CHAPTER 24
‘คนไข้เสียเลือดมาก’
‘ชีพจรเต้นอ่อน’
‘โอกาสรอดมีน้อย…’
“…ผมอยู่ที่ไหน…”
ทางข้างหน้ามืดมิด…ผมมองไม่เห็นอะไร…ความรู้สึกว่างเปล่า…หันไปทางไหนผมก็ไม่เจอใคร…
“ไฟค่ะ…ใจเย็นๆนะค่ะ”หญิงสาวลูบหลังของชายร่างสูงอย่างช้าๆ ใบหน้าซีดเซียว อธิปยืนไม่ไหวติ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน แขนขา
เกร็งไปทุกสัดส่วน ใบหน้าของวริณครั้งสุดท้ายที่ได้เห็น เป็นเหมือนรอยยิ้มที่ทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า…รอยยิ้มที่ตัดรอน ผิดหวัง
และท้อแท้…
“เพื่อนผม…เป็นอย่างไรบ้างครับ”อธิปแทบจะกระโจนใส่หมอที่ออกมา กรามถูกขบกันจนเป็นสันนูน กลัว…กลัวเหลือเกิน…ใจคอ
ไม่ดี…
“ตอนนี้คนไข้อาการสาหัสมาก โอกาสรอดมีน้อย สมองได้รับการกระทบกระเทือน มีเลือดหลั่งในสมอง แขนขาหัก หมออยากให้
ญาติ เผื่อใจไว้…”
ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด …
“คุณหมอค่ะ ชีพจรคนไข้หยุดเต้นค่ะ”
“ฮึกกกๆ ฮือออๆๆ”เสียงกรีดร้องของหญิงสาว มินตราและอริสา อธิปคุกเข่าลงกับพื้น เหมือนโลกสลายไปกับตา ใบหน้าเคร่งขรึมมี
หยาดน้ำตาไหลอย่างช้าๆ นอกจากพ่อกับแม่ที่เสียไป ชายหนุ่มไม่เคยร้องไห้ให้กับสิ่งใดทั้งนั้น…
‘คุณสองคนครับ…คุณน้ากับคุณอา…’
‘…เธอ…’
‘…ผมหลงทาง…ช่วยบอกทางให้ผมหน่อยได้ไหม?’
‘…เธอยังกลับไปได้…รีบกลับไปซะตามแสงสว่างของเธอ…’
‘…ผมอยู่ที่ไหนครับ…คุณน้ากับคุณอา เราออกไปด้วยกันได้ไหมครับ?’
‘ไม่ได้หรอก ฉันตายไปแล้วพ่อหนุ่ม’ชายสูงอายุท่าทางใจดีตอบ
‘งั้นแสดงว่าผมก็ตายแล้วเหรอ…’ชายหนุ่มอุทานเบาๆปนตกใจ
‘เปล่า…เธอยังไม่ตาย หากเธอไม่รีบกลับไป เธอจะตายนะ’หญิงวัยกลางคนตอบ
‘ผมไม่อยากกลับไป…’ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ต้องคิด
‘กลับไปเถอะ เวลาของเอ็งยังไม่หมด’วิญญาณของชายสูงวัยว่า
‘ผมรู้สึกดีเหลือเกิน…ถ้าผมตายอีกครั้ง ผมจะมีโอกาสได้เจอท่านสองคนอีกไหม…”ชายหนุ่มถาม น้ำเสียงอาลัยอาวรณ์
‘จ๊ะ…เราสามคนจะได้เจอกันอีก”ทั้งสองยิ้มให้กับวิญญาณหนุ่ม ร่างสูงโปร่งโบกมือยิ้มลา เดินเข้าไปยังแสงที่ลอดออกมาจากที่ใด
สักแห่ง ก่อนจะกลืนหายไปลับตา
‘เขาอ่อนโยนเหมือนคุณ’
‘ผมก็คิดว่าเขายิ้มสดใสเช่นคุณ’
‘หวังว่าเขาจะไปทันนะค่ะ’
‘ผมก็หวังว่าอย่างนั้น…’
‘เราจะเดินทางไปด้วยกัน…อีกสักครั้งหนึ่งเป็นครอบครัว…’
‘ขอโทษนะลูก ที่พ่อกับแม่ไม่มีโอกาสได้ดูแลหนูเลย…’
.
.
.
“หัวใจคนไข้กลับมาเต้นเหมือนเดิมแล้วค่ะ”
“ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับคนไข้อีกราย”
“นั้นน่ะสิค่ะ…”นางพยาบาลถอนหายใจโล่งอก คุณหมอเจ้าของไข้ เดินออกจากห้องฉุกเฉินพร้อมกับรอยยิ้มให้กับญาติๆที่รออยู่
หน้าห้องอีกครั้ง
“แฟนผมเป็นอย่างไรบ้างครับ !!!”อธิปลุกขึ้นยืนพร้อมกับกระโจนกุมขมับที่ไหล่ของคุณหมอ จากตอนแรกเป็นแค่เพื่อน หากแต่
ตอนนี้ไม่ต้องมีอะไรปกปิดอีกแล้ว แค่คิดตอนเมื่อเสียวริณไป หัวใจแทบจะแตกเป็นเลี่ยงๆ ตอนเวลา เขามัวแต่ทำอะไรอยู่…
ทำไมถึงกลายเป็นคนโลเลได้ถึงเพียงนี้
“ใจเย็นๆก่อนนะครับ ตอนนี้ชีพจรของคนไข้กลับมาเต้นอีกครั้ง ราวกับปาฏิหาริย์ แต่หมอเองก็ยังยืนยันอะไรไม่ได้…”
“ขอบคุณครับ…คุณหมอต้องช่วยแฟนผมนะ…ผมยังไม่มีโอกาสได้ดูแลเขาเลย”
“ครับ หมอจะพยายามทำให้ดีที่สุด”
“ดินยังมีโอกาสรอด สาเชื่อว่าดินจะต้องสู้แน่นอน คุณไฟจะต้องเข้มแข็งนะค่ะ”เลขาสาวปลอบใจ ทั้งๆที่ใบหน้าของตัวเองเต็มไป
ด้วยน้ำตา หลังจากเกิดอุบัติเหตุได้ไม่นาน ข่าวก็แพร่สะบัดเข้าไปถึงในงาน นักข่าวเริ่มออกมาทำข่าวในสถานการณ์ รถที่ขับพุ่ง
ชนวริณนั้นเป็นรถคันหรูราคาแพง หากแต่คนขับนั้นกำลังเมา จึงเมาและไร้สติขับรถพุ่งออกจากสี่แยกข้างหน้าด้วยความเร็วสูง และ
คนที่โชคร้าย ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็คือวริณ ที่ไร้หนทาง แค่อยากข้ามถนนไปอีกฝั่ง เพื่อโทรหาใครสักคน…
“คุณสา…ผมอยากกลับไปแก้ตัว”ชายหนุ่มว่า หญิงสาวน้ำตาไหลพรากพร้อมกับกอดปลอบโยนร่างสูงของชายหนุ่ม
“สาจะพาคุณมิมเธอกลับบ้านนะค่ะ ส่วนคุณไฟก็กลับบ้านไปพักผ่อน”
“ผมทิ้งดินไว้ไม่รู้กี่ครั้ง แม้แต่ครั้งนี้ ผมก็เลือกที่จะทิ้งเขา…สุดท้ายเขาก็กำลังจะทิ้งผมไปจริงๆ”
“หากมีโอกาสอีกครั้ง สาเชื่อว่า คุณไฟจะรักดินอย่างไร้ข้อกังขาใดๆ แม้ว่าสาจะเป็นคนนอก แต่สาก็ผูกพันกับวริรมากเหลือ
เกิน”หญิงสาวว่า ก่อนจะปาดน้ำตาที่แก้มของตนทิ้ง พร้อมกับเดินไปจูงมือหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าก้มตาร้องไห้อย่างเงียบๆ
“คุณมิม เรากลับกันเถอะค่ะ”
“ฉัน…”
“กลับกันเถอะค่ะ”
“อืม…ไฟค่ะ มิมขอโทษ…”
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะผมเอง”
“ไม่ใช่เพราะคุณ! มิมเองตะหากที่พยายามทำลายความรักของคุณสองคน”หญิงสาวแย้ง น้ำตาคลอเบ้า หากภาพที่เกิดขึ้นไม่กี่ชั่ว
ครู่ ทำให้เธอรู้สึกละอายใจ ภาพของร่างบางของชายหนุ่มถูกปะทะเข้ากับรถเก๋งคันหรู ภาพร่างของชายหนุ่มอาบเลือดไปทั้งตัว
แววตาที่มองมายังหล่อนและอธิป ตัดพ้ออย่างรุนแรง ก่อนจะหลับลงพร้อมรอยยิ้มที่เธอไม่อาจเข้าใจ
“มิม…คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ไฟ…”หญิงสาวลุกขึ้น พร้อมกับเช็ดน้ำตาเดินไปพร้อมกับเลขาสาว เธอเข้าใจ และรู้สึกดี ว่าการสูญเสียคนรักไปต่อหน้าต่อตามัน
เจ็บปวดเพียงใด ไม่ต่างจากวันนั้นที่เธอเจ็บปวดมากมายกับการเสียคนรักไป…คนที่เป็นพ่อของลูก…คนที่กำลังจะเป็นสามีใน
อนาคต…เรากำลังจะแต่งงาน…
“คุณมิมอย่าคิดอะไรมากเลยนะค่ะ คุณกำลังท้อง”อริสาว่า
“ฉันผิดเอง…เธอรู้ใช่ไหม”
“คนเราคิดผิดกันได้เสมอ หากคุณยอมรามือแต่ตอนนี้ ฉันเชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น หากดินฟื้นขึ้นมา ฉันเชื่อว่าเขาจะให้อภัยคุณ”
“ฉันภาวนาขอให้เขาฟื้นขึ้นเร็วๆ ฉันอยากจะขอโทษ”
“ดีแล้วค่ะ ที่คุณเปลี่ยนความคิดตั้งแต่ตอนนี้”
“ฉัน…”
“อย่าร้องไห้เลยนะค่ะ”
“อืม”
.
.
.
ดิน…
ถ้าผมจะบอกว่าขอโทษยังทันอยู่อีกไหม
ถ้าผมบอกว่าผมเลือกคุณยังจะทันอยู่ใช่ไหม
ถ้าผมบอกว่าผมรักคุณ คุณจะให้โอกาสผมอีกไหม…
อย่าเป็นอะไรไปนะ… ขอร้อง อย่าเป็นอะไรไป…
อย่าทิ้งผมกับลูกไว้สองคน… กลับมาหาเราไวไวนะ…
“คุณค่ะ”
“เป็นญาติคนไข้ห้อง…รึเปล่าค่ะ”
“ครับ”ชายหนุ่มตอบเสียงงัวเงีย ดวงตาสีคล้ำจากการไม่ได้นอน ก่อนจะผึ่งตาทันที เมื่อได้ยินพยาบาลสาวพูดถึงคนไข้ที่อยู่ใน
ห้องไอซียู
“ตอนนี้คนไข้อาการดีขึ้นเรื่อยๆแล้วนะค่ะ อาการหายห่วงแล้ว ฉันว่าคุณกลับไปพักผ่อนได้แล้วนะค่ะ เรื่องดุแลทางโรงพยาบาลได้
จัดเวรดูแลอย่างใกล้ชิดแล้วค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ…ผมอยากอยู่เป็นกำลังใจให้เขา”
“เอ่อ…ไม่ทราบว่าคุณเป็นคุณอธิปรึเปล่าค่ะ”
“ครับ”
“แล้วคุณเป็นอะไรกับคนไข้เหรอค่ะ หากเสียมารยาทขอโทษด้วยนะค่ะ”
“เราเป็นคนรักกันครับ เขาเป็นคนที่ผมรัก”
“อะ…อ่อค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันจะไม่เอาไปพูดเด็ดขาด”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ถือ หากเขาฟื้นมาเมื่อไหร่สิครับ ผมจะประกาศคนเขาซะให้ทั่ว”
“ค่ะ”พยาบาลเดินออกไปยิ้มๆ ชายหนุ่มกุมมือของตัวเองเบาๆ สัมผัสของวริณยังตราตรึงอยู่ในหัวใจ เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดที่จะให้
ความสำคัญ แต่พอรู้ว่าสิ่งที่รักกำลังหายไป ก็เพิ่งมารู้คุณค่าเอาเมื่อตอนจะสาย จะกลับไปแก้ไขอะไรก็ไม่ได้…เสียใจที่เหลือ…ก็
แค่รอโอกาส…
“พอไฟฮ่ะ”
“ครับ”
“อ้าว แล้วพ่อดินล่ะครับ หายไปไหนมาตั้งหายวัน แซมเป็นห่วง พ่อดินกับพ่อไฟไม่กลับบ้านมาเป็นอาทิตย์”แซมโผเข้ากอดอธิป
แน่น แววตาส่อแววขี้แย ตาแดงๆเหมือนจะร้องไห้
“พ่อดินล่ะครับ…พ่อดินไปไหน…แซมคิดถึง”
“พ่อดินไม่สบาย”
“ป้าอรก็บอกแซมอย่างนั้น”
“แซมอย่าร้องนะ พ่อขอโทษ…”
“พ่อดิน…เป็นอะไรมากใช่ไหมฮ่ะ …ไม่มีใครบอกอะไรแซมเลย…แซมคิดถึงพ่อ”เด็กน้อยน้ำตารื้น ร้องไห้ด้วยความกังวลและ
หวาดกลัว…ทุกๆวันจะนอนฝันถึงพ่อดิน ฝันที่มีความสุขเหลือเกิน แต่ทำไม…ภาพสุดท้ายก่อนจะตื่น พ่อดินมักเดินหันหลังกลับ
และหนีตนไปเสียทุกที
“พ่อดินป่วยหนัก อยู่ที่โรงพยาบาล ตอนนี้พ่อดินปลอดภัยแล้ว…แต่หมอบอกว่าพ่อดินมีโอกาสเป็นเจ้านายนิทรา หากไม่ยอมฟื้น
ขึ้นมา…”อธิปบอกเสียงแผ่ว จากการปรึกษาคุณหมอในวันนี้ทำให้อธิปยอมกลับมา อาบน้ำอาบท่าอีกครั้ง เก็บกระเป๋ากะจะไป
อยู่กับดินที่โรงพยาบาลสักพัก เพราะนานเหลือเกิน วันสองวัน วันที่สามถึงสี่ วันที่สี่ถึงห้า วันที่ห้าจนวันนี้ คอยแล้วคอยเล่า ร่าง
กายของวริณกำลังพักฟื้นได้ดี อาการทุกอย่างดีขึ้นตามลำดับ แต่กลับไม่มีวี่แววว่าวริณจะยอมฟื้นขึ้นมา
‘คนไข้ มีโอกาสหลับไปตลอดกาล อาจเพราะไม่มีกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ก่อนหน้านี้ ก็เป็นได้…’
เพราะผม !
แววตาตัดพ้อนั้น มีความหายว่าดินจะทิ้งผมไปแล้วเสียจริงๆ…
“เจ้าชายนิทรา คืออะไรฮ่ะ เหมือนเจ้าหญิงสโนไวท์รึเปล่า พ่อดินก็จูบพ่อดินสิฮ่ะ พ่อดินจะได้ฟื้นขึ้นมา…”แซมบอกทั้งน้ำตา ทั้งๆ
ที่ไม่รู้เรื่องไม่รู้ราว งอแงเหมือนเด็ก ขอแค่ให้พ่อดินตื่นขึ้นมา…ขอแค่นั้น
“แซม…พ่อดินเกลียดพ่อแล้ว”อธิปซุกหน้ากับเด็กน้อย พร้อมกับมือเล็กๆเกี่ยวคอกอด
“แซมรักพ่อไฟนะ พ่อดินเป็นคนใจดี พ่อดินไม่เกลียดพ่อไฟ”แซมว่า ร้องไห้หนักกว่าเดิม กอดคอร้องไห้กันทั้งพ่อและลูก
“พาแซมไปหาพ่อนะ แซมคิดถึงพ่อ”
“ครับ ขึ้นไปอาบน้ำแล้วอย่าร้องไห้อีกนะ ถ้าพ่อดินรู้พ่อดินต้องไม่สบายใจแน่ๆเลยรู้ไหม”
“ฮ่ะ…”
ร่างบางนอนหลับใหลอยู่บนเตียงพยาบาล ใบหน้านิ่งสงบ แลดูออกซีดและเซียว แขนข้างขวามีสายน้ำเกลือเจาะไว้ ผ้าพันล้อม
ศีรษะ ขาสองข้างถูกเข้าเผือก ร่างกายมีบาดแผลหลายจุด เหลือไว้แต่ใบหน้าที่มีแค่รอยฟกช้ำและถลอกนิดหน่อยเท่านั้น
“ดิน…วันนี้แซมมาเยี่ยมคุณด้วยนะ”อธิปว่า พยายามข่มน้ำเสียงตัวเองให้นิ่ง ทั้งๆที่ขอบตาของตัวเองเริ่มปริ่มไปด้วยหยาดน้ำตา
“พ่อดิน…ฮึกๆ …ฮือๆ แซมร้องไห้อีกแล้ว แซมคิดถึงพ่อดิน พ่อรีบตื่นมาไวไวนะ แซมรักพ่อดินนะ พ่อดินอย่าทิ้งแซมไปไหน…พ่อ
ดิน”
“ดิน…คุณต้องรีบตื่นมานะ ผมกับแซมจะรอคุณเสมอ…”
อธิปว่าก่อนจะกุมมือข้างซ้ายของวริณ ซุกแก้มลงกับมือนุ่ม ก่อนจะหอมลงเบาๆ
‘ดิน…’
‘พ่อดิน…’
‘เสียงของใครกันนะ…’
ผมรู้สึกคุ้นหูเหลือเกิน....
-----------------------------------------------------------------------------*
มาต่อแล้วนะค่ะ อาทิตย์การบ้านเยอะมากๆๆๆ เหนื่อยกันแบบสุดโต่ง พรุ่งนี้วันศุกร์แล้ว ทำการบ้านสำหรับการส่งพรุ่งนี้เสร็จหมด และสำหรับการบ้านอาทิตย์หน้าไม่ต้องพูดถึง ยังเป็นกระบบวน เรื่องวุ่นๆมีอีกเยอะ เฮ้อ เหนื่อยจัง มาบ่นแค่นี้แหละ
ไปทำการบ้านต่อล่ะ
แล้วก็อย่าลืมเม้นเป็นกำลงใจให้เช่นเดิมนะค่ะ T_T
ได้อ่านทุกเม้นแล้วดีใจมากมายเลยทีเดียว แล้วก็มีนักเขียนท่านหนึ่งก็คือคุณ Sarawatta มาเม้นนิยายให้ด้วย กรี๊ด ! ลั่นเลย
เพราะชอบนิยายของคนเขียนท่านนี้มาก สำหรับเม้นทุกเม้น ก็ต้องขอบคุณกันเช่นเคยนะค่ะ
เจอกันเสาร์หน้านะค่ะ

เหนื่อยแบบสุดโต่ง !!! การบ้านจะเยอะไปไหน

ส่องแต่เล้า แต่ก็ไม่มีโอกาสได้อ่าน ได้เม้นนิยายของท่านอื่นเลย เซง
