พิมพ์หน้านี้ - ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: sarawatta ที่ 14-03-2012 22:09:57

หัวข้อ: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 14-03-2012 22:09:57
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ
กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ


6.อย่าพูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

-----------------------------------------------------------------------------

ผลงานปัจจุบันที่กำลังเขียนอยู่

≡▉≡ interstellar ∘★∘ รักหมดใจ นายต่างดาว
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=49903.0

ผลงานที่ผ่านมา

▓ ▒ ░ ต้นสน: มิตรภาพของเพื่อนที่แสนรักจะกลายเป็นความรักได้หรือไม่? (V2) ░ ▒ ▓
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32768.0

◐◑ I Love Kim Jong Hoon ◐◑
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32450.0

▓ ▒ ░ ต้น-สน∞ปาฏิหาริย์รักที่รอคอย (V3) ░ ▒ ▓
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46898.0

▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.0

✿✿ ธุรกิจนี้มีรัก ✿✿
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46884.0

♥♥♥ รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต ▚▚▚
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32020.0

สารบาญ

ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1894546#msg1894546) | ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1894668#msg1894668) | ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1895732#msg1895732) | ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1896548#msg1896548) | ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1897431#msg1897431) | ตอนที่ 6 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1898815#msg1898815) | ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1899800#msg1899800) | ตอนที่ 8 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1900576#msg1900576)

ตอนที่ 9 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1901911#msg1901911) | ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1903199#msg1903199) | ตอนที่ 11 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1904320#msg1904320) | ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1905729#msg1905729) | ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1907213#msg1907213) | ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1908776#msg1908776) | ตอนที่ 15 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1910173#msg1910173) | ตอนที่ 16 (จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32188.msg1911468#msg1911468)




▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 01 ☯ น้องเก้าและพี่คิมแตซอง


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)



เรื่องมันเกิดขี้นเมื่อตอนปิดเทอมภาคเรียนคราวที่แล้วครับ น้าสาวของผมซึ่งแต่งงานกับคนเกาหลีชวนผมกับแม่ไปเที่ยวที่นั่น ส่วนพ่อผมไม่ยอมไปด้วยเพราะต้องทำงาน น้าสาวช่วยออกเงินให้ส่วนหนึ่ง รวมทั้งเงินของเราเองอีกส่วนหนึ่ง ที่เราได้ไปเที่ยวที่เกาหลีบ่อยๆ ก็คงเป็นเพราะอานิสงฆ์ที่สมัยก่อนน้าสาวกับแม่เป็นพี่น้องที่รักกันมากครับ เคยช่วยเหลือเกื้อกูลกันไว้หลายอย่าง น้าสาวเลยค่อนข้างรักแม่ผมมากทีเดียว มักจะมีของฝากส่งมาให้จากเกาหลีบ่อยๆ


พวกเราไปอยู่ที่นั่นกันเกือบ 2 เดือน อยู่ที่บ้านน้าสาวเลยจึงไม่ต้องห่วงว่าจะเปลืองค่าที่พัก ที่ต้องอยู่นานขนาดนั้นก็คงเป็นเพราะน้าสาวเหงาครับ เป็นแม่บ้านที่คอยดูแลสามีไม่ค่อยได้ออกไปไหน จึงอยากให้แม่อยู่เป็นเพื่อนนานๆ หน่อย แม่ผมก็เลยต้องอยู่ที่เกาหลีนานเลย ด้วยความที่คิดถึงน้องสาวแม่ก็ไม่ขัดข้องอยู่แล้ว


สำหรับผม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเกาหลีหรอกครับ ผมเคยมางานแต่งงานน้าสาวตั้งแต่สมัยหนังเกาหลียังไม่ฮิตในบ้านเรา หลังจากกลับมาคราวนั้นก็ทำให้ผมสนใจภาษาเกาหลี แล้วก็ลองไปหาหลักสูตรเรียนครับ ก็เกือบ 8 ปีแล้วที่ผมเรียนภาษานี้ ได้น้าสาวคอยช่วยสอนด้วย เมื่อก่อนผมโทรไปหาน้าสาวบ่อยๆ เพื่อฝึกคุยภาษาเกาหลีกัน ยิ่งหลังๆ พอหนังเกาหลีเริ่มดัง มีคนสนใจภาษาเกาหลีมากขึ้น ก็เลยหาที่เรียนและหนังสือสอนภาษาเกาหลีได้ง่ายมากขึ้น ตอนนี้ผมพูด ฟัง อ่าน เขียนได้ค่อนข้างดีทีเดียวครับ


ไปอยู่แรกๆ ก็สนุกดี น้าสาวพาไปเที่ยวหลายที่เลยครับทั้งในตัวเมืองโซลที่น้าสาวอยู่ ละเมืองใกล้เคียงอื่นๆ แต่มีอีกที่ที่ผมอยากไปมากแต่ไม่ได้ไปคือเกาะเชจู ซึ่งน้าสาวบอกผมว่าอาจจะพาไปก่อนที่พวกเราจะกลับ


พออยู่ได้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มเบื่อครับ ไม่มีอะไรทำ เพื่อนก็ไม่มี น้าสาวเองก็ยังไม่มีลูก ผมเองก็เป็นลูกคนเดียว ก็เลยไม่มีใครเป็นเพื่อนเลย ก็เลยคิดว่าจะต้องหาอะไรทำเสียหน่อย ตอนแรกว่าจะขอไปช่วยงานน้าเขยที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับโสมเกาหลี แต่ผมไม่ค่อยมีหัวทางธุรกิจเท่าไรก็เลยไม่เอาดีกว่า


วันหนึ่งผมเอาหนังสือพิมพ์เกาหลีมาอ่านเพื่อที่จะดูว่าพอจะมีงานพาร์ทไทม์ให้ทำบ้างหรือเปล่า ก็บังเอิญไปเจอข่าวประกาศอันหนึ่งที่บอกว่าต้องการรับสมัครผู้ช่วยคนพิการ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า "Personal Assistant" หรือ PA สามารถทำงานเป็นกะได้ เดือนหนึ่งไม่เกิน 150 ชั่วโมง ค่าจ้างชั่วโมงละ 2 พันกว่าวอนครับ ลักษณะงานตามที่เขียนไว้ก็คือช่วยคนพิการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า แต่งตัว พาไปข้างนอก หรือตามแต่คนพิการจะบอกให้ทำ


ค่าจ้างก็ไม่เลว แต่มันงานอะไรกันนะ ตอนนั้นผมกังวลว่าผมจะต้องไปเช็ดอึหรือเช็ดอะไรที่ไม่น่าพึงประสงค์หรือเปล่า ถ้าแค่ช่วยแปรงฟัน อาบน้ำหรือพาไปข้างนอกนี่ก็น่าจะพอไหว แต่ถ้ามากกว่านี้ผมก็ชักไม่แน่ใจ


สุดท้่ายผมก็ลองโทรไปถามรายละเอียดครับ หน่วยงานที่ผมโทรไปนั้นถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็น่าจะเรียกว่า "ศูนย์การดำรงชีวิตอิสระของคนพิการ" หรืออะไรทำนองนี้ เขาอธิบายให้ผมฟังว่างานที่จะไปทำนั้น ก่อนจะเริ่มทำต้องผ่านการอบรม 20 ชั่วโมงก่อนเพื่อให้เราฝึกปฏิบัติการช่วยคนพิการ เช่น การช่วยแต่งตัว การเข็นรถเข็นและกิจกรรมอื่นๆ ถ้าผ่านการอบรมก็จะได้ใบประกาศณียบัตรด้วย


หลังจากผ่านการอบรมแล้ว ทางศูนย์จะประสานหาคนพิการที่ต้องการบริการ PA แล้วก็จะแจ้งให้เราทราบ ส่วนจะต้องทำงานมากน้อยหรือทำอะไรนั้นก็แล้วแต่เราจะตกลงกับคนพิการว่าคนพิการจะให้ช่วยทำอะไร กี่ชั่วโมงต่อวัน แล้วเราก็จะรับค่าจ้างไปตามจำนวนชั่วโมง คนพิการจะเป็นคนจ่ายเงินให้เราเอง เงินส่วนนี้เป็นเงินที่รัฐบาลของเกาหลีสนับสนุนมาอีกทีหนึ่ง


ผมก็เลยปรึกษากับแม่และน้าสาวก่อนครับ ท่านก็เห็นดีด้วย อย่างน้อยช่วยคนพิการก็จะทำให้เราได้บุญมากขึ้นด้วย ตอนแรกคิดอย่างนี้จริงๆ ครับ แต่ตอนหลังก็ได้เรียนรู้ว่ามันเป็นความคิดที่ตัวคนพิการไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะทำให้คนพิการเป็นได้แค่ "ตัวทำบุญ" เหมือนกับเวลาที่เราไปปล่อยนกปล่อยปลา


หลังจากที่ผมตอบตกลง ผมก็ไปที่ศูนย์เพื่อรับการฝึกอบรมเป็นเวลา 2 วัน ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากเลย ผมคิดว่าผมโชคดีจริงๆ ที่ได้มาทำงานนี้ เขาสอนเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับคนพิการ ประวัติศาสตร์การทำงานด้านคนพิการในประเทศเกาหลี ผมเพิ่งทราบว่าคนพิการเกาหลีต้องไปนอนขวางทางรถไฟเพื่อประท้วงรัฐบาลเรื่องการจัดสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการในระบบขนส่งมวลชนต่างๆ หลายๆ อย่างนั้นกว่าจะได้มาต้องต่อสู้กันมานานหลายปีเลยทีเดียว


แม้กระทั่งบริการ PA ผมก็ทราบมาว่าใช้เวลาถึง 8 ปีเลยทีเดียวกว่าจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังมีการสอนแนวคิดหรือทฤษฏีสังคมเกี่ยวกับมุมมองที่เรามีต่อคนพิการ ก็น่าสนใจดีครับ เขาบอกว่า ความพิการไม่ใช่อุปสรรคเพราะว่ามันเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ก็คืออุปสรรคต่างๆ ในสังคม เช่น ถ้าคนพิการเข้าห้องน้ำไม่ได้ ก็ต้องทำห้องน้ำให้กว้างขึ้น ไม่ใช่แก้ที่ความพิการเพราะเป็นสภาพถาวรที่แก้ไขไม่ได้แล้ว


นอกจากนี้ก็สอนเรื่องการช่วยคนพิการประเภทต่างๆ ผมได้เรียนรู้วิธีการเข็นรถเข็นที่ถูกวิธี เช่น เข็นขึ้นทางลาดทำอย่างไร เวลาเจอขั้นจะเข็นอย่างไร การถ่ายตัวคนพิการจากรถเข็นไปที่เตียงหรือจากเตียงไปรถเข็น และวิธีการอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ตอนที่ผมอบรมนั้น มีคนมาอบรมด้วยเกือบ 20 คน เป็น PA ที่มาใหม่ครับ ส่วนมากจะเป็นเด็กนักศึกษาเหมือนๆ กับผมนี่แหละครับ ส่วนคนที่เป็นคนทำงานหรือแม่บ้านมีมาด้วย 2-3 คน


จากนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงาน PA ก็คือการทำงานตามคำสั่งของคนพิการ PA ต้องไม่คิดแทนคนพิการ แต่ช่วยทำในสิ่งที่คนพิการทำไม่ได้ คนพิการจะบอกเราเองว่าจะให้ทำอะไร ทำอย่างไร แนวคิดการดำรงชีวิตอิสระนั้นเน้นให้คนพิการตัดสินใจเลือกการดำเนินชีวิตด้วยตนเองโดยมี PA เป็นคนที่คอยช่วยทำในสิ่งที่คนพิการทำเองไม่ได้


ปัญหาที่มักพบบ่อยๆ ก็คือคนพิการมักถูกคนในครอบครัวตัดสินใจและคิดแทน ทำให้สูญเสียความมั่นใจและไม่สามารถควบคุมชีวิตตนเองได้ แนวคิดนี้จึงมีข้อห้ามด้วยครับว่าห้ามคนในครอบครัวเป็น PA แต่สามารถเป็น PA ให้ครอบครัวอื่นได้


สรุปว่าผมผ่านการอบรมและได้รับใบประกาศด้วยครับ จากนั้นเขาก็ให้ผมรออีกสองสามวัน คนที่เป็นผู้ประสานงานของศูนย์จะเป็นคนที่คอยประสานงานให้ ไม่นานนักศูนย์ก็โทรมาบอกผมว่ามีคนพิการคนหนึ่งต้องการ PA พอดีเนื่องจาก PA คนก่อนเพิ่งลาออกไป เขากำลังต้องการ PA คนใหม่พอดี ผมก็เลยตอบตกลงไป อ้อ ผมรู้มาด้วยว่าส่วนมากคนที่ทำงานเป็น PA มักทำไม่นาน บางคนทำแค่เดือนสองเดือน นานที่สุดก็ไม่เกิน 1 ปี ที่ทำนานกว่านั้นค่อนข้างหาได้ยากมากครับ ส่วนใหญ่เมื่อได้งานประจำทำแล้วก็มักจะลาออกจากการเป็น PA


ก่อนที่ผมจะได้เริ่มทำงานนั้น ที่ศูนย์ก็พาผมไปหาคนพิการคนนั้นที่บ้าน ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกันครับเพราะไม่รู้จริงๆ ว่าจะได้ทำอะไรบ้าง สถานที่ที่เขาพาผมไปนั้นก็อยู่แถบชานเมืองหน่อย เป็นคอนโดที่ดูกลางเก่ากลางใหม่แต่ก็ดูดีพอสมควร เข้าใจว่าน่าจะเป็นคนพิการที่คงจะมีฐานะอยู่บ้าง


คนที่ผมจะไปเป็น PA ให้เป็นผู้ชายครับ ตอนนี้ทางศูนย์ใช้นโยบายเพศเดียวกันเพราะเคยมีเหตุการณ์ลวนลามกันระหว่าง PA กับคนพิการหลายราย บางครั้งคนพิการถูกลวนลามหรือคนพิการเป็นคนลวนลามเสียเองก็มี พี่คนนี้ชื่อ คิม แต ซอง อายุ 32 ปี ใช้รถเข็นแบบเข็นเอง พิการจากอุบัติเหตุจากการที่หัวกระแทกพื้นสระน้ำ พี่เขาเล่าให้ผมฟังทีหลังว่ากระโดดลงไปในสระน้ำผิดท่าหรืออย่างไรไม่ทราบ แต่ศีรษะของพี่เขากระแทกพื้นสระจนทำให้เกิดความพิการขึ้น


ผมไปกับพี่ผู้ประสานงาน PA ผู้ชายคนหนึ่งครับ ไม่ค่อยหล่อหรอก แต่จะว่าไปคนเกาหลีรุ่นใหม่ๆ นี่ก็หล่อขึ้นเยอะกว่าแต่ก่อนนะครับ แต่ผมก็ยังไม่ได้ชอบใครเป็นพิเศษหรอก อาจจะมีแอบมองบ้างแต่ก็กระโตกกระตากไม่ได้ ที่บ้านผมยังไม่มีใครรู้เรื่องที่ผมเป็นแบบนี้หรอกครับ


พอเราไปถึงหน้าห้องของคุณแตซอง คุณแตซองก็มาเปิดประตูให้ แวบแรกที่ผมได้เห็นพี่เขาก็ถึงกับตะลึงไปเหมือนกันครับ ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนพิการคนไหนที่หล่อและมีเสน่ห์ขนาดนี้ ผิวขาวๆ ตาตี่ๆ ใส่แว่นด้วยครับเพราะพี่แตซองสายตาสั้นเล็กน้อย ดูแล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หน้าตาพี่เขาคล้ายๆ กับพระเอกเกาหลีคนหนึ่งที่เล่นเรื่อง Winter Love Song แต่ผมว่าพี่แตซองหล่อและมีเสน่ห์กว่าเยอะเลย รู้สึกถูกชะตากับพี่เขาตั้งแต่แรกเห็นเลยล่ะครับ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากหรอก อาจจะเป็นเพราะมัวแต่ตกตะลึงอยู่ก็เป็นได้


ห้องของพี่แตซองกว้างพอสมควร มีห้องนอน ห้องน้ำและห้องครัวด้วยครับ เขาบอกผมว่าเป็นห้องที่แม่ของเขาซื้อไว้ จริงๆ ตั้งใจจะขายให้คนอื่นต่อ แต่พอพี่แตซองได้รับบริการ PA ก็เลยขอมาอยู่ที่นี่เพราะอยากลองดูว่าจะสามารถดำรงชีวิตอิสระด้วยตัวเองได้จริงหรือเปล่า ตอนแรกครอบครัวก็เป็นห่วงอยู่เหมือนกันว่าจะอยู่คนเดียวได้ไหม แต่พี่แตซองก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วครับว่าสามารถอยู่คนเดียวได้


พี่แตซองต้องการให้ผมช่วยในเรื่องการถ่ายตัวจากเตียงไปบนรถเข็น เข้าห้องน้ำแล้วก็อาบน้ำ ก็แค่ช่วยยกตัวครับ ไม่ต้องช่วยทำอย่างอื่น พี่แตซองสามารถอาบน้ำหรือทำธุระส่วนตัวเองได้ อาจจะให้ช่วยทำงานบ้านและพาไปข้างนอกบ้างเป็นครั้งคราว เช่น ไปซื้อของหรือไปหาเพื่อน เราตกลงชั่วโมงทำงานกันที่วันละ 4-6 ชั่วโมงครับ ก็แล้วแต่ว่าวันไหนจะใช้มากหรือน้อย ผมติดปัญหาตรงที่มาได้แค่ 2 เดือนนี่แหละครับ แต่ก็ไม่เป็นปัญหาอะไรเพราะยังไงที่ศูนย์ก็คงต้องจัดหา PA คนใหม่ให้พี่แตซองอยู่แล้ว อ้อ ผมไม่ได้มาทุกวันด้วยครับ ผมเลือกมาวันเว้นวันเพราะว่าจะได้มีเวลาอยู่กับแม่และน้าสาวด้วย ส่วนวันที่ผมไม่ได้มาก็ตกลงกับทางศูนย์ว่าให้ทางศูนย์ช่วยหาคนมาให้ โชคดีที่พอมีคนมาแทนได้อยู่


หลังจากนั้นเราก็ตกลงเซ็นสัญญากันครับ พี่แตซองก็จะเป็นเหมือนนายจ้าง (Employer) และผมก็จะเป็นเหมือนลูกน้อง (Employee) ทางศูนย์บอกว่าถ้าจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปเป็นเพื่อนกันก็ไม่ผิดอะไร แต่ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นตามมาหลังจากนั้น ทางศูนย์ก็จะไม่รับผิดชอบ รับผิดชอบเฉพาะปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานเท่านั้น


เราสามารถปรึกษากับศูนย์และขอให้มาช่วยแก้ปัญหาได้ เท่าที่ผมทราบมาก็มีปัญหาหลายอย่าง เช่น PA ไม่มา PA บ่นหรือพอทำแล้วก็ไม่ชอบ ทะเลาะกันก็มี คนพิการใช้ PA ผิดวัตถุประสงค์ หรือแม้กระทั่งปัญหาชู้สาวก็เคยมี แต่หลังๆ ไม่มีอีกแล้วหลังจากที่ใช้นโยบายเพศเดียวกัน


ก็เอาเป็นว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปผมก็จะมาเป็น PA ให้พี่แตซองครับ พี่เขาดูเงียบๆ ขรึมๆ หน่อยแต่ก็มีแววตาอ่อนโยน ดูเป็นผู้ใหญ่ใจดี ผมอยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก พี่เขาคุยดีและเป็นกันเองด้วยครับ ทำให้ผมหายกังวลไปเยอะเลย


เมื่อตกลงกันแล้วผมกับพี่ผู้ชายที่เป็นผู้ประสานงานก็เดินทางกลับ ผมจำได้ว่าคืนนั้นผมนอนแทบไม่หลับเลยครับ ตื่นเต้นมากที่จะได้ทำอาชีพ PA เป็นครั้งแรก อาจจะเป็นเพราะนี่คืองานที่ใหม่ ไม่เคยทำมาก่อน ก็เลยรู้สึกตื่นเต้นและประหม่า ความคิดด้านลบหรือความกังวลที่ผมเคยมีก่อนหน้านี้ก็ลดลงไปเยอะเลย คิดแล้วก็อยากให้ถึงพรุ่งนี้เร็วๆ ผมอยากเจอพี่แตซองแล้วล่ะ คนพิการอะไรไม่รู้...หล่อเป็นบ้าเลย


TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดให้กำลังใจ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 1, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-03-2012 22:28:53
 :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 1, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 14-03-2012 22:35:08
เป็นเรื่องจริงหรอครับ

น่าสนใจดีแหะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 1, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-03-2012 22:39:09
 :mc4:

น่าสนใจจัง
รอตอนต่อไปนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 1, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: DeJavu~ ★ ที่ 14-03-2012 22:40:05
จะรออ่านนะ แค่ตอนแรกก้อน่าหนุก

ยินดีต้อนรับนะครับ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 1, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 14-03-2012 22:44:43
ชอบแบ๊คกราวน์เรื่องมาก
รออ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 1, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-03-2012 22:48:31
น่าดึงดูดให้อ่าน
พลอยได้ความรู้เล็กๆน้อยๆไปด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 14-03-2012 23:17:31
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 02 ☯ วันแรกของน้องเก้า


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)



ไม่เคยคิดเลยครับว่าชีวิตนี้จะได้มาข้องเกี่ยวกับคนพิการ ที่สำคัญไม่คิดด้วยซ้ำว่าจะรักคนพิการได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับชีวิตของผมได้ต้องเรียกว่า "ฟ้าลิขิต" เลยล่ะ ผมไม่อายใครหรอกนะครับว่าผมรักพี่แตซอง รักหมดหัวใจของผม แต่เชื่อไหมครับแม้ว่าผมจะคิดอย่างนั้นแต่ผมก็ไม่กล้าบอกใคร ไม่ใช่ว่าผมอายที่ผมรักคนพิการ แต่ผมยังไม่กล้าเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของผมต่างหาก ผมประสบปัญหาที่จะบอกครอบครัวและบรรดาเพื่อนฝูงทั้งหลายว่าผม "ไม่ชอบผู้หญิง" ก็ได้แต่หวังว่าสักวันผมจะกล้าบอกครับ


วันแรกที่ผมต้องไปทำงานเป็น PA ก็ต้องตื่นเช้าทีเดียวครับ ผมตื่นมาตั้งแต่ตีห้าเศษๆ อาบน้ำ แต่งตัวเสร็จแล้วก็มากินข้าวที่แม่อุตส่าห์ลุกมาทำเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เช้า ผมลาแม่กับน้าสาวแล้วก็ออกจากบ้านไป เดินทางไปที่บ้านของพี่แตซองด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงสถานีที่ใกล้ที่สุด ผมใช้เวลาเดินอีกเล็กน้อยก็มาถึงคอนโดที่เขาอยู่ เขาอยู่บนชั้น 8 ครับ ผมมาถึงหน้าห้องเขาตอนประมาณเกือบ 8 โมงเช้า เคาะประตูและรออยู่นานพอสมควรพี่คิมแตซองจึงมาเปิดประตูให้


"อันยองฮาเซโย" เราทักทายแล้วก็ยิ้มให้กัน พี่คิมแตซองอยู่ในชุดนอน ผมยุ่งๆ เล็กน้อย


"ขอโทษที่เปิดประตูช้า พอดีผมต้องใช้เวลาลงจากเตียงพอสมควรถ้าไม่มีคนช่วย" พี่แตซองบอก


"อ๋อ...ไม่เป็นไรหรอกครับ" ผมยิ้มด้วยรอยยิ้มที่คิดว่าจริงใจที่สุดให้พี่แตซอง จะได้รู้ว่าเรื่องเปิดประตูช้าไม่ใช่ปัญหาสำหรับผมจริงๆ


"วันนี้ผมจะอาบน้ำตอนแปดโมงครึ่งนะ แล้วก็จะกินข้าวเช้า จากนั้นตอนสายๆ หน่อยผมจะไปซื้อของข้างนอก ว่าจะปั๊มกุญแจเข้าให้...ชื่ออะไรนะครับ"


ผมขำเล็กน้อย ไม่ทันไรพี่แตซองก็ลืมชื่อผมซะแล้ว


"ครับ"


พี่แตซองหัวเราะแหะๆ อย่างอายๆ "อ้อ น้องเก้า เดี๋ยวผมจะปั๊มกุญแจห้องพักผมให้น้องเก้านะครับ ต่อไปมาถึงแล้วจะได้เข้ามาได้เลย อ้อ ตอนเที่ยงๆ ผมจะพาน้องเก้าไปกินข้าวด้วยกันเป็นการเลี้ยงต้อนรับ ตอนบ่ายๆ ผมก็จะกลับเข้ามาที่ห้องพัก น้องเก้าก็กลับบ้านหลังจากนั้นได้เลยครับ"


พี่แตซองให้รายละเอียดกิจกรรมทั้งหมดที่ผมจะต้องช่วยพี่แตซองทำในวันนี้ เป็นคนที่รอบคอบและชัดเจนดีมากครับ ไม่ต้องรอให้ผมถามเลย


"กินข้าวมาหรือยังครับ" พี่แตซองถามในขณะที่ผมช่วยเข็นมาที่เตียงนอน แม้ว่าจะฝึกมาแล้วแต่พอได้เข็นครั้งแรกกับผู้ใช้บริการตัวจริงผมก็ประหม่าไม่น้อยเหมือนกัน


"เรียบร้อยแล้วครับ" ผมหยุดเว้นจังหวะไปเล็กน้อย


"ช่วยสอนผมด้วยนะครับ ผมยังใหม่กับงานนี้มาก"


"ได้ครับ ว่าแต่คุณเป็นคนเกาหลีหรือเปล่าครับ ผมเห็นชื่อแปลกๆ" พี่แตซองถาม


ผมย่อตัวลงนั่งข้างๆ เพื่อที่จะคุยกันได้สะดวก เวลาคุยกับคนพิการเราต้องย่อตัวลงนะครับ ไม่งั้นจะต้องแหงนหน้าคุยกันเมื่อยคอแย่เลย


"ผมเป็นคนไทยครับ พอดีมาเยี่ยมญาติที่เกาหลีสองเดือน พอดีไม่อยากอยู่ว่างๆ ก็เลยลองสมัครมาทำงานนี้ดูครับ"


พี่แตซองทำหน้าแปลกใจ "คนไทยหรือครับ พูดภาษาเกาหลีชัดมากเลย ผมนึกว่าเป็นคนเกาหลีเสียอีก ชื่อเก้าแปลว่าอะไรเหรอครับ"


"แปลว่าเลขเก้าครับ เหมือนกับภาษาเกาหลีเลย"


พี่แตซองร้องอ๋อ "อ๋อ...แปลกดีนะ ออกเสียงคล้ายๆ กันแล้วยังแปลเหมือนกันอีกด้วย"


ใช่แล้วล่ะครับ ใครที่เรียนภาษาเกาหลีจะเห็นว่าเลขไทยกับเลขเกาหลีนั้นเหมือนกัน ออกเสียงคล้ายๆ กัน เข้าใจว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากการนับเลขของจีนเหมือนกัน


แล้วพี่แตซองก็ขอให้ผมช่วยอาบน้ำให้ครับ แม้ว่าผมจะผ่านการฝึกอบรมมาแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือผมต้องฟังสิ่งที่พี่แตซองบอกว่าจะให้ช่วยอะไร แบบไหน พี่แตซองบอกให้ผมช่วยอุ้มเขาไปนั่งบนเตียงก่อน พี่แตซองพอจะยืนได้บ้างแต่ต้องมีคนช่วย วิธีการก็คือผมต้องก้มตัวลงไป เอามือสองข้างสอดใต้รักแร้พี่แตซองให้มือโผล่ไปด้านหลัง จากนั้นพี่แตซองก็จะเอามือโอบที่คอผมแล้วผมก็จะค่อยๆ ยกตัวพี่แตซองขึ้น


พี่แตซองสามารถยืนได้ตรงเลยครับ ดูเผินๆ ก็เหมือนผู้ชายสองคนยืนกอดกันอยู่ เวลาสบตากับพี่แตซอง ผมรู้สึกว่าหัวผมใจเต้นและประหม่าอย่างบอกไม่ถูก คิดในใจว่าคนพิการอะไรหล่อชะมัดเลย แล้วพี่แตซองก็บอกให้ผมค่อยๆ หย่อนตัวของพี่แตซองลงบนขอบเตียง


พี่แตซองสามารถนั่งตัวตรงได้ครับ จริงๆ กำลังแขนและขาของพี่แตซองก็ยังพอมี ไม่ลีบเล็กมาก จนดูเผินๆ ก็เหมือนคนไม่พิการเลย เพียงแต่ไม่สามารถเดินได้เท่านั้นเอง ส่วนแขนก็ยังพอมีแรงอยู่ สามารถหยิบจับของเองได้ เข็นรถวีลแชร์เองได้ แต่อาจจะเข็นไกลๆ เองไม่ค่อยไหวเพราะต้องใช้แรงมาก


คนพิการที่ผมพบที่เกาหลีดูจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนพิการบ้านเรามากเลยครับ ดูง่ายๆ แค่การแต่งตัว คนพิการที่นี่ดูสะอาดสะอ้านกว่ามาก แต่งตัวดี รถวีลแชร์ที่ใช้ก็คุณภาพดี แสดงว่ารัฐบาลต้องให้ความสำคัญพอสมควร ฮ่าๆ อันนี้ก็เดาเอาเองนะครับ


เรื่องที่น่าตื่นเต้นต่อมาก็คือผมต้องถอดเสื้อผ้าให้พี่แตซองก่อนครับ พอพี่แตซองบอกผมก็อึ้งไปพอสมควร แต่ก็ต้องทำครับ คนเกาหลีกับญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการอาบน้ำร่วมกัน เขาไม่ค่อยอาย แต่คนไทยไม่เคยทำอย่างนั้นก็เลยอาจจะเขินๆ หน่อย


พี่แตซองปลดกระดุมเสื้อและถอดเสื้อเองได้ครับ พอถอดเสื้อแล้วก็เผยให้เห็นผิวขาวเนียนสะอาดตา ขาวเนียนมากๆ เลยล่ะครับ แสดงว่าน่าจะเป็นลูกคนมีอันจะกิน ต่อมาก็เป็นการถอดกางเกง พี่แตซองต้องการความช่วยเหลือนิดหน่อยเพราะยกตัวเองไม่ได้ วิธีการก็คือผมต้องค่อยๆ ดึงขอบกางเกงของพี่แตซอง พอพ้นส่วนที่เป็นก้นมาแล้วก็จะถอดออกได้ง่ายขึ้น ผมเริ่มใจเต้นไม่เป็นส่ำแล้วครับเมื่อเห็นพี่แตซองเหลือแต่กางเกงในสีขาวตัวเดียว ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกกว่านั้นก็คือผมก็จะต้องช่วยถอดกางเกงในด้วยนี่สิครับ ตื่นเต้นจนมือไม้สั่นเลยทีเดียว


"ไม่ต้องเขินหรอกครับ ผมยังไม่เห็นอายเลย ผู้ชายเหมือนกันครับ มีเหมือนกัน"


ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วก็ช่วยพี่แตซองถอดกางเกงในออก ขั้นตอนก็เหมือนกับถอดกางเกงนั่นแหละครับไม่นานนักพี่แตซองก็เหลือแต่ตัวเปล่าเปลือย ผมไม่ค่อยกล้ามองตรงนั้นของพี่แตซองเท่าไหร่ แอบชำเลืองดูก็เห็นว่าเหมือนๆ กับของคนทั่วไปนั่นแหละ ที่สำคัญ...น่าจะแซ่บไม่น้อย ฮ่าๆ พี่แตซองไม่ได้ใช้สายปัสสาวะ สามารถขับถ่ายเองได้ แต่จำเป็นต้องใช้ PA เพราะพี่แตซองมักจะตกเตียงหรือเกิดอุบัติเหตุในห้องน้ำได้บ่อยๆ ตอนที่ยังไม่ได้ใช้บริการ PA


"พี่น่ะ เคยตกเตียงบ่อยๆ แต่ก็ชินแล้วล่ะ มีครั้งนึงพี่ได้ PA คนใหม่มา เขาช่วยไม่เป็นแล้วก็ตื่นเต้นแบบเก้านี่แหละ เขาทำพี่ตกอ่างอาบน้ำ หัวแตกเลย"


พี่แตซองพูดไปก็ขำไป แต่ผมนี่สิฟังแล้วรู้สึกสงสารจนน้ำตาจะไหล


จากนั้นผมก็ต้องช่วยยกพี่แตซองกลับมานั่งในรถวีลแชร์เหมือนเดิม อ้อ รถวีลแชร์ของพี่แตซองไม่เหมือนรถวีลแชร์ที่ใช้ในโรงพยาบาลนะครับ เขาออกแบบได้สวยและเล็กกะทัดรัดดีครับ ดูๆ ไปก็เทห่์และคล่องแคล่วดีเหมือนกัน ทำให้คนนั่งไม่ดูน่าสงสารจนเกินไป สมาร์ทเลยล่ะ


พี่แตซองบอกให้ผมยกที่พักเท้าของวีลแชร์ขึ้นก่อน วิธีการยกก็เหมือนเดิมครับ ผมต้องกอดพี่แตซองแล้วให้พี่แตซองโอบคอแล้วยกตัวขึ้น จากนั้นก็ค่อยๆ ย้ายตัวพี่แตซองลงมานั่งในวีลแชร์ แล้วพี่แตซองก็ให้ผมยกขาข้างซ้ายขึ้น เอาที่วางเท้าของวีลแชร์ลงแล้ววางขาพี่ข้างซ้ายของพี่แตซองลงไป แล้วก็ทำเหมือนกันกับเท้าข้างขวา


พี่แตซองหยิบชุดนอนและกางเกงในที่ผมวางไว้บนเตียงมาวางไว้บนตัก แล้วก็บอกให้ผมเข็นพาไปตรงตะกร้าผ้าสำหรับใส่เสื้อผ้าที่ใช้แล้ว จากนั้นผมก็พาพี่แตซองเข็นเข้าไปในห้องน้ำ มีราวจับติดไว้ด้วยครับ พี่แตซองจะทำธุระส่วนตัวก่อน ผมช่วยยกตัวพี่แตซองไปนั่งบนโถแล้วก็ออกมาก่อน ถ้าเสร็จธุระแล้วพี่แตซองก็จะเรียกอีกครั้ง


พอออกมาจากห้องน้ำ ผมก็เริ่มโล่งใจไปเยอะเลยว่างานไม่ได้ยากอย่างที่คิด เริ่มรู้สึกดีใจเหมือนกันที่มีส่วนช่วยให้คนพิการสามารถดำรงชีวิตประจำวันของตัวเองได้ คิดๆ แล้วก็อยากให้มีบริการแบบนี้ที่บ้านเรามั่ง น่าจะช่วยให้คนพิการมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ได้เยอะเลย


ไม่นานนักพี่แตซองก็เรียก ให้ผมไปช่วยยกตัวพี่แตซองขึ้นวีลแชร์และพาไปที่อ่างอาบน้ำ พี่แตซองจัดการธุระส่วนตัวได้ครับ ผมไม่ต้องไปเช็ดหรือไปกดน้ำให้ เลย แต่ PA หลายๆ คนก็อาจจะต้องทำอย่างนั้นนะครับเท่าที่ผมรู้มา


ที่อ่างอาบน้ำของพี่แตซองจะมีกระดานขนาดพอนั่งได้พาดอยู่กลางอ่าง ผมต้องช่วยพี่แตซองถ่ายตัวจากวีลแชร์ไปนั่งบนกระดานนั้น พี่แตซองจะไม่ลงไปในอ่างครับเพระว่าไม่สามารถขึ้นจากอ่างเองได้ จึงใช้วิธีการนั่งอาบน้ำฝักบัวบนกระดานที่ว่านั้นแทน จากนั้นผมก็ออกมารอข้างนอกเหมือนเดิม ปล่อยให้พี่แตซองอาบน้ำไปตามสบาย พออาบเสร็จพี่แตซองก็เรียกผมเข้าไปช่วยถ่ายตัวจากกระดานมานั่งบนวีลแชร์ ผมหยิบผ้าเช็ดตัวให้พี่แตซองเช็ดตัวแล้วก็พาพี่แตซองออกมาจากห้องน้ำ


พี่แตซองบอกผมให้เข็นไปที่ตู้เสื้อผ้า ปกติถ้าบ้านไหนมีคนพิการพ่อแม่หรือญาติๆ ก็อาจจะเลือกเสื้อผ้าให้คนพิการใส่ แต่การเป็น PA ห้ามทำอย่างนั้นเด็ดขาด ต้องให้คนพิการเป็นคนเลือกเองทุกอย่างครับ พี่แตซองเลือกกางเกงสีออกครีมๆ ขาวๆ กับเสื้อยืดสีขาว และเสื้อแขนยาวกันหนาวสีม่วงๆ ไม่ถึงกับหนามากเพราะยังไม่ใช่หน้าหนาว อ้อ พี่แตซองใช้กางเกงในสีขาวยี่ห้อ Homme ด้วย ดูท่าว่าคงจะชอบมากเพราะกางเกงในทุกตัวเป็นยี่ห้อนี้หมดเลย


จากนั้นผมก็พาพี่แตซองไปที่โต๊ะหน้ากระจก พี่แตซองใช้ครีมทาหน้าของผู้ชายยี่ห้อเกาหลียี่ห้อหนึ่ง แล้วก็ทาโรลออน จากนั้นก็หวีผม เส้นผมพี่แตซองเล็กและนุ่มดีครับ สีออกน้ำตาลหน่อยๆ ส่วนทรงผมก็เหมือนผู้ชายทั่วไป ไม่ได้ตามแฟชั่นมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ดูเชย


จากนั้นผมก็พาพี่แตซองมาที่เตียงเพื่อใส่เสื้อผ้า ผมช่วยยกตัวพี่แตซองจากวีลแชร์มานั่งบนเตียงก่อนเหมือนเดิม เนื้อตัวพี่แตซองหอมกรุ่นทีเดียว วิธีการใส่ก็เริ่มจากชิ้นในสุดก่อน ก็ต้องเป็นกางเกงในอยู่แล้วล่ะครับ แล้วก็ตามด้วยกางเกง จากนั้นพี่แตซองจะใส่เสื้อเองครับ


การจะเป็น PA ที่ดีอย่างหนึ่งก็คือต้องไม่สวมเสื้อผ้าที่ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก ไม่ใส่เครื่องประดับหรือนาฬิกาเพราะอาจจะไปเกี่ยวกับเสื้อผ้าคนพิการตอนช่วยยกหรืออุ้มแล้วอาจจะตกแตกเสียหายได้ ที่สำคัญ อย่าทำอะไรแทนคนพิการโดยที่ไม่ได้บอกให้ช่วยทำอย่างเด็ดขาด นี่คือกฎเหล็กเลยล่ะครับ จะเห็นว่าผมจะไม่คิดอะไรแทนพี่แตซองเลย ไม่มีแม้กระทั่งข้อเสนอแนะว่าควรทำยังไง แค่ทำตามที่พี่แตซองบอกอย่างเดียวก็พอ เพราะนี่คือชีวิตของพี่แตซองที่จะต้องคิดและตัดสินใจเองทุกเรื่องที่เกี่ยวกับชีวิตของตัวเอง เหมือนกับที่เราอาบน้ำเอง แต่งตัวเอง เลือกเสื้อผ้าเอง เลือกอาหารที่เราชอบ ไปในที่ๆ เราอยากไป ในเวลาที่เราสะดวกด้วยตัวเอง เพียงแต่คนพิการบางคนอาจจะต้องการให้มีคนมาช่วยทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำไม่ได้


ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้มีบริการ PA สำหรับคนพิการในบ้านเราแบบนี้ด้วย แต่ผมก็เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าในบ้านเราก็กำลังคิดจะให้บริการแบบนี้เหมือนกัน เพียงแต่ค่าจ้างต่อชั่วโมงอาจไม่ค่อยสูงเท่าไหร่เมื่อเทียบกับเกาหลี


แนวคิดเช่นนี้นอกจากจะช่วยให้คนพิการใช้ชีวิตอิสระได้แล้ว ที่ศูนย์ยังบอกด้วยว่าเป็นการสร้างอาชีพให้กับคนทั่วไปด้วย โดยเฉพาะนักศึกษา คนตกงาน แม่บ้านหรือคนที่มีเวลาว่างๆก็สามารถมาทำอาชีพนี้ได้ อ้อ แนวคิดนี้เห็นเขาบอกว่าได้มาจากญี่่ปุ่น แล้วญี่ปุ่นก็ได้มาจากอเมริกาอีกที


ในที่สุด พี่แตซองก็พร้อมที่จะออกไปข้างนอกแล้วครับ ผมก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนพิการจะสามารถแต่งตัวแล้วดูดีได้ขนาดนี้ เพิ่งได้มาเห็นที่เกาหลีนี่แหละครับ ดูจากยี่ห้อเสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็รู้สึกได้เลยว่าพี่แตซองค่อนข้างพิถีพิถันกับการแต่งตัว ตอนหลังผมก็ได้รู้จากพี่แตซองครับว่าก่อนที่จะพิการนั้นพี่แตซองป๊อบปูล่าร์พอสมควร แต่งตัวเก่งยิ่งกว่านี้อีก


"เป็นไงครับน้องเก้า เหนื่อยไหมวันแรก" พี่แตซองถามพลางยิ้ม


ผมรีบส่ายหน้า "ไม่หรอกครับพี่ สนุกดี ผมชอบครับ" ผมยิ้มกว้างสุดฤทธิ์ให้พี่แตซองเห็นว่าผมไม่เป็นไรจริงๆ น้องเก้าของพี่แข็งแรงกว่าที่พี่เห็นเยอะนะครับ แม้ว่าผมจะตัวผอมๆ ไปหน่อยก็ตาม ฮ่าๆ


พี่แตซองยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วก็หยิบแว่นตาที่หัวเตียงมาใส่ จากนั้นก็ให้ผมช่วยยกตัวมาไว้บนวีลแชร์อีกครั้ง ตอนที่ยกตัวขึ้นผมก็แอบเนียนกอดพี่แตซองด้วยครับ ผมไม่ได้คิดที่จะลวนลามคนพิการนะครับเพราะว่าเวลายกต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว แหะๆ แแต่การได้กอดผู้ชายตัวหอมๆ อุ่นๆ แถมยังหน้าตาดีก็ทำให้ผมตื่นเต้นเหมือนกัน แม้ว่าพี่แตซองจะเป็นคนพิการก็เถอะ ตอนนั้นผมก็ได้แต่สงสัยและงงกับความคิดของตัวเองครับว่าผม


"คิดอย่างนี้ได้ยังไง!!!"


TBC
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 14-03-2012 23:33:41
 :mc4: น่าติดตามมากๆเลยค่ะเรื่องนี้
อา...จะเป็นยังไงต่อไปนะ?
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-03-2012 23:38:27
ปกติมีแต่คนพิการจะติดใจผู้ดูแล นี่คงเป็นกรณีพิเศษ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 14-03-2012 23:44:37
เรื่องแปลกดี น่าติดตาม จะรอตอนต่อไปนะ แต่เดาเอาว่า เศร้าแน่ๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 15-03-2012 00:02:51


ชอบอะแปลกแหวกแนวดี

มาต่ออีกนะค่ะ น่าติดตามมม ชอบบๆๆๆ   :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 15-03-2012 00:35:43
อืมมม คิดอย่างนี้ยังไง

แต่ถ้าหน้าตาดี อันนี้ละเว้นได้เนอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 15-03-2012 08:32:44
ว้าวววว
แปลกใหม่ดีนะคะ
น่าสนใจดีอ่ะ จะรอตอนต่อไปค่ะ ^^)/~♥
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 15-03-2012 09:17:46
มาติดตามค่ะ
ดีมากเลยค่ะ ชอบ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 15-03-2012 10:05:05
เป็นกำลังใจให้ค่ะ

แหวกแนวดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 15-03-2012 10:14:54
ลำบากใจที่ได้อยู่แค่สองเดือนนี่แหละ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 15-03-2012 10:42:45
เรื่องแปลกดีไม่เคยอ่านแนวนี้เลย
แล้วมาต่อนะคะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะ
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 15-03-2012 11:15:55
ชอบเรื่องนี้จัง
แหวกแนวดี
รอตอนต่อไปนะค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 15-03-2012 13:17:34
น่าสนใจมากครับ  เเต่เศร้าแน่ๆเลย TT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: MokGaLaKom ที่ 15-03-2012 14:15:39
ลุ้นๆ กลัวตอนจบจะเศร้าจังเลย
จะติดตามนะคะ นั่งรอตอนต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 2, 14-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 15-03-2012 19:37:02
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 03 ☯ คนพิการที่หล่อจนใจละลาย


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


ผมช่วยเข็นที่แตซองลงมาจากที่พักแล้วก็เข็นไปตามทางเท้าเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดิน เพิ่งสังเกตครับว่าทางเท้าที่เกาหลีเป็นระเบียบมาก ไม่มีสิ่งกีดขวางเลย คนพิการสามารถไปได้ตลอดเส้นทาง มีทางลาดให้ทุกจุด ไม่เหมือนบ้านเราเลยครับที่มีทั้งตู้โทรศัพท์ ไฟ้ฟ้า น้ำ ประปา ป้ายและอีกสารพัดอย่างจนแทบไม่มีที่จะเดิน ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเราไม่ค่อยเห็นคนพิการบ้านเราออกมาข้างนอก ไปทำงานทำการไม่ได้เหมือนคนอื่นๆ เพราะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนที่นี่


พอมาถึงสถานีรถไฟใต้ดิน ผมก็สงสัยว่าจะพาพี่แต่ซองลงไปได้ยังไง เพราะตอนที่มาผมใช้บันได พี่แตซองเห็นผมยืนงงก็ขำใหญ่ เห็นพี่แตซองยิ้มร่าเริงอย่างนั้นแล้วผมก็อดหวั่นไหวไม่ได้ คนพิการบ้าไรวะหล่อชิบเป๋งเลย ให้ตายสิ นี่ผมท่าจะชอบพี่แตซองแล้วใช่ไหมเนี่ย

"เขามีลิฟต์ครับน้องเก้า"

"อ้อ...ผมไม่เคยใช้เลย"

ผมขำตัวเองแล้วก็เข็นพี่แตซองไปที่ลิฟต์ ผมไม่เคยสังเกตเลย เป็นสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในสายตาหรือความคิดมาก่อน พอเรามาถึงชั้นชานชาลา ผมก็พาพี่แตซองไปซื้อตั๋ว พี่แตซองซื้อให้ผมด้วยตามข้อตกลงว่านายจ้างต้องดูแลค่าใช้จ่ายให้ลูกจ้าง การขึ้นรถไฟใต้ดินก็ไม่ยากครับเนื่องจากพื้นรถไฟกับชานชาลาไม่ห่างกันมาก


เมื่อประตูรถไฟเปิดออก ผมใช้เท้าเหยียบตรงก้านที่อยู่ด้านหลังรถวีลแชร์ของพี่แตซองเพื่อกระดกหน้ารถขึ้นเล็กน้อย แล้วก็เอาล้อหน้าไปแตะกับตัวรถไฟแล้วก็เข็นรถพร้อมใช้แรงดันเล็กน้อยก็สามารถขึ้นไปบนรถไฟได้อย่างไม่ยากนัก ในรถไฟมีที่ล็อกรถเข็นด้วยครับ ผมช่วยพี่แตซองล็อกรถเข็นแล้วก็นั่งเกาะอยู่ข้างๆ ชวนพี่แตซองคุยไปต่างๆ นาๆ พี่แตซองก็อัธยาศัยดีมาก เล่าอะไรที่น่าสนใจให้ฟังหลายอย่างครับ ผมก็จำไม่ค่อยได้เท่าไรเพราะว่าคุยเยอะ คุยไม่หยุดเลยครับ

 

"พี่พิการมาสี่ปีแล้วล่ะ ตอนนั้นพี่ไปว่ายน้ำกับเพื่อนๆ แล้วกระโดดลงสระยังไงไม่รู้จนหัวไปกระแทกกับพื้นสระแล้วก็ไม่รู้ตัวอีกเลย มารู้ตัวอีกทีก็อยู่โรงพยาบาลแล้ว เส้นประสาทแถวๆ คอที่เชื่อมกับสันหลังขาด พี่ต้องไปทำกายภาพบำบัดอยู่เป็นปี ก็พอมีแรงอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากพอที่จะเดินเองได้ เคยใช้วอร์กเกอร์ด้วยนะ น้องเก้าเคยเห็นไหม"


ผมพยักหน้า เคยเห็นคนแถวบ้านใช้อยู่ก็เลยพอนึกออก


"แต่หลังๆ พี่รำคาญเพราะว่ามันช้า ไม่ทันใจคนวัยอย่างพี่ ก็เลยตัดสินใจใช้รถเข็นแทน ก็สะดวกดีนะ เร็วดี แต่กว่าพี่จะทำใจยอมนั่งรถเข็นได้ก็ทำใจอยู่หลายเดือนเหมือนกัน ตอนนั้นพี่ยังยอมรับความพิการของตัวเองไม่ได้ แต่พอเริ่มยอมรับได้พี่ก็พยายามฝึกใช้ชีวิตด้วยตัวเอง กินข้าวเอง อาบน้ำเอง แปรงฟันเอง พยายามทำด้วยตัวเองให้ได้หมดทุกอย่าง ตอนนี้ทำก็ทำได้เยอะแล้วล่ะ"


พี่แตซองพูดไปผมก็มองคนพูดไปด้วย มองพี่แตซองแล้วก็เพลินดีเหมือนกัน คนพิการอะไรหล่อเป็นบ้าเลย สายตาก็ดูอบอุ่นจนผมเคลิ้ม ถ้าเดาไม่ผิดตอนที่ยังไม่พิการคงมีสาวๆ มาชอบเยอะแน่ๆ เลย


กำลังจะถามต่อว่าพี่แตซองมีแฟนหรือยังก็พอดีมาถึงสถานีที่จะลง ผมก็เลยต้องกลับมาทำหน้าที่ PA ต่อ ปลดที่ล็อกที่ยึดกับตัวรถไฟแล้วก็มาปลดล็อกรถเข็น พอประตูรถไฟเปิดออกผมก็เข็นพี่แตซองลงจากรถไฟ การเข็นลงนั้นจะต้องเอาด้านหลังลงครับ เพราะไม่อย่างนั้นแล้วพี่แตซองอาจจะตกจากรถเข็นได้


พอออกมาจากสถานีก็เห็นมีตลาดคล้ายๆ จตุจักรหรืออะไรทำนองนี้ครับ ผมจำไม่ได้ว่าอยู่แถวไหน อาจจะนอกๆ เมืองหน่อย พี่แตซองไปที่ร้านทำกุญแจเพื่อปั๊มกุญแจให้ผมก่อน พี่แตซองมีแล้วสองชุดสำหรับตัวพี่แตซองเองและ PA แต่ตอนนี้มีผมมาเป็น PA เพิ่มอีกคนหนึ่งก็เลยทำเพิ่มอีกหนึ่งชุด


การให้กุญแจนั้นก็ต้องระวังครับ เพราะนั่นหมายถึงว่า PA จะเข้าออกบ้านคนพิการได้ทุกเวลา เกิดทรัพย์สินสูญหายก็จะกลายเป็นเรื่องได้ มีหลายรายแล้วที่เจอเหตุการณ์อย่างนี้ แล้วก็มักจะลงเอยด้วยการให้ออก


พี่แตซองดูเหมือนจะรู้จักเจ้าของร้านดีครับ เห็นคุยกันอยู่นาน ส่วนผม ด้วยหน้าที่ก็คือการช่วยเฉยๆ ไม่ต้องมีส่วนร่วมในสิ่งที่เขาทำ ไม่ต้องออกความคิดเห็น ไม่ต้องทำอะไรที่นอกเหนือจากสิ่งที่นายจ้างบอก อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ผมว่ามันก็ถูกต้องนะครับ คนพิการต้องเรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง จะผิด จะถูก ดีหรือไม่ดี ก็ต้องได้เรียนรู้และรับผิดชอบเอง


ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น ถ้าฝนตกแล้วต้องการออกไปข้างนอก PA ก็ไม่ควรห้ามเพราะตัวคนพิการต้องคิดแล้วว่าไปได้ หรืออาจจะตัดสินใจยอมรับความเสี่ยงว่าอาจจะไม่สบายได้ถ้าตากฝน ก็เหมือนกับคนทั่วไปใช่ไหมครับ ถ้าฝนตกแล้วเราจำเป็นต้องออกไปเราก็ต้องไป ถ้าเกิดไม่สบายขึ้นมาก็เป็นเรื่องธรรมดา คนพิการก็ควรจะได้คิดและทำเหมือนที่คนทั่วไปทำ เปียกก็คือเปียก ป่วยก็คือป่วย เพราะนั่นคือสิ่งที่เราเลือกเอง อ้อ แต่ PA สามารถตัดสินใจที่จะไม่ทำบางสิ่งบางอย่างได้นะครับถ้าเห็นว่าทำไปแล้วจะเป็นอันตรายต่อตัวเอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



จากนั้นพี่แตซองก็ไปซื้อของในตลาดครับ เขาอยากได้ของขวัญวันเกิดให้เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเป็นใคร แต่พอรู้แล้วก็ใจหายเล็กน้อย พี่แตซองให้ผมช่วยเลือกด้วยครับ พี่แกอยากได้ของที่แปลกๆ เพราะเพื่อนคนนี้ชอบของแปลกๆ หากันอยู่หลายร้าน สุดท้ายก็ไปเจออะไรบางอย่างที่ทะลึ้ง ทะลึ่ง ฮ่าๆ ขอไม่บอกละกันนะครับว่าเป็นอะไร


พอได้ของแล้วก็ไปรับกุญแจ จากนั้นพี่แตซองก็พาผมไปกินข้าวกลางวันที่ร้านอาหารเกาหลีใกล้ๆ แถวนั้นครับ เป็นร้านอาหารที่คนเกาหลีแท้ๆ กินกันในชีวิตประจำวันเลยล่ะ


"เก้ากินอาหารเผ็ดๆ ได้ไหม คนเกาหลีชอบกินอาหารรสจัดหน่อยนะ"


ผมขำเล็กน้อยแล้วก็ตอบไป "สบายมากครับพี่แตซอง คนไทยกินอาหารรสจัดอยู่แล้วครับ เผลอๆ อาหารไทยจะเผ็ดกว่าอาหารเกาหลีอีกนะครับ"


พี่แตซองทำหน้าอึ้งๆ "จริงเหรอ พี่ยังไม่เคยกินอาหารไทยเลย อืม...จำได้ว่าเพื่อนพี่เคยกิน เห็นเขาบอกอยู่เหมือนกันว่าเผ็ดมาก สงสัยพี่ต้องลองไปกินดูบ้างแล้วจะได้รู้ว่าเผ็ดแค่ไหน"


"ไปกินที่บ้านผมก็ได้นะครับพี่ เดี๋ยวผมให้แม่กับน้าสาวทำอาหารไทยให้พี่แตซองลองกินดูครับ"


"อืม...น่าสนใจนะ แต่ไม่เป็นไรหรอก รบกวนที่บ้านของเก้าเปล่าๆ"


"ไม่เป็นไรครับพี่ ไปได้ เดี๋ยวผมจะบอกแม่ให้ว่าพี่แตซองอยากลองกินอาหารไทย แม่ผมใจดีครับ แม่ชอบทำอาหารมาก ทำอร่อยด้วยนะครับ"


ผมกับพี่แตซองยิ้มให้กัน ผมชอบรอยยิ้มของพี่แตซองมากๆ เลยครับ เห็นพี่แตซองยิ้มทีไรผมใจแทบละลาย ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็นคนพิการที่หล่อขนาดนี้นี่แหละ พี่แตซองไม่ดูน่าสงสารเลย อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เคยเดินได้ อยู่ในสังคมเหมือนคนทั่วไป พอเป็นคนพิการแล้วพี่แตซองก็ยังคงเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ได้ดี ไม่มีแววตาของความเคอะเขินหรือประหม่าให้เห็นเหมือนคนพิการที่ผมมักเจอบ่อยๆ


เรากลับกันมาถึงที่พักของพี่แตซองประมาณเกือบบ่ายสองครับ มาถึงห้องปุ๊บพี่แตซองก็ขอเข้าห้องน้ำก่อนครับเพราะปวดฉี่ ผมเข้าไปช่วยเหมือนเดิมครับ พอออกมาแล้ว พี่แตซองก็เอาใบลงเวลาการทำงานมาให้ผมเขียนรายละเอียดว่าทำอะไรไปบ้าง เอกสารตัวนี้ต้องใช้สำหรับการเบิกเงินค่าจ้าง จากนั้นพี่แตซองก็เซ็นกำกับด้วยเพื่อรับรองว่าผมทำงาน

"วันอังคารมาได้ใช่ไหมครับ" พี่แตซองถาม


"ครับ ตอนนี้ผมว่างทุกวัน แต่ผมว่าผมจะมาวันเว้นวันน่ะครับ อีกวันจะได้อยู่กับแม่เผื่อแม่จะให้ช่วยทำอะไรบ้าง"


"ครับ ถ้าอย่างนั้นวันนี้พี่ก็ขอบคุณเก้ามากนะครับ เก้าเป็น PA มือใหม่ที่ทำงานดีมาก"


ผมยิ้มใหญ่เลยที่พี่แตซองชม


"ต้องขอบคุณพี่แตซองด้วยครับที่ช่วยสอนผม อ้อ แล้วตอนเย็นพี่มีใครมาเป็น PA หรือเปล่าครับ"


พี่แตซองส่ายหน้า "ไม่มีครับ พอดีตอนนี้รัฐบาลเขาจำกัดชั่วโมงการใช้บริการ PA อยู่ครับ วันหนึ่งใช้ได้ไม่เกิน 6 ชั่วโมงตามที่เราตกลงกันนั่นแหละครับ"


"แล้วพี่แตซองจะเข้าห้องน้ำหรือว่าขึ้นเตียงยังไงล่ะครับ" ผมถามด้วยความสงสัย


"ก็พอได้ อาจจะใช้เวลานานหน่อย ไม่เป็นไรหรอก เก้าไม่ต้องเป็นห่วง พี่อยู่ได้"


"แล้วไม่อันตรายหรือครับ ผมกลัวพี่จะตกเตียง" ผมถามด้วยความเป็นห่วง ดูจะเกินหน้าที่ของ PA ไปแล้วล่ะ


"ไม่เป็นไรครับ ตกเป็นเรื่องธรรมดา" พูดแล้วก็หัวเราะ


ผมกลับรู้สึกสงสารพี่แตซองอย่างจับจิตจับใจ พอดีว่าตอนนั้นผมยังไม่ค่อยเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับคนพิการมากนัก เห็นคนพิการทีไรก็ต้องสงสารไว้ก่อนทั้งๆ ที่ความจริงแล้วคนพิการก็เหมือนๆ คนทั่วไปนั่นแหละ เขาไม่ต้องการให้เราไปสงสารหรอก อย่างเรื่องการตกเตียงก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าพี่เขาอาจจะแขนขาหักได้


"ให้ผมอยู่ช่วยไหมครับ ผมไม่เอาค่าจ้างก็ได้ วันนี้ผมว่างทั้งวัน" ผมอาสา


พี่แตซองทำหน้าประหลาดใจ "อย่าเลยเก้า พี่ไม่อยากเอาเปรียบใคร เดี๋ยวเก้าจะเหนื่อยเกินไปนะครับ"


"ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมจะได้เรียนรู้เพิ่มด้วยไงครับว่าตอนเย็นๆ จะต้องช่วยคนพิการทำอะไรบ้าง ให้ผมอยู่ช่วยพี่นะครับ ผมจะได้เก่งไวๆ ไง วันต่อๆ ไปผมจะได้ทำหน้าที่ PA ได้ดีกว่านี้"


ผมพยายามอ้อนใหญ่เลยครับ ย่อตัวลงข้างๆ รถวีลแชร์ของพี่แตซองแล้วก็ทำตาเศร้าๆ น่าสงสารเพราะอยากอยู่ช่วยจริงๆ


"จะเอาอย่างงั้นเหรอ" คนถามสีหน้าไม่แน่ใจ


ผมพยักหน้าเร็วๆ พร้อมกับยิ้มไปด้วย "ครับ ให้ผมอยู่ต่อนะครับพี่แตซอง แต่ว่า...ไม่ใช่ในฐานะ PA นะพี่ นอกเวลางานแล้ว ให้ผมเป็นน้องหรือเป็นเพื่อนพี่ก็ได้ครับ"


ผมก็หาเรื่องที่จะสนิทกับพี่แตซองมากขึ้นเองแหละครับ เป็น PA มีช่องว่างเยอะ อยากลองเป็นอย่างอื่นดูบ้างจะได้เข้าถึงพี่แตซองได้ง่ายกว่านี้


พี่แตซองพยักหน้ายิ้มๆ แล้วก็ขำที่เห็นผมดื้ออยู่ต่อ


"แล้วอย่าหาว่าพี่ไม่เตือนนะ" พี่แตซองพูดพร้อมกับเอามือมาแตะหัวผมเบาๆ อย่างเอ็นดู


ตอนบ่ายๆ พี่แตซองขอนอนพักประมาณเกือบสองชั่วโมงครับ ผมก็เลยนั่งอ่านหนังสือไปพลางๆ พอพี่แตซองตื่นแล้วก็ทำงานบ้านครับ ไม่น่าเชื่อว่าพี่แตซองจะสามารถกวาดบ้านและถูบ้านบนรถวีลแชร์ได้ ผมขอช่วยพี่แตซองก็ไม่ยอม บอกเสียงดุว่าไม่ใช่หน้าที่ของ PA ผมก็เลยได้แต่เดินตามหลังคอยเข็นพี่แตซองไปตรงนั้นตรงนี้ทั่วห้อง


"เมื่อก่อนพี่ก็ทำไม่เป็นหรอกนะงานพวกนี้ กวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ล้างจานหรืองานบ้านก็จะให้แม่หรือไม่ก็แฟนช่วยทำให้แทบทุกอย่าง"


นั่นแน่ หลุดปากพูดเรื่องแฟนออกมาเสียแล้ว แต่ผมก็แอบใจแป้วเล็กน้อยที่รู้ว่าพี่แตซองมีแฟนแล้ว เอ...แล้วแฟนพี่แตซองไปไหนล่ะ ทำไมไม่มาอยู่ด้วยกันที่นี่


"ที่ศูนย์ SCIL เขามีโปรแกรมฝึกการใช้ชีวิตอิสระให้พี่ก่อนที่จะใช้ PA พี่ต้องไปฝึกวางแผนชีวิตว่าจะทำอะไรบ้างในแต่ละวัน เขาให้พี่หัดทำกับข้าวเอง ไปจ่ายตลาดเอง ทำงานบ้านเอง เข้าห้องน้ำเอง ทำอะไรด้วยตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนจบหลักสูตรนั่นแหละพี่ถึงได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอก พี่ขอแม่มาอยู่ที่นี่ ตอนแรกแม่ไม่ยอมให้มาเพราะเขากลัวพี่ลำบาก แต่พี่ก็ยืนยันว่าพี่จะอยู่คนเดียวให้ได้ สุดท้ายแม่ก็เลยยอม ตอนแรกแม่ของพี่ว่าจะขายห้องนี้ไปแล้วล่ะ พอดีพี่ขอมาอยู่ที่นี่ก็เลยไม่ขาย ตอนนี้ พ่อกับแม่พี่เขาก็ไม่ห่วงมากแล้วล่ะ เขารู้ว่าพี่อยู่ได้ แต่พี่ก็ยังติดเรื่องหางานทำอยู่ พี่สมัครไปหลายที่แล้วเขาก็ยังไม่รับ ตอนนี้ก็ใช้เงินที่เก็บไว้นั่นแหละ ดีที่ว่าพี่ไม่ต้องจ่ายค่า PA กับค่าห้อง ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหามาก"


พี่แตซองเล่าให้ฟังเสียยาวในระหว่างที่ถูบ้านไปด้วย ผมฟังแล้วก็อดสงสารไม่ได้ อ้อ ศูนย์ SCIL ก็คือ Seoul Center for Independent Living ครับ แปลเป็นไทยก็คือศูนย์การดำรงชีวิตอิสระโซลนั่นเอง


"พี่แตซองเก่งนะครับ" ผมชมพลางทำหน้าเห็นใจ


"คนเราต้องรู้จักพยายามนะเก้า ไม่งั้นเราก็อยู่รอดไม่ได้ พี่ไม่ได้เก่งหรอก แต่พี่...ต้องเข้มแข็ง"


ผมพยักหน้าเข้าใจ เก่งไม่เก่งคงไม่ใช่ประเด็นสำคัญหรอก สำคัญที่ความเข้มแข็งของจิตใจนี่แหละ


"เย็นนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันไหม"


พี่แตซองหันมาชวน ผมพยักหน้าตกลงและยิ้มดีใจ


"ให้ผมช่วยพี่ออกตังค์นะครับ หมดเวลางานแล้ว" ผมย้ำเรื่องหมดเวลางานอีกครั้ง


พี่แตซองขำใหญ่เลยครับ


"ได้ครับน้องชายของพี่"


ได้ยินแค่นี้ผมก็หัวใจพองโตแล้วครับ อย่างน้อยพี่แตซองก็ยอมรับผมเป็นน้องชายได้แล้ว ถือว่าก้าวหน้าไปอีกขั้น เหลือก็แต่...


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



"เก้ารู้ไหมว่าพี่ไม่เคยพา PA คนไหนมากินข้าวเย็นด้วยเลยสักคน เก้าเป็นคนแรกเลยนะ"


พี่แตซองพูดขึ้นขณะกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวๆ คอนโดของพี่แตซอง เป็นร้านอาหารที่ค่อนข้างดูดีทีเดียว


"ทำไมล่ะครับ" ผมถามพลางแอบยิ้มอย่างภูมิใจ


"ไม่เหมือนกัน กับ PA คนอื่นๆ พี่ก็รู้สึกว่าเขาเป็นแค่ PA แต่กับเก้า...พี่รู้สึกว่าเก้าอยากเป็นมากกว่า PA"


ผมกับพี่แตซองขำพร้อมกัน สงสัยพี่แตซองจะดูออกเสียแล้วว่าผมไม่ได้อยากเป็นแค่ PA


"ผมอยากมีเพื่อนหรือพี่ชายแบบพี่บ้างน่ะครับ" ผมบอกไปด้วยอาการประหม่า


พี่แตซองยักคิ้วแล้วก็หัวเราะเบาๆ แม้ว่าจะไม่ได้ตอบคำถามแต่ผมก็พอจะเดาได้ว่าพี่แตซองไม่ขัดข้อง


"พี่แตซองรู้ไหม ผมเคยเจอคนพิการเหมือนกันนะที่ประเทศไทย ก็ไม่ค่อยได้เจอบ่อยๆ หรอกครับ แต่พี่แตซอง...เป็นคนพิการคนแรกที่ผมคิดว่า...หล่อเหมือนดาราเกาหลีเลย ผมไม่เคยเห็นคนพิการหน้าตาดีอย่างนี้มาก่อนเลยจริงๆ นะครับ"


พี่แตซองขำใหญ่เลยครับ "ขอบคุณที่ชมนะ เก้าก็หล่อเหมือนกันนะ"


เห็นพี่แตซองยิ้มอย่างนี้แล้วผมก็ยิ่งชอบ เอาแล้วล่ะสิ นี่ผมกำลังจะตกหลุมรักคนพิการหรือเปล่าหนอ...


ก่อนที่ผมจะกลับบ้านก็มีเหตุการณ์ให้ใจเต้นอีกแล้ว พออาบน้ำเสร็จผมก็ช่วยพี่แตซองใส่เสื้อผ้า เรียบร้อยแล้วก็ช่วยเข็นพี่แตซองไปหยิบรีโมททีวี จากนั้นก็พาพี่แตซองกลับมาที่เตียงนอน


ตอนช่วยยกตัวพี่แตซองขึ้นจากรถเข็นในท่ายืนอย่างที่ผมเคยเล่าให้ฟัง ใจผมสั่นเลยเพราะมันดูเหมือนกับคนกำลังกอดกันอยู่ ตอนนั้นผมมัวแต่ใจเต้นและเผลอคิดอย่างอื่นจึงไม่ทันระวัง พอจะช่วยให้พี่แตซองนั่งลงไปบนเตียงผมก็ล้มทับตัวพี่แตซองซะอย่างงั้น เหมือนพระเอกกับนางเอกในหนังไทยเลย ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือใบหน้าเราเกือบจะชนกันนี่สิเพราะพี่แตซองกอดคอผมไว้ก่อนที่จะล้มลงมาด้วยกัน


พี่แตซองรีบปล่อยมือจากคอผม ส่วนผมก็รีบลุกขึ้นนั่งบนเตียงของพี่แตซองอย่างรวดเร็ว


"ขอโทษครับพี่แตซอง พี่แตซองเป็นอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามอย่างเป็นห่วง


พี่แตซองส่ายหน้า ดูเหมือนจะตกใจอยู่เหมือนกันที่เกือบจะได้ "จูบ" กับ PA โดยไม่ตั้งใจ


พอช่วยพี่แตซองแล้ว ผมก็ขอตัวกลับบ้าน ก่อนไปก็ปิดไฟและล็อกประตูให้พี่แตซองด้วย เกือบสี่ทุ่มพอดีครับ กลับไปถึงก็โดนที่บ้านต่อว่านิดหน่อย แต่พอเล่าให้ฟังแล้วทุกคนก็เข้าใจและไม่ได้ว่าอะไร รอดตัวไป


TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-03-2012 20:14:34
เป็นมุมมองที่ดีต่อคนพิการนะ พยายามให้เค้ารู้สึกว่าเป็นคนธรรมดา สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง มันทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 15-03-2012 20:14:56
น่าสนใจค่ะ
ไม่เคยเห็นเรื่องไหนให้มุมมองความรักกับคนพิการมาก่อน
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 15-03-2012 20:25:22
นึกถึงฉากล้ม

แล้วแอบเขินเอง อ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 15-03-2012 20:30:21
เป็นเรื่องที่แหวกแนวมากๆค่ะ
จริงๆแล้วเคยไปเกาหลีมาบ้างแล้วก็สรุปได้แบบคราวๆว่า
คนเกาหลีจริงๆแล้วหาหน้าตาดีจริงๆอยากกว่าคนไทยค่ะ(ถ้าไม่ไปตกแต่งเพิ่มเติมนะคะ)
ที่ผู้เขียนไปเจอมาเนี่ยแปลว่าพรหมลิขิตจริงๆ
อืม จากที่อ่านก็พอเข้าใจค่ะว่าทำไมถึงชอบเขาได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 15-03-2012 20:45:36
รอตอนต่อไป

อ่านแล้วอยากอ่านเรื่อยๆมากๆ

 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jeaby@_@ ที่ 15-03-2012 20:49:56
ชอบเรื่องนี้มากค่ะ
เป็นเรื่องที่อ่านเรื่อยๆแต่อุ่นในใจ

ติดตามต่อไปค่ะ เป็นกำลังใจให้ในทุกเรื่องนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 15-03-2012 20:52:31
อ่านด้วยความสนุก  เเต่ต้องระวังเศร้าไปด้วย 55555
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeBill ที่ 15-03-2012 20:55:57


พอได้เข้ามาอ่าน ยอมรับมาชอบมากๆเลยค่ะ

มันดูเรียบๆอ่าน ง่าย สบายๆดี

แถมยังแหวกแนวอีกด้วย

อยากรู้จักว่าความรักะเป็นยังไงต่อไป :o8:

มาอัพบ่อยให้ได้ชื่นใจนะค่ะ

ขอบคุณค่ะ  :pig4: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 16-03-2012 00:05:24
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: อือหืออ่ะ ที่ 16-03-2012 00:21:53
เห็นว่าน่าสนใจเลยคลิกเข้ามาอ่านค่ะ ไม่ผิดหวังเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 3, 15-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 16-03-2012 06:51:19
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 04 ☯ พี่ชายใจดี


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)



ผมว่าความรักของผมครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากความใกล้ชิด เพราะการทำงานเป็น PA นั้น ต้องมีการถึงเนื้อถึงตัว สัมผัสกัน ใกล้ชิดกันอยู่แทบตลอดเวลา ทุกครั้งที่ผมอุ้มหรือช่วยยกพี่แตซอง แน่นอนว่ามันต้องสัมผัสกัน กอดกัน ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจทุกครั้ง ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยเลยที่ได้ช่วย ช่วงต่อไปนี้ผมจะขอเล่าเหตุการณ์ที่ประทับใจนะครับ เพราะไม่สามารถจำรายละเอียดทั้งหมดได้ทุกวัน


วันต่อมาที่ผมไม่ได้ไปเป็น PA นั้น ผมก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกเป็นห่วงพี่แตซองมากจนอยากจะไปหาเสียเดี๋ยวนั้นเลย ไม่รู้ว่า PA อีกคนที่มาทำงานจะช่วยพี่แตซองได้ดีไหม แล้วตอนเย็นพี่แตซองจะอาบน้ำหรือจะขึ้นเตียงนอนยังไง ผมรู้สึกกระวนกระวายใจจนในที่สุดก็ทนไม่ไหวจนต้องโทรไปหาพี่แตซองครับ พี่แตซองกำลังกินข้าวเย็นอยู่พอดี


"พี่แตซอง เป็นไงบ้างครับวันนี้"


"อ้อ เก้าเหรอ ก็โอเคครับ" เสียงตามสายตอบมา แค่ได้ยินเสียงพี่แตซองผมก็ดีใจแล้วครับ


"พี่อาบน้ำหรือยัง ต้องการคนช่วยไหมครับ" ผมถามหยั่งเชิง


"อ๋อ กำลังกินบะหมี่อยู่ครับ แต่วันนี้พี่ว่าจะไม่อาบน้ำ"


"ให้ผมไปช่วยไหมพี่ พี่จะได้อาบน้ำไง จะได้นอนสบายๆ"


"อย่าเลยเก้า เก้าอยู่กับครอบครัวไปเถอะ อย่าทำให้พี่เคยตัวสิ ยังไงๆ เก้าก็ต้องมาอยู่แล้ว พี่ไม่อยากรบกวนเก้ามากจนเกินไป"


"ไม่รบกวนหรอกครับ ผมอยากไปช่วยพี่จริงๆ ผมไม่เอาค่าจ้างหรอกครับ พอดีผมเองก็อยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรเหมือนกัน" ผมต่อรอง


พี่แตซองเงียบไปเหมือนคิดอะไรบางอย่าง


"นะพี่ เดี๋ยวผมก็กลับประเทศไทยแล้ว ผมอยากเรียนรู้งานนี้ให้เก่งๆ ครับ เผื่อจะได้เอาไปใช้ที่ประเทศไทยบ้าง"


"เก้า พี่ว่าอย่าดีกว่านะ พี่เกรงใจ เดี๋ยวเกาจะเหนื่อยเกินไป" พี่แตซองยังคงยืนกรานปฏิเสธ


"ให้ผมไปเถอะครับพี่แตซอง ผมเป็นห่วงพี่ครับ ผมไม่เหนื่อยหรอก งานไม่ได้หนักอะไรเลย"


พอเจอคำว่าเป็นห่วงเข้าไปพี่แตซองก็คงอึ้งไปเหมือนกัน


"ผมไม่ได้ไปในฐานะ PA นะครับ ให้ผมไปหาพี่แตซองในฐานะน้องชายได้หรือเปล่าครับ"


พี่แตซองเงียบไปอีก คงคิดหนักเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ตอบตกลง


"แล้วแต่เก้าละกัน"


ผมร้องเย้ดีใจจนแม่กับน้าสาวที่นั่งคุยกันอยู่ต้องหันมามองด้วยความสงสัย ผมก็เลยได้แต่หัวเราะแหะๆ อ้อ คนที่ผมจะต้องเจรจาต่อก็คือแม่ผมเองนี่แหละครับ ตอนนี้เย็นแล้วไม่รู้ว่าแม่จะยอมให้ผมไปหรือเปล่า


"แม่ครับ...พอดีพี่แตซองไม่มีใครช่วยอาบน้ำให้เลย ผมว่าจะไปช่วยพี่เขาหน่อย ไปแป๊บเดียวครับแม่ ไม่เกินสามทุ่มก็จะกลับครับ"


แม่ผมทำหน้าครุ่นคิด แต่ผมรู้ว่าแม่ผมน่ะเป็นคนใจดี แม่ไม่ขัดข้องหรอกถ้าผมจะไปช่วยพี่แตซอง


"แล้วเก้าไม่เหนื่อยเหรอลูก พรุ่งนี้ก็ต้องไปอีกนะลูก"


"ไม่หรอกครับแม่ เก้ายังวัยรุ่นอยู่นะครับ แรงผมเยอะจะตาย ผมขี้เกียจอยู่เฉยๆ น่ะครับ อีกอย่าง...ผมก็ทำแค่สองเดือนเองครับแม่ กลับไปก็ไม่ได้ทำแล้ว"


"อือๆ อย่ากลับดึกละกัน"


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ผมใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงห้องพี่แตซอง พอเจอหน้ากันเราต่างก็ยิ้มดีใจให้กัน ผมว่าพี่แตซองคงจะเหงาบ้างแหละ พอมีคนมาหาก็เลยดูมีความสุขมากขึ้น ผมเองก็เริ่มมีความรู้สึกผูกพันกับพี่แตซองเสียแล้ว อยากมาช่วย อยากสัมผัสไออุ่นเวลาที่ได้กอด อยากเห็นแววตาที่แสนอบอุ่นคู่นั้นที่ผมมองไม่เคยเบื่อ


"กินข้าวหรือยังครับ" พี่แตซองถาม


"ยังเลยครับ พอดีรีบมา" ผมบอกกึ่งขำ


"กินบะหมี่ไหม พี่ซื้อเตรียมไว้เยอะเลย มีหลายรส"


พี่แตซองชวนแล้วก็เข็นนำผมไปที่ห้องทำอาหาร ผมเดินตามไปพร้อมช่วยเข็นด้วย


"ให้ผมช่วยเข็นนะครับ พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อย" พี่แตซองหันมายิ้มแล้วก็พยักหน้า


พี่แตซองซื้อบะหมี่หรืออาหารสำเร็จรูปไว้หลายอย่างเลยครับ มีทั้งบะหมี่ ซุปสาหร่าย กิมจิที่เป็นของโปรดของผมเลยล่ะ แล้วก็อีกหลายอย่าง ผมเลือกบะหมี่รสกิมจิ พร้อมกับกิมจิแบบซองครับ


"ให้ผมช่วยนะครับ" ผมรีบร้องบอกเมื่อเห็นพี่แตซองจะกดน้ำร้อนใส่ชามบะหมี่ให้ผม


"ไม่เป็นไร เก้าเป็นแขกของพี่นะคืนนี้ เดี๋ยวพี่บริการเอง"


ผมก็เลยต้องยอมให้พี่แตซองบริการครับ ก็ดีเหมือนกัน ผมเองก็จะได้เรียนรู้ด้วยว่าเวลาอยู่กับคนพิการไม่จำเป็นต้องตั้งหน้าตั้งตาช่วยเสมอไป ให้เขาช่วยทำบางอย่างให้เราบ้างก็ได้


"ขอบคุณครับพี่ อ้อ...ตอนที่ผมโทรมาพี่กินบะหมี่อยู่หรือเปล่าครับ"


ผมถามอย่างนั้นเพราะสงสัยว่าทำไมน้ำร้อนจึงพร้อมสำหรับใช้งานเลย แสดงว่าพี่แตซองน่าจะเพิ่งเสียบปลั๊กต้มน้ำไปเมื่อไม่นานนี้นี่เอง


พี่แตซองหัวเราะเบาๆ "ครับ อะ...เดี๋ยวเก้าเอาจานมาปิดถ้วยไว้หน่อยนะ อีกสามนาทีค่อยกิน"


"ครับพี่" ผมบอกแล้วก็เดินไปหยิบจานมาปิดถ้วยบะหมี่ไว้


"พี่อิ่มหรือยังครับ กินเป็นเพื่อนกันดีไหมพี่" ไม่ใช่อะไรหรอก ผมไม่อยากกินคนเดียว มันเขินๆ ยังไงไม่รู้


"อ้อ...ก็ดีเหมือนกันครับ เมื่อกี้ยังไม่อิ่มเลย" พี่แตซองตอบตกลงพลางขำ


"คราวนี้ให้ผมบริการพี่นะครับ" ผมรีบดักไว้ก่อน พี่แตซองหัวเราะอย่างเอ็นดูแล้วก็พยักหน้า


ผมก็เลยหยิบชาม จานและตะเกียบมาให้พี่แตซองชุดหนึ่ง


"พี่จะกินรสอะไรครับ"


"เหมือนเก้านั่นแหละ"


นั่นแน่ะ ชอบกินรสเดียวกับผมเสียด้วย พอใส่น้ำร้อนและรอจนได้ที่แล้ว พี่แตซองกับผมก็นั่งกินบะหมี่ด้วยกัน ผมรู้สึกว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขมาก ผมชอบฟังเสียงพี่แตซอง ชอบฟังที่พี่แตซองเล่าเรื่องต่างๆ ในชีวิตให้ฟัง ช่วงแรกๆ พี่แตซองไม่ได้เล่าเรื่องที่ลึกมากนัก ส่วนมากก็เป็นเรื่องทั่วๆ ไปอย่างเช่น เกิดที่ไหน เรียนที่ไหน ทำงานที่ไหน เคยทำอะไรมาบ้าง ฟังแล้วก็เพลินดีแถมได้ข้อคิดเยอะด้วย


"พอพี่เป็นคนพิการแล้ว พี่แตซองคิดว่ามันลำบากไหมครับ" ผมถามด้วยความอยากรู้ คิดว่าหลายๆ คนก็คงอยากรู้ด้วยเช่นกัน


"อืม...พูดตรงๆ มันก็ลำบากนะ เพราะพี่เคยเดินได้สะดวกมาก่อน เมื่อก่อนอยากทำอะไรมันก็ง่ายกว่านี้ อยากจะไปไหนก็ไม่ต้องวางแผนมาก แต่เดี๋ยวนี้พี่ก็ต้องวางแผนเยอะขึ้น ต้องคิดมากขึ้น หลายๆ อย่างที่พี่เคยทำได้ง่ายๆ พี่ก็ต้องพยายามมากขึ้น ทำวิธีเดิมไม่ได้ก็หาวิธีใหม่ บางอย่างที่เคยทำได้แต่ตอนนี้ทำไม่ได้เลยก็มีเหมือนกัน แต่สุดท้ายพี่ก็คิดว่า...พี่ก็อยู่ได้นะ ถึงมันจะไม่สะดวกเหมือนเมื่อก่อนก็ช่างเถอะ พี่ก็จะสู้ต่อไป ระบบที่รัฐบาลมีอยู่ตอนนี้ก็พอช่วยให้พี่อยู่ได้อิสระมากขึ้นนะ อย่างบริการ PA ก็ช่วยพี่ได้เยอะเลย"


พี่แตซองยิ้มอย่างมีความหวัง คนเราขาดน้ำขาดอาหารอาจจะอยู่ได้เจ็ดวัน แต่ถ้าขาดความหวังแล้วก็อาจจะตายได้ในเจ็ดวินาทีด้วยซ้ำ


"แล้วเก้าล่ะ เก้าคิดยังไงกับคนพิการ"


"ผมเหรอ..." ผมทำท่านึก "เมื่อก่อนก็คิดว่าคนพิการน่าสงสารครับ แต่ก็ได้แค่สงสาร ไม่รู้จะช่วยยังไง คนพิการที่ประเทศไทยน่าสงสารมากเลยนะครับพี่ เขาไม่มีบริการ PA เหมือนที่เกาหลีหรอกครับ หลายคนก็ต้องอยู่กับบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน อย่างรถไฟหรือรถเมล์ คนพิการก็ยังขึ้นไม่ได้ครับ ทางลาดตามฟุตบาททางเท้าก็ยังน้อย บางที่ไม่มีเลย ออกไปไหนก็ยากครับ แต่ว่า...พอผมได้มารู้จักกันพี่แตซอง ผมก็มองคนพิการต่างไปจากเดิมเยอะเลยครับ ไม่รู้สึกว่าน่าสงสารเหมือนเมื่อก่อน ผมคิดว่าถ้ามีระบบสนับสนุน มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เพียงพอ คนพิการก็น่าจะอยู่ได้ด้วยตัวเองมากขึ้นนะครับ"


พี่แตซองยิ้มอย่างพอใจ


"อ้อ...ผมมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้เกี่ยวกับคนพิการครับ" ผมยิ้มอย่างมีเลศนัย


"อะไรเหรอ"


"เพิ่งรู้ว่ามีคนพิการที่หล่อๆ อย่างพี่แตซองนี่แหละครับ"


ผมกับพี่แตซองหัวเราะพร้อมกัน ดูเหมือนพี่แตซองจะมีความสุขมากทีเดียว


กินบะหมี่เสร็จแล้ว ผมจึงได้ช่วยพี่แตซองอาบน้ำ แล้วพาพี่แตซองขึ้นเตียงนอน ทำให้ผมได้กอดพี่แตซองตัวหอมๆ อุ่นๆ เหมือนเคย นี่ผมคิดอกุศลกับพี่เขาได้ถึงขนาดนี้เลยหรือนี่ เฮ้อ...แต่ก็คิดไปแล้ว


"ผมกลับก่อนนะครับพี่แตซอง แล้วเจอกันพรุ่งนี้ครับ"


"ขอบคุณมากนะครับเก้า"


ผมย่อตัวลงนั่งข้างๆ เตียง มองหน้าพี่แตซองให้ซึ้งที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้


"ไม่เป็นไรครับพี่ ผมยินดีที่ได้รู้จักกับพี่ชายใจดีอย่างพี่แตซองนะครับ"


พี่แตซองเอามือมาลูบหัวผมเบาๆ


"พี่ก็ดีใจนะที่มีน้องที่น่ารักอย่างเก้า"


ผมยิ้มดีใจจนแก้มแทบปริเลยล่ะครับที่ได้ยินพี่แตซองบอกอย่างนี้


"พี่อย่ามัวแต่ดูทีวีจนนอนดึกนะครับ"


พี่แตซองหัวเราะใหญ่เลยครับ


"ครับ ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ"


"นอกจากเป็น PA แล้วก็น้องชาย ผมก็เป็นอย่างอื่นอีกได้นะครับ"


พี่แตซองทำหน้าฉงน แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ปล่อยให้พี่แตซองคิดไปเองก่อนละกัน


"ผมกลับแล้วนะครับ ราตรีสวัสด์ครับ" ผมบอกแล้วก็ค่อยๆ ลุกขึ้น


"ครับเก้า เดินทางกลับบ้านดีๆ นะครับ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"


เสียงพี่แตซองบอกตามมาก่อนที่ผมจะไปถึงประตู ผมหันมายิ้มให้พี่แตซองแล้วก็เปิดประตูเดินออกไป หัวใจเป็นสุขอย่างบอกไม่ถูก กลิ่นตัวหอมๆ นั้นยังติดอยู่ที่ปลายจมูกผม คืนนี้ผมคงนอนหลับฝันดีอีกคืน


"เจอกันพรุ่งนี้นะครับพี่ชาย"


TBC

ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 16-03-2012 07:02:22
เฮ้อ...ไม่อยากคิดเมื่อครบเวลาสองเดือน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 16-03-2012 07:57:11
น่ารักจังเลย
ตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวเวลาไว้เยอะๆแล้วกัน
เดี๋ยวพอหมดโอกาส แล้วเสียดายนู่นี่อีกนะ
สู้ๆค่า~ รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 16-03-2012 12:02:41
เป็นอะไรครับ อย่างอื่นน่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 16-03-2012 14:18:54
รู้สึกอบอุ่นใจมาก :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 16-03-2012 15:56:13
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปไว จริงๆสินะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 16-03-2012 16:09:49
นอกจากจะเป็นPA
แล้วอยากเป็น SH (Sweet Heart) อ่ะจิ
หรือเป็นอย่างอื่น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 16-03-2012 18:06:42
ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น พี่แตซองแกจะเข้าใจหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoon217 ที่ 16-03-2012 19:34:14
อ่านแล้ว "อบอุ่นหัวใจ"
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: MokGaLaKom ที่ 16-03-2012 20:03:58
หุบยิ้มไม่ลงเลย น่ารักอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 4, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 16-03-2012 21:21:29
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 05 ☯ เก้าโดนพี่แตซองดุ


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)



เคยสงสัยกันไหมครับว่าคนพิการเขามีชีวิตความเป็นอยู่ยังไงบ้าง เมื่อก่อนผมไม่เคยสงสัยเพราะไม่เคยนึกถึงคนพิการเลยครับ แต่พอได้มาเจอพี่แตซองผมก็เกิดคำถามนี้ในใจ พอได้ใช้ชีวิตอยู่กับพี่แตซองสักพัก ผมก็เริ่มเห็นว่ามันไม่ต่างกันกับชีวิตของพวกเรามากเท่าไหร่ เขาก็มีธุระปะปังของเขา มีเพื่อน มีสังคม มีครอบครัว เที่ยวเตร่เฮฮา และทำงานเหมือนกับคนทั่วไป


บางวันพี่แตซองก็ไปหาพ่อกับแม่ ไปหาเพื่อน ไปกินข้าว ดูหนัง ไปฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์การดำรงชีวิตอิสระหรือแม้กระทั่งไปต่างประเทศ ผมก็บังเอิญได้ไปด้วย เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังทีหลังครับ เรื่องที่ต่างก็คือคนพิการมีอุปสรรคที่เยอะกว่าเรา เช่น บางสถานที่รถเข็นก็เข้าไปไม่ได้ ไม่ใช่เพราะมีใครห้ามนะครับ แต่มันอาจจะมีบันไดหรืออุปสรรคอื่นๆ บางทีไปไหนก็ชอบมีคนมองแปลกๆ ผมเคยเจอบ่อยๆ เหมือนกันเวลาไปกับพี่แตซอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



วันต่อมา ผมจำวันนี้ได้ดีเลยครับเพราะว่าผมนอนอีท่าไหนไม่รู้ ตื่นสายเลย แล้วเจ้านาฬิกามันก็ไม่ปลุกผมเสียด้วย ดูไปดูมา อ้าว...ผมลืมตั้งเองแหละ พอตื่นขึ้นมาก็แปดโมงกว่าเข้าไปแล้ว แม่กับน้าสาวก็ไม่ได้มาปลุกเพราะนึกว่าผมคงไม่ได้ไปวันนี้ ผมจึงต้องรีบอาบน้ำและออกเดินทางให้เร็วที่สุด ในระหว่างที่วิ่งไปขึ้นรถไฟนั้น ผมก็โทรหาพี่แตซองเพื่อที่จะแจ้งว่าจะไปสาย พี่แตซองบอกว่าไม่เป็นไร ให้รีบมาละกันเพราะตอนนี้กำลังรออยู่ ผมก็เลยได้แต่โมโหตัวเองที่ขี้ลืม


ผมมาถึงประมาณเก้าโมงหน่อยๆ พี่แตซองนั่งรออยู่บนเตียงแล้วครับ หน้าบึ้งๆ ด้วย ผมเข้าไปหาพี่แตซองแล้วย่อตัวลงข้างๆ พร้อมกับขอโทษ


"พี่แตซอง ผมขอโทษจริงๆ ครับ ผมผิดเอง ต่อไปผมจะไม่ให้มีอย่างนี้อีกครับ ผมสัญญา"


ได้ผลครับ สีหน้าของพี่แตซองดูดีขึ้น ก็ผมสำนึกผิดจริงๆ นี่ครับ จะไม่ให้อภัยน้องชายน่ารักๆ คนนี้ก็เกินไปแล้ว


"เหงื่อแตกโซกเลย วิ่งมาจากบ้านหรือเปล่า" พี่แตซองสัพยอก ทำให้ผมยิ้มออก


"ประมาณนั้นครับ"


"วันนี้ผมจะไปอบรมคอมพิวเตอร์ที่ศูนย์ แล้วตอนเย็นๆ จะไปงานวันเกิดเพื่อน เก้ากลับได้นะครับ ไม่ต้องไปส่งพี่ เพราะเดี๋ยวเพื่อนพี่มารับ แล้วเพื่อนก็จะมาส่งพี่ที่คอนโดเอง" พี่แตซองบอก


ผมก็แอบคิดในใจครับว่าจะขอไปด้วย แต่ยังไม่พูดตอนนี้ ก็อยากรู้นี่นาว่าเวลาคนพิการไปหาเพื่อน เพื่อนๆ จะปฏิบัติตัวยังไงบ้าง


"ครับ"


ผมรับคำแล้วก็พาพี่แตซองไปอาบน้ำ แต่งตัวแล้วก็ออกเดินทางไปที่ศูนย์ฯ ตอนนี้กำลังจัดหลักสูตรอบรมการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้กับคนพิการที่เป็นคนใช้บริการ PA อยู่ มีคนจากมหาวิทยาลัยอะไรสักอย่างมาสอนครับ สอนทุกวันอังคารกับพฤหัสฯ เป็นเวลา 3 เดือน


ตอนที่ไปถึงก็สายแล้วล่ะครับเพราะเริ่มเรียนตอนเก้าโมงครึ่ง ผมพาพี่แตซองไปถึงที่นั่นสิบโมงกว่าๆ มีคนมาเรียนสี่ห้าคนได้ครับ ใช้คอมพิวเตอร์ที่ศูนย์สำหรับเรียน คนที่มาเรียนทั้งหมดเป็นคนพิการทั้งชายและหญิง ทุกคนมาพร้อมกับ PA ของแต่ละคน ผมก็ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนการทำงานกับ PA คนอื่นๆ ด้วยในระหว่างที่นั่งรอพี่แตซองเรียน ผมไม่ได้เข้าไปช่วยตอนนี้นะครับเนื่องจากพี่แตซองสามารถใช้คอมพิวเตอร์เองได้


ผมจำได้ว่าผมแอบหึงคนพิการครับเพราะพี่แตซองนั่งใกล้กับผู้หญิงพิการคนหนึ่ง แล้วดูเหมือนจะคุยกันถูกคอ ผู้หญิงคนนั้นก็สวยอยู่นะครับ ก็เหมือนผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งนั่นแหละ แค่นั่งบนรถเข็นเท่านั้นเอง แต่ถึงยังไงๆ ก็ไม่ควรจะคุยกับพี่แตซองผมนานเกินไปนะครับ ตั้งใจเรียนหน่อยสิเธอ เดี๋ยวเถอะ


ตอนบ่ายมีการอบรมต่ออีกสองชั่วโมงจนถึงบ่ายสามก็เลิกครับ พี่แตซองมีนัดกับเพื่อนตอนสองทุ่ม นัดเพื่อนมารับที่ศูนย์ตอนหกโมงกว่าๆ


"พี่แตซองจะรอที่ศูนย์เลยเหรอ นานนะครับ ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนดีหรือเปล่าครับ"


"ไม่เป็นไร อีกสองชั่วโมงกว่าๆ เอง ไม่นานหรอก"


"คือ...พี่แตซองครับ ถ้าผม...จะขอไปด้วย พี่จะว่าอะไรไหมครับ"


พี่แตซองมองอย่างสงสัย "ไปงานวันเกิดเพื่อนพี่เหรอ"


ผมพยักหน้ายอมรับ ยิ้มแหยๆ เพราะกลัวพี่แตซองหาว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง


"เผื่อว่าเพื่อนพี่แตซองเมา ขับรถไม่ไหว ผมจะได้มาส่งพี่ไงครับ"


"ไม่เป็นไร" พี่แตซองขำ "เพื่อนพี่มาส่งได้"


"แต่ว่า...ผมอยากไปช่วยพี่จริงๆ นะครับ"


ต้องบอกว่านี่คือสิ่งที่ PA ไม่ควรทำนะครับ เพราะมันหมายถึงว่าเราไม่เคารพการตัดสินใจของคนพิการ ผมก็เลยโดนดีนิดหน่อยครับ


"เก้า ตกลงเราจะเป็นอะไรกันแน่ พี่ไม่อยากให้เราทำหน้าที่เกิน PA นะครับ ตัวเก้าเองก็จะเหนื่อยด้วย" พี่แตซองบอกด้วยเสียงดุนิดๆ


ผมก็เลยงอนครับ


"ผมขอโทษครับพี่"


แล้วผมก็ลาพี่แตซองกลับบ้านไปครับ ผมจำได้ว่าวันต่อมาผมก็ไม่ได้ไปหาพี่แตซองที่บ้านตอนเย็นอย่างที่ตั้งใจไว้ ก็คนมันงอนอยู่นี่นา ทำไมต้องดุผมด้วยล่ะ เรื่องแค่นี้เอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



อีกวันผมก็มาทำงานตามปกติครับ มาตรงเวลาเป๊ะเลย แต่ก็ยังงอนๆ พี่แตซองอยู่ ก็เลยไม่ค่อยพูด พี่แตซองบอกให้ทำอะไรก็ทำ ถามคำก็ตอบคำ เหมือนหุ่นยนต์ ผมว่าพี่แตซองก็คงสงสัยอยู่  ก็มันงอนนี่ครับ ไม่อยากให้ยุ่งเรื่องส่วนตัวก็ไม่ยุ่งก็ได้ เชอะ


วันนี้พี่แตซองไปอบรมคอมพิวเตอร์เหมือนเดิมครับ ผมก็พาพี่แตซองไปที่ศูนย์ฯ จนกระทังถึงบ่ายสามก็พาพี่แตซองเดินทางกลับมาบ้าน ผมก็ยังเป็นเหมือนเดิมครับ พูดน้อยลง ระวังท่าทีและทำเท่าที่พี่แตซองบอกเท่านั้น จนพี่แตซองคงทนไม่ไหว


"เก้า มีอะไรหรือเปล่า ทำไมดูเงียบๆ ไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่สบายก็บอกได้นะครับ หยุดพักได้ พี่จะได้ให้ศูนย์เขาหา PA มาแทนชั่วคราว"


พอเห็นพี่แตซองทำสีหน้าท่าทางและใช้น้ำเสียงที่ฟังดูเป็นห่วงผมก็รู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย ก็ไม่มีอะไรหรอกครับ เรียกร้องความสนใจเฉยๆ


"เปล่าครับ ผมสบายดี ไม่ได้เป็นอะไร" ผมตอบด้วยเสียงทุ้มต่ำเหมือนพูดในลำคอ ไว้ท่าทีนิดนึง


"โกรธพี่หรือเปล่า" พี่แตซองถามพลางจ้องหน้า


ผมหลบตาเล็กน้อย ไม่รู้จะตอบอย่างไร จะตอบว่าใช่ก็กระไรอยู่ จะตอบว่าไม่ใช่ก็ดูจะโกหกมากเกินไป เพราะผมว่าพี่แตซองคงดูออกบ้างแหละ


"ไม่ตอบ...แสดงว่าใช่ เรื่องที่ผมพูดเมื่อวานก่อนหรือเปล่า" พี่แตซองถามต่อ


ผมพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงยอมรับเพราะไม่รู้จะปิดบังไปทำไม พี่แตซองเป็นผู้ใหญ่แล้วต้องดูผมออกอยู่แล้วล่ะ ผมแอบชำเลืองมองพี่แตซอง พี่แตซองหันหน้าไปทางอื่น เงียบไปสักพักแล้วก็หันกลับมามองหน้าผม


"พี่ขอโทษนะ"


คำขอโทษของพี่แตซองทำให้ผมต้องมองอย่างแปลกใจ คาดไม่ถึงจริงๆ ครับว่าพี่แตซองจะเป็นคนขอโทษก่อนเพราะคนที่ผิดก็คือผมนั่นแหละที่ไปล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของพี่แตซอง พี่แตซองเอื้อมมือมาแตะไหล่ผมแล้วพูดต่อ


"ที่พี่พูดอย่างนั้นเพราะว่าพี่ไม่อยากให้เก้าเหนื่อยเกินไป พี่เกรงใจเก้ามากนะ มันเลยเวลาทำงานแล้ว อีกอย่าง พี่เองก็ไม่มีค่าจ้างให้ พี่ไม่อยากเอาเปรียบเก้า ไม่ใช่ว่าพี่ไม่อยากให้ไปด้วยหรอกนะเก้า เก้าเข้าใจพี่นะครับ"


ผมคงฟังเพลินก็เลยนั่งเงียบ


"เก้าเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ" พี่แตซองถามย้ำเพราะเห็นว่าผมยังไม่ตอบคำถาม


"เข้าใจครับ ผมขอโทษพี่แตซองด้วยครับที่ล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของพี่" ในที่สุดผมก็พูดออกมาจนได้ แล้วก็พูดสืบไป


"แล้วก็...ขอโทษที่ผมไม่เคารพการตัดสินใจของพี่"


พี่แตซองมองหน้าผม เราสบตากันเหมือนคิดอะไรบางอย่าง


"แต่ผมก็อยากช่วยพี่จริงๆ นะครับ ไม่มีค่าจ้างก็ไม่เป็นไร มันเป็นความตั้งใจของผม พี่ไม่ต้องกลัวว่าจะเอาเปรียบผมหรอกครับ ผมไม่เคยคิดอย่างนั้น พี่สบายใจได้ ผมอยู่ที่นี่อีกแค่ไม่กี่วัน ผมไม่เคยใช้ชีวิตกับคนพิการมาก่อน ก็เลยอยากมีโอกาสได้เรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กลับไปแล้วผมก็คงไม่มีโอกาสได้ทำอย่างนี้อีก เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญเสมอไปหรอกนะครับ มิตรภาพต่างหากที่สำคัญและหาไม่ได้ง่ายๆ"


ผมพูดเสียยืดยาว เสียงดังฟังชัดเพื่อแสดงให้เห็นความตั้งใจจริงของผม พี่แตซองนั่งฟังด้วยความสนใจจนแทบไม่กะพริบตา


"โอเค พี่เข้าใจเก้าแล้วนะ" แล้วพี่แตซองก็ทำหน้ายิ้มๆ อย่างมีเลศนัย


"อืม...แล้ววันนี้...เก้าจะว่างอยู่ช่วยพี่หรือเปล่าล่ะ"


นั่นแน่ ที่แท้ก็อยากให้ผมอยู่เป็นเพื่อนใช่ไหมล่ะ ชอบล่ะสิเวลามีน้องน่ารักๆ มาอยู่ด้วยใกล้ๆ


"ว่างครับพี่"


ผมตอบด้วยน้ำเสียงดีใจ ถ้าไม่เกรงใจจะกระโดดกอดเลยครับ


"ขอบคุณนะครับ คนไทยนี่จิตใจดีจริงๆ ผมเคยแต่ได้ยินคนเขาพูดกัน วันนี้โชคดีที่ได้เจอกับตัวเอง"


พี่แตซองชมผมพร้อมกับเผื่อแผ่ไปให้คนไทยคนอื่นๆ ด้วย


"พี่แตซอง นอกจากเป็น PA กับเป็นน้องชายแล้ว ผมเป็นอย่างอื่นอีกก็ได้นะครับ"


ผมพูดประโยคนี้เป็นครั้งที่สอง ดูเหมือนพี่แตซองก็จำได้


"พูดเป็นครั้งที่สองแล้ว... แล้วเก้าอยากเป็นอะไรอีกล่ะ"


"เอ่อ...ก็...เป็นเพื่อนหรือเป็นน้องชายก็ได้ แล้วแต่พี่ครับ"


สุดท้ายผมก็ไม่กล้าพูดอยู่ดี แต่ไม่เป็นไรหรอกครับ ค่อยๆ รุกเข้าไปทีละน้อยดีกว่า ต้องดูลู่ทางให้ดีๆ ก่อน ถ้ามีโอกาสเหมาะๆ เมื่อไหร่ผมไม่พลาดแน่ครับ


"โอเค งั้นให้เป็นน้องชายละกัน แต่เวลาทำงาน ต้องเป็น PA เท่านั้นนะ"


พี่แตซองกำชับทิ้งท้ายพลางใช้มือขยี้หัวผมเล็กน้อยด้วยความเอ็นดู ผมล่ะชอบจังครับเวลาพี่แตซองทำอย่างนี้


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 16-03-2012 22:00:22
เฮ้อ~ ไม่อยากให้ถึงตอนจบเลย  ผมไม่อยากเศร้า TT
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 16-03-2012 22:27:10
อ่า เเอบเนียนจีบ

เเล้วครบสองเดือนกับเเยกย้ายกันไปหน่ะเหรอ

คงจะเป็นยังนี้เเน่ๆเลย เพราะเก้าเองก็อยู่เมืองไทยนี่น่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 16-03-2012 22:28:06
น้องเก้าหึงพี่เค้าซะแล้ว
คราวหน้าก็อย่าแสดงอะไรออกนอกหน้านะจ้ะ
เดี๋ยวพี่เค้ารู้ตัวนะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 16-03-2012 23:16:26



 :3123: :3123:

ชอบมากกๆเ :3123:ยค่ะ สนุกมากกกกกกก  อิอิ

ไม่เอามาม่านะ ขอให้เก้าสมหวังก :3123:ับคุณแตซองนร๊าา

 :man1: :man1: :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 16-03-2012 23:46:53
จะ bad end  หรือ good end ล่ะเนี่ยงานนี้ ==
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 17-03-2012 00:34:49
รอ

จะได้เลื่อนขั้นมากกว่าน้องชายไหมเนี่ย  :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-03-2012 00:41:00
อยากให้ทั้งสองรักกันจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 17-03-2012 01:05:02
ชอบจังค่ะ  เนื้อเรื่องแบบนี้ o13

แต่ :เฮ้อ:กลัวเศร้าจริงๆนะ

มาอยู่แค่ระยะเวลาสั้นๆสองเดือนเอง

ไม่กล้าคาดเดาตอนจบเลย

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 17-03-2012 05:57:06
ให้เก้าเป็นมากกว่าน้องชายได้ไหมพี่แตซอง
คิดแล้วเศร้าถ้าถึงวันที่เก้ากับไทย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-03-2012 06:15:59
ไม่อยากจะคิดถึงตอนจบเลย T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tame_tin ที่ 17-03-2012 11:01:58
ครบสองเดือนจะเป็นอย่างไงเนี่ยรอติดตามอยู่นะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 17-03-2012 11:13:04
บรรยากาศอบอุ่นๆดีจังเลย... :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: LUCKY STAR ที่ 17-03-2012 15:12:23

ใจจริงคงไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนหรือน้องชายอย่างที่พูดสินะ

ถึงกับจะขอไปงานวันเกิดเพื่อนเค้าด้วย---อุ๊ยตายยยยยย
ไม่ทราบว่าจะไปในฐานะอะไรเหรอคะ
มีใครชวนหรือก็เปล่า

ช่างกล้าเนาะ


แค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นน่ะค่ะ
ต้องขอโทษคนโพสด้วยนะคะถ้าทำให้ไม่พอใจ

+ เป็ดค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 17-03-2012 16:58:27
น่ารักดีค่ะ ตอนแรกกะว่าแวบเข้ามานิดหน่อย แต่อ่านไปเรื่อยๆก็เพลินจนอ่านหมด 5 ตอนเนี่ยล่ะ   :o8:
บรรยายเรื่อยๆแต่ไม่รู้สึกเบื่อเลยค่ะ ชอบมากเลย อย่าลืมมาต่อบ่อยๆนะ ^^

 :pig4: :กอด1: (หวังว่าตอนจบจะไม่เศร้าน้า ><)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tra_daday ที่ 17-03-2012 17:45:59
 :pig4: :L2: :กอด1:เรื่องน่ารักมากครับ เป็นกำลังใจให้ครับ ชอบมากน่ารักม๊ากกกกกก อร๊ายยยยจิกหมอน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 17-03-2012 18:19:00
ทั้งหึง ทั้งงอน ถ้าแสดงออกไปมากก็ขอเป็นมากกว่าน้องชายเลยดีกว่า
เฮ้อ ไม่อยากให้เก้ากลับไทยเลย
เพราะต้องจากพี่แตซอง T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 5, 16-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 17-03-2012 19:29:31
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 06 ◉☥ แฟนของพี่แตซอง


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


วันนี้พี่แตซองไม่ได้ไปข้างนอกครับ ตอนเช้าคุณพ่อกับคุณแม่มาหาพี่แตซองที่ห้อง มีของมาฝากเยอะแยะเลยครับ ผมไม่ได้เข้าไปยุ่งกับเรื่องของครอบครัวพี่เขาหรอน ก็ปล่อยให้เขาคุยกันไป ตอนบ่ายแก่ๆ หลังจากที่พ่อกับแม่พี่แตซองกลับไปแล้ว เราก็มานั่งดูซีรี่ส์เกาหลีกัน ผมเป็นคนอยากดูเองแหละ พี่แตซองก็จัดให้


ระหว่างที่ดูอยู่ผมก็แอบถามเรื่องที่ผมอยากรู้จากพี่แตซองไปด้วย


"พี่แตซองมีแฟนหรือยังครับ ผมว่าพี่ก็หน้าตาดีนะครับ น่าจะมีแฟนเยอะ"


พี่แตซองหันมามองผม ทำหน้าครุ่นคิดเหมือนกับไม่แน่ใจว่าจะตอบดีหรือเปล่า


"พี่ก็อายุขนาดนี้ ก็ต้องเคยมีแฟนอยู่แล้วล่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีหรอกครับ"


"อืม ทำไมล่ะครับ ผมว่าอย่างพี่น่าจะหาแฟนได้ไม่ยาก"


"เก้า...ใครเขาอยากจะมาเป็นแฟนกับคนพิการล่ะ เก้าอยากมีแฟนเป็นคนพิการหรือเปล่าล่ะ"


พี่แตซองย้อนถาม สีหน้าพี่แตซองดูจริงจังขึ้นมากเลยล่ะ


"ก็... ถ้าเขาเป็นคนดี ผมก็ว่าน่าสนใจนะครับ" ผมตอบจากใจจริง พี่แตซองทำหน้าฉงนเหมือนไม่เชื่อเท่าไหร่


"ทำไมล่ะครับ คนเราควรจะรักกันเพราะว่าเราดีต่อกันไม่ใช่หรือครับ หรือว่ามีเหตุผลอื่นอีก" ผมถามอย่างสงสัย


"ก็คงจะมีเหตุผลอย่างอื่นด้วยมั้ง ไม่อย่างนั้น..."


พี่แตซองเหมือนจะนึกอะไรได้ แล้วก็หยุดพูดไปสักพักใหญ่ ต่างคนก็ต่างสนใจกับจอทีวีไป แต่ผมนี่สิครับโคตรอยากรู้เลยว่าพี่แตซองจะพูดอะไรต่อ จะถามก็กลัวจะกลายเป็นเซ้าซี้ ยิ่งตอนนี้ทำหน้าที่ PA อยู่ด้วย


"พี่ไม่ใช่แค่เคยมีแฟนเท่านั้นนะเก้า แต่พี่เคยแต่งงานมาแล้ว แต่เราก็อยู่ด้วยกันได้ไม่ถึงปี แล้วแฟนพี่ก็ค่อยๆ หายไปจากชีวิตพี่ พอเขารู้ว่าพี่พิการ ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เขาก็เริ่มเปลี่ยนไป ตอนที่พี่อยู่โรงพยาบาล แรกๆ เขาก็มาดูแลพี่ดีนะ แต่หลังจากที่เขาเห็นว่าพี่คงพิการถาวร ก็เลยเริ่มห่างๆ ไป แล้วก็ไม่มาอีกเลย"


ผมนั่งฟังอย่างตั้งใจ ทุกคำพูดของพี่แตซองชัดเจน และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเจ็บช้ำ ชาชินและประชดประชัน อดสงสารพี่แตซองไม่ได้จริงๆ ครับ ตอนนั้นพี่แตซองคงเจ็บปวดมากทีเดียว


"ทั้งที่เมื่อก่อนเราก็รักกันมาก แต่ก็คงเป็นอย่างที่เก้าว่า เขาคงมีเหตุผลอื่นที่สำคัญมากกว่าความรัก"


แววตาของพี่แตซองดูเหม่อเศร้า ผมอยากจะเอื้อมมือไปบีบมือให้กำลังใจพี่แตซองมากแต่ก็ไม่กล้า

 
"แล้วพี่ได้เจอเขาอีกหรือเปล่าครับ"


"เจอสิ เพื่อหย่ากันไง พี่ก็ยินยอมด้วยดี ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ก็เขาไม่ได้รักเราแล้ว"


ประโยคนี้เล่นเอาผมเจ็บแทนเลยครับ เท่าที่ผมสังเกต ผมว่าพี่แตซองเป็นคนเข้มแข็งและใจเด็ดเดี่ยวมากทีเดียว แต่ก็ดูเหมือนเก็บความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ในใจ ถึงตอนนี้แล้วผมก็รู้สึกสงสารมากจนกล้าพอที่จะเอื้อมมือไปบีบมือพี่แตซองเบาๆ เพื่อให้กำลังใจ ความจริงที่เกาหลีนั้นผู้ชายจับมือถือแขนกันไม่ใช่เรื่องแปลกนะครับ แต่ผมก็ติดความเคยชินมาจากบ้านเราว่าถ้าผู้ชายจับมือกันก็อาจจะถูกมองเป็นอย่างอื่นได้


"แต่พี่ก็ผ่านมาได้ใช่ไหมครับ" ผมถามพลางมองหน้า


พี่แตซองพยักหน้า "ก็ผ่านมาได้ แต่ก็...เจ็บไม่น้อยเลย" บอกพลางขำแต่ก็ยังดูเศร้าอยู่ดี


"ผมทำให้พี่ไม่สบายใจหรือเปล่าครับ"


"ไม่หรอก เรื่องมันจบไปนานแล้ว พี่ลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ"


แม้ว่าพี่แตซองจะบอกอย่างนั้น แต่ผมว่าพี่แตซองคงเก็บความรู้สึกบางอย่างไว้ในใจอยู่ครับ ผมก็ไม่อยากจะไปเซ้าซี้ก็เลยเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน คุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย จนผมรู้สึกว่าสีหน้าและอารมณ์ของพี่แตซองแจ่มใสขึ้น


ไม่รู้สิ...ผมรู้สึกว่าพี่แตซองไว้ใจและรู้สึกดีกับผมในระดับหนึ่งเลยล่ะครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷



ตอนเย็นๆ ผมกับพี่แตซองก็ออกไปกินข้าวที่ร้านแถวๆ คอนโด ผมอยากกินเนื้อย่างเกาหลี พี่แตซองก็ยอมตามใจทั้งๆ ที่อยากกินอย่างอื่นมากกว่า ผมขอเป็นเจ้ามือเองเลยล่ะ อิๆ ก็อยากกินนี่ครับก็เลยต้องยอมทุกอย่าง


เวลากินพุลโกกิหรือหมูย่างเกาหลีต้องนั่งกินกับพื้นครับ ผมกับเด็กในร้านต้องช่วยกันพยุงพี่แตซองลงมานั่งกับพื้น ใช้เวลาพอสมควรแต่ก็เรียบร้อยด้วยดี ดูพี่แตซองสนุกมากทีเดียวที่ได้ทำอะไรโลดโผนบ้าง


ผมคุ้นกับภาษาเกาหลี คนเกาหลีและอาหารเกาหลีก็จริง แต่พี่แตซองก็ยังบอกว่าผมจับตะเกียบไม่ถูกวิธี ก็เลยสอนผมจับตะเกียบใหม่ แถมยังช่วยบริการผมตอนกินอีกด้วย ผมก็สบายไปเลย เรื่องอย่างนี้ต้องให้เจ้าบ้านเป็นคนจัดการครับ


ในระหว่างที่นั่งกินอยู่พี่แตซองก็ถามขึ้นมาว่า


"เก้า มาอยู่กับคนพิการทั้งวันไม่เบื่อบ้างเหรอ"


ผมหยุดมอง เอียงคอสงสัย


"ก็ไม่นี่ครับ สนุกดีครับ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตั้งหลายอย่างเลยครับ"


พี่แตซองยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ผมรู้สึกว่ามีอะไรหลายๆ อย่างแอบซ่อนอยู่


"ขอบคุณเก้ามากนะ ตั้งแต่มีเก้าเป็นเพื่อน พี่ก็หายเหงาไปเยอะเลย ถ้าเก้ากลับไปแล้ว พี่คงเหงาแย่เลย" พี่แตซองพูดปนขำ


"พี่ก็มีเพื่อนเยอะแยะนะครับ" ผมแย้ง


"ใช่ แต่พอพิการแล้วพี่ก็คิดอะไรได้หลายอย่าง ชีวิตอย่างเมื่อก่อนมันไม่ค่อยเหมาะกับพี่เท่าไหร่แล้วล่ะ เมื่อก่อนพี่ก็ชอบเที่ยวเตร่ กินเหล้า สูบบุหรี่ ผู้หญิงหรืออะไรที่ผู้ชายเพลย์บอยทำพี่ก็ทำมาหมด เพิ่งมาหยุดตอนที่พิการนี่เอง เพื่อนก็เริ่มหายไป เพราะพี่ไปทำอย่างนั้นด้วยไม่ได้แล้ว"


พี่แตซองทำท่าครุ่นคิด "อืม...ก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้หรอก แต่สงสัยพี่อาจจะเบื่อมั้ง ก็เลยไม่อยากพยายามที่จะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเก่า"


"ผมถามจริงๆ นะครับ พี่ชอบชีวิตแบบไหนมากกว่ากัน"


"อืม...ก็ตอบยากนะ ตอนที่ไม่พิการก็สะดวกดี ไปไหนมาไหนง่าย รวดเร็วทันใจ แต่พอพิการก็รู้สึกว่าชีวิตต้องคิดมากขึ้น ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตในอีกแบบหนึ่งที่ไม่คุ้นเคย ตอนแรกๆ ก็ทำใจลำบากนะ แต่พอสักพักก็ปรับตัวได้ ถึงตอนนี้พี่ก็คิดว่ายังไงก็ได้มั้ง" ตอบพลางขำ


"แล้วคนพิการเขาอยากหายจากความพิการไหมครับ" ผมถามเพราะเชื่อว่าหลายคนก็คงอยากรู้เรื่องนี้


"อืม...มันเป็นไปได้ด้วยเหรอ คงแล้วแต่คนมั้งครับ เก้ารู้ไหมว่าชีวิตของเรามีบางอย่างที่เลือกไม่ได้ อย่างเช่น เลือกเกิดไม่ได้ เลือกอุบัติเหตุไม่ได้ อย่างเรื่องที่เก้าถามพี่ มันเป็นเรื่องที่เลือกไม่ได้ พี่ว่ามันเสียเวลาที่จะไปคิดว่าอยากพิการหรือไม่อยากพิการ เก้าต้องเปลี่ยนคำถามใหม่แล้วล่ะ"


"อะไรครับ"


"ก็...ถ้าเลือกได้ เราอยากจะมีชีวิตที่ดีหรือไม่ดี พี่ได้เรียนรู้ว่าบางเรื่องเราไม่มีสิทธิ์ต่อรองหรือร้องขอ เรามีหน้าที่แค่ทำชีวิตของเราที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในร่างกายแบบไหน อย่างพี่...พี่จะเอาแต่ท้อใจ ฆ่าตัวตาย หรือเป็นคนเลวไปเลยก็ได้นะ แต่พี่โชคดีที่พี่ไม่ได้เลือกทำอย่างนั้น พี่ก็ยังเห็นว่ามีอย่างอื่นที่พี่ยังพอเลือกได้อยู่"


ผมพยักหน้าเห็นด้วย ชีวิตคนจะดีได้หรือไม่ดีคงไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย แต่ขึ้นอยู่กับว่าคนๆ นั้นอยากจะทำให้ชีวิตที่เหลืออยู่เป็นแบบไหน


"ก็จริงนะครับ" แล้วผมก็เปลี่ยนคำถามกลับมาที่เรื่องแฟนอีกครับ


"แล้วพี่คิดอยากจะมีแฟนอีกหรือเปล่าครับ" คำถามนี้ก็ทำให้พี่แตซองนิ่งไปเล็กน้อย


"อืม...ก็แล้วแต่ ถ้ามีคนที่รักเราจริง ยอมรับเราได้ อยู่กับเราได้ พี่ก็อาจจะมี แต่ถ้าไม่มีคนอย่างนั้น พี่ก็คงอยู่แบบนี้แหละ ว่าแต่เก้าเถอะ เห็นถามพี่บ่อยๆ เรื่องแฟน เก้ามีแฟนกับเขาหรือยังล่ะ หล่อๆ แบบนี้คงจะมีเยอะแล้วมั้ง" พี่แตซองย้อนถามพลางขำ


"ยังเลยพี่ หาอยู่ เหมือนจะเจอแล้วล่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าเขาจะสนใจหรือเปล่า" ผมบอกพร้อมกับยิ้มอย่างมีเลศนัย


"ปรึกษากับพี่ได้นะเรื่องนี้ เมื่อก่อนพี่ยิ่งกว่าคาสโนว่าเสียอีก" พี่แตซองสัพยอก


ผมได้แต่ยิ้มๆ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูด


"พี่เคยไปตึก 63 ไหมครับ"


"เคยสิ ตึกนี้เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในเอเชียด้วยนะ เมื่อก่อนไปตอนสมัยเรียน ไปกับเพื่อนบ้าง สาวๆ บ้าง เก้าเคยไปหรือยังล่ะ" พี่แตซองถามกลับ


"ยังครับ วันหลังเราไปกันไหมครับ"


"อืม...ก็ดีนะ พี่ก็ไม่ได้ไปนานแล้ว"


ตลอดเวลาที่ผมใช้ชีวิตอยู่กับพี่แตซอง ผมรู้เดาได้ว่าพี่แตซองคงไม่ได้เป็นอย่างผมแน่ๆ ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่อยากจะทำให้ดีที่สุด ใช้เวลาอยู่กับคนที่ผมรักให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม


แต่ถ้ามีโอกาสบอกความในใจเมื่อไหร่ ผมจะไม่พลาดอยู่แล้วครับ!


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 17-03-2012 19:38:02
จบเศร้าแน่ๆเลยล่ะ TT
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 17-03-2012 19:53:07
น่าสนใจมากค่ะเรื่องนี้  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 17-03-2012 19:59:22
เศร้าแน่ๆเลยอ่าา

 :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 17-03-2012 20:08:40
แววดราม่ามาแต่ไกล
ต้องเศร้าแน่ๆเลย

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 17-03-2012 20:17:03
รักให้ดีที่สุด
 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 17-03-2012 20:31:46
วันนี้เกือบลืมเข้ามาอ่าน ^____^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 17-03-2012 20:38:46
แล้วถ้าบอกไปว่ารัก พี่เเตซองจะว่ายังไงน่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 17-03-2012 20:44:56
เฮ้อ เห็นแววเศร้ามาแต่ไกล  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 17-03-2012 21:12:58
คงจบไม่เศร้า  แต่คงไม่สมหวังเช่นกัน
บางครั้งความรักก็ไม่จำเป็นต้องได้รับการสนองตอบในแบบที่คิดไว้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 18-03-2012 00:49:54
อาจจะเศร้าที่ต้องจากกัน

แต่คิดว่าคงจะมีความทรงจำที่ดีต่อกัน

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: fullmoon217 ที่ 18-03-2012 03:21:18
ไม่อยากจะอ่านเลย เพราะเห็นแววเศร้ามาแต่ไกล
แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะอ่านแล้วอบอุ่นไปทั้งใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 18-03-2012 08:47:48
ฮ่า~อ่านแล้วมีความสุขค่ะ
น่ารักมากๆ >-<
ไม่อยากคิดถึงอนาคต เศร้า
รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 18-03-2012 10:38:41



 o13 o13 o13


อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆค่ะ

มันเป็นอารมณ์ว่าปราถนาให้คนที่เรารักมีความสุข เราเองก็มีความสุข ทำเพื่อเขา

ชอบมากกกกกกกกกกกเลยค่ะ มาต่ออีกนะ แต่ยังไงก็อยากให้เก้าสมหวัง คงเป็นความรักที่ดูอบอุ่นไม่ใช่น้อย

คอยดูแล ให้กำลังใจกัน

โดยส่วนตัวคิดแล้ว ว่ามันไม่น่าจะเศร้านะ ถึงจะเศ้าก็....... = _ + มันรู้สึกดี อิอิ

มาต่อให้อีกแบบเร็วๆนะ ไม่ใช่อะไร อยากอ่านต่อมากกกกกกกกแล้ว   :mc4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: bellity ที่ 18-03-2012 13:17:29
ถึงจะเศร้า(อ่านแล้วมีแววรางๆ ) แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่ไม่เคยรู้เลยครับ
ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆ มาถ่ายทอดให้อ่านกันนะครับ อย่างน้อยก็จะได้เข้าใจคนพิการกันมากขึ้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 6, 17-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 18-03-2012 16:15:07
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 07 ◉☥ ไปฟิลิปปินส์


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)



ผมเคยคิดนะครับว่า ผมจะทำยังไงกับความรักของผมตอนนั้นดี บางทีก็คิดอยากจะบอกตรงๆ ไปเลย บางทีก็อยากแสดงอาการบางอย่างให้รู้ว่าคิดอะไร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำครับ ผมว่าทุกอย่างมันควรจะเป็นไปตามธรรมชาติของมัน ผมอยากจะลองดูว่าถ้าเราทำดีกับใครสักคนหนึ่งมากๆ และแสดงออกให้รู้ว่าเราห่วงใยและรักมากแค่ไหน เขาจะรักเราได้ไหม หรืออย่างน้อยที่สุด แค่ให้รู้ว่าเรารักและหวังดีก็พอแล้ว ผมไม่รู้หรอกครับว่าท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ผมทำมันจะนำพาไปถึงตรงไหน แต่ผมเชื่อว่าความรักจะนำทางผมไปถึงจุดๆ หนึ่งอย่างแน่นอน ลองมาดูนะครับว่า ในเวลาไม่ถึงสองเดือน ความรักจะนำพาผมไปไกลได้แค่ไหน


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


มีวันหนึ่ง ผมก็ไปเป็น PA ให้พี่แตซองเหมือนเดิมครับ วันนี้เราไปกันที่ศูนย์เพื่อฝึกอบรมคอมพิวเตอร์ ผู้ประสานงาน PA ก็แจ้งให้พี่แตซองทราบว่าจะให้พี่แตซองเดินทางไปบรรยายเรื่องการให้บริการ PA ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องจากว่าประเทศที่ว่านั้นต้องการมีระบบบริการ PA จึงต้องการคำแนะนำจากประเทศที่มีประสบการณ์แล้ว เจ้าภาพที่จัดงานคือองค์กรหนึ่งในญี่ปุ่นครับ ร่วมมือกับองค์กรในประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมกับเชิญทางเกาหลีไปร่วมให้ความรู้ด้วย


ความจริงหัวหน้าศูนย์ที่เกาหลีจะต้องไปบรรยาย แต่ปรากฎว่าไม่สบายกะทันหันและไม่น่าจะหายทัน ก็เลยต้องหาคนไปแทน สุดท้ายก็กลายเป็นพี่แตซอง ผมว่าพี่แตซองเป็นคนเก่งนะครับ ที่ศูนย์พยายามชักชวนให้พี่แตซองมาทำงานด้วยหลายครั้งแต่พี่แตซองก็ไม่ยอมมา อยากลองหางานทำให้ตรงกับความสามารถจริงๆ ในบริษัททั่วไปก่อน ก็คงประมาณว่าไม่อยากให้คนทั่วไปมองว่าคนพิการสุดท้ายก็ต้องทำงานอยู่แต่กับคนพิการ อะไรทำนองนั้น
 

งานสัมมนาที่ว่านี้จัดเป็นภาษาอังกฤษครับ จึงต้องการคนที่สามารถแปลเกาหลี-อังกฤษได้ การเดินทางค่อนข้างกะทันหันพอสมควรเพราะเป็นการไปแทน แน่นอนการเดินทางไปครั้งนี้พี่แตซองสามารถพา PA ไปได้หนึ่งคน ผมก็ไม่รู้ว่าพี่แตซองจะเลือกให้ผมไปหรือเปล่า เพราะเท่าที่ผมทราบจากพี่แตซอง PA อีกคนก็ทำงานดีครับ เพียงแต่ไม่ได้ทำงานเกินเวลาเหมือนผมเท่านั้นเอง ผมก็ได้แต่แอบลุ้นในใจ ถ้าไม่เลือกผม ผมคงเซ็งแย่เลย เพราะจะไม่ได้เจอกันอีกหลายวัน


สุดท้ายผมก็ได้รับเลือกครับ พร้อมกับต้องไปเป็นล่ามให้พี่แตซองด้วย ผมพูดได้สามภาษาครับ ไทย เกาหลีแล้วก็อังกฤษ ช่วงนั้นก็วุ่นวายพอสมควรครับเพราะต้องจองตั๋วกันด่วน ดีที่ว่าพี่แตซองมีพาสปอร์ตอยู่เลยไม่ต้องไปทำใหม่ ส่วนผม เดินทางเข้าประเทศนั้นได้สบายอยู่แล้วครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


"พี่จะบอกว่า ผู้ช่วยคนพิการไม่ใช่คนรับใช้จะเขียนว่ายังไงดีล่ะเก้า"


พี่แตซองหันมาถามผมขณะที่เรานั่งทำงานเตรียมพรีเซนเทชั่นด้วยกัน แม้ว่าผมจะพอได้ภาษาอังกฤษอยู่บ้างแต่ก็ต้องเปิดดิกชันนารีเหมือนกัน


"อืม...น่าจะพูดว่า Personal assistants are not servants หรือไม่ก็ housemaids หรือเปล่าครับ"


"พี่ว่าใช้ servant ดีกว่าไหม housemaid น่าจะหมายถึงแม่บ้านหรือเปล่า"


ผมหัวเราะแล้วก็พยักหน้าเห็นด้วย พี่แตซองก็ยิ้มและหัวเราะเช่นกัน ผมชอบรอยยิ้มพี่แตซองมากๆ เลยครับ แววตาและรอยยิ้มที่อบอุ่นนั้นตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผมมาจนถึงทุกวันนี้ และคงจะจดจำไปอีกนานแสนนาน


"หิวหรือเปล่าเก้า เย็นแล้ว"


ผมหันออกไปมองตรงระเบียงห้องที่เป็นกระจกก็พบว่ามันเย็นแล้วอย่างพี่แตซองบอกจริงๆ


"จริงด้วยครับ ทำงานกันเพลินเลย พี่แตซองอยากจะไปกินข้างนอกหรือว่ากินบะหมี่ดีครับ"


"บะหมี่ดีกว่า พี่ขี้เกียจออกไปแล้ว"


เราสองคนก็เลยต้องหยุดพักเพื่อเติมท้องที่กำลังหิวโหย แต่อาหารเย็นของเราก็เป็นไปอย่างรีบร้อนเพราะยังคงห่วงพะวงกับการทำเพาเวอร์พอยท์อยู่ คาดว่าวันนี้อาจจะดึกกันเลยทีเดียว


พอกินอาหารเย็นเสร็จแล้วพี่แตซองก็อาบน้ำครับ พอพี่แตซองอาบเสร็จผมก็อาบบ้าง วันนี้ผมบอกแม่ไว้แล้วว่าจะนอนที่นี่เพราะจะอยู่ช่วยพี่แตซองทำงาน แม่ก็ไม่ว่าอะไรครับ รวมๆ เวลากินข้าวและอาบน้ำแล้วก็หมดไปชั่วโมงหน่อยๆ จากนั้นเราสองคนก็ช่วยกันทำงานต่อจนดึกเลย น่าจะตีอะไรสักอย่างผมก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่าดึกจนตาแทบจะปิด


"เก้า พี่ไม่ไหวแล้ว ง่วงมากเลย นอนก่อนดีไหม แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ"


พี่แตซองชวนด้วยหน้าตาสลึมสลือเต็มแก่ ผมเองก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกันเท่าไหร่


"ก็ดีเหมือนกันครับพี่" ผมบอกแล้วก็หาว พี่แตซองขำใหญ่เลย


ผมช่วยพี่แตซองปิดคอมพิวเตอร์แล้วก็เข็นรถพี่แตซองมาที่เตียงนอน แอบดีใจที่จะได้อุ้มพี่แตซองตัวหอมๆ อุ่นๆ อีกแล้ว พอยกตัวพี่แตซองไปนอนบนเตียงได้แล้วผมก็เดินอ้อมไปอีกฟากของเตียงก่อนจะขึ้นไปนอนข้างๆ พี่แตซอง อ้อ พวกเราอาบน้ำกันแล้วนะครับ


"เก้า ขอบคุณมากนะครับที่มาช่วยทำงาน พี่รู้สึกเกรงใจมาก เก้าช่วยพี่หลายอย่างเลย เป็นทั้ง PA เป็นทั้งเพื่อนและน้องชาย วันนี้ก็ช่วยทำงานอีก"


ผมหันไปยิ้มกับพี่แตซองแล้วก็ยืนยันเช่นเดิม "ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ต้องเกรงใจผมหรอก ผมเต็มใจครับ"


"เป็นคนดีจริงๆ น้องชายของพี่ ผู้หญิงคนไหนได้เป็นแฟนด้วยต้องเป็นคนที่โชคดีมากๆ แน่เลย" พี่แตซองพูดพลางใช้มือลูบศีรษะผมไปด้วย


ผมก็ได้แต่แอบถามในใจว่าแล้วพี่แตซองไม่คิดว่าพี่โชคดีบ้างหรือครับที่ได้มาเจอกับผม ผมรักพี่นะครับ พี่แตซองตัวอุ่นๆ หอมๆ


"นอนดีกว่านะ ดึกแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปกินอะไรอร่อยๆ ที่ตึก 63 กัน อยากไปไหม"


ได้ฟังอย่างนั้นแล้วผมก็ยิ้มดีใจใหญ่ พยักหน้าแทบจะทันที ตั้งแต่มาเกาหลีก็ยังไม่มีโอกาสได้ไปเลย คราวนี้จะได้ไปกับคนที่แสนพิเศษของผมเสียด้วย ผมเชื่อว่ามันจะเป็นวันที่ดีอีกวันหนึ่งที่ผมต้องจดจำไปชั่วชีวิตแน่นอน


หลังจากนั้นเราสองคนก็หลับเป็นตายเลยครับเพราะเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับพี่แตซอง นี่คงเป็นคืนแรกที่ผมตื่นมาแล้วจะได้เจอกับพี่ คิดแล้วก็อยากหยุดเวลาไว้อย่างนี้นานๆ ไม่อยากจะคิดถึงวันที่กลับประเทศไทยเลย


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


แล้วก็มาถึงวันที่เราเดินทางไปประเทศฟิลิปปินส์ครับ ไฟลท์ที่เราจะเดินทางนั้นค่อนข้างดึกมากพอสมควร ผมนั่งแท็กซี่จากบ้านน้าสาวมารับพี่แตซองที่คอนโดตอนสองทุ่มกว่าๆ ผมเตรียมกระเป๋าให้พี่แตซองไว้แล้วก่อนจะกลับบ้านไปเอากระเป๋าเดินทางก็เลยสามารถเดินทางได้เลย


วิธีการขึ้นแท็กซี่ก็ไม่ยากนัก ผมทำเหมือนตอนช่วยพี่แตซองขึ้นเตียงนอนนั่นแหละครับ พอพี่แตซองยืนขึ้นได้แล้ว ผมก็จะค่อยๆ หย่อนตัวพี่แตซองเข้าไปในรถ พอเรียบร้อยแล้วผมก็จะเก็บเบาะที่นั่งของวีลแชร์ แล้วก็พับรถวีลแชร์พี่แตซองใส่ไว้ข้างหลังรถ พอดีผมเลือกแท็กซี่แบบคันใหญ่หน่อย ก็เลยสามารถใส่ทั้งกระเป๋าและรถวีลแชร์ได้


เรามาถึงที่สนามบินอิ๋นชอนตอนเกือบๆ สี่ทุ่มครับ ผมว่ามันเป็นสนามบินที่ไกลมาก แล้วก็ไปเช็คอิน ผมได้เรียนรู้เรื่องการเดินทางด้วยเครื่องบินของคนพิการด้วยครับ พี่แตซองต้องติดแท็กที่วีลแชร์แล้วต้องนำไปโหลดก่อนขึ้นเครื่อง เราสามารถใช้วีลแชร์ของเราเองได้ตอนอยู่ในสนามบิน พอถึงตอนขึ้นเครื่อง คนพิการจะได้ขึ้นก่อนครับ มีเจ้าหน้าที่สนามบินมาช่วยอำนวยความสะดวกด้วย เราลงมาตามงวงช้าง พอมาถึงหน้าประตูขึ้นเครื่อง ก็จะมีวีลแชร์คันเล็กๆ สำหรับใช้ในเครื่องมาให้พี่แตซองเปลี่ยน แล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเอาวีลแชร์ของพี่แตซองไปโหลดใต้ท้องเครื่อง


เจ้าหน้าที่เข็นพี่แตซองมาถึงที่นั่งแล้วผมก็ช่วยยกตัวพี่แตซองขึ้นยืนด้วยท่ากอดกันเหมือนเดิม แล้วถ่ายตัวพี่แตซองไปนั่งที่ที่นั่ง รัดเข็มขัด แล้วผมก็นั่งลงบนที่นั่งข้างๆ พี่แตซอง เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วครับ


เครื่องออกแล้ว ผมก็เริ่มง่วงเพราะไม่ค่อยได้นอนเพราะต้องช่วยทำพรีเซนเทชั่น แถมก่อนไปก็ยังไปเที่ยวที่ตึก 63 จนดึกดื่น แล้วผมก็เผลอหลับไป มารู้ตัวอีกทีผมก็รู้ว่ากำลังนอนซบไหล่ใครบางคนอยู่ พอสติเริ่มตื่นผมก็พอจำกลิ่นกายได้ว่าเป็นพี่แตซองแน่ๆ คงไม่ใช่กำลังซบใหล่คนอื่นที่อยู่ข้างๆหรอก ผมก็เลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ครับ นอนต่อเสียอย่างนั้น ผมมีความสุขเหลือเกิน พี่แตซองจะรู้ไหมว่าผมมีความสุขแค่ไหนที่ได้อยู่ใกล้ชิดพี่แตซองแบบนี้


พี่แตซองคงรู้สึกว่าผมขยับตัวแล้ว ก็เลยเขย่าตัวผมเบาๆ เพื่อจะปลุกให้ตื่นมากินข้าว


"เก้า ตื่นแล้วหรือ หิวหรือเปล่า ข้าวมาแล้วนะ"


ผมก็เลยต้องงัวเงียตื่นขึ้นมาครับ พี่แตซองเอาถาดอาหารของผมกับของพี่แตซองเองไปวางบนถาดรองของพี่แตซองครับ จากนั้นพี่แตซองก็ช่วยเอาถาดรองของผมลง แล้วก็เอาถาดอาหารมาวางให้อีกที


"ขอบคุณครับพี่" ผมขอบคุณพลางยิ้ม


เห็นไหมครับว่าคนพิการก็มีน้ำใจเหมือนคนทั่วไปได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายรับอย่างเดียว พอผมหันไปสังเกตคนข้างๆ ก็เห็นว่าหลายคนกินข้าวกันไปจนหมดแล้ว บางคนก็นอนหลับไปแล้วด้วยซ้ำ สงสัยว่าข้าวคงจะมานานแล้วล่ะ แต่พี่แตซองก็ไม่ยอมกิน อุตส่าห์รอกินพร้อมกับผม เล่นเอาผมรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาแทบจะไหลเลย


"พี่แตซองยังไม่ได้กินข้าวอีกหรือครับ"


"ไม่เป็นไรหรอก พี่ยังไม่หิวเลย พี่ไม่ค่อยชอบกินข้าวตอนดึกๆ" พี่แตซองบอก ผมรู้ว่าพี่แตซองพูดเพื่อไม่ให้ผมรู้สึกผิดมากกว่าครับ


"ขอโทษนะครับพี่" ผมบอกเสียงอ่อยๆ รู้สึกผิดที่ขึ้นมาถึงก็หลับไปเลย ปล่อยให้พี่แตซองรอกินข้าวด้วยอยู่ตั้งนาน


"ขอโทษทำไม เก้าไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย กินเหอะ เย็นหมดแล้ว" พี่แตซองตัดบท


ตอนกินข้าว ผมก็เอาของที่ไม่ชอบให้พี่แตซองไปกินด้วย นิสัยดีใช่ไหมครับ พี่แตซองก็ไม่ว่าอะไรแถมยังกินจนหมดเลย ทั้งของตัวเองกับของที่ผมเอาไปให้ ไม่รู้ว่าหิวหรือว่าเพราะอะไรกันแน่


"โห กินหมดเลยเหรอครับพี่แตซอง หิวเหรอครับ" ผมถามกึ่งแซว


"เปล่าหรอก เสียดาย" พี่แตซองตอบปนขำ


กินเสร็จแล้วสักพักผมก็ง่วงอีก พี่แตซองหยิบผ้าห่มที่วางอยู่บนตักมาให้ แกเตรียมไว้ให้ทุกอย่างเลย ผมก็เลยเอามาห่ม ตอนนั้นรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเลย ผมก็เป็นอย่างนี้แหละครับ บางทีก็ชอบอ้อน ทำตัวเป็นเด็กตามประสาลูกคนเดียวอย่างผม


"ง่วงอีกแล้วเหรอ"


ผมพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะแหะๆ


"กินเสร็จปุ๊บก็ง่วงปั๊บเลยนะเรา" พี่แตซองขำอย่างเอ็นดู


"นอนไปเหอะ พี่ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย"


"ขอบคุณที่ดูแลผมนะครับพี่แตซอง พี่แตซองใจดีจังเลย"


"ไม่เป็นไร เก้าช่วยพี่เยอะแล้ว แค่นี้...นิดหน่อยเอง อ้อ ถ้าเมื่อยคอก็นอนบนไหล่พี่เหมือนเดิมก็ได้นะ"


พี่แตซองยิ้มแปลกๆ ในช่วงประโยคท้ายๆ ไม่รู้ล่ะครับ พอเปิดช่องอย่างนั้นผมก็เลยซบเลยครับ ไม่ต้องนั่งเมื่อยคอให้ลำบากเพราะกว่าจะถึงก็คงอีกหลายชั่วโมง อีกอย่างมันก็ดึกมากแล้วด้วย


พี่แตซองเอามือมาขยี้หัวผมเล่นแล้วขำเบาๆ "ขี้อ้อนเหมือนกันนะเรา"


แล้วต่างคนก็หลับไป ไม่รู้เหมือนกันว่าใครซบใครเพราะต่างคนก็คงต่างเหนื่อยด้วยกันทั้งคู่


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 18-03-2012 16:39:38
 :z13: :z13: :z13: :laugh: :laugh: :laugh:



น่ารักแล้วก็อบอุ่นมากๆเลย  :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 18-03-2012 16:47:36
เก้า เนียนๆ ซบไหล่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Way ที่ 18-03-2012 17:11:31
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากๆเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 18-03-2012 17:13:01
ตอนนี้น่ารักจังอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 18-03-2012 18:32:51
น่ารักอบอุ่นมากเลยค่ะ ^^
ชอบๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 18-03-2012 19:23:36
รู้สึกอบอุ่นกับพี่ชายน้องชายคู่นี้จังเลย :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 18-03-2012 19:24:21
อ่านไปก็.. นั่งยิ้มอีกแล้ว ^-^
เก้าทำเนีนซบนะ
แต่อาการยิ้มแปลกๆของพี่แตซอง มันหมายความว่ายังไงน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 18-03-2012 20:46:14
ตอนนี้น่ารักมากเป็นพิเศษ> ______ <
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: คนอ่าน ที่ 18-03-2012 20:57:31
น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลย
เป็นกำลังใจให้เจ้าของเรื่องและคนโพส
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-03-2012 21:26:04
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 18-03-2012 21:35:22
เก้าคงจะมีความสุขมากในการเดินทางครั้งนี้  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 18-03-2012 22:08:07
น่ารักกกกก
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 18-03-2012 22:50:54
โอยยยย....น่ารักจัง อ่านแล้วเคลิ้มเลย :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: t-unseen ที่ 19-03-2012 05:33:29
น่ารักสุดๆไปเลยค่ะ!! >.<
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 7, 18-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 19-03-2012 06:36:50
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 08 ◉☥ แม่ซูซานคนสวย


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)



เรามาถึงประเทศฟิลิปปินส์ตอนเช้าพอดีครับ มีคนมารับเราที่สนามบินด้วย เข้าใจว่าคงมารอกันตั้งแต่เช้ามืดแล้ว แล้วก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นผู้ประสานงาน ไม่รู้ว่าชื่ออะไรกันแน่ครับ เห็นเขาเรียกกันว่า "ซูซาน" ที่มารอรับด้วย ผู้หญิงคนนี้นี่แหละครับที่เข้ามาสร้างความยุ่งยากให้กับงาน PA ผมพอสมควรเลยทีเดียว


เมื่อเจอกันแล้วซูซานก็พาเราขึ้นรถมาที่โรงแรมแห่งหนึ่ง อยู่ติดๆ ทะเล ผมก็เพิ่งรู้นี่แหละครับว่ากรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศฟิลิปปินส์ติดทะเลด้วย แต่ก็เป็นทะเลที่ไม่สวยหรอกครับ ทะเลหน้าโรงแรมเป็นที่จอดเรือยอชเสียเป็นส่วนใหญ่


พอได้ห้องแล้ว พี่แตซองกับผมก็ขอตัวขึ้นไปนอนครับ ลงมาอีกทีก็เกือบบ่ายสอง แล้วก็พากันออกไปหาอะไรกินแถวๆ โรงแรม ค่อนข้างทุลักทุเลพอสมควรเนื่องจากสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการในประเทศนี้มีค่อนข้างน้อย ผมก็เลยต้องเหนื่อยพอสมควร


"ประเทศไทยมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการหรือเปล่าเก้า คงไม่แย่เหมือนที่นี่หรอกใช่ไหม"


พอพี่แตซองถามมาอย่างนั้นผมก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ เรื่องของเรื่องคือผมไม่เคยสังเกตเลยเพราะไม่เคยสนใจคนพิการก่อนหน้านี้ ก็ผมไม่ค่อยเห็นคนพิการในชีวิตประจำวันเท่าไหร่นี่นา


"ไม่รู้เหมือนกันครับพี่ แต่ถ้าวันไหนพี่แตซองไปเยี่ยมผมที่กรุงเทพนะ พี่แตซองไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมพาพี่ไปได้ทุกที่แน่นอน"


พี่แตซองหันมามองแล้วก็ยิ้ม "ครับ เก่งจังนะน้องพี่"


ผมหัวเราะเบาๆ สายตาคอยมองไปข้างหน้าเพราะทางที่ผมเข็นรถพี่แตซองไปนั้นค่อนข้างขรุขระ เกิดล้อหน้าของวีลแชร์สะดุดก้อนหินเข้า รถวีลแชร์อาจจะหยุดกะทันหัน คนที่นั่งอยู่ก็อาจจะหล่นไปกองกับพื้นได้


พอกลับมาถึงโรงแรมก็เจอคุณซูซานที่เคาน์เตอร์โรงแรมครับ คงกำลังติดต่อประสานงานเรื่องโรงแรม ที่พัก ห้องประชุมหรืออะไรทำนองนี้อยู่ พอหันมาเห็นเรา เธอก็รีบเดินมาหาผมกับพี่แตซองทันที หน้าตายิ้มระรื่นทีเดียว
 

"คุณคิมคะ อย่าลืมไปทานอาหารเย็นตอนหกโมงครึ่งนะคะ เราจะมี welcome dinner สำหรับแขกที่มาในงานทุกคนค่ะ"


พี่แตซองคนฟังออกไม่หมด ผมก็เลยต้องแปลเป็นภาษาเกาหลีให้พี่แตซองฟังอีกที พอเข้าใจแล้วพี่แตซองก็พยักหน้าพร้อมกับยิ้มให้ซูซานไปด้วย


"โอเค" พี่แตซองตอบเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ เพราะให้พูดยาวกว่านี้คงลำบากพอดู


"ร้านอาหารเย็นของเราเป็นร้านอาหารจีนนะคะ อยู่ใกล้ๆ โรงแรมนี่แหละค่ะ คุณคิมออกจากโรงแรมไปแล้วก็เลี้ยวซ้าย ตรงไปอีกหน่อยก็จะเห็นร้านเลยค่ะ หาไม่ยากเพราะว่าเป็นร้านอาหารจีนร้านเดียวที่มีอยู่แถวนี้"


ซูซานสาธยายพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ผมชักจะรู้สึกว่าเธอมองพี่แตซองแปลกๆ ยังไงไม่รู้ครับ แต่เอาเถอะ ตอนนั้นผมไม่อยากคิดมาก คงไม่น่ามีอะไรหรอก เธอก็คงยิ้มแย้มแจ่มใสเพื่อต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองไปตามมารยาทเท่านั้น


"ขอบคุณครับ" พี่แตซองขอบคุณซูซานเป็นภาษาอังกฤษหลังจากที่ฟังผมแปลให้ฟังแล้ว


แม่ซูซานยิ้มใหญ่เลยคราวนี้ แค่พี่แตซองขอบคุณตามมารยาททำไมจะต้องยิ้มขนาดนี้ด้วยนะ ผมแอบสงสัยแต่ก็ยังใจร่มๆ ได้อยู่ในตอนนั้น จากนั้นพวกเราก็ขอตัวขึ้นมาบนห้องพักเพื่อพักผ่อนอีกสักหน่อยก่อนจะออกไปทานอาหารเย็นตามคำเชิญ


"อาหารประเทศนี้ไม่ค่อยถูกปากเลยนะเก้า จืดไปหน่อย" พี่แตซองบ่นแล้วก็ขำเบาๆ นอนดูทีวีบนเตียงอย่างสบายอารมณ์


"ผมก็ว่างั้นแหละครับ วันหลังเราเอากิมจิซองไปด้วยดีกว่า ว่าน่าจะช่วยได้เยอะเลย"


พี่แตซองซื้อกิมจิซองเตรียมเผื่อไว้ด้วยครับเพราะเดากันว่าอาหารที่นี่อาจจะไม่ค่อยถูกปาก เมื่อกลางวันนี้ก็ว่าจะพกไปด้วยแล้วล่ะแต่กลัวเจ้าของประเทศเสียใจ แต่หลังจากที่ได้กินไปแล้วคราวนี้คงไม่กลัวเสียใจแล้วล่ะครับ จืดชืดเสียจนแทบจะกินไม่ลงเลย อย่างนี้จะน่าเสียใจมากกว่า


"อืม...เก้าว่า...ซูซานเขาเป็นยังไงบ้าง"


อยู่ดีๆ พี่แตซองก็เปลี่ยนมาคุยเรื่องนี้เสียอย่างนั้น ผมขมวดคิ้วสงสัยเล็กน้อย


"ก็ดีมั้งครับ" ผมตอบห้วนๆ โดยไม่หันไปมองพี่แตซอง


"พี่ว่าเขาก็น่ารักดีนะ"


อ้าว...ทำไมพี่แตซองชมแม่ซูซานซะแล้วล่ะ ผมกลัวจะน้อยหน้าก็เลยลุกจากโซฟาไปนั่งคุกเข่าข้างๆ เตียง ทำหน้าเง้าหน้างอนิดๆ


"แล้วผมไม่น่ารักเหรอ"


พี่แตซองหันมามองอย่างแปลกใจ


"อะไร อิจฉาเหรอ"


ผมนิ่วหน้า ไม่ตอบคำถาม


"ครับ เก้าก็น่ารักครับ น้องของพี่น่ารักจะตาย"


พี่แตซองลูบผมผมเบาๆ ในขณะที่พูด ผมก็เลยยิ้มออก เรื่องอะไรจะยอมให้แม่ซูซานมาแย่งตำแหน่งนี้ไป


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


พอถึงหกโมงผมกับพี่แตซองก็ลงมาอีกครั้ง จากนั้นก็พาพี่แตซองเข็นไปที่ร้านอาหารที่ว่านั้นซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมมากนัก พอไปถึงก็ปรากฎว่ามีคนมาเกือบครบแล้ว มีการจองโต๊ะไว้อยู่สามสี่โต๊ะใหญ่ๆ ผมก็พาพี่แตซองไปที่โต๊ะหนึ่งที่บังเอิญมีที่ว่างเหลืออยู่สองที่พอดี ผมดึงเก้าอี้ออกตัวหนึ่งเพื่อให้พี่แตซองเข็นรถเข้าไปนั่งตรงโต๊ะอาหารได้สะดวก พอช่วยจัดรถเข็นแล้วผมจึงเอ่ยปากขอตัว


"เดี๋ยวผมไปห้องน้ำแป๊บเดียวนะครับ พี่จะไปด้วยไหมครับ"


พี่แตซองส่ายหน้า ผมก็เลยต้องรีบไปเพราะปวดฉี่ พอกลับมาอีกครั้ง ก็ต้องแปลกใจที่คุณซูซานกลับมานั่งที่ที่ผมจะนั่งกับพี่แตซองเสียอย่างนั้นครับ เข้าใจว่าพี่แตซองแกพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยเก่งก็อาจจะสื่อสารกับคุณซูซานเรื่องที่นั่งไม่เข้าใจกัน เธอก็เลยไปนั่งตรงนั้นเสียเลย ครั้นจะบอกให้ลุกไปก็ดูจะน่าเกลียด พี่แตซองก็เลยพยักเพยิดให้ผมไปนั่งที่อื่นก่อน พอดีผมได้ยินเสียงคนพูดภาษาไทย ก็เลยไปนั่งด้วย เป็นคนไทยที่มางานนี้ด้วยครับ มีคนพิการไทยมาด้วยคนหนึ่งพร้อมกับ PA และล่ามแปลไทย-อังกฤษ พอได้คุยกันผมจึงได้รู้ว่าประเทศไทยกำลังจะเริ่มทำระบบ PA เหมือนกัน เห็นว่ากฎหมายทำเสร็จแล้ว จะเริ่มใช้ปีหน้า อะไรประมาณนั้น ทางฟิลิปปินส์ก็เลยเชิญตัวแทนของคนพิการไทยมาเป็นวิทยากรแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานด้วย


พออาหารเริ่มมา แม่ซูซานก็ดูจะเอาใจพี่แตซองของผมเป็นพิเศษ ตักนั่นตักนี่ให้ตลอด แม้ว่าจะสื่อสารกันได้บ้างไม่ได้บ้างแต่ดูเธอก็มีความสุขมากทีเดียว หัวเราะร่าเริงกับพี่แตซองของผมแทบตลอดเวลา ผมเองก็ชักเซ็งๆ กินข้าวก็ไม่ค่อยจะลง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะอาหารไม่อร่อยด้วยนั่นแหละ ตอนแรกก็ดีใจที่ได้ยินว่าเป็นร้านอาหารจีน แต่ก็เป็นอาหารจีนที่รสชาติประหลาดสิ้นดี จืดชืดจนไม่น่าจะเรียกว่าอาหารจีนได้


ผมนั่งกินไปก็มองพี่แตซองกับแม่ซูซานไป บางทีพี่แตซองก็เหลียวหันมามองผมบ้าง คล้ายๆ จะสงสัยว่าผมอยู่ตรงไหน พอเห็นแล้วก็หันกลับไปตามเดิม อีกสักพักก็หันมาทางผมอีก แล้วก็กวักมือเรียกผมไปหา ผมจึงเดินไปหาพี่แตซองด้วยสีหน้าเซ็งๆ แม้จะไม่แสดงออกมากแต่พี่แตซองก็คงดูรู้แล้วล่ะ อยู่ด้วยกันมาหลายวันจนเริ่มรู้นิสัยกันพอสมควรแล้ว


"พี่จะไปห้องน้ำครับ" พี่แตซองบอก


ผมจึงเข็นรถพี่แตซองถอยหลังออกมาจากโต๊ะอาหารแล้วก็พาไปห้องน้ำ ทางเดินในร้านค่อนข้างแคบ แถมยังไม่มีห้องน้ำคนพิการอีก ผมก็ใช้วิธีคล้ายๆ เดิมครับ คือพอไปถึงหน้าห้องน้ำ ก็ช่วยให้พี่แตซองยืนขึ้น แล้วก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวพี่ซองเข้าไปในห้องน้ำ พอไปถึงโถก็ให้พี่แตซองนั่งลง จากนั้นผมก็ออกมาปิดประตู พอเรียบร้อยก็พาพี่แตซองออกมาจากห้องน้ำด้วยวิธีการคล้ายๆ เดิม ไม่ได้คุยอะไรกันเลยครับ แล้วผมก็พาพี่แตซองไปล้างมือ ออกมาจากห้องน้ำแล้วก็พากลับมานั่งที่เดิมกับแม่ซูซาน ดูๆ ไปเธอก็สวยอยู่นะครับแม้ว่าผิวจะคล้ำๆ ไปหน่อย


จากนั้นผมก็แยกกลับมานั่งกับกลุ่มคนไทยเหมือนเดิม แม่ซูซานแย่งเก้าอี้ผมไปถาวรเสียแล้วล่ะคืนนี้ ผมได้แต่แอบค่อนขอดในใจว่าทำไมไม่รู้จักเดินไปคุยกับโต๊ะอื่นบ้าง แขกของเธอมีตั้งเยอะตั้งแยะทำไมมาคุยกับพี่แตซองคนเดียวอยู่ได้


ก็สรุปว่าผมก็ไม่ได้อยู่กับพี่แตซองอีกเลยจนถึงตอนกลับ ผมกำลังเข็นพี่แตซองอยู่ดีๆ แม่ซูซานก็วิ่งตามมาจากไหนไม่รู้


"ให้ฉันลองเข็นมั่งได้ไหมคะ ฉันไม่เคยเข็นเลย ให้ฉันช่วยนะคะ"


ผมกับพี่แตซองมองหน้ากัน พี่แตซองทำสีหน้าเหมือนกับจะบอกว่าโอเคผมก็เลยถอยออกให้แม่ซูซานเข้ามาเข็นแทน เข็นไปคุยกันไป อันไหนที่พี่แตซองไม่เข้าใจก็จะหันมาถามผม ให้ผมแปลให้ ผมก็แปลไปอย่างแกนๆ


"เอ๊ ทำไมคุณดูไม่เหมือนคนเกาหลีเลยนะคะ" จู่ๆ แม่ซูซานก็หันมาคุยกับผม


"อ๋อ ผมเป็นคนไทยครับ" ผมตอบพลางเดินก้มหน้าก้มตา


"จริงเหรอคะ แล้วมากับคุณคิมได้ยังไงคะ"


"พอดีผมไปเยี่ยมญาติที่เกาหลีครับ แล้วก็ไปสมัครเป็น PA ก็เลยได้มาที่นี่"


ผมพยายามตอบให้สั้นที่สุด รู้สึกไม่ค่อยอยากเสวนากับผู้หญิงคนนี้เท่าไรนัก เธอคงจะสัมผัสความรู้สึกไม่ค่อยอยากคุยของผมได้มั้งครับก็เลยเลิกสนใจผมไป แล้วก็หันไปคุยกับพี่แตซองเหมือนเดิม ส่วนผมก็เดินตามไปอย่างเงียบๆ


ตกลงเธอก็มาส่งพี่แตซองของผมถึงหน้าห้องเลยครับ ยิ่งทำให้ผมชักสงสัยใหญ่ว่าแม่ซูซานคนนี้คงต้องคิดอะไรกับพี่แตซองแน่ๆ เลย


พอแม่ซูซานไปแล้ว ผมจึงได้มีโอกาสอยู่กับพี่แตซองตามลำพังเหมือนเดิมเสียที


"ซูซานนี่เขาก็น่ารักดีนะ ขนาดพี่พูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ก็ยังอดทนคุยกับพี่ได้ตั้งนานแน่ะ" พูดพลางหัวเราะ


"ครับ" ผมตอบสั้นๆ


"ถ้าตอนนั้นพี่ตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษก็น่าจะเก้า เดี๋ยวกลับไปพี่ไปหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษดีกว่า พี่ว่าพี่น่าจะได้ใช้บ่อยขึ้นแน่ๆ เลย"


"ครับ"


ผมตอบสั้นๆ อีกเหมือนเคย แล้วก็แอบค่อนขอดในใจว่าจะฝึกมาพูดกับแม่ซูซานหรือไงนะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอะไรมากครับ ผมพาพี่แตซองไปอาบน้ำ เสร็จแล้วผมก็อาบมั่ง แล้วก็นอนครับ  นอนกันคนละเตียง พี่แตซองแอบชำเลืองมองผมอยู่เหมือนกันที่เห็นผมเงียบๆ ไป แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรกับพี่แตซองอีกจนหลับไปเลยครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


เช้าวันต่อมา พี่แตซองของผมดูหล่อเป็นพิเศษเลยครับ เพราะใส่สูทผูกไทด์เตรียมตัวสำหรับการเป็นวิทยากร พี่แตซองไม่ได้พูดช่วงเช้าหรอกครับ คิวบรรยายจริงๆ เป็นช่วงบ่าย


ผมสังเกตว่ามีสาวๆ ทั้งพิการและไม่พิการของประเทศฟิลิปปินส์มาขอถ่ายรูปกับพี่แตซองหลายคน จริงๆ ประเทศนี้ก็บ้าเกาหลีไม่แพ้บ้านเราหรอกครับ พอมาเจอคนเกาหลีหล่อๆ ก็เลยพากันคลั่งไคล้ ถึงจะเป็นคนพิการก็เถอะ ผมก็แอบคิดในใจว่าถ้าพี่แตซองเจอแบบนี้บ่อยๆ คงไม่รอดแน่เลย แต่ก็แปลกอย่างหนึ่ง ตอนอยู่ที่เกาหลี ผมไม่ค่อยเห็นสาวๆ เกาหลีสนใจพี่แตซองเท่าไหร่ พอมาอยู่ที่นี่กลับมีคนให้ความสนใจเสียเยอะเลย


ตอนบ่าย พี่แตซองก็ขึ้นนำเสนอครับ นำเสนอได้ดีเลยทีเดียว พี่แตซองเคยไปดูงานที่ญี่ปุ่นมาด้วยครับสมัยที่พิการใหม่ๆ พอได้เรียนรู้แนวคิดก็เลยทำให้ฟื้นสภาพจิตใจและยอมรับความพิการได้ค่อนข้างเร็ว


พี่แตซองนำเสนอความเป็นมาว่าแนวคิดการดำรงชีวิตอิสระเกิดขึ้นที่เกาหลีได้อย่างไร และเริ่มระบบบริการ PA ได้อย่างไร มีผมคอยแปลให้ พอพี่แตซองพูดจบประโยคหรืออาจจะซักไม่เกินสองสามประโยค ผมก็จะแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที ก็ใช้เวลาพอสมควรครับ ภาษาอังกฤษของผมสู้ภาษาเกาหลีไม่ค่อยได้เท่าไหร่หรอกครับ ดีที่ว่าซ้อมกันมาก่อนหน้านี้แล้วก็เลยพอเอาตัวรอดกันไปได้


พอตกเย็น แม่ซูซานก็มาชวนพี่แตซองกับผมไปกินข้าวข้างนอกด้วยกันครับ แล้วก็ชวนคนพิการที่ประเทศฟิลิปปินส์รวมทั้งของไทยไปด้วย แล้วเธอก็ทำเหมือนเดิมครับ คือแย่งหน้าที่ PA ไปจากผมเสียอย่างนั้น ทำให้ผมอารมณ์เริ่มขุ่นเคืองพอสมควร ผมไม่รู้ว่าพี่แตซองสังเกตเห็นหรือเปล่า ผมเริ่มเงียบอีกแล้ว รู้สึกว่าการมาประเทศฟิลิปปินส์ของผมชักจะไม่ค่อยสนุกเสียแล้วสิ แม่ซูซานนะแม่ซูซาน ฮึ่ม!


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 19-03-2012 06:59:35
เก้าหึง ~......
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-03-2012 07:12:54
แย่งซีน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 19-03-2012 07:15:56
โอ้วว แม่ซูซานนนน

 :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 19-03-2012 09:12:33
ซูซาน ฮืมมมมมมมมมมมมมม

เเต่ยังไงซะพี่เเตซองก็เป็นผู้ชายเเท้นิเนอะ ยังไงก็ต้องชอบผู้หญิงอยู่แล้วอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-03-2012 09:22:04
อาการไม่สนุกเนี่ย เรียกว่าหวง หรือหึงได้หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 19-03-2012 11:06:39
บางครั้ง ความรักก็ไม่ได้จบลงตรงที่ได้อยู่ด้วยกัน แต่ เราก็ยังสามารถเก็บช่วงเวลาดีๆที่เคยใช้ด้วยกันไว้ในหัวใจของเราได้
ขอบคุณความรักของเก้าที่ทำให้รู้สึกว่า โลกนี้ยังมีความรักอยู่ รักโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 19-03-2012 12:27:00
อั้ยย่ะ....

น้องเก้าหึง

พี่แตซองจะจับความรู้สึกได้ไหมน้อ...เพราะน้องเก้าเริ่มเก็บความรู้สึกไม่อยู่ซะแล้ว :impress2:

รอตอนต่อไปค่า^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 19-03-2012 12:49:41
ออกชัดไปนะเก้า ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 19-03-2012 14:29:38
เก้าเริ่มออกอาการแล้ว พี่แตซองจะจับได้ไหมเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Allure-Q ที่ 19-03-2012 17:06:24
แหมมมมมมม.....แม่คุณเอ๊ย  จะมาแย่งตำแหน่งPAเค้าเหรอ?
แบบนี้ตัวจริงเค้าก็เซ็งแย่เลย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tartar ที่ 19-03-2012 18:07:33
ชอบมากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 19-03-2012 20:56:42
พี่แตซองจะรู้ไหมว่าเก้างอนแล้วอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Running ที่ 19-03-2012 21:10:20
เป็นกำลังใจให้น่ะครับ
สำหรับเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 19-03-2012 21:58:06
ถ้าเป็นชีวิตจริงก็คงไม่สนุก แต่ถ้าเป็นนิยายก็ชักจะมันส์ ^^

รอตอนใหม่นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 19-03-2012 22:35:52
แม่ซูซาน  :m16:

ไม่ใช่แฟน ทำแทนไม่ได้เข้าใจป่ะ

พี่แตซองสนใจPA คนสำคัญหน่อยสิ
เดี๋ยวเก้าก็งอนอีกหรอก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 20-03-2012 05:11:47
เหอๆ  จะเม้นตั้งแต่เมื่อคืนแล้วแต่ผิดพลาดอะไรนิดหน่อย
เรื่องนี้ชอบมาก  มัน..  แหวกแนว  ไม่สิ  มีความรู้สึกที่เป็นมิติมาก  แถม..  ตอนนี้พาค้างเสียด้วย

จะว่ายังไงดี..  อ่านๆไป  นายเก้านี่หวงนะ  เหอๆ
นี่ถ้าตัดในส่วนความเห็นนายเก้าแล้ว  มองในอีกมุม  ถึงเจ้แกจะมายุ่งวุ่นวาย
แต่ว่าโดยรวมแบบไม่คิดอะไร  เธอก็ใจดีจริงๆอย่างที่ว่านั้นแหละ
จะมีสักกี่คนที่ยังรับคนพิการได้  นายเก้ารักแบบไม่บอกให้ใครรู้  แถมมีอคติในตอนแรกๆ
สวนเธอคนนี้  ยอมรับและอยากใกล้ชิด  จะบอกว่าใกล้ชิดอย่างเปิดเผยได้หรือเปล่านะ
หรือแค่ทำเพราะใจดีจริงๆ  แถมถ้าจะว่าไปแล้ว  นายเก้านั้นทำนอกหน้าที่
เธอคนนี้ก็ทำนอกหน้าที่เหมือนกัน  แถมดูจะทำได้ดีด้วย  เหอๆ  น่าเสียดายที่ตามอ่านนายเก้า
เลยทำให้ลำเอียงไปแล้วนิ  ไม่อยากให้เรื่องนี้เศร้าเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 20-03-2012 06:24:38
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 09 ◉☥ เก้าน้อยใจ


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


ผมก็เพิ่งเคยเห็นนี่แหละครับคนพิการเสน่ห์แรง แต่ก็ทำให้ได้เรียนรู้ว่าจริงๆ แล้วคนพิการก็สามารถทำตัวให้ดูดีได้ครับ ขึ้นอยู่กับการแต่งตัว การเลือกเสื้อผ้า การทำผม การรักษาความสะอาดหรือแม้กระทั่งการเลือกอุปกรณ์เครื่องช่วย เช่น ถ้าใช้วีลแชร์ก็ควรจะใช้วีลแชร์ที่ออกแบบดีหน่อย แต่ราคาแพงเหมือนกันนะครับ คันหนึ่งหลายหมื่น เป็นแสนๆ ก็มีครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


พอมาถึงร้านอาหาร ผมก็ไม่ได้นั่งกับพี่แตซองครับ แม่ซูซานนั่นเองที่ทำหน้าที่ปรนนิบัติพัดวี นึกๆ แล้วก็หมั่นใส้แม่ซูซานเหมือนกัน เป็นผู้ประสานงานแท้ๆ ไม่รู้จักกลับไปทำงานทำการ แล้วยังมาแย่งหน้าที่ PA ผมไปอีก มีอยู่ตอนหนึ่งเธอเอากล้องของเธอมาให้ผมครับ แล้วก็บอกให้ผมถ่ายรูปเธอกับพี่แตซอง ผมก็จำใจต้องทำให้ เธอชวนพี่แตซองทำท่าซารางเฮโยด้วย ผมนี่ไม่อยากจะถ่ายให้เลย


ตอนเดินกลับเธอก็ชวนพี่แตซองถ่ายรูปตรงจุดนั้นบ้าง ตรงมุมนี้บ้าง ให้ผมทำหน้าที่เป็นตากล้อง บางทีผมก็รำคาญเพราะไม่รู้จะให้ถ่ายอะไรนักหนา ผมล่ะรู้สึกน้อยใจพี่แตซองมากเลยครับตอนนั้น เห็นทำหน้าระรื่นดูมีความสุขยังไงไม่รู้ ท่าทางจะชอบแม่ซูซานแน่ๆ เลย แถมวันอื่นๆ ผมก็ยังได้ยินคนแอบแซวแม่ซูซานกับพี่แตซองด้วยอีก ผมล่ะเซ็ง


เรื่องมันมาถึงขั้นสูงสุดก่อนหนึ่งวันที่จะกลับครับ เราอยู่ที่นี่กันสี่วัน พอเลิกงานสัมมนาแล้ว ประมาณห้าโมงเย็นกว่าๆ ก็มีการชวนกันออกไปทานอาหารเย็นข้างนอก แต่วันนี้ฝนดันตกครับ ก็ไม่ได้ตกหนักมาก แค่ปรอยๆ พอเดินระยะใกล้ๆ ไปได้โดยไม่เปียกมาก ปัญหาส่วนหนึ่งก็เกิดจากผมด้วยแหละครับเพราะผมทำเกินหน้าที่ PA คิดแทนพี่แตซองอีกแล้วเพราะกลัวว่าพี่แตซองจะไม่สบาย พอเห็นพี่แตซองจะไปกับกลุ่มแม่ซูซานผมก็เลยเตือน


"อย่าไปเลยครับพี่แตซอง ฝนตกเดี๋ยวไม่สบาย" ผมบอกด้วยความเป็นห่วง


"ฝนแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก คนอื่นๆ เขาก็ยังไปได้เลย" พี่แตซองแย้ง แม่ซูซานยืนมองพวกเราด้วยสีหน้างงๆ เธอคงไม่เข้าใจว่าเราพูดอะไรกัน


"เดี๋ยวพี่เป็นหวัดนะครับ เกิดไม่สบายขึ้นมาแล้วจะทำยังไงครับ" ผมแย้งบ้าง คราวนี้ก็เลยโดนดีเลยครับ


"เก้า เก้าเป็น PA ของพี่ใช่ไหมครับ พี่ต้องเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ถ้าเก้าไม่อยากไป กลัวเปียกฝนหรือกลัวไม่สบาย เก้าก็อยู่นี่ พี่จะไปเอง"


พี่แตซองบอกด้วยเสียงดุ คงโมโหที่ผมไปคิดแทน จริงๆ เป็นสิ่งไม่ถูกต้องหรอกครับสำหรับการเป็น PA เราต้องฟังว่าคนพิการอยากทำอะไร จะผิดจะถูกก็ต้องให้เขาทำ เพราะตัวคนพิการคือคนที่ต้องเรียนรู้และรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง ถึงจะไม่สบายก็ไม่ใช่ความผิดของ PA แต่ว่า PA ก็อาจตัดสินใจได้ว่าจะทำงานนั้นหรือไม่ก็ได้ ถ้าเห็นว่าเสี่ยง อันตรายเกินไปหรือผิดศีลธรรม PA ก็ตัดสินใจไม่ได้ทำได้ครับ


"OK. Let's go" พี่แตซองหันไปบอกแม่ซูซานกับคนอื่นๆ ที่รอเราอยู่ แม่ซูซานก็ทำหน้างงๆ แล้วก็หันมาถามผมที่ยืนหน้าเสีย


"Not going with us?"


"No"


พี่แตซองตอบแทนผมเสียอย่างนั้น แล้วพี่แตซองก็เข็นไปเลย แม่ซูซานวิ่งตามไปช่วยเข็นให้ แม้จะงงๆ แต่ก็ดูเธอจะดีใจมากทีเดียวที่ผมไม่ได้ไปด้วย


ผมถึงกับอึ้งและงงไปเลยครับ งงเพราะตอนนั้นไม่รู้ว่าทำอะไรผิด แล้วทำไมพี่แตซองต้องโมโหขนาดนั้นด้วย การที่เราหวังดีมันผิดตรงไหนเพราะผมกลัวพี่แตซองจะไม่สบายจริงๆ นี่นา ผมได้แต่ยืนมองพี่แตซองออกไปกับซูซานและคนพิการคนอื่นๆ ด้วยความมึนงง ใจหนึ่งก็ห่วงพี่แตซอง แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกน้อยใจที่พี่แตซองไม่เห็นค่าความหวังดีของผมเลย


ผมกลับขึ้นมาบนห้อง ล้มตัวลงนอนบนเตียง รู้สึกสับสนและงงไปหมด ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่เข้าใจจริงๆ ครับตอนนั้นว่าทำไมพี่แตซองต้องโกรธด้วย ในขณะที่อีกใจหนึ่งก็เริ่มรู้สึกผิด ไม่ว่าจะอย่างไร ผมก็เป็น PA ของพี่แตซอง ผมได้รับค่าจ้างให้มาทำงาน ผมก็ควรต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ที่สำคัญ พี่แตซองคือคนที่ผมรักและผูกพันด้วยในตอนนี้ อย่างน้อยถึงแม้ว่าแม่ซูซานจะมาแย่งหน้าที่ PA ของผมไป แต่ผมก็ควรคอยดูพี่แตซองเผื่อจะมีอะไรที่ช่วยได้


คิดไปคิดมา ผมจึงตัดสินใจออกไปตามหาพี่แตซองข้างนอก ผมถามคนแถวนั้นว่าเห็นกลุ่มคนพิการไปทางไหนบ้าง มีคนกชี้ไปตรงนั้นตรงนี้เท่าที่พอจะนึกได้ แต่พอผมเดินไปตามที่บอกก็ไม่เจอ ผมตามหาอยู่นานพอสมควรครับ แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของพี่แตซองเลย ผมมารู้ทีหลังว่าทั้งแก๊งค์พากันนั่งแท็กซี่ไปกินกันที่อื่น สุดท้ายผมก็เลยต้องกลับมาที่ห้องอย่างหงอยๆ นอนรอพี่แตซองกลับมาอย่างเดียวครับ หิวข้าวก็หิว แต่ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะออกไปหาอะไรกินทั้งนั้นในตอนนี้


ประมาณสามทุ่มกว่าๆ ก็มีเสียงเคาะประตูห้อง ผมสะดุ้งตัวลุกขึ้นนั่ง สักพักพี่แตซองก็เปิดประตูเข้ามา มีแม่ซูซานตามมาส่งถึงห้องด้วยครับ


"See you tomorrow"


"Thank you, Susan"


"My pleasure.  Good night"


"Good night"


พอกล่าวลากับแม่ซูซานแล้วพี่แตซองก็ปิดประตู เข็นเข้ามาพร้อมกับถุงอะไรสักอย่างบนตัก พี่แตซองเอาถุงวางไว้บนโต๊ะทำงานในห้องแล้วก็เข็นมาหาผมครับ สีหน้าก็ดูปกติดี มีแต่ผมนี่แหละที่ยังนอนน้อยใจอยู่ น้อยใจจนลืมไปเลยว่าต้องทำหน้าที่ PA


"เก้า กินข้าวหรือยังครับ พี่ซื้อข้าวมาให้เก้าด้วย"


พี่แตซองถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วง ผมไม่ตอบแต่ส่ายหน้า แล้วก็นอนเงียบๆ ต่อไป


"พี่ขอโทษด้วย พอดีมันหารถแท็กซี่ยาก ก็เลยมาช้า"


พี่แตซองบอก ใจหนึ่งก็ดีใจที่พี่แตซองยังเป็นห่วง แต่ความน้อยใจก็ดูจะมีมากกว่า ผมก็เลยเงียบอีก


"เป็นไร"


พี่แตซองเข็นมาใกล้ มองหน้าผมเหมือนจะค้นหาความผิดปกติจนผมต้องหลบสายตา


"เป็นอะไร บอกพี่ได้หรือเปล่า หรือว่าโกรธพี่"


พี่แตซองถามอีก ผมก็ยังเงียบอยู่เพราะไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ทั้งรู้สึกผิด ทั้งรู้สึกน้อยใจปนกันไปหมดจนสับสนในตัวเอง


"เก้า ยังเห็นพี่เป็นพี่อยู่หรือเปล่า มีอะไรก็บอกพี่ได้นะ" เสียงพี่แตซองเริ่มเข้มขึ้นอีกแล้วครับ


"ที่พี่ดุเก้าเมื่อตอนเย็น พี่อยากให้เก้าเข้าใจว่าพี่เองก็โตแล้ว พี่รู้ว่าพี่ตากฝนแล้วก็อาจจะไม่สบายได้ ถ้าพี่เกิดไม่สบายก็ไม่ใช่ความผิดของเก้าเพราะพี่เป็นคนตัดสินใจเอง เก้าเข้าใจที่พี่พูดใช่ไหมครับ"


พอฟังพี่แตซองอธิบายก็ทำให้ผมพอเข้าใจความผิดของตนเองมากขึ้น ผมเงยหน้ามองพี่แตซอง น้ำตาปริ่มขอบตาจนทำให้พี่แตซองตกใจ


"ร้องไห้ทำไม"


พี่แตซองถาม ผมไม่ตอบแต่ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ลงมานั่งคุกเข่าข้างๆ รถวีลแชร์แล้วก็กอดพี่แตซองไว้ ร้องให้สะอึกสะอื้นใหญ่เลยครับคราวนี้


"พี่แตซอง ผมขอโทษนะครับ ผมขอโทษที่ผมทำเกินหน้าที่ ผมขอโทษที่ผมไม่ได้ไปดูแลพี่"


พี่แตซองก็กอดผมตอบพร้อมกับเอามือลูบผมรกและคอยตบหลังผมเบาๆ เพื่อเป็นการปลอบใจ ผมก็ยิ่งร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็กเลยครับ พร้อมกับถือโอกาสนี้ปลดปล่อยความอัดอั้นตันใจที่เจอมาหลายวัน ตั้งแต่มางานที่นี่ผมก็เจอแม่ซูซานแย่งหน้าที่ไปจนผมชักกลัวว่าพี่แตซองจะชอบเธอเข้าจริงๆ ผมก็คงต้องเศร้าแน่ๆ เลย


สักพักหนึ่งผมก็ค่อยๆ คลายแขนออก เงยหน้ามองพี่แตซองด้วยสีหน้าราวกับเด็กน้อยที่รู้สึกผิด อันที่จริง เหตุการณ์ที่เกิดเมื่อตอนเย็นนั้นไม่ใช่เพราะผมทำเกินหน้าที่ PA หรอก แต่เป็นเพราะความรู้สึกหนึ่งที่อยู่ข้างในต่างหาก


"พี่ขอโทษเก้าด้วยละกันนะ จริงๆ พี่ก็ผิดเหมือนกันที่พูดแรงเกินไป"


ผมก็เลยรีบแย้ง "พี่ไม่ผิดหรอกครับ ผมผิดเองที่ไม่ฟังพี่ ช่วงนี้ผมไม่ได้ทำหน้าที่ PA ที่ดีเลย"


"ใครบอก เก้าทำหน้าที่ PA ได้ดีมากเลยรู้ไหม ตั้งแต่พี่มี PA มา พี่ไม่เคยเห็นใครทำหน้าที่ PA ได้ดีเท่ากับเก้าเลยรู้หรือเปล่า" พี่แตซองบอกด้วยเสียงอ่อนโยน


"แล้วพี่ก็รู้ว่าเก้าเป็นห่วงพี่ แต่นั่นอาจจะไม่ใช่ความรู้สึกของ PA หรอกนะเก้า เก้ารู้สึกกับพี่มากกว่า PA แล้วนะ"


พอพี่แตซองพูดจบผมก็สะดุ้งเล็กน้อย ไม่รู้ว่าที่พี่แตซองพูดหมายความว่ายังไงกันแน่ ถ้าไม่ใช่ความรู้สึกของ PA แล้วมันจะเป็นความรู้สึกของใครล่ะ ความรู้สึกที่มากกว่า PA คือความรู้สึกอะไรกัน พี่แตซองกำลังสงสัยอะไรหรือเปล่า


"พี่ว่า...เราอาจจะสนิทกัน จนเก้ารู้สึกเหมือนว่าพี่เป็นเพื่อนหรือพี่ชายคนหนึ่ง ก็อาจจะเป็นห่วงพี่เกิน PA ไป พี่ไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่อยากเป็นเพื่อนหรือพี่ชายของเก้าหรอกนะ เมื่อตอนเย็นน่ะ พี่อาจจะโกรธเก้าเพราะหน้าที่ PA แต่พี่...ไม่เคยโกรธเก้าในฐานะที่เป็นน้องชายที่น่ารักของพี่เลยนะ เวลาทำงานเราก็ต้องรู้จักแยกแยะ เก้าเข้าใจพี่นะ"


"เข้าใจครับ ขอบคุณที่พี่สอนผม แล้วก็ให้อภัยกับความงี่เง่าของผม"


ผมบอกด้วยความตื้นตันใจ แค่รู้ว่าพี่แตซองไม่ได้โกรธผมในฐานะที่เป็นน้องชายผมก็ดีใจและซาบซึ้งใจมากแล้ว


"กินข้าวเถอะ เก้าคงหิวแย่ละ" พี่แตซองบอก


ผมพยักหน้า แล้วก็ไปจัดการกับอาหารที่พี่แตซองซื้อมาฝาก


"อะไรเหรอครับ" พอแกะดูอาหารแล้วผมก็ทำหน้าตาเหมือนกับไม่แน่ใจว่าจะกินอาหารตรงหน้าได้หรือเปล่า มันคงจืดชืดอีกแน่ๆ


"พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ซูซานเขาเป็นคนซื้อมาให้ พอดีพี่ไม่รู้จะเลือกยังไงเพราะพี่ก็ไม่รู้จักอาหารประเทศนี้ ก็เลยให้ซูซานเลือกให้ดีกว่า อาจจะจืดๆ หน่อยนะ อ้อ พี่มีกิมจิซองเหลืออยู่ เก้าไปหยิบเอาในกระเป๋าเดินทางพี่ได้เลย"


ได้ยินว่าซูซานซื้อให้ผมก็ชักไม่อยากจะกินแล้วครับ แต่ด้วยความหิวก็เลยต้องจำใจกิน กิมจิของพี่แตซองช่วยแกเลี่ยนได้ดีจริงๆ ตั้งแต่มาอยู่ที่ประเทศนี้ผมกินข้าวได้น้อยลงไปเยอะเลย ไม่ว่าจะกินอะไรก็จืดชืดไปหมด


พี่แตซองนั่งดูผมกินข้าวไปขำไป คงขำที่ผมหิวขนาดนั้ ผมมีนิสัยไม่ดีอย่างครับ คือ ชอบเอาแต่ใจบ้างบางครั้ง ตามประสาลูกชายคนเดียวนั่นแหละครับ แต่ก็ไม่ถึงกับดื้อด้านไม่ฟังใครเลย


"พอกินได้ใช่ไหม"


ผมหันไปพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะเบาๆ


"พอได้ครับ กิมจิช่วยได้เยอะเลยครับพี่แตซอง โชคดีนะครับที่เราเตรียมมาด้วย"


"ครั้งต่อไปพี่จะเอาบะหมี่มาด้วย น่าจะดีกว่านี้"


ฟังแล้วผมก็เศร้าใจไปหน่อยนึง ครั้งต่อไปก็ไม่รู้ว่าผมจะได้มาด้วยหรือเปล่า ผมยังไม่รู้เลยว่ากลับประเทศไทยไปแล้วผมกับพี่แตซองจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า ผมคงไม่ได้มาเยี่ยมน้าบ่อยๆ ทุกปี ถ้าทำงานมีเงินแล้วผมก็น่าจะพอทำอย่างนั้นได้อยู่ แต่ตอนนี้ผมยังเรียนหนังสืออยู่เลย คิดแล้วก็ใจหายไม่ใช่เล่นเหมือนกันเมื่อรู้ว่าเวลาของผมกับพี่แตซองเหลือน้อยลงทุกทีๆ


"ถ้าผม...กลับไปประเทศไทยแล้ว พี่แตซอง...จะคิดถึงผมหรือเปล่าครับ"


พี่แตซองขมวดคิ้วมองผมอย่างสงสัย แล้วก็ยิ้ม แต่ก็ดูจะเป็นรอยยิ้มที่ดูเศร้าชอบกล


"คิดถึงสิ พี่คงคิดถึงเก้ามากเลยล่ะถ้าเก้ากลับไปแล้ว"


น้ำตาผมพาลจะไหลให้ได้ แทบจะไม่อยากกินข้าวต่อเลย แต่ก็ต้องหันกลับมาฝืนใจกินข้าวจืดๆ แก้เลี่ยนด้วยกิมจิต่อไป ในใจก็ได้แต่ครุ่นคิดว่าผมควรจะทำยังไงกับเวลาที่เหลืออยู่ดี ผมควรจะบอกพี่แตซองเรื่องที่ผมแอบชอบพี่แตซองดีหรือเปล่า จะว่าไปผมก็กลัวไม่ใช่น้อยเหมือนกัน เกิดพี่แตซองไม่ได้คิดอะไรเกินเลยด้วยเราอาจจะมองหน้ากันไม่ติดอีกเลยก็ได้ ยิ่งสังคมเกาหลีต่อต้านเรื่องนี้มาก ผมกลัวพี่แตซองจะรับไม่ได้ครับ


สรุปว่าทริปที่ประเทศฟิลิปปินส์ก็ได้ให้บทเรียนผมหลายอย่างเลยครับ การเป็น PA บางทีก็ไม่ง่าย แต่ผมก็ถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ฟิลิปปินส์เป็นบทเรียนที่ดีครับ ตั้งแต่คราวนั้นผมก็เอาแต่ใจตัวเองน้อยลง ที่สำคัญ ผมได้รู้ว่าพี่แตซองเป็นพี่ชายที่ดีและหวังดีต่อน้องชายที่ยังอ่อนต่อโลกอย่างผมมากเลยล่ะ พี่แตซองคอยสอนผมหลายเรื่อง สอนเหมือนพี่ชายคนหนึ่งที่คอยสอนน้องชายของตัวเองด้วยความรักและหวังดี


พี่แตซองจะรู้ไหม...น้องชายคนนี้ไม่ได้คิดกับพี่แตซองแค่พี่ชายแล้วนะครับ คิดเกินเลยมาจะเป็นเดือนแล้วด้วย


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 20-03-2012 06:33:19
เฮ้อ...เครียดเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 20-03-2012 08:56:20
ลำบากเหมือนกันนะ การจะเป็นPA ที่ดีต้องแยกความสัมพันธ์ให้ได้
แต่ด้วยลักษณะคนไทย จะนับญาติ พี่ ป้า น้า อา กับคนที่เราเพิ่งรู้จัก
ชอบช่วยเหลือ เอื้อเฟื้อ ความรู้สึกเป็นห่วงก็มีมาก ยิ่งใกล้ชิดยิ่งแล้วใหญ่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 20-03-2012 10:14:25
>______<
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 20-03-2012 11:30:42
เก้าคงทำใจลำบากน่าดู
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 20-03-2012 12:03:33
เฮ้อ  :เฮ้อ: เศร้าตามไปด้วยเลย บางทีเราก็เข้าใจพี่เตซองนะ
เราว่าพี่เขารู้ว่า เก้ารู้สึกยังไงกับเขา แต่เขาพยายามขีดเส้นไว้ที่คำว่า พี่ชายล่ะ
อย่างว่า เป็นคนพิการก็ดำเนินชีวิตลำบากพออยู่แล้ว ยิ่งมาเป็นเกย์ในสังคมปิดอีก
ก็พอจะเข้าใจนะถ้าสุดท้ายความรักครั้งนี้จะไม่ได้ครองคู่กัน
แต่ คนเขียนจ๋า วันนี้เค้ารู้สึกว่า สั้นจัง ยาวๆหน่อยจิ  :3123:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 20-03-2012 12:29:20
ก็คิดอยูส่าถ้าบอกไปแล้วเค้าจะรังเกียจหรือเปล่า

เเต่ความผูนพันธ์ที่เพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็นพี่น้อง

ถ้าบอกไปคงไม่เหลวร้ายถึงขั้นเกลียดเลยหรอกมั้ง

แต่ก็คงไม่สนิทใจเหมือนเมื่อก่อนเนอะ

ถ้าพี่เเตซองยังชอบในผู้หญิงอยู่
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 20-03-2012 13:10:50
อ่านเเล้วรู้สึกว่าเก้าน่าสงสารจัง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 20-03-2012 14:00:21
เฮ้อ...ลุ้นนะว่าจะลงเอยยังไง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: MAKWAN ที่ 20-03-2012 14:17:26
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 8, 19-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 20-03-2012 14:42:02
เพิ่งมาติดตามอ่านเรื่องนี้ค่ะ ตามมาเพราะคนโพสท์เลยนะคะเนี่ย  :L2: :L2:
พอดีติดตามอ่านนิยายในเล้าอยู่ไม่กี่เรื่อง เห็นเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนพิการ ตอนแรกก็ตั้งใจจะกดเข้ามาอ่านอยู่แล้วค่ะ
ตอนแรกไม่ทันสังเกตชื่อคนโพสท์ พอเห็นเป็นคุณ Sarawatta และว่างพอดีเลยกดเข้ามาอ่านทันทีเลยค่ะ
ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่คุณ Sarawatta เขียนเอง แต่แนวทางของเรื่องก็น่าติดตามไม่แพ้กัน พอได้อ่านแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ

ตัวคนอ่านเองอยู่ในสายงานด้านนี้อยู่เหมือนกัน เรียนกายภาพบำบัดค่ะ เลยเข้าใจพอสมควร
ที่เกาหลีเค้าให้สวัสดิการและมีระบบการจัดการที่ดีมากๆสำหรับคนเหล่านี้
บ้านเราเองเสียอีก ที่แทบจะไม่มีเป็นรูปธรรมเท่าไหร่ มีแต่โครงการ แล้วก็หายเงียบเข้ากลีบเมฆไป
น่าเสียดายโอกาสสำหรับพวกเค้าเหล่านี้ในเมืองไทยจริงๆ หากพัฒนาจริงจังก็น่าจะดีได้ไม่แพ้เกาหลีเช่นกัน

รอติดตามเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ
ดูน่ารัก อบอุ่นดีเหมือนกันค่ะ ระหว่างพี่แตซองกับน้องเก้า PA คนเขียนเรื่องนี้เนี่ย  :o8:


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 20-03-2012 16:27:52
ซับเหงื่อ เฮ้อ เก้าเอ๊ย
จะรักเขาก็บอกออกไปไม่ได้
ต้องเก็บงำความรู้สึกนี้ต่อไป

แต่พี่แตซองก็ยังเป็นผู้ชายที่ดีนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 20-03-2012 17:51:15
 :mc4:เห็นชื่อเรื่องเลยเข้ามาอ่านคะ ได้ความรู้เยอะแยะเกี่ยวกับคนพิการ

แล้วก้อความรักความผูกผันที่เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่ดีนะคะ แม้ตอนนี้ยังไม่ได้เป็นคนรัก
แต่ก็เป็นคนที่ห่วงใจใยกันแค่นี้ก็ดีแล้วคะ o13

 :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jubujubu ที่ 20-03-2012 17:56:55
ได้ความรู้เยอะเลย  อ่านแล้วติด  อยากอ่านตอนต่อไวๆจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 20-03-2012 18:35:10
รู้สึกว่าอยู่กันในสถานะอย่างนี้ก็ดีนะ
มีความสุขดีแล้วนี่นะ~
เฝ้ารอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-03-2012 18:42:03
ลองเข้ามาอ่านดู อ่านแล้วชอบจ้ะ มันเป็นอะไรที่แตกต่างน่ะ
ได้รู้อะไรหลายๆอย่าง เกี่ยวกับการดูแล และการปฏิบัติต่อคนพิการ
การแยกหน้าที่กับความรู้สึกผูกพันธ์นี่ มันทำได้ไม่ง่ายหรอกนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 20-03-2012 19:21:57
ร้อบนี้เก้าทำไม่ถูกนะ  แต่อย่างว่านั่นแหละ  เก็บกดมานาน
พอโดนกระแทกด้วยคำพูดของคนที่เราแคที่สุด  มันก็เลยระเบิดออกมา

จะว่าเด็ก  มันก็ใช่อะนะ  แต่ถ้าเอาตามจริง  คนเราเจอแบบนั้น
มันก็เด็กกันทั้งนั้นแหละ  จะมีสักกี่คนที่มีสติตรองก่อนทำ  น่าติดตามต่อสุดๆเลยอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 21-03-2012 05:28:30
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 10 ◉☥ แฟนเก่าของพี่แตซอง


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


หลังจากที่กลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์แล้ว ผมกับพี่แตซองก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้นครับ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณพี่แตซองจริงๆ ที่คอยสอน ถ้าเป็นคนอื่น ผมอาจจะโดนไล่ออกไปแล้วก็ได้ครับเพราะทำผิดจรรยาบรรณของ PA ไปหลายอย่าง โดยเฉพาะตอนที่ผมห้ามพี่แตซองไม่ให้ออกไปกินข้าวเย็นเพราะฝนตก โดยหลักการแล้วคนที่เป็น  PA จะไม่เตือน ไม่ห้าม ไม่หวังดี ไม่อะไรทั้งนั้น ปล่อยให้คนพิการทำอย่างที่อยากทำไปเลย จะป่วยหรือเป็นอะไรก็ไม่ต้องสนใจ ไม่ใช่ความผิดของ PA


ในขณะที่ PA ก็สามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำด้วยครับ ถ้าเห็นว่าทำไปแล้วจะเกิดอันตรายหรือเจ็บป่วย PA สามารถปฏิเสธได้และไม่มีความผิด แต่การคิดแทนถือเป็นความผิดร้ายแรงครับ เพราะแนวคิดการดำรงชีวิตอิสระนั้นต้องการให้คนพิการคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง แน่นอน คนพิการอาจจะได้รับอิทธิพลจากเพื่อน ครอบครัวหรือใครก็ตามที่อยู่รอบตัวก่อนที่จะตัดสินใจ แต่ต้องไม่ใช่ PA ครับ ยกตัวเอย่างเช่น ถ้าเพื่อนพี่แตซองจะห้ามพี่แตซองไม่ให้ไปข้างนอกเพราะฝนตกก็สามารถทำได้ พี่แตซองจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเชื่อเพื่อนหรือเปล่า แต่ PA ไม่สามารถทำอย่างเพื่อนพี่แตซองได้ครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ผมมีโอกาสได้พบกับแฟนเก่าของพี่แตซองด้วยครับ แต่ไม่ใช่บังเอิญเดินมาเจอกันนะครับ ผมเจอเธอคนนั้นในงานแต่งงานของเพื่อนพี่แตซอง หลังจากที่กลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์ไม่กี่วัน เพื่อนพี่แตซองคนหนึ่งก็จัดงานแต่งงาน พี่แตซองไปร่วมงานด้วย แล้วงานนี้ผมก็ขอพี่แตซองไปด้วยครับ ไม่ได้ค่าจ้างเพราะเกินเวลาทำงานแล้วก็ไม่เป็นไร น่าแปลกที่คราวนี้พี่แตซองอนุญาต


คนพิการไปงานแต่งงานของเพื่อนเป็นภาพที่ผมไม่เคยเห็นจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่สำหรับผม แม้กระทั่งคนที่มางานแต่งงานวันนั้นก็คงสงสัยเหมือนกันว่าพี่แตซองมาทำไม เพราะหลายคนมองด้วยสายตาแปลกๆ เพื่อนพี่แตซองก็ต้อนรับดีครับ ผมไม่ค่อยได้คุยกับพี่แตซองมากนักหรอก ทำหน้าที่เป็น PA อย่างเดียวเลย ส่วนพี่แตซองก็ดูเหมือนจะสนุกที่ได้คุยกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานมากทีเดียว จนทำให้งานแต่งงานดูเหมือนเป็นงานรวมศิษย์เก่าไปเลย ที่สำคัญ แฟนเก่าของพี่แตซองก็มางานนี้ด้วยครับเพราะว่าแฟนเก่าพี่แตซองก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนกันนั่นแหละครับ


พี่แตซองนั่งคุยกับเพื่อนอยู่นานพอสมควร จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอที่โต๊ะที่พี่แตซองนั่งอยู่ด้วย เธอดูกสวยทีเดียวครับ คงตั้งใจมาทักทายเพื่อนที่รู้จักกันแต่อาจจะไม่รู้ว่าพี่แตซองอยู่ตรงนั้น พอเธอหันมาเห็นพี่แตซองเท่านั้นแหละครับ ต่างคนต่างก็อึ้งไป โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่ตอนแรกพูดจ้อยๆ ก็หยุดชะงักไปเลย


ตอนนั้นผมแค่สงสัยครับว่าทำไมอยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนั้นหยุดพูดไปเลยและมีสีหน้าตกใจ จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีหน้าเจื่อนๆ พอสังเกตเห็นทิศทางของสายตาของผู้หญิงคนนั้นก็เห็นว่าเธอมองพี่แตซองอยู่
 

ไม่นานนักเธอก็แสร้งยิ้มเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ขอตัวก่อนนะ"


แล้วเธอก็ก้าวเดินหนีฉับๆ ไป ผมสังเกตุเห็นว่าคนอื่นๆ ก็มีอาการไม่ต่างกันมากนัก ดูอึ้งๆ กันไปหมด จากนั้นก็ดูเหมือนว่าบรรยากาศในการสนทนาก็เปลี่ยนไป
 

"เฮ้ย แตซองกูขอโทษว่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะมาด้วย"


เพื่อนคนที่ถูกผู้หญิงคนเมื่อกี้มาทักขอโทษพี่แตซองด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ทำให้ผมสงสัยมากยิ่งขึ้นว่า "เขา" ในนี้คือใคร แต่ผมก็ไม่กล้าถามหรอกครับเพราะคงไม่เหมาะนักที่จะล้ำเส้นการเป็น PA ตรงนี้ เอาไว้กลับไปค่อยลองถามพี่แตซองดีกว่า เดี๋ยวพี่แตซองจะดุเอาอีก


"ไม่เป็นไร มันจบไปแล้ว ไม่มีอะไรหรอก"


แม้จะบอกไปอย่างนั้นผมก็สังเกตเห็นสีหน้าของพี่แตซองดูเศร้าไปถนัดตา เท่านั้นแหละผมก็เริ่มจะพอเดาได้แล้วว่าผู้หญิงคนเมื่อสักครู่นี้น่าจะเป็นใคร พอรู้แล้วก็อดสงสารพี่แตซองไม่ได้เลย สงสารอย่างจับจิตจับใจเลยล่ะ ผมว่าคนอย่างพี่แตซองเป็นคนที่รักใครรักจริงนะครับ ความรักที่จบไปแล้วคงทำให้พี่แตซองเจ็บหนักเลยทีเดียว ผมยังจำที่พี่แตซองบอกผมตอนที่ผมถามเรื่องแฟนได้เลยครับ


"ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ก็เขาไม่ได้รักเราแล้ว"


ถ้าเป็นผมเจออย่างนี้ก็คงเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน ผมอยากจับมือให้กำลังใจพี่แตซองเหลือเกินครับ แต่ด้วยหน้าที่ PA แล้วก็คงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั่งดูพี่ชายที่น่ารักของผมเศร้าซึมหงอยเหงาอยู่อย่างนี้


แล้วทุกคนก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นกัน แต่ผมก็ยังสังเกตุเห็นอาการไม่ค่อยร่าเริงของพี่แตซองได้อยู่ครับ


"เก้า เดี๋ยวพี่จะไปตักอาหารมากินเพิ่มนะ"


พี่แตซองบอกเมื่ออาหารที่กินอยู่หมดไปแล้ว ผมหยุดกินอาหารของตัวเองแล้วก็พาพี่แตซองไปเลือกอาหารที่จัดไว้แบบบุบเฟต์ พี่แตซองจะเป็นคนเลือกว่าจะกินอะไร มากแค่ไหน ส่วนผมก็ช่วยตักให้ตามที่พี่แตซองบอกครับ


แล้วเราก็เจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เธอกำลังตักอาหารถัดออกไปไม่ไกลนัก พอหันมาเห็นพี่แตซองเธอก็หยุดยิ้มและหัวเราะ ทำให้ผมนึกถึงเพลงไทยเก่าๆ เพลงหนึ่งที่ร้องว่า "คนที่รักร้างไกลมันเจ็บไม่นาน คนไม่รักใกล้กันช้ำใจยิ่งกว่า"


ผู้หญิงคนนั้นที่ผมรู้จักแค่หน้าแต่ไม่รู้จักชื่อค่อยๆ หันไปตักอาหารอีกเล็กน้อย แล้วเธอก็รีบเดินจากไป ไม่แม้แต่จะเดินเข้ามาทักหรือถามไถ่อดีตคนรักเลย จะว่าไปเธอก็ใจดำน่าดู คนเคยรักกันมาตั้งนาน เคยแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะไม่เหลือแม้กระทั่งความเป็นเพื่อนให้ผู้ชายคนหนึ่งที่เคยรักเธอมาก


พี่แตซองดูเงียบไปอีกแล้วครับ เลือกอาหารสองสามอย่างแล้วก็ให้ผมพากลับไปนั่งกับเพื่อนเหมือนเดิม แม้ว่าจะพยายามพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมก็รู้ดีว่าข้างในหัวใจของพี่แตซองคงเจ็บไม่น้อย


"ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ก็เขาไม่ได้รักเราแล้ว"


คำพูดนั้นของพี่แตซองดังก้องอยู่ในหัวผมอีกครั้ง โธ่...พี่ชายของผม ถ้าผมสามารถทำอะไรให้พี่หายเศร้าได้ตอนนี้ผมยินดีจะทำทุกอย่างเลย ถ้าคนอย่างผมสามารถช่วยรักษาบาดแผลในใจของพี่ได้ ผมก็จะไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ผมกับพี่แตซองกลับจากงานแต่งงานกันค่อนข้างดึกครับ ในระหว่างที่นั่งอยู่ในรถแท็กซี่ พี่แตซองก็ยังคงดูเงียบๆ อยู่ ผมก็นั่งเงียบๆ เหมือนกันครับเพราะไม่อยากถามเซ้าซี้ให้พี่แตซองต้องคิดมากกว่าเดิม


"เก้ารู้ใช่ไหมว่า 'เขา' เป็นใคร" อยู่ดีๆ พี่แตซองก็ถามผมขึ้นระหว่างอยู่ในรถ


ผมหันไปมองพี่แตซองพร้อมกับยิ้มน้อยๆ "พอเดาได้ครับ"


"ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก แต่พี่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเขาจะมา"


"เขารู้จักกับเพื่อนพี่คนที่แต่งงานด้วยหรือครับ"


"ใช่ พวกเราเรียนมหาลัยด้วยกัน ทั้งกลุ่มนั้นก็เป็นเพื่อนๆ กันหมดนั่นแหละ"


ผมพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจพี่แตซองไปด้วย


"พี่รู้จักเขานานหรือเปล่าครับ"


"ก็นานหลายปีนะ น่าจะสิบปีได้ ตั้งแต่เรียนมหาลัยจน...แต่งงานกัน"


ก็น่าแปลกเหมือนกันนะครับ คนเรารู้จักกันมาตั้งเป็นสิบๆ ปี รู้จักนานขนาดนั้นทำไมถึงเลิกรักกันได้ง่ายดายเพียงนี้ ถึงพี่แตซองจะพิการแต่ผมว่าพี่แตซองก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ แต่อย่างว่าแหละครับ ผู้หญิงคนนั้นคงจะมีเหตุผลบางอย่างที่เราอาจจะไม่รู้ก็ได้


"ถามจริงๆ นะครับ" ผมเว้นจังหวะไปเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าจะถามดีหรือเปล่า แต่ผมก็อยากรู้จริงๆ นี่ครับ


"พี่แตซอง...ยังรักเขาอยู่หรือเปล่าครับ" ผมถามเบาๆ เพื่อไม่ให้คนขับได้ยิน


พี่แตซองเงียบไปเลยครับ นานพอสมควรก่อนจะถอนหายใจยาว หันหน้ามามองผม


"ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงรัก...รักมาก แต่พี่ก็ตัดใจไปแล้ว อาจจะไม่ได้รักเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้เกลียดเขาหรอก"


ผมก็ยังคงรู้สึกว่าพี่แตซองไม่ได้ตอบคำถามผมจริงๆ เท่าไหร่ เดาเอาว่าพี่แตซองน่าจะยังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่ หรือไม่ก็คงรู้สึกอะไรบางอย่างจากการที่ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง


"พี่แตซองเข้มแข็งจังเลยนะครับ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะทนได้หรือเปล่า" ผมพูดพลางขำเบาๆ


พี่แตซองมองหน้าผมด้วยสีหน้าและแววตาที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน


"ถ้าไม่เข้มแข็งก็คงตายไปแล้ว"


พี่แตซองพูดแค่นี้ครับ แล้วเราก็เงียบไปไม่ได้คุยกันจนกระทั่งถึงคอนโด


พอมาถึงห้อง ผมก็ช่วยพี่แตซองอาบน้ำก่อนเหมือนเช่นเคย แล้วผมจึงค่อยอาบทีหลัง วันนี้ผมเอาเสื้อผ้าพี่แตซองมาใส่ด้วยครับเพราะผมไม่ได้เตรียมมาจากบ้านน้าสาว ก็พอใส่ได้อยู่แม้ว่ามันจะตัวใหญ่ๆ ไปหน่อย


พอนอนลงข้างๆ พี่แตซองแล้วผมก็หันไปคุยกับพี่แตซองที่นอนคิดอะไรเงียบๆ อยู่คนเดียว ผมไม่อยากเห็นพี่แตซองเศร้าอย่างนี้อีกแล้วครับ


"พี่แตซองไปบ้านน้าสาวผมไหมครับ เดี๋ยวผมจะให้น้าสาวกับแม่ผมทำอาหารไทยให้กิน"


พี่แตซองค่อยๆ หันหน้ามามองผม แววตาและสีหน้าที่ครุ่นคิดเปลี่ยนเป็นยิ้มจางๆ "อืม...ก็น่าสนใจนะ รบกวนหรือเปล่าล่ะ"


"ไม่หรอกครับ แม่ผมเขาชอบทำอาหารครับ ผมเล่าให้แม่กับน้าสาวฟังว่าพี่แตซองใจดีกับผมมาก เหมือนพี่ชายเลย แม่ผมกับน้าก็เลยอยากเจอพี่ครับ ไปนะครับ"


ผมพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางรบเร้า


พี่แตซองพยักหน้า "อืม...ก็ดีเหมือนกัน พี่อยากลองกินอาหารไทยดูบ้าง อยากรู้เหมือนกันว่าจะเผ็ดแค่ไหน"


เห็นพี่แตซองยิ้มขึ้นมาได้บ้างผมก็ค่อยใจชื้นหน่อย หวังว่าน้องชายตัวเล็กๆ น่ารักๆ อย่างผมจะพอช่วยให้พี่ชายคนนี้หายเศร้าได้บ้าง


"เก้าคิดว่าพี่เป็นคนใจดีจริงเหรอ บางทีพี่ก็ดุเก้าบ่อยเหมือนกันนะ" พี่แตซองถามขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปสักพัก


"ใจดีสิครับ ถ้าไม่ใจดีป่านนี้ผมโดนไล่ออกไปแล้วล่ะ ผมทำผิดตั้งหลายเรื่องแน่ะ"


ผมบอกพลางขำ พี่แตซองยิ้ม สีหน้าและแววตาของพี่แตซองช่างดูอบอุ่นเหลือเกิน


"เพราะเห็นว่าเป็นเก้าหรอกนะพี่เลยไม่ฟ้องศูนย์ ถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้ศูนย์คงเรียกไปเตือนแล้วล่ะ"


ผมกับพี่แตซองยิ้มและหัวเราะด้วยกัน ก็จริงนั่นแหละ เท่าที่ผมรู้มา ที่ศูนย์มีการร้องเรียนเรื่อง PA ทำผิดจรรยาบรรณบ่อยๆ นอกจากนี้ก็ยังมีกรณีที่คนพิการใช้ PA ทำงานผิดประเภทด้วย บางคนใช้ PA ทำงานบ้านจนเหมือนเป็นคนใช้ไปเลยก็มี


"ขอบคุณนะครับที่ยังกรุณาผมอยู่"


"จริงๆ ชีวิตพี่ก็มีความสุขนะเวลามีเก้ามาอยู่เป็นเพื่อน พี่อาจจะดุเก้าบ้าง เก้าไม่โกรธพี่ใช่ไหม"
 

ผมส่ายหน้าทันที


"ที่พี่ดุไม่ใช่เพราะพี่ไม่ชอบเก้านะ พี่อยากให้เก้าได้เรียนรู้การเป็น PA อย่างมืออาชีพ คนเราถ้าทำอะไรเป็นมืออาชีพแล้วก็จะไม่มีใครมาว่าเราได้ เก้าจำไว้นะ"


ผมยิ้มพลางพยักหน้า แล้วพี่แตซองก็ลูบหัวผมเบาๆ ด้วยความเอ็นดู


"เก้ารู้ไหมว่าพี่..."


พี่แตซองทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็หยุดไป


"อะไรเหรอครับ"


"ไม่มีอะไรหรอก นอนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องไปอบรมคอมพิวเตอร์แต่เช้า"


อยู่ๆ พี่แตซองก็เปลี่ยนใจไม่พูดซะอย่างงั้น แต่ผมก็สงสัยจริงๆ นะครับว่าพี่แตซองกำลังจะพูดอะไร ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เลย แต่ผมก็ไม่เซ้าซี้ครับ ไม่อยากบอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร สักวันพี่แตซองก็คงจะบอกเพราะพี่แตซองเป็นคนพูดตรง คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น


"ครับ อันยองฮีจูมูฮาเซโยะ"


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 21-03-2012 06:40:37
เมื่อไรจะได้รักกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 21-03-2012 07:24:51
สงสารพี่แตซองมาก จะว่าผู้หญิงก็ไม่ได้แต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 21-03-2012 08:00:54
มีถึงขั้นแอบลองใจด้วย
แอบร้ายนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 21-03-2012 08:19:50
มาดูว่าเก้าจะลองใจพี่แตซองยังไง
 :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 21-03-2012 08:59:14
ได้อะไรดีๆจากเรื่องนี้เยอะเลย ^^

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 9, 20-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 21-03-2012 09:06:44
พี่แตซอง เข้มแข็งมากจริงๆ  o7
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 21-03-2012 09:49:40
สงสารพี่แตซองจัง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 21-03-2012 10:05:01
เบื่อผู้หญิงคนนั้นสุด

เเต่ไม่เป็นไรเพราะพี่เเตซองเราเ่ก่งอยู่เเล้วเนาะ

ลองใจตอนหน้าหรอ อยากอ่านเเล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sinyou ที่ 21-03-2012 11:00:49
รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 21-03-2012 11:21:09
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกหน่วงๆ หลายเรื่อง สงสารพี่เขาเรื่องภรรยาเก่า เรื่องเก้าด้วย
เกิดพี่เขารักเก้าขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร ในเมื่อเก้าก็ต้องกลับเมืองไทย แล้วพี่เขาจะแย่แค่ไหน คนไปไม่เท่าไร แต่คนที่ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมนี่สิ
แล้วครอบครัวเก้าอีก ลูกเป็นแฟนกับคนพิการ กี่คนจะยอมเข้าใจ ไม่ได้เป็นแฟนกันมาก่อนด้วย
สรุป อิคนอ่านมันอินนั่นเอง  :z3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-03-2012 11:42:54
เรื่องภรรยาเก่าของแตซองน่ะ ก็เข้าใจทั้งแตซองและเธอคนนั้นนะ
มนุษย์เราย่อมมีความเห็นแก่ตัว จะน้อยจะมากขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เธอคนนั้นอาจเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย เพราะแตซองเข้าใจเธอไงล่ะถึงได้หย่าให้เธอ
เพราะถ้าขืนยื้อไว้ แม้แต่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกก็อาจไม่เหลือ
อาจโกรธกัน-เกลียดกัน กลายเป็นศัตรูกันไปเลยก็ได้
แน่ะ..น้องเก้าจะพาผู้ชายเข้าบ้านแล้วไหมล่ะ
พรุ่งนี้ความสัมพันธ์ทางใจระหว่างพี่แตซองกับน้องเก้า คงพัฒนาขึ้นไปอีกระดับนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 21-03-2012 18:09:09
รออ่านๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 21-03-2012 18:38:05
แฟนเก่า เหอะๆ -^-

เก้า แน่นๆ พาผู้ชายเข้าบ้านเหรออออ ^-^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 21-03-2012 19:13:00
เหอๆ  อ่านตอนนี้แล้วไม่รู้ว่าควรเม้นอะไรถึงจะดี  บรรยากาศมันอึดอัดนะ  แต่...  มันก็เป้นเรื่องที่พบได้ทั่วไปเหมือนกัน
เรื่องนี้น่าสงสารพี่แกจริงๆนะ  ดูท่าจะลำบากใจจริงๆ  ส่วนสาวนั้น  อยากรู้เหมือนกันว่าเป้นเพราะอะไร
ถึบคบมาตั้งสิบปีแล้วทิ้งกันง่ายๆเสียงั้น  แต่ก้นะ  ต่างคนต่างมีมุมมองของตัวเอง  ไม่อยากรู้นักหรอก

อยากเห้นความคืบหน้าของคู่นี้มากกว่า  เพราะอ่ายยังไงก้แนวๆรักเขาข้างเดียวอยู่ดี  แต่จะว่าเย็นชาไหม
ก็ไม่นะ  มันปกติที่คนมาทำดีด้วย  เมื่อเรามีอะไรไม่สะดวก  มัน..  ใครจะคิดว่าเป้นความรักละ
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งทำใจแฮะ  เหอๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 21-03-2012 20:18:38
เก้าจะพาผู้ชายเข้าบ้าน!!  :o8:

อยากรู้จังว่าจะลองใจพี่เค้ายังไง!!  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 22-03-2012 06:36:02
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 11 ◉☥ PA ที่ไม่ได้เรื่อง


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


เวลาที่ผมจะได้อยู่เกาหลีและได้อยู่ใกล้ๆ กับพี่แตซองก็เริ่มน้อยลงแล้วครับ คิดๆ ไปตอนนั้นก็ใจหายเหมือนกัน อีกไม่กี่สัปดาห์ผมก็ต้องกลับประเทศไทยแล้ว คงไม่ได้มีโอกาสมาเป็น PA ให้พี่แตซองอีกเพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้มีโอกาสกลับมา กว่าจะเรียนจบ มีงานทำ มีเงินใช้พอซื้อตั๋วเครื่องบินมาเองได้ก็คงอีกหลายปี ก็ไม่รู้ว่าอะไรๆ ยังจะเหมือนเดิมอยู่อีกหรือเปล่า


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


สัปดาห์ต่อมา ที่ศูนย์ของพี่แตซองก็แจ้งว่าจะมีการไปจัดสัมนาเกี่ยวกับระบบ PA ที่ต่างจังหวัด 3 วันที่เมืองซกโช เพราะต้องการขยายแนวคิดการให้บริการแบบนี้ออกไปยังต่างจังหวัดให้กับคนพิการอื่นๆ ต่อไป แน่นอนว่าพี่แตซองของผมก็จะได้ไปเป็นวิทยากรด้วยครับ ผมเดาว่าตอนนี้ทางศูนย์กำลังพยายามหาช่องทางให้พี่แตซองได้แสดงความสามารถและเรียนรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น เผื่อแกจะสนใจข้อเสนอที่จะมาทำงานที่ศูนย์ ผมว่าก็ดีนะครับ แกก็จะได้เติบโตในสายงานนี้ไปเลย เผลอๆ จะได้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ได้ครับ


ปัญหาก็มีอยู่ว่าผมจะไม่ได้เป็น PA ของพี่แตซองในงานนี้เนื่องจากมีคนพิการคนหนึ่งที่จะไปด้วยต้องการ PA ที่ค่อนข้างแข็งแรงหน่อย มี PA มาใหม่คนหนึ่งเหมือนกันแต่ดูค่อนข้างจะผอมแห้งแรงน้อย อาจจะช่วยเป็น PA ให้คนพิการคนนั้นที่ค่อนข้างตัวใหญ่ไม่ได้ ทางศูนย์ก็เลยขอให้พี่แตซองเปลี่ยน PA ชั่วคราวเพราะพี่แตซองไม่ต้องใช้ PA ที่ตัวใหญ่มากก็ได้ ความจริงผมก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมากหรอก ผอมๆ ด้วยซ้ำ แต่ก็ดูแข็งแรงกว่า PA คนนั้นเยอะอยู่


พี่แตซองก็เลยต้องตอบตกลง มันก็เป็นความจำเป็นด้วยแหละครับเพราะ PA ผู้ชายหายากกว่า PA ผู้หญิง ความจริงผมก็เคยไปเป็น PA ให้คนพิการคนอื่นบ้างเวลาที่ไม่ได้ไปเป็น PA ให้พี่แตซอง ก็พอเข้าใจสถานการณ์ขาดแคลน PA อยู่บ้าง ตอนแรกผมก็ใจเสียอยู่เหมือนกันที่จะไม่ได้เป็น PA ให้พี่แตซอง แต่คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน ผมอยากลองทำอะไรบางอย่างดูครับ


วันเดินทาง ผมก็ยังคงเป็น PA ให้พี่แตซองอยู่ ตอนเช้าผมก็ไปรับพี่แตซองที่คอนโดเพื่อพาพี่แตซองไปขึ้นรถตู้ที่ศูนย์ แล้วเราก็ออกเดินทางจากศูนย์ไปที่ซกโชกันตอนราวๆ แปดโมงเช้า คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะไปถึง มีคนเดินทางไปประมาณ 10 กว่าคน ใช้รถตู้สองคัน


ซกโชอยู่ทางภาคตะวันออกของเกาหลีใต้ครับ เป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเกาหลี ผมเคยได้ยินมาบ้างจึงค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นพอสมควร ผมได้ที่นั่งข้างหน้าพี่แตซองก็เลยไม่ได้นั่งด้วยกันเพราะผมต้องเป็น PA ให้พี่อีกคน แต่พอเจออะไรแปลกๆ หรือน่าสนใจสองข้างทางผมก็จะโผล่หน้าไปถามพี่แตซองตลอด ถามสารพัดอย่าง พี่แตซองก็ตอบได้ทุกอย่างครับเช่นกัน ดูเหมือนพี่แกก็ไม่เบื่อที่จะตอบด้วยครับ
 

ด้วยวิธีการคุยของผมที่เหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น บางทีก็ทำน้ำเสียงอ้อนๆ ก็เลยทำให้หลายคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับพี่แตซองแล้วครับ เพราะดูสนิทสนมกันจนเกินขอบเขตของการเป็นนายจ้างและลูกจ้าง เมื่อเทียบกับ PA คนอื่นๆ แล้วก็ไม่มีใครทำตัวสนิทสนมกับคนพิการขนาดนั้น ก็มีแต่ผมนี่แหละครับ แต่ก็ไม่ได้สงสัยว่าเราจะเป็นคู่เกย์กันหรอกนะครับ แค่สงสัยว่าทำไมดูสนิทสนมกันขนาดนั้น


ประมาณบ่ายๆ เราก็มาถึงที่พักของเรา อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติซอรักซานเท่าไหร่ พี่แตซองบอกว่าที่นี่เป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเกาหลีเลยล่ะ พอลงจากรถ พวกเราก็เอาของไปเก็บในห้อง ช่วงนี้ผมกับพี่แตซองก็เริ่มห่างกันแล้วครับเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำ ช่วงบ่ายนี้เราพอมีเวลากันอยู่บ้าง ก็เลยไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติซอรักซานกัน มีเจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องคอยจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานสัมมนาพรุ่งนี้ น่าสงสารจังเลย


เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยจริงๆ ครับ ตามข้างทางมีดอกไม้สวยงามเยอะแยะไปหมด ภายในอุทยานแห่งชาติจะมีวัด ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อชินฮันซา พวกเราไปเที่ยวกันหลายจุด ไปไหว้พระ ชมดอกซากุระของเกาหลี แล้วก็ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมวิวบนยอดเขา คนพิการก็ขึ้นได้นะครับ ดีมากๆ เลย


ตอนที่ไปก็มีบางคนไปด้วยกัน บางคนก็แยกกันไป ส่วนผมต้องแยกไปกับอีกกลุ่ม ไม่ค่อยได้เจอพี่แตซองเท่าไหร่ เจอกันระหว่างทางบ้างแล้วก็ต้องแยกกันไปอยู่ดี ไม่รู้สิครับ ผมว่าพี่แตซองดูไม่ค่อยร่าเริงเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเพิ่งเจอแฟนเก่าหรือเปล่า


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ตอนเย็นเราไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งครับ เนื่องจากที่นี่ติดทะเลและขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล เราก็เลยลองกินอาหารทะเลที่นี่กัน ดูพี่แตซองจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยชอบอาหารทะเล ก็เลยต้องกินอาหารเกาหลีพื้นๆ ไป ตอนนี้แหละครับที่ผมคิดว่าผมควรจะลองทำอะไรบางอย่างเพื่อดูท่าทีของพี่แตซองบ้าง ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากรู้ว่าถ้าผมสนิทกับคนอื่นดูบ้าง พี่แตซองจะหวงหรือเปล่า อิๆ
   

เริ่มต้นด้วยการทำตัวสนิทสนมกับคนพิการอีกคนที่ผมเป็น PA ให้ ก็คุยนั่นถามนี่ไปเรื่อยตามเรื่องตามราวแหละครับ ผมสังเกตุเห็นพี่แตซองมองดูด้วยความสนใจอยู่บ่อยๆ แล้วแกก็ไม่ค่อยคุยด้วยครับ เงียบไปเลย โดยเฉพาะกับ PA ที่มาช่วยแกนั้นแทบจะไม่ได้คุยกันเลย ยกเว้นจะให้ช่วยทำอะไรบางอย่างถึงจะพูดกันที จนผมเริ่มรู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน อาจจะเกี่ยวกับผมก็ได้


แล้วเย็นวันนั้นผมก็โดนผู้ประสานงาน PA เรียกไปเตือนครับ ก็คงเกิดจากที่ผมทำตัวสนิทสนมกับคนพิการมากเกินไป โดยเฉพาะตอนที่อยู่บนรถตู้ ผมคุยกับพี่แตซองมาเกือบตลอดทาง ก็เลยเตือนผมว่าไม่ควรทำตัวสนิทสนมกับคนพิการมากจนเกินไปในระหว่างงาน ก็ไม่ถึงกับห้ามเป็นเพื่อนกัน แต่ควรจะแสดงออกในที่ที่เหมาะสม แล้วถ้าเกิดมีปัญหากันที่เกิดจากการเป็นเพื่อนกันหรือจากความสัมพันธ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ระหว่างคนพิการกับ PA ทางศูนย์ก็จะไม่รับผิดชอบ แล้วก็เตือนอีกว่าพอความสัมพันธ์แบบเพื่อนเกิดขึ้น การทำหน้าที่เป็น PA จะไม่ค่อยดีเพราะมักเกิดการคิดแทนคนพิการหรือไม่ยอมทำตามที่คนพิการบอก สุดท้ายก็จะเกิดปัญหา ทำให้ต้องเปลี่ยน PA ในที่สุด ผมก็ยอมรับผิดแต่โดยดีครับ


หลังจากโดนเรียกไปเตือนแล้ว ผมก็กลับมาที่ห้องพักเพราะพี่คนพิการอีกคนกำลังรออยู่และต้องการจะอาบน้ำ แล้วก็มาเจอพี่แตซองกับ PA ที่กำลังจะเข้าห้องพอดี พอพี่แตซองหันมาเห็นผมก็เลยร้องถาม


"เป็นไงครับเก้า สนุกไหมเป็น PA ให้คุณเป๊ก"


ผมจำทีพี่แตซองพูดไม่ได้ชัดเท่าไหร่เพราะตอนนั้นอึ้งไปครับ แต่ก็น่าจะพูดประมาณนี้แหละ แถมน้ำเสียงยังฟังดูแปลกๆ ด้วย ฟังดูเหมือนประชดยังไงไม่รู้ พอผมไม่ตอบพี่แตซองก็เลยเข้าห้องไป ผมยืนเหวออยู่สักพักก็ต้องรีบเข้าห้องของตัวเองเหมือนกันเพราะคุณเป๊กรออยู่ พี่คนพิการคนนั้นชื่อ "เบกชาโน" ครับ เวลาออกเสียงฟังดูคล้ายๆ เป๊ก


ตอนเช้าก็มีเรื่องที่ทำให้ผมน้ำตาแทบจะร่วงเสียแล้วเมื่อผมทราบว่า PA ของพี่แตซองทำพี่แตซองตกเตียงครับ ข้อศอกพี่แตซองกระแทกพื้น เจ็บตัวไปพอสมควร แต่ดีที่ไม่ถึงกับกระดูกหักหรือเจ็บตัวมากจนต้องไปโรงพยาบาล ผมได้ฟังแล้วก็นึกโมโห PA อีกคนจนแทบจะขอเปลี่ยนตัว แต่ก็รู้ว่าคงจะยากเพราะถ้าทำพี่แตซองตกเตียงได้ คุณเป๊กก็คงไม่เหลือเพราะตัวใหญ่กว่าพี่แตซองพอสมควร


ตอนนั้นผมสงสารพี่แตซองมาก ได้แต่คอยแอบมองด้วยความเป็นห่วงตอนที่อยู่ในห้องประชุม วันนี้คนที่มาประชุมก็เป็นองค์กรคนพิการที่อยู่ในเมืองใกล้เคียง และมีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐมาร่วมฟังด้วย โดยรวมๆ แล้วก็น่าจะประมาณ 50-60 คนได้ ในช่วงเช้าที่มีการบรรยายอยู่นั้น ผมก็ขอตัวคุณเป๊กมาหาพี่แตซอง พอมาถึงผมก็ย่อตัวลงนั่งข้างๆ วีลแชร์ พี่แตซองหันมามองแล้วก็ถาม


"มีอะไรครับ ทำไมไม่อยู่กับคุณเป๊กล่ะ"


"พี่แตซองเป็นไงบ้างครับ เจ็บหรือเปล่า" ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง


"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องธรรมดา พี่ตกเตียงบ่อยจะตาย"


พี่แตซองตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่แกว่านั่นแหละครับ แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย ในใจลึกๆ ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน เพราะผมเองก็ตั้งใจที่จะไม่เป็น PA ให้พี่แตซองในงานสัมมนานี้เพื่อลองใจพี่แตซอง แล้วก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น


"ผมเป็นห่วงพี่แตซองนะครับ" ผมย้ำความรู้สึกนี้อีกครั้ง พี่แตซองยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้ารับรู้ ผมล่ะดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นพี่แตซองยิ้มให้


"เก้ากลับไปทำงานเถอะ มาอยู่กับพี่อย่างนี้เดี๋ยวศูนย์เขาจะว่าเอา"


พี่แตซองเตือนด้วยความเป็นห่วง ผมชอบจังเลยครับเวลาที่พี่แตซองทำท่าเหมือนพี่ชายสอนน้อง แม้จะอยากอยู่คุยต่อแต่ก็ต้องไปครับ ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็เดินกลับมาหาคุณเป๊ก แต่ก็ยังอดเป็นห่วงพี่แตซองไม่ได้ นึกแล้วก็อยากจะเบิ๊ดกระโหลกนาย PA คนนั้นจริงๆ ที่ทำพี่ชายผมเจ็บตัว ตอนนั้นชักเริ่มไม่อยากลองใจแล้วครับ แต่ก็รู้ว่ายังไงก็คงเปลี่ยนตัว PA ไม่ได้แล้ว ยกเว้นว่าจะหาคนมาแทนนาย PA คนนั้นได้


ตลอดวันนั้นทั้งวัน ผมสังเกตว่าพี่แตซองไม่ได้เข็นรถเองเลย ปกติพี่แตซองจะเข็นเองได้บ้าง ก็คงเป็นเพราะเจ็บข้อศอกจากการตกเตียงนั่นแหละครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นอีก ทางศูนย์ก็เลยให้ผมไปช่วย PA คนนั้นเวลาอาบน้ำให้พี่แตซองครับ ผมก็เลยว่าจะถือโอกาสนี้สอนงาน PA คนนั้นไปด้วย ความจริงพี่แตซองก็คงจะบอกอยู่แล้วล่ะครับว่าให้ช่วยแบบไหนยังไง แต่ผมเข้าใจว่า PA คนนั้นอาจจะไม่เข้าใจแล้วไม่ถามให้แน่ใจ หรือไม่งั้นก็คงดื้อครับ


ตกเย็น ผมช่วยคุณเป๊กอาบน้ำก่อน จากนั้นก็มาที่ห้องพี่แตซองเพื่อคอยช่วยดูและให้คำแนะนำ PA อีกคน พอผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่แตซองรออยู่ ยิ้มให้ผมน้อยๆ เหมือนกับว่าดีใจที่ผมมาหา ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าแต่ผมก็ขอมโนบ้างละกัน


ผมกับพี่แตซองช่วยสอนงานให้กับ PA อีกคนเยอะพอสมควร เรียกว่าต้องสอนตั้งแต่เริ่มต้นใหม่หมดเลย ทั้งการยกตัว การเข็นรถ การอาบน้ำและอีกหลายๆ อย่าง ดูๆ แล้วก็ออกจะดื้อจริงๆ ด้วยครับ บอกอย่างทำอย่าง หรือบอกแล้วก็ไม่ค่อยอยากทำ ทำให้ผมหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน


ตอนอาบน้ำผมเลยต้องทำให้ดูก่อนครับ ไม่อยากเสี่ยงเดี๋ยวทำพี่ชายผมล้มหัวฟาดพื้น ตอนช่วยยกพี่แตซองขึ้นเตียง ผมก็สาธิตให้ดูก่อนเหมือนเดิม ก็ท่ากอดกันนั่นแหละครับ ตอนที่สาธิตนั้นผมก็แอบดีใจที่ได้กอดพี่แตซองอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปหลายวัน พี่แตซองก็ยังเหมือนเดิม ตัวหอมๆ อุ่นๆ


แล้วผมก็ให้ PA อีกคนลองบ้างครับ ปรากฎว่าตอนยกตัวพี่แตซองขึ้นนั้นก็ทำเหมือนกระชาก พอกระชากแล้วตัวเองก็จะเสียหลักล้ม ผมต้องรีบเข้าไปช่วยประคองไว้ก่อน ไม่งั้นพี่แตซองก็คงได้เจ็บตัวอีกเป็นแน่ เล่นเอาผมอดโมโหไม่ได้จนต้องว่าเสียงดัง


"ระวังหน่อยสิครับ จะให้พี่ชายผมเจ็บตัวอีกหรือไง"


PA คนนั้นหน้าจ๋อยไปเลย พี่แตซองมองหน้าผมอย่างอึ้งๆ คงไม่เคยเห็นผมโมโหมาก่อนนั่นเอง


"เดี๋ยวผมทำเองละกัน"


ผมบอกด้วยน้ำเสียงโมโหกับความไม่ได้เรื่องของ PA คนนั้น แล้วเขาก็ค่อยๆ ปล่อยตัวพี่แตซองให้ผม ระหว่างที่ผมกอดพี่แตซองไว้ในท่ายืนอยู่นั้น พี่แตซองก็กระซิบบอกผมเบาๆ ว่า


"ใจเย็นๆ เก้า"


"ครับพี่แตซอง"


ตอนนั้นผมอยากกอดพี่แตซองแล้วก็ซบลงบนไหล่อย่างมาก อยากร้องให้ อยากขอโทษที่ไม่ได้มาช่วยดูแลจนทำให้พี่แตซองเจ็บตัว ถ้าขอเปลี่ยนตัวได้ผมก็จะรีบเปลี่ยนตัวโดยไม่ลังเลเลยทันที แล้วผมก็คิดไปว่าถ้าผมกลับประเทศไทยล่ะ PA ที่มาใหม่จะทำพี่แตซองผมเจ็บตัวอีกหรือเปล่า คิดแล้วก็เป็นห่วงพี่แตซองไม่น้อยเลย 


ผมค่อยๆ ช่วยพยุงให้พี่แตซองนั่งลงบนเตียงอย่างช้าๆ เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ขอตัวพี่แตซองกลับห้องเหมือนเดิมเพื่อไปดูแลคุณเป๊กต่อ


"พี่แตซองดูแลตัวเองดีๆ นะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ" ผมบอกก่อนออกไปด้วยสายตาละห้อย


"ราตรีสวัสดิ์ครับเก้า"


พี่แตซองบอกพร้อมกับยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มของพี่แตซองยังคงอบอุ่นเสมอ ผมคงจะจดจำรอยยิ้มนี้ของพี่ชายคนนี้ไปอีกนานแสนนาน แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับพี่แตซอง หวังว่าพี่จะไม่ต้องเจ็บตัวเพราะนาย PA นั่นอีกนะครับ


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 22-03-2012 07:12:59
== เออ เน๊อะ ความเศร้าจะมาเยื่อนเเล้วหรอเนี่ยยยยย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-03-2012 07:22:26
แอบเศร้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 22-03-2012 07:48:05
แอบนอยด์ใส่กันเบาๆสินะ.....
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 22-03-2012 07:58:12
เวลาไกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
แล้วเก้ากับพี่แตซองจะเป็นยังไงต่อไปละ
 :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 22-03-2012 09:24:20
โมโหแทนเก้า  PA คนนั้นแย่มาก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-03-2012 09:42:28
จะรอดูตอนต่อไปว่า ช่วงสัมมนา มีอะไรคืบหน้าไหม


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 22-03-2012 10:21:44
เรื่องนี้น่าสนใจมากค่ะ มาต่อเร็วๆ นะค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 22-03-2012 10:49:54
แอบงอนกันเบาๆ น่ารักดีถ้ามองจากคนนอก แต่ถ้าเป็นเก้ากับพี่แตซองคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่

ชอบมากค่ะ ^^ แต่ไม่อยากให้ถึงตอนจากเลยอ่า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 22-03-2012 11:04:12
ไม่อยากให้ถึงเวลาที่เก้าจะกลับไทยเลย

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 22-03-2012 13:02:15
ใกล้ครบสองเดือนแล้ว!!

จะเป็นยังไงต่อไปนะ!!  :กอด1:
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 22-03-2012 15:17:25
PA คนนั้นเป็นใครว้า เเสรดดดดดดดดดด


ดื้อด้านขนาดนี้ลาออกเลยไป๊
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 22-03-2012 17:18:06
เก้าอยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง
งานนี้เลยจ๋อย อะไรก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิดเสมอไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 10, 21-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 22-03-2012 17:19:22
รู้สึกได้ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของน้องเก้าที่มีให้พี่แตซองจริงๆ พี่แตซองเองก็คงรู้สึกและรับรู้ได้เช่นกัน  :impress:

การทำให้ด้วยใจ ด้วยความรัก อะไรๆมันก็ออกมาดี อย่างการดูแลพี่แตซองเนี่ย น้องเก้าคงทำจากใจล้วนๆ

ต่างจากน้อง PA คนที่ดูแลพี่แตซองคนนั้น ดูเหมือนไม่ค่อยชอบงานPAเืท่าไหร่ แล้วจะมาทำงานนี้ทำไมน๊อ? ทำพี่แตซองเจ็บตัวเลยเนี่ย

ตอนนี้ทั้งพี่แตซองและน้องเก้ามีความสนิทสนมผูกพันกันมากขึ้นเรื่อยๆ ตามกาลเวลา

รู้สึกได้ถึงบรรยากาศของความอบอุ่นบางอย่าง.... เวลาพี่แตซองกับน้องเก้าอยู่ด้วยกัน
เฮ้ออออ.......ไม่อยากให้ถึงวันที่ต้องจากกันเลย คงเศร้าน่าดู  :dont2: :sad5: :sad4: :o12:
+เป็ดน้อย เป็นกำลังใจให้คนโพสต์ค่ะ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 22-03-2012 18:01:09
อ๊าก....  สั้น  ในใจคิดว่าสั้น  ทั้งๆที่ยาวแบบพอดีๆเหมือนทุกๆครั้ง
เรื่องนี้อ่านแล้ว  ลุ้นติดตาม  จน..  กว่าจะรู้ตัวอีกทีก้  อะ  จบเสียแล้ว
สุดๆเลยอะในเรื่องการลำดับเรื่อง  ทำให้รู้สึกมีส่วนร่วมจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 22-03-2012 19:14:40
เฮ้ย...แอบงอนกันด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 22-03-2012 22:09:26
ดูแลกันดีๆน๊า
อยากให้มีความสุขทั้งคู่เลย^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 22-03-2012 23:30:01
พี่แตซองหลุดอาการแปลกๆ ออกไปบ้างนะเนี่ย
แต่เก้า นายเป็นห่วงออกนอกหน้ามาก

แต่เฮ้อ ใกล้จะต้องจากกันแล้วเหรอ T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 23-03-2012 00:05:12
มาลงชื่อแสดงตัว ติดตามอ่านด้วยคนค่ะ
ชอบค่ะ เรื่อยๆมาเรียงๆ แถมได้ความรู้ด้วย
จากวันนั้นถึงวันนี้ประเทศไทยมีระบบ PA หรือยังค่ะเนี่ย ??
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 23-03-2012 00:37:19
มาอ่านอีกทีได้อ่านสามตอนรวด

แหมยิ่งอ่านยิ่งหลงรักพี่แตซองแฮะ :-[

ไม่อยากคิดถึงตอนที่เก้าจากกับพี่แตซองเลยอะ :sad4:

รออ่านตอนต่อไปนะคะ

ขอบคุณคนโพสกะคนแต่งมากๆนะคะที่ทำให้ได้อ่านเรื่องราวเหล่านี้ :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 23-03-2012 02:24:52
เนื้อเรื่องสนุกดี อ่านแล้วทำให้เราเข้าใจ
การใช้ชีวิตของคนพิการ ในแบบที่เราไม่เคยได้รู้
อ่านแล้วก็เพลินดีด้วย เราอ่าน11ตอนรวด 2ชั่วโมงเอง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 23-03-2012 06:52:09
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 12 ◉☥ พูดเปิดใจ


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


ต้องขอทำความเข้าใจหน่อยนะครับว่าการเป็น PA นั้นไม่ใช่การเป็นคนรับใช้ ไม่ใช่ผู้ดูแลคนพิการ แต่เป็นผู้ที่ช่วยสนับสนุนให้คนพิการสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ที่อยากทำได้ครับ เราไม่ต้องคิด ไม่ต้องออกความเห็น เพราะคนพิการจะเป็นคนบอกเราเองว่าอยากทำอะไร อยากให้ช่วยอะไร แบบไหน แค่ไหน จะผิดจะถูกก็ไม่เป็นไร เพราะคนพิการคือคนที่รับผิดชอบเอง วิธีนี้จะเป็นการฝึกให้คนพิการรู้จักคิด วางแผนและรับผิดชอบชีวิตของตัวเองได้ครับ ถ้าเราไปคิดแทนหมดก็เท่ากับว่าคนพิการไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองเลย ก็จะกลายเป็นว่าต้องใช้ชีวิตตามปากของคนอื่น


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


สรุปว่าผมก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะลองใจพี่แตซองครับ เท่าที่ลองทำไปนิดหน่อยก็พอเห็นได้อยู่บ้างว่าพี่แตซองก็ให้ความสำคัญกับผมในระดับหนึ่งแล้ว แม้จะยังไม่รู้ว่ามากแค่ไหนหรือในระดับไหนก็ตาม ผมควรจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำสิ่งดีๆ ต่อกันดีกว่า อยากรู้เหมือนกันว่าเมื่อถึงที่สุดแล้วความรักมันจะนำทางผมไปได้ถึงแค่ไหน


ตอนเช้า หลังจากช่วยคุณเป๊กแล้ว ผมก็ไปช่วยพี่แตซองต่อครับ ดูท่า PA คนใหม่ตอนนี้จะเริ่มเป็นงานมากขึ้นแล้ว ผมก็ยังงงๆ อยู่ว่าหมอนี่มันผ่านการฝึกอบรมและได้ใบประกาศมาได้ยังไง ทั้งๆ ที่ยังทำงานได้ไม่ค่อยดีเลย เอาเหอะ ถ้าพอทำเป็นบ้างแล้วผมผมก็เบาใจได้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่วางใจเสียทีเดียว ก่อนจะกลับมาหาคุณเป๊ก ผมก็ไม่ลืมที่จะบอกพี่แตซองว่าให้โทรเรียกผมได้ตลอดเวลาถ้าอยากให้มาช่วยอะไร


เช้าวันนี้พี่แตซองเป็นวิทยากรบรรยายครับ ผมรู้สึกว่าทุกคนตั้งใจฟังพี่แตซองมากเป็นพิเศษ นอกจากวิธีการนำเสนอที่เข้าใจง่ายแล้วพี่แตซองก็ยังมีวิธีใช้เสียงที่น่าฟังอีกด้วย ผมว่าพี่แตซองเป็นคนที่มีความสามารถมากและมีแววของการเป็นผู้นำมากทีเดียว เดี๋ยวผมจะลองช่วยศูนย์กล่อมพี่แตซองให้ทำงานที่ศูนย์นี้อีกครั้ง พี่แตซองทำได้แน่ๆ และจะมีความก้าวหน้าในงานต่อไปได้ไม่ยากเลยล่ะ


ช่วงเช้า พี่แตซองไม่ค่อยได้คุยกันกับผมมากเท่าไหร่ ผมก็อาศัยว่าพอพี่แตซองหันมาเจอก็จะยิ้มให้บ้าง อยากให้พี่แตซองรู้ว่าผมยังเฝ้าคอยดูและเป็นห่วงอยู่แม้จะไม่ได้มาช่วยเป็น PA ให้ก็ตาม


ช่วงเที่ยงๆ พี่แตซองก็หายไปครับ ไม่รู้ว่าหายไปไหนถึงไม่มากินข้าวกลางวัน จะโทรหาก็ไม่ค่อยสะดวกเพราะในระหว่างงานผมจะทำอย่างอื่นไม่ค่อยได้ ผู้ประสานงาน PA ก็ไม่อยู่ ก็เลยไม่รู้จะไปถามใครครับว่าพี่แตซองไปไหน


จนกระทั่งบ่ายก็ยังไม่เห็นพี่แตซองเข้ามาในห้องสัมมนาเลย ก็ยิ่งทำให้ผมกระวนกระวายใจและเป็นห่วงพี่แตซองมากยิ่งขึ้น พี่แตซองไม่น่าจะหายไปโดยไม่มีสาเหตุแบบนี้ คงต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ เลย


จนกระทั่งหลังครึ่งบ่ายจึงได้เห็นพี่แตซองกลับเข้ามา เป็นช่วงที่เรากำลังกินเบรกกันอยู่พอดี พี่แตซองไม่มากินเบรกด้วย มาถึงก็เข้าไปในห้องสัมมนาเลย ผมก็พอได้สังเกตุเห็นว่าพี่แตซองดูหน้าเซียวๆ ชอบกล ด้วยความอยากรู้เป็นอย่างมาก ผมจึงลองพูดเปรยๆ กับคุณเป๊กว่าไม่รู้ว่าพี่แตซองไปไหนมา ไม่เห็นมากินข้าวแล้วก็ดูเหมือนคนไม่ค่อยสบาย คุณเป๊กก็เลยให้ผมเข็นไปหาพี่แตซองในห้องประชุม


"ตอนบ่ายคุณแตซองอยู่ในห้องหรือเปล่าครับ ผมไม่เห็นคุณเลย" คุณเป๊กถามเมื่อไปถึง


"พอดีผมรู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยสบายครับ ก็เลยไปนอนพัก ตอนนี้ก็อาการดีขึ้นแล้วครับ"


"กินยาหรือยังครับ ถ้าไม่มียาก็บอกผมนะครับ ผมเตรียมมาด้วย หรือคุณจะไปหาหมอไหม" คุณเป๊กถามต่ออีก


"อ๋อ กินแล้วครับ ตอนนี้ผมดีขึ้นแล้ว คิดว่ายังไม่จำเป็นต้องไปหาหมอตอนนี้หรอกครับ" พี่แตซองตอบแล้วก็หันมามองผม


"พี่แตซองกินข้าวหรือยังครับ" ผมถามบ้าง ด้วยน้ำเสียงที่แสดงความเป็นห่วงสุดฤทธิ์


"กินล้วครับ พอดีเอาไปกินที่ห้อง"


ผมก็เลยค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมพี่แตซองถึงไม่สบาย แล้วอาการดีขึ้นจริงหรือเปล่า แต่ผมก็ต้องพยายามเก็บความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ก่อนครับเพราะเดี๋ยวจะโดนเรียกไปเตือนอีกว่าทำหน้าที่เกิน PA แล้วเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันมากนักเพราะคนเริ่มเข้ามาในห้องแล้ว บังเอิญคุณเป๊กบอกว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้ใกล้ๆ กับพี่แตซองเพราะอยากคุยกัน ผมก็แอบดีใจที่จะได้อยู่ใกล้ๆ พี่แตซองไปด้วย


เวลาที่พี่สองคนคุยกัน ผมก็ดันมารยาทไม่ดีครับ ฟังเขาคุยกันด้วย ปกติ PA ต้องไม่ทำอย่างนี้เพราะไม่มีความจำเป็นที่เราต้องรู้ พอพี่แตซองสังเกตุเห็นแกก็แอบถลึงตาใส่ผมด้วย ประมาณว่าอย่ายุ่งเรื่องผู้ใหญ่คุยกัน ผมก็เลยต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้


พอดีผมเห็นกระดาษโน๊ตวางอยู่บนโต๊ะ ก็เลยเอาปากกาออกมาจากกระเป๋าแล้วเขียนข้อความอะไรบางอย่างลงไป ไม่รู้เหมือนกันว่าจะส่งให้พี่แตซองได้ยังไงเพราะคุณเป๊กแกนั่งคั่นอยู่


บังเอิญมีช่วงหนึ่งพี่แตซองแกปัดปากกาของตัวเองตกครับ ผมก็เลยรีบอาสาเก็บให้ ตอนที่เอาปากกาไปให้พี่แตซองนั้นผมก็แอบเนียนเอาโน๊ตที่ผมเขียนให้ไปด้วย พี่แตซองดูงงนิดหน่อย คงไม่แน่ใจว่ากระดาษตกไปด้วยตอนไหน


พอคุณเป๊กหันไปสนใจการพูดบนเวที พี่แตซองก็หยิบกระดาษแผ่นนั้นมาดูครับ แกคงสงสัยล่ะครับว่ามันกระดาษอะไร ผมได้แต่แอบลุ้นด้วยหัวใจที่เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ในกระดาษแผ่นนั้นผมเขียนว่า


"เป็นห่วงพี่แตซองมากครับ พี่ไม่สบายเป็นอะไรหรือเปล่า อยากคุยกับพี่ครับ"


พออ่านจบพี่แตซองก็คว่ำกระดาษไว้ตามเดิมครับ แล้วก็หยิบโทรศัพท์ออกมาทำอะไรสักอย่างอยู่พักหนึ่ง พอพี่แตซองเก็บโทรศัพท์ปุ๊บ โทรศัพท์ผมก็เตือนว่ามีข้อความใหม่ปั๊บ ผมจึงหยิบออกมาดู ก็ปรากฎว่าพี่แตซองส่งข้อความมาหาผมนั่นแหละ เนื้อความก็มีอยู่ว่า


"ไม่ต้องห่วงครับ พี่ไม่เป็นไรมาก ถ้าอยากคุยก็อย่าเพิ่งนอนเร็วนะ :)"


พออ่านจบผมก็หันไปมองเจ้าของข้อความ พี่แตซองก็หันมามองผมเช่นกันพร้อมกับยักคิ้วข้างหนึ่งให้ ผมอดขำเบาๆ ไม่ได้เวลาที่เห็นพี่แตซองทำหน้าตลกๆ ก็ดูน่ารักดีไปอีกแบบ


ประมาณสี่ทุ่มกว่าๆ พี่แตซองก็ส่งข้อความมาหาผม บอกให้ออกมาเจอกันที่ระเบียงแถวๆ ลิฟต์ ที่นี่เป็นโรงแรมที่มีห้องรอบเป็นสี่เหลี่ยม ตรงกลางเป็นที่โล่ง ตรงที่นัดกันนั้นจะทำเป็นระเบียงยื่นออกไปหน่อย โดยมากแล้วก็มักจะมีคนมาสูบบุหรี่กัน แต่ดึกแล้วคงไม่ค่อยมีเท่าไร พอได้รับข้อความแล้วผมก็รีบออกไปจากห้องทันที ตอนนั้นคุณเป๊กนอนหลับแล้ว พอมาถึง พี่แตซองก็มารออยู่แล้วครับ


"มาแล้วเหรอ" พี่แตซองทัก


"ครับ" ผมตอบพลางนั่งชันเข่าลงกับพื้นใกล้ๆ กับพี่แตซอง แล้วหันไปมองพร้อมกับยิ้มกรุ้มกริ่ม


"มีอะไร จะคุยอะไรกับพี่" พี่แตซองถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ ดูเหมือนพี่แตซองอารมณ์ดีมากขึ้นกว่าเดิมทีเดียว


"คิดถึงพี่แตซองครับ ไม่ค่อยได้คุยกันหลายวันแล้ว" ผมบอกด้วยท่าทางเขินๆ


พี่แตซองเลิกคิ้ว ทำหน้าสงสัย


"คิดถึงทำไม เจอกันทุกวัน แล้วเราก็เพิ่งเป็น PA ให้คุณเป๊กไม่กี่วันเอง"


"เจอเฉยๆ แต่ไม่ได้คุยกันนี่นา" ผมตอบเสียงอู้อี้ด้วยความเขินอาย พี่แตซองคงไม่ได้ยินก็เลยถามอีกที


"อะไรนะครับ"


"เจอกันเฉยๆ แต่ไม่ค่อยได้คุยกัน" ผมตอบเสียงชัดขึ้น


"อ๋อ...แต่เท่าที่ดู เก้าก็ดูมีความสุขดีนี่ครับที่เป็น PA ให้คุณเป๊ก นึกว่าจะลืมพี่แล้วซะอีก"


"ใครบอกล่ะครับ ถ้าเลือกได้ ผมอยากเป็น PA ให้พี่แตซองมากกว่า"


ผมทำเสียงอ้อน พี่แตซองขำแล้วก็เอามือขยี้หัวผมเล่นเบาๆ


"อ้อ แล้วพี่หายเป็นไข้หรือยังครับ" ผมเปลี่ยนเรื่อง ยังเป็นห่วงพี่แตซองอยู่ก็เลยต้องถามให้แน่ใจ


"ก็ดีขึ้นเยอะแล้วล่ะ"


แต่ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไร ก็เลยขออนุญาตพี่แตซองแล้วเอามือไปแตะที่หน้าผากเพื่อทดสอบว่าพี่แตซองยังตัวร้อนอยู่หรือเปล่า


"อืม ยังอุ่นๆ อยู่นะครับ แสดงว่ายังไม่หายดี พี่จะกลับไปนอนพักก่อนก็ได้นะครับ เอาไว้คุยกันวันหลังก็ได้ครับ"


ผมถามด้วยความเป็นห่วง กลัวพี่แตซองจะไม่สบายหนักกว่าเดิม


"ไม่เป็นไรหรอก พี่เองก็อยากคุยกับเก้า สัญญาไว้แล้วก็ต้องมาสิ อีกอย่าง อีกไม่นานเก้าก็จะไปแล้ว พี่ไม่อยากรอวันหลัง เดี๋ยวไม่มีเวลา"


ผมรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่อได้ยินว่าพี่แตซองก็อยากคุยด้วย เราเงียบกันไปพักหนึ่งจนกระทั่งพี่แตซองถามขึ้นมา


"บางทีพี่ก็สงสัยนะว่าทำไมเก้าถึงดีกับพี่ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่เราก็ไม่รู้จักกันมาก่อน"


คำว่า "สงสัย" ทำให้ผมรู้สึกประหม่าและแอบกลัวอยู่เหมือนกัน ผมเองก็ไม่รู้หรอกว่าพี่แตซองสงสัยอะไรและสงสัยมานานแค่ไหนแล้ว


"ก็ผมเป็นลูกคนเดียว ไม่มีพี่น้องเลยครับ พอได้มาเป็น PA ให้พี่แตซอง ก็เลยรู้สึกเหมือนได้อยู่กับพี่ชาย รู้ไหมครับว่าตอนเด็กๆ ผมอยากมีพี่น้องมาก ผมได้แต่อิจฉาคนอื่นๆ ที่เขามีพี่น้องกัน อยู่บ้านก็ไม่มีคนเล่นด้วยเลยครับ ต้องเล่นคนเดียวบ่อยๆ"


"จริงเหรอ"


"จริงสิครับ แล้วพี่แตซองมีพี่น้องคนอื่นๆ หรือเปล่าครับ"


"มีสิ แต่เขาก็แต่งงานมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว ไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนตอนเด็กๆ หรอก"


"แล้วพี่มีน้องชายหรือพี่ชายไหมครับ"


"มีน้องชายคนหนึ่ง แต่งงานไปแล้ว แล้วก็มีพี่สาวอีกคน ก็แต่งงานไปแล้วเหมือนกัน ส่วนพี่เอง ก็แต่งงานไปแล้ว แล้วก็กลับมาเป็นโสดโดยไม่ตั้งใจอีกครั้ง"


ตอนท้ายๆ พี่แตซองพูดปนขำ แต่ดูเหมือนสีหน้าก็ไม่ค่อยตลกตามเท่าไหร่


"น้องชายของพี่ไม่เป็นเหมือนเก้าหรอก ตอนเด็กๆ เราชอบทะเลาะกันบ่อยๆ ตามประสาเด็กผู้ชาย ตอนที่พี่พิการเขาก็ไม่ค่อยมาดูแล ไม่ใช่ไม่รักกันนะ แต่เราคงถูกเลี้ยงดูมาแบบนี้ ส่วนพี่สาวก็อาจจะมีช่องว่างอยู่บ้างเพราะเราคุยกันไม่ได้ทุกเรื่องเหมือนกับน้องชาย แต่ก็สนิทกันอยู่"


"แล้วได้เจอกันบ้างไหมครับ"


"ไม่ค่อยได้เจอหรอก แต่ละคนมีการมีงานทำ มีครอบครัวที่ต้องดูแล นานๆ ทีจะไปเจอกันที่บ้านพ่อกับแม่"


"แล้ว...พี่ไม่รังเกียจใช่ไหมครับที่จะให้ผมเป็นน้องชายอีกคน" ผมถามเสียงอ้อนๆ พลางเงยหน้าไปมองพี่แตซอง


"พี่ก็ให้เป็นแล้วไม่ใช่เหรอ ถ้าเก้าไม่รังเกียจพี่ พี่ก็ยินดีอยู่แล้ว"


"ขอบคุณครับพี่ชาย ผมดีใจที่สุดเลยครับ แม่ผมต้องดีใจด้วยแน่ๆ เลยที่รู้ว่าผมมีพี่ชายแล้ว"


ผมบอกพี่แตซองด้วยรอยยิ้มดีใจ อยากจะกอดพี่แตซองจริงๆ แต่ไม่กล้าทำอย่างที่คิด พอดีช่วงนี้มีคนเดินมาครับ คงจะมาสูบบุหรี่ พอเห็นว่ามีคนนั่งคุยกันอยู่ก็เลยเดินไปที่อื่น


"ไหนๆ เราก็มีเวลาที่จะเจอกันอีกไม่กี่สัปดาห์ เรามาคุยอะไรกันแบบเปิดใจหน่อยดีไหมครับ" ผมถามเชิญชวน


"เปิดใจเรื่องอะไรล่ะ"


"อะไรก็ได้ครับ ที่เราอยากพูด"


"อืม...แล้วใครจะเริ่มก่อนดีล่ะ"


"ก็...ผมอยากฟังจากพี่ก่อนครับ ในฐานะที่เป็นพี่แตซองเป็นพี่ชาย พี่ชายก็ต้องเสียสละและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องใช้ไหมครับ"


พี่แตซองขำแล้วก็เอามาลูบหัวผมอีก


"พี่พูดก่อนก็ได้" แล้วพี่แตซองก็หยุดไปพักหนึ่ง


"พี่รู้สึกสบายใจมากเวลาพี่อยู่กับเก้า เก้าเป็นคนแปลกหน้าที่พี่สามารถสนิทสนมได้ในเวลาสั้นๆ แล้วก็รู้สึกว่าเก้าเป็นคนที่พี่ไว้ใจได้ เป็น PA ที่พี่โกรธไม่ลงทั้งๆ ที่บางทีก็ทำผิดกฎของ PA ตั้งหลายอย่าง"


พี่แตซองหยุดพูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ


"พี่รู้สึกว่าเก้าเป็นคนจริงใจ เวลาที่เก้าพูดว่าเป็นห่วง พี่ก็รู้สึกได้ว่าเก้ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เอาเท่านี้ก่อนละกัน นึกได้เท่านี้ แล้วเก้าล่ะ"


"อืม...ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอพี่ ผมรู้สึกว่าพี่เป็นคนใจดี อยู่ใกล้ๆ แล้วรู้สึกอุ่นใจ แม้ว่าบางทีจะดุไปหน่อยก็ตาม"


ผมก็ขำเหมือนกัน นึกถึงหน้าดุๆ ของพี่แตซองแล้วมันอดขำไม่ได้จริงๆ แม้ว่าตอนที่เจอจะขำไม่ออกก็ตาม


"แต่ผมก็รู้ว่าพี่ไม่ใช่คนใจร้าย ไม่ได้ดุเพราะเกลียดกัน แล้วก็...ยิ่งได้รู้จักก็ยิ่งรู้สึกว่าพี่เป็นคนใจดีและอบอุ่นมาก แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่ผมก็รู้สึกว่าเราผูกพันกัน รู้สึกห่วงใยกัน แม้ว่าโดยหน้าที่ผมจะเป็นแค่ PA แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าผมเป็นแค่นั้น"


แล้วผมก็เงียบไปสักพัก รู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอหอย


"ถ้าผมกลับไปแล้ว พี่แตซองจะคิดถึงผมหรือเปล่าครับ"


พี่แตซองมองผมอย่างเงียบๆ และใช้ความคิด ก่อนจะส่งยิ้มบางๆ กลับมาให้


"คิดถึงสิครับ ว่าแต่เก้าเหอะ จะลืมพี่หรือเปล่าก็ไม่รู้"


"ไม่ลืมแน่นอนครับ"


ผมตอบกลับทันที พี่แตซองก็เลยขำเบาๆ


"พี่คงเหงาเหมือนกันนะถ้าเก้ากลับไปแล้ว ในชีวิตของเราคงไม่ได้มีโอกาสเจอคนที่เรารู้สึกดีด้วยและไว้ใจได้บ่อยๆ แค่คนเดียวก็หายากแล้ว พี่คิดว่าพี่โชคดีที่ได้เจอเก้า ถึงจะรู้จักกันแค่เวลาสั้นๆ แต่มันก็เป็นความทรงจำที่มีค่านะ บางทีพี่ก็เคยคิดเล่นๆ นะว่า ถ้าเก้าเป็นผู้หญิง...พี่ก็คงตกหลุมรักเก้าไปแล้ว"


ประโยคสุดท้ายเล่นเอาผมอึ้งและสะอึกไปเหมือนกันครับ สะอึกจนแทบจะพูดไม่ออก รู้สึกเจ็บแปล๊บในหัวใจ


"แสดงว่าผมต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้นหรือครับพี่ถึงจะรักผม" ผมถามกลับไปด้วยเสียงที่แฝงความน้อยใจ


พี่แตซองทำหน้าอึ้งๆ คงจะงงๆ กับคำถามที่ผมถามไปนั่นเอง


"ไม่ใช่อย่างนั้น ถึงไม่เป็นผู้หญิงพี่ก็รัก ไม่งั้นพี่จะให้เป็นน้องชายของพี่อีกคนเหรอ พี่รักเก้าเหมือนน้องชายแท้ๆ ของพี่คนหนึ่งเลยนะ"


พี่แตซองบอกพร้อมกับขยี้หัวผมไปด้วย แล้วก็เงียบเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอีก คิดอยู่นานเลยครับ แต่ผมก็ยินดีนั่งรอโดยไม่คิดจะกดดันใดๆ


"เก้ารู้ไหม...เก้าทำให้ชีวิตของพี่สับสนมาก"


"ทำไมเหรอครับ" ผมรีบถามกลับไปทันทีด้วยความสงสัย พี่แตซองกำลังจะบอกอะไรผม ใช่สิ่งที่ผมกำลังรอคอยอยู่หรือเปล่า


"เอ่อ...เอาไว้...พี่จะบอกวันหลังละกันนะ เอาไว้ให้พี่มั่นใจก่อนละกัน"


ผมทำหน้าผิดหวังไปเล็กน้อย แอบถอนหายใจเบาๆ กับตัวเอง พี่แตซองก็รักและเอ็นดูผมนะครับ แค่ได้เป็นน้องชายที่พี่แตซองรักและเอ็นดูก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับผม แต่ถ้าเป็นได้มากกว่านั้นผมก็คงจะยิ่งมีความสุขมาก


ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่แตซอง ยิ้มแล้วก็พยักหน้า แล้วเราก็คุยกันไปเรื่อยๆ จำได้ว่าราวๆ เที่ยงคืนถึงได้แยกย้ายกันกลับไปนอ คืนนี้เป็นอีกคืนหนึ่งที่มีค่าสำหรับผมมาก เป็นอีกช่วงเวลาดีๆ ที่ผมจะจดจำไปอีกนานแสนนานทีเดียวครับ


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jubujubu ที่ 23-03-2012 07:05:51
มาตามอ่านจ้า  อยากให้ลงวันละ2ตอนจัง   :m1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 23-03-2012 09:03:05
รอตอนต่อไปค่ะ
เรื่องราวเริ่มดูหม่นๆเบาๆ 55
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-03-2012 09:08:56
ตอนนี้เศร้าอ่ะ T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tame_tin ที่ 23-03-2012 09:14:52
อยากให้ลงเยอะๆอ่ะแต่มาทุกวันก็ดีใจแล้วอ่ะรอพรุ่งนี้นะค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 23-03-2012 09:42:23
สงสารเก้าจังเลยค่ะ TT แง
เดาตอนจบไม่ได้เลยอ่ะ =[]=
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 23-03-2012 09:51:17
เหลืออีก 4 ตอนจะจบแล้ว
ยังไม่อยากให้ถึงตอนนั้นเลย
คิดแล้วมันเศร้า
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 23-03-2012 11:14:15
สงสารเก้านะ แต่คงต้องทำใจอย่างเดียว
อีกสี่ตอนที่เหลือขอให้เป็นความทรงจำดีๆแล้วกันนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 23-03-2012 11:29:10
จะจบแล้วหรอ T-T เป็นตอนที่ทั้งเศร้า ทั้งอบอุ่นเลยค่ะ

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 23-03-2012 12:37:45
อ่า ไม่อยากนึกถึงตอนต้องจากกัน
 :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 23-03-2012 12:48:05
เนื้อเรื่องน่าสนใจ น่าติดตามจริงๆ ภาษาก็ดี อ่านเพลินเลยค่ะ o13
พี่แตซองดูเป็นผู้ใหญ่ เท่ อบอุ่น มีความคิดดี
เก้าก็เป็นเด็กดี มีน้ำใจ ขี้อ้อน ขี้งอนเล็กน้อย น่ารักดี
แถมได้ความรู้ใหม่ๆด้วย
+1+เป็ด
เกาหลียังไม่ค่อยยอมรับเรื่องชายรักชาย แล้วคู่นี้จะลงเอยยังไง รออ่านต่อนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 23-03-2012 13:33:10
อ่านแล้วมันละมุลในอารมณ์ แต่มันขมในหัวใจ ช็อกโกแลตค่ะเรื่องนี้ หวานปนขม แต่ก้ออยากกินไม่ยอมหยุด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 23-03-2012 14:03:41
อีกสี่ตอนก็จะจบแล้ว

สุดท้ายแล้ว เก้าอาจจะเป็นแค่น้องชายของพี่เค้า!!  :o12:
แต่เก้าก็ยังมีความทรงจำดีๆร่วมกับพี่เค้าเยอะแยะเลย!!  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 11, 22-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 23-03-2012 15:00:58
2คนเปิดใจกันมากขึ้นแล้ว
ดูเหมือนพี่แตซองจะรู้สึกเช่นเดียวกับน้องเก้าเลย
เรื่องนี้ใกล้จะจบแล้วหรอคะ ยังอ่านต่อไปเรื่อยๆอยู่เลย
ไม่ว่าจะจบอย่างไร เชื่อว่า...สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ดีเสมอ...
อย่างน้อย..ก็เป็นความทรงจำที่มีค่า...สำหรับทั้ง2คน อย่างที่พี่แตซองบอก
+เป็ดน้อย ให้คนโพสต์ค่ะ  :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: misso ที่ 23-03-2012 15:10:11
ชอบการบรรยายแล้วก็ใช้ภาษาของเรื่องนี้จัง

ลุ้นน้องเก้ากับพี่แตซองนะ ไม่ว่าตอนจบจะเป็นยังไงแต่อย่างน้อยตอนนี้ก็มีความสุขเนอะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 23-03-2012 18:31:03
น่ารักจัง

ความสัมพันธ์แบบนี้...บางทีอาจจะ...ยืนยาวกว่าการเป็นคนรักกัน

เอาใจช่วยค่า :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 23-03-2012 18:33:06
อ๊าก....ก  ตอนนี้หวานมาก  แต่ก็...  อึดอัดมากเหมือนกัน
เหมือนรักที่ต้องทำใจ  อะไรประมาณนั้นแหละ  เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-03-2012 18:43:30
อารมณ์ประมาณว่าขอให้ได้รัก ไม่ต้องครอบครองก็ได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 23-03-2012 18:44:04
นั่งยิ้มอยุ่คนเดียว
ผู้ชายคนนี้ (พี่แตซอง) ทำให้หัวใจคนอ่านอบอุ่นตลอดเวลาเลย ^\\\^

มีคนจะมาสูบบุหรี่แต่ก็ต้องหลีกไป
อ่ะ กลัวเป็นกขค.อ่ะจิ 555

พี่แตซองรู้สึกแบบเดียวกับเก้าแล้วใช่ม่ะ ^^ หรือคนละแบบ T^T

อีก4ตอนจะจบแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 23-03-2012 19:39:08
เหมือนหนังสั้น
ไม่อยากเดาไปก่อน
ไม่เศร้าใช่ไหมค่ะ
อาจจะได้รักกัน จะแบบไหนก็ตาม
แต่ต่างมีชีวิตที่ต่างกันมาก ทั้งเชื้อชาติ ที่อยู่
การดำเนินชีวิต
อาจจะต้องอยู่ไกลกัน แต่ใจใกล้ อะไรแบบนี้ไหมค่ะ (เดาล้วนๆ )
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 23-03-2012 21:16:34
เฮ้อ อีก 4 ตอนจะจบแล้วหรอเนี่ย แย่จัง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 23-03-2012 22:15:43
ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าแล้วละ

สงสัยจะมาม่าชามโต  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-03-2012 22:30:01
เอาเหอะนะเก้า ในสถานการณ์แบบนั้นน่ะ รักกันแบบพี่น้องน่าจะดีที่สุดแล้ว
เพราะถ้ารักแบบคนรัก มักจะต้องอยากจะครอบคอง อยากเป็นเจ้าของ อยากอยู่ด้วยกัน
แล้วเวลาที่เก้วอยู่ที่เกาหลีก็ไม่นานนี่ ถ้าถึงวันที่ต้องจากกัน มันคงเศร้ามากๆเลย
รักแบบพี่น้องคงเศร้าน้อยกว่าเมื่อถึงวันที่ต้องจากกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 24-03-2012 02:38:14
เพิ่งเข้ามาอ่านครับ  รู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้อบอุ่นหัวใจดีนะครับ

ต่อจากนี้ไปคงมีมุมมองใหม่ๆในการมองคนอื่นได้มากขึ้น

จะไม่มองที่ปัจจัยภายนอกอย่างเดียวซะแล้ว  คงต้องมองไปถึงข้างใน

จิตใจ และความเป็นตัวตนจริงๆของคนๆนึงบ้าง ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 24-03-2012 07:02:51
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 13 ◉☥ พี่แตซองหายไปไหน


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


จริงๆ ผมอยากให้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนอ่านแล้วมีความสุขเหมือนได้ดูหนังเกาหลีนะครับ อาจจะไม่มีฉากอย่างที่ทุกคนอยากรู้เท่าไหร่ เพราะตอนที่ผมอยู่กับพี่แตซองก็ไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องพวกนี้เลย...หรือเปล่า อิๆ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ขอข้ามมาวันกลับเลยละกันครับ เพราะช่วงหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว มีแต่ประชุมแล้วก็ไม่ค่อยได้คุยกัน ผมก็ยังทำเหมือนเดิมครับ คือชวนพี่แตซองคุยเกือบตลอดทาง แม้ว่าจะนั่งคนละแถวก็ไม่เป็นปัญหา แต่ก็ไม่คุยกันดังมาก มีอยู่ตอนหนึ่ง ทำเอาผมงอนไปเหมือนกัน


"เมื่อวานซูซานเขาส่งเมล์มาหาพี่ เขาถามถึงเก้าด้วย"


ผมก็อึ้งไปพักหนึ่งครับ แทบจะหมดอารมณ์คุยเลย


"อ๋อ ครับ เขาติดต่อพี่บ่อยหรือเปล่าครับ" ผมถามด้วยสีหน้าเซ็งๆ


"ครั้งนี้ครั้งแรก กว่าจะอ่านจบก็เหนื่อยเพราะต้องอ่านไปหาคำแปลไปด้วย"


พี่แตซองบอกพร้อมกับขำ แต่ผมไม่ขำด้วย แม่ซูซานนี่ยังตามมาหลอกมาหลอนได้อีกถึงนี่อีกหรือนี่


"ถามจริงๆ นะครับ พี่คิดยังไงกับซูซานครับ"


ไม่รู้ผมนึกยังไงถึงได้ถามออกไปอย่างนั้น พี่แตซองทำท่าครุ่นคิด


"อืม...พี่ก็ว่าเขาก็น่ารักดีนะ แต่...ก็ยังไม่ใช่ ไม่รู้สิ พี่เจอเขาแค่ไม่กี่วัน ไม่มีอะไรหรอก"


คำตอบของพี่แตซองทำให้ผมเริ่มยิ้มออก แต่ก็ต้องแอบยิ้มนะครับ ไม่ได้ยิ้มประเจิดประเจ้อ


"แล้วสเป๊กผู้หญิงของพี่เป็นแบบไหนครับ" ผมถามต่อ


"ไม่รู้สิ ไม่ได้คิด ถ้าถูกใจก็โอเค" ตอบพลางขำ


"แล้วเก้าล่ะ สเป๊กผู้หญิงเป็นแบบไหน"


"เหมือนพี่แตซองครับ ยังไงก็ได้ ขอให้ถูกใจ"


ผมตอบแบบไม่ต้องคิดมากเพราะไม่ต้องการสนทนาเรื่องนี้ของตัวเองเท่าไหร่


พอกลับมาถึงที่โซลก็เกือบๆ ห้าโมงเย็นแล้ว เราต่างก็แยกย้ายกันไปคนละทาง ผมก็มากับพี่แตซองเหมือนเดิมครับ จบงานก็ไม่ต้องไปเป็น PA ให้คุณเป๊กแล้วเพราะถ้าอยู่ที่บ้านคุณเป๊กจะมีคนในครอบครัวช่วยอยู่ แต่ก็ต้องมี PA เพราะด้วยแนวคิดของการดำรงชีวิตเขาจะไม่นิยมให้ใช้คนในครอบครัวทำหน้าที่ PA โดยมากคนในครอบครัวมักจะไม่ค่อยแนวคิดนี้แล้วก็มักจะคิดแทนคนพิการเป็นส่วนใหญ่


"พี่แตซอง ให้ผมอยู่ช่วยพี่ไหมครับคืนนี้"


ผมอาสาเพราะดูท่าทางพี่แตซองดูจะเหนื่อยๆ เห็นสภาพอิดโรยของพี่แตซองแล้วผมก็สงสัยว่าพี่แตซองน่าจะยังไม่หายป่วยดี


"อย่าเลย เก้าเองก็เหนื่อย กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ พี่พออยู่ได้"


พี่แตซองก็ยังคงขี้เกรงใจเหมือนเดิมครับ


"ผมยอมรับว่าเหนื่อยนะครับพี่ แต่ผมก็อยากช่วยพี่อยู่ดี เหนื่อยอีกนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกครับ"


ผมยังไม่ลดละความพยายาม พี่แตซองยังคงมีท่าทีลังเลอยู่


"อย่าเลยเก้า เก้าจะทำให้พี่เคยตัวรู้ไหม ถ้าเกิดเก้ากลับไปแล้ว พี่คงจะหา PA ใหม่ที่เหมือนเก้าไม่ได้ ชีวิตพี่จะลำบากนะเก้า"


เหตุผลนี้ทำให้ผมต้องยอมจำนนครับ ใช่แล้ว ถ้าผมไม่อยู่ พี่แตซองก็ยังคงต้องอยู่ต่อไปโดยการพึ่งพาตัวเองให้ได้มากที่สุด ผมก็เลยต้องหยุดเซ้าซี้พี่แตซอง เดี๋ยวแกจะโกรธเอาอีก แต่ผมก็คิดผิดจริงๆ ครับ ถ้ารู้ว่าพอผมกลับบ้านแล้วจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ผมคงไม่กลับไปอย่างแน่นอน ผมน่าจะดื้ออีกสักหน่อย แต่ก็ได้แค่นึกโมโหตัวเอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ตอนเช้า ผมก็มาทำหน้าที่ PA ตามปกติ มาถึงเร็วกว่าเวลาเล็กน้อย มาถึงก็เคาะประตูห้องก่อนเป็นอันดับแรกแม้ว่าจะมีกุญแจอยู่ก็ตาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ผมก็เลยเดาว่าพี่แตซองคงนอนอยู่หรือไม่ก็อาจจะอยู่ในห้องน้ำ ก็เลยไขกุญแจเข้าไป ไม่เห็นพี่แตซองบนเตียงนอน ไปดูห้องน้ำก็เปิดอยู่ ไม่มีคนอยู่ข้างใน ที่ไหนๆ ในห้องก็ไม่มีใครจนผมรู้สึกแปลกใจ พี่แตซองไปไหน เช้าขนาดนี้ก็ไม่น่าจะไปไหนนี่นา PA ก็ยังไม่มา พี่แตซองไม่น่าจะไปข้างนอกได้เองง่ายขนาดนั้น


เมื่อหาคำตอบไม่ได้ ผมก็เลยลองโทรหาพี่แตซอง แต่ปรากฎว่าเสียงโทรศัพท์ก็ดังมาจากหัวเตียงเพราะพี่แตซองไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วย ก็ยิ่งทำให้ผมงงหนักเข้าไปอีก พี่แตซองรีบไปไหนกันจนถึงกับลืมโทรศัพท์ไว้ ผมลองโทรไปที่ศูนย์ PA ก็ไม่มีใครรู้อีกเช่นกัน คราวนี้ผมก็เริ่มใจคอไม่ค่อยดีแล้วครับ นึกไม่ออกจริงๆ ว่าพี่แตซองหายไปไหน จะโทรไปที่บ้านพ่อกับแม่ของพี่แตซองผมก็ไม่มีเบอร์ ก็เลยลองโทรไปขอที่ศูนย์ ปรากฎว่ามีแต่เป็นเบอร์บ้าน ผมโทรไปแล้วก็ไม่มีใครรับสายเลย โทรไปเป็นสิบกว่าครั้ง ก็ยังไม่มีใครรับสายอยู่ดี


ผมหยิบโทรศัพท์ของพี่แตซองไปด้วยแล้วก็ลองออกมาตามหาพี่แตซองบริเวณด้านนอกที่พัก ผมเดินหาจนทั่วบริเวณก็ไม่เจอ พี่แตซองไปไหน เป็นอะไรหรือเปล่า หายไปโดยไม่รู้สาเหตุและไม่บอกไม่กล่าวอย่างนี้ต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ๆ ผมชักสังหรณ์ใจว่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้น


เมื่อหาไม่เจอผมก็กลับมานั่งรอในห้องพี่แตซองเช่นเดิม ใจคอไม่ดีเลยครับ พอหันไปเห็นรูปถ่ายของพี่แตซองบนหัวเตียงก็ยิ่งรู้สึกเป็นห่วง น้ำตาผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว


เกือบๆ บ่าย หลังจากที่ผมกลับจากกินข้าวข้างนอกแล้วผมก็กลับมารอที่ห้องเช่นเดิม แต่ปรากฎว่าห้องไม่ได้ล็อคเหมือนมีคนไขเข้าไปแล้ว หรือว่าพี่แตซองจะกลับมาแล้ว ผมดีใจสุดชีวิตเลยครับรีบผลักประตูเข้าไปข้างในห้องทันที แต่ปรากฎว่าคนที่อยู่ข้างในห้องไม่ใช่พี่แตซอง เป็นแม่ของพี่แตซองที่ตอนนี้กำลังหาอะไรบางอย่างอยู่


"เธอเป็นใคร" แม่พี่แตซองถามด้วยท่าทางตกใจเล็กน้อย


"ผมเป็น PA พี่แตซองครับ พอดีผมมาหาพี่แตซองตั้งแต่เช้าแล้วไม่เจอ พี่แตซองไปไหนครับ" ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง


"อ๋อ จำได้ละ แตซองอยู่โรงพยาบาล ตอนนี้ยังไม่รู้สึกตัวเลย"


"อะไรนะครับ"


ผมอุทานด้วยความตกใจเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พี่แตซองไม่มีทีท่าว่าจะป่วยหนักจนถึงขั้นต้องไปโรงพยาบาลนี่นา


"เขาติดเชื้อ ตอนนี้ไข้ขึ้นสูงยังไม่รู้สึกตัวเลย เธอเห็นโทรศัพท์เขาไหม"


ผมหยิบโทรศัพท์มือถือพี่แตซองแล้วยื่นให้แม่ของพี่แตซองไป


"ฉันต้องไปละ เธอจะไปด้วยไหม"


แม่พี่แตซองหันมาถาม ผมพยักหน้าแล้วก็รีบตามแม่พี่แตซองออกไป


พอมาถึงโรงพยาบาล พี่แตซองยังไม่รู้สึกตัวเลยครับ หมอบอกว่าอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยและไข้เริ่มลดลงแล้ว พอถามหมอก็ทราบว่าพี่แตซองติดเชื้อชนิดหนึ่ง ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่เพราะยังไม่สันทัดภาษาเกาหลีที่เกี่ยวกับการแพทย์มาก รู้แต่ว่าติดเชื้ออะไรบางอย่าง เข้าใจว่าน่าจะติดตอนที่อยู่ต่างจังหวัด ก็น่าจะมีความเป็นไปได้อยู่หรอก เพราะตอนที่สัมมนาพี่แตซองเป็นไข้และมีท่าทางเหมือนคนไม่สบายตลอดเวลา


ตอนนี้มีเพียงแม่ของพี่แตซองเท่านั้นที่สามารถมาดูแลพี่แตซองได้ พ่อก็อยู่ต่างจังหวัดส่วนน้องชายกับพี่สาวก็ทำงาน มาไม่ได้ แม่พี่แตซองเองก็ต้องทำงานเหมือนกัน แต่วันนี้ลางานมาทั้งวันแล้วจึงอยู่ได้ ส่วนวันอื่นๆ ยังไม่แน่ใจ ผมก็เลยอาสาเฝ้าพี่แตซองให้จนกว่าพี่แตซองจะอาการดีขึ้น พอ


ผมโทรไปบอกแม่ แม่ผมก็ใจดีจริงๆ ครับ อนุญาตให้ผมอยู่ได้ ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะผมชอบเล่าให้แม่ฟังเรื่องพี่แตซองอยู่บ่อยๆ จนเหมือนเป็นคนคุ้นเคยกัน แม้จะไม่เคยเจอกันเลย


ในระหว่างรอ ผมกับแม่พี่แตซองก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย โดยเฉพาะเรื่องพี่แตซองตั้งแต่เด็กๆ จนกระทั่งโต ดูๆ ไปแล้วแม่ของพี่แตซองก็ภูมิใจกับลูกชายเหมือนกันนะครับ แม้ว่าตอนนี้จะกลายเป็นคนพิการแล้ว แต่เธอก็ภูมิใจที่ลูกชายสามารถดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังเป็นห่วงตรงที่พี่แตซองยังไม่มีงานทำเป็นชิ้นเป็นอันนี่แหละ


จนกระทั่งบ่ายแก่ๆ พี่แตซองก็รู้สึกตัว แม่พี่แตซองเป็นคนแรกที่เข้าไปหาลูกชาย ผมเข้าไปด้วย นั่งลงข้างๆ เตียงแล้วก็ยิ้มให้พี่แตซอง พี่แตซองก็ยิ้มตอบอย่างเนือยๆ ผมดีใจจนบอกไม่ถูก นึกว่าจะต้องเป็นอะไรไปเสียแล้วเพราะหมอบอกว่าถ้ามาช้าอีกหน่อยอาจจะเสียชีวิตได้ ผมปล่อยให้แม่กับลูกคุยกันไปสักพัก แล้วพี่แตซองก็หันมาคุยกับผม


"มานานแล้วเหรอ"


ผมก็พยักหน้าน้อยๆ


"ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วงพี่ ขอโทษด้วยที่ไม่ได้โทรบอกตอนเช้า"


"ไม่เป็นไรครับพี่แตซอง" ผมบอกพลางทำสีหน้าเห็นใจ สงสารพี่ชายคนนี้อย่างบอกไม่ถูก


พอดีพยาบาลเข้ามาเราก็ปล่อยให้เขาทำงานกันไป ตอนเย็นๆ น้องชายกับพี่สาวของพี่แตซองก็มาเยี่ยมด้วยครับ พาครอบครัวมาด้วย แต่ดูน้องชายของพี่แตซองไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่ ผมว่าพี่แตซองหน้าออกจะเหมือนแม่และหล่อกว่าน้องชายเยอะเลย ส่วนน้องชายอาจจะหน้าเหมือนพ่อก็ได้ อันนี้ก็เดาเอานะครับ


พอทุกคนไปหมดแล้วพี่แตซองก็กินยาแล้วนอนหลับไป ผมจึงได้แต่นั่งนอนเฝ้าโดยไม่ได้คุยกับพี่แตซองเลย เห็นหมอบอกว่าพี่แตซองต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณสามวันเป็นอย่างน้อย ถ้าอาการดีขึ้นเร็วหน่อยก็อาจจะออกได้ก่อนสามวัน


วันต่อมาผมก็เป็นหลักที่คอยอยู่เฝ้า ได้คุยกันบ้างแต่ไม่นานเพราะพี่แตซองยังมีไข้อยู่ พอกินยาแล้วก็นอนหลับไปเลย ตอนเย็นๆ ก็มีคนมาเยี่ยมหลายคน ทั้งจากศูนย์ PA ญาติของพี่แตซอง รวมทั้งแม่และน้าสาวผมก็มาด้วยครับ เป็นครั้งแรกที่แม่กับน้าได้เจอพี่แตซอง ดูท่าทางแม่ผมจะชอบพี่แตซองมากทีเดียวครับ แค่ได้ฟังผมเล่าก็ชอบแล้ว ก่อนกลับแม่ผมก็ชวนพี่แตซองว่าถ้าหายแล้วก็ให้ไปเยี่ยมที่บ้านด้วย จะทำอาหารไทยให้กิน พี่แตซองก็รับปากว่าจะไปให้ได้


ตอนดึกๆ ผมได้ยินเสียงกุกกักๆ ก็เลยตื่น พี่แตซองจะเข้าห้องน้ำนั่นเอง ผมก็เลยช่วยเอารถเข็นพี่แตซองมาให้แล้วก็พาไปห้องน้ำ พอพาพี่แตซองกลับมาที่เตียง เราก็ได้มีโอกาสคุยกันสั้นๆ ก่อนนอน


"เก้า ขอบคุณมากนะครับสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง พี่ไม่รู้จะขอบคุณหรือตอบแทนเก้ายังไงดี"


"ไม่เป็นไรครับพี่แตซอง ผมไม่อยากได้อะไร"


ผมตอบพลางยิ้มน้อยๆ พี่แตซองก็ยิ้มตอบ


"ไม่ว่าพี่จะไปไหน ทำอะไร หรือเป็นอะไร ก็เห็นแต่เก้านี่แหละที่คอยเป็นห่วง ถ้าไม่มีเก้าพี่ก็คงแย่เหมือนกัน"


ผมยิ้มด้วยความตื้นตันใจ อย่างน้อย แม้พี่แตซองอาจจะไม่ได้คิดอะไรกับผมอย่างนั้น แต่ผมก็ดีใจที่พี่แตซองเห็นความดี เห็นความตั้งใจที่ผมพยายามทำให้จากหัวใจของผม


"ถามจริงๆ เถอะ ทำไมเก้าถึงดีกับพี่ขนาดนี้"


คำถามนี้เล่นเอาผมไปไม่เป็นเลย แล้ว ผมก็เพิ่งมารู้ทีหลังว่าพี่แตซองสงสัยผมมานานพอสมควรก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนั้นไม่ค่อยมั่นใจก็เลยไม่ได้ถาม เจออย่างนี้เข้าไปผมก็อึกอักๆ ไม่รู้จะตอบยังไง


"ก็...ผมก็รักพี่ก็เหมือนพี่ชายผมคนหนึ่ง" ผมตอบเหมือนท่องสคริปต์เพราะยังใจไม่กล้าพอที่จะบอกความจริงในตอนนี้


"จริงเหรอ..."


อ้าว...แทนที่พี่แตซองจะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นหน่อยก็กลับทำให้ชีวิตผมยากขึ้นเสียแล้ว คราวนี้ผมก็เลยเงียบไป แต่สีหน้าคงดูเลิ่กลั่กอยู่เหมือนกัน พี่แตซองยิ้มน้อยๆ แล้วก็โคลงศีรษะ


"ไม่ว่าเก้าจะรักพี่แบบไหน พี่ก็ดีใจนะที่มีน้องชายดีๆ อย่างเก้า"


พี่แตซองบอกพลางเอามือมาลูบหัวผม คำตอบของพี่แตซองทำให้ผมใจเต้นไม่เป็นส่ำ เหมือนพี่แตซองกำลังจะบอกผมว่าไม่ว่าผมจะรักพี่แตซองแบบไหน แบบพี่น้องหรือแบบอื่น พี่แตซองก็คงไม่รังเกียจ ผมคงไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมครับ พี่แตซองไม่ใช่เกย์และที่เกาหลีนั้นเรื่องการเป็นเกย์เป็นสิ่งที่สังคมยังรับไม่ได้ พี่แตซองจะรับได้หรือ แต่พูดมาอย่างนี้แล้วจะให้ผมเข้าใจว่ายังไงล่ะครับ


"นอนเถอะ ดึกแล้ว"


พี่แตซองตัดบท เราจึงต่างแยกย้ายกันไปนอน


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 24-03-2012 07:56:29
เศร้าอีกแล้ว T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 24-03-2012 09:08:03
เราคิดว่าพี่แตซองน่าจะรู้ว่าเก้ารู้สึกยังไงกับพี่เขานานแล้ว
แต่คงยังไม่แน่ใจเท่านั้นเอง
เฮ้อ...
เดี๋ยวก็ต้องจากกันแล้ว
ไกล้จะจบแล้วหรอเนี่ย
 :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 12, 23-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 24-03-2012 09:26:29
อบอุ่น แต่ก็แฝงไปด้วยความเศร้ายังไงไม่รู้
คงเพราะน้องเก้าใกล้จะถึงวันกลับแล้ว  :sad4:

+เป็ดน้อยให้ค่ะ  :L2: :L2:


หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-03-2012 09:37:00
จะจบแบบเศร้าใข่ไหม จะได้เตรียมใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 24-03-2012 10:00:55
หรือว่าพี่แตซองจะเริ่มสงสัยในตัวเก้าเข้าให้แล้ว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 24-03-2012 10:02:42
กลัวที่สุดก็คือตอนเก้ากลับเมืองไทยนี่แหละ แง๊ ~
ไม่ดีเลยอ่ะแบบนี้ เวลาสั้นๆมันก็ผูกพันธ์กันได้ แต่อยู่ด้วยกันไม่ได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 24-03-2012 10:25:30
อ่านไปก็ลุ้นไปว่าจะจบยังไง
เก้ามีความหวังกับพี่แตซองขึ้นมานิดนึง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 24-03-2012 10:42:58
อบอุ่นน่ารักมาก อ่านแล้วมีความสุขค่ะ แต่เสียใจที่ใกล้จะจบแล้ว T-T
พี่แตซองคงตะหงิดๆมานานแลล่ะ แต่คงไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองมั้ง

รอวันพรุ่งนี้ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 24-03-2012 10:43:55


 :3123: :3123: :3123:


ไม่อยากให้จบเศร้าเลยย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 24-03-2012 11:09:13
แงๆๆ TT น่าสงสารเก้าอ่ะ == ถ้ากลับเมืองไทยเเล้วจะเป็นยังไงต่อนะ !
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 24-03-2012 11:14:52
ใกล้จบแล้วอ่า...เสียดายจัง
อย่าเพิ่งรีบกลับไทยเลยเหอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 24-03-2012 11:27:51
พี่แตซองก็พอดูออกถึงความรุ้สึกของเก้า
ถ้าห่างกัน จะเป็นยังไงเนี่ย T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 24-03-2012 11:46:47
จะจบแล้ว

แต่ยังไม่อยากให้จบเลยอ่า :sad4:

ยังไงก็คงเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันละนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 24-03-2012 13:36:20
พี่แตซองรู้แล้วหรอ

จะจบแล้วอ่ะ!!  :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 24-03-2012 17:13:21
แอบเขินแทน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 24-03-2012 17:31:51
น้องเก้าดูแล ห่วงใยออกนอกหน้าไปนิด พี่แตซองเลยรู้อ่ะดิ :o8:
แม่น้องเก้าชอบพี่แตซอง แต่ถ้าน้องเก้ารักกับพี่แตซองจริง แม่จะโอเคไหมน้า เห็นแววอุปสรรคอยู่ลิบๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 25-03-2012 11:12:45
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 14 ◉☥ ความในใจของพี่แตซอง


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


วันนี้เป็นวันที่สามแล้วครับที่พี่แตซองอยู่โรงพยาบาล หมอบอกว่าหากไม่มีอะไรแล้ววันนี้ก็น่าจะกลับบ้านได้ หลังจากกินข้าวเช้าและกินยาแล้ว พี่แตซองก็เรียกให้ผมไปหา


"เก้า หาซองจดหมายหรือซองอะไรก็ได้ให้พี่หน่อยได้ไหมครับ"


ผมก็รับคำแล้วไปขอซองจดหมายที่ใช้แล้วของโรงพยาบาลมา แล้วก็เอามาให้พี่แตซอง แล้วแกก็เอาเงินจำนวนหนึ่งใส่ซองแล้วก็ยื่นให้ผม


"เงินเดือนของเก้าครับ"


"ขอบคุณครับ"


ผมรับมาพร้อมกับกล่าวขอบคุณ รู้สึกตื่นเต้นอย่างไรไม่รู้ครับ นี่เป็นเงินเดือนแรกในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ แต่พอนับดูแล้วก็รู้สึกว่ามันเยอะเกินกว่าจำนวนวันที่ผมทำงาน เยอะกว่าที่ผมคำนวณไว้พอสมควรเลยครับ


"พี่ให้เงินผมผิดหรือเปล่าครับ ผมว่ามันเยอะเกินกว่าจำนวนวันที่ผมทำงานนะครับ"


"ไม่ผิดหรอก เงินส่วนที่เกิน พี่ให้เพราะว่าเก้าเป็นคนดีและช่วยพี่หลายอย่าง ทำงานเกินชั่วโมงทำงานก็หลายครั้ง ถือว่าเป็นการขอบคุณละกันนะครับ"


พี่แตซองบอกพลางยิ้ม แต่ผมรู้สึกไม่อยากรับไว้เลยครับเพราะรู้ว่าพี่แตซองเองก็ยังไม่มีงานทำ เงินที่เคยเก็บไว้ก็ค่อยๆ ร่อยหรอลงเรื่อยๆ แล้วอีกอย่าง ที่ผมทำไม่ใช่เพราะต้องการเงินซะหน่อย


"ผมรับไว้ไม่ได้หรอกครับ พี่แตซองจ่ายให้ผมเฉพาะวันที่ผมมาทำงานดีกว่า ส่วนวันอื่นๆ ที่ผมอาสามาเองพี่ไม่ต้องให้ก็ได้ ผมยินดีทำให้ด้วยความเต็มใจนะครับพี่แตซอง"


"พี่รู้ว่าเก้าเต็มใจ แต่พี่ก็เต็มใจที่จะให้เก้าเหมือนกันนะ พี่ให้เงินน้องใช้ก็เป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ" พี่แตซองแย้ง


ผมรู้สึกตื้นตันใจจนน้ำตาปริ่ม "แต่มันมากไปครับพี่ พี่อย่าว่าผมนะครับ ผมรับไม่ได้จริงๆ ครับพี่ รับมาผมก็ไม่สบายใจ"


พี่แตซองเงียบไปเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง


"เก้ารู้ไหม ตั้งแต่พี่เกิดมา พี่ยังไม่เคยเจอใครที่ทำดีกับพี่ถึงขนาดนี้เลย แม้แต่คนที่พี่เคยแต่งงานด้วยเขาก็ยังไม่ห่วงพี่ขนาดนี้"


พี่แตซองหยุดพูดไปสักพัก ผมสังเกตุเห็นว่าพี่แตซองเหมือนจะร้องให้อยู่


"ตั้งแต่พี่กลายเป็นคนพิการ พี่รู้สึกเหมือนไม่มีใคร เหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก ทุกคนหนีหายกันไปหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งแฟนที่พี่เคยคิดว่าเรารักกันมาก เขาก็เป็นอีกคนที่จากพี่ไป พอได้เจอกับเก้าแล้ว พี่รู้สึกว่าชีวิตของพี่ไม่โดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อน ไม่เหงา หัวเราะได้ ยิ้มได้ มีความสุขมากขึ้น ทำให้พี่รู้สึกว่าพี่ยังมีใครสักคนที่จริงใจกับพี่อยู่"


ผมถึงกับยิ้มทั้งน้ำตาเลยครับ เป็นใครก็คงตื้นตันใจไม่แพ้ผมอย่างแน่นอน


"เหลืออีกแค่สัปดาห์เดียว เก้าก็ต้องไปแล้ว พี่คงไม่มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิด อาจจะไม่มีโอกาสได้ให้อะไรกับเก้าอีก เพราะฉะนั้น พี่อยากให้เก้ารับไว้ พี่ให้เพราะพี่อยากให้ เก้าไม่ต้องห่วงพี่เรื่องนั้นหรอก พี่อยากให้เก้า อยากตอบแทนเก้าเท่าที่พี่พอจะให้ได้ รับไว้นะครับ น้องชายคนดีของพี่"


พอพี่แตซองพูดจบ ผมก็โผเข้ากอดพี่แตซองทั้งๆ ที่นอนอยู่ พี่แตซองก็กอดผมตอบเช่นกัน


"ขอบคุณมากครับพี่ ผมจะใช้เงินนี้อย่างคุ้มค่าที่สุดครับ"


"ขี้แยนะเรา เห็นไหม...ทำเสื้อพี่เปียกเลย"


พี่แตซองสัพยอก ผมทำเสื้อพี่แตซองเปียกจริงๆ ครับ เปียกน้ำตาผมนั่นแหละ


"ก็พี่ทำให้ผมร้องไห้ทำไมล่ะ เดี๋ยวผมเอาทิชชู่มาเช็ดให้ครับ"


"ไม่ต้องหรอก" พี่แตซองรีบห้าม


"เก้าอย่าลืมกินข้าวเช้านะ อย่ามัวแต่ดูแลพี่จนลืมตัวเอง"


"ครับ พี่แตซองก็เหมือนกัน ผมว่าพี่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแน่เลย เชื้อโรคมันก็เลยถามหา พี่น่าจะออกกำลังกายบ้างนะครับ ให้ผมช่วยก็ได้ เดี๋ยวผมไปหาวิธีมาให้ พี่จะได้แข็งแรง"


"อืม คงจะใช่ ตั้งแต่พิการมา พี่ไม่เคยออกกำลังกายเลย เข็นรถก็แทบจะไม่ได้เข็นเอง" พี่แตซองเห็นด้วย


"ดีครับ อ้อ แล้วก่อนที่ผมจะกลับ พี่แตซองต้องไปบ้านน้าสาวผมนะ พี่แตซองสัญญากับแม่ผมแล้ว"


"ครับ ไปพรุ่งนี้เลยไหม"


"ก็ดีนะครับ ว่าแต่พี่หายดีแล้วเหรอ" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ


"ยัง ใจร้อนจังเลยนะเรา อีกสักสองสามวันก่อนดีกว่า ว่าแต่ว่า ตั้งแต่เก้ามาเกาหลี ได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือยัง ที่ไม่ใช่ประชุมนะ"


"ก็...ไปหลายที่อยู่ครับ ก่อนจะมาเป็น PA แล้วก็...ไปตึกหกสิบสามกับพี่แตซองไงครับ"


"อ้อ ถ้างั้น...เราไปเที่ยวกันก่อนกลับดีไหม เก้าเป็น PA พี่ก็จะเป็นไกด์ให้ อ้อ แล้วชวนแม่กับน้าสาวของเก้าไปด้วย"


"อืม ก็ดีเหมือนกันครับ ผมยังมีอีกหลายที่ที่อยากไปแต่ยังไม่ได้ไป"


ผมตอบรับพลางยิ้มดีใจจนแก้มแทบจะปริ แล้วคุยกันต่ออีกนิดหน่อยผมก็ขอตัวออกไปหาอะไรกินข้างนอก


ตอนเย็นๆ พี่แตซองก็สามารถกลับบ้านได้แล้วครับ มีแม่กับพี่สาวมารับเพราะน้องชายไม่ว่างมา ตอนอยู่ในรถ พี่แตซองบอกแม่ด้วยครับว่ามีน้องชายเพิ่มอีกคน ช่วยทำให้ผมเข้ากับคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น เมื่อดูแลสารทุกข์สุกดิบกันเรียบร้อยแล้ว แม่กับพี่สาวของพี่แตซองก็กลับไปราวๆ สองทุ่มกว่า พอทุกคนกลับไปมหดแล้ว ผมก็รีบเดินมาบอกพี่แตซอง


"วันนี้ผมไม่กลับ ห้ามบอกให้ผมกลับบ้านนะครับ"


พี่แตซองก็ขำใหญ่เลยครับที่ผมรู้ทัน


"ใครว่าล่ะ วันนี้พี่ไม่ให้กลับหรอก ยังต้องการคนดูแลอยู่" พี่แตซองตอบกลับพร้อมกับยิ้มกว้าง


"ก่อนจะอาบน้ำ ออกกำลังกายก่อนไหมครับ" ผมเสนอ พี่แตซองทำหน้างง


"อะไรนะ ออกกำลังกายเหรอ ทำยังไงครับ"


"เดี๋ยวก็รู้ครับ ผมมีวิธี"


แล้วผมก็ช่วยพาพี่แตซองขึ้นไปนอนบนเตียง ผมขึ้นไปนั่งบนเตียงด้วย แล้วก็อธิบายว่าผมจะทำอะไรบ้าง เริ่มด้วยการออกกำลังกายขาด้วยการจับปลายขาพี่แตซองยกขึ้นลง รวมทั้งจับงอแล้วเหยียดตรง ผมก็คิดของผมเองครับ ไม่ได้เชี่ยวชาญมาจากไหนหรอก แค่อยากช่วยให้พี่แตซองแข็งแรงขึ้นเท่านั้นเอง แต่ไม่ใช่เพราะต้องการให้หายพิการนะครับ


ผมช่วยพี่แตซองออกกำลังกายอยู่ประมาณสิบกว่านาที เหงื่อของผมเองก็เริ่มออกเหมือนกัน ก็เหนื่อยเอาการอยู่แต่ก็กลั้นใจทำ แล้วผมก็สังเกตุเห็นว่าพี่แตซองมองผมด้วยสาตาแปลกๆ เหมือนคอยสังเกตุและคิดอะไรบางอย่างอยู่


"เหนื่อยหรือเปล่าเก้า พักก่อนดีไหม" พี่แตซองบอก


"ไม่เป็นไรครับ" แต่ก่อนที่จะพูดอะไรต่อ พี่แตซองก็บอกด้วยเสียงที่เข้มขึ้นว่า


"พอก่อนเถอะ"


ผมก็เลยต้องหยุดครับ วางขาของพี่แตซองลง พี่แตซองใช้มือสองข้างยันตัวลุกขึ้นนั่ง สายตาเราอยู่ในระดับเดียวกัน และที่สำคัญคือเรานั่งในตำแหน่งใกล้กัน จนผมสัมผัสได้ถึงกลิ่นแห่งความอบอุ่น ผมรู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูกเมื่อพี่แตซองสบตาผมและจ้องมองเหมือนค้นหาอะไรบางอย่าง


"เก้า..." พี่แตซองเรียกชื่อผม แล้วเงียบไปสักพักเหมือนกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่าง


"พี่มีอะไรบางอย่างจะบอกเก้า พี่คิดมานานแล้ว และพี่คิดว่าพี่ควรจะบอกก่อนที่เก้าจะกลับไป"


คราวนี้ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำเลยครับ ผมเดาไม่ออกจริงๆ ว่าพี่แตซองจะบอกอะไรหรือคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น แต่แววตาและท่าทางแปลกๆ อย่างนี้ทำให้ผมหวั่นไหวมากเลยล่ะ


"พี่กำลังรู้สึกว่า...เอ่อ...พี่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ แต่พี่ โอย...จะบอกยังไงดี"


เรายังคงสบตากันอยู่ แล้วจู่ๆ สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นครับ เมื่ออยู่ดีๆ พี่แตซองก็ใช้มือโอบคอผมแล้วดึงผมเข้าไปจูบ ผมตกใจมากในตอนแรก แต่ก็ตอบสนองด้วยดีในตอนหลัง ไม่นานนักพี่แตซองก็ปล่อยผมเป็นอิสระ ตอนนั้นผมทั้งอาย เขินและตกใจ ถูกจูบเข้าไปแล้วก็ได้แต่นั่งอ้าปากค้าง


"พี่ขอโทษ พี่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร พี่สับสนมาก แต่นี่คือสิ่งที่พี่อยากบอกเก้า"


พี่แตซองบอกด้วยเสียงสั่นๆ ปนกับเสียงหอบหายใจ


"เวลาที่อยู่กับเก้า ความรู้สึกมันเหมือนกับเวลาที่พี่เคยอยู่กับแฟนเก่าของพี่ พี่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่พี่คิดว่าพี่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ พี่ไม่ได้คิดไปเอง"


ผมลึงมากกว่าเก่าอีกครับเมื่อได้รู้ถึงความรู้สึกของพี่แตซองที่มีต่อผม จนคิดว่าตัวเองหูฝาดไป


"พี่รู้ว่าเก้าอาจจะรับไม่ได้ พี่เองก็ทำใจลำบากมาก คิดไปมาอยู่หลายครั้งว่ามันคืออะไรกันแน่ ทำไมพี่รู้สึกแบบนี้ พี่เป็นผู้ชาย ทำไมพี่ต้องรู้สึกแบบนี้กับเก้า บางวันพี่เครียดมากจนแทบไม่ได้นอนเพราะคิดเรื่องนี้ พี่ถามตัวเองอยู่หลายครั้งว่ามันคืออะไร ถามแล้วถามอีก จนวันนี้พี่คิดว่าพี่พอจะรู้แล้วว่ามันคืออะไร เก้าน่าจะรู้ใช่ไหมว่าพี่เป็นคนตรงและซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง สิ่งที่พี่จะพูดต่อไปนี้ก็เป็นความจริง...ที่พี่เองก็ปฏิเสธไม่ได้"


พี่แตซองเว้นจังหวะไปสักพัก กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่เหมือนกับว่ากำลังจะพูดเรื่องที่สำคัญมาก


"พี่คิดว่า...พี่กำลังชอบเก้าอยู่"


ผมอ้าปากค้างเป็นรอบที่สอง แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปาก


"บางครั้งพี่ก็เคยสงสัยว่าเก้าคิดอะไรกับพี่หรือเปล่า เก้าดีกับพี่มาก มากจนเกินกว่า PA เกินกว่าน้องชายหรือเพื่อน เก้าคิดอะไรกับพี่อยู่หรือเปล่า"


พี่แตซองย้อนมาถามผมบ้าง แต่ผมก็มัวแต่อึ้งอยู่ครับ จนเหมือนฟังไม่ได้ยินคำถาม


"บอกพี่มาตามตรง พี่บอกความรู้สึกของพี่ไปแล้ว เก้าก็ต้องบอกพี่ด้วย"


คราวนี้ผมจึงค่อยๆ รู้ตัว มองหน้าพี่แตซอง จ้องตาและค่อยๆ เผยอยิ้มให้


"ผมก็ชอบพี่ครับ ชอบตั้งแต่วันแรกที่ได้รู้จักกันแล้วครับ"


แล้วผมก็โผเข้ากอดพี่แตซอง น้ำตาผมไหลพรากลงมาด้วยความตื้นตันใจ ในที่สุดผมก็ได้พูดในสิ่งที่ผมอยากพูดเสียทีหลังจากที่รอมาเกือบๆ สองเดือน


"ขอบคุณนะครับที่เก้าไม่รังเกียจพี่"


"ขอบคุณพี่แตซองด้วยครับที่รู้สึกดีกับผม ผมเองก็ไม่คาดคิดว่ามันจะมีวันนี้"


พี่แตซองกอดตอบพลางเอามือลูบหลังผมไปด้วย


"เก้า พี่ไม่รู้ว่าพี่จะจัดการตัวเองยังไง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ตอนนี้พี่ก็ยังสับสนกับตัวเองอยู่ อีกไม่กี่วันเก้าก็จะไปแล้ว พี่คงคิดถึงเก้ามาก รู้ไหมว่าพี่เคยคิดถึงเก้ามากแค่ไหน พี่อยากคุยกับเก้ามาก ตอนที่อยู่ซกโช จำได้ไหมว่าเราออกมาคุยกันตอนดึกๆ วันนั้นพี่เองก็ไม่ค่อยสบายหรอก แต่พี่อยากคุยกับเก้ามาก เวลาคุยกับเก้าแล้วพี่สบายใจแล้วก็...มีความสุขมากที่ได้คุยกันหรือเจอกัน พี่มีความสุขเวลาเก้ามาอยู่ใกล้ๆ พี่ อ้อนพี่ เล่นกับพี่"


"จริงๆ วันนั้นผมก็คิดถึงพี่แตซองมาก พี่รู้ไหม...แค่คุยกันน้อยลง ทั้งๆ ที่อยู่ในงานเดียวกัน เจอกัน ผมยังคิดถึงพี่เลย" ผมถือโอกาสบอกบ้าง


"พี่เห็นแล้ว เห็นสายตาที่เก้ามองพี่ พี่ก็พอดูออกว่าเก้ารู้สึกยังไง" พี่แตซองพูดพลางขำ แล้วเราก็ค่อยๆ ปล่อยอ้อมแขนออกจากกัน


"ทำไมเก้าถึงชอบพี่ล่ะ"


พี่แตซองถามพลางจ้องหน้าผม จับไหล่ทั้งสองข้างของผมไว้เหมือนจะไม่ให้หลบสายตาไปไหน ถึงว่าล่ะ ทำไมก่อนพิการถึงได้มีสาวๆ เยอะ เชี่ยวชาญและคารมดีแบบนี้นี่เอง สาวคนไหนหลงติดกับก็คงหนีไปไม่ได้


"ไม่รู้เหมือนกันครับ ตอนแรกที่เห็น รู้สึกว่าพี่เป็นคนพิการที่หล่อมากในสายตาผม ผมไม่เคยเห็นคนพิการแบบนี้มาก่อนเลยครับ คนพิการที่ผมเจอมีแต่น่าสงสาร มอมแมมหรือยากจน แล้วพอได้รู้จักกันมากขึ้น ผมก็รู้สึกว่าพี่แตซองเป็นคนดี เป็นพี่ชายที่น่ารัก แม้ว่าบางครั้งจะดุผมบ้าง แต่ผมก็ไม่โกรธพี่หรอก เพราะพี่ไม่ได้ดุผมเพราะว่าไม่ชอบผม แต่ดุเพราะว่าพี่อยากสอนผม ที่สำคัญ ผมว่า...พี่แตซองเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก ผมก็เลยชอบพี่"


พูดถึงตรงนี้พี่แตซองก็ขำแล้วก็เอามือลูบหัวผมเล่น


"รู้ไหมครับว่าเวลาพี่ทำอย่างนี้ ผมมีความสุขแล้วก็รู้สึกอบอุ่นใจมาก"


"จริงๆ เก้าเป็นคนน่าเอ็นดูนะ พี่รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ เก้าเป็นเด็กน่ารัก จนพี่...."


แล้วพี่แตซองก็ทิ้งตัวลงนอน


"อา...เก้า พี่รู้สึกโล่งใจมากที่พี่ได้พูดสิ่งที่พี่อยากพูด พี่เครียดมาหลายวันแล้ว วันนี้พี่มีความสุขมาก มีความสุขจริงๆ"


"ผมก็มีความสุขเหมือนกันครับพี่แตซอง"


ผมตอบพลางยิ้มดีใจอย่างมีความสุข แล้วพี่แตซองก็ดึงมือผมลงไปนอนข้างๆ พี่แตซองครับ ผมก็ดันเหลือบมองไปเห็นตรงนั้นของพี่แตซองมัน...ขึ้นมาจนสังเกตุเห็นได้ครับ แสดงว่ายังใช้การได้อยู่ เพราะพี่แตซองไม่ได้พิการรุนแรงมาก เพียงแต่มีปัญหาในการทรงตัวนั่นเอง เอ...พี่แตซองจะทำอะไรผมเนี่ย ผมเขินอายจนหน้าแดงเลยครับ


"พี่ไม่บังคับอะไรเก้าหรอกนะ แค่ได้อยู่ใกล้ๆ กันพี่ก็มีความสุขแล้ว เก้าไม่ต้องฝืนใจหรอกถ้าเก้าไม่ต้องการ"


พี่แตซองบอกเหมือนรู้ทัน ผมล่ะเชื่อเลยครับ มิน่าล่ะถึงได้คุยนักคุยหนาว่ามีสาวๆ มาชอบเยอะ เจอคารมแบบนี้เข้าไปก็คงอ่อนระทวยกันหมด แล้วผมจะเหลือเหรอครับ


"ถ้าผมเต็มใจจะทำให้พี่มีความสุขล่ะครับ" ผมถามกลับด้วยสายตาเป็นประกาย พี่แตซองยิ้มแล้วค่อยๆ เลื่อนศีรษะเข้ามาใกล้ๆ ผมแล้วก็พูดเบาๆ ว่า


"ก็แล้วแต่เก้าละกัน"


TBC
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 25-03-2012 12:04:30
อ๊ากกกกกกกกก ,, เขินเลย >///<
รู้ใจกันแล้วแบบนี้ ไม่อยากให้เก้ากลับเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jubujubu ที่ 25-03-2012 12:12:14
เปิดใจกันแล้ว  ดีจังเลย  แอบเขินแทนเก้านะเนี้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 25-03-2012 12:17:12
ขอเวลานอกสักครู่
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

 o13

บอกความรู้สึกออกไปแล้ว

แต่ ไม่อยากนึกถึงวันที่ต้องห่างกันเลย T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 25-03-2012 12:30:52
ว้าว~มีความสุขด้วย :impress2:
แต่ทิ้งท้ายได้.. :z1: แบบว่าลุ้น 555
อยากอ่านต่อมากกก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: missu2 ที่ 25-03-2012 12:31:49
 :impress2: อ่านแล้วมีความสุขจัง

ใจตรงกันแล้ว  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 25-03-2012 12:40:00
ตอนอยู่ใน รพ เราน้ำตาซึมเลยอ่า T-T แถมตอนนี้ก็อุตส่าห์รู้ใจกันแล้วด้วย
ไม่อยากให้กลายเป็นแค่ความทรงจำที่ดีเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 25-03-2012 12:57:28
อ๊ายยยย เค้ารู้ว่าใจตรงกันเเล้วววววววว ว ว ววววว
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 25-03-2012 13:39:47
ให้ตายเหอะ,,,เขินนนนนน

 :-[

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 25-03-2012 13:40:23
ใจตรงกันมาสักพักแล้วสินะ พี่เค้าแค่สับสนเอง!!

ตอนหน้าจะเป็นยังไงนะ!! อยากให้ถึงพรุ่งนี้ไวๆจัง!!  :o8:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 25-03-2012 14:06:40
อ่า เขิน
พี่แตซองเป็นผู้ชายที่น่ารักมาก
 :-[ :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 25-03-2012 14:12:12
ดีจังที่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง ซื่อสัตย์กับตัวเอง แล้วได้ความรักกลับมา :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 25-03-2012 14:19:00
กรี๊ดดดดดดดดดด......
ดีใจที่ทั้งสองต่างก็ได้เปิดใจให้กันแล้ว
เก้าทำวันที่เหลืออยู่นี่ให้ดีที่สุดล่ะกัน สร้างความสุขให้บังเกิดกับเก้าและพี่แตซองให้มาที่สุดนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 13, 24-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 25-03-2012 14:45:58
 :m3: พี่แตซองน่าร๊ากกกก....... เค้าสารภาพรักกันแล้ววว...คิคิ
ไม่คิดว่าจะมีช่วงเวลานี้เลยจริงๆ ดีใจกับน้องเก้าที่พี่แตซองก็คิดเหมือนกันกับน้องเก้า

แต่ก็แอบเศร้า ใกล้จะถึงเวลาที่เก้าจะกลับแล้ว อีกสัปดาห์เดียวเท่านั้น
ไม่อยากให้ถึงเวลานั้นเลยยยยย........งื้ออออออ..............

 :m15: :sad4: :o12:

 +เป็ดน้อย  :L2: :L2: ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: misso ที่ 25-03-2012 15:00:16
อ่าฮะ ในที่สุดก็บอกความในใจกันนะ

อืม นี่เป็นความรู้สึกส่วนตัวของเรานะ เราไม่ชอบคำว่า คนพิการ เลยค่ะ  แล้วตอนหนึ่งก็ใช้คำนี้เยอะมากๆ

:เฮ้อ:

เราเคยได้ฟังมาว่า ให้ใช้คำว่า ผู้พิการ ดีกว่า เพราะเขาเป็นคนปกติเหมือนเราทุกอย่างนี่แหละ แค่พิการเท่านั้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 25-03-2012 15:03:38
ใจตรงกันแล้ว
เขินแทนเก้าอะ
รอตอนหน้า....ตอนหน้าจะมีแบบนี้ :oo1: ไหมอะ
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 25-03-2012 16:16:35
กี๊ซซซซซซ  :-[  ตอนนี้อ่านแล้วมีความสุขอ่ะ
ไม่อยากคิดเลยถ้าเก้ากลับไปแล้วจะทำยังไงอ่ะ
โธ่ กว่าจะรู้ใจกันก็ใกล้กลับแล้ว
รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 25-03-2012 16:42:16
โอ๊ย...โล่งแทน สุดท้ายก็คงเอยกันได้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 25-03-2012 16:55:50



อ่านไปตีขาตัวเองไป น่ารักมากกกค่ะ รู้ว่าค้าวอะ

หื่นไปป่าว อยากอ่านตอนเค้า ......... กันอะ แอร๊ยยยย เขินน >< :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tame_tin ที่ 25-03-2012 16:58:11
ใจตรงกันด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Pamphlet ที่ 25-03-2012 17:42:23
ดีจังเลยค่ะที่ทั้งคู่ใจตรงกัน...
แต่อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วใช่ไหมคะ ยังไม่อยากให้จบเลยยยย ><
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 25-03-2012 18:18:50
ในที่สุด!! เก็บเกี่ยวเวลาช่วงนี้ไว้เยอะนะคะ
เป็นกำลังใจให้♥ จบตอนแบบส่อๆ 5555
รอตอนต่อไปค่าาาา
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 25-03-2012 19:11:04
บอกได้คำเดียวว่า เขินนนนนนนนนนนน
อ่านไปอายไป รู้สึกดีจังที่สองคนใจตรงกัน
นับถือพี่แตซองเลยที่กล้าบอกเก้า
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 25-03-2012 19:50:33
เย้ยย อะไรกั๊นน
บอกชอบกันวันแรก ชม.แรก ก็มีอารมณ์กันแล้วเหรอ
นี่ิอิพี่แตซองมันรู้สึกชอบ หรือมีอารมณ์กันแน่ว่ะครับ
พูดขนาดนี้ น้องมันคงยอมหมดล่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 25-03-2012 20:11:02
ตามอ่านเสียหลายตอน แถมตอนนี้ก็ลุ้นมากมาย :haun4:
ดีใจจังเลยที่ใจตรงกันแล้ว ไม่ว่าใครก็ต้องตกหลุมรักเก้านะคะ เพราะเก้าเป็นคนน่ารักจริงๆอย่างที่พี่แตซองว่า
แต่เห็นบอกว่าพี่แตซองหน้าคล้ายพี่ชาย (ซงซึงฮยอน) แสดงว่าหล่อมากเลยนะนั่น เค้าแอบกรี๊ด พี่ชายยยย :m3:
ตอนหน้าต้องเตรียมทิชชู่ไหมอ่ะ คริๆ :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 25-03-2012 20:34:59
เหอๆ พอบอกรักกันปุ๊บ ก็...เลยนะ
เชื่อว่าไม่จบแบบดราม่าหรอก เพราะความรักที่สองคนนี้มีให้กันมันเกินอารมณ์หลงใหลชั่วครู่ชั่วคราวแล้วล่ะ
ความดีของเก้าเอาชนะใจพระเอกเกาหลีได้จริงๆ กรี๊ด
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 25-03-2012 21:06:28
ดีจังที่พี่แตซองใจตรงกับเก้า พี่แตซองนี่ก็หวานเป็นเหมือนกันเนอะ   :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 25-03-2012 23:07:21
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย

ทำไงดีอะ....หุบยิ้มไม่ได้ :-[

เค้าสารภาพรักกันแล้ว

อยากอ่านตอนต่อไปอ่า :serius2:

 :กอด1: :L2:ให้คนโพสกับคนแต่งนะคะ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: naomiya01 ที่ 26-03-2012 03:05:14
ว๊ายๆๆ  บอกรักกันแล้ว
แต่แหม! คุณพี่แตซองนี่ก็...ไม่ใช่เล่นเลยนะคะ
บอกรักไม่ทันไรก็....ซะแล้ว

แอร๊ยย!!
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
(เตรียมทิชชู)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 26-03-2012 06:53:10
แล้วทั้งสองคนก็รับรู้ถึงความรู้สึกของกันและกันสักทีนะ
ว่าแต่...พี่แตซองแอบหื่นนะเนี่ย
 :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 14, 25-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 26-03-2012 06:59:32
 เรื่องการใช้คำว่า "คนพิการ" นั้นผมถามเจ้าของเรื่องแล้วครับ เขาให้ใช้คำนี้
มันมีความแกร่ง แข็งแรง จริงใจและดูเป็นมนุษย์เหมือนคนทั่วไป
การใช้คำว่า "คน" ก็เพื่อที่จะบอกว่าคนพิการเป็น "คน" นั่นเอง
ส่วน "ผู้พิการ" เป็นคำสุภาพ ดูมีมารยาท เสแสร้ง บางครั้งก็เลยเถิดไปคล้ายๆ ผู้ป่วย
คนพิการเขาบอกว่าเขาไม่ได้ป่วย ก็เลยไม่อยากใช้คำนี้ครับ
ผมก็ลองไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมาบ้าง ก็เลยรู้ว่าในกฎหมายก็ใช้คำว่า "คนพิการ" ไม่ใช่ "ผู้พิการ" ครับ
แต่ก็คงแล้วแต่เราจะสะดวกใจว่าจะเรียกแบบไหน


▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 15 ◉☥ ช่วงเวลาสุดท้าย


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


ทุกคนคงคิดไปไกลแล้วว่าผมคงมีอะไรกับพี่แตซองแล้ว ยังหรอกครับ พอถึงบทจะทำจริงๆ ขึ้นมา พี่แตซองก็บอกว่า


"อย่าดีกว่าเก้า พี่ไม่อยากให้เก้าเข้าใจว่าพี่เป็นคนเห็นแก่ได้ ถึงแม้ว่าเก้าจะเต็มใจก็เถอะ"


ผมก็เลยต้องหยุดครับ แอบเซ็งเล็กน้อย ใครว่าล่ะ ต่างคนต่างได้ต่างหาก แต่ก็รู้สึกตื้นตันใจที่พี่แตซองเป็นสุภาพบุรุษ ช่างเป็นพี่ที่น่ารักเสียจริงๆ เลย


"ครับ"


"คิดๆ ไปแล้ว พี่ก็รู้สึกเหมือนคนเสียสติ พี่ไม่เคยคิดเลยว่าในชีวิตนี้จะสามารถชอบผู้ชายด้วยกันได้ ในสังคมเกาหลี พี่ถูกสอนให้เป็นผู้ชาย และถ้าผู้ชายคนไหนเป็น...เอ่อ...ทำตัวเหมือนผู้หญิง เขาก็จะถูกรังเกียจอย่างมาก พี่ก็คิดว่าพี่เป็นผู้ชายนะเก้า แต่พี่ก็ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย ทำไมมันถึงเกิดกับพี่ได้ก็ไม่รู้เหมือนกัน"


พี่แตซองพูดเหมือนเพ้อ ผมก็เข้าใจพี่แตซองอยู่หรอก พี่แตซองคงสับสนอย่างมาก ผมเองก็เชื่อว่าพี่แตซองเป็นผู้ชาย เท่าที่รู้จักกันมา พี่แตซองก็ไม่ได้มีท่าทางหรือพฤติกรรมใดที่ส่อว่าจะไม่ใช่ผู้ชายเลย


"แต่เลิกคิดดีกว่า มันเกิดขึ้นแล้ว คงไม่มีประโยชน์ที่จะไปพูดถึงมัน สิ่งที่ต้องคิดต่อไปก็คือเราสองคนจะทำยังไงต่อไปดี... ใช่ไหม"


พี่แตซองหันหน้ามาถามผม


"ตอนนี้ผมก็ยังคิดอะไรไม่ออกเหมือนกันครับ"


"อืม...เอาไว้ค่อยคิดละกัน ตอนนี้พี่อยากอาบน้ำแล้วล่ะ"


"ครับ" ผมตอบรับแล้วก็ถามไปถึงอีกเรื่องหนึ่ง


"พี่แตซอง พรุ่งนี้พี่คุยกับที่ศูนย์หน่อยได้ไหมครับว่าผมจะขอมาเป็น PA พี่ทุกวันจนถึงวันที่ผมกลับ"


พี่แตซองพยักหน้า คงเข้าใจที่ผมบอกเป็นอย่างดีว่าทำไม ผมช่วยพยุงพี่แตซองลุกขึ้นนั่งเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำแล้วก็ทำท่าสูดดม หลับตาพริ้ม


"พี่แตซองตัวหอมจังครับ อุ่นด้วย"


"หอมหรือเปล่าไม่รู้ แต่อุ่นอาจจะใช่ เพราะพี่ยังไม่หายไข้ดีนี่นา" ตอบพร้อมขำ ผมก็เลยขำไปด้วย


พออาบน้ำเสร็จ ผมก็อาบบ้างครับ ตอนนอน ผมก็เลยได้นอนกอดพี่แตซองทั้งคืนเลยครับ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ผมมีความสุขจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าความรักครั้งแรกของผมจะเกิดที่ต่างประเทศแถมยังเกิดกับคนพิการอีกต่างหาก ช่างเถอะ ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นใคร ถ้าเขาเป็นคนที่ผมควรจะรักผมก็จะรัก


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


วันรุ่งขึ้น มีเรื่องให้ผมเซ็งและงอนเล็กน้อยเพราะพี่แตซองมีเพื่อนมาหาเต็มบ้านเลย คนที่ไม่ได้มาหาตอนอยู่โรงพยาบาลก็มาหาวันนี้แทน ที่ทำให้ผมเซ็งมากก็คือมีผู้หญิงคนหนึ่งมาคนเดียวแล้วก็คุยกับพี่แตซองเสียนาน ดูท่าทางจะคุยกันถูกคอมาก อย่างว่าแหละนะ ยังไงพี่แตซองก็เป็นผู้ชาย ผู้ชายก็คือผู้ชาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายพิการหรือไม่พิการก็เป็นผู้ชายอยู่ดี อ้อ เราไม่เรียกว่าผู้ชายปกตินะครับ เพราะถ้ามีผู้ชายปกติ ก็ต้องมีผู้ชายผิดปกติ พี่แตซองบอกผมว่าคนพิการไม่ใช่คนผิดปกติ แค่มีความแตกต่างทางกายภาพเหมือนที่เราทุกคนก็ต่างกันอยู่แล้ว


พี่แตซองคงดูออกว่าผมรู้สึกยังไง พอเพื่อนผู้หญิงคนนั้นไปแล้วก็เข็นวีลแชร์มาบอกผมว่า


"อย่าคิดมาก"


สั้นๆ แต่ได้ใจความ ผมก็เลยยิ้มแหยๆ รู้สึกผิดที่ตัวเองคิดอกุศลมากเกินไป แถมพี่แตซองยังรู้ทันอีก


"เดี๋ยวตอนบ่ายๆ พี่จะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตนะครับ ไม่ได้อยู่หลายวัน ไม่มีอะไรกินเลย"

 
ผมพยักหน้ารับรู้ ออกไปข้างนอกก็ดีเหมือนกัน ผมชอบไปซื้อของในซุเปอร์มาร์เก็ตกับพี่แตซอง ว่างๆ เราก็ทำอาหารกินกันเองด้วย


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ตอนไปซื้อของ มีอะไรแปลกๆ นิดหน่อย ผมก็ไม่เคยคิดว่าคนพิการจะเจออะไรแบบนี้ด้วย มีป้าแก่ๆ คนหนึ่งเดินเข้ามาทักพี่แตซอง ดูแกจะทึ่งมากที่เห็นคนพิการออกมาซื้อของข้างนอกได้ แถมยังหาว่าผมเป็นคนใช้ของพี่แตซองเสียอีก มีประโยคหนึ่งที่ป้าแกพูดแล้วทำให้พี่แตซองไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ประมาณว่า

 
"โถ...หน้าตาก็หล่อเหลา เสียดาย...ไม่น่าพิการเลย"

 
ตามประสาคนคิดยังไงก็พูดทันที พี่แตซองก็เลยตอบกลับด้วยเสียงเข้มๆ หน้าดุๆ

 
"ไม่น่าเสียดายหรอกครับ ผมมีความสุขกับชีวิตผมดีครับ" ว่าแล้วพี่แตซองก็บอกให้ผมพาไปซื้อของตรงบริเวณอื่นแทน

 
ผมว่าจริงๆ หลายคนคิดแบบนี้นะครับ ความพิการมักถูกเอาไปเปรียบเทียบกับความโชคร้ายหรือเรื่องที่ไม่ดี อย่างเช่น เรามักชอบพูดกันว่าความรักทำให้คนตาบอด รถติดเป็นอัมพาต ปัญญาอ่อน ถ้าพิการแล้วก็ถือว่าโชคร้ายและจะมีชีวิตที่ไม่น่าพึงประสงค์ ในละครไทยเอง ตัวเอกที่กลายเป็นคนพิการก็มักจะหายจากความพิการในตอนจบ ในขณะเดียวกันตัวร้ายบางคนก็ถูกลงโทษให้กลายเป็นคนพิการ เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าความพิการคือสาเหตุของชีวิตที่ไม่มีความสุข เป็นสิ่งที่คนไม่พิการคิดเดาเอาเองทั้งนั้น


พอผมได้รู้จักกับพี่แตซองก็คิดว่ามันไม่ใช่หรอก คนพิการก็สามารถมีชีวิตที่มีความสุขได้ ไม่ต้องไปพยายามหรือเสียเวลาไปกับการทำตัวเองให้หายพิการ เพราะบางทีมันก็เสียเวลาเปล่า แทนที่จะเสียเวลาฟื้นฟูเป็นสิบยี่สิบปี เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า

 
"พรุ่งนี้ไปบ้านน้าสาวผมไหมครับ" ผมถามพี่แตซองขึ้นขณะช่วยกันเลือกซื้อของสด

 
"ถ้าสะดวกพี่ก็ไปได้ครับ"


พี่แตซองพูดจบผมก็ยิ้ม แล้วก็โทรไปบอกแม่ให้เตรียมตัวเดี๋ยวนั้นเลย ผมอยากให้พี่แตซองลองกินอาหารไทยฝีมือแม่ผม น้าสาวผมบอกว่าจะให้น้าเขยพาไปเที่ยวด้วยครับเพราะว่าเป็นวันหยุดพอดี คิดแล้วก็น่าตื่นเต้นไม่น้อยที่ผมจะพาพี่แตซองไปเที่ยวกับครอบครัวของผมเอง


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

 
วันต่อมา ตอนเช้า ผมพาพี่แตซองมาที่บ้านน้าสาว ทุกคนดูตื่นเต้นกันใหญ่เลย น้าเขยของผมอุตส่าห์ไปหาไม้มาทำทางลาดตรงทางเข้าบ้านให้เพื่อให้พี่แตซองเข้าได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องยก พี่แตซองรู้สึกประทับใจมากทีเดียว แม่กับน้าสาวของผมก็อุตส่าห์ไปหาซื้อของมาทำอาหารไทยหลายอย่าง ผมบอกให้แม่ทำต้มยำไก่เป็นอาหารพิเศษเพราะพี่แตซองไม่ชอบกินกุ้ง แม่พยายามทำอาหารให้เป็นรสชาติแบบไทยๆ ให้มากที่สุดเพราะพี่แตซองอยากลองกินอาหารไทยแท้ๆ เพราะได้ยินกิตติศัพท์มานานจนอยากรู้ว่าอาหารไทยเผ็ดแค่ไหน พอกินจริงๆ พี่แตซองก็ชอบมากครับ ยอมรับว่าอาหารไทยเผ็ดร้อนจริงๆ โดยทั่วไปคนเกาหลีก็จะไม่กินเผ็ดขนาดนี้

 
พอสายๆ น้าเขยผมก็พาพวกเราไปเที่ยวที่ซูวอนกันครับ อยู่ไม่ไกลจากโซลมากเท่าไหร่ เราไปกันที่พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเกาหลี ภายในนั้นจะมีบ้านเกาหลีโบราณ จำลองวิถีชีวิตของคนเกาหลีในสมัยก่อนไว้ มีลานกว้างๆ สำหรับแสดงศิลปะพื้นบ้านของชาวเกาหลีด้วยครับ เราไปถึงก็เที่ยงเศษๆ ก็เลยไปหาข้าวกินกันก่อน มีร้านอาหารอยู่ตรงบริเวณทางเข้าพอดี ผมกับพี่แตซองสั่งอาหารอย่างเดียวกันมากินนั่นก็คือ "บิบิมบับ" คล้ายๆ ข้าวยำหรือข้าวคลุก ร้านนี้ทำอร่อยทีเดียว ผมชอบมากจนต้องกินสองชาม ปกติไม่กินเยอะขนาดนี้เลย

   
พอกินเสร็จแล้ว เราก็เดินดูไปตามจุดต่างๆ โดยมีพี่แตซองกับน้าเขยเป็นไกด์ให้ ถือว่าเป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสุขมากทีเดียว แม้ว่าตอนนั้นจะเริ่มรู้สึกใจหายมากแล้วก็ตาม อีกไม่กี่วันผมก็จะต้องกลับ แล้วผมจะทำอย่างไรดีกับความรักที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะทิ้งมันไปหรือเปล่า


ผมเองล่ะ ผมจริงจังกับความรักครั้งนี้มากแค่ไหน บางทีผมก็ยังตอบไม่ได้เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร พี่แตซองเองก็คงต้องคิดเหมือนกันว่าเดินทางไปกับความรักอย่างนี้ได้นานแค่ไหน ไม่แน่ว่ามันก็อาจจะเป็นแค่ความรู้สึกชั่ววูบหรือความหวั่นไหวเพียงชั่วคราวก็ได้ ไม่มีใครรู้หรอกครับว่าชีวิตจะพาเราไปทางไหน


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

 
ช่วงห้าวันสุดท้ายก่อนที่ผมจะกลับนั้น ผมกับพี่แตซองใช้เวลาด้วยกันค่อนข้างมาก โดยมากจะเน้นไปเที่ยวด้วยกันครับ อากาศกำลังดีเพราะเข้าใกล้ฤดูใบไม้ร่วง ใช้เงินไปเยอะเหมือนกันครับ พี่แตซองออกให้หมดเลย ไม่ยอมให้ผมออกซักวอน ผมก็ยอมและไม่ค่อยกล้าดื้อเท่าไหร่ ถ้าพี่แตซองเต็มใจให้แล้วขัดไปก็ไม่มีประโยชน์ ทำให้ผมยิ่งรู้สึกรักพี่แตซองมากขึ้น
 

จะว่าไปแล้ว ผมเองก็เคยแอบมีแฟนมาก่อนตอนสมัยมัธยมปลาย แต่ไม่ถึงกับรักหรอกครับ แค่ชอบกันเฉยๆ แล้วก็ไม่ได้ดูแลอะไรกันมากขนาดนี้ ตอนนั้นก็อาจจะไม่ค่อยเข้าใจความรักมากเท่าไหร่ด้วยแหละครับ แค่อยากลองมีแฟนกับเขาดูบ้าง พอไม่เวิร์กก็เลยเลิกกันไปแล้วก็หันมาตั้งใจเรียนดีกว่า แต่กับพี่แตซอง พี่แตซองเป็นผู้ใหญ่แล้ว ความรักครั้งนี้จึงดูจริงจังมากขึ้น ไม่ใช่แฟชั่นหรือแค่ความอยากลองเหมือนเด็กๆ แต่ก็ยังไม่ได้มีอะไรกันนะครับ

 
จนกระทั่งก่อนวันสุดท้ายที่ผมจะกลับ วันนี้คือวันที่เราต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างคุ้มค่ามากที่สุด ตอนเช้า ผมช่วยพี่แตซองอาบน้ำเช่นเคย แล้วก็ทำงานบ้าน ตอนเที่ยงเราก็ไปกินข้าวนอกบ้านกันที่ร้านอาหารใกล้ๆ ที่เราชอบไป ตอนบ่ายก็ไปดูหนังกันครับ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ไปดูหนังกับคนพิการ ตกเย็นก็กินอาหารเย็นด้วยกันในห้าง


เกือบๆ สี่ทุ่มจึงกลับมาที่คอนโด ผมรู้สึกใจหายเหมือนกันครับ วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้อยู่ในห้องนี้และได้ทำหน้าที่เป็น PA ให้กับพี่แตซอง จะว่าไปแล้ว พอเป็น PA พร้อมกับเป็นคนรู้ใจกันด้วยมันก็ทำให้ทำงาน PA ยากเหมือนกันนะครับ บางทีผมต้องคอยเตือนตัวเองว่ากำลังทำหน้าที่ PA อยู่ อย่าทำเกินกว่านั้น โดยเฉพาะการคิดแทน

 
"เก้า...อาบน้ำเสร็จแล้ว ขอพี่คุยด้วยหน่อยนะครับ"

 
เสียงพี่แตซองทำให้ผมรู้สึกตัว ผมหันไปมองแล้วก็ยิ้มเศร้าๆ รู้ดีว่าการคุยกันคืนนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

 
"ครับ ผมก็อยากคุยกับพี่แตซอง"

 
เรามองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอก มีทั้งความเศร้า สุข ใจหาย สับสนและกังวลปนกันไปหมด แต่ถึงกระนั้น การคุยกันคืนนี้คงเป็นการคุยกันที่มีความหมายมากที่สุดก่อนที่เราจะจากกันไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง


น่าใจหายใช่ไหมครับ มันก็น่าใจหายจริงๆ นั่นแหละ แต่สุดท้ายวันที่เราต้องจากกันก็คงต้องมาถึง ไม่ช้าก็เร็ว แล้วเราก็ไม่มีทางที่จะห้ามหรือหยุดโชคชะตาเช่นนั้นได้


TBC
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 26-03-2012 07:11:05
พึ่งคอมเมนต์ตอนที่แล้วเสร็จแล้วอ่านต่อเลย
อยากรู้จักว่าความรักของเก้ากับพี่แตซองจะเป็นยังไงต่อไป
ตอนหน้าตอนจบแล้วซินะเนี่ย
เร็วจัง
 :serius2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: jaymaza ที่ 26-03-2012 07:41:15
 :m15:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Peppermint ที่ 26-03-2012 08:08:14
เก้าจะกลับไทยเเล้วง่าาา TT
 :monkeysad: :sad11: :m15:
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 26-03-2012 08:30:41
เง้อออออ ~ ไม่อยากให้กลับแล้วก็ไม่อยากให้จบ T^T
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 26-03-2012 08:37:34
หว่า เพิ่งจะบอกรักกันไปเองน้า

แล้วทั้งคู่จะจริงจังกับรักครั้งนี้หรือเปล่า

ถ้าจริงจัง ก็น่าจะรอได้เพราะเก้าก็ต้องกลับไปเรียนใช่ไหม

แต่ะี่เเตซองก็สามรถไปหาเก้าได้นิใช่ไหม เพราะอยู่มี่นี้ก็ไม่ได้ทำอะไรมากมายย

อยากให้เป็นนิยายที่ตอนจบจะhappy ending
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 26-03-2012 08:48:32
เพิ่งจะบอกว่าใจตรงกัน
กลับต้องมาจากกันซะแล้ว
เศร้าอะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-03-2012 09:52:36
อ๊ากกก ไม่ชอบการจากลาเลย ไม่เศร้านะไ่ม่เศร้า :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: กระต่ายชมจันทร์ ที่ 26-03-2012 10:11:16
ผมว่าจริงๆ หลายคนคิดแบบนี้นะครับ ความพิการมักถูกเอาไปเปรียบเทียบกับความโชคร้ายหรือเรื่องที่ไม่ดี (เช่น ที่เรามักชอบพูดกันว่า ความรักทำให้คนตาบอด รถติดเป็นอัมพาต ฯลฯ) ถ้าพิการแล้วก็ถือว่าโชคร้ายและจะมีชีวิตที่ไม่น่าพึงประสงค์ ในละครไทยเอง ตัวเอกที่กลายเป็นคนพิการก็มักจะหายจากความพิการในตอนจบ ในขณะเดียวกันตัวร้ายบางคนก็ถูกลงโทษให้กลายเป็นคนพิการ เหมือนจะบอกเป็นนัยๆ ว่าความพิการคือสาเหตุของชีวิตที่ไม่มีความสุข เป็นสิ่งที่คนไม่พิการคิดเดาเอาเองทั้งนั้น

v

ชอบประโยคนี้มาก ๆ เลยค่ะ ตัวต่ายเองก็เคยคิดอย่างนั้นเหมือนกันว่าการถูกทำให้พิการเท่ากับเป็นการลงโทษคน ๆ นั้นแล้วแต่ต่ายเองก็คิดว่าคนพิการไม่ได้น่าสงสารขนาดนั้น เค้าเองก็คนแถมจากที่เคยไปสัมภาษณ์เค้าบางทียังเก่งกว่าตัวต่ายเองด้วยซ้ำ 55+

มันเหมือนเป็นความคิดสองด้านของต่ายที่ไม่เคยจับมาอยู่ด้วยกันมาก่อนจนเจอประโยคนี้นี่แหละค่ะ

ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่เขียนเรื่องดี ๆ แบบนี้มาให้อ่านกัน ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-03-2012 10:17:29
ถ้าต้องห่างกันจริงแต่ยังรักกันอยู่
คงไม่เป็นอุปสรรคกับทั้งคู่
เพียงแต่ว่าเรื่องนี้จะจบยังไง
พยายามทำใจไว้แล้วนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 26-03-2012 11:08:55
อารมณ์ ณ ตอนนี้ มันอาลัยอาวรณ์ ไม่อยากให้จากกันน่ะ :monkeysad:
จะเป็นไงต่อเนี่ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 26-03-2012 11:12:44
ใจหาย...เพิ่งบอกความในใจไปแต่ต้องมาจากกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 26-03-2012 11:56:19
 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 26-03-2012 12:08:17
เฮ้อ ใกล้แล้วสินะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 26-03-2012 12:20:27
 :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:


จะรออ่านต่อไปนะค่ะ


ชอบมากเลย

จะเป็นยังไงต่อละทีนี่ :impress3:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 26-03-2012 12:37:53
จะต้องจากกันจริงๆแล้วใช่ไหม
 :เฮ้อ: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 26-03-2012 12:40:48
ต้องจากกันแล้ว จริงๆหรอ  :impress3:

 :monkeysad: :o12:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: a_tapha ที่ 26-03-2012 13:12:05
ขอเวลากรี๊ดดดดดดก่อน  รอตอนหน้านะค่ะ  :-[
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: misso ที่ 26-03-2012 16:23:29
ค่ะ เราเข้าใจ พออ่านก็อืม จริงด้วยเนอะ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของคนว่าเราจะมองแบบไหน มองมุมนี้เราเห็นสิ่งนี้ มองอีกมุมหนึ่งก็เราเห็นอีกแบบ

เขาถึงอยากให้เราคิดบวก มองบวกนั่นเองเนอะ

ถ้าทำให้ขุ่นเคืองก็ขอโทษด้วยนะคะ

ปอล้อ ฮ่าๆ โดนกดลบครั้งแรก เอิ๊กกก :laugh:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 26-03-2012 17:21:24
 :o12:ขอร้องไห้ก่อนได้มะ...

จะจบแล้วอ่า...เค้าเพิ่งจะรักกันเองน้า

แต่อ่านเรื่องนี้แล้วทำให้คิดตามจริงๆค่ะ...รู้สึกเข้าใจคนพิการมากขึ้น...เพราะเราไม่เคยคิดในแง่มุมนี้มาก่อน

ก็จริงค่ะ...ส่วนใหญ่เราจะเปรียบเทียบว่า...ความรักทำให้คนตาบอด...แต่จริงๆแล้วใจเรายังไม่บอดนี่นา

ยังมีคนพิการอีกมาก...ที่เค้าใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข...อาจจะยิ่งกว่าคนที่ครบสามสิบสองอย่างเราๆซะอีก

 :L2:เป็นกำลังใจให้เหมือนเดิมนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 26-03-2012 18:36:38
่จะเป็นยังไงต่อไปน้า
รออ่านนะคะ
หวังว่า จะไม่เศร้าเกินไปนัก
ความรัก มักเป็นเช่นนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sweet98 ที่ 26-03-2012 19:14:33
ติดตามอ่านมาตลอด คนเขียนเล่าได้ดี เห็นภาพเลยค่ะ
เก่งมาก แต่จบเร็วจังเลยค่ะ กำลังสนุกเลย ขอบคุณสำหรับเรื่องดี ๆนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 26-03-2012 19:53:08
รู้สึกใจหายเหมือนกันนะเนี่ย  :sad4:
เก้าไม่ต้องกลับแล้ว
อยู่กับพี่แตซองที่นี่เลยสิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 26-03-2012 20:02:28
 :sad4: :o12: งื้ออ............ น้องเก้าจะกลับแล้ว
หลังจากนี้จะติดต่อกันอีกมั้ย???  ความรักครั้งนี้ อยากให้ทั้งคู่ดูแลรักษามันไว้ต่อไป
ความรัก ถึงจะเกิดได้ไม่ยาก แต่ความรักดีๆ ที่มีแต่ความหวังดีให้กันแบบนี้ มันหายากนะ

ใกล้จบแล้ว รู้สึกใจหายจริงๆ
ขอบคุณค่ะ +เป็ด :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: MokGaLaKom ที่ 26-03-2012 20:23:23
อ๊ากกก ไม่ได้ตามอ่านหลายวัน
ตอนนี้ใกล้จบแล้ว อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
ไม่สามารถหุบยิ้มได้เลย อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลออกมาซะงั้น
จะรอตอนต่อไปนะคะ 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 26-03-2012 20:42:16
.... แย่ละ  ความพิการ  มันทำให้คนเราทำอะไรลำบากขึ้น  แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นสาเหตุแห่งความทุกข์

ก่อนหน้านั้นไม้ได้คิดแบบนี้  ตอนนี้  ก็ยังเหมือนกัน  เพราะจะมีสักกี่คนที่พิการแล้วมีคนช่วย
แต่ตัวเอกของเรื่อง  ก่อนหน้านั้นก็ล้มฟาดพื้นบ่อยๆนี่  คนปกติที่ไหนกันชอบแบบนั้น
....  แต่ว่านะ  เราไม่ควรไปสงสารคนพิการ  แต่มองว่าจะทำยังไงให้เรารู้สึกว่าเขาเป้นคนปกติที่สุด
จะดีกว่า  ใช่ไหมนะ  เฮ้อ...  ต่างมุมมองจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 26-03-2012 20:56:32
 o13 อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นใจและทำให้ทัศนคติเกี่ยวกับคนพิการเปลี่ยนไป
พวกเขา ไม่จำเป็นต้องอยู่กับความทุกข์ แต่ก้อมีความสุขในแบบที่เป็น
ชอบคำว่าคน ที่บ่งบอกว่าฉันก็เป็นคน เช่นเดียวกับทุกคน ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกให้แตกต่าง
รักแม้อยู่ำไกล ก้อคือ รัก
ยังไงก้อขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาให้อ่านคะ หวังว่าจะต่อยาวๆๆ อย่าเพิ่งจบเลย
อยากรู้ว่าตอนนี้ ทั้งคู่ทำยังไงกับรักที่ห่างไกล  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 26-03-2012 21:47:31
ใจหายนะที่ทั้งคนกำลังจะจากกัน :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 27-03-2012 00:06:38
เพิ่งเข้ามาอ่าน(อีกละ) ค่ะ  :o8: เรื่องน่าติดตาม แล้วก็แหวกแนวมาก พอจะมองภาพคนพิการต่างๆออก
ที่เกาหลีนี่ถือว่าดีมากเลย ไปตามมูลนิธิในไทยเนี่ย สภาพความเป็นอยู่อาจจะดี แต่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติแบบนี้
อ่านเรื่องนี้แล้วได้มุมมองแง่คิดใหม่ๆ ทำให้อยากลองทำอะไรแบบนี้มั่ง เป็นประสบการณ์ชีวิตซักครั้งนึง
+เป็ดให้ค่ะ
 :pig4: นะคะ สนุกมากๆเลย ใกล้จะจบแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 27-03-2012 00:55:49
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 16 ◉☥ วันแห่งการจากลา


(http://s5.postimg.org/6ecbreet3/love_pwd.jpg)


เหตุผลหนึ่งที่ผมนำเรื่องนี้มาเผยแพร่ก็เป็นเพราะว่าผมอยากให้ทุกคนได้มีมุมมองใหม่ๆ ต่อคนพิการ เรามักมีภาพคนพิการที่น่าสงสาร ไร้ความสามารถ ไม่หล่อ ไม่สวย ยากจนหรืออะไรทำนองนี้ ก็เลยอยากช่วยให้เห็นมุมมองอื่นๆ บ้าง คิดว่าเสียงเล็กๆ ของผมคงจะช่วยให้ทุกคนได้เข้าใจคนพิการและปรับเปลี่ยนมุมมองต่อคนพิการได้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแล้ว ผมก็มาหาพี่แตซองที่กำลังนั่งรออยู่บนเตียงนอน ปกติถ้าผมลืมเอาเสื้อผ้ามา ผมก็จะใช้เสื้อผ้าของพี่แตซองนี่แหละเพราะแกมีเสื้อผ้าเยอะมาก ซื้อไว้สมัยที่ยังทำงานมีเงินเดือน ผมนั่งลงใกล้ๆ กับพี่แตซองแล้วก็ล้มตัวลงนอนบนขา พี่แตซองยิ้มละไม แลดูอบอุ่นเหมือนเช่นเคย


"พี่คงคิดถึงเก้ามากๆ เลยถ้าเก้ากลับไป" พี่แตซองพูดพลางใช้มือลูบผมแถวๆ หน้าผากผมเล่น

 
"ผมก็เหมือนกันครับ ถ้าเป็นไปได้ ผมก็ไม่อยากกลับเลย" ผมตอบด้วยเสียงอ้อนๆ

 
"เดี๋ยวเรามาคุยกันดีกว่านะ เหลือเวลาอีกไม่เยอะแล้วที่เราจะได้คุยกันแบบนี้"


ผมหันไปมองแล้วก็พยักหน้าตกลง

 
"เริ่มเลยครับ วันนี้ผมคุยกับพี่แตซองทั้งคืนก็ยังได้เลย"

 
พี่แตซองถอนหายใจยาวเหมือนกำลังคิดหนัก

 
"เก้าชอบหรือว่า...รักพี่"

 
"รักครับ" ผมตอบโดยที่แทบจะไม่ต้องใช้เวลาคิด


"แล้วพี่แตซองล่ะ" ผมถามบ้าง

 
"อืม...พี่เคยเจ็บกับความรักมาก่อน อาจจะบอกไม่ได้ตอนนี้หรอกครับ แต่พี่ก็ยอมรับว่ารู้สึกดีมากๆ ที่มีเก้าอยู่ใกล้ๆ"

 
"พี่ไม่เชื่อว่าผมรักพี่เหรอครับ หรือว่าพี่ไม่เชื่อใจผม" ผมถามพลางลุกขึ้นนั่ง ตอนนั้นเริ่มรู้สึกงอนนิดหน่อย

 
"ไม่ใช่อย่างนั้น เก้าอาจจะยังเด็กอยู่ มีอะไรหลายอย่างที่เก้าอาจจะยังไม่เคยเจอเหมือนที่พี่เจอ"

 
"ถึงผมจะยังเด็ก แต่ผมก็โตพอที่จะมีความรักได้แล้วนะครับ แล้วผมก็รักพี่จริงๆ นะพี่แตซอง"

 
"พี่รู้ เก้ารู้ไหม เมื่อก่อน...พี่กับแฟนเก่าก็เคยคิดแบบนี้ เราคิดว่าเรารักกันมาก เราจะไม่พรากจากกันไปไหน เราจะดูแลกันไปตลอดชีวิต เราจะไม่เปลี่ยนแปลง และอีกหลายอย่างที่เราสัญญากันไว้ แต่พอมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เรากลับไม่สามารถรักษาสัญญาที่เราให้กันไว้ได้เลย"


พอได้ฟังอย่างนี้แล้วผมก็เลยเข้าใจสิ่งที่พี่แตซองพยายามจะบอก

 
"ตอนที่เราสัญญากัน ในตอนนั้นพี่ก็เชื่อว่าเราพูดด้วยใจจริง พูดจากความรู้สึกจริงๆ และคิดจะทำอย่างนั้นจริงๆ แต่พอมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น อาจจะเป็นสิ่งที่เหนือจากความคาดหมายของเรา ความรู้สึกของเราก็อาจจะเปลี่ยนไป เมื่อก่อนพี่เคยเสียใจมากนะ เสียใจมากจนเหมือนคนเสียสติ พี่เอาแต่โทษเขา ต่อว่าเขา โกรธเขาที่ไม่รักษาสัญญาแล้วก็ทอดทิ้งพี่ไปในเวลาที่พี่ต้องการใครสักคน แต่พอเวลาผ่านไป พี่ก็เริ่มคิดใหม่ เขาไม่ผิดหรอกที่ไม่รักษาสัญญา เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในวันข้างหน้า บางครั้งคำสัญญาก็เป็นสิ่งผูกมัดที่ไม่จำเป็นหรอก สำหรับพี่ พี่เข็ดกับการสัญญากับสิ่งที่เป็นอนาคตที่เราไม่รู้หรือคาดเดาไม่ได้ พี่ไม่อยากเจ็บอย่างนั้นอีก ไม่อยากคาดหวังให้ใครต้องทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้ใครรู้สึกผิดที่ทำผิดสัญญาด้วย"
 

พี่แตซองอธิบายยาวเลย แต่ก็เข้าใจชัดเจนดีครับ

 
"แฟนเก่าของพี่แตซองรู้สึกผิดด้วยหรือครับ" ผมสงสัย

 
"เก้าสังเกตหรือเปล่าตอนที่เราเจอกับเขาที่งานแต่งงาน เขาไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าหรือสบตากับพี่เลย จริงๆ พี่รู้อะไรมามากกว่านั้น แต่ช่างมันเถอะ ตอนนี้เราก็ถือว่าขาดจากกันโดยสมบูรณ์แล้ว สำหรับพี่ เราไม่มีเยื่อใยอะไรต่อกันอีก พี่คิดว่าพี่ให้อภัยเขาได้"

 
ผมยิ้มจางๆ ให้กับพี่แตซองเมื่อฟังจบ

 
"พี่แตซองเป็นคนดีมากนะครับ ผมภูมิใจมากที่ได้รักพี่"

 
"พี่ไม่ใช่คนดีขนาดนั้นหรอกเก้า เมื่อก่อนพี่ก็ทำตัวไม่ดีเยอะ" บอกพลางขำแล้วถอนหายใจอีก

 
"เรากลับมาที่เรื่องของเราดีกว่า เรามาตกลงกันหน่อยดีไหม พี่หมายถึงอนาคตของเรา...สองคน"

 
ผมพยักหน้าตกลง ก็ไม่รู้หรอกครับว่าพี่แตซองจะพูดอะไรบ้างแต่จะตั้งใจฟังอย่างดีที่สุด

 
"พี่เชื่อแล้วก็ไม่สงสัยอะไรเลยที่เก้าบอกว่าเก้ารักพี่ อาจจะรักวันนี้หรือแม้กระทั่งในอนาคต แต่จะนานแค่ไหนพี่ไม่ก็รู้ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้เก้าสัญญา ไม่ใช่เพราะว่าพี่ไม่เชื่อใจว่าเก้าจะทำได้นะครับ พอคนเปลี่ยน เวลาเปลี่ยน สถานที่เปลี่ยน เหตุการณ์เปลี่ยน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ อีกสามเดือนเราอาจจะพบเจออะไรใหม่ๆ สิ่งแวดล้อมใหม่ๆ คนใหม่ๆ เราอาจจะเจออะไรที่ดีกว่า ความรู้สึกของเราอาจจะเปลี่ยนไป แต่...ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับใจของเราด้วยว่าเรามั่นคงแค่ไหน ถ้าเรามั่นคงและยังรักษาความรักของเราไว้ได้ ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าทำไม่ได้ พี่ก็อยากให้เรายอมรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น อีกหนึ่งปี สองปี สามปี หรือหลายปีจากนี้ไป เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตเรา"

 
ในขณะที่พี่แตซองพูด น้ำตาผมก็เริ่มปริ่ม พี่แตซองเป็นคนดีจริงๆ ครับ ผมรู้ความหมายของสิ่งที่พี่แตซองพยายามจะบอกแล้ว พี่แตซองไม่อยากให้ผมรู้สึกผิดถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งผมเกิดไม่ได้รักหรือเกิดมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น ผมก็คงเถียงไม่ได้เพราะผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าในวันข้างหน้าเราจะพบอะไรบ้าง ถึงวันนั้น ใจเราจะยังเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้

 
"เก้าอย่ารู้สึกผิดเลยนะถ้าวันใดเก้าเปลี่ยนไป ถ้าเก้าเจอคนที่ดีกว่าพี่ เก้าอย่าปิดกั้นตัวเองเลย อย่าปิดโอกาสตัวเองที่จะได้พบเจออะไรใหม่ๆ ที่ดีกว่า"

 
พอถึงตอนนี้ผมก็ปล่อยโฮเลยครับ พร้อมกับโผเข้ากอดพี่แตซองแน่น

 
"เก้าไม่ต้องห่วงพี่ พี่อยู่ได้ อย่ากลัวว่าพี่จะเสียใจถ้าเก้าจะเปลี่ยนไป พูดตรงๆ ละกันนะ พี่เองก็ยังสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้อย่างมาก ในอนาคตพี่อาจจะหายสับสนก็ได้ พี่อาจจะรู้สึกอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน พี่ก็บอกไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งที่พี่บอกกับเก้าได้ก็คือ เราจะทำความรักครั้งนี้ให้ดีที่สุด พามันไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เก้าสัญญากับพี่แบบนี้ได้ไหม"

 
พี่แตซองถามแล้วจับไหล่ผมให้ผมมองหน้าพี่แตซองตรงๆ

 
"ได้ครับ" ผมบอกทั้งน้ำตา

 
"ดีมากครับ เก้าทำให้ดีที่สุด พี่ก็จะทำให้ดีที่สุด เราพามันไปให้ไกลที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ที่สำคัญ เก้าอย่ารู้สึกผิดเป็นอันขาดนะครับ"

 
ผมพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงตอบรับ พี่แตซองก้มมาจูบผม สักพักความรู้สึกบางอย่างก็ค่อยๆ กระพือขึ้นทีละน้อย มือไม้ของเราเริ่มอยู่ไม่สุข สักพักผมก็ถอนปากออกอย่างช้าๆ

 
"พี่แตซอง ก่อนที่ผมจะกลับไป ผมอยากทำให้ความรักของผมครั้งนี้สมบูรณ์แบบแล้วก็มีความหมายมากที่สุด พี่พอจะให้ความร่วมมือกับผมได้หรือเปล่าครับ"


ผมถามพร้อมกับเสียงที่หอบด้วยความตื่นเต้น

 
"อะไรครับ"

 
"ความรักของเราอาจจะเกิดในเวลาสั้นๆ แต่ผมก็อยากให้มันเป็นความรักที่สมบูรณ์แบบสำหรับผม ผมอยากทำให้ความรักครั้งนี้เป็นความรักที่ดีที่สุดที่ผมจะจดจำไว้ตลอดไป"

 
ผมไม่รู้ว่าผมพูดได้ความหมายชัดเจนหรือเปล่า ดูเหมือนพี่แตซองเองก็เข้าใจว่าผมหมายถึงอะไร

 
"ก็แล้วแต่เก้าละกันครับ ถ้าเก้าต้องการอย่างนั้นจริงๆ พี่ก็ไม่ขัดข้อง"


พอพูดจบ พี่แตซองก็ดึงตัวผมลงนอนพร้อมกัน คงไม่ต้องบอกนะครับว่าจะทำอะไร คราวนี้ของจริงครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

 
รุ่งเช้า พี่แตซองตื่นก่อนผมครับ พอผมตื่นขึ้นมาก็เห็นพี่แตซองนอนจ้องมองผมอยู่ พอผมลืมตาพี่แตซองก็ยิ้มให้ ผมก็ยิ้มตอบ คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนแล้วผมก็เขินเหมือนกัน

 
"พรุ่งนี้กลับกี่โมงครับ" พี่แตซองถาม จริงๆ ก็ถามแล้วล่ะแต่คงกลัวลืมก็เลยถามอีก

 
"จำเวลาไม่ได้แน่นอนครับ แต่ต้องไปสนามบินแต่เช้าเลย" ผมบอกแล้วทำหน้าเศร้า


"ผมไม่อยากกลับเลยครับพี่แตซอง"

 
"พี่เองก็ใจหายไม่แพ้เก้าหรอก แต่เราก็ต้องยอมรับความจริง"

 
เรายิ้มเศร้าๆ ให้กัน ต่างคนต่างก็รู้สึกใจหาย

 
"ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างนะครับพี่แตซอง ผมคิดว่าผมโชคดีมากๆ ที่ได้มาเจอพี่ ได้มาเป็น PA เป็นน้องชาย แล้วก็...ได้รักพี่ ผมดีใจมากที่พี่เองก็รู้สึกดีๆ กับผม ผมจะจดจำทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเอาไว้ พี่แตซองไม่อยากให้ผมสัญญา แต่ผมก็อยากสัญญาว่า...ผมจะกลับมาหาพี่อีกครั้งอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ถ้าผมเรียนจบ มีงานทำ เก็บเงินได้ ผมจะมาหาพี่ครับ ไม่ว่าตอนนั้นเราสองคนจะเป็นยังไงก็ตาม ผมจะกลับมาหาพี่ให้ได้"

 
"พี่เชื่อเก้านะครับ"


พี่แตซองบอกด้วยเสียงอบอุ่น ผมสังเกตุเห็นพี่แตซองน้ำตาซีมๆ ก็เลยเอื้อมมือไปจับมือพี่แตซองไว้

 
"เชื่อไหมเก้า พี่ไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครเลย ตอนที่พี่เลิกกับแฟนเก่า พี่ก็ไม่มีน้ำตาเลยแม้จะเสียใจมากแค่ไหน แต่ครั้งนี้ พี่รู้สึกตื้นตันใจในความดีแล้วก็ความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อพี่ เก้าคงจะเป็นผู้ชายคนเดียวในโลกนี้ที่พี่จะรู้สึกดีๆ อย่างนี้ด้วย พี่ก็รักเก้าเหมือนกันนะครับ พี่แน่ใจว่ามันคือความรัก ไม่ใช่แค่ความเหงาที่ทำให้พี่สับสน ไม่งั้นพี่ก็คงรัก PA คนอื่นไปนานแล้ว"


พูดจบแล้วเราสองคนก็กอดกัน ผมดีใจจนสุดจะบรรยายเมื่อรู้ว่าพี่แตซองก็รักผมเช่นเดียวกัน


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

 
พอ PA อีกคนมาที่บ้านพี่แตซอง ผมก็ถือโอกาสลากลับบ้านน้าสาว วันนี้ผมต้องกลับไปใช้เวลาอยู่กับแม่ น้าสาวและน้าเขยก่อนกลับ แต่ว่าก็มีนัดกินข้าวกับพี่แตซองตอนเย็นๆ ด้วยกันอีกสักครั้งก่อนจะจากกันไป


ตอนอยู่บ้านน้าสาว ผมไม่ค่อยมีสมาธิเลย นึกห่วงแต่พี่แตซองว่าจะกินอยู่ยังไงหรือทำอะไรอยู่ตลอดเวลา พอตอนเย็น เราก็ไปที่ร้านอาหารกัน พี่แตซองมาพร้อมกับ PA คนที่ผมเจอเมื่อเช้า คิดๆ แล้วก็ใจหายที่รู้ว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำหน้าที่ PA ให้พี่แตซองอีกแล้ว


พอกินข้าวเย็นเสร็จ ผมก็ขออนุญาตมาส่งพี่แตซองที่คอนโด ให้ PA อีกคนกลับบ้าน ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ที่ผมจะได้ทำหน้าที่ PA ให้กับพี่แตซอง ผมช่วยพี่แตซองอาบน้ำ ช่วยพี่แตซองใส่เสื้อผ้าแล้วก็ขึ้นไปนอนบนเตียง เป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้กอดพี่แตซอง ได้สัมผัสกลิ่นตัวหอมๆ และไออุ่นของพี่แตซองอีกครั้ง


พอนั่งบนเตียงได้แล้วพี่แตซองก็หยิบถุงอะไรสักอย่างบนหัวเตียงมาแล้วส่งให้

 
"ของขวัญจากพี่ครับ พี่รู้ว่าเก้าต้องชอบ" พี่แตซองบอกพลางยิ้มน้อยๆ

 
ผมรับมาแล้วกล่าวขอบคุณ

 
"เป็นร้องเท้าแบบเดียวกับที่เก้าใส่อยู่นั่นแหละ พี่เห็นเก้าชอบใส่ ใส่จนเก่าเลย พี่ก็เลยซื้อให้ใหม่ หวังว่าเก้าจะชอบนะครับ พี่มั่นใจว่าเก้าใส่ได้เพราะพี่จำเบอร์รองเท้าของเก้าได้ สีก็เหมือนกันเลยเห็นไหม"

 
น้ำตาเจ้ากรรมผมไหลอีกแล้วครับ ผมตื้นตันใจเหลือเกิน กอดพี่แตซองแล้วร้องให้สะอึกสะอื้นเหมือนเด็ก พูดแต่คำว่าไม่อยากไปซ้ำไปซ้ำมา นึกโมโหตัวเองนิดหน่อยที่มัวแต่เศร้าใจจนลืมไปหาซื้อของให้พี่แตซองบ้าง แต่ก็ตั้งใจว่าพอกลับถึงประเทศไทยแล้วผมจะซื้อของส่งไปรษณีย์มาให้อย่างแน่นอน


พอได้เวลาอันสมควรแล้วผมก็ลาพี่แตซองกลับ

 
"พรุ่งนี้เจอกันที่สนามบินนะครับ" พี่แตซองบอก ผมพยักหน้ารับรู้

 
"ดูแลตัวเองดีๆ นะครับพี่แตซอง"


ผมบอกด้วยเสียงสั่นเครือ พี่แตซองยิ้ม ช่างเป็นรอยยิ้มที่เศร้าเหลือเกิน ผมค่อยๆ เดินไปที่ประตูแล้วก็ค่อยๆ เปิดออกไป หันหน้ามามองพี่แตซองเป็นครั้งสุดท้าย พี่แตซองยังคงมองมาด้วยรอยยิ้มและดูเหมือนจะมีน้ำตาไหลลงมาจากสองตานั้นด้วย แล้วผมก็ตัดใจปิดประตูเดินจากไปพร้อมกับน้ำตาที่รินไหลลงมาอย่างสุดกลั้นเช่นเดียวกัน


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷

 
พอถึงตอนเช้า น้าสาวกับน้าเขยก็มาส่งผมกับแม่ที่สนามบินอิ๋นชอนด้วย ในระหว่างที่เช็คอินผมก็คอยมองหาพี่แตซองตลอดเวลา แต่ก็ไม่เห็นมาเสียที ทำให้ผมร้อนใจเหมือนกัน พอเช็คอินเสร็จพี่แตซองก็มาถึงพอดี มากับ PA คนเดิมที่เจอเมื่อวานนี้เพราะทางศูนย์สามารถหา PA ประจำให้พี่แตซองได้แล้ว แค่เห็นเท่านั้นแหละครับ ผมก็ปราดเข้าไปหาพี่แตซองพร้อมกับนั่งย่อตัวลงข้างๆ วีลแชร์พี่แตซอง

 
"พี่แตซอง ผมนึกว่าพี่จะไม่มาแล้วเสียอีก" ผมตัดพ้ออย่างใจหาย

 
"มาสิครับ พี่ต้องมาส่งเก้าอยู่แล้ว" พี่แตซองตอบแล้วก็หันไปทักทายกับแม่ น้าสาวและน้าเขยของผมที่เดินมาหา

 
"พี่แตซองดูสิครับ ผมใส่รองเท้าที่พี่ซื้อมาให้ด้วยครับ" ผมตอบพลางลุกขึ้นให้พี่แตซองดูรองเท้าที่ผมใส่

 
"ผมชอบมากเลย ขอบคุณพี่มากเลยร ผมอยากจะซื้อใหม่ตั้งนานแล้ว"


พี่แตซองมองผมที่อวดรองเท้าแล้วก็ยิ้มอย่างชื่นชม


"เท่ห์ดีนะ"

 
พวกเราคุยกันสักพักก็ถึงเวลาที่จะต้องไปเสียที พี่แตซองมาส่งผมตรงก่อนเข้าไปยังตรวจหนังสือเดินทาง ตอนนั้นใจคอผมเริ่มไม่ดีแล้ว หันมามองพี่แตซองแล้วก็น้ำตาซึม


ผมย่อตัวลงข้างๆ แล้วก็กอดพี่แตซองไว้ ร้องให้โฮๆ เลยครับ ทุกคนดูตกใจกันมาก รวมทั้งคนที่เดินผ่านไปผ่านมาด้วย แต่ตอนนั้นผมไม่สนใจใครทั้งนั้น ร้องให้งอแงเหมือนเด็กๆ เลย ผมจำไม่ได้หมดว่าพูดอะไรบ้างเพราะอารมณ์ตอนนั้นมันเศร้ามาก แต่ก็คงประมาณว่า

 
"พี่แตซอง ผมไม่อยากไปเลย ผมอยากอยู่กับพี่"


พูดไปร้องให้ไป พูดวนไปวนมา เล่นเอาคนอื่นน้ำตาซึมตามไปด้วย พี่แตซองลูบหลังพร้อมกับพูดปลอบใจ โชคไม่ดีเลยที่ผมจำไม่ได้จริงๆ ครับว่าพี่แตซองพูดอะไรบ้าง


ตอนเด็กๆ ผมก็เคยเป็นคล้ายๆ แบบนี้แหละครับ แม่พาไปเที่ยวบ้านญาติที่ต่างจังหวัด ตอนกลับผมก็ร้องให้โฮๆ ไม่อยากกลับเพราะมีเพื่อนเยอะ ก็เด็กๆ ที่เป็นญาติกันนั่นแหละครับ ผมก็เลยไม่อยากกลับไปเหงาที่บ้านอีก แม่ผมก็เลยเข้าใจไปว่าที่ผมไม่อยากกลับก็เป็นเพราะเหตุผลคล้ายๆ กัน

 
ผมร้องให้โฮๆ อยู่นานจนแม่ต้องเดินมาบอกว่าใกล้เวลาขึ้นเครื่องแล้ว ผมถึงได้ยอมปล่อยพี่แตซอง พอปล่อยแล้วผมก็ได้เห็นว่าพี่แตซองก็น้ำตาไหลเช่นเดียวกัน

 
"พี่แตซองดูแลตัวเองดีๆ นะครับ แล้วผมจะมาหาพี่ พี่ต้องรอผมนะครับ" ผมบอกพลางค่อยๆ ลุกขึ้น พาลจะร้องไห้อีกให้ได้

 
"ครับ...เก้าก็เหมือนกันนะ ดูแลตัวเองดีๆ นะครับ ตั้งใจเรียนหนังสือ ถ้าคิดถึงพี่ก็โทรมาหาพี่ได้ ส่งอีเมล์มาคุยกันบ้าง มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะครับ"

 
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่พี่แตซองพูดก่อนที่ผมจะเข้าไปในจุดตรวจหนังสือเดินทาง

 
"ครับพี่แตซอง"


ผมบอกแล้วก็เดินเข้าไปข้างในกับแม่ พี่แตซอง น้าสาวและน้าเขยโบกมือลาให้ ผมกับแม่ก็โบกมือตอบ พอตรวจเอกสารเสร็จแล้ว ผมก็วิ่งมาอ้อมมาตรงที่กั้นระหว่างที่เช็คอินกับทางเดินไปที่เกต โบกมือให้พี่แตซองอีกครั้งแล้วตะโกนบอกพี่แตซองเสียงดัง

 
"พี่แตซอง ผมไปแล้วนะครับ พี่แตซองดูแลตัวเองดีนะครับ"

 
พี่แตซองยิ้มพร้อมกับน้ำตาที่ซึมออกมา โบกมือลาให้ผมกับแม่เป็นครั้งสุดท้าย ผมสูดหายใจลึกๆ มองหน้าพี่แตซองเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ตัดใจเดินกลับไปหาแม่เพื่อไปขึ้นเครื่อง ใกล้เวลาที่จะต้องขึ้นเครื่องแล้วแต่ในใจผมนั้นคิดถึงและเป็นห่วงพี่แตซองมากเหลือเกิน แม้จะรู้ว่าพี่แตซองสามารถอยู่ได้แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี

 
"พี่แตซอง แล้วผมจะกลับมาหาพี่อีกนะครับ"


ผมสัญญากับตัวเองในใจ และผมก็มั่นใจว่าผมจะทำอย่างนั้นได้อย่างแน่นอน รอผมนะครับพี่แตซอง

 
- จบบริบูรณ์ -


เป็นอีกเรื่องที่ผมประทับใจมาก ตอนจบนั้นก็ทำให้รู้สึกทรมานใจมากทีเดียว สงสารพี่แตซองจริงๆ ครับ ไม่รู้ว่า PA คนอื่นๆ จะดูแลพี่แตซองได้ดีเท่ากับเก้าหรือเปล่า แต่ในความเศร้า อีกด้านหนึ่งผมก็มองเห็นชีวิตของเราเองที่ต้องได้พบเจอและผูกพันกับคนมากมาย บางคนผ่านมาแล้วก็ผ่านไป บางคนอาจจะอยู่นานหน่อย แต่สุดท้ายเราก็ต้องจากกันอยู่ดี ชีวิตก็ยังคงต้องไปต่อ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกสักกี่ครั้งบนโลกใบนี้ ถ้าเรายังหายใจอยู่ เราก็คงต้องอยู่และเรียนรู้ที่จะอยู่และก้าวเดินต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: maru ที่ 27-03-2012 01:19:22
ประทับใจเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-03-2012 01:21:25
ซุ่มอ่าน ไม่เคยเม้น <<<<<< เลวววว
อ่า อ่านจนตอนจบเสียน้ำตาจนไ้ด้ ณ ตอนนี้สองคนนี้จะเป็นไงบ้างนะ อยากรู้จริงๆ
เรื่องจบแต่ความรู้สึกมันยังไม่จบนะสิ ฮือๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: P★RiTŸ ที่ 27-03-2012 01:25:26
อ่านจบแล้วก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้
แต่ทำไงได้ ในเมื่อมีพบก็ต้องมีจากเป็นเรื่องธรรมดา
สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ก็คงเป็นความทรงจำ
และความรู้สึกดีๆที่ทั้งสองคนมีร่วมกัน
และรอคอยวันที่จะได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง
ขอบคุณนะคะ ประทับใจมากเลย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: SungMinKRu ที่ 27-03-2012 01:27:45


ชอบจังเลยค่ะ อ่านแล้วประทับใจมาก ไม่ได้รู้สึกเศร้าเลย เพราะยังไงทั้งคู่ก็ยังรักกัน แต่อยากอ่านตอนพิเศษจัง

อยากอ่านฉากหวานๆ อิอิ  :z1: :z1:

ยังไงก็ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ สไหรับเรื่องราวนิยายสนุกๆที่แต่งมาให้เราได้อ่านกัน กะจะนอนแต่ต้องมาอ่านต่อกันเลยทีเดียว

ได้อ่านจบไปสองเรื่องแล้ว แอบลุ้น ทิว บีม อยู่นะค่ะ ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

 :กอด1: :กอด1: :L2: :3123: :L1: :L1: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 27-03-2012 01:41:52
จบซะแล้ว!!
อยากได้ตอนพิเศษจังเลยค่ะ!!

เรื่องนี้ อ่านแล้ว รู้สึกประทับใจมากๆเลยค่ะ!!

ขอบคุณมากๆเลยนะคะ!!  :กอด1:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนที่ 15, 26-03-2012
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 27-03-2012 01:42:39
 :m15: ในที่สุด ก็ถึงตอนจบ ทั้งสุข ทั้งซึ้ง ทั้งเศร้า...... งื้ออ..... :sad4:
ขอให้ความรักของพี่แตซองและน้องเก้าเดินทางไปได้ไกลที่สุดอย่างที่ตั้งใจนะคะ

ขอบคุณค่ะที่นำเรื่องดีๆแบบนี้มาให้ได้อ่านกัน :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: anakin-lolyboy ที่ 27-03-2012 02:15:14
อยากรู้จังเลยค่ะว่าตอนนี้พี่เก้าได้กลับไปเกาหลีแล้วยัง อยากรู้ว่าทั้งสองคนยังรักกันอยู่ไหม ไม่ต้องมีตอนพิเศษก็ได้ขอแค่ข่าวคราวก็พอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: kyplay ที่ 27-03-2012 03:05:08
 :o12:  น้ำตาท่วมคอม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 27-03-2012 05:07:40
คนอื่นอาจจะร้องไห้
แต่สำหรับเราพออ่านจบเรายิ้มค่ะ
ยิ้มออกมาเพราะความประทับใจในความรักของพี่แตซองกับเก้า
จะมีคนสักกี่คนที่คิดได้แบบพี่แตซอง
จะมีสักกี่คนที่รักโดยที่ไม่หวังอะไรตอบแทนได้แบบเก้า

นอกจากนี้เรื่องนี้ยังทำให้รู้อะไรหลายอย่างเกี๋ยวกับคนพิการ
เช่น เรื่องระบบPA เรื่องการคิดแทนคนพิการ เรื่องการมองคนพิการในแง่มุมต่างๆ
เมื่อก่อนเคยคิดแค่ว่า...ความพิการมันไม่มีอะไรดี คนที่พิการคือคนที่โชคร้าย
ไม่เคยมองเลยว่า คนพิการเขาก็สามารถอยู่กับความพิการได้อย่างมีความสุขเหมือนกัน

สุดท้ายนี้ขอมอบเพลงๆนี้ให้กับพี่แตซองและเก้าค่ะ
เราอ่านเรื่องนี้แล้วคิดถึงเพลงๆนี้เลย
http://<iframe width="420" height="315" src="https://www.youtube-nocookie.com/embed/wKPKfjiITJQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

เผื่อไม่ขึ้น...
http://www.youtube.com/watch?v=wKPKfjiITJQ (http://www.youtube.com/watch?v=wKPKfjiITJQ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 27-03-2012 08:19:54
จะมีตอนพิเศษต่อมั๊ยคะ อยากอ่านว่าตอนนี้ความรักของสองคนเป็นอย่างไรบ้าง  :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: เพื่อนบ้าน ที่ 27-03-2012 08:31:55
แล้วเก้าได้กลับไปหาพี่แตซองอีกไหมอ่ะ อยากรู้หลังจากวันนั้นเค้าได้ติดต่อกันอีกหรือเปล่า -3-
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 27-03-2012 08:40:55
ตอนจบทีไร คิดถึงตอนพิเศษทุกที...(มีมั้ยน้อ~ 555)
ใจหายเล็กๆอ่ะ แต่อย่างน้อยยังรู้ว่าคุ้มค่าที่อยู่ด้วยกันล่ะนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 27-03-2012 08:43:44
ประทับมากๆเลย
อ่านตอนนี้น้ำตาซึมเลยอะ
+ 1 นะคะ
ปล.อยากรู้ว่าตอนนี้เก้ากับพี่แตซองเป็นยังไงบ้างยังติดต่อกันอยู่ไหม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 27-03-2012 12:40:29
ประทับใจเรื่องนี้มากเลยค่ะ :กอด1:




หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: froggy ที่ 27-03-2012 12:59:59
ชอบอ่ะ. ซึ่ง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 27-03-2012 14:03:08
ที่สุดเราก็หลงรักพี่แตซองกับเก้าจนได้ จบแล้วใจหายจัง  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 27-03-2012 14:24:19
ชิ  จบเศร้า  จบเหงาอย่างที่บอกจริงๆด้วย  จะว่ายังไงดี  อยากอ่านตอนตลังจากมาเจอกันอีกครั้งจัง
แต่คงต้องรอสินะ  เหอๆ  เฮ้อ....  เศร้าจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: navysilver ที่ 27-03-2012 14:42:28
จบแบบเป็นชีวิตจริง พบ พราก จาก เจอ ป็นเรื่องธรรมดา

ชอบความคิดพี่แตซองนะ ตอนที่สัญญา ก็เชื่อว่ารักกันจริงๆ คิดอย่างนั้นจริงๆ แต่พออะไรไมันเปลี่ยนไป ความคิดมันก็เปลี่ยน อะไรที่เราคิดว่าแน่นอน วันหนึ่งมันก็อาจจะไม่แน่นอนแล้วก็ได้ โอ้ชีวิตนี้ล้วนอนิจัง 5555555

จบดีค่ะ ประทับใจกับความคิดตัวละครมาก อยากให้มีตอนพิเศษจัง o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-03-2012 14:44:09
รักกันไม่จำเป็นจะต้องได้อยู่ครองคู่กันเสมอไป เพราะเหตุปัจจัยหลายๆอย่างเป็นตัวแปร
เข่นเดียวกันกับเรื่องนี้แหละ แต่ก็รู้สึกประทับใจในความรักระหว่างเก้ากับแตซองนะ
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสต์นะจ๊ะ สำหรับเรื่องราวอันน่าประทับใจนี้
และขอมอบ :L2:แทนคำขอบคุณอีกครั้งจ้ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: little_nok ที่ 27-03-2012 14:47:13
จบตอนนี้แล้วก็ต้องจากกัน
ด้วยความต่างกันมากๆ โอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันตอนนี้ไม่มี
เก้าต้องไปเรียน ไปทำงาน  เติบโดเป็นผู้ใหญ่
ต่อไปเก้าจะกลับมาหาพี่แตซอง หรือพี่เขาจะไปหาเก้า
คนพิการแบบแตซอง และมีฐานะพอควร มีความรู้ ต่อไปน่าจะหางานได้
ยิ่งประเทศที่เจริญแบบเกาหลีด้วยแล้ว เขาต้องมีการดูแลคนพิการอย่างดี
พี่แตซองน่าจะได้เดินทางมาหาเก้า
ถ้ามีตอนพิเศษ บอกเล่าเหตุการณ์ต่อมา น่าจะถูกใจคนอ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 27-03-2012 15:15:38
เป็นเรื่องสั้นที่ประทับใจที่สุดตั้งแต่ที่เคยอ่านมา ;)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 27-03-2012 15:21:56
จบแล้วเหรออออ  :sad4:

เรื่องนี้ตามอ่านทุกวัน
ยกเว้นตอนแรกๆ มาอ่านไม่ทัน เลยเร่งสปีดตามมา


อ่านแล้วอบอุ่นหัวใจ และเศร้าซึ้งไปพร้อมๆ กันเลย :m15:

ขอบคุณคนแต่ง และของคุณทั้งเก้า และพี่แตซอง
ที่ทำให้คนอ่านมีความสุขมากๆ แม้เป้นช่วงเวลาสั้นๆก็เถอะ  :o12:

แล้วหลังจากนี้ล่ะ จะเป็นยังไงต่อเหรอ
ยังคิดถึงกัน รักกัน และไปหากันบ้างมั้ย  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 27-03-2012 15:34:15
ใจหายเหมือนกันนะเนี่ย อบอุ่นไปความรักของเก้ากับพี่แตซอง
ได้มุมมองเกี่ยวกับคนพิการหลายอย่าง ขอบคุณคนแต่งด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: goonglovenut ที่ 27-03-2012 16:18:57
เพิ่งอ่านต้นสนจบไป เรื่องนี้ก็กำลังไล่อ่านแต่เพิ่งมาเม้นท์ อดใจไม่อ่านตอนจบ เดี๋ยวไม่ลุ้น
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: MooN_LinghT ที่ 27-03-2012 16:24:57
ซึ้งมากเลยคะ  :o12: 

ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องราวดีๆมาให้อ่าน อยากอ่านตอนพิเศษจัง ><

รักพี่แตซอง รักน้องเก้า มากๆเลยคะ จะไม่ลืมเรื่องนี้เลย  :m15: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Jaajaa ที่ 27-03-2012 16:27:56
สนุกมากเลยค่ะ
อยากรู้ตอนต่อไปจัง :sad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 27-03-2012 17:06:03
จบแล้วหรอ ใจหายเลย  :monkeysad:
เพิ่งเข้ามาอ่านได้วันเดียว แต่ชอบโครงเรื่องมาก คนแต่งเล่าทั้งในแง่ตัวเองแง่คนอื่น
ไม่มีใครดูดีมากเกินความเป็นจริง เรื่องนี้แฝงสาระเยอะจริงๆค่ะ
ถ้ามีโอกาศ สักครั้งก็อยากลองไปเป็น PA ที่เกาหลีแบบเก้าบ้าง ก็คงจะดี
ขอบคุณเรื่องดีๆที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ  :L2:

ปอลิง จะรอติดตามผลงานใหม่ๆนะคะ แว่บๆไปอ่านอีกเรื่องมาแล้วนิดนึง  :z1:

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: MokGaLaKom ที่ 27-03-2012 17:24:50
ทำไม ทำไม ทำไมน้ำตามันไหลอ่ะ
เรายิ้มนะ อ๊ากกก อินมากจนคิดว่าตัวเองเป็นเก้าเลย
เข้าใจความรู้สึกแบบนี้มากๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: P.PIM ที่ 27-03-2012 18:02:09
ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ o13
หวังว่าพี่แตซองกับเก้าจะพบกันอีกนะค่ะ สู้ๆค่ะ o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 27-03-2012 18:08:36
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดในช่วงกลางๆ ปี 2010 ครับ ก็ผ่านมาแล้วเกือบสองปี จริงๆ ผมก็อยากจะนำตอนพิเศษมาลงให้นะครับ แต่ได้ตกลงอะไรบางอย่างกับคนเขียนไว้ว่าจะไม่ให้ข้อมูลใดๆ มากกว่าที่มีอยู่ในตอนนี้ เอาเป็นว่าจะลองเกลี้ยกล่อมคนเขียนอีกทีครับว่าพอจะมีอะไรที่จะเอามาเขียนได้บ้างอีกไหม
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 27-03-2012 19:12:27
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 27-03-2012 20:41:36
ซึ้งมากเลยค่ะ (นั่งร้องไห้อยู่)
 :monkeysad:

ใจหายจังเลย
ที่เก้ากับพี่แตซองต้องจากกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-03-2012 21:28:46
T^T ซึ้งอ่ะ น้ำตาซึม
จะมีโอกาสได้อ่านตอนพิเศษบ้างหรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: slurpeez-69Nes ที่ 27-03-2012 21:29:03
ขอให้เก้าได้กลับไปหาพี่แตซองเร็วๆเถอะนะ 

เป็นกำลังใจให้ ^_____^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 27-03-2012 21:34:15
จบได้ประทับใจมากๆ ต้องบอกว่ายิ้มทั้งน้ำตา

 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: morningflower ที่ 27-03-2012 22:42:57
อ่า มีตอนพิเศษไหมคะ อยากอ่านต่อจริงๆน๊า  :z1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Evinluv ที่ 27-03-2012 22:57:54
ขอบคุณคุณเก้ามาครับที่นำเรื่องราวของคุณมาเล่าให้พวกเราฟัง
ขอบคุณคุณ sarawatta ด้วยครับที่เอาเรื่องราวน่ารัก ๆ มาลงให้เราได้อ่านกัน
และฝากบอกคุณเก้าด้วยนะครับ ว่าเรื่องที่เขานำมาเล่าไม่ได้เสียเปล่า ตอนแรผมกที่เข้ามาอ่าน เพราะอยากเห็นคนพิการในมุมมองที่แตกต่าง แม้จะรู้ว่าคนพิการก็มีความสามารถไม่แพ้คนครบ 32 อย่างเรา ๆ เหมือนกัน แต่ผมอยากรับรู้ อยากรู้สึกมันจริง ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังครับ ผมเข้าใจสิ่งที่คุณเก้าต้องการสื่อแล้วครับ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 27-03-2012 23:21:02
 :sad11:ถึงจะเศร้าไปบ้างแต่ก็ประทับใจมากเลยคะ :กอด1:

ปล.  ขอให้เก้ากลับไปหาพี่เตซองไวๆเน้อจะเป็นกำลังใจให้ตลอดไป :กอด1: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 28-03-2012 02:25:42
จบแล้วอ่า :m15:

ประทับใจมากค่ะ....ไม่ถึงกับร้องไห้แค่น้ำตาซึม :monkeysad:

อ่านจบแล้วมันหลายความรู้สึก....อิ่มเอมใจกับความรักของคู่นี้

เก้ารักพี่แตซอง...พี่แตซองก็รักเก้า....แต่พี่แตซองก็ไม่อยากที่จะผูกมัดเก้า...บอกเก้าว่าไม่ต้องรู้สึกผิด

ถ้าหากเก้าจะเปลี่ยนแปลงไปในอนาคต

น้อยคนนะที่จะรักได้อย่างนี้

ชื่นชมพี่แตซองจริงๆ...ถึงแม้จะพิการ...แต่จิตใจของพี่มัน o13สุดยอดเลยค่ะ

 :L2:ให้คนแต่งกับคนโพส

แล้วก็ :pig4: :pig4: :pig4:อย่างที่สุด...ที่ทำให้ได้อ่านมุมมองของความรักดีๆอย่างนี้...ได้แง่คิดเกี่ยวกับคนพิการในแง่มุมที่ไม่เคยคิดมาก่อน :pig4: :pig4:ขอบคุณจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 28-03-2012 18:16:47
โอ้  พึ่งเห็นว่าผู้โพสเรื่องนี้จะไปกล่อมคนเขียนให้  ขอบคุณมากๆเลย  จะรอด้วยความหวังน้อ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: NaEZ ที่ 28-03-2012 21:14:16
เป็นเรื่องที่ดีมากๆเลย  o13 o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: agava1313 ที่ 28-03-2012 22:27:33
:เป็นนิยายที่อ่านแล้วน้ำตาซึมค่า.. ไม่มีพล็อตพระเอก หายจากโรคดั่งปฎิหารย์  ไม่มีตัวร้ายตัวอิจฉาตบกันทั้งเรื่อง  มันคือเรื่องจริงของคนที่พิการ อาจด้วยสาเหตุหลายๆอย่าง  ความรักและความห่วงใย เรื่องนี้Good!!!! :dad4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: darling ที่ 28-03-2012 22:52:51
 :L2: :กอด1: o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 29-03-2012 16:31:11
เพิ่งกลับจากเช็งเม้งจ้า
จบประทับใจมาก เรียกว่าจากกันเพื่อพบกันใหม่
มีความหวังในความโศกเศร้า ^^

ป.ล. เห็นยังไม่ได้โพสต์ให้โอนไปห้องที่จบแล้ว... คนอ่านอดแอบหวังตอนพิเศษมิได้ อิอิ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 29-03-2012 20:34:45
น้ำตาท่วมตอนจบ T^T แต่สวยงามมากจริงๆ
ขอบคุณที่นำเรื่องนี้มาให้อ่านกันนะคะ ได้เปิดมุมมองใหม่ๆเยอะทีเดียวค่ะ

เรื่องผ่านมาเกือบ2ปีแล้ว อยากรู้เหมือนกันว่าตอนนี้เก้ากับพี่แตซองเป็นยังไงกันบ้าง ^^"
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: z-Time ที่ 30-03-2012 00:53:49
เศร้า ซึ้งเนอะ

 :pig4: นักแต่ง + ผู้โพส ค่ะ  :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 30-03-2012 01:17:11
ขอให้กล่อมคนเขียนสำเร็จเถอะนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Way ที่ 30-03-2012 06:30:32
คงจะได้กลับไปหากันอีกใช่ป่าว
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-03-2012 11:52:47
เป็นเรื่องที่ดีมากเลยครับ ผมเคยทำงานกับเด็กๆที่พิการ เป็นโครงการอาสา พาน้องๆมาเที่ยวที่ทะเล
ได้เรียนรู้อะไรเยอะเหมือนกัน และทุกวันนี้ก็ไม่ลังเลถ้าจะเข้าไปถามเค้าว่าต้องการความช่วยเหลืออะไรมั้ย
เพราะบางคนอาจมองแต่ไม่กล้าเข้าไปถาม อยากบอกครับว่า เข้าไปถามได้เลย เหมือนเพื่อนที่ผ่านมารู้จักกัน
ถ้าเค้าอยากให้ช่วยเค้าจะบอกเอง และเห็นด้วยที่เมืองไทยยังไม่เอื้ออำนวยกับการใช้ชีวิตของคนพิการ
ผมเคยเจอคนพิการทางสายตาลงจากรถเมล์ ยังไม่ทันก้าวพ้นดี รถก็ออกตัว ทำให้เค้าเกือบถูกดูดติดแล้วตกลงบนถนน
ซึ่งน่ากลัวมากถ้าผมคว้าตัวเค้าไว้ไม่ทัน เห้อ....ก็อย่าว่างั้นงี้นะครับ แค่คนทั่วๆไปก็แทบจะขึ้นลงไม่ทันพี่คนขับรถเมล์กันแล้ว
ประเทศเราควรนึกถึงคนอื่นหน่อย ให้กว้างๆ มันจะดีกว่านี้เยอะเลย เพราะเมืองไทยคนน่ารักอยู่แล้ว
ทำให้มันน่าอยู่ขึ้นอีกนิด ไม่เสียหายอะไร...

อ่านเรื่องนี้แล้วแอบอยากรู้ ว่าหลังจากนี้ได้ติดต่อกันอยู่มั้ยครับ แล้วคุณแตซองเป็นอย่างไรบ้าง
แหะๆๆ อ่านแล้วติดมาก ภาษาง่ายๆ ลื่นไหลไปเรื่อยๆ อาจจบแล้วประทับใจ
ยังไงก็ขอให้ทั้งคู่มีความสุขกับชีวิตในปัจจุบันแล้วกันนะครับ...จากผู้อ่านที่ประทับในสุดๆ
อ่อ...ขอบคุณที่เอามาลงให้ได้อ่านกันนะครับ ขอบคุณมากจริงๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ตัวเลข ที่ 30-03-2012 20:47:02
เป็นความรักที่น่าประทับใจมากเลยค่ะ แต่ว่าไม่อยากให้จบโดยการลาจากแบบนี้เลย

น่าจะมีต่อท้ายเล็กน้องๆให่นะค่ะ จะได้ชุ่มชื่อนหัวใจ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Aaehana ที่ 01-04-2012 18:17:42
อ่านรวดเดียวจบเลย ได้แง่คิดที่ดีที่ว่าคนรักกันอาจไม่จำเป็นต้องได้อยู่ด้วยกันตลอดไป แต่ขอให้มีความทรงจำที่ดีไว้ระลึกถึงก็เป็นความสุขแล้ว แต่ก็อยากให้เก้ากับพี่แตซองได้พบและอยู่ร่วมกันอีกอยู่ดี สงสารพี่แตซองอ่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: phakajira ที่ 02-04-2012 02:56:27
เพิ่งได้ลองมาอ่าน แล้วก็อ่านมาทีเดียว....ให้ความรู้สึก ดูเป็นรักที่จริงใจมาก หาได้ยากนะในสมัยนี้ แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปขะมั่นคงเหมือนเดิมไหมเราไม่รู้  เป็นเรื่องที่เยี่ยมเรื่องหนึ่งเลย พี่แตซองจะรอเก้าอยู่ไหม อล้วเก้าล่ะยังจะอยากไปหาพี่แตซองหรือเปล่า...
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 02-04-2012 11:13:52
ขอบคุณคนต้นเรื่อง ขอบคุณคนเรียบเรียงเรื่องเล่า
 :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 04-04-2012 00:05:17
ดูเหมือนคนต้นเรื่องจะใจแข็งอยู่นะครับ จริงๆ ก็มีเหตุผลบางอย่าง แต่ว่า นี่เป็นข้อความที่เขาเขียนไว้เมื่อเกือบสองปีที่แล้วครับ อัปเดตสถานการณ์ให้ทราบตอนนั้นนิดหน่อย

-------------------------------------------------

จริงๆ ผมกับพี่แตซองก็ยังติดต่อกันอยู่ครับ ผ่านอีเมล์บ้าง แช็ทบ้าง แต่ที่ชอบที่สุดก็คือโทรคุยกันครับ รู้สึกว่าเราใกล้กันกว่าวิธีการสื่อสารอย่างอื่น แต่ก็ไม่ค่อยทำบ่อยเพราะมันแพง

ตอนนี้มีเรื่องที่ผมกังวลนิดหน่อยครับ PA อีกคนที่ผมรู้จักอีเมล์มาบอกผมว่า พี่แตซองล้มในห้องน้ำ (พี่แตซองค่อนข้างมีปัญหาเรื่องการล้มบ่อยๆ เพราะ PA คนอื่นๆ มักคิดว่าพี่แตซองพอทรงตัวได้ ก็เลยไม่ค่อยระวังกัน) แต่โชคดีที่ไม่เป็นอะไรมาก แค่ฟกช้ำนิดหน่อย แต่ผมไม่พอใจหน่อยๆ ที่พี่เขาไม่ยอมบอกผมเลยครับ พอรู้เรื่องก็เลยโทรไปถามเอง พี่เขาก็บอกไม่เป็นอะไรมาก และบอกผมไม่ต้องกังวล พี่เขาดูแลตัวเองได้ ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกันครับ ก็ต้องเชื่อที่พี่เขาบอก เพราะผมอยู่ที่นี่ ทำอะไรไม่ได้ พยายามไม่กังวล แต่บางทีก็เครียดจนกินไม่ได้นอนไม่หลับเลยก็มี

สำหรับภาค 2 อาจจะต้องรออีก 2 ปีแล้วล่ะครับ เพราะกว่าผมจะเรียนจบ มีงานทำก็คงอีกนาน แต่ถึงวันนั้น 2 ปีนับจากนี้ จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้ แต่ผมก็จะพยายามนำพาความรักของเราไปให้ไกลที่สุดเท่าที่มันจะไปได้ แต่จะรักกันอย่างเปิดเผยนั้น ผมยังมองไม่เห็นทางเลยครับ ครอบครัวผมก็คงรับไม่ได้ ครอบครัวพี่แตซองก็คงไม่ต่างกัน เผลอๆ จะมากกว่าของผมก็ได้ครับ รวมทั้งใจของเราด้วย จะมั่นคงแค่ไหนก็ตอบไม่ได้ แต่ ณ ขณะนี้ ผมก็ยังรักพี่เขาอยู่ครับ จิตใจยังมั่นคง ยังไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง ทุกครั้งที่ได้คุยกันก็ยังมีความสุข ยังคงห่วงหาอาทรและคิดถึงกันอยู่เสมอ ผมก็ได้แต่หวังว่าเรายังจะคงสิ่งนี้ไว้ได้ต่อไป
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 04-04-2012 00:38:19
ต้องบอกว่า ปล่อยให้รักนำทางใจนะเก้า  :กอด1:
โดยส่วนตัวเราเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
ขอแค่ให้เราตั้งใจที่จะทำและมีความมั่นคง อุปสรรคทุกอย่างก็จะผ่านพ้นไป
ผลมันอาจจะดีและไม่ดี แต่เราก็ไม่เสียใจที่ได้ลองทำ
ขอบคุณน้องSarawattaนะคะที่มาต่อความคืบหน้าให้ ได้รู้แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ
ติดตามนิยายของคุณอยู่นะ ชอบเรื่องต้นสนมาก มีครบทุกรสจริงๆเหมือนเพื่อนมาเล่าเรื่องให้ฟังเลย อยากอ่านตอนพิเศษน่ะ ยังหวานไม่จุใจเลย  :L2:
(แต่เรื่องทิว มาม่าจังเลยเก็บเอาไว้ก่อนนะ ขออ่านรวดเดียวดีกว่านะจ๊ะ)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: jubujubu ที่ 04-04-2012 09:10:05
ขอบคุณที่มาแจ้งความคืบหน้าค่ะ  หวังว่าคนต้นเรื่องจะใจอ่อนในเร็วๆนี้ :impress:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: namtarn11 ที่ 04-04-2012 23:37:19
 :impress: :impress: :impress: :impress:

ประทับใจในความรักนี้เสมอ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 05-04-2012 04:52:13
เศร้าๆ ซึมๆ นะคะสำหรับเรื่องนี้

เเต่ก็ได้รู้จักในคนพิการมากขึ้นค่ะ

น่าอายเหมือนกันที่ ทำงานกับคนพิการก็พอสมควร

เเต่มักจะมองไม่เห็น อย่างที่ ตัวเรื่องได้บอก

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: janeyuya ที่ 05-04-2012 06:12:37
ด้วยรัก...ฟ้าจะใสสว่าง
ด้วยรัก...ดาวจะคอยชี้ทาง
สักวันฝนคงจะสร่างซา น้ำตาจะแห้งเหือดหายไป

พี่แตซองน่ารักจริงๆ ▔□▔)/▔□▔)/▔□▔)/
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 05-04-2012 09:09:42
จริงๆ ผมเจอเรื่องนี้ในเว็บหนึ่ง เห็นว่าน่าสนใจก็เลยตามอ่าน แล้วก็แอบเซฟเก็บไว้เพราะเจ้าของเรื่องบอกว่า
ถ้าเรื่องจบปุ๊บเขาก็จะให้ขอให้ admin ลบทันที ตอนนี้ไปค้นหายังไงก็ไม่เจอครับเพราะลบไปแล้ว
ผมก็เลย PM ไปหาเขา แล้วก็ขออีเมล์เขามาก่อนที่ไฟล์จะโดนลบ ก็คุยกันมานานพอสมควรครับ
พอดีอยากฟังว่าเรื่องราวมันเป็นยังไงต่อ ว่างๆ ก็จะคุยอัปเดตกันครับ แล้วพอผมมาสมัครเขียนนิยายที่นี่
ก็เลยนึกถึงเรื่องนี้อีกครั้ง แล้วก็ขอเขามาลง คุยกันอยู่สักพักกว่าเขาจะยอม
แต่เขาก็กำชับว่าห้ามลงรายละเอียดอื่นๆ ที่นอกเหนือจากที่เขาเขียนไว้ ถึงได้เอามาลงได้ครับ
ลงแล้วก็ให้เขาเข้ามาอ่านด้วยนะครับ เหมือนเขาจะดีใจอยู่ที่มีคนชอบเยอะ
เมื่อคืนเท่าที่ลองคุยอีกครั้งเหมือนเสียงจะอ่อนๆ ลงละ อาจจะได้มีโอกาสเห็นตอนพิเศษที่พิเศษจริงๆ ไม่นานนี้
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 05-04-2012 15:21:01
ดีใจที่เหมือนจะได้ข่าวดี
ยังไงติดตามอยู่เสมอค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 05-04-2012 15:27:38
ดีใจจังเลยค่ะ ที่เจ้าของเรื่องเค้าอ่อนๆลงให้
น่าจะได้อ่านตอนพิเศษเร็วๆนี้แล้ว!! :กอด1:

ยังรออยู่นะคะ!!  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 05-04-2012 19:59:51
ขอให้คนเขียนใจอ่อน  มาต่อตอนพิเศษจริงๆ

มาช้ามาไวยังไงก็จะเฝ้ารอค่ะ

คิดถึงน้องเก้ากับพี่แตซองจัง  :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: zheeiiz* ที่ 05-04-2012 21:51:54
ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ ทำให้ได้เห็นมุมมองใหม่ๆในหลายด้านเลย
อยากอ่านต่อ ดีใจที่คนเขียนจะใจอ่อนแล้ว รอติดตามอยู่นะคะ

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ :)*
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: MAKWAN ที่ 06-04-2012 15:53:25
เศร้าจัง  :sad11: :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-04-2012 15:57:41
อยากอ่านมากๆๆๆเลยครับ จะรอนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Sirada_T ที่ 06-04-2012 19:21:39
อ่านแล้วอยากไปทำงานกับคนพิการเลยแฮะ ถึงเราจะไม่ได้เจอความรักแบบนี้ แต่การได้ช่วยเหลือคนก็เป็นอะไรที่น่าปลื้มสุดๆอยู่ดี  ขอให้มีตอนพิเศษหน่อยนะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: [newZy]CASS ที่ 06-04-2012 21:31:38
อ่านแล้วรู้สึกประทับใจมากๆเลยคะ
ให้ความรู้สึกอบอุ่นมีความสุข
อ่านแล้วทำให้ได้รู้อะไรหลายๆอย่าง
เกี่ยวกับความรัก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Also ที่ 07-04-2012 00:45:05
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ อ่านแล้วรู้สึกได้เลยว่าความรักมีอยู่รอบๆตัวเรา

เป็นกำลังใจให้คุณต้นเรื่องนำพาความรักของคุณไปให้ไกลที่สุดเลยนะคะ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 07-04-2012 07:23:31
มีข่าวดีมาบอกครับ ตอนนี้ต้นเรื่องเขายอมที่จะให้มีตอนพิเศษแล้ว 
แต่เขาจะไม่เขียนเอง คงจะให้ผมเขียนให้ อาจจะใช้วิธีเลือกเอาตอนที่น่าสนใจมาลง (เขายืนยันว่ายังไงก็จะไม่เขียนเอง)
ข่าวร้ายก็คือว่า... ผมรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจที่จะเขียนเลยครับ กลัวทำเรื่องเขาเสีย จากเรตติ้งดีๆ จะกลายเป็นเรตติ้งตกได้
ที่เขียนไว้ในบอร์ดสองสามเรื่องก็...เหมือนจะบอกอะไรบางอย่างได้อยู่
ไม่ได้โทษใครหรอกนะครับ อาจจะเป็นที่ฝีมือของเราเองที่ยังไม่ถึงขั้น แต่มันก็ทำให้ท้อเหมือนกัน  :เฮ้อ:
ก็เลยหนักใจ กลัวเขียนออกมาแล้วเรื่องเขากร่อย เราก็จะรู้สึกแย่ไปด้วย
จริงๆ ก็พยายามที่จะไม่รู้สึกอะไร แต่มันก็รู้สึกไปแล้วครับ  :o12:
ก็เลยว่าจะหยุดไปสักพัก เยียวยาจิตใจ ฝึกฝนวิทยายุทธ์มาใหม่ ถ้ารู้สึกมั่นใจแล้วก็จะกลับมาเขียนครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 07-04-2012 09:20:39
ยังไงก็จะรอตอนพิเศษนะ :')
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-04-2012 15:44:46
รอเสมอ แต่อย่านานนะ สู้ๆนะครับ  ตั้งใจฝึก
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 07-04-2012 15:53:22
ใจเย็นๆ ค่อยๆเรียบเรียง คนอ่านรอได้^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 07-04-2012 17:20:01
แต่งให้สุดฝีมือเลยนะคะ รออ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 07-04-2012 20:01:42
อยากรู้เหมือนกัน
จะรอนะคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: $VAN$ ที่ 08-04-2012 12:07:10
อยากอ่านจ้า ว่าปัจจุบันเป็นไงกันแล้ว ครอบครัวทั้งคู่รู้เรื่องหรือยัง และรับได้มั้ย
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 08-04-2012 12:16:45
ค่อยๆเขียนก็ได้ค่ะ ไม่ต้องรีบ
ยังไงเราก็รอได้

สู้ๆนะคะ!!  :กอด1:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 08-04-2012 12:28:44
เป็นกำลังใจให้ค่า  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: MooN_LinghT ที่ 09-04-2012 15:27:30
ไม่ต้องรีบนะคะ เขียนให้สุดฝีมือ สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้^^  o13
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Homepage ที่ 10-04-2012 23:07:20
อ่านจบแล้วยิ้มทั้งน้ำตาเลยครับ เป็นเรื่องราวความรักที่ซาบซึ้งมาก เรื่องราวที่จบอย่างมีความสุขทำให้คนอ่านยิ้มได้ชั่วครู่และอาจลืมมันไป แต่เรื่องราวที่จบลงแบบให้คนอ่านคิดต่อ จะตราตรึงอยู่ในหัวใจคนอ่านแบบนั้น
เรื่องราวที่เกิดขึ้นสวยงามมาก ราวกับเดินอยู่บนทางกลีบกุหลาบในความฝัน ไม่ว่าสองปีหลังจากนี้จะเป็นยังไงก็จะขออวยพรให้ความรักของเก้าผลิบานอย่างสวยงาม ชอบและประทับใจเรื่องนี้มาก รู้สึกดีที่กดเข้ามาอ่าน
ต้องขอบคุณมากเลยนะครับที่นำเรื่องราวดี ๆ แบบนี้มามาให้ผ่าน ขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับ และขอเป็นกำลังใจให้เก้าด้วยนะครับ
 :L1:  :L1:  :pig4: (:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: londoneye ที่ 11-04-2012 01:37:18
มารอตอนพิเศษด้วยคนค่า

แค่ถ่ายทอดเรื่องราวให้รับรู้ก็ได้คะ

แต่จากที่อ่านเรื่องที่แต่ง(ที่หลงรักคนเกาหลีนะค่ะ)...ก็ดีนี่คะ...เพราะก็อ่านอยู่

ถือว่าเขียนได้ดี o13

 :L2:เป็นกำลังใจให้ค่ะ

หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 11-04-2012 03:09:09
เข้ามารออ่านตอนพิเศษค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะ
 :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: lovelogically ที่ 11-04-2012 06:08:25
เห้ย พึ่งได้มาอ่านอ่ะ

ชอบมากเลย นำเสนอได้ดี


จะพูดไรดีหละ

เออชอบอ่ะ ขอบคุณมากที่เอานิยายที่มีมุมมองดีๆ มาให้เราอ่านกัน



เง้ออออ

อยากมีมั่งจัง ฮาๆ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ¡ииσcэиτ ที่ 11-04-2012 07:38:50
เรารอได้นะ

ชอบเรื่องนี้มากเลย
ให้แง่คิดตั้งหลายอย่าง
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 11-04-2012 08:12:17
โอเคค่าาาาา งั้นจะรอน้า~ สู้ๆๆๆๆ >.<)o! <<<(แล้วแกจะไม่ไปฝึกบ้าง - -?)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: dukdikdukdik ที่ 15-04-2012 17:32:48
ประทับใจมากค่ะ ขอบคุณที่นำมาให้อ่านกันนะคะ

หวังว่าจนถึงวันนี้จะรักกันอยู่นะคะ ^^
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: jubujubu ที่ 16-04-2012 16:39:04
รออ่านตอนพิเศษอยู่นะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 16-04-2012 17:49:30
กะว่าจะเขียนหลังจากเขียน "รักที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต" จบก่อนครับ
พอดีเรื่องนี้มันค่อนข้างดราม่า เขียนทีก็เครียดและใช้พลังงานเยอะ  :m15:
กลัวจะไปทำให้เรื่องอื่นที่เขียนมันพลอยเครียดไปด้วย :serius2:
แต่ใกล้จะจบแล้วล่ะครับ รออีกนิด...
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: wasawath ที่ 16-04-2012 20:17:26
อ่านแล้วซึ้งมากๆเลย T^T รออยู่นะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: nomo9 ที่ 21-04-2012 22:59:36
ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านนะค่ะ แล้วก็ขอบคุณเจ้าของเรื่องด้วย
สิ่งหนึ่งที่ดีใจก็คือมีวิธีที่เราสามารถสื่อสารให้คนหลายๆ คนได้ทราบได้เข้าใจและปรับเปลี่ยนมุมมองในการใช้ชีวิตได้
จริงๆ แล้วคนพิการหรือคนปกติ คนที่มีความคิดไม่เหมือนคนอื่นปกติหรือไม่ปกติ มันขึ้นกับมุมมองที่เรามองเห็น
ไม่อยากให้ใช้บรรทัดฐานทางสังคม หรือมุมมองส่วนตัวเข้าไปคิดแทนคนอื่น หรือไม่พึงพอใจใครด้วยเพียงแค่คิดไม่เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: GEMSTONEz ที่ 22-04-2012 22:08:22
อ่านแล้วประทับใจมากๆอ่ะ ซึ้งเลยย :monkeysad:

รอตอนพิเศษนะค๊ะ ขอให้จบ happy นะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: lazat.mchub ที่ 12-05-2012 22:10:36
ชอบเรื่องจังค่ะ อ่านแล้วรู้สึกประทับใจความรักทั้งคู่

ยังรอตอนพิเศษนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: จีเวลจ้า ที่ 12-05-2012 23:19:03
อ่านมาถึงตอนนี้แล้วงง...เรื่องจริงหรือเรื่องแต่ง???

อย่าว่างู้งี้เลยนะ เราไม่ค่อยเชื่อความรักแบบนี้เท่าไรอะ เป็นพวกมองโลกในแง่ร้ายมาก

ช่วยเฉลยนิดนึง แต่ยอมรับเลย อ่านไปร้องไห้ไป สงสารทั้งคู่อะ

ตอนพิเศษก็สู้ๆนะ เอาใจช่วย :mc4:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: CheeTah ที่ 12-05-2012 23:43:48
สู้ๆคร่า ยังไงก้อรออ่านอย่างแน่นอน
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 12-05-2012 23:50:38
รอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-05-2012 23:57:08
 o13พยายามเข้านะยังไงก็จะรอไมไปไหนเหรอกคะ :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: อือหืออ่ะ ที่ 14-05-2012 02:09:20
เข้ามาเป็นอีกหนึ่งเสียงที่อยากให้ตอนพิเศษมาต่อเร็วๆค่ะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - รอตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 11-06-2012 19:50:12
ทิ้งไว้นานเลยครับ ก็เอาเป็นว่าขอปิดนิยายเรื่องนี้ แล้วก็ขอให้ย้ายไปห้องนิยายที่จบแล้วเลยละกันครับ
ตอนนี้เหมือนเจ้าของเรื่องไม่อยากให้เอามาลงต่อครับ ที่เอามาลงไว้แล้วก็ไม่เป็นไร

คือตอนแรกเขาก็โอเคอยู่นะครับ แต่ไปๆ มาๆ ยังไงไม่รู้ เขาก็เปลี่ยนใจกระทันหัน
พยายามขออยู่หลายทีก็ไม่สำเร็จครับ ก็เอาเป็นว่าเรื่องสั้นเรื่องนี้คงจบแต่เพียงเท่านี้

ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาติดตามอ่านครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-06-2012 19:53:10
อ๊ะ! นึกว่าจะมีตอนพิเศษมาซะอีก แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นกำลังใจให้จขกท. ด้วยนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-06-2012 20:41:23
เพิ่งเข้ามาอ่านจ้า
ประทับใจจังเลย
จะมีสักกี่คนในโลก
ที่เป็นแบบนี้ที่ทำด้วย
ใจรักและสมหวังในรัก
เอาใจช่วยให้ทั้งคู่รัก
กันนานๆผ่านอุปสรรค
ทั้งหลายไปได้ด้วยดี
 :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: witchhound ที่ 11-06-2012 23:13:07
เสียดายจังเลยแต่ก็ไม่เป็นไรจ้า
ขอบคุณมากน้า
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: kissings ที่ 12-06-2012 12:16:40
ขอบคุณที่เขียนเรื่องซึ้งๆให้อ่านนะคะ

เป็นการจากลาที่ไม่ได้สิ้นสุด ถึงจะเศร้าไปบ้างแต่ก็ยังคงได้กลิ่นความสุขลอยอบอวลอยู่

ขอเป็นกำลังใจให้ต่อไปค่ะ  สู้ๆ
หัวข้อ: Re: คนนี้แหละที่พี่อยากได้ ขอวลอีกนิดนคดี๋ยวอมลงห้น่นอน อย่กันลืมน
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 12-06-2012 13:19:12
ค้นอยู่ตั้งนนกว่จจอนึกว่ดนย้ยล้ว ขอบคุณสหรับรื่องดีๆลขอห้ด้อยู่ด้วยกันจริงๆซที
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: coffin ที่ 26-06-2012 21:40:59
ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันกันนะคะ อ่านแล้วรู้สึกประทับใจกับเรื่องนี้มากๆเลยคะ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: LM1412 ที่ 28-06-2012 00:16:44
 :-[ :o8: :impress2:
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 29-06-2012 00:38:37
เป็นเรื่องที่น่าประทับใจเรื่องนึงเลยค่ะ
ขอบคุณคนเขียนที่เขียนเรื่องราวดีๆมาให้ได้อ่านนะคะ
และก็ขอบคุณคนโพสที่เอาเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันค่ะ
เรื่องนี้ทำให้เราเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับคนพิการได้มากเลยล่ะค่ะ
ภาษาก็ลื่นมากอ่านแล้วไม่สะดุดเลยแถมยังสื่ออารมณ์ออกมาได้ดีมากกกกก
เป็นนิยายที่ถึงไม่เขียนกำกับไว้ว่าเรื่องจริงแต่เราก็สัมผัสได้ว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องแต่ง
สุดท้ายก็เป็นกำลังใจให้คนเขียนสำหรับเรื่องต่างๆในอนาคตนะคะ :)
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: benza91111 ที่ 01-07-2012 14:29:56
อยากอ่านตอนพิเศษแฮะ

ขอบคุณสำหรับความสนุกและความรู้ในการเป็นPaนะครับ
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: skynotebook ที่ 03-07-2012 09:56:35
อ่านรวดเดียวจบเลยค่ะ ป ประทับใจมาก
เสียดายที่มาอ่านเรื่องนี้ช้าไปหน่อย แต่อ่านมาจนจบขนาดนี้ก็โอเคค่ะ
เพราะเรื่องนี้อ่านแล้วทำให้คิดอะไรได้หลายๆอย่าง แล้วทำให้คนอ่านคนนี้คนหนึ่งได้มองอะไรๆได้หลายมุมขึ้น(ไม่ใช่เรื่องคนพิการอย่างเดียวนะค่ะ เรื่องรอบๆข้างด้วย)
จริงๆก็ลุ้นให้คุณเก้ากับคุณแตซองได้รักกันไปนานๆ อยากให้คนเขียนค่อยๆเล่าเรื่องว่าตอนนี้ทั้ง2คนเป็นยังไงกันบ้าง ได้เจอกันบ้างไหม แต่ก็เข้าใจนะค่ะว่าถ้าเป็นเรื่องความสบายใจแล้วยังไงก็อยากจะเก็บไว้ในใจของทั้ง2คน
เอาเป็นว่าให้กำลังใจคุณเก้าและคุณแตซองนะค่ะ อุปสรรคมีไว้ให้ข้ามผ่าน และขอให้ข้ามผ่านไปด้วยพร้อมกันทั้งคู่

ขอบคุณที่นำเรื่องดีๆ(มากๆด้วย)มาแบ่งปั่นค่ะ 
หัวข้อ: Re: (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ - ย้ายได้เลยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dekthuem ที่ 03-07-2012 23:30:07
อ่านไปลุ้นไปว่าจะบอกรักกันเมื่อไร
ชอบมากเลยเรื่องนี้
ขอบคุณสำรับเรื่องดีๆแบบนี้ะคับ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: NewYearzz ที่ 10-07-2012 00:08:32
ถึงแม้จะไม่เคยใกล้ขนาดนั้น แต่ผมก็เคย "หลงรักคนพิการ" ครับ

เรื่องนี้ให้มุมมองที่ดีมากทีเดียว

ขอบคุณทั้งคนที่เอามาลงและขอบคุณไปถึงเจ้าของเรื่องด้วยนะครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: pedgampong ที่ 10-07-2012 10:16:38
 :กอด1: พูดอ่ะไรไม่ออก บอกไม่ถูก ประทับใจพี่เค้ากะน้องเก้าจัง
ตอนนี้เป็นยังไงมั่งแล้วคะเนี่ย ขอให้ทุกอย่างราบรื่นไปด้วยดีนะคะ เป็นกะลังใจให้   :L2:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: sam15225 ที่ 10-07-2012 14:11:52
ชอบมากครับ
อ่านแล้วอิน
ขอบคุณทึ่เอาเรื่องสนุกๆมาให้อ่านนะครับ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: CoMa ที่ 10-07-2012 14:23:48
เป็นอีกเรื่องที่ดีมากๆเรื่องหนึ่ง
ทำให้เราเข้าใจความรู้สึกความคิดของคนพิการมากขึ้น
เราจะไปคิดแทนเค้าทุกอย่างไม่ได้หรอก
ประทับใจมากค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 03-09-2012 19:00:34
อึม  อยู่ๆก็คิดถึงเรื่องนี้ก็เลยเข้ามาอ่านอีกรอบ  จะเรียกว่า  เป็นชีวิตที่..  ลำบากจริงๆนะ  อยากจะให้รักครั้งนี้สมหวัง
แต่ก้ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน  สรุปว่าเรื่องนี้เรื่องจริงหรือเปล่าหว่า  แต่ถ้าเป้นชีวิตจริง

ก็อยากบอกว่า  มันคงไม่ง่ายเหมือนนิยายที่แล้วแต่คนเขียนจะปรุงแต่ง  แต่ถึงอย่างนั้นก้อยากบอกจริงๆว่าเรื่องนี้ประทับใจมากๆเลย
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: laplace ที่ 07-09-2012 15:51:27
อ่านจบแล้ว เสียน้ำตา แต่ ได้ร้อยยิ้ม
ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 07-09-2012 19:55:09
ประทับใจมากเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: wawa_piya ที่ 08-09-2012 18:49:49
ว้า เสียดายจังที่ไม่มีตอนพิเศษ
แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เค้าคงมีเหตุผลส่วนตัวของเค้า
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่ารักมากเลยนะคะ
เป็นเรื่องที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นมากๆเลย
ก็ดีใจนะคะ ที่อย่างน้อยก็เคยอ่านเรื่องนี้
สู้ต่อนะคะไรท์เตอร์ อย่าหมดกำลังใจนะคะ
ไม่ว่ากับเรื่องอะไรก็เถอะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: fillgoto ที่ 08-09-2012 20:02:29
ฮื่อๆ สุดยอดมากๆเลยค่ะ เนื้อเรื่องแบบนี้ปกติเราคงจะร้องไห้ไปแล้ว
แต่อ่านแล้วมันแฝงไปด้วยความอบอุ่นจากความรักจนร้องไม่ลงเลยค่ะ
มันเป็นความเศร้าที่น่าประทับใจมากๆ ต้องขอบคุณเรื่องนี้ที่ทำให้เราเปลี่ยน
ความคิดที่มีต่อคนพิการไปได้อย่างสิ้นเชิงเลยล่ะค่ะ
มันสุดยอดมากๆจริงๆ ♥
อีกทั้งความรักที่สวยงามของทั้งพี่แตซอง และ เก้า มันเป็นอะไรที่ดูจะอบอุ่นมากๆ
จนน่าอิจฉา ในชีวิตจะมีสักกี่ครั้งกันที่คนเราจะได้พบเจอกันความรักดีๆขนาดนี้
ว่าไปแล้วก็แอบอิจฮาพี่แตซอง กับ เก้า ไม่ได้นะค่ะเนี่ย ฮิๆ ~
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: Tassanee ที่ 08-09-2012 21:32:54
อ่านแล้วประทับใจมากค่ะ   
ความรัก....มันเป็นเรื่องของจิตใจจริงๆ  เน๊าะ  เริ่มรู้สึกเสียดายเหมือนกันที่ไม่มีตอนพิเศษอ่ะค่ะ
อยากรู้ด้วยว่า ได้กลับไปรึเปล่า
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: funland ที่ 08-09-2012 22:05:45
ประทับใจมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะที่ นำมาให้ได้อ่าน  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: ่patsaporn ที่ 08-09-2012 23:57:22
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดี ๆ ค่ะ อ่านแล้วได้ความรู้และมุมมองเกี่ยวกับคนพิการเพิ่มขึ้นมากเลย
พออ่านแล้วอยากให้คนในสังคมมองคนพิการแบบคนปกติ และมีน้ำใจต่อเค้ามาก ๆ
และอยากให้ประเืทศไทยพัฒนาถนนหนทาง หรือการเดินทางที่เอื้อต่อคนพิการมากขึ้นค่ะ

ดีใจที่สองคนใจตรงกัน ลุ้นกับน้องแทบแย่ คิดว่าจะหลงรักเค้าข้างเดียวซะแล้ว
แต่เห็นอาการพี่แตซองหลัง ๆ นี่แบบ น่าจะใช่น้าที่เราคิด แล้วมันก็ใช่จริง ๆ
ไม่ว่าจะเป็นยังไงต่อไป แต่ความรักก็เป็นสิ่งสวยงามเสมอค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: Aladin ที่ 09-09-2012 00:52:02
อ่านจบแล้วก็เข้าใจ เห็นมุมมองที่ไม่เคยคิด หรือรู้สึกมาก่อนเลย
ขอบคุณที่เอามาลงให้อ่านกันนะคะ เป็นเรื่องราวที่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: nnnnnnnn ที่ 09-09-2012 16:09:54
ประทับใจมากเลย อยากรู้ว่าตอนนี้ได้เจอกันรึยังนะ  o9
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 24-10-2012 21:11:39
จริงๆ ตั้งใจจะเขียนตอบอีกเรื่องหนึ่งที่ผมเขียนไว้ ชื่อเรื่อง I Love Kim Jong Hoon (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=32450.0) แต่มันตอบไม่ได้ ก็เลยมาเขียนที่เรื่องนี้แทน เพราะเกี่ยวกับเกาหลีเหมือนกัน พอดีตอนนี้มางานที่เกาหลีครับ เมื่อสามปีที่แล้วใรช่วงเดือนตุลาคมผมมีความทรงจำดีๆ กับหนุ่มเกาหลีคนหนึ่ง ชื่อคิม จอง ฮุน แต่ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว คราวนี้ที่มาก็ทำให้นึกถึงและคิดถึงเขามากๆ แปลกนะที่ผมยังไม่เคยลืมเขาเลย แล้วก็ดันบังเอิญได้มาเจอคนที่หน้าตาคล้ายๆ กับเขาที่นี่ ก็ยิ่งทำให้คิดถึง ตอนนี้ที่นี่หนาวมาก ตอนที่ผมเจอเขาตอนนั้นก็หนาวมากเช่นกัน ไม้มีอะไรหรอกครับ แค่เพ้อเจ้อไปกับเรื่องเก่าๆ เพราะได้มาเจออะไรบางอย่าที่กระตุ้นเตือนให้นึกถึงเท่านั้นเอง ไม่ง่ายนักที่ชีวิตเราจะได้เจอคนที่ทำให้หัวใจเราอบอุ่นและอยากมีความรัก เสียดายที่อะไรๆ ก็ไม่เป็นอย่างที่เราคิด ชีวิตก็เป็นแบบนี้ แต่อย่างไรก็ยังคิดถึงเสมอนะ คิม จอง ฮุน หวังว้าเราคงจะได้มีโอกาสพบกันอีกสักครั้ง
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: Yร้าย ที่ 30-10-2012 12:34:30
เป็นเรื่องที่ทำให้ไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดแบบไหนที่จะบรรยายออกมาให้ตรงที่สุดได้.........มันเป็นความรู้สึกเหมือนมีอะไรเต็มไปหมดในอกของเรา.....รู้แค่ว่าอ่านเสร็จก็คว้าทิชชู่มาเช็ดน้ำตาเป็นห่อที่ 2 พร้อมกับ..สาธุ..ขอให้คู่นี้สมหวังและได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเถอะนะอย่าให้คู่นี้ต้องพบเจอกับปัญหาอะไรทั้งสิ้น...สาธุ... :call:  เฮ้อ....เป็นเอามากมายที่เดียวเลยข้าพเจ้าบ้าไปแล้ว (มีความสุขมากเกินพิกัดละมั้ง  o13)
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 31-10-2012 12:52:36
 o13 ขอบคุณน่ะค่ะสำหรับเรื่องดี ๆ ที่เอามาลงให้อ่านทั้งคนต้นเรื่องและผู้เขียนด้วยน่ะจ้ะ เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจมาก ๆ สำหรับเรื่องราวของคนพิการนั้นก่อนที่ตัวเองจะมีโอกาสได้อ่านหนังสือเรื่อง "ไม่ครบห้า" นั้นก้อคงมีความคิดแบบคนทั่ว ๆ ไปน่ะค่ะว่าเราควรจะสื่อสารกับเขายังไงดีเพื่อไม่ให้กระทบจิตใจของเขาจากที่เกรง ๆ ก้อเลยกลายเป็นความเมินเฉยไปเลยน่ะ แต่พอได้อ่านเรื่องไม่ครบห้าเลยทำให้เราได้รู้ถึงความคิดหลาย ๆ อย่างของเขาและได้แก้ไขความเข้าใจผิดหลาย ๆ อย่างที่เอาตัวเราเป็นบรรทัดฐานไปน่ะ หลังจากนั้นก้อเลยทำให้เรากล้าที่จะสื่อสารกับเขามากขึ้นกล้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือเขา และการที่ได้อ่านเรื่องนี้ก้อทำให้ได้ตอกย้ำความคิดนั้นมากขึ้นน่ะ ยังไงขอเป็นกำลังใจให้กับความรักของคนทั้งสองน่ะค่ะ เราเชื่อมั่นว่าความรักเช่นนี้จะต้องยืนยาวและมั่นคงค่ะ
ป.ล.ผู้เขียนที่กรุณานำเรื่องดี ๆ มาเผยแพร่ก้อขอให้เขียนต่อไปน่ะค่ะ ดีไม่ดีไม่เป็นไรค่ะการฝึกฝนและการเขียนด้วยความรู้สึกรักจะทำให้คุณประสบความสำเร็จแน่นอนค่ะ :mc4: :bye2:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: HoAo ที่ 01-11-2012 18:59:07
อ่านจบแล้วก็อดรู้สึกใจหายไม่ได้
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: kaew203 ที่ 06-11-2012 02:47:00
ขอบคุณที่เก็บเรื่องดีๆอย่างนี้มาฝากให้อ่านนะคะ
ได้แนวคิดดีๆเยอะมากเลยค่ะ
และก็เป็นกำลังใจให้ต้นเรื่องด้วย
ขอให้รักนี้ดีอย่างนี้ไปเรื่อยๆนะคะ

:bye2:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: aten ที่ 12-03-2013 01:46:01
เป็นเรื่องที่ดีมากๆเลยค่ะ
ให้ข้อคิดอะไรเยอะแยะมากๆ
โดยเฉพาะเมื่อกลับมาเปรียบเทียบคนพิการในประเทศไทยแล้วด้วย
จริงๆตอนจบถึงแม้จะเศร้าไปบ้างแต่ก็น่ารักมากๆ
อยากให้ได้กลับไปเจอกันอีกแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
ขอบคุณที่นำเรื่องราวมาให้อ่านค่ะ น่ารักมากๆ :o8:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: yong ที่ 12-03-2013 13:10:14
เห็นชื่อคุณศาลาวัด เลยรีบเขาอ่าน
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆหน้าอ่านอีกเรื่อง ไม่ผิดหวังเลย
ทำให้ได้ความรู้ เข้าใจคนพิการ ผู้ดูแลมากขึ้น คิดว่าไม่รู้ตัวเองจะมีความสามารถหรือปล่าว
คงมีโอกาสได้อ่านเรื่องดีๆๆ อีกนะครับ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: gayraygirl ที่ 28-11-2013 15:44:38
เป็นเรื่องราวที่ดีจริงๆ ค่ะ ทำให้เห็นมุมมองในแง่ที่เราไม่ได้คิดมาก่อน
ชอบนะคะ ทั้งอบอุ่น ซึ้ง แต่ไม่เศร้า เพราะเรามีความสุขที่ได้อ่าน
ขอบคุณมากนะคะสำหรับการแบ่งปันเรื่องราวดีๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: cokebundit ที่ 03-12-2013 20:59:17
  o13 ขอบคุณที่นำเรื่องราวดีๆมาแบ่งปันกันนะคับ  :o12:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 21-05-2015 14:06:45
กลับมาแล้วนะครับ

มีหลายท่านถามมาหลังไมค์ว่าตอนนี้น้องเก้ากับพี่คิมแตซองเป็นยังไงบ้าง ผมไม่ได้ติดต่อกับเจ้าของเรื่องอีกเลยครับ
พอดีผมก็หายไปเกือบๆ สามปี เพิ่งจะกลับมา ขาดการติดต่อกันไปเลย
ในอนาคตอันใกล้นี้ผมจะเขียนเวอร์ชันในเมืองไทยของเรื่องนี้ แต่ไม่เกี่ยวกับน้องเก้าหรือพี่คิมแตซองนะครับ
เป็นเรื่องที่ผมจะเขียนขึ้นมาเอง เกี่ยวกับความรักของคนพิการและไม่พิการ (ที่เป็นเกย์) ครับ

 :L2: :3123: :L1: :3123: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: ❣☾月亮☽❣ ที่ 21-05-2015 15:38:09
 :hao5:  อ่านจบแล้วเสียน้ำตาเลยค่ะ ชีวิตคนเราก็แบบนี้ มีพบมีจาก
เก็บความทรงจำที่ดีๆและประทับใจเอาไว้ตลอดไปดีกว่า
อนาคตเป็นสิ่งที่เราไม่รู้ แต่เราขอมโนว่าทั้งสองคนยังติดต่อกันอยู่เนาะ

ขอบคุณมากค่ะ ประทับใจมาก
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 21-05-2015 16:57:30
บังเอิญจริง กำลังนึกถึงเรื่องนี้อยู่เลย :heaven
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: MeganMP ที่ 21-05-2015 21:13:09
รู้สึกประทับใจเรื่องนี้มาก อยากอ่านต่ออีกนะ ไม่รู้ว่าคนเขียนตัวจริงเขาเขียนไว้ไหน ส่วน จขกท.ไปหามายังไง แต่ก็ขอบคุณมากนะครับ มันทำให้หัวใจอบอุ่นนะ :)

ปล.เป็นไปได้ อยากอ่านที่เหลือทั้งหมด
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 21-05-2015 22:37:04
ผมได้เรื่องนี้มาจากบอร์ดชุมชนที่มีต้นไม้คล้ายๆ มะพร้าวเมื่อหลายปีมาแล้วครับ
ตอนนั้นผมตามอ่าน แล้วก็เซฟงานเก็บไว้ แล้วก็ PM คุยกับคนเขียน ขออีเมล์มาด้วย
ด้วยความที่มันน่าสนใจมาก ผมก็เลยอีเมล์ไปขออนุญาตน้องเขาว่าเอามาลงที่นี่อีกได้ไหม
เพราะผมก็เคยทำงานองค์กรที่เกี่ยวกับคนพิการอยู่ เรื่องนี้น่าจะช่วยทำให้คนเห็นภาพใหม่ๆ ของคนพิการได้บ้าง
ก็คุยกันอยู่สักพัก ผมก็บอกเขาว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์มากถ้าเอามาเผยแพร่ ถือว่าช่วยให้คนเข้าใจคนพิการมากขึ้น
สุดท้ายเขาก็อนุญาตให้เอามาลงใหม่ที่เว็บนี้ ผมเอามาปรับภาษานิดๆ หน่อยๆ
ส่วนในเว็บเดิมตอนนี้ไม่มีแล้วครับ เข้าใจว่าเขาน่าจะลบไปแล้ว
ตอนนี้ติดต่อกลับไปทางอีเมล์ก็เงียบไปเลยครับ ก็เลยสุดที่จะคาดเดาว่าเป็นยังไงบ้าง
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: Gatjang_naka ที่ 22-05-2015 10:48:10
 :sad4: น้ำตาไหลพราก  อยากอ่านต่อน่าจะมีตอนพิเศษ แบบกลับมาเจอกันอีกครั้งแบบนี้
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 09-06-2015 14:15:31
สุดท้ายก็ตัดสินใจอ่าน ตอนแรกที่ไม่อยากอ่านเพราะผมกลัวว่าในเรื่องจะทำให้ผมรู้สึกอย่างที่ผมกลัว
แต่ตอนนี้คิดว่าคงรับได้ เลยตัดสินใจอ่าน และไม่ผิดหวังจริงๆ ได้ข้อคิดอะไรเยอะแยะ ได้มุมมองใหม่ๆ สำหรับคนพิการ
ผมก็พอคุ้นกับคนพิการมานิดหน่อย อย่างคนตาบอด หรือคนที่พิการทางสมอง แต่ก็ไม่ถึงกับขนาดช่วยดูแลเรื่องในชีวิตประจำวันแบบในเรื่อง

ผมชอบเรื่องนี้ที่เขียนให้อ่านง่าย รวบรัด กระชับ ผมว่าคุณเก้าโชคดีนะที่ได้เจอความรักดีๆแบบนั้น ผมว่าพี่คนนั้นดูอบอุ่น ใจดีอย่างที่บอกจริงๆ
ถึงจะไม่รู้จัก แต่สิ่งที่ถ่ายทอดมาทางงานเขียนก็ชัดเจน และพี่คนนั้นก็โชคดีที่เจอคุณเก้า...

แต่ตอนจบทำเอาผมน้ำตาซึมพร้อมกับความรู้สึกหน่วงๆ ในใจ
ผมว่าแล้วต้องเจอแบบนี้ การจากลา มันให้ความรู้สึกทั้งสุขและเศร้าปนกันไป

สุดท้าย ขอบคุณเจ้าของเรื่องที่อนุญาตให้เอามาลงเวปนี้
ขอบคุณ คุณ sarawatta ที่นำเรื่องราวดีๆ มีข้อคิดดีๆ มาลงให้ได้อ่านกันด้วยครับ

หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 15-06-2015 08:10:03
ไม่รู้จะติดต่อเจ้าของเรื่องยังไง แค่อยากบอกว่า ขอบคุณที่เขียนมาให้อ่านกัน ไม่ว่าปัจจุบันจะเป็นยังไงก็ตาม มันคงเป็นความทรงจำที่ดีมากเลยทีเดียว ขอให้โชคดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 15-06-2015 11:08:18
ขอบคุณครับที่เอาเรื่องมาลงให้อ่าน ขอบคุณเจ้าของเรื่องด้วย อ่านแล้วรู้สึกดีมากจริง ๆ ..... ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 19-06-2015 14:44:24
เรื่องนี้อ่านจบไปนานมากกกกก แล้วล่ะ จนกระทั่งบังเอิญได้ไปอ่านงานของคุณศาลาวัด เลยได้เจอว่าเคยอ่านเรื่องนี้ด้วยเลยตามเข้ามาอ่านอีกรอบก้อยังประทับใจเช่นเดิมเลยน่ะ ใจแล้วอยากทราบความคืบหน้าของชีวิตทั้งคู่ว่าได้กลับมาอยู่ด้วยกันหรือยังน่ะ แต่เท่าที่อ่านในเรื่องเหมือนการเขียนถึงเรื่องอดีตที่เคยเกิดขึ้นและปัจจุบันก้อน่าจะได้อยู่ด้วยกันแล้วน่ะ หรือยังไง  :mew2:
ป.ล.จะติดตามอ่านงานเรื่องอื่น ๆ ด้วยน่ะจ้ะ ตอนนี้ก้ออ่านเรื่องธุรกิจนี้มีรักอยู่ อ่านแล้วได้ความรู้ทุกเรื่องเลย มีสาระแบบฟิน ๆ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 30-06-2015 22:19:49
เพิ่งตามอ่านจบไม่นานคะ อ่านแล้วรู้สึกซาบซึ้งไปกับความรักของทั้งสองคน ตอนจบของเรื่องแอบเหงาๆ นะคะ ยังไงก็ยังคอยติดตามคะ :)))
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: nucha ที่ 02-08-2015 16:27:00
ไม่รู้ว่าน้องเก้า กับ พี่แตซองจะเป็นอย่างไรบ้างเนอะ

คงสบายดีมีความสุข

ผมเคยอ่านตั้งแต่น้องเก้าลงเป็นตอน ๆ ที่เว็บต้นทางนู่นละ

ตอนนี้กลับมาอ่านอีกรอบ ก็ยังซึ้งใจอยู่

คิดถึงทั้งเก้าและพี่แตซองนะ
หัวข้อ: Re: ◆◣ ▧ ▨ ▣ (เรื่องสั้น) เมื่อผมหลงรักคนพิการ
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 03-08-2015 23:23:53
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ นะคะ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟ (UNDER REVISION)
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 24-09-2015 08:34:12
คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 1

:L1:

o13

เข้ามาจิ้มค่ะ 555  :katai4:
สารภาพเลยว่าตอนเห็นนิยายเรื่องนี้อีกครั้งแอบดีใจ นึกว่ามีเรื่องมาเล่าต่อจากเรื่องเดิมที่เคยเอามาลง  :hao5:
แต่ไม่เป็นไรค่ะ อ่านตอนรีไรท์ใหม่อีกทีก็ได้ ระลึกความหลัง

ปล.แอบใจหาย จะเลิกเขียนนิยายแล้วเหรอคะ  :ling3:  อย่าเลิกเลย ยังอยากอ่านอยู่นะคะ

มาลงชื่อรออ่านด้วยคนครับบบบ

ดีใจที่เอามารีไรท์ค่ะ  มีดีเทลมากขึ้น  ร่วมสมัยมากขึ้น

งานดูแลคนพิการหรือผู้สูงอายุนี่เป็นงานที่ในประเทศที่เศรษฐกิจพัฒนาแล้วจำเป็นต้องใช้จำนวนคนในการบริการอย่างมาก ตราบใดยังไม่มีเครื่องจักรที่สามารถเข้ามาแทนที่ได้   ในยุโรปคนต่างชาติจำนวนมากทำอาชีพนี้

ลงชื่อรออ่านค่ะ

มาปูเสื่อรออ่านค่ะ เนื้อเรื่องน่าสนใจ... :mew1: ตื่นเต้นแทนน้องเก้า

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 2

นับถืออาชีพนี้เลยค่ะ ต้องรักจริงๆนะค่ะ เพราะต้องทำทุกอย่างเลย  การได้ดูแลคนไข้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ มันเป็นอาชีพที่ได้บุญด้วยนะค่ะ  :mew3: 
 :L2: :L2:  ให้คนแต่งคนเก่งค่ะ

:katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: ดีใจจ้ะที่มาลงใหม่ เพราะ เราว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ น่ะได้ความรู้และมุมมองใหม่ ๆ มาก และยังโรแมนติกมากด้วย แต่ไม่ทราบว่าเรื่องราวจะเพิ่มเติมมากขึ้นกว่าที่เคยลงรึเปล่าจ้ะ  :mew2:

แสดงออกมากไม่ได้ก็ขอแทะโลมพี่แตซองในความคิดไปพลางๆ ก่อนก็แล้วกัน..ใช่ไหมคะน้องเก้า~ >< พี่แตซองก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยเน้อ.. :-[

เห็นชื่อคนแต่งแล้วอ่านชื่อเรื่อง รีบเข้ามาเลยคะ  o13 พี่แตซองกับน้องเก้า แล้วแอบอ่านไปอมยิ้มไป น้องเก้าคืออะไรแอบเนียนแต๊ะอั๋งพี่แตซองตลอด :hao6: รอติดตามนะค๊าาาา  o13

ฮันแน่อิหนูเก้าไม่ทันไร
ก็คิดไม่ซื่อซะแล้ว :z1:

ชอบพี่แตซองซะแล้วสิเรา  :katai2-1: น้องเก้าแอบหื่นนะเนี่ย :z1:

คนต่างชาติ คนต่างศาสนา คนพิการ คนที่มีเพศวิถีนอกเหนือจากชายหรือหญิง ต่างกันตรงไหน?

คำตอบคือ ไม่แตกต่าง

นี่ก็แค่ความหลากหลาย ตัวเราเองยังมีร่างกาย ความชอบ ความคิด ที่แตกต่างกันไป
ทุกคนล้วนมีเอกลักษณ์ในตนเอง เราควรยอมรับและเคารพในความหลากหลายนี้ แล้วปฏิบัติต่อกันด้วยความเท่าเทียม

นี่จะทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ

มาอ่านแล้ว
   อ่านแล้วคับ บุคลิกน้องเก้าทำให้ผมนึกถึงการ์ตูนญี่ปุ่นขึ้นมาเลย ๕๕๕  น่ารักดี รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ


ชอบแนวนี้อ่ะ ตามๆๆๆ :hao7:

จำเรื่องนี้ได้  :impress2: :mew2: :กอด1:

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 3

ยะฮู้!!!! มาคนแรก

ขอไปจิ้นพี่แตซองก่อน เดี๋ยวมาเม้น
-----------------------------------

พี่แตซองเข้มแข็งมาก ชอบจัง
ชอบประเด็นที่เขาสามารถตัดสินใจเองว่า ฉันจะเปียก ฉันจะป่วย ฉันเลือกทำทุกสิ่งที่อยากทำ ฉันเข้มแข็ง
ความสงสารไม่ช่วยให้ใครแข็งแกร่งขึ้น ความเข้าใจและการประคับประคอง สนับสนุนต่างหาก

เราเคยไปช่วยงานเป็นล่ามให้การประชุมของคนพิการ ได้สัมผัสว่า จิตใจที่เข้มแข็งนี่แหละ ที่ทำให้ความพิการเป็นแค่ความแตกต่าง ได้พบสาวน้อยที่ตามองไม่เห็น แต่หัวใจยิ่งใหญ่มาก จากญี่ปุ่นมาอยู่เมืองไทย 2 ปี พูดไทยคล่องปรื๋อ แล้วยังทำงานในองค์กรที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ผู้พิการในเมืองไทยด้วย

เก้าเนียนมากกกก 5555 :hao7:

พี่แตซองพับคำว่า 'เกรงใจ' เก็บใส่กระเป๋า
ไปได้เลยค่ะ เพราะตราบใดที่น้องเก้ายังเป็น PA ให้กับพี่อยู่นั้น น้องก็เต็มใจให้พี่แตซองรบกวนได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยเชียวล่ะ
ค่าา ><

ตามมาอ่านฉบับรีไรต์อีกที
ยังน่าติดตามเหมือนเดิมเลยค่ะ.  :กอด1:
+1 เป็นกำลังใจให้นะคะ  :hao3:

ชอบน้องเก้าาาา  :m1: ชอบเวลาน้องเก้าเนียนกับพี่แตซอง  :impress2: และก็อยากจะบอกพี่แตซองว่าพี่ไม่ต้องคิดเรื่องเกรงใจใดๆ กับน้องเก้าหรอกนะคะ น้องเก้าเค้าเต็มใจค่า  :z1:

ชอบมากเรื่องนี้ตามอ่านมานาน

อิหนูเก้าเนียนนะจ๊ะ :mew1:

พี่เตซองเข้มแข็งมากจริงๆ :กอด1:
+1จ้า

เป็นเรื่องที่ดีนะคะสอนให้รู้จักดูแลผู้อื่น

เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องติดตาม น่ารักมาเลยค่ะหนูเก้า พี่แตซองก็น่ารักมาก เข็มแข็งดี แต่แอบใจแป้ว

พี่เขามีแฟนแล้วเหรอ ไม่เป็นไรหนูเก้า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันก็จะกร่อน อิ อิ ไม่ค่อยเข้าข้างหนูเก้าเลยนะ  :katai2-1:

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 4

วันละนิดจิตแจ่มใสใช่มั้ยน้องเก้า

พี่แตซองจะหวั่นไหวบ้างไหมหนออออ :laugh:

อ้างถึง
"ครับเก้า เดินทางกลับบ้านดีๆ นะครับ แล้วพรุ่งนี้เจอกัน"

ถ้าพี่แตซองเปลี่ยนรูปประโยคด้านบนเป็น 'ครับเก้า ถ้ายังไงจะค้างที่นี่ก็ได้นะครับ เพราะตอนนี้มันก็ดึกพอสมควรแล้ว' น้องเก้าเองก็คงจะเขินเสียจนทำอะไรต่อไม่ถูกเลยล่ะเน้อ~ :m3:

คิดตามความเห็นด้านบนแล้วฟินนนนนนน

ได้อ่านเรื่องนี้สักที
เรื่องน่ารักๆ ละมุนๆดีอ่ะ
อ่านไปยิ้มไปกับมิตรภาพของทั้งคู่

แหม๋เก้านิดหน่อยก็เอานะจ๊ะ

:o8:  น้องเก้าขยันมาก  ดีๆ
ขยันหยอดน่ะ พี่แกจะรู้สึกอะไรบ้างหรือยังเนาะ
 :L2:

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 5

เหตุผลนอกเหนือไปจากนั้น ก็เป็นเพราะว่าน้องเก้าอยากอยู่ใกล้ๆ กับพี่แตซองตลอดเวลาเลยนั่นล่ะค่าา :-[

:o8: เค้าอ่านแบล้วเขิล อิอิ

โอ้ยยยยยน่าร้ากกกกก็คนมันงอนน

พยายามต่อไปนะเก้า  น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันยังกร่อน :laugh:

ชื่อใหม่น่ารักดีค่ะ

น้องเก้าช่างหยอด มีงอนด้วย มุ้งมิ้งน่าดู

พี่แตซองจะรู้ตัวเมื่อไรเนี่ย

เข้าใจกันดีขึ้น ค่อยๆกระชับมิตรภาพกันไป

ชื่อใหม่ไฉไลกว่าเดิม

o13   ชื่อใหม่แจ่มค่ะ

เก้าน่ารักจังเลยค่ะ...มีแอบหึงพี่ชายด้วย
แต่ดูท่าทางน้องชายคนนี้จะเห็นว่าเป็นมากกว่าพี่ชายน่ะเออ...
เรื่องราวอบอุ่นน่ารักมากค่ะ
คนเขียนยังจัดเรียงตัวอักษรสะอาดตา...น่าอ่านเหมือนเช่นเคย
ภาษาก็ดูตั้งใจเขียน...ชัดเจน..อ่านง่ายดีคะ

มาตามอ่านและ  +เป็ด คะ
ชอบชื่อฉบับ rewrite มาก รู้สึกว่าชื่อมีความสดใสมากขึ้นมีกลิ่นอายความร่าเริงมากขึ้น
ยิ่งพอได้อ่านยิ่งรู้สึกว่า เก้าในภาคนี้มีชีวิตชีวากว่าภาคเก่าเยอะ (แอบจะ very energetic เสียด้วย  :hao7: 555+ แต่ชอบนะคะ)
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง (REVISION) จาก...เมื่อผมหลังรักคนพิการ ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 26-09-2015 20:28:16
คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 6

รักต้องไฝ้วเลยใช่มั้ยน้องเก้าไฝ้วหลายอย่างเลย

อ้างถึง
"เก้า...ใครเขาอยากจะมาเป็นแฟนกับคนพิการล่ะ เก้าอยากมีแฟนเป็นคนพิการหรือเปล่าล่ะ"

พี่แตซองจะไม่ตกใจใช่ไหมคะ ถ้าน้องเก้าตอบออกมาตามที่ใจคิดจริงๆ เรากลัวก็แต่เจ้าตัวเขาจะแห่ขันหมากมาขอพี่แตซองเพื่อเป็นการยืนยันคำตอบอีกแรงด้วยเนี่ยสิ~ :laugh:

ส่วนเรื่องแฟนของพี่แตซอง..ไม่มีความเห็นเลยค่ะ เพราะเขาจะอยู่หรือว่าจะไปก็เป็นสิทธิ์ของเขา แต่ที่รู้ได้อย่างหนึ่งเลยคือ เหตุการณ์ครั้งนี้ช่วยพิสูจน์ใจใครหลายๆ คนที่พี่แตซองเคยคบค้าสมาคมด้วยเลย ว่าแท้ที่จริงแล้วเนื้อแท้ของพวกเขานั้นเป็นอย่างไร ^^

:L2: 
นับถือหัวใจพี่แตซอง

พี่แตซองเข้มแข็งอ่ะ จากอะไรๆที่เคยมี เคยทำ
แต่ตอนนี้ไม่มี และเวลาปรับตัวก็ไม่นานด้วยนะ
คือ 4 ปี สำหรับคนอ่านคิดว่าไม่นานพอจะยอมรับ
แต่พี่แตซองทำได้และทำได้ดีด้วย เด็ดเดี่ยวจริงๆ
เป็นกำลังใจให้น้องเก้าต่อไป (ชอบเก้า จิรายุ)

ชื่อใหม่น่ารักดีค่ะ รักนี้มีล้อ ...

น่าสงสารพีแตซองจัง ของให้น้องก้าวได้บอกความในใจกับพี่แตซองเร็วๆนี้  :mew1:

น้องเก้าเรานี่ทั้งแย้บทั้งหยอดพี่เค้าตลอด เอาน่าน้องเก้าน้ำหยดลงหินทุกวันยังไงก็ต้องเห็นผลล่ะน่า

พยายามต่อไปเก้า
อีกไม่ช้าต้องได้ใจ
พี่แตซองแน่นอน :z2:
+1

เรื่องนี้เป็นหนึ่งในเรื่องในดวงใจของเราเลยล่ะ อ่านแล้วให้ทั้งความรู้และความรู้สึกที่ดี จนอยากเก็บไว้บนหิ้งหนังสือจริง ๆ แต่เราก้อเข้าใจเหตุผลด้วยน่ะ  :mew1:

เอ๊ะ เปลี่ยนชื่อเรื่องเหรอค่ะ?  ชื่อใหม่น่ารักมากค่ะ  :katai2-1:

น้องเก้าคะ พี่อยากบอกว่าน้องเป็นแบบที่พี่ชอบมาเลยค่ะ  :m3: ค่อยๆ ตอด ค่อยๆ เล็ม พี่แตซองไปวันละนิด ถือคติที่ว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกล่อน หึหึ  :hao6:
พี่แตซองเป็นผู้ชายที่เรียกได้ว่ามีหัวใจที่เข้มแข็งมากๆ เลยค่ะ นับถือพี่แตซองมากๆ  :impress: แต่เรื่องน้องเก้า พี่แตซองหวั่นไหวบ้างก็ได้นะคะ น้องเก้ารออยู่นานแล้ว  :m18:


+ เป็ดทุกตอนเช่นเดิมค่า  :กอด1:

"เราเลือกจะมีชีวิตที่ดีหรือไม่ดี?"

นั่นสิ คุณเลือกอะไร?

เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน อ่านรวดเดียวเลย ชอบตัวละครแบบน้องเก้า เป็นเด็กที่ซื่อต่อความรู้สึก ชอบก็แสดงออกว่าชอบ เนียนตลอด รอให้พี่แตซองรู้ตัวสักทีนะ ส่วนพี่แตซอง ผู้ชายคนนี้เป็นแบบที่เรียกได้ว่ามีจิตใจที่สุดยอดมาก ไม่ยอมแพ้ และมีทัศนคติที่ดี สู้ต่อไปนะพี่แตซอง แต่อย่าลืมหันมองน้องเก้าบ้างนะ  :katai2-1:
รอติดตามค่ะ

คิดฮอดหลายๆ :กอด1:

รอนะค้า~ :mc2:

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 7

น้องเก้าเนียนอีกแล้วนะว่าแต่
คุณพี่แตซองเนี่ยเริ่มเคลิ้มตาม
น้องมันแล้วใช่มั้ย

นี่แค่เบสิกเท่านั้นค่ะพี่แตซอง เพราะลูกเล่นของน้องเก้ายังมีอีกเยอะ :m19:

ขี้อ้อนซะ น่ารักแบบนี้ พี่แตซองคงหลงรักเข้าให้แล้วมั่งละ เหอๆ

น้องเก้าขี้อ้อนน่ารักจังเลยค่ะ หยอดเข้าไว้พี่แตซองต้องยอมยกหัวใจให้น้องเก้าแน่นอน
 :hao6: :katai4:

เนียนนะเก้า อ้อนเข้าไว้ๆ

ขอให้ทำงานอย่างสนุกสนานนะคะ
เราเป็นล่ามเหมือนกัน ยินดีที่ได้พบเพื่อนร่วมอาชีพในเล้า

น้องเก้า เนียนตลอดๆๆๆ อิจฉาเฟ้ย!

น้องเก้าน่ารักขี้อ้อน
แถมช่างพูดอีกต่างหาก
พี่แตซองจะมองมากกว่าน้องชายมั้ยน้ออ

ทำงานให้สนุกนะว่าง
แล้วค่อยมาต่อก็ได้
ไม่เป็นไรรอได้ :z2:

อิน้องเก้าอ้อนเข้าไป
อ้อนอีกเยอะๆเดี๋ยว
พีแตซองก็ใจอ่อนเข้าสักวัน :mew1:

อร๊ายยยยยยยยยยยยยย พี่แตซองขาาา พี่เคลิบเคลิ้มแล้วใช่มั๊ยค่ะ
น้องเก้ารุกหนักขนาดนี้ อย่าทนเลยค่ะพี่ อย่าให้เด็กเสียกำลังใจ ตอบรับเด็กบ้างอะไรบ้าง
น้องเก้าสู้ๆ เค้านะจ๊ะ พี่ชอบ อิอิอิ  :heaven


+ เป็ดเช่นเดิมค่ะ  o13

:กอด1:  :L1:

พี่แตซองดูอบอุ่นมาก น่ารักมากด้วย ไม่แปลกเลยที่เก้าจะชอบพี่เค้านิ :o8:
แต่ดูแล้วพี่แตซองไม่น่าจะเป็นได้เลย เก้าจะใช้วิธีไหน ต้องมาลุ้นกัน :laugh:

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 8

ยัยซูซานนนนนน

เหมือนเรื่องนี้หลังจากรีไรท์แล้ว เทียบกับต้นสน ดูเหมือนเรื่องนี้จะอ่านไหลลื่นกว่า

พี่แตซองน่าจะพอรู้ว่าน้องชอบตัวเองแล้วหรือเปล่าคะ?

พี่แตซองไม่รู้น่ะสิคะว่าน้องเก้างอนตัวเองอยู่ เดี๋ยวก็พาลเข้าใจผิดเป็นเรื่องอื่นไปเสียได้..

น้องเก้าอย่าเพิ่งออกตัวแรงสิหนู

เฮ้อออ งานนี้ดูพี่แตซองจะถูกใจแม่ซูซานมากเลยนะ
ชักจะสงสารความรู้สึกน้องเก้าแล้วล่ะซิ

ูน้องเก้าสู้ๆนะ

ฮืมม รู้สึกหมั่นใส้ยัยซูซานอย่างแรง น้องเก้าสู้ๆ อย่าไปยอมยัยซูซานอะไรนั้นนะ

:m16:  ไม่ค่อยปลื้มแม่ซูซานนี้เลยนะบอกเลย..แต่น้องเก้าอย่ายอมแพ้ชะนีซูซานเด็ดขาด
พี่แตซองนี้ก็เหลือเกินเห็นชะนีอ่อยหน่อยไม่ได้เลยนะ :z3:

ช่วงนี้ฝนตกทุกวันเลย
ดูแลสุขภาพด้วยนะ :L1:

แหม่พี่แตซองไม่ค่อยเลยนะ
ยัยซูซานมาอ่อยเข้าหน่อย
ล่ะเขวไปเลยมันน่านัก :ruready

น้องเก้าอย่าเพิ่งนอยด์นะสู้สู้ :ped149:

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 9

นี่ถ้าน้องเก้าไม่รักพี่แตซองอยู่อาจจะมีการเคืองกันข้ามวันเลยนะคะเนี่ย พูดมาได้ยังไงว่าที่น้องห้ามเพราะว่าน้องกลัวเปียกฝน ตรงนี้นี่ล่ะที่น่าน้อยใจนัก ( . .  ')

พี่แตซองพูดแรงไปนะ :hao4:

อือออ พี่พูดแรงไปนะ เป็นเราคงเคืองข้ามวันเลยอ่ะ

เฮ้ออออ จะยังไงต่อไปดีล่ะเก้า
เสี่ยงทุกทางเลือกเลยนะนี่

เดี๋ยวๆๆๆ ซูซาน  :katai1:
พี่แตซองนี่ยังไงน่ะ โดนคุณน้ำบนภูเขาโผล่มาอ่อยเข้าหน่อยถึงกับเขวเลยเหรอ  :z3:
สงสารน้องเก้า  :ling1: ไม่ร้องนะค่ะคนเก่ง
แต่เอาจริงๆ นะพี่แตซองเป็นห่วงน้องเก้าใช่มั๊ย
เป็นห่วงที่มากกว่าความเป็นพี่ชายน้องชาย แต่เพียงแค่ยังสับสนหรือยังไม่มั่นใจเท่านั้น

เอาใจช่วยนะคะ เดี๋ยวจะดักขาสกัดซูซานไว้ให้เอง หุหุ  :katai3:

มี 2 ประเด็นที่พอจะอธิบายได้นะครับ

1) เกิดจากความกดดันของคนพิการเอง - บางคนยังเก็บกดอยู่เพราะเคยถูกคนในครอบครัวคิดแทน ครอบงำ ชี้นำ ทำให้ โดยเฉพาะตอนที่พิการใหม่ๆ อยากใส่เสื้อผ้าสีนี้ แต่คนหยิบหยิบอีกสีหนึ่งมาให้ก็ต้องใส่ อยากกินอาหารอย่างนี้ คนซื้อซื้ออีกอย่างมาให้ก็ต้องกินอย่างนั้น ฯลฯ เพราะฉะนั้น คนพิการบางคนจะค่อนข้างอ่อนไหวถ้าเจอเหตุการณ์คิดแทน ครอบงำ ชี้นำ ทำให้ การตอบสนองก็ขึ้นอยู่กับนิสัยแต่ละคน อย่างแตซอง เท่าที่ผมเห็น น่าจะเป็นคนพูดตรง พูดทันทีไม่เก็บไว้นาน พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นปั๊บก็พูดปุ๊บเลย

2) หน้าที่ของ PA - ปกติถ้าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้  PA จะต้องไม่แสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกลัวว่าคนพิการจะป่วยหรือเป็นอะไร  PA จะไม่เตือน ไม่ห้าม ไม่หวังดี ไม่อะไรทั้งนั้น ปล่อยให้คนพิการทำอย่างที่อยากทำไปเลย จะป่วยหรือเป็นอะไรก็ไม่ต้องสนใจ แต่ PA สามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำครับ ไม่ทำก็ไม่ถือว่าผิดเพราะ  PA มีสิทธิ์เลือกที่จะไม่ทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อตัวเองได้ ในกรณีนี้เก้าล้ำเส้นไปหน่อย แถมยังเซ้าซี้อีก เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในขณะเป็น PA ครับ โดยหลักการของการดำรงชีวิตอิสระ ถือว่าเป็นการทำผิดหน้าที่ PA อย่างร้ายแรงครับ แตซองก็เลยโมโห พอได้สติก็รู้ตัวว่าพูดแรงไปเลยมาง้อ

ประมาณนี้แหละครับ

ป.ล.
วันนี้จะอัปเดต "ธุรกิจนี้มีรัก" ส่วนวันจันทร์จะลง "ต้น-สน ตอนพิเศษ 3" ครับ

Sarawatta

พี่แตซองคงซับซนตัวเองอยู่ ก็พี่เขายังไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนซินะ
น้องเก้าอย่าร้องไห้นะ ... แต่อดหมันไส้ยายซูซานไม่ได้ :katai1: ชะนีกวนใจอีกแล้ว ฮาๆ

แสนดีใจจะได้อ่านตอนพิเศษ ต้น- สนแล้วรออย่างแรง  :hao6: :hao6:

:mew2:   อึดอัดไปกับน้องเลย
สถานะมันค้ำอยู่ไหนจะพูดยากอีก ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้คิดเกินเลยก็ได้แต่เจ็บเงียบๆอยู่ฝ่ายเดียว
 :pig4:

พี่แตซองดูเป็นคนจิตใจดี แต่ก็นั่นแหละพี่แตซองเป็นชายแท้ๆ ยังมองไม่ออกเลยว่าจะชอบเก้าแบบนั้นยังไง
เก้าเอ้ย มีแต่เจ็บกับเจ็บ เรื่องนี้มีแววดราม่า :katai1:

ชอบที่สุดที่ได้เข้าใจมุมมองของคนที่มีความแตกต่าง

เก้าหนอเก้า เด็กน้อยเหลือเกิน

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 10

เซงพี่แตซอง งุบงิบพูดไม่หมดอีกละ  :ling1:

พี่แตซองทำคนอ่านค้างนะค่ะ....หรือว่าพี่เขากลัวน้องเก้าไม่ได้คิดเหมือนที่พี่เขารู้สึก หรือยังสับสนตัวเองนะ
แต่บอกไปดีกว่าเก็บไว้นะค่ะพี่แตซอง ... :hao5: น้องเก้าจะได้รู้ว่าพี่ก็คิดเหมือนน้องเขา

รอลุ้นต่อไป มันบีบหัวใจกว่ากินมาม่าอีกนะค่ะ ฮาๆ  :L2:

ความรู้สึกเริ่มเปลี่ยนไปนิดๆ แล้วสินะคะพี่แตซอง :m3:

:o8:   งานมโนต้องมา
พี่แตซองไม่พูดต่อเพราะกลัวว่าถ้าพูดจะต้องยาวจนไม่ต้องนอนกันพอดีใช่ไหมคะ
ใช่ๆ ถ้าไม่เข้มแข็งพอคงตายไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นดูปลอมมาก จะแสดงความจริงใจต่อสามีเก่าสักนิดก็ไม่มี
คงจบไม่สวยสินะเลยทนสู้หน้าไม่ไหว

อยากรู้ว่าพี่แตซองจะพูดอะไร
เป็นแบบนี้มาสองครั้งแล้วนะ
คนอ่านอกจะแตกเพราะอยากเผือก

พี่แตซองพี่จะพูดอะไรค่ะ หนูอยากรู้อ่ะ :hao5:

กั๊กจริงๆ พี่แตซอง

 :katai1:

น่าสงสัยจริงว่าจะพูดอะไร หรือจะถามว่าเก่ารู้สึกยังไงกับพี่สินะ เหอๆ

พูดให้มันจบเส่พี่แตซอง :katai1: :katai1:

ทำไมรู้สึกเหมือนสกิล"ค้าง"กำลังทำงานเต็ม max เลยอ่ะ :hao4:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง (REVISION) จาก...เมื่อผมหลังรักคนพิการ ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 26-09-2015 20:33:24
คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 11

:hao5: อีดอัดแทนน้องเก้าที่สุด เหมือนจะไม่หน่วงแต่ก็หน่วง หน้าที่ PA มันทำให้ต้องมีข้อจำกัดของมัน
แสดงมากไปก็เกินหน้าที่ แสดงน้อยไปก็เหมือนไม่ใส่ใจงาน แต่ที่น้องเก้าทำมันออกมาจากหัวใจล้วนๆเลยนะกับพี่แตซอง
เมื่อไหร่จะได้บอกความรู้สึกจริงๆซะทีนะ 

เริ่มบีบหัวใจคนอ่าน  :mew6:

สงสารพี่แตซองเจ็บตัวเลย นี่เธอถ้าไม่อยากเป็น PA ก็ไม่ต้องทำ

ไม่ใส่ใจดูแลแล้วทำให้คนพิการเจ็บตัวอีก เค้าให้เรามาเป็นผู้ช่วยนะยะ


สุดท้ายน้องเก้าก็ทำใจแข็งได้ไม่นานจริงๆ นะคะ ^^ เพราะพี่แตซองมาเหนือเหตุผลอื่นๆ เสมอ

พี่แตซองไม่ร่าเริงเพราะอะไร
เพราะเพิ่งเจอกับแฟนเก่า
หรือเพราะน้องเก้านะ

น้องเก้าเอ้ยนึกว่าจะทนได้นาน
ในที่สุดก็แพ้ภัยตัวเองจนได้
สู้ต่อไปน้องเก้า :L1:
+1

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 12

:z3: เกือบแล้วอีกนิดเดียวเองนะพี่แตซอง ...ลุ้นแทนน้องเก้ามากพูดเลย ...

ทำไมไม่บอกไปน้องเก้าจะกลับแล้วนะ ... :hao7: :hao7:

ถ้าพี่ไม่บอกแล้วน้องเก้าจอบอกความรู้สึกตัวเองได้ยังไงละ ชิส์ ชิส์   
(เป็นเอามากนะเรานิ ไม่ใช่เราไหน คนอ่านนี้แหละค่ะฮาๆ)

น่ารักเป็นห่วงกันขนาดนี้ ...รักแล้วแหละพี่แตซอง ดีใจระดับหนึ่ง ฮาๆ จากที่รู้สึกหน่วงตอนที่แล้ว

รออีกนิดเดียวนะคะน้องเก้า ^^ แล้วคำตอบจากพี่แตซองจะทำให้หัวใจของหนูพองฟูแน่นอน~~ :heaven

พี่แตซองทำค้างอีกแล้วววว

น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อนนน จริงๆ เลยนะพี่แตซอง เริ่มหวั่นไหวแล้วใช่มั๊ยค่ะ จะพูดอะไร อยากบอกอะไรน้องเก้าก็บอกเลยค่า ลุ้นไปกับน้องเก้ามากๆ ค้างเต็มพิกัดมากเลยค่ะ  :katai1:

อ่านเพลินมากๆ แม้จะมีฉากหน่วงให้สะดุดหยุดสูดลมหายใจ แต่ก็อ่านรวดเดียว เฮ้ย จบ 4 ตอนแล้วเหรอเนี่ย  :katai1:

เอิ่มอย่างน้อยก็มีลุ้นแหล่ะ
ว่าพี่แตซองสับสนเรื่องอะไรกันแน่

สับสนว่าคิดแบบน้องชายจริงๆหรือเปล่า?  :impress2:  เก้าจับจูบเลยค่ะ

แง่มมมมม ทำไมไม่บอกความในใจไปเลยหว่า แต่ก็นะมันเป็นสถานะที่ยังไม่ชัดเจน คงทั้งสับสนและอึดอัดน่าดู

คอมเมนต์จากกลุ่มคนอ่านชุดใหม่ - ตอนที่ 13

พอได้ทราบว่าพี่แตซองหายไปไหนก็เหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอกเลยใช่ไหมคะน้องเก้า ^^

แม่ซูซานนี้พยายามจริงๆ  :hao4:
เมื่อไหร่จะได้รู้ใจกัน สงสารน้องเก้าจังเลย   :mew2: :mew2:

ใจหายเลยตอนอ่านหัวเรื่องว่าพี่แตซองหายไป

พี่แตซองจิตใจหวั่นไหวแล้ววว อิอิ

ถึงไม่ได้เป็นคนรัก แค่ 'เป็นที่รัก' ก็สุขใจ

อ่านชื่อตอนแอบตกใจ
แต่พออ่านเนื้อหาแล้วโล่งใจเลยค่ะ  :sad4:

น้องเก้าไม่ต้องกลัวหรอกนะ พี่แตซองเค้าอาจจะยังไม่มั่นใจ แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้พี่แตซองเริ่มหวั่นไหวแล้วล่ะ  :hao6: อีกอย่างเกาหลีเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปเยอะแล้ว ทุกคืนวันเสาร์ตามย่านอิแตวอน จองโน และอีกหลายๆ ที่กลายเป็นโลกของผู้ชายหล่อหน้าตาดีแบบที่ไม่มีชะนีเข้ามายุ่ง คนสมัยใหม่เริ่มยอมรับแล้วล่ะ เหลือแค่พวกรุ่นเก่าๆ ที่ยังไม่เปิดใจ ก็คงเหมือนไทยนี่แหละค่ะ ต้องใช้เวลาอีกนิด เพราะฉะนั้นสู้ๆ นะน้องเก้า ให้เวลาพี่แตซองอีกหน่อย ความรักนั้นจะลงตัว รอเชียร์สุดๆ ฮิ้วววว   :heaven

เฮ้อออ ตกใจหมด นึกว่าหายไปไหนที่แท้ไม่สบายเข้าโรงพยาบาลนี่เอง

ดีนะคะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก


:mew5:   ลำบากใจกันทั้งสองฝ่ายละสิเนี่ย
ใช่ พอแยกจากกันแล้วจะทำยังไง

ที่พี่แตซองจะพูดหลายรอบ
แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา
คงต้องการให้แน่ใจในสิ่งที่สงสัยซินะ
น้องเก้าเราจะมีลุ้นบ้างมั้ยนะ
แต่แค่พี่แตซองไม่รังเกียจก็คงพอ

หายไวไวนะพี่แตซอง  :L2:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก...เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 27-09-2015 14:37:26
ในที่สุดผมก็สามารถที่จะเขียนเรื่องนี้ใหม่จนจบลงได้แล้ว ขอบคุณทุกคนที่มาติดตามนะครับ ทั้งคนเก่าและคนใหม่
คราวนี้น่าจะอ่านได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด

ขอโทษคนที่มาอ่านใหม่ด้วยที่ผมย้ายเรื่องนี้มาห้องนี้อย่างกะทันหัน ตั้งใจว่าจะเขียนให้จบก่อนเดือนกันยายน (2015)
แต่ก็เอ้อระเหยจนเวลามันล่วงเลยไปมาก ก็เลยต้องหักดิบด้วยการย้ายมาแล้วก็เขียนให้จบเลย

ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ผมจะยังไม่ร่ำลาที่นี่แต่จะกล่าวลาในนิยายเรื่องที่ผมรักมากที่สุด คิดว่าหลายคนคงรู้ดีว่าเป็นเรื่องอะไร

จะคิดถึงทุกคนและความทรงจำดีๆ ที่นี่เสมอนะครับ
 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

Sarawatta
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก...เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: alternative ที่ 27-09-2015 17:09:12
ขอบคุณนะคุณ sarawatta ที่แบ่งปันเรื่องนี้

ความรักใช่ว่าจะสมหวังได้อยู่ด้วยกันเสมอไป
ได้รัก ได้ปราถนาดี ได้มีเวลาดีๆ ร่วมกัน ก็ดีกว่าไม่มีโอกาสได้ทำอะไรเลย

หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จบทุกตอนแล้ว] [Rewriting] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-09-2015 23:30:28
พบเพื่อจาก จากเพื่อพบกันใหม่
ไม่รู้ว่าปัจจุบันเรื่อวราวของทั้งคู่จะเป็นอย่างไร
แต่คนอ่านขอภาวนาให้ทั้งคู่มั่นคงในความรัก
และได้แสดงความรักต่อกันไปนานๆ ตลอดไปยิ่งดี

ขอบคุณสำหรับข้อคิดและมุมมองต่างๆนะคะ
ปกติแล้วคนอ่านจะไม่ได้มองคนพิการว่าน่าสงสารทุกคนนะคะ จะมองแบบทึ่งๆและชื่นชมในความสามารถ ชื่นชมจิตใจที่เข้มแข็ง บางทีก็เหมือนเป็นกำลังใจให้เราทางอ้อมได้ด้วยเวลาเราท้อๆเหนื่อยๆ แต่ถ้าจะมีความรู้สึกสงสารก็จะเกิดขึ้นกับคนพิการที่ยังไม่สามารถเข้มแข็งหรือทำใจยอมรับกับความพิการของตนเองได้น่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จบทุกตอนแล้ว] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 28-09-2015 13:19:28
ขอบคุณคุณsarawattaนะคะที่ได้
นำเรื่องน่ารักๆนี้มาให้อ่านเรื่องนี้
ได้เปิดมุมมองความรู้ในหลายๆด้าน
ที่เกี่ยวกับคนพิการมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จบทุกตอนแล้ว] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-09-2015 14:34:59
พี่แตซองเป็นคนดีมากๆ เลยค่ะ ขนาดว่าความรู้สึกตรงกันกับน้องเก้าแล้ว แต่ก็เลือกที่จะไม่ผูกมัดกันและกันเอาไว้ด้วยคำสัญญา

ที่เหลือคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหัวใจแล้วล่ะนะ ว่าจะนำพาความรู้สึกเดียวกันนี้มาบรรจบกันอีกครั้งได้หรือไม่~~ :heaven

ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จบทุกตอนแล้ว] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-09-2015 15:05:02
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ทุกเรื่องนะคะ

พี่แตซองทำไมพี่ดีแบบนี้เนี่ย ไม่ผูกมัดอะไรน้องเก้าเลย ปล่อยให้มันเป็นไปตามชะตา

เมื่อถึงเวลาเราคงต้องได้เจอกันแน่ๆ เราคงได้แต่อวยพรให้ทั้งคู่มีความสุขก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 29-09-2015 15:03:27
เห้ยยยยย

คุณ sarawatta กลับมาก่อนค่า กลับมาๆๆๆ


เราหาเรื่องพี่แตซองไม่เจอ อ่านตอนสุดท้ายคือที่พี่แตซองเข้าโรงพยาบาล แล้วหลังจากนั้นจะไปหาอ่านได้ที่ไหนคะเนี่ย

กลับมาอีกทีกระทู้บินไปซะละ omg!!!
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 29-09-2015 19:38:46
หวังว่าในสักวันหนึ่ง
เก้ากับพี่แตซอง
จะได้เจอกันอีก
 :L2: :L1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: RIRIN ที่ 01-10-2015 13:13:00
ได้โปรดดดดดดดดดดดดดดดดดดด โชคชะตาช่วยให้รักของทั้งคู่กลับมาบรรจบกันอีกครั้งด้วยเถิด
อย่าปล่อยให้เรื่องราวที่ผ่านมา และความรู้สึกที่เกิดขึ้นในหัวใจ ต้องจางหายไปกับกาลเวลา  :sad4:

ทำไมอารมณ์ตอนอ่านจบแล้วมันคิดถึงต้น-สนเลยนะเรา ฮือออ
เดี๋ยวคงจะกลับไปอ่านต้นสนอีกสักรอบ  :hao5:

ขอบคุณมากๆๆ นะคะ สำหรับนิยายดีๆ ที่มีมาให้อ่าน  :impress2:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: gatenutcha ที่ 08-10-2015 18:46:08
 o13
เราก็ พึ่ง ว่าง อ่านรวดเดียวเหมือนกัน แล้วอยากรู้ว่า น้องเก้าได้กลับมาหาเฮียเขาไหมอ่ะ
มาซึ้งตอนสุดท้ายอ่ะ   น่ารักจังเลย เฮีย    มีต่อไหมค่ะ อยากอ่านต่อค่ะ
 :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-10-2015 18:52:13
คิดถึงเสมอ :L1:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: greensnake ที่ 21-10-2015 09:07:20
สวัสดีคุณเจ้าของกระทู้และเจ้าของเรื่องด้วยค่ะ
เห็นเรื่องนี้มาสักพักใหญ่แล้วและเคยบอกว่าจะเข้ามาอ่าน
ช่วงหลังมานี่งานเยอะมากเลยเพิ่งจะได้อ่านจนจบ
ตอนแรกที่เข้ามาอ่านเราคิดว่าคงจะแฮปปี้แหละน่า
แต่ไม่ได้หมายความว่าจบแบบนี้จะไม่แฮปปี้นะคะ
มันเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่เราไม่เคยได้รู้หรือสัมผัส
อ่านนิยายมาก็เยอะ แต่ก็ยังแอบน้ำตาซึมกับเรื่องอย่างนี้ไม่ได้
จริงๆมันก็เป็นธรรมดานะคะมีพบมีจาก แต่ก็อยากให้ได้อยู่ด้วยกัน
น้องเก้าเป็นคนที่ซื่อตรงกับความรู้สึกและมั่นคงกับมันมาก
แต่เพราะคำว่าหน้าที่บางครั้งมันก็ไม่สามารถทำอย่างที่ใจต้องการได้
พี่แตซองเป็นคนที่จิตใจงดงามและเข้มแข็งมากๆเลยค่ะ
อวยพรให้ความรักที่งดงามนี้คงอยู่ต่อไปนะคะ
เป็นกำลังใจให้ทั้งเจ้าของกระทู้และคุณเจ้าของเรื่องด้วยค่ะ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่นำมาแบ่งปันกัน :L1:
ทำให้เรารู้ว่าความรักไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็งดงามเสมอ


หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 01:09:45
มาคอมเม้นจากบทที่ 6 คะ อ่านฉบับแก้มาถึงตอนนี้แล้ว บอกเลยว่ายังติดงอมแงม ในบทนี้แอบโรแมนติกนิดๆ มีบรรยากาศหวานๆ เบาบาง เก้าเป็นคนมองโลกในแง่ดีมาก คือส่วนตัวนะ เคยมีโมเม้นต์แอบรักเหมือนกัน คือเข้าใจว่ามันเป็นโมเม้นต์ที่ฟินมาก แต่สำหรับเก้า (คือตอนนี้กำลังคิดว่า if I were in his shoes นะ) การรับรู้ - ฟัง เรื่องที่เป็น fact หรืออะไรก็ตามที่บ่งบอกว่า พี่แตซองชอบผู้หญิง ตามหลักแล้ว (หรืออย่างน้อยก็หลักที่ตัวเราคิด) คือมันน่าจะมีโมเม้นต์หดหู่บ้าง หรือใจเสียบ้าง แต่นี่คือน้องเก้ากำลังใจดีมาก ยังคงความสดใสน่ารักมองโลกในแง่ดีแบบที่เราคงทำไม่ได้ ทำให้เราได้ลองเอาข้อดีนี้ของเก้ามาคิดและมองโลกจากมุมมองที่ต่างบ้างซึ่งเออมันก็ไม่เลวนะ +++เป็ดย้อนหลังคะ ขอบคุณที่แบ่งปันนิยายให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 01:47:48
คอมเมนต์จากบทที่ 7 คะ อ่านมาถึงบทนี้แล้วจะเห็นว่า เก้า กับ ต้น จากเรื่อง ต้น-สน ปาฏิหาริย์ที่รอคอยมีความคล้ายคลึงกันอยู่บางส่วนซึ่งเป็นส่วนที่น่าประทับใจคะ และส่วนนั้นคือมุมมองความรักที่เป็นผู้ให้ก่อน ส่วนตัวคิดว่า นี่อาจเป็นสิ่งที่สะท้อนมุมมองความรักของนักเขียน อีกส่วนนึงที่เก้ากับต้นคล้ายคลึงกันก็คือความใส่ใจ อันนี้ (ขอวิเคราะห์ต่อ) ว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวโดยตรงกับนิสัยส่วสตัวของนักเขียนที่อาจมีนิสัยใส่ใจผู้อื่น ซึ่งคาดว่าระหว่างเขียนคุณ Sarawatta ที่มีการเขียนที่เขียนลักษณะนิสัยและพฤติกรรมของตัวละครออกมาค่อนข้างจะสมจริงคงจะเขียนไปคิดไปว่า หากตอนนี้เราเป็นเก้า เราจะทำตัวหรือคิดอย่างไร จุดนี้เป็นจุดที่อ่านแล้วประทับใจเสมอในความสมจริงของตัวละคร ชอบคะ :)

ปล. บทนี้ก็มีฉากหวานๆ ของพี่แตซองกับน้องเก้าอีกแล้ว ชอบความมีน้ำใจและเอาใจใส่ของพี่เขามาก แม้เขาจะไม่สามารถทำบางอย่างได้ แต่เขาก็แสดงความมีน้ำใจและช่วยในสิ่งที่เขาสามารถทำได้
ปล.2 +เป็ด และเป็นกำลังใจให้คนเขียนสร้างสรรค์ผลงานต่อไปคะ
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 02:05:20
จากบทที่ 8 ลอง cult + f หาคำว่า 'เขียนรถ' ดูนะคะ ไม่แน่ใจว่าจะพิมพ์คำว่า 'เข็นรถ' หรือเปล่า

บทนี้เก้าแอบงองแง่ง ดูน่ารักน่าเอ็นดูดี ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองมั้ยว่า ประโยคที่พี่แตซองพูดเรื่องตัวเองน่าจะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ มันเหมือนมีคนตกหล่น

+เป็ดคะ

เข้าใจความรู้สึกเก้ามากตอนซูซานแย่งหน้าที่  เพราะสมัยที่ทำงานเป็น liaison ก็เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กัน :(
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 02:19:36
อ่านถึงบทที่เก้า ตอนนี้แอบน้อยใจพี่แตซองไปพร้อมเก้าด้วย ถึงเก้าจะผิดจริง แตาไม่เห็นต้องทิ้งกันไว้แบบนั้นเลย เล่นพูดเสียขนาดนั้น ใครจะกล้าตามไปทำหน้าที่เล่า

+เป็ด
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 08:01:50
จากบทที่ 10 - 11 ประทับใจในความเอื้ออาทรที่ทั้งสองคอยมีให้กัน มาถึงตอนนี้พี่แตซองน่าจะรู้สึกอะไรบางอย่างกับเก้าบ้างไม่มากก็น้อย ในบทที่ 11 ตอนแรกคิดว่าจะเห็นพี่แตซองแสดงความหวงมากกว่านี้ ที่ไหนได้ เจ้าเก้ากลับฟิวขาดแสดงความห่วงออกนอกหน้าเสียนี่ ++เป็ด
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 08:24:54
ไม่รู้ทำไมอ่านบทที่ 12 จบแล้วนึกถึงเพลง รึเปล่า ขึ้นมาเสียอย่างนั้น (เออ... เพลงบอกอายุไปหรือเปล่าก็ไม่รู้) ตอนนี้เป็นโมเม้นต์แบบหวานปนฝาด ต่างฝ่ายต่างไม่แน่ใจกับท่าทีแต่อีกฝ่าย แต่การกระทำทุกอย่างมันช่างมีความหมายเสียเหลือเกิน แต่ถึงแบบนี้นั้นทุกอย่างก็มาผสมผสานเป็นโมเม้นต์ที่ลงตัว ชอบคะ +เป็ด
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 08:58:08
จากบทที่ 13 รู้สึกชื่นชมเก้า เก้าดูแลพี่เค้าดีมาก แม้ไม่รู้ว่า พี่เค้าจะคิดยังไงกับเก้า ส่วนตัวคิดว่า เก้าน่าจะดูแลพี่เค้าได้ดีกว่าคู่รักหลายๆ คู่ด้วยซ้ำ พี่แตซองเองก็แสดงความใจกว้างออกมา บอกน้องว่า ไม่ว่าน้องจะรักพี่แบบไหน น้องเป็นน้องชายที่พี่รัก ซึ่งบางคนอาจคิดว่า คำพูดแบบนี้มันก็ตามสคลิปแบบพระเอก แต่อยากบอกว่า ในชีวิตจริงมันไม่เยอะหรอกที่จะมีผู้ชายพูดแบบนี้ อันนี้รู้จากประสบการณ์ที่ได้ฟังจากเพื่อนหลายคนที่เป็นแบบเก้ามา จึงรู้สึกประทับใจในส่วนนี้มาก +เป็ด
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 09:18:58
บทที่ 14 -- มันฟินมากกก แอร๊ยยย อ่านถึงบทนี้แล้วรู้สึกว่าพี่แตซองเป็นคนที่เข้มแข็งจริงๆ คือหากบอกว่าตอนนั้นในสังคมเกาหลียังรับเรื่อง LGBT ไม่ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผู้ชายเกาหลีที่เคยรักผู้หญิงเลย คือกว่าจะทำใจยอมรับตัวเองแล้วบอกรักเก้าเนี่ยมันต้องใช้ความกล้าและเข้มแข็งมากในความคิดของเรา ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วต้องยกความดีให้เก้าด้วยที่ทุ่มเทมากเสียจนมันไม่ใช่เรื่องที่ยากเกอนไปเลย ที่จะยอมรักว่ารักผู้ชายอย่างเก้า +เป็ด
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 09:37:09
จากบทที่ 15 บทนี้เป็นบทที่อ่านแล้วมีความสุขอีกบทนึงแต่มันพิเศษที่ทั้งสองรู้ใจกันแล้ว แอบมีบรรยากาศแบบน่าใจหายแบบ ทำไมหนอเวลาแห่งความสุขมันช่างผ่านไปไวเสียเหลือเกิน อีกทั้งเวลาที่จะต้องจากกันก็ใกล้เข้ามาอีก น่าใจหายจริงๆ +เป็ด
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: กบกระชายไทยนิยม ที่ 01-11-2015 12:19:19
เคยมีความรู้สึกแบบนี้มั้ย อยากรู้ตอนจบ แต่ไม่อยากให้มันจบ จบได้ซาบซึ้ง และ น่าใจหาย ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาแชร์คะ ไม่ว่าความรักของเก้ากับพี่แตซองจะเป็นยังไงในอนาคตก็ขอดีใจด้วยกับความรักของเขาที่ได้เกิดขึ้นแล้วนะคะ
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [จาก-เมื่อผมหลงรักคนพิการ] [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: sarawatta ที่ 02-11-2015 09:11:54
เคยมีความรู้สึกแบบนี้มั้ย อยากรู้ตอนจบ แต่ไม่อยากให้มันจบ จบได้ซาบซึ้ง และ น่าใจหาย ขอบคุณที่เอาเรื่องดีๆ มาแชร์คะ ไม่ว่าความรักของเก้ากับพี่แตซองจะเป็นยังไงในอนาคตก็ขอดีใจด้วยกับความรักของเขาที่ได้เกิดขึ้นแล้วนะคะ

ขอบคุณที่มาตามอ่านจนจบครับ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผมเองได้อ่านก็ประทับใจจนต้องขอนำมาเขียนอีกรอบ
ในชีวิตจริงผมก็เคยเจอคนพิการที่หน้าตาดีๆ อยู่หลายคนเหมือนกัน แต่ไม่มีอะไรนะครับ เขาชอบผู้หญิง
มีอยู่คนหนึ่ง เป็นลูกคนจีน มีโรงงานเป็นของตัวเอง ขับโรลส์รอยซ์ หน้าตาดีมาก แต่มีแฟนแล้ว สวยด้วย

ผมชอบเรื่องนี้เพราะมันทำลายภาพเหมารวมว่าคนพิการต้องไม่หล่อไม่สวย ยากจนข้นแค้น ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ท้าทายความเชื่อของหลายๆ คนว่าเป็นไปได้เหรอ จริงเหรอ มีจริงๆ เหรอ ผมว่ามันสนุกดีที่เห็นความเชื่อในบางอย่างสั่นคลอน

ถ้าชอบเรื่องแบบ "ต้น-สน" ผมอยากแนะนำให้หาเวลาอ่าน "รัก...ที่ฟ้าไม่ได้ลิขิต" ดูนะครับ
ถ้าชอบแบบมีสาระพร้อมกับความรักที่อบอุ่นน่ารัก "ธุรกิจนี้มีรัก" ก็น่าสนใจนะครับ

Sarawatta
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: yeelove ที่ 26-12-2015 02:46:26
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: MIwEMInE ที่ 09-07-2016 23:52:10
อ่านแล้วก็ได้อะไรดีเยอะเลย
ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 19-03-2018 18:52:13
 :pig4: