ตอนที่31 (ต่อ)ปลายจมูกที่ซุกกดลงมาทำให้มู่ต้องเอียงหน้าหนี ก่อนจะอมยิ้ม เมื่อรับรู้ได้ถึงฝ่ามือที่ลูบไล้มาตามเอวบางและลามไปที่เป้ากางเกงด้านหน้า เขาตะครุบมือนั้นไว้ได้ทันก่อนจะหันมามองคนตาหวานที่พยายามทำตาเชื่อมอ้อนเขาอยู่ทุกวินาทีตั้งแต่อยู่ในห้องน้ำแล้ว
“ยังไม่ถึงเวลาชะมด อย่าทำเสียเรื่อง เมื่อกี้ฉันก็ทำให้แล้วนะ”
มันไม่อิ่ม! “กูไม่อิ่ม” ไม่ได้แค่คิดแต่นุชพูดออกมาตรงๆ ใจหนึ่งมันก็อยากจะกรี๊ด ใจหนึ่งก็เขิน ใจหนึ่งก็อยากจะด่า อีกใจก็อายม้วน
เหี่ยมากไอ้นุช แค่มึงคนเดียวทำกูเป็นคนหลายใจ (เกี่ยว?)
“น่า...ถ้ามึงใส่เข้ามามันก็ต้องใช้เวลานี่หว่า อีกอย่างกูจะขัดๆ ดัวยอะ คืนนี้ก่อนสิ” พ่อตาหวานมีสีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด แน่นอนล่ะไม่ใช่ไม่ชอบที่แฟนหนุ่มทำให้เสียเมื่อไหร่ แต่ไม่อิ่มก็คือไม่อิ่ม กับมู่น่ะ เขาไม่เคยมีคำว่าพ่ออยู่แล้ว...
ใครจะรอก็ช่างหัวสิวะ
“นะชะมดน้อย นะ ๆ ๆ น้า...เชื่อกูสิ คืนนี้กูตามใจยอมมึงหมดเลยอะ”
“มันไม่ใช่ประเด็นว่ะมู่ กูอยากกอดอยากจูบ อย่างอยู่กับมึงใจจะขาดอยู่แล้วเนี่ย” นุชถอนหายใจเท้าสะเอวก้มหน้าราวกับพยายามจะระงับความหงุดหงิด
“กูรู้น่า” มู่ขยับกายเข้ามาชิดพรมจูบตามสันคางมาจนถึงใบหู กระซิบหวานออดอ้อนคนรัก “ตามใจกันหน่อยสินุชขอสนุกก่อนแป๊บเดียวเองนะ...นะ”
ก็อ้อนกันมาขนาดนี้...
“ถ้าคืนนี้มึงเบี้ยวนะมู่ กูจับมึงปล้ำลืมวันลืมคืนจริงๆ”
แทนที่มู่จะกลัวคำขู่นั้นกลับหัวเราะเจ้าเล่ห์ จิกปลายนิ้วที่อกล่ำก่อนจะเปลี่ยนเป็นลูบไล้เบาๆ เย้ายั่วด้วยเสียงหวิวว่า...
“กลัวว่าจะไม่ทำทั้งคืนว่ะ” ว่าแล้วก็ถอยออกมาหนึ่งก้าว เพราะชักหวั่นใจแล้วว่าเกิดพ่อชะมดน้อยตาหวานหื่นเกิดกักเก็บขึ้นมาเขาอาจจะต้องโดนปล้ำตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป...
อดได้เจอหน้าน้องดอกกะปิขึ้นมา หมดสนุกพอดี...
แล้วทั้งสองหนุ่มก็ได้ฤกษ์ เดินออกจากห้องหลังจากที่ปล่อยให้แขกรอจนยิ้มเหงือกแห้งกันไปหลายยก แน่นอนว่าสาวเจ้านามว่าลิลลี่นั้นเธอไม่พอใจเป็นแน่ ก็ตั้งแต่เกิดมาเคยรอใครที่ไหน จะมีก็แต่พี่นุชตาสวยนี้แหละที่ไม่เคยจะแยแสอะไรเธอเลยตั้งแต่เจอกันครั้งแรกถึงวันนี้
นุชเดินนำมาก่อน มู่เดินเยื้องช้าไปหนึ่งก้าว ทั้งสองมีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
นุชสวมเสื้อโปโลสีขาวกางเกงยีนส์สีเข้มธรรมดา ใช่เลยธรรมดามาก แต่กลับดูเลิศเล่อเพราะหมอนี่หน้าตาดีและยิ้มสวย แม้จะไม่ยิ้มก็ยังดูหล่อ สรุปนุชไม่ต้องทำอะไรก็มีคนหลง
ส่วนมู่อาศัยที่ตัวบางกว่าเลยสวมเชิ้ตสีเข้มปลดกระดุมสองเม็ดกับกางเกงพอดีตัวไม่ได้ดูเป็นทางการมากเกินไป แต่แต่งแบบนี้ให้ดูเป็นลูกเป็นหลานท่านทูตหน่อยเหอะ แน่นอนว่าดูดี ดูแมนและดูน่าจับถอดแล้วกดเป็นที่สุดในสายตาของนุชน่ะนะ
“อ่าว...มาแล้วเหรอตานุช” แม่ใหญ่เอ่ย ยิ้มน้อยๆ ดูก็รู้ว่ากำลังอารมณ์ดีอยู่ เห็นแล้วมู่อยากจะกวนให้ขุ่นจริงๆ แต่ติดเอาไว้ก่อน ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ก่อนอื่น เขาต้องสกัดชะนีนี่ร่วงเบาๆ ก่อน
“ครับ” นุชตอบแค่นั้นก่อนจะเดินเลี่ยงมาที่โต๊ะเฉลียงไม้สักอีกตัว มู่ตามมานั่งข้างๆ ติดๆ แต่ ณ เวลานั้นนุชไม่พลาดที่จะสังเกตสองแม่ลูกอย่างละเอียดยิบ
คุณหญิงประภามาศดูแล้วอายุอานามคงไม่กินห้าสิบ อย่างมากก็แค่สี่สิบปลายๆ เธอยังดูสาวดูสวยอยู่มาก เสื้อผ้าที่สวมใส่ก็เป็นชุดผ้าไหมตัดเย็บประณีตสีมะกอกขับผิวขาวของเธอจนดูเด่น เครื่องประดับเป็นอัญมณีไม่มากนักทำให้ดูไม่เยอะจนเกินงาม
สรุปแล้วเป็นผู้หญิงที่แต่งตัวมีกาลเทสะ
เหลือบไปมองชะนีดงแหม่มน้องดอกกะปิอิมพอต นามว่าลิลลี่ แน่นอนว่าดูช้างต้องดูหาง ดูนางต้องดูแม่ และเธอคนนี้ก็ถอดแม่ออกมาแบบเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรูปร่างหน้าตาที่ไม่ได้อ้วนฉุอะไรออกไปทางสูงเพรียวเสียมากกว่า หน้ารูปไข่เรียวสวยเครื่องหน้ากระจุ๋มกระจิ๋มน่ารัก ผมยาวสลวยสวยเก๋ทีเดียว
สรุปแล้ว ถ้าไม่เป็นมารหัวใจ มู่ยอมรับได้เลยว่าเธอน่ารัก แต่ติดที่ว่าเธอต้องการคุณชะมดน้อยสุดที่รักของเขา ดังนั้นมู่จึงกดหัวเธอให้อยู่ที่เกรด
ชะนีไฮโซแต่โง่ไม่มีปัญญาหาผัวแร๊งงงงง!!!“ตานุช ตามู่นี่คุณหญิงประภามาศ อยู่ข้างบ้านของเรานี่เอง กราบคุณสิ” กราบ? ถึงขั้นกราบ? โอ้ววว
นี่มาทักทายตามประสาเพื่อนบ้านหรือว่ากะจะฝากตัวเป็นลูกเขยไม่ทราบ!!
ดูเหมือนนี่จะเกินปรกติไปสักนิด นุชเลยแค่กดหัวคิ้วเล็กน้อย ไม่มากพ่อที่หญิงต่างวัยทั้งสามจะทันมองเห็น และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็คือ นุชเพียงแค่ประนมมือไหว้พร้อมกับคำสวัสดีเบาๆ เท่านั้น
“สวัสดีครับ” แล้วก็เงียบ... ไม่มีเสียงตอบรับอะไรจากนุชอีกเลย
“สวัสดีจ๊ะ โตเป็นหนุ่มหล่อเชียวนะ คราวที่แล้วคุณพี่พาไปที่บ้านน้องก็ไม่ได้อยู่ต้อนรับเสียดายจริงๆ” เสียดายอะไรไม่ทราบ?
“ไปก็เจอหนูลิลลี่น่ะค่ะ น่ารักทีเดียวนะ” แม่ใหญ่ชม ก่อนที่จะเลยเถิดมากกว่านี่มู่เลยแทรกเข้ามาแบบมีชั้นเชิงว่า
“เอ่อ...สวีสดีครับ ผมชุติการครับ เป็นเพื่อนสนิทของนุชครับ” คุณประภามาศรับไหว้หนุ่มน้อยอีกคน ก่อนจะมองอย่างสังเกตสังกา
“เรียกว่าตามู่ก็ได้ค่ะคุณน้อง เป็นลูกชายของอดีตท่านทูตชัชวาล ศักดิ์ประเสริฐ ณ...ค่ะ แกสนิทสนมกับตานุชปิดเทอมเลยพามาเที่ยวกันที่นี่” ได้ยินชื่อ ตำแหน่ง ยศ นามสกุลเท่านั้นแหละ คุณหญิงก็ยิ้มกริ่ม...
ก็นะ...เหอะๆ
“ลิลลี่ไม่ทักทายพี่ๆ เขาหน่อยล่ะลูกนั่งเงียบเชียว ไม่ต้องอายหรอกนะ” ว่าแล้วก็หัวเราะคิกคักอย่างมีจริตกับแม่ใหญ่ที่อมยิ้มพอใจอยู่นิ่งๆ
“สวัสดีค่ะพี่นุช พี่มู่” ทั้งสองหนุ่มรับไหว้ แวบแรกมู่เกือบจะหลงเชื่อในภาพลักษณ์ที่มองเห็นแล้วว่าเธอดูจะเหมือนดอกไม้แรกแย้มที่คงจะช้ำหากจับต้องแรงๆ แต่พอเห็นประกายตาวิบวับแพรวพราวเพียงแค่แวบเดียวก่อนจะหายไปตอนที่เธอมองชะมดน้อยของเขา มู่แทบอยากฉีกแม่นี่ให้เป็นชิ้น
ร้ายหลบใน? ไม่ต้องห่วงครับน้องเดี๋ยวพี่มู่จะกระชากออกมาเอง!
“อย่างนี้แสดงว่าตานุชสอบเสร็จแล้วน่ะสิ”
“ใช่แล้วค่ะ นี่ว่าจะพาไปทักทายคุณน้อง แต่ก็มาเยี่ยมกันเสียก่อน” คุณหญิงประภามาศนิ้มอย่างมีจริตพอใจกับการเต็มใจจะผูกไมตรี แน่นอนล่ะว่าบ้านของคุณหญิงเพชรน้ำหนึ่งนั้นมีชื่อเสียงในทุกๆ ด้านดองกันไว้มีแต่ได้กับได้...
“แหม...น้องเป็นเด็กน้องมาเยี่ยมคุณพี่นั่นแหละถูกแล้วค่ะ ว่าแต่เมื่อวันก่อนน้องเห็นว่าไม่ไกลจากที่นี่มีร้านอาหารมาเปิดใหม่ค่ะ เห็นเพื่อนฝูงเขาเล่ามาปากต่อปากนะคะว่าอาหารรสดีมาก”
“อย่างนั้นหรอกหรือคะ พี่ไม่ได้ข่าวเลย นี่ยังนึกอยู่ว่าจะให้ตานุชพาน้องไปทานอาหารด้วยกันสักมื้อจะได้รู้จักคุ้นเคยกันไว้” แม่ใหญ่เปิดทาง ถึงตอนนี้มู่อยากจะเอาอะไรที่อยู่ในท้องออกมาจริงๆ ยิ่งเห็นท่าทางเขินอายของแม่ดอกกะปิด้วยแล้ว...
บอกว่าไปโตที่เมืองนอกจะเรียบร้อยได้ขนาดนี้? กูไม่เชื่อครับ
“แหม...แค่ลำพังว่าจะไหว้วานตานุชให้พาลิลลี่ไปเที่ยว น้องก็เกรงใจจะแย่แล้วค่ะ” แม่ใหญ่รีบโบกไม้โบกมือประหนึ่งไม่ใช่เรื่องใหญ่โต
“อย่าคิดมาค่ะ หนูลิลลี่ก็เหมือนลูกเหมือนหลานของพี่เอง ดูสิน่ารักจิ้มลิ้มมารยาทก็งามวางตัวก็ดีอย่างนี้ ดีเสียอีกที่ตานุชจะได้ดูแล” ให้มันดูแลเมียมันที่นั่งหัวโด่ตรงนี้ให้ดีก่อนครับแม่ใหญ่ ฮ่วย! มู่ขัดใจ! “ยังไงเดี๋ยวตานุชพาน้องลิลลี่ไปทานข้าวเย็นกันนะ ทำความรู้จักกันไว้”
“ว่าไงมู่ ไปด้วยกันนะ” นุชหันมาถามมู่หน้าตาเฉย ทำเอาทั้งผู้หญิงทั้งผู้หญิงตีหน้ากันไม่ถูกไปนิดหนึ่ง เพราะแอบหลงลืมไปว่าตอนนี้มีก้างตัวเท่าผู้ชายคนหนึ่งอยู่ด้วย
จะบอกว่าไม่ต้องไปก็กระไรอยู่ แต่ถ้าไปชายหญิงก็ไม่ได้ใกล้ชิด งานนี้พวกผู้ใหญ่เครียดกันล่ะสิ
“นายอยากไปเหรอ?”
“แล้วแต่นาย” นั่นไง เห็นมั้ย...มันโยนงานมาหน้าตาเฉย! ไอ้ชะมด!
มู่เหลือบมองคนนั้นทีคนนี้ทีทุกคนต่างคอยลุ้นคำตอบกับคนที่ไม่มีปากไม่มีเสียงอย่างมู่ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นตัวคุมเกมส์ยังไงไม่รู้ อะฮ้า...รู้สึกดีชะมัด และแน่นอนว่ากุนซือผู้ไม่เคยแพ้วินนิ่งใคร แม้แต่ดอทเอก็สอยร่วงมาหมดอย่างมู่ เรื่องแค่นี้...
จุ๊บจิ๊บ!
“นายไปเถอะ พาน้องไปดูเหมือนน้องจะ
อยากไปมาก ฉันคงไม่ไป”
“อ่าว...” นุชเกือบขมวดคิ้ว เชื่อเขามั้ยว่าเขาอยากให้มู่ไปด้วย แน่นอนว่าถ้าพ้นหูพ้นตาผู้ใหญ่ลิลลี่ได้โดนมู่บีบคอหักแน่ แต่งานนี้ทำไม
“ก็เห็นนายคุยไว้ไม่ใช่เหรอว่าแม่ขวัญทำแกงส้มอร่อย วันนี้ฉันแอบถามเมนูมื้อเย็นไว้แล้วมีแกงส้มด้วย คงฝากท้องที่นี่แหละ อีกอย่าง วันนี้
เรา ก็เดินทางกลับมา
เหนื่อยๆ ไม่อยากออกไปไหน ไว้นายไปลองทานกับน้องก่อนค่อยพาฉันไปวันหลังก็ได้” ชัดเจนแล้วว่ามู่ไม่ต้องการไปด้วยจริงๆ แต่รูปประโยคที่ได้ยินของมู่นั้นทำเอาแขกสองคนแอบปั้นหน้ายาก
ก็ควรมั้ยล่ะ คนเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ จะให้พาไปนั่นไปนี่ ต่อให้พานุชออกไป มู่ก็มีวิธีที่ทำให้อาหารสองคนนี้กร่อย แค่ลองดื้อเพ่งออกไปเท่านั้นแหละ
นุชเงียบ นั่งฟังประโยคดักโง่ของมู่แล้วอยากจะขำกลิ้งนัก เขาทำเป็นกระแอมไอเล็กน้อย ก่อนจะต่อแผนของมู่ไปว่า
“ถ้าลิลลี่อยากไปเดี๋ยวพี่พาไปเองครับ” พูดไปแล้วก็ยิ้มสวยให้สาวเจ้า “ว่าแต่อยากได้อะไรเพิ่มไหมล่ะมู่ ฉันจะซื้อมาฝาก”
“ไม่ล่ะ ไว้ไปดูวันหลังดีกว่า” มู่พูดแล้วก็ยิ้มให้
“งั้นเดี๋ยวจะดูอะไรมาเผื่อก็แล้วกัน” นุชว่าก่อนจะปรายตามองสาวร่างโปร่งที่นั่งตรงข้าม ก่อนจะหันไปมองเธอเต็มตาแล้วยิ้มละไม
ยิ้มแค่ปากแต่สายตากลับเย็นชา ถ้าไม่โง่เกินไปคงรู้สึกได้
แต่ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายโง่จริงหรือแกล้งโง่ถึงได้ยิ้มสวยตอบกลับมา แถมยังทำท่าทางข่วนเขินอีก มู่ลี่เพลียแทน
“งั้น...ผมขออนุญาตคุณน้านะครับ เชิญครับลิลลี่” นุชตัดความด้วยการเชิญสาวเจ้าไปเสียอย่างนั้น เขาจงใจทำแบบนี้เองแหละ เพราะไม่ว่าจะอยู่หรือไป มู่มีวิธีจัดการอยู่แล้ว ที่สำคัญ การที่เขาออกไปข้างนอกอาจจะทำให้มู่ทำอะไรได้สะดวกมากกว่า
เชื่อเขาสิว่าคุณไม่ผิดหวังกับความเป็น มู่ลี่แน่นอน
“น่ารักนะคะคุณพี่” คุณหญิงประภามาศเอ่ย หันไปยิ้มกับแม่ใหญ่ ซึ่งมู่เองก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเป็นเจ้าบ้านเสียอีกที่ตอนนี้ตีหน้าไม่ถูก
“ค่ะ น่ารักทีเดียว” แม่ใหญ่เอ่ย เหลือบสายตามามองมู่ที่นั่งยิ้มแป้นแร้นเข้าใส่ “แล้วตามู่ล่ะจะทำอะไรตอนนี้กว่าจะถึงเวลาอาหารเย็นก็อีกนานโขเลยเชียว น่าจะออกไปกับตานุชด้วย”
“อย่าดีกว่าครับ ให้เขาไปกันสองคนเถอะครับ เผื่อจะได้ทำความรู้จักกันให้มากๆ” มู่พูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะอ้อนว่า “ผมอยู่คุยกับแม่ใหญ่ดีกว่า” ฮั่นแน่...ร้อยทั้งร้อยบรรดาแม่ๆ ที่อายุขนาดนี้แล้วก็อยากให้ลูกรักออดอ้อนนั่นแหละ แต่ติดที่ว่าน้ำหน้าอย่างพ่อชะมดน้อยน่ะนอกจากอ้อนแฟนแล้วไม่สนจะอ้อนใครนี่แหละ
ดังนั้น...หน้าที่นี้ เสร็จไอ้มู่คร้าบบบบ
“อะไรอยู่กับคนแก่จะสนุกอะไรกัน”
“ไม่หรอกครับแม่ใหญ่ พูดอะไรอย่างนั้นล่ะครับ” แม่ใหญ่เผลอใช้สายตาค้อนงามอย่างนึกเอ็นดูมาเล็กน้อย ก่อนจะรีบตีหน้านิ่ง เมื่อเห็นความช่างประจบของเพื่อนลูกชาย
“น่ารักเชียวค่ะขี้อ้อนเสียด้วย”
“แม่ของผมมีลูกตั้งสี่คนเน่ะครับ พี่สาวกับน้องสาวก็ชอบอ้อนคุณแม่ ผมก็เลยต้องเอาบ้าง เดี๋ยวแม่ไม่รัก แม่ใหญ่จะรักแล้วก็เอ็นดูผมใช่มั้ยครับ” ถามแล้วก็ส่งสายตาวิ้งๆ เข้าใส่ ประจบขั้นเทพ อ้อนขั้นเง๊กเซียนขนาดนี้
“เด็กสมัยนี้ช่างทำกันจริงๆ เลยนะ” แม่ใหญ่ว่า แต่ไม่ได้ทำท่าทางดุหรืออะไรเมื่อมู่ขยับกายเข้าไปใกล้
“ผมนวดให้มั้ยฮะ? อยู่ที่บ้านผมนวดให้แม่กับพี่สาวบ่อยๆ” แม่ใหญ่มองหน้าอีกฝ่ายทันที ก่อนจะอมยิ้มนิดๆ กับความฉอเลาะของเพื่อนลูกชายที่ดูน่าเอ็นดูไม่หยอกทีเดียว...
แหม...ก็อยากให้นุชทำตัวน่ารักอย่างนี้บ้างน่ะสิ
“นวดเป็นเหรอเราน่ะ”
“นิดหน่อยครับ”
“ลองสักหน่อยจะเป็นอะไรไปล่ะคะคุณพี่ มองอย่างนี้แล้วเหมือนคุณพี่มีลูกอีกคนเลยนะคะเนี่ย” แม่ใหญ่ยิ้มกริ่มกับคำพูดนั้นของคุณประภามาศ สบโอกาสมู่เลยเข้าไปออเซาะนวดนั่นนวดนี่ให้แม่ใหญ่ซะเลย
“น่ารักจริงๆ เห็นแล้วอยากได้มาเป็นลูกชาย” คุณประภามาศชมเปาะแน่นอนว่ามู่ก็แค่ยิ้มรับ นวดตรงน่องของแม่ใหญ่ไปเรื่อยๆ “นี่ถ้าลิลลี่มีน้องสาวอีกสักคนนะคะ จะพามาแนะนำให้ตามู่เลยนะเนี่ย”
สรุปคุณเธอจะเป็นแม่ หรือแม่เล้าล่ะเนี่ย...
ยัยป้านี่!
“พูดเรื่องนี้ คุณน้องว่าจะไหวมั้ยคะ ดูตานุชสิไม่ค่อยสนใจอะไรเลย พี่ล่ะปวดหัว นี่ก็หวั่นใจว่าจะดูแลหนูลิลลี่ไม่ดี” แม่ใหญ่เอ่ยขึ้น ส่วนมู่เองก็เก็บรายละเอียดเงียบๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะลิลลี่เป็นเด็กน่ารัก ตานุชต้องชอบแน่ๆ” กร้ากกกกก
มู่อยากจะหัวเราะออกมาเสียตรงนั้น นึกหน้าของพ่อชะมดตาหวาน... ไอ้นุชเนี่ยนะชอบคนน่ารัก ถ้ามันชอบคนหน้าตาน่ารัก มันไม่เอาเขาเป็นแฟนหรอก
“พี่ก็หวังอย่างนั้น ว่าแต่ตามู่”
“ฮะ?” มู่ขานรับ
“ตานุชน่ะเขาอยู่ที่มหา’ลัยมีผู้หญิงมายุ่งเกี่ยวด้วยมั้ย?” แม่ใหญ่เอ่ยถาม ความจริงมู่ไม่ต้องคิดนานหรอกนะ มีเขาอยู่ด้วยใครจะมายุ่งกับชะมดน้อย แต่แกล้งนึกไปงั้นแหละให้คนแก่รอ
“ก็พอมีนะครับ แต่นุชเขาไม่สนใจ”
“เพราะยังไม่เจอคนที่ใช่ไงคะ” คุณแม่ของสาวเจ้าเอ่ยขึ้นอย่างนึกอารมณ์ดี เมื่อได้ยินคำตอบของมู่
“ก็คงอย่างนั้นแหละครับ เพราะ
นุชมันชอบผู้หญิงฉลาด]ไม่ชอบพวกหัวอ่อนจนไม่มีความคิด ยิ่งพวกแอ๊บใสๆ นี่ยิ่งไม่ชอบเลยครับคุณน้า นุชมันเคยด่าแรงๆ ใส่เลย”
“ตานุชด่าผู้หญิงเหรอ?” แม่ใหญ่แทบจะเป็นลมเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ฮะ...ผู้หญิงคนนั้นเป็นแฟนเพื่อนผมครับ แต่เธอพฤติกรรมไม่ดีเท่าไหร่ ชอบมาแบบ...หยาบคายนิดนึงนะครับ” มู่เอ่ยขออนุญาตแต่ไม่รออะไรเหลือบมองหน้าแม่น้องดอกกะปิแล้วพูดขึ้นว่า “ชอบมา
อ่อย แถมชวนนุชไปนั่นไปนี่ทำท่าทางใสๆ แบ้วๆ เลยโดนด่าว่า
แรดไปเลยครับ”
สองคุณหญิงยกมือทาบอก มู่ก็ทำท่าถอนใจ ใจจริงอยากบอกว่า ไอ้นุชมันก็ด่าหรอกนะ แต่ด่าลับหลัง ส่วนด่าต่อหน้าน่ะ...เดาดูก็คงรู้ว่าเขานี่แหละ
“แต่ผมก็เข้าใจนุชนะฮะ เ
ขาไม่ชอบสุงสิงกับใคร เวลาโดนตามจี้ ตามตื้อ ตามจู้จี้ เขาจะรำคาญมากๆ พาลเกลียดไปเลย ยิ่งเรื่องไหนเซ้าซี้เขามากๆ เขาก็จะยิ่งไม่ชอบ ไม่ใช่ทำประชดด้วยนะครับ คือไม่ชอบแบบจริงจังไปเลย” มู่พูดแล้วก็ยิ้ม
บอกเป็นนัยขนาดนี้แล้วคงรู้ตัวนะ ว่าเดินเกมส์พลาดไปแล้ว...
“แต่อย่างน้องลิลลี่คงไม่เป็นไรมั้งครับ ดูท่าทางก็น่ารักเรียบร้อยดี ฉลาดคงแน่นอนอยู่แล้วไม่งั้นแม่ใหญ่คงไม่หมายตาไว้หรอก ที่เหลือก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ” ฟังดูดีมั้ย? มากเลยเนอะ
มู่แอบเห็นสองคุณหญิงสบตากันอย่างไม่มั่นใจ แน่นอนว่าแม่ใหญ่ต้องรู้จักนิสัยของนุชดีอยู่แล้ว คงกังวลล่ะสิว่าลูกชายตัวเองจะทำแม่น้องดอกกะปิอกแตกตายหรือเปล่า
ส่วนอีกคนคงหวั่นใจล่ะมั้งว่าลูกสาวตัวเองจะทำหางโผล่...
สนุกล่ะงานนี้...
......................................................
โดนตัดเบาๆ ยาวเกินไป ฮ่าๆ
ตอนหน้านะคะ ตอนหน้าจริงๆ คี่หน่วงของเราโผล่มา แอร้ยยย ชอบน้องปั๊บอะ (แววลำเอียง?)
ปล. นิมาเป็น วัณธนะเอฟซีค่ะ กร้ากกก ได้ใจอะ...เป็นคุณพ่อยังหนุ่มและเจิดมากอะค่ะ ชอบบบ...แต่มาเฟียอุบอิบเอาพ่อของเจไปเรียบร้อย...(เอาไปทำอะไร?)
ปล. มู่ลูก นู๋จะต่อกรกับคุณๆ เขาไหวมั้นลูก อิแม่เป็นห่วงนะลูก...แต่ดูอิลูกสนุกสนานมาก - -''