He's my Bride (4/4)
Continue...
ไม่นานนัก ประตูหน้าบ้านก็เปิดออก
ชายหนุ่มสองคนเดินตามกันเข้ามา ปลดภาระที่เหนื่อยยากมาทั้งวันทิ้ง แม้วันนี้จะไม่ได้กลับค่ำตามแผนที่วางไว้ แต่คิดว่าเจ้าลูกชายสุดที่รักก็คงไม่ว่าอะไรกับเรื่องนี้แน่
...แต่พวกเขาคงจะคิดผิด
เพียงเดินเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว เสียงประหลาดที่ดังมาจากบนชั้นสองทำให้พวกเขาต้องหยุดกึก
“เฮ้ยภู... ได้ยินเสียงอะไรมั้ย”
“หือ เสียงอะไร”
“เนี่ย...” บอลชี้ “...ไม่ได้ยินเหรอ ขโมยรึเปล่า”
“บ้าน่า” ภูเงี่ยหูฟังตาม “ไอ้อ้วนกลับมาบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ คงทำอะไรเสียงดังอยู่ในห้องล่ะมั้ง”
“ไม่เอาน่า ขึ้นไปดูเหอะ”
ว่าแล้วผู้ปกครองทั้งสองก็ค่อยๆไต่บันไดขึ้นไปสำรวจต้นตอของเสียงประหลาดนั้น แน่นอนว่ายิ่งเข้าใกล้ห้องนอนของลูกมากขึ้นเท่าไร เสียงที่ได้ยินก็ชัดเจนขึ้นเท่านั้น
และแล้วพวกเขาก็ได้คำตอบ ...มันคือหนังสดไม่ผิดแน่!!!
“ภู หรือว่า...”
“คิดมากน่า ไอ้อ้วนอยู่แค่ม.4เอง”
บอลตบแขนคนรักเบาๆ “ทีตอนนั้นเราก็อยู่ม.6 เหมือนกัน”
“เออว่ะ” ภูเหลือบตาขึ้นนึกย้อนความหลัง “แต่ไม่แน่ เราอาจจะคิดมากไปเองก็ได้”
“จะแค่คิดมากได้ไง ...มันออกจะชัดขนาดนี้”
ทั้งสองเงี่ยหูฟังแนบประตู ...ยิ่งได้ยินก็ยิ่งคิดเป็นอื่นไปไม่ได้จริงๆ
“ถามลูกไปเหอะ ถ้าไม่ใช่จริงๆจะได้รู้กันไปเลย”
ภูถอนหายใจเหนื่อย สุดท้ายเขาก็ทนแรงรบเร้านั้นไม่ไหว ...จึงตัดสินใจอัดลมเข้าปอด ตะโกนถามเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด...
“ณุ! ทำอะไรอยู่น่ะ” ลูกชายสะดุ้ง มิคก็สะดุ้ง การกระทำทุกอย่างหยุดชะงัก ตกใจเสียจนทำอะไรไม่ถูกไปหลายวินาที
...อยู่ดีๆพ่อแม่ก็กลับมาเร็วซะงั้น!
เหงื่อของเด็กหนุ่มหยดลงมาช้าๆ เนื้อตัวเย็นเฉียบ สายตาล็อกแล็กไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวว่าอะไร นี่ถ้าถูกจับได้ก็คงจะซวยไปอีกยาวแน่ๆ
พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกองซีดีหนังโป๊ที่วางกองอยู่ข้างๆคอม ชั่ววูบนั้นเขาก็คิดข้อแก้ตัวขึ้นมาได้ทันควัน
“ขอโทษคร้าบบบ เปิดหนังโป๊อยู่คร้าบบบ!!!” เสียงตะโกนของลูกดังออกมาจากในห้อง พอได้ยินอย่างนั้นคนเป็นพ่อแม่ก็ถึงกับโล่งอก
“เห็นรึป่าว บอกแล้วว่าไม่มีอะไร” คนพ่อว่า
“อืม ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว”
“งั้นก็ให้มันเบาๆหน่อย! รบกวนชาวบ้านเขา!” พอตะโกนกลับไปอีกรอบแล้วก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ทั้งคู่ก็สบายใจว่าผ่านปัญหาไปได้อีกครั้ง...
“เดี๋ยวภูจะอาบน้ำก่อนรึเปล่า หรือว่าจะกินข้าวก่อน”
พูดยังไม่ทันจบ แขนแกร่งก็เลื้อยมาโอบรอบตัวเขาจากข้างหลัง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร เสียงแหบพร่าก็กระซิบปร่าอยู่ข้างหู
“งั้นกินอย่างอื่นก่อนได้มั้ย”
บอลร้อนๆขึ้นมาที่หน้า อยู่ๆก็พูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ได้ทำกันมานาน ใจมันก็เต้นขึ้นมาได้ไม่น้อย
“ไม่เอาน่า จะเวลาข้าวเย็นแล้ว”
“น่า นะ นะ แป๊บเดียวก็ได้นะ”
เสียงอ้อนๆอย่างนี้มาอีกแล้ว ฟังกี่ทีก็เผลอใจอ่อนอยู่ร่ำไป
“ก... ก็ได้”
“เย้! รักนะคร้าบบบ”
“ไม่เอา... พอแล้ว”
แม้ว่าเสียงหยอกล้อของพ่อกับแม่จะลับหายไปจากหน้าห้อง ณุก็ยังคงหายใจไม่ทั่วท้อง ลมหายใจยังคงหอบ สายตายังตะลึงค้าง ...จนกระทั่งต้องมีสองมือของอีกคนเอื้อมมาประคองหน้าไว้ สติถึงจะได้กลับคืนมา
“ณุ ...ต่อเถอะ” มิคจ้องลงไปในแววตาคู่นั้น “ต่อเถอะนะ กูจะไม่ร้องก็ได้นะ”
“เออ ไม่เป็นไร” ณุหายใจลึกๆ กลบความจริงที่ว่ายังคงใจหายใจคว่ำ “จะร้องเบาๆก็ได้ ให้กูได้ยินคนเดียวแล้วกัน”
มิคแอบยิ้มอยู่คนเดียว พร้อมๆกับที่อีกฝ่ายช้อนตัวเขาให้ขึ้นมานั่ง ...ยิ่งทำให้รู้สึกใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม
“งั้นมึงก็ต้องทำกับกูคนเดียวนะ”
“คร้าบบบบ แน่นอนอยู่แล้วคร้าบบบ”
ว่าแล้วก็แอบหอมแก้มคนผิวขาวไปหนึ่งที ก่อนจะสบตากันอยู่อย่างนั้น
มันต้องมีอะไรแน่ๆที่ทำให้เขาไม่ลืมคนๆนี้มา 8 ปี... และมันต้องมีอะไรซักอย่าง ที่ดลบันดาลพาให้พวกเขามาเจอกันอีกครั้ง
และที่แน่นอนที่สุด มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขาบังเอิญมาใจตรงกัน ในวันนี้ เวลานี้ และในอ้อมกอดของกันและกันอย่างนี้...
มิคขยับร่างบดเบียดแนบชิด ค่อยๆดึงรั้งสร้างจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่อีกฝ่ายกระชับอ้อมกอดเข้ามาแน่น พลางโน้มหน้าเข้าไปปิดปากไม่ให้เสียงใดหลุดรอดออกมา
ในที่สุดคำป่าวประกาศของณุก็เป็นจริงแล้ว ...เพราะว่าสุดท้าย คนในอ้อมกอดของเขาก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นคนคนนี้
...เป็นเจ้าสาวที่เขาตามหามานานแสนนาน
...................................................................
อาหารจานสุดท้ายถูกวางลงบนโต๊ะ ผู้เป็นพ่อเลื่อนเก้าอี้นั่งพลางสูดกลิ่นหอมกรุ่น
“เอ้อ ...ตกลงแล้วมันหายไปไหนนะ หาทั่วห้องแล้วยังไม่เจอเลย”
“เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก” บอลถอดถุงมือร้อนออกวางที่เคาน์เตอร์ พูดเหมือนกับไม่เห็นเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร “ไม่มีใช้ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”
“งั้นเหรอ” ชายร่างใหญ่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “งั้นคืนนี้แถมให้อีกได้มั้ย”
“บ้า ไม่เอาแล้ว”
“แม่! มีไรกินบ้าง”
เสียงของลูกชายทักมาจากบันไดก่อนตัวจะมาถึงเสียอีก พ่อกับแม่ก็เลยต้องรีบทำตัวกลบเกลื่อนบทสนทนาเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว
“มีของโปรดของแกด้วย มากินเร็ว”
“เยี่ยม!” ณุร้องเริงร่า “เอ้อ วันนี้มีเพื่อนมากินข้าวเย็นด้วยนะ”
ภูเงยหน้าขึ้นมา เห็นเพื่อนของลูกคนที่ว่ากำลังยกมือไหว้ทักทายอยู่พอดี
“อ่ะ หวัดดีลูก ...อ๋อ นี่ พาเพื่อนมาดูหนังโป๊ด้วยกันสินะ”
“พ่อ!” ลูกชายแหกปาก แต่ยังไม่ทันทำอะไรพ่อก็หัวเราะร่า
“แหม ดีออก กิจกรรมตามประสาลูกผู้ชาย ใช่มั้ยล่ะ? ก็ดีกว่าออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกนั่น แหล่ะน่า”
พูดเสร็จก็โดนคนรักตบแขนเป็นการบอกให้เงียบไปหนึ่งที “จะไปแซวเพื่อนลูกทำไม เอ้า มากินได้แล้ว เดี๋ยวเย็นหมด”
ในที่สุดทุกคนก็นั่งลงรอบโต๊ะอาหาร ในขณะที่บอลกำลังคิดใคร่ครวญว่าใบหน้าของเพื่อนลูกคนนี้ ดูคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าเคยเห็นที่ไหน...
“เออ พ่อฮะ แม่ฮะ จำได้รึเปล่าที่ตอนเด็กๆผมเคยบอกว่าผมจะเอาคนๆนึงมาเป็นเจ้าสาวให้ได้”
อยู่ดีๆคำพูดที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้นก็ทำให้ทุกคนต้องหยุดกินจนอ้าปากค้าง ก่อนจะหันมามองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู
ณุหันไปหาเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่าพลางก็กอดคอกระชับเข้ามาใกล้พร้อมกับกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วจึงตัดสินใจป่าวประกาศออกมาอีกครั้ง
“คนๆนี้แหล่ะครับ เจ้าสาวของผม!”End
เสียงทีวีเปิดช่องแข่งรถค้างไว้ นี่ก็ค่ำแล้ว เพื่อนของลูกก็กลับบ้านไปเรียบร้อย ในขณะที่ภูก็ยังคิดใคร่ครวญถึงเรื่องเมื่อเย็นอยู่ไม่สร่าง
...เลี้ยงดูมา 10 ปี ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายลูกชายของตนจะเดินตามรอยเท้าตนเข้าจนได้!
“เออ พ่อ ผมเอามาคืน ...ขอโทษนะที่ยืมไปแล้วไม่ได้บอก”
ภูหันไปมองลูกด้วยความสงสัย ก่อนจะได้คำตอบว่าสิ่งที่ลูกยืมไปนั่นคือหลอดเจลเจ้าปัญหาที่เขากับบอลหาทั่วห้องก็ไม่เจอนั่นเอง!
ถ้าเช่นนั้น กิจกรรมที่ลูกกับเจ้าหนุ่มนั่นทำในห้องเมื่อเย็นก็คงไม่ใช่แค่ดูหนังโป๊ด้วยกันแล้วล่ะ!
“เอ่อ พ่อว่าเขาไม่ใช่เจ้าสาวของลูกแล้วล่ะ ...อย่างนี้เขาเรียกว่าเมียแล้ว!”
“พ่อออออ!!!!!!!!” Happy Family Na XD
บอกอีกที... ว่าเรื่องนี้เป็นตอนสั้นๆต่อกันนะจ๊ะ
ติดตามตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้!