มาแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ
+โหวต& +เป็ด ทุกคนค่ะ
24
นิธินกับเพื่อนๆ มารับประทานอาหารกลางวันกันตามปกติ เวลานี้เข้าสู่ช่วงปลายปีสากลแล้ว ที่ทำงานของเขาจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขจากความหวังและการรอคอยวันหยุดและโบนัส ยกเว้นนิธินที่เพิ่งรับทราบว่าการโยกย้ายของเขานี้ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง
"เออ นี่นิธิน เป็นไงมั่งวะ เรื่องย้ายอ่ะ" วิษณุถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง เพราะเขาคือคนที่บริษัทแม่ส่งมาช่วยทำงานในระยะสั้นๆ จึงเป็นไปได้ยากที่จะอยู่ที่นี่ได้ถาวร
"บอสบอกว่า หลังปีใหม่นี้ชั้นจะต้องกลับไปมุมไบทันที"
"เหรอวะ" ทุกคนซึมลงทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
"อืม แต่ก็มีอีกตัวเลือกนะ ถ้าอยากกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ ชั้นต้องย้ายไปทำงานที่ดูไบหกเดือนให้ผ่าน ถึงจะได้มาทำงานในตำแหน่งใหม่ที่นี่"
"หะ! หกเดือนเลยเหรอ" วิษณฺตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
"ใช่" นิธินรับคำนิ่งๆ แต่ไม่สามารถปิดความเศร้าในแววตาได้มิด ส่วนเอเจกับแทนไทนั้นถึงกับตลกไม่ออกเลยทีเดียว
"แล้วคุณหมูรู้เรื่องนี้หรือยัง" แทนไทถามต่อ
"ยัง เพราะชั้นก็เพิ่งรู้เมื่อกี๊ ชั้นตัดสินใจกับบอสไปแล้วนะว่าจะย้ายไปทำงานที่ดูไบ"
"อืม"
ทุกคนใจหายกับเรื่องที่เพิ่งได้ยิน และนึกเห็นใจความรักของคนทั้งสองที่อยู่ดี ๆ จะต้องห่างกันไปแสนไกล ทั้งที่ความรักของทั้งคู่กำลังจะสุกงอมงอกงาม
ช่วงนี้ที่ร้านพี่กุ้งคึกคักเป็นพิเศษ เพราะลูกค้าจำนวนมากต่างก็เข้ามาเสริมสวยเสริมหล่อรับปีใหม่ที่จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้ช่วงนี้ช่างทุกคนต้องเหนื่อยกว่าปกติ อธิปพงศ์จึงแทบไม่ได้ไปว่ายน้ำหลังเลิกงานอย่างที่เคย แต่ก็ยังดีที่ได้กลับบ้านพร้อมกับคนรักทุกวัน และได้นอนกกกอดในอ้อมแขนแข็งแรงทุกคืน
ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังตัดผมให้คนรักที่เอาเก้าอี้มานั่งหน้ากระจก หลังจากกลับห้องและอาบน้ำด้วยกันเสร็จเมื่อครู่
นิธินยิ้มอย่างมีความสุข เพราะเขาได้ตัดผมกับช่าง*ส่วนตัว ในเสื้อผ้าน้อยชิ้น อธิปพงศ์เองก็สุขใจเช่นกันที่ได้ตัดผมให้คนที่เขารักในบรรยากาศโรแมนติกอย่างนี้
"เสร็จแล้วครับ" เขาถอดผ้าคลุมออก นิธินยิ้มกับเงาตัวเองในกระจกและคนรัก
อธิปพงศ์ลูบผมคนรักที่อยู่ตรงหน้าท้องเบาๆ และจูบที่หน้าผากก่อนจะบอกว่า
"โกนหนวดกันต่อดีกว่า"
นิธินยิ้มรับและลุกขึ้นยืน เขาหยิบกระปุกโฟมโกนหนวดแล้วเขย่าก่อนจะบีบโฟมนุ่มลงบนมือแล้วป้ายลงบนคางกับเหนือริมฝีปากของคนรัก ส่วนอธิปพงศ์เองก็ทำบ้าง คนตอนนี้ต่างคนต่างดูเหมือนซานต้าครอสไปแล้ว
"โฮ่ๆๆๆ" นิธินทำเสียงล้อเลียน อธิปพงศ์ยิ้มขำและค่อยโกนหนวดนิธินไปตามแนวคางอย่างเบามือ นิธินเองก็เช่นกันที่ค่อยๆ ใช้ใบมีดโกนหนวดของคนรักจนเกลี้ยงเกลา
"จุ๊บบบ"
คนทั้งสองสัมผัสริมฝีปากกันเบาๆ ก่อนจะละออกมายิ้มให้กันอย่างสุขล้นหัวใจ พวกเขาช่วยกันเก็บกวาดและล้างเนื้อล้างตัวก่อนจะออกมาห้างนอกห้องน้ำเพื่อใส่เสื้อผ้าและเข้านอน
"เออ ที่รัก.." อธิปพงศ์นึกขึ้นได้จึงถาม มั้งที่ในใจก็รู้สึกหวั่นๆ "ตกลงว่า หลังปีใหม่นี้..ยังไงเหรอ"
"อ่อ" นิธินเงียบไป อธิปพงศ์จึงถามต่อ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
นิธินมองหน้าคนรัก แววตาของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกเศร้าอย่างเต็มอก
"ผมต้องย้ายไปทำงานที่อื่น..หกเดือน.. แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ..ถ้าผมผ่าน ผมจะได้กลับมาอยู่กับคุณ..ที่นี่"
อธิปพงศ์ก็ช็อกไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขารู้สึกเหมือนหัวใจมันหล่นไปอยู่นอกกาย เขาพยายามจั้งสติและมองหน้าคนรัก
"ที่ไหนครับ"
"ดูไบ, ยูเออี"
"อืมม ผมเข้าใจแล้ว" อธิปพงศ์พยายามฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้คนรักเศร้าสร้อยทั้งที่ในใจของเขากำลังเริ่มร้องไห้ออกมา
"คุณหมู.."
"อื้ม เข้านอนกันเถอะ ดึกแล้ว"
อธิปพงศ์ล้มตัวลงนอนบนหมอน โดยมีนิธินอ้อมมากอดจากทางด้านหลัง เขาไม่กล้าที่จะหันหน้าไปนอนซบอกคนรัก เพราะกลัวว่านิธินจะไม่สบายใจเมื่อเห็นว่าเขากำลังเริ่มร้องไห้
แต่ความรู้สึกของทั้งคู่ส่งถึงกัน ทำให้นิธินลุกขึ้นนั่งและก้มไปดูคนรักที่กำลังนอนร้องไห้เบาๆ
"ที่รัก.." นิธินเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงอันสั่นเครือ ทำให้อธิปพงศ์ลุกขึ้นมา จึงพบว่าใบหน้าคร้ามเข้มนั้นกำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาไม่ต่างกัน
คนทั้งคู่โผเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้มีเพียงแค่น้ำตาและเสียงสะอื้นในอกเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความรู้สึกข้างใน
