก ผมเองก็เป็นลูกคนเดียว ก็เลยไม่มีใครเป็นเพื่อนเลย ก็เลยคิดว่าจะต้องหาอะไรทำเสียหน่อย ตอนแรกว่าจะขอไปช่วยงานน้าเขยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโสมเกาหลี แต่ผมไม่ค่อยมีหัวทางธุรกิจเท่าไรก็เลยไม่เอาดีกว่า


วันหนึ่งผมเอาหนังสือพิมพ์เกาหลีมาอ่านเพื่อที่จะดูว่าพอจะมีงานพาร์ทไทม์ให้ทำบ้างหรือเปล่า ก็บังเอิญไปเจอข่าวประกาศอันหนึ่งที่บอกว่าต้องการรับสมัครผู้ช่วยคนพิการ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "Personal Assistant" หรือ PA สามารถทำงานเป็นกะได้ เดือนหนึ่งไม่เกิน 150 ชั่วโมง ค่าจ้างชั่วโมงละ 2 พันกว่าวอนครับ ลักษณะงานตามที่เขียนไว้ก็คือช่วยคนพิการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า แต่งตัว พาไปข้างนอก หรือตามแต่คนพิการจะบอกให้ทำ


ค่าจ้างก็ไม่เลว แต่มันงานอะไรกันนะ ตอนนั้นผมกังวลว่าผมจะต้องไปเช็ดอึหรือเช็ดอะไรที่ไม่น่าพึงประสงค์หรือเปล่า ถ้าแค่ช่วยแปรงฟัน อาบน้ำหรือพาไปข้างนอกนี่ก็น่าจะพอไหว แต่ถ้ามากกว่านี้ผมก็ชักไม่แน่ใจ


สุดท้่ายผมก็ลองโทรไปถามรายละเอียดครับ หน่วยงานที่ผมโทรไปนั้นถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็น่าจะเรียกว่า "ศูนย์การดำรงชีวิตอิสระของคนพิการ" หรืออะไรทำนองนี้ เขาอธิบายให้ผมฟังว่างานที่จะไปทำนั้น ก่อนจะเริ่มทำต้องผ่านการอบรม 20 ชั่วโมงก่อนเพื่อให้เราฝึกปฏิบัติการช่วยคนพิการ เช่น การช่วยแต่งตัว การเข็นรถเข็นและกิจกรรมอื่นๆ ถ้าผ่านการอบรมก็จะได้ใบประกาศณียบัตรด้วย


หลังจากผ่านการอบรมแล้ว ทางศูนย์จะประสานหาคนพิการที่ต้องการบริการ PA แล้วก็จะแจ้งให้เราทราบ ส่วนจะต้องทำงานมากน้อยหรือทำอะไรนั้นก็แล้วแต่เราจะตกลงกับคนพิการว่าคนพิการจะให้ช่วยทำอะไร กี่ชั่วโมงต่อวัน แล้วเราก็จะรับค่าจ้างไปตามจำนวนชั่วโมง คนพิการจะเป็นคนจ่ายเงินให้เราเอง เงินส่วนนี้เป็นเงินที่รัฐบาลของเกาหลีสนับสนุนมาอีกทีหนึ่ง


ผมก็เลยปรึกษากับแม่และน้าสาวก่อนครับ ท่านก็เห็นดีด้วย อย่างน้อยช่วยคนพิการก็จะทำให้เราได้บุญมากขึ้นด้วย ตอนแรกคิดอย่างนี้จริงๆ ครับ แต่ตอนหลังก็ได้เรียนรู้ว่ามันเป็นความคิดที่ตัวคนพิการไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะทำให้คนพิการเป็นได้แค่ "ตัวทำบุญ" เหมือนกับเวลาที่เราไปปล่อยนกปล่อยปลา


หลังจากที่ผมตอบตกลง ผมก็ไปที่ศูนย์เพื่อรับการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 วัน ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากเลย ผมคิดว่าผมโชคดีจริงๆ ที่ได้มาทำงานนี้ เขาสอนเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับคนพิการ ประวัติศาสตร์การทำงานด้านคนพิการในประเทศเกาหลี ผมเพิ่งทราบว่าคนพิการเกาหลีต้องไปนอนขวางทางรถไฟเพื่อประท้วงรัฐบาลเรื่องการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการในระบบขนส่งมวลชนต่างๆ หลายๆ อย่างนั้นกว่าจะได้มาต้องต่อสู้กันมานานหลายปีเลยทีเดียว


แม้กระทั่งบริการ PA ผมก็ทราบมาว่าใช้เวลาถึง 8 ปีเลยทีเดียวกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังมีการสอนแนวคิดหรือทฤษฏีสังคมเกี่ยวกับมุมมองที่เรามีต่อคนพิการ ก็น่าสนใจดีครับ เขาบอกว่า ความพิการไม่ใช่อุปสรรคเพราะว่ามันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ก็คืออุปสรรคต่างๆ ในสังคม เช่น ถ้าคนพิการเข้าห้องน้ำไม่ได้ ก็ต้องทำห้องน้ำให้กว้างขึ้น ไม่ใช่แก้ที่ความพิการเพราะเป็นสภาพถาวรที่แก้ไขไม่ได้แล้ว


นอกจากนี้ก็สอนเรื่องการช่วยคนพิการประเภทต่างๆ ผมได้เรียนรู้วิธีการเข็นรถเข็นที่ถูกวิธี เช่น เข็นขึ้นทางลาดทำอย่างไร เวลาเจอขั้นจะเข็นอย่างไร การถ่ายตัวคนพิการจากรถเข็นไปที่เตียงหรือจากเตียงไปรถเข็น และวิธีการอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ตอนที่ผมอบรมนั้น มีคนมาอบรมด้วยเกือบ 20 คน เป็น PA ที่มาใหม่ครับ ส่วนมากจะเป็นเด็กนักศึกษาเหมือนๆ กับผมนี่แหละครับ ส่วนคนที่เป็นคนทำงานหรือแม่บ้านมีมาด้วย 2-3 คน


จากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน PA ก็คือการทำงานตามคำสั่งของคนพิการ PA ต้องไม่คิดแทนคนพิการ แต่ช่วยทำในสิ่งที่คนพิการทำไม่ได้ คนพิการจะบอกเราเองว่าจะให้ทำอะไร ทำอย่างไร แนวคิดการดำรงชีวิตอิสระนั้นเน้นให้คนพิการตัดสินใจเลือกการดำเนินชีวิตด้วยตนเองโดยมี PA เป็นคนที่คอยช่วยทำในสิ่งที่คนพิการทำเองไม่ได้


ปัญหาที่มักพบบ่อยๆ ก็คือคนพิการมักถูกคนในครอบครัวตัดสินใจและคิดแทน ทำให้สูญเสียความมั่นใจและไม่สามารถควบคุมชีวิตตนเองได้ แนวคิดนี้จึงมีข้อห้ามด้วยครับว่าห้ามคนในครอบครัวเป็น PA แต่สามารถเป็น PA ให้ครอบครัวอื่นได้


สรุปว่าผมผ่านการอบรมและได้รับใบประกาศด้วยครับ จากนั้นเขาก็ให้ผมรออีกสองสามวัน คนที่เป็นผู้ประสานงานของศูนย์จะเป็นคนที่คอยประสานงานให้ ไม่นานนักศูนย์ก็โทรมาบอกผมว่ามีคนพิการคนหนึ่งต้องการ PA พอดีเนื่องจาก PA คนก่อนเพิ่งลาออกไป เขากำลังต้องการ PA คนใหม่พอดี ผมก็เลยตอบตกลงไป อ้อ ผมรู้มาด้วยว่าส่วนมากคนที่ทำงานเป็น PA มักทำไม่นาน บางคนทำแค่เดือนสองเดือน นานที่สุดก็ไม่เกิน 1 ปี ที่ทำนานกว่านั้นค่อนข้างหาได้ยากมากครับ ส่วนใหญ่เมื่อได้งานประจำทำแล้วก็มักจะลาออกจากการเป็น PA


ก่อนที่ผมจะได้เริ่มทำงานนั้น ที่ศูนย์ก็พาผมไปหาคนพิการคนนั้นที่บ้าน ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันครับเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าจะได้ทำอะไรบ้าง สถานที่ที่เขาพาผมไปนั้นก็อยู่แถบชานเมืองหน่อย เป็นคอนโดที่ดูกลางเก่ากลางใหม่แต่ก็ดูดีพอสมควร เข้าใจว่าน่าจะเป็นคนพิการที่คงจะมีฐานะอยู่บ้าง


คนที่ผมจะไปเป็น PA ให้เป็นผู้ชายครับ ตอนนี้ทางศูนย์ใช้นโยบายเพศเดียวกันเพราะเคยมีเหตุการณ์ลวนลามกันระหว่าง PA กับคนพิการหลายราย บางครั้งคนพิการถูกลวนลามหรือคนพิการเป็นคนลวนลามเสียเองก็มี พี่คนนี้ชื่อ คิม แต ซอง อายุ 32 ปี ใช้รถเข็นแบบเข็นเอง พิการจากอุบัติเหตุจากการที่หัวกระแทกพื้นสระน้ำ พี่เขาเล่าให้ผมฟังทีหลังว่ากระโดดลงไปในสระน้ำผิดท่าหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ศีรษะของพี่เขากระแทกพื้นสระจนทำให้เกิดความพิการขึ้น


ผมไปกับพี่ผู้ประสานงาน PA ผู้ชายคนหนึ่งครับ ไม่ค่อยหล่อหรอก แต่จะว่าไปคนเกาหลีรุ่นใหม่ๆ นี่ก็หล่อขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อนนะครับ แต่ผมก็ยังไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษหรอก อาจจะมีแอบมองบ้างแต่ก็กระโตกกระตากไม่ได้ ที่บ้านผมยังไม่มีใครรู้เรื่องที่ผมเป็นแบบนี้หรอกครับ


พอเราไปถึงหน้าห้องของคุณแตซอง คุณแตซองก็มาเปิดประตูให้ แวบแรกที่ผมได้เห็นพี่เขาก็ถึงกับตะลึงไปเหมือนกันครับ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนพิการคนไหนที่หล่อและมีเสน่ห์ขนาดนี้ ผิวขาวๆ ตาตี่ๆ ใส่แว่นด้วยครับเพราะพี่แตซองสายตาสั้นเล็กน้อย ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หน้าตาพี่เขาคล้ายๆ กับพระเอกเกาหลีคนหนึ่งที่เล่นเรื่อง Winter Love Song แต่ผมว่าพี่แตซองหล่อและมีเสน่ห์กว่าเยอะเลย รู้สึกถูกชะตากับพี่เขาตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะครับ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากหรอก อาจจะเป็นเพราะมัวแต่ตกตะลึงอยู่ก็เป็นได้


ห้องของพี่แตซองกว้างพอสมควร มีห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัวด้วยครับ เขาบอกผมว่าเป็นห้องที่แม่ของเขาซื้อไว้ จริงๆ ตั้งใจจะขายให้คนอื่นต่อ แต่พอพี่แตซองได้รับบริการ PA ก็เลยขอมาอยู่ที่นี่เพราะอยากลองดูว่าจะสามารถดำรงชีวิตอิสระด้วยตัวเองได้จริงหรือเปล่า ตอนแรกครอบครัวก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าจะอยู่คนเดียวได้ไหม แต่พี่แตซองก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วครับว่าสามารถอยู่คนเดียวได้


พี่แตซองต้องการให้ผมช่วยในเรื่องการถ่ายตัวจากเตียงไปบนรถเข็น เข้าห้องน้ำแล้วก็อาบน้ำ ก็แค่ช่วยยกตัวครับ ไม่ต้องช่วยทำอย่างอื่น พี่แตซองสามารถอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวเองได้ อาจจะให้ช่วยทำงานบ้านและพาไปข้างนอกบ้างเป็นครั้งคราว เช่น ไปซื้อของหรือไปหาเพื่อน เราตกลงชั่วโมงทำงานกันที่วันละ 4-6 ชั่วโมงครับ ก็แล้วแต่ว่าวันไหนจะใช้มากหรือน้อย ผมติดปัญหาตรงที่มาได้แค่ 2 เดือนนี่แหละครับ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะยังไงที่ศูนย์ก็คงต้องจัดหา PA คนใหม่ให้พี่แตซองอยู่แล้ว อ้อ ผมไม่ได้มาทุกวันด้วยครับ ผมเลือกมาวันเว้นวันเพราะว่าจะได้มีเวลาอยู่กับแม่และน้าสาวด้วย ส่วนวันที่ผมไม่ได้มาก็ตกลงกับทางศูนย์ว่าให้ทางศูนย์ช่วยหาคนมาให้ โชคดีที่พอมีคนมาแทนได้อยู่


หลังจากนั้นเราก็ตกลงเซ็นสัญญากันครับ พี่แตซองก็จะเป็นเหมือนนายจ้าง (Employer) และผมก็จะเป็นเหมือนลูกน้อง (Employee) ทางศูนย์บอกว่าถ้าจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นเพื่อนกันก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น ทางศูนย์ก็จะไม่รับผิดชอบ รับผิดชอบเฉพาะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานเท่านั้น


เราสามารถปรึกษากับศูนย์และขอให้มาช่วยแก้ปัญหาได้ เท่าที่ผมทราบมาก็มีปัญหาหลายอย่าง เช่น PA ไม่มา PA บ่นหรือพอทำแล้วก็ไม่ชอบ ทะเลาะกันก็มี คนพิการใช้ PA ผิดวัตถุประสงค์ หรือแม้กระทั่งปัญหาชู้สาวก็เคยมี แต่หลังๆ ไม่มีอีกแล้วหลังจากที่ใช้นโยบายเพศเดียวกัน


ก็เอาเป็นว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมก็จะมาเป็น PA ให้พี่แตซองครับ พี่เขาดูเงียบๆ ขรึมๆ หน่อยแต่ก็มีแววตาอ่อนโยน ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ผมอยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก พี่เขาคุยดีและเป็นกันเองด้วยครับ ทำให้ผมหายกังวลไปเยอะเลย


เมื่อตกลงกันแล้วผมกับพี่ผู้ชายที่เป็นผู้ประสานงานก็เดินทางกลับ ผมจำได้ว่าคืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับเลยครับ ตื่นเต้นมากที่จะได้ทำอาชีพ PA เป็นครั้งแรก อาจจะเป็นเพราะนี่คืองานที่ใหม่ ไม่เคยทำมาก่อน ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นและประหม่า ความคิดด้านลบหรือความกังวลที่ผมเคยมีก่อนหน้านี้ก็ลดลงไปเยอะเลย คิดแล้วก็อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ผมอยากเจอพี่แตซองแล้วล่ะ คนพิการอะไรไม่รู้...หล่อเป็นบ้าเลย


TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดให้กำลังใจ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอน
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-11-2015 22:05:38 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
เป็นเรื่องจริงหรอครับ

น่าสนใจดีแหะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
 :mc4:

น่าสนใจจัง
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ

ออฟไลน์ DeJavu~ ★

  • มาเฟียแสนซน กะชีคผู้เคร่งขรึม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-9
จะรออ่านนะ แค่ตอนแรกก้อน่าหนุก

ยินดีต้อนรับนะครับ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
ชอบแบ๊คกราวน์เรื่องมาก
รออ่านค่ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
น่าดึงดูดให้อ่าน
พลอยได้ความรู้เล็กๆน้อยๆไปด้วย

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 02 ☯ วันแรกของน้องเก้า





ไม่เคยคิดเลยครับว่าชีวิตนี้จะได้มาข้องเกี่ยวกับคนพิการ ที่สำคัญไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะรักคนพิการได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับชีวิตของผมได้ต้องเรียกว่า "ฟ้าลิขิต" เลยล่ะ ผมไม่อายใครหรอกนะครับว่าผมรักพี่แตซอง รักหมดหัวใจของผม แต่เชื่อไหมครับแม้ว่าผมจะคิดอย่างนั้นแต่ผมก็ไม่กล้าบอกใคร ไม่ใช่ว่าผมอายที่ผมรักคนพิการ แต่ผมยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผมต่างหาก ผมประสบปัญหาที่จะบอกครอบครัวและบรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายว่าผม "ไม่ชอบผู้หญิง" ก็ได้แต่หวังว่าสักวันผมจะกล้าบอกครับ


วันแรกที่ผมต้องไปทำงานเป็น PA ก็ต้องตื่นเช้าทีเดียวครับ ผมตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเศษๆ อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วก็มากินข้าวที่แม่อุตส่าห์ลุกมาทำเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้า ผมลาแม่กับน้าสาวแล้วก็ออกจากบ้านไป เดินทางไปที่บ้านของพี่แตซองด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสถานีที่ใกล้ที่สุด ผมใช้เวลาเดินอีกเล็กน้อยก็มาถึงคอนโดที่เขาอยู่ เขาอยู่บนชั้น 8 ครับ ผมมาถึงหน้าห้องเขาตอนประมาณเกือบ 8 โมงเช้า เคาะประตูและรออยู่นานพอสมควรพี่คิมแตซองจึงมาเปิดประตูให้


"อันยองฮาเซโย" เราทักทายแล้วก็ยิ้มให้กัน พี่คิมแตซองอยู่ในชุดนอน ผมยุ่งๆ เล็กน้อย


"ขอโทษที่เปิดประตูช้า พอดีผมต้องใช้เวลาลงจากเตียงพอสมควรถ้าไม่มีคนช่วย" พี่แตซองบอก


"อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอกครับ" ผมยิ้มด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าจริงใจที่สุดให้พี่แตซอง จะได้รู้ว่าเรื่องเปิดประตูช้าไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมจริงๆ


"วันนี้ผมจะอาบน้ำตอนแปดโมงครึ่งนะ แล้วก็จะกินข้าวเช้า จากนั้นตอนสายๆ หน่อยผมจะไปซื้อของข้างนอก ว่าจะปั๊มกุญแจเข้าให้...ชื่ออะไรนะครับ"


ผมขำเล็กน้อย ไม่ทันไรพี่แตซองก็ลืมชื่อผมซะแล้ว


"ครับ"


พี่แตซองหัวเราะแหะๆ อย่างอายๆ "อ้อ น้องเก้า เดี๋ยวผมจะปั๊มกุญแจห้องพักผมให้น้องเก้านะครับ ต่อไปมาถึงแล้วจะได้เข้ามาได้เลย อ้อ ตอนเที่ยงๆ ผมจะพาน้องเก้าไปกินข้าวด้วยกันเป็นการเลี้ยงต้อนรับ ตอนบ่ายๆ ผมก็จะกลับเข้ามาที่ห้องพัก น้องเก้าก็กลับบ้านหลังจากนั้นได้เลยครับ"


พี่แตซองให้รายละเอียดกิจกรรมทั้งหมดที่ผมจะต้องช่วยพี่แตซองทำในวันนี้ เป็นคนที่รอบคอบและชัดเจนดีมากครับ ไม่ต้องรอให้ผมถามเลย


"กินข้าวมาหรือยังครับ" พี่แตซองถามในขณะที่ผมช่วยเข็นมาที่เตียงนอน แม้ว่าจะฝึกมาแล้วแต่พอได้เข็นครั้งแรกกับผู้ใช้บริการตัวจริงผมก็ประหม่าไม่น้อยเหมือนกัน


"เรียบร้อยแล้วครับ" ผมหยุดเว้นจังหวะไปเล็กน้อย


"ช่วยสอนผมด้วยนะครับ ผมยังใหม่กับงานนี้มาก"


"ได้ครับ ว่าแต่คุณเป็นคนเกาหลีหรือเปล่าครับ ผมเห็นชื่อแปลกๆ" พี่แตซองถาม


ผมย่อตัวลงนั่งข้างๆ เพื่อที่จะคุยกันได้สะดวก เวลาคุยกับคนพิการเราต้องย่อตัวลงนะครับ ไม่งั้นจะต้องแหงนหน้าคุยกันเมื่อยคอแย่เลย


"ผมเป็นคนไทยครับ พอดีมาเยี่ยมญาติที่เกาหลีสองเดือน พอดีไม่อยากอยู่ว่างๆ ก็เลยลองสมัครมาทำงานนี้ดูครับ"


พี่แตซองทำหน้าแปลกใจ "คนไทยหรือครับ พูดภาษาเกาหลีชัดมากเลย ผมนึกว่าเป็นคนเกาหลีเสียอีก ชื่อเก้าแปลว่าอะไรเหรอครับ"


"แปลว่าเลขเก้าครับ เหมือนกับภาษาเกาหลีเลย"


พี่แตซองร้องอ๋อ "อ๋อ...แปลกดีนะ ออกเสียงคล้ายๆ กันแล้วยังแปลเหมือนกันอีกด้วย"


ใช่แล้วล่ะครับ ใครที่เรียนภาษาเกาหลีจะเห็นว่าเลขไทยกับเลขเกาหลีนั้นเหมือนกัน ออกเสียงคล้ายๆ กัน เข้าใจว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากการนับเลขของจีนเหมือนกัน


แล้วพี่แตซองก็ขอให้ผมช่วยอาบน้ำให้ครับ แม้ว่าผมจะผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผมต้องฟังสิ่งที่พี่แตซองบอกว่าจะให้ช่วยอะไร แบบไหน พี่แตซองบอกให้ผมช่วยอุ้มเขาไปนั่งบนเตียงก่อน พี่แตซองพอจะยืนได้บ้างแต่ต้องมีคนช่วย วิธีการก็คือผมต้องก้มตัวลงไป เอามือสองข้างสอดใต้รักแร้พี่แตซองให้มือโผล่ไปด้านหลัง จากนั้นพี่แตซองก็จะเอามือโอบที่คอผมแล้วผมก็จะค่อยๆ ยกตัวพี่แตซองขึ้น


พี่แตซองสามารถยืนได้ตรงเลยครับ ดูเผินๆ ก็เหมือนผู้ชายสองคนยืนกอดกันอยู่ เวลาสบตากับพี่แตซอง ผมรู้สึกว่าหัวผมใจเต้นและประหม่าอย่างบอกไม่ถูก คิดในใจว่าคนพิการอะไรหล่อชะมัดเลย แล้วพี่แตซองก็บอกให้ผมค่อยๆ หย่อนตัวของพี่แตซองลงบนขอบเตียง


พี่แตซองสามารถนั่งตัวตรงได้ครับ จริงๆ กำลังแขนและขาของพี่แตซองก็ยังพอมี ไม่ลีบเล็กมาก จนดูเผินๆ ก็เหมือนคนไม่พิการเลย เพียงแต่ไม่สามารถเดินได้เท่านั้นเอง ส่วนแขนก็ยังพอมีแรงอยู่ สามารถหยิบจับของเองได้ เข็นรถวีลแชร์เองได้ แต่อาจจะเข็นไกลๆ เองไม่ค่อยไหวเพราะต้องใช้แรงมาก


คนพิการที่ผมพบที่เกาหลีดูจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนพิการบ้านเรามากเลยครับ ดูง่ายๆ แค่การแต่งตัว คนพิการที่นี่ดูสะอาดสะอ้านกว่ามาก แต่งตัวดี รถวีลแชร์ที่ใช้ก็คุณภาพดี แสดงว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญพอสมควร ฮ่าๆ อันนี้ก็เดาเอาเองนะครับ


เรื่องที่น่าตื่นเต้นต่อมาก็คือผมต้องถอดเสื้อผ้าให้พี่แตซองก่อนครับ พอพี่แตซองบอกผมก็อึ้งไปพอสมควร แต่ก็ต้องทำครับ คนเกาหลีกับญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการอาบน้ำร่วมกัน เขาไม่ค่อยอาย แต่คนไทยไม่เคยทำอย่างนั้นก็เลยอาจจะเขินๆ หน่อย


พี่แตซองปลดกระดุมเสื้อและถอดเสื้อเองได้ครับ พอถอดเสื้อแล้วก็เผยให้เห็นผิวขาวเนียนสะอาดตา ขาวเนียนมากๆ เลยล่ะครับ แสดงว่าน่าจะเป็นลูกคนมีอันจะกิน ต่อมาก็เป็นการถอดกางเกง พี่แตซองต้องการความช่วยเหลือนิดหน่อยเพราะยกตัวเองไม่ได้ วิธีการก็คือผมต้องค่อยๆ ดึงขอบกางเกงของพี่แตซอง พอพ้นส่วนที่เป็นก้นมาแล้วก็จะถอดออกได้ง่ายขึ้น ผมเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำแล้วครับเมื่อเห็นพี่แตซองเหลือแต่กางเกงในสีขาวตัวเดียว ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกกว่านั้นก็คือผมก็จะต้องช่วยถอดกางเกงในด้วยนี่สิครับ ตื่นเต้นจนมือไม้สั่นเลยทีเดียว


"ไม่ต้องเขินหรอกครับ ผมยังไม่เห็นอายเลย ผู้ชายเหมือนกันครับ มีเหมือนกัน"


ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วก็ช่วยพี่แตซองถอดกางเกงในออก ขั้นตอนก็เหมือนกับถอดกางเกงนั่นแหละครับไม่นานนักพี่แตซองก็เหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย ผมไม่ค่อยกล้ามองตรงนั้นของพี่แตซองเท่าไหร่ แอบชำเลืองดูก็เห็นว่าเหมือนๆ กับของคนทั่วไปนั่นแหละ ที่สำคัญ...น่าจะแซ่บไม่น้อย ฮ่าๆ พี่แตซองไม่ได้ใช้สายปัสสาวะ สามารถขับถ่ายเองได้ แต่จำเป็นต้องใช้ PA เพราะพี่แตซองมักจะตกเตียงหรือเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำได้บ่อยๆ ตอนที่ยังไม่ได้ใช้บริการ PA


"พี่น่ะ เคยตกเตียงบ่อยๆ แต่ก็ชินแล้วล่ะ มีครั้งนึงพี่ได้ PA คนใหม่มา เขาช่วยไม่เป็นแล้วก็ตื่นเต้นแบบเก้านี่แหละ เขาทำพี่ตกอ่างอาบน้ำ หัวแตกเลย"


พี่แตซองพูดไปก็ขำไป แต่ผมนี่สิฟังแล้วรู้สึกสงสารจนน้ำตาจะไหล


จากนั้นผมก็ต้องช่วยยกพี่แตซองกลับมานั่งในรถวีลแชร์เหมือนเดิม อ้อ รถวีลแชร์ของพี่แตซองไม่เหมือนรถวีลแชร์ที่ใช้ในโรงพยาบาลนะครับ เขาออกแบบได้สวยและเล็กกะทัดรัดดีครับ ดูๆ ไปก็เทห่์และคล่องแคล่วดีเหมือนกัน ทำให้คนนั่งไม่ดูน่าสงสารจนเกินไป สมาร์ทเลยล่ะ


พี่แตซองบอกให้ผมยกที่พักเท้าของวีลแชร์ขึ้นก่อน วิธีการยกก็เหมือนเดิมครับ ผมต้องกอดพี่แตซองแล้วให้พี่แตซองโอบคอแล้วยกตัวขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆ ย้ายตัวพี่แตซองลงมานั่งในวีลแชร์ แล้วพี่แตซองก็ให้ผมยกขาข้างซ้ายขึ้น เอาที่วางเท้าของวีลแชร์ลงแล้ววางขาพี่ข้างซ้ายของพี่แตซองลงไป แล้วก็ทำเหมือนกันกับเท้าข้างขวา


พี่แตซองหยิบชุดนอนและกางเกงในที่ผมวางไว้บนเตียงมาวางไว้บนตัก แล้วก็บอกให้ผมเข็นพาไปตรงตะกร้าผ้าสำหรับใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว จากนั้นผมก็พาพี่แตซองเข็นเข้าไปในห้องน้ำ มีราวจับติดไว้ด้วยครับ พี่แตซองจะทำธุระส่วนตัวก่อน ผมช่วยยกตัวพี่แตซองไปนั่งบนโถแล้วก็ออกมาก่อน ถ้าเสร็จธุระแล้วพี่แตซองก็จะเรียกอีกครั้ง


พอออกมาจากห้องน้ำ ผมก็เริ่มโล่งใจไปเยอะเลยว่างานไม่ได้ยากอย่างที่คิด เริ่มรู้สึกดีใจเหมือนกันที่มีส่วนช่วยให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตประจำวันของตัวเองได้ คิดๆ แล้วก็อยากให้มีบริการแบบนี้ที่บ้านเรามั่ง น่าจะช่วยให้คนพิการมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ได้เยอะเลย


ไม่นานนักพี่แตซองก็เรียก ให้ผมไปช่วยยกตัวพี่แตซองขึ้นวีลแชร์และพาไปที่อ่างอาบน้ำ พี่แตซองจัดการธุระส่วนตัวได้ครับ ผมไม่ต้องไปเช็ดหรือไปกดน้ำให้ เลย แต่ PA หลายๆ คนก็อาจจะต้องทำอย่างนั้นนะครับเท่าที่ผมรู้มา


ที่อ่างอาบน้ำของพี่แตซองจะมีกระดานขนาดพอนั่งได้พาดอยู่กลางอ่าง ผมต้องช่วยพี่แตซองถ่ายตัวจากวีลแชร์ไปนั่งบนกระดานนั้น พี่แตซองจะไม่ลงไปในอ่างครับเพระว่าไม่สามารถขึ้นจากอ่างเองได้ จึงใช้วิธีการนั่งอาบน้ำฝักบัวบนกระดานที่ว่านั้นแทน จากนั้นผมก็ออกมารอข้างนอกเหมือนเดิม ปล่อยให้พี่แตซองอาบน้ำไปตามสบาย พออาบเสร็จพี่แตซองก็เรียกผมเข้าไปช่วยถ่ายตัวจากกระดานมานั่งบนวีลแชร์ ผมหยิบผ้าเช็ดตัวให้พี่แตซองเช็ดตัวแล้วก็พาพี่แตซองออกมาจากห้องน้ำ


พี่แตซองบอกผมให้เข็นไปที่ตู้เสื้อผ้า ปกติถ้าบ้านไหนมีคนพิการพ่อแม่หรือญาติๆ ก็อาจจะเลือกเสื้อผ้าให้คนพิการใส่ แต่การเป็น PA ห้ามทำอย่างนั้นเด็ดขาด ต้องให้คนพิการเป็นคนเลือกเองทุกอย่างครับ พี่แตซองเลือกกางเกงสีออกครีมๆ ขาวๆ กับเสื้อยืดสีขาว และเสื้อแขนยาวกันหนาวสีม่วงๆ ไม่ถึงกับหนามากเพราะยังไม่ใช่หน้าหนาว อ้อ พี่แตซองใช้กางเกงในสีขาวยี่ห้อ Homme ด้วย ดูท่าว่าคงจะชอบมากเพราะกางเกงในทุกตัวเป็นยี่ห้อนี้หมดเลย


จากนั้นผมก็พาพี่แตซองไปที่โต๊ะหน้ากระจก พี่แตซองใช้ครีมทาหน้าของผู้ชายยี่ห้อเกาหลียี่ห้อหนึ่ง แล้วก็ทาโรลออน จากนั้นก็หวีผม เส้นผมพี่แตซองเล็กและนุ่มดีครับ สีออกน้ำตาลหน่อยๆ ส่วนทรงผมก็เหมือนผู้ชายทั่วไป ไม่ได้ตามแฟชั่นมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ดูเชย


จากนั้นผมก็พาพี่แตซองมาที่เตียงเพื่อใส่เสื้อผ้า ผมช่วยยกตัวพี่แตซองจากวีลแชร์มานั่งบนเตียงก่อนเหมือนเดิม เนื้อตัวพี่แตซองหอมกรุ่นทีเดียว วิธีการใส่ก็เริ่มจากชิ้นในสุดก่อน ก็ต้องเป็นกางเกงในอยู่แล้วล่ะครับ แล้วก็ตามด้วยกางเกง จากนั้นพี่แตซองจะใส่เสื้อเองครับ


การจะเป็น PA ที่ดีอย่างหนึ่งก็คือต้องไม่สวมเสื้อผ้าที่ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ไม่ใส่เครื่องประดับหรือนาฬิกาเพราะอาจจะไปเกี่ยวกับเสื้อผ้าคนพิการตอนช่วยยกหรืออุ้มแล้วอาจจะตกแตกเสียหายได้ ที่สำคัญ อย่าทำอะไรแทนคนพิการโดยที่ไม่ได้บอกให้ช่วยทำอย่างเด็ดขาด นี่คือกฎเหล็กเลยล่ะครับ จะเห็นว่าผมจะไม่คิดอะไรแทนพี่แตซองเลย ไม่มีแม้กระทั่งข้อเสนอแนะว่าควรทำยังไง แค่ทำตามที่พี่แตซองบอกอย่างเดียวก็พอ เพราะนี่คือชีวิตของพี่แตซองที่จะต้องคิดและตัดสินใจเองทุกเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง เหมือนกับที่เราอาบน้ำเอง แต่งตัวเอง เลือกเสื้อผ้าเอง เลือกอาหารที่เราชอบ ไปในที่ๆ เราอยากไป ในเวลาที่เราสะดวกด้วยตัวเอง เพียงแต่คนพิการบางคนอาจจะต้องการให้มีคนมาช่วยทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำไม่ได้


ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้มีบริการ PA สำหรับคนพิการในบ้านเราแบบนี้ด้วย แต่ผมก็เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าในบ้านเราก็กำลังคิดจะให้บริการแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่ค่าจ้างต่อชั่วโมงอาจไม่ค่อยสูงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเกาหลี


แนวคิดเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้คนพิการใช้ชีวิตอิสระได้แล้ว ที่ศูนย์ยังบอกด้วยว่าเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนทั่วไปด้วย โดยเฉพาะนักศึกษา คนตกงาน แม่บ้านหรือคนที่มีเวลาว่างๆก็สามารถมาทำอาชีพนี้ได้ อ้อ แนวคิดนี้เห็นเขาบอกว่าได้มาจากญี่่ปุ่น แล้วญี่ปุ่นก็ได้มาจากอเมริกาอีกที


ในที่สุด พี่แตซองก็พร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้วครับ ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนพิการจะสามารถแต่งตัวแล้วดูดีได้ขนาดนี้ เพิ่งได้มาเห็นที่เกาหลีนี่แหละครับ ดูจากยี่ห้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็รู้สึกได้เลยว่าพี่แตซองค่อนข้างพิถีพิถันกับการแต่งตัว ตอนหลังผมก็ได้รู้จากพี่แตซองครับว่าก่อนที่จะพิการนั้นพี่แตซองป๊อบปูล่าร์พอสมควร แต่งตัวเก่งยิ่งกว่านี้อีก


"เป็นไงครับน้องเก้า เหนื่อยไหมวันแรก" พี่แตซองถามพลางยิ้ม


ผมรีบส่ายหน้า "ไม่หรอกครับพี่ สนุกดี ผมชอบครับ" ผมยิ้มกว้างสุดฤทธิ์ให้พี่แตซองเห็นว่าผมไม่เป็นไรจริงๆ น้องเก้าของพี่แข็งแรงกว่าที่พี่เห็นเยอะนะครับ แม้ว่าผมจะตัวผอมๆ ไปหน่อยก็ตาม ฮ่าๆ


พี่แตซองยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วก็หยิบแว่นตาที่หัวเตียงมาใส่ จากนั้นก็ให้ผมช่วยยกตัวมาไว้บนวีลแชร์อีกครั้ง ตอนที่ยกตัวขึ้นผมก็แอบเนียนกอดพี่แตซองด้วยครับ ผมไม่ได้คิดที่จะลวนลามคนพิการนะครับเพราะว่าเวลายกต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว แหะๆ แแต่การได้กอดผู้ชายตัวหอมๆ อุ่นๆ แถมยังหน้าตาดีก็ทำให้ผมตื่นเต้นเหมือนกัน แม้ว่าพี่แตซองจะเป็นคนพิการก็เถอะ ตอนนั้นผมก็ได้แต่สงสัยและงงกับความคิดของตัวเองครับว่าผม


"คิดอย่างนี้ได้ยังไง!!!"


TBC
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2015 08:37:22 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ Allure-Q

  • Just the way you are
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
 :mc4: น่าติดตามมากๆเลยค่ะเรื่องนี้
อา...จะเป็นยังไงต่อไปนะ?

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ปกติมีแต่คนพิการจะติดใจผู้ดูแล นี่คงเป็นกรณีพิเศษ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
เรื่องแปลกดี น่าติดตาม จะรอตอนต่อไปนะ แต่เดาเอาว่า เศร้าแน่ๆ

ออฟไลน์ SungMinKRu

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 570
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +151/-0
    • https://www.facebook.com/pages/SungMinKRu-Boys-Love/311662138876399


ชอบอะแปลกแหวกแนวดี

มาต่ออีกนะค่ะ น่าติดตามมม ชอบบๆๆๆ   :L2: :L2: :L2:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อืมมม คิดอย่างนี้ยังไง

แต่ถ้าหน้าตาดี อันนี้ละเว้นได้เนอะ

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
ว้าวววว
แปลกใหม่ดีนะคะ
น่าสนใจดีอ่ะ จะรอตอนต่อไปค่ะ ^^)/~♥

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
มาติดตามค่ะ
ดีมากเลยค่ะ ชอบ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

แหวกแนวดีจริงๆ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
ลำบากใจที่ได้อยู่แค่สองเดือนนี่แหละ อิอิ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
เรื่องแปลกดีไม่เคยอ่านแนวนี้เลย
แล้วมาต่อนะคะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ
+ 1 นะคะ

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ชอบเรื่องนี้จัง
แหวกแนวดี
รอตอนต่อไปนะค่ะ :bye2:

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
น่าสนใจมากครับ  เเต่เศร้าแน่ๆเลย TT

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






MokGaLaKom

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆ กลัวตอนจบจะเศร้าจังเลย
จะติดตามนะคะ นั่งรอตอนต่อไป ^^

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 03 ☯ คนพิการที่หล่อจนใจละลาย




ผมช่วยเข็นที่แตซองลงมาจากที่พักแล้วก็เข็นไปตามทางเท้าเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่งสังเกตครับว่าทางเท้าที่เกาหลีเป็นระเบียบมาก ไม่มีสิ่งกีดขวางเลย คนพิการสามารถไปได้ตลอดเส้นทาง มีทางลาดให้ทุกจุด ไม่เหมือนบ้านเราเลยครับที่มีทั้งตู้โทรศัพท์ ไฟ้ฟ้า น้ำ ประปา ป้ายและอีกสารพัดอย่างจนแทบไม่มีที่จะเดิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเราไม่ค่อยเห็นคนพิการบ้านเราออกมาข้างนอก ไปทำงานทำการไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ เพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนที่นี่


พอมาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ผมก็สงสัยว่าจะพาพี่แต่ซองลงไปได้ยังไง เพราะตอนที่มาผมใช้บันได พี่แตซองเห็นผมยืนงงก็ขำใหญ่ เห็นพี่แตซองยิ้มร่าเริงอย่างนั้นแล้วผมก็อดหวั่นไหวไม่ได้ คนพิการบ้าไรวะหล่อชิบเป๋งเลย ให้ตายสิ นี่ผมท่าจะชอบพี่แตซองแล้วใช่ไหมเนี่ย

"เขามีลิฟต์ครับน้องเก้า"

"อ้อ...ผมไม่เคยใช้เลย"

ผมขำตัวเองแล้วก็เข็นพี่แตซองไปที่ลิฟต์ ผมไม่เคยสังเกตเลย เป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในสายตาหรือความคิดมาก่อน พอเรามาถึงชั้นชานชาลา ผมก็พาพี่แตซองไปซื้อตั๋ว พี่แตซองซื้อให้ผมด้วยตามข้อตกลงว่านายจ้างต้องดูแลค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง การขึ้นรถไฟใต้ดินก็ไม่ยากครับเนื่องจากพื้นรถไฟกับชานชาลาไม่ห่างกันมาก


