ลูกแก้วมังกร
Part 22
ทิ้งทวน! มังกรรู้สึกตัวตื่นเพราะเสียงตะโกนเรียกตรงหน้าบันได
“สะใภ้ๆ”ฟังกระดากพิลึกแต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินหนุ่มน้อยเผ่าเย้าเรียกตนแบบนี้ ค่อยยันกายลุกในสภาพล่อแหลม
ไม่ลืมคว้าผ้าห่มพันร่างให้เรียบร้อยก่อนเดินออกไปเผชิญหน้าเจ้าของเสียง ซึ่งยังคงขยันตะโกนไม่หยุด คาดว่าน่าจะเรียก
จนกว่าจะได้ยินเสียงตอบรับจากตน เจ้าหนุ่มวัยกระเตาะถึงจะหยุดแหกปากลงได้
“เรียกฉันหรือ?” เขาถามออกไปด้วยสภาพหน้าตาซีดเซียว เล่นเอาเจ้าเด็กนั่นตกใจไม่น้อย ก่อนจะพูดขึ้นว่า
“สูเป๋นไข้ก่ะหน้าตาสูบ่ค่อยสู้ดี แม่สั่งเฮาเอาข้าวมาฮื้อ” พูดพร้อมกับชูใบตองห่อมัดติดเป็นพวง
โชว์หลักฐานให้ดูไปด้วย
“ฉันไม่เป็นไรขอบใจมาก ส่งขึ้นมาสิ” มังกรบอกก่อนลงนั่งยองๆหัวคิ้วเขากระตุกขึ้นมาทันที จนต้องรีบเก็บอาการ
หลังรู้สึกปวดจี๊ดตั้งแต่สะโพกยันไขสันหลัง ซึ่งเจ้าหนุ่มหน้าซื่อยังยืนยิ้มแป้นยื่นห่อข้าวมาให้โดยไม่ทันเห็นความผิดปกติ
ท่าทางของเขาแม้แต่น้อย
“เฮาไปแหละ เป๋นไข้ก็บอกผู้เฒ่าเปิ้ลฮักษาฮื้อก่ะ” รอยยิ้มใสซื่อส่งให้พร้อมความห่วงใยอย่างจริงใจที่แสดงออก
จนรับรู้ได้ ทำเอามังกรเผลอยิ้มตามโดยไม่รู้ตัว อย่างน้อยรอยยิ้มนี้ก็ช่วยให้ตนรู้สึกดีทีเดียว
“ขอบใจนะ แล้วเธอชื่ออะไรหืม?” เป็นครั้งแรกที่มังกรถามเจ้าตัวทั้งที่ก่อนหน้าเคยคุยกันมาแล้วแต่ดันไม่ได้ถาม
หนุ่มน้อยยิ้มตาหยีแนะนำตัวเสียงดังฟังชัด
“เรียกเฮาว่า ขัวน้อย” มังกรได้ยินไม่ถนัด จึงย้ำให้แน่ใจ
“ชื่อวัวน้อยเหรอ” คนฟังหน้าบูดเป็นตูดลิง ส่งเสียงอย่างขัดใจ
“บ่ใจ๊..จิ๊!ขัวน้อยบ่ใจ๊วัว” ท่าทางของคู่สนทนาต่างวัยทำเอามังกร หลุดหัวเราะเสียงดัง
“ฮ่ะฮ่าๆๆ โทษทีฉันฟังไม่ชัด” หนุ่มรุ่นกระทงหน้างอทำปากยื่นหงุดหงิดที่มังกรหัวเราะขำตนเอง
มังกรต้องใช้ความพยายามกลั้นขำแทบตายกลัวเจ้าตัวโกรธขึ้นมาจริงๆ ไม่คิดว่าแค่ชื่อจะเป็นความหรรษาพาฮา
ทำเอาหัวเราะขำได้ เขาสูดหายใจยาวแอบกลั้นขำจนหน้าแดง ก่อนจะชวนคุยโดยตั้งคำถามขึ้นมาแทน
“ชื่อเธอมีความหมายไหม?” พอเปลี่ยนเรื่องได้ผลทันตาคู่สนทนาต่างวัยยืดอกตอบด้วยท่าทางภูมิใจนักหนา
“ขัวน้อยแปลว่าสะพานอันน้อย” มังกรพยักหน้ารับ ขืนพูดตอบคงหลุดขำทำให้คนอารมณ์เริ่มดีหน้านิ่วอีกเป็นแน่
ไม่เข้าใจทำไมแค่ชื่อที่แปลว่าสะพานถึงทำให้เจ้าตัวภูมิใจได้ขนาดนี้ ยังไม่ทันถามให้หายสงสัยหนุ่มวัยละอ่อนอธิบายให้ฟัง
ทำเหมือนอ่านใจตนออกเสียอย่างนั้น
“สะพานมีไว้ฮื่อผู้คนใช้ข้าม ผู้เฒ่าเปิ้ลบอกเฮาคือผู้เสียสละ” มังกรถึงบางอ้อทันที เจ้าของชื่ออมยิ้มยืดอกอย่างเท่
แสดงออกทั้งสีหน้าและแววตาอย่างเป็นธรรมชาติไม่มีปรุงแต่ง ใสซื่อบริสุทธิ์ช่วยให้มังกรรู้สึกเบาใจหายหน่วงในอกไม่น้อย
เด็กหนุ่มเห็นมังกรมองตนด้วยสายตาเอ็นดู จึงถือโอกาสถามเขากลับบ้าง
“แล้วสะใภ้เล่า สูมีจื่อว่าจะได๋” มังกรอมยิ้มก่อนแนะนำตัวกลับ อย่างน้อยเจ้าหนุ่มรุ่นกระทงจะได้เลิกเรียกตนว่า
สะใภ้เสียที
“ฉันชื่อมังกร” หนุ่มน้อยได้ฟังยิ้มร่านัยน์ตาวิบวับ ก่อนบอกกับมังกรว่า
“จื่อสูดีเนอะ ถึงว่าอ้ายลูกแก้วได้เมียเป็นมังกร สูเป็นมังกรฮื่ออ้ายลูกแก้วขี่สิท่า” ฟังจบมังกรถึงกับหน้าแดง
ให้ตายเด็กหนุ่มนี่พาตนหน้าร้อนเหมือนไฟลวกเข้าให้ ทำเอาอึ้งพูดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ
“เฮาว่าสูเป็นไข้แล้วละ หน้าสูเริ่มแดง ถ้าบ่ไหวเฮาจะพาสูไปฮื้อป๋อเฒ่าฮักษา”
“ไม่เป็นไรฉันคงร้อน เอาเถอะยังไงขอบใจขัวน้อยมาก” ขัวน้อยหนุ่มเย้าไมตรีงามสนทนาต่ออีกนิดหน่อย
ก่อนจะขอตัวกลับ
“เฮาไปก่อนไว้ค่อยเจอกันใหม่ ไปเน้อสะใภ้” มังกรได้แต่พยักหน้า จนปัญญาในการคาดหวัง ต่อให้รู้ชื่อตนแล้วยังไง
ขัวน้อยก็เรียกสรรพนามที่ฟังแทม่งหูอยู่ดี
หลังจากสหายใหม่ต่างวัยกลับไปแล้ว มังกรจึงอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นค่อยลงมือจัดการสภาพที่นอน
ซึ่งไม่ต่างสนามรบ พานนึกสมเพชตัวเองความรู้สึกหนักอึ้งกลับมาอีกครั้ง ที่ตรงนี้ทับซ้อนคนสองคน หนึ่งคือพ่ออีกคนคือลูก
แย่ที่สุดดันเป็นพี่เขยกับหลานชาย คงต้องตัดสินใจยุติความสัมพันธ์อันน่าทุเรศนี้เสียที จำต้องฝังทุกอย่างไว้ที่หมู่บ้านเย้า
กลับไปสู่โลกของความจริงในการใช้ชีวิตแบบมังกรคนเดิม คิดพรางกินข้าวห่อใบตองไปพราง กินไม่กี่คำก็รู้สึกอิ่มตื้อขึ้นมา
จนไม่สามารถฝืนกลืนลงคอได้อีก ยกขันน้ำขึ้นดื่มแล้วค่อยกลับเข้าไปล้มตัวนอนในสภาพเหมือนคนหมดแรง
กระทั่งเผลอหลับลงไปในที่สุด..
หลับนานเท่าไหร่จำไม่ได้ มารู้ตัวเพราะสัมผัสแสนคุ้นเคยจากอ้อมกอดที่โอบรอบตัวพร้อมกับลมหายใจอุ่น
เป่ารดซอกคอ ไม่ต้องบอกก็พอรู้วงแขนใหญ่แข็งแรงขนาดนี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้าหลานตัวแสบที่กำลังหลับอยู่ข้างๆ
ใกล้เสียจนจมูกโด่งเป็นสันแทบจะชิดต้นคอขาวของตนห่างไม่ถึงเซ็นฯ
มังกรสับสนว้าวุ่นไปหมด ลูกแก้วกลับมาตอนไหน ที่แย่เข้าไปใหญ่สัมผัสที่ได้รับไม่ว่าจะเป็นอ้อมกอด
หรือลมหายใจซึ่งกำลังเป่ารด ดันทำให้ตนเผลอคิดไปถึงสัมผัสที่ผ่านมาสดๆร้อนๆเมื่อคืนนี้เข้าจนได้ ให้ตายทั้งที่ไม่ได้เป็น
ความยินยอมพร้อมใจแต่สุดท้ายร่างกายกลับทรยศและตอบรับสัมผัสของรามูนครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายของเขามันทรยศเจ้าของ
ได้อย่างน่าอาย แล้วยังตอนนี้อีกแค่ลูกแก้วกอดกระชับร่างกายตนจนชิด กลับรู้สึกอุ่นซ่านจนเริ่มร้อนแปลกๆ การได้รับสัมผัส
จากรามูนและลูกแก้วทำให้ร่างกายของตนตอบรับสัมผัสเหล่านี้อย่างเป็นอัตโนมัติ จนมังกรกลัวใจตนเองเข้าไปใหญ่
ตาคมสวยลอบสำรวจคงคาพยศบนหน้าหล่อปานเทพบุตรอย่างไม่ตั้งใจ ริมฝีปากหนาสีสดรับกับโครงหน้าคมคาย
ดุจรูปสลักของเทพอพอลโล่ ทำให้ลมหายใจถึงกับสะดุดเพราะมีกระแสบางอย่างจู่โจมบริเวณอกด้านซ้ายเข้าอย่างจัง เหตุการณ์
ของคืนที่ผ่านมาผุดขึ้นในหัวทำเอาสับสนปนเปคละเคล้ากันไปหมด ตนละอายใจจนไม่สามารถฝืนนอนอยู่ในอ้อมกอดของ
ลูกแก้วต่อไปได้อีก จิตใต้สำนึกดันเอาความแนบชิดที่ได้รับในปัจจุบันไปเปรียบเทียบกับความตราตรึงที่เพิ่งผ่านมาเมื่อคืนนี้
ซ้ำร้ายยิ่งกว่าคือร่างกายตนดันโหยหาสัมผัสเหล่านั้น โดยไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นสัมผัสของใคร
พ่อลูกสองคนนี้ทำเอามังกรรู้สึกไขว้เขวไปหมด ตั้งท่าจะลุกหนีแต่ไม่ทันขยับเจ้าของอ้อมกอดดันลืมตาขึ้นสบเข้ากับตาคมสวย
ของตนอย่างจัง นัยน์ตาคมเข้มตรึงมังกรให้นิ่งอยู่กับที่เหมือนต้องมนต์สะกด ก่อนริมฝีปากสีสดจะลดระยะลงประกบปิดปาก
ได้รูปสวยของเขาอย่างแนบสนิท โดยไม่มีคำพูดใดๆหลุดออกมาทั้งสองคน
มังกรถอนหายใจยาวพริ้มตาหลับ พร้อมกับตอบรับรสจูบดูดดื่มที่ได้รับอย่างไม่ขัดขืน ปล่อยร่างกายไป
ตามการชักจูงของลูกแก้ว ครั้งนี้คงเป็นครั้งสุดท้ายที่ความสัมพันธ์บิดเบี้ยวนี้จะมีขึ้น ในเมื่อตั้งใจยุติปัญหาขอทำตาม
ความต้องการส่วนลึกเป็นครั้งสุดท้าย กลับไปสู่โลกของตนคราวนี้ลูกแก้วจะเป็นได้แค่หลานชาย ครั้งนี้ตนขอสัมผัสลูกแก้ว
เป็นการทิ้งทวน
ความคิดของมังกรพลันหยุดลง เมื่ออารมณ์เสน่ห์หาโจนทะยานโลดละลิ่วอย่างต่อเนื่อง กระทั่งร่างสองร่าง
หลอมรวมเป็นหนึ่ง การผนึกกายแกร่งสอดประสานเสียงครางอย่างเสียวกระสันของทั้งคู่ ลูกแก้วถึงกับหัวใจพองโตเมื่อเห็น
การตอบรับของมังกรในครั้งนี้ บทรักที่เร่าร้อนสลับหนักเบาเป็นไปตามความต้องการที่ต่างฝ่ายต่างเติมเต็มให้กันและกัน
ก่อนจะพาทั้งคู่เดินทางไปสู่จุดหมายปลายทางในที่สุด
ณ คฤหาสน์วิริยะทรัพย์ อาคม พยัคฆ์ และคงคา รอต้อนรับการกลับมาของประธานวิริยะทรัพย์กรุ๊ป
หลังได้รับการติดต่อจากบุรุษลึกลับชุดดำที่ส่งข่าวให้รู้ก่อนแล้วล่วงหน้า ว่ามังกรกับลูกแก้วจะเดินทางมาถึงบ่ายวันนี้ เรื่องราว
ของดลภัทรที่กำลังเดินหน้าโปรเจคใหญ่ใช้เงินลงทุนมหาศาล เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างรอดูว่ามังกรจะตัดสินใจกับเรื่องนี้อย่างไร
การรอคอยสิ้นสุดลงเมื่อรถลีมูซีนสีดำกันกระสุนราคาหลายสิบล้านได้เคลื่อนเข้ามาจอดยังบันได
หน้าคฤหาสน์ พร้อมกับคนขับลงมาเปิดประตูให้บุรุษที่ทุกคนเฝ้ารอได้ก้าวลงมายืนเด่นเป็นสง่า ใบหน้าหล่อดึงดูดสายตา
ทุกครั้ง ไร้ซึ่งรอยยิ้มเป็นเรื่องปกติสำหรับคนคุ้นเคย กลับไม่ทำให้ใบหน้าของประธานวิริยะทรัพย์หมดความน่ามอง
เลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามช่วยให้ดูลึกลับมีพลังน่าค้นหาอีกต่างหาก ในขณะที่ประตูอีกฝั่งเปิดออกมาพร้อมร่างสูงใหญ่
ก้าวลงมายืนจนศีรษะล้ำหลังคารถเกินคนทั่วไป หน้าหล่อคมเข้มตรึงทุกคนให้มองไม่อาจละสายตาได้เช่นกัน ลูกน้องคนสนิท
ต่างก้มหัวแสดงการต้อนรับ ไม่เว้นแม้แต่อาคมอาวุโสหนึ่งเดียวในที่นี้
“ไม่ต้องมากพิธี” คำพูดสั้นๆของมังกร ก่อนเดินผ่านแถวต้อนรับตรงไปยังห้องทำงานโดยไม่เหลียวหลัง
แทบไม่ต้องรอคำสั่ง อาคม พยัคฆ์ คงคาก้าวตามไปติดๆ ยกเว้นพวกการ์ดและคนรับใช้พากันเลิกขบวนกลับไปทำหน้าที่ของตน
ตามปกติ ลูกแก้วเดินตามหลังรั้งท้ายในขณะที่ทุกคนหายเข้าไปในประตูห้องกันหมด ยกเว้นคงคาที่หันมายืนประจันหน้าลูกแก้ว
พร้อมคำพูดสั้นๆ บอกหนุ่มร่างใหญ่หล่อปานเทพบุตรว่า
“เจ้านายไม่อนุญาตให้คุณเข้าร่วมประชุมครับ” โดยไม่รอฟังลูกแก้วที่กำลังอ้าปากจะถาม ประตูไม้สักทอง
แกะสลักปิดลงทันที ปล่อยเจ้าตัวยืนอึ้งเพียงลำพัง เขาถูกกันเป็นคนนอกไปในพริบตา ความสงสัยผุดขึ้นในหัวว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณอาซึ่งเป็นภรรยาทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยถึงไม่ให้ตนมีส่วนร่วมในการประชุม ทั้งที่ก่อนหน้าไม่มีสักครั้งที่จะถูกกันเป็น
คนนอกเหมือนเช่นครั้งนี้ ต้องมีอะไรบางอย่างมังกรถึงได้ทำแบบนี้
ลูกแก้วเก็บความสงสัยเอาไว้ เขาตัดสินใจหันหลังกลับไปยังห้องส่วนตัวเมื่อเห็นว่าเปล่าประโยชน์
ที่จะยืนรอหน้าห้อง ใช่แต่จะเพียงลูกแก้วที่ไม่เข้าใจในการกระทำของมังกร แม้แต่บุคคลในห้องก็เกิดคำถามคาใจที่ลูกแก้วไม่ได้
รับอนุญาตให้เข้าร่วมประชุมเช่นกัน แต่ทุกคนเลือกที่จะหุบปากไม่ถาม เมื่อสังเกตสีหน้าเรียบนิ่งแววตาเฉยชาของมังกรที่บ่งบอก
ให้รู้ว่าไม่ควรละลาบละล้วงในเรื่องที่เจ้านายตัดสินใจไปแล้ว พวกเขาเลือกที่จะเงียบรอฟังมังกรอย่างสงบ
ก่อนประธานวิริยะทรัพย์จะเริ่มประชุมลับ กระทั่งเวลาล่วงเลยไปค่อนคืน ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งของคฤหาสน์
ยังมีคนนอนลืมตาโพลงในความมืดแววตาครุ่นคิด แต่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้นไม่สามารถคาดเดาได้
ภายในคฤหาสน์หลังงามกลับให้ความแตกต่างของบรรยากาศและอารมณ์ของคนที่อยู่ภายในอย่างสิ้นเชิง..
ขออภัยที่หายไปนาน งานยุ่งวุ่นวายมาก

ลักษ์.
