ตอนที่ 34
บ้านหลังเล็กที่คุ้นตา ปั๊บจำมันได้ดีเขาลงจากแท็กซี่ดูบ้านเลขที่และชื่อเจ้าของบ้านเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง พอมั่นใจว่าใช่เด็กหนุ่มก็ชะเง้อคอยืดคอยาวเข้าไปมองในตัวบ้าน
มีคนอยู่ ประตูบ้านเปิดไว้ ได้ยินเสียงก้องแก้งคล้ายคนกำลังทำอะไรบ้านหลังนี้ไม่มีออดหน้าบ้าน ปั๊บเลยเกาะข้างรั่วชะโงกหน้าแล้วตะโกนเรียกแทน
“พี่ซอ! พี่ซอ...พี่ซออยู่บ้านไหมฮะ” ปั๊บเรียกอยู่ไม่ถึงนาทีร่างโปร่งของใครบางคนที่อยู่ในบ้านก็โผล่หน้าออกมา
เธอเป็นผู้หญิงตัวสูงโปร่ง ผมยาว รูปร่างดีแต่งตัวสวยเรื่องหน้าตาคงไม่ต้องให้ปั๊บบรรยายอะไร ว่าพี่ซอหน้าสวยแล้วมาเจอพี่พิณ...รายนี้สวยระดับมาตรฐานมิสทิฟฟานี่แล้ว
เอ่อ...ไม่ได้หมายความพี่พิณเป็นสาวประเภทสองนะ... แต่เธอสวยเวอร์จริงๆ
“ซอไม่อยู่นะคะ เอ๊ะ...ปั๊บใช่มั้ย?”
“ฮะพี่พิณ ปั๊บเข้าไปได้มั้ย?”
“ได้สิๆ เข้ามาเลยพี่ไม่ได้ล็อกประตูรั้ว” เสียงเจ้าของบ้านเชื้อเชิญ ปั๊บยิ้มก่อนจะเดินเข้าไปในบริเวณบ้านหลังเล็กนั้น “ไปไงมาไงล่ะเนี่ย นั่งตรงนั้นก่อน เดี๋ยวพี่หาน้ำหาท่ามาให้ รกหน่อยนะ” เจ้าของบ้านว่า ก่อนจะหายไปทางหลังบ้าน ปั๊บรู้ว่าทางนั้นคือทางไปห้องครัว
“หยุดสงกรานต์ครับ...พี่ซอยังไม่ตื่นเหรอครับ” ปั๊บเอ่ยถาม มองพื้นที่ในห้องรับแขกที่เต็มไปด้วยข้าวของมากมายซึ่งดูแล้วมันคือพวกเสื้อผ้าแฟชั่น
พี่พิณมีร้านขายเสื้อผ้าอยู่แถวสยาม ร้านนั้นเขาไปบ่อยๆ แต่ไม่ได้เฉียดเข้าไปใกล้เลยตั้งแต่เลิกรากับซอ...บอกตามตรง...เจอซอที่นั่นทำใจไม่ได้ถ้าจะต้องไปเห็นสถานที่เหล่านั้น
“ซอมันออกไปเที่ยวแต่เช้าแล้วล่ะปั๊บ พี่ล่ะแปลกใจทุกทีสงกรานต์มันไม่มีทางโผล่หน้าออกไปไหนหรอก กลัวน้ำอย่างกับหมาเป็นโรค น้ำหวานก่อนลูก” พี่พิณส่งแก้วน้ำเก๊กฮวยแก้วโตให้ปั๊บ เด็กหนุ่มรับไว้ ทำหน้าตกใจนิดๆ ที่ได้ยินว่ามนุษย์ต่างดาวอย่างซอไปเที่ยวสงกรานต์
“ขอบคุณครับ”
“พี่ว่าจะให้มันช่วยเรียงของสักหน่อย ไอ้น้องคนนี้นี่นะ” ถือโอกาสบ่นเรื่องน้องชายสุดกวนประสาทเลยทีเดียว
พิณรู้จักปั๊บ รู้จักดีด้วย และรู้เรื่องต่างๆ ระหว่างซอกับป๊บ แต่ก็ไม่ได้รู้ละเอียดอะไรมาก เธอรู้ว่าน้องชายเป็นอะไร?ยังไง? และเธอก็ไม่เคยต่อว่าอะไรด้วย เพราะน้องชายของเธอไม่ได้เป็นอาชญากร
เธอยินดีจะเข้าใจน้องชายดีกว่าเสือกไสไล่ส่งออกไปเพราะยังไงตอนนี้ก็เหลืออยู่แค่สองคนพี่น้อง...
“ผมไม่ได้มาเยี่ยมพี่เลย ที่ร้านก็ไม่ได้ไป”
“พี่เข้าใจจ๊ะ” พิณมองหน้าอดีตคนรักของน้องชาย...เธอรู้ดีว่าทำไมปั๊บถึงหายไป เรื่องราวที่เกิดขึ้นที่หน้าบ้านหลังนี้เมื่อเกือบสองปีที่แล้วเธอเห็นและได้ยินทุกอย่าง...
“พี่พิณสบายดีนะครับ”
“สบายดีจ๊ะ ตอนนี้พี่ไม่ได้ขายของที่ร้านแล้วนะปั๊บ เลิกขายมาสามสี่เดือนแล้ว” เด็กหนุ่มตาโต ไม่ต้องรอให้ถามพิณก็เฉลย “ตอนนี้พี่เปลี่ยนมาขายในเน็ตแทนแล้วน่ะ รายได้โอเคนะ มันไม่ต้องเสียค่าที่ไม่ต้องเดินทาง มีเวลาพักผ่อนเยอะด้วย”
“อ๋อ...ตอนนี้กำลังนิยมเลยนี่ฮะ ผมก็เข้าไปซื้อบ่อยๆ” พิณพยักหน้า ก่อนจะมองหน้าของปั๊บนิ่งๆ เธอเอ็นดูเด็กคนนี้ นิสัยน่ารัก มีสัมมาคารวะ รักน้องชายของเธอมาก ที่สำคัญ...น้องชายของเธอก็รักปั๊บมากเช่นกัน
“ปั๊บล่ะ...สบายดีมั้ย?” เด็กหนุ่มยิ้มหลุบตามองแก้วน้ำสีเหลืองอ่อนในมือ
“ก็เรื่อยๆ ฮะ ผลสอบเพิ่งออก”
“ติดที่ไหน? ในกรุงเทพหรือเปล่า” ปั๊บส่ายหน้าทันที
“พิษณุโลกฮะ” พิณพยักหน้า
“ไกลเหมือนกัน คณะที่ชอบ?”
“ชอบฮะ ผมจะเรียนเภสัช” พิณยิ้มรู้สึกภูมิใจแทนคนเป็นพ่อเป็นแม่จริงๆ
“เป็นเด็กดีตลอดเลยนะเรา ทีเจ้าซอล่ะนะ ไม่เคยจะน่ารัก” ว่าแล้วก็บ่นใส่น้องชาย
“พี่ซอก็เป็นอย่างนี้นี่ฮะ แล้วพี่เค้าไปเที่ยวที่ไหนเหรอครับ? ไปกับพวกเพื่อนในกลุ่มหรือเปล่า?” ถึงจะถามอย่างนั้น บางอย่างในใจของปั๊บกลับนึกไปถึงใบหน้าของใครบางคนที่คล้ายคลึงกับเขา
“พี่ไม่รู้สิ บอกแค่ว่าไปเที่ยว มีรถปิ๊กอัพมารับแต่เช้าคนเต็มไปหมดสงสัยคงขับรถร่อนกัน พี่ล่ะเป็นห่วงช่วงเทศกาลแบบนี้” สาวสวยพูดพร้อมกับหยิบเอาเสื้อผ้ามาคลี่ดู “ปั๊บรีบหรือเปล่าน่ะ ซอคงไม่กลับมาง่ายๆ”
“ผมไม่ได้ไปไหนครับ ตั้งใจมาหาพี่ซอ พี่พิณมีอะไรให้ปั๊บช่วยแลกกับข้าวกลางวันไหมล่ะครับ” สาวสวยหัวเราะกับคำนั้นพยักหน้า
“เดี๋ยวพี่จัดชุดพวกนี้ ปั๊บถ่ายรูปให้พี่หน่อยสิ จะเอาลงในเวป”
“ได้ฮะ”
“งั้นรอตรงนี้ก่อนนะพี่ไปเตรียมของก่อน”
“ฮะ” ปั๊บรับคำรอปล่อยให้สาวสวยไปทำธุระส่วนเขาก็เอามือถือออกมาแล้วโทรออก
...หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ กรุณาติดต่อกลับมาใหม่อีกครั้ง...พี่ซอออกไปเที่ยวสงกรานต์ทั้งที่ไม่ชอบความวุ่นวาย...
สัญญาณแห่งการเปลี่ยนแปลงใช่หรือเปล่า?
....................................................................
“โอ้ยยยย ไม่เอาแล้วแฮม ผมจะไปเปลี่ยนชุดแล้วนั่งบนรถนะ” ซอพูดขึ้นหลังจากที่เล่นน้ำอยู่ท้ายรถมาพักใหญ่แล้ว...
มีคนก็สาด ไม่มีคนก็สาด แต่ไอ้ที่สาดน่ะบรรดาเพื่อนๆ ของหมอแฮมทั้งนั้นที่รุมสาดเขาน่ะ
เปลืองน้ำไม่พอ...มันหนาว!
“อะไรล่ะซอ...ยอมแพ้แล้ว?” คุณหมอล้อทำสายตาล้อเลียนไม่หยุด “อีกอย่าง เมื่อไหร่จะเรียกพี่แฮม เรียกแต่แฮมๆ ๆ เพื่อนเล่นเหรอ?”
“ไม่ใช่เพื่อนเล่น แต่เป็นแฟน!”“ฮิ้วววววว” เสียงโห่ดังเฮๆ ก่อนทุกคนจะหันไปสาดน้ำปะทะกับซุ้มที่อยู่ข้างถนน
“แฮมสเตอร์ของพวกเรากินเด็กแล้ว”
“อิชชี่อ่ะ” นั่นไง..สาดน้ำเสร็จก็หันมาเล่นคนกันเอง
“อะไรกันล่ะพวกเธอนี่ คิดเลยว่าจะกินกลางวันกันที่ไหน”
“มีเขิน!” ก็ไม่วายโดนแซว
พอเขินหนักๆ เพราะโดนเพื่อนล้อคุณหมอก็จุ่มมือลงในถังน้ำของตัวเองแล้วเอามาสลัดใส่หน้าสวยๆ ของซอที่ตอนนี้ชักเริ่มซีดสลับแดงเพราะหนาวสลับกับร้อนแดด
“อะไรกันล่ะ เขินแล้วพาล” ซอยิ้มแล้วส่ายหน้า ก่อนจะทรุดลงนั่งห้อยขาตรงท้ายกระบะที่เปิดฝาท้ายเพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับนั่ง แฮมเลยตามมานั่งข้างๆ “จะขับไปถึงไหน?”
“ข้าวสารมั้ง เดี๋ยวจะไปเที่ยวกันที่นั่น” ซอพยักหน้า เอนศีรษะพิงไหล่ มองรถที่แล่นตามมา ความเร็วของรถแต่ละคันไม่มากนักเพราะต้องคอยชะลอให้คนเล่นน้ำกัน ดังนั้นสภาพอย่างนี้...
“ชักง่วงแหะ”
“อะไรกัน ยังไม่ถึงไหนเลย” ซอขำก่อนจะยกศีรษะขึ้นนิดหนึ่งแล้วกดปลายจมูกกับแก้มของแฮม...
“หิวด้วย”
“อย่ามาทำอะไรแบบนี้อีกนะ คนเห็นเยอะแยะ” แฮมว่าพร้อมกับมองไปยังรถอีกคนที่แล่นมาเทียบคนบนรถเห็นฉากเมื่อกี้หมดเลยพากันโห่แซวซึ่งมากพอจะทำให้แฮมก้มหน้าหนีงุดๆ ส่วนซอ...
ยักคิ้วใส่หน้าตาเฉย...
.....................................................................
อาหารมื้อกลางวันสองสามอย่างที่วางอยู่บนโต๊ะหน้าบ้านคือสเบียงเติมลงท้องของปั๊บและพิณที่นั่งทานและคุยกันไปในเรื่องต่างๆ ส่วนมากก็เป็นรสนิยมของพวกเด็กวัยรุ่น มันมีประโยชน์ต่อการขายของของเธอ
อากาศมันร้อนเกินไปดังนั้นจึงย้ายมานั่งกันที่สวนย่อมหน้าบ้านที่มีต้นไม้หลายต้นร่มรื่นกว่า
“ผมว่านะเดี๋ยวเรามาถ่ายรูปกันตรงนี้ดีมั้ยครับ เปลี่ยนบรรยากาศรูป”
“พี่ก็ว่าอย่างนั้นแหละ ทุกทีก็ถ่ายแต่อยู่ในห้องนั่นแหละ ดีนะที่ปั๊บมาช่วยพี่ได้เยอะเลย ลองถ้าเป็นไอ้น้องบ้านั่นนะ...
ใส่ๆ ถ่ายๆเถอะป้า เสื้อมันหมองตามป้าไปหมดแล้ ปากมันนี่นะสุดยอดจริงๆ” พิณล้อเลียนเสียงของซอ นึกถึงตอนที่น้องชายพูดแล้วทำหน้ากวนโอ้ยไปด้วยแล้วมันคันยุบยิบที่เท้าขึ้นมาเฉยๆ อยากเสยหน้าสวยๆ ของมันสักที ยิ่งหลังๆผีเข้าผีออกเหลือเกิน...ตบสักเปรี้ยงอาจจะหาย
“พี่ซอปากร้าย”
“ไม่เคยเปลี่ยนปั๊บ คราวที่แล้วพี่อุตส่าห์ซื้อกับข้าวร้านอร่อยมาเลยนะ เห็นว่านานๆ มันกลับมาบ้านที ก่อนสอบด้วย ตั้งใจจะบำรุงร่างกายยันสมอง ที่ไหนได้...ลมตีหรือไงไม่รู้กินไปจนอิ่มบอกรสชาติไม่ได้เรื่อง!”
“ฮ่าๆ” ปั๊บหัวเราะออกมาเต็มเสียง ก่อนจะรีบดื่มน้ำล้างปาก แต่ก็ยังขำต่อไปอีก
“มันกวนประสาทยังไงทุกวันนี้ก็ไม่เปลี่ยนไปเลย จะหนักข้อกว่าเดิมอีก”
“ใช่ฮะ...พี่ซอเป็นคนขี้เบื่อแต่เปลี่ยนยาก”"ใช่...หมอนั่นบ่นเบื่อไอ้เหลืองทุกครั้งที่ปั่นมันนะ แต่ก็ไม่เห็นจะเปลี่ยนคันใหม่สักทีกลับมาบ้านทีไรก็ปั่นแต่ไอ้เหลืองนั่นแหละ” พิณพูดแล้วก็ยิ้ม พยักเพยิดไปที่จักรยาน(อดีต)สีเหลืองที่ตั้งอยู่ใต้ชายคาบ้านหลังเล็ก ปั๊บหันไปมองแล้วฉีกยิ้ม
“มันยังไม่พังอีกเหรอฮะ” พิณส่ายหน้า ส่วนปั๊บ ก็รีบยกมือถือขึ้นมาถ่ายไอ้เจ้าจักรยานคันเก่า เขาเคยนั่งซ้อนท้ายซอ แม้ว่าจะไม่บ่อยนักแต่เขาก็จำมันได้...
“ซอมันเป็นแบบนี้แหละ...
ปั๊บรู้ใช่มั้ย?”
“ฮะ...ผมรู้” เด็กหนุ่มตอบ ก่อนจะหันมาทานข้าวต่อ...
หวังว่าหัวใจ...จะยังไม่เปลี่ยนไปนะครับ.....................................................
“อ่ะ” ซอถอยหน้าเล็กน้อย เมื่ออยู่ๆ แฮมก็ยื่นขนมปังพอดีคำมาที่ปาก เขามองมันก่อนจะอ้าปากรับ
“อี๋...ทูน่าอ่ะ ผมไม่ชอบ”
“คิกๆ” แฮมหัวเราะคิกคัก รู้อยู่เต็มอกล่ะว่าอีกฝ่ายไม่ชอบแต่ก็อยากจะแกล้ง... “เปลี่ยนบ้างสิ ทานแต่หมูหย๋องอยู่นั่นแหละ” คุณหมอว่า ก่อนจะก้มลงรื้อๆ ค้นๆ ขนมออกมาอีก
รถของเขาจอดซื้อของตรงร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง เพราะตอนนี้ดูเหมือนทุกคนจะสนุกกับการเล่นมากกว่าทาน เลยเลือกที่จะตุนขนมกันมากกว่า แฮมขนขนมปัง ขนมกรุบกรอบมาสองถุงใหญ่ๆ ส่วนซอเอาพวกเครื่องดื่มไปเก็บที่รถแล้ว จากนั้นก็มายืนหลบในร่มที่หน้าร้านข้างกับแฮม ในมือมีขวดน้ำเปล่าและน้ำอัดลมยี่ห้อดัง
“ผมเป็นพวกเปลี่ยนยาก”“แล้วใจล่ะเปลี่ยนยากด้วยปะ?” ถามทีเล่นที่จริงเลยโดนฉกจุ๊บเบาๆ ที่ริมฝีปากอย่างรวดเร็ว หันซ้ายหันขวาเห็นเพื่อนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ก็เบาใจ แต่เสียงโห่ที่ดังตามมาทีหลังก็ทำเอาอยากเอาขนมปังยัดปากคนที่ยืนทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ให้ติดคอตายไปซะ...
ให้ตายเถอะซอ!
“อายบ้างสิ”
“หน้าสวยครับ ไม่แคร์” มันใช่คำตอบมั้ย?
“แฮม...เดี๋ยวพวกปิงปองจะหาที่จอดรถแล้วนะ มันบอกว่าเดินลัดซอยนี้ไปก็ถึงแล้วอะ เดินเล่นกันดีกว่า แฮมกับน้องซอเอาไง” มีร์เดินเข้ามาถามเพื่อนก้มลงยื้อแย่งเอาขนมของแฮมไปฉีกซองทานบ้าง
“เอางั้นก็ได้” แฮมตอบก่อนจะหันไปถามความคิดเห็นของซอที่ก็ไม่ได้พูดว่าอะไร เอาไงก็เอากัน
“เอาอีกนะ” แฮมว่า พร้อมกับส่งขนมปังให้ซอ ซึ่งเจ้าตัวส่ายหน้าทันที “ไม่ใช่ทูน่า นี่ดู...ไส้ใบเตย” คุณหมอเอาขนมปังยี่ห้อหาง่ายในร้านสะดวกซื้อให้คนหน้าสวยดู ก่อนที่อีกฝ่ายจะพยักหน้า คุณหมอเลยพยายามจะฉีกซองมันออก แต่เพราะตัวเองถือของพะรุงพะรังมันเลยลำบาก ซอเห็นแล้วก็ทนไม่ไหวเลยดึงเอาถุงขนมขนาดใหญ่สองถุงนั้นมาถือเสียเอง...
“ซอแกะทานเองง่ายกว่า” แต่พ่อคนหน้าสวยไม่พูดอะไร นอกจากเหลือบสายตามามองหน้าหล่อๆ ของคุณหมอ...
เข้าใจใช่มั้ย? เป็นคุณหมอนะ เข้าใจใช่ปะ? ว่าหมาในปากของซอมันอยากให้คุณหมอป้อนน่ะ“นิสัย!”
..................................................
http://www.youtube.com/watch?v=aNONyTxO2hIปั๊บนอนเหยียดขาอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก ก่อนหน้านี้มันรกเพราะมีพวกเสื้อผ้ากอองรวมกันไว้ และตอนนี้มันก็ยังรกเหมือนเดิมเพราะเด็กหนุ่มย้ายกองเสื้อผ้าเหล่านั้นวางบนพื้นข้างๆ
เขาพยายามกดมือถือโทรออกหาเบอร์เดิม ซ้ำๆ แต่เสียงที่ได้ยินก็ยังเป็นผู้หญิงคนเดิมและข้อความเดิมซ้ำๆ
“ปั๊บ...ปั๊บเห็นแฟลตไดร์ของพี่หรือเปล่า?”
“หื้อ? ไม่เห็นฮะ” ปั๊บรีบลุกขึ้นนั่ง และช่วยพี่สาวของซอรื้อหาของที่หายไป
“ไอ้น้องเวรนั่นเอาไปวางไว้ที่ไหนอีกล่ะ เมื่อวานมันยืมของพี่ใช้” พี่บ่น ก่อนจะยืนเท้าสะเอวโดยมีปั๊บคือเหยื่อที่ต้องหาของให้เธอ “ไล่เบอร์หายากจริง” เธอบ่นเพราะหาเบอร์น้องชายในรายโทรไม่เจอ เธอจึงทวนหมายเลขของซอออกมา “089-xxx-xxx”
ยังไม่เปลี่ยนเบอร์หมายเลขสิบตัวนั้นปั๊บจำได้ขึ้นใจ รู้สึกดีขึ้นมาที่ซอยังไม่เปลี่ยนเบอร์ เพราะซิมนี้เขาเป็นคนเลือกให้ตอนที่ยังคบกันอยู่
แต่รู้สึกดีได้ไม่ถึงนาทีเขาก็รู้สึกเหมือนตกนรก...
ทำไมกันล่ะ เบอร์โทรเดียวกัน แต่คนหนึ่งโทรเข้าไม่ได้ อีกคนกลับโทรหาได้พิณเปิดเสียงจากลำโพงแล้วเอามือถือวางไว้ที่โต๊ะจากนั้นก็รื้อหาของไปพรางๆ ปล่อยให้ปั๊บโดนเสียงเพลงรอสายนั้นกรีดลงหัวใจช้าๆ
....หากเราไม่มีวันนั้นไม่เจอกันในคืนรู้จัก ฉันจะรักใครได้อย่างเธอไหม? หากเธอยังอยู่กับฉันไม่ล่ำลากันไปแสนไกล จะเป็นอย่างไรต่อไปไม่รู้...หากพอมีทางหมุนวันเวลาให้หมุนย้อนกลับ และลอง...ปิ๊บ
“อะไรป้า”
“ซอ...เอาแฟรตไดร์ของฉันไว้ที่ไหน?”
“โทรมาเรื่องนี้? โทรศัพท์จะเปียกน้ำเนี่ย”
“ตอบมาสิย่ะ!” ระหว่างที่นั่งฟังเสียงของซอบอกที่วางของ มืออันสั่นเทาก็กดปลายนิ้วโทรออกบ้าง...
....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อมาอีกครั้ง...อาจจะเป็นเพราะซอไม่ได้ตั้งสายซ้อนก็ได้ ดังนั้นเขาจึงรอ...
“งั้นแค่นี้นะยะ จะกลับเมื่อไหร่? อย่ากลับบ้านดึกนะ ทิ้งพี่สาวสวยๆ อย่างฉันอยู่บ้านคนเดียวหัดเป็นห่วงบ้าง” คุณพี่สาวไม่สนใจคำค่อนแคะของน้องชาย เธอไม่ได้เร่งให้ซอกลับบ้านเพราะปั๊บส่ายหน้าห้ามไว้ก่อน ดวงตาที่เหมือนจะมีหยาดน้ำตาคลอนั้นทำให้เธอสงสารจับใจ
แค่การที่ปั๊บมาที่นี่โดยที่ไม่รู้ว่าซอไม่อยู่เธอก็พอจะเดาเรื่องราวได้หรอก
“นอนเล่นไปก่อนนะปั๊บ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” เด็กหนุ่มพยักหน้า แต่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา พิณจึงไม่กวน เธอเดินเลี่ยงเข้าไปในห้องที่ซอยแบ่งไว้เป็นห้องสำหรับทำงาน ปล่อยให้ปั๊บได้อยู่คนเดียวเงียบๆ
ดวงตามองหน้าจอมือถือไม่ชัดนักแต่ก็พยายามจะกดโทรออกไปเบอร์เดิมอีกซ้ำๆ แม้ดวงตาจะร้อนรื้อแทบกลับน้ำตาไม่ไหว...
....หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนะนี้ กรุณาติดต่อมาอีกครั้ง...หยาดหยดน้ำตาร่วงหล่นลงมา เกินขีดจำกัดที่จะฝืนห้าม แต่ก็ยังคงพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้ อย่างเช่นที่เคยทำมาตลอดตั้งแต่เลิกลากันไป...
พี่ไม่เคยเปลี่ยนไป...หากไม่ต้องการใครก็จะลบออกจากชีวิต...และเขา...คือคนๆ นั้นใช่ไหม...............................................................................
มาม่ากันแค่กรุบกริบกันไปก่อนเนอะ...คงมีหลายคนผิดหวังกับดราม่าคี่นี้นิดหน่อยนะคะ นิมาแต่งดราม่าไม่คล่องจริงๆ พยายามดูแล้ว...
ตั้งใจไว้ว่าถ้าไม่เจอบทสรุปของคี่นี้จะไม่ลงต่อ(ข้ออ้างค่ะ) ตอนนี้เจอละ แต่เพราะอากาศมันร้อนจนหมดแรงจิ้น ทำเอากว่าจะเข็นออกมาได้ เหงือตก
ชอบเพลงนี้ของนทค่ะ ตอนพิมพ์ไปฟังเพลงนี้ไปก็เพลินดี... อิอิ...น่
เอนจอยค่ะ
มันไม่จริงใช่ไหม มันไม่ใช่ที่เห็น
พูดสิ ว่าไม่มีอะไร จะฟังเธอเท่านั้น
จะไม่คิดไปไกล รักเธอ รู้ใช่ไหมคนดี
แต่พอมองตาเธอวันนี้ฉันรู้เธอยังมีใจ
จะทิ้งฉันไปจริงหรือ
ได้โปรดบอกฉันได้ไหม ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
ได้โปรดบอกฉันชัดๆ สักที
บอกสิว่าเธอแค่ไหวหวั่น
แต่ถ้ารักครั้งนี้ มันตายไปแล้ว
ถ้าฉันหมดความสำคัญ
ก็บอกเลยไม่รักกัน ฉันพร้อมจะไป
ก็เมื่อใจของฉัน เธอเป็นคนยึดไว้
ทั้งใจฝาก ให้เธอดูแล
มีคนเดียวเท่านั้น คนที่ฉันจะแคร์
รักเธอ และจะรับความจริง
แต่พอมองตาเธอวันนี้ฉันรู้เธอยังมีใจ
จะทิ้งฉันไปจริงหรือ
ได้โปรดบอกฉันได้ไหม ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
ได้โปรดบอกฉันชัดๆ สักที
บอกสิว่าเธอแค่ไหวหวั่น
แต่ถ้ารักครั้งนี้ มันตายไปแล้ว
ถ้าฉันหมดความสำคัญ
ก็บอกเลยไม่รักกัน ฉันพร้อมจะไป
ได้โปรดบอกฉันได้ไหม
ทำไมจึงเป็นเช่นนี้
ได้โปรดบอกฉันชัดๆ สักที
บอกสิว่าเธอแค่ไหวหวั่น
แต่ถ้ารักครั้งนี้ มันตายไปแล้ว
ถ้าฉันหมดความสำคัญ
ก็บอกเลยไม่รักกัน ฉันพร้อมจะไป