เมื่อประตูรถไฟเปิดออก ผมใช้เท้าเหยียบตรงก้านที่อยู่ด้านหลังรถวีลแชร์ของพี่แตซองเพื่อกระดกหน้ารถขึ้นเล็กน้อย แล้วก็เอาล้อหน้าไปแตะกับตัวรถไฟแล้วก็เข็นรถพร้อมใช้แรงดันเล็กน้อยก็สามารถขึ้นไปบนรถไฟได้อย่างไม่ยากนัก ในรถไฟมีที่ล็อกรถเข็นด้วยครับ ผมช่วยพี่แตซองล็อกรถเข็นแล้วก็นั่งเกาะอยู่ข้างๆ ชวนพี่แตซองคุยไปต่างๆ นาๆ พี่แตซองก็อัธยาศัยดีมาก เล่าอะไรที่น่าสนใจให้ฟังหลายอย่างครับ ผมก็จำไม่ค่อยได้เท่าไรเพราะว่าคุยเยอะ คุยไม่หยุดเลยครับ

 

"พี่พิการมาสี่ปีแล้วล่ะ ตอนนั้นพี่ไปว่ายน้ำกับเพื่อนๆ แล้วกระโดดลงสระยังไงไม่รู้จนหัวไปกระแทกกับพื้นสระแล้วก็ไม่รู้ตัวอีกเลย มารู้ตัวอีกทีก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว เส้นประสาทแถวๆ คอที่เชื่อมกับสันหลังขาด พี่ต้องไปทำกายภาพบำบัดอยู่เป็นปี ก็พอมีแรงอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากพอที่จะเดินเองได้ เคยใช้วอร์กเกอร์ด้วยนะ น้องเก้าเคยเห็นไหม"


ผมพยักหน้า เคยเห็นคนแถวบ้านใช้อยู่ก็เลยพอนึกออก


"แต่หลังๆ พี่รำคาญเพราะว่ามันช้า ไม่ทันใจคนวัยอย่างพี่ ก็เลยตัดสินใจใช้รถเข็นแทน ก็สะดวกดีนะ เร็วดี แต่กว่าพี่จะทำใจยอมนั่งรถเข็นได้ก็ทำใจอยู่หลายเดือนเหมือนกัน ตอนนั้นพี่ยังยอมรับความพิการของตัวเองไม่ได้ แต่พอเริ่มยอมรับได้พี่ก็พยายามฝึกใช้ชีวิตด้วยตัวเอง กินข้าวเอง อาบน้ำเอง แปรงฟันเอง พยายามทำด้วยตัวเองให้ได้หมดทุกอย่าง ตอนนี้ทำก็ทำได้เยอะแล้วล่ะ"


พี่แตซองพูดไปผมก็มองคนพูดไปด้วย มองพี่แตซองแล้วก็เพลินดีเหมือนกัน คนพิการอะไรหล่อเป็นบ้าเลย สายตาก็ดูอบอุ่นจนผมเคลิ้ม ถ้าเดาไม่ผิดตอนที่ยังไม่พิการคงมีสาวๆ มาชอบเยอะแน่ๆ เลย


กำลังจะถามต่อว่าพี่แตซองมีแฟนหรือยังก็พอดีมาถึงสถานีที่จะลง ผมก็เลยต้องกลับมาทำหน้าที่ PA ต่อ ปลดที่ล็อกที่ยึดกับตัวรถไฟแล้วก็มาปลดล็อกรถเข็น พอประตูรถไฟเปิดออกผมก็เข็นพี่แตซองลงจากรถไฟ การเข็นลงนั้นจะต้องเอาด้านหลังลงครับ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วพี่แตซองอาจจะตกจากรถเข็นได้


พอออกมาจากสถานีก็เห็นมีตลาดคล้ายๆ จตุจักรหรืออะไรทำนองนี้ครับ ผมจำไม่ได้ว่าอยู่แถวไหน อาจจะนอกๆ เมืองหน่อย พี่แตซองไปที่ร้านทำกุญแจเพื่อปั๊มกุญแจให้ผมก่อน พี่แตซองมีแล้วสองชุดสำหรับตัวพี่แตซองเองและ PA แต่ตอนนี้มีผมมาเป็น PA เพิ่มอีกคนหนึ่งก็เลยทำเพิ่มอีกหนึ่งชุด


การให้กุญแจนั้นก็ต้องระวังครับ เพราะนั่นหมายถึงว่า PA จะเข้าออกบ้านคนพิการได้ทุกเวลา เกิดทรัพย์สินสูญหายก็จะกลายเป็นเรื่องได้ มีหลายรายแล้วที่เจอเหตุการณ์อย่างนี้ แล้วก็มักจะลงเอยด้วยการให้ออก


พี่แตซองดูเหมือนจะรู้จักเจ้าของร้านดีครับ เห็นคุยกันอยู่นาน ส่วนผม ด้วยหน้าที่ก็คือการช่วยเฉยๆ ไม่ต้องมีส่วนร่วมในสิ่งที่เขาทำ ไม่ต้องออกความคิดเห็น ไม่ต้องทำอะไรที่นอกเหนือจากสิ่งที่นายจ้างบอก อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ผมว่ามันก็ถูกต้องนะครับ คนพิการต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง จะผิด จะถูก ดีหรือไม่ดี ก็ต้องได้เรียนรู้และรับผิดชอบเอง


ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าฝนตกแล้วต้องการออกไปข้างนอก PA ก็ไม่ควรห้ามเพราะตัวคนพิการต้องคิดแล้วว่าไปได้ หรืออาจจะตัดสินใจยอมรับความเสี่ยงว่าอาจจะไม่สบายได้ถ้าตากฝน ก็เหมือนกับคนทั่วไปใช่ไหมครับ ถ้าฝนตกแล้วเราจำเป็นต้องออกไปเราก็ต้องไป ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมาก็เป็นเรื่องธรรมดา คนพิการก็ควรจะได้คิดและทำเหมือนที่คนทั่วไปทำ เปียกก็คือเปียก ป่วยก็คือป่วย เพราะนั่นคือสิ่งที่เราเลือกเอง อ้อ แต่ PA สามารถตัดสินใจที่จะไม่ทำบางสิ่งบางอย่างได้นะครับถ้าเห็นว่าทำไปแล้วจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



จากนั้นพี่แตซองก็ไปซื้อของในตลาดครับ เขาอยากได้ของขวัญวันเกิดให้เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเป็นใคร แต่พอรู้แล้วก็ใจหายเล็กน้อย พี่แตซองให้ผมช่วยเลือกด้วยครับ พี่แกอยากได้ของที่แปลกๆ เพราะเพื่อนคนนี้ชอบของแปลกๆ หากันอยู่หลายร้าน สุดท้ายก็ไปเจออะไรบางอย่างที่ทะลึ้ง ทะลึ่ง ฮ่าๆ ขอไม่บอกละกันนะครับว่าเป็นอะไร


พอได้ของแล้วก็ไปรับกุญแจ จากนั้นพี่แตซองก็พาผมไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารเกาหลีใกล้ๆ แถวนั้นครับ เป็นร้านอาหารที่คนเกาหลีแท้ๆ กินกันในชีวิตประจำวันเลยล่ะ


"เก้ากินอาหารเผ็ดๆ ได้ไหม คนเกาหลีชอบกินอาหารรสจัดหน่อยนะ"


ผมขำเล็กน้อยแล้วก็ตอบไป "สบายมากครับพี่แตซอง คนไทยกินอาหารรสจัดอยู่แล้วครับ เผลอๆ อาหารไทยจะเผ็ดกว่าอาหารเกาหลีอีกนะครับ"


พี่แตซองทำหน้าอึ้งๆ "จริงเหรอ พี่ยังไม่เคยกินอาหารไทยเลย อืม...จำได้ว่าเพื่อนพี่เคยกิน เห็นเขาบอกอยู่เหมือนกันว่าเผ็ดมาก สงสัยพี่ต้องลองไปกินดูบ้างแล้วจะได้รู้ว่าเผ็ดแค่ไหน"


"ไปกินที่บ้านผมก็ได้นะครับพี่ เดี๋ยวผมให้แม่กับน้าสาวทำอาหารไทยให้พี่แตซองลองกินดูครับ"


"อืม...น่าสนใจนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก รบกวนที่บ้านของเก้าเปล่าๆ"


"ไม่เป็นไรครับพี่ ไปได้ เดี๋ยวผมจะบอกแม่ให้ว่าพี่แตซองอยากลองกินอาหารไทย แม่ผมใจดีครับ แม่ชอบทำอาหารมาก ทำอร่อยด้วยนะครับ"


ผมกับพี่แตซองยิ้มให้กัน ผมชอบรอยยิ้มของพี่แตซองมากๆ เลยครับ เห็นพี่แตซองยิ้มทีไรผมใจแทบละลาย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นคนพิการที่หล่อขนาดนี้นี่แหละ พี่แตซองไม่ดูน่าสงสารเลย อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เคยเดินได้ อยู่ในสังคมเหมือนคนทั่วไป พอเป็นคนพิการแล้วพี่แตซองก็ยังคงเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ดี ไม่มีแววตาของความเคอะเขินหรือประหม่าให้เห็นเหมือนคนพิการที่ผมมักเจอบ่อยๆ


เรากลับกันมาถึงที่พักของพี่แตซองประมาณเกือบบ่ายสองครับ มาถึงห้องปุ๊บพี่แตซองก็ขอเข้าห้องน้ำก่อนครับเพราะปวดฉี่ ผมเข้าไปช่วยเหมือนเดิมครับ พอออกมาแล้ว พี่แตซองก็เอาใบลงเวลาการทำงานมาให้ผมเขียนรายละเอียดว่าทำอะไรไปบ้าง เอกสารตัวนี้ต้องใช้สำหรับการเบิกเงินค่าจ้าง จากนั้นพี่แตซองก็เซ็นกำกับด้วยเพื่อรับรองว่าผมทำงาน

"วันอังคารมาได้ใช่ไหมครับ" พี่แตซองถาม


"ครับ ตอนนี้ผมว่างทุกวัน แต่ผมว่าผมจะมาวันเว้นวันน่ะครับ อีกวันจะได้อยู่กับแม่เผื่อแม่จะให้ช่วยทำอะไรบ้าง"


"ครับ ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่ก็ขอบคุณเก้ามากนะครับ เก้าเป็น PA มือใหม่ที่ทำงานดีมาก"


ผมยิ้มใหญ่เลยที่พี่แตซองชม


"ต้องขอบคุณพี่แตซองด้วยครับที่ช่วยสอนผม อ้อ แล้วตอนเย็นพี่มีใครมาเป็น PA หรือเปล่าครับ"


พี่แตซองส่ายหน้า "ไม่มีครับ พอดีตอนนี้รัฐบาลเขาจำกัดชั่วโมงการใช้บริการ PA อยู่ครับ วันหนึ่งใช้ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงตามที่เราตกลงกันนั่นแหละครับ"


"แล้วพี่แตซองจะเข้าห้องน้ำหรือว่าขึ้นเตียงยังไงล่ะครับ" ผมถามด้วยความสงสัย


"ก็พอได้ อาจจะใช้เวลานานหน่อย ไม่เป็นไรหรอก เก้าไม่ต้องเป็นห่วง พี่อยู่ได้"


"แล้วไม่อันตรายหรือครับ ผมกลัวพี่จะตกเตียง" ผมถามด้วยความเป็นห่วง ดูจะเกินหน้าที่ของ PA ไปแล้วล่ะ


"ไม่เป็นไรครับ ตกเป็นเรื่องธรรมดา" พูดแล้วก็หัวเราะ


ผมกลับรู้สึกสงสารพี่แตซองอย่างจับจิตจับใจ พอดีว่าตอนนั้นผมยังไม่ค่อยเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับคนพิการมากนัก เห็นคนพิการทีไรก็ต้องสงสารไว้ก่อนทั้งๆ ที่ความจริงแล้วคนพิการก็เหมือนๆ คนทั่วไปนั่นแหละ เขาไม่ต้องการให้เราไปสงสารหรอก อย่างเรื่องการตกเตียงก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าพี่เขาอาจจะแขนขาหักได้


"ให้ผมอยู่ช่วยไหมครับ ผมไม่เอาค่าจ้างก็ได้ วันนี้ผมว่างทั้งวัน" ผมอาสา


พี่แตซองทำหน้าประหลาดใจ "อย่าเลยเก้า พี่ไม่อยากเอาเปรียบใคร เดี๋ยวเก้าจะเหนื่อยเกินไปนะครับ"


"ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมจะได้เรียนรู้เพิ่มด้วยไงครับว่าตอนเย็นๆ จะต้องช่วยคนพิการทำอะไรบ้าง ให้ผมอยู่ช่วยพี่นะครับ ผมจะได้เก่งไวๆ ไง วันต่อๆ ไปผมจะได้ทำหน้าที่ PA ได้ดีกว่านี้"


ผมพยายามอ้อนใหญ่เลยครับ ย่อตัวลงข้างๆ รถวีลแชร์ของพี่แตซองแล้วก็ทำตาเศร้าๆ น่าสงสารเพราะอยากอยู่ช่วยจริงๆ


"จะเอาอย่างงั้นเหรอ" คนถามสีหน้าไม่แน่ใจ


ผมพยักหน้าเร็วๆ พร้อมกับยิ้มไปด้วย "ครับ ให้ผมอยู่ต่อนะครับพี่แตซอง แต่ว่า...ไม่ใช่ในฐานะ PA นะพี่ นอกเวลางานแล้ว ให้ผมเป็นน้องหรือเป็นเพื่อนพี่ก็ได้ครับ"


ผมก็หาเรื่องที่จะสนิทกับพี่แตซองมากขึ้นเองแหละครับ เป็น PA มีช่องว่างเยอะ อยากลองเป็นอย่างอื่นดูบ้างจะได้เข้าถึงพี่แตซองได้ง่ายกว่านี้


พี่แตซองพยักหน้ายิ้มๆ แล้วก็ขำที่เห็นผมดื้ออยู่ต่อ


"แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ" พี่แตซองพูดพร้อมกับเอามือมาแตะหัวผมเบาๆ อย่างเอ็นดู


ตอนบ่ายๆ พี่แตซองขอนอนพักประมาณเกือบสองชั่วโมงครับ ผมก็เลยนั่งอ่านหนังสือไปพลางๆ พอพี่แตซองตื่นแล้วก็ทำงานบ้านครับ ไม่น่าเชื่อว่าพี่แตซองจะสามารถกวาดบ้านและถูบ้านบนรถวีลแชร์ได้ ผมขอช่วยพี่แตซองก็ไม่ยอม บอกเสียงดุว่าไม่ใช่หน้าที่ของ PA ผมก็เลยได้แต่เดินตามหลังคอยเข็นพี่แตซองไปตรงนั้นตรงนี้ทั่วห้อง


"เมื่อก่อนพี่ก็ทำไม่เป็นหรอกนะงานพวกนี้ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจานหรืองานบ้านก็จะให้แม่หรือไม่ก็แฟนช่วยทำให้แทบทุกอย่าง"


นั่นแน่ หลุดปากพูดเรื่องแฟนออกมาเสียแล้ว แต่ผมก็แอบใจแป้วเล็กน้อยที่รู้ว่าพี่แตซองมีแฟนแล้ว เอ...แล้วแฟนพี่แตซองไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาอยู่ด้วยกันที่นี่


"ที่ศูนย์ SCIL เขามีโปรแกรมฝึกการใช้ชีวิตอิสระให้พี่ก่อนที่จะใช้ PA พี่ต้องไปฝึกวางแผนชีวิตว่าจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เขาให้พี่หัดทำกับข้าวเอง ไปจ่ายตลาดเอง ทำงานบ้านเอง เข้าห้องน้ำเอง ทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนจบหลักสูตรนั่นแหละพี่ถึงได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอก พี่ขอแม่มาอยู่ที่นี่ ตอนแรกแม่ไม่ยอมให้มาเพราะเขากลัวพี่ลำบาก แต่พี่ก็ยืนยันว่าพี่จะอยู่คนเดียวให้ได้ สุดท้ายแม่ก็เลยยอม ตอนแรกแม่ของพี่ว่าจะขายห้องนี้ไปแล้วล่ะ พอดีพี่ขอมาอยู่ที่นี่ก็เลยไม่ขาย ตอนนี้ พ่อกับแม่พี่เขาก็ไม่ห่วงมากแล้วล่ะ เขารู้ว่าพี่อยู่ได้ แต่พี่ก็ยังติดเรื่องหางานทำอยู่ พี่สมัครไปหลายที่แล้วเขาก็ยังไม่รับ ตอนนี้ก็ใช้เงินที่เก็บไว้นั่นแหละ ดีที่ว่าพี่ไม่ต้องจ่ายค่า PA กับค่าห้อง ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหามาก"


พี่แตซองเล่าให้ฟังเสียยาวในระหว่างที่ถูบ้านไปด้วย ผมฟังแล้วก็อดสงสารไม่ได้ อ้อ ศูนย์ SCIL ก็คือ Seoul Center for Independent Living ครับ แปลเป็นไทยก็คือศูนย์การดำรงชีวิตอิสระโซลนั่นเอง


"พี่แตซองเก่งนะครับ" ผมชมพลางทำหน้าเห็นใจ


"คนเราต้องรู้จักพยายามนะเก้า ไม่งั้นเราก็อยู่รอดไม่ได้ พี่ไม่ได้เก่งหรอก แต่พี่...ต้องเข้มแข็ง"


ผมพยักหน้าเข้าใจ เก่งไม่เก่งคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอก สำคัญที่ความเข้มแข็งของจิตใจนี่แหละ


"เย็นนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันไหม"


พี่แตซองหันมาชวน ผมพยักหน้าตกลงและยิ้มดีใจ


"ให้ผมช่วยพี่ออกตังค์นะครับ หมดเวลางานแล้ว" ผมย้ำเรื่องหมดเวลางานอีกครั้ง


พี่แตซองขำใหญ่เลยครับ


"ได้ครับน้องชายของพี่"


ได้ยินแค่นี้ผมก็หัวใจพองโตแล้วครับ อย่างน้อยพี่แตซองก็ยอมรับผมเป็นน้องชายได้แล้ว ถือว่าก้าวหน้าไปอีกขั้น เหลือก็แต่...


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



"เก้ารู้ไหมว่าพี่ไม่เคยพา PA คนไหนมากินข้าวเย็นด้วยเลยสักคน เก้าเป็นคนแรกเลยนะ"


พี่แตซองพูดขึ้นขณะกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวๆ คอนโดของพี่แตซอง เป็นร้านอาหารที่ค่อนข้างดูดีทีเดียว


"ทำไมล่ะครับ" ผมถามพลางแอบยิ้มอย่างภูมิใจ


"ไม่เหมือนกัน กับ PA คนอื่นๆ พี่ก็รู้สึกว่าเขาเป็นแค่ PA แต่กับเก้า...พี่รู้สึกว่าเก้าอยากเป็นมากกว่า PA"


ผมกับพี่แตซองขำพร้อมกัน สงสัยพี่แตซองจะดูออกเสียแล้วว่าผมไม่ได้อยากเป็นแค่ PA


"ผมอยากมีเพื่อนหรือพี่ชายแบบพี่บ้างน่ะครับ" ผมบอกไปด้วยอาการประหม่า


พี่แตซองยักคิ้วแล้วก็หัวเราะเบาๆ แม้ว่าจะไม่ได้ตอบคำถามแต่ผมก็พอจะเดาได้ว่าพี่แตซองไม่ขัดข้อง


"พี่แตซองรู้ไหม ผมเคยเจอคนพิการเหมือนกันนะที่ประเทศไทย ก็ไม่ค่อยได้เจอบ่อยๆ หรอกครับ แต่พี่แตซอง...เป็นคนพิการคนแรกที่ผมคิดว่า...หล่อเหมือนดาราเกาหลีเลย ผมไม่เคยเห็นคนพิการหน้าตาดีอย่างนี้มาก่อนเลยจริงๆ นะครับ"


พี่แตซองขำใหญ่เลยครับ "ขอบคุณที่ชมนะ เก้าก็หล่อเหมือนกันนะ"


เห็นพี่แตซองยิ้มอย่างนี้แล้วผมก็ยิ่งชอบ เอาแล้วล่ะสิ นี่ผมกำลังจะตกหลุมรักคนพิการหรือเปล่าหนอ...


ก่อนที่ผมจะกลับบ้านก็มีเหตุการณ์ให้ใจเต้นอีกแล้ว พออาบน้ำเสร็จผมก็ช่วยพี่แตซองใส่เสื้อผ้า เรียบร้อยแล้วก็ช่วยเข็นพี่แตซองไปหยิบรีโมททีวี จากนั้นก็พาพี่แตซองกลับมาที่เตียงนอน


ตอนช่วยยกตัวพี่แตซองขึ้นจากรถเข็นในท่ายืนอย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ใจผมสั่นเลยเพราะมันดูเหมือนกับคนกำลังกอดกันอยู่ ตอนนั้นผมมัวแต่ใจเต้นและเผลอคิดอย่างอื่นจึงไม่ทันระวัง พอจะช่วยให้พี่แตซองนั่งลงไปบนเตียงผมก็ล้มทับตัวพี่แตซองซะอย่างงั้น เหมือนพระเอกกับนางเอกในหนังไทยเลย ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือใบหน้าเราเกือบจะชนกันนี่สิเพราะพี่แตซองกอดคอผมไว้ก่อนที่จะล้มลงมาด้วยกัน


พี่แตซองรีบปล่อยมือจากคอผม ส่วนผมก็รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงของพี่แตซองอย่างรวดเร็ว


"ขอโทษครับพี่แตซอง พี่แตซองเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามอย่างเป็นห่วง


พี่แตซองส่ายหน้า ดูเหมือนจะตกใจอยู่เหมือนกันที่เกือบจะได้ "จูบ" กับ PA โดยไม่ตั้งใจ


พอช่วยพี่แตซองแล้ว ผมก็ขอตัวกลับบ้าน ก่อนไปก็ปิดไฟและล็อกประตูให้พี่แตซองด้วย เกือบสี่ทุ่มพอดีครับ กลับไปถึงก็โดนที่บ้านต่อว่านิดหน่อย แต่พอเล่าให้ฟังแล้วทุกคนก็เข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร รอดตัวไป


TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-09-2015 08:38:55 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
เป็นมุมมองที่ดีต่อคนพิการนะ พยายามให้เค้ารู้สึกว่าเป็นคนธรรมดา สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง มันทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า

ออฟไลน์ choijiin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2082
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +445/-5
น่าสนใจค่ะ
ไม่เคยเห็นเรื่องไหนให้มุมมองความรักกับคนพิการมาก่อน
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :pig4:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
นึกถึงฉากล้ม

แล้วแอบเขินเอง อ่ะ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เป็นเรื่องที่แหวกแนวมากๆค่ะ
จริงๆแล้วเคยไปเกาหลีมาบ้างแล้วก็สรุปได้แบบคราวๆว่า
คนเกาหลีจริงๆแล้วหาหน้าตาดีจริงๆอยากกว่าคนไทยค่ะ(ถ้าไม่ไปตกแต่งเพิ่มเติมนะคะ)
ที่ผู้เขียนไปเจอมาเนี่ยแปลว่าพรหมลิขิตจริงๆ
อืม จากที่อ่านก็พอเข้าใจค่ะว่าทำไมถึงชอบเขาได้

ออฟไลน์ jaymaza

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 265
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
รอตอนต่อไป

อ่านแล้วอยากอ่านเรื่อยๆมากๆ

 :L2:

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
เป็นเรื่องที่อ่านเรื่อยๆแต่อุ่นในใจ

ติดตามต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้ในทุกเรื่องนะคะ

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
อ่านด้วยความสนุก  เเต่ต้องระวังเศร้าไปด้วย 55555

BeeBill

  • บุคคลทั่วไป


พอได้เข้ามาอ่าน ยอมรับมาชอบมากๆเลยค่ะ

มันดูเรียบๆอ่าน ง่าย สบายๆดี

แถมยังแหวกแนวอีกด้วย

อยากรู้จักว่าความรักะเป็นยังไงต่อไป :o8:

มาอัพบ่อยให้ได้ชื่นใจนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ  :pig4: :L2: :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด