ตอนที่ 23
เสียงเจี้ยวจ้าวของสาวๆ รุ่นพี่ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของสระน้ำไม่ได้ทำให้เจรู้สึกอยากจะสนใจอะไรสักนิด เขายัดร่างตัวเองอยู่ที่มุมของสระว่ายน้ำสองขากำลังตีอยู่ใต้น้ำประคองตัวให้ลอยเหนือน้ำที่ลึกสองเมตร
เขาไม่แคร์ว่าสาวๆ พวกนั้นจะมองรูปร่างเปลือยท่อนบนเขายังไง ไม่สนว่าพวกเธอจะส่งสายตาทอดสะพานให้เขาอย่างไร
ประเด็นคือไม่ว่าจะยังไง พอไม่ใช่ผิงแล้วตอนนี้เจรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังตายด้าน!
หลังจากที่เพื่อนๆ ออกไปกันหมดแล้ว แทนที่เขาจะนอนอย่างที่บอกทุกคน เขากลับเดินไปเดินมาในห้องสุดท้ายก็มาฝังตัวเองที่สระว่ายน้ำ
พักใหญ่แล้วเหมือนกัน แต่ทุกคนก็ยังคงไม่กลับมา สงสัยเพลินล่ะมั้ง
จะว่าดีก็ไม่ใช่ จะว่าร้ายก็ไม่เชิง แต่สีหน้าเซียวๆ ของผิงทำให้เขารู้สึกไม่ดี...
คำพูดของมู่ยังลอยอยู่ในหัว...คนที่ผิงชอบ ไม่ว่าจะคิดยังไง ค้นหายังไง คำตอบที่ได้ก็คือ ไอ้หมอนั่นชื่อว่าเจ! ชัดๆ เลย!
แต่แบบ...
จริงเหรอ...จริงอะ...
ฮร้วกกกก
ถ้าจริงล่ะก็เมิงงงงงงงง
ตูม!!!!!
เจสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆ ก็มีวัตถุบางอย่างตกมาตรงหน้าของเขาตูมใหญ่ๆ ไม่สิมันไม่ใช่วัตถุ!
“ไอ้เจ! ไอ้เจๆ ๆ ๆ ๆ ช่วยไอ้ผิงมันว่ายน้ำไม่เป็น! เสียงใครสักคนที่เจจำได้ขึ้นใจว่าคือเสียงไอ้มู่เวลาที่มันแกล้งใครทุกคนที่มันอยากแกล้ง!
และคนๆ นั้นก็คือเขา และผิง!
ร่างสูงของเจไม่รอช้าผวาเข้าไปหาร่างของคนที่โผล่พรวดขึ้นมาในน้ำสองมือตะกุยน้ำ แน่นอนว่าคำว่า ว่ายน้ำไม่เป็น ของมู่ มันคือเรื่องจริง!
“นั่นๆ แหละ ช่วยมันด้วย ช่วยมันๆ ผอดปอดเลยผายปอด!”
“ไอ้เห้นุช! เก็บเมียมึง!” เจตะโกนลั่น แต่ทุกคนกลับหัวเราะไม่เว้นแม้แต่แฮมที่แอบหันไปยิ้มกว้าง!
เจล็อคตัวของผิงให้มาเกาะที่ขอบสระโดยมีร่างของตัวเองโอบประคองซ้อนอยู่ด้านหลัง ร่างบางไอค่อกแค่กเพราะสำลักน้ำเข้าไป แน่นอนว่ามีเสียงแซงแซ่ของคนรอบๆ สระพูดกัน แต่มันโดนกลบด้วยเสียงหัวเราะก้ากๆ ของคนขี้แกล้ง...
หลังจากที่กลับมาจากเดินดูของดูเวลาแล้วก็แดดร่มลมตก เลยตกลงกันว่าจะไปเล่นน้ำทะเล แต่พอเดินลัดมาทางสระว่ายน้ำ มู่เห็นเจยืนหล่ออยู่ในน้ำ เลยเกิดอาการต่อมแกล้งทำงาน สมองทำงานอย่างรวดเร็วมีแนวร่วมคือนุชที่รู้ทันแต่ทำไม่รู้ไม่ชี้ มู่เลยผลักผิงตกน้ำไปตรงหน้าของเจแบบไม่ให้ได้ตั้งตัว ทั้งที่รู้ว่าเพื่อนซี้ว่ายน้ำไม่เป็น
“เอาน่า... ไหนๆ ผิงมันก็ว่ายน้ำไม่เป็นมึงก็สอนมันว่ายหน่อยสิ เดี๋ยวเกิดเล่นน้ำทะเลแล้วจมไปจะยุ่ง” มู่ลอยหน้าลอยตาพูด ก่อนจะเดินหัวเราะคิกคักจากไปแบบน่าเตะเป็นที่สุด นุชหันมายักคิ้วใส่เพื่อน ส่วนซอเองก็ทำท่าทางให้เจลุ้นตัวเองให้ขึ้นสักทีก่อนจะเนียนจูงมือคุณหมอให้เดินลัดไปที่ชายหาด
เจแอบถอนหายใจ มองร่างบางที่เกาะขอบสระไว้มั่น ร่างกายเปียกโชก เสื้อสีขาวแนบกายจนมองเห็นผิวเนื้อเนียน ทำเอาแอบกลืนน้ำลายหลายอึก...
ช่างมัน! อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิดละว่ะ
“มึงโอเคปะเนี่ย”
“.....” เงียบ มีแต่เสียงหอบหายใจ
“เฮ้...ผิง...มึงไหวปะ? ขึ้นจากน้ำมะ”
“แฮ่ก... ไอ้...มู่...”
“มันเพิ่งไปเล่นที่ชายหาดไง” เจตอบคำถาม แอบขยับกายเข้าไปใกล้แผ่นหลังบางที่หอบจนตัวโยนนั้น
“กูจะต้องฆ่ามันสักวันแน่!”
อยากร้องออกมาเสียงดังเจี๊ยกกกกก
เจแอบอมยิ้ม สองแขนยังเท้าคร่อมร่างบางที่หายใจไม่คล่องดี มองด้านหลังบอบบางนั้นด้วยสายตาอ่อนโยนจนไม่อยากจะเชื่อแน่ๆ ว่ามองผู้ชายด้วยกัน
เอาเถอะมาถึงขั้นนี้แล้วนี่
เจเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากให้ผิงที่หันหน้ามามองเขาแต่ไม่ยอมปล่อยมือจากขอบสระน้ำ ริมฝีปากบางยู่เข้าหากันก่อนจะหันกลับไปยืนท่าเดิม
“ยิ้มได้แล้วเหรอไง หน้าเป็นตูดตั้งแต่มา”
“กล้ามเนื้อที่หน้ากูไม่ได้เป็นอัมพาตนี่หว่า” นอกจากจะยิ้มได้ยังกวนโอ้ยได้เหมือนเดิมแล้วสินะ “มึงจะว่ายน้ำปะ?”
“ว่ายเป็นที่ไหนเล่า!”
“ก็เดี๋ยวสอนไง” ผิงหันมามองหน้าเจอีก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้า...
“ขาไม่แตะพื้นเลยเนี่ย ฉันกลัว” ผิงพูดก่อนจะหันกลับไปก้มหน้างุด เจยิ้ม ก่อนจะคว้าเอวบางไว้ในอ้อมแขน ผิงตาโตพยายามจับขอบสระไว้แน่น แต่ก็ยึดไม่ได้ เงยหน้าขึ้นเพราะกลัวจะสำลักน้ำอีก
เจพาร่างของพิงขยับมาอีกฝั่งของสระที่มีความลึกราวๆ หนึ่งเมตร...คราวนี้ผิงสามารถยืนเองได้แล้ว ทำเอาหายใจโล่งอก แต่ที่ชักจะไม่โล่งก็คือ...
“มึงปล่อยกูได้แล้วมั้ง” ผิงว่า เหลือบตาขึ้นมาร่างสูง ก่อนจะได้สบตากันก็ได้เห็นมัดกล้ามของอีกฝ่ายเต็มตา ทำเอากลืนน้ำลายลงคอเอื้อก!
“กูกลัวมึงลื่นแล้วจมลงไปอะ”
“มึงเนียน!” ผิงตวัดสายตาเข้าใส่อย่างรู้ทัน ก่อนจะขยับตัวหนี เดินไปข้างสระ คนโดนรู้ทันได้แต่ยิ้มไม่สะทกสะท้าน ก่อนจะสวนกลับมาว่า...
“แล้ว...ยัง...ไง...ล่ะ...ผิง” หางเสียงที่เรียกชื่อของตัวเองทำเอาขนอ่อนในกายลุกพรึบ ให้ตายเถอะรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจมอยู่ในน้ำเดือดเลย...
มันก็แค่อีกฝ่ายยอมรับว่าเนียนใส่แค่นั้นเองนะ!!
“มึงต้องถอดเสื้อนะผิง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ของโรงแรมจะมาเฉ่ง แต่กางเกงพอหยวนได้ แม้ว่าความจริงกูว่ามึงก็ควรจะถอด”
“ไอ้บ้า ใครเขาถอดเหลือกางเกงใน แกยังใส่กางเกงขาสั้นธรรมดาเลย”
“ก็บอกว่าหยวนได้ไง มึงอายเหรอ? ไม่กล้าถอดเสื้ออะ”
“กูไม่ได้อาย แค่กำลังคิดว่าจะเอาไปวางไว้ไหน!”
“โน่นไง เก้าอี้ที่จองไว้” เจชี้ไปที่ที่นั่งของตัวเองที่มีผ้าเช็ดตัว เสื้อคลุมวางอยู่พร้อมแก้วน้ำ ผิงหันไปมองแล้วก็หันกลับมามองแววตาเจ้าชู้ของเจที่ไม่คิดจะปิดบังนั้นอีกครั้ง...
ไอ้บ้านี่มันบ้าอะไร วันทั้งวันทำดราม่าแล้วตอนนี้ล่ะมาลั้นลา....ใครก็ได้มาบ้องหัวมันสักที

ผิงจิ๊ปาก ก่อนจะดันตัวเองขึ้นจากสระ แต่ก็ไม่ได้ง่ายนัก แล้วก็ได้สะดุ้งเฮือกเมื่อฝ่ามือใหญ่ของเจมาจับข้างเอวของตัวเอง รับรู้ถึงแรงที่จับและช่วยยกร่างของเขาขึ้น....
ไอ้บ้าเจ!อ้ากกกกกก
เจเลื่อนตัวเองมาวางแขนบนขอบสระมองร่างบางของผิงที่เดินไปยังม้านั่ง มองท่วงท่าของอีกฝ่ายแล้วอมยิ้ม...ผิงตัวบางจริงๆ น่ากอดมาก เมื่อกี้ก็ได้กอด แต่ตื่นเต้นจนไม่ทันได้จดจำอะไรมาก คาดว่า...เดี๋ยวจะได้เนียนอีกเยอะแน่ๆ
แค่คิดก็โคตรเลว... แต่...โคตรน่าอิจฉาเขาใช่มะ?
แล้วเจก็ได้รู้แล้วว่าตัวเองคิดผิดถนัด! เมื่อมองร่างบางที่ค่อยๆ ถอดเสื้อขาวตัวเปียกนั้นออกสลัดแล้ววางผึ่งตรงด้านบนม้านั่ง ก่อนที่อีกฝ่ายจะลึกขึ้นแล้วหมุนตัวเดินมาที่สระ
ฉิบหายแล้วววววววววววผิงตัวบาง แต่ไม่ได้ผอมกะหร่อง พอมีไอ้ที่เขาเรียกว่ากล้ามเนื้อนั่นแหละ หน้าท้องสวยพอประมาณไม่ได้มากเป็นซิกแพคอย่างของเขา ผิวเนียนแม้จะไม่ได้ขาวผ่อง แต่เนียนแบบผิวของคนทางเหนือ...แบบ...
เชี่ยแล้วกู!!“แกสอนฉันว่ายน้ำให้เป็นนะเจ” คนตัวเล็กพูด หย่อนตัวเองลงสระช้าๆ พอยืนมั่นคงแล้วก็ค่อยๆ เดินมาใกล้ร่างสูงที่มองร่างบางไม่คลาดสายตา
“อย่าปล่อยฉันจมน้ำนะ ไม่อยากตาย”
“อะ...อือ.... กู ไม่ปล่อยมึงหรอกผิง....”....................................
ณ จุดนี้ ที่เจมันบอกว่า
กูไม่ปล่อยมึงหรอกผิง...นิมาสงสัยมาก...ว่ามันไม่ปล่อย...อะไร.... กร้ากกกกก
ค้างเมิกกกกกกก
ทำไมนิมาเป็นคนแบบเน้....
นิมาลงบ่อย อย่าเบื่อนิมานะคะ^^