นิมาจะไม่ว่างสองสามวันค่ะ ตั้งแต่พรุึ่งนี้เลย ธุระด่วนมาก เลยเอาตอนที่ 29 มาลงไว้ให้ก่อนนะคะตอนที่ 29
ทริปป่วนชาติจบลงด้วยดี...ละมั้ง ไอ้คนที่สนุกที่เปรมก็คงจะมีอยู่แค่คนเดียวนั่นก็คือ...
“ไอ้บู้บี้ ไอ้ด๋อยเอ้ย ขนมกู!” ซอแทบจะกระโดดถีบมู่ลี่ให้กลิ้งตกรถเมื่อเห็นว่าถุงขนมสุดโปรดโดนชำแหละไปเรียบร้อย เจ้าตัวต้นเหตุก็ใช่จะสะทกสะท้านแลบลิ้นปลิ้นตาก่อนจะย้ายตูดตัวเองไปนั่งคู่กับนุชที่ทำหน้าที่เป็นสารภี เจส่ายหน้าเอือมระอาหาเรื่องเนียนใส่ผิงต่อไปเรื่อยๆ คนโดนเนียนก็ทำได้แค่ยิ้มแล้วเอาเท้างามๆ ยันร่างของเจไว้ให้ออกห่างที่สุด ส่วนแฮม...นั่งขำกับความพิลึกพิลั่นของมนุษย์กลุ่มนี้...
“เฮ้ยเดี๋ยวไปส่งใครก่อนวะเนี่ย” ซอเอ่ยขึ้น ทุกคนส่ายหน้า มีแค่นุชที่ทบทวนเส้นทางอยู่...
“ก็ขับรถกลับบ้านกูดิ พวกมึงก็กลับเอง”
“ไอ้เหี้ยมู่ มึงเงียบ” มู่หันมาแลบลิ้นใส่เพื่อน ก่อนจะหน้าหงายเพราะนุชหมั่นไส้เลยใช้ฝ่ามือผลักเข้าให้
“เดี๋ยวกูไปส่งพวกมึงก่อน ซอยเดียวกันอยู่แล้วนี้ ว่าแต่ไอ้เจลงบ้านใคร”
“หอ” เจบอกพร้อมกับล้มตัวลงนอนตักผิง เอาขนมป้อนคนตัวเล็ก
“งั้นส่งพวกกูที่หน้าปากซอยก็ได้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกลับรถในซอย” ซอว่า ก่อนจะหันมาพยักเพยิดกับแฮมซึ่งคุณหมอก็ไม่ได้ขัด
“อาฮะ” นุชรับคำแค่นั้นก็สนใจกับเส้นทางต่อขี้เกียจสนใจเสียงโวยวายด้านหลังที่ซอกับเจเถียงกันเรื่องไร้สาระ และรู้สึกดีมากที่มู่มันสนใจจะเล่นแต่แพดของตัวเอง เพราะถ้าสุดป่วนไปแจมด้วยมีหวังเขาอาจจะจอดรถแล้วไล่ทุกคนลง แหงๆ
...............................................................................
“ขอบใจมากนะ”
“วางไว้หลังรถกูไม่ว่างรับ”
“ไอ้มู่!” คราวนี้เป็นเจที่เอื้อมมือมาผลักหัวทุยๆ ของมู่ลี่เพราะทนไม่ไหวแล้ว ก่อนจะรีบปิดประตูเพราะกลัวตัวเองจะฆาตกรรมแฟนเพื่อน
“แม่ง...โลกนี้ทั้งโลกมีไอ้นุชคนเดียวแหละว่ะที่รักมันน่ะ”
“สเปกของแปลกที่ไหนก็คงแปลกไม่เท่าสเปกไอ้นุชแล้วล่ะ” ซอเสริม ทำเอาแฮมหัวเราะชอบใจ
“พี่ว่ามู่เขานิสัยน่ารักดีออกนะ”
“นี่ก็อีกคน!” ทั้งซอและเจต่างพูดพร้อมกันแล้วส่ายหน้า
“พี่พูดจริงๆ มู่กวนประสาทก็จริงนะ แต่เขาน่ารักจริงๆ”
“กับไอ้นุชคนเดียวที่มันน่ารัก” เจเห็นด้วยกับซอเต็มที่ล่ะงานนี้
“ฉันนั่งวินฯเข้าซอยนะเว้ยซอ มึงไปพร้อมกันปะ” เจหันมาถามเพื่อน ระหว่างที่เดินเข้าซอยไปได้ไม่กี่ก้าว ซอหันมามองแฮมซึ่งคุณหมอก็พูดว่า
“นั่งวินไปเหอะ เดินอีกสิบเมตรก็ถึงคลินิกแล้ว”
“เดี๋ยวออกมาหานะ” แฮมพยักหน้ายิ้ม
“ผมไปก่อนนะครับพี่แฮม หมดแรงกับการด่าไอ้มู่”
“ไม่ใช่นัวเนียไอ้ผิงเหรอวะ”
“พูดไปมึง” เจเดินดิ่งไปหาวินมอเตอร์ไซค์ แน่นอนว่าซอก็เดินตามไปติดๆ นั่นแหละ ส่วนแฮมก็รีบเดินไปคลีนิกของตัวเองที่อยู่ห่างไปไม่ถึงสิบเมตรจริงๆ
“กลับมาแล้ว”
“พี่แฮม!”
“แฮม! รีบวางของเร็ว มาช่วยตรงนี้หน่อย” เสียงของมีร์ทำให้คุณหมอรีบทำตาม เขาไม่ทันสังเกตวัยรุ่นสองคนที่นั่งหน้าซีดกันอยู่ มินทร์รีบมาช่วยเขาโดยการเอาของไปเก็บและช่วยเตรียมชุดให้แฮมเปลี่ยน
“อะไรเนี่ยมีร์”
“แม่หมามันกำลังจะคลอด แต่โดนรถเฉี่ยว” เท่านั้นแหละแฮมก็รีบพุ่งไปดูอาการ “แม่หมาแก่มากแล้วด้วย”
“ห้าสิบห้าสิบ” แฮมว่า พร้อมกับเอาแมสปิดปากตัวเอง
“เราต้องทำคลอดพร้อมกับรักษาแผลของเขานะ”
“แข็งใจไว้นะครับคุณแม่” แฮมพูดอย่างอ่อนโยนก่อนจะเริ่มลงมือรักษาพร้อมกับคุณหมอมีร์....
............................................
ซอใช้เวลาพักใหญ่กับการโยนเสื้อผ้าทั้งหมดที่เอาไปเที่ยวลงถังซัก แล้วกลับขึ้นห้องไปอาบน้ำ... ยังดีที่ห้องไม่ได้อยู่สองสามวันไม่ได้รกมาก หรือความจริงมันรกจนชินตาหรือเปล่าเขาก็ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ เขาไม่ได้คิดจะเก็บอะไรมัน....
เขาเหนื่อยว่ะครับ...
ซอออกจากห้องน้ำหลังจากอยู่ในนั้นเกือบยี่สิบนาที ผ้าเช็ดตัวพันกายแค่ชิ้นเดียว อีกชิ้นเขาใช้มันเช็ดเส้นผมที่เปียกโชก เปิดไล่ดูรายการต่างๆ ในโทรทัศน์ รอเวลาเอาผ้ากลับมาตาก
เสียงมือถือดังขึ้น เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของเจ หอแม่งก็อยู่ห่างกันไปไม่เท่าไหร่ไม่เดินมาวะโทรมาทำไมให้เปลืองแบตของเขาล่ะเนี่ย
“อะไร”
“มึงออกไปหาพี่หมอยังเนี่ย”
“ยัง ทำไม?”
“กูมีเรื่องจะถาม”
“ว่ามา” ซอว่าเปิดตู้หยิบเอากางเกงขาสั้นของตัวเองออกมา และเลือกว่าจะสวมเสื้อยืดตัวไหนดี
“ผู้ชายเวลามีอะไรกันต้องทำไงบ้างวะ”
“กอดจูบลูบคลำ เสียวจัดก็ยัดใส่” สั้นๆ ง่ายๆ ได้ใจความแต่แม่งโคตรกวนตีน
“เหี่ย”
“กูพูดจริง” ซอตอบด้วยเสียงเรื่อยเฉื่อย “รอแป๊บนะกูสวมกางเกงก่อน” คนหน้าสวยพูดแล้วรีบวางมือถือลงที่เตียงสวมกางเกงและเสื้อ โยนผ้าเช็ดตัวใส่ตระกร้าแล้วขยี้ผมแรงๆ อีกสี่ห้าทีก่อน ถึงจะเอามือถือมาแนบหูอีกที “ว่าไง”
“กูก็ถามมึงไง ตอบดีๆ”
“นั่นก็ดีแล้วนะมึง...มันเป็นแบบนั้นจริงๆ มันก็เหมือนตอนมึงนอนกับผู้หญิงแหละแค่ตรงที่ใส่เข้าไปมันเป็นอีกที่เท่านั้นเอง” ตรงไปมั้ย...
“อันนั้นกูรู้ แต่แบบ กูต้องเตรียมตัวอะไรมากเป็นพิเศษมั้ย มึงก็รู้กูไม่เคย...กับผู้ชาย” ซอถอนหายใจ มองเคเบิ้ลทีวีกำลังเอาหนังดังมาฉายกันซ้ำไปซ้ำมา
หวีดสยอง... อ่าใช่ เรื่องของเจกับผิงมันหวีดสยองแน่ๆ
“ที่มึงต้องเตรียมใจมากที่สุดก็คือเรื่องใจมึงนั่นแหละไอ้เจ... กูจะบอกให้นะไอ้เรื่อง ชายกับชาย เรื่องความละเอียดอ่อนทางอารมณ์มันไม่ต่างกับ ชายหญิงหรือพวกสาวเบี้ยนกันนักหรอก... ชัดเจนมั้ยว่าสิ่งที่มึงกำลังจะเป็นน่ะมันเป็นเรื่องที่ไม่ใช่สิ่งที่ธรรมชาติสร้างมา กูไม่เคยยุ่งกับผู้หญิงกูไม่รู้หรอกนะว่ามึงจะเสียวโว้ยกับเรื่องนั้นแค่ไหน แต่กูมั่นใจว่า...กับผู้ชายด้วยกันถ้าใจมึงไม่รักจริง แม่งเฟลทั้งคู่แน่” ซอพูด สายตาก็มองสภาพร่างของคนที่โดนชำแหละในหนังหวีดสยอง
“หมายความว่าไงวะ”
“เพื่อนกูคนหนึ่ง มันเป็นคล้ายๆ มึงนี่แหละ ฟันแต่ผู้หญิงมาตลอด แต่ก็มาชอบผู้ชายด้วยกัน แต่มันไม่แฮบปี้ ไม่ใช่ว่ามันไม่รักเขานะ มันโคตรรักแฟนมันอะ แต่เรื่องอย่างว่ามันเสือกทำไม่ได้ หมดอารมณ์ไปดื้ออย่างนั้น”
“มีงี้ด้วยเหรอ”
“ก็มีน่ะสิไม่งั้นกูจะเอามาพูดได้เหรอ แม่งหล่อแล้วโง่ของแท้เลยมึงเนี่ย” หลอกด่าเสร็จก็ทำหน้าสยองเมื่อเจอฉากเชือดคอเหยื่อ
“อย่าด่ากูสิวะ กูไม่รู้นี่”
“กูเตือนมึงนะเจ... ถ้าแค่รักแล้วคิดว่าทุกอย่างมันจะโอเคล่ะก็มึงคิดผิด เซ็กส์ไม่ใช่ทุกอย่างก็จริง แต่มันก็ขาดไม่ได้เหมือนกัน มึงลองคิดสภาพมึงกำลังทำกับไอ้ผิงอยู่ดีๆ แล้วเสือกไม่ขันอย่างนี้ คงมันส์ในอารมณ์พิลึก” ความสามารถของซออีกอย่างหนึ่งที่เจและหลายๆ คนรู้คือมันแยกแยะประสาทได้เก่ง สามารถดูหนัง ฟังเพลงตอบคำถามและด่าได้ในเวลาเดียวกัน...
“แต่กูจูบกับผิง มันก็โอเคนะมึง รู้สึกดีมาก”
“แล้วมึงจับของมันหรือยัง ลองให้มันจับของมึงหรือยัง แค่คิดแล้วมีอารมณ์มันก็เป็นกันเกือบทุกคนนั่นแหละ ลองของจริงมั้ยล่ะ มึงคิดว่าไหวปะ ซึ่งกูไม่แนะนำ”
“ทำไม?”
“มึงไม่ใช่เกย์ไอ้เจ จะบอกว่ามึงเป็นไบก็ไม่แน่ใจ...แต่ที่กูรู้ก็คือถ้ามึงคิดว่าเซ็กส์กับผู้ชายเหมือนกับผู้หญิงล่ะก็ มึงเตรียมโดนไอ้ผิงทิ้งได้เลย ไม่ก็เตรียมทำใจโดนไอ้มู่สาปแช่งมึงที่ทำให้ไอ้ผิงเสียใจ”
“มัน...น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“โอ้ยยยยย....” ซอร้องออกมา
“เป็นอะไรวะ”
“กูตัดเล็บแล้วมันเข้าเนื้อ” สรุปตอนนี้ซอทำอะไรบ้าง? “จะบอกว่ามันน่ากลัวก็คงใช่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องปอดแหก”
“เฮ้ย...ซอ...กูงง”
“จำที่ไอ้นุชบอกได้มั้ย?”
“เรื่องไหนวะ” ซอถอนหายใจ วางกรรไกรตัดเล็บเดินไปล้างมือ กลับมาคว้าหนังสือการ์ตูนมาเปิดอ่าน เหลือบมองสลับกับหน้าจอทีวี
“เรื่องที่ว่าให้นึกถึงว่าได้ทำกับคนที่เราชอบอะ”
“ที่บอกว่าถ้าแบบ...”
“เออนั่นแหละ” ซอแทรกเข้าไปทั้งที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ “มึงโอเคกับไอ้ผิงปะล่ะ”
“กูบอกพวกมึงไปแล้วตอนไปเที่ยว” ซอเลิกคิ้ว ก่อนจะยิ้ม
“ของจริงน่ะมันจะยิ่งกว่าที่เราจินตนาการ ชอบไม่ชอบมันอยู่ที่ตอนที่ทำจริงๆ นี่แหละ แต่กูเตือนว่าแยกแยะให้ออก เพราะว่า...กับบางคนเรารักเราชอบเขามาก แต่พอเรื่องอย่างว่าไม่ใช่ไม่อยากทำ แต่ร่างกายมันฝืนไม่ได้ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติจริงๆว่ะเจ มึงอาจจะรักไอ้ผิง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามึงจะมีเซ็กกับมันได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงจะไม่อยากทำกับมัน ซึ่งสุดท้ายมึงอาจจะทำกับมันได้หรือไม่ได้ นี่คือสิ่งที่กูอยากบอกมึงตั้งแต่แรก แต่เรื่องนี้มันพูดไปมึงก็ไม่เข้าใจ เพราะเป็นเรื่องที่มึงต้องเจอกับตัวเอง... อ่อ...ที่สำคัญที่สุดในการทำ ถุงยาง เจล...จำเป็นมาก มึงเข้าใจปะ”
คิดว่าเจจะเข้าใจมั้ย?
คือขอเวลาเอาไอ้สิ่งที่ยัดเข้ามาในสมองของเจไปแปลเป็นตัวเลขแล้วถอดสูตรแคลคูลัดออกมาอาจจะเข้าใจง่ายกว่า...
“เอาเป็นว่ากูถือว่ามึงเข้าใจนะ สำหรับกู กูว่ามึงโอเคมากแล้วที่ยอมรับกับตัวเองว่าชอบผู้ชาย เอาเป็นว่าไปลองหาข้อมูลเรื่องนี้เอง เยอะแยะเสิร์ซในเน็ตก็ได้นะ เยอะกว่าที่กูเล่าให้มึงฟังอีก” ซอว่าแล้วก็เริ่มติดว่าถ้าลูฟี่จะสวมหน้ากากหวีดแล้วล่องเรือหาเหยื่อกลางทะเลบ้าง จะเป็นยังไงนะ
“กูจะพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่มึงบอกกูนะ”
“กูว่าคงยากว่ะ หล่อแล้วแถมโง่อย่างมึงน่ะ เฮ่อ...ขอให้ไอ้ผิงหาเชือกมาสนสะพายมึงเร็ววันนี้จะได้ไม่หลงนะ” ซอว่าแล้วรีบกดวางสายแล้วปิดเครื่อง
เขาไม่ชอบคุยโทรศัพท์นานๆ ปวดหู แต่ไม่เคยบ่นเวลาที่ต้องโทรหาแฮมเป็นชั่วโมงๆ แบบไม่อยากวาง
ที่วางสายจากเพื่อนไม่ใช่ว่ากลัวว่ามันจะด่ากลับนะ แค่ขี้เกียจฟัง...
แค่นั้นเอ๊ง...
ซอใช้เวลาอีกเกือบยี่สิบนาทีกับการอ่านลูฟี่ไปพร้อมกับดูหนังในเคเบิ้ลก่อนจะลงไปเอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วกลับขึ้นมาผึ่งหลังห้อง เขาดูนาฬิกาแล้วเดินมาหยิบกระเป๋าตังค์ ผิวปากออกจากห้องไป...
................................................................
ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี...หรือไม่ แฮมไม่สามารถจะพูดอะไรได้ ยิ่งมีร์เอง ที่แม้จะผ่านอะไรมาเยอะก็ตาม แต่เหตุการณ์แบบนี้มันก็อ่อนไหวเสียจนต้องแอบเช็ดหยดน้ำตาที่คลออยู่ที่หางตา...
ลูกหมาสามตัวปลอดภัยดีแม้มันจะคลอดก่อนกำหนดก็ตาม แต่ต้องอยู่ในความดูแลของทางคลินิกสักพัก...
ส่วนแม่หมา... มันสิ้นใจหลังจากที่คลอดลูกตัวสุดท้ายเพราะร่างกายที่บาดเจ็บมากเกินไป...
สาวสวยเป็นคนเดินออกมาบอกข่าวร้ายกับเจ้าของหมาที่จริงๆ แล้วมีนัดมาฝากครรภ์เจ้าชบาแม่หมาโชคร้าย แต่ตอนที่ลงจากรถเดินมาที่คลินิกมันเกิดดิ้นจนผลัดตกจากอ้อมแขนของเด็กหนุ่มหน้าหล่อ วิ่งข้ามถนนแล้วก็โดนรถชนเข้าอย่างจัง...
ทั้งหมดวุ่นวายมาก เธอไม่ได้มองหน้าของเจ้าของหมาจนกระทั่งเดี๋ยวนี้แหละ...
“ผมขอเข้าห้องน้ำได้มั้ยครับ” เด็กหนุ่มเสียงสั่น มีร์จึงชี้ทางเดินไปห้องน้ำให้ ก่อนจะขอตัวแยกเข้ามาจัดการกับข้าวของด้านในห้องรักษา
เหลือแต่เด็กหนุ่มอีกคนที่มาด้วย...และแฮมที่เดินสวนกับมีร์ออกมา แม้เพื่อนสาวทำท่าเหมือนจะพูดอะไรด้วยแต่เขาก็เหนื่อยเกินไป อยากจะพัก ของที่มาถึงก็โยนไว้ต้องรีบไปจัดการ จังหวะเดียวกันที่ซอเดินเข้ามาในคลินิกพอดี
“อ่าว! ทำไมอยู่ชุดนี้ล่ะ”
“มีคนไข้ด่วนน่ะ” แฮมตอบ ยิ้มเซียว ซอหันไปมองเด็กหนุ่มตัวสูงที่ยืนเก้ๆ กังๆอยู่เพราะไม่รู้จะทำอะไร กำลังอึ้งกับเรื่องที่คุณหมอคนสวยมาบอกแถมเพื่อนยังหนีไปเข้าห้องน้ำ สุดท้ายเลยเลือกที่จะนั่งลงกับโซฟา
แต่ซอกลับจ้องหน้าอีกฝ่ายราวกับจะถ่ายสำเนาใบหน้าออกมาจากดวงตาของเขาอย่างนั้นแหละ
“มีอะไรเหรอ?” แฮมถามเมื่อเห็นว่าซอจ้องเด็กหนุ่มตาไม่กระพริบ...
“เปล่า” ตอบมาสั้นๆ แต่สายตายังมองไม่ละไปไหน จนโดนคุณหมอแตะข้อศอกเบาๆ นั่นแหละ
“รอแปะหนึ่งได้มั้ย ยังไม่ได้เก็บของเลย” ซอพยักหน้า แล้วหันมายิ้มทั้งที่ติดใจสงสัย...
ก็ไอ้เด็กหน้าหล่อที่นั่งอยู่ตรงนี้มัน...
เขาเคยเห็นที่พารากอน...
เอาแล้วมึง...
หัวใจของซอเต้นรัวเร็ว... เขาจับมือของแฮมไว้แน่นจนแทบจะกลายเป็นสั่นเมื่อเสียงของน้องมินทร์เอ่ยออกมาว่า...
“คุณปัณณวิญช์เชิญทางนี้ค่ะ”
ปัณณวิญช์...อย่าบอกนะ...อย่าบอกเขานะ...
“เอ่อ...ครับ” ซอหันขวับไปมองก็เด็กหนุ่มคนเดิมนั่นแหละที่ลุกขึ้น... เขารู้สึกขอบคุณที่แค่เป็นคนชื่อคล้ายกัน อีกอย่าง...เขาอาจจะคิดมากไปเอง ที่เจอตอนนั้นก็ผ่านมาพักใหญ่แล้วเขาอาจจะจำคนผิด...
เด็กหนุ่มเดินผ่านซอที่ยืนจับมือกับแฮมอยู่ไปจ่ายเงิน และพูดคุยกับน้องมินทร์
“เป็นอะไรมั้ยซอ แปลกๆ” แฮมรับรู้สึกเหงื่อที่ชื่นที่ฝ่ามือของอีกฝ่ายและอาการเกร็งจนเกือบจะกลายเป็นสั่น...
“ไม่เป็นไรหรอก ขึ้นไปข้างบนเถอะเก็บของไม่ใช่เหรอ”
“เดี๋ยวสิคุยกับเจ้าของหมาก่อน น้องครับ”
“ครับ?” เด็กหนุ่มหันมา
“ลูกหมาที่เพิ่งคลอดต้องเอาไว้ที่นี่ก่อนสักระยะหนึ่งนะครับมันอ่อนแอมาก” อีกฝ่ายพยักหน้าเข้าใจ...
“เอ่อ...เดี๋ยวคุยกับเจ้าของหมาดีกว่าครับ คือผมเป็นเพื่อนเขาน่ะครับ” เพื่อน?
“คุณไม่ได้ชื่อปัณณวิญช์หรอกเหรอ” เป็นซอที่หันไปถาม ทุกคนทำหน้างงแม้แต่แฮมเองก็ตาม และบางสิ่งบางอย่างมันตะโกนก้องในหัวว่าอาการ ท่าทางของซอมัน...
ไม่นะ...
“เปล่าครับ ชื่อเพื่อนผม นั่นไง” เด็กหนุ่มชี้ไปอีกทาง ซอไม่กล้าหันไปมอง...ใช่แล้ว เขาไม่กล้า...แต่คนที่หันไปมองกลับเป็นแฮม...และ...
“พี่ซอ...”
......................................................................
ให้เดาใครเรียก "พี่ซอ" ฮี่ๆ เดาได้แน่ๆ เลย คนอ่านของนิมาเก่ง

ระเบิดมาแล้วแค่ไม่ได้ถอดสลัก อิอิ ถือกันเอาไว้หน่วงๆ นะคะ
น้องปั๊บของนิมามาแล้ว....
หลังจากที่นิมาไปบ่นไว้ในห้องพูดคุย ตอนเย็นๆวันนี้ก็อาการดีขึ้นแล้วค่ะ ^^ เคลียร์กับเพื่อนแล้ว(มันบอกว่านั่นชั้นไม่ได้คิดว่าเราทะเลาะกันนะ) แต่สำนึกผิดไงคะเลยเสนอตัวช่วยงานของมัน
ตายเลยค่ะทีนี้ พรุ่งนี้ออกแต่เช้าเลย (ลืมไปว่าไอ้พวก กอง บ.ก.ทั้งหลายช่วงนี้คงหัวฟู)
เอาเป็นว่าเดี๋ยวเสร็จธุระแล้วนิมาจะมาต่อตอนที่ 30 ที่เป็นมู่นุชนะคะ...
แล้วซอล่ะ ค้างไว้งี้? (ค้างไว้งี้แหละ ค้างคาๆ ๆ)
เจผิงล่ะ????