ถึงแม้จะรับรู้และเข้าใจว่าชีวิตคือการพบเจอและการจากลา แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ที่จู่ๆ เหมือนมีสายฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจพวกเขา น้ำตาชายหนุ่มทั้งสองพรั่งพรูออกมาราวกับทำนบแตก มีเพียงกายอุ่นๆ ของกันและกันกับเวลาที่เหลืออยู่เพียงเท่านั้นที่จะช่วยให้พวกเขาพอทำใจได้กับการห่างไกลที่กำลังจะมาถึง
แม้ตอนนี้กรุงเทพฯจะถูกปกคลุมไปด้วยความสุขแห่งการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสมาตร์และปีใหม่ ทุกห้างร้านต่างก็ประดับไฟสีสันสวยงามทำให้ เต็มไปด้วยความสดใสคึกคัก แต่ไม่ใช่กับนิธินและอธิปพงศ์ที่ตื่นรับวันใหม่ด้วยหัวใจหม่นเศร้า ที่ต้องใช้ชีวิตโดยนับถอยหลังรับวันจากลา แต่ชายหนุ่มทั้งสองก็พยายามไม่แสดงอาการใดๆ ออกมานอกจากใช้ชีวิตไปตามปกติอย่างคุ้มค่าที่สุด
เย็นนี้นิธินมาหาอธิปพงศ์ที่หน้าร้าน โดยขอยืมตัวเขามาจากพี่กุ้งสักครู่เพื่อจะไปเลือกซื้อของสิ่งหนึ่งด้วยกัน
"จะพาผมไปไหนเหรอ" อธิปพงศ์ถามคนรักที่เดินจูงมือมายังร้านขายแหวนในตัวห้างที่เขาทำงานอยู่ อธิปพงศ์มองหน้าคนรักอย่างมีคำถาม นิธินเลยหันมายิ้มให้และตอบว่า
"เรายังไม่มีแหวนคู่เลยนะ"
อธิปพงศ์ประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ยิ้มกลั้วหัวเราะออกมากับความโรแมนติกแบบแมนๆของคนรัก
"โหยย นึกว่าเรื่องอะไร"
"ผมกลัวหน่ะ ไม่อยู่ตั้งหกเดือน เดี๋ยวใครมาจีบคุณอีก ก็ต้องมีแหวนนี่แหล่ะที่บอกว่าคุณเป็นของผมแล้วนะ"
อธิปพงศ์หัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะพูดอย่างหวั่นใจ
"ผมหน่ะสิต้องกลัวมากกว่า"
"อย่ากลัวเลยนะครับ ยังไงผมก็รักคุณคนเดียว"
"อื้ม ผมด้วย"
คนทั้งสองส่งสายตาจริงจังให้กัน ด้วยรู้สึกดีกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ก่อนจะจูงมือกันไปดูแหวนแทนใจ ที่นิธินแอบมาเลือกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เหลือเพียงแต่อยากให้อธิปพงศ์มาเลือกอีกครั้งว่าชอบแบบไหนที่สุด และเขาทั้งคู่ก็เห็นตรงกันกับแหวนทองคำขาวเนื้อเกลี้ยง ที่เหมาะจะเป็นของติดกายหลังจากนี้ พนักงานสาวส่งแหวนนั้นให้ลูกค้าคู่รัก
"สวมเลยมั๊ยคะ" หญิงสาวกล่าวยิ้มๆ รู้สึกดีที่เห็นคนรักซื้อแหวนให้กัน นิธินหันมายิ้มให้คนขายและมองหน้าคนรักถามความเห็น
"เอาสิ" อธิปพงศ์ยิ้มให้คนรัก พร้อมกับส่งมือซ้ายให้คนรัก นิธินยิ้มพอใจและค่อยสวมแหวนให้นิ้วนางเรียวยาวนั้น ก่อนที่เขาจะยื่นมือให้อธิปพงศ์หยิบแหวนอีกวงสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขาเช่นกัน อธิปพงศ์เงยหน้ามองคนรักแล้วยิ้มให้ รู้สึกปลาบปลื้มที่คนรักทำเพื่อเขาในครั้งนี้
เมื่อสวมแหวนให้กันและกันเรียบร้อยแล้ว นิธินก็จูงมือคนรักออกมา โดยที่พนักงานสาวยิ้มให้อย่างยินดี
"ขอบคุณมากนะคะ"
อธิปพงศ์หันไปถามคนรัก
"อ่าว แล้วไม่ได้จ่ายเงินเหรอ" อธิปพงศ์เห็นว่าเลือกแหวนแล้วก็คนรักก็พาออกมาจากร้านโดย ไม่ได้สู่ขั้นตอนการชำระเงิน นิธินจึงเฉลยว่า
"ผมจ่ายแล้ว"
"ตอนไหนอ่ะ"
"วันก่อนที่ผมมาดูไว้ สามแบบที่ให้ดูมันราคาเท่ากัน ผมก็เลยจ่ายเงินเลย"
"เหรอ" อธิปพงศ์ก็เพิ่งรู้ว่าคนรักมีความตั้งใจจะทำให้จริงๆ
"อืมม ผมดีใจนะที่คุณเลือกแบบเดียวกับที่ผมดูไว้"
"จริงอ่ะ"
"ใช่ครับ"
นิธินยิ้มให้คนรักก่อนจะเดินไปส่งที่ร้านพี่กุ้งตามเดิมและแยกไปออกกำลังกายตามปกติ ส่วนป๊อกกี้ที่อยากรู้อยากเห็นก็ปราดมาถามอธิปพงศ์ทันที
"พี่หมูคะ ไปไหนมากันมาเอ่ย อย่าบอกนะคะว่าแวะไปฟีทเจอร์ริ่งกันในห้องน้ำ"
"บ้า คนเยอะไม่ทำหรอก" อธิปพงศ์เล่นกับรุ่นน้องตัวแสบก่อนจะเดินไปทำงานต่อ
"เรื่องไรชั้นต้องบอกแกด้วย มันเป็นเรื่องส่วนตัว หึหึ"
"แหมๆ เดี๋ยวนี้ไม่ได้เลยนะคะคุณพี่" ป๊อกกี้หยอกล้อเพราะรู้ว่าอธิปพงศ์เป็นคนที่ค่อนข้างหวงคนรัก ส่วนพี่กุ้งก็มองไปยังลูกน้องคนสนิท เพราะสังเกตุว่าช่วงนี้ชายหนุ่มเหมือนมีอะไรไม่สบายใจ เขาอยากรู้นักว่าเกิดอะไรขึ้นกับรุ่นน้อง เมื่อเสร็จจากตัดผมลูกค้าแล้วเขาจึงขอคุยกับอธิปพงศ์สองคน
"พี่กุ้งมีอะไรเหรอครับ"
"ช่วงนี้หมูมีอะไรหรือเปล่า พี่เห็นช่วงนี้เราสีหน้าไม่ค่อยดีเลย"
อธิปพงศ์ยิ้มน้อย ๆ เพื่อไม่ให้พี่กุ้งกังวลใจ "เปล่าครับ ไม่มีอะไร"
"หมูพูดจริงรึเปล่า หน้าตาของหมูมันไม่ได้บอกอย่างนั้นนะ"
อธิปพงศ์เลยบอกว่า
"ผมคงเพลียๆนิดหน่อยหน่ะครับ เดี๋ยวก็หาย"
แต่พี่กุ้งไม่ค่อยเชื่อ เพราะอาการที่เห็นมันต่างกับคนที่อ่อนเพลียทางกายอย่างสิ้นเชิง เขาจึงถามกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
"หมู....พี่เป็นห่วงเราจริงๆนะ บอกพี่มา มีอะไร"
อธิปพงศ์เห็นสายตาของพี่กุ้งแล้วก็เลยต้องพูดความจริง
"..นิธินเค้าจะย้ายไปทำงานที่อื่นหลังปีใหม่นี้ครับ"
"ยังไงหมู.."
"เค้าจะต้องย้ายไปทำงานที่ดูไบ..หกเดือนครับ"
พี่กุ้งเองก็ตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น เพราะความรักของอธิปพงศ์กำลังไปได้สวย แต่ต้องมาสะดุดลงเพราะความห่างไกลอย่างนี้ เขามองหน้าช่างผมรุ่นน้องที่เหมือนกำลังพยายามทำใจให้กับการไกลห่าง พี่กุ้งเข้าใจดีว่าตอนนี้อธิปพงศ์รู้สึกอย่างไร
"อืม พี่เข้าใจแล้ว" ช่างผมรุ่นพี่พูดต่อ "พี่อยากให้หมูคิดว่า ช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมันจะพิสูจน์ว่าหมูกับคุณนิธินรักกันมากแค่ไหน พี่รู้ว่าตอนนี้หมูกับแฟนรักกันมาก และพี่เชื่อว่าหมูกับคุณนิธินรักกันมากพอที่จะผ่านหกเดือนนี้ไปได้"
"ขอบคุณครับพี่กุ้ง"
อธิปพงศ์ยิ้มรับกำลังใจที่เจ้านายมอบให้ พี่กุ้งเข้ามาตบไหล่รุ่นน้องเบาๆ
"จากนี้พี่ขอให้หมูและคุณนิธินเชื่อมั่นในตัวกันและกันนะ"
"ครับ"
พี่กุ้งเดินออกไปจากบริเวณนั้น ส่วนอธิปพงศ์ก็คิดตามคำที่พี่กุ้งว่าเอาไว้ ก่อนจะถอนใจและปลอบใจตัวเองว่า
"เอาเถอะ ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกหลายวัน ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดก็พอแล้ว"
อธิปพงศ์เข้าใจดีว่าการไปทำงานครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของพวกเขา
ชายหนุ่มจึงไม่คิดมากและพยายามไม่เสียใจกับจากที่ต้องห่างกับคนรักกะทันหันอย่างนี้ อันที่จริงเขาคิดว่าตัวเองน่าจะทำใจตั้งนานแล้ว เพราะว่านิธินมีกำหนดอยู่ที่กรุงเทพฯเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ด้วยตัวเองจริง ๆ
เขาจะอดทนและรอคอยกับวันที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
"ที่รัก ปีใหม่นี้คุณหยุดงานกี่วันเหรอ" นิธินถามคนรักที่เปลือยเปล่าในอ้อมแขน หลังจากเสร็จภารกิจรักแล้ว พวกเขาจึงนอนแอบอิงไออุ่นของกันและกันเพื่อผ่อนคลาย
"สองวันหน่ะ วันที่ 31 กับ 1"
"อืม..."
"มีไรรึเปล่าครับ"
นิธินถามคนรักยิ้มๆ
"เราไปไหนกันดี"
"อืม นั่นสิ คุณอยากไปไหนล่ะ"
นิธินส่ายหน้าเบาๆ "ไม่รู้สิ ผมแค่อยากอยู่กับคุณ"
อธิปพงศ์ซบอกคนรักนิ่งๆ สักพักก่อนจะคิดออก "อืม..งั้นเราก็เที่ยวในกรุงเทพฯนี่แหล่ะ คุณยังไปไม่ทั่วเลยนะ ผมว่าเที่ยวกรุงเทพฯช่วงปีใหม่นี่แหล่ะ คนน้อยดีรถไม่ค่อยติดด้วย"
"น่าสนใจๆ" นิธินยิ้มตอบรับ ต่างคนต่างไม่พูดอะไรต่อเพราะรู้กันว่าวันที่ 2 มกราคมนี้เป็นวันที่นิธินต้องออกเดินทางไปทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรส และตอนนี้ชายหนุ่มก็เริ่มจัดเก็บข้าวของบางส่วนลงกระเป๋าแล้ว
ถึงแม้ตอนนี้นิธินจะยังไม่แน่นอนกับการโยกย้ายในเรื่องของงาน แต่เขาแน่ใจแล้วว่าจะมีชีวิตที่เหลืออยู่กับอธิปพงศ์ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันให้ได้
ปล. *ช่างผมอย่างอธิปพงศ์ต้องมีอุปกรณ์ตัดผม(กรรไกรหลากหลายรูปแบบ, มีดโกน ฯลฯ) เป็นสมบัติส่วนตัวติดกายอยู่แล้ว โดยจะดูแลอย่างดีและนำไปทำงานด้วยทุกวัน และในบางครั้งช่างผมบางคนก็ให้บริการตัดผมกับลูกค้าที่นัดนอกเวลางานด้วย
(ช่วยเตือนสติคนเขียน By คุณPEENUT1972)
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