พิมพ์หน้านี้ - (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-02-2012 14:10:21

หัวข้อ: (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-02-2012 14:10:21
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้าม มิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

5.ขอ ให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่ นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน

ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

6.อย่า พูดคุย ทักทาย นักเขียน คนอ่่านโดยรีพลายดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกับนิยายให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรคอมเม้นต์สักคอมเม้นต์เีดียวก็เพียงพอแล้ว ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และทำลิงค์โยงมายังนิยาย และให้นักเขียนทุกคนทำลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยเกี่ยวกับแฟนคลับนิยาย ในรีพลายแรกด้วย เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน


เวปไซต์แห่งนี้เป็น เวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
 

คำเตือน : 1.นิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น อาจใช้สถานที่จริงประกอบเพื่อความสมจริงในเนื้อหา แต่ตัวละครและเรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องสมมุติทั้งสิ้นนะคะ
                2.ในนิยายอาจมีภาษาและพฤติกรรมของตัวละครบางส่วนที่ไม่เหมาะสมกับความเป็นสุภาพชน ควรใช้วิจารญาณในการรับชมค่ะ



1


เดือนกุมภาพันธ์...
บรรยากาศภายในห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นคึกคักและลุ้นระทึกจากการแข่งขันจูบมาราทอนที่ทางห้างได้จัดฯขึ้นในเทศกาลวาเลนไทน์ โดยมีเงินรางวัลหลักแสนสำหรับผู้ชนะ จึงทำให้มีคู่รักมากมายร่วมลงแข่งขันในรายการนี้

  เวลาที่ผ่านไปช่วยคัดให้เหลือผู้แข่งขันน้อยลง แต่มีคู่หนึ่งที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะถอดใจ ร่างสูงใหญ่บึกบึนของชายหนุ่มอินเดียอย่างนิธิน ยังคงยืนมอบจูบอ่อนโยนให้กับคนรักหนุ่มไทยผิวขาวที่ร่างเล็กกว่าอย่างอธิปพงศ์โดยไม่ย้อท้อ ถึงแม้ทั้งคู่จะอายุสามสิบกว่า ๆ กันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเหนื่อยอ่อนแต่อย่างใด
"ตอนนี้นะคะผ่านไป 26ชั่วโมงแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าจะมีคนที่จูบทนอย่างนี้ โอ้มายก๊อดด!!"
พิธีกรสาวตบอกผึ่งพร้อมตาโตกับคู่รักชายหนุ่มตรงหน้าที่ตอนนี้เหลืออยู่เพียงคู่เดียวในการแข่งขัน
"แม่เจ้า!! คุณพี่คะ จะจูบกันถึงปีหน้าเลยมั๊ยคะเนี่ย!!"
แต่สองหนุ่มก็ไม่สะท้านกับคำแซวถึงแม้จะยิ้มมุมปากอย่างขบขัน นิธินที่ฟังภาษาไทยออกก็โอบร่างได้สัดส่วนของอธิปพงศ์มาพักไว้ที่ข้อแขนคล้ายการเต้นลีลาศ ทำให้เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้างไม่น้อย
"แอร๊ยยยยยย ใจเย็นๆๆ นะคะ คลามดาวน์ พลีส ค่ะคุณนิธิน จัสคิสค่ะ โอเค๊"
พิธีกรสาวใจหายใจคว่ำและเก็บอาการไม่อยู่เมื่อเห็นภาพดังกล่าว แค่เห็นผู้ชายหน้าตาดีสองคนจูบกันเธอก็ทำใจลำบากพอแล้ว แต่นี่พวกเขาจังไม่หยุดแสดงความรักกันอีก
คนทั้งสองส่งสัญญาณผ่านแววตาและความรู้สึกว่าควรจะหยุดได้แล้ว จึงแลกจูบสุดท้าย โดยที่
อธิปพงศ์กับนิธินค่อยๆดูดดุนริมฝีปากของกันและกันอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะออกละจากกันอย่างเหนื่อยอ่อน
"และผู้ชนะของเราก็ทำสติถิไปได้ 48 ชั่วโมง 30 นาทีและ 45 วินาทีค่ะ! รับเงินรางวัลสองแสนบาทไปเลยค่า"
บรรดาทีมงานผู้จัดกรูเข้ามาหาคนทั้งสองพร้อมแผ่นป้ายเงินรางวัล และกองทัพนักข่าวก็เข้ามาสัมภาสน์คู่รักอย่างใคร่รู้ เพราะทั้งสองคนได้ตกเป็นจุดสนใจของการแข่งขันครั้งนี้ จากการเสนอข่าวคู่รักผู้ชายที่เข้าแข่งขันจูบมาราทอนและสุดท้ายก็สามารถเป็นผู้ชนะคว้าเงินแสนไปครองในที่สุด

“ดีใจครับ ที่ได้รางวัล” อธิปพงศ์เป็นคนตอบ โดยที่ข้าง ๆ มีนิธินโอบไหล่อยู่
“มีเทคนิคยังไงคะถึงได้จูบกันนานอย่างนี้”
“ก็นึกถึงตอนที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันหน่ะครับ” เขาหันไปมองหน้าแฟนหนุ่มร่างใหญ่ที่ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้ “นึกถึงตอนที่เราห่างกัน ว่าเราคิดถึงกันมากแค่ไหน แล้วก็นึกถึงว่าสมมุติว่าพรุ่งนี้เราจะต้องจากกันหน่ะครับ…..”

อธิปพงศ์มองใบหน้าด้านข้างที่คร้ามเข้มด้วยแนวเคราอ่อนๆ หนุ่มไทยอย่างเขาไม่รู้ตัวว่าตกหลุมรักผู้ชายอินเดียคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ เขายิ้มอ่อนโยนให้กับเจ้าของแขนล่ำที่โอบไหล่ พลันในความรู้สึกก็ฟุ้งขึ้นมาว่า...

"นิธิน คุณยังจำวันแรกที่เราเจอกันได้มั๊ย..."

     วันแรกของอธิปพงศ์กับนิธินเกิดขึ้นในบ่ายวันหนึ่งของต้นเดือนกันยายนที่วันนั้นกรุงเทพฯถูกปกคลุมไปด้วยม่านสายฝนจนแทบไม่เห็นแสงทองของพระอาทิตย์ แต่บรรยากาศในแฮร์ซาลอนกลางห้างดังที่อธิปพงศ์ทำงานอยู่ก็ไม่ได้เงียบเหงาเหมือนฟ้าในวันนั้นแต่อย่างใด ภายในร้านยังคงอบอวลด้วยกลิ่นน้ำยาและไอร้อนจากไดร์เป่าผมเพราะด้วยลูกค้าชายหญิงที่แวะเวียนมาใช้บริการไม่ขาดสายตั้งแต่เปิดร้าน ช่างตัดผมอย่างอธิปพงศ์เองก็แทบไม่ได้หยุดพักจากกรรไกรและบัตตาเลี่ยนเลย
"อ่ะ เสร็จแล้ว..." ช่างผมหนุ่มบอกกับลูกค้าหนุ่มขาประจำของเขา พร้อมกับยื่นกระจกบานเล็กและหมุนเก้าอี้ให้เห็นทรงผมใหม่รอบด้าน "เป็นไง ชอบมั๊ย"
"อืม ก็ดีครับพี่หมู" นักศึกษาหนุ่มที่เป็นลูกค้าประจำตอบกลับช่างผมที่เผยลักยิ้มน้อยๆข้างแก้มอย่างดีใจ
"ทำไมอ่ะ ไม่ถูกใจอะไรบอกพี่ได้นะ"ช่างผมถาม เพราสังเกตุเห็นเด็กหนุ่มยังคงมองหาอะไรบางอย่างจากทรงผม
"พี่หมู...พี่สอนผมเชตผมหน่อยดิ"
"หือ.." เขามองหน้าเด็กหนุ่ม ไม่เข้าใจ
"ก็ผมเชตยังไงก็ไม่เหมือนพี่เซตให้ไง"
"ได้สิ เรื่องแค่นี้เอง"
ช่างผมรับคำลูกค้าและบอกเคล็ดลับอย่างที่เด็กหนุ่มต้องการ เมื่อเจ้าตัวพอใจแล้วจึงขอตัว
"ขอบคุณมากพี่หมู ไปก่อนนะครับ"
เด็กหนุ่มยกมือไหว้ช่างประจำด้วยมีสัมมาคาราวะ อธิปพงศ์รับไหว้และเก็บเครื่องมือให้เรียบร้อย ช่างผมหนุ่มที่ยังไม่ได้พักแม้แต่กินข้าวบิดตัวแก้เมื่อยเบาๆพลางมองไปรอบๆที่ลูกค้าเริ่มน้อยลง เขาถอนใจเล็กน้อยกะว่าจะขอตัวไปกินข้าวสักครู่ แต่จู่ๆ ก่อนจะออกจากหน้าร้านเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องที่เพิ่งสระผมลูกค้าเสร็จก็เรียกเขาไว้
"พี่หมูๆๆ"
"ว่าไง มีไรเปล่า"
"พี่จะไปกินข้าวเหรอ รับลูกค้าอีกคนได้มั๊ยอ่า"
"หืม คนอื่นไม่ว่างเหรอ ทำไมตัดเองล่ะ"
"บ้าเหรอพี่หมู ถ้าพี่กุ้งรู้เฉ่งหนูตายสิ ตอนนี้หนูติดสปาเฟริ์มลูกค้าอยู่” เธอหมายถึงเจ้าของร้านที่ไม่ต้องการให้ช่างรับงานซ้อน เพราะเธอเองก็กำลังดัดผมให้ลูกค้า
"อีกอย่างลูกค้าไม่ใช่คนไทยอ่ะ มีพี่นี่หล่ะพอจะคุยกับเค้าได้"
"หืม ฝรั่งเหรอ"
เด็กสาวส่ายหน้าดิก "เหอะ อินเดีย"
"นะ น้า พี่หมู"
"เออๆๆๆๆ" อธิปพงศ์รับคำ
"ฮิๆๆ ขอบคุณค๊าบบบ" เด็กสาวคิกคักล้อเลียน
"ไหนล่ะลูกค้า"
"รอที่เก้าอี้พี่แล้ว"
"อืม ๆ"
 ช่างผมหนุ่มรับคำและเดินไปยังมุมประจำของเขา ที่มีชายหนุ่มร่างใหญ่นั่งรออยู่อย่างที่เด็กสาวบอก แต่เมื่อเห็นหน้าตาของลูกค้าผ่านกระจกเงาแล้วอธิปพงศ์ก็มีความคิดบางอย่างขึ้นมา
"คนอินเดียเหรอวะ"
อธิปพงศ์ประหลาดใจเล็กน้อย ก็เพราะชายหนุ่มที่คาดว่าน่าจะวัยเดียวกันกับเขาตรงหน้าต่างกับที่คิดไว้มาก เพราะไม่ได้มีผิวดำแบบคนอินเดียทั่วไปอย่างที่เคยเห็น แต่กลับมีผิวสองสีที่เข้มกว่าคนไทยทั่วไปใบหน้าคมคร้ามด้วยแนวเคราที่กรอบคางรับกับดวงตาและจมูกโด่งได้รูป ไหนจะรูปร่างสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอีกเล่า ดูดิบห่ามมีเสน่ห์แห่งความเป็นชายโดยแท้ ขนาดว่าเขาเป็นผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดียังอดชื่นชมไม่ได้  ช่างผมหนุ่มคิดอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มได้สติเมื่อลูกค้าส่งยิ้มมุมปากทักทายให้
 "Hello" ลูกค้าส่งภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดียทักทายคนเป็นช่างผม
"Hello"
"I want to do the hair cut in the same style like this"
"o.k."
อธิปพงศ์รับคำพร้อมกับคลุมผ้าและค่อยสางผมสั้นหยักศกของลูกค้าอย่างเบามือเมื่อเขามองรูปทรงศรีษะคิดคำนวณระยะของทรงที่จะตัดเรียบร้อยแล้วจึงลงกรรไกรเพื่อจัดการกับผมของผู้ชายตรงหน้า
ส่วนคนเป็นลูกค้ายิ้มให้กับเงาของตัวเองในกระจกเขามองช่างตัดผมที่กำลังขะมักขเม้นจัดแต่งทรงผม ใบหน้าคร้ามเข้มมีแต่รอยยิ้มอบอุ่นเมื่อเห็นมือเรียวค่อยสางผมของเขา ผิวขาวเนียนอมชมพูในเชิ้ตดำเข้ารูปของช่างหนุ่มคนนี้ดูดีขึ้นไฟในร้านเสียจริง  คิ้วดำได้รูปกับดวงตากลมโตดำขลับที่ฉายแววจริงจังกับงาน ส่วนจมูกโด่งสวยนั้นก็รับกับริมฝีปากบางได้รูปสีชมพู ทั้งหมดนั้นอยู่บนใบหน้ารูปไข่ที่จัดแต่งทรงผมอย่างดี

ทำให้ลูกค้าหนุ่มไม่อาจละสายตาไปจากช่างผมได้

อธิปพงศ์รู้ตัวว่าถูกมองจึงหันหยุดชะงักและมองลูกค้า ชายหนุ่มรู้ตัวว่ามองนานไปจึงยิ้มให้และมองเงาตัวเองในกระจกแก้เก้อ
เด็กสาวคนเดิมเข้ามาถาม"พี่หมู เดี๋ยวไปกินข้าวกันมั๊ย"
"ไปสิ" เขานึกขึ้นได้ "เออ หญิงอย่าลืมบอกคนอื่นล่ะว่าพี่ไปกินข้าว"เขาหมายถึงถ้าลูกค้าประจำมาก็ฝากช่างคนอื่นบอกตามนั้น
"ค่า"
"อืม"
เขาหันมาตัดผมต่อจนเสร็จจึงไดร์และจัดทรงเพื่อความสมบูรณ์แบบ
"all right,finished"
เขาทำตามขั้นตอนเดิมคือหมุนเก้าอี้ให้ลูกค้าเห็นทรงผมรอบๆ ชายชาวอินเดียยิ้มพึงในใจทรงผมที่ได้  จึงลุกขึ้นเพื่อจะไปจ่ายเงินที่เคาท์เตอร์ด้านหน้า
แต่เมื่อลูกค้ายืนขึ้นก็ทำให้อธิปพงศ์ยิ่งประหลาดใจ ร่างนั้นสูงกว่าเขาที่จัดว่าเป็นชายไทยร่างสูงอยู่มาก ยิ่งมัดกล้ามบึกนั้นก็ทำให้เสริมเสน่ห์ความเป็นผู้ชายเข้าไปอีก
 เมื่อลูกค้าชำระเงินเรียบร้อยแล้ว เขาก็ต้องให้นามบัตรร้านพร้อมชื่อและเบอร์โทรสำหรับนัดหมายให้ลูกค้าเผื่อว่าอีกฝ่ายอยากที่จะตัดผมกับเขาอีก
"If you want to do the hair cut again, this is my name and telephone number. You can call me when you want to do your hair cut, anytime"
อธิปพงศ์ยิ้มให้ลูกค้าอย่างเป็นมิตร เช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้ามที่พลิกดูชื่อบนนามบัตร
"mooh"
"มูหหห์" เขาพยายามออกเสียงตามคำสะกดในภาษาอังกฤษ
"หมู...มายเนมอีส หมู" อธิปพงศ์บอกพร้อมรอยยิ้ม
"หมู?" เขาออกเสียงตาม
"เยส ๆ"
ลูกค้าต่างชาติเห็นอย่างนั้นเลยยื่นมือให้จับตามมารยาทการทักทาย
"My name is Nitin, nice to meet you"
อธิปพงศ์ก็ยื่นมือขวาออกไปเพื่อสัมผัสมือเช่นกัน
"Nice to meet you,too"
มือใหญ่นั้นบีบสัมผัสมือเรียวเบาๆก่อนจะปล่อยออกมา นิธินเลยบอกก่อนจะไปว่า
"I will have been living in bangkok about 3 months and I certainly come here again for my next hair cut"
"Thank you"
"Bye ,see you next time"
"Good bye"
อธิปพงศ์ยิ้มให้ลูกค้าอีกครั้งก่อนที่จะออกจากร้าน พลันลูกค้าเดินพ้นร้าน เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งก็ปราดเข้ามาทันที
"แอร๊ยยยยย พี่หมู ลูกค้าพี่หมูหล่อมากกกก "
"อะไรของแกป๊อกกี้ องค์อะไรลงอีกหะ " พี่กุ้งชายวัยต้น40ที่ยังดูอ่อนกว่าวัยผู้เป็นเจ้าของร้านเข้ามาปรามลูกน้องตัวแรงที่ละจากการทำผมมาเพื่อเรื่องนี้
"แหม คุณแม่ขา ไม่เห็นเหรอค่ะ ออกจะหล่อล่ำ น่ากินขนาดนั้น โอ๊ยแค่คิดก็ฟูแล้วค่ะ ว่าแต่เค้าชื่ออะไรอ่ะ พี่หมูรู้ป่ะ"
"เค้าชื่อคุณนิธิน"
"เหรอค่ะ อร๊ายๆๆๆๆๆ"
"นังป๊อก"
"ขา คุณแม่กุ้ง" เจ้าตัวลอยหน้าลอยตาตอบ
"ตอนนี้แกว่างนักใช่มั๊ย"
"วะ..ว่า" เจ้าตัวจะตอบว่าว่างแต่ก็นึกออกทันทีว่ายังมีลูกค้าอยู่ "ว้ายๆๆๆๆ ตายแล้ว"
พี่กุ้งส่ายหน้ากับลูกน้องตัวป่วนเล็กน้อย ก่อนจะหันมาบอกกับอธิปพงศ์และหญิงที่จะออกไปนอกร้าน
"ไปกินข้าวได้แล้ว วันนี้เพิ่งได้พักกันใช่มั๊ยเนี่ยะ หมู"
"ครับ พี่กุ้งจะเอาไรป่ะครับ"
"ไม่ล่ะจ้ะ เอ้อ พี่เอาชามะนาวสักแก้วก็ดีนะ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูซื้อมาฝากนะ "
พี่กุ้งพยักหน้ารับ ก่อนจะตัดผมให้ลูกค้าตัวเองต่อ

“พี่หมู ๆ”
‘หืออ”
“ลูกค้าพี่หมูคนมะกี๊หล่อเน๊อะ”
“อ่าว นี่แกก็เป็นกับเค้าอีกคนเหรอหะ”
“ป่าว แหม ก็เค้าหล่อจริงๆนี่นา แต่ไม่ใช่แนวอ่ะ ตัวใหญ่เกิน”
“นี่ขนาดไม่ใช่แนวนะเนี่ยะ” เขาหัวเราะเบาๆกับเพื่อนร่วมงานรุ่นน้อง
“เออ พี่หมู แล้วนี่เป็นไงอ่ะ พี่ดีกับแฟนหรือยัง”
เธอหมายถึง ปิ่นปัก แฟนสาวนักศึกษาของอธิปพงศ์ที่พักหลังมีปัญหากันบ่อยๆ
“อืม เคลียร์กันแล้ว”
“ก็ดีแล้วหล่ะ หนูล่ะเบื่อดูพวกพี่งอนกันจริงๆ”
ไม่มีคำตอบจากอธิปพงศ์ เขารู้ดีว่าที่ทะเลาะกันก็เพราะตัวเขาด้วยส่วนนึงแต่เขาก็พยายามรักษาความสัมพันธ์ครั้งนี้ให้ดีที่สุด

นิธินที่ตอนนี้กลับมาถึงที่พักของตัวเองย่านนานา เขานั่งลงบนเตียงและทอดตัวลงนอน หลังจากออกไปดินสำรวจในย่านการค้าใจกลางเมือง เขาลุกมองตัวเองในกระจกและอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงช่างตัดผมคนนั้น
 โปรแกรมเมอร์หนุ่มชาวอินเดียที่เพิ่งถูกส่งตัวมาทำงานที่กรุงเทพฯนึกย้อน ถึงคำพูดของเพื่อนร่วมหลานหลายคนที่เคยมาทำงานที่เมืองไทย โดยพวกเขาบอกว่า ใครที่ไปเมืองไทยจะมีอาถรรพ์ เพราะถ้าได้มาอยู่เมืองไทยแล้วจะไม่อยากกลับไปอินเดีย ยิ่งถ้ามีแฟนคนไทยแล้วก็จะอยากอยู่เมืองไทยไปตลอดชีวิต
เขายิ้มให้ตัวเองกับคำพูดนั้น เพราะมาได้แต่สามวันเขาก็หลงเสน่ห์คนไทยเข้าให้แล้ว เขานึกถึงหน้าใสๆและมือเรียวที่มีโอกาศเขากุมไว้สั้นๆ ชายหนุ่มผู้ยอมรับในรสนิยมทางเพศของตัวเองมานาน ยิ้มให้กับความรู้สึกดีๆที่เพิ่งพบเจอ นิธินหยิบหนังสือสอนภาษาไทยสำหรับชาวต่างชาติที่เพิ่งซื้อมาออกจากถุง ถ้าอยากจะผูกมิตรกับคนไทย ก็ต้องพูดภาษาไทยให้ได้เสียก่อน
 และเมื่อครู่เขาได้ไปเดินสำรวจรอบห้างที่อธิปพงศ์ทำงานอยู่ ก็เจอฟิสเนตไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่ชายหนุ่มทำงาน คนรักการออกกำลังกายอย่างเขาจึงไม่พลาดที่จะสมัครเป็นสมาชิกถึงแม้ค่าสมาชิกจะแพงมากและแถวที่เขาพักจะมีฟิสเนตอยู่ไม่น้อยก็ตาม แต่เป้าหมายจริงๆของนิธินใช่ว่าจะมาออกกำลังกายเฉยๆเสียเมื่อไหร่ ถึงแม้จะไกลจากที่ทำงานและออกจะแพงไปซะหน่อยแต่เขาก็ยินดีที่จะจ่าย ขอแค่มีโอกาศได้เจอหน้าอธิปพงศ์ทุกวันก็พอ


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....

หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 02-02-2012 21:24:07
หวาย ๆ ได้เจิม( :z13:)น้ำพริกแมงดาเป็นคนแรกนะเนี่ย สำหรับเรื่องนี้
เดี๋ยวต้องไปเสาะหารูปหนุ่มอินเดียหล่อๆมาไว้จิ้นแล้วล่ะจ้ะ
เปิดมาก็มาจูบมาราธอนให้อิจฉากันเลยทีเดียวนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 02-02-2012 22:33:05
รับเรื่องใหม่ :mc4:
อยากอ่านตอนพิเศษน้องพี
+1
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใ
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 02-02-2012 22:59:39
แล้วจะตามอ่านนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 02-02-2012 23:29:55
มาถึงก็หวานกันเชียว  :z1: (จูบมาราธอน)

แล้วมาลงบ่อยๆนะค้า
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-02-2012 00:27:19
วะว้าวววววววววววววววววววววววววววววออกแนวหวานหยดนะเนี้ย อิจฉาหมู อยากได้แฟนแบบนี้บ้างอ่าสสสสสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-02-2012 09:22:40
 :mc4: กด+เป็ด
ต้อนรับเรื่องใหม่จ๊า
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 03-02-2012 13:59:49
สวัสดี(อย่างเป็นทางการ)ค่ะคุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน  ที่หายไปคิดถึงคุณผู้อ่านมาก ๆ เลย วันนี้กลับมาแล้วนะคะ กับ "Mujhe apana hatha de- แบ่งรักให้อุ่นใจ" นิยายเรื่องใหม่ลูกครึ่งไทยอินเดีย55+ -- ขอบคุณสำหรับการความรักที่มีให้กับตัวละคอนของน้ำพริกแมงดา ขอบคุณที่ติดตามและกำลังใจที่มีให้กันเสมอค่ะ

[
หวาย ๆ ได้เจิม( :z13:)น้ำพริกแมงดาเป็นคนแรกนะเนี่ย สำหรับเรื่องนี้
เดี๋ยวต้องไปเสาะหารูปหนุ่มอินเดียหล่อๆมาไว้จิ้นแล้วล่ะจ้ะ
เปิดมาก็มาจูบมาราธอนให้อิจฉากันเลยทีเดียวนะจ๊ะ

เป็นเกียรติมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ

รับเรื่องใหม่ :mc4:
อยากอ่านตอนพิเศษน้องพี
+1

ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นค่า สำหรับตอนพิเศษน้องพีร์คิดว่ามีแน่ค่ะ แต่ตอนนี้ติดตามเรื่องของหมูและนิธินไปพลาง ๆ ก่อนนะคะ ขอบคุณที่คิดถึงพีร์ค่ะ

แล้วจะตามอ่านนะจ๊ะ

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

มาถึงก็หวานกันเชียว  :z1: (จูบมาราธอน)

แล้วมาลงบ่อยๆนะค้า

สำหรับเรื่องนี้สัญญาว่าจะ(พยายาม)ไม่หายไปกลางอากาศค่ะ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ

วะว้าวววววววววววววววววววววววววววววออกแนวหวานหยดนะเนี้ย อิจฉาหมู อยากได้แฟนแบบนี้บ้างอ่าสสสสสสสสสสสสสสสสส

ต้องติดตามค่ะ ว่าจะหวานเหมือนขนมอินเดียหรือเปล่า

:mc4: กด+เป็ด
ต้อนรับเรื่องใหม่จ๊า

ขอบคุณมาก ๆๆๆ นะคะ
หัวข้อ: Re: (นิยายเรื่องใหม่)Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 03-02-2012 14:03:22
2
 ถึงแม้ข้างนอกจะเย็นชื้นด้วยละอองฝน แต่อุณหภูมิในร่างกายของชายหญิงบนเตียงนั้นร้อนเร่าไปด้วยเพลงกามที่บรรเลงใส่กันอย่างดุเดือด ฝ่ายหญิงแอ่นสะโพกรับการกระแทกกระทั้นจากฝ่ายชายที่กำลังเมามันกับการบีบคั้นอกนิ่ม คนทั้งสองส่งเสียงครางไม่หยุดหย่อน และเมื่อเสร็จสิ้นผ่านจุดปลดปล่อย คนทั้งสองก็แอบอิงไออุ่นซึ่งกันและกันสักพักก่อนที่ฝ่ายชายจะลุกไปห้องน้ำและกลับมานอนต่อ
"พี่หมู" หญิงสาวกึ่งเปลือยบนเตียงบนเตียงเรียกชายหนุ่มของเธอ
"หืม.."
 เธอไม่พูดอะไรนอกจากเข้ามาซุกแผงอกของแฟนหนุ่มไว้ หญิงสาวหลับตาพริ้ม จะมีอะไรสุดยอดไปกว่าการได้กกกอดหลังร่วมรักอีกแล้ว อธิปพงศ์มองคนรักยิ้มๆ และโอบเธอตอบเช่นกัน
  เขาและปิ่นปัก แฟนสาวนักศึกษาคบกันมาได้สักพักแล้ว โดยที่เธอยังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ทว่าหญิงสาวย้ายมาอยู่กินกับอธิปพงศ์ตั้งแต่ช่วงคบกันใหม่ๆ ตามประสาผู้หญิงไวไฟด้วยกระหายในรสรักและหึงหวงในตัวอธิปพงศ์ แฟนหนุ่มรูปหล่อของเธอ อธิปพงศ์เองก็ขึ้นชื่อว่าเป็นช่างผมหน้าตาดีที่เปลี่ยนผู้หญิงบ่อยๆ แต่ปิ่นปักไม่อยากจะเป็นเช่นนั้น เธอจึงพยายามครอบครองเขาไว้ให้นานที่สุด เพราะนอกจากเขาจะมีรูปเป็นทรัพย์แล้ว เรื่องฝีมือตัดผมก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อธิปพงศ์เป็นช่างผมฝีมือดีมากคนหนึ่งที่มีลูกค้าขาประจำเป็นจำนวนมากและคนดังหลายคนก็เจาะจงให้เขาเป็นช่างผมส่วนตัวเช่นเดียวกัน
  อธิปพงศ์จึงเป็นชายหนุ่มผู้เป็นที่หมายปองของสาวๆหลายคน แต่ก็ไม่มีใครอยู่ในตำแหน่งแฟนได้นาน เพราะความหล่อเลือกได้ของเขาที่มีสาวๆเข้ามาไม่ขาด ส่วนเหตุผลที่ไม่มีใครทนได้จริงๆ ก็เพราะชายหนุ่มไม่ค่อยมีเวลาให้ตามที่พวกเธอคาดหวังจากคนรัก
  สุดท้ายแล้วบรรดาแฟนเก่าทั้งหลายคงตระหนักรู้ว่าความหล่อคงไม่ใช่คำตอบ พวกเธอจึงจากไปเพื่อหาคนที่พร้อมจะตอบสนองได้มากกว่านี้
แต่ปิ่นปักจะอดทน ถึงแม้ลึกๆแล้วเธอแทบทนไม่ได้กับสิ่งเหล่านั้นของแฟนหนุ่มก็ตาม

  ด้านนิธินที่เพิ่งมาอยู่เมืองไทยเป็นครั้งแรกก็ปรับตัวได้ดีกับสภาพแวดล้อมและเพื่อนร่วมงานที่มีทั้งไทยอินเดีย ตอนนี้เขากับเพื่อนร่วมงานอีก3คนกำลังออกมาหาอะไรกินในมื้อกลางวันที่ร้านใกล้ๆ ที่ทำงาน
"เออ นิธิน เสาร์นี้ไปบ้านชั้นมั๊ย ไปรู้จักกับพ่อแม่ชั้นซะหน่อยเป็นไง" วิษณุ เพื่อนร่วมงานชาวอินเดียหมายถึงพ่อกับแม่ของเขาที่เป็นเจ้าของร้านขายสินค้าในพาหุรัด
"ได้สิ ขอบใจมากนะวิษณุ"
"ไม่เป็นไรหรอก เล็กน้อย"
"พ่อกับแม่วิษณุใจดีมากๆเลยนะ" เอเจเพื่อนร่วมงานชาวอินเดียอีกคนสมทบ
"ใช่ๆ ขนาดผมเป็นคนไทยคุณลุงคุณป้ายังเทคแคร์ผมสุดยอดเลย" แทนไท เพื่อนร่วมงานคนไทยก็ช่วยสนับสนุน
"ไปกันหมดนี่เลยเป็นไง ฮ่ะๆ" วิษณุชักชวน
แทนไทถามเพื่อน "เออ แล้วนี่ แกเตรียมงานแต่งงานไปถึงไหนแล้ว"
นิธินมองหน้าวิษณุงงๆ "แต่งงานเหรอ?...เฮ้ย จริงดิ" เขาพลอยตื่นเต้นไปกับเพื่อนด้วย
"ยินดีด้วยนะวิษณุ"
"ขอบใจนะ เหอะๆ ก็ตอนนี้กำลังวุ่นๆนิดหน่อย กะว่าจะบอกทุกคนทีเดียวเลย"
นิธินกระเซ้า "โห เรื่องใหญ่อย่างนี้ไม่บอกได้ไง"
"ไม่ต้องห่วงหรอกนิธิน นายได้อยู่ร่วมงานแต่งชั้นแน่"
"เมื่อไหร่ล่ะ"
"หลังปีใหม่*หน่ะ"
"ดีเลย นิธิน นายได้อยู่ฉลองทั้งสี่งาน**เลยหล่ะทีนี้ ฮ่ะๆๆๆ"
"เออ ว่าแต่นายเถอะ นิธิน" วิษณุถามบ้าง "นายล่ะมีครอบครัวรึยัง"
"หึหึ ยังเลย"
"อ่าวเหรอ แล้วมีใครที่นู่นรึเปล่า นายมาจากที่ไหนนะ มุมไบใช่มั๊ย"
"อืม ใช่ๆ ก็ไม่มีหรอก ทางนู้นมีแค่พ่อกับแม่และพี่ชายหน่ะ"
"อ่าวเหรอ" วิษณฺรับคำ
แทนไทเพื่อนร่วมงานหนุ่มไทยคนเดียวออกปากแซว "ระวังหลงเสน่ห์สาวไทยเหมือนวิษณุกับเอเจนะ หุหุ"
"หืมม?" นิธินมองหน้าทุกคนงงๆ
เพื่อนที่ชื่อเอเจเฉลย "ก็ภรรยาชั้นเป็นคนไทยเหมือนกับแฟนวิษณุไงล่ะ"
"อ่าวเหรอ" นิธินรับคำ
วิษณุรับคำ "ใช่ ๆ เธอชื่อเมย์ เดี๋ยววันหลังแนะนำให้รู้จักนะ"
"ได้สิ ยินดีเลยหล่ะ"เขาหันไปพูดกับแทนไท "ผมอยากใช้ภาษาไทยได้ รบกวนคุณแทนไทสอนผมด้วยนะครับ"
"โห รบกวนอะไรกันครับ ยินดีเลย หรือถ้าอยากจะให้ดีกว่านั้น คุณก็ต้องดูข่าว ดูละครทุกวัน รับรองไม่เกินเดือน พูดได้ฟังออกแน่
แต่ผมว่าให้เอเจกับวิษณุสอนก็ได้นะ สองคนนี้พูดไทยเก่งจะตาย ฮ่ะๆๆ"
"ฮ่ะๆๆๆ"
สี่หนุ่มหัวเราะกันครื้นเครงและกินข้าวกันต่อก่อนไปทำงานกันตามปกติ หลังเลิกงานเพื่อนร่วมงานทั้งสามกะจะชวนนิธินไปออกกำลังกายใกล้ๆแถวนั้น แต่ทว่า....
"เดี๋ยวชั้นไปเล่นแถวสยามหน่ะ"
"หะ จะไปทำไมตั้งสยาม" วิษณุตกใจ "แถวที่ทำงานตั้งเยอะแยะก็มี ไปทำไมวะ แถวนั้นค่าเมมเบอร์แพงจะตาย"
"ก็..."เขาบอกกับเพื่อนว่าไปจีบคนแถวนั้นไม่ได้แน่ "แถวนั้นเครื่องเล่นดีกว่าหน่ะ แถมมีเทรนเนอร์เก่งๆด้วย"
เอเจมองหุ่นเพื่อนไม่ค่อยเชื่อ "โห อย่างนายต้องมีเทรนเนอร์ด้วยเหรอวะเนี่ย"
"ตอนนี้ไม่แล้ว คือชั้นกะว่าจะไปเล่นสักพักและจะลองสมัครเป็นเทรนเนอร์ที่นั่นดูหน่ะ"
"ก็ว่าอยู่ หุ่นอย่างนายน่าจะไปเป็นเทรนเนอร์มากกว่า"
"เออๆๆ ไม่เป็นไรแต่วันหลังไปเล่นคริกเก็ตกันนายต้องไม่พลาดนะ" วิษณฺนัดหมายเพื่อนล่วงหน้า
"ไม่พลาดอยู่แล้ว แล้วเจอพรุ่งนี้กันนะ"
"เจอกันๆ"
นิธินแยกจากเพื่อนเพื่อจะไปออกกำลังกายอย่างที่บอก ชายหนุ่มตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้เห็นหน้าช่างตัดผมคนนั้น
"หะ..มู๋.."นิธินเรียกชื่อนั้นเบาๆ และหลุดหัวเราะกับตัวเอง ที่ออกเสียงภาษาไทยไม่ค่อยได้ แต่เขาก็คิดถึงเจ้าของชื่อนี้จริงๆ

"ฮ้าดด ชิ้ว!" อธิปพงศ์จามออกมาฉาดใหญ่ขณะจะทำสีผมให้ลูกค้าที่นั่งรอ
"เป็นไรไปหมู" พี่กุ้งที่ทำผมอยู่ใกล้ๆกันถามลูกน้องคนสนิท
"ไม่เป็นไรครับพี่" เขาตอบพลางคนน้ำยาในถ้วยต่อ
"หรือว่ามีแอบด่าพี่หมูในใจ ใครคะ"ป๊อกกี้ที่อยู่ทางซ้ายออกปากแซว
"ใครเค้าไม่ขี้เมาท์เหมือนแกหรอก" พี่กุ้งตอบให้
"อร๊ายย คุณแม่ใจร้าย..."ป๊อกกี้ยังไม่หยุด "แหมหนูก็หมายถึงน้องปิ่นหน่ะสิคะ นางอาจกำลังคิดถึงพี่หมูอยู่ก็ได้ ใครจะรู้"
“นั่น ไม่ทันขาดคำก็มาพอดี” ช่างผมจอมเมาท์บุ้ยใบ้ไปทางหน้าร้าน ที่ปิ่นปักมายืนอยู่
“สงสัยน้องปิ่นคงจะกลัวน้ำท่วมนะคะ ดูสิ” ป๊อกกี้แอบจิกกัดปิ่นปักกับชุดนักศึกษากระโปรงสั้นจุ๊ดและเสื้อตัวเล็กคับติ้ว  ผิวค่อนคล้ำนั้นถูกพลางด้วยครีมพอกผิวให้ดูขาวขึ้น ดวงตากลมนั้นโดดเด่นด้วยขนตาปลอมและคอนแท็กเลนส์บิ๊กอายส์ เธอสะบัดผมยาวที่ได้รับการดัดและทำสีน้ำตาลทองไปทางข้างหลังเพื่อความมั่นใจ
“สวัสดีด่า ทำอะไรดีคะวันนี้” ป๊อกกี้ปราดเข้าไปทักทายด้วยความหมั่นไส้เต็มประดา
ปิ่นปักมองหน้าป๊อกกี้ด้วยหางตาเช่นกัน อธิปพงศ์จึงละมาคุยกับปิ่นปักที่หน้าร้านก่อน

“พี่หมุ...” ปิ่นปักเข้าไปหาแฟนหนุ่มทันที “วันนี้ไปงานวันเกิดเพื่อนกับปิ่นน้า”
"ที่ไหนล่ะ”
“รูท” เธอหมายถึงสถานบันเทิงชื่อดังย่าน RCA
“ได้สิ..." อธิปพงศ์รับคำยิ้มๆ  "วันนี้ปิ่นเลิกเร็วเหรอ หืมม์"
"อืม เบื่อๆหน่ะ เลยกลับมาก่อน"
"เดี๋ยวปิ่นกลับไปก่อนนะ ถ้าพี่เลิกงานแล้วจะโทรบอก"
หญิงสาวพยักหน้ารับคำ
"จุ๊บบ.."
เธอเขย่งตัวหอมแก้มแฟนหนุ่มก่อนจะจากไป อธิปพงศ์ยิ้มให้แฟนสาวตัวเองและเดินหันหลังเข้าไปทำงานต่อในร้าน

  ปิ่นปักยิ้มสะใจอย่างผู้ชนะ เพราะเธอรู้ว่ามีผู้หญิงหลายคนมองอธิปพงศ์อยู่ในตอนนั้น อีกทั้งบรรดาเพื่อนร่วมงานของแฟนหนุ่มที่ไม่ค่อยจะถูกกับเธอเท่าไหร่ การประกาศความเป็นเจ้าของต่อหน้าธารกำนัลอย่างนั้นคงจะทำให้หลายคนเลิกยุ่งกันแฟนเธอและสร้างความเจ็บใจให้คนที่ไม่ชอบหน้าเธอไม่น้อย

  นิธินที่ยืนอยู่มุมหนึ่งไม่ห่างจากร้านทำผมของอธิปพงศ์เห็นภาพทั้งหมดที่เพิ่งผ่านไป
ในตอนแรกที่กะจะเดินผ่านหน้าร้าน แต่พอเห็นหญิงสาวคนนั้นที่ทำให้อธิปพงศ์ออกมาหาก็ทำให้เขาต้องยืนดูอยู่ห่างๆ
เธอคนนั้นคงเป็นแฟนกับอธิปพงศ์เพราะกล้าแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแก้มใสนั้นออกนอกหน้า
ชายหนุ่มถอนหายใจให้ตัวเองหนึ่งเฮือกก่อนจะค่อยๆเดินผ่านหน้าร้าน เขามองเห็นอธิปพงศ์กำลังบรรจงทำสีผมให้ลูกค้า นิธินหยุดมองภาพนั้นอย่างหลงใหลก่อนจะถอนหายใจเมื่อภาพเมื่อครู่ลอยเข้ามา แต่ก็ช้ากว่าบางคนในร้านที่ปราดเข้ามาทักทาย
"อร๊ายย คุณอินเดียยย.."
ป๊อกกี้แทบสไลด์ตัวเองมาเพื่อเรียกนิธินเอาไว้ ทำให้ทุกคนในร้านหยุดมองกันเป็นตาเดียว
"วันนี้มาทำอะไรคะ อ่อ ไม่ใช่สิ how are you today anddd what do you come here"
"I come for gym. So..you?" นิธินตอบไปตามจริงถึงจะงงกับคนแปลกหน้าที่พรวดพราดเข้ามาทักเล็กน้อย
"My name is Pokky I'm a hairstylist." ช่างผมแนะนำตัวเสร็จสรรพพร้อมจิกตาหวานไปยังนิธิน
"umm" นิธิรับคำและพยายามมองไปที่อธิปพงศ์ เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มผิวขาวส่งยิ้มมาให้ เขาจึงยิ้มและพยักหน้าตอบ
 เมื่อนิธินได้เจอคนที่อยากเจอเรียบร้อยแล้วจึงรีบขอตัวทันที
"Oop! sorry I have to go now, bye"
"เดี๋ยวสิคะคุณขา คู้ณณณ...."ป๊อกกี้แทบกรี๊ดเมื่อเจอชิ่งกันซึ่งๆหน้าแบบนี้ เมื่อชายหนุ่มไปแล้วหล่อนจึงเดินหน้าหงิกเข้ามาในร้าน
"ไงล่ะพี่ป๊อกกี้ วันนี้นกกระจิบหรือนกกระจอก" หญิงส่งเสียงล้อเลียนที่ป๊อกกี้จิกผู้ชายไม่สำเร็จ
"ได้มาทั้งฝูงเลยค่ะ แอร๊ยยย"
พี่กุ้งเลยสมทบ "เพลาๆ มั่งเถอะนังป๊อกชั้นไม่อยากเห็นแกเป็นไข้หวัดนกตายซะก่อน"
"แอร๊ยยยย คุณแม่อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ หยาบคายที่สุด"
ป๊อกกี้ปิดหน้าปิดตาทำเป็นเสียใจก่อนจะไปหลังร้าน พี่กุ้งนึกถึงชายหนุ่มอินเดียคนนั้นแล้วคิดอะไรบ้างอย่างได้ สัญชาติญาณพิเศษของผู้ชายแบบเขาสัมผัสได้ว่าลูกค้าคนนี้กำลังจะมาจีบใครสักคนในร้าน และจากแววตาที่มองอธิปพงศ์เมื่อครู่ ก็ทำให้พอรู้ได้ว่าเป็นมือขวาของเขาอย่างแน่นอน
พี่กุ้งมองลูกน้องตัวเองอย่างกรุ่นคิด ถึงแม้เจ้าตัวจะเป็นชายแท้ที่มีแฟนมานับไม่ถ้วน แต่ก็ใช่ว่าจะคบกันได้นาน และนายจ้างอย่างเขาเองก็ไม่ค่อยชอบแฟนคนปัจจุบันของอธิปพงศ์เท่าไหร่ ถึงอธิปพงศ์จะมีผู้ชายคนนี้มาชอบแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นจะมาดีกับน้องชายตัวเองหรือเปล่า
ที่สำคัญอธิปพงศ์จะว่ายังไงถ้าฝ่ายนั้นลงมือสานสัมพันธ์กับเขาอย่างจริงจังนี่สิ คือสิ่งที่เขาอยากเห็น

  นิธินที่ตอนนี้อาบน้ำเสร็จแล้วและเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อออนไลน์คุยกับครอบครัวและเพื่อนๆที่อินเดียสักพักจึงล้มตัวลงนอน ร่างใหญ่ในกางเกงขาสั้นตัวเดียวพลิกตัวไปมาด้วยยังไม่สบายใจกับเรื่องเดียวที่อยู่ในหัว เขานึกถึงรอยยิ้มที่อธิปพงศ์มอบให้ในวันนี้ ถึงแม้เขาจะรู้สึกดีใจที่เจออธิปพงศ์ แต่ก็ไม่อยากหลอกตัวเองกับรอยยิ้มที่ได้รับ เพราะอธิปพงศ์เองก็เป็นผู้ชาย ที่สำคัญยังมีแฟนแล้วด้วย คงจะเป็นไปไม่ได้เลยกับโอกาสของเขา
แต่นิธินก็ยังตัดใจไม่ได้ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน

"ปิ่น พรุ่งนี้มีเรียนกี่โมง"อธิปพงศ์ถามแฟนสาวหลังจากกลับมางานงานวันเกิดเพื่อนเธอแล้ว
"มีเรียนบ่ายหน่ะ ทำไมเหรอ"
"เปล่า พี่ก็ถามเฉยๆ ถ้าตื่นเช้าจะได้ปลุกไงล่ะ"
"นึกว่ามีอะไร" หญิงสาวบ่นเบาๆ
"เออ ปิ่น ทีหลังอย่าทำเหมือนวันนี้ได้มั๊ย"
"ทำอะไร"
"ก็วันนี้เราทำอะไรล่ะ" อธิปพงศ์หมายถึงที่เธอหอมแก้มเขากลางที่สาธารณะ
"ยังไง อ๋อ ทำไม พี่อายเหรอที่บอกกับคนอื่นว่ามีแฟนแล้ว"
"พี่ไม่อายหรอก แต่ปิ่นหัดอายตัวเองบ้างดีกว่า"
"จะอายอะไร ก็ปิ่นเป็นแฟนพี่ หรือนี่พี่อายที่เป็นแฟนปิ่นหะ"
"ปิ่น ฟัง! ปิ่นเองเป็นผู้หญิงนะ ปิ่นไม่แคร์เหรอที่คนอื่นเค้าจะมองว่าปิ่นเป็นยังไงที่ทำอย่างนั้น"
"ปิ่นไม่แคร์ ให้มันรู้ไปสิว่าปิ่นเป็นแฟนพี่หมู ใครก็อย่ามายุ่ง"
เขาเหนื่อยที่จะทะเลาะกับแฟนสาวอีกแล้วเลยหันหลังให้
"เอาเถอะ ถ้าปิ่นยังไม่รู้จักที่จะให้เกียรติตัวเอง ก็คิดเองละกันว่าพี่พูดไปพี่หมายถึงอะไรกันแน่"
อธิปพงศ์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายกับแฟนสาว ซึ่งก็เป็นเรื่องเดิมๆ ที่เธอชอบแสดงความเป็นเจ้าของ บางครั้งก็วุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของเขามากเกินไป และเธอก็ต้องการให้เขาดูดีตลอดเวลา เพื่อตัวเธอเองจะได้ดูดีและเป็นที่ชื่นชมของเพื่อน ๆ
เขาตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า ในวัย33ของเขานี้เขาต้องการอะไรบ้างในชีวิต
ตอนนี้เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานที่รัก เป็นช่างผมคิวทองฝีมือดีที่มีรายได้ไม่ขาด แค่ยังไม่ได้มีร้านเป็นของตัวเองเพราะเขาคิดว่ายังไม่พร้อม
เขามีครอบครัวที่ดีจากแม่และยายที่คอยให้กำลังเสมอ
แต่สิ่งที่เขาตามหามากที่สุดคือคนที่มาเติมเต็มหัวใจให้ อธิปพงศ์เริ่มจริงจังกับความรักตั้งแต่ขึ้นเลขสาม ชายหนุ่มมองว่าเขาต้องการใครสักคนที่พร้อมจะมั่นคงกับเขาโดยที่ไม่ยึดติดกับเปลือกนอกที่ดูดี แต่อยากให้รับรู้ในตัวตนจริงๆ
ซึ่งกับปิ่นปัก เขาก็ไม่แน่ใจว่าเธอจะใช่หรือเปล่า  เพราะอธิปพงศ์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่ทำให้เธอดูดีในสายตาคนรอบข้าง มากกว่าคนรักที่คอยดูแลใส่ใจและเข้าอกเข้าใจในทุกเวลา
แต่ชายหนุ่มก็ยังตัดสินไม่ได้ว่าปิ่นปัก ยังสามารถทำแบบนั้นได้หรือเปล่า ถึงแม้เธอจะทำผิดซ้ำซาก แต่เขาก็อดเห็นใจเธอไม่ได้
ถ้าเวลาไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนของปิ่นปักได้ เห็นทีว่าเขาคงต้องเปลี่ยนคนดูใจใหม่อีกครั้งจริง ๆ


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....

ปล.-*DIWALI PUJA (ดิวาลีบูชา) คือ เทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของชาวอินเดียทั่วโลก ถือเป็นวันดีที่ความดีชนะความชั่ว มีการจุดเทียน ตะเกียงน้ำมัน ตกแต่งไฟฟ้าหลากหลายสี ให้เกิดแสงสีสว่างสวยงามเพื่อบูชาพระลักษมีให้นำโชคลาภ ความร่ำรวย ความมั่งคั่งเข้าสู่บ้านและสมาชิกในครอบครัว การเริ่มต้นเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อยู่ในช่วงเดือนตุลาคม หรือเดือนพฤศจิกายน ตามปฏิทินจันทรคติ และเฉลิมฉลองต่อเนื่องเป็นเวลา 5 วัน   
**สี่งานที่เอเจว่า คือ สี่งานที่เอเจว่า คือ 1.งานแต่งงานของวิษณุ
2.งานคเณศจตุรถี(การบูชาพระพิฆเนศ จะกระทำในวัน แรม 4 ค่ำ เดือน 9 และวันแรม 4 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งถือว่าเป็นวันกำเนิดของพระพิฆเนศ)อยุ่ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน
3.งานนวราตรี(เทศกาลบูชาพระแม่ทุรคา,พระแม่ลักษมี,พระแม่สุรัสวดี 9 วัน 9คืน)อยู่ในช่วงต้นเดือนตุลาคม
4.งานปีใหม่อินเดีย DIWALI PUJA (ดิวาลีบูชา)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-02-2012 16:11:56
โอ๊ะ! หมูมีแฟนสาวขี้หึงอยู่แล้วทั้งคน แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ดั่งใจเท่าไหร่เนอะ :z1:
เลิกแล้วมาคบกับหนุ่มอินเดียหล่อล่ำดีกว่า เร้าใจกว่าเยอะ :laugh:
ตามมาอ่านแว้วว บวกเป็ดเป็นกำลังใจจ้า :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-02-2012 19:17:39
ถ้าหมูคิดจะหาคนมาเต็มให้กับชีวิต ก็ต้องหาคนครบสมบูรณ์ๆนะจ๊ะ
ในที่นี้หมายถึงคนที่บรรลุวุฒิภาวะทั้งทางกาย อารมณ์ สังคมน่ะจ้ะ
อย่างปิ่นปักนี่ดูเหมือนจะแค่ทางกายเองนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-02-2012 20:16:18
เปลี่ยนเลย เชียร์ขาดใจ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 03-02-2012 20:33:19
สงสารหนุ่มอินตะระเดีย พี่หมูของเราจะหันมาชอบผู้ชายด้วยกันมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 03-02-2012 20:34:36
นิธินนี่ สเป็กเลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 04-02-2012 04:44:14
ฮู้ววววว มาอ่านเเล้วค่า

ชอบพระเอกมากเลย สเป๊กเลยคะ สูง เข้ม ล่ำ แอร๊ยยย

หนูอยากได้ๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 04-02-2012 11:31:36
ตามเข้ามาอ่านแล้วนะคะ เปิดเรื่องตอนที่ 1 ก็ทำให้อยากรู้ว่านิธินกับหมูมาเป็นคนรักกันได้ไง
แต่พออ่านตอนที่ 2 ยิ่งทำให้อยากรู้เข้าไปใหญ่ ว่าจุดเปลี่ยนจากการที่หมูมีแฟน(เมีย)เป็นผู้หญิง
แต่กลับมาเป็นคนรักของนิธินได้ ไม่ตามอ่านตอนต่อไปคงไม่ได้แล้ว +1 แทนคำขอบคุณ  :pig4:
 
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 04-02-2012 16:03:16
มาแล้วค่ะ ขอบคุณทุกท่านมาก ๆ นะคะ

3


  โตโยต้าวีออสสีบอนซ์ แล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้านหลังย่อมของครอบครัววิษณุ ที่เจ้าตัวพ่อกับแม่ของออกมาต้อนรับเพื่อนๆอย่างตื่นเต้น แทนไทซึ่งเป็นคนขับเปิดประตูลงมาคนแรก พร้อมกับเอเจและนิธินที่มีของฝากติดมา หนุ่มๆเข้าไปหาพ่อแม่เพื่อนและทักทายตามมารยาท

"นมัชการ"พวกเขาทั้งสามทักทายพ่อแม่เพื่อนตามธรรมเนียมอินเดีย โดยยกมือไหว้และก้มลงไปสัมผัสเท้า และพ่อแม่ของวิษณุก็ก้มตัวลงรีบจับมือเพื่อนลูกไม่ให้สัมผัสเท้า เป็นการแสดงความเกรงใจและยินดีรับการคาราวะจากผู้ด้อยอาวุโส
"ตามสบายเถอะ เหอะๆ วันนี้เพื่อนวิษณุมากันเพียบเลย" คุณพ่อของวิษณุพูดกับทุกคนอย่างใจดี
"ใช่ลูก วันนี้แม่เตรียมอาหารไว้เยอะแยะ ต้องช่วยกันกินให้หมดนะ"
"เอ้อ พ่อกับแม่ครับ" วิษณุนึกได้ "นี่ นิธินครับ เพิ่งมาจากอินเดีย"
"โอ้ว จริงเหรอเนี่ย" คุณแม่วิษณุตื่นเต้น "เป็นไงมั่ง มาจากที่ไหนล่ะจ๊ะ"
"มหารัชฏะ,มุมไบครับ"
"จ้ะ มาเมืองไทยครั้งแรกรึเปล่าเนี่ย"
"ครับ" นิธินรับคำยิ้มๆ
"มา พ่อว่าเราไปคุยกันในบ้านดีกว่านะลูก เหอะๆๆๆ"
วิษณุพาทุกคนเข้าไปในบ้าน เพื่อพูดคุยและรับประทานอาหารอินเดียฝีมือคุณแม่เมื่อทุกคนนั่งกันที่ห้องรับแขกแล้ว วิษณุก็พาแฟนสาวมาแนะนำให้นิธินรู้จัก
"นี่ ๆ แนะนำให้รู้จัก เมย์ นี่นิธิน เพื่อนร่วมงานผม เพิ่งมาจากอินเดีย นิธินนี่เมย์ แฟนชั้นเอง"
"สวัสดีครับ"
"สวัสดีค่ะ"หญิงสาวผิวขาวผมยาวตัวเล็ก บุคลิกสดใสน่ารักในชุดกระโปรงลายดอกไม้ที่มีผ้ากันเปื้อนคลุมอยู่
"I heard that you and Vichnu will be married soon, congratulations"
" Śukriyā (ขอบคุณค่ะ) "
หญิงสาวตอบรับเป็นภาษาฮินดี ทำให้นิธินประหลาดใจไม่น้อย
"โหย เก่งจังเลยครับ"
"ก็พูดได้ ฟังออกนิดๆ หน่อยๆ หน่ะค่ะ" หญิงสาวแบ่งรับแบ่งสู้
"ก็อย่าให้พูดเก่งมากหล่ะดีแล้ว" เอเจออกความเห็น "เมียชั้นนะ เมื่อก่อนพูดไม่ได้ฟังไม่ออกเดี๋ยวนี้เป็นไง ด่าไฟแล่บเลย"
"5555 ฮ่ะๆ" ทุกคนหัวเราะกันครื้นเครง และหยิบยกเรื่องนู้นเรื่องนี้มาคุยกันอย่างสนุกสนาน  และรับประทานอาหารกลางวันกับพ่อแม่วิษณุ จนตกบ่ายกลุ่มเพื่อนทั้งสามจึงขอตัวกลับ
"พรุ่งนี้อย่าลืมนะ เจอกันที่สนามคริกเก็ต...โดยเฉพาะนาย นิธิน เดี๋ยวชั้นจะแนะนำนายให้ทุกคนรู้จัก" วิษณุบอกกับทุกคนก่อนกลับ
"ไม่พลาดอยู่แล้ว ชั้นอยากเล่นคริกเก็ตมานาน พลาดได้ไงล่ะ"
"เออแล้วนี่ไปไหนต่อ" แทนไทหันมาถามนิธิน
"เดี๋ยวไปฟิสเนตหน่ะ"
"โอ้โห ฟิตเว้ย" เอเจกระเซ้า
"ฟิตอะไรล่ะ อาทิตย์ที่แล้วก็ไปแค่สองวันเอง ก็ช่วงนี้ยังโอเคนะ งานยังไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่ ก็ยังไปเล่นได้"
"นั่นสิ55555"
นิธินหัวเราะไปกับเพื่อน ๆ แต่ในใจก็คิดถึงช่างผมหน้าใสคนนั้น เขารู้ตัวว่าผิดที่คิดถึงคนที่เป็นไปไม่ได้ แต่อีกใจก็อยากเห็นหน้าอธิปพงศ์เสียเหลือเกิน ชายหนุ่มได้แต่ยิ้มให้กับกลุ่มเพื่อนกลบเกลื่อนความรู้สึกหม่นเศร้าข้างใน

เสียงไดร์เป่าผมและกลิ่นน้ำยาเคมียังคงฟุ้งกระจายในร้านตัดผมแห่งนี้ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดจึงมีลูกค้ามาใช้บริการมากกว่าวันธรรมดา อธิปพงศ์และช่างคนอื่นจึงวุ่นวายกับการตัดแต่งทรงผมจนแทบไม่ได้วางมือ ป๊อกกี้ที่เพิ่งเสร็จจากการทำรีบอนด์ให้ลูกค้าคนหนึ่ง ถอนหายใจไล่ความเหนื่อยล้า ก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาซด และมองไปที่หน้าร้านอย่างเหนื่อยหน่ายในตัวปิ่นปักที่มานั่งเฝ้าอธิปพงศ์ทำงานในเวลาที่หล่อนว่าง
ถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ป๊อกกี้ก็อดหงุดหงิดแทนไม่ได้ที่เห็นหญิงสาวมาทำตัวเกะกะอย่างนี้ อีกอย่างปิ่นปักชอบทำหน้าบูดบึ้งตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาอธิปพงศ์ทำผมให้ลูกค้าผู้หญิง ที่เจ้าตัวจะนั่งจ้องลูกค้าตาแทบถลน เพื่อบอกเป็นนัยว่า "คนนี้ของชั้น"
"โอ๊ย! แม่มรึงเป็นปลิงหรือไงวะอีดอก" ช่างผมรุ่นน้องอุทานออกมาอย่างหัวเสีย และเข่นเขี้ยวในใจ
"ถ้าพี่หมูเลิกกับอีนี่เมื่อไหร่ กูจะปิดร้านเลี้ยงทุกคนเลยคอยดู๊!.."

"พี่หมู..." ปิ่นปักที่นั่งหน้าหงิกอยู่ร้องเรียกอธิปพงศ์ที่กำลังจะออกนอกร้าน
 "จะไปไหนอ่ะ"
"ไปเข้าห้องน้ำ" อธิปพงศ์ตอบเซ็งๆ และเดินไปอย่างที่บอก ส่วนป๊อกกี้ก็ได้ทีจิกกัด
"ไม่ตามไปเหรอจ๊ะ คริ คริ คริ"
ช่างทุกคนในร้านยิ้มสะใจ หญิงสาวเลยได้แต่กระแทกตัวเองลงบนเก้าอี้
"ฮึ้ย!!"
"โอ๊ะ ๆ อย่านั่งแรงสิคะ เดี๋ยวเก้าอี้หักรับน้ำหนักไม่ไหวนะคะ อิอิอิ"
ปิ่นปักมองป๊อกกี้ที่กำลังลอยหน้าลอยตาอย่างอาฆาต และนั่งกอดอกจมอยู่กับความเบื่อหน่ายต่อไป

อธิปพงศ์ถอนหายใจแรงๆกับแฟนสาวของตัวเอง ถึงแม้เขาจะบอกกล่าวหรือสั่งสอนเธอยังไงแต่ก็ไม่ได้ผล อธิปพงศ์ไม่ชอบที่เธอจุ้นจ้านกับเรื่องงานของเขามากจนใช่ที่ เขารู้สึกเกรงใจร่วมเพื่อนงานทุกคน โดยเฉพาะพี่กุ้ง เจ้านายและพี่ชายที่เขารักเคารพที่ไม่เคยแสดงอาการโกรธเคือง หรือต่อว่าเขาแม้แต่น้อย

ชายหนุ่มเดินมาถึงห้องน้ำ และตรงไปยังโถปัสสาวะ เขาทำธุระส่วนตัวจนเสร็จ เขาหันไปทางขวาก็พบว่ามีร่างใหญ่ของชายอินเดียที่เขาเคยเจอกำลังทำธุระอยู่เช่นกัน เขากะว่ารอจนอีกฝ่ายเสร็จธุระแล้วค่อยทักทาย แต่เจ้าตัวก็หันมาเจอเขาซะก่อน
 ส่วนนิธินที่ตอนนี้ดีใจจนแทบเหวอ เมื่อเจอคนที่อยากเจอแบบใกล้ ๆ อย่างนี้ เขารีบทำธุระและออกมาคุยกับอีกฝ่ายที่อ่างล้างมือ
"สวัสดีครับคุณหมู" นิธินเริ่มทักทายเขาด้วยภาษาไทยสำเนียงอินเดีย ทำให้อธิปพงศ์แอบขำเสียไม่ได้
"สวัสดีครับคุณนิธิน do you remember me?"
"Of course, because you are my first barber in Thailand"
"Thak you,that's my pleasure ครับ"
นิธินยิ้มรับกับคำพูดนั้นของคนในเชิ้ตขาวตรงหน้า เขาจึงไม่ปล่อยให้โอกาศนี้หลุดลอย
"เอ่อ คุณหมู do you like swimming" เขาลองเสี่ยงดวงถามดู
"Yes, I like. I always go to swim when I after the work or I have the free time"
"Well,umm do you mind if I want to know some convinience swimming pools or go to swim with you...some how"
นิธินลุ้นกับคำตอบทึ่เหมือนเป็นประตูด่านแรกของเขา
"Sure, that sounds great" อธิปพงศ์รับคำด้วยแววตายินดี เพราะเขาก็ดีใจเหมือนกันที่เจอคนชอบว่ายน้ำเหมือนเขา
"that's great,thak you for accepting" นิธินดีใจกับการตอบรับสีหน้าชายหนุ่มตอนนี้เปี่ยมไปด้วยความสุขนัก
"That's my pleasure ครับ"
ชายหนุ่มทั้งสองคนเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกัน ทั้งสองยิ้มให้กันเล็กน้อยก่อนจาก และอธิปพงศ์ก็ขอตัวไปทำงานต่อ นิธินมองนามและยิ้มบาง ๆ ให้กับตัวเอง เช่นกัน

แต่เมื่ออธิปพงศ์ไปถึงหน้าร้าน ก็พบว่ามีคนมามุงดูอยู่เต็มไปหมด เขาเองก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงพยายามแทรกตัวเข้าไปในร้าน
“มึงคิดว่ามึงเป็นนางฟ้ามาจากสวรรค์ชั้นไหนคะ ถึงได้มาทำตัววิเศษวิโสกว่าคนอื่นอย่างนี้” ป๊อกกี้เดือดจัดกำลังชี้หน้าด่ากับปิ่นปักอยู่ในร้าน
“ทำมะ ชั้นจะทำอะไรมันก็เรื่องของชั้น” ปิ่นปักยังคงเชิ่ดหน้า เพราะคิดว่าตัวเองไม่ผิด
“แต่ปิ่นทำอย่างนี้กับลูกค้าพี่ไม่ได้นะ” พี่กุ้งที่เหลืออดกับหญิงสาวถึงกับออกโรงเอง “ปิ่นมาว่าลูกค้าพี่อย่างนี้ได้ไง”
ป๊อกกี้สมทบ“ใช่ค่ะ หนอยย มานั่งเกะกะในร้านแถมยังจะไล่ลูกค้าอีก”
อธิปพงศ์เห็นอย่างนั้นเลยรีบเข้าไปห้าม
“เดี๋ยว ๆ พี่เกิดอะไรกันขึ้น”
ปิ่นปักเห็นอย่างนั้นเลยเข้าไปเกาะแขนอธิปพงศ์อย่างหาที่พึ่ง
“ก็แฟนสุดที่รักของพี่หน่ะสิคะ แค่มีลูกค้ามารอตัดผมกับพี่ แต่นังนี่ตะเพิดใส่เลยค่า..”
“จริงเหรอปิ่น” เขาหันไปถามแฟนสาว
“ก็..ก็ปิ่นไม่ชอบนี่...”
“ปิ่น ปิ่นทำแบบนี้ไม่ได้นะ ลูกค้าคือคนที่มาหาพี่ ปิ่นมีสิทธิ์อะไรมายุ่งกับลูกค้าพี่”
“ใช่ซี่ ปิ่นมันไม่มีสิทธิ์ เอาเลย จะทำอะไรก็ทำไปเลย ไม่ต้องมาสนใจปิ่นอีก...”
หญิงสาวสะบัดตัวฝ่าไทมุงวิ่งออกจากร้าน อธิปพงศ์ปวดหัวกับแฟนตัวเอง และก็หันมาขอโทษพี่กุ้งกับทุกคน
“เอ่อ ผม ขอโทษแทนปิ่นด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องหรอก” พี่กุ้งตอบเรียบ ๆ “พี่รู้ว่าหมูทั้งสั่งทั้งสอนปิ่นเค้ามามากแล้ว แต่บัวเหล่าที่ห้าอย่างเค้า คงไม่มีวันโผล่พ้นน้ำได้หรอก”
“หูยย บาดลึก” ป๊อกกี้ตาโตกับคำเปรียบเปรยของพี่กุ้ง “พี่หมูคะ อย่าหาว่าน้องอย่างนั้นอย่างนี้เลย วันหลังเอาโซ่ล่ามมันไว้กับห้องนะคะ จะได้ไม่ออกมาก่อความเดือดร้อนให้ชาวบ้านเค้าอีก”
“อืม พี่ขอโทษแกด้วยนะ”
“ค่ะๆ”
“เอ่อ แล้วลูกค้าคนนั้นยังอยู่มั๊ย”
“อยู่ ๆ ตอนนี้นังหญิงสระผมให้”
“อืม ดี ๆ พี่ก็คงต้องไปขอโทษเขาด้วยเลย เฮ้อ..”
อธิปพงศ์ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยิบชุดกระเป๋ากรรไกรมาสวมที่รอบเอว และจัดอุปกรณ์ทำผมให้เข้าที่ก่อนจะเริ่มงานอีกครั้ง

 ไทมุงหน้าร้านเห็นว่าไม่มีอะไรแล้วจึงสลายตัว ยกเว้นแต่นิธินที่ยังยืนมองเข้ามาในร้าน
ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดเมื่อกี๊ อยู่ในสายตาของเขามาโดยตลอด
ถึงแม้นิธินจะแอบชอบอธิปพงศ์ แต่เขาก็ไม่ได้ยินดีแม้แต่น้อยที่เห็นอธิปพงศ์ทะเลาะกับแฟน
เขาไม่อยากเห็นใบหน้าขาวใสนั้นต้องเศร้าหมอง ไม่อยากเห็นแววตาเจ็บปวดจากดวงตากลมโตนั้นเลย

“เฮ้อ มันเรื่องอะไรของเราวะ” เขาพูดกับตัวเองเบา ๆ และเดินจากไปโดยที่อธิปพงศ์ก็เพิ่งเห็นแผ่นหลังบึกบึนของเขาผ่านไปเช่นกัน

 นิธินออกกำลังกายตามปกติ ทั้งแบบคาร์ดิโอที่เพิ่มความอดทนกระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และแบบเวท เทรนเนอร์ที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
 ร่างใหญ่ที่มีแต่กล้ามเนื้อบึกบึนสวยงามในเสื้อกล้ามนั้นซุ่มไปด้วยเหงื่อ  ขณะที่เขาจะถอดเสื้อเพื่ออาบน้ำ นิธินก็แอบเป็นห่วงความรู้สึกอธิปพงศ์ วันนี้ดูเหมือนว่าชายหนุ่มทั้งทำงานหนัก ไหนจะเจอเรื่องน่าปวดหัวเมื่อตอนบ่าย แต่นิธินก็ส่ายหัวไล่ความคิดนั้นให้ออกไป เพราะไม่อยากจะเจ็บปวดกับความรู้สึกหวานขมที่ตัวเองสร้างขึ้น ถึงแม้เขารู้สึกดีที่ได้เจอหน้าอธิปพงศ์ก็ตาม
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 04-02-2012 16:06:48
วันนี้มาสองตอนค่ะ เพราะพรุ่งนี้ไม่อยู่บ้าน ฝากด้วยนะคะ ขอบคุณทุกคนอีกครั้งค่ะ


4


"ไปก่อนนะคะทุกคน เดี๋ยวต้องรีบไปแต่งตัวค่ะ วันนี้ไปเที่ยววว" ป๊อกกี้รีบร่ำลาทุกคนเมื่อใกล้เวลาปิดร้าน
"ขอให้ได้ขอให้โดนนะพี่ป๊อก"
"จ้า ขอบใจนะจ๊ะน้องหญิง"
"บั๋ยบายยย"
"เดี๋ยวพรุ่งนี้คอยดูเถอะ ถ้ามันไม่มาทำงานบ่าย ก็ต้องบ่นเรื่องมันนกให้ฟัง"
พี่กุ้งหัวเราะเบาๆกับลูกน้องตัวแสบ และพี่กุ้งก็หันมาพูดกับอธิปพงศ์ลูกน้องมือวางอันดับหนึ่ง
"เรื่องวันนี้ อย่าคิดมากนะ ถ้าไม่สบายใจก็ ไปหาอะไรทำ ไม่ก็ มาอยู่บ้านพี่สักพักแล้วกลับบ้านก็ได้"
พี่กุ้งให้กำลังใจลูกน้องที่รักเหมือนน้องชาย ถึงแม้แทบจะหมดความอดทนกับแฟนสาวเจ้าปัญหาของเขาก็ตาม
"ครับ ขอบคุณครับพี่กุ้ง"
ทุกคนช่วยกันเก็บร้านสักพักก็เสร็จ จึงออกมาที่หน้าร้าน แต่อธิปพงศ์ก็ตาไวเห็นนิธินอีกครั้ง
"อ่าว คุณนิธิน"
ทุกคนมองตามก็เห็นนิธินเหมือนเพิ่งจะเดินมาถึงหน้าร้านเขาจึงส่งยิ้มทักทายให้กับทุกคน
"สวัสดีขรับ" นิธินทักทายทุกคนก่อน
"สวัสดีครับคุณนิธิน where are  you going" พี่กุ้งตอบรับ
"I...."นิธินมองไปทางอธิปพงศ์ เห็นว่าเขาดูไม่ค่อยสบายใจ เลยลองเสี่ยงหาเรื่องคุยดู
 "I want to go to swim but I don't know where it is"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็ตอบว่า "I want to go to swim too, you can go with me"
"Oh! That's great, thank you"
นิธินประหลาดใจเล็กน้อยที่อธิปพงศ์จะพาเขาไปว่ายน้ำ แต่เขาก็ดีใจมากกว่าที่จะมีโอกาศได้ใกล้ชิดอีกฝ่าย แถมยังเป็นโอกาศที่รวดเร็วเสียด้วย
"อืม ๆ ดีแล้วหล่ะหมู ไปออกกำลังกายบ้างก็ดีเหมือนกันนะ" พี่กุ้งสมทบ
"ครับ ถ้างั้นผมไปก่อนนะพี่" อธิปพงศ์ ยกมือไหว้เจ้าของร้านและหันมาพูดกับนิธิน
"o.k,let's go to the pool"
"ครับ" เขาหันมารับคำอธิปพงศ์ และหันมาลาพี่กุ้งกับหญิง"สวัสดีขรับ"
 พี่กุ้งกับหญิงรับไหว้อย่างประหลาดใจ พอคนทั้งสองเดินไปแล้ว หญิงจึงหันมามองพี่กุ้งที่เหมือนคิดอะไรอยู่
"พี่กุ้ง มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"เปล่าจ้ะ ป่ะกลับกันเถอะ"
 ถึงกระนั้นพี่กุ้งยังคงมองตามอธิปพงศ์และนิธินอย่างครุ่นคิด เขามองเห็นถึงสายตาที่นิธินมองอธิปพงศ์ก็สามารถสรุปได้เลยว่า
หนุ่มอินเดียรูปหล่อคนนี้มีใจให้กับน้องรักของเขาอย่างแน่นอน
 ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าผู้ชายคนนี้หวังดีและจริงใจกับอธิปพงศ์หรือเปล่า

อธิปพงศ์และนิธินเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อจะไปสระว่ายน้ำ นิธินเลยบอกกับอธิปพงศ์ว่า
"คุณหมู ครับ พูด ภาษาไทยกับผมก็ได้นะครับ"
"อ่าว คุณฟังออกเหรอ"
"what?"
"Do you understand the meaning?"
"No"

"อ่าว" แล้วจะให้เขาพูดไทยด้วยทำไมเนี่ย อธิปพงศ์ไม่เข้าใจ
"I beg you please translate to English when you taking in Thai "
"โอเคครับ"
นิธินยิ้มให้อธิปพงศ์ก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้าไปลง.สถานีราชเทวีเดินต่ออีกนิดก็ถึงสระว่ายน้ำในที่สุด
ทั้งสองไม่รอช้าที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงน้ำ
 อธิปพงศ์ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วออกมายืดกล้ามเนื้อเตรียมพร้อม แต่พอนิธินออกมาจาห้องน้ำ ก็ทำให้เขาอดมองอย่างตกตะลึงไม่ได้
 ร่างสูงใหญ่ล่ำสันนั้นดูน่าเกรงขามสมชายในกางเกงว่ายน้ำสามเหลี่ยมที่แทบจะปิดความใหญ่โตของส่วนนั้นไว้ไม่มิด
ที่นังป๊อกกี้เคยเมาท์ว่าของแขกเค้าใหญ่ เห็นทีว่าจะจริง
มิน่าล่ะ มันถึงอยากได้ อธิปพงศ์คิดอย่างนั้น
เมื่อเขานั่งลงข้างๆ ชายหนุ่มก็ได้สติ เขาจึงยืดกล้ามเนื้อต่อ หารู้ไม่ว่าสายตาของนิธินก็กำลังเก็บรายละเอียดในตัวเขาเช่นกัน รูปร่างได้สัดส่วนกับผิวขาวเนียนอมชมพูช่างน่ามองในกางเกงว่ายน้ำสีดำตัวจิ๋วยิ่งนัก ไหนจะสะโพกกลมกลึงนั้นอีกเล่า จะไม่ให้เขาเผลอมองได้อย่างไร

นิธินหย่อนตัวลงไปในน้ำและแตะขอบสระบอกว่า
"ลงมาเถอะครับ"
อธิปพงศ์พยักหน้ารับคำและค่อยหย่อนตัวมาเช่นกัน นิธินจึงขอว่ายนำไปก่อน
คนทั้งสองเพลิดเพลินกับการผ่อนคลายในสายน้ำสักพัก  นิธินเห็นอธิปพงศ์ค่อยผ่อนคลายก็ดีใจ เมื่ออธิปพงศ์แตะขอบสระเขาจึงบอกกับนิธินว่า
"Nitin shall we do the challenge"
"Are you sure?"
"Sure"
"O.K"
ชายหนุ่มทั้งสองกระโจนออกตัวโดยไม่มีใครยอมใคร แต่สุดท้ายแล้วอธิปพงศ์ก็พ่ายแพ้ให้กับความแข็งแกร่งของนิธินอยู่ดี อธิปพงศ์หอบแฮ่กเมื่อแตะขอบสระ เขาพึงไหล่กับสระน้ำด้วยอยากพักเหนื่อย
“You win” เขาหันมาบอกนิธินที่ยิ้มอ่อนโยนให้
“No, I’m not” นิธินตอบกลับโดยที่ยังมีรอยยิ้มอบอุ่นให้ อธิปพงศ์เข้าใจว่าชายหนุ่มถ่อมตัว จึงไม่ได้คิดอะไรต่อจากนั้น

"Thank you for your kindness today" นิธินขอบคุณอธิปพงศ์ก่อนจะลากัน
"You’re welcome"
"See you, bye"
“Bye ครับ”
  นิธินมองตามหลังอธิปพงศ์จนเขาหายไปกับฝูงชนที่แน่นขนัด เขาดีใจที่ทำให้อธิปพงศ์มีรอยยิ้ม และเขาเองก็มีความสุขมากเช่นกัน ถึงมันจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม
 
  ทางด้านอธิปพงศ์เองก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้มาออกกำลังกายกับเพื่อนผู้ชายด้วยกัน ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักนิธินได้ไม่นาน แต่ก็รู้สึกว่านิธินมีความจริงใจต่อเขา เวลาที่อยู่กับนิธินเหมือนว่าเขาจะได้รับการปกป้องดูแลจากอีกฝ่าย ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ชายด้วยกันแท้ ๆ แต่ทำไมเขาถึงชอบเวลาที่ฝ่ายนั้นแสดงท่าทีห่วงใยเขานัก
ถึงนิธินไม่ได้พูด แต่แววตาอ่อนโยนจากคนตัวโตก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่มองเห็น
“คงจะเป็นเพราะว่าเค้าตัวใหญ่กว่าเรามั๊ง เราเลยรู้สึกว่าเราเป็นหนูตัวเล็ก ๆ ไปเลย” อธิปพงศ์สรุปเอง และยิ้มบาง ๆ ให้กับความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังก่อตัวในหัวใจ

แต่พออธิปพงศ์กลับถึงห้องพักก็ต้องมาเจอกับเรื่องเดิม ๆ ที่น่าปวดหัว...
  “พี่หมู....ทำไมไม่โทรหาปิ่น”  ปิ่นปักคาดคั้นทันทีเมื่ออธิปพงศ์ถึงห้อง
“ก็พี่งานยุ่งอยู่ ปิ่นก็เห็น”
“ทำไม มันจะยุ่งอะไรนักหนาหะ ไม่มีเวลาออกมาเลยรึไง”
“ปิ่น...” เขาชักจะหมดความอดทนกับแฟนสาว “ปิ่นเป็นคนเดินออกไปเองนะ แล้วจะให้พี่ทำไง”
“ทำไมล่ะ นี่พี่หมูไม่สนใจปิ่นเลยใช่มั๊ย”
“ปิ่น ปิ่นทำแบบนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วรู้ตัวบ้างมั๊ย ปิ่นน่าจะหัดมีเหตุผลและนึกถึงคนอื่นเค้าบ้าง รู้ตัวบ้างมั๊ยว่าคนอื่นเค้าต้องมาเดือดร้อนเพราะความเอาแต่ใจของปิ่นเนี่ย”
“พี่หมูนั่นหล่ะ” ปิ่นปักยังดื้อแพ่ง “ทำไมยังทำงานที่ร้านนี้อยู่ได้ รู้ก็รู้ว่าอีป๊อกกับพี่กุ้งชอบหาเรื่องปิ่น ทำไมหะพี่หมูไม่คิดจะเปิดร้านเป็นของตัวเองบ้างเหรอ”
“ปิ่น!!” อธิปพงศ์เริ่มโกรธจริง ๆ “หยุดพูดถึงคนอื่นได้แล้ว ถ้าปิ่นยังไม่เลิกทำตัวอย่างนี้ เราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก”
"พี่หมู...พี่หมูไม่รักปิ่นแล้วเหรอ"
หญิงสาวออดอ้อนด้วยประโยคเดิมๆ ที่เธอใช้กับชายหนุ่ม
แต่อธิปพงศ์ตัดสินใจทำในสิ่งที่แตกต่างจากทุกครั้ง
"ปิ่น ปิ่นต้องถามตัวเองดีกว่าว่าปิ่นรักพี่รึเปล่า"
หญิงสาวเข้ามากอดชายหนุ่มทันที "รักสิ ปิ่นรักพี่หมูมากเลยนะ รู้มั๊ย"
"แล้วปิ่นรักพี่เพราะอะไรหล่ะ"
"ก็ปิ่นรักพี่หมูหน่ะ พอใจยัง"
อธิปพงศ์จับสองแขนของแฟนสาวและถามอย่างจริงจัง
"ปิ่นต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า ปิ่นรักพี่ที่ตรงไหน"
"พี่หมูหมายความว่าไง"
"เท่าที่เราคบกันมา พี่ว่าปิ่นยังไม่รู้จักพี่ ไม่ใช่สิ ปิ่นยังไม่ยอมรับและไม่เคยทำความเข้าใจในตัวพี่เลย"
ไม่ทันที่หญิงสาวจะโต้ตอบ อธิปพงศ์ก็พูดในสิ่งที่ตัดสินใจแล้วว่า
"พี่ว่าเราลองห่างกันสักพักดีกว่า"
ปิ่นปักชะงักกับสิ่งที่ได้ยิน และมีท่าทีแข็งกร้าวขึ้น
"พูดงี้หมายความว่าไง นี่พี่หมูจะเลิกกับปิ่นใช่มั๊ย"
"ถ้าเรายังทะเลาะกันทุกวันอย่างนี้พี่ว่าเราลองห่างกันดูดีกว่า เผื่อว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้น"
"ไม่ ยังไงปิ่นก็ไม่ไปไหนทั้งนั้น"
อธิปพงศ์หมดความอดทนกับปัญหานี้แล้ว เขาจึงตัดสินใจทันที
"เอางั้นก็ได้ ถ้าปิ่นไม่ไป พี่จะเป็นคนไปเอง!"
อธิปพงศ์หันไปเก็บเสื้อผ้าและของใช้ใส่กระเป๋า ปิ่นปักเห็นแฟนหนุ่มทำจริงเลยกรีดเสียงห้าม
"เดี๋ยว พี่หมู ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ มาคุยกันให้รู้เรื่อง"
"พี่ว่าพี่พูดหมดแล้วนะ"
"พี่หมูทำอย่างนี้ไม่ได้นะ นี่พี่หมูจะทิ้งปิ่นเหรอ หะ"
"ใช่"
ปิ่นปักแทบช๊อคกับคำตอบตรงแรงที่ได้ยิน
"เพราะชั้นจะหมดความอดทนกับนิสัยแย่ ๆของเธอแล้ว ที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้จักชั้น และไม่เคยเข้าใจชั้นเลย ชั้นอยู่กับเธอเพราะรัก ใช่ ชั้นรักเธอ ถ้ารักของชั้นมันไม่ได้ทำให้เธอเข้าใจชั้นมากขึ้นเลย ชั้นก็คงต้องขอชีวิตของชั้นคืน"
“พี่หมู...”
“คิดให้ดี ๆ แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
ชายหนุ่มออกไปจากห้องอย่างเด็ดเดี่ยว ทิ้งให้แฟนสาวอึ้งกับท่าทีที่เธอเพิ่งเคยเห็น
หรือว่าเวลาของเธอจะจบลงแล้ว
“ไม่ได้ ชั้นยอมไม่ได้ ชั้นจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ฮือๆๆ!!!” ปิ่นปักแผดเสียงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อย่างไรก็ไม่ยอมเสียตำแหน่งของตัวเองอย่างแน่นอน




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:3/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 04-02-2012 16:36:31
ติดตามฮับ  นู๋ปิ่นทำตัวดีๆซิลูก

เลิกกันก็เลิกกันดีๆ 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 04-02-2012 17:23:04
เย้ๆๆ จะเลิกกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 04-02-2012 21:26:00
สมน้ำหน้านังปิ่นปักผม ฮ่า ฮ่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 04-02-2012 22:35:22
ถ้าหมูเลิกกับยัยปิ่นแม่จะพาเธอไปทำบุญไหว้พระ๙วัดเพื่อ
เสดาะเคราะห์และรับโชค จากนั้นก็จัดงานเลี้ยงฉลองสามวันสามคืนเลย 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/255
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 05-02-2012 14:50:58
นิยายเรื่องใหม่คุณน้ำพริก  แหะๆเห็นช้าไปนิด ??  ดูๆไปเขาจะรักกันตอนไหนนี่
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 05-02-2012 15:06:58
แอร๊ยยยย หนูก็อยากไปว่ายน้ำ ค่าาาาา

แต่สงสัย ต้องฝึกภาษาอีกเยอะเลนเรา อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: แมวดำ ที่ 05-02-2012 16:00:35
จะเลิกกับยัยปิ่นแล้วสินะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-02-2012 17:09:49
แฟนเค้าทะเลาะกัน แต่ทำไมฉันดีใจล่ะนี่ :laugh:
ถ้าจะเลิกกันนี่ไม่เกี่ยวกับใครเลยนะปิ่นปัก เธอทำตัวเองล้วนๆเลยอ่ะ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-02-2012 18:04:27
 o13สะใจ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 05-02-2012 19:18:28
เข้ามาอีกที สี่ตอนไปแล้วค่ะ  :try2:

ปิ่นปักทำตัวงี่เง่าขนาดนี้ สมควรแล้วนะจ๊ะหล่อน  :m14:

อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู็เกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดียด้วยค่ะ

แปลกดี ส่วนมาก theme นักเขียนส่วนใหญ่ มักเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง หรือไม่ก็ไำทย

ได้ลองอ่านอะไรใหม่ๆแปลกๆบ้างก็เปลี่ยนรสชาดดีค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 05-02-2012 20:09:53
อ่า วันนี้คนเขียนโชคดีได้กลับมาอัฟนิยายให้คุณผู้อ่านทัน (ตอนแรกนึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว)-- ตอนใหม่มาแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นต์(ที่เป็นกำลังใจให้คนเขียน)มาก ๆๆๆ นะคะ ทุกคน

5
 อธิปพงศ์พยายามประคองสติตัวเองให้หายจากความโกรธที่ครอบงำ เขานั่งสูบบุหรี่สงบสติแถวนั้นสักพัก จึงค่อยเรียงลำดับเหตุการณ์และเหตุผล  เขานึกว่าปิ่นปักจะมีการเปลี่ยนแปลงที่เข้ากับเขาได้มากขึ้น แต่ที่เธอพูดมาทั้งหมดแสดงให้เห็นว่าเขาก็เป็นแค่เครื่องประดับของเธออยู่ดี
หลายสิ่งที่เธอเคยทำให้เขามีความสุขและมีความสุขทยอยฉายอยู่ในหัวของชายหนุ่ม
หลายครั้งที่เขารับไม่ได้กับนิสัยเอาแต่ใจและชอบก้าวก่ายเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวของเขา
หลายครั้งที่เธอว่าร้ายเพื่อนร่วมงานและเจ้านายที่เคารพของเขา
  อธิปพงศ์จึงย้อนถามตัวเองว่าชีวิตนี้เขาต้องการคนอย่างปิ่นปักอยู่เคียงข้างจริงหรือเปล่า ถึงแม้จะผ่านผู้หญิงมาเยอะ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ยังไม่เคยเจอคนที่ใช่สำหรับเขาเสียที...
เวลานี้เขาต้องการที่สงบ ๆ ไว้พักใจ เขาจึงตัดสินใจโทรหาพี่กุ้ง เจ้านายที่เคารพและพี่ชายที่เขานับถือ
"ฮัลโหล พี่กุ้งครับ"
"ว่าไง มีอะไรรึเปล่าหมู"
"พี่กุ้งอยู่บ้านรึเปล่าครับ คือ..."
พี่กุ้งพอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้นจึงบอกว่า
"ได้สิ พี่อยู่บ้าน มาได้เลยนะ เอ้อ แต่วันนี้พี่จีจี้อยู่ด้วยนะ แต่มาได้"
"ขอบคุณครับ"

"ใครโทรมายะนังกุ้ง" เพื่อนสาวพี่กุ้งคนดังกล่าวถาม
"หมูหน่ะ วันนี้คงทะเลาะกับแฟน เลยหลบมานอนด้วย"
"ว้าย น้องหมูมามีไรเหรอเหรอคะ" เพื่อนสาวในชุดผ้าไหมสีม่วงบางเบาทาบอก
"อืม สงสัยคงจะแย่แล้วแหล่ะ ถึงได้หลบมานอนที่อื่น" พี่กุ้งคาดการณ์เพราะปกติลูกน้องคนนี้ไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใครง่ายๆ แต่วันนี้เห็นที่ว่าเจ้าตัวคงจะไม่สามารถอยู่ร่วมห้องกับแฟนสาวได้อีกต่อไปแล้ว
 สักพักอธิปพงศ์ก็มาถึงบ้านหลังน้อยของพี่กุ้ง เขายกมือไหว้เจ้านายและเพื่อนอย่างมีสัมมาคาระวะ คนทั้งสามคุยกันสักพัก  แต่เพื่อนสาวพี่กุ้งเห็นสีหน้าของอธิปพงศ์อย่างนั้นเลยบอกว่า
"น้องหมูคะ เดี๋ยวไปอาบน้ำเสร็จแล้วลงมาข้างล่างนะคะ เดี๋ยวพี่ดูไพ่ให้" เพื่อนสาวพี่กุ้งรับอาสาทำนายดวงจากไพ่ยิปซีให้ชายหนุ่มที่กำลังมีความทุกข์
"ครับ ขอบคุณครับพี่จีจี้"ชายหนุ่มรับคำและเดินไปอาบน้ำ พี่กุ้งจึงหันมาถามเพื่อนตัวเอง
"มันจะช่วยได้เหรอวะแก"
"อืม เผื่อมีอะไรดีขึ้นนะ ไม่ลองไม่รู้" คนทั้งสองมองหน้ากันอย่างเป็นห่วงรุ่นน้อง ถึงแม้จะไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของอธิปพงศ์ แต่ก็หวังว่าเจ้าตัวจะหมดกรรมกับแฟนสาวเจ้าปัญหาซะที

"เอาล่ะค่ะ ตั้งสมาธิให้ดี ใช้มือซ้ายสับไพ่ นึกถึงสิ่งดีๆ ที่อยากให้เกิดขึ้นนะคะ" พี่จีจี้ที่แปลงร่างเป็นแม่หมอยิปซีบอกให้อธิปพงศ์ทำตามขั้นตอนการทำนายดวง
"สับไพ่ได้ตามที่ต้องการเลยนะคะ แล้วก็ตัดไพ่เป็นสองกองค่ะ"
อธิปพงศ์ทำตามและส่งให้พี่จีจี้รวมไพ่ ส่วนพี่จีจี้ที่คลี่ไพ่บอกต่อว่า
"ทีนี้เลือกมาสิบสองใบนะคะ"
อธิปพงศ์ทำตามที่บอก เมื่อได้ไพ่ครบแล้วการทำนายก็เริ่มขึ้น
พี่จีจี้ดูคำทำนายจากไพ่ทั้งสิบสองแล้วอธิบายให้รุ่นน้องฟัง
"อูยยย....."
อธิปพงศ์และพี่กุ้งมองหน้ากันสงสัย
"เป็นยังไงเหรอครับพี่จีจี้"
"ไพ่บอกว่าช่วงนี้น้องหมูกำลังหนักใจกับบางสิ่งอยู่...มากๆด้วยนั่นก็คือ เรื่องความรัก น้องหมูมีแนวโน้มที่จะจัดการหรือตัดสินใจบางสิ่งบางอย่างในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งก็เป็นทางออกที่ดี และที่สำคัญตอนนี้มีคนรอแสตนด์บายอยู่ด้วยค่ะ!"
"ยังไงครับพี่"
"นี่เลยค่ะ ไพ่ใบนี้ ขึ้นที่ตำแหน่งความรัก แสดงว่าตอนนี้มีคนแอบชอบน้องหมูอยู่และคนนี้เขาก็เป็นคนจริงจังกับความรักมากๆด้วย ที่สำคัญ เค้าจะมาพร้อมความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับตัวน้องหมูค่า"
"จริงเหรอครับ" อธิปพงศ์ตอบรับเสียงเบาด้วยว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
แต่พี่กุ้งคิดตามและมีรอยยิ้มเล็กๆที่มุมปาก หวังว่าหนุ่มอินเดียคนนั้นคือคนที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงตามคำทำนาย
"อะค่ะ สุดท้ายแล้วน้องหมูจะได้พบชีวิตใหม่ที่มีความสุขค่ะ"
อธิปพงศ์ยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆ พี่จีจี้จึงบอกว่า "พี่อ่านตามความหมายของไพ่นะคะ น้องหมูไม่ต้องเก็บเอาไปคิดมาก เดี๋ยวรอดูภายในสามเดือนนี้นะคะ ว่าจะเป็นอย่างที่พี่พูดรึเปล่า"
"ครับ ขอบคุณมากนะครับพี่จีจี้"
"ค่ะ"
"อืม ดึกแล้ว ยังไงก็แยกย้ายกันพักผ่อนดีกว่านะ" เจ้าของบ้านอย่างพี่กุ้งลุกจากกลุ่มเป็นคนแรก "หมูพักผ่อนเยอะๆ นะ"
"ครับพี่กุ้ง" อธิปพงศ์รับคำก่อนจะขึ้นไปนอน ทั้งที่ในหัวยังวนเวียนกับบางสิ่งตลอดเวลา
"ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหรอ" ชายหนุ่มสงสัยกับคำนี้เป็นอย่างมาก แล้วใครกันล่ะที่จะนำความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ว่ามาสู่ตัวเขา


บ่ายวันอาทิตย์นี้ นิธินมาตามคำเชิญของกลุ่มเพื่อนเพื่อเล่นคริกเก็ต กีฬาโปรดของผู้ชายอินเดียอย่างพวกเขา
 คนอินเดียเป็นชนชาติที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว ดังนั้นไม่แปลกที่จะเห็นเด็กๆ และผู้หญิงมากันเต็มไปหมดในที่แห่งนี้
เหมือนเป็นการพบปะของชาวอินเดียที่มาทำงานในกรุงเทพไปในตัว
"นี่ ๆ มารู้จักกัน" เอเจแนะนำครอบครัวตัวเองกับนิธินบ้างหลังจากเล่นกีฬาเสร็จแล้ว
"นี่ชะเอม แฟนชั้น" เขาหมายถึงสาวไทยมีครรภ์ที่ตัวเองโอบไหล่อยู่
"นมัชเต" เธอทักทายเขาแบบอินเดีย และยกมือไหว้
"นมัชเต"
"และนี่" เขาลูบท้องภรรยาตัวเอง "ลูกน้อยของชั้น"
"เห็นใจเอเจมันหน่อย เงี้ยหล่ะ คนเห่อลูก" วิษณุหยอกเพื่อน
นิธินถามเธอ"กี่เดือนแล้วครับ"
"สี่เดือนค่ะ" เธอตอบเป็นภาษาฮินดี เชื่อแล้วจริงๆว่าภรรยาเพื่อนคนนี้พูดฮินดีได้อย่างที่เจ้าตัวบอก
"ครับ ยินดีด้วยนะครับ"
เขายิ้มยินดีให้ครอบครัวเพื่อน แต่ในใจก็อยากรู้เหมือนกันว่าเพื่อนกลุ่มนี้จะยังให้ความสนิทสนมกับเขาเหมือนเดิมไหม หากรู้ว่าเขาเป็นเกย์

"เออ พวกนายช่วยอะไรชั้นหน่อยได้มั๊ย" นิธินเลียบๆ เคียงๆ บอกเพื่อน ๆ ขณะอยู่ด้วยกันบนรถทั้งสี่คน
"มีไรเปล่า" แทนไทที่เป็นคนขับถาม
"คือ ต่อไปช่วยพูดไทยกับชั้นเยอะๆได้มั๊ย"
"เอ้ออ ไอ้นี่ฟิตจริงๆ ทำไมวะ ไปปิ๊งสาวไทยคนไหนใช่มั๊ย" เอเจก็ถาม
"อื้ม ก็ทำนองนั้น"
"จริงดิ" ทุกคนอุทานพร้อมกัน
"เฮ้ย บอกหน่อยดิ ใครวะ เค้าเป็นใคร" วิษณุซักบ้าง
"เค้าเป็นช่างตัดผม ในร้านที่มาบุญครอง"
"เหรอๆ...แล้วเป็นไงสวยมั๊ย"เอเจอยากรู้ทันที
"อืม ไม่รู้สิ เพราะเค้าไม่ใช่ผู้หญิง"
"เค้าเป็นเลดี้บอยเหรอวะ
"เปล่า เค้าเป็นผู้ชาย...ชั้นเป็นเกย์ ชั้นชอบผู้ชายด้วยกันอยู่แล้ว"
นิธินหลับตาลงเมื่อพูดจบ เพราะเขาได้บอกทุกอย่างให้เพื่อนรู้ไปหมดแล้ว วันนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้คุยกับเพื่อนก็ได้
แต่วิษณุที่นั่งข้างๆกลับตบไหล่เขาดังป้าบ นิธินมองหน้าเพื่อนงงๆ เอเจกับแทนไทก็หันมายิ้มให้กำลังใจเขาเช่นกัน
"ไม่ว่านายจะเป็นอะไร นายก็คือเพื่อนของพวกเราเสมอ"  วิษณุบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ใช่ ๆ" สองเสียงจากเบาะหน้าก็ยืนยันหนักแน่น
วิษณุเลยบอกกับเพื่อนว่า
"นิธิน นายรู้มั๊ยเมืองไทยน่าอยู่ตรงไหน ตรงที่เมืองไทยไม่แบ่งชนชั้นวรรณะของคนและไม่ได้เหยียดเพศ นายรู้มั๊ยในออฟฟิศเราไม่ได้มีนายคนเดียวที่เป็นเกย์ซะหน่ย"
เอเจพูดบ้าง"ใช่ๆ ที่นี่เมืองไทยนะเว้ย กระเทยกับเกย์เดินกันว่อนจนชั้นชินแล้วหล่ะ ไม่เชื่อลองไปสีลมตอนกลางคืนดูสิ 555+"
"ใช่ ชั้นเองก็มีเพื่อนที่เป็นเกย์อยู่บ้าง อย่าคิดมากเลยนะนิธิน" แทนไทช่วยยืนยัน
"ขอบใจพวกนายมากนะ" นิธินซาบซึ้งใจในตัวเพื่อนๆ ถึงแม้จะรู้จักกันไม่นาน แต่ทุกคนก็มีความจริงใจให้เขา
"ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นเพื่อนกันมีอะไรก็ต้องช่วยกันสิ จริงมั๊ย"
เอเจหันมาบอกกับนิธินหนักแน่น
"เออ วันหลังพาพวกเราไปดูคนนั้นของนายหน่อยสิ" วิษณุพูดขึ้นมา
"ได้เลย"
แทนไทยเลยบอกว่า "เพื่อนเราจะจีบคนไทย ถ้างั้นพวกเราต้องช่วยกันจัดคอสอินเทนซีฟภาษาไทยให้นิธินแล้วหล่ะ"
สี่หนุ่มหัวเราะกันมีความสุข อย่างไรพวกเขาก็เอาใจช่วยนิธินให้สมหวังในความรักครั้งนี้อยู่แล้ว


อธิปพงศ์มาทำงานในเช้าวันใหม่พร้อมกับพี่กุ้ง แต่เมื่อถึงร้านเขาก็พบกับปิ่นปักที่มารอ
"พี่หมู...." ปิ่นปักหันไปบอกกับพี่กุ้ง "ปิ่นขอคุยอะไรกับพี่หมูหน่อยนะคะ"
พี่กุ้งพยักหน้าและปล่อยให้คนทั้งสองอยู่ด้วยกัน อธิปพงศ์มองหน้าแฟนสาวที่มาง้องอน และคิดถึงสิ่งที่เขาคิดมาตลอดทั้งคืน
"พี่หมู...”
“ว่าไง...”
“ปิ่น ขอโทษ ปิ่นสัญญานะ ว่าต่อไปปิ่นจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีกแล้ว”
ถึงมันจะเป็นประโยคเดิม ๆ ที่อธิปพงศ์ได้ยินจนชินหู แต่ชายหนุ่มก็ตอบกลับไปเหมือนเดิม
“อืม..ถ้าคิดได้อย่างนั้นก็ดี”
“หืมม์ พี่หมูหายโกรธปิ่นแล้วใช่มั๊ย” ปิ่นปักอ้อนแฟนหนุ่มทันที
“อืม...” อธิปพงศ์พยักหน้าเรียบ ๆ แต่หญิงสาวคงไม่ได้สังเกตแววตาของแฟนหนุ่ม ที่ไม่ได้ฉายแววเสน่หาเหมือนแต่ก่อน
“น่ารักที่สุดเลย”
ปิ่นปักสวมกอดแฟนหนุ่มและกอดรัดแน่นอย่างสมหวัง แต่หญิงสาวคงไม่รู้ว่า นี่คือโอกาสสุดท้ายของเธอที่จะพิสูจน์ตัวเองกับแฟนหนุ่มคนนี้
 หากเธอยังคงทำตัวแบบเดิมอยู่  อธิปพงศ์คิดว่าเขาจะไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว....

  ส่วนป๊อกกี้กับหญิงที่แอบดูอยู่ห่าง ๆ ได้แต่เจ็บใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า จึงได้แต่เก็บมาบ่นให้ทุกคนที่ร้านฟัง
“โหยย พี่หมูนี่ก็ยังไงคะเนี่ย ถึงทนมีแฟนเป็นนางยักษ์นางมารอย่างนี้”
“พี่หมูเค้าอาจจะรักน้องปิ่นมากก็ได้มั๊ง”
“โอ๊ย นั่นมันละครช่องเจ็ดแล้วค่ะนังหญิง ใครคงไม่โง่รักแบบไม่ลืมหูลืมตาหรอกค่ะ ไอ้เราก็นึกว่าคราวนี้เลิกแน่ อุตส่าห์ไปดู เฮ้ออ เพลียย”
พี่กุ้งได้ยินอย่างนั้นจึงพูดขึ้นมาเบา ๆ
“หึหึ ไม่นานหรอก”
ป๊อกกี้กับหญิงจึงหันมามองหน้าพี่กุ้งทันที
“หะ คุณแม่ว่าไงนะคะ”
“เปล่า ๆ” พี่กุ้งกลบเกลื่อน “ป่ะ ๆ ช่วยกันเปิดร้านได้แล้วทุกคน”
“ค่ะๆๆ”
พี่กุ้งเดินไปดูหน้าร้านก็เห็นอธิปพงศ์เดินมาพอดี เขายิ้มให้กำลังใจลูกน้องและถามอย่างเป็นห่วง
“ดีกันแล้วใช่มั๊ย”
“ครับ” อธิปพงศ์ยิ้มรับคำ แต่พี่กุ้งก็สัมผัสได้ถึงความอดทนครั้งสุดท้ายของลูกน้องเหมือนกัน

"นิธิน ๆ" วิษณุเรียกเพื่อน ขณะมาที่มุมกาแฟในตอนบ่าย
"วันนี้ไปเข้าคลาสเต้นกันป่าว" เขาหมายถึงการเต้นรำแบบอินเดียที่ชาวอินเดียทุกคนต้องเต้นเป็นเพื่อการเข้าสังคม และชาวอินเดียในเมืองไทยอย่างพวกเขาจึงจำเป็นต้องมีการรวมตัวเพื่อฝึกซ้อมการเต้นรำไม่ให้ลืมเลือน
"ว่าไง ไปป่ะ อย่าบอกนะว่าจะไปเล่นฟิสเนส"
"ไปสิ นายชวนทั้งทีไม่ไปได้ไง"
"ดีมาก งั้นเจอกันตอนเย็นที่ห้องซ้อมเต้นเลยนะ"
"อืมๆ"
นิธินพยักหน้าตอบรับ เขาควักมือถือขึ้นมาดู ชายหนุ่มมองเบอร์ของอธิปพงศ์ที่เมมไว้ในเครื่อง เขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไป
ที่ถึงได้เบอร์ของคนที่ชอบแล้วแต่ก็ไม่กล้าโทร ก็เพราะว่าไม่รู้จะชวนอีกฝ่ายคุยเรื่องอะไร เขาถอนหายใจกับมือถือตัวเองและเก็บมันเข้าที่เดิม ก่อนจะออกไปทำงานของเขาต่อ

“นิธิน ๆๆ” แทนไทสไลด์ตัวมาหา เหมือนมีอะไรรีบร้อน
“ว่าไง..”
“นายบอกว่า คนนั้นที่นายมองอยู่ เป็นช่างตัดผมใช่ป่ะ”
“ใช่ ๆ มีไร”
“เย็นนี้หลังนายเข้าคลาสเต้น พาไปดูหน่อยได้ป่ะ”
นิธินมองหน้าเพื่อนด้วยความตกใจ “เฮ้ย! อยากดูขนาดนั้นเลยเหรอวะ”
“เปล่า ๆ พอดีว่า ไอ้บอส น้องชั้นมันอยากตัดผม ชั้นเลยบอกว่าเดี๋ยวจะพามันไปตัดร้านของคนที่นายกำลังจีบอยู่”
“เอางั้นเลย” นิธินงงกับความอยากรู้อยากเห็นของเพื่อนตัวเอง
“เอางั้นแหล่ะ นี่ชั้นบอกวิษณุกับเอเจแล้วนะ พวกมันก็จะไปด้วย”
“โห...” นิธินหันไปมองหน้าเพื่อนอีกสองคนที่หันมายิ้มทะเล้นให้ ถึงแม้จะอยู่คนละมุมกับเขา
“อืม ๆ ก็ได้” เขาตอบรับเพื่อน และนั่งลงทำงานต่อ
“ว่าไป  วันนี้ก็โชคดีเหมือนกันนะที่ไม่ต้องหาเรื่องไปเจอเค้าเอง” นิธินอมยิ้มให้กับกลุ่มเพื่อน และหน้าใส ๆ ของคนที่เขาคิดถึง  คุณหมูจะว่าไงหนอถ้าได้เจอกับเพื่อนๆ ของเขาอย่างนี้ นิธินเองก็อยากรู้เหมือนกัน




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:4/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 05-02-2012 20:13:14
จิ้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



อุ๊ยๆๆๆๆจะเจอกันอีกแล้ว  :-[
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 05-02-2012 20:16:59
เข้ามาอีกที สี่ตอนไปแล้วค่ะ  :try2:

ปิ่นปักทำตัวงี่เง่าขนาดนี้ สมควรแล้วนะจ๊ะหล่อน  :m14:

อ่านเรื่องนี้แล้วได้ความรู็เกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดียด้วยค่ะ

แปลกดี ส่วนมาก theme นักเขียนส่วนใหญ่ มักเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง หรือไม่ก็ไำทย

ได้ลองอ่านอะไรใหม่ๆแปลกๆบ้างก็เปลี่ยนรสชาดดีค่ะ  :L2:

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ นี่ความแปลกใหม่นี้คือสิ่งที่คนเขียนพยายามหามามอบให้คุณผู้อ่านในเรื่องนี้ค่ะ ดีใจมากเลยค่ะที่ชอบ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 05-02-2012 20:50:38
ว้าว  วันนี้โชคดี  ได้อ่านเรื่อยๆ

....แน่ะๆ ตานิธิน ยิ้มกว้างก็บอกมาเห๊อะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 05-02-2012 21:30:31
ครบแล้วค่ะ ตามทันแล้วนะคะ สนุกดีค่ะ จะตามลุ้นต่อนะคะว่าจะลงเอยแบบไหน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-02-2012 21:47:11
ยัยปิ่นจะเป็นนางฟ้าได้กี่วันกั๊นนน..เชื่อเหอะ  ไม่นานหรอก
นางต้องกลายร่างเป็นนางมารร้ายอีกครั้ง เพราะสิ่งนั้นมันคืออุปนิสัยอันถาวรของนาง
ว่าแต่ว่าคราวนี้โชคช่วยนิธินจริงๆ  จะได้ไปเจอหน้าหมูอีกแล้ว
เอาใจช่วยให้เกิดความสนิทสนมขึ้นอีกระดับล่ะกัน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 05-02-2012 23:04:45
ชอบเรื่องนี้ ตามอ่านแน่นอนคับ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: mujika_keita ที่ 06-02-2012 08:49:32
ว๊าวววววววว เรื่องใหม่  :man1:

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:5/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 06-02-2012 16:04:38
ตอนที่ 6 มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆๆๆ นะคะทุกคน

6

“สวัสดีครับ มีช่างประจำหรือยังครับ” พี่กุ้งที่ว่างจึงมารับลูกค้าหน้าเคาท์เตอร์ด้วยตัวเอง เขาถามแทนไทที่เป็นลูกค้าหน้าใหม่ของวันนี้
“เอ่อ ยังครับ แต่เพื่อนแนะนำมาว่าให้ตัดกับช่างหมูอ่าครับ”
“เหรอครับ ตอนนี้หมูไม่ว่าง ไม่ทราบว่ารีบมั๊ยครับ”
“ไม่รีบครับ ไม่เป็นไร ผมรอได้” แทนไทรีบรับคำ พี่กุ้งเห็นว่าลูกค้าคนนี้ดูอยากรู้อยากเห็นเป็นพิเศษเลยถามต่อ
“ไม่ทราบว่าคุณตัดเองหรือเปล่าครับ”
“ปะ เปล่าครับ เดี๋ยวน้องชายมาตัด คือตอนนี้เข้าห้องน้ำอยู่หน่ะครับ”
“อ่อ ครับ” พี่กุ้งรับคำ และรอดูต่อ สักพักก็เห็นนิธินและเพื่อนชาวอินเดียอีกสองคนกับเด็กหนุ่มที่คาดว่าเป็นน้องของลูกค้าคนนี้ เดินมาที่ร้าน เจ้าของร้านจึงถึงบางอ้อทันที
“สวัสดีครับคุณนิธิน” พี่กุ้งทักทายลูกค้าก่อนตามมารยาท
“สวัสดีครับ..เอ่อ..” นิธินพยายามตอบกลับเป็นภาษาไทย แต่ก็นึกชื่อพี่กุ้งไม่ออก
“ผม กุ้งครับ เป็นเจ้าของร้าน”
“ครับ คุณ กรุ้งง”
“เฮ้ยย ไม่ต้อง รรรร ซะขนาดนั้น” เอเจชี้แนะด้วยภาษาไทย ทำให้พี่กุ้งมองลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยความประหลาดใจ พี่กุ้งเลยถามอีก
“แล้วนี่ใครแนะนำมาให้ตัดที่นี่ครับ”
ทุกคนพร้อมกันชี้นิ้วไปที่นิธิน เจ้าตัวมองหน้าเพื่อนๆ ด้วยความตกใจ และส่งสายตาบอกพี่กุ้งว่าเขาไม่รู้เรื่อง
“อ่อ ครับ”
“นิธินยังบอกนะครับว่า ช่างหมูหน่ะ ตัดผมดี ฝีมือสุดยอด” แทนไทสมทบ “ผมก็เลยอยากให้ช่วยตัดผมให้น้องผมบ้างอ่ะครับ เผื่อจะหล่อเหมือนนิธินบ้าง”
พี่กุ้งหัวเราะน้อย ๆ กับคำพูดนั้น เขามองสำรวจเพื่อนๆ นิธิน เพราะเล่นพาเพื่อนกันมาขายตรงกันถึงร้านอย่างนี้ ไม่เบาเลยจริง ๆ
“เดี๋ยวผมไปดูให้นะครับว่าช่างหมูไปถึงไหนแล้ว” พี่กุ้งขอตัวไปหาลูกน้อง เพื่อบอกว่ามีลูกค้าอีกคนจองคิวกับเขา

“หมู เดี๋ยวมีลูกค้าจะตัดกับหมูนะ”
“ใครอ่ะครับ ลูกค้าประจำรึเปล่า”
“ไม่ใช่..” พี่กุ้งตอบยิ้ม ๆ
“อ่าว แล้วใครอ่ะครับ” อธิปพงศ์งง ๆ ถ้าไม่ใช่ลูกค้าประจำที่เคยตัด แล้วลูกค้าคนนี้จะรู้จักเขาได้ยังไง
“ก็ มีลูกค้าที่เคยตัดกับหมูเค้าแนะนำมาไง เดี๋ยวเสร็จแล้วไปดูเค้าด้วยละกัน”
“ครับพี่”
อธิปพงศ์รับคำและตัดผมของลูกค้าตรงหน้าต่อ สักพักก็เสร็จ เขาจึงเดินไปรับลูกค้าใหม่หน้าร้าน แต่คนแรกในกลุ่มลูกค้าที่อธิปพงศ์มองเห็นคือนิธินในชุดพนักงานออฟฟิศที่พับแขนปลดกระดุมอกลงอีกเม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำ ดูแปลกตาแต่ทว่ามีเสน่ห์เอามาก ๆ
“เอ่อ สวัสดีครับ คุณนิธิน” อธิปพงศ์เอ่ยปากทักทายอย่างลำบาก เพราะวันนี้อีกฝ่ายดูดีและออกจะเซ็กซี่เล็ก ๆ ด้วยซ้ำ เลยทำให้เจ้าตัวอดประหม่าไม่ได้
“สวัสดีครับคุณหมู เอ่อ วันนี้ทำงานเหนื่อยมั๊ยครับ”
อธิปพงศ์ตกใจที่นิธินพูดไทยเก่งขึ้น “ไม่เหนื่อยครับ ขอบคุณมากนะครับ”
“ครับ” นิธินรับคำและยิ้มอบอุ่นให้
“อะแฮ่ม!” วิษณุกระแอมให้นิธินรู้ตัว นิธินนึกได้จึงแนะนำกลุ่มเพื่อนให้อธิปพงศ์รู้จัก
“เอ่อ คุณหมูครับ นี่คือ วิษณุ แทนไท เอเจ เพื่อนร่วมงานของผม และ นี่ บอส น้องชายแทนไท ครับ”
“สวัสดีครับ รบกวนตัดผมให้น้องผมด้วยนะครับ”
“ครับ ได้เลย เดี๋ยวไปสระผมก่อนนะ”
อธิปพงศ์พูดจบก็พาลูกค้าเค้าไปในร้าน และสระผมให้ก่อนจะตัดตามขั้นตอน ปล่อยให้พี่ ๆ นั่งคุยกันรอที่หน้าร้าน
“เฮ้ยย เค้าหน้าตาดีนี่ ตาถึงนี่หว่า” วิษณุกระเซ้าเพื่อน
“ใช่ ๆ ดูเป็นคนใจดีด้วย โหย อย่างนี้จีบไม่อยากหรอก” เอเจสรุปรวบ
“เหอะ..เค้าก็ใจดีกับทุกคนแหล่ะ และ เห็นจะจีบยากเพราะเค้ามีแฟนเป็นผู้หญิงด้วยว่ะ”
“อ่าวเหรอ..” ทุกคนมองหน้ากันเงียบ
เอเจเลยแก้สถานการณ์ “เอ่อ อันนี้ไม่รู้ว่ะ แต่ถ้าเค้าเลิกกันภายในสามเดือนนี้ นายก็มีสิทธิ์ ถูกมั๊ย”
“ใช่ ๆ...” วิษณุกับแทนไทรับคำเพื่อให้กำลังใจเพื่อน นิธินเห็นเพื่อน ๆซิมเลยบอกว่า
“เฮ้ย ชั้นไม่คิดมากหรอก เอาเป็นว่าให้ชั้นได้เจอกับเค้าบ่อย ๆ ได้คุยกันบ้าง ก็พอแล้ว ถือว่าไม่แย่นักหรอกว่ะ”
“อืม ๆ..” เพื่อน ๆ มองหน้ากันหนักใจ เพราะไม่รู้จะช่วยนิธินอย่างไรต่อดี

แต่พวกเขาก็มองอธิปพงศ์ที่ตัดผมให้น้องชายแทนไทไม่วางตา โดยไม่รู้ว่าพี่กุ้งเองก็มองพวกเขาอยู่ไม่ห่างเหมือนกัน
“แอร๊ย คุณแม่ขา คุณอินเดียมาทำไมไม่บอกลูกคะ” ป๊อกกี้มาหาพี่กุ้งทันทีเมื่อเห็นว่าใครมา
“แล้วนึกเหรอเค้าอยากเจอแก”
“คุณแม่อ้า....” เจอใบมีดโกนของพี่กุ้งเข้าไป ป๊อกกี้ถึงกับเถียงไม่ออก
“มีอะไรก็ไปทำซะ หรืออยากจะปิดร้านดึก”
“ว้าย ๆๆ ค่ะๆๆ”
  พี่กุ้งจับตามองลูกค้ากลุ่มนี้ต่อโดยเฉพาะนิธิน ที่มองอธิปพงศ์ไม่วางตาตั้งเต่เข้าร้าน เจ้าของร้านมองลูกน้องที่ขะมักขะเม้น ตัดผมอยู่ เจ้าตัวจะรู้ไหมหนอว่าได้ขโมยหัวใจของผู้ชายคนหนึ่งเข้าให้แล้ว
“เสร็จแล้ว เป็นไงครับ พอใจรึเปล่า”
อธิปพงศ์ถามลูกค้าเหมือนเช่นเคย เด็กหนุ่มพยักหน้าด้วยความพอใจหลังจากดูทรงผมตัวเองจนทั่ว
เมื่อคนทั้งสองลุกมาหน้าเคาท์เตอร์ พวกพี่ ๆ จึงทำตัวปกติ และมาหาน้องชายแทนไท
“นี่ นามบัตรและเบอร์ผม ถ้าอยากตัดผมกับผมอีก โทรมาถามหรือนัดหมายก่อนได้นะครับ”
เขายื่นนามบัตรให้เด็กหนุ่ม แทนไทที่กำลังจ่ายเงินให้น้องจึงหาโอกาสหยอดเป้าหมายของเพื่อนอีก
“เอ้อ คุณหมูครับ เห็นว่าคุณหมูรู้จักกับนิธินตอนมาเมืองไทยแรก ๆ เลยเหรอครับ..”
“เอ่อ ทำไมครับ..” อธิปพงศ์สงสัย
“คือ พวกผมไม่ค่อยว่างอ่ะครับ เลยไม่มีเวลาดูแลเพื่อนคนนี้เลย ยังไงรบกวนคุณหมูช่วยดูแลนิธินด้วยนะครับ”
“ครับ...ได้สิครับ”คิดว่าเรื่องอะไร โธ่ เรื่องแค่นี้นี่เอง อธิปพงศ์คิดอย่างนั้น
“ขอบคุณมากครับ ทีนี้นายจะได้คนช่วยสอนภาษาไทยจริง ๆ แล้วนะ” แทนไทรับคำ และพยายามสะกิดเอเจ เจ้าพ่อมุกหยอดของกลุ่มให้ช่วย แต่เอเจส่ายหน้าเพราะกลัวอธิปพงศ์จะรู้ว่าพวกเขาพูดภาษาไทยเก่ง แทนไทเลยพูดต่อ
“เอ่อ คุณหมูครับ คุณหมูสนใจเต้นแบบอินเดียมั๊ยครับ”
“หืม..” อธิปพงศ์มองหน้าแทนไท เพราะแปลกหูกับสิ่งที่เขาพูด
“ทำไมครับ”
“เอ่อ ที่บริษัทเรามีคลาสเต้นแบบอินเดีย สอนฟรีนะครับ ถ้าสนใจไปได้เลยนะครับ ไปกับนิธินก็ได้...”
“อ่อ ครับ เอาไว้ว่าง ๆ นะครับ”
“ครับ แฮ่ๆๆ”
“เอ่อ ไปก่อนนะนิธิน พอดีว่าแม่โทรมาแล้ว” แทนไทรีบทิ้งเพื่อนทันที “ใช่มั๊ยไอ้บอส”
น้องชายพยักหน้าแข็งขัน ส่วนเอเจกับวิษณุก็พึมพำเป็นภาษาฮินดีว่า
“ตายล่ะ เมียโทรมาว่ะ ไม่รู้อยากให้ไปทำอะไร ไปก่อนนะนิธิน”
“เออ ๆ ลืมไปว่านัดกับเมย์ว่ะ ไปและ”
 และกลุ่มเพื่อนเขาก็สลายตัวกันอย่างรวดเร็ว เพื่อเปิดโอกาสให้นิธินได้อยู่กับคนที่เขาชอบ เพื่อน ๆ หวังว่านิธินคงใช้โอกาสนี้ชวนเจ้าตัวไปกินข้าวด้วยกัน
“เอ่อ คุณหมูครับ…”
“ครับ”
“วันนี้ คุณหมู กี่โมง เลิกงาน ครับ”
นิธินพยายามส่งภาษาไทยและเรียบเรียงออกมาอย่างยากลำบาก
“อีกสักพักหน่ะครับ ทำไมเหรอครับ”
“เอ่อ ผม ขอไปกินข้าว ด้วยคนได้มั๊ยครับ” เขาทำหน้าตาน่าสงสาร เพราะเพื่อน ๆ ได้ทิ้งไปหมดแล้วเมื่อครู่นี้
“ได้สิครับ But that’s not only me”
“ครับ ได้ครับ” นิธินรับคำยิ้ม ๆ ก็ดีเหมือนกันจะได้รู้จักเพื่อนร่วมงานของอธิปพงศ์ด้วย นิธินคิดอย่างนั้น
"งั้นรอสักครู่นะครับ"
อธิปพงศ์บอกกับนิธินและหายเข้าไปในร้านพักใหญ่ ก่อนจะออกมาพร้อมกับช่างทุกคน
ป๊อกกี้ที่รู้ว่านิธินจะไปกินข้าวด้วยก็อดตื่นเต้นไม่ได้
"ต๊าย คุณอินเดียจะไปกินข้าวกับพวกเราด้วยเหรอคะเนี่ย อร๊ายยยย" ป๊อกกี้แทบจะจับนิธินกินเสียตรงนั้น จึงเข้าไปเกาะแขนชายหนุ่มหวังทำคะแนน
"ฮายย หวัดดีค่า จำป๊อกกี้ได้มั๊ยคะ"
นิธินพยักหน้ารับคำและค่อยๆแกะแขนป๊อกกี้ออก พี่กุ้งเห็นอย่างนั้นจึงว่าให้
"ไปๆนังป๊อก จะกินมั๊ยข้าว มัวแต่ทำตัวเป็นไม้เลื้อยอยู่เนี่ย"
"ค่าๆ คุณแม่ หืม..."
ป๊อกกี้แอบขัดใจพี่กุ้งเล็กน้อยที่ขัดจังหวะ"ได้ชาย"ของหล่อนตลอด

 พี่กุ้งพาทุกคนไปกินข้าวร้านประจำแถว ๆ ตลาดหลังสวน งานนี้พี่กุ้งแอบสังเกตุนิธินทุกอริยาบท ก็พบว่าฝ่ายนั้นไม่ได้ดูแลแต่    อธิปพงศ์คนเดียว แต่ยังเผื่อแผ่มาถึงทุกคนด้วย แต่มันจะเป็นแค่การทำดีเอาหน้าหรือเปล่า พี่กุ้งก็ต้องขอดูต่อไป
 "แล้วคุณนิธินกลับยังไงครับ" พี่กุ้งถาม
"บาย บีทีเอสครับ" นิธินทำตามที่เพื่อนบอก โดยไม่ลืมคำว่า"ครับ"ลงท้ายทุกประโยค
"แล้วพักอยู่แถวไหนคะ ให้ป๊อกกี้ไปส่งมั๊ย"
นิธินมองหน้าทุกคนงงๅ เพราะฟังไม่ค่อยออก แต่ก็ไม่สนใจ เขาหันมาพูดกับทุกคนว่า
"ไปก่อนนะครับ บาย"
"บายครับ"
หลังจากนิธินแยกไปแล้ว ป๊อกกี้ก็กรี๊ดออกมาอย่างดี๊ด๊าที่ได้ใกล้ชิดผู้ชายรูปหล่อหุ่นล่ำอย่างนิธิน หล่อนจึงเมาท์กับทุกคนว่า
"อร๊ายยยย เก้งอะไร ฮอต เซ็กซี่ น่าจับทำผัวที่สุด"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นจึงถามรุ่นน้องด้วยความสงสัย " เค้าเป็นเกย์เหรอ แล้วแกรู้ได้ไง"
"โอ๊ย ผีเห็นผีไงคะ แค่นั่งใกล้ๆก็รู้แล้วว่าเค้าเกิดมาเพื่อหนู อ๋อยยย หนูฟินส์กล้ามเค้ามากอ่ะพี่หมู และเนี่ยลองกะๆขนาดดูแล้ว ไม่น่าจะเกิน 7 อย่างต่ำ โอ๊ยย อยากได้ๆๆ"
หญิงเห็นป๊อกกี้ไปไกลแล้วเลยถามขึ้นมาว่า
"พี่ไม่คิดจะถามเขามั่งเหรอว่าอยากได้พี่มั๊ย"
"นังหญิง น้องเวร"
ทุกคนหัวเราะให้กับป๊อกกี้ แต่พี่กุ้งอยากรู้ว่าอธิปพงศ์คิดยังไงถ้าหากรู้ว่านิธินเป็นเกย์
"หมูล่ะ คิดว่าไง คิดว่าเค้าเป็นเหมือนที่นังป๊อกบอกมั๊ย"
"ไม่รู้สิครับ"
"ถ้าเค้าเป็นจริงๆ หล่ะ หมูจะยังให้เค้าไปไหนกับหมูอย่างนี้รึเปล่า"
"คงต้องดูก่อนหน่ะครับ"
พี่กุ้งพยักหน้ารับคำถึงแม้ยังเดาท่าทีของรุ่นน้องไม่ออกแต่ก็เชื่อว่าหนุ่มอินเดียคนนั้นคือคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงอธิปพงศ์ให้กลายเป็นผู้ชายที่โชคดีอีกคนบนโลก ตามที่เพื่อนเขาเคยทำนายไว้

    ส่วนอธิปพงศ์กรุ่นคิดมาตลอดการเดินทางกลับที่พัก ถึงแม้วันนี้เขาจะรู้สึกดีที่เจอนิธิน แต่ก็มีหลายความรู้สึกที่ทิ้งไว้ให้เขาเก็บมาคิดเช่นกัน
ทำไมเขาต้องประหม่าเมื่อเจออีกฝ่าย ทั้งๆ ที่เวลานั้นก็มีผู้ชายแต่งตัวแบบเดียวกันอยู่ไม่น้อย
ทำไมเขาต้องรู้สึกแปลกๆ เวลาที่ป๊อกกี้พร่ำเพ้อถึงนิธิน เขารู้สึกไม่ค่อยชอบ ไม่อยากฟังสิ่งที่รุ่นน้องพูดและไม่อยากเห็นป๊อกกี้ให้ท่านิธินต่อหน้าต่อตา ทั้งๆที่เขาไม่เคยถือสาเรื่องแบบนี้ของรุ่นน้องมาก่อน
และพอได้ยินว่าอีกฝ่ายเป็นเกย์ก็ยิ่งทำให้หัวใจเขาเต้นแรงขึ้น ชายหนุ่มไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมต้องรู้สึกแปลกๆ แบบนี้ด้วย
ชายหนุ่มถอนใจ"เอาเถอะ นี่เราคงฟุ้งซ่านมากเกินไป ปล่อยไว้สักพักก็คงจะหายมั๊ง"

    เมื่อกลับถึงห้อง เขาก็พบว่าปิ่นปักมานอนรออยู่แล้ว หญิงสาวส่งยิ้มยั่วยวนให้ แต่เขาแค่มองรับรู้ และเข้าไปอาบน้ำด้วยเหนื่อยอ่อนและยังไม่หลุดจากห่วงความคิดนั้น
    พออาบน้ำเสร็จ ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนข้างปิ่นปักที่เพิ่งคืนดี หญิงสาวยิ้มดีใจที่เธอยังได้ครอบครองช่างผมรูปหล่อคนนี้ และทุกครั้งหลังการคืนดีเธอกับเขาจะปรับความเข้าใจกันแบบตัวต่อตัวด้วยการร่วมรัก เมื่อชายหนุ่มที่เคยแข็งข้อกลับเธอกลับมาคืนดีด้วยอย่างนี้ ปิ่นปักจึงต้องมอบความให้ชายหนุ่มเพื่อมัดใจให้เขารักเธอต่อไป
"พี่หมู..." หญิงสาวที่สวมชุดนอนบางเบาเข้ามาออดอ้อน เธอลูบไล้ไปตามจุดสัมผัสอย่างรู้งาน แต่อธิปพงศ์กลับตอบว่า
"ปิ่น พี่ขอโทษนะ วันนี้พี่เหนื่อยมาก"
  เขาหันหลังให้แฟนสาวด้วยรู้สึกอ่อนล้ากับงานและรู้สึกไม่อยากแตะต้องกับเธอในวันนี้ เพราะถ้าเขาตอบรับเธอเหมือนเดิม อธิปพงศ์คิดว่าหญิงสาวจะยิ่งได้ใจ
เพราะถ้าเธอรักเขาด้วยใจก็คงไม่อยากทำอะไรให้คนรักเดือดร้อน เขาจะลองไม่เกรงใจเธอดูบ้าง เพื่อให้เธอรับรู้โลกของเขาจริงๆ
ถ้าการเป็นคนรักและชีวิตคู่ คือการปรับตัวเข้าหากัน ชายหนุ่มมองว่าที่ผ่านมา เขาคือฝ่ายปรับตัวและปรับมามากพอแล้ว
ทีนี้หล่ะ เขาจะได้รู้ว่าที่จริงแล้ว เธอจะสามารถปรับตัวเข้ากับเข้าได้มากน้อยแค่ไหน
  ส่วนปิ่นปักที่เจ็บใจกับท่าทีของแฟนหนุ่มจนแทบกรี๊ดออกมา  เธอแทบไม่เชื่อว่าอธิปพงศ์เปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ความคิดต่าง ๆ พรั่งพรูเข้ามาในหัวหญิงสาวทันที นี่เขามีคนใหม่หรือเขาหมดรักในตัวเรากันแน่..
แต่ยังไงหญิงสาวก็ยังคิดจะว่าไม่ยอมปล่อยชายหนุ่มให้ตีตัวออกห่างง่าย ๆ หรอก..


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 06-02-2012 17:02:26
ฮา ป๊อกกี้อ่ะ  แต่แอบจิ้นตาม 7 นิ้วหรอเนี้ยที่พี่หมูต้องเจอ ในตอนต่อๆไป
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 06-02-2012 17:02:38
หลงรักเรื่องนี้ บรรยากาศผู้ใหญ่ๆที่ห่างหายไปนาน...โดนใจไวทำงานค้าบบบบ...555+
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-02-2012 17:15:02
 :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: sumonta ที่ 06-02-2012 18:07:59
 :n1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-02-2012 18:31:39
สามเดือนมันช้าไป หมูกับปิ่นปักช่วยเลิกกันให้เร็วกว่านี้ได้ไหมล่ะ :laugh:
แต่สัญญาณอันตรายสำหรับปิ่นปักก็เพิ่มขึ้นทุกทีๆแล้วสินะ :เฮ้อ:
้เอาเถอะ ยังไงยัยป๊อกกี้ก็ตลกจริงๆ :jul3:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 06-02-2012 19:56:06
เลิกเลย แล้วหันมาคบนิธินดีกว่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-02-2012 20:43:56
ขยันอัพแบบนี้ กด+ ให้น้ำพริกแมงดาไปเลยจ้ะ

ไงจ๊ะปิ่นปัก วันนี้หล่อนคิดว่าจะผูกหมูไว้ด้วย"เล่ห์สิเนหามายาหญิง"ได้ดังเดิมซินะ
"เล่ห์สิเนหามายา"น่ะ มันอยู่ไม่นานหรอกปิ่น เดี๋ยวก็เสื่อม
เอาใจช่วยให้หมูพ้นจากนางไวๆ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 06-02-2012 21:52:22
หมูแอบหวั่นไหวกับนิธินคนเดียวอย่างนี้ ไม่ธรรมดาแล้วนะจ๊ะ :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 06-02-2012 22:14:08
คู่กันแล้วไม่แคล้วกันหรอกน่า...
>_________<
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:6/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 07-02-2012 17:07:23
มาแล้วค่า ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ทุกคน

7

  เวลาผ่านไปเข้าสู่ปลายเดือน ถึงแม้งานที่บริษัทของนิธินจะยุ่งกว่าเดิม แต่หนึ่งเดือนแรกในเมืองไทยที่ผ่านมา เขาก็ได้ใช้เวลาหลังเลิกงานส่วนหนึ่งไปกับอธิปพงศ์ ซึ่งก็เป็นช่วงเวลาหวานขมของเขาเลยก็ว่าได้
 บางวันเขาก็สมหวังที่อธิปพงศ์ตอบรับไปว่ายน้ำกับเขา หรือไม่ก็ยอมให้เขาที่รออยู่แถวนั้นไปกินข้าวด้วย แต่ก็ไม่เคยไปกินข้าวกันสองต่อสองสักที
 หรือบางวันที่ผิดหวังเมื่อเห็นแฟนสาวของอธิปพงศ์ยืนคุมแจ ชายหนุ่มได้แต่เดินคอตกกลับที่พักไปด้วยหัวใจห่อเหี่ยว พลางโทษตัวเองว่าไม่ควรคิดกับชายหนุ่มไกลเกินกว่านั้น ถึงแม้เขากับอธิปพงศ์จะสนิทสนมกันมากขึ้นก็ตาม
 แต่ชายหนุ่มก็คิดว่าตัวเองโชคดีที่มีกลุ่มเพื่อนคอยให้กำลังใจ และชวนเขาหาอะไรทำตลอดเวลา ไหนจะครอบครัวที่ออนไลน์คุยกันเกือบทุกคืน ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวในต่างแดนเหมือนชาวต่างชาติหลายคนที่เขาเคยเห็น

“สวัสดีค่ะ คุณเขียว วันนี้ทำอะไรดีคะ” ป๊อกกี้ที่ว่างเลยมารับลูกค้า ก็พบกับลูกค้าประจำคนนึงที่เธอจำได้ว่ามีอธิปพงศ์เป็นช่างประจำ
“ตัดผมและอบไอน้ำค่ะ” หญิงสาวผิวขาวตรงหน้าตอบอย่างมั่นใจ ในคราวนี้เธอมากับเพื่อนคนสนิท “และก็..วันนี้พีร์มาด้วยนะคะ”
“ว๊าย ๆๆๆ คุณพีร์สวัสดีค่ะ” ป๊อกกี้ตื่นเต้นเมื่อรู้ว่าใครมา ไม่ยักกะรู้ว่าลูกค้าประจำคนนี้เป็นเพื่อนกับแฟนคนดัง
“แล้ว..คุณแจ๊คไม่มาด้วยเหรอคะ”
เขียวตอบแทนเพื่อน “วันนี้มากันสองสาวค่ะ หนุ่ม ๆ ไม่เกี่ยว”
“อ่อ ค่ะๆๆ” ป๊อกกี้รับคำ “เอ่อ ตอนนี้พี่หมูว่างอยู่นะคะ เดี๋ยวไปสระผมก่อนเลยค่ะ”
“ค่ะ” เธอรับคำ และเดินเข้าร้านไปกับเพื่อน และทักทายกับช่างประจำอย่างสนิทสนม
“สวัสดีค่ะพี่หมู” ถึงชายหนุ่มจะเป็นช่างตัดผม แต่เธอก็ยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคารวะ
“หวัดดีครับคุณเขียว” ช่างผมรับไหว้ “วันนี้ทำอะไรดีครับเนี่ย หายไปนานเลย”
เขารู้นิสัยลูกค้าคนนี้ดีเพราะตัดกันมานาน คนอย่างเธอถ้าผมไม่ยาวเสียทรงจะไม่เข้าร้านตัดผมเด็ดขาด
“มาตัดผมสิคะ ช่วงนี้เลี้ยงลูกค่ะ เลยไม่ได้ดูแลตัวเองเลย”
“นั่นสิ น้องโตยังเนี่ย พี่เห็นครั้งล่าสุดคือเมื่อหลายเดือนที่แล้ว”
“ขวบกับเดือนแล้วค่ะ น่ารักมากเลย” หญิงสาวยิ้ม ๆ เมื่อพูดถึงลูกตัวเอง” เธอนึกได้ “เอ้อ พี่หมูคะ นี่พีร์ค่ะ เพื่อนเขียวเอง วันนี้มาตัดผมด้วย รบกวนหน่อยนะคะ”
เขาหันไปมองร่างอวบของเพื่อนลูกค้า ก็จำได้ว่าเป็นใคร เขายิ้มให้ตามมารยาทและบอกว่า
“ได้เลยครับ วันนี้ทำอะไรดีครับ”
“ตัดผมและก็ อบไอน้ำเหมือนเขียวอ่ะครับ”
“ครับได้เลย เดี๋ยวไปสระผมกันก่อนนะ”
ช่างผมพาลูกค้าทั้งสองไปสระผม โดยเขาสระผมให้เขียว ส่วนพีร์ก็มีหญิงที่ว่างมาสระให้ และลูกค้าทั้งสองก็มานั่งที่หน้ากระจก โดยเขียวให้อธิปพงศ์ตัดผมให้พีร์ก่อน ช่างผมใช้เวลาสักพักจึงมาตัดให้ลูกค้าประจำอย่างเขียว ขณะเช็ดผมเขาพูดคุยกับลูกค้าประจำอย่างสนิทสนม
“นี่ไม่ทำสีเหมือนเมื่อก่อนแล้วเหรอ” ชายหนุ่มถามยิ้ม ๆ เพราะเมื่อก่อนลูกค้ารายนี้ชอบทำสีผมมาก และชื่อเขียวนี่ก็มาจากที่ครั้งหนึ่งเธอเคยทำผมสีเขียว จนทุกคนเรียกเธอว่าเขียวอย่างทุกวันนี้
“ไม่ล่ะค่ะ มีลูกแล้ว ทำอะไรเคมี ๆ มันไม่ดีต่อตัวเราและก็ลูกนะคะ”
“อืม ใช่ ๆ” เขายิ้มรับ รู้สึกดีที่ได้ดูแลลูกค้าคนนี้ “แล้ววันนี้ตัดผมแบบไหนดีล่ะ”
“แบบไหนก็ได้ค่ะ ที่ดูไม่ซิ้มซ้อ” เธอหมายถึงรูปร่างหน้าตาแบบคนไทยเชื้อสายจีนอย่างเธอ
“ทรงไหนมันก็ซิ้มซ้ออยู่ดีนั่นหล่ะ” พีร์ที่ตอนนี้อบไอน้ำอยู่ส่งเสียงมา
เขียวได้ยินอย่างนั้นเลยบอกว่า
“พี่หมูคะ ยืมกรรไกรหน่อยค่ะ วันนี้อยากแทงเพื่อน แต่ไม่แทงข้างหลังนะคะ เพราะข้างหลังผัวมันแทงจนพรุนหมดแล้ว”
พีร์ได้ยินอย่างนั้นจึงต้องสงบปาก และจิกตาค้อนเพื่อน ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเล่นเกมส์
 อธิปพงศ์หัวเราะกับคำพูดของลูกค้า เขาสางผมเบา ๆ และบอกกับเธอว่า
“ม่ะ เดี๋ยวพี่จัดการให้”
แต่ก่อนที่เขาจะลงกรรไกร ปิ่นปักก็เข้ามาที่ร้าน  เมื่อเห็นอธิปพงศ์คุยกับลูกค้าผู้หญิงอย่างสนิทสนม เธอจึงเข้ามาหาชายหนุ่มทันที
“พี่หมู....” เธอพยายามออดอ้อนให้เขามาสนใจ แต่ชายหนุ่มบอกว่า
“เดี๋ยวพี่ทำงานก่อนนะ”
ปิ่นปักนิ่งและมองมายังเขียวอย่างไม่พอใจ แต่เธอก็พาตัวเองไปนั่งรอและจับตามองแฟนหนุ่มกับลูกค้าคนนี้ไม่วางตา
  แต่อธิปพงศ์ก็ไม่สนใจ เขาตัดผมและพูดคุยกับเขียวอย่างสนิทสนม รอยยิ้มและเสียงหัวเราะคิกคักของคนทั้งสอง ทำให้ปิ่นปักเริ่มเดือด นานแล้วที่เธอไม่เคยเห็นอธิปพงศ์ยิ้มหรือหัวเราะอย่างนี้กับเธอ หรือว่าอธิปพงศ์เปลี่ยนไปเพราะลูกค้าคนนี้  ซ้ำเมื่อตัดผมเสร็จ เขายังดูแลเรื่องอบไอน้ำให้เธอด้วยตัวเองอีกด้วย ทั้ง ๆ ที่ช่างคนอื่นก็ยังว่าง ปิ่นปักจึงไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว
“พี่หมู...”
ปิ่นปักเขาไปมองแฟนหนุ่มและลูกค้าอย่างหาเรื่อง “พี่หมูมีคนอื่นใช่มั๊ย”
เมื่อได้ยินหญิงสาวพูดอย่างนั้นก็ทำเอาทั้งอธิปพงศ์และเขียวที่เพิ่งคลุมผมด้วยผ้าเสร็จชะงักทันที และทุกคนในร้านก็หันมามองอธิปพงศ์กันเป็นตาเดียว
“ปิ่น ปิ่นเอาอะไรมาพูด ไม่เห็นเหรอว่าพี่ทำงานอยู่ มีอะไรค่อยคุยกัน”
“ไม่...ปิ่นไม่ปล่อยให้พี่หมูแก้ตัวอะไร นี่ไง คนนี้ใช่มั๊ยที่ทำให้พี่หมูเปลี่ยนไปอย่างนี้”
เธอชี้ไปยังเขียวที่ตอนนี้ออกอาการเหวอเมื่อต้องเข้าไปเป็นผู้ต้องหาโดยไม่รู้ตัว
“ปิ่น ไปกันใหญ่แล้ว ...คุณเขียวเค้าเป็นลูกค้า เค้าจะมายุ่งกับพี่ได้ไง”
“ก็เป็นลูกค้าไง พี่หมูถึงได้กล้ายุ่ง”
“ปิ่น อย่ามาทำตัวอย่างนี้อีกนะ กลับไปก่อนดีกว่า มีอะไรค่อยคุยกัน” อธิปพงศ์พยายามนับ 1-100 ระงับความโกรธในใจ
“ทำไม ทำไมปิ่นจะทำไม่ได้ ปิ่นเป็นแฟนพี่ ปิ่นมีสิทธิ์ที่จะหวงไม่ให้ใครมาแย่ง ปิ่นจะคุยให้รู้เรื่องตรงนี้แหล่ะ ให้บางคนรู้ไปเลยว่าพี่หมูเป็นของใคร”
เขียวที่นั่งอยู่อย่างนั้นเริ่มทนไม่ได้ “ขอโทษนะคะ ไม่คิดจะถามชั้นหน่อยเหรอว่า ชั้นมีอะไรกับพี่หมูจริงรึเปล่า”
ปิ่นปักตอบทันที “ทำไมชั้นต้องถามเธอด้วย เห็น ๆ อยู่ว่าให้ท่าแฟนชั้นซะขนาดนั้น”
ทุกคนในร้านมองหน้ากันหนาว ๆ ร้อน ๆ โดยเฉพาะพีร์ที่จับตาดูเพื่อนว่าจะทำยังไง
“ขอโทษนะคะ ดิชั้นมีสามีมีลูกแล้ว และขอบอกว่าสามีรักชั้นมากกๆ ด้วย หึหึ อีกอย่างคงไม่ทำตัวแย่ขนาดมาหาคนอื่นนอกบ้านได้หรอกค่ะ อ่อ ดิชั้นไม่รู้นะคะว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกคุณ แต่ขอบอกไว้อย่างนึงนะคะ ที่คุณบอกว่าพี่หมูเปลี่ยนไปก็คงไม่ใช่เพราะชั้นหรอกค่ะ น่าจะเป็นเพราะ...คนใกล้ตัวเค้ามากกว่า” เธอส่งสายตาสื่อไปถึงตัวปิ่นปักเอง
“ถ้าคนเราดีจริง ยังไงผู้ชายก็ไม่มีวันเปลี่ยนไปไหนหรอกค่ะ จริงมั๊ยคะ”
ปิ่นปักนิ่งเพราะเถียงไม่ออก เขียวเลยส่งท้ายให้ว่า
“เอาไปคิดดูนะคะ ถ้ายังคิดได้”
“แก๊...” ปิ่นปักแทบปราดเข้าไปทำร้าย ทำให้อธิปพงศ์รีบฉุดแฟนสาวมานอกร้าน เขาบีบแขนเธอแน่นด้วยความโกรธ
“โอ๊ย พี่หมูปล่อยนะ ปิ่นเจ็บ”
เขาปล่อยแขนของเธอลงแรง ๆ และบอกว่า “รู้จักเจ็บกับเค้าด้วยเหรอ”
“พี่หมู....”
“ไปขอโทษลูกค้าเดี๋ยวนี้” เขาสั่งเสียงเฉียบขาด
“ไม่..ปิ่นไม่ไป ปิ่นไม่ผิด”
“เธอจะยังกล้าบอกอีกเหรอว่าไม่ผิด เธอทำอะไรรู้ตัวบ้างมั๊ย นั่นมันลูกค้าของชั้น เค้าเป็นคนดีให้ความเมตตาชั้น แต่เธอ เธอทำอย่างนั้นได้ไงหะ” เขาพูดครั้งสุดท้าย
“กลับไปขอโทษลูกค้าซะ”
“ไม่ ปิ่นไม่ไป”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาจึงพยักหน้ารับรู้
“ได้...ตามใจ”
 ชายหนุ่มเดินจั้มกลับไปที่ร้าน ปล่อยให้ปิ่นปักฮึดฮัดอยู่คนเดียวตรงนั้น แต่สิ่งที่หญิงสาวได้มาในวันนี้คือเธอได้รับรู้ว่า ชายหนุ่มหมดสิ้นเยื่อใยกับเธอแล้วจริง ๆ

เมื่ออธิปพงศ์มาถึงร้าน สิ่งแรกที่เขาทำคือเข้าไปขอโทษเขียว ลูกค้าคนสนิทของเขาที่ป่านนี้คงจะรู้สึกแย่ไม่แพ้กัน เขาตรงเข้าไปหาเขียวที่กำลังนั่งอยู่ที่เครื่องอบไอน้ำผม
"เอ่อ คุณเขียว พี่ต้องขอโทษด้วยนะครับ"
ช่างผมหนุ่มยกมือไหว้ขอโทษลูกค้า เขารู้สึกผิดเหลือเกินที่ทำให้หญิงสาวต้องมาตกกระไดพลอยโจนไปด้วย
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่หมู" เธอยิ้มรับ "แค่ไม่ปล่อยให้เขียวถูกตบฟรีๆ เขียวก็ดีใจมากแล้ว"
"โธ่ อย่าพูดอย่างนั้นสิน้องเขียว" ด้วยความสนิทกันหญิงสาวจึงถามช่างผมว่า
"คนนี้คบมานานยังอ่ะ"
"สักพักแล้ว"
"เฮ้อ พี่หมูไปคว้ามาจากไหนเนี่ยะ" เขียวถอนหายใจเซ็ง ๆ
"พี่ขอโทษแทนเค้าด้วยนะครับ" เมื่อเห็นลูกค้าพูดอย่างนั้น อธิปพงศ์ยิ่งหน้าเสีย
"ค่ะ เขียวไม่คิดมาก เป็นสีสันของวันนี้ ฮ่ะๆๆ"
แต่ป๊อกกี้ที่ทำผมอยู่ใกล้ ๆ ก็แทรกมาว่า
"แต่เจออย่างนี้ทุกวันเหมือนป็อกกี้คงไม่ดีมั๊งคะคุณเขียว"
"แน่นอนค่ะ เจอบ้างให้รู้ว่านรกเป็นยังไงก็พอแล้ว
"อ๊ายยย กดไลค์ค่ะ"
เขียวหันไปหาพีร์ที่ดูตกใจมากกว่าใครทั้งหมด
 "ไงคะนางเอก ช๊อกไปเลยเหรอคะ"
"ตกใจหนิ ชั้นนึกว่าแกจะแย่แล้ว"
"หุหุ ขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง"
แต่พอหันมาเจออธิปพงศ์ที่ยังดูเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเธอจึงบอกว่า
"เอาน่าพี่หมู...อย่าคิดมากน้า ไม่ใช่ความผิดของพี่ซะหน่อย"
แต่เขาคงจะรู้สึกดีขึ้นยาก เพราะเห็นลูกค้าไม่ถือสากันอย่างนี้ สู้ให้เขียวด่าว่ากันจะดีเสียกว่า  เขามองหน้าหญิงสาวเพราะรู้สึกผิดกับเธอจริง และเชื่อแล้วว่าปิ่นปักคงไม่สามารถร่วมทางกับเขาได้อีกต่อไป

  ถึงแม้เลิกงานแล้วแต่อธิปพงศ์ก็ยังไม่กลับที่พัก เพราะเขามีนัดไปว่ายน้ำกับนิธิน อธิปพงศ์รู้สึกได้ว่าเมื่อเขาไม่สบายใจหรือมีความทุกข์ แค่เพียงเขาได้อยู่กับนิธินและเล่าให้อีกฝ่ายฟังเพียงเล็กน้อย ก็รู้สึกสบายใจขึ้นและอบอุ่นใจที่นิธินให้กำลังใจกลับมาทุกครั้ง วันนี้ก็เช่นกัน เขาเล่าให้นิธินฟังว่าเกิดอะไรขึ้นที่ร้าน  นิธินพยักหน้ารับรู้ และบอกกับอธิปพงศ์ว่า
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมเชื่อในการตัดสินใจของคุณ”
“ขอบคุณครับ” อธิปพงศ์ยิ้มรับโดยที่เขาก็ไม่รู้ตัวว่าเริ่มอ่อนไหวกับแววตาอบอุ่นคู่นั้นที่มองมาเหมือนกัน

   ส่วนปิ่นปักที่ช่วงนี้ รู้สึกเริ่มเหินห่างกับอธิปพงศ์ที่อยู่ด้วยกัน เธอจึงมาหาเพื่อนที่หอพัก แทนที่อยู่กับชายหนุ่มเหมือนแต่ก่อน หญิงสาวโทรเรียกเพื่อนให้ลงมารับ เมื่อคนเป็นเพื่อนเจอปิ่นปักแล้วก็ออกปากทักทายอย่างแปลกใจ
“อ่าว ปิ่น วันนี้เป็นไงถึงได้มาหาชั้นเนี่ย”
“แหม ชั้นจะมาหาแกมั่งไม่ได้หรือไงหะฝน” เธอเข้าไปกอดเพื่อนด้วยความคิดถึง ส่วนเพื่อนที่ชื่อฝนก็มองผู้มาเยือนด้วยความดีใจแกมประหลาดใจ
“ไปคุยกันข้างบนก่อนสิ หรือจะกินข้าว”
“หึ กินมาแล้ว ป่ะ วันนี้ชั้นจะมานอนเมาท์กับแกให้หายคิดถึงไปเลย”
 ปิ่นปักขึ้นไปบนที่พักกับเพื่อน และพูดคุยเรื่องต่าง ๆ กันอย่างคิดถึง เพื่อนที่คบกันมานานคนนี้เป็นคนที่สนิทและเป็นห่วงเป็นใยเธอมากที่สุด แต่หญิงสาวก็มักจะมองข้ามเสมอ
“เอ่อ ปิ่น แล้วแกกับแฟนเป็นยังไงมั่ง” คนเป็นเพื่อนสงสัยเพราะรู้ว่าปิ่นปักติดแฟนมาก ๆ แต่ที่มาหาอย่างนี้ก็คงมีปัญหาอะไรมาแน่ ๆ
“ก็...ไม่รู้อ่ะ ตอนนี้ชั้นรู้สึกว่า ชั้นกับเค้าไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว”
“ยังไงเหรอ”
“เมื่อก่อนนะ ชั้นรู้สึกว่า ชั้นอยากจะอยู่กับเค้าตลอด แต่หลัง ๆ ชั้นรู้สึกเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ ยังไงก็ไม่รู้”
“แกนี่นะ เบื่อแฟน” เพื่อนที่นอนฟังอยู่แทบไม่อยากเชื่อ จึงลุกขึ้นมานั่งฟังอย่างตั้งใจ
“ก็.. เหมือนว่าเราทะเลาะกันบ่อยด้วย และชั้นรู้สึกว่า หลัง ๆ เค้าไม่สนใจชั้นเหมือนเมื่อก่อนอ่ะ”
“อืม....” คนเป็นเพื่อนคิดตาม เธอนึกถึงแฟนของปิ่นปักที่เป็นช่างตัดผมรูปหล่อ หรือว่าเพื่อนของเธอจะไปกันไม่ได้กับแฟนคนนี้จริง ๆ
“ปิ่น ถามแกตรง ๆ นะ ที่แกชอบเค้า เพราะอะไรเหรอ”
“เค้าหล่อดี และก็ตามใจชั้นเกือบทุกอย่าง”
“แค่นี้อ่ะเหรอ”
“อือ..จะมีอะไรอีกล่ะ คนเป็นแฟนกันเค้าก็คบกันแค่นี้หนิ”
“แล้ว แกคิดว่า แกเข้ากับเค้าได้มั๊ย”
“ก็แหม อยู่กันไปก็เข้ากันได้เองแหล่ะฝน”
คนเป็นเพื่อนจึงถามว่า “แล้วตอนนี้แกเข้ากับเค้าได้รึยัง”
“แกหมายความว่าไง”
“ก็ เห็นแกทะเลาะกับพี่เค้าอย่างนี้ ชั้นก็อยากรู้ว่าแกเข้ากับเค้าได้จริง ๆ เหรอ”
ปิ่นปักเลยเงียบเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ปิ่น ชั้นเป็นห่วงแกนะ
“เออ น่า รู้แล้ว แต่แกอย่ามายุ่งกับเรื่องของชั้นเลย คนไม่มีแฟนอย่างแกไม่เข้าใจหรอก”
ฝนพยายามอธิบาย
“ปิ่น บางครั้งแกก็ต้องเข้าใจ ถ้าพี่เค้ากับแกไปกันไม่ได้จริง ๆ แกก็ต้อง ปะ..เอ่อ..ถอยออกมา  คือ เหมือนแกใส่รองเท้าส้นสูงสวย ๆ แต่มันทำให้แกเท้าเจ็บ แกจะถอดมามั๊ย คือ แกจะยอมอดทนอยู่กับคนที่เข้ากับแกไม่ได้ตลอดไปเหรอ  คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือแกนะปิ่น”
ปิ่นปักมองเพื่อนอย่างไม่สบอารมณ์ ที่มาหาก็เพราะอยากจะสบายใจ แต่เมื่อเพื่อนพูดกับเธออย่างนี้เธอจึงบอกว่า
“แกอย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ถ้ายังอยากเป็นเพื่อนชั้นอยู่”
“อืม ๆ ชั้นขอโทษ”
ฝนขอโทษเพราะอยากให้ปิ่นปักสบายใจ และหวังว่าสักวันนึงเพื่อนจะเข้าใจในสิ่งที่ตนพูด

 แต่เวลาที่อธิปพงศ์มีให้ ไม่ได้ทำให้ปิ่นปักปรับปรุงตัวหรือเปลี่ยนแปลงตัวเองได้เลย เธอก็ยังเป็นคนเดิมที่ไม่คิดจะเข้าใจในตัวอธิปพงศ์ แถมยังพาลคนอื่นว่ายุให้เธอกับแฟนหนุ่มเลิกกันเสียอีก เช่นเดียวกับวันนี้..
“พี่หมู ปิ่นว่าพี่หมูย้ายไปทำงานที่ร้านอื่นที่ดีกว่านี้ หรือเปิดร้านเป็นของตัวซะทีเถอะ นี่พี่หมูทนทำงานอยู่ร้านแบบนี้ได้ไง”
“ปิ่น หยุดพูดลามปามคนอื่นได้แล้ว”
“พี่หมู ทำไมพี่หมูไม่ฟังปิ่นบ้าง..”
เขาตัดสินใจพูดประโยคนี้ออกมา
“ปิ่น พี่ว่าเราไปกันไม่ได้แล้วหล่ะ”
หญิงสาวนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินคำนั้นจากแฟนหนุ่ม
“ทำไม...พี่หมูหมายความว่ายังไง”
“ในเมื่อปิ่นไม่ได้เข้าใจในตัวพี่ และพี่ก็ทนไม่ได้กับปิ่นแล้ว เราจะยังอยู่กันทำไม”
เธอยังเสียงแข็ง “ไม่ พี่หมูมีคนใหม่ใช่มั๊ย..”
แต่อธิปพงศ์เข้าไปจับไหล่เธอแล้วมองเข้าไปในตา ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า
“ไม่มีใครทั้งนั้นที่ทำให้เราเป็นอย่างนี้ มีเพียงพี่กับเธอเท่านั้นที่เข้ากันไม่ได้จริง ๆ ปิ่น..ยอมรับซะเถอะ เราไปด้วยกันไม่ได้อีกแล้ว”
ปิ่นปักนิ่งอึ้งกับความจริงที่ได้รับรู้ อธิปพงศ์ออกจากห้องและทิ้งให้เธออยู่คนเดียวกับสิ่งที่เธอเป็น ….

 “ฝน แกอยู่ที่ห้องหรือเปล่า” ปิ่นปักที่นั่งอยู่บนแท็กซี่กรอกเสียงถามเพื่อนสนิท โดยเธอเก็บเสื้อผ้าบางส่วนมาด้วย
“อยู่ มีอะไรเหรอ”
“คือ ชั้นขอไปอยู่กับแกได้มั๊ย”
“ได้ซี่...มาเลย ชั้นอยู่ตลอดแหล่ะ”
“ขอบใจนะ ตอนนี้ชั้นอยู่บนแท็กซี่ เดี๋ยวก็คงถึงหล่ะ”
“อืม...เจอกัน”
“จ้ะ”
 ปิ่นปักวางสาย และพยายามเก็บอาการตกตะลึงและเสียใจของตัวเองไว้ ในที่สุดสิ่งที่เธอพยายามเหนี่ยวรั้งไว้ก็ไม่สำเร็จ เธอคิดว่าเพื่อนหลายคนคงจะเยาะเย้ยที่เห็นเธอเป็นอย่างนี้ แต่คงไม่ใช่กับฝน เพื่อนคนที่เธอกำลังจะไปหาแน่
เมื่อถึงหอพักของเพื่อนย่านบางเขน เธอลงจากรถและก็เจอกับเพื่อนที่ยืนรอเธออยู่อย่างเป็นห่วง ปิ่นปักหมดซึ่งความอายแล้ว เวลานี้เธอต้องการเพียงแค่คำปลอบใจจากคนที่รักเธอ
“ฝน..ฮือๆๆ”
หญิงสาวที่เคยหยิ่งทระนงโผเข้าไปร้องไห้อย่างหมดคราบกับเพื่อนสาวคนซื่อ ฝนลูบผมเธอเบา ๆ และบอกว่า
“ไปข้างบนก่อนนะ”
   เจ้าของห้องพาเพื่อนที่บอบซ้ำมาพักผ่อน ในเวลานี้เธอยังไม่ถามอะไรปล่อยให้เพื่อนระบายความรู้สึกและปล่อยโฮให้สาแก่ใจเสียก่อน ฝนบอกกับปิ่นปักที่กำลังโศกเศร้าว่า
“อยู่ที่นี่ให้สบายใจก่อนนะปิ่น หรือจะอยู่กับชั้นเลยก็ได้”
ปิ่นปักพยักหน้าทั้งน้ำตา เธอซาบซึ้งในน้ำใจของเพื่อน และโผเข้ากอดฝนอีกครั้งด้วยอยากจะบรรเทาความปวดร้าวในจิตใจ 
เธอพอเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่เพื่อนเคยบอกมันหมายถึงอะไร และคนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือเธอนี่เอง
มันคงถึงเวลาที่เธอต้องถอดรองเท้าส้นสูงคู่สวยนี้เสียแล้ว.....




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 07-02-2012 17:10:21
ครบแล้วค่ะ ตามทันแล้วนะคะ สนุกดีค่ะ จะตามลุ้นต่อนะคะว่าจะลงเอยแบบไหน

ขอบคุณมาก ๆๆๆๆ เลยค่ะ ขอบคุณที่อยู่กับน้ำพริกแมงดามาตลอดด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 07-02-2012 18:08:22
อร๊าก...โดน....รองเท้าที่สวย แต่ใส่ไม่สบาย..
ชอบที่มีมุมมองของทุกคนในเรื่อง อ่านแล้วรู้สึกสบายใจดี
เพราะได้เรียนรู้ตัวละครทุกตัว แฟร์ดีคับ ชอบอ่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 07-02-2012 18:42:55
มองอีกมุมเทอก็น่าสงสารนะ แต่ก็นะ มากเกินไปอ่ะ แต่เชื่อว่าต้องมีสักคนหละที่เข้ากับเทอได้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 07-02-2012 19:45:17
คิดได้ซักทีนะนังปิ่น
ทีนี้พี่หมูก็ว่างแล้ว เย้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 07-02-2012 20:11:48
**คือ เหมือนแกใส่รองเท้าส้นสูงสวย ๆ แต่มันทำให้แกเท้าเจ็บ แกจะถอดมามั๊ย
คือ แกจะยอมอดทนอยู่กับคนที่เข้ากับแกไม่ได้ตลอดไปเหรอ  คนที่เจ็บปวดที่สุดก็คือแกนะปิ่น”
ชอบอุปมาอุปไมยข้างบนนี้จังค่ะ น้ำพริกแมงดา เข้าใจเปรียบนะ  ให้ภาพให้ความเข้าใจชัดเลย
แอบดีใจแทนนิธินนะเนี่ย ตอนนี้หมูโสดแล้วจ้า ให้ยัยปิ่นไปหาส้นสูงคู่ใหม่ที่เหมาะกับยัยปิ่นเหอะ


หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: sumonta ที่ 07-02-2012 20:24:49
สนุกค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 07-02-2012 20:36:54
ควารักกับรองเท้าส้นสูง.....เห็นภาพอย่างแรงเลยนิ o13
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 07-02-2012 20:47:06
ปิ่นเขาจะยอมถอดแล้ว
ถ้างั้นก็ถึงเวลาเปลี่ยนคนใส่แล้วใช่ไหมครับพี่หมู 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 07-02-2012 22:07:18
ถ้าไม่ดันทุรัง ก็ไม่เจ็บมากขนาดนี้หรอกปิ่นปัก :เฮ้อ:
ลองได้คิดดีๆแล้วเธอก็จะรู้ว่าทำไมทุกอย่างถึงเป็นแบบนี้ ต้นเหตุมันมาจากใคร
แต่ถ้าจะให้บอกล่ะก็ พี่หมูเค้าต้องคู่กับหนุ่มอินเดียสุดหล่อจ้า  :laugh:
ป.ล. บางทีก็สู้กับรองเท้าจนมันใส่ได้ปกติเลยนะคะ :m20:
ป.ล. 2 น้องรีบนอ่ะ ไม่่ต่อนิยายตัวเองบ้างเหรอคะ (ทวงกันหน้าด้านๆ :jul3:)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/255
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 08-02-2012 00:58:29
ความสวย กับความสบาย เลือกเอาเองเถอะแม่คุณ แต่ว่าอย่างหล่อนคงจะเลือกอยากหน่อยเพราะหล่อนรักใครไม่เป็นนอกจากตัวเอง นังปิ่น ปล.จิ้มตูดคนข้างบนแก้คิดถึง 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 08-02-2012 01:29:13
เศร้าแทนปิ่นปัก

เจ็บแต่จบนะ ดันทุรังไปก็เท่านั้น

http://www.youtube.com/v/yBOFkS6kpPk
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:7/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 08-02-2012 15:50:21
มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆๆ นะคะทุกคน

8

  คืนวันเสาร์นี้ อธิปพงศ์ที่เพิ่งกลับมาจากทำงานสักพักกำลังนั่งเล่นอยู่คนเดียวในห้อง จากที่ทะเลาะกันวันนั้นปิ่นปักก็ออกไปอยู่กับเพื่อน เลยทำให้ห้องนี้ดูปลอดโปร่งขึ้น เขามองไปรอบห้อง ไม่ได้รู้สึกเหงาหงอยเหมือนแต่ก่อน ชายหนุ่มนึกขึ้นได้จึงกดโทรศัพท์หาแม่ที่ลพบุรี รู้สึกตัวว่าในบางครั้งเขาก็ไม่ใช่ลูกที่ดีนัก เพราะไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมบ้าน แม้กระทั่งโทรหาก็แทบไม่มีเวลา นอกจากโอนเงินที่เขาหาได้ส่งไปทุกเดือน
 อธิปพงศ์ยกหูและรอสายจากปลายทาง
"ฮัลโหล" คนเป็นแม่รับสายด้วยความดีใจที่ลูกชายคนเดียวโทรมา
"หวัดดีครับแม่ นี่หมูนะ แม่สบายดีมั๊ย และยายเป็นไงมั่ง"
"ก็สบายดี เรื่อยๆหน่ะ แล้วหมูล่ะลูกเป็นไงมั่ง"
"สบายดีครับ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง"
"ไม่ให้แม่ห่วงไม่ได้หรอกลูก แม่เป็นแม่นี่นา"
"อ่าครับ แล้วสวนแม่เป็นไงมั่ง" เขาหมายถึงกิจการสวนไม้ดอกไม้ประดับของแม่ที่ทำอยู่เป็นอาชีพหลัก
"ปีที่แล้วรอดน้ำท่วมก็เลยยังโอเคอยู่ แต่ปีนี้แม่ล่ะหวาดเสียวจริงๆ เลยลูกเอ๊ย...เออแล้วกรุงเทพเป็นไงมั่ง หวังว่าคงไม่เหมือนปีที่แล้วนะ"
"ครับ ยังไม่มีอะไร"
"อืม แล้วหมูกับแฟนเป็นไงมั่ง"
อธิปพงศ์เงียบไปเมื่อพูดถึงเรื่องนี้
"หมู มีอะไรรึเปล่าลูก"
"เปล่าครับแม่ คือ ผมกำลังคิดอยู่ว่า ผมไปกับเธอได้จริง ๆ หรือเปล่า"
"ทำไมล่ะ เล่าให้แม่ฟังได้มั๊ย"
"ก็...."
   อธิปพงศ์เล่าเรื่องทั้งหมดที่เขารู้สึกว่าเธอเข้ากับเขาไม่ได้จริงๆ อย่างไร หลังจากที่เขาให้โอกาสครั้งนั้นเธอก็ยังไม่คิดจะปรับปรุงตัว และพักหลัง เขากับเธอหมางเมินและทะเลาะกันบ่อยขึ้น
    เหมือนเกลียวเชือกที่ค่อย ๆขาดสะบั้นลงช้า ๆ
"อืม" คนเป็นแม่ไม่รู้จะพูดอย่างไรเมื่อรับรู้เรื่องทั้งหมด ถึงเธอจะไม่เคยเจอแฟนลูกเลยสักคน แต่ก็ตกใจไม่ได้ที่ลูกชายจะเลิกกับแฟนอีกแล้ว
"แล้วที่หมูจะเลิกกับเค้านี่ เพราะหมูมีคนอื่นรึเปล่า" เธอคาดเดา จากที่เมื่อก่อนลูกชายเธอชอบทำอย่างนั้น
"เปล่าครับแม่"
"จริงอ้ะ"
"ครับ ผมพูดจริงๆนะ โธ่แม่ ผมก็จริงจังเป็นเหมือนกันน้า"
"อืม ๆ เชื่อก็ได้ แต่แม่ว่ายังไงก็ใจเย็น ๆ ค่อยๆ คิดนะหมู"
"ครับแม่"
   อธิปพงศ์คุยกับแม่ต่อสักพักก็วางสาย เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้างที่ได้คุยกับแม่ แต่กระนั้นก็ยังไม่ลุล่วงใจ เขาจึงหยิบบุหรี่บนโต๊ะออกไปจุดสูบที่ระเบียง
  ถึงรสชาติของบุหรี่จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่ช่วยบรรเทาความว้าวุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่ในใจเลย ปากสวยพ่นความทุกข์ใจบางส่วนออกมากับควันสีขาว อธิปพงศ์กลุ้มใจกับความรักที่ถึงทางตันของตัวเอง ในเมื่อแฟนสาวยังคงไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น ชายหนุ่มก็ไม่รู้จะทำอะไรกับเธอได้อีก

  คืนนี้เขารู้สึกอยากเมา ด้วยความกลุ้มใจและไม่ได้ออกไปไหนนานแล้ว เขาจึงอยากดับความรู้สึกของตัวเองกับเหล้าและใครสักคน        อธิปพงศ์จึงโทรหาคนคนนั้นที่เขาอยากอยู่ด้วยในเวลาทุกข์ใจอย่างนี้
"ฮัลโหล นิธิน คุณทำอะไรอยู่หน่ะ"
"อืม ผมดูทีวีอยู่ มีอะไรเหรอครับ"
"เอ่อ คืนนี้ไปเที่ยวกับผมมั๊ย"
"ไปเที่ยว?" นิธินทวนคำงงๆ เพราะคำว่าไปเที่ยวมีหลายความหมาย
"I mean to hang out in the nightlife, drinking and dancing sonething like that"
"อ๋อ ครับ ไปครับ"
"เดี๋ยวเจอกันที่บีทีเอสชิดลมนะครับ"
"ครับ เจอกัน" นิธินรับคำแล้วยิ้มบางๆ ออกมา
   ถึงแม้จะดีใจที่ได้ไปเที่ยวกับอธิปพงศ์ แต่เขาก็สัมผัสผ่านน้ำเสียงได้ว่ามีความทุกข์ขมไม่น้อยอยู่ในตัวอีกฝ่าย และก็คงเป็นเรื่องเดิม ๆ ที่ยังเกิดขึ้นกับตัวอธิปพงศ์ แต่คราวนี้เห็นทีว่าเขาจะกลุ้มใจมากทีเดียว ถึงได้ชวนออกไปกินเหล้าด้วยกันอย่างนี้ นิธินถอนหายใจเล็กน้อย และลุกไปสวมเสื้อผ้าสำหรับไปนั่งเป็นเพื่อนคนมีปัญหาที่เขารัก

 คนทั้งสองเจอกันในครึ่งชั่วโมงต่อมาที่บีทีเอสชิดลม อธิปพงศ์ยิ้มให้นิธินที่มาในเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงยีนส์ทรงกระบอก
 "คนอะไรแต่งตัวแต่นี้ยังดูดี" อธิปพงศ์ที่สวมเสื้อยืดคอวีและยีนส์สกินนี่เดฟมองคนร่างใหญ่กว่าด้วยความชื่นชม นิธินเดินเข้ามาใกล้ ๆ และส่งยิ้มอบอุ่นให้เหมือนเคย
"ไปกันเถอะครับ" อธิปพงศ์ชักชวน โดยพานิธินต่อแท็กซี่เพื่อจะไปยังจุดหมาย คือผับแถว ๆหลังสวน นิธินเองก็สำรวจคนข้างๆ เหมือนกัน ไม่คิดที่เขาคาดการณ์ไว้ ว่าอธิปพงศ์มีอะไรในใจอย่างแน่นอน อธิปพงศ์รู้ตัวว่าถูกมองจึงหันมายิ้มให้ นิธินก็ยิ้มตอบด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
เขาจึงจับมืออธิปพงศ์มากุมไว้ เผื่อว่าเจ้าตัวจะรู้สึกดีขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อย
ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมา นอกจากแววตาและความรู้สึกที่ส่งผ่าน อธิปพงศ์รับรู้สิ่งที่นิธินกำลังมอบให้ด้วยความยินดี ถึงแม้ตอนแรกจะตกใจเล็กน้อยก็ตาม เขามองตาที่ฉายแววห่วงใยและปล่อยให้อีกฝ่ายกุมมือเขาอยู่อย่างนั้นจนกว่าจะถึงที่หมาย

 ถึงแม้จะเป็นวันเสาร์แต่ก็อยู่ในช่วงปลายเดือน ทำให้ในร้านยังมีโต๊ะว่าง อธิปพงศ์เลือกจึงโต๊ะข้างนอกสำหรับนั่งดื่มและฟังเพลงเบา ๆ สักพักแบนเหล้าและน้ำแข็งก็อยู่ตรงหน้า เมื่อบริกรรับเงินจากไป การร่ำสุราของคนทั้งสองก็เริ่มต้น
เมื่อสีเหล้าในแก้วเข้มขึ้น อธิปพงศ์ที่นั่งดื่มเงียบ ๆ ก็เริ่มเปิดปากระบายความทุกข์ให้นิธินฟัง โดยที่นิธินเองก็นั่งรับฟังด้วยความเต็มใจ
อธิปพงศ์ถามนิธินว่า
"นิธิน คุณมีแฟนรึเปล่า"
นิธินยิ้มน้อยๆและส่ายหน้า "ไม่มีครับ"
"จริงรึเปล่า" อธิปพงศ์ไม่อยากจะเชื่อว่าหนุ่มอินเดียรูปหล่อตรงหน้าจะยังโสด เขาที่กำลังเมากรึ่มๆ แอบดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ยังไม่แน่ใจกับสิ่งที่ได้ยิน
"นี่คุณยังไม่แฟนจริง ๆเหรอ..."
"คุณไม่เชื่อ.." นิธินยิ้มๆ
"ก็ ผมเคยได้ยินมาว่าคนอินเดียแต่งงานเร็ว ผมก็เลยอยากรู้ว่าคุณมีแฟนรึยังหน่ะ" 
"ก็เคยมีหล่ะครับ แต่ว่าตอนนี้ผมไม่มี"
"อืม..." อธิปพงศ์รับและยกเหล้าขึ้นจิบ
"ผมขอถามหน่อยนะ ตอนนั้นส่วนใหญ่คุณมีปัญหาอะไรกับแฟนเหรอ"
"ก็ หลายเรื่องครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ และก็แฟนผมบางคนต้องแต่งงานกับคนที่ครอบครัวหาให้หน่ะ"
"อืม.." อธิปพงศ์พยักหน้ารับรู้ "แย่จังเลยเนอะ ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีเรื่องแบบนี้บนโลกอีก"
"แต่มีที่อินเดียครับ"
คนทั้งสองหัวเราะให้กันและดื่มกันต่อ
 พอเหล้าเหลือครึ่งขวด นิธินสังเกตุเห็นอธิปพงศ์ชงเหล้าเข้มขึ้น และกรอกใส่ปากแบบแก้วต่อแก้ว จนตอนนี้ชายหนุ่มอยู่ในสภาพเมาขาดสติ เขาพรั่งพรูสิ่งที่เก็บกดมาตลอดให้นิธินรับรู้
"ทำไม....ผมมันโชคร้ายยังงี้ ทำไมผมถึงไม่เจอกับคนที่รักผมจริงๆ ซะที"
นิธินเห็นอธิปพงศ์เมาหนักแล้วจึงย้ายมานั่งข้างๆเพื่อดูแลคนที่เริ่มลืมตาไม่ขึ้น
"คุณนิธิน คิดดูสิ ผมไม่เคยรู้สึกเลยว่าแฟนผม เค้ารักผมจริงๆ ทำไม ถ้าสักวันผมตกงาน ผมกลายเป็นคนอัปลักษณ์ จะมีใครอยู่กับโผมมม เอิ้ก!"
"คุณหมู Enough!!" นิธินหยิบแก้วเหล้าออกจากมือนิธินที่กำลังจะชงใหม่
"ผมไม่มาวว ไม่ต้องเป็นห่วงผม"
"Enough!! You know,if you won’t face the problems, you’ll overwhelmed with trouble” คุณก็จะจมอยู่กับความรู้สึกทุกข์ตลอดไปนะ คุณเข้าใจมั๊ย"
ได้ยินอย่างนั้นอธิปพงศ์ก็ร้องไห้ออกมา นิธินเห็นว่าอีกฝ่ายเมามากแล้วจึงพาอธิปพงศ์กลับทันที เขาประคองคนเมาอย่างยากลำบาก ถึงแม้อีกฝ่ายจะตัวเล็กกว่าก็ตาม เขาตัดสินใจพาอธิปพงศ์ที่เมาไม่ได้สติไปที่พักของเขา เพราะเวลานี้เจ้าตัวคงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แม้แต่น้อย
 
 นิธินประคองร่างอธิปพงศ์ที่แทบก้าวขาไม่ออกลงจากแท็กซี่เมื่อถึงที่พัก เขาเรียกลองเรียกคนเมาเบา ๆ
"คุณหมูๆ"
"งืมๆๆๆ"
เจ้าตัวตอบแค่นั้นก็ทำท่าจะลงไปนอน เขาจึงต้องคว้าเอวไว้ เมื่อเห็นว่าอธิปพงศ์ไม่ไหวจริง ๆ นิธินจึงช้อนตัวอธิปพงศ์มาอุ้มไว้แล้วพาขึ้นลิฟท์ไปข้างบน อธิปพงศ์ที่เมาอยู่รู้สึกตัวว่ามีที่นอนมารองรับแล้ว จึงระบายยิ้มอย่างมีความสุข
นิธินมองหน้าอธิปพงศ์ที่หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมอกเขา ถึงจะรู้สึกดีที่ได้ดูแลคนที่เขารักแต่ก็รู้สึกแย่ที่เห็นเจ้าตัวเป็นทุกข์จนหมดสภาพแบบนี้

เมื่อถึงห้องนิธินจึงวางอธิปพงศ์ลงบนเตียง และถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำ แต่คนเมากลับพลิกตัวนอนคว่ำคุดคู้จึงเผยให้เห็นสะโพกกลมกลึงได้รูป โดยเฉพาะตอนนี้เจ้าตัวสวมใส่ยีนส์แบบสกินนี่เดฟแล้วด้วย ทำให้ยิ่งเย้ายวนในสายตาเจ้าของห้องยิ่งนัก นิธินอดไม่ได้ที่จะมาดูใกล้ๆ ผิวขาวเนียนนั้นระเรื่อด้วยเลือดฝาดไปทั่วร่างจนเจ้าตัวอดไม่ได้ที่จะอยากลองสัมผัสดูสักครั้ง
 แต่เขาก็ชะงักเมื่ออธิปพงศ์พลิกตัวเป็นนอนหงายและลืมตามองมาที่เขา นิธินจึงได้สติรีบไปอาบน้ำทันที

 อธิปพงศ์ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับอาการมึนหัวที่ความเมาทิ้งไว้เมื่อคืน เขาหยีตาปรับแสงสู้แดด พอมองไปรอบๆก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องเขา และก็มีเขาเพียงคนเดียวในห้องนี้ ชายหนุ่มจึงได้สติ และพยายามนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่ก็นึกไม่ออก จำได้แค่ว่าไปกินเหล้ากับนิธินเท่านั้น
"นี่กูเมาขนาดนี้เลยเหรอวะ" เขาตำหนิตัวเองในใจ และมองสำรวจไปทั่ว เมื่อเดินดูก็เจอแต่กระดาษโพสอิทที่มีคำศัพท์ภาษาไทยที่แปะอยู่ตามเครื่องใช้ ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับความทุ่มเทของเจ้าของห้องจริง ๆ  แต่เมื่อได้ยินเสียงคนออกจากห้องน้ำ เขาก็หันไปมองตามทันที
 "ฟู่วว...!"เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าเป็นนิธิน นี่เขาเมาจนต้องให้อีกฝ่ายแบกกลับห้องเลยเหรอเนี่ย ชายหนุ่มแอบละอายใจ
นิธินที่ตอนนี้นุ่งเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเดียวยิ้มให้คนเมาที่เพิ่งตื่น อธิปพงศ์จึงรีบบอกกับเขาว่า
"เอ่อ ผม ขอโทษด้วยนะครับ รบกวนคุณจริงๆ"
อธิปพงศ์ทั้งละอายใจและเขินอายกับภาพตรงหน้า เนื้อตัวกำยำพร่างพราวไปด้วยหยดน้ำ ทำให้ใบหน้าคมเข้มนั้นดูมีเสน่ห์น่าหลงใหลขึ้นได้อีก
"ไม่เป็นไรหรอกครับ คิดมาก" นิธินตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับเช็ดผมไปด้วย
"เอ่อครับ แล้วนี่กี่โมงแล้ว"
"สิบโมงครึ่งครับ"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็โอดครวญ"โอ๊ย แย่แล้ว...ผมตื่นไม่ทันทำงาน"
"ไม่เป็นไรครับ ผมโทรไปหาคุณกุ้งแล้ว คุณกุ้งบอกว่าให้คุณลาได้หนึ่งวัน"
"โอย ผมนี่แย่จัง"
"ไม่หรอกครับ คิดมาก"
"เมื่อคืนผมทำอะไรน่าเกลียด ๆไปรึเปล่า" อธิปพงศ์ถาม
"ไม่มีหรอกครับ แค่คุณเมามากไปหน่อยเท่านั้นเอง"
"ผมขอบคุณคุณมากเลยนะครับ ถ้าไม่ได้คุณดูแลผมคงแย่แน่ๆ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ" นิธินยิ้มให้ไม่ถือสา ในเมื่อเห็นว่าวันนี้อธิปพงศ์ว่างแล้ว เขาจึงลองเอ่ยปากชวน
"คุณหมูครับ วันนี้ไปสนามคริกเก็ตกับผมมั๊ย"
"หืมม์...คริกเก็ตเหรอ"
"ครับ ผมชอบไปเล่นคริกเก็ตทุกวันอาทิตย์ ไปด้วยกันมั๊ยครับ"
"ผมเล่นไม่เป็นนะ จะดีเหรอครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมอยากให้คุณไปด้วย จริงๆ นะ"
อธิปพงศ์ตัดสินใจไม่นานก็ตอบรับคำชวนทันที
"ได้ครับ ก็ดีเหมือนกัน"

ป๊อกกี้ตกใจอย่างยิ่งเมื่อรู้ว่าคนที่ไม่เคยขาดหรือลางานอย่างอธิปพงศ์ไม่มาทำงานในวันนี้ เลยมาถามเจ้าของร้านถึงที่มาที่ไป
"ว้ายย พี่หมูลางานเหรอคะ เกิดอะไรขึ้นเนี่ย กรุงเทพหิมะตกแล้วค่ะคุณแม่"
"อืม ชั้นให้ลาเอง ช่วงนี้เห็นหมูมันเหนื่อย ๆเลยให้มันพักบ้าง"
"ค่ะ หวังว่าวันนี้ลูกค้าพี่หมูคงไม่พาเหรดกันมานะคะ เหนื่อยจะเคลียร์" ป๊อกกี้มาเมาท์แค่นั้นและไปทำงานต่อ พี่กุ้งคิดถึงลูกน้องตัวเองจากการที่คุยกับนิธินที่โทรมารายงาน เขาตกใจว่าฝ่ายนั้นเมาจนขาดสติ แต่ก็ค่อยเบาใจเมื่อรู้ว่ามีนิธินคอยดูแลอยู่
"รบกวนฝากดูแลหมูด้วยนะครับ"
"ครับ ไม่เป็นไรครับ"
นิธินตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ทำให้พี่กุ้งรู้สึกวางใจขึ้นได้เยอะ

"พี่กุ้งคะ พี่กุ้ง" หญิงเข้ามาพี่กุ้งที่กำลังเก็บของอยู่
"ว่าไง มีอะไรเหรอหญิง"
"เอ่อ...." หญิงลังเล เพราะไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องนี้ดีหรือเปล่า
"ว่าไง มีอะไร"
"คือ พี่กุ้งคะ เรื่องพี่หมูอ่ะค่ะ" เพราะเมื่อเช้าหญิงเป็นคนรับโทรศัพท์จากนิธิน เธอจึงมาคุยเรื่องเกี่ยวอธิปพงศ์ที่เธอรู้สึก เธอจึงกล้า ๆ กลัว ๆ ถามเจ้าของร้าน
"คือ...พี่กุ้งว่า...คุณนิธินเค้าคิดอะไรกับพี่หมูรึเปล่าคะ"
"ยังไงล่ะ ว่ามาสิ" พี่กุ้งย้อนถามด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ ไม่ให้ลูกน้องรู้สึกเกร็งไปกว่านี้
"เอ่อ หนูรู้สึกว่าคุณนิธินเค้ากำลังจีบพี่หมูอยู่ อ่ะค่ะ"
พี่กุ้งได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะออกมา "ฮ่ะๆๆๆๆ"
"ทำไมอ่ะพี่"
หญิงตกใจเหรอหราที่เห็นนายจ้างขบขัน แต่พี่กุ้งก็ถามมาอีก
"ดูออกด้วยเหรอ เราเนี่ย"
"ก็หนูไม่แน่ใจไงคะ ถึงมาถามพี่เนี่ย"
"อืม แล้วนี่คุยเรื่องนี้กับนังป๊อกมันหรือเปล่า"
"เปล่าค่ะ รายนั้นรู้ไม่ได้เลยนะ เรื่องแบบนี้"
"ดีแล้วหล่ะหญิง"
"แล้วตกลง พี่ว่าคุณนิธินเค้าจีบพี่หมูจริงรึเปล่าคะ"
ผู้อาวุโสตอบกลับมาว่า"ไม่รู้สิ"
"อ๋าว..."หญิงผิดหวังที่ได้ยินอย่างนั้น
"แต่เชื่อเถอะว่าที่รู้สึกหน่ะ ถูกแล้ว"
"หมายความว่า..."
"อืม แล้วเราว่าไง"
"ไม่รู้สิคะพี่ แต่ก็ดีนะ คุณนิธินก็หล่อและดูเป็นคนใจดีด้วย พี่หมูก็น่ารัก เหมาะสมกันดี คิคิคิ" เด็กสาวยิ้มชวนฝัน ถ้าเขาเป็นแฟนกันจริงๆ ก็คงเหมือนในการ์ตูนวายที่เธอเคยอ่าน
"อืม ก็ดีแล้ว งั้นก็รอดูต่อไปละกัน"
"ค่ะ อิอิ"
หญิงขอตัวไปทำงานข้างนอก ปล่อยให้พี่กุ้งใช้ความคิดอยู่กับเรื่องนี้ต่อ
ถึงเขาจะเคยเจอกับนิธินมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้จักนิธินดีพอ เลยไม่สามารถสรุปทุกอย่างได้ในตอนนี้ แต่เท่าที่สัมผัสได้นิธินก็เป็นผู้ชายนิสัยดีมากคนหนึ่ง พี่กุ้งจึงได้แต่หวังว่านิธินจะเป็นคนอย่างนั้นจริงๆ




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....


หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 08-02-2012 17:01:23
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-02-2012 18:23:16
ใกล้กันเข้าไปอีกระดับแล้ว
ผู้ใหญ่จีบกันนี่น่ารักไปอีกแบบเนอะ ดูเรียบๆเรื่อยๆแบบค่อยเป็นค่อยไป
เหมือนหยดน้ำที่ค่อยๆซึมลงดิน ดินจะค่อยรับความชุ่มชื้นจนอิ่มตัวไปในที่สุดล่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-02-2012 19:57:17
เกือบจะสติหลุดเพราะ ก้นกลมกลึงแล้วมั้ยหละ นิธิน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 08-02-2012 20:08:25
นิธินจะพาหมูไปเปิดตัวกับเพื่อนสินะ หุหุ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/255
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 08-02-2012 21:27:28
ไปค้างด้วยกันมาแล้ว กรี๊ด!
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 09-02-2012 01:12:55
เข้ามารายงานตัวจ๊ะ   
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 09-02-2012 09:16:12
พาไปเปิดตัว....ฮี้ว....ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:8/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 09-02-2012 15:17:29
มาแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่ผู้อ่านต้อนรับนิยายเรื่องนี้อย่างอบอุ่นไม่แพ้เรื่องก่อน ๆ  และก็ขอบคุณที่ให้กำลังใจคนเขียนมาโดยเสมอ ขอบคุณค่ะ


9

  ฮอนด้าแอคคอร์ดสีดำของวิษณุจอดเข้าซองเรียบร้อยที่หน้าอพาร์ตเม้นท์ของนิธิน ก่อนที่เจ้าของรถจะกดโทรศัพท์หาเพื่อน
วันอาทิตย์อย่างนี้ชายหนุ่มอินเดียอย่างพวกเขามีนัดเล่นคริกเก็ตกันอย่างเคย และวิษณุก็แวะมารับนิธินเพื่อจะไปที่สนามด้วยกัน
"ฮัลโหล ๆนิธิน" วิษณุกรอกเสียงลงไปในสาย เมื่อเขาขับรถมารับที่ที่พัก
"มาแล้วเหรอ"
"ใช่ ๆ รออยู่ข้างล่างเนี่ย"
"ได้ๆ จะลงไปเดี๋ยวนี้"
นิธินหันมาบอกกับอธิปพงศ์ที่อาบน้ำแล้วแต่ยังสวมชุดเดิม เพราะเขาไม่สามารถเปลี่ยนเสื้อผ้าของนิธินมาสวมใส่ได้
"ไปครับ"
 อธิปพงศ์ยิ้มรับเจ้าของห้องที่สวมเสื้อโปโลกับกางเกงยีนส์ นิธินออกจากห้องพร้อมด้วยกระเป๋าที่ใส่เสื้อผ้าไปเปลี่ยนและไม้คริกเก็ตส่วนตัว เขากับอธิปพงศ์ลงลิฟท์ และเดินมาหาวิษณุที่นั่งรอในรถ
 ส่วนวิษณุที่เห็นว่านิธินมากับใครก็ตาโตมองเพื่อนอย่างไม่เชื่อ ลงมาด้วยกันอย่างนี้ แสดงว่าคุณคนนี้ตกลงปลงใจกับเพื่อนเขาแล้วสิ วิษณุคิดอย่างนั้น
"วันนี้มีคุณหมูไปด้วย รบกวนนายด้วยนะ" นิธินบอกกับวิษณุที่ดูตื่นเต้นตกใจ
"ได้ๆ ไม่มีปัญหา" คนเป็นเพื่อนตอบรับ
"ขอบใจนะ"
นิธินหันมาหาอธิปพงศ์
"คุณหมูครับ นี่วิษณุเพื่อนผม"
"หวัดดีครับ" วิษณุทักทายเป็นภาษาไทย "ผมเคยเจอคุณครั้งนึงพร้อมกับนิธิน จำได้มั๊ยครับ"
"สวัสดีครับ จำได้ครับ"
"ป่ะ นิธิน นี่กินอะไรกันมายัง"
"เรียบร้อยแล้ว" นิธินตอบก่อนจะเปิดประตูรถ เพื่อจะนั่งเบาะหน้า แต่วิษณุส่งสัญญาณให้เพื่อนไปนั่งเบาะหลังแทน
นิธินเห็นอย่างนั้นเลยพยักหน้ารับรู้ จึงเปลี่ยนไปนั่งกับอธิปพงศ์
"อ่าว ทำไมไม่นั่งกับคุณวิษณุล่ะครับ"
อธิปพงศ์งง ๆ แต่วิษณุก็ตอบแทนว่า
"อ๋อผมมันคนขี้รำคาญหน่ะครับ ผมไม่ชอบให้ใครมานั่งเบาะหน้าด้วย"
ได้ยินอย่างนั้นนิธินเลยล้อเลียน
"แล้ววันหลังชั้นจะบอกแฟนแก"
"นั่นข้อยกเว้นเว้ย!"
"ฮ่ะๆๆ" นิธินหัวเราะกับเพื่อน อธิปพงศ์เองก็เช่นกัน วิษณุจึงถือโอกาศช่วยเพื่อนสร้างบรรยากาศทันที
"เอ้อ นิธินนายชวนคุณหมูไปด้วยสิ"
อธิปพงศ์ประหลาดใจ "หืมม ไปไหนครับ"
"อ่อ ไปงานแต่งงานของวิษณุครับ" นิธินตอบ
"แต่งงานเหรอ" อธิปพงศ์ดีใจกับเรื่องมงคลที่ได้รับรู้ "ยินดีด้วยนะครับคุณวิษณฺ"
"ครับ วันที่ 26 พฤศจิกายน มากับนิธินให้ได้นะครับ"
"ครับ ขอบคุณนะครับที่ให้เกียรติ"
อธิปพงศ์ตอบรับด้วยความยินดี และวิษณุก็ชวนคนทั้งสองคุยอย่างสนุกสนานตลอดการเดินทาง

"แท้แต!...ถึงแล้วคร้าบบ" วิษณุล้อเลียนเพื่อนโดยการทำตัวเป็นคนขับรถกับเจ้านาย นิธินกับอธิปพงศ์ที่ลงมาจากรถขำเล็กน้อย และพากันเดินมาที่ตัวอาคารริมสนาม วิษณุที่เดินนำหน้ามายังโต๊ะประจำส่งสายตาพยักเพยิดให้เพื่อน ๆ รับรู้ เอเจกับแทนไทที่นั่งรออยู่ก็ตกใจเมื่อเห็นว่าวันนี้ใครมาด้วย

"อุ๊บ๊ะ!ให้มันได้อย่างนี้สิลูกพ่อ" เอเจตบเข่าฉาดทันที
"ไวจริงๆ ทีนี้เพื่อนเราจะได้เลิกหงอยซะที"
"เฮ้ย มาแล้ว" เมื่อวิษณุพานิธินกับอธิปพงศ์มาที่โต๊ะ พวกเขาจึงทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
"ไง มานานยัง" วิษณุถามเพื่อนเป็นภาษาฮินดี
"สักพักว่ะ" เอเจตอบ
นิธินรีบแนะนำ
"เอ้อ วันนี้คุณหมูมาด้วยนะ คุณหมูครับ นี่เอเจกับแทนไทครับ"
"จำได้ครับ หวัดดีครับ"
"หวัดดีครับ" สองหนุ่มรีบรับคำ และพยายามเก็บอาการอยากรู้อยากเห็น
“คุณหมู ครับ สนใจเล่นคริกเก็ตด้วยกันมั๊ย” นิธินถาม
“ไม่หรอกครับ ผมเล่นไม่เป็นอ่ะ”
แทนไทช่วยเชียร์
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ก็ลองตีลูกโยนลูกก่อนก็ได้ เดี๋ยวให้นิธินสอนให้ไงครับ”
“ใช่ครับ..ลองดูมั๊ย เล่นแบบนู้นไงครับ”
นิธินชี้มือไปยังกลุ่มเด็ก ๆ ที่หัดโยนลูกตีลูกอยู่ริมสนาม อธิปพงศ์เห็นว่าท่าทางน่าจะสนุกดีเลยตอบตกลง
“ก็ได้ครับ”
อธิปพงศ์ยิ้มให้กับนิธินและเพื่อน ๆที่หันมามองหน้ากันอิ๊อ๊ะ
“เอ้อ คุณหมูรอตรงนี้แบบนึงนะครับ เดี๋ยวผมไปเช่าแบทมาให้”
“แบท.?”
“ไอ้นี่หล่ะครับ ที่เรียกว่าแบท” นิธินชูไม้ตีคริทเก็ต หรือ แบท ให้ดู
“อ่อ ครับ หุหุ”
“เดี๋ยวผมมานะ”
“ครับ”
  เมื่อนิธินคล้อยหลังไป อธิปพงศ์ก็หันมามองหน้ากับเพื่อน ๆ ที่เหลืออยู่ พวกเขายิ้มให้อธิปพงศ์อย่างเป็นมิตร วิษณุจึงได้ทีขายตรง
“นิธินเค้าเล่นคริกเก็ตเก่งนะครับ เห็นตัวใหญ่ ๆ อย่างนั้นไม่เชื่อว่าวิ่งเร็วและตีลูกแม่นด้วย”
“อืม แล้วคริกเก็ตนี้เล่นกันยังไงอ่ะครับ” อธิปพงศ์สงสัย
แทนไทเลยตอบว่า
“ก็ มีสองทีม ทีมละ 11 คนเหมือนฟุตบอลแหล่ะครับ อยู่ข้างนอกและข้างในสนาม ทีมนึงจะจัดให้คนหนึ่งเป็นคนขว้างลูกไปที่ไม้บนสนามสามอัน และอีกทีม จะจัดคนมารักษาไม้ในสนาม ถ้าตีถูกลูกก็วิ่งวนไปเพื่อเอาแต้ม จนกว่าพวกของทีมตรงข้าม ที่อยู่ในสนาม จะนำลูกกลับมาได้”
“อ่อ ครับ”   อธิปพงศ์พยักหน้าตอบรับ เขามองว่ากีฬาชนิดใหม่ที่เขาเพิ่งรู้จักนี้ดูท่าจะเหนื่อยและมีกติกาเข้าใจยากสำหรับเขา
 "อ่ะ นิธินมาพอดี"
นิธินที่เดินมาถึงชูแบทขึ้นมาพร้อมกับยื่นให้
"นี่ครับ"
"ขอบคุณครับ"
อธิปพงศ์รับ ไม้ตีคริกเก็ตทรงแบนแต่มีด้ามจับทรงกลม ที่เรียกว่าแบทไว้ เขาคิดว่ามันน่าจะยาวกว่าไม้เบสบอล
"ผมต้องทำไงมั่งเนี่ย"
"ตามมาเลยครับ"
นิธินพาอธิปพงศ์ไปยังข้างสนามใต้แนวไม้ที่มีเด็ก ๆ และวัยรุ่น จับกลุ่มซ้อมตีลูกและขว้างลูก ชายหนุ่มสังเกตุมองเด็กๆรอบข้างว่าเล่นกันยังไง เมื่อลองจับไม้จริงๆ เขาก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างหนักเลยทีเดียว นิธินจึงอธิบายวิธีการเล่นคร่าวๆให้อธิปพงศ์ฟัง
"Do you see, hit the ball straight like that when I throwing to you"
"Umm, O.K."
"Let's try"
นิธินถอยห่างมาในระยะขว้างลูก ส่วนอธิปพงศ์ก็ตั้งท่ารออย่างดี
"1..2..3..."
เขาปาลูกไปข้างหน้าตรง ๆ ให้อธิปพงศ์ตีกลับ  แต่ก็...
"วืดดดดด...."
อธิปพงศ์ตีไม่โดนลูก โดยที่เซไปข้างหลังเล็กน้อย เขายิ้มเก้อๆ อายทั้งนิธินและเด็กๆที่เล่นอยู่รอบๆ เขาจึงไปเก็บลูกที่ตกอยู่ นิธินรับลูกมาใหม่จากเขา ก่อนบอกว่า
"ไม่เป็นไรนะครับ ลองดูอีกครั้ง"
อธิปพงศ์พยักหน้าเบาๆ และตั้งท่าตีใหม่
"1..2...3.."
แต่เจ้าตัวก็ยังตีพลาด เขาจึงรู้สึดอายเด็กๆมากกว่าเดิม
นิธินมองดูท่าท่างและการจับไม้ของอธิปพงศ์นั้นยังไม่ถูกต้อง เขาจึงเข้าไปสอนอย่างใกล้ชิด
"คุณหมูครับ เวลายืน ต้องยืนแแบบนี้นะ" เขาวางขาให้ดูเป็นตัวอย่าง
"และก็จับไม้แบบนี้" นิธินจับมืออธิปพงศ์ให้จับไม้ให้ถูกต้อง และกลับมายืนที่เดิม
"อ่ะ ลองดูอีกครั้งนะครับ"
นิธินปาลูกออกไป คราวนี้อธิปพงศ์ตีถูกลูก แต่ไม่สามารถบังคับทิศทางได้
ลูกจึงไม่มาหานิธินที่รอรับอยู่ เขาจึงรบกวนเด็กหนุ่มที่เล่นอยู่ข้าง ๆ มาส่งลูกให้
 ส่วนตัวเขาอ้อมไปข้างหลังอธิปพงศ์พร้อมกับจับมือชายหนุ่มเพื่อรอตีลูก
"ลองดูวิธีการตีลูกนะ"
 อธิปพงศ์ที่ตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนแข็งแรง หันมาพยักหน้าตอบ แต่ในใจของเขาเต้นระรัว เพราะไม่เคยอยู่ชิดใกล้กับนิธินขนาดนี้ ถึงเขาก้มหลบหน้าหล่อๆ นี้ได้แล้วแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีอ้อมแขนอบอุ่นที่เหมือนผ้านวมห่มตัวเขาตอนนี้ได้  ชายหนุ่มรู้สึกอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
"ลองดูอีกทีนะครับ 1...2...3.."
นิธินจับมืออธิปพงศ์ที่กำลังจิตใจอ่อนไหวตีลูกคริกเก็ตกลับไปหาอีกฝ่ายอย่างแม่นยำ อธิปพงศ์ดีใจมากที่ทำได้เสียที
"เห็นมั๊ย คุณทำได้แล้ว" นิธินก็ละออกมาอย่างเสียดายเช่นกัน อธิปพงศ์ก้มหน้าเล็กน้อยเพราะเขารู้สึกได้ว่าตัวเองกำลังเขิน
นิธินเห็นอีกฝ่ายหน้าแดงเลยถามอย่างเป็นห่วง
"คุณหมู เป็นอะไรรึเปล่าครับ"
"เปล่าครับ" อธิปพงศ์ตอบ "มาครับ ผมพร้อมแล้ว"
  นิธินส่งลูกไปให้ คราวนี้อธิปพงศ์ตีโดนและบังคับทิศทางลูกให้อีกฝ่ายรับได้ เขายิ้มดีใจและเริ่มเห็นความสนุกของกีฬาชนิดนี้แล้ว
นิธินกับอธิปพงศ์เล่นตีลูกคริกเก็ตด้วยกันอย่างสนุกสนาน คนทั้งสองยิ้มและหัวเราะกันอย่างมีความสุข โดยนิธินเป็นฝ่ายให้อธิปพงศ์มาโยนลูกบ้าง และแลกคู่กันเล่นกับเด็กๆ ที่มาซ้อมอยู่แถวนั้น แต่สักพักนิธินต้องขอตัวไปลงสนามใหญ่ เพราะเพื่อนๆ มาเรียกตัวแล้ว

สักพักทุกคนก็ลงสนาม อธิปพงศ์มองนิธินที่อยู่ในชุดเล่นคริกเก็ตและโบกมือพร้อมส่งรอยยิ้ม ทำเอากองเชียร์ในสนามถึงกับออกปากแซว
"งานนี้ เพื่อนเราเล่นดีแน่ เพราะมีคนพิเศษมาให้กำลังใจถึงที่เลย"
"หึหึ" นิธินหัวเราะเบาๆ เขารู้ว่าเพื่อนๆ คิดเรื่องนี้ไปไกลกว่าความจริงมากแล้ว เดี๋ยวตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังเกมส์เลิกเขาจะเล่าให้ฟัง

  อธิปพงศ์ที่เริ่มเหนื่อยล้ากับการเล่นตีลูก จึงขอตัวไปพักบนอาคารพอดีว่ามีโทรศัพท์เข้าจากลูกค้าประจำ เขาจึงกดรับ
"สวัสดีครับ หมูพูดสายครับ...วันนี้ต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมไม่ได้ไปทำงาน..อ่อ ครับใช่ครับ...ครับๆ สวัสดีครับ"

  อธิปพงศ์วางสายและมองไปในสนาม อ๋อเวลาเล่นจริงๆ เป็นอย่างนี้เองสินะ เขาเพิ่งจะเคยเห็นการแข่งคริกเก็ตจริงๆ ก็ วันนี้แหล่ะ เขามองไปยังนิธิน ร่างใหญ่นั้นดูจริงจังเวลาอยู่ในสนาม อธิปพงศ์เห็นแล้วว่าเจ้าตัววิ่งเร็วและก็ตีลูกแม่นอย่างที่แทนไทบอก
เขายิ้มให้กับภาพตรงหน้า นิธินเป็นผู้ชายที่เท่ห์มากในสายตาเขาจริงๆ แต่พอเขานึกถึงความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับนั้นมันกลับทำให้เกิดความรู้สึกปวดร้าว เพราะชายหนุ่มคิดว่าเขาไม่ควรรู้สึกอย่างนี้กับผู้ชายด้วยกัน แต่ความรู้สึกดีๆ ที่แผ่ซ่านไปทั้งกายและใจอย่างนั้นก็ยากที่จะทำให้ลืมได้

  ชายหนุ่มเดินไปยังบนอาคารที่จัดเป็นฟิสเนตและศูนย์อาการ เขาเดินไปซื้อน้ำเย็นมาดื่ม ไม่ทันจะหาที่นั่งก็มีคนเรียกเขาไว้
"พี่ครับๆ" อธิปพงศ์มองไปยังต้นเสียง
 ก็พบกับกลุ่มวัยรุ่นชายที่เขาเพิ่งตีลูกเล่นเมื่อครู่นี้ ถึงแม้พวกเขาจะโพกผ้าสั้นแบบชาวซิกข์แต่ก็พูดไทยได้คล่องแคล่ว เด็กหนุ่มออกปากชวน
"มานั่งกับพวกผมมั๊ย"
เขายิ้มรับและเดินมาที่กลุ่มเด็กหนุ่ม
"ขอบใจนะ"
อธิปพงศ์นั่งลง เด็กหนุ่มจึงแนะนำตัวเองและเพื่อน ๆ
"นี่อัชเช่ร์  ลักกี้ อิกชาน และผมซันนี่"
"พี่ชื่อหมู ยินดีที่ได้รู้จักนะ"
เขายื่นมือไปสัมผัสกับพวกเด็กหนุ่มตามมารยาท
"พี่เพิ่งมาเล่นเหรอครับ"
"อื้ม"
"แล้วพี่มากับใครอ่ะครับ"
"มากับเพื่อนหน่ะ"
"ใครอ่ะ เผื่อผมรู้จัก"
"นิธิน พี่มากับนิธิน"
"อ๋อ พี่นิธิน" เด็กหนุ่มมองหน้ากัน แสดงว่าหนุ่มไทยผิวขาวคนนี้เป็นเพื่อนของรุ่นพี่สุดเท่ห์ที่พวกเขานับถือ
"อื้ม ใช่แล้ว" เขาถามต่อ"แล้วนี่ไม่ลงไปเล่นในสนามกันเหรอ"
"เดี๋ยวก่อนครับ ตอนนี้ยังมากันไม่ครบ ให้พวกพี่ ๆ เค้าเล่นกันไปก่อน"
"อ่าเหรอ" อธิปพงศ์พยักหน้ารับคำ และพูดคุยกับพวกเขาต่อ ชายหนุ่มไม่น่าเชื่อว่า ถึงแม้จะคนละวัยคนละเชื้อชาติและอยู่ในสังคมที่แตกต่างกัน แต่เขากับเด็กหนุ่มพวกนี้ก็เชื่อมต่อกันได้ด้วยกีฬา และวิถีชีวิตแบบกรุงเทพฯก็ทำให้พวกเขามีเรื่องคุยกันอีกเยอะ
“แล้วพี่รู้จักกับพี่นิธินได้ไงอ่ะครับ” วัยรุ่นคนหนึ่งในกลุ่มสงสัย เพราะนิธินก็มาเมืองไทยไม่นาน แต่ทว่ามีเพื่อนคนไทยอย่างนี้ ได้อย่างไร
“อ่อ พี่เป็นช่างตัดผมหน่ะ คุณนิธินเค้ามาตัดผมกับพี่ก็เลยรู้จักกัน”
“อืม อย่างนี้นี้เอง เสียดายนะ พวกผมตัดผมไม่ได้ ถ้างั้นคงต้องลองไปตัดกับพี่ดู” เด็กหนุ่มพูดยิ้ม ๆ พลางชี้ไปที่ศรีษะตัวเอง
“อ่าว ทำไมล่ะ” อธิปพงศ์ถามกลับ เพราะสงสัยเหมือนกัน
“ก็พวกเราถือว่าผมและหนวดเนี่ยเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประธานมาให้มนุษย์ ดังนั้นคนซิกข์อย่างพวกผมจึงไม่เคยตัดผมหรือโกนหนวด เล็มก็ไม่ได้นะครับ เพราะถือว่าขัดเจตนาของพระผู้เป็นเจ้า”
“อ่าวเหรอ พี่ก็เพิ่งรู้เหมือนกันนะเนี่ย” อธิปพงศ์รับคำ และยิ้มกับความรู้ใหม่ที่ได้รับ และก็พูดคุยเรื่องอื่นกันต่ออย่างถูกคอ

 นิธินขอตัวมาดูอธิปพงศ์หลังเสร็จเกมส์แรก เพราะเขากลัวชายหนุ่มจะเซ็งที่เขาทิ้งมาเล่นคริกเก็ตอย่างนี้ แต่พอเห็นอธิปพงศ์เดินลงมาจากตัวอาคารพร้อมกลุ่มวัยรุ่น ก็ทำให้อดสงสัยไม่ได้ เขาจึงรุดไปหาทันที
"คุณหมู เป็นยังไงมั่งครับ" นิธินถามอย่างเป็นห่วง
"ก็ดีครับ" อธิปพงศ์ยิ้มตอบ ถึงแม้เขาจะเห็นลักยิ้มบนแก้มสองข้างนั้นแล้ว แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ กลุ่มเด็กหนุ่มเห็นนิธินมา จึงเดินมาหา
"อ่าวพี่นิธิน"
"ไง" เขาเข้าไปทักทายตบบ่าตบไหล่กับเหล่าวัยรุ่น "วันนี้มากันแค่นี้เหรอ"
"ยังมาไม่ครบพี่"
"คุณไม่ต้องห่วงนะ ผมอยู่กับน้องๆ นี่แหล่ะ นี่น้อง ๆ เค้าชวนผมไปตีลูกกันอีก"
ได้ยินอย่างนั้นนิธินก็ประหลาดใจ
"เอางั้นเลยเหรอ"
"อื้ม"
อธิปพงศ์ยิ้มสดใสให้และเดินไปกับกลุ่มเด็กหนุ่ม  นิธินมองตามทึ่งๆดีใจที่ชายหนุ่มเข้ากับสังคมคนอินเดียได้รวดเร็ว
 และมีความสุขที่เห็นอธิปพงศ์มีรอยยิ้มแจ่มใสอย่างนี้

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/255
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 09-02-2012 15:39:21
วันนี้มาไวจัง เริ่มอบอู่นขึ้นมาทีละนิดแล้วสิ สู้ต่อไปนะจ๊ะพ่อหนุ่มอินเดีย 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 09-02-2012 18:30:44
ความสัมพันธ์เริ่มก้าวหน้าแฮะ
เอาใจช่วยคุณนิธิน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-02-2012 19:00:25
หมูอย่าคิดมากสิ ถ้ารู้ว่านิธินเค้าคิดเลยเถิดกับเราตั้งแต่แรกแล้วจะว่าไงเนี่ย :pigha2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 09-02-2012 19:38:57
เป็นความรักที่อบอุ่นดีจัง :กอด1:
กด+จร้า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-02-2012 20:04:14
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 09-02-2012 23:02:49
หมูไม่ต้องกลัวหรอก รับรองใจตรงกันกับนิธินแน่นอน :z1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:9/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 10-02-2012 15:36:25
มาแล้วค่า ขอบคุณมาก ๆๆ นะคะ

10

"นิธิน แหม่วันนี้มีคนมาให้กำลังใจ ฟอร์มดีเชียวนะ" เอเจเริ่มแซวขณะกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังอาบน้ำ
"เออ แล้วไปไงมาไงวะนิธิน แกกับคุณหมูถึงได้..."
"พอๆ ไปใหญ่แล้ว"นิธินรีบห้าม
 “คือเมื่อคืนชั้นไปกินเหล้ากับเค้ามา แล้วเค้าเมามากกลับห้องไม่ไหว ก็เลยนอนห้องชั้น"
"แค่เนี่ยะ…" เอเจย้อนถาม
"อืม ทั้งหมดมีแค่นี้หล่ะ"
กลุ่มเพื่อนพากันส่ายหน้าแบบเซ็งๆ เพราะคนทั้งสองก็ยังไม่ลงเอยกันอย่างที่คิด
"แต่เค้าก็ดูโอเคกับแกนะ ใช่มั๊ย"
"อืม ก็โอเค แต่เค้ายังไม่รู้นะว่าชั้นคิดยังไงด้วย"
"เอาน่า มันก็แล้วแต่แก ว่าจะเอายังไง เออ เดี๋ยวชวนคุณหมูไปกินข้าวกับพวกเราเลยสิ"
"อืม ๆ" นิธินเห็นด้วย เมื่อเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จจึงออกมาหาอธิปพงศ์ที่นั่งรออยู่ข้างนอก
"คุณหมูครับ เป็นไงเหนื่อยมั๊ย"
อธิปพงศ์ส่ายหน้ายิ้มๆ
"ไม่เลยครับ แล้วเพื่อนๆคุณล่ะ"
"เดี๋ยวออกมาหน่ะครับ เอ้อ คุณหมู หิวหรือยังครับ คือเพื่อนผมชวนคุณหมูไปทานข้าวด้วยกันหน่ะครับ"
อธิปพงศ์รู้สึกเหนียวตัวแต่ก็หิวมากเช่นกัน นิธินเห็นอธิปพงศ์เหมือนจะลังเล เลยถามออกไป
"เอ่อ Are you O.K.?"
"โอเคครับ ไปครับ ผมก็หิวมากๆเหมือนกัน"อธิปพงศ์ตอบตกลง
"นิธิน ไปกันได้แล้ว" เอเจเดินมาเรียก
"ไปกันเถอะครับ"
"ครับ"อธิปพงศ์ตอบรับพร้อมรอยยิ้มสดใส นิธินมองตอบโดยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย และก็เดินไปหาทุกคนที่ที่จอดรถเพื่อจะไปกินข้าว สักพักชายหนุ่มทั้งห้าก็นั่งกินข้าวด้วยกันในร้านอาหารแถวที่พักของนิธิน อธิปพงศ์เข้ากับเพื่อน ๆนิธินได้เป็นอย่างดี คนทั้งห้าพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน และเพื่อนๆนิธินก็พยายามช่วยเขาทำคะแนนเหมือนเคย จนถึงเวลาแยกย้ายกันกลับ
แทนไทถาม"คุณหมูครับ แล้วนี่กลับยังไงเหรอ"
"ก็บีทีเอสหน่ะครับ ไม่ไกลจากตรงนี้มากใช่มั๊ยครับ"
"ครับ งั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่งนะ"นิธินอาสา
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็เกรงใจ"ไม่เป็นไรหรอกคุณนิธิน ผมเดินไปเองได้"
วิษณุรีบช่วย"ให้นิธินไปส่งนั่นแหล่ะ ตอนนี้มืดแล้วนะ คุณหมูจะได้ปลอดภัย"
"นะครับ" นิธินเว้าวอน
"ก็ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ"
อธิปพงศ์ตอบรับด้วยความรู้สึกแปลกๆ เพราะก็ไม่เคยมีใครมาคอยดูแลเขาอย่างนี้

นิธินและอธิปพงศ์เดินออกมาด้วยกันเพื่อจะไปสถานีรถไฟฟ้า อธิปพงศ์หันมาบอกกับนิธินว่า
"วันนี้ผมสนุก และมีความสุขมากเลย ขอบคุณมากนะครับ"
นิธินยิ้มรับ"ครับ ด้วยความยินดี"
"อื้ม"
"แล้วคุณอยากมากับผมอีกรึเปล่า ?"
"ก็ไม่รู้สิ เนี่ยะเป็นการลางานในรอบปีของผมเลยนะ ผมยิ่งมีเวลาไม่เหมือนคนอื่นเค้าด้วย"
"ครับ"
"แต่ ผมว่าคุณสอนภาษาฮินดีผมบ้างก็ดีนะ"
นิธินหันมามองคนข้างๆอย่างประหลาดใจเล็กน้อย
"ไม่ดีเหรอครับ ผมเป็นเพื่อนกับคุณแล้ว รู้ภาษาฮินดีไว้ก็ดีไม่ใช่เหรอ"
"ขอบคุณครับ"
นิธินหันมาขอบคุณและยิ้มให้
 คนทั้งสองเดินต่อไปด้วยกันโดยไม่มีคำพูดใดๆ แต่ทว่าในความรู้สึกกลับอบอุ่นยิ่งนัก   นิธินหันไปมองคนข้างๆที่เหมือนจะก้มหน้าปิดบังความรู้สึกเขินอาย นิธินอยากจะจับมือเรียวสวยนั้นมากุมไว้ แต่ก็กลัวอีกฝ่ายรังเกียจ เขาได้แต่หันมายิ้มให้อธิปพงศ์ และเดินต่อจนถึงสถานีรถไฟฟ้า
"ผม...ไปก่อนนะครับ"
อธิปพงศ์หันมาลานิธินที่เดินมาส่ง
"ครับ" นิธินรับคำ คนทั้งสองยิ้มให้กันอีกครั้ง นิธินโบกมือให้อธิปพงศ์ เมื่อเห็นเขาเดินไปแล้วเจ้าตัวจึงหันหลังกลับ
  แต่อธิปพงศ์เองก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองผู้ชายตัวใหญ่คนนั้น เพราะความรู้สึกดีๆ ที่นิธินมีให้ได้หยั่งรากลงไปในใจของเขาแล้วอย่างไม่รู้ตัว

 แต่อธิปพงศ์ก็เริ่มรู้สึกสับสนในตัวเองขึ้นมาทันที เพราะความรู้สึกอบอุ่นหวานหอมที่ฟุ้งอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับนิธิน เขายังจำความรู้สึกที่มือใหญ่นั้นกุมมือของเขาได้ มันช่างอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน ถึงแม้เมื่อคืนเขาจะเมาจนแทบจำอะไรไม่ได้ แต่อ้อมแขนแข็งแกร่งที่โอบล้อมเขาในวันนี้ก็แทบทำให้ผู้ชายอย่างเขาละลายไปกับร่างหนานั้น ชายหนุ่มจึงย้อนถามตัวเองกับสิ่งที่เกิดขึ้น และพยายามหนีความคิดที่ว่าเขาเริ่มชอบผู้ชายคนนี้ ถึงแม้จะรู้สึกดีที่อยู่กับอีกฝ่ายแค่ไหนก็ตาม

   เมื่อชายหนุ่มถึงห้องก็พบกับปิ่นปักที่กลับมาแล้ว โดยเธอไม่ได้อยู่ในชุดนอนและกำลังเก็บเสื้อผ้าตัวเองใส่กระเป๋า เมื่อเธอเห็นแฟนหนุ่มกลับมา ก็ดูไม่ยินดียินร้ายกับชายหนุ่มเหมือนแต่ก่อน เพราะเธอคิดว่าเขาเพิ่งกลับจากทำงาน ส่วนอธิปพงศ์เองก็ไม่สนใจ เขามุ่งตรงไปหยิบผ้าเช็ดตัวและเข้าห้องน้ำทันที
 ชายหนุ่มอาบน้ำเสร็จในหนึ่งชั่วโมงต่อมา เมื่อเขาออกมาจากห้องน้ำปิ่นปักที่เหมือนตัดสินใจอะไรได้เลยพูดกับเขา
"พี่หมู ปิ่นมีอะไรจะคุยด้วย"
"อืม" เขารับคำและสวมเสื้อผ้าก่อนที่จะมานั่งคุยกับหญิงสาว
"ปิ่นว่าปิ่นจะย้ายไปอยู่กับเพื่อน"
เธอพูดเรียบๆ เพราะเธอรู้แล้วว่าเธอกับเขาคงไปกันต่อไม่ได้ ถึงแม้เขาจะหน้าตาดีและนิสัยใช้ได้ แต่อธิปพงศ์ก็ไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่เธอต้องการจริง ๆ
"อืม ก็เอาสิ" ถึงแม้เขาจะตกใจและเสียใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกโล่งใจที่เรื่องติดค้างในใจได้จบลงแล้ว
"แล้วปิ่นจะย้ายไปเมื่อไหร่" อธิปพงศ์ถาม
"เดี๋ยวเพื่อนปิ่นมารับ เพราะนี่ปิ่นก็มาเก็บเสื้อผ้าเฉยๆ"
"ปิ่น" เขาตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะตัดสินใจรวดเร็วกว่าที่คิด
"อืม ปิ่นรู้ว่าพี่หมูรู้สึกยังไง ปิ่นมันดื้อเองหล่ะที่จะยื้อทุกอย่างเอาไว้ ทั้งๆที่ความจริงเราไปกันไม่ได้อย่างที่พี่หมูว่านั่นแหล่ะ"
ถึงแม้เขาจะหมดรักในตัวหญิงสาวแล้ว แต่ก็ใจหายไม่น้อยที่เธอจะไปจากเขาอย่างนี้
"พี่ ขอโทษนะ" ชายหนุ่มเองรู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้ความรักจบลง
"ปิ่นก็ต้องขอโทษพี่หมูเหมือนกันนะ"
"อืม" เขาลูบหัวหญิงสาวเบาๆ "โชคดีนะ"
"ปิ่นก็ขอให้พี่หมูโชคดี เจอคนที่ใช่ไวๆ นะคะ"
"ขอบใจนะ"
เขายิ้มรับและเดินมาส่งเธอที่หน้าห้องพัก เมื่อเธอไปแล้วเขาก็ถอนหายใจออกมาจนแทบสุดปอด ในที่สุดเขาก็ยังไม่เจอกับคนที่ใช่ ชายหนุ่มพาตัวเองมาหน้ากระจกเพื่อทาครีมบำรุงผิวก่อนนอน เขามองไปรอบห้องก็รู้สึกว่าห้องนี้กว้างเกินไปสำหรับคนคนเดียว แต่ก่อนที่จะฟุ้งซ่านอะไรไกลกว่านั้น ก็มีสายหนึ่งโทรเข้ามา เขามองดูก็พบว่าเป็นนิธิน อธิปพงศ์จึงกดรับทันที
"ฮัลโหล นิธิน ว่าไงครับ"
นิธินประหลาดใจที่อธิปพงศ์รับสายอย่างตื่นเต้นกว่าปกติ แต่ก็บอกว่า
"เปล่า ผมจะถามว่าคุณถึงห้องหรือยัง"
"ถึงนานแล้วหล่ะ" เขาพยายามซ่อนอาการเหงาฉับพลันไว้ แต่ก็ดีใจมากกว่าที่นิธินโทรมา
"เหรอครับ แล้วคุณ มีอะไรรึเปล่า" นิธินถามออกมาอย่างเป็นห่วงเพราะเขาสามารถจับความรู้สึกของอีกฝ่ายได้
"ไม่มีอะไรครับ ขอบคุณมากนะครับที่เป็นห่วง งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ"
อธิปพงศ์วางสายทันทีและทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยล้า เขาถามตัวเองว่ายังไม่ชินอีกเหรอที่ต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ เขาเหนื่อยใจที่จะต้องผิดหวังซ้ำซากกับความรัก ถึงแม้เขาจะไม่เคยถึงไปไกลถึงขั้นแต่งงานมีครอบครัว แต่เขาก็แค่อยากมีใครสักคนที่จริงจังกับความรัก และคอยดูแลกันก็พอ
 อธิปพงศ์กอดหมอนและถอนใจอย่างเหนื่อยหน่ายในโชคชะตาตัวเอง

ส่วนนิธินที่ยังคาใจกับอาการของอธิปพงศ์ เขาสัมผัสได้ว่าอธิปพงศ์กำลังรู้สึกเหงาและสับสน แต่ถึงเขาจะเป็นห่วงความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างไร แต่รอให้อธิปพงศ์เต็มใจเล่าให้เขาฟังเองจะดีที่สุด

  เช้าวันใหม่ที่อธิปพงศ์มาทำงานตามปกติ แต่สร้างความประหลาดใจให้กับป๊อกกี้ที่อยากรู้ว่ารุ่นพี่หายไปไหนมา เพราะเมื่อวานพี่กุ้งกับหญิงจะไม่ได้บอกรายละเอียดที่เขาลางานอะไรมาก เจ้าตัวจึงต้องเก็บอาการคันปากมาข้ามวันอย่างนี้
"พี่หมู เมื่อวานไปไหนมาเหรอคะ"
"ก็นอนอยู่ห้องนั่นแหล่ะ ไม่ได้ไปไหนหรอก" อธิปพงศ์โกหกเพราะไม่อยากเห็นป๊อกกี้แสดงอาการอ้อร้อหากรู้ว่าเขาไปไหนกับใคร
"เหรอคะ"แต่ป๊อกกี้ไม่อยากจะเชื่อ
"อืม ทำไมล่ะ"
"ก็แหม น้องไม่เคยเห็นพี่หมูลางานนี่คะ ก็ตกใจบ้างอะไรบ้าง เป็นห่วงค่ะ"
"อืม ขอบใจนะที่เป็นห่วง" เขารับคำ และเดินขอตัวไปทำงานต่อ
ช่างผมหนุ่มจะเตรียมกรรไกรและใบมีด แต่พี่กุ้งที่เห็นว่าลูกน้องคนสนิทมาทำงานแล้ว จึงเข้าไปถามเรื่องทั้งหมดอย่างห่วงใย
"หมู เกิดอะไรขึ้น เล่าให้พี่ฟังได้รึเปล่า"
"ก็ นิดหน่อยหน่ะครับ"
"แล้วทำไมไปเมาเละอย่างนั้น เห็นว่าไปกับคุณนิธิน แล้วไงเนี่ย ต้องให้คุณนิธินหามกลับอีก" พี่กุ้งตำหนิเล็กๆและสัพยอกเบาๆ
"ก็วันนั้นผมกลุ้มใจนิดหน่อยอ่ะครับ ก็เลยอยากเมา แต่ก็ดีนะครับ วันอาทิตย์ผมไปเจอเพื่อนนิธินเค้าด้วย ก็สนุกดี"
เจ้านายสังเกตุว่าลูกน้องสนิทสนมกับชายหนุ่มตัวโตมากขึ้น และมีความสุขเวลาพูดถึงอีกฝ่าย
"แล้วปิ่นล่ะ"
"อ่อ ก็ จบแล้วครับ เค้าย้ายไปอยู่กับเพื่อนเค้าแล้ว"
พี่กุ้งได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้ารับรู้ เพราะไม่ช้าก็เร็วเรื่องของรุ่นน้องจะต้องจบในรูปแบบนี้
"อืม หมูไม่เป็นไรนะ"
"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมากนะครับพี่กุ้ง" อธิปพงศ์ยิ้มรับ และแยกไปทำงานที่ค้างไว้ พี่กุ้งมองตามลูกน้องและคิดตาม เขาหวังว่าอธิปพงศ์จะได้พบรักครั้งใหม่ที่ดีกว่าทุกครั้ง ไม่ว่ารักครั้งนี้จะเกิดขึ้นกับใครก็ตาม

เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน สิ่งแรกที่นิธินทำคือพิมพ์ข้อความมือถือส่งไปให้อธิปพงศ์ด้วยความเป็นห่วง
"Are you O.K? What's wrong with u?"
อธิปพงศ์ที่ติดลูกค้าอยู่จึงไม่ได้เปิดดูข้อความในมือถือ ทำให้นิธินยิ่งกระวนกระวายถึงอีกฝ่ายมากขึ้น เขาอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอธิปพงศ์ เขาอยากให้อธิปพงศ์พูดคุยและระบายให้เขาฟัง เผื่อชายหนุ่มจะได้สบายใจขึ้นบ้าง

อธิปพงศ์ที่เพิ่งมีโอกาสพักกินข้าวในตอนบ่ายสอง ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูจึงได้พบกับข้อความที่นิธินส่งมา เขาดีใจที่ได้รับข้อความห่วงใยนั้น และส่งกลับไปว่า
"Thank you for your concern. I'm o.k. Shall we go to swim after work?, I'll tell you everything"
เมื่อมีข้อความเข้า ทำให้นิธินที่นั่งทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์รีบเปิดดูทันที เขาดีใจมากที่อธิปพงศ์ตอบข้อความกลับมาจึงพิมพ์กลับไป
"O.K."
อธิปพงศ์ยิ้มให้กับข้อความนั้นเช่นกัน แต่ก็รีบหุบยิ้มเพราะรู้ตัวว่าเขากำลังนั่งยิ้มคนเดียว ชายหนุ่มรีบกินข้าวและกลับไปทำงานต่ออย่างมีความสุข

   เขาและนิธินไปว่ายน้ำกันตามปกติหลังเลิกงาน แต่นิธินสังเกตุว่าวันนี้อธิปพงศ์ดูผ่อนคลายขึ้นมาก เขาจึงถามอีกฝ่ายว่ามีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า จนได้คำตอบมาว่า...
"หือ คุณเลิกกับแฟนแล้ว" นิธินแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าอธิปพงศ์เลิกกับแฟนแล้ว เขาจึงถามอีกครั้ง
"That's mean do you break down with your girlfriend?"
"Correct"
อธิปพงศ์ตอบกลับ และแอบขำกับท่าทีตกใจของคนตรงหน้า
"ยังไงเหรอครับ"
"ก็ไม่รู้เหมือนกัน อยู่ดีๆ เค้ามาบอกกับผมเฉยๆ ว่าเขาขอไปอยู่กับเพื่อน แล้วก็ขนของไปเมื่อวานนี้"
"แล้ว คุณเป็นไงมั่ง"
นิธินถามอย่างเป็นห่วง ส่วนอธิปพงศ์ก็ได้แต่ถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนตอบว่า
"ก็ใจหายหน่ะ แต่ก็ดีใจนะที่ไม่ได้จบแย่อย่างที่คิด ดีใจที่เค้าไม่ทำอะไรแย่ๆ ลงไปอีก"
"อืม" นิธินตอบรับสั้น ๆ แต่ก็ดีใจมากที่คนข้างๆ เป็นโสดแล้ว
"แต่ผู้หญิงไทยไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกคนนะ" อธิปพงศ์ยิ้มให้เพื่อนชาวอินเดีย ด้วยกลัวว่าเจ้าตัวจะเหมารวมสาวไทยไปซะหมด
"ผมไม่ชอบผู้หญิงไทยหรอกครับ"
"อ่ะเหรอ" อธิปพงศ์รับคำ และคำถามที่ว่าเขาเป็นเกย์หรือเปล่าก็เข้ามาในหัวทันที อธิปพงศ์ก็อยากถามคนข้างๆเหมือนกันว่าเจ้าตัวชอบผู้หญิงหรือเปล่ากันแน่
แต่เขาก็ไม่กล้าถามออกไป
   เมื่อถึงเวลาที่ต้องแยกย้าย นิธินและอธิปพงศ์ก็ลากันตามปกติ แต่หัวใจของคนทั้งคู่กลับแตกต่างจากทุกวันอย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะอธิปพงศ์ที่รู้สึกว่าความรู้สึกตัวเองอ่อนไหวกว่าทุกครั้ง จนเขาไม่อยากอยู่คนเดียวในห้องนี้
เปล่า เขาไม่ได้คิดถึงปิ่นปัก
เพียงแต่เขาอยากจะพักใจกับไออุ่นของคนที่เพิ่งจากมาก็เท่านั้น
แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ ชายหนุ่มพยายามไล่ความอ่อนไหวนั้นออกไป ผู้ชายวัยสามสิบกว่าอย่างเขาจะมาอ่อนแออย่างนี้ไม่ได้
แต่ก็มีสายเรียกเข้าที่โทรศัพท์ เมื่อมองดูก็พบว่าเป็นนิธิน อธิปพงศ์สองจิตสองใจระหว่างรับกับไม่รับ แต่สุดท้ายเขาก็กดรับสายจากนิธินที่โทรมา
"ครับ"
"คุณถึงห้องรึยังครับ"
"ถึงแล้วครับ" อธิปพงศ์ยิ้มน้อย ๆ
"ครับ ดีแล้ว" นิธินพูดได้แค่นั้นเพราะไม่รู้จะชวนคุยเรื่องอะไร
"งั้น แค่นี้นะครับ.."
"เอ่อ นิธิน เดี๋ยวก่อน"
"มีอะไรรึเปล่าครับ" นิธินถาม เพราะเสียงของอธิปพงศ์ดูเหงาแปลกๆ
"ไม่มีอะไรครับ แค่นี้นะครับ กู๊ดไนท์"
"คุณแน่ใจนะ..."
"..." อธิปพงศ์เริ่มไม่แน่ใจอย่างที่ชายหนุ่มถาม
นิธินที่เป็นห่วงความรู้สึกเลยลองถามออกไป
"ให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อนด้วยมั๊ย"
ส่วนอธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็ดีใจมากจึงรีบตอบรับ
"ครับ ขอบคุณมากนะครับนิธิน"
"งั้นรอเดี๋ยวนะครับ"
"ครับ เจอกันนะครับ"
 อธิปพงศ์วางสายไปด้วยหัวใจที่ชุ่มชื้นขึ้นมาหน่อย ถึงจะขจัดความอ่อนแอในใจไม่พ้น แต่ในคืนนี้เขารู้สึกดีที่ไม่ได้อยู่คนเดียว

    และนิธินก็มาหาอธิปพงศ์ในไม่ช้า เขายิ้มให้คนผิวขาวในเสื้อยืดใส่นอนที่มารอรับ ถ้าเป็นไปได้เขาอยากจะเข้าไปกอดร่างเล็กกว่าให้หายเศร้าเสียในตอนนี้ แต่ก็รู้ตัวว่าทำไม่ได้
 อธิปพงศ์ยิ้มให้นิธินที่มาในเสื้อยืดคอวีเผยให้เห็นแผงอกบึกบึน เขาเข้าไปหาร่างหนานั้น พร้อมกับส่งยิ้มดีใจที่เห็นชายหนุ่มมาอยู่กับเขาในเวลานี้
 ที่พักของชายหนุ่มอยู่ไม่ไกลจากบีทีเอสพญาไทมากนัก นิธินจึงเดินตามอธิปพงศ์ที่มารับ คนทั้งสองไม่มีคำพูดใดๆจนถึงห้องของอธิปพงศ์ นิธินมองห้องสี่เหลี่ยมนี้ทึ่งๆ แทบไม่เชื่อว่าตัวเองมายังโลกส่วนตัวของคนที่รักได้
"ตามสบายนะครับ" อธิปพงศ์หันมาบอกกับนิธิน เขาพยักหน้ายิ้มรับ ก่อนจะชูให้อธิปพงศ์เห็นถึงชุดทำงานที่เตรียมมา
"อ้อ..."
"ขอบคุณครับ"
 อธิปพงศ์รับไปแขวนให้ และมาหานิธินที่นั่งอยู่บนเตียง ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง จนนิธินเข้ามากุมมืออธิปพงศ์และส่งยิ้มอบอุ่นให้ แต่อธิปพงศ์รู้สึกอ่อนแอมากขึ้นจึงเข้าไปกอดร่างใหญ่ทันที
นิธินลูบผมอธิปพงศ์ที่ซบอยู่บนบ่าอย่างใจดี เพราะเขาพร้อมที่จะแบ่งบันไออุ่นให้อธิปพงศ์อยู่เสมอ
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงความอบอุ่นอ่อนโยนของนิธินที่กำลังห่อหุ้มหัวใจที่อ้างว้างของอธิปพงศ์อยู่เท่านั้น

   อธิปพงศ์อยู่อย่างนั้นกับนิธินสักพัก จึงละออกมาจากอ้อมแขนอบอุ่น และบอกกับอีกฝ่ายอย่างเขินอายว่า
"เอ่อ ผม..."เขาไม่รู้จะพูดอะไรออกไป
"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี" นิธินยิ้มใจดีให้และบอกว่า "คุณรู้สึกดีขึ้นผมก็ดีใจนะ"
"อื้มม" อธิปพงศ์ตอบรับ
"ง่วงยังครับ พรุ่งนี้คุณต้องตื่นไปทำงานแต่เช้านี่นา"
"ครับ" นิธินรับคำและถอดเสื้อออกทันที แต่อธิปพงศ์นี่สิกลับตกใจนัก
“ผมชอบถอดเสื้อเวลานอนหน่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ตามสบาย”
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มองรูปร่างที่มีแต่มัดกล้ามสวยงามอย่างตกตะลึง ทั้งๆที่เห็นเกือบทุกเย็น แต่ในเวลาและบรรยากาศอย่างนี้มันทำให้เขาอดประหม่าไม่ได้
 ตอนนี้นิธินอยู่ในกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวล้มตัวลงนอนในที่ที่อธิปพงศ์จัดไว้ให้ข้างกัน แต่เจ้าของห้องเองนี่สิกลับวางตัวไม่ถูกเมื่อคนร่างใหญ่นั้นส่งยิ้มให้
"ยังไม่ง่วงเหรอครับ"
"อ่อ เปล่าครับ" อธิปพงศ์รับคำและล้มตัวนอนข้างๆนิธิน ทั้งอบอุ่นและประหม่าในใจ
"กู๊ดไนท์ครับ"
"ครับกู๊ดไนท์"
เจ้าของห้องหันหลังให้ผู้มาเยือนอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี เขาจึงลองถามไปว่า
"นิธิน คุณหลับหรือยังอ่ะ"
"ยังครับ"
อธิปพงศ์จึงพลิกตัวไปยังนิธินที่นอนหงายอยู่
"อืม คุณชอบดูหนังมั๊ย"
"ชอบสิครับ"
"เหรอๆ คุณชอบดูหนังแนวไหนล่ะ"
"ก็เรื่อยๆนะครับ แต่ที่ผมชอบที่สุดคือหนังแอ๊คชั่น"
"งั้นก็เหมือนผมเลยสิ" อธิปพงศ์ยิ้มรับ ดีใจที่นิธินชอบอะไรเหมือนเขา
"เออ แล้วหนังที่อินเดียเนี่ย ยังมีการเต้นรำอยู่มั๊ย มีหนังแบบอื่นรึเปล่าครับ"
"มีสิครับ ที่อินเดียมีหนังหลายอย่างนะ ทั้งหนังรัก หนังแอ๊คชั่น..มากมาย"
"เหรอ...ผมเคยเห็นแต่หนังอินเดียที่เค้าเต้นกันข้ามเขาหน่ะ" อธิปพงศ์พูดพลางทำมือประกอบไปด้วย
"อ๋อ 55 หนังเก่าๆหน่ะครับ แต่ก็ยังมีการเต้นรำอยู่ในหนังนะ คือ การเต้นรำมันเป็น culture อย่างหนึ่งของอินเดียหน่ะครับ"
"หมายความว่าคุณก็เต้นแบบในหนังได้ใช่มั๊ย"
"ครับ ก็ทำนองนั้น"
"อ๋อ ผมเข้าใจล่ะ ที่เพื่อนคุณเคยบอกว่าที่ทำงานคุณมีสอนเต้นรำเพราะอย่างนี้นี่เอง"
"ครับ ใช่แล้ว" นิธินจึงถามต่อ "คุณสนใจมั๊ย?"
"ไม่ล่ะครับ ผมไม่มีหัวทางด้านเต้นรำเลย คือ ผมหมายถึง ผมเต้นไม่เก่งหน่ะ"
"ครับ"
 นิธินยิ้มรับพร้อมกับมองหน้าอีกฝ่ายที่ดูแจ่มใส่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อธิปพงศ์หลับตาลงอย่างเป็นสุขพร้อมกับนิธินที่มีรอยยิ้มอยู่ใบหน้าเช่นกัน



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 10-02-2012 17:29:24
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
เนื้อเรื่องสนุกดีตัวละครพูดจาไพเราะ
ชอบจังจะตามอ่านและเป็นกำลังใจให้นะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-02-2012 17:51:17
มีมานอนค้างอ้างแรมด้วยอ่ะ แอร๊ยย เร็วมากค่ะพี่อินเดีย
ของเขาดีจริงๆ :laugh:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 10-02-2012 18:02:03
เรื่องนี้อบอุ่นอ่ะ...อ่านแล้วเคลิ้ม อยากได้แบบคุณนิธินมั่ง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/25
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 10-02-2012 19:46:38
อิ่มเอมใจเมื่อได้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 10-02-2012 20:38:50
เริ่มหวานขึ้นเรื่อยๆ แฮะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 10-02-2012 21:10:12
แอร๊ย แอบลุ้นว่าจะมีไนท์คิสหรือป่าว แต่ก้ไม่มี ฮิฮิ แต่ตอนที่หมูเข้าไปกอดนิธินนี่อร๊างมาก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 10-02-2012 22:58:46
แอร๊ยยยยย น่ารักอะ

อยากได้เเบบนี้บ้างอะค่ะ หาได้ที่ไหนคะ

ยอมทุ่มหมดตัวเลยค่ะ แอร๊ยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-02-2012 04:26:42
 :impress2:

ใกล้จะสำเร็จแล้วนะ นิธิน  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kiizkziekiizk ที่ 11-02-2012 20:06:49
อ๊ายยย รอตอนต่อไปอยู่นะค่ะ อิอิ
อ่านแล้วเขินๆยังไงไม่รู้ > <!
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/25
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 11-02-2012 22:51:44
วันนี้จะมาไหมคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/25
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 11-02-2012 23:15:17
วันนี้จะมาไหมคะ
    วันนี้ไม่ได้มาลงค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ เจอกันวันจันทร์ค่าา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 12-02-2012 13:45:14
น่ารักอ่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:10/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 13-02-2012 16:01:07
วันนี้มาแล้วค่า ขอบคุณมาก ๆ นะคะทุกคน

11

  อธิปพงศ์ตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุกในเวลาเจ็ดโมง เมื่อเขาลืมตาก็พบว่านิธินไม่อยู่แล้ว จึงลุกจากเตียงไปอาบน้ำ แต่ก็เห็นแซนวิชอบร้อนกับนมที่เพิ่งซื้อจากข้างล่างพร้อมกับข้อความที่เขียนไว้ในกระดาษโพสอิทว่า
"Your breakfast"
 อธิปพงศ์หยิบมาดูแล้วยิ้มกับมัน เขานึกถึงนิธิน ถึงแม้จะรีบออกไปทำงานแต่ก็ยังมีกะใจซื้ออาหารเช้าทิ้งไว้ด้วย อธิปพงศ์ผิวปากเข้าห้องน้ำอย่างมีความสุข ชายหนุ่มเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังงอกงามในใจ

สำหรับนิธินที่เข้าทำงานแต่เช้าตามปกติ แต่วันนี้เพื่อน ๆ ของเขาสังเกตได้ว่าเจ้าตัวมาทำงานด้วยสีหน้าระรื่นอย่างปิดไม่มิด หรือว่ามีอะไรเกี่ยวกับความรักของเขา กลุ่มเพื่อนจึงไม่พลาดที่จะล๊อกคอถามในพักกลางวันนี้....

"อ่ะจริงดิ" วิษณุถึงกับอุทานอย่างประหลาดใจ เมื่อรู้ว่าอธิปพงศ์เลิกกับแฟนแล้ว
แทนไทรีบเสริม"นี่เป็นโอกาสของนายแล้วนิธิน นายต้องชนะใจคุณหมูให้สำเร็จนะ"
"ใช่ ๆ อะไรมันจะโชคดีรับปีใหม่อย่างนี้" เอเจพูดต่อ "ในที่สุดนิธินก็มีแฟนคนไทยจนได้"
"เฮ้ย ยังไม่ถึงขนาดนั้น เค้าเป็นผู้ชาย จู่ๆ จะเปลี่ยนมาคบกับชั้นเลยคงรับไม่ได้ ให้เค้าค่อยๆปรับตัวไปก่อนนั่นแหล่ะ เค้าพร้อมเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน"
"แหม่ ใครจะตาบอดไม่รักนายก็ให้รู้ไปสิวะ" วิษณุว่าอย่างนั้นและนึกขึ้นได้
"เออ วันพฤหัสนี้เริ่มงานบูชาพระแม่ทุรคาที่สีลมแล้วนะ นายลองชวนคุณหมูไปด้วยกันสิ"
"ได้ๆ เดี๋ยวจะลองชวนดูนะ" นิธินรับคำและกินข้าวต่ออย่างมีความสุข เขานึกถึงอธิปพงศ์ที่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มจะมีความสุขเหมือนเขาหรือเปล่า

 ที่ร้านพี่กุ้ง เรื่องที่อธิปพงศ์เลิกกับแฟนสาวเจ้าปัญหาไปได้นั้น ถือเป็นเรื่องดีที่สุดในรอบปีของหลายคน โดยเฉพาะป๊อกกี้ ที่ทำตามคำที่เคยลั่นไว้ว่าจะเลี้ยงข้าวทุกคนถ้าคู่นี้เลิกกันจริง เมื่อเป็นดังวาจาสิทธิ์แล้ว เย็นนี้ป๊อกกี้เลยชวนทุกคนไปร้องคาราโอเกะฉลองกัน ให้สะใจ
"พี่หมู รู้อะไรรึยัง" หญิงถามรุ่นพี่ที่พักมากินข้าวด้วยกันตอนบ่ายโมงกว่า อธิปพงศ์มองหน้ารุ่นน้อง ไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไรจึงถามกลับ
"อะไรล่ะหญิง"
"ก็พี่ป๊อกหนิสิ ชวนทุกคนไปร้องเกะเย็นนี้ บอกว่าฉลองที่พี่หมูเลิกกับแฟน"
"หะ!" อธิปพงศ์ตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น "มันดีใจอย่างนั้นเลยเหรอ"
เนื่องจากวันนี้งานที่ร้านยุ่งมาก ป๊อกกี้จึงไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับรุ่นพี่ จึงต้องฝากหญิงมาชวนอีกที
"ไม่รู้ แต่พี่ป๊อกแกชวนทุกคนไปหมดเลยนะ เค้าฝากหนูมาชวนพี่ด้วยเนี่ยะ...ไปป่ะ"
"อืม ๆไปก็ไป" อธิปพงศ์ส่ายหน้ากับรุ่นน้อง แต่ก็เข้าใจดีว่าป๊อกกี้รู้สึกยังไง
"เย้ๆๆๆ" หญิงดีใจมากๆ ที่ทุกคนในร้านจะไปร้องคาราโอเกะกันหลังเลิกงานวันนี้ ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้สนุกสนานกันพร้อมหน้าทุกคนมานานแล้ว อธิปพงศ์คิดอย่างนั้น

  และเมื่อลูกค้าบางเบา เจ้าของงานจึงมาชวนอธิปพงศ์ด้วยตัวเองอีกครั้ง
"ว่าไงคะพี่หมู เย็นนี้ไปร้องเกะกับน้องนะค้า"
"ไปสิ"
อธิปพงศ์ตอบรับ แต่พี่กุ้งก็ถามขึ้นมาว่า
"เออ หมูแล้วนี่ไปว่ายน้ำกับคุณนิธินรึเปล่า"
"ผมคงต้องโทรไปยกเลิกล่ะครับ"
แต่ป๊อกกี้กลับบอกว่า
"อร๊ายๆๆๆๆ คุณนิธินเหรอคะ" ป๊อกกี้กรี๊ดกร๊าดทันทีเมื่อได้ยินชื่อหนุ่มหล่อ "พี่หมูชวนเค้าไปด้วยกันสิคะ นะคะๆๆๆ"
อธิปพงศ์เห็นท่าทีรุ่นน้องอย่างนั้นก็เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาทันที แต่ก็ยังนิ่งรักษาท่าที
"จะดีเหรอป๊อกกี้"
"พี่หมูก็ลองชวนเค้าสิค้าาา นะๆๆๆ"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้า "อืม ๆ เดี๋ยวพี่ลองชวนเค้าดูนะ"
"อร๊ายยย เริ่ดที่สุดค้าพี่หมู อิอิอิ"
ป๊อกกี้ดี๊ด๊าแล้วก็ไปทำงานต่อ แต่อธิปพงศ์กระตุกวูบเมื่อเห็นรุ่นน้องกรี๊ดนิธินออกนอกหน้าอย่างนั้น ชายหนุ่มพยายามไม่ใส่ใจและไปทำงานต่อกับลูกค้าที่มาใหม่
พี่กุ้งที่สังเกตอธิปพงศ์เงียบๆ รู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่เริ่มเปลี่ยนไปในตัวผู้ชายธรรมดา ๆ อย่างอธิปพงศ์แล้ว

  เสียงเพลงฮินดีจังหวะสนุกสนานยังคงดังกระหึ่มในห้องเต้นรำของบริษัทสัญชาติอินเดียแห่งนี้ เพื่อที่จะให้พนักงานชาวอินเดียได้ออกสเต็ปคลายเครียดจากงานที่ทำและเพื่อฝึกซ้อมสำหรับการเข้าสังคมในงานรื่นเริงที่จะถึงในต้นเดือนหน้า หนุ่มสาวออฟฟิศทั้งอินเดียและไทยต่างก็ออกสเต็ปตามครูสอนเต้นที่มาวันนี้อย่างสนุกสนาน โดยเพลงที่เปิดมีทั้งเพลงเต้นรำจังหวะมาตรฐานหรือเพลงใหม่ๆจากหนังบอลลีวูดและเพลงปัญจาบบี
 นิธินกับเพื่อน ๆ ต่างก็เพลิดเพลินกับการออกสเต็ปโดยไม่รู้จักเหนื่อยจนถึงเวลาเลิก
พอเสร็จจากคลาสเรียนเต้นรำหยิบ นิธินก็โทรศัพท์เพื่อจะโทรหาอธิปพงศ์ แต่ก็ช้ากว่าอีกฝ่ายที่โทรมาพอดี นิธินจึงกดรับท่ามกลางเพื่อน ๆ ที่มองมาอย่างตื่นเต้น
"ฮัลโหล คุณหมู"
"เอ่อ อยู่ในยิมรึเปล่าครับ"
"เปล่าครับ เข้าคลาสเต้นเพิ่งเลิก คุณหมูมีอะไรรึเปล่าครับ"
"อืม วันนี้ผมคงไปว่ายน้ำด้วยไม่ได้แล้วหล่ะ"
"อ่าว ทำไมล่ะครับ" นิธินที่ได้ยินอย่างนั้นก็วูบในใจ แต่ก็สงสัยเลยถามว่า
"คือ น้องที่ร้านชวนไปร้องคาราโอเกะหน่ะ"
"คาราโอะเกะ?..อ๋อ ครับ"
 เนื่องจากชาวอินเดียอย่างเขาไม่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมการร้องคาราโอเกะ นิธินเลยต้องนึกสักหน่อย ส่วนเพื่อนๆก็รอฟังว่าอธิปพงศ์จะว่าไงต่อ
"เอ่อ คุณไปกับผมก็ได้นะ" อธิปพงศ์เอ่ยปากชวน เพราะใจจริงเขาก็อยากเจอหน้านิธินขึ้นมาเหมือนกัน ไม่รู้ทำไม
"จริงเหรอครับ" นิธินย้อนถามด้วยเสียงที่แจ่มใสขึ้นมาหน่อย ทำให้เพื่อนๆ โล่งใจ
"อื้ม จริงสิ"
"เจอกันที่ไหนครับ"
"มาหาผมที่หน้าร้านนี่หล่ะ"
"ครับ งั้นเดี๋ยวเจอกันนะครับ"
"ครับ เจอกันครับ"
นิธินกดวางสายด้วยรอยยิ้ม ท่ามกลางเพื่อนๆ ที่ส่งเสียงดีใจ
"แน้ๆๆๆๆๆๆ"
"โหย เดี๋ยวนี้ก้าวหน้าใหญ่แล้วนะเนี่ย ชั้นว่านายอยู่เมืองไทยสามเดือนไม่พอหรอก ทำเรื่องขอย้ายมานี่เลย" วิษณุออกความเห็น
"เออๆ ใช่ นี่อยู่มาจะเดือนครึ่งแล้วนะ เอาเลย ย้ายโลดด" เอเจว่าตาม
"ชั้นว่าดูก่อนดีกว่าว่ะ เผื่อเค้ารับชั้นไม่ได้จริงๆ ชั้นจะได้ไม่อยู่ให้เค้ารู้สึกแย่"
"แหม่ พูดเข้า" แทนไทส่ายหน้า "ชั้นว่าคุณหมูเค้าต้องรู้สึกดีกับนายบ้างหล่ะ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับนายว่าจะใช้เวลาที่เหลือเอาชนะใจเค้าได้รึเปล่าหน่ะสิ"
"อืม ขอบใจนะแทน"
นิธินรับคำเพื่อน และนึกถึงหน้าใสๆ ยามหลับของอธิปพงศ์ คืนนี้อธิปพงศ์จะสามารถอยู่คนเดียวได้อีกไหมหนอ นิธินอยากรู้จริง ๆ

  และนิธินก็ไปหาอธิปพงศ์ที่ร้านหลังเลิกงานเหมือนเคย แต่วันนี้เขารู้สึกดีขึ้น เพราะว่าอธิปพงศ์ในวันนี้ไม่มีพันธะใด ๆ อีกต่อไปแล้ว โอกาสที่เขาจะใกล้ชิดกับอธิปพงศ์ก็มีตามมามากขึ้น เมื่อถึงหน้าร้านก็พบว่ายังมีลูกค้าเหลืออยู่สองคน แต่ก็คงรอไม่นานเท่าไหร่  อธิปพงศ์มองเห็นร่างใหญ่ที่มาถึงพอดีจึงส่งยิ้มให้ และเดินเข้าไปหา
“ไงครับ..” เขาเริ่มทักทายนิธิน แต่เมื่อเห็นนิธินอยู่ในชุดทำงานอยู่ จึงถามว่า
“วันนี้เพิ่งเลิกงานเหรอครับ”
“ก็ เปล่าหรอกครับ คือ วันนี้ที่ทำงานมีครูมาสอนเต้นรำ เลยเพิ่งเลิก”
“เต้นแบบในหนังอ่ะเหรอ”
“ใช่ๆ”
“แล้วเป็นไงมั่งอ่ะครับ”
“ก็สนุกดีครับ” นิธินถามอธิปพงศ์ยิ้ม ๆ ว่า “แล้ว คุณว่าง..?”
“อืม วันนี้ลูกค้าผมหมดเร็วหน่ะ”
อธิปพงศ์ยิ้มตอบ เพราะรู้สึกดีที่ได้เจอชายหนุ่ม
“ป่ะ นั่งรอในร้านก่อนดีกว่า”
นิธินเดินตามร่างสมส่วนนั้นมาข้างใน นิธินยกมือไหว้ทักทายเมื่อเจอพี่กุ้งเป็นคนแรก ส่วนป๊อกกี้ที่พอเห็นว่าใครมาก็แทบจะกรี๊ดให้ลั่นร้าน
“ว้ายยย คุณนิธิน..” ป๊อกกี้ปราดเข้าไปหานิธินทันที “สวัสดี ตายแล้ว ขอบคุณนะคะ ที่มาเป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งงานของป๊อก”
นิธินมองหน้าป๊อกกี้งง ๆ เพราะไม่เข้าใจภาษาไทยเร็วรัวตรงหน้า พี่กุ้งเห็นว่าลูกน้องออกตัวแรงอย่างนี้เลยต้องแซว
“นังป๊อก แกมีเงินค่าสินสอดไปขอเค้ามั๊ยล่ะ จะแต่งงานกับคนอินเดียแกต้องเป็นฝ่ายไปขอผู้ชายนะ”
“ขอให้ได้เจ้าบ่าวหล่อ ๆ อย่างนี้ มีบ้านให้บ้าน มีรถให้รถ หมดเนื้อหมดตัวก็ยอมค่ะ”
พี่กุ้งหันไปทางอธิปพงศ์ “แล้วหมูว่าไงล่ะ ป๊อกกี้มันจะทุ่มหมดตัวไปขอคุณนิธินนะ”
“ไม่รู้สิครับ” ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ และหันมาทางนิธิน “ว่าไง นิธิน Pokky said that he want to marry you นะ”
นิธินที่เพิ่งเข้าใจความหมายถึงกับหัวเราะออกมา ทุกคนยิ้มขำไปด้วย แต่ในใจอธิปพงศ์นี่สิชักเกิดอาการว้าวุ่นเล็ก ๆ เข้าแล้ว
 
   ป๊อกกี้พาทุกคนมาร้านคาราโอเกะในสยามสแควร์ เมื่อมาถึงทุกคนก็นั่งตามมุมโต๊ะ แต่ป๊อกกี้พยายามลากนิธินมานั่งด้วย ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้นั่งกับอธิปพงศ์ ทุกคนสั่งอาหารกันคนละจาน ยกเว้นนิธินที่บอกว่า
"ผมเพิ่งออกกำลังกายมาครับ ยังกินอะไรไม่ได้"
"ต๊ายย น่ารักอ้ะ ชอบจังเลยค่ะผู้ชายรักสุขภาพเนี่ย"
ว่าแล้วป๊อกกี้ก็เข้าไปกอดแขนนิธิน หล่อนหลับตาพริ้มออดอ้อนอย่างมีความสุข แต่พี่กุ้งเบรกความอ้อร้อของลูกน้อง
“นังป๊อก จะร้องเพลงมั๊ย ชั้นไม่ได้มานั่งดูแกจิกผู้ชายนะ”
“ค่าๆๆๆ” ป๊อกกี้ละจากแขนล่ำของหนุ่มอินเดียมาสนใจแฟ้มเมนูเพลงตรงหน้า
“พี่หมู นังหญิง อยากร้องก็ร้องได้เลยนะ”
“ค่ะ ๆ พี่ป๊อก” หญิงรับคำและเลือกขึ้นมาได้
 “เอาเพลงนี้ดีกว่า...” หญิงกดเพลงที่รีโมต ทุกคนรอลุ้นว่าหญิงจะร้องเพลงอะไร
“อร๊ายยย เพลงนี้ชอบ ๆๆๆ” ป๊อกกี้ดี๊ด๊าเมื่อเห็นชื่อเพลงบนจอ ส่วนนิธินที่เห็นว่าป๊อกกี้เผลอแล้ว เลยย้ายมานั่งข้างอธิปพงศ์
ที่เหมือนจะเก็บอาการแอบงอนเขาเล็ก ๆ นิธินจึงไม่ได้พูดอะไรนอกจากมานั่งด้วยเฉย ๆ
หลังจากนั้นในห้องก็มีเสียงเพลงไม่ขาด แต่งานนี้ดูเหมือนว่าหญิงกับป๊อกกี้จะครองไมค์ร้องเพลงกันสองคนเสียมากกว่า  พี่กุ้งได้แต่นั่งยิ้ม ๆ กับลูกน้องตัวแสบ และแอบสังเกตนิธินกับอธิปพงศ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง และพี่กุ้งก็รับรู้ได้ว่าลูกน้องคนสนิทของเขากำลังเกิดอาการว้าวุ่นใจเมื่อเห็นป๊อกกี้ให้ท่านิธินอย่างนั้น แต่ก็โล่งใจเพราะเห็นนิธินเหมือนจะรู้ว่าคนข้าง ๆ ซ่อนความรู้สึกอะไรอยู่
“เพลงนี้นะค้า ขอมอบให้คุณนิธิน หนุ่มอินเดียรูปหล่อของน้องป๊อกกี้ค่า”
นิธินรู้ตัวว่าตกเป็นเป้าอีกแล้ว จึงพยายามฟังว่าป๊อกกี้ร้องเพลงอะไร
“อื้อหือ...หล่อจัง...อ๊ะฮ้า หล่อจริง คู่ใครนะหนิงเป็นบ้า เพียงแค่มองสบตา ห่างกันตั้งสี่วา อ๊ะหา ใจหายว๊าบบบ...”
  ป๊อกกี้เลือกเพลงจิกผู้ชายในตำนานของราชินีลูกทุ่งผู้เป็นขวัญใจชาวสีม่วง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ตัวแม่รุ่นต่อมาคือ ใหม่ เจริญปุระเอามาร้องให้มีกลิ่นไอสตริง มาร้องบอกความรู้สึกให้ชายหนุ่มฟังด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยที่พยายามทำให้กระเส่า และป๊อกกี้ก็เดินย่างสามขุมเข้ามาหาร่างใหญ่นั้นเพื่อจะร้องในประโยคต่อไป
“โอ้โห เท่ห์จริง อื้อหือออ.. บึกบึน น่ายืนคล้องแขนขนาบบ..ดูท่าทางสุภาพ โสดใช่มั๊ยอยากทราบ งาบบบ! ซะดีมั๊ยเรา”
ป๊อกกี้ลูบไล้กล้ามแขนแน่นนั้นตามเนื้อเพลง
“วงแขนกล้ามเป็นมัด ๆ อุ๊ยย น่าจะกัดแขนเล่นเบา ๆ” และป๊อกกี้ก็พยามเข้าไปคลุกวงในของนิธินโดยกายนั่งเบียดแนบเนื้อ
“น่ากระซิกเบียดกายกระแซะ และวางมือแหมะ ไว้บนหัวเข่า..”
นอกจากป๊อกกี้จะวางมือบนต้นขาแข็งแรงของอีกฝ่ายแล้ว หล่อนก็ยังซบไหล่ชายหนุ่มตบท้าย
“อยากกระซิบเบา ๆ ว่าตอนนี้เหงาใจจังเลยยย”
“อื้อหือ หล่อจัง อ๊ะฮ้า มาดแมน นี่แฟนของใครกันเอ่ย หากพ่องามทรามเชย โจทย์ไม่มีเปิดเผยจะนั่งเข่าเกยคุยด้วยทั้งคืนน”

  แต่นิธินที่ตกเป็นเป้ากลับไม่ได้รู้สึกดีที่มีคนให้ท่า ตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ กับอุณหภูมิในใจของคนข้าง ๆ เขาหันไปมองอธิปพงศ์ที่นั่งนิ่งและมองป๊อกกี้อย่างเก็บอารมณ์ และเมื่อป๊อกกี้ร้องจบเพลง เขาจึงบอกว่า
“เอ่อ ผมขอไปห้องน้ำนะครับ..คุณหมู สนใจจะไปกับผมมั๊ย”
อธิปพงศ์พยักหน้าและลุกตาม ทำเอาป๊อกกี้ถึงกับมองตามตาค้าง และกรีดขึ้นมาว่า
“อ๊ายย นี่ฟังป๊อกร้องเพลงแล้วถึงกับปวดขี้กันเลยเหรอคะ”
“ฮ่ะๆๆๆๆๆ” พี่กุ้งกับหญิงหัวเราะกันอย่างขบขันและสะใจ
ป๊อกกี้หงุดหงิดอารมณ์เสีย เพราะดูท่าว่าพลาดแน่ ๆ จึงโวยออกมา
“อร๊ายยย ทำไมคะ คุณแม่ ทำไมเค้าไม่สนใจหนู..”
พี่กุ้งกับหญิงมองหน้ากัน เห็นควรว่าต้องบอกในสิ่งที่ป๊อกกี้ควรรู้ได้แล้ว...

  ส่วนนิธินที่มาเข้าห้องน้ำกับอธิปพงศ์ก็รับรู้ได้ว่า อีกฝ่ายกำลังไม่พอใจในบางอย่างที่ห้องร้องคาราโอเกะ ผู้ชายที่ผ่านโลกมาพอควรอย่างนิธินพอดูออกได้ทันทีว่า อีกฝ่ายกำลังหึงเขาอยู่อย่างไม่รู้ตัว แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกไปจึงได้แต่เงียบและมองอธิปพงศ์ว่าเขายังเห็นชายหนุ่มอยู่ในสายตาเสมอ คนทั้งสองทำธุระเสร็จก็ออกมา แต่ดูท่าอธิปพงศ์ยังไม่อยากกลับไป นิธินจึงบอกว่า
“เรา ไปเดินเล่น กันมั๊ย”
“อืม ๆ”
 อธิปพงศ์พยักหน้าและเดินนำชายหนุ่มไปนอกร้าน เวลานี้ต่างคนต่างไม่มีอะไรจะพูดด้วยกันทั้งคู่ ด้วยอธิปพงศ์กำลังพยายามหนีความรู้สึกไม่พอใจที่เห็นป๊อกกี้ให้ท่านิธินในร้าน ส่วนนิธินเองก็ไม่อยากจะให้อธิปพงศ์อารมณ์เสียเลยไม่อยากพูดอะไร จนสักพักนิธินก็บอกว่า
“คุณรู้มั๊ย ว่าคนอินเดียอย่างผมไม่ค่อยได้ร้องคาราโอเกะเลย”
อธิปพงศ์หันมามองอีกฝ่ายอย่างสนใจ “ทำไมเหรอ”
“ก็ ไม่รู้สิ เวลาว่างของคนอินเดียอย่างพวกผมก็จะไปเล่นกีฬา หรือไปซ้อมเต้นรำอย่างที่คุณเห็นนั่นหล่ะ”
“แล้วคุณคิดว่าไงอ่ะ” อธิปพงศ์ถามต่อ ดูสิว่าเขาจะพูดอะไรถึงป๊อกกี้มั๊ย
“ไม่รู้สิ เพราะผมฟังภาษาไทยไม่ค่อยออก ฮ่ะๆๆ”
ได้ยินอย่างนั้นอธิปพงศ์ค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อย เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มหัวเราะ เขาก็อดยิ้มตามไม่ได้
“ผมว่าเรากลับไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวทุกคนรอนาน”
นิธินพยักหน้า เพราะรู้สึกได้อุณหภูมิในใจของอธิปพงศ์กลับสู่ภาวะปกติ ชายหนุ่มจึงค่อยโล่งใจตามไปด้วย

  เมื่อกลับมาถึงห้องคาราโอเกะ นิธินกับอธิปพงศ์ก็เห็นหญิงกับป๊อกกี้ยังร้องเพลงกันต่อ พี่กุ้งส่งยิ้มให้คนทั้งสองที่เข้ามา และนั่งลงข้าง ๆ กัน พี่กุ้งเห็นแววตาที่ผ่อนคลายลงของลูกน้องแล้วก็เบาใจ เพราะอธิปพงศ์คงลดความรู้สึกร้อนรนไปได้แล้ว
  ป๊อกกี้หันมามองหน้าคนทั้งสองและยิ้มให้แบบเกรงใจ หล่อนเพิ่งจะรู้ว่าผู้ชายอินเดียรูปหล่อคนนี้กำลังตามจีบรุ่นพี่ของตัวเองอยู่ แดูท่าทางนิธินจะจริงจังไม่น้อยเสียด้วย ถ้าวัดกันแล้วอธิปพงศ์รูปร่างหน้าตาดีกว่าเขามาก รุ่นน้องอย่างเขาจึงต้องหลบให้ทันที เพราะเมื่อครู่เขาก็รู้สึกได้ว่าอธิปพงศ์กำลังไม่พอใจอะไรเขาอยู่เหมือนกัน
 แต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าเป็นเรื่องของผู้ชายคนนี้ คิดแล้วป๊อกกี้ก็อยากจะกรี๊ด ๆๆๆๆ ให้หายเจ็บใจ

“อ๊ายย วันนี้ได้ร้องเกะแล้ว ฟินส์เว่อร์” ป๊อกกี้บอกกับทุกคนหลังจ่ายตังค์
“อืม ขอบคุณนะพี่ป๊อกที่มาเลี้ยงอย่างที่บอกไว้”
“ค่ะ ไม่เป็นไร” ป๊อกกี้แอบเจ็บใจเล็กน้อย เพราะกะใช้โอกาสนี้จิกผู้ชายหล่อล่ำอย่างนิธินแล้วแท้ ๆ
“เดี๋ยวรอคราวหน้านะคะ พี่หมูต้องเลี้ยงน้องบ้างล่ะ”
“เลี้ยงในโอกาสอะไรล่ะ”
“ก็ งานแต่งงานไงคะ อ่อลืมไป พี่หมูต้องเก็บตังค์ไว้เป็นค่าสินสอด” ถึงป๊อกกี้จะยอมแล้วแต่ก็มิวายเหน็บรุ่นพี่เบา ๆ
แต่พี่กุ้งที่ได้ยินอย่างนั้นจึงเข้ามาประกบและหยิกหลังป๊อกกี้ทันที
“อย่าไปฟังนังป๊อกมันเลย หมู คุณนิธิน อืม ดึกแล้ว ก็กลับบ้านกันดี ๆ นะครับ”
“ครับ ขอบคุณครับคุณกุ้ง” นิธินรับคำ
“ไปก่อนนะครับพี่ สวัสดีครับ” อธิปพงศ์ยกมือไหว้เจ้าของร้านอย่างเช่นทุกวัน และเดินแยกไปพร้อมกับนิธิน
เมื่อคนทั้งสองคล้อยหลังไปอย่างนั้น ป๊อกกี้ก็กรี๊ดออกมาทันที
“อร๊ายยยย หนูรับไม่ด๊ายยยยย”
 “โหย พี่ป๊อก พี่หมูกับคุณนิธินเค้าออกจะเหมาะสมกันขนาดนั้น”
“แอร๊ยยยยยยย”
พี่กุ้งบอกกับลูกน้องตัวแสบว่า
“ป่ะ นังป๊อก กลับไปกินนกทอดกระเทียมหน้าหอแกอีกจานเลย คืนนี้”
“แอร๊ยย คุณแม่ใจร้ายยยย”


เมื่อเหลือกันอยู่สองคน นิธินจึงหันมาถามอธิปพงศ์อย่างเป็นห่วงว่า
"คุณโอเคมั๊ย"
"หืออ..?"
"ผมหมายถึง คืนนี้คุณรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อวานหรือยัง"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นจึงแกล้งถามกลับไปว่า
"แล้วถ้าผมยังไม่ดีขึ้นล่ะ"
เขาแกล้งยั่วเย้าอีกฝ่าย ดูสิว่าจะตอบว่ายังไง
"ผมก็จะมาอยู่กับคุณไง" นิธินหันมาตอบอย่างจริงใจ ดวงตาคู่นั้นยังฉายแววอบอุ่นเหมือนเคย แต่ครั้งนี้อธิปพงศ์กลับรู้สึกอบอุ่นกว่าเดิม
"เหรอ"
เขาตอบสั้น ๆ และอมยิ้มเก็บอาการ แต่ก็ยิ่งเขินอายมากขึ้นเมื่อ นิธินค่อยๆเข้าไปช้อนมือซ้ายของอธิปพงศ์มากุมไว้ ไม่มีคำพูดใดๆ ระหว่างชายหนุ่มทั้งสองที่เดินด้วยกัน มีเพียงแต่ความรู้สึกอบอุ่นหอมหวานเท่านั้นที่อบอวลอยู่ในใจคนทั้งสอง

เมื่อถึงที่หมายอธิปพงศ์จึงค่อยๆ ชักมือกลับ และหันมาหาร่างใหญ่ที่มาส่ง
"ขอบคุณนะครับ ผมดีขึ้นมากแล้ว จริงๆนะ"
อธิปพงศ์หมายความตามที่พูด เขารู้สึกดีขึ้นเพราะได้รับการดูแลจากนิธิน และไออุ่นจากมือใหญ่ที่จับมือเขาไปกุมไว้เมื่อกี๊ก็ทำให้เขามีความสุขมากๆ"ครับ"นิธินรับคำ "งั้นคืนนี้ กู๊ดไนท์นะครับ"
"ครับ กู๊ดไนท์"



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ.....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-02-2012 16:07:53
จิ้มๆ


นักป๊อกเข้าใจอะไรได้ง่ายๆก้ดีแล้ว


ว่าแต่มีแอบหึงนิธินแบบไม่รู้ด้วยด้วยอ่าส์



แต่นะเห็นว่าอยู่แค่ สามเดือนเองหรอ เวลาห่างๆกันนี่มันม่ดีเลยนะ ประสบการณ์จากตัวเอง เหอะๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 13-02-2012 18:15:23
ตามอ่านครบทุกตอนแล้ว เรื่องนี้สนุกอีกแล้ว แถมได้เปลี่ยนบรรยากาศไปเป็นหนุ่มอินเดียซะด้วย กรี๊ดดด หนุ่มแขกนัยน์ตาหวาน 

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-02-2012 18:38:40
ก่อนอื่นขอแอบไปดูป๊อกกี้กินนกทอดกระเทียมก่อนนะจ๊ะ
ก็ว่าจะเอานก(พิราบ)ตุ๋นยาจีนไปเพิ่มให้อีกอย่างอยู่น้าาาาา...
คนอ่านเช่นเราอินจังเลย
เพราะขณะอ่านรู้สึกถึงความอ่อนโยน อบอุ่น เจือความหวานด้วยแหละ :man1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 13-02-2012 20:25:53
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 13-02-2012 20:44:28
ตลกป็อกมากเลย ออกเสตปเต็มที่สุดท้ายก็นก :laugh:

สองคนนี้ค่อยเป็นค่อยไปดี อิอิ อยู่ในช่วงดูใจ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-02-2012 20:59:24
เขินอ่ะ ตะเอง :o8:
เค้าจีบกันแบบค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆสุขเพิ่มขึ้นทีละนิดๆ อิจฉาง่ะ :-[
ป๊อกกี้ก็เป็นน้องที่ดีนะเนี่ย แต่ไม่คิดว่าจะแอบจริงจังนิกหน่อยเรื่องนิธิน :laugh:
เอาน่า เดี๋ยวเนื้องอก เอ๊ย เนื้อคู่ก็หล่นมาทับแบบไม่ทันตั้งตัวเองแหละ :m20:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de - Give me your hands – แบ่งรักให้อุ่นใจ (Update:13/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 14-02-2012 16:34:26
มาแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะคะ สวัสดีวันแห่งความรักค่ะ  :กอด1: :L1: :pig4: :pig4: :L1: :L2:

12

  อธิปพงศ์ยังนอนไม่หลับ เขาพลิกตัวกระสับกระส่ายและก่ายหน้าผากมาพักใหญ่แล้ว ชายหนุ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเขาปล่อยตัวมากไปหรือเปล่า
ถึงแม้จะไม่ใช่ผู้หญิง แต่การปล่อยให้ผู้ชายเดินจับมือก็ทำให้อธิปพงศ์รู้สึกว่าตัวเองเสียหายไม่น้อย ถึงแม้จะรู้สึกดีแค่ไหนก็ตาม
 หรือว่าเขาเผลอใจให้นิธินเสียแล้ว ไม่หรอกน่า...เรื่องของเขากับนิธินก็เป็นแค่มิตรภาพระหว่างผู้ชายสองคนทึ่มีให้กันในฐานะเพื่อน หนำซ้ำยังเป็นเพื่อนใหม่ที่รู้จักกันไม่นานเสียด้วย
ทว่านิธินก็เข้าอกเข้าใจเขาทุกอย่างและยังดูแลเขาเป็นอย่างดี
ถ้าไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไป อธิปพงศ์รู้สึกเหมือนว่านิธินเอง มีใจให้เขาแบบคนรัก และลึกๆแล้วเขาก็รู้สึกประทับใจในสิ่งที่ชายหนุ่มมอบให้เสมอมา
แต่เขาก็รับไม่ได้ที่ตัวเองรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายด้วยกัน เขาพร่ำบอกตัวเองว่าเขาเป็นผู้ชาย ยังชอบผู้หญิง และไม่หวั่นไหวกับผู้ชายรูปหล่อนิสัยดีแบบนี้ง่ายๆ
 คิดแล้วอธิปพงศ์ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาอีกเฮือก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่ามีหลายสายจากนิธินที่เขาไม่ได้รับ อธิปพงศ์รู้สึกผิดที่ต้องทำอย่างนี้ แต่ก็คงไม่มีวิธีไหนที่จะทำให้เขารู้สึกดีได้อีก เผื่อบางครั้งความรู้สึกฟุ้งซ่านในใจจะหายไป

นิธินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองดูแล้วก็วางลง เขาโทรไปหาอธิปพงศ์ห้าครั้งแต่ก็ไม่มีการตอบรับจากเจ้าตัวแต่อย่างใด เลยไม่โทรอีกเพราะคิดว่าเจ้าตัวคงต้องการอยากพักผ่อนจริงๆ นิธินจึงส่งข้อความไปว่า
"Good night, have a sweet dream"

อธิปพงศ์ที่กำลังใจลอยสะดุ้งโดยพลันเมื่อเสียงโทรศัพท์เตือนว่ามีข้อความเข้า เขาหยิบมาดูก็พบว่าเป็นนิธิน เขาเผลอยิ้มและเปิดอ่าน พอรู้ว่าเจ้าตัวส่งมาว่าอย่างไรก็ยิ้มกว้างขึ้น เมื่อนึกขึ้นได้ก็ถอนใจกับตัวเอง นี่เขาเป็นอะไรกันนี่ ทำไมเขาถึงอดรู้สึกดีกับเรื่องแบบนี้ไปได้ อธิปพงศ์นึกย้อนถึงตอนที่ในใจเขาเดือดปุด เมื่อเห็นป๊อกกี้แสดงออกว่าชอบนิธิน ก็ยิ่งทำให้ในใจเขาตอนนี้ยิ่งร้อนรนเข้าไปใหญ่ เพราะนานแล้วที่เขาไม่เคยรู้สึกหึงใครอย่างนี้
อธิปพงศ์สะดุดกับคำว่า "หึง" นี่เราหึงเขาทำไม...
ชายหนุ่มพลิกตัวไปอีกด้านและพยายามหลับตาลง เขาจะพยายามลืมความรู้สึกนี้ให้ได้ และจะไม่ปล่อยตัวปล่อยใจกับนิธินอีก

   นิธินที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์กำลังออนไลน์พูดคุยข้ามประเทศกับเพื่อน และครอบครัว โดยที่ตอนนี้เขากำลังคุยกับดารามดัส พี่ชายคนเดียวของเขา
 "ไง ไอ้น้องชาย ยังไม่นอนเหรอเนี่ย" ดารามดัสหมายถึงเวลาที่กรุงเทพเร็วกว่ามุมไบสองชั่วโมง เช่นนั้นเวลาห้าทุ่มที่กรุงเทพอย่างนี้ก็ถือว่าดึกพอสมควรกับคนทำงาน
"ยัง พี่เป็นไงมั่ง"
"เรื่อยๆ หล่ะ แกอ่ะ เป็นไง”
“ก็ดีครับ งานที่นี่ก็คล้าย ๆ มุมไบนั่นหล่ะ ตอนนี้งานเข้านิดหน่อยหน่ะ แต่ก็โอเค อืม วิจัย กับ ปรียาล่ะ สบายดีมั๊ย”
นิธินถามถึงหลานชายวัยสองขวบและพี่สะใภ้
“อ่อ ปรียาสบายดี ส่วนวิจัยก็กำลังซนเลย ฮ่ะๆๆๆๆ แล้วแกอ่ะ กับคุณคนนั้นคืบหน้ามั่งป่าว"
ดารามดัสถามน้องชายอย่างอารมณ์ดี ถึงแม้เรื่องเกย์จะเป็นเรื่องที่สังคมอินเดียรับไม่ได้ แต่เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น เพราะด้วยความสนิมสนมกับน้องชายมากๆ ดารามดัสจึงไม่เคยรังเกียจน้องตัวเองแม้แต่น้อย
"ก็ดีครับ เจอกันเกือบทุกวัน อ่อ วันนี้ผมไปร้องคาราโอเกะกับเค้าด้วย"
"เหรอๆ อืมก็ดีสิ" เจ้าตัวส่งยิ้มร่าเริงตอบกลับ
"แล้วพ่อกับแม่ล่ะ เป็นไงมั่ง" นิธินถามออกไปด้วยความรู้สึกกล้า ๆ กลัวๆ
"ก็ดี" พี่ชายตอบกลับ "พ่อกับแม่บ่นคิดถึงแกทุกวันเลยนะ"
ดารามดัสยิ้มจริงใจ เพื่อจะบอกว่าเขาไม่ได้โกหกน้อง  เพราะหลังจากที่นิธินบอกกับพ่อแม่ว่าเขาไม่อยากแต่งงานเพราะไม่ชอบผู้หญิงแล้วนั้นทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าพ่อกับแม่ที่เคยรักเขา มากๆ กลับรักเขาน้อยลง ถึงแม้ว่าท่านทั้งสองจะไม่แสดงอาการเกรี้ยวกราดใดๆออกมา แต่ชายหนุ่มก็เจ็บปวดทุกครั้งกับความเย็นชาของผู้ให้กำเนิด
"พ่อกับแม่รักแกมาก รักแกเหมือนเดิม จริงๆนะ"
ดารามดัสยังคงยืนยันทุกครั้งที่เห็นน้องรู้สึกแย่เพราะเรื่องดังกล่าว
"อืม ผมรู้ครับพี่"
นิธินก็ตอบเหมือนเดิม พร้อมกับยิ้มกลบเกลื่อนให้พี่ชายสบายใจ ดารามดัสรู้ว่าน้องชายยังรู้สึกแย่จึงเปลี่ยนเรื่องคุย
"เออ ที่เมืองไทยเป็นไงมั่ง เค้าจัดงานไหว้พระแม่ทุรคารึเปล่า"
"เห็นเพื่อนผมบอกว่ามีจัดนะ แต่คงไม่ใหญ่เหมือนบ้านเราหรอก"
"อืมๆ บ้านเรานี่ฉลองกันตายไปเลย5555"
นิธินค่อยยิ้มออกกับคำพูดของพี่ และพูดคุยเรื่องอื่นกันตามประสาพี่น้อง
สักพักนิธินก็ต้องขอตัวเพราะรู้สึกง่วงนอนเหลือเกิน

วันรุ่งขึ้น อธิปพงศ์มาทำงานด้วยความอ่อนเพลียเพราะทั้งคืนที่ผ่านมาเขาคิดไม่ตกกับความรู้สึกของตัวเอง พี่กุ้งสังเกตุเห็นท่าทางอ่อนแรงของลูกน้องก็ไม่ได้ว่าอะไรจนกระทั่งเห็นอธิปพงศ์ยืนเหม่อลอยโดยที่กำลังจะล้างถ้วยน้ำยาเปลี่ยนสีผมในอ่างที่มีน้ำเปิดแรงจนกระเซ็นเปียกเสื้อ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่มีอาการใดๆ นอกจากใจลอยไปกับสิ่งที่คิด
"หมู...นี่จะแช่มืออยู่ตรงนั้นอีกนานมั๊ย"
อธิปพงศ์รู้สึกตัวทันที จึงรีบปิดน้ำและเอามือเช็ดผ้าที่แขวนไว้ พี่กุ้งเห็นอย่างนั้นก็คาดเดาว่าลูกน้องกำลังมีปัญหาหัวใจอยู่แน่ๆ
"วันนี้หมูเป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า"
"ปะ เปล่าครับ ผม ไม่เป็นไร"
"แต่หมูรู้มั๊ยว่าวันนี้เราหน้าซีดมากเลยนะ เป็นอะไรรึเปล่า หรือว่าเมื่อคืนไม่ได้นอน"
อธิปพงศ์มองหน้าพี่กุ้ง ไม่มีคำตอบใดๆ แต่พี่กุ้งก็คิดว่าตัวเองพูดถูก
"หมู มีอะไรไม่สบายใจหมูเล่าให้พี่ฟังได้นะ"
พี่กุ้งพูดอย่างเป็นห่วง ทำให้อธิปพงศ์ลังเลว่าควรจะเล่าให้พี่กุ้งฟังดีไหม
"เล่ามาเถอะ หมูจะได้สบายใจขึ้น"
เมื่ออธิปพงศ์เห็นพี่กุ้งมองอย่างเป็นห่วงจึงเปิดปากเล่า
"ผม....ผมนอนคิดมาทั้งคืนเลยครับ"
พี่กุ้งพยักหน้าเบา ๆรับฟัง อธิปพงศ์พูดต่อ
"คือผม สับสนนิดหน่อยหน่ะครับ"
"มีอะไรเหรอหมู"
"คือผม ผมรู้สึกแปลกๆ กับนิธินหน่ะครับ"
พี่กุ้งแอบยิ้ม แต่ก็ยังคงเป็นผู้ฟังที่ดี
"อืม ยังไงล่ะ"
"คือ ตั้งแต่ผมรู้จักกับเค้า เค้าดูแลผมดีมาก มากจนผมรู้สึกว่า เค้า เอ่อ เค้ากำลังคิดกับผมมากว่าเพื่อน"
"อื้ม แล้ว"
"ก็มีหลายครั้งนะครับที่ผมสัมผัสได้ว่าเค้าคิดยังไงกับผม แต่ผมก็พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด"
"อืม แล้วหมูรู้สึกดีมั๊ย"
อธิปพงศ์ตอบทันทึ
"แต่ผมไม่ได้เป็นเกย์นะครับ"
"หึหึ พี่รู้ แต่พี่ถามว่าเราชอบที่เค้าทำอย่างนั้นกับเรารึเปล่าล่ะ"
อธิปพงศ์เงียบไป พี่กุ้งเลยพูดต่อว่า
"หมูฟังนะ ชีวิตคนเราจะหาใครสักคนมารักมาดูแลเราอย่างจริงใจเนี่ยมันไม่ง่ายหมูก็รู้"
"แต่ ผมไม่ชอบผู้ชายนะครับ"
"อืม พี่เข้าใจ" แต่หมูคิดว่าที่ผู้ชายเดี๋ยวนี้หันมาคบกันเองมากขึ้นเพราะอะไรล่ะ"
อธิปพงศ์ไม่รู้ เขาจึงถามกลับว่า
"ทำไมเหรอครับ"
"ก็เพราะว่า ผู้ชายหน่ะจริงๆแล้ว ไม่ได้ต้องการแค่ความรักอย่างเดียวหรอกนะ ผู้ชายมองหาความเข้าอกเข้าใจและการเอาใจใส่จากแฟนมากกว่า ในเมื่อบางครั้งผู้หญิงไม่เข้าใจและไม่ปรับตัวให้เข้ากับผู้ชายได้ ผู้ชายจึงหันมาคบผู้ชายด้วยกัน"
อธิปพงศ์อึ้งไปเล็กน้อย เพราะอย่างนี้เองเหรอที่ทำให้คนสมัยนี้หันมารักเพศเดียวกันมากขึ้น เขาก็เพิ่งจะเข้าใจ
พี่กุ้งทิ้งท้ายไว้ว่า
"บางครั้งเรื่องของหัวใจ ไม่ต้องใช้สมองคิด ทำตามหัวใจดูบ้างแล้วจะมีความสุข"
เขายิ้มให้กำลังใจลูกน้องพร้อมกับตบไหล่เบาๆ ก่อนจะออกไป ส่วนอธิปพงศ์ ที่ได้ยินพี่กุ้งแนะนำอย่างนั้นก็ค่อยสบายใจ แต่ทว่าก็ยังมีความกังวลใจอยู่ดี ถึงแม้จะรู้สึกดีที่มีนิธินอยู่ด้วย แต่เขาไม่พร้อมจริง ๆ กับการคบหากับผู้ชายแบบคนรัก นั่นเท่ากับว่าเขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ ที่เขาก็ยังไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป

ด้านนิธินที่ทำงานทั้งวัน แล้วยิ่งช่วงนี้เขาต้องเร่งทำงาน เพื่อต้อนรับวันหยุดยาวของบริษัทในเทศกาลนวราตรีที่จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทุกคนในบริษัทพร้อมใจกันทำงานถึงดึกดื่น ทำให้เย็นนี้ชายหนุ่มจึงไม่ได้ไปหาอธิปพงศ์อย่างที่เคย แต่นิธินตั้งใจว่า จะทำงานของตัวเองให้ดีเสียก่อนเพราะเขาตั้งใจว่าวันหยุดยาวนี้ เขาจะใช้เวลาไปดูแลอธิปพงศ์ทุกวัน

 อธิปพงศ์ทำงานต่อทั้งวัน จนเลิกงานเขาก็ไม่ได้ติดต่อกับนิธิน แต่อธิปพงศ์ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะถ้าวันไหนไม่ว่าง นิธินก็จะโทรมาก่อนเสมอ เย็นนี้เขาตัดสินใจที่จะไปกินข้าวเย็นที่ร้านของลูกค้าที่ชื่อเขียว เพื่อที่จะได้ปรับทุกข์กับหญิงสาวไปด้วย
ในเวลาที่จิตใจอึมครึมเช่นนี้ เขาคิดว่าหากเขาได้อยู่กับคนที่สดใสและมองโลกอย่างมีสีสันบนความเป็นจริงอย่างเขียวก็คงทำให้รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย

"สวัสดีค่ะพี่หมู วันนี้อยากทานอะไรคะ" เขียวยิ้มตาหยีเมื่อเห็นว่าอธิปพงศ์มาอุดหนุนถึงร้าน ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่โต๊ะเพราะใกล้เวลาปิดร้านแล้ว เจ้าของร้านอย่างเขียวจึงสามารถมาดูแล
"อืม พี่อยากกินเฟตตูชินี่ไวท์ชอสหน่ะ" เขาตอบยิ้มๆ
"ได้เลย...รอแป๊บนะคะ ว่าแต่รับน้ำอะไรดีคะ"
"น้ำเปล่าเย็นๆก็พอครับ"
"ค่า"
เธอรับคำและไปหยิบน้ำเปล่ากับน้ำแข็งส่งให้พนักงาน ก่อนจะหายไปหลังร้านพักใหญ่และกลับมาอีกครั้งพร้อมขนมหวานในถ้วยเล็กๆ 
"พี่หมู เขียวมีอะไรจะรบกวนพี่นิดนึงค่ะ"
"ครับ"
"นี่ค่ะ เจลลี่ส้มกับซอฟเค้ก เขียวรบกวนพี่หมูชิมให้หน่อยนะคะ มันเป็นไงก็เม้นท์มาตรงๆ นะ"
"ได้สิ" เขายิ้มรับคำ แล้วตักขนมในถ้วยขึ้นมาชิม
"อื้มอร่อยดีหนิ"
"เหรอคะ" หญิงสาวที่รอลุ้นโล่งอก
"เมนูใหม่เหรอ"
"ค่ะ ใช่แล้ว ยังไม่กล้าทำขาย ก็ลองทำดูหน่ะคะ พี่หมูว่าใช้ได้ แสดงว่าสูตรนี้คงโอเคแล้ว"
"สูตรนี้คิดเองเหรอครับ"
"ช่วยกันคิดกับมาร์โค่หน่ะค่ะ"
"แล้วนี่คุณมาร์โค่ไปไหนหรอครับ เลี้ยงน้องอยู่บ้านเหรอ"
"ค่ะ ผลัดกันเลี้ยง ตอนเช้าเค้ามาทำงานเขียวดูลูกที่บ้านส่วนตอนเย็นเขียวมาทำงานที่ร้าน ให้เค้ากลับไปอยู่กับลูกหน่ะค่ะ"
"อ่อ ดีเนอะ" ชายหนุ่มยิ้มรับ เพราะมีความสุขที่ได้พบเจอเรื่องดีๆ
แต่จู่ๆหญิงสาวก็ถามขึ้นมา
"ว่าแต่ ช่วงนี้พี่หมูผอมไปรึเปล่าคะ วันนี้พี่หมูดูซีดๆไปนะเขียวว่า"
อธิปพงศ์ยิ้มน้อย ๆ และตอบกลับ
"อืม...พี่เครียดๆ นิดหน่อยหน่ะ"
"มีอะไรรึเปล่าคะ" หญิงสาวถามอย่างเป็นห่วง
"เกี่ยวกับแฟนพี่รึเปล่า"
อธิปพงศ์ส่ายหน้ายิ้ม ๆ "ไม่ใช่หรอก พี่เลิกกับเค้าแล้ว"
"อ่าวแล้ว ตอนนี้เกิดอะไรขึ้นกับพี่เหรอคะ"
"ก็ คือว่า พี่กำลังรู้สึกสับสนนิดหน่อยหน่ะ"
"ยังไงคะ"
"ก็ พี่ไม่แน่ใจว่า ตอนนี้พี่...พี่ชอบผู้ชายรึเปล่า"
เขียวตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินประโยคนั้นจากผู้ชายรูปหล่อตรงหน้า แต่ก็ยังคงนิ่งเพื่อไม่ให้อธิปพงศ์รู้สึกแย่ไปกว่านี้ เธอจึงถามต่อด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร
"ยังไงคะ"
อธิปพงศ์เลยเล่าและระบายความรู้สึกต่างๆ ให้เขียวฟัง โดยที่เธอก็พร้อมรับฟังอย่างไม่มีอคติ
หญิงสาวอิงหลังพิงพนักเก้าอี้เมื่อฟังจบ ส่วนอธิปพงศ์เองก็ดูสบายใจขึ้นมากที่ได้เล่าให้ใครสักคนที่เขาไว้ใจฟัง เขียวยิ้มอ่อนโยนให้เพื่อนรุ่นพี่ แต่มองด้วยแววตาที่จริงใจ
"เรื่องนี้เขียวว่าขึ้นอยู่กับพี่หมูแหล่ะค่ะว่าจะลองเปิดใจให้เค้ารึเปล่า เขียวว่าก็ไม่แย่นะที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครสักคน ก็ลองคบดูว่าเค้าจะจริงจังอย่างที่พี่หมูจริงจังรึเปล่า"
"แต่เค้ายังไม่ได้ขอคบกับพี่จริงจังเลยนะ"
"ก็ดูกันไปก่อนไง ไม่ได้จำกัดว่าคบเป็นแฟน เป็นเพื่อนกันและเป็นอย่างที่พี่เป็นเนี่ยะหล่ะ ให้เค้าเห็นตัวจริงของพี่ และพี่ก็จะได้เห็นตัวจริงของเค้าค่อยๆ ดูกันไป ถึงตอนนั้นถ้าไม่ใช่ยังไง ก็ค่อยว่ากัน"
"อืมมม" อธิปพงศ์คิดตาม ก็จริงอย่างที่เขียวว่า ลองดูนิสัยใจคออย่างนี้ไปก่อนก็คงดีกว่าคบกันแบบแฟน เขาจะได้ค่อยๆ เรียนรู้ชีวิตอีกด้านที่กำลังจะพบเจอ
"ทั้งหมดนี้แล้วแต่พี่หมูนะคะ แต่สำหรับเขียว ถ้าเรามีความสุขโดยไม่เดือดร้อนตัวเองกับคนอื่น เขียวก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้วหล่ะค่ะ"
หญิงสาวยิ้มจริงใจให้เพื่อนรุ่นพี่ตรงหน้า เธอหวังว่าอธิปพงศ์จะรู้สึกดีและสามารถตัดสินใจกับความรู้สึกของตัวเองได้เสียที
ชายหนุ่มยิ้มกว้างขึ้น ในแววตาปรากฎความมั่นใจเหมือนเดิม
"ขอบคุณมากนะครับคุณเขียว"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ เรื่องเล็กน้อย"
เขียวส่ายหน้าและยิ้มตาหยี "ถ้ายังไงวันหลังพามาให้เขียวรู้จักหน่อยนะคะ อยากรู้จัง ใครน้าจะเป็นผู้โชคดี"
อธิปพงศ์อมยิ้มเขินๆ "อื้ม วันหลังนะ"

 ความวุ่นวายบนถนนเบาบางลงสำหรับเวลาห้าทุ่มในกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับปัญหาคาใจของอธิปพงศ์ที่ได้รับการคลี่คลาย หลังจากไปปรับทุกข์กับคนอื่นที่รักและหวังดีต่อเขา ชายหนุ่มรู้สึกเข้าใจตัวเองมากขึ้น ที่เหลือก็แค่คอยดูว่านิธินจะทำยังไงกับเขาต่อไป ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถเมล์มองไปนอกกระจก เขาอยากรู้เหมือนกันว่านิธินคิดกับเขาอย่างไร และเป็นคนจริงจังกับความรักเหมือนกันหรือเปล่า
 พลันคิดถึง โทรศัพท์ของอธิพงศ์ก็ดังขึ้นทันที พอรู้ว่าเป็นนิธินเขาก็รีบกดรับ
"ฮัลโหล"
"ฮัลโหล คุณหมู นอนหรือยังครับ"
"ยังครับ คุณอ่ะยังไม่นอนเหรอ มีอะไรหรือเปล่า"
"ผมเพิ่งเลิกงานหน่ะครับ"
"อืม วันนี้ทำโอ เอ่อ...โอเวอร์ไทม์เหรอครับ"
"ครับ"
"อืม เหนื่อยหน่อยนะครับ"
"ครับ ก็นิดหน่อย"
"ว่าแต่ มีอะไรรึเปล่าครับ โทรมานี่"
"ผมอยากชวนคุณหมูไปงานนวราตรีด้วยกันหน่ะครับ"
อธิปพงศ์ถามกลับด้วยน้ำเสียงสงสัย
"งานอะไรอ่ะครับ"
"เป็นงานไหว้พระแม่ทุรคาที่ถนนสีลมหน่ะครับ วันพฤหัสนี้"
"อืมม เหรอครับ"
"ครับ"
"ถ้างั้น เจอกันวันพฤหัสนะครับ"
"ครับ"
"งั้นแค่นี้นะครับ"
"เอ่อ เดี๋ยวก่อน คุณหมูครับ"
"ครับ?"
"Good night ครับ"
"ครับ กู๊ดไนท์"
อธิปพงศ์วางสายไปด้วยหัวใจที่ชุ่มฉ่ำ ลักยิ้มบนแก้มขาวนั้นปรากฎขึ้นพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นในใจ อย่างที่เขียวแล้วพี่กุ้งบอก ต่อไปนี้เขาจะลองเปิดใจให้ผู้ชายคนนี้ดูบ้าง เผื่อว่าความรักในแบบที่เขาใฝ่หาจะหยุดอยู่ตรงหน้าเสียที



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 14-02-2012 17:18:15
เปิดเลยค่ะ เชียร์สุดใจขาดดิ้น อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 14-02-2012 19:25:33
รักช้าๆๆๆแต่ว่ามั่นคง


:man1: :man1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: โจ๊กกุ้ง ที่ 14-02-2012 20:14:45
เลิฟกันเร็วๆน้าคุณหมูกะนิธิน แฮปปี้วาเลนไทน์จ้า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 14-02-2012 21:27:45
อยากร้องเพลงจิกผู้ชายได้อย่างป็อกกี้บ้างไรบ้าง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 14-02-2012 22:16:23
ดีใจด้วยที่เปิดใจ ความรักไม่ได้วิ่งมาชนทุกวัน :-[
แอบทวงตอนพิเศษน้องพี รออ่านนะ
+1
..Happy Valentine's Day ... :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 14-02-2012 22:49:09
ดีค่ะดี ดีมากเลยหมู การเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา เป็นการหากำไรให้กับตัวเองนะคะ
ถ้าสิ่งนั้นทำให้เรารู้สึกดี และไม่ทำให้ใครๆเขาเดือดร้อน

ป.ล.  :L2: :กอด1: :L2:สำหรับน้ำพริกแมงดา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 14-02-2012 23:06:21
เปิดใจเถอะจ้ะหมู
ความรักไม่มีเพศนะจ๊ะ คนต่างหากที่ไปกำหนดเพศให้มัน [quotation ยอดนิยม :laugh:]
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-02-2012 01:17:19
 :3123:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-02-2012 12:15:25
 :z7:เปิดเลยจ้าเชียร์เต็มที่ :z7:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-02-2012 09:58:04
รีบๆ เปิดเลยนะ อยากเห็นวิธีการจีบหนุ่มไทยของหนุ่มอินเดียสุดหล่อ แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 16-02-2012 17:57:12
มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะทุกคนน

13

   นิธินยืนรออธิปพงศ์ที่สถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี วันนี้เขาเพิ่งเลิกงานในเวลาสามทุ่มที่ผ่านมา สำหรับวันหยุดสามวันที่จะถึงนี้ เขาก็มีความเบิกบานใจเหมือนหนุ่มสาวออฟฟิศคนอื่นที่จะได้หยุดพักหลังจากทำงานหนักมาตลอดสัปดาห์ แต่ที่เขารู้สึกพิเศษกว่าคนอื่นเห็นจะเป็นการที่จะได้เจอหน้าคนที่คิดถึงอย่างอธิปพงศ์ ถึงแม้จะโทรหากันไม่ขาดแต่ไม่ได้เจอกันหลายวันอย่างนี้ก็ทำให้เขารู้สึกคิดถึงอีกฝ่ายไม่น้อยเช่นกัน
 ยืนรอไม่นานอธิปพงศ์ก็โทรมา เขาจึงกดรับสายทันที
"ฮัลโหล นิธินคุณอยู่ไหนอ่ะครับ"
"ผมอยู่บีทีเอสช่องนนทรีครับ"
"อื้ม เดี๋ยวผมเดินไปนะ"
“ครับ”
 ไม่กี่อึดใจต่อมา เขาก็มองเห็นอธิปพงศ์ในคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังจะเดินลงบันไดมาหา โดยอีกฝ่ายส่งยิ้มกว้างสดใสมาให้ นิธินฉีกจึงยิ้มตอบพร้อมกับโบกมือทักทาย
 ทันทีที่อธิปพงศ์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า นิธินก็ยิ้มให้อธิปพงศ์เพื่อจะบอกว่าเขาคิดถึงอีกฝ่ายมากและดีใจเพียงใดที่วันนี้ได้มาเจอกัน ส่วนอธิปพงศ์มองร่างใหญ่ตรงหน้าด้วยสายตาที่บอกว่าก็คิดถึงเช่นกัน เวลานี้ถึงแม้มีผู้คนมหาศาลอยู่รายรอบ แต่คนทั้งสองกลับรู้สึกมองเห็นแค่กันและกันในดวงตาของอีกฝ่ายเท่านั้น
“ไปกันเถอะครับ” นิธินยิ้มให้อีกฝ่ายและเดินออกจากสถานีไปด้วยกัน
แต่เมื่อพบหน้ากันจริง ๆ แล้ว ก็ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากคนทั้งคู่ เหมือนว่าพวกเขารับรู้ความรู้สึกที่ต่างคนมีอยู่ข้างใน ทั้งสองเดินจากบีทีเอสช่องนนทรีไปยังสีลมซอย 20 หรือถนนปั้นกันช้า ๆ เหมือนจะรักษาเวลาของพวกเขาไว้ให้มากที่สุด ถึงแม้บนฟุตบาทจะไม่ได้มีผู้คนแออัด แต่นิธินกับอธิปพงศ์ก็เดินชิดกันอย่างไม่รู้ตัว จนนิธินค่อย ๆ เอื้อมไปจับมือของอธิปพงศ์แล้วกุมไว้ คนทั้งสอง เดินไปด้วยกันพร้อมกับความรู้สึกดี ๆ ที่กำลังงอกงามอยู่ในใจ

   ในเทศการนวราตรี ถนนสีลม ซอย 20ยามค่ำแน่นขนัดไปด้วยฝูงชนชาวไทยและอินเดียผู้ศรัทธาในเทพเจ้าที่หลั่งไหลมาสักการะบูชารูปปั้นพระแม่อุมาหรือพระแม่ทุรคา พระแม่ลักษมี และพระแม่สุรัสวดี ที่จัดตกแต่งในซุ้มดอกไม้เรียงกันตลอดแนว  ถึงแม้คืนนี้เป็นคืนแรกของงาน แต่ก็มีผู้คนจำนวนไม่น้อยมาสักการะพระแม่อุมา ปางไศลบุตรี โดยตลอดทั้ง 9 วันจะมีการอัญเชิญรูปปั้นพระแม่อุมา 9 ปาง มาให้ประชาชนสักการะ
 คนทั้งสองเดินดูรอบๆ ด้วยกันโดยที่นิธินเล่าอธิบายคนที่กำลังมองไปรอบตัวด้วยความสงสัยอย่างอธิปพงศ์
 "มีงานทั้งหมด 9 วัน หน่ะครับ เพื่อ เอิ่ม ไหว้ อุมาเดวี คนอินเดียเชื่อว่า 9 วันนี้เป็นเวลาที่ อุมาเดวี ลงมา on earth ครับ "
"อืม เหรอ" อธิปพงศ์รับคำด้วยความเข้าใจในสิ่งที่นิธินพูด  ถึงแม้มันจะเป็นภาษาไทยสำเนียงอินเดียก็ตาม นิธินเดินพาอธิปพงศ์มายังแผงลอยเล็ก ๆ ที่ขายของสำหรับเซ่นไหว้บูชาองค์พระแม่ ที่ประกอบด้วยผลไม้นานาชนิด นิธินจึงบอกคนขายว่าต้องการชุดนึง และเมื่อได้ของไหว้เสร็จแล้ว นิธินจึงพาอธิปพงศ์มายังรูปปั้นพระแม่อุมาปางไศลบุตรีที่ตั้งอยู่หน้าเทวสถานวัดพระศรีมหาอุมาเทวี คนทั้งสองมอบของไหว้ให้พราหมณ์ผู้ดูแลไปวางไว้ที่หน้าองค์พระแม่ เขาพวกพนมมือไหว้ ก่อนที่พราหมณ์จะสวดเพื่อบูชาและทำอารตี(การบูชาด้วยไฟ โดยใช้ตะเกียงไฟวนเป็นวงกลมในอากาศ) เมื่อเสร็จพิธิแล้วพราหมณ์จึงให้ของไหว้กลับไปเพื่อเป็นศิริมงคล โดยนิธินเป็นคนรับกลับมา
พวกเขาเดินออกมาจากบริเวณนั้น อธิปพงศ์มองไปรอบ ๆ ก็ พบว่ารอบตัวก็มีชาวไทยจำนวนไม่น้อยเดินทางมาร่วมกราบไหว้องค์เทพเหมือนกัน ในบรรดาผู้คนจำนวนมากนั้นเขาสังเกตุเห็นว่ามีชายหนุ่มหลายคู่ก็มาสักการะพระแม่อุมา ก่อนจะคิดอะไรไปไกลกว่านั้นนิธินก็หันมาถามเขาว่า
"คุณทานข้าวมาหรือยัง"
"ยังเลย" อธิปพงศ์ตอบยิ้มๆ
"แล้วคุณ หิว มั๊ย"
"ก็นิดหน่อยหน่ะครับ"
"อืม คุณเคยกินอาหารอินเดียบ้างรึเปล่า"
อธิปพงศ์ส่ายหน้า
"ไม่เคยครับ"
นิธินเลยลองชวน
"แล้ว Do you want to try?"
"Sure"
  อธิปพงศ์ยิ้มให้ นิธินจึงพาเขาไปร้านอาหารอินเดียบริเวณไม่ไกลจากเทวสถาน คนทั้งสองเข้าไปร้านอาหารอินเดียที่เป็นตึกแถวสองคูหาที่มีลูกค้าในร้านอยู่พอสมควร คนทั้งสองมองหาโต๊ะนั่ง ก็พบว่ามุมติดพนังฝั่งขวายังว่างอยู่จึงเข้าไปจับจอง พนักงานจึงรีบมายื่นเมนูให้คนทั้งสอง
นิธินกับอธิปพงศ์รับเมนูมาดู
“ลองดูก่อนนะครับ” นิธินบอกกับอีกฝ่ายอย่างใจดี
อธิปพงศ์พยักหน้ารับ แต่พอเห็นรูปอาหาบนเมนูแล้วก็ได้สองจิดสองใจ ด้วยไม่รู้รสชาตอาหารที่ส่วนใหญ่มีสีสันฉูดฉาดทั้งแดงเหลือง จึงไม่กล้าที่จะลองกินอะไรก่อนดี จนพนักงานมารับสั่งอธิปพงศ์จึงให้นิธินเป็นฝ่ายสั่งให้ เพราะเขาไม่เคยลิ้มลองรสชาตอาหารอินเดียมาก่อนเลยจริงๆ นิธินยิ้มรับและสั่งอาหารกับพนักงานด้วยภาษาบ้านเกิด จนเมื่อพนักงานไปแล้ว นิธินที่สังเกตอีกฝ่ายมาตลอดจึงหยิบเมนูขึ้นมาแล้วชี้ว่าเมื่อครูเขาสั่งอะไรไปบ้าง
"ผมสั่ง...อันนี้ นานกินกับแกงถั่ว" เขาชี้ไปยังรูปโรตีที่เสริฟพร้อมน้ำแกงข้นๆ 
"อันนี้ซาโมซ่า" เขาพูดถึงขนมรูปร่างคล้ายกระหรี่ปั๊บแต่เป็นทรงสามเหลี่ยม
"อันนี้เทนดูรี" นิ้วยาวนั้นชี้ไปที่ไก่ย่างไร้หนังสีแดงเกรียม
ส่วนอธิปพงศ์ที่เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่มองตาม เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะกินอาหารอินเดียได้หรือเปล่า เขามองไปรอบร้านก็มีแต่ลูกค้าชาวอินเดียนั่งกินตามโต๊ะ เมื่อเห็นภาชนะและแก้วน้ำสแตนเลสที่พนักงานมาเสริ์ฟ ก็ทำให้ยิ่งรู้สึกไม่คุ้นเคย เขาพยายามเก็บอาการพร้อมกับยิ้มให้คนชวนมาเป็นระยะ สักพักอาหารจานแรกก็ออกมาเสริ์ฟ ซาโมซ่าสีเหลืองทองชิ้นพอดีคำวางอยู่ในจานตรงหน้า นิธินยิ้มเหมือนจะบอกกับเขาว่าให้ลองดู พร้อมกับจับตามองปฏิกริยาลองคนตรงข้าม อธิปพงศ์ใช้ช้อนตักซาโมซ่าใส่จานแล้วตัดเป็นชิ้นเล็ก แต่พอคำแรกเข้าปากเท่านั้นความกังวลต่างๆ ก็พลันหายไปหมด เพราะใส่มันฝรั่งที่ปรุงรสด้วยเครื่องเทศเข้ากันได้ดีกับแป้งที่กรอบและน้ำจิ้มเหนียว ๆ รสเผ็ดเปรี้ยวสีน้ำตาลนั่นก็ตัดรสได้เป็นอย่างดี
   นิธินถึงกับโล่งอกเมื่อเห็นว่าอธิปพงศ์ให้จานแรกผ่าน แต่จานต่อมาก็มาเสริฟพอดี โรตีกับน้ำแกง อาหารหลักของชาวอินเดีย อธิปพงศ์มองดูแผ่นแป้งโรตีหนานุ่มที่ส่งกลิ่นหอมเพราะเพิ่งย่างเสร็จจากเตา เขามองดูนิธินที่ใช้มือหยิบแป้งมาฉีกก่อนจะจุ่มบนน้ำแกงถั่วข้นๆ เมื่อเห็นอย่างนั้นจึงคิดจะทำตามบ้าง แต่ก็ช้ากว่านิธินที่ยืนโรตีคำนั้นมาให้เขา อธิปพงศ์เห็นอย่างนั้นเลยต้องรับมาและลองชิมดู
และเขาก็พบว่าแผ่นแป้งหนานุ่มที่กำลังร้อนได้ที่เข้ากันดีกับน้ำแกงรสหวานมันเข้มข้นในปาก อธิปพงศ์จึงหันไปมองหน้านิธินเพื่อจะสื่อว่าเมนูนี้อร่อยมากสำหรับเขา นิธินก็ยิ้มให้เพราะดีใจที่เจ้าตัวรับได้กับอาหารอินเดียมื้อนี้
 อธิปพงศ์หยิบแผ่นโรตีขึ้นมากินโดยใช้มือแบบอินเดียบ้าง ตอนแรกเขานึกว่าแผ่นแป้งโรตีที่จะนำมาเสริ์ฟนี้ต้องเป็นโรตีแบบทอดเหมือนที่เขาเคยเห็นทั่วไป แต่นี่เป็นครั้งแรกสำหรับโรตีแบบย่างหนานุ่มร้อนๆ หอมกรุ่น และไก่ย่างที่เรียกว่าทันดูรีก็มาเสริ์ฟเมื่อโรตีพร่องไปเพียงเล็กน้อย คราวนี้เขาลองตักขึ้นมาชิมด้วยตัวเอง
"เป็นไงมั่งครับ" นิธินถามทันที
"ก็ อร่อยดีครับ" อธิปพงศ์ตอบพร้อมรอยยิ้ม ถึงแม้ไก่ย่างตรงหน้าจะแห้งไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าเข้ากันดีกับรสชาตเปรี้ยวปะแล่มเผ็ดในตัว
นิธินที่มองอยู่ตลอดค่อยหายใจได้ทั่วท้องเมื่อเห็นภาพอธิปพงศ์สามารถเอร็ดอร่อยกับอาหารตรงหน้า เขายิ้มให้คนผิวขาวอีกครั้งด้วยความดีใจที่อธิปพงศ์เปิดรับความเป็นตัวเขาได้จริง ๆ  คนทั้งสองกินอาหารด้วยกันอย่างมีความสุข จนอาหารตรงหน้าก็หมดไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับอาการอิ่มท้องที่มาแทน นิธินเรียกพนักงานมาเก็บเงิน โดยเขาขอเป็นฝ่ายออกค่าอาหารทั้งหมด แต่อธิปพงศ์ไม่ยอม
 "ไม่เป็นไร ผมว่าแชร์ดีกว่า"
"ไม่ต้องหรอกครับ มื้อนี้ผมขอเลี้ยงคุณเอง"
"อย่าเลยครับ ผมเกรงใจ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นจากนิธินก็ทำให้อธิปพงศ์ต้องตามใจเขาอีกครั้ง
“งั้น คราวหน้า คุณต้องให้ผมออกเงินนะ”
“ด้วยความยินดีครับ

 ชายหนุ่มทั้งสองเดินกลับมาด้วยกันเพื่อจะไปสถานนีรถไฟฟ้า อธิปพงศ์ที่มือหนึ่งช่วยแบ่งนิธินถือของไหว้ส่วนอีกมือหนึ่งก็เกาะกุมอยู่กับมือใหญ่นั้น ชายหนุ่มเกิดอาการเขินอายเล็กน้อย แต่ทว่ามีความสุขอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จู่ ๆ นิธินหันมาบอกกับคนตัวเล็กกว่าที่เดินข้าง ๆ ว่า
"พรุ่งนี้ผมหยุดงานนะ"
อธิปพงศ์ตอบรับอย่างตื่นเต้นตาม
"จริงอ่ะ ดีจังเลย แล้วคุณจะไปไหนรึเปล่า"
"ไม่ล่ะครับ คงพักผ่อน ไปดูหนัง"
"อืม ๆ เหรอ" อธิปพงศ์ตอบรับสั้น ๆ นึงถึงตัวเองที่มีตารางเวลาไม่เหมือนคนทั่วไป
"ดีจังเลยเนอะ"
อธิปพงศ์หลุดออกมาเบาๆ แต่นิธินฟังไม่เข้าใจ
"อะไรนะครับ"
"อ่อเปล่าครับ" อธิปพงศ์ส่ายหน้า นิธินรู้สึกเหมือนอธิปพงศ์จะรู้สึกเซ็งเล็ก ๆ จึงบอกว่า
"งั้น พรุ่งนี้คุณมาดูหนังกับผมมั๊ย"
"หืมม์" อธิปพงศ์หันมามองหน้าอีกฝ่ายทันที
"ยังไงเหรอครับ"
"ก็ ผมกะจะดูดีวีดีหน่ะ ไม่ได้ไปซีนีม่าหรอก"
"อ่าวเหรอ หมายถึง ชวนไปดูหนังกับคุณที่ห้องใช่มั๊ย"
อธิปพงศ์ย้อนถามก่อนคิดตาม ก็ดีเหมือนกัน ทำงานมาเหนื่อยๆ ได้ดูหนังที่ห้องกับเพื่อนดี ๆ ที่รู้ใจอย่างนิธิน คงดีไม่น้อย
อีกอย่างจะได้ลองใช้เวลาไม่กี่วันนี้ลองดูนิสัยจริงๆ ของอีกฝ่ายไปเสียด้วย
“ใช่ครับ คุณสะดวกรึเปล่า”
 
"อืม ก็ดีนะ ผมก็ไม่ค่อยอยากไปดูในโรงเหมือนกัน มันแพง"
"ใช่แล้ว 555"
"อืม 555"
 คนทั้งสองหัวเราะกับความตระหนี่ของตัวเอง  ถ้าเป็นสมัยก่อน คนหนุ่มอย่างพวกเขาก็ไม่พลาดที่จะติดตามหนังใหม่ในโรงภาพยนตร์ แต่พออายุมากขึ้น เริ่มที่จะเห็นคุณค่าของเงินตามมา การเช่าภาพยนตร์มาดูจึงเป็นความบันเทิงราคาประหยัดที่แสนจะคุ้มค่า
  คนทั้งสองเดินจับมืออย่างนั้นกันมาเรื่อย ๆ จนขึ้นรถไฟฟ้า นิธินที่คิดถึงอธิปพงศ์มากอยากใช้เวลากับคนที่รักมากกว่านี้ แต่ก็ลังเลไม่กล้าพูดออกไป อธิปพงศ์เองก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกันแต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปาก เมื่อพวกเขาถึงคราวเปลี่ยนขบวนที่สถานีสยาม นิธินก็ตัดสินใจบอกกับอธิปพงศ์ว่า
“คุณหมู”
“ครับ?”
“คืนนี้ ผมขออยู่กับคุณได้มั๊ย”
ทั้งสองเงียบไปสักพัก อธิปพงศ์ทั้งอึ้งทั้งดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่นิธินนี่สิ ที่ลุ้นกับอาการตกตะลึงของคนตรงหน้าจนคิดว่าตัวเองหมดหวังซะแล้ว
“เอ่อ ถ้าเป็นการรบกวนผมก็...”
อธิปพงศ์ส่ายหน้าทันที
“ไม่หรอกครับ” เขายิ้มรับและเอื้อมไปจับมือใหญ่ของนิธินทันที
“ผม..ผมก็อยากอยู่กับคุณ เหมือนกัน”
ชายหนุ่มสารภาพด้วยความเขินอาย เมื่อได้ยินอย่างนั้นนิธินก็ดีใจขึ้นมาทันที
“ผมขอกลับไปที่พักก่อนนะครับ แล้วเดี๋ยวผมตามไป”
“อื้ม” อธิปพงศ์พยักหน้าตอบรับ ก่อนจะเดินขึ้นรถไฟฟ้าที่เพิ่งมาถึง นิธินเองมองคนที่รักแล้วยิ้มตามก่อนจะรีบวิ่งไปข้างบนเพื่อต่อรถไฟฟ้ากลับที่พักของตนเอง

   เกือบชั่วโมงต่อมา นิธินก็มาถึงที่พักของอธิปพงศ์ ที่เจ้าของห้องจัดเก็บให้เป็นระเบียบก่อนที่เขาจะมาถึง เขามองดูอธิปพงศ์ที่ตอนนี้อยู่ในชุดนอน นี่ก็ดึกมากแล้วสำหรับพวกเขา เมื่อนิธินวางชุดทำงานเสร็จจึงขอตัวไปอาบน้ำทันที โดยเขาถอดเสื้อผ้าออกและนุ่งผ้าขนหนูเพื่อจะเข้าไปอาบน้ำ อธิปพงศ์ที่นอนดูทีวีอยู่จึงบอกว่า
  “อื้ม ตามสบายนะครับ นิธิน”
“ขอบคุณครับ”
ผู้มาเยือนรับคำ และเข้าไปในห้องน้ำสักพักจึงออกมา เขาเช็ดตัวและเปลี่ยนเป็นกางเกงนอนขาสั้น เขานั่งลงบนเตียงในฝั่งที่อธิปพงศ์จัดไว้ให้ ร่างบึกบึนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นทอดตัวลงนอนเพราะอยากผ่อนคลาย เขามองมายังเจ้าของห้องที่ตอนนี้หัวใจสั่นไหวไปไม่น้อยกับผู้มาเยือนที่นอนอยู่ข้าง ๆ
“อืม ชอบดูเรื่องนี้เหมือนผมเลย” นิธินบอกกับอธิปพงศ์ที่กำลังดูละครซิดคอมรื่องดังอยู่
“จริงอ่ะ คุณว่าเป็นไงมั่ง”
“ก็ ผมว่าก็โอเคนะ ถึงแม้ผมจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็คล้าย ๆ ละครตลกอินเดียหล่ะ”
“อืม” อธิปพงศ์รับคำแต่นั้น ก็ดูละครต่อจนจบจึงลุกไปปิดทีวีและกลับมายังที่นอน
  เขามองไปยังร่างใหญ่ในกางเกงนอนแบบบรีฟตัวเดียวที่ไร้ผ้าห่มปกคลุม นิธินเองก็มองเขาอยู่เช่นกัน เขาค่อย ๆ นอนลงข้าง ๆ นิธิน สักพักนิธินก็เอื้อมมือมาจับมือเขาและบีบเบา ๆ ก่อนพูดต่อว่า
“ผมคิดถึงคุณนะ”
เขาหันมามองนิธินที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน สายตาคู่นั้นบ่งบอกว่าเขาไม่ได้โกหกอธิปพงศ์แต่อย่างได้ อธิปพงศ์ยิ้มให้และค่อย ๆ เข้าไปซบบนแผงอกกำยำนั้นเพื่อจะบอกว่า เขาก็คิดถึงนิธินเช่นกัน
  นิธินระบายยิ้มบาง ๆ และก้มลงมามองอธิปพงศ์ที่กำลังมองเขาอยู่ด้วยสายตาแบบเดียวกัน เขาค่อย ๆ จรดจมูกและริมฝีปากลงบนหน้าผากของคนในอ้อมแขน ก่อนจะกอดอีกฝ่ายไว้หลวม ๆ เพื่อให้คนที่เขารักรู้สึกอบอุ่นและสบาย อธิปพงศ์ยิ้มน้อย ๆ และหลับตาลงอย่างหมดกังวลในอ้อมแขนแข็งแรงของผู้มาเยือน

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:วันวาเลนไทน์)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 16-02-2012 18:06:59
หวานๆ :impress2:ตามหัวใจเรียกร้อง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 16-02-2012 18:10:41
ดีค่ะดี ดีมากเลยหมู การเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆเข้ามา เป็นการหากำไรให้กับตัวเองนะคะ
ถ้าสิ่งนั้นทำให้เรารู้สึกดี และไม่ทำให้ใครๆเขาเดือดร้อน

ป.ล.  :L2: :กอด1: :L2:สำหรับน้ำพริกแมงดา

ขอบคุณมาก ๆๆ ค่ะ


ดีใจด้วยที่เปิดใจ ความรักไม่ได้วิ่งมาชนทุกวัน :-[
แอบทวงตอนพิเศษน้องพี รออ่านนะ
+1
..Happy Valentine's Day ... :L2: :L1:

ขอบคุณมาก ๆ เช่นกันค่ะ
แต่สำหรับเรื่องของน้องพีร์ ขอบอกว่า ถ้าอยากอ่านแบบยาว ๆ เต็มๆ ตอนนี้ขอลงเรื่องนี้ให้จบก่อนนะคะ ขอบคุณค่ะที่ติดตามผลงานกันมาตลอดและคิดถึงน้องพีร์กับเฮียแจ๊ค
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 16-02-2012 18:58:11
อุ๊ยว้าย! ตาย! กรี๊ด! น่ารักมากค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 16-02-2012 19:13:24
หวานซะ
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: sumonta ที่ 16-02-2012 20:56:41
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 16-02-2012 21:14:12
ขอแปลงร่างเป็นวัยรุ่นแป๊บนึง(อุทานเลียนแบบคุณนายณัฐ)
อุ๊ย ! ว้าย ! ตาย ! กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด..... ! (คืนร่าง)
 :-[เขาซบกันแล้วหนา

ป.ล. อยากบอกน้ำพริกแมงดาว่า อ่านเรื่องนี้เป็นผลดีจริงๆ
ทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้เข้าไปหาอากู๋ เพื่อไปอ่านหลายๆเรื่องเกี่ยวกับอินเดีย
ได้เรื่องราวดีๆเยอะเลย
     
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 16-02-2012 21:18:21
น้ำตาลขึ้น  :-[
ขอบคุณครับ จะรออ่านน้องพีร์ พี่แจ๊คสุดหล่อ :laugh:
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-02-2012 21:20:02
อบอุ่นมาก แถมหวานละมุนละไมสุดๆ :-[
ถ้าตอนนี้ตรงกับวันวาเลนไทน์นะ คนโสดคนนี้นี่ได้ลงไปนอนดิ้นกระแ่ด่วๆด้วยความอิจฉาแ่น่นอน o9
รักกันเบาๆแต่หวานล้ำมากคู่นี้ :o8:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 16-02-2012 21:25:12
หวานมากกกกกกก :-[
อิจฉาพี่หมู ><
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 17-02-2012 08:54:43
โอย...อบอุ่นมาก....ละลายไปเลยกับหนุ่มอินเดียคนนี้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 17-02-2012 13:30:43
โหยถึงขั้นจูบหน้าผาก และกอดกันแล้ว หมูคงไม่ต้องคิดไรมากแล้วล่ะม้าง ใจตรงกันแล้วนี่นา~ :really2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 17-02-2012 14:07:58
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยอ่านแล้วเพ้อมาก อยากได้แบบนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 17-02-2012 15:51:44
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆๆ จังเลย แอร๊ยยย คิดถึงหนุ่มอินเดียกับหนุ่มไทย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 17-02-2012 22:43:25
มาแล้วผู้ชายที่แสนดีอยากได้แบบนี้จัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 18-02-2012 02:01:20
แอร๊ยยย อิจฉาอะ

อยากได้แบบนี้บ้างน้อ ขอสักคนๆ

ปล คุณหมูอดใจไหวได้ไงคะมีหนุ่มหล่อล่ำมานอนกอดเเบบนี้น แอร๊ยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-02-2012 04:59:07
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 19-02-2012 13:01:12
น่ารว๊ากอ๊ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:16/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 20-02-2012 16:01:45
มาแล้วค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้มาลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะ ที่ชื่นชอบเรื่องของพี่หมูกับนิธินนี้ ขอบคุณค่ะ


14

 อธิปพงศ์ตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุก เขางัวเงียลุกขึ้นไปกดปิดเสียง และฟุบลงบนที่นอนตามปกติ แต่ก็รู้สึกตัวว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้นอนบนหมอนเช่นแต่ก่อน กลับเป็นอ้อมอกอบอุ่นแข็งแรงของนิธินที่เขาใช้ซบอิงเกือบทั้งคืน เมื่อเหลือบมองไปข้างหลังก็พบว่ามือใหญ่ของนิธินก็ยังอยู่ที่เอว ชายหนุ่มจึงแหงนมองนิธินที่กำลังหลับสนิท แสงแดดยามเช้าที่ส่องอย่างนี้ช่วยขับผิวสีแทนสุขภาพดีให้สะดุดตา  ใบหน้าคมเข้มที่มีแนวเคราบางๆ เป็นกรอบหน้า ดวงตากลมโตที่รับกับ จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากอิ่มได้รูป ไล่มาถึงแผ่นอกกำยำที่เขาแอบอิงมาทั้งคืน จนมาถึงกล้ามท้องเคร่งครัดและเลยไปจนถึงส่วนนั้นที่แสดงอาการตื่นตัวตามธรรมชาติในยามเช้าเช่นนี้
อธิปพงศ์ถึงกับตกใจเมื่อเห็นภาพดังกล่าว ถึงแม้จะเป็นผู้ชายด้วยกัน แต่ขนาดและความแข็งแรงของอีกฝ่ายก็ทำให้เขาอดเกรงขามไม่ได้ สิ่งนั้นของนิธินดันตัวขึ้นมาจนแทบจะทะลุเป้ากางเกง คิดแล้วอธิปพงศ์ก็เขิน จึงลุกขึ้นไปอาบน้ำทันทีเพื่อหนีภาพตรงหน้า
 แต่สายน้ำเย็นฉ่ำนั้นไม่ได้ช่วยลดอาการร้อนรุ่มในใจได้เลย ชายหนุ่มกลับรู้สึกติดตากับสิ่งนั้นมากกว่าเดิม ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นของผู้ชายคนอื่น แต่กับคนนี้เขาไม่ได้รู้สึกเฉย ๆ เหมือนที่ผ่านมา เขาพยายามไม่สนใจสิ่งที่พบเจอโดยบังเอิญ และรีบอาบน้ำให้เสร็จไวๆ
พอเขาออกจากห้องน้ำก็พบกับนิธินที่ตื่นนอนเรียบร้อยแล้ว โดยคนตัวโตนั่งอยู่บนเตียงและส่งยิ้มขี้เซามาให้
"Good morning”
 ผมหยักศกยุ่งๆนั้นยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์แบบห่าม ๆ แต่อธิปพงศ์ก็พยายามยิ้มรับเพื่อสะกดอาการตัวเอง
"Good morning ครับ"
  นิธินลุกขึ้นมาหยิบผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าไปในห้องน้ำ อธิปพงศ์จึงรีบแต่งตัวเพื่อเตรียมไปทำงาน
ชายหนุ่มคิดว่า ถึงแม้จะไม่มีอะไรน่าหวาดเสียวเกิดขึ้น แต่จิตใจเขาก็ร้อนวูบวาบไปด้วยความรู้สึกแปลกๆ ทึ่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน
 อธิปพงศ์นั่งลงและจัดแต่งทรงผมตามปกติ สักพักนิธินก็ออกมาจากห้องน้ำ เขาหันไปมองร่างใหญ่ที่กำลังสวมเสื้อผ้า และหันมาเช็คความเรียบร้อยหน้ากระจกจนเสร็จ นิธินก็แต่งตัวเสร็จแล้วเหมือนกัน จึงพร้อมจะออกไปข้างนอก แต่นิธินก็หันมาบอกกับอธิปพงศ์ว่าก่อนออกจากห้องว่า
"วันนี้เราไปว่ายน้ำกันมั๊ยครับ"
"ไปสิครับ"
"แล้ว..คืนนี้ มาอยู่กับผม นะครับ"
"ครับ"อธิปพงศ์พยักหน้ารับ “อืม งั้นเดี๋ยวรอผมอีกแป๊บนะขอเก็บเสื้อผ้าก่อน”
“ได้ครับ” นิธินตอบรับและยืนรอเจ้าของห้อง ระหว่างนั้นเขาจึงได้ตัดสินใจชวนอธิปพงศ์ออกไป
“คุณหมูครับ เอิ่ม..Weekend นี้ มาอยู่กับผมนะครับ”
อธิปพงศ์หันมามองหน้านิธินทันที ชายหนุ่มตัวโตจึงบอกไปว่า
“ที่จริง... ผมอยากอยู่กับคุณ ...ทุกวันเลย”
อธิปพงศ์รู้สึกดีที่ได้ยินอย่างนั้น ในตัวของเขาร้อนวูบวาบยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก  จึงตอบรับไปว่า
“ครับ ผมจะไปอยู่กับคุณ”
 “ขอบคุณครับ”
อธิปพงศ์ก้มหน้าเก็บของต่อ ส่วนนิธินก็ยิ้มด้วยสีหน้ามีความสุขแบบปิดไม่อยู่ เมื่อเก็บของเสร็จแล้วเขากับอธิปพงศ์ก็ลงไปกินโจ๊กเจ้าประจำที่หน้าปากซอยก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้าไปทำงาน โดยวันนี้เป็นวันหยุดของนิธิน อธิปพงศ์จึงถามว่า
“วันนี้ไม่ได้ทำงาน คุณจะไปไหนรีเปล่า”
“ก็ คงอยู่ที่ห้องหล่ะครับ ตอนเย็น ๆ ก็มาฟิสเนต และก็ไปว่ายน้ำกับคุณ”
“อืม ๆ”
“เอากระเป๋าคุณฝากผมไปก่อนมั๊ยครับ”
“อ่อ ใช่ ๆ” อธิปพงศ์ยื่นกระเป๋าให้ทันที “Thank you”นะครับ
“ครับ”
เสียงประกาศว่าถึงสถานีสยามแล้ว อธิปพงศ์จึงบอกว่า
“ผมไปทำงานก่อนนะ เจอกันตอนเย็นครับ”
“ครับ Have a nice day”
“ขอบคุณครับ”
  อธิปพงศ์ยิ้มรับ เมื่อรถจอดที่สถานีสยามแล้ว ชายหนุ่มก็ยิ้มให้นิธินอีกครั้งก่อนจะหายไปกับกลุ่มคนมหาศาลที่แย่งออกจากตัวรถ เมื่อเห็นที่นั่งว่างเขาจึงไปนั่งลง และมองดูความวุ่นวายของกรุงเทพฯยามเช้าที่เขาคุ้นชิน เขายิ้มให้กับตัวเอง และรู้สึกได้เลยว่า       อธิปพงศ์ก็มีความสุขเหมือนเขาเช่นกัน
  ในความรักของเขาทุกครั้ง ชายหนุ่มจริงจังกับคนรักทุกคนที่ผ่านมาเสมอ
 เขามองหาคนรักที่พร้อมที่จะใช้ชีวิตด้วยกันไปจนแก่ ไม่ใช่แค่คบสนุก ๆ อย่างผู้ชายแบบเขาหลายคน
สำหรับอธิปพงศ์แล้ว เขาจริงจังและจริงใจกับชายหนุ่มมากเป็นพิเศษ เพราะเขาสัมผัสได้ว่าอธิปพงศ์ก็มีความต้องการเหมือนเขาเช่นกัน
 ถึงแม้ตอนนี้ จะยังไม่มีใครสรุปว่าพวกเขาเป็นคนรักกันหรือยัง แต่ความรู้สึกดี ๆ ที่ใจสองดวงมีให้กันนั้นยิ่งใหญ่กว่าสถานะที่จะมากำหนดความเป็นไปของเขาทั้งสอง
 
 อธิปพงศ์มาทำงานที่ร้านพี่กุ้งเหมือนทุกวัน แต่วันนี้ทุกคนในร้านสังเกตได้ว่าชายหนุ่มมีความสุขกว่าหลายวันที่ผ่านมา พี่กุ้งดีใจที่เห็นลูกน้องเป็นอย่างนั้น โดยคาดว่าอธิปพงศ์คงเปิดใจคบหากับนิธินแล้ว ส่วนป๊อกกี้ก็ได้แต่เมาท์กับหญิงว่า
“ดูพี่หมูสินังหญิง หน้าตาอย่างนี้ไม่ถูกหวยก็โดนลงเสาเอกมาแล้วแน่ๆ”
หญิงหันมาถาม “อะไรอ่ะพี่ป๊อก ลงเสาเอก พี่หมูเค้าปลูกบ้านให้แม่เหรอ”
“โหยยย นังหญิง โดนลงเสาเอก หมายถึง เสียเนื้อเสียตัวให้คุณนิธินไงคะ นังคนนี้”
“อ่าวเหรอ”
“เห็นเค้าว่า ของไทยของจีนโดนไปก็ไม่แปลก แต่ถ้าโดนของแขกไม่แหกก็ตาย อร๊ายยย ชั้นอยากแหก ชั้นอยากตายยย”
“แต่หนูว่าไม่หรอก ถ้าพี่หมูเค้าเป็นอย่างที่พี่ว่าจริง เค้าจะมาทำงานได้เหรอ”
ป๊อกกี้ชะงัก
“เอออ นั่นสิ จริงของแกนะนังหญิง”
พี่กุ้งที่เข้ามาข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้เลยแกล้งถาม
“แล้วแกว่าคุณนิธินน่าจะเป็นไง”
“โหยย อย่างที่เคยบอกค่ะ ไม่น่าจะต่ำว่า 7...ว้าย ๆๆ คุณแม่มาไม่ให้ซุ้มให้เสียงง”
“ไป ๆๆ นังป๊อก มาชวนหญิงนินทาคนอื่นอยู่ได้ ป่ะ หญิง มาช่วยพี่เช็คผ้าขนหนูหน่อย”
“ได้ค่ะ”
“ส่วนแก นังป๊อก มีอะไรทำค้างไว้ก็ไปทำ”
“ค่าๆๆ”
  หญิงเดินตามพี่กุ้ง ส่วนป๊อกกี้ก็ลับกรรไกร และใบมีดของตัวเองต่อ เมื่อถึงเวลาเปิดร้านทุกคนก็เริ่มงานตามปกติ อธิปพงศ์ก็เช่นกัน  ที่รู้สึกว่าวันธรรมดา ๆ อย่างนี้มีความสุขมากขึ้น….
เป็นเพราะเขากำลังมีความรักอีกครั้ง


 พาหุรัดวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เพราะว่ากำลังอยู่ในเทศกาลนวราตรี ชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยจึงมาจับจ่ายใช้สอยกันที่นี่  นิธินเองก็เช่นกัน เขากำลังเลือกซื้อดีวีดีภาพยนตร์อินเดียที่เขาอยากดูมานานแล้ว เขาเลือกหนังหลายเรื่องที่พลาดโอกาศไปดูในโรงที่อินเดียกับหนังใหม่ที่น่าสนใจ รวมทั้งภาพยนตร์คลาสสิกที่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสเจอกลับไปด้วย
  เมื่อเลือกเสร็จแล้วเขาจึงวางลงบนเคาท์เตอร์ให้คนขายคิดเงิน เมื่อจ่ายเงินเรียบร้อยแล้วเขาก็ว่าจะเดินออกไปดูที่ห้างสรรพสินค้าอินเดียข้าง ๆ เสียหน่อย ไหน ๆ ก็มาแถวนี้แล้ว
 แต่เมื่อเข้าไปเดินจริง ๆ ก็ทำให้เขารู้สึกคิดถึงบ้านเล็กน้อย ถึงแม้ห้างนี้จะถือว่าเป็นห้างเล็ก ๆ แต่บรรยากาศการจัดร้านก็ไม่ต่างจากห้างสรรพสินค้าในอินเดียเท่าไหร่ ต่างกันตรงที่ร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นร้านขายผ้าและเครื่องประดับ แต่ร้านอาหารที่นี่มีอาหารอินเดียหลากหลายให้เลือกซื้อเลือกกินตามสูตรของเจ้าของร้านที่มาจากต่างรัฐ ซึ่งส่วนใหญ่ชาวอินเดียในพาหุรัดนี้จะมาจากรัฐปันจาบ เขาจึงได้ยินแต่เพลงภาษาปันจาบีเปิดคลอเป็นระยะตลอดเวลาที่เดินอยู่ที่นี่  นิธินพอจะเชื่อแล้วว่า พาหุรัดคือ Little India ของกรุงเทพฯจริง ๆ
 
  อธิปพงศ์และพี่กุ้งมารับประทานอาหารกลางวันด้วยกันในตอนเที่ยง  เพราะวันนี้พวกเขาไม่มีลูกค้าพอดี พี่กุ้งจึงได้โอกาสถามความคืบหน้าในเรื่องนั้นกับอธิปพงศ์
 “วันนี้หมูดูไม่เหมือนหลายวันก่อนเลยนะ”
“ยังไงเหรอครับ”
“หมูดูมีความสุขมาก ต่างกับวันก่อนที่ดูเครียดทั้งวันเลย”
“จริงเหรอครับ”  อธิปพงศ์ก็เพิ่งรู้ตัวเหมือนกัน จึงตกใจ
“อืม ใช่ๆ” พี่กุ้งพูดต่อ “ตอนนี้พี่เห็นเรามีความสุข พี่ก็ดีใจนะ
"ขอบคุณครับพี่กุ้ง"
 “แล้วคุณนิธินเค้าเป็นไง”
“ก็ดีครับ เค้า...” อธิปพงศ์พูดไม่ออกเพราะความเขิน “เค้าก็โอเคครับ”
“อืม ฮ่ะๆๆๆ” พี่กุ้งพูดต่อ “ก็ค่อย ๆ ดูกันไปเรื่อย ๆ นั่นหล่ะดีแล้ว คนเราคบกันที่ความสบายใจนะ”
อธิปพงศ์ยิ้มรับและกินข้าวต่อ ส่วนพี่กุ้งเองก็มองว่าอธิปพงศ์ดูมีความสุขกว่าทุกครั้งที่ผ่านมามาก ถ้าอธิปพงศ์กำลังเริ่มคบหากับนิธินจริงๆ ความรักครั้งนี้ก็ไม่ได้ถือว่ารวดเร็วและฉูดฉาดดั่งเช่นแต่ก่อน ทว่าเป็นความรักที่ค่อยเป็นค่อยไปอย่างมั่นคง ที่คนทั้งสองกำลังจะสร้างมันขึ้นมา

  ตกบ่ายนิธินมาเล่นฟิสเนสอย่างที่เขาตั้งใจไว้ เขาจะว่าจะใช้เวลากับการออกกำลังกายเพื่อชดเชยกับเวลาที่ผ่านมา ถึงแม้ในฟิสเนสนี้จะมีผู้ชายแบบเขาอยู่ไม่น้อยก็ตาม แต่นิธินก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ เขามีสมาธิกับการออกกำลังกายเพื่อลดความเสี่ยงจากอาการบาดเจ็บ นอกนั้นเขาก็คิดถึงแต่อธิปพงศ์ ทุกๆวันเขาเฝ้ารอที่จะเจอคนที่เขารัก เพื่อไปใช้เวลาด้วยกัน ได้ทำให้อธิปพงศ์ยิ้มและหัวเราะ ถึงแม้เมื่อก่อนเจ้าตัวจะมีแฟนแล้วก็ตาม แต่ชายหนุ่มก็ไม่คิดจะแย่ง นอกจากได้เจอกันบ่อยๆ เขาก็ดีใจแล้ว
 นิธินมารออธิปพงศ์ที่หน้าร้านเหมือนทุกวัน ทว่าวันนี้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไปจากแต่ก่อนที่เคยกล้าๆกลัวๆในการเข้าหาอีกฝ่าย แต่ตอนนี้เขาหายใจโล่งขึ้นเพราะเหมือนว่าเขากับอธิปพงศ์กำลังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน จากคนรู้จัก พัฒนาเป็นเพื่อนและกำลังเปลี่ยนไปเป็นคนรัก ถึงแม้มันจะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่เขามั่นใจว่าอธิปพงศ์ได้รับเอาความรู้สึกของเขาไปแล้วเช่นเดียวกัน
 นิธินมองไปในร้านก็พบว่าคนที่เขารอยังติดลูกค้าอยู่ แต่อธิปพงศ์ที่หันมาเห็นก็ยิ้มให้เขา นิธินยิ้มตอบและสัมผัสได้ว่าวันนี้ของพวกเขาไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมาเลยจริงๆ
 พี่กุ้งที่กำลังว่าง มองเห็นนิธินอยู่หน้าร้าน จึงเข้ามาต้อนรับทันที
"สวัสดีครับคุณนิธิน"
"สวัสดีครับคุณกุ้ง" นิธินยกมือไหว้ พี่กุ้งสังเกตุว่าการไหว้ของชายหนุ่มดูคล้ายคนไทยมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน
"มารอหมูเหรอครับ"
"ครับ" นิธินตอบรับยิ้มๆ
"รอก่อนนะครับเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว"
"ครับ"
 แล้วนิธินก็นั่งรอหน้าร้าน สักพักอธิปพงศ์ก็ตัดผมให้ลูกค้าเสร็จ อธิปพงศ์ก็เข้ามาหานิธินเพื่อจะขอตัวช่วยพี่กุ้งปิดร้านต่ออีกสักพัก นิธินจึงบอกว่า
"ให้ผมช่วยมั๊ยครับ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณนิธิน" พี่กุ้งเกรงใจ "แค่เก็บของนิดหน่อยหน่ะครับ"
"ไม่เป็นไรครับ ผมอยากช่วย"
หญิงจึงรีบบอกว่า
"ดีเลยค่ะ งั้นคุณนิธินช่วยพี่หมูเก็บของนะคะ"
"ครับ"
เขาหันไปมองอธิปพงศ์ยิ้มๆ และช่วยอีกฝ่ายกวาดพื้นให้สะอาด พวกเขาช่วยกันสักพักก็เสร็จเรียบร้อย อธิปพงศ์กับนิธินจึงขอตัวกลับทันที
"ไปก่อนนะครับพี่กุ้ง" เขายกมือไหว้รุ่นพี่เหมือนเคย และหันมาบอกกับรุ่นน้อง"พี่ไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้"
"ค่า" ป๊อกกี้รับคำสั้นๆ ไม่ต่อปากต่อคำเหมือนเคย แต่หญิงกับฉีกยิ้มดีใจเมื่อเห็นคนทั้งคู่เดินเคียงข้างกัน
"เจอกันค่ะพี่หมู คุณนิธิน"
อธิปพงศ์ยิ้มให้รุ่นน้อง และหันมาพยักหน้ากับนิธินเป็นการส่งสัญญาณว่าไปกันได้แล้ว นิธินจึงยกมือไหว้พี่กุ้งก่อนจะเดินไปกับอธิปพงศ์
"โหยย พี่หมูกับคุณนิธิน น่าร้ากกอ้ะ..." หญิงตื่นเต้นกับภาพของคนทั้งสองที่เดินไปด้วยกันถึงแม้จะไม่มีการจับมือถือแขน แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าคนทั้งคู่กำลังเริ่มปลูกต้นรักกัน
"โอ๊ยย คนโสดเซ็งค่ะ เมื่อไหร่หนูจะมีลูกค้ามาจีบอย่างพี่หมูมั่งคะเนี่ย คุณแม่"
แต่พี่กุ้งที่มองตามหลังคนทั้งสองตอบยิ้มๆว่า
"ไม่รู้สิ ของอย่างนี้มันแล้วแต่พรหมลิขิตนะ"

  วันศุกร์อย่างนี้ทำให้บรรยากาศสระว่ายน้ำคึกคักกว่าทุกวัน  ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็เห็นแต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มของหนุ่มสาวและเด็กๆที่มาว่ายน้ำ อธิปพงศ์และนิธินก็เช่นกัน พวกเขากระโจนลงสระอย่างเริงร่าพร้อมกับว่ายน้ำกันอย่างสนุกสนาน ก่อนที่ทั้งคู่จะไปกินข้าวและกลับมายังห้องพักของนิธินด้วยกัน

"โห อะไรเนี่ย"
อธิปพงศ์อุทานให้กับกองแผ่นดีวีดีบนโต๊ะที่นิธินเพิ่งซื้อมาในวันนี้
"อ๋อ วันนี้ผมไปพาหุรัดมา"
"เหรอๆ มีเรื่องไหนน่าดูมั่งเนี่ย เรคคอมเมนหน่อย"
"นี่.." นิธินหยิบหนังเรื่องนึงให้เขา
"โรบอต?" อธิปพงศ์ออกเสียงอ่านบนปก "เป็นหนังเกี่ยวกับอะไรเหรอ"
"This is a action movie, it's about a robot who fall in love with his owner"
"อืม ๆ"
"อยากดูมั๊ยครับ"
"ดูสิครับ" อธิปพงศ์ยิ้มรับ นิธินจึงเดินไปเปิดทีวีและเครื่องเล่นดีวีดี คนทั้งสองทิ้งตัวบนเตียงคนละด้าน ในยามพักผ่อนเช่นนี้การได้หลับสบายบนเตียงหนานุ่มเป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดเลยทีเดียว
 นิธินที่นอนเปลือยอกอยู่หันมามองอธิปพงศ์ยิ้มๆ เหมือนอยากจะให้อีกฝ่ายมาพักผ่อนที่อ้อมแขนเขาเหมือนเมื่อวาน เขามีความสุขมากที่ได้ดูแลอธิปพงศ์ ชายหนุ่มจึงอยากให้คนรักมีความสุขด้วยกันอีกครั้ง
 แต่อธิปพงศ์ก็ตั้งใจดูหนังมากๆ ซ้ำยังถามนู่นนี่อย่างสงสัยอยู่ตลอด จนกระทั่งหนังจบนิธินจึงลุกไปปิดทีวีและกลับมานอนที่เดิม เขาจึงพยายามมองอธิปพงศ์อีกครั้งเพื่อจะสื่อสารสิ่งที่คิดอยู่ในใจ
 แต่อธิปพงศ์รับรู้ดีว่านิธินจะบอกอะไร เพราะเขาเองก็ต้องการไออุ่นจากชายหนุ่มเหมือนกัน เขาจึงเขาไปซบบนแผงอกแกร่งอีกครั้งและหันไปมองหน้าหล่อเหลาที่กำลังก้มมองเขาอยู่
"อย่างนี้ใช่มั๊ย"
อธิปพงศ์ถาม แววตากลมโตคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกอบอุ่นใจ แก้มใสนั้นแดงขึ้นมาเพราะว่าเขินอายนิดๆ
นิธินพยักหน้าและกอดคนในอ้อมแขนแน่น เขาทั้งคู่หลับตาลงพร้อมกันอย่างเป็นสุขในอ้อมกอดที่ทั้งคู่มอบให้กันด้วยความรัก



โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 20-02-2012 17:10:13
กรี๊ดดดดดด อ่านจบแล้วอยากอ่านต่ออีกสัก 10 ตอน  (ผู้แต่ง - ตบๆๆๆๆๆ)  ตอนนี้น่ารักมาก นอนซบอกกันอีกแล้ว ซบกันไป ซบกันมา แอร๊ยยย อยากซบด้วยคน 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 20-02-2012 17:49:10
กรี๊ดดดด มองข้ามเรื่องนี้ไปได้ไงตั้งนานเนี่ย ได้เข้ามาอ่านปุ๊บก็หยุดไม่ได้

อะไรมันจะให้บรรยากาศเลิฟๆ ได้ขนาดนี้ >_<

อ่านไปยิ้มไป อยากได้ผู้ชายแบบนิธินบ้างค่า

สมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ^^
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 20-02-2012 18:22:37
อิจฉาตาร้อนผ่าว ๆ กรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!  ฉันอยากมีสามีของนอกค่ะ 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 20-02-2012 20:57:42
จะหวานเกินไปแล้วววววว
อิจฉานะยะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 20-02-2012 20:59:57
น่าอิจฉา
น่ารักงะ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 20-02-2012 21:58:57
ขอแปลงร่างเป็นสาวน้อยวัยแรกรุ่นดรุณีชั่วคราว เพื่อที่จะ.......
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด...
ได้โดยไม่รู้สึกรู้สึกขัดตานัก คริ คริ คริ
**ป๊อกกี้ เธอช่างรอบรู้เนาะ**
“เห็นเค้าว่า ของไทยของจีนโดนไปก็ไม่แปลก แต่ถ้าโดนของแขกไม่แหกก็ตาย อร๊ายยย ชั้นอยากแหก ชั้นอยากตายยย”
ขอให้ป๊อกกี้สมหวังทีเทอะ 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 20-02-2012 22:09:50
กรี๊ดดดดดด อ่านจบแล้วอยากอ่านต่ออีกสัก 10 ตอน  (ผู้แต่ง - ตบๆๆๆๆๆ)  ตอนนี้น่ารักมาก นอนซบอกกันอีกแล้ว ซบกันไป ซบกันมา แอร๊ยยย อยากซบด้วยคน 555
^
คิดเหมือนกัน :laugh:
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-02-2012 07:40:04
เมื่อวันตอตเร็วเลยพลาด มาตามเก็บค่ะ น่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอ่านไปเขินไปแทนอ่ะ นิธินอบอุ่นมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่ฮาป๊อกกี้อ่ะ 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 21-02-2012 08:20:30
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 21-02-2012 17:58:11
มาแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ สำหรับการติดตาม หวังว่าตอนนี้คงจะถูกใจนะคะ

คำเตือน : เนื้อหาตอนนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป อาจมีเหตุการณ์ การใช้ภาษา ที่ไม่เหมาะกับผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำในการอ่าน


15

 วันหยุดสุดสัปดาห์ได้ผ่านพ้นไป วิถีชีวิตของอธิปพงศ์ก็ยังดำเนินไปตามปกติ ทว่าชายหนุ่มกลับรู้สึกมีความสุขมากขึ้นจากการที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับนิธินในสามวันที่ผ่านมา ถึงแม้จะไม่ค่อยได้พูดคุยอะไรกันมาก แต่เหมือนพวกเขาก็รับรู้และเข้าใจในตัวตนและความรู้สึกของกันและกันเป็นอย่างดี ความรู้สึกดี ๆ ที่เขามีให้กันนั้นกำลังงอกงาม แต่ความสัมพันธ์ฉันท์คนรักของเขาก็ยังอยู่ในขั้นตอนการตัดสินใจ อธิปพงศ์ทอดถอนใจเมื่อนึกถึงคำพูดของนิธินที่เคยพูดกับเขาก่อนแยกจากเมื่อวันก่อน
 “คุณหมูครับ..”
“ครับ...”
นิธินหันมาพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง
“ผม..มีเวลาอยู่ที่กรุงเทพฯอีกแค่ หนึ่งเดือนกับสองสัปดาห์...ที่ผ่านมา ผมมีความสุขมากที่ได้อยู่กับคุณ”
อธิปพงศ์ยังคงนิ่งเงียบ รอฟังต่อ แต่ก็นิ่งไปทันทีเมื่อได้ยินประโยคนี้
“ผม..ชอบคุณ ชอบมานานแล้ว และตอนนี้ ผมก็ชัวร์ว่า ผม..รักคุณ”
 นิธินจับมือทั้งสองข้างของอธิปพงศ์ขึ้นมา เพื่อยืนยันว่าเขาพูดจริง
“ถ้าคุณรู้สึกอย่างเดียวกับผม ผมจะทำเรื่องย้ายมาอยู่ที่นี่จริง ๆ เพียงแค่คุณบอกมาว่าคุณอยากอยู่กับผมหรือเปล่า”
ไม่มีคำพูดใด ๆ จากอธิปพงศ์ ชายหนุ่มได้แต่นิ่งไปเพราะความตกใจและเขินเล็กน้อยที่จู่ ๆ ก็ถูกผู้ชายด้วยกันบอกรักอย่างนี้
“ว่าไงครับ”
“ผม...” อธิปพงศ์พูดอะไรไม่ออก ในใจของเขาท่วมท้นไปด้วยความซาบซึ้งที่อีกฝ่ายทุ่มเทให้
“ผมก็ มีความสุขมากเหมือนกัน แต่ ผม..”
“แต่อะไร”
นิธินมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความสงสัย เขานึกว่าอธิปพงศ์มีใจที่ตรงกับเขาแล้วเสียอีก
“ผมขอเวลาหน่อยได้มั๊ย ถ้าผมแน่ใจแล้วจริง ๆ ผมจะบอกคุณ” เขาพูดต่อ “ช่วงนี้ เราอย่าเจอกันได้มั๊ย ขอให้ผมอยู่คนเดียวดูบ้าง”
“ได้ครับ” นิธินพยักหน้าด้วยความเข้าใจ อธิปพงศ์จึงหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้น นิธินเดินตามและเรียกไว้
“คุณหมูครับ...”
อธิปพงศ์หันกลับมาตามเสียงเรียก แต่กลายเป็นนิธินที่เข้ามาจู่โจมจูบแบบไม่ทันตั้งตัว  อธิปพงศ์ตกใจในตอนแรก หัวใจเขาเต้นระรัวและหน้ามืดเหมือนจะเป็นลมให้ได้เสียตรงนั้น แต่ทว่าเมื่อริมฝีปากสัมผัสกันอย่างอ่อนหวานก็ทำให้เขาแทบจะละลายไปกับร่างใหญ่ที่ประคองอยู่เลยทีเดียว

  ชายหนุ่มแตะริมฝีปากตัวเองเบา ๆ และยิ้มเขินกับจูบแรกที่ผ่านมา ถึงแม้เขาจะยังไม่ตกลงปลงใจกับนิธินจริงจังเพราะยังอยากถามใจตัวเองอีกสักครั้งว่าเขารักชายหนุ่มจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่ความรู้สึกหลงรูปอย่างที่ผ่านมา
  อธิปพงศ์กดโทรศัพท์หาแม่ เพราะยังไงเรื่องนี้เขาก็ต้องบอกให้แม่รับรู้ ถึงแม้เขาจะไม่ได้คบกับผู้หญิงเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่เขาก็อยากให้ผู้หญิงที่เขารักที่สุดในชีวิตเห็นด้วยกับการตัดสินใจครั้งนี้
“ฮัลโหล แม่เหรอครับ”
“ว่าไงลูก หมูเป็นไงมั่ง สบายดีเปล่า” คนเป็นแม่ถามแบบเดิมทุกครั้งที่ลูกโทรมาด้วยความเป็นห่วง
“ก็ สบายดีครับ แม่กับยายล่ะ”
“อืม ก็เรื่อย ๆ ลูก”
สองแม่ลูกไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบกันสักพัก อธิปพงศ์จึงบอกเรื่องที่เตรียมไว้กับคนเป็นแม่
“อืม แต่ตอนนี้ ผมกำลังมีคนดู ๆ กันอยู่นะแม่”
“เหรอลูก” แม่ของเขาตื่นเต้นเล็กน้อย ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องเดิม ๆ ของลูกชายก็ตาม
“ครับ...”
“เป็นใครล่ะคราวนี้ หมูคบคนเด็กกว่าเหมือนก่อนรึเปล่า”
“เปล่าครับ เค้ารุ่นเดียวกันกับผม เค้าเป็นคนอินเดียที่มาทำงานในเมืองไทย เป็นโปรแกรมเมอร์หน่ะครับ”
“หืมม คนอินเดีย” คนเป็นแม่ประหลาดใจยิ่งกว่าเก่า
“ครับ”
“แล้วเค้าเป็นไงมั่งอ่ะลูก ตัวดำมั๊ย สวยรึเปล่า” คนเป็นแม่ถามล้อ ๆ และคิดเห็นกับคนอินเดียอย่างที่พูดตามประสาคนต่างจังหวัด
“เอ่อ แม่ครับ”
“ไงลูก”
“เค้า เป็นผู้ชายหน่ะครับ..”
“.......” คนเป็นแม่ช็อกไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น เลยทำให้อธิปพงศ์ร้อนใจ
“แม่ ๆๆๆๆ แม่ครับ แม่ยังอยู่เปล่า”
“เอ่อ หย่ะ..อยู่จ้ะ หมูว่าไงนะ แฟนใหม่หมู เป็นคนอินเดีย และเป็นผู้ชายเหรอลูก”
“ครับ..แต่เราแค่ดู ๆ กันอยู่นะครับ ผมยังไม่ได้ตัดสินใจเป็นกับแฟนเค้า”
“เหรอลูก..” ถึงแม้คนเป็นแม่จะไม่ได้รังเกียจเพศที่สาม แต่ก็ตกใจไม่ได้เมื่อรับรู้ว่าลูกชายตัวเองหันมาคบผู้ชายด้วยกัน
“ผมอยากรู้ว่า แม่จะว่าอะไรมั๊ยถ้าผมกับเค้าจะคบกันจริง ๆ”
คนเป็นแม่พยายามตั้งสติและตอบว่า
“หมู สำหรับแม่นะ ถ้าใครรักและหวังดีกับลูก ดูแลลูกได้ พร้อมที่จะร่วมทุกข์ร่วมสุขและไม่ทำให้ลูกเสียใจ ไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ แม่ก็โอเคทั้งนั้นหล่ะลูก”
“แม่...”
“ที่ผ่านมาลูกแม่เสียใจมามากพอแล้ว ถ้าเค้ารักลูกจริงแม่ก็ยินดี”
ส่วนคนเป็นลูกที่ถือสายฟังอยู่ถึงกับน้ำตาซึม เขาเชื่อแล้วว่าแม่รักเขามากแค่ไหน
“ข..ขอบคุณครับแม่”
  พอพูดจบเขากับแม่ก็ร้องไห้กันทั้งคู่ แต่เป็นน้ำตาแห่งความรักและความเข้าใจที่แม่ลูกมีให้แก่กัน และแม่ของเขาก็บอกว่า
“เอ้อ งานฤดูหนาวปีนี้กลับบ้านมั๊ยลูก” แม่เขาหมายถึงงานประจำปีของลพบุรีที่จัดในช่วงฤดูหนาว
“คิดว่าจะกลับครับ”
“อืม พาเค้ามาด้วยนะลูก แม่อยากรู้จัก”
“ครับ ได้ครับแม่” อธิปพงศ์รับคำแม่หนักแน่น ถึงแม้ช่วงนี้เขาจะยังไม่ได้คำตอบที่แน่ชัดกับตัวเองก็ตาม

   ส่วนนิธินที่ตอนนี้ออนไลน์คุยกับเพื่อน ๆ และครอบครัวก็คุยกับพี่ชายที่ไม่ได้คุยกันมากว่าสัปดาห์
"ไง ไอ้น้องชาย วันนี้เป็นไรป่าว ดูมีความสุขเชียวนะ" ดารามดัสเอ่ยปากทักน้องผ่านโปรแกรมสไกป์
“ก็นิดหน่อยหน่ะ”
“เรื่องอะไรล่ะ เรื่องคุณคนนั้นหรือเปล่า”
“ใช่ๆ” นิธินตอบกลับ “ก็ ผมบอกรักเค้าไปแล้ว เค้าก็ดูโอเคนะ แต่เขาขอไปคิดดูก่อนว่าจะมาอยู่กับผมหรือเปล่า”
“งั้นเหรอ” ดารามดัสรับคำ
"อืมแล้วพี่อะ มีอะไรหรือเปล่า"
"มีสิ" ดารามดัสพูดต่อ "เดี๋ยวพี่จะพาพ่อกับแม่ไปเยี่ยมแกนะ"
นิธินตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น "หะ พี่ว่าไงนะ"
"อีกสองอาทิตย์ พี่กับพ่อแม่จะไปหาแกที่เมืองไทย"
นิธินพูดไม่ออกเมื่อได้ยินอย่างนั้น ทั้งดีใจและลำบากใจในคราเดียว
"พ่อกับแม่คิดถึงแกมากรู้มั๊ย" ดารามดัสบอกด้วยน้ำเสียงและแววตาจริงจัง
นิธินยิ้มรับ แต่ก็แฝงความน้อยเนื้อต่ำใจ เพราะคิดว่าพี่ชายพูดให้เขารู้สึกดีขึ้นเท่านั้น
"อืม พี่มาเมื่อไหร่ก็บอกผมด้วยละกัน เดี๋ยวผมไปรับ"
"แน่อยู่แล้ว เออ อย่าลืมพาแฟนแกมาด้วยนะ"
"เค้ายังไม่ตกลงเลย"
"อ่าว จะไปรู้เรอะ เห็นเคยอยู่ด้วยกันแล้ว"
"อืม ก็ค่อยๆคบกันไป ผมก็แล้วแต่เค้าว่าพร้อมเมื่อไหร่หน่ะ"
"อืมม เข้าใจล่ะ"
"ผมไปก่อนนะพี่ ไว้ไงค่อยคุยกัน"
"อืม ๆ"
 เขาปิดคอมพิวเตอร์และทิ้งตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะอธิปพงศ์ไม่ได้ติดต่อมาสองวันแล้ว เขาเข้าใจว่าผู้ชายอย่างอธิปพงศ์ต้องการความแน่ใจในตัวเองสำหรับความรักครั้งนี้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อยากผิดหวังในความรัก เขาได้แต่หวังว่าอธิปพงศ์จะมีความรู้สึกเหมือนเขาที่อยากจะดูแลกันและกันไปนาน ๆ

 ส่วนอธิปพงศ์ที่ขอใช้เวลาตัดสินใจกับตัวเอง ก็รู้สึกว่าเมื่อเขาไม่ได้เจอกับนิธินแล้ว ชีวิตก็เหมือนขาดส่วนที่เติมเต็มไปเหมือนกัน ตั้งแต่ตื่นเข้าจนเช้านอน เขาก็คิดถึงร่างใหญ่ที่คอยดูแลไม่ห่าง
คิดถึงมือใหญ่ที่เคยกุมมือเขาไว้ด้วยความรัก
 คิดถึงแววตาอ่อนโยนที่อีกฝ่ายใช้มองเขาเพียงคนเดียว
คิดถึงรอยยิ้มที่ชายหนุ่มมอบให้เวลาเขามีความสุข
 คิดถึงบ่ากว้างที่เขาเคยซบเวลาทุกข์ใจ
 และคิดถึงอ้อมแขนอบอุ่นที่กอดเขาไว้ตอนเข้านอน
  บางครั้ง เขาก็อดชะเง้อมองหน้าร้านเวลาเลิกงานเพื่อหวังว่าจะได้พบกัน ทั้ง ๆ ที่เขาบอกกับอีกฝ่ายเองว่า ยังไม่พร้อมจะเจอหน้ากัน แต่ก็อดทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะความรู้สึกข้างในมันเรียกร้องหาส่วนที่หายไป
 ชายหนุ่มจึงได้แต่เดินกลับบ้านเหงา ๆ ท่ามกลางสายตาเป็นห่วงของเพื่อนร่วมงาน

  จนวันที่ห้าที่เขาใช้ชีวิตโดยไม่มีนิธิน อธิปพงศ์จึงเข้าใจถ่องแท้แล้วว่า ชีวิตนี้เขาไม่สามารถอยู่คนเดียวได้โดยไม่ได้รับความรักจากนิธิน  เมื่อถึงเวลาเลิกงาน เขาจึงโทรหานิธินทันที
“ฮัลโหล..นิธิน” เขาพยายามควบคุมตัวเองให้เป็นปกติ ทั้งที่ในใจเต็มไปด้วยความตื่นเต้นยิ่งนัก
“ครับ..” นิธินเองก็ดีใจที่อธิปพงศ์โทรมา
“ผม...ผมมีอะไรจะบอกคุณ คุณมาเจอผมตอนนี้ได้มั๊ย”
“มีอะไรหรือเปล่า ทำไมพูดตอนนี้ไม่ได้” นิธินย้อนถาม
“ไม่ได้หรอก ผมอยากบอกกับตัวคุณเอง”
“งั้นก็บอกมาเลยสิ”
  พอพูดขาดคำก็มีมือใหญ่มาสะกิดเขาจากข้างหลัง อธิปพงศ์รู้ทันทีว่าเป็นนิธินจึงรีบหันไป ก็พบว่าร่างใหญ่ของชายหนุ่มที่เขารักกำลังยืนอยู่ตรงหน้าจริง ๆ อธิปพงศ์ดีใจนักที่เห็นคนรักในเวลานี้ กำแพงความรู้สึกต่าง ๆ ที่มีพลันทลายไปสิ้น ชายหนุ่มโผเข้าไปกอดร่างใหญ่ที่คิดถึงทันที
  นิธินยิ้มน้อย ๆ และกอดคนในอ้อมแขนแน่น อธิปพงศ์หมดสิ้นแล้วซึ่งอคติ เขาร้องไห้ออกมาอย่างปลดปล่อยความคิดถึงและความหว้าเหว่ที่เคยอยู่ในใจ นิธินที่น้ำตาซึม ๆ ก้มลงไปใช้นิ้วใหญ่ ๆ เช็ดน้ำตาให้คนรักอย่างเอ็นดู คนทั้งสองกอดกันแน่นท่ามกลางสายตาของเพื่อนร่วมงานที่ซาบซึ้งกับความรักของคนทั้งสอง โดยเฉพาะป๊อกกี้และหญิงที่อดน้ำตาซึมกับภาพที่เห็นอยู่ไม่ได้
 
 สักพักนิธินและอธิปพงศ์ก็คลายอ้อมกอดจากกัน พี่กุ้งจึงเข้าไปบอกว่า
“พี่ดีใจนะ ที่หมูเข้าใจกับคุณนิธินได้ซะที”
อธิปพงศ์กับคนรักยิ้มรับ พี่กุ้งจึงหันไปบอกกับนิธินว่า
“ต่อไปนี้ ฝากคุณดูแลหมูด้วยนะครับ”
นิธินรับคำ “ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด”
  คนทั้งสองหันมามองหน้าและกอดกันอีกครั้ง อธิปพงศ์สุขใจเหลือเกินที่ได้รับความรักจากชายหนุ่มข้าง ๆ เขานึกขึ้นได้กับคำตอบที่ตัวเองเคยตั้งคำถาม จึงบอกกับนิธินท่ามกลางสักขีพยานว่า
“นิธิน ที่คุณเคยบอกว่า คุณรักผมหน่ะ”
ทุกคนเงียบตั้งใจฟังทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น
อธิปพงศ์หันไปพูดกับนิธินด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“ผมก็อยากจะบอกว่า ผมก็รักคุณนะ”
นิธินดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น จึงกอดอธิปพงศ์อีกครั้งและบอกว่า “ขอบคุณครับ”

 เวลานี้คนทั้งสองนอนเคียงข้างกันในห้องของอธิปพงศ์ โดยที่อธิปพงศ์นอนแอบอิงบนแผงอกล่ำนั้นเช่นเคย โดยที่ยังคงมองหน้านิธินอยู่ เขารู้สึกว่าตอนนี้ชายหนุ่มดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษ แต่ทว่าใบหน้าหล่อเหลานั้นกำลังเขามาใกล้ใบหน้าเขามากขึ้น พร้อมกับสัมผัสริมฝีปากของเขาแผ่วเบา
 อธิปพงศ์รู้สึกตกใจเพียงเสี้ยววินาที แต่ความรู้สึกหลังจากนั้นคือวาบหวามกับรสจูบที่นิธินมอบให้ เขาตอบรับริมฝีปากทรงเสน่ห์นั้นอย่างอ่อนโยน นิธินค่อยๆดูดดุดริมฝีปากของเขาก่อนจะส่งลิ้นร้อนตามเข้ามา ทำให้จุมพิตนี้ร้อนแรงขึ้น อธิปพงศ์ตอบรับชิวหาของอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น เขารู้สึกว่าจูบนี้ช่างร้อนเร่าเพราะแนวเคราของนิธินที่บดเบียดมาทำให้อารมณ์ที่ซ่อนเร้นปะทุออก อธิปพงศ์รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ชายหนุ่มจึงจูบตอบพร้อมกับส่งลิ้นเข้าไปในปากอีกฝ่ายบ้าง นิธินดีใจนักที่เห็นคนที่รักมีปฏิกริยาอย่างนั้น เขาจึงตอบรับลิ้นร้อนของอธิปพงศ์เช่นกัน นิธินค่อยๆพลิกตัวขึ้นมาอยู่ข้างบน และบดเบียดท่อนล่างของตัวเองเข้ากับคนข้างล่าง ทำให้อธิปพงศ์รู้สึกหวาบหวามแทบขาดใจ แต่ก็ยังไม่ละจากสงครามชิวหาที่ติดพัน มือเรียวสวยของเขาจากทึ่เคยประคองใบหน้าของนิธิน กลับย้ายมาคล้องที่ลำคอเรื่อยมาถึงแผ่นหลังสวยงามที่เขากำลังใช้กำอยู่เพราะความสะท้านในอารมณ์ นิธินค่อยย้ายมาพรมจูบทั่วใบหน้าและซุกไซร้ซอกคอขาวๆ นั้นอย่างลุ่มหลง กลิ่นน้ำหอมของอีกฝ่ายยังไม่หมดดีนักจึงทำให้นิธินซอกซอนไปทั่วลำคอและกกหูอย่างหยุดไม่ได้ อธิปพงศ์ที่เพิ่งสัมผัสรสรักนี้เป็นครั้งแรกถึงกับครางออกมาอย่างสุขสมเพราะเขารู้สึกดีเมื่อครางสากนั้นสัมผัสกับผิวเนื้ออ่อนบาง เมื่อเขากรีดเสียงแห่งความสุขมากขึ้นก็ทำเอานิธินแทบคลั่งกับความเย้ายวนนี้ นิธินใช้มือทั้งสองสอดชายเสื้อเพื่อลูบไล้เล่นกับหน้าอกและบิดบี้ยอดถันอย่างปลุกเร้า จนอธิปพงศ์ออกเสียงหนักขึ้นเป็นระยะ นิธินจึงถอดเสื้อยืดเนื้อนุ่มนั้นออกทางหัว และชื่นชมความงามของร่างขาวเนียนล้อแสงไฟที่สาดมาจากข้างนอก เขาค่อยๆลูบไล้ไปตามตัวของอีกฝ่าย เขาพบว่าอธิปพงศ์มีการตอบสนองเขาทางกาย เมื่อเห็นสิ่งนั้นตื่นตัวออกมาผ่านบ๊อกเซอร์เนื้อบางนี้ นิธินจึงลงไปซุกไซร้ที่ลำตัวขาวเนียนนั้นต่อ ก่อนจะพยายามถอดกางเกงอธิปพงศ์ให้ลงไปที่ข้อเท้า
 แต่ก็ช้ากว่าอธิปพงศ์ทึ่เป็นฝ่ายพลิกตัวมาอยู่ข้างบนบ้าง ร่างเล็กกว่าขึ้นคร่อมบนร่างหนาที่กลางลำตัว อธิปพงศ์มองคนที่อยู่ข้างล่างเหมือนจะบอกว่าให้เขาทำบ้าง เขาเข้าไปจูบนิธินอย่างรวดเร็วและซุกไซร้ซอกคอชายหนุ่มบ้าง จนมาถึงหน้าอกหน้าและกล้ามท้องสุดเซ็กซี่นั้น อธิปพงศ์ค่อยๆ จูบมันเพื่อดื่มด่ำเสน่ห์อันน่าหลงไหลแบบผู้ชาย อธิปพงศ์รู้สึกแปลกใจในตัวเองไม่น้อยเมื่อรู้สึกมีอารมณ์มากขึ้นเวลาได้ยินเสียงทุ้มๆ แหบพร่าแบบผู้ชายครางอย่างนี้ ส่วนมือของนิธินเริ่มไม่อยู่สุข เขาบีบจับสะโพกกลมกลึงได้รูปของอีกฝ่ายที่กำลังซุกไซร้บนตัวทันที อธิปพงศ์รู้สึกวาบหวามที่รับสัมผัสนั้น แต่นิธินก็ใช้มือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบไล้อธิปพงศ์ตั้งแต่ใบหน้า ริมฝีปาก เรื่อยมาจนถึงหน้าอก และหน้าท้อง จนมาถึงส่วนนั้นที่กำลังชี้หน้าบอกเขาอย่างต้องการ นิธินจึงถอดกางเกงของอีกฝ่ายทันที
"so cute"
นิธินอุทานเมื่อตอนนี้เห็นคนที่เขารักเปลือยกายอย่างเร่าร้อน ส่วนอธิปพงศ์นั้นเขินจนหน้าแดง แต่ก็ยังมีสติที่จะเอาคืนนิธิน เมื่อเขารู้สึกได้ว่านั่งทับอะไร ก็จึงถอยร่นออกมานั่งที่หน้าขาแข็งแรงนั้น
นิธินยิ้มพอใจและถอดกางเกงออกทันที ทำให้อธิปพงศ์ตกใจเล็กน้อยกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า ถึงแม้ว่าเขาจะถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับชายไทยแล้ว แต่ก็ยังแพ้สิ่งที่ชูชันอยู่ตอนนี้
 นิธินจับมือเขามาวางไว้ที่ส่วนนั้น ก่อนจะขยับตัวเพื่อจะเข้าไปหาอธิปพงศ์ เขาจัดวางอธิปพงศ์ให้นอนในท่าสบาย ก่อนจะเข้าไปมอบจูบเร่าร้อน โดยที่มือเขาก็สัมผัสกับส่วนกลางของอีกฝ่ายไปด้วย อธิปพงศ์ครางออกมาอีกครั้ง แต่ก็ครางหนักขึ้นเมื่อนิธินครอบปากฉ่ำลงบนส่วนสำคัญของเขา
"อื้ม..นิธินนนน"
 เสียงเรียกนั้นดังไม่ขาดสายตามจังหวะการลงปากเล่นลิ้นของนิธิน อธิปพงศ์รู้สึกวาบหวามอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ปากร้อนฉ่ำๆของอีกฝ่ายมอบความสุขให้เขาจนแทบจะขาดใจ  ชายหนุ่มมองดูหน้าหล่อๆ ที่กำลังกลืนกินเขาอยู่ก็ยิ่งสะท้านใหญ่ เขาจึงพูดออกไปว่า
"พ..พอก่อน"
นิธินค่อยๆ ถอนปากออกมาอย่างเสียดาย แต่ก็รู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินว่า
"ให้ผม..ทำให้คุณบ้าง"
 นิธินพยักหน้าทันที และนอนลงข้างๆ ปล่อยให้อธิปพงศ์กลืนกินเขาตามสบาย
 อธิปพงศ์กล้าๆกลัวๆ กับสิ่งที่อยู่ในมือ เพราะมันใหญ่โตจนเขาแทบจะถอดใจ แต่พอมองหน้านิธินที่นอนในหนุนแขนโชว์กล้ามเนื้อสวยงามแล้วก็หมั่นเขี้ยว จึงค่อยๆใช้ปาก เข้าไปครอบครองสิ่งนั้นทันที
"อ๊อก!!" อธิปพงศ์ถึงกับสำลักออกมาเมื่อพยายามมอบความสุขให้อีกฝ่าย จึงเปลี่ยนมาเล้าโลมรอบๆ แทน
"อู๊ว...ซื๊ด..."
นิธินสูดปากอย่างถูกใจกับฝีปากของคนรัก ส่วนอธิปพงศ์ที่เพิ่งสัมผัสกับสิ่งนี้เป็นครั้งแรกจึงต้องนึกเอาสิ่งที่บรรดาแฟนสาวเคยทำให้มาใช้กับสิ่งที่อยู่ในปากตอนนี้ เขาค่อยชิมข้างบนแล้วลงมาข้างล่างก่อนจะลองลิ้มรสแบบเต็มคำอีกครั้ง คราวนี้เขาพยายามเก็บฟันและโก่งคอให้เยอะขึ้น จนนิธินสวนเข้ามาในปากด้วยความกระสัน และพลิกตัวกลับหัวกลับหางมาทำให้อธิปพงศ์บ้าง เขาจัดการกับส่วนนั้นของคนที่รักอย่างช่ำชอง จนอธิปพงศ์ที่อยู่ข้างบนหลุดปากส่งเสียงครางด้วยความสุขสันต์
มือหนานั้นฟอนเฟ้นผิวเนียนของก้นกลมกลึงตรงหน้าด้วยความมันมือ ส่วนปากก็ได้แต่จัดการกับส่วนนั้น ไม่นานอธิปพงศ์ก็ปลดปล่อยออกมา
นิธินจึงดูดดื่มทุกหยดหยาดจากคนรักจนอธิปพงศ์รู้สึกเขินอีกครั้งไม่ได้ แต่ก็รู้ตัวเมื่อนิ้วใหญ่ที่ชุ่มด้วยเจลหล่อลื่นนั้นเข้ามาสัมผัสที่ปลายประตู  ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆ แต่อธิปพงศ์ก็อดรู้สึกวาบหวามไม่ได้ แต่ดีว่าเขาเตรียมตัวมาแล้วตามคำแนะนำของป๊อกกี้ จึงมั่นใจในความสุขที่จะเกิดขึ้น เมื่อนิธินใช้ลิ้นเข้ามาทักทายอย่างเร่าร้อน อธิปพงศ์เองก็เพิ่งรู้ว่าจุดอ่อนของผู้ชายอย่างเขาอีกที่หนึ่งก็คือตรงนี้ เขามีความสุขมากจึงครางออกมาไม่ขาดปาก จากลิ้นที่เข้ามาเปลี่ยนเป็นนิ้วสู่สองนิ้วและสามนิ้วตามลำดับกำลังสำรวจและกระตุกหงึกๆ ในตัวเขา จนอธิปพงศ์ต้องการเต็มที่แล้วจึงบอกเสียงสั่นว่า
"ผมม ไม่ไหวแล้ว จะทำก็ทำเลย"
นิธินจึงค่อยๆ ให้อธิปพงศ์มานอนบนที่นอนนุ่ม โดยมีตัวเขามอบจูบและทาบทับอยู่ข้างบน เขาหยิบเจลหล่อลื่นมาทาที่อธิปพงศ์อีกครั้ง พร้อมกับสวมถุงยางอนามัยและทาเจลให้ตัวเอง เขาละออกมามองหน้าคนรักอีกครั้ง ก็พบว่าตอนนี้อธิปพงศ์ดูเซ็กซี่เย้ายวนด้วยสายตาที่มองเขาอย่างต้องการ นิธินจึงมอบจูบอ่อนโยนแต่ร้อนเร่า พร้อมกับค่อยๆ แทรกกายเข้าไปในตัวคนรักด้วยความนุ่มนวล
"อื้อออออออออ โอ๊ววววว" อธิปพงศ์ครางหนักขึ้น นิธินเลยกระซิบแผ่วเบาข้างหู
"Relax...clam down everything is o.k."
อธิปพงศ์มองหน้าชายหนุ่มและตอบรับจูบอ่อนหวานที่นิธินมอบให้ พร้อมๆกับสัมผัสส่วนกลางและค่อยๆแทรกกายเข้าไปในตัวเขาทีละน้อยจนสุดตัวโดยที่อธิปพงศ์ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด แต่ก็กรีดเสียงดังขึ้นเมื่อนิธินค่อยๆขยับวนเพื่อทำความคุ้นเคยในช่องแคบ เพียงแต่นั้นน้ำตาแห่งความสุขของชายหนุ่มก็ไหลออกมา อธิปพงศ์แทบคลั่งกับเพศรสครั้งใหม่ที่เพิ่งได้รับ นิธินค่อย ๆ มอบความสุขให้เขาทีจะเล็กทีละน้อย  จากอ่อนโยนนุ่มนวลเร่งจังหวะให้ร้อนแรงขึ้นตามความต้องการ ที่อธิปพงศ์เองที่ตอบรับตัวเขาเป็นอย่างนี้ จนนิธินค่อย ๆ พลิกตัวให้อธิปพงศ์ขึ้นมาอยู่ด้านบนเพื่อควบคุมจังหวะดูบ้าง
  “You’re beautiful”
ชายหนุ่มเอ่ยปากชมคนรักพลางลูบไล้ลำตัวอธิปพงศ์ที่ครอบครองส่วนนั้นของเขาอยู่ ส่วนอธิปพงศ์ก็รู้สึกหวามไหวมากขึ้นเมื่อสิ่งนั้นอยู่ในตัวเขาเต็ม ๆ อย่างนี้ แต่ความต้องการภายในก็ทำให้เขาค่อย ๆ ขยับตัวไปตามความต้องการอย่างสุขสมอารมณ์รัก อธิปพงศ์ตอบสนองความต้องการของคนรักและตัวเองอย่างมีความสุข จนเมื่อปลดปล่อยอีกรอบพร้อม ๆ นิธินปลดปล่อยเข้ามาในตัวเขา เวลานั้นอธิปพงศ์รู้สึกได้เลยว่าเขามีความสุขอาบเอิบอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ชายหนุ่มทั้งสองแลกจูบกันอีกครั้งก่อนแอบอิงไออุ่นของกันและกันสู่ห้วงนิทรา




โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 21-02-2012 17:59:41
กรี๊ดดดดดด อ่านจบแล้วอยากอ่านต่ออีกสัก 10 ตอน  (ผู้แต่ง - ตบๆๆๆๆๆ)  ตอนนี้น่ารักมาก นอนซบอกกันอีกแล้ว ซบกันไป ซบกันมา แอร๊ยยย อยากซบด้วยคน 555

คนแต่งไม่ทำอย่างนั้นหรอกค่ะ ดีใจซะอีกที่มีคุณผู้อ่านติดตามและชอบนิยายเรื่องนี้มาก ๆ ขอบคุณมากนะคะหวังว่าจะถูกใจกับตอนนี้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de -Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:20/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 21-02-2012 18:00:37
กรี๊ดดดด มองข้ามเรื่องนี้ไปได้ไงตั้งนานเนี่ย ได้เข้ามาอ่านปุ๊บก็หยุดไม่ได้

อะไรมันจะให้บรรยากาศเลิฟๆ ได้ขนาดนี้ >_<

อ่านไปยิ้มไป อยากได้ผู้ชายแบบนิธินบ้างค่า

สมัครเป็นแฟนคลับเรื่องนี้ด้วยคนนะคะ^^


ยินดีค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 21-02-2012 18:14:11
ในที่สุดพี่หมูก็เสร็จคุณนิธินจนได้ >//<
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 21-02-2012 18:37:11
 :m25: :m25:อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ได้กันแล้ว ว่าแต่ใกล้จบยังอะคะ พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนจะจบแล้วเลยอ่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: sumonta ที่ 21-02-2012 18:41:58
มีความสุขจัง  :haun4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 21-02-2012 18:43:06
เมื่อมีผู้ปกครองให้คำแนะนำเกี่ยวกับเนื้อหาในตอนนี้แล้ว...
ก็เริ่มอ่านแหละ...อิ อิ อิ
โหหหห :o8: :m25::-[
ดีใจจังทั้งคู่มีความสุขสมหวังดังใจไปแล้ว
แม่ของหมูโอเค เหลือพ่อแม่ของนิธิน

ปล. น้ำพริกแมงดาจ๋า "ทำให้จุมพิศนี้ร้อนแรงขึ้น"   จุมพิตจ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 21-02-2012 18:44:45
:m25: :m25:อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ได้กันแล้ว ว่าแต่ใกล้จบยังอะคะ พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเหมือนจะจบแล้วเลยอ่า
     ยังค่ะ นิยายเพิ่งมาถึงกลางเรื่องเท่านั้นเอง สบายใจได้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 21-02-2012 18:46:51
เมื่อมีผู้ปกครองให้คำแนะนำเกี่ยวกับเนื้อหาในตอนนี้แล้ว...
ก็เริ่มอ่านแหละ...อิ อิ อิ
โหหหห :o8: :m25::-[
ดีใจจังทั้งคู่มีความสุขสมหวังดังใจไปแล้ว
แม่ของหมูโอเค เหลือพ่อแม่ของนิธิน

ปล. น้ำพริกแมงดาจ๋า "ทำให้จุมพิศนี้ร้อนแรงขึ้น"   จุมพิตจ้ะ
    ขอบคุณมากๆ ค่ะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไปแก้ไขนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 21-02-2012 18:58:14
โอ๊ย!.. แบบนี้เรียกว่า ยอมค่ะยอม ๆ เขาฟิทเจอริ่งกันแล้ว กรี๊ด!!!!!!!!!!!!  ชอบมาก แต่อยากรู้ต่อว่า ป๊อกกี้ หล่อนสอนอะไรหมูไปบ้างคะ 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 21-02-2012 19:14:02
ในที่สุดก็ :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 21-02-2012 19:19:57
หวานมากอิจฉาคู่รักจริง ๆเล้ย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 21-02-2012 20:22:10
อร๊าก....หวาน อยากได้บ้าง 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-02-2012 20:34:03
อั๊ยย่ะน่ารักอ่ะ
หวานอบอุ่น :o8:
บวกเป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-02-2012 20:49:26
นี่แหละคือสิ่งทีใช่ใช่ไหมจ๊ะหมู :haun4:
แอร๊ยยย เลือดไหลหมดตัว ชีวิตหลังจากนี้คงยิ่งหวานฉ่ำ :o8:
คุณแม่หมูก็ไม่ว่า เหลือแค่ฝั่งนิธิน แต่ว่าต้องฝ่าฟันมันไปได้ทั้งคู่แน่ๆ เอาใจช่วยจ้า :กอด1:
กดบวกพร้อมกอด :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 21-02-2012 21:04:35
อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา เรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรก ดูอบอุ่นมากๆ แต่ตอนนี้ อบอุ่นจนร้อนนนนนนนนเลย ค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 21-02-2012 21:06:29
 :haun4:

สุขสมหวังกันซะที  :o8:

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 22-02-2012 05:11:41


หนุ่มอินเดียสุดยอดไปเลย 

 :m25:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-02-2012 07:50:35
 :L2:ได้กันแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 22-02-2012 11:06:10
เธอคือคนสุดท้าย :กอด1:
บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 22-02-2012 12:55:29
รู้ใจตัวเองแล้ว ยินดีด้วยกับทั้งสองคน
รอลุ้นอีกสองอาทิตย์กับครอบครัวนิธิน
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 22-02-2012 15:07:43
 o13 :haun4: :pighaun:

อยากอ่านตอนต่อไปแล้วคร้า ^^
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:21/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 22-02-2012 17:58:02
มาแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะทุกคน

16

 แสงแดดของเช้าวันใหม่ส่องผ่านผ้าม่านสีฟ้าอ่อนมายังเตียงที่มีคู่รักเปลือยกายกอดก่ายกันอยู่ ชายผิวขาวร่างสมส่วนนั้นซบอยู่บนอกของชายร่างหนาผิวสีน้ำผึ้งโดยมีแค่ผ้าห่มคลุมหมิ่นเหม่ที่ช่วงล่างไว้เท่านั้น เมื่อเสียงนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงดังขึ้น คนทั้งสองจึงรู้สึกตัว นิธินลุกขึ้นมานั่ง เขาเสียดายเหลือเกินที่ถึงเวลาเช้าเสียแล้ว ชายหนุ่มมองดูอธิปพงศ์ที่ยังฟุบตัวอยู่ เขายิ้มอ่อนโยนให้และค่อยใช้นิ้วลูบแผ่วเบาไปตามโครงหน้า แก้มใสๆขึ้นไปยัง เปลือกตาเลื่อนลงมาที่สันจมูกโด่งและปากสวยได้รูปอย่างถะนุถนอม พร้อมกับจรดจมูกหอมแก้มใสนั้นอย่างแสนรัก  เขานึกเป็นห่วงว่าคนรักจะสามารถลุกไปทำงานไหวหรือเปล่า เพราะเมื่อคืนหลังจากผ่านความสุขครั้งแรกไปแล้ว เขากับอธิปพงศ์ก็มีครั้งที่สองกันอีกในเวลาต่อมา แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เขาเป็นห่วงคนรักได้อย่างไรกัน
"นอนต่อมั๊ย.." ชายหนุ่มถามคนรักอย่างเป็นห่วง แต่อธิปพงศ์ส่ายหน้างัวเงีย และพยายามลุกขึ้นเพื่อไปทำงาน
"ไหวมั๊ย" นิธินถามอย่างเป็นห่วง อธิปพงศ์พยักหน้าอีกครั้งเพื่อจะบอกว่าเขาไม่เป็นไร ชายหนุ่มพยายามเดินไปเข้าห้องน้ำและอาบน้ำตามปกติ นิธินเห็นอย่างนั้นจึงรีบเข้าไปด้วยอาบด้วย แต่เขารีบห้ามคนรักทันที
"No! ไม่ได้นะ"
"Why?"
นิธินมองหน้าคนรัก อธิปพงศ์เลยตอบมาว่า
"ขออาบก่อนนะ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน"
ว่าแล้วเขาก็รีบเข้าห้องน้ำทันที นิธินไม่เข้าใจคนรักเท่าไหร่ แต่ก็ช่างเถอะ ชายหนุ่มไม่คิดมาก จึงหันหลังไปเก็บที่นอนแทน
ส่วนอธิปพงศ์ที่ตอนนี้รู้สึกดีสุดๆ ที่ได้ตื่นมาพร้อมคนที่รัก ก็ยิ้มเขินกับตัวเองในกระจก ที่เขาไม่อยากให้นิธินมาอาบน้ำด้วยกันก็เพราะว่าชายหนุ่มกลัวใจตัวเองว่าจะอดใจไม่ไหวกับร่างบึกบึนที่แสนจะเซ็กซี่เมื่ออยู่
ใต้ฝักบัว     เมื่อคืนเขามีความสุขมากและรู้สึกดีมากถึงมากที่สุดกับรสรักที่นิธินมอบให้อย่างน้อยเขาก็ต้องขอบคุณรุ่นน้องอย่างป็อกกี้ที่มาบอกถึงการทำความสะอาดส่วนนั้นสำหรับเกมส์รัก แถมยังเตือนมาอีกว่าระวังเลือดสาดคาที่นอน อธิปพงศ์จึงเหลียวหลังลงไปมองและคลำที่ปลายประตูของตัวเองทันที
"ไม่เห็นมีอะไรนี่"
 เขาไม่พบรอยเลือดเลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังไม่ได้รู้สึกว่าข้างในฉีกขาดอย่างที่ป๊อกกี้เตือน มีเพียงแต่อาการแปลบปร่าบ้างเล็กน้อยก็เท่านั้น อย่างนี้ต้องยกความดีความชอบให้นิธินที่ค่อยๆ บรรจงใส่เข้ามาในตัวเขา
ผู้ชายอย่างเขาเข้าใจได้เลยว่านิธินคงจะผ่านมาไม่น้อย ถึงได้เข้าอกเข้าใจคนที่นอนด้วยดีอย่างนี้ คิดแล้วอธิปพงศ์ก็หัวเราะให้ตัวเอง เพราะสุดท้ายเขาก็หันมาคบผู้ชายด้วยกันตอนสามสิบกว่าจนได้
 เขาออกจากห้องน้ำมาก็เจอกับนิธินที่นั่งรออยู่ อธิปพงศ์จึงเข้าไปหอมแก้มคนรักรับอรุณทันที
"Good morring ครับ"
นิธินจึงหอมแก้มเขาตอบ และลุกไปอาบน้ำทันที
"Good morring"
 อธิปพงศ์มองตามคนรักยิ้มๆ และลุกไปดูบนที่นอน ก็ไม่เห็นเลือดสักหยดเปรอะเปื้อนอย่างที่รุ่นน้องขู่ เขาเชื่อว่าวันนี้เจ้าตัวคงต้องมาซอกแซกถามเรื่องบนเตียงของเขาอย่างแน่แท้


 "นังหญิงๆๆ วันนี้แกว่าพี่หมูจะมาทำงานมั๊ย" ป๊อกกี้รีบมาเมาท์กับหญิงทันทีที่เจอหน้า
"ก็ต้องมาสิ ทำไมเหรอพี่ป๊อก"
"นี่แกไม่เห็นที่เค้าหวานกับคุณนิธินเมื่อวานเหรอหะ โอ๊ยป่านนี้ชั้นว่าพี่หมูเราโดนของแขกตายไปแล้วค่ะ"
แต่หญิงไม่คิดอย่างนั้น "หนูว่าไม่หรอกพี่ป๊อก พี่หมูต้องมาทำงานแน่ๆ"
"งั้นกล้าเล่นกับชั้นมั๊ยล่ะ ถ้าพี่หมูไม่มาทำงานแกให้ชั้นห้าร้อย แต่ถ้าเค้ามาชั้นให้แกห้าร้อย เอาป้ะ"
"เอาสิ หนูเล่นด้วย" หญิงรับคำอย่างมั่นใจ พอดีกับอธิปพงศ์เดินเข้ามาในร้านทันที ป๊อกกี้เห็นอย่างนั้นก็ได้แต่หน้าเหรอ เพราะผิดไปจากที่ตัวเองคาดไว้สิ้นเชิง หล่อนจึงปราดเข้าไปหารุ่นพี่ทันที
"ตายแล้ว นี่ผีหลอกหรือเปล่าคะเนี่ย ทำไมพี่หมูมาทำงานไหวล่ะค่ะหึ"
ป๊อกกี้สำรวจดูรอบตัวของอธิปพงศ์ก็พบว่าเขายังปกติดีทุกอย่าง
"แล้ว นี่พี่หมูไม่ได้โดนลงเสาเอกเหรอคะ" หล่อนถามอย่างสงสัย
"คิดว่าไงล่ะ"
"โอ๊ย จะพลาดเหรอคะ แล้วเป็นไงมั่ง เริ่ดมั๊ยอะไรมั๊ยคุณพี่"
อธิปพงศ์จึงเลี่ยงที่จะตอบเพราะเขินอาย
"บ้า เรื่องนี้ใครเค้าถามกันล่ะ พี่ไปทำงานแล้ว"
เขารีบเดินไปอีกมุมนึงทันที ปล่อยให้ป๊อกกี้ยืนเคว้งอยู่ตรงนั้น
"อ๊าว พี่หมู ไหงงั้นคะ"
แต่หญิงหันไปมองป๊อกกี้พร้อมกับสะกิด
"พี่ป๊อกๆ"
"อารายย"
"ห้าร้อย"
ป๊อกกี้นึกออกจึงอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
"หืมๆๆ นังงก ไม่ได้เลยนะคะ" หล่อนบ่นพร้อมกับยัดเงินใส่มือรุ่นน้อง
"อ่ะค่ะ"
“ขอบคุณค๊าบบ” หญิงยิ้มร่ารับตังค์และไปช่วยพี่กุ้งอีกมุมทันที
 ป๊อกกี้อดเจ็บใจไม่ได้ เพราะงานนี้หล่อนเป็นท้าพนันก่อนแท้ๆ แต่กลับต้องมาเสียเงินซะเอง แต่ป๊อกกี้ก็ดีใจที่เห็นอธิปพงศ์สมหวังในความรักและมีแฟนดี ๆ อยู่ข้างกาย

  วันนี้นิธินมีนัดกับเพื่อนเพื่อเล่นคริกเก็ตกันตามปกติ เมื่อจบเกมส์ชายหนุ่มทั้งสี่ก็มานั่งคุยกันริมสนาม  เพื่อน ๆ ของนิธินนั้นอยากรู้เหลือเกินว่าเรื่องของเขานั้นสุดท้ายแล้วอธิปพงศ์ได้ตกลงปลงใจกับเขาหรือเปล่า วิษณุที่จึงถามแทนทุกคนที่คันปากอยากรู้
“เออ นิธิน แล้วคุณหมูหน่ะ เค้าว่าไงมั่ง ให้คำตอบแกรึยัง”
“อืม...เค้าโอเคแล้ว”
“อ่ะจริงดิ” ทุกคนตื่นเต้นดีใจ เอเจรีบบอกว่า
“ดีใจด้วยนะเพื่อน ในที่สุดแกก็สมหวังซะที”
“ขอบใจนะ”
“เออ แล้วนี่เอาไง จะไปคุยกับเจ้านายมั๊ยเรื่องจะย้ายมาที่นี่อ่ะ”
“อืม เดี๋ยววันจันทร์ชั้นจะเข้าไปคุย”
แทนไทจึงบอกว่า
“ถ้านายกับคุณหมูตกลงปลงใจกันจริง ๆ แล้วล่ะก็ชั้นว่าหาซื้อที่อยู่แน่นอนไปเลยดีกว่าว่ะ นายว่าไง”
“เออ ๆ ใช่” เอเจรีบเสริม “ตอนชั้นแต่งงานใหม่ ๆ ชั้นก็จองบ้านเหมือนกัน นี่ก็ผ่อนใกล้หมดล่ะ”
นิธินคิดตาม และบอกกับเพื่อน ๆ  ว่า
“ขอบใจนะ แต่ต้องคุยกับคุณหมูเค้าก่อนว่ะ ของอย่างนี้คิดเองทำเองไม่ได้”
“โหย นี่มีแววกลัวกลัวแฟน เหมือนเอเจที่กลัวเมียแล้วสิเนี่ย” วิษณุแซว
“บ้า ไม่ได้กลัวเว้ย แค่เกรงใจ..” เอเจตอบเสียงอ่อย
“ฮ่ะๆๆๆๆๆ”
นิธินเลยบอกกับเพื่อนอีกเรื่องหนึ่ง
“เออ สัปดาห์หน้าครอบครัวชั้นจะมาเยี่ยมนะ”
“จริงเหรอ งั้นก็ดีหน่ะสิ มาหลังปีใหม่ใช่มั๊ย”
“อืม ก็ช่วง ๆ ปีใหม่นั้นหล่ะ”
นิธินยิ้มรับ วิษณุเห็นเพื่อนดูไม่ค่อยดีใจเท่าที่ควรเลยถามว่า
“แล้ว นายไม่ดีใจเหรอ”
“ดีใจสิ” นิธินยิ้มรับแต่แววตาแฝงความรู้สึกลำบากใจไม่มิด เอเจเลยถามว่า
“ทำไมวะ มีอะไรเปล่า”
“นั่นสิ ลองเล่ามาให้พวกเราฟังสิ เผื่อช่วยได้”
นิธินถอนหายใจ และเล่าให้เพื่อนฟัง
“ก็ ไม่มีอะไรหรอก ชั้นรู้สึกว่า พ่อกับแม่เค้ายังโกรธชั้นอยู่ เมื่อรู้ว่าชั้นเป็นเกย์หน่ะ”
“อืม...”
“ชั้น รู้สึกแปลก ๆ ยังไงไม่รู้ที่ต้องเจอกับพ่อแม่คราวนี้หน่ะ”
“เหรอ...” วิษณุตอบรับ “งั้นให้พวกเราไปเจอพ่อแม่นายด้วยสิ เค้าจะได้เห็นว่านายก็ยังคือผู้ชายคนนึง ไม่ได้แตกต่างอะไรจากผู้ชายทั่ว ๆ ไป”
“เออ ใช่ๆ” เอเจเห็นด้วย “ให้พวกเราเจอพ่อแม่นายด้วยนั่นหล่ะ”
“อืม ๆ ขอบใจพวกนายมากนะ”
เขามองหน้าเพื่อน ๆ อย่างขอบคุณ ชายหนุ่มนึกถึงคำพูดที่เขาเคยบอกกับอธิปพงศ์ไว้ว่า ถ้าไม่ยอมเผชิญหน้ากับปัญหา เราก็จะจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอด คราวนี้เป็นทีของเขาแล้วที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ติดค้างในใจมาแสนนาน

  จากนั้นเขาก็ไปหาอธิปพงศ์ที่เลิกงานตามปกติ เพื่อจะไปว่ายน้ำกันก่อนจะกลับมาที่ห้องของอธิปพงศ์ โดยที่วันนี้อธิปพงศ์สังเกตุได้ว่าคนรักนั้นมีความรู้สึกเศร้าหมองซ่อนอยู่ในใจ เมื่อทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ เขาจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากถามคนรักที่โอบไหล่เขาอยู่
“นิธิน...คุณมีอะไรหรือเปล่า”
นิธินหันมามองหน้าคนรักที่ถามด้วยความเป็นห่วง เขาส่ายหน้าและพยายามยิ้มกลบเกลื่อน
“มีอะไรคุณเล่าให้ผมฟังได้นะ..ตอนนี้เราอยู่ด้วยกันแล้ว คุณมีอะไรไม่สบายใจเล่ามาให้ผมฟังก็ได้...”
นิธินมองเห็นความเป็นห่วงอยู่ในแววตาของอีกฝ่ายจริง ๆ เขาจึงลูบแก้มใสๆ นั้นก่อนจะค่อย ๆ เล่าเรื่องทั้งหมดให้คนรักฟัง
“My parents will come to Bangkok next week”
“พ่อกับแม่คุณจะมาเยี่ยมคุณเหรอ”
นิธินพยักหน้าและเล่าต่อ “ผมแค่ไม่กล้าที่จะเจอหน้าพ่อกับแม่เท่าไหร่หน่ะ เพราะผมรู้สึกว่า พ่อกับแม่ยังโกรธผมอยู่จากที่รู้ว่าผมเป็นเกย์”
อธิปพงศ์รับฟัง แต่ก็อยากรู้ว่าเขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เลยลองถาม
“แล้ว คุณรู้ตัวว่าเป็นเกย์ มานานรึยัง”
“ก็ Since I was in the college หน่ะ”
“อืม....แล้วพ่อแม่คุณรู้มานานหรือเปล่า”
“ก็ สักสองสามปีมานี้หล่ะครับ”
อธิปพงศ์จึงพูดกับคนรักว่า
“ยังไงผมเชื่อว่า ท่านคงยอมรับและเข้าใจในตัวคุณ เพราะผมเชื่อว่า พ่อแม่ทุกคน รักลูกเหมือน ๆ กัน”
“อืม..”
“ผมยังอยู่กับคุณ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” อธิปพงศ์ยืนยันหนักแน่นและมั่นใจตามที่พูดทุกประการ นิธินจึงกอดคนรักไว้แนบอก
 เขารู้สึกซาบซึ้งในน้ำใจของคนรักและคิดว่าเวลานี้ตัวเองคือผู้ชายที่โชคดีอีกคนหนึ่งบนโลกนี้

 “อ่าว สวัสดีค่ะพี่หมู วันนี้ทานอะไรดีคะ” เขียวออกมาต้อนรับเพื่อนรุ่นพี่ที่วันนี้มาอุดหนุนเธอถึงร้าน
“ยังไม่รู้เลยอ่ะ” เขาตอบยิ้ม ๆ แต่เขียวเพิ่งสังเกตว่าวันนี้อธิปพงศ์มากับผู้ชายรูปหล่อกล้ามใหญ่ในชุดพนักงานออฟฟิศ จึงลองถามดู
“วันนี้พี่หมูมากันสองคนเหรอคะ”
“อื้ม...” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ หญิงสาวจึงพอเดาได้เลยว่าผู้ชายคนนี้คือคนที่อธิปพงศ์เคยมาเล่าให้เธอฟัง จึงหันไปมองหน้าชายหนุ่มว่าใช่หรือเปล่า อธิปพงศ์พยักหน้ายิ้ม ๆ ให้หญิงสาวทันที เธอมองหน้าชายหนุ่มรูปหล่อที่ยิ้มเป็นมิตรให้ เลยมองเพื่อนรุ่นพี่ให้แนะนำสักที
“เอ่อ นี่ น้องเขียว เป็นลูกค้าผม และก็นี่เป็นร้านของเธอ...ส่วนนี่คุณนิธิน เค้าเป็น..แฟน..พี่เอง”
อธิปพงศ์รู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกที่ต้องแนะนำตัวแบบนี้ เขียวที่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นชาวอินเดีย จึงทักทายว่า
“นมัชสเต” หญิงสาวกล่าวพร้อมยกมือไหว้แบบอินเดีย ส่วนนิธินก็รับไหว้แบบอินเดียเช่นเดียวกัน
“นมัชสเต”
อธิปพงศ์มองรุ่นน้องอึ้ง ๆ เพราะเขาก็ยังไม่เคยทักทายใครแบบอินเดียเหมือนกัน
“เชิญนั่งก่อนเลยนะคะ ดูเมนูแล้วเดี๋ยวสักพักมารับสั่ง ตอนนี้รับน้ำอะไรดีคะ”
“มีน้ำอะไรมั่งล่ะ”
“ก็ นอกจากน้ำเปล่าและอิตาเลี่ยนโซดาแล้ว ตอนนี้มีน้ำผลไม้สดค่ะ” เธอพลิกเมนูให้ลูกค้าดู และแนะนำเมนูยอดฮิตของลูกค้าชาวอินเดียให้นิธิน “We also have mango juice and Lassi”
นิธินดูประหลาดใจที่ร้านนี้มีเครื่องดื่มแบบนี้ขายด้วย ส่วนอธิปพงศ์ถามถึงเครื่องดื่มแปลกหู “น้ำอะไรอ่ะ ลาสซี่”
“ก็เป็นคล้ายๆ โยเกริ์ตปั่นอ่ะพี่หมู ใส่มะนาว โยเกริ์ต กล้วย น้ำดอกกุหลาบ ปั่นให้เข้ากัน เขียวว่ามันแปลกดี เลยเอามาทำกิน และก็ทำขายเก๋ ๆ นี่หล่ะ”
หญิงสาวขอตัวก่อน “เดี๋ยวมารับออเดอร์นะคะ ขอเข้าไปดูหลังร้านแป๊บ”
“จ้ะ” อธิปพงศ์ตอบรับแต่ในใจทึ่งกับหญิงสาวที่ชอบทำให้เขาแปลกใจได้อยู่เสมอ ส่วนนิธินก็ดูเมนูต่าง ๆ อย่างสนใจ สักพักคนทั้งสองก็สั่งอาหารกับพนักงานโดยไม่ลืมสั่งเครื่องดื่มแบบอินเดียมาลองชิมด้วย อธิปพงศ์คิดว่าก็รสชาติโอเค แต่เห็นว่านิธินท่าจะถูกใจกับน้ำมะม่วงและลาซี่มาก เขาจึงลองถามคนรักดู
“มันเป็นไงมั่งอ่ะ อร่อยเหมือนคนอินเดียทำมั๊ย”
“อื้มม เหมือน” เขาพูดต่อ “ตอนแรกผมคิดว่าเขาทำแบบใส่น้ำแข็ง แต่น้ำพวกนี้คนอินเดียเรากินแบบไม่ใส่น้ำแข็งกันนะ”
“อ่าวเหรอ เห็นอินเดียร้อน ๆ ผมนึกว่าจะชอบกินน้ำใส่น้ำแข็งเหมือนคนไทยซะอีก”
คนทั้งสองกินอาหารกันสักพัก เขียวที่เพิ่งว่างจึงมาคุยด้วย
“เป็นไงมั่งคะพี่หมู แฟนพี่เค้าว่าน้ำมะม่วงกับลาซี่เป็นไงมั่ง” ถึงแม้เธอจะทำขายลูกค้าอินเดียมาไม่น้อยแต่ก็ยังลุ้นอยู่ดี
“อร่อยครับ” นิธินตอบเอง
เขียวตกใจที่ชายหนุ่มพูดไทยได้และฟังออก แต่ก็ตอบรับอย่างสุภาพ
“อ่อ ขอบคุณมากค่ะ”
“แล้ววันนี้มีอะไรมาให้พวกพี่ชิมป่าวเนี่ย”
“ยังค่า ตอนนี้ไอเดียยังไม่พุ่ง ไว้คิดได้จะเอาไปให้ชิมถึงร้านเลยนะคะ”
“จ้ะ ยินดี” เขาตอบรับยิ้ม ๆ ส่วนเขียวก็มองแฟนรุ่นพี่ที่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร เธอดีใจเหลือเกินที่เห็นอธิปพงศ์มีความสุขอย่างวันนี้ หญิงสาวหันไปบอกกับนิธินว่า
“ฝากดูแลพี่หมูด้วยนะคะ”
“ครับ” นิธินรับคำและยิ้มให้หญิงสาว และค่อย ๆ จับมืออธิปพงศ์ที่อยู่ใต้โต๊ะมากุมไว้ เหมือนจะยืนยันว่าเขาจะทำอย่างที่เพื่อนรุ่นน้องขอให้ดีที่สุด

 และเทศกาลดิวาลีบูชา หรือวันขึ้นปีใหม่ ที่ชาวอินเดียรอคอยก็มาถึง บริษัทของนิธินได้หยุดยาวเป็นเวลาห้าวันเพื่อให้พนักงานกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว โดยอธิปพงศ์เองก็อดมีความสุขและตื่นเต้นไปกับคนรักไปด้วยเสียไม่ได้ โดยวันที่สี่ที่ถือเป็นวันปีใหม่ของเทศกาล เขาและนิธินอยู่ที่พาพุรัดเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่สไตล์อินเดียสำหรับใส่ไปงานเลี้ยงที่บริษัทในวันพรุ่งนี้ ชายหนุ่มรู้สึกดีที่อยู่ในบรรยาการชื่นมื่นของเทศกาลสำคัญ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าในห้าวันนี้มีความเป็นมาอย่างไร แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความสุขของชาวอินเดียที่เขาพบเจอตลอดสามวันที่ผ่านมานี้ และเขาเองก็มีความสุขมากเช่นกัน ที่ได้มาใช้เวลากับคนที่รัก เขามองมือตัวเองที่ถูกมือใหญ่นั้นกุมอยู่แล้วก็ยิ่งสุขใจนัก ถึงแม้วันนี้คนจะเยอะ และรถจะติด แถมยังต้องมาเบียดกับคนอินเดียที่รูปร่างใหญ่โตและกลิ่นตัวแรงในซอยแคบ ๆ อย่างนี้ แต่อธิปพงศ์ก็ไม่ได้รู้สึกเบื่อหน่ายเลยสักนิด คนทั้งสองเดินดูร้านค้าที่ตกแต่งสวยงามและมีแต่ของใหม่ ๆ มาวางขายอย่างตื่นตา ถ้าถูกใจสิ่งไหนก็ลองต่อราคาดู แต่พวกเขาก็ยังไม่ได้เสื้อผ้าที่ถูกใจครบชุด  จึงลองเดินเข้าไปในห้างสรรสินค้าดู เพื่อจะได้ของที่ขาด และนิธินก็สะดุดกับเสื้อผ้าของร้านหนึ่งที่ออกแบบให้ดูร่วมสมัยจึงลองเข้าไปดู
“สวัสดีค่ะ ดูก่อนได้นะคะ” แม่ค้าหญิงสาวชาวอินเดียเชื้อเชิญเป็นภาษาบ้านเกิด แต่ก็สะดุดตากับความหล่อเหลาของนิธิน จึงแอบส่งสายตาหวานให้
 อธิปพงศ์ที่เห็นอย่างนั้นจึงเปลี่ยนมือมาเกาะแขนชายหนุ่มทันที พร้อมกับส่งสายตาไม่พอใจใส่หญิงสาว ทำให้แม่ค้าถึงกับรีบหลบสายตาพิฆาตของหนุ่มไทยอย่างเขาแทบไม่ทัน
 นิธินหันไปมองคนรักที่กำลังแสดงอาหารหึงอย่างไม่รู้ตัวก็แอบยิ้ม เขาจึงเดินโอบเอวกลมของอธิปพงศ์เขามาดูเสื้อผ้าในร้านทันที
“คุณว่าตัวนั้นเป็นยังไงมั่ง” เขาหมายถึงผ้านุ่งสีน้ำตาลกาแฟที่จะมาเข้าเป็นชุดกูรตะ
“ก็ดีนะ สวยดี” เขาตอบยิ้มๆ กับคนรัก ส่วนแม่ค้าก็เดินตามแต่ก็มีวายส่งสายตาให้นิธิน แต่ก็ต้องสงบเสงี่ยมเมื่อเห็นอธิปพงศ์จ้องเธออยู่
“เท่าไหร่ครับ”
“หนึ่งพันสองร้อยบาทค่ะ” แม่ค้าตอบยิ้ม ๆ
เมื่อนิธินเห็นว่าราคาสมเหตุสมผลจึงเลือกซื้อตัวนี้ “งั้นเอาตัวนี้ครับ”
“ค่ะ” เธอรับคำและหยิบสินค้าใส่ถุงให้พร้อมกับรับเงิน
“ขอบคุณนะคะ”
เธอยิ้มหวานให้นิธินอีกครั้ง แต่ก็เมื่อมองไปยังคนข้าง ๆ ที่มาด้วยก็หลบตาแทบไม่ทัน เมื่อลูกค้าออกจากร้านไป หล่อนจึงพึมพำว่า
“โอ๊ยย พระแม่กาลีมาเองเลย..”
 
 อธิปพงศ์พยายามระงับความไม่พอใจที่เห็นคนอื่นมองแฟนตัวเอง แต่เขาไม่รู้ตัวเองว่าจริง ๆ แล้วเขาเป็นคนที่ขี้หึงระดับนึงเหมือนกัน นิธินรู้สึกได้ว่าคนรักกำลังเก็บอาการอยู่จึงโอบเอวชายหนุ่มแน่นขึ้นเพื่อให้อธิปพงศ์รู้สึกดี
 “คุณ ยังไม่ได้ของถูกใจเหรอ”
“อืม...”
“เดี๋ยวไปดูร้านอื่นกันนะ”
“อืมๆ”
ชายหนุ่มทั้งสองเดินไปดูร้านอื่นสักพัก อธิปพงศ์ก็เจอเสื้อผ้าที่ถูกใจ ชายหนุ่มรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันเพราะไม่เคยสวมใส่เสื้อผ้าแบบอินเดียมาก่อน วันพรุ่งนี้แล้วที่เขาจะได้ลองใส่ไปร่วมงานปีใหม่ของบริษัทนิธินจริง ๆ อธิปพงศ์ตื่นเต้นเล็กน้อยที่จะได้เข้าสัมผัสวัฒนธรรมอินเดียที่เขาเคยผ่านตาแต่ในหนัง แต่ที่มีความสุขกว่านั้นก็เพราะว่าเขาจะได้ไปฉลองปีใหม่กับคนที่เขารักอย่างนิธินนั่นเอง
อธิปพงศ์อยากเห็นนักว่าผู้ชายตัวโตกล้ามใหญ่อย่างนิธิน จะใส่ชุดที่เจ้าตัวเลือกซื้อในวันนี้ออกมาแล้วดูดีแค่ไหน เมื่อกลับถึงห้อง  เขาจึงคุยกับคนรักอย่างตื่นเต้นเล็กน้อย
“ผมไม่เคยใส่เสื้อผ้าแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย”
นิธินยิ้มรับ เพราะเขาก็อยากเห็นคนรักใส่เสื้อผ้าแบบอินเดียเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร จะน่ารักดูดีอย่างที่เขาคาดไว้หรือเปล่า จึงตอบว่า
“ผมก็อยากเห็นเหมือนกันว่าคุณใส่แล้วจะเป็นไง”
“เหรอ คุณว่าผมน่าจะโอเคใช่มั๊ย”
“แน่นอนอยู่แล้ว และคุณล่ะ คิดว่าพรุ่งนี้ผมใส่แล้วเป็นไง”
“ก็คงดูดีอ่ะแหล่ะ” อธิปพงศ์ตอบและเข้าไปกระซิบข้างหู
“แต่ผมว่าไม่ใส่อะไรคงดูดีกว่า”
 เขายิ้มซุกซนให้คนรัก เพียงเท่านั้นนิธินก็รับช่วงต่อทันที
“งั้นเหรอ...”
“อื้ม...”
  อธิปพงศ์พูดได้แค่นั้น เพราะตอนนี้เขากำลังรับจูบร้อนแรงจากคนรักที่โน้มตัวเขามาหาความสุขกันบนสองคน พรุ่งนี้ไม่ว่าคนทั้งสองจะสวมใส่ชุดใหม่ออกมาแล้วดูดีหรือไม่ แต่ตอนนี้พวกเขากลับพึงใจในร่างเปลือยเปล่าที่ร้อนแรงของกันและกันมากกว่า



โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ
 
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 22-02-2012 18:18:05
กรี๊ดๆๆๆๆๆ
หวานกันเข้าปายยย
อิจฉาตาร้อนผ่าวเลยง่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-02-2012 19:39:24
หมูหึงนิธินด้วยอ่ะ หึงบ่อยๆนิธินคงชอบให้หึง :z1:
แต่ยั่วเก่งแบบนี้ นิธินไม่ได้กลับอินเดียตลอดไปก็คราวนี้แหละ :haun4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 22-02-2012 19:51:21
 :กอด1:หวานๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 22-02-2012 19:57:28
พี่หมูขี้หึงน่ะเนี้ย

:impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 22-02-2012 20:00:40
หึ หึ หึ หมูนี่ขี้หึงไม่เบานะ
เก็บชุดออกงานไว้หล่อพรุ่งนี้ วันนี้ทั้งคู่มีชุดที่ดีที่สุดแล้ว คริ คริ คริ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 22-02-2012 20:01:10
หมูขี้หึงอ่ะ น่ารัก ขอหวานๆนานๆนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 22-02-2012 20:14:24
555  ของ ๆ ใคร ของใครก็ หวง เนาะ น้องหมูของเจ๊ แอร๊ย!
ป็อกกี้ อีนางแน่มาก สอนผู้ชาย ให้เป็นรับ  :m20:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 22-02-2012 21:29:27
แหม ข้าวใหม่ปลามันจิงจิ๊ง :pighaun:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 23-02-2012 01:28:04
เค้าตามทันแล้ว  :-[ อิจฉาข้าวใหม่ปลามัน จังเลย หวานกันซะ แต่ขอให้หวานแบบนี้ตลอดไปนะ เค้ายอมเป็นเบาหวานเลยเอ้า  :laugh:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 23-02-2012 01:38:32
เจ้าเเม่ กาลี

แอร๊ยยยยยยยยยย

ระวังอย่าทำตัวเหมือนเเฟนเก่านะคะเธอ คริๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 23-02-2012 05:41:18
ชอบตอนลงเสาที่สุด  :haun4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 23-02-2012 13:39:40
ขอกรี๊ดดดดดดดดดดดดด ก่อน แอร๊ยย ในที่สุดก็ ................ เสียดุลการค้าให้อินตะระเดีย เรียบร้อย ฮิ้ววววว :m25:

แต่ชักจะไม่อยากให้พ่อกับแม่ของนิธินมาเลยอะ กลัวมาแล้วจากกำลังหวานๆ จะดราม่ากันเลยทีเดียว ไม่เอานะ  :serius2:

พี่หมู เริ่มเหวี่ยงเริ่มหึงเริ่มองค์ลงแล้ว 555555555555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 23-02-2012 15:35:48
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
สนุกมากเลยอยากให้หวานตลอดเรื่องจัง
ว่าแล้วก็ชวนเพื่อนไปพาหุรัดเผื่อเจอผู้ชายน่ารักแบบนิธินของคุณหมูบ้าง :-[
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:22/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 23-02-2012 17:36:55
มาแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆคนมากนะคะ  :L2: :pig4:

17
  บรรยากาศงานสังสรรค์ในเทศกาลปีใหม่ของชาวอินเดียที่โรงแรมแห่งนี้เต็มไปด้วยความสนุกสนานคึกคักจากผู้คนที่มาร่วมงานทั้งคนหนุ่มสาวและเด็กๆ ที่เป็นลูกของพนักงาน ที่แต่คนดูสดใสสวยงามด้วยชุดโดที กูรตะ,ซัลวาร์ กูรตะ และส่าหรีสีสันสดใส ใบหน้าทุกคนยิ้มแย้มมีความสุขโดยต่างก็กินดื่มเต้นรำกันไปพอประมาณ นิธินและเพื่อนๆ ก็เช่นกัน ที่งานนี้เอเจมากับภรรยาที่กำลังตังครรภ์ และวิษณุก็พาแฟนสาวมาร่วมงานด้วย แทนไทเห็นอย่างนั้นจึงแกล้งบ่นน้อยใจตัวเอง
"เฮ้อ งานนี้มีแต่คนมากับแฟนกันทั้งนั้น ชั้นก็เป็นหมาหัวเน่าเลยสิเนี่ย"
"เออ แล้วคุณหมูล่ะ มาแน่ใช่มั๊ย" วิษณุถาม
"มาสิ นี่คงกำลังเดินทาง"
ภรรยาของเอเจได้ยินอย่างนั้นก็พูดว่า
"แฟนคุณนิธินจะมาแน่นะคะ อยากเจอจังเลย เห็นเอเจบอกว่าผิวขาวจั๊วะ"
"ใช่ค่ะ เมย์ก็อยากเห็นเหมือนกัน เพราะวิษณุเล่าให้ฟังว่าพวกคุณเหมาะสมกันมากถึงมากที่สุด"
นิธินจึงหันไปมองเพื่อนๆ นี่แสดงว่าไปโม้ให้ที่บ้านฟังหมดเลยใช่ไหม เขาหันไปมองแทนไท เพราะคิดว่าคงไม่โม้ให้ใครฟังเหมือนสองคนนี้
"เออ เนี่ยความจริงไอ้บอสบอกว่าจะมาด้วยนะ แต่พอชั้นบอกว่าคือคุณหมู มันก็เก็ทล่ะ"
 เขามองหน้าทุกคนขำเฝื่อนๆ แสดงว่าเพื่อนๆ ต่างก็ติดตามและรอลุ้นกับความรักของเขาจริงๆ สิเนี่ย
แต่นิธินก็สะดุ้งเมื่อมีโทรศัพท์เข้า เมื่อเห็นว่าเป็นอธิปพงศ์จึงกดรับทันที
"ครับคุณหมู มาถึงรึยัง"
"ตอนนี้อยู่หน้างานแล้วครับ ออกมารับผมหน่อย"
"ครับ"
เมื่อนิธินวางสายวิษณุก็ถามทันที
"ว่าไงวะ"
"ตอนนี้อยู่หน้างานแล้ว เดี๋ยวชั้นไปรับแฟนก่อนนะ"
"เออๆ รีบไป อิอิอิ"
นิธินเดินออกไปรับอธิปพงศ์ที่หน้างาน แต่พอเขาเห็นอธิปพงศ์ในเสื้อผ้าแบบอินเดีย ทำให้ชายหนุ่มตาค้างด้วยความประหลาดใจ
"ว้าวว!" เขามองดูคนรักที่ตอนนี้อยู่ในชุดกูรตะ เสื้อตัวยาวสีขาวและกางเกงผ้าเข้ารูปแบบอินเดียสีกรมท่า ถึงแม้จะเป็นแค่แบบธรรมดาที่ไร้รายละเอียดใดๆ แต่ก็ดูดีมากในสายตาของเขา
"โซ คูล"
เขายกนิ้วให้คนรักที่มองเขาด้วยสายตาที่ชื่นชมเช่นกัน ร่างบึกบึนนั้นดูสง่างามเหมือนเจ้าชายในนิทานเมื่ออยู่ในชุดโดทีกูรตะ นิธินสวมเสื้อตัวยาวสีดำและนุ่งผ้าสีน้ำตาลกาแฟแบบอินเดียแท้ๆ โดยมีผ้าสีน้ำตาลคล้องคออีกเช่นกัน อธิปพงศ์คิดว่าคนรักดูหล่อมากจนเขารู้สึกเขินที่ต้องมองอีกรอบ
"คุณหมู เป็นอะไรครับ" นิธินเห็นคนรักหลบหน้าเลยถาม
"ไม่มีอะไรครับ ไปเถอะ"
"ครับ"
นิธินจูงมืออธิปพงศ์เข้างานทันที เมื่อผ่านประตูเข้าไปอธิปพงศ์ก็สัมผัสบรรยากาศสนุกสนานรื่นเริงที่ไม่ต่างจากหนังอินเดียที่เคยดู แต่ความเป็นอินเดียที่เขาสัมผัสได้มากกว่านั้นคือเสียงเพลงอินเดียที่เปิดคลอในงาน กลิ่นเครื่องเทศเตะจมูกจากอาหารที่จัดเลี้ยง เขามองไปรอบๆ สำรวจโลกใบใหม่ที่เพิ่งพบเจอ ก่อนที่นิธินจะพาเขาไปหาเพื่อนๆ ที่รออยู่ในมุมหนึ่งของงาน
 เพื่อนๆ นิธินมองดูอธิปพงศ์ที่วันนี้แปลกตาแต่ดูดีในเสื้อผ้าแบบอินเดียอย่างตื่นเต้นทุกคนยิ้มให้คนรักของเพื่อนอย่างเป็นมิตร อธิปพงศ์ก็ยิ้มตอบแบบมีไมตรีเช่นกัน
"สวัสดีครับ" อธิปพงศ์เอ่ยปากทักทายทุกคน
"สวัสดีครับ คุณหมู" วิษณุตอบรับ
"พบกันอีกแล้วนะครับ"
"ครับ ยินดีครับ"
เอเจเลยบอกว่า
"ต่อไปนี้เราคงจะได้พบกันบ่อยขึ้น ใช่มั๊ยนิธิน"
นิธินยิ้มเขินๆ เมื่อถูกเพื่อนแซว แต่มองดูไม่เห็นบรรดาแฟนเพื่อน นิธินจึงหันไปถามเอเจ
"แล้วชะเอมกับเมย์ล่ะไปไหน"
"เห็นว่าไปห้องน้ำหน่ะ แต่ชั้นว่าคงไปหาอะไรกินกันต่อมากกว่าว่ะ ช่วงนี้เค้ากินเก่ง ป่านนี้คงหาที่นั่งกินกันสองคนแล้ว"
"อืม ฮ่ะๆๆ"
นิธินจึงบอกกับคนรักว่า
"คุณหมูครับ ไปหาอะไรทานกันก่อน ดีมั๊ยครับ"
"ครับ"
คนทั้งสองเดินมายังส่วนที่จัดเลี้ยงแบบบุปเฟ่ต์อาหารอินเดียที่มีทั้งของว่างกินเล่นอย่าง ซาโมซ่า ปูรี(แป้งทอดข้างในกลวงๆ กรอบ ๆ กินกับน้ำจิ้ม)และ ปาปัด(แป้งกรอบคล้าย ๆ ข้าวเกรียบ) อาหารจานหลักอย่างโรตีที่มีทั้งเปล่า ๆกับใส้ถั่วกวนรสหวานสไตล์รัฐคุชราช เมนูข้าวอย่างข้าวหมกไก่แบบฮินดูและข้าวสวยที่หุงด้วยยี่หร่า  แกงชีส (ปะนีร์),ชีสผัดผักโขม, แกงแพะ, เครื่องเคียงต่าง ๆ จำพวกมันบด ผักสด ผักดองและโยเกริ์ต  และอาหารที่อธิปพงศ์เคยกินอย่างนานและแกงถั่ว ทันดูรี โดยจะมีชุดถ้วยเล็ก ๆ พร้อมถาดสำหรับทำเป็นชุดอาหาร (Thali -ถาลี)ไว้ให้ผู้ร่วมงานได้เลือกตักได้ตามใจชอบ รวมทั้งขนมหวานอย่าง กุหลาบยามุนสีเหลืองทองที่แปลกตาคนไทยอย่างเขาเพราะปิดหน้าด้วยแผ่นเงินเปลว ลัดดูก้อนกลมสีเหลืองอ่อน และราสมาลัยที่มองเผิน ๆ ก็คล้ายไวท์ช็อกโกแลต
  อธิปพงศ์ตื่นตากับบรรดาอาหารตรงหน้าเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาจะไม่เคยกินมาก่อน แต่เท่าที่สำรวจด้วยตาแล้ว ก็มีอะไรน่าสนใจอยู่หลายเมนูเช่นกัน นิธินหยิบภาชนะสำหรับจัดเป็นถาลีพร้อมกับมองดูคนรักที่กำลังมองดูอาหารตรงหน้าอย่างแปลกใจ
“กินอะไรดีครับ”
อธิปพงศ์หันมาตอบคนรัก “อืม ไม่รู้อ่ะ ยังเลือกไม่ถูกเลย”
“อืม งั้น อย่างแรกก็ต้องโรตี” นิธินหยิบโรตีมาอย่างละสองแผ่นไว้ตรงกลาง
“นี่ ข้าว..” อธิปพงศ์พยักหน้า เห็นด้วย จึงตักมาแค่พอกินโดยวางไว้ข้างๆ โรตี นิธินชี้ไปที่แกงถั่วบ้าง
“อันนี้ คุณเคยกินแล้ว กินมั๊ย” อธิปพงศ์พยักหน้าตอบเช่นเคย เขาจึงตักมาใส่ถ้วย อธิปพงศ์ไม่อยากให้คนรักเลือกแต่ของที่เขาเคยกินจึงบอกว่า
“คุณอยากกินอะไรก็ตักมาเลย ผมกินด้วยทั้งนั้น”
“ครับ”
   นิธินยิ้มรับและตักแกงชีส มันบด โยเกิร์ตใส่ในถ้วย เขาไม่ลืมหยิบผ้าร้อนมาด้วย ก่อนจะพาคนรักไปนั่งกินที่มุมหนึ่งของงาน แต่อธิปพงศ์สังเกตว่าทุกคนในงานนั่งขัดสมาธิรับประทานอาหารกับพื้นหมด จึงถามคนรักซื่อ ๆ ว่า
“แล้ว เค้าไม่มีโต๊ะให้เหรอ”
นิธินยิ้มน้อย ๆ และบอกว่า “คือ ปกติแล้วคนอินเดียแล้วคุ้นเคยกับการนั่งพิ้นมากกว่าหน่ะครับ การนั่งกินอาหารบนพื้นนี่คือการกินแบบอินเดียจริง ๆ”
อธิปพงศ์แอบรู้สึกผิดเล็กน้อยที่พูดอย่างนั้น
“อ่าวเหรอ...ผม ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ”
“แล้ว ซ้อนส้อมล่ะ”
“ผมลืมบอกไปว่าส่วนใหญ่พวกเราใช้มือนะครับ”
“มือเหรอ”
“อ่ะนี่ครับ” นิธินยื่นผ้าร้อนที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ “เช็ดมือนะครับ”
“แล้วใช้มือไหนกินอ่ะ”
“Right hand ครับ”
“อืมครับ”
นิธินเช็ดมือและกินให้ดูเป็นตัวอย่าง เขาค่อยใช้ข้อนิ้วประคองข้าวเข้าปากอย่างช่ำชอง แต่อธิปพงศ์เห็นว่ามันยากไป เลยฉีกแต่โรตีมาจิ้มแกงเฉย ๆ นิธินจึงใช้มือตักข้าวอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาลองป้อนใส่ปากคนรักดูบ้าง
“ลองชิมข้าวดู”
"อืม"
อธิปพงศ์อ้าปากรับการป้อนจากคนรัก และลองชิมทุกอย่างตามที่นิธินตักมา เขาพบว่า นอกจากอาหารที่เขาเคยกินแล้ว เมนูข้าว และแกงชีส ก็ถือว่าไม่เลวสำหรับเขา แต่ที่เขาทำใจลำบากจริง ๆ ก็คงจะเป็นโยเกริ์ตที่เปรี้ยวเกินกว่าที่คาดไว้ นิธินที่ลุกไปหยิบเครื่องดื่มก็มาถึงพร้อมยื่นแก้วชานมให้
“นี่เรียกว่า จัย เป็นชาแบบอินเดีย อร่อยนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
  เขารับมาดื่มและค่อย ๆ รับรสชาติของชาอินเดียแท้ ๆ ที่นมข้นหวานใส่เครื่องเทศอ่อน ๆ  รสชาติแปลกลิ้นแต่ทว่าไม่สามารถอดใจที่จะดื่มต่อได้
“อร่อยอ่ะ แปลกดี”
“อืม” นิธินยิ้มๆ ดีใจเวลาเห็นอธิปพงศ์ชอบอะไรที่เป็นอินเดีย รวมทั้งคนอินเดียอย่างเขาด้วย
   ไม่ทันได้กินต่อ เพื่อน ๆ ทั้งสามและแฟนสาวที่อยากเจอพวกเขามานานก็เข้ามาทักทาย
“นิธิน มาอยู่นี่นี่เอง” วิษณุว่าให้และแนะนำตัวแฟนทันที“คุณหมู ครับ นี่เมย์ ว่าที่เจ้าสาวของผม”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
เอเจแนะนำบ้าง “และนี่ ชะเอม ภรรยาผมคร๊าบบ”
“สวัสดีค่ะ”
“สวัสดีครับ”
อธิปพงศ์ยิ้มรับบรรดาแฟนเพื่อนของนิธิน รวมทั้งประหลาดใจเล็กน้อย นี่พวกเขามีคู่ชีวิตเป็นคนไทยหมดเลยเหรอเนี่ย
“นี่ที่รัก เค้าเชิญคุณหมูมางานแต่งเราด้วยน้า” วิษณุหันไปบอกแฟน ทำให้อธิปพงศ์ตกใจเมื่อได้ยินสำนวนการอ้อนแบบคนไทยของชาวอินเดียตรงหน้า
“ดีค่ะ” เธอตอบรับและหันมาพูดกับอธิปพงศ์ “มาให้ได้นะคะ”
“ครับ”
 พวกเขาพูดคุยกันอย่างสนุกสนานสักพัก และเวลาสนุกของคนทั้งงานก็มาถึง เมื่อดีเจเริ่มเปิดเพลงอินเดียจังหวะเต้นรำ ทำให้คนเกือบทั้งงานออกไปรวมตัวกันที่กลางฟอร์พร้อมกันอย่างอัตโนมัติ  ทุกคนเต้นเข้าจังหวะกันสวยงามพร้อมเพรียงเหมือนดอกไม้สีสดที่กำลังเริงร่ารับสายลม อธิปพงศ์ที่นั่งอยู่กับนิธินและสองสาวแฟนเพื่อนตื่นตาตื่นใจกับภาพที่เห็นเป็นอย่างมาก
“คุณไม่ไปเต้นกับเค้าเหรอ” เขาถามคนรักเพราะนี่คือเวลาสนุกสนานของงานที่ไม่ควรพลาด
“ผมไม่อยากทิ้งคุณให้นั่งคนเดียว”
“โธ่..คิดมากน่า ไปนู่นไป เพื่อน ๆ คุณเรียกแล้ว”
เขามองไปยังกลุ่มเพื่อนที่กำลังเต้นพร้อมกวักมือเรียกให้มาเร็ว ๆ แล้วก็ลังเล
“ไปเถอะ...”
“แล้ว คุณไม่ลองไปเต้นกับผมบ้างเหรอ”
“จะดีเหรอ ผมเต้นไม่เป็นนะ นั่งดูดีกว่า”
ชะเอมเลยบอกกับนิธินว่า “ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวเอมกับเมย์ดูแลให้”
“ขอบคุณครับ”
  นิธินรับคำและเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่กำลังเต้นรำอยู่กลางงาน เขามองตามคนรักยิ้ม ๆ ถึงแม้ในงานนี้จะมีคนมากมาย แต่อธิปพงศ์ก็รู้สึกว่า เขาเห็นแค่คนรักที่โดดเด่นอยู่ท่ามกลางคนเหล่านั้น ยิ่งเห็นตอนที่นิธินเต้นรำตามจังหวะเพลงอินเดียอย่างนี้ก็ทำให้เขารู้สึกว่าชายหนุ่มดูดีตามแบบฉบับคนอินเดียจริง ๆ เข้าไปใหญ่
  เมย์และชะเอมชวนอธิปพงศ์พูดคุยอย่างเป็นมิตร และคิดว่าแฟนนิธินคนนี้ช่างเหมาะสมดูดีเข้ากันกับนิธินเป็นอย่างมากอย่างที่วิษณุและเอเจเลยเล่า แต่ก็คุยกันได้ไม่นาน ๆ บรรดาคนรักก็วิ่งมาจากฟอร์เต้นรำเพื่อชักจูงไปเต้นรำด้วย เพราะเพลงนี้เป็นเพลงที่คนทั้งหมดขอมอบเวทีให้คนมีคู่มาเต้นกัน



    อธิปพงศ์ที่ไม่ค่อยสันทัดกับการเต้นรำสังเกตดูคนรอบข้างว่าออกสเต็ปกันอย่างไร แต่ก็เห็นว่าเป็นแนวตามสบายจึงพยายามเต้นตามจังหวะ เขาพลางมองคนรักที่ส่งสายตาให้กำลังใจมายังเขาแล้วก็มั่นใจขึ้น นิธินจับมือเข้าเต้นไปด้วยกันตามจังหวะเพลง พร้อมจับอธิปพงศ์หมุนตัวก่อนที่จะมาพักไว้ที่อก ก่อนจะเต้นกันต่ออย่างสนุกสนาน อธิปพงที่เขินอายในตอนแรก ก็กล้าออกสเต็ปมากขึ้นด้วยความสนุกสนาน นิธินเองเห็นคนรักสนุกกับงานเลี้ยงในคืนนี้ก็ดีใจ และพวกเขาก็เต้นกันต่อไปอีกสักพักและอยู่ร่วมงานนี้ถึงเวลาเลิกรา

  “โอ๊ยย...เต้นแบบนี้เหนื่อยไม่น้อยนะเนี่ย” อธิปพงศ์ทิ้งตัวลงนั่งกับที่นอนทันทีที่ถึงห้องพักของคนรัก
“สนุกมั๊ยล่ะ”
“สนุกสิ” เขายิ้มรับ ขณะที่นิธินก็อมยิ้มปลื้ม ๆ และถอดเสื้อตัวบนออก เหลือแค่ช่วงล่างที่นุ่งคล้ายโจงกระเบนแต่มีทิ้งลอยชายข้างหน้า อธิปพงศ์คิดว่าคนรักดูเซ็กซี่มากเมื่ออยู่ในผ้านุ่งแบบนี้ เขารีบบอกกับนิธินที่กำลังจะปลดเปลื้องช่วงล่างว่า
“อย่าเพิ่งถอดได้มั๊ย”
นิธินหันมามองคนรักที่ส่งสายตาพึงใจให้ จึงเข้ามาหา
“ทำไมล่ะ”
“ไว้อย่างนี้แหล่ะ เซ็กซี่ดี”
“หึหึ” นิธินหัวเราะในลำคออย่างพึงใจ ก่อนจะบอกว่า
“งั้นก็ถอดให้ผมหน่อยสิ”
  อธิปพงศ์ยิ้มซุกซนรับคำ มันแน่อยู่แล้วที่เขาจะต้องถอดให้ เขาค่อย ๆ เปลื้องผ้านุ่งร่างใหญ่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าช้า ๆ เมื่อผ้านุ่งสีกาแฟลงไปกองกับพิ้นก็พบแต่ปราการด่านสุดท้ายที่รออยู่ นิธินจึงปราดเข้าไปประชิดใบหน้าคนรักที่นั่งบนเตียง และถามล้อ ๆ ว่า
“ไหนว่าเหนื่อยไง”
“แต่ตอนนี้ไม่ล่ะ” อธิปพงศ์ตอบยั่วยิ้ม และครางออกมาอยากพึงใจเมื่อคนรักลูบไล้เม็ดถันผ่านเสื้อเนื้อบางเบา เขาทิ้งตัวลงกับเตียงนอนและรอรับความสุขที่นิธินมอบให้โดยไม่รู้หน่าย

 และวันที่นิธินรอคอยก็มาถึง เมื่อพ่อกับแม่และพี่ชายเดินทางจากมุมไบเพื่อมาเยี่ยม เขานึกดีใจที่จะได้เจอพ่อกับแม่ แต่ก็หวั่นใจว่าจะเข้ากันได้หรือไม่ มีเรื่องราวมากมายที่เขาอยากเล่าให้พวกท่านฟัง แต่ก็ไม่รู้ว่าพวกท่านจะสนใจลูกอย่างเขาหรือเปล่า เขานึกหวั่นใจว่าพ่อแม่จะเย็นชาใส่เขาเหมือนทุกคราวที่เจอกัน
ชายหนุ่มนั่งรอครอบครัวที่ผู้โดยสารขาเข้าสักพัก ก็เห็นคนทั้งสามเดินมา เขาเห็นว่าคนที่แจ่มใสกว่าใครทั้งหมดคือดารามดัสที่หวังว่านิธินและพ่อกับแม่จะเข้าใจกันมากขึ้นเสียที
“นิธินน” พี่ชายเขายิ้มร่ามาก่อน ตามมาด้วยพ่อกับแม่ที่พยายามเก็บอาการดีใจที่ได้เห็นลูกชายคนเล็ก
นิธินยิ้มบาง ๆ ให้ครอบครัว และเข้าไปหา เขาก้มลงไปสัมผัสเท้าพ่อกับแม่ด้วยความคิดถึงและลุกขึ้นมามองหน้าคนทั้งสองที่เหมือนจะมีน้ำตาที่เจอหน้าลูก เขานิ่งอึ้งมองพ่อกับแม่ตัวเองสักพัก ก่อนที่ผู้ให้กำเนิดทั้งสองจะรวบตัวลูกชายเข้ามาสวมกอดทันทีด้วยความคิดถึง
“ฮือ ๆๆ ลูกแม่...” คนเป็นแม่ร้องไห้หนักเมื่อได้กอดลูก เธอดีใจเหลือเกินที่ได้เห็นลูกชายคนเล็กดูมีความสุขอย่างนี้ ส่วนคนเป็นพ่อได้แต่กอดลูกไว้เพื่อจะบอกว่าเขารักนิธินมากเพียงใด และอยากจะขอโทษลูกกับความเย็นชาที่ผ่านมา
 ดารามดัสมองภาพที่เห็นตรงหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างมีความสุข นานแล้วที่เขาไม่เห็นพ่อกับแม่กอดนิธินอย่างนี้ เขาดีใจที่พ่อกับแม่ตัวเองจะกล้ายอมรับสิ่งที่ลูกเป็นด้วยความรักของผู้ให้กำเนิดอย่างแท้จริง

  นิธินพาครอบครัวไปเช็กอินในโรงแรมแถวที่พักของเขา และเมื่อไปส่งพ่อกับแม่ที่ห้องพักเขาก็ขอตัวเพื่อกลับไปทำงานต่อ ถึงแม้พ่อกับแม่จะมีท่าที่ที่อ่อนลงกว่าแต่ก่อนแล้ว แต่นิธินกับพ่อแม่ก็ยังอยู่ในสภาวะสุญญากาศดั่งเดิม แต่คนเป็นแม่เรียกเอาไว้
“เดี๋ยว ลูก...”
“ลูก เอ่อ..ลูกเลิกงานกี่โมง”
“ประมาณ ห้าโมงครึ่งครับ”
“เอ่อ..เย็นนี้พาพ่อกับแม่ไปเที่ยวนะลูก”
“ครับ”
“เอ่อ แล้ว พาแฟนลูกมาให้พ่อกับแม่รู้จักด้วยนะจ๊ะ”
“ครับ”
นิธินรับคำยิ้ม ๆ และเดินไป ส่วนพ่อกับแม่ก็ได้แต่ถอนใจอย่างโล่งอกให้ความกล้าที่จะละลายกำแพงในใจของตัวเองมากขึ้น เพราะคนทั้งคู่ตระหนักดีแล้วว่าลูกคือสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พวกเขาจะพยายามทำใจยอมรับสิ่งที่นิธินเป็นให้ได้


โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ
     
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-02-2012 17:50:46
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 23-02-2012 18:52:32
รายงานตัวว่าอ่านแล้วนะคะ รอลุ้นตุ้มๆต่อมๆ กลัวมาม่าจะมาเยือน 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 23-02-2012 18:58:35
ลูกสะใภ้จะผ่านด่านพ่อแม่สามีได้มั้ย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 23-02-2012 19:14:38
ลูกจะเป็นอะไร

พ่อแม่ก็ยังรักเสมอ
:กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-02-2012 19:36:42
อะไรๆก็เริ่มดีขึ้น....ใช่มั้ย?
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 23-02-2012 20:04:51
อืม กลัว มาม่า จริงๆด้วยค่ะงานนี้

เเต่หวังว่าคงไม่มีอะไร เอาใจช่วยทั้งสองเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 23-02-2012 21:32:38
ยินดีด้วย มีความสุขแล้ว แอบลุ้นตอนหน้า
อ่านแล้วอยากกินนาน กุ้งมาซาล่า
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-02-2012 22:10:26
ิอิ อิ แอบจิ้นภาพความเซ็กซี่ของนิธินตามที่หมูพูดแหละ
รอลุ้นค่ะ ลุ้นให้พ่อแม่ของนิธินยอมรับสะใภ้ชายไทย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 23-02-2012 22:58:36
คนเขียนข้อมูลแน่นมากค่ะ ได้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอินเดียเยอะเลย
เป็นคนอินเดียหรือว่ามีแฟนเป็นคนอินเดียรึป่าวคะ :laugh: (ล้อเล่นน้า~)

ตอนหน้าหมูจะได้เจอคุณพ่อคุณแม่ของนิธินแล้ว
จะผ่านด่านมั้ยน้า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 24-02-2012 05:20:47
พ่อกับแม่จะขัดขวางรึเปล่านะ !!  หมูสู้ๆ  :sad4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 24-02-2012 12:09:32
เย้ๆๆๆ ขอให้มีแต่ความสุขนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 14:21:23
มาลงรูปประกอบก่อนค่ะ อันนี้เป็นเครื่องแต่งกายที่คนเขียนพูดถึงในฉากงานเลี้ยงนะคะ เริ่มต้นที่ชุดกูรตะค่ะ
  ถ้าพูดถึงการแต่งกายของชาวอินเดีย คนเขียนเชื่อว่าผู้อ่านหลายท่านคงจะนึกถึงส่าหรีที่ผู้หญิงอินเดียสวมใส่กันเป็นอย่างแรกเลยใช่มั๊ยคะ ถ้าส่าหรีคือชุดของผู้หญิง กูรตะ(Kurta)ก็คือชุดประจำชาติของผู้ชายอินเดียค่ะ กูรตะมีหลายแบบนะคะ มาดูกันคร่าว ๆ ดีกว่าว่ามีอะไรแบบไหนบ้าง

อย่างแรกค่ะ เป็นชุดกูรตะทั่ว ๆ ไป เป็นเสื้อตัวยาวกับกางเกงผ้า แต่สมัยนี้มีการประยุกต์ให้เข้ารูปขึ้นคล้าย ๆ กางเกงขาเดฟค่ะ


(http://image.ohozaa.com/i/e32/jsFbd2.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnvJO78gsFfhHt6)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 14:32:02
อันที่สองนี้เป็นกูรตะแบบเต็มยศหรือ โดที กูรตะ (อย่างที่นิธินใส่ในเรื่องค่ะ) เป็นชุดที่ผู้ชายอินเดียต้องมีไว้สำหรับใส่ออกงาน และเป็นแบบฟอร์มของชุดเจ้าบ่าวอินเดียด้วยค่ะ

(http://image.ohozaa.com/i/acd/vbWrbF.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnvJs8rYVYqoctG)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 14:43:15
มาดูทางฝั่งผู้หญิงบ้างนะคะ ยังมีกูรตะอีกแบบคือ ซัลวาร์ กูรตะ (Salwar Kurta)ที่หนึ่งชุดจะต้องมีสามอย่างคือ เสื้อตัวยาว(Kurta kameez,กางเกง(Salwar)และผ้าพันคอ(Dupatta) ชุดซัลวาร์ กูรตะนี้เป็นชุดที่ได้รับความนิยมในรัฐปัญจาบ(ที่อยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย)และชาวอินเดียทั่วไปๆไป เพราะสวมใส่สบาย คล่องตัวและสวยงามค่ะ

 
(http://image.ohozaa.com/i/5a7/wFiqLD.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnvKa5Oy3Tm5U8o)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 14:57:12
สุดท้าย มาที่ชุดประจำชาติที่สวยและมีเสน่ห์มาก(ในสายตาคนเขียน)อย่างส่าหรีค่ะ ความจริงส่าหรีมีหลายสไตล์ตามภูมิภาคของอินเดีย แต่ที่สามใส่ในชีวิตประจำวันเรียกว่า Nivi style
(http://image.ohozaa.com/i/afc/rsOjTd.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnJrbbbGisVYpos)


(http://image.ohozaa.com/i/58f/lD9vOw.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnJqPcvoLVupoNa)

(http://image.ohozaa.com/i/4e8/OI6Lx5.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnvJs8rYWhb3bfW)

โดยส่วนตัวชอบสไตล์การห่มส่าหรีของดาราคนนี้มากค่ะ Vidya Balan เพราะเธอมีรูปร่างไม่เหมือนดาราสาวบอลลีวูดทั่วๆไปที่สูงโปร่งหุ่นดี(หมายถึงมีหน้าอกมีสะโพกชัดเจนนะคะ) แต่เธอมีสัดส่วนที่สวยงามในความสูงสมส่วนของเธอและก็รู้จักมิกซ์แอนด์แมชเสื้อตัวในกับผ้าส่าหรีได้ลงตัว (ถ้าบ้านเราเรียกว่าเธอเป็นคนที่แต่งตัวแนวมาก ลองดูเองนะคะ)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 15:37:07
มาดูอาหารกันบ้างค่ะ มีแต่ชื่อแปลกหูทั้งนั้น มาดูกันบ้างว่าที่มีชื่อเฉพาะในเรื่องมีอะไรบ้าง

อันนี้ เรียงจากซ้ายไปขวาคือ แกงชีส(Paneer) นาน(แผ่นโรตีย่างในโอ่ง)หัวหอมแดงเป็นผักแกล้มตัดรสเลี่ยน และแกงกะหรี่ไข่ค่ะ


(http://image.ohozaa.com/i/e82/eNwp1z.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnVxEaXZ7Mp60yA)


ส่วนอันนี้คืออาหารชุดใส่ถาด หรือ ถาลี(Thali)

(http://image.ohozaa.com/i/45c/lFLNoe.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnVym8kyhTi5ORa)

อันนี้ของว่างที่เรียกว่าปูรีค่ะ

(http://image.ohozaa.com/i/726/wfAOm3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnVyI70PS8sfPZC)

มาดูของหวานกันบ้าง อย่างแรกคือ กุหลาบยามุน ที่เรียกว่ากุหลาบยามุนเพราะใส่น้ำกุหลาบลงไปด้วยนะคะ แต่อันนี้ไม่ได้ปิดหน้าด้วยแผ่นเงินเปลว

(http://image.ohozaa.com/i/413/Eol7b3.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnVzq4np3x2yOBi)


อันนี้ลาดูค่ะ (สำหรับใช้ถวายองค์พระพิคเณศวร์)

(http://image.ohozaa.com/i/bb9/APsHof.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnVwAeV8ofVfSgg)

สุดท้าย ราสมาลัยค่ะ

(http://image.ohozaa.com/i/3f8/Gz2ajC.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vUnVzM33GC745rsk)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 24-02-2012 16:42:56
+1 ให้ค่ะ เรื่องสนุก ข้อมูลแน่น ตอนนี้ติดหนึบเลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-02-2012 16:46:09
 o13น่ากิน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 17:42:12
นิยายมาแล้วค่า ขอบคุณมาก ๆๆ นะคะทุกคน

18



"ฮัลโหล คุณหมูครับ ทำอะไรอยู่ ยุ่งรึเปล่า" นิธินกดโทรศัพท์หาคนรักทันทีที่เลิกงาน
"คุยได้ครับ มีไรเหรอ แล้วไปรับครอบครัวคุณมาแล้วใช่มั๊ย"
"ครับ" นิธินตอบรับสั้นๆ แต่อธิปพงศ์สัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนรักจึงถามอย่างเป็นห่วงว่า
"คุณ โอเคมั๊ย"
นิธินจึงตอบไปตามตรง
"ก็ รู้สึกแปลกๆ หน่ะ"
"แล้วคุณพ่อคุณแม่คุณเค้าเป็นยังไงมั่ง เค้าโอเคกับคุณมั๊ย"
"ก็โอเคนะ" ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
"ทำไม เป็นอะไรไปที่รัก"
นิธินที่กำลังกลุ้มใจเรื่องท่าทีของพ่อกับแม่ของเขากับอธิปพงศ์ก็ถึงกับยิ้มออก เมื่อได้ยินอีกฝ่ายเรียกเขาอย่างนั้น
ตั้งแต่ตกลงปลงใจใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมา นี่เป็นครั้งแรกที่อธิปพงศ์เรียกเขาว่าที่รัก
"ก็ พ่อกับแม่ผม เค้าบอกว่าอยากเจอคุณ"
"อ่าว เหรอ" อธิปพงศ์ที่ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ
"ผม กลัว เค้าจะทำกับคุณเหมือนที่เคยทำกับผมหน่ะสิ"
อธิปพงศ์เข้าใจทันทีว่านิธินหมายถึงอะไร จึงปลอบใจคนรักว่า
"ไม่หรอก ถ้าเค้าโอเคกับคุณแล้วก็น่าจะโอเคกับผมด้วย ว่ามะ"
"อืมๆ"
นิธินค่อยยิ้มออกเมื่อได้คุยกับคนรัก
"อืม แล้วจะให้ผมไปเจอตอนไหน"
"ก็ ผมขอพาพ่อกับแม่เดินเที่ยวแถวนี้ก่อน และเดี๋ยวเลิกงานคุณมาหาผมที่โรงแรม The Park นะ เดี๋ยวผมออกไปรับ อ้อ เดี๋ยวเพื่อนๆผมก็จะไปด้วยนะ คุณไม่ต้องห่วง"
"อื้มม เข้าใจแล้วครับ" อธิปพงศ์รับคำด้วยรอยยิ้ม
นิธินบอกกับคนรักก่อนวางว่า
"เจอกันตอนเย็นนะครับที่รัก"
"ครับ"
 อธิปพงศ์วางสายไปพร้อมรอยยิ้ม ท่ามกลางสายตาสอดรู้ของป๊อกกี้ ที่กำลังทำผมให้ลูกค้า
"นังป๊อก ทำให้ดีๆๆๆ" พี่กุ้งรีบปรามเมื่อเห็นลูกน้องไม่มีสมาธิกับงาน
"แหมคุณแม่ หนูก็อยากรู้บ้างอะไรบ้าง"
"แกจะไปอยากรู้ทำไม ไปๆ ทำงานของแกต่อ"
"ค่ะๆ"
 อธิปพงศ์มองรุ่นน้องขำๆ ป๊อกกี้เลยถามต่อ
"อะไรคะคุณพี่ อารมณ์ดีเชียะ เฮ้อ..อิจฉาคนมีสามี"
เพียงประโยคนั้นหลุดปากป๊อกกี้ไป เท่านั้นเองอธิปพงศ์จึงถูกลูกค้าทั้งร้านมองด้วยความตกตะลึงกับข้อมูลใหม่ที่เพิ่งรับรู้ ว่าช่างผมรูปหล่อคนนี้ไปอีกคนเสียแล้ว
"เอ่อ.." ป๊อกกี้แทบอยากจะดำดินหายตัวไปตรงนั้น เมื่อเห็นสายตาคาดโทษของพี่กุ้งมองมา แต่อธิปพงศ์เองกลับยิ้ม ไม่ถือสาใดๆ
"ก็อารมณ์ดีซี่ เพราะพ่อแม่แฟนพี่มาเยี่ยมหนิ นี่คงมาดูตัวและยกสินสอดมาขอพี่แน่ ๆ หึหึหึ"
"เอ่อ ค่ะ แฮ่ะๆๆๆ" ป๊อกกี้หัวเราะแห้งๆ พยายามให้บรรยากาศดีขึ้น ส่วนพี่กุ้งก็ยิ้มให้กับอธิปพงศ์ที่รู้จักทำเรื่องเครียดให้สดใสได้ เขาคิดว่ารุ่นน้องมองโลกในแง่ดีมากขึ้นตั้งแต่คบหากับนิธิน
พี่กุ้งเชื่อแล้วว่า ความรักไม่ได้ทำให้โลกกลายเป็นสีชมพูอย่างเดียว แต่ความรักยังทำให้คนมองโลกอย่างมีสีสันมากขึ้นด้วย

  นิธินพาพ่อแม่และพี่ชายไปเดินเที่ยวชมรอบๆ ที่พักของพวกเขาและไนท์บาร์ซ่า โดยมีเอเจ วิษณุและแทนไทไปด้วย ก่อนที่จะกลับมารับประทานอาหารเย็นด้วยกันที่ห้องอาหารในโรงแรม นิธินสังเกตุว่าพ่อกับแม่เขามีท่าทีผ่อนคลายกว่าแต่ก่อนและดูพอใจในกลุ่มเพื่อนเขามาก ดารามดัสเลยถามน้องชายตัวเองว่า
"เออ นิธิน แล้วนี่แฟนแกยังไม่เลิกงานเหรอ"
นิธินก้มลงดูนาฬิกาข้อมือและให้คำตอบ
"ตอนนี้เลิกแล้ว เดี๋ยวก็คงมา"
คนเป็นแม่ถามขึ้น
"แล้ว แฟนลูกเค้าทำงานอะไรเหรอ"
"เค้าเป็นช่างตัดผมหน่ะครับ"
"อ่าเหรอ.."
คนเป็นพ่อถามเรียบๆ
"ได้ยินว่าเค้าเป็นคนไทยใช่มั๊ย"
"ครับ"
นิธินตอบรับแค่นั้นทั้งโต๊ะก็อยู่ในความเงียบ ดารามดัสกลัวว่าบรรยากาศจะเสียเลยทำเป็นสนุกสนานถามเพื่อนๆ ของน้องตัวเองว่า
“แล้ว พวกเราเคยเจอเค้ารึยัง เป็นไงมั่ง”
“โหย เค้าเป็นคนมีอัธยาศัยดีมากเลยครับพี่ ผมเจอเค้าหลายครั้งแล้ว เค้าก็โอเคครับ นิสัยดี และก็รักนิธินมากด้วย” เอเจพยายามเรียบเรียงคำพูดให้พ่อแม่ของเพื่อนเข้าหูมากที่สุด แต่เหมือนพวกท่านทั้งคู่จะยังไม่สนใจกับสิ่งที่เขาบอก
“เหรอ...”
“ใช่ครับพี่ ผมว่าเค้าเป็นคนจิตใจดีอีกคนเลยนะ” วิษณุสนับสนุน แต่พวกเขาก็เจื่อนลงอีกครั้งเมื่อไม่มีปฎิกริยาใด ๆ จากพ่อกับแม่
“เอ่อ พี่ว่า สั่งอะไรมากินก่อน..นะ” ดารามดัสเห็นว่าตันแล้วจริง ๆ เลยสั่งอาหาร เผื่อบรรยากาศจะดีขึ้นมาบ้าง ไม่มากก็น้อย
นิธินมองไปที่พ่อกับแม่แล้วก็หนักใจ ถึงแม้พวกท่านจะไม่เย็นชากับเขาเหมือนก่อนแล้ว แต่ก็ยังมึนตึงกับการพบกันของคนรักของลูกในครั้งนี้ เขาจึงบอกว่า
“เดี๋ยวผมมานะ”
  นิธินลุกจากโต๊ะและเดินไปยังล็อบบี้ของโรงแรม พอเขาจะนั่งบนโซฟาก็พบว่าอธิปพงศ์กำลังเดินเข้ามาข้างใน  นิธินจึงเข้าไปหาคนรักที่ส่งยิ้มมาให้ทันที
 เพียงอธิปพงศ์เจอหน้าคนรักเขาก็สัมผัสได้เลยว่านิธินกำลังมีเรื่องกลัดกลุ้มอยู่ข้างใน ชายหนุ่มยิ้มให้ชวนนิธินมานั่งที่โซฟาใกล้ ๆ ก่อน
  “คุณพ่อคุณแม่คุณอยู่ข้างในใช่มั๊ย”
นิธินพยักหน้า เขาพยายามยิ้มบาง ๆ ให้คนรักสบายใจแต่แววตานั้นก็บ่งบอกว่าเขานั้นลำบากใจเป็นอย่างมาก อธิปพงศ์จึงกุมมือเขาทั้งสองข้างเพื่อและมองหน้าชายหนุ่มให้กำลังใจ ก่อนที่ชวนนิธินเข้าข้างในด้วยกัน
“ไปกันเถอะครับ”
นิธินยิ้มให้ก่อนจะเดินจับมือกันเข้าไปในห้องอาหาร นิธินเดินนำหน้าคนรักมายังมุมที่ครอบครัวเขานั่งอยู่ พอมาถึง อธิปพงศ์ก็ตกเป็นเป้าสายตาของทุกคนในโต๊ะทันที
“พ่อครับ แม่ครับ พี่ครับ นี่ อธิปพงศ์ แฟนผมครับ” นิธินแนะนำคนรักให้ครอบครัวรู้จัก อธิปพงศ์ยกมือไหว้พ่อกับแม่และพี่ชายคนรักทันที
พ่อกับแม่เขาพยักหน้ารับรู้เบา ๆ นิธินจึงพาอธิปพงศ์มานั่งข้าง ๆ
ดารามดัสบอกกับอธิปพงศ์ว่า
“I’ve heard about you for manytime, nice to meet you here”
“Thank you”
วิษณุถามแฟนเพื่อนบ้าง
“วันนี้เป็นไงมั่งครับคุณหมู คงยุ่งทั้งวันเลยล่ะสิ”
“ครับ วันนี้ก็โอเค ลูกค้ามาเรื่อย ๆ”
  บทสนทนาหมดลงเพียงแค่นั้น ทั้งโต๊ะกลับสู่สุญญากาศอีกครั้งเพราะไม่มีใครกล้าที่จะหยิบยกอะไรมาฝ่าท่าทีนิ่งเฉยเย็นชาของพ่อกับแม่นิธินได้  อธิปพงศ์และทุกคนจึงได้แต่กินอาหารตรงหน้าเงียบ ๆ แต่เขากับนิธินก็ยังไม่ละเลยที่จะใส่ใจกันตามปกติ ทั้งตักอาหารให้กัน ดูแลกันและกันเล็ก ๆน้อย ๆ
ขณะที่พ่อกับแม่นิธินมองอธิปพงศ์อย่างเก็บรายละเอียดและมองอธิปพงศ์ไม่วางตาไม่ว่าจะทำอะไร ส่วนนิธินก็ลอบมองพ่อกับแม่เป็นระยะ ๆ เช่นกัน
 “เอ่อ แล้วนี่พี่จะมาอยู่กันกี่วันล่ะ” นิธินนึกขึ้นได้จึงถามพี่ชายตัวเอง
“ก็ สักสามวันหน่ะ”
“เหรอ...” นิธินพูดต่อ “แย่จังที่ไม่ได้มาวันหยุด ผมก็ไปดูแลพี่ไม่ได้ล่ะซิ”
“เฮ้ย ๆ ไม่เป็นไร ชั้นซื้อโปรแกรมทัวร์เรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง”
“อืม ก็ดีแล้ว จะได้พาพ่อกับแม่ไปเที่ยว”
“ใช่ ๆ เห็นว่าจะไปพัทยาหล่ะ”
“อืม เหรอ ดีนะ ผมอยู่ที่นี่มานานแล้วผมยังไม่เคยไปไหนเลย”
“อ่าว เหรอ มีแฟนเป็นคนไทยทั้งทีเนี่ยนะ”
“อืม ต่างคนต่างก็ทำงานหน่ะ”
ดารามดัสหันมาถามกลุ่มเพื่อน ๆ ของน้อง
 “แล้วพวกนายล่ะ มีอะไรแนะนำให้พี่ไปเที่ยวบ้าง” 
“เยอะแยะพี่ ผมว่าในกรุงเทพฯเที่ยววันเดียวยังไม่ทั่วเลย”
อธิปพงศ์หันมามองหน้าคนรัก เพราะทั้งหมดใช้ภาษาฮินดีในการสนทนากัน แต่นิธินก็บอกว่า
“เค้าพูดถึงเรื่องไปเที่ยวกันหน่ะ ไม่มีอะไรหรอก”
อธิปพงศ์ค่อยสบายใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่เขาก็ไม่ได้ยินคำพูดใด ๆ จากพ่อกับแม่นิธินเลยสักนิดจนกระทั่งแยกย้าย
“ผมไปก่อนนะครับ” นิธินกับอธิปพงศ์มาส่งพ่อแม่ถึงห้อง
“อืม” พ่อนิธินรับคำสั้น ๆ
  คนทั้งสองขอตัวกลับทันทีโดยอธิปพงศ์ไม่ลืมยกมือไหว้บุพการีของคนรักก่อนจาก พวกเขาเดินจับมือกันตามปกติ โดยมีสายตาของพ่อกับแม่นิธินมองตามหลังอย่างกรุ่นคิด

“ที่รักครับ..” นิธินหันมาพูดกับอธิปพงศ์ที่อยู่ข้าง ๆ ขณะเดินกลับที่พัก
“หืมม์..”
“..ผม ขอโทษ แทนพ่อแม่ด้วยนะครับ”
“โธ่ เรื่องแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอก” แต่อธิปพงศ์ก็หันไปมองหน้าคนรักอย่างแปลกใจ “เอ๊ะ เมื่อกี๊ คุณเรียกผมว่าอะไรนะ”
“ที่รัก” นิธินตอบยิ้ม ๆ
“เฮ้ยย รู้ได้ไงอ่ะ”
“ก็ คนไทยเค้าเรียกแฟนว่าอย่างนี้ไม่ใช่เหรอ”
“อืม ใช่”
“แต่ทำไมคุณไม่เคยเรียกผมเลยล่ะ” นิธินถามอ้อน ๆ
“ก็...ก็กลัวคุณไม่เข้าใจหนิ”
“เข้าใจอยู่แล้ว....” นิธินรีบตอบ “เพราะผมไม่ได้ใช้หูฟัง”
“หืมม์..”
“ผมใช้นี่..ฟัง” เขาจับมืออธิปพงศ์มาวางไว้ที่อกข้างซ้าย
“โหยยย นี่ใครสอนเนี่ย มุกนี้”
“คิดเอง”
  อธิปพงศ์มองหน้าคนรักขำ ๆ เพราะเห็นว่าเขาใช้ภาษาไทยเก่งขึ้นมาก แถมยังคิดอะไรแบบนี้มาเล่นอีก สงสัยจะดูละครตลก
ซิทคอมมากไปแน่ ๆ เลยรับอิทธิพลมาเต็ม ๆ
“เออ แล้วที่คุณบอกว่า จะลองเข้าไปคุยกับเจ้านายเรื่องย้ายมาที่นี่ เค้าว่าไงมั่งอ่ะ”
“เค้ายังไม่ว่ายังไงเลย บอกว่าให้คำตอบหลังสิ้นเดือนธันวาคมหน่ะ”
“จริงเหรอ..” อธิปพงศ์ตื่นเต้น
“นี่แสดงว่าคุณจะอยู่เมืองไทยถึงหลังปีใหม่เลยใช่มั๊ย”
“ใช่แล้วว” นิธินยิ้มรับ
  อธิปพงศ์ดีใจมาก ๆ ที่ได้ยินอย่างนั้น นิธินก็ดีใจเช่นกัน ว่าความหวังที่จะมาใช้ชีวิตอยู่กับคนรักที่เมืองไทยอย่างถาวรจะเป็นจริงในไม่ช้านี้
 นิธินหันไปบอกกับคนรักต่อว่า
“พ่อกับแม่ผม วันนี้อาจจะดูเย็นชาไปหน่อย แต่จริง ๆ แล้วท่านเป็นคนใจดีมากนะ ท่านรักผมและพี่ชายมาก พ่อผมเคยเป็นทนายความหน่ะ เลยดูมีมาดเยอะหน่อย ส่วนแม่ผมก็เป็นคนร่าเริงนะ เพียงแต่ผมว่าท่านคงไม่ชินที่ต้องมาเจอแฟนผมเป็นครั้งแรก”
“หืม..ครั้งแรก”
“ใช่ คุณเป็นแฟนคนแรกที่ผมพามารู้จักกับพ่อแม่”
“จริงเหรอ” อธิปพงศ์แอบตื่นเต้นที่ได้ยินอย่างนั้น
“ครับ จริงๆ” นิธินอธิบายให้ฟัง “ที่อินเดียหน่ะ เป็นเกย์มันร้ายแรงมากนะ ทุกคนเลยกลัวที่จะบอกกับพ่อแม่ด้วยกันทั้งนั้น”
“อืม เหรอ…แล้วคุณนึกยังไงถึงกล้าบอกพ่อกับแม่ล่ะ”
“ผมก็แค่ไม่อยากโกหกพวกท่าน ไม่อยากสร้างความหวังให้พวกท่านเรื่องแต่งงานมีครอบครัว เชื่อมั๊ยตั้งแต่ผมเรียนจบแม่ก็พยายามหาผู้หญิงดี ๆ มาให้ตลอด จนเมื่อผมแน่ใจแล้วว่าผมทำให้พวกท่านไม่ได้ ผมก็เลยบอกพ่อกับแม่ไปว่า ผมแต่งงานไม่ได้ เพราะผมไม่ชอบผู้หญิง ก็เท่านั้น”
“อืม...ดีเนอะ”
“ที่อินเดียมีเกย์มากมายที่จำใจต้องแต่งงานกับผู้หญิงเพราะหนี Social structure ไม่พ้น แต่ผมไม่อยากเป็นอย่างนั้น ผมไม่อยากทำให้ผู้หญิงต้องมา suffer เพราะเรื่องนี้ แค่นั้นชีวิตผู้หญิงที่อินเดียก็แย่พอแล้ว ผมเชื่อว่าคนเราเลือกชีวิตที่อยากเป็นได้ ผมก็เลยเลือกที่จะเป็นอย่างนี้”
อธิปพงศ์อึ้งไปเหมือนกัน เพราะไม่ค่อยได้ยินคนรักพูดอะไรยาว ๆ อย่างนี้ แถมนี่ก็เป็นครั้งแรกที่นิธินได้ระบายความรู้สึกออกมาทางคำพูดให้เขาฟัง
 เมื่ออธิปพงศ์ฟังความคิดของเขาที่เพิ่งจบไปแล้ว ก็รู้สึกได้เลยว่า นิธินเป็นคนที่ไม่ยอมแพ้และจำนนต่อข้อกำหนดเคร่งครัดใด ๆ หากยังมีความเชื่อมั่นในตัวเองตามประสาผู้ชายที่กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“ดีแล้วหล่ะ ผมเห็นด้วยนะที่คุณบอกว่า คุณไม่อยากทำร้ายผู้หญิง และคนเราเลือกในสิ่งที่เป็นได้”
“ขอบคุณครับ” นิธินถามต่อ“แล้ว ครอบครัวคุณล่ะ”
 “ผม อยู่กับแม่และยายหน่ะ พ่อผมตายตั้งแต่ผมสี่ขวบ ส่วนแม่ก็ไม่ได้มีสามีใหม่นะ อยู่กับยายสองคนที่ลพบุรี แม่ผมทำสวนต้นไม้นะ เดี๋ยววันหยุดยาวต้นธันวาคมผมจะลางานพาคุณไปเที่ยวบ้านที่ลพบุรี ไปมะ”
“ไปสิครับ...” นิธินรับครับด้วยความดีใจที่สุด เพราะนอกจากจะได้ไปเที่ยวกับคนรักแล้ว ยังจะได้เจอกับครอบครัวของอีกฝ่ายอีก
“ว่าไป ผมก็ไม่เคยพาแฟนไปให้แม่กับยายรู้จักเลยนะ”
นิธินหันมามองอธิปพงศ์ด้วยความประหลาดใจ
“ไม่รู้สิ ผมรู้สึกว่าถ้าแม่ผมเจอคนที่ผมเคยคบด้วยแต่ละคน แม่คงไม่ชอบแน่ ๆ”
“แล้ว ทำไม จะพาผมไปบ้านคุณล่ะ”
“ก็...มันบอกไม่ถูกหน่ะ ผมคิดว่าแม่น่าจะชอบคุณมั๊ง นี่ผมโทรคุยกับแม่แล้วนะว่าผมกำลังคบกับคุณอยู่ ”
“แล้ว แม่คุณว่าไงบ้าง”
“แม่ผมบอกว่า ขอให้คนที่ผมคบอยู่ รักผมจริง ๆ แม่ก็โอเคแล้ว”
“จริงเหรอ..”
“อื้ม...”
  คนทั้งสองยังคงจับมือกันเดินต่อและยิ้มให้กันมีความสุข ถึงแม้จะยังไม่ได้คำตอบชัดเจนจากพ่อกับแม่ของนิธิน แต่พวกเขาก็ไม่หมดหวังที่จะทำให้พวกท่านยอมรับและเข้าใจในความรักของคนทั้งคู่ได้



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-02-2012 17:52:31
+1 ให้ค่ะ เรื่องสนุก ข้อมูลแน่น ตอนนี้ติดหนึบเลย

ขอบคุณมาก ๆ เช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 24-02-2012 17:57:56
อ๋อย แอบเครียดแทน เรื่อง คุณพ่อคุณเเม่จังเลยค่ะ

หวังว่าจะไม่มีอะไรมากนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-02-2012 18:02:43
ที่ลง ที่รัก อิจฉามาก ณ จุด จุด นี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 24-02-2012 18:31:10
โอ๊ย! ช่างมันเถิดอะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไป รักกันๆ เริดสะแมนแตน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 24-02-2012 20:04:39
เอาใจช่วยพี่หมูกับคุณนิธินให้ผ่านด่านคุณพ่อคุณแม่ไปให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 24-02-2012 20:20:31
 o13มากๆกล้าดี
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 24-02-2012 20:25:25
มาให้กำลังใจทั้งสองคน
 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 24-02-2012 21:22:43
อุปสรรคมีไว้พุ่งชน :L2:

กด+เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 24-02-2012 22:07:19
ใจเย็นๆนะนิธิน ให้เวลาพ่อกับแม่อีกนิดนะ เป็นกำลังใจให้นิธินและหมูจ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 24-02-2012 22:26:14
สู้ สู้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 24-02-2012 23:35:43
คุณพ่อคุณแม่จะคิดอะไรอยู่น้า  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 25-02-2012 10:24:37
 o13
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: j4c9y ที่ 26-02-2012 21:20:42
วิดวิ้วววว  นิธินน่ารักเว่อ  อธิปพงษ์ก็สดใส ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 26-02-2012 23:13:48
หายไป 2 วันแล้วน๊า
พรุ่งนี้ต้องได้อ่านนะเออ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 27-02-2012 08:56:50
ว้าว....อ่านเรื่องนี้ทีไรอบอุ่นหัวใจทุกที....555 เราเริ่มจะเหมือนนิธินเข้าไปทุกที...มุกนี้ก็กล้าใช้เนอะ 5555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 27-02-2012 11:25:09
ดูท่าว่า ปัญหาจะเริ่มตามมาแน่ๆ เลย (_ _")
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:24/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 27-02-2012 16:54:06
วันนี้มาแล้วค่ะ ต้องขอโทษที่หายไปในวันเสาร์อาทิตย์ ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่ให้การติดตามอย่างเหนียวแน่นมาตลอด ขอบคุณมาก ๆ ค่า

19


"หมู เห็นว่าเมื่อวานไปเจอพ่อกับแม่คุณนิธินมาเหรอ เป็นยังไงบ้าง"
พี่กุ้งถามอธิปพงศ์ขณะออกมากินข้าวกลางวันด้วยกัน
"ก็ ไม่มีอะไรหรอกครับ ถึงผมกับพวกเค้าจะไม่ได้คุยกัน เค้าก็ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจผม แต่พี่ชายนิธินเค้าใจดีกับผมนะ"
"แล้วนิธินเค้าว่าไงมั่ง"
"เค้าก็แอบเกรงใจผมนิดหน่อยหน่ะครับที่พ่อแม่เค้าไม่พูดอะไรกับผมเลย"
"อืม ของอย่างนี้มันทำใจยากนะ พี่ว่ามันต้องใช้เวลาสักพักหล่ะ แต่เค้ามาหาลูกถึงเมืองไทยอย่างนี้ พี่ว่าก็คงทำใจได้ระดับนึงแล้วหล่ะ"
"อืม ครับ"
พี่กุ้งนึกได้จึงบอกว่า
"เอางี้ พี่ว่าเย็นนี้หมูเลิกงานไวซะหน่อยดีกว่า จะได้กลับไปช่วยนิธินดูแลพ่อกับแม่เค้า"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็เกรงใจเจ้านาย
"ไม่เป็นไร พี่อนุญาต"
"ขอบคุณครับพี่กุ้ง" อธิปพงศ์ไหว้ขอบคุณเจ้านาย
^"จะดีเหรอครับพี่กุ้ง"
"ไม่เป็นไรหรอกหมู"
พี่กุ้งรับคำยิ้ม ๆ และกินข้าวต่อ พี่กุ้งคิดว่าเขาสามารถช่วยอธิปพงศ์ได้เพียงเท่านี้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวอธิปพงศ์และพ่อกับแม่ของนิธินแล้ว

ส่วนครอบครัวของนิธินที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่พัทยาก็ดูผ่อนคลายกว่าแต่ก่อนมาก พวกเขาเดินเล่นกันที่ตลาดน้ำสี่ภาคซึ่งเป็นที่สุดท้ายที่ไกด์พามาเพื่อเลือกซื้อของฝากก่อนกลับ
"น่าเสียดายเนอะ ที่น้องลูกไม่ได้มาด้วย" เอกตราผู้เป็นแม่ในชุดส่าหรีบ่นขึ้นมาเบาๆ ดารามดัสผู้เป็นลูกคนโตเลยบอกว่า
"แม่ แม่รู้ตัวรึเปล่าว่าวันนี้แม่บ่นแบบนี้เป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว"
"ก็ แม่คิดถึงน้องนี่นา" เธอตอบเศร้าๆ
"แล้วทำไมเวลาแม่เจอกับน้องแม่ไม่พูดอย่างนี้ล่ะ"
"ก็..." เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อ แต่นารายันผู้เป็นพ่อเลยพูดขึ้นมาว่า
"ลูกไม่ใช่พ่อกับแม่ลูกไม่รู้หรอก ว่าการเอ่ยปากขอโทษลูกมันยากแค่ไหน"
คนเป็นพ่อรู้สึกผิดที่เคยเย็นชาและหมางเมินกับลูกชายคนเล็ก จนถึงวันนี้เขาก็ไม่กล้าที่จะเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษ ถึงแม้เขาจะดีใจแค่ไหนก็ตามที่ได้เจอหน้าลูกและเห็นว่าลูกมีความสุขดีกับชีวิต
ดารามดัสอยากรู้ว่าพ่อแม่คิดยังไงกับคนรักของน้องชายจึงถามว่า
"เอ้อ..แม่ แม่คิดยังไงกับแฟนนิธินอ่ะ"
"ก็ ไม่รู้สิ เท่าที่ดูก็เข้ากับนิธินได้นะ ว่าแต่ลูกเถอะ คุยกับน้องบ่อยๆ รู้มั๊ยว่าเค้าเจอกันได้ยังไง"
"ก็นิธินไปตัดผมในร้านที่คุณหมูทำงานอยู่ แล้วน้องก็ชอบคุณหมูก่อน เลยตามจีบไปเรื่อยๆ และก็เป็นแฟนกันในที่สุด"
"อย่างนี้นี่เอง" คนเป็นพ่อรับคำ
"แล้วนี่น้องเราเล่าให้ฟังรึเปล่าว่าแฟนเค้าเป็นยังไงบ้าง เค้าทำกับข้าวเป็นมั๊ย เค้าทำงานบ้านเก่งรึเปล่า น้องเราจะอยู่ยังไงล่ะ"
ผู้เป็นแม่ห่วงลูกชายตามประสาคุณแม่ชาวอินเดียทั่วไป จึงเผลอกังวลถึงคุณสมบัติสะใภ้ในฉบับผู้หญิงอินเดีย
"หึหึ แม่ น้องไม่ได้มีแฟนเป็นผู้หญิงนะ จะกังวลไปทำไม"
"นี่แหล่ะที่แม่กังวล แม่กลัวว่าแฟนน้องจะดูแลน้องไม่ดี"
"โธ่ แม่ คิดมากน่า เจ้าตัวยังไม่คิดอะไรอย่างนี้เลย อย่าลืมสิว่านิธินไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ"
เขาหันไปถามพ่อว่า
"พ่อล่ะครับคิดว่าไง"
"ก็ไม่รู้สิ" ร่างสูงตอบยิ้มๆ "พ่อยังไม่เคยคุยกับเค้า เลยไม่รู้ว่าเค้าเป็นคนยังไง"
"พ่อไม่ลองคุยกับเค้าดูล่ะครับ"
"ไม่รู้จะคุยอะไรหน่ะ อีกอย่างเค้าดูสำอางค์กว่าผู้ชายปกติด้วย พ่อเลยไม่รู้จะคุยอะไร"
"ก็เรื่องทั่วๆไปนี่ก็ได้ครับ"
"พ่อจะลองดูนะ"
"ผมเชื่อว่าถ้าพ่อเปิดใจคุยกับน้อง น้องต้องเข้าใจครับ"
"ขอบใจนะลูก" นารายันยิ้มให้ลูกชายคนโตที่ให้กำลังใจ เขามองหน้ากับภรรยาที่คิดเหมือนกันว่า มันถึงเวลาที่เขาต้องกล้าสะสางในสิ่งที่คาใจมาแสนนานเสียที

  อธิปพงศ์โทรหาคนรักว่าพี่กุ้งอนุญาตให้เขาเลิกงานเร็วขึ้นเพื่อมาดูแลพ่อกับแม่นิธินได้ จึงปรึกษาว่าเย็นนี้จะพาพวกท่านไปไหนดี
"ก็ พ่อแม่ผมไปพัทยามา ผมว่าพาพวกท่านไปหาอะไรกินดีกว่า"
"ร้านแบบไหนล่ะ ร้านอาหารอินเดียเหรอ"
"อืม ก็ดีนะ แต่ผมว่าพาไปร้านแปลกๆ บ้างดีกว่า"
"ร้านแปลกๆ หมายถึงไม่ใช่อาหารอินเดียใช่มั๊ย"
"ใช่"
อธิปพงศ์นึกออกทันทีว่าจะไปที่ใด เลยลองเสนอดู
"ไปร้านน้องเขียวดีมั๊ย มีทั้งของคาวของหวานเลย"
"อืมม น่าสนใจนะครับ" นิธินคิดตาม
"ผมว่าร้านน้องเค้าบรรยากาศสบายๆ ดีออก คุณว่าไง"
"ก็ดีนะครับ ผมก็โอเค เดี๋ยวผมโทรบอกพี่ก่อนว่าคุณกับผมจะพาพ่อแม่ไปกินข้าว"
"ครับ งั้นเดี๋ยวผมโทรจองโต๊ะเลยนะ"
"ครับ ได้เลย"
"เจอกันตอนเย็นนะครับ"
"ครับที่รัก"
อธิปพงศ์วางสายคนรักด้วยรอยยิ้ม และกดโทรศัพท์หาเพื่อนรุ่นน้องทันที
"หวัดดีค่าพี่หมู" เขียวรับสายด้วยน้ำเสียงสดใสร่าเริง
"หวัดดีครับน้องเขียว ยุ่งอยู่รึเปล่า"
"คุยได้ค่า มีอะไรหรือเปล่าคะ"
"ก็ พี่จะโทรมาจองโต๊ะที่ร้านน้องเขียวหน่ะ"
"ได้ค่ะ กี่ที่ดีคะ"
"อืม ห้าที่จ้ะ"
"ค่า แล้วจะมากี่โมงคะ"
"ประมาณหกโมงจ้ะ แต่ยังไม่ชัวร์นะ"
"หกโมง..." เขียวแปลกใจที่อธิปพงศ์มาก่อนเวลาเลิกงานของเขา ด้วยความสนิทกันเธอจึงถามว่า
"เอ่อ แล้ว พี่หมูพาใครมาทานเหรอคะ"
"ครอบครัวนิธินจ้ะ เค้ามาเยี่ยม"
"อ่าว เหรอคะ" หญิงสาวเพิ่งรู้ "แล้วเป็นไงมั่งคะ เค้าโอเคกับพี่รึเปล่า"
"ก็..โอเคจ้ะ"
แต่เขียวรู้สึกว่าอธิปพงศ์กำลังมีอะไรอยู่ในเรื่องนี้ จึงไม่เชื่อเท่าไหร่
"เหรอคะ"
"จ้ะ ทำไมเหรอ"
"ก็ฟังดูเหมือนพี่หมูไม่โอเคเลยหน่ะสิคะ มีอะไรรึเปล่าคะพี่"
เมื่อได้ยินอย่างนั้นอธิปพงศ์เลยลังเลว่าจะเล่าให้เพื่อนรุ่นน้องฟังดีหรือไม่
"มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้เขียวฟังได้นะคะ"
แต่พอได้ยินเธอถามอย่างนั้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เขาจึงเปิดปาก
"ก็..พี่ไม่รู้จะเข้าหาพ่อแม่เค้ายังไงหน่ะ"
"คะ...พี่หมูเจอเคยเค้ากี่ครั้งแล้ว"
"เพิ่งเจอเมื่อวานครั้งเดียวเองหน่ะ แต่เค้าก็ไม่ได้พูดอะไรกับพี่นะ ก็ได้แค่ไปกินข้าวกับเค้าก็เท่านั้น"
 อธิปพงศ์นึกถึงบรรยากาศเมื่อวานแล้วก็ถอนใจ ขนาดว่าวิษณุกับเอเจที่ชอบสร้างความสนุกสนานยังไม่สามารถฝ่าหมอกควันแห่งความมึนตึงได้เลย
"เค้า..ไม่ชอบพี่เหรอคะ"
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกจ้ะ พี่ว่าแค่ยังไม่คุ้นเคยกันเฉยๆ แต่นิธินบอกว่าพ่อแม่เค้าโอเคกว่าแต่ก่อนเยอะเลยนะ เพราะเค้าก็มีปัญหากับนิธินเหมือนกัน แต่ก็ดีขึ้นมาแล้วหล่ะ"
"อืม ค่ะ"
"แต่ พี่ไม่รู้จะทำตัวยังไงกับพ่อแม่เค้าหน่ะ"
เขียวได้ยินอย่างนั้นก็บอกว่า
"ก็เป็นพี่หมูนี่แหล่ะค่ะ เขียวว่าพี่หมูก็เป็นคนดีคนนึงเลยนะ เค้าน่าจะเห็นบ้างหล่ะ ส่วนเรื่องชวนคุย ลองชวนคุยเรื่องอินเดียๆสิคะว่าเป็นยังไง เค้าจะได้เห็นว่าพี่หมูสนใจเกี่ยวกับคุณนิธินจริงๆ เฮ้อ ถ้าใจแข็งกว่านี้เขียวก็ไม่รู้แล้วค่ะ นี่ถามจริงพ่อแม่แฟนพี่มาจากแคชเมียร์หรือเปล่าคะ"
อธิปพงศ์งง "ทำไมอ่ะ เกี่ยวอะไรกัน"
"ก็เห็นว่าใจแข็ง เลยเดาว่าน่าจะมาจากเมืองหนาวๆ อย่างแคชเมียร์ หึหึ"
เขียวพูดเองชงเองกับมุขไม่ฮาพาเครียดของเธอ แต่คนฟังอย่างอธิปพงศ์กลับรู้สึกละอายใจที่แทบไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับอินเดียเอาเสียเลย
"น้องเขียวนี่รู้เรื่องเกี่ยวกับอินเดียเยอะเนอะ"
"โธ่ พี่หมูอย่าพูดอย่างนั้นสิคะ ก็เขียวเรียนจบทางด้านสังคมนี่น่า เขียวไม่ได้ฉลาดหรือเก่งไปกว่าใครหรอกค่ะ นะคะ อย่าคิดมาก"
"อืม จ้ะ"
"เอาเถอะค่ะ เย็นนี้เขียวจะช่วยพี่หมูเทคแคร์ดูแลเป็นอย่างดี ให้รู้ซึ้งถึงเสน่ห์คนไทยเลยคอยดู"
"จ้ะ ขอบใจมากนะ"
"ยินดีค่า เจอกันเย็นนี้นะคะ"
"จ้ะ" อธิปพงศ์วางสายไปด้วยรอยยิ้มเพราะสบายใจที่ได้พูดคุยกับเพื่อนรุ่นน้องคนนี้ แต่ก็แอบเซ็งตัวเองที่ ถึงแม้จะมีคนข้างกายเป็นชาวอินเดีย แต่ก็ไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับอินเดียอยู่ในหัวเลย
"แล้วใครใช้แกให้มีแฟนเป็นคนอินเดียล่ะ" เสียงในใจบ่นออกมา ทำให้อธิปพงศ์ยิ้มขำให้กับตัวเอง
เอาล่ะ เขาจะพยายามทำเพื่อนิธินโดยเข้าหาแลพยายามทำความเข้าใจกับพ่อแม่ของเจ้าตัวให้ได้

 ตกเย็นอธิปพงศ์ก็ไปรอนิธินที่โรงแรมเพื่อรอพ่อแม่และพี่ชายกลับจากพัทยา โดยเขาไม่ลืมถามถึงคนรักในเกี่ยวกับมารยาทแบบอินเดียที่จำเป็นด้วย
"เวลาคุณเจอพ่อกับแม่ผม ก็ต้องไหว้และก้มลงไปสัมผัสเท้าพวกท่านด้วย"
"หะ..." อธิปพงศ์แปลกใจกับสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
"มันเป็นการแสดงความเคารพต่อพ่อกับแม่หรือผู้อาวุโสหน่ะ แต่ถ้าพ่อแม่ผมก้มลงมารับคุณไว้ก่อนสัมผัสเท้านั่นแสดงว่าท่านรับคาระวะจากคุณนะ"
"เหรอ" อธิปพงศ์ก็เพิ่งรู้อะไรหลายอย่างว่าไทยกับอินเดียมีขนบธรรมเนียมคล้ายกันที่ให้ความสำคัญต่อการเคารพผู้อาวุโส ชายหนุ่มเข้าใจตามที่นิธินสอนทั้งหมดแล้ว เขาหันไปมองหน้าคนรักที่ยิ้มเหมือนอยากจะบอกอะไร
"มีอะไรเหรอครับ"
นิธินจึงกระซิบข้างหูทันที
"คุณใส่jeansตัวนี้แล้วเซ็กซี่มาก"
เพราะเมื่อนิธินเห็นคนรักสวมสกินนี่เดฟแบบนี้แล้วทำให้อารมณ์แบบนั้นของเขาลุกโชนขึ้นมาทันที เขาแทบจะอดใจไม่ไหวเพราะอธิปพงศ์เป็นผู้ชายที่มีช่วงสะโพกและเรียวขาได้รูปสวยงาม พอได้เห็นหน้าหล่อใสกับตากลมโตที่ฉายแววมัดใจเขา ปากสวยสีชมพูที่เขาอยากจะประกบจูบให้หนำใจ แถมยังมีกลิ่นน้ำหอมที่แสนจะเย้ายวนนั้นอีกเล่า แต่นิธินก็จำต้องเก็บความต้องการทั้งหมดในตอนนี้ไว้ ถึงแม้ตั้งแต่คบกันมาพวกเขาจะเติมเต็มกันและกันเกือบทุกคืนก็ตาม
อธิปพงศ์หันไปมองคนรักที่กำลังส่งสายตาเร่าร้อนมาให้ นิธินค่อยโอบเอวได้รูปนั้นและกระซิบอีกว่า
"ผมจะไม่ไหวแล้วรู้มั๊ย"
"ที่รัก อย่าทำอย่างนี้สิ" อธิปพงศ์ตอบด้วยเสียงแผ่วเบาเพราะตั้งแต่คบกับนิธิน เขาก็รู้กตัวได้เลยว่าตื่นตัวกับเรื่องพวกนี้เร็วกว่าแต่ก่อนมาก ยิ่งมองหน้าหล่อ ๆ นั้นแล้วก็ยิ่งวาบหวาม ไม่ว่าจะเป็นปากสวยที่มีลิ้นร้อน คางสากๆ ที่เวลาบดเบียดกันแล้วทำให้แทบคลั่ง กล้ามอกแน่นๆ กับหน้าท้องแข็งแรงที่เขาแสนจะหลงรัก เมื่อมองไปยังหน้าขาเขาก็เห็นว่าส่วนนั้นของคนรักโป่งนูนขึ้นมาตามรอยพับ คิดแล้วก็ยิ่งร้อนเร่าในจิตใจ
นิธินกระซิบคนรักด้วยเสียงกระเส่า อธิปพงศ์รู้สึกวูบวาบเมื่อลมหายใจร้อนๆ ของนิธินเป่ารดที่ต้นคอ
"ที่รัก เราไปห้องน้ำกันมั๊ย"
แม้ตอนนี้อธิปพงศ์จะต้องการมากชายหนุ่มมาก แต่ก็ลังเลกับข้อเสนอนั้น
"จะดีเหรอ ห้องน้ำที่นี่คนเยอะนะ"
"งั้นเรากลับห้องกันก่อนดีมั๊ย"
"อืม"
 แต่ก่อนที่อารมณ์ของทั้งคู่จะเตลิดไปไกลกว่านั้น ดารามดัสก็โทรเข้ามา
"ฮัลโหล" นิธินพยายามปรับอารมณ์และรับสาย
"ว่าไง ตอนนี้แกอยู่ไหนเนี่ย"
"รอพี่ที่ล๊อบบี้เนี่ย"
"เหรอ เออดีตอนนี้จะถึงโรงแรมแล้ว เดี๋ยวคงเจอกัน"
"ครับ"
เมื่อวางสาย เขาหันมามองคนรักเฉาๆ และบอกว่า "ครอบครัวผมจะถึงแล้ว"
"อืม" อธิปพงศ์ตอบรับ
"เดี๋ยวพาครอบครัวคุณไปกินข้าวก่อนเนอะ"
"ครับ" นิธินรับคำ และเสียดายที่ไม่ได้ทำอย่างที่ใจอยาก อธิปพงศ์เองก็เช่นกัน
 ไม่กี่นาทีต่อมารถตู้ของกรุ๊ปทัวร์ก็พาครอบครัวของนิธินมาส่ง ดารามดัสในเสื้อเชิ้ตกางเกงยีนส์ลงมาเป็นคนแรก ตามมาด้วยพ่อกับแม่นิธิน ในชุดประจำชาติที่คนอินเดียนิยมสวมใส่ในชีวิตประจำวัน
 นิธินยิ้มบางๆ ให้พ่อกับแม่ ก่อนที่จะพาอธิปพงศ์เข้าไปหาพวกท่านใกล้ๆ อธิปพงศ์ยกมือไหว้คนทั้งสองและทำตามมารยาทอินเดียที่นิธินสอน โดยค่อยก้มลงไปสัมผัสเท้าของพวกท่าน พ่อกับแม่นิธินเห็นอย่างนั้นก็ตกใจแต่ก็ยินดีที่แฟนลูกทำอย่างนี้ พวกเขาจึงก้มตัวมาจับมือชายหนุ่มไม่ให้สัมผัสถึงเท้า เป็นการแสดงว่าพวกเขารับการคาระวะและให้ความเอ็นดูผู้ด้อยอาวุโสกว่าแล้ว อธิปพงศ์มองหน้าพ่อกับแม่ของคนรักที่ส่งสายตาเป็นมิตรให้ ชายหนุ่มรู้สึกได้ว่าพวกท่านทั้งสองดูเปิดรับเขามากกว่าเมื่อวาน เขายิ้มให้และหันไปทักทายพี่ชายนิธินที่ยืนยิ้มให้
โดยดารามดัสเป็นฝ่ายเริ่มทักทายคนรักของน้อง
"Hello"
"Hello, glad to see u again"
ดารามดัสกับนิธินจับมือทักทายตามมารยาทสากล
"Me too, thank you"
อธิปพงศ์กลับมายืนอยู่ข้างๆ คนรักอีกครั้ง ดารามดัสจึงถามน้องถึงมื้อเย็น
"เออ แล้วนี่เรากินมื้อเย็นที่ไหนอ่ะ"
"เดี๋ยวผมพาไป มันไม่ใช่ร้านอินเดียนะ พ่อกับแม่ว่าไงครับ"
คนเป็นพ่อเห็นด้วยพร้อมท่าทางที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น
"ก็ดีนะ ออกนอกอินเดียมาแล้วจะกินแต่อาหารอินเดียได้ไงล่ะ"
ร่างสูงใหญ่ของชายวัยค่อนคนหันมายิ้มบางๆให้ลูกชายและคนรัก
"พ่อกับแม่หิวรึยังครับ"
"จ้ะ" คนเป็นแม่ตอบรับ
"ไปกันเลยนะครับ เดี๋ยวผมไปเรียกแท็กซี่ให้"
พ่อแม่และพี่ชายยิ้มรับ คนทั้งสองจึงพาทุกคนไปหน้าโรงแรมเพื่อขึ้นแท็กซี่ เมื่อแท็กซี่ที่ทางฝ่ายบริการช่วยเรียกให้มาถึงทุกคนก็ทำท่าจะขึ้นไป แต่อธิปพงศ์เห็นรูปร่างของคนในครอบครัวคนรักแล้วก็กังวลใจว่าโตโยต้าอัลติสคันย่อมอย่างนี้จะพาพวกเขาไปได้หมดหรือเปล่า เพราะพ่อกับพี่ชายนิธินก็เป็นผู้ชายร่างสูงใหญ่ ส่วนแม่ก็ค่อนข้างเจ้าเนื้อตามประสาผู้หญิงมีอายุ เมื่อเขามองหน้าแท็กซี่ที่เหมือนอยากจะเปลี่ยนใจจึงบอกกับคนรักว่า
"เอ่อ ผมว่าเราเข้าไปไม่หมดหรอก"
นิธินมองตามเพราะพี่กับพ่อแม่สามคนก็เต็มเบาะหลังแล้ว ส่วนเบาะหน้าก็นั่งสองคนไม่ได้ ชายหนุ่มจึงเห็นด้วยกับคนรัก
"เอาไงดีอ่ะ"
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมตามไป คุณไปกับพ่อแม่คุณก่อนนะครับ"
"ได้ครับ" นิธินรับคำอย่างว่าง่าย
เมื่อส่งคนรักและครอบครัวขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว อธิปพงศ์ก็เดินไปขึ้นรถไฟฟ้าและนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเพื่อไปยังร้านของรุ่นน้อง ระหว่างทางเขาไม่ลืมโทรยืนยันหญิงสาวสำหรับมื้อเย็นในวันนี้ และชายหนุ่มก็เดินทางไปถึงร้านของเขียวก่อนหน้าครอบครัวของนิธิน
"หวัดดีค่ะพี่หมู" เขียวยกมือไหว้เพื่อนรุ่นพี่อย่างสนิทสนม "อ่าว ไหนล่ะคะ ครอบครัวคุณนิธิน"
"เค้ามาแท็กซี่กันจ้ะ เดี๋ยวคงถึง"
"อ่าวเหรอคะ งั้นเชิญพี่หมูนั่งรอที่ก่อนโต๊ะเลยค่ะ"
"จ้ะ"
อธิปพงศ์รับคำและเดินตามพนักงานไปยังโต๊ะที่จองไว้ และสักพักครอบครัวนิธินก็มาถึงอธิปพงศ์จึงออกไปรอรับที่หน้าร้าน และพาคนรักกับครอบครัวเข้ามาข้างใน
"เฮ้ย ร้านสวยดีนี่หว่า" ดารามดัสเอ่ยปากชมการจัดร้านในห้องกระจกโปร่ง ๆ ที่สบายตาด้วยพนังสีขาวและการตกแต่งให้เป็นกันเองด้วยสไตล์สวนแบบอิตาลีที่มีลูกเล่นตรงสีเขียวหลากโทน ทำให้สามารถลืมบรรยากาศวุ่นวายข้างนอกเพียงก้าวขาเข้ามา
 อธิปพงศ์ไม่เข้าใจที่พี่ชายคนรักพูดจึงหันไปหาร่างใหญ่ข้างๆ
"พี่ผมบอกว่าร้านนี้สวยมาก"
"Nice place, good!"
ดารามดัสสมทบด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดียให้อธิปพงศ์สบายใจ อธิปพงศ์ยิ้มให้ เพราะก็ยังไม่คุ้นเคยกับการพูดของคนอินเดียที่ดูเหมือนกำลังทะเลาะกันตลอดเวลา เขาพาคนรักและครอบครัวมายังโต๊ะกลมที่จองไว้ เมื่อทุกคนนั่งลงเขียวจึงเข้ามารับออเดอร์ด้วยตัวเอง พ่อแม่และพี่ชายอธิปพงศ์พลิกดูแต่ละเมนูอย่างสนใจ และมาสะดุดตากับเมนูนึงในรายการอาหารประยุกต์เข้า คนเป็นแม่ถึงกับชวนทุกคนดูอย่างตื่นเต้น
"Ohhh!! They have Roti" เธอหมายถึงโรตีที่เสริฟพร้อมแกงเขียวหวานไก่
"Yes, we do. This is Roti served with chicken green curry "
คนเป็นแม่ไม่พลาดที่จะสั่งมาลองชิม
"So interesting. I want this one"
หญิงสาวรับออเดอร์จานแรก และดารามดัสก็ถามถึงเมนูที่เห็นตรงหน้า
"What dose Drunken noodle?" ดารามดัสหมายถึงเส้นใหญ่ผัดขี้เมาในเมนูหน้าเดียวกัน
"This is stir fried spicy noodle " 
"o.k., give me one"
"อืม แล้วน้องเขียวมีอะไรแนะนำมั่งอ่ะ"
"ก็จะเป็นแซลมอลรมควันกับพิซซ่าเบรด,รีซอสโต้ และมีเมนูฟิวชั่นค่ะ นอกจากผัดขี้เมากับเขียวหวานโรตีที่สั่งไปแล้วยังมีสปาเก็ตตี้ผัดพริกสด พัฟกระเพราไก่ พวกสลัดและพาสต้ามังสวิรัติ และก็เมนูทะเล พวก หอยแมงภูอบอ่ะค่ะ"
“อืมเหรอ..” อธิปพงศ์รับคำ เขียวยังกระซิบบอกกับเขาอีกว่า
“พี่หมูวันนี้อย่าสั่งเมนูเนื้อวัวนะ”
ชายหนุ่มมองหน้ารุ่นน้องอย่างแปลกใจ เขียวเลยกระซิบต่อว่า
“คนอินเดียเขาถือว่าวัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ เค้าไม่กินวัวกันพี่”
“อ่าวเหรอ” อธิปพงศ์เพิ่งนึกออก เพราะเหมือนเขาเคยได้ยินเรื่องนี้มาอยู่เหมือนกัน
 “ขอบคุณนะครับ”
เขียวยิ้มให้และรอรับออเดอร์ต่อ ส่วนนิธินก็ถามเขาว่า
"ที่รัก คุณกินอะไรดี"
"คุณล่ะ"
"ผมอยากกินนี่ Spinach Olive and Mozzarella salad"
อธิปพงศ์เลยหันไปถามเขียว “แล้วมีพิซซ่าหน้าอะไรมั่งอ่ะ”
“แนะนำเป็นทะเลค่ะ ฮาวายเอี้ยนก็ได้ หรือจะซีฟู้ดก็ดี”
“งั้นเอาหน้าซีฟู้ดถาดกลางมาก็แล้วกัน”
“ค่ะ”
“ส่วนพี่เอา...” เขาชี้ไปยังเมนูเส้นรีตาโกนี่ (พาสต้าแบบแท่งกลม ๆ กลวงๆ)  “เอารีตาโกนี่อบชีสก็แล้วกัน”
“ค่ะ ได้ค่ะ”
  เขียวรับออเดอร์และทวนให้ทุกคนฟังและขอตัวไปทำตามหน้าที่ อธิปพงศ์สังเกตุได้ว่าวันนี้พ่อกับแม่ของคนรักดูผ่อนคลายกว่าเมื่อวานมาก
“เอ่อ ลูก แฟนลูกชื่ออะไรนะ” พ่อของนิธินหันมาถามลูกชายที่นั่งข้าง ๆ
“หมูครับ”
“ห..มู๋.” คนเป็นพ่อกับแม่พยายามออกเสียง และแม่นิธินก็ถามว่า
“Can I ask you something? Mr.Mooh”
“Yes”
แม่ของนิธินเลยถามสิ่งที่สงสัยมาตั้งแต่เจอหน้าชายหนุ่มครั้งแรก
“How old are you”
“I’m 33 years old”
“Really? แม่นิธินแทบไม่เชื่อว่าอธิปพงศ์อายุเท่ากับลูกชายเธอ  “But you look so young like you are in the mid twenty”
“Thank you” อธิปพงศ์รับคำเขิน ๆ กับคำชมของแม่คนรัก
“What do you do?”
“I’m a hairdresser” อธิปพงศ์ตอบพร้อมรอยยิ้ม ทั้งโต๊ะอยู่ในความเงียบแต่ก็ไม่ได้น่าอึดอัดเหมือนเมื่อวาน เพราะพ่อกับแม่นิธินก็ถามถึงเรื่องงานและชีวิตที่นี่ของลูกชายให้หายกังวลใจ และไม่นานอาหารอย่างแรกก็มาเสริฟ์ นิธินตัดสลัดให้พ่อกับแม่ลองชิม และอาหารที่แต่ละคนสั่งก็ทยอยออกมาให้ทุกคนลิ้มลองกัน ครอบครัวนิธินดูพึงพอใจในอาหารมื้อนี้มา และท่าจะถูกใจแกงเขียวหวานไก่ที่เสริ์ฟกับโรตีมากเป็นพิเศษ ตบท้ายด้วยทีรามิสสุรสนุ่มที่แม่นิธินถึงกับสั่งใส่กล่องกลับไปกินต่ออีก
  ก่อนออกจากร้านคนเป็นพ่อกับแม่มองหน้ากัน และบอกว่า
“นิธิน เดี๋ยวพ่อกับแม่ ขอไปดูห้องที่ลูกอยู่ได้มั๊ย”
“ได้ครับ” นิธินตอบยิ้ม ๆ และทำท่าจะบอกกับอธิปพงศ์แต่คนเป็นแม่คว้าแขนไว้และส่ายหน้าไม่ให้บอก
นิธินมองพ่อกับแม่ไม่เข้าใจ แต่อธิปพงศ์บอกว่า
“งั้น เดี๋ยวคุณนั่งแท็กซี่กลับกับคุณพ่อคุณแม่คุณนะ”
“เดี๋ยว ผมว่าเรียกแท็กซี่มาสองคันดีกว่า” เขาเป็นห่วงอธิปพงศ์
อธิปพงศ์ส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอกครับ ผมกลับแบบนี้หล่ะ เรียกมาสองกันก็เปลืองเปล่า ๆ วันนี้ดูแลครอบครัวคุณก่อนนะ”
“ครับ...” นิธินรับคำ โดยมีพ่อกับแม่มองดูอย่างสงสัย เมื่อแยกย้ายกับอธิปพงศ์แล้ว พ่อกับแม่จึงถามทันที
“เมื่อกี๊ลูกคุยอะไรกับเค้าเหรอ”
“ผมไม่อยากให้เค้ากลับคนเดียว เลยจะเรียกแท็กซี่มาสองคัน แต่เค้าบอกว่าไม่ต้อง มันเปลืองเปล่าๆ”
“เหรอ...” พ่อกับแม่โล่งใจ
“แล้วทำไมแม่ไม่ให้บอกคุณหมูล่ะว่าแม่กับพ่อจะไปที่ห้อง”
“เอาน่า” คนเป็นแม่ตอบแค่นั้น เขาหันไปมองหน้าพี่ชายที่เหมือนอยากจะบอกใจจะขาด แต่ก็จำต้องนิ่งไว้

 แท็กซี่จอดหน้าอพาตเม้นท์ที่เป็นที่พักของนิธิน ชายหนุ่มจ่ายค่าโดยสารก่อนจะลงมากับและครอบครัว พอจะก้าวเข้าไปข้างในคนเป็นแม่ก็ถามขึ้นมาว่า
“แล้ว แฟนลูกล่ะ”
“สงสัยไปรอที่โรงแรมมั๊ง” ดาราดัสบอกกับพ่อแม่
“เดี๋ยวผมโทรหาก่อนนะครับ”
  นิธินกดโทรศัพท์หาคนรักก็ได้ความว่าอธิปพงศ์ยังอยู่บนรถไฟฟ้า จึงบอกว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน เมื่ออธิปพงศ์รับรู้แล้วเขาจึงวางสายก่อนจะพาทุกคนขึ้นไปข้างบนด้วยกัน
  พอเปิดประตูเข้าไป คนเป็นแม่ก็เดินสำรวจรอบห้องทันที ต่างกับพ่อที่ยืนดูนิ่ง ๆ ด้วยสายตา
“อืม ห้องไม่แคบนี่นา กำลังน่าอยู่” ดารามดัสบอกกับน้องชาย
“ใช่ ๆ ตอนแรกนึกว่าจะมีแต่ห้องแคบ ๆ เหมือนที่นิวเดลีซะอีก”
  คนเป็นแม่เดินสำรวจทุกซอกทุกมุมของห้องที่จัดเก็บทุกอย่างด้วยความเป็นระเบียบ ส่วนพ่อก็นั่งลงบนโต๊ะเขียนหนังสือแต่สายตาก็หันไปเจอเจลหล่อลื่นสำหรับผู้ชายที่วางอยู่บนตู้ข้าง ๆ หัวเตียงพอดี เขาถอนหายใจเล็กน้อยเพื่อไล่อาการตกใจกับสิ่งที่เจอ
  ชายวัยค่อนคนคิดว่า เพราะนี่คือชีวิตของลูกเขา เขาต้องยอมรับและทำความเข้าใจให้ได้
“แม่ ๆ แม่จะทำอะไรหน่ะ” ดารามดัสปรามแม่ที่เริ่มเปิดตู้เสื้อผ้า
“ไม่ได้สิ แม่ต้องดูว่าน้องแกอยู่ยังไง แฟนน้องแกเค้าดูแลปรนนิบัติดีมั๊ย”
“โธ่ แม่ครับ” นิธินถอนหายใจกับสิ่งที่แม่พูด เพราะแม่ยังยิดตึดกับความเป็นลูกสะใภ้แบบอินเดีย
 “ผมเป็นผู้ชายทั้งคู่นะครับ”
คนเป็นแม่ที่เปลี่ยนมาเปิดดูห้องน้ำส่งเสียงมาว่า
“นั่นแหล่ะที่แม่กลัว แม่ไม่รู้ว่าแฟนแกเค้าจะดูแลแกดีรึเปล่า”
ดารามดัสตบไหล่น้องชายที่กำลังทำหน้าเพลีย ๆ กับแม่ตัวเอง แต่แม่ก็กรีดเสียงมาจากห้องน้ำว่า
“ตายแล้ว ทำไมมีครีมบำรุงเยอะอย่างนี้” เมื่อเธอเปิดตู้ที่ใช้เป็นบานกระจกเหนืออ่างน้ำก็พบกับสกินแคร์มากมาย
“อย่าบอกนะว่าของแฟนแกหมดเลย”
“เปล่า ของผมด้วยส่วนนึง” นิธินตอบความความจริง ถึงแม้ว่าเกือบทั้งหมดจะเป็นของคนรักก็ตาม
“ตายแล้ว แฟนแกสำอางกว่าผู้หญิงอีกนะเนี่ย โอ้โห น้ำหอมกี่ขวดกันละเนี่ย” คนเป็นแม่ยังตื่นเต้นไม่เลิก พอดูจนหนำใจแล้วก็ออกมาข้างนอกในที่สุด
“พอใจหรือยังครับคุณเอกตรา” นิธินถามแม่ที่ดูประหลาดใจกับสิ่งที่เพิ่งสัมผัส
“แล้ว แต่ละเดือนใครออกค่าห้องกันล่ะ”
“ก็ช่วยกันออกคนละครึ่งหน่ะครับ”
“เหรอ แล้วเวลากินล่ะ”
“โธ่ แม่ ผมกับแฟนจะกินข้าวด้วยกันแค่วันละมื้อเองนะ ก็ช่วยกันออกนั่นหล่ะครับ”
“คุณพอเถอะ” พ่อของเขาพูดขึ้นมา “นี่เรามาหาลูกเพราะเราคิดถึงนะ เราไม่ได้มาจับผิดลูก แถมลูกยังพาคนที่เค้ารักมาให้เรารู้จักอีก แล้วคุณจะเอาอะไร”
นิธินแปลกใจที่ได้ยินประโยคนั้นจากคนเป็นพ่อ นารายันลุกมาหาลูกและมองหน้าลูกชายให้เต็มตาอย่างที่เขาไม่ได้ทำมาหลายปีแล้ว
“พ่อ..ดีใจนะ ที่เห็นลูก มีความสุขกับงานที่ทำ และอยู่กับคนที่ลูกรัก และรักลูกมากด้วย”
“พ่อ...” นิธินอึ้งกับคำพูดของพ่อ ชายผู้เงียบขรึมและเย็นชา
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา พ่ออยากจะพูดดี ๆ กับลูก อยากจะขอโทษลูกมาตลอด แต่เมื่อลูกย้ายมาที่นี่แล้ว ทำให้พ่อรู้ว่าถึงที่พ่ออยากทำมันอาจจะสายเกินไปก็ได้”
นารายันมองหน้าลูกชายคนเล็กพร้อมกับบอกว่า
 “พ่อ..ขอโทษนะลูก ยกโทษให้พ่อได้มั๊ย”
“ครับ”
  สองพ่อลูกกอดกันท่ามกลางสายตาที่ยินดีของดารามดัสผู้เป็นพี่ ในที่สุดความฝันของเขาก็เป็นจริงอยู่ตรงหน้าเสียที เอกตราร้องไห้ด้วยความซึ้งใจกับความสัมพันธ์ที่กลับมาเป็นเหมือนเดิมในวันนี้
 เสียงเคาะห้องดังขึ้น ทุกคนจึงรู้ว่าอธิปพงศ์มาถึงแล้ว ดารามดัสมองหน้าพ่อกับแม่ขออนุญาต คนทั้งสองพยักหน้าให้ เขาจึงเปิดประตูให้อธิปพงศ์เข้ามา
  อธิปพงศ์ยิ้มบาง ๆ ให้ทุกคนในห้อง เมื่อหันไปเห็นคนรักที่ยืนข้าง ๆ พ่อก็เข้าใจได้เลยว่า นิธินปรับความเข้าใจกับพ่อแล้ว แต่คนเป็นแม่เข้าไปสวมกอดอธิปพงศ์ที่ยืนอึ้งอยู่ตรงหน้า เธอกอดชายหนุ่มแน่น และละมาลูบหน้าขาวใสนั้นด้วยความเอ็นดู
“Thank you for caring my son”
จากการเข้ามาสำรวจในห้องนี้ ทำให้เธอประหลาดใจกับวีถีชีวิตของลูกและคนรัก แต่ก็ดีใจที่อธิปพงศ์ดูแลลูกชายเธอเป็นอย่างดี
 อธิปพงศ์พยักหน้ารับคำเบา ๆ
“You’re welcome, that’s my pleasure”
ดารามดัสเลยบอกกับแม่ว่า
“ทีนี้แม่ก็สบายใจได้แล้วนะ เพราะคุณหมูเค้าก็ดูแลนิธินได้ดีไม่แพ้ผู้หญิงเลย”
 คนเป็นแม่หันไปปราบลูกคนโตด้วยสายตาดุ ๆ ก่อนจะหันมากอดคนรักของลูกอีกครั้งให้สมกับที่ทำให้เธอวางใจ
 ชีวิตคนเป็นแม่อย่างเธอฝันที่จะเห็นลูกชายมีครอบครัวที่อบอุ่นโดยมีภรรยาแสนดีและหลานน่ารักมาโดยตลอด ถึงแม้จะผิดหวังกับนิธินที่ไม่สามารถมีภรรยาและลูกได้แล้ว แต่เธอก็ดีใจที่คนรักของลูกสามารถดูแลเขาได้ แค่นี้เธอก็คิดว่าพอแล้ว



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 27-02-2012 17:11:28
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
พ่อแม่รักลูกแบบไม่มีเงื่อนไขซาบซึ้งใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 27-02-2012 17:16:21
อบอุ่นจังเลย :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 27-02-2012 17:55:26
ครอบครัวอบอุ่น ^_^

อ่านแล้วอยากให้ที่บ้านเป็นแบบนี้บ้างจัง....

เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 27-02-2012 18:27:02
555 พี่หมูนั่งแท่นลูกสะใภ้คนโปรด ^^ อยากให้ลงวัน2ตอนเลย ชอบจริงๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 27-02-2012 19:25:47
ไม่รับขวัญลูกสะใภ้ด้วยกำไลทองเสียหน่อยหรือคะคุณแม่สามี อิๆ กรี๊ด!!!!!!!!!!! เมื่อกี้ลืม 555 ยอมรับแล้ว  ดีใจจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 27-02-2012 19:48:22
ว้าวววว..พ่อแม่สามียอมรับสะใภ้แล้ว ดีใจกับหมูจัง
ขอฉลองงานนี้ด้วยการกดเป็ดกด+  ให้น้ำพริกแมงดาล่ะกันจ้ะ
คุณนายณัฐจ๊ะ ไม่ใช่ฝ่ายสะใภ้เหรอที่ต้องเป็นฝ่ายให้ของน่ะ
ดีนะที่หมูไม่ต้องเตรียมค่าสินสอด อิ อิ อิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 27-02-2012 19:49:26
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 27-02-2012 20:15:39
อ่านไป ลุ้นไป ...happy ending
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 27-02-2012 20:28:16
ฮาคุณพ่อ ๕๕๕๕
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 27-02-2012 20:31:30
อบอุ่นสุดๆ :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: milky way ที่ 27-02-2012 21:15:24
 o13  เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว มีความสุขไปกับทั้งคู่จริๆ
แถมตอนล่าสุด ครอบครัวก็ยอมรับแล้วด้วย
ก็เหลือแค่ด้านครอบครัวหมูแล้ว
ขอบคุณสำหรับเรื่องที่ทำให้มีความสุขน่ะค่ะ   :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 27-02-2012 22:11:39
ไม่เกี่ยวกับเรื่องสินสอดค่ะคุณนายแก้ว แค่ของรับไหว้สะใภ้เฉย ๆ ก็สาวชาวภารตะ กำไลใส่ตั้งแต่ข้อมือยันศอกน่าจะถอดให้ง่ายสุด แถมธรรมเนียมรับไหว้มีทุกชาติค่ะ ฝรั่ง ไทย จีน แขก 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 28-02-2012 00:27:20
แอร๊ย พี่หมูคะ ใช้ครีมอะไรบ้างคะ ถึงจะได้เด้งได้เกิด

หนูจะไปเบิกมาใช้ซะบ้าง

ปล ยินดีด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 28-02-2012 03:11:31
โล่งอกไปที...นึกว่าจะได้กินมาม่าซะแล้ว....

 :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 28-02-2012 08:38:43
555555....บุกรังกันอย่างงี้ ถ้าเป็นผมคงสอบตกอ่ะ 5555 ห้องรกเกิ๊น!
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:27/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 28-02-2012 17:56:00
วันนี้มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ทุกคน

20


  หลังจากคนในครอบครัวกลับไปโรงแรมแล้ว อธิปพงศ์และนิธินก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ทว่าไม่ได้เติมเต็มความต้องการให้กันอย่างที่ต้องการในตอนเย็น เพราะว่าวันนี้พวกเขาเหนื่อยล้าไปทั้งกายและใจเสียเหลือเกิน
 อธิปพงศ์นอนกอดคนรักในอ้อมแขนอบอุ่นเช่นทุกวัน เขาซบอิงบนแผ่นอกหนานั้นและหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข โดยมีมือใหญ่ของคนรักกุมมือข้างขวาที่วางบนอกไว้อย่างแสนรัก
"วันนี้ผมดีใจนะที่พ่อกับแม่คุณโอเคซะที"
"อืมม" นิธินรับคำ "ผมก็ดีใจที่เค้ารับผมได้ และก็ชอบคุณด้วย"
"ชอบผมเหรอ" อธิปพงศ์ผงกหัวขึ้นมาอย่างประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น
"อืม" นิธินพยักหน้า
"ยังไงอ่ะ"
"ก็แม่ผมหน่ะ ตอนแรกเค้ากลัวว่าคุณจะไม่ดูแลผมไง เค้าเลยขอกลับมาก่อนเพื่อจะมาดูห้องว่าเราอยู่กันยังไง เค้าก็พอใจนะที่เห็นห้องไม่รก"
"ทั้งที่ความจริงคุณเป็นคนกวาด ฮ่ะๆๆ"
"ฮ่ะๆ แต่คุณเป็นคนเอาผ้าไปซักและรีดให้ผมหนิ"
"ช่ายย"
นิธินลูบผมคนรักเบาๆ
"ตอนแรกผมก็นึกกลัวนะว่าแม่จะพาใครมาด้วยรึเปล่า บอกตรงๆ ผมกลัวแม่จับผมแต่งงานหน่ะ แต่พอเห็นพวกท่านมากันเองอย่างนี้ก็ค่อยโล่งใจหน่อย"
"แล้วถ้าคุณโดนจับแต่งงานจริงๆล่ะ"
"ผมก็จะไม่แต่ง เพราะว่าผมมีของผมอยู่แล้วทั้งคน"
พอพูดจบชายหนุ่มก็หอมแก้มคนรักทั้งสองข้าง แล้วกอดร่างสมส่วนนั้นแน่นขึ้น อธิปพงศ์เงยหน้าไปจูบปลายคางสากๆ ของคนรักก่อนจะหลับตาลงอย่างมีความสุข เขาดีใจเหลือเกินที่ปัญหาระหว่างนิธินกับพ่อแม่จบลงด้วยความเข้าใจ และรู้สึกมั่นใจในชีวิตคู่ครั้งนี้มากขึ้น
 ถึงแม้รักครั้งนี้จะไม่ได้เริ่มต้นอย่างตื่นเต้น เร้าใจและเต็มไปด้วยสีสันเหมือนครั้งก่อน ๆ แต่อธิปพงศ์กลับรู้สึกมีความสุขอบอุ่นในใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานแล้ว ถึงแม้เขาและนิธินจะเป็นผู้ชายด้วยกัน และเพิ่งตกลงปลงใจกันไม่นาน แต่อธิปพงศ์ก็รู้สึกได้ว่าแต่ละก้าวย่างของความรักนั้นเต็มไปด้วยความมั่นคงในใจที่มีให้กันอยู่ตลอด
 แม้ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีอุปสรรคใด ๆ บ้าง แต่คนทั้งสองก็พร้อมที่จะจับมือฝ่าฝันไปด้วยกัน

 วันรุ่งขึ้นอธิปพงศ์มาทำงานตามปกติ แต่ทว่าวันนี้ทุกคนดูจะสนอกสนใจในตัวเขามากเป็นพิเศษ พี่กุ้งจึงถามขณะจัดร้านเตรียมอุปกรณ์ด้วยกัน
"หมู เมื่อวานเป็นไงบ้าง พ่อกับแม่คุณนิธินเค้าว่าไง"
"ไม่มีอะไรหรอกครับ ก็โอเคครับ เค้าก็ดีกับผม"
"อืม ได้ยินอย่างนี้ค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อย นึกว่าจะเจอแบบในหนังอินเดีย"
"ทำไมเหรอครับ"
"ก็แม่สามีในหนังส่วนใหญ่หน่ะใจร้ายทั้งนั้น คอยแต่หาเรื่องลูกสะใภ้ ฮ่ะๆ"
อธิปพงศ์ไม่พูดอะไรนอกจากก้มหน้ายิ้มเขินๆ แต่ป๊อกกี้ก็ขอเข้ามาแจมด้วย
"ว้ายๆ ทำอะไรกันคะคุณแม่ คุณพี่ เมื่อวานได้ข่าวว่าไปพบปะพ่อแม่สามีมาเป็นไงมั่งคะพี่หมู"
"ก็ดี ไม่มีอะไรหรอก"
"เหรอคะ แล้วคุณนิธินหน้าเหมือนพ่อหรือเหมือนแม่คะเนี่ย"
"ก็เหมือนทั้งสองคนแหล่ะ เรียกว่าเอาส่วนดีๆของพ่อกับแม่มารวมกันเลย"
"ต๊าย ออกมาเป็นพ่อพันธุ์ชั้นดีเลยนะคะ คิดแล้วก็เสียดายค่ะ ผู้ชายหล่อๆ อย่างคุณนิธินกับพี่หมูมากินกันเองเลยหมดไป ปล่อยให้หน้าแย่ๆแพร่พันธุ์เต็มไปหมด เฮ้ออ"
หญิงเลยพูดขึ้นมาบ้าง "อืม ใช่ๆ ถ้าพี่หมูกับคุณนิธินมีลูกจริงๆ หนูว่าลูกต้องออกมาน่ารักมากๆ แน่เลยอ่า"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็เขินใหญ่ ถึงแม้จะไม่เคยคิดเรื่องแบบนี้อยู่ในหัว แต่ก็เขินทุกครั้งที่พูดถึงชีวิตคู่ของเขากับคนรัก
"พอเลยพวกแก ไปทำงานได้แล้ว" เขาเอ่ยปากไล่รุ่นน้องให้แยกย้าย แต่ก็เป็นฝ่ายเดินหนีไปทำงานที่มุมอื่นเสียเอง ป๊อกกี้ยิ้มดี๊ด๊าแต่ก็ชะงักเมื่อได้ยินเสียงดุๆ จากพี่กุ้ง
"นังป๊อก วันนี้ลับกรรไกรกับบัตตาเลี่ยนเสร็จหรือยัง"
"ว้ายๆๆ ไปล่ะค่ะ"
 พี่กุ้งหัวเราะหึหึกับรุ่นน้องตัวแสบ พร้อมกับมองไปยังอธิปพงศ์ด้วยความยินดีที่ลูกน้องมีชีวิตใหม่กับรักครั้งใหม่ที่สดใสอย่างที่เพื่อนสนิทของเขาเคยทำนายไว้ แต่เขาก็อดเป็นห่วงอธิปพงศ์ไม่ได้ เพราะชีวิตของผู้ชายแบบเขามีอุปสรรคหนักหนาอีกมากมายจากภายในและภายนอกที่รออยู่ เขาหวังว่า ความรักที่คนทั้งคู่มีให้กันจะสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้

   “สวัสดีค่ะ ทำอะไรดีค่า อุย....” ป๊อกกี้ที่อยู่หน้าเคาท์เตอร์รู้สึกว่ามีลูกค้าเข้ามาแต่ พอเงยหน้าก็พบกับคุณป้าชาวอินเดียที่ยืนอยู่ เมื่อมองไปก็พบคุณลุงที่คาดว่าเป็นสามี และชายหนุ่มที่น่าจะเป็นลูก หญิงวัยค่อนคนเอ่ยปากถามออกมาว่า
“Mr.Mooh is here, ist’n he?”
“เอ่อ แป๊บนะคะ wait a minute” ป๊อกกี้ฟังภาษาอังกฤษสำเนียงอินเดียไม่รู้เรื่องเลยต้องไปถามอธิปพงศ์ที่กำลังไดร์ผมให้ลูกค้าอยู่
“พี่หมูคะ ทางนี้หน่อยค่ะ”
“มีไร ไม่เห็นเหรอว่าพี่ทำผมอยู่”
“ต้องมาด่วนค่ะ มีคนอินเดียเข้าร้าน คุณพี่ไปดูให้หน่อยได้มั๊ยคะ น้องคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง เดี๋ยวทางนี้น้องทำให้”
อธิปพงศ์มองไปหน้าร้านก็เห็นครอบครัวคนรัก จึงบอกกับรุ่นน้องว่า
“เดี๋ยวพี่ไปดูเอง”
เขาวางไดร์เป่าผมและหวีแปรงใส่มือรุ่นน้อง ทำให้ลูกค้าสาวมองหน้าป๊อกกี้งง ๆ ป๊อกกี้เลยบอกว่า
“พี่หมูเค้าคุ้ยเคยกับคนอินเดียดีค่ะ อิอิอิ”

  อธิปพงศ์ไปที่หน้าร้านเพื่อพบกับครอบครัวนิธินที่มารอ เขายกมือไหว้และก้มลงไปแตะที่เท้าตามมารยาท แต่คราวนี้พ่อกับแม่นิธินไม่ได้รีบลงไปก้มรับ เพราะแสดงว่าพวกท่านเห็นว่าอธิปพงศ์เป็นคนในครอบครัวคนหนึ่งแล้ว
ทุกคนมองอธิปพงศ์ที่เซ็ตผมอย่างดีในชุดทำงานที่สวมเสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงยีนขาเดฟ พร้อมกับกระเป๋ากรรไกรที่คาดเอว ก็ทำให้ทุกคนเชื่อแล้วว่าชายหนุ่มดูเป็นช่างผมมืออาชีพจริง ๆ
 แต่เพื่อนร่วมงานที่มองอยู่ในร้านจึงเดาได้ทันทีว่านี่คือครอบครัวของนิธิน ทำให้ป๊อกกี้ถึงกับดี๊ด๊า
“ต๊ายย คุณพ่อคุณแม่สามีพี่หมูมาเยี่ยมถึงที่เลยอ่า”
ลูกค้าคนเดิมถึงกับอึ้ง “เอ่อ สามีเหรอคะ”
“ค่ะ พี่หมูมีสามีเป็นคนอินเดีย”
ป๊อกกี้ลงมือหวีผมจัดทรงต่อ แต่ลูกค้านี่สิกลับรู้สึกตกใจที่รู้ว่าช่างผมรูปหล่อคนนี้ไม่ใช่ผู้ชาย

  “เอ่อ Why do you come here?” อธิปพงศ์เอ่ยปากถามอย่างแปลกใจ และอีกอย่างพวกเขารู้ได้อย่างไรว่าเขาทำงานอยู่ที่นี่
“We are going back to Mumbai in the midday.” คนเป็นพ่อตอบ “So , We would like to see you before we leave.”
อธิปพงศ์ตกใจเล็กน้อยที่รู้ว่าครอบครัวของคนรักกำลังจะกลับแล้ว เขาคิดว่านิธินน่าจะไปส่ง เขาจึงถามถึง
“Where’s Nitin”
พี่ชายตอบด้วยน้ำเสียงแจ่มใส่
“He will come to join us soon”
คนเป็นแม่จับแขนคนรักของลูกแล้วบอกว่า “I come here because I have something to tell you”
อธิปพงศ์มองหน้าแม่ของคนรักอย่างมีคำถาม เมื่อมองไปยังพ่อกับพี่ชายก็มีรอยยิ้มที่เอ็นดูส่งมาให้ เขาจึงพาทุกคนมานั่งเก้าอี้หน้าร้าน
“When I knew that my son and you living together very well. I’m very happy”
หญิงวัยค่อนคนพูดด้วยรอยยิ้มและโคลงศรีษะตามประสาคนอินเดีย เธอลูบหน้าขาวใสของอธิปพงศ์ด้วยความเอ็นดูอีกครั้ง พร้อมกับจับมือของอธิปพงศ์อย่างขอบคุณ ก่อนจะถอดกำไลทองฝังพลอยแบบอินเดียออกมาจากข้อมือที่เต็มไปด้วยกำไลนั้น จะมาสวมให้อธิปพงศ์ แต่อธิปพงศ์ตกใจ ทำท่าจะไม่รับของมีค่าขนาดนั้น เธอเลยบอกกับชายหนุ่มอย่างใจดีว่า
“This is yours” เธอจับมืออธิปพงศ์ยิ้ม ๆ “Formerly, I intended to give Nitin wife, but I realize that my son couldn’t”
เธอพูดพลางสวมกำไลให้อธิปพงศ์ในข้อมือข้างซ้าย   
“You are my son’s and my son is yours”
เมื่อเห็นสีหน้าของอธิปพงศ์ที่ลำบากใจที่จะรับของมีค่า เธอจึงจับมือชายหนุ่มแน่นและบอกว่า
“I believe Nitin will glad to see you wearing this bracelet”
“Thank you” เขาขอบคุณแม่คนรักอย่างจริงใจ ส่วนพ่อก็สมทบมาว่า
“My wife really wants to give you a bracelet, but she forgot to give you yesterday”
เธอหันไปบอกกับสามี  “ก็เมื่อวานเราไปเที่ยวนี่นา จะเอาของมีค่าอย่างนี้ไปได้ยังไง”
ดารามดัสมองนาฟิกาก็พบว่านี่คือเวลาใกล้สิบเอ็ดโมงแล้ว เขาจึงบอกกับพ่อและแม่ว่า
“ผมว่าเราไปกันเถอะครับ เดี๋ยวไปแอร์พอร์ตไม่ทัน”
แม่ของนิธินจึงหันมาบอกกับอธิปพงศ์ว่า
“We have to go now, very glad to see you, my dear”
“How do you go?”
“Taxi”
ไม่ทันจะพูดอะไรต่อ นิธินก็มาถึงที่หน้าร้าน อธิปพงศ์จึงออกไปหาคนรักทันที
“บ้านคุณจะกลับกันแล้วเหรอ”
“อืมใช่”
“คุณจะพาเค้านั่งแท็กซี่ไปใช่มั๊ย”
“อืม..ทำไมเหรอ”
“ผมว่าไปแอร์พอร์ตลิงค์เร็วกว่ามั๊ย”
“แอร์พอร์ตลิงค์ มีด้วยเหรอ” นิธินถามคนรักอย่างประหลาดใจ
“มีสิ เดี๋ยวนั่งบีทีเอสไปลงพญาไท ที่นั่นมีแอร์พอร์ตลิงค์”
“อ่าวเหรอ”
“ไปมะ”
“ก็ดีนะ เร็วดี”
“เอางี้ เดี๋ยวผมไปลางานแป๊บนึง เดี๋ยวผมไปส่งครอบครัวคุณด้วย”
“ครับ” นิธินยิ้มดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น อธิปพงศ์ไปลางานกับพี่กุ้งสักพักว่าจะกลับมาทำงานต่อเมื่อเสร็จทันที
  เมื่อพี่กุ้งอนุญาต เขาจึงพาทุกคนเดินทางตามที่บอก และก็ถึงสนามบินโดยใช้เวลาไม่นาน เมื่อมาถึงก็เหลือเวลาอีกพอสมควร แต่นิธินกับอธิปพงศ์ต้องขอตัวกลับก่อนเพื่อไปทำงานต่อ
“พ่อกับแม่กลับแล้วนะลูก ดูแลตัวเองและก็ดูแลแฟนแกให้ดีล่ะ” คนเป็นพ่อบอกกับนิธิน
“ใช่ ๆ พี่ดีใจนะที่มาหาแกเนี่ย”
“มา..มาให้แม่กอดที” คนเป็นแม่เข้าไปกอดลูกชายแน่น และไม่ลืมกอดคนรักของลูกด้วย
“ฝากลูกชายแม่ด้วยนะ” เธอบอกกับอธิปพงศ์เป็นภาษาฮินดี อธิปพงศ์ไม่เข้าใจจึงหันไปมองหน้าคนรัก “แม่ผมบอกว่าฝากดูแลผมด้วย”
“ครับ” อธิปพงศ์พยักหน้า และสวมกอดกับแม่นิธินอีกครั้ง
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“จ้ะ”
 คนทั้งสองไหว้และก้มลงแตะเท้าพ่อกับแม่ก่อนจะจากมา ทุกคนมองตามนิธินที่เดินจับมือกับคนรักด้วยความรู้สึกที่มีความสุข เพราะพวกเขาดีใจที่น้องชายคนเล็กของบ้านมีชีวิตและความรักที่ดีอย่างนี้

  นิธินเดินจับมือและหันไปยิ้มกับคนรัก เขาเพิ่งพบว่าตอนนี้อธิปพงศ์สวมกำไลข้อมือที่แม่เขาให้มาอยู่ เขาจึงยิ้มออกมาอย่างดีใจที่วันนี้แม่เขายอมรับอธิปพงศ์อย่างเต็มตัวแล้ว
“ที่รัก นั่นกำไลแม่ผมใช่มั๊ย”
“ใช่ คุณรู้ได้ไงอ่ะ”
“ก็ แม่ผมบอกว่า เค้าจะเก็บกำไลอันนี้ไว้ให้ภรรยาผม”
“เหรอ” อธิปพงศ์เขินหน้าแดงขึ้นมาทันที
“ใช่แล้ว เค้ามีสองอัน อีกอันไว้ให้ภรรยาของพี่ชาย อีกอันไว้ให้ผม”
“อืม...” เขาไม่พูดอะไรพร้อมกับจับมือคนรักแน่น “เท่ากับว่าตอนนี้คุณเป็นของผมเต็มตัวแล้วนะ”
อธิปพงศ์ยิ่งเขินอายเข้าไปใหญ่เขาไม่พูดอะไรนอกจากก้มหน้านิ่ง ๆ และบีบมือคนรัก แต่นิธินเห็นอย่างนั้นก็เปลี่ยนจากจับมือเป็นเดินโอบไหล่ทันที อธิปพงศ์จึงหันไปปรามคนรัก
“ทำอะไรอ่ะ....”
“คุณไม่ดีใจเหรอ...”
“ดีใจสิ ดีใจมาก ๆ ด้วย”
  นิธินก้มไปมองหน้าคนรักที่ยิ้มอย่างมีความสุข เขายังไม่ปล่อยให้อธิปพงศ์ห่างไปจากวงแขน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นจับมือเมื่ออยู่บนรถโดยสาร แม้คนทั้งสองจะยืนมาตลอดทาง แต่ก็ไม่ปล่อยมือซึ่งกันและกัน จนกระทั่งอธิปพงศ์ได้ยินเสียงหนึ่งที่คุ้นเคย
“พี่หมู....” ปิ่นปักร้องทักเมื่อเจอชายหนุ่มโดยบังเอิญบนบีทีเอส โดยปิ่นปักมากับฝน เพื่อนสาวคนสนิทที่ช่วยเป็นที่พักใจในครานั้น
“ปิ่น...” ชายหนุ่มก็ตกใจเหมือนกันที่มาเจอแฟนเก่าที่นี่
“เอ่อ พี่หมูสบายดีมั๊ย”
“สบายดี” อธิปพงศ์ตอบด้วยสีหน้าแจ่มใสเพื่อหมายความตามที่บอก
ปิ่นปักเห็นว่าอธิปพงศ์มากับผู้ชายตัวโต แต่ก็ตกใจแทบกรี๊ดเมื่อเห็นคนรักเก่ากับผู้ชายคนนั้นจับมือกันอยู่
“ปิ่นล่ะ”
“ก็ สบายดี..ค่ะ” แต่ปิ่นปักกับฝนมองหน้ากันหลอน ๆ เพราะเห็นว่าผู้ชายทั้งสองยังกุมมือกันไม่ปล่อย
“อืม..”
ปิ่นปักกล้า ๆ กลัว ๆ ถามออกไป
“พี่หมู เอ่อ พี่หมูมีใคร หรือยังคะ”
แต่อธิปพงศ์หันไปสบตากับคนข้าง ๆ อย่างมีความสุข พร้อมกับกุมมือคนรักแน่นขึ้น ก่อนตอบว่า
“มีแล้วจ้ะ นี่ คุณนิธิน แฟนพี่”
หญิงสาวทั้งสองพยักหน้าทักทายกับผู้ชายรูปหล่อกล้ามใหญ่ที่กุมมืออธิปพงศ์อยู่ ปิ่นปักนึกออกแล้วว่าเคยเจอนิธินที่ไหน เธอนึกถึงในครั้งนั้นที่นิธินเคยไปกินข้าวกับทุกคนในร้านด้วย นี่แสดงว่าพวกเขาทั้งสองแอบปิ๊งกันตั้งแต่ตอนนั้นเหรอ
“สถานีต่อไป สยาม Next station Siam”
อธิปพงศ์หันมาลาปิ่นปัก
“เอ่อ พี่ขอตัวก่อนนะ”
“ค่ะ ๆ”
ปิ่นปักรับคำด้วยความยากลำบาก และอธิปพงศ์ก็หันมาบอกคนรักว่า
“ที่รัก ผมไปทำงานก่อน นะเจอกันตอนเย็นล่ะ”
“ครับ ที่รัก”
 นิธินรับคำ และต่างคนต่างมองตากันหวานซึ้ง เมื่ออธิปพงศ์ออกจากประตูรถไปแล้ว ปิ่นปักกับฝนก็แทบจะเป็นลมกับสิ่งที่พวกเธอเพิ่งรับรู้วันนี้ ...

 หลังจากครอบครัวนิธินกลับไป ชีวิตคู่ของพวกเขาก็ดำเนินไปโดยปกติสุข โดยที่นิธินจะตื่นมาทำงานก่อนและไม่ลืมซื้ออาหารเช้ามาให้คนรักที่ตื่นทีหลัง พอเลิกงานนิธินเลิกงานก็มาเล่นฟิสเนสรอคนรักที่เลิกงานในเวลาสามทุ่ม พออธิปพงศ์เลิกงานแล้วพวกเขาก็ไปว่ายน้ำด้วยกันและกลับมาถึงห้องตอนห้าทุ่มกว่า ๆ แต่ เลิกงานวันนี้อธิปพงศ์ไม่ได้ไปว่ายน้ำกับคนรักอย่างที่เคย เพราะเขาต้องมาให้กำลังใจนิธินในการแข่งขันคริกเก็ตกระชับมิตรซึ่งถือเป็นประเพณีของสนามแห่งนี้ เขาเดินมาข้างสนามที่เห็นว่าคนรักซ้อมตีลูกอยู่กับเพื่อนๆ นิธินที่เห็นว่าอธิปพงศ์เดินมาหาก็ดีใจ ถึงกับละจากกลุ่มเพื่อนมาหาทันที
"วันนี้เหนื่อยมั๊ยครับ" เขาถามคนรักอย่างเป็นห่วง เพราะดูอธิปพงศ์ล้าๆ เล็กน้อย
"นิดหน่อยหน่ะ แต่ก็โอเค" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ดีใจที่ได้รับความเป็นห่วงจากคนรัก
"วีดวิ้วๆๆๆๆ" สามหนุ่มเพื่อนซี้ของนิธินออกอาการทะเล้นเมื่อเห็นเพื่อนมองตากับคนรักอย่างหวานเชื่อม อธิปพงศ์หันไปยิ้มกว้างและโบกมือให้คนทั้งสามก่อนจะหันมาถามคนรักต่อ
"แล้วนี่ยังไม่ได้ลงสนามใช่มั๊ยครับ"
"ครับ อีกทีมยังแข่งไม่เสร็จเลย"
"อืม ๆ" เขามองคนรักที่ดูดีในชุดกีฬา แล้วก็ยิ้มชื่นชม
"คุณไปซ้อมต่อเถอะ ว่าแต่ผมขอเล่นตีลูกบ้างได้มั๊ย"
"ได้เลย งั้นเล่นกับผมนี่แหล่ะ"
แต่เพื่อน ๆ ออกปากแซว
“แหม่ ๆ แฟนมาลืมเพื่อนเลยนะครับคุณนิธิน”
นิธินไม่ตอบโต้อะไรนอกจากรับคำยิ้ม ๆ เขาหยิบแบทให้คนรัก และเล่นตีลูกกันข้างสนามสักพัก เมื่อได้เวลาแข่งแล้ว เขาจึงขอตัว
“ผมไปแข่งแล้วนะ”
“ครับ สู้ ๆนะครับ”
 นิธินยิ้มรับอย่างมีความสุขและเดินลงสนามกับเพื่อน ๆ เขามองไปรอบ ๆ ก็เจอกับวัยรุ่นซิกข์กลุ่มเดิมที่เขาเคยเล่นตีลูกด้วย
บรรดาเด็กหนุ่มจึงเข้ามาทักอธิปพงศ์ทันที
“อ่าว พี่หมู..หวัดดีครับ วันนี้มาดูพี่นิธินแข่งเหรอ” ซันนี่เริ่มทักทายด้วยภาษาไทย
“ใช่แล้ว แล้วนี่พวกเราไม่ได้ลงแข่งด้วยเหรอ”
“พรุ่งนี้ครับ วันนี้ผมมาซ้อม ๆ เล่น ๆ กันก่อน”
“อ่าเหรอ”
อีกคนซึ่งอยู่ในกลุ่มถาม
“ไม่เจอพี่ตั้งนาน พี่ดูดีขึ้นป่ะเนี่ย”
“ฮ่ะ ๆๆ อำพี่เล่นป่ะเนี่ย พี่ก็เหมือนเดิม”
แต่ซันนี่บอกว่า
“ผมว่าไม่นะ สีหน้าพี่ดูแจ่มใส่มาก”
“เหรอ...”
“พี่ว่าวันนี้ทีมพี่นิธินจะชนะป่ะครับ”
“ไม่รู้สิ อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น”
“อืม..” เด็กหนุ่มคิดตาม และบอกว่า “งั้นพี่มาเล่นตีลูกกับพวกผมก็ได้ เอ้อ วันนี้พี่สาวผมมาด้วยนะ เดี๋ยวคงได้เจอกัน”
“อืมๆ” อธิปพงศ์ไม่สนใจอะไร ก่อนจะหันไปมองคนรักที่กำลังวิ่งอ้อมเสาอยู่ในสนาม เขายิ้มให้อีกครั้งก่อนจะไปเล่นกับกลุ่มเด็กหนุ่มที่ชักชวน เมื่อเล่นพอหอมปากหอมคอแล้ว อธิปพงศ์จึงมานั่งคุยบนอาคารกับเด็กหนุ่มที่วันนี้มีพี่สาวมาด้วย
 “นี่ แนะนำให้รู้จัก พี่หมู นี่ ซีแนม พี่สาวผม” ซันนี่หมายถึงสาวรุ่นผมยาวหน้าตาน่ารักแบบอินเดียที่นั่งอยู่ตรงหน้า และยิ้มให้อธิปพงศ์ตามมารยาท โดยที่เขาก็ยิ้มให้เธอเช่นกัน
 “ส่วน พี่ นี่พี่หมู เพื่อนพี่นิธิน”
“เพื่อนพี่นิธินเหรอ...” พอน้องชายบอกแค่นั้นก็ทำให้เด็กสาวแทบเก็บอาการดี๊ด๊าไว้ไม่อยู่ เพราะว่าเธอเองแอบปลื้มชายหนุ่มรูปหล่ออย่างนิธินมานานแล้ว โดยที่น้องชายก็รับรู้ด้วย
 แต่อธิปพงศ์ที่เห็นอาการอย่างนั้นก็หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจขึ้นมานิด ๆ  แต่ก็ยังเก็บอาการ ส่วนซีแนมยังคงตื่นเต้นไม่เลิกที่จะมีโอกาศใกล้ชิดชายในฝันมากขึ้น
“พี่เป็นเพื่อนพี่นิธินจริง ๆ เหรอคะ”
“ครับ...” อธิปพงศ์พยายามตอบนิ่ง ๆ และก็ยิ้มรักษามารยาท
ซันนี่เลยสมทบกับพี่สาว
“ก็ใช่นะสิ พี่หมูมาเคยมากับพี่นิธินที่นี่ครั้งนึงแล้ว พี่ผมเอาไปเล่าพี่ฟังไง”
“พี่เป็นช่างตัดผมใช่มั๊ยคะ”
“ครับ”
ซันนี่เลยบอกกับอธิปพงศ์อย่างสนุกสนาน
“เนี่ย พี่สาวผมเค้าชอบพี่นิธินมากเลย ถึงกับให้ผมแอบถ่ายรูปพี่นิธินเวลาเล่นคริกเก็ตไปฝาก”
อธิปพงศ์มองซีแนมแล้วคิดในใจ “ที่มาวันนี้เพราะว่าจะมาดูผู้ชายแข่งว่างั้นสิ”
“ซันนี่อ่ะ” ซีแนมเขินที่น้องชายเอามาเล่า แต่อธิปพงศ์เองกลับไม่เห็นเป็นเรื่องสนุกตามที่เด็กหนุ่มบอก
“แล้วพี่พอจะรู้มั๊ยคะว่า พี่นิธินเนี่ย เค้ามีครอบครัวรึยังคะ”
อธิปพงศ์ลองถามดู
“แล้วน้องได้ยินมาว่าไงบ้างล่ะครับ”
“ก็ ไม่แน่ใจอ่ะค่ะ เพราะซีก็ไม่ค่อยกล้าเค้าไปคุยกับพี่เค้าด้วย แต่ได้ยินมาว่าพี่เค้ายังไม่ได้แต่งงานอ่ะค่ะ แต่ซีไม่แน่ใจนะคะเพราะว่าเห็นเพื่อนพี่เค้าแต่งงานกันหมดแล้ว เลยไม่รู้ว่าเค้ามีแฟนหรือมีครอบครัวที่อินเดียรึเปล่า คนหล่อ ๆ อย่างนี้อยู่เป็นโสดนาน ๆ มันก็น่าแปลกนะคะซีว่า”
“อืม...” อธิปพงศ์พยักหน้ารับคำ ส่วนซันนี่เริ่มสังเกตว่าชายหนุ่มดูนิ่งผิดปกติ
“แล้วตกลงพี่รู้ป่ะคะว่าพี่นิธินเค้ามีแฟนหรือยัง”
“พี่ก็ไม่รู่อ่ะครับ คือ พี่ไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของเพื่อนหน่ะ”
“อ่า..ค่ะ” ซีแนมรับคำ แต่ก็รู้สึกเหมือนถูกหลอกด่ากลาย ๆ จากน้ำเสียงและแววตาที่อธิปพงศ์ใช้กับเธอ
  เด็กสาวเงียบไปและหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังตีลูกในสนามด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเธอคลั่งไคล้ในตัวเขามาก ส่วนอธิปพงศ์ก็เริ่มไม่สนุกกับการมาเชียร์กีฬาครั้งนี้แล้ว
 “พี่นิธินสู้เค้านะค้า….” เด็กสาวป้องปากตะโกนเชียร์ท่ามกลางเสียงหัวเราะของกลุ่มเพื่อน ๆ น้องชาย หนึ่งในนั้นเลยบอกว่า
“พี่นิธินจะแพ้เพราะพี่มาเชียร์นี่แหล่ะ”
“บ้า..เค้าต้องชนะหรอก เพราะชั้นมาให้กำลังใจถึงที่ คิคิคิ”
ซีแนมหัวเราะชอบใจ ต่างกับอธิปพงศ์ที่มองเด็กสาวด้วยหางตา และหันไปดูคนรักแข่งต่อเงียบ ๆ
“ผมว่ายากอ่ะ เพราะทีมพี่อาร์มีนมีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้น” ซันนี่วิเคราะห์
ซีแนมเลยตีแขนน้องชายเบา ๆ “ซันนี่ อย่าพูดอย่างนั้นสิ”
“ไม่ได้เลยน่า ใครจะว่าพี่นิธินนี่ไม่ได้เลย...”
“แน่นอนอยู่แล้ว คิคิคิ”
อธิปพงศ์หันมาถามบรรดาวัยรุ่นถึงเรื่องอื่นบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
“อื้ม แล้ว พวกเราเรียนที่ไหนกัน”
“อ๋อ พวกผมอยู่เกรด 11 ที่ร่วมฤดีฮะ” เด็กหนุ่มหมายถึงโรงเรียนนานาชาติชื่อดังที่พวกเขายังเป็นนักเรียนอยู่
“แล้ว น้องล่ะ” อธิปพงศ์หันไปถามซีแนม
“อ๋อ ซีอยู่ ม.กรุงเทพฯอินเตอร์ค่ะ เพิ่งเข้าปีหนึ่ง”
“งั้นเหรอ..” เขาจึงถามต่อ “อืม น้องซีชอบพี่นิธินจริง ๆ เหรอครับ”
“ก็...” เด็กสาวเขินอาย ท่ามกลางเสียงโห่ของกลุ่มน้อง ๆ “ก็ค่ะ...”
“แล้ว ไม่ชอบคนรุ่นเดียวกันเหรอครับ คนมีอายุหน่ะ จีบยากนะ”
อธิปพงศ์บอกเด็กสาวโดยเน้นเสียงที่ประโยคสุดท้าย
“ไม่หรอกค่ะ พี่นิธินเท่ห์กว่าเยอะ” ซีแนมตอบด้วยแววตาฝันหวาน “พ่อกับแม่ซีก็ห่างกันตั้งสิบกว่าปี ซีเห็นว่าพ่อเค้าดูแลแม่ดีมาก ๆ หน่ะค่ะ ซีก็เลยอยากได้ผู้ชายที่เหมือนพ่ออ่ะค่ะ”
“เหรอ....” อธิปพงศ์รับคำนิ่ง ๆ แต่ก็คิดในใจ “แถวพาหุรัดก็มีตั้งเยอะทำไม่ไม่เอาไปล่ะ”
“แล้วพี่หมูคะ..”
“ครับ..”
“เอ่อ พี่หมู พอจะรู้มั๊ยคะว่าพี่นิธินเค้าชอบผู้หญิงแบบไหน อย่างซีนี่พอไหวมั๊ยคะ”
“อืม...อันนี้พี่ว่าเดี๋ยวถามเจ้าตัวดีกว่านะครับ” อธิปพงศ์พยายามอดทนให้ถึงที่สุด เพราะตอนนี้ในใจเขาเต็มไปด้วยความร้อนรุ่มเพราะอาการหึง

  พอจบเกมส์ปรากฏว่าทีมของนิธินเป็นฝ่ายเอาชนะอย่างฉิวเฉียด อธิปพงศ์มองคนรักอย่างยินดี ส่วน
ซีแนมและน้อง ๆ ต่างก็กระโดดโลดเต้นดีใจออกนอกหน้ากับชัยชนะของชายในฝัน
 นิธินที่เห็นว่าอธิปพงศ์นั่งอยู่บนอาคารจึงวิ่งไปหา เขาเดินมาบอกกับคนรักอย่างตื่นเต้น ภายใต้สายตาดีใจของซีแนมที่วันนี้เธอจะได้เจอตัวจริงของนิธินแบบใกล้ ๆ
“ที่รัก...วันนี้ผมชนะแล้ว...” นิธินบอกกับคนรักด้วยความตื่นเต้นดีใจ ส่วนอธิปพงศ์ก็ยิ้มให้กำลังใจคนรักเหมือนเคย ส่วนซีแนมหุบยิ้มทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น
“ยินดีด้วยครับ” อธิปพงศ์บอกกับคนรักว่า “เอ้อ นี่ผมมานั่งดูคุณกับน้อง ๆ พวกนี้เนี่ย”
นิธินหันไปมองรุ่นน้องทุกคนอย่างเป็นมิตรก็พบว่ามีหญิงสาวมานั่งด้วย แต่ก็ไม่สนใจอะไรจึงมองผ่านและหันมาคุยกับคนรักต่อ
“นี่ น้องซี พี่สาวน้องซันนี่” อธิปพงศ์แกล้งแนะนำให้นิธินรู้จัก ซีแนมยิ้มให้นิธินเพราะก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่านิธินจะยังโสดอย่างที่เธอเข้าใจ และที่สำคัญหนุ่มไทยผิวขาวคนนี้ก็คือแฟนตัวจริง
“หวัดดีครับ”นิธินทักเด็กสาวอย่างเป็นมิตร ส่วนซีแนมก็ตอบรับแบบไม่มั่นใจ
“หวัดดีค่ะ”
“น้องซีเค้าอยากรู้หน่ะว่า..คุณมีแฟน...รึยัง”
  นิธินมองหน้าคนรักที่ยิ้มให้ เขาถึงบางอ้อทันทีเพราะรู้ว่าตอนนี้อธิปพงศ์กำลังหึงเขาอยู่และคิดว่าคนรักคงไม่ค่อยปลิ้มเด็กสาวคนนี้เป็นอย่างมาก เมื่อจะบูชาพระแม่กาลีต้องทุ่มมะพร้าวลงกับพื้น เช่นเดียวกับเขาที่ต้องใช้น้ำเย็น ๆ ดับความร้อนรนในใจของคนรัก
เขาจึงยิ้มให้คนรักและบอกอ้อน ๆ ว่า
“น้องเค้าอยากรู้จริง ๆ เหรอ”
“อื้ม..อยากรู้ ใช่มั๊ยครับน้องซี”
เขาพยักเพยิดไปทางซีแนมที่เริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้ว นิธินจึงบอกว่า
“พี่ขอบคุณมากนะครับ ที่น้องรู้สึกดีกับพี่”
“อ่าค่ะ”
“แต่ว่า ตอนนี้พี่มีแฟนแล้วครับ” นิธินบอกกับเด็กสาวที่นั่งนิ่งตรงหน้า เขาโอบเอวคนรักพร้อมกับแนะนำอย่างเป็นทางการ
“และนี่ พี่หมู แฟนพี่เองครับ”
 นิธินหันมายิ้มเอาใจให้คนรักเพื่อที่จะได้คลายจากอาการร้อนรุ่มในใจเสียที อธิปพงศ์ยิ้มเขิน ๆ และพอใจที่คนรักทำอย่างนั้น
ซีแนมนั่งอึ้งเหมือนถูกสาป แต่ซันนี่ไม่ได้โกรธคนทั้งสอง กลับรู้สึกว่า พวกเขาสองคนเหมาะสมกันมาก ๆ มากกว่าพี่สาวตนเองด้วยซ้ำ จึงพูดกับรุ่นพี่ว่า
“ดีแล้วหล่ะครับ ก็ว่าอยู่ว่าทำไมเหมือนพี่หมูเงียบ ๆ ไป ที่แท้พี่สาวผมก็คุยกับแฟนพี่นิธินตัวจริงนี่เอง”
 “อืม..ขอบใจนะที่วันนี้ดูแลพี่หมูให้”นิธินบอกกับซันนี่อย่างขอบคุณ
“ไม่เป็นไรครับ เรื่องเล็ก” ซันนี่รับคำ
“อืม พี่กลับก่อนนะ นี่ก็ดึกแล้ว เอ้อ พรุ่งนี้เต็มที่ล่ะ ขอให้ชนะนะ”
“ขอบคุณครับ” เด็กหนุ่มรับคำ อธิปพงศ์จึงบอกว่า
“พี่ไปก่อนนะซันนี่ ทุกคน”
“ครับ” อธิปพงศ์มองซีแนมที่เหมือนจะร้องไห้ก็ใจอ่อน นี่เขาทำอะไรแรงไปหรือเปล่า อธิปพงศ์จึงแอบรู้สึกผิดที่ทำให้เด็กสาวเป็นอย่างนี้ เขาจึงบอกกับซีแนมเสียงเบา ๆ ว่า
“เอ่อ น้องซี พี่ขอโทษนะครับ”
ได้ยินแค่นั้นซีแนมก็ปล่อยโฮออกมาทันที
“ฮือ ๆๆๆๆ”
ทุกคนมองซีแนมด้วยความสงสาร นิธินจึงบอกว่า
“พี่ขอโทษนะครับ แต่พี่เชื่อว่าสักวันน้องจะต้องเจอคนที่ดีกว่าพี่ และก็รักน้องมาก ๆ เชื่อพี่สิ”
ซีแนมยังร้องไม่หยุด และเริ่มออดอ้อนนิธิน ทำให้อธิปพงศ์เริ่มไม่พอใจขึ้นมาอีกครั้ง
“ที่รัก กลับกันเถอะ”
เขาหันมามองคนรักและละจากเด็กสาวเพื่อเดินออกไปกับอธิปพงศ์ ทำให้ซีแนมร้องไห้ออกมาอย่างเสียใจและเจ็บใจ

 นิธินมองคนรักเงียบมาตลอดการเดินทาง เขาจึงเอ่ยปากถามขณะเดินเข้าซอยกลับอพาตเม้นท์
“วันนี้คุณว่าผมเล่นดีมั๊ย”
“ก็ดีมั๊ง” เขาตอบเรียบ ๆ ไม่ใช่ไม่พอใจคนรัก แต่ไม่รู้จริง ๆ เพราะตลอดการแข่งขัน เขามัวแต่เข่นเขี้ยวเด็กสาวข้าง ๆ
“คุณไม่ได้ดูผมเล่นเหรอ..หึหึหึ”
“ก็...”
“หึงผมใช่มั๊ยล่ะ”
“อืม...”
อธิปพงศ์ตอบตรง ๆ เพราะไม่รู้จะอายเรื่องแบบนี้ไปทำไมเหมือนกัน นิธินจึงบอกว่า
“งั้น วันนี้ ผมคงต้องส่งการบ้านแล้วหล่ะ”
“แน่นอน...” อธิปพงศ์รับคำยิ้ม ๆ แต่ก็สะดุด “เมื่อกี๊คุณว่ายังไงนะ ส่งการบ้านเหรอ”
“ใช่ ส่งการบ้าน”
“ใครสอนคุณอ่ะ”
“ก็ วิษณุกับเอเจไง”
“โหยย ร้ายอ่ะ...”
“ก็ ผมมีแฟนเป็นคนไทยผมก็ต้องรู้ภาษาไทยเยอะ ๆ สิคร้าบบบ ฮ่ะๆๆๆ”

  คนทั้งสองหันมาหัวเราะให้กันขำ ๆ ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันที่ทั้งคู่ใช้แรงกายจนเหนื่อยล้าอีกหนึ่งวัน แต่พวกเขาก็พร้อมเสมอสำหรับกิจกรรมหรรษาที่ขาดไม่ได้ นิธินยิ้ม ๆ นึกถึงคำพูดของใครสักคนที่เคยได้ยินว่า “Sex เป็นยาวิเศษของชีวิตคู่ ที่ช่วยให้คนสองคนสนิทกันมากขึ้น และเป็นเครื่องมือในการปรับความเข้าใจของคู่รัก” ซึ่งในตอนนี้เขาเห็นด้วยกับคำพูดดังกล่าวทุกประการ... 



โปรดติดตามตอนต่อไปจ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 28-02-2012 18:23:33
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
นิธินและอธิปพงศ์แก้ปัญหาได้ดีจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 28-02-2012 18:29:50
 :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 28-02-2012 19:48:03
พี่หมูนี่หึงแรงจริงอะไรจริง แต่ก็ยังน่ารัก อิอิ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 28-02-2012 19:53:43
ว้าย ว้าย  กำไลทองฝังพลอยเป็นของรับไหว้ สมดังคำคุณนายณัฐว่าไว้จริงๆ
ดีใจจริงๆกับหมู-นิธิน เพราะบุคคลสำคัญที่สุดในครอบครัวยอมรับอย่างเต็มใจ
หมูนี่ขี้หึงจังเลยนะ แต่ก็ดีที่นิธินเข้าใจ และรู้เท่าทันอารมณ์คนรัก แบบนี้ชีวิตคู่คงไม่มีปัญหาแหละ
 ที่สำคัญอีกคือ ทั้งคู่มีความสมดุลย์กันจ้า อิ อิ อิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 28-02-2012 20:04:44
พี่หมูขี้หึงอ่ะ^^
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 28-02-2012 20:58:20
ดีนะคะหนูเห็นแหนม ไม่เจออิธิฤิทธ์พระแม่กาลี ข้อหามีตาแต่หามีแววไม่ 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-02-2012 21:05:04
หมูหึงได้น่ารักอ่ะ

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 28-02-2012 21:34:54
สวัสดีค่ะคุณน้ำพริกแมงดา
เพิ่งเข้ามาอ่านของคุณครั้งแรก
ประทับใจเรื่องนี้มาก
นอกจากจะได้ซาบซึ้ง หวานไปกับคุณหมูและคุณนิธิน
 :m1:
แล้วยังได้รู้วัฒนธรรมของคนอินเดียที่เราไม่ค่อยรู้จักกันด้วย
ความรักสามารถทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ
ขอสมัครเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยอีกคนค่ะ
อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอเลยน้อ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆเรื่องนี้ค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 28-02-2012 22:05:24
แหมๆ หึงทีก็ปลอบใจกันที อิอิ :impress2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 28-02-2012 22:48:16
มีแฟนหน้าตาดี ต้องทำใจ
เหนื่อยหน่อยนะน้องหมู
กลุ้มใจแทนพ่อแม่เด็กวัยรุ่นสมัยนี้
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 28-02-2012 22:53:29
ซึ้งและอบอุ่นมาก ๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 28-02-2012 22:57:27
แอร๊ยยย

กลัวเเล้วค้า หนูไม่กล้า เข้าใกล้ เเฟน พี่หมูเเล้วค่ะ

กลัวโดนตบด้วยเปลือกทุเรียน จริงๆ ซิกๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 29-02-2012 08:55:45
ไม่ได้อ่านเรื่องนี้นาน  เเต่กลับมาก็ไม่ผิดหวัง สนุกมากๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-02-2012 15:08:23
ถึงว่าทำไมในแฟนเพจมีรูปกำไล ที่แท้เค้าก็มีของจองตัวลูกสะใภ้นี่เอง
แถมยังได้เห็นหมูหึงนิธินด้วย คุ้มจริงๆ :z1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 29-02-2012 16:20:53
อยากอ่านบทส่งการบ้านของนิธินอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 29-02-2012 17:39:31
สวัสดีค่ะคุณน้ำพริกแมงดา
เพิ่งเข้ามาอ่านของคุณครั้งแรก
ประทับใจเรื่องนี้มาก
นอกจากจะได้ซาบซึ้ง หวานไปกับคุณหมูและคุณนิธิน
 :m1:
แล้วยังได้รู้วัฒนธรรมของคนอินเดียที่เราไม่ค่อยรู้จักกันด้วย
ความรักสามารถทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงได้จริงๆ
ขอสมัครเป็นแฟนเรื่องนี้ด้วยอีกคนค่ะ
อ่านเท่าไหร่ก็ไม่พอเลยน้อ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆเรื่องนี้ค่ะ
 :pig4:

ยินดีต้อนรับนะคะ ขอบคุณมาก ๆๆๆ เลยค่ะ


อยากอ่านบทส่งการบ้านของนิธินอ่ะ อิอิ


คนเขียนไม่อยากให้นิยายโดนลบเพราะติดเรทอ่ะค่ะ แต่เอาเป็นว่ามีแน่กับเลิฟซีนของคนทั้งสองค่ะ อิอิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:28/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 29-02-2012 17:43:01
วันนี้มาแล้วนะคะ ขอบคุณมาก ๆๆๆ เลยค่ะ


21


    งานแต่งงานของวิษณุถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ตามแบบฉบับอินเดียโดยจัดขึ้นที่บ้านของเจ้าสาวแถวดอนเมือง อธิปพงศ์และนิธินไม่พลาดที่จะไปร่วมงานสำคัญของเพื่อน โดยเมื่อวานตอนเช้าเป็นงานหมั้นและตอนกลางคืนที่บ้านของวิษณุได้มีงานเลี้ยงสังสรรค์ในหมู่ญาติ ๆ และเพื่อนฝูง นิธินกับอธิปพงศ์ก็ได้ไปร่วมละเลงขมิ้นบนตัววิษณุตามความเชื่อโบราณว่าขมิ้นจะช่วยให้ผิวพรรณผุดผ่องเจ้าบ่าวจะได้ดูดีที่สุดในวันงาน เช่นเดียวกับเมื่อคืนที่บ้านเจ้าสาวก็มีพิธีเมเฮนดิ ตามธรรมเนียมอินเดีย
      วิษณุที่วันนี้ดูหล่อเหลาเป็นพิเศษด้วยชุดกูรตะเต็มยศสีแดงลายทองพร้อมผ้าโพกศรีษะ ส่วนพ่อกับแม่เจ้าบ่าวในเสื้อผ้าสีสันสดใสที่เดินตามมาก็ดูมีความสุขไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าลูกชายในวันนี้ นิธินกับอธิปพงศ์นั้นอยู่ในขบวนแห่แบบอินเดียของเจ้าบ่าวที่กำลังย่างก้าวสู่ตัวบ้านจัดสรรหลังย่อมที่ถูกตกแต่งให้สวยงามสไตล์อินเดียด้วยม่านดอกไม้ ที่มีกล้วยไม้ดาวเรืองที่ร้อยเป็นสายประดับประดาทุกมุมของบ้าน โดยที่เขาและเพื่อนเจ้าบ่าวทุกคนก็สวมใส่เสื้อผ้าแบบอินเดียมาร่วมงานเช่นเดียวกัน  เมื่อก้าวเข้ามาถึงในตัวบ้านญาติ ๆ เจ้าสาวก็ได้ร่วมกันโปรยดอกไม้และน้ำอบน้ำหอมต้อนรับเจ้าบ่าวและครอบครัวพ่อกับแม่ก็พาเจ้าสาวที่อยู่ในชุดส่าหรีสีทองเหลือบแดงที่สวมใส่เครื่องทองเต็มตัวลงมาจากชั้นสอง โดยมีกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวตามหลังเธอมาอีกเป็นขบวน วิษณุมองคนรักอย่างตกตะลึงเพราะแทบไม่เชื่อว่าเธอจะสวยตามสไตล์อินเดียได้ขนาดนี้
ส่วนนิธินก็มองคนข้างๆ ที่มองสำรวจรอบงานและดูประหลาดใจกับเจ้าสาวร่างเล็กที่สวมชุดส่าหรี และเครื่องประดับทองเต็มยศ ชายหนุ่มคิดว่ากว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะสวยที่สุดในวันสำคัญของพวกเธอได้ได้คงต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก
"เพราะความรักใช่มั๊ยถึงทำให้อดทนได้อย่างนี้" อธิปพงศ์คิดอย่างนั้นแล้วก็ยิ้มออกมากับงานมงคลอันน่ายินดีของเพื่อนคนรัก

  พิธีการในงานเริ่มต้นเมื่อเจ้าบ่าวเข้าไปรับเจ้าสาวจากพ่อและแม่มายังแท่นปะรำพิธีกลางบ้านที่มีกองไฟขนาดย่อม โดยที่ญาติผู้ใหญ่ของแต่ละฝ่ายนั่งรายล้อมและมีพราหมณ์นั่งสวดประกอบพิธี  เจ้าบ่าวเจ้าสาวคล้องพวงมาลัยขนาดใหญ่ให้กันและกัน ก่อนจะเดินวนไปมารอบกองไฟ 7 รอบ  และร่วมกันเทเนยเหลวพร้อมด้วยกิ่งไม้มงคล 9 อันลงบนกองไฟโดยเชื่อว่าเป็นการส่งสารให้เทพอัคนีรับรู้และอวยพรในงานมงคลนี้ ก่อนจะร่วมกันเทข้าวสารลงบนกองไฟตามความเชื่อที่ว่าครอบครัวจะได้ยั่งยืนมีลูกมีหลานหลายชั่วอายุคน เสร็จแล้วก็เดินไปทางทิศเหนือจำนาน 7 ก้าว  จากนั้นพราหมณ์และญาติผู้ใหญ่ก็จะประพรมน้ำมนต์ให้เจ้าสาวเพื่อชำระล้างบาปในอดีตสำหรับการก้าวสู่ชีวิตข้างหน้า  เมื่อบ่าวสาวเสร็จพิธีบนแท่นแล้วคนทั้งงานก็ร่วมกันโปรยกลีบดอกดาวเรืองมายังคู่บ่าวสาวที่เดินลงมาคาระวะบุพการีของทั้งคู่ บ่าวสาวก้มลงไปแตะที่ฝ่าเท้าของพวกท่านที่พรมน้ำมนต์ให้ ก่อนจะสวมกอดพ่อแม่ตัวเองด้วยความรัก
 อธิปพงศ์มองภาพนั้นแล้วยิ้มตาม เพราะงานแต่งงานแบบอินเดียนี้ไม่ได้มีแต่ความยิ่งใหญ่อลังการอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่เป็นพิธีแต่งงานที่ทำให้ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายสามารถร่วมสนุกและร่วมยินดีกับบ่าวสาวได้อย่างเต็มที่ เมื่อหลังจากนั้นก็เป็นเวลาแห่งงานฉลองและการเต้นรำของคนทั้งงาน นิธินกับอธิปพงศ์สบโอกาสเข้าไปแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวที่ยืนอยู่กลางงาน
"ยินดีด้วยนะวิษณุ ดีใจด้วยจริงๆว่ะ"ชายหนุ่มเข้าไปกอดคอและตบไหล่เพื่อน
"เออ ขอบใจนะเว้ยนิธิน"
"ยินดีด้วยนะครับคุณวิษณุ คุณเมย์"
"ครับ ขอบคุณมากๆ นะครับคุณหมู"
"ขอบคุณค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้เกียรติมางานของเรา"
"ครับ" อธิปพงศ์มองร่างเล็กในชุดเจ้าสาวแล้วก็ตกใจ เพราะเมื่อมองดูใกล้ๆ เธอสวมทั้งชุดสร้อยคอ ต่างหู เครื่องประดับผม  และกำไลจนเกือบถึงข้อศอก และไหนจะเฮนน่าสีส้มแดงที่เพ้นท์เต็มมีออีก เขาจึงเอ่ยปากถามเจ้าสาวว่า
"เอ่อ หนักมั๊ยครับ"
แต่เจ้าสาวตัวเล็กกลับตอบว่า "ลองใส่เองเลยค่ะ ใช่มั๊ยนิธิน"
นิธินหัวเราะที่ได้ยินอย่างนั้น ส่วนอธิปพงศ์ก็ยิ้มเขินๆ กับสิ่งที่หญิงสาวออกปากแซว

และพิธีการในงานก็เสร็จสิ้นเมื่อถึงเวลาส่งตัวเจ้าสาว โดยเจ้าบ่าวจะนำรถที่ตกแต่งอย่างสวยงามมารอรับที่หน้าบ้าน เจ้าสาวเดินออกมาพร้อมพ่อกับแม่ที่มาส่ง เธอหันไปมองพ่อกับแม่ที่ยิ้มให้ลูกสาวก่อนจะสวมกอดกันอีกครั้ง และเธอก็ขึ้นรถที่เจ้าบ่าวเตรียมไว้ และแล่นออกไปจากบริเวณงาน ก็ถือว่าตอนนี้เจ้าสาวได้กลายเป็นสมาชิกของครอบครัวเจ้าบ่าวอย่างสมบูรณ์

"ที่รัก คุณเคยอยากแต่งงานบ้างมั๊ย" นิธินถามอธิปพงศ์ที่อยู่ในอ้อมอก
"ทำไมอ่ะ นึกยังไงถึงถามขึ้นมา" อธิปพงศ์ประหลาดใจเล็กน้อย จึงย้อนถามคนรักเจือรอยยิ้ม
"ก็ ไม่รู้สิ วันนี้เราเพิ่งไปงานแต่งงานมามั๊ง"
"หึหึหึ" อธิปพงศ์หัวเราะในคอเบาๆก่อนถามว่า
"คุณอยากแต่งงานเหรอครับ หืมม์"
"เปล่าครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่าคุณคิดยังไงกับการแต่งงาน ผมเห็นว่าคุณเคยมีแฟนเป็นผู้หญิง ก็เลยอยากรู้หน่ะ"
อธิปพงศ์ถอนหายใจก่อนบอกว่า "ตอบตามตรงนะ ผมไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานอยู่ในหัวเลย"
"จริงเหรอ"
"อื้มม จริงๆ"
"ทำไมล่ะ"
"ก็ ไม่รู้สิ ผมแค่นึกไม่ออกถึงงานแต่งงานและภาพที่ตัวเองมีแฟน มีลูกหน่ะ ผมต้องการแค่ว่าคบกันไปเรื่อยๆ อยู่อย่างมีความสุขกันก็พอแล้ว"
"งั้นเหรอ"
"อื้มม"อธิปพงศ์ถามบ้าง "แล้วคุณล่ะ"
"ไม่หรอกครับ แต่ผมก็แค่รู้สึกดีใจเวลาเห็นคนอื่นแต่งงานกันหน่ะ สำหรับผม ถ้าอยู่ด้วยกันแล้วแฮปปี้ก็พอแล้ว"
นิธินนึกขึ้นได้จึงรีบบอก "เอ้อ..ที่รัก ผมมีอะไรจะถามคุณหน่อยหน่ะ"
"ว่ามาเลยครับ"
"ถ้าผมย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ ผมว่าจะดูๆ คอนโดสักห้องหน่ะ คุณว่าไงครับ"
"คอนโดเหรอ"
"ใช่ครับ คอนโดของผมกับคุณ"
นิธินรับคำแข็งขัน ส่วนอธิปพงศ์ก็ลังกรุ่นคิดกับสิ่งที่คนรักเสนอ เพราะส่วนตัวเขาก็มีเงินเก็บไว้สำหรับที่อยู่ถาวรดีๆ ในกรุงเทพฯเช่นกัน แต่ก็ยังลังเลระหว่างที่อยู่ดี ๆ หรือจะเป็นกิจการของตัวเองที่เขายังไม่แน่ใจว่าตัวเองพร้อมหรือเปล่า แต่พอได้ยินนิธินพูดอย่างนี้ ก็ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและมั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
"ก็ดีเหมือนกันนะครับ" เขาให้คำตอบคนรักสั้นๆ เพราะนี่เป็นเรื่องที่ดีสำหรับชีวิตคู่ของพวกเขาที่จะเริ่มลงหลักปักฐานด้วยความมั่นคง ชายหนุ่มทั้งสองวาดฝันไว้ ว่าขอเพียงได้ใช้ชีวิตคู่ครั้งนี้ด้วยกันตลอดไป แค่นี้เขาก็มีความสุขที่สุดแล้ว

 และวันหยุดยาวเนื่องในวันพ่อที่อธิปพงศ์รอคอยก็มาถึง โดยพี่กุ้งเองก็ปิดร้านเป็นเวลาสามวันเพื่อให้ตัวเองและลูกน้องไปพักผ่อนบ้าง นิธินเองก็ตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้ไปเจอกับครอบครัวของคนรักที่ต่างจังหวัด พวกเขาเดินทางโดยรถตู้โดยสารจากอนุเสารีย์ชัยสมรภูมิตั้งแต่ตอนบ่ายของวันที่ 4 ธันวาคมที่มีคนรอขึ้นรถตู้ค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ และทั้งคู่ก็ถึงตัวเมืองลพบุรีในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา
  “ถึงแล้วครับ เดี๋ยวเราไปขึ้นรถเมล์กันนะ แล้วต่อมอไซค์ไปบ้านผม”
“ครับ”
  นิธินรับคำก่อนจะมองดูรอบ ๆ อย่างตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเขา ที่ได้ออกมาต่างจังหวัดของประเทศไทย เขามองไปข้างหน้าที่เป็นเนินสำหรับรางรถไฟที่ขนานกับถนนเส้นนี้ โดยมีร้านค้ารถเข็นกำลังจัดร้านสำหรับเปิดทำการโต้รุ่งอยู่ข้างล่าง เมื่อเขามองไปทางซ้ายมือก็เห็นพระปรางค์สามยอด ถัดมาคือโรงเรียนขนาดใหญ่และศาลพระกาฬที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นใจกลางเมืองที่มีการจราจรวุ่นวายจากรถยนต์บนท้องถนนและรถไฟ เมื่อเขาเดินตามคนรักไปยังฟุตบาทก็พบว่ามีลิงจำนวนไม่น้อยกำลังวิ่งเล่นและปีนป่ายเสาไฟฟ้าอยู่ และมีลิงตัวหนึ่งวิ่งตัดหน้าเขา
“ฮ่ะ ๆๆ ระวังลิงแย่งกระเป๋าให้ดี”
นิธินหันไปมองคนรักเพราะไม่เข้าใจคำศัพท์เลยคาดเดา
“ลิง?..Monkey?”
“ใช่แล้ว ลิง” อธิปพงศ์ยิ้มรับ “ระวังกระเป๋าคุณล่ะ”
“ครับ” นิธินมองคนรักยิ้ม ๆ และเงยหน้าขึ้นไปมองบนเสาไฟฟ้าก็พบว่ามีลิงจำนวนมากกำลังปีนป่ายอยู่บนสายไฟและตัวอาคารริมฟุตบาทแห่งนี้ ชายหนุ่มจึงบอกกับคนรักที่เดินมาด้วยกันอย่างอารมณ์ดีว่า
“ที่นี่ก็เหมือนนิวเดลีเลยหน่ะสิ”
“นิวเดลี?...ยังไงเหรอ?”
“ก็ ที่นิวเดลีหน่ะ มี Monkey ออกมาเดินในเมืองเหมือนอย่างนี้แหล่ะ”
“จริงเหรอ ฮ่ะๆๆ ผมก็นึกว่าจะมีที่ลพบุรีบ้านผมที่เดียวซะอีก”
“ฮ่ะๆๆ”
  สองหนุ่มหัวเราะกันขบขันกับเรื่องของลิงที่ต่างคนต่างก็เพิ่งรับรู้ พวกเขาเดินข้ามถนนมาฝั่งพระปรางค์สามยอดมายังตึกแถวที่เป็นท่ารถเมล์วนรอบตัวเมือง คนทั้งสองขึ้นมายังรถเมล์ที่เปิดเพลงดังกระหึ่ม อธิปพงศ์กลัวว่านิธินจะตกใจเลยบอกว่า
“รถเมล์ที่นี่ก็อย่างนี้แหล่ะ ต้องเปิดเพลงดัง ๆ”
นิธินพยักหน้ารับรู้ ส่วนคนพื้นที่อย่างเขาก็ตกใจว่าบ้านเมืองที่จากไปนานก็ยังมีอะไรที่เหมือนเดิมให้นึกถึงวันเก่า ๆ อยู่เหมือนกัน
ชายหนุ่มอินเดียมองออกไปนอกหน้าต่างรถเพื่อมองดูสองข้างทาง อธิปพงศ์ชี้ให้ดูโรงเรียนประจำจังหวัดที่ขณะนี้มีการจัดงานฤดูหนาวลพบุรีซึ่งเป็นงานประจำปีครั้งยิ่งใหญ่อยู่ด้วย
 “นี่ โรงเรียนผม ตอนนี้เค้าจัดงาน Winter fair เดี๋ยวกลางคืนผมพามาเที่ยวนะ”
“ครับ”
 นิธินรับคำคนรัก เขาเองก็ตื่นเต้นเล็กน้อยเหมือนกันที่จะได้มาเที่ยวงานประจำปีแบบไทย ๆ เป็นครั้งแรก เขาอยากจะรู้เหมือนกันว่าเมืองนี้ยังมีอะไรเหมือนอินเดียบ้านเขาอีกหรือเปล่า ถึงแม้ว่าตัวเมืองนี้จะมีความเจริญไม่ต่างอะไรจากเมืองหลวงก็ตาม
 คนทั้งสองลงรถเมล์วนที่วงเวียนสระแก้ว อันเป็นที่ตั้งของสถานีขนส่งประจำจังหวัด และต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังทิศเหนือของตัวเมืองไม่ไกลจากนี้เพื่อจะไปบ้านของเขา
  มอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้งสองคันจอดนิ่งที่หน้าบ้านสวนหลังหนึ่งที่มีต้นข่อย ชวนชม และไม้ประดับชนิดอื่น ๆ วางเรียงเป็นแถวโชว์อยู่ในรั้ว นิธินและอธิปพงศ์จ่ายค่าโดยสารเรียบร้อยแล้วจึงเดินเข้าไปในบ้านทันที
“ถึงแล้วหล่ะ บ้านผม” อธิปพงศ์บอกกับคนรักยิ้ม ๆ เพราะตัวเขาก็ดีใจเหลือเกินที่ได้กลับบ้านหลังจากไม่ได้กลับมานาน
นิธินเห็นคนรักมีความสุขอย่างนั้นก็ดีใจ เขาเดินตามอธิปพงศ์เข้าไปข้างในทันที
 หมาพันทางสามตัวออกมาเห่ารับหน้า โดยสองตัวนั้นกระดิกหางเข้ามาหาชายหนุ่มอย่างดีใจ สักพักก็มีหญิงวัยค่อนคนหน้าตาสะสวยที่อยู่ในชุดทำสวนและหญิงชราในเสื้อลูกไม้ผ้าซิ่นเดินออกมาจากตัวบ้านทรงไทยประยุกต์ครึ่งไม้ครึ่งปูนหลังย่อมนี้
 “หมู....มาแล้วเหรอลูก” คนเป็นแม่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นหน้าลูกชายคนเดียวกลับมาถึงบ้าน เธอมองไปยังชายหนุ่มตัวโตที่มาด้วยแล้วยิ้มให้ เพราะนั่นก็คงจะเป็นคนรักของลูกอย่างที่เจ้าตัวเคยบอก
“แม่...แม่หวัดดีครับ” ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปกอดแม่ทันทีด้วยความคิดถึง แม่ลูกกอดกันแน่น และอธิปพงศ์ก็เข้าไปกอดยายที่ยืนยิ้มให้
“อื้มมม คิดถึงยายจังเลยย”
“ไม่ต้องมาพูดเลย คิดถึงแล้วทำไมไม่กลับมาล่ะ” หญิงชราบ่นหลานอย่างน้อยใจ ทำให้คนเป็นแม่ต้องรีบห้าม
“เอาน่าแม่ วันนี้หมูมันก็กลับมาแล้ว แม่ไม่ดีใจรึไง”
“นั่นสิ ยายไม่ดีใจเหรอ...” อธิปพงศ์ได้ทีอ้อน
“ดีใจซี่” ยายหยิกแก้มใส ๆ ของหลานชายอย่างอารมณ์ดี ส่วนแม่ก็หันไปมองนิธินที่ยืนยิ้มอยู่ เธอจึงหันไปมองลูกชายให้แนะนำคนรักให้เธอรู้จักเสียที
“เออ หมู..”
“อ่อ..” อธิปพงศ์ละออกมาจากยาย เพื่อมาแนะนำคนรัก
“ยายครับ แม่ครับ นี่ นิธิน..แฟนผม”
อธิปพงศ์ที่ถึงแม้จะเริ่มชินกับการแนะนำแบบนี้ แต่ก็แอบเขินเมื่อต้องมาแนะนำให้แม่กับยายตัวเองรู้จัก
  “สวัสดีครับ” นิธินยกมือไหว้และสวัสดีทักทายเป็นภาษาไทยอย่างนอบน้อม ทำให้แม่และยายของคนรักตื่นเต้นและดีใจที่หนุ่มอินเดียคนนี้พูดไทยได้
คนเป็นแม่เข้าไปจับแขนชายหนุ่มอย่างเอ็นดู “หวัดดีจ้ะ นิธิน ยินดีต้อนรับนะ ทำตัวตามสบายล่ะ”
“ขอบคุณครับ” นิธินยกมือไหว้พร้อมกับยิ้มให้แม่ของอธิปพงศ์อีกครั้ง ส่วนยายก็เข้ามาจับแขนเขาและมองหน้าใกล้ ๆ เหมือนกัน
“โอ้โห หล่ออย่างกับพระเอกหนังแขกแหน่ะ” และหันไปแซวหลานตัวเอง “ตาถึงจริง ๆ นะ”
อธิปพงศ์เขินหนักเมื่อถูกยายตัวเองแซวแบบนี้ แม่เขาเลยบอกว่า
“แม่หน่ะ แซวหมูมันซะเขินหน้าแดงเลย” เธอยิ้มให้กับลูกชาย นานแล้วเหมือนกันที่ไม่เคยเห็นเขาออกอาการเขินอายใครอย่างนี้
“ไปลูกไป เอาของไปเก็บในบ้านก่อน นี่แม่เข้าไปจัดห้องให้เราใหม่แล้วนะ”
“ขอบคุณครับแม่”
อธิปพงศ์นำนิธินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้านเพื่อจะไปเก็บของในห้องนอนของเขา โดยชั้นบนของบ้านนี้จะมีด้วยกันสามห้องนอนริมตัวบ้าน และปล่อยตรงกลางให้โล่งเป็นโถงเหมือนบ้านไทยในต่างจังหวัดทั่วไป พวกเขาทั้งสองเก็บของในห้องนอนของอธิปพงศ์ที่มีเตียงสามฟุตและข้าวของจำนวนไม่น้อยอยู่ข้างใน อธิปพงศ์เห็นคนรักกำลังมองสำรวจรอบ ๆ แล้วก็บอกว่า
“ไม่มีห้องน้ำในตัวนะ เวลาอาบน้ำต้องไปใช้ห้องน้ำข้างล่าง”
“ครับ” นิธินรับคำยิ้ม ๆ และนั่งลงบนเตียง อธิปพงศ์นั่งลงข้าง ๆ และบอกว่า
“วันนี้เตียงแคบไปหน่อยนะ” เนื่องจากเขามองดูรูปร่างคนรักแล้วก็น่าจะใหญ่ไปสำหรับเตียงสามฟุตแบบนี้
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” เขาเข้าไปโอบเอวอธิปพงศ์ทันที “คุณน่าจะนอนไม่สบายมากกว่าผมนะ”
“นั่นสิ...แต่ผมก็ชอบนะ ขอแค่นอนกับคุณก็พอ”
นิธินดีใจที่ได้ยินอย่างนั้นจึงเข้าหอมแก้มคนรักทันทีเป็นการขอบคุณ และจูบเบา ๆ ที่ริมฝีปาก แต่อธิปพงศ์กลัวใจตัวเองว่าจะมากไปกว่านี้จึงละออกมา
“อย่าทำอย่างนี้สิ” อธิปพงศ์ต่อว่า “ยังไม่มืดเลย..”
“แล้วมันจำเป็นด้วยเหรอที่ต้องรอให้มืดหน่ะ”
“ไม่เอาน่า ผมไปหาแม่กับยายก่อนแล้ว...” อธิปพงศ์วิ่งออกจากห้องไปทันที ส่วนนิธินก็นำเสื้อผ้าและของใช้บางส่วนออกมา ก่อนจะเดินตามลงไปข้างล่าง ก็เห็นอธิปพงศ์อยู่กับยายแค่สองคนในครัว
“แล้ว..คุณแม่...ไปไหนล่ะครับ” เขาถามคนรัก แต่ยายที่คนแกงส้มในหม้ออยู่ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า
“อ่อ แม่เจ้าหมูไปสวนหน่ะ เดี๋ยวมา”
“ครับ”
“เออ นี่พ่อหนุ่ม” คนเป็นยายได้โอกาสถาม “ทำไมพูดเก่งจัง ไอ้หมูสอนใช่ไหม”
“ครับ” นิธินมองไปที่อธิปพงศ์และยิ้มให้
ยายหันมาถามหลานที่ยืนข้าง ๆ “แล้วไม่คิดจะพูดภาษาเขาได้มั่งเหรอลูกก”
“ไม่เอาล่ะ ให้เค้ามาพูดไทยแหล่ะดีแล้ว”
“แหม่ แล้วไม่คิดจะไปเจอพ่อแม่เค้าเลยรึไงล่ะ”
อธิปพงศ์ตอบให้ยายสบายใจ “เคยเจอแล้วว คุยกันรู้เรื่อง ยายไม่ต้องห่วง”
“อ่าว งั้นเรอะ ยายก็ไม่รู้” ยายหันไปบอกกับนิธินว่า “ไอ้หมูมันตัวแสบ ตอนเด็ก ๆ นะมันเคยเอาเสื้อของยายไปใส่ให้หมา ดูมันทำเข้าสิ ฮ่ะๆๆๆ”
นิธินยิ้มขำเมื่อได้ยินวีรกรรมสมัยเด็กของคนรัก ส่วนเจ้าตัวเองก็เงียบไปเพราะอายที่ยายเอาเรื่องเก่า ๆ ของเขามาเผากันแบบนี้ 
“คุยอะไรกันจ๊ะยายหลาน” แม่ของอธิปพงศ์กลับมาพอดี
“ยายเผาหมูอยู่หน่ะสิ”
“ฮ่ะ ๆๆ เผาเรื่องอะไรล่ะ เราหน่ะมีหลายเรื่องเลยนะ ฮ่ะๆๆ”

    เมื่อถึงเวลาเย็น ทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตากันบนโต๊ะอาหารในครัว สีหน้าของทุกคนมีความสุขฉายแววอยู่ โดยเฉพาะแม่กับยายที่ดีใจเป็นพิเศษเมื่อเห็นลูกหลานกลับมาเยี่ยมบ้าน โดยมีอาหารพื้นบ้านง่าย ๆ อย่างแกงส้มมะละกอ ปลาสลิดทอด และผัดผักบุ้งเป็นกับข้าวในวันนี้
“นิธิน กินได้มั๊ยลูก” คนเป็นแม่ถามผู้มาเยือนอย่างเป็นห่วง เพราะเธอไม่รู้เหมือนกันว่าคนต่างชาติอย่างนี้จะรับประทานอาหารที่เธอทำได้หรือเปล่า
“ได้ครับ อร่อยมากครับ”
“เฮ้ออ ได้ยินอย่างนี้ค่อยดีใจ”
“เค้ากินได้อยู่แล้ว เพราะตอนอยู่กรุงเทพฯ เค้าก็กินตามสั่งนั่นแหล่ะ ใช่มั๊ย”
“อืม ครับ”
คนเป็นแม่สงสัย
“ทำไมลูก อาหารอินเดียหากินยากเหรอ”
“แถวที่ผมอยู่หาไม่ยากนะครับ แต่มันแพง”
“ฮ่ะๆๆๆ ดีแล้วหล่ะ เป็นคนหนุ่มอยู่รู้จักใช้เงินประหยัดอย่างนี้” คนเป็นแม่ชื่นชม
“ขอบคุณครับ”
  ทุกคนรับประทานอาหารร่วมกันอย่างมีความสุข เสร็จแล้วอธิปพงศ์และคนรักก็ทำหน้าที่ล้างจาน และก็ขึ้นไปข้างบนเพื่อจะเตรียมตัวอาบน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จพวกเขาก็มานั่งคุยกับแม่และยายตรงนอกชานของบ้านสักพัก ก็เข้ามาข้างในเพราะต้านแรงยุงไม่ไหว
 “คิดถึงแม่จังเลยย” ชายหนุ่มบอกกับแม่ พร้อมลงไปนอนที่หน้าตักอย่างคิดถึง   
คนเป็นแม่ลูบหัวและหยิกแก้มเบา ๆ “หืมม นี่ถ้าไม่ได้เจอคนถูกใจอย่างนิธินก็จะไม่กลับบ้านพามาไหว้แม่ใช่มั๊ย”
เธอตบก้นลูกด้วยความหมั่นเขี้ยว แต่ก็ตกใจเมื่อสัมผัสได้ว่าเนื้อตรงส่วนนั้นของลูกมันนิ่มมาก แสดงว่าเขาสองคนไม่เคยวางเว้นจากเรื่องบนเตียงเลยใช่ไหม คนเป็นแม่คิดอย่างนั้น
นิธินที่ใส่เสื้อกล้ามกับกางเกงนอนตัวหลวมมองไปยังรูปที่ติดบนพผนังอย่างใคร่รู้ คนเป็นยายจึงไล่เรียงให้ดู “นั่นเป็นรูปยายตอนสาว ๆ” เธอหมายถึงรูปขาวดำของหญิงสาวหน้าตาสะสวย “ต่อมาก็เป็นรูปตาเจ้าหมู นั่นรูปแม่เจ้าหมูตอนสาว ๆ” นิธินมองตามที่ยายบอก เขาพบว่าแม่และยายของคนรักเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีมากคนหนึ่ง โดยเฉพาะแม่ที่ยังดูสวยสง่าตามวัย
 “นั่น แม่กับพ่อเจ้าหมูตอนแต่งงานกัน” พอถึงรูปนี้เขาเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็เห็นหน้าพ่อของคนรัก เขาก็พบว่าอธิปพงศ์มีหน้าตาคล้ายแม่มากกว่าพ่อ
“ต่อมาก็เป็นรูปเจ้าหมูตอนเด็ก” เขามองรูปเด็กน้อยวัยอนุบาลอย่างประหลาดใจ เพราะก็เริ่มมีเค้าหน้าตาปัจจุบันของคนรักในปรากฏอยู่ และถัดมาก็เป็นรูปของชายหนุ่มตอนเป็นนาคกับแม่และยายในวันงานอุปสมบท
“นั่น เป็นรูปตอนบวช”
นิธินไม่เข้าใจจึงหันมามองหน้าคนรัก อธิปพงศ์เลยบอกว่า “In the monkhood”
“อ่อ” เขามองรูปนั้นต่อ และก็รูปถัดไปที่เขาครองสมณเพศแล้ว นิธินกลับมานั่งที่เดิมและถามคนรัก
“นานรึยังครับ”
“อะไรเหรอ..”
“รูปนั้นไง” เขาชี้ไปยังรูปตอนที่อธิปพงศ์อุปสมบท “นานแล้วหล่ะ ตอนอายุ 24 หน่ะ”
“เหรอ...” นิธินตอบรับ คนเป็นยายเลยสมทบว่า
“คนไทยเราถือหน่ะว่าเป็นลูกชายต้องบวชให้พ่อกับแม่”
“ครับ..”
  ในวันนี้ บ้านสวนที่เคยมีแต่ผู้หญิงสองคนกลับคึกคักและอบอุ่นไปด้วยความสุข เพราะลูกชายที่รักกลับมาหาพร้อมกับคนรักที่สามารถปรับตัวเข้ากันได้ดี อธิปพงศ์นอนอยู่บนตักแม่และยายเหมือนเด็ก ๆ อย่างนั้น พร้อมกับตอบคำถามแม่และยายที่ไล่เลียงซักไซ้เขาและคนรักโดยไม่รู้จักเบื่อ อธิปพงศ์จำไม่ได้ว่านานแค่ไหนแล้วที่ตัวเองไม่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างนี้ แต่วันนี้เขามีความสุขมาก เพราะได้กลับมาอยู่กับครอบครัวที่จากมา และรู้สึกว่าชีวิตเติมเต็มสมบูรณ์มากขึ้นเพราะมีคนที่เขารักอย่างนี้


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...


ปล. 1. พิธีเมเฮนดี (Mehndi) หรือพิธีเพ้นท์เฮนน่าตามร่างกายของเจ้าสาว ตั้งแต่บริเวณมือไปจนถึงข้อศอกและเท้าด้วยลวดลายต่าง ๆ เพราะตามประเพณีแต่งงานแบบอินเดียหากเจ้าสาวไม่ได้ทำพิธีเมเฮนดีจะถือว่าพิธีแต่งงานนั้นไม่สมบูรณ์ เนื่องจาก ประเพณีแต่งงานแบบอินเดีย เชื่อกันว่าสีน้ำตาลแดงที่ใช้เพ้นท์ร่างกายเจ้าสาวใน พิธีเมเฮนดี นั้น เป็นตัวแทนของความมั่งคั่งร่ำรวย ที่เจ้าสาวจะนำมาสู่ครอบครัวของเจ้าบ่าว
 2. เดินรอบกองไฟ 7 รอบ หมายถึงให้อยู่ร่วมกัน รักกัน 7 ชาติ สำหรับ 4 รอบแรกฝ่ายชายเดินจูงมือนำ ส่วน 3 รอบหลังให้ฝ่ายหญิงจูงมือเดินนำ
 3. ก้าวไปทางทิศเหนือเป็นจำนวน 7 ก้าว โดยภาวนาถึงสิ่ง 7 สิ่ง คือ อาหาร, พลานามัย, ความมั่งคั่ง, ความสุข, ความอุดมพันธุ์, พืชผลและสัตว์เลี้ยงและการอุทิศตน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 29-02-2012 17:59:51
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
สนุกและเต็มไปด้วยความรู้เรื่องชาวอินเดีย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 29-02-2012 19:01:54
ชอบจังเลยอ่ะ ครอบครัวสุขสันต์ ^^
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 29-02-2012 19:16:29
กลับบ้านไปหาแม่กับยายยิ่งอบอุ่นมาก ๆพี่หมูโชคดีจริง ๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 29-02-2012 19:20:35
ตูดนิ่ม...เกี่ยวจริงดิ่!!!...555...คุณแม่ค๊าบ....รู้จริงดิ๊!
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 29-02-2012 20:07:48
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ฉันอยากให้มืดเร็ว ๆ จังเลยเจ้าค่ะ

บะๆโอ๊ว บะ สะดึบๆ  หมู เจอดีแน่ ฉลองแม่ยายลูกเขย เขาได้เจอกัน 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 29-02-2012 20:38:07
ปลื้มแทน
รบกวนแก้คำผิดด้วยครับ ....สำหรับการเก้าสู่ชีวิตข้างหน้า ควรสะกด การก้าว
+เป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 29-02-2012 20:44:06
อ่านแล้วมีความสุขจังค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 01-03-2012 14:40:58
ปลื้มแทน
รบกนแกคำผิดด้วยครับ ....สำหรับการเก้าสู่ชีวิตข้างหน้า ควรสะกด การก้าว
+เป็ด

ขอบคุณมาก ๆๆๆ เลยค่ะ กลับไปแก้ไปเรียบร้อยแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 01-03-2012 17:08:56
แวะมารออ่าน  นะคะที่รัก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ณยฎา ที่ 01-03-2012 17:22:01
ปูเสื่อรอ^^
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:29/2/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 01-03-2012 17:44:27
วันนี้มาแล้วค่ะ ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ เลยนะคะ ขอบคุณสำหรับทุกคำติชมที่ให้คนเขียนคนนี้เก็บไปพัฒนางานเขียนของตัวเองค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ


คำเตือน : เนื้อหาตอนนี้เหมาะสำหรับผู้อ่านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป อาจมีเหตุการณ์ การใช้ภาษา ที่ไม่เหมาะกับผู้อ่านที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ผู้ปกครองควรให้คำแนะนำในการอ่าน



22

 อธิปพงศ์และนิธินตื่นนอนแต่เช้าเพื่อจะออกไปทำบุญที่วัดกับยายและแม่ ถึงแม้จะเป็นวันหยุดแต่ก็ไม่ค่อยมีคนมาทำบุญที่วัดหนาตา อาจจะเป็นเพราะอากาศที่ลพบุรีค่อนข้างหนาวเย็นแบบแล้ง ๆ ตามประสาเมืองติดภูเขา เลยทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากออกจากบ้านตอนเช้าก็เป็นได้ เมื่อเสร็จจากการไปทำบุญที่วัดแล้วอธิปพงศ์ตั้งท่าจะมาช่วยแม่ทำงานในสวน แต่แม่เขากลับบอกว่า
"ไม่ต้องเลย หมูพานิธินไปเที่ยวในเมืองเถอะ" คนเป็นแม่ที่กำลังนั่งลงดินอยู่ในเรือนเพาะชำออกปากห้าม เพราะงานพวกนี้ต้องใช้ความชำนาญจริงๆ ถึงจะสามารถทำได้โดยไม่เสียหาย
"งั้นแม่มีอะไรให้ผมช่วยมั๊ย"
"ไม่มีหรอก นู่นไปดูยายก่อนเลยว่ากินข้าวรึยัง"
"ครับ"
อธิปพงศ์เดินไปดูยายในตัวบ้านก็พบว่ากำลังกินข้าวอยู่กับนิธิน เมื่อเห็นอย่างนั้นชายหนุ่มจึงรีบเข้าไปทันที
"กินข้าวกันสองคนไม่เรียกเลยนะ"
"อ่าว ก็เห็นเอ็งไปอยู่กับแม่ ยายก็เลยชวนนิธินมากินกันก่อน นู่น อยากกินก็ไปคดข้าว"
อธิปพงศ์เดินไปคดข้าวตามที่ยายบอกก่อนจะนั่งลงข้างๆ นิธิน
"แหม ห่างกันไม่ได้เลยนะไอ้หมู" คนเป็นยายแซวหลานเพราะสังเกตมาสักพักแล้วว่าพวกเขาไม่ค่อยได้แยกออกจากกันเลย
 ส่วนอธิปพงศ์ก็นั่งเงียบไม่ต่อล้อต่อเถียงอะไรกับยาย นิธินเองหันไปมองคนรักยิ้มๆ พร้อมกับสบตากันอีกครั้งก่อนจะกินข้าวด้วยกัน ทำเอายายที่นั่งฝั่งตรงข้ามต้องแซวคู่รักอีกครั้ง
"เออๆ ยายเชื่อแล้วว่าห่างกันไม่ได้จริงๆ หุหุหุ"
ทั้งสามคนหัวเราะเบาๆ และกินข้าวด้วยกันจนอิ่ม นิธินออกไปช่วยยายยกลังข้างนอก ก็กลับมาหาอธิปพงศ์ที่ยืนหันหลังล้างจานอยู่ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ว่ากำลังตกเป็นเป้าสายตาแห่งความต้องการของคนรัก ที่กำลังมองดูแผ่นหลังและสะโพกกลมกลึงที่ซ่อนอยู่ในกางเกงขาสั้นเข้ารูปนิธินไม่รอช้าที่จะเข้าไปโอบกอดคนรักจากทางด้านหลัง
 "อะไรเนี่ย..ที่รัก ยังเช้าอยู่เลยนะ"
แต่นิธินกระซิบแผ่วข้างหูว่า "ก้นคุณเซ็กซี่เป็นบ้าเลย รู้มั๊ย"
"อย่าพูดอย่างนั้นสิ อื้มม"
อธิปพงศ์หลุดครางออกมาเมื่อโดนคางสากๆ ถูเข้าที่ต้นคอ และมือใหญ่ ๆ นั้นกำลังฟอนเฟ้นที่บั้นท้ายเขาอยู่อย่างเร่าร้อน อธิปพงศ์จึงหันมาบอกกับคนรักว่า
"ไปเถอะ...ขึ้นบ้านกัน"
นิธินยิ้มดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น หลังจากเมื่อคืนอธิปพงศ์กับเขามีอะไรกันแค่รอบเดียวแล้ว แต่ก็ยังไม่พอสำหรับความต้องการที่ก่อตัวใหม่อยู่ดี เห็นทีว่าคงจะเป็นเช้านี้ที่จะใช้เติมเต็มความต้องการของพวกเขาได้
 อธิปพงศ์จึงเดินนำหน้าคนรักขึ้นไปบนบ้านทันที คนเป็นแม่ที่เข้ามาเอาของในบ้านจึงร้องทักเมื่อเห็นลูกชายกับคนรักกำลังจะขึ้นไปข้างบน
"อ่าว หมู ไม่ได้ไปเที่ยวในเมืองแล้วเหรอ"
"ไม่อ่ะแม่..ง่วง..เดี๋ยวขอนอนสักแป๊บนะ"
อธิปพงศ์บอกกับแม่อย่างนั้นแล้วหายไปบนบ้าน ยายที่นั่งดูบิลต่างๆ อยู่ไม่ไกลจึงพูดกับแม่ว่า
"นี่แมว..แกว่าคู่นี้ใครผัว ใครเมีย"
แต่คนเป็นแม่ตอบอย่างไม่ถือสา ถึงแม้จะมีคำตอบในใจอยู่แล้วก็ตาม
"ช่างเถอะน่าแม่ ใครจะเป็นอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของเราซะหน่อย"
เธอยิ้มขำๆก่อนจะเดินจากไปกับของที่เข้ามาหยิบ ส่วนยายก็ส่ายหน้าเบาๆ และนั่งนับบิลบนโต๊ะต่อ โดยที่หญิงชรายังจำได้ถึงเสียงกระดานลั่นเอียดอาดเมื่อคืน
"ถ้าไอ้หมูมันท้องได้ ป่านนี้ชั้นคงเป็นทวดคนแล้วล่ะ"
ยายของอธิปพงศ์ขำกับความคิดของตัวเอง ก่อนจะลุกไปทำงานที่อื่น เพราะไม่อยากหวาดเสียวว่าพื้นกระดานข้างบนจะพังลงมา

  คนทั้งสองนอนกอดก่ายกันอย่างมีความสุขและตื่นนอนอีกทีก็ตอนเที่ยงวัน พวกเขาอยู่ที่บ้านช่วยยายและแม่ทำงาน จนบ่ายคล้อยก็พากันขับมอเตอร์ไซค์ออกมาเที่ยวในตัวเมืองลพบุรีอย่าง ที่วางแผนเอาไว้
 อธิปพงศ์ขับมอเตอร์ไซค์พาคนรักมายังพระนารายณ์ราชนิเวศเพื่อให้ชาวต่างชาติได้ชมพระราชวังโบราณก่อนจะพาไปเดินดูเสื้อผ้าในตรอกปรางค์แขกที่เป็นแหล่งเสื้อผ้าแฟชั่นที่มีเสื้อผ้าทุกชนิดรวมอยู่ในตรอกเล็ก ๆ แห่งนี้ และเดินข้ามถนนมายังพระปรางค์สามยอดสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองของลพบุรี โดยนิธินเองก็ดูสนอกสนใจกับทุกสิ่งที่พบเห็น โดยที่เขาเก็บทุกภาพของตัวเมืองลพบุรีด้วยกล้อง DSLR ที่เขานำมาถ่ายรูปโดยเฉพาะ  ก่อนจะพามานั่งกินน้ำปั่นริมทางรถไฟที่เป็นจุดนัดพบผ่อนคลายของวัยรุ่นในลพบุรีในยามตะวันโพล้เพล้
"เนี่ย รู้มั๊ยว่าตอนผมเป็นเด็ก ผมมากินน้ำปั่นกับเพื่อนที่นี่บ่อยมาก"
อธิปพงศ์ยิ้มแจ่มใสพลางตักน้ำแข็งปั่นเข้าปาก เขามองดูรอบตัวที่มีแต่นักเรียนนักศึกษาก็อดทำให้คิดถึงตัวเองในวัยเยาว์ไม่ได้ เขาหันมาถามคนรักที่นั่งยิ้มมองหน้าอยู่
"คุณว่าน้ำปั่นเป็นไงอ่ะ"
 "ใช้ได้" นิธินตอบพลางหยิบแก้วน้ำมาดูด "อร่อยดี"
นิธินหันไปมองดูรอบ ๆ แล้วยิ้ม เพราะวันนี้ชายหนุ่มพบว่าบ้านเกิดของอธิปพงศ์มีอะไรหลายอย่างคล้ายบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเหมือนกัน นอกจากจะมีลิงปีนป่ายไปมาทุกซอกทุกมุมของเมืองแล้วคนที่นี่ก็ยังมีศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบฮินดูเหมือนที่อินเดียเช่นกัน ไหนจะมีการจราจรที่วุ่นวายและแออัดในย่านการค้าและโบราณสถานหลายแห่งที่กลมกลืนกับสิ่งปลูกสร้างสมัยสงครามโลกและสมัยใหม่ให้เห็นอยู่ทั่วทุกมุมอีก เขาหยิบกล้องถ่ายรูป DSLR ตัวเขื่องขึ้นมาถ่ายรูปคนรักที่กำลังมีความสุขกับน้ำปั่นและความทรงจำวัยเด็ก
“แอบถ่ายผมเหรอ” อธิปพงศ์หยอกเย้าช่างภาพกล้ามโตที่เขารัก เขาก็เพิ่งรู้เมื่อก่อนจะมาที่นี่เหมือนกันว่า นิธินก็มีอุปกรณ์ถ่ายรูปแบบนี้ด้วย
“อืม”
“ผมก็เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณชอบถ่ายรูปด้วย”
“ก็ ชอบหน่ะ แต่ไม่ค่อยมีเวลา” นิธินตอบยิ้ม ๆ
"เนี่ย เดี๋ยวคืนนี้เราไปเดินงานฤดูหนาวกันนะ"
"ครับ"
อธิปพงศ์ถามคนรักด้วยความเป็นห่วง "คุณหิวหรือยังอ่ะ"
"นิดหน่อยครับ"
"งั้นผมว่าเดี๋ยวเราไปในงานกันเถอะ"
"อืม ครับ"

  เมื่อตะวันลับแนวเขาและลมหนาวก็มาเยือน บรรยากาศงานฤดูหนาวลพบุรีวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เพราะว่าวันนี้คือวันเฉลิมพระชนมพรรษา จึงมีการถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในช่วงหนึ่งทุ่ม และเริ่มการแสดงต่าง ๆ ตามปกติ
อธิปพงศ์กับนิธินจอดรถมอเตอร์ไซค์เรียบร้อยแล้ว จึงเดินข้ามสะพานลอยหน้าโรงเรียนมัธยมปลายประจำจังหวัดอันเป็นที่จัดงาน โดยงานนี้ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูก่อนจะเข้าไปในงาน ถึงแม้ว่าวันนี้จะมีคนเยอะแต่พวกเขาก็รู้สึกดีเพราะอากาศหนาวเย็นที่ทำให้สบายตัวมากขึ้น แล้วยิ่งมาเดินเที่ยวงานกับคนรักแบบนี้ก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก
อธิปพงศ์หันไปถามคนรักที่จับมือเดินด้วยกันมา
“คุณอยากกินอะไรอ่ะ”
“มีอะไรน่ากินมั่งล่ะ…นอกจากคุณ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็ทำให้คนตัวเล็กกว่าเขินทันที
“บ้า...” อธิปพงศ์ตีแขนล่ำของคนรักเบา ๆ “เดี๋ยวนี้พูดเก่งนะ”
“ขอบคุณครับ”
“ถามจริง กินอะไรดี..” อธิปพงศ์นึกออก “งั้นกินขนมจีนดีมั๊ย”
“ขนมจีน?” นิธินทวนคำเพราะไม่รู้จัก “คืออะไรอ่ะ”
“เดี๋ยวก็รู้เอง” อธิปพงศ์ยิ้มให้คนรักและจูงมือเขามาทางซ้ายมือของทางเข้างานอันเป็นที่ตั้งประจำของร้านขายขนมจีนในงานนี้ เด็กลพบุรีที่ไม่ได้มาเที่ยวงานนี้นานแล้วอย่างเขาก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าร้านค้าที่มาทุกปีจะมีร้านไหนบ้างที่เปลี่ยนไป และก็ไม่ผิดหวังเพื่อเขาพบว่าร้านขนมจีนที่บอกยังคงอยู่ที่เดิม
“ยังอยู่จริง ๆ ด้วย..” ชายหนุ่มดีใจเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองหน้าคนรักร่างใหญ่ที่เหมือนจะมีคำถาม เขาเลยชี้ไปยังหม้อน้ำยาน้ำพริกและแกงเขียวหวานทางขวามือ
“นี่ น่ากินมั๊ย” บรรดาน้ำแกงเดือดปุด ๆ ส่งกลิ่นหอมมาถึงคนที่ยืนใกล้ ๆ เขาทั้งสองคนจึงนั่งข้างในร้าน
“เอา หนมจีน น้ำยาป่ามาที่นึง น้ำยากะทิ ที่นึง ใส่ไข่ด้วย” อธิปพงศ์สั่งให้เสร็จสรรพโดยมีนิธินเองรอลุ้นอยู่ สักพักอาหารที่สั่งก็มาอยู่ตรงหน้า อธิปพงศ์อธิบายให้คนรักฟังทันที
“นี่ เค้าเรียกว่า ขนมจีน”
“ขนมจีน..”
“อื้มม ลองชิมดู”
อธิปพงศ์ยื่นน้ำยาป่าให้คนรักชิมก่อน นิธินตักมาชิมหนึ่งคำ ส่วนอธิปพงศ์ก็ถามลุ้น ๆ ว่า
“เป็นไงมั่ง”
“ก็ ดีนะครับ” นิธินตอบยิ้ม ๆ ถึงแม้จะยังไม่ถูกปากเท่าไหร่ก็ตาม
“ลองชิมน้ำยากะทิดูนะ”
อธิปพงศ์ยื่นจานขนมจีนน้ำยากะทิสีส้มข้น ๆ ให้ นิธินตักขึ้นมาชิมอีกคำ แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกปากมากกว่าจานแรก
“เป็นไงมั่ง”
“อร่อย!” นิธินบอกกับคนรักอย่างถูกใจ แต่ก็ถามขึ้นมาว่า “อ่าว แล้วคุณอยากกินจานไหนล่ะ”
“จานไหนก็ได้ ผมกินได้หมดแหล่ะ คุณชอบน้ำยากะทิมากกว่าใช่มั๊ย งั้นผมกินจานนี้เอง”
“ขอบคุณครับ”
 นิธินรับคำและกินต่อ ด้วยความที่กินรสเผ็ดตามประสาชาวอินเดีย เขาจึงโรยพริกป่นลงไปจนน้ำยากะทีมีสีเข้มขึ้น อธิปพงศ์บอกกับคนรักว่า
“ก็ กินกับผักพวกนี้ด้วยนะ” เขาเด็ดไปแมงลัก ถั่วฝักยาว ผักกาดดองหั่นฝอยใส่ในจาน เมื่อนิธินลองกินอย่างที่คนรักบอกก็รู้สึกถูกปากมากขึ้นกว่าเดิม
ขนมจีนของนิธินหมดไปอย่างรวดเร็ว เขาจึงสั่งจานที่สองดัวยตัวเอง
“เอา คา หนม จีน แบบนี้ จานนึง ใส่ไข่สองฟอง”
คนรับสั่งพยักหน้ารับรู้ นิธินเลยหันมาถามคนรักว่า
“คุณเอาอีกมั๊ย”
“อืม เอาแกงเขียวหวานใส่ไข่ จานนึง”
เมื่อคนรับสั่งเดินไป อธิปพงศ์จึงหันมาเย้าคนรักเล่น
“ใส่ไข่สองฟองเลยเหรอ...”
“อืม” นิธินพยักหน้า และมองหน้าคนรักแบบรู้กันว่ากินไข่แล้วดีอย่างไร

  เมื่ออิ่มท้องแล้วพวกเขาก็พากันไปเดินดูรอบงาน นิธินถ่ายรูปเก็บภาพงานประจำปีแบบไทย ๆ นี้ด้วยความสนใจ ในงานมีการออกร้านจากทั้งทางภาครัฐและร้านค้าทั่ว ๆ ไป ศิษย์เก่าโรงเรียนประจำจังหวัดแห่งนี้อย่างเขามองดูสภาพรอบ ๆ ที่เปลี่ยนไปของโรงเรียนแล้วก็นึกถึงตัวเองกับเพื่อน ๆ สมัยเรียนชั้นมัธยมปลายอยู่ที่นี่เหมือนกัน อธิปพงศ์ชี้ให้คนรักดูซุ้มยิงปืนและกระโดดหอคอยสูงของหน่วยทหารที่ครั้งนึงเด็กผู้ชายเกือบทุกคนต้องเคยมาเล่นที่นี่ และชายหนุ่มอย่างพวกเขาก็ไม่พลาดที่จะไปประลองฝีมือยิงปืนกันรวมทั้งม้าหมุนและชิงช้าสวรรค์ที่ทำให้เขาสนุกสนานเพลิดเพลินในสมัยวัยเด็กที่อยู่หน้าเวทีคอนเสริ์ตจากวงร็อคชื่อดังที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแสดงทุกคืน เมื่อเขาเดินไปยังหอประชุมของโรงเรียนที่เป็นจุดออกร้านของร้านขนมชื่อดังจากทั้งในและนอกลพบุรี อธิปพงศ์ไม่ลืมซื้อขนมสาลี่จากร้านดังในจังหวัดใกล้เคียงอันเป็นที่นิยมของผู้ที่มางานนี้ด้วย
  ชายหนุ่มทั้งสองเพลินเพลินกับการจับมือเดินดูรอบงาน โดยที่นิธินก็เก็บภาพต่าง ๆ ที่เขาสนใจอยู่เป็นระยะ ท่ามกลางสายตาของคนรอบข้างที่มองมายังคู่รักชายหนุ่มหน้าดีคู่นี้อย่างสนใจ ในครั้งนี้อธิปพงศ์ก็ได้เจอกับเพื่อนและรุ่นน้องบางคนที่มาเดินในงานนี้ด้วย แต่ต่างคนต่างก็แค่ยิ้มให้กันหรือทักทายกันเล็กน้อยก่อนจะแยกจากไป โดยที่พวกเขาทั้งหลายได้รับรู้สิ่งใหม่ว่าตอนนี้อธิปพงศ์ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว
  เมื่อเดินกันจนทั่วงานแล้วพวกเขาก็เห็นตรงกันว่าจะกลับ แต่ระหว่างที่กำลังจะเดินไปหน้าโรงเรียนเพื่อออกจากงานนั้น อธิปพงศ์ได้ยินเสียงเรียกจากผู้ชายคนหนึ่ง
“หมู...”
อธิปพงศ์และนิธินหันไปตามเสียงเรียก ก็พบกับชายหนุ่มร่างสูงผิวสีแทนหน้าตาคมเข้มในชุดลำลองกำลังเดินเข้ามาหาพวกเขา
“ไอ้อ๊อฟ” อธิปพงศ์อุทานเบา ๆ เมื่อเห็น กรวัฒน์ หรือ อ๊อฟ เพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กเดินเข้ามาหา
“หมู...นี่หมูใช่มั๊ย”
“ใช่ครับ”  เขาตอบรับ “แล้วนี่ ใช่อ๊อฟหรือเปล่าครับ”
“เออ กูเอง” หนุ่มร่างสูงผิวแทนตอบกลั้วหัวเราะ “เป็นไงมาไงวะ ไม่เจอกันนานเลย”
“ก็ สบายดีหน่ะ แล้วมึงล่ะ”
“อ่อ กูมาราชการที่นี่ว่ะ นี่กูมาเดินเที่ยว มาดูโรงเรียน”
“อืม...”
กรวัฒน์เห็นว่าเพื่อนไม่ได้มาคนเดียว พอมองไปก็เห็นว่ากำลังจับมือกับผู้ชายร่างยักษ์ที่มาด้วยอยู่ จึงลองถาม
“แล้วนี่..มึงมากับใครเหรอ.”
“อ๋อ นี่ นิธิน.แฟนกู” อธิปพงศ์หันไปมองหน้าคนรักยิ้ม ๆ
“อ่อ เหรอ...” กรวัฒน์พยักหน้ารับรู้เรื่องของเพื่อนเบา ๆ และเก็บซ่อนความรู้สึกตกใจไว้ตามประสาชายชาติทหาร อธิปพงศ์หันไปแนะนำเพื่อนให้คนรักรู้จักบ้าง
“ที่รัก นี่ไอ้อ๊อฟ เพื่อนผม”
นิธินพยักหน้าให้หนุ่มไทยที่ด้อยความสูงกว่าอย่างเป็นมิตร กรวัฒน์พยักหน้าตอบเช่นกันและ ถามเพื่อนต่อเหมือนไม่มีอะไรว่า
“เออ มึงจะกลับแล้วเหรอวะ”
“เออ”
“เฮ้ยย ไม่เจอกันนาน ไปกินเหล้ากันก่อนดีกว่าว่ะ”
“ที่ไหนวะ”
“โหย ร้านเหล้าเยอะแยะข้างสวนราชา ไปเลย ไม่เจอกันตั้งนานไปนั่งคุยกัน” ชายหนุ่มหมายถึงย่านร้านเหล้าและเกสเฮาท์ข้าง ๆ สวนราชานุสรณ์ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะในเมืองลพบุรี
อธิปพงศ์มองหน้าคนรักเหมือนขอความเห็น “ไปมั๊ย”
นิธินพยักหน้ายิ้ม ๆ ให้คนรัก “ไปสิครับ”
“เออดี เดี๋ยวเจอกันที่ร้านละกัน”
“อืม”
อธิปพงศ์รับคำและเดินจูงมือออกจากงานไปกับคนรัก ส่วนกรวัฒน์มองตามคนทั้งคู่แบบไม่เชื่อสายตา มันเป็นไปได้อย่างไรที่เพื่อนเล่นตั้งแต่เด็กอย่างอธิปพงศ์จะมีแฟนเป็นผู้ชายอย่างนี้ นายทหารหนุ่มไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เพิ่งรับรู้เลยจริง ๆ

   คนทั้งสามก็มาถึงร้านเหล้าเล็ก ๆ ข้างสวนราชานุสรณ์ในเวลาไม่นาน เมื่อเลือกร้านและได้โต๊ะนั่งแล้ว บทสนทนาของเพื่อนที่เพิ่งพบกันก็เริ่มขึ้น
“นี่กูกับมึงไม่ได้เจอกันกี่ปีเนี่ย” กรวัฒน์นั่งนับนิ้ว “ตั้งแต่กูเข้าเตรียมทหารก็..โอ้โห 17 ปี ไอ้เชี่ย! นี่กูแก่แล้วเหรอวะ”
“เออ ฮ่ะๆๆ” อธิปพงศ์รับคำโดยที่วางมือบนต้นขาของคนรักที่นั่งโอบไหล่อยู่ไม่ห่าง พร้อมกับบอกคนรักว่า
“ไอ้อ๊อฟเนี่ยรู้จักกับผมมาตั้งแต่อนุบาลแล้ว ตกใจนะที่เจอมันวันนี้”
“จริงเหรอ” นิธินประหลาดใจ
“อื้ม เลยมานั่งวัยทองรำลึกกันนี่ไง ฮ่ะๆ”
กรวัฒน์หัวเราะร่า
“ฮ่ะๆๆ เออ แล้วมึงเป็นไงมาไงเนี่ย ตอนนี้มึงอยู่ไหน ทำงานที่นี่เหรอ”
“เปล่า กูเป็นช่างตัดผมที่กรุงเทพฯ กูทำกับรุ่นพี่ที่เปิดร้านในมาบุญครองหน่ะ แล้วนี่วันหยุดกูก็กลับบ้าน พาแฟนมาเที่ยว”
“เหรอ..” กรวัฒน์รับคำเบา ๆ เพราะก็ยังรับไม่ได้ที่เห็นผู้ชายเรียกผู้ชายด้วยกันว่าแฟน
“แล้วมึงล่ะอ๊อฟ เห็นว่ามึงเป็นทหาร ตอนนี้อยู่ไหนวะ”
“อยู่ราบ 11 นั่นหล่ะ แต่นี่กูมาราชการที่ลพบุรีเลยแวะมาหาพ่อกับแม่ เลยถือโอกาสมาเดินงานฤดูหนาวด้วย”
“อ่าเหรอ พ่อแม่มึงสบายดีใช่มั๊ย”
“สบายดี” กรวัฒน์ตอบยิ้ม ๆ “พ่อกูเกษียณแล้วก็เลยมาอยู่ที่นี่ถาวรเลย”
อธิปพงศ์เลยถามเพื่อนต่อ
“เออ แล้วนี่ มึงแต่งงานยังวะ”
กรวัฒน์ตอบยิ้ม ๆ “แต่งแล้ว หย่าแล้ว”
“อ่าวเหรอ กูขอโทษ”
“เฮ้ย ๆๆ ไม่เป็นไร กูไม่ถือ” เจ้าของเรื่องไม่ถือสา “ตอนงานแต่งกูมึงก็ไม่ได้ไปนะไอ้หมู”
“ก็กูไม่รู้ มึงส่งการ์ดมาที่ไหนล่ะ บ้านที่นี่เหรอ”
“ไม่รู้ว่ะ จำไม่ได้” เขาส่ายหัวก่อนจิบเหล้า และถามนิธิน “เอ่อ คุณชื่ออะไรนะครับ”
“นิธินครับ”
“ครับ คุณนิธิน” กรวัฒน์ยิ้มให้ “ชอบลพบุรีมั๊ยครับ”
“ชอบครับ”นิธินตอบโดยมีรอยยิ้มเจือบาง ๆ กรวัฒน์เลยถามเพื่อนถึงเรื่องนี้บ้าง
“แล้วนี่ มึงไงวะ มึงชอบผู้ชายเหรอวะหมู”
“ไม่รู้ว่ะ” อธิปพงศ์ตอบไปตามความจริง เพราะเขาก็ไม่ได้ชอบผู้ชายคนอื่นนอกจากคนรัก
“อ่าว แล้วไปไงมาไงมาคบกันได้วะ แล้วนี่มึงคบกันนานยัง”
“มันเล่ายากว่ะ ก็คบกันมาสักพักแล้ว” อธิปพงศ์ตอบสั้น ๆ
“อืม ๆ ดีใจด้วยละกันนะมึง”
“เออ ขอบใจ” อธิปพงศ์รับคำเบา ๆ และหันไปมองหน้ากับคนรักยิ้ม ๆ อากาศยิ่งดึกยิ่งหนาวเลยทำให้เขาจับมือกับคนรักแน่นขึ้น โดยมีกรวัฒน์ส่งเสียงแซว
“เฮ้ย ๆ มึงเห็นใจกูมั่ง กูก็อิจฉาเป็นนะแสรดด”
“ฮ่ะๆๆๆ” เขาส่ายหน้ากับพ่อหม้ายขี้เมาตรงหน้า และก็พูดคุยเรื่องอื่น ๆ กันต่อ จนเหล้าหมดแบนก็ถึงเวลาที่พวกเขาต้องแยกย้ายกันแล้ว
“เออ เอาเบอร์มาเผื่อวันหลังกูไปตัดผมกับมึง”
“ได้ ๆ” คนทั้งสองแลกเบอร์กัน แล้วก็ร่ำลา
“เออ กูไปก่อนนะ ขับรถดี ๆนะโว้ย” กรวัฒน์ทิ้งท้าย
“เออ เหมือนกัน” อธิปพงศ์รับคำ
“โชคดีนะครับคุณนิธิน”
“ขอบคุณครับ เช่นกันครับ”
 อธิปพงศ์และนิธินก็ขับมอเตอร์ไซค์จากไป ส่วนกรวัฒน์ก็มองคนทั้งสองแล้วหัวเราะเบา ๆ กับเรื่องที่เจอในวันนี้

  ลมหนาวกลางดึกทำให้อธิปพงศ์ที่ขับมอเตอร์ไซค์อยู่รู้สึกเย็นวาบ แต่ก็เริ่มรู้สึกร้อนขึ้นเมื่อรับรู้ถึงลมหายใจร้อน ๆ เจือกลิ่นเหล้าที่รดหลังใบหู ไหนจะมือใหญ่ ๆ ที่แกล้งมากอดเอวเข้าไว้อีก เขาจึงถามคนรักว่า
“นี่คุณเมาหรือเปล่าเนี่ย”
“ไม่ได้เมาครับ” นิธินตอบเบา ๆ ที่หลังหูอันเป็นส่วนที่ไวต่อความรู้สึก ทำให้คนที่ขับมอเตอร์ไซค์อยู่นั้นรู้สึกวาบหวามขึ้นมาทันที จึงไม่ถามอะไรต่อ นอกจากเร่งบิดเพื่อให้ถึงบ้านเร็ว ๆ 
   อธิปพงศ์ดับเครื่องจอดมอเตอร์ไซค์ที่ชั้นล่าง และหันมามองหน้าคนรักที่ลงมาก่อน ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้เมาแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ส่งผ่านทางลมหายใจนั้นก็ปลุกอารมณ์ส่วนนั้นให้ตื่นขึ้นเป็นอย่างดี  ทั้งสองมองตากันและพุ่งตรงเข้าหาริมฝีปากของกันและกันทันที โดยที่นิธินรวบตัวคนรักไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะช้อนตัวขึ้นมาเพื่อที่จะอุ้มขึ้นไปบนบ้าน
   เมื่อลูกบิดประตูห้องถูกกดล๊อค ร่างใหญ่ที่แข็งแรงก็ปล่อยให้ร่างเล็กสมส่วนนั้นได้ลุกยืนนิธินเบียดตัวมอบจูบเร่าร้อนให้อธิปพงศ์ที่ยืนพิงประตู เมื่อลิ้นต่อลิ้นมาเจอกันก็ทำให้อารมณ์ของทั้งคู่พุ่งทะยานขึ้น มือทั้งสองปัดป่ายบนร่างกายกันและกัน อธิปพงศ์แทบคลั่งกับรสจูบร้อนแรง ยิ่งแนวเคราบนกรอบหน้านั้นก็ให้เขามีอารมณ์เตลิดมากขึ้น นิธินซุกไซร้ซอกคอที่มีกลิ่นหอมเย้ายวนอย่างกระหาย พร้อมกับอธิปพงศ์ที่เปล่งเสียงแห่งความสุขออกมา
"อืมมมม อาา ที่รักกก..."
นิธินไม่หยุดที่จะซุกไซร้ไปยังกกหูและใบหูอย่างเร่าร้อนก่อนจะลงมาที่หน้าอกแบนราบ คราวนี้เขาจับคนรักถอดเสื้อทันที พร้อมกับจัดการกลับตัวอธิปพงศ์ให้หันหลัง เผยให้เห็นสะโพกกลมกลึงที่เขาใฝ่หา เขาปราดเข้าไปล๊อคตัวและกระซิบข้างหูว่า
"You're so hott"
อธิปพงศ์หันมามองหน้าคนรักที่เร่าร้อนและแลกลิ้นกันทันที นิธินพลางฟอนเฟ้นไปทุกส่วนของอธิปพงศ์โดยมือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในกางเกงของคนรักที่แอ่นสะโพกตอบรับการเสียดสีจากท่อนเนื้อที่พองตัวอยู่ในกางเกงของเขาแล้ว
"อ๊าาา..." อธิปพงศ์ครางออกมาอย่างสุขสันต์เมื่อสิ่งนั้นได้รับการทักทาย นิธินใช้มือกับความเป็นชายของเขาอย่างเร่าร้อน พร้อมกับซุกไซร้แผ่นหลังขาวเนียนนั้นอย่างเมามัน เขาลงไปสำรวจสะโพกงอนงามในกางเกงยีนส์เข้ารูปนั้นอย่างหลงใหล ก่อนจะถอดมันเพื่อจัดการกับคนรักให้จริงจัง เมื่อยีนส์ลงไปกองที่ข้อเท้า เขาก็ให้อธิปพงศ์หันหน้ามาเพื่อจัดการกับความเป็นชายของอีกฝ่ายทันที
"อื้อออ นิธินน ที่รักๆๆๆ โอ๊วว"
อธิปพงศ์แทบยืนไม่อยู่เมื่อปลดปล่อยสู่ปากของคนรัก เขามองคนรักที่คุกเข่าอยู่ตรงหว่างขาก็ไม่รอช้าที่จะก้มลงไปประกบจูบให้สาแก่ใจ และเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อกับซิปกางเกงยีนส์ของนิธิน ที่เจ้าตัวรู้งานถอดทุกอย่างออกไปจากตัวแล้ว ทำให้ตอนนี้ทั้งคู่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าเท่าเทียมกัน อธิปพงศ์มองดูส่วนนั้นของนิธินที่แล้วค่อยเข้าไปทักทายมันอย่างคุ้นเคย
"อืมมมม ที่รักกก ซื๊ดดด"
 อธิปพงศ์พยายามกลืนกินส่วนนั้นของนิธินให้มากที่สุดแล้วทำให้เข้ามีความสุขอย่างช่ำชอง เมื่อเห็นหน้าหล่อๆนั้นบิดเกร็งด้วยความเสียวจนกล้ามท้องขึ้นเป็นลูกก็ยิ่งทำให้ชายหนุ่มได้อารมณ์มากขึ้น เมื่อเห็นว่าคนรักพร้อมแล้วเขาจึงถอนปากออกมาเพื่อให้คนรักเตรียมตัวมอบความสุขให้เขาอย่างที่ต้องการ นิธินค่อยๆแทรกกายให้คนรักที่ยืนหันหลังยั่วยวนให้ เขาค่อย ๆ สำแหรกตัวเองเข้าไปในช่องแคบอันร้อนแรงของคนรัก ขณะเดียวกันก็เอื้อมมือมาลูบไล้ไปมาที่ยอดถันและหยอกล้อกับส่วนนั้นให้ตื่นตัวรับความสุขด้วย
“อื้อออ นิธินน” อธิปพงศ์ครางออกมาอย่างมีความสุข โดยที่คนรักเพิ่มความถี่และความลึกพร้อมกระซิบข้างหูแผ่ว ๆ เป็นระยะอย่างร้อนแรงว่า
“That’s awesome..Great!… yeahhhh…that’s right,baby…keep it up..”
อธิปพงศ์สุขสมแทบขาดใจในท่านั้น จึงครางออกมาเสียงดัง
“โอ๊ยยยย ที่รัก ผม..ผม..โอ๊ยยย ใช่ ๆๆ อย่างนั้น ๆ แรงอีก ๆๆ อื้อออ”
 เมื่อยืนกันจนเมื่อยและเรียกเหงื่อได้พอประมาณแล้ว นิธินก็เปลี่ยนมานอนลงโดยให้คนรักเป็นฝ่ายคุมจังหวะบ้าง  อธิปพงศ์ค่อย ๆ ทาเจลหล่อลื่นที่พกมาด้วยให้กับตัวเองและคนรัก ก่อนจะค่อย ๆ นั่งลงไปบนสิ่งที่เขาต้องการ
“อื้มมม.....” เขาครางออกมาตามจังหวะที่ส่วนนั้นเข้าสู่ร่างกาย ส่วนนิธินนอนมองคนรักที่ตอนนี้มีความสุขสุด ๆ ทำให้ดูร้อนฉ่าน่ากินในสายตาของเขามาก ๆ อีกด้วย จึงส่งแรงขึ้นไปทักทายคนผิวขาวที่ครอบครองตัวเขาอยู่ ทำให้อธิปพงศ์เริ่มที่จะสร้างจังหวะด้วยตัวเองทันที นิธินที่จับสะโพกคนรักและบีบคลึงอย่างเมามันถึงกับร้องว่า
 “โอ้วว ที่รัก You are the best jockey .Yes! keep doing”
 นิธินตอบสนองกับจังหวะอันเร่าร้อนนั้นด้วยการประคองคนรักไว้แล้วลุกขึ้นมาเพื่อจะใกล้ชิดแนบเนื้อกันมากขึ้น เมื่อก่อนทั้งสองได้กลิ่นลมหายใจของกันและกันใกล้ ๆ ก็แลกลิ้นกันอีกครั้งพร้อมกับตอบสนองความต้องการกันอย่างร้อนแรง อธิปพงศ์กอดรัดร่างใหญ่นั้นเหมือนจะระบายความรู้สึกสุขสมผ่านทางสัมผัสนี้ แล้วยิ่งเวลาที่หน้าใส ๆ ของเขาโดนเคราสาก ๆ นั้นทีไรก็ทำให้เขาอยากจะคลั่งตายเสียให้ได้ทุกที
  การเดินทางของทั้งคู่มาถึงโค้งสุดท้ายเมื่อนิธินพลิกตัวให้คนรักไปอยู่ข้างล่างโดยที่ไม่ได้หลุดจากกัน เขาจับข้อเท้าได้รูปของคนรักไว้แล้วกระหน่ำมอบความสุขให้อย่างที่เขาและอธิปพงศ์ต้องการ
“อ๊ะ ๆๆ ใช่ ๆๆๆ แรงอีก โอ๊ววว ที่รัก นิธินๆๆๆๆ”
“I know you like it, honey. Ohhhhhhhh ,woaaaaaaaaaaa”
“อ๊ะ ๆๆ ผม ผมผมผม ออกแล้วว อ๊า”
  และอธิปพงศ์ก็เป็นฝ่ายที่ถึงเส้นชัยก่อนเป็นคนแรก โดยที่นิธินก็กำลังตามมาติด ๆ และปลดปล่อยความเป็นตัวเขาทั้งหมดลงบนหน้าใส ๆ ของคนรักทันที และพอเขาลืมตาขึ้นก็พบกับภาพอันแสนเย้ายวนนั้น ที่อธิปพงศ์กำลังปาดน้ำรักของเขาเพื่อจะกลืนกินอย่างเอร็ดอร่อย ทำให้นิธินไม่รอช้าที่จะเข้าไปมอบจูบหวานล้ำให้แทนคำขอบคุณ อากาศหนาวเย็นในยามดึก คงไม่สามารถที่จะทำอะไรความต้องการอันเร่าร้อนของคู่รักคู่นี้ได้เลยจริง ๆ
 




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 01-03-2012 17:58:13
 :-[  เอ่ออออ  .....  ตอนท้ายมัน...มัน ....คึคึ

อบอุ่นมาก อ่านเรื่องนี้แล้วอบอุ่นในหัวใจ   ,,,

คอยรับประทานมาม่าอยู่นะขอรับ     

 :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 01-03-2012 20:00:53
เฮ้ออออออออออออออออ....   สภากาชาดขา ขอเลือดสำรองหน่อยค่ะ เอริ๊ก ๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 01-03-2012 20:10:36
ร้อนแข่งกับอากาศกรุงเทพฯ :laugh:
ไม่เอามาม่า เรื่องนี้ขอซึบซับวัฒนธรรมดีๆ นะ
เพิ่งไปอ่านน้องพีร์อีกรอบ ทำซึมไปถึงเช้าแล้ว
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 01-03-2012 20:17:02
แม่กับยายจะหลับลงมั้ยเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 01-03-2012 20:46:40
55555555555แอร๊ยเริ่ด คุณแม่ คุณยายคงลุ้นน่าดูว่าบ้านจะพังมั้ย อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 01-03-2012 20:56:14
เกิดมาคู่กันจริงๆ



ถูกคู่แล้วละ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 01-03-2012 21:15:43
ตอนนี้หนูปิดตาอ่านเลยนะคะ คริๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 01-03-2012 22:29:18
จะสงสารหรืออิจฉาคุณแม่กับคุณยายดี
ป่านนี้นอนพื้นสะเทือนหมดแล้ว
 :z1:
เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าพี่หมูดูเซ็กซี่มากเลย
สงสัยคนมีสามีแล้วจะยิ่งสวยขึ้น เซ็กซี่ขึ้น
ไม่ได้โผล่มาแป๊บเดียวคุณน้ำพริกแมงดาอัพตั้งสองตอน
ขอบคุณมากค่ะ
 :กอด1:

ปลล.ที่ว่ามีสามีแล้วก้นนิ่มจริงเหรอคะ 55555
 :z1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 01-03-2012 22:40:42
คุณหมูกับนิธินเห็นใจแม่กับยายหน่อยเถอะเค้าจะนอนไม่หลับเอานา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Monochrome ที่ 01-03-2012 22:50:39
ทั้งคู่รักกันดีอย่างนี้แล้วชักกลัวขึ้นมานิดๆ
เพราะเหมือนตอนเปิดเรื่องหมูพูดว่ามีช่วงที่ห่างกันนาน?? ใช่ไหมครับ :serius2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 01-03-2012 23:09:05
โอ๊ะ โอ๊ะ โอ ฟื้นจากสลบเพราะเสียเลือด :jul1:ไปเยอะ 
ฮึ้บ..เรียกแรงมาจะได้เขียนเม้นท์ได้ โฮะ โฮะ
คู่นี้เขาร้อนแรงทั้งคู่ ถึงบอกว่าเขาทั้งคู่มี :oo1:ความสมดุลย์กัน
เอิ่ม คิดเหมือนหลายๆรี อิ อิ อิ แม่กับยายจะได้นอนไหม
ขอบคุณน้ำพริกแมงดา สำหรับประเพณีการแต่งงานแบบอินเดียในตอนที่ 21 นะจ๊ะ
เอิ่ม...สงสัยจริงๆนะ เรื่องก้นนิ่มน่ะ

 ป.ล. ในตอน21 เจอคำสะกดผิดจ้ะ
 "..เจ้าบ่าวเข้าไปรับเจ้าสาวมายังแท่นปรัมพิธี..."   (ปะรำพิธี)
 "...นิธินกับอธิปพงษ์สบโอกาศไปแสดงความยินดี.." (โอกาส)สงสัยคำนี้เผลอกดshift
ตอน22
"...คนเป็นยายแซวหลานเพราะสังเกตุมาสักพักแล้ว..." (สังเกต)ไม่ต้องมีสระอุ


หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 01-03-2012 23:16:11
ฮาผู้ปกครองทั้งหลายในเรื่องนี้ ๕๕๕๕๕๕

สองคนนี้นี่ร้องแรงกันจริง :m25:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 01-03-2012 23:21:08
ต้องชมคุณยายกับคุณแม่ของหมูเลยนะเนี่ยว่า ที่เข้าใจเรื่องความรักของหมูได้แบบนี้ น่าปลื้มใจแทนคู่รักคู่นี้จริงๆๆๆ 

ถ้าคู่นี้กลับมาอยู่บ้านนานๆ ข้าพเจ้ากลัวบ้านพังอะ แอร๊ยยยย  :m25:  :m25:  55555

ปล. ว่าแต่ก้นนิ่ม นี่จริงๆ เหรอ  :z1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 01-03-2012 23:23:49
ไม่เกรงใจยายกับแม่เลยนะ  :z1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 02-03-2012 03:09:56
 :haun4:ที่สุดค่ะ o13
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 02-03-2012 04:04:54
คู่นี้ดุเดือดมาก  ชอบอ่ะ :haun4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-03-2012 06:12:53
น้ำพริกแมงดาทำเอาเราเลือดไหลตอนเช้า ความดันก็ปรับไม่ทัน หัวใจสูบฉีดเลือดมากกว่าปกติ :jul1:
มีช่วงหวานมากๆอย่างนี้มันจะมีช่วงขมกันบ้างไหมน้อ ไม่ได้ถามหาแต่ว่ากลัวน่ะค่ะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: AllRiseApril ที่ 02-03-2012 10:19:16
แอบสงสารแม่กะยายนิดหน่อยย  หลับมั้ยคะนั่น 55555555555555
ดีเนอะความรัก รักกันมากกกกกกกกกก
แม่กับยายก็ดี๊ดี  ไม่ว่าสักคำอ่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-03-2012 14:07:34
ชอบจังเลย :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-03-2012 15:01:48
โอ๊ะ โอ๊ะ โอ ฟื้นจากสลบเพราะเสียเลือด :jul1:ไปเยอะ 
ฮึ้บ..เรียกแรงมาจะได้เขียนเม้นท์ได้ โฮะ โฮะ
คู่นี้เขาร้อนแรงทั้งคู่ ถึงบอกว่าเขาทั้งคู่มี :oo1:ความสมดุลย์กัน
เอิ่ม คิดเหมือนหลายๆรี อิ อิ อิ แม่กับยายจะได้นอนไหม
ขอบคุณน้ำพริกแมงดา สำหรับประเพณีการแต่งงานแบบอินเดียในตอนที่ 21 นะจ๊ะ
เอิ่ม...สงสัยจริงๆนะ เรื่องก้นนิ่มน่ะ

 ป.ล. ในตอน21 เจอคำสะกดผิดจ้ะ
 "..เจ้าบ่าวเข้าไปรับเจ้าสาวมายังแท่นปรัมพิธี..."   (ปะรำพิธี)
 "...นิธินกับอธิปพงษ์สบโอกาศไปแสดงความยินดี.." (โอกาส)สงสัยคำนี้เผลอกดshift
ตอน22
"...คนเป็นยายแซวหลานเพราะสังเกตุมาสักพักแล้ว..." (สังเกต)ไม่ต้องมีสระอุ




ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้ไปแก้ไขเรียบแล้วค่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-03-2012 15:16:29
ตูดนิ่ม...เกี่ยวจริงดิ่!!!...555...คุณแม่ค๊าบ....รู้จริงดิ๊!

 :z1:

ปลล.ที่ว่ามีสามีแล้วก้นนิ่มจริงเหรอคะ 55555
 :z1:
ต้องชมคุณยายกับคุณแม่ของหมูเลยนะเนี่ยว่า ที่เข้าใจเรื่องความรักของหมูได้แบบนี้ น่าปลื้มใจแทนคู่รักคู่นี้จริงๆๆๆ 

ปล. ว่าแต่ก้นนิ่ม นี่จริงๆ เหรอ  :z1:
เอิ่ม...สงสัยจริงๆนะ เรื่องก้นนิ่มน่ะ


มาตอบเรื่องก้นนิ่มทึ่ทุกคนสงสัยนั้นโดยเฉพาะค่ะ คนเขียนทราบมาจากเพื่อนว่าเป็นอาการข้างเคียงของคนที่มีเนื้อสะโพกเยอะๆ ที่มีเซ็กส์บ่อยๆ ค่ะ โดยที่มีถี่ๆ และหนัก ๆ ค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 02-03-2012 15:16:56
 :L2:ให้คุณน้ำพริกแมงดา
อยากอ่านต่อจัง :o8:
ปล. มั๊ย เป็น มั้ย ไม้โทนะไม่ใช่ไม้ตรี
หล่ะและหน่ะ เป็น ล่ะและน่ะ ไม่มี ห นำนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 02-03-2012 18:39:37
รออยู่จ้า
สนุกมากๆๆเลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-03-2012 19:03:04
วันนี้มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ เจอกันวันจันทร์ค่ะ


ปล.วันนี้เพิ่งกด + ให้ทุกคนได้ ตามไปกดแล้วค่ะ(หลังจากกดเป็ดให้อย่างเดียวมานาน) ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


23


   และวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มทั้งสองกลับมากรุงเทพฯเพื่อทำงานตามปกติ โดยก่อนกลับอธิปพงศ์ไม่ลืมที่จะจัดเก็บห้องและซักผ้าปูที่นอนให้แม่ในสภาพเดิมด้วย หลังจากที่โดนแม่กับยายบ่นจนหูชาว่าพวกเขาทำให้ยายกับแม่ต้องนอนไม่หลับกับเสียงกระดานลั่นเอียดอาดยามดึก แต่ลึกๆแล้วแม่กับยายก็ดีใจที่เห็นอธิปพงศ์มีคนรักที่คอยดูแลเอาใจใส่และมีความเป็นผู้ใหญ่เหมือนกันอย่างนิธิน ถึงแม้ว่าลูกชายคนเดียวจะไม่มีชีวิตคู่ที่เป็นไปตามการดำรงอยู่ของครอบครัว แต่เพียงแค่คนเป็นแม่เห็นว่าลูกมีความสุขกับและเข้ากันได้ดีคนรักคนนี้ เธอก็หมดห่วงแล้ว

 ร้านพี่กุ้งในวันทำการวันแรกของสัปดาห์นี้เริ่มต้นด้วยบรรยากาศสดใส เพราะว่าทุกคนเพิ่งกลับจากเยี่ยมภูมิลำเนาของตัวเองและท่องเที่ยว ป๊อกกี้ที่ดูดี๊ด๊ากว่าใครเดินลั้นลาเข้าร้านและปราดมาหาพี่กุ้งกับอธิปพงศ์ที่จัดร้านอยู่
 "ทุกคนคะ ป๊อกกี้กลับมาแล้วค่า วันนี้มีของมาฝากทุกคนด้วย"
พี่กุ้งถามยิ้มๆ "ไปไหนมาล่ะหึ"
"ไปภูเก็ตมากับแก็งค์เพื่อนสาวค่า โอ๊ย มีแต่ฝรั่งหล่อๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ฟินส์ๆๆ นี่ๆ ค่ะหนูมีของฝากมาให้คุณแม่และคุณพี่ด้วย"
"หืมม อะไร" พี่กุ้งกับอธิปพงศ์มองตามป๊อกกี้ที่หยิบของในถุง ก่อนจะยื่นของฝากชิ้นแรกให้พี่กุ้ง
"อันนี่ของคุณแม่ค่า" ป๊อกกี้หยิบน้ำพริกกุ้งเสียบและขนมเต้าซ้อส่งให้
"อื้ม ขอบใจนะ" พี่กุ้งยิ้มใจดีตอบรับน้ำใจของลูกน้อง ส่วนป๊อกกี้ก็หยิบของฝากชิ้นต่อมาให้อธิปพงศ์
"อันนี้ค่า หนูตั้งใจซื้อมาให้พี่หมูโดยเฉพาะเลย"
"อะไรล่ะ" ชายหนุ่มมองตามอย่างสงสัยและก็ได้รับน้ำมันสีแดงในขวดแก้วติดฉลากภาษาฮินดีมาแทน
"มันคืออะไรล่ะป๊อกกี้"
"อ๋อ มันคือน้ำมันนวดตัวค่ะ หนูซื้อมาจากร้านขายของแขกเลยนะคะพี่ เนี่ยพวกมีแฟนแขกมันบอกว่าเอาไว้ผลัดกันใช้นวดตัวกับแฟนค่ะ อโรม่าเธอร่าปี้ส์ เบาๆ"
อธิกพงศ์ยิ้มเขินๆ และขอบใจรุ่นน้องที่ซื้อมาฝาก
"อืม ขอบใจนะ"
"ค่า ใช้แล้วเป็นยังไงบอกน้องบ้างนะคะ"
“อืม ได้ใช้อยู่แล้วแหล่ะ” เขาหยิบไข่เค็มกล่องย่อมให้รุ่นน้อง “อ่ะนี่ ของแก”
“ว๊ายย เริ่ด ไข่เค็มดินสอพองลพบุรี ขอบคุณมากนะคะ”
“จ้ะ”
อธิปพงศ์ยิ้มน้อยๆให้ก่อนจะไปทำงานต่อ ป๊อกกี้จึงหันมาเมาท์กับพี่กุ้งว่า
"คุณแม่ว่ามั๊ยคะ ว่าตั้งแต่พี่หมูเปลี่ยนไปมีสามีเนี่ย พี่หมูแกสวยขึ้นทุกวันๆ เลยนะคะ"
ป๊อกกี้หมายถึง อธิปพงศ์ที่หลังจากตกลงปลงใจกับนิธินดูมีสีหน้าอิ่มเอิบและนัยน์ตาฉายแววแห่งความสุขตลอดเวลา จนคนรอบข้างอย่างพวกเขาอดรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจตาม และยิ่งวันนี้ที่พวกเขาเพิ่งกลับจากพักผ่อนมาด้วยกัน เลยทำให้คนรอบข้างรู้สึกได้เลยว่าคู่รักคู่นี้ใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุขมากเพียงใด
“อืม...” พี่กุ้งตอบรับสั้น ๆ
“โอ๊ย ทำไมหนูไม่สวยอย่างนี้บ้างคะคุณแม่ มีผัวกับเค้าทีไรโทรมเอา ๆ ยังกับศพทุกที” ป๊อกกี้ตัดพ้อ พี่กุ้งเลยบอกว่า
“ก็ผัวแกดูแลแกดีอย่างของหมูมั๊ยล่ะ”
“เออ นั่นสิคะ เฮ้ออ อิจฉาพี่หมูค่ะ เป็นผู้ชายอยู่ดี ๆ ก็ได้สามีสุดหล่อแสนดีไปนอนกินเบา ๆ”
พี่กุ้งไม่ได้พูดอะไรต่อ นอกจากมองไปยังเจ้าของเรื่องอย่างเป็นห่วง เพราะชีวิต ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอยู่เสมอ เขาจึงกลัวว่า    อธิปพงศ์และคนรักที่กำลังมีความสุขอยู่บนก้อนเมฆอย่างนี้ จะสามารถรับกับปัญหาที่จะเจอในอนาคตได้ไหม ถึงแม้คนทั้งคู่จะไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วก็ตาม แต่ปัญหาที่เข้ามาก็จะมีความยุ่งยากแปรผันตามช่วงอายุเสมอ นี่คือสิ่งที่พี่กุ้งอดกังวลใจแทนลูกน้องคนสนิทไม่ได้

  ส่วนนิธินที่เริ่มมองหาที่อยู่ถาวรในเมืองไทยก็มีความคืบหน้ามากขึ้น เพราะมีคอนโดมิเนียมทำเลดี ๆ เปิดให้จองใหม่ และที่ขายทอดตลาดมาเป็นตัวเลือกอีกเยอะแยะ เหลือแค่คุยกับคนรักว่าจะทำอย่างไรต่อไป  ตอนนี้เขากำลังออนไลน์และลงรูปจากตัวกล้องในสู่คอมพิวเตอร์
 “ที่รัก ทำอะไรอ่ะ ลงรูปอยู่เหรอ” อธิปพงศ์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเดินมาดูที่หน้าจอทันที
“ใช่ ๆ”
“ไหนดูสิ”
อธิปพงศ์นั่งลงบนตักของนิธินที่สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว ก่อนเปิดไปดูรูปทั้งหมดที่แสดงบนหน้าจอ ก็พบว่าทุกรูปที่นิธินถ่ายนั้น มีแต่รูปเขาตอนที่เดินเที่ยวด้วยกันเสียเป็นส่วนใหญ่ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเลยสักรูป
“อ่าว มีแต่รูปผมเหรอเนี่ย”
“อืม..” นิธินยิ้มให้คนรักที่กำลังนั่งบนตัก เขากอดเอวได้รูปนั้นไว้เพื่อให้อธิปพงศ์ทรงตัวได้
“ผมไม่รู้เลยนะเนี่ย” อธิปพงศ์บอกคนรักตามจริง เพราะคิดว่านิธินถ่ายแต่รูปวิวต่าง ๆ มากกว่า
“แอบถ่ายนี่นา” เขาหยิกแก้มคนรักเบา ๆ และหัวเราะ แต่จู่ ๆ ก็มีใครคนหนึ่งทักนิธินมาทาง Facebook
“ไง นิธิน”
นิธินที่นั่งอยู่กับอธิปพงศ์ตอบทันที
“หวัดดี อัคคัส” นิธินทักทายคนรักเก่าที่เข้ามาทักใน Facebook chat
อธิปพงศ์ไม่ได้ถามอะไร นอกจากลุกออกไปเพื่อใส่เสื้อผ้า ส่วนคนที่ออนไลน์อยู่พิมต่อว่า
“สบายดีมั๊ยครับ”
“สบายดี...เราล่ะ”
“ก็ดีครับ ได้ข่าวว่าไปทำงานที่กรุงเทพฯเหรอ”
“อืม ใช่..มีอะไรรึเปล่า”
“คือ ตอนนี้ผมก็อยู่ที่กรุงเทพฯเหมือนกัน ผมมาทำงานกับกองถ่ายหนัง”  อัคคัส หมายถึงกองถ่ายภาพยนตร์อินเดียที่ยกกองมาถ่ายทำในกรุงเทพฯ ที่เขาทำงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประสานงานการถ่ายทำ
“อ่าวเหรอ..”
“ผม ขอเจอคุณ ได้มั๊ย”
“ได้สิ วันไหนล่ะ”
“พรุ่งนี้ คุณเลิกงานกี่โมงล่ะ เดี๋ยวผมโทรไป”
“อืม ๆ ได้” นิธินตอบรับและให้เบอร์โทรศัพท์ไป
 “แล้วเจอกันนะครับ”
“อืม..”
   นิธินปิดหน้าต่างFacebook นั้นก่อนจะชวนคนรักดูรูปต่ออย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาไม่ได้คิดจะปิดบังคนรัก แต่เขารู้ดีว่าถ้าอธิปพงศ์รู้เรื่องนี้ขึ้นมาในเวลานี้อาจจะทำให้เขาไม่สบายใจและไม่สามารถนอนหลับได้ ถ้าถึงเวลาจริง ๆ เขาก็จะบอกเอง
“ที่รัก เรื่องคอนโดอ่ะ คุณว่าไง” นิธินถามคนรักที่กลับมานั่งบนตักอย่างขอความเห็น
“อืม ไปถึงไหนแล้วล่ะ” อธิปพงศ์หันไปถามคนรักยิ้ม ๆ
“เท่าที่ผมหาข้อมูลนะ มีคอนโดใหม่หลายที่เปิดให้จอง และก็ที่เป็นอะไรนะ..ขายทอดตลาด..ก็มี ผมอยากได้ที่อยู่ใจกลางเมืองน่ะ ไปไหมมาไหนสะดวก”
“อืม ใช่ ๆ แต่มันแพงนะ ถ้าเราได้แบบขายทอดตลาดจริง ๆ ก็ดีสิ”
“แต่ตอนนี้ผมยังไม่เห็นมีเลยนะ หรือคุณว่าไง"
"ผมไม่รีบหรอก อยู่แบบนี้เก็บเงินเรื่อย ๆ ไปก่อนก็ได้"
"อืม" นิธินจับมือคนรักขึ้นมาหอม อธิปพงศ์ยิ้มให้คนรักอย่างมีความสุข ถึงแม้จะยังไม่แน่ใจว่าเขาจะได้อยู่ที่นี่ต่อหรือไม่

  วันต่อมาพวกเขาไปทำงานตามปกติ แต่เลิกงานวันนี้นิธินไม่ได้ชวนอธิปพงศ์ไปว่ายน้ำอย่างที่เคย เขากลับพาชายหนุ่มมากินข้าวและไม่ได้บอกรายละเอียดอะไรมากนัก โดยมีชายหนุ่มอีกคนนั่งรออยู่หน้าร้านอาหารทะเลเผาแห่งนี้
"นิธิน..." อัคคัสที่เห็นนิธินเดินมาก็ยิ้มดีใจ แต่พอรู้ว่านิธินมากับชายหนุ่มอีกคนก็เจื่อนลง
ส่วนอธิปพงศ์ที่เห็นว่ามีชายหนุ่มอีกคนยืนรอพวกเขาอยู่ข้างหน้าถึงหันไปถามคนรัก
"ใครอ่ะ"
นิธินไม่ได้ตอบอะไรนอกจากหันมายิ้มให้ เพื่อจะให้เขาเข้าใจ พวกเขาเดินเข้าไปใกล้ขึ้น อธิปพงศ์ก็พบชายหนุ่มอินเดียผิวขาวที่มองเขาอยู่เช่นกัน  อธิปพงศ์จึงหันไปมองคนรักด้วยสีหน้าสงสัยขึ้นกว่าเดิม
"คุณหมูครับ นี่อัคคัส" อธิปพงศ์มองไปยังชายหนุ่มอินเดียผิวขาวหน้าตาดีที่แต่งตัวทันสมัย โดยอธิปพงศ์คิดว่าน่าจะอายุน้อยกว่าเขา
"อัคคัส นี่ คุณหมู แฟนผม.." นิธินบอกกับคนรักเก่าด้วยภาษาฮินดี ทำให้เจ้าตัวยิ้มให้อธิปพงศ์อย่างมีมารยาท แต่ก็ไม่อาจซ่อนแววตาเจ็บปวดที่ได้ยินคำพูดนั้นจากคนรักเก่าได้
"เค้าเป็นใครอ่ะ" อธิปพงศ์ถามคนรัก เพราะรู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขาอย่างแน่นอน
"My Ex-boyfriend" นิธินตอบตรง ๆ ให้ทั้งคนใหม่และคนเก่าได้ยินทั่วกัน
 ที่อัคคัสนัดนิธินมาเจอในวันนี้ เป็นเพราะว่าเขาอยากเจอคนรักเก่าที่เลิกรามาแรมปี โดยยังหวังเล็ก ๆ ว่าเขากับนิธินจะสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันได้ แต่เมื่อเห็นเจ้าตัวมากับคนใหม่ที่รูปร่างหน้าตาดีอย่างนี้แล้วก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น แต่ก็จำต้องฝืนปั้นหน้ายินดีและไม่ได้คิดอะไรตามมารยาท
 ส่วนอธิปพงศ์ที่มองอัคคัสอยู่นั้นก็พบว่า จริง ๆ แล้วอัคคัสจัดได้ว่าเป็นคนอินเดียที่ผิวขาวและหน้าตาดีคนหนึ่ง นอกจากจะมีรูปตากลมโตและจมูกโด่งแบบชาวอินเดียทั่วไปแล้ว ริมฝีปากกับโครงหน้านั้นทำให้หน้าดูหวานขึ้น ถ้ามองดูรายละเอียดแบบผิวเผินโดยรวมแล้ว เขากับอัคคัสเรียกได้ว่ามีรูปร่างหน้าตาใกล้เคียงกัน
 เขามองไปยังคนรักอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์ เพราะไม่ค่อยพึงใจเท่าไหร่เมื่อรู้ว่าตัวเองหน้าตาคล้าย ๆ แฟนเก่าของเขา
ส่วนนิธินได้แต่หันมามองหน้าคนรักนิ่ง ๆ เพื่อจะบอกว่าเขายังสนใจความรู้สึกของอธิปพงศ์เสมอ และอยากให้คนรักเข้าใจว่าที่เขาทำอย่างนี้

  พวกเขาพากันมานั่งในตัวร้านและสั่งอาหาร เมื่อพนักงานรับออเดอร์เรียบร้อยแล้ว อัคคัสจึงบอกกับนิธินว่า
"คุณยังดูดีเหมือนเดิมเลยนะ"
"ขอบคุณครับ"
อธิปพงศ์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเห็นทั้งสองใช้ภาษาฮินดีในการสื่อสาร นิธินจึงหันมาแปลให้ฟัง
"เค้าบอกว่า ผมยังเหมือนเดิมเลย" นิธินละคำว่าดูดีไว้ เพราะไม่อยากให้คนรักไม่สบายใจมากกว่านี้
"อืม เหรอ"
อัคคัสหันมาถามชื่ออธิปพงศ์ตามมารยาท
"Sorry, may I know you name again?"
"หมู my name is หมู" อธิปพงศ์ก็ตอบไปอย่างมีมารยาทเช่นกัน เขาสังเกตได้ว่าอัคคัสพูดภาษาอังกฤษได้ชัดเจนกว่าชาวอินเดียทั่วไป
"Nice to meet you"
Nice to meet you too." อธิปพงศ์ตอบรับและยิ้มให้ตามที่จะเป็น แต่คนทั้งสองไม่ได้สัมผัสมือกันแต่อย่างใด
นิธินรับรู้ได้ว่าคนทั้งสองต่างคนต่างดูท่าทีกันอยู่ จึงไม่ได้พูดอะไรออกไปให้ใครรู้สึกแย่ เมื่ออาหารมาถึงแล้ว ทุกคนก็ค่อย ๆ ตักมากินกัน ทั้ง ๆ ที่ในใจไม่ได้มีจดจ่อกับอาหารทะเลตรงหน้า  เลยแม้แต่น้อย
อธิปพงศ์เข้าใจว่าทุกคนมีอดีตด้วยกันทั้งนั้น เขาเองก็เช่นกัน แต่ก็ไม่ชอบอยู่ดีที่พบว่าคนรักเก่ายังพยายามมีเยื่อใยกับแฟนตัวเองอย่างนี้
"Are you still like Salmon?" อัคคัสถามนิธินที่สั่งปลาแซลมอนอบเกลือมากิน
นิธินพยักหน้ารับ อัคคัสเลยพูดต่อว่า "I remember that you always ordered this when you went to seafood restaurant"
"อืม" นิธินยิ้มรับเพราะไม่ได้คิดอะไร แต่อัคคัสหันมามองหน้าอธิปพงศ์เหมือนจะเยาะเย้ยเล็ก ๆ อธิปพงศ์เข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนมาใช้ภาษาอังกฤษในการพูดคุย อัคคัสจึงถามต่อ
"Do you know Hinndi?"
"No, I don't know any Hindi" อธิปพงศ์ตอบเรียบ ๆ
อัคคัสเหมือนจะหัวเราะเกทับ
"Why  you don't teach him Hindi, Nitin" เขาหันไปถามนิธินที่เหมือนจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่
อธิปพงศ์เลยตอบให้แทน
"I think that Hindi is too difficult for me, but it doesn't matter because Nitin asks me to teach him Thai and he is the good learner. Now,he can speak thai very well"
อัคคัสมองหน้าอธิปพงศ์อย่างไม่ค่อยจะเชื่อ นิธินเลยหันมาสมทบ
"อืม จริง ผมพยายามเรียนภาษาไทยเองแหล่ะ"
อัคคัสจึงไม่พูดอะไรต่อนอกจากกินเงียบ ๆ แต่ก็มิวายแอบมองอธิปพงศ์และนิธินที่ยังคงดูแลกันเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาจึงได้แต่เจ็บใจตัวเองที่ปล่อยให้ผู้ชายดี ๆ อย่างนิธินหลุดมือไปได้ในครานั้น เพราะเห็นว่าชายหนุ่มไม่มีเวลาให้เขาอย่างที่ต้องการ เขาจึงเป็นฝ่ายขอเลิกรา แต่เมื่อไปคบกับคนอื่นก็ไม่เห็นมีใครดูแลเอาใจใส่และจริงใจต่อเขาได้เท่านิธินอีกเลย ถึงแม้อยากจะเอาคืนตอนนี้ ก็คงไม่ได้เสียแล้ว เพราะนิธินก็ไม่มีเยื้อใยเหล่านั้นหลงเหลือให้เขาแม้แต่น้อย เขาจึงได้แต่นั่งกินต่อด้วยความเจ็บปวดกับการกระทำของตัวเอง
 ก่อนจะแยกย้าย นิธินก็ถามอัคคัสตามประสาคนคุ้นเคยว่า
 "How long you work in Thailand"
"About week. I'm going to Samui tomorrow"
เขามองหน้าคนทั้งสองด้วยสายตาที่อ่อนลง โดยเฉพาะกับอธิปพงศ์ที่เขาอยากจะขอโทษ เขาเลยบอกเป็นนัยว่าจะไม่อยู่รบกวนคนทั้งสองอีกแล้ว
นิธินบอกกับคนรักเก่าอย่างเป็นมิตร
"อืม งั้นโชคดีละกันนะ"
"ขอบคุณครับ" อัคคัสรับคำสั้น ๆ ก่อนจะมองหน้าทั้งสองคนอีกครั้ง " Thank you, bye"
 
อัคคัสเดินจากมา พร้อมกับยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นแล้ว ที่เขานัดนิธินมาเจอครั้งนี้ก็เพราะว่าเขาจะพยายามขอร้องให้คนรักกลับมาคืนดีโดยใช้เสน่ห์ที่มีเข้าหาและถือโอกาสขอไปอยู่กับนิธินระหว่างอยู่ที่นี่  แต่จากการที่อธิปพงศ์บอกว่านิธินพยายามเรียนภาษาไทย ก็ทำให้เขารับรู้ได้ว่านิธินคงจะรักผู้ชายไทยคนนี้มากและที่สำคัญเขาก็เตือนตัวเองว่าไม่ควรคิดฝันอะไรลม ๆ แล้ง ๆ แบบนี้อีกแล้ว ที่สำคัญอธิปพงศ์เองก็ดูจริงจังกับนิธินมากกว่าตัวเขาในอดีต ชายหนุ่มหันไปมองนิธินที่เดินเคียงคู่กับคนรักใหม่ ถึงแม้เขาจะเจ็บปวด แต่ก็ไม่เลวร้ายพอที่จะทำลายความรักของใครลงได้

  อธิปพงศ์ที่เดินเงียบมาตลอดทางเพราะก็ไม่ค่อยพอใจเหมือนกันกับเหตุการณ์ในวันนี้ นิธินจึงบอกว่า
"ผม ขอโทษนะ ที่ไม่ได้บอกคุณก่อน ผมกลัวคุณไม่สบายใจหน่ะ"
อธิปพงศ์เงียบไม่ได้ตอบโต้อะไร นิธินเลยพูดต่อว่า
"เมื่อคืนเค้าบอกว่าให้ผมออกมาเจอ ผมเลยพาคุณไปด้วย"
อธิปพงศ์ถามทันที
"เพื่ออะไร..."
"ผมไม่อยากให้ความหวังใคร และผมก็อยากให้คุณรู้ว่า ผมไม่ปิดบังคุณนะ"
อธิปพงศ์ยังเงียบ นิธินเลยเล่าเรื่องของเขาให้ฟังบ้าง
"ผมกับเค้า เคยคบกันตอนที่อยู่อินเดียหน่ะ ผมเจอกับเค้าที่บริษัทเพราะพี่ชายเค้าเป็นเจ้านายผม แต่ก็คบกันปีกว่านะ"
"แล้ว ทำไมถึงได้เลิกกันล่ะ" อธิปพงศ์หันมาถามด้วยเสียงอ่อนลง
"เค้าบอกว่า ผมไม่ค่อยมีเวลาให้เค้าเท่าไหร่หน่ะ เค้าเลยขอเลิกกับผม"
"อ่าวเหรอ"
อธิปพงศ์ประหลาดใจไม่น้อยที่เพิ่งรู้ว่าคนรักเป็นฝ่ายถูกทิ้ง แต่ก็เข้าใจดีว่าความรู้สึกของคนทั้งคู่ในตอนนั้นเป็นอย่างไร เพราะเขาก็เคยผ่านมาเหมือนกัน เขาจะไม่ถามว่านิธินยังรักอีกฝ่ายอยู่หรือไม่ เพราะเมื่อครู่เขารับรู้ได้ว่าชายหนุ่มเป็นห่วงความรู้สึกของเขาคนเดียว
นิธินเห็นคนรักอารมณ์ดีขึ้นแล้ว เลยค่อย ๆ เข้าไปจับมือของอธิปพงศ์และเดินต่อไปด้วยกัน
"คุณหมูครับ..."
"หืมม"
"ให้สัญญากับผมได้มั๊ย"
นิธินหันมาถามคนรักด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"อะไรล่ะ"
"ถ้าผมต้องกลับไปทำงานที่อินเดีย หรือ ไปทำงานที่อื่น คุณสัญญาได้มั๊ย ว่าคุณจะรอผมมาอยู่ด้วยกันกับคุณ"
อธิปพงศ์ฟังแล้วรู้สึกวูบลง เพราะนี่คือความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกเขา แม้นิธินจะยื่นคำร้องกับบริษัทไปแล้วถึงเรื่องย้าย แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่านิธินจะได้ย้ายมาอยู่เมืองไทยหรือไม่ ชายหนุ่มเคยบอกกับเขาว่าคิดจะลาออกไปหางานทำที่บริษัทอื่น แต่คนต่างชาติอย่างเขาก็มีข้อจำกัดมากมายจากทางกฎหมายและสัญญาของบริษัทแม่ ที่สำคัญงานที่นิธินทำก็กำลังมีความก้าวหน้า ถ้าจู่ ๆ จะทิ้งไปก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นที่สุด อธิปพงศ์จึงไม่อยากให้คนรักต้องมาลำบากเพราะเขาในเรื่องนี้ เขาจับมือคนรักแน่นขึ้น พร้อมกับบอกว่า
"ครับ ผมสัญญา ผมจะรอ"
นิธินมองหน้าคนรักด้วยความรู้สึกขอบคุณจากหัวใจ ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม แต่หนึ่งเดือนที่เหลืออยู่ในกรุงเทพฯนี้ เขาจะพยายามใช้มันให้คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้







โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-03-2012 19:04:41
:L2:ให้คุณน้ำพริกแมงดา
อยากอ่านต่อจัง :o8:
ปล. มั๊ย เป็น มั้ย ไม้โทนะไม่ใช่ไม้ตรี
หล่ะและหน่ะ เป็น ล่ะและน่ะ ไม่มี ห นำนะ

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จะกลับไปแก้ไขและพยายามใช้ภาษาให้ถูกต้องนะคะ ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 02-03-2012 19:14:01
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :sad4:
แฟนเก่าโผล่มาซะงั้น
ใครเอาปูนขาวไปหยอดรูจ้ะคุณถึงได้โผล่มาหานิธินเค้าได้
หายหัวทิ้งเค้าไปตั้งนานสองนาน
พอเค้ามีแฟนใหม่จะกลับมาหาพระแสงด้ามยาวอะไรมิทราบ???
 :o211: o12
มาม่าเริ่มจะมาอีกแล้ว
ม่ายน้าาาาาาาาาาาาาาาาาา
 :o12:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-03-2012 19:19:02
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
 :sad4:
แฟนเก่าโผล่มาซะงั้น
ใครเอาปูนขาวไปหยอดรูจ้ะคุณถึงได้โผล่มาหานิธินเค้าได้
หายหัวทิ้งเค้าไปตั้งนานสองนาน
พอเค้ามีแฟนใหม่จะกลับมาหาพระแสงด้ามยาวอะไรมิทราบ???
 :o211: o12
มาม่าเริ่มจะมาอีกแล้ว
ม่ายน้าาาาาาาาาาาาาาาาาา
 :o12:


ไม่มาม่า หรอกค่ะ สบายใจได้เลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-03-2012 19:30:53
มันก็น้อยคนนะที่จะลักกี้อินเกมแอนด์อินเลิฟด้วยอ่ะ :เฮ้อ:
เข้าใจเจตนาของนิธินนะ แต่ถ้าเค้าเป็นหมูก็รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ที่ได้เจอแฟนเก่าของแฟนแบบไม่ทันรู้ตัวมาก่อน :z3:
หรือว่ามาม่าใกล้จะได้เสิร์ฟแล้วอ่ะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 02-03-2012 19:39:58
ชอบอดีตคนรักของนิธิน เข้าใจอะไรง่ายๆดีไม่งี่เง่าไม่น้ำเน่า
ด้วยวัยและประสบการณ์ของทั้งหมูและนิธิน เชื่อว่า
ไม่ว่าจะเกิดปัญหาก็ตามใดแทรกเข้ามาในชีวิตคู่ของพวกเขา
ทั้งสองน่าประจับมือกันก้าวผ่านไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 02-03-2012 19:54:28
นิธินน่ารักจัง เปิดเผยจริงใจ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 02-03-2012 21:05:27
จะมีอุปสรรคอะไรมาอีกนะ :m21:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 02-03-2012 22:17:14
ไม่รู้วันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นแต่เหมือนต้องพรากจากกันแน่เลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 02-03-2012 22:33:48
เรื่องเเฟนเก่าไม่ค่อยห่วงเท่าไร

กลัวไอ้ที่ทิ้งท้ายไว้มากกว่า ปรื๋อ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 02-03-2012 22:48:28
โอ๊ย! ช่างมันเถิด อะไรจะเกิดก็ปล่อยมันไป แค่ได้รักกันมันก็ดีแล้วนี่คะ อุปสรรคเยอะจะได้รักกันเยอะๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:01/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 03-03-2012 00:52:39
หวานกันเบาๆ ตลอดอ่ะ :m1: :m1:
เพิ่งรู้ว่าหนุ่มอินเดียนี่ก็น่ารักเหมือนกันนะ  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 03-03-2012 01:36:44
นิสัยเป็นผู้ใหญ่กันดี น่ารัก
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 03-03-2012 01:53:01
เหมือนจะมาม่าเบาๆ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 03-03-2012 02:05:13
คนเรามักจะหาแฟนหน้าตาคล้ายๆของเดิม บางทีไมไ่ด้คิดจะหาแบบนั้นหรอก แต่เหมือนมันเป็นเอง มาเจอหน้าตาแบบนี้ นิสัยแบบนี้เอง ก็แปลกดีเนอะ  แต่ดูแล้ว แฟนเก่ารู้เรื่องดีไม่น่าจะมีปัญหา เหมือนอย่างปิ่นอ่ะ รู้เรื่องดี แต่นางคงไม่กลับลำนะ ไม่งั้นชั้นจะไปตบเธอ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 03-03-2012 19:30:39
สีสันในชีวิต :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-03-2012 19:44:16
 :3123:รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 03-03-2012 21:58:10
กลิ่นมาม่าโชยมาแต่ไกล  รอน้ำเดือดหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 03-03-2012 23:08:27
อยากจะกรีดร้องดังๆ ว่าพลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไร
แต่ก็ตามมาอ่านทันแล้ว  อุ่นใจอิ่มใจจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 05-03-2012 15:21:17
มาแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ  :pig4:
 :L2:+โหวต& +เป็ด ทุกคนค่ะ


 24
 


 นิธินกับเพื่อนๆ มารับประทานอาหารกลางวันกันตามปกติ เวลานี้เข้าสู่ช่วงปลายปีสากลแล้ว ที่ทำงานของเขาจึงเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขจากความหวังและการรอคอยวันหยุดและโบนัส ยกเว้นนิธินที่เพิ่งรับทราบว่าการโยกย้ายของเขานี้ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง
 "เออ นี่นิธิน เป็นไงมั่งวะ เรื่องย้ายอ่ะ" วิษณุถามเพื่อนอย่างเป็นห่วง เพราะเขาคือคนที่บริษัทแม่ส่งมาช่วยทำงานในระยะสั้นๆ จึงเป็นไปได้ยากที่จะอยู่ที่นี่ได้ถาวร
"บอสบอกว่า หลังปีใหม่นี้ชั้นจะต้องกลับไปมุมไบทันที"
"เหรอวะ" ทุกคนซึมลงทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น
"อืม แต่ก็มีอีกตัวเลือกนะ ถ้าอยากกลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ ชั้นต้องย้ายไปทำงานที่ดูไบหกเดือนให้ผ่าน ถึงจะได้มาทำงานในตำแหน่งใหม่ที่นี่"
"หะ! หกเดือนเลยเหรอ" วิษณฺตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน
"ใช่" นิธินรับคำนิ่งๆ แต่ไม่สามารถปิดความเศร้าในแววตาได้มิด ส่วนเอเจกับแทนไทนั้นถึงกับตลกไม่ออกเลยทีเดียว
"แล้วคุณหมูรู้เรื่องนี้หรือยัง" แทนไทถามต่อ
"ยัง เพราะชั้นก็เพิ่งรู้เมื่อกี๊ ชั้นตัดสินใจกับบอสไปแล้วนะว่าจะย้ายไปทำงานที่ดูไบ"
"อืม"
ทุกคนใจหายกับเรื่องที่เพิ่งได้ยิน และนึกเห็นใจความรักของคนทั้งสองที่อยู่ดี ๆ จะต้องห่างกันไปแสนไกล ทั้งที่ความรักของทั้งคู่กำลังจะสุกงอมงอกงาม

 ช่วงนี้ที่ร้านพี่กุ้งคึกคักเป็นพิเศษ เพราะลูกค้าจำนวนมากต่างก็เข้ามาเสริมสวยเสริมหล่อรับปีใหม่ที่จะถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้ช่วงนี้ช่างทุกคนต้องเหนื่อยกว่าปกติ อธิปพงศ์จึงแทบไม่ได้ไปว่ายน้ำหลังเลิกงานอย่างที่เคย แต่ก็ยังดีที่ได้กลับบ้านพร้อมกับคนรักทุกวัน และได้นอนกกกอดในอ้อมแขนแข็งแรงทุกคืน
 ตอนนี้ชายหนุ่มกำลังตัดผมให้คนรักที่เอาเก้าอี้มานั่งหน้ากระจก หลังจากกลับห้องและอาบน้ำด้วยกันเสร็จเมื่อครู่
 นิธินยิ้มอย่างมีความสุข เพราะเขาได้ตัดผมกับช่าง*ส่วนตัว ในเสื้อผ้าน้อยชิ้น  อธิปพงศ์เองก็สุขใจเช่นกันที่ได้ตัดผมให้คนที่เขารักในบรรยากาศโรแมนติกอย่างนี้

 "เสร็จแล้วครับ" เขาถอดผ้าคลุมออก นิธินยิ้มกับเงาตัวเองในกระจกและคนรัก
อธิปพงศ์ลูบผมคนรักที่อยู่ตรงหน้าท้องเบาๆ และจูบที่หน้าผากก่อนจะบอกว่า
"โกนหนวดกันต่อดีกว่า"
นิธินยิ้มรับและลุกขึ้นยืน เขาหยิบกระปุกโฟมโกนหนวดแล้วเขย่าก่อนจะบีบโฟมนุ่มลงบนมือแล้วป้ายลงบนคางกับเหนือริมฝีปากของคนรัก ส่วนอธิปพงศ์เองก็ทำบ้าง คนตอนนี้ต่างคนต่างดูเหมือนซานต้าครอสไปแล้ว
"โฮ่ๆๆๆ" นิธินทำเสียงล้อเลียน อธิปพงศ์ยิ้มขำและค่อยโกนหนวดนิธินไปตามแนวคางอย่างเบามือ  นิธินเองก็เช่นกันที่ค่อยๆ ใช้ใบมีดโกนหนวดของคนรักจนเกลี้ยงเกลา
"จุ๊บบบ"
 คนทั้งสองสัมผัสริมฝีปากกันเบาๆ ก่อนจะละออกมายิ้มให้กันอย่างสุขล้นหัวใจ พวกเขาช่วยกันเก็บกวาดและล้างเนื้อล้างตัวก่อนจะออกมาห้างนอกห้องน้ำเพื่อใส่เสื้อผ้าและเข้านอน
"เออ ที่รัก.." อธิปพงศ์นึกขึ้นได้จึงถาม มั้งที่ในใจก็รู้สึกหวั่นๆ "ตกลงว่า หลังปีใหม่นี้..ยังไงเหรอ"
"อ่อ" นิธินเงียบไป อธิปพงศ์จึงถามต่อ
"มีอะไรหรือเปล่าครับ"
นิธินมองหน้าคนรัก แววตาของเขาบ่งบอกถึงความรู้สึกเศร้าอย่างเต็มอก
"ผมต้องย้ายไปทำงานที่อื่น..หกเดือน.. แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ..ถ้าผมผ่าน ผมจะได้กลับมาอยู่กับคุณ..ที่นี่"
อธิปพงศ์ก็ช็อกไปเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขารู้สึกเหมือนหัวใจมันหล่นไปอยู่นอกกาย เขาพยายามจั้งสติและมองหน้าคนรัก
"ที่ไหนครับ"
"ดูไบ, ยูเออี"
"อืมม ผมเข้าใจแล้ว" อธิปพงศ์พยายามฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้คนรักเศร้าสร้อยทั้งที่ในใจของเขากำลังเริ่มร้องไห้ออกมา
"คุณหมู.."
"อื้ม เข้านอนกันเถอะ ดึกแล้ว"
อธิปพงศ์ล้มตัวลงนอนบนหมอน โดยมีนิธินอ้อมมากอดจากทางด้านหลัง เขาไม่กล้าที่จะหันหน้าไปนอนซบอกคนรัก เพราะกลัวว่านิธินจะไม่สบายใจเมื่อเห็นว่าเขากำลังเริ่มร้องไห้
แต่ความรู้สึกของทั้งคู่ส่งถึงกัน ทำให้นิธินลุกขึ้นนั่งและก้มไปดูคนรักที่กำลังนอนร้องไห้เบาๆ
"ที่รัก.." นิธินเรียกอีกฝ่ายด้วยเสียงอันสั่นเครือ ทำให้อธิปพงศ์ลุกขึ้นมา จึงพบว่าใบหน้าคร้ามเข้มนั้นกำลังเจิ่งนองไปด้วยน้ำตาไม่ต่างกัน
 คนทั้งคู่โผเข้าหากันอย่างรวดเร็ว ในตอนนี้มีเพียงแค่น้ำตาและเสียงสะอื้นในอกเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความรู้สึกข้างใน
 ถึงแม้จะรับรู้และเข้าใจว่าชีวิตคือการพบเจอและการจากลา แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ที่จู่ๆ เหมือนมีสายฟ้าผ่าลงมากลางหัวใจพวกเขา น้ำตาชายหนุ่มทั้งสองพรั่งพรูออกมาราวกับทำนบแตก มีเพียงกายอุ่นๆ ของกันและกันกับเวลาที่เหลืออยู่เพียงเท่านั้นที่จะช่วยให้พวกเขาพอทำใจได้กับการห่างไกลที่กำลังจะมาถึง

  แม้ตอนนี้กรุงเทพฯจะถูกปกคลุมไปด้วยความสุขแห่งการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสมาตร์และปีใหม่ ทุกห้างร้านต่างก็ประดับไฟสีสันสวยงามทำให้ เต็มไปด้วยความสดใสคึกคัก แต่ไม่ใช่กับนิธินและอธิปพงศ์ที่ตื่นรับวันใหม่ด้วยหัวใจหม่นเศร้า ที่ต้องใช้ชีวิตโดยนับถอยหลังรับวันจากลา แต่ชายหนุ่มทั้งสองก็พยายามไม่แสดงอาการใดๆ ออกมานอกจากใช้ชีวิตไปตามปกติอย่างคุ้มค่าที่สุด
เย็นนี้นิธินมาหาอธิปพงศ์ที่หน้าร้าน โดยขอยืมตัวเขามาจากพี่กุ้งสักครู่เพื่อจะไปเลือกซื้อของสิ่งหนึ่งด้วยกัน
"จะพาผมไปไหนเหรอ" อธิปพงศ์ถามคนรักที่เดินจูงมือมายังร้านขายแหวนในตัวห้างที่เขาทำงานอยู่ อธิปพงศ์มองหน้าคนรักอย่างมีคำถาม นิธินเลยหันมายิ้มให้และตอบว่า
"เรายังไม่มีแหวนคู่เลยนะ"
อธิปพงศ์ประหลาดใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่ก็ยิ้มกลั้วหัวเราะออกมากับความโรแมนติกแบบแมนๆของคนรัก
"โหยย นึกว่าเรื่องอะไร"
"ผมกลัวหน่ะ ไม่อยู่ตั้งหกเดือน เดี๋ยวใครมาจีบคุณอีก ก็ต้องมีแหวนนี่แหล่ะที่บอกว่าคุณเป็นของผมแล้วนะ"
อธิปพงศ์หัวเราะน้อย ๆ ก่อนจะพูดอย่างหวั่นใจ
"ผมหน่ะสิต้องกลัวมากกว่า"
"อย่ากลัวเลยนะครับ ยังไงผมก็รักคุณคนเดียว"
"อื้ม ผมด้วย"
คนทั้งสองส่งสายตาจริงจังให้กัน ด้วยรู้สึกดีกับคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ ก่อนจะจูงมือกันไปดูแหวนแทนใจ ที่นิธินแอบมาเลือกไว้ก่อนหน้านี้แล้ว เหลือเพียงแต่อยากให้อธิปพงศ์มาเลือกอีกครั้งว่าชอบแบบไหนที่สุด และเขาทั้งคู่ก็เห็นตรงกันกับแหวนทองคำขาวเนื้อเกลี้ยง ที่เหมาะจะเป็นของติดกายหลังจากนี้ พนักงานสาวส่งแหวนนั้นให้ลูกค้าคู่รัก
"สวมเลยมั๊ยคะ" หญิงสาวกล่าวยิ้มๆ รู้สึกดีที่เห็นคนรักซื้อแหวนให้กัน นิธินหันมายิ้มให้คนขายและมองหน้าคนรักถามความเห็น
"เอาสิ" อธิปพงศ์ยิ้มให้คนรัก พร้อมกับส่งมือซ้ายให้คนรัก นิธินยิ้มพอใจและค่อยสวมแหวนให้นิ้วนางเรียวยาวนั้น ก่อนที่เขาจะยื่นมือให้อธิปพงศ์หยิบแหวนอีกวงสวมให้ที่นิ้วนางข้างซ้ายของเขาเช่นกัน อธิปพงศ์เงยหน้ามองคนรักแล้วยิ้มให้ รู้สึกปลาบปลื้มที่คนรักทำเพื่อเขาในครั้งนี้
 เมื่อสวมแหวนให้กันและกันเรียบร้อยแล้ว นิธินก็จูงมือคนรักออกมา โดยที่พนักงานสาวยิ้มให้อย่างยินดี
"ขอบคุณมากนะคะ"
อธิปพงศ์หันไปถามคนรัก
"อ่าว แล้วไม่ได้จ่ายเงินเหรอ" อธิปพงศ์เห็นว่าเลือกแหวนแล้วก็คนรักก็พาออกมาจากร้านโดย ไม่ได้สู่ขั้นตอนการชำระเงิน นิธินจึงเฉลยว่า
"ผมจ่ายแล้ว"
"ตอนไหนอ่ะ"
"วันก่อนที่ผมมาดูไว้ สามแบบที่ให้ดูมันราคาเท่ากัน ผมก็เลยจ่ายเงินเลย"
"เหรอ" อธิปพงศ์ก็เพิ่งรู้ว่าคนรักมีความตั้งใจจะทำให้จริงๆ
"อืมม ผมดีใจนะที่คุณเลือกแบบเดียวกับที่ผมดูไว้"
"จริงอ่ะ"
"ใช่ครับ"
นิธินยิ้มให้คนรักก่อนจะเดินไปส่งที่ร้านพี่กุ้งตามเดิมและแยกไปออกกำลังกายตามปกติ ส่วนป๊อกกี้ที่อยากรู้อยากเห็นก็ปราดมาถามอธิปพงศ์ทันที
"พี่หมูคะ ไปไหนมากันมาเอ่ย อย่าบอกนะคะว่าแวะไปฟีทเจอร์ริ่งกันในห้องน้ำ"
"บ้า คนเยอะไม่ทำหรอก" อธิปพงศ์เล่นกับรุ่นน้องตัวแสบก่อนจะเดินไปทำงานต่อ
 "เรื่องไรชั้นต้องบอกแกด้วย มันเป็นเรื่องส่วนตัว หึหึ"
"แหมๆ เดี๋ยวนี้ไม่ได้เลยนะคะคุณพี่" ป๊อกกี้หยอกล้อเพราะรู้ว่าอธิปพงศ์เป็นคนที่ค่อนข้างหวงคนรัก ส่วนพี่กุ้งก็มองไปยังลูกน้องคนสนิท เพราะสังเกตุว่าช่วงนี้ชายหนุ่มเหมือนมีอะไรไม่สบายใจ เขาอยากรู้นักว่าเกิดอะไรขึ้นกับรุ่นน้อง เมื่อเสร็จจากตัดผมลูกค้าแล้วเขาจึงขอคุยกับอธิปพงศ์สองคน

"พี่กุ้งมีอะไรเหรอครับ"
"ช่วงนี้หมูมีอะไรหรือเปล่า พี่เห็นช่วงนี้เราสีหน้าไม่ค่อยดีเลย"
อธิปพงศ์ยิ้มน้อย ๆ เพื่อไม่ให้พี่กุ้งกังวลใจ "เปล่าครับ ไม่มีอะไร"
"หมูพูดจริงรึเปล่า หน้าตาของหมูมันไม่ได้บอกอย่างนั้นนะ"
อธิปพงศ์เลยบอกว่า
"ผมคงเพลียๆนิดหน่อยหน่ะครับ เดี๋ยวก็หาย"
แต่พี่กุ้งไม่ค่อยเชื่อ เพราะอาการที่เห็นมันต่างกับคนที่อ่อนเพลียทางกายอย่างสิ้นเชิง เขาจึงถามกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม
"หมู....พี่เป็นห่วงเราจริงๆนะ บอกพี่มา มีอะไร"
อธิปพงศ์เห็นสายตาของพี่กุ้งแล้วก็เลยต้องพูดความจริง
"..นิธินเค้าจะย้ายไปทำงานที่อื่นหลังปีใหม่นี้ครับ"
"ยังไงหมู.."
"เค้าจะต้องย้ายไปทำงานที่ดูไบ..หกเดือนครับ"
พี่กุ้งเองก็ตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น เพราะความรักของอธิปพงศ์กำลังไปได้สวย แต่ต้องมาสะดุดลงเพราะความห่างไกลอย่างนี้ เขามองหน้าช่างผมรุ่นน้องที่เหมือนกำลังพยายามทำใจให้กับการไกลห่าง พี่กุ้งเข้าใจดีว่าตอนนี้อธิปพงศ์รู้สึกอย่างไร
"อืม พี่เข้าใจแล้ว" ช่างผมรุ่นพี่พูดต่อ "พี่อยากให้หมูคิดว่า ช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมันจะพิสูจน์ว่าหมูกับคุณนิธินรักกันมากแค่ไหน พี่รู้ว่าตอนนี้หมูกับแฟนรักกันมาก และพี่เชื่อว่าหมูกับคุณนิธินรักกันมากพอที่จะผ่านหกเดือนนี้ไปได้"
"ขอบคุณครับพี่กุ้ง"
อธิปพงศ์ยิ้มรับกำลังใจที่เจ้านายมอบให้ พี่กุ้งเข้ามาตบไหล่รุ่นน้องเบาๆ
"จากนี้พี่ขอให้หมูและคุณนิธินเชื่อมั่นในตัวกันและกันนะ"
"ครับ"
พี่กุ้งเดินออกไปจากบริเวณนั้น ส่วนอธิปพงศ์ก็คิดตามคำที่พี่กุ้งว่าเอาไว้ ก่อนจะถอนใจและปลอบใจตัวเองว่า
"เอาเถอะ ตอนนี้ยังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกหลายวัน ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดก็พอแล้ว"
  อธิปพงศ์เข้าใจดีว่าการไปทำงานครั้งนี้เป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของพวกเขา
ชายหนุ่มจึงไม่คิดมากและพยายามไม่เสียใจกับจากที่ต้องห่างกับคนรักกะทันหันอย่างนี้ อันที่จริงเขาคิดว่าตัวเองน่าจะทำใจตั้งนานแล้ว เพราะว่านิธินมีกำหนดอยู่ที่กรุงเทพฯเพียงแค่สามเดือนเท่านั้น เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ด้วยตัวเองจริง ๆ
 เขาจะอดทนและรอคอยกับวันที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง
 "ที่รัก ปีใหม่นี้คุณหยุดงานกี่วันเหรอ" นิธินถามคนรักที่เปลือยเปล่าในอ้อมแขน หลังจากเสร็จภารกิจรักแล้ว พวกเขาจึงนอนแอบอิงไออุ่นของกันและกันเพื่อผ่อนคลาย
"สองวันหน่ะ วันที่ 31 กับ 1"
"อืม..."
"มีไรรึเปล่าครับ"
นิธินถามคนรักยิ้มๆ
"เราไปไหนกันดี"
"อืม นั่นสิ คุณอยากไปไหนล่ะ"
นิธินส่ายหน้าเบาๆ "ไม่รู้สิ ผมแค่อยากอยู่กับคุณ"
อธิปพงศ์ซบอกคนรักนิ่งๆ สักพักก่อนจะคิดออก "อืม..งั้นเราก็เที่ยวในกรุงเทพฯนี่แหล่ะ คุณยังไปไม่ทั่วเลยนะ ผมว่าเที่ยวกรุงเทพฯช่วงปีใหม่นี่แหล่ะ คนน้อยดีรถไม่ค่อยติดด้วย"
"น่าสนใจๆ" นิธินยิ้มตอบรับ ต่างคนต่างไม่พูดอะไรต่อเพราะรู้กันว่าวันที่ 2 มกราคมนี้เป็นวันที่นิธินต้องออกเดินทางไปทำงานที่สหรัฐอาหรับเอมิเรส และตอนนี้ชายหนุ่มก็เริ่มจัดเก็บข้าวของบางส่วนลงกระเป๋าแล้ว 
 ถึงแม้ตอนนี้นิธินจะยังไม่แน่นอนกับการโยกย้ายในเรื่องของงาน แต่เขาแน่ใจแล้วว่าจะมีชีวิตที่เหลืออยู่กับอธิปพงศ์ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะกลับมาอยู่ด้วยกันให้ได้



ปล. *ช่างผมอย่างอธิปพงศ์ต้องมีอุปกรณ์ตัดผม(กรรไกรหลากหลายรูปแบบ, มีดโกน ฯลฯ) เป็นสมบัติส่วนตัวติดกายอยู่แล้ว โดยจะดูแลอย่างดีและนำไปทำงานด้วยทุกวัน และในบางครั้งช่างผมบางคนก็ให้บริการตัดผมกับลูกค้าที่นัดนอกเวลางานด้วย
(ช่วยเตือนสติคนเขียน By คุณPEENUT1972)
 



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 05-03-2012 15:32:17
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
เชื่อว่ารักแท้ของคู่นี้ไม่แพ้ระยะทาง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 05-03-2012 15:53:58
 o13
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 05-03-2012 16:26:56
ไม่ค่อยนอยด์เพราะยังไงเริ่มเรื่องมาก็คือตอนแข่งจูบมารอธอน อิอิ ตานิธินต้องกลับมาอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 05-03-2012 16:30:26
 :3123:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-03-2012 16:45:25
ไม่เป็นไรนะ จากกันแค่หกเดือน แล้วจะได้อยู่ด้วยกันตลอดชีวิต อดทนนะทั้งคู่ :monkeysad:
ไม่ชอบการจากลาเลยจริงๆให้ตาย :o12:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 05-03-2012 16:47:54
เศร้าตามพี่หมูไปติดๆ
 :sad4:
แต่เรารู้ว่านิธินต้องกลับมา
ตอนนี้ก็ทำได้แค่ทำทุกวันที่เหลือให้มีความสุขที่สุด
สู้ๆนะทั้งสองคน
 :z7: :110011:
หลังพายุจะมีฟ้าหลังฝนอันสดใสนะคะ
แจกเป็ด แจก + ให้คุณน้ำพริกแมงดาค่ะ
 o13
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 05-03-2012 18:57:18
ถ้าเป็นในชีวิตจริงคิดว่าก็คงเศร้าบ้าง เพราะกำลังอยู่ในระยะข้าวใหม่ปลามัน
อาจจะใจหายซะมากกว่า แต่จะอย่างไรก็ตาม ก็อยากจะปลอบหมูกับนิธินว่า
ให้ถือซะว่าเป็นการสอบวัดผลปลายภาคเรียน เพื่อจะได้เลื่อนชั้นขึ้นไปอีก
โดยมีระยเวลากับความห่างไกลของสถานที่เป็นข้อทดสอบ
ทดสอบความรัก ความมั่นคง ความซื่อตรงต่อกัน
"รักกันอยู่ขอบฟ้า        เขาเขียว
เสมออยู่หอแห่งเดียว   ร่วมห้อง..."
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:02/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 05-03-2012 20:18:00
"ระยะทางหรือจะสู้ระยะใจ"

เชื่อว่าทั้งสองคนต้องผ่าน 6 เดือนนี้ไปได้แน่ๆ

และคงเป็นบททดสอบที่มีแต่จะทำให้รักนี้มั่นคงและยาวนานมากขึ้นเป็นทวีคูณ
 :กอด1:เป็นกำลังใจให้นิธินและอธิปพงษ์  :กอด1:เป็นกำลังใจให้คุณน้ำพริกแมงดาด้วยค่ะ

เรื่องราวน่ารัก อบอุ่นทุกตอนจริงๆค่ะ ชอบเรื่องนี้มากๆ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 05-03-2012 20:33:19
จะบอกว่าหกเดือนมันไม่นานแต่สำหรับคนรักกันมันก็นานมากอยู่คิดซะว่าเป็นการพิสูจน์รักแท้ก็แล้วกัน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 05-03-2012 20:53:45
แล้วทั้งคู่จะผ่านมันไปได้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 05-03-2012 21:04:53
แอร๊ยย เเค่เริ่ม น้ำตายังปริ่มๆ

ถ้าจากไปจริงๆมันไม่ น้ำตานองเลยหรอคะ คุณ เเง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 05-03-2012 21:43:50
สำหรับคนเริ่มอายุมาก หกเดือนไม่นานหรอก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 06-03-2012 00:21:15
เดี๋ยวก็ได้เจอกันนะ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 06-03-2012 02:06:09
คนเขียนใจร้าย มาม่ามาจนได้
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 06-03-2012 09:42:12
เอาใจช่วยทั้งคู่ ให้เข้มแข็ง 6 เดือนยังดีกว่าเป็นปีนะ แอร๊ยยยย นิธิน รีบทำงานรีบกลับมาหาหมูน้อยนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-03-2012 13:37:21
เอาใจช่วยทั้งคู่
ให้ผ่านไปได้
ด้วยดี :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:05/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 06-03-2012 14:04:20
คนเขียนใจร้าย มาม่ามาจนได้
+1



โอ๋ ๆ มาม่านิด ๆ ชีวิตจะได้มีรสชาติค่ะ - - มาบอกทุกคนว่า เรื่องนี้ไม่เข้มข้นเหมือนเรื่องน้องพีร์นะคะ อย่าเกร็งค่ะๆๆ แต่ก็ขอบคุณทุกคนมาก ๆ นะคะ ที่ติดตามและเอาใจช่วยนิธินกับพี่หมูมาตลอด มีคุณผู้อ่านน่ารัก ๆ อย่างนี้ ต้อง +เป็ด และ +โหวตเท่านั้นค่ะ



25

 กรุงเทพมหานครในช่วงปีใหม่นี้กลายเป็นเมืองสวรรค์ที่แท้จริงสำหรับหลายคน ท้องถนนที่เคยแออัดไปด้วยรถยนต์ก็มีระเบียบมากขึ้นกับจำนวนรถที่น้อยลง ย่านเศรษฐกิจการค้าที่เคยคึกคักก็มีผู้คนเดินผ่านเพียงครึ่งของวันทำงานปกติ ทำให้อธิปพงศ์และนิธินสามารถเที่ยวชมกรุงเทพฯได้สะดวกอย่างที่ตั้งใจไว้โดยพวกเขาเริ่มต้นกันที่ย่านเมืองเก่าบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเวียนมาเยี่ยมชมวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อด้วยมิวเซียมสยามที่ทำให้คนทั้งสองตื่นตา ตื่นใจกับความเป็นไทยในอดีต ถึงแม้อธิปพงศ์เองจะเป็นเจ้าบ้านก็ตาม ส่วนตอนบ่ายพวกเขาก็กลับมาเดินเล่นด้วยกันในย่านการค้าแถวราชประสงค์และสยามสแควร์ก่อนจะกลับมาพักผ่อนที่ห้องของอธิปพงศ์และเตรียมตัวออกไปฉลองปีใหม่ที่ผับแห่งหนึ่งแถวสีลม ที่ทั้งคู่จงใจเลือกส่งท้ายปีเก่าในผับเกย์อย่างนี้ เป็นเพราะว่าเขาจะได้ไม่รู้สึกแปลกแยกเวลาอยากจะแสดงความรักต่อกัน ในเมื่อมาเที่ยวส่งท้ายปีอย่างนี้ ก็ควรจะเต็มที่กับเวลาที่เหลือไปเลย แต่งานนี้ไม่ได้ไปแค่พวกเขาเท่านั้น ยังมีป๊อกกี้ พี่กุ้ง และหญิง มาร่วมฉลองส่งท้ายปลายปีด้วยกัน โดยงานนี้คนทั้งสองได้สวมเสื้อยืดคู่รักที่หญิงซื้อมาฝากพวกเขาด้วย ทำเอาเด็กสาวดีใจเป็นพิเศษ
 "อุ๊ย! พี่หมู.."
"ว้ายๆ มาเปิดตัวกันในนี้เลยนะคะ..แรง" ป๊อกกี้หันไปบอกกับหญิงแค่นั้นก่อนที่จะไม่ได้พูดอะไรเพราะเจ็บคอที่ต้องตะเบ็งเสียงในผับ ทุกคนกินดื่มเต้นรำกันอย่างสนุกสนานจนถึงเวลานับถอยหลังสู่ปีใหม่
"10...9...8...7...6...5...4...3...2...1 สวัสดีปีใหม่!!!!!!!!"
 ทุกคนในผับต่างก็ไชโยโห่ร้องกับเวลาใหม่ที่มาเยือน ต่างกับอธิปพงศ์และนิธินที่กำลังยืนสบตาแบ่งบันความรู้สึกสุขเศร้าไปด้วยกัน เสียงเพลงเต้นรำกำลังเริ่มต้นบรรเลงใหม่ ยิ่งทำให้ความรู้สึกดังกล่าวนั้นเด่นชัดขึ้นอีก ถึงแม้คนรอบข้างจะเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน แค่คู่รักคู่นี้กลับยืนมองตาและโอบกอดกันราวกับมีแค่พวกเขาเพียงสองคน

"Yellow diamonds in the light
And we're standing side by side
As your shadow crosses mine
What it takes to come alive"

 ดีเจเลือกเพลงเต้นรำแห่งปีอย่าง We found love ต้อนรับวันใหม่ เพื่อจะให้ทุกคนได้สมหวังและพบรักอย่างที่ปรารถนา ด้วยท่วงทำนองหนักแน่น แต่เสียงร้องและซาวด์ต่าง ๆ ในเพลงกลับทำให้หวามไหวในความรู้สึก ดั่งเช่นนิธินกับอธิปพงศ์ในตอนนี้

" It's the way I’m feeling I just can't deny
But I've gotta let it go"

คู่รักชายหนุ่มสบตาเพื่อบอกรักกันเนิ่นนาน กระทั่งร่างเล็กกว่าเป็นฝ่ายโอบแขนเรียวไปรอบคอร่างใหญ่นั้น ริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากันอย่างดูดดื่มและอ่อนหวาน นิ่มนวล แต่ทว่ารู้สึกเนิ่นนานชั่วกัปชั่วกัลป์

"We found love in a hopeless place
We found love in a hopeless place
We found love in a hopeless place
We found love in a hopeless place"

 เมื่อเพลงจบอธิปพงศ์และนิธินก็ถอนริมฝีปากออกจากกัน โดยมีสายตาของเพื่อนร่วมงานมองมาอย่างซาบซึ้ง โดยเฉพาะพี่กุ้งที่สะเทือนใจกับคู่รักตรงหน้าที่จะต้องพลัดพรากในอีกไม่กี่วัน หากคืนนี้ยาวนานอย่างที่ใครหลายคนว่าเอาไว้ ก็คงจะเป็นเวลาที่คู่รักจะต้องอยู่ร่วมกันให้คุ้มค่าที่สุด..

 สำหรับใครหลายคน รุ่งเช้าของวันขึ้นปีใหม่อย่างนี้เป็นเวลาแห่งความสุขของการเริ่มต้นศักราชใหม่ แต่สำหรับคู่รักที่กำลังนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนี้คงจะเป็นเวลาที่ทรมานที่สุดของชีวิตคู่ที่กำลังจะมาถึงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่วางอยู่มุมห้องของอธิปพงศ์นั้นแสดงให้เห็นว่าเวลาของเดินทางมาถึงแล้ว ดังนั้นวันนี้คือวันสุดท้ายที่พวกเขาจะได้อยู่ด้วยกัน และต่อไปก็คือบททดสอบความรักที่มีระยะทางกับความหนักแน่นมั่นคงของคนทั้งสองเป็นตัวแปรของความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อจากนี้

 กว่าอธิปพงศ์และนิธินจะตื่นก็เกือบเที่ยงวัน พวกเขาออกไปหาอะไรกินข้างล่างแล้วก็ขึ้นมาอยู่ด้วยกันในห้องนี้ตามประสาคู่รักที่พักผ่อนด้วยกันในวันหยุด ก่อนจะออกไปว่ายน้ำด้วยกันแล้วจบลงที่บทรักร้อนแรง  แต่ทว่าคืนนี้ความรู้สึกของคนทั้งคู่ไม่ได้หิวโหยในกามรสอย่างที่ผ่านมา แต่เหมือนว่านิธินและอธิปพงศ์จะพยายามเก็บไอรักของอีกฝ่ายไว้ให้มากที่สุดก่อนที่จะลากัน
"โอ๊ะ!..ที่รัก..อย่างนั้นหล่ะครับ อื้มมมม เข้ามา...เข้ามาในตัวผม อื้มมม"
อธิปพงศ์ใช้ขาหนีบสะโพกคนรักขณะที่กำลังจะปลดปล่อยข้างในร่างกาย ก่อนที่นิธินจะฟุบลงมาบดเบียดให้สัมผัสแนบแน่นกว่าเก่าและมอบจูบลำลึกแก่อธิปพงศ์ผู้กำลังพยายามดูดกลืนทุก สัมผัสที่มาจากตัวเขา
 นิธินเองก็เช่นกันที่ไม่อยากจะถอนกายออกจากคนรักเลย เขาพรมจูบทั่วใบหน้าอธิพงศ์อย่างแสนรักแล้วกอดคนรักไว้เพื่อจะผ่านคืนนี้ไปด้วยกัน
นิธินรับรู้และเข้าใจดีว่าสักวันเขาต้องกลับมาอยู่ด้วยกันอีก
แต่ถ้าเลือกได้เขาก็ไม่อยากที่จะจากคนรักไปไกลอย่างนี้เลย ชายหนุ่มก้มมองใบหน้าชวนมองของคนรักอีกครั้ง ราวกับจะจดจำช่วงเวลานี้ไว้ให้ได้มากที่สุด
 นี่เป็นคืนสุดท้าย แต่ไม่ใช่คืนสุดท้ายในชีวิตคู่ของพวกเขาอย่างแน่นอน

 วันรุ่งขึ้นอธิปพงศ์ไปส่งคนรักก่อนที่จะเดินทางไปทำงานตามปดติ เขายิ้มให้คนรักเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆที่ข้างในนั้นอยากจะหยุดเวลาไว้ไม่ให้เดินต่อเพื่อที่จะอยู่กับนิธินได้นานกว่านี้ หรืออาจจะตลอดไป
 ไม่มึคำพูดใดๆ ระหว่างการเดินทางไปสนามบิน มีเพียงแต่คนสองคนที่จูงมือกันเหมือนเดิม และมองหน้าส่งยิ้มให้กำลังใจกันเป็นระยะๆ จนถึงสนามบิน ความรู้สึกของคนทั้งสองก็ชาวาบเหมือนถูกดูดวิญญาณออกไปทันทีที่ก้าวเข้ามา
 สามเดือนแห่งความสุขของพวกเขาผ่านไปไวเหมือนสามวัน แต่วันนี้ต้องห่างกันโดยที่ยังทำใจไม่ได้นัก แต่ทั้งคู่ก็พยายามเก็บอาการไว้ข้างในเพื่อไม่ให้เศร้าไปกว่านี้
นิธินและอธิปพงศ์หยุดนิ่งเมื่อถึงจุดส่งผู้โดยสารขาออก เพราะถึงเวลาแห่งการจากลาจริงๆแล้ว
"ที่รักครับ ดูแลตัวเองดีๆนะ ถ้าผมถึงดูไบ แล้วจะโพสที่วอลล์ในเฟชบุ๊คคุณนะ"
อธิปพงศ์พยักหน้ายิ้มรับ เพราะเขาเพิ่งจะมีFacebook Account เป็นของตัวเองเมื่อไม่กี่วันมานี้ เนื่องจากเห็นว่าต้องติดต่อกับคนรักผ่านทางสื่อออนไลน์ รวมถึงskypeและMSNที่ไม่ได้เล่นมานานแล้วด้วย
"อืม คุณก็เหมือนกัน ดูแลตัวเองด้วยล่ะ"
"ครับ ผมไปก่อนนะ"
"อื้ม โชคดีครับ"
อธิปพงศ์โบกมือให้คนรัก ส่วนนิธินก็ค่อยหันหลังเดินจากไป พอเห็นว่าคนรักเดินไปแล้วชายหนุ่มก็เริ่มเปลี่ยนสีหน้าจากที่ยิ้มแย้มกลายเป็นค่อยๆ สลดลง แต่ก็พลันฉีกยิ้มเมื่อเห็นคนรักกลับมามอง พร้อมกับโบกมือให้ อธิปพงศ์จึงทำเป็นไม่มีอะไรก่อนจะเดินหันหลังออกไปเช่นกัน
 แต่เขารู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีแรงที่จะก้าวออก อธิปพงศ์รู้สึกอยากจะร้องไห้ออกมาเสียเหลือเกิน แต่ทันใดนั้นร่างของเขาก็ได้รับสัมผัสอบอุ่นจากร่างใหญ่ของนิธินที่เข้ามากอดจากข้างหลัง ชายหนุ่มจึงหันหน้ากลับมาร้องไห้ที่อ้อมอกแข็งแรงนั้น นิธินที่มีน้ำตาเหมือนกันค่อยๆ ประคองใบหน้าคนรัก พวกเขามองตากัน ก่อนที่จะประกบจูบดูดดื่มเพื่อเป็นการร่ำลา นิธินกระซิบที่ข้างหูคนรักเบาๆ
"ผมรักคุณนะครับ"
"อืม ผมก็รักคุณ" อธิปพงศ์ตอบรับพร้อมน้ำตาที่นองหน้า นิธินใช้นิ้วโป้งเช็ดน้ำตาให้คนรัก และหอมที่หน้าผากก่อนจะเดินจากไปอย่างใจหายไม่แพ้กัน อธิปพงศ์ยืนมองคนเดินไปจนลับตา แล้วค่อยเดินทางกลับไปทำงานด้วยความว่างเปล่าที่อยู่ในหัว
ไม่ใช่ว่าอธิปพงศ์ไม่เคยจากลาหรือห่างไกลคนรัก แต่ครั้งนี้มันเป็นการห่างไกลที่ทำใจลำบากที่สุดในชีวิต เพราะอธิปพงศ์ทุ่มเทและจริงจังกับรักครั้งนี้มาก ที่ผ่านมาเขามีความสุขที่ได้เป็นคนรักของนิธิน ผู้ชายที่มอบความรักให้เขาหมดทั้งหัวใจ
อธิปพงศ์ปาดน้ำตา และถอนหายใจไล่ความโศกเศร้า เขาพร้อมแล้วที่จะต่อสู้และฝ่าฟันสิ่งที่จะเกิดขึ้นภายในหกเดือนที่จะถึงนี้

 "ว้ายๆ คุณแม่ พี่หมูมาแล้วค่ะ" ป๊อกกี้ที่มาอยู่หน้าร้านวิ่งไปเรียกพี่กุ้งที่อยู่ข้างในให้รับรู้ เพื่อนร่วมงานทุกคนมองตาแดงๆ ของอธิปพงศ์แล้วก็ไม่พูดอะไร เพราะรู้ดีว่าตอนนี้เขามีความรู้สึกยังไง พี่กุ้งได้แต่เข้าไปตบไหล่รุ่นน้องเบาๆ ก่อนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง ถ้านิธินไม่ได้อยู่กับเขาเพื่ออนาคตของชีวิตคู่แล้ว เขาก็จะรอคอยอย่างอดทนและต่อสู้กับทุกอย่างเพื่อวันที่ยังไม่มาถึงเช่นกัน

 "สวัสดีครับ ผมนิธิน มุจเคอจี จากสำนักงานใหญ่มุมไบ ยินดีที่ได้ร่วมงานนะครับ"
นิธินแนะนำตัวต่อเพื่อนร่วมงานตามมารยาท ก่อนจะเข้าทำงานที่ได้รับมอบหมายในที่ทำงานใหม่นี้ เขาสำรวจไปรอบๆ ก็พบว่ามีทั้งชาวอินเดียและชาวอาหรับปะปนกันครึ่งต่อครึ่ง  และพอเห็นบรรยากาศกาศทำงานก็คิดว่าที่นี่ทำงานกันอย่างจริงจังแข็งขันกว่าสำนักงานที่มุมไบและเมืองไทย
 กว่านิธินจะได้กลับที่พักก็เกือบสองทุ่ม จึงไม่ได้ไปออกกำลังกายอย่างที่เคยเพราะค่อนข้างเหนื่อยล้าจากการทำงาน และสภาพแวดล้อมที่นี่ก็ค่อนข้างแห้งแล้ง เพราะเป็นภูมิประเทศแบบทะเลทราย ถึงแม้เมืองที่เขาอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้าแค่ไหนก็ตาม แต่นิธินก็รู้สึกไม่คุ้นชินกับความร้อนแล้งอย่างนี้เท่าไหร่นัก แต่ทุกวันเขาก็กลับมาออนไลน์เพื่อที่จะคุยกับครอบครัวและอธิปพงศ์ที่เขาคิดถึง ด้วยเวลาที่ดูไบช้ากว่ากรุงเทพฯสามชั่วโมง เขากับคนรักจึงไม่ได้ออนไลน์ตรงกันสักที ได้เพียงแต่คุยกันผ่านหน้าวอลล์ในเฟชบุ๊คก็เท่านั้น และรีบนอนให้เต็มที่เพื่อสู้กับงานในวันรุ่งขึ้น

  ด้านอธิปพงศ์ที่เพิ่งกลับมาถึงห้องตอนสี่ทุ่มเข้าใจดีว่าคนรักเหนื่อยอ่อนจากการทำงานมากแค่ไหน เขาเองก็เช่นกัน เพราะหลังปีใหม่มานี้มีลูกค้าเข้ามามากเป็นพิเศษ เขาจึงไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องอีกมากและกลับห้องในสภาพแทบหมดแรงกับการทำงานในแต่ละวัน อธิปพงศ์เสียดายเล็กน้อยที่ไม่เคยได้ออนไลน์ตรงกันกับคนรักเสียที แต่ก็ดีใจที่คนรักไม่ได้ห่างหายจากการทักทายและคอมเม้นท์ผ่านหน้าเฟชบุ๊ค เพียงแค่นี้ก็ทำให้ทุกวันของเขามีความสุขและหัวใจชุ่มชื่นก่อนนอนแล้ว

วันนี้เองก็เช่นกัน ที่นิธินออนไลน์ในเวลาเกือบ ๆ สามทุ่ม แต่พอออนไลน์ก็ยังไม่เห็นอธิปพงศ์ เขาจึงวูบลงเล็กน้อย แต่ก็ดีใจที่พี่ชายพาพ่อแม่มาคุยกับเขาในสไกป์ รวมถึงเพื่อนๆ ที่เมืองไทยที่บ่นกับว่าคิดถึงเขามากมาย จนเวลาเกือบๆ สามทุ่ม เขาจึงพบว่าอธิปพงศ์ออนไลน์แล้ว
"ไงครับที่รัก" นิธินทักทายหน้าใสๆ นั้นแล้วมองไปอย่างคิดถึง เพราะที่เป็นครั้งแรกที่ได้คุยกันสดๆอย่างนี้ หลังจากที่ได้แต่คุยกันผ่านหน้าเฟชบุ๊คเพียงอย่างเดียว
อธิปพงศ์ไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้มอย่างดีใจที่ได้ฟังเสียงและเห็นหน้าคนรัก
“..หืมม์ เป็นอะไรไปเหรอครับ” นิธินกรอกเสียงผ่านเฮดโฟนเมื่อเห็นคนรักได้แต่ยิ้ม
“ก็..สบายดีครับ” อธิปพงศ์เพิ่งตอบ “คุณล่ะ ชินกับอากาศที่ดูไบรึยัง”
“อืม เริ่มชินแล้วหล่ะ” นิธินตอบรับยิ้ม ๆ “ถ้าไม่อยากผิวไหม้ก็ต้องอยู่ในอาคารอย่างเดียวเท่านั้น”
“หึหึ ผมพอนึกออก”
“อืม วันนี้ทำไมคุณนอนดึกจังเลยล่ะ”
“อ่อ ก็รอคุณออนหน่ะ”
“อ่าวเหรอครับ” นิธินตกใจเล็กน้อยก่อนจะคุยกับคนรักอีกสักพัก และถามว่า
“แล้วง่วงมั๊ย เห็นว่าช่วงนี้คุณเหนื่อย ๆ หนิ”
“อืม นิดหน่อยครับ”
“ถ้างั้นก็เข้านอนดีกว่าครับ จะได้ตื่นไปทำงานไหว”
“ครับ คุณก็เหมือนกันล่ะ”
“ครับ เดี๋ยวก็จะนอนและ” นิธินรับคำก่อนจะบอกว่า “Good Night ครับ Honey”
“ครับ Good Night”

 ชายหนุ่มทั้งสองปิดคอมพิวเตอร์และเข้านอนด้วยความเหนื่อยล้า  แม้ว่าเขาจะคิดถึงกันมากแค่ไหน แต่พอเห็นหน้ากันออนไลน์อย่างนี้ก็ทำให้คลายความรู้สึกนั้นไปได้เยอะเหมือนกัน  อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขาคุยกันทาง Facebook เล็กน้อยแต่ไม่ขาดช่วงก็เป็นได้ เลยทำให้คนทั้งคู่ไม่ได้รู้สึกไกลห่างกันตามตัวเลขของระยะทาง
 อธิปพงศ์นึกขอบคุณเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทำให้พวกเขาใกล้ชิดกันมากขึ้น และเริ่มอุ่นใจว่าความสัมพันธ์ฉันท์คนรักของเขาครั้งนี้จะยังคงไปได้สวยเหมือนตอนอยู่ด้วยกัน


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 06-03-2012 14:21:01
 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 06-03-2012 14:30:47
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
เศร้าจัง :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 06-03-2012 14:45:11
ที่รัก...มาไวนะวันนี้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 06-03-2012 14:47:42
กระซิกๆๆ สงสารพี่หมูจัง
 :sad4:
แต่ไม่เป็นไรน้า
อีกไม่นานก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
สู้ๆๆ เพื่ออนาคตของพี่หมูและคุณนิธิน
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 06-03-2012 15:25:39
รอกันต่อไป ><
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 06-03-2012 15:39:23
เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ผ่านช่วงเวลาแบบนี้น่ะค่ะ

:กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 06-03-2012 16:05:52
6 เดือน.....



เมื่อไหร่จะผ่านไป.....


 :monkeysad: :monkeysad: :sad11: :sad11:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 06-03-2012 16:08:15
พี่หมูสู้ๆ ยิ้มๆเข้าไว้นะคะ :กอด1:
ในความรู้สึกแล้ว ทำงานผ่านไปวันๆ เวลามันก็เร็วเหมือนกันนะ หกเดือนไม่นานหรอกค่ะ  :กอด1:
ตอนนี้ขอกอดอย่างเดียว เราจะผ่านเวลานี้ไปด้วยกันนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 06-03-2012 16:34:32
มาให้กำลังใจทั้งสองคน และน้องน้ำพริกแมงดา  :กอด1: :กอด1:
รบกวนแก้คำผิด ควรเป็น รสชาติ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 06-03-2012 16:45:36
ขอให้ผ่านไปด้วยดีนะคะ :sad11:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 06-03-2012 18:12:20
สู้ สู้ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 06-03-2012 18:18:27
 :กอด1:จากกันจนได้



หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 06-03-2012 19:24:34
6 เดือนสำหรับคนรักกัน นานโคตร
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 06-03-2012 19:48:56
ตอนนี้ขอส่งกำลังใจให้หมูกับนิธินละกัน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 06-03-2012 20:53:37
ย่องเข้ามาอ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย  :m7:
สนุกมากค่ะ สงสารทั้งคู่เลย  :sad4:

ป.ล. ให้คนเขียนค่ะ  :c4:
มาต่อไวไวนะคะ  :L2: 
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-03-2012 19:46:32
 :กอด1:ให้หายคิดถึง

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:06/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 08-03-2012 14:29:48
มาแล้วค่ะ ขอโทษด้วยที่เมื่อวานไม่ได้มาลงนิยาย เพราะว่าอินเตอร์เนทมีปัญหานิดหน่อยค่ะ วันนี้แก้ไขแล้ว และพาพี่หมูกับนิธินมาหาทุกคนแล้ว ขอบคุณมาก ๆ นะคะ +เป็ด& +โหวต
 :pig4: :pig4:
อ่อ ลืมวันนี้เป็นวัน Holi ของอินเดีย (เทศกาลวันเล่นสีต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ)ก็ขอ Happy Holi คุณผู้อ่านทุกท่านค่ะ :L1: :L2:

26

นิธินปิดคอมพิวเตอร์และลุกขึ้นบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยขบจากการนั่งทำงาน แต่ก่อนจะออกจากตัวแผนก กลุ่มเพื่อนร่วมงานสาวที่กำลังออกมาพร้อมกันก็ส่งยึ้มพึงใจให้เขา และมีคนหนึ่งถามว่า
"คุณนิธินคะ เลิกงานแล้วไปไหนต่อเหรอ"
นิธินตอบกลับอย่างเป็นมิตร "ผมไปฟิสเนสหน่ะครับ"
พวกเธอได้ยินอย่างนั้นก็ดี๊ด๊าที่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นคนรักสุขภาพ ชายหนุ่มรู้ดีว่าสาวๆคิดยังไงกับเขา เขาจึงใช้มือข้างซ้ายที่มีแหวนสวมอยู่ขึ้นมาขยับเนคไทให้พวกเธอสังเกตเห็นและรับรู้ว่าเขาไม่โสดแล้ว
 พวกเธอเห็นอย่างนั้นจึงเจื่อนลง และถามตามมารยาทว่า
"คุณนิธินแต่งงานแล้วเหรอคะ"
"ครับ" นิธินตอบอย่างสุภาพ
สาวๆพวกนั้นยิ้มให้แก้เก้อ ก่อนจะขอตัวแยกย้ายกับชายหนุ่ม นิธินมองตามและไม่ได้ถือสาแต่อย่างใด เขาก้มมองดูแหวนและก็คิดถึงคนรักที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันมาเดือนกว่าทันที   
นิธินอยากกลับไปเจอหน้าเหมือนทุกครั้งที่เจอกันตอนเลิกงาน เขาคิดถึงมือเรียวสวยที่เคยเกาะกุม คิดถึงแก้มใสๆที่หอมแล้วชื่นใจทุกครั้ง คิดถึงเนื้อตัวขาวสะอาดขนาดกอดกำลังอุ่นที่เคยกอดนอนทุกคืน
นิธินอยากรู้จริงๆ ว่าป่านนี้อีกฝ่ายจะเป็นยังไงและทำอะไรอยู่ ...

 “สวัสดีค่ะ ทำอะไรดีคะ มีช่างประจำหรือยังคะ” หญิงถามลูกค้าที่เข้ามาใหม่ในเวลาใกล้ปิดร้านแต่นายทหารหนุ่มที่อยู่ในชุดลำลองตอบกลับอย่างเป็นกันเองว่า
“ยังครับ แต่กำลังจะมี”
หญิงงง ๆ กับคำพูดหยอกเย้าของผู้ชายหน้าตาคมเข้มตรงหน้า ก่อนที่อธิปพงศ์จะเดินมาเจอพอดี
“อ่าว..ไอ้อ๊อฟ” อธิปพงศ์ประหลาดไม่น้อยที่เห็นเพื่อนตัวเองอยู่หน้าร้านอย่างนี้
"มาได้ไงวะ"
อธิปพงศ์งงเล็กน้อยที่เห็นเพื่อนมาโดยที่ไม่โทรถามอย่างนี้
"อ๋อ วันนี้จะตัดผมหน่ะ เลยอยากตัดกับมึง" กรวัฒน์ตอบรับ
"แล้วทำไมไม่โทรบอกก่อนวะ"
"งั้นก็ไม่เซอร์ไพร์สดิ"
"อืม ๆ งั้นมาสระผมก่อนละกัน" อธิปพงศ์เดินนำเพื่อนมายังที่สระผม ที่กั้นไว้เป็นสัดส่วน พร้อมกับถามเพื่อนที่เขากำลังลงมือสระผม
"แล้วนี่มึงรู้ได้ไงว่ากูทำงานอยู่ที่ร้านนี้"
"หึหึ ลูกเจ้านายกูเพิ่งมาตัดกับมึง แล้วเค้ามาบอกว่ามาตัดที่มาบุญครองนี่ กูเลยถามชื่อช่างถึงได้รู้ว่าเป็นมึง"
"อ่าวเหรอ" อธิปพงศ์กระจ่างถึงที่มา และยิ้มเบาๆกับเรื่องบังเอิญ
"เออ ฮ่ะๆ" กรวัฒน์หัวเราะเบาๆก่อนจะเงียบไปเพราะเพลิดเพลินกับจังหวะนิ้วที่กำลังสระผม จนเมื่อล้างผมรอบสุดท้ายเสร็จเขาก็มานั่งที่หน้ากระจกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการตัด
"เอาให้หล่อๆ นะเว้ย"
"เออ" อธิปพงศ์ยิ้มขำกับคำของเพื่อน และค่อยเช็ดผมก่อนจะทำตามขั้นตอน ส่วนป๊อกกี้ที่เพิ่งเสร็จจากลูกค้าก็หันมามองเห็นอธิปพงศ์กำลังตัดผมให้ลูกค้าหน้าตาดีอยู่ ก็เลยเก็บอาการอยากรู้ไปเมาท์กับหญิง
"นังหญิง ลูกค้าพี่หมูคนนี้หล่ออ้ะ"
"อืม เห็นว่าเป็นเพื่อนพี่หมูล่ะ"
"จริงเหรอ" ป๊อกกี้อุทานอย่างประหลาดใจ
"พี่ป๊อกอยากได้เหรอ"
 "ไม่ล่ะค่ะ พี่เค้าหล่อดีนะคะ แต่ท่าทางเป็นผู้ชายมาเชียว งานนี้กระเทยไม่เสี่ยงค่ะ"
ป๊อกกี้พูดไปตามที่เห็นเพราะกรวัฒน์มีภาพลักษณ์แบบผู้ชายชาติทหารที่ดูจริงจังและไม่น่าจะพูดจาหยอกล้อเล่นหัวกับเขาได้

 กรวัฒน์มองตัวเองและอธิปพงศ์ที่กำลังลงมือตัดผมอยู่ก็สังเกตว่าที่นิ้วนางข้างซ้ายของเพื่อนมีแหวนสวมอยู่ ก็นึกออกว่าน่าจะเป็นแหวนแทนใจระหว่างคนรัก เขาจึงถามเพื่อนออกไปด้วยน้ำเสียงร่าเริง
“เออ แล้วมึงกับแฟนเป็นไงมั่งวะ”
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็สะดุดลงนิดนึง ก่อนจะตอบว่า
“อ๋อ ก็ดี เรื่อย ๆ แต่ตอนนี้เค้าไปทำงานที่ดูไบว่ะ อีกห้าเดือนถึงจะกลับมา”
“อ่าวเหรอ” กรวัฒน์เพิ่งรู้ก่อนจะบอกว่า “เออ ๆ ดี ไปทำงานเมืองนอกได้เงินเยอะดี”
และปล่อยให้ช่างตัดผมต่อ ชายหนุ่มรู้สึกเสียมารยาทเล็กน้อยที่ถามเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากเกินไปจนตัดผมเสร็จ กรวัฒน์ก็ชวนอธิปพงศ์ว่า
“เออ วันนี้มึงไปกินข้าวกับกูเลยไอ้หมู ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
“อืม งั้นมึงเดินเล่นรอกูแป๊บละกัน เดี๋ยวกูช่วยพี่กุ้งเค้าเก็บร้านก่อน”
“ได้ ๆ งั้นเดี๋ยวกูมาหามึงที่นี่อีก” กรวัฒน์รับคำและเดินหายไป ส่วนอธิปพงศ์ก็ไปช่วยพี่กุ้งปิดร้านตามที่บอก
“ใครหน่ะหมู” พี่กุ้งเอ่ยปากถาม
“อ๋อ เพื่อนตั้งแต่เด็กที่ลพบุรีหน่ะครับ”
“อ่าวเหรอ”
“ครับ”
พี่กุ้งคาดเดา “เค้าเป็นทหารรึเปล่า”
“ใช่ครับ” อธิปพงศ์พยักหน้ารับ แต่ป๊อกกี้เห็นว่าพี่กุ้งคาดเดาได้ถูกต้องจึงเอ่ยปากถาม
“ว๊ายย คุณแม่รู้ได้ไงคะเนี่ย”
“แค่ดูก็รู้แล้ว” พี่กุ้งตอบเรียบ ๆ เพราะบุคลิกของผู้ชายในเครื่องแบบมักจะมีความแตกต่างโดดเด่นกว่าผู้ชายทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
 ไม่มีใครพูดอะไรต่อนอกจากช่วยกันจัดเก็บร้านให้เสร็จ และกรวัฒน์ก็มาหาที่หน้าร้านอีกครั้งอย่างที่นัดไว้ อธิปพงศ์จึงแนะนำเพื่อนให้พี่กุ้งและทุกคนรู้จัก
“พี่กุ้งครับ นี่อ๊อฟ เพื่อนผม”
“สวัสดีครับ” พี่กุ้งทักทายก่อน
“สวัสดีครับ” กรวัฒน์ยกมือไหว้อย่างมีสัมมาคารวะ
“นี่ ป๊อกกี้ และก็น้องหญิง เป็นช่างที่ร้าน”
“สวัสดีค่ะ”
“หวัดดีครับ”
กรวัฒน์ยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตรและบอกว่า “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
“ค่ะ” หญิงกับป๊อกกี้ตอบพร้อมกัน
อธิปพงศ์บอกกับพี่กุ้งว่า “ผมกลับก่อนนะครับพี่กุ้ง”
“อืมๆ” พี่กุ้งยิ้มรับ
“ถ้ายังไงวันนี้ผมขอตัวก่อน..สวัสดีครับ”
กรวัฒน์ยกมือไหว้ทุกคนและเดินไปพร้อมกับอธิปพงศ์ พี่กุ้งมองตามและคิดว่าก็เป็นเรื่องที่ดีเหมือนกันที่อธิปพงศ์ไปกินข้าวกับคนอื่นบ้าง เพราะวันนี้เขาจะได้ไม่เหงาเหมือนทุกวันที่ผ่านมา

 นิธินออกกำลังแบบคาร์ดิโอเสร็จแล้ว ตอนนี้กำลังบริหารกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนกับการยกเวทอยู่ ฟิสเนสที่นี่ไม่ค่อยมีคนเล่นมากนัก เพราะส่วนใหญ่คนทำงานที่ตึกนี้เป็นคนค่อนข้างมีอายุ ส่วนคนที่เข้ามาใช้บริการก็ไม่ค่อยมีใครจริงจังกับการออกกำลังกายเหมือนเขา และเกย์ที่นี่ก็ไม่ได้มีชีวิตอิสระเพราะเป็นประเทศที่เคร่งครัดในศาสนาอิสลาม ความเป็นเกย์จึงถือว่าเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างสิ้นเชิง จะมีก็แต่ส่งสายตาให้กันในฟิสเนสและสระว่ายน้ำบ้างก็เท่านั้น
  เมื่อเขาออกกำลังกายเสร็จแล้ว ก็อาบน้ำและออกจากฟิสเนสก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมาเปิด Facebook และโพสในหน้าวอลล์ของอธิปพงศ์ว่า
   “I really miss you, honey”
 
  อธิปพงศ์ที่นั่งอยู่ในรถของกรวัฒน์หยิบไอโฟนของเขาขึ้นมาเพื่อจะดูหน้า Facebook ของตัวเองเหมือนกัน เขากะว่าจะไปฝากข้อความไว้บนหน้าวอลล์ของคนรัก แต่พอเห็นว่านิธินเพิ่งมาโพสอะไรไว้ จึงยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจและเปิดใน Whatsapp ดูก็พบว่านิธินกำลังออนไลน์อยู่เช่นกัน เขาจึงไม่รอช้าที่จะพิมตอบโต้คุยกับคนรัก
“ไงครับที่รัก ทำอะไรอยู่กลับบ้านรึยัง”
“กำลังจะกลับครับ” นิธินที่กำลังเดินกลับอพาตเม้นท์ตอบมาและถามต่อ “คุณล่ะ เลิกงานหรือยัง”
“เลิกแล้ว แต่วันนี้เจอไอ้อ๊อฟ มันชวนไปกินข้าว”
“อืมม” นิธินรับรู้และจำกรวัฒน์ได้ ก่อนจะพิมกลับมาว่า
“คิดถึงคุณนะครับ”
“ครับ คิดถึงคุณมากๆ เหมือนกัน” อธิปพงศ์ตอบกลับพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข ทำให้กรวัฒน์ที่ขับรถอยู่อดแซวไม่ได้
“แหม ไอ้หมู มีความสุขใหญ่เลยนะมึง”
“เออ” อธิปพงศ์ตอบรับแต่นั้นและคุยกับนิธินต่อ
“ผมอยากกลับไปอยู่กับคุณจัง”

“อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ..” อธิปพงศ์ตอบรับและหวามไหวในใจเพราะอันที่จริงแล้วเขาก็อยากให้อีกฝ่ายกลับมามาก ๆ
นิธินพิมกลับมาด้วยความรู้สึกข้างใน
“เสียดายนะครับที่วาเลนไทน์ปีนี้เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ เดี๋ยวปีหน้าเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะ ไม่ใช่แค่วาเลนไทน์ แต่เป็นทุกวันเลย”
นิธินรับคำด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น
“ครับ ขอบคุณนะครับที่รัก”
 สักพักกรวัฒน์ก็ขับรถถึงร้านอาหารที่จะพามากิน อธิปพงศ์เห็นรถจอดแล้วเลยเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างแปลกใจ
“อ่าว ถึงแล้วเหรอวะ”
“เออ”
“ทำไมเร็วจัง”
“เร็วห่าอะไร ก็มึงมัวแต่คุยว้อทสแอปกับแฟนเนี่ย มึงจะรู้อะไร”
“เออ ๆ” อธิปพงศ์รับคำและพิมบอกกับคนในมือถือว่า
“ที่รัก ผมต้องไปกินข้าวแล้ว เดี๋ยวถึงห้องแล้วออนคุยกันนะครับ”
“ครับ แล้วเจอกันนะครับ”
“ครับ”
อธิปพงศ์ยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะมองหน้าเพื่อนที่ทำหน้าเซ็ง ๆ ตามประสาคนที่เพื่อนเห็นตัดขาดจากโลกภายนอกเวลาคุยกับแฟน เขาบอกกับกรวัฒน์ที่ยืนมองอยู่ว่า
“ไปสิ”
“เออ..” กรวัฒน์รับคำและเดินเข้าไปในร้านโคขุนย่างบรรยากาศปลอดโปร่งด้วยกัน เมื่อได้โต๊ะและสั่งอาหารแล้ว อธิปพงศ์ก็บอกกับเพื่อนตัวเองว่า
“มึงรู้มั๊ย กูไม่ได้มากินร้านโคขุนอย่างนี้มานานแล้ว”
“อ่าวเหรอ ไมวะ”
“แฟนกูเค้าไม่กินเนื้อ” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ มีความสุขที่พูดถึงคนรัก กรวัฒน์ที่แอบเลี่ยนในใจเลยถามอย่างสงสัย
“เออ แล้วเวลามึงไปเดทกันเนี่ย มึงไปร้านแบบไหนเหรอวะ”
อธิปพงศ์ระบายยิ้มตอบเพื่อน “ก็ทั่วไปแหล่ะ บางทีก็ไปร้านอินเดีย”
“อืม” กรวัฒน์รับคำ
อธิปพงศ์ถามเพื่อนบ้าง
 “เออ แล้วนี่กูยังไม่รู้เลยว่าตอนนี้มึงยศอะไรแล้ว กูจะได้ไม่ปล่อยไก่เวลาเจอมึงอยู่ในเครื่องแบบ”
“อ๋อ ตอนนี้กูเป็นพันตรี”
อธิปพงศ์ตกใจเมื่อรู้ว่าเพื่อนเขามียศอะไร “โห อย่างนี้กูก็ต้องเรียกมึงว่าผู้พันอ๊อฟสิ”
“เออ แต่เรียกตอนอยู่ในเครื่องแบบนะ ส่วนแบบนี้ก็มีแต่กูกับมึงนั่นแหล่ะ อย่าไปถือยศถืออย่างอะไรมากเลยว่ะ กูปวดหัว”
“เออ ๆ ได้”
  อธิปพงศ์ยิ้มรับและมองหน้าเพื่อนอย่างจริงใจ กรวัฒน์ก็มองไปยังอธิปพงศ์เช่นกัน เพราะเขาก็ยังไม่ชินที่รู้ว่าเพื่อนกำลังมีความรักกับผู้ชายด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้รังเกียจและมองเห็นเรื่องนั้นเป็นเรื่องสำคัญในความเป็นเพื่อน
สักพักอาหารก็มา พนักงานวางจานเล็กบนเตาไปและเสริ์ฟเนื้อสไลด์ตามที่สั่งให้กับลูกค้าได้ปิ้งย่าง และเมนูเนื้อกะทะร้อนกับจิ้มจุ่มหม้อดินก็ยกตามมาติด ๆ  เมื่อพนักงานไปแล้วอธิปพงศ์กับกรวัฒน์ก็จัดการกับอาหารข้างหน้าให้สุกตามวิธี
“อ่ะ เนื้อสุกแล้ว มึงกินก่อนเลย” กรวัฒน์หมายถึงเนื้อย่างกะทะร้อนที่ตอนนี้สุกกำลังกิน
“เออ ขอบใจ” เขาจิ้มชิ้นเนื้อเข้าปาก กรวัฒน์เลยถามว่า
“เป็นไงมั่งวะ อร่อยมั๊ย”
“อืม ก็อร่อยดี”
ชายหนุ่มกลับเนื้อบนเตาพลางถามเพื่อนต่อ “เออ กูยังไม่รู้เลยว่า มึงเจอกับแฟนมึงได้ยังไงวะ”
“อ๋อ..เค้ามาตัดผมที่ร้าน..”
“แล้วไงต่อวะ”
“ก็ตอนนั้นกูกำลังจะเลิกไม่เลิกกับแฟนเก่าอยู่ และเค้าก็เข้ามาพอดี กูก็เลยคบกับเค้าเป็นเพื่อนไปก่อนสักพัก แล้วก็อย่างที่เห็นนี่แหล่ะ”
“เดี๋ยว แฟนเก่ามึงผู้หญิงหรือผู้ชายวะ”
“ผู้หญิง”
“เฮ้ย! จริงดิ..” กรวัฒน์แทบตกเก้าอี้กับสิ่งที่ตัวเองรู้ “หมายความว่านี่มึงเพิ่งคบกับผู้ชายใช่มั๊ย”
“เออ..”
อธิปพงศ์ถามบ้าง เพราะก็อยากรู้เรื่องของเพื่อนเหมือนกัน
“ว่าแต่มึงเหอะ เห็นมึงว่าเคยแต่งงานและตอนนี้หย่าแล้ว ทำไมวะ”
“ก็เข้ากันไม่ได้ว่ะ อยู่กันแล้วไม่มีความสุข ทะเลาะกันทุกวัน กูกับเค้าเลยเห็นตรงกันว่าต่างคนต่างอยู่กันดีกว่า”
“อืม..แล้วมันไม่เหมือนตอนที่มึงเป็นแฟนกันหรือไงวะ ” อธิปพงศ์ไม่เข้าใจเรื่องของเพื่อนเท่าไหร่ เพราะเท่าที่เล่ามาเจ้าตัวดูไม่มีความสุขกับชีวิตคู่ 
“ไม่เหมือนหรอก แต่งงานกันมีเรื่องให้คิดมากกว่าตอนเป็นแฟนกันไง คือตอนเป็นแฟนกันมันอะไรก็ได้ แต่พอแต่งงานแล้วเหมือนว่ากูกับเค้าอยู่กันไม่ได้จริง ๆ ว่ะ”
“เหรอ...ตอนนั้นมึงเป็นแฟนกันก่อนนานมั๊ย”
“สี่ปีว่ะ กูแต่งงานตอน 27 และหย่ากับเค้าตอน 30 เนี่ย”
“เออ แล้วตอนนี้เค้าเป็นไงมั่ง มึงรู้รึเปล่า”
“เค้าแต่งงานใหม่ มีลูกมีความสุขไปแล้ว” กรวัฒน์ตอบยิ้ม ๆ เพราะยินดีที่เห็นภรรยาเก่ามีชีวิตที่ดีกว่าตอนอยู่กับเขา
“เออ ว่าแต่มึงเหอะ มึงไม่มีใหม่กับเค้าเหรอวะ”
“ก็มี คบ ๆ เลิก ๆ กันอยู่หลายคน เพิ่งมาว่างยาวเอาตอนนี้แหล่ะ”
“เออ” อธิปพงศ์รับคำก่อนจะไปตักจิ้มจุ่มใส่ถ้วย แต่คนเป็นเพื่อนก็ถามต่อว่า
“แล้ว...” กรวัฒน์อยากรู้เรื่องแบบนั้นตามประสาผู้ชายทั่วไป “แล้วมึงกับแฟน..เอ่อ บ่อยป่ะวะ”
อธิปพงศ์รู้ว่าเพื่อนหมายถึงเรื่องอะไร ก็ตอบไปตามความจริง
“อืม..” เขาพยักหน้าเขิน ๆ “บ่อยอยู่...”
“จริงดิ..แล้วมึง..” เขาอยากจะถามต่อว่าใครเป็นอะไร แต่อธิปพงศ์ก็บอกว่า
“พอ ๆ ห่านี่ มันเรื่องของกูเว้ย..” เขาบ่ายเบี่ยงเขิน ๆ และกินอาหารต่อ
“เออ ๆ ไม่รู้ก็ได้” กรวัฒน์หัวเราะกับเพื่อน และลงมือกินเนื้ออย่างพร้อมกับสังเกตตัวอีกผ่ายไปด้วย เขารู้สึกว่า      อธิปพงศ์มีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนผู้ชายทั่วไป ดูมีอะไรบางอย่างที่น่าดึงดูดและน่าหลงใหลให้มองไม่รู้เบื่อ คงจะเป็นเพราะว่าเพื่อนเขาเป็นเกย์เลยมีอะไรอย่างนั้นมั๊ง กรวัฒน์สรุปเอาเอง 
“มีไรวะ” อธิปพงศ์เห็นเพื่อนมองอยู่เลยถาม
“ปะ...เปล่า” กรวัฒน์ส่ายหน้าและกินต่อ
 
  เสร็จจากอาหารเย็นมื้อนั้น กรวัฒน์ก็ขับรถมาส่งเพื่อนที่ที่พัก
อธิปพงศ์บอกกับเพื่อนขณะถอดเข็มขัดนิรภัย “วันนี้ ขอบใจมึงมากนะอ๊อฟที่มาชวนกูไปกินอะไรอร่อย ๆ”
“เออ ไม่เป็นไร วันหลังกูมารับมึงไปใหม่ได้”
“เออ..แต่กูว่า ชวนกูไปออกกำลังกายบ้างก็ได้ เดี๋ยวกูอ้วนกันพอดี”
“โห มึงจะดูดีไปไหน แต่นี้มึงก็หล่อจะตายแล้ว”
“ไม่ได้ ๆ เดี๋ยวแฟนกูกลับมา จำกูไม่ได้กันพอดี”
“เออ ๆ” กรวัฒน์รับคำ “มีไรกูโทรชวนละกัน”
“เออ ขอบใจ กลับบ้านดี ๆ นะ”
“เออ”
  อธิปพงศ์รับคำและลงจากรถ ส่วนกรวัฒน์มองตามหลังเพื่อนไป ก็เห็นว่าอธิปพงศ์เป็นผู้ชายที่มีรูปร่างน่ามองจริง ๆ
แต่เขาก็ส่ายหัวไล่ความคิดนั้น เพราะว่ายังไงเพื่อนก็เป็นผู้ชายเหมือนกันอยู่ดี

 เมื่อเขาไปถึงห้องพักก็รีบเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อจะออนไลน์คุยกับคนรัก ก็พบว่านิธินยังออนไลน์ทุกโปรแกรมอยู่พอดี จึงทักชายหนุ่มอย่างดีใจผ่าน Skype
 ชายหนุ่มส่งยิ้มดีใจที่เห็นหน้านิธินและกรอกเสียงผ่านเฮดโฟน
“ไง ที่รัก ผมคิดว่าคุณนอนซะแล้ว”
“ยังครับ ผมก็รอคุณอยู่ไง”
“เหรอครับ ขอบคุณนะครับ”
“วันนี้ไปกินอะไรเหรอครับ”
“เนื้อย่าง”
“หะ” นิธินไม่ค่อยเข้าใจคำว่าเนื้อย่าง
“Beef”
“อ๋ออ ครับ” ถึงเขาจะเป็นชาวฮินดู แต่ก็เข้าใจดีว่าเนื้อวัวเป็นอาหารของคนที่ไม่ใช่ฮินดูอย่างเขา
“อืมม วันนี้เป็นไงมั่งครับ”
“ก็ดีครับ ทำงานก็โอเค ได้ไปฟิสเนสด้วย ฟิสเนสที่นี่คนน้อยดี”
อธิปพงศ์จึงตอบไปว่า
“ดีแล้วหล่ะ ผมจะได้สบายใจว่าไม่มีใครมาแอบมองคุณ ฮ่ะๆๆ”
“เหรอ...” นิธินยิ้ม ๆ “ผมหน่ะสิที่ต้องห่วงมากกว่า”
“ห่วงผมเหรอ”
“อื้ม..”
“แหม ผมหน่ะไม่เท่าไหร่หรอก แต่คุณหน่ะ มีสิมีแต่คนเข้ามา” อธิปพงศ์ตอบกลับอย่างหวั่นใจ เพราะเวลาเขาเห็นหน้าอัคคัสในเฟรนลิสของนิธินทีไรก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที ไหนจะมีคนใหม่ ๆ ที่ขยันแอดเข้ามาอีก
นิธินรู้ดีว่าอธิปพงศ์รู้สึกอย่างไรถึงได้พูดมาอย่างนี้ เขาจึงบอกให้คนรักสบายใจว่า
“วันนี้ มีคนเห็นแหวนที่ผมใส่ แล้วเค้าถามผมว่า ผมแต่งงานแล้วเหรอ”
“แล้วคุณว่าไง”
“ผมก็บอกว่า ผมแต่งงานแล้ว”
“เหรอ..” อธิปพงศ์ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น 
“แต่ที่นี่ผมบอกกับใครไม่ได้หรอกนะว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ที่นี่เค้าไม่เหมือนเมืองไทยหรอก”
“ครับ ผมเข้าใจ” อธิปพงศ์ยิ้มรับ เพราะแค่ได้ยินว่านิธินเป็นห่วงและยังมั่นคงต่อเขา ก็ทำให้สบายใจขึ้นมามากแล้ว คนทั้งสองคุยกันต่ออีกสักพัก อธิปพงศ์จึงขอตัวเข้านอน
“ผมต้องไปนอนแล้วหล่ะ ที่นี่จะตีหนึ่งแล้ว คิดถึงนะครับที่รักดูแลตัวเองด้วยหล่ะ”
“ครับ..คิดถึงเหมือนกัน ฝันดีนะครับ”
คนทั้งสองส่งจูบกันผ่านเฮดโฟน แล้วก็ปิดโปรแกรมก่อนจะเข้านอน อธิปพงศ์เข้าไปอาบน้ำ ส่วนนิธินก็ล้มตัวลงนอนและกอดหมอนต่างคนรักด้วยความคิดถึง เขาหยิบโทรศัพท์ที่มีรูปถ่ายของอธิปพงศ์และมองคนรักด้วยความคิดถึงพร้อมบอกกับรูปนั้นในใจว่า
“อดทนนะครับ ผมจะกลับไปหาคุณให้ได้”


โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 08-03-2012 14:41:56
มาให้กำลังใจทั้งสองคน และน้องน้ำพริกแมงดา  :กอด1: :กอด1:
รบกวนแก้คำผิด ควรเป็น รสชาติ

ขอบคุณมากค่ะ ไปแก้ไขเรียบร้อยแล้วค่า


ย่องเข้ามาอ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย  :m7:
สนุกมากค่ะ สงสารทั้งคู่เลย  :sad4:

ป.ล. ให้คนเขียนค่ะ  :c4:
มาต่อไวไวนะคะ  :L2: 


ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ขอมอบ + แรกให้เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 08-03-2012 14:47:35
เรื่องชักจะเข้มข้น คนเขียนเริ่มต้มน้ำแล้วใช่มั้ย คึคึ
ผู้พันอ๊อฟบุรุษคนใหม่นี่มาติดพันหนุ่มหมูแน่เลย ช้ำจากเมียรัก
มาซบอกช่างตัดผมเกย์ แต่เสียดาย...ผัวเขาทั้งหล่อและแสนดี รับประทานแห้วต่อไปเถอะนายอ๊อฟ
 :m20:
ตอนหน้าน้ำจะเดือดรึยังน้า....

 :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 08-03-2012 14:58:19
หวังว่าไม่มีนะ เพื่อนหลงรักเพื่อน
นิธินชัดเจนดี  o13
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 08-03-2012 15:03:14
สุขเล็กๆ ความห่างไกลนี่มันทรมานจริงๆ เมื่อไหร่จะได้กลับมาหนอแอบกลัวๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 08-03-2012 15:06:16
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
เชื่อใจคุณน้ำพริกแมงดา
เชื่อในความรักของนิธินและอธิปพงศ์
ระยะทาง เวลาและบุคคลที่สามไม่กระทบความรักที่มั่นคงของทั้งคู่
เชื่อว่าทั้งคู่รักกันซื่อสัตย์ต่อกันและเชื่อใจกัน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 08-03-2012 15:06:32
ช่วงห่างไกลกัน จะมีอะไรมาพิสูจน์ความรักของทั้งคู่อีกไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-03-2012 15:18:37
ผู้พันอ๊อฟชักจะหวั่นไหว
ไปหาคนใหม่นะเฮีย :o10:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 08-03-2012 15:39:40
ต้องรีบร่ายคาถากันมือที่ 3 4 5 6 7 8 9 .................... นิธิน รีบกลับมา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 08-03-2012 15:49:32
อย่าบอกนะว่าผู้พันอ๊อฟที่เลิกกับเมียน่ะ เพราะเคมีไม่ตรงกัน(แต่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน)
ก็ดูดิ มาแอบมองหมู มารู้สึกว่าหมูน่ามอง มีความดึงดูดใจดึงดูดตากว่าผู้ชายทั่วไป
อย่าบอกนะว่าผู้พันกำลังจะค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเองในไม่ช้านี้
และอย่าบอกนะว่า ผู้พัน กำลังจะเห็นว่าหมูน่าสนใจ-ดึงดูดใจเกินกว่าคำว่าเพื่อนน่ะ
น้ำพริกแมงดา... ทำเอาดิฉันเริ่มวิตกกังวลแทนหมูกับนิธินไปแล้วนะคะ

ป.ล. ตาไวไปอีกแหละ"..บรรยากาศปรอดโปร่ง..." (ปลอดโปร่ง) จ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 08-03-2012 16:32:45
ฮั่นแน่ะไอ้ผู้พันอ๊อฟ
 o12
นี่ชักจะยังไงๆกับพี่หมูเหรอยะ
เลิกคิดไปได้เลย
พี่หมูรักคุณนิธิณคนเดียวย่ะ
เชอะ!!!
 :a14:
คุณน้ำพริกแมงดาอย่าต้มมาม่านานนักนะคะ
เวลาทานแล้วเส้นมันอืด
พาลน้ำตาจะเอ่อด้วย
 :sad4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 08-03-2012 17:01:31
ผู้พันอ๊อฟอาจจะอยากลองมีรักใหม่เป็นผู้ชาย แต่ต้องไม่ใช่เพื่อนหมูนะจ๊ะ
เพราะรายนี้เค้ามีนิธินที่แสนดีอยู่แล้วทั้งคน เค้าไม่ชายตาแลหรอกค่ะ ถึงจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กก็เหอะ :m16:
กดบวกให้จ้า ป้องกันมาม่ามาเสิร์ฟ (ห้ามได้เรอะ :laugh:)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 08-03-2012 19:00:13
สถานการณ์ตอนนี้...ฝั่งนิธินยังไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ฝั่งพี่หมูของเราเนี่ยสิ..........

หวั่นๆกับนายอ๊อฟจริงๆ.........
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-03-2012 19:21:16
นายอ๊อฟคงไม่ใช่
เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อน๊า o18

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 08-03-2012 19:50:31
ถึงจะอยู่ห่างกันก็ฝันถึงเธอทุกคืน จำได้ไม่ลืม...ไม่ลืม  อะไรกันคะ ไหน ใคร ถามหา มะ มาม่า คะ ถามจริง อยากกินกันรึคะ 555 ปล่อยให้อบอุ่นๆ ต่อไปเรื่อยๆนะดีแล้วค่ะ อย่ารีบต้มน้ำกันเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 08-03-2012 19:55:03
เห็นใจคนรักกันที่ต้องอยู่ห่างกันพึ่งจะเริ่มรักด้วยสิคงแทบขาดใจ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 08-03-2012 20:10:23
มาแล้ววววววว  :mc4:
เพื่อนพี่หมูจะคิดอะไรเปล่าเนี่ย  :a5:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 08-03-2012 23:53:41
ถึงจะชอบตาพระเอกเเขกของเรา เเต่อยากจะบอกว่า

หนูเเพ้คนในเครื่องเเบบค่า แอร๊ยยยยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-03-2012 07:58:54
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:08/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 09-03-2012 15:22:40
วันนี้มาแล้วนะคะ ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจค่ะ เจอกันอีกทีวันจันทร์นะคะ...


27

   เทศกาลวานเลนไทน์ผ่านไปโดยที่กรุงเทพฯก็อบอวลไปด้วยบรรยากาศหวานชื่นของคู่รักพร้อมกับกิจกรรม ส่งเสริมการขายต่างๆ ตามเทศกาลจนคนไร้คู่เบือนหน้าอย่างเลี่ยนเอียน แต่ที่ฮือฮาที่สุดเห็นจะเป็นการแข่งขันจูบมาราทอนที่งานนี้ผู้ชนะเป็นคู่รักชายหญิงวัยทำงาน โดยปรากฏเป็นพาดหัวรองในหนังสือพิมพ์สีสันหลายฉบับ ป๊อกกี้ที่อ่านวางหนังสือพิมพ์บนโต๊ะและบ่นถึงพาดหัวข่าวที่เห็นว่า
"โอ๊ย อ่านแล้วอารมณ์เสีย เดี๋ยวรอให้หนูมีผัวก่อนเท้อ...หนูจะไปแข่งรายการนี้ให้ได้เลยคอยดู"
อธิปพงศ์ยิ้มขำกับรุ่นน้อง
"แล้วไม่มีซะทีล่ะ"
"ว้ายๆ ปากร้าย ทำร้ายจิตใจน้องที่สุดถึงที่สุด แหม คุณพี่ก็พูดได้นี่คะ ก็คุณพี่มีแล้วหนิ ว่าแต่วาเลนไทน์นี่คุณสามีว่ายังไงมั่งคะ"
"ก็คุยกันปกติน่ะ วัยอย่างพวกพี่มันไม่มีอะไรแล้ว" อธิปพงศ์พูดยิ้มๆ เพราะพวกเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์เหมือนคนอื่นๆ แม้จะรู้สึกว้าเหว่ในวันนั้นบ้างก็ตาม
"โอ๊ย ขนาดไม่มีอะไรให้นะคะ แหวนอย่างนี้ เดินจูงมือกันอย่างนี้ จูบกันในผับอย่างนี้ โอ๊ยย ไม่อยากจะเมาท์"
หญิงเลยบอกว่า
"อย่างนี้เค้าเรียกรักกันทุกวัน ใช่มั๊ย พี่หมู ฮิฮิๆๆ"
"อืม" อธิปพงศ์รับคำยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปมุมอื่น จริงอยู่ว่าเขาทำใจได้กับการอยู่คนเดียวแบบนี้ แต่ก็รู้สึกเหงาเวลาที่ต้องกลับห้องคนเดียวและนอนคนเดียว เขาคิดถึงมือแข็งแรงและอ้อมอกอบอุ่นของนิธินแทบทุกคืน และเมื่อเขาเห็นคู่รักเดินจับมือกันก็ยิ่งทำให้คิดถึงคนรักที่อยู่ไกลมากขึ้น
ถึงแม้จะพูดคุยและเห็นหน้าเกือบกันทุกวันผ่านการออนไลน์แล้ว แต่การได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเป็นก็สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด 

 นิธินที่นั่งคร่ำเคร่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เหลือบมองเวลาที่ทาร์กบาร์ก็พบว่านี่คือเวลาสามทุ่มแล้ว เพราะว่าวันนี้โปรแกรมเมอร์อย่างพวกเขามีงานชิ้นใหญ่ที่ต้องทำ ทุกคนต่างก็จริงจังกับงานชิ้นนี้มาก แม้เวลาจะล่วงเลยไปแต่ก็ไม่มีใครลุกออกจากห้องทำงานนี้ เขาคิดว่าคืนนี้คงจะต้องกลับดึกแน่ๆ และคงไม่ได้คุยกับคนรักอย่างที่ตั้งใจไว้ นิธินเสียดายเล็กน้อย แต่ก็พยายามมีสมาธิกับงานที่ทำ เพราะนี่คือตัวกำหนดส่วนนึงที่จะสามารถทำให้เขากลับไปอยู่กับคนรักที่เมืองไทยอย่างที่หวัง

 อธิปพงศ์เปิดดูเฟชบุ๊คผ่านมือถือก็ไม่พบการทักทายใดๆ ของวันนี้จากคนรัก แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะเดี๋ยวกลับที่ถึงห้องก็ได้เจอกันผ่านSkypeแล้ว
 แต่พอถึงเวลาจริงก็ไม่มีการออนไลน์ของอีกฝ่ายเลย อธิปพงศ์รอแล้วรอเล่าจนเกือบตีหนึ่งก็ไม่เห็นว่านิธินจะออนมา เขาพอเข้าใจว่านิธินคงมีงานที่ต้องทำเลยไม่กังวลอะไรมาก แต่ในใจห่อเหี่ยวที่ไม่ได้พูดคุยและเห็นหน้าค่าตาคนรัก จึงปิดคอมพิวเตอร์และล้มตัวลงนอน
 ชายหนุ่มพลิกตัวไปมาเพราะนอนไม่หลับ ในหัวมีแต่ความคิดถึงคนรักที่เคยอยู่ด้วยกัน และคิดถึงสิ่งที่นิธินเคยทำเวลาก่อนนอนอย่างนี้
เพียงแค่นั้น ส่วนลึกของความต้องการก็พลันลุกโชนขึ้น ชายหนุ่มหลับตาลงคิดถึงใบหน้าคร้ามเข้มและดวงตาที่นิธินมองเขาตอนที่เปลือยเปล่า พร้อมกับรูปร่างกำยำและสิ่งนั้นที่เขาเคยครอบครองอยู่ทุกวันคืน อธิปพงศ์คิดถึงสัมผัสของคนรักแล้วลูบไล้ไปตามลำตัวอย่างโหยหา ก่อนจะจัดการกับความต้องการของตัวเองผ่านการปลดปล่อย โดยที่เขานึกถึงแต่จังหวะรักที่นิธินเคยทำให้เขามีความสุข พร้อมกับใช้มือกับส่วนนั้นให้ปลดปล่อยออกมา และจุดสุดยอดของอารมณ์ก็มาถึง อธิปพงศ์ครางออกมาอย่างมีความสุข พร้อมกับลูบไล้ไปตามลำตัวสักพัก ก่อนจะลุกมาล้างเนื้อตัว และทิ้งตัวบนเตียงอีกครั้งกับความสุขสมแบบรวบรัด ที่ทำให้หายทรมานจากความคิดถึงไปวัน ๆ

   นิธินที่ฝ่าอากาศหนาวแล้งกลับถึงห้องพักตอนห้าทุ่ม เขาเปิดประตูห้องและเปิดไฟก่อนเหลือบมองดูนาฬิกาอีกเรือนบนโต๊ะที่ตั้งเวลาของกรุงเทพฯไว้  ก็พบว่าที่กรุงเทพฯตอนนี้คือเวลาตีหนึ่งแล้ว เขาจึงรีบเปิดคอมพิวเตอร์โดยหวังเล็ก ๆ ว่าคนรักจะยังออนไลน์อยู่ แต่เมื่อเปิดทุกโปรแกรมออนไลน์ก็ไม่พบอธิปพงศ์ ยกเว้นหน้าวอลล์ของเขาในเฟชบุ๊คที่เจ้าตัวพิมว่า
“คิดถึงคุณนะครับ เป็นกำลังใจให้เสมอ สู้ ๆ ครับ”
นิธินยิ้มดีใจที่เห็นข้อความนั้น เขาจึงรีบตอบกลับคนรักทันที
“ขอบคุณมากครับ คิดถึงคุณเหมือนกัน วันนี้ผมยุ่งมากจริง ๆ ฝันดีนะครับ”
ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความสุข ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์และเข้าไปอาบน้ำเพื่อพักผ่อนไปสู้กับงานใหม่ในวันรุ่งขึ้น

  ช่างผมหนุ่มทำงานตามปกติเหมือนทุกวัน จู่ ๆ เขียวก็โทรเข้ามาหาเขาในช่วงบ่ายของวันหนึ่ง เขาละมือจากลูกค้าและออกมารับโทรศัพท์ของหญิงสาวทันที
“ครับ ว่าไงครับน้องเขียว”
“พี่หมูครับ พี่หมูว่างรึเปล่า”
“มีลูกค้าครับ มีอะไรรึเปล่า”
“งั้น พี่หมูไปตัดผมก่อนก็ได้ค่ะ”
“ครับ ว่าแต่มีอะไรอ่ะ สำคัญมั๊ย”
“ก็ นิดหน่อยค่ะ พี่หมูคะ พี่หมูยังหาคอนโดใจกลางเมืองอยู่มั๊ยคะ”
“ครับๆ”
“คือ อย่างนี้ค่ะ เพื่อนของมาร์โค่เค้าจะขายคอนโดที่เค้าอยู่ค่ะ เพราะเค้าจะบินกลับไปอยู่ต่างประเทศถาวร พี่หมูสนใจมั๊ยคะ”
“แถวไหนครับ..”
“อโศกค่ะ ห้องเดี่ยวเค้าขายอยู่ที่ล้านสอง”
“อืม ถ้ายังไงพี่ขอคุยกับนิธินก่อนนะครับ ขอบคุณมากครับน้องเขียว”
“ค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะ”
“ครับ”
อธิปพงศ์วางสายและกลับไปทำงานต่อ ชายหนุ่มรู้สึกดีใจและมีความหวังมากขึ้นว่าสิ่งที่เขาและนิธินมองหาเริ่มมีเค้าโครงของความเป็นจริงขึ้นมาบ้างแล้ว โดยก่อนหน้านี้ เขากับนิธินได้เปิดบัญชีร่วมกันสำหรับเก็บเงินไว้หาซื้อที่อยู่โดยเฉพาะ และเขาเองก็ติดตามเรื่องนี้จากอินเตอร์เน็ทอยู่เป็นประจำ แต่ก็ยังไม่ตัดสินใจแน่นอนว่าจะเลือกที่ไหนดีที่ ที่รุ่นน้องโทรมาบอกนั้น เขาจะลองเก็บไว้เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งไว้ปรึกษากับคนรักดู แต่ทว่าตอนนี้นิธินยังคงติดพันกับงานประจำที่วุ่นวาย อธิปพงศ์จึงยังไม่ปรึกษากับคนรักในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากรบกวนคนรักที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานเอาไว้มีเวลาคุยกัน เขาคิดว่าค่อยปรึกษากันให้เป็นจริงเป็นจังไปเสียเลย

  วันนี้วิษณุกับเอเจมาหาอธิปพงศ์ที่ร้านเพื่อจะตัดผม ถึงแม้นิธินจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว แต่กลุ่มเพื่อนนิธินก็ยังติดต่อกับอธิปพงศ์อยู่สม่ำเสมอผ่านทางFacebook เพราะพวกเขาได้บอกกับนิธินว่าจะช่วยดูแลคนรักให้เวลาที่ชายหนุ่มไม่อยู่          อีกอย่างพวกเขาถือว่าอธิปพงศ์ก็เป็นเหมือนเพื่อนอีกคนเช่นกัน
 “หวัดดีครับคุณหมู วันนี้มาให้ตัดผมหน่อยนะครับ” วิษณุพูดยิ้ม ๆ
“ครับ แล้วคุณเมย์ไม่มาด้วยเหรอครับเนี่ย”
“เปล่าครับ รายนั้นเดี๋ยวเจอกันที่บ้านเลย นี่แวะมาตัดผมก่อนกลับบ้านหน่ะครับ”
“อ๋อ ครับ” อธิปพงศ์รับคำ เอเจเลยบอกต่อตามประสาคนขี้เล่นว่า
“เอาให้เมียที่บ้านจำไม่ได้เลยนะครับ ฮ่ะๆๆ”
“ฮ่ะๆๆ ครับ”
   อธิปพงศ์ตอบรับและพาทั้งสองไปสระผมก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการตัด คนทั้งสองชวนอธิปพงศ์พูดคุยอย่างสนุกสนาน และขอตัวกลับตามประสาพ่อบ้านที่ดี
“ไว้คุยกันในเฟชบุ๊คนะครับ คุณเอเจ คุณวิษณุ”
“ได้เลยครับ วันหลังคุณหมูมากินข้าวกับพวกผมได้นะครับ”
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ ไว้เจอกันนะครับ”
“ครับ”
 คนทั้งสองเดินจากไป ส่วนอธิปพงศ์ก็หันหลังกลับเข้ามาในร้าน ทันใดก็มีโทรศัพท์สายเข้า ชายหยิบมาดูก็พบว่าเป็นกรวัฒน์ จึงกดรับทันที
“ว่าไง”
“เออ เลิกงานเย็นนี้ไปว่ายน้ำกับกูป่าว”
“ที่ไหนวะ”
“สโมสรทหารบก ไปป่ะ”
“เหอะ กูเป็นสมาชิกสระอื่นอยู่แล้ว”
“อ่าวเหรอ ที่ไหนวะ”
“แถวราชเทวี มึงมาว่ายน้ำกับกูมั๊ยล่ะ”
“เออ ๆ ได้ เดี๋ยวเจอกันที่สระเลยละกัน”
“เออ..เจอกัน”
 อธิปพงศ์วางสายและไปทำงานต่อ เขาคิดว่าก็ดีเหมือนกัน เพราะเขาก็ไม่ได้ว่ายน้ำนานแล้ว อากาศร้อน ๆ ในต้นเดือนมีนาคมอย่างนี้ทำให้เขาอยากไปจะว่ายน้ำอยู่เหมือนกัน เขาถอนหายใจเล็กน้อยเพราะคิดถึงคนรักที่ชอบว่ายน้ำเหมือนกัน แต่ก็พยายามไม่คิดมาก นี่ก็เข้าเดือนที่ 3 ของการทำงานแล้ว เหลืออีกแค่สามเดือนกว่านิธินก็จะกลับมาอยู่กับเขา ชายหนุ่มปลอบใจตัวเองอย่างนั้น ว่าแล้วเขาก็หยิบมือถือขึ้นมาเปิด Facebook แล้วพิมว่า
“ตอนนี้เมืองไทยร้อนมาก อยากไปว่ายน้ำกับคุณจัง คิดถึงนะครับ”

 ส่วนนิธินที่กำลังเข้าห้องน้ำและเปิดหน้า Facebook บนมือถือ ก็พบข้อความที่คนรักเพิ่งพิมบนหน้าวอลล์ของเขา ก็ดีใจ จึงพิมกลับไปว่า
“ที่นี่ก็ร้อนมากเหมือนกันครับ และก็มีสระน้ำสวย ๆ หลายที่เหมือนกัน แต่ผมอยากกลับไปว่ายน้ำกับคุณมากกว่านะ..คิดถึงเช่นกันครับ”
นิธินอมยิ้มให้มือถือ ก่อนจะกลับไปสู้กับงานหนักที่ทำให้เขาไม่มีเวลาเป็นของตัวเองต่อ เห็นว่าที่เมืองไทยมีเทศกาลสาดน้ำกันช่วงเดือนเมษายนด้วย เลยทำให้เขาอดเสียดายที่ไม่ได้อยู่ร่วมงานฉลองอันรื่นเริงในหน้าร้อนนี้ เขาส่ายหัวไล่ความคิดนั้นก่อนจะรีบเข้าไปทำงานต่อทันที

  อธิปพงศ์มาถึงสระน้ำตามที่นัดกับเพื่อน ก็เห็นว่าเจ้าตัวลงไปลอยคอเล่นน้ำอยู่ในสระแล้ว กรวัฒน์ที่เห็นเพื่อนเดินเข้ามาก็โบกมือให้ อธิปพงศ์โบกมือและยิ้มให้เพื่อนเช่นกัน ก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเดินออกมาที่สระ
  กรวัฒน์มองเพื่อนที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ ผิวขาวผ่องกับร่างสูงสมส่วนที่มีกล้ามเนื้อสวยงามกำลังดีที่เปียกโชกไปด้วยหยดน้ำนั้นทำให้เขาอดตกตะลึงไม่ได้ โดยเฉพาะช่วงสะโพกได้รูปที่ถึงแม้อยู่ในกางเกงว่ายน้ำขายาวที่ไม่สามารถปิดบังความเย้ายวนของเขาได้เลย เขาจึงมองอธิปพงศ์ที่กำลังยืดกล้ามเนื้อข้างขอบสระไม่วางตา เมื่ออธิปพงศ์มาใกล้ ๆ ขอบสระแล้ว เขาจึงแซวเพื่อนทันที
“โหย มึงใส่ขายาวเล่นน้ำเลยเหรอวะ”
“เออ” อธิปพงศ์ตอบรับ แม้โดยปกติแล้วเวลาเขาอยู่กับนิธินเขาจะชอบใส่แบบบิกินีมากกว่าก็ตาม แต่พอไม่ได้อยู่กับคนรักแล้วเขาก็รู้สึกหวงเนื้อหวงตัวมากขึ้นทันที โดยที่เขาก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม
อธิปพงศ์สวมแว่นตากันน้ำก่อนจะย่อตัวลงและพุ่งไปข้างหน้าผืนน้ำทันที  กรวัฒน์มองเพื่อนที่กำลังว่ายสปีดอยู่แล้วหัวเราะเบา ๆ โดยยังคิดว่า เพื่อนก็คือเพื่อนอยู่
 อธิปพงศ์ว่ายแตะขอบสระ ก่อนจะถอดแว่นและหันมาพูดกับเพื่อน
“มึงมานานแล้วเหรอ”
“สักพักว่ะ ก็วอร์ม ๆ ไปก่อน..ว่าแต่มึงเหอะ ฟอร์มดีเหมือนกันนะเนี่ย” กรวัฒน์ชมเพื่อนที่ว่ายน้ำไปกลับได้เร็วพอสมควร
"ขอบใจ กูไม่ได้ว่ายน้ำนานแล้วว่ะ เลยขอเรียกแรงหน่อย"
"เออ งั้นมาแข่งกัน"
สองหนุ่มขึ้นมาจากน้ำและยืนบนขอบสระ โดยกรวัฒน์สวมกางเกงว่ายน้ำขาสั้นเผยให้เห็นรูปร่างกำยำแบบชายไทยในเครื่องแบบ ผิวสีแทนนั้นทำให้เขาดูมาดแมนสมชายขึ้นไปอีก ต่างกับอธิปพงศ์ที่มีกล้ามเนื้อสวยงามสมส่วน
ตอนนี้ผิวขาวของเขากำลังอมชมพูด้วยเลือดลมที่สูบฉีดจากการออกกำลังกาย ยิ่งทำให้ต้องตาคนรอบข้างมากขึ้น โดยเฉพาะกรวัฒน์
ชายหนุ่มทั้งสองหมุนแขนและย่อตัวลงเตรียมตัวกระโดดลงสระน้ำพร้อมกัน
"1...2...3"
 อธิปพงศ์และกรวัฒน์ต่างเร่งจังหวะโดยที่ไม่มีใครยอมใคร แต่งานนี้อธิปพงศ์ก็เป็นฝ่ายแตะขอบสระก่อน เพราะมีเทคนิคในการออกตัวตามที่คนรักเคยบอกไว้
"โอ๊ยย ไอ้เชี่ย เหนื่อย..." กรวัฒน์หอบแฮ่กๆและหันไปบอกเพื่อน
"โห มึงฟิตว่ะ กูยอมๆ"
"หึหึ เออ" อธิปพงศ์ยิ้มรับและว่ายน้ำไปลอยคออยู่กลางสระ ส่วนกรวัฒน์ก็ได้แต่มองตามอย่างหลงใหลในตัวอีกฝ่าย ชายหนุ่มรู้สึกว่าช่วงนี้อธิปพงศ์มีเสน่ห์มากขึ้นในสายตาเขาอย่างล้นเหลือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

 "เออ วันนี้กูเหนื่อยมากว่ะ ไปว่ายน้ำแข่งกับมึงเนี่ย ไอ้เชี่ยย มึงว่ายน้ำเก่งอย่างนี้แม่งไปคัดทีมชาติเลยดีมั๊ย" กรวัฒน์บอกกับอธิปพงศ์ขณะที่ขับรถมาส่ง
"หึหึ" เจ้าตัวหัวเราะในลำคอก่อนจะตอบว่า "กูมีโค้ชดี"
"ใครวะ"
"นิธินไง"
อธิปพงศ์ตอบยิ้มๆ ส่วนกรวัฒน์ก็เจื่อนลงที่ได้ยินอย่างนั้น เพราะนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนมีแฟนแล้ว
"เออ ก็ว่าอยู่ แล้วแฟนมึงเค้าชอบเล่นกีฬาเหรอวะ"
"อืม กูกับเค้ามาว่ายน้ำกันเกือบทุกวันเลย บางทีเค้าก็ไปเล่นคริกเก็ตกับเพื่อน ๆ อินเดียของเค้า"
"แล้วมึงเล่นคริกเก็ตเป็นป่ะว่ะ"
"พอเล่นได้"
"เออ ดีนะ มีแฟนแล้วพากันไปเล่นกีฬา โห นี่มึงกับแฟนฟิตกันอย่างนี้..."
กรวัฒน์นึกตามเพราะเข้าใจดีว่าวัยอย่างเขามีความต้องการขนาดไหน
"อะไรของมึงไอ้อ๊อฟ"
"เปล่าๆๆ"
"หึหึ" อธิปพงศ์หัวเราะในคอเพราะรู้ว่าเพื่อนกำลังคิดอะไรอยู่
"เออ กูถามจริงๆ"
อธิปพงศ์หันมามองเพื่อนที่ถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"เวลามึงนอนกับผู้ชายเนี่ย มันต่างกับเวลานอนกับผู้หญิงยังไงวะ"
อธิปพงศ์พยักหน้ารับรู้เบาๆ ก่อนจะตอบว่า "ก็เยอะนะ คนอื่นกูไม่รู้ว่ายังไง แต่ของกู กูรู้สึกดีมากกว่าว่ะ แต่กูรู้สึกกับแฟนกูคนเดียวนะ กับผู้ชายคนอื่นกูไม่เคยคิดอะไรแบบนั้น"
"อืมม เหรอ"
"ถามทำไมวะ"
"กูก็แค่อยากรู้หน่ะ"
"อืมๆ"
 กรวัฒน์เหลือบมองหน้าเพื่อนก่อนจะขับรถต่อ เขารู้สึกหวั่นไหวกับหน้าใสๆ ของเพื่อนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะดวงตากลมโตและลักยิ้มบนแก้มทั้งสองข้างนั้น มองทีไรชายหนุ่มก็ใจสั่นทุกที
 อธิปพงศ์หยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูหน้าความเคลื่อนไหวใน Facebook ก็พบว่านิธินมาตอบกลับข้อความของเขาในหน้าวอลล์แล้ว เขาจึงยิ้มกว้างออกมาอย่างดีใจ ที่คนรักติดต่อกลับมา เขาจึงพิมกลับไปว่า
“พักผ่อนเยอะ ๆ นะครับ ไว้ว่าง ๆ ค่อยคุยกัน Take care ครับ”

กรวัฒน์เห็นเพื่อนยิ้มออกมาอย่างมีความสุขเลยอดแซวไม่ได้
“โห ไม่ได้เลยนะไอ้หมู ว่างทีไรเช็คเฟชบุ๊คตลอด”
อธิปพงศ์ไม่ตอบอะไร เพราะก็จริงอย่างที่เพื่อนพูด ว่าเขามักจะเปิดหน้าเฟชบุ๊คของตัวเองเสมอเพื่อดูว่ามีนิธินใครมาพิมอะไรไว้หรือไม่ และFacebook นี้เองที่ทำให้เขารู้สึกว่านิธินไม่ได้อยู่ไกลจากตัวเขาเลย

“ขอบใจมึงมากนะที่มาส่ง” อธิปพงศ์ยิ้มให้เพื่อน ก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัย
“เออ เล็กน้อย ไว้เจอกันมึง”
“เออ” 
อธิปพงศ์รับคำแค่นั้นและปิดประตูรถ เขายิ้มให้เพื่อนอีกครั้งและเดินเข้าไปในตัวอาคาร กรวัฒน์มองตามเพื่อนแล้วยิ้มเศร้า ๆ เพราะตอนนี้เขาเริ่มห้ามใจตัวเองที่จะคิดกับอธิปพงศ์เกินเพื่อนไม่ได้เสียแล้ว
   



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ




หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 09-03-2012 15:32:35
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
ตอนนี้พูดไม่ออกกลัวจัง :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 09-03-2012 15:46:24
อย่านะ กรวัฒน์  น้ำพริกจ๋า หาคู่ให้กรวัฒน์ด่วนๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 09-03-2012 16:23:19
เอาแล้วไงผู้พันอ๊อฟ คาดว่าช่วงนี้คงต้องตั้งน้ำไว้ก่อน
อีกไม่กี่ตอนน้ำคงเดือดปุดๆแน่ๆ คึคึ
ล้างทองรอมาม่าดีกว่า

....
 :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 09-03-2012 16:32:31
นั่นไงเล้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ไอ้คุณอ๊อฟมันจะแทงข้างหลังเพื่อนแล้วมั้ยล่ะ
ทำแบบนี้คนอ่านไม่ปลื้มนะว้อยยยยยยยยยยย
 :angry2:
รับไม่ได้อ่ะ
พี่หมูอุตส่าห์ไว้ใจคิดว่าเป็นเพื่อน
รู้ทั้งรู้ว่าพี่หมูรักกับแฟนขนาดนี้
ยังคิดไม่ซื่ออีก
 :sad4:
คุณนิธิณกลับมาไวๆนะ
พี่หมูกำลังอยู่ในอันตราย กระซิกๆ
 :o12:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 09-03-2012 16:38:46
กรวัฒน์เริ่มชอบพี่หมูแล้วสิ  :a5:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 09-03-2012 17:17:14
อยู่เดียวเปลี่ยวอกเอ๋ย นายกรหนอนายกร รักน่ะรักได้ไม่ผิด แต่ถ้าคิดแย่งหวังครอบครอง กร ก็ กรรมละครับท่านผู้ชม
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 09-03-2012 18:05:16
เออ...อ๊อฟเอ้ยยยย เพิ่งจะมาเห็นความน่ารักของเพื่อนตอนเค้ามีซะมีแล้วเนี่ยนะ....

ชอบไม่ว่า อย่ามาทำให้คู่รักเค้าร้าวฉานแล้วกัน

กาเมสุมิฉาจารา เวระมะนีสิขา ปะทังสะมา ธิยามิ


สาธู๊!!!!

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 09-03-2012 18:17:09
ชายแท้ยังต้านเสน่ห์พี่หมูไม่ได้เลยจะเป็นไงต่อเนี่ย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 09-03-2012 18:28:17
งานเข้าโดยไม่รู้ตัวแล้วพี่หมู
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 09-03-2012 18:29:27
 :a5:อย่านะเว้ยนั่นเพื่อนมึงนะ เดี๋ยวจะเสียเพื่อนเอาเปล่าๆ





หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 09-03-2012 19:03:39
น่าน น่าน น่าน ผู้พันอ๊อฟ ทำเอาแฟนคลับหมูกับนิธิน กังวลใจแล้วซี
ใช่ๆ เหมือนคุณsamsoon@doll ว่าแหละค่ะ น้ำพริกต้องรีบหาแฟนให้ผู้พันด่วน
 (แม่ยกหมูกับนิธินฝากข้างล่างนี่ให้ผู้พันอ๊อฟจ้ะ อิ อิ อิ)
"หากจะรักก็รักไว้แค่ในอก (นะอ๊อฟ)
อย่าคิดยกหยิบเอามาเป็นเจ้าของ
อย่าคิดแย่งของรักใครมาไว้ครอง
ผิดทำนองคลองธรรมนะผู้พัน"
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 09-03-2012 19:34:05
หาหนุ่มมาดามใจล่วงหน้าได้เลย :o10:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 09-03-2012 20:10:18
ผู้พันอ๊อฟได้แต่มองน้ำลายไหล เค้ามีเจ้าของแล้วตัดใจซะเถอะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 10-03-2012 01:13:35
รีบหาคู่ของตัวเองด่วน
อย่ายุ่งกับคู่ของคนอื่นเค้า
งานจะเข้าไม่รู้ตัวแล้วคุณหมู
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 10-03-2012 06:50:14
เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อซะแล้ว.....


 :o
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-03-2012 09:26:00
นายจะหวั่นไหวไปกับหมูก็ไม่แปลกหรอกอ๊อฟ คนเรามันห้ามใจไม่ให้ชอบใครซักคนมันก็ยากอยู่ :เฮ้อ:
แต่อย่าลืมว่าเพื่อนของนายคนนี้เค้ามีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้วก็รักกันมากด้วย :o8:
เพราะฉะนั้นการฉวยโอกาสเป็นมือที่สามตอนนี้ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนะ อยู่ข้างๆกัน คอยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันก็พอแล้วมั้ง
อ้อมซะยืดยาว แค่อยากจะบอกนายว่าอย่าได้คิดอะไรกับหมูนะเฟ้ย หวงแทนนิธินอ่ะเข้าใจป่ะ :laugh:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 11-03-2012 01:47:06
นายเอกของเรา เสน่ห์แรงจริงๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 11-03-2012 18:16:51
หาคู่ให้ผู้พันอ๊อฟโดยด่วน

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 12-03-2012 14:20:04
วันนี้มาแล้วค่ะ คิดถึงคุณผู้อ่านมาก ๆ ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ให้การติดตามอย่างอบอุ่นมาตลอด ขอบคุณมากค่ะ +เป็ด&+โหวต :pig4:


28



   เดือนที่สามของปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าเชื่องช้าในความรู้สึกของอธิปพงศ์และนิธินที่นับวันรอคอยที่จะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน โดยนิธินที่ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นนอกจากงานหนักที่ถาโถมเข้ามาทุกวัน แต่เขาก็ยังคงหมั่นทักทายคนรักผ่านหน้า Facebook อย่างสม่ำเสมอ เขากับคนรักยังมีความรู้สึกดี ๆ ให้กันเหมือนเดิม เพียงแค่ได้เห็นหน้าคนรักและพูดคุยกันสั้น ๆ ก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มชุ่มชื่นขึ้นมามาก ก่อนจะกลับไปสู้งานหนักในบรรยากาศตึงเครียดอย่างเดิม
   ส่วนอธิปพงศ์ก็คอยให้กำลังใจคนรักอยู่ไม่ขาด เขาเข้าใจดีว่าช่วงนี้คนรักทุ่มเทให้กับงานที่ได้รับมอบหมายแค่ไหน ถึงแม้เขาจะว้าเหว่โดยมีความเหงาอยู่เป็นเพื่อน แต่ก็พยายามทำใจและมองทุกอย่างในด้านดีเสมอ ที่สำคัญเขายังมีงานที่รักและเพื่อนร่วมงานและลูกค้าดี ๆ ที่ร้าน รวมถึงเพื่อน ๆ ของนิธินที่ยังติดต่อกับเขาอยู่ไม่ขาด และมีเพื่อนอย่างกรวัฒน์ที่แม้ช่วงนี้จะหายหน้าไปเพราะติดงาน แต่ก็ทำให้อธิปพงศ์รู้สึกดีที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความเหงาอย่างที่เคยกลัว
 
   เลิกงานวันนี้อธิปพงศ์มากินข้าวที่ร้านของเขียว ลูกค้าประจำที่กลายมาเป็นเพื่อนรุ่นน้องคนสนิทของเขา หญิงสาวยังคงดูสดใสร่าเริงเหมือนเดิม ด้วยความที่เขาและเธอสนิทกันอธิปพงศ์จึงสามารถมารับประทานอาหารได้ในเวลาที่ร้านจะปิดแล้วอย่างนี้
 "ช่วงนี้พี่หมูเป็นไงมั่งคะ"
“เรื่อย ๆ หน่ะจ้ะ” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ ถึงแม้ช่วงนี้เขากับนิธินจะไม่ได้ออนไลน์คุยกันเลย แต่การพูดคุยสั้น ๆ ในหน้า Facebook ก็ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าเขายังคงใกล้ชิดกับคนรัก
“อืม ตอนนี้คอนโดของเพื่อนมาร์โค่เค้าขายไปแล้วนะคะ เขียวขอโทษที่ช่วยคุยให้ไม่ได้ เพราะเค้าก็อยากได้เงินเร็ว ๆ หน่ะค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ” อธิปพงศ์ไม่ถือสา “พี่ก็ยังไม่แน่ใจเลยอ่ะ เพราะก็ไม่ได้คุยกับนิธินเลย”
“อ่าวเหรอคะ”
“จ้ะ เค้างานยุ่งหน่ะ ส่วนใหญ่ก็คุยกันสั้น ๆ ในหน้าเฟชบุ๊ค”
“ก็ดีแล้วหล่ะค่ะพี่หมู ยังติดต่อกันบ้าง ดีกว่าหายไปเลย”
“อืม” เขาถามรุ่นน้องต่อ “น้องเขียวเคยห่างกับแฟนนาน ๆ มั๊ย”
อธิปพงศ์พูดออกมาเหงาๆ เพราะไม่สามารถปิดบังความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองได้เมื่ออยู่กับผู้หญิงอย่างเขียว ส่วนหญิงสาวได้ยินอย่างนั้นก็หันมาตอบเพื่อนรุ่นพี่อย่างใจดี
“เคยค่ะ แต่เขียวว่าไม่น่าจะเหมือนพี่หมูกับคุณนิธินหรอก”
“ยังไงอ่ะ”
“ตอนนั้น เขียวเคยสอบปลัดอำเภอได้นะ รู้มั๊ยคะว่าเขียวได้ทำงานที่ไหน...อำเภอศรีสาคร นราธิวาสค่า”
“เหรอ..” อธิปพงศ์ตกใจเล็กน้อยและฟังต่อ
“ค่ะ อันที่จริงเขียวก็ไม่ใช่คนดีนักหรอกนะคะ เพราะก็ไม่ได้คบใครจริงจัง แต่ก็ไม่แคร์นะ มีความสุขก็พอแล้ว พอเขียวได้งานอย่างนั้น พี่หมูเชื่อมั๊ยไอ้ที่เคยคุยด้วยหายไปหมดเลย เหลืออยู่คนเดียวนี่แหล่ะ ก็คือมาร์โค่”
“อืม..”
“มีวันนึง มีชาวบ้านมาหาเขียวและบอกว่า มีฝรั่งพูดไทยไม่ค่อยรู้เรื่องอยู่ที่ในตลาด เหมือนจะมาหาคนชื่อเขียว เขียวเลยรีบขับมอเตอร์ไชค์มาดู ก็เลยเห็นมาร์โค่ยืนอยู่หน้าร้านน้ำชา”
“โห...” อธิปพงศ์ตกใจกับเรื่องราวของรุ่นน้อง “แล้วไงต่อ”
“เขียวก็วิ่งเข้าไปหาเลยสิคะ ตกใจมากว่าเค้ามาได้ยังไง   อีกอย่างตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลยด้วยซ้ำ เค้าบอกว่า เค้าเป็นห่วงเขียวมากๆ” หญิงสาวอมยิ้มน้อย ๆ
“ตอนนั้นเขียวน้ำตาซึมเลยนะคะ ทั้ง ๆ ที่เค้าไม่เคยไปไหนนอกจากในกรุงเทพฯแต่อุตส่าห์ดั้นด้นมาหาเพราะอยากมาดูว่าเขียวเป็นยังไง ทั้งที่ความจริงเค้าหน่ะน่าเป็นห่วงกว่าเขียวตั้งเยอะ”
“ก็จริงนะ..”
“เค้าเล่นไม่กลัวระเบิดอย่างนี้ ก็ได้ใจเขียวไปเลยค่ะ เราก็ลองคบกันดูหลังจากนั้น โดยที่เค้าอยู่กรุงเทพฯแต่เขียวยังอยู่ที่นราฯ อยู่อย่างนั้นสักปีหน่ะค่ะ จนช่วงนั้นเค้าเห็นว่ามีระเบิดบ่อย เค้าเลยขอให้เขียวลาออก มาแต่งงานกับเค้าดีกว่า”
“อืม...”
“ช่วงที่ห่างกันก็คิดถึงนะคะ แต่ก็ไม่มากเท่าไหร่ อาจจะเพราะเขียวเพิ่งจะจริงจังกับเค้ามั๊งพี่ แต่ก็กลัวนะ กลัวว่าเค้าจะเจอคนใหม่และก็เลิกกับเรา มันเป็นความกลัวมากกว่าความคิดถึงหน่ะพี่ บางทีเค้าก็ไม่รับโทรศัพท์ไม่ตอบอีเมลล์ ไม่ได้ติดต่อกันจนเขียวคิดว่าเค้าจะเลิกกับเราไปแล้ว แต่มารู้ตอนหลังว่าเค้าทำงานเก็บเงินจนไม่มีเวลาคุยกับเราต่างหาก ฮ่ะๆ”
“อย่างนี้นี่เอง...” อธิปพงศ์ยิ้มรับ
“ช่วงที่อยู่ห่างกันสำหรับเขียวมันเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนะคะ ว่าตกลงเรารักกันจริง ๆเหรอ ตอนนั้นมันยังไม่ชัวร์ว่าเราคบกันจริงจังหรือเปล่าด้วยไง มันอาจจะไม่ได้คิดถึงช่วงเวลาดี ๆ ที่มีด้วยกัน แต่มันเป็นการคบกันผ่านทางไกลที่เขียวก็ดันมาจริงจังซะด้วย แต่ก็โชคดีค่ะ ที่เวลาหนึ่งปีกับระยะทางมันทำให้เรารู้ว่าจริง ๆแล้วเรารักกัน”
“จ้ะ” เขารับคำรุ่นน้องยิ้ม ๆ เพราะรู้สึกดีที่ได้พูดคุยกับหญิงสาว
  ในตอนนี้ชายหนุ่มพอจะเข้าใจแล้วว่า ทำไมเกย์ถึงต้องมี “เพื่อนสาว” สักคนไว้เคียงข้าง คอยปรับทุกข์ พูดคุย แลกเปลี่ยนทัศนคติในหลายเรื่องที่เพื่อนผู้ชายด้วยกันไม่มีทางอ่อนไหวพอที่จะเข้าใจและยอมรับความเป็นจริงของมนุษย์ที่มีมุมโศกเศร้าและอ่อนแอ ในเมื่อความรักเปลี่ยนเขาให้เป็นคนที่มีความรู้สึกซับซ้อนและอ่อนไหวมากขึ้น การได้พูดคุยและปรับทุกข์กับผู้หญิงอย่างเขียวก็ทำให้เขามีสติและมีความสบายใจกลับมาทุกครั้ง
ความรักครั้งนี้ของเขาก็คงคล้ายกับเขียวที่เป็นการคบกันจริงจังผ่านทางไกล เมื่อได้ฟังประสบการณ์ของรุ่นน้องแล้ว ก็ทำให้ใจชื้นขึ้นมามากกับเรื่องราวความรักของตัวเอง


  กรวัฒน์ในชุดครึ่งเครื่องแบบกลับถึงคอนโดมิเนียมแถวลาดพร้าวของตัวเองในยามดึก ในมือเขาถือลังกระดาษขนาดกลางมาด้วย ชายหนุ่มเปิดประตูห้องและนั่งลงกับโซฟารับแขก ก่อนจะหยิบอัลบั้มรูปถ่ายในลังกระดาษที่วางอยู่ขึ้นมา
 เขายิ้มให้กับอัลบั้มรูปถ่ายด้วยฟิล์มพวกนี้ที่เพิ่งแวะไปเอามาจากบ้านที่ลพบุรี เมื่อเขาเปิดดูก็พบรูปถ่ายของตัวเองและอธิปพงศ์ในวัยอนุบาลจึงยิ้มขำออกมาเบา ๆ ที่ตัวเองกับเพื่อนกำลังแก้ผ้าเล่นน้ำในสระเป่าลมด้วยกัน ต่อมาเป็นรูปที่โรงเรียนอนุบาลและเป็นรูปตอนไปเที่ยวงานวันเด็ก เขานึกขำที่ตัวเองกับเพื่อนเคยไปเล่นซนในที่ต่าง ๆ มาด้วยกัน และอัลบั้มต่อมาก็เป็นรูปในตอนประถม ทำให้เขานึกถึงสมัยเด็กที่ชอบไปเตะบอลและขี่จักรยานรอบค่ายที่เขาอาศัยอยู่ ไม่ก็ไปเล่นในสวนของแม่อีกฝ่ายในวันหยุด จนมาถึงตอนมัธยมต้นที่ทั้งสองยังคงสนิทสนมกันเหมือนเดิม แต่พอขึ้นมัธยมปลายเขากับอธิปพงศ์ก็เริ่มห่างกันมากขึ้น จนเมื่อเข้าสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ตอนม.5 เขาก็ไม่ได้เจอกับอธิปพงศ์จนเพิ่งมาเจอในงานฤดูหนาวลพบุรีเมื่อปลายปีที่แล้ว
   เขาถอนหายใจและพิงกายกับโซฟานุ่ม ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เขามองเพื่อนในสายตาที่เปลี่ยนไป
กรวัฒน์ยิ้มเมื่อนึกถึงความสุขตอนที่ได้อยู่กับอธิปพงศ์ ถึงแม้อีกฝ่ายจะวางตัวปกติแต่เขาก็รู้สึกว่าเพื่อนมีเสน่ห์มากกว่าแต่ก่อน นึกแล้วชายหนุ่มก็ตลกตัวเอง ที่ตอนนี้กำลังหลงรักเพื่อนของตัวเองเข้าให้แล้ว และเป็นความรักที่ช้าไปมากเสียด้วย เพราะอีกฝ่ายก็มีความรักกับคนรักที่จริงจังมั่นคง เห็นทีว่าเขาคงต้องรีบตัดใจก่อนที่จะเสียความเป็นเพื่อน และเสียใจไปมากกว่านี้

  “เฮ้ออ..เสร็จซะที” นิธินเดินตัวปลิวออกมาจากห้องประชุมพร้อมทีมโปรแกรมเมอรเขาดีใจและโล่งใจเพราะงานหนักที่เขาและเพื่อนร่วมงานทุกคนทุ่มเทมานั้นผ่านการเห็นชอบจากผู้บริหาร ทำให้เขารู้สึกหายเหนื่อยขึ้นมาเป็นปลิดทิ้ง และก็อุ่นใจขึ้นเล็กน้อยว่าโอกาสที่จะกลับไปรับตำแหน่งใหม่ที่กรุงเทพฯนั้น พอปรากฏเค้าลางแห่งความเป็นไปได้มาบ้างแล้ว
“นิธินๆๆ” เพื่อนร่วมงานผู้ชายคนหนึ่งวิ่งมาเรียก
“วันนี้ไปฉลองกัน”
“ที่ไหนเหรอ”
“ไปแถวอาบูฮาลีไง เนี่ยพวกเราไปกันหมดเลย นายไปด้วยกันสิ”
“ได้ครับ ขอบคุณมากนะ” นิธินรับคำอย่างง่ายดาย ถึงแม้จะอยากกลับห้องไปนอนพักผ่อนและตื่นมาคุยกับคนรักยามดึก แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะถือเป็นการเสียมารยาทกับเพื่อนร่วมงาน
“ดีๆๆ งั้นเดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันและไปต่อเลยนะ” คนชวนตอบรับก่อนจะลากชายหนุ่มไปรวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมงานที่เหลือ นิธินยิ้มให้ทุกคนอย่างเป็นมิตร ถึงแม้จะยังไม่สนิทกันเหมือนเพื่อนร่วมงานที่กรุงเทพฯ แต่ทุกคนก็ดูเป็นมิตรกับเขาตามประสาชาวอินเดียด้วยกัน
  เขาและเพื่อนร่วมงานมากินดื่มให้กับความเหน็ดเหนื่อยที่ผับอินเดียในโรงแรมแถวถนนอาบูฮาลี เพราะที่ดูไบนี้ไม่สามารถซื้อหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้เสรีมีเพียงเฉพาะในที่มิดชิดอย่างโรงแรมและผับเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต ทุกคนชนแก้วฉลองให้กับความสำเร็จและเต้นรำกันอย่างสุดเหวี่ยง ยกเว้นนิธินที่แค่ดื่มพอเป็นพิธี เมื่อเห็นว่าหลายคนเริ่มเมาแล้ว เขาจึงค่อยปลีกตัวออกมาจากผับเพื่อจะกลับไปพักผ่อน นิธินทั้งง่วงทั้งอ่อนเพลียกับการใช้ร่างกายอย่างหนักมาหลายวันติดกัน เขารู้สึกขอบคุณเจ้านายที่เห็นว่างานของพวกเขาเข้าตา และขอบคุณที่พรุ่งนี้เป็นวันศุกร์*เขาจะได้หยุดเพื่อนอนให้เต็มอิ่มชดเชยเวลาที่ผ่านมา เขามองบรรยากาศของดูไบยามราตรี ที่ท้องฟ้ามืดมืดถูกแต่งแต้มด้วยแสงไฟถนนสีนวลตา และไฟจากอาคารรูปทรงทันสมัยที่แข่งกันเปล่งแสงล้อดาวบนท้องฟ้า คืนนี้อากาศกำลังดี ไม่ได้หนาวแห้งๆ เหมือนทุกคืนที่ผ่านมา นิธินมองไปรอบตัวและคิดถึงคนที่เขารัก อยากให้อธิปพงศ์มาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ด้วยกัน เดินจับมือกันดูแสงสีและนั่งแอบอิงกันริมน้ำเหมือนคู่รักรอบๆ แต่พอนึกถึงความเป็นจริงแล้วก็ยิ้มขำกับความคิด เพราะที่นี่ไม่ได้ยอมรับเกย์เหมือนเมืองไทย แม้จะมีเกย์อยู่ไม่น้อยก็ตาม นิธินกำลังคิดต่อว่า นี่กำลังเข้าสู่เดือนที่สี่ของการห่างไกลแล้ว ชายหนุ่มถอนหายใจออกมากับเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
"เหลืออีกสามเดือนสินะกับการทำงานที่นี่"
นิธินคิดอย่างนั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศตัวเมืองในมุมโรแมนติก และก็อัพโหลดในเฟชบุ๊คของตัวเอง โดยไม่ลืมแท็กคนรักและพิมใต้รูปว่า
"Beautiful Dubai night, but it would be better if you stay with me"

 อธิปพงศ์กลับมาที่ห้องและอาบน้ำ ต่อด้วยบำรุงผิวและกินวิตามินก่อนนอนตามปกติ พร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อออนไลน์พูดคุยกับคนรัก เมื่อเปิดดูวอลล์ของตัวเองเขาก็ยิ้มออกเมื่อเห็นว่าคนรักมาโพสไว้

“ดีใจจังโปรเจ็กต์นี้ผ่านแล้ว แต่ต้องไปฉลองกับเพื่อน ๆ เสียดายที่ไม่ได้มาคุยกับคุณ.. คิดถึงนะครับ พรุ่งนี้เจอกันในSkype นะ ^ - ^ ”

อธิปพงศ์ยิ้มกว้างดีใจที่เห็นอย่างนั้น แต่ก็ดีใจยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นรูปที่คนรักเพิ่งจะแบ่งบันในหน้าวอลล์ให้ เมื่ออธิปพงศ์อ่านคำบรรยายใต้รูปภาพก็สามารถรับรู้ความรู้สึกที่คนรักส่งมาให้ได้ทันที เขากดไลค์ให้รูปนั้น ก่อนจะหยิบโทรศัพท์มาเปิด Whatsapp แล้วพิมไปว่า
“ที่รัก ทำอะไรอยู่”
นิธินยิ้มดีใจที่ได้รับการทักทายจากคนรัก เพราะนี่เป็นครั้งแรกในรอบสัปดาห์กว่าที่จะได้คุยตอบโต้กันสดๆ อย่างนี้
"กำลังกลับห้องหน่ะ"
"อ่าวเหรอ ตอนนี้ที่ดูไบกี่ทุ่มหน่ะ สี่ทุ่มครึ่งเองไม่ใช่เหรอ"
"ครับ แต่ผมเพลียๆ หน่ะเลยขอกลับมาก่อน"
"อ่าวเหรอ เป็นไง ปาร์ตี้สนุกมั๊ย"
"ก็ดีครับ" และนิธินก็พิมต่อมาว่า "ที่นี่ตอนกลางคืนสวยมากนะ อยากให้คุณมาอยู่ด้วยจังเลย"
"อืม สวยดีผมเห็นแล้ว...ผมก็อยากไปเดินกับคุณเหมือนกัน"
นิธินเลยลองชวนคนรักดู
"มามั๊ยล่ะ"
"พูดเป็นเล่นน่า "
"ถ้าคุณมา ผมออกค่าตั๋วให้เอามั๊ย"
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็รีบค้าน
 "ไม่ได้นะครับ ตั๋วไปที่นู่นแพงจะตาย เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า"
นิธินอมยิ้มเมื่อได้ยินอย่างนั้น "หมายถึงเอาไปใช้เรื่องบ้านใช่มั๊ย"
"อื้ม ก็ทำนองนั้น"
นิธินยิ้มกว้างดีใจเมื่อรู้ว่าคนรักเห็นความสำคัญของสิ่งเดียวกัน โดยที่พยายามเก็บหอมรอบริบสำหรับที่อยู่ถาวรอันเป็นที่พำนักในอนาคตของพวกเขา
"เอ้อ..ผมว่าคุณกลับหอแล้วค่อยออนสไกป์ดีกว่า เดี๋ยวผมรอนะ"
"ครับ ได้เลย แล้วเจอกันนะ"
คนทั้งสองยิ้มให้มือถืออย่างมีความสุข  อธิปพงศ์รู้สึกดีใจที่การรอคอยผ่านพ้นไปครึ่งทางแล้ว เขากับคนรักก็ยังมีใจตรงกันเหมือนเดิม ทว่ารู้สึกผูกพันและแนบแน่นยิ่งกว่าเก่าด้วยซ้ำ เขาเปิดรูปคนรักในมือถือแล้วอมยิ้ม ถึงแม้จะแอบค่อนขอดตัวเองเล็กน้อยว่าสุดท้ายแล้วเขาก็มาตกลงปลงใจกับผู้ชายด้วยกันตอนสามสิบ แต่เขาก็มีความสุขและโชคดีที่ได้พบเจอกับความรักอันแสนจะอบอุ่นอย่างนี้

  และอธิปพงศ์กับนิธินก็ได้รับข่าวดีเรื่องที่อยู่ใหม่ เพราะว่ามีคอนโดมิเนียมใหม่ย่านเอกมัยแห่งหนึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้ทุกอย่าง ชายหนุ่มจึงไปขอดูห้องตัวอย่างและคิดว่าที่นี่ลงตัวที่สุดแล้วเท่าที่เคยดูมาทั้งที่ตั้ง,สิ่งอำนวยความสะดวกและราคา จึงนำไปปรึกษากับคนรัก เมื่อนิธินเห็นดีด้วยทุกอย่างแล้วอธิปพงศ์จึงไปจับจองตามกำหนด และโชคดีที่ว่าเขาผ่านคุณสมบัติทางการเงินที่กำหนดไว้และสามารถจับจองได้ทันท่วงที เมื่อตกลงสัญญาและวางเงินดาวน์เรียบร้อยแล้วก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที อธิปพงศ์จึงไม่ลังเลที่จะย้ายเข้ามาอยู่เพื่อรอคนรักที่จะกลับมาในไม่ช้านี้ และวันนี้หลังเลิกงานอธิปพงศ์ก็กำลังขนย้ายสิ่งของไปที่อยู่ใหม่โดยมีกรวัฒน์อาสามาช่วย
 “มึงไม่ลืมอะไรแน่นะ” กรวัฒน์หันมาถามอธิปพงศ์ก่อนจะปิดท้ายรถฟอร์จูนเนอร์คันโตของเขา
“ไม่ลืม กูเช็กเรียบร้อยแล้ว”
“เออ งั้นก็ไป”
  ชายหนุ่มทั้งสองขึ้นรถโดยมีกรวัฒน์เป็นคนขับ นายทหารหนุ่มจะหันมาคุยกับเพื่อน แต่พอเห็นอธิปพงศ์กำลังคุย Whatsapp กับคนรักเลยต้องชะงักและเงียบไป
“เป็นไรวะเงียบเชียว” อธิปพงศ์ถามเพื่อน แต่ก็กำลังคุยกับนิธินอยู่เช่นกัน
“อ่าว ก็เห็นมึงกำลังคุยกับแฟน จะให้กูคุยอะไรล่ะ”
“หึหึหึ ไม่รู้ เห็นปกติมึงต้องโม้ตลอด”
“แหม่ ๆ กูก็มีกาลเทศะนะโว้ย”
“เออ ๆ ครับ ผู้พัน”
อธิปพงศ์ตอบรับโดยไม่ได้หันมามอง จึงไม่ได้เห็นสายตาของเพื่อนที่มองเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่เหมือนแต่ก่อน แม้จะยังพูดจาเล่นหัวกันอยู่ แต่ในใจของชายหนุ่มนั้นก็ทั้งสุขและเศร้าไปพร้อม ๆ กัน กรวัฒน์รู้ดีว่าเขากำลังทำอะไร เขาไม่ได้คิดจะเปลี่ยนอธิปพงศ์ให้เป็นของเขา แต่ขอแค่ได้ช่วยเหลือและคบหากันแบบเพื่อน ก็ทำให้เขามีความสุขมากพอแล้ว
 
  อธิปพงศ์กับกรวัฒน์ถึงที่อยู่ใหม่ในไม่ช้า พวกเขาช่วยกันขนย้ายสิ่งของที่มีแค่เสื้อผ้า เครื่องนอน กับของใช้อีกเล็กน้อยมาไว้ที่ห้องใหม่ของอธิปพงศ์ กรวัฒน์ขอเดินดูทั้งห้องและมานั่งคุยกับเพื่อนที่โซฟารับแขก
“โห ห้องมึงสวยว่ะ” เขาพูดได้แค่นั้นเพราะกลืนคำว่า “วันหลังกูมาได้มั๊ย” ลงคอไปแล้ว
“อืม ใช่ นิธินก็ชอบ” อธิปพงศ์พูดยิ้ม ๆ โดยไม่ทันได้เห็นสายตาเจ็บปวดของกรวัฒน์ที่แอบซ่อนอยู่ในรอยยิ้มร่าเริง
“กูว่าดีแล้วหล่ะ ใกล้ ๆ บีทีเอส ใกล้โรงหนัง แถมไม่ไกลจากแอร์พอร์ตลิงค์อย่างนี้ เฮ้ออ คอนโดที่กูอยู่นี่กลายเป็นบ้านนอกไปเลย ฮ่ะๆๆ”
“วันหลังมึงมานอนเล่นห้องกูก็ได้” อธิปพงศ์บอกกับเพื่อน แต่กรวัฒน์ใจเต้นแรงที่ได้ยินคำพูดนั้น แต่ก็ยังฝืนยียวนตามประสา
“ไว้กูมาเมาแถวนี้นะ”
“เออ ฮ่ะๆๆ” อธิปพงศ์ยิ้มขำกับเพื่อน กรวัฒน์หัวเราะสบทบเหมือนไม่มีอะไร แต่ในใจของเขากลับระคนไปด้วยความรู้สึกเจ็บปวดยิ่งนักที่ต้องฝืนทำแบบนี้ เขาเตือนตัวเองเสมอ ไม่ว่าอย่างไรอธิปพงศ์จะต้องเป็นของนิธินคนเดียวเท่านั้น เขาไม่สามารถเข้าไปยุ่งกับความรักของเพื่อนได้ ในเมื่อเขาเป็นคนเริ่มเขาก็จะหาทางจบความรู้สึกนี้ที่ก่อตัวในใจของเขาด้วยตัวเขาเอง



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ


ปล.*วันหยุดสุดสัปดาห์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรส คือวันศุกร์(เพื่อให้ประชาชนไปละหมาดยุมอะฮฺตามหลักศาสนาอิสลาม) และวันเสาร์ค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 12-03-2012 14:22:13
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องไม่ดีนะคะคุณน้ำพริกแมงดาที่รัก :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 12-03-2012 14:37:39
แอบรักแอบชอบไม่ว่า แต่อย่าแสดงออกมานะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 12-03-2012 15:01:22
 :L2:
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 12-03-2012 15:55:19
+1

สงสารแต่ไม่เห็นใจหรอก ห้ามมาแย่งพี่หมูนะ  :z1:
อยากให้ครบ 6 เดือนเร็วๆจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 12-03-2012 16:01:42
ถ้ารู้จักคิดได้ก็ดีนะผู้พัน
แล้วก็ทำให้ได้อย่างที่พูดด้วย
 o12
พี่หมูจะได้สบายใจไม่ต้องเสียใจอีก
เราเป็น FC พี่หมู
อย่าคิดจะทำให้พี่หมูเสียใจเชียว ไม่งั้นล่ะก็ หึหึ
 :z4:
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดาค่ะ
 :pig4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 12-03-2012 18:04:23
ตอนนี้สงสารผู้พันหาคู่ให้ผู้หน่อยสิ
จิ้นนิธินไม่ออกเลยลองหาหนุ่มอินเดียดูในกูเกิลปรากฎว่าไม่รู้จะเลือกใครหล่อ ๆทั้งนั้นเลย o18
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 12-03-2012 18:21:29
นิธิน รีบกลับมาอยู่บ้านใหม่เร็วๆ นะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 12-03-2012 19:50:29
ตัดใจเหอะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 12-03-2012 20:26:54
ดีใจไปกับหมูและนิธิน มีห้องหอกันแล้ว เหลือเวลาอีกสองเดือนเศษๆเอง
แต่สงสารผู้พันจังเลยเนอะ
"แอบรักพร่ำเพ้อรักเธอข้างเดียว เปล่าเปลี่ยวใจเอ๋ย
อกหมองจริงเอ่ย สุดเผยคำ เฝ้าแต่คนึง ติดตรึงใจจำ
ด้วยความชอกช้ำ เป็นเงาตามตัว ..."
น้ำพริกจ๋าหาคนปลอบใจผู้พันเร้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 12-03-2012 21:38:16
โศกนาฏกรรมของคนหลงรักเพื่อนอีกละ  :a5:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 12-03-2012 22:26:27
เป็นนิยายที่อบอุ่นมาก...อ่านไปแล้วมีความสุข
ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คนเขียนเข้าใจคนอ่านคนนี้ดี
ว่าชอบนิยายเรื่องนี้ม๊ากมาก >"<
อิอิ

 :L1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 12-03-2012 22:57:34
แล้วจะผ่านมันไปได้เองนะผู้พัน :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-03-2012 00:46:37
แอบสงสารผู้พัน 3 พีเลยดีมั้ยคะ 5555555


พุดถึง ละหมาด วันนี้พึ่งได้รับพรมที่มีเข็มทิศสำหรับนั่งละหมาดมาจากหนุ่มแอลจีเรียด้วยค่ะ อิอิ แอบดีใจ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:09/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 13-03-2012 01:15:13
ผ่านมาครึ่งทางแล้ว เป็นกำลังใจให้คุณนิธินกับคุณหมูต่อไปนะคะ อีกนิดเดียวจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว
ทั้งๆที่คุณหมูเพิ่งคบกับผู้ชายครั้งแรกนะเนี่ย ยังจัดการทุกอย่างได้ลงตัว ทั้งการใช้ชีวิตและความรู้สึก  o13
รู้สึกเป็นปลื้มกับความรักของนิธินกับหมูมากๆ  คนที่ใช่ ในเวลาที่เหมาะนี่ ทำให้ความรักหอมหวานดีจริงๆ

ปล. แอบสงสารผู้พันด้วยง่าาาา อยากให้หาคู่ให้ผู้พันจัง จะได้ Happyกันทุกคน :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-03-2012 12:42:37
น่าเห็นใจผู้พันจัง
รีบหาคนมาด้ามใจ
ให้ด่วน :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 13-03-2012 16:07:35
แง ผู้พัน คะ มาทางนี้ดีกว่าค่ะ

เดี๋ยวหนูช่วยดูเเลหัวใจเอง แอร๊ยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 13-03-2012 16:47:01
มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะทุกคนน

29

  หลังจากงานใหญ่ผ่านพ้นไป นิธินก็ได้รับข่าวดีเนื่องจากผลงานที่ผ่านมาของเขาเข้าตา เขาจึงได้รับมอบหมายจากเจ้านายให้เป็นหัวหน้าทีมในชิ้นงานที่จะถึงนี้  ซึ่งก็คือบททดสอบสุดท้ายสำหรับการทำงานในสำนักงานที่ดูไบ ถ้าหากงานนี้ผ่าน เขาก็จะได้ไปรับตำแหน่งใหม่ที่สำนักงานในเมืองไทยในเดือนกรกฎาคม แต่ถ้าไม่ผ่าน เขาจะต้องทำงานต่อที่นี่หรือไม่ก็ถูกย้ายไปทำงานที่สำนักงานอื่นตามที่เจ้านายเห็นสมควร นิธินจึงทุ่มเทกายและใจให้กับงานนี้ที่สุดเพราะนี่คือการชี้ขาดอนาคตด้วยความทุ่มเทของเขาเอง
  “ที่รักครับ ช่วงนี้ผมอาจจะไม่ได้มาคุยกับคุณแบบนี้อีกนะ” นิธินบอกกับอธิปพงศ์ขณะพูดคุยกันผ่านโปรแกรมสไกป์
“อืม ครับ ผมเข้าใจ” อธิปพงศ์ตอบรับด้วยรอยยิ้ม เพราะสามเดือนที่ผ่านมาเขาก็เคยชินกับการอยู่ไกลกันแล้ว และก็มั่นใจว่าจะทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยดี อธิปพงศ์ยังให้กำลังใจคนรักอีกว่า
“ผมเชื่อว่าคุณทำได้นะครับ”
“ครับ ขอบคุณนะครับ”
“ครับ”
อธิปพงศ์ส่งยิ้มให้กำลังใจคนรัก นิธินจึงบอกความในใจของเขาให้อีกฝ่ายรับรู้
“ผมอยากกลับไปอยู่กับคุณเร็ว ๆจัง..”
“อื้มม ผมก็อยากให้คุณกลับมาเร็ว ๆ เหมือนกัน” อธิปพงศ์ยิ้ม ๆ เพราะคิดถึงอ้อมกอดอบอุ่นของคนรักเหลือเกิน
“ผมจะตั้งใจทำงานนะครับ”
“ครับ สู้ ๆ นะครับ”
นิธินยิ้มตอบรับกำลังใจที่อธิปพงศ์ส่งมาให้ พวกเขาคุยกันต่ออีกสักพักและพ่ายแพ้แก่ความง่วงนอนในเวลาต่อมา นิธินปิดคอมพิวเตอร์และล้มตัวลงนอน ชายหนุ่มดีใจที่คนรักยังคงเป็นห่วงเป็นใยและยังอดทนไม่หวั่นไหวกับความห่างไกลเช่นเดียวกับเขา แม้เขาไม่รู้ว่าอธิปพงศ์มีใครเข้ามาบ้างหรือเปล่า แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่อธิปพงศ์ยังรักและหวังจะสร้างอนาคตร่วมกันกับเขา ได้เห็นแค่นี้เขาก็รู้สึกอบอุ่นใจและเป็นกำลังใจให้เขากลับไปทำงานหนักได้เป็นอย่างดี

  เขียวที่รู้ว่าเพื่อนรุ่นพี่ย้ายเข้าที่อยู่ใหม่ซึ่งก็ไม่ไกลกับครอบครัวของเธอแล้วก็แวะมาเยี่ยมพร้อมกับสามีและลูกชายวัยขวบกว่าที่กำลังน่ารักน่าชัง อธิปพงศ์พาทุกคนมานั่งที่โซฟารับแขกและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม เขาได้เล่นกับลูกชายของเพื่อนรุ่นน้องแล้วก็รู้สึกเอ็นดูเป็นพิเศษแต่สักพักเด็กน้อยหลับปุ๋ยบนไหล่คนเป็นแม่อย่างเหนื่อยอ่อน คนเป็นพ่อเลยขอเป็นฝ่ายรับไปอุ้มไว้แทน หญิงสาวหยิบไอศกรีมที่เธอใส่กระติกเก็บความเย็นมาฝากชายหนุ่มขึ้นมา
"พี่หมูคะ เคยกินนี่รึเปล่า"
"อะไรอ่ะ"
"นี่ค่ะ...มันคือไอติมนมรสอัลมอนด์ของอินเดีย* ไม่รู้เรียกว่าอะไร แต่มันก็แปลกๆดีชิมมั๊ยคะ"
เขียวยื่นแท่งไอติมทรงกรวยสีนวลที่อยู่ในห่อพาสติกใสให้ชายหนุ่ม
"ขอบใจจ้ะ" เขารับมาแกะ ก็พบไอศครีมแท่งที่เป็นเนื้อนมผสมถั่วอัลมอนด์อย่างที่หญิงสาวบอก เมื่อลองชิมดูก็พบว่ารสชาติหอมมันถูกปากพอสมควร
"ว่าไงคะ"
"อืม ก็อร่อยดีนะ น้องเขียวไปซื้อที่ไหนมาอ่ะ"
"ร้านอินเดีย ที่พาหุรัดค่ะ"
อธิปพงศ์ยิ้มๆ
"พี่ไม่ได้พาหุรัดนานเหมือนกันแล้วนะเนี่ย "
"คิดถึงพาหุรัดหรือคิดถึงคุณนิธินกันแน่คะ"
อธิปพงศ์ยิ้มเขินเมื่อได้ยินอย่างนั้น แถมเขียวยังบอกกับชายหนุ่มอีกว่า
"พี่หมู พี่หมูรู้มั๊ยว่าอัลมอลต์มีคุณสมบัติช่วยในเรื่องเซ็กส์ด้วยนะคะ เขียวเคยอ่านเจอ ว่าในอินเดียบางรัฐเค้าให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวกินนมกับอัลมอลต์ก่อนเข้าหอ เลย"
"เหรอ..." อธิปพงศ์มองดูไอศครีมที่กินอยู่ทึ่งๆ ก่อนจะบอกพร้อมรอยยิ้มว่า
"งั้นถ้านิธินกลับมา พี่คงต้องไปซื้อติดตู้เย็นไว้แล้วแหล่ะ"
"ฮ่ะๆๆๆ" เพื่อนรุ่นน้องหัวเราะชอบใจ และดีใจที่เห็นยิ้มสดใสและลักยิ้มบนใบหน้าอธิปพงศ์ เธอถามเพื่อนรุ่นพี่ต่อว่า
"สงกรานต์นี้พี่หมูกลับบ้านรึเปล่าคะ"
"กลับจ้ะ น้องเขียวล่ะ"
"ไม่ได้กลับค่ะ แต่ไปเชงเม้งมาแล้ว ก็คือว่ากลับไปเยี่ยมบ้านมาเหมือนกัน ก็คล้าย ๆ วันสงกรานต์ของคนไทยนะ ได้ไปไหว้ ๆ ญาติที่เสียแล้วและก็เจอญาติ ๆ ทั้งตระกูล แต่มาร์โค่เค้าวางแพลนว่าจะกลับบ้านเค้าที่อิตาลีหน่ะค่ะ ก็เลยต้องไปกันหมดนี่เลย"
"อืม ก็ดีนะ"
“แล้วพี่หมูล่ะค่ะ เหลืออีกกี่เดือนกว่าคุณนิธินจะกลับมา”
“ก็ สองเดือนกว่าหน่ะ” อธิปพงศ์ยิ้ม ๆ นึกถึงว่าอีกไม่นานก็จะได้พบกันแล้ว เขาผ่านสามเดือนแห่งความคิดถึงไปได้ด้วยดีแล้ว เหลือเพียงอีกสองเดือนกว่าแค่นั้นเขาก็จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอย่างที่ตั้งใจ

  ด้านนิธินที่กำลังคร่ำเคร่งกับการแก้ไขและพัฒนาซอฟแวร์อยู่หน้าจอพร้อมกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ที่ยังไม่มีใครลุกออกไปจากห้องแม้จะเป็นเวลาสามทุ่มกว่าแล้วก็ตาม เขาและทีมงานได้รับโจทย์ให้แก้ไขและปรับปรุงระบบปฎิบัติการพร้อมตัวโปรแกรมให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าและใช้งานได้ดียิ่งขึ้น และงานชิ้นนี้เขาก็ตั้งใจทำเต็มที่เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเขาดีพอที่จะไปรับตำแหน่งใหม่ที่เมืองไทยได้ เขาจึงทุ่มเทกายใจกับงานนี้อย่างไม่ย่อท้อ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด แต่พอมองเห็นแหวนที่สวมอยู่บนมือซ้าย ก็ทำให้เขามีกำลังใจขึ้นมาทุกครั้ง
  นิธินเข้าใจและตระหนักดีว่าชีวิตโปรแกรมเมอร์อย่างเขานี้เป็นชีวิตที่ค่อนข้างน่าเบื่อสำหรับหลายคนที่เคยเข้ามาเป็นคนรัก เพราะงานที่ทำ เขาจึงไม่มีเวลาให้อย่างที่หลายคนต้องการ แต่นิธินเป็นคนที่จริงจังกับเรื่องความรักและความสัมพันธ์เป็นอย่างมาก ที่เขามีให้ก็คงจะเป็นความรักและการดูแลเอาใจใส่เพียงเท่านั้น เขาไม่แปลกใจที่อดีตคนรักทั้งหลายเลือกที่จะไปจากเขาเพราะอะไร แต่เมื่อเขาเดินทางมาสู่วัยแห่งการใช้ชีวิตอย่างจริงจังแล้ว เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่เจอคนที่มีเป้าหมายเดียวกันอย่างอธิปพงศ์ ที่รักและเข้าอกเข้าใจเขาเป็นอย่างดี
  และนิธินกลับถึงห้องพักในเวลาห้าทุ่ม เขาอาบน้ำและทิ้งตัวลงนอน ก่อนจะเปิดดู Facebook ของตัวเองในโทรศัพท์มือถือ ก็พบข้อความให้กำลังใจจากคนรักที่ส่งมาทุกวัน
“เป็นกำลังใจให้เสมอ สู้ ๆ นะครับ”
 เขายิ้มดีใจและกดไลค์กับข้อความนั้น พร้อมกับพิมตอบไปว่า
“กลับมาถึงห้องแล้ว วันนี้เหนื่อยจริง ๆ ขอบคุณมาก ๆ นะครับ ฝันดีครับ”
ชายหนุ่มเปิดดูรูปคนรักในโทรศัพท์แล้วก็หอมรูปนั้นเบา ๆ ก่อนจะหลับตาลงด้วยความอ่อนใจ สำหรับนิธินแล้ว ถึงแม้จะเหนื่อยยากสักแค่ไหน ขอเพียงมีคนรักที่ให้กำลังใจและมีใจที่ตรงกัน เขาก็พร้อมจะต่อสู้และทำทุกอย่างให้ชีวิตคู่ของเขานี้มีความสุขให้ได้
 
   เมื่ออธิปพงศ์มีที่อยู่ใหม่อย่างเป็นทางการแล้ว เขาจึงชวนเพื่อนร่วมงานทุกคนมาเยี่ยมชมห้องเพื่อพูดคุยและพักผ่อนกัน ตลอดเวลาพี่กุ้งยิ้มยินดีที่เห็นชีวิตของน้องชายคนนี้ก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมไปอีกขั้น แม้จะยังไม่ได้อยู่ด้วยกันกับคนรัก แต่เขาก็มั่นใจว่าชีวิตคู่ของคนทั้งสองจะยืนยาวและมั่นคงอย่างแน่นอน
"ว้ายยย ห้องพี่หมูน่าอยู่อ่า" ป๊อกกี้ที่ดูตื่นเต้นกว่าใครเพื่อน เข้ามารายงานเจ้าบ้านเมื่อเดินดูจนหมดแล้ว
"ว่างๆ หนูขอมาอยู่ด้วยได้มั๊ย"
"นังป๊อก แกจะนอนในห้องน้ำรึไง ไม่เห็นเหรอว่านี่มีแค่ห้องนอนเดียว"
"แหมคุณแม่ก็..." ป๊อกกี้นึกอะไรขึ้นได้จึงบอกว่า
"ทุกคนคะ หนูว่าเราไปดูหนังกันดีกว่า"
"ดูหนัง..เรื่องไรอ่ะพี่ป๊อก"หญิงหันมาถาม
"แม่นาคสามมิติค่ะ น่าดูออก เก๋ๆ ดูแม่นาครอบดึกอย่างนี้"
พี่กุ้งเห็นด้วยกับไอเดียนี้
"อืม ก็ดีนะพวกเราไม่ได้ไปดูหนังกันมานานแล้ว..หมูว่าไง"
"ดีครับ ผมก็อยากไปดูเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน"
"เริ่ดค่ะ งั้นพวกเราไปกันเลยดีมั๊ยคะ"
"ไปสิ"

 ทุกคนออกจากห้องพักของอธิปพงศ์และนั่งแท็กซี่ไปโรงภาพยนต์ใกล้ ๆ เมื่อซื้อตั๋วได้แล้วก็รอไม่นานจึงเข้าไปชมภาพยนต์ที่เป็นระบบสามมิติ
เมื่อหนังเริ่มฉายป๊อกกี้ก็กรีดขึ้นมาเบาๆ
"แอร๊ยๆๆ กล้ามพี่เอกฟินส์มากค่ะ"
"หึหึหึ" ทุกคนหัวเราะเบาๆ และตั้งใจดูภาพยนต์ต่อ อธิปพงศ์ที่ไม่ได้มาชมภาพยนต์ในโรงนานแล้วก็ตั้งใจรับชมมากเป็นพิเศษ เขารู้สึกอิ่มเอมใจกับความรักของพ่อมากกับแม่นาคตั้งแต่ตอนพบรักและเริ่มใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกสะเทือนอก เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงคราวที่พ่อมากได้รับหมายเกณท์เพื่อออกไปเป็นทหารซึ่งก็หมายความว่าพ่อมากจำต้องลาจากแม่นาคกระทันหัน อธิปพงศ์เริ่มมีน้ำตาคลอๆ  จนกระทั่งร้องไห้หนักขึ้น เมื่อถึงคราวที่พ่อมากต้องเดินทางไปจากแม่นาคจริงๆ  ชายหนุ่มเข้าใจดีว่าตอนนั้นแม่นาคกับพ่อมากรู้สึกอย่างไร เพราะเขาเองก็มีชะตากรรมเดียวกับที่เห็นในภาพยนต์อยู่ตอนนี้ที่ต้องห่างไกลกับคนรักโดยที่ยังรักกันไม่นาน เขาร้องไห้หนักขึ้นเพราะเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะตอนที่แม่นาคกับพ่อมากปล่อยมือออกจากกันและฉากที่แม่นาคออกไปรอคอยพ่อมากที่หน้าบ้าน มันทำให้คนดูอย่างเขาสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง
  พี่กุ้งและทุกคนมองดูชายหนุ่มอย่างเห็นใจ หญิงที่นั่งข้างซ้ายจับมือชายหนุ่มแน่นเพื่อปลอบโยน ส่วนพี่กุ้งก็เข้ามาลูบหลังอย่างเป็นห่วง ส่วนป๊อกกี้ได้แต่อุทานออกมาเบา ๆ
“เฮ้ออ..น้ำตาเมียดูไบ...”
พี่กุ้งได้ยินอย่างนั้นก็เหยียบเท้าป๊อกกี้ทันที เป็นการทำโทษเนื่องจากไม่รู้จักกาลเทศะ ป๊อกกี้จ๋อยไปเล็กน้อย แต่ก็หันมาบอกกับทุกคนเพราะฉากสำคัญมาแล้ว
“ว้าย ๆ แม่นาคเจ็บท้องแล้วค่ะ”
พี่กุ้งกับหญิงหันไปดูตามที่บอก แต่ก็ยังไม่หยุดดูแลอธิปพงศ์ที่ยังคงมีอาการตกค้างอยู่ ชายหนุ่มหันไปบอกกับรุ่นน้องและรุ่นพี่ที่ห่วงใยเขา
“ผมไม่เป็นไรแล้ว ขอบคุณนะครับ ...ขอบใจนะหญิง พี่โอเคแล้วหล่ะ”
ทุกคนรับคำและดูหนังต่อ แม้หนังจะดำเนินเรื่องไปสนุกสนานและสร้างความสยองขวัญเพียงใด แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้รู้สึกร่วมกับสิ่งนั้น นอกจากความรู้สึกทรมานจากการพลัดพราดที่หนังเรื่องนี้มอบไว้ให้แก่เขา ชายหนุ่มรู้สึกเห็นใจและสงสารแม่นาคมากขึ้นก็วันนี้เอง
  หลังจากดูหนังเสร็จเขาและเพื่อนร่วมงานก็ไปกินข้าวต้มรอบดึกก่อนจะแยกย้ายกันกลับ โดยที่ป๊อกกี้กับหญิงขอไปนอนด้วยกันเพราะยังติดตากับความน่าสะพรึงกลัวในภาพยนตร์สามมิติที่เพิ่งไปดูมาไม่หาย เมื่อเขาถึงห้องพักก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิด Facebook และพิมไปยังหน้าวอลล์ของนิธินว่า
“วันนี้เป็นยังไงมั่งครับ เหนื่อยมั๊ย เป็นกำลังใจให้นะครับ...”
 อธิปพงศ์ถอนหายใจเล็กน้อย เขาอยากจะบอกคนรักเหลือเกินว่าคิดถึงแค่ไหน แต่ก็ไม่อยากพิมลงไป เพราะคำว่าคิดถึงนี้บางครั้งมันก็ได้ทำให้คนรักสบายใจขึ้นมานัก เขาคิดว่าถ้าพิมว่าคิดถึงกันบ่อย ๆ มันจะทำให้คนรักต้องมารู้สึกโศกเศร้ากับการห่างไกลมากขึ้นไปอีก ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะพิมข้อความให้กำลังใจอย่างนี้ เพราะเขาก็รับรู้ได้ว่านิธินก็ยังคิดถึงเขาไม่ต่างกัน

  เมื่อเทศกาลสงกรานต์มาถึงอธิปพงศ์ก็เดินทางกลับไปหาครอบครัวที่ลพบุรี แม่กับยายดีใจยิ่งนักที่เห็นว่าเขากลับมาเยี่ยมที่บ้านแม้จะรู้สึกขาด ๆ หาย ๆ ที่คราวนี้นิธินไม่ได้มาด้วยก็ตาม แต่ก็เข้าใจดีว่าชายหนุ่มไปทำงานอย่างที่ลูกชายเคยบอก เขาไปทำบุญที่วัดกับแม่และยายในวันเนาซึ่งเป็นวันแรกของเทศกาล เขาไม่ได้ออกไปเล่นสาดน้ำที่ไหน นอกจากอยู่บ้านกับยายและแม่ พอตกกลางคืน เขาก็มานอนตักคุยกับแม่เหมือนตัวเป็นเด็กอีกครั้ง
 “แม่...ผมถามจริง ๆ นะ”
“อืม มีอะไรลูก”
“แม่คิดถึงพ่อบ้างมั๊ย...”
คนเป็นแม่ก้มหน้ามาถาม “ตอนไหนล่ะ”
“ตอนพ่อตายใหม่ ๆ หน่ะ”
แม่เขาถอนหายใจออกมาและยิ้ม
“ก็คิดถึงสิ..ตอนนี้แม่ก็คิดถึง”
  เธอลูบหน้าลูกชายไปด้วย “ทำไมล่ะ คิดถึงนิธินเหรอลูก”
อธิปพงศ์พยักหน้าเศร้า ๆ คนเป็นแม่เลยลูบหัวลูกปลอบใจ
“หมูเอ้ยย...ชีวิตคู่มันก็เป็นอย่างนี้แหล่ะลูก นอกจากรักแล้ว เราก็ต้องซื่อสัตย์และอดทน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้นะลูกนะ”
“ครับ” อธิปพงศ์รับคำเบา ๆ
คนเป็นแม่พูดยิ้ม ๆ
 “แม่ดีใจนะ ที่เห็นลูกจริงจังกับใครสักคน และคนนั้นก็คือคนดีๆอย่างนิธินด้วย”
“ครับ..” อธิปพงศ์พูดต่อ “วันหลังแม่ไปหาผมที่คอนโดสิ”
“ก็อยากไป แต่ช่วงนี้ต้นไม้กำลังโตเลย แม่ทิ้งไปไม่ได้หรอกลูก”
“อืม ๆ ครับ”
 เขากับแม่คุยกันสักพักและแยกย้ายกันไปนอน เขามองเตียงเล็กที่เคยนอนเบียดด้วยกันแล้วก็คิดถึงครั้งนั้นที่คนรักเคยมาอยู่ที่นี่กับเขาด้วย อธิปพงศ์ล้มตัวนอนและพยายามไม่คิดมาก ชายหนุ่มบอกตัวเองก่อนนอนคืนนี้ว่า
“ที่รัก..อีกแค่สองเดือนกว่าเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ...”

 นิธินที่เพิ่งกลับถึงห้องพักในเวลาห้าทุ่มกว่าตามปกติ ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าคอมพิวเตอร์อย่างเหนื่อยอ่อน เขาเปิดดู Facebook ของตัวเองก็พบว่าคนรักยังพิมข้อความถึงเขาเหมือนเดิม
“วันนี้มาหาแม่และยายที่ลพบุรีนะ เสียดายจังที่คุณไม่ได้มาด้วย เอาไว้มาด้วยกันวันหลังนะครับ คิดถึงครับ”
เขายิ้มดีใจที่ได้รับข้อความใหม่ในวันนี้ นิธินออกจากการออนไลน์เพื่อไปในอัลบั้มรูปที่เคยถ่ายด้วยกันที่ลพบุรี ช่วงความรู้สึกหนึ่งเขาก็คิดถึงใบหน้าใส ๆ กับรูปร่างสมส่วนที่เขาเคยได้สัมผัสขึ้นมา
 ชายหนุ่มปิดมือถือและหลับตานึกถึงคนรักในช่วงเวลานั้นอันแสนเร่าร้อน เขารู้สึกตัวได้ว่าความต้องการของเขากลับมาอย่างฉับพลัน เป็นเพราะเขาเครียดกับการทำงานในช่วงนี้และร้างลาจากการสำเร็จโทษตัวเองมาหลายสัปดาห์แล้วด้วย เพียงแค่คิด ความต้องการของเขาก็ถูกจุดติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย ชายหนุ่มจึงลุกไปที่ห้องน้ำทันที
  นิธินคิดถึงทุกอย่างของอธิปพงศ์ที่เขาเคยสัมผัส ทั้งดวงตาเว้าวอนเวลาที่เขามอบความเป็นตัวเองให้ นิ้วมือเรียวยาวกับแขนได้รูปที่เคยคล้องคอเขา ลำคอระหงและแผ่นอกได้รูปขาวเนียนที่เขาเคยซุกไซร้ทุกวันคืน และสะโพกกลมกลึงที่ปลุกอารมณ์เขาให้ลุกโชนเพียงแค่ได้เห็น
  ตอนนี้เลือดลมในตัวชายหนุ่มเต็มไปด้วยความร้อนระอุ เขาจึงจัดการกับความต้องการของตัวเอง ถึงนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทำอย่างนี้ แต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกต้องการเหมือนเดิมทุกครั้ง เขานึกถึงเสียงครางอย่างสุขสมของคนรักก่อนจะปลดปล่อยความต้องการออกมา
“อื้อออ.....”
 เขาครางออกมาเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ส่วนลึก ก่อนจะถอนหายใจที่สามารถสำเร็จความต้องการของตัวเองไปได้ ก่อนจะอาบน้ำเพื่อเข้านอนไปสู้งานในวันพรุ่งนี้



ปล.* ไอศครีมนมรสอัลมอนด์ของอินเดียที่เขียวนำมาฝากอธิปพงศ์คือ Kulfi (กุลฟี) คือ ไอศกรีมที่ทำจากนมผสมอัลมอนด์ กระวาน ถั่วพิสตาชิโอ และน้ำกุหลาบ โดยนม,อัลมอนด์และกระวาน มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงทางเพศตามแบบฉบับอินเดียค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 13-03-2012 17:07:38
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
สงสารพี่หมู
นิธินกลับมาไวๆนะ
 :monkeysad:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 13-03-2012 17:12:11
มีหื่นนิดๆส่งท้าย 555+  :z1:


อีกสองเดือนเท่านั้น อีกนิดเดียวๆๆ


ทั้งพี่หมู ทั้งนิธิน ทั้งคนแต่ง สู้ๆนะคะ


 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 13-03-2012 17:13:16
น้ำตาซึม  :monkeysad:
ขอบคุณสำหรับข้อมูลความรู้รอบตัว ชอบมากๆ
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 13-03-2012 17:17:39
เป็นนิยายที่อบอุ่นมาก...อ่านไปแล้วมีความสุข
ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คนเขียนเข้าใจคนอ่านคนนี้ดี
ว่าชอบนิยายเรื่องนี้ม๊ากมาก >"<
อิอิ

 :L1:

ขอบคุณมาก ๆเลยค่ะ :pig4:

แอบสงสารผู้พัน 3 พีเลยดีมั้ยคะ 5555555


พุดถึง ละหมาด วันนี้พึ่งได้รับพรมที่มีเข็มทิศสำหรับนั่งละหมาดมาจากหนุ่มแอลจีเรียด้วยค่ะ อิอิ แอบดีใจ

ยินดีด้วยค่ะที่ได้ของฝากจากแดนไกล  :3123: :L2:ว่าแต่ "3 พี" นี่คืออะไรเหรอคะ?


สำหรับคุณผู้อ่านหลายคนที่ว่า..

ตอนนี้สงสารผู้พันหาคู่ให้ผู้หน่อยสิ
จิ้นนิธินไม่ออกเลยลองหาหนุ่มอินเดียดูในกูเกิลปรากฎว่าไม่รู้จะเลือกใครหล่อ ๆทั้งนั้นเลย o18

นิธินนี่ สเป็กเลย
ฮู้ววววว มาอ่านเเล้วค่า

ชอบพระเอกมากเลย สเป๊กเลยคะ สูง เข้ม ล่ำ แอร๊ยยย

หนูอยากได้ๆ

(http://image.ohozaa.com/i/475/uOBn.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vWHQ5umClUSLg3Ek)

(http://image.ohozaa.com/i/a3e/Nrgo9L.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vWHQ4qqzve53mKmk)



ความจริงคนเขียนไม่อยากแปะรูปเลยนะคะ คือคิดว่า มันดูเป็นการปิดกั้นจินตนาการผู้อ่านยังก็ไม่รู้ แต่สำหรับคนเขียนแล้ว ผู้ชายอินเดียที่พอเข้าเค้านิธินได้ก็คือคนนี้เลยค่ะ John Abraham ดารา+นายแบบชาวอินเดีย คาดว่าหลายคนคงเคยดู MV Dhoom Dhoom ของทาทายังมาแล้ว จะบอกว่าเขาคนนี้คือผู้ชายที่ไปคลุกโคลนกับทาทายังค่ะ ที่เห็นว่าจอนห์เข้าเค้านิธินเพราะว่าเวลาเค้าเล่นบทผู้ชายอบอุ่นแล้วมันดู” ใช่” มากเลยค่ะ


ดูผู้ชายอินเดียไปแล้ว มาดูไอติมอินเดีย Kulfi (กุลฟี)กันดีกว่าค่ะ ก็จะมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ น่ากินมั๊ยคะ
(http://image.ohozaa.com/i/64f/QdimNq.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vWHQ6cjYV4CcVDYA)

(http://image.ohozaa.com/i/cc9/8z3TYB.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vWHQ44rTdyH5Y3Zu)

(http://image.ohozaa.com/i/e0d/D5XX5w.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/vWHQ7gg1LNBS73Us)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 13-03-2012 17:20:41
เฮ้ยๆๆๆๆ ไอติมแบบนี้เค้าเคยกินนะ แต่เพิ่งรู้ว่ามันเป็นไอติทแบบอินเดียนะเนี่ย อ่านในนิยายไม่เห็นภาพ พอได้เห็นภาพเลยนึกออก ฮ่าๆๆๆก็ว่าอยู่หน้าตาแปลกๆ แต่อร่อยอ่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 13-03-2012 17:26:05
กลับมาเร็วๆ นะคุณนิธิน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 13-03-2012 17:27:46
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
อดทนอีกนิดนะนิธินกับอธิปพงศ์
คุณสองคนเป็นตัวอย่างที่ดีของชีวิตคู่ที่ต้องห่างไกลกัน
รักและเชื่อใจกัน o13
ปล.John Abraham กับไอติมน่ากินพอกันเลย :-[
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 13-03-2012 17:38:33
ให้เขากลับมาอยู่ด้วยกันเร็วๆนะคะ  :กอด1:
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่น อยู่ไกลกันเท่าไหร่ ก็รักกันไม่เปลี่ยนเลย  :o8:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-03-2012 17:54:32
พิสูจน์ว่าระยะทางไม่ได้เป็นอุปสรรคของความรัก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 13-03-2012 17:55:58
อยากให้นิธินกลับมาแล้ว กลับมาคงแปลกใจ หมูทำไมมือคุณถึงด้านขึ้นเยอะเลย ทำงานหรือหรือ 555+
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 13-03-2012 18:15:06
กรี๊ดดดดด

// เหมาไอติมอัลมอล มาเเช่ตู้เย็นไว้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 13-03-2012 18:24:18
เห็นรูปแล้วอยากกิน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:12/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 13-03-2012 18:40:06
อธิปพงศ์ล้มตัวนอนและพยายามไม่คิดมาก ชายหนุ่มบอกตัวเองก่อนนอนคืนนี้ว่า 
“ที่รัก..อีกแค่สองเดือนกว่าเราก็จะได้เจอกันแล้วนะ...”
^
^
^
เจอประโยคนี้เข้าไป(ที่คุณหมูบอกกับตัวเองก่อนเข้านอนที่ลพบุรี)
จากที่คนอ่านน้ำตาคลอ...มันก็หยดแหมะและไหลพราก...ทันที :m15:
อ่านเรื่องนี้มีทั้งซึ้ง...ทั้งฮา.... สนุกมากๆค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 13-03-2012 19:26:29
อ่านไปก็ได้แต่เห็นใจคู่รักคู่นี้
การรอคอย และความห่างไกล บางครั้งก็เหมือนสิ่งบ่มเพาะให้ความรักหวานหอมยิ่งขึ้นนะ
รอให้ถึงวันนั้น ทั้งหมูกับนิธินก็จะได้มีความสุขกับความรักที่หอมหวานล่ะ
ขอบคุณน้ำพริกจ้ะ ที่ขยันอัพ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-03-2012 21:37:20
ระยะห่างไม่เป็นอุปสรรคจริงๆ

หรือคนเขียนยังไม่ได้จัดมา :o
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 13-03-2012 23:07:16
 :L1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 13-03-2012 23:33:07
2เดือนเอง สู้ๆค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 14-03-2012 03:09:41
ทั้งสองคนสู้ๆนะ...


คนเขียนบรรยายได้เศร้าจริงๆ กับรักที่ต้องอยู่ห่างไกลกัน อ่านแล้วก็สงสาร  :m15:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 14-03-2012 07:17:04
หวังว่า คงไม่มีอะไรต้องทำให้อยู่ห่างกันเพิ่มขึ้นอีกนะ แอบหวั่นใจจังเลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 14-03-2012 09:35:17
อ่านไปแล้วก็เศร้าแทนหมูอ่ะเนอะ....อินมากไปมั้ยเรา เหอะๆ
แต่ก็สัมผัสได้ถึงความเหงาและเดียวดายของหมู มันแผ่ออกมามาก
 :monkeysad:
ตอนนี้ผู้พันบทน้อย ว้า..เสียดายจัง หอมกลิ่นมาม่าหมูสับ
(นี่ก็ไซโคตลอด  :m20:)

ปล.3P ก็ประมาณรักแบบเราสามคนอ่ะค่ะ เป็นครอบครัว3คน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 14-03-2012 10:23:44
ทนอีกนิดก็จะได้
เจอกันแล้ว :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: LUCKY STAR ที่ 14-03-2012 12:38:28

อยากกินไอติมมมมมมมมมม

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 14-03-2012 16:46:37
มาแล้วค่ะขอบคุณมากๆๆเลยนะคะทุกคน


30



 วันนี้อธิปพงศ์ก็ตื่นแต่เช้าเพื่อไปทำบุญกับแม่และยาย จึงได้พบกับพ่อและแม่ของกรวัฒน์โดยบังเอิญขณะทำบุญที่วัดอีกด้วย เขาและแม่เข้าไปทักทายกับพ่อแม่ของกรวัฒน์อย่างสนิทสนม และแม่ของกรวัฒน์ก็บอกกับทุกคนว่าวันนี้ลูกชายจะมาเยี่ยมที่นี่  เมื่อกลับถึงบ้านเขาก็เลยลองโทรหากรวัฒน์ดู  เพราะจะได้ออกไปเจอเพื่อน ไปนั่งพูดคุยและกินเหล้ากันตามประสา เมื่อโทรติดแล้วกรวัฒน์ก็เป็นฝ่ายส่งเสียงทักทายมาก่อน
"ฮัลโหล ว่าไง"
"อ๊อฟ วันนี้มึงมาลพบุรีป่าววะ"
"เออ ไป ตอนนี้อยู่สายเอเชียตรงบางปะอิน แล้วนี่มึงรู้ได้ไงวะว่ากูจะไป"
"ก็กูเจอพ่อกับแม่มึงบนศาลาวัดเมื่อเช้านี้"
"อ่าวเหรอ"
"เออ"
"เออๆ เดี๋ยวคงได้เจอกัน เดี๋ยวไปเล่นน้ำในเมืองกันนะเว้ย"
"ได้ๆ ถึงเมื่อไหร่โทรมาด้วยล่ะ"
"เออ"
 กรวัฒน์วางสายและถอนหายใจเพื่อดับความว้าวุ่น ถึงจะรู้สึกดีที่อธิปพงศ์โทรมา แต่ก็รู้สึกผิดที่ตัวเองยังไม่สามารถหักห้ามใจที่จะคิดกับอีกฝ่ายเกินเพื่อนได้ทั้งที่เขารู้ดีว่าอธิปพงศ์ไม่ได้มีใจให้เขาเลย แม้แต่น้อย ชายหนุ่มบอกตัวเองในใจ ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แอบรักใคร แต่ทำไมเขารู้สึกเจ็บปวดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาก็ไม่รู้

 "หมู ไปดูซิว่าใครมา" แม่ของอธิปพงศ์ชี้ให้ดูรถมอเตอร์ไซค์ที่เลี้ยวเข้ามาในรั้วยามบ่ายคล้อย อธิปพงศ์จึงหันไปบอกแม่ว่า
"ไอ้อ๊อฟมาแม่"
"อ่าวเหรอ"
เมื่อดับเครื่องและไล่สุนัขที่วิ่งมาเห่าไปหมดแล้ว อธิปพงศ์กับแม่ก็เดินเข้าไปหากรวัฒน์ที่ยืนอยู่หน้ารถ ชายหนุ่มยกมือไหว้แม่เพื่อนอย่างนอบน้อม
"หวัดดีครับป้าแมว"
"หวัดดีจ้ะ โอ้โห ไม่เจอกันนานหล่อขึ้นตั้งเยอะเลยนะลูก"
"คงสู้ไอ้หมูไม่ได้หรอกครับ" กรวัฒน์รับคำตามประสาคนขี้เล่น
"โหยย สู้ได้สิลูก ว่าแต่ไปไงมาไงเนี่ย"
"ก็มาหาพ่อกับแม่นั่นแหล่ะครับ นี่ผมกะจะรับไอ้หมูไปเล่นน้ำในเมือง"
"ก็ดีเหมือนกัน หมูจะได้มีเพื่อนเล่นน้ำ ดูสิ นี่ถ้านิธินมาด้วยคงได้ไปเล่นน้ำสงกรานต์กันในเมืองแน่ๆ"
กรวัฒน์ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินชื่อคนรักของเพื่อน เขายิ้มให้เหมือนไม่รู้สึกอะไร และพยายามเตือนตัวเองกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้น
"เออ หมู มึงเอาเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วยเลยสิ ไว้ในมอ’ไซค์กูนี่แหล่ะ" เขาหมายถึงที่เก็บของใต้เบาะรถ
"เออๆได้ ขอบใจนะ "
 อธิปพงศ์วิ่งเข้าไปในบ้านจึงสวนกับยายที่เดินออกมาดูว่าใครมา จึงได้เจอกับกรวัฒน์และพูดคุยกันเล็กน้อย ก่อนที่อธิปพงศ์จะลงมา กรวัฒน์เลยบอกกับแม่และยายว่า
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
"จ้ะ เล่นน้ำให้สนุกนะ"
"ครับ"
 ชายหนุ่มทั้งสองขึ้นรถและออกไปจากบ้าน กรวัฒน์ขับมอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดที่หลังสถานีรถไฟ และเดินเท้ามาเล็กน้อยที่บริเวณข้างสวนราชานุสรณ์ที่ซึ่งมีหนุ่มสาวมาเล่นน้ำสงกรานต์เป็นจำนวนมาก พวกเขาต่างก็ไม่รอช้าที่จะเข้าไปร่วมสาดน้ำและสนุกสนานกับผู้คนตรงหน้า อธิปพงศ์นั้นดูเป็นที่สนใจของบรรดาสาวๆ เพราะตั้งแต่เข้ามาก็มีผู้หญิงมาขอประแป้งไม่ขาดสาย กรวัฒน์ก็ไม่แพ้กันที่ก็ไม่ยอมโดนประแป้งอยู่ฝ่ายเดียว เมื่อมีสาวๆเข้ามาเขาจึงขอประแป้งพวกเธอบ้าง หรือไม่ก็เข้าไปประแป้งบางคนที่เห็นว่าน่ารักน่าสนใจเสียก่อนเลย แต่เขาก็ชะงักงันเมิ่อเห็นเพื่อนเดินตรงเข้ามาหาพร้อมขันดินสอพอง
"ไอ้อ๊อฟ กูยังไม่ได้ประแป้งมึงเลยย"
 กรวัฒน์นิ่งอึ้งเมื่อถูกมือเรียวๆนั้นสัมผัสที่ใบหน้า เขามองหน้าเพื่อนที่ยิ้มร่าเริงให้ ไม่มีสิ่งใดตอบกลับนอกจากอาการตกใจและดีใจ ส่วนอธิปพงศ์ก็ไม่ทันได้มองเพราะมีสาววัยรุ่นคนหนึ่งเข้ามาขอประแป้ง
"พี่คะ ขอประแป้งหน่อยนะคะ"
"ได้ครับ"
เด็กสาวประแป้งอธิปพงศ์และหันไปเจอกรวัฒน์ที่อยู่ข้างๆ จึงเข้าไปประแป้งชายหนุ่มด้วย กรวัฒน์จึงได้สติและเล่นน้ำสงกรานต์กับสาวๆรอบข้างต่อ เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกที่มีอยู่ในใจ แม้เขาจะทำเป็นสนใจผู้หญิงรอบข้างแต่ที่จริงแล้วเขาก็มองไปยังอธิปพงศ์ที่อยู่อีกมุมหนึ่งตลอด และถึงแม้ว่าจะพยายามทำตัวให้เป็นปกติกับเพื่อนแล้ว แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่สามารถหักห้ามใจตัวเองได้เสียที
 
 หลังจากที่เล่นสงกรานต์กันสนุกสนานสมใจแล้ว ช่วงหัวค่ำกรวัฒน์กับอธิปพงศ์ก็มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันที่บ้านของกรวัฒน์ ก่อนจะออกไปกินบุฟเฟ่ต์หมูกะทะเป็นมื้อเย็น วันนี้บรรยากาศในร้านคึกคักเป็นพิเศษ ทั้งคู่เข้าไปของโต๊ะและลุกไปตักอาหารโดยไม่ลืมสั่งเบียร์สดมาดื่มด้วย ก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะ กรวัฒน์ที่กำลังวางมันหมูบนเตาถามอธิปพงศ์ที่ไม่ได้ดูจดจ่อกับโทรศัพท์อย่างที่เคย
"แล้วนี่มึงไม่คุยว้อทสแอปกับแฟนเหรอวะ"
คนเป็นเพื่อนที่กำลังใส่ผักกับน้ำซุปและปิ้งเนื้อสัตว์ตอบกลับมาว่า
"เหอะ ช่วงนี้แฟนกูเค้าไม่ค่อยว่าง"
อธิปพงศ์ตอบเพื่อน และมีรอยยิ้มบางๆเมื่อพูดถึงคนรัก
"อ่าวเหรอ"
คนฟังอย่างกรวัฒน์ตอบรับ ในใจนั้นรู้สึกดีขึ้นมาเล็กน้อยตามประสาคนแอบรัก
"แฟนกูเค้าบอกว่า งานนี้มันสำคัญมากหน่ะ จะได้กลับหรือไม่ได้กลับขึ้นอยู่กับงานชิ้นนี้เลย"
"อืม" กรวัฒน์ตอบรับแค่นั้น อธิปพงศ์หันมาถามเพื่อนว่า
"เป็นไงมั่งวะ สาวๆวันนี้ มีใครน่ารักบ้างป่าว"
"ก็น่ารักดี แต่กูไม่ชอบว่ะ มีแต่เด็กๆ ทั้งนั้น"
"อ่าวเหรอ นึกว่ามึงจะชอบแบบเด็กๆซะอีก"
"เหอะ ไม่ว่ะ เด็กๆแม่งง็องแง็ง เอาแต่ใจ" กรวัฒน์ส่ายหน้า ก่อนจะพูดต่อ "ว่าแต่มึงเถอะ ป๊อปไม่เบานะเนี่ย ว่าแต่มึงไม่สนใจใครมั่งเหรอวะ"
อธิปพงศ์ส่ายหน้าเบาๆ "ก็เห็นว่าน่ารักหลายคน แต่ไม่เอาว่ะ แฟนกูดีกว่าเยอะ"
"เออๆ กูรู้" กรวัฒน์ตอบรับห้วนๆ "กูเชื่อแล้ว ว่ามึงไม่ชอบผู้หญิง"
"หึหึ" อธิปพงศ์หัวเราะในคอ ก่อนจะกลับเนื้อบนกะทะ  ส่วนกรวัฒน์ก็ได้แต่มองเพื่อนไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาก็พยายามลบความรู้สึกหวั่นไหวที่เกิดขึ้นในวันนี้

เมื่อกินหมูกระทะกันเสร็จแล้ว กรวัฒน์จึงขับมอเตอร์ไซค์มาส่งอธิปพงศ์ที่บ้าน
“วันนี้ขอบใจมากนะเว้ย ที่มาชวนกูไปเล่นน้ำ”
“เออ ไม่เป็นไร” กรวัฒน์ถามต่อ “แล้วนี่มึงกลับเมื่อไหร่วะ”
“พรุ่งนี้ตอนเย็น”
“อ่าวเหรอ งั้นกลับกับกูก็ได้”
“เออดี ๆ ขอบใจมึงมากนะอ๊อฟ”
“เออ” กรวัฒน์ยิ้มรับ “เดี๋ยวพรุ่งนี้กูมารับนะ”
“อืม ๆ”
อธิปพงศ์ยิ้มให้เพื่อนก่อนจะหันหลังเข้าบ้าน ส่วนกรวัฒน์ได้แต่มองตามและถอนหายใจหน่าย ๆ กับตัวเอง เขารู้ว่าควรจะรีบตัดใจจากเพื่อนให้ได้ แต่พอถึงเวลาจริงเขาก็ทำไม่ได้อย่างที่ต้องการเสียที
แม้ตอนนี้เขาไม่ได้หวังครอบครอง แต่ขอแค่ได้อยู่ใกล้ ๆ เป็นเพื่อนกันอย่างที่เคยมันก็น่าจะดีพอสำหรับการแอบรักอยู่ข้างเดียวแล้ว

“ผมไปก่อนนะครับ ยาย แม่” อธิปพงศ์กราบลายายกับแม่ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยมีกรวัฒน์มารอรับ
“อืม ๆ” คนเป็นแม่ลูบผมลูกชาย “เดินทางดี ๆ นะลูก โทรมาหาแม่บ้าง…ถ้านิธินกลับมาอย่าลืมพามาหาแม่ด้วยนะ”
“ครับ” อธิปพงศ์ยิ้มรับ ก่อนจะเข้าไปกอดกับแม่และยายอีกครั้ง และเดินไปขึ้นรถของกรวัฒน์ที่จอดรออยู่หน้าบ้าน เมื่อขึ้นรถได้อธิปพงศ์ก็นั่งนิ่งจนกรวัฒน์ต้องเอ่ยปากถาม
“เป็นไรวะดูเซ็ง ๆ”
“ก็...ไม่รู้ว่ะ” อธิปพงศ์ส่ายหน้าเล็ก ๆ ไม่กล้าบอกความรู้สึกจริง ๆ ว่าเขาคิดถึงนิธินกับเพื่อน
“มึงคิดถึงแฟนเหรอวะ” อีกฝ่ายลองเดาเล่น ๆ แต่ก็ชะงักเมื่อรู้ว่าตัวเองเดาถูก
“อืม...” อธิปพงศ์พูดเศร้า ๆ “กูไม่ได้คุยกับเค้ามาสองวันแล้ว”
“โหย แค่สองวันเอง...” กรวัฒน์พูดขำ ๆ “เดี๋ยวมึงก็ได้เจอกันแล้ว มึงจะกลัวอะไรวะหมู”
แต่อธิปพงศ์ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย เขากลับคิดถึงคนรักมากขึ้น และไม่อยากกลับไปอยู่ในห้องพักคนเดียวโดยที่ยังคิดถึงอีกคนที่ไม่ได้มาอยู่ด้วย แต่ก็ถอนใจและทำใจกับความเป็นจริง
“จริงของมึง อีกสองเดือนก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว กูจะกลัวอะไร..ไร้สาระว่ะ”
“เออ คิดงี้ก็ดีแล้ว แฟนมึงไปทำงานนะเว้ย ไม่ใช่ไปรบยังไงเค้าก็กลับมาอยู่แล้ว” ชายหนุ่มพูดต่อเศร้า ๆ
“ถ้ากูมีคนคอยเป็นห่วงเวลาไปทำงานบ้างก็ดีสิ”
  กรวัฒน์หมายถึงหน้าที่ของนายทหารที่ต้องไปทำภารกิจอันตรายทั้งในและนอกประเทศ โดยอาจจะไม่รู้ว่าจะสามารถปฏิบัติภารกิจสำเร็จและมีชีวิตรอดกลับอีกมาหรือไม่ ส่วนอธิปพงศ์หันไปถามเพื่อนที่จู่ ๆ ก็เปลี่ยนอารมณ์
“เป็นเชี่ยอะไรอีกล่ะ”
“เปล่า...กูก็แค่เพ้อเจ้อว่ะ อย่าสนใจเลย”
“เออ...” อธิปพงศ์รับคำแค่นั้น “กูขอนอนก่อนนะ ถึงคอนโดมึงเมื่อไหร่เรียกด้วยละกัน”
“อ่าว มึงจะมาคอนโดกูทำไมวะ”
“ก็เดี๋ยวกูต่อรถกลับเองได้ มึงจะได้ไม่ต้องฝ่ารถติดไปส่งกู”
“เออ..”
กรวัฒน์รับคำและขับรถต่อ เมื่อเห็นว่าเพื่อนหลับไปแล้วสักพัก เขาจึงเหลือบมองเพื่อนที่หลับอยู่แล้วอมยิ้ม ก่อนจะตั้งใจขับรถต่อเพื่อไปให้ถึงกรุงเทพฯ ก่อนที่รถจะติดไปกว่านี้

    นิธินก็กำลังตั้งใจทำงานอย่างที่เคย ตอนนี้งานของเขาคืบหน้าไปจนเกือบจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงรวบรวมชิ้นงานกับเพื่อนร่วมงาน ก่อนจะทดสอบจากนักวิเคราะห์ระบบอีกครั้ง ถ้าหากว่าครั้งนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ชายหนุ่มก็อาจจะมีโอกาสได้กลับไปอยู่กับคนรักเร็วขึ้นก็เป็นได้  นิธินรู้สึกผิดเล็กน้อย ที่ไม่ได้เข้าไปออนไลน์ดูความเคลื่อนไหวของคนรักในหน้า Facebook เลย ชายหนุ่มได้แต่ทำใจและอดทนกับช่วงเวลาหฤโหดของเขานี้ 
  เมื่อรวบรวมแต่ละส่วนในระบบปฏิบัติการเข้าด้วยกันแล้ว ก็พบปัญหาบางอย่างที่ทำให้ระบบไม่สามารถปฏิบัติการได้ ทำให้นิธินกับเพื่อนร่วมงานต้องแก้ไขกันใหม่เกือบทั้งระบบ แต่นิธินก็ไม่ได้ส่งข่าวคราวใด ๆ ให้คนรักรับรู้ เพราะไม่มีเวลาและไม่อยากให้อธิปพงศ์เป็นกังวลใจกับเรื่องนี้ของเขาด้วย เขาจึงได้แต่เพียงบอกไปสั้น ๆ ใน Facebook ว่า
“ผมคิดถึงคุณเหมือนเดิมนะครับ ดูแลตัวเองด้วย แล้วผมจะกลับไปอยู่กับคุณ”

   อธิปพงศ์ที่เปิดFacebook ดูตอนห้าทุ่ม ก็ยิ้มดีใจที่รับข้อความนั้น เขาเข้าไปกดไลค์อย่างที่เคยและพิมตอบไปว่า
“เช่นกันครับ”
  ชายหนุ่มดีใจที่ได้รับการติดต่อมาจากคนรักหลังจากห่างหายไปกว่าสัปดาห์ เขารู้ดีว่าคนรักต้องทำงานหนักเพียงใด แต่การติดต่อมาเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างนี้ก็ทำให้เขารู้สึกดีมากขึ้น อย่างน้อยก็ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียวและยังรอคอยกับฝันลม ๆ แล้ง ๆ ที่ไม่มีวันเป็นจริง

“ใช้ไม่ได้อีกแล้วว่ะ คราวนี้ต้องทำใหม่ทั้งหมดเลยจริงๆ” นิธินหันมาบอกกับโปรแกรมเมอร์อีกคนและเพื่อน ๆ ที่เหลือ เมื่อเห็นว่าการทดลองระบบไม่เป็นผล พวกเขาถอนใจและแยกย้ายไปแก้ไขกันต่อ และคราวนี้เห็นทีว่าเขาและเพื่อนๆ จะต้องทุ่มเทกายและใจกับงานนี้ใหม่มากกว่าที่เคย แม้จะต้องไม่ได้ติดต่อกับคนรักอย่างแต่ก่อนก็ตาม

   หลังจากที่นิธินติดต่อมาวันนั้นแล้ว อธิปพงศ์ก็ไม่ได้รับการติดต่อใด ๆ จากคนรักอีกเลย ทุกวันนี้เขาจึงซึมเศร้าลง กว่าเมื่อก่อน ชายหนุ่มที่เดินออกจากร้านพี่กุ้งคนเดียวมองไปรอบ ๆ แม้จะทำงานที่รักและมีเพื่อนดี ๆ อยู่รอบข้างแล้ว แต่ก็อดคิดถึงคนรักที่อยู่ไกลเป็นไม่ได้ ในเวลานี้เขานึกถึงตอนที่นิธินเคยมารอรับที่หน้าร้านทุกวัน เมื่อเห็นคู่รักจูงมือกันเดินผ่านไป เขาก็คิดถึงมือแข็งแรงที่เคยจับจูงอยู่ไม่ห่าง แต่คราวนี้เขาต้องเดินคนเดียว กลับบ้านเพียงลำพัง และต้องนอนกอดหมอนข้างต่างอกอุ่นของคนรักทุกคืน ชายหนุ่มเปิดมือถือเพื่อดูข้อความเก่า ๆ ใน Facebook  แล้วก็ร้องไห้ออกมา แต่ก็ชะงักเมื่อมีสายเข้าจากกรวัฒน์
“ฮัลโหล..” อธิปพงศ์กรอกเสียงลงไป พยายามปกปิดอาการให้เป็นปกติที่สุด
“เออ มึงทำไร ว่างป่าว”
“ว่าง ๆ มีไรวะ”
“ป่าว ๆ กูจะชวนมากินเหล้า ตักสุราเอกมัย ใกล้ ๆ หอมึงแหล่ะ”
อธิปพงศ์ที่กำลังเศร้าใจจึงไม่ปฎิเสธคำชวนนี้ของเพื่อน
“เออ ๆ งั้นเจอกันที่ร้านเลย ตอนนี้มึงอยู่ไหนแล้ว”
“ใกล้ถึงแล้วหล่ะ มึงออกมาได้เลย เดี๋ยวมึงจองโต๊ะไว้เลยนะ”
“อืม ๆ งั้นเจอกัน”
อธิปพงศ์วางสาย และออกไปจากห้องทันที เขานั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปยังร้านที่นัดกับเพื่อนไว้ เมื่อไปถึงก็จัดการจองโต๊ะและนั่งรอเพื่อน และก็มองไปเห็นกรวัฒน์ที่เดินเข้ามาจึงโบกมือให้ กรวัฒน์เองดีใจที่ได้เจอเพื่อนอีกครั้ง แม้ว่าช่วงหลังสงกรานต์มานี้จะไม่ได้เจอกันบ่อยก็ตาม ชายหนุ่มคิดว่าแต่ก็ดีที่เขาห่าง ๆ อธิปพงศ์ไปเพื่อจะได้ทำใจได้บ้าง ในวันนี้ถึงแม้เขาจะยังทำใจไม่ได้ทั้งหมด แต่ก็รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองน้อยลงกว่าแต่ก่อนที่อยู่ใกล้กับเพื่อน
กรวัฒน์นั่งลงตรงหน้าเขามองเพื่อนยิ้ม ๆ
“มึงมานานยังวะ”
“เพิ่งมา”
“เออ สั่งอะไรยัง”
“ยัง รอมึงมาเนี่ย”
“เออๆ”
เขาเรียกพนักงานมาสั่งอาหารและเครื่องดื่ม และเริ่มพูดคุยกันตามประสา
“มึงไปไหนมาวะอ๊อฟ วันนี้ทำไมชวนกูกินเหล้าเนี่ย”
กรวัฒน์ตอบกลั้วหัวเราะ
“ก็วันนี้วันศุกร์ กูก็อยากมาเที่ยวมั่งสิวะ นี่มึงทำงานจนลืมวันเลยเหรอเนี่ย”
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก” อธิปพงศ์ยิ้มเศร้า ๆ
“มีอะไรวะหมู ช่วงนี้มึงมีปัญหาอะไรกันรึเปล่า”
“เปล่า ก็เรื่อย ๆ น่ะ มันไม่มีอะไรหรอก”
กรวัฒน์พยักหน้ารับคำ เพราะไม่อยากรุกล้ำเรื่องส่วนตัวของเพื่อนมากกว่านี้ อธิปพงศ์เลยถามเพื่อนบ้าง
“แล้วมึงล่ะ เป็นไงมั่ง”
“ก็ดี..ช่วงนี้ยังไม่มีอะไรว่ะ”
“อืม”
สักพักพนักงานก็นำเครื่องดื่มและกับแกล้มมาเสริ์ฟและก็ชำระเงินตามขั้นตอน จนพนักงานไปแล้ว คนทั้งสองต่างรินสุราใส่แก้วเพื่อชงกับโซดาและน้ำแข็ง เมื่อมีสุราประกอบการสนทนานี้ ทำให้ความรู้สึกนึกคิดของแต่ละฝ่ายเริ่มเปิดเปลือยออกมาทีละเล็กละน้อยให้เพื่อนรับรู้
“ถามจริงไอ้หมู มึงมีอะไรวะ ทำไมมึงดูซึม ๆ ชอบกล”
อธิปพงศ์ยังไม่ตอบอะไร กรวัฒน์เลยซักต่อ
“น่า เล่ามา กูไม่บอกใครหรอก”
“ไม่มีอะไรจริง ๆ”
“กูไม่เชื่อออ” กรวัฒน์ยิ้มขำ “กูกับมึงรู้จักกันมากี่ปีแล้วอย่ามาโกหกให้ยากเลย”
“เออๆๆ มีก็ได้”
“มีไรวะ”
“ก็ ช่วงนี้ กูกับแฟนไม่ได้คุยกันเลยว่ะ”
“อ่าว..ทำไมวะ” กรวัฒน์ประหลาดใจเล็กน้อยแต่ก็ฟังต่อ
“ไม่รู้ว่ะ ก็คงจะเป็นเรื่องงานของเค้าแหล่ะ...” อธิปพงศ์พูดเศร้า ๆ “กูรู้นะ ว่าเค้าทำงานหนัก แต่เค้าจะติดต่อกลับมาหากูบ้างเลยไม่ได้เหรอวะ..” ชายหนุ่มเริ่มมีน้ำตา ทำให้กรวัฒน์ถึงกับใจอ่อนยวบเมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้ เขาจึงเข้าไปนั่งข้าง ๆ และโอบไหล่อีกฝ่ายให้กำลังใจทันที
“กูเข้าใจนะว่าเค้าไปทำงานเพราะอะไร แต่บางทีกูรู้สึกเหมือนคนที่ต้องมารอคอยอะไรลม ๆ แล้ง ๆ ไปวัน ๆ ที่กูไม่รู้ว่ามันจะเกิดขึ้นจริงรึเปล่า กู..” อธิปพงศ์พูดต่อไม่ออกได้แต่ร้องไห้ออกมา  กรวัฒน์ปล่อยให้เพื่อนร้องไห้สักพักก่อนจะตบไหล่เพื่อนและบอกว่า
“มึงก็ยังดีที่มีคนให้รอ ดีกว่ากูที่ไม่ได้มีใครให้รอเลย..”
เขาหันไปมองเพื่อนด้วยสายตาที่หวั่นไหว เมื่อเห็นว่าเพื่อนดีขึ้นแล้วจึงละออกมาแต่ก็ยังไม่ย้ายเก้าอี้กลับไปที่เดิม อธิปพงศ์ที่ดีขึ้นหันไปมองเพื่อนอย่างขอบคุณ
 ส่วนกรวัฒน์ที่ตอนนี้เกิดความรู้สึกต้องการอธิปพงศ์กลับมาอีกครั้ง ก็นั่งเงียบ ๆเพื่อพยายามเก็บอาการ และกินเหล้าต่อโดยที่ไม่ได้พูดอะไรอีก อธิปพงศ์เห็นเพื่อนเริ่มดื่มหนักจึงขอตัวไปห้องน้ำสักครู่ ก่อนจะกลับมาบอกว่า
“กูว่ากลับกันเหอะ พรุ่งนี้กูต้องไปทำงานอีก”
“อืม..”
   กรวัฒน์รับคำและเดินตามเพื่อนไปนอกร้าน ในเวลานี้สุราที่เขาดื่มดับอารมณ์กลับทำให้อารมณ์และความรู้สึกที่เขาพยายามซ่อนไว้ได้เปิดเผยออกมา เขามองหน้าเพื่อนยิ้ม ๆ เมื่อถึงลานจอดรถอธิปพงศ์หันมาถามเขาอย่างเป็นห่วงว่า
“นี่มึงไหวป่ะอ๊อฟ”
“ไหวสิวะ” กรวัฒน์ตอบรับยิ้ม ๆ  และเข้ามากอดเอวอธิปพงศ์ทันที “ให้กูทำอะไรกูก็ไหว”
“อะไรของมึงเนี่ย” อธิปพงศ์พยายามแกะมือที่อยู่ที่เอว แต่กรวัฒน์กลับจับไหล่เขาให้หันมามองหน้ากันตรง ๆ
“ถ้ามึงไม่อยากอดทนกับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ มึงก็มาคบกับกูสิ”
อธิปพงศ์ตกใจเป็นอย่างมากกับคำพูดของเพื่อน เมื่อเขามองไปในดวงตาก็พบกับแววตาจริงจัง และน้ำเสียงที่ได้ยินนั้น ก็ทำให้อธิปพงศ์มั่นใจว่าเพื่อนไม่ได้พูดเล่น แต่ก็พยายามตะล่อมเพื่อนเพราะคิดว่าเพื่อนขาดสติ
“เป็นเชี่ยอะไรของมึงอีกวะอ๊อฟ มึงเมาแล้ว..”
“กูไม่ได้เมา” กรวัฒน์บอกกับอธิปพงศ์หนักแน่น “หมู ถ้ามึงไม่อยากจะเหงาแบบนี้อีก มึงก็ให้โอกาสกูบ้างสิ กูรู้นะว่ามึงต้องเหงาแค่ไหนที่ต้องอดทนรอเค้า”
“มึงพูดเรื่องอะไร” อธิปพงศ์ถามหวั่น ๆ เพราะเริ่มสัมผัสได้แล้วว่าเพื่อนคิดกับเขาอย่างไร
กรวัฒน์ที่จับไหล่เพื่อนแน่นขึ้นและพรั่งพรูความต้องการในใจออกมาด้วยเสียงจริงจัง
“ก็พูดเรื่องของมึงกับกูไง หมู..ตอนนี้มึงไม่ได้อยู่กับเค้า มึงมาอยู่กับกูก็ได้..กูรับรองว่ากูจะไม่ทำให้มึงเหงาอีกเลย..”
หมดคำพูดกรวัฒน์ก็มองหน้าใส ๆ ของเพื่อนอย่างมีความสุข แต่หมัดลุ่น ๆ ของอธิปพงศ์ก็เสยเข้าที่ใบหน้า กรวัฒน์คลำที่แผลเบา ๆ พร้อมกับมองอธิปพงศ์ที่เข้ามาจับไหล่และบอกกับเขาใกล้ ๆ ด้วยเสียงตะคอกดัง ๆ
“พอได้แล้วไอ้อ๊อฟ !มึงไม่เข้าใจหรอกว่าทำไมกูถึงเลือกที่จะรอเค้า มึงเข้าใจมั๊ยกูรักเค้า! กูรักเค้ามาก!”
แต่กรวัฒน์ก็ไม่ยอมเช่นกัน
“มึงรักเค้าแล้วยังไง! มึงไม่คิดมั่งเหรอว่ากูก็รักมึงเหมือนกัน กูรู้นะว่ามันผิดที่กูคิดกับมึงเกินเพื่อน แต่มึงได้ยินมั๊ยว่ากูรักมึงไอ้หมู! มึงได้ยินมั๊ย! ฮือๆๆๆๆ”
 ร่างสูงนั้นก้มหน้าร้องไห้บนไหล่เพื่อนอย่างหมดความอาย อธิปพงศ์ลูบผมเพื่อนและเงยหน้าร้องไห้ออกมาเหมือนกัน เขารู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนเป็นอย่างนี้ แต่ก็ยังมั่นคงกับความรักและเลือกที่จะรอคอยแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป  เมื่อเห็นเพื่อนดีขึ้นแล้วเขาจึงบอกกว่า
“วันนี้มึงกลับไปก่อนเถอะ ไว้มึงสร่างเมาแล้วค่อยคุยกัน”
กรวัฒน์มองหน้าเพื่อน เขารู้สึกผิดที่ปล่อยให้ความต้องการครอบงำ
“กู..ขอโทษ..”
“อืมๆ” อธิปพงศ์พยักหน้าให้อย่างไม่ถือสา “กูก็ขอโทษเหมือนกัน”
กรวัฒน์ถามอีกฝ่ายด้วยคำถามของเพื่อนที่ผิดหวัง
“แต่มึงกับกูยังเป็นเหมือนเดิมได้ใช่มั๊ย”
“ได้สิ กูกับมึงก็ยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม และเป็นเพื่อนกันต่อไปด้วย”
“อืม..”
“วันนี้ดึกแล้ว มึงกลับบ้านดี ๆ นะ”
“อืม..”
อธิปพงศ์หันหลังให้และเดินออกไป แต่ก็ไม่วายหันกลับมามองเพื่อนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม ก่อนจะร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ถึงเขาจะรู้สึกผิดที่ทำให้เพื่อนเสียใจ แต่ก็ดีใจที่ตัวเองไม่อ่อนไหวไปกับความเหงาที่ครอบงำความต้องการ
 
 กรวัฒน์มองตามเพื่อนและร้องไห้เช่นกัน เขาเสียใจกับสิ่งที่ตัวเองทำ เขาเห็นแล้วกับความหนักแน่นมั่นคงของเพื่อน และเชื่อแล้วว่าไม่มีอะไรที่จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงความรักของอธิปพงศ์ได้จริง ๆ แม้จะเสียใจที่ตัวเองทำอะไรโง่ ๆ เมื่อครู่ แต่เขาก็ดีใจที่ไม่ได้ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายมากขึ้นไปกว่านี้

  อธิปพงศ์ยังไม่อยากกลับบ้าน เพราะเขาไม่เข้มแข็งพอที่จะอยู่คนเดียวกับความรู้สึกเสียใจในคืนนี้  ชายหนุ่มจึงตัดสินใจไปหาเขียว เพื่อนรุ่นน้องที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโดฯของเขาในคืนนี้ เขาโทรหารุ่นน้องและต่อแท็กซี่ไปที่บ้านของเจ้าตัว ทันทีที่เห็นหน้าหญิงสาว เขาก็พุ่งเข้าไปกอดเธอทั้งน้ำต
“พี่หมู...” หญิงสาวกอดชายหนุ่มตอบ โดยที่เธอหันไปมองหน้ากับสามีที่อยู่ข้างหลังงง ๆ แต่ก็บอกว่า
“เข้าไปในบ้านก่อนนะคะ”
เขียวพาเพื่อนรุ่นพี่ที่น้ำตานองหน้าเข้ามานั่งในห้องรับแขก เธอรู้สึกประหลาดใจเหมือนกันที่ได้เห็นคนที่สุขุมและค่อนข้างใจเย็นอย่างอธิปพงศ์ร้องไห้หนักขนาดนี้ เธอนั่งโอบไหล่เขาอยู่สักพัก โดยมีสามีที่ชงเครื่องดื่มร้อน ๆ มาให้คอยดูอยู่ข้าง ๆ  เมื่อเห็นว่าอธิปพงศ์เริ่มหยุดร้องไห้แล้วเธอจึงบอกกับอีกฝ่ายอย่างเป็นห่วง
“ถ้าคืนนี้นอนคนเดียวไม่ได้ ก็นอนที่นี่ไปก่อนนะคะ”
“ขอบคุณมากนะครับ น้องเขียว”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับคำเบา ๆ เพราะเธอรู้ดีว่าตอนนี้อธิปพงศ์มีสภาพจิตใจเช่นไร จึงไม่ถามจึงสาเหตุของความเสียใจที่เธอได้เห็น หากชายหนุ่มพร้อมที่จะเล่าเธอก็พร้อมที่จะรับฟัง แต่ตอนนี้เธอหวังเพียงให้ชายหนุ่มรู้สึกดีขึ้นและสามารถผ่านพายุอารมณ์หม่นเศร้านี้ไปได้  หญิงสาวจะเดินไปจัดห้องนอนแขกให้เพื่อนรุ่นพี่ แต่เขาบอกว่า
“พี่นอนโซฟาก็ได้จ้ะ”
“ไม่ได้หรอกค่ะ” เธอบอกกับชายหนุ่มอย่างใจดี “มาพักใจทั้งที คืนนี้นอนหลับให้สบายนะคะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
 อธิปพงศ์มองหน้าเพื่อนรุ่นน้องและสามีอย่างขอบคุณ ส่วนมาร์โค่ก็ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ก่อนจะยื่นชุดนอนมาให้
“ใส่ของผมก่อนนะครับ”
“ขอบคุณครับ”
   อธิปพงศ์รับมาและหันมาเพื่อจะขอบคุณเพื่อนสาวรุ่นน้องอีกครั้ง แต่เขียวก็บอกกับเพื่อนรุ่นพี่ที่ยังตาแดง ๆ อยู่ว่า
“มากอดที”
อธิปพงศ์ยิ้มรับและสวมกอดเพื่อนรุ่นน้องอีกครั้ง และก็เขารู้สึกดีขึ้นมากกับการปลอบใจของเธอ เมื่อเขียวรับรู้ว่า  อธิปพงศ์รู้สึกดีแล้วจึงละออกมายิ้มให้
“ขอบคุณมากนะครับ”
“ค่ะ พักผ่อนนะคะ”
  หญิงสาวกล่าวแค่นั้นก่อนจะเดินกลับไปยังห้องนอนพร้อมกับสามี ส่วนอธิปพงศ์ก็ได้แต่นึกขอบคุณกับมิตรภาพของเพื่อนรุ่นน้องที่หยิบยื่นให้เขา แม้ตอนนี้เขาจะไม่สามารถอยู่คนเดียวได้ แต่เขาก็เชื่อมั่นว่าเขาจะเข้มแข็งพอที่จะอดทนกับระยะเวลาที่เหลืออีกไม่นาน
 



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 14-03-2012 17:04:01
...มาให้กำลังใจ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 14-03-2012 17:13:31
สู้ๆ นะพี่หมู อดทนอีกนิดเดี๋ยวนิธินก็กลับมาแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 14-03-2012 17:18:24
อดทนนะพี่หมู เราจะผ่านไปด้วยกัน :n1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 14-03-2012 17:30:51
พี่หมูอดทนไว้นะคะ
 :monkeysad:
ตอนนี้คือจุดที่ทรมานที่สุดแล้ว
ถ้าอดทนแล้วผ่านไปได้
ก็ไม่มีอะไรที่พี่หมูจะทำไม่ได้แล้วนะ
สู้ๆนะพี่หมู
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 14-03-2012 17:41:41
อดทนนะพี่หมู
ตอนนี้แอบสงสารผู้พันอีกแล้วเรา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 14-03-2012 18:47:31
ผู้พัน พลาดนะคะ ต้องมอมเหล้าอีกนิดค่ะ

แล้วก็เข้า step เพท XXX

รับรอง ได้เเน่ แอร๊ยยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 14-03-2012 19:20:33
สงสารผู้พันแฮะ

ม่ะ มาหาเจ้มา :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 14-03-2012 19:27:25
ง็องแง็ง ไม้ไต่คู้ค่ะ ที่รัก
แล้วก็ ช่องเก็บของใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ไม่ใช่ในถังน้ำมันนะคะ

ขอบคุณมาก วันนี้มีความสุขแล้วค่ะ ไปนอนดีกว่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 14-03-2012 20:07:39
ในที่สุดอ๊อฟก็เก็บไว้ไม่อยู่ ต้องพูดออกไปจนได้
แต่ก็เป็นบทพิสูจน์ว่าความเหงาจะทำให้หมูหวั่นไหวกับอ๊อฟหรือเปล่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:13/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 14-03-2012 20:17:03
ในที่สุด ผู้พันก็เปิดเผยความในใจกับคุณหมูจนได้
สงสารคุณผู้พันเหมือนกันนะ แอบรักเพื่อนตัวเองคงเจ็บสุดๆ
สู้ๆนะคะ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป หวังว่าอีกไม่นานคงมีคนมาดูแลคุณผู้พันเหมือนกัน

สำหรับคุณหมูก็เข้มแข็งไว้น๊าาาาา... แค่ห่างไกลกันก็แย่อยู่แล้ว
ยิ่งไม่ได้คุยหรือติดต่อกันเลยยิ่งทำให้ทรมานหนักเข้าไปใหญ่
อดทนอีกนิดนะคะ เดี๋ยวจะได้อยู่ด้วยกันแล้ว

อ่านเรื่องนี้แล้ว รู้สึกได้เลยว่า...ความรัก มันมีอะไรมากกว่าคำว่า รัก มากนัก
ความเข้าใจ เชื่อใจ ไว้ใจ และอดทน เป็นสิ่งสำคัญจริงๆ

เป็นกำลังใจให้คุณหมู คุณนิธิน คุณผู้พัน และคุณน้ำพริกแมงดา คนแต่งค่ะ  :กอด1: :กอด1:

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-03-2012 20:23:38
มันยุ่งมากขนาดนั้นเลยเหรอ


มากจนไม่มีเวลามาส่งข่าวบ้างอะไรบ้างเลยรึไง  เดี๋ยวยุให้หาใหม่ซะหรอก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 14-03-2012 21:30:07
พี่หมูเข้มแข็งไว้นะคะ รวมถึงผู้พันด้วย....
 :monkeysad:
ไม่อยากคอมเมนท์อะไรมาก 
เช็ดน้ำตาก่อน   :impress3:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 14-03-2012 22:02:03
โถ หมูของเค้า  :monkeysad:

(สละไหล่ให้หมูเช็ดน้ำตา :z3:)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 14-03-2012 23:12:39
ผู้พันคะ....แบบนี้เรียกตบะแตกใช่มั้ยคะ.......

แต่ตอนนี้สงสารทุกคนอ่ะ อ่านแล้วอึดอัด อยากระบาย ฮือ......


อดทนกันอีกนิดเดียว.....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 15-03-2012 08:40:45
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
บททดสอบของความรักของคู่รักที่ไกลกันนี่ยากจริงๆ
ความรักอย่างเดียวไม่พอ ต้องเชื่อใจ ต้องหนักแน่น ต้องเข้มแข็งอดทนด้วย
หมูสอบผ่านแล้วล่ะ ทนอีกนิดนะ ผลการทดสอบคงหอมหวานเป็นแน่
ผู้พันไม่สนพี่กุ้งกับป๊อกกี้เหรอ :o8:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 15-03-2012 15:02:44
มานอนรอ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 15-03-2012 18:15:21
 :กอด1:ให้หายคิดถึง

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:14/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 15-03-2012 19:15:28
วันนี้มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ทุกคน

31



 อธิปพงศ์ตื่นเช้าอย่างอ่อนเพลีย แม้เมื่อคืนจะหลับสบายบนที่นอนหนานุ่ม แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ค่อยสบายใจเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืน อธิปพงศ์นึกเป็นห่วงความรู้สึกของเพื่อนอยู่เหมือนกัน ที่ต้องเสียใจและเจ็บตัวเพราะเขาคนเดียว แต่เขาก็เลือกที่จะไม่โทรไป เพราะอยากให้กรวัฒน์ตัดใจจากเขาได้เสียที เขาอาบน้ำแต่งตัวและเก็บที่นอน ก่อนจะเดินออกไปขอบคุณเพื่อนรุ่นน้องผู้ให้ที่พักใจแก่เขา เมื่อลองเดินไปยังโต๊ะกินข้าว ก็เห็นว่าเจ้าของบ้านกำลังจะรับประทานอาหารเช้ากัน มาร์โคผู้เป็นสามีกำลังทำอาหารเช้าอยู่หน้าเตา ส่วนเขียวกำลังดูแลลูกชายอยู่ใกล้ ๆ  เมื่อหญิงสาวผู้กำลังอุ้มลูกน้อยบนตักเห็นเพื่อนรุ่นพี่เดินมาจึงกล่าวชวน
"อ่าว พี่หมู มาพอดีเลยทานข้าวกันค่ะ"
อธิปพงศ์ยิ้มให้ “พี่ว่าจะกลับเลยหน่ะ ขอบคุณน้องเขียวมากนะครับ ถ้าไม่ได้น้องเขียวพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะเป็นยังไง”
เขียวเงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนรุ่นพี่เหมือนจะถามถึงสาเหตุของเรื่องเมื่อคืนนี้ อธิปพงศ์เลยเปิดปากเล่าบางส่วนให้รุ่นน้องฟัง
“ช่วงนี้พี่ไม่ได้คุยกับนิธินเลยนะ พี่เหงามาก เหงาจนพี่ไม่อยากกลับไปอยู่ที่ห้องคนเดียว...”
 “เมื่อคืนพี่หมูกินเหล้าด้วยรึเปล่าคะ”
“พี่เพื่อนพี่ชวนไปกินเหล้าหน่ะ พี่ไม่มีไรทำเลยออกไปกับมัน...”
แต่เขียวรับรู้ได้ว่าเมื่อคืนอธิปพงศ์ไม่ได้เมา แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ นอกจากบอกว่า
“ถ้ายังอยู่คนเดียวไม่ได้ มาอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้ค่ะ อยู่กับเซอร์จิโอ... ใช่มั๊ยครับ...ไหนบอกลุงหมูสิ”
หญิงสาวพยักพเยิดไปทางลูกน้อยที่ตบมือและส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากชอบใจ อธิปพงศ์ยิ้มให้หลานตัวน้อยก่อนจะบอกกับเพื่อนรุ่นน้องว่า
“ไม่ได้หรอกครับ แค่นี้พี่ก็รบกวนน้องเขียวมากพอแล้ว...”
“ไม่หรอกค่ะ บางครั้งความรู้สึกของคนเรามันก็มีช่วงที่เข้มแข็งหนักแน่น แต่บางครั้งมันก็ช่างบอบบางและอ่อนไหวจนเราไม่สามารถต้านทานมันได้ ถ้าพี่หมูยังไม่ไหวจริง ๆ ก็มานอนบ้านเขียวได้ค่ะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
 มาร์โค่หันมาพร้อมกับอาหารเช้าที่ทำให้ภรรยากับลูกและแขกที่มาในวันนี้ อธิปพงศ์เห็นอย่างนั้นจึงต้องร่วมรับประทานอาหารด้วยอย่างเกรงใจ ที่ต้องให้เพื่อนรุ่นน้องและครอบครัวเป็นคนดูแลเขา ก่อนจะขอตัวกลับเขาจึงบอกกับคนทั้งสองว่า
“ผมรบกวนคุณมาร์โค่มากไปจริง ๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ เพื่อนเขียวคนอื่นก็มาค้างที่นี่บ่อย เป็นเรื่องธรรมดาของบ้านเราครับ” สามีรุ่นน้องตอบยิ้ม ๆ แบบชินเสียแล้วกับบรรดาเพื่อนสนิทเพศที่สามของภรรยา ส่วนเขียวก็ให้กำลังใจรุ่นพี่ก่อนจะไป
“พี่หมูคะ อีกแค่เดือนกว่า ๆ เท่านั้นคุณนิธินจะกลับมา เขียวว่าเดี๋ยวเค้าก็ต้องติดต่อมาเอง เข้มแข็งไว้นะคะ”
“ขอบคุณครับ” เขารับคำยิ้ม ๆ “เดี๋ยวชุดนอนนี่พี่เอาไปซักให้นะ พรุ่งนี้พี่จะเอามาคืน”
“ค่ะ….มีอะไรโทรหาเขียวนะคะ”
“จ้ะ ขอบคุณมากนะจ๊ะ” 
   เขาเดินออกจากบ้านเขียวและต่อมอเตอร์ไซค์รับจ้างกลับที่พักของตัวเอง เขาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปทำงานตามปกติและก็นึกอะไรขึ้นมาได้ อธิปพงศ์รู้ซึ้งถึงคำว่าเหงาอย่างถ่องแท้แล้ว จากที่เมื่อก่อนเขาก็เคยไม่มีเวลาให้คนรักเก่าเหมือนกัน และก็หัวเราะขึ้นมาได้ เมื่อนึกถึงตัวเองตอนออกอาการหึงหวงนิธิน เลยพบว่ามันไม่ต่างจากตอนที่เขามองแฟนเก่าออกอาการหึงหวงเขาเสียเท่าไหร่ แต่ตอนนี้อาการทั้งหมดนั้นกลายเป็นสิ่งที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบัน  เขาจึงเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาพวกเธอรู้สึกอย่างไร
“สงสัยเป็นกรรมที่เคยทำกับคนอื่นไว้มากล่ะมั๊ง” อธิปพงศ์สรุปเองและเดินออกจากห้องเพื่อไปทำงานในวันนี้  เขาพิมข้อความส่งให้กรวัฒน์ด้วยความเป็นห่วงในฐานะเพื่อนว่า
“กูขอโทษที่ทำให้มึงเสียใจ แต่มึงจะผ่านพ้นไปได้เอง ไว้มึงพร้อมเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาเป็นเหมือนเดิม”

    กรวัฒน์ที่เพิ่งถึงที่ทำงาน หยิบโทรศัพท์มาเปิดดูข้อความนั้นแล้วก็ยิ้มเศร้า  แม้เขาจะไม่สามารถทำใจได้เพียงชั่วข้ามคืน แต่เขาก็จะพยายามไม่จมอยู่กับความรู้สึกผิดหวังและเสียใจในครั้งนี้ ถึงแม้จะไม่สามารถเปลี่ยนอธิปพงศ์ให้เป็นคนรักได้อย่างที่ใจต้องการ แต่ก็ยังดีที่เหลือความเป็นเพื่อนไว้ไม่ได้ตัดขาด ชายหนุ่มคิดว่าแค่นี้ก็ดีมากแล้วสำหรับเรื่องของเขา

  ด้านนิธินที่กำลังทดลองระบบกับเพื่อนร่วมงานอีกครั้ง หลังจากเคร่งเครียดกับการปรับแก้มาหลายรอบแล้ว ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ทุกคนในทีมหวังว่าระบบจะสามารถตอบสนองต่อกันได้เป็นอย่างดี และเมื่อลองทดสอบตัวระบบพบว่าระบบใช้งานได้และมีการตอบสนองต่อคำสั่งเป็นอย่างดี โปรแกรมเมอร์ทุกคนที่รอลุ้นต่างก็ส่งเสียงเฮออกมาด้วยความดีใจ เพราะพวกเขาอดตาหลับขับตานอนต่อสู้กับชิ้นงานนี้มากว่าสัปดาห์แล้ว ทุกคนเข้ามาจับมือแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน ส่วนนิธินเองก็ได้แต่โล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก เขาไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมข้อความบนหน้า Facebook ของคนรักทันที
   “วันนี้ผมทำสำเร็จแล้ว! ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อคุณเลย คิดถึงคุณมากนะครับ คืนนี้เจอกันใน skype นะ”

  ชายหนุ่มมองหน้าจอมือถือและอมยิ้มอย่างมีความหวัง หากว่างานชิ้นนี้ผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายวิเคราะห์ระบบแล้ว เขาก็จะได้ย้ายกลับไปทำงานในตำแหน่งใหม่ที่กรุงเทพฯในเดือนมิถุนายนทันที ซึ่งก็เหลือเวลาอีกแค่เดือนกว่า ๆ           ที่ผ่านมา แม้เขาจะเป็นห่วงคนรักมากเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถดูแลและพูดคุยได้อย่างที่เคย เขากลัวเหมือนกันว่าอธิปพงศ์จะมีใครเข้ามาให้หวั่นไหวหรือเปล่า แต่เขาก็ยังเชื่อมั่นในตัวคนรักว่าชายหนุ่มยังคงมั่นคงต่อเขาเหมือนที่เขาตั้งใจทำงานเพื่อจะได้กลับไปอยู่ด้วยกันอย่างที่หวังไว้

     อธิปพงศ์ที่ออกมาพักกินข้าวกับหญิงหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูอย่างเซ็ง ๆ เพราะก็ไม่รู้ว่าวันนี้นิธินจะติดต่อกลับมาบ้างหรือเปล่า หญิงเห็นอาการรุ่นพี่แล้วก็ได้แต่เป็นห่วง เลยได้แต่ชวนให้กินข้าวเพื่อจะได้รีบไปทำงาน
แต่พออธิปพงศ์ เปิดดูใน Facebook ก็พบกับข้อความที่คนรักส่งมาให้เมื่อครู่นี้ ชายหนุ่มดีใจมากที่ได้รับการติดต่อจากคนรักและรู้สึกชื่นใจที่อีกฝ่ายยังคงบอกว่าคิดถึง อธิปพงศ์ยิ้มกว้างอย่างมีความสุขจนหญิงที่กินข้าวอยู่สงสัย
“มีอะไรอ่ะพี่หมู”
“เปล่าหรอก” อธิปพงศ์ยิ้มอย่างมีความสุข “กินข้าวกันเถอะ”
หญิงพยักหน้ารับและกินข้าวต่อ โดยมิวายมองหน้ารุ่นพี่ที่ดูเปลี่ยนไปเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ เด็กสาวคิดว่าคงจะเป็นเพราะอธิปพงศ์ได้รับข่าวดีจากคนรักมาแน่ ๆ จึงทำให้เป็นอย่างนี้

  เมื่อเลิกงานอธิปพงศ์กลับไปถึงห้องและเปิดคอมพิวเตอร์ด้วยความตื่นเต้น พอเข้าโปรแกรมพูดคุยออนไลน์เขาก็พบว่านิธินมาออนไลน์รอเขาอยู่แล้ว ชายหนุ่มจึงไม่รอช้าที่จะเข้าไปทักทายคนรักทันที
“ไงครับ”
เขาส่งยิ้มให้คนรักผ่านกล้องหน้าจอ เมื่อเขาเห็นหน้าคนรักก็แทบน้ำตาไหล เพราะไม่ได้เจอหน้ากันมานานแล้ว เขามองดูใบหน้าอิดโรยที่เต็มไปด้วยหนวดเคราและผมที่ยาวไม่เป็นทรงของคนรักอย่างคิดถึง
“ที่รัก คุณเป็นยังไงบ้าง” นิธินถามกลับมาด้วยความเป็นห่วง เพียงเท่านั้นอธิปพงศ์ก็เริ่มน้ำตาซึม เพราะประโยคนี้เขาต่างหากที่จะต้องเป็นฝ่ายถาม
“ผมก็..เรื่อยๆ....คิดถึงคุณหน่ะ” อธิปพงศ์พยายามตอบให้คนรักสบายใจที่สุดแต่ก็ไม่สามารถเก็บความรู้สึกที่แต่จริงได้
“อืม ผมก็เหมือนกัน ผมขอโทษนะครับ ที่ไม่ได้มาคุยกับคุณเลย”
อธิปพงศ์ส่ายหน้าทันที เขาลืมความรู้สึกเหงาและน้อยใจไปเสียสิ้น เมื่อเห็นสภาพของคนรักผ่านหน้าจอในตอนนี้
“ไม่เป็นไรครับ”
นิธินรับรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังจะร้องไห้ เขาไม่ได้พูดอะไรเพราะก็ดีใจจนแทบหลั่งน้ำตาเหมือนกัน
  “ผมดีใจด้วยนะที่คุณบอกว่าคุณทำสำเร็จแล้ว คุณจะได้กลับมาแล้วใช่มั๊ย”
“ก็ แค่เริ่มต้นหน่ะครับ ต้องรอตรวจสอบอีกที แต่ไม่ต้องห่วงนะ ผมว่าผ่านอยู่แล้ว”
“อืม” อธิปพงศ์รับคำด้วยความดีใจ
“คุณคงเหงามากสินะ ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ”
อธิปพงศ์ส่ายหน้าอีกครั้ง ด้วยรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทั้งที่นิธินพยายามทำงานหนักเพื่อจะได้กลับมาอยู่กับเขาแท้ ๆ
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับ ผมเข้าใจว่าคุณต้องทำงานหนักแค่ไหน ผม...” อธิปพงศ์พูดไม่ออกเพราะรู้สึกจุกที่ลำคอ “ผมจะรอคุณนะครับ”
“ครับ แล้วผมจะกลับไป”
นิธินตอบรับหน้าใส ๆ แล้วลูบหน้าคนรักผ่านกล้องเว็บแคมอย่างคิดถึง แม้เขาจะดีใจที่ได้เจอกับคนรัก แต่ก็รู้สึกอดห่วงไม่ได้เมื่อเห็นใบหน้าขาวใสนั้นดูมีแววแห่งความกลัดกลุ้มฉายอยู่ไม่น้อย เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้กลับไปดูแลคนรักอย่างที่เคย พวกเขาพูดคุยกันไม่นานเพราะสิ่งที่อยากจะบอกให้กันและกันรับรู้ก็คงเป็นเรื่องเดียวกันแค่นั้น เขาทั้งสองก็บอกลากันเพื่อเข้านอน
นิธินทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างเหนื่อยล้า เพราะไม่ได้เข้านอนในเวลานี้มานานแล้ว เขานึกถึงอธิปพงศ์และพูดออกมาอย่างคิดถึงว่า
 “ที่รัก..รอผมหน่อยนะครับ อีกไม่นานแล้วเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน..ผมจะไม่ไปไหนจากคุณอีก”

   สายฝนกลางพฤษภาคมเทกระหน่ำสู่กรุงเทพฯเหมือนจะไล่อากาศร้อนที่ผ่านไป ต่างกับดูไบที่ฤดูร้อนเพิ่งจะเริ่มต้น อธิปพงศ์และช่างคนอื่นต่างก็ทำงานแทบไม่ได้ว่างเว้น เพราะนี่เป็นช่วงเวลาที่นักเรียนนักศึกษาเปิดภาคเรียนกันแล้วคนหนุ่มสาวทั้งหลายจึงเข้ามาใช้บริการในร้านตัดผมมากเป็นพิเศษ  ส่วนนิธินเองก็กำลังนำเสนอระบบปฏิบัติการรูปแบบใหม่ที่พวกเขาทุ่มเทคิดค้นและทดลองมาแรมเดือนให้กับเจ้านายและนักวิเคราะห์ระบบฟัง โดยนักวิเคราะห์ระบบจะนำระบบปฎิบัติการนี้ไปตรวจสอบตามขั้นตอนอีกครั้ง ถ้าหากว่าใช้การได้ดี นิธินและทีมงานทั้งหมดก็ถือว่าสอบผ่านกับโครงการนี้

   “ที่รัก วันนี้เป็นอะไร คุณดูเหนื่อย ๆ นะ” นิธินทักทายคนรักผ่านSkype เขาคิดว่าตอนนี้อธิปพงศ์ดูอ่อนล้ามากเป็นพิเศษ
“วันนี้ลูกค้าเยอะหน่ะ แต่ก็ดีนะ..” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ เพราะช่วงนี้พวกเขาได้พูดคุยกันบ่อยกว่าเดือนที่แล้ว
“และคุณล่ะ เป็นไงมั่ง เห็นว่าวันนี้ส่งงานนี่นา”
“อืม” รอยยิ้มน้อย ๆ ปรากฏบนในหน้าคร้ามเข้ม “แต่ก็ยังไม่รู้หน่ะว่าเค้าว่าไง”
“ผ่านอยู่แล้วหล่ะน่า” อธิปพงศ์ให้กำลังใจ
“ขอบคุณครับ...ว่าแต่กรุงเทพฯเป็นยังไงมั่ง ตอนนี้ฝนตกรึเปล่า”
“อืมใช่ ๆ ฝนตกทุกวันเลย แล้วคุณรู้ได้ไงเนี่ย”
“ก็ผมดูข่าวไทยในอินเตอร์เน็ทหน่ะ”
“เหรอ…” อธิปพงศ์ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น “คุณคิดถึงกรุงเทพฯมากเลยเหรอ”
“คิดถึงคุณมากกว่าหน่ะ” นิธินตอบไปตรง ๆ เพราะชายหนุ่มคิดว่าเวลานี้ไม่รู้จะอ้อมค้อมไปเพื่ออะไร
“โหย....” คนฟังอยู่เขินแทบพูดไม่ออก “ไม่คิดถึงพ่อกับแม่คุณเหรอ”
“คิดถึงสิ แต่ก็เหมือนคุณแหล่ะ หลัง ๆ มานี้ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่”
“อืมๆๆ” อธิปพงศ์พูดต่อ “แม่กับยายผมบอกว่า ถ้าคุณกลับมาแล้วให้ไปหาที่ลพบุรีด้วยนะ”
“จริงเหรอครับ”
“จริงสิ...ตอนที่ผมกลับบ้านเค้าก็บ่น ๆ นะว่าเสียดายคุณไม่ได้มาด้วย”
“อืม ผมก็เสียดาย”
“ผมอยากให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ จัง” อธิปพงศ์พูดอย่างตื่นเต้นกับวันที่จะได้อยู่ด้วยกัน
“ไม่นานหรอกครับ ห้าเดือนกว่าเรายังผ่านมาแล้ว เหลืออีกนิดเดียวเอง”
“อืม นั่นหน่ะสิ”
  อธิปพงศ์รับคำคนรัก เหลืออีกไม่นานแล้วที่ความฝันของพวกเขาจะเป็นจริง แม้ว่านิธินจะส่งเงินค่าผ่อนที่พักมาไม่ขาด และเขาก็รู้ดีว่างานที่ดูไบมีเงินเดือนที่สูงกว่า แต่เขาก็ไม่อาจปฏิเสธความต้องการของตัวเองว่าอยากให้คนรักกลับมาอยู่ด้วยกันที่นี่มากที่สุด
“คิดอะไรอยู่เหรอครับ” นิธินถามเมื่อเห็นคนรักเงียบไป
“เปล่าครับ” อธิปพงศ์นึกขึ้นได้ “ผมก็แย่นะ ไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านคุณเอเจอีกเลยตั้งแต่คุณชะเอมคลอดลูกคราวนั้น”
เขาหมายถึงภรรยาของเอเจที่ให้กำเนิดลูกสาวเมื่อมีนาคมที่ผ่านมา
“เดี๋ยวไปด้วยกันกับผมนี่แหล่ะ”
“อืม ๆ ไปเยี่ยมหลานกันเนอะ”
พวกเขายิ้มให้กันอย่างสดใสกับความหวังที่ก่อตัวในใจอีกครั้ง อีกไม่นานแล้วที่คนทั้งสองจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน อธิปพงศ์คิดว่า คราวนี้เขาจะตั้งใจดูแลนิธินให้ดีที่สุดและใช้ชีวิตต่อจากนี้ให้คุ้มค่ากับสิ่งที่เขาอดทนรอคอยมาแสนนาน

  นิธินและเพื่อนร่วมงานทุกคนนั่งรอฟังคำตอบจากเจ้านายและนักวิเคราะห์ระบบในห้องประชุม เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้าแล้ว นักวิเคราะห์ก็ได้ให้คำตอบกับพวกเขาว่า
“ยินดีด้วย ระบบปฏิบัติการของพวกคุณมีการตอบสนองเป็นอย่างดี ยินดีกับพวกคุณทุกคนด้วย”
ทุกคนมองหน้ากันและพรูลมหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ ในที่สุดงานหนักที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจกันมาก็สำริดผล หลังจากรับฟังและประชุมรายละเอียดต่าง ๆ อีกเล็กน้อย พวกเขาเดินตัวปลิวออกมาจากห้องประชุมด้วยความดีใจที่สุด
“ขอบคุณทุกคนมากนะครับ ที่ร่วมแรงร่วมใจกันทำงานนี้” นิธินบอกกับเพื่อนร่วมงานทุกคน เขาจับมือยินดีกันตามมารยาท ใบหน้าทุกคนที่อิดโรยตอนนี้ปรากฏสีหน้าแห่งความแช่มชื่นขึ้นมา ในที่สุดงานใหญ่ก็จบลงด้วยความสำเร็จ  เห็นทีว่างานนี้พวกเขาคงต้องไปฉลองใหญ่กันให้หายเหนื่อยเสียหน่อยแล้ว

“คุณนิธินคะ” เลขาสาวของเจ้านายเข้ามาเรียกชายหนุ่มตามคำสั่ง “บอสขอพบค่ะ”
“ขอตัวก่อนนะ” นิธินบอกกับเพื่อนร่วมงานและเดินตามหญิงสาวไปยังห้องทำงานของเจ้านาย
“นั่งลงครับ” เจ้านายกล่าวด้วยเสียงทรงอำนาจ ก่อนจะยื่นซองเอกสารให้
“คุณผ่านงานที่นี่แล้ว ยินดีด้วยกับตำแหน่งใหม่ที่กรุงเทพฯครับ”
นิธินแทบไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะสิ่งที่เขารอคอยมาตลอดได้อยู่ตรงหน้าแล้ว
“ข..ขอบคุณครับ”
“อาทิตย์หน้าเตรียมตัวเดินทางได้ ยินดีด้วยอีกครั้งครับ”
เจ้านายกับเขาจับมือกับแสดงความยินดีกันตามมารยาท ก่อนจะออกจากห้องเพื่อไปรวมกลุ่มกับเพื่อนตามเดิม
“มีอะไรเหรอนิธิน”
“ผมได้ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯครับ”
“เฮ้ยย จริงดิ งั้นเราต้องไปฉลองให้นิธินแล้ว จริงมั๊ยพวกเรา”
เพื่อนร่วมงานทุกคนมองเขาอย่างยินดี  นิธินแบ่งรับแบ่งสู้ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์มาเปิด Facebook เพื่อรายงานผลแก่คนรักที่รอคอยทันที
“งานผมผ่านแล้ว ดีใจที่สุดเลย!”


 อธิปพงศ์ดีใจจนแทบร้องออกมาเมื่อเห็นข้อความนั้นบนหน้าวอลล์ของตัวเอง ในที่สุดความฝันของเขาก็ใกล้ความจริงเข้ามาทุกทีแล้ว ชายหนุ่มที่เพิ่งจะออกจากห้องน้ำเดินกลับมาที่ร้านด้วยสีหน้าแห่งความสุข จนป๊อกกี้มองหน้างง ๆ
“มีอะไรเหรอคะคุณพี่”
อธิปพงศ์ยิ้มตอบรุ่นน้อง “เปล่า..”
“หูยย มาป่งมาเปล่า น้องไม่เชื่อ สงสัยมีข่าวดีจากสามีส่งมาใช่มั๊ยคะ”
“อืม” อธิปพงศ์ตอบรับแค่นั้น แต่กลายเป็นป๊อกกี้ที่กรี๊ดกร๊าดออกมาเสียเอง
“อร๊ายยย เริ่ดค่ะ เริ่ดๆๆๆๆ” เธอพูดต่อ “งั้นก็แสดงว่า คุณนิธินใกล้จะได้กลับมาครองคู่กับคุณพี่แล้วสิคะ”
อธิปพงศ์รับคำเขิน ๆ “ก็ทำนองนั้น”
“ตายแล้ว ยินดีด้วยนะคะคุณพี่ น้องดีใจด้วยจริง ๆ”
“ขอบใจนะ” เขาหันไปมองหญิงที่อยู่อีกมุมก็พบว่าเด็กสาวก็ส่งยิ้มดีใจมาให้เช่นกัน
“อะไรกันนังป๊อก” พี่กุ้งที่เพิ่งสระผมลูกค้าเสร็จเดินออกมาถาม เพราะได้ยินเสียงกรี๊ดของเจ้าตัว
“ถามพี่หมูเองค่ะคุณแม่ ลูกไม่เมาท์ อิอิอิ” ป๊อกกี้ขอตัวไปทำงานต่อ พี่กุ้งเลยถามอธิปพงศ์ผู้เป็นเจ้าของเรื่องเอง
“มีอะไรกันเหรอหมู”
“นิธิน เค้าบอกว่า งานที่ดูไบเรียบร้อยแล้วครับ”
“จริงเหรอ!” พี่กุ้งเองก็ดีใจและตกใจไม่แพ้กัน “พี่ดีใจด้วยนะหมู”
“ขอบคุณมากครับ” อธิปพงศ์รับคำรุ่นพี่ด้วยความยินดี เขายิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความสุข โลกทั้งโลกดูสดใสขึ้นในพริบตาเมื่อหัวใจของเขาชุ่มชื่นเพราะคนรักที่กำลังจะกลับมาอีกครั้ง

   วันนี้กรุงเทพฯก็ยังมีฝนตกในตอนเย็นและหัวค่ำ ชายหนุ่มที่เพิ่งแวะไปหาเพื่อนรุ่นน้องอย่างเขียวเลยกลับบ้านในสภาพเปียกปอนแต่ทว่าสุขใจกว่าทุกวัน เมื่อถึงห้องเขาเลยลองเปิดดูใน Whatsapp ว่าคนรักออนไลน์อยู่หรือเปล่า และก็ดีใจที่เห็นนิธินออนไลน์อยู่เขาจึงทักทาย
“ไงครับที่รัก ไปปาร์ตี้มาเหรอ”
“ใช่ครับ ผมกำลังจะกลับเนี่ย”
“เหรอ แล้วกลับเร็วเพื่อน ๆ คุณไม่ว่าเอาเหรอ”
“ไม่หรอกครับ เค้าเมากันเกือบหมดแล้ว” อธิปพงศ์ดูนาฬิกาบนโต๊ะที่ตั้งเป็นเวลาในดูไบก็แปลกใจ เพราะที่นั่นแค่สี่ทุ่ม แต่นิธินบอกว่าเพื่อน ๆ เขาเมากันแล้ว
“สี่ทุ่มเนี่ยนะ”
“อืมใช่ครับ วันนี้เค้ากินเหล้ากันอย่างเดียวหน่ะ ไม่ได้ไปผับหรอก”
“อ่าวเหรอ..” อธิปพงศ์พูดต่อ
“ดีใจด้วยนะครับที่รัก คุณเก่งมากเลย”
“ขอบคุณครับ” นิธินรับคำยิ้ม ๆ “ผมกะว่าจะเดินทางวันศุกร์นี้แล้ว”
“วันศุกร์เหรอ!!” อธิปพงศ์ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะก็อีกไม่กี่วันเขาก็จะได้พบหน้ากันแล้ว
“ใช่ครับ ผมอยากเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์นี้เลย”
“จริงดิ...” อธิปพงศ์ตอบไปแค่นั้น แต่ในใจเขากำลังเต้นระรัวจนแทบทะลุออกมานอกอก
“ใช่ครับ จัดห้องรอผมไว้เลย ผมมีของมาฝากทุกคนด้วย”
อธิปพงศ์ไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ส่วนนิธินก็พิมต่อเมื่อเห็นคนรักเงียบไป
“ที่รัก ๆ คุณอยู่รึเปล่า”
“อยู่ครับ”
“อืม ผมก็ดีใจนะที่จะได้กลับไปกรุงเทพฯแล้ว”
“ครับ เหมือนกัน” เขาถามต่อ “ตอนนี้คุณอยู่ไหนเนี่ย”
“กำลังกลับห้องครับ”
“อ่าวเหรอ” อธิปพงศ์บอกคนรัก “งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ผมต้องไปอาบน้ำแล้ว เพราะว่าตากฝนมา คืนนี้คุณกลับไปนอนพักผ่อนให้เต็มที่นะครับ คิดถึงนะ”
“ครับ คิดถึงเหมือนกัน ฝันดีนะครับ”
“ครับ”
อธิปพงศ์ออพไลน์ไปด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข ก่อนจะเข้าไปอาบน้ำและกลับมานั่งลงบนเตียงหกฟุตที่ยังว่าง เขาค่อยลูบผ้าปูที่นอนด้วยความหวัง อีกไม่กี่วันแล้วนะก็จะได้อยู่ด้วยกัน เขาลองนั่งแรง ๆ บนเตียงใหญ่แล้วยิ้มขำ เพราะจากนี้ไป เขาไม่ต้องนอนเหงาคนเดียวอีกแล้ว

  อธิปพงศ์ไปทำงานอย่างมีความสุขพร้อมกับนับวันรอที่จะได้เจอกับคนรัก โดยยังติดต่อกันไม่ขาดหาย แต่เที่ยงวันพฤหัสบดีนี้เขาและเพื่อนร่วมงานทุกคนก็ได้ดูข่าวต่างประเทศก็พบว่า
“ขณะนี้เกิดพายุทรายขนาดใหญ่ในเมืองดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรส ทำให้ประชาชนชาวดูไบไม่สามารถออกมาจากที่พักอาศัยได้ และส่งผลให้หลายเที่ยวบินต้องเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด..”
  อธิปพงศ์ตัวชาทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เขาจึงเปิด Whatsapp เพื่อสอบถามคนรัก
“นิธิน คุณเป็นยังไงมั่ง”
“คุณเห็นข่าวพายุทรายแล้วใช่มั๊ย”
“อืม..” เขาถามอย่างเป็นห่วง “คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่าครับ ผมสบายดี” แต่นิธินก็บอกกับคนรักอย่างเป็นห่วงเช่นกัน “พรุ่งนี้ผมคงไม่ได้กลับไปแล้วล่ะ”
“ผมเข้าใจครับ” อธิปพงศ์ปลอบใจคนรักและตัวเองไปด้วย “อดทนอีกนิด ผมไม่เป็นไรครับ…คุณก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ มีอะไรก็ส่งข่าวมานะครับ”
“ครับ” นิธินตอบกลับ รู้สึกเสียดายเช่นกันที่จะไม่ได้เจอคนรักตามกำหนด

พี่กุ้งเห็นว่ารุ่นน้องคุยกับคนรักเสร็จแล้วจึงลองไต่ถาม
“ว่าไงหมู”
“นิธินยังกลับมาไม่ได้ครับ ก็อย่างที่ข่าวบอก คงถูกเลื่อนไฟล์ทไปก่อน”
“อืม...” พี่กุ้งตบไหล่รุ่นน้องเบา ๆ “เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงาน ส่วนอธิปพงศ์เองก็ถอนใจกับการรอคอยที่เข้ามาอีก เขาพยายามคิดในแง่ดีว่า อย่างน้อยคนรักก็ได้กลับมาเร็วกว่ากำหนด และคงจะเป็นสัปดาห์หน้าที่เขาและคนรักคงจะได้พบกันอย่างที่ต้องการ

  เมื่ออธิปพงศ์กลับบ้านก็ได้พูดคุยออนไลน์กับคนรัก ที่ส่งข่าวมาว่าพายุในทะเลทรายยังไม่สงบเลย เขาแต่ได้ให้กำลังใจและภาวนาให้คนรักปลอดภัยจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ เขาทิ้งตัวลงนอนและกอดหมอนต่างอกอุ่นของนิธิน ชายหนุ่มไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ ทั้งเป็นห่วงคนรักและไม่อาจรู้ได้ว่าการรอคอยครั้งนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด
 
  อธิปพงศ์ตื่นเช้าไปทำงานตามปกติในวันศุกร์เสาร์ แต่ก็ยังติดตามสถานการณ์ต่างแดนผ่านหน้าจอไอโฟนอย่างใกล้ชิด แต่ช่างโชคร้าย เมื่อข่าวภาษาไทยและภาษาอังกฤษไม่ได้ติดตามสถานการณ์พายุทรายในดูไบเลย นอกจากสำนักข่าวอาหรับที่เขาไม่สามารถอ่านออกเท่านั้น มีเพียงแค่ข่าวภาคภาษาอังกฤษของสำนักข่าวอาหรับเท่านั้นที่เขายังสามารถติดตามได้ แต่ก็ไม่ได้รายงานอะไรให้คนต่างชาติอย่างเขารับรู้ไปมากกว่าข่าวเศรษฐกิจและสังคม  และยิ่งเมื่อคืนที่ไม่สามารถติดต่อนิธินได้เลยสักช่องทางเดียว ทำให้อธิปพงศ์ยิ่งกระวนกระวายมากขึ้น จนไม่สามารถนอนหลับลงได้

  “หมู..เป็นอะไร วันนี้ทำงานไหวมั๊ย” พี่กุ้งเห็นอธิปพงศ์มาทำงานในสภาพอิดโรยก็ไถ่ถามอย่างเป็นห่วง เขาทราบดีว่าตอนนี้รุ่นน้องกำลังว้าวุ่นในเรื่องอะไร
“ไหวครับพี่ ขอบคุณมากนะครับ”
อธิปพงศ์ยิ้มให้ และก็ลงมือช่วยทุกคนจัดร้านตามปกติ แม้ทุกคนจะช่วยปลอบใจว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่อธิปพงศ์เองก็กระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย แต่เขาก็ยังตั้งใจทำงานตามปกติ บ่ายวันนี้ฝนตกลงมาอีกแล้ว ชายหนุ่มมองไปนอกกระจกและคิดว่าถ้าฝนในกรุงเทพฯ สามารถไปดับพายุทรายที่ดูไบได้ก็คงจะดี แต่ก็ถอนใจกับสิ่งที่คิดอยู่และหันมาใส่ใจกับผมลูกค้าที่เขากำลังจะทำสีให้

 “สวัสดีค่ะ ทำอะไรดีคะ มีช่างประจำรึเปล่า…อุ้ยย!” หญิงที่นั่งรับลูกค้าอยู่หน้าร้านรู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่เลยต้อนรับโดยไม่ได้แหงนหน้ามอง แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเด็กสาวก็ตาค้างเมื่อพบกับร่างสูงใหญ่ที่เคยเจอในหน้าฝนปีที่แล้ว
นิธินที่ยิ้มให้เด็กสาวอย่างเป็นมิตร หญิงยิ้มให้ก่อนจะบอกว่า
“พี่หมูอยู่ข้างในค่ะ”
“ขอบคุณครับ”
  นิธินตอบรับก่อนจะวางกระเป๋าเดินทางและเดินเข้าไปในร้าน พี่กุ้งกับป๊อกกี้ที่หันหน้าออกมานอกร้านเห็นชายหนุ่มเดินมาพอดีก็ยิ้มออกและมองอธิปพงศ์ที่ยังไม่รู้ตัวว่ามีใครที่รอคอยกำลังเดินมาหา เขาส่งสัญญาณบอกพี่กุ้งกับป๊อกกี้ว่าอย่าเพิ่งเอ่ยปากบอกเจ้าตัว ก่อนจะเดินไปอยู่ข้างหลังเพื่อให้อธิปพงศ์สามารถเห็นเขาผ่านกระจกเงาได้
  อธิปพงศ์ที่กำลังจะลงสีผมให้ลูกค้าถึงกับชะงักเมื่อเห็นเงาของคนรักที่อยู่ด้านหลังในกระจก นิธินนั้นยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่นเช่นเคย เพียงแค่นั้นช่างผมหนุ่มถึงกับตกใจจนปล่อยถ้วยน้ำยากับแปรงในมือร่วง เขารีบหันหลังไปมองก็พบว่าร่างใหญ่ในเสื้อสูทนั้น กำลังมองมาที่และยิ้มให้อย่างดีใจเช่นกัน
  อธิปพงศ์มองหน้าคนรักทั้งน้ำตาและเข้าไปสวมกอดร่างใหญ่นั้นด้วยความรักและคิดถึง นิธินเองก็กอดคนรักแน่นเช่นเดียวกัน อธิปพงศ์กอดรัดร่างกายอุ่น ๆ นั้นและบอกตัวเองว่าเขาไม่ได้ฝันไป  ทุกคนในร้านมองภาพนั้นด้วยความปิติยินดี บางคนก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความซาบซึ้ง โดยเฉพาะป๊อกกี้กับหญิงหรือแม้แต่พี่กุ้งเองก็ตาม

“ผมกลับมาแล้ว” นิธินกระซิบข้างหูพร้อมกับโอบกอดอธิปพงศ์ไว้แน่น เขารับรู้ได้ว่าตอนนี้อธิปพงศ์ตัวสั่นมากแค่ไหนในอ้อมแขน เขาละออกมาเพื่อมองหน้าคนรักอีกครั้งพร้อมกับจรดปลายจมูกเบา ๆ บนหน้าผากอย่างแสนรัก อธิปพงศ์ยิ้มทั้งน้ำตาและสวมกอดนิธินอีกครั้งด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต ไม่มีคำพูดใด ๆ ออกมาจากคนทั้งสอง นอกจากสัมผัสอบอุ่นที่พวกเขามอบให้กัน เหมือนจะบอกว่าเขาทั้งสองรักและคิดถึงกันมากเพียงใดในช่วงที่ผ่านมา วันนี้เขาได้กลับมาเคียงคู่กันดังเดิมแล้ว
สายฝนข้างนอกยังคงโปรยปรายมาไม่ขาดสายเพื่อดับความแห้งแล้งให้พื้นดิน เช่นเดียวกับหัวใจของชายหนุ่มทั้งสองที่กลับมาชุ่มชื้นและอบอุ่นไปด้วยความรักที่พวกเขารอคอยอีกครั้ง




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 15-03-2012 19:39:53
บรรยายซะน้ำตาซึม



 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 15-03-2012 19:44:53
ง็องแง็ง ไม้ไต่คู้ค่ะ ที่รัก
แล้วก็ ช่องเก็บของใต้เบาะรถจักรยานยนต์ ไม่ใช่ในถังน้ำมันนะคะ

ขอบคุณมาก วันนี้มีความสุขแล้วค่ะ ไปนอนดีกว่า

กลับไปแก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆๆ นะคะ หวังว่าคุณณัฐคงจะมีความสุขมากขึ้นกับตอนที่ 31 นี้นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 15-03-2012 19:48:11
นิธินกลับมาแล้ว
พี่หมูไม่ต้องเหงาแล้วนะ  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 15-03-2012 19:51:10
ฮือออออออออออออออออออออ
 :sad4:
คุณนิธินกลับมาแล้ว
พี่หมูดีใจด้วยนะคะ
คนอ่านดีใจ+ซาบซึ้งจนน้ำตาจะไหลแล้วค่ะ
 :give2:
ดีใจกับพี่หมูืที่สุดในโลก
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดามากๆค่ะสำหรับตอนนี้
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 15-03-2012 19:53:27
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
ประทับใจจังบรรยายได้เห็นภาพความดีใจเลย o13
ปล.อยากได้เรื่องนี้เป็นหนังสือจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 15-03-2012 20:03:57
อิจฉาตาร้อนนนนนน
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-03-2012 20:12:52
ซาบซึ้งจนน้ำตาคลอ ดีใจด้วยนะหมูกับนิธิน ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว :monkeysad:
 
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 15-03-2012 20:20:46
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยดีใจน้ำตาไหลเลย จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว แต่เราสิยังเดียวดาย ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: khalwfarng ที่ 15-03-2012 20:28:30
ยินดีและเปรมปรีด์ไปกับพี่หมู...
ในที่สุด ก็ไม่ค้องรอคอยกันแล้วสินะ
เรื่องเพื่อนสนิทก็เริ่มคลี่คลาย นิธินก็กลับมาแล้ว
ปัญหาต่อไปจะเป็นอะไรหว่า?
หรือว่า....ใกล้จบแล้ว  โอ้ม่ายยยยยยยยยย
คิดมาตลอดอ่ะเรา เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 15-03-2012 20:54:28
วันนี้อ่านรวบยอดไปสองตอนเลยจ้ะ
ตอนก่อนหน้านี้(ตอนที่30) สงสารทั้งหมูทั้งอ๊อฟ
แต่คิดว่าอ๊อฟหลังจากได้ระบายความรู้สึกอัดอั้นในใจออกไปแล้ว ก็คงรู้สึกดีขึ้นล่ะ(ฝีกลัดหนองถูกสะกิดให้หนองทะลักทลายออกมาแล้วนี่)
ส่วนตอน31นะน้ำพริกพูดถึงอารมณ์ความรู้สึกของหมูซะเกือบน้ำตาเล็ดตามแน่ะ
แต่พอช่วงท้ายของตอน ถ้าไม่อายหลานคงร้อง เย้..ดังๆเลยแหละ
สิ้นสุดการรอคอยด้วยความหอมหวาน
หวังว่าต่อไปนี้จะมีแต่สีชมพูรายล้อมรอบๆหมูกับนิธินนะจ๊ะ
 
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 15-03-2012 20:59:03
ลุ้นจนน้ำท่วมจอ :monkeysad:
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 15-03-2012 21:16:41
ดีใจกับหมูกับนิธินด้วย จนน้ำตาซึม
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 15-03-2012 21:31:58
กลับไปแก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆๆ นะคะ หวังว่าคุณณัฐคงจะมีความสุขมากขึ้นกับตอนที่ 31 นี้นะคะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

http://www.youtube.com/v/RO4n32AT5OU?version=3&amp;hl=th_TH



Feeling Good and so happy  :กอด1:

ดัดจริตซ้อมไว้เผื่อได้ฝาละมีเป็นฝรั่งอั้งม้อบ้างอะไรบ้าง   :laugh:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: MaRiTt_TCL ที่ 15-03-2012 21:42:56
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
หมูกับนิธินเหมาะสมกันมากก เริ่มต้นมาเราก็รู้ได้เลยว่าพวกเค้ารักกันมากแค่ไหน อ่านแล้วยิ้มเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 15-03-2012 21:45:51
ดีใจกับคู่รักในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 15-03-2012 23:57:46
เจอกันแล้วเว้ยยยยย!!!

 :110011: :110011: :110011: :110011:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 16-03-2012 03:45:49
ไชโย...นิธินกลับมาแล้ว  :a1:


หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 16-03-2012 13:30:13
แง ดีใจน้ำตาซึมเลยค่ะงานนี้

ปล เเอบอิจฉา นิดนึง

นิดเดียวนะคะ คริๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 16-03-2012 20:02:55
อ่านทันแล้ว เย้!!
อบอวลไปด้วยความรักจริงๆ
ได้ความรู้เบาๆ ชักอยากกินไอติมอัลมอลอ่ะ ไม่เคยกินเลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 16-03-2012 21:09:18
ลุ้นตามไปด้วยว่าจะได้เจอกันเมื่อไร แต่ในที่สุด ก็ได้เจอกันซะที โอ๊ย ปลื้มอะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 16-03-2012 21:33:58
มานอนรอ มาไหมเอ่ย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 16-03-2012 23:58:56
เย้ๆๆ ดีใจกะพี่หมูด้วยนะคะ o13 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 17-03-2012 12:25:09
เจอกันแล้ว

 :z7: :110011:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-03-2012 00:50:01
เจอกันแล้วดูท่า ตาหมูจะกินตานิธินก่อนเลยนะ อิอิ รออ่านฉากจัดหนัก อิอิ แอบหื่นๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 19-03-2012 09:48:49
รออออ คิดถึงนิธินซามะ คึคึจะมา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 19-03-2012 18:07:47
ขอโทษที่วันศุกร์หายไปนะคะ  แต่วันนี้มาแล้วนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ เลยค่ะ


32



 เลิกงานวันนี้อธิปพงศ์ไม่ได้รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างที่เคย ถึงแม้ว่าวันนี้จะไม่ได้มีนิธินมารอกลับบ้านพร้อมกันที่หน้าร้าน เพราะเขาได้ให้คนรักกลับไปล่วงหน้าเพื่อนอนพักผ่อนที่ห้องพักของพวกเขา ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับตัวเองและมองไปรอบตัวด้วยสายตาที่สดใสขึ้น
“ผมกลับก่อนนะครับพี่กุ้ง” อธิปพงศ์ยกมือไหว้เจ้านายอย่างเช่นทุกวัน พี่กุ้งรับไหว้และตบไหล่รุ่นน้องเบา ๆ
“พี่ยินดีด้วยนะหมู มีความสุขด้วยกันซะที”
“ขอบคุณครับ” อธิปพงศ์รับคำยิ้ม ๆ ก่อนจะหันมาบอกกับป๊อกกี้และหญิง “พี่กลับก่อนนะ”
“ค่ะ แฮ็ปปี้ดี๊ด๊านะคะ” ป๊อกกี้อวยพร
“จ้ะ ขอบใจนะป๊อก”
อธิปพงศ์รับคำและเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข เมื่อเห็นว่าอธิปพงศ์เดินไปแล้วป๊อกกี้จึงหันมาเมาท์กับทุกคนว่า
“คืนนี้ห้องพี่หมูมีหนังเรื่องรักจัดหนักแน่ ๆ ค่า พรุ่งนี้เล่นกันนะคะว่าพี่หมูเราจะมาทำงานในสภาพขาลากหรือไม่มาทำงานเลย”
“เล่น ๆ หนูเล่นด้วย” หญิงรีบตอบรับ ส่วนพี่กุ้งเห็นว่าน่าสนใจดีเลยบอกว่า
“เอาสิ ชั้นก็เล่น เท่าไหร่ล่ะนักป๊อก”
“ร้อยนึงก็พอค่ะ หนูว่าพี่หมูต้องไม่มาทำงานแน่ ๆ ไม่สิ มาค่ะ แต่ขาลาก เดินแทบไม่ไหว นั่งไม่ได้” ป๊อกกี้ตอบแบบไม่มั่นใจเพราะยังจำได้ที่แพ้พนันหญิงในครานั้น ครั้งนี้จึงไม่กล้าวางเงินเดิมพันสูงมากนัก
“แต่ครั้งนี้หนูว่าไม่น่าจะมาไหว หนูว่าไม่มา..” หญิงขอเสี่ยงกับตัวเลือกนี้ ส่วนพี่กุ้งขอเสี่ยงกับตัวเลือกที่คิดเอง
“แต่พี่ว่าน่าจะมานั่นหล่ะ แต่ก็คงไม่เป็นอะไรหรอก”
“ค่ะ ๆ ตกลงตามนะคะ พรุ่งนี้มาดูกันว่าพี่หมูจะเป็นยังไง” ป๊อกกี้ลอยหน้าลอยตาเมาท์ ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยมั่นใจกับตัวเลือกของตัวเองก็ตาม แต่ก็คิดว่าถึงจะเล่นเสียแต่อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียเยอะไปครึ่งพันอย่างครั้งที่แล้ว


 อธิปพงศ์กลับถึงห้องพักด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุข พอเขาปิดประตูห้องก็รีบเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองก็พบว่านิธินนั้นกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เขาจึงนั่งรอคนรักบนเตียง สักพักชายหนุ่มก็นุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ นิธินดีใจมากที่เห็นอธิปพงศ์กลับมาแล้ว ส่วนอธิปพงศ์ก็ยิ้มให้คนรักอย่างมีความสุขมาก ๆ เช่นกัน

"เป็นไงมั่ง คุณชอบห้องนี้มั๊ย" อธิปพงศ์ถามคนรักเกี่ยวกับที่อยู่ใหม่ของพวกเขา
"ชอบสิครับ"
 นิธินยิ้มให้ แต่เขาคิดว่าอันที่จริงไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เขาคิดว่าขอเพียงได้อยู่กับอธิปพงศ์ทุกที่ก็น่าอยู่สำหรับเขาแล้ว นิธินค่อยเปลี่ยนมาใส่กางเกงนอนขายาวและเสื้อยืดเนื้อนุ่มแทน
“อ่าว เดี๋ยวนี้คุณไม่ชอบถอดเสื้อนอนแล้วเหรอ”
“อืม อากาศที่ดูไบมันแปลก ๆ หน่ะ อยู่ที่นู่นผมเลยต้องใส่ชุดนอนแบบนี้ ผมคงชินแล้วหล่ะ”
“อื้มม” อธิปพงศ์รับคำยิ้ม ๆ “เดี๋ยวผมขออาบน้ำก่อนนะ”
“ครับ”
นิธินยิ้มรับและเดินออกไปเพื่อจะไปดื่มน้ำพอชายหนุ่มเปิดดูในตู้เย็นเพื่อจะดื่มน้ำก็พบกับไอศครีมอัลมอนด์ที่เรียกว่ากุลฟีทั้งแบบแท่งและแบบกล่องในช่องแช่แข็ง นิธินประหลาดใจเล็กน้อยที่เจอไอศครีมนี้ในตู้เย็น จึงหยิบมากินหนึ่งแท่งพร้อมรินน้ำจากขวดใส่แก้วมานั่งกินที่โซฟาใกล้ ๆ เมื่อเขาลองกินดูก็พบว่ากุลฟี่นี้รสชาติไม่ต่างจากที่อินเดียเท่าไหร่ ชายหนุ่มอมยิ้มอย่างมีความสุขเพราะไม่ได้ลิ้มรสของหวานชนิดนี้มานานแล้ว นิธินนั่งตรงนั้นสักพักแล้วจึงเดินกลับเข้าไปในห้องนอน นิธินเห็นว่าอธิปพงศ์อาบน้ำเสร็จแล้วและกำลังเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงผิวอยู่ ชายหนุ่มนั่งลงบนเตียงพร้อมกับยิ้มให้คนรักผ่านกระจกเงา
"ที่รัก..คุณชอบกินกุลฟีด้วยเหรอ ผมจำได้ว่าผมไม่เคยให้คุณลองกินนะ"
"ก็น้องเขียวหน่ะสิ เค้าซื้อมาฝากผม ผมเห็นว่ามันอร่อยดีเลยซื้อมากินมั่ง อ่อ ในฟู้ดแลนด์ก็มีแบบกล่องด้วยนะ ก็ใช้ได้อยู่"
“ใช่ ๆ อร่อยดี” นิธินตอบรับ “ผมไปกินมาเนี่ย”
“แล้วปกติคุณชอบรึเปล่า”
“ก็ชอบนะ แต่ตั้งแต่ย้ายไปทำงานนอกอินเดียผมก็ไม่ได้กินอีกเลย”
“อ่าวเหรอ...”
 อธิปพงศ์บำรุงผิวครบขั้นตอนแล้วก็ย้ายมานั่งข้าง ๆ คนรัก  พวกเขามองหน้าและสวมกอดกันอย่างมีความสุขอีกครั้ง
ชายหนุ่มทั้งสองดีใจเหลือเกินที่ในชีวิตผู้ชายแบบเขาจะสามารถมีวันนี้ได้จริง ๆ
 นิธินเพิ่งนึกขึ้นได้เลยลุกไปหยิบของฝากจากแดนไกลที่วางอยู่บนโต๊ะ
"นี่ครับ.." ชายหนุ่มยื่นขวดน้ำหอมผู้ชายแบรนด์ดังให้คนรัก
“ขอบคุณนะครับ” อธิปพงศ์รับมาแล้วบอกอย่างเกรงใจ “ไม่แพงแย่เลยเหรอเนี่ย”
“ดิวตี้ฟรีน่ะครับ”
“อ๋อ..ครับ” อธิปพงศ์รับคำยิ้ม ๆ ก่อนที่นิธินจะส่งถุงยางอนามัยหลายกล่องใหญ่ซึ่งเป็นยี่ห้อที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน พร้อมกับน้ำมันหอมนวดตัวอีกสองขวด อธิปพงศ์มองหน้าคนรักและหัวเราะออกมา พร้อมกับแกะกล่องและหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมาดู
"ที่รัก นี่คุณกะจะใช้ชนปีเลยเหรอ"
"ที่นี่หายากน่ะ ผมเลยซื้อกลับมา" ชายหนุ่มหมายถึงถุงยางอนามัยสำหรับขนาดผู้ชายอย่างเขาที่ไม่ได้มีขายแพร่หลายนัก
"แล้วไม่ซื้อเจลหล่อลื่นมาด้วยล่ะ"
"หายากหน่ะ ผมว่ามันกลิ่นแปลกๆ ด้วย ของที่นี่น่าใช้กว่า"
"อืม.." อธิปพงศ์รับคำยิ้ม ๆ โดยที่มองไปยังของฝากเหล่านั้นเขิน ๆ 
"ที่รัก คุณยังเซ็กซี่เหมือนเดิมเลยนะ" นิธินชื่นชมอธิปพงศ์กับรูปร่างที่มีกล้ามเนื้อสมส่วนมัดใจเขา โดยที่อธิปพงศ์ก็เขินเล็กน้อย แต่ก็ส่งยิ้มยั่วยวนสู้ตาย
"คุณก็เหมือนกัน" เขาเข้าไปลูบหน้าคนรักโดยเฉพาะแนวเคราที่เขาคิดถึง มือสวยนั้นสัมผัสเบาๆ ที่ริมฝีปาก ก่อนจะถูกแทนที่ด้วยจุมพิตอ่อนหวานที่ต่างคนต่างอยากจะมอบให้คนรักมานานแล้ว นิธินกับอธิปพงศ์ค่อย ๆ ล้มตัวลงบนที่นอน ชายหนุ่มทั้งคู่ยังไม่ละซึ่งริมฝีปากของกันและกัน ตอนนี้ข้างนอกฝนกำลังตกโปรยปรายมาอีกรอบ แต่ในห้องนี้มีเพียงการเติมเต็มความรักจากคนทั้งสองที่กำลังมอบให้กันอย่างหอมหวานเพียงเท่านั้น....

   แสงแดดอ่อน ๆ ส่องลอดผ้าม่านหนาที่ปลายเตียงมายังคู่รักที่ยังนอนกอดก่ายกันอย่างมีความสุข สักพักเสียงนาฬิกาก็ปลุกเรียกให้คนที่กำลังหลับใหลอยู่ตื่นขึ้น นิธินกับอธิปพงศ์จึงรู้สึกตัวและหันมามองหน้ากันด้วยความสุขสม เพราะนี่เป็นเช้าแรกของพวกเขา หลังจากที่รอคอยวันนี้มาแสนนานแล้ว นิธินกอดคนรักแน่นขึ้นตามด้วยหอมที่หน้าผากและแก้มใส ๆ ของอธิปพงศ์ที่เขาคิดถึง ก่อนจะลุกไปอาบน้ำเพื่อจะเตรียมตัวไปทำงานในเช้าวันจันทร์นี้
  อธิปพงศ์มองตามคนรักและยิ้มออกมาด้วยความสุข ก่อนจะขอนอนต่ออีกสักพักเพราะเวลานี้เช้าไปสำหรับเวลางานของเขา ชายหนุ่มส่งเสียงงืมงำในลำคอพร้อมกับระบายยิ้มบนใบหน้า แม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าและแปลบปร่าเล็กน้อยกับเรื่องเมื่อคืน แต่เขาก็สุขใจยิ่งนักที่ได้รับสัมผัสใกล้ชิดที่ห่างหายไปนานจากนิธิน คิดแล้วอธิปพงศ์ก็รู้สึกสุขใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน

   นิธินออกมาจากห้องน้ำก็เห็นว่าคนรักยังนอนเล่นอยู่ก็หันมายิ้มให้ อธิปพงศ์เลยบอกว่า
“มีร้านโจ๊กอยู่หน้าปากซอยหน่ะ หรือคุณจะกินแบบกระป๋องก็ได้นะ”
“ผมไปกินสด ๆ ดีกว่า” นิธินตอบยิ้ม ๆ อธิปพงศ์เลยยิ้มตาม เพราะรู้ว่าคนรักไม่ค่อยชอบอาหารกึ่งสำเร็จรูปเท่าไหร่
“อืมม” อธิปพงศ์รับคำและนอนต่อ ส่วนนิธินก็แต่งตัวก่อนจะไปทำงาน อธิปพงศ์เลยลุกขึ้นมาแล้วบอกว่า
“ที่รัก...ผมเซ็ตผมให้เอามั๊ย”
นิธินพยักหน้าตอบรับยิ้ม ๆ “ครับ ขอบคุณนะ”
อธิปพงศ์ยิ้มรับและให้คนรักนั่งลงตรงปลายเตียง ก่อนจะไปหยิบมูสและขี้ผึ้งสำหรับจัดแต่งทรงผมในห้องน้ำมาตบที่ฝ่ามือก่อนจะจัดแต่งทรงผมของคนรักให้ดูดียิ่งขึ้น
“เสร็จแล้ว..”
อธิปพงศ์ยิ้มให้คนรักปลื้ม ๆ เพราะว่านิธินดูดีจนน่าหลงใหล แต่เขาคิดว่าไม่ว่าชายหนุ่มจะโทรมแค่ไหนก็ยังดูหล่อเหลาในสายตาของเขาอยู่เสมอ
“ขอบคุณครับ” นิธินหอมแก้มพร้อมกับขอบคุณ พร้อมกับลูบผมของคนรักเบา ๆ นิธินมองอธิปพงศ์ที่เพิ่งตื่นตอนอย่างแสนรัก ผิวขาว ๆ กับผมที่ยังไม่เซ็ตนั้นทำให้เขารู้สึกว่าคนรักน่ารักและเซ็กซี่ไปอีกแบบ
“อืม..”
“ที่รักครับ ผมไปทำงานก่อนนะ”
“ครับ” อธิปพงศ์ตอบรับแค่นั้น ก่อนจะจูบบนปลายคางสากนั้นเบา ๆ “Good job”
“ขอบคุณครับ”
  นิธินรับคำและเดินออกไป ส่วนอธิปพงศ์ก็ได้แต่อมยิ้มอย่างมีความสุขแม้จะรู้สึกขัดยอกที่ช่วงล่างก็ตาม แต่เขาก็ไม่สนใจมาก เพราะว่าเดี๋ยวร่างกายที่ร้างลาเรื่องนั้นมานานแล้วก็คงจะปรับตัวชินไปเอง

“สวัสดีครับ ผม นิธิน มุจเคอจี จากสำนักงานดูไบ วันนี้มาทำงานวันแรก ฝากตัวด้วยนะครับ”
สิ้นเสียงแนะนำตัวจากนิธิน เพื่อนร่วมงานในสำนักงานที่กรุงเทพฯก็ปรบมือให้อย่างดีใจ ที่จะได้ร่วมงานกับชายหนุ่มอีกครั้งในตำแหน่ง Assistant Manager หรือ นักวิเคราะห์ระบบงาน เพื่อน ๆ ทั้งสามก็ดีใจเช่นกันที่ได้กลับมาเจอนิธินอีกครั้งอย่างที่หวังไว้ โดยนิธินหันไปชูนิ้วโป้งให้กับสามหนุ่มที่ยืนส่งยิ้มให้  เมื่อถึงเวลาพักกินข้าวเที่ยงแล้ว ชายหนุ่มทั้งสี่ก็ไปกินข้าวด้วยกันอย่างที่เคยอีกครั้ง

“เป็นไงมั่งเนี่ย หกเดือนที่ผ่านมาของพวกนาย” นิธินถามไถ่
“ชั้นเรื่อย ๆ ว่ะ ไม่มีอะไรเลย” แทนไทตอบยิ้ม ๆ
“ของชั้นก็เหมือนเดิม แต่เอเจนี่สิ ตอนนี้ชะเอมคลอดลูกออกมาแล้ว”
“อืม ๆ เห็นในเฟชบุ๊คแล้วล่ะ ลูกสาวนายน่ารักดี ไว้วันหลังชั้นจะชวนคุณหมูไปเยี่ยมนะ เอ้อ..คุณหมูเค้าฝากมาขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปเยี่ยมชะเอมกับนายเลย”
“โหย ๆ ไม่เป็นไรหรอก..คิดมาก” เอเจไม่ถือสา  “ไว้นายมาพร้อมกับคุณหมูแหล่ะดีแล้ว”
“อื้ม ขอบใจนะ” นิธินรับคำและกินข้าวต่ออย่างมีความสุข
“เออ ไหน ๆ ก็มาแล้ว เสาร์นี้พวกเราไปเที่ยวสวนสยามกันหน่อย ดีมั๊ย” วิษณุชักชวน
“เออดี ๆ” แทนไทเห็นด้วย แต่นิธินมองหน้าผองเพื่อนงง ๆ
“อะไรวะ สวนสยาม”
“ก็สวนน้ำไง นายไม่รู้จักเหรอ”
“เหอะ” นิธินส่ายหน้า เอเจเลยถามต่อ
“อ่าวแล้วอยู่ที่ดูไปนายไม่ได้ไปเที่ยวสวนน้ำหรืออะไรเจ๋ง ๆ ที่นั่นมั่งเหรอ”
“เปล่าเลย...” นิธินถอนหายใจเล็กน้อย “วัน ๆ ก็ตื่นเช้าไปทำงาน เลิกงานสองทุ่มก็กลับบ้าน หรือบางวันเลิกเร็วหน่อยก็ได้ไปเล่นฟิสเนสบ้าง ก็แค่นั้น”
“โห...” เพื่อน ๆ ทุกคนมองหน้ากันต่างก็นับถือในความทรหดอดทนของเพื่อน
“ดีใจด้วยอีกครั้งนะเว้ย ที่ได้กลับมาอยู่ที่นี่” วิษณุอดบอกกับนิธินอีกครั้งอีกครั้งไม่ได้
“อืมๆ .. ขอบใจนะ”
“แล้วว่าไงวะ เรื่องไปเที่ยวสวนสยามกัน”
“ก็น่าสนใจนะ ว่าแต่มันเป็นสวนน้ำและสวนสนุกด้วยใช่มั๊ย”
“ใช่ ๆ”
“หึหึ” นิธินหัวเราะเบา ๆ “เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยเนอะ”
“เฮ้ย เดี๋ยวนี้เขามีเครื่องเล่นใหม่ ๆ เยอะแยะ น่าสนใจดีออก”
“อืม ๆ แล้วจะลองชวนคุณหมูดู”
“ได้ ๆ” วิษณุหันมาถามเอเจบ้าง “เฮ้ย ไปป่ะ”
“ก็อยากไป แต่ขอถามเมียก่อนนะ เดี๋ยวเค้าหาว่าไม่ช่วยเลี้ยงลูก”
“ฮ่ะๆๆๆ” เพื่อน ๆ ทุกคนหัวเราะกันอย่างขบขันกับน้ำเสียงอ่อย ๆ ของเอเจที่บ่งบอกว่าเขาเกรงใจภรรยามากแค่ไหน
ชายหนุ่มทั้งสี่พูดคุยกันและกินข้าวกันต่ออย่างสดชื่นและสบายใจ เพราะพวกเขารู้สึกยินดีที่ได้เพื่อนกลับมาอยู่พร้อมหน้าอีกครั้ง
 วันนี้ป๊อกกี้มาทำงานแต่เช้าเพื่อรอลุ้นว่าอธิปพงศ์จะมาทำงานหรือไม่ ตามที่ได้พนันกับพี่กุ้งและป๊อกกี้ไว้ และสักพักเขาก็แทบกรี๊ดออกมาเมื่อเห็นอธิปพงศ์เดินมาในสภาพที่เขาคาดเดาไว้
“ว้าย ๆๆ คุณแม่ขา พี่หมูมาแล้วค่ะ”
“อะไรกันป๊อกกี้ มีอะไรกับพี่อีก”
“นิดหน่อยค่ะ”
ชายหนุ่มไม่พูดอะไรนอกจากเดินจากไปยิ้ม ๆ ส่วนพี่กุ้งกับหญิงมองดูอธิปพงศ์ที่เดินไปจัดการกับกรรไกรและมีดของตัวเองก็รู้ว่าพวกเขาคาดเดาผิดเสียแล้ว จึงได้แต่ควักธนบัตรสีแดงในกระเป๋าส่งให้ป๊อกกี้ที่ยิ้มร่าอยู่
“อ๊ายย ขอบคุณนะค้า คุณแม่ คุณน้อง ฮิฮิๆๆ”
พี่กุ้งกับหญิงถอนหายใจเซ็ง ๆ ก่อนจะไปทำงานของตัวเองต่อ ป๊อกกี้เลยแอบบ่นในใจว่า
“โอ๊ย รู้งี้น่าจะเล่นซักพันก็ดี ดูสิ ขาดทุนไปตั้งสามร้อยแน่ะ”

  วันนั้นนิธินและอธิปพงศ์เริ่มต้นทำงานในสัปดาห์ใหม่ด้วยความสุขและหัวใจที่เบิกบาน โดยที่เลิกงานนิธินก็ยังมา  รออธิปพงศ์กลับบ้านพร้อมกันอย่างที่เคย ทำให้เจ้าตัวถึงกับยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจและเขินเล็กน้อย
 “ไปครับ”
“ครับ”
อธิปพงศ์รับคำคนรักและเดินจูงมือกันออกไป โดยมีพี่กุ้งและรุ่นน้องทั้งสองมองตามด้วยความรู้สึกยินดีและอิ่มเอมในภาพของคู่รักที่เห็นอยู่ตรงหน้า

  “อืม..วันนี้คุณเป็นยังไงมั่ง” นิธินหันมาถามคนรักที่เดินจูงมือกันเข้าซอยกลับที่พัก
“ก็ดีครับ คุณล่ะ”
“เยี่ยมไปเลย” นิธินตอบยิ้ม ๆ 
“เหรอ งั้นก็ดีหน่ะสิ” อธิปพงศ์ยิ้มตอบเช่นกัน ก่อนจะถามต่อ
“แล้วเราจะไปเยี่ยมลูกของคุณชะเอมกับคุณเอเจเมื่อไหร่ดีล่ะ”
“นั่นสิ พรุ่งนี้ตอนเลิกงานดีมั๊ย”
อธิปพงศ์พยักหน้าเห็นด้วย “ดีครับ”
นิธินยิ้มให้และพูดต่อ
“เอ้อ..นี่วิษณุเค้าชวนไปสวนสยามด้วยกันวันเสาร์นี่ ไปนะครับ”
“ไปสวนสยามเหรอ” อธิปพงศ์ทวนคำอย่างประหลาดใจ เพราะแทบไม่เชื่อว่าเพื่อนของคนรักจะชวนไปเที่ยวสวนน้ำสวนสนุกเหมือนเป็นเด็ก ๆ อย่างนี้ แต่เขาก็คิดว่าน่าสนใจอยู่เหมือนกัน
“ครับ ไปด้วยกันนะครับ”
“อืม...ครับ ไปครับ” อธิปพงศ์เลยนึกขึ้นได้
“งั้นวันอาทิตย์ เราไปบ้านแม่ผมที่ลพบุรีกันนะ ผมจะได้ถือโอกาสลาทั้งสองวันเลย”
“ได้เลยครับ ด้วยความยินดี”

  นิธินยิ้มให้คนรักก่อนจะจับมือเดินด้วยกันต่อไป แม้พวกเขาจะกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว แต่กลิ่นไอของความรู้สึกปลาบปลื้มและดีใจจากการได้พบกันหลังพลัดพรากก็ยังวนเวียนอยู่ในหัวใจของทั้งสองตลอดเวลา แม้คืนนี้กรุงเทพฯ จะเงียบเหงากลางสายฝนหรือไม่ แต่นิธินกับอธิปพงศ์นั้นไม่ได้เงียบเหงาและอ้างว้างอีกต่อไปแล้ว




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 19-03-2012 18:23:40
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ป๊อกกี้นางทายถูก อิอิ รอลุ้นต่อว่าจะมีไรโผล่มาอีกมั้ยหนอ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 19-03-2012 18:28:02
อ่านไปยิ้มไป
คนแต่งบรรยายได้เห็นภาพการใช้ชีวิตคู่ เวลาสองคนเค้าคุยกัน พูดเพราะจัง
ถ้อยทีถ้อยอาศัย ดูแลกันและกัน
โอ้ย!! อิจฉา
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 19-03-2012 18:29:12
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
ประทับใจจังบรรยายได้เห็นภาพความดีใจเลย o13
ปล.อยากได้เรื่องนี้เป็นหนังสือจัง


ขอบคุณมากค่ะ ส่วนตัวแล้วก็มีความต้องการรวมเล่มและตีพิมพ์เองอยู่เหมือนกัน ต้องขอเวลาสักพัก (ใหญ่ ๆ) สำหรับโครงการนี้เลยนะคะ ขอบคุณค่ะ ที่ให้กำลังใจและการสนับสนุนมาตลอด :pig4: :L2:


เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ
หมูกับนิธินเหมาะสมกันมากก เริ่มต้นมาเราก็รู้ได้เลยว่าพวกเค้ารักกันมากแค่ไหน อ่านแล้วยิ้มเลยค่ะ

ขอบคุณมากค่ะ :pig4: ดีใจมากนะคะที่ทำให้คุณผู้อ่านมีความสุข :L1:


เจอกันแล้วดูท่า ตาหมูจะกินตานิธินก่อนเลยนะ อิอิ รออ่านฉากจัดหนัก อิอิ แอบหื่นๆ

มีแน่ค่ะ อดใจรออีกนิดนะคะ คริคริ ๆ  :z1:
ปล.ขอให้เล็บมือคุณซัมหายไว ๆ นะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 19-03-2012 18:30:52
มีความสุขอ่ะ   :กอด1:


ยิ้มไม่หุบเลยทำไงดี >//<
 
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 19-03-2012 18:43:23
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
นิธินกับอธิปพงศ์ได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแล้ว :give2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 19-03-2012 19:12:29
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 19-03-2012 19:18:59
บอกได้คำเดียวว่า ปลื้มค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 19-03-2012 19:40:21
อ่านไปแล้วมีความสุขยิ้มไม่หุบเลยค่า
 :m1:
ดีใจกับทั้งคู่ี้มากๆ
เรียกว่าเป็นหนึ่งในคู่รักในดวงใจเลยก็ว่าได้
Love พี่หมูมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :m3:
มีความสุขกันนานๆเลยนะคะ
มาม่าอย่ามาอีกเลย สาธุ
(แต่คาดว่าน่าจะมีอีกระลอกเพื่อความสมจริง 55555  :laugh:)
ขอบคุณน้ำพริกแมงดาที่สุดค่า
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 19-03-2012 19:43:16
หวาน :o8:
ว่าแต่ป๊อกกี้ยังขาดทุนอีกสามร้อยคราวหน้าจะพนันอะไรอีกรึเปล่า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 19-03-2012 20:19:54
แอบเขิลลล
ชมกันเอง บนเตียง อิอ๊างงงงงงงง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 19-03-2012 20:30:16
อ่านแล้วมีความสุข
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 19-03-2012 20:47:17
น่ารักมากเลยสองคนนี้ เรียบง่ายแต่อบอุ่น

แอบอยากไปเที่ยวสวนสยามด้วย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 20-03-2012 00:05:04
อ๊ายยยยย!
รักคู่นี้จังงงง  :impress2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 20-03-2012 05:07:07
ซื้อถุงยางมาตุนขนาดนั้นเลยหรอนิธิน  :haun4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:15/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 20-03-2012 06:20:45
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

คุณนิธินกับคุณหมูได้กลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว การรอคอยที่แสนนานสิ้นสุดลงแล้ว
อ่านไปน้ำตาไหลไปด้วยความปลื้มปิติ อบอุ่นมากๆเ้ลย

คุณหมูตุน กุลฟี เต็มตู้เย็นขนาดนี้... บำรุงกันน่าดู  คึคึ :z1: ป๊อกกี้เลยชนะพนันใสๆ
+เป็ดน้อยค่ะ ขอบคุณค่ะคุณน้ำพริกแมงดา รอความอบอุ่นของตอนต่อไป  :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-03-2012 11:41:45
เป็นปลื้ม :L2:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 20-03-2012 19:35:16
อ่านแล้วรู้สึกดีๆมากกกกกก  :กอด1:

บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข :impress2:

อยากเข้ามาอ่านอยู่เรื่อยๆ กรี๊ดด ชอบอะ :-[

ปล..แสดงว่าที่ไทยเนี่ย หาซื้อได้ยากชิมิ ไม่ธรรมดาจริงๆ :z1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 20-03-2012 19:41:11
ประกาศ คนเขียนลาป่วย ถ้าหายแล้วจะกลับมาค่ะ อดใจรอกันหน่อยนะคะ ขอให้หายไวๆ นะคะที่รัก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 21-03-2012 11:57:57
 :catrun:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 21-03-2012 12:31:24
มาทายกันมั้ยว่า กี่วันที่คู่นี้จะใช้ ถุงยางกับเจล  หมด 55555555555  อยากติดกล้องวงจรปิดในห้องจริงๆ เลยอะ  :pighaun:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 21-03-2012 15:17:24
ประกาศ คนเขียนลาป่วย ถ้าหายแล้วจะกลับมาค่ะ อดใจรอกันหน่อยนะคะ ขอให้หายไวๆ นะคะที่รัก
^^
ขอบคุณครับคุณณัฐที่แจ้งข่าว

มาเยี่ยมคนป่วยครับ   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 23-03-2012 08:58:46
มาแอบอ่านจนตามทันแล้ววววว


เนื้อเรื่องน่ารักมาก


รอตอนต่อไปนะคะ


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 23-03-2012 14:07:18
 :กอด1:ในที่สุดก็ตามอ่านจนทันแล้วเย้ๆดีใจจังเลยอะ :กอด1:

 :กอด1:ความรักของนิธินกับอธิปพงศ์ถึงแม้จะมีอุปศักไปบ้าง

แต่ทั้งคู่ก็ผ่านไปด้วยดี  อ่านแล้วมีความสุขจังอะ :กอด1:

ปล.  แล้วจะรอตอนต่อไปเน้อ :call:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 23-03-2012 16:54:09
^^
ขอบคุณครับคุณณัฐที่แจ้งข่าว

มาเยี่ยมคนป่วยครับ   :L2: :L2:


ขอบคุณ คุณณัฐ PEENUT 1972 มาก ๆ ค่ะ สำหรับการเข้ามาแจ้งข่าวอาการป่วยให้คนเขียน(ตามที่ฝากไว้ใน Facebook) และก็ขอบคุณ คุณ Horizon นะคะที่เข้ามาเยี่ยมเยือนกัน วันนี้คนเขียนอาการดีขึ้นมากแล้วค่ะ เลยมาลงนิยายไหว ขอบคุณทุกกำลังใจจากผู้อ่านนะคะ ขอบคุณค่ะ


33



 "Hi, baby"
นิธินทักทายลูกสาววัยสามเดือนของเอเจที่นอนแบเบาะ ขณะมาเยี่ยมพร้อมกับอธิปพงศ์ที่บ้านของเจ้าตัว เด็กน้อยดวงตากลมโตมองตามคนแปลกหน้าแล้วเผยรอยยิ้มออกมา อธิปพงศ์จึงชี้ให้คนรักดูอย่างดีใจ
"หลานยิ้มให้พวกเราด้วย.."
นิธินหันมายิ้มให้คนรักก่อนจะกลับไปยิ้มให้หลานเช่นกัน อธิปพงศ์จึงถามผู้เป็นแม่ว่า
"น้องชื่ออะไรครับ"
"ชื่อเล่นชื่อน้องรีน่า ชื่อจริง คารีน่า ค่า" ชะเอมตอบยิ้มๆ ส่วนเอเจสมทบว่า
"ชื่อนี้แม่ชั้นเป็นคนตั้งให้เลยนะเฟ้ย"
"อืม พ่อแม่นายบินมาเยี่ยมใช่มั๊ย"
"แม่นแล้วว "
 “ไหนน้องรีน่า มาหาพ่อซิ”  เด็กน้อยเตะขาและหัวเราะเอิ๊กอ๊ากชอบใจเมื่อคนเป็นพ่อช้อนตัวขึ้นมาอุ้มบนอก ส่วนคู่รักที่มาเยือนก็ได้แต่มองเด็กน้อยด้วยความเอ็นดู  เอเจเลยหันมาถามนิธิน
“นายอยากอุ้มดูมั๊ย”
“ได้สิ”
   นิธินไม่พลาดที่จะได้ใกล้ชิดหลาน จึงค่อย ๆ รับลูกสาวเพื่อนมาอุ้มไว้ ภาพที่ทุกคนเห็นในตอนนี้คือผู้ชายร่างใหญ่บึกบึนกำลังอุ้มทารกน้อยไว้ในอกด้วยความอ่อนโยน อธิปพงศ์กับชะเอมมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกยากที่จะบรรยาย เขาประคองดูแลเด็กน้อยอย่างนั้นจนเธอหลับสนิท
“โอ้โห! ไม่น่าเชื่อ” เอเจอุทานเสียงดัง “ถ้านายบอกว่าเคยมีลูกนี่ชั้นจะเชื่อสนิทเลยนะ”
“ก็เคยอุ้มลูกพี่ชายหน่ะ”  นิธินตอบยิ้ม ๆ พร้อมกับถามคนข้าง ๆ ว่า
“คุณอยากลองอุ้มหลานดูมั๊ย”
อธิปพงศ์ส่ายหัว พร้อมกับตอบตามความจริง
“ผมไม่เคยอุ้มเด็กน่ะ”
“อืม”
นิธินพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันมาเล่นกับหลานและส่งลูกให้ชะเอมผู้เป็นแม่ พวกเขาคุยกันต่อสักพักจึงขอตัวกลับ เพราะนี่ก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว คนทั้งสองยังเดินทางกลับบ้านด้วยกันเงียบ ๆ มือของพวกเขายังคงไม่ห่างจากกันตลอดเส้นทาง ไม่มีใครพูดอะไรนอกจากความรู้สึกที่อบอุ่นและแนบแน่นกว่าเดิม เมื่อถึงบ้านกิจวัตรประจำวันของพวกเขาก็ยังคงเหมือนทุกวัน แต่ก็มีความสุขที่ได้นอนเคียงข้างและพูดคุยกันก่อนนอนอย่างนี้

“ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าคุณก็รักเด็กเหมือนกัน” อธิปพงศ์บอกกับคนรักที่เขากำลังแอบอิงอยู่
“ก็นิดหน่อยน่ะครับ” นิธินยิ้ม ๆ “อันที่จริงผมเคยมีลูกมาก่อน..”
นิธินอำคนรักหน้านิ่ง เลยทำให้อธิปพงศ์ผละออกมาด้วยความตกใจ
“จริงเหรอ...”
“หึหึหึ...ผมล้อเล่น”
“โธ่!..” อธิปพงศ์ล้มตัวลงนอนที่เดิม ทำให้คนรักอย่างนิธินต้องกอดอธิปพงศ์แน่น ๆ ปลอบใจ
“ทำไมอ่ะ คุณตกใจเหรอครับ”
“ตกใจสิครับ...” อธิปพงศ์ตอบตามจริง นิธินสัมผัสได้เลยว่าตอนนี้คนรักใจเต้นแรงแค่ไหน
“อืม ผมขอโทษครับ ผมพูดเล่น”
อธิปพงศ์เลยมองหน้าคนรักก่อนจะพูดอย่างจริงจัง
“พูดเล่นน่ะได้ แต่อย่าไปแอบเป็นคุณพ่อที่ไหนจริง ๆ นะ”
“คร้าบบบ....ผมแค่พูดเล่นจริง ๆ”
“อืม ก็แล้วไป”
“ผมคงไม่สามารถหรอกครับ” นิธินบอกกับอธิปพงศ์ “ผมคงแย่น่าดูถ้าไม่ได้อยู่กับคุณ”
“อืม”
นิธินนึกขึ้นได้จึงถาม
“อืมม ที่รัก ตอนที่คุณอยู่คนเดียวที่นี่...”
“ทำไมเหรอครับ”
“คุณเหงามากเลยใช่มั๊ย”
เพียงแค่นั้นอธิปพงศ์ที่นอนสบตากับเขาอยู่ก็นิ่งลง ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ ทำให้นิธินค่อย ๆ หอมเบา ๆ ที่หน้าผากและแก้ม ก่อนจะกอดคนรักไว้ให้แนบอกยิ่งขึ้น
“ขอบคุณมากนะครับที่คุณไม่ไปไหน ขอบคุณจริง ๆ” นิธินน้ำตาซึม เพราะซาบซึ้งในใจความอดทนและการรักษาสัญญาของคนรัก หกเดือนที่พ้นผ่านแม้จะไม่ใช่เวลานานชั่วดินฟ้า แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างของความรักได้ ชายหนุ่มดีใจเหลือเกินที่วันนี้เขาและคนรักยังคงมีใจตรงกันไม่ต่างจากวันแรกที่ได้ใช้ชีวิตคู่

  และเวลาสนุกสนานของกลุ่มเพื่อนก็มาถึง นิธินกับอธิปพงศ์พร้อมกลุ่มเพื่อนที่ประกอบด้วย วิษณุกับภรรยา เอเจที่วันนี้ขออนุญาตภรรยามาได้และแทนไทที่มากับน้องชาย ต่างก็สนุกสนานเพลิดเพลินกับเครื่องเล่นต่าง ๆ นิธินไม่ลืมถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจนี้ไว้ด้วย พวกเขารู้สึกสนุกสนานเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเมื่ออยู่บนเครื่องเล่นหวาดเสียวอย่างไวกิ้ง.ท็อปสปินส์,แมงมุมยักษ์,อลาดินและอื่น ๆ
 ตอนนี้วิษณุที่เป็นคนชักชวน กำลังโก่งคออาเจียนหลังจากลงรถไฟเหาะตีลังกาวอร์เท็กซ์ ทำให้ภรรยาและเพื่อน ๆ ต้องมาช่วยลูบหลังและหายาดมกับน้ำดื่มให้เจ้าตัวกันยกใหญ่
“โหยย อย่างนี้ไปเล่นม้าหมุนเถอะว่ะ” เอเจที่กำลังช่วยลูบหลังออกปากบลัฟเพื่อน แต่วิษณุก็ยังคงหน้ามืดอยู่
“โอยย อ้ววกกก!”
แทนไทจึงถามอย่างเป็นห่วงว่า
“ไหวป่ะว่ะเนี่ย”
“เฮ้ยย ไหวๆๆ” ชายหนุ่มหันมาบอกกับภรรยา “ที่รัก พาเค้าไปนั่งพักหน่อยสิ”
“อืม ๆ”
 ภรรยาของเขารับคำและพาวิษณุไปยังที่นั่งใกล้ ๆ เมื่อเจ้าตัวลงนั่งก็บ่นออกมาว่า
“โอ๊ยย ไม่ได้มาเล่นซะนาน”
“ไหวมั๊ย” ภรรยาที่แกว่งยาดมอยู่ปลายจมูกออกปากถาม
“เดี๋ยวขอนั่งสักพักนะ”
 นิธินมองดูรอบ ๆ และบอกกับเพื่อนๆ ว่า
“แล้วมีเครื่องเล่นอะไรอีกเหรอ”
“มี ๆ หรือนายอยากจะเล่นน้ำเลย”
“ตามใจพวกนายเถอะ” นิธินตอบยิ้ม ๆ และหันไปถามคนข้าง ๆ “แล้วคุณล่ะ อยากไปไหนต่อดี”
“งานนี้ตามใจคนจัดทริปครับ” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ ทำให้วิษณุบอกว่า
“งั้นผมขอไปเล่นม้าหมุนนะครับ ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้ว”
“ฮ่ะๆๆๆ”
ทุกคนหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่น้องชายของแทนทันจะสะกิดให้ทุกคนดูเครื่องเล่นรูปหอคอยสูงที่เรียกว่า Giant drop หรือ ยักษ์ตกตึก
“ผมอยากเล่นไจแอนท์ดรอปอ่ะครับ”
“เออ น่าสนใจ” แทนไทเห็นด้วย “ว่าไง ไปป่ะ”
“เออ ๆ ไป” เอเจรีบรับคำ และหันมาถามวิษณุ “ว่าไงวะ ไหวป่ะ”
“โอยยย...ขอบายว่ะ” วิษณุโบกไม้โบกมือพร้อมกับส่ายหัว “พวกนายไปเล่นกันก่อนเลย เดี๋ยวชั้นนั่งตรงนี้ได้ ที่รักตัวเองไปกับพวกนั้นก็ได้นะเค้าอยู่ได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ เมย์ก็กลัวเหมือนกัน” หญิงสาวทำหน้าสยองกับความเร็วที่เครื่องเล่นปล่อยลงมาอย่างที่บอก
“อืม ๆ ได้ ๆ งั้นเดี๋ยวพวกชั้นมานะ”
“ได้เลย”
ทุกคนพากันไปต่อแถวรอเล่นเจ้ายักษ์ตกตึกอย่างที่บอก  วันนี้แสงแดดค่อนข้างร้อน นิธินจึงใช้มือหนา ๆ ของเขาบังแดดให้อธิปพงศ์
 “ขอบคุณครับ ผมโอเคนะ”
“ครับ” นิธินกับคนรักยิ้มให้กันน้อย ๆ แต่ทำให้คนรอบข้างอดมองด้วยความอิจฉาไม่ได้
และเมื่อถึงคิวพวกเขาขึ้นไป คู่รักก็มองหน้ากันเล็กน้อยเพราะตื่นเต้น เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความปลอดภัยเสร็จแล้วก็ถึงเวลาทำงานของเครื่องเล่น ที่ค่อย ๆ ขึ้นจากฐานหอคอยช้า ๆ ทำให้เอเจถึงกับครวญครางเพราะกลัวความสูง
“โอยยย เสียวหน้าท้องแว๊บบบ”
แทนไทเลยบอกเพื่อนว่า
“กลัวก็หลับตาดิวะ”
เอเจเลยหลับตาปี๋อย่างที่เพื่อนแนะนำ และเมื่อถึงยอดหอคอยเครื่องเล่นก็ทิ้งดิ่งลงมาอย่างรวดเร็ว เพียงเท่านั้นเสียงกรี๊ดก็ระเบิดขึ้นเพื่อปลดปล่อยความรู้สึกสนุกสะใจ นิธินกับอธิปพงศ์เองก็ได้ตะโกนปลดปล่อยออกไปอย่างสุดเสียงเช่นกันก่อนจะหมดรอบ

“โอยยย จะเป็นลมม” เอเจแทบยืนไม่อยู่หลังจากลงมาจากเครื่องเล่น
“ไงวะ แค่นี้ก็ไม่ไหวแล้วเหรอ” วิษณุที่เดินมาคอยได้ทีบลัฟบ้าง
“โอ๊ยย ไอ้บ้า ลองมาเล่นเองเลยมา เสียวขาว่ะ”
“ฮ่ะๆๆๆ” เจ้าตัวหัวเราะ “เออ ไปหาไรกินกันดีกว่าว่ะ เที่ยงแล้ว”
“ก็ดีเหมือนกันนะ หิวแล้ว”
 พวกเขาพากันมาที่โซนสวนน้ำเพื่อจะได้รับประทานอาหารกลางวันด้วยกันก่อนจะลงเล่นน้ำในตอนบ่าย เมื่ออธิปพงศ์กับนิธินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดก็ทำให้คนรอบข้างอดมองตามไม่ได้ แม้ทั้งคู่จะสวมเพียงกางเกงว่ายน้ำธรรมดา ๆ แต่ก็ไม่สามารถปิดบังรัศมีความหล่อเหลาของพวกเขาได้ และคนเหล่านั้นยังสามารถสัมผัสได้อีกว่าชายหนุ่มทั้งสองเป็นคู่รักกัน แม้จะไม่ได้เดินจูงมือกันออกมาก็ตาม คนทั้งสองเดินมายังกลุ่มเพื่อนที่ตีขารออยู่ริมสระน้ำวน
  “โอ้โห...” น้องชายของแทนไทถึงกับหลุดปากออกมา “พี่สองคน ดูดีมากเลยฮะ”
“ขอบคุณครับ” อธิปพงศ์ยิ้มเขิน ๆ และหันไปมองหน้ากับคนรักก่อนจะยิ้มให้กันอีกครั้ง และเดินไปหามุมยืดกล้ามเนื้อเหมือนทุกครั้งที่พวกเขาไปว่ายน้ำ
วิษณุมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่ามีหญิงสาวและชายหนุ่มหลายคนกำลังมองคนทั้งคู่อยู่ จึงหันมาบอกกับทุกคนว่า
“วันนี้ชั้นว่าคุณหมูอาจมีองค์ลงว่ะ”
“ยังไงเหรอ” ภรรยาเขาเป็นคนถาม
“โหยย ตัวเองไม่รู้อะไร คุณหมูเวลาหึงนิธินนะน่ากลัวมากกก”
แทนไทสมทบ “ใช่ ๆ ตอนนั้นที่สนามคริกเก็ต ชั้นก็เห็น”
“ยังไงพี่”
น้องชายของแทนไทสงสัยและภรรยาวิษณุก็ค่อยอยากจะเชื่อว่าผู้ชายนิ่ง ๆ ที่ดูปกติทั่วไปอย่างอธิปพงศ์จะมีมุมอย่างนั้นด้วย
“นั่นสิคะ คุณหมูเนี่ยนะคะหึงน่ากลัว”
“เค้าไม่ได้หึงอาละวาดนะ เค้าแค่มองคนที่เค้ารู้ว่ามองนิธินหรือเข้ามาหานิธินอยู่เท่านั้น แต่...เป็นผมผมก็กลัวอ่ะ”
“ขนาดนั้นเหรอคะ แล้วคุณนิธินเค้าหวงแฟนบ้างป่ะคะเนี่ย”
“อันนี้ผมว่าก็หวงอยู่นะ แต่วันนี้ผมว่าน่าจะมีการองค์ลงกันเกิดขึ้นแน่ ๆ”
สามหนุ่มมองหน้ากันไม่อยากจะพูดต่อ เพราะเขายังจำได้ถึงสายตาที่อธิปพงศ์ใช้มองเด็กสาวผู้โชคร้ายในสนามคริกเก็ตได้เป็นอย่างดี แต่พวกเขาก็เข้าใจว่ามันเหมือนเป็นกรรมที่คนมีแฟนหน้าตาดีต้องทำใจ

“นินทาอะไรกันอยู่” นิธินเดินเข้ามาพร้อมกับอธิปพงศ์  หันไปถามเพื่อนล้อ ๆ
“เปล่า ๆ ว่าวันนี้คนเยอะว่ะ คึกคักดี”
แทนไทตอบเพื่อน นิธินเลยถามทุกคนว่า
“ลงน้ำกันเลยดีมั๊ย”
“รอมานานแล้ว” เอเจรับคำและทิ้งตัวลงไปเป็นคนแรก ก่อนที่ทุกคนจะลงตามมา พวกเขาว่ายน้ำในสระน้ำวนกันเป็นการอบอุ่นร่างกาย ก่อนจะย้ายไปยังสไลด์เดอร์ยักษ์ทั้งสองตัวที่พวกเขาเพลิดเพลินกันอยู่นาน และมาผ่อนคลายให้ชื่นฉ่ำอีกครั้งที่ทะเลเทียมขนาดใหญ่ อธิปพงศ์และนิธินต่างก็ว่ายน้ำแข่งกันและเล่นกับคลื่นน้ำเทียมอย่างสนุกสนาน อธิปพงศ์บอกกับคนรักขณะลอยคอด้วยกันอย่างผ่อนคลายว่า
 “รู้มั๊ย ว่าผมไม่ได้มาเที่ยวที่นี่เป็นยี่สิบปีแล้วนะ”
“จริงเหรอ...”
“อืม ผมเคยมาตอนเด็ก ๆ หน่ะ”
“โห..แล้ววันนี้คุณเป็นไง สนุกมั๊ย”
“สนุกสิครับ” อธิปพงศ์ยิ้ม ๆ เพราะคนที่รักการเล่นน้ำอย่างเขาชอบอยู่แล้วที่ได้มาสวนน้ำแบบนี้ ที่สำคัญเขายังรู้สึกสบายใจที่วันนี้ยังไม่มีใครกล้าส่งสายตาให้นิธินอีกด้วย
 แต่พอกำลังเดินขึ้นจากทะเล อธิปพงศ์ก็รู้สึกได้เลยว่า นิธินกับเขาเป็นที่สนใจของหญิงสาวและเก้งกวางทั้งหลาย โดยที่เก้งกวางนั้นส่งสายตาสงสัยในตัวพวกเขาแต่พวกหญิงสาวกลับส่งสายตามองนิธินอย่างพึงใจ เขาเลยทำตัวเฉย ๆ พยายามทำตัวเคยชินกับสายตาแบบนี้
  นิธินเองรู้ดีว่าคนรักรู้สึกอย่างไรเลยช้อนตัวคนรักขึ้นมาอุ้มเสียเลย เพราะเขาก็อยากจะทำแบบนี้ในตอนนี้อยู่แล้วเหมือนกัน ชายหนุ่มคิดว่า คนรักของเขาแสนจะมีเสน่ห์และดูยั่วเย้ามากในสภาพเปียกน้ำอย่างนี้ อีกอย่างเมื่อครู่เขาก็เห็นฝรั่งกล้ามล่ำหลายคนแอบมองอธิปพงศ์อยู่เหมือนกัน
  ส่วนอธิปพงศ์นั้นได้แต่นิ่งไว้อย่างเขินอาย ก่อนจะบอกว่า
“ที่รัก ปล่อยลงก่อน...”
“ทำไมล่ะ”
“ผมกลัวตก”
นิธินเลยจำต้องปล่อยให้คนรักลง แต่อธิปพงศ์บอกว่า
“ถ้าคุณไม่หนัก เปลี่ยนเป็นขี่หลังแทนได้มั๊ย”
นิธินยิ้มกว้างชอบใจ ก่อนจะนั่งลงและให้คนรักขึ้นมาที่หลังอย่างที่บอก อธิปพงศ์รู้สึกอบอุ่นมีความสุขมากที่สุด ที่ได้โอบกอดแผ่นหลังแข็งแรงของคนรัก นิธินหันมายิ้มให้ก่อนจะพากันเดินไปเจอกับเพื่อน ๆ ที่จุดเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง

  เย็นวันนั้นจบลงที่พวกเขาขึ้นไปชมวิวบนหอคอยก่อนที่ดวงอาทิตย์จะลับขอบฟ้ากรุงเทพฯ นิธินกวาดตาดูกรุงเทพฯมุมสูงอย่างตื่นเต้นอธิปพงศ์ชี้ให้คนรักดูสถานที่สำคัญต่าง ๆ ตอนนี้คนทั้งสองจับมือกันเพื่อส่งผ่านความรู้สึกดี ๆ แทนคำพูด พวกเขามีความสุขเหลือเกินที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันแบบนี้  ก่อนจะแยกย้ายกับกลุ่มเพื่อนในเวลาต่อมา อธิปพงศ์กับคนรักต่อรถเมล์มายังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเพื่อที่จะต่อรถตู้กลับไปหาครอบครัวตามที่วางแผนไว้ พวกเขามาถึงอนุสาวรีย์ฯ ในเวลาหกโมงกว่า ๆ จึงยังมีรถตู้อยู่
  เมื่อออกเดินทางไปสักพัก อธิปพงศ์ที่เหนื่อยล้าจากการเล่นน้ำในวันนี้ก็ผล็อยหลับลงอย่างง่ายดาย แอร์ในรถเย็นฉ่ำพร้อมกับสายฝนที่โปรยปรายอยู่ข้างนอก นิธินยิ้มให้คนรักและค่อย ๆ จัดให้อธิปพงศ์มาพักพิงที่ไหล่ของเขาต่างหมอน เพื่อเจ้าตัวจะได้นอนสบายมากขึ้น เขาจับมือกับคนรักหลวม ๆ ชายหนุ่มมีความสุขเหลือเกินที่ได้กลับมาดูแลคนรักอีกครั้งในหน้าฝนนี้ และเขาจะทำให้ทุกฤดูที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน มีคุณค่าและมีความหมายที่สุด ให้สมกับที่เขารอคอย “ชีวิตคู่” และ “คู่ชีวิต” แบบนี้มาแสนนาน

  รถตู้ถึงลพบุรีในอีกสองชั่วโมงต่อมา ชายหนุ่มทั้งสองต่อรถถึงบ้านในเวลาสองทุ่มกว่า ๆ  ทันทีที่ถึงบ้าน พอแม่กับยายเห็นว่าวันนี้ลูกชายได้พาคนรักมาอย่างที่บอกแล้ว ก็อดตื่นเต้นและดีใจไม่ได้ที่จะได้เจอกับนิธินอีกครั้ง
“สวัสดีครับ คุณแม่ คุณยาย” นิธินยกมือไหว้ผู้อาวุโส ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่าตอนนี้แม่กับยายของคนรักกำลังตื้นตันที่เห็นตัวเขา
“จ้ะ นิธิน แม่ดีใจนะ ที่นิธินกลับมาแล้ว”
“ขอบคุณครับ”
นิธินรับคำ คนทั้งสองมองหน้ากันเล็กน้อยและสวมกอดกันด้วยความรู้สึกดีใจที่อยู่ข้างใน
“ขอบคุณมากนะลูก ที่กลับมาอยู่กับหมู”
“ไม่เป็นไรครับ ผมต้องกลับมาอยู่กับคุณหมูอยู่แล้วครับ”
“จ้ะ...แม่ก็เชื่ออย่างนั้น”
 เธอรับคำคนรักของลูกยิ้ม ๆ ก่อนจะพากันเข้าไปในตัวบ้าน วันนี้แม่กับยายได้ทำกับข้าวหลายอย่างไว้รอท่าลูกชายและคนรัก เป็นการแสดงความดีใจและต้อนรับการกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง คนเป็นแม่เข้าใจดีว่าช่วงเวลาที่ห่างกันลูกชายของเธอต้องอ้างว้างและทรมานเพียงใด วันนี้เพียงเธอเห็นแววตาอิ่มสุขของอธิปพงศ์และคนรัก ก็ทำให้คนเป็นแม่และยายสบายใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ (ตอนใกล้จะจบ)

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 23-03-2012 17:07:29
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
คุณน้ำพริกแมงดาเก่งจังบรรยายเห็นภาพชัดเจนอีกแล้ว
บรรยากาศสวนสยามเครื่องเล่นกับสวนน้ำ
มิตรภาพของเพื่อนและคู่รักที่น่าประทับใจ
ปล.ขอให้คุณน้ำพริกแมงดาสุขภาพแข็งแรงนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 23-03-2012 17:35:24
มีความสุขทุกครั้งที่ได้มาอ่านพี่หมูกับคุณนิธิน
น่ารักกันเสมอต้นเสมอปลายมากเลยค่ะ
 :m1:
ว่าแต่ว่านี่ใกล้จะจบแล้วเหรอเนี่ย
เวลาแห่งความสุขนี่มันจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอนะคะ
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดาอีกครั้งค่ะ
 :pig4:
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 23-03-2012 17:57:03
อิ่มเอม ขอบคุณมากๆ ค่ะม
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 23-03-2012 18:00:22
 :กอด1: :-[อิ่มใจแทน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 23-03-2012 18:02:52
 :pig4: :L1: :กอด1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 23-03-2012 18:03:33
ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะใกล้จบแล้ว
อิจฉาหมูจัง นิธินแสดงออกทั้งคำพูดและการกระทำ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 23-03-2012 19:32:00
 :กอด1: :กอด1:

มีวามสุข

หายป่วยไวๆๆน่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 23-03-2012 20:22:32
หวานกันตลอดๆ :m1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 23-03-2012 20:46:56
ชอบตอนที่กลับไปเยี่ยมแม่กับยายมันอบอุ่นมากๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 23-03-2012 20:48:50
จะจบแล้วอะ :o12: :sad4:

สนุกมากมากเลยค่ะ ชอบๆ o13

อ่านแล้วอยากไปบ้าง ไม่ได้ไปมานานเหมือนคุณหมูเลย 555
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 23-03-2012 21:37:19
 :กอด1:อ่านไปยิ้มไปเหมือนคนบ้าเลยเรา

อ่านแล้วมีความสุขจริงๆเรื่องนี้ชอบทั้งนิธินและอธิปพงศ์เลย :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 23-03-2012 21:47:26
แอร๊ยยยย ชอบตอนนี้ค่ะ หวีดดี

ปล พึ่งไปสวนสยามกับเพื่อนมาเหมือนกันมันมาก โดยเฉพาะ vortex

เเล้วดันไปนั่งหน้าสุด แอร๊ยยยยย กรี๊ดสุดๆเลยล่ะค่ะ

ไหนจะ giant drop โอ้ย หล่นมาที ไส้จะหลุดออกปาก

ถ้าได้ไปเล่นกับเเฟน สองต่อสองคงดีนะคะ ซิกๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 23-03-2012 22:03:26
มาอ่านแล้ว และหนีไปตรวจงานก่อจะที่รัก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 23-03-2012 22:10:14
ความรักแบบอบอุ่นละเมียดละไมไม่หวือหวาแบบนี้ ให้ความรู้สึกลึกซึ้งดีจ้ะน้ำพริก ชอบจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 23-03-2012 22:23:07
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Bowbonk ที่ 23-03-2012 22:49:32
 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 24-03-2012 00:03:04
อบอุ่น  แต่เสียดายใกล้จะจบแล้วจริงหรอ ไม่อยากให้จบเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:19/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 24-03-2012 00:22:02
น่ารักและหวาน...............กันตลอดอ่ะคู่นี้ อร๊ายยยยยย :m3:
รุ้สึกได้ถึงบรรยากาศอบอุ่นและอบอวลไปด้วยความรัก เหมือนมีออร่าวิ้งๆเป็นสีชมพูแผ่รอบทั้งคู่
ไม่แปลกใจที่เวลาทั้งสองคนเดินไปไหน แม้ไม่ได้จับมือกัน คนรอบๆก็ดูออกได้ไม่ยากว่าเค้าเป็นอะไรกัน
คงเห็นออร่าวิ้งๆนี้ล่ะสินะ  กรี๊ดดดดด....มาก ตอนที่นิธินอุ้มคุณหมู และกรี๊ดดดด..... อีกรอบตอนที่คุณหมูขี่คอนิธิน
นึกถึงผู้ชายรูปร่างดี 2 คนทำแบบนี้ ก็น่ารักดีพิลึกนะ อยากเห็นบ้างจัง ฮุฮุ ฮุฮุ
ก็ถ้าจะหวานกันไม่แคร์สื่อขนาดนี้นะ....... :o8: :-[ :impress2:

ใกล้จะจบแล้วหรอคะ ว๊าาาา ยังอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆๆๆ ซึมซับความหวานอยู่เลยค่ะ
 :กอด1:ขอบคุณมากค่ะ คุณน้ำพริกแมงดา ตอนนี้ น่ารักมากจริงๆ :L2: :L2:+เป็ดน้อยให้ค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 24-03-2012 12:11:35
ตามอ่านจนทันแล้ว ซึ้งมากแล้วก็หวานมากสำหรับคู่รักคู่นี้
มีความอดทนมาเลยที่ห่างกันแล้วยังมั่นคงต่อกัน
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kisssky ที่ 24-03-2012 18:34:12
อ่านเรื่องนี้แล้วมีความสุขจังเลย หวานสุดๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 24-03-2012 19:51:02
เลยไม่ได้เห็นหมูกับนิธินหึงเลยเนอะ :z1:
แต่ใกล้จบแล้วจริงเหรอคะ ยังไม่อยากให้จบเลยง่า :sad4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 26-03-2012 16:55:27
ประกาศจากน้ำพริกแมงดา :

1.วันนี้น้ำพริกแมงดายังคงมีอาการไข้อยู่นิดหน่อยค่ะ(เมื่อวานไปเชงเม้งมาไข้เลยกลับนิดหน่อย) เลยไม่สามารถอ่านงานเขียนยาว ๆ และมีสติที่จะแก้ไขอะไรใด ๆ ได้ จึงขอลาผู้อ่านอีกสักพักนะคะ
2.สำหรับนิยายที่หลายคนกังวลนั้น ขอบอกว่ายังไม่จบภายในตอนหน้านะคะ ที่ขึ้นว่าใกล้จะจบหมายถึง ตอนนี้เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของนิยายเรื่องนี้(แบ่งรักให้อุ่นใจ)แล้วค่ะ

ขอบคุณสำหรับการติดตามและกำลังใจค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(Update:23/03/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 26-03-2012 16:59:09
เป็นกำลังใจให้หายเร็วๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 26-03-2012 17:24:59
รอได้ค่ะ ขอให้หายไวๆนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 27-03-2012 20:55:32
 :L2:หายไข้ไวๆนะเป็นห่วงนะจ๊ะ :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 27-03-2012 21:38:08
รักษาสุขภาพด้วยครับ :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 28-03-2012 11:02:46
รอได้จ๊ะ
 :L1: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 29-03-2012 16:44:20
เอา ดอกไม้ มาเยี่ยมคนไม่สบาย หายเร็วๆ นะคะ  :L2:  :L2:
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 30-03-2012 15:32:03
วันนี้คนเขียนมาแล้วค่ะ ถึงจะยังไม่หายดี แต่ก็พาพี่หมูกับคุณนิธินมาให้คนอ่านที่รักแล้ว แม้คนเขียนจะป่วยไข้ แต่ก็ยังอยากเห็นความสุขของคนอ่านค่ะ  ขอบคุณทุกกำลังใจที่ให้กันเสมอมานะคะ ขอบคุณค่ะ
 :L2: :pig4: :L1: :กอด1:


34



 วันทำงานของสัปดาห์ก็มาเยือนอีกรอบ แต่อธิปพงศ์และนิธินไม่ได้รู้สึกเกียจคร้านแต่อย่างใด แม้จะเพิ่งผ่านพ้นวันหยุดที่แสนจะมีความหมายมาก็ตาม หลังจากกลับไปเยี่ยมแม่และยายแล้ว พวกเขารู้สึกมีกำลังใจและอบอุ่นใจมากขึ้นกับความรู้สึกที่แม่และยายมอบให้เมื่อตอนที่พบกัน
   นิธินนึกถึงคำพูดของแม่คนรัก ที่พูดกับพวกเขาเมื่ออยู่พร้อมหน้ากันในบ้าน

“ตอนนี้พวกเรากลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว แม่ดีใจด้วยนะ แต่แม่อยากให้พวกเราจดจำความรู้สึกตอนที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันว่าเป็นยังไง...และพยายามทำทุกวันต่อจากนี้ให้มีความหมายและคุ้มค่าที่สุด....”

  ชายหนุ่มเข้าใจดีกับคำพูดของแม่คนรัก และรับรู้ได้ว่า แม่ของอธิปพงศ์อยากให้ความรักของพวกเขายั่งยืนมั่นคงดูแลกันและกันตลอดไป ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ตัวเขาปรารถนาเช่นกัน
  นิธินรู้ดี ว่าความรักแบบพวกเขา เป็นความรักที่ไม่มีรูปแบบตายตัวและไม่มีสิ่งใดที่จะผูกมัดคนทั้งสองไว้ตลอดไปได้ นอกจากความรักที่มีให้กันเท่านั้น และนั่นก็เป็นสิ่งที่สำคัญกับความเป็นคนรัก หากหมดรักกันแล้วทุกอย่างก็จบสิ้น
แต่เขาก็นึกไม่ออกว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรหากไม่ได้อยู่กับอธิปพงศ์ นอกจากความรู้สึกทรมานที่ผุดขึ้นมากลางอก
นิธินไม่อาจรู้ว่าพรุ่งนี้ของพวกเขาจะสวยงามอย่างที่หวังไว้หรือไม่
แต่สิ่งที่เขามั่นใจก็คือทำปัจจุบันของชีวิตคู่ให้ดีที่สุด...

 บ่ายแก่วันนี้กรุงเทพฯยังคงมีอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝนเหมือนทุกวัน แดดจ้าที่ส่องผ่านเมฆสีคล้ำนั้นเป็นสัญญาณให้คนใต้ฟ้าเตรียมตัวกับสายฝนที่จะตกมาในไม่ช้า แต่บรรยากาศในย่านสรรพสินค้าแห่งนี้ยังคงคึกคักเหมือนจะเป็นโลกอีกใบที่ไม่ยี่หร่ะต่อสภาพอากาศที่ห่อหุ้มไว้ ทุกคนในร้านยังคงทำงานกันไม่ขาดมือ พี่กุ้งที่เพิ่งสระผมให้ลูกค้ารายนึงเสร็จ ก็พาเธอมานั่งที่กระจกเพื่อจะเข้าสู่ขั้นตอนการจัดแต่งตามปกติ

"วันนี้จะทำแบบไหนดีครับ"
"ขอแบบสไลด์ปลายนะคะ และพี่กุ้งว่าหนูจะทำสีอะไรดี"
"อืม.." พี่กุ้งจับเส้นผมลูกค้าและสำรวจรูปหน้ากับสีผิวก่อนจะให้คำตอบ
"ตอนนี้ผมน้องบีเริ่มเสียนะ ถ้าจะสไลด์ต้องกลับไปดูแลดีๆ ล่ะ ส่วนเรื่องสี พี่ว่าสีน้ำตาลประกายแดงจะดีที่สุด เพราะน้องเป็นคนผิวค่อนข้างขาวเหลือง"
"ค่ะ"
ลูกค้าสาวรับคำและพูดคุยกับช่างผมอย่างสนิทสนม อธิปพงศ์เองก็พาลูกค้าที่ตัดผมเสร็จมานั่งที่กระจกข้างๆ เขาเห็นแล้วว่าเธอคนนี้เป็นลูกค้าประจำของพี่กุ้ง จึงยิ้มให้ตามมารยาท และเช็ดผมให้ลูกค้าของตัวเอง ส่วนพี่กุ้งก็พูดคุยกับลูกค้าประจำอย่างสนิทสนม
"แล้วช่วงนี้น้องบีหายไปไหนมาเนี่ย หืมม์"
"ก็ทำงานสิคะ เฮ้อออ เจอเพื่อนร่วมงานแย่ๆ ก็ตกหนักเราอย่างนี้แหล่ะค่ะ"
พี่กุ้งถามยิ้มๆ หวังจะให้เธออารมณ์ดีขึ้น
"ยังไงล่ะ"
"ก็..หนูมีเพื่อนร่วมงานเป็นคนอินเดียพี่ ไอ้พวกนี้แม่งเห็นแก่ตัว"
แม้เธอจะพูดให้พี่กุ้งฟัง แต่อธิปพงศ์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ได้ยินเต็มสองหู ชายหนุ่มจึงชะงักและหันมามองหน้าเจ้านายที่ตกใจไม่แพ้กัน พี่กุ้งพยายามนิ่งเฉย และฟังต่อ
"หนูเลิกงานดึกๆ ทุกวันก็พวกมันนี่แหล่ะ แม่งไม่ช่วยงานอะไรเลย สั่งอะไรไปก็ไม่ช่วยทำ แถมยังพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอีก"
"อืม เหรอ.." พี่กุ้งรับคำ ส่วนอธิปพงศ์ที่ลงกรรไกรอยู่ก็ไม่ละหูจากลูกค้าคนนี้
"ไอ้พวกนี้แม่งขี้งก เห็นแก่ตัวที่สุด หนูก็ไม่รู้เมื่อไหร่มันจะกลับๆ ประเทศมันไปซะที จะมาทำงานที่นี่ทำไมก็ไม่รู้"
เมื่อเธอระบายโทสะเสร็จก็ถอนหายใจออกมาส่งท้ายให้โล่งอก แต่คนฟังอย่างอธิปพงศ์นี่สิถึงกับเก็บไปคิดตาม เมื่อหมดลูกค้าแล้ว พี่กุ้งจึงเดินมาดูอธิปพงศ์ที่ยืนอยู่หลังร้านด้วยความเป็นห่วง

"หมู คิดอะไรอยู่ คิดถึงที่คุณบีเล่าให้ฟังใช่มั๊ย"
"เปล่าครับ..เอ่อ..ก็..คิดตามนิดหน่อยน่ะครับ"
อธิปพงศ์รับคำ เพราะตั้งแต่อยู่กันมาเขาแทบไม่เห็นข้อเสียในตัวอีกฝ่ายเลย จึงคิดว่าไม่แน่สิ่งที่นิธินซ่อนอยู่อาจจะเป็นสิ่งเดียวกับที่ลูกค้าพี่กุ้งพูดมาก็ได้
"หึหึ กลัวว่าคุณนิธินจะเป็นอย่างนั้นเหรอ"
"เปล่าหรอกครับ เพียงแต่เท่าที่คบกันมา ผมยังไม่ค่อยเห็นข้อเสียของเค้าก็เท่านั้น"
"เลยคิดว่าที่จริงคุณนิธินอาจจะเป็นอย่างที่คุณบีว่าไว้งั้นสิ"
พี่กุ้งหัวเราะน้อยๆ กับอาการคิดมากของรุ่นน้อง
"เฮ้ออ หมู คนของเราเป็นยังไง เราก็รู้ของเราอยู่ มีคนอินเดียตั้งร้อยล้าน ไปเหมารวมไม่ได้หรอก"
"ครับ"
"หมูอย่าคิดอะไรมากเลย ถ้าเค้าไม่ดีจริงหมูคงไม่ได้อยู่กับเค้าหรอก จริงมั๊ย"
พี่กุ้งพูดแค่นั้นพร้อมรอยยิ้ม ส่วนอธิปพงศ์พยักหน้ารับ แต่ก็ยังไม่หายกังวลใจกับเรื่องที่ได้ยิน

  หน้าฝนอย่างนี้ทำให้นิธินและเพื่อนไม่ได้ออก เล่นคริกเก็ตกันบ่อย ๆ กิจกรรมผ่อนคลายของพวกเขาจึงต้องปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมตามฤดูกาล ดังเช่นวันนี้ที่นิธินและกลุ่มเพื่อนใช้เวลาหลังเลิกงานออกไปเดินดูของแต่งบ้านตามที่วิษณุชักชวนไว้ ชายหนุ่มทั้งสี่เพลิดเพลินกับเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้านหลากหลายรูปแบบ
"นิธิน ๆ"
"ว่าไง"
"นายว่าโซฟาตัวนั้นสวยมั๊ย"
วิษณุชี้ไปยังโซฟาสไตล์โมเดริ์นวินเทจสีกรมท่า ที่วางเดี่ยวอยู่กลางชุดรับแขกแบบเดียวกัน
"ไปดูสิ"
นิธินก็สนใจเหมือนกันจึงเดินไปดูใกล้ๆ กับวิษณุ เมื่อได้ดูใกล้ ๆ และลองสัมผัสดูแล้วนิธินก็รู้สึกถูกใจกับโซฟาตัวนี้มาก
"อืม สวยดี…"
เอเจกับแทนไทเดินมาสมทบ เมื่อเห็นอย่างนั้นจึงบอกว่า
"เฮ้ย สวยก็ซื้อไปเลยสิ"
"เหอะ ขอกลับไปถามคุณหมูก่อนดีกว่าว่ะ"
"อะไรวะ ต้องรออะไร นายถูกใจนายก็ซื้อเลย แล้วอย่างนี้ถ้าเค้าไม่ชอบเหมือนนาย นายไม่อดเหรอ"
แทนไทออกความเห็น
"ไม่ได้หรอก ห้องของชั้นก็คือห้องของเค้า ชั้นอยากให้เค้าโอเคด้วยหน่ะ"
"อืมๆ"
แทนไทผู้ไร้คู่พยักหน้าเข้าใจ ก่อนที่ทั้งหมดจะไปดูกันที่มุมอื่นต่อ พวกเขาอยู่ที่นั่นกันพักใหญ่ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่นิธินยังนึกถึงโซฟาตัวนั้นอยู่ และกะจะกลับไปขอความเห็นคนรักกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้ด้วย

  "ที่รักครับ วันนี้ผมไปอินเด็กซ์ฯกับเพื่อนมา ผมเจอโซฟาตัวนึง เหมาะกับห้องเรามากเลยล่ะ"
"โซฟาเหรอ" นิธินนั่งอยู่บนเตียงถามอธิปพงศ์ที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ
"นี่..."
นิธินเปิดรูปในโทรศัพท์ให้คนรักดู อธิปพงศ์จึงได้ยลโฉมโซฟาตัวนั้นที่คนรักพูดถึง
"นี่ไง โซฟา"
"เท่าไหร่อ่ะครับ"
"หนึ่งหมื่นเก้าพันเก้าร้อยบาท"
"อืม สวยดี" อธิปพงศ์รับคำแค่นั้น ก่อนจะบอกเสียงอ่อย ๆ ว่า
"แต่เราอยู่กันสองคนเองนะ จะซื้อมาทำอะไรล่ะ เฟอร์นิเจอร์ที่ห้องก็มีครบแล้วหนิ ราคามันก็ไม่ใช่ถูกๆ นะคุณ"
นิธินทำหน้าเหมือนคิดได้ก็สลดลง ก็จริงอย่างที่คนรักพูดนั่นล่ะว่าพวกเขาไม่ได้จำเป็นกับของชิ้นนี้สักเท่าไหร่ และอีกอย่างราคาของมันก็ไม่ใช่น้อยๆ เมื่อเทียบกับเงินเดือนของพวกเขา
"อืม...ผมเข้าใจแล้ว" นิธินรับคำและล้มตัวนอน อธิปพงศ์เห็นคนรักนิ่งอย่างนั้นจึงเป็นห่วง
"คุณอยากได้มากเลยเหรอ"
"เปล่าหรอก...ไม่มีอะไร นอนกันเถอะ"
นิธินคว้าตัวอธิปพงศ์มากอดไว้เหมือนเคย สักพักเมื่อความต้องการของเขาก่อตัวจึงเริ่มเล้าโลมคนรักด้วยการสอดมือเข้าไปสัมผัสสะโพกขาวเนียนของอธิปพงศ์ แต่ก็ได้รับคำตอบมาว่า
"วันนี้ผมเหนื่อยมาก ไม่ไหวจริงๆครับ"
นิธินได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้าเข้าใจ ได้เพียงแต่กอดร่างอุ่นนั้นหลวมๆ และหลับตาลงเพื่อพักผ่อน ส่วนอธิปพงศ์ที่หลับตาแล้ว แต่ยังคิดไม่ตกถึงเรื่องที่ได้ยินมาวันนี้
ถ้าหากนิธินมีข้อเสียเหมือนคนพวกนั้นอย่างที่เขาได้ยินมาจริง เขาก็จะลองแกล้งเห็นแก่ตัวใส่คนรักก่อน เพื่อจะได้เห็นว่าอีกฝ่ายมีอะไรบ้างที่เขายังไม่รู้  อธิปพงศ์ไม่ได้จะหาเรื่องตีตัวออกห่าง เพียงแต่อยากจะเห็นคนรักในอีกด้านที่ยังไม่รู้ เพื่อได้เริ่มปรับตัวกันตั้งแต่ตอนนี้

 นิธินตื่นเช้ามาก็พบว่าอธิปพงศ์ยังคงนอนหลับอยู่บนอกเขาเหมือนเคย เขาค่อยๆ ลูบหน้าผากและหอมแก้มคนรัก ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ และกลับมาแต่งตัวที่หน้ากระจก เขามองไปยังคนรักอย่างแปลกใจเพราะทุกวันอธิปพงศ์จะลุกมารอเซ็ทผมให้ แต่วันนี้คนรักของเขายังคงนอนอยู่ไม่ติงไหว นิธินไม่ได้คิดอะไรมากนอกจากคิดว่าคนรักคงเหนื่อยจริงๆ เลยแต่งตัวต่อและออกไปทำงาน
 สิ้นเสียงปิดประตู อธิปพงศ์ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น และลุกนั่งอย่างกรุ่นคิดกับสิ่งที่เพิ่งผ่านไป
 ที่จริงแล้วเขาตื่นนอนตั้งแต่ตอนที่นิธินอยู่ในห้องน้ำ แต่ก็แกล้งหลับเพื่ออยากจะรู้ว่าคนรักจะว่าอย่างไรหากเขาไม่ตื่นไปจัดแต่งทรงผมให้อย่างเดิม แต่นิธินก็ยังปกติ อธิปพงศ์เหม่อมองไปยังนอกหน้าต่าง นี่เป็นแค่ครั้งแรกที่เขาจะทำแบบนี้ อธิปพงศ์จะลองทำไปเรื่อยๆ เพื่อจะได้รู้ว่าจริงๆ แล้วนิธินเป็นคนยังไง
 
 "นิธิน คุณหมูว่าไงมั่งวะ เรื่องโซฟา"
เอเจเอ่ยปากถาม ขณะพร้อมหน้าพร้อมตากันในมื้อกลางวัน
"เค้าไม่โอเคว่ะ เค้าบอกว่าที่ห้องก็มีแล้วจะเอามาทำไม"
"อืม แล้วนายว่าไงล่ะ"
"ก็จริงของเค้านะ ชั้นก็เห็นด้วย อีกอย่างมันก็แพงไปด้วยว่ะ"
"อืม" เพื่อนๆ ตอบรับแค่นั้น ก่อนที่แทนไทจะบอกว่า
"โซฟานั้น ความจริงนายมีสิทธิ์ซื้อมาเองก็ได้นะเว้ย ถ้านายอยากได้จริงๆ"
"ไม่หรอกแทน นายยังไม่เข้าใจ" เอเจอาสาอธิบายแทนเพื่อน "คนเราจะอยู่ด้วยกันมันก็ต้องฟังกัน ก่อนจะใช้เหตุผลในสิ่งที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน ถ้าเป็นอย่างที่นายบอก อย่างนั้นก็กลายเป็นต่างคนต่างตามใจตัวเอง ชีวิตคู่มันก็พังกันหมดพอดี"
"อืม ใช่ เอเจพูดถูก" วิษณุสมทบ "แหม ่วันนี้คุณเอเจเค้ามาคมจริงๆ"
"ฮ่ะๆ มีบ้างๆ"
เอเจกระหยิ่มยิ้มรับ ก่อนจะหันมาทางแทนไท "ชีวิตคู่มันก็เป็นอย่างนี้ล่ะว่ะแทนเอ๊ย"
"เออ ๆครับ" แทนไทถอนหายใจ "เฮ้ออ ถ้าชั้นต้องไปมีชีวิตหารสองแบบพวกนาย ชั้นคงอยู่ไม่ได้ว่ะ"
นิธินจึงบอกกับเพื่อนว่า
"แต่ชั้นก็อยู่คนเดียวไม่ได้เหมือนกัน ถ้าไม่ได้อยู่กับคนที่ชั้นรัก"
 นิธินพูดจบก็มองเอเจและวิษณุที่เห็นด้วยกับคำพูดนั้น คนหนุ่มอย่างพวกเขาไม่ได้เสียดายชีวิตโสด และคงไม่สามารถกลับไปอยู่คนเดียวได้เพราะพวกเขายินดีที่จะมีเงื่อนไขกับคนข้างๆ ที่พร้อมจะใช้ชีวิตไปกับพวกเขาเช่นกัน

 "อ่าว หมู คุณนิธินมารับแล้ว" พี่กุ้งสะกิดให้อธิปพงศ์เห็นว่าคนรักมารอกลับบ้านพร้อมกันเหมือนเดิม อธิปพงศ์ยิ้มให้คนรักด้วยความดีใจ แม้ตอนแรกตั้งใจจะแกล้งใจร้ายใส่ แต่พอเห็นรอยยิ้มอบอุ่นนั้นก็ทำให้เขาอดกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้
"ไงครับ" นิธินทักทายอธิปพงศ์ที่เดินมาหา
อธิปพงศ์ยิ้มให้ไม่ตอบอะไร ปล่อยให้คนรักเดินจูงมือเขากลับบ้านอย่างเคย
"ความจริง คุณไม่ต้องย้อนมาหาผมก็ได้" อธิปพงศ์พูดกับคนรัก ชายหนุ่มเกรงใจเหลือเกินที่นิธินต้องเสียเวลาเดินทางย้อนมากลับบ้านกับเขาทุกวันอย่างนี้
"ผม..อยากกับบ้านกับคุณทุกวันหน่ะ มันรู้สึกดีกว่า...คุณว่ามั๊ย"
"อื้มม.."
อธิปพงศ์ไม่พูดอะไร เพราะมีความรู้สึกเช่นเดียวกันกับคนรัก เขาจับมือกันอย่างนั้นจนถึงห้องพัก ก่อนที่อธิปพงศ์จะแกล้งนอนหลับไปก่อนอย่างที่ตั้งใจไว้
แม้เขาจะทำตัวให้ใจร้ายกับเรื่องอื่นไม่ได้ แต่เรื่องนี้เขาจะลองตายด้านดูสักพัก
 ก็อยากจะรู้เหมือนกันนักว่าถ้าเขาไม่ทำการบ้านกันอย่างที่เคยนิธินจะแสดงท่าทีอะไรออกมาหรือไม่

 เมื่อไฟห้องถูกปิด อธิปพงศ์ก็ได้แต่นอนหันหลังให้ไม่ติงไหว ประหนึ่งว่าหลับไปนานแล้ว นิธินมองดูคนรักแล้วก็เข้าใจว่าคงจะเหนื่อย เลยซุกตัวเข้าใต้ผ้าห่มและโอบกอดคนรักจากทางด้านหลัง
แม้จะหลับแล้ว แต่เขาก็อยากให้อธิปพงศ์รับรู้ว่าเขายังคงปกป้องดูแลอย่างเคย

 อธิปพงศ์ยังคงแกล้งเหนื่อยอย่างนั้นอีกกว่าสัปดาห์ ยิ่งกว่านั้น เขายังลองไม่รับผิดชอบงานบ้านบางอย่างที่เคยทำอีก แต่นิธินก็ไม่ว่าอะไร นอกจากเห็นว่าคนรักดูเหนื่อยอ่อนมากกว่าปกติ จากการที่อธิปพงศ์นอนเร็วและตื่นช้ากว่าเขาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะไม่มีไข้แต่เขาก็ไม่นิ่งนอนใจในอาการแบบนี้ เลยได้แต่บอกว่า
"คุณพักผ่อนเยอะๆ นะ ถ้าไม่ไหวยังไงก็ไปหาหมอ"

 อธิปพงศ์พยักหน้ารับคำ และนอนต่อด้วยความรู้สึกผิดในใจ แม้เขาจะแกล้งทำตัวน่าเบื่อแบบนี้แล้ว แต่นิธินก็ยังไม่ว่าอะไร เขาแอบมองตามคนรักที่กำลังเอาผ้าไปตาก แล้วก็นอนต่อ นี่เขายังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกิดขึ้นกับตัวนิธินเลย หรือว่านิธินเป็นแบบนี้จริงๆ และไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาเป็นได้...

"หวัดดีค่ะคุณเขียว วันนี้มาตัดผมใช่มั๊ยคะ รอแป๊บนึงค่ะ"
หญิงต้อนรับลูกค้าประจำของอธิปพงศ์อย่างเป็นมิตร ก่อนจะพาหญิงสาวไปหาช่างประจำที่ยืนส่งยิ้มมาให้ เธอยิ้มตาหยีและยกมือไหว้ช่างผมรุ่นพี่
"หวัดดีค่ะพี่หมู"
"จ้ะ"
อธิปพงศ์รับไหว้ยิ้มๆ ก่อนจะออกปากแซว
"ถ้าผมไม่เป็นทรงนี่จะไม่เข้าร้านเลยใช่มั๊ย"
"แหม พี่หมูก็" เขียวค้อนช่างผมคนสนิทเล็กน้อย "พอมันยาวก็เปลี่ยนทรงไปเรื่อยๆไงคะ ว่าแต่พี่หมูเถอะค่ะ เดี๋ยวนี้แรงอ่ะ กล้าแซวน้อง"
ป๊อกกี้เลยสบทบมาว่า
"งี้ล่ะค่ะ ตั้งแต่พี่หมูมีสามีนี่แรงขึ้นทุกวันๆ"
"อย่างงั้นเหรอคะ"
"ค่า"
อธิปพงศ์เลยสัพยอกเพื่อนสาวรุ่นน้องที่มาตัดผม
"แต่พี่คงแรงสู้น้องเขียวไม่ได้หรอก"
"อ่าค่า เขียวก็คิดว่าแรงกับคนอื่นได้ก็แรงไป แต่อย่าแรงกับลูกกับผัวก็แล้วกัน ฮ่ะๆ"
เขียวพูดกลั้วหัวเราะกับคำโบราณสอนหญิงที่เธอหยิบมาล้อเลียนรุ่นพี่ โดยที่ไม่ทันเห็นอธิปพงศ์หลบตาวูบกับคำพูดนั้น ช่างผมชักชวนลูกค้าเข้าสู่ขั้นตอนแรก
"พี่ว่า ไปสระผมกันก่อนดีกว่า"
"อืมค่ะ"
เขียวเดินตามชายหนุ่มไปอย่างว่าง่าย ก่อนจะนอนลงและให้ช่างหนุ่มสระผม อธิปพงศ์ยิ้มบางๆ  เอ่ยปากถามพลางเปิดน้ำจากฝักบัว
"แล้วไม่คิดจะไว้ผมยาวมั่งเหรอน้องเขียว"
"ไม่ล่ะค่ะ เดี๋ยวลูกดึงผม นี่วัยกำลังซนเลย"
"อืม..เหรอ"
"ค่ะ อยากให้คล่องตัวหน่ะค่ะ"
"อ่อ จ้ะ"
"พี่หมูล่ะค่ะ เป็นไงมั่ง พาคุณนิธินไปเยี่ยมที่ร้านตอนนั้นและก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย"
"ก็เรื่อยๆ จ้ะ" อธิปพงศ์ยิ้มๆ "วันหลังมาเยี่ยมพวกพี่ที่ห้องสิ มาสอนพี่ทำกับข้าวบ้าง"
"พี่เอาจริงเหรอคะ?" เพื่อนรุ่นน้องย้อนถาม เพราะประหลาดใจในตัวอธิปพงศ์ที่เธอรู้ว่าไม่เคยยุ่งกับงานครัวนอกจากล้างจาน
"ทำไมอ่ะ พี่จะหัดทำกับข้าวมั่งไม่ได้เหรอ"
"ค่ะๆ อยากทำอะไรก็บอกนะคะ"
"จ้ะ"
อธิปพงศ์รับคำและสระผมต่อ ชายหนุ่มชั่งใจสักพักแล้วลองถามสิ่งที่เขาคาใจมานาน
"น้องเขียวครับ"
"คะ"
"เอ่อ น้องเขียวพอจะรู้มั๊ยว่า จริงๆ คนอินเดียนิสัยยังไง"
"หืมม์?...เขียวว่าอันนี้พี่หมูน่าจะรู้ดีนะคะ"
"พี่หมายถึงทั่วไปหน่ะ"
"เอ พี่หมู นึกยังไงถึงถามแบบนี้ล่ะคะ มีอะไรรึเปล่า"
"คือ...พี่เคยได้ยินว่า คนอินเดียน่ะ เอ่อ เห็นแก่ตัว และก็ขี้เหนียวน่ะ"
"ค่ะ..แล้ว?"
"น้องเขียวว่าไงอ่ะจ๊ะ"
"เท่าที่เขียวรู้มันก็มีส่วนนะคะ"
อธิปพงศ์ก้มหน้ามามองเพื่อนรุ่นน้องทันที
"ยังไงเหรอ"
"ก็ที่อินเดียยังมีการแบ่งวรรณะ และก็มีประชากรมากมายนะคะ ก็เลยแย่งกันกินแย่งกันใช้เป็นธรรมดา ว่าแต่พี่ไปได้ยินมาจากใครเหรอคะ"
"ลูกค้าพี่กุ้งหน่ะ เค้ามาบ่นให้ฟังว่าเจอฤทธิ์เพื่อนร่วมงานอินเดีย"
"อืมม เขียวก็เคยได้ยินค่ะ ก็พอรู้นะคะว่าที่พวกเค้าเป็นคนอย่างนั้นเพราะเค้ามีสาเหตุหลายอย่าง เช่น บ้านเค้าคนเยอะเลยต้องแย่งงานกันทำ และก็ความยากจน ไหนจะเคยเกิดสงครามกลางเมืองอีก ก็ไม่รู้อ่ะค่ะ อธิบายยาก"
"อืม"
"แต่เขียวว่าความจริงคนเราถ้าอยู่ในสภาวะยากลำบากอย่างนั้น ก็คงเป็นเหมือนกันหมด ไม่มีใครดีกว่าใครหรอกค่ะ"
"ก็จริงนะ" อธิปพงศ์พึมพำเบาๆ นอกจะเข้าใจอะไรมากขึ้นแล้วยังรู้สึกผิดต่อคนรักอีกด้วย เพราะนิธินไม่ใช่คนอย่างนั้นที่เขาเคยจับผิดเลย
ชายหนุ่มจึงย้อนมาดูว่า ที่จริงแล้วเขาเองต่างหากที่เป็นคนไม่ดีพอกับสิ่งที่นิธินมอบให้ ยิ่งคิด อธิปพงศ์ก็ยิ่งละอายแก่ใจยิ่งนัก
"พี่หมู เป็นไรไปคะ เงียบเชียว"
"เปล่าจ้ะ"
อธิปพงศ์ยิ้มรับและล้างผมต่อ เขารู้สึกผิดเหลือเกินที่คิดแบบนั้นกับคนรัก และเสียใจที่ใจร้ายกับผู้ชายที่แสนดีอย่างนิธินได้ลงคอ

นิธินที่เพิ่งกลับจากฟิสเนสเปิดประตูห้องพักและเปิดไฟที่ข้างประตูก่อนจะเดินเข้ามา ทันใดนั้นเขาก็ตกใจเมื่อเห็นโซฟาสีน้ำเงินกรมท่าที่เขาอยากได้อยู่กลางห้อง ชายหนุ่มเข้าไปลูบดูอย่างประหลาดใจกับของที่อยากได้ ว่าเหตุใดมันจึงมาอยู่ตรงนี้

"คุณชอบมั๊ย"
 
นิธินหันไปตามเสียงก็พบอธิปพงศ์เดินออกมาจากมุมครัว เขามองหน้าคนรักเพื่อจะขอคำตอบ แต่อธิปพงศ์ก็บอกว่า

"วันนี้อากาศดีนะ ผมว่าเราไปนั่งที่ระเบียงกันเถอะ"

นิธินพยักหน้ารับคำพร้อมช่วยกันยกโซฟาไปที่ระเบียงห้อง วันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่ง ไร้เค้าเมฆฝน อากาศบนอาคารสูงอย่างนี้ก็กำลังสบายตัว เมื่อแหงนมองไปข้างบนก็พบว่ามีดาวกำลังส่องแสงประดับท้องฟ้าอยู่มากมาย

"คุณ...ไปซื้อมาเหรอ" นิธินเอ่ยปากถามหลังจากทิ้งตัวลงบนโซฟาใหม่
"อื้ม..คุณชอบมั๊ยล่ะ"
อธิปพงศ์ที่นั่งอีกด้านถามเอาใจคนรัก
"ชอบสิครับ...ไหนคุณบอกว่าห้องเราก็มีแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ผมเห็นว่าคุณอยากได้น่ะ"
“แต่มันแพงไม่ใช่เหรอครับ”
“มันไม่สำคัญหรอก คุณชอบมันไม่ใช่เหรอ”
“ชอบสิ...ขอบคุณนะครับ”
“อืม..ครับ”
อธิปพงศ์ตอบรับ ภายในน้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด นิธินมองดูเห็นคนรักเป็นอย่างนั้นจึงเอ่ยปากถาม
“คุณ...มีอะไรรึเปล่า”
“เปล่าครับ...”
แต่นิธินเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอธิปพงศ์ไม่ได้มีร่างกายแข็งแรง จึงรีบชวนคนรักไปพักผ่อน
“เดี๋ยว...ตอนนี้คุณไม่สบายอยู่นี่ ไปๆ เข้าไปในห้องกันดีกว่า…”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมโอเค”
“ไม่ได้หรอก คุณดูอ่อนเพลียมาทั้งสัปดาห์นี่ ไป ๆ นอนกันเถอะ”
อธิปพงศ์รีบคว้าข้อมือแข็งแรงนั้นไว้ พอนิธินหันมามองก็พบว่าใบหน้าของคนรักกำลังเอ่อนองไปด้วยน้ำตา
“คุณหมู....” นิธินรีบเช็ดน้ำตาให้คนรัก “เป็นอะไรไป...”
“ผม..ขอโทษ...”
นิธินมองหน้าคนรัก เพราะไม่เข้าใจว่าอธิปพงศ์ขอโทษเรื่องอะไร
“ความจริง ผมไม่ได้เป็นอะไรหรอก....”
“แล้ว คุณขอโทษผมเรื่องอะไรล่ะ”
“นิธิน..คุณบอกผมได้มั๊ยว่าผมมีอะไรที่คุณรับไม่ได้บ้าง”
นิธินส่ายหน้ายิ้ม ๆ พร้อมกับลูบหน้าคนรักไปด้วย
“คุณอย่าทำอย่างนี้สิ บอกผมมาตามตรงได้มั๊ย”
  “ทำไมคุณถามผมแบบนี้ล่ะ..”
“ผม..ผมก็แค่คิดว่า คนเราถ้าจะรักกันมันต้องรู้จักด้านแย่ ๆ ของกันและกันน่ะ”
“อืม...” นิธินโอบไหล่คนรักก่อนจะลูบผมเบา ๆ
“อันที่จริงเราสองคนก็เห็นกันหมดทุกอย่างแล้วนะ เพียงแต่ว่าเราเก็บมันมาใส่ใจรึเปล่าก็เท่านั้น”
อธิปพงศ์หันมามองหน้าคนรัก และฟังต่อ
“ที่ผมบอกว่าผมรับได้ทุกอย่างที่เป็นคุณ ผมพูดจริงนะ เพราะว่าผมรักคุณไปซะแล้ว”
“หึหึ”
  อธิปพงศ์หัวเราะในคอกับความรู้สึกขลาดกลัวของตัวเอง เขานึกถึงคำพูดหนึ่งที่เคยได้ยิน ว่าให้เลือกมองแต่ส่วนดีของมนุษย์ มากกว่าจับผิดส่วนที่เสียในตัวแต่ละคน และนึกถึงตัวเองที่เขาไม่เคยมองเห็นนิธินในด้านลบก็เพราะว่าเขาไม่เคยตีค่าของความรักเป็นแบบอื่นนอกจากตัวมันเอง
เขารักนิธิน เพราะว่า นิธินเป็นแบบนี้
และวันนี้เขาก็ดีใจเหลือเกินที่รู้ว่าคนรักก็รักเขาในสิ่งที่เขาเป็น
  อธิปพงศ์พิงร่างกายกับบ่ากว้างของนิธิน โดยที่มีแขนแข็งแรงโอบรอบเอวไว้ไม่ห่าง คืนนี้ไร้ซึ่งเม็ดฝน อากาศเป็นใจให้คู่รักชายหนุ่มรับลมชมดาวอยู่ที่ระเบียง...




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 30-03-2012 15:39:30
 :กอด1:คุณน้ำพริกแมงดา
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดามาก ขอให้สุขภาพแข็งแรงไวไวนะ
อ่านตอนแรกตกใจคิดว่าจะมีมาม่าชามโต อ่านจบค่อยโล่งอก
แม่เคยบอกว่าการลองใจควรทำตั้งแต่ต้นที่เรายังไม่แน่ใจว่ารักกัน ถ้ารักกันแล้วควรเชื่อใจกันไม่ควรลองใจกัน  :give2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 30-03-2012 15:57:02
ลองใจแก้เบื่อเรอะคุณหมู :laugh:

ทุกชาติทุกภาษาก็มีทั้งคนดีคนไม่ดีปนกัน
แต่เรื่องนิสัยบางอย่างประจำแต่ละชาติ ประจำภูมิภาคอันนั้นมีจริง :laugh:
ไม่ได้แปลว่า ต้องเป็นแต่นิสัยด้านลบนะครับ
อย่างเช่น นิสัยขี้เกรงใจมากเกินไปของคนไทย
ก็สร้างปัญหาที่คาดไม่ถึงให้นักเรียนไทยคนหนึ่งในอเมริกามาแล้ว
รักษาสุขภาพด้วยนะครับ :L2:
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 30-03-2012 16:07:45
ตามอ่านคะ  นับถือในความรักทั้ง2คนมาก  ช่วงที่ห่างกัน6เดือน คงทรมานน่าดู  อ่านตอนนี้แล้วตกใจ นึกว่าต้องต้มมาม่ากินซะแล้ว พออ่านจบแล้วโล่งคะ   นิธินเป็นคนมั่นคงในความรักมาก หมูโชคดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 30-03-2012 16:48:45
 :กอด1:เกือบไปอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 30-03-2012 17:32:31
จะคิดมากไปทำไมเราอยู่กับแฟนก็ต้องเข้าใจแฟนสิ
มัวแต่ไปฟังคนอื่นแล้วมาคิดมากเนี่ยไม่ดีหรอก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 30-03-2012 17:39:38
อิจฉาคู่นี้จริงๆ :o8:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 30-03-2012 17:44:49
ซาบซึ้งจริง ๆ
แต่ว่าคนเราแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกแม้จะชาติเดียวภาษาเดียวกันก็เถอะมันอยู่ที่ตัวบุคคล
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 30-03-2012 18:12:00
คุณหมูก็ช่างหาเรื่องจริง คิดอะไรไม่รู้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 30-03-2012 18:40:36
อ๊าก น่ารักๆ...ๆ   ๆ และ น่าอิจฉาด้วยอ่ะ....
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: iOwnDaWorld ที่ 30-03-2012 19:22:05
เพิ่งเข้ามาอ่านจ้า
เจอคำผิดที่ชัดๆก็ตรง เคลม ดาวน์ เขียน คาล์ม ดาวน์ นะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 30-03-2012 19:54:17
แอร๊ย ระเบียง อยู่บนเตียงก้เบื่อๆเปลี่ยนมาเป็นระเบียงบ้างก้ดีนะคะ หุหุ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 30-03-2012 20:08:02
 "....อันคำคน เวียนวนลอย ลม
ควรหรือเจ้ามาเศร้าตรม
เอาอารมณ์ของตัวเป็นใหญ่
เก็บมาวู่วาม
หลงลืมแม้ความยับยั้งชั่งใจ...."
คนที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันต้องหนักแน่นให้มากๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 30-03-2012 20:50:23
คุณหมูนี่ชอบหาเรื่องมาคิดเรื่อยเลยเนอะ อิอิ แต่ไม่มีเรื่องอะไรก็ดีแล้วแหละ ตอนนี้บรรยากาศกำลังอบอุ่น เบาๆ สบายๆ ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณน้ำพริกแมงดาค่ะ ไม่สบายแต่สปิริตยังแรงกล้า o13

ขอให้หายป่วยไวๆนะคะ  :กอด1: :กอด1:

 :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 30-03-2012 21:18:14
 :กอด1:นิธินเป็นคนดีมากเลยอขนาดหมูแกล้งทำนิสัยไม่ดีใส่ยังเปนห่วงอีก :กอด1:

ปล.ขอให้หายป่วยไวๆนะค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 30-03-2012 22:31:18
แต่ stereotype ของแขกก็เป็นอย่างนั้นจิงๆแฮะ

เหมือนที่ stereotype ของคนไทย คือ สบายๆ ไม่เครียด ยิ้มง่ายหัวเราะง่าย แล้วก็ไร้วินัยอ่ะ

แต่หลายคนเค้าก็ไม่ได้เป็นตาม stereotype นิ่เนาะ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 31-03-2012 11:42:34
อบอุ่น :L1:

บวกเป็ด

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 31-03-2012 16:41:03
สิ่งที่เห็นและเป็นอยู่ก็บอกอะไรๆได้หลายอย่างแล้วล่ะเนอะ
เชื่อมั่นในกันและกันเข้าไว้นะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:30/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 31-03-2012 20:53:44
วันนี้มาแล้วค่ะ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ หวังว่าทุกคนคงชอบกับตอนนี้นะคะ



35 (NC18+)


แม้ในห้องนอนนี้จะไร้ซึ่งแสงไฟแล้ว แต่แสงนวลจากบานกระจกที่ไม่ได้ปิดม่านยังสาดส่องมาไม่ให้ห้องนี้ทึบแสงเกินไป อธิปพงศ์ที่เพิ่งรู้สึกตัวหลังจากนอนพักในอกอุ่น พาร่างเปลือยเปล่าของตัวเองไปยังห้องน้ำ เพื่อชำระล้างเนื้อตัวจากการเสียเหงื่อยกใหญ่เมื่อครู่นี้
 ชายหนุ่มอาบน้ำชำระร่างกายอีกครั้ง และใช้ฝักบัวเล็กชำระล้างปลายประตูของตนเอง เขามองดูคราบรักที่ไหลตามกระแสน้ำลงมาตามขาก็อมยิ้ม เมื่อนึกถึงความรู้สึกตอนที่นิธินปลดปล่อยอย่างเต็มที่ในตัวเขา
 อธิปพงศ์แทบคลั่งตายกับแต่ละครั้งที่นิธินมอบความสุขให้แก่เขา ยิ่งอดกันมานานเหมือนครั้งนี้แล้วด้วย ความต้องการที่สะสมทำให้พวกเขาโรมกันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ชายหนุ่มมองกระจกและนึกตำหนิตัวเองกับสิ่งที่เพิ่งผ่านไป เขาได้แต่อบรมตัวเองว่าอย่าทำอะไรเพราะอารมณ์ชั่ววูบอย่างนั้นอีก
ไม่มีเรื่องอะไรแท้ๆ ยังจะหาเรื่องเอง
นี่ถ้านิธินเกิดเปลี่ยนใจไปมองคนอื่นเขาจะทำอย่างไรดีล่ะ
แค่คิดอธิปพงศ์ก็รู้สึกแย่แล้ว
"บ้าเอ๊ย เป็นอะไรวะ งี่เง่าอีกแล้ว"
อธิปพงศ์หัวเราะกับความอ่อนไหวในจิตใจของตัวเอง ก่อนจะเช็ดตัวและออกไปนอนต่อกับคนรัก

 "โอ้โห วันนี้นิธินเซ็ทผมมาด้วยเว้ย"
เอเจทักทายเพื่อนในเช้าวันใหม่ที่มาทำงาน อันที่จริงเขาไม่ได้สนใจรายละเอียดของเพื่อนมากนักแต่ว่าวันนี้นิธินดูแปลกตากว่าวันที่ผ่านมาจนสังเกตได้
"คุณหมูเค้าเซ็ทให้หน่ะ"
"โหยยย ไว้ลายช่างผมจริงๆ"
"อืม" นิธินรับคำแค่นั้น ก่อนจะนึกขอบคุณที่อธิปพงศ์กลับมาเป็นเหมือนเดิม เมื่อคืนเขามีความสุขมากหลังจากทนกลัดมันมากว่าสัปดาห์ จากที่เห็นว่าคนรักยินยอมพร้อมใจแล้วนิธินจึงมอบความสุขให้ถึงสองครั้ง ชายหนุ่มเม้มปากกรุ่นคิด ถ้าสมมุติว่าอธิปพงศ์ไม่ยอมมีอะไรกับเขาต่อไปเขาก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรเหมือนกัน แต่เขาดีใจนักที่วันนี้คนรักกลับมาเป็นเหมือนเดิมเสียที

 อธิปพงศ์พักกินข้าวพร้อมกับหญิงในบ่ายวันหนึ่ง เขากำลังพูดคุยกับรุ่นน้องถึงลูกค้าต่างชาติที่เจอก่อนขอตัวมากินข้าวนี้
"หญิง วันนี้มีลูกค้าฝรั่งบอกกับพี่ตอนตัดผมว่า พี่พูดภาษาอังกฤษแบบคนอินเดียว่ะ"
"เหรอ" หญิงตกใจตาโตและหัวเราะออกมา "ฮ่ะๆๆ พี่หมู แล้วพี่หมูว่าไงอ่ะ"
"พี่ก็บอกว่า เหรอ พี่ไม่รู้เลยนะหน่ะ...แต่ก็คงจะจริงว่ะ เพราะฟังๆไปมันก็เหมือนที่นิธินเค้าพูดอยู่"
"แหม่ๆ ของอย่างนี้มันติดต่อกันได้ด้วยเหรอพี่"
"ก็มันชินนี่นา เป็นอย่างนี้ไปซะแล้ว จะให้ทำไง"
"เออ หนูขอถามอะไรพี่ได้มั๊ย"
"ว่ามา"
"ตั้งแต่พี่เปลี่ยนมาคบกับผู้ชายเนี่ย พี่หมูมีความสุขมากขึ้นกว่าแต่ก่อนรึเปล่า"
พอได้ยินคำถามนั้นจากรุ่นน้อง อธิปพงศ์ก็ย้อนถามพร้อมรอยยิ้ม
 "นึกยังไงถึงถามแบบนี้ล่ะเนี่ย"
"ก็...อยากรู้ไง ว่าพี่หมูรู้สึกยังไงหลังจากมีแฟนเป็นผู้ชาย"
"ก็แฮ็ปปี้ดี.."
อธิปพงศ์ตอบสั้นๆ พร้อมรอยยิ้มละมุนที่บ่งบอกความรู้สึกตามที่พูด
"ยังไงอ่ะ มันต่างกับเมื่อก่อนตรงไหน"
"เยอะนะ พี่บอกไม่ถูกอ่ะ"
อธิปพงศ์ตอบตามความรู้สึกที่เขารับรู้ว่ามีความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเยอะกับชีวิต จนเขาไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
ชายหนุ่มกับรุ่นน้องกินข้าวกันต่อและเดินกลับมาทำงาน ระหว่างทางที่ต้องเดินผ่านร้านเสื้อผ้ากีฬานำเข้า อธิปพงศ์ก็สะดุดตากับกางเกงว่ายน้ำตัวหนึ่งที่หุ่นสวมโชว์อยู่หน้าร้าน
"พี่ขอดูนี่แป๊บนะ
"ค่ะ"
 อธิปพงศ์เข้าไปดูกางเกงว่ายน้ำแบบสัญชาติอเมริกาสีดำตัวจิ๋วที่เขาสะดุดตา และขอทางร้านสัมผัสใกล้ว่ามีเนื้อผ้าอย่างไร เมื่อลองจับดูแล้วก็พบว่านี่เป็นผ้าแบบพิเศษที่บางเบา แต่กว่ามีการออกแบบตัดเย็บให้โอบอุ้มส่วนสำคัญของผู้ชายได้ยามที่ว่ายน้ำ แม้เทียบกับกางเกงว่ายน้ำผู้ชายทั่วไปแล้ว  จะค่อนข้างแพงไปสักหน่อย แต่มองในด้านความคุ้มค่าแล้วชายหนุ่มก็ยอมจ่าย เมื่อได้ของที่ต้องการเรียบร้อยแล้วอธิปพงศ์ก็ชวนรุ่นน้องเดินต่อ
“ป่ะ”
หญิงยิ้มรับและเดินไปด้วยกัน เมื่อถึงร้าน ป๊อกกี้ที่เห็นว่าอธิปพงศ์มีของติดมือมาด้วยจึงถามอย่างใคร่รู้
“พี่หมูได้อะไรมาอ่ะค่ะ”
“กางเกงว่ายน้ำ ของสปีโด้”
“ไหน ๆ ขอหนูดูได้ป่ะ”
อธิปพงศ์ส่งถุงใบย่อมนั้นให้ป๊อกกี้ ช่างผมตัวแสบรับมาและหยิบกางเกงว่ายน้ำขึ้นมาดู
“โอ้โห! พี่หมู…พี่หมูกล้าใส่แบบนี้ว่ายน้ำจริง ๆ เหรอคะเนี่ย โอ้แม่เจ้า สาบานนะคะ ว่าแค่ใส่ว่ายน้ำ ไม่ได้ใส่ไปฆ่าใคร”
ป๊อกกี้มองกางเกงว่ายน้ำในมือแล้วไม่อยากจะคิดต่อ หากว่ามันอยู่บนร่างของอธิปพงศ์แล้ว ภาพที่ออกมาคงจะร้อนแรงจนแทบปรอทแตกอย่างแน่นอน
“อื้ม...”
“โหย พี่หมู ใจคอพี่หมูจะให้เลือดท่วมสระเลยเหรอคะเนี่ย ตายแล้ว”
“ไม่หรอก ก็แค่ซื้อไปใส่ว่ายน้ำ”
“ซื้อไปว่ายน้ำหรือซื้อไปใส่อวดผัวคะคุณพี่ หนูถามจริง ๆ”
 อธิปพงศ์จึงตอบรุ่นน้องพร้อมรอยยิ้ม
“ก็ทั้งสองอย่างนั้นแหล่ะ”
“ต๊ายยยย แรงค่ะ”
ป๊อกกี้เอามือทาบอกเหมือนจะเป็นลม อธิปพงศ์เลยบอกกับรุ่นน้องว่า
“แกก็ซื้อใส่มั่งสิป๊อกกี้”
“โอ๊ยย คุณพี่ ถ้าน้องหุ่นดีหน้าเริ่ดเหมือนพี่หมูน้องก็คงใส่เดินตะมอยริมสระไปนานแล้วล่ะค่ะ”
“ถ้าวันนี้คุณพี่ใส่เล่นน้ำกับคุณนิธินนะคะ รับรองค่ะว่า คืนนี้คุณพี่ฟ้าเหลืองแน่ ๆ”
“เหลืองไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะพรุ่งนี้ยังไงพี่ก็ต้องมาทำงานอยู่แล้ว”
“อ่าค่า ให้มันได้อย่างนั้นก็แล้วกันค่ะ”
ป๊อกกี้รับคำก่อนจะสะบัดบ๊อบไปทำงานต่อ เมื่อถึงเวลาเลิกงานอธิปพงศ์ก็กลับบ้านโดยที่มีนิธินมารับเหมือนเคย วันนี้นิธินมาใส่เสื้อยืดคอวีเนื้อบางเบาที่ทำให้เห็นกล้ามเนื้อช่วงบนชัดเจนยิ่งขึ้น กับกางเกงยีนส์ขาเดฟสีซีด อธิปพงศ์แอบมองคนรักอย่างหลงใหล ด้วยคิดถึงแนวเคราทรงเสน่ห์ที่เขาหลงรัก เมื่อนิธินส่งยิ้มมาให้ อธิปพงศ์จึงเดินเข้าไปหาทันที
 นิธินยิ้มให้คนรักที่ด้อยความสูงกว่าเล็กน้อย เขาลูบที่แก้มเบา ๆ อธิปพงศ์มองหน้าคนรักใกล้ ๆ ก็ยิ่งรู้สึกหวามไหวมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้ชายหนุ่มรู้สึกอยากจะเขย่งไปจุมพิตริมฝีปากนั้นเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้าพอที่จะทำกลางที่สาธารณะแบบนี้
“กลับบ้านกันเถอะครับ”
“ครับ”
 อธิปพงศ์เดินตามร่างใหญ่ที่จูงมืออย่างว่าง่าย นิธินเพิ่งสังเกตว่าอธิปพงศ์ถือถุงมาด้วย จึงเอ่ยปากถาม
“อะไรน่ะ”
“อ๋อ กางเกงว่ายน้ำของผม เพิ่งซื้อมาใหม่วันนี้”
“เหรอ...” นิธินพยักหน้ารับ “ใส่ให้ผมดูก่อนได้มั๊ย…คืนนี้เลย”
“ได้สิครับ”
อธิปพงศ์ยิ้มรับและเดินต่อ เขาแอบยิ้มที่รู้ว่าคนรักให้ความสนใจในตัวเขา แต่ก็เปลี่ยนสีหน้าแทบไม่ทันเมื่อเจอสายตาชวนเชิญของเก้งกวางที่มองมายังนิธิน เมื่อเขามองไปก็พบว่าคนพวกนั้นยังส่งสายตาท้าทายเพื่อจะสื่อว่าใครดีใครได้มายังเขาอีก อธิปพงศ์อารมณ์เสียเล็กน้อยพลางคิดว่า
“ไม่เห็นรึไงว่าเดินจูงมือกันอยู่...”
นิธินหันไปมองคนรักที่กำลังองค์ลงก็แอบยิ้ม จึงเปลี่ยนมาโอบเอวและรีบเดินให้พ้นจากตรงนั้น ชายหนุ่มทั้งสองไม่ได้พูดอะไร นอกจากเดินจับมือกันต่อเงียบ ๆ จนถึงที่หมาย
“วันนี้คุณไม่กินข้าวเหรอ” นิธินหันมาถามคนรักหลังจากก้าวถึงห้อง
“เหอะ...เดี๋ยวพุงป่องอ่ะ อีกอย่างกินมาแล้วตอนหกโมงด้วย”
“ครับ..”
อธิปพงศ์จึงบอกกับคนรักด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
“เดี๋ยวผมอาบน้ำก่อนนะ”
“ครับ...”
นิธินรับคำและลากโซฟาตัวใหม่ไปนอกระเบียง วันนี้อากาศดีอีกแล้ว ทำให้เขาอยากจะออกมานั่งเล่นสูดอากาศดี ๆ และชมพระจันทร์ที่เต็มดวงบนท้องฟ้า เขาลุกขึ้นไปดื่มน้ำที่ตู้เย็นและกลับมานั่งตรงนั้นต่อ สักพักอธิปพงศ์ก็เดินออกมาหาเขาที่ระเบียง
“ทำอะไรอยู่เหรอ”
นิธินหันไปตามเสียงก็พบว่าอธิปพงศ์กำลังเดินมาหาเขาด้วยกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวอย่างที่ตกลงกันไว้ ชายหนุ่มมองคนรักตาค้าง เพราะปกติอธิปพงศ์ก็ดูเย้ายวนมากในชุดว่ายน้ำอยู่แล้ว ยิ่งมาใส่กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กที่เน้นส่วนโค้งเว้าของสะโพกอย่างนี้เลยทำให้เขาแทบหยุดหายใจกับภาพที่เห็นตรงหน้า
 อธิปพงศ์เดินมาที่ระเบียงก่อนจะยืนอยู่ตรงหน้าคนรักที่นั่งนิ่งเป็นหิน เขาแอบยิ้มพอใจกับอาการตกตะลึงของคนรักในขณะนี้ เขาจึงหมุนรอบ ๆ ให้นิธินดูได้อย่างทั่วถึง
“เป็นไงมั่ง”
นิธินมองตามทุกอิริยาบถของคนรักดั่งต้องมนต์สะกด เขามองคนรักหัวจรดเท้าแล้วก็ตอบว่า
“You’re so hot!”
“Thank you”
อธิปพงศ์ยิ้มรับ แต่ตอนนี้หัวใจของนิธินกำลังระส่ำ เขารีบคว้าเอวได้รูปของคนรักไว้แล้วจับมานั่งบนตักทันที
“You gonna killing me” นิธินกระซิบข้างหูคนรักด้วยเสียงแผ่ว ทำให้อธิปพงศ์ที่รับรู้อาการร้อนรนอยู่ข้างบนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ก่อนจะเป็นฝ่ายพลิกตัวมานั่งคร่อมหน้าตักของนิธิน
“No, I don’t”
เขามองหน้าหล่อเหลาของรักใกล้ ๆ อธิปพงศ์ลูบใบยังเปลือกตาและสันจมูกเบา ๆ ก่อนจะจุมพิตลงบนหว่างคิ้วลงมาสันจมูกและริมฝีปาก นิธินตอบรับสัมผัสนั้นด้วยลิ้นร้อน มือแข็งแรงของเขาตระคองกอดแผ่นหลังเปลือยเปล่าของคนรักไว้อย่างถะนุถนอม ตอนนี้เนื้อตัวของคนทั้งคู่กำลังจะละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว อธิปพงศ์จงใจนั่งให้ตรงกับจุดเชื่อมต่อของพวกเขาพร้อมกับบดเบียดแนบชิดกันอย่างเร่าร้อน แม้จะยังคงอยู่ซึ่งเสื้อผ้า แต่ภาพที่เห็นตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากการร่วมรักเลยแม้แต่น้อย คนทั้งคู่ที่กำลังแลกลิ้นต่างก็ไม่ยอมแพ้ในการส่งแรงตามความต้องการของกันและกัน จนกระทั่งนิธินเป็นฝ่ายหยุด เพื่อจะถอดกางเกงและชั้นในของตัวเองอย่างรีบเร่ง อธิปพงศ์ยังคร่อมตัวเขาอยู่ยิ้มให้กับส่วนนั้นที่พร้อมรบ ก่อนที่นิธินจะเป็นคนเอื้อมมือมาสัมผัสบั้นท้ายที่เขารักและจัดการถอดกางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋วให้พ้นจากร่างกายน่าหลงใหลของคนรักอย่างรวดเร็ว นิธินไม่รอช้าที่จะสอดใส่ในตัวคนรัก แต่อธิปพงศ์รีบยั้งไว้ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบเจลหล่อลื่นที่แอบหยิบมาด้วย แม้เขาจะมีความสุขกับการร่วมรัก แต่เขาก็ไม่อยากเจ็บปวดกับการเสียดสีที่รุนแรง นิธินลอบยิ้มก่อนจะมองคนรักอย่างถูกใจ และค่อย ๆ จัดให้ส่วนนั้นพร้อมใส่ โดยที่อธิปพงศ์ก็ค่อย ๆ นั่งสำแหรกตัวเองลงไปเช่นกัน
“โอ๊ะ....ซื๊ดดด”
เสียงครางดังไม่หยุดปากตั้งแต่เริ่มประกบติด เมื่อส่วนนั้นเขาไปอยู่ในตัวอธิปพงศ์เรียบร้อยแล้ว คนทั้งคู่ก็เริ่มบดเบียดโรมกันกันและกันอย่างเร่าร้อน โดยที่นิธินก็ประคองตัวคนรักไว้บนหน้าตักและอธิปพงศ์เองก็คล้องแขนโอบยึดรอบร่างล่ำของนิธินไว้เช่นกัน ก่อนจะมองหน้ากันอีกครั้งและปล่อยให้นิธินซุกไซร้ซอกคอได้ตามใจชอบ เขาครางออกมาเป็นระยะ ๆ อย่างเร่าร้อนพร้อมกับโขยกบนตัวคนรักตามอารมณ์ส่วนลึกที่ต้องการ
“อ๊ะ...อ๊า..อู๊ววว”
อธิปพงศ์ตกใจเมื่อเห็นว่านิธินประคองสะโพกเขาแล้วลุกขึ้น เลยทำให้เขาต้องใช้ขาหนีบตัวชายหนุ่มแน่น ๆ และคล้องแขนกับลำคอและแผ่นหลังเพื่อยึดไว้ นิธินมองหน้าเขายิ้ม ๆ ก่อนจะมอบจูบให้อีกครั้งหนึ่ง นิธินค่อยๆ พาคนรักลุกขึ้นพร้อมกับชวนให้ดูวิวข้างนอก
“สวยมั๊ย...”
“อื้มมม...โอ๊ะ อย่าวนข้างในสิ..ผม..โอ๊ยยย”
อธิปพงศ์ไม่อาจรับรู้ได้ว่ากรุงเทพฯในคืนพระจันทร์เต็มดวงสวยงามเพียงใด ในหัวของเขามีเพียงแต่ความหฤหรรษ์จากคนรักที่มอบให้ในตอนนี้ นิธินพาคนรักเดินไปอีกมุมของระเบียงแล้วค่อย ๆ ปล่อยให้อธิปพงศ์ลงมาทรงตัวยืน แต่เขาไม่รอช้าที่จะก้มหน้าไปทักทายสะโพกกลมกลึงที่เขารัก
“อื้มมม นิธินนนน”
อธิปพงศ์กรีดร้องอย่างไม่รู้อาย เพราะตอนนี้เขากำลังสุขสมกับลิ้นร้อนที่อยู่ในช่องแคบ เมื่อเหลียวหลังไปมองก็พบว่าคนรักกำลังแนบหน้ากับสะโพกของเขาอย่างโหยหิว แล้วยิ่งนิธินเอื้อมมือมาปลุกเร้าที่ส่วนนั้นของเขาอีกด้วย เขาจึงรู้สึกว่าขาหมดแรงจึงต้องจับแนวระเบียงไว้เพื่อช่วยทรงตัว ก่อนที่นิธินจะย้ายมาครอบครองส่วนนั้นของเขาด้วยริมฝีปาก ทำให้อธิปพงศ์กรีดเสียงออกมาอย่างสุขสมดังขึ้น
 นิธินทำอย่างนั้นสักพักก็หยุดก่อนจะค่อย ๆ มอบความเป็นชายของตัวเองให้คนรักอีกครั้ง เขารู้สึกสุขสมเหลือเกินที่ได้ร่วมรักกันโดยมีอธิปพงศ์เหลียวหลังมามองและส่งสายตาว่าต้องการเขามากแบบนี้
“อื้อๆๆๆๆ...”
“อ๊ะ...อื้มมม ใช่ ๆๆ แรงอีก ๆ”
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเขาก็จับสะโพกคนรักไว้มั่น ก่อนจะกระหน่ำมอบความต้องการให้อย่างเต็มกำลัง แต่เขาไม่อยากจะถึงจุดหมายในรูปแบบนี้ จึงรีบถอนออกและบอกกับคนรักว่า
“เข้าไปข้างในกันเถอะ”
อธิปพงศ์จึงบอกว่า
“ผมเดินไม่ไหวแล้ว อุ้มเดินหน่อยสิ...”
นิธินยิ้มรับและค่อย ๆ ประกบตัวเข้ากับคนรักอีกครั้ง อธิปพงศ์พยายามทรงตัวให้มั่นก่อนจะพยุงตัวเองและหนีบขากับเอวแกร่งนั้น นิธินใช้สองมือพยุงสะโพกคนรักและพากันเข้าไปในห้องโดยที่ยังคงส่งแรงเข้าไปข้างในไม่ขาด อธิปพงศ์แม้จะหวาดเสียวกับการพลัดตก แต่ก็รู้สึกสุขสมเป็นอย่างมากกับรสชาติแปลกใหม่ของการเติมรักในครั้งนี้ จนถึงห้องนอน นิธินค่อย ๆ วางอธิปพงศ์บนเตียงอย่างนุ่มนวล เขามองหน้าคนรักที่ส่งสายตาเว้าวอนแล้วค่อย ๆ ดันตัวขึ้นอย่างยั่วเย้า
“อ๊า...นิธินน คุณจะฆ่าผมใช่มั๊ยยย”
“ไม่ ๆๆ ผมรักคุณ ผมจะทำอย่างนั้นได้ไง”
แม้จะพูดอย่างนั้น แต่นิธินก็กระแทกกระทั้นรุนแรงขึ้นจนอธิปพงศ์กรีดเสียงของความสุขดังไม่ขาด ภาพลำคอขาวที่แอ่นระหงตามจังหวะความต้องการทำให้นิธินก้มลงไปซุกไซร้และดูดดื่มกับเนื้อเนียนตรงนั้นอย่างโหยหา เมื่อปลายทางแห่งความต้องการมาถึง อธิปพงศ์หนีบขาแน่นโดยที่สะโพกแกร่งนั้นยังคงกระแทกกระทั้นมาอย่างไม่ปรานี
“นิธิน..ผมม ผมจะเสร็จแล้วนะ..”
“อืม เสร็จพร้อมกันนะครับ”
นิธินเอื้อมมือไปช่วยสัมผัสส่วนนั้นของคนรักให้สุขสมยิ่งขึ้น อธิปพงศ์ครางออกมาดังขึ้น ดังขึ้นจนกระทั่งบรรลุถึงขีดสุด
“อ๊าๆๆๆๆๆๆๆ นิธินนนนนนน”
“อื้อ ๆๆๆๆ ที่รัก ๆๆๆ ผมจะออกแล้ว..โอ๊ววว Honey..”
นิธินระรัวไม่ยั้งก่อนจะปลดปล่อยในช่องท้องของคนรัก เขาฟุบตัวลงมาหาคนข้างล่างและมอบจูบอ่อนหวานกันอีกครั้งอย่างแสนรักโดยที่ยังไม่ถอดถอนอาวุธออกจากกายของอธิปพงศ์ เพราะเขารู้สึกว่าปล่อยให้อยู่อย่างนั้นสักพักจะได้อบอุ่นแนบชิดกันมากขึ้น คนทั้งสองหลับตาลงในอ้อมกอดกันและกันอย่างเหนื่อยอ่อน เพราะคืนนี้ยังอีกยาวนานสำหรับบทรักของพวกเขา



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ...
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 31-03-2012 20:59:34
เพิ่งเข้ามาอ่านจ้า
เจอคำผิดที่ชัดๆก็ตรง เคลม ดาวน์ เขียน คาล์ม ดาวน์ นะ

ไปแก้ไขเรียบร้อยแล้วนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ


"....อันคำคน เวียนวนลอย ลม
ควรหรือเจ้ามาเศร้าตรม
เอาอารมณ์ของตัวเป็นใหญ่
เก็บมาวู่วาม
หลงลืมแม้ความยับยั้งชั่งใจ...."
คนที่จะใช้ชีวิตคู่ด้วยกันต้องหนักแน่นให้มากๆ

ขอบคุณอาจารย์แก้ว มาก ๆ ค่ะสำหรับโคลงกลอนสอนใจในทุกตอนที่อาจารย์เม้นท์


แอร๊ย ระเบียง อยู่บนเตียงก้เบื่อๆเปลี่ยนมาเป็นระเบียงบ้างก้ดีนะคะ หุหุ

อ่า คุณซัมเหมือนจะรู้เลยนะคะ ว่าคนเขียนมีฉากนี้ในเรื่องนี้ด้วย ตกใจมาก นึกว่าโดนแฮ็คนิยายไปอ่านซะแล้ว 555+
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: k00_eng^^ ที่ 31-03-2012 21:06:30
ร้อนแรงจริงๆ คู่นี้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 31-03-2012 21:27:56
"ไม่มีเรื่องอะไรแท้ๆ ยังจะหาเรื่องเอง"

ติดใจกับคำนี้มากเลย
เหมือนตรงกับเรื่องหลายๆเรื่อง
ทั้งนิยาย ละคร ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตจริง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 31-03-2012 21:46:44
ร้อนแรงมากๆตอนนี้  :jul1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 31-03-2012 22:10:40
ที่ระเบียงก็วิวดีจริง ๆนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 31-03-2012 22:18:01
อุ้ย! ออนแอร์ แถมโอเพ่นแอร์อีก เริ่ดค่ะเริด!
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 31-03-2012 22:28:38
 :laugh:แต่ละตอนปั่นป่วนอารมณ์ดีแท้
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 31-03-2012 22:31:22
หลังจากปรับความเข้าใจกันได้
ทั้งคู่ก็จัดหนัก เต็มที่กับชีวิตรัก
เร่าร้อนจริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 31-03-2012 22:32:20
... :-[
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 01-04-2012 00:12:11
รักษาสุขภาพนะคะ คุณน้ำพริกแมงดา
เรื่องนี้มันFeel Goodจริงๆ
ความรักพี่หมูกับนิธิน เหมือนปลูกต้นไม้เลย ตอนนี้คงจะเริ่มยืนต้นเป็นร่มไม้ออกดอกสวยงามแล้ว
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 01-04-2012 02:50:05
แอร๊ยยยย อิจฉา

// พรุ่งนี้จะไปซื้อกางเกงว่าน้ำตัวใหม่
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: rellachulla ที่ 01-04-2012 09:03:28
ปาดเลือดกำเดา
อ๊ากกกกกกกกกก โซฮอต
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 01-04-2012 09:18:17
 :jul1:หมดตัวแล้วค่ะ เลือดอ่ะ o13
หัวข้อ: Re: ประกาศ: คนเขียนลาป่วย- Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 01-04-2012 12:57:01
หวานน่ารักตลอดอ่ะ คนดีแบบคุณนิธิน หาได้ที่ไหนอีกเนี่ย (จะไปหามั่ง?)

ขนาดคุณหมูลองใจ คุณนิธินก็ยังคงดีเสมอต้นเสมอปลาย

อิจฉาคุณหมู........จริงๆ ขอให้รักกันตลอดไป...แบบนี้

ขอบคุณค่ะ คุณน้ำพริกแมงดา ดูซิไม่สบายยังห่วงคนอ่าน ขอกอดแน่นๆ :กอด1:

ไม่สบายหายไวๆนะคะ รักษาสุขภาพก่อนสิ่งอื่นใดค่ะ
คนอ่านก็เป็นห่วงคนเขียนมากๆเหมือนกันนะเออ :กอด1: :กอด1:

:L2: :L2: :L2:+เป็ดน้อย เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 02-04-2012 10:35:48
ตอนนี้พี่หมู so hot มากมาย เล่นเอาเลือดทะลักเลยนะเนี่ย 5555+

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 02-04-2012 10:48:43
คุณหมูร้อนแรง :haun4:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 02-04-2012 11:19:32
คู่นี้ไม่ไหวแล้ว จะทำให้ข้าพเจ้าเลือดไม่พอไปเลี้ยงหัวใจแล้วเนี่ย กรี๊ดดดดด  :pighaun:  :haun4:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: samsoon@doll ที่ 02-04-2012 13:13:21
ตื่นจากสลบ มาอ่านตอนนี้ขอสลบอีกรอบค่ะ  :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: lunarinthesky ที่ 02-04-2012 18:15:59
 :m25:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:31/3/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 03-04-2012 17:45:51
วันนี้มาแล้วค่ะ หวังว่าทุกคนคงมีความสุขนะคะ ช่วงนี้อาจจะไม่ได้มาบ่อย ๆ แต่สัญญาค่ะว่าจะมาลงไม่ขาด ตอนนี้นิยายเข้าสู่โค้งสุดท้ายแล้ว โปรดติดตามกันต่อนะคะ ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ


36



  อธิปพงศ์ลืมตาตื่นสู้แดดยามสายอย่างอยากลำบาก ร่างสมส่วนที่เปลือยกายนอนคว่ำซุกหน้าลงกับหมอน จึงรู้ว่าตอนนี้คนรักไม่ได้อยู่ด้วยกันในห้องแล้ว แต่หูก็พลันได้ยินเสียงเปิดประตู ชายหนุ่มหันไปมองดูก็พบว่าเป็นนิธินที่สวมเสื้อยืดโปโลกางเกงยีนส์เข้ามาในห้อง เขาเดาว่านิธินคงออกไปปากซอยซื้ออะไรมากินกันแน่ ๆ
 นิธินยิ้มให้อธิปพงศ์ที่ยังนอนคว่ำหมดแรงอยู่บนเตียง เขาค่อยนั่งลงข้างๆ และก้มลงไปหอมแก้มขาวใสนั้นเบาๆ
"Good morningครับ"
"อื้มม Good morning ครับบ"
อธิปพงศ์ตอบรับอย่างอ่อนแรง แต่นิธินก็ยังลูบแก้มเขาเบาๆ อย่างแสนรัก แต่อธิปพงศ์เห็นคนรักยังอยู่ที่ห้องจึงเอ่ยปากถาม
"วันนี้คุณไม่ไปทำงานเหรอ"
"วันนี้วันอาทิตย์"
"อ่าวเหรอ" อธิปพงศ์ตอบรับและพยายามยันกายให้ลุกขึ้น
"พักก่อนก็ได้"
นิธินพูดกับคนรักอย่างเป็นห่วงแต่อธิปพงศ์ก็บอกว่า
"ผมไม่เป็นไร"
ชายหนุ่มพยายามทรงตัวให้ลุกขึ้น แต่ก็รู้สึกว่าอ่อนแรงเหลือเกิน จึงฟุบตัวลงกับที่นอนอีกครั้ง
“คุณนอนพักก่อนก็ได้” นิธินลูบผมคนรักเบา ๆ แม้อธิปพงศ์จะอยู่ในสภาพไร้ซึ่งการปรุงแต่งใด ๆ อย่างนี้ แต่เขาก็ยังคงรักที่จะมองอธิปพงศ์ด้วยสายตาคงเดิม
“ครับ”
อธิปพงศ์เปลี่ยนอิริยาบถมานอนหงาย โดยมีผ้าห่มคลุมช่วงล่างไว้
“วันนี้คุณลางานสักวันดีมั๊ย”
“ไม่ได้หรอก...วันนี้วันอาทิตย์นะ ที่ร้านคนเยอะจะตาย”
“หึหึ ตามใจ”
นิธินยังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ส่วนอธิปพงศ์พยายามแข็งใจลุกขึ้นจากที่นอน เมื่อฝ่าเท้าสัมผัสพื้น เขาก็รู้สึกไม่อยากจะก้าวเดิน นิธินเห็นอย่างนั้นจึงรีบเข้าไปพยุงทันที อธิปพงศ์มองหน้าคนรักด้วยสีหน้าอ่อนเพลีย เพราะว่าตอนนี้เขาไม่ไหวจริง ๆ
 นิธินยิ้มรับและค่อยช้อนตัวขึ้นมาอุ้มไว้ ทำให้หน้าขาว ๆ ของอธิปพงศ์ระเรื่อไปด้วยเลือดฝาดในทันที แม้จะเคยถูกนิธินอุ้มแบบนี้อยู่หลายครั้ง แต่เขาก็ยังรู้สึกเขินทุกครั้งที่อยู่ในสภาพแบบนี้
 “วันนี้อยู่บ้านนะครับ เดี๋ยวผมโทรไปบอกคุณกุ้งให้”
“อื้ม..” อธิปพงศ์พยักหน้าอย่างว่าง่าย
“ผมอาบน้ำให้นะครับ”
“อื้มๆ”
หน้าใส ๆ นั้นตอบรับอย่างมีความสุข โดยหวังว่าวันนี้เขาคงไม่สลบคาอกล่ำที่เขารักไปเสียก่อนในเช้านี้
“ครับ ๆ ได้ครับ ไม่เป็นไรครับ ฝากดูแลหมูด้วยนะครับ..ครับ..สวัสดีครับ”
พี่กุ้งวางสายไปพร้อมกับรอยยิ้ม เมื่อได้รับโทรศัพท์จากคนรักของลูกน้องที่โทรมารายงานว่าวันนี้เจ้าตัวไม่สบาย เขาพอจะเดาออกว่าทำไมอธิปพงศ์มาทำงานไม่ได้ แต่ก็รู้สึกดีที่เห็นอธิปพงศ์มีคนดูแลเอาใจใส่ไม่ห่างอย่างนี้
“ไงคะ คุณแม่ ตกลงพี่หมูมาทำงานมั๊ย”
“แกว่าไง”
“ไม่น่าจะไหวนะคะ สามีคงจัดหนักให้แกจนสลบคาเตียงไปแน่ ๆ”
“ฮ่ะๆๆๆ” พี่กุ้งหัวเราะร่าก่อนจะเดินไปทำงานต่ออีกมุม ทำให้ป๊อกกี้ถึงกับกรี๊ดสลบเมื่อสรุปได้ว่าอธิปพงศ์ไม่สามารถมาทำงานได้เพราะกางเกงว่ายน้ำตัวนั้น
“อร๊ายยยย!! เริ่ดค่ะ ฟินส์ที่สุดดด”
ป๊อกกี้กรี๊ดออกมาอย่างสะใจก่อนจะหันไปถามหญิงที่อยู่ใกล้ ๆ ว่า
 “นังหญิง”
“อะไรพี่ป๊อก”
 “กางเกงว่ายน้ำแบบพี่หมูมีขายร้านไหนคะ ชั้นจะไปซื้อบ้าง แอร๊ยยยย!!”
“ซื้อไปพี่จะใส่แล้วดูดีอย่างพี่หมูเร้อ..”
“แอร๊ยยย อีนี่! ปากร้ายย”
“ก็มันจริงนี่นา..” หญิงพูดต่อด้วยน้ำเสียงชวนฝัน “ว่าไปก็อิจฉาพี่หมูเนอะ อากาศครื้ม ๆ ฝนตกทั้งวันอย่างนี้ได้อยู่ในห้องสองคนกับแฟน เฮ้ออ”
“เฮ้ออ”
สองสาวถอนใจออกมาพร้อมกัน ฟ้าหม่นและสายฝนอย่างนี้คงเป็นของแสลงสำหรับใครหลายคน แต่สำหรับคู่รักแล้ว คงเป็นบรรยากาศที่แสนจะวิเศษมากที่จะใช้เวลาด้วยกัน


  อธิปพงศ์นั่งแช่อยู่ที่โต๊ะกินข้าว เขาจิบชานมแบบอินเดียในแก้ว กลิ่นของมันยังคงหอมกรุ่นอบอวลในครัว หลังจากรับประทานอาหารเช้าที่นิธินออกไปซื้อมาด้วยกันและล้างจานเสร็จแล้ว ชายหนุ่มก็ขอนั่งพักสักหน่อย เขามองดูนิธินในชุดเสื้อยืดกับกางเกงขาสั้นที่กำลังปัดกวาดเช็ดถูข้างนอกแล้วก็อมยิ้ม อันที่จริงพวกเขาสามารถจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดก็ได้ แต่ก็ไม่อยากเสียค่าใช้จ่ายไปกับส่วนนั้นจึงตกลงกันว่าจะทำกันเองโดยแบ่งเวรกันทำ เขาเคยได้ยินจากเขียวมาว่า ผู้ชายอินเดียมักจะไม่แตะต้องงานบ้านใด ๆ เพราะงานบ้านทุกอย่างเป็นหน้าที่ของผ่ายหญิงที่ต้องดูแลผู้ชาย แต่เห็นอย่างนี้แล้วเขาก็รู้สึกดีใจที่เห็นนิธินไม่ได้เป็นอย่างนั้น แถมยังไม่วางตัวเป็นใหญ่ในบ้านอย่างที่เขียวเคยเล่าให้ฟังอีก
 อธิปพงศ์ลุกไปเพื่อจะไปช่วยคนรักที่ห้องรับแขก นิธินเห็นอย่างนั้นก็หยุดมือและจะเข้ามาช่วยพยุง
“ไม่เป็นไรแล้วครับ ผมดีขึ้นแล้ว”
“ไหวนะ”
อธิปพงศ์พยักหน้า “ครับ..เหลืออะไรบ้างเนี่ย”
“ถูพื้นอย่างเดียวครับ”
“งั้นผมทำให้นะ”
“ครับ”
นิธินรับคำ ทั้งที่เป็นห่วงอธิปพงศ์ว่าจะก้าวเดินไหวหรือเปล่า แต่เขารู้ว่าถ้าห้ามก็คงไม่เป็นประโยชน์ รอให้คนรักไม่ไหวแล้วเข้าไปช่วยทำจะดีกว่า

 อธิปพงศ์ใช้ไม้ถูพื้น ถูไปทุกซอกทุกมุมของห้อง โดยพยายามอดทนกับอาการแปลบปร่าข้างในและอาการตึง ๆ ที่กล้ามเนื้อต้นขา  ชายหนุ่มนึกถึงเมื่อคืนที่เขากับนิธินปลดปล่อยไปถึง 3 ครั้ง แถมเขากับคนรักยังจะลองรูปแบบที่ยากขึ้นกันอีก ก็เลยต้องมาหมดสภาพกันอย่างนี้  คิดแล้วชายหนุ่มก็อมยิ้มก่อนจะกัดฟันถูต่อจนเสร็จ
“เดี๋ยวผมเอาไปซักให้” นิธินรับอาสานำไม้ถูพื้นไปทำความสะอาด อธิปพงศ์ยิ้มรับก่อนจะขอบคุณและจะเดินกลับไปยังห้องนอน แต่เสียงฟ้าร้องข้างนอกก็ทำให้พวกเขามองหน้ากัน ฉับพลันฝนก็เริ่มเทลงมาทำให้พวกเขารีบวิ่งไปปิดบานกระจกที่ระเบียงและในห้องนอนแทบไม่ทัน
“ดีนะว่ายกโซฟามาเก็บแล้ว” อธิปพงศ์บอกกับคนรักที่เดินตามมาในห้องนอน
“อืมมม” นิธินมองหน้าคนรักพร้อมรอยยิ้มที่มุมปาก เขานั่งลงบนเตียงพร้อมกับมองไปข้างนอกที่สายฝนเทออกมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา  นี่เพิ่งจะผ่านเที่ยงวันมาเอง แต่ท้องฟ้านั้นกลับไร้ซึ่งแสงแดดจ้าอย่างเคย
  “เราก็ออกไปไหนไม่ได้เลยสิ” อธิปพงศ์พูดเศร้า ๆ กับวันอาทิตย์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยม่านฝนอย่างนี้
“ทำไม คุณอยากไปไหนเหรอ”
“เปล่าครับ ปกติแล้ววันอาทิตย์คุณชอบออกไปเล่นกีฬากับเพื่อนไม่ใช่เหรอ”
“อื้ม..แต่หน้าฝนอย่างนี้ไม่ไหวนะ หุหุหุ”
นิธินตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะขอตัวไปล้างไม้ถูพื้นกับถังน้ำ อธิปพงศ์ลุกไปเปิดทีวีที่ปลายเตียงก่อนจะหยิบผ้าห่มที่พับไว้ไปวางรวมกับหมอนที่หัวนอน วันนี้อากาศเย็นชื้นเพราะสายฝน เขาจึงเปิดแค่พัดลมช่วยให้อากาศในห้องเคลื่อนไหวเท่านั้น
 เขามองไปที่ประตูก็เห็นว่านิธินมาแล้ว จึงขยับไปอีกด้านเพื่อให้คนรักมานอนเล่นด้วย พอนิธินทิ้งตัวนอนลงข้าง ๆ อธิปพงศ์จึงเอ่ยปากถาม
“ปกติแล้วถ้าอยู่บ้านคุณชอบดูรายการอะไรอ่ะ”
“ผมดูช่องแนลชั่นแนลจีโอกราฟฟิกน่ะ ไม่ก็ช่องกีฬา”
“อืม..”
เขารับคำแค่นั้น ก่อนจะย้ายไปดูช่องกีฬา คนทั้งสองจึงจดจ่ออยู่กับการแข่งขันบาสเก็ตบอลที่เห็นอยู่ในจอทีวี เมื่อพักการแข่งขัน นิธินจึงหันมาบอกกับอธิปพงศ์ถึงกางเกงว่ายน้ำตัวใหม่ของเขา
“ที่รักครับ...”
“หืมมม?”
“เมื่อวานคุณฮอทมากเลยนะ ที่ใส่กางเกงตัวนั้น”
“อื้มม แล้ว”
“คุณอย่าใส่ไปว่ายน้ำนะครับ”
“หืออ ทำไมล่ะครับ”
“ก็ ผมอยากจะดูคุณใส่คนเดียวนี่ครับ”
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็ขำ
“หึหึหึ ผมซื้อมาใส่ว่ายน้ำนะ”
“อื้ม แต่ต้องไปกับผมนะ อย่าใส่ไปว่ายน้ำคนเดียว นะครับ”
“ครับ ๆ ผมจะใส่เวลาไปว่ายน้ำกับคุณเท่านั้น”
“ขอบคุณครับ”
นิธินยิ้มรับและหอมแก้มคนรักแทนคำขอบคุณ ก่อนจะถามว่า
“ดีขึ้นรึยังครับ”
“ครับ ก็โอเค แต่เจ็บขานิดหน่อย”
  อธิปพงศ์หมายถึงกิจกรรมเมื่อคืนที่เขาต้องใช้แรงจากกล้ามเนื้อต้นขาในการพยุงตัวเองเพื่อการร่วมรักในหลากหลายรูปแบบ
“แล้วคุณชอบมั๊ย”
“อื้มม..”  อธิปพงศ์พยักหน้าเขิน ๆ นิธินเลยพูดขึ้นมาถึงวันแรกที่พวกเขาไปใช้เวลาด้วยกัน
“ที่รัก...คุณจำวันนั้นที่ผมพาคุณไปสนามคริกเก็ตครั้งแรกได้มั้ย?”
“จำได้สิครับ” อธิปพงศ์ยิ้มอย่างมีความสุข “วันนั้นก็เป็นวันอาทิตย์เหมือนวันนี้”
“อื้ม ผมดีใจมากเลยนะที่วันนั้นคุณตัดสินใจไปที่สนามกับผม”
อธิปพงศ์ตะแคงข้างมาหาคนรัก พร้อมกับมองหน้าอย่างสนใจที่จะฟังต่อ
“ทำไมล่ะ”
“ก็ ตอนนั้น ผมอยากจะอยู่กับคุณทั้งวัน ผมอยากเห็นคุณมีความสุข อยากเห็นคุณยิ้ม คุณหัวเราะ”
“อืม..” ชายหนุ่มตอบรับพร้อมรอยยิ้ม “วันนั้นผมก็มีความสุขมากเหมือนกัน ผมก็ไม่รู้นะว่าทำไมถึงตัดสินใจออกไปกับคุณ แต่ผมรู้สึกว่าวันนั้นผมยังไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว และก็...ไม่รู้สิ ผมคงอยากอยู่กับคุณตั้งแต่ตอนนั้นแล้วมั๊ง”
อธิปพงศ์ตอบตามที่รู้สึก แม้ข้างในจะยังไม่รู้ชัดเจนว่าเขารักนิธินตั้งแต่ตอนไหน แต่นึกถึงเวลานั้นเขาก็ชอบที่จะอยู่ใกล้ ๆ กับชายหนุ่มไปเสียแล้ว
“ไว้หมดหน้าฝนแล้ว คุณต้องไปดูผมเล่นคริกเก็ตนะ”
“ไปแน่นอน” อธิปพงศ์รับคำจริงจัง เพราะในความรู้สึกก็นึกถึงสาว ๆ ที่ชอบมาเล็งผู้ชายในสนาม นิธินเห็นอย่างนั้นจึงสัพยอก
“ไปดูแต่ผมนะ อย่าไปอารมณ์เสียล่ะ”
“อืม..”
“ฮ่ะ ๆ แต่ผมว่าเค้าคงไม่กล้าแล้วล่ะ คงรู้กันหมดแล้วว่าผมกับคุณเป็นแฟนกัน”
“รู้แล้วก็ดี..ผมก็ไม่อยากจะยุ่งกับใครหรอกนะ”
“หึหึหึ” นิธินหัวเราะในคอ เขารู้ดีว่าอธิปพงศ์รู้สึกอย่างไร แต่ก็ดีใจที่อีกฝ่ายเข้าใจในตัวเขา ไม่ได้หาเรื่องทะเลาะหรืออาละวาดอย่างที่เขาเคยผ่านมากับคนก่อน ๆ
อธิปพงศ์มองไปรอบห้อง และนึกขึ้นได้กับสิ่งที่คาใจ
 “ผมเคยได้ยินมาว่า ผู้ชายอินเดียเค้าจะไม่ทำงานบ้านกัน ผมประหลาดใจมากเลยนะที่เห็นคุณทำงานบ้านเป็นแบบนี้”
“อืม ก็จริงนะครับ” นิธินมองหน้าคนรัก “แต่ผมเคยอยู่หอหน่ะ อะไร ๆ ก็ต้องทำเองหมด ก็เลยทำได้”
“เหรอ...”
“อันที่จริง เอเจกับวิษณุก็ทำงานบ้านให้แฟนนะ”
“จริงอ่ะ”
“จริงสิ โดยเฉพาะเอเจ ที่ตอนนี้ชะเอมเค้าเลี้ยงลูก เอเจก็เลยต้องทำงานบ้านไป”
อธิปพงศ์แทบหลุดขำเมื่อนึกออกว่าเพื่อนคนรักคนนี้พ่ายแพ้ต่อฤทธิ์หญิงไทยเข้าแล้ว ก็ดีว่าเข้ากันดี เมื่อผู้ชายอินเดียที่ไม่เคยแตะงานบ้านเพราะถือว่าตนเป็นใหญ่ ต้องมาแต่งงานกับหญิงไทยที่ถือสิทธิ์เป็นใหญ่ชอบใช้สามีทำงานบ้าน
“ว่าไป วันนี้ก็ดีแล้วล่ะที่เราออกไปไหนไม่ได้” นิธินบอกกับคนรักพร้อมกับเข้าไปโอบไหล่ไว้หลวม ๆ
“อืม..ผมก็ว่าอย่างนั้น”
อธิปพงศ์ยิ้มรับ ก่อนจะกอดคนรักตอบ แม้ข้างนอกสายฝนจะทำให้อากาศเย็นชื้นและเหน็บหนาวเพียงใด แต่ในห้องแห่งนี้ คนทั้งสองต่างก็มอบไออุ่นให้กันและกันผ่านอ้อมกอดที่มาจากความรัก ที่พร้อมจะดูแลกันและกันทุกเวลา..




โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ..
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 03-04-2012 17:54:43
รักษาสุขภาพนะคะ คุณน้ำพริกแมงดา
เรื่องนี้มันFeel Goodจริงๆ
ความรักพี่หมูกับนิธิน เหมือนปลูกต้นไม้เลย ตอนนี้คงจะเริ่มยืนต้นเป็นร่มไม้ออกดอกสวยงามแล้ว

ขอบคุณมากนะคะ

ขอบคุณค่ะ คุณน้ำพริกแมงดา ดูซิไม่สบายยังห่วงคนอ่าน ขอกอดแน่นๆ :กอด1:

ไม่สบายหายไวๆนะคะ รักษาสุขภาพก่อนสิ่งอื่นใดค่ะ
คนอ่านก็เป็นห่วงคนเขียนมากๆเหมือนกันนะเออ :กอด1: :กอด1:

:L2: :L2: :L2:+เป็ดน้อย เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ




ขอบคุณมาก ๆๆๆ เช่นกันค่ะ แม้ตอนนี้คนเขียนจะยังไม่คงที่ แต่ก็ขอให้คนอ่านรักษาสุขภาพเช่นกันค่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 03-04-2012 18:06:10
วันนี้ไม่มีอะไรหวาดเสียว


 :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 03-04-2012 18:20:48
กางเกงว่ายน้ำทำพิษ นานๆจะเห็นคุณหมูหยุดงานเพราะกิจกรรมเข้าจังหวะ :z1:

เป็นกำลังใจให้คนแต่งหายเร็วๆนะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 03-04-2012 19:06:22
อ่านไปยิ้มให้ทั้งคู่ไป

ทั้งอิจฉา เเละ สุขใจ เเอร๊ยยย
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 03-04-2012 19:56:13
อ่านตอนที่35เสร็จ เอิ้ก..เอิ้ก.. รีบควานเชี่ยนหมากหายาดมยาลม ลมใส่จ้ะ เพราะว่า:jul1:
ดีนะไม่ถึงกับต้องให้เลือด หุ หุ หุ
ดีใจ-สุขใจกับคู่รักคู่นี้จัง ความรักระหว่างคนที่มีวุฒิภาวะพร้อมก็ดีแบบนี้แหละนะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 03-04-2012 19:57:05
หวานเบา เบาอิจฉาอ่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 03-04-2012 20:14:12
หวานเยิ้ม

แอร๊ยยยยยยยเขิล
 :o8: :o8: :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 03-04-2012 21:20:33
เวลาพี่หมูหึงคุณนิธิน
น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :m3:
สมแล้วที่สามีรักหลงขนาดนี้
อ่านแล้วมีความสุขทุกครั้งค่ะเรื่องนี้
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดาค่า
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 03-04-2012 22:12:06
รักกัน เบาเบา แต่อบอุ่นม :-[ o13ากกกก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 03-04-2012 23:05:10
นิธินเพอร์เฟคอ่ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: patta ที่ 04-04-2012 18:55:57
สนุกมากค่ะคุณน้ำพริกแมงดา อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นไปกับความรักของทั้งสองคน เพิ่งเข้ามาอ่านแต่อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุดเลย จะติดตามต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Mc_ma ที่ 04-04-2012 22:39:08
นั่นไง คุณหมูถึงกับไปทำงานไม่ไหวเลยเชียววว  :o8: :-[ :impress2: 
(แอบกรี๊ดด....มีลองรูปแบบที่ยากขึ้นไปอีก  :m3: ทำไรกันคะ?)

คุณนิธินก็น่ารักเสมอ  งานบ้านก็ทำ ดูแลเอาอกเอาใจคุณหมูมิได้ขาด ง่าาาา น่าอิจฉา... คิคิ
อบอุ่นน่ารักกันทุกวัน ยิ่งวันอาทิตย์ ท้องฟ้าครึ้มๆ บรรยากาศมันน่า.......................นอนกอดกันจริงๆ โรแมนติกเน๊อะ  :m1: :m13:

รอติดตามตอนต่อไปนะคะ  :กอด1: :กอด1: ชอบเรื่องนี้...เพราะมันอุ่น(หัวใจ)มากกก................
 :L2: :L2: :L2: ขอบคุณค่ะคุณน้ำพริกแมงดา +เป็ดน้อย


หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 06-04-2012 13:16:49
คู้นี้เค้าหวานกันเบาเบาจจริงๆ  :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 08-04-2012 12:52:24
เขามาเต้นรอ :z2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 08-04-2012 13:19:29
เข้ามาส่อง :m22:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 08-04-2012 16:06:55
น่ารักจ๊างงงงงงงงงง

เรื่องนี้ฟีลอบอุ่นมั่กๆ
รอตอนต่อจ้า
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:3/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 10-04-2012 16:42:48
หายไปพักอยู่นานก็ต้องขอโทษด้วยนะคะ วันนี้มาแล้วนะคะ ขอบคุณมาก ๆๆ  ค่ะ ทุกคน



37



   เวลาเดินเข้าสู่ปลายฤดูฝนในเดือนตุลาคม แต่หัวใจของอธิปพงศ์ไม่ได้อึมครึมเหมือนอากาศดั่งที่เคยผ่านมา เขายังคงใช้ชีวิตคู่กับนิธินอย่างปกติสุข และเมื่อเดือนที่แล้วครอบครัวนิธินก็ได้เดินทางมาเยี่ยม พวกเขาใช้เวลาด้วยกันที่เมืองไทยกว่าสัปดาห์ท่ามกลางความรู้สึกยินดีของพ่อกับแม่และพี่ชายที่ได้เห็นว่าคนทั้งสอง
สามารถครองรักกันอย่างราบรื่นลงตัว
  วันนี้นิธินมีนัดเล่นคริกเก็ตกับเพื่อนที่สนาม เขาจึงตามมาสมทบกับคนรักหลังจากเลิกงาน อธิปพงศ์สูดอากาศปลอดโปร่งไร้เค้าฝน กลิ่นหญ้าหอมๆที่เจือความชื้นของดินในพื้นสนาม ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายเพียงแค่เดินก้าวเข้ามา เขามองดูนิธินที่กำลังวิ่งอ้อมหลักอยู่ในสนามแล้วก็อมยิ้ม ร่างใหญ่ที่โทรมเหงื่อในชุดกีฬานั้นช่างมีเสน่ห์เหลือล้น อธิปพงศ์มองดูสีหน้าจริงจังและมัดกล้ามต้นแขนเคร่งครัดนั้นแล้วก็อดคิดถึงเวลาที่นิธินมอบความสุขให้เขาไปเสียไม่ได้ ชายหนุ่มส่ายหัวไล่ความคิดนั้นยิ้มๆ ก่อนจะเดินไปนั่งดูคนรักบนอาคารริมสนาม
"อ้าว คุณหมู"
อธิปพงศ์หันไปตามเสียงเรียกก็พบกับเมย์และชะเอมกับลูกน้อยที่มานั่งรอคนรัก
"หวัดดีครับ คุณเมย์ คุณเอม"
อธิปพงศ์ยิ้มรับสองสาว พวกเธอชวนเขานั่งด้วย อธิปพงศ์ขอบคุณก่อนจะพูดคุยกับพวกเธออย่างสนิทสนม
"เพิ่งเลิกงานเหรอคะ"
"คร้บ..เค้าลงเล่นกันนานยังอ่ะครับ"
"พักใหญ่แล้วค่ะ...เหนื่อยนะเล่นคริกเก็ตเนี่ย" ชะเอมมุ่ยหน้าเล็กน้อย อธิปพงศ์ได้แต่ยิ้มรับและหันไปดูเด็กน้อยที่กำลังหลับปุ๋ยในรถเข็น ชะเอมเลยบอกกับอธิปพงศ์ยิ้มๆ
"ไม่มีคนอยู่บ้านน่ะค่ะ ก็เลยต้องพามาด้วย"
"เหนื่อยหน่อยนะครับ"
"ค่ะ แต่พอเห็นเค้าโตขึ้นทุกวัน เห็นเค้าอารมณ์ดีและแข็งแรงเอมก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ"
"ครับ..คุณเมย์ล่ะ ไม่อยากมีน้องมั่งเหรอ"
"ยังค่ะ เมย์ยังไม่พร้อมอ่ะค่ะ"
"อืมม ครับ"
"เอ้อ คุณหมูคะ ไนท์สลีปปิ้งแพคที่คุณหมูแนะนำอ่ะเวริ์คมากเลยนะคะ"เมย์พูดถึงครีมบำรุงที่เธอเคยพูดคุยกับอธิปพงศ์เรื่องความสวยความงามอยู่บ่อยๆ และเขาก็แนะนำผลิตภัณท์ตัวหนึ่งให้เธอไป เจ้าตัวที่แนะนำยิ้มดีใจกับหญิงสาวที่เห็นผลดีกับสิ่งที่เขาได้เคยใช้
"งั้นเหรอครับ ดีนะครับแสดงว่าใช้ถูก"
"ค่ะ...แต่ทำไงอ่ะ อยากดูขาวเด้งแบบคุณหมูมั่งอ่า"
"แบบนี้ก็น่ารักอยู่แล้วล่ะครับ"
คนทั้งสามพูดคุยกันต่อในเรื่องของการบำรุงดูแลตัวเอง แต่อธิปพงศ์ก็พลางมองคนรักในสนามไปด้วย จนกระทั่งจบเกมส์นิธินและกลุ่มเพื่อนจึงเดินเข้ามาหาคนรัก

"โห แม่บ้านอินเดียอยู่กันพร้อมหน้าเลยวุ้ย" เอเจชี้ให้ดูภรรยาเขาที่กำลังจับกลุ่มพูดคุยกับคนรักของเพื่อน ขณะกำลังจะเดินไปหา ทำให้นิธินกับเพื่อนที่เหลือยิ้มขบขันกับคำพูดนั้น
"ฮ่ะๆ ก็ดีไม่ใช่เหรอที่เค้าสนิทกัน"
"ก็ดีไง ฮ่ะๆ"
"ฮ่ะ ๆ แต่เมย์ของชั้นนี่ไม่ได้เลย ตั้งแต่สนิทกับคุณหมูนี่เปลี่ยนไปเยอะ"
นิธินได้ยินวิษณุพูดอย่างนั้นก็นึกประหลาดใจ
"หะ ยังไงล่ะ"
"ก็เดี๋ยวนี้นะ เวลาเห็นคนเป็นเกย์แต่งตัวจัดทีไรก็ชอบพูดถึงแฟนนายว่า เนี่ย คุณหมูน่ารักกว่า ดูดีกว่าตั้งเยอะ สงสัยจะถูกใจคุณหมูมากว่ะ"
"เป็นเพื่อนสาวกันไง" แทนไทสมทบ
"หืม..อะไร แปลว่าอะไรเหรอ" นิธินไม่ค่อยเข้าใจ
"อ๋อ หมายถึง ผู้หญิงกับเกย์ที่สนิทกันมากๆไง"
"อ่า.. เข้าใจแล้ว"
นิธินพยักหน้ายิ้มๆ และเดินขึ้นไปบนตัวอาคาร พวกเขาเดินเข้าไปหาคนรักที่นั่งรอ พลางชื่นชมลูกสาวของเอเจที่กำลังหลับอยู่ นิธินหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วถ่ายรูปอธิปพงศ์ที่กำลังช่วยชะเอมดูแลลูกสาวแล้วก็อมยิ้ม เขารักที่จะเห็นความอบอุ่นอ่อนโยน พอๆกับความเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวตามจากคนรอบข้าง และทั้งหมดนั้นจะเป็นภาพที่สวยงามมากที่สุดถ้ามาจากคนรักของเขา

 กรวัฒน์ที่กำลังเล่น facebook อยู่หน้าคอมพิวเตอร์กระตุกวูบในใจที่เห็นรูปของเพื่อนจากการแท็กของคนรักเขายิ้มออกมาเศร้า ๆ แม้จะยินดีที่เห็นเพื่อนมีชีวิตที่มีความสุขแล้ว แต่ก็ยังคงเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นเพื่อนอยู่กับคนรัก เพราะแผลใจของเขาก็ยังไม่หายดีนักจากการตัดใจในครั้งนั้น แม้จะเจ็บแปลบในอก แต่เขาก็ยังติดตาม Instragram ของอธิปพงศ์ที่ขยันลงรูปถ่ายคู่กับคนรัก เผื่อจะได้เคยชินกับความเป็นจริง และย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นอะไรไปได้มากกว่าเพื่อน แม้จะมีบ้างที่อิจฉาคนนั้นที่เป็นคนที่อธิปพงศ์รักก็ตาม
 ชายหนุ่มถอนหายใจและย้อนดูตัวเอง หลายเดือนที่ผ่านมาเขาทุ่มเทกับงานจนไม่มีเวลาฟุ้งซ่าน ถึงจะตัดใจได้นานแล้ว แต่กรวัฒน์ก็ยังเจ็บปวดที่รู้สึกในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
ชายหนุ่มมองรูปของเพื่อนอีกครั้ง และหวังว่าอธิปพงศ์คงจะไม่โกรธถ้าเขาจะขอหายตัวไปจากความเป็นเพื่อนอีกสักพักใหญ่ ๆ เพราะตอนนี้กรวัฒน์รู้ตัวเองดีว่ายังไม่พร้อมที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม เขาปิดคอมพิวเตอร์และตั้งใจสวดมนต์ก่อนนอน พรุ่งนี้เขาไม่ได้ไปทำงาน ชายหนุ่มจึงกะจะออกต่างจังหวัดไปหาที่สงบร่มเย็นสำหรับพักใจไม่ให้ฟุ้งซ่านไปกว่านี้

 "นมัสการขอรับหลวงลุง"
กรวัฒน์ก้มกราบภิกษุวัยค่อนคนผู้เป็นเจ้าอาวาสที่นั่งบนอาสนะ วัดแห่งนี้คือที่ที่เขาเคยมาอุปสมบทและมักแวะเวียนมาอยู่บ่อยครั้ง แต่เพิ่งจะมาห่างหายไปในช่วงมีชีวิตครอบครัว
"อืม ไปไงมาไงล่ะเจ้าอ๊อฟ" ท่านเจ้าคุณฯ ตอบรับด้วยสีหน้าดีใจที่เห็นว่าลูกหลานมาเยี่ยม โดยที่ชายหนุ่มบอกว่าจะมาขออยู่ด้วยสักพักในวันที่เขาหยุดงานนี้
"ก็ ผมได้หยุดงานสามวันน่ะครับ เลยไม่อยากอยู่ในกรุงเทพฯ"
"อืมดีๆ"
ท่านเจ้าอาวาสยกน้ำชาขึ้นจิบ ท่านเข้าใจดีว่าช่วงเวลานี้ ชีวิตคนหนุ่มอย่างกรวัฒน์ผ่านความทุกข์ขมอะไรมาบ้าง เพียงแค่ท่านมองเห็นแววตาหม่นเศร้านั้น ท่านก็รับรู้ว่าชายหนุ่มกำลังอยู่ในสภาวะจิตใจเช่นไร
"อยู่ที่นี่ให้สบายใจนะ มีอะไรก็คุยกับหลวงลุงได้"
"ขอรับหลวงลุง"
กรวัฒน์รับคำด้วยความซาบซึ้งก่อนจะขอตัวไปเก็บของ ท่านเจ้าคุณฯมองตามหลังชายหนุ่มออกไปด้วยความสงสารเห็นใจ พลางคิดว่า หากกรวัฒน์ถูกความรักให้โทษมาแบบนี้ สติคงเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะประคับประคองและรักษาให้ชายหนุ่มได้

  อธิปพงศ์นอนกอดอกอุ่นของนิธินต่างหมอน และพูดคุยกันก่อนนอนตามปกติ ข้างนอกมีฝนตกฟ้าคะนองเล็กน้อย แต่คู่รักบนเตียงนุ่มก็ยังไม่คลายอ้อมแขนจากกันและกัน
"ที่รัก คุณจำได้มั๊ยว่าปีทีแล้วคุณทำอะไรอยู่"
"หมายถึง ปลายฝนต้นหนาวของปีที่แล้วใช่มั้ย"
"อือหึ…"
"อืม ผมก็...เจอกับคุณไง"
นิธินยิ้มดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น
"ผมนึกว่าคุณจะจำไม่ได้ซะอีก"
"จำได้สิครับ..." อธิปพงศ์กอดอกหนาแน่นขึ้น แววตาของชายหนุ่มแฝงไปด้วยความสุขและเขินอายเมื่อนึกถึงตอนนั้น ชายหนุ่มรำพึงออกมาเบาๆ
"ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าผมจะมาอยู่กับคุณได้"
นิธินก้มหน้าถามคนในอ้อมแขน แววตาสดใสนั้นฉายออกมาจากดวงตากลมโตอย่างสนอกสนใจที่จะฟัง
"แล้วคุณเชื่อในพรหมลิขิตรึเปล่าครับ"
"อืม เมื่อก่อนไม่ค่อยนะ แต่ตอนนี้ก็นิดหน่อยอ่ะ"
นิธินกระเซ้า
"นิดเดียวเองเหรอ"
"อื้ม หุหุหุ" อธิปพงศ์ตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะถามถึงโปรแกรมต่างๆ ของพวกเขา
"เอ้อ..ที่รัก วันหยุดต้นธันวาฯปีนี้ไปบ้านผมที่ลพบุรีกันมั๊ย"
"ไปสิครับ" นิธินลูบผมคนรักเบา ๆ ก่อนจะพูดต่อ “ผมก็คิดถึงคุณยายกับคุณแม่เหมือนกัน”
“อื้มม..”
นิธินเพิ่งจะนึกออกกับเรื่องที่เคยอยากรู้
“ที่รัก เพื่อนคุณที่ชื่อคุณอ๊อฟตอนนี้เค้าไปไหนแล้วเหรอ”
อธิปพงศ์ชะงักที่ได้ยินชื่อนั้น เพราะเขาก็ขาดการติดต่อกับกรวัฒน์ไปหลายเดือนแล้วเช่นกัน
“มันคงยุ่ง ๆ หน่ะ..แล้วคุณนึกยังไงถึงถามถึงมันเนี่ย”
“ก็จำได้ว่าตอนผมไม่อยู่เค้าเคยชวนคุณออกไปกินข้าวไง”
“อ๋อ...”
“พวกคุณไม่ได้ทะเลาะหรือมีปัญหากันใช่มั๊ย”
อธิปพงศ์ส่ายหน้า “เปล่าครับ เดี๋ยวมันก็คงติดต่อกลับมาเองนั่นหล่ะ ถ้ามันอยากเจอกับพวกเรา”
“อืม..” นิธินรับคำก่อนจะโอบกอดคนรักเพื่อจะนอน แต่อธิปพงศ์กลับรู้สึกนึกถึงเพื่อนขึ้นมา แม้จะเป็นห่วงความรู้สึกของกรวัฒน์ที่ผ่านเรื่องนั้นมานานแล้ว แต่เขาก็จะไม่ติดต่อไปเพราะอยากให้อีกฝ่ายทำใจได้จริง ๆ เสียที

กรวัฒน์ที่มาอาศัยวัดอยู่ในช่วงวันหยุด เขาตื่นนอนแต่เช้ามืดเพื่อลุกขึ้นมาช่วยดูแลกิจของพระภิกษุในการบิณฑบาตและดูแลเรื่องสถานที่ในวัด จากนั้นก็ช่วยทางวัดเรื่องภัตตาหารเพล ตกบ่ายเขาจึงมานั่งสนทนากับท่านเจ้าคุณฯผู้เป็นเจ้าอาวาส
“แล้วนี่เป็นยังไงบ้างเจ้าอ๊อฟ สบายใจขึ้นรึยัง”
“ครับ” กรวัฒน์ตอบพร้อมรอยยิ้มมุมปากจากสีหน้าที่ดูสดใสกว่าตอนมา
“ที่มานี่ หลวงลุงเชื่อว่าเจ้าต้องแบกอะไรไว้อยู่ก่อนแน่ ไหนลองว่ามาซิ”
“เอ่อ...” กรวัฒน์ไม่กล้าพูดให้ท่านฟัง ท่านเจ้าคุณส่ายหน้าเบา ๆ และยิ้มน้อย ๆ
“คงจะเป็นเรื่องความรักที่ไม่สมหวังใช่มั้ย”
กรวัฒน์มองหน้าพระคุณเจ้าด้วยความฉงนสนเท่ห์ ท่านเจ้าคุณจึงบอกกับชายหนุ่มว่า
“คนวัยอย่างเจ้าจะมีอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องนี้อีกล่ะ ความรักมันเป็นเครื่องที่หล่อเลี้ยงชีวิตและจิตใจของคนหนุ่มสาว ขณะเดียวกันมันก็สามารถทำลายชีวิตและจิตใจของคนได้เช่นกัน”
กรวัฒน์รับฟังนิ่ง ๆ ด้วยแววตากรุ่นคิด ก่อนที่น้ำตาลูกผู้ชายจะหลั่งออกมาเมื่อได้ยินประโยคนี้
“อย่าให้สิ่งที่เรียกว่าความรักแปรเปลี่ยนเป็นอกุศลกรรมเลย เราควรจะมีมุทิตากับคนที่เรารัก หมายถึงเราควรจะดีใจที่เห็นเขามีความสุขนะ อย่าไปริษยาหรือนึกโทษตัวเอง แต่เราควรจะยินดีกับเขาจากใจจริง ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนร่วมโลก เป็นเพื่อนทุกข์ของกันและกัน”
ชายหนุ่มก้มกราบด้วยความซาบซึ้ง ท่านเจ้าคุณจึงสบทบอีกว่า
“เขาไม่ใช่ของเรา ก็ต้องปล่อยให้เขาไป ไปยึดมั่นถือมั่นหรือแย่งชิงมาเป็นของเราไม่ได้หรอก ถ้าสิ่งนั้นไม่ใช่ของเราตั้งแต่แรก เข้าใจที่หลวงลุงพูดใช่มั๊ย”
“ขอรับ”
กรวัฒน์รับคำทั้งน้ำตา เขาเข้าใจอย่างซึ้งถึงคำสอนของท่านเจ้าอาวาสต่อปัญหาในอกที่เกิดจากความรัก หากตอนนี้ฝีในอกยังไม่หมดซึ่งเชื้ออักเสบ ธรรมะของหลวงลุงของเป็นยาดีที่ทำให้ฝีที่กลัดหนองอยู่ในอกถูกบีบออกมาจนหมดเชื้อและแห้งลงในเวลาอีกไม่ช้า


 เทศกาลลอยกระทงริมแม่น้ำเจ้าพระยาในกรุงเทพฯปีนี้ยังคงคึกคักเหมือนเดิม แต่สำหรับนิธินกับอธิปพงศ์ถือว่าเป็นอีกงานรื่นเริงที่เข้ามาต่อเนื่องในช่วงสองเดือนที่ผ่านมานี้ หลังจากพวกเขาและกลุ่มเพื่อนได้ไปร่วมงานเทศกาลนวราตรีที่ถนนปั้นเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พอเข้ากลางเดือนก็เป็นเทศกาลลอยกระทงอีกแล้ว แม้นิธินจะตื่นเต้นเพราะเพิ่งมาลอยกระทงแบบนี้เป็นครั้งแรก แต่กลับเป็นอธิปพงศ์ที่ดูมีความสุขมากเป็นพิเศษ เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขกับเทศกาลใด ๆ มากมายนัก ชายหนุ่มก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันว่าที่ผ่านมาเขาไปทำอะไรในเทศกาลนี้ เขาจึงถามป๊อกกี้กับพี่กุ้งและหญิงที่มาลอยกระทงด้วยกัน
“ก็แหม....คุณพี่จำอะไรไม่ได้เลยเหรอคะ..”ป๊อกกี้ตอบด้วยน้ำเสียงแสนกล พร้อมกับกรอกตาไปมาเพลีย ๆ
“หะ ยังไงอ่ะ”
“ก็วันที่คุณพี่กับคุณนิธินลงเอยกันหน่ะ มันเป็นวันลอยกระทงค่ะ นี่คุณพี่จำไม่ได้จริง ๆ เหรอคะ”
“เฮ้ยย จริงเหรอ...” อธิปพงศ์ก็เพิ่งจะรู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่ก็ถามรุ่นน้องตัวแสบต่อ เพราะเขาเป็นเจ้าของเรื่องแท้ ๆ แต่กลับไม่ได้รู้รายละเอียดใด ๆ เลย
“แล้วแกรู้ได้ไงอ่ะ นี่แกจำได้ด้วยเหรอ”
“โธ่ คุณพี่ขา..ก็วันนั้นคุณนิธินกับคุณพี่มาสารภาพรักกันหน้าร้านไงคะ ที่หนูจำได้เพราะว่าถ้าเลิกงานพวกหนูจะไปลอยกระทงกันค่ะ”
เขาหันไปมองหน้าพี่กุ้งกับหญิงทันที
“อืม วันนั้นเป็นวันลอยกระทงจริง ๆ”
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ จึงบอกว่า
“แล้ว ทำไมพี่ไม่รู้เลยล่ะ ทำไมไม่มีใครชวนพี่ล่ะ”
“ก็แหม..ตอนนั้นพี่หมูดูปลีกวิเวกอยากอยู่คนเดียวเป็นนางเอกมิวสิคซะขนาดนั้น พวกหนูจะกล้าเหรอคะ..”
อธิปพงศ์มองหน้าคนรักที่จับมือกันแล้วก็เขินเล็กน้อย ก่อนจะเขินหนักกว่านั้นเพราะคำพูดของป๊อกกี้
“เนี่ย หนูยังพูดกับคุณแม่กับนังหญิงอยู่เลยว่า พี่หมูเราเข้าทำนองเสียตัววันลอยกระทงซะแล้วนะคะเนี่ย หนูยังอธิฐานกับกระทงไปเลยว่าขอให้หนูได้อย่างพี่มั่ง”
“อืมๆ รู้แล้ว..” อธิปพงศ์พูดได้แค่นั้น แต่นิธินไม่ค่อยเข้าใจถึงเรื่องเสียตัววันลอยกระทงเท่าไหร่ จึงเอ่ยปากถามเพื่อนร่วมงานของคนรัก
“เอ่อ...ผมไม่ค่อยเข้าใจน่ะครับ”
“คะ เรื่องอะไร” ป๊อกกี้ย้อนถาม
“ก็ เสียตัววันลอยกระทงหน่ะครับ มันคืออะไรเหรอ แล้วเค้าเป็นกันทุกคนเลยรึเปล่า”
“อ๋ออ...” ป๊อกกี้รับคำแค่นั้นก่อนจะถูกพี่กุ้งปรามในข้อหาบิดเบือนประเพณีไทยให้ชาวต่างชาติรับรู้
“ที่ป๊อกพูดถึงคือ เด็กรุ่นใหม่เค้าชอบมีเซ็กส์กันในวันลอยกระทง แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ดีนะครับ และก็ไม่ใช่ Tradition ของวันลอยกระทงด้วย”
“อืมม ครับ เข้าใจแล้ว”
นิธินรับคำยิ้ม ๆ ก่อนจะหันมามองหน้าอธิปพงศ์ที่ตอนนี้เขินจนหน้าแดง เขาสองคนขอตัวไปซื้อกระทงโดยที่นิธินแอบกระเซ้าคนรักว่า
“งั้นคืนนี้ก็เป็นวันครบรอบหนึ่งปีหน่ะสิ”
อธิปพงศ์เขินมากเมื่อได้ยินอย่างนั้นจากคนรัก จึงถามไปว่า
“แล้วทำไมล่ะ...”
“คืนนี้เรามาฉลองกันดีมั๊ย”
“อื้ม...” อธิปพงศ์หันมาสบตากับคนรักด้วยความยินดี ก่อนจะไปเลือกซื้อกระทงจากร้านค้าที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ เมื่อได้กระทงที่ต้องการแล้ว พวกเขาก็เดินมาสมทบกับพวกพี่กุ้งที่หน้าท่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้ง พวกเขาช่วยกันจุดธูปเทียนในกระทง ก่อนที่จะวางกระทงบนผืนน้ำ อธิปพงศ์ก็บอกกับคนรักว่า
“Make a wish อธิฐานสิครับ”
นิธินยิ้มรับและหลับตาโดยยกกระทงมาวางไว้ที่เหนือศรีษะ อธิปพงศ์เองก็เช่นกัน ตอนนี้เขาทั้งคู่ก็อธิฐานร่วมกันกับกระทงใบนี้
 นิธินลืมตาขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะร่วมกันปล่อยกระทงให้ลอยไปตามสายน้ำด้วยกัน เขามองกระทงของตัวเองที่ลอยจากไปจนลับตาและหันมายิ้มให้กันอย่างมีความสุข นิธินหันมาถามคนรักหลังจากลอยกระทงไปแล้วว่า
“เมื่อกี๊คุณขออะไรไปเหรอ”
“เปล่า..”
“หืมม?”
นิธินมองหน้าคนรักด้วยความสงสัย ก่อนที่อธิปพงศ์จะเฉลยว่า
“ผมก็ขอให้ความทุกข์ และก็สิ่งที่ไม่ดี ลอยไปจากชีวิตไง”
“จริงเหรอ...” นิธินยิ้มด้วยความประหลาดใจ “งั้นก็เหมือนผมน่ะสิ”
“พูดจริง..”
“อืม..ใครจะยอมให้ความสุขลอยออกไปจากตัวล่ะจริงมั๊ย”
“อื้มม..จริง”
อธิปพงศ์รับคำอย่างเห็นด้วยทุกประการ เพราะเขาก็เป็นคนหนึ่งเหมือนกันที่ไม่ยอมให้ความสุขลอยออกไปพร้อมกับสายน้ำ ชายหนุ่มทั้งสองจับมือคนรักซึ่งเป็นความสุขที่จับต้องได้แน่นขึ้น ขอแค่มีกันและกันอย่างนี้ความสุขก็คงไม่ลอยออกไปจากพวกเขาอย่างแน่นอน



โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ (ตอนจบ)

หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 10-04-2012 16:49:40
 :impress2: :กอด1:น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: silverspoon ที่ 10-04-2012 17:00:55
หาคู่ให้กรด้วยสิ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kisssky ที่ 10-04-2012 17:04:38
คู่นี้เค้าอบอุ่นกันจังเลย  :impress2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 10-04-2012 17:54:54
พี่หมูคะคิดถึงจังเลย
 :กอด1:
อ่านจบแล้วใจหายเนอะ
ตอนหน้าพี่หมูกับคุณนิธิณก็จะจบแล้ว
 :sad4:
แต่ก็ดีใจที่เราได้อ่านเรื่องราวดีๆของทั้งคู่นะคะ
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดาค่ะ
 :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 10-04-2012 19:25:17
อุ๊ย ตอนหน้าก็ตอนจบแล้วเหรอ งืออ :monkeysad:
แต่ก็คงเป็นตอนจบที่ทำให้มีความสุขแน่ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bytoey ที่ 10-04-2012 19:28:25
มีความสุข :-[ แต่..จะจบแล้วอะ :o12:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 10-04-2012 19:37:12
เป็นรักที่สม่ำเสมอมาก อยู่ด้วยกัน ดูแลเอาใจใส่กันและกัน
อิจฉาอ่ะ

ใจหายค่ะ เหลือตอนเดียวเอง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 10-04-2012 19:39:28
โอ้....ครบรอบ.... อยากมีความรักงี้มั่งจัง
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yayee2 ที่ 10-04-2012 20:54:04
เวลาผ่านไปหนึ่งปี ความรักของหมูกับนิธินยังคงหวานเหมือนเดิม
คืนนี้คงได้ฉลองวันครบรอบกันอย่างมีความสุขเนอะ

น้ำพริกจ๋า..."ฝีที่กัดหนองอยู่"... ต้อง  เป็น "ฝีที่กลัดหนองอยู่"  "กลัด" จ้ะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 10-04-2012 20:57:35
 :กอด1:
+1
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 10-04-2012 20:59:52
โถ...พ่อกร

หาเนื้องอกใหเค้าหน่อยเร๊ว :m17:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 10-04-2012 21:05:39
คู่นี้เค้าน่ารักอบอุ่นกันตลอด :L1:

บวกเป็ด
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 10-04-2012 22:20:44
ครบรอบหนึ่งปีก็ต้องฉลอง :impress2:
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 10-04-2012 22:51:53
จบไม่ว่า ขอตอนพิเศษล่วงหน้าด้วยแล้วกันอิๆ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Tifa ที่ 11-04-2012 01:10:38
แอร๊ยยยย หวานได้ต่อเนื่องเเละยาวนาน

เหลืออีกตอนเดียวก็จะจบ

เอาใหหนูตาร้อนด้วยไฟอิจฉาเลยนะคะ
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 11-04-2012 06:06:43
หวานจริงๆ

จะจบแล้วหรอเนี่ย...  o7
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 13-04-2012 17:57:22
 :L2:ตอนจบมาแล้วค่ะ อันที่จริงว่าจะมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่มาวันนี้ก็ยังได้อยู่เนอะ อยากมอบตอนจบนี้เป็นของขวัญวันสงกรานต์ให้คุณผู้อ่านได้มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ :กอด1: :L2: :3123: :L1: :pig4:


 
38

 

  เทศกาลปีใหม่ทั้งอินเดียและสากลผ่านพ้นไปอย่างมีความสุข สำหรับอธิปพงศ์แล้วปีใหม่ที่ผ่านนี้ชายหนุ่มรู้สึกว่าเป็นปีใหม่ที่ดีที่สุดในชีวิต หากเทียบกับปีก่อนที่เขากับนิธินต้องกล้ำกลืนความเศร้าหมองไว้ข้างในเพื่อเฉลิมฉลองกับคนรอบข้างที่ล้วนแล้วแต่ยินดีกับมาการถึงของศักราชใหม่    แต่สำหรับปีนี้แล้วคนทั้งคู่ได้ฉลองปีใหม่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตากับกลุ่มเพื่อนฝูงอย่างชื่นมื่น   

โดยที่ชีวิตคู่ของคนหนุ่มทั้งสองดำเนินไปอย่างปกติสุขโดยมีความรักและความเข้าใจให้แก่กัน เช่นเดียวกับวันนี้ที่นิธินในชุดทำงานมารอรับอธิปพงศ์กลับบ้านตามปกติ แม้จะอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้ว แต่นิธินก็ยังรู้สึกดีใจที่ได้เห็นหน้าคนรักทุกเย็นในตอนที่มารับไม่ต่างจากวันแรกที่เขามารออธิปพงศ์อยู่หน้าร้าน

"พี่หมูคะ สามีมาค่ะ"

 ป๊อกกี้ส่งเสียงบอกกับอธิปพงศ์ที่อยู่ในส่วนเตียงสระผม อธิปพงศ์เดินออกมาหาคนรักพร้อมกับส่งรอยยิ้มดีใจให้ไม่ต่างจากทุกวัน

"รออีกแป๊บนะครับ"

"ครับ"

ลักยิ้มน่ามองนั้นปรากฎอยู่บนหน้าใกล้กับแนวเคราทรงเสน่ห์ นิธินเลยหันไปช่วยหญิงกับป๊อกกี้พลางๆ สักพักก็พี่กุ้งขอตัวกลับก่อนเพราะมีธุระ ทำให้อธิปพงศ์กับคนรักและเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องก็ออกมาพร้อมกันโดยที่พวกเขาตั้งใจจะไปฝากท้องมื้อค่ำนี้ที่ร้าน ประจำในตลาดหลังสวน

"วันนี้คุณเหนื่อยมั๊ยครับ" นิธินเอ่ยปากถามคนรักที่ดูอ่อนล้าจาการทำงาน ขณะที่รออาหารมาเสริ์ฟ

"ครับ แต่ก็โอเค แล้วคุณล่ะ" อธิปพงศ์รู้ได้ทันทีว่าคนรักเพิ่งจะเลิกงานเหมือนกัน เขาคาดว่านิธินกำลังจะทำงานชิ้นใหญ่อีกครั้ง

"ก็โอเคครับ"

"คุณกำลังทำโปรเจกต์อยู่รึเปล่า"

"ครับ"

แม้คนทั้งสองจะคุยกันด้วยเสียงไม่ดัง แต่ก็ทำให้คนรอบข้างอดรู้สึกอิจฉาไม่ได้ที่เห็นคู่รักคุยกันอย่างนี้

"อะแฮ่ม!"

ป๊อกกี้กระแอมออกมาเบาๆ ให้รุ่นพี่กับคนรักรู้ว่าไม่ได้อยู่กันสองคน อธิปพงศ์เลยแกล้งถามรุ่นน้องตัวแสบว่า

"อะไรติดคอล่ะป๊อก"

"เปล่าค่ะ"

เจ้าตัวตอบนิ่งๆ เหมือนจะไม่อยากต่อคำเพราะความหิว แต่หญิงกลับบอกว่า

"ความอิจฉามันติดคอไง"

"นังหญิง!"

"ฮ่ะๆ"

ทุกคนหัวเราะกันครื้นเครงก่อนที่อาหารจะมาถึงโต๊ะ เมื่อทุกคนได้ข้าวครบแล้ว นิธินก็ค่อยพับแขนเสื้อสูงขึ้นพร้อมกับปลดกระดุมที่ลงมาอีกเม็ด ทำให้ป๊อกกี้และหญิงที่นั่งตรงข้ามอดมองกล้ามอกผึ่งผายจากชายหนุ่มผิวสีแทนตรงหน้าไม่ได้ อธิปพงศ์ที่เห็นอย่างนั้นก็หยุดมือ แม้ทั้งคู่จะเป็นน้องรักแต่อธิปพงศ์ก็แสดงความไม่พอใจออกมาทางแววตาโดยอัตโนมัติ ทำให้ป๊อกกี้กับหญิงได้แต่ส่งยิ้มเกรงใจให้และก้มหน้ากินข้าว แต่ก็ไม่ใช่แค่ป๊อกกี้คนเดียวที่เผลอมองตามแรงดึงดูดแบบผู้ชายของนิธิน ยังมีนิสิตหนุ่มหน้าหวานกับกลุ่มเพื่อนสาวที่นั่งตรงข้ามคู่รักก็ดูท่าจะหลงใหลในตัวชายหนุ่มเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนในกลุ่มมองนิธินไม่วางตาตั้งแต่มาถึง

"นังหญิงๆ"

ป๊อกกี้กระซิบกระซาบเมาท์เผาขนกับรุ่นน้อง

"หืมม"

"แกเห็นอีโต๊ะข้างหลังพวกเรามั๊ย มองคุณนิธินยังกับจะจับกินแทนข้าวงั้นแหล่ะ"

"อืมๆ"

แม้คนทั้งสองจะไม่ได้เมาท์กันออกรสให้รู้กันทั่วถึง แต่อธิปพงศ์ก็ได้ยินจนได้ เขาวางช้อนและเงยหน้าขึ้นมามองกลุ่มเด็กหนุ่มสาวในชุดนิสิตด้วยสายตาที่ทำให้หลายคนเข็ดหลาบมานับไม่ถ้วน รุ่นน้องทั้งสองได้แต่ก้มหน้ากินข้าวหลบสายตาทรงพลัง นิธินเหลือบมองคนรักแล้วหันมาอมยิ้ม ก่อนจะช้อนมืออีกฝ่ายมากุมไว้ที่ตักของเขา เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มหน้าหวานและผองเพื่อนก้มหน้ากินข้าวอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว เขาก็กลับมากินข้าวต่อและอารมณ์ดีขึ้นเพราะได้สัมผัสจากมือใหญ่ของคนรัก

"เห็นรึยังคะนังหญิง"

"อื้ม เห็นแล้ว "

รุ่นน้องทั้งสองมองหน้ากันเกรงๆ เพราะเป็นอีกครั้งที่พวกหล่อนได้เห็นอาหารหึงหวงคนรักของชายหนุ่มมาดนิ่งอย่างอธิปพงศ์

 เมื่อข้าวเข้าไปไปครึ่งจานป๊อกกี้กลับมามีแรงวาดลวดลายต่อ หล่อนดูดน้ำจากแก้วและเริ่มเมาท์กับทุกคนถึงสิ่งที่คันปาก

"โอ๊ยย เซ็งค่ะ จะกุมภาฯแล้วหนูยังหาผัวไม่ได้เลย"

"งั้นพี่ป๊อกก็อดไปแข่งจูบมาราทอนอ่ะดิ"

"นั่นสิคะ เอออ เห็นอีรายการนี้มันจะมารับสมัครอยู่ที่สยามดิสฯ โอ๊ยๆๆ เซ็ง ไม่ได้โอกาสไปลุ้นเงินแสนกับเค้าบ้างเลย"

"อะไรเหรอป๊อก"

“ก็แข่งจูบมาราทอนวันวาเลนไทน์ไงคะพี่ ปีนี้มันมาจัดที่สยามดิสฯ ใครชนะได้เงินสองแสน โอ๊ย อารมณ์เสียไม่มีผัวกับเค้าเลยไปแข่งไม่ได้”

“อืม..” อธิปพงศ์รับคำอย่างนั้นและกินข้าวต่อ

“เอ่อ พี่หมูกับคุณนิธินไม่สนใจลองไปแข่งบ้างเหรอคะ”

“หืมม์...” คู่รักทั้งสองหันมามองน่ากัน ก่อนที่ป๊อกกี้จะสบทบอีกว่า

“เงินตั้งสองแสนเลยนะคะคุณพี่ เห็นว่าพวกคุณพี่หาเงินผ่อนคอนโดกันไม่ใช่เหรอคะ เป็นน้องน้องไปแล้วนะคะเนี่ย”

นิธินกับอธิปพงศ์มองหน้ากันอย่างกรุ่นคิด เพราะเขาก็อายุไม่น้อยกันทั้งคู่แล้ว จึงไม่แน่ใจว่าตัวเองจะอดทนกับการจูบกันนาน ๆ อย่างนั้นได้หรือไม่

 

“ก็เอาสิคะ พี่หมูจะรออะไรล่ะ”

เพื่อนสาวรุ่นน้องของอธิปพงศ์อย่างเขียวกรอกเสียงจริงจังผ่านโทรศัพท์เพื่อให้คำตอบกับความไม่แน่ใจของเพื่อนรุ่นพี่ แต่เจ้าตัวที่ถือสายรอฟังก็รู้สึกยังไม่มั่นใจอยู่ดี

“พี่กลัวไม่ไหวอ่ะ เป็นลมขึ้นมาคงแย่เลย”

“พี่หมูคะ...แค่จูบมาราทอนแค่นี้บอกไม่ไหว แล้วไอ้ที่พวกพี่ทำกันทุกคืนนี่มันเหนื่อยกว่าเยอะนะคะ อย่ามาพูดแบบนี้เลย”

“ก็มันไม่เหมือนกันนะ...นี่มันจูบกันอย่างเดียวเลย พอจบการแข่งขันพี่กับนิธินไม่เบื่อกันแย่เลยเหรอ”

“อืม...” เขียวคิดตามก็เห็นว่าที่อธิปพงศ์พูดมามีส่วนถูก

“คุณนิธินเค้าว่าไงมั่งคะ”

“ก็ยังลังเลอยู่เหมือนกันน่ะ”

“อืมม..” เขียวคิดไปคิดมาสักครู่จึงบอกกับเพื่อนรุ่นพี่ว่า

“งั้นเอางี้มั๊ยพี่หมู ก่อนแข่งสักอาทิตย์ พี่ลองแยกกันอยู่กับคุณนิธินดู”

“หะ...ยังไงล่ะ”

“ก็แบบ พี่หมูกับนิธินก็ลองแยกบ้านกันอยู่ไง ห้ามเจอหน้า ห้ามคุยโทรศัพท์ พอวันแข่งจริงพี่สองคนจะได้รู้สึกคิดถึงกันเหมือนตอนที่คุณนิธินไปทำงานที่ดูไบไง”

“อืม...” อธิปพงศ์เห็นว่าความคิดนั้นเข้าท่าอยู่ไม่น้อย “เดี๋ยวพี่ลองคุยกับคุณนิธินดูนะ”

“ค่า ยังไงก็ขอให้ชนะนะคะ”

“จ้า ขอบใจนะน้องเขียว

“ค่า”

  เขากับเพื่อนรุ่นน้องพูดคุยกันต่ออีกสักพักก็วางสาย เขาเดินมายังห้องนอนและทิ้งตัวลงข้าง ๆ คนรักที่นอนดูทีวีอยู่ นิธินยิ้มให้และกางแขนเพื่อรองรับอธิปพงศ์ที่เข้ามาหนุนนอน

“ที่รัก คุณยังสนใจแข่งจูบมาราทอนอยู่มั๊ย”

“อืม..ก็น่าสนใจนะ”

อธิปพงศ์เงยหน้าถามคนรักด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ

“ผมถามจริง ๆ นะ ที่คุณอยากลงแข่งเนี่ย เป็นเพราะอยากได้เงิน หรือว่าอย่างอื่นกันแน่”

“ก็...ผมก็อยากลองดูว่าตัวเองจะทำแบบนั้นได้นานแค่ไหนน่ะ”

“จริงเหรอ...”

“อื้ม...เงินหน่ะ ถ้าได้ก็ดี แต่ผมแค่อยากรู้ว่าผมกับคุณจะทำอย่างนั้นได้จริงรึเปล่า”

“งั้นพรุ่งนี้เราไปสมัครกันเลยนะ”

“ไปสิ..”

นิธินยิ้มรับ ก่อนที่อธิปพงศ์ลองบอกถึงสิ่งที่เพื่อนรุ่นน้องเพิ่งแนะนำ

“อืม ก่อนแข่งสักสัปดาห์นึง เราลองแยกกันอยู่ดีมั๊ย.. คุณว่าไง?”

“หืม....แยกกันอยู่เหรอ” นิธินทวนคำเพราะเขาก็ไม่อยากจะทำอย่างนั้น

“ทำไมเหรอ..คุณไม่เห็นด้วยใช่มั๊ย”

แต่เพียงมองตาคนรักอธิปพงศ์ก็รู้แล้วว่านิธินคิดอย่างไร

“ก็..ไม่เห็นเกี่ยวกันเลยนี่นา แล้วคุณว่าไงล่ะ ทำไมคุณถึงอยากทำแบบนั้น”

“ผมก็แค่คิดว่า ถ้าแข่งเสร็จแล้ว ผมกับคุณไม่เบื่อกันแย่เลยเหรอ...”

“ทำไมล่ะ ทำไมผมต้องเบื่อคุณ”

“ก็เราจูบกันนานข้ามวันเลยนะ ผมกลัวว่าหลังจากแข่งจบแล้ว เราอาจจะไม่เป็นเหมือนเดิม อีกอย่างตอนนี้เราอยู่ด้วยกัน เราจำไม่ได้หรอกว่าตอนที่เราห่างกันเรามีความรู้สึกยังไง..”

“อืม..” นิธินพยักหน้ารับฟังและคิดตาม

“ผมก็แค่อยากให้เราอยู่ด้วยกันแบบนี้ตลอดไปน่ะ”

นิธินยิ้มรับเมื่อได้ยินคำนั้นจากปากของคนรัก แม้ตอนแรกเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งที่อธิปพงศ์เสนอ แต่เขาก็ดีใจที่รู้ว่าตอนนิ้อธิปพงศ์มีความรู้สึกเดียวกันที่อยากจะมีชีวิตอย่างนี้ เขาโอบกอดคนรักแน่นขึ้นพร้อมกับคิดตามในสิ่งที่      อธิปพงศ์นึกกลัว หากแต่เขาอยากลองไปปรึกษาเพื่อนสักหน่อยกับเรื่องที่จะแยกกันอยู่ก่อนการแข่งขัน

 

“อืม เป็นความคิดที่ดีนะ ถ้าพวกนายจะลงแข่งจูบมาราทอนจริง ๆ” วิษณุออกความคิดเห็นเป็นคนแรกหลังจากฟังเรื่องที่นิธินเล่าให้ฟังจบ

“อย่างนั้นเหรอ...”

“อืม ใช่ ๆ วิษณุพูดถูก” เอเจสมทบ พร้อมกับแทนไทที่เห็นด้วย

“ชั้นก็ว่าดีนะ ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกัน มันทำให้พวกนายคิดถึงกันและเวลาพวกนายแข่งเนี่ยจะได้จูบกันนาน ๆ ไง”

“ใช่ ๆๆ ชั้นก็ว่างั้น” วิษณุก็พยักหน้าหงึกหงัก “ก่อนแข่งหนึ่งสัปดาห์นายมานอนที่บ้านชั้นสิ”

“เอางั้นเหรอ”

“อืม เอาอย่างนี้แหล่ะ”

นิธินมองหน้าเพื่อน ๆ ทุกคนที่เห็นตรงกันว่าให้ทำอย่างที่แนะนำ เมื่อเขาเห็นว่าทุกอย่างลงตัวแล้วจึงกดโทรศัพท์ไปหาคนรักทันที

“ที่รัก คุณไปสมัครลงแข่งมาหรือยัง”

“ยังครับ ทำไมเหรอ คุณว่าไง มีไรรึเปล่า”

“เปล่าครับ แค่อยากจะบอกว่า คุณไปสมัครเลยก็ได้ ตอนนี้ผมพร้อมแล้ว!”

 

 

  เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์มาถึง นิธินก็เก็บเสื้อผ้าบางส่วนลงกระเป๋าเพื่อจะไปอยู่ที่บ้านของวิษณุตามที่ตกลงกันไว้ อธิปพงศ์เดินมาส่งคนรักที่หน้าห้องจึงได้เห็นสีหน้าอิดออดของนิธินที่ดูไม่ค่อยอยากไปจากรังรักของพวกเขาซะเท่าไหร่

“อีกเจ็ดวันเจอกันนะครับ”

“ครับ”

  นิธินรับคำแค่นั้นก่อนจะปิดประตู แต่อธิปพงศ์ก็รีบคว้าข้อมือเขาไว้และเข้าไปมอบจูบอ่อนหวานแทนความรู้สึกว่าเขาก็ไม่อยากอยู่ไกลจากคนรักเหมือนกัน ริมฝีปากนุ่ม ๆ กับลิ้นร้อนปลอบประโลมกันและกันโดยที่แขนแข็งแรงนั้นกอดรัดร่างสมส่วนไว้สักพักก่อนที่คนทั้งสองจะต้องห่างกันชั่วคราวเพื่อผลลัพท์ที่ดีขึ้นในการแข่งขัน

  อธิปพงศ์มองตามร่างใหญ่นั้นจนลับตาและปิดประตูเข้าไปในห้อง เขาแตะริมฝีปากเบา ๆ และยิ้มเขินให้ตัวเอง ชายหนุ่มหวังว่าวันแข่งจริง ๆ เขาคงจะไม่เขินอายจนตายคาอกล่ำของคนรักไปเสียก่อนระหว่างที่จูบกัน...

  และวันแข่งขันจริงก็มาถึงในวันวาเลนไทน์ คนทั้งสองเข้าไปรายงานตัวยังห้างดังตั้งแต่เช้า เขาสองคนมองหน้ากันด้วยความคิดถึง แม้จะห่างกันแค่สัปดาห์ แต่เขาก็ไม่ได้พูดคุยและติดต่อใด ๆ ซึ่งกันและกันเลย อธิปพงศ์รู้สึกดีที่มองไปก็พบว่ายังมีคู่รักชายหนุ่มแบบเขาหลายคู่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ รวมทั้งคู่รักที่เป็นผู้หญิงด้วย ชายหนุ่มทั้งสองรู้สึกดีที่ได้เห็นคู่รักไม่จำกัดเพศออกมาแสดงความรักแก่กัน เขารับหมายเลขสำหรับการเข้าแข่งกันและยืนไว้ในตำแหน่งที่กำหนด

“เอาล่ะนะคะ เรามานับถอยหลังเพื่อเข้าสู่การแข่งกันจูบมาราทอนทำลายสถิติประเทศไทยในปีนี้กันดีกว่าค่ะ นับด้วยกันนะคะ เอ้า 5...4..3..2...1 เริ่มค่า”

ผู้เข้าแข่งขันทุกคู่ต่างก็เข้าไปยังริมฝีปากของกันและกันเหมือนแม่เหล็กที่เจออีกขั้ว บ้างก็ค่อยแตะริมฝีปากของกันและกันเบา ๆ บ้างก็ประคองกอดกันอย่างดูดดื่ม หรือมีบางคู่ที่เริ่มต้นแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน สำหรับคู่ของอธิปพงศ์นั้น เขาค่อย ๆ หลับตาและสัมผัสริมฝีปากของคนรักอย่างนุ่มนวล ราวกับว่าจะใช้ทุกวินาทีที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุด

 

“เป็นที่น่าสังเกตนะคะว่าปีนี้มีคู่รักที่เป็นเพศเดียวกันเข้าร่วมการแข่งขันอยู่หลายคู่  มีทั้งคู่เกย์ และเลสเบี้ยนเลย แต่มีคู่นึงค่ะดิชั้นเห็นแล้วเสียดายมากกก หมายเลข 38 ค่ะ หล่อทั้งคู่เลย...”

พิธีกรสาวสร้างบรรยากาศโดยการบรรยาย โดยที่เธอพูดถึงคู่ของนิธินกับอธิปพงศ์ แถมยังทิ้งท้ายไว้ด้วย

“เห็นอย่างนี้แล้วเศร้าค่ะ ผู้ชายหล่อ ๆ มารักกันเอง...”

 

เวลาผ่านไป 12 ชั่วโมง มีคู่รักบางส่วนขอถอดใจจากการแข่งขัน แต่นิธินยังคงอยู่กับอธิปพงศ์ที่เดิม แม้จะเปลี่ยนอิริยาบถเป็นนั่งลงกับพื้นบ้าง หรือไปเข้าห้องน้ำด้วยกันมาแล้วบ้างก็ตาม เมื่อเข้าชั่วโมงที่ 24 อากาศจากเครื่องปรับอากาศค่อนข้างจะเย็นเลยทำให้อธิปพงศ์รู้สึกง่วงขึ้นมาเล็กน้อย นิธินเห็นอย่างนั้นจึงรีบสอดลิ้นร้อนเข้าไปในช่องปากของคนรักทันที ทำให้อธิปพงศ์ที่ใกล้จะปิดตาถึงกับพลันตื่นด้วยความเร่าร้อน และจูบตอบคนรักไปด้วยความรู้สึกเช่นเดียวกัน

“ว้ายย คู่นี่มีแลกลิ้นกันด้วย แก้ง่วงนะคะ สู้ ๆ”

 

พิธีกรสาวคนใหม่เข้ามาสร้างบรรยากาศให้การแข่งขันที่ยังไม่จบสัพยอกและให้กำลังใจคู่รักที่ยังอยู่ในการแข่งขัน จากคู่รัก 100 คู่ ผ่านไป 1 วัน เหลือคู่รักที่ยังคงอยู่ในที่นี้เพียง 30 กว่าคู่เท่านั้น โดยยังมีคู่รักชายหนุ่มยืนหยัดอยู่อีก 5 คู่  นอกจากนั้นก็เป็นคู่รักชายหญิง และยังมีคู่รักหญิงสาวอีก 1 คู่ที่ยังคงไม่ท้อถอย


(มีต่อค่ะ)
หัวข้อ: Re: Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(มาแล้วค่ะ:10/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 13-04-2012 17:59:45
(ต่อ)

เวลาผ่านไปอีก 12 ชั่วโมง อธิปพงศ์กับนิธินยังคงผลัดกันดูแลอีกฝ่ายในสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่สม่ำเสมอ การแข่งขันนี้ต้องใช้ความอดทนในจิตใจและความแข็งแรงของร่างกายในการเอาชนะตัวเอง ที่สำคัญยังเป็นการทดสอบความรักและความเข้าใจในรูปแบบหนึ่งของคู่รักทั้งหลายที่จะสามารถดูและประคับประคองกันและกันกับสภาวะที่ทรมานทั้งกายและใจสั้น ๆ นี้ได้หรือเปล่า

 

“คุณแม่คะ ดูพี่หมูสิ....” ป๊อกกี้ที่ชวนทุกคนในร้านมาให้กำลังใจรุ่นพี่หลังเลิกงานชี้ให้ดูอธิปพงศ์ที่ยังอยู่ในการแข่งขัน โดยที่ยืนถัดไปก็เป็นกลุ่มเพื่อนของนิธินพร้อมกับครอบครัวที่ขนกันมาให้กำลังใจเพื่อนเช่นกัน

“ยังคิดจะลงแข่งอีกมั๊ยนังป๊อก” พี่กุ้งหันไปถามป๊อกกี้ที่ดูเหนื่อยแทนผู้เข้าแข่งขันเมื่อเห็นสีหน้าของแต่ละคน

“ไม่แล้วค่ะคุณแม่ หนูคงตายก่อนตั้งแต่ครึ่งวันแรก”

“แล้วพี่กุ้งคิดว่าพี่หมูจะชนะมั๊ยคะ” หญิงถามเจ้านายซื่อ ๆ

“มีสิทธิ์นะ” พี่กุ้งตอบแค่นั้นพร้อมรอยยิ้ม เพราะเขาเชื่อมั่นว่า นิธินและอธิปพงศ์จะสามารถดูแลกันและกันให้บรรลุเป้าหมายนี้ไปได้

“ว้ายยยย!!”

“อะไรนังป๊อก” พี่กุ้งหันไปถามป๊อกกี้ที่ดูแตกตื่นตกใจ

“คุณแม่ดูนู่นสิคะ..นู้นนนน!!”

พี่กุ้งมองตามที่ป๊อกกี้บอกก็เห็นว่าตอนนี้คู่ของอธิปพงศ์เปลี่ยนอิริยาบถเป็นอุ้มเข้าเอวกันแล้ว  โดยที่นิธินประคองสะโพกและลำตัวของอธิปพงศ์ที่ขึ้นมาหนีบเอวเขาไว้ สร้างเสียงฮือฮาให้กับบรรดาคนที่ยืนดูและกองเชียร์เป็นอย่างมาก

“โห เพื่อนเรานี่สุดยอดว่ะ สงสัยจะเล่นท่านี้กันบ่อย” เอเจที่ยืนดูอยู่หันมากระซิบกับวิษณุและแทนไท ตอนนี้ไม่ใช่แค่พวกเขาที่รู้สึกตื่นเต้นไปกับภาพนั้น เพราะทุกคนก็รู้สึกได้ว่าแม้พวกเขาจะยังอยู่ซึ่งเสื้อผ้าและไม่ได้บดเบียดเสียดสีกันและกัน แต่ภาพที่เห็นก็ดูยั่วเย้าเป็นอย่างมาก

  สำหรับอธิปพงศ์และนิธิน ที่เปลี่ยนอิริยาบถเป็นแบบนี้เพราะไล่อาการเมื่อยล้าจากการยืนหรือนั่งนาน ๆ แต่อธิปพงศ์ต้องระวังตัวเองไม่ให้ใบหน้าไปสัมผัสกับแนวเคราของคนรัก เขารู้ตัวเองดีว่าเขาไม่สามารถห้ามอารมณ์ตัวเองอยู่เมื่อได้บดเบียดกับกรอบหน้าของนิธิน เขาจึงต้องประคองริมฝีปากและใบหน้าไม่ให้เข้าไปถูกของร้อนที่เรารัก

 

  เมื่อรุ่งเช้ามาถึง เวลาผ่านไปใกล้ 40 ชั่วโมง เหลือคู่รักอีกเพียง 3 คู่เท่านั้น ซึ่งก็คือคู่ของนิธินกับอธิปพงศ์ และคู่รักชายหนุ่มชาวตะวันตกกับคู่รักชายหญิงชาวไทยเท่านั้น พอเข้าเช้าวันใหม่ คู่รักทั้งสองคู่ก็ออกอาการหมดแรงอย่างเห็นได้ชัดจึงต้องถอนตัวออกไปจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย

 

“ตอนนี้นะคะเหลือคู่รักอยู่เพียงคู่เดียวแล้วค่ะ ถึงแม้การแข่งกันนี้เราจะได้ผู้ชนะแล้ว แต่ดูท่าว่านางจะยังไม่หยุดกันง่าย ๆ นะอา”

พิธีกรสาวหน้าม้าอารมณ์ดีคนดังที่ถูกว่าจ้างมาเพื่องานนี้กล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นกับพิธีกรชายจมูกบานหน้าตี๋คู่ขวัญของเธอ เมื่อทีมงานส่งประวัติผู้เข้าแข่งขันมาให้เธอแล้ว เธอจึงอ่านออกอากาศเพื่อให้คนที่มุงดูอยู่รู้จักกับผู้ชนะที่ยังไม่ยอมแพ้ในวันนี้มากขึ้น

“มาดูข้อมูลผู้เข้าแข่งขันกันดีกว่าคุณอา สำหรับผู้เข้าแข่งกันในวันนี้นะคะ ผู้ชายซ้ายมือที่ตัวเล็กกว่าคือ คุณอธิปพงศ์ บุญวงศ์ นะคะ อายุ 34 ปี เป็นช่างตัดผมอยู่ที่ร้าน Hair wardrobe ที่มาบุญครอง ส่วนขวามือที่กล้ามใหญ่ ๆ นั่นชื่อ คุณนิธิน มุจเจอจี อายุ 34 ปีเท่ากัน เป็นชาวอินเดียที่ทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่ที่นี่ค่า”

“เค้าเป็นช่างตัดผมกับโปรแกรมเมอร์เหรอ ชั้นนึกว่าเค้าเป็นนักกีฬาทีมชาติกันทั้งคู่ หมดรายการนี้ไปแข่งไตรกีฬาที่ภูเก็ตกันต่อเลยมั๊ย ว่ะฮ่ะๆๆ”

พิธีกรหนุ่มตี๋แซวตามสไตล์เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้ไม่น้อย

"ตอนนี้นะคะผ่านไป 46ชั่วโมงแล้ว ไม่น่าเชื่อเลยค่ะว่าจะมีคนที่จูบทนอย่างนี้ โอ้มายก๊อดด!!"

นิธินกับอธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็แอบเหลือบไปยังนาฬิกาจับเวลา เขาสบตากันก็รู้ว่ายังไม่ใช่เป้าหมายที่เขาจะหยุด จึงยังไม่ละริมฝีปากออกจากกันและกัน

“นี่ถ้าแกลงแข่งชั้นว่าคงปากแตกแน่” พิธีกรชายเอ่ยแซวพิธีกรหญิง

“ทำไมล่ะ ฟันชั้นเฉาะลิ้นเฉาะปากเค้าใช่มั๊ย”

“ว่ะฮ่ะๆๆๆๆ”

คนทั้งงานหัวเราะกันครื้นเครงกับการสร้างสีสันของพิธีกรคนดังขวัญใจเก้งกวาง พวกเขายังสร้างสีสันและแซวคู่รักที่เหลืออยู่ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผ่านไป 1 ชั่วโมง

"แม่เจ้า!! คุณพี่คะ จะจูบกันถึงปีหน้าเลยมั๊ยคะเนี่ย!!"

คู่รักทั้งสองยิ้มขำ ๆ แต่ก็ยังไม่ละออกจากกัน พิธีกรชายเลยแซวว่า

“เอ่อ น้องครับ จูบกันเสร็จแล้วโทรบอกพี่ด้วยนะครับพี่ตัวไปขอนอนก่อน”

“จะบ้าเหรออา เค้าจ้างเรามาทำงานนี้”

“อ่าวเหรอ..”

แต่สองหนุ่มก็ไม่สะท้านกับคำแซว นิธินเปลี่ยนอริยาบทมาโอบร่างได้สัดส่วนของอธิปพงศ์มาพักไว้ที่ข้อแขนคล้ายการเต้นลีลาศ และเขาก็ล้มหน้าลงไปจุมพิตกับคนรัก ทำให้เรียกเสียงฮือฮาจากคนรอบข้างไม่น้อย

"แอร๊ยยยยยย ใจเย็นๆๆ นะคะ คลามดาวน์ พลีส ค่ะคุณนิธิน จัสคิสค่ะ โอเค๊.."

“โอ๊ยย ใจหายใจคว่ำกันทีเดียวเลยนะ..ใจเย็น ๆ จ้ะ เลิกจูบเมื่อไหร่กลับไปทำที่บ้านก็ได้”

พิธีกรชายหน้าตี๋แซวคู่รักไปอย่างที่เห็น พวกเขามองไปยังนาฬิกาแล้วก็บอกว่า

“เอาล่ะ ตอนนี้เข้าสู่ชั่วโมงที่ 48 แล้ว สองวันกันแล้ว เค้าจูบกันมาสองวันแล้ว!!!”

เมื่อนิธินกับอธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็เริ่มสร้างจังหวะการจูบสุดท้าย จากที่เนิบนาบนุ่มนวล เปลี่ยนเป็นรุนแรงร้อนเร่ามากขึ้น จนมาผ่อนคลายลงใน 10 นาทีสุดท้าย เมื่อเขาเห็นว่าถึงแก่เวลาแล้ว ชายหนุ่มทั้งสองจึงค่อย ๆ ละออกจากกัน

คนทั้งสองส่งสัญญาณผ่านแววตาและความรู้สึกว่าควรจะหยุดได้แล้ว จึงแลกจูบสุดท้าย โดยที่

อธิปพงศ์กับนิธินค่อยๆดูดดุนริมฝีปากของกันและกันอย่างอ่อนหวาน ก่อนจะออกละจากกันอย่างเหนื่อยอ่อน

"และผู้ชนะของเราก็ทำสติถิไปได้ 48 ชั่วโมง 30 นาทีและ 45 วินาทีค่ะ!

  พิธีกรสาวอารมณ์ดีประกาศออกไปด้วยความตื่นเต้นดีใจไม่แพ้กัน ทีมงานทั้งหลายเข้ามาส่งขวดน้ำดื่มให้กับคนทั้งสองที่ดูอ่อนแรง ก่อนที่ทางผู้จัดจะเข้ามามอบรางวัลต่าง ๆ ให้กับผู้ชนะในวันนี้ กองทัพนักข่าวก็เข้ามาสัมภาสน์คู่รักอย่างใคร่รู้ เพราะทั้งสองคนได้ตกเป็นจุดสนใจของการแข่งขันครั้งนี้ จากการเสนอข่าวคู่รักผู้ชายที่เข้าแข่งขันจูบมาราทอนและสุดท้ายก็สามารถเป็นผู้ชนะคว้าเงินรางวัลหลักแสนไปครองได้ในที่สุด ชายหนุ่มทั้งสองให้สัมภาสน์กันเล็กน้อยและขอตัวกลับไปพักผ่อนเพราะว่าตอนนี้พวกเขารู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน...

 

“ทะเลเมืองไทยนี่สวยเนอะ”

 นิธินที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตบางเบากับกางเกงขาสั้นหันมาพูดกับอธิปพงศ์ที่มาด้วยกันอย่างมีความสุขขณะที่พวกเขาอยู่บนเรือเฟอรรี่ที่ทางรีสอร์ตจัดมารับพวกเขาที่ได้รางวัลชิ้นหนึ่งจากผู้สนับสนุนในการแข่งขันจูบมาราทอนเป็นห้องพักพร้อมอาหาร 3 วัน 2 คืน ที่รีสอร์ตหรูบนเกาะช้าง ชายหนุ่มทั้งสองจึงมาใช้บริการกับของรางวัลขึ้นนี้ในเดือนมีนาคม

“คุณชอบมั๊ยล่ะ..”

“ชอบสิ..” เขาหันมากุมมือคนรัก ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนเขาก็อยากให้อธิปพงศ์อยู่ด้วยกันข้างกาย

คนทั้งสองมองหน้ากันอย่างมีความสุข ก่อนจะทอดสายตาไปยังพื้นน้ำสีครามข้างหน้า และก็ถึงรีสอร์ตบนเกาะในเวลาไม่ช้า พวกเขาเข้าไปเช็กอินและนอนพักในห้องสวีทที่จัดไว้สักพัก ก่อนจะออกมาเล่นน้ำด้วยกันที่ชายหาดข้างนอกอย่างสนุกสนาน แดดสีส้มยามพระอาทิตย์กำลังจะตกดินอย่างนี้ ทำให้อธิปพงศ์หยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่ระหว่างเขากับคนรัก ที่อยู่ด้วยกันบนผืนทราย แต่นิธินให้พวกเขานั่งหันหน้าให้แสงก่อนจะค่อย ๆ มอบจูบให้กันและกันพร้อมกับนิธินที่เป็นคนกดลั่นชัตเตอร์..

 

  กรวัฒน์เปิด Instragram ของเพื่อนแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เขาหัวเราะออกมาที่เห็นรูปจูบริมหาดย้อนแสงแดดยามเย็น ตอนนี้เขาสามารถทำใจได้จริง ๆแล้ว และเดือนที่ผ่านมาเขาก็คอยลุ้นอยู่ห่าง ๆ ว่าเพื่อนจะสามารถจูบมาราทอนกันได้นานแค่ไหน ตอนนี้ในใจของชายหนุ่มคงจะเต็มไปด้วยความรู้สึกยินดีที่เห็นเพื่อนมีความสุขตามที่คิดได้จากธรรมมะของหลวงลุง

“ขออนุญาตครับ” นายทหารผู้น้อยกล่าวก่อนหยุดยืนตรงหน้าพร้อมกับทำความเคารพ

“ว่าไง”

 นายทหารยื่นแฟ้มงานให้ก่อนจะออกไป กรวัฒน์รับมาและมองไปยัข้างนอกที่เป็นค่ายทหารในหุบเขาในจังหวัดบ้านเกิน ชายหนุ่มอมยิ้มให้กับตัวเอง ตอนนี้เขาขอทุ่มเทกายใจให้กับการงาน และคิดว่าสักวันหนึ่งก็คงจะเป็นวันแห่งความรักของเขาบ้าง

 

  และเดือนเมษายนก็มาถึง อธิปพงศ์และนิธินเดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่ลพบุรีด้วยความคิดถึง แม้จะเพิ่งเจอกันในเดือนธันวาคมที่แล้วแต่ทุกคนในครอบครัวก็ยังรู้สึกคิดถึงและยังอยากที่จะพบหน้าและใช้เวลาอยู่ด้วยกัน

 "อ้าว หมูมาแล้ว"

เพียงแค่ได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาจอดหน้าบ้านในเวลาบ่ายแก่ของวันก่อนสงกรานต์ก็ทำให้แม่กับยายของอธิปพงศ์รู้ทันทีว่าลูกชายที่พวกเธอรอมาถึงแล้ว แม่กับยายจึงไม่รอช้าที่จะออกไปต้อนรับ

"แม่..ยาย"

อธิปพงศ์ยกมือไหว้และสวมกอดคนเป็นแม่อย่างคิดถึง ก่อนจะเข้าไปกอดยายแน่นๆ ให้ชื่นใจ

"สวัสดีครับ คุณยาย คุณแม่"

ทันทีที่เห็นหน้าแม่กับยายของคนรัก นิธินก็ยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ส่วนแม่กับยายยิ้มดีใจที่เห็นอธิปพงศ์กับคนรักกลับมาเยี่ยมอีกครั้ง

"หวัดดีจ้ะ คิดถึงจังเลย"

คนเป็นแม่ยิ้มให้คนรักของลูก โดยนิธินเองก็ตอบรับไปด้วยรอยยิ้มจากใจเช่นกัน

"ขอบคุณครับ"

"ป่ะ เข้าไปในบ้านกันดีกว่าจะได้คุยกัน"

 

  พวกเขาเดินตามแม่กับยายเข้าไปในบ้าน ก่อนจะขึ้นไปเก็บของและลงมาหาแม่กับยายอีกครั้ง ตกเย็นทุกคนในครอบครัวก็รับประทานอาหารด้วยกัน แม่กับยายดีใจนักที่เห็นว่าวันนี้ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง

“แมว..แหม..ยิ้มจนแก้มจะปริแล้ว” คนเป็นยายเอ่ยปากแซวแม่ของอธิปพงศ์ เพราะเห็นว่าเธอดูมีความสุขมากกว่าทุกวัน

“ก็หนูมีความสุขนี่แม่...แม่ไม่ดีใจเหรอที่เห็นหมูมากับนิธินแบบนี้”

“ดีใจซี่...” คนเป็นยายก็ยิ้ม “อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันซะทีนะลูกนะ อย่าได้พรากได้จากกันไปอีก”

“ขอบคุณครับคุณยาย” นิธินรับคำ พร้อมกับหันไปมองหน้าคนรักด้วยรอยยิ้ม พวกเขารับประทานอาหารกันต่อ บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่นและสุขใจของคนในครอบครัว

 

  วันต่อมาพวกเขาก็ได้ไปทำบุญที่วัดกับยายและแม่ โดยที่อธิปพงศ์ก็ได้อธิบายถึงความสำคัญของประเพณีนี้ให้นิธินฟังอย่างละเอียด ตกบ่าย เขากับนิธินก็ขอแม่และยายรดน้ำดำหัวเพื่อความเป็นศิริมงคลของตัวเอง พวกเขาใช้น้ำอบไทยผสมกับน้ำฝนที่มีดอกมะลิและกลีบกุหลาบตักใส่ขันเงินใบเล็กและรดลงที่มือของแม่และยาย ใบหน้าของแม่กับยายมีแต่รอยยิ้มยิ้นดีและมีความสุขที่ลูกหลานแสดงความรักในเทศกาลสงกรานต์นี้ โดยที่แม่และยายได้อวยพรแก่ชายหนุ่มทั้งสองหลังจากรดน้ำเสร็จแล้ว

“ยายดีใจนะ ที่วันนี้เห็นพวกเรากลับมาหายายเนี่ย และก็ดีใจที่เห็นไอ้หมูเป็นฝั่งเป็นฝากับเค้าซะที ขอให้ลูกหลานมีความสุขนะ มีสุขภาพแข็งแรง และก็นิธิน..ยายฝากไอ้หมูด้วยนะ อยู่กันไปนาน ๆ นะลูก”

“ขอบคุณครับ” นิธินยกมือไหว้คุณยายพร้อมกับคนรัก ส่วนแม่ก็หันมาบอกกับคนทั้งสองว่า

“แม่ก็ขอให้หมูกับนิธินมีสุขภาพแข็งแรง มีความสุข มีฐานะที่มั่นคง ครองรักกันไปนาน ๆ นะจ๊ะ”

“ครับแม่”

คู่รักยิ้มให้ผู้เป็นแม่ก่อนจะสวมกอดกันด้วยความรัก คนเป็นแม่ลูบศรีษะชายหนุ่มทั้งสองอย่างเอ็นดู เธอตื้นตันเล็กน้อยกับภาพความอบอุ่นของครอบครัวในวันนี้...

 

“ที่รักทำอะไรอยู่เหรอ...”

 นิธินวัยห้าสิบกลาง ๆ  ที่สวมชุดกรูตะสีขาวตามประสาชาวอินเดียที่มีอายุ กำลังดูรูปเก่า ๆ อยู่หน้าคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะเครื่องบางเฉียบ หันไปตามเสียงเรียกทางด้านหลังของอธิปพงศ์ในวัยเดียวกัน รูปร่างของพวกเขาไม่ได้อ้วนขึ้นหรือผอมลง มีเพียงผิวหนังที่ปรากฏริ้วรอยกับเส้นผมที่แซมขาวและแว่นสายตาที่พวกเขาสวมอยู่เท่านั้นบอกว่าเขากับคนรักมีวัยที่มากขึ้น พวกเขาตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายนี้ที่ลพบุรี โดยที่อธิปพงศ์กลับมาทำกิจการต้นไม้ต่อจากแม่และเปิดร้านตัดผมเป็นของตัวเองในศูนย์การค้าที่อยู่ห่างจากบ้านไปไม่ไกล และนิธินเองก็ยังทำงานด้าน IT อยู่และเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพฯบ้างเป็นบางครั้ง โดยที่อยู่ถาวรของพวกเขานั้น ชายหนุ่มเห็นตรงกันว่าให้ปล่อยเช่าจะได้ได้กำไรในระยะยาว

“ดูรูปน่ะครับ”

นิธินตอบรับพร้อมกับรอยยิ้มและรับแก้วชาอินเดียจากคนรัก

“รูปอะไรเหรอ”

“ตอนที่มาหาคุณแม่กับคุณยายไง”

อธิปพงศ์วางมือไปบนไหล่ของคนรักพร้อมกับหันไปมองรูปยายที่ล่วงลับบนฝาบ้าน และยิ้มให้แม่ผู้ชราตามวัยที่กำลังพับเสื้อผ้าอยู่อีกมุมหนึ่ง

“เออ นี่คุณกุ้งส่งรูปมาให้ดูด้วย”

“ไหน ๆ”

 อธิปพงศ์ตื่นเต้น เพราะได้รับข่าวคราวจากพี่กุ้งที่ย้ายไปเปิดร้านที่ต่างประเทศกับเพื่อนสนิท และได้พบรักกับชายหนุ่มชาวต่างชาติวัยเดียวกันที่นั่น เขาเปิดดูรูปที่พี่กุ้งส่งมาในโปรแกรมสังคมออนไลน์ ซึ่งประกอบไปด้วยรูปร้านของพี่กุ้งและรูปต่อมาที่พี่กุ้งถ่ายกับพี่จีจี้ในสถานที่ต่าง ๆ ของตัวเมือง ต่อจากนั้นก็เป็นรูปคู่กับคนรักตาน้ำข้าว อธิปพงศ์และนิธินดีใจที่ ได้รับการติดต่อไม่ขาดสายจากรุ่นพี่ที่เขาเคารพ

“เดี๋ยวต้องส่งให้ป๊อกกับหญิงดูแล้วล่ะ” อธิปพงศ์บอกยิ้ม ๆ ถึงรุ่นน้องทั้งสอง เมื่อพี่กุ้งตัดสินใจไปทำงานที่ต่างแดน จึงมอบร้านให้ป๊อกกี้ดูแลและมอบหุ้นให้รุ่นน้องทุกคนด้วย ป๊อกกี้และหญิงก็ยังทำงานที่ร้านเดิมในฐานะผู้ดูแลร้าน

 เสียงเครื่องยนต์ของรถแล่นเข้ามาในตัวบ้าน ทำให้อธิปพงศ์และนิธินออกไปดู ก็พบว่าเป็นกรวัฒน์ที่ตอนนี้มียศพลตรีได้แวะมาเยี่ยมพวกเขาในเวลานอกราชการแบบนี้ เขาลงจากรถมาพร้อมกับภรรยาที่อายุห่างกันรอบกว่า ๆ และลูกชายลูกสาววัยรุ่น ชายหนุ่มทั้งสามยิ้มให้กันก่อนที่ภรรยาของกรวัฒน์จะยกมือไหว้เพื่อนของสามีอย่างมีสัมมาคารวะ

“สวัสดีค่ะพี่หมู คุณนิธิน”

“ครับ” คนทั้งสองรับไหว้

“สวัสดีค่ะ ลุงหมู ลุงนิธิน”

“หวัดดีจ้ะเด็กๆ ป่ะเข้าบ้านกันก่อนนะ”

 

พวกเขาพาเพื่อนและครอบครัวเข้ามาในบ้านเพื่อพบปะกัน สักพักกรวัฒน์กับครอบครัวก็ขอตัวกลับ อธิปพงศ์กับนิธินที่ออกมาส่งหน้าบ้านกำลังจะเดินไปในโรงเพาะชำเพื่อทำงานอื่นต่อ แต่ก็ชะงักเมื่อคนรักคว้าข้อมือเขาไว้

“มีอะไรเหรอ...”

นิธินส่ายหน้ายิ้ม ๆ พร้อมกับกุมมือเขาอย่างเช่นทุกวันที่แบ่งบันกันมาไม่ขาด อธิปพงศ์ยิ้มตอบและบีบมือคนรักกลับก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านด้วยกันพร้อมความรู้สึกที่อบอุ่นในหัวใจ..


The End




ขอบคุณคุณผู้อ่านทุกท่านมากนะคะที่คอยติดตามและให้กำลังใจพี่หมูกับคุณนิธินมาโดยตลอด และก็ให้กำลังใจคนเขียนคนนี้ด้วย เจอกันเรื่องหน้าค่ะ สวัสดีค่ะ

ปล.จบแล้วมาคุยกันค่ะ คำถามเดิมที่คนเขียนชอบถามผู้อ่านว่า
1.คุณผู้อ่านชอบตัวละครใดมากที่สุดในเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจนี้คะ?
2.คุณผู้อ่านชอบหรือประทับใจฉากไหนหรือตอนไหนในเรื่องบ้างคะ?
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 13-04-2012 18:10:59
เวลาผ่านไปหนึ่งปี ความรักของหมูกับนิธินยังคงหวานเหมือนเดิม
คืนนี้คงได้ฉลองวันครบรอบกันอย่างมีความสุขเนอะ

น้ำพริกจ๋า..."ฝีที่กัดหนองอยู่"... ต้อง  เป็น "ฝีที่กลัดหนองอยู่"  "กลัด" จ้ะ


เรียบร้อยแล้วค่ะอาจารย์ ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: mellowshroom ที่ 13-04-2012 18:38:01
 :z13:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PetitDragon ที่ 13-04-2012 19:05:09
1.คุณผู้อ่านชอบตัวละครใดมากที่สุดในเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจนี้คะ?

   ชอบนิธิน...เพราะ 1. หื่น  2. ดูแล้ว เป็นคนที่รักใครแล้วรักจริง

2.คุณผู้อ่านชอบหรือประทับใจฉากไหนหรือตอนไหนในเรื่องบ้างคะ?

ฉากที่นิธินกลับมาจากดูไบครับ
 
'.....อธิปพงศ์ที่กำลังจะลงสีผมให้ลูกค้าถึงกับชะงักเมื่อเห็นเงาของคนรักที่อยู่ด้านหลังในกระจก นิธินนั้นยิ้มให้เขาอย่างอบอุ่นเช่นเคย เพียงแค่นั้นช่างผมหนุ่มถึงกับตกใจจนปล่อยถ้วยน้ำยากับแปรงในมือร่วง เขารีบหันหลังไปมองก็พบว่าร่างใหญ่ในเสื้อสูทนั้น กำลังมองมาที่และยิ้มให้อย่างดีใจเช่นกัน

  อธิปพงศ์มองหน้าคนรักทั้งน้ำตาและเข้าไปสวมกอดร่างใหญ่นั้นด้วยความรักและคิดถึง นิธินเองก็กอดคนรักแน่นเช่นเดียวกัน อธิปพงศ์กอดรัดร่างกายอุ่น ๆ นั้นและบอกตัวเองว่าเขาไม่ได้ฝันไป  ทุกคนในร้านมองภาพนั้นด้วยความปิติยินดี บางคนก็หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความซาบซึ้ง โดยเฉพาะป๊อกกี้กับหญิงหรือแม้แต่พี่กุ้งเองก็ตาม

“ผมกลับมาแล้ว” นิธินกระซิบข้างหูพร้อมกับโอบกอดอธิปพงศ์ไว้แน่น เขารับรู้ได้ว่าตอนนี้อธิปพงศ์ตัวสั่นมากแค่ไหนในอ้อมแขน เขาละออกมาเพื่อมองหน้าคนรักอีกครั้งพร้อมกับจรดปลายจมูกเบา ๆ บนหน้าผากอย่างแสนรัก อธิปพงศ์ยิ้มทั้งน้ำตาและสวมกอดนิธินอีกครั้งด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต '


 :กอด1:


เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอบอุ่นมากจริงๆ

ขอบคุณนะครับ

 o13
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: yeyong ที่ 13-04-2012 20:14:44
จบลงด้วยความสุข อิ่มเอมใจ
อ่านแล้วทำให้อยากมีความรักบ้าง  ฮิ้วววว
ตอบคำถามค่ะ
1.ชอบคุณหมูค่ะ เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการตั้งแต่ชายแท้ จนเป็นเคะแท้  555  เป็นคนที่มีอารมณ์แสดงให้เห็นชัดเจน โดยเฉพาะตอนหึง ชอบมาก ตาจิกดีแท้
2. ฉากที่ชอบที่สุด ขอลอกคำตอบคุณ PetitDragon # 576 ค่ะ
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 13-04-2012 20:29:15
ชอบทุกตัวละคร แต่ฉากที่ชอบที่สุดต้อง ตอนคุณหมูลองชุดว่ายน้ำคร้าบ หุหุหุ
ขอบคุณคนเขียนนะครับ พล็อตดี อบอุ่น เริ่ม และ จบตรงกับเทศกาลได้อย่างน่าประทับใจ เราเลยยิ่งรู้สึกมีส่วนร่วมไปกันใหญ่
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 13-04-2012 20:46:02
จบไปอย่างสวยงาม :L1:

ตอบจ้า1.ชอบทุกตัวละครเลยเพราะแต่ละตัวมีความสำคัญด้วยกันทั้งนั้น
          2.ชอบตอนที่นิธินกลับมาจากดูไบมันให้ความอบอุ่นแบบหวานๆ

กดบวกเป็ดเน้อ
และ :pig4:สำหรับนิยายที่น่ารักนี้
จะรออ่านเรื่องต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: shipshape ที่ 13-04-2012 21:05:29
เข้ามาอ่านรวดตอนก่อน ๆ ด้วย  :L1:
จบซะแล้ววววววว สนุกมากเลยค่ะ
ขอตอบคำถามบ้างแล้วกัน (หัวเราะ)
1.คุณผู้อ่านชอบตัวละครใดมากที่สุดในเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจนี้คะ?
- เลือกไม่ถูกแฮะ ชอบทั้งพี่หมู และ นิธินเลยค่ะ
2.คุณผู้อ่านชอบหรือประทับใจฉากไหนหรือตอนไหนในเรื่องบ้างคะ?
- ประทับใจตอนที่นิธินไปทำงานที่ดูไบค่ะ ชอบตอนนี้ที่สุดเลย เหมือนเป็นบททดสอบของความรักของทั้งคู่ด้วยค่ะ
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 13-04-2012 22:04:15
สำหรับตอนจบอ่านแล้วมีความสุขมาก อยากอ่านตอนพิเศษ
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆ อีกหนึ่งเรื่อง :L2: :L2:
ชอบทุกคน ชอบนิธินมากที่สุด จริงใจ ชัดเจน
ชอบฉากดูไบเช่นกัน คนอ่านเป็นพวก sensitive อ่านแล้วน้ำตาซึม
แอบทวงตอนพิเศษวันสงกรานต์น้องพี นายแจ๊ค  :call:
+1 +เป็ด
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 13-04-2012 22:13:23
1.ชอบคุณเขียวดูเธอเป็นที่ปรึกษาที่ดี..เข้าใจคู่รักคู่นี้ แบบชอบอ่ะ 55
2.ชอบฉากพบพ่อแม่แต่ละฝ่าย โดยตอนที่คุณพ่อคุณแม่นิธินบุกรังรัก(ฮา)
แล้วก็ตอนล่าสุดนี่แบบ...จูบไปได้ไงเนี่ย แอร๊ยยยยยย -///////-

ชอบเรื่องนี้เพราะมันอบอุ่น
 :L2:
แด่คนเขียน
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 14-04-2012 09:10:23
กำลังอิ่มใจ ขอบคุณสำหรับคำมาม อุ้ย! จะกลายร่างเป็นนางง้ามนางงามอีกแล้วฉัน แปะคำตอบไว้ก่อนนะคะที่รัก เอาไว้เจอคอมก่อน 555
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: aoommy ที่ 14-04-2012 09:33:54
จบซะแล้ว รักเรื่องนี้มากเลย ชอบตัวละครแบบหมูแหะ คือตอนแรกก็เป็นชายแท้ๆ แต่แบบไหงมาชอบและรักชายแบบนิธิน แถมเป็นรับซะด้วย คือมันเป็นอะไรที่ต้องปรับตัวมากไง แต่คนเขียนก็ค่อยๆใส่ลักษณะ กิริยา เหตุผล เหตุการณ์ต่างๆ จนเราเชื่อได้ และก็เป็นหมูตัวละครเคะที่เราชอบมากหุหุหุ นิธินก็ชอบนะ มั่นคงดี
ฉากที่ชอบ เป็นช่วงแรกที่สองคนนี้เริ่มจีบกัน ตอนไปพาหุรัด ตอนทานอาหารอินเดีย เราชอบหมด  :impress2:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 14-04-2012 11:16:47
พี่หมูจบแล้ววววววววว
 o7
แวะมาคอมเมนท์ที่เล้าอีกสักรอบเพราะในเฟซมันไม่สะใจค่ะ 5555

1.คุณผู้อ่านชอบตัวละครใดมากที่สุดในเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจนี้คะ?
- อย่างที่เคยบอกว่าเราชอบพี่หมูมาก เพราะพี่หมูน่ารักนั่นคือเหตุผลหลัก
อีกอย่างคือพี่หมูเปิดกว้างให้กับตัวเอง เพราะไม่ยึดตึดกับการที่คนทั่วไปคิดว่าผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิง
พี่หมูรับได้ที่ตัวเองจะต้องเปลี่ยนจากการเป็นผู้ชายแท้ๆมาเป็นเกย์ แถมยังเป็นฝ่ายรับด้วยนี่สิ
ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งการหึงหวงคุณนิธิณ พี่หมูทำแล้วแทนที่จะน่าหมั่นไส้กลับดูน่ารักซะแทน
ทุกอย่างเกิดจากความรักอย่างเดียวเลย

2.คุณผู้อ่านชอบหรือประทับใจฉากไหนหรือตอนไหนในเรื่องบ้างคะ?
- ส่วนฉากที่ชอบก็เป็นตอนที่คุณนิธิณกลับมาจากดูไบนั่นแหละค่ะ
อ่านแล้วมีความสุข ซาบซึ้งกับหัวใจที่แน่วแน่ของทั้งสองคน
และมันก็เป็นจุดพีคที่สุดของเรื่องแล้วด้วย เลยชอบมากเป็นพิเศษค่ะ

สุดท้ายก็ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดาอีกครั้งค่ะ
ถึงเราจะไม่ได้ติดตามพี่หมูตั้งแต่ตอนแรก
แต่เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่จะอยู่ในใจของเราตลอดไปค่ะ
ขอบคุณค่ะ
 :pig4: :bye2:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: roseen ที่ 14-04-2012 15:04:20
ชอบทั้งสองคน ที่เข้าใจคำว่ารัก มีกันและกัน

ไม่ว่าการรอคอย  สุขหรือทุกข์ที่มีร่วมกันเสมอ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 14-04-2012 17:38:35
ขอบคุณนิยายดี ๆอ่านแล้วรู้สึกดีตั้งแต่ต้นจนจบ
ถามว่าชอบใครมากสุดชอบนิธินสุดเลยทั้งบุคลิกนิสัยใจคออบอุ่นดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคุณหมูอีกนะทั้งที่อายุเท่ากัน
ส่วนฉากที่ชอบสุดก็ต้องเป็นฉากที่กลับบ้านไปหาแม่กับยายทุกครั้งที่อ่านฉากนี้จะชอบมากเลยมันดูอบอุ่นมาก ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: kakuro ที่ 15-04-2012 11:08:02
ขอบคุณคุณน้ำพริกแมงดา :L2:
จบได้ประทับใจมาก ชอบเรื่องนี้จัง
1.คุณผู้อ่านชอบตัวละครใดมากที่สุดในเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจนี้คะ?
ชอบทุกตัวละคร ลงตัวดี ชอบนิธินมากที่สุด ชัดเจน ซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง ใจเย็น  มีวุฒิภาวะทางอารมณ์สมวัย จัดการปัญหาต่างๆได้ดี มั่นคงกับความรัก ในชีวิตจริงอาจไม่มีคนอย่างนิธิน แต่การถ่ายทอดบุคลิกและความรู้สึกนึกคิดของคุณน้ำพริกแมงดาผ่านตัวละครอย่างนิธินทำให้เห็นมุมมองเรื่องต่างๆในด้านดี ชอบสุดก็ตอนจัดการกับอาการหึงโหดของอธิปพงศ์
2.คุณผู้อ่านชอบหรือประทับใจฉากไหนหรือตอนไหนในเรื่องบ้างคะ?
ชอบทุกฉาก ได้รู้ไรหลายอย่างเกี่ยวกับอินเดีย ฉากนิธินกลับจากดูไบมาหาอธิปพงศ์ที่ร้านชอบสุด กำลังเศร้าแล้วก็ดีใจขึ้นมาทันที การรอคอยสิ้นสุดลง ทั้งคู่ผ่านบททดสอบของความรักแล้ว ฉากอธิปพงศ์สารภาพรักนิธินที่ร้านก็ชอบ รักคือรัก ความรู้สึกดีดีของคนสองคนที่มีให้กัน o13
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Cynthia_Moonlight ที่ 16-04-2012 00:09:27
จบแล้ววววว อ่านแล้วมีความสุขมากๆ เลยเชียวล่ะ ดีใจที่พี่หมูกับนิธินมีความสุขกับชีวิตคู่ ดีใจอีกประการหนึ่งกับนายอ๊อฟด้วย ในที่สุดก็พบความสุขจริงๆ เสียที ขอบคุณน้ำพริกแมงดาสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ ^_^

มาตอบคำถามบ้างดีกว่า...

1.ชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุด? ขอตอบว่าพ่อพระเอกของเราเลยค่ะ 'นิธิน' นั่นเอง อิอิ ที่ชอบมากที่สุดก็เพราะอุปนิสัยและการแสดงออกค่ะ ดูเป็นคนที่อบอุ่นมากๆ มีความจริงใจและชัดเจนในการแสดงออก ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยว่าจะแอบโอนเอนไปหาใคร มั่นคงดีมาก ยิ่งตอนที่ไปดูไบ แล้วมีผู้หญิงมาด้อมๆ มองๆ ได้ใจไปเลยกับการแสดงออกที่ชัดเจนมากๆ ของเจ้าตัว สรุปแล้วอิจฉาพี่หมูค่ะ อยากได้แบบนี้ซักคน อิอิ


2.ประทับใจฉากไหน? ขอเป็นฉากที่พี่หมูกับนิธินต้องห่างกันก็แล้วกันค่ะ สื่ออารมณ์ได้ดีเยี่ยม เป็นอะไรที่หน่วงหัวใจมาก อินจัด สงสารสุดๆ พอได้พบกันอีกก็ซึ้งเลย ดีใจกับทั้งคู่มากๆ^^


รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ^^
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 17-04-2012 21:09:47
 :o8:จบแบบนี้มีความสุขจังอิอิชอบมากเลยอะ :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 18-04-2012 15:13:18
รู้สึกเสียดายค่ะ ที่มาอ่านไม่ทันเรื่องนี้ถ่ายทอดสด
อ่านแล้วชอบสำนวน ภาษาที่ใช้จัง มันสละสลวย บรรยายบรรยากาศต่างๆดี
ยิ่งตอนเป็นเรื่องของวัฒนธรรมที่เราไม่คุ้นเคยแล้ว
ขอชื่นชมคนเขียนค่ะ ว่าทำการบ้านได้ดีมากๆ  :L2:
เคยอ่านเรื่องน้องพีร์กับแจ๊คแล้ว ความเห็นส่วนตัวรู้สึกว่า คนเขียนพัฒนาฝีมือการเขียนดีขึ้นมากจริงๆ (อย่าโกรธเค้านะ)
ต่อไปนี้จะเป็นนักเขียนอีกคนที่จะติดตามผลงานค่ะ
ขอบคุณที่เขียนเรื่องรักดีๆอบอุ่นหัวใจมาให้อ่านกันนะคะ
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 18-04-2012 18:09:36
จบแบบอบอุ่นหัวใจเลย ดีใจที่ทั้งคู่เป็นที่ยอมรับของครอบครัวและเพื่อนๆ
ส่วนคำถามขอตอบ
1. ชอบนิธิน ที่มุ่งมั่นรักอธิปพงศ์ไม่เปลี่ยนใจแถมยังคอยห่วงใยตลอดเวลา
2. ตอนที่ทั้งคู่ต้องห่างกันและได้กลับมาพบกัน ซึ้งใจตอนนั้นมากเลย

ขอขอบคุณคนแต่งด้วยนะค่ะ
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 19-04-2012 14:22:00
อ่านแล้วอบอุ่นมากจริงๆค่ะ ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-04-2012 17:28:41
จบลงไปพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่น :กอด1:
ขอให้ความรักของหมูกับนิธินอยู่ยืนเป็นหมื่นปี  :jul3:
สำหรับคำตอบของคำถาม
1 ชอบสองคนได้ไหมอ่ะ ชอบหมูกับนิธินนี่แหละค่ะ เพราะสองคนมีความรักที่มั่นคงต่อกันมากๆ และหล่อทั้งคู่ :laugh:
2 ชอบทุกตอนได้ไหมอ่ะ ถึงแม้จะเป็นตอนที่สองคนนี้อยู่ไกลกัน แต่หัวใจทั้งคู่ก็ยังอยู่ด้วยกันเสมอ คนอ่านก็พลอยรู้สึกอบอุ่นไปด้วย :o8:
ช่างเป็นคำตอบที่ไร้เหตุผลเสียจริงๆ :z3:
หัวข้อ: Re: ตอบจบ-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(13/4/2555)
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 19-04-2012 21:28:58
สวัสดีค่ะ วันนี้เข้ามาขอบคุณคุณผู้อ่านอีกครั้งสำหรับความผูกพันธ์ที่มีให้กับนิยายเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจนี้  คนเขียนขอใช้พื้นที่ตรงนี้แสดงความรู้สึกในใจสักหน่อยนะคะ อย่างแรกก็ชอขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นและคำติชมที่มอบให้ คนเขียนก็ดีใจค่ะที่มีคุณผู้อ่านให้การติดตามและเห็นพัฒนาการของคนเขียน คนเขียนเองก็ดีใจค่ะตัวเองมีวันที่โตขึ้นเหมือนสถานะของไข่เป็ดที่กลายเป็นลูกเป็ด^^
  นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่คนเขียนตั้งใจจะสลัดกลิ่นอายความเป็นคนไทยเสื้อสายจีนจากงานเขียนของตัวเองให้หมดจด เพราะจากเรื่องที่ผ่านมาทั้งสองเรื่องคือเด็กฝึกงานและแอบมองนายหน้าหวานนั้นก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคนไทยเชื้อสายจีนเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องเด็กฝึกงานที่ทุกตัวละครหลักและรองที่สำคัญในเรื่องเป็นชาวไทยเชื้อสายจีนหมดเลยโดยที่คนเขียนไม่ได้ตั้งใจ หรือ เรื่องแอบมองนายหน้าหวานที่คนเขียนก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้มีความเป็นจีนเหมือนกันนะคะ ดังนั้น นิยายเรื่องนี้จึงเป็นนิยายที่คนเขียนตั้งใจจะพาคนอ่านไปอยู่ในอีกบรรยากาศหนึ่งที่คนเขียนเองก็คิดว่าคุณผู้อ่านคงจะมีความสุขไม่แพ้เรื่องก่อนๆ เช่นกันค่ะ
 เมื่ออ่านนิยายจบ คนเขียนเชื่อว่าคนอ่านหลายคนคงมีความสุขและก็มีคำถามในชีวิตคู่ของผู้ชายว่าในชีวิตจริงจะมีคู่รักแบบนี้ได้จริงหรือ อันนี้คนเขียนก็ไม่รู้ว่ามีมากหรือน้อยนะคะ แต่คิดว่ามีแน่นอน โดยคนเขียนพยายามสังเกตคู่รักที่รักกันแบบนี้(ที่รู้จัก ไม่ว่าจะคู่ชายหญิง หรือ ชายชาย) ว่าเขามีทัศนคติและวิธีการครองคู่อย่างไร อันที่จริงคนเขียนก็ยังมีแนวคิดแบบเรื่องนายโจ้กับคุณอู๋ล่ะค่ะ ที่อยากจะนำเสนอเรื่องดีๆ ที่อยู่บนความเป็นจริงมาดัดแปลงให้คนอ่านได้รับรู้ในรูปแบบของนิยาย  อยากให้คนอ่านอ่านแล้วมีความสุขและมีความหวังกับชีวิตเมื่ออ่านนิยายเรื่องนี้ค่ะ

ขอบคุณทุกคนมากนะคะ คนเขียนขอพักสักแป๊ก เจอกันเรื่องหน้าค่ะ

 เอ้อ อีกเรื่องที่สำคัญค่ะ ….

สำหรับเรื่องหน้ารบกวนคนอ่านช่วยโหวตหน่อยนะคะ ว่าคนเขียนควรจะเขียนเรื่องใหม่ หรือ เขียนภาคต่อของน้องพีร์กับเฮียแจ๊คดี รวบกวนผู้อ่านช่วยโหวตหน่อยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ สวัสดีค่ะ...



หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: choijiin ที่ 19-04-2012 21:50:05
มาร่วมโหวตด้วยค่ะ
เราอยากให้คุณน้ำพริกแมงดาเริ่มเรื่องใหม่
(คงไม่โดนแฟนคลับน้องพีร์ดักตบนะคะ  :m23:)
ถือเป็นการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ
เป็นแค่ความคิดของเราเฉยๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-04-2012 22:17:59
เป็นนิยายอีกหนึ่งเรื่องที่น่ารัก ขอบคุณมากนะคะที่แต่งเรื่องสนุกๆ มาให้อ่านตลอดเลย

ยกมือสนับสนุนคุณ choijiin อีกหนึ่งเสียงค่ะ
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 20-04-2012 13:01:08
โหวตด้วย
เรื่องใหม่ก็ดีนะได้ลุ้นใหม่
แต่น้องพีร์เฮียแจ็ค
ก็อยากอ่านอ่ะ
แล้วแต่คนเขียน
แล้วกันเนอะ
อ่านได้หมดแหละจ้า :L1:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: Horizon ที่ 20-04-2012 13:14:53
ไม่โลภน้อย แต่ขออ่านทั้งสองแบบ
+1
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: andy_kwan ที่ 20-04-2012 15:16:30
ขอสอง  เพราะเป็นคนขี้โลภ  555
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 20-04-2012 17:46:00
 :-[ :-[ ชอบมากชอบทั้งคู่เลยค่ะ มั่นคงกันดี

รักเรื่องนี้ที่สุด :กอด1:

+1
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: Salome ที่ 21-04-2012 09:29:08
อยากให้เริ่มเรื่องใหม่ค่ะ
สำหรับเราในฐานะคนอ่านคนหนึ่ง รู้สึกว่าเรื่องน้องพีร์จบแล้วอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่ถ้าจะมีตอนพิเศษให้หายคิดถึงเป็นระยะ ก็มีความสุขที่จะได้อ่านค่ะ  :L2:

ป๋อหลอ ..  แอบสารภาพกับคนเขียนอีกเรื่อง เค้าเพิ่งเห็นว่าคนเขียนเขียนเรื่อง Beep ชอบคู่นี้มากเลย เรื่องก็ดี สนุก
อ่านตั้งแต่ยังไม่ได้สมัครสมาชิก เข้ามาในเล้าใหม่ๆเลยละ อ่านไปลุ้นไป สงสารคุณอู๋ แต่สุดท้ายก็ดีใจที่สมหวังกับคนที่รักจริง
ส่วนตัวเชื่อเรื่องชีวิตคู่ที่อยู่กันยืนยาวระหว่างเพศเดียวกันค่ะ เพราะคนที่รู้จักมีอยู่หลายคู่ 
เชื่อว่าความรักไม่ว่าจะเพศอะไรถ้าไม่มีความเข้าใจ ให้อภัยซึ่งกันและกัน หวังอยากจะให้อีกฝ่ายเข้าใจแต่ตัวเอง ก็ไม่รอดค่ะ




หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: chen ที่ 21-04-2012 10:04:23
เรื่องนี้ชอบพี่หมู เพราะมีอารมณ์หลากหลายอ่ะ เหมือนมีชีวิตจริงๆเลย โดยเฉพาะอาการหึงเนี่ย น่ารักอ๊ะ
ฉากชอบฉากสุดท้าย แม้จะแก่เฒ่าเค้าก็ยังหวานอยู่ด้วยกัน
อยากอ่านเรื่องใหม่ค่ะ แต่ถ้าจะมีตอนพิเศษน้องพีร์กะเฮียเเจ๊ค หรือของคุณอู๋กะนายยาน ก็ยินดียิ่งค่ะ...
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: you13 ที่ 21-04-2012 12:07:30
กอดๆๆๆๆ
จบแล้ว  อบอุ่นที่สุด

โหวตเรื่องใหม่ค่ะ
รอติดตามเรื่องใหม่น่ะค่ะ
:กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ(ชวนโหวตเรื่องหน้า)
เริ่มหัวข้อโดย: inspirer_bear ที่ 22-04-2012 11:10:38
น่ารักมากเลยอ่าาา

ชอบมากก นั่งอ่านจนจบเลยย

คุณหมูหึงได้ดุมาก
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 05-05-2012 19:51:27
ตอบบไม่ถูก ชอบคาแรกเตอร์นิธินนะ อบอุ่นดี ส่วนประทับใจตอนไหน หมดเลยง่ะ เรื่องนี้เขียนได้อบอุ่นมากจ้า ชอบๆ

รอตอนพิเศษค๊า
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: aezac ที่ 07-05-2012 18:26:46
เก่งอ่ะ  แบบว่าอินโคตร

 :L2: :L2: :L2:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: reborn ที่ 11-05-2012 01:11:03
น่ารักอ่านแล้วมีความสุข พระเอกหื่น 555
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ott1212 ที่ 11-05-2012 04:03:36
กว่าจะอ่านจบหลายวันเหมือนกัน

คุณคนเขียน เขียนพัฒนาขึ้นนะ

ไม่รู้ว่ารู้สึกไปเองหรือปล่าว

แต่การเขียนตอนท้ายหลังจากไม่สบาย

เขียนได้ดีขึ้น หรือวิธีการเขียนจะต่างออกไป

เป็นเรื่องเรียบง่ายของความรัก มีสีสันบ้าง

ไม่ถึงกับน้ำตาท่วม แต่แค่นี้ก็พอแล้ว

ชอบแบบจบมีความสุข อยู่กันจนแก่แบบนี้... :3123:

คำถามเหรอ......

ข้อ 1....  ชอบนิธินะ ดูเป็นผู้ชายอบอุ่น ไม่คิดมาก

ไม่ซับซ้อน ไม่วุ่นวาย เป็นคนมุ่งมั่น มั่นคง และชัดเจน

สม่ำเสมอกับความรักดี..แบบนี้..ชีวิตจริง...หายาก......

ข้อ 2....  ชอบฉากที่เปิดประตูมาแล้วเจอโซฟากลางห้องนะ

เป็นความรู้สึกของคนที่เหมือนพยายามตัดใจ...แต่ก็ยังมีอะไรติดอยู่ในใจ

แต่พอที่เห็นของที่อยากได้มาอยู่ในห้องแบบไม่รู้ล่วงหน้าแบบนี้.........

เป็นความสุข...ที่รู้ว่า...คนรักใส่ใจกับความรู้สึกของตัวเอง......

 :L1:...ขอบคุณที่เขียนเรื่องสนุกๆ ให้อ่าน จะติดตามผลงานต่อไป

จะค่อยฟังข่าวเรื่องใหม่ๆ และจะไปตามอ่านเรื่องเก่าๆ ก่อน.. :L2:

หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: P-o-r-m-u-h-M ที่ 11-05-2012 06:24:32
นั่งตาแฉะตามอ่านมาทั้งคืน สนุกมากๆเลยครับผม

คนเขียนมีความรู้เยอะมากๆ ชื่นชมจังเลยครับ

ขอบคุณครับผม  :pig4:

** อ่านตอนที่ไปลพบุรีแล้วคิดถึงบ้าน  :monkeysad:
ร้านน้ำปั่นได้ลงนิยายด้วยดังจริงๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ninkara ที่ 14-05-2012 16:46:50
อ่านแล้ว...น่ารักมากๆๆๆเลย

คิดถึงบ้านเกิด เลยทีเดียว ^^

นั่งอ่านไปอมยิ้มไปมีความสุขมากเลยค่ะ  o13

ขอบคุณนะคะ :กอด1: :L2: :L2:

หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: FanJKi ที่ 28-05-2012 20:28:45
ตามทันละ  เรื่องน่ารักสนุกดีค่ะ   :pig4: 

รอเรื่องใหม่นะค่ะ  :L2:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: CarToonMiZa ที่ 07-06-2012 20:30:33
เข้ามาอ่านอีกรอบ
คิดถึงคุณน้ำพริกแมงดา
ยังคงความอบอุ่นได้ไม่
เสื่อมคลาย :L1:

ปูลู. ยังรอเรื่องใหม่อยู่น๊า
ว่างเมื่อไหร่ก้อส่งคราวบ้าง
ว่ายังสบายดี
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 08-06-2012 21:49:09
เข้ามาอ่านอีกรอบ
คิดถึงคุณน้ำพริกแมงดา
ยังคงความอบอุ่นได้ไม่
เสื่อมคลาย :L1:

ปูลู. ยังรอเรื่องใหม่อยู่น๊า
ว่างเมื่อไหร่ก้อส่งคราวบ้าง
ว่ายังสบายดี

ขอบคุณมากๆๆๆๆ เลยค่ะ ความจริงตอนนี้ก็มีเรื่องใหม่(ชาย-หญิง)เป็นฟิคชั่นไม่กี่ตอนจบออนไลน์ในเฟชบุ๊คของน้ำพริกแมงดานะคะ(และมีฟิควายเรื่องเก่าที่จบแล้ว) ติดตามกันได้ค่า
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 14-06-2012 17:03:21
มีตอนพิเศษสั้น ๆ ของเรื่องนี้นะคะ

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=33533.new#new
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: SOBANG✖ ที่ 15-06-2012 23:28:31
เลือกคนเดียวไม่ได้ ขอเลือกทั้งคู่เลยนะคะ ^^

ทั้ง นิธินและพี่หมู ^^ ให้เลือกรักใครสักคนคงทำใจไม่ได้จริงๆ >.<

ส่วนฉากที่ชอบ สวยชอบฉากที่พี่หมูได้ยินลูกค้าคุยกับพี่กุ้งเรื่องคนอินเดียแล้วก็เลยเอาเรื่องนั้นมาคิด
และเอามาลองใจนิธิน

ที่ชอบฉากนี้เพราะว่า นิธินทำให้สวยรับรู้ถึงความรัก ความเอาใจใส่ และการคิดถึงคนที่ตัวเองรักมากกว่าตัวเองเสมอ

ฉากนี้เลยเรียกความรู้สึกหลายๆอย่างที่ผ่านมาหลายๆตอนให้มารวมกันอีกครั้งคะ >.<

(จริงๆ ชอบฉาก NC ตอนกางเกงว่ายน้ำสุดคะ 5555) ขออีกได้ไหมคะ >.<
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: IIMisssoMII ที่ 23-06-2012 10:16:58
สนุก อบอุ่น
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: chatori ที่ 03-07-2012 00:08:15
สนุกมาก อบอุ่นที่สุด!
ชอบนิธินจัง เป็นผู้ชายที่อบอุ่นดี
หมูก็น่ารัก ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 23-12-2012 21:37:54
อุ่นไปกับความรักของพี่หมู พ่ีนิธินมากๆเลยคะ  :-[

ชื่นชอบทั้งหมูและนิธิน จ๊ะ
ชอบบรรยากาศความรักแบบผู้ใหญ่ ไว้ใจ เชื่อใจ เรื่องราวก็มีเหตุผลที่มาที่ไป
อุ่นไปกับเพื่อนๆของทั้งคู่ที่คอยเป็นกำลังใจให้

สนุกมากๆเลย ขอบคุณนักเขียนนะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 27-12-2012 20:24:42
อ่านจนจบแล้ว :mc4:

อิ่มใจขอรับ :L1:

รักทน รักนาน

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆขอรับ :L2:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: venamama ที่ 31-12-2012 19:39:32
ชอบมากๆ.  o13 ทุกตอนเลย. อ่านแล้วสบายใจ ไม่เครียดเกินไป :man1:
ขอบคุณมากๆเลย... :กอด1:
 :bye2:
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 20-07-2013 20:14:31
กลับมาอ่านเพราะคิดถึงพี่หมูกับนิธิน คู่นี้เค้ารักทะนุถนอมความรักกันได้อบอุ่น และมั่นคงในการรอคอยมาก  :mew3:

บทจะ so hot คนอ่านก็สลบกันไปเป็นแถบๆ 555


หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: NIMME ที่ 03-08-2013 16:43:44
เป็นเรื่องที่อบอุ่นมากอ่ะ ฟินนนนนน
ชอบแบบนี้รักกันมั่นคง  o13
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: babimild1985 ที่ 03-08-2013 20:00:43
เฮ้อออ เป็นรักที่ละมุนมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-08-2013 00:52:45
ขอบคุณสำหรับนิยาย อ่านแล้วอบอุ่นใจดีจัง
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-12-2013 14:28:10
น่ารักเนอะทั้งคู่

มาอ่านอีกรอบอิอิ
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nanazaa002 ที่ 06-12-2013 15:51:14
เดี๋ยวกลับมาอ่าน จิ้มไว้
หัวข้อ: Re: END-Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Missmu ที่ 13-02-2017 18:58:27
 :ling1:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 14-02-2017 01:09:35

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านที่รักค่ะ


ขออนุญาตแจ้งข่าวดีให้ทราบนะคะตอนนี้ นิยายเรื่องแบ่งรักให้อุ่นใจที่คุณผู้อ่านประทับใจได้รับการทาบทามไปตีพิมพ์เป็นหนังสือสำหรับจำหน่ายโดยสำนักพิมฟาไฉค่ะ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินงานปรับแก้ต้นฉบับนะคะ ติดตามรายละเอียดที่เพจ chilli writer ในเฟซบุ๊คได้เลยค่ะ ขอบคุณสำหรับความรักที่มอบให้นะคะ สุขสันต์วันวาเลนไทน์ค่า
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 17-02-2017 02:46:21
แปะไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Carnival ที่ 19-02-2017 18:17:41
เค้าจีบกันน่ารักจัง เราสนใจวัฒนธรรมของอินเดียด้วยมันดูมีมนต์ขลัง :-[
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Missmu ที่ 27-02-2017 03:02:22
อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ  :serius2:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 28-02-2017 22:59:28
อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ  :serius2:


มีในเพจนะคะ เดี๋ยวผู้เขียนจะกลับไปทำ #ตอนพิเศษ ให้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ปล.ในหนังสือก็มีตอนพิเศษนะคะ คริๆ
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Missmu ที่ 01-03-2017 15:35:14
อยากอ่านตอนพิเศษค่ะ  :serius2:


มีในเพจนะคะ เดี๋ยวผู้เขียนจะกลับไปทำ #ตอนพิเศษ ให้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ

ปล.ในหนังสือก็มีตอนพิเศษนะคะ คริๆ

จะรอค่าาา  o13
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ♥►MAGNOLIA◄♥ ที่ 01-03-2017 18:15:21
สนุกมากกกก ชอบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
นิธิน หมู  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เป็นคู่รักที่รักกัน เพื่ออยู่ไปจนแก่ด้วยกัน
น่ารักมาก หมูจากที่มีแฟนเป็นหญิงมาตลอด
ถูกหนุ่มหล่ออินเดียจีบ ผูกพันจนรักกัน
จากเคยถูกหึง มาเป็นฝ่ายหึงแทน
น่ารักมาก ก็นิธินทั้งดี ทั้งหล่อ เกินห้ามใจ
ขอบคุณไรท์ มาก ทำให้คนอ่านมีความสุข
กำลังจะอ่านเรื่อง เด็กฝึกงาน
และ Beep--แอบมองนายหน้าหวาน ของไรท์อีก  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 01-03-2017 20:46:11
สนุกมากกกก ชอบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
นิธิน หมู  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
เป็นคู่รักที่รักกัน เพื่ออยู่ไปจนแก่ด้วยกัน
น่ารักมาก หมูจากที่มีแฟนเป็นหญิงมาตลอด
ถูกหนุ่มหล่ออินเดียจีบ ผูกพันจนรักกัน
จากเคยถูกหึง มาเป็นฝ่ายหึงแทน
น่ารักมาก ก็นิธินทั้งดี ทั้งหล่อ เกินห้ามใจ
ขอบคุณไรท์ มาก ทำให้คนอ่านมีความสุข
กำลังจะอ่านเรื่อง เด็กฝึกงาน
และ Beep--แอบมองนายหน้าหวาน ของไรท์อีก  :mew1: :mew1: :mew1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ขอบคุณมากนะคะถ้ายังไม่จุใจตามไปอ่านตอนพิเศษที่ผู้เขีบนขุดขึ้นมาในเพจได้นะคะ 555.

ทุกๆคอมเม้นต์เป็นกำลังใจที่ดีมากๆเลยค่ะ ในการรีไรท์งาน
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Bb nale ที่ 02-03-2017 15:34:32
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆมากซึ้ง ดีทุกตอนเลย^^
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: songte ที่ 06-03-2017 22:57:24
เรื่องนี้หวานจริงๆ หวานจนน่าอิจฉา
แต่แอบไม่ชอบหมูนิดหน่อย คือดูคิดมากหวั่นไหวง่ายไปหน่อย ดีนะนิธินใจเย็นและเข้าใจ ไม่งั้นคงอยูกันไม่รอด
แต่ก็ชอบความแซ่บของนางละค่ะ อ่อยได้เป็นอ่อย

 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 09-03-2017 00:36:05
 :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 13-03-2017 00:47:03
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: dellyamin ที่ 24-04-2017 23:05:56
เพิ่งอ่านจบ คุณอินเดียกับพี่หมู คือมันดีมาก งานนวล งานหวาน อ่านแล้วฟินอินไปกับเรื่อง พี่อินเดียนิธินน่ารัก จีบเนียนๆ ไม่กระโตกกระตาก มีเพื่อนทั้งฝูงช่วยขายตรงทั้งผลักทั้งดันสารพัด อยากให้พี่แขกมีเมียกับเขาสักคน ส่วนพี่หมูก็มีทั้งพี่ทั้งน้องช่วยถีบอีกแรง อยากให้น้องมีผัว ฮ่าๆๆ มันคือดี
ส่วนยัยป๊อกกี้ปากตะไกร นางเริ่ดมาก

แต่ละฉากที่เจอกันพัฒนาความสัมพันธ์ให้ลึกซึ้ง พี่แขกก็พยายามเรียนภาษาไทยไปจีบสาว ส่วนพี่หมูก็อยากเรียนฮินดี กะว่าหย่อนไว้สักนิดก็ไม่เสียหลาย ฮ่าๆๆ นางเริ่ดมาก

ยิ่งตอนนางอกหักรักคุดจากแฟนเก่านะ มีอ้อนพี่แขกให้มานอนกอดนอนกล่อมด้วย แอร๊ พี่หมูจะกินแขก // หมั่นไส้มาก อิจอีพี่หมูแรง อยากกินแขกบ้างอะไรบ้าง 55555
เสียจริตไปเลยชั้น
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: insunhwen ที่ 26-05-2017 22:35:27
อ่านจบแล้วค่า เป็นเรื่องที่อบอุ่นหัวใจจริงๆ
ชอบชอบความมั่นคงในความรักของคู่นี้มากเลย
ไม่ถึงกับหวือหวามากแต่ก็คอยเติมความรักให้กันไม่ขาด
ขอบคุณสำหรับนิยายน่ารักๆนะคะ :pig4: :กอด1: :L1:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Pisoi ที่ 13-07-2017 17:18:14
คู่นี้อบอุ่นมากเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไป ชอบค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 19-07-2017 21:51:30
คู่นี้อบอุ่นมากเลยค่ะ อ่านไปยิ้มไป ชอบค่ะ  :katai2-1:

ขอบคุณมากนะค้า ถ้ายังไม่จุใจลองเข้าไปหา #ตอนพิเศษ ในเพจคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: SweetyPhawin ที่ 23-07-2017 19:02:31
อบอุ่นหัวใจ ไปหาเล่มก่อน
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: fahsai ที่ 25-07-2017 11:01:03
เป็นเรื่องที่น่ารักมากกกก เป็นคู่เข้าอกเข้าใจแถมยังมั่นคงสุดๆ
เราจะไปหาแบบคุณนิธินได้ที่ไหนหนออ 5555
ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ สำหรับนิยายดีๆ อบอุ่นใจ
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 25-07-2017 22:14:14
อบอุ่นหัวใจ ไปหาเล่มก่อน
เป็นเรื่องที่น่ารักมากกกก เป็นคู่เข้าอกเข้าใจแถมยังมั่นคงสุดๆ
เราจะไปหาแบบคุณนิธินได้ที่ไหนหนออ 5555
ขอบคุณคนแต่งมากนะคะ สำหรับนิยายดีๆ อบอุ่นใจ

ขอบคุณมากๆนะคะ ตามไปดู References ตัวละคร พี่หมู คุณนิธิน และตอนพิเศษได้ในเพจนะค้า
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 28-07-2017 07:25:21
 :pig4:
สนุกและรู้สึกดีมากค่า

 :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 28-07-2017 20:29:19
:pig4:
สนุกและรู้สึกดีมากค่า

 :pig4: :mew1:

ขอบคุณมากๆนะคะ อย่าลืมตามมาอ่านตอนพิเศษในเพจนะค้า
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: SweetyPhawin ที่ 31-07-2017 02:03:16
เพิ่งมาเจอคู่นี้แล้วรักเลยรักทันที จะเปย์ทันมั้ยคะคนดี
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 02-08-2017 20:40:32
เพิ่งมาเจอคู่นี้แล้วรักเลยรักทันที จะเปย์ทันมั้ยคะคนดี

ทันค่า แต่ไม่ได้ของแถมนร้าา
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: MayA@TK ที่ 13-08-2017 01:16:25
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 09-04-2018 05:43:31
 :กอด1: ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้เพิ่มมาเยอะเลยค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Persoulle ที่ 17-05-2018 09:36:25
 :hao7:มันหวานมากกกกขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 20-05-2018 07:03:01
หวานทั้งเรืีอง นักเขียนบรรยายทำให้เรารู้จักอินเดียมากขึ้นข้อมูลที่เอามาเขียนแน่นมาก ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Psycho ที่ 28-04-2019 17:22:23
กลิ่นเครื่องเทศหวานจัง
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: สิงหา ที่ 14-10-2019 06:29:56
เพิ่งได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน
โอโหหลงเสน่ห์หนุ่มอินเดียเข้าไปเต็มๆ
ครบเครื่องมากค่า เหมาะสมกับพี่หมูสุดๆ
เป็นคู่ที่เผ็ดร้อนหวานมัน
เหมือนกับรสชาติอาหารอินเดียจริงๆ

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: lovecat ที่ 23-10-2019 13:06:05
ผ่านมา 7 ปีแล้ว นิยายเรื่องนี้ก็ยังอบอวไปด้วยความสุข ความอบอุ่น อยากย้อนเวลากลับไปจัง คิดถึง
 :mew2:
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: OmleteO. ที่ 24-11-2019 02:35:20
  :mew3: :mew3: :mew3:
สนุกดีค่ะ น่ารัก
 สงสารตอนที่ต้องแยกกัน6เดือน แต่คือมั่นคงทั้งคุณหมูทั้งคุณนิธินเลย น่ารักกกก

ขอบคุณคุณนักเขียนมากๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^
หัวข้อ: Re: (ตอนพิเศษหน้า 23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 25-12-2019 01:37:57
เอาตอนพิเศษที่เขียนเมื่อปี 2015 ที่ลงในเพจ มาลงให้คุณผู้อ่านใหม่ๆ ในเล้า ให้หายคิดถึงกันนะคะ มีพี่แจ๊คจากเรื่องเด็กฝึกงานมาด้วย และมีพี่บอยตัวละครใหม่ที่มีในรูปเล่ม อยู่ในนี้ค่ะ


ตอนพิเศษ สงกรานต์

Porsche Cayenne สีดำกำลังขับเคลื่อนอย่างคล่องตัว หลังจากติดขัดบนถนนสายเอเชียมาสักพัก ก่อนจะเริ่มเบาบางเมื่อเลี้ยวเข้าถนนที่ตัดผ่านอ.ท่าวุ้ง จุดมุ่งหมายของการเดินทางวันหยุดครั้งนี้คือเมืองลพบุรี

"อีกไกลมั้ยวะบอย?" พลกฤษณ์ผู้เป็นเจ้าของรถและขับอยู่ ส่งเสียงถามเพื่อนเจ้าถิ่นที่นั่งข้างๆ เพราะนี่เป็นการขับรถมาลพบุรีครั้งแรกของเขา
"ไม่ไกลมึง อีกสักสิบโลก็ถึงและ" บอยที่เพิ่งตื่นจากจากงีบหลับสะลึมซะลือตอบ ก่อนจะหันไปเบาะหลังดูอธิปพงศ์ที่ขณะนี้กำลังหลับซบไหล่ของนิธินอยู่
"แหวะ! หมั่นไส้ รับไม่ได้ อี๋!!"
บอยแกล้งทำเป็นเดียดฉันท์ภาพที่เห็น ตามประสาคนโสด แม้จะอยู่กับคู่รักคู่นี้มานาน เห็นภาพสวีทหวานบ่อยๆ แต่เขาก็ยังชอบล้อเลียนเรื่องของเพื่อนสร้างความสนุกสนานเสมอ
"ฮ่าๆยังไม่ชินอีกเหรอวะ?" พลกฤษณ์ก็ยังอดขำเหมือนเดิมไม่ได้อยู่ดี
"ไม่ มึงดูสิอีแจ๊ค หวีดหวานตลอด กูอิจ"แต่บอยก็นึกได้
"เออ แล้วน้องพีเค้าไม่ว่าเหรอ มึงมากับพวกกูแบบนี้"
"ไม่นะ กูชวนเค้าแล้ว เค้าบอกกูให้ไปกับเพื่อนดีกว่า"
"เออมาส่งพวกกูก็แค่ไปเช้าเย็นกลับเนอะ เดี๋ยวมึงกับน้องเค้าก็ไปเที่ยวด้วยกันและ"
บอยนึกออกว่าคืนนี้พลกฤษณ์และครอบครัวจะต้องเดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศเช่นกัน
"แล้วนี่เค้าไม่งอนมึง ไม่สิ มึงไม่มีปัญหาอะไรกับน้องเค้าแน่นะ"
"ไม่มี เค้าแค่ไม่คุ้นเคยกับพวกมึงเท่าไหร่ และก็เค้ายังไม่ชอบให้กูเจอกับน้องเขียวอยู่นะ"
"หะ!!" ร่างหนาเอามือทาบอก "ยังไม่เลิกอีกเหรอวะ ตอนนี้น้องเขียวนางท้องลูกใหม่อีกแล้วนะ"
"ใช่ พีร์ไม่เลิกง่ายๆไม่รู้เป็นไร"
"กูว่านางคงหึงน้องเขียวป่ะวะ น้องเขียวมีลูกแล้วก็ยิ่งสวยขึ้น ปังขึ้น"
"เออ คิดอยู่ เพราะเมื่อก่อนน้องเค้าก็อวบๆดูทอมบอยนิดๆพอๆกับพี แต่นี่หลังคลอดเซอร์จิโอแล้วผอมลง ดูดีขึ้น พีร์เองก็อยากผอมมาตลอด แต่ทำไม่ได้ซะที ก็คงตามนั้น และก็หมูอีกคน พีร์นี่อิจฉามาก ถามตลอดหมูใช้อะไรกินอะไร ฮ่ะๆ"
"เออ จริง อันนี้กูก็อิจหมูค่ะ ฮ่ะๆ" บอยขำเบาๆ ก่อนถามต่อ "แล้วมึงยังรักเค้าเหมือนเดิมป่ะวะแจ๊ค"
"เออ เหมือนเดิม กูบอกเค้าตลอดนะว่า กูรักเค้าที่เค้าเป็นแบบนี้ กูไม่อยากให้เค้าผอมลงหรือคิดว่าเค้าไม่น่ารักเค้าดูไม่ดีด้วย สำหรับกูเค้าน่ารักที่สุดแล้ว แต่ไม่รู้จะฟังกูป่ะนะ"
"หูยยย อีดอก กูเปลี่ยนมาอิจฉาเมียมึงแทนดีกว่าและ ฮ่ะๆ พีคมากอ่ะ ถ้ามีคนรักกันแบบนี้"
"อิจฉากูด้วยสิ เมียกูหึงกูด้วยนะ ฮ่ะๆ"
"อ่อยย!! ไม่นะคะ" บอยถอนหางเสียงตอบเพื่อน รถใกล้ถึงสี่แยกไฟแดงใหญ่ พลกฤษณ์เลยต้องถามเจ้าถิ่นอีกครั้ง่
"เออ ไฟแดงหน้าตรงไปใช่ป่ะ"
"ใช่ๆตรงไปอย่างเดียวเลยค่ะ" บอยหันหลังไปมองอธิปพงศ์ ก็พบว่าตอนนี้เพื่อนกับคนรักตื่นกันแล้ว แต่อธิปพงศ์นั้นยังคงซบไหล่นิธินต่างหมอนอยู่เช่นเดิม
"อ่าว ตื่นแล้วเหรอคะ ตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยไม่ให้ซุ่มให้เสียง"
"เพิ่งตื่นนี่แหละ" อธิปพงศ์งัวเงียกระชับกอดแขนล่ำของคนรักเหมือนกอดหมอนข้าง
"แหม่ๆ รู้แล้วค่ะว่าได้สุดที่รักคืนมา จะกอดจะอะไรก็ เกรงใจกูบ้างไรบ้างนะคะนะคะ"
บอยหมายถึง เมื่อต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา นิธินต้องไปทำงานที่อินเดีย3เดือน ทำให้อธิปพงศ์อดหวั่นใจไม่ได้ว่านิธินอาจจะไม่ได้กลับมาทำงานที่กรุงเทพฯ และสิ่งที่กลัวที่สุดคือเขากับนิธินจะไม่ได้อยู่ด้วยกัน ดังนั้นหลังจากทราบเรื่อง อธิปพงศ์จึงตระเวรบนบานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายที่ทั้งในกรุงเทพฯและที่ลพบุรีบ้านเกิด เพื่อความมั่นใจของเขาเอง
และเมื่อพรที่ขอสัมฤทธิ์ผล นิธินกลับมาเมื่อต้นเดือนเมษายน เขาจึงทยอยไปแก้บนให้ครบ เหลือแค่ที่สุดท้ายคือที่ศาลพระกาฬ เมืองลพบุรีเท่านั้น
และจังหวะเหมาะสมกับช่วงสงกรานต์พอดี เขาถึงถือโอกาสกลับบ้านมาแก้บนและอยู่กับครอบครัวเสียทีเดียว
"อ่ะกูล้อเล่นนน" บอยสัพหยอก "กูดีใจด้วยจริงๆนะมึง ลุ้นแทนเหมือนกัน"
แต่คนขับที่เพิ่งมาครั้งแรกถามเพื่อนเมื่อเจอทางแยก
"ข้ามสะพานนี่แล้วเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาวะบอย"
"เลี้ยวขวาค่ะ พอผ่านศาลลูกศรก็ขวาอีกที ทีนี้ก็ตรงไปค่ะ วนศาลพระกาฬรอบนึงนะไปจอดข้างๆ"
"อืม โอเค"

พลกฤษณ์ขับรถตามที่เพื่อนบอกในเวลาไม่นานเพราะมีระยะทางใกล้ๆ เมื่อถึงที่หมาย อธิปพงศ์,นิธิน,พลกฤษณ์และบอยจึงช่วยกันยกของไหว้แก้บนลงมาจากท้ายรถ อันประกอบไปด้วยชุดผลไม้ ส้ม,กล้วยและมะพร้าวอ่อน พวงมาลัยดอกไม้ ไข่ต้ม100ฟอง บอยเห็นเพื่อนบนชุดใหญ่อย่างนี้จึงถามว่า
"มึงอย่าบอกนะ มึงบนละครด้วยอีกอย่าง"
"เออ" อธิปพงศ์รับคำ
"หูยยยย! มึงบนเบอร์เดียวกับพวกขอลูกเลยนะคะหมู"
"ไม่ได้สิ กูกลัวนี่นา" อธิปพงศ์ตอบเสียงอ่อยๆเพราะอายเพื่อนเหมือนกันที่ต้องบนบานในเรื่องความรักแบบนี้
"ไปค่ะ พาคุณแฟนมึงไปกราบท่านเจ้าพ่อกัน เอออีแจ๊คระวังลิงด้วยนะ" บอยไม่ลืมเตือนผู้มาใหม่
"ได้ๆ"
รับคำเสร็จกลุ่มเพื่อนก็มองซ้ายขวาข้ามถนนเพื่อไปยังตัวศาล พลกฤษณ์ที่ถือผลไม้ดูจะระแวดระวังฝูงลิงจ๋อที่ปีนป่ายวิ่งเพ่นผ่านเป็นพิเศษ จนเมื่อขึ้นไปวางของเซ่นไหว้ที่ศาลแล้วถึงจะขอตัวลงมาเพราะเขาเป็นคริสต์ชน
ส่วนอธิปพงศ์ นิธินและบอยนั้นได้จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์และถวายของแก้บนตามลำดับ ก่อนจะลงมาหาคณะนางรำเพื่อว่าจ้างให้รำละครแก้บนตามเงื่อนไข เป็นอันเสร็จพิธี
"ไปไหนต่อวะบอย"
"เออ ไหนดีล่ะ ตัวเมืองเราก็มีแค่ที่เที่ยววัดวังโบราณสถาน เอางี้ไปแถวๆนี้ก่อน เดี๋ยวไปกินข้าวที่สระแก้ว แล้วเดี๋ยวมาไหว้แม่กู แล้วค่อยออกไปส่งอีหมู ก็คงทันเย็นพอดี"
"เออได้ๆ" พลกฤษณ์รับคำ บอยจึงเริ่มเสนอไอเดีย
"แล้วไปไหนกันดี โน้นมั้ย พระปรางค์สามยอด แต่กูว่าเรามาถ่ายรูปเช็คอินกันก่อนดีกว่า"
ทุกคนไม่รอช้าที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปทันที บอยเห็นว่าเพื่อนได้ผลตามที่บนบานไว้ที่นี่แล้วจึงเกิดไอเดีย
"เออ หมูมึงถ่ายรูปคู่กับนิธินที่นี่ซิ ไหนๆพรที่ขอก็สัมฤทธิ์ผลอยู่ข้างๆแล้ว ม่ะๆกูถ่ายให้"
อธิปพงศ์กับนิธินมองหน้ากันและกันเขินๆ แต่ก็ยอมทำตามคำแนะนำของเพื่อนอยู่ดี
นิธินโอบไหล่คนรักแน่น ทำให้ตากล้องอย่างบอยแทบกรี๊ดด้วยความถูกใจ
เมื่อได้ภาพสวยๆตามที่ต้องการแล้ว พวกเขาก็เดินข้ามถนนมาพระปรางค์สามยอด เพื่อเข้าไปชมโบราณสถาน "เออพวกเรามาลิงหลบค่ะ เห็นมั้ย ฮ่าๆๆ" บอยเห็นว่าฝูงลิงไม่ค่อยเข้ามาหาพวกเขาเลยชี้ให้เพื่อนๆดู
"ทำไมวะ?" พลกฤษณ์สงสัย
"ลิงมันกลัวคนตัวใหญ่ๆค่ะ ความจริงมีมึงหรือนิธินมาคนเดียวมันก็ไม่ยุ่งแล้ว นี่มาสองคนเลย มันก็แตกฮือหนีสิคะ ฮ่าๆ"
"เหรอวะ ฮ่ะๆ"

พวกเขาเดินชมและถ่ายรูปกันสักพัก ก็ย้ายไปชมวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ โบราณสถานสมัยกรุงศรีอยุธยา และพระราชวังนารายณ์ราชนิเวศ ก่อนที่จะรับประทานมื้อกลางวันที่ร้านแถวนั้นในเวลาบ่ายโมงกว่าๆ และไปบ้านบอยตามที่ตกลงไว้
"แม่หวัดดี"
"อ่าว มาแล้วเหรอวะบอย ไหนๆมาให้แม่กอดทีสิ อู๊ย!!"
สองแม่ลูกโผเข้ากอดกันแน่นสมกับที่ไม่ได้เจอหน้ากันหลายเดือน ร่างอวบที่ด้อยความสูงกว่าลูกแถมหอมแก้มให้ด้วยความชื่นใจอีกสองฟอด บอยเองก็หอมแก้มทั้งสองของแม่เช่นกัน บอยละจากอ้อมกอดแม่มาแนะนำเพื่อนๆให้แม่รู้จัก
"แม่ นี่เพื่อนๆ หนู หมู นิธิน แจ๊ค ที่เคยส่งรูปให้แม่ดูในไลน์อ่ะ"
ทั้งสามยกมือไหว้แม่ของบอยอย่างนอบน้อมคนเป็นแม่รับไหว้อย่างดีใจ
"โหยย หล่อๆทั้งนั้นเลยเนอะ หมูก็หล่อกว่าตอนเด็กๆเยอะเลยนะลูก"
"ขอบคุณครับป้าแดง" อธิปพงศ์ยิ้มน้อยๆตอบรับคำชมนั้น
"ป่ะๆมานั่งข้างในกันก่อนลูก"
ทุกคนตามเข้าไปตามคำเชิญก่อนจะนั่งคุยกับแม่ของบอยนิดหน่อยอย่างสนุกสนาน ก่อนจะขอตัวไปส่งอธิปพงศ์และนิธินต่อ
และเมื่อถึงบ้านอธิปพงศ์แม่กับยายก็ออกมาต้อนรับพวกเขาอย่างอบอุ่น และพูดคุยกันสักพัก เมื่อหอมปากหอมคอแล้วจึงปล่อยให้ชายหนุ่มทั้งสามคุยกัน
"วันนี้เป็นไงมั่งครับคุณแจ๊ค" นิธินถามพลกฤษณ์ที่เพิ่งเคยมาครั้งแรก
"สนุกดีครับ น่าเสียดายที่ผมต้องรีบกลับ รู้มั้ยนี่เป็นการมาบ้านเพื่อนที่ต่างจังหวัดครั้งแรกของผมเลยนะ"
"หือ?!?" คู่รักตกใจเล็กน้อย แต่ก็นึกออกว่าพลกฤษณ์เป็นคนกรุงเทพฯและไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยที่เมืองไทย จึงไม่แปลกที่จะไม่ค่อยหรือไม่มีมีเพื่อนเป็นคนต่างจังหวัด
"เอาไว้ถ้าบอยจัดทริปไปเที่ยวคราวหน้าผมไม่พลาดแน่"
พลกฤษณ์หมายมาด เพราะผู้นำกลุ่มวอลเล่ย์บอลอย่างบอยเคยรวมกลุ่มกับคนอื่นๆในสนามไปเที่ยวต่างจังหวัดกันในวันหยุดยาวอื่นๆมาแล้ว ซึ่งเขาไม่เคยได้ไปด้วยซะที"
"จะดีเหรอ น้องพีร์ไม่ว่าอะไรคุณแน่นะ" อธิปพงศ์ถาม
"เอ่อ ก็ต้องขอเค้าก่อนล่ะ" พลกฤษณ์ให้คำตอบเสียงอ่อย ตามประสาคนเกรงใจแฟน
"อืม ไปเที่ยวกับบอยนี่ฉิ่งฉาบทัวร์เลยนะ รถทัวร์ รถไฟ คุณแน่ใจนะ"
"อย่าดูถูกผมสิครับคุณหมู ผมนั่งมาหมดแล้วนะคร้าบ บอกไว้"
"ครับๆ ฮ่ะๆ"
"อืมม แต่ดูท่าคุณยายจะรักคุณนิธินมากนะครับ"
"ใช่ครับ ยายผมรักมากเลย รักมากกว่าผมด้วยมั้ง" อธิปพงศ์แกล้งมองค้อนคนรัก ทำให้นิธินอดหมั่นเขี้ยวคนช่างค้อนเลยต้องบีบจมูกอีกฝ่ายเบาๆไม่ได้
"ก็จริงนี่ ยายนั่นล่ะบอกให้ผมไปบนศาลพระกาฬเลย"
สองหนุ่มตกใจกับสิ่งที่เพิ่งรู้โดยเฉพาะนิธิน ที่ทั้งตกใจและปลื้มใจไปพร้อมๆกัน
"โอเค ผมเชื่อแล้วล่ะ ฮ่ะๆ"พลกฤษณ์ก็รู้สึกยินดีและอดขันไปเสียไม่ได้
"ยายเค้าก็รักคุณมากที่สุดไง เพราะรู้ว่าคุณอยู่ไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีคุณนิธิน ใช่มั้ย"
อธิปพงศ์ไม่ตอบอะไรนอกจากยิ้มรับ เพราะพลกฤษณ์ไม่ได้พูดอะไรผิดเลย

เมื่อพลกฤษณ์ขอตัวกลับไปแล้ว แม่ของอธิปพงศ์จึงรีบเข้ามาหาลูกก่อนจะขึ้นเรือน
"หมู แม่ย้ายห้องหมูมาไว้ข้างล่างแล้วนะ"
ได้ยินอย่างนั้นอธิปพงศ์ประหลาดใจ
"อ่าว ทำไมล่ะครับแม่!?"
"คือ แม่เห็นว่าอยู่กันสองคน และห้องเก่าก็เล็กไป อีกอย่าง..เอ่อ ยายเค้ากลัวเสียงกระดานลั่นน่ะ"
พอรู้คำตอบจริงๆแบบนั้นอธิปพงศ์ก็อดอายแม่กับยายไม่ได้ ความจริงเขาก็อยากนอนกันเงียบๆนะ แต่เพราะต้องมานอนเบียดกันบนเตียงสามฟุตอย่างนั้น เขาก็อดไม่ได้ทุกที
"ขอบคุณนะครับแม่" อธิปพงศ์ไหว้ขอบคุณและเข้าไปกอดแม่ แม่เองก็กอดตอบลูกชายแน่นเช่นกัน แล้วบอกอธิปพงศ์กับคนรักว่า
"ป่ะ เราสองคนไปดูห้องใหม่กัน เดี๋ยวค่อยกินข้าว"
"ครับแม่"้
แม่เดินนำพวกเขามายังห้องใหม่ที่อยู่ทิศตะวันตกของใต้ถุนบ้าน เป็นห้องนอนติดแอร์ ขนาดใหญ่กว่าห้องเก่าข้างบน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็มีแค่เตียงนอนใหม่ขนาด5ฟุต โต๊ะเขียนหนังสือตัวเดิมและตู้เสื้อผ้าเท่านั้น
"เป็นไงมั่งลูก"
"ขอบคุณครับแม่" อธิปพงศ์และนิธินยกมือไหว้แม่อีกครั้งด้วยความซาบซึ้ง
"จ้ะ พักผ่อนกันตามสบายนะลูก เดี๋ยวไปกินข้าวกัน"
"ครับ"
พอแม่ปิดประตูห้องออกไป อธิปพงศ์และนิธินก็วางกระเป๋าสัมภาระลงบนโต๊ะและ ก่อนที่อธิปพงศ์จะชวนคนรักออกไปที่ครัว
"อ่าว มาแล้วเหรอลูก" ยายที่กำลังตำน้ำพริกเรียกถามหลานกับคนรัก
"มาแล้ววว..วันนี้ทำอะไรกินมั่งครับ"
"ตำน้ำพริกกะปิ และทอดปลาทับทิม ถ้าว่างนักก็ไปช่วยแม่ทำผักโน่น
"คร้าบบ" อธิปพงศ์รับคำสั่งยายอ้อนๆ
"นี่นิธิน"ยายเริ่มหาเรื่องนินทาหลานให้หลานรักฟัง"ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ ไอ้หมูมันกินอย่างเดียวเลย ไม่ทำไม่เทิมหรอก แต่ตั้งแต่อยู่กับนิธินนี่ดีขึ้นนะ"
"ฮ่ะๆเหรอครับ"
"อื้มม จริงสิ"
แม่ของอธิปพงศ์เลยส่งเสียงมาจากหน้าเตาใกล้ๆ
"ก็แม่บอกหมูมันเองไม่ใช่เหรอว่าให้หัดทำกับข้าวบ้าง จะได้ไปดูแลนิธินได้"
"ก็แหม ไอ้หมูเรามันดีแต่หล่อไปวันๆนี่นา ถ้าไม่รู้จักเอาอกเอาใจนิธิน เดี๋ยวก็แย่สิ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณยายไม่ต้องห่วง ผมต่างหากที่มีหน้าที่ต้องดูแลหมู"
พอได้ยินแค่นั้น ทุกคนก็เงียบลงพร้อมรอยยิ้ม โดยเฉพาะอธิปพงศ์ ที่ก้มหน้าเด็ดชะอมงุดๆเพราะเขินอายมาก กับสายตาและรอยยิ้มสัพยอกจากแม่และยาย แม่เลยเดินมาบอกยายว่า
"หนูว่าน้ำพริกแม่ไม่ต้องใส่น้ำตาลแล้วล่ะ"

เย็นนั้นทุกคนกินข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาอย่างอบอุ่น โดยที่แม่และยายซักถามเรื่องงานที่อินเดียของนิธินด้วยความสนใจเป็นพิเศษ อธิปพงศ์เองก็เพิ่งทราบบางเรื่องพร้อมแม่กับยายเช่นกัน เพราะปกติแล้วเขาไม่ละลาบละล้วงเรื่องงานของนิธิน แม่กับยายเองฟังเรื่องงานของนิธินแล้วก็ยิ่งโล่งใจที่นิธินสามารถกลับมาทำงานต่อที่กรุงเทพฯได้

หลังจากพวกเขาอาบน้ำเสร็จ อธิปพงศ์เดินไปดูเตียงใหม่ซึ่งหอมกรุ่นกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่แม่ตั้งใจเตรียมไว้พร้อมสำหรับเขาทั้งคู่
เขาทิ้งตัวลงนั่งและมองนิธินที่ยืนอยู่ตรงหน้า
นิธินยิ้มอบอุ่นให้คนรักเหมือนเคย อธิปพงศ์คว้าข้อมือแข็งแรงนั้นให้มานั่งด้วยกัน
นิธินเลยนั่งลงและคว้าตัวคนรักมากอดไว้แน่นก่อนจะจูบที่หน้าผากและพาทิ้งตัวลงนอน
ไม่มีคำพูดใดๆ ออกจากปากคู่รัก นอกจากแววตาที่มองกันและกันด้วยความรัก ทั้งคู่หลับตาลงเพื่องีบหลับ โดยอาศัยอ้อมกอดของคนรักเพื่อพักผ่อน ้
แต่ก็หลับได้ไม่นานเพราะไลน์จากเพื่อนตัวดีอย่างบอยที่ส่งเสียงขึ้นมา
"ทำไรอยู่ สาดน้ำรักกันหรือยัง"
อธิปพงศ์อดขำกับคำที่เพื่อนสรรหามาแซวไม่ได้ ก่อนจะตอบไป
"ยัง มึงมีไรวะ"
"พรุ่งนี้มีแพลนไปไหนยังมึง"
"ก็คงจะไปทำบุญกับแม่กับยาย หาอะไรกินกัน บ่ายๆไปสรงน้ำพระนั่นล่ะ"
"มึงสงกรานต์แบบผู้ดีมากอ่ะ งั้นกูไม่กวนและ สาดน้ำรักกันตามสบายนะคะ GN"
บอยส่งสติ๊กเกอร์มาราตรีสวัสดิ์ตามประสา อธิปพงศ์ยิ้มขำกับเพื่อนตัวดีก่อนจะวางมือถือและล้มตัวลงนอนที่เดิม
"ใครอ่ะครับ บอยเหรอ?" นิธินเท้าแขนรอถามคนรักที่กลับมานอนในอ้อมแขน
"ครับ ก็ไม่มีอะไรหรอก"
"ขอบคุณนะครับ"
นิธินกระซิบอ่อนโยนแต่อธิปพงศ์ไม่เข้าใจ
"หืมม..ขอบคุณอะไร?!"
"ขอบคุณที่ช่วยให้ผมกลับมาอยู่กับคุณไง"
"อ๋อออ.." อธิปพงศ์เข้าใจพร้อมรอยยิ้ม "มันแน่อยู่แล้วล่ะ ผมไม่ยอมนะที่จะอยู่คนเดียว หรือรอคุณนานๆอ่ะ"
แม้จะฟังดูกระเง้ากระงอดเอาแต่ใจ แต่นิธินก็ชอบนัก เลยมอบจูบที่หน้าผากเป็นรางวัล
นิธินยิ้มให้คนรัก พลางนึกถึงตัวเองที่หมั่นภาวนาขอพรพระผู้เเป็นเจ้าทุกเช้าที่ตื่นมา หรือทุกวันอาทิตย์ที่ไปวิหารเทพ แม้จะกลับมาทำงานที่บ้านเกิด แต่พรที่ขอคือได้ออกไปอยู่กลับคนรักที่ต่างแดน และสุดท้ายเขาได้กลับตามกำหนดเดิมแบบไม่มีเงื่อนไขใดๆ อย่างที่วอนขอจริงๆ นิธินมองตากลมโตนั้นเพื่อบอกว่า
"ผมก็ไม่ยอมเหมือนกัน"

End
หัวข้อ: Re: (แจ้งข่าวดีน.21)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 25-12-2019 01:41:24
ส่วนอันนี้เป็น เพิ่มเติมสำหรับเรื่องต่าง ๆ ที่ผู้เขียนเคยลงในเพจนะคะ

ขออนุญาติ Repost โพสนี้ใหม่ที่เคยเขียนเมื่อปี 2017 และแก้ไขบางส่วนให้ตามเวลาในตอนนี้ ในโอกาสที่มีคุณผู้อ่านใหม่เข้ามาติดตามเพจนะคะ คนเขียนเองไม่ได้มีผลงานใหม่หลังจากแบ่งรักให้อุ่นใจ จบไปนะคะ และขอไม่รับปากว่าจะมี เพราะตัวเองมองโลกต่างออกไปจากสมัยก่อนแล้วอ่ะค่ะ(ไม่ดราม่านะคะคนเราย่อมมีการเปลี่ยนแปลงในบางเรื่องตามกาลเวลา) ต้องกราบขอโทษในเบื้องต้นสำหรับคุณผู้อ่านที่รักกันและติดตามกันมายาวนานตั้งแต่เรื่องแรกและคุณผู้อ่านที่เพิ่งรู้จักกันด้วยนะคะ

เอาล่ะค่ะ มารู้จักนิยายเรื่องนี้ให้มากขึ้นดีกว่า

1.ในปี 2560 นี้ ที่นิยายตีพิมพ์ พี่หมูและพี่นิธิน ก็จะมีอายุ 38 ปี (ปี2555ในนิยายพวกเขาอายุ33ปีค่ะ) ปัจจุบันทั้งคู่อายุ 40 ปีค่ะ

2.พี่นิธินและพี่หมูยังทำงาน ใช้ชีวิตปกติ ตามประสาคู่รักวัย40 ที่ชีวิตค่อนข้างลงตัวแล้วค่ะ

3.กางเกงว่ายน้ำที่พี่หมูใส่ในเรื่องเป็นแบบ Biniki เหมือนที่นักกีฬากระโดดน้ำใส่กัน แต่ถ้าเป็นกางเกงใน คิดว่าคงมีแบบ Jackstrap ติดตู้บ้างค่ะ ตามประสาคนหุ่นดี Lean Body

ขอเคลียร์แทนตัวละครค่ะ เคยเห็นมีผู้อ่านบางคนบอกว่าพี่หมูแรด แค่ใส่กางเกงว่ายน้ำแบบBikini พี่งงเลย เค้าแค่เป็นคนหุ่นดีที่มีความมั่นใจค่ะ มันเป็นเรื่องธรรมดาของคนหุ่นดี หรือคนที่มีความมั่นใจในตัวเองนะพี่ว่า อดทนเพาะกายและควบคุมอาหารมาก็ต้องอยากเห็นตัวเองในมุมที่Sexyต่อหน้าคุณแฟนบ้างสิคะ อีกอย่างพี่หมูซื่อสัตย์กับพี่นิธินคนเดียวนะคะ ไม่เจ้าชู้เหมือนตอนยังมีแฟนสาว ชีวิตคู่ที่ดีต้องสร้างสีสันให้กันและกันค่ะ

4.เป็นคู่รักสายประหยัดค่ะ มีบ้านแต่ไม่ได้มีรถ ขึ้นรถเมล์ บีทีเอส รถตู้ รถไฟตลอด เก็บเงินไว้ไปเที่ยว ลงทุนค่ะ

5.ถ้าพี่นิธินมี IG ส่วนใหญ่จะมีแต่รูปพี่หมู พี่นิธินเปลี่ยนมาใช้กล้อง Mirror lessแทนDSLR ตัวใหญ่เพราะพกพาง่าย ถ่ายรูปสวย ปัจจุบันกล้องมือถือซะส่วนใหญ่ค่ะ และก็ไม่มีลงรูป Sexy แน่นอน ขอพี่เก็บตัวจริงไว้ดูคนเดียวนะครับ

6.สำหรับพี่นิธินแล้วพี่หมูเป็นคนรักที่เป็นที่สุดในความประทับใจเท่าที่เคยมีมากับแฟนทุกคน เพราะเข้ากันได้ทุกอย่าง และจังหวะชีวิตลงตัวพอดีค่ะ

7.พี่นิธินเป็นหลานรักของยายพี่หมู และลูกรักของแม่พี่หมูเช่นกันค่ะ เพราะแม่กับยายรู้สึกว่า ตั้งแต่พี่หมูคบกับคุณนิธินแล้วเป็นคนที่ดีขึ้น สมัยก่อนพี่หมูเป็นผู้ชายเกเรค่ะ

8.ถ้าทั้งสองคนมีตัวตนจริง เจอทั้งสองคนได้ตามสนามวอลเล่ย์บอล สนามบาสเก็ตบอล ฟิตเนส โยคะสตูดิโอ ซุปเปอร์มาร์เกตที่ขายอาหารเฮลตี้ได้ค่ะ

9.พี่บอย เพื่อนสนิทพี่หมูในเรื่องเรียกทุกคนว่าอี แม้กระทั้งพี่แจ๊ค สองคนที่พี่บอยไม่กล้าเรียกอี คือพี่นิธิน กับพี่อ๊อฟ ค่ะ

10.พี่นิธินสมัยก่อนเป็นคนไม่นับถือศาสนาใดๆค่ะ แต่พอคบกับพี่หมูแล้วกลับมานับถือฮินดูบ้างเล็กน้อย เป็นที่พึ่งทางใจเรื่องความรักเวลาออฟฟิศส่งไปทำงานสำนักงานอื่นค่ะ ขอให้อยู่ไม่นาน ได้กลับมาไวๆ

11.ถ้ามีตัวตนจริงคู่นี้คงไปลงชื่อแก้กฎหมายสมรส มาตรา 1448 ค่ะ



ในเพจจะมี  ภาพลักษณ์ของพี่นิธิน พี่หมูยังไงที่ใช่ที่สุดของคนเขียนนะคะ มีหลายอันอยู่ค่ะ

ขอบคุณมากนะคะ
หัวข้อ: Re: (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: airicha ที่ 27-12-2019 22:42:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-11-2020 21:23:22
ตอนพิเศษ 2563



เมษายน 2563

“ฮันหนี นอนยังครับ” นิธินโทรไลน์มาถามคนรัก ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มครึ่ง เขากลัวว่าอธิปพงศ์จะเข้านอนไปแล้ว
“ยังครับ”
“งั้นเป็นวิดิโอคอลนะ”
“ครับ” อธิปพงศ์รับคำ คุณพรเพ็ญผู้เป็นแม่ที่ล้มตัวนอนไปก่อนลุกขึ้นนั่งข้างๆลูกชาย เพื่อรอคุยทางวิดิโอคอลกับนิธินด้วยกัน
“ยังไม่นอนกับอีกเหรอครับ”
“ก็รอคุณคอลมานี่ล่ะ” อธิปพงศ์ตอบยิ้มๆ โดยมีคุณแม่สมทบให้กับคนที่อยู่ในจอด้วยเสียงสดใส
“ไงลูก เป็นไงมั่ง วันนี้”
“หวัดดีครับแม่ ก็ออกไปออฟฟิศมาอย่างที่บอกอ่ะครับ”
“และได้ไปซื้อของเข้าบ้านมั้ย”
“อืมไปมา” นิธินตอบเซ็งๆ กับบรรยากาศตัวเมืองที่เงียบสงัดเพราะโรคระบาดในเวลานี้ เขาไม่อาจเอางานมาทำที่บ้านต่างจังหวัดของอธิปพงศ์ได้ ด้วยตำแหน่งผู้บริหารระดับจูเนียร์ที่เพิ่งไต่เต้าขึ้นไปได้ มากกว่าโอกาสนี้มีไว้พิสูจน์ตัวเขา ก็คือภาระงานที่รัดตัวยิ่งกว่าช่วงปกติ เพราะโลกนี้จำเป็นต้องใช้ระบบปฎิบัติการแทนมนุษย์เพื่อเลี่ยงการแพร่เชี้อในช่วงโรคระบาด การควบคุมงานและนำเสนอองค์กรให้เป็นที่พอใจของลูกค้าจึงเป็นหน้าที่ของเขา
เขาไม่ได้รู้สึกแย่อะไรที่ไม่ได้ไปท่องเที่ยวหรือพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาวที่มันควรจะเป็น สิ่งเดียวที่เขาหงุดหงิดเล็กน้อย คือไม่สามารถขนภาระงานกลับไปอยู่บ้านสวนกับอธิปพงศ์ได้ แม้เขาจะต้องไปทำงานที่ที่ทำงานแค่สามวันต่อสัปดาห์ และบ้านของอธิปพงศ์มันจะใกล้กรุงเทพฯ แต่ขั้นตอนการคัดกรองผู้คนทำให้เขาและอธิปพงศ์เห็นตรงกันว่านิธินไม่ควรเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ-ลพบุรี ได้
“วันนี้คุณดูเครียดๆนะ”
“อื้อ เซ็งมากกว่า”
“โธ่ลูกเอ๊ย” คุณพรเพ็ญสงสารคนรักของลูกจับใจ เธอไม่อยากจะพูดประโยคเดิมที่เคยพูดถึงว่า นิธินเคยไปอยู่ที่อื่นไกลกว่านี้หลายเดือนมาแล้วผ่านมาได้ แต่เพราะใกล้เพียงร้อยกว่ากิโลเมตรแบบนี้แต่ไปหาไม่ได้นี่สิน่าจะเจ็บปวดกว่ากัน
นิธินรู้ตัวว่าทำให้คุณแม่เป็นห่วงเสียแล้ว เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
“แล้ววันนี้ที่สวนละครับ เป็นไงมั่ง สลัดคุณขายดีมั้ย มีคนแอบมาตัดผมกับคุณมั้ยฮันหนี?”
“มีๆ สลัดก็เรื่อยๆ” อธิปพงศ์ตอบยิ้ม ๆ เพราะร้านตัดผมทั่วประเทศจำต้องปิดตามคำสั่งของทางการ เขาจึงเลือกกลับมาอยู่บ้านกับแม่ที่ลพบุรีแทน
“วันนี้หมูทำอะไรเองโดยที่แม่ไม่ต้องสอนได้แล้วเยอะเลยนะนิธิน เริ่มเป็นชาวสวนครึ่งตัวแล้ว” คุณพรเพ็ญโอบไหล่ลูกชายคนเดียวด้วยความภาคภูมิใจ





พฤศจิกายน 2562

รถกระบะรุ่นใหม่ชะลอความเร็วหลังจากเข้ารั้วบ้านสวน ก่อนจะจอดนิ่งที่เพิงจอดรถข้างตัวบ้าน คุณพรเพ็ญกับอธิปพงศ์ผู้เป็นลูกชายคนเดียวลงมาจาก เธอกดรีโมตเพื่อล๊อกรถก่อนจะพากันลงมา บ่ายนี้เร็วเกินไปที่จะเข้าครัวเตรียมอาหารเย็น เธอบอกกับลูกชายถึงสิ่งที่จะไปทำ
"เดี๋ยวแม่ขอไปดูงานในสวนก่อนนะ"
"ครับ"
อธิปพงศ์รับคำเรียบๆ ร่างสูงแยกตัวเข้าไปเก็บของส่วนตัวในห้องตัวเอง สัมภาระของเขามีแค่ผ้าขนหนูของใช้ส่วนตัวเล็กน้อยในกระเป๋าใบเล็ก ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดขาวกางเกงยีนส์ แม้ไม่มีเส้นคิ้วดกดำและเส้นผมที่จัดแต่งทรง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เค้าหน้าความหล่อเหลาของเขาลดลงไปแม้แต่น้อย อธิปพงศ์เพิ่งลาสิกขาบทจากการบวชอุทิศส่วนกุศลให้คุณยายมาลัยของเขาผู้ล่วงลับ แม้จะใช้เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์ แต่ความรู้สึกของเขาต่อตัวเองในการกลับบ้านครั้งนี้กลับไม่เหมือนเมื่อตอนอุปสมบทครั้งแรก ในบ้านมีแต่ความเงียบเหงา กลิ่นไอความเศร้าโศกจับตัวอยู่ทุกมุมของบ้านที่ตอนนี้ไม่มียาย
   อธิปพงศ์วางสัมภาระทุกอย่างลง ก่อนจะเปิดโทรศัพท์มือถือที่ปิดเครื่องลงตลอดเจ็ดวันในการครองสมณเพศ การบวชคราวนี้เขาตั้งใจเลือกวัดที่เน้นสอนการปฏิบัติธรรม เขาตั้งใจเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้คุณมาลัย ยายผู้เป็นที่รัก ส่วนหนึ่งก็หวังจะใช้โอกาสนี้รักษาจิตใจตัวเองไปในตัวด้วย เขาเพียงแค่เปิดเครื่องวางทิ้งไว้ไม่ได้หยิบมันขึ้นมาดู เพราะยังไม่พร้อมจะออกจากโลกสุขสงบ ที่เขาเพิ่งออกมา อธิปพงศ์เดินออกไปนอกห้อง ปล่อยให้เสียงแจ้งเตือนดังต่อเนื่องอยู่อย่างนั้น
  เขาเดินมาที่เรือนชำต้นไม้หลังบ้าน คุณพรเพ็ญแม่ของเขากำลังตรวจงานลูกน้องอยู่ สำหรับเขาแม่แกร่งและเก่งกว่าเขามากในทุกๆเรื่อง ตั้งแต่จำความได้เขามีพ่ออยู่แค่นิดเดียว ที่เหลือคือมีแต่แม่กับตายาย จนตาเสียไปในช่วงแรกของวัยทำงาน คนในครอบครัวใกล้ชิดที่เหลืออยู่จึงมีแค่แม่กับยายเท่านั้น จะเจอญาติทางแม่และพ่อบ้างก็ต่อเมื่อหน้าเทศกาล หรืองานสำคัญของชีวิต เช่นงานศพของคุณยายมาลัยที่เพิ่งจัดไป แม่ของเขาเดินไปอีกมุมหนึ่ง เขาก็ตัดสินใจเดินไปดูเธอทำงานอยู่ห่างๆ ทิดสึกใหม่รู้สึกตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้เห็นว่างานชาวสวนของแม่ช่วงบ่ายมีอะไรบ้าง บ่ายนี้แดดแรงจ้าเหมือนทุกวัน แต่ก็ไม่ได้ทำให้แม่ของเขาลดพลังในการทำงานลง เธอกำลังสอนงานคนงานกลุ่มหนึ่งกับการทาบกิ่งต้นมะนาวคาเวียร์ ก่อนจะเดินไปตรวจดูการผสมดินปลูกเพื่อเตรียมส่งขาย เขายืนมองแม่อยู่ห่างๆสักพัก ก่อนจะตัดสินใจกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง
 สิ่งแรกที่เขาทำในรอบนี้ก็คือการหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดู แต่ละแอปพลิเคชั่นมีการแจ้งเตือนความเคลื่อนไหวหลักร้อย แต่เขาไม่เลือกเปิดอะไรหรือตอบข้อความจากใคร เพราะเขาอยากอยู่นิ่งๆแบบนี้สักพัก ไม่อยากรับรู้อะไร แม้กระทั่งจากคนที่เขาอยากเจอที่สุด ไม่รู้ว่าได้ส่งข้อความอะไรถึงเขาเลยหรือเปล่าตลอดการอุปสมบทของเขาที่ผ่านมา อธิปพงศ์นอนอยู่สักพักจึงออกไปที่ครัว เพื่อเตรียมอาหารเย็นให้แม่ ตอนที่ยายมีชีวิตอยู่ตรงนี้เป็นอีกที่หนึ่งของยายในบ้าน อาหารในสำรับบนโต๊ะมีอยู่มากเพราะมีแม่ที่ทำกินแค่คนเดียวจึงไม่ต้องทำอะไรใหม่ แค่รอเวลาที่แม่เข้ามาในตัวบ้านแค่นั้น
บางทีชีวิตคนเราก็ว่างเกินไป อธิปพงศ์คิด และนึกถึงช่วงเวลาก่อนหน้าจะมารอเวลาที่บ้านแบบนี้ ตอนที่ยายเริ่มเจ็บป่วย เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆด้วยอาการป่วยตามวัยชรา อาการป่วยของยายแม้ไม่ใช่โรคร้ายแรงและยายก็ยังสามารถเดินได้แต่ก็ไม่ใช่อาการป่วยที่สามารถรักษาได้หายขาดอย่างวัยหนุ่มสาว ยายจึงขอร้องเขากับนิธินให้กลับบ้านมาดูแลบ่อยขึ้น อธิปพงศ์จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ร้านพี่กุ้ง เปลี่ยนมาเป็นช่างทำผมอิสระ เพื่อรายได้ที่มากขึ้นและการจัดสรรเวลาให้ลงตัวกับการมาเยี่ยมยายพร้อมนิธินที่ลพบุรีได้ทุกสัปดาห์ จากช่างตัดผม ที่ถนัดเรื่องการตัดแต่งทรงผม ต้องเปลี่ยนสายมาเป็นช่างทำผม เขาต้องไปเรียนรู้ใหม่จากเพื่อนร่วมอาชีพอย่างป๊อกกี้และอาจารย์ท่านอื่นที่พี่กุ้งแนะนำ รวมทั้งการแต่งหน้าที่เขาไม่เคยคิดจะทำด้วย จากตอนแรกที่เขารับงานโดยคู่กับช่างแต่งหน้าอีกคนที่บอยแนะนำให้รู้จัก แต่พอทำไปสักพักเขาพบว่ามีลูกค้าหลายคนถามถึงว่าเขาสามารถแต่งหน้าและทำผมได้ในคนเดียวหรือเปล่า ดังนั้นเพื่อโอกาสของตัวเอง เขาจึงต้องไปเรียนการแต่งหน้าสำหรับออกงานเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ช่วงนั้นเขาทั้งทำงานและเรียนรู้งานใหม่ทุกวันจนไม่มีเวลาให้กับตัวเอง นิธินที่ว่าทำงานหนักแล้วกลับมีเวลาลงตัวในชีวิตมากขึ้นถึงกับออกปากว่าเหนื่อยแทน เพราะอธิปพงศ์ต้องทำงานหนักกว่าทีร้านพี่กุ้งทุกวันตั้งแต่เช้าจะกลับเข้าบ้านพาสภาพอิดโรยมาอีกทีตอนดึก บางวันอธิปพงศ์ออกจากบ้านตั้งแต่ตีหนึ่งเพื่อไปแต่งหน้าและทำผมลูกค้าคู่บ่าวสาว ซึ่งถ้านิธินไม่ติดขัดอะไรก็จะไปด้วยกันเสมอ แม้อธิปพงศ์จะบอกว่าให้อีกฝ่ายพักผ่อนก็ตาม แต่นิธินก็ยังอยากไปกับเขาอยู่ดี
ตอนที่ยายป่วยเข้าโรงพยาบาล อธิปพงศ์นึกเสียดายเงินและเวลาที่ไม่ได้เก็บออมลงทุนไว้ตั้งแต่ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆจนถึงก่อนมาพบกับนิธิน ตั้งแต่เขามีนิธินในชีวิต เขาเป็นคนมีวินัยและแรงจูงใจทางการเงินไปในทางที่ดี ไม่ว่าจะการออมหรือลงทุน เพราะนิธินเป็นตัวอย่างที่ดีใกล้ตัวและพร้อมจะสอนเขาในเรื่องพวกนี้อยู่เสมอ ชายหนุ่มไม่รู้ว่าจะเสียดายเงินหรือเสียดายเวลาที่เจอกับนิธินช้าไปดี
“แต่ตอนนี้คุณก็เจอผมแล้ว ผมอยู่นี่ นี่ไง” นิธินบอกกับเขา ตอนที่เขาเคยพูดแบบนั้นให้ฟัง เขานึกขอบคุณนิธินที่ยังดูแลเขาเหมือนเดิมและอดทนในช่วงเวลาอันแสนวุ่นวายไม่หยุดนิ่งที่ผ่านมาของเขา ในวันที่พวกเขามาหายายที่นี่ บางสัปดาห์อธิปพงศ์เองก็ไม่ได้อยู่ติดบ้าน เพราะเขารับงานแต่งหน้าทำผมที่ลพบุรีไว้ด้วยเช่นกัน จึงมีแต่นิธินที่อยู่ดูแลยายกับแม่ในวันหยุดที่พวกเขากลับบ้านมาด้วยกัน
เมื่อนึกถึงความวุ่นวายของช่วงชีวิตที่ผ่านได้มาอธิปพงศ์ก็ยิ้มอ่อนให้ตัวเอง เหมือนเขาได้ทำทุกอย่างดีที่สุดตามความสามารถของเขาแล้ว
อธิปพงศ์เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นกางเกงขาสั้น ถึงเวลาที่ต้องไปเตรียมสำรับกับข้าวอาหารเย็น เขาก็เข้าครัวไปทำหน้าที่ ชายหนุ่มพยายามไม่คิดถึงยาย แต่ก็อดไม่ได้ เขาคิดว่าวิญญาณของยายคงกำลังยืนมองเขาอยู่ในครัวนี้ บางทีอาจจะพากย์ให้เขาทำสิ่งต่างๆ ให้ถูกใจเหมือนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ เขากับแม่กินอาหารเย็นที่คือต้มกับแกงที่ทำตั้งแต่เช้าอุ่นใหม่กันเงียบๆ อธิปพงศ์กับแม่มีนิสัยเหมือนกันหลายอย่าง อย่างหนึ่งคือเป็นคนพูดน้อยเหมือนกัน แต่แม่ก็ขอถามลูกชายกับสิ่งที่เธออยากรู้ เพราะตอนที่นั่งมาด้วยกันในรถ อธิปพงศ์ยังมีความเยือกเย็นกว่าตอนนี้
“เป็นไงมั่งลูก ไปบวชมารอบนี้”
“ดีครับแม่”
เขาตอบแม่แค่นั้น แต่แม่ก็อดสงสัยในคำว่าดีครับของลูกชายไม่ได้
“ยังไงลูก ดีของหมูเนี่ย?”
“ก็ทางวัดเน้นให้ปฎิบัติธรรมอ่ะครับ ทุกวันมีกิจกรรมทั้งวันเลย ไม่ได้นั่งๆนอนๆ ก็นอกจากทำวัตรเช้าเย็น ให้ไปฝึกนับลมหายใจของตัวเอง เรียนปฎิบัติธรรมหัวข้อต่าง ๆ เป็นกลุ่มเล็ก ๆ ครับ”
“อ๋อ ดีนะลูก” แม่ยิ้มปลื้ม “เฮ้อ ป่านนี้ยายคงดีใจนะที่หมูตั้งใจทำให้เขาได้ขนาดนี้”
“ครับ”
แม่ลูกยิ้มให้กันแค่นั้นเป็นการจบบทสนทนาบนโต๊ะอาหาร อธิปพงศ์เศร้าใจลึกๆ ว่าเจ็ดวันที่ผ่านมา แม่ของเขาต้องกินข้าวเย็นเงียบๆคนเดียวแบบนี้หรือ เขาเหลือบมองแม่ ในหัวมีเรื่องที่ต้องกลุ้มใจเรื่องใหม่เข้ามาแล้ว

อธิปพงศ์ขึ้นมาบนบ้าน ผนังบ้านแบบฝาปะกนมีรูปภาพต่างๆที่ใส่กรอบแขวนติดไว้ แต่รูปที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้คงจะเป็นรูปในงานรับปริญญาโทใบที่สองของนิธิน ที่มีทุกคนในครอบครัวของเขาและนิธินพร้อมหน้ากัน ทำให้ชายหนุ่มคิดถึงวันนั้น จนหยิบอัลบั้มรูปถ่ายที่อยู่ในชั้นใกล้ๆออกมาดู ด้วยความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน นิธินคิดว่าตัวเองต้องมีปริญญาโทอีกใบในด้านการจัดการองค์กร เขาจึงสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย อธิปพงศ์จำชีวิตช่วงนั้นได้ดี จากที่นิธินเคยมารอรับกลับบ้านหรือไปใช้เวลาในสนามกีฬาด้วยกัน กลายเป็นว่าเขาต้องไปรอนิธินกลับบ้านเสียเอง ดีว่ามหาวิทยาลัยของนิธินใกล้ที่ทำงานเขามาก จึงไม่มีอะไรทำให้พวกเขาไกลห่างมากนัก นอกเสียจากความเหน็ดเหนื่อย และการออกไปทำงานกลุ่มของนิธินในบางครั้ง แต่เขาก็เข้าใจและอดภูมิในในตัวคนรักไปเสียไม่ได้ อีกรูปที่เล็กลงมา เป็นรูปของพวกเขากับแม่และยายเมื่อครั้งไปเที่ยวเชียงใหม่ด้วยกันเมื่อสองปีก่อน เขาจำได้ดีว่าทริปนั้นยายไม่บ่นสักคำ แม้จะต้องนั่งเครื่องบิน ต่อรถ ขึ้นดอยไกลๆ
“หมูทำอะไรน่ะลูก”
“ดูรูปตอนนิธินรับปริญญาอยู่อ่ะแม่”
“เหรอ” คุณพรเพ็ญยิ้มสุขใจ และดูรูปในอัลบั้มไปพร้อมกับลูกชาย
“ผมไม่เคยเห็นยายมีความสุขอะไรขนาดนี้เลยนะแม่” อธิปพงศ์มองดูรูปต่างๆ ที่ทุกคนในครอบครัวแต่งตัวสวยงามเป็นพิเศษ คุณแม่เอกตราของนิธินโดดเด่นในชุดส่าหรีอย่างดีโดยมีคุณพ่อและพี่ชายพี่สะใภ้กับหลานๆ ยืนอยู่ไม่ห่าง แม่พรเพ็ญกับยายมาลัยดูสวยแปลกตาในชุดผ้าไหมมัดหมี่ที่ไปตัดใหม่สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ นิธินดูสง่างามในชุดสูทสีน้ำเงินเข้ม คลุมด้วยชุดครุยวิทยะฐานะผ้าโปร่งที่มีแถบตราของมหาวิทยาลัย เขาพอจะรู้ดีว่าทำไมแม่และยายของเขาดูมีความสุขเป็นพิเศษ รูปส่วนใหญ่จะมีแต่ภาพคุณยายยืนยิ้มเกาะแขนมหาบัณฑิตอย่างปลาบปลื้ม อธิปพงศ์เคยเห็นความสุขของยายกับแม่แบบนี้จากเขาครั้งหนึ่งเมื่อตอนวันที่เขาอุปสมบทแค่นั้นแต่มันก็ไม่เอ่ออ้นทรงพลังเท่านั้น และนิธินก็เป็นคนที่ทำให้พลังความสุขล้นพ้นแบบนี้กลับมาให้เห็นอีกครั้ง
"ไปงานรับปริญญาหลานเขยทั้งทีนี่ลูก” แม่ลูบหัวเขาและตอบแค่นั้น แต่ความหมายรวมถึงความรู้สึกของเธอเองด้วย แม่อย่างเธอก็มีความฝันที่จะเป็นภาพนี้ของลูกชายเช่นกัน เมื่ออธิปพงศ์ไม่มีโอกาสแบบนี้ในชีวิตเธอก็ไม่ได้โกรธอะไรลูกชาย แต่เมื่ออธิปพงศ์มีคนรักที่พาชีวิตเขาไปในทางที่ดี และยังให้เธอและยายมาลัยผู้เป็นแม่ได้สัมผัสความรู้สึกที่เคยฝันมาทั้งชีวิตแบบนี้ ความสุขมันจึงฉายออกมาอาบเอิบอย่างที่ปิดบังไม่ได้ อธิปพงศ์ชี้ไปยังรูปนึงที่ยายคว้านิธินมาหอมแก้มอย่างชื่นใจ
“ยายหอมนิธินบ่อยมากวันนั้น แม่นิธินงงเลย แม่จำได้มั้ย หึหึ”
“อื้อ” แม่ยิ้มรับ วันนั้นเป็นการพบกันครั้งแรกของเธอกับครอบครัวนิธิน แม้ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากมาย แต่เธอก็สัมผัสได้ว่าทางโน้นก็ดีใจที่ได้เจอเธอและแม่เช่นกัน อย่างที่อธิปพงศ์เคยเล่าให้เธอฟังว่า นี่ก็เป็นครั้งแรกที่บ้านนิธินมางานรับปริญญาของนิธินเช่นกัน เพราะเมื่อตอนปริญญาโทใบแรก มากกว่ายังมึนตึงกันก็คือพวกเขาไม่สามารถเดินทางไปอังกฤษได้ทั้งครอบครัวแบบนี้ได้
“นี่รูปนี้” แม่ชี้ให้ดู ในรูปมีเขากับนิธินหอมแก้มยายคนละข้าง “แม่ชอบ น่ารักดี”
อธิปพงศ์มองตามและยิ้มเศร้าๆ คิดถึงคนในรูป เขาหันไปมองแม่และคิดถึงชีวิตของแม่ต่อจากนี้ไปด้วย
“แม่ครับ ผมไม่อยากให้แม่อยู่ที่นี่คนเดียวเลย”
คุณพรเพ็ญนิ่งเงียบไป มันคือความจริงที่ครอบครัวเธอต้องเผชิญ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาบ้านหลังนี้มีแค่เธอกับแม่อาศัยอยู่เท่านั้น เจ็ดวันที่ผ่านไป เธอพยายามใช้ชีวิตให้ปกติที่สุด แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปตามนั้น ความรู้สึกเงียบเหงามันได้ยึดครองบ้านหลังนี้แล้ว
“แม่ให้คนอื่นเช่าทำมั้ย แล้วไปอยู่กับผมที่กรุงเทพฯ อย่างน้อยก็มีผม มีนิธินอยู่กับแม่นะครับ” อธิปพงศ์พูดแล้วน้ำตาไหล ทำเอาคนเป็นแม่ก็หลั่งน้ำตาตามไปด้วย เธอกอดลูกชายคนเดียวไว้แน่น แม้ไม่มีการสะอื้น แต่น้ำใสๆก็ยังไหลออกมาไม่หยุด ยังไม่มีคำตอบใดๆ ให้กับเรื่องนี้ในตอนนี้
คืนนั้น เป็นคืนแรกที่แม่กับลูกชายนอนห้องเดียวกันหลังจากแยกห้องนอนตามวัยเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว คืนนี้อธิปพงศ์ไปนอนแทนที่นอนของยาย สองแม่ลูกนอนมองเพดานคิดไม่ตกกับชีวิตที่ต้องไปต่อ แต่แม่ก็คือแม่ที่หาเรื่องคุยกับลูกชายคนเดียวที่ยังนอนไม่หลับเช่นกันจนได้
“แล้วบอกนิธินหรือยังลูกว่าสึกแล้ว”
“บอกแล้วครับ พรุ่งนี้เค้ามา”
“อ่อ” แม่รับทราบ “แล้วนี่นิธินกับลูกใครขี้หึงกว่ากัน” แม่ถือโอกาสถามเรื่องที่อยากรู้
“แม่คิดว่าใครล่ะ”
“ลูก”
“นิธินสิแม่” อธิปพงศ์ตอบยิ้มๆ
“หะ จริงเหรอเนี่ย” แม่แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน “แม่นึกว่าหมูซะอีก ยังไง?”
“ก็เขาไม่ชอบให้ผมไปเล่นบาสอ่ะ ตอนแรกก็ไม่ได้บอกหรอกแต่อาการมันฟ้อง”
“หะ?” แม่เริ่มสนใจหันมานอนฟัง
“ก็แบบ ตอนที่ไปรอเค้าเรียนป.โทแหละ บางวันเค้าเลิกดึกผมก็เลยไปเล่นบาสกับกลุ่มเพื่อนแจ๊ค บางวันก็ยังเล่นไม่จบเกมส์ เขามายืนดูหน้าบึ้งรอผม ไม่พูดอะไรตอนกลับบ้าน”
“โห นิธินก็งอนเป็นเหมือนกันนะเนี่ย”
“ก็ นั่นล่ะ เขาจะไม่ชอบเลยเวลาเห็นผมไปเล่นบาสกับเด็กๆ บางคนตัวสูงใหญ่กว่าผมมาก เคยถามอยู่เค้าบอกไม่อยากเห็นผมเล่นเกมส์สไตล์ปะทะกับใคร”
“หรือเห็นว่าอยู่กับหนุ่มๆกว่าหรือเปล่า” แม่ถาม
“คงงั้นด้วยมั้งครับ คือเล่นกับพวกบอย แจ๊ค อ่ะได้ แต่กับทีมที่เค้าไม่รู้จักนี่เค้าไม่ค่อยชอบอ่ะ”
“แล้วไงต่อ พวกนั้นรู้มั้ยว่าแฟนหมูไม่ชอบ”
“ก็ไม่นะครับ อ่อ มีวันนึง ผมโดนชนจนล้ม แล้วนิธินที่รออยู่เห็นพอดี นิธินวิ่งฝ่าเด็กๆเข้ามาหาผมกลางสนาม น้องคนที่ชนพยายามจะช่วยผม เลยถูกนิธินพูดว่า “Don’t touch him!” ใส่ น้องคนนั้นหน้าเสียเลย”
 อธิปพงศ์เขินอายเกินจะเล่าต่อว่า หลังจากดุนักบาสเก็ตบอลคนนั้นแล้วเขาได้ช้อนตัวอธิปพงศ์ขึ้นมาอุ้มออกไปจากกลางสนามหน้าตาเฉย ท่ามกลางสายตาตกตะลึงและสะพรึงกับพละกำลังของผู้ชายในชุดทำงานคนนี้ ที่สามารถอุ้มคนรักตัวสูงลีนได้อย่างหน้าตาเฉย ในสนามมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเกมส์จึงดำเนินต่อ  แต่ข้างสนาม อธิปพงศ์กำลังถูกคนรักและคนที่มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลซักถามถึงอาการบาดเจ็บ เมื่อพบว่าไม่มีอะไรแตกหัก อธิปพงศ์จึงขอตัวไปคลายกล้ามเนื้อ วันนี้เขาคงไม่ต้องลงสนามได้อีกแล้ว
“ผมขอโทษนะครับพี่หมู” หนุ่มร่างใหญ่คู่กรณีมาไหว้ขอโทษทั้งคู่หลังเกมส์จบอีกครั้ง “พี่ด้วยนะครับ”
นิธินที่ใจเย็นลงแล้วยกมือรับไหว้เด็กหนุ่ม “พี่ก็ขอโทษด้วยเหมือนกันที่ดุเมื่อกี๊” เขารู้ตัวว่าทำอะไรลงไปก็ละอายใจเหมือนกันที่ความไม่พอใจของเขามันถูกระเบิดออกกับคนที่ไม่รู้เรื่องมาก่อนอย่างนี้ วันนั้นนิธินเองก็กลับบ้านไปแบบรู้สึกผิดเช่นกัน อธิปพงศ์เข้าใจดี จึงกลายเป็นต้องปลอบใจคนรักกันเสียนาน ก่อนจะเปิดใจคุยกัน อธิปพงศ์ได้ฟังคำถามและเหตุผลของคนรักแล้วก็ชวนหัวในบางเรื่องไม่ได้ นิธินถามอธิปพงศ์ว่าได้คุยกับเด็กๆพวกนั้นมากกว่าเล่นบาสด้วยกันมั้ย เพราะเห็นหลายคนก็สูงใหญ่และหน้าตาดี และเหตุผลจริงๆคือเขาไม่อยากให้ใครถึงเนื้อถึงตัวอธิปพงศ์ เวลานักบาสเก็ตบอลเล่นกันมีบางจังหวะที่ต้องประกบอีกฝ่าย
“โอ๊ย ตอนนั้นตัวเหม็นกันทุกคนแล้ว ใครจะมาคิดแบบคุณเนี่ย” อธิปพงศ์ถอนใจ
“ผมงี่เง่าเนอะ” นิธินสรุปแบบนั้น โดยที่อธิปพงศ์ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ แต่ก็ลูบแขนซบไหล่ปลอบใจคนงี่เง่าไปด้วย

มีต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-11-2020 21:26:16
“แล้วต่อมาหมูได้เล่นบาสอีกมั้ย”
“ก็ได้อ่ะแม่ แต่ไม่ได้ไปเล่นทุกวันแล้ว บางวันไปหาตอนเค้าเลิกเรียนพอดี”
“อืม แล้วหมูว่ายังไง ลูกเองรู้สึกแบบนี้กับนิธินหรือเปล่าเวลาเค้าต้องไปเจอคนอื่น”
“ก็..มีบางล่ะครับ” อธิปพงศ์ตอบเสียงเบาๆ “นิธินไม่ค่อยเจอใครหรอกแม่ แม่สบายใจได้นะครับ”
“จ้ะ” แม่ยิ้มรับ ก่อนจะหันกลับมาเพื่อพยายามนอนให้หลับ แม้จะมีความสุขที่ได้ยินเรื่องราวน่ารักๆของลูกชายกับแฟนหนุ่มแล้ว แต่ปัญหาก็คือปัญหา ที่เธอกับลูกชายต้องหาทางออกไปด้วยกันให้ได้ คุณพรเพ็ญมั่นใจว่าสามารถอยู่บ้านนี้คนเดียวได้แต่เห็นจากแววตาเจ็บปวดของลูกชายแล้ว เธอเองไม่อยากเป็นต้นเหตุแห่งความทุกข์ใจของลูกที่ก็เป็นห่วงเธอมากเช่นกันเลย

เช้าวันใหม่ของลองแม่ลูกเริ่มต้นอย่างเรียบง่าย เพียงแต่เช้านี้ของคุณพรเพ็ญมีอธิปพงศ์มาใส่บาตรด้วยกันต่างจากทุกวันที่ผ่านมา เธอไม่อยากคิดมากกับเรื่องที่ค้างคาในหัว เมื่อกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลเสร็จแล้ว เธอก็ถามลูกชายถึงนิธิน
“แล้วนี่นิธินจะมากี่โมงลูก”
“ผมว่าเดี๋ยวช่วงเที่ยงๆคงถึงบ้านเรา เพราะว่าเค้ามากับแจ๊คกับบอยอ่ะครับ นี่เค้าบอกว่าออกมาแล้ว”
“อืม” แม่รับคำแค่นั้น ก่อนจะแยกย้ายไปทำธุระส่วนตัวของตัวเองแล้วมานั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน

Mercedes Benz G-Class สีดำกำลังมุ่งหน้าสู่เมืองลพบุรี ขณะนี้เก้าโมงเช้า นิธินเหม่อมองข้างทาง เขาไม่อาจงีบหลับลงได้
“เป็นไรอ่ะ ตื่นเต้นเหรอนิธิน” บอยหันมาถามคนข้างๆ พลกฤษณ์เจ้าของรถที่ขับอยู่เงี่ยหูฟังว่าเพื่อนจะพูดอะไรกัน เบาะหน้าของวันนี้เป็นที่นั่งของพีร์ บอยจึงต้องมานั่งข้างหลังกับนิธิน
“อืม” นิธินพยักหน้า รอยยิ้มน้อยๆซ่อนไม่มิดเพราะเขินที่เพื่อนก็รู้ว่าเขารู้สึกอะไรในตอนนี้
“โหย อะไรวะ ไม่เบื่อกันมั่งเหรอพวกแก”
“หึ” นิธินปฏิเสธ
“ยังไงวะคะ? พวกมึ..เอ่อ พวกแกอยู่ด้วยกันทุกวัน นี่ไม่เจอกันเจ็ดวันเองป่ะ” ถึงแม้บอยจะสนิทสนมกับนิธินมากขึ้นตามกาลเวลาแต่นิธินก็ยังเป็นคนที่บอยรู้สึกเกรงใจอยู่เสมอ

“ก็ ผมไม่เคยห่างกับหมูแบบนี้เลย ต่อให้ไปทำงานที่ออฟฟิศอื่น เราก็วิดิโอคอลคุยกันทุกวัน แค่รู้เวลาเมืองไทย แล้วรู้ว่าตอนนั้นหมูทำอะไรอยู่ แต่เนี่ยเป็นเจ็ดวันที่ผมไม่ได้คุยกับเขา ไม่ได้เห็นหน้าเขาเลยไง” ชายหนุ่มนึกถึงเจ็ดวันที่ผ่านมา ที่เขาพยายามข่มใจไม่พิมพ์อะไรไปในไลน์ของอธิปพงศ์ สิ่งที่เขาทำได้ มีเพียงแต่ดูรูปอีกฝ่ายแก้คิดถึงเท่านั้น แม้อยู่ด้วยกันมาใกล้จะสิบปีแล้ว แต่มันก็เป็นแค่เวลาที่ผ่านไป เพราะเขาไม่เคยรู้สึกเคยชินกับการไม่ได้อยู่กับอธิปพงศ์มากขนาดนี้เลย

“อูววว” บอยทาบอกเมื่อได้ฟัง “แต่หมูแม่งเนาะ มันตั้งใจบวชให้ยายมันจริงๆ” บอยนึกถึงวันอุปสมบทของเพื่อนที่คราวนี้พวกเขาทุกคนได้มาร่วมงาน เป็นงานบวชเล็กๆไม่มีเครื่องแห่งานเลี้ยงรื่นเริง แค่มีขั้นตอนที่ถูกต้องตามหลักการอุปสมบท เขายังจำได้ดีตอนเห็นเพื่อนเป็นพระใหม่ออกมาจากพระอุโบสถ อธิปพงศ์ดูสงบนิ่งจนเขาไม่กล้าเอ่ยปากใดๆนอกจากยกมือไหว้อนุโมทนา และเห็นแฟนเพื่อนนิ่งลงเพราะต้องทำใจให้ได้กับชีวิตอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ต้องอยู่คนเดียว ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเขาได้เจอกับนิธินที่สนามวอลเล่ย์บอลแล้วแค่ครั้งหนึ่ง ก็พอรู้ได้ว่าคนรักของเพื่อนดูหงอยเหงาลงอย่างเห็นได้ชัด
“เออ ตอนงานศพยายอ่ะ นิธิน รู้มะว่าแฟนเก่าหมูมางานกี่คน” บอยนึกอะไรสนุก ๆ ออกจึงลองถามแบบนั้นแกล้งคนตัวใหญ่
“เท่าที่ผมรู้ ผมเห็นแค่คนที่เป็นหมอแค่คนเดียวนะ”
“เชรดด รู้จักจิ๊บด้วย”
“อื้อ ก็รู้จักตอนพายายไปหาหมอนี่ล่ะ ผมเคยเจอที่โรงพยาบาล เค้าเป็นคนนึงที่รักษายาย”
“หูยยย ยังไงอีก หมูมันเล่าอะไรให้ฟังมั้ย”
“ก็บอกแค่ว่าเคยคบกันตอน High school เป็นแฟนคนแรกคนเดียวที่แม่กับยายรู้จัก”
“มันเล่ามะทำไมถึงเลิกกัน”
“อืม เค้าบอกตอนนั้นเกเรมาก เจ้าชู้มาก มีคนอื่น..เยอะ”
“เออ คนจริงว่ะ แฉตัวเองให้ผัวฟังได้ด้วย”
พลกฤษณ์ที่ขับรถอยู่ถึงกับนั่งเงียบไม่กล้าหันไปมองพีร์ที่มองเขาอยู่ เพราะเรื่องสมัยวัยรุ่นของอธิปพงศ์ไม่ต่างอะไรจากเขาเลย ไม่รวมที่ว่าเคยคบกับเด็กเรียนผู้มุ่งมั่นเป็นหมอเหมือนกันอีกด้วย ส่วนนิธินก็ถามบอยต่อ
“ทำไมเหรอ วันนั้นมีใครมาอีกเหรอ”
“ไม่มีหรอก ถึงมีก็ไม่สำคัญล่ะตอนนี้”
“มึงเริ่มเองนะบอย มึงจบให้ดีๆ” พลกฤษณ์ส่งเสียงมา
“อย่าใส่ใจเลย อีพวกนั้นมีลูกมีผัวกันไปกี่คนแล้ว หมอจิ๊บเองก็เถอะ”
“ใช่ๆ เค้ามีลูกสองคนล่ะ” นิธินพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้
“แล้วตอนหมอจิ๊บรู้ว่านักเยในตำนานอย่างหมูมันเป็นแฟนกับนิธินนี่นางไม่ตกใจเหรอนิธิน”
“ก็ตกใจ เค้าก็ถามเหมือนที่บอยเคยถามตอนเจอกับหมูนั่นล่ะ”
“เออ ตลกว่ะ ทุกคนคงไม่คิด คิดว่าอย่างหมูมันน่าจะมีเมียชะนีเผ็ดๆมากกว่า” บอยเปลี่ยนเรื่องคุย
“มึงล่ะอีแจ๊ค ส่งพวกกูแล้วไปแค้มปิ้งวังก้านเหลืองเลยใช่มะ”
“ใช่ๆ” พลกฤษณ์สมทบ “กูเห็นรีวิวว่าใกล้ๆ แล้วมันที่เดียวกับบ้านหมูกูเลยอยากมา มึงอ่ะไม่ไปกับพวกกูแน่นะ”
“ไม่อ่ะค่ะ เป็นทริปคู่รักละกัน ไว้ทริปเพื่อนฝูงค่อยว่ากันนะคะ”
“เออได้” พลกฤษณ์รับคำก่อนจะนึกออก “เออ วันคริสมาตร์นี่มึงอย่าลืมปาร์ตี้ที่บ้านกูล่ะ นิธินกับหมูด้วย มาให้ได้นะ”
“โหย ไม่ลืมอยู่แล้วค่ะ กูดีใจจะตายที่มะม้ามึงชวนกูเนี่ย”
บทสนทนาในรถขับเคลื่อนโดยพลกฤษณ์กับบอยโดยมีพีร์เออออด้วยเป็นระยะ ๆ ส่วนมากจะเป็นเรื่องอื่นและเกมส์ออนไลน์ที่นิธินไม่ได้สนใจ รถยังอยู่บนถนน แต่จิตใจของเขาอยู่ที่บ้านสวนของแม่อธิปพงศ์แล้ว
“แม่ ดินปลูกนี่ผสมยังไงนะครับ” อธิปพงศ์ลองมาช่วยงานในสวนกับแม่ ถึงเขากับแม่จะมีอะไรเหมือนกันหลายอย่าง แต่ก็มีสิ่งที่ต่างกันหลายอย่าง รวมถึงความชอบ ความสนใจด้วย อธิปพงศ์ชอบความสวยงามจึงเป็นช่างผม ต่างกับแม่ที่รักธรรมชาติจึงเป็นเกษตรกร
“ดินปลูกอะไรล่ะลูก ปลูกผักหรือปลูกไม้ดอก ไม้ยืนต้น”
“อ่าวมันไม่ใช่ดินตัวเดียวกันเหรอแม่”
“หึ” คุณพรเพ็ญส่ายหน้ายิ้ม ๆ “ไม่ใช่จ้ะ”
อธิปพงศ์หน้าเสียเล็กน้อย เขาเห็นแม่ทำงานนี้มาตั้งแต่เด็ก แต่กลับไม่รู้อะไรมากเลยกับสิ่งที่อยู่ในบ้าน การตั้งใจจะมาช่วยนี้ดูเหมือนจะเพิ่มงานให้แม่ไปอีก 
“มาสิ เดี๋ยวแม่สอนให้ ทำสูตรไม้ประดับไม้กระถางก่อนละกันนะ มันพร่องอยู่พอดี” เธอบอกกับลูกชายอย่างใจดี “หมูเทดินทรายลงไปถังนึงนะ” อธิปพงศ์ใช้ถังสิบลิตรตักดินทรายมาจากกองลงอ่างผสมปูนที่ใช้เป็นภาชนะสำหรับผสมดินปลูกในสวนนี้
“แล้วก็เอาแกลบดินกับแกลบเผาถ่านเทลงไปอย่างกระสอบ”
ชายหนุ่มทำตามคำแม่ ก่อนจะหยิบจอบผสม แม่ก็ทักท้วงขึ้นมา
“ยัง เหลือขี้ควายกับน้ำหมักนะ”
อธิปพงศ์มองหน้าแม่อึ้งๆ เขาเอารถเข็นไปขนกระสอบขี้ควายที่กองไว้อีกมุม ก่อนจะเทลงไปผสมพร้อมกับน้ำหมักจุลินทรีย์ที่แม่เขาทำเอง เขาใช้จอบคนผสมให้เข้ากัน ก่อนที่แม่จะบอกให้เขาตักลงถุงเพาะชำปริมาณครึ่งถุง ที่เหลือในกระบะบางส่วนเธอเรียกคนงานมาช่วยกันเอาดินที่ผสมเสร็จนี้ไปพึ่งแดดเป็นเวลาสองวัน
“เป็นไงลูกงานชาวสวน” คุณพรเพ็ญมองหน้าลูกชายคนเดียวที่มีความท้อในแววตา
“แม่ต้องจำสูตรดินสูตรทุกอย่างในนี้หมดเลยเหรอครับ”
“จ้ะ” คุณพรเพ็ญตอบแค่นั้น มือหยาบกร้านชุ่มเหงื่อของเธอลูบแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อสวยงามของลูกชาย ผิวพรรณขาวเนียนอย่างชาวกรุงยังไม่ถูกแดดทำร้ายมากนัก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงผิดหวังที่เห็นแบบนี้ แต่กับตอนนี้เธอไม่ถือสาอะไร เพราะลูกชายของเธอรักและถนัดงานอื่นที่เธอเองก็ทำไม่ได้เลยเช่นกัน ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าบางเดือนเงินหมุนในสวนนี้ก็เป็นเงินที่ลูกชายหาส่งมาให้ทั้งนั้น รวมถึงรถกระบะคันใหม่ที่เขาซื้อให้ด้วย
“ไม่เป็นไรนะลูก ค่อยๆทำไป แม่เชื่อว่าหมูทำได้ เดี๋ยวไปดูแม่เอากล้ามะม่วงลงดินดีกว่า”
“ครับแม่” อธิพงศ์รับคำแม่ เขานึกไม่ออกเลยว่าถ้ากลับมาอยู่กับแม่จริง ๆ เขาจะช่วยหรือสร้างงานให้แม่เพิ่มกันแน่

รถของพลกฤษณ์เลี้ยวเข้าบ้านสวนของอธิปพงศ์ ทันทีที่เครื่องยนต์ดับลง ร่างสูงใหญ่ของนิธินก็เปิดประตูลงมาให้คนงานอยู่แถวนั้นเห็นก่อนเป็นคนแรก นิธินเข้าไปถามคนงานชายที่กำลังเข็นกระสอบดินปลูกออกมากองหน้าสวน
“หมูอยู่ไหนครับ?”
“อ่อ อยู่ตรงผักสลัดกับป้าแมวน่ะ”
ได้ยินดังนั้นเขาก็ยิ้มให้คนงานเป็นการขอบคุณ ก่อนจะวิ่งไปยังแปลงผักสลัดที่อยู่ทางทิศตะวันออกของสวน อธิปพงศ์ได้ยินเสียงรถก็รู้ว่านิธินมาแล้วก็เดินออกมาหารอคนรักที่ด้านนอกของแปลงผัก

เพียงแค่ทั้งคู่เห็นหน้ากันและกัน ความรู้สึกต่างๆ ก็ทำให้ทั้งคู่คว้ามือของอีกฝ่ายมาจับไว้ แม้จะอยากกอดกันแค่ไหน แต่พวกเขาก็ยังรู้ว่ามีสายตามากมายจับจ้องดูอยู่

"แม่สวัสดีครับ"
เสียงทักทายของเพื่อนข้างหลังทำให้อธิปพงศ์ปล่อยมือจากคนรัก
"อ่าวมากันหมดเลย หวัดดีลูก" คุณพรเพ็ญรับไหว้พลกฤษณ์ที่พาแฟนของเขามาด้วยในครั้งนี้อย่างเอ็นดู
"แล้วบอยล