พิมพ์หน้านี้ - Bad Boy Mania

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: blackcoriander ที่ 08-02-2012 00:25:22

หัวข้อ: Bad Boy Mania
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 08-02-2012 00:25:22
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------



หวัดดีค่ะ Black Coriander ค่ะ :)

>>>ภาค 2 ลบไปแล้วนะค้าาา

นี่เป็นเรื่องยาวเรื่องแรกที่จะเอามาลงที่นี่
Bad Boy Mania *เป็นตอนสั้นๆต่อกัน* ตอนนี้เขียนจบแล้ว มีอยู่ในเด็กดีด้วยจ้า ถ้าใครเจอที่เด็กดีไม่ต้องตกใจ ถ้าเห็นชื่อ Black Coriander ก็ของเราเองแหล่ะ (แต่ถ้าไม่ใช่ รีบแจ้งด่วน!!!)

UPDATE 27/4/55
*พิมพ์เสร็จแล้วจ้า 200 บาท +ค่าจัดส่งไปรษณีย์ 30 บาท เลขบัญชีและรายละเอียดจะส่งให้ในเมล์จ้ะ ใครจะสั่งซื้อเพิ่มก็ส่งอีเมล์มาหาเรานะ blackcoriander แอด gmail.com*
พิมพ์ว่า จองBadboy Mania สั้นๆก็ได้จ้ะ

(http://fc05.deviantart.net/fs71/f/2012/118/8/3/badboy_mania___finish__by_asrdi001-d4xtyoe.jpg)


ข้อตกลงจ้ะ...
ห้ามCopyจ้ะ ขอร้อง!!!!

Black Coriander

 
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เรื่องอื่นๆในบอร์ดจ้า :
Bloody Equinox (เรื่องสั้น) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29781.msg1698915#msg1698915 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29781.msg1698915#msg1698915)
Cookie boy (Fiction of AD : K SME cookie) (เรื่องสั้น) http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29841.msg1706401#msg1706401 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=29841.msg1706401#msg1706401)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Bad Boy Mania
Black Coriander
"เมื่อมิคต้องกลายมาเป็นแฟนของนักเลงหัวไม้ที่เคยแกล้งตัวเองตั้งแต่ป.1 เรื่องวุ่นๆน่าปวดหัวเพราะไอ้แฟนจอมทึ่มนี่ก็ตามมาจนได้!"

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 08-02-2012 00:31:23
Chapter 1
He's my Bride



   เมื่อประตูเปิดออก หญิงสาววัยปลายยี่สิบเงยหน้าขึ้นมามองชายหนุ่มผู้หนึ่งด้วยสีหน้ายิ้มแย้มต้อนรับ

   “สวัสดีค่ะ ผู้ปกครองของน้องณุรึเปล่าคะ”

   “ครับ” บอลยิ้มรับ ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้นั่งลงตรงข้ามโต๊ะทำงานของเธอ พอครูประจำชั้นเห็นว่าเขานั่งลงแล้วก็เอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง

   “เอ่อ เห็นว่าคุณแม่น้องณุจะมาไม่ใช่เหรอคะ หรือว่าคุณแม่ติดธุระ...”

   “อ่อ เอ่อ เปล่าครับ นั่นน่ะผมเอง”

   ทั้งสองมองหน้ากันนิ่ง ถึงคนพูดจะดูกระอักกระอ่วนไม่น้อย แต่ท่าทางอย่างนี้คงจะไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ...

   “อ๋อ ฮะๆ แหม อะแฮ่ม เอ่อ โอเคค่ะ...” ครูประจำชั้นหัวเราะกลบเกลื่อนเสียงดัง “คือ เรื่องน้องณุน่ะค่ะ เห็นว่า น้องเค้าค่อนข้างจะเกเร”

   “อ้อ ใช่ครับ ไม่รู้จะกำราบยังไงเหมือนกัน”

   “ฮะๆๆ อ่ะค่ะ คือ อยากจะให้ช่วยตักเตือนน้องเค้าหน่อยนะคะ เรื่องที่ชอบแกล้งเพื่อน คือ ผู้ปกครองของน้องมิคก็ร้องเรียนมาเหมือนกันน่ะค่ะ ว่าน้องมิคโดนน้องณุแกล้งบ่อยมาก กลับบ้านก็ร้องไห้ทุกวันเลยค่ะ”

   “อ้อ” บอลอึ้งไป รู้สึกสะเทือนใจอยู่ไม่น้อยที่ลูกรักของตัวเองจะทำตัวเกเรได้ขนาดนี้ “ต้องขอโทษแทนลูกของผมด้วยนะครับ ผมจะดูแลสั่งสอนให้ดีกว่านี้”

   “อ่ะค่ะ งั้นฝากคุณพ่อ เอ๊ย... คุณ...แม่ ด้วยนะคะ”

   “ได้ครับ” ชายหนุ่มรับคำ ก่อนจะถามต่อ “เอ่อ ไม่ทราบว่า ที่แกล้งนี่ แกล้งยังไงเหรอครับ...?”


...................................................................


   “นี่แน่ะ!”

   สิ้นเสียงนั้น กางเกงขาสั้นสีขาวก็ถูกดึงลงมาจนถึงข้อเท้า ท่อนล่างที่เหลือแต่กางเกงในตัวน้อยก็ถูกเปิดเผยต่อหน้าประชาชี

   เสียงหัวเราะของเด็กผู้ชายวัยประถมกลุ่มใหญ่ระเบิดออกมาพร้อมเพรียงกัน ในขณะที่คนที่โดนดึงกางเกงกลับน้ำตารื้นจนอยากจะระเบิดร้องไห้ให้ดังยิ่งกว่า

   “แง เลิกแกล้งเราได้แล้ว”

   “ฮ่า ฮ่า ไม่มีทาง”

   และคนที่เป็นหัวโจกก็ดูท่าจะชอบใจยิ่งกว่าใคร ร่างตุ้ยนุ้ยของเด็กชายยืนค้ำอีกฝ่ายอย่างวางโต แถมยังไม่ยอมบอกให้ลูกน้องปล่อยกางเกงคืนให้ผู้โชคร้ายเสียอีก

   “ณุ นายมันนิสัยไม่ดี”

   เหยื่อของการแกล้งเริ่มสะอื้นฮักๆ มันเป็นวินาทีเดียวที่กับที่บอลมาเห็นการกลั่นแกล้งเข้าพอดี   เขาก็เลยได้เห็นว่า “มิค” ที่ครูประจำชั้นพูดถึงนี่หน้าตาเป็นอย่างไร ทั้งตัวเล็ก ผิวขาว น่ารัก ท่าทางน่าโดนแกล้งอย่างที่ครูว่าไว้จริงๆ

   “นี่นายว่าเราเหรอ เดี๋ยวถอดกางเกงในด้วยซะเลยนี่!”

   “แง ไม่เอา”

   “ทำไม นายไม่อยากโดนแกล้งอีกเหรอ มิค”

   “ใช่ ไม่เอาแล้ว”

   ณุกระหยิ่มยิ้มย่อง ก่อนจะประกาศออกมาอย่างไม่อายใคร

   “ถ้างั้น โตขึ้นนายต้องมาเป็นเจ้าสาวของเรา ตกลงมั้ย!”

   “เฮ้ย!” บอลสบถ ไม่คิดเลยว่าลูกของตัวเองจะอุตริคิดอะไรประหลาดๆออกมาได้พรรค์นี้

   “ณุอย่าโง่สิ ผู้ชายจะเป็นเจ้าสาวได้ยังไง” ลูกน้องในกลุ่มคนหนึ่งแทรกขึ้นมา

   “นายน่ะแหล่ะโง่ ทำไมจะไม่ได้ พ่อแม่เราเป็นผู้ชายเหมือนกันยังแต่งงานกันได้เลย!”

   บอลถลาเข้าไปเร็วยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ ก่อนจะตบหัวลูกชายเข้าไปเต็มมือ

   “ไอ้เด็กนี่! เที่ยวป่าวประกาศไปทั่ว!   ไป! กลับบ้านได้แล้ว”

   “แม่!!! เจ็บ!!!”

   ณุแหกปาก ก่อนจะเตะขาเขาเต็มแรงไปหนึ่งที

   “โอ๊ยยยย!!!” บอลใกล้ฟิวส์ขาด ก็เลยคว้าตัวเจ้าตุ้ยนุ้ยขึ้นพาดบ่าเสียให้เข็ด

   “ไม่เอา แม่ ปล่อย!!! ผมไม่กลับ”

   “น้าขอโทษแทนลูกน้าด้วยนะ เอ้า เอากางเกงคืนให้เขาได้แล้ว”

   พูดเสร็จบอลก็เดินกลับรถไปเสียดื้อๆในขณะที่ณุยังคงฟาดงวงฟาดงาไม่ยอมหยุด ก่อนจะตะโกนฝากไว้เป็นประโยคสุดท้าย “นี่! มิค จำไว้! นายต้องเป็นเจ้าสาวของเรานะ เข้าใจมั้ย!”


...................................................................


   กลิ่นหอมของแกงในหม้อลอยมาแตะจมูก   เครื่องผักเครื่องเนื้อลอยปุดๆตามฟองอากาศส่งกลิ่นเย้ายวน  แค่ทิ้งไว้อีกไม่นานก็คงจะได้ต้มยำมากินสมใจ

   “หอมจัง วันนี้มีอะไรกินน่ะ”

   ยังไม่ทันตั้งตัว แขนใหญ่ๆของใครบางคนก็เลื้อยมากอดเขาไว้จากข้างหลัง พลางเอาหน้าซุกลงกอด ทำให้เขาแทบสะดุ้ง

   “โอ๊ย ให้ซุ่มให้เสียงบ้างสิ! กลับมาเมื่อไรน่ะ”

   “กลับเมื่อกี๊นี้แหล่ะ” ว่าพลางชายที่ชื่อภูก็ปล่อยอ้อมแขนออก “นี่ ไอ้อ้วนหายไปไหนแล้ว กลับมายังไม่เห็นเลย”

   “คงเล่นเกมอยู่ในห้องล่ะมั้ง คงจะเซ็งวันนี้โดนดุไปเต็มที่แล้ว”

   “หืม? โดนดุเรื่องอะไร อ่อ วันนี้ครูประจำชั้นเรียกบอลไปพบใช่มั้ย ครูเขาว่าไงบ้างล่ะ”

   บอลคนแกงในหม้อสองสามทีก่อนจะตักขึ้นมาชิม “ครูเขาก็ว่าไอ้อ้วนมันเกเรน่ะสิ ชอบแกล้งเด็กคนอื่น จะทำเขาร้องไห้อยู่แล้ว”

   “แหม ไม่ต้องกังวลหรอก เขาว่ากันว่าเวลาเด็กผู้ชายแกล้งใครแปลว่าชอบคนนั้นไม่ใช่เหรอ”

   “ปัญหาก็คือเด็กที่โดนแกล้งเป็นผู้ชายน่ะสิ!  แถมไอ้อ้วนยังไปบอกเขาว่าโตขึ้นจะเอาเขามาเป็นเจ้าสาวให้ได้อีก”

   ภูหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ “ไม่เห็นเป็นไรเลย เป็นผู้ชายเหมือนกันแล้วมันผิดตรงไหน”

   ว่าแล้วชายหนุ่มก็ขโมยจูบคนรักไปหนึ่งที โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดนั้นแท้จริงแล้วไปถึงหูของเจ้าอ้วนที่กำลังแอบฟังอยู่อย่างไม่ได้ตั้งใจ

   ...เด็กผู้ชายแกล้งใครแปลว่าชอบคนนั้น งั้นเหรอ? ณุได้แต่จำคำนี้ไว้ในหัว ปล่อยให้มันวนเวียนอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งเดินออกจากประตูห้องครัวที่กำลังอบอวลด้วยกลิ่นไหม้ของแกงที่ลอยออกมาจางๆ...


...................................................................



 8 ปีผ่านไป...

   บัดนี้ เจ้าอ้วนตุ้ยนุ้ยก็ไม่ใช่เด็กป.1 อีกแล้ว แต่ณุก็ยังคงเป็นหัวหน้าแก๊งค์เด็กแสบเหมือนเดิม จะมีที่เปลี่ยนไปก็คือร่างกายที่เริ่มมาดแมนสมส่วน ความท้วมที่เคยมีก็มลายหายกลายเป็นกล้ามเนื้อไปเสียสิ้น

 8 ปีแล้วสินะจากวันสุดท้ายที่ได้เจอกับเด็กคนนั้น เด็กผู้ชายผิวขาวที่ทำหน้าชวนให้แกล้งอยู่ตลอดเวลา ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างนะ เพราะจากตอนที่จบป.1 มิคก็ต้องย้ายไปที่อื่นตามพ่อแม่ แล้วพวกเขาก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย

   ...จนกระทั่งวันนี้

   “วันนี้เรามีเพื่อนใหม่นะ ดูแลเพื่อนกันดีๆด้วยล่ะ”

   ไม่ผิดแน่ วินาทีแรกที่เขาเงยหน้าขึ้นมองเด็กนักเรียนที่เพิ่งย้ายมาใหม่คนนั้น จะเป็นใครอื่นนอกจากคนที่ไม่ได้เจอกันมา 8 ปีไม่ได้จริงๆ

   “มิคนี่”

   ณุพึมพำ ในขณะที่มองคนๆนั้นตาค้าง ...บัดนี้มิคกลายเป็นเด็กหนุ่มเต็มตัวแล้ว แม้ว่าแขนขาจะยาวขึ้นจนเก้งก้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาสูงเกินกว่าณุไปเท่าไรเลย   และที่เหมือนเดิมยังไม่เปลี่ยนไปเลยก็คือ หน้าตาที่ชวนให้แกล้งอยู่ตลอดเวลา กับผิวขาวที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อผ้านั้น

   อย่างนี้มันต้องทวนความจำกันซักหน่อยแล้ว!

   “เห้ย ไอ้เด็กใหม่”

   พอถึงเวลาพัก ณุก็เริ่มประกาศศักดาทันที   เพียงแค่พริบตา เขากับพรรคพวกก็เข้ามายืนล้อมโต๊ะของมิคจนไม่เหลือทางหนีใด

   “อะ...ไร มีเรื่องอะไรกับเราเหรอ”

   “นี่ รู้มั้ย เด็กที่ย้ายมาใหม่ต้องมีการรับน้องเว้ย ตอนเลิกเรียนไปเจอกันหลังตึกด้วย อย่าตุกติกนะ... เข้าใจมั้ย!”

   วินาทีนั้นมิคคงจะยังจำณุไม่ได้ ...แต่พอเมื่อตอนเย็นมาถึง การกระทำที่ซ้ำรอยอดีตก็พาให้เขานึกความทรงจำเก่าๆออกได้ลางๆ

   เพียงแค่ก้าวเข้าไปบริเวณหลังตึก พรรคพวกของณุที่คอยอยู่แล้วก็เข้ามารุมจับเขาไว้ไม่ให้หนีไปไหนได้   และพอเงยหน้าขึ้น เขาก็เจอเด็กหนุ่มหัวโจกมายืนค้ำหัวไว้อย่างเคย

   “เออ มานี่ตามคำสั่งก็ดีแล้ว ...ถ้างั้นก็เริ่มเลยละกัน ถอดเสื้อมันซะ”

   “เฮ้ย! อย่า”

   แต่แรงของคนๆเดียวก็ไม่อาจสู้แรงของเด็กหนุ่มอีกหลายคนได้   ยังไม่ทันได้ทำอะไรกระดุมเสื้อนักเรียนก็ถูกปลดลงทั้งแถว

   มิคยังคงขาว ...โดยเฉพาะผิวใต้เสื้อนั้นที่ขาวกว่าผิวข้างนอก มันชวนมองเสียจนณุต้องเผลอกลืนน้ำลาย

   “เห้ย ขาวว่ะ... พี่ณุ เอาไงต่อดี”

   พอได้ยินชื่อเรียกอย่างนั้น มิคก็นึกขึ้นได้ทันควัน

   “ณุ... แกนี่เอง!” เด็กหนุ่มตะโกนก้อง “แกมันคือไอ้อ้วนที่ชอบแกล้งเราตอนป.1ใช่มั้ย!”

   คนฟังได้ยินก็สะดุ้งเฮือก ไม่คาดคิดว่าตัวเองจะถูกจับได้ง่ายๆ แถมยังโดนแฉว่าเคยอ้วนเสียอีก!!!

   “เห้ย มึงว่าใครอ้วนวะ!   ถอดกางเกงมันออกเลย!”

   “ไม่เอา อย่าาาาาา!!!”

   แต่คำขอร้องก็ไม่เป็นผล เมื่อสุดท้ายเขาก็ไม่อาจสู้แรงเหล่าลูกน้องของณุที่ปลดกางเกงเขาออกง่ายๆได้  ในที่สุดกางเกงขาสั้นสีดำก็หลุดออกมากองอยู่กับพื้น เผยให้เห็นบ็อกเซอร์สีเข้มที่ตัดกับขาข้างในที่ขาวเสียยิ่งกว่า

   ตายห่าแล้ว ณุสบถอยู่ในใจ   ไม่รู้ว่าปีศาจตนใดดลบันดาลให้ใจเขาเผลอเต้นแรงขึ้นมาขนาดนี้  แถมไอ้ภาพชวนหวิวที่เห็นตรงหน้านั่นมันก็สั่งกระแสไฟฟ้าลงไปถึงณุน้อยโดยไม่ผ่านสมองเสียด้วยซ้ำ

   “ไอ้ณุ... มึงยังนิสัยเหี้ยเหมือนเดิมเลยจริงๆ!”

   พูดไปมิคก็ใกล้จะร้องไห้   ถ้าเป็นตอนเด็กๆเขาคงหัวเราะงอหายไปแล้ว พร้อมทั้งเยาะเย้ยว่าผู้ชายที่ไหนเขาขี้แยกันอย่างนี้ ...แต่ในวันนี้ น้ำตาที่กำลังใกล้จะไหลนั้นกลับทำให้อสูรร้ายในตัวเขาตื่นขึ้นมาคำรามว่าอยากขย้ำคนตรงหน้าให้สาแก่ใจ

   ไอ้เชี่ยเอ๊ย มันจะตื่นแล้ว!!!

   “เออ! วันนี้พอแค่นี้ก่อน กูจะกลับบ้านแล้ว”

   “อ้าว พี่ณุ เป็นไรป่าวพี่”

   “กูไม่เป็นไรน่ะ พอแล้ว ปล่อยมันไป ไว้พรุ่งนี้ค่อยต่อก็ได้”

   “ไอ้เหี้ยณุ พรุ่งนี้กูก็ไม่มาแล้วโว้ย!”

   สุดท้ายแล้วมิคก็ถูกทิ้งไว้กับกองเสื้อผ้าเสียอย่างนั้น ในขณะที่ณุรีบเร่งเดินจากไปพร้อมกับกระเป๋าที่เอามาบังกางเกงข้างหน้าไปตลอดทาง

   แต่มิคเองนั่นแหล่ะที่กลับไม่รู้เลยว่า …ทุกอย่างกำลังจะเริ่มต้นเท่านั้น



To be Continue...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: Pupay ที่ 08-02-2012 00:45:48
 :mc4:
มาติดตามเรื่องใหม่ค่า ณุนี่นิสัยไม่ไดีเลยอ่ะ ไปแกล้งอย่างั้นเค้าก็ยิ่งเกลียดสิจ๊ะ  :z3:
 :L2: ให้กำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-02-2012 01:12:12
มัวแต่แกล้งเขา แล้วจะญาติดีกันได้ยังไง
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: EVE910 ที่ 08-02-2012 06:16:26
 :เฮ้อ:

สงสารมิคจัง
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 08-02-2012 08:44:36
มิคอย่ายอมนะคับลูก แก้ผ้าไอ้นุกลับแมร่งเรย 555555
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: LYNN ที่ 08-02-2012 09:00:43
แว๊กกกกกกกกกกก!! มาเฝ้ารอ!! ><!!!
ตอนแรกก็ตั้งเลยหรอตาณุ 5555+ ไม่ไหวๆ
ตอนต่อๆไปคง.. เอิ้กส์
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 08-02-2012 10:49:01
มิคจะโดนถอดกางเกงอีกกี่วันนิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 08-02-2012 20:55:42
ดูแล้วยังไง ๆ มิคก็คงหนีณุไม่พ้น เล่นประกาศจะเอามิคเป็นเจ้าสาวตั้งแต่ ป.1 (แก่แดดนะเนี่ย... :-[ )
ปัญหา คือ ไปแกล้งตั้งแต่เล็กแต่น้อย โตมาเจอกันใหม่ก็ยังแกล้งต่อแบบนี้ ว่าที่เจ้าสาวเค้าไม่เกลียดณุเข้าไส้ไปแล้วเหรอ ?
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (1/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 08-02-2012 21:21:09
Shock!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 08-02-2012 22:29:46
He's my Bride (2/4)
Continue...




   ทั้งๆที่ปากก็บอกไปว่าพรุ่งนี้จะไม่มาแล้ว   แต่วันรุ่งขึ้นมิคก็โดนลากกลับมาที่เดิมอีกจนได้  ...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งพอรู้ตัวอีกทีก็ครบหนึ่งเดือนไปแล้วอย่างรวดเร็ว

   เขานี่คงจะบ้า ทั้งๆที่ถูกจับถอดเสื้อผ้าให้อับอายถึงขนาดนั้น    แต่ทำไมมันถึงตื่นเต้นทุกครั้งที่ถูกสายตาก้าวร้าวนั่นโลมเลียก็ไม่รู้...

   “เออดี ในฐานะที่วันนี้ก็ครบหนึ่งเดือนแล้วที่เราได้เห็นหมอนี่ถูกจับถอดเสื้อผ้า... เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะได้เห็นอะไรพิเศษ” ณุกระหยิ่มยิ้มย่องแบบที่ทำจนเคยตัว... ก่อนที่จะประกาศกร้าว  “วันนี้... เราจะถอดกางเกงในของมันด้วย!”

   “ไอ้เหี้ยยยย ไม่เอาโว้ย!!!”

   พรรคพวกหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ พร้อมที่จะเกี่ยวผ้าชิ้นน้อยออก แต่มิคก็รีบอุทธรณ์ออกมาพร้อมน้ำตาที่รื้นปริ่มได้ทันท่วงที

   “ณุ อย่าแกล้งกูอย่างนี้ กูไม่เอาจริงๆ! จะให้กูทำอะไรกูก็ยอม!”

   “เห้ย หยุด!”

   คำสั่งนั้นเหมือนประกาศิต เหล่าสาวกเมื่อได้ยินก็หยุดการกระทำในทันที

   ณุหยุดมองร่างขาวๆนั้นจากหัวจรดเท้า เขาเองก็คงจะบ้าพอกัน ที่ปล่อยให้ภาพกึ่งเปลือยของคนตรงหน้ามาทำให้ใจปั่นป่วน กระตุ้นอารมณ์ได้ทุกครั้งที่เห็น...

   อสูรร้ายกำลังคำรามโฮก ...มันต้องวันนี้แหล่ะ! ถ้าไม่ได้ขย้ำวันนี้เขาก็คงจะขาดใจ!

   “งั้นกูมีทางเลือกให้มึงสองทาง...” ณุกัดฟัน ฟังดูเหมือนกำลังสกัดเสียงคำราม “...มึงจะให้คนอื่นถอดต่อหน้าคนเป็นสิบแบบนี้   หรือมึงจะเลือกมาถอดที่ห้องกูแค่สองคน”

   “อะไรนะ...”

   “อ้าว ไม่ตอบอย่างนี้งั้นกูก็ให้ถอดที่นี่นะเว้ย”

   “เฮ้ยๆๆๆ ไม่เอาๆๆๆ!” มิคแทบร้องเสียงหลง ต่อให้ตายยังไงเขาจะไม่มีวันโป๊ทั้งตัวให้ประชาชีเห็นแน่ๆ “งั้นก็ช่วยไม่ได้ กูเลือกอีกอันก็ได้”

   “ฮะ อะไรนะ พูดให้เคลียร์หน่อยดิ๊”

   เท้ามิคมันคันยิบๆ อยากจะเตะก้านคอคนพูดมันซักทีสองที “ไอ้บ้า กู...ไปถอดที่ห้องมึงก็ได้”

   “เออ ฉลาด!” ณุฉีกยิ้ม รู้สึกว่าอสูรในตัวกำลังออกมาเต้นอย่างเริงร่า “เอ้า พวกมึงได้ยินแล้วนี่ ปล่อยไอ้หมอนี่ได้แล้ว”

   “เฮีย เอาจริงเหรอ”

   “เออ! ไม่ต้องพูดมากน่า เดี๋ยวกูตบเกรียนแตกเลยนี่”

   เด็กหนุ่มลูกน้องรีบหนีฝ่ามือลงทัณฑ์ ก่อนจะปล่อยเหยื่อผู้โชคร้ายให้เป็นอิสระไป

   “ไป พวกมึงกลับบ้านได้แล้ว” ณุไล่ ก่อนจะหันมาหามิคอีกครั้ง “...ส่วนมึง มากับกู”


...................................................................


   เส้นทางกลับบ้านณุที่จริงก็ไม่ได้ไกลมากนัก แต่มิคก็ต้องโดนบังคับให้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ ซึ่งณุก็ขับซิ่งซะจนเขาต้องดึงเสื้อข้างหลังมันเอาไว้ซะแน่น กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางเด็กหนุ่มก็หลงนึกว่าตัวเองจะสิ้นชีพคาถนนไปแล้ว

   เปิดประตูเข้าไปในบ้าน ทั้งบ้านเงียบสนิท ห้องนอนของเด็กหนุ่มก็นั้นว่างเปล่า ทั้งๆที่มิคก็ทำใจมาตลอดทางแล้ว แต่ทันทีที่ประตูห้องปิดลงล็อกกลอน พลันเขาก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมาจนขนลุก

   หรือว่านี่เขาจะคิดผิด?

   “ณุ เมื่อกี๊มึงคงไม่ได้พูดจริงใช่ป่ะ”

   “นี่ มึงคิดว่ากูพูดเล่นเหรอ ไม่มีทาง!”

   นั่นไง คิดผิดจริงๆด้วย!

   “แต่มึงไม่ต้องห่วงหรอก วันนี้พ่อแม่กูไม่อยู่ คงจะกลับซักค่ำๆ จะเสียงดังเท่าไรก็ได้”

   เห้ย! ไอ้บ้านี่คิดอะไรของมันอยู่วะ

   “เอ้า รออะไรอยู่วะ ถอดเสื้อออกดิ”

   เด็กหนุ่มถอนหายใจเฮือก แม้จะไม่อยากแต่ก็เริ่มทำใจขึ้นมาได้บ้าง เพราะว่าแค่เรื่องถอดเสื้อผ้าเขาก็โดนจับถอดมาหลายรอบแล้ว และอีกะแค่ถอดกางเกงในเพิ่มอย่างเดียว อะไรๆก็คงไม่ได้ยากเย็นนักหนา...   คิดซะว่าต้องอาบน้ำรวมซะก็ได้ จะได้ไม่ต้องอายอย่างที่คิดไว้

   ด้วยมืออันสั่นเทา   เสื้อนักเรียนก็ค่อยๆไหลลงไปกองอยู่กับพื้น ...ตามด้วยเข็มขัด และกางเกงขาสั้น  แต่พอเขากำลังจะถอดชิ้นสุดท้ายออกตามคำสั่ง เด็กหนุ่มที่นั่งมองอยู่นานแล้วก็ดันลุกขึ้นมาห้าม

   “เห้ย อันสุดท้ายนี่ไม่ต้อง เดี๋ยวกูจัดการเอง”

   “หา?”

   “ก็ได้ยินแล้วนี่ มึงลงไปนอนกับเตียงไป”

   มิคหนาวสันหลังวาบ ไอ้บ้านี่คิดจะทำอะไรอุตริกับเขาอีกก็ไม่รู้ ...แต่จะให้ต่อต้านอย่างไรได้ ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็แค่หลับตาทำๆตามที่มันสั่งไปมันก็คงจะจบเอง

   แต่มันก็ไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้น...

   เพียงแค่แผ่นหลังเขาเอนลงกระทบแผ่นฟูก ณุก็คลานตามขึ้นเตียงมาพร้อมกับเข็มขัดที่เพิ่งลงไปกองอยู่กับพื้น  เพราะฉะนั้นจะให้หนีตอนนี้ยังไงก็ไม่ทันแล้วแน่ๆ

   “เห้ย มึงจะทำอะไร”

   “อยู่นิ่งๆน่ะ ...แค่มัดไว้เท่านั้นแหล่ะ”

   “อะไรนะ!”

   มิคร้องเสียงหลง ไม่น่าเชื่อว่าแค่แรงของณุคนเดียวเขาก็ยังต้านทานไม่ได้   ไม่ทันขาดคำเจ้าของบ้านก็คว้าข้อมือของเขารวบไว้ด้วยกัน ก่อนจะใช้เข็มขัดมัดรวบผูกติดไว้กับหัวเตียงอย่างรวดเร็ว

   “ณุ มึงบ้าไปแล้ว จะทำอะไรกับกูวะ”

   “ชู่... เงียบน่ะ”

   สายตาร้อนผ่าวกำลังไล้โลมเขาไปทั่วร่างเขา ณุมองอย่างนั้นอยู่นานก่อนจะใช้ปลายนิ้วสัมผัสไล้เร้าตามไปด้วยเช่นกัน

   “อา...”

   มิคอยากจะบ้า! นี่เขาทำเสียงอะไรออกไป   แค่โดนมือสากๆลากผ่านเพียงแค่นิดเดียวก็เหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเอาได้เสียแล้ว  แล้วนับประสาอะไรกับเมื่อณุก้มลงจูบตรงต้นคอเขา นั่นยิ่งกว่าโดนช็อคหลายร้อยโวลต์เสียอีก

   “ณุ มึง...”

   แต่มาถึงขั้นนี้แล้วใครมันจะอดใจไหว   ผิวขาวๆที่ล่อหน้าล่อตาเด็กหนุ่มมาหลายวันมันเชื้อเชิญให้เขาจับจองเป็นเจ้าของอย่างช่วยไม่ได้   ทั้งขาวทั้งเนียนนุ่มขนาดนี้ ยิ่งได้ไล้ลิ้นจูบสำรวจไปทั่วมันก็ยิ่งยากที่จะห้ามใจ ...แล้วยังเสียงร้องของไอ้หมอนี่ มันเซ็กซี่ยิ่งกว่านางเอกหนังAVซะอีก!!!

   ยังไม่ทันขาดคำมิคก็ร้องเสียงหลงอีกครั้ง แค่เขาจูบโดนยอดอกนิดเดียวตัวก็สั่น   ทำให้ณุยิ่งได้ใจ หยอกล้อแกล้งอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหนเสียที

   “ณุ พอแล้ว ถ้ามึงทำมากกว่านี้...”

   “ทำไม? มึงจะแข็งงั้นเหรอ?”

   พูดออกมาได้ไม่อายปาก  แต่คนฟังดันอายแทนจนเบือนหน้าแทบจะซุกหมอน  เหตุเพราะว่ามันเป็นความจริงน่ะสิ! เขาถึงไม่อยากให้อีกฝ่ายหยุดทำแล้วหันมาจ้องส่วนนั้นแทบจะเป็นจะตายอย่างนี้

   หารู้ไม่... อสูรร้ายกำลังคำรามดังกว่าที่เคย

   ไม่ให้ทันรู้ตัว ณุเอื้อมมือลงไปลูบผ่านเนื้อผ้า พาให้เสียงร้องครางสูงยิ่งกว่าเก่า   เด็กหนุ่มเลยตบะแตก กระชากผ้าชิ้นสุดท้ายออกอย่างไร้ปรานี   เพื่อจะได้ยินยลสิ่งที่อยู่ใต้เนื้อผ้านั่นให้ชัดๆสักครั้ง

   “ไอ้เหี้ย... อย่า มอง...”

   “เออ กูไม่มองหรอก ...กูจะทำอย่างอื่น”

   สองมือจับขาเขาแยกออกให้ยิ่งเห็นชัดๆ ความอับอายแล่นพล่านจนน้ำตาจะไหล  แต่นั่นก็ยังไม่เทียบกับการที่อยู่ดีๆริมฝีปากที่เพิ่งไล้ชิมไปทั่วร่าง กลับมาครอบครองสิ่งที่อยู่ตรงหน้านี้แทน

   มิคกรีดร้อง ยิ่งสัมผัสหนักหน่วงเท่าไรเขาก็แทบคลั่งมากขึ้นเท่านั้น ทั้งชิมรสไปทั่วทุกส่วน ทั้งดูดรั้งสร้างจังหวะทำให้เขาจะบ้าตาย

   สมองว่างเปล่ามึนงงคิดอะไรไม่ทัน ปล่อยให้ร่างกายระเริงไปกับสัมผัสนั้นจนแทบลืมไปว่ามันก็สิ้นสุดลงได้   ...ราวกับร่างลอยสูงขึ้น สูงขึ้น   จนกระทั่งปลายเท้าเผลอจิกเกร็ง  ไม่ทันได้เอ่ยเตือนอะไร ร่างกายก็เผลอปลดปล่อยทุกความรู้สึกจนหมดสิ้น

   นี่เขาทำอะไรลงไป? ...ครั้งแรกของเขาต้องเสียให้คนๆนี้ไปแล้วงั้นหรือ!

   “ทำอย่างนี้สะใจมึงมากใช่มั้ย” เด็กหนุ่มน้ำตารื้น “พอใจรึยังล่ะ ...หา!”

   ณุเงยหน้า พลางปาดสิ่งที่หลงเหลืออยู่ออกจากปากอย่างไม่อาลัยอาวรณ์

   “ยัง...”

   ด้วยคำพูดสั้นๆ มิคก็รู้ชะตาแล้วว่านี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น!!!





To be Continue....

เริ่มจะเรทขึ้นเรื่อยๆเว๊ยยย =.,=
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: manU007 ที่ 08-02-2012 22:42:10
 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 08-02-2012 22:42:49
^

^

^

อ้ากกกก จิ้ม
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 08-02-2012 23:12:36
ณุแกไม่คิดจะจีบเขาก่อนเลยเหรอ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 08-02-2012 23:24:56
ณุเร็วไปมั้ยเนี่ยยยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: BaII ที่ 09-02-2012 00:22:23
ไวไฟกันจังเลย ม.2 อยู่เลยนะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 09-02-2012 07:19:50
@BaII

ที่จริงไอ้พวกนี้อยู่ม.4 แหล่ะ....
หรือว่าเราจะนับเลขผิด... สงสัยคงต้องเป็น 9 ปีล่ะ :)
ขออภัย อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (2/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 09-02-2012 15:47:43
ณุ...ใจคอจะจับมิคปล้ำแบบไม่ถามความสมัครใจเค้าจริง ๆ เหรอ ?
ทำตัวเป็นพระเอกละครหลังข่าวมากเลยนะ ( ปล้ำก่อนแล้วค่อยเคลียร์ ท้องก่อนแล้วค่อยลงเอย )
แต่อย่างว่า มิคมีแววว่าจะไม่รอดมือณุตั้งแต่ตกลงใจมาถอดเสื้อที่ห้องสองต่อสองแล้วล่ะ  :m29:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (3/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 09-02-2012 23:30:44
He's my Bride (3/4)
Continue...

*คำเตือน อยู่ดีๆก็หื่น โธ่... เสร็จมัน :m25:*




   ยัง... ทำให้เขาอับอายขนาดนั้นมันยังไม่พอ... ณุผละออกไปหยิบของที่ลิ้นชัก ก่อนจะกลับมาอวดให้ดูอย่างภาคภูมิใจ

   “กูอยากลองใช้มานานแล้ว ไปขโมยจากห้องพ่อมา”

   ว่าพลางก็หัวเราะหึๆกับตัวเอง แต่ว่ามิคกลับพูดไม่ออกเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ณุหยิบมานั้น... คือหลอดเจล

   นี่... อย่าบอกนะว่า...!

   คิดยังไม่ทันจบประโยค ณุก็ทำสิ่งที่เขาคิดไว้จริงๆ!   ...สัมผัสเย็นๆของของเหลวแปลกปลอมที่รุกรานเข้ามาทำให้เขาสั่นไปทั้งร่าง ไม่รู้ว่าจะต้องยอมโดนทำให้อับอายไปอีกนานแค่ไหน

   “เป็นไง รู้สึกไงบ้าง”

   “ไอ้เหี้ย! ถ้าอยากรู้ก็ลองเองสิ!”

   ณุหัวเราะร่า ท่าทางจะสะใจ “แต่มึงก็ไม่ได้รังเกียจนี่นา นี่แค่นิ้วกูมึงยังตอบรับขนาดนี้ ...แล้วถ้าเป็น อย่างอื่น มันจะขนาดไหน?”

   มิคร้อนไปทั้งหน้าจนอยากจะถีบมันสักเปรี้ยง แต่ก็ไม่อาจทำอะไรได้เพราะทั้งแขนก็โดนเข็มขัดรัดไว้ ส่วนสองขาก็ยังถูกจับแยกไม่อาจต่อต้านได้ดั่งใจ

   น่าแปลก ที่ยิ่งถูกรุกรานเท่าไรความอึดอัดถึงกลายเป็นความรู้สึกดีมากขึ้นเท่านั้น  จนในไม่ช้าร่างกายก็เริ่มร้อนผ่าว อารมณ์ที่เพิ่งปลดปล่อยไปเมื่อครู่ก็เริ่มก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง

   นี่เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ ทั้งๆที่ถูกทำอะไรพิเรนท์ขนาดนี้ทำไมกลับถึงต้องการอะไรที่มากกว่าเดิม!

   จู่ๆปลายนิ้วก็กระชากถอนออกไป ทำเขาสะดุ้งเฮือก ...แทบไม่กล้ามองภาพตรงหน้า ว่าอีกฝ่ายกำลังรีบถอดเข็มขัดตัวเองออกขว้างอย่างไม่ใยดี

   “นี่กูก็อดทนแล้วนะ... แต่ขอโทษว่ะ มันไม่ไหวแล้วจริงๆ”

   ซิปกางเกงรูดลงจนสุด ตามด้วยบ็อกเซอร์ที่ถูกดึงรั้งลงมา เผยให้เห็นอะไรข้างในที่กำลังผงาดง้ำเป็นสัญญาณอันตราย

   ฉิบหายแล้ว ...ชีวิตหนุ่มพรหมจรรย์ของเขาต้องจบลงวันนี้แน่ๆ!

   “ณุ... อย่า...”

   อสูรร้ายคำรามก้อง ไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น ...แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เลยเถิดขนาดนี้  แต่ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าให้เขาถอยหลังกลับคงได้ขาดใจตาย! 

   “มึงอย่าเกร็งนะ...”

   เด็กหนุ่มกรีดร้องออกมาเป็นคำตอบ เมื่อในที่สุดณุก็ทำมันลงไปจนได้  ...ความอึดอัดแผ่ซ่านไปทั่วสะโพกจนน้ำตาไหล  รู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีถูกขโมยไปย่ำยีเสียจนไม่เหลือชิ้นดี

   จะตะโกนร้องให้หยุดเท่าไรก็ไม่เป็นผล ในเมื่ออีกฝ่ายยังฝืนดึงดันเข้ามาเรื่อยๆ บัดนี้น้ำตาของเขามันอุทธรณ์อะไรไม่ได้อีกแล้ว เพราะสุดท้ายเขาก็ต้องยอมเสียร่างกายให้คนตรงหน้าไปจริงๆ

   ณุหยุดหายใจหอบ นิ่งค้างไว้อย่างนั้นเมื่อมาถึงสุดทาง ...ใครจะไปนึกว่าไอ้เด็กอ้วนที่เคยแกล้งตัวเองตอนป.1 สุดท้ายจะมาลงเอยกับเขาด้วยฉากนี้

   คิดจะแกล้งกันไปอีกนานแค่ไหน!

   “ณุ... มึงแค้นอะไรกูนักหนาวะ ถึงมาทำกับกูอย่างนี้” น้ำตาหยดหนึ่งกลิ้งลงไปบนหมอน แทรกด้วยเสียงสะอื้นแห่งความแค้นใจ “ถ้ามึงเกลียดกูนักก็ต่อยกูเลยสิ! จะซ้อมกูเท่าไรก็ได้! แล้วก็เลิกยุ่งกับชีวิตกูซักที!!!”

   เสียงด่าทอนั้นเหมือนดั่งสายฟ้า ผ่าลงกลางหัวใจที่แข็งกร้าวเสียจนเจ็บแปลบ ไม่รู้ทำไมว่าคำตัดพ้อนั้นถึงทำให้เขารู้สึกเสียใจได้ขนาดนี้

   เขารู้ดีแก่ใจว่าตัวเองไม่ได้โกรธเกลียดอะไรคนๆนี้เลย ...ก็แค่เห็นแล้วรู้สึกอยากแกล้งเฉยๆ แต่พอมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้  มันก็คงไม่ใช่ความเป็นอริแล้วที่ทำให้เขารู้สึกอยากใกล้ชิดกันยิ่งกว่าเดิม

   แน่นอนว่าณุเองก็ไม่เคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้   แต่ถ้าจะให้ค้นหาคำตอบแล้ว มันก็คงมีประโยคเดียวที่ใกล้เคียงที่สุดเท่าที่เขาจะพอทำความเข้าใจ

   ...มันคือประโยคของพ่อที่เขายังจำได้จนถึงทุกวันนี้

   “ไอ้โง่ ...ไม่เคยได้ยินหรือไงว่า เวลาเด็กผู้ชายแกล้งใคร ...มันแปลว่าชอบคนคนนั้น”

   ณุช็อค มิคช็อค... อยู่ดีๆความเขินก็พุ่งเข้าจู่โจมขั้นรุนแรง

   เมื่อกี๊... เรียกว่าสารภาพรักรึเปล่าวะ?

   เพิ่งมารู้ใจตัวเองก็ตอนที่เผลอสารภาพออกไปแล้ว ทุเรศสิ้นดี!!!

   “งั้นถ้าแกล้งมากๆ ก็ต้องแปลว่าชอบมากๆด้วยสินะ”

   มิคถาม พยายามสบตาอีกฝ่ายอีกครั้ง แต่ณุก็ยังไม่มองหน้าเขาอยู่ร่ำไป

   “เออ คงใช่มั้ง”

   “และถ้าแกล้งมาตั้งแต่ป.1 ก็ต้องแปลว่าชอบมาตั้งแต่ป.1 ด้วยใช่มั้ย”

   “เออ ...เห้ย อันนั้นไม่รู้โว้ย พอแล้ว ไม่ต้องถามได้มั้ย!”

   เป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มเห็นเจ้าอ้วนมันเขินขนาดนี้ อยู่ๆความแค้นที่อัดอั้นอยู่ในใจมันก็หนีหายไปเสียสิ้น กลายเป็นนึกเอ็นดูขึ้นมาครามครัน

   โธ่เอ๊ย! แล้วไม่บอกเสียตั้งแต่แรก เขาก็จะได้รู้ใจตัวเองเหมือนกัน

   “กูไม่ถามแล้วก็ได้ แต่มึงช่วยเอาเข็มขัดออกก่อนได้มั้ย”

   ณุเหลือบมองเส้นหนังที่รัดรวบข้อมือของอีกคนอยู่ ก่อนจะเอ่ยถาม “ทำไมวะ”

   “กูไม่หนีมึงหรอกณุ ...กูยอมให้มึงแกล้งกูได้คนเดียว มึงยังไม่รู้อีกเหรอ”

   คราวนี้เจ้าอ้วนมองตาเขานิ่ง ท่าทางจะอึ้งไปกับความหมายแฝงที่เขาแอบสารภาพไปเหมือนกัน

   “มึง... ไม่รังเกียจเหรอ”

   “ไม่หรอก ...กูไม่รังเกียจหรอกถ้าเป็นมึง”

   ณุเงียบ วินาทีนั้นมีอะไรบางอย่างดลใจให้เขาโน้มหน้าเข้าหา อยู่ๆก็นึกอยากทะนุถนอมคนตรงหน้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น...

   และแล้วริมฝีปากก็สัมผัสกันเพียงบางเบา แต่หัวใจเหมือนจะล้นออกมานอกอก ...เขินก็เขินจนแทบจะดิ้นตาย

   “ณุ แกะให้หน่อยนะ”

   อยู่ดีๆเจ้าอ้วนจอมเกเรก็กลายเป็นลูกแมวเชื่องที่ยอมทำตามคำสั่งไปเสียง่ายๆ   เข็มขัดที่รัดไว้ตั้งแต่แรกสุดท้ายก็ถูกแก้โยนทิ้งลงพื้นห้องไป

   “สรุป... กูทำได้จริงๆใช่มั้ย”

   “มึงก็ทำแม่งซะขนาดนี้แล้วยังต้องขออีกเหรอ”

   “เอ่อ กูขอโทษ”

   “เออน่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว”

   ว่าแล้วสองแขนที่เพิ่งได้รับอิสระก็ยกขึ้นโอบล้อมรอบคอ ดึงหน้าให้อีกฝ่ายจมลงในรสจูบอีกครั้ง ก่อนที่ร่างกายเบื้องล่างจะค่อยๆขยับ ชักนำให้เสียงครางเย้ายวนดังขึ้นอีกครา...



To be Continue...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (3/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 10-02-2012 00:05:02
“ไอ้โง่ ...ไม่เคยได้ยินหรือไงว่า เวลาเด็กผู้ชายแกล้งใคร ...มันแปลว่าชอบคนคนนั้น”

ณุช็อค มิคช็อค คนอ่านก็ช็อค o22
โอ้... มันช่างเป็นการสารภาพรักที่ "ซึน" ที่สุดในสามโลกเลย   :o8:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (3/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-02-2012 00:20:09
ชอคเหมือนกานนน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 10-02-2012 11:33:35
He's my Bride (4/4)
Continue...




   ไม่นานนัก ประตูหน้าบ้านก็เปิดออก

   ชายหนุ่มสองคนเดินตามกันเข้ามา ปลดภาระที่เหนื่อยยากมาทั้งวันทิ้ง แม้วันนี้จะไม่ได้กลับค่ำตามแผนที่วางไว้ แต่คิดว่าเจ้าลูกชายสุดที่รักก็คงไม่ว่าอะไรกับเรื่องนี้แน่

   ...แต่พวกเขาคงจะคิดผิด

   เพียงเดินเข้ามาได้ไม่กี่ก้าว เสียงประหลาดที่ดังมาจากบนชั้นสองทำให้พวกเขาต้องหยุดกึก

   “เฮ้ยภู... ได้ยินเสียงอะไรมั้ย”

   “หือ เสียงอะไร”

   “เนี่ย...” บอลชี้ “...ไม่ได้ยินเหรอ ขโมยรึเปล่า”

   “บ้าน่า” ภูเงี่ยหูฟังตาม “ไอ้อ้วนกลับมาบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ คงทำอะไรเสียงดังอยู่ในห้องล่ะมั้ง”

   “ไม่เอาน่า ขึ้นไปดูเหอะ”

   ว่าแล้วผู้ปกครองทั้งสองก็ค่อยๆไต่บันไดขึ้นไปสำรวจต้นตอของเสียงประหลาดนั้น  แน่นอนว่ายิ่งเข้าใกล้ห้องนอนของลูกมากขึ้นเท่าไร เสียงที่ได้ยินก็ชัดเจนขึ้นเท่านั้น

   และแล้วพวกเขาก็ได้คำตอบ ...มันคือหนังสดไม่ผิดแน่!!!

   “ภู หรือว่า...”

   “คิดมากน่า ไอ้อ้วนอยู่แค่ม.4เอง”

   บอลตบแขนคนรักเบาๆ “ทีตอนนั้นเราก็อยู่ม.6 เหมือนกัน”

   “เออว่ะ” ภูเหลือบตาขึ้นนึกย้อนความหลัง “แต่ไม่แน่ เราอาจจะคิดมากไปเองก็ได้”

   “จะแค่คิดมากได้ไง ...มันออกจะชัดขนาดนี้”

   ทั้งสองเงี่ยหูฟังแนบประตู ...ยิ่งได้ยินก็ยิ่งคิดเป็นอื่นไปไม่ได้จริงๆ

   “ถามลูกไปเหอะ ถ้าไม่ใช่จริงๆจะได้รู้กันไปเลย”

   ภูถอนหายใจเหนื่อย สุดท้ายเขาก็ทนแรงรบเร้านั้นไม่ไหว ...จึงตัดสินใจอัดลมเข้าปอด ตะโกนถามเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอด...

 “ณุ! ทำอะไรอยู่น่ะ”




   ลูกชายสะดุ้ง มิคก็สะดุ้ง การกระทำทุกอย่างหยุดชะงัก ตกใจเสียจนทำอะไรไม่ถูกไปหลายวินาที

   ...อยู่ดีๆพ่อแม่ก็กลับมาเร็วซะงั้น!

   เหงื่อของเด็กหนุ่มหยดลงมาช้าๆ เนื้อตัวเย็นเฉียบ สายตาล็อกแล็กไม่รู้จะหาข้อแก้ตัวว่าอะไร นี่ถ้าถูกจับได้ก็คงจะซวยไปอีกยาวแน่ๆ

   พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นกองซีดีหนังโป๊ที่วางกองอยู่ข้างๆคอม ชั่ววูบนั้นเขาก็คิดข้อแก้ตัวขึ้นมาได้ทันควัน

 “ขอโทษคร้าบบบ   เปิดหนังโป๊อยู่คร้าบบบ!!!”
   



   เสียงตะโกนของลูกดังออกมาจากในห้อง พอได้ยินอย่างนั้นคนเป็นพ่อแม่ก็ถึงกับโล่งอก

   “เห็นรึป่าว บอกแล้วว่าไม่มีอะไร” คนพ่อว่า

   “อืม ไม่มีอะไรก็ดีแล้ว”

 “งั้นก็ให้มันเบาๆหน่อย! รบกวนชาวบ้านเขา!”

   พอตะโกนกลับไปอีกรอบแล้วก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา ทั้งคู่ก็สบายใจว่าผ่านปัญหาไปได้อีกครั้ง...

   “เดี๋ยวภูจะอาบน้ำก่อนรึเปล่า หรือว่าจะกินข้าวก่อน”

   พูดยังไม่ทันจบ แขนแกร่งก็เลื้อยมาโอบรอบตัวเขาจากข้างหลัง   ยังไม่ทันได้ตั้งตัวอะไร เสียงแหบพร่าก็กระซิบปร่าอยู่ข้างหู

   “งั้นกินอย่างอื่นก่อนได้มั้ย”

   บอลร้อนๆขึ้นมาที่หน้า อยู่ๆก็พูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาทั้งๆที่ไม่ได้ทำกันมานาน ใจมันก็เต้นขึ้นมาได้ไม่น้อย

   “ไม่เอาน่า จะเวลาข้าวเย็นแล้ว”

   “น่า นะ นะ แป๊บเดียวก็ได้นะ”

   เสียงอ้อนๆอย่างนี้มาอีกแล้ว ฟังกี่ทีก็เผลอใจอ่อนอยู่ร่ำไป

   “ก... ก็ได้”

   “เย้! รักนะคร้าบบบ”

   “ไม่เอา... พอแล้ว”
   



   แม้ว่าเสียงหยอกล้อของพ่อกับแม่จะลับหายไปจากหน้าห้อง ณุก็ยังคงหายใจไม่ทั่วท้อง ลมหายใจยังคงหอบ สายตายังตะลึงค้าง  ...จนกระทั่งต้องมีสองมือของอีกคนเอื้อมมาประคองหน้าไว้ สติถึงจะได้กลับคืนมา

   “ณุ ...ต่อเถอะ” มิคจ้องลงไปในแววตาคู่นั้น “ต่อเถอะนะ  กูจะไม่ร้องก็ได้นะ”

   “เออ ไม่เป็นไร” ณุหายใจลึกๆ กลบความจริงที่ว่ายังคงใจหายใจคว่ำ “จะร้องเบาๆก็ได้ ให้กูได้ยินคนเดียวแล้วกัน”

   มิคแอบยิ้มอยู่คนเดียว พร้อมๆกับที่อีกฝ่ายช้อนตัวเขาให้ขึ้นมานั่ง ...ยิ่งทำให้รู้สึกใกล้ชิดยิ่งกว่าเดิม

   “งั้นมึงก็ต้องทำกับกูคนเดียวนะ”

   “คร้าบบบบ แน่นอนอยู่แล้วคร้าบบบ”

   ว่าแล้วก็แอบหอมแก้มคนผิวขาวไปหนึ่งที ก่อนจะสบตากันอยู่อย่างนั้น

   มันต้องมีอะไรแน่ๆที่ทำให้เขาไม่ลืมคนๆนี้มา 8 ปี... และมันต้องมีอะไรซักอย่าง ที่ดลบันดาลพาให้พวกเขามาเจอกันอีกครั้ง

   และที่แน่นอนที่สุด มันต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้พวกเขาบังเอิญมาใจตรงกัน ในวันนี้ เวลานี้ และในอ้อมกอดของกันและกันอย่างนี้...

   มิคขยับร่างบดเบียดแนบชิด ค่อยๆดึงรั้งสร้างจังหวะขึ้นมาอีกครั้ง ในขณะที่อีกฝ่ายกระชับอ้อมกอดเข้ามาแน่น พลางโน้มหน้าเข้าไปปิดปากไม่ให้เสียงใดหลุดรอดออกมา

   ในที่สุดคำป่าวประกาศของณุก็เป็นจริงแล้ว ...เพราะว่าสุดท้าย คนในอ้อมกอดของเขาก็ไม่ใช่ใคร แต่เป็นคนคนนี้

   ...เป็นเจ้าสาวที่เขาตามหามานานแสนนาน


...................................................................


   อาหารจานสุดท้ายถูกวางลงบนโต๊ะ ผู้เป็นพ่อเลื่อนเก้าอี้นั่งพลางสูดกลิ่นหอมกรุ่น

   “เอ้อ ...ตกลงแล้วมันหายไปไหนนะ หาทั่วห้องแล้วยังไม่เจอเลย”

   “เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก” บอลถอดถุงมือร้อนออกวางที่เคาน์เตอร์ พูดเหมือนกับไม่เห็นเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร “ไม่มีใช้ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย”

   “งั้นเหรอ” ชายร่างใหญ่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “งั้นคืนนี้แถมให้อีกได้มั้ย”

   “บ้า ไม่เอาแล้ว”

   “แม่! มีไรกินบ้าง”

   เสียงของลูกชายทักมาจากบันไดก่อนตัวจะมาถึงเสียอีก พ่อกับแม่ก็เลยต้องรีบทำตัวกลบเกลื่อนบทสนทนาเมื่อครู่อย่างรวดเร็ว

   “มีของโปรดของแกด้วย มากินเร็ว”

   “เยี่ยม!” ณุร้องเริงร่า “เอ้อ วันนี้มีเพื่อนมากินข้าวเย็นด้วยนะ”

   ภูเงยหน้าขึ้นมา เห็นเพื่อนของลูกคนที่ว่ากำลังยกมือไหว้ทักทายอยู่พอดี

   “อ่ะ หวัดดีลูก ...อ๋อ นี่ พาเพื่อนมาดูหนังโป๊ด้วยกันสินะ”

   “พ่อ!” ลูกชายแหกปาก แต่ยังไม่ทันทำอะไรพ่อก็หัวเราะร่า

   “แหม ดีออก กิจกรรมตามประสาลูกผู้ชาย ใช่มั้ยล่ะ? ก็ดีกว่าออกไปหาประสบการณ์ข้างนอกนั่น แหล่ะน่า”

   พูดเสร็จก็โดนคนรักตบแขนเป็นการบอกให้เงียบไปหนึ่งที “จะไปแซวเพื่อนลูกทำไม เอ้า มากินได้แล้ว เดี๋ยวเย็นหมด”

   ในที่สุดทุกคนก็นั่งลงรอบโต๊ะอาหาร ในขณะที่บอลกำลังคิดใคร่ครวญว่าใบหน้าของเพื่อนลูกคนนี้ ดูคลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าเคยเห็นที่ไหน...

   “เออ พ่อฮะ แม่ฮะ จำได้รึเปล่าที่ตอนเด็กๆผมเคยบอกว่าผมจะเอาคนๆนึงมาเป็นเจ้าสาวให้ได้”

   อยู่ดีๆคำพูดที่ไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้นก็ทำให้ทุกคนต้องหยุดกินจนอ้าปากค้าง ก่อนจะหันมามองคนพูดอย่างไม่เชื่อหู

   ณุหันไปหาเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ ว่าพลางก็กอดคอกระชับเข้ามาใกล้พร้อมกับกระหยิ่มยิ้มย่อง แล้วจึงตัดสินใจป่าวประกาศออกมาอีกครั้ง

 “คนๆนี้แหล่ะครับ เจ้าสาวของผม!”

End
                                    








   เสียงทีวีเปิดช่องแข่งรถค้างไว้  นี่ก็ค่ำแล้ว เพื่อนของลูกก็กลับบ้านไปเรียบร้อย ในขณะที่ภูก็ยังคิดใคร่ครวญถึงเรื่องเมื่อเย็นอยู่ไม่สร่าง

   ...เลี้ยงดูมา 10 ปี ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายลูกชายของตนจะเดินตามรอยเท้าตนเข้าจนได้!

   “เออ พ่อ ผมเอามาคืน ...ขอโทษนะที่ยืมไปแล้วไม่ได้บอก”

   ภูหันไปมองลูกด้วยความสงสัย ก่อนจะได้คำตอบว่าสิ่งที่ลูกยืมไปนั่นคือหลอดเจลเจ้าปัญหาที่เขากับบอลหาทั่วห้องก็ไม่เจอนั่นเอง!

   ถ้าเช่นนั้น  กิจกรรมที่ลูกกับเจ้าหนุ่มนั่นทำในห้องเมื่อเย็นก็คงไม่ใช่แค่ดูหนังโป๊ด้วยกันแล้วล่ะ!

   “เอ่อ พ่อว่าเขาไม่ใช่เจ้าสาวของลูกแล้วล่ะ ...อย่างนี้เขาเรียกว่าเมียแล้ว!”

  “พ่อออออ!!!!!!!!”

   




Happy Family Na XD

บอกอีกที... ว่าเรื่องนี้เป็นตอนสั้นๆต่อกันนะจ๊ะ
ติดตามตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้!  o13
                                    
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-02-2012 12:20:53
5555 ณุจะตรงไปไหน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 10-02-2012 13:01:55
ณุเด็กแก่แดด มีเมียตั้งกะอยู่ ม.4 เลยนะเธอ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 10-02-2012 13:04:48
งั้นณุต้องพูดว่า " คนๆนี้แหล่ะครับ เมียของผม! " ถูกไหมคุณพ่อ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 10-02-2012 22:27:57
ข้าวสารกลายเป็นข้าวสุกไปเรียบร้อย จะเป็น เจ้าสาว หรือ เมีย ก็ไม่ต่างกันหรอก
พ่อกับแม่ได้ลูกสะใภ้แบบไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัวแบบนี้ surprise ดีออก
โชคยังดีที่ไม่ได้ตัดสินใจเปิดประตูห้องณุตอนกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ไม่งั้นได้ shock กว่านี้แน่นอน... :laugh:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: cocoaharry ที่ 10-02-2012 23:51:19
ฮามากกกกกก
ได้ลูกสะใภ้ไม่ทันตั้งตัว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Bride (4/4)]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 11-02-2012 10:08:01
นึกถึงหน้าอาจารย์ เวลาเจอแม่(ผู้ชาย)
คง  o22

พ่อลูกหื่นทั้งคู่ ^^

สิ่งที่หายไปไม่ใช่หัวใจ

แต่... เจล -^-
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 2:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 12-02-2012 11:16:16
ขออภัยเมื่อวานไม่ได้อัพ....
มาต่อกันเลยจ้ะ

Chapter 2
He's my Husband



   เหงื่อชื้นแนบเสื้อติดแผ่นหลัง เสียงลมหายใจหอบประสาน มองตากันเนิ่นนานก่อนที่ณุจะคว้าร่างที่นั่งอยู่บนตักเข้ามากอดแนบหัวใจ

   ...ครั้งที่สองแล้วในอาทิตย์นี้ที่เขาเผลอเสียท่าให้มันที่โรงเรียน แถมยังเป็นห้องน้ำที่คนเดินผ่านไปผ่านมาตอนพักเที่ยงเสียอีก

   ไม่เคยเจียมตัวซะบ้างเลย!

   นับเวลาจากวันนั้นก็เกือบเดือนแล้วล่ะมั้งที่มิคตัดสินใจคบกับมัน ...จากที่เคยเป็นเหยื่อแกล้งถอดเสื้อผ้ามาตั้งแต่อยู่ป.1 จนมาเจอกันอีกครั้งตอนม.4   อยู่ดีๆเจ้าอดีตเด็กอ้วนหัวโจกจอมเกเรก็กลายมาเป็นแฟนเขาซะงั้น!?!

   แต่ทว่า... เท่าที่ผ่านมา กิจกรรมที่ได้ทำร่วมกัน มันกลับมีแค่กิจกรรมนี้เอง!

   “ณุ... เราเป็นอะไรกันวะ”

   เด็กหนุ่มที่นั่งอยู่บนฝาชักโครกมองหน้าคนรักอย่างไม่เข้าใจ ...จะมาดราม่าอะไรตอนนี้?

   “มึงก็เป็นเจ้าสาวกูไม่ใช่เหรอ?”

   มิคนึกอยากจะแจกหมัดมันซักเปรี้ยง เมื่อไรจะเลิกความคิดสมัยป.1ได้ซักที!

   “ไอ้ห่า อย่ามากวนตีน”

   “ขอโทษคร้าบบบ” พลันหัวหน้าแก๊งค์เด็กแสบก็กลายเป็นไอ้หนุ่มกลัวเมียไปในทันที “ก็เป็นแฟนไงคร้าบ”

   มิคค่อยๆถอนร่างตัวเองออกมานั่งพัก ...เกลียดตัวเองเหลือเกินที่ต้องใจอ่อนยอมให้ไอ้หื่นนี่ทุกที “แล้วมึงไม่คิดจะทำอย่างอื่นกับกูบ้างเลยเหรอ”

   “ทำไมเหรอ? หรือว่ามึงไม่ชอบ? ...อ่อ ถ้ามึงไม่ชอบท่านี้คราวหลังกูเปลี่ยนก็ได้นะเว้ย”

   มิคคันหมัดยิบๆ ...อะไรมันจะทึ่มขนาดนี้!

   “กูไม่ได้คิดแต่เรื่องนี้เหมือนมึงนี่ไอ้สัด... ทำเรื่องอื่นแบบที่แฟนเขาทำกันน่ะ เป็นมั้ย!”

   ณุเงียบไปพักหนึ่ง “แล้วมันต้องทำอะไรล่ะ กูไม่เคยมีแฟนนี่”

   “ตอนนี้มึงก็มีแล้วไง!” มิคดึงแก้มอีกฝ่ายยืดให้หายหมั่นไส้ “กินข้าวดูหนังน่ะ ทำเป็นบ้างมั้ย ไม่รู้ก็กลับไปถามพ่อแม่ซะไป”

   “โอ๊ย... มึงโกรธอะไรกูเนี่ย” เด็กหนุ่มคลำแก้มตัวเองป้อยๆ “กูก็นึกว่าเป็นแฟนกันก็ต้องทำเรื่องที่ชอบด้วยกัน แล้วเรื่องนี้เราก็ชอบด้วยกันทั้งคู่... มันจะผิดตรงไหนวะ”

   “ก็ถ้ามึงจะทำแค่เรื่องนี้ กูก็เป็นแค่คู่ขามึงแล้วสิ!”

   “แล้วมันต่างกันตรงไหน?”

   แค่นั้นแหล่ะ เป็นฟางเส้นสุดท้าย...

   เสียงฟาดหมัดดังโครมออกมาจากห้องน้ำ หลายวินาทีต่อมาก็มีเสียงปึงปังอย่างเดือดดาล ตามด้วยประตูห้องน้ำใหญ่ที่กระชากเปิดดังโครม

   “อ้าว... เสร็จแล้วเหรอครับ เจ้?”

   ลูกน้องของณุที่โดนสั่งให้เฝ้าหน้าห้องน้ำถามขึ้นอย่างเหรอหรา แต่มันกลับยิ่งทำให้มิคโมโหยิ่งกว่าเดิม

   “บอกกี่ทีแล้วอย่าเรียกกูว่าเจ้!!!”

   อีกหนึ่งหมัดฟาดเปรี้ยงลงบนหน้าคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก่อนที่เจ้าตัวจะปึงปังจากไป

   ห้าวินาทีต่อมา ณุก็กระหืดกระหอบตามมาจากห้องน้ำ ทั้งๆที่เข็มขัดยังใส่ไม่เสร็จดี

   “โธ่เอ๊ย! ไปไหนแล้ววะ”

   “อูย... ทะเลาะกับเมียเหรอครับเฮีย”

   “ไอ้ห่า เสือก!”

   ว่าแล้ว เด็กหนุ่มที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ก็โดนซัดหมัดที่สองไปเต็มๆ...


...................................................................


   ประตูรถคันงามถูกกระชากเปิดออกอย่างไม่สบอารมณ์ ในขณะที่ผู้เป็นพ่อสังเกตถึงรอยเขียวคล้ำใต้ขอบตาลูกที่เห็นมาจนชิน

   “ไปชกกับใครมาอีกล่ะ”

   “ช่างผมเถอะพ่อ”

   ภูส่ายหน้าอย่างระอา แต่ก็ไม่วายเป็นห่วง ...ดูเหมือนณุจะไม่อยากพูดเรื่องนี้ เขาก็เลยได้แต่สตาร์ทรถออกไปเงียบๆ

   ช่วงนี้ดูลูกรักจะเหม่อลอยเป็นพิเศษ คงเป็นเพราะความรักแหล่ะ ทำไมพ่ออย่างเขาจะไม่รู้

   “พ่อ ...คนเป็นแฟนกันเขาต้องทำอะไรบ้าง”

   นั่นไง... ว่าแล้วเชียว

   “ก็ทำเรื่องที่ชอบด้วยกันทั้งคู่นั่นแหล่ะ”

   “ไม่เอา... เอาเรื่องที่นอกเหนือจากนั้นดิ”

   คนเป็นพ่อเริ่มงง “ยังไงล่ะ กินข้าว ดูหนัง รึยังไง?”

   “นั่นแหล่ะ ที่ผมจะถาม เอาที่พ่อเคยจีบแม่ก็ได้”

   ภูหัวเราะ ...ค่อยๆย้อนนึกถึงวัยเด็กของตัวเองอีกครั้ง “จะว่าไงดีล่ะ ก็พ่อไม่เคยจีบแม่นี่หว่า ฮ่าๆๆ โผล่มาก็สารภาพเลย”

   “ไม่ได้เรื่องเลยพ่อ”

   “เอ็งกล้าด่าพ่อเหรอ”

   “ขอโทษคร้าบ...”

   ชายหนุ่มกลับเข้าสู่ห้วงคำนึงอีกครั้ง “เนี่ย จะบอกให้ วันนั้น พ่อก็ขับรถพาแม่ไปชมวิวที่พ่อชอบที่สุด ...ที่เคยพาแกไปดูด้วยไง นึกออกมั้ย”

   ณุนึกภาพตาม ...แล้วภาพวิวกลางคืนบนดอยสูงตรงมุมที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักก็ฉายขึ้นมาลางๆ ยังจำได้ว่าคืนนั้นที่พ่อขับรถไปกันทั้งครอบครัว เขาก็เกือบได้เห็นฉากเลิฟซีนสุดโรแมนติกของพ่อกับแม่เข้าซะแล้ว  ดีที่แม่นึกขึ้นมาได้ก่อนว่าเขานั่งตาแป๋วอยู่เบาะหลัง ไม่งั้นเขาคงได้เห็นหนังสดจนจบม้วนแน่ๆ

   “อ่อ ก็ว่าทำไมเช้าวันรุ่งขึ้นของวันนั้นถึงไม่มีใครมาส่งผมไปโรงเรียน...”

   เด็กหนุ่มพึมพำ แต่พ่อคงไม่ได้ยิน

   “นั่นแหล่ะ... พ่อก็สารภาพรักกับแม่ที่นั่น ในรถคันนี้นี่แหล่ะ”

   “โห จริงเหรอพ่อ”

   “อืม” ดูท่าทางชายหนุ่มจะปลาบปลื้มกับความทรงจำนี้เป็นพิเศษ “แต่ก็นะ สุดท้ายเพื่อนๆทุกคนก็รู้เข้าเพราะรถคันนี้อยู่ดี”

   “ยังไงอ่ะ”

   ภูชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ที่จริงก็ไม่อยากบอกออกไปเลย “ก็... พ่อลืมเช็ดเบาะรถน่ะสิ”

   ผู้เป็นลูกทำหน้าปะแล่ม ไม่รู้ว่าจะระเบิดหัวเราะดีรึเปล่า “พ่อนี่ไม่ได้เรื่องเลย!”

   “ด่าอีกครั้งเดียวเอ็งโดนแน่”

   “ขอโทษคร้าบ...”

   “เออ... แล้วหลังจากนั้นนะ...”

   ถ้านับคำพูดของพ่อได้คงเอามาเขียนได้เป็นมหากาพย์... แต่ณุกลับปล่อยมันผ่านหูไปกับภาพเมืองที่ไหลผ่านรถไป พลางจมลงในความคิดของตัวเองอีกครั้ง

   ...หรือว่า นี่จะเป็นความคิดที่ดี?

   5 นาทีผ่านไป ณุก็โพล่งขึ้นมาแทรกกลางมหากาพย์อันยืดยาว

   “พ่อครับ วันอาทิตย์ผมยืมรถนะครับพ่อ”




To be Continue...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 12-02-2012 11:49:06
ณุอย่าลืมเช็ดเบาะด้วยนะ ถ้าจะยืมอ่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 12-02-2012 11:59:43
กร๊ากกกกกกกกกก...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 12-02-2012 16:14:31
เพราะ ลงเอยกันแบบไม่ได้จีบ( แกล้ง ๆ แล้วจับกด) มิคก็คงอยากหวานบ้าง โดนเอาใจอะไรบ้าง
เอาเป็นว่า จะรออ่านกิจกรรมร่วมของคู่รักบนเบาะรถ(?)  :give2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Koyy ที่ 12-02-2012 16:48:44
อย่าลืมเช็ดเบาะนะณุ  :laugh:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: PrAeW ที่ 12-02-2012 17:07:22
ณุได้เจริญรอยตามพ่อ
5555555555
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: PPiing ที่ 12-02-2012 17:28:49
เริ่ดอ่า ชอบๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 12-02-2012 18:02:03
อิอิ  มาต่อนะคะ
หนุกดีอ่า

มาแบบเปนตอนๆๆ แล้ว จบเปนตอนๆๆด้วยไช่ไม๊คะ? 

เผื่อบางที คนอ่านอารมณ์ค้างไรงี้  จะได้เตรียมใจล่วงน่า
ฮ๋าๆๆ

แต่ชอบอ่า เรียกเจ้ ณุ เอ๊ยยย ไม่เปนอะไรซักอย่าง
มิค น้อยใจเลย พูดมาได้คู่ขากะแฟนเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-02-2012 18:21:08
จะเลียนแบบพ่อทุกอย่างเลยเหรอ :L2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 12-02-2012 18:28:08
@Supermint

ใช่ค่า เป็นตอนสั้นๆต่อกัน ตอนนี้เขียนจบหมดแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะดองค่ะ :D

จะพยายามอัพให้ทุกวันค่า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 12-02-2012 18:46:06
แอร๊ยยยย ณุแม่งไม่สนใจเจ้มิคเราเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Pigstar ที่ 12-02-2012 19:19:20
ณุ จะวะใช้วิธีเดียวกะพ่อ
เลยเร๊อะ!!

ตอนเอารถมาคืนพ่อ อย่าลืมทำลาย
หลักฐานด้วยล่ะ  :z1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 12-02-2012 19:34:40
มิคจ๋า ระวังนะ ตอนหน้าเบาะรถ อร๊ายยยยยยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: เด็กหญิง ที่ 12-02-2012 20:01:09
เฮ้ยย ชอบเรื่องนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 2:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 13-02-2012 13:56:41
He's my Husband (2/3)
Continue...




   มิคเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ...นี่ก็วันอาทิตย์แล้ว ณุกะจะไม่พูดกับเขาเลยหรือไง

   อยู่ๆก็หายไปสองวัน แต่ก็ถือว่าเขาเองก็เป็นฝ่ายหลบหน้า เพราะจากวันนั้นก็โกรธลมออกหูจริงๆไม่รู้จะทำยังไงก็เลยต้องขอแยกตัวออกมาทำใจให้สงบเสียบ้าง

   ...แต่นี่จะบอกว่าไม่คิดถึงกันบ้างเลยรึยังไง!

   “มิค จะเอาอะไรรึป่าว เดี๋ยวน้าออกไปเซเว่น”

   หันไปมองก็เจอน้าโต๋ยืนอยู่หน้าประตูห้อง ท่าทางเตรียมแว้นออกไปซื้อของข้างนอกเรียบร้อย

   ...จะว่าไป หลังจากที่เขาย้ายมาอยู่กับน้าท็อปไม่กี่เดือน ชายปริศนาผู้นี้ก็โผล่มาในคืนที่ฝนตกหนักเหมือนฟ้ารั่ว แล้วก็กลายมาเป็นผู้อยู่อาศัยของบ้านหลังนี้อย่างรวดเร็ว  ส่วนความสัมพันธ์ของสองคนนี้ น้าท็อปก็แค่อธิบายสั้นๆว่า ‘เพื่อนสมัยมัธยม’ เท่านั้น

   แต่มันก็ไม่ได้จำกัดความหมายให้ชัดเจนขึ้นเลยแม้แต่น้อย!

   ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ ...สองคนนี้ยังไงๆก็เป็นมากกว่าเพื่อน ยิ่งเรื่องทางกายไม่ต้องพูดถึง   ก็เล่นซะอึกทึกครึกโครมโจ่งแจ้งกันทุกคืนขนาดนั้น คนเขาก็รู้กันไปสามบ้านแปดบ้านแล้ว

   แล้วสรุป... สองคนนี้เป็นอะไรกันแน่?

   แค่คู่ขา? หรือว่าคนรัก?

   เพียงแค่คิดก็เจ็บแปลบ ...สุดท้ายพอคิดว่าตัวเองได้คนรักแล้วก็กลับเป็นแค่คู่ขาไปซะได้ น่าสมเพชตัวเองเสียจริงๆ

   “เป็นไรวะ ไม่ค่อยสดชื่นเลย” ชายผิวคล้ำเข้ามาประชิดตัวเมื่อไรไม่รู้ แต่สายตาเป็นห่วงหลานเพื่อนก็ดูจริงใจ

   “ไม่เป็นไรหรอกฮะ แค่ทำการบ้านเหนื่อยๆ”

   “อืม ...ตั้งใจทำการบ้านก็ดีแล้ว” โต๋พึมพำ “ทำให้มันพอดี ...ไม่เหมือนใครบางคน ตอนเรียนไม่เคยขยันเหี้ยอะไรเลย พอจบมาแล้วเสือกขยันทำการบ้านชิบ...”

   “แล้วที่กูขยันนี่มันไม่ดีรึไง?”

   อยู่ดีๆน้าท็อปก็มายืนแอบฟังอยู่ตรงประตูที่เปิดค้างอยู่ ทำเอาคนนินทาถึงกับขนลุกวาบ

   “ไอ้ห่า กูสอนให้หลานมึงรู้จักความพอดี!”

   “ถ้ามึงไม่รีบไปตอนนี้กูจะสั่งซื้อเพิ่มเป็นสองโหลนะเว้ย...”

   โต๋หน้าซีด กับคนๆนี้นี่ต่อกรไม่ได้จริงๆ

   ปี๊นนนนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!

   ยังไม่ทันที่โต๋จะอ้าปากเถียง เสียงบีบแตรรถดังสนั่นก็กระแทกโสตประสาทจนทุกอย่างหยุดชะงัก

   มิคก้มลงไปมอง เห็นคนขับรถคันหรูสีดำกดหน้าต่างลง ก่อนจะตะโกนสุดเสียงขึ้นมาหาเขา

   “มิค! ไปเดทกัน!!!”

   เด็กหนุ่มหน้าชา อ้าปากค้าง พอหันไปมองน้าสองคนก็เห็นว่าทั้งคู่ก็ช็อคไปไม่แพ้กัน

   “น้าฮะ คือ... มันไม่ใช่อย่างงั้น”

   “วันนั้นขอโทษน้าาาา ที่รัก ขอแก้ตัวหน่อยยย!!!”

   หลานชายเริ่มหน้าแดงไปถึงใบหู ต้องรีบลงไปคุยด้วยให้รู้เรื่องก่อนที่จะต้องอับอายมากไปกว่านี้

   มิควิ่งลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว โผล่มาอีกทีก็เข้าไปต่อรองกับคนขับเสียแล้ว ส่วนน้าทั้งสองก็ได้แต่มองสังเกตการณ์อยู่ห่างๆด้วยความสงสัย

   “ใครวะ... ไม่เคยเห็นหน้าเลย” ท็อปเพ่งมอง

   “แต่รถนี่ดูคุ้นๆนะ” โต๋แทรก

   “เออว่ะ  ...ถ้าไม่บอกกูนึกว่ารถไอ้เชี่ยภู”

   “มึง มันทะเบียนเดียวกันไม่ใช่เหรอ... คันที่มันลืมเช็ดเบาะอ่ะ ฮ่าๆๆ”

   แต่พอจบประโยค รถคันงามนั้นก็บึ่งออกไปจากหน้าบ้านเสียแล้ว แถมยังพาหลานชายขึ้นรถไปด้วยกันอีกต่างหาก   รู้สึกตัวอีกที มิคก็โดนลักพาตัวไปเสียแล้ว!

   “เห้ย เดี๋ยวนะ นี่หมายความว่าหลานมึงไปเดทกับผู้ชายจริงๆเหรอ”

   “มันหมายความว่าตอนนี้มีกูกับมึงอยู่บ้านสองคนแล้วต่างหาก”

   ท็อปหันมาสบสายตานิ่งขรึมพร้อมคำพูดที่ไร้อารมณ์นั้น อีกฝ่ายก็พลันขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

   ...นี่อย่าบอกนะว่า

   “ไอ้ห่า ...มึงจะไม่รอกูออกไปซื้อก่อนเหรอ”

   “ไม่ต้องไปซื้อแล้ว กูไม่ใช้!!!”

   “เห้ย... อย่าเพิ่ง---------!!!”

   และแล้ว อีกหนึ่งกระบวนการทำการบ้านก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง...


...................................................................


   เดท...?

   เกิดมาก็ไม่เคยคิดเลยซักครั้งว่าจะมีเดทเหมือนกับคนอื่นๆได้ โดยเฉพาะเมื่อมีแฟนหัวทึ่มอย่างนี้ ... มิคก็เลยนั่งเงียบไปตลอดทาง แอบเก็บความสงสัยไว้ในใจ

   ...ดูซิ หมอนี่มันจะทำยังไง

   ขับรถไปก็ชวนคุยไปเรื่อยกับเรื่องจิปาถะ ราวกับว่าไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลยแม้แต่น้อย   จนกระทั่งมาจอดที่จุดหมายแรก

   ร้านอาหาร...

   บุฟเฟ่ต์เนื้อโคขุนอย่างดี ชุ่มฉ่ำซอส หอมกรุ่นอยู่บนเตา ตักแล้วตักอีก สั่งแล้วสั่งอีกจนคนพามากินชักจะพุงกาง

   “เป็นไง อร่อยมั้ยมิค ทำไมไม่ค่อยกินเลยอ่ะ”

   ความเอือมระอาคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ

   “กูไม่กินเนื้อ”

   “อ้าว! แล้วทำไมไม่บอกแต่แรก กูกินอิ่มแปล้เลย”

   ก็แล้วทำไมเอ็งไม่ถามล่ะ! ...มิคได้แต่คิดในใจ พลางสันนิษฐานว่าเดทครั้งนี้ท่าทางคงจะไปไม่รอดเสียแล้ว

   “เอ้อ...” แล้วพอบิลค่าอาหารมาณุก็ทำหน้าช็อค เผลอปิดบังเอาไว้ไม่อยู่ “...มิค ขอยืมร้อยนึงก่อนได้มะ เงินไม่พออ่ะ”

   ...สงสัยจะไปไม่รอดแล้วจริงๆ!




   จุดหมายต่อไป ...โรงหนัง

   บังเอิญว่าณุมีบัตรลด เลยโดนเผด็จการต้องดูหนังผีเข้าเสร็จสรรพ์ โดยไม่ได้ถามเล้ยว่าเขาอยากจะดูเรื่องนี้หรือเปล่า

   โชคดีไปที่มิคก็ไม่ได้รังเกียจอะไรกับหนังผี แต่คนที่มีปัญหานี่สิ...

   โรงหนังเย็นเยียบ บรรยากาศเสียงเพลงวังเวง คนหลายสิบกลั้นหายใจเมื่อนางเอกหันหลังกลับไป

   “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!!!!”

   หญิงสาวที่นั่งข้างเขาถลาไปกอดแขนซุกหน้ากับแฟนหนุ่มเสียแน่น ท่าทางจะโรแมนติกไม่เบาถ้าเขาจะทำอย่างนั้นบ้าง ...แต่ปัญหาก็คือ คนที่เป็นฝ่ายดึงแขนไปกอดซุกหน้านั้น กลับเป็นแฟนหนุ่มของเขาเสียเองนี่สิ

   “ไอ้เหี้ย.... น่ากลัวสัด”

   เสียงสั่นๆของณุเล็ดรอดออกมาเบาๆ ...ถ้าลูกน้องมาเห็นเข้าซักคนมีหวังต้องหมดบารมีไปเจ็ดชั่วโคตรแน่ๆ

   แล้วสุดท้าย หนังเรื่องนี้เขาก็ไม่สามารถจับประเด็นอะไรได้เลยนอกจากเสียงสบถของณุที่เกิดขึ้นแทบทุกๆห้านาที ...แล้วอย่างนี้จะพาเขามาดูหนังทำไมฟระ?

   “เป็นไงมิค หนังสนุกมั้ย”

   นี่คือคำทักทายแรกเมื่อออกมาจากโรงหนัง ไม่ทันไรก็กลับมาเก็กเหมือนเดิม

   ...เอือมจนไม่รู้จะเอือมยังไงแล้วจริงๆ




   จุดหมายต่อไป ...คาราโอเกะ

   “ความช้ำ ทำให้ฉันได้ข่มขื่น!!!”

   สีหน้าของมิคราบเรียบไร้ความรู้สึก ขัดกับอารมณ์ของเพลงเสียเหลือเกิน

   “เธอทำให้ฉันหลงละเมอ!!!”

   เพลงเหี้ยอะไรของมันเนี่ย หนวกหู!!!

   “กับสิ่งที่เรียกว่า... รัก~~~~~!!!!!!!!!”

   แต่จะทำไงได้ ก็ไอ้คนร้องนี่มันก็แฟนเรานี่หว่า...

   “ม่ายยยยย!!! ไม่!!! ไม่~~~!!!…”

   พอคำว่า ‘ไม่’ คำสุดท้ายจบลง ...เสียงช็อตดังเปรี๊ยะเบาๆก็ดังออกมาจากไมค์

   “โอ๊ย เหี้ย เจ็บคอ ไม่ได้ร้องนาน... ฮัลโหล ...ฮัลโหล???”

   และแล้ว ไมค์ก็เจ๊งไปสมใจอยากจนได้!

   แต่ทว่าพอเหลือไมค์เดียว จะเลือกเพลงซึ้งๆมาร้องด้วยกันซักเพลงก็ไม่ได้ ...ปรากฏว่าไอ้หนุ่มฮาร์ดคอร์คนนี้กลับยึดไมค์มาครองแบบไม่ยอมวางไปซะอย่างนั้น

   เพลงที่เลือกก็มีแต่เพลงที่เขาไม่รู้จัก sweet mullet บ้าง harem belle บ้าง retrospect บ้าง แถมยังชักจะเริ่มติดลมบนร้องไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ...จนสรุปว่าวันนี้ที่มาร้องคาราโอเกะ ก็ดันมีณุที่ได้ร้องอยู่คนเดียว

   อย่างนี้ไม่ต้องพาเขามาเลยดีกว่ามั้ย!


   เป้าหมายสุดท้าย ......?






Continue...

ปล.เพลงที่ณุร้องคือ "ไม่มีเธอ" ของ Retrospect จ้าาา
เพลงโปรดของเราล่ะที่จริง... ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Petalkiss ที่ 13-02-2012 14:20:04
ตลกณุอ่ะ ๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕
ไปเดทกันได้แบบ... เกรียนมาก สงสารมิคเลย
นึกว่าจะโรแมนติคกันซะอีก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: silverphoenix ที่ 13-02-2012 16:08:50
ณุ...ฮาแกตั้งแต่ตอนป.1 แล้วนะ  ตอนนี้ยังไม่เลิกซื่อ........บื้ออีกหราาาาา

555555
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 13-02-2012 16:34:36
ณุ  ไม่รุจะพูดไรดี. ห่าเกรียนมากกกก
เรื่องนิไม่ใช่เรื่องต่่อไช่ไม๊คะ.   เหมือนรุ่นพ่อมีเรื่องราวต่อเลยอ่า

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 13-02-2012 16:54:07
@Supermimt

รุ่นพ่อเหรอคะ... มีต่อแหล่ะค่ะ!!! แต่เรื่องราวของรุ่นพ่อจะเป็นยังไง ขออุบไว้ก่อน! อิอิ

โปรดติดตามค่า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 13-02-2012 17:30:34
นี่ขนาดวางแผนมานะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 13-02-2012 18:00:59
อิณุแกชวนมิคมาเดทแน่เหรอ ชวนเขามานั่งดูแกมากกว่า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 13-02-2012 20:21:30
หวานไปไหน(หมด)เนี่ย ??? เพราะ อ่านแล้วหาอะไรหวาน ๆ ไม่เจอเลยจริง ๆ 
เป็นการเดทที่ให้ความรู้สึกว่า ณุเป็นตัวของตัวเองมาก(ไปหน่อย) ไม่ได้ตั้งใจเกรียนจริง ๆ นะ   :laugh:

คู่น้า ๆ ของมิคก็น่าสนใจ ที่สำคัญ คู่นี้เค้าขยันทำการบ้านด้วยสิ  :o8: 
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 13-02-2012 20:57:22
ไม่รู้อะไรซะเลย...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: pimkung ที่ 14-02-2012 00:01:42
วุ้ย เครียดแทนมิค 55555 น่าสงสารอ่ะ ณุก็.....น่ะ ไม่เอาไม่พูดดีกว่า  :z10:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 2:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 15-02-2012 00:35:48
ขอโทษจ้าา วาเลนไทน์ทั้งทีแต่ไม่ได้อัพ :o12:
เอาเป็นว่า ส่งตอนนี้เป็นของขวัญวาเลนไทน์ย้อนหลังละกันจ้ะ  :L2:




He's my Husband (3/3)
Continue...


   เป้าหมายสุดท้าย.........?


   มิคไม่รู้ว่าต่อไปณุจะพาเขาไปไหน แต่จากที่ผ่านมาวันนี้ทั้งวัน เขาอารมณ์เสียเกินกว่าจะอยากเสวนาอะไรด้วยแล้ว

   หรือว่าต้องมาคิดทบทวนดูอีกที ว่าอยากจะคบกับไอ้หมอนี่ต่อไปหรือมันต้องจบลงตรงนี้กันแน่

   ตลอดทางที่นั่งรถไป ไม่มีอะไรนอกจากความเงียบที่แสนอึมครึม ...ณุเองก็คงสัมผัสได้ ก็เลยจมอยู่ในความคิดตัวเองไม่ยอมพูดจาเช่นเดียวกัน

   จนกระทั่งรถมาจอดลง ณ ที่ที่หนึ่ง ...ที่ที่มิคไม่เคยเห็น

   มองลงจากดอยไป สุดลูกหูลูกตามีแสงไฟนับล้านจากบ้านเมืองอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขา  พอแหงนหน้าขึ้นมอง ก็เห็นแสงดาวนับล้านอยู่ในอ้อมกอดของท้องฟ้า

   พลันความคิดทั้งหลายของเขาก็มลายหายไป เหลือเพียงความประทับใจในภาพเบื้องหน้าเสียจนพูดไม่ออกเท่านั้น

   “เอ่อ กูรู้ว่าวันนี้มันก็ไม่ค่อยดีเท่าไรอ่ะ ...ขอโทษนะ”

   อยู่ดีๆพอได้ฟังคำพูดจริงใจแบบนั้น ความคิดใจร้ายทั้งหลายของมิคก็พลันระเหยกลายเป็นควัน

   อุตส่าห์ลงทุนพามาที่ที่โรแมนติกขนาดนี้ เพื่อมาพูดคำๆนี้ เห็นทีจะต้องคิดใหม่ซะแล้ว

   “อืม ไม่เป็นไรหรอก”

   ณุเหม่อมองออกไปเบื้องหน้าบ้าง

   “รู้ป่าว กูพามึงมาที่นี่ทำไม”

   มิคเงียบ ...รอฟังอย่างเดียวดีกว่า

   “นี่เป็นที่ที่พ่อกูพาแม่มาสารภาพรักเว้ย...”

   คะแนนความโรแมนติกพุ่งพรวด! มันจู่โจมเสียจนคนฟังเผลอร้อนไปทั้งหน้า อายจนไม่อาจจะสบตาต่อไปได้ไหว

   “เออ... เหรอ...”

   “มิค”

   คนพูดจับมือเขาไว้ มิคเลยต้องหันกลับไปมองหน้าอีกครั้ง

   “คือ... ที่ผ่านมากูก็ไม่เคยพูดอะไรให้ชัดเจนเลย เพราะฉะนั้นวันนี้กูก็เลยอยาก ...จะพูด...”

   ความเงียบที่เวียนวนอยู่รอบกายเหมือนจะกระตุ้นให้หัวใจแทบหลุดออกมาจากปาก ไม่น่าเชื่อว่าอยู่ดีๆในคืนนี้ณุจะกลายเป็นคนละคนไปเสียแล้ว

   ถ้าโรแมนติกได้อย่างนี้เสียตั้งแต่แรก เขาก็คงไม่ต้องมานั่งปวดใจอยู่อย่างนี้หรอก!

   แฟนหนุ่มจ้องลงไปในตาเขา ...ความจริงใจที่ส่งมามันสะกดเขาไว้เหมือนเวทย์มนต์

   “กูชอบมึงนะ”

   ดั่งคำประกาศิตคาถา เสกให้ใจเขาเต้นรัวแทบบ้า แทบเคลิ้มละลายไปกับคำสามคำนี้

   เขากลายเป็นทาสไปแล้ว โดนขโมยหัวใจไปแล้ว ...อยากทำอะไรกับเขาก็ยอมทุกอย่างแล้ว

   “กูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นแค่คู่ขากูเลย ที่วันนั้นพูดไปกูไม่ได้ตั้งใจ แต่... แต่กูก็ไม่เคยขอมึงจริงจังใช่มั้ย?”

   มิคแทบกลั้นหายใจ ไม่อยากคิดว่าต่อไปคำอะไรจะหลุดออกมา...

   “มิค... เป็นแฟนกูนะ”

   เด็กหนุ่มแทบร้องไห้ ...รู้สึกได้ว่ามันอิ่มใจจนล้นทะลักดันความเจ็บปวดให้ไหลลงท่อไปเสียแล้ว

   โผเข้าโน้มอีกฝ่ายมากอดแน่นราวกับกลัวว่าจะหลุดลอยไป ...วินาทีนั้นนึกอยากจะตะโกนบอกให้ก้องโลกว่าเขาเองก็คิดไม่ต่างกัน

   “ไอ้โง่ ...มึงก็เป็นเจ้าบ่าวกูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”

   “เอ่อ ก็นึกว่ามึงไม่ชอบให้พูด...”

   มิคถอนตัวออกมาหัวเราะ พลางมองหน้าอีกฝ่ายที่อยู่ใกล้แค่ลมหายใจ

   “ผ่านมาตั้งเดือนนึงแล้ว... ผ่านเรื่องนั้นมาตั้งกี่ครั้งแล้ว... กูว่ามึงไม่ได้เป็นแค่แฟนกู และไม่ได้เป็นแค่เจ้าบ่าวกูแล้วล่ะ”

   ณุเงียบ แอบเห็นรอยยิ้มนิดๆกับประโยคนั้น

   “...มึงคงเป็นสามีกูได้แล้วมั้ง”

   พลันคนฟังก็หัวเราะร่า... ท่าทางกลบเกลื่อนความเขินสุดฤทธิ์

   “มึงพูดเหมือนพ่อกูเลย...”

   ในรถสีดำคันหรู เด็กหนุ่มสองคนหัวเราะให้กันในความมืดมิด มีเพียงแสงไฟนับล้านเบื้องหน้าเป็นพยาน

   แต่เสียงอะไรบางอย่างในอกด้านซ้ายมันเรียกร้องหาอะไรที่มากกว่านั้น ในขณะที่ระยะห่างค่อยๆลดลงเรื่อยๆจนเหลือเป็นศูนย์ เกิดเป็นจุมพิตแสนหวานที่แสนมอมเมา

   ...เพิ่งมารู้เอาตอนนี้ ว่าขาดกันไปแค่สองวันก็เหมือนจะตายให้ได้เสียแล้ว

   “ณุ... ถ้าเดทมันลำบากขนาดนั้น กลับมาทำแค่เรื่องนี้เหมือนเดิมก็ได้นะ”

   เด็กหนุ่มได้ฟังก็คำราม รู้สึกตัวอีกทีก็ป่ายร่างขึ้นมาคร่อมเหนือเบาะข้างคนขับแล้ว ดันเบาะให้เอนลงจนสุด รีบปาดป่ายปลดเปลื้องเสื้อผ้าที่แสนเกะกะออกอย่างอดรนทนไม่ไหว

   “เอางั้นจริงๆเหรอ”

   “ก็แฟนกันก็ต้องทำเรื่องที่ชอบด้วยกัน แล้วเรื่องนี้เราก็ชอบด้วยกันทั้งคู่ ...ก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”

   “เห็นตอนนั้นมึงโกรธ ...ก็นึกว่ามึงไม่ชอบ”

   มิคสะบัดหน้าแหงนมองเพดานรถ แทบหายใจไม่ทันเมื่อโดนรุกรานถึงเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว

   “กูก็ไม่ได้บอกว่าไม่ชอบนี่”

   ณุหยุด เงยหน้ามองคนพูดด้วยความสงสัย

   “กูชอบทุกอย่างที่เป็นมึงแหล่ะณุ กู... กูก็ชอบมึงเหมือนกัน”

   พูดไปแล้วก็อายแทบจะบ้า เลยโดนปิดปากด้วยอีกจุมพิตแก้เขิน ก่อนที่มันจะค่อยๆดื่มด่ำล้ำลึก ชักนำให้โหยหาอีกฝ่ายจนทนไม่ได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว

   ณุคำรามอีกครั้ง สองวันที่ขาดหายมันต้องชดเชยให้สาสม!

   รถคันงามแม้จอดอยู่ไม่นานก็เริ่มขยับโยกเคลื่อนไหว สรรพเสียงใดๆที่เกิดขึ้นภายในก็ถูกกั้นด้วยกระจกรอบด้าน ละลายไปเป็นหนึ่งเดียวกับความมืดมิด เช่นเดียวกับตัวรถที่เป็นเพียงก้อนหินในป่ากว้าง ถูกโอบล้อมด้วยภูเขา ห่มหุ้มด้วยดวงดาวนับพัน...


...................................................................


   ณุกลับดึกอีกแล้ว ...ถึงพ่อแม่จะเป็นห่วง แต่สุดท้ายก็ค่อยสบายใจได้เมื่อเห็นรอยยิ้มร่าเริงของลูกรักกลับมาอีกครั้ง

   คงคืนดีกับแฟนแล้วกระมัง ผู้เป็นพ่อก็ได้แต่สันนิษฐานไป

   เช้าวันจันทร์ ชายหนุ่มสองคนก็ออกมารอที่รถเหมือนอย่างเคย รอลูกชายคนเดียวที่ตื่นสายมัวแต่อาบน้ำแต่งตัวไม่เสร็จเสียที ...แต่วันนี้ก็เกิดเรื่องแปลก เมื่ออยู่ดีๆบอลก็เดินเข้ามาจัดเนคไทค์ให้คนรัก

   “นี่ รู้มั้ยวันนี้วันอะไร?”

   ภูนิ่งนึก ...ขึ้นประโยคอย่างนี้ คำตอบคงไม่ใช่วันจันทร์แน่ๆ

   “จำได้อยู่แล้วสิ”

   “เออ... 10 ปีแล้วนะ...”

   ชายร่างใหญ่หมุนร่างคนรักให้พิงหลังกับประตูรถเสียแทน

   “คืนนี้อยากได้อะไรพิเศษรึเปล่า?”

   บอลยิ้มเขินๆ พลางผลักหน้าอีกฝ่ายออกไปให้ห่างจากระยะอันตราย

   “ไม่อยากได้อะไรหรอก”

   “จำได้รึเปล่า... ที่รถคันนี้...”

   ฟังแล้วก็หน้าร้อนฉ่า ...ทำไมจะจำไม่ได้ ในเมื่อครั้งแรกของทุกสิ่งมันเริ่มจากรถคันนี้

   “ภู...”

   “แม่! ถุงเท้าอยู่ไหนอ่ะ!”

   พลันบรรยากาศที่อุตส่าห์สร้างมาเมื่อครู่ก็หายวับ เมื่อเจ้าลูกชายตัวแสบตะโกนถามมาจากในบ้านเสียจนอารมณ์กระเจิง

   “อยู่ในตู้เสื้อผ้านั่นแหล่ะ หาดูดีๆ!”

   เสียงเท้าวิ่งตึงๆขึ้นบันไดไปอีกครั้ง พ่อกับแม่เลยต้องยอมยุติบทสนทนาไว้แค่นี้

   “นั่งรอในรถก่อนก็ได้นะ แล้วคืนนี้ค่อยว่ากัน”

   ผู้เป็นพ่อส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ ก่อนที่จะเปิดประตูให้คู่ชีวิตเข้าไปนั่งรออยู่ข้างใน...

   แต่ปรากฏว่า ...ภาพที่เห็นเมื่อเปิดประตูรถออกมาแล้ว ทำให้เขาต้องผงะ

   ...เดจาวูเหรอ? ไม่สิ นี่มันเละเทะกว่าที่เขาเคยทำเสียอีก!

   และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ผู้ต้องหาก็มีแค่คนๆเดียวแหล่ะ

   “ณุ!!! เอ็งลืมเช็ดเบาะโว้ยยยย!!!”
   


                              
จบเถ้อะ = =”


ติดตามตอนต่อไปได้ในวันพรุ่งนี้จ้ะ!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 15-02-2012 00:48:04
ฮ่าๆๆ ฮาเลย  เดจาวู

แสบทั้งครอบครัวววว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-02-2012 01:47:31
ถึงเริ่มต้นจะเป็นเดทที่กร่อย แต่ณุก็ปิดเดทได้สวยน่าประทับใจมาก
ถ้าเพียงแต่...ไม่ลืมเช็ดเบาะ กร๊าก ๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 15-02-2012 02:34:42
ว่าแล้วววว ว่ามันต้องลืม 5555
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: NOoTuNE ที่ 15-02-2012 07:08:37
 :laugh: ว่าแล้วลูกไม้หลานใต้ต้น กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 15-02-2012 11:34:55
ขำ ๆ ดีค่ะ น่ารักด้วย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: GoonKGiinK ที่ 15-02-2012 16:13:01
ถ้าจะเหมือนพ่อขนาดนี้, ,,555
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 15-02-2012 16:30:36
อ่านไปฮาไปอ่ะเรื่องนี้

ลืมเช็ดเบาะ

เชื้อไม่ทิ้งแถวจริงจริ๊งงงงง

กร๊ากกกกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 1:He's my Husband (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 15-02-2012 18:31:58
เดจาวูชัดแจ๋วเลยยยย :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 15-02-2012 18:47:54
Chapter 3
He's my Hero




   “มิค เราเลิกกันเถอะ”


   มิคยืนหน้าตาย สีหน้าที่เขามองแฟนหนุ่มของตัวเองแทบไม่แสดงอารมณ์เลยซักนิด

   “มึงจะไปต่อยกะพวกโรงเรียนMใช่มะ”

   คราวนี้เป็นณุที่นิ่งอึ้งไป ชั่วขณะเดียวก่อนจะหัวเราะแหะๆแก้เก้อ

   ไม่มีคำปฏิเสธ...ยิ่งทำให้อารมณ์มิคมันเดือดปุดๆ!

   “ไอ้ห่า มึงคิดว่ามึงเป็นพระเอกนักรึไง มันไม่ใช่ในหนังนะเว้ยที่ต้องเลิกกันก่อนแล้วมึงก็ไปมีเรื่องกับคนอื่นน่ะ มึงไปต่อยเขาแล้วมึงจะตายรึยังไง”

   “มิค มึงไม่เข้าใจ”

   “ไม่เข้าใจอะไรวะ ฮะ แค่เรื่องยกพวกตีกันแค่นี้มันต้องเลิกกันเลยรึยังไง”

   “ก็กูไม่อยากให้มึงโดนลูกหลงนี่”

   “น้ำเน่าสัด”

   ณุกุมขมับ ไม่รู้จะพูดอย่างไรให้แฟนของตัวเองเข้าใจเสียที

   “กูไม่ใช่ผู้หญิงนะณุ กูดูแลตัวเองได้”

   “ก็มึงไม่รู้จักไอ้ไปร ไอ้เหี้ยนี่มันแสบ ถ้ามันรู้ว่ากูมีแฟนมันไม่อยู่เฉยๆแน่”

   “แล้วนี่กูช่วยอะไรมึงไม่ได้เลยเหรอ มึงเห็นกูเป็นตัวเกะกะนักใช่มั้ย”

   “ไม่ใช่... ก็มึงเคยต่อยตีกับใครเขามั้ยล่ะ ถ้ามึงสู้ใครเขาได้กูก็ยอมให้มึงช่วยก็ได้”

   “นี่มึงดูถูกกูเหรอ...”

   “ไม่ใช่ ก็กูพูดความจริง... แค่แรงกูมึงยังสู้ไม่ไหวเลย จะไปสู้กับใครเขาได้”

   “อ้าว พูดงี้ก็สวยสิวะ” มิคอารมณ์พุ่ง อยู่ๆนึกอยากจะหักข้อนิ้วตัวเองขึ้นมาครามครัน

   “แน่จริงมึงต่อยกูให้ได้ดิ---”

   พูดยังไม่ทันขาดคำก็โดนสนองคำท้านั้นจนหน้าหัน แรงซะจนเห็นแสงขาวพาดแลบอยู่ข้างในตา ณุเซพรวด มึนชาไปชั่วขณะ

   “โอ๊ย... มึงเกลียดกูขนาดนี้เลยเหรอวะมิค”

   ยิ่งได้ยิน ก็ทั้งยิ่งโกรธ ยิ่งเสียใจ... ที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะว่ารัก! ไอ้ควายสมองนิ่มนี่ยังไม่รู้อีกรึไง!

   “เออ กูเกลียดมึง ไอ้ณุ! มึงอยากเลิกก็เลิก กูไม่สนแล้ว!”

   คว้ากระเป๋านักเรียน เดินดุ่มออกไปจากห้อง เจ็บเสียยิ่งกว่าโดนต่อยซะเอง

   “อ้าว เจ้...”

   ลูกน้องณุหน้าตาเหรอหราคนเดิมยืนรออยู่ที่หน้าประตู... ไม่ทันได้รู้อิโหน่อิเหน่ก็โดนต่อยคว่ำไปอีกราย


...................................................................


   ทำไมเวลาเศร้าแล้วฝนต้องตก หรือเป็นเพราะฝนตกเราเลยเศร้า?

   มิคเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง รับรู้ถึงเสียงฝนพรำแต่กลับไม่รับรู้ว่ากำลังมองเห็นอะไร

   “ทำ MV อยู่หรือไง ไอ้หนุ่ม”

   เป็นน้าโต๋อีกแล้วที่เข้ามาหา มิคหันไปกะจะยิ้มให้แต่ก็ยิ้มไม่ออก รู้สึกตัวอีกทีชายหนุ่มก็เดินมานั่งลงบนเตียงเขาเสียแล้ว

   “เป็นอะไรวะ หรือว่าอกหัก”

   “ผมเปล่า” ปากแข็งอีกแล้ว ไม่รู้ทำไม

   “ไอ้หนุ่มคนนั้นเขาดูแลดีรึเปล่าล่ะ ไม่เห็นหน้ามาเป็นอาทิตย์แล้ว”

   ก็เลิกกันไปอาทิตย์นึงแล้วน่ะสิ...

   พอเห็นว่าหลานเพื่อนไม่ตอบ โต๋ก็ยิ่งใจไม่ดี

   “เออ ความรักมันก็เข้าใจยากงี้แหล่ะ บางทีเราก็ต้องทำใจ”

   “น้าโต๋เคยมีแฟนรึเปล่า”

   อยู่ๆมิคก็เปลี่ยนเรื่อง ชายหนุ่มพาลนึกไปถึงแฟนสมัยมัธยมของตัวเอง “เคยสิ คบกันอยู่หลายปี”

   “อ้าว ไม่ใช่น้าท็อปหรอกเหรอ”

   โต๋สำลักโค้กกระป๋องในมือจนกระเด็นออกมาเป็นสาย

   “จะบ้าเหรอวะ... ไม่ใช่ไอ้ท็อปโว้ย แฟนกูเป็นผู้หญิง...”

   “แล้วตอนนี้เลิกกันแล้วเหรอ”

   “อืม ช่าย... มันก็นานมาแล้ว” โต๋ยกกระป๋องโค้กขึ้นดื่มแก้แสบคอ

   “แล้วน้าทำยังไงตอนที่เลิกกัน”

   เพียงแค่นั้น ชายหนุ่มก็เข้าใจถึงเหตุผลของหลานเพื่อนทุกสิ่งสิ้น

   “ก็เจ็บสิวะ... จะให้ทำไง แต่เดี๋ยวเวลามันก็ช่วยเองแหล่ะ ออกไปหาอะไรทำให้หายฟุ้งซ่าน มันก็ช่วยได้เยอะ”

   มิคไม่ตอบ เพียงแค่เบือนหน้าออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง...

   อยากจะปลอบเด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน แต่ก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไร

   “เฮ้ยโต๋ ออกไปเซเว่นให้กูหน่อย”

   น้าท็อปที่หน้าตายุ่งเหยิงผมเผ้ารุงรังโผล่มาที่หน้าห้องเงียบๆอีกแล้ว เพื่อนสนิทได้ยินก็หันไปมองอย่างเอือมระอา

   “ไอ้ห่า ใช้กูตลอด”

   “ไม่เป็นไรครับน้า เดี๋ยวผมไปเองก็ได้”

   ท็อปเงียบ ขยับแว่นมองหน้าหลานที่กำลังลุกขึ้น เลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้นสูงโดยไม่รู้ตัว

   “โอเค ขอเนสกาแฟกระป๋องนึง กับอีซี่โก เอามาหนึ่งกล่อง นอกนั้นอยากได้อะไรก็เอาเลย” ว่าแล้วก็ควักเงินในกระเป๋าให้ “เอาไปร้อยนึงอ่ะ”

   “ขอบคุณฮะ”

   “เฮ้ย ไปเองได้เหรอน่ะ ฝนตกนะ” โต๋ร้องถาม

   “ไม่เป็นไรน่ะน้า ออกไปเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง” มิคพยายามยิ้มฝืน รู้ตัวดีว่าแค่อยากพาตัวเองออกไปจากความมืดมนตรงนี้เท่านั้น

   เดินออกจากห้อง หยิบร่ม ได้ยินเสียงประตูห้องนอนตัวเองปิดลงล็อกกลอน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโวยวายของน้าโต๋ที่ค่อยๆจางหายไป

   หัวสมองว่างเปล่า ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ไม่อยากจะนึกถึงใครคนนั้น แต่ก็ไม่ได้ทำได้ง่ายๆอย่างที่คิด

   เสียงหยดฝนกระทบพื้นถนน เสียงรอยเท้าย่ำตามแอ่งน้ำ... เงี่ยหูฟังดีๆมันสะท้อนกลับไปกลับมาเหมือนมีคนเดินตาม

   มิคหยิบมือถือ กดเลือกฟังเพลง MP3 ใส่หูฟังเข้าไปสองข้าง... ก่อนที่อะไรบางอย่างจะกระแทกหัวเขาจากข้างหลัง ร่างเซคว่ำลงไปด้านหน้า แล้วทุกอย่างก็มืดสนิทลง...



To be Continue!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 15-02-2012 19:36:55
มิคจะเป็นอะไรรึป่าวเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 15-02-2012 20:04:24
เห้ย น้องมิคเป็นไรมากเปล่า
ใครคือผู้ร้ายคนนั้น
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 15-02-2012 20:16:58
 :m31:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 15-02-2012 21:16:09
โอ๊ะ แย่แล้วววว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 15-02-2012 23:09:14
แหล่วๆๆๆ เลิกกันแล้วยังมิแคล้วคลาดเลย

ณุเอ้ยยย เมียโดนตีหัว!!!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 15-02-2012 23:39:37
รถ สื่อร้อน สื่อรัก

เฮ้ย มิค ใครดักตีหัวฟร่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 16-02-2012 00:15:29
อ้าว...มิคโดนลอบทำร้าย น้าท็อปก็อดกินอีซี่โกกับกาแฟกระป๋องสิ (เอ่อ..ใช่เรื่อง?  :m29:)

ไอ้พวกที่มาทำร้ายมิคต้องเป็นพวกเดียวกับที่ณุคิดไว้แน่ ๆ เลวไม่เลือกวิธีจริง ๆ  :angry2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: PrAeW ที่ 16-02-2012 00:25:14
5555555555
ว่าแล้วต้องลืมเช็ด
พ่อลูกช่างเหมือนกัน
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 16-02-2012 13:34:36
He's my Hero (2/3)
Continue...



   ใบหน้าของณุยิ้มแย้มหัวเราะ มันชัดเจนเสียจนนึกว่าณุอยู่ตรงหน้านี้จริงๆ

   “กูชอบมึงนะ”

   จูบที่อ่อนโยน สัมผัสที่โหยหา แม้แต่อ้อมกอดที่อบอุ่น...

   จะไม่มีสิ่งเหล่านั้นอีกแล้วเหรอ?

   “มิค... เป็นแฟนกูนะ”

   รู้สึกถึงน้ำตาที่หยดลง เหมือนเนิ่นนานเหลือเกินที่ได้ยินคำนั้น

   แล้วณุก็ตบหน้าเขา

   “ไอ้เหี้ย กว่าจะฟื้น...”

   เด็กหนุ่มค่อยๆลืมตา แสงมันช่างสว่างจ้าเหลือเกิน คนที่เพิ่งพูดประโยคเมื่อกี๊ไม่ใช่ณุ คนที่เพิ่งตบหน้าเขาไม่ใช่ณุ คนที่มัดมือเขาไว้หลังพนักเก้าอี้ไม่ใช่ณุ และคนที่ฟาดหัวเขาแล้วลากมาที่นี่ก็คงไม่ใช่ณุ

   ภาพที่มองเห็นค่อยๆกลับมาชัดเจน... เด็กหนุ่มกางเกงน้ำเงินเกือบสิบคนกำลังจ้องมองเขา

   “คนนี้เนี่ยนะ?”

   เด็กหนุ่มหัวเกรียน ไถลายด้านข้าง ปลดกระดุมเสื้อทุกเม็ดให้เห็นเสื้อยืดสีดำสกรีนลายข้างใน ท่าทางดูกร่างกว่าใครเพื่อน เดินมามองหน้าเขาใกล้ๆ

   “คนนี้แหล่ะครับพี่ไปร ไม่ผิดตัวแน่ๆ”

   ไปร... ชื่อนี้เหมือนเคยได้ยินที่ไหนคุ้นๆ

   “เออ ไอ้ณุมันก็เข้าใจเลือก”

   ไปรเดินเข้ามา จับคางเขาขึ้นให้สบตา ใกล้เสียจนเขาขนลุก

   “มึงเป็นใครวะ?”

   “อ้าว ณุไม่เคยบอกมึงเหรอ... อ่อ โทษที ยังไงเราก็ไม่เคยเจอกันมาก่อน” ไปรเดินออกไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง เขาเพิ่งสังเกตว่าห้องนี้เหมือนโกดังเก็บของใหญ่ๆ แต่จะเป็นที่ไหนเขาก็สุดจะรู้ได้ “เอางี้ละกัน มึงไม่ต้องถามมาก นั่งเฉยๆ เดี๋ยวไอ้ณุมันก็มาเอง”

   หรือว่า... นี่จะเป็นแก๊งค์คู่อริของโรงเรียน M ที่ณุเคยพูดไว้

   “แล้วทำไมณุมันต้องมา?”

   “เอ๊า พูดหมาๆ” ไปรร้อง “มันจะเหี้ยขนาดไม่ยอมมาช่วยแฟนมันเลยเหรอวะ”

   นั่นไง... เป็นอย่างที่ณุเคยบอกไม่มีผิด

   ตอนนี้เขาเริ่มเข้าใจแล้ว ว่าสิ่งที่ณุพูดมาทั้งหมด มันคือความหวังดีที่มีต่อเขาทั้งนั้น

   “กูไม่ใช่แฟนมัน”

   ...และแม้เมื่อเวลาต้องพูดประโยคนี้ จะได้ไม่เจ็บเพราะมันกลายเป็นความจริง

   ไปรผุดลุกขึ้นทันที “ไอ้เหี้ย! แล้วใครบอกว่าจับมาถูกตัววะ”

   “คนนี้แหล่ะครับลูกพี่” ลูกน้องคนเดิมตอบ “ที่วันนั้นผมเจอมันกับณุในรถตรงจุดชมวิว... ไอ้ต้อมเอารูปให้ลูกพี่ดูดิ”

   หนุ่มร่างสูงหยิบกล้องขึ้นมาเปิดรูปให้ลูกพี่ดู “ไม่ผิดตัวแน่ค้าบพี่”

   ไปรพินิจพิจารณารูปในกล้องเกือบสิบรูป ก่อนจะวิจารณ์ออกมา “โอ้โห ไม่อายฟ้าดินเลยว่ะ”

   มิครู้สึกร้อนๆขึ้นมาที่ตรงหน้า ทั้งอายทั้งโมโหจนอยากจะพุ่งไปต่อยหน้าเหลือเกิน “ไอ้สัด โรคจิตนะพวกมึง ชอบแอบดูคนอื่นเขานักรึไง”

   “อ๊าว... ไม่ปฏิเสธอีกต่างหาก” ไปรแสยะยิ้ม... มิคหน้าชา เพิ่งรู้สึกตัวว่าทำพลาดไปมหันต์

   “เด็ดด้วยนะครับลูกพี่”

   “เสียงดีด้วย อื้อหือ...”

   คำวิจารณ์น่าอับอายเหล่านั้น ยิ่งยุยงให้ปีศาจชั่วในตัวไปรมันนึกพิเรนทร์ขึ้นมาทันที

   “จริงเหรอ... เฮ้ย เมื่อไรไอ้ณุจะมาวะ”

   “ไม่รู้ครับพี่ คงอีกนาน”

   “เออดี... หาอะไรแก้เบื่อทำหน่อย” ว่าแล้วไปรก็เดินเข้ามาใกล้เขาอีกครั้ง... เพียงแค่นั้นมิคก็ขนลุกวาบ หนาวไปถึงหัวใจ “กูอยากรู้ว่าณุมันตาถึงแค่ไหน”

   สายตาโลมเลียที่มองมามันก้าวร้าวน่ารังเกียจ ไม่เห็นจะเหมือนของณุเลยซักนิด

   “ถอดเสื้อมัน”

   สิ้นคำสั่ง ลูกน้องที่อยู่แถวนั้นก็ปฏิบัติตามทันที ...มิคพยายามขัดขืน แต่ก็รู้ว่าถูกจับมัดอยู่อย่างนี้ก็คงไม่มีทางหนีรอดใด เริ่มจะสงสัยแล้วว่าทำไมเขาต้องเป็นเหยื่อการแกล้งถอดเสื้อมาตลอดทั้งชีวิต

   ผิวกายข้างในยังคงขาว... ขาวเสียจนเขาเห็นบางคนที่จ้องมองอยู่กลืนน้ำลายอย่างชัดเจน

   “ตรงนี้เคยมีรอยด้วยนี่...” ไปรเข้ามาพิจารณารอยแดงที่แสนจางตรงใกล้ๆอกเขา ...มันนานเหลือเกินจากวันสุดท้ายที่เคยมีคนทิ้งรอยเอาไว้

   “เรื่องของกู...”

   “เฮ้ย ปากดีว่ะ” ไปรเริ่มหงุดหงิด “ถอดมันให้หมด!”

   เหมือนเห็นเดจาวูอีกครั้ง... กาลครั้งหนึ่งณุก็เคยสั่งคำสั่งนี้กับลูกน้อง แต่สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะไปถอดที่ห้องณุสองคน แล้วก็ลงเอยด้วยการได้กับมันไปซะงั้น

   ถ้ามันจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ...กับคนกลุ่มนี้?

   ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าณุเป็นห่วงเขาจริงๆ ไอ้พวกนี้มันร้ายกาจกว่าที่เคยคิดเอาไว้   เคยประมาท เคยประมาณตัวเองสูงไปว่าจะสู้แรงพวกมันได้ แต่กลายเป็นว่าณุกลับพูดถูกหมดทุกอย่าง

   โธ่ ณุ... ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ก็คงจะดี

   เครื่องแต่งกายชิ้นสุดท้ายร่วงลงกับพื้น บัดนี้ร่างกายเขาเปลือยเปล่า ต่อหน้าคนนับสิบอย่างที่ครั้งหนึ่งเขาเคยหวาดกลัวจับใจ

   หลับตาแน่น ไม่อยากจะเห็นสายตาวิปริตเหล่านั้นที่กำลังจ้องมองเขาอย่างโลมเลีย

   “แยกขามันมัดไว้กับแขนเก้าอี้หน่อย”

   คำสั่งสุดวิตถารนั่นทำให้เขาต้องกรีดร้อง ...มันเหมือนฝันร้ายที่เขาตื่นขึ้นมาไม่ได้ และยิ่งเวลาผ่านไปมันก็ยิ่งจะมีแต่เลวร้ายลง

   “ไอ้พวกชาติหมา... ระยำ...”

   อับอายเสียจนถ้อยคำที่ด่าทอเป็นเพียงเสียงกระซิบแหบแห้ง แต่มันกลับยิ่งทำให้อีกฝ่ายบ้าคลั่งมากขึ้นเท่านั้น

   “ต้อม มึงมีกล้องนี่ ถ่ายวีดีโอไว้ให้กูหน่อย”

   “ไม่เอา! ...อย่า!”

   “ได้ค้าบพี่!”

   “อย่า!!!”

   อับอายจนถึงขีดสุด ยิ่งเห็นกล้องมันเคลื่อนเข้ามาใกล้ ซูมเข้าไปจนเห็นสิ่งที่ควรปกปิดชัดเจน... มันร้ายกาจเสียจนทำเขาน้ำตาไหล   ไม่เคยคิดว่าชีวิตต้องเสียศักดิ์ศรีถึงขนาดนี้

   “ไหน มึงบอกว่ามันเสียงดีใช่มั้ย”

   “แม่นครับลูกพี่”

   ไม่พูดมากไปกว่านั้น ฝ่ามือหยาบกระด้างลูบเข้ามาที่หว่างขาของเขา

   “ดี... กูอยากได้ยิน”

   ไม่ใช่คำสั่ง แต่มันกลายเป็นคำท้า... มิคสาบานกับตัวเองตั้งแต่วินาทีนั้นว่าเขาจะไม่มีวันเปล่งเสียงใดออกมาให้พวกจัญไรพวกนี้ได้ยิน!

   มือร้อนปฏิบัติกับเขาอย่างหยาบกระด้าง ถึงใจจะค้านแต่กายมันก็ห้ามไม่อยู่   ร้อนขึ้น ร้อนขึ้นจนแทบทนไม่ไหว

   อีกใจก็รู้สึกผิดบาปต่อณุเหลือเกิน เมื่อร่างกายมันทรยศแล้วเขาก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้

   “ใจแข็งดีนี่... หรือมึงต้องโดนตรงนี้...?”

   “อย่า...!!!”

   มือกร้านเลื่อนลงไปด้านล่าง ลงไปหยอกล้อเล่นกับส่วนที่เขายอมให้ณุได้คนเดียว...

   “มา เข้ามาถ่ายใกล้ๆ”

   ตากล้องรับคำสั่ง ร่างกายเกร็งแน่นไม่ยอมรับสัมผัสใดๆ

   “เฮ้ย อย่าดื้อสิวะ ไม่ต้องเกร็ง”

   อีกมือเลื่อนขึ้นมาสัมผัสส่วนบนอีกครั้ง สติเขาจะระเบิด... ไม่ได้ตั้งใจจะให้นิ้วนั้นรุกรานเข้ามาได้เลยสักนิด

   แต่มันก็สายไปแล้ว เพราะมันไม่ใช่ไม่เคยมีสิ่งใดผ่านเข้ามา... สิ่งแปลกปลอมเพียงแค่นี้ร่างกายเขาก็รับได้ไม่ยาก ใช้เวลาเพียงไม่นานมันก็ขยับได้สบายๆ

   ...รังเกียจตัวเองเหลือเกิน

   “เชี่ย... ไม่ธรรมดาจริงๆ”

   “พอแล้ว...”

   “แล้วตรงนี้ล่ะ?”

   ดันไปเจอจุดนั้นเข้าตรงได้... ปณิธานเหลวแหลก เผลอร้องออกมาสุดเสียงไม่ได้ตั้งใจ   พอรู้สึกตัวขึ้นมาว่าพลาดไปแล้วก็ถึงกับตัวสั่น ปล่อยให้มันทรมานเขาเล่น ให้สองขาที่พยายามดิ้นหนีถูกเข็มขัดที่รัดไว้บาดจนเป็นรอย

   “ไอ้เชี่ย กูเชื่อมึงแล้ว เสียงดีจริงๆ ไอ้สัด”

   แกล้งเล่นจนพอใจแล้วก็ถอนนิ้วออกมาไม่บอกไม่กล่าว ทั้งร่างสะดุ้ง สั่นสะท้านเมื่อเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

   ชายตรงหน้ายืนขึ้น ถอดเข็มขัด รูดซิปลง...

   ณุ... ณุอยู่ไหน! มาช่วยเขาซะที!!!






To be Continue!!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 16-02-2012 18:49:51
ค้างค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 16-02-2012 19:37:17
ตัดฉับเลยทีเดียวจร้าาาา มาต่อไวๆเน้อออ ณุไปอยู่ไหนว่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 16-02-2012 19:51:07
ณุหายไปไหน!!    มาช่วยมิคเร็วๆเลยน๊าา  :m31: :m31:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-02-2012 20:21:16
นายเอกของเรารับบทหนักไปไหม
อิณุแกเป็นพระเอกนะทำงานหน่อย อู้ตลอด
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 16-02-2012 21:52:55
โห มิคมีเรื่องตลอด

ณุ บ้านแกอยู่ไหนว่ะ ทำไมมาช้าอย่างนี้เนี๊ย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: GoonKGiinK ที่ 16-02-2012 22:14:12
โอ้ย ณุขา บ้านอยู่เยอรมันหรือไง ทำไมมาช้าอย่างนี้  :angry2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: maruko ที่ 16-02-2012 22:43:07
กรี๊ดดดดดดดด ณุอยู่ไหนนนนน!!! มาด่วนนน วอหนึ่งเรียกวอสอง
ณุต้องมาให้ทันนะ ถ้ามาไม่ทันนี่น้ำตาคนอ่านนองหน้าจอคอมแน่ๆ TT^TT
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 16-02-2012 23:30:12
ตัดจบอย่าง...ลุ้น !!!!!!!!!!
โธ่...มิค สถานการณ์น่าหวั่นวิตกเป็นอย่างยิ่ง
ณุ ต้องรีบ ๆ มาช่วยมิคให้ทันนะ  ไม่งั้น...ไม่อยากจะคิด  :sad4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 17-02-2012 22:35:34
He's my Hero (3/3)
Continue!!!



   ชายตรงหน้ายืนขึ้น ถอดเข็มขัด รูดซิปลง...

   ณุ... ณุอยู่ไหน! มาช่วยเขาซะที!!!

   “มิคคคคคคคคคคคคคค!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

   เสียงคำรามก้องดังมาก่อนที่ประตูบานยักษ์จะเปิด เหล่าเด็กหนุ่มกางเกงน้ำเงินหันไปพบกับกองทัพศัตรูที่นำโดยอสูรที่กราดเกรี้ยวที่สุดที่เขาเคยเห็นมา

   ณุมาพร้อมไม้หน้าสาม แววตาแห่งความบ้าคลั่งนั้นทำให้เขาหนาววาบไปถึงหัวใจ

   “ฆ่ามานนนนนนนนนนนน!!!!!!!!!!!!!!!”

   สงครามอุบัติ วัยรุ่นกางเกงดำพุ่งเข้าปะทะกางเกงน้ำเงินหลังสิ้นคำประกาศิตนั้น ความรุนแรงพุ่งพล่านทุกแห่งหน สองฝั่งปะทะแลกหมัดกันสับสนอลหม่าน

   ไปรรีบรูดซิปขึ้น พอหันหลังไปมองก็สบถออกมาเสียงดัง

   “ไอ้สัด กูบอกไม่ให้ใช้อาวุธ!”

   พูดยังไม่ทันขาดคำ ไปรก็โดนไม้หน้าสามฟาดคว่ำลงไปกับพื้น

   “มึงทำอะไรมิค!!! ไอ้ระยำ!”

   ณุขว้างไม้ทิ้ง เห็นไปรกำลังจะคลานหนีเขาก็เตะซ้ำเข้าให้

   “กูบอกไม่ให้ใช้อาวุธ!”

   ไปรสำลักเลือดที่กบปาก ลากณุลงมาตะลุมบอนกับพื้น แต่พอถูกชกท้องเข้าไปเต็มๆก็ถึงกับนอนจุก โดนณุคร่อมอยู่ข้างบน ฟาดหมัดใส่หน้าเสียเต็มแรง... หมัดแล้วหมัดเล่าเอาเสียให้หายแค้น

   “งั้นกู จะชกมึง ให้ตายนี่แหล่ะ!”

   มิคได้แต่มองภาพตรงหน้า รู้สึกว่าความรุนแรงโหดเหี้ยมที่เห็นนั้นมันเกินกว่าคำว่าแก้แค้นไปมากนักแล้ว แต่ละหมัดที่ณุฟาดลงไปก็เริ่มรู้สึกสงสารไปรขึ้นมาครามครัน

   ไม่ทันได้รู้ตัว ก็มีลูกน้องของณุมาช่วยแก้มัดเขาให้เรียบร้อย

   “แก้ให้แล้วครับเจ้”

   “ขอบใจมาก!”

   มิคพุ่งลงไปบนพื้น คว้ากางเกงขึ้นมาใส่ ก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดณุไว้จากด้านหลัง

   “ณุ! ณุ! พอแล้ว!”

   “ไอ้สัตว์... มึงตาย!!!!”

   “พอแล้ว!”

   มิคตะโกนร้อง ดึงตัวณุขึ้นมาให้หลุดจากวังวนเลือด แล้วพลิกตัวเขาให้หันมารับจูบที่ล้ำลึกที่สุดที่เคยให้มา

   เหมือนเวลาหยุดลง ทุกอย่างรอบข้างมลายหาย ความรู้สึกที่ทั่งท่วมมันทะลักล้นเข้าไปในใจของกันและกัน สาดซัดดับความบ้าคลั่งให้มลายสิ้น

   เพิ่งจะรู้ ว่าชีวิตต้องการคนตรงหน้ามากเพียงใด

   เมื่อถอนหน้าออก ณุดูค่อยๆคืนสติช้าๆ แววตาอสูรร้ายที่เขาเห็นค่อยๆจางหายไป

   “มิค...”

   “พอแล้วนะ ณุนะ”

   เด็กหนุ่มตรงหน้าเขาดูไม่เข้าใจ ร่างกายยังหอบเหนื่อย หายใจไม่ทัน

   “แต่ดูมันทำกับมึง...”

   “แค่มึงมาช่วยกูก็พอแล้ว”

   ณุนิ่งไป ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายรอบตัว ไปรหมดสตินอนแผ่ไปแล้ว

   “มิค เรื่องวันนั้น...”

   “ชู่...” มิคว่า ตัดหน้าพูดเสียก่อน “...กูต่างหากต้องขอโทษ กูน่าจะเชื่อมึง ณุ”

   “งั้นมึงจะเลิกกับกูจริงๆเหรอ?”

   เพิ่งจะเห็นแววตาเสียใจนั้นชัดเจนเสียตอนนี้ ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาที่เขาคิดไปเองว่าณุคงจะไม่คิดถึงเขาหรอก ไม่ได้คิดเลยว่าณุคงทรมานไม่แพ้กัน

   “วันนี้กูบอกพวกมันไปว่ากูไม่ใช่แฟนมึง กูก็โดนอยู่ดี... มันไม่ใช่ทางแก้รึเปล่าวะ”

   “แต่มึงบอกว่ามึงเกลียดกู”

   “ไอ้โง่...” กระชากณุเข้ามากอด ซบหน้าลงไปตรงไหล่ กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ “กูไม่เคยเกลียดมึง อย่าพูดว่าจะเลิกกับกูอีก... กูไม่เคยอยากเลิกกับมึง เข้าใจมั้ย”

   ณุกอดเขานิ่ง ปล่อยให้น้ำตาเขาไหลเปื้อนเสื้อ นิ่งเสียจนความโกลาหลรอบตัวมันไร้ความหมาย นานเสียจนไม่รู้ว่าณุคิดจะทำอะไรต่อไป

   มันคือวินาทีที่เขาคิดได้ ว่าต้นตอของปัญหาที่แท้จริงคืออะไร

   “พวกเรา พอได้แล้ว!

   ณุประกาศเสียงดังก้อง อำนาจในคำสั่งนั้นทำให้ทุกการกระทำรอบตัวหยุดนิ่งได้ในพริบตา

   “ศึกวันนี้ กูขอให้มันเป็นครั้งสุดท้าย! กูไม่ขอประกาศว่าใครแพ้ชนะ แต่ขอให้ทุกคนมองรอบๆตัว... กูเห็นแต่ความเจ็บปวด ไม่เห็นจะมีอะไรดีขึ้นมา!”

   เห็นได้ชัดจากไปรที่นอนสลบ ทั้งตัวฟกช้ำดำเขียว ปากแดงก่ำด้วยเลือดอย่างน่ากลัว

   ณุสูดหายใจลึก

   “หรือพวกมึงอยากจะทำร้ายกันเองต่อก็ได้ กูไม่ว่า... แต่กู...”

   เด็กหนุ่มหลับตา คล้ายกับกำลังตัดใจจากความฝันที่ไล่ตามมาตลอดทั้งชีวิต คล้ายกับเสียสิ่งที่รักที่สุดไปตลอดกาล

   แต่เขาตัดสินใจแล้ว

   “...กูจะไม่เป็นหัวหน้าแล้ว!!! กูขอถอนตัว! ใครจะมาเป็นหัวหน้าต่อจากกูก็เชิญ!”

   ลูกน้องนับสิบชีวิตได้ฟังคำประกาศนั้นแล้วก็ถึงกับได้ยินเสียงสำลักลมหายใจดังชัดเจน ใจหายวาบ ไม่คิดเลยว่าหัวหน้าที่ตนแสนจะเคารพรักจะมีวันประกาศคำนี้ออกมา

   ณุหลับตาอีกครั้ง ยืนนิ่ง จับมือมิคไว้ข้างกาย

   “ณุ...”

   “กูทำเพื่อมึง มิค... กูกับมึงจะได้ไม่ต้องเลิกกันอีก”

   แค่ประโยคอธิบายเพียงสั้นๆ มันตื้นตันใจเสียจนเกินจะรับไหว ในวินาทีนั้น มิคตัดสินใจแล้วจริงๆว่าเขาก็จะไม่มีวันปล่อยมือคนๆนี้ให้ไปไหนอีกเช่นกัน

   วันนี้มีพระเอกมาช่วยเขาไว้   Happy Ending   เครดิตจบสวยงาม

   แค่นี้ก็พอแล้ว...


...................................................................


   ท่ามกลางห้องนอนสลัว อุณหภูมิของคนในห้องร้อนระอุ มีไฟสีแดงเล็กจ้อยกระพริบอยู่ตรงมุมห้อง

   “ณุ... นั่นแสงไรวะ”

   เด็กหนุ่มไม่ยอมตอบ เพราะกำลังง่วนอยู่กับภารกิจตรงหน้า ทำให้มิคต้องเพ่งสายตามองเองแล้วถึงได้รู้ว่า ที่มาของแสงนั้นคือกล้องตัวที่เขาจำได้ขึ้นใจ

   “ไอ้เชี่ย! นั่นมันกล้องของลูกน้องไอ้ไปรนี่”

   “ช่ายยยยยแล้ว”

   ณุลากเสียงตอบ ดูท่าทางเบิกบานใจ ในขณะที่อีกฝ่ายรีบดิ้นหนีออกมาสุดตัว

   “มึงจะบ้าเหรอ ไปเอาของมันมาทำไมวะ”

   “อ้าว ก็มันมีคลิปมึงอยู่ กูไม่ยอมให้ใครได้เห็นหรอก”

   “แล้วทำไมมึงไม่เอามาแต่เม็ม...” มิคร้อง รีบดึงผ้าห่มขึ้นมาบังร่างเปลือยเปล่าอย่างสุดจะอับอาย

   “เออน่ะ จะเอามาก็เอามาให้หมด จะได้สิ้นเรื่อง”

   เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง ท่าทางพระเอกของเขาจะชั่วร้ายกว่าที่เขาคิด

   “แล้วทำไมมันมีแสงกระพริบด้วยวะ... ไอ้ณุ มึงอัดวีดิโออยู่เหรอ”

   “ช่ายยยยยย!” ณุยังดูเบิกบานใจอยู่อีก แต่พอเห็นว่าแฟนหนุ่มรีบตะเกียกตะกายจะไปกดปุ่มหยุดให้ได้ เขาก็รีบดึงร่างมิคให้กลับมาที่เดิมทันที

   “ณุ อย่าทำอย่างงี้ กูไม่ชอบ!”

   “ไม่เอาน่า ตื่นเต้นดีออก... กูเก็บไว้ดูคนเดียว ไม่เห็นเป็นไร”

   “จะบ้าเรอะ ไม่เอา!”

   “กูเห็นในคลิปแล้วมิค... กูจะไม่ยอมให้ใครทำอย่างงั้นกับมึงอีก”

   นึกอยากจะเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยน นึกอยากจะเปลี่ยนอารมณ์เป็นจริงจังก็ทำ เล่นเอาเขาตามไม่ทัน

   “จ้ะ! กูรู้แล้ว”

   “กูต้องทำกับมึงได้คนเดียว เข้าใจมั้ย”

   ไม่รู้ทำไม แต่ประโยคนั้นทำให้เขาขนลุกวาบ แต่จะหนีก็คงไม่ทันเสียแล้ว

   กดปุ่มเพลย์ เล่นฉากต่อจากเมื่อครู่ที่หยุดไว้ บทจะเก่งมันก็เก่งเกินที่เขาจะต้านทานได้ เล่นเอาหมดแรง ไม่รู้จะห้ามยังไงได้ไหวแล้วจริงๆ

   จะเป็นพระเอกหรือเป็นพระเอกหนังโป๊ก็เป็นไปเหอะ... ก็เขารักไปแล้ว จะให้ทำไงได้?




จบเถ้อะ... =__=!

โปรดติดตามตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: GoonKGiinK ที่ 17-02-2012 22:45:31
พระเอกหนังโป๊ 5555 :laugh:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: YELLOWSTAR ที่ 17-02-2012 22:49:50
ณุเป็นฮีโร่มากกก  ขนาดยอมเอาความฝันของตัวเองแลกกับความสุขของคนรัก
พระเอกไปไหนเนี่ยยยย   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 17-02-2012 23:20:28
อิณุให้แกเป็นพระเอกต่อไปก็ได้ เพราะแกมาช่วยน้องมิคไว้ได้ทัน
แต่แกอยากเป็นพระเอกหนังโป๊มากกว่าใช่ไหม อิเด็กไม่รักดี

ปล.มีใครพาไปรส่งโรงพยาบาลหรือยัง (ก็แล้วป้าจะไปห่วงมันทำไม)
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 3:He's my Hero (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 17-02-2012 23:56:06
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 18-02-2012 11:01:33
Chapter 4
He's my Villain




   “วิษณุ...”

   ไม่มีเสียงขานรับจากบุคคลที่อาจารย์เรียก ทั้งห้องมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะตอบอะไร

   “วิษณุ... มารึเปล่า”

   อาจารย์หน้าห้องถามย้ำอีกครั้ง ลูกน้องหน้าแหยคนเดิมหันมากระซิบกับมิค

   “เจ้ครับ วันนี้เฮียไปไหน”

   “กูจะไปรู้มันเรอะ”

   มิคตอบไปส่งๆ ชักจะรำคาญกับคำถามนี้เต็มทน

   “ใครเป็นเพื่อนมันบอกให้มันมาเรียนด้วยนะ” อาจารย์สรุป ก่อนจะย้ายไปขานชื่อนักเรียนคนต่อไป

   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ณุโดดเรียน ไอ้นักเลงตัวแสบคนนี้มันก็โดดเป็นเรื่องปกติ เพียงแต่ช่วงนี้มันแทบจะไม่โผล่หน้ามาโรงเรียนอีกเลย เป็นบ่อยๆติดกันหลายวัน แถมบางทีโทรไปมันก็ไม่รับ

   ไม่ใช่ว่าเขาไม่เป็นกังวล แต่เขาเป็นห่วงเสียจนเลิกกังวลไปแล้ว เสียงพูดของมันที่ตอบในโทรศัพท์ก็ดูเบื่อหน่ายเต็มทน คาดคั้นก็แล้ว แวะไปหาที่บ้านก็แล้ว ทำทุกอย่างก็แล้ว แต่ณุก็ยังทำตัวเบื่อโลกน่ารำคาญอยู่เหมือนเดิม

   อยู่ดีๆก็เป็นเชี่ยอะไรมากมายก็ไม่รู้ ตอนนี้เขาเหลือแต่ความเอือมระอาไปเสียแล้ว

   เลิกคาบเรียน มิคหมดอารมณ์เดินออกจากห้องไปคนเดียว คิดจะซื้อของทอดกินเป็นอาหารกลางวัน ขี้เกียจจะเบียดเสียดกับคนมากมาย แต่สุดท้ายก็ต้องมาเจอเรื่องอีกจนได้

   กะจะเดินเล่นกินลูกชิ้นไก่ทอดสบายใจ ทว่าสิ่งที่เห็นหลังตึกเรียนก็คืออดีตลูกน้องของณุสองคนกำลังทะเลาะวิวาทกันอย่างเมามัน แทบจะไปล้มลุกคลุกคลานกันอยู่บนพื้น แถมยังมีไทยมุงลูกน้องคนอื่นๆยืนเชียร์อยู่ข้างๆกันสลอน

   พอณุไม่อยู่ก็ทำเขางานเข้าทุกทีสิน่า

   “เฮ้ย พวกมึง!”

   มิคตะคอก แต่สองคนนั้นก็ยังไม่หยุด ก็เลยต้องเพิ่มระดับเสียงยิ่งกว่าเดิม

   “พวกมึง... หยุด!!!!

   คำสั่งนั้นฟาดลงมากลางวง เด็กหนุ่มสองคนแทบจะหยุดไปในทันที

   “เจ้...”

   หนึ่งในสองเงยหน้าขึ้นมาอย่างงงๆ แต่อีกคนกลับยิ่งดูไม่พอใจ

   “เจ้ เจ้อ อะไรวะ... ไอ้ณุไม่ใช่ลูกพี่เราแล้ว”

   คำพูดคำนั้นแทงลึกลงไปในใจคนฟัง... ความจริงที่เขาแทบลืมไปแล้วมันกระแทกกลับเข้ามาที่เดิม

   “เออ กูไม่ใช่เจ้... แต่พวกมึงจะมาต่อยอะไรกันในโรงเรียนวะ อยากโดนไล่ออกรึไง”

   “ขอโทษว่ะเจ้... เอ้อ มิค” เด็กหนุ่มแก้ รู้สึกไม่คุ้นชินกับการเรียกชื่อเขา “เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย อย่ามายุ่งเลยดีกว่า”

   “แล้วมันไม่เกี่ยวยังไง” มิคเริ่มหงุดหงิด... หลายเดือนที่ผ่านมากับการขลุกอยู่กับแก๊งค์เด็กหนุ่มพวกนี้ มันพาลทำให้เขารู้สึกว่าทุกคนก็เป็นลูกน้องเขาไปด้วยแล้วจริงๆ

   “ณุถอนตัวไปแล้ว... ต้องมีใครซักคนขึ้นแทน”

   คำตอบเพียงสั้นๆ ก็ทำให้มิคเข้าใจทุกอย่างได้แจ่มแจ้ง...  นี่เองคือผลทั้งปวงจากการกระทำในวันนั้น

   หลายอาทิตย์ที่แล้ว ณุลั่นประกาศิตว่าเขาจะถอนตัวจากการเป็นหัวหน้าแก๊งค์ตลอดไป ไม่คาดคิดเลยว่าผลของการกระทำจะกลายมาเป็นลูกโซ่เช่นนี้ การต่อสู้แย่งชิงความเป็นใหญ่คงจะดำเนินต่อไป แม้ว่าจะมีใครได้ขึ้นแทนอำนาจนั้นก็คงจะไม่อยู่จีรัง

   และผลอีกอย่างของการกระทำนั้น... คือทำให้ณุหายหน้าไปจากสังคมด้วยหรือเปล่า

   “เจ้ครับ ปล่อยพวกมันเหอะครับ” ลูกน้องคนเดิมดึงแขนเขา... ยังมีไอ้หมอนี่คนเดียวที่ยังเรียกเขาว่าเจ้ แม้ว่าจะโดนเขากับณุต่อยหน้าระบายโทสะไปหลายรอบแล้วก็ตาม

   “ทำไมมึงยังเรียกกูว่าเจ้อยู่วะ...”

   “สำหรับผม ต่อให้เฮียจะถอนตัวไปแล้ว เจ้กับเฮียก็ยังจะเป็นหัวหน้าผมน่ะแหล่ะครับ” ไอ้หนุ่มหน้าสิว ตัวเตี้ย หัวเกรียน พูดออกมาอย่างจริงจัง... แปลกที่มันทำให้เขาตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก

   “ผมเชื่อแหล่ะเจ้ ว่าจริงๆทุกคนก็อยากให้เฮียกลับมา... แต่ตอนนี้ทุกคนแค่เคว้งเท่านั้นเอง”

   หันกลับไปมองภาพตรงหน้า การตะลุมบอนกลับมาดำเนินต่ออีกครั้ง... แต่ทว่าสมองของเขากลับปล่อยความคิดให้หลุดลอยไปไกลแสนไกล

   อาจารย์หนวดสุดเหี้ยมโผล่เข้ามาหยุดการวิวาทอยู่เป็นฉากหลัง แต่เขาก็ไม่ได้สนใจ... ตอนนี้สิ่งที่คิดอยู่มีเพียงสิ่งเดียว

   ...เขาต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว


...................................................................


   กดกริ่งหน้าบ้าน ใช้เวลาไม่นาน ชายหนุ่มเจ้าของบ้านก็มาเปิดประตูต้อนรับ

   “อ้าว มิค มาหาณุเหรอ”

   ชายผู้เป็นแม่ของณุยังอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อน สงสัยว่าคงกำลังทำอาหารเย็นอยู่กระมัง

   “อ่า ครับ ผมมาเอาการบ้านให้ณุ”

   “ดีดี ไอ้อ้วนไม่ยอมไปโรงเรียนหลายวันแล้ว” บอลบ่น ก่อนจะหันหลังกลับเข้าห้องครัว “มันอยู่ข้างบนนะ ขึ้นไปหามันได้เลย”

   “ครับ...” มิครับคำ รู้ดีแก่ใจว่าการบ้านอะไรนั่นมันข้ออ้างชัดๆ

   เดินขึ้นบันไดไปตามทางที่เขารู้จักดี... ห้องนอนของณุไม่ได้ล็อกไว้ เคาะประตูก่อนเปิดเข้าไปเสียงเงียบกริบ

   “แม่ ผมยังไม่หิว”

   ณุพึมพำมาจากบนเตียง ห้องก็ไม่ได้เปิดไฟ แถมจะนอนตะแคงหันหลังไม่ยอมหันมามองเสียอีก มิคเกือบจะตอบออกไปแล้ว แต่ก็คิดขึ้นมาได้ว่าขอแกล้งเสียหน่อยจะดีกว่า

   ย่องเข้าไปแผ่วเบา ก้มหน้าลงไปกระซิบข้างหู

   “ยังไม่หิวจริงๆเหรอ...”

   แกล้งให้น้ำเสียงส่อความนัย ณุสะดุ้งแทบถดตัวหนีไม่ทัน

   “เฮ้ย มิค!!! เวรเอ๊ย นึกว่าแม่!”

   แฟนหนุ่มหัวเราะร่า นึกดีใจที่แกล้งได้สำเร็จ

   “ไม่เอาน่ะ ตกใจอะไรมากมาย”

   ณุดึงตัวเขาให้กลิ้งลงนอนบนเตียงเป็นการแก้แค้น ดึงให้มิคลงมานอนหนุนแขนเขาข้างๆไม่ยอมให้หนีไปไหน

   “โธ่เว้ย...” เด็กหนุ่มบ่นเบาๆ ถอนหายใจกับตัวเอง

   “เป็นไรวะณุ... แล้วช่วงนี้ทำไมไม่มาโรงเรียน”

   “กูไม่อยากไป” ณุแทบไม่มองหน้าเขา หันไปจ้องมองเพดานอันว่างเปล่า

   ไอ้นักเลงคนนี้มันเปลี่ยนไปจริงๆด้วย ปกติถ้าเขาแวะมาหาอย่างนี้ก็ต้องโดนแกล้งเสียจนเลยเถิดไปไกลไปแล้ว... แล้วนี่อะไร? เหนื่อยหน่ายเฉื่อยชา ไม่เหมือนกับณุเลยจริงๆ

   “มึงเบื่อกูแล้วรึไง”

   “บ้า... กูไม่เบื่อมึงหรอก”

   “ก็ดี ไม่งั้นกูคงคิดว่ามึงไปหาคนใหม่แล้ว”

   ณุมองหน้าเขา เหมือนจะหัวเราะแต่ก็หัวเราะไม่ออก

   “กูจะไปมีปัญญาหาใครใหม่ที่ไหน”

   “งั้นถ้ามึงมีปัญญามึงจะหารึไง”

   “โอ๊ย อย่าเพิ่งงอนสิคร้าบ กูมีมึงคนเดียวนะคร้าบ... นะ”

   มิคหลุดหัวเราะ ยังไม่ทันงอนอะไรไอ้หมอนี่ก็คิดไปไกลเสียก่อนแล้ว

   เด็กหนุ่มไม่พูดอะไรต่อ แต่พลิกตัวกลับขึ้นมานอนหนุนอยู่บนอกณุ รู้สึกถึงเสียงหัวใจเต้นกับจังหวะหายใจเนิบช้าคล้ายคนหมดกำลัง

   บางทีหลายสัปดาห์ก็นานเกินกว่าที่เขาจะทนไหว...

   “ณุ... กูเหงา...”

   ใช้เวลาหลายวินาทีกว่าที่มิคจะรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป ไม่ได้ตั้งใจจะพูดออกไปชัดเจนขนาดนั้น แล้วผลที่ได้ก็คือโดนพลิกตัวให้เป็นฝ่ายนอนอยู่ข้างล่างซะแทน

   “จริงเหรอ...”

   ณุเป็นอะไร ทำไมดูเศร้า ปกติต้องนึกหื่นอยากจะขย้ำเขาไปนานแล้ว

   ความเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เขาตกใจ นึกจะพูดไม่ตรงกับใจก็หาคำมาได้ไม่ทัน

   “อืม...”

   “ขอโทษนะ”

   แม้แต่คำขอโทษก็ยังดูประหลาด มันเศร้าเกินกว่าที่เขาจะทนได้

   “มึงเป็นอะไร ณุ กูคิดถึงมึงจะตายห่าอยู่แล้ว”

   ดึงคอณุเข้ามากอด ร่างกายที่คุ้นเคยกอดเขากลับ หายใจเนิบช้า... รู้สึกถึงลมหายใจวนเวียนอยู่ตรงต้นคอ ริมฝีปากงับลงไปเบาๆ พาให้ร่างสะท้านไปโดยไม่ได้ตั้งใจ

   แม้แต่การกระทำเหล่านี้ มันอ่อนโยนเกินไปจนเขาสะพรึงกลัว…





To be Continue...
ปล.แอบกระซิบว่าอาจารย์หนวดสุดโหดจะมีเรื่องของตัวเองด้วยแหล่ะ แวบๆมาfeatเรื่องนี้เล็กน้อย จะเป็นเช่นไรโปรดติดตาม!  o13

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 18-02-2012 14:21:48
ณุเปนไรอ่า?

อาจาย์หนวด เค้าก๊อยากอ่านนะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 18-02-2012 14:34:43
สงสัยเรื่องนี้มีคู่ทุกคน 5555
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 18-02-2012 20:01:59
ณุเป็นไรหรืออยากกลับไปเป็นหัวหน้าอีก

ให้อาจารย์หนวดเลี้ยงต้อยได้ม่ะ

ชอบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 18-02-2012 22:16:34
โคตรหื่นๆๆๆ

รีบๆ กลับมาร่าเริงได้แย้วววว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 19-02-2012 00:45:01
@Supermint @tonkhaw

เรื่องของอาจารย์หนวดเขียนจบแล้วล่ะค่ะ ฮ่าๆ ไว้ลงเรื่องนี้ครบก่อนจะลงเรื่องโน้นตามมาเนาะ :D
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 19-02-2012 13:25:19
He's my Villain (2/3)
Continue...


   ริมฝีปากขบเม้มเน้นย้ำ มือกระด้างชอนไชไปตามร่างเขาช้าๆ พาให้อุณหภูมิค่อยๆสูงขึ้นทีละน้อย... มันช้าเกินไป เป็นอะไรที่เขาไม่เคยคุ้น  อยากจะร้องออกมาดังๆว่าเลิกทำบ้าๆแล้วจัดการเขาให้เรียบเสียที! แต่จะพูดออกไปมันก็อายเกินกว่าที่จะทำ

   “ณุ ไปโรงเรียนบ้างนะ”

   “ไม่เอา...”

   กระดุมค่อยๆถูกปลด... กระชากไปเลยสิโว้ย เสียเวลาชะมัด

   “คนอื่นเขาก็คิดถึงมึงเหมือนกัน”

   “หึ... ใครมันจะคิดถึงกู”

   นี่เห็นเขาเป็นขนมรึไง ค่อยๆไล่ชิมอยู่ได้... อยากกินก็รีบกินสิวะ

   “ก็ลูกน้องมึง...”

   “กูไม่มีลูกน้องแล้ว!”

   อยู่ดีๆณุก็ตะคอกใส่ เล่นเอามิคผงะ ตั้งตัวไม่ทัน... คิดในใจว่าตัวเองทำผิดอะไรวะ ทำไมต้องมาโดนใส่อารมณ์อย่างนี้

   “เชี่ยเอ๊ย...”

   ไอ้อ้วนสบถกับตัวเอง ผละร่างออกมานอนตะแคงอยู่ข้างๆ ความหงุดหงิดโมโหมันคุกกรุ่น  ทำให้มิคใจหายจนต้องตามไปหาอีกครั้ง

   “ณุ กูขอโทษ”

   “ไม่ต้องหรอก มึงไม่ผิดนี่”

   เสียงนั้นสับสน ความโมโหลดลง ค่อยๆเข้าใกล้ความเฉื่อยชาเหมือนเคย

   “แต่กูพูดจริงนะณุ ลูกน้องมึงต่อยกันเกือบทุกวัน ยังไม่มีใครมาแทนที่มึงเลย... และถ้ามึงยังไม่กลับไป กูก็ว่าก็คงจะตกลงกันไม่ได้ซักที”

   “ก็ช่างแม่งสิ”

   “แล้วถ้าพวกMจะมาต่อยอีกแล้วจะทำยังไง ใครจะเป็นหัวหน้า”

   “ก็ช่างแม่งสิ!” ณุพูดเสียงดังขึ้น

   “แล้วมึงก็จะปล่อยให้กูอยู่คนเดียวอย่างงี้ไปเรื่อยๆรึไง”

   “ก็ช่างแม่งสิ!!!”

   ณุพูดต่อด้วยโทสะอย่างลืมตัว แต่เพียงวินาทีเดียวก็ตามมาด้วยเสียงสะดุดลมหายใจที่รู้ตัวว่าทำพลาดไปเสียแล้ว

   มิครู้ดีว่าณุไม่ได้ตั้งใจพูด ครั้งนี้เขาไม่โกรธหรอก... แต่มันก็แอบโมโหอยู่ในใจ

   “มิค กูไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้น”

   “เงียบเหอะ กูรู้แล้ว”

   ผลักณุให้นอนลงข้างล่าง เห็นสีหน้าสับสนกับสิ่งที่ตีกันอยู่ในหัว... ตอนนี้มิคไม่ขออะไรหรอก เรื่องเมื่อกี๊ก็ยังค้างคา เรื่องนี้ก็หาคำตอบไม่ได้ มันก็ต้องจัดการไปให้เสร็จซักอย่างก่อนนั่นแหล่ะ

   “ถ้ามึงอยากจะช่างแม่งก็ตามใจมึง แต่เรื่องที่มึงทิ้งไว้เมื่อกี๊มึงต้องรับผิดชอบ”

   ณุจ้องหน้าเขา เห็นชัดว่าไม่เข้าใจประโยคนั้น... ยังไม่เข้าใจแม้ว่าจะเห็นเขาถอดเสื้อให้ดูต่อหน้าต่อตาก็ตาม

   “เฮ้ย... ทำอะไรของมึงอ่ะ”

   “เงียบน่ะ”

   มิคถอดต่อจนหมดชิ้นสุดท้าย ยังคงตื่นเต้นกับสายตาที่จ้องมองมาเหมือนอย่างเคย

   กลายเป็นณุที่อึ้งไป ไม่กล้าขยับแม้ว่าแฟนหนุ่มจะเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายถอดเสื้อให้เขาเสียแทน

   “เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย!”

   “มึงอยู่นิ่งๆน่ะ”

   เข็มขัดถูกปลด ตามด้วยซิปกางเกง และสิ่งที่อยู่ในนั้น

   “มิค... มึงไม่ต้อง!”

   “เบาๆสิ อยากให้แม่ได้ยินรึไง”

   แค่นั้นณุก็หุบปากนิ่งสนิท ได้แต่มองภาพตรงหน้า... เห็นมิคก้มลงไปหาเบื้องล่างของเขา... หายลับจากสายตาไป

   มิคไม่เคยทำให้เขาเช่นนี้ จะมีบางทีที่เขาเป็นฝ่ายบริการให้บ้าง แต่พอมาเจอเองอย่างนี้ ทุกสัมผัสที่ลิ้นไล้ชิมความร้อนผ่าว ปลายประสาทมันขมวดเกร็ง ตื่นเต้นกับสิ่งที่ไม่เคยได้สัมผัสจนสมองแทบระเบิดไป

   ลิ้นร้อนก็รู้ว่าไม่เคย แต่คนๆนี้ก็รู้จักร่างกายเขาดี รู้ดีว่าเขาชอบยังไง... วันนี้ณุพ่ายแพ้ อำนาจที่เคยมีมลายไปหมดสิ้น ความคิดซึมเศร้าทั้งหลายก็พาลหายไปด้วยกัน

   “โอย... มิค...”

   เป็นกระบวนการล้างสมองที่ชะงัดนัก เวลานี้เขาคิดอะไรไม่ออกเลยจริงๆนอกจากสัมผัสร้อนซ่านจากเบื้องล่าง พาลให้เลือดในกายเดือดพล่าน ได้ยินเสียงอสูรร้ายตัวเดิมคำรามอยู่ในหู

   จนกระทั่งอยู่ดีๆมิคก็หยุดกลางคัน

   “โอ๊ย เดี๋ยว... อีกนิดนึง”

   “ให้อะไรตอบแทนกูบ้างสิ”

   มิคใช้ต้นแขนเช็ดปาก เลื่อนร่างเปลือยเปล่าขึ้นมาคร่อมอยู่บนตัวเขา

   “มึงจะทำอะไร...”

   “กูนึกว่ามึงชอบแบบนี้”

   มิคสัมผัสความร้อนที่แข็งขืนเบื้องล่าง เตรียมพร้อมจะรับมันเข้ามาเหมือนอย่างเคย... จะว่าเขาหน้าไม่อายก็ได้แต่วันนี้เขาเกินจะทนแล้วจริงๆ

   สัมผัสเดิมชำแรกเข้ามาอย่างช้าๆ แต่ได้เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น... เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นกึงกัง!

   “ณุ! กินข้าวได้แล้ว!”

   เสียงของแม่ณุนั่นเอง ลูกชายผุดลุกขึ้นนั่ง เห็นลูกบิดประตูเริ่มขยับ

   เขาลืมล็อกประตู!!!

   “แม่ อย่าเปิด!!! ดูหนังโป๊อยู่!!!”

   ลูกบิดหยุดหมุน... มุขเดิมอีกแล้ว แต่ก็คงใช้ได้ผลทุกครั้งไป

   แต่เอาจริงๆอีกฝ่ายก็คงจะรู้ความจริงอยู่หรอก เพราะไหนๆณุก็เคยประกาศความสัมพันธ์ของพวกเขาออกไปชัดเจนขนาดนั้น จะให้เชื่อว่าลูกชายนั่งดูหนังโป๊เล่นกับแฟนเฉยๆมันก็คงไม่มีทางเป็นไปได้

   โชคดีที่ชายคนนี้ก็เข้าใจ

   “รีบลงมากินแล้วกัน เดี๋ยวเย็นหมด”

   ตะโกนกลับมาเรียบร้อยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าค่อยๆถอยทัพ ลมหายใจของคนในห้องถึงค่อยๆคืนกลับมากันอีกครั้ง...

   แต่ทว่าเมื่อมิคก้มลงไปมอง...  ความพยายามทั้งหมดที่เขาทำมามันสูญเปล่าไปเสียแล้ว

   “โอ๊ย... มิค กูขอโทษ...”

   ณุปิดหน้า คงจะอับอายเหลือทน... ความเป็นชาย ความเป็นอสูรร้ายมันหายไปไหนหมด เหลือไว้แต่สภาพเมื่อจุดเริ่มต้นตรงหน้า   ทำให้มิคพาลหมดอารมณ์ไปด้วยกัน

   “เออ ช่างมันเหอะ”

   ลุกขึ้นควานหาเสื้อผ้ามาใส่ ยิ่งทำให้ณุสมเพชตัวเองยิ่งกว่าเดิม

   “เฮ้ย กูขอโทษจริงๆ เริ่มใหม่ได้มั้ย”

   “ณุ... ถ้ามึงยังไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม กูก็ไม่เอาด้วยหรอกนะ”

   ไม่ได้ตั้งใจจะยื่นคำขาด แต่พอพูดไปแล้วก็คงจะกลืนน้ำลายตัวเองไม่ได้

   “มิค กูก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กูไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว กูรู้สึกเหมือนชีวิตกูไม่เหลืออะไรอีกแล้ว...”

   “มึงก็ยังมีกูอยู่ไม่ใช่รึไง”

   “ก็ใช่...”

   โธ่ณุ... ตกลงมึงเสียอะไรไป ถึงได้หมดกำลังใจกลายเป็นคนละคนเช่นนี้?

   แต่เท่าที่มิคคิดออกตอนนี้ มันก็มีเพียงแค่สิ่งเดียว...

   “ณุ... กูจะทำให้มึงกลับมาเป็นคนเดิมให้ได้ คอยดู”

   นั่นก็คือคำประกาศิต... เขาลั่นเอาไว้เป็นคำสุดท้าย ก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องไป...




To be Continue...
มิคจะกลายเป็นเจ้แล้วโว้ยยยย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 19-02-2012 13:31:26
เจ้มิค เอาเฮียกลับแกงค์ด่วน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: mister ที่ 19-02-2012 14:34:00
ณุเป็นไรอะ   :seng2ped:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 19-02-2012 15:50:46
คงเพราะเเก๊งแหละเนอะที่ทำให้ ณุเป็นเเบบนี้อ่ะ

แต่กลับไปแล้วมิคจะไม่เป็นอะไรไปอีกหรอ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 19-02-2012 18:05:27
ปัญหาของเหล่าหนุ่มน้อยวัยขบเผาะ ><
เรื่องนี้น่ารักมากเลย เคยอ่านในเด็กดีไปได้สองตอน เลยยังไม่ได้เม้น นี่มาอ่านต่อจนหมด เลยถือโอกาสเม้นซะเลย

ชอบมากค่า ^^ รอตอนใหม่ๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 19-02-2012 21:00:37
ความรักมีพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ สามารถเปลี่ยนเด็กขี้แย ที่โดนกลั่นแกล้งมาโดยตลอด
มาเข้มแข็ง กล้าทำอะไรเพื่อคนที่รักได้ ว่าแต่มิคคิดจะทำอะไรล่ะ ???

ป.ล. ดูหนังโป๊ คือ โค้ดลับของบ้านนี้สินะ   :m26:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: xxwerty ที่ 19-02-2012 22:50:07
ชอบๆๆอะ   :mc4: :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:



 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 20-02-2012 00:40:53
ณุ  ไม่อยากเปนหัวหน้าแก๊ง

งั้นเจ้ มิค ไปฝึกทุกอย่างมา คุมเอมหมดเลย

โอเคป่ะ?  อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 20-02-2012 11:42:32
He's my Villain (3/3)
Continue...





   “เจ้... เจ้เอาจริงเหรอครับ”

   ลูกน้องหน้าแหยคนเดิมกระซิบถามอย่างหวาดเกรง แต่จะให้ถอยตอนนี้มันก็สายเกินไปเสียแล้ว

   “มึงไม่ต้องพูดมาก เฝ้าหน้าห้องไว้แล้วกัน”

   มิคสั่งเฉียบขาด... เวลานี้เขาเหยียบเข้ามาในถิ่นศัตรู อุตส่าห์บุกเข้ามาในโรงเรียนMอีกครั้ง ไปคาดคั้นแหล่งกบดานของพวกไอ้ไปรได้จากลูกน้องคนหนึ่ง และวินาทีนี้...ประตูแห่งชัยชนะก็อยู่เบื้องหน้าเขานี่แล้ว

   ...ถอยหลังกลับไม่ได้อีกแล้ว

   ประตูเปิดออก เห็นเด็กหนุ่มนับสิบชีวิตนั่งๆนอนๆเล่นกันอย่างสบายใจ เปลี่ยนห้องเรียนร้างห้องหนึ่งให้เป็นแหล่งกบดานคลุ้งไปด้วยควันบุหรี่ ใช้เวลาไม่นานก็หาหัวหน้าคนนั้นได้เจอ

   “เฮ้ย! เชี่ย! เมียไอ้ณุ...”

   ไปรร้องลั่น ช็อคไปเหมือนเห็นผี... ตอนนี้ทั้งตัวเขามีแต่ผ้าพันแผล ทั้งแผลเย็บบนศีรษะ เฝือกที่คอ แล้วยังเฝือกที่แขนขวากับขาซ้าย

   สงครามในวันนั้นฝากรอยแผลเอาไว้มากมายนัก ดูจากคนอื่นๆในห้องที่ยังคงมีร่องรอยบาดแผลให้เห็น มิคก็เริ่มเข้าใจแล้วว่ามันคงหนักหนาสาหัสกว่าที่คิด

   “ไม่ต้องกลัว... ณุไม่ได้มาด้วยหรอก”

   มองไปรอบๆห้อง เด็กหนุ่มเกือบสิบชีวิตมองหน้าเขาอย่างหวาดผวา คงกลัวฝังลึกในใจไปแล้วว่าถ้ายุ่งกับเขาอีกเมื่อไร ณุต้องยกพวกมาจัดการให้เรียบเหมือนคราวก่อนอีกแน่

   “อะไรวะ... แล้วมึงมาทำไม จะมาแก้แค้นพวกกูเหรอ”

   ไปรเสียงสั่น วินาทีนั้นเขานึกอยากจะหัวเราะเยาะเหลือเกิน

   “เปล่า กูจะขอให้มึงช่วยอะไรกูหน่อย”

   “ช่วยเหี้ยไรวะ...”

   “ชกหน้ากูทีนึงดิ”

   ไปรเหวอ ท่าทางจะหูฝาด ไม่รู้ว่าตัวเองเพิ่งจะได้ยินอะไร

   “แล้วทำไมกูจะต้องชกมึง จะให้ไอ้ณุตามมาฆ่าพวกกูอีกเหรอ”

   “เชี่ย ป๊อดว่ะ...”

   มิคยักไหล่ ทำท่าไม่ใส่ใจ... รู้ดีว่าทำให้อีกฝ่ายโมโหได้แน่ๆ

   “กูไม่ได้ป๊อด”

   “ไม่ได้ป๊อดก็ชกมาเด๊!”

   “เอ๊ะ แขนกูก็มีข้างเดียว”

   “มึงไม่ชกกูชกเองละกัน”

   จบคำพูดเพียงวินาทีเดียว มิคก็ฟาดหมัดใส่หน้าไปรเสียงดังลั่น... เหมือนจะได้ยินเสียงกระดูกคอดังแกร๊บตามมาอยู่เบาๆ

   ลูกน้องในห้องลุกฮือ แต่ไปรก็ยกมือห้ามเอาไว้ได้ทัน

   “โอ๊ย พวกมึงไม่ต้อง... สัด มึงหาเรื่องกูนักใช่มั้ย...?”

   แขนที่ยังใช้การได้อีกข้างชกหน้ามิคกลับเสียเต็มแรง... เด็กหนุ่มถึงกับหน้าหัน มึนชาไปชั่วขณะ

   ในความเงียบงันนั้น มิคยิ้มที่มุมปากให้กับตัวเอง

   “ขอบใจมาก”

   ไปรถึงกับงง ไม่รู้ว่าศัตรูคิดอะไรอยู่ถึงได้หยิบโทรศัพท์ออกมา

   “ณุ... ณุ... ไอ้ไปรมันชกกู

   “เฮ้ย เชี่ยไรวะ!!!” ไปรร้องเสียงหลง

   “กูอยู่ที่ M อ่ะ... มาช่วยกูหน่อยนะ”

   “สัตว์! เอามานี่!!!”

   ไปรพยายามแย่งมือถือไป แต่บทสนทนาในโทรศัพท์ก็จบลงไปแล้ว

   มิคยิ้มกริ่ม รู้ทันทีว่าไอ้พวกMทุกคนในห้องมันงานเข้าเสียแล้ว

   “นี่มึงจะบ้าเรอะ!!! ไหนว่ามึงไม่ได้มาแก้แค้น”

   “กูก็ไม่ได้มาแก้แค้นนี่...” มิคมองนาฬิกาในมือ “...กูว่าปกติณุคงใช้เวลาซักยี่สิบนาที แต่วันนี้คงซักสิบห้านาทีได้มั้ง... ถ้าใครไม่อยากโดนลูกหลงก็ออกจากห้องนี้ไปก่อนได้นะ”

   “เดี๋ยวสิ นี่ตกลงมึงคิดจะทำอะไร”

   “เอางี้ละกัน มึงไม่ต้องถามมาก นั่งเฉยๆ เดี๋ยวไอ้ณุมันก็มาเอง”

   มิคยิ้มเยาะ จงใจใช้ประโยคเดียวกับที่ไปรเคยพูดกับเขา เอามาตอกย้ำกลับให้สะใจ

   “เชี่ย... มึงมันบ้าไปแล้ว... เฮ้ย  เฮ้ย เฮ้ย!!! มึงจะทำอะไรวะ!!!”

   ไปรร้องเสียงหลงอีกครั้ง เมื่อเห็นมิคไม่พูดไม่จา ค่อยๆถอดกระดุมเสื้อตัวเองออกหน้าตาเฉย!?!

   “อยู่นิ่งๆเดี๋ยวมึงก็รู้เอง”

   “แล้วมึงจะถอดทำไม... เฮ้ย!”

   เสื้อนักเรียนสีขาวร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น สองมือเลื่อนลงไปที่เข็มขัดเป็นอย่างต่อไป

   “ทีวันนั้นกูห้ามไม่ให้พวกมึงถอด ไม่เห็นมึงจะพูดอย่างงี้”

   “มึงใส่กลับเข้าไปเลย ไอ้สัตว์... อยากให้ณุเข้าใจผิดรึยังไงวะ!!!”

   มิคเลิกคิ้วขึ้น สีหน้าดูเยาะเย้ยพึงพอใจ

   “ไม่อยากให้กูถอดเหรอ”

   “เออ!!! ไม่ต้องถอด”

   “ก็ได้...” เด็กหนุ่มปล่อยมือจากเข็มขัดตัวเอง “งั้นกูถอดของมึงแทนแล้วกัน”

   “เฮ้ยยยยยยย!!!!!!!!!!”

   ไอ้ขาพิการจะหนีไปไหนก็ไม่ได้ งงจริงๆว่าศัตรูคนนี้มันจะมาไม้ไหน ไอ้เรื่องที่พวกเขาทำไว้เมื่อหลายสัปดาห์ก่อนตอนนี้มันกลับตาลปัตรไปสิ้น ไปรดันกลายเป็นฝ่ายโดนต้อนให้จนมุม แล้วก็ยังโดนปลดเข็มขัดไปอย่างง่ายดายอีก!

   “มึงจะทำเชี่ยอะร๊ายยยยย!!!”

   “กูไม่ได้จะข่มขืนมึงหรอก ไม่ต้องโวยวาย”

   “เฮ้ย พวกมึง ช่วยกูด๊วยยยยย”

   หันไปขอความช่วยเหลือจากเหล่าลูกน้อง แต่ก็เพิ่งมาพบว่าหลายคนในห้องหนีไปก่อนเสียแล้ว

   “ไม่ไหวมั้งครับลูกพี่... ถ้าไอ้ณุมานี่พวกผมตายห่าแน่ๆ”

   “แล้วกูไม่ตายห่ากว่าพวกมึงเหรอ!!!”

   พูดยังไม่ทันขาดคำ... ประตูก็โดนเตะดังผาง แทบจะกระเด็นปลิวหลุดออกมาทั้งบาน

   “มิคคคคคคคคคคคคคค!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

   ณุโผล่มาพร้อมไม้หน้าสาม... ใหญ่กว่าเดิมสองเท่า   ไปรอ้าปากค้าง เพิ่งจะเห็นมิคคุกเข่า หันหน้าเข้าหากางเกงเขาในตำแหน่งพอเหมาะพอเจาะเมื่อไรก็ไม่รู้ และไอ้มือที่เขาพยายามจะผลักหัวมิคออกกลับดูเหมือนกำลังทำอย่างอื่นมากกว่าซะงั้น

   “ณุ...”

   ภาพที่เห็นตรงหน้า... มันแปลเป็นอื่นไม่ได้จริงๆ!!!

   “ชิบหายแล้วกู...”

   มิคก้มหัว หลบไม้หน้าสามที่ฟาดเปรี้ยงใส่หัวไปรเสียเต็มแรง ได้ยินเสียงกระดูกคอดังมาอีกสองสามเป๊าะ ก่อนที่ร่างนั้นจะหมดสติล้มคว่ำลงกับพื้นไป

   เพียงเสี้ยววินาที มิคก็โดนดึงร่างให้ลุกขึ้นมาใกล้ ถูกขโมยจูบไปจาบจ้วงรุนแรงเหลือทน

   เออ ให้มันได้อย่างงี้สิ!

   “ส่วนมึง ไอ้พวกขยะ ถ้ามึงไม่อยากตายมึงก็ไสหัวไป!!!” ณุคำราม... เพียงแค่นั้นลูกน้องไปรสองสามคนที่เหลืออยู่ในห้องก็รีบวิ่งหนีแทบหัวซุกหัวซุน

   ที่จริงแล้วก็เขาไม่ได้อยากได้ณุเป็นพระเอกนักหรอก เพราะเขานี่แหล่ะที่ร้ายกาจที่สุดแล้ว!

   “ณุ มึงกลับมาแล้ว”

   “ฮะ? อะไรนะ...”

   “มึงไม่ต้องฝืนตัวเองหรอกณุ... ทำสิ่งที่มึงอยากทำ เป็นสิ่งที่มึงอยากเป็นดีกว่า”

   ณุมองหน้าเขานิ่ง ใช้เวลาหลายวินาทีกว่าที่จะเข้าใจ...

   อำนาจและพละกำลังที่มันไหลเวียนอยู่ในร่าง รวมถึงตัวตนจริงๆของเขาที่มิคมองทะลุปรุโปร่งไปถึงข้างใน มาวันนี้ก็เพิ่งจะรู้ว่ามันมีค่าแค่ไหน... และเขาก็คงจะหาใครอื่นที่รักเขาจนยอมให้เขาเป็นตัวเองขนาดนี้ไม่ได้อีกแล้ว

   ถึงเวลาที่เขาจะกลับมาซักที...

   “เฮ้ย ไอ้เฮง!”

   “ครับ เฮีย” ลูกน้องที่เฝ้าหน้าห้องคนเดิมโผล่หน้าเข้ามา เมื่อเห็นว่าหัวหน้าคนเดิมกลับมาแล้วก็ถึงกับยิ้มดีใจแทบจะเห็นฟันทุกซี่

   “โทรบอกทุกคนในแก๊งค์... ว่ากูจะกลับมาแล้ว!

   “จริงเหรอครับเฮีย!!!”

   “เออ... ส่วนมึงยังไม่ต้องไปไหน ลากไอ้ไปรออกไปแล้วเฝ้าหน้าห้องไว้... เข้าใจมั้ย”

   “รับทราบครับเฮีย!”

   ลูกน้องตะเบ๊ะให้ แล้วรีบทำตามคำสั่ง ลากร่างหมดสติที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ของไปรออกไปหน้าห้อง ก่อนที่ประตูจะปิดลง

   อะดรีนาลีนมันหลั่งไปทั่วร่าง มิคแอบยิ้มให้กับตัวเองเงียบๆที่แผนร้ายกาจสำเร็จไปด้วยดี

   “มึงชอบอย่างงี้ใช่มั้ยมิค”

   “อืมสิ...” ดึงคอเสื้อณุเข้ามาใกล้ ใกล้เสียจนเอื้อมมือไปสัมผัสรู้ว่าอสูรร้ายตนเดิมมันตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้ว “อยากจะแก้ตัวของเมื่อวานหน่อยมั้ย”

   ณุหัวเราะในลำคอ คว้าเอวแฟนหนุ่มเข้ามา นึกอยากจะขย้ำคนตรงหน้าให้สาแก่ใจ

   “นึกว่าจะไม่ถามแล้ว”

   เด็กหนุ่มคำรามออกมาจริงๆ เล่นเอามิคหลุดหัวเราะ นึกเอ็นดูไอ้หนุ่มจอมวายร้ายคนนี้เสียจริง

   โดนลากไปถึงโต๊ะครูหน้าห้อง ร้างเสียจนฝุ่นจับ... ในถิ่นที่ไม่คุ้นเคย ในดินแดนของฝ่ายศัตรู ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น... มันสะใจอย่างบอกไม่ถูก

   “ยินดีต้อนรับกลับมานะณุ...”

   อสูรร้ายแสยะยิ้มให้เขา ความร้อนเร่ามันพุ่งพล่านเสียจนทิ้งยางอายหล่นหายไปกับอาภรณ์...

   อย่างนี้แหล่ะ ที่เขาต้องการ!


...................................................................


   “วิษณุ...”

   ไม่มีเสียงขานรับจากบุคคลที่อาจารย์เรียก ทั้งห้องมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะตอบอะไร

   แต่ยังไม่ทันจะขานเรียกอีกครั้ง ประตูห้องก็เปิดออกมาทันเวลาพอดี

   “วิษณุ... มาครับ!

   เหล่าลูกสมุนในห้องเมื่อเห็นหัวหน้าของตัวเองปรากฏอยู่ตรงหน้าก็แทบโห่ร้องออกมาพร้อมกัน ส่วนด้านข้างนั้นก็ยังเห็นแฟนของหัวหน้ายืนเคียงข้างอยู่เหมือนเคย

   “เออดี มาเรียนซะบ้าง นึกว่าเธอจะตายไปแล้ว”

   ณุหัวเราะร่า เดินกร่างมานั่งลงที่เดิม ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเมื่อก่อนอีกครั้ง

   อาจารย์กลับไปขานเรียกชื่อต่อ ในขณะที่ลูกน้องที่นั่งอยู่ข้างหลังยื่นหน้าเข้ามาคุยด้วย

   “ลูกพี่จะกลับมาเป็นหัวหน้าจริงเหรอครับ”

   “เออ ก็จริงสิวะ... ถ้าใครจะต่อยกันแย่งตำแหน่งกูอีก กูเนี่ยจะสั่งสอนพวกมึงก่อน เข้าใจมั้ย”

   มีรอยยิ้มบนใบหน้าเป็นคำตอบ ส่วนคู่อริในแก๊งค์อีกคนที่นั่งไม่ไกลก็ถามแทรกขึ้นมา

   “ถ้างั้น... มิคก็ต้องกลับมาเป็นเจ้สิวะ”

   คราวนี้เป็นมิคที่หัวเราะ เกือบลืมไปแล้วว่าครั้งนึงเคยโกรธคนที่เรียกตัวเองว่าเจ้มากเพียงใด

   “เออ จะให้กูเป็นอะไรก็เป็นไปเหอะ” ณ จุดๆนี้ เขาปลงมันทุกอย่างแล้ว... ได้แต่หันไปสบตากับคนรักที่นั่งข้างๆ มีเพียงรอยยิ้มที่จะส่งให้บอกถึงความมั่นใจ

   “อะไรก็ได้ทั้งนั้น...”

   ในเมื่อณุเป็นทุกอย่างของเขา   จะให้เขาเป็นอะไร จะดีจะชั่ว จะมีจะจน จะสุขจะทุกข์แค่ไหน...

   ...เขาก็ยอม
 



โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ :D
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 20-02-2012 15:05:00
อิณุอายุแค่นี้ก็ฝ่อซะแล้วเหรอแก
แล้วที่สำคัญไปตีหัวน้องไปรของฉันทำไม
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 20-02-2012 15:25:07
ฮาอะ แต่ก็สงสารไปรนะ o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 20-02-2012 15:29:07
ฮากร๊ากกกๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 20-02-2012 15:52:58
น่ารักมากกก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 20-02-2012 16:06:39
สงสารรไปรอ่ะ จะตายป่ะเนี๊ย

โดนไม้หน้าสามไปสะขนาดนั้น

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 20-02-2012 17:06:29
โปรคิด ทำไมกุซวยเยี่ยงเน้
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: orientation ที่ 20-02-2012 17:58:31
หนุกหนาน  :-[
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 4:He's my Villain (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 20-02-2012 22:58:59
มิคเปลี่ยนไป...จากเคะนุ่มนิ่ม เจ้าน้ำตา กลายเป็นเคะสุดแสบ แรงได้ใจ แต่ก็เหมาะกับณุดีนะ ( ก็เมียหัวหน้าแก็งค์นี่ )
แอบสงสารไปร แต่คิดอีกที ก็สมน้ำหน้า ชาตินี้คงไม่กล้ามายุ่งกับ ณุ-มิค อีกเป็นแน่... :laugh3:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 22-02-2012 00:19:12
Chapter 5
Badboy's Bitch


   มิคจามออกมาพรืดใหญ่ น้ำมูกไหลย้อย ทั้งๆที่ซุกตัวอยู่ในผ้าห่มอุ่นๆแล้วแท้ๆ

   เป็นเวลาเดียวกับที่มีแขกมาเยี่ยมที่บ้านพอดี

   “เฮ้ย มิค แฟนมาหาแน่ะ”

   น้าโต๋ตะโกนขึ้นมาจากข้างล่าง ทำเอาหลานเพื่อนที่กำลังสั่งน้ำมูกอย่างเอาเป็นเอาตายพาลหน้าแดงไปถึงใบหู

   ยังสั่งไม่เสร็จประตูห้องนอนก็เปิดออก ณุที่ตาขวาบวมช้ำก็เดินเข้ามาพอดี

   “มิค เป็นไงบ้าง... ทำไมหน้าแดงงั้นล่ะ”

   “ก็เป็นหวัดอยู่นี่ไม่เห็นรึไง” มิคเฉไฉ แต่พอเห็นใบหน้าของคนรักที่ดูย่ำแย่กว่าของตัวเองก็รีบลุกขึ้นนั่ง

   “แล้วตกลงเป็นไงบ้าง ชนะรึเปล่า”

   “เอ้อ ก็...” ไม่รู้ทำไมแต่ณุดูกระอักกระอ่วนมากกว่าที่เคย “...ก็ชนะแหล่ะ”

   “จริงเหรอ” นักเลงหนุ่มนั่งลงตรงข้างเตียง มิคยันตัวขึ้นเอื้อมไปแตะขอบตาบวมช้ำนั้นเบาๆอย่างเป็นห่วง “เจ็บมากมั้ยเนี่ย”

   ณุร้องอยู่ในลำคอ แต่ก็ยังทำฟอร์ม “ไม่เจ็บหรอกน่า นิดเดียวเอง”

   “ปากดีตลอด” มิคหัวเราะใส่ อีกฝ่ายเลยแก้แค้นด้วยการแกล้งยื่นหน้าเข้ามาใกล้

   พอรู้ว่าณุคิดจะจูบแน่ มิคก็รีบเบือนหน้าหนีไปก่อน

   “จะบ้าเหรอ เดี๋ยวติด”

   “ก็ช่างแม่งสิ”

   ณุว่า... แต่ยังไม่ทันจะได้ทำตามที่คิด มือถือของตัวเองก็ร้องดังขึ้นมาก่อน

   เด็กหนุ่มคำรามในคออย่างไม่สบอารมณ์... แต่พอเขาหยิบมือถือออกมาดูก็ยิ่งหัวเสียยิ่งกว่าเดิม

   “โว๊ย! โทรมาอยู่ได้ พูดไม่รู้เรื่องรึไงวะ” ว่าแล้วก็ปิดเครื่องเขวี้ยงลงไปบนเตียงหน้าตาเฉย

   เป็นปฏิกิริยาที่มิคไม่เคยเห็นมาก่อน พลันความสงสัยปนความเป็นห่วงก็ผุดขึ้นมาในใจ

   “ใครน่ะณุ”

   “ใครก็ช่างแม่งเหอะ ตื๊อชิบหาย...”

   พอเห็นว่าคนรักทำท่าจะไม่หายโมโหเอาง่ายๆ มิคเลยลากคออีกฝ่ายมาหอมแก้มเบาๆ... ทำให้ณุได้สติขึ้นมาได้

   “เออ งั้นก็ช่างเขาเถอะ”

   เห็นมิคทำตัวน่ารักขนาดนี้แล้วณุก็เกือบจะอดใจไว้ไม่ได้... แต่ก็เกรงใจว่าอีกฝ่ายยังป่วยอยู่นี่แหล่ะ ไม่งั้นมิคไม่รอดแน่ๆ

   เมื่อทำอะไรไม่ได้ดั่งใจก็เลยได้แต่ลากคนป่วยลงมานอนซุกผ้าห่มด้วยกัน   จ้องมองเพดานสีขาว คุยกันเรื่อยเปื่อย... แค่นี้ก็พอแล้ว

   “ตกลงหายป่วยรึยังเนี่ย”

   “ดีขึ้นแล้ว” มิคว่า พลางสูดน้ำมูกฟืดใหญ่ “พรุ่งนี้คงไปเรียนได้แล้วล่ะ”

   “อืม ดีดี”

   “มึงก็ต้องมาเรียนด้วยนะ ไม่งั้นกูโกรธ”

   ณุชะงักไปนิดหนึ่ง ราวกับมีอะไรรบกวนใจ...

   “จ้ะๆ”

   ได้ยินอีกฝ่ายตกปากรับคำมิคก็ดีใจ ปล่อยให้เจ้าแมวตัวใหญ่นอนซุกเข้ามาในผ้าห่ม พึงพอใจกับยามบ่ายอันเงียบสงบกันสองคน

   ...โดยที่ไม่รู้เลยว่า เรื่องราวน่าปวดหัวกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง


...................................................................


   แต่ปรากฏว่า เช้าวันรุ่งขึ้นณุกลับไม่มาโรงเรียน

   โทรไปหาก็ไม่รับ... ทำเอามิคหงุดหงิดขึ้นมาครามครัน

   “ณุไปไหนน่ะ” หันไปถามลูกน้องคนเดิม

   “ไม่รู้ครับเจ้...” เฮงตอบหน้าตาย

   “อะไรของมันวะ”

   มิคบ่น... จนกระทั่งผ่านไปแล้วถึงสองคาบ เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้วด้วยซ้ำที่ณุเพิ่งจะโผล่หัวมา

   นักเลงโตเตะประตูเข้ามาดังปัง ไม่สนกับด่าทอของอาจารย์ที่ลอยผ่านหูไป... พอเห็นณุอารมณ์เสียขนาดนี้ มิคก็ขี้เกียจจะไปโมโหใส่ให้เพิ่มเชื้อไฟยิ่งขึ้น

   “เป็นอะไรไปน่ะ โมโหอะไรมา” เด็กหนุ่มถาม ในขณะที่คนที่เพิ่งมาใหม่โยนกระเป๋าลงบนโต๊ะแล้วนั่งลงข้างๆ

   “ก็อี...” ณุเงียบไปเหมือนนึกได้ว่าไม่ควรพูด “...เออ ช่างแม่งเหอะ”

   “อะไรๆก็จะช่างแม่งไปหมดเลยรึไง”

   “เออน่า ขอซักเรื่องเหอะ”

   ว่าแล้วณุก็ฟุบหน้าลงกับกระเป๋าที่วางอยู่บนโต๊ะ คงนึกจะงีบกลางวันหนีเรื่องเหล่านี้ให้หายหงุดหงิดแน่ๆ

   ทำตัวไม่น่าเอ็นดูเอาเสียเลย... แต่วันนี้มิคก็ขี้เกียจจะจู้จี้อะไรอีกแล้ว  เขาก็เลยตัดสินใจจะช่างแม่งเรื่องณุไปด้วยเหมือนกัน

   แต่เมื่อคิดจะหนีปัญหา ก็หนีได้แค่ครู่เดียวเท่านั้น

   พักกลางวัน เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนเกือบทุกชีวิตกรูกันออกมาจากตึกเรียน แน่นอนว่าโรงอาหารจะต้องแน่นเอี้ยดเหมือนทุกวันแน่ๆ ดูเหมือนณุจะอารมณ์ดีขึ้นแล้วเมื่อคว้าเอวมิคไว้ตอนเดินลงจากตึกเรียนมาด้วยกัน

   “คนเยอะแน่ๆ ไปกินที่อื่นกันไหม”

   มิคยังไม่ทันจะตอบอะไร เสียงแสบแก้วหูจากที่ไหนซักที่ก็แหลมขึ้นมาแทงโสตประสาทเข้าเสียก่อน

   “ณุ~~~!!! ที่ร้ากกกก~~~!”

   เสียงนั้นแหลมสูงเกินกว่าจะเป็นมนุษย์ได้ และถ้าเขาได้ยินไม่ผิดดูเหมือนว่าเสียงนั้นจะเรียกชื่อณุด้วยรึเปล่านะ?

   “ฉิบหายแล้วไง”

   ณุพึมพำกับตัวเอง   แต่ยังไม่ทันจะมีอะไรกระจ่าง คำตอบก็วิ่งเข้ามาพุ่งชนเสียแล้ว

   “ทำไรอยู่อ่ะตัวเอง... ไปกินข้าวกันดีกว่า”

   และแล้วมิคก็ได้คำตอบว่าเจ้าของเสียงแหลมผิดมนุษย์นั้นคืออะไร... มันคือเด็กสาวคนหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นหน้า ใส่ชุดเครื่องแบบของโรงเรียนอื่น ผมย้อมสีทองมัดสูงพร้อมกับโบว์เส้นใหญ่ ใบหน้าที่เกือบจะดูดีเห็นได้ชัดว่าใส่เครื่องสำอางมากเกินไป แถมชุดเครื่องแบบก็ยังรัดติ้ว กระโปรงที่ควรจะยาวถึงเข่าก็สั้นเต่อกว่าที่ควรจะเป็นมากนัก แถมยังจะดึงถุงเท้าสีขาวขึ้นมาถึงแข้งเสียอีก

   พูดง่ายๆ... นี่มันสก๊อยชัดๆ!

   “เฮ้ย มาทำอะไรที่นี่เนี่ย” ณุพยายามดึงแขนตัวเองออกจากสิ่งมีชีวิตตนนี้อย่างสุดความสามารถ

   “ก็มาหาตัวเองไง ไม่ได้เหรอ ก็คิดถึงอ้ะ”

   น้ำเสียงแสนดัดจริตนั้นทำให้มิคขนลุก เขายังคงช็อคกับภาพลักษณ์ของหล่อนไม่หาย สมองก็เลยยังคิดอะไรไม่ทัน

   “ตอนเช้าก็โทรมาโวยวายให้ไปส่งที่โรงเรียนแล้ว ยังจะตามมารังควานที่นี่อีกรึเรอะ”

   “ณุไม่อยากเจอเนยเหรอ”

   พลันนั้นสิ่งมีชีวิตตรงหน้าก็ค่อยๆเปลี่ยนร่าง คงจะกลายเป็นนางมารได้ภายในชั่ววินาทีแน่ๆถ้าณุไม่รีบห้ามเอาไว้

   “เฮ้ย ไม่ใช่ ไม่เอาน่ะ”

   “ฮิฮิ ดีจัง” สก๊อยสาวขว้าแขนณุไปกอดไว้อีกครั้ง “งั้นไปกินข้าวกัน”

   แล้วอยู่ดีๆมิคก็ได้สติ... ไม่ใช่แค่สิ่งมีชีวิตตรงหน้าที่ผิดปกติ แต่การที่มันมาแสดงความเป็นเจ้าของแฟนของเขาต่างหากล่ะที่เรียกว่าผิดปกติ!!!

   “ณุ... นี่ใครน่ะ”

   เจ้าของชื่อถึงกับเสียววาบ กลืนน้ำลายเข้าไปเอื้อกใหญ่ ก่อนจะหันมาเผชิญหน้าช้าๆ

   แม้แต่เฮงที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ดูเหมือนจะหดหัวค่อยๆหายตัวไปอย่างเนียนๆ

   “เอ้อ  คือ...”

   ณุอึกอัก... และในความเงียบที่แสนกระอักกระอ่วนนั้น สก๊อยสาวก็เป็นคนตอบขึ้นมาให้

   “แฟนณุจ้า! ชื่อเนยนะ ยินดีที่ได้รู้จัก!”

   ณุยิ้มค้างดูเหยเก เนยยิ้มกว้างแก้มปริ... ในขณะที่มิคหน้าตึงค้างอยู่อย่างนั้น

   นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกันวะเนี่ย!?!



 

To be Continue!!!
ปล.โทษทีจ้า ยุ่งๆทั้งวันไม่ได้อัพ แหะๆ
เม้นท์เยอะๆน้า >_<
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 22-02-2012 00:33:14
อะไรมาได้ไง จู่ๆก็มาประกาศเป็นเเฟนสะงั้น

ขี้ตู๋ป่าวเนี๊ย มิคก้านคอทีดิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 22-02-2012 00:51:10
อ้าววว อิเนยนี่มันมาจากไหน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-02-2012 12:33:20
ต๊ายอิณุ วัน ๆ แกทำแต่เรื่องงามหน้านะยะ
น้องมิคซัดซักป้าบซิ จะได้ฉลาดขึ้นมาบ้าง
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 22-02-2012 15:12:38
เฮ้อออ ปัญหาตามมาอีกแล้วว :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 23-02-2012 00:08:11
แม่สก๊อยสาวคนนี้เป็นใคร ? มาจากไหน ? และเป็นแฟนณุอย่างที่เจ้าตัวอ้างจริงเหรอ ???
เฮ้ย...หมายความว่าไงเนี่ย ? ณุ รีบเคลียร์อย่างด่วน...คนอ่านสงสัยโคตร ๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: PrAeW ที่ 23-02-2012 12:33:28
ณุซวยแน่งานนี้
แม่นี่เป็นใครเนี่ยมาเป็นแฟนณุเฉยเลย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (1/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 23-02-2012 16:49:13
สนุก ชอบณุ น่ารักแบบทึ่มๆ ดี ฮึๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 23-02-2012 19:59:18
Badboy's Bitch (2/3)
Continue....



   แผ่นหลังณุโดนผลักกระแทกกับฝาผนัง... คราวนี้ความซวยมาถึงแน่แท้แล้ว

   “อธิบายมา...”

   ไม่ว่าใครก็คงจะไม่เคยเห็นมิคโกรธจัดขนาดนี้ ถ้าจะบอกว่ารัศมีความตึงเครียดมันแผ่ซ่านออกมาจากตัวคนได้ก็คงจะไม่เกินจริงเท่าไรนัก

   “เอ้อ มิค เรื่องมันยาว...”

   “ถึงยาวกูก็ฟัง”

   โชคดีที่ห้องน้ำนี้ไม่มีใคร ไม่งั้นเดี๋ยวได้เป็นเรื่องใหญ่แน่

   ณุกระแอมแก้เก้อ “คือ... เมื่อวานที่กูไปต่อยกับไอ้ไปร...”

   ภาพเมื่อวานกลับมาฉายชัดอีกครั้ง... ไปรที่หายดีแล้วเกิดนึกซ่าอยากจะท้าเขาต่อยตัวต่อตัว  ถึงแม้ว่าต่างฝ่ายจะพาลูกน้องมาด้วยเหมือนเคยก็เถอะ แต่ด้วยศักดิ์ศรีคราวนี้ก็อยากจะลองตัวต่อตัวดูซักครั้ง

   และอีกสิ่งหนึ่งที่คราวนี้ไม่เหมือนทุกที ก็คือมันมีของรางวัลด้วยนี่แหล่ะ!

   ณุถึงกับแปลกใจเมื่อไปถึงสถานที่แล้วก็ต้องพบว่าไปรกำลังนัวเนียอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่... ก็คือสก๊อยสาวนามว่าเนยคนนี้นี่แหล่ะ มันยิ่งทำให้เขางุนงงว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะเห็นว่าโรงเรียนของไอ้ไปรเป็นโรงเรียนชายล้วนชัดๆ

   ไปรก็เลยไขข้อข้องใจให้ว่า มันไปฝึกฝีมือกับพวกโรงเรียนเทคโนมา ก็เลยได้สาวคนนี้มาเป็นรางวัล

   และเรื่องมันก็มายุ่งเอาตรงนี้... ที่ว่าเขาดันชนะไอ้ไปรซะได้!

   “เอ้อ เรื่องมันก็อย่างนี้แหล่ะ”

   มิคหน้าตึง... พอไม่มีคำพูดใดๆแล้วมันน่ากลัวเสียยิ่งกว่าตอนที่มิคตะโกนร้องอย่างโมโหเสียอีก

   “ไม่เอาน่ะมิค ก็แค่รางวัลน่ะ คิดซะว่าเป็นสิ่งของก็ได้”

   “แล้วถ้ากูบอกว่ากูไม่ชอบรางวัลของมึง มึงจะไม่ทิ้งให้กูเลยเหรอ”

   “เอ่อ...” ณุพูดไม่ออก รู้สึกเลยว่าจนมุมจริงๆก็คราวนี้ “...กูก็พยายามแล้วนะ ตั้งแต่เมื่อเย็นวานแล้ว มันก็โทรมาหาอยู่ได้ ขนาดปิดมือถือไปแล้ว ตอนเช้ามันยังโทรเข้าบ้านได้อีก! โวยวายจะให้ขี่รถไปส่งที่โรงเรียน ไม่งั้นมันจะอาละวาด...”

   “แล้วมึงก็กลัวมันมากกว่ากูเหรอ”

   เด็กหนุ่มไม่กล้าตอบ... เห็นชัดว่าคำตอบน่าจะเป็นอะไร

   “แหม ก็มึงไม่เห็นตอนมันอาละวาดน่ะ น่ากลัวชิบเป๋ง”

   “มึงบอกมันรึเปล่าว่ามึงมีแฟนแล้ว”

   “เอ่อ... ยัง”

   มิคปวดหัวจี๊ด ไม่น่าเชื่อว่าแฟนตัวเองจะซื่อบื้อขนาดนี้ได้

   “ไปบอกมันซะ กูไม่อยากเห็นหน้ามันอีก”

   “กูว่าท่าจะยากน่ะสิ สิ่งเดียวที่จะทำให้ผู้หญิงแบบนี้เปลี่ยนเจ้าของได้ก็คงมีแต่ว่ากูต้องไปแพ้ใครเท่านั้นล่ะมั้ง”

   มิคปล่อยให้คำพูดนั้นลอยผ่านหู อยู่ดีๆเขาก็โมโหจัดขึ้นมาอีกระลอกจนต้องหันไปคว้าคอเสื้อณุมาดึงไว้

   “มึงรักกูรึเปล่า”

   “เอ้อ... รักจ้ะ”

   “ถ้ารักก็ไปจัดการกับมันซะ... ถ้าไม่อยากให้กูจัดการเอง”

   มิคปล่อยคอเสื้ออีกฝ่ายออก ณุรู้สึกเหมือนโดนดูดพลังไปจนแทบจะไม่เหลือแรงทรงตัว

   “จ้ะ...”

   พอตกลงกันเสร็จมิคก็เดินปึงปังออกจากห้องน้ำไป ทิ้งให้ณุยืนร่างชาอยู่ตรงนั้น

   ...ดูท่าว่าเรื่องที่มิคกับเนยใครจะน่ากลัวกว่ากัน เขาต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เสียแล้วแฮะ


...................................................................


   เย็นวันนั้น ณุตัดสินใจจะจบเรื่องทุกอย่างลงให้ได้... เหตุเพราะตอนบ่ายเรื่องราวยิ่งทวีความน่าปวดหัว   เมื่อมิคไม่คุยกับเขาตลอดเวลาที่กินข้าว มีแต่สายตาอาฆาตที่ส่งมาให้เมื่อสก๊อยสาวป้อนข้าวให้เขา และตอนบ่ายยิ่งหนักข้อเมื่อเนยยืนยันจะมานั่งเรียนกับเขาด้วย ทำให้นอกจากมิคจะไม่มีที่นั่งแล้วยังจะโมโหจนโดดเรียนหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

   ถึงเขาจะรับมือกับผู้หญิงไม่ค่อยเก่งก็เถอะ แต่วันนี้จะลองดูซักตั้ง

   “พาเค้ามาที่นี่ทำไมเหรอ”

   ทั้งสองคนมาหยุดอยู่ที่หลังตึกเรียนที่ไม่ค่อยจะมีใครแวะเวียนผ่าน เนยยังคงเจื้อยแจ้วเสียงแอ๊บแบ๊วต่อไป ในขณะที่ณุพยายามแกะแขนเธอออกอีกครั้ง

   “เอ้อ คือ เรามีเรื่องจะสารภาพน่ะ”

   “อะไรเหรอ... หรือว่าณุก็ชอบเราเหมือนกัน ดีใจจัง”

   ปวดหัวเหลือเกินกับอาการคิดเองเออเองของผู้หญิงคนนี้... สงสัยถ้าไม่สติไม่ดีก็คงจะขาดความรักอย่างหนักแน่ๆ

   “เอ่อ ไม่ใช่ คือว่า...”

   “ฮึ้ย เดี๋ยว เรายังไม่ได้ถ่ายรูปด้วยกันเลยน้า”

   อ้าปากค้านไม่ทัน เด็กสาวก็คว้าคอเขาไปถ่ายรูปด้วยกันด้วยมือถือสุดไฮโซ   เธอถือมือถือจากข้างบน ทำตาโต แก้มป่อง กดชัตเตอร์รัวจนณุตั้งตัวแทบไม่ทัน

   ไม่ได้รู้เลยว่ายังมีใครอีกสองคนที่กำลังซุ่มดูอยู่ไม่ไกล

   “คิดจะทำอะไรของมันวะ” มิคพึมพำ

   “ใจเย็นครับเจ้” เฮงที่ซุ่มอยู่ด้วยกันพยายามปลอบ

   “พูดไปคำเดียว ไม่ได้ยากซะหน่อย”

   แต่ทว่าเมื่อผ่านไปหลายนาที ณุก็ยังอึกอักพูดไม่ออกอยู่อย่างนั้น แถมยังจะโดนเนยหลอกล่อเสียจนหัวปั่น เห็นแล้วมันยิ่งน่าหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

   “อะไรของมันวะ เดี๋ยวกูพูดให้เองเลยนี่!”

   “รอเดี๋ยวก็ได้ครับเจ้... เฮียคุยกับผู้หญิงไม่ค่อยเป็นน่ะ ลองให้โอกาสเฮียหน่อยเถอะครับ”

   พอได้ยินอย่างนั้นมิคเลยฉุกคิดขึ้นมาได้ ว่าตอนก่อนที่เขาจะย้ายโรงเรียนมาที่นี่... ช่วงเวลาแปดปีที่ไม่ได้เจอกัน เขาไม่ค่อยจะได้รู้เรื่องราวระหว่างนั้นเท่าไรเลย

   “ตอนก่อนกูมาที่นี่ ณุเป็นคนยังไงน่ะ เคยมีแฟนบ้างรึเปล่า”

   “โหย! ไม่เคยหรอกครับ เจ้น่ะเป็นคนแรก”

   เป็นคำที่ทำให้เขินได้ชะงัดนัก

   “เออ เหรอ แล้วมันเคยจีบสาวบ้างรึเปล่าน่ะ” มิครีบเฉไฉ

   เฮงดูกลั้นหัวเราะสุดชีวิต “ตอนม.ต้นนี่ตัวดีเลยครับเจ้ แกล้งพวกผู้หญิงไปทั่ว แต่พอแกล้งหนักเข้าเลยทำให้พวกผู้หญิงเกลียดขี้หน้ากันไปหมด หลังจากนั้นมาเฮียก็เลยไม่ยุ่งกับผู้หญิงอีกเลย”

   มิคนึกอยากจะหัวเราะขึ้นมาเหมือนกัน แต่ถ้าส่งเสียงออกไปมีหวังสองคนนั้นได้รู้แน่ว่ามีคนแอบฟังอยู่

   “เออ ดี สมน้ำหน้า”

   “คงเป็นเพราะที่บ้านเฮียก็มีแต่ผู้ชายด้วยล่ะมั้งครับ เลยทำให้คุยกับผู้หญิงไม่เป็น”

   จะว่าไปนั่นก็ถูก... เพราะถูกเลี้ยงดูมาโดยพ่อแม่ที่เป็นผู้ชายล่ะมั้ง เลยทำให้ณุกลายเป็นคนเช่นนี้ และอาจจะเป็นเหตุผลที่สุดท้ายณุก็ลงเอยกับผู้ชายด้วยก็ได้

   และจะว่าไปเขาเองก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมาลงเอยแบบนี้... เขาก็แค่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง เคยคิดด้วยซ้ำว่าถ้ามีแฟนสักคนก็ขอเป็นผู้หญิงน่ารักๆ พาไปกินข้าวดูหนังด้วยกัน แค่นี้ก็พอแล้ว

   ทำไมไม่เห็นจะเป็นอย่างที่คิดเลยวะ...

   “เอ้อ คือ เนย... เรื่องที่เราจะพูดน่ะ”

   ในที่สุดณุก็หาจังหวะแทรกสาวสก๊อยขึ้นมาได้ ทำให้เธอต้องหันมามองหน้าณุอย่างตั้งใจฟัง

   พาลทำให้คนอีกสองคนตัวเกร็งด้วยความลุ้นระทึกไปด้วย

   “เอ่อ แบบว่า ที่จริงแล้ว...” ณุสูดหายใจลึก “...คือ เรามีแฟนแล้วน่ะ”

   ความเงียบกริบแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ... เดาไม่ถูกจริงๆว่าปฏิกิริยาที่ได้จากคนฟังจะเป็นเช่นไร

   ณุถึงกับกลั้นหายใจสำหรับคำตอบที่จะตามมา   กลัวจะโดนวีนแตกเข้าให้...

   “อ๋อ... ไม่เห็นเป็นไรเลย”

   “อะไรนะ!” มิคแทบจะกระโจนออกไป ถ้าไม่ได้เฮงรั้งเอาไว้เสียก่อน

   “เฮ้ย ไม่เป็นไรได้ไง ผิดศีล... นะเธอ” ณุพยายามนึกศีลข้อที่ว่าแต่ก็นึกไม่ออก

   “ไม่เห็นเป็นไรเลย คนก่อนๆๆๆหน้านั้น... เขาก็มีแฟนเหมือนกัน”

   คนฟังอ้าปากค้าง นึกไม่ถึงจริงๆว่าคนตรงหน้าจะน่ากลัวเช่นนี้ พอเจอข้อเท็จจริงนี้ไปก็ถึงกับผงะ ไปต่อไม่เป็นเลยทีเดียว

   “ณุก็น่ารักดีออกน้า มีแฟนเพิ่มอีกซักคนไม่เห็นจะเป็นไรเลย”

   “ไม่เป็นไรแม่มึงสิ” มิคเข่นเขี้ยว ใกล้จะกระโจนออกไปเต็มแก่

   “อย่าดีกว่ามั้ง แฟนเราดุซะด้วย ฮ่าๆๆ” ณุหัวเราะแหยๆ

   “เอาน่ะ มีของดีต้องแบ่งปันสิ” ว่าแล้วนังสาวสก๊อยก็เขย่งเท้าขึ้นหอมแก้มณุไปหนึ่งที... ทำให้คนที่มองอยู่ถึงกับผงะ ราวกับโดนวางระเบิดเอาไว้ต่อหน้า

   นั่นน่ะ... ฟางเส้นสุดท้ายชัดๆ

   มิคนิ่งเงียบ ความโกรธไหลพล่านทั่วร่าง   ได้แต่มองณุโดนแฟนสาวลากไปพร้อมกับอ้อนวอนให้ขี่รถไปส่งที่บ้านเท่านั้น

   ...เตือนดีๆแล้วไม่ฟัง อย่างนี้ไม่ตายดีแน่

   “เฮง... มึงมากับกู”

   มิคไม่อธิบายอะไรเพิ่ม... แต่รัศมีความอาฆาตรุนแรงที่แผ่ออกมานั้นทำให้ลูกน้องได้แต่จำใจรับคำสั่งอย่างหวาดกลัวเท่านั้น

   ระวังตัวให้ดีเถอะ... ให้มันรู้ไปว่าณุเป็นของใคร!




To be Continue!!!
โทษทีจ้า ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเรย แหะๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 23-02-2012 20:28:34
กลัวยัยเนยมันจะเปลี่ยนฝั่งมาชอบมิคเนี่ยสิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 23-02-2012 20:55:22
แอร๊ยยยย เนยเเรงจริง

ระเบิดบ้านมัน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 24-02-2012 23:35:10
Badboy's Bitch (3/3)
Continue...




   วันต่อมา สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น ทั้งยังจะซ้ำร้ายลงไปกว่าเดิมอีกแน่ๆ

   เนยยังคงมานั่งเรียนกับณุด้วย เกาะติดหยั่งกับปลิงจะเอาไฟจี้ก็แกะไม่ออก แถมมิคก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน... ทั้งๆที่ปกติคนที่ตั้งใจเรียนอย่างมิคไม่คิดจะโดดเรียนเลยด้วยซ้ำ

   จะโกรธมากรึเปล่านะ... แต่เขาก็ทำทุกวิถีทางแล้วนี่นา

   “เฮียครับ” เกือบจะหมดวันแล้วกว่าที่เฮงจะเข้ามาคุยกับเขา “เจ้ เอ้อ... มิค ฝากมาบอกว่าขอนัดเฮียกับ...เจ้เนยไปเจอกันหลังตึกหน่อยครับ ตอนเลิกเรียน”

   “ฮะ... เรียกไปทำไม”

   ลูกน้องได้แต่ยิ้มแหยๆ ไม่มีคำตอบให้... ทำให้ณุขนลุกวาบขึ้นมาทันที

   หรือว่ามิคจะเอาจริงเสียแล้ว?

   ก็ได้แต่หวังว่ามิคคงไม่เลือดขึ้นหน้าไปหาเรื่องกับผู้หญิงหรอกนะ อย่างนั้นก็ออกจะโหดไปสักหน่อย...   แถมได้ยินมาว่าสก๊อยนางนี้ก็ตบตีกับผู้คนมาแล้วนักต่อนักอีกด้วย ถ้าเกิดศึกขึ้นมามีหวังได้นองเลือดกันแน่ๆ

   เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็มีแต่ต้องกลั้นใจไปตามนัดเท่านั้น...   เย็นวันนั้น ณุก็พาเนยไปที่หลังตึกเรียนที่เดิมยังคงร้างด้วยผู้คน พอมองไปก็เห็นมิคมารออยู่ก่อนแล้ว

   “มิค... มีเรื่องอะไรเหรอ”

   มิคไม่ยอมมองหน้าเขา สงสัยจะยังโกรธอยู่กระมัง

   “เนย เรามีเรื่องจะพูดกับเธอหน่อย”

   “เอ๋ เราเหรอ” ปลิงที่เกาะติดแขนณุอยู่ยอมปล่อยออกมาจนได้

   พลันนั้นณุก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า... หรือว่ามิคจะแสดงความเป็นเจ้าของเขาต่อหน้าผู้หญิงคนนี้! แค่คิดก็ขนลุกวาบแล้วเพราะมีลางสังหรณ์ว่าศึกใหญ่ต้องอุบัติขึ้นแน่ๆ

   “ใช่... เธอน่ารักดีนะ” มิคก้าวเข้ามาใกล้ เดาไม่ออกจริงๆว่าจะมาไม้ไหน “ถ้าเราชนะณุได้ เธอจะคบกับเรารึเปล่า”

   “ห๊ะ!!!”

   ณุร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง สมองหยุดทำงานไปชั่วคราว

   “ก็ไม่รู้สิ” เนยว่า ทำท่าครุ่นคิด “จะลองดูก็ได้นะ”

   “เฮ้ยๆๆๆ เดี๋ยวสิ!”

   ตกลงนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่... ณุรู้สึกเหมือนกับจมอยู่ในทะเลแห่งความสับสน ยิ่งงงเข้าไปใหญ่เมื่อมิคยกมือขึ้นหักข้อนิ้วตัวเองไว้เตรียมพร้อม

   “มิค ตกลงจะทำอะไรกันแน่เนี่ย---”

   เหตุเพราะยังทำใจเชื่อไม่ได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเรื่องจริง ณุก็เลยได้แต่ยืนนิ่ง... ในขณะที่มิคพุ่งกระโจนเข้าหา  เงื้อหมัดฟาดหน้าณุไปเต็มแรง

   เป็นเพราะไม่ได้ตั้งตัวด้วยนั่นแหล่ะ ณุก็ถึงกับล้มลงไปกองในหมัดเดียว

   “โหย...”

   เสียงชื่นชมแผ่วเบาล่องลอยมาให้ได้ยิน วินาทีนั้นแววตาของเด็กสาวถึงกับเปล่งประกายราวกับได้ของเล่นใหม่ที่ถูกใจกว่าเดิม

   “...หมัดเดียวจอดเลยนะเนี่ย”

   สก๊อยสาวเดินเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางประทับใจ... ไม่ทันเห็นรอยยิ้มกริ่มของมิคที่ยิ้มให้กับตัวเอง

   และแผนการก็สำเร็จไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว...


...................................................................


   “โอ๊ย มิคมันเป็นบ้าอะไรของมันวะ” ณุร้องเสียงหลงเมื่ออาจารย์พยาบาลแปะสำลีชุบเบตาดีนลงบนคิ้วที่แตกของเขา พออาจารย์เดินไปเปลี่ยนสำลีแล้วลูกน้องที่นั่งหน้าจ๋อยอยู่ในห้องถึงได้ตอบขึ้น

   “เอ้อ ไม่รู้เหมือนกันครับเฮีย”

   “ไอ้เฮง มึงอย่ามาทำไก๋!” ว่าแล้วก็ลุกไปคว้าคอเสื้อลูกน้องขึ้น “ที่ตอนกูสั่งมึงไม่ให้บอกมิคเรื่องเนย มึงก็อ้ำอึ้งแบบนี้เหมือนกัน”

   ยิ่งโดนจับไต๋ได้แล้วเฮงก็ยิ่งอึกอักมากขึ้นไปอีก

   “ที่จริงเฮียก็น่าจะบอกเจ้ไปตั้งแต่แรกนะครับ”

   “มึงจะบ้าเหรอ... กูไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่นี่”

   “คนรักกันเขาไม่ได้บอกกันทุกเรื่องหรอกเหรอครับ? ผมก็ไม่รู้นะเพราะผมก็ไม่เคยมีแฟน... แต่ยิ่งปิดกันไว้อย่างนี้ผมว่านั่นแหล่ะที่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่”

   ณุได้ฟังก็หน้าชาเหมือนโดนสวนหมัดมาฉาดใหญ่ ไอ้ลูกน้องไม่เอาไหนคนนี้ดูท่าจะเปลี่ยนไปมากพอดู

   “แหม ได้ทีล่ะสั่งสอนกูใหญ่เชียวนะ”

   “ผมไม่ได้สั่งสอนเฮียหรอกครับ ผมก็พูดไปงั้น” หัวหน้าปล่อยคอเสื้อลูกน้องออกอย่างปลงชีวิต อยู่ดีๆก็รู้สึกหมดแรงเสียอย่างนั้น

   “กูงงไปหมดแล้ว ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นวะ? หรือว่ามิคจะชอบเนยขึ้นมาจริงๆ... ไม่น่าเป็นไปได้”

   “เฮียอย่าคิดมากเลยครับ เดี๋ยวเจ้ก็กลับมา”

   “แล้วทำไมต้องต่อยกูด้วยล่ะ... เจ็บนะเนี่ย”

   “อาจจะเป็นแค่แผนก็ได้นะครับ”

   “แผนเชี่ยอะไรล่ะ...” แล้วณุก็นึกขึ้นมาได้ “...มึงรู้ใช่มั้ยไอ้เฮง คายออกมาเดี๋ยวนี้!”

   “เอ้อ ผมไม่รู้เรื่องหรอกคร้าบ”

   “พูด!”

   เฮงตัวสั่นเหมือนโดนเสือตะปบคอ ถ้าขยับผิดนิดเดียวมีหวังโดนทึ้งทั้งเป็นแน่ๆ

   “เอ่อ... เจ้คงคิดจะเอาเนยไปคืนมั้งครับ...”

   เสียงที่หลุดออกมาดูบู้บี้ไม่เป็นคำ แต่แค่นั้นก็พอแล้วที่ณุจะปะติดปะต่อเรื่องได้ทั้งหมด

   อยู่ดีๆก็นึกถึงคำพูดที่ตัวเองเคยพูดเอาไว้ได้... ที่ว่าสิ่งเดียวที่จะทำให้ผู้หญิงแบบนี้เปลี่ยนเจ้าของได้ก็คงมีแต่ว่าต้องไปแพ้แก่คนอื่นเท่านั้น

   เมื่อเขาแพ้มิคไปแล้ว แสดงว่าตอนนี้เนยก็เป็นของมิค... และถ้ามิคคิดจะคืนเนยให้ไปรจริงๆ ก็ต้องแปลว่ามิคต้องแพ้การต่อสู้กับไปรน่ะสิ

   งานเข้าอีกแล้วแน่ๆ!

   “ไอ้เฮง มากับกู เร็ว!”

   สั่งแค่นั้น ณุก็รีบวิ่งออกจากห้องพยาบาลไป ปล่อยให้อาจารย์ที่เดินกลับเข้ามางุนงงอยู่ตรงนั้น

   ...หากมิคต้องมาเจ็บตัวเพราะเขา ณุคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด!


...................................................................


   “ไอ้เชี่ยณุไม่มาด้วยเหรอ” ไปรถามขึ้น รู้สึกแปลกใจที่คราวนี้คนที่นัดตัวเองมากลับเป็นมิค ไม่ใช่ณุเหมือนเคย

   “ไม่มาหรอก... มึงไม่ต้องกลัว และกูจะไม่ทำอะไรมึงแล้วด้วย”

   ราวกับอ่านใจไปรออก และก็รู้ว่าเขาเดาถูกเมื่อเห็นคู่อริถอนหายใจอย่างโล่งอก

   “อ้อ คราวนี้มีของรางวัลให้ด้วยนะ” มิคว่า

   “อะไร... จะให้เนยเป็นของรางวัลอีกแล้วเหรอ”

   เด็กสาวสก๊อยที่ติดตามมาด้วยถามขึ้นอย่างงงๆ แต่ก็ดูไม่ได้ไม่พอใจอะไร

   “อืม ไม่ต้องถามมากน่ะ” มิคตอบ พลางปลอบใจตัวเองอยู่ในใจ

   เขาวางแผนไว้แล้วว่าจะไม่ตอบโต้ ให้โดนอัดน่วมยังไงเขาก็จะยอม... จะได้กำจัดอีปลิงตัวนี้ออกไปเสียที

   หวังว่ามันคงไม่เจ็บนัก แค่กลั้นใจนิดเดียวก็น่าจะผ่านมันไปได้แล้ว

   “เอ้อ ถ้ามึงว่างั้นกูก็เอา” ไปรว่า กระโดดลงจากกองสิ่งของที่สุมกันอยู่เป็นภูเขา

   ในโกดังร้างที่เดิมที่มิคโดนพวกคู่อริจับตัวมาครั้งแรก... คราวนี้มีเพียงเขา เนย กับไปร ตัวตัวเท่านั้น ลูกน้องไม่เกี่ยว อย่างน้อยก็ทำให้เขาเบาใจไปได้เปลาะหนึ่ง...

   พอทั้งคู่มาเผชิญหน้า มิคถึงขั้นหลับตา กลั้นใจ ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ขยับไปไหน...

   จนกระทั่งได้ยินเสียงไปรพุ่งเข้ามา ชกมิคเสียจนคว่ำไปได้ตั้งแต่หมัดแรก... ขนาดคราวก่อนที่โดนยังไม่จุกขนาดนี้ เผลอคิดถึงณุขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ไม่รู้ว่าที่โดนเขาต่อยไปจะเจ็บขนาดไหน

   แต่แล้วพอไปรตามลงมาจะซัดอีกหมัด... เสียงหนึ่งที่เขาคุ้นเคยก็ดังขึ้น

   “มิคคคคคคคคคคคคคค!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

   มิคลืมตาขึ้นอย่างตกใจ... ณุรู้ได้อย่างไรว่าเขาอยู่ที่นี่ ที่สำคัญก็คือมันโผล่เข้ามาในเวลานี้ได้เช่นไร!

   หากณุชนะไป ก็ได้นังสก๊อยคนนี้กลับไปอีกน่ะสิ

   “เฮง... กูบอกมึงแล้วว่าไม่ให้บอก”

   ลูกน้องคนเดิมที่ลงมาจากมอเตอร์ไซค์รีบเข้ามาขอโทษขอโพย

   “ขอโทษครับเจ้ ผมไม่ได้ตั้งใจ”

   ทุกอย่างผิดแผนไปหมดแล้ว... ณุกลับมาบ้าคลั่งคว้าคอไปรมาฟาดหมัดเสียให้หายแค้น ทั้งสองลงไปตะลุมบอนกันอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เฮงจะตัดสินใจขึ้นได้

   อย่างน้อยถ้าเขาเขาไปช่วยก็น่าจะยังทัน

   “หยุดก่อนคร้าบเฮีย....!”

   ร่างเล็กผอมของเฮงวิ่งเข้ามาในวงตะลุมบอน พยายามจะแยกทั้งสองคนออกจากกัน... แต่ด้วยความพยายามที่เข้ามาผิดที่ผิดทางนั้นทำให้ทั้งณุทั้งไปรหัวโขกกันดังโครม!

   เสียงดังเสียจนมิคนึกเจ็บแทน

   “โอย... ไอ้เฮง”

   ณุล้มลงกับพื้น กุมหน้าผากร้องโอดโอยเสียจนหมดท่า   ในขณะที่ไปรหัวฟาดพื้นไปอีกเด้ง นอนสลบไปแล้วเรียบร้อย

   กลายเป็นว่าศึกที่เกิดขึ้นนั้น... เฮงดันกลายเป็นผู้ชนะไปซะเฉยๆ!

   “ณุ... เจ็บมากมั้ย”

   มิคคลานเข้ามาหาด้วยความเป็นห่วง แต่ณุกลับไม่ยอมปล่อยมือออกจากหน้าผาก

   “เจ็บสิฟระ... ไอ้เฮง มึงโดนแน่” แต่พอโดนอีกฝ่ายแกะมือออกเพื่อจะดูแผล ณุก็โพล่งออกมาอีก “มึงด้วย มิค... มาต่อยกูทำไม”

   “ขอโทษนะณุ... แต่มันก็ไม่มีทางอื่นแล้วจริงๆนี่”

   “มึงจะบ้าเหรอ ถ้ามึงจะใช้วิธีนี้ก็บอกให้กูไปแพ้ไปรก็ได้นี่ ไม่เห็นต้องทำเรื่องยุ่งยากเลย”

   “ก็แฟนกูไม่เคยแพ้ใครนี่”

   ณุสะดุดลมหายใจ เพิ่งรู้สึกตัวว่ามิคสบตาอยู่ใกล้ขนาดนี้ และถ้อยคำที่ได้ยินพลันทำให้ลืมความเจ็บปวดไปได้หมดสิ้น

   “กูไม่ยอมให้มึงแพ้ใครหรอกนะ มึงแพ้กูได้คนเดียว”

   “กูก็ไม่ยอมใครให้มาต่อยแฟนกูได้เหมือนกัน เข้าใจไว้นะ...”

   มิคหัวเราะ “งั้นทีหลังถ้ามึงจะไปตีใครมึงต้องพากูไปกับมึงด้วย โอเคมั้ย”

   คราวนี้ณุหัวเราะออกมาบ้าง... ท่าทางจะเป็นข้อเสนอที่ไม่เลว

   “จ้ะ...”

   ว่าแล้วก็คว้าคอมิคที่ยันตัวนอนอยู่ข้างๆให้ลงมาจูบลึกล้ำ... เลิกแคร์ไปแล้วว่าจะมีใครครหา ถ้านังสก๊อยนั่นจะอกแตกตายไปก็เชิญ

   ตัวจริงเขาอยู่ตรงนี้ต่างหาก...







   “อ้าว... ไหงงี้ล่ะ”

   เนยว่า... งุนงงกับภาพที่เห็น อุตส่าห์หลงนึกว่ามีหนุ่มๆมาติดพันตั้งสองคนแล้วเชียว  ไหงสองคนที่ว่าดันกินกันเองไปซะได้

   เฮ้อ ช่างเถอะ ผู้ชายในโลกยังมีอีกเยอะ

   “ว่าแต่ เธอชื่อไรอ่ะ”

   “หา ผมเหรอ” เฮงงุนงง แต่พอมองไปรอบๆก็ไม่เห็นว่าจะมีใครอยู่แถวนี้อีกแล้ว “เอ่อ ชื่อเฮงครับ”

   เนยยิ้มกว้าง “ถ้าเราคบกับเธอแล้วเราจะเฮงด้วยรึเปล่า”

   “อึ๋ย...”

   เฮงร้องอยู่ในคอ... สงสัยเรื่องวุ่นๆทั้งหลายจะกลายมาเป็นเรื่องของเขาเสียแล้ว!


จบเถ้อะ!





ตอนหน้า...
ตอนยาวพิเศษว่าด้วยความหลังของเหล่ารุ่นพ่อ!!! ภู บอล ท็อป โต๋
จะโหด มันส์ ฮา ดราม่าแค่ไหน
โปรดติดตาม!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 24-02-2012 23:52:04
อิอิ โทดน๊าคือเค้าไม่ชอบอะไรค้างๆเลย ปล่อยให้จบตอนแล้วค่อยอ่าน

แหะๆๆ


สนุกจิงๆๆๆ  แต่เอ้อออ  ไม่ไหวนะ
ปิดบังแฟน กัวเรื่องใหญ่นิ
แพ้ทาง ผู้หญิงด้วย

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 24-02-2012 23:55:19
แอร๊ยยยย คุณพ่อคุฯ คุณเเม่เราจะมาเเล้ว

รอ ร๊อ รอ

สงสารเฮงจับใจเจอสก๊อยแบบนี้เข้าไป

มีหวังไม่ได้อยู่เป็นสุขเเน่ๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 25-02-2012 00:02:07
ชักจะสงสารน้องเนย ดูเหมือนหนุ่ม ๆ จะแย่งกันแพ้เพื่อผลักเธอไปให้คนอื่น
อิณุ แกนี่นะต้องให้น้องมิคแก้ปัญหาให้ตลอด แล้วยังต้องมาเจ็บตัวด้วย ฮึ่ย...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (2/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: MZter ที่ 25-02-2012 00:05:31
เรื่องนี้บุคคลที่น่าสงสารที่สุดคงไม่พ้นไปรละมั้งเนี่ย เหอๆ  :sad11: :sad11:
อยู่ดีๆ ก็มีไม้หน้าสามมาประเคนถึงที่ :โป้ก1: :โป้ก1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: PrAeW ที่ 25-02-2012 00:17:24
มิคสุดยอดๆๆๆๆๆ
เฮงซวยคนต่อไป
 :laugh:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 25-02-2012 00:34:11
ไปรมันซวยจิงๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 25-02-2012 01:26:12
อืม...เหมือนจะจบแบบสุขสันต์กันทุกฝ่าย ( มั้ง? )
เอาเป็นว่าคู่ผัวเมีย Bad Boys เค้าได้เรียนรู้และเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้นก็... ดีแล้ว  :m23:

ส่วนไปร ควรจะเลิกยุ่งกับคู่ณุ-มิค ได้แล้วนะ ซวยแล้วซวยอีก ไม่รู้จักจำ ( ไปรเถียงว่า พวกมันมายุ่งกับกูเองเฟ้ย  o12 )

รออ่านเรื่องของรุ่นใหญ่ พ่อแม่และน้า ๆ จะวายป่วงได้เท่ารุ่นลูก รุ่นหลานรึเปล่านะ ?
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 25-02-2012 11:16:00
เดี่ยวมาอ่านต่อน่ะ
สนุกๆๆมากกเลย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 25-02-2012 12:13:55
เนยจ๋า ชีวิตเธอจะมีความสุขมั๊ยเนี่ย ลอยไปลอยมา ถูกใช้เป็นของรางวัล  :เฮ้อ:
นานๆไป มิคก็ทั้งแสบทั้งโหด ณุก็กลัวเมียขึ้นทุกวัน  :m20:

รอตอนถัดไป :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 26-02-2012 07:57:02
ฮ่า ดีอ่ะ สนุกมากเลย
ตัวละครทุกตัวน่ารัก มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป
รอตอนต่อไปน่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 5:Badboy's Bitch (3/3)]
เริ่มหัวข้อโดย: winndy ที่ 26-02-2012 09:01:33
รอตอนพิเศษค่ะ คงจะวุ่นกันน่าดู
อยากอ่านจัง
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 26-02-2012 13:44:10
Chapter 6
How I met your Mother
Special Chapter : PuxBall & TopxTo




   หน้าห้องผอ.โรงเรียน มิคโดนน้าชายลากให้มานั่งตรงข้ามโต๊ะครูใหญ่ทั้งๆที่หน้าตายังบวมช้ำ

   “เดี๋ยวนี้ใครสั่งสอนให้แกไปต่อยตีกับคนอื่นวะฮะ มิค”

   เด็กหนุ่มยอมไม่ตอบน้า นึกเสียใจอยู่เล็กน้อยเหมือนกันที่เรื่องมาลงเอยแบบนี้ได้

   หลังจากเหตุการณ์นั้นพอณุจะไปมีเรื่องทีไร เขาก็เลยตามไปด้วยทุกที   แล้วไปๆมาๆพอมีเขามาร่วมด้วยก็ดันชนะมาตลอด จนพวกเขากลายเป็นคู่ขวัญที่โรงเรียนไหนก็กล่าวถึงไปเสียแล้ว

   นี่ถ้าครั้งนี้ไม่โดนจับได้ก่อนก็คงชนะไปง่ายๆเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ

   “เพราะแฟนแกล่ะสิ ใช่มั้ย”

   มิคหันขวับไปมองหน้าคนถาม

   “น้า! ไม่ต้องพูดออกมาก็ได้”

   พูดยังไม่ทันจบประโยค คนที่ถูกพาดพิงถึงก็โดนลากตัวมาถึงห้องเช่นกัน

   “ขอโทษจริงๆครับผอ. ลูกชายผมมันแย่เอง”

   “โอ๊ยยย พ่อ... เจ็บ!!!”

   ณุร้องลั่น ในขณะที่ภูไม่ยอมปล่อยคอลูกที่กำลังฟกช้ำตามคำขอ

   “เออ เอาเถอะครับ ขอบคุณทั้งสองมาก เดี๋ยวช่วยออกไปรอข้างนอกซักครู่นะครับ”

   ผอ.กล่าวขึ้นตามมารยาท แต่ทว่าในวินาทีที่ผู้ปกครองทั้งสองคนหันมาเจอหน้ากันนั้น ก็พลันเกิดเรื่องประหลาดที่ไม่คาดฝัน...

   “ไอ้เชี่ยภู...”

   “ไอ้สัดท็อป...”

   เด็กหนุ่มทั้งสองมองหน้าผู้ปกครองของตัวเองอย่างงุนงง

   “ไอ้เหี้ยยยยยยยยยยย”

   ชายทั้งสองคนโผเข้าเอาเข่าเตะฟาดอีกฝ่ายกันด้วยความคิดถึงล้นปรี่... ถ้าใครไม่เข้าใจบริบทนี้คงนึกว่าทั้งคู่คงจะต่อยตีกันเป็นแน่แท้แล้ว

   “เอ้อ... คุณครับ--”

   “ไอ้สัด กูนึกว่ามึงจะตายไปแล้ว”

   “ตายเหี้ยอะไร มึงนั่นแหล่ะ ไม่เคยติดต่อมาเลย ห่า”

   “เลี้ยงเหล้ากูเลยสัด มึงยังติดกูอยู่ชัดๆ”

   “เชี่ยไรวะ มึงสิที่ต้องเลี้ยงกู...”

   เสียงโหวกเหวกโวยวายของทั้งสองล่องลอยออกจากห้อง เมื่อเจ้าของเสียงกอดคอเดินออกไปด้วยกันราวกับลืมจุดประสงค์ที่มาที่นี่ไปแล้ว

   ผอ.ค้างเติ่งอยู่ในท่ายกมือจะห้ามปราม แต่สุดท้ายก็ได้แต่อ้าปากค้างมองตามทั้งคู่ไป

   ...ไม่ได้ต่างอะไรจากเด็กหนุ่มอีกสองคนแม้แต่น้อย

   “น้ากูรู้จักพ่อมึงด้วยเหรอ”

   ณุยังคงงุนงง อ้าปากค้าง สมองยังไม่ทำงานเช่นกัน

   ดูท่าว่าเรื่องวุ่นๆจะตามมาอีกเสียแล้ว...


...................................................................


   “กูว่าแล้วว่ารถคันนั้นมันคุ้นๆ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นรถมึงจริงๆ” ท็อปวางแก้วเหล้าลงกับโต๊ะ หัวเราะร่าเมื่อคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหลายเดือนก่อนอีกครั้ง แน่ใจชัดเจนแล้วว่ารถสีดำคันงามที่ที่ณุใช้ขับมารับมิคไปเดทเมื่อวันนั้นเป็นคันเดียวกับที่ภูทนุถนอมใช้มาตั้งแต่สมัยมัธยมนั่นเอง

   “แล้วมึงจำได้ยังไง...” ภูกระดกแก้วเหล้าเข้าปากไป

   “เอ๊า... ก็กูนี่แหล่ะที่เป็นคนเห็นคราบบนเบาะมึง”

   ภูถึงกับพ่นเหล้าออกมาเป็นสาย ยิ่งทำให้เพื่อนหัวเราะหนักยิ่งกว่าเดิม

   “อ๋อ เออ อืม...” ชายร่างสูงกระอักกระอ่วน รีบดื่มน้ำตามกลบเกลื่อนความอับอาย

   “ตอนนั้นพวกกูช็อคมาก ไม่คิดเลยว่ามึงกับไอ้บอลจะ...”

   “พวกกูก็ช็อคเหมือนกันแหล่ะตอนรู้เรื่องมึงกับไอ้โต๋...”

   พูดยังไม่ทันจบประโยค ความเงียบอันน่าอึดอัดก็กดทับเสียจนหายใจแทบไม่ออก... ที่ผ่านมาช่างเป็นช่วงเวลาหลายสิบปีอันยาวนานที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้ความลับกันแต่ก็ไม่เคยได้เปิดอกพูดกันตรงๆ

   ...และยิ่งกระอักกระอ่วนมากขึ้นไปใหญ่เมื่อความลับนั้นยังคงดำเนินอยู่ถึงปัจจุบัน

   “เอ้อ เห็นว่าณุเป็นลูกมึงนี่ มึงแต่งงานแล้วเหรอวะ”

   “เออ... ก็ประมาณนั้น”

   “กับใครวะเฮ้ย ไม่เคยบอกกันเลย ไอ้ห่า”

   “ก็...กับไอ้บอลนั่นแหล่ะ”

   คราวนี้เป็นตาท็อปที่อึ้งไปบ้าง ดวงตาไร้อารมณ์หลังกรอบแว่นถึงกับเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตนเพิ่งจะได้ยิน

   “สงสัยวันนี้กูจะเมาแล้วว่ะ ฮ่าๆๆ”

   “สัดท็อป... กูพูดจริง”

   พอเห็นความหนักแน่นในคำพูดนั้นท็อปก็ผงะไปชั่วครู่... ก่อนที่อยู่ดีๆอะไรบางอย่างที่ตกตะกอนอยู่ในจิตใจก็ถูกกวนขึ้นมาจนขุ่นข้น

   ในเมื่อเพื่อนรักยอมสารภาพความจริงมาได้ขนาดนี้ แล้วเขายังจะมีหน้ามาปกปิดความลับได้อยู่อีกหรือ?

   “เออ... กูกับไอ้โต๋ก็... อยู่ด้วยกันอยู่เหมือนกัน”

   เป็นอีกครั้งที่ต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันนิ่ง ราวกับคาวบอยสองคนที่จ้องหน้าจะดวลปืนกลางเมืองร้าง หากใครขยับก่อนเพียงแต่ก้าวเดียวคงจะพ่ายแพ้ไปแน่

   จนกระทั่ง... แก้วเหล้าทั้งสองแก้วถูกยกขึ้นดื่มในวินาทีเดียวกัน

   คืนนี้ยังอีกยาวไกลแน่นอน!


...................................................................


   ณุไม่เคยเห็นพ่อของตัวเองเมาเละเทะขนาดนี้มาก่อน... ถึงกับขนาดที่แม่ปล่อยให้นอนอยู่บนโซฟาทั้งคืนก็ย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้วแน่

   “ณุ ดูแลพ่อด้วย เดี๋ยวแม่ไปทำงานก่อน”

   สายโด่งจนเกือบจะเที่ยงอยู่แล้วเมื่อเด็กหนุ่มเดินสะลึมสะลือลงมาข้างล่าง เห็นคนเป็นแม่รีบใส่รองเท้าก่อนจะหุนหันออกจากบ้านไปทั้งๆที่ยังไม่มีคำตอบเลยด้วยซ้ำ

   แต่จะให้มีตัวเลือกอื่นก็คงทำไม่ได้เสียแล้ว ในเมื่อตอนนี้เขาก็โดนกักบริเวณเป็นการลงโทษอยู่เหมือนกัน

   ช่างเป็นวันที่น่าเบื่อ ...แต่แล้วเหตุการณ์เมื่อวานที่โลกกลมเหลือแสนมันก็กลับมาสะกิดใจเขาอีกครั้ง ทำให้เขานึกสงสัยขึ้นมาจนแทบจะกลั้นไว้ไม่อยู่

   และก็มีทางเดียวที่จะรู้ได้

   “พ่อ... พ่อ...”

   ชายร่างสูงขยับหนีอย่างนึกรำคาญ ส่งเสียงคำรามอยู่ในคออย่างไม่สบอารมณ์

   “พ่ออออออออออ!!!”

   ณุตะโกนใส่หูพ่อเข้าไปเต็มแรง... แล้วมันก็ได้ผล

   “ห๊ะ อะไร! โอ๊ย ไอ้ณุ!” ภูตบหัวลูกกลับ

   “พ่อเดี๋ยว อย่าเพิ่งหลับเด๊” ลูกชายดึงแขนพ่อไว้ให้ลุกขึ้นนั่ง “คุยกันก่อนดิ ตกลงเมื่อวานเกิดไรขึ้น”

   “เกิดอะไร...” ภูหรี่ตานึก ราวกับถ้าเพ่งมองในห้องสี่เหลี่ยมแล้วจะเห็นอดีตขึ้นมาได้ “...ก็ไม่มีไร พ่อก็ไปกินเหล้ากับเพื่อน ก็แค่นั้น”

   “แล้วพ่อไปรู้จักกับน้าของมิคได้ไง”

   ภูหรี่ตาอีก “ก็เพื่อนกัน ตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว อยากรู้ทำไมล่ะ หา”

   “ก็อยากรู้เฉยๆ ไม่ได้เรอะ”

   “ถ้าอยากรู้จริงๆเรื่องมันยาว... คงจะเลยไปถึงเรื่องของพ่อกับแม่แกด้วย จะเอาเรอะ?”

   แค่ได้ยินประโยคหลังณุก็ขนลุกแล้ว เหตุเพราะทุกครั้งที่พ่อพยายามจะเล่าให้ฟังทีไรมันก็ช่างเป็นมหากาพย์ยืดยาวเสียจนเขาอดใจไม่ไหวต้องเผลอหลับไปทุกครั้ง

   แต่เดี๋ยวสิ... ไหนๆวันนี้เขาก็ไปไหนไม่ได้ แถมยังไม่มีอะไรทำอีกด้วย...

   “เออ เอาสิพ่อ อยากเล่าก็เล่า”

   เพียงแค่นั้นแหล่ะ สองตาของภูก็เบิกโพลง คิดว่าตัวเองคงจะหูฝาด

   “ฮึ จะเอาจริงเรอะ”

   “แหมพ่อ เล่ามาเหอะน่า”

   และแล้วคนเมาก็พลันตาสว่าง... รอยยิ้มเบิกบานปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง...


...................................................................


   ท็อปในสภาพหัวฟู สายตาเปลือยเปล่าไร้แว่นเหลือเพียงขีดเส้นเดียวบางๆ เดินลากขาเหมือนซอมบี้เข้ามาในห้องครัว ปาดมือเปะปะหาแก้วกาแฟของตัวเองเหมือนกับมองอะไรไม่เห็น

   มิคที่แอบมองอยู่ทนเห็นสภาพนั้นไม่ได้ ก็เลยต้องผละจากอาหารเช้าของตัวเองเข้ามาแย่งแก้วจากมือท็อปไป

   “น้าไปนั่งเหอะ เดี๋ยวผมชงให้”

   “ไอ้โต๋อยู่หนาย...”

   กลิ่นแอลกอฮอลล์ยังคงเจืออยู่ในกลิ่นหายใจรุนแรง ทำเอาหลานชายเกือบจะผงะไป

   “น้าโต๋ออกไปทำงานแล้ว”

   เด็กหนุ่มชงกาแฟให้ ในขณะที่สายตาก็เหลือบมองน้าชายอยู่เป็นระยะ... แล้วอยู่ๆก็นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานขึ้นมาได้อีกครั้ง

   ท็อปไม่ใช่คนพูดมาก ยิ่งเป็นเรื่องของตัวเองแล้วยิ่งไม่พูดใหญ่... แต่คราวนี้เขาจะลองเสี่ยงดูซักตั้ง

   “กี่โมงแล้ววว...”

   “จะสิบเอ็ดโมงแล้วน้า”

   “ปวดหัวชิบ”

   ท็อปนั่งกุมขมับ รู้สึกเหมือนแบกโลกเอาไว้ทั้งใบ

   จนกระทั่งแก้วกาแฟกรุ่นถูกวางให้ตรงหน้า ซอมบี้หัวฟูเลยโงหัวขึ้นมาได้อีกครั้ง

   “น้า... ตกลงเมื่อวานมันอะไร”

   “อะไรล่ะ” ท็อปพยายามคว้าแก้วนั้น แต่หลานชายก็ดึงแก้วหนี

   “น้าไปรู้จักกับพ่อณุได้ไง”

   “ฮะ!” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงขึ้นจมูก “ชาติก่อนสงสัยจะดื่มเหล้าร่วมสาบานกันล่ะมั้ง”

   คำตอบที่ได้ดูไม่ปะติดปะต่อเหมือนยังไม่ได้สติ   ทำให้มิคได้แต่งุนงงอยู่ในใจ

   “ถ้าเป็นเพื่อนกัน แล้วเขาเป็นเพื่อนน้าโต๋ด้วยรึเปล่า”

   “อ่ะแหงสิ” ท็อปพยายามคว้าแก้วมาให้ได้อีกครั้ง

   “แล้วตกลงน้าจะเล่าให้ฟังได้รึยังว่าเจอกับน้าโต๋ได้ยังไง”

   เพียงแค่นั้นท็อปก็เงียบไป เหมือนว่าจะมองหลานตาขวาง ทำเอามิคถึงกับสะดุ้ง

   แน่ล่ะว่าถ้ายิ่งเป็นเรื่องนี้ ท็อปก็ยิ่งบ่ายเบี่ยงที่จะพูดถึง   พอนึกขึ้นได้หลานชายก็เริ่มถอดใจ... วินาทีเดียวกับที่ท็อปคว้าแก้วจากมือเขามาได้พอดี

   “นั่งลงสิ”

   ชายหนุ่มจิบกาแฟช้าๆ ทำให้หลานชายนิ่งมองอย่างตะลึงงัน

   ...คิดว่าชาตินี้น้าท็อปไม่มีวันจะเล่าให้ฟังเสียแล้ว!




To be Continue...
ปล.ชื่อตอน How I met your mother ได้ inspiration มาจากซีรีย์ฝรั่งชื่อเดียวกันจ้ะจ้ะ แค่พ่อเล่าให้ลูกฟังว่าเจอกับแม่ได้ยังไงทำไมมันต้องยาวนานมหากาพย์ขนาดนั้นด้วย ฮ่าๆๆ ยังไม่เคยดูหรอกนะ แต่ชอบชื่อจังเลย...
โปรดติดตามจ้ะ!

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 26-02-2012 14:11:19
โอ้ น่าติดตามอย่างเเรง สงสัยสมัยยังหนุ่มน้อย

คงจะเเสบๆกันน่าดู
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 26-02-2012 14:56:09
เอ๊ย!!!
สนุกมว๊ากค่า
 o13
แบบว่าเห็นชื่อเรื่องก็แอบร้อนๆหนาวๆ
กลัวว่าจะได้กินมาม่ากัน
ไปๆมาๆคิดว่านั่งดูซิทคอมตอนเย็นวันอาทิตย์
สนุกจริงๆนะเนี่ย
แบบว่าเขียนเรื่องอ่านแล้วไหลลื่นดี
แล้วมีมุกฮามากๆมาเป็นระยะ
แถมผูกเรื่องสนุกดี
แบบว่าขอสมัครเป็นขาประจำอีกคนด้วยนะจ้ะ
แจก+แจกเป็ดโลดดดดดดดดดด
ตอนหน้ามาไวๆน้า
 :bye2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 26-02-2012 15:13:21
ดูจากปฏิกิริยาตอนเจอกัน คาดว่ารุ่นพ่อ รุ่นน้า คงเกรียน เอ้ย... Bad Boy ไม่แพ้รุ่นลูก รุ่นหลาน เป็นแน่เชียว  :m29
เห็นพ่อภูบอกย้อนความหลังยาวเป็นมหากาพย์ ไม่รู้จะยาวสู้ Series เรื่อง How I Met Your Mother (ฝรั่ง)ได้ไหมเนี่ย ?
( อันนั้นล่าสุด Season 7 เชียวนะ  :m26: )
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 26-02-2012 16:29:35
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh: มารอต่อยุนะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 26-02-2012 17:45:19
 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 27-02-2012 14:16:13
รอๆๆๆอยู่จ้า
สนุกมากๆๆเลย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 27-02-2012 14:26:23
พึ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ ชอบมากๆ

เรื่องน่ารักดี ส่วนเรื่องของรุ่น พ่อ เเม่นั้น

คงจะน่าสนุกไม่เเพ้กัน คริๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 27-02-2012 15:44:34
มานั่งตาแป๋วรอฟังมหากาพย์เจ้าค่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: W-Rose ที่ 27-02-2012 20:24:15
ค้างงงง!!!  :mc4:

 :call: :call: :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 27-02-2012 20:35:45
น่ารักมากเลย รอๆๆๆ ><
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (1/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-02-2012 20:46:11
มหากาพย์ตอนนี้ยาวจิงๆด้วยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 27-02-2012 20:53:47
How I met your Mother (2/8)
Continue...

The 3 Rules



   18 ปีก่อน...

   หากจะพูดถึงแก๊งค์สี่แสบ ก็ต้องคิดถึงสี่คนนี้... นั่นคือแก๊งค์เด็กหนุ่มที่นั่งหลังห้องประจำ ถ้าไม่ก่อกวนในห้องเรียนก็พบได้ตามร้านเกมทั่วไป

   เป็นการผสมอันลงตัวระหว่างสี่แสบที่มาอยู่ด้วยกัน และแทบจะไม่มีใครเคยเห็นว่าไม่ครบแก๊งค์

   ภู... เด็กหนุ่มที่ตัวสูงที่สุดในรุ่น ทั้งๆที่ม.ต้นเป็นแค่เด็กอ้วนคนหนึ่ง แล้วอยู่ดีๆก็ทั้งสูงทั้งผอมทั้งหล่อขึ้นพรวดพราดจนน่าตกใจ แถมยังจะเป็นลูกคนรวยมีรถสวยขับอีกต่างหาก

   ผิดกับบอล... เด็กหนุ่มร่างผอมที่ม.ต้นหน้าตาไม่โดดเด่นเท่าไรนัก งานอดิเรกก็คือเตะบอลกับเพื่อนฝูง แต่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนที่จริงจังกับชีวิตมากที่สุดในกลุ่ม

   ส่วนท็อป... ไอ้เกรียนหน้าตาย พูดน้อยแต่แสบหนัก เป็นเทพแห่งเกมเกือบทุกชนิด ไม่ค่อยสุงสิงกับคนนอกกลุ่ม แล้วก็ต้องโดนปราบความแสบเมื่ออยู่ดีๆก็มีแฟนไปเสียได้

   และสุดท้าย ไอ้โต๋... แว๊นซ์ประจำรุ่น ดูได้จากสไตล์การแต่งตัวสุดขั้วกับการขี่มอเตอร์ไซค์มาโรงเรียนทุกวัน แถมยังจะมีแฟนเป็นสก๊อยตัวแม่ ถ้าหากไม่เห็นมันอยู่กับเพื่อนก็อยู่กับแฟนนี่แหล่ะ

   ส่วนวีรกรรมของพวกเขานั้น จะเล่ากี่วันก็ไม่จบ... ถ้าไม่มาทำเรื่องแสบที่โรงเรียน ตั้งวงไพ่ ก็มีแต่จะโดดไปเที่ยว ก๊งเหล้ากันตั้งแต่หัววัน...

.....
..
.....

   “เหล้า... เพราะเหล้านั่นแหล่ะ” ท็อปจ้องกาแฟในมือนิ่ง ราวกับเห็นน้ำคาเฟอีนในแก้วเป็นน้ำเมา

   ยิ่งพูดมิคก็ยิ่งงง รู้สึกแต่ละประโยคของน้าจะไม่ได้ปะติดปะต่อกันเสียเลย

   “อะไรของน้าน่ะ”

   “มันคือปีศาจ ถ้าจะกินต้องกินอย่างมีสตินะมิค”

   “แล้วไงล่ะน้า”

   “มันทำอะไรได้หลายอย่าง...” ท็อปพูดต่อไปราวกับไม่ได้ยิน “แม้แต่... ทำให้แกข่มขืนเพื่อนตัวเอง”

.....
..
.....

   เป็นค่ำคืนจัญไร... พวกเขายังเด็กเกินกว่าจะรับมือกับแอลกอฮอล์ฤทธิ์แรงได้ แต่ตอนนั้นพวกเขาก็ยังเด็กเกินกว่าที่จะเรียนรู้ความจริงข้อนี้เช่นกัน

   บ้านภูเกือบจะเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์ ถูกใช้เป็นแหล่งปาร์ตี้ของเพื่อนมาตั้งแต่เด็ก... แต่แล้วพอโตขึ้น มันก็กลายเป็นสถานที่ก๊งเหล้าของเพื่อนฝูงยามพ่อแม่ไม่อยู่ไปเสียอย่างนั้น

   เป็นเช้าที่โต๋ตื่นขึ้นมา... พบว่าร่างกายเปลือยเปล่า เจ็บปวดไปทั่วตัวราวกับถูกทำร้าย

   และพอหันไปมอง ก็เห็นว่าคนเพียงคนเดียวในห้องก็เปลือยเปล่าอยู่เช่นกัน

   ...หลักฐานแค่นั้นก็มากเพียงพอแล้ว

   “ท็อป... มึงทำอะไรกู”

   โต๋ปลุกเพื่อนสนิทให้ตื่นขึ้น สีหน้าของท็อปดูงัวเงียใสซื่อเสียจนน่าโมโห

   “อะไร กูทำอะไร”

   “ไอ้สัด... มึงไม่เห็นเหรอ หลักฐานทั้งหมดนี่...”

   โต๋ชี้ให้ดูกองขยะรอบตัว ทั้งเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งขว้างอย่างไม่ใส่ใจ เรื่อยไปถึงขวดเปล่าที่นอนตะแคงอยู่ข้างพวกเขา

   แต่ท็อปกลับมองไปที่อื่น

   “ไหนดู...”

   จับเพื่อนให้นอนลงหลังกระแทกพื้น ดันเข่าของคนที่นอนอยู่ให้แยกออกจากกันไม่ให้ทันตั้งตัว

   และคราบที่หลงเหลืออยู่บนผิวเนื้อมันยิ่งชัดเจนกว่าหลักฐานรอบตัวเสียอีก

   “ไอ้เหี้ยท็อป...!!!”

   “อ่อ กูจำได้แล้ว” ท็อปพูดเรียบๆ... ทั้งสีหน้าและน้ำเสียงไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด

   ภาพเมื่อคืนมันกลับมาเป็นฉากๆ หากเพียงแต่มันไม่เพียงพอที่จะบรรเทาอารมณ์ที่พุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

   ทันใดนั้นเขาก็นึกสนุกใส่นิ้วเข้ามาในร่างอีกฝ่ายโดยไม่บอกกล่าว  ชักนำให้เสียงร้องเย้ายวนหลุดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ

   “มึงชอบมั้ยล่ะ”

   “เชี่ยท็อป เอาออกไป!”

   “เห็นมึงเสร็จตั้งหลายรอบนี่ ก็นึกว่ามึงรู้สึกดี”

   “กู... จำ... ไม่ได้”

   เรื่องที่ว่าโต๋จำไม่ได้ดูท่าจะจริง   เพราะในค่ำคืนที่ผ่านมาราวกับว่าสัตว์ร้ายในตัวของเด็กหนุ่มถูกปลดปล่อย เหลือแต่สัญชาติญาณเรียกร้องหาการร่วมรักที่รุนแรงไม่รู้จักจบสิ้น ถ้าหากเจ้าตัวจำได้ก็คงอับอายเสียจนมองหน้าใครไม่ได้แล้วกระมัง

   “ดีกว่าทำคนเดียวหรือเปล่าล่ะ...”

   โดนจี้ลงตรงจุดสำคัญ โต๋ถึงกับดิ้นพล่านเหมือนจะตายเอาให้ได้

   “ท็อป... กูเกลียดมึง”

   เมื่อพูดด้วยดีๆแล้วดันไม่ยอมตอบ ความโกรธของคนถามมันก็พุ่งพล่านขึ้นมาทันที

   จับหน้าเพื่อนเข้ามาจูบจาบจ้วง ทำเอาริมฝีปากที่พ่นแต่คำผรุสวาทถึงกับยอมจำนนเมื่อถูกรุกรานอีกครั้ง... และแล้วสัมผัสนี้ก็ไปซ้อนทับกับความทรงจำ ทำให้เขานึกภาพเมื่อคืนออกขึ้นมาได้

   เพราะเกม Truth or Dare นั่นแท้ๆที่ทำให้เรื่องกลายมาเป็นแบบนี้

   เมื่อคืนเขามึนเมาเสียจนไม่รู้ด้วยซ้ำว่ากำลังทำอะไรอยู่ ยังหัวเราะร่าอยู่เลยเมื่อท็อปเลือก Dare แล้วดันต้องทำตามคำสั่งด้วยการจูบเขา

   นึกว่าจะสนุกกันเล่นๆ ไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ... แต่ท็อปกลับกล้าจู่โจมขโมยจุมพิตเขาต่อหน้าเพื่อนทั้งสอง   ไม่ใช่เพียงสัมผัสผิวเผินชั่วครู่ แต่กลับดื่มด่ำราวกับกระหายในรสสัมผัสอันโอชะ ลิ้นร้อนถลำลึกลงไปทุกที

   เนิ่นนานเสียจนลืมไปแล้วว่านี่เป็นเพียงแค่เกม... ร้อนเร่าเสียจนชักนำทุกอย่างให้เลยเถิดมาถึงขั้นนี้

   เป็นเพราะจุมพิตร้ายกาจนี้นั่นเองที่ทำลายทุกอย่างลงจนหมดสิ้น

   พอได้สติ คนถูกรุกรานก็ผลักอกท็อปออกไปอย่างแรง ไม่อยากจะตกเป็นเหยื่ออีกต่อไปแล้ว

   “มึง อย่า!”

   “เห็นมึงออกจะชอบ---”

   “มึงอย่าจูบกู!”

   โต๋ตะโกนใส่หน้าเพื่อน และนั่นยิ่งทำให้ไฟโทสะของอีกฝ่ายลุกท่วมยิ่งกว่าเดิม

   ถ้าไม่อยากได้จูบ เขาก็จะให้อย่างอื่น!   ท็อปคิดเพียงแค่นี้เมื่อถอนนิ้วออกมาแล้วสวนร่างเข้าไปอย่างเร็ว ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจดังก้องพร้อมๆกับที่ทั้งร่างกระตุกเกร็ง

   เป็นอีกครั้งที่ท็อปหน้ามืด รู้เพียงแต่ว่าอยากจะทำทุกวิถีทางให้ร่างนี้ยอมจำนนเท่านั้น

   “บอกสิว่ามึงชอบ”

   “ท็อป... ไม่เอาแล้ว”

   ความจริงร่างกายนี้คงจะเหนื่อยล้า... เมื่อคืนอาจจะถึงขีดสุดไปแล้วก็ได้ แต่เมื่อมันยังไม่จบสิ้นก็เหมือนว่ายังไม่ตื่นจากฝันร้ายเสียที

   “บอกมาแล้วกูจะหยุด”

   “ไม่!”

   ท็อปเบียดร่างเข้ามายิ่งกว่าเดิม รู้สึกได้ว่าถลำลึกลงไปกว่าที่เคย...   โต๋ถึงกับเผลอเงยหน้ามองไปข้างหลัง ตกใจที่ร่างกายของตนตอบสนองกับการกระทำร้ายกาจเช่นนี้

   ยังไม่พอ... สัมผัสอันลึกล้ำนั้นพลันกลายเป็นจังหวะอันดุดัน

   เสียงร้องอันไม่ได้ตั้งใจไหลทะลักออกมาไม่หยุด เด็กหนุ่มยิ่งตื่นตระหนกเมื่อรู้สึกว่าแท้จริงแล้วร่างกายไม่ได้แค่ตอบสนอง แต่กำลังเรียกร้องโหยหาสัมผัสมาเติมเต็ม   และยิ่งได้รับมันมามากเท่าไร สัมปชัญญะก็ค่อยๆเลือนหายมากขึ้นเท่านั้น

   เขายอมให้มันเป็นอย่างนั้นไม่ได้!

   “ท็อป... อย่า...” โต๋กัดฟันพูดอย่างยากเย็น “...กูกับมึงก็มีแฟนแล้วนะเว้ย!”

   นี่แหล่ะที่จะเรียกสติท็อปกลับมาได้ นี่แหล่ะที่จะทำให้เรื่องราวเลวร้ายนี้จบสิ้นกันที...

   แต่ทว่า... คนฟังกลับไม่ได้หยุดฟังเลยด้วยซ้ำ!

   “แล้วยังไง? เราชอบกันหรือไง”

   “ไม่ใช่!”

   “เห็นมั้ยล่ะ ไม่ได้ถือว่านอกใจเสียหน่อย... ก็แค่เรื่องนี้เท่านั้นแหล่ะ”

   ท็อปก้มตัวลงกระซิบที่ข้างหู ลืมสิ้นแล้วว่าศีลธรรมคืออะไร

   “แค่กู กับมึง... ไม่ต้องมีพันธะ ถ้ากูอยากมึงก็ช่วยกู ถ้ามึงอยากกูก็ช่วยมึง ดีไหมล่ะ”

   “ท็อป... มึง”

   จะพูดอะไรต่อก็ลืมไปแล้วเมื่อจังหวะทวีความหนักหน่วง ราวกับถูกล้างสมองไปเสียสิ้น

   เป็นความจริงว่าร่างกายของทั้งสองเข้ากันไม่มีที่ติ   จากที่เคยเป็นเพื่อนสนิท ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ มาวันนี้เหลือเพียงสัตว์ร้ายบ้าคลั่งที่โจนจ้วงเข้าหากัน ตักตวงกลิ่นคาวเลือดอันไม่รู้จักพอ

   และจุดที่โต๋เกือบร้องออกไปว่าขอมากกว่านี้... เขาก็รู้ตัวทันทีว่าพ่ายแพ้เอาเสียแล้ว

   สมองมึนชา ถูกย้อมสีให้เห็นแต่ภาพลวงราวกับยาเสพติด   รู้เพียงแต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่แล่นเข้ามาในจิตสำนึก ไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองเลยด้วยซ้ำ

   “กูมีกฎให้สามข้อ...”

   เหงื่อของท็อปหยดลงมาข้างหมอน ใบหน้าเครียดขึ้งนั้นดูออกว่ากำลังตั้งใจฟัง

   “ว่ามา...”

   “หนึ่ง... ห้ามจูบกู”

   “ได้ แล้วแต่มึง” ท็อปว่า

   “สอง... ห้ามหึงกู...”

   “เออ กูไม่หึงมึงอยู่แล้ว”

   “สาม...”

   เล็บทั้งสองมือจิกลงบนบ่าเพื่อนเสียแน่น ความร้อนทวีจังหวะขึ้นจนแทบบ้า...

   “ห้ามรักกู...”

   ท็อปคำรามออกมา จะด้วยความเจ็บปวดที่โดนจิกเสียแรงหรือเพราะว่าถึงขีดสุดแล้วก็ไม่รู้ได้... รู้เพียงแต่ว่าอีกฝ่ายก็กรีดร้องไม่ต่างกันเมื่อต้องรองรับตัณหาที่หลั่งไหลเข้ามาลึกสุดกาย

   ร่างผอมเกร็งไปทุกส่วน รีดไหลราคะออกไปจากกายเช่นกัน

   ท็อปถึงกับหมดแรงทรุดลงโดยไม่คาดฝัน... เพิ่งรู้ว่าร่างกายของตนก็เหนื่อยล้าไม่แพ้กับอีกคน แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่นึกยินดีอยู่ในใจ

   รอยยิ้มเย็นยะเยือกปรากฏขึ้นบนหน้าเด็กหนุ่ม ดื่มด่ำกับชัยชนะอันหอมหวาน

   “ได้... ถ้ากูทำตามทุกข้อ มึงก็ต้องทำเหมือนกัน”

   โต๋ยังหอบหายใจถี่รัว สมองยังคงว่างเปล่าคิดอะไรไม่ทัน

   “...ได้”

   ศึกอันรุนแรงสงบลงอีกครา... เพียงแต่ว่าหลังจากนี้มันอาจจะปะทุขึ้นอีกเมื่อไรก็ได้ทั้งนั้น

   และแล้วเกมสงครามอันยาวนานอันผูกมัดด้วยกฎสามข้อนี้ก็ได้เริ่มต้นขึ้น...





To be Continue!!!


หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 27-02-2012 21:07:06
อะไรจะรุนแรงขนาดนี้
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 27-02-2012 21:54:44
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :z3:
อิน้าท๊อปทำไมแกเลวอย่างนี้
ปล้ำเพื่อนหน้าตาเฉย
แล้วยังมาบอกว่าไม่ได้ทำผิดอี๊กกกกกกกกกกกกกกกกกก
น้าโต๋น่าสงสารอ่ะ
 :sad4:
คู่นี้เมะทำให้คนอ่านไม่ปลื้มเล้ย
หวังว่าคู่คุณพ่อคุณแม่คงจะน่ารักกุ๊กกิ๊กกว่านี้นะ
คนอ่านเศร้า
 :o12:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 27-02-2012 23:15:02
มาแล้ว ย้อนอดีตบรรดา Bad Boy ตัวพ่อ ตัวแม่ ตัวน้า เริ่มมาก็ทำท่าจะดราม่าซะแล้วสิ
ท็อป-โต๋ จากเพื่อนร่วมก๊วน เลยกลายเป็น เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แทงข้างหลัง ทะลุถึงหัวใจกันเลยทีเดียว
แต่กฏ 3 ข้อที่ว่า ห้ามจูบ ห้ามหึง ห้ามรัก มีไว้ห้ามใจตัวเองชัด ๆ เลยนั่น... :undecided:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: ratnalin ที่ 27-02-2012 23:30:49
คู่SM! แต่เฮียท็อปทำตัวไม่น่าปลื้ม -*- กฏ3ข้อ ไม่รู้จะไปรอดกันมั๊ยเนี่ย
รอตอนถัดไปๆๆๆๆ ^-^


หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 28-02-2012 05:02:27
สุดยอด....
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 28-02-2012 08:13:56
 :z3: :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 28-02-2012 11:13:15
เหว่ออะไรกันเเทนที่ตื่นขึ้นมาเเล้วจะรู้สึกผิด

กลับปล้ำต่อซะงั้นอ่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (2/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: hibatsumoe ที่ 28-02-2012 11:29:03
คู่ลูกทำให้รู้สึกหวาน...  :-[
พออ่านคู่ท็อปปุ๊ป รู้สึกตกเหววูบ  o22
แต่จะรอต่อไปนะคะ  :bye2:  :bye2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 28-02-2012 12:00:00
How I met your Mother (3/8)
Continue...




   “แล้วมันเกี่ยวกันยังไงล่ะพ่อ”

   ณุถามขึ้น งุนงงว่าแล้วเรื่องของเพื่อนรักทั้งสองคนนั้นจะเกี่ยวอะไรกับเรื่องของพ่ออย่างที่ได้กล่าวไว้... ภูพอได้ฟังคำถามก็นั่งนิ่งอยู่นานก่อนจะเอ่ยขึ้นมา

   “เพราะว่า... หลังจากนั้นมา สองคนนี้มันก็แอบไปมีอะไรกันบ่อยๆ... ชอบอยู่ดีๆก็หายไปกันสองคนมากขึ้นเรื่อยๆ พ่อก็เลยโดนทิ้งให้อยู่กับแม่แกบ่อยขึ้น”

   “แล้วยังไง...”

   “นั่นแหล่ะ มันเลยทำให้พ่อย้อนกลับมามองตัวเอง”

.....
..
.....

   เป็นช่วงเวลาอันกระอักกระอ่วนที่ภูได้ไปรู้ความลับนั้นเข้า ซึ่งไม่นานบอลเองก็รู้เรื่องนี้ด้วยเช่นกัน... เลยเหมือนเกิดช่องว่างอันยิ่งใหญ่ที่แบ่งกลุ่มสี่คนของพวกเขาออกเป็นสองเสียแล้ว

   แน่ล่ะว่ามันไม่ใช่การกระทำที่ถูกต้อง แต่พอจะเข้าไปคุยกันให้รู้เรื่องด้วยความเป็นห่วงก็โดนความอึดอัดใจที่มีกีดกันจนพูดไม่ออกไปเสียทุกครั้ง

   เรื่องของเรื่องก็คือ ความรู้สึกแปลกๆในใจมันเกิดขึ้นตั้งแต่เห็นเพื่อนทั้งสองจูบกันคืนนั้นแล้ว...

   แทนที่ภูจะตกใจ หัวเราะให้กับความบ้าคลั่ง หรือแม้แต่จะรู้สึกรังเกียจ... กลายเป็นว่ามันจุดคำถามให้เกิดขึ้นในใจเขา ว่าเหตุใดเขาถึงไม่ต่อต้านกับภาพที่เห็น หรือแม้แต่คำถามที่ว่าเส้นแบ่งของคำว่าเพื่อนมันอยู่ที่ตรงไหน?

   เหมือนว่าที่จริงแล้วลึกๆภูก็อยากลองทำดูบ้างซักครั้ง... และเป้าหมายนั้นก็คือคนข้างกายของเขา

   ตอนแรกเขาก็ยังไม่รู้เหตุผลหรอกว่าทำไมต้องเป็นบอล...  ในเมื่อเห็นปฏิกิริยาของบอลในคืนนั้นมีแต่หัวเราะจนท้องแข็ง ตกลงว่าบอลเห็นเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า หรือไม่ได้คิดอะไรด้วยซ้ำ?   และถ้าหากภูมีโอกาสจะได้ทำกับเพื่อนคนนี้บ้าง เขาจะมีความกล้าเหมือนสองคนนั้นไหม

   ...กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้เขาครุ่นคิดว้าวุ่น มารู้สึกตัวอีกทีสายตาเขาก็ได้แต่จับจ้องอยู่ที่บอลเสียแล้ว

   ยิ่งสองคนนั้นหายไปด้วยกันมากเท่าไร พยายามปิดความลับจากพวกเขามากเท่าไร   มันกลับยิ่งทำให้ภูกับบอลใกล้ชิดกันมากขึ้นเท่านั้น

   ตั๋วหนังสี่ใบเหลือแค่สอง ห้องคาราโอเกะห้องกลางเหลือเพียงห้องเล็ก โต๊ะเรียนสี่ที่ข้างหลังห้องก็ว่างเปล่าไปครึ่งหนึ่ง...

   แต่กว่าจะรู้ตัวว่าความรู้สึกนี้คืออะไร... ก็ดันเป็นตอนที่บอลดันไปมีแฟนเสียแล้ว

   เหตุการณ์นี้เป็นที่งุนงงจากคนทั้งรุ่นว่าคนอย่างบอลอยู่ดีๆมีแฟนไปได้อย่างไร แต่คนที่ทั้งช็อคทั้งโกรธมากที่สุดกลับเป็นภู... เพราะพอเขารู้ข่าวครั้งแรกก็ได้แต่โวยวายบ้าคลั่ง รู้สึกราวกับว่าเพื่อนทุกคนทิ้งให้เขาเหลือตัวคนเดียวอย่างแท้จริง

   “ไอ้พวกห่า! ทิ้งกูไปมีแฟนกันหมด จำไว้เถอะ”

   ภูเคยประกาศกร้าวไว้เช่นนั้น... แต่กลับไม่มีใครรู้เหตุผลที่แท้จริงเลยว่าทำไมเขาถึงเกรี้ยวกราดได้ขนาดนั้น

   เพราะมันเป็นสิ่งที่ภูรู้อยู่แก่ใจเพียงคนเดียวว่า จริงๆแล้วมันคือความโกรธที่บอลทิ้งเขาไปหาคนอื่น และโกรธที่บอลไม่ได้รับรู้ความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย...

   ได้แต่คิดกังวลสับสนวุ่นวาย จนสุดท้ายสิ่งที่ต้องการก็หลุดลอยหายไป

   “แล้วมึงไม่บอกเขาล่ะ?”

   โต๋เอ่ยขึ้นในวันหนึ่ง เป็นวันที่เขาแวะไปหาภูที่บ้านหลังจากที่เห็นเพื่อนอาการไม่ดีมาหลายวัน ได้แต่ขังตัวเองอยู่ในบ้าน ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ หนุ่มแว๊นซ์เลยอนุมานได้ว่าภูต้องมีความรักแน่ๆ

   “บอกไปแล้วได้อะไร เขามีแฟนแล้ว”

   “ไม่ใช่ปัญหาซักหน่อย” โต๋ตอบทันควัน แต่ก็สะอึกไปเพราะโดนตัวเองเต็มๆ “แค่บอกเขาไปก็ยังดีกว่าที่มึงจะไม่มีโอกาสได้บอกอีกเลยทั้งชีวิต มึงจะไม่เสียใจเหรอ”

   ภูได้แต่นั่งฟังนิ่ง คำพูดนั้นมันจี้ใจดำเขาไปเต็มๆ... แค่ไม่ได้บอกตอนที่บอลยังไม่มีแฟนก็เสียใจพอแล้ว แต่ถ้าเขาต้องเก็บมันไว้กับตัวเองทั้งชีวิตก็คงจะเสียใจยิ่งกว่า

   และนั่นทำให้เขาตัดสินใจ...

   เป็นคืนที่อากาศดี เขาชวนบอลให้มานั่งรถเล่นด้วยกันได้สำเร็จ และเขามีที่ที่หนึ่งที่อยากพาบอลไปดูมานานแล้ว

   ...และไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นที่ที่อีกเกือบยี่สิบปีต่อมาจะเป็นที่ที่ลูกชายเดินรอยตามด้วยเช่นกัน

   “เป็นไง... มึงว่าสวยมั้ย?”

   ภูดับเครื่อง ...รถยนต์สุดรักกระตุกเพียงแผ่วเบาก่อนจะนิ่งไปแต่โดยดี

   “อืม” เสียงตอบกลับมาอย่างประทับใจ “...เนี่ยเหรอที่มึงอยากพากูมาดู?”

   บอลหันไปมองเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ตรงเบาะคนขับ แล้วก็เห็นเจ้าของรถกำลังมองวิวข้างหน้าอย่างเหนื่อยล้า

   “ก็เวลาที่กูเครียด กูจะขับรถมาที่นี่คนเดียวเว้ย” เด็กหนุ่มเอาแขนวางเกยบนพวงมาลัย ไม่ได้หันมามองเพื่อนที่นั่งข้างๆ “...แต่มึงเป็นคนแรกนะ ที่กูพามาที่นี่”

   คนฟังถึงกับเหวอ ไปไม่ถูก แต่จะด่าทอออกไปตรงๆก็เกรงใจ

   “แหม กูขนลุกเลยนะเนี่ย”

   ภูหัวเราะแก้เก้อ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน...

   ก็มีสิ่งเดียวแหล่ะที่วนเวียนอยู่ในใจเขา

   “บอล ตกลงมึงคบกับน้องจินจริงเหรอวะ”

   ได้ยินเช่นนั้นบอลก็สะอึก... พลันนึกเสียใจที่เรื่องสำคัญเช่นนี้เขากลับไม่ได้บอกเพื่อนที่สนิทที่สุดด้วยตัวเอง แต่กลับต้องให้ภูไปได้ยินจากคนอื่นมาอีกที

   “อืม กูขอโทษนะที่ไม่ได้บอกมึง...”

   “ไหนมึงว่ามีเรื่องอะไรก็จะบอกกันไงวะ”

   “เฮ้ยภู กูขอโทษจริงๆ...” จะเอื้อมมือเข้าไปปลอบ แต่ก็เห็นหน้าเพื่อนยิ่งเครียดขึ้งยิ่งกว่าเดิม “...มึงเครียดทำไมวะ โกรธกูเหรอ... หรือว่ามึงก็ชอบน้องเขาเหมือนกัน”

   “ไม่ใช่เว้ย” เจ้าของรถด่าสวนทันควัน “กูชอบคนอื่นอยู่ต่างหาก”

   คนพูดหันหน้าไปทางอื่นไม่ยอมสบตาด้วย แต่คนฟังก็ยังไม่รู้ตัวสักที

   “เห้ยจริงดิ!!!” เด็กหนุ่มร่างผอมร้องขึ้นอย่างตื่นเต้น “ใครวะ แม่งบอกกูหน่อย!”

   ภูหัวเราะในใจอย่างนึกสมเพชตัวเอง “กูบอกใครไม่ได้หรอก”

   “เชี่ยไรว้า!!!... ทีกูยังบอกมึงเลย”

   ...ใช่สิ บอกในสิ่งที่เขาไม่อยากจะรู้เลยสักนิด

   “ก็คนๆนั้นมันไม่รู้ตัวหรอก   กูก็ไม่รู้จะบอกไปทำไม”

   “อ๊าว ไอ้เหี้ย...” บอลร้องเสียงสูง “...ถ้ามึงไม่บอกแล้วเขาจะรู้มั้ย!”

   เหมือนกับโดนชกหน้า ทั้งโต๋ทั้งบอลพูดแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน มันทำให้เขาได้สติขึ้นมาได้

   ...นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายในชีวิตของเขา

   “เฮ้อ... มึงนี่น้า   ถ้ามึงมีอะไรให้กูช่วย มึงก็บอกละกัน”

   ประโยคนั้นเหมือนเป็นแสงชี้นำความสว่าง เบิกทางให้กับสิ่งที่เขาอัดอั้นตันใจมานานแสนนาน

   วันนี้แหล่ะ! เขาจะไม่ถอยหนีอีกแล้ว!!!

   “บอล ไม่งั้นมึงช่วยอะไรกูหน่อยได้มั้ย”

   “หือ... ไรวะ”

   บอลยังคงนั่งปล่อยตัวตามสบายเอาสองมือพาดไว้ตรงหลังคอ ไม่ได้รู้เลยว่ากำลังจะได้ยินสิ่งใด...

   “มึงช่วยรู้ตัวซักทีได้มั้ยวะ”

   อากาศถูกดูดหายออกไปจากรถ คนฟังหันมามองหน้าเพื่อนนิ่ง... อึ้งไปอย่างไม่เชื่อหู

   ไม่จริงหรอกน่า เรื่องราวบ้าๆแบบนี้จะเกิดขึ้นจริงได้ยังไง!?!

   “ไอ้เชี่ยภู มึงเล่นมุกควายอีกแล้วใช่มั้ยวะ แม่ง... กูขำไม่ออกเลย”

   “ก็กูไม่ได้อยากให้มึงขำ”

   แววตาขี้เล่นของคนพูดพลันเปลี่ยนเป็นเครียดขึ้ง บ่งบอกว่าเขาเริ่มเอาจริง

   “เฮ้ย มึงพูดจริงเหรอวะ...”

   “มึงคิดว่ากูจะโกหกมึงเหรอ”

   เห็นท่าว่าเพื่อนจะไม่ได้พูดเล่นแน่บอลก็เริ่มตื่นตระหนก ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าภูขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนเขาแทบจะจมลงไปในเบาะอยู่แล้ว

   “ภู... เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย”

   “คำว่าเพื่อนน่ะ... มันรวมถึงความรู้สึกอยากปกป้องดูแลให้ดีที่สุด   ความทรมานเวลาเห็นคนๆนั้นไปกับคนอื่น   และความรู้สึกที่อยากจะอยู่กับคนๆนั้นไปชั่วชีวิตหรือเปล่า?”

   บอลรู้สึกหายใจไม่ออก... คำพูดเหล่านั้นสารภาพทุกความรู้สึกที่มีจนหมดสิ้น แค่เพียงได้ฟังก็ทำให้ใจไม่อาจเต้นอยู่จังหวะเดิมได้อีกต่อไปแล้ว

   “...ถ้ารู้สึกอยากเป็นเจ้าของและไม่อยากห่างกันแม้แต่วินาทีเดียว มันยังเรียกว่าเป็นเพื่อนอยู่ ...งั้นกูก็จะเป็นเพื่อนมึง”

   ราวกับมีมนต์สะกดประหลาดแฝงอยู่ในที่แห่งนั้น มันทำให้ลืมสิ้นทุกเรื่องราว ดึงความกล้าหาญที่ไม่เคยคิดว่ามี

   ไม่ยอมให้บอลตอบคำใดๆ ภูก็โน้มตัวเข้าขโมยจุมพิต... มันรู้สึกดียิ่งกว่าที่คิดไว้   เริ่มเข้าใจเพื่อนสองนั้นแล้วว่าเพียงแค่จุมพิตเดียวมันชักนำเรื่องให้เลยเถิดไปได้ถึงเพียงใด

   ร่างกายของบอลกลายเป็นอัมพาตด้วยความตื่นตระหนก ความสับสนเข้าจู่โจมความนึกคิด แต่พอถูกชักนำมากเข้าก็เริ่มโอนอ่อนโดยไม่ได้ตั้งใจ ราวกับถูกล่อลวงจนติดกับ หลงลืมแม้แต่เส้นแบ่งของคำว่าเพื่อนไปเสียอย่างนั้น

   และเรื่องราวก็กลับมาจบลงที่เดิม...

.....
..
.....

   ณุอ้าปากค้าง... พอได้ยินรายละเอียดจากเรื่องเดิมที่เคยเล่าก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้

   “แล้วพ่อก็ลืมเช็ดเบาะ”

   “เรื่องนั้นลืมมันซะน่ะ!” ภูร้อง

   “ตอนแรกที่พ่อเล่าผมนึกว่าจะเป็นการสารภาพรักแบบโรแมนติกซะอีก” ณุทำท่าประกอบ พร้อมกับดัดเสียงล้อเลียน “แบบว่า... เรารักนายมาตลอดเลยนะ อะเฮ้อ”

   เลยโดนตบหัวไปอีกหนึ่งเด้ง

   “ผิดหวังรึไง”

   “ไม่!... แค่งงเฉยๆ” ลูกชายแก้ตัว “แล้วตกลงเป็นยังไงต่อล่ะ แล้วแม่ว่าไง...”

   ภูนิ่งนึก ทำหน้าพะอืดพะอม “ก็... ไม่ได้ว่าอะไร”

   “อ้าว...”

   “เรื่องจริงก็คือไม่มีใครพูดถึงเรื่องคืนนั้นอีก แล้วเราก็เป็นเพื่อนกันต่อไป...”

   “ไหงงี้ล่ะพ่อ!!!” ณุโดดเข้ามาเขย่าตัวพ่อ ไม่คิดว่าเรื่องที่อุตส่าห์ลุ้นมันจะจบลงเช่นนี้

   “โอ้ย ชีวิตมันก็แบบนี้แหล่ะ จะไปคาดหวังอะไรนักหนา”

   “แต่พ่อก็สารภาพออกไปแล้วนี่”

   “ก็ใช่... แต่ก็ถือว่าได้แค่สารภาพนั่นแหล่ะ เพราะยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้ แม่แกก็มีแฟนอยู่แล้ว และที่สำคัญ ตอนนั้นแม่แกก็ไม่ได้รักพ่อ”

   ณุนิ่งไป... เพิ่งเข้าใจว่าความรักมันไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิด และบางทีเขาเองอาจจะเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจได้ทุกส่วนเสี้ยวของชีวิตได้ด้วยซ้ำ

   ภูยิ้มฝืนๆให้กับตัวเองอีกครั้ง

   “แค่นี้น่ะก็ยังทนได้... แต่ถ้าแกต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของคนที่แกรัก   แกจะรู้ว่าความเจ็บมันเป็นยังไง...”



To be Continue!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 28-02-2012 12:34:28
 :z13:  จิ้มคนแต่ง ขอบคุณที่มาต่อค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 28-02-2012 12:51:02
เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของคนที่เเกรักหรอ

หรือภูไปขโมยเจ้าบ่าวเขามาป่าวเนี๊ย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 28-02-2012 18:34:35
เรื่องราวของบรรดา Bad Boy รุ่นใหญ่ มันช่าง...ข้น แซ่บ ปึก ลึกซึ้ง และซับซ้อนกันจริง ๆ เลย  :sad4:
ขนาดภูรวบรวมความกล้าสารภาพรักบอลไปแล้ว ยังไม่สามารถรั้งอีกฝ่ายไว้ได้อีกเหรอเนี่ย ?
เพื่อนเจ้าบ่าวที่แอบรักเจ้าบ่าว ให้อารมณ์ประมาณ เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ(ฉันรักผัวเขา) ยังไงไม่ทราบ....ปวดตับ :m15:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 28-02-2012 21:12:45
กว่าจะมาถึงวันนี้ได้แต่ละคู่คงต้องฟันฝ่ามาเยอะ
แล้วความรักที่เกิดไม่พร้อมกัน ก็ต้องรออีกฝ่ายด้วยสินะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 28-02-2012 21:43:24
 “แค่นี้น่ะก็ยังทนได้... แต่ถ้าแกต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวของคนที่แกรัก   แกจะรู้ว่าความเจ็บมันเป็นยังไง...”

เฮ้ออออออออออออออออออออออออออ
 :เฮ้อ:
คุณพ่อ คุณแม่ คุณน้านี่มีอดีตที่ดราม่ากันจริงจัง
ยังไงก็ขอให้ตอนนี้ทุกคนมีความสุขนะคะ
ขอบคุณคนแต่งค่ะ มาต่อให้ไวจังเลย
 :L2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (3/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 28-02-2012 23:47:52
มันช่างซับซ้อนชวนงงงวย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 29-02-2012 18:39:11
How I met your Mother(4/8)
Continue...



                “หลักจากนั้นมาพอพวกเราเรียนจบมัธยม ต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้ติดต่อกันอีก” ท็อปสรุปเรื่องราว “ถึงเจอกันนานๆครั้งก็ไม่เคยได้อยู่กันครบหน้า... จนได้มารวมกันอีกครั้งตอนที่ไอ้บอลมันจะแต่งงานนี่แหล่ะ”

                มิคได้ฟังก็งุนงง “กับพ่อของณุอ่ะนะ”

                “ไม่ใช่แล้ว” ท็อปหัวเราะพรืด “กับผู้หญิงสิ แฟนเก่ามัน... จินน่ะ”

                ยิ่งฟังก็ยิ่งอึ้งมากกว่าเดิม “จริงเหรอ”

                “อืม... มันก็เลยทำให้พวกน้าได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง”

.....
..
.....

                เกือบเจ็ดปีที่พวกเขาไม่ได้มาอยู่กันพร้อมหน้าเช่นนี้ หากจะนัดเจอกันบางครั้งก็ได้เพียงแต่ดื่มเหล้าสังสรรค์เพียงไม่นาน พอมาเจอกันคราวนี้ท็อปก็เลยอาสาพาว่าที่เจ้าบ่าวมาร่วมดื่มฉลองคุยกันเปิดอกด้วยความยินดี

                “ตกลงนึกยังไงจะแต่งงานวะ”

                “เออ ก็ไม่มีไรหรอก...” บอลว่า พลางยกแก้วขึ้นดื่ม “สามเดือนก่อนกูขับรถชนน่ะ โชคดีไม่เป็นอะไรมาก... แต่มันทำให้กูต้องมาถามตัวเองว่าชีวิตคนเราอยู่ไปเพื่ออะไร”

                ท็อปนิ่งฟัง... ด้วยความที่คนอย่างเขาไม่เคยถามตัวเองด้วยคำถามนี้เลยสักครั้ง

                “คนเราอยู่ไปก็ตาย แต่ถ้าเราไม่เหลืออะไรไว้ให้โลกนี้เลยจะอยู่ไปเพื่ออะไรวะ... แล้วถ้าเราต้องตายคนเดียวโดยไม่มีคนที่เรารัก ชีวิตเราจะมีความหมายอะไร”

                เพื่อนเงียบไป “มึงก็เลยอยากจะแต่งงาน”

                “ก็ใช่... และอีกอย่าง ลูกคงต้องการกู”

                ได้ฟังเพียงแค่นั้นท็อปก็ร่างชา แทบจะไม่กล้าถามคำถามต่อไป

                “จินท้องเหรอวะ”

                “อืม...”

                บอลไม่พูดอะไรอีก ได้แต่รีบกระดกแก้วต่อไปเข้าปากเรื่อยๆ ราวกับอยากจะดับทุกข์เสียมากกว่า

                “แต่มึงพร้อมแล้วเหรอวะ”

                “จะพร้อมไม่พร้อมก็ต้องตอนนี้แหล่ะ ถ้าช้ากว่านี้เดี๋ยวคนอื่นรู้ก็ซวยกันพอดี... และอีกอย่าง กูอยากมีครอบครัวจริงๆเว้ย มึงก็น่าจะคิดเรื่องนี้ได้แล้วนะ”

                ท็อปหัวเราะเยาะ “ไม่ล่ะ มันคงไม่เหมาะกับกู”

                “แล้วแฟนมึงล่ะ”

                “โห่ย เลิกไปตั้งนานแล้ว”

                บอลดูอึ้งไปกับข่าวคราวนี้เช่นกัน “เออนั่นแหล่ะ... ถ้ามึงอยากจะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับใคร อย่าลืมบอกกูด้วยแล้วกัน”

                “ได้... กูไม่ลืมแน่”

                ทว่าแทนที่คนไม่สนโลกอย่างท็อปจะลืมเรื่องราวเหล่านี้ไปได้ สมองเจ้ากรรมที่ถูกย้อมสีด้วยน้ำเมาก็ดันแหวกว่ายจมลึกอยู่ในคำบอกเล่าที่ได้พบพาน... ว่าแท้จริงแล้วชีวิตนี้เขาอยู่ไปเพื่ออะไร

                แท้จริงแล้วเขาต้องการอะไร...

                หรือแม้แต่... เขาต้องการใคร?

                และคำตอบที่หาได้มาก็มีเพียงหนึ่งเดียว   คนๆนั้นคือเพื่อนสนิทที่ยอมรับฟังทุกอย่าง ยอมรับตัวตนของเขาได้ทุกสิ่ง... และเป็นคนที่มิตรภาพของพวกเขาตั้งอยู่บนความเกลียดชังผสมด้วยตัณหาราคะ

                แต่เป็นคนเดียวที่เติมเต็มชีวิตเขาได้จริงๆ

                ไม่รอให้จบคืนนั้น ท็อปเรียกแท็กซี่ออกไปโรงแรมที่โต๋พักอยู่... หลายปีมานี่พวกเขาไม่ได้กลับไปทำเรื่องราวเช่นนั้นอีกเลย ถึงก่อนหน้านั้นจะเจอกันบ้างแต่ก็ไม่มีโอกาสใดที่จะได้เจอกันตัวต่อตัวเลยสักครั้ง

                จนกระทั่งคราวนี้ ที่เขาไปปรากฏตัวอยู่หน้าห้องพักของโต๋นี่แหล่ะ

                “ไอ้ท็อป?...” ทักได้แค่นั้นร่างที่อ่อนเหลวไปด้วยน้ำเมาก็ทำท่าจะล้มลงจนต้องรีบเข้าไปประคอง “...มาทำเชี่ยอะไรที่นี่วะ มึงดื่มมาเยอะแค่ไหนเนี่ย”

                “โต๋...” ท็อปเรียกด้วยเสียงอ่อนแรง “กูรู้แล้ว... แค่มึง... แค่มึงเท่านั้น”

                “พูดเรื่องเชี่ยไรวะ” โต๋ว่า พลางลากร่างเพื่อนมานั่งบนโซฟา เตรียมจะลุกไปหาน้ำให้ แต่ก็โดนคนเมาคว้าเอวลงมานอนด้วยเสียก่อน

                “กูคิดถึงมึง”

                “เออ กูรู้แล้ว กูก็คิดถึงมึง โอเคป่ะ เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้”

                “ไม่ใช่... ไม่ใช่แบบนั้น”

                โต๋นิ่งเงียบไป ท่าทางคนตรงหน้าจะพูดไม่รู้เรื่องเสียแล้ว

                “แล้วมันยังไง...”

                “กูต้องการมึง”

                ว่าแล้วก็พลิกเจ้าของห้องให้เป็นฝ่ายมาอยู่เบื้องล่าง เห็นเพียงแค่นั้นโต๋ก็เห็นชัดแจ้งแล้วว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

                “ไม่เอาแล้วท็อป! ยังจะทำเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอวะ”

                “ทำไม ตอนนี้มึงคบใครอยู่”

                “กูไม่ได้คบใครแล้ว”

                “แล้วเป็นกูไม่ได้เหรอวะ...”

                โต๋ถึงกับนิ่งอึ้งไป ไม่คิดเลยว่าจะมีวันได้ยินคำนี้จากคนๆนี้

                นี่แปลว่าอะไร... ที่ห่างหายกันมาหลายปีอยู่ๆนึกอยากจะเลื่อนขั้นจากเพื่อนเป็นคนรักก็ทำเอาตามใจชอบงั้นหรือ!

                “กูกับมึงคบกันไม่ได้หรอกไอ้ท็อป... กูไม่เคยคิดกับมึงแบบนั้นเลย และกูเชื่อว่ามึงก็ไม่เคยคิดกับกูแบบนั้นด้วย”

                “มึงอย่ามา...”

                “กูให้มึงได้มากสุดแค่เซ็กซ์นั่นแหล่ะ... และที่ผ่านมากูก็รู้สึกผิดมากพอแล้ว มันควรจะจบลงซักที”

                เหมือนโดนตบเสียจนหน้าชา ทั้งๆที่ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงบันดาลโทสะไปแล้วแน่... ทว่าคราวนี้ท็อปกลับพ่ายแพ้ หมดสิ้นเรี่ยวแรงจะอุทธรณ์

                “เป็นเพราะกฎสามข้อนั่นใช่มั้ย”

                โต๋นิ่งเงียบไป เขาเกือบลืมมันไปแล้วด้วยซ้ำ พอถูกชักนำให้นึกถึงมันขึ้นมาอีกครั้งก็เลยไม่รู้จะตอบเช่นไร

                “ใช่... ท็อป” ชายหนุ่มค่อยๆพลิกตัวเพื่อนให้ลงนอนกับโซฟา “กูกับมึงเป็นได้แค่เพื่อนกันเท่านั้น”

                ถ้อยคำนั้นเจ็บเสียยิ่งกว่าโดนทำร้าย สับทึ้งให้เขากลายเป็นชิ้นแล้วโยนทิ้งไปให้ไกลคงจะทรมานน้อยยิ่งกว่า

                นี่เป็นครั้งแรกที่คนแบบท็อปจะซมซานพ่ายแพ้ และเป็นครั้งแรกที่กล้าเอ่ยความในใจ... แต่สิ่งที่ได้รับคือการปฏิเสธอันเย็นชา หมดสิ้นแล้วเยื่อใยใดๆ

                สมองที่มึนชาจำได้แค่เพียงสัมผัสอ่อนโยนของผ้าห่มอุ่นที่เพื่อนห่มให้   ก่อนที่จะดิ่งลึกลงในนิทรา ที่ได้แต่หวังให้มันเป็นนิทรานิรันดร์
 

...................................................................
 

                ไม่เป็นไรหรอก สักวันฉันคงได้เจอใครที่เหมือนนาย

                ก็ได้แต่อวยพรให้นายได้สิ่งที่ดีที่สุดเหมือนกัน...


                ติดดอกไม้ลงไปบนกระเป๋าเสื้อสูทสีขาวเป็นอย่างสุดท้าย   เพื่อนเจ้าบ่าวยิ้มให้ เหตุเพราะไม่เคยเห็นบอลดูดีขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง

                “ขอบใจมากนะมึง”

                “เออๆ หล่อแล้ว ปั้นยิ้มไว้ เดี๋ยวกูไปช่วยรับซองเอง”

                ภูยังคงพูดติดตลกอยู่เหมือนเดิม แต่บอลแค่หัวเราะเบาๆไม่เต็มเสียง ดูเหมือนยังมีเรื่องเครียดขึ้งอยู่ในหัวใจ

                “เครียดไรวะเจ้าบ่าว ยิ้มไว้ ยิ้มไว้”

                พอโดนคะยั้นคะยอขนาดนี้บอลเลยฝืนยิ้มออกมาจางๆให้เพื่อนสบายใจ

                “กูขอโทษนะ...”

                “หือ ขอโทษเรื่องอะไร”

                “กูไม่ได้เมินเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นนะภู กูรู้ว่ามึงรู้สึกยังไง” ได้ยินแค่นี้คนฟังก็หายใจไม่ทั่วท้อง “แต่กูขอโทษจริงๆที่ตอบแทนความรู้สึกของมึงไม่ได้”

                “เออน่ะ อย่าคิดมากเลย”

                “กูไม่รู้ว่ามึงจะเจ็บมากรึเปล่าที่กูขอให้มึงมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว... แต่มึงเป็นเพื่อนที่กูรักที่สุดจริงๆ”

                จบคำนั้นก็รีบคว้าร่างผอมของเพื่อนมากอดไว้... ไม่ใช่อะไร แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากให้บอลเห็นน้ำตาที่กำลังร่วงลงมาเท่านั้น

                “ไม่เป็นไรหรอก กูขอแค่อย่างเดียว”

                “มีไรวะ มึงว่ามาเลย”

                ภูหายใจลึกอยู่หลายครั้ง กลัวเหลือเกินว่าเพื่อนจะจับน้ำตาที่กำลังจะล้นออกมาได้

                “อย่าลืมกูนะ ได้โปรด”


 
                ฉันยังจำสิ่งที่นายเคยพูดเอาไว้ได้... บางครั้งรักก็ยืนยาว

                แต่ความเจ็บปวดกลับยืนยาวยิ่งกว่า...

 

To be Continue...


----------------------------------------------------------------------

ตอนนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลง Someone like you ของ Adele จ้ะ
ตัวเอียงก็มาจากท่อนฮุคนั่นแล

Never mind, I'll find someone like you
I wish nothing but the best for you too
Don't forget me, I begged
I remember you said,
"Sometimes it lasts in love but sometimes it hurts instead"

เจ็บเนอะ....
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 29-02-2012 19:23:19
 :z13: :z13: รอมาทั้งวัน  ขอบบบบบคุณคร้าบบบบบบ


สงสารภู  :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 29-02-2012 19:44:33
Saddd
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 29-02-2012 19:55:45
เศร้าแทนท๊อป
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: W-Rose ที่ 29-02-2012 20:28:24
ตอนนี้ SAD มากกกกก

 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 29-02-2012 21:10:18
เจ็บเนอะ....

ง่า...เจ็บสิ แต่เป็นความเจ็บแบบหน่วง ๆ ปวดแปล๊บ ๆ ในหัวใจ  :sad4:
พล็อตเรื่องของรุ่นพ่อ รุ่นแม่ รุ่นน้า ๆ เนี่ย บาดลึก ปวดร้าวดีจริง ๆ คงเพราะ เป็นผู้ใหญ่กว่า ณุ-มิค ล่ะมั้ง ?
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 29-02-2012 21:18:57
โห กว่าจะได้อยู่ด้วยกัน ฝ่าฟันมาด้วยน้ำตาเชียว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 29-02-2012 22:09:28
โหย...เศร้าเว่อร์...เรื่องคุณลูกดูแฮปปี้เอนด์ขึ้นมาทันที
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Whatever it is ที่ 29-02-2012 22:13:32
เศร้ามากกกก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 29-02-2012 23:27:33
เศร้าเเทน งานเเต่งทีไรเป็นได้เเค่เเขกรับเชิญ

เวรกรรมเเท้ๆน้อ ทั้งสองคู่เลย

ปล. someone like you = ใครบางคนที่ ชอบ คุณ  ใช่ไหมนะ คริๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 29-02-2012 23:34:06
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
 :sad4:
ทำไมรุ่นคุณพ่อคุณแม่ถึงได้คนละอารมณ์กับคุณลูกแบบนี้ค้า
คนอ่านอยากจะร้องไห้
นี่ยังดีนะว่าตอนปัจจุบันทุกคนอยู่อย่างมีความสุข
ไม่งั้นดิชั้นต้องตายแน่ๆค่าาาาาาาาาาาาาาาาา
 :o12:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 01-03-2012 08:34:13
เพิ่งเข้ามาอ่านสนุกมากๆๆ
ชอบทั้งเรื่องของพ่อและก็ชอบตอนของลูกๆมาก
+ 1 นะคะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 01-03-2012 08:38:55
รุ่นพ่อเเม่ ผ่านมานานโข ความสัมพนธ์ไม่ขยับ

แล้วมาลงเอยกันตอนไหนนะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Sansin ที่ 01-03-2012 09:50:03
มาจิ้ม ๆ ก่อน 555   :z2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (4/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 01-03-2012 10:39:53
โอ้ว ~ ความรักของรุ่นใหญ่นี่มันช่างเจ็บปวด
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (5/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 01-03-2012 17:57:44
How I met your Mother (5/8)
Continue...



   แขกเหรื่อเต็มห้องจัดงานของโรงแรม หากมองไปที่เจ้าบ่าวกับเจ้าสาวที่ยิ้มแย้ม ก็จะเห็นชายใส่สูทอีกคนที่ยืนเคียงข้างเจ้าบ่าวอยู่ไม่ไกล

   ท็อปในชุดสูทสีเทาเดินเข้ามาหาภูจากข้างหลัง รู้ดีว่าหลังรอยยิ้มเพื่อนที่แสดงความยินดีกับว่าที่เจ้าบ่าวนั้นซ่อนความเจ็บปวดไว้มากมายเพียงใด

   “ไหวมั้ยมึง”

   “เออ... กูไม่เป็นไร”

   ภูตอบไป ทั้งๆที่ความจริงแล้วหากหมดคืนนี้ความแข็งแกร่งของเขาคงแหลกสลายไม่เหลือชิ้นดี

   ท็อปตบบ่าเพื่อนเบาๆอย่างให้กำลังใจ ในขณะที่เหลือบไปเห็นโต๋ยืนอยู่เงียบๆที่อีกฟากหนึ่งของห้อง

   ...ระยะห่างระหว่างพวกเขามันไกลกันออกไปสุดขั้วแล้ว

   พิธีในวันนี้จัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ในตอนเย็นเมื่อทำพิธีรดน้ำสังข์เสร็จแล้วก็ต่อด้วยงานเลี้ยงอาหารค่ำ อาหารมากมายถูกเสิร์ฟพร้อมสรรพ มีสไลด์โชว์ภาพความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ได้ชม... ทุกอย่างดูจะดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งพ่อเจ้าสาวกล่าวอวยพรเสร็จเรียบร้อย

   ชายปริศนาคนหนึ่งพลันลุกขึ้นขอกล่าวอวยพรบ้าง... เป็นชายที่ภูไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน แต่ก็สัมผัสได้ว่าความริษยาและอาฆาตถูกส่งมาให้เจ้าบ่าวอย่างไม่ปิดบัง

   ชายคนนั้นรับไมโครโฟนมาไว้กับมือ ก่อนจะเดินมาที่โต๊ะเจ้าของงานแต่ง แล้วคว้ามือของหญิงสาวชุดขาวไปกุมเอาไว้

   และแววตาตัดสินใจอันแน่วแน่แผ่กล้าออกมาจากชายคนนั้น เป็นแววตาเดียวกับที่ภูเคยมองวันที่ตัดสินใจจะสารภาพกับบอลไม่ผิดเพี้ยน

   “ผมอยากจะอวยพรให้กับเจ้าสาว แต่ก่อนหน้านั้น ผมอยากจะถามอะไรสักอย่างหนึ่งก่อน” เสียงห้าวถูกประกาศออกไมค์ วินาทีนั้นไม่มีใครรู้จริงๆว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

   “จิน... ทำไมไม่บอกเขาไป”

   “จะให้บอกอะไร!” เจ้าสาวหดมือกลับ แทบจะร้องเสียงสูงด้วยความตกใจ

   “ก็บอกเขาไปสิ นี่ลูกของเรานะ ไม่ใช่ของคนอื่น!”

   เพียงประโยคเดียวก็เหมือนกับแผ่นดินทรุดฮวบพังทลายลงไปตรงนั้น... การจลาจลขนาดย่อมผุดขึ้นทุกหัวระแหง วินาทีเดียวกับที่บอลผุดลุกขึ้นด้วยแรงโทสะที่หลั่งไหลท่วมร่าง

   “จิน...!”

   “บอล... ไม่ใช่อย่างที่คิดนะ”

   เจ้าสาวรีบลุกขึ้นรั้งแขนชายหนุ่มเอาไว้ แต่ก็โดนกระชากแขนออกอย่างไม่ใยดี

   “ตกลงมันยังไง เรื่องจริงเหรอ!”

   หญิงสาวอึกอักอยู่ในลำคอ ไม่สามารถพูดคำใดออกมาได้อีก  ชายปริศนาจึงฉวยโอกาสคว้าแขนเจ้าสาวเอาไว้แล้วตอบคำถามนั้นให้แทน

   “ใช่ เป็นเรื่องจริง ขอโทษด้วยนะ”

   ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ภูไม่เคยเห็นสีหน้าของบอลเจ็บปวดเท่าวันนี้มาก่อนเลย...

   เจ้าบ่าวปัดจานเค้กแต่งงานที่วางอยู่บนโต๊ะออกไปสุดแรง ชั้นครีมหวานที่ตั้งตระหง่านสูงพลันพังทลายลงไม่เป็นท่า ผสานกับเสียงตะโกนร้องที่ออกมาจากหัวใจที่พังยับเยิน

   ตุ๊กตาชายหญิงที่ยืนยิ้มอยู่บนยอดเค้กตกลงมาแตกกระจาย... พร้อมๆกับที่เจ้าบ่าววิ่งออกจากห้องโถงไปรวดเร็วเกินกว่าใครจะตามได้ทัน

   เป็นวินาทีที่ภูได้สติ... สัญชาตญาณตื่นขึ้นมาทำงานเร็วกว่าที่ใจคิด

   “บอล... บอล!”

   วิ่งตามมาถึงลานจอดรถ ก็พบว่าบอลรีบขับรถบึ่งไปเสียแล้ว... เห็นเพียงแค่นั้นชายหนุ่มก็กระโจนขึ้นรถของตัวเอง รีบเหยียบคันเร่งตามไปติดๆ

   โชคดีที่เขาเป็นพวกชอบซิ่งรถตั้งแต่มัธยม... เรื่องแค่นี้เขาไม่มีวันแพ้อยู่แล้ว

   แค่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าก็พลันใจหายตามไปด้วย ไม่รู้ว่าคนที่โดนกับตัวเต็มๆอย่างบอลจะทรมานขนาดไหน... ไม่รู้ว่าจะคิดสั้นหรือไม่ด้วยซ้ำ  และพอคิดถึงความเป็นไปได้นั้นแล้วภูก็ยิ่งใจไม่ดี รีบขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง ตามไปเร็วที่สุดที่เคยทำมาในชีวิต

   อดีตเจ้าบ่าวคงรู้ตัวว่ามีคนที่ขับรถตามมาอยู่... บอลจึงสู้สุดฝีมือด้วยการเลี้ยวเข้าทางซอยลัด สลัดรถที่ตามมาให้หลุดไปได้... ห่างไกลเสียจนเขาคิดว่าไม่มีใครตามมาแล้ว   เขาจึงตัดสินใจจอดรถตรงกลางสะพานข้ามแม่น้ำพอดี

   ชายหนุ่มเปิดประตูออกมายืนพิงสะพานยามค่ำคืน เห็นแสงไฟระยิบระยับจากสองฝั่งสะท้อนลงมาในแม่น้ำ สวยงามไม่แพ้กับแสงดาวบนฟ้า

   แต่ทุกสิ่งที่เขาปรารถนามาแหลกสลายไปหมดแล้ว...

   บอลตะโกนร้องออกมาสุดเสียง... กึกก้องยาวนาน สะท้อนไปกับแม่น้ำสีดำอันว่างเปล่า ปลดปล่อยความเจ็บปวดออกมาสุดขั้วปอดจนเสียงแหบแห้ง

   ระบายออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งเสียงตะโกน ทั้งน้ำตา จนคิดว่าไม่มีแรงจะยืนอยู่ได้อีกแล้ว

   ...และชั่ววินาทีที่เขากำลังจะทรุดลงไปนั้นเอง ใครบางคนจากข้างหลังก็เข้ามากอดเขาไว้

   น้ำตายังไม่ยอมเหือดแห้ง... ความเจ็บปวดยังคงถูกระบายอีกยาวนาน จนกระทั่งอ้อมกอดอบอุ่นนั้นดูดซับความทรมานของเขาให้ค่อยๆจางหายไป

   เนิ่นนานที่ไม่มีคำพูดใด

   “ทำไมวะภู... สิ่งที่กูต้องการ แค่อยากจะมีครอบครัวซักครั้งเท่านั้นเอง”

   ร่างผอมในอ้อมกอดยังคงระบายน้ำตาจนตัวโยน ภูไม่รู้จะปลอบอะไรจริงๆ ในขณะที่ห้วงลึกสุดใจของเขากำลังอุทธรณ์ให้พูดออกไปตามที่ใจคิดสักครั้ง

   แม้จะรู้ว่ามันเลวที่ฉวยโอกาสก็ตาม...

   “ถ้างั้น... ให้โอกาสกูได้ไหม ให้โอกาสกูได้เป็นครอบครัวของมึงได้ไหม”

   บอลไม่ตอบ... มีแค่เสียงหอบหายใจสะอื้น โอบกอดพวกเขาไว้ใต้แสงไฟแห่งรัตติกาล...


...................................................................


   สองมือขยุ้มลงไปบนผ้าปูเตียงสุดแรงจนยับย่น แม้จะก้มหน้าลงกับหมอนแต่ก็รับรู้ได้ถึงสีหน้าของอีกฝ่าย และจังหวะร้อนที่โหมกระหน่ำในช่วงสุดท้าย

   มันรู้สึกดีเกินไป... ดีเสียจนนึกว่าเหตุการณ์จัญไรที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงแค่ความฝัน

   บอลอ้าปากจะหอบหายใจ แต่แล้วเสียงที่หลุดออกมากลับเป็นเสียงร้องอันไร้การควบคุมเมื่อความร้อนจากอีกคนทะลักไหลเข้ามาในร่าง พาให้ทุกสิ่งถูกผลักดันไปสูงสุดขอบจนเกินระงับ

   หรือไม่... ความสุขสมอันเหนือจริงนี้ที่แท้อาจจะเป็นความฝันก็ได้

   หยาดหยดสุดท้ายถูกระบายลงกับผ้าปูเตียงสีขาว ร่างผอมที่รองรับอยู่รู้สึกว่าทุกสิ่งมันช่างท่วมท้นแทบหมดแรงจะทรงตัว

   ภูกอดเขาไว้แน่น เนิ่นนานกว่าจะถอนร่างออก... เป็นช่วงเวลาที่ไร้คำพูดจาและดูน่าเหลือเชื่อเกินกว่าจะเกิดขึ้นจริง

   ...ไม่เคยคิดเลยว่าซักวันหนึ่งชีวิตเขาต้องกลับมาหาอ้อมกอดของคนๆนี้อีกครั้ง

   ตกลงว่าที่บอลยอมโอนอ่อนต่อคำร้องขอของเพื่อนในคืนนี้มันเป็นเพราะอะไรกันแน่   เป็นเพราะเขากำลังมึนชากับความเจ็บปวดเสียจนโหยหาบางสิ่งที่จะระงับความทรมานนั้นได้   หรือเพราะอยากจะประชดความระยำของชีวิต   หรือเป็นเพราะว่าแท้จริงแล้วลึกๆในใจของเขาตัดสินใจที่จะหยุดวิ่งหนีจากความจริงนี้เสียที

   ถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในรถยนต์คืนนั้นจะไม่ถูกขุดค้นขึ้นมาพูดถึงมันอีก... แต่บอลก็รู้ตัวดีว่าเขาคงจะไม่มีวันลืมไปชั่วชีวิต

   แต่ว่าเขาจะสามารถตอบแทนความรู้สึกของคนๆนี้ได้จริงๆหรือ?

   “ภู... แล้วจากนี้ มันจะเป็นยังไงวะ”

   เอ่ยถามเสียงแผ่วเบาจนเกือบจะจมหายไปในราตรี แต่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองคนตอบที่นอนอยู่ข้างหลัง...

   “มึงอยากให้เป็นยังไงล่ะ”

   “กูไม่รู้... แต่ถ้านี่เป็นความฝันกูก็ไม่อยากตื่น”

   ภูเงียบไป รู้ดีว่าใจของคนตรงหน้าคงแหลกสลายไม่มีชิ้นดี... สงสัยว่าช่วงเวลาเดียวที่บอลจะหายทรมานได้คือยามที่เขามอบความรักให้งั้นหรือ? แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร หากเขาจะพอช่วยให้คนที่ตนรักลืมความเจ็บปวดไปได้แม้แค่ชั่วยามก็ยังดี

   แม้ในใจจะนึกฝันไปไกลกว่านั้นก็ตาม...

   เหลือบไปเห็นแหวนวงน้อยนอนนิ่งอยู่นอกกระเป๋าเสื้อสูทสีขาวที่กองยับอยู่บนเตียง พลันนั้นความคิดชั่วแล่นของเขาก็ตื่นขึ้นทำงานอีกครั้ง

   ภาพฝันที่เขาเห็นตัวเองกับคนที่ตนรักอยู่เคียงคู่กัน... หากมันเป็นจริงได้ก็คงจะดี

   “งั้นก็ไม่ต้องตื่นสิ...”

   ดึงมือของบอลเข้ามาใกล้... ก่อนจะสวมแหวนสีทองเกลี้ยงวงนั้นเข้าไปในนิ้วนางข้างซ้าย

   บอลหันกลับมามองด้วยความสับสน เข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่าความรู้สึกที่อีกฝ่ายมีให้ตนนั้นมันล้นหลามเพียงใด... แต่เพียงแค่เห็นแสงโคมไฟสะท้อนแหวนสีทองบนนิ้วที่คิดไปว่าชีวิตนี้คงไม่มีวันได้ใส่อีกแล้ว   พลันนั้นน้ำตาที่ยังหลงเหลืออยู่ก็พลันเอ่อล้นออกมาอีกครา

   ไม่เข้าใจหรอกว่าความรู้สึกนี้คืออะไร... แต่เขากลับหยุดน้ำตาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว

   ชายตรงหน้าก้มลงจูบซับน้ำตาให้ ช่างเป็นความอ่อนโยนที่ชำแรกลึกลงถึงบาดแผลในจิตใจ ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าสิ่งที่ได้รับนี้จะช่วยเยียวยาหัวใจให้คืนดังเดิมได้ในเร็ววัน

   สองมือเอื้อมขึ้นโอบคอชายตรงหน้า เลื่อนใบหน้าให้ลงมารับจุมพิต... ไม่รู้ว่าภูจะแปลความหมายของมันว่าอย่างไร   แต่เขาตัดสินใจแล้วว่าหากนี่เป็นความสุขสุดท้ายที่เหลืออยู่ คราวนี้เขาก็จะขอลองเสี่ยงไขว่คว้ามันไว้...

   ดึงรั้งให้จมลงในจุมพิตแสนเศร้า อ้อนวอนขอรับสัมผัสแห่งการเยียวยาอีกสักครา




To be Continue...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (5/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 01-03-2012 20:16:12
จินไม่ไหวเลยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (5/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 01-03-2012 20:35:01
อ่านรวดเดียวจบเลย 

อยากบอกว่า ชอบมากกกกกกกกกกกกก!!

ทั้งคู่ลูก ทั้งคู่พ่อ-แม่ น้า   o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13


 :3123:ให้คนเขียน :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (5/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 01-03-2012 20:39:37
ซึ้งมาก...ความพยายามของภูสำเร็จแล้ว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (5/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 02-03-2012 01:00:13
ต้นเป็นดราม่า ออกดอกมาเป็นรักลึกซึ้ง ชอบเรื่องราวของ ภู-บอล มากเลยค่ะ   :-[
จากความเจ็บปวดที่ต้องเผชิญ จึงทำให้ได้พบกับความปรารถนาดี และ คนที่จะอยู่เคียงข้างกันจริง ๆ

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (5/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 02-03-2012 02:13:28
Happy Happy naka
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 02-03-2012 12:59:41
How I met your Mother (6/8)
Continue....



   “แล้วแม่ก็ยอมแต่งงานกับพ่อง่ายๆอย่างนั้นเลยเนี่ยนะ?” ณุเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นภูหยุดเล่าไปดื้อๆ... เนิ่นนานเสียจนนึกว่าพ่อจะหลับไปเสียแล้ว

   “เออ... ก็ไม่เชิงหรอก” ชายหนุ่มถอนหายใจ คิดอยู่นานว่าจะบอกความจริงกับลูกดีไหม “ที่จริง... พ่อกับแม่ยังไม่ได้แต่งงานกันด้วยซ้ำ”

   ลูกชายนิ่งชะงักไปอยู่นาน สมองประมวลผลไม่ทัน

   “ห๊ะ!!!... หมายความว่าไงน่ะ นี่หลอกกันมา 10 ปีเลยเรอะพ่อ!!! แล้วแหวนนี่มันยังไงกันล่ะ”

   ดูท่าว่าลูกจะช็อคมากกว่าที่คิด... ก็สมควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่หรอกในเมื่อพฤติกรรมที่พวกเขาแสดงออกมาทุกอย่างมันเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่ามันคือความสัมพันธ์ของคนที่แต่งงานแล้วทั้งนั้น

   “เอางี้แล้วกัน... แกเคยเห็นแม่แกถอดแหวนรึเปล่า”

   ณุนึกอยู่ชั่วครู่... “ไม่เคยนะ”

   “นั่นแหล่ะประเด็น...” ภูถอนหายใจอีกครั้ง “...พอเช้าวันต่อมาของวันนั้นแม่แกก็ช็อคไปเหมือนกันว่าเมื่อคืนทำอะไรลงไป   แล้ว...แหวนวงนั้นที่จริงมันเป็นแหวนของคู่หมั้นแม่แก ...ไซส์ผู้หญิงน่ะ ...แม่แกก็เลยถอดไม่ออก”

   “ห๊ะ...”

   ผู้เป็นพ่อยกมือขึ้นดูแหวนบนนิ้วของตัวเองบ้าง “เออ ส่วนวงนี้ก็ไซส์ของแม่แก พ่อก็เลยถอดไม่ออกเหมือนกัน”

   เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง... นึกอะไรในหัวไม่ออกเลย

   ใครจะมีพ่อสุดที่รักสุดห่วยอย่างเขาได้บ้างไหมนี่!!!

   “งั้นก็แปลว่า... ที่จริงแล้วพ่อกับแม่ไม่ได้แต่งงาน แค่ถอดแหวนไม่ออกงั้นเหรอ!?!”

   “เออน่ะ ก็ไม่เชิงหรอก... ยังไงตอนนี้ก็อยู่กินจนมีลูกไปแล้วนี่ ฮ่าๆๆๆ” ภูหัวเราะเสียงดังกลบเกลื่อน แต่ดูเหมือนว่าเขาพยายามจะหนีปัญหาเสียล่ะมากกว่า

   “พ่อ... นี่พ่อไม่คิดจะแต่งงานกับแม่เลยเหรอ”

   “คิดสิ! แต่ประเทศไทยมันแต่งงานได้ที่ไหนล่ะ”

   “แล้วประเทศอื่นมันแต่งไม่ได้รึไง?”

   คราวนี้ผู้เป็นพ่อถึงกับอึ้งไป... เหมือนเป็นความจริงที่เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยสักครั้ง เหตุเพราะเมื่อสิบกว่าปีก่อนกฎหมายที่อนุญาตให้เพศเดียวกันแต่งงานนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้ เขาก็เลยเลิกคิดเรื่องนี้ไปโดยปริยาย

   “เฮ้อ ฟังนะพ่อ... ถึงพ่อจะห่วย แต่พ่อก็ยังเป็นพ่อผมนะ”

   เกือบจะซึ้งแล้ว... แต่ก็สะดุดใจเสียก่อน

   “นี่เอ็งหลอกด่าพ่อเหรอ”

   “ไม่ใช่!” ณุร้องเสียงสูง “คือผมจะบอกว่า... ถึงพ่อจะห่วย แต่ผมก็ภูมิใจในตัวพ่อนะ”

   เกือบซึ้งอีกรอบ... เอาจริงๆคือซึ้งไปแล้วด้วยซ้ำ

   “เฮ้ย เอ็งก็หลอกด่าพ่ออยู่ดีนี่หว่า”

   “ไม่ใช่ค้าบบบบ!!!” ณุรีบเบรกก่อนที่พ่อจะโกรธขึ้นมาจริงๆ “ที่จะบอกก็คือ ถ้ามัวแต่คิดน่ะมันก็ไม่เกิดอะไรขึ้นหรอกนะพ่อ... เดี๋ยวคราวนี้ผมช่วยพ่อเอง”

   สองพ่อลูกจ้องหน้ากันนิ่งในความเงียบงัน... จนกระทั่งรอยยิ้มนึกสนุกปรากฏขึ้นบนใบหน้า

   สงสัยงานนี้จะไม่ธรรมดาเสียแล้ว


...................................................................


   “เออนะ ตกลงก็ไม่รู้มันทำอีท่าไหน ถึงไปอยู่กินกันได้” ท็อปสรุปปิดท้าย ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่เพิ่งได้รู้มาจากการดื่มเหล้าเมื่อคืนมาผสานเข้ากับความทรงจำ

   “อ้าว แล้วเรื่องน้าโต๋ล่ะ”

   นี่แหล่ะถึงจะเข้าประเด็นสิ่งที่ค้างคาอยู่ในใจหลานชายเสียที ว่าเป็นไงมาไงน้าโต๋ถึงมาโผล่เอาที่นี่ได้... และตกลงความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้มันเป็นอย่างไรกันแน่ ในที่สุดเขาก็จะได้รู้แน่ชัดเสียที

   แต่ปฏิกิริยาของท็อปกลับมีแค่เลิกคิ้วขึ้นข้างเดียว

   “ก็เป็นอย่างที่แกเห็นนี่แหล่ะ”

   มิคหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่... นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นน้าเขาคงถีบไปแล้วแน่

   “ก็ผมอยากรู้เรื่องนี้นี่แหล่ะ”

   “ก็จะให้อธิบายอะไรอีกล่ะ... หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก น้าก็เพิ่งมารู้ว่าไอ้สองคนนั้นมันอยู่ด้วยกันก็เมื่อวาน ส่วนไอ้โต๋อยู่ดีๆก็โผล่มา จำได้รึเปล่าล่ะ...”

.....
..
.....

   คืนนั้นเป็นคืนที่ฝนตกหนักเหมือนฟ้ารั่ว พายุโหมกระหน่ำราวกับเทพพิรุณกำลังพิโรธ ทุกสิ่งมืดมัวสนิทไม่อาจมองเห็นสิ่งใด

   บรรยากาศในคืนนั้นคุกคามน่าสะพรึงกลัวเหมือนในหนังสยองขวัญไม่มีผิด... แล้วยิ่งต้องมาขวัญผวาเข้าไปใหญ่เมื่อมีเสียงกดกริ่งหน้าประตูซ้ำๆท่ามกลางเสียงฟ้าผ่าครึกโครม

   แต่จะไม่ออกไปรับก็ไม่ได้เสียอีก สองน้าหลานก็ได้แต่ลากเท้ากล้าๆกลัวๆไปที่หน้าประตู พอมองลอดหน้าต่างไปก็มองอะไรไม่เห็นเพราะทุกสิ่งพร่ามัวไปด้วยน้ำฝน...

   และสิ่งมีชีวิตที่รอให้พวกเขาเปิดประตูอยู่หน้าบ้านนั้น ก็คือชายคนที่ชื่อโต๋นี่เอง

   จำได้ว่าท็อปยืนนิ่งราวกับถูกฟ้าผ่าไปตรงนั้น คงจะไม่แม้แต่จะคิดว่าจะได้เจอชายคนนี้อีกครั้ง

   “ท็อป... ขอกูเข้าไปหน่อยจะได้มั้ย”

   สภาพชายตรงหน้าดูเหมือนลูกหมาตกน้ำ ผมที่เริ่มยาวเปียกลู่อยู่บนหน้า ร่างผอมกอดตัวเองปากสั่นด้วยความหนาวเหน็บ... ท็อปแทบจะไม่ขยับด้วยซ้ำตอนที่เอ่ยขึ้นมา

   “มิค ไปเอาผ้าขนหนูมา”

   และระหว่างที่หลานรีบวิ่งไปหาสิ่งของอุปกรณ์มาให้ชายคนนี้ ท็อปก็พาเพื่อนเก่าไปยังห้องน้ำ ยอมให้ใช้น้ำอุ่นได้ตามใจชอบ ส่วนช่วงเวลาระหว่างนั้นที่หลานชายเฝ้าเพียรถามว่าชายคนนี้เป็นใครท็อปก็ไม่ยอมแม้แต่จะเอ่ยปากตอบ

   และเขาก็ตัดปัญหาด้วยการล็อกห้องนอนที่ติดกับห้องน้ำเสียเลย

   พอโต๋อาบน้ำเสร็จก็ออกมาเจอกับท็อปที่รออยู่ในห้องนอนพอดี ชายหนุ่มดูท่าจะไม่บอกที่มาที่ไปออกมาง่ายๆแน่ๆ โดยเฉพาะเมื่อความกระอักกระอ่วนจากการเจอกันครั้งสุดท้ายยังคงอบอวลราวหมอกหนาอยู่ในจิตใจ

   พวกเขาไม่เคยพูดกันตรงๆเลยสักครั้ง และครั้งนี้ก็คงเป็นเช่นกัน... นึกย้อนดูก็พบว่ายามเกิดปัญหาขึ้นเมื่อใดพวกเขาก็ใช้วิธีปิดปากเงียบ ไม่พูดถึงมันอีก   เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป

   อาจจะด้วยความกลัว ว่ายอมให้ทุกสิ่งในโลกนี้พังทลายไปได้... แต่ต้องไม่ใช่มิตรภาพของพวกเขา

   “ท็อป... กูอาจจะอยู่พักใหญ่เลย ได้ไหมวะ”

   “เออ เอาดิ”

   “ตอนนี้กูไม่มีที่ไปว่ะ... เงินกูก็หมดแล้ว”

   ไม่จำเป็นต้องอธิบายมากไปกว่านั้นอีก... หรือแท้จริงแล้วท็อปก็อาจไม่ได้อยากรู้เหตุผลเลยด้วยซ้ำ

   ไฟฟ้าเหมือนจะดับแหล่มิดับแหล่ โต๋ยืนเช็ดผมมองออกไปข้างนอกกระจกหน้าต่าง... ไม่ทันรู้ตัวเลยเมื่อท็อปเข้ามาประชิดจากด้านหลัง

   “แต่กูไม่ให้มึงอยู่ฟรีหรอกนะ”

   คนฟังหลับตาลงราวกับรู้เงื่อนไขข้อนี้ดีอยู่แก่ใจ

   “เออ... อยากเมื่อไรก็เรียกกูเลย”

   เสียงที่ตอบกลับมาราวกับคนไม่มีหัวใจ ดังร่างกายนี้กลวงเปล่า แม้จะถูกทำให้แปดเปื้อนด้วยมือของคนแปลกหน้านับร้อยก็ไม่ยินดียินร้ายงั้นหรือ

   หรือแปลว่าต่อให้เป็นมือของเขาก็ไม่ยินดียินร้ายเช่นกัน?

   “ได้... งั้นขอมัดจำก่อน ตอนนี้แหล่ะ”

   สองแขนเอื้อมเข้ามาหาจากด้านหลัง สัมผัสไล้ไปตามร่างกายที่คุ้นเคยมานาน... ไม่ใช่แม้แต่จะเป็นอ้อมกอดด้วยซ้ำ

   โต๋หลับตาอีกครั้ง... พร้อมๆกับที่ไฟดับลง สองร่างตกอยู่ในความมืดสนิทราวกับโลกสูญสิ้นแสงตะวัน

   และในความมืดนั้นที่น้ำตาของท็อปหยดลงเงียบๆ... รู้ตัวดีแล้วว่าแม้จะสัมผัสร่างนี้อีกกี่ร้อยกี่พันครั้ง เสียงในใจของเขาก็จะไม่มีวันไปถึงชั่วกาล

.....
..
.....

   มิคอยากจะบอกว่าเขาไม่ได้เข้าใจอะไรเพิ่มเติมเลยแม้แต่น้อย   แต่พอจะบอกออกไปก็เกรงว่าจะยิ่งซ้ำเติมความทุกข์โศกให้ชายตรงหน้าเสียอย่างนั้น

   เป็นเพราะเขาดูออกนั่นแหล่ะว่าความรู้สึกของทั้งสองคนไม่ใช่แค่เพื่อน แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมทั้งสองถึงไม่เคยรับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย...

   คงเป็นเพราะว่าสองคนนี้ไม่เคยพูดสิ่งที่อยู่ในใจสักครั้งเลยกระมัง

   น้าท็อปไม่เคยทำอาหาร เมื่อมิคมาอยู่ด้วยก็ซื้ออาหารจากข้างนอกเข้ามากินกันตลอด   ด้วยความที่ว่าชายหนุ่มเป็นนกฮูกกลางคืน ทำงานเขียนโปรแกรมอยู่หน้าคอม มีกองมาม่าวางระเกะระกะอยู่รอบโต๊ะ โหมทำงานคืนแล้วคืนเล่า แล้วหลับเอาเป็นเอาตายในตอนกลางวัน

   จนกระทั่งพอน้าโต๋มานั่นแหล่ะชีวิตพวกเขาถึงได้เปลี่ยนไป... อาหารที่ไม่มีใครเคยทำโต๋ก็ทำให้ ถึงมันจะไม่ได้อร่อยนักและมักจบลงด้วยการซื้ออาหารสำเร็จรูปมากินอยู่ดี   มีกาแฟเสิร์ฟให้ท็อปตอนเช้าทุกวัน  แต่เวลาที่ท็อปทำงานโต้รุ่งจนเผลอหลับคาคอมไป ชายหนุ่มก็ไม่เคยรู้เลยว่าเพื่อนคนนี้นี่แหล่ะที่คอยเอาผ้ามาห่มให้ หรือไม่ถ้าดื้อนักก็ลากไปนอนบนเตียงเสียเลย

   และสายตาที่โต๋แอบมองเพื่อนตอนหลับเงียบๆนั้น มันอธิบายทุกสิ่งได้ดีกว่าคำพูดใดๆ...

   “เห็นน้าโต๋ได้งานแล้วนี่... ผมว่าถ้าเขาเก็บเงินได้พอคงไปหาที่อยู่ใหม่เร็วๆนี้แหล่ะ”

   “อืม” ท็อปดื่มกาแฟก้นแก้วที่เริ่มเย็นชืด สีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม “ยังหรอกมั้ง ไม่เห็นมันจะพูดอะไรเลย”

   “ถ้าถึงเวลานั้นแล้วน้าจะทำไง”

   “มันจะไปก็เรื่องของมันสิ”

   นี่แหล่ะปัญหา!... ความปากแข็งไม่มีที่ติของทั้งคู่นี่แหล่ะที่ทำให้เรื่องมันไปไม่ถึงไหนซักที  และท่าทางคนหัวแข็งอย่างท็อปต่อให้ตายคงจะไม่มีวันเผยใจตัวเองได้แน่ๆ

   มิคไม่เอ่ยอะไรตอบไปอย่างที่ใจคิด... แต่กลับใช้ความเงียบที่มีครุ่นคิดแผนการเอาไว้ในใจ

   ...สุดท้ายเขาคงต้องลงมือช่วยด้วยตัวเองเสียแล้ว!!!



To be Continue
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 02-03-2012 14:08:43
จัดเลยค่ะ ลูก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 02-03-2012 14:49:09
เรื่องรักๆของคนแก่นี้ ยังต้องให้ลูกๆ หลานๆมาช่วย :laugh:

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 02-03-2012 15:46:38
มัวแต่เก๊กแต่กั๊กอะไรอยู่เหรอหนุ่ม ๆ อยู่กันจนลูก-หลานโตแล้ว
อะไรที่ยังค้างคา ก็เคลียร์กันซะ ชีวิตคนมันสั้น หาความสุขใส่ตัวเยอะ ๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 02-03-2012 15:52:15
 o13 o13 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Koyy ที่ 02-03-2012 16:53:19
รอ ๆ ๆๆๆๆ ๆ ๆๆ ๆ  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-03-2012 17:43:07
อัยยะห์ อัยยะห์!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 02-03-2012 18:09:11
น้องมิค
 :sad4:
ช่วยให้สองน้าเค้าเข้าใจกันซะทีเถ๊อะ
อยู่กันแบบอึมครึมแบบนี้มันบีบหัวใจเอาจริงๆ
ส่วนคู่คุณพ่อคุณแม่ก็แต่งงานเถอะ
คุณลูกตามมาวัดรอยเท้าขนาดนี้และ
 :laugh:
ชอบเรื่องนี้จริงๆนะให้ดิ้นตาย!!!!
 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 02-03-2012 19:26:48
ภู-บอล ถ้าไม่รัก ไม่ผูกพัน ไม่สามารถอยู่ด้วยกันจนลูกโต (ขนาดมีเมียแล้ว) ได้หรอก
ฉนั้นจะแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราวหรือไม่ ไม่สำคัญแล้วล่ะ แค่มีกันและกันแบบนี้ตลอดไป...ก็เพียงพอแล้ว  :m1:
เป็นห่วงแต่ โต๋-ท็อป อาการหนักมาก จะทิฐิกันไปไหนหนอ?
คนอ่านอยากเห็นเค้ามีความสุข หลานมิคช่วยจัดให้หน่อยเถอะ...  :m13: 
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 02-03-2012 20:23:59
เอ๊า...หนุ่มๆ สู้เค้า!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 02-03-2012 20:24:18
สงสัยมิคและณุต้องช่วยพ่อแม่และน้าตัวเองซะแล้ววว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (6/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 02-03-2012 22:55:54
ลุยโลดเลยมิค เืพื่อน้าท๊อป กะ น้าโต๋

แล้วพ่อลูกตัวแสบจะเซอร์ไพร์อะไรแม่บอลจ๊ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 03-03-2012 14:51:41
How I met your Mother (7/8)
Continue...




   น้ำมันในกระทะร้อนโฉ่ฉ่า... ทำใจอยู่นานกว่าจะกล้าโยนปลาใส่กระทะได้ลง

   และผลที่ได้ ก็คือหยดน้ำมันร้อนพากันกระเด็นแตกกระจายไม่เป็นทาง

   “โอ้ย เจ็บๆๆๆ!”

   “พ่ออย่าเพิ่งหนีเซ่! โอ้ย!”

   เป็นภาพอันแปลกประหลาดที่จะเห็นพ่อลูกคู่นี้พากันใส่ผ้ากันเปื้อน จับตะหลิว ถือกระทะกันเช่นนี้   และเพราะความไร้ประสบการณ์การทำอาหารใดๆของพวกเขาเลยทำให้ทุกสิ่งทุลักทุเลมากกว่าที่คิด

   “วะ ก็มันเจ็บนี่” ภูถูต้นแขนที่โดนน้ำมันไปพลาง

   “ไม่งั้นพ่อเอาตะหลิวมา”

   “โอ๊ย ไม่ต้อง พ่อทำเอง---”

   “ไอ้เชี่ยภู.............!!!!!!!!!!!!

   หันไปมองต้นเสียงอย่างงุนงง แล้วก็ยิ่งต้องประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงไม่น่าจะเป็นคนที่มาอยู่ ณ ที่นี้ได้

   “อ๊าว ไอ้สัดท็อป มึงเข้าบ้านกูมาได้ไงวะ!”

   “ก็มันไม่ได้ล็อกนี่สัด!”

   ท็อปยืนก้มหอบหายใจ ท่าทางจะลนลานเข้ามาเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้   ในขณะที่ภูมองหน้าลูกชายตัวแสบที่กำลังยิ้มแฉ่ง สันนิษฐานว่าณุต้องเป็นคนลืมล็อกประตูหลังจากที่เพิ่งไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารกันมาแน่ๆ

   “แล้วตกลงมึงมีอะไรวะ บุกเข้ามาหากูถึงบ้าน”

   “มึงลบออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ”

   “หา... ลบเชี่ยไรวะ”

   “ก็ที่มึงส่งข้อความหากูไง... ที่มึงบอกกูว่ามึงอัดเสียงที่เราคุยตอนกินเหล้าเมื่อคืนไว้”

   “เฮ้ย อัดเสียงไรวะ กูไม่ได้ทำ... เอ๊ะ หรือกูทำ?” ภูเริ่มสับสน เพราะเมื่อคืนเขาก็เมาเกินกว่าที่จะจำรายละเอียดอะไรได้

   “อ้าว ถ้ามึงจำไม่ได้แล้วมึงส่งข้อความหากูได้ไง ว่าถ้าวันนี้กูไม่มาหามึง มึงจะเอาคลิปเสียงที่กูบอกว่ากูรักไอ้โต๋ให้มันฟัง...”

   พลันเสียงอะไรบางอย่างจากนอกห้องครัวก็ดังหล่นลงพื้น เสียงเหมือนคนที่ตกใจเสียจนปล่อยของในมือหล่นลงโดยไม่ได้ตั้งใจ

   และเมื่อหันไปมองต้นเสียงช้าๆ... ก็พบว่าสถานการณ์อันตรายนี้แทบทำให้คนมองหยุดหายใจได้

   “เมื่อกี๊มึงว่าไงนะ...”

   ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดที่ทำให้โต๋ปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้... แต่ถ้ามองไปเห็นมิคที่ยืนอยู่ข้างๆแล้วก็อาจจะอนุมานไปได้ว่านี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ หรือมากกว่านั้นก็อาจจะเป็นขั้นตอนของแผนอันล้ำลึกก็เป็นได้

   ท็อปทำหน้าเหมือนเห็นผี... ถ้ากระโดดออกจากหน้าต่างแล้ววิ่งหนีไปได้ก็คงทำไปแล้ว

   “เฮ้ย... กูไม่ได้พูด”

   “แต่กูได้ยินนี่”

   “กูไม่ได้พูด กูไม่เคยพูดจริงๆ”

   “แล้วมันจริงหรือเปล่า”

   น้ำเสียงคาดคั้นที่ได้ยินฟังดูเหมือนโต๋กำลังโกรธจัด   ดีไม่ดีต้องมีเรื่องตามมาอีกแน่ๆ

   ถ้าไม่ได้กลิ่นไหม้ของปลาลอยออกมาเสียก่อน...

   “นี่อะไรเนี่ย! จะเผาครัวกันหรือไง หา!!!”

   เสียงร้องของคนที่มาใหม่ทำให้คนที่เหลือที่อยู่ตรงนั้นเพิ่งได้สติขึ้นมาว่าควันดำขโมงกำลังลอยออกมาจากกระทะ... และภายในเสี้ยววินาทีนั้นบอลก็รีบพุ่งเข้ามาปิดแก๊ส เปิดหน้าต่างอย่างทันท่วงที

   เหมือนระเบิดลง บอลที่เพิ่งกลับจากที่ทำงานคงจะด่ากราดด้วยความหัวเสียแล้วแน่ถ้าไม่ทันเห็นแขกไม่ได้รับเชิญในบ้านนี้เข้าเสียก่อน

   “นึกยังไงจะทำอาหารเนี่ย ฮะ... เฮ้ย... ไอ้ท็อป ไอ้โต๋...”

   ยิ่งกลายเป็นความกระอักกระอ่วนเมื่อเหล่าเพื่อนเก่ามาอยู่กันครบหน้าพอดีในสถานการณ์เช่นนี้... เสียเพียงอย่างเดียวว่าแผนการที่เด็กหนุ่มอุตส่าห์วางไว้ดันล่มสลายไม่มีชิ้นดี

   มิคเกิดเซ็งขึ้นมาสุดขีด... แต่ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า แผนขั้นต่อไปต้องสำเร็จให้ได้!


...................................................................


   “ตกลง... นี่เป็นแผนของมึงเหรอ”

   “อืม...” มิคตอบด้วยสีหน้าครุ่นคิด หลังจากที่เฉลยกับณุไปว่าเรื่องข้อความที่ภูอัดเสียงไว้อะไรนั่นมันแค่เรื่องที่เขากุขึ้นมาเท่านั้น   เสียดายอย่างเดียวที่บอลโผล่เข้ามาได้จังหวะพอดี ไม่งั้นเรื่องราวคงคืบหน้าต่อไปแล้วแน่...

   หวังว่าจะใช้แรงกดดันจากเพื่อนนี่แหล่ะที่จะต้อนท็อปให้จนมุม แต่ท่าทางว่ามันคงจะไม่ได้สำเร็จเอาได้ง่ายๆ

   ส่วนตอนนี้เด็กหนุ่มสองคนก็หนีขึ้นมาบนห้องนอนณุ เพราะบอลดันเปลี่ยนแผนมาทำอาหารเย็นชุดใหญ่เลี้ยงเพื่อนเก่าอีกสองคนด้วยซะเลย เพราะฉะนั้นตอนนี้ข้างล่างก็มีแต่เหล่าเพื่อนรุ่นพ่อที่คว้าเบียร์มาสังสรรค์กัน คุยกันแต่เรื่องเก่าๆ... ไม่รู้จะให้พวกเขาไปอยู่ตรงไหน

   แต่ก็กลายเป็นว่า... แผนการของมิคก็ดันมาทำลายแผนการของณุไปด้วยเช่นกัน

   “เอ้อ... ที่จริงวันนี้กูกับพ่อกะจะทำอาหารเซอร์ไพรซ์แม่นะ”

   “หืม ทำไมล่ะ เซอร์ไพรซ์อะไรกัน”

   “คือ... ที่จริงแล้วพ่อกับแม่กูยังไม่ได้แต่งงานกันน่ะ วันนี้ก็เลยจะสร้างบรรยากาศโรแมนติกซะหน่อย...”

   มิคหันมามองหน้า ถึงอีกฝ่ายจะพูดไม่ทันจบแต่เขาก็เข้าใจขึ้นมาเลยว่าแผนนั้นพังไม่เป็นท่าแน่แล้ว

   “เฮ้ย ไม่รู้จริงๆ กูขอโทษนะ”

   “เออน่ะ ไม่เป็นไรหรอก” ณุหัวเราะ “มันเจ๊งตั้งแต่ปลาไหม้แล้ว”

   ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ พวกเขาก็โดนเรียกให้ไปร่วมโต๊ะอาหารจนได้... ถ้าโชคดีมื้อนี้อาจจะจบลงอย่างที่หวัง แต่ถ้ามันไม่ใช่อย่างนั้น...

   โต๊ะอาหารที่เคยมีแค่สามคนวันนี้กลับครึกครื้น แต่กลับมีบอลคนเดียวที่ต้อนรับเพื่อนอย่างรื่นเริงโดยไม่ได้ทันสังเกตถึงรอยยิ้มเฝื่อนๆของเพื่อนที่ซ่อนอยู่โดยแม้แต่น้อย

   “เออ อร่อยนี่” ท็อปกล่าวชม ท่าทางเหมือนไม่ได้กินอาหารดีๆมาเป็นเดือน “กูไม่เคยรู้เลยว่ามึงทำอาหารเป็น”

   “ก็กูเคยทำงานพิเศษที่ร้านอาหารตอนอยู่มหาลัยน่ะ” บอลว่า ตักปลาที่โดนคว้านส่วนที่ไหม้ออกจนเหลือข้างเดียวเข้าปาก

   “อร่อยกว่าที่ไอ้โต๋ทำอีก”

   “อ้าว ความผิดกูอีก? กูไม่ใช่เมียมึงนี่” โต๋ร้องอุทธรณ์

   ความกระอักกระอ่วนแทบจะลอยมากระแทกหน้า แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้ท็อปยิ่งอยากเอาชนะยิ่งกว่าเดิม

   “ก็ใครบอกว่ามึงเป็น”

   “จะเอาอะไรกับกูวะฮะไอ้ท็อป กูทำให้มึงกินก็บุญแล้ว”

   “อ้าว ตอนนี้พวกมึงอยู่ด้วยกันเหรอวะ” บอลถามแทรกขึ้น เหตุเพราะเป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่องราว

   “เออ... กูหมดตัวน่ะ เลยไปอยู่บ้านมัน...” โต๋ก้มหน้ากินต่อไป “แต่เดี๋ยวกูคงย้ายออกแล้วล่ะ น่าจะเก็บเงินได้พอแล้ว”

   ท็อปถึงกับวางช้อนส้อมลงเสียงดัง

   “เฮ้ย ทำงี้ได้ไงวะ มึงไม่คิดจะบอกกูเลยเหรอ”

   “เออ ถ้ากูไม่อยากบอกมึงแล้วมึงจะทำไม”

   “แล้วมึงก็จะหนีไปเฉยๆอย่างนั้นน่ะนะ”

   “ไอ้ควาย นี่กูประชดยังไม่รู้อีก! ถ้ามึงอยากได้อย่างนั้นงั้นกูก็จะทำให้ เอามั้ยล่ะ”

   เด็กหนุ่มสองคนที่นั่งฟังอยู่ตรงข้ามโต๊ะได้แต่มองทั้งสองสลับกันไปมาเหมือนกำลังดูการโต้เทนนิสอันดุเดือด... แต่แล้วมันก็จบลงด้วยการที่ท็อปหมดความอดทนแล้วลากโต๋ออกไปนอกห้อง

   “ตกลงจะเอายังไงวะฮะ นี่มึงจะทิ้งกูไปจริงๆเหรอ”

   ผลักร่างผอมกระแทกลงกับผนัง ดูเหมือนท็อปจะสับสนเกินกว่าจะเข้าใจได้ว่าแท้จริงความต้องการของตัวเองคืออะไร

   “ฮะ? กูเนี่ยนะทิ้งมึง กูกับมึงเป็นอะไรกัน?”

   โดนคำถามนี้เข้าไปก็ถึงกับสะอึก

   “เป็นอะไรก็ช่างแม่ง... แต่มึงทำอย่างนี้ไม่ได้นะเว้ย”

   “ทำไมกูจะทำไม่ได้ กูกับมึงก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน... กูแค่มาขออาศัยอยู่บ้านมึง มึงเรียกกูเมื่อไรกูก็ไปหา ไม่ได้แปลว่ากูจะอยากอยู่กับมึงซักหน่อย มึงเป็นใครวะ จะรั้งกูไว้ทำไม---”

   มันเจ็บเกินกว่าที่จะทนฟังได้อีกแล้ว... วินาทีนั้นที่ท็อปคิดได้เพียงอย่างเดียวก็คือต้องปิดปากคนๆนี้ให้ได้  และสิ่งที่ร่างกายตอบสนองไวกว่าที่ใจคิดก็คือการกระชากร่างตรงหน้าเข้ามาหา จูบปิดปากให้แน่นสนิทจนไม่อาจดิ้นหลุดได้พ้น

   สิ่งที่คิดมีเพียงแค่นี้จริงๆ... ว่าถ้าหากต้องเสียคนๆนี้ไปอีกครั้งเขาคงจะยืนอยู่ไม่ได้อีกแล้ว

   ร่างที่ถูกกระชากเข้ามาแข็งเกร็งด้วยความตกใจ แต่พอชั่วขณะที่คิดจะดิ้นหนีให้หลุดไปเขากลับรู้สึกได้ถึงน้ำตาของคนตรงหน้าที่ไหลลงมาโดนแก้มของตน

   เพียงแค่นี้... ทุกสิ่งที่เคยสงสัยค้างคาก็กระจ่างแจ้งชัดเจน

   ราวกับเข็มนาฬิกาย้อนไปเมื่อสิบแปดปีก่อน... เด็กหนุ่มสองคนที่เคยลักลอบพบกันยามห่างไกลสายตาคนรักซึ่งหยุดอยู่ในกาลเวลาได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง   จำได้ชัดถึงจุมพิตแรกอันหวานหอมและร้ายกาจที่เป็นชนวนเริ่มเรื่องทั้งหมดนี้ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะยังคงลุ่มหลงตราตรึงอยู่ในจิตใจ

   เป็นเพราะหวาดกลัวว่าหากได้รับจุมพิตเช่นนั้นอีก โต๋คงจะรับรู้ถึงความรู้สึกที่แท้จริงของอีกฝ่าย และรวมถึงความรู้สึกของตัวเองด้วยเช่นกัน

   เป็นเวลาสิบแปดปีอันยาวนานที่พวกเขาทั้งสองคนต่างก็วิ่งหนี   และโดนพันธนาการด้วยกฎสามข้อที่ทั้งกีดกันพวกเขาให้ไม่อาจเข้าถึง แต่ก็ดึงรั้งให้กลับมาหากันอยู่เรื่อยไป

   ถึงเวลาหรือยัง... ที่พวกเขาจะหยุดวิ่งหนีเสียที?

   ท็อปคงไม่รู้สึกตัวว่าสองแขนที่พร้อมจะผลักเขาออกไปทุกเมื่อกลับอ่อนแรงจนกลายเป็นดึงรั้งแขนเสื้อเขาไว้ตั้งแต่เมื่อไร  แม้เมื่อตอนที่ถอนใบหน้าออกเขาก็ยังคงรู้สึกเพียงว่าเขาพ่ายแพ้แก่ทิฐิตัวเองเสียแล้ว

   ทั้งน้ำตานี้ และทั้งการฝืนกฎที่ร้ายแรงที่สุดของเขา

   “กูขอโทษ...” ท็อปเอ่ยเสียงแหบแห้ง “...กูแหกกฎของมึงซะแล้ว”

   ชายหนุ่มก้มหน้า กำลังจะเดินออกไปด้วยความพ่ายแพ้... แต่ทว่ากลับมีมือหนึ่งยื่นมาดึงรั้งเขาไว้

   “ข้อไหนล่ะ”

   โต๋ถาม... ราวกับนั่นเป็นคำถามสุดท้ายที่จะแก้ตัวได้แล้ว หากเขาพลาดโอกาสนี้ไปทุกสิ่งคงไม่มีวันหวนคืนมาตลอดกาล

   เมื่อหันกลับมามอง ท็อปถึงเพิ่งได้เห็นว่าไม่มีความเกลียดชังแฝงอยู่ในดวงตาคู่นั้นอีกแล้ว

   “ทุกข้อนั่นแหล่ะ”

   เหลือเพียงแต่ความเงียบงัน... ท็อปคิดว่าโต๋คงจะปล่อยแขนเขา ต่อยหน้าเขา ก่นด่าเขา หรืออะไรก็ได้ที่จะทำร้ายเขาให้สาสม   ทว่าสิ่งที่ได้รับกลับมามีเพียงแค่รอยยิ้มแสนเศร้าเท่านั้น

   “กฎพวกนั้นน่ะ ช่างแม่งเหอะ” โต๋ว่า... “กูก็แหกกฎไปนานแล้วเหมือนกัน”

   ราวกับได้ยินเสียงโซ่ตรวนที่เหนี่ยวรั้งไว้ตลอดสิบแปดปีหักพังลงต่อหน้า ร่วงกราวลงไปอยู่บนพื้น... เหลือเพียงสิ่งเดียวที่จะรั้งพวกเขาไว้ได้ นั่นคือความรู้สึกที่เพิ่งถูกปลดปล่อยนี้เท่านั้น

   ทิ้งให้พันธนาการที่เคยมีถูกทิ้งลืมไปตลอดกาล....








To be Continue...
ตอนหน้าก็จบตอนพิเศษแล้วจร้าาา
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 03-03-2012 14:58:20
บอกกันไปเลย ชัดๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-03-2012 15:36:16
ต้องจุดพลุฉลอง แฮปปี้เสียที ลุ้นจนเหนื่อย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 03-03-2012 17:58:32
เย้ แฮปปี้ไปคู่นึงแล้ว o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 04-03-2012 00:55:18
อา...ในที่สุด โต๋-ท็อป ก็ยอมรับความรู้สึกจริง ๆ จากใจกันซะที  o7
บางครั้งกฎก็มีเอาไว้แหกอ่ะนะ แต่ไอ้กฏ 3 ข้อนั้น ไม่น่าจะตั้งกันมาแต่แรกแล้วล่ะ  :m23:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 04-03-2012 01:51:52
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :z2:
ดีใจยิ่งกว่าถูกหวย
สองคุณน้าเข้าใจกันซะที
ไอ้กฎ 3 ข้อนั่นน่ะลบๆออกไปจากชีวิตเลยนะ
 :m4:
ตอนนี้ก็เหลือแค่คุณพ่อคุณแม่และ
แต่งงานเถิดน้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
 :impress2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (7/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 04-03-2012 05:42:00
เรื่องน่ารักมาก ตั้งแต่ตอนแรกเลย ไม่ต้องปวดใจกับปมการดำเนินเรื่องมากนัก
บางทีได้อ่านเรื่องสบายๆ ผ่อนคลายแบบนี้ดีมากคะ เล่าไปก็น่ารักดี คนอ่านชอบนะคะ
มาม่าไม่ต้มเยอะพอยกสดอร่อยๆ ชอบคะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 04-03-2012 16:51:03
How I met your Mother (8/8)
ตอนจบของตอนพิเศษแล้วจ้า




   บอลเก็บจานใบสุดท้ายไปไว้ในอ่างล้างจาน ก่อนจะเดินกลับมาเช็ดโต๊ะเหมือนกับที่ทำทุกวัน

   อยู่ๆอาหารเย็นมื้อนี้ก็ต้องมาปั่นป่วนไปซะได้ เหมือนโดนไอ้ท็อปกับไอ้โต๋บุกเข้ามาเหมือนพายุ แล้วก็หายไปอย่างพายุเสียอย่างนั้น

   แต่อย่างน้อยไม่ทำบ้านเขาพังก็ดีพอแล้วล่ะ...

   พอหันกลับมาพร้อมผ้าเช็ดโต๊ะบอลก็ต้องงงว่าภูยังนั่งอยู่ที่เดิม... มันทำให้เขานึกขำ

   “อ้าว ไม่ไปดูทีวีรึไง”

   “อือ ยังน่ะ”

   ภูตอบ ท่าทางดูครุ่นคิดอะไรสักอย่าง ราวกับกำลังเถียงตัวเองในใจอย่างเอาเป็นเอาตาย

   “ไอ้อ้วนล่ะ ไปไหนแล้ว”

   “อ๋อ มันไปส่งแฟนมันกลับบ้าน”

   “อืม” บอลก้มหน้าเช็ดโต๊ะต่อไป ลืมไปแล้วว่าสั่งกักบริเวณลูกตัวเองเอาไว้ “แล้วมานั่งทำอะไรอยู่เนี่ยล่ะ หือ”

   “บอล... แต่งงานกันมั้ย”

   ผ้าที่พยายามเช็ดคราบซอสฝังแน่นอยู่บนโต๊ะถึงกับหยุดกึก พร้อมๆกับที่เจ้าของผ้าเงยหน้าขึ้นมาหาคนถามทันที

   “ห๊ะ? ถามอะไรเนี่ย”

   “เฮ้ย เอาจริงนะ” ภูเริ่มร้อนรน “เออ ไม่โรแมนติกเลยว่ะ ให้เอาใหม่มั้ย”

   “ไม่ๆๆ เดี๋ยวสิ นี่ตกลงจะทำอะไรเนี่ย” บอลทั้งงงทั้งขำ แต่แล้วก็โดนดึงมือให้นั่งบนเก้าอี้ข้างๆ

   “ก็นั่นแหล่ะ... เออ แต่งงานกันมั้ย... อย่าให้ถามหลายรอบสิ”

   ภูเริ่มเขินจนไม่กล้ามองหน้า ยิ่งทำให้บอลเอ็นดูเข้าไปใหญ่

   “นี่อยู่กันมาตั้งขนาดนี้ยังไม่เรียกแต่งงานอีกเหรอ ฮ่าๆ”

   “ไม่ๆ แบบ... จดทะเบียนไรงี้ ไปอเมริกากันก็ได้ หรือฝรั่งเศส หรือแคนาดา อะไรก็ได้”

   ได้ยินแค่นี้บอลก็นิ่งอึ้งไป... เพิ่งรู้สึกขึ้นมาเอาตอนนี้ว่าอีกฝ่ายไม่ได้ล้อเล่น

   “บ้า... นี่เอาจริงเหรอ”

   “เอ้อ... ก็จริงน่ะสิ ไม่งั้นจะถามทำไม”

   “แล้วมาถามเอาตอนนี้เนี่ยนะ?”

   อยู่ดีๆภูก็รู้สึกผิดขึ้นมาครามครัน เดาไม่ออกจริงๆว่าอีกคนจะโกรธหรือเปล่าที่ถามย้อนมาเช่นนั้น

   “ก็แหม... ก็มันเพิ่งมีกฎหมายนี่ ที่จริงณุก็ช่วยคิด...”

   “อืม เอาสิ”

   “หา...”

   ยังไม่ทันจะได้ยินเต็มสองหู อีกฝ่ายก็ดันตอบกลับมารวดเร็วจนฟังไม่ทัน

   “อืม เอาสิ” บอลตอบอีกรอบ “จะไปเมื่อไรล่ะ”

   ภูถึงกับช็อคไป... สมองไม่ยอมประมวลผลอยู่นาน กว่าที่ความดีใจจะแล่นปราดไปทั่วร่าง   ชายหนุ่มถึงกับร้องออกมาด้วยความดีใจก่อนจะลุกขึ้นไปคว้าคู่ชีวิตมากอดไว้จนตัวลอย

   “จริงเหรอเนี่ย จริงเหรอเนี่ย!!!”

   “ก็จริงสิ” บอลหัวเราะ รู้สึกเหมือนโดนหมีตัวใหญ่คว้าไปกอดอย่างไรอย่างนั้น

   “ดีเลย... งั้นต้องเริ่มวางแผนแล้วล่ะ ว่าจะหยุดงานเมื่อไร จะไปตอนไหน ไปกี่วัน” ภูนับนิ้วคำนวณสิ่งที่ต้องทำ “แล้วต้องทำอะไรบ้าง ต้องส่งการ์ดเชิญมั้ยเนี่ย แล้วต้องซื้อแหวนใหม่รึเปล่า”

   “นี่...” บอลสะกิดให้อีกฝ่ายคลายความตื่นเต้น “แหวนน่ะไม่ต้องไปซื้อใหม่หรอก”

   “หือ ทำไมล่ะ”

   บอลก้มหน้าลง ค่อยๆพยายามถอดแหวนสีทองบนนิ้วนางข้างซ้ายออกอย่างทุลักทุเล

   “เอาวงนี้นี่แหล่ะ ใส่ใหม่อีกรอบก็ได้”

   ภูช็อค... เมื่อเห็นแหวนเจ้าปัญหาถูกถอดออกมาได้ถึงกับอ้าปากค้างเลยทีเดียว

   “เดี๋ยวสิ!!! นี่ถอดออกได้ยังไงน่ะ”

   “ไม่รู้สิ ผอมลงล่ะมั้ง” บอลว่า พอเห็นว่าอีกฝ่ายได้แต่อ้าปากพะงาบๆก็ยิ่งขำ “ทำไม คิดว่าเราถอดไม่ออกมาตลอดเลยเหรอ”

   “ก็ใช่น่ะสิ” ภูพยายามถอดของตัวเองออกบ้าง แต่ก็ไม่สำเร็จผล “แล้วทำไมเราถอดไม่ออกฟะ”

   “อ้วนขึ้นล่ะสิ” บอลหัวเราะเยาะ “เราถอดออกตั้งนานแล้ว แต่ไม่อยากถอด แค่นั้นเอง”

   “อ้าว... อ้าว...”

   บอลดึงหน้าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้ “อะไร นี่คิดว่าเราใส่เพราะถอดไม่ออกแค่นั้นน่ะเหรอ... อยู่กันมาขนาดนี้แล้วยังไม่เชื่อใจกันอีก”

   ชายร่างสูงพูดไม่ออก ราวกับโดนจี้ใจดำ... ก็เพราะเขาไม่เคยพูดอะไรให้ชัดเจนเลยสักครั้ง  เรื่องราวทั้งหลายก็เลยค้างคามาตั้งแต่ไหนแต่ไร   ตั้งแต่ตอนที่สารภาพรัก ถ้าขอคบกันตั้งแต่แรกก็อาจจะไม่ต้องทนเป็นเพื่อนกันต่อไป   หรือตอนที่ใส่แหวนให้ ถ้าขอแต่งงานไปตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่ต้องทนกลัวอยู่ข้างเดียวว่าจะไม่มีอะไรรั้งบอลเอาไว้...

   ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่เขากลัวไปเองชัดๆ

   “ขอโทษคร้าบ”

   บอลขยี้ผมอีกฝ่ายจนยุ่งเหยิง รู้สึกเหมือนมีลูกชายสองคนเสียล่ะมากกว่า

   ขี้เกียจจะพูดอะไรต่อแล้ว ได้แต่ถึงหน้าภูเข้ามาจุมพิต... มีอ้อมแขนแข็งแรงโอบกอดเอาไว้เช่นในวันวาน เพียงแต่ว่าคราวนี้เรื่องราวคงจะได้เริ่มนับหนึ่งใหม่อย่างชัดเจนเสียที

   ในมุมที่บอลมองไม่เห็น... เจ้าลูกชายตัวแสบแอบย่องกลับเข้าบ้านมาเงียบเชียบ มีเพียงแต่ภูที่ขยิบตาส่งให้ บอกว่าในที่สุดแผนการก็สำเร็จ

   ณุยกนิ้วโป้งให้ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดหายไปบนห้อง... ทิ้งให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาร่วมกันในค่ำคืนนี้ ราวกับช่วงเวลาวัยเยาว์ได้กลับคืนมาอีกครั้ง...


...................................................................


   กลิ่นกาแฟแตะจมูกในตอนเช้า... เป็นสัญญาณบอกว่าโต๋ยังคงตื่นเช้าเหมือนเคย

   มิคงัวเงียตื่นขึ้นเพราะกลิ่นกาแฟนั้น นึกดีใจว่าน้าโต๋คงตัดสินใจอยู่ต่อแล้วแน่

   พอมาถึงห้องครัวก็พบว่าคาดเอาไว้ไม่มีผิด โต๋ที่ผมยังยุ่งเหยิงกำลังยืนชงกาแฟด้วยกางเกงนอนแค่ตัวเดียว และมันก็ดันเป็นกางเกงของท็อปเสียอีก

   “อ้าว มิค ตื่นเช้าจังวะ”

   “น้านั่นแหล่ะตื่นเช้า”

   พอโต๋หันกลับมายิ่งทำให้เด็กหนุ่มกระอักกระอ่วนที่เห็นร่องรอยสีแดงแสดงความเจ้าของฝังอยู่เต็มร่างชายหนุ่มไปหมด แต่สงสัยเจ้าตัวคงจะไม่รู้เรื่องก็เลยไม่ได้ใส่เสื้อปกปิดเสียอย่างนั้น

   “เอ้อ ตกลงน้าจะย้ายออกไปหรือเปล่า”

   โต๋นั่งลงกับโต๊ะ ค่อยๆละเลียดดื่มกาแฟของตัวเอง

   “อืม ไม่แล้ว”

   “เหรอ ดีจัง” มิคยิ้มให้กับตัวเอง นึกดีใจที่แผนการของตนสำเร็จไปได้ด้วยดี... ถึงเขาจะไม่รู้ว่าหลังจากที่ทะเลาะกันที่บ้านณุแล้วทั้งสองคนนี้หายไปไหนก็เถอะ

   แต่ที่แน่ๆ... เขารู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

   “โต๋ กาแฟกูล่ะ”

   เสียงงัวเงียของท็อปลอยมาถึงก่อนตัวเสียอีก และโต๋ก็ตอบกลับไปอย่างหงุดหงิดเช่นเคย

   “กูก็ทำให้แล้วนี่ไง ถามอะไรอยู่ได้ทุกวัน”

   พูดไม่ทันจบคนถามก็เดินมาประชิดตัวจากข้างหลัง ก้มลงหยิบแก้วกาแฟของตัวเอง แล้วต่อด้วยการขโมยจูบรับอรุณคนที่ทำกาแฟให้ไม่ให้ได้ทันตั้งตัว

   ...ไม่ได้เกรงใจคนที่มันมองอยู่เลยซักนิด

   “ทำเชี่ยไรเนี่ย! มิคก็อยู่” โต๋ร้อง

   “เอ่อ ผมชินแล้วฮะ”

   ท็อปเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาที่ยังง่วงงุนยังคงบางเป็นเส้นขีดเดียว สงสัยว่าเพิ่งจะมองเห็นว่าหลานชายนั่งอยู่ตรงนั้น

   “อ้าว ยังไม่ไปเรียนอีกเหรอ”

   “น้า วันนี้วันอาทิตย์”

   โต๋หัวเราะเยาะออกมาดังลั่น แล้วก็โดนมองตาขวางไปหนึ่งที

   “เออ หัวเราะไปเหอะมึง”

   ยังไม่ทันไร เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น... ท็อปเลยหนีเสียงหัวเราะนั้นไปรับโทรศัพท์ที่อยู่อีกห้อง ทิ้งให้ทั้งสองคนได้อยู่ด้วยกันอีกครั้ง

   “เออ ดีใจด้วยนะฮะน้า”

   “หือ ดีใจเรื่องอะไร”

   “เรื่องน้า...กับน้าท็อป”

   ชายหนุ่มจ้องหน้าหลานเพื่อนอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปดื่มกาแฟกลบเกลื่อน “เออน่ะ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก”

   มิคอยากจะถามเหลือเกินว่าตกลงแล้วตอนนี้สองคนนี้เป็นอะไรกัน แต่ก็ไม่กล้าจะถาม... เพียงแค่เห็นปฏิกิริยาจากวันนี้ก็อนุมานได้ว่า แม้การแสดงออกทุกอย่างจะเหมือนเดิมเกือบทุกอย่างก็จริง แต่ก็คงจะมีสิ่งหนึ่งในจิตใจพวกเขาที่คงเปลี่ยนไปแล้วตลอดกาล

   อาจไม่จำเป็นต้องเป็นคนรัก แต่เพียงรู้ว่าความรู้สึกภายในที่มีต่อกันคืออะไรก็เพียงพอแล้ว...

   ยังไม่ทันจะพูดอะไรกันต่อ ท็อปก็เดินกลับเข้ามาในห้องครัว สีหน้ายังคงมึนๆอยู่ราวกับไม่เชื่อว่าสิ่งที่เพิ่งได้ยินมาจะเป็นความจริง

   “เออ ไอ้ภูโทรมา” ท็อปรายงาน “มันบอกว่ามันจะแต่งงานกับไอ้บอล... แล้วอยากให้เราไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว กับเออ... เพื่อนเจ้าสาว มั้ง...”

   โต๋สำลักกาแฟออกมาพรวดใหญ่ “ว่าไงนะ”

   “ไม่รู้มัน มันบอกเดี๋ยวจะส่งการ์ดมาอีกที”

   “บ้าเหรอ... เอาจริงเหรอวะ อะไรของมัน”

   ชายหนุ่มบ่นพึมพำ จนกระทั่งเจ้าของบ้านตามลงมานั่งข้างๆ

   “เราเอาบ้างไหมล่ะ”

   โต๋อึ้งไปจนอ้าปากค้าง มาล้อเล่นอย่างนี้เขาไม่ขำด้วยหรอกนะ

   “ไอ้เหี้ย ได้คืบจะเอาศอก”

   ท็อปหัวเราะร่า... เหลือบไปเห็นหลานชายที่ยิ้มให้ หันกลับมามองอีกทีก็พบว่าโต๋กำลังก้มหน้าดื่มกาแฟราวกับจะปกปิดความรู้สึกบางอย่างที่อยู่ในใจ มันทำให้เขายิ่งนึกขำ

   เป็นยามเช้าของวันอาทิตย์ที่น่ารื่นรมย์   รู้สึกราวกับว่าชีวิตของเขาสมบูรณ์แล้ว...







End Special Chapter
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------





คุยกันซักนิด
ตอนหน้าเป็นตอนจบแล้วจ้า!!! ทำไมเรื่องถึงรวดเร็วปานฉะนี้ ฮ่าๆๆ

ก่อนหน้านี้เราคิดเล่นๆจ้ะว่าอยากจะพิมพ์เรื่องนี้สักหน่อย (มีลงอีกที่นึงคือเด็กดี) อาจจะพิมพ์ใต้ดินเบาๆ จำนวนแค่คนสนใจ คงไม่แพงมากหรอก ไม่ได้หนามากนี่ อิอิอิ

ก็เลยอยากจะมาลองหยั่งเสียงถามหน่อยว่า
>>>ถ้าเราจะพิมพ์อยากได้กันไหมจ๊ะ?<<<

เอ้อ ที่จริงก็ไม่เคยพิมพ์ใต้ดินเองเลยอ่ะนะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ส่งเป็นเรื่องทดลองก่อน ฮ่าๆ
ใครที่เคยมีประสบการณ์หรือมีอะไรอยากแนะนำก็บอกมาได้เลยน้า จะขอบคุณมากค้าบบ >_<  :pig4:

ไว้เจอกันใหม่ตอนหน้าจ้ะ...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 04-03-2012 16:59:55
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 04-03-2012 19:50:29
จะจบแล้วจิงๆหรอ?

อร๊ายยยยย

งั้น จะรอเรื่องต่อไปๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 04-03-2012 20:12:11
เรื่องของพ่อๆ-แม่ๆจบแล้ว

ต่อไปก้ปัจจุบันของลุกๆสิน่ะ :-[ 

รออ่านตอนต่อไปจ้าาาาา o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 04-03-2012 20:22:03
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :z3:
จบตอนรุ่นใหญ่แล้ว
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :m3:
ดีใจที่ทั้งสองคู่เข้าใจกัน รักกันให้ตลอดไปเลยนะ
ว่าแต่ว่า....


ตอนหน้าจบแล้วจริงๆเหรอ
 :a5:
ไม่อยากให้จบเลยง่าาาาาาาาาา
ลงไปดิ้นกับพื้นปัดๆ
 o9
แต่ถ้าจะรวมเล่ม
เอาด้วยคนจ้ะ 1 เล่มจองเลย ฮ่าๆๆ
 :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 04-03-2012 20:25:47
เย้ๆ แฮปปี้ o13

ยกมือหนึ่งคน อยากได้ค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gngane ที่ 04-03-2012 20:32:32
:pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ขอบคุณมากๆนะค่ะ   สนุกมากเลย





                  เราชอบคู่ทอปกะโต๋จังเลยยย  อ๊ายยยยย



                  รอยอะไรเต็มตัว อ่ะ! :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 04-03-2012 20:39:22
อ้าว จะจบและหรอ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 04-03-2012 20:55:18
โต๋-ท็อป อยู่ด้วยกันอย่างแฮปปี้
ภู-บอล รักและเข้าใจกันยิ่งขึ้น แนบแน่นขึ้น
เราชอบเรื่องของรุ่นใหญ่จริง ๆ สิน่า... :-[

มีโครงการจะจัดพิมพ์ เราก็จะอุดหนุนค่ะ แต่ขอ special รุ่นใหญ่ในเล่มอีกนิดอีกหน่อยล่ะกัน ( ได้คืบจะเอาศอก  :z6: )
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 04-03-2012 23:47:51
โต๋-ท็อป อยู่ด้วยกันอย่างแฮปปี้
ภู-บอล รักและเข้าใจกันยิ่งขึ้น แนบแน่นขึ้น
เราชอบเรื่องของรุ่นใหญ่จริง ๆ สิน่า... :-[

มีโครงการจะจัดพิมพ์ เราก็จะอุดหนุนค่ะ แต่ขอ special รุ่นใหญ่ในเล่มอีกนิดอีกหน่อยล่ะกัน ( ได้คืบจะเอาศอก  :z6: )

เอ้อ น่าสนใจดีนะคะ ถ้าได้พิมพ์จริงอาจจะเพิ่มตอนพิเศษเข้าไปอีกหน่อย เป็นของแถม อิอิ :D
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Chapter 6:How I met your Mother (8/8)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 05-03-2012 00:20:49
ไม่เอาอย่าเพิ่งจบได้ไหม กำลังสนุกเลย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 05-03-2012 10:37:15
Last Chapter 7
My Mom is a Man



   10 ปีก่อน...

   ชายหนุ่มในผ้ากันเปื้อนยืนหั่นผักอยู่หน้าเคานเตอร์ครัวเหมือนอย่างเคย... ถึงแม้ว่ามันเป็นภาพที่เขาไม่เคยเห็นว่าสักวันหนึ่งตัวเองต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้เลยก็ตาม   แต่ไหนๆตอนนี้เขาก็คงจะถอยไม่ได้อีกแล้ว

   ในเมื่ออะไรๆในชีวิตสุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นอย่างฝัน... บอลก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าสักวันก็คงจะชินไปเอง

   แม้ว่าจะยังไม่ค่อยชินกับเจ้าอ้วนตัวน้อยที่แอบย่องเข้ามาอย่างเงียบๆนี้ก็ตาม

   “แม่...  ผมเกิดมาได้ไงน่ะ”

   มีดที่หั่นผักอยู่ถึงกับชะงักอยู่กลางอากาศ... ถึงจะรู้อยู่แล้วว่าณุชอบมากวนใจถามถ้อยสารพัดปัญหาโลกแตกตอนเขายุ่งๆเช่นนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าวันที่เขาต้องตอบคำถามนี้จะมาถึงเร็วกว่าที่คิด

   “อะไร อยากรู้ไปทำไม... โตขึ้นก็รู้เอง”

   ณุทำปากบู่ “ทำไมทุกคนต้องตอบยังงี้ด้วย”

   “นี่ไปถามมาทุกคนเลยเรอะ”

   “แม่ใจร้าย”

   เด็กน้อยกระโดดลงจากเก้าอี้ เตะขาโต๊ะระบายอารมณ์ไปพลาง

   เห็นแล้วมันก็อดเอ็นดูไม่ได้

   บอลเคยคิดเอาไว้เมื่อนานมาแล้วว่า หากตัวเองได้มีครอบครัวสักวันหนึ่งแล้วลูกถามคำถามนี้เข้า  เขาก็เตรียมคำตอบที่คิดว่าปลอดภัยที่สุดเอาไว้แล้ว

   “ก็เกิดมาจากความรักของพ่อกับแม่ไง”

   ตอบไปก็ขนลุกซู่... ปลอบใจตัวเองอยู่ข้างในว่ากำลังพูดถึงพ่อแม่จริงๆของณุต่างหาก ไม่ใช่เขากับภูซักหน่อย

   ถึงแม้ว่ามันจะไม่ถูกต้องตามเทคนิคซักเท่าไรก็ตาม

   “จริงเหรอ... ตกลงผู้ชายคลอดลูกได้ด้วยเหรอ”

   บอลเหวอ เผลอเงื้อมีดอยู่กลางอากาศโดยไม่ได้ตั้งใจ

   “ถ้ารู้แล้วจะมาถามทำไมฟระ!?!”

   “อ้าว ก็มีคนบอกไว้นี่หน่า แต่แม่ไม่ใช่ผู้หญิงนี่”

   “เออ ก็รู้นี่”

   ณุทำหน้าครุ่นคิด... “ถ้างั้นแล้วใครคลอดผมอ่ะ”

   ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนั้น... แน่นอนว่ามันก็เป็นคำถามที่บอลกับภูเองก็ตอบไม่ได้เช่นกัน   จนถึงทุกวันนี้หญิงผู้ให้กำเนิดณุเป็นใครนั้นก็ยังเป็นปริศนา แถมเจ้าอ้วนก็ยังจำเหตุการณ์อะไรในวันนั้นไม่ได้ จะเหลือก็แค่แผลเป็นบนคิ้วซ้ายที่ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น

   ถึงแม้ว่าจะมีเจ้าเด็กจอมแสบคนนี้มาทำให้ชีวิตเขาปั่นป่วนยิ่งกว่าเดิมสักเท่าไร... แต่หากต้องถึงวันที่จากกันไปก็คงเหมือนส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาหลุดหายไปด้วยเช่นกัน

   “อืม อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน”

   เจ้าอ้วนนิ่งไป... แล้วพอเขาจะหันกลับมาจัดการกับอาหารตรงหน้าต่อ ก็รู้สึกได้ว่าเด็กน้อยที่สูงแค่เอวเขากำลังกอดขาเขาเอาไว้

   “ถ้าเป็นแม่ก็ดีสิ...”

   ช่างเป็นประโยคไร้เดียงสาอันน่าเจ็บปวด... หากมันเป็นจริงเช่นนั้นได้ก็คงดี


...................................................................


   วันนี้ศัตรูไม่ใช่พวกไอ้ไปร... ก็แค่พวกโรงเรียนหางแถวที่เพิ่งได้หัวหน้าใหม่ก็เลยทำซ่าก็แค่นั้น

   “ตกลงยังไง เรื่องที่พวกมึงมาตีลูกน้องกูเนี่ย” ณุถามขึ้นเมื่อยกพวกมาเจอกันถึงที่ ส่วนข้างกายก็คือมิคอย่างเช่นทุกวัน

   “พวกมึงมากวนตีนพวกกูก่อนเอง...” หัวหน้าฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมาด้วยสีหน้ากวนตีนยิ่งกว่า

   “คุยกันดีๆดีกว่า วันนี้กูเหนื่อย ไม่อยากตีใคร”

   “อ้าว... ป๊อดเหรอวะ แม่งตุ๊ดว่ะสัด” ไอ้หัวเกรียนตรงหน้าหัวเราะ พาให้ลูกน้องหัวเราะตามขึ้นมาด้วย... “ก็คงตุ๊ดเหมือนแม่มึงน่ะแหล่ะ”

   ได้ยินเสียงเฮงสะอึกลมหายใจลึก... ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าเรื่องน่าสะพรึงกลัวจะเกิดขึ้นในไม่ช้า

   “อูย ตายแน่ ตายแน่” เสียงลูกน้องอีกคนกระซิบหัวเราะกันอย่างสะใจ... เหลือมิคแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

   “อ่อ มึงคงไม่รู้สินะ ให้โอกาสพูดใหม่อีกทีแล้วกัน” ณุตอบกลับเรียบๆ

   “จะให้กูพูดอะไรใหม่วะ... ก็ได้ยินว่าแม่มึงเป็นผู้ชายไม่ใช่เหรอ หรือกูได้ยินมาผิด... ไอ้ลูกตุ๊ด?”

   บังเกิดความเงียบที่อันตรายสุดขีด ก่อนที่ณุจะยื่นมือมาหามิคให้เข้าใจโดยไม่มีคำพูดใด

   “กูเตือนมึงแล้วนะ”

   พอไม้หน้าสามถูกวางบนลงมือณุ เพียงพริบตาเดียวมันก็เหวี่ยงฟาดลงตรงกลางศีรษะศัตรูไปสุดแรง

   เสียงไม้กระทบกะโหลกดังเสียจนเสียวสันหลัง เห็นหยดเลือดสีแดงติดไม้มาเมื่อผู้เคราะห์ร้ายกระเด็นลงไปกองอยู่กับพื้น

   เหมือนเป็นสัญญาณให้เริ่มการตะลุมบอน ณ บัดนั้น

   “พูดเรื่องแม่กูอีกสิ ไอ้สัด!”

   ไม้ท่อนยักษ์ที่ดูหนาหนักน่ากลัวกลับดูเหมือนไม้เบสบอลเบาๆเมื่อณุฟาดมันลงใส่ศัตรูอย่างไม่ยั้ง ในขณะที่รอบๆตัววุ่นวายด้วยการแลกหมัดที่เกิดขึ้นทุกแห่งหน

   “แม่กูเป็นผู้ชายแล้วมันหนักหัวมึงเหรอ... หนักหัวมึงเหรอ!?!”

   มิคที่เพิ่งต่อยฝ่ายศัตรูคว่ำไปได้หนึ่งคนหันมาเห็นฉากความรุนแรงที่เกินจะรับได้พอดี... ณุที่ดูเหมือนจะโมโหจนสติหลุดไปแล้วยังคงทำร้ายอีกฝ่ายต่อไปราวกับถูกปีศาจเข้าสิง

   มันน่ากลัวกว่าตอนที่ณุมาช่วยเขาอย่างบ้าเลือดคราวที่แล้วๆมาเสียอีก  ดูท่าว่าถ้าเขาไม่ไปหยุดไว้ตอนนี้ไอ้เกรียนนั่นต้องตายคามือณุแน่ๆ

   “ณุ... ณุ!!!”

   พยายามเรียกแล้วแต่เจ้าของชื่อก็ยังไม่ได้สติ พยายามแย่งอาวุธออกมาจากมือก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะณุก็เปลี่ยนแผนมาใช้มือเปล่าบีบคออริต่อเสียอย่างนั้น

   “ณุ... พอแล้ว!!!”

   ปกติถ้าห้ามถึงขนาดนี้ณุคงจะหยุดมือไปแล้ว   นี่ถึงขั้นเข้าไปกอดรั้งจากข้างหลัง พยายามจะแยกทั้งสองออกจากกัน แต่เด็กหนุ่มก็ยังสะบัดตัวหลุดกลับมาทำร้ายต่อเหมือนกับไม่รับรู้สิ่งใด

   “เจ้ครับ... ไม่ต้องไปห้ามหรอกครับ เดี๋ยวเฮียก็หยุดเอง” เฮงเข้ามาดึงแขนมิคเบาๆ

   “บ้าเหรอ ถ้ามันตายไปล่ะ ณุไม่กลายเป็นฆาตกรหรือไง”

   “โอ้ย โง่อย่างนี้ก็สมควรแล้วครับ เขาก็รู้กันทั่วว่าห้ามด่าแม่เฮีย เสือกไม่รู้เองทำไม”

   ไม่มีคำอธิบายอะไรมากกว่านั้น มิคก็ได้แต่โดนลูกน้องลากตัวออกมาห่าง... จนกระทั่งณุหนำใจแล้วถึงเลิก ปล่อยให้ร่างที่นอนสลบแน่นิ่งอาบเลือดเสียจนดูเหมือนหน้าเละ

   ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่...

   “ณุ...”

   มิคพยายามเรียกไว้ แต่กลับไม่มีคำตอบรับใด... เจ้าของชื่อเพียงแต่เดินออกไปขึ้นมอเตอร์ไซค์เงียบๆ ทำท่าจะกลับเสียเดี๋ยวนั้น

   “จัดการมันให้หมด” เด็กหนุ่มตะโกนสั่ง “เฮง มึงไปส่งมิคด้วย”

   “ครับเฮีย”

   เพียงแค่นั้น ณุก็ขึ้นมอเตอร์ไซค์ไป... ติดเครื่อง ซิ่งลับไปกับสายตา


...................................................................


   มอไซค์คันเดิมจอดลงตรงข้างรั้ว บ้านหลังเดิมยังคงเงียบเหงา เหตุเพราะพ่อกับแม่ยังไม่กลับมา

   เปิดตู้ไปรษณีย์หน้าบ้านก็เห็นโปสการ์ดที่เสียบเอาไว้ พอหยิบมันออกมาดูก็เผลอยิ้มออกมาได้

   ...เป็นรูปพ่อกับแม่เขาถ่ายที่นิวยอร์ค ฉากหลังเป็นเทพีเสรีภาพยืนตระหง่าน ทั้งสองดูยิ้มแย้มมีความสุข เช่นเดียวกับข้อความที่เขียนไว้ข้างหลัง

   ถึง ไอ้อ้วนณุ
   ขอบคุณมากนะที่อยู่ด้วยกัน ที่ทำให้เราเป็นครอบครัว
   พ่อ แม่


   ทั้งๆที่ยิ้มอยู่ทำไมมันน้ำตาจะไหล... แม่จะรู้ไหมว่าวันนี้เขาทำร้ายใครไปอีกแล้ว

   “โธ่ แม่...”

   รำพันกับตัวเองเพียงแผ่วเบา ก่อนที่จะรับรู้ว่ามีใครอีกคนที่กำลังเดินใกล้เข้ามา

   หันไปมอง... พบว่าเป็นหญิงคนหนึ่ง มาพร้อมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำ กระโปรงคลุมเข่า ถุงน่องดำรับกับส้นสูง ผมม้วนเป็นหลอด กับใบหน้างดงามที่ดูอ่อนกว่าวัย

   เธอถอดแว่นตาดำออก เผยให้เห็นน้ำตาที่กำลังคลอเบ้า...

   “บ็อบบี้ ลูกแม่~!!!”

   หญิงผู้นั้นร้องเสียงสูงแล้วพุ่งเข้ามากอดเขาเสียแน่นจนหายใจไม่ออก... เด็กหนุ่มก็ถึงกับเหวอ เรียบเรียงเรื่องราวไม่ถูก

   “เดี๋ยวครับ...” ณุพูดด้วยเสียงอู้อี้ “...ผมไม่ได้ชื่อบ็อบบี้”

   “บ็อบบี้จำแม่ไม่ได้จริงๆเหรอ” หญิงผู้นั้นยังคงตื้นตันเสียจนเสียงยังคงแหลมสูงต่อไป เธอปาดน้ำตาออกจากใบหน้าที่เลอะมาสคาร่าลงมาเป็นทาง

   “เอ่อ เข้าใจอะไรผิดรึเปล่าครับ...”

   “ไม่จริงหรอก... แม่เอารูปให้ดูเลยก็ได้จ้ะ”

   เธอรีบค้นกระเป๋าหลุยส์สีดำของเธออย่างร้อนรน ควานมือลงไปหาก่อนจะคว้ารูปถ่ายเก่าๆใบหนึ่งขึ้นมาได้

   เป็นรูปของเธอตอนที่ยังสาว ใบหน้าที่ไร้การแต่งเติมดูสวยเป็นธรรมชาติ และเธอกำลังยิ้มแย้มอยู่กับลูกชายตัวน้อยตุ้ยนุ้ยที่มีแผลเป็นอยู่บนคิ้วข้างซ้าย

   ดูรูปนั้น... ยังไงเจ้าเด็กอ้วนในรูปมันก็คือณุชัดๆ!!!

   อย่าบอกนะว่า...

   “คุณ... คือแม่ผมจริงๆเหรอ”

   หญิงผู้นั้นพยักหน้าด้วยน้ำตา... แต่แทนที่ความดีใจล้นปรี่จะส่งมาถึงเขา ณุกลับขนลุกเยือก ไม่กล้าแม้แต่จะขยับกาย

   นี่หรือคือแม่ตัวจริงของเขา!?!




To be Continue!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 05-03-2012 10:40:02
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 05-03-2012 13:40:20
สนุกจังเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 05-03-2012 14:27:13
โหคุณแม่มัวทำไรอยู่ ปล่อยลูกให้คนอื่นเลี้ยงจนโต
อิณุเพลา ๆ บ้างนะเรื่องตีรันฟันแทง แกมีเมียแล้วนะ ชอบทำให้คนอื่นเป็นห่วง

แซวเล่น...คราวหลังคุณแม่ใช้เครื่องสำอางแบบกันน้ำนะจะได้ไม่เลอะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: chompoonut139 ที่ 05-03-2012 15:21:31
งานงอกสะแล้วสิณุ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: paradoxxx ที่ 05-03-2012 16:05:19
อยากให้แต่งต่อเรื่อยๆอะ อยากอ่านๆ
น่ารักทุกคู่เลย =)
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 05-03-2012 16:22:31
มาม่าอะ :sad4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 05-03-2012 16:36:37
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 05-03-2012 17:03:11
จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :a5:
ไม่เอ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
 o9
อิณุมีแม่คนเดียวคือพี่บอล
แล้วไอ้ชื่อบ๊อบบี้บ้าบออะไรนั่นน่ะไม่ได้เหมาะกับอิณุสักกะนิด
ไม่ยอมเลี้ยงลูกแล้วตอนนี้จะกลับมาหาพระแสงด้ามยาวอะไรไม่ทราบยะ
 :angry2:
พี่บอลกลับมาเร้ว
มีชะนีแก่จะแย่งไอ้อ้วนไปเลี้ยงแล้วน้าาาาาาาาาาาาา
 :sad4:

ปลล.อย่าเพิ่งจบไม่ได้เหรอจ้ะ
ทำตาใสปิ๊ง  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 05-03-2012 19:37:04
แม่ณุมาจากไหนเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ต่ายน้อย ที่ 05-03-2012 20:07:29
อุย คุณแม่ตัวจริงกลับมาแล้ว  ณุจะทำยังไงต่อไป
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 05-03-2012 20:15:14
หุ้ย มาไมอ่ะ จะเอาณุกลับไปด้วยป่าว

จะมีดราม่าป่าวเนี๊ย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 05-03-2012 20:51:55
มาแล้ว...ปริศนาเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงของณุ  :m28:
จากความหลังรุ่นพ่อ รุ่นแม่ ณุไม่น่าจะใช่ลูกแท้ ๆ ของภู หรือ บอล
แถมดูจากผู้หญิงที่บอกว่าเป็นแม่แท้ ๆ แล้ว คุณน้องอาจจะเป็นถึง ท่านชายบ็อบบี้ ก็เป็นได้  :o
โดยมีแผลที่หางคิ้วเป็นเครื่องยืนยัน เพื่อกลับไปทวงมรดกพันล้าน ( พอเถอะ...เลอะเทอะใหญ่แล้ว  :m29: )
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 05-03-2012 22:51:18
ตามมาจากเด็กดี เป็นกำลังใจให้น๊าา
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (1/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 05-03-2012 23:16:26
ณุเจอแม่แล้ว
แล้วณุจะทำยังไงต่อไป
มาต่อไวๆนะคะ

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 06-03-2012 10:49:22
My Mom is a Man (2/5)
Continue....




   
   เพิ่งกลับมาจากฮันนีมูนได้วันเดียวงานก็เข้าอีกแล้ว...

   ในห้องรับแขกที่เคยมีไว้นอนดูทีวีเอกเขนก วันนี้กลับมีแต่บรรยากาศตึงเครียดเมื่อมีแขกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในบ้าน  ภู บอล ณุ กับผู้หญิงคนนั้นได้แต่มองหน้ากันด้วยความอึดอัดเหลือประดา

   “ตกลงคุณ...”

   “เรียกพลอยก็ได้ค่ะ” หญิงคนนั้นแนะนำตัว วันนี้เธอก็ยังใส่เสื้อคลุมขนสัตว์มาเหมือนเคย

   “คุณพลอย... จะมารับตัวณุกลับไปจริงๆเหรอครับ”

   ภูเป็นคนทำลายความเงียบขึ้น เห็นหญิงคนนั้นพยายามดึงแขนลูกชายที่นั่งข้างๆเอาไว้ราวกับรั้งแมวที่กำลังหงุดหงิดให้กลับมานั่งบนตักตัวเอง

   “พลอยกับสามีทำวีซ่าจะไปอเมริกาปลายเดือนนี้แล้วค่ะ อยากจะให้ณุมาอยู่ที่บ้านพลอยก่อน จะได้ทำเรื่องกับทางโรงเรียนและเรื่องเอกสารทางกฎหมายได้”

   ภูกับบอลมองหน้ากัน ได้แต่คิดในใจว่าเรื่องมันจะง่ายอย่างที่เธอคิดได้จริงๆเหรอ

   “แต่เรารับณุเป็นลูกบุญธรรมแล้ว...”

   “อย่าให้เรื่องถึงศาลเลยจะดีกว่านะคะ ยังไงถ้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นแม่ลูกกัน คนเป็นแม่ก็มีสิทธิจะรับเด็กคืนไปได้อยู่แล้ว”

   ราวกับครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ณุนั่งตัวเกร็ง ก้มหน้า คิ้วขมวด ไม่ยอมพูดคำใดทั้งสิ้น

   “เด็กก็มีสิทธิเลือกอยู่ดีไม่ใช่เหรอครับ” ภูแย้ง

   “รู้ไหมคะว่าพลอยทำยังไงกับเนิร์สเซอรี่และก็หมอคนนั้นที่ทำให้พลอยเข้าใจผิด...” หญิงสาวเอ่ยเสียงเครียด “...พลอยฟ้องร้องเขาไปหมดแล้วล่ะค่ะ”

   เป็นคำขู่ที่ได้ผลชะงัดนัก... ในที่สุดก็เห็นแล้วว่าธาตุแท้ของผู้หญิงตรงหน้านั้นเป็นคนเอาเรื่องเพียงใด พวกเขาก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าคงไม่มีปัญญาจะเอาชนะได้ง่ายๆแน่ๆ

   ...แต่พอยิ่งได้ยินประโยคคลุมเครือนั้นแล้วณุกลับยิ่งไม่สบายใจ ทำให้ความสงสัยที่ถูกเก็บงำมากว่าสิบปีพลันทะลักขึ้นมาถึงคอหอย

   “พ่อ... เนิร์สเซอรี่อะไร หมออะไร ทำไมผมไม่เห็นรู้เรื่อง”

   “เออน่ะ เดี๋ยวไว้จะเล่าให้ฟัง---”

   “เป็นสิบปีแล้วนะพ่อ จะปิดผมไว้อีกนานแค่ไหน!”

   ไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียงแต่ณุก็ทนไม่ได้อีกแล้ว... ยิ่งเห็นภาพตรงหน้าก็ทำให้ภูยิ่งสะท้อนใจว่ามันคงถึงเวลาที่ไอ้อ้วนของเขาโตเป็นผู้ใหญ่เสียที

   “นั่นสิคะ พลอยก็อยากจะรู้ว่าจริงๆมันเกิดอะไรขึ้น”

   แววตาของหญิงที่นั่งตรงข้ามเองก็คาดคั้น... ไม่มีทางใดอีกแล้วนอกเหนือจากว่าเขาจำต้องรื้อฟืนเรื่องราวในวันนั้นขึ้นมาให้ได้ฟัง...

.....
..
.....

   ครึ่งปีแล้วที่บอลย้ายมาอยู่ด้วยกัน

   บ้านหลังนี้ก็เพิ่งซื้อเมื่อปีก่อน ด้วยว่าพ่อผู้เป็นเจ้าของธุรกิจรายใหญ่ของภูเพิ่งเสียชีวิตลง เลยทิ้งมรดกก้อนโตไว้ให้ลูกชายคนโตของบ้าน   ส่วนเรื่องงานการของทั้งสองก็กำลังมั่นคง รถคันงามคันแรกที่ภูทนุถนอมตั้งแต่มัธยมก็ยังคงอยู่รับใช้... จะเรียกว่าเป็นชีวิตเพอร์เฟคเลยก็ว่าได้

   ถ้าไม่นับเรื่องที่ทะเลาะเรื่องจุกจิกกันเกือบทุกวัน...

   “โธ่ ผ่อนรถอีกซักคันไม่เห็นจะเป็นไรเลย” บอลเปิดประเด็น

   “มีคันนี้ก็ดีอยู่แล้ว จะเอาอะไรมากมายอีก” ภูค้านเต็มที่ มือหักพวงมาลัยอย่างหงุดหงิดที่เรื่องนี้ถูกยกขึ้นมาพูดอีกเป็นหนที่สิบน่าจะได้

   “ใช้มาตั้งกี่ปีแล้ววะ ถนอมมันบ้างเถอะ”

   “ก็ยังใช้งานได้ดีอยู่นี่นา... ไปโมดิฟายตั้งหลายรอบแล้ว”

   “เอาเงินที่ไปโมแต่ละทีมาใช้ก็ได้อีกคันไปแล้ว!”

   “แล้วคันนี้มันไม่ดีตรงไหน”

   “นี่... ที่ทำงานกูกับมึงนี่อยู่กันคนละฟากเมืองเลยนะ จะไปรับไปส่งทุกวันอย่างนี้กินน้ำมันตายห่า”

   “เออน่ะ เงินก็มี”

   “เงินก็มีแล้วทำไมไม่ผ่อนรถอีกคันฟระ!”

   “โว้ย ก็นี่มันรถแห่งความทรงจำ กูไม่ขายทิ้งหรอกกกกกก!!!”

   ไม่ได้ตั้งใจจะลากเสียงยาวในประโยคสุดท้าย แต่พอกำลังจะเลี้ยวเข้าจอดในบ้านก็เห็นสิ่งหนึ่งพุ่งมาจากข้างทาง ด้วยสัญชาตญาณเท้าก็พลันสะดุ้งเหยียบเบรกกันจนตัวโก่ง

   โชคดีที่คาดเข็มขัดไว้เลยอยู่รอดปลอดภัย พอรถจอดสนิทบอลก็ถึงกับร้องออกมาด้วยความจุก ก่อนจะตั้งสติได้แล้วรีบเปิดประตูรถพุ่งออกไป

   “เชี่ยภู... ซวยแล้ว”

   ได้ยินแค่นั้นชายหนุ่มก็รีบออกไปดูตาม แล้วก็ต้องตะลึงที่ว่าสิ่งประหลาดที่พุ่งเข้าหารถพวกเขาเมื่อครู่นั้นคือเด็กชายตุ้ยนุ้ยคนหนึ่ง เลือดอาบศีรษะลงมาเป็นทาง   เห็นแค่นั้นบอลก็ถลาเข้าไปรับตัวเด็กไว้ก่อนที่เจ้าอ้วนจะล้มลงได้ทันท่วงที

   “แม่...”

   เด็กน้อยปริศนาพูดเพียงแค่นั้น ก่อนที่จะหมดสติไป...

   เป็นอารามคนตกใจจนแทบสิ้นสติว่าพวกเขาชนเด็กเข้าเสียแล้ว แถมยังจะหัวแตกอาบเลือดขนาดนั้นเสียอีก สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือรีบกลับเข้ารถแล้วพาเด็กคนนี้ไปส่งโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด

   ไม่ได้รู้เลยว่าแผลที่เด็กน้อยคนนี้เลือดอาบนั้นไม่ได้มาจากพวกเขา...

   และหลังจากที่ทั้งสองกระวนกระวายมาเฝ้าไข้ดูผลผ่าตัดเด็กน้อยคนนี้อยู่หลายวัน อยู่ๆตัวแทนจากบริษัทประกันก็โผล่มาบอกกล่าวหน้าตาเฉย

   “คือผลออกมาแล้วนะครับ...จริงๆแล้วคุณไม่ได้ชนเด็กคนนี้”

   “อ้าว แล้วทำไม...” ภูอึ้งไป “...นี่ผมออกเงินไปก่อนหลายก้อนแล้วนะ”

   “จากรายงานของตำรวจคาดว่าเด็กคนนี้น่าจะอยู่ในอุบัติเหตุรถชนตรงสี่แยกข้างบ้านคุณ เป็นรถตู้ของเนิร์สเซอรี่น่ะครับ มีเด็กตายไปหนึ่งคน”

   “เนิร์สเซอรี่หมู่บ้านเราอ่ะนะ?” บอลกระซิบถามเบาๆ

   “เขาคงเดินโซเซออกจากรถมาเจอรถคุณพอดี ไม่ต้องกังวล” พนักงานบริษัทประกันยังพูดต่อไป

   แต่ถึงจะบอกให้ไม่ต้องกังวลเช่นนั้น เรื่องปวดหัวก็ยังคงตามมาไม่หยุด…

   “หมอเสียใจด้วยนะครับ” อีกหลายวันหนุ่มแว่นรุ่นใหญ่ก็ถือใบเอ็กซ์เรย์ออกมาให้ดู “สมองของน้องได้รับความกระทบกระเทือนมากโดยเฉพาะส่วนนี้” หมอชี้ให้ดูบนภาพกะโหลกศีรษะในมือ “ทำให้น้องสูญเสียความทรงจำก่อนหน้านี้ทั้งหมดครับ”

   ได้ฟังแค่นั้นก็ใจหาย ทั้งภูทั้งบอลได้แต่นิ่งอึ้งไป

   “ถ้างั้น... เด็กคนนี้ก็จะจำพ่อแม่ตัวเองไม่ได้?”

   “ใช่ครับ”

   เพียงเท่านี้ก็รู้ว่าปัญหาใหญ่ได้ตามมาแล้วแน่ พวกเขาก็เลยรีบลงประกาศคนหายไว้ตามหน้าหนังสือพิมพ์ ไปจนถึงแจ้งความไว้แก่ตำรวจ หวังว่าสักวันหนึ่งพ่อแม่ของเด็กคนนี้จะตามหาเขาจนเจอ

   แต่ก็ยังไร้วี่แวว...

   หลายเดือนถัดมาเด็กน้อยเริ่มอาการดีขึ้น กลายเป็นคนชอบคุยเรื่อยเปื่อยเจื้อยแจ้วไปเรื่อย แต่ดูว่าเจ้าอ้วนจะดีใจที่สุดเมื่อได้เห็นหน้าพวกเขา

   “ไง ไอ้อ้วน” ภูร้องทัก เริ่มกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่ต้องมาเยี่ยมเด็กคนนี้หลังเลิกงาน

   “เย้ คุณน้า”

   “อ่ะ เอาขนมไปกิน” ชายหนุ่มยื่นขนมให้ เด็กน้อยลิงโลดรับไปเคี้ยวตุ้ยๆอย่างดีใจ ในขณะที่บอลเดินตามเข้ามาในห้อง ถอดเสื้อนอกออกแล้วเข้าห้องน้ำไป

   “คุณน้าใจดีจัง”

   “ตกลงจำได้หรือยังว่าพ่อแม่หนูเป็นใคร”

   ภูถามไปอย่างนั้นแหล่ะ รู้ดีว่าคงไม่มีปาฏิหาริย์ใดที่จะเรียกความทรงจำของเด็กคนนี้คืนมาได้ แต่เขาก็ยังนึกจะลองเสี่ยงดูสักครั้ง

   “จำไม่ได้อ่ะ... แต่ถ้าคุณน้าเป็นพ่อผมได้ก็ดีสิ”

   เด็กน้อยก้มหน้ากินขนมงุดๆ ราวกับคำพูดไร้เดียงสานั้นไม่มีความหมาย... แต่สำหรับชายคนหนึ่งที่ได้ฟังแล้ว มันเหมือนกับเป็นจิ๊กซอว์ส่วนสุดท้ายที่ทำให้ภาพครอบครัวของเขาสมบูรณ์

   “จะดีเหรอ... เอามั้ยล่ะ”

   “เอา!!!” เด็กน้อยร้องเสียงดังอย่างดีใจ รอยยิ้มแป้นแล้นนั้นดูสดใสจนเหมือนดวงอาทิตย์ก็ไม่ปาน

   “ให้น้าเป็นพ่อเหรอ เออดี... ถ้างั้นต้องเรียกน้าคนนี้ว่าแม่นะ”

   ชั่วขณะนั้นภูนึกทะเล้นอะไรไม่ทราบถึงได้พูดออกไปเช่นนั้น แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นจังหวะเดียวกับที่บอลออกมาจากห้องน้ำแล้วดันได้ยินพอดิบพอดี   ซึ่งไม่รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นสิ่งที่เด็กคนนี้จะฝังจำไปชั่วชีวิต

   “ดีจัง แม่... แม่!”

   “อะไร กูเหรอ?”

   “อย่าพูดไม่เพราะต่อหน้าเด็กสิ” ภูระเบิดหัวเราะ

   “อะไรวะภู สอนอะไรเด็กวะเนี่ย ทำไมต้องให้เรียกกูว่าแม่ หา!”

   “ไม่เอาน่ะ น่ารักดีออก”

   บอลทำท่าจะโวยวายต่อ แต่ภูก็รู้ดีว่าที่เขาทำโมโหไปก็แค่จะกลบเกลื่อนเท่านั้น

   จนกระทั่งถึงวันที่ต้องตัดสินใจ...

   ในที่สุดก็ไม่มีใครมารับเด็กคนนี้ออกจากโรงพยาบาล ส่วนเด็กน้อยจอมทะเล้นนี่ก็ติดพวกเขาอย่างกับลูกเป็ดเดินตามไปทั่วทุกที่   ทำอะไรไม่ได้ก็มีแต่จะต้องพากลับบ้านด้วยเท่านั้น

   ข้าวของเครื่องใช้สำหรับผู้ชายสองคนก็ไม่พอเสียแล้ว พวกเขาจำต้องยกเครื่องซื้อเฟอร์นิเจอร์ชุดใหม่อีกมาก แถมยังต้องปรับตัวขนานใหญ่... ต้องฝากให้คุณป้าข้างบ้านช่วยเลี้ยงบ้าง พาติดสอยห้อยตามไปที่ทำงานบ้าง ด้วยเพราะเนิร์สเซอรี่ข้างบ้านนั้นถูกฟ้องจนปิดบริษัทไปเสียแล้ว

   จนกระทั่งมาถึงช่วงที่ภูได้หยุดงานหลายวันมาคลุกคลีกับเจ้าเด็กคนนี้ เขาถึงได้ตัดสินใจอะไรบางอย่าง…

   “อะไรนะ จะรับไอ้อ้วนเป็นลูกบุญธรรมเหรอ” บอลเงยหน้าจากกระป๋องเบียร์ถามขึ้น ร่างผอมที่นั่งอยู่บนโซฟาใส่แต่เสื้อกล้ามหลวมๆกับกางเกงขาสั้นเพราะทำความสะอาดบ้านมาทั้งวัน

   “อืม ถ้าเกิดปีนึงแล้วไม่มีใครมารับมันกลับ ก็รับมันเป็นลูกเราเถอะ”

   “บ้าเหรอ” บอลขมวดคิ้ว หันกลับไปดูทีวีเหมือนเดิม “แล้วใครจะเป็นคนเซ็น”

   “กูเซ็นเอง” ภูว่า

   “ที่บ้านมึงรู้กันหมดพอดี”

   “โห ที่กูออกมาซื้อบ้านอยู่กับผู้ชายนี่ไม่รู้กันเลยนะ”

   บอลจ้องหน้าคนพูดได้พักเดียวแล้วก็หลบตาไป แกล้งทำเป็นเฉไฉดูทีวี... ไม่สนใจคนข้างๆที่โน้มตัวลงมากอด พลางซบพิงลงบนต้นแขนอย่างเหนื่อยล้า

   “เราจะได้เป็นครอบครัวซักที...”

   เสียงรำพึงเพียงแผ่วเบาลอยมากระทบใจ... เป็นบอลเองไม่ใช่เหรอที่ไขว่คว้าหาครอบครัวมาตั้งแต่แรก   อีกเพียงนิดเดียวเขาก็จะได้มันมาไว้อย่างที่หวังแล้ว  ถึงแม้ว่าสุดท้ายคำว่าครอบครัวที่ได้จะไม่ได้ลงเอยอย่างที่เขาคิดไว้เลยก็ตาม

   และสุดท้าย... กระดาษใบนั้นกลับกลายเป็นบอลที่เป็นคนเซ็นอีกหนึ่งปีให้หลัง เพียงไม่นานหลังจากที่เจ้าอ้วนมากอดขาเขาในครัวเมื่อวันนั้น...




To be Continue...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 06-03-2012 11:19:34
อ่อมันมาอย่างนี้นี่เอง

เเอบไม่ชอบพลอย เเต่คงเพราะต้องการลูกคืน

ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตึงเครียด รวมคนอ่านด้วย

ณุจะทำยังไงนะ จะยอมไปอเมริกา หรือ จะอยู่ต่อ เพื่อครอบครัว เพื่อ มิค
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 06-03-2012 11:30:28
กระซิกๆๆ
สงสารณุจริงๆเลยเว้ยเฮ้ย
 :sad4:
พออ่านตอนนี้แล้ว
ก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่มีใครผิด
หรือว่าจะมีอะไรในกอไผ่มากกว่านี้??
 :เฮ้อ:
นั่งรอนอนรอ และขอย้ำอีกครั้ง
เราชอบเรื่องนี้มากจริงๆนะเนี่ย
 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 06-03-2012 11:44:57
สงสารณุที่สุดแล้วตอนนี้
แต่ไม่เข้าใจอย่าง ถ้าลูกตัวเอง
หายไปก็ต้องตามให้ถึงที่สุดสิ
ทำไมพลอยถึงโผล่มาเอาตอนนี้เนี่ยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 06-03-2012 12:19:32
แล้วทำไม คุณแม่พลอย เพิ่งโผล่มาตอนนี้ละ
ถ้าฟ้องศาล ศาลจะต้องฟังเด็กอยู่ดี
สนุกๆ รีบมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 06-03-2012 17:21:35
แอบเศร้านะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 06-03-2012 18:40:19
ทำไมถึงโผล่มาตอนนี้
ตอนณุหายไปตอนแรกก็น่าจะตามหาสิ
หรือพลอยคิดว่าณุตายไปแล้ว
สงสารณุและก็สงสารภูกับบอลด้วย
ณุคงไม่กลับไปกับแม่หรอก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-03-2012 18:54:13
เป็นแม่ที่ประหลาดมาก
เหตุเกิดตั้งชาตินึง ไม่มีใครมาตามหาเด็ก
เหมือนฝากลืมไว้ที่เนิร์สเซอรี่
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: sbeam14 ที่ 06-03-2012 19:33:46
สงสารณุมากอ่ะ

แม่ณุพึ่งมาหาเจออะไรตอนนี้ :เฮ้อ:

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-03-2012 19:37:53
 :L2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-03-2012 22:31:18
สนุกมากกกก เพิ่งมาอ่าน อ่านจนตอนสุดท้าย
ไม่อยากให้ณุไปเลย สงสารภูกะบอลอ่า ณุต้องอยู่กะภูกะบอลนะ นะๆๆๆคนเขียน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 06-03-2012 23:57:35
ตามอ่านทันแล้วววว . เป็นเรื่องที่สนุกมากกก >,< ทำไมพลอยทำอย่างนี้ ไม่ยอม ๆ ให้ณุไปไหนหรอก .
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 07-03-2012 00:26:20
 :mc4:เย้ๆๆตามอ่นทันแล้วนะสนุกมากอะ(แล้วนี่ณุจะทำยังงัยต่อไปอะแค่คิดก็เครียดแทนณุแล้วสงสารแม่บอลกับพ่อภูจังเลยอะ :sad4: :call: :call:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 07-03-2012 00:58:55
เรื่องราวของรุ่นพ่อ-แม่ ทำซึ้งอีกแล้ว  :m13:
ณุเป็นส่วนเติมเต็มสำหรับคู่นี้จริง ๆ ถึงไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน แต่สายใยความผูกพันของครอบครัวเป็นเรื่องจริง
แม้คุณพลอยจะเป็นแม่แท้จริงมากจากไหน ก็ไม่อาจลบล้าง หรือ ปฏิเสธความจริงข้อนี้ได้หรอก...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (2/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 07-03-2012 09:22:55
ลุ้นๆๆๆ
ผลจะออกมายังไงน่าาาา
ชอบรุ่นใหย่จัง อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 07-03-2012 11:17:24
My Mom is a Man (3/5)
Continue...



   
   “แม่... ตกลงแม่เป็นคนรับผมมาเลี้ยงเหรอ” ณุถามขึ้นเมื่อจบเรื่องเล่านั้น

   ไม่มีคำตอบใด... เพียงแต่ว่าประโยครำพันนั้นกลับกลายเป็นคำตอบอันเด่นชัดให้กับใครอีกคนหนึ่ง

   ทั้งๆที่เธอคือแม่ตัวจริงของเด็กคนนี้แท้ๆ... แต่ทำไมคนที่ลูกของเธอเรียกว่าแม่กลับกลายเป็นผู้ชายคนนี้ไปได้?

   “นี่คุณเป็นคู่เกย์กันจริงๆเหรอ”

   น้ำเสียงสบประมาทผสมด้วยความรังเกียจนั้นหยาบคายเสียจนคนฟังหายใจสะดุด อยู่ดีๆท่าทางผู้ดีที่วางมาดมาตลอดของเธอก็ค่อยๆแตกสลายลงทีละน้อย

   “แล้วคุณคิดว่าไงล่ะ นี่ยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?” ภูเริ่มโมโห

   “ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมา ลูกฉันถูกเลี้ยงมาโดยคู่เกย์ตลอดเลยเหรอ...  ไม่อยากจะเชื่อ!”

   “ทำไมล่ะ พวกผมเลี้ยงณุมาผิดตรงไหน?”

   “ก็นี่ไง” พลอยดึงแขนณุเข้ามาใกล้ จิ้มลงไปตรงขอบตาซ้ายที่บวมช้ำเป็นสีเขียว “ลูกฉันกลายเป็นนักเลง เที่ยวไปต่อยตีกับคนอื่นไปทั่วแบบนี้ยังไม่เรียกว่าเลี้ยงผิดอีกเหรอ”

   “ผมมีเหตุผลของผมน่า!” ณุพยายามดึงแขนออก

   “เป็นผู้ชายมันต้องระบายฮอร์โมนบ้าง คุณเป็นผู้หญิงไม่เข้าใจหรอก” ภูยังเถียงต่อ

   “แล้วสิ่งที่ผู้หญิงเท่านั้นจะเข้าใจลูกได้ พวกคุณมีบ้างไหม”

   แพ้ขาดไปหนึ่งหมัด ภูถึงกับเถียงต่อไม่ออก ในขณะที่บอลนั่งนิ่งเงียบ ท่าทางจะเจ็บเสียยิ่งกว่าคนที่นั่งอยู่ข้างๆเสียอีก

   “ที่จริงฉันจะฟ้องร้องพวกคุณก็ได้นะ ในฐานะที่คุณเอาลูกคนอื่นมาเลี้ยงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองน่ะ”

   “โถ พวกผมลงโฆษณาประกาศหาคนหาย แจ้งความกับตำรวจไว้เป็นปี คุณต่างหากที่ไม่ยอมมาตามณุกลับไปเอง”

   “ก็ฉันคิดว่าลูกฉันตายไปแล้วนี่! ใครจะไปสนประกาศคนหายได้อยู่อีก?”

   เอ่ยแค่นี้ก็ชัดแล้วว่าหญิงคนนี้เข้าใจผิดว่าลูกของเธอคือเด็กที่ตายในอุบัติเหตุรถยนต์ในคราวนั้น และการที่ทั้งสองรับณุมาอยู่กับตัวเองไปแล้ว ก็เหมือนกับสวนทางกันในจังหวะที่จะไม่มีวันเจอกันได้เท่านั้นเอง

   “ถ้างั้นแล้วคุณจะทำยังไง จะเอาณุกลับไปให้ได้จริงๆใช่ไหม” ภูคาดคั้น

   “ใช่ค่ะ ฉันบอกแล้วว่าอย่าให้เรื่องต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ถือว่าเตือนแล้วนะคะ”

   “ยังไงผมก็ไม่ยอม ณุเป็นครอบครัวของเรา... เลือกสิณุ!”

   เด็กหนุ่มกำลังจะอ้าปาก แต่บอลก็สวนขึ้นมาในวินาทีนั้น

   “ให้ณุไปกับแม่เขาเถอะ”

   เป็นครั้งแรกที่คำพูดของแม่เจ็บถึงเพียงนี้ มันทำให้สมองชา คิดคำพูดอะไรไม่ทัน

   “แม่!!! ทำไม...”

   “บอล... ณุเป็นลูกเรานะ” ภูดึงแขนคนรักเอาไว้อีกแรง

   “เขาพูดถูก ผู้ชายไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นเพศแม่นี่ ยังไงมันก็ไม่เหมือนกัน”

   รอยยิ้มจางๆค่อยๆชัดขึ้นบนหน้าพลอยราวกับได้รับชัยชนะ ได้แต่มองดูเหตุการณ์โกลาหลข้างหน้าอย่างมีชัย

   “แล้วทำไมต้องยอม ก็ณุเป็นลูกบุญธรรมพวกเราแล้ว”

   “ของเราคนเดียวต่างหาก” บอลแย้งทันควัน

   “ถ้างั้น... ถ้างั้น” ภูรีบคิดหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุด “ไหนๆเราก็แต่งงานกันแล้วนี่ ลูกของบอลก็ถือเป็นลูกของเราด้วยไม่ใช่รึไง”

   “นี่พวกคุณถึงขั้นแต่งงานกันแล้วเหรอ?” หญิงสาวร้องอย่างไม่เชื่อหู

   “ใช่สิ! ใบทะเบียนยังสดๆร้อนๆอยู่เลย อยากดูมั้ยล่ะ” ภูหันมาพาลใส่

   “พอเหอะภู... อะไรที่ไม่ใช่ของเราก็ต้องคืนเขาไป”

   บอลพูดตัดประโยคเรียบๆแค่นั้น ไม่ยอมให้มีการโต้เถียงใดๆต่อไปอีก... ช่างเป็นการทิ้งแผลอันยิ่งใหญ่เอาไว้กลางใจของคนฟังทั้งสอง และทิ้งชัยชนะไว้ให้คนอีกหนึ่งคน

   เหลือเพียงความเงียบงันเมื่อเขาออกจากห้องไป


...................................................................


   ห้องนอนที่เคยนอนอยู่ทุกคืน บ้านที่เคยใช้ชีวิตอยู่ทุกวัน หรือแม้แต่พ่อแม่ที่คิดว่าเป็นของตนมาชั่วชีวิต... มันจะไม่ใช่ของเขาอีกแล้วหรือ?

   ไม่บ่อยนักที่จะได้ยินเสียงพ่อแม่ทะเลาะกันดังขนาดนี้ แต่แค่ได้ยินก็รู้แล้วว่าคนที่ชนะทุกครั้งไปนั้นคือใคร

   เด็กหนุ่มนั่งจมอยู่กับกล่องกระดาษที่ค่อยๆทยอยเก็บของอย่างไม่มีทางเลือก พอได้ยินเสียงคนเคาะเปิดประตูก็ได้แต่หวังอยู่ลึกๆในใจว่าขอให้เป็นข่าวดีว่าเขาไม่จำเป็นต้องจากไปอีกแล้ว

   แต่มันก็ไม่ใช่...

   “ให้ช่วยไหม” บอลยืนถามอยู่หน้าประตู คำพูดนั้นจะตีความว่ายิ่งเป็นการขับไสไล่ส่งก็ได้ แต่สีหน้าแสนทุกข์โศกของเขากลับบอกความหมายไปคนละทาง

   “แม่... แม่อยากให้ผมไปจริงๆเหรอ”

   “พอเหอะ ไม่ต้องเรียกว่าแม่แล้ว” ชายหนุ่มว่า ริมฝีปากบางเม้มแน่นราวกับจะกลั้นความรู้สึก “ฉันไม่ใช่แม่แกซักหน่อย”

   “ไม่! ผมจะเรียกว่าแม่นี่แหล่ะ ต่อให้แม่จะไล่ผมไปผมก็จะเรียกแม่ว่าแม่อยู่ดี”

   “ทำไมดื้ออย่างงี้วะ”

   ปกติประโยคนี้ต้องมาด้วยความโกรธไปแล้ว ...แต่คราวนี้มันฟังดูตัดพ้อเสียมากกว่า

   “แม่ไม่รักผมแล้วเหรอ”

   เด็กหนุ่มถามกลับด้วยเสียงกระด้าง ไม่อยากจะแสดงความเสียใจมากกว่านี้

   คนฟังนั่งยองๆลงข้างๆ เอื้อมมือมาขยี้หัวคนที่เคยเป็นลูกชายเสียจนยุ่ง “ถ้าฉันรั้งแกไว้สิถือว่าไม่รัก ชีวิตแกต้องมีผู้หญิงมาดูแลบ้างรู้ไหม”

   “ก็ผมไม่ได้ต้องการนี่!” ณุขึ้นเสียง “อะไรๆก็ตัดสินใจกันเองหมด เคยถามผมบ้างไหม”

   บอลเบือนหน้าไปอย่างพ่ายแพ้ ถือว่าคราวนี้เขาก็เอาแต่ใจตัวเองจริงๆนั่นแหล่ะ

   ...แต่ก็เพื่อประโยชน์ของตัวณุเองไม่ใช่เหรอ

   “ถ้าแกมายืนอยู่ตรงที่ฉันยืนแกจะเข้าใจ”

   “ผมไม่เข้าใจหรอก ถ้าผมรับลูกมาเลี้ยงผมจะไม่ยอมเสียเขาให้ใครแน่”

   บอลไม่เถียงกลับ มีแค่มืออ่อนโยนที่เอื้อมมาขยี้ผมอีกครั้ง

   “นั่นมันเรื่องของแก”

   ชายร่างผอมลุกขึ้น กำลังจะเดินออกจากห้องไป   ถ้าเกิดเขาใจอ่อนขึ้นมาตอนนี้ ความตั้งใจที่มีทั้งหมดก็คงจะสูญสลายไปเปล่าประโยชน์แน่ๆ...

   จนกระทั่งได้ยินประโยคนั้น

   “ถึงแม่เป็นผู้ชายผมก็รักแม่นะ”

   ถึงกับชะงักเท้าโดยไม่ได้ตั้งใจ... แต่จะหันกลับไปก็ไม่ได้ มีแต่ต้องเก็บความเจ็บปวดนี้เอาไว้ต่อไปเท่านั้น

   นี่อาจจะเป็นบททดสอบที่ยากที่สุดในชีวิตเขาก็เป็นได้

   บอลเดินออกจากห้อง ปิดประตูลง... ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบหน้าอยู่หลังประตูบานนั้น


...................................................................


   ก้อนหินก้อนเล็กพุ่งเข้าชนกระจกบนชั้นสองเสียงดังกึกๆ ทำให้คนที่นั่งทำการบ้านยามดึกอยู่ข้างหน้าต่างจำต้องหันไปมองดู

   แล้วก็พบว่านั่นคือณุกับมอเตอร์ไซค์คันเดิมนั่นเอง

   เห็นแล้วมิคก็รีบวิ่งลงไปเปิดประตูให้ที่ชั้นล่าง ตอนนี้น้าทั้งสองคนก็ดูจะยุ่งๆกันอยู่ ทำอะไรให้เงียบเชียบไม่รบกวนไว้จะดีกว่า

   ประตูเปิดออกพร้อมคำถาม “มีไร... มาทำไมดึกๆ?”

   “มิค... แม่กูมา”

   “หา?”

   “แม่... แม่จริงๆของกูน่ะ”

   แค่ได้ฟังก็ยังช็อค ต้องรีบลากณุเข้ามาข้างใน มานั่งคุยกันให้รู้เรื่อง

   ...และพอได้รู้เรื่องราวทั้งหมดแล้วก็ยิ่งใจหายเข้าไปใหญ่

   “แล้วจะทำยังไง มึงต้องไปจริงๆเหรอ”

   “ของต้องทยอยเอาไปไว้บ้านของแม่ก่อน ตัวคงต้องย้ายไปภายในวันอาทิตย์นี้”

   “แล้วทำไมมึงต้องยอมด้วยล่ะ”

   “ถ้าแม่กูไม่ยอมคำเดียวมันก็จบแล้ว... แต่ทั้งกูทั้งพ่อพูดขนาดนี้ยังเปลี่ยนใจแม่ไม่ได้ก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วล่ะ”

   “แล้วเรื่องโรงเรียนล่ะ ต้องดร็อปเหรอ หรือว่าจะลาออกเลย”

   “คงออกเลยมั้ง เดี๋ยวคงต้องไปอเมริกาแล้วนี่”

   จากการพูดคุยกับแม่ตัวจริงไม่กี่ประโยคก็พอจะจับความได้ว่าแม่ของเขาแต่งงานใหม่กับเศรษฐีอเมริกันคนหนึ่ง และวีซ่าของเขากำลังจะหมด ทุกอย่างเลยต้องรีบเร่งเสียขนาดนี้

   ส่วนเรื่องพ่อตัวจริงของเขานั้นแม่กลับไม่ยอมพูดถึง จนน่าสงสัยว่าหรือเธอก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพ่อตัวจริงของเขาเป็นใคร

   “ช่างมันเถอะ เรื่องลูกน้องกูก็ให้มึงกับเฮงช่วยดูแลต่อแล้วกัน จะแตกกลุ่มไปเลยก็ได้”

   “แล้วเรื่องมึงกับกูล่ะ...”

   มันแทงลงไปข้างในเสียจนเจ็บปลาบ อยากจะปฏิเสธว่าเขาไม่ได้คิดเรื่องนี้มาก่อนเลย

   “มิค... กูขอโทษ”

   “มึงจะเลิกกับกูเหรอ”

   “ไม่ๆ กูไม่ได้คิดเรื่องเลิกเลย... แต่กูเสียใจที่อยู่กับมึงนานกว่านี้ไม่ได้เท่านั้น”

   ไม่เคยเห็นมิคเศร้าเท่าวันนี้ ถึงจะรู้ดีว่าคนไม่ยอมใครอย่างมิคอาจจะมีแผนการอะไรแอบแฝงซ่อนอยู่อีกเหมือนเคย แต่ต่อให้จะพยายามทำอะไรสักแค่ไหนก็คงจะไม่มีหนทางช่วยเขาไว้ได้อีกแล้ว

   รั้งร่างผอมให้เข้ามาใกล้ โอบไว้ตรงไหล่เสียแน่นราวกับจะหลอมร่างรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

   ...เป็นช่วงเวลาเนิ่นนานที่กาลเวลาค้างตรึงพวกเขาเอาไว้ราวกับรูปปั้น ถ้าได้อยู่ด้วยกันเช่นนี้ไปได้ชั่วกาลก็คงดี




To be Continue...
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-03-2012 11:30:01
ม่ายยยย เอายัยป้าพลอยไปเก็บซะ สงสารภูกับบอล มิกด้วย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-03-2012 11:48:32
ทำไมณุยอมง่าย ๆ ล่ะ อาละวาดเลยสิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 07-03-2012 13:04:58
เฮ้ออออ ต้องไปจริงๆหรือ

งูพิษชัดๆ เเม่ใจร้าย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 07-03-2012 13:56:52
เอาอิป้าออกไปได้มะเนี่ย
แอบมาหลอกเอาณุไปขาย
เมืองนอกป่ะเนี่ยยย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: stupidchild ที่ 07-03-2012 15:24:17
ตกลงชะนีนั่น มีลูกไม้อะไรคะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 07-03-2012 15:56:58
ให้ตายเถอะ . พูดได้คำเดียว เศร้า T.T  :o12:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 07-03-2012 20:45:26
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียใจแทนณุ
 :sad4:
พี่บอลทำไมต้องทำร้ายตัวเอง ทำร้ายณุด้วย
แค่รักและผูกพันธ์มันไม่พอเหรอพี่บอล?
ทำไมต้องมีคำว่าเพศเข้ามาเกี่ยวด้วย
เศร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :o12:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 07-03-2012 21:13:48
 :z3: ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้
คุณพลอยเป็นแม่ยังไง ถ้าคิดว่าลูกตายไปแล้ ยังไงก็ต้องเจอศพลูกสิ
เหมือนไม่ได้ใส่ใจจะหาลูกจริงๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (3/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 07-03-2012 22:20:58
เพราะ บอลรักและหวังดีกับณุ จึงต้องบังคับให้ไปกับแม่แท้ ๆ ที่เป็นผู้หญิง แม้ณุจะไม่ต้องการแบบนั้นเลย
แต่แม่แบบคุณพลอยจะดูแลณุได้ดีอย่างที่บอลคิดจริง ๆ เหรอ ? แม่พลอยของณุไม่ได้อ่อนโยน อ่อนหวานสักเท่าไร
ดูแล้วชีออกจะแรงและเต็มไปด้วยอคติด้วยซ้ำ เราว่าให้ณุอยู่กับบอลเหมือนเดิม เข้าท่ากว่านะ  :m29:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 09-03-2012 09:47:02
My Mom is a Man (4/5)
Continue...



   
   “คุณน้า...” เสียงเด็กหนุ่มใกล้ๆตัวหญิงสาวดังมา “...น้าเป็นแม่ของณุรึเปล่าครับ”

   ถึงใครจะยอม... แต่คนอย่างมิคไม่ยอมง่ายๆแน่

   นี่เขาอุตส่าห์ไปสืบมาได้ว่าตอนนี้แม่ตัวจริงของณุกลับมาพักอยู่บ้านเดิมในเมืองนี้เป็นการชั่วคราว และเธอก็มักจะมาทำผมที่ร้านเจ้าประจำคนเดียวอย่างเช่นที่เคยทำ   และตอนนี้เขาก็มายืนอยู่ในร้าน มาเผชิญหน้าเธอได้แล้ว... จะให้ถอยหลังกลับก็คงไม่ได้

   ของอย่างนี้มันต้องลอง ต้องดับเครื่องชนให้คุยกันรู้เรื่องไปเลย!

   หญิงที่แต่งหน้าจัดคนนั้นพยายามหันหน้ามามองคนเรียกทั้งๆที่ผมยังคงอยู่ในเครื่องอบไอน้ำ  “ณุ?... ณุไหน... อ๋อ บ็อบบี้น่ะเหรอ”

   มิคถึงกับเหวอไป จนนึกขึ้นได้ว่าณุก็เคยเล่าให้ฟังเหมือนกันว่าที่จริงตัวเองต้องชื่อบ็อบบี้

   ...ไม่อยากจะบอกว่านี่มันชื่อหมาชัดๆ

   “เอ่อ อ่ะครับ...”

   “มีธุระอะไรกับน้าเหรอ”

   น้ำเสียงที่ดูห้วนสั้นไม่ต้อนรับนั้นทำให้มิคนึกหวั่น ดูท่าว่าคนๆนี้จะไม่ต้อนรับเขาสักเท่าไร

   “คือ... ผมเป็นเพื่อนณุน่ะครับ เห็นณุบอกว่ามันจะย้ายไปแล้ว”

   “อ๋อ ใช่จ้ะ... แล้วทำไมเหรอ”

   “คือ... ดีแล้วเหรอครับคุณน้า? มันอยู่ที่นี่ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว เพื่อนมันก็มี ครอบครัวมันก็ดูแลมันดี---”

   “ฮึ! ผู้ชายสองคนจะไปเลี้ยงดูเด็กคนนึงได้ยังไง”

   หญิงคนนั้นขัดขึ้นมาอย่างร้อนแรง ทำให้คนที่พูดอยู่ก่อนถึงกับสะอึก...

   ดูท่าว่าเรื่องที่หญิงผู้นี้รังเกียจเกย์ดูท่าจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว

   “แต่มันก็ไม่เคยมีปัญหากับครอบครัวมันเลยนะครับ ที่จริงมันก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดี ดูครอบครัวออกจะอบอุ่นด้วยซ้ำ”

   พอพูดมาถึงตรงนี้แล้วมิคก็เพิ่งนึกเฉลียวใจขึ้นมาได้ว่า ทั้งๆที่สภาพแวดล้อมของณุก็ดีขนาดนี้ ทำไมมันถึงมาลงเอยด้วยการเป็นนักเลงไปเสียได้?

   “ผู้ชายน่ะมาแทนที่ตำแหน่งคนเป็นแม่ไม่ได้หรอก... แล้วสองคนนั้นเลี้ยงดูลูกน้ามายังไงให้กลายเป็นนักเลงแบบนี้ เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันหมดน่ะสิถึงไม่ห้าม นี่ถ้าลูกน้าไปติดยา ไปติดคุกอะไรไม่ยิ่งไปกันใหญ่เหรอ”

   “คุณน้าคิดมากไปหรือเปล่าครับ”

   “แค่เรื่องผู้ชายสองคนรักกันมันก็ผิดธรรมชาติมากพออยู่แล้ว   นี่ถ้าแย่ไปกว่านี้ สมมติว่าถ้าลูกน้าเป็นเกย์เป็นตุ๊ดไปด้วยอีกคนล่ะ ใครมันจะไปรับได้!”

   ช่างเป็นคำพูดที่มีอำนาจรุนแรงที่โจมตีคนฟังเสียจนหน้าชา... วินาทีนั้นมิคตัวแข็งทื่อ ลืมนึกไปเลยว่าเขากับณุเองก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน

   อยู่ๆความสัมพันธ์ที่ไม่เคยต้องหลบซ่อนก็พลันกลายเป็นความผิดขั้นร้ายแรงที่ไม่เคยนึกถึง มันจุกอยู่ในคอจนกลัวว่าถ้าอ้าปากพูดออกไปมันจะกลายเป็นน้ำขมไหลย้อนขึ้นมาทำร้ายตัวเอง

   “คุณน้า... คนที่เป็นเกย์ก็ไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะครับ”

   “อย่าเลย เธอไม่ได้เจอเหมือนที่ฉันเจอแล้วจะมารู้อะไร” หญิงผู้นั้นสะบัดนิตยสารในมืออย่างแรงให้กลับคืนสภาพเดิม ไม่ได้หันกลับมามองคนฟังอีก “คนพวกนี้มีแต่จะแพร่เชื้อเปล่าๆ ถ้าลูกฉันติดไปด้วยแล้วมันจะเป็นยังไง... สมมติว่าลูกฉันเป็นเกย์แล้วจะไม่แต่งงานอีก แล้วลูกหลานก็จะไม่มีให้สืบสกุลต่อเลยเหรอ?   และถ้าลูกฉันไปติดเชื้ออะไรมาจากใครแล้วไม่ต้องอายุสั้นรึยังไง?”

   ใจมันอยากจะค้านแต่ก็วินาทีนั้นก็หมดสิ้นเรี่ยวแรง แค่ฟังเรื่องในอนาคตอันยาวไกลเรื่องลูกหลานที่เขาไม่เคยจะนึกถึง ยิ่งทำให้ความรู้สึกเจ็บปวดมันล้นหลามกัดกร่อนไปทั่วร่างกาย

   ...เป็นครั้งแรกที่มิครู้สึกว่าการที่ตนรักกับณุเป็นเรื่องที่ผิด

   และเป็นครั้งแรก ที่เขารู้สึกพ่ายแพ้ถึงเพียงนี้...

...................................................................

   และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง

   ของล็อตสุดท้ายที่ต้องขนไปเหลือเพียงกระเป๋าไม่กี่ใบ ใส่รถเก๋งไปครั้งเดียวก็คงจะขนไปได้ทั้งหมด ทำให้ห้องนอนที่ว่างเปล่านั้นช่างดูน่าใจหาย

   มันเป็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วเสียจนยังทำใจไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นจริง แต่สมองของณุที่มึนชามาตั้งแต่วันนั้นก็เริ่มจะรับรู้รสชาติแห่งความจริงได้บ้างแล้ว

   เป็นหลายวันที่ในบ้านที่เคยมีแต่เสียงหัวเราะถูกแทนที่ด้วยความเงียบอันตึงเครียด บอลกับณุแทบไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย   ในขณะที่ภูดูเหมือนมีเรื่องจะพูดมากมายเป็นล้าน แต่ก็พูดออกมาไม่ได้สักคำ

   ณุบอกคนในแก๊งค์ไว้แค่ไอ้เฮง ไม่อยากให้อะไรเอิกเกริก... นี่ถ้ารู้กันทั่วนอกจากลูกน้องจะยกกันมาทั้งแก๊งค์แล้ว มีหวังโรงเรียนคู่แข่งจะยิ่งมาซ้ำเติมด้วยต่างหาก

   ให้เขาจากไปเงียบๆอย่างนี้ก็พอแล้ว

   “ไอ้อ้วน”

   ภูเรียกลูกไว้เมื่อเห็นณุนั่งซึมอยู่บนขั้นบันไดอยู่คนเดียว... ยิ่งช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้พอต้องคิดว่าจิ๊กซอว์ที่เคยเติมเต็มชีวิตเขากำลังจะหายไป ภาพความทรงจำทั้งหลายที่เคยมีมามันก็ถาโถมเข้ามาไม่หยุด ราวกับอยากจะตะโกนก้องว่าไม่อยากให้ส่วนนั้นต้องจากเขาไป

   ชายร่างสูงนั่งลงข้างๆลูก... อยากจะพูดคำซึ้งๆออกไปอย่างที่พ่อคนหนึ่งควรจะทำ แต่มันก็คิดไม่ออก

   นึกได้ว่าเขาพูดไปหมดแล้วในโปสการ์ดใบนั้น

   “เก็บโปสการ์ดที่ส่งมาให้ไว้หรือเปล่า”

   “เก็บดิพ่อ จะให้เอาไปทิ้งเหรอ”

   ตบหัวลูกสุดดื้อไปด้วยความเคยชิน “เก็บไว้นั่นแหล่ะดีแล้ว... คิดถึงพวกเราก็หยิบมาอ่านแล้วกัน”

   สีหน้าของเด็กหนุ่มซึมลงไปอีก... เจ้าเด็กอ้วนร่าเริงของเขามันหายไปไหนแล้วนะ? ท่าทางเขาจะไม่ได้เจอกับเด็กน้อยคนนั้นอีกต่อไปแล้ว   

   พูดอะไรไม่ออก ได้แต่คว้าไหล่ลูกมาแตะๆลงบนบ่า ค้างมือไว้เช่นนั้น

   ช่วงเวลาสิบปีที่ผ่านมานี้ เขาจะไม่มีวันลืมเลย...

   กำลังจมอยู่ในภวังค์ เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น... ได้ยินเสียงณุกลืนน้ำลายชัดเจน คิดว่าคงเป็นพลอยแน่ๆที่มารอรับอยู่หน้าบ้าน แทบจะไม่อยากเปิดประตูไปรับ

   แต่ก็ไม่ใช่...

   กลายเป็นเด็กหนุ่มอีกคนที่โถมร่างเข้ามากอด... เป็นอ้อมกอดที่แน่นเสียจนณุหายใจแทบไม่ออก  และใช้เวลาเนิ่นนานกว่าที่เขาจะรู้ว่านี่คือคนรักของตน

   “ไอ้เหี้ย จะไปแล้วเคยโทรหากูบ้างมั้ย”

   “ก็กูยังไม่ไปจริงๆนี่ แค่ย้ายไปอยู่ที่อื่น ยังอยู่อีกจนถึงสิ้นเดือน”

   “โง่... แล้วจะไม่ให้กูมาลาเลยเหรอ”

   คิดว่ากลั้นน้ำตาได้แล้วแท้ๆ แต่ความตั้งใจกำลังจะพังทลายเมื่อมิคเข้ามาสั่นคลอนเช่นนี้... ความเข้มแข็งของเขายิ่งหนีหายลับไปใหญ่เมื่อรู้สึกว่าร่างผอมในอ้อมกอดกำลังสะอื้นจนไหล่โยน

   มีทางเดียวที่จะห้ามน้ำตานี้ได้คือต้องกอดมิคให้แน่นขึ้นกว่าเดิมเท่านั้น

   “กูรักมึงนะ...”

   เสียงกระซิบปนสะอื้นของมิคดังมาให้ได้ยิน และวินาทีนั้นน้ำตาของณุก็ทรยศ

   “กูก็...”

   “ปล่อยเถอะ เดี๋ยวแม่มึงมาเห็นจะไม่ดี...”

   และยังไม่ทันขาดคำราวกับเป็นคำทำนาย ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงรถเยอรมันคันหรูจอดเทียบอยู่หน้าบ้าน แล้วหญิงในชุดลายเสือก็เดินกรีดกรายเข้ามาพร้อมด้วยเสียงรื่นเริง

   “บ็อบบี้~ พร้อมรึยังลูก วันนี้คุณพ่อใหม่ขับรถมาด้วยนะ มาสวัสดีเร้ว”

   เห็นหัวล้านกับพุงพลุ้ยของฝรั่งร่างยักษ์เดินออกมาจากรถอยู่ไกลๆ... แต่ณุกลับไม่ปล่อยมิคไปตามคำขอ

   “ปล่อยสิ... แม่มึงจะเข้ามาแล้ว”

   “เดี๋ยวก่อน”

   แวบนั้นหางตาณุก็เหลือบเห็นชายที่เขาเรียกว่าแม่มาตลอดสิบปีกำลังยืนมองอยู่จากประตูห้องครัว ริมฝีปากบางนั้นยังคงเม้มจนเป็นเส้นตรง เป็นกิริยาที่คนเป็นลูกเห็นก็รู้ว่าแม่กำลังพยายามอดกลั้นความรู้สึกไว้อย่างดีที่สุด

   เหลือบเห็นพ่อเดินเข้ามาข้างหลังแม่ พอโอบแขนรอบไหล่เพียงนิดเดียวน้ำตาของบอลก็หยดลงมาเช่นกัน

   ...นี่เขาทำอะไรอยู่? การจากไปของเขามีแต่จะทำให้คนที่เขารักเจ็บปวดมิใช่หรือ?

   “บ็อบบี้... อ้าว เพื่อนมาส่งเหรอลูก” พลอยถอดแว่นตาดำออกเมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน “เอ๊ะ... เพื่อนลูกที่เจอกันวันนั้นนี่”

   “ขอโทษครับคุณน้า” มิคพยายามผละตัวออก อยากจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาแต่ณุก็รั้งให้เข้ามาหาอีก

   แต่แล้วทุกอย่างที่อยู่ในท้องก็ผสมกันปั่นป่วน ณุไม่แน่ใจว่าตอนนี้เขาอยากจะอาเจียนออกมาจริงๆหรืออยากจะพรั่งพรูทุกคำพูดที่ติดค้างอยู่ในใจออกมาให้หมดกันแน่

   คำพูดที่เขาจะบอกมิคเมื่อกี๊ก็ยังไม่ได้พูด อีกล้านคำที่อยากจะพูดกับพ่อแม่ก็ยังไม่ได้เอ่ย

   แต่นี่เป็นชีวิตของเขา... เขาต้องเลือกเอง








To be Continue!!!
ตอนหน้า ตอนจบแล้วจ้า!!!
 :sad4:
แต่ปล. เรื่องโครงการจะพิมพ์แอบเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้วนะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 09-03-2012 10:50:59
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
คนเขียนใจร้าย อ๊ายๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :sad4:
ใจคอจะให้คนอ่านน้ำตาตกในกันจนตอนสุดท้ายเลยเหรอ
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :impress3:
น้องณุบอกอิป้าไปเลยว่าจะอยู่กับคุถณแม่บอลน้า
แถมจะทิ้งน้องมิคไปได้ลงคอเหรอ?
เดี๋ยวมิคมีัผัวใหม่นะ กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :laugh:
(มันยังจะทำตลก)
รอตอนจบค่ะ แล้วก็รอรวมเล่มด้วย
 o3
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 09-03-2012 11:13:47
เอาอิแม่ออกไป
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 09-03-2012 12:32:18
ทำไมดูเหมือน เเม่คนนี้จะไม่ได้รู้สึกรักตัวณุเลยนะ

มันดูขัดๆยังไงก็ไม่รู้

ณุอยู่ต่อเหอะเน้อะ สงสารครอบครัว
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-03-2012 15:44:20
ง่า ณุอยู่ต่อเถอะนะ แงๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 09-03-2012 16:23:31
รู้สึกยังไงก็พูดออกมาเลยณุก่อนที่จะสายเกินไป
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 09-03-2012 16:40:59
ทำตามหัวใจตัวเองนะณุ >,<
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 09-03-2012 22:29:31
รอตอนต่อไป
ณุสู้ ๆ นะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 10-03-2012 01:11:13
ทำใจลำบากทั้งหมดเลยค่ะ เเต่ก็เป็นธรรมดา ที่ไม่มีใครจะสมหวังไปทุกอย่าง

ความสุขของคนๆหนึ่ง อาจเป็น ความสูญเสียของอีกคน

ยังไงก็ขอให้ใช้สติ ในการเลือกให้ดีนะคะ เเละหวังว่าทุกคนจะมีความสุข
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 10-03-2012 01:16:03
เลือกแล้ว ว่าไม่ทำให้คนที่รักเรา (หลาย ๆ คน) เสียใจ
เลือกแล้ว ว่าไม่ได้ทอดทิ้งคนที่เรารัก (หลาย ๆ คน) ให้เสียใจ
ที่สำคัญ เลือกแล้ว ว่าไม่ทำให้ตัวเองเสียใจภายหลัง
คำตอบเห็น ๆ อยู่แล้ว อย่าไปไหนเลยนะ..ณุ
ถึงไปแล้ว แกก็ต้องซมซานกลับมาหาหัวใจที่ยังอยู่แถวนี้อยู่ดีแหละ   :undecided:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [Last Chapter 7 : My Mom is a Man (4/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tuek ที่ 10-03-2012 06:16:58
ณุไม่ต้องไปณุอยู่กับพ่อภูแม่บอลและก็มิคต่อเถอะนะ
ปล่อยให้นางแม่พลอยกลับไปคนเดียวเลย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 10-03-2012 12:38:29
My Mom is a Man (5/5)
Continue...
ในที่สุดก็ตอนจบ... กรี๊ดดด T^T







   ณุตัดสินใจแล้ว... นี่เป็นชีวิตของเขา เขาต้องเลือกเอง

   “แม่ครับ ผมอยากจะแนะนำให้แม่ครับ” ณุตัดสินใจโพล่งขึ้น ทั้งๆที่ยังรั้งมิคไว้ตรงนั้น “นี่มิค แฟนผมครับ...”

   หญิงตรงหน้าตาเบิกค้าง หอบลมหายใจเข้าไปดังเฮือกใหญ่   ในขณะที่มิคก็พยายามจะผละตัวออกสุดแรง

   “ณุ มึงบ้าไปแล้ว... ไม่รู้เหรอว่าแม่มึงเกลียดเกย์แค่ไหน”

   “ใช่สิ กูรู้!” ณุตอบ ทันใดนั้นแววตาเด็ดเดี่ยวก็โชนแสงกลับมาให้เห็น ก่อนที่มันจะตวัดไปหาหญิงคนนั้น “เราเป็นแม่ลูกกันใช่มั้ยครับ งั้นผมก็ควรจะบอกแม่ทุกอย่าง”

   “บอกแม่สิว่าลูกโกหก...”

   “เป็นเรื่องจริงครับแม่... ผมรักคนๆนี้”

   ราวกับเป็นคำพูดที่มาจากคนละคน... ณุที่เคยเอาแต่เล่นๆไปวันๆ ไม่เคยจริงจังอะไร คิดจะโรแมนติกสักหน่อยก็ไม่เคยมี วันนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงแล้ว   เพียงแค่คำพูดที่หนักแน่นจริงใจเพียงคำเดียวที่ได้ยินนั้น มันช่างมีค่าเสียยิ่งกว่าสิ่งใดที่เคยมี

   เด็กอ้วนจอมทะเล้นคนนั้นได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่เสียแล้ว

   “นี่จะบอกว่าคู่เกย์สองคนนั้นมันล้างสมองลูกใช่มั้ย! มันคงสอนล่ะสิว่าผู้ชายรักกันไม่ผิด อยากให้ลูกทำอะไรก็ตามใจทุกอย่าง มันเลยเป็นอย่างนี้ใช่มั้ย!”

   “พ่อแม่ผมไม่ผิดหรอกครับ ผมเลือกเองต่างหาก” คำตอบที่ได้ยังคงฉะฉานหนักแน่นต่อไป “พวกเขาสอนให้ผมเป็นคนดี ให้รู้ว่าความรักคือสิ่งสวยงาม และถ้าใครมาหยามก็อย่ายอมให้มันทำได้”

   พอพูดไปแล้วความลับอีกเรื่องหนึ่งที่เก็บไว้แสนนานก็เอ่อล้นขึ้นมาจนอยากจะพูดออกไปเช่นกัน...

   “ที่ผมเป็นนักเลงเนี่ย ผมไม่เคยไปหาเรื่องใครเขาก่อนเลยนะ มีแต่คนมาหาเรื่องผมก่อนแล้วผมก็ต้องสานต่อทั้งนั้น...” ณุสูดหายใจลึก ย้อนนึกไปถึงเหตุการณ์ที่มี “...ตั้งแต่สมัยอนุบาลแล้วที่ทุกคนมีปัญหากับแม่ของผม ทุกคนชอบมาถากถางสบประมาทว่าทำไมแม่ผมเป็นผู้ชาย... ผมก็เลยต้องสั่งสอนมันให้หมด ก็แค่นั้น...”

   พูดจบแล้วเด็กหนุ่มก็หันหลังกลับไปมอง... เห็นผู้ชายที่เขาเรียกว่าแม่พึมพำออกมาด้วยน้ำตา

   “ไอ้โง่เอ๊ย...”

   “ขอโทษนะแม่ที่ไม่เคยบอกแม่เลย... ผมกลัวแม่จะเสียใจ”

   บอลพูดไม่ออก พอเบือนหน้าแล้วก็มีแต่แขนเสื้อของภูยื่นมาให้เช็ดน้ำตา

   “พอที!!!” พลอยเหวขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ฟังแต่ละอย่างแล้ว... โอ๊ย!   ไปเถอะลูก กลับบ้านเรากัน”

   พอมือของหญิงสาวจับเข้าที่ข้อมือเขา ณุก็ไม่ลังเลที่จะสะบัดออกอย่างแรง

   “คุณรับได้รึเปล่าครับ ที่ผมพูดมา”

   “อะไรนะ?... ไม่มีทาง ใครจะไปรับได้!”

   “งั้นเหรอครับ แต่แม่คนนี้ของผมเขารับได้”

   หันกลับไปมองอีกครั้ง ก็ยังเห็นใบหน้าของบอลเปื้อนด้วยน้ำตา

   “เขารับผมได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องที่ผมไปต่อยตีกับใคร หรือเรื่องที่ผมรักกับผู้ชายก็ตาม... คนเป็นแม่ต้องรับลูกได้ทุกอย่างไม่ใช่เหรอครับ?”

   พลอยนิ่งไปเพราะโดนจี้ใจดำ ริมฝีปากที่ทาลิปสติกสีเข้มถึงกับพูดไม่ออกอีกต่อไป

   “ผมดีใจนะครับที่ได้เจอคุณ ขอบคุณมากที่คุณให้กำเนิดผมมา... แต่แม่ของผมคือคนๆนี้ ครอบครัวของผมอยู่ที่นี่ และคนรักของผมอยู่ที่นี่... ผมไม่ไปไหนหรอกครับ”

   “อะไรนะ...”

   “ผมไม่ไปครับ” ณุย้ำ มือที่จับมือมิคไว้ก็บีบไว้แน่นเช่นกัน “ผมคงอยู่กับคุณไม่ได้ แต่ถ้าคุณจะมาเยี่ยมเมื่อไร ผมก็ยินดีนะครับ”

   หญิงสาวยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอสัมผัสได้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่เธอไม่เคยรู้จัก มันถาโถมเข้ามาแทบจะกดทับไปทั้งร่าง   ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายสี่คนตรงหน้าอยู่ๆจะดูราวกับตั้งตระหง่านเป็นกำแพงเดียวกัน จ้องมองเธอที่ตัวเล็กลงไปเรื่อยๆอย่างถนัดใจ

   ไม่อยากจะเชื่อว่าเธอกำลังพ่ายแพ้!

   มือใครบางคนเอื้อมมาแตะบ่าเบาๆจากข้างหลัง... เป็นสามีของเธอนั่นเองที่ยังคงคอยให้กำลังใจ ราวกับจะเป็นคำปลอบโยนให้ปล่อยวางกับเรื่องตรงนี้

   บางทีเธอก็ควรจะตั้งมั่นกับอนาคตข้างหน้าที่จะมาถึงเสียมากกว่า

   “ลูกจะเอาอย่างนั้นจริงๆใช่มั้ย”

   “ใช่ครับ”

   หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่นอย่างขัดใจ

   “ถ้างั้นของที่เอาไปไว้บ้านโน้น เดี๋ยวจะทยอยเอามาคืนให้ก็แล้วกัน”

   ราวกับว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นคือพรจากสวรรค์... ความรู้สึกประหลาดใจแล่นปราดเสียจนร่างมึนชา แทบไม่เชื่อหูว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นเป็นความจริง

   พอเห็นพลอยกลับหลังหันออกไปอย่างกลบเกลื่อนความโมโห ก็ยิ่งเป็นการเน้นย้ำว่าพวกเขาไม่ได้หูฝาดไป

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวพวกผมขับตามไปเอาก็ได้ รถมีตั้งสองคัน”

   รอยยิ้มระบายเต็มใบหน้าของภูอีกครั้ง เขาเดินมาแตะบ่าลูกชายเบาๆ ไม่รู้จะเอ่ยคำใด เพียงแค่รู้สึกใจชื้นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

   หญิงคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นแม่ของณุคนนั้นไม่แม้แต่จะบอกลาลูกชายด้วยซ้ำ...

   พลอยเดินออกไปจากบ้านพร้อมกับสามีฝรั่งพุงพลุ้ย ภูหยิบกุญแจรถเดินออกไปตาม ในขณะที่บอลเดินตามหลังมา แค่มองหน้าลูกชายเท่านั้น

   ที่จริงณุจะยอมให้พลอยเข้ามาเป็นแม่อีกคนหนึ่งก็อาจจะทำได้อยู่หรอก แต่จะมีใครไหนเทียบกับแม่คนนี้ของเขาได้อีกแล้ว?

   มือที่คุ้นเคยเอื้อมมาขยี้ผมเขาจนยุ่ง รอยยิ้มเศร้าที่เห็นนั้นก็แยกไม่ออกว่าเจ้าตัวกำลังรู้สึกอะไร

   “ขอบคุณนะ...”

   ณุจับมือแม่เอาไว้ ส่งยิ้มกลับไปให้เพียงเท่านั้น

   คนที่เขารักทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว... และเขาจะไม่ยอมจากคนเหล่านี้ไปไหนอีกแล้วชั่วชีวิต


...................................................................
   











   มีใครบางคนบอกไว้ ว่าหลังพายุร้ายย่อมเห็นฟ้าใสกระจ่าง...

   และในฟ้าใสกระจ่างนั้น มองดีๆจะเห็นเมฆปุยขาวก้อนหนึ่งดูเหมือนแมวยิ้มอย่างน่าประหลาด

   “เหมือนโดเรมอนยิ้มเลย” ณุชี้

   “เหมือนการ์ฟิลด์ต่างหาก” มิคค้าน

   “เหมือนตรงไหน?”

   “ก็มันอ้วนจะตายไม่เห็นเหรอ”

   “โดเรมอนก็อ้วนนี่” ณุเถียงอีก

   มิคก้มลงมองคนรักที่นอนหนุนตักตัวเองอยู่ แล้วก็ดึงแก้มสองข้างยืดออกเป็นรอยยิ้มยาว

   “โอ๊ย เอ็บ”

   คนแกล้งหัวเราะออกมาอย่างรื่นเริง “นี่ไง แมวอ้วนยิ้ม”

   พอโดนปล่อยแก้มออกมาได้แล้วณุก็รีบเอาคืน จะลุกขึ้นมาผลักมิคให้นอนลงก็ดันกันไปมาจนกลายเป็นการกลิ้งหลุนๆกันไปบนหญ้าแทน

   จากใต้ต้นไม้กลิ้งมาจนเกือบกลางสนาม จากที่ณุนอนหนุนตักอยู่ก็กลายเป็นมิคที่มานอนหนุนแขนเขาเสียอย่างนั้น

   ช่างเป็นยามบ่ายอันแสนสบาย ได้โดดเรียนจากวิชาแสนน่าเบื่อมาก็อยากจะใช้เวลาให้คุ้ม... ไม่มีใครมากวนใจ ไม่มีเรื่องให้ต้องปวดหัว

   “ตกลงคิดรึยังว่าอยากเรียนอะไร” มิคถามขึ้น

   “ไม่รู้อ่ะ ยังขี้เกียจคิด”

   “อะไรวะ ม.ปลายแล้วนะเว้ย เมื่อไรจะคิด”

   “ไม่รู้... มึงเรียนอะไรกูเรียนด้วย”

   “จะบ้าเหรอ” มิคพยายามดันหัวแมวที่พยายามซุกไซ้ออกไป “เรียนที่มึงอยากเรียนเถอะ”

   “อยู่มหาลัยแล้วมึงยังจะอยู่กับกูรึเปล่า”

   คนฟังเหม่อมองบนท้องฟ้า เมฆแมวอ้วนยิ้มค่อยๆเปลี่ยนร่างไปอีกแล้ว

   “อยู่นี่คือยังไงล่ะ คบกัน อยู่ด้วยกัน หรืออยู่คณะเดียวกัน”

   “คบกันสิ”

   “อืม... ก็คบสิ”

   “ทำไมต้องคิดนานด้วยอ่ะ”

   “อนาคตมันแน่นอนได้ที่ไหนล่ะ”

   แล้วรอยยิ้มบนเมฆแมวอ้วนก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นหน้าเศร้า ราวกับจะแทนใจคนที่นอนอยู่ข้างๆ

   “อะไรว้า... ใจร้ายจัง”

   ณุลุกขึ้นนั่ง ท่าทางงอแงกลับเป็นเด็กๆอีกแล้ว   ทำให้มิคต้องรีบลุกขึ้นมาง้อ

   “คนมันคู่กันแล้วมันก็ไม่แคล้วกันหรอกน่ะ   ดูอย่างพวกน้ากูสิ... หรืออย่างพ่อแม่ของมึง”

   จะว่าไปมันก็ใช่... ชีวิตมันไม่แน่นอนสักอย่าง แต่ถ้าใครที่มันจะลงเอยกันแล้ว ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานสิบปียี่สิบปีหรือนานแค่ไหน มันก็จะวนเวียนมาเจอกันอยู่เสมอ

   แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ใจชื้นขึ้นมาได้สักเท่าไร

   “งั้นถ้าเรียนจบแล้วเรายังคบกันอยู่จะเอายังไง”

   “อะไรวะ คิดไกลจัง” มิคหัวเราะ

   “ก็อยากอยู่กับมึงนี่... คิดไกลแล้วผิดเหรอ”

   ช่างเป็นคำที่สะท้อนใจ ไม่น่าเชื่อว่าความรักของพวกเขาจะมาไกลได้ขนาดนี้... แต่ถ้ายังประคับประคองมันได้ดี มันก็คงจะไปได้ไกลกว่าที่คิดไว้

   “นี่... เรื่องในอนาคตไม่ต้องไปคิดมากหรอก คิดเรื่องปัจจุบันไว้ก็พอแล้ว”

   “ไหนตอนแรกให้กูคิดว่าอยากเรียนอะไร ตอนนี้ไม่อยากให้คิดแล้ว?”

   “มันคนละเรื่องกัน” มิคลากเสียงยาวอย่างเอือมระอา “จะบอกว่า ในอนาคตจะคบไม่คบ จะอยู่ไม่อยู่ ไม่ต้องไปคิดมาก... แค่รู้ว่าตอนนี้กูกับมึงรักกันก็พอแล้ว”

   ความรู้สึกที่ส่งมากับคำพูดนั้นช่างจริงใจ... หากไม่เกรงใจพวกพี่มหาลัยที่เตะบอลกันอยู่ไกลๆเขาก็คงจะโชว์หนังรักให้ดูเสียแล้ว

   พลิกมิคให้กลับมาลงนอนข้างล่าง เห็นเงาของตัวเองทาบทับอีกฝ่ายไว้

   “แล้วถ้าอีกสิบยี่สิบปียังรักกันล่ะ”

   มิคอมยิ้ม นึกทะเล้นอยู่ในใจ

   “จะแต่งงานด้วยเลยเอา รับลูกมาเลี้ยงเต็มบ้านไปเลย”

   ณุหัวเราะร่า เต็มตื้นในหัวใจเสียจนไม่รู้จะพูดอะไรออกมาได้... นึกรักคนตรงหน้าเสียจนอยากจะลืมๆเรื่องเกรงใจคนรอบข้างไป

   ขอจูบซักทีเถอะ! ไม่มีใครมาเห็นหรอกน่า!

   พอโน้มหน้าลงก็นึกว่ามิคจะโวยวายขึ้นมาแน่ แต่คราวนี้ปฏิกิริยาของมิคกลับเป็นโอบแขนขึ้นมารอบคอเขา พาลให้หัวใจกลับไปเต้นแรงเหมือนวันแรกๆที่ได้คบกันอีกครั้ง

   คนอื่นอย่าเพิ่งมองมาเลยเถอะ ขอแค่แป๊บเดียว...

   “เฮียค้าบ เจ้ค้าบบบ!!!”

   เสียงแผดของไอ้เฮงดังมาแต่ไกลเสียจนภวังค์แตกกระเจิง ณุแทบกลิ้งลงไปนอนแต่มิคก็ผลักให้ไหลไปอีกข้างพร้อมเสียงหัวเราะชอบใจ

   “ไอ้เฮง มึงนี่มัน...” ณุคิดคำด่าไม่ออก “กูสั่งแล้วว่าห้ามรบกวน”

   เด็กหนุ่มร่างผอมเตี้ยก้มลงเอามือจับหัวเข่า พยายามหายใจให้ทันหลังจากที่วิ่งมาจากโรงเรียน

   “คือว่า ไอ้พวกเทคโนที่มันเคยด่าแม่เฮียอ่ะครับ... มันขอท้า บอกว่าจะเอาคืน”

   เพียงแค่นั้นณุก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งตัวตรง จากแมวอ้วนแสนขี้เกียจเมื่อครู่ก็กลับกลายเป็นพญาเสือขึ้นมาทันที

   “เฮง ไปเอาไม้มาให้กู แล้วบอกทุกคนให้รีบตามไป เร็ว”

   “ครับเฮีย!”

   ลูกน้องออกวิ่งไปอีกครั้ง ณุลุกขึ้นยืนแล้วดึงมือมิคให้ลุกขึ้นตาม... สิ่งเหล่านี้แทบจะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปเสียแล้ว แต่ถ้าถามมิคว่าเสียใจที่ชีวิตมาลงเอยเช่นนี้ไหม เขาก็คงจะตอบว่าไม่เสียใจ

   มีคนๆนี้ที่คอยจับมือยืนเคียงข้าง อะไรก็ไม่หวั่นอีกแล้ว...

   แค่ชั่วลมพัดมาวูบเดียวที่ไม่มีใครมอง เจ้าคนจอมทะเล้นก็ขโมยจูบเขาไปได้   เล่นไม่บอกกล่าวเช่นนี้ใครมันจะตั้งตัวได้ทัน

   “ไปกันเถอะ”

   มิคพยักหน้ารับ มือที่จับกันอยู่บีบแน่นขึ้น

   และแล้วพวกเขาก็ออกวิ่ง... วิ่งไปสู่จุดหมายข้างหน้าอันไม่แน่นอน วิ่งไปสู่อนาคตอันผันแปร หรือแม้แต่ต้องวิ่งไปสู่พายุมรสุมอีกหลายลูกที่ตั้งตารออยู่ข้างหน้าก็ตาม

   แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขามั่นใจ... นั่นคือมือที่จับกันไว้คงไม่มีวันปล่อยขาดจากกัน



   เพื่อวันข้างหน้าที่สดใสอีกครั้ง...






                                                                                                 
The END



สั่งจองพิมพ์ได้ละนะจ๊ะ ที่ blackcorianderแอดgmail.com
หน้าปกกับรูปประกอบอยู่หน้า 10 จ้ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 10-03-2012 12:40:59
ปิดท้ายจ้ะ

และแล้วเรื่องนี้ก็จบลง กรี๊ดดด แอบใจหายเล็กๆ T^T

ขอขอบคุณทุกคนที่ติดตามกันมาตลอดค่า ดีใจมากๆเลยที่เสียงตอบรับในบอร์ดนี้ก็ดี อิอิ อาจจะยังไม่ย้ายเรื่องไปบอร์ดเรื่องที่จบแล้ว ขอเก็บไว้แจ้งประกาศเรื่องพิมพ์หนังสือก่อนจ้ะ

อย่างที่บอกไป ตอนนี้เราพิมพ์แบบอินดี้เต็มตัว ไม่ผ่านสำนักพิมพ์หรือเอเยนต์ใดๆ มีเพื่อนบางคนที่พิมพ์แบบนี้บ้างก็จะลองๆถามเขาดู ถือว่าเป็นโปรเจกต์ทดลองโปรเจกต์แรกเนาะ ผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยมาด้วยจ้ะ

ขั้นตอนแรกของเราคือดังนี้
*ใครที่สนใจจะจองนิยายเรื่องนี้ ส่งอีเมล์มายืนยันที่เมลล์เราด้วยจ้ะ blackcoriander แอ็ด gmail.com*
พิมพ์ว่า จองBadboy Mania สั้นๆก็ได้จ้ะ
คิดว่ารายละเอียดเรื่องปก เรื่องภาพประกอบ(มีคนวาดให้ด้วยนะเออ!) และเรื่องราคา คงจะตามมาอัพเดทเร็วๆนี้จ้ะ


ขอบคุณทุกคนที่ต้อนรับเราเข้ามาในบอร์ดนี้ และขอบคุณมากๆที่ตามอ่านจนจบ และขอบคุณยิ่งกว่านี้ถ้าจะช่วยอุดหนุนซักนิดนึงเนาะ คิดว่าคงไม่แพงหรอก อิอิ

โปรดติดตามเรื่องต่อไปจ้ะ  :bye2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 10-03-2012 14:14:36
ก่อนอื่นก็ต้องขอเเสดงความยินดีนะคะ ที่ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน

อ่านเรื่องนี้เเล้วมีความสุขดีจังค่ะ ยิ้มไปอ่านไป

เรื่องใหม่มาจะรออ่านนะคะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 10-03-2012 14:17:26
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
จบแล้ว พร้อมกับน้ำตาคนอ่าน 3 กระบุงโกยไม่หมด
 :sad4:
น้องณุน้องมิคของเจ๊น่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดดด
ในที่สุดพี่บอลก็เป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลกของณุจริงๆ
ซึ้งที่สุดเลยจ้ะ
 :m2:
เป็นกำลังใจให้คนเขียน ไหนๆก็ไหนๆ
ขอตอนพิเศษมั่งจิจ้ะ
 o11
ปลล.เดี๋ยวจะเมลไปจองในบัดเดี๋ยวนี้เลยจ้ะ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: tonkhaw ที่ 10-03-2012 14:30:28
อ่า เย้ๆๆๆ ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน

จากที่ชอบแกล้ง ตั้งเเต่ยังเด็ก

กลับกลายเป็นความรักขึ้นมาเรื่อยๆ ชอบจังเรื่องนี้

เรื่องหนังสือ ขอดูหน้าปก ราคาก่อนนะครับ

เขา ชอตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตตต ง่าาาาาา
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: runningout ที่ 10-03-2012 14:55:35
ฮือ ๆ จบแล้ว T.t สนุกมาก ๆ ค่ะ >,<  :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 10-03-2012 15:06:10
จบแล้ว ดีใจนะที่ณุตัดสินใจแบบนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 10-03-2012 15:57:24
ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุกๆให้อ่านนะค่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 11-03-2012 00:23:44
จบแล้วอะ :o12: สนุกมากค่ะ

เมลไปจองแล้วนะคะ o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 11-03-2012 10:46:17
จบซะแล้ว
สนุกมาเลยน่ะ
รอเรื่องต่อไป อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: kimyunjae ที่ 11-03-2012 14:54:29
ดำเนินเรื่องน่ารักมากเลย อ่านแล้วอยากได้หนังสือจัง แต่รอลายละเอียดอย่างอื่นก่อนจ้า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Supermimt ที่ 11-03-2012 17:30:22
อื้อออหืออออ

ดราม่า มาเปนช่วงๆๆนะเนี่ย

จบซะละ

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Cherry Red ที่ 11-03-2012 18:26:53
จบแบบสุข ๆ ชิลล์ ๆ สบาย ๆ มีไปต่อยตีบ้าง ก็เหมาะกับเรื่องนี้ดีค่ะ ( สมกับชื่อเรื่อง Bad Boy เค้าล่ะ )
เป็นเรื่องที่มีหลากรสชาติ หลายอารมณ์ ในส่วนผสมที่ลงตัวดี
แต่เราชอบคู่พ่อภู-แม่บอลจริง ๆ ให้ตายสิ ยืนยันคำขอเดิม ได้รวมเล่มแล้วก็อย่าลืมตอนพิเศษ special ของคู่นี้ล่ะกัน  :กอด1: 
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 11-03-2012 19:13:08
จบแบบสุข ๆ ชิลล์ ๆ สบาย ๆ มีไปต่อยตีบ้าง ก็เหมาะกับเรื่องนี้ดีค่ะ ( สมกับชื่อเรื่อง Bad Boy เค้าล่ะ )
เป็นเรื่องที่มีหลากรสชาติ หลายอารมณ์ ในส่วนผสมที่ลงตัวดี
แต่เราชอบคู่พ่อภู-แม่บอลจริง ๆ ให้ตายสิ ยืนยันคำขอเดิม ได้รวมเล่มแล้วก็อย่าลืมตอนพิเศษ special ของคู่นี้ล่ะกัน  :กอด1:

มีแน่นอนจ้า! คิดไว้ว่าอาจจะมีตอนพิเศษของท็อปกับโต๋แถมให้ด้วย จะได้ไม่น้อยหน้ากัน เย้ย

ใครสนใจอย่าลืมเมลล์มาจองนะจ๊ะ :) ดูเมล์ได้ในหน้าแรก อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: Tiamo_jamsai ที่ 11-03-2012 19:22:23
 :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: aft22423 ที่ 11-03-2012 21:30:36
อ่านรวดเดียวจบจ้าเรื่องนี้น่ารักมากอ่ะผิดกับชื่อเรื่องแหะ ชอบครอบครัวนี้มากเลยอ่ะค่ะ อบอุ่นอย่างแรง

ยังไงก็ขอให้คลอดเรื่องใหม่ๆสนุกๆมาให้อ่านกันอีกนะจ้ะ จะรอติดตามเด้อ
 o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [The END : My Mom is a Man (5/5)]
เริ่มหัวข้อโดย: ลู่เคอOlive♥ ที่ 11-03-2012 23:20:55
จบแล้วเหรอเนี่ย
 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 17-03-2012 22:07:24
ข่าวคราว UPDATE (17/3/55)

ปกเวอร์ชั่น 1 มาแล้วจ้า!!!

(http://fc03.deviantart.net/fs70/f/2012/077/e/c/badboy_mania___cover_ver_1_by_asrdi001-d4t4qik.jpg)

แนะนำติชมกันได้นะจ๊ะ ยังแก้ได้ทัน

ช่วงนี้กำลังชอบภาพสไตล์ Minimalism - ใช้ให้น้อยแต่สื่อความหมายได้เยอะๆ
เลยที่ใช้แบ็คกราวน์เป็นผนังอิฐกับกราฟฟิตี้เฉยๆ ไม่ต้องมีรายละเอียดมาก

(ปล.ความเห็นส่วนตัว คิดว่าถ้าปกเป็นรูปหนุ่มๆวายกันแล้วรู้สึกจั๊กจี้ในหัวใจแฮะ
เอาแบบเซฟๆไปละกันเนาะ คนซื้อจะได้ไม่จั๊กจี้ด้วย ฮ่าๆๆ)


ส่วนตอนนี้แอบไปกระซิบถามราคากับโรงพิมพ์มาแล้ว
คาดว่าน่าจะขายประมาณเล่มละ 150 บาทมั้ง(?)

ยังไงเดี๋ยวจะมาคอนเฟิร์มอีกทีจ้า

ใครสนใจรีบจองนะจ๊ะ!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: wizard_tao ที่ 18-03-2012 00:27:09
ว้า....จบแร้วเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 18-03-2012 09:54:24
ครบรสมาก ซูฮกๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: the_pooh9 ที่ 18-03-2012 13:36:09
 :pig4: น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 18-03-2012 14:57:57
ตอนแรกตกใจหาเรื่องไม่เจอ :a5:

กลายเป็นว่าย้ายมาบอร์ดเรื่องที่โพสจนจบซะแล้ว... ตกใจหมด :เฮ้อ:

ขออภัยแอดมินที่ไม่ได้แจ้งว่าจบแล้ว กะว่าจะแจ้งแล้วก็ลืมซะเอง ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: bebe ที่ 18-03-2012 16:11:27
สนุกอะร้องให้เรย จบดีมาก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: pogpax ที่ 18-03-2012 19:11:33
จบ แล้ว สนุกมาก

 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: kitty ที่ 19-03-2012 15:39:43
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-03-2012 23:03:09
 :m15:ถึงจะเศ้ราไปบ้างแต่ก็จบได้ซึงมากเลยอะ :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 20-03-2012 20:30:36
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: beamJ ที่ 21-03-2012 07:52:03
เรื่องน่ารักมากๆๆๆๆ
เราชอบทุกคู่เลย
แต่งเรื่องสนุกอีกเยอะๆน้า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: mint_852 ที่ 21-03-2012 15:38:45
จบแล้วหรอค้า
ไม่มีตอนพิเศษหรอ :impress:
สนุกมากๆเลยค่ะ
ชอบคู่ของพ่อแม่
และ้้2น้ามากเลยค่ะ :-[
รักกันมานานมากๆเลย
จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: วายร้ายหน้าหวาน ที่ 21-03-2012 16:12:51
ชอบมากครับ แอบน้ำตาซึมเล็กน้อย555+
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+ปกมาแว้ว!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 21-03-2012 17:41:55
จบแล้วหรอค้า
ไม่มีตอนพิเศษหรอ :impress:
สนุกมากๆเลยค่ะ
ชอบคู่ของพ่อแม่
และ้้2น้ามากเลยค่ะ :-[
รักกันมานานมากๆเลย
จะรอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ :pig4:

อยากได้ตอนพิเศษของคู่พ่อแม่กับสองน้าก็อุดหนุนหน่อยน้า เดี๋ยวเล่มที่จะพิมพ์มีตอนพิเศษให้จ้า อิอิ 
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 24-03-2012 11:31:43
UPDATE 24/3/55

แปะอีกทีๆๆๆๆๆ

รูปประกอบมาแล้วจร้าาาาา

(http://fc05.deviantart.net/fs70/f/2012/083/c/b/nuxmic_badboy_mania_by_asrdi001-d4tu14w.jpg)

ณุxมิค O_o

หล่อเหลือเกินนนนนนนนนนน โฮกกกกกกกกกกก  :m25:

ขอบคุณน้อง P ที่วาดให้จ้ะ

ปล.นี่ตัดมาจากรูปเต็มนะ อยากเห็นเต็มๆก็ช่วยอุดหนุนหน่อยจ้า คิคิคิ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: why yyy ที่ 24-03-2012 15:31:09
เรื่องสนุกดีค่ะ น่ารักดีค่ะขอบคุณค่ะ!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: pp4 ที่ 25-03-2012 10:12:30
อัยย๊ะ! พึ่งได้มาตามอ่าน
น่ารักมว้ากกกก♥ ณุ~โง่เกิ๊นนนน 55555
หนูมิคน่ารักง่า เป็นนายเอกในอุดมคติเลยก็ว่าได้นะเนี่ย~
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 27-03-2012 01:23:16
อ่านจบแล้ว


น่ารักมากๆ ครับ

ขอบคุณมากๆ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ฤดูใบไม้หลากสี ที่ 27-03-2012 12:48:00
เป็นนิยายที่ดีมากเรื่องนึงเลยนะตั้งแต่อ่านมา  o13
ไม่ดราม่าเกิน มาแบบเล็กน้อย สนุกดี แต่เสียดาย
เรื่องมันสั้นไปหน่อยอ่ะ แค่ 10 page ของเล้าเอง
เรื่องอื่นเป็นร้อยอ่ะ :sad4:

ปล.ยังไงก็ขอให้ประสบความสำเร็จนะคับ
ปล2.จะรออ่านเรื่องต่อไปนะคับ :pig4: :mc4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ヒナーサクラ ที่ 27-03-2012 19:12:06
ภาพอย่างสวยมากเลยค่ะ :-[
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: wolfram ที่ 28-03-2012 02:44:38
ครอบครัวนี้ เป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากๆเลย!!
ทั้งสามคู่น่ารักมาก

สนุกมากๆเลยค่ะ
ชอบมากๆเลย!!  :L2:

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 28-03-2012 09:29:55
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ChutchaWC ที่ 29-03-2012 16:57:38
สนุกอ่าาาาาาาา าา
ไม่อยากให้จบ อยากให้มีต่อ

มิคกับณุ น่ารักอ้ะ :o8:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Number1_90 ที่ 29-03-2012 20:32:23
สนุกมากกกกกก

ชอบทุกคู่เลย  :z2:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 31-03-2012 13:46:39
ว้า งานเยอะท่วมหัวเอาตัวไม่รอด  :sad2:

คาดว่ารายละเอียดน่าจะมาซักอาทิตย์สองอาทิตย์นะคะ เดี๋ยวขอจัดหน้าก่อน

ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านและทุกท่านที่อุดหนุนนะคะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 01-04-2012 14:46:33
น่ารักมากกก พระเอกแบดบอย โง่ๆ ถึกๆ อิมเมจพระเอกในอุดมคติเลยนะเนี่ย เคารพบูชาเมียแล้วจะเจริญ 555+
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: hand D ที่ 01-04-2012 17:36:28
สนุกมากเลย... ชอบคู่ภูกับบอลอะ...
 :L2:    :L1:    :L2:    :L1: 
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 17-04-2012 21:08:37
 :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: oop ที่ 18-04-2012 11:13:32
เป็นกันทั๊งครอบครัว ว วว ว ว ว ฟิน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [เปิดรับจองพิมพ์แล้วจ้า!+รูปประกอบ!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: maykiz ที่ 20-04-2012 15:31:20
สนุกมากๆเลยนะคะ ชอบจังเลย คู่กันแล้วก็ไม่แคล้วกันหรอกเนอะ ^^
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 27-04-2012 22:02:30
ย้ำอีกที ตอนนี้พิมพ์เสร็จแล้วจ้า!!!

200 บาท + ค่าจัดส่งไปรษณีย์ 30 บาท

เลขบัญชีและรายละเอียดจะบอกให้ในเมล์จ้ะ ใครจะสั่งซื้อเพิ่มก็เมล์มาได้นะ blackcoriander แอด gmail.com จ้า

(http://fc05.deviantart.net/fs71/f/2012/118/8/3/badboy_mania___finish__by_asrdi001-d4xtyoe.jpg)
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: yayaya112 ที่ 28-04-2012 14:14:09
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 28-04-2012 17:43:31
สนุกมากๆค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: ヒナーサクラ ที่ 13-05-2012 22:45:32
บอกได้คำเดียวว่า...สนุกค่ะ!! :pig4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 02-06-2012 18:56:30
ตอนนี้มีเรื่องใหม่แล้วนะคะ

FanFic Hatred Love (Thor x Loki) (เรื่องสั้น)>>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33222.msg1990883#msg1990883 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33222.msg1990883#msg1990883)

และเรื่องยาวเรื่องใหม่ ใครชอบแนวลุงๆ พลาดไม่ได้ ฮ่าๆๆ
"ศิษย์รักอันตราย / ร้านดอกไม้ที่รัก" >>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33432.msg2010598#msg2010598 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33432.msg2010598#msg2010598)
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: TanyaPuech ที่ 03-06-2012 13:55:37
 :3123:  สนุกมากเลย

ชอบณุมาก  ซึ้งที่สุดอ่ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: moredee ที่ 01-07-2012 02:01:48
 :L2:สนุกจริงๆ ขอบคุณค่ะนักเขียน :กอด1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Ken Ken ที่ 01-07-2012 16:35:38
ไม่คิดว่าจะกลายเป็นเรื่องที่ดูอบอุ่นได้ขนาดนี้
ชอบความสัมพันธ์ของแต่ละคู่
ไม่ยากไม่ง่ายเกินไป
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆจ้า
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 03-07-2012 05:05:35
ทั้งสนุกทั้งน่ารักเลย :-[
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้วจ้า >_<!!!]
เริ่มหัวข้อโดย: Maprang_W ที่ 08-05-2013 10:14:45
เรื่องนี้น่ารักมากๆ ซึ้งตอนจบจนน้ำตาคลอเลย สายใยในครอบครัวมันเหนียวแน่นเกินกว่าใครจะมาทำลายได้ ดีที่แม่จริงๆของณุยอมอ่อนลงไม่งั้นน้ำตาหมดเป็นกระบุงแน่ๆ แล้วณุกับมิคก็ไม่ต้องจากกันไปไหนด้วย ส่วนคู่พ่อแม่และโต๋ท็อปเป็นอย่างที่ม คว่าไว้แหละ คนมันคู่กันยังไงก็ต้องคู่กัน
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้ว... และหรือจะมีภาค2 !?!]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 19-06-2013 17:27:02
Update 19/6/56


และจากการนั่งเล่นนอนเล่นของเรา... ตัวละครที่น่ารักเหล่านี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว เรื่องราวป่วนๆทำท่าว่าจะเกิดขึ้นได้อีกเรื่อยๆ

........................เลยคิดว่าอาจจะเขียนภาคสอง (มั้ง!?!)

คิดว่าอาจจะดราม่ากว่าเดิมเล็กน้อย เนื้อหาเป็นผู้ใหญ่ขึ้น การเลิกรา และการเล่นชู้ (ห๊ะะะะะะ!!!)   :a5:
รักจริงไม่ติงนังต้องกลับมาหากันให้ได้นะเออ!


มีข่าวคราวเพิ่มเติมแล้วจะมาบอกค่ะ >__<


ปล.ว่างๆนี้ก็แวะเวียนไปอ่านเรื่องอื่นได้ก่อนน้า ตอนนี้ลงเรื่องนี้อยู่ 三龍 ซานหลง – มังกรเริงแสงจันทร์
ลิงค์นี้จ้ะ : http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36378.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=36378.0)

ใครชอบแนวจีนโบราณ ห้ามพลาดดด!!!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้ว... และหรือจะมีภาค2 !?!]
เริ่มหัวข้อโดย: Vavaviz ที่ 23-06-2013 22:30:16
อ่านเรื่องนี้แล้วซึ้งจริงๆอ้ะ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้ว... และหรือจะมีภาค2 !?!]
เริ่มหัวข้อโดย: Hang_Hong ที่ 13-07-2013 08:53:11
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลย~~~~~~ @_______@
แต่ว่ามัน สนุกมากกกกกกกกกกกกกก  :impress2: :impress2: :impress2: :impress2:
ชอบๆๆๆๆ ในเรื่องเดียวมีหลายรส หลายอารมณ์ ชอบอ่ะะะะะะะ
เป็นกำลังใจให้นักเขียนน้าาาาา ฮิฮิ  :L1: :L1: :L1: :3123:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้ว... และหรือจะมีภาค2 !?!]
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 28-09-2013 09:05:17
สนุกม๊ากกกกกกกก
ชอบทุกคู่เลย
เห็นคนเขียนบอกว่าจะมีภาค2
กรี๊ดมากค่ะ จะรอติดตามน๊าา ^^
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้ว... และหรือจะมีภาค2 !?!]
เริ่มหัวข้อโดย: Land.of.dream36 ที่ 29-09-2013 07:28:06
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
ตามอ่านมาตั้งแต่ตอนแรก...เป็นเรื่องทีอ่านแล้วยิ้มตามไปด้วยตลอดทั้งเรื่องเลยค่ะ
น่ารัักมากๆเลย....ยอให้มีเรื่องใหม่เร็วๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่า
 :mew1:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [พิมพ์เสร็จแล้ว... และหรือจะมีภาค2 !?!]
เริ่มหัวข้อโดย: loveyous ที่ 30-09-2013 11:36:15
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 กำลังมา...]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 02-05-2014 18:52:54
พรุ่งนี้ (3/5/57)...เตรียมตัวให้ดี!!!

(https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-frc1/t1.0-9/p480x480/10157214_387470381391131_7963824382534334571_n.jpg)
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 กำลังมา...]
เริ่มหัวข้อโดย: MK ที่ 02-05-2014 18:56:07
รอ  :katai4:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 มาแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 03-05-2014 19:19:13
ภาค 2 มาแล้วจ้าาาาา

"Bad Boy Mania 2 : to the Dark Side "

ตามลิงค์ไปโลดจ้ะ >>> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41990.0 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=41990.0)
[/size][/b]


:z2:  :z2:  :z2:  :z2:  :z2:

หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 มาแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: blackcoriander ที่ 01-01-2015 22:49:40
(https://33.media.tumblr.com/7a29ae8d8d5080267385aea2cf95aeb7/tumblr_mynecbq0Hx1ril202o1_1280.png)


สวัสดีปีใหม่ 2015 ค่า!!!

ปีใหม่ผ่านมาอีกปีแล้ว ขอบคุณทุกคนที่อยู่ข้างกันมาตลอดนะคะ >__< ขอบคุณที่ติดตามผลงานและเป็นกำลังใจให้มาตลอด ทุกคอมเม้นท์ของทุกคนมีค่าเสมอค่ะ (แต่เราไม่ค่อยได้ตอบ เพราะไม่อยากปั่นเม้นท์ ฮี่ฮี่)

โปรเจกต์ในปีนี้ ยังคงเป็น Bad Boy Mania2 อยู่ค่ะ คิดว่าอยากให้จบที่ 30 ตอนเท่าๆกับภาคแรก... อ่ะ ไหนๆก็ไหนๆ ขอเม้าท์มอยเกี่ยวกับภาค2ซักนิดนึง

มีหลายคนบอกค่ะว่าภาค2 ฮาร์ดคอร์มาก (ฮ่าๆๆๆ ชอบ) พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย ก็เข้าใจแหล่ะค่ะว่าหลายๆคนไม่ชอบอ่านดราม่า เลยหายกันไปเยอะเลย... แต่เราก็เข้าใจค่ะ ใครที่ชอบความแฮปปี้ อยากหยุดไว้แค่ภาคแรกเราก็ไม่ว่ากัน เพราะภาคสองก็หนักมากแหล่ะเอาจริงๆ

แต่.... ลองนึกภาพหยินหยางนะคะ ถ้าให้เทียบกันภาคแรกก็คงเป็นเสี้ยวขาวจุดดำ เพราะฉะนั้นภาคสองก็คงจะเป็นเสี้ยวดำจุดขาว ในก้อนสุขมีจุดทุกข์ ในก้อนทุกข์มีจุดสุข ชีวิตก็ประมาณนั้นแหล่ะค่ะ (คือจะบอกว่าภาคสองไม่ได้ดาร์กไปซะหมดก็พูดมาเหอะ 5555)

สรุปว่า ขอบคุณอีกทีสำหรับทุกคนที่ติดตามนะคะ ใครที่อ่านภาคหนึ่งแล้วไม่ได้อ่านภาคสองต่อ จริงๆคืออยากให้ลองกลับมาอ่านกันซักนิดนึง เผื่อจะได้เห็นอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยเห็น  ส่วนคนที่ติดตามอ่านภาคสองอยู่... อยากมอบโล่ให้มากๆค่ะ รางวัลคนจิตแข็ง ช่างแข็งแกร่งจริงๆ!

จริงๆมีอะไรอยากพูดเยอะกว่านี้เยอะเลย แต่เอาไว้หลังจากที่เขียนจบดีกว่า จะได้เม้าท์มอยเต็มที่นะคะ เย้!

ขอให้ 2015 เป็นปีที่ดีค่ะ!
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 มาแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: CorNnE PRiNCeS ที่ 01-02-2015 14:48:05
ทั้งหื่น
ทั้งฮา
ทั้งซึ้ง


ขอบคุณเรื่องราวดีๆ นะคับ
เดี๋ยวไปติดตามที่ภาค 2 ต่อเลยนะคับ

 :hao6:
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 มาแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 31-12-2015 16:29:03
สนุกมากครับ ทั้งฮาและซึ้ง ทั้งรุ่นพ่อและรุ่นลูก

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania [ภาค 2 มาแล้วจ้า]
เริ่มหัวข้อโดย: ^^KENTA^^ ที่ 01-01-2016 19:06:58
ชอบมากเลยครับ ไม่อยากให้จบเลย
หัวข้อ: Re: Bad Boy Mania
เริ่มหัวข้อโดย: GMT101 ที่ 25-06-2017 12:19:27
 :mew1: