▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง [Rewrite] ▛▟  (อ่าน 118627 ครั้ง)

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
รู้สึกว่าอยู่กันในสถานะอย่างนี้ก็ดีนะ
มีความสุขดีแล้วนี่นะ~
เฝ้ารอตอนต่อไปค่ะ

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
ลองเข้ามาอ่านดู อ่านแล้วชอบจ้ะ มันเป็นอะไรที่แตกต่างน่ะ
ได้รู้อะไรหลายๆอย่าง เกี่ยวกับการดูแล และการปฏิบัติต่อคนพิการ
การแยกหน้าที่กับความรู้สึกผูกพันธ์นี่ มันทำได้ไม่ง่ายหรอกนะ

darkeyes1

  • บุคคลทั่วไป
ร้อบนี้เก้าทำไม่ถูกนะ  แต่อย่างว่านั่นแหละ  เก็บกดมานาน
พอโดนกระแทกด้วยคำพูดของคนที่เราแคที่สุด  มันก็เลยระเบิดออกมา

จะว่าเด็ก  มันก็ใช่อะนะ  แต่ถ้าเอาตามจริง  คนเราเจอแบบนั้น
มันก็เด็กกันทั้งนั้นแหละ  จะมีสักกี่คนที่มีสติตรองก่อนทำ  น่าติดตามต่อสุดๆเลยอะ

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 10 ◉☥ แฟนเก่าของพี่แตซอง




หลังจากที่กลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์แล้ว ผมกับพี่แตซองก็เริ่มเข้าใจกันมากขึ้นครับ ส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณพี่แตซองจริงๆ ที่คอยสอน ถ้าเป็นคนอื่น ผมอาจจะโดนไล่ออกไปแล้วก็ได้ครับเพราะทำผิดจรรยาบรรณของ PA ไปหลายอย่าง โดยเฉพาะตอนที่ผมห้ามพี่แตซองไม่ให้ออกไปกินข้าวเย็นเพราะฝนตก โดยหลักการแล้วคนที่เป็น  PA จะไม่เตือน ไม่ห้าม ไม่หวังดี ไม่อะไรทั้งนั้น ปล่อยให้คนพิการทำอย่างที่อยากทำไปเลย จะป่วยหรือเป็นอะไรก็ไม่ต้องสนใจ ไม่ใช่ความผิดของ PA


ในขณะที่ PA ก็สามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำด้วยครับ ถ้าเห็นว่าทำไปแล้วจะเกิดอันตรายหรือเจ็บป่วย PA สามารถปฏิเสธได้และไม่มีความผิด แต่การคิดแทนถือเป็นความผิดร้ายแรงครับ เพราะแนวคิดการดำรงชีวิตอิสระนั้นต้องการให้คนพิการคิดและตัดสินใจด้วยตัวเอง แน่นอน คนพิการอาจจะได้รับอิทธิพลจากเพื่อน ครอบครัวหรือใครก็ตามที่อยู่รอบตัวก่อนที่จะตัดสินใจ แต่ต้องไม่ใช่ PA ครับ ยกตัวเอย่างเช่น ถ้าเพื่อนพี่แตซองจะห้ามพี่แตซองไม่ให้ไปข้างนอกเพราะฝนตกก็สามารถทำได้ พี่แตซองจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าจะเชื่อเพื่อนหรือเปล่า แต่ PA ไม่สามารถทำอย่างเพื่อนพี่แตซองได้ครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ผมมีโอกาสได้พบกับแฟนเก่าของพี่แตซองด้วยครับ แต่ไม่ใช่บังเอิญเดินมาเจอกันนะครับ ผมเจอเธอคนนั้นในงานแต่งงานของเพื่อนพี่แตซอง หลังจากที่กลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์ไม่กี่วัน เพื่อนพี่แตซองคนหนึ่งก็จัดงานแต่งงาน พี่แตซองไปร่วมงานด้วย แล้วงานนี้ผมก็ขอพี่แตซองไปด้วยครับ ไม่ได้ค่าจ้างเพราะเกินเวลาทำงานแล้วก็ไม่เป็นไร น่าแปลกที่คราวนี้พี่แตซองอนุญาต


คนพิการไปงานแต่งงานของเพื่อนเป็นภาพที่ผมไม่เคยเห็นจริงๆ ครับ ไม่ใช่แค่สำหรับผม แม้กระทั่งคนที่มางานแต่งงานวันนั้นก็คงสงสัยเหมือนกันว่าพี่แตซองมาทำไม เพราะหลายคนมองด้วยสายตาแปลกๆ เพื่อนพี่แตซองก็ต้อนรับดีครับ ผมไม่ค่อยได้คุยกับพี่แตซองมากนักหรอก ทำหน้าที่เป็น PA อย่างเดียวเลย ส่วนพี่แตซองก็ดูเหมือนจะสนุกที่ได้คุยกับเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานมากทีเดียว จนทำให้งานแต่งงานดูเหมือนเป็นงานรวมศิษย์เก่าไปเลย ที่สำคัญ แฟนเก่าของพี่แตซองก็มางานนี้ด้วยครับเพราะว่าแฟนเก่าพี่แตซองก็เป็นเพื่อนสมัยเรียนกันนั่นแหละครับ


พี่แตซองนั่งคุยกับเพื่อนอยู่นานพอสมควร จู่ๆ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักกลุ่มเพื่อนๆ ของเธอที่โต๊ะที่พี่แตซองนั่งอยู่ด้วย เธอดูกสวยทีเดียวครับ คงตั้งใจมาทักทายเพื่อนที่รู้จักกันแต่อาจจะไม่รู้ว่าพี่แตซองอยู่ตรงนั้น พอเธอหันมาเห็นพี่แตซองเท่านั้นแหละครับ ต่างคนต่างก็อึ้งไป โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้นที่ตอนแรกพูดจ้อยๆ ก็หยุดชะงักไปเลย


ตอนนั้นผมแค่สงสัยครับว่าทำไมอยู่ดีๆ ผู้หญิงคนนั้นหยุดพูดไปเลยและมีสีหน้าตกใจ จากนั้นก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีหน้าเจื่อนๆ พอสังเกตเห็นทิศทางของสายตาของผู้หญิงคนนั้นก็เห็นว่าเธอมองพี่แตซองอยู่
 

ไม่นานนักเธอก็แสร้งยิ้มเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น "ขอตัวก่อนนะ"


แล้วเธอก็ก้าวเดินหนีฉับๆ ไป ผมสังเกตุเห็นว่าคนอื่นๆ ก็มีอาการไม่ต่างกันมากนัก ดูอึ้งๆ กันไปหมด จากนั้นก็ดูเหมือนว่าบรรยากาศในการสนทนาก็เปลี่ยนไป
 

"เฮ้ย แตซองกูขอโทษว่ะ ไม่รู้ว่าเขาจะมาด้วย"


เพื่อนคนที่ถูกผู้หญิงคนเมื่อกี้มาทักขอโทษพี่แตซองด้วยสีหน้าเจื่อนๆ ทำให้ผมสงสัยมากยิ่งขึ้นว่า "เขา" ในนี้คือใคร แต่ผมก็ไม่กล้าถามหรอกครับเพราะคงไม่เหมาะนักที่จะล้ำเส้นการเป็น PA ตรงนี้ เอาไว้กลับไปค่อยลองถามพี่แตซองดีกว่า เดี๋ยวพี่แตซองจะดุเอาอีก


"ไม่เป็นไร มันจบไปแล้ว ไม่มีอะไรหรอก"


แม้จะบอกไปอย่างนั้นผมก็สังเกตเห็นสีหน้าของพี่แตซองดูเศร้าไปถนัดตา เท่านั้นแหละผมก็เริ่มจะพอเดาได้แล้วว่าผู้หญิงคนเมื่อสักครู่นี้น่าจะเป็นใคร พอรู้แล้วก็อดสงสารพี่แตซองไม่ได้เลย สงสารอย่างจับจิตจับใจเลยล่ะ ผมว่าคนอย่างพี่แตซองเป็นคนที่รักใครรักจริงนะครับ ความรักที่จบไปแล้วคงทำให้พี่แตซองเจ็บหนักเลยทีเดียว ผมยังจำที่พี่แตซองบอกผมตอนที่ผมถามเรื่องแฟนได้เลยครับ


"ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ก็เขาไม่ได้รักเราแล้ว"


ถ้าเป็นผมเจออย่างนี้ก็คงเจ็บไม่น้อยเหมือนกัน ผมอยากจับมือให้กำลังใจพี่แตซองเหลือเกินครับ แต่ด้วยหน้าที่ PA แล้วก็คงไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านั่งดูพี่ชายที่น่ารักของผมเศร้าซึมหงอยเหงาอยู่อย่างนี้


แล้วทุกคนก็เปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นกัน แต่ผมก็ยังสังเกตุเห็นอาการไม่ค่อยร่าเริงของพี่แตซองได้อยู่ครับ


"เก้า เดี๋ยวพี่จะไปตักอาหารมากินเพิ่มนะ"


พี่แตซองบอกเมื่ออาหารที่กินอยู่หมดไปแล้ว ผมหยุดกินอาหารของตัวเองแล้วก็พาพี่แตซองไปเลือกอาหารที่จัดไว้แบบบุบเฟต์ พี่แตซองจะเป็นคนเลือกว่าจะกินอะไร มากแค่ไหน ส่วนผมก็ช่วยตักให้ตามที่พี่แตซองบอกครับ


แล้วเราก็เจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง เธอกำลังตักอาหารถัดออกไปไม่ไกลนัก พอหันมาเห็นพี่แตซองเธอก็หยุดยิ้มและหัวเราะ ทำให้ผมนึกถึงเพลงไทยเก่าๆ เพลงหนึ่งที่ร้องว่า "คนที่รักร้างไกลมันเจ็บไม่นาน คนไม่รักใกล้กันช้ำใจยิ่งกว่า"


ผู้หญิงคนนั้นที่ผมรู้จักแค่หน้าแต่ไม่รู้จักชื่อค่อยๆ หันไปตักอาหารอีกเล็กน้อย แล้วเธอก็รีบเดินจากไป ไม่แม้แต่จะเดินเข้ามาทักหรือถามไถ่อดีตคนรักเลย จะว่าไปเธอก็ใจดำน่าดู คนเคยรักกันมาตั้งนาน เคยแต่งงานใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะไม่เหลือแม้กระทั่งความเป็นเพื่อนให้ผู้ชายคนหนึ่งที่เคยรักเธอมาก


พี่แตซองดูเงียบไปอีกแล้วครับ เลือกอาหารสองสามอย่างแล้วก็ให้ผมพากลับไปนั่งกับเพื่อนเหมือนเดิม แม้ว่าจะพยายามพูดคุยหัวเราะกับเพื่อนๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ผมก็รู้ดีว่าข้างในหัวใจของพี่แตซองคงเจ็บไม่น้อย


"ไม่รู้จะฝืนไปทำไม ก็เขาไม่ได้รักเราแล้ว"


คำพูดนั้นของพี่แตซองดังก้องอยู่ในหัวผมอีกครั้ง โธ่...พี่ชายของผม ถ้าผมสามารถทำอะไรให้พี่หายเศร้าได้ตอนนี้ผมยินดีจะทำทุกอย่างเลย ถ้าคนอย่างผมสามารถช่วยรักษาบาดแผลในใจของพี่ได้ ผมก็จะไม่ปล่อยโอกาสนั้นให้หลุดมือไปอย่างแน่นอน


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ผมกับพี่แตซองกลับจากงานแต่งงานกันค่อนข้างดึกครับ ในระหว่างที่นั่งอยู่ในรถแท็กซี่ พี่แตซองก็ยังคงดูเงียบๆ อยู่ ผมก็นั่งเงียบๆ เหมือนกันครับเพราะไม่อยากถามเซ้าซี้ให้พี่แตซองต้องคิดมากกว่าเดิม


"เก้ารู้ใช่ไหมว่า 'เขา' เป็นใคร" อยู่ดีๆ พี่แตซองก็ถามผมขึ้นระหว่างอยู่ในรถ


ผมหันไปมองพี่แตซองพร้อมกับยิ้มน้อยๆ "พอเดาได้ครับ"


"ไม่คิดว่าจะได้เจอกันอีก แต่พี่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเขาจะมา"


"เขารู้จักกับเพื่อนพี่คนที่แต่งงานด้วยหรือครับ"


"ใช่ พวกเราเรียนมหาลัยด้วยกัน ทั้งกลุ่มนั้นก็เป็นเพื่อนๆ กันหมดนั่นแหละ"


ผมพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจพี่แตซองไปด้วย


"พี่รู้จักเขานานหรือเปล่าครับ"


"ก็นานหลายปีนะ น่าจะสิบปีได้ ตั้งแต่เรียนมหาลัยจน...แต่งงานกัน"


ก็น่าแปลกเหมือนกันนะครับ คนเรารู้จักกันมาตั้งเป็นสิบๆ ปี รู้จักนานขนาดนั้นทำไมถึงเลิกรักกันได้ง่ายดายเพียงนี้ ถึงพี่แตซองจะพิการแต่ผมว่าพี่แตซองก็ยังเป็นคนเดิมอยู่ แต่อย่างว่าแหละครับ ผู้หญิงคนนั้นคงจะมีเหตุผลบางอย่างที่เราอาจจะไม่รู้ก็ได้


"ถามจริงๆ นะครับ" ผมเว้นจังหวะไปเล็กน้อย ไม่แน่ใจว่าจะถามดีหรือเปล่า แต่ผมก็อยากรู้จริงๆ นี่ครับ


"พี่แตซอง...ยังรักเขาอยู่หรือเปล่าครับ" ผมถามเบาๆ เพื่อไม่ให้คนขับได้ยิน


พี่แตซองเงียบไปเลยครับ นานพอสมควรก่อนจะถอนหายใจยาว หันหน้ามามองผม


"ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงรัก...รักมาก แต่พี่ก็ตัดใจไปแล้ว อาจจะไม่ได้รักเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้เกลียดเขาหรอก"


ผมก็ยังคงรู้สึกว่าพี่แตซองไม่ได้ตอบคำถามผมจริงๆ เท่าไหร่ เดาเอาว่าพี่แตซองน่าจะยังรักผู้หญิงคนนั้นอยู่ หรือไม่ก็คงรู้สึกอะไรบางอย่างจากการที่ได้เห็นผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง


"พี่แตซองเข้มแข็งจังเลยนะครับ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าผมจะทนได้หรือเปล่า" ผมพูดพลางขำเบาๆ


พี่แตซองมองหน้าผมด้วยสีหน้าและแววตาที่ผมเองก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน


"ถ้าไม่เข้มแข็งก็คงตายไปแล้ว"


พี่แตซองพูดแค่นี้ครับ แล้วเราก็เงียบไปไม่ได้คุยกันจนกระทั่งถึงคอนโด


พอมาถึงห้อง ผมก็ช่วยพี่แตซองอาบน้ำก่อนเหมือนเช่นเคย แล้วผมจึงค่อยอาบทีหลัง วันนี้ผมเอาเสื้อผ้าพี่แตซองมาใส่ด้วยครับเพราะผมไม่ได้เตรียมมาจากบ้านน้าสาว ก็พอใส่ได้อยู่แม้ว่ามันจะตัวใหญ่ๆ ไปหน่อย


พอนอนลงข้างๆ พี่แตซองแล้วผมก็หันไปคุยกับพี่แตซองที่นอนคิดอะไรเงียบๆ อยู่คนเดียว ผมไม่อยากเห็นพี่แตซองเศร้าอย่างนี้อีกแล้วครับ


"พี่แตซองไปบ้านน้าสาวผมไหมครับ เดี๋ยวผมจะให้น้าสาวกับแม่ผมทำอาหารไทยให้กิน"


พี่แตซองค่อยๆ หันหน้ามามองผม แววตาและสีหน้าที่ครุ่นคิดเปลี่ยนเป็นยิ้มจางๆ "อืม...ก็น่าสนใจนะ รบกวนหรือเปล่าล่ะ"


"ไม่หรอกครับ แม่ผมเขาชอบทำอาหารครับ ผมเล่าให้แม่กับน้าสาวฟังว่าพี่แตซองใจดีกับผมมาก เหมือนพี่ชายเลย แม่ผมกับน้าก็เลยอยากเจอพี่ครับ ไปนะครับ"


ผมพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทางรบเร้า


พี่แตซองพยักหน้า "อืม...ก็ดีเหมือนกัน พี่อยากลองกินอาหารไทยดูบ้าง อยากรู้เหมือนกันว่าจะเผ็ดแค่ไหน"


เห็นพี่แตซองยิ้มขึ้นมาได้บ้างผมก็ค่อยใจชื้นหน่อย หวังว่าน้องชายตัวเล็กๆ น่ารักๆ อย่างผมจะพอช่วยให้พี่ชายคนนี้หายเศร้าได้บ้าง


"เก้าคิดว่าพี่เป็นคนใจดีจริงเหรอ บางทีพี่ก็ดุเก้าบ่อยเหมือนกันนะ" พี่แตซองถามขึ้นมาหลังจากที่เงียบไปสักพัก


"ใจดีสิครับ ถ้าไม่ใจดีป่านนี้ผมโดนไล่ออกไปแล้วล่ะ ผมทำผิดตั้งหลายเรื่องแน่ะ"


ผมบอกพลางขำ พี่แตซองยิ้ม สีหน้าและแววตาของพี่แตซองช่างดูอบอุ่นเหลือเกิน


"เพราะเห็นว่าเป็นเก้าหรอกนะพี่เลยไม่ฟ้องศูนย์ ถ้าเป็นคนอื่น ป่านนี้ศูนย์คงเรียกไปเตือนแล้วล่ะ"


ผมกับพี่แตซองยิ้มและหัวเราะด้วยกัน ก็จริงนั่นแหละ เท่าที่ผมรู้มา ที่ศูนย์มีการร้องเรียนเรื่อง PA ทำผิดจรรยาบรรณบ่อยๆ นอกจากนี้ก็ยังมีกรณีที่คนพิการใช้ PA ทำงานผิดประเภทด้วย บางคนใช้ PA ทำงานบ้านจนเหมือนเป็นคนใช้ไปเลยก็มี


"ขอบคุณนะครับที่ยังกรุณาผมอยู่"


"จริงๆ ชีวิตพี่ก็มีความสุขนะเวลามีเก้ามาอยู่เป็นเพื่อน พี่อาจจะดุเก้าบ้าง เก้าไม่โกรธพี่ใช่ไหม"
 

ผมส่ายหน้าทันที


"ที่พี่ดุไม่ใช่เพราะพี่ไม่ชอบเก้านะ พี่อยากให้เก้าได้เรียนรู้การเป็น PA อย่างมืออาชีพ คนเราถ้าทำอะไรเป็นมืออาชีพแล้วก็จะไม่มีใครมาว่าเราได้ เก้าจำไว้นะ"


ผมยิ้มพลางพยักหน้า แล้วพี่แตซองก็ลูบหัวผมเบาๆ ด้วยความเอ็นดู


"เก้ารู้ไหมว่าพี่..."


พี่แตซองทำท่าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างแล้วก็หยุดไป


"อะไรเหรอครับ"


"ไม่มีอะไรหรอก นอนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ต้องไปอบรมคอมพิวเตอร์แต่เช้า"


อยู่ๆ พี่แตซองก็เปลี่ยนใจไม่พูดซะอย่างงั้น แต่ผมก็สงสัยจริงๆ นะครับว่าพี่แตซองกำลังจะพูดอะไร ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เลย แต่ผมก็ไม่เซ้าซี้ครับ ไม่อยากบอกตอนนี้ก็ไม่เป็นไร สักวันพี่แตซองก็คงจะบอกเพราะพี่แตซองเป็นคนพูดตรง คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น


"ครับ อันยองฮีจูมูฮาเซโยะ"


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2015 08:20:39 โดย sarawatta »

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
เมื่อไรจะได้รักกัน

namtarn11

  • บุคคลทั่วไป
สงสารพี่แตซองมาก จะว่าผู้หญิงก็ไม่ได้แต่เรื่องแบบนี้ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
มีถึงขั้นแอบลองใจด้วย
แอบร้ายนะเนี่ย

ออฟไลน์ witchhound

  • เบื่อ เบื่ออ เบื่อออ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
มาดูว่าเก้าจะลองใจพี่แตซองยังไง
 :laugh:

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ได้อะไรดีๆจากเรื่องนี้เยอะเลย ^^

รอตอนต่อไปค่ะ

Mc_ma

  • บุคคลทั่วไป
พี่แตซอง เข้มแข็งมากจริงๆ  o7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
สงสารพี่แตซองจัง

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
เบื่อผู้หญิงคนนั้นสุด

เเต่ไม่เป็นไรเพราะพี่เเตซองเราเ่ก่งอยู่เเล้วเนาะ

ลองใจตอนหน้าหรอ อยากอ่านเเล้ว

ออฟไลน์ sinyou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอตอนต่อไปนะค่ะ

ออฟไลน์ Salome

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกหน่วงๆ หลายเรื่อง สงสารพี่เขาเรื่องภรรยาเก่า เรื่องเก้าด้วย
เกิดพี่เขารักเก้าขึ้นมาจริงๆ จะทำอย่างไร ในเมื่อเก้าก็ต้องกลับเมืองไทย แล้วพี่เขาจะแย่แค่ไหน คนไปไม่เท่าไร แต่คนที่ต้องอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมนี่สิ
แล้วครอบครัวเก้าอีก ลูกเป็นแฟนกับคนพิการ กี่คนจะยอมเข้าใจ ไม่ได้เป็นแฟนกันมาก่อนด้วย
สรุป อิคนอ่านมันอินนั่นเอง  :z3:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องภรรยาเก่าของแตซองน่ะ ก็เข้าใจทั้งแตซองและเธอคนนั้นนะ
มนุษย์เราย่อมมีความเห็นแก่ตัว จะน้อยจะมากขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
เธอคนนั้นอาจเห็นแก่ตัวมากไปหน่อย เพราะแตซองเข้าใจเธอไงล่ะถึงได้หย่าให้เธอ
เพราะถ้าขืนยื้อไว้ แม้แต่ความเป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกก็อาจไม่เหลือ
อาจโกรธกัน-เกลียดกัน กลายเป็นศัตรูกันไปเลยก็ได้
แน่ะ..น้องเก้าจะพาผู้ชายเข้าบ้านแล้วไหมล่ะ
พรุ่งนี้ความสัมพันธ์ทางใจระหว่างพี่แตซองกับน้องเก้า คงพัฒนาขึ้นไปอีกระดับนะ

ออฟไลน์ Monochrome

  • โคอาล่า มาร์ช *O*
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
แฟนเก่า เหอะๆ -^-

เก้า แน่นๆ พาผู้ชายเข้าบ้านเหรออออ ^-^

darkeyes1

  • บุคคลทั่วไป
เหอๆ  อ่านตอนนี้แล้วไม่รู้ว่าควรเม้นอะไรถึงจะดี  บรรยากาศมันอึดอัดนะ  แต่...  มันก็เป้นเรื่องที่พบได้ทั่วไปเหมือนกัน
เรื่องนี้น่าสงสารพี่แกจริงๆนะ  ดูท่าจะลำบากใจจริงๆ  ส่วนสาวนั้น  อยากรู้เหมือนกันว่าเป้นเพราะอะไร
ถึบคบมาตั้งสิบปีแล้วทิ้งกันง่ายๆเสียงั้น  แต่ก้นะ  ต่างคนต่างมีมุมมองของตัวเอง  ไม่อยากรู้นักหรอก

อยากเห้นความคืบหน้าของคู่นี้มากกว่า  เพราะอ่ายยังไงก้แนวๆรักเขาข้างเดียวอยู่ดี  แต่จะว่าเย็นชาไหม
ก็ไม่นะ  มันปกติที่คนมาทำดีด้วย  เมื่อเรามีอะไรไม่สะดวก  มัน..  ใครจะคิดว่าเป้นความรักละ
เรื่องนี้ยิ่งอ่านยิ่งทำใจแฮะ  เหอๆ

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
เก้าจะพาผู้ชายเข้าบ้าน!!  :o8:

อยากรู้จังว่าจะลองใจพี่เค้ายังไง!!  :L2: :L2:

ออฟไลน์ sarawatta

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +300/-10
▙▜ รักนี้มีล้อ ◯ น้องเก้า VS พี่แตซอง ▛▟
CHAPTER 11 ◉☥ PA ที่ไม่ได้เรื่อง




เวลาที่ผมจะได้อยู่เกาหลีและได้อยู่ใกล้ๆ กับพี่แตซองก็เริ่มน้อยลงแล้วครับ คิดๆ ไปตอนนั้นก็ใจหายเหมือนกัน อีกไม่กี่สัปดาห์ผมก็ต้องกลับประเทศไทยแล้ว คงไม่ได้มีโอกาสมาเป็น PA ให้พี่แตซองอีกเพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้มีโอกาสกลับมา กว่าจะเรียนจบ มีงานทำ มีเงินใช้พอซื้อตั๋วเครื่องบินมาเองได้ก็คงอีกหลายปี ก็ไม่รู้ว่าอะไรๆ ยังจะเหมือนเดิมอยู่อีกหรือเปล่า


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


สัปดาห์ต่อมา ที่ศูนย์ของพี่แตซองก็แจ้งว่าจะมีการไปจัดสัมนาเกี่ยวกับระบบ PA ที่ต่างจังหวัด 3 วันที่เมืองซกโช เพราะต้องการขยายแนวคิดการให้บริการแบบนี้ออกไปยังต่างจังหวัดให้กับคนพิการอื่นๆ ต่อไป แน่นอนว่าพี่แตซองของผมก็จะได้ไปเป็นวิทยากรด้วยครับ ผมเดาว่าตอนนี้ทางศูนย์กำลังพยายามหาช่องทางให้พี่แตซองได้แสดงความสามารถและเรียนรู้ในเรื่องนี้มากขึ้น เผื่อแกจะสนใจข้อเสนอที่จะมาทำงานที่ศูนย์ ผมว่าก็ดีนะครับ แกก็จะได้เติบโตในสายงานนี้ไปเลย เผลอๆ จะได้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ได้ครับ


ปัญหาก็มีอยู่ว่าผมจะไม่ได้เป็น PA ของพี่แตซองในงานนี้เนื่องจากมีคนพิการคนหนึ่งที่จะไปด้วยต้องการ PA ที่ค่อนข้างแข็งแรงหน่อย มี PA มาใหม่คนหนึ่งเหมือนกันแต่ดูค่อนข้างจะผอมแห้งแรงน้อย อาจจะช่วยเป็น PA ให้คนพิการคนนั้นที่ค่อนข้างตัวใหญ่ไม่ได้ ทางศูนย์ก็เลยขอให้พี่แตซองเปลี่ยน PA ชั่วคราวเพราะพี่แตซองไม่ต้องใช้ PA ที่ตัวใหญ่มากก็ได้ ความจริงผมก็ไม่ได้ตัวใหญ่อะไรมากหรอก ผอมๆ ด้วยซ้ำ แต่ก็ดูแข็งแรงกว่า PA คนนั้นเยอะอยู่


พี่แตซองก็เลยต้องตอบตกลง มันก็เป็นความจำเป็นด้วยแหละครับเพราะ PA ผู้ชายหายากกว่า PA ผู้หญิง ความจริงผมก็เคยไปเป็น PA ให้คนพิการคนอื่นบ้างเวลาที่ไม่ได้ไปเป็น PA ให้พี่แตซอง ก็พอเข้าใจสถานการณ์ขาดแคลน PA อยู่บ้าง ตอนแรกผมก็ใจเสียอยู่เหมือนกันที่จะไม่ได้เป็น PA ให้พี่แตซอง แต่คิดไปคิดมาก็ดีเหมือนกัน ผมอยากลองทำอะไรบางอย่างดูครับ


วันเดินทาง ผมก็ยังคงเป็น PA ให้พี่แตซองอยู่ ตอนเช้าผมก็ไปรับพี่แตซองที่คอนโดเพื่อพาพี่แตซองไปขึ้นรถตู้ที่ศูนย์ แล้วเราก็ออกเดินทางจากศูนย์ไปที่ซกโชกันตอนราวๆ แปดโมงเช้า คาดว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะไปถึง มีคนเดินทางไปประมาณ 10 กว่าคน ใช้รถตู้สองคัน


ซกโชอยู่ทางภาคตะวันออกของเกาหลีใต้ครับ เป็นเมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของเกาหลี ผมเคยได้ยินมาบ้างจึงค่อนข้างรู้สึกตื่นเต้นพอสมควร ผมได้ที่นั่งข้างหน้าพี่แตซองก็เลยไม่ได้นั่งด้วยกันเพราะผมต้องเป็น PA ให้พี่อีกคน แต่พอเจออะไรแปลกๆ หรือน่าสนใจสองข้างทางผมก็จะโผล่หน้าไปถามพี่แตซองตลอด ถามสารพัดอย่าง พี่แตซองก็ตอบได้ทุกอย่างครับเช่นกัน ดูเหมือนพี่แกก็ไม่เบื่อที่จะตอบด้วยครับ
 

ด้วยวิธีการคุยของผมที่เหมือนเด็กอยากรู้อยากเห็น บางทีก็ทำน้ำเสียงอ้อนๆ ก็เลยทำให้หลายคนเริ่มสงสัยในความสัมพันธ์ของผมกับพี่แตซองแล้วครับ เพราะดูสนิทสนมกันจนเกินขอบเขตของการเป็นนายจ้างและลูกจ้าง เมื่อเทียบกับ PA คนอื่นๆ แล้วก็ไม่มีใครทำตัวสนิทสนมกับคนพิการขนาดนั้น ก็มีแต่ผมนี่แหละครับ แต่ก็ไม่ได้สงสัยว่าเราจะเป็นคู่เกย์กันหรอกนะครับ แค่สงสัยว่าทำไมดูสนิทสนมกันขนาดนั้น


ประมาณบ่ายๆ เราก็มาถึงที่พักของเรา อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติซอรักซานเท่าไหร่ พี่แตซองบอกว่าที่นี่เป็นสวิสเซอร์แลนด์ของเกาหลีเลยล่ะ พอลงจากรถ พวกเราก็เอาของไปเก็บในห้อง ช่วงนี้ผมกับพี่แตซองก็เริ่มห่างกันแล้วครับเพราะต่างคนต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำ ช่วงบ่ายนี้เราพอมีเวลากันอยู่บ้าง ก็เลยไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติซอรักซานกัน มีเจ้าหน้าที่บางคนไม่ได้ไปด้วยเพราะต้องคอยจัดเตรียมสถานที่สำหรับงานสัมมนาพรุ่งนี้ น่าสงสารจังเลย


เมืองนี้เป็นเมืองที่สวยจริงๆ ครับ ตามข้างทางมีดอกไม้สวยงามเยอะแยะไปหมด ภายในอุทยานแห่งชาติจะมีวัด ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อชินฮันซา พวกเราไปเที่ยวกันหลายจุด ไปไหว้พระ ชมดอกซากุระของเกาหลี แล้วก็ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าไปชมวิวบนยอดเขา คนพิการก็ขึ้นได้นะครับ ดีมากๆ เลย


ตอนที่ไปก็มีบางคนไปด้วยกัน บางคนก็แยกกันไป ส่วนผมต้องแยกไปกับอีกกลุ่ม ไม่ค่อยได้เจอพี่แตซองเท่าไหร่ เจอกันระหว่างทางบ้างแล้วก็ต้องแยกกันไปอยู่ดี ไม่รู้สิครับ ผมว่าพี่แตซองดูไม่ค่อยร่าเริงเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเพิ่งเจอแฟนเก่าหรือเปล่า


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


ตอนเย็นเราไปทานอาหารเย็นกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งครับ เนื่องจากที่นี่ติดทะเลและขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเล เราก็เลยลองกินอาหารทะเลที่นี่กัน ดูพี่แตซองจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เพราะไม่ค่อยชอบอาหารทะเล ก็เลยต้องกินอาหารเกาหลีพื้นๆ ไป ตอนนี้แหละครับที่ผมคิดว่าผมควรจะลองทำอะไรบางอย่างเพื่อดูท่าทีของพี่แตซองบ้าง ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากรู้ว่าถ้าผมสนิทกับคนอื่นดูบ้าง พี่แตซองจะหวงหรือเปล่า อิๆ
   

เริ่มต้นด้วยการทำตัวสนิทสนมกับคนพิการอีกคนที่ผมเป็น PA ให้ ก็คุยนั่นถามนี่ไปเรื่อยตามเรื่องตามราวแหละครับ ผมสังเกตุเห็นพี่แตซองมองดูด้วยความสนใจอยู่บ่อยๆ แล้วแกก็ไม่ค่อยคุยด้วยครับ เงียบไปเลย โดยเฉพาะกับ PA ที่มาช่วยแกนั้นแทบจะไม่ได้คุยกันเลย ยกเว้นจะให้ช่วยทำอะไรบางอย่างถึงจะพูดกันที จนผมเริ่มรู้สึกว่าต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน อาจจะเกี่ยวกับผมก็ได้


แล้วเย็นวันนั้นผมก็โดนผู้ประสานงาน PA เรียกไปเตือนครับ ก็คงเกิดจากที่ผมทำตัวสนิทสนมกับคนพิการมากเกินไป โดยเฉพาะตอนที่อยู่บนรถตู้ ผมคุยกับพี่แตซองมาเกือบตลอดทาง ก็เลยเตือนผมว่าไม่ควรทำตัวสนิทสนมกับคนพิการมากจนเกินไปในระหว่างงาน ก็ไม่ถึงกับห้ามเป็นเพื่อนกัน แต่ควรจะแสดงออกในที่ที่เหมาะสม แล้วถ้าเกิดมีปัญหากันที่เกิดจากการเป็นเพื่อนกันหรือจากความสัมพันธ์อื่นๆ ที่ไม่ใช่ระหว่างคนพิการกับ PA ทางศูนย์ก็จะไม่รับผิดชอบ แล้วก็เตือนอีกว่าพอความสัมพันธ์แบบเพื่อนเกิดขึ้น การทำหน้าที่เป็น PA จะไม่ค่อยดีเพราะมักเกิดการคิดแทนคนพิการหรือไม่ยอมทำตามที่คนพิการบอก สุดท้ายก็จะเกิดปัญหา ทำให้ต้องเปลี่ยน PA ในที่สุด ผมก็ยอมรับผิดแต่โดยดีครับ


หลังจากโดนเรียกไปเตือนแล้ว ผมก็กลับมาที่ห้องพักเพราะพี่คนพิการอีกคนกำลังรออยู่และต้องการจะอาบน้ำ แล้วก็มาเจอพี่แตซองกับ PA ที่กำลังจะเข้าห้องพอดี พอพี่แตซองหันมาเห็นผมก็เลยร้องถาม


"เป็นไงครับเก้า สนุกไหมเป็น PA ให้คุณเป๊ก"


ผมจำทีพี่แตซองพูดไม่ได้ชัดเท่าไหร่เพราะตอนนั้นอึ้งไปครับ แต่ก็น่าจะพูดประมาณนี้แหละ แถมน้ำเสียงยังฟังดูแปลกๆ ด้วย ฟังดูเหมือนประชดยังไงไม่รู้ พอผมไม่ตอบพี่แตซองก็เลยเข้าห้องไป ผมยืนเหวออยู่สักพักก็ต้องรีบเข้าห้องของตัวเองเหมือนกันเพราะคุณเป๊กรออยู่ พี่คนพิการคนนั้นชื่อ "เบกชาโน" ครับ เวลาออกเสียงฟังดูคล้ายๆ เป๊ก


ตอนเช้าก็มีเรื่องที่ทำให้ผมน้ำตาแทบจะร่วงเสียแล้วเมื่อผมทราบว่า PA ของพี่แตซองทำพี่แตซองตกเตียงครับ ข้อศอกพี่แตซองกระแทกพื้น เจ็บตัวไปพอสมควร แต่ดีที่ไม่ถึงกับกระดูกหักหรือเจ็บตัวมากจนต้องไปโรงพยาบาล ผมได้ฟังแล้วก็นึกโมโห PA อีกคนจนแทบจะขอเปลี่ยนตัว แต่ก็รู้ว่าคงจะยากเพราะถ้าทำพี่แตซองตกเตียงได้ คุณเป๊กก็คงไม่เหลือเพราะตัวใหญ่กว่าพี่แตซองพอสมควร


ตอนนั้นผมสงสารพี่แตซองมาก ได้แต่คอยแอบมองด้วยความเป็นห่วงตอนที่อยู่ในห้องประชุม วันนี้คนที่มาประชุมก็เป็นองค์กรคนพิการที่อยู่ในเมืองใกล้เคียง และมีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐมาร่วมฟังด้วย โดยรวมๆ แล้วก็น่าจะประมาณ 50-60 คนได้ ในช่วงเช้าที่มีการบรรยายอยู่นั้น ผมก็ขอตัวคุณเป๊กมาหาพี่แตซอง พอมาถึงผมก็ย่อตัวลงนั่งข้างๆ วีลแชร์ พี่แตซองหันมามองแล้วก็ถาม


"มีอะไรครับ ทำไมไม่อยู่กับคุณเป๊กล่ะ"


"พี่แตซองเป็นไงบ้างครับ เจ็บหรือเปล่า" ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง


"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องธรรมดา พี่ตกเตียงบ่อยจะตาย"


พี่แตซองตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนไม่ทุกข์ร้อนอะไร เหมือนกับเป็นเรื่องธรรมดาอย่างที่แกว่านั่นแหละครับ แต่ผมกลับไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย ในใจลึกๆ ก็รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน เพราะผมเองก็ตั้งใจที่จะไม่เป็น PA ให้พี่แตซองในงานสัมมนานี้เพื่อลองใจพี่แตซอง แล้วก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น


"ผมเป็นห่วงพี่แตซองนะครับ" ผมย้ำความรู้สึกนี้อีกครั้ง พี่แตซองยิ้มเล็กน้อยและพยักหน้ารับรู้ ผมล่ะดีใจจริงๆ ที่ได้เห็นพี่แตซองยิ้มให้


"เก้ากลับไปทำงานเถอะ มาอยู่กับพี่อย่างนี้เดี๋ยวศูนย์เขาจะว่าเอา"


พี่แตซองเตือนด้วยความเป็นห่วง ผมชอบจังเลยครับเวลาที่พี่แตซองทำท่าเหมือนพี่ชายสอนน้อง แม้จะอยากอยู่คุยต่อแต่ก็ต้องไปครับ ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วก็เดินกลับมาหาคุณเป๊ก แต่ก็ยังอดเป็นห่วงพี่แตซองไม่ได้ นึกแล้วก็อยากจะเบิ๊ดกระโหลกนาย PA คนนั้นจริงๆ ที่ทำพี่ชายผมเจ็บตัว ตอนนั้นชักเริ่มไม่อยากลองใจแล้วครับ แต่ก็รู้ว่ายังไงก็คงเปลี่ยนตัว PA ไม่ได้แล้ว ยกเว้นว่าจะหาคนมาแทนนาย PA คนนั้นได้


ตลอดวันนั้นทั้งวัน ผมสังเกตว่าพี่แตซองไม่ได้เข็นรถเองเลย ปกติพี่แตซองจะเข็นเองได้บ้าง ก็คงเป็นเพราะเจ็บข้อศอกจากการตกเตียงนั่นแหละครับ


✢ ✣ ✤ ✥ ✦ ✧ ✩ ✪ ✫ ✬ ✭ ✮ ✯ ✰ ★ ✱ ✲ ✳ ✴ ✵ ✶ ✷


เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นอีก ทางศูนย์ก็เลยให้ผมไปช่วย PA คนนั้นเวลาอาบน้ำให้พี่แตซองครับ ผมก็เลยว่าจะถือโอกาสนี้สอนงาน PA คนนั้นไปด้วย ความจริงพี่แตซองก็คงจะบอกอยู่แล้วล่ะครับว่าให้ช่วยแบบไหนยังไง แต่ผมเข้าใจว่า PA คนนั้นอาจจะไม่เข้าใจแล้วไม่ถามให้แน่ใจ หรือไม่งั้นก็คงดื้อครับ


ตกเย็น ผมช่วยคุณเป๊กอาบน้ำก่อน จากนั้นก็มาที่ห้องพี่แตซองเพื่อคอยช่วยดูและให้คำแนะนำ PA อีกคน พอผมเปิดประตูเข้าไปก็เห็นพี่แตซองรออยู่ ยิ้มให้ผมน้อยๆ เหมือนกับว่าดีใจที่ผมมาหา ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่าแต่ผมก็ขอมโนบ้างละกัน


ผมกับพี่แตซองช่วยสอนงานให้กับ PA อีกคนเยอะพอสมควร เรียกว่าต้องสอนตั้งแต่เริ่มต้นใหม่หมดเลย ทั้งการยกตัว การเข็นรถ การอาบน้ำและอีกหลายๆ อย่าง ดูๆ แล้วก็ออกจะดื้อจริงๆ ด้วยครับ บอกอย่างทำอย่าง หรือบอกแล้วก็ไม่ค่อยอยากทำ ทำให้ผมหงุดหงิดอยู่เหมือนกัน


ตอนอาบน้ำผมเลยต้องทำให้ดูก่อนครับ ไม่อยากเสี่ยงเดี๋ยวทำพี่ชายผมล้มหัวฟาดพื้น ตอนช่วยยกพี่แตซองขึ้นเตียง ผมก็สาธิตให้ดูก่อนเหมือนเดิม ก็ท่ากอดกันนั่นแหละครับ ตอนที่สาธิตนั้นผมก็แอบดีใจที่ได้กอดพี่แตซองอีกครั้งหลังจากที่ห่างหายไปหลายวัน พี่แตซองก็ยังเหมือนเดิม ตัวหอมๆ อุ่นๆ


แล้วผมก็ให้ PA อีกคนลองบ้างครับ ปรากฎว่าตอนยกตัวพี่แตซองขึ้นนั้นก็ทำเหมือนกระชาก พอกระชากแล้วตัวเองก็จะเสียหลักล้ม ผมต้องรีบเข้าไปช่วยประคองไว้ก่อน ไม่งั้นพี่แตซองก็คงได้เจ็บตัวอีกเป็นแน่ เล่นเอาผมอดโมโหไม่ได้จนต้องว่าเสียงดัง


"ระวังหน่อยสิครับ จะให้พี่ชายผมเจ็บตัวอีกหรือไง"


PA คนนั้นหน้าจ๋อยไปเลย พี่แตซองมองหน้าผมอย่างอึ้งๆ คงไม่เคยเห็นผมโมโหมาก่อนนั่นเอง


"เดี๋ยวผมทำเองละกัน"


ผมบอกด้วยน้ำเสียงโมโหกับความไม่ได้เรื่องของ PA คนนั้น แล้วเขาก็ค่อยๆ ปล่อยตัวพี่แตซองให้ผม ระหว่างที่ผมกอดพี่แตซองไว้ในท่ายืนอยู่นั้น พี่แตซองก็กระซิบบอกผมเบาๆ ว่า


"ใจเย็นๆ เก้า"


"ครับพี่แตซอง"


ตอนนั้นผมอยากกอดพี่แตซองแล้วก็ซบลงบนไหล่อย่างมาก อยากร้องให้ อยากขอโทษที่ไม่ได้มาช่วยดูแลจนทำให้พี่แตซองเจ็บตัว ถ้าขอเปลี่ยนตัวได้ผมก็จะรีบเปลี่ยนตัวโดยไม่ลังเลเลยทันที แล้วผมก็คิดไปว่าถ้าผมกลับประเทศไทยล่ะ PA ที่มาใหม่จะทำพี่แตซองผมเจ็บตัวอีกหรือเปล่า คิดแล้วก็เป็นห่วงพี่แตซองไม่น้อยเลย 


ผมค่อยๆ ช่วยพยุงให้พี่แตซองนั่งลงบนเตียงอย่างช้าๆ เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ขอตัวพี่แตซองกลับห้องเหมือนเดิมเพื่อไปดูแลคุณเป๊กต่อ


"พี่แตซองดูแลตัวเองดีๆ นะครับ ราตรีสวัสดิ์ครับ" ผมบอกก่อนออกไปด้วยสายตาละห้อย


"ราตรีสวัสดิ์ครับเก้า"


พี่แตซองบอกพร้อมกับยิ้มน้อยๆ รอยยิ้มของพี่แตซองยังคงอบอุ่นเสมอ ผมคงจะจดจำรอยยิ้มนี้ของพี่ชายคนนี้ไปอีกนานแสนนาน แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะครับพี่แตซอง หวังว่าพี่จะไม่ต้องเจ็บตัวเพราะนาย PA นั่นอีกนะครับ


TBC


ขอรณรงค์ให้คนอ่านสละเวลา 1 วินาทีบวกเป็ดเป็นกำลังใจให้ 'นักเขียนทุกคน' ทุกเรื่อง ทุกตอนนะครับ สร้างสรรค์วัฒนธรรมแลกเปลี่ยนแบ่งปัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-09-2015 08:21:13 โดย sarawatta »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






Peppermint

  • บุคคลทั่วไป
== เออ เน๊อะ ความเศร้าจะมาเยื่อนเเล้วหรอเนี่ยยยยย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9

ออฟไลน์ pp4

  • คนที่ 'ชอบ' ไม่ได้แปลว่าคือคนที่ 'ใช่'
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1447
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-6
แอบนอยด์ใส่กันเบาๆสินะ.....

ออฟไลน์ witchhound

  • เบื่อ เบื่ออ เบื่อออ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
เวลาไกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
แล้วเก้ากับพี่แตซองจะเป็นยังไงต่อไปละ
 :serius2:

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
โมโหแทนเก้า  PA คนนั้นแย่มาก

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
จะรอดูตอนต่อไปว่า ช่วงสัมมนา มีอะไรคืบหน้าไหม



ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1
เรื่องนี้น่าสนใจมากค่ะ มาต่อเร็วๆ นะค่ะ :L2:

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
แอบงอนกันเบาๆ น่ารักดีถ้ามองจากคนนอก แต่ถ้าเป็นเก้ากับพี่แตซองคงรู้สึกไม่ดีเท่าไหร่

ชอบมากค่ะ ^^ แต่ไม่อยากให้ถึงตอนจากเลยอ่า

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ไม่อยากให้ถึงเวลาที่เก้าจะกลับไทยเลย


wolfram

  • บุคคลทั่วไป
ใกล้ครบสองเดือนแล้ว!!

จะเป็นยังไงต่อไปนะ!!  :กอด1:
 :L2: :L2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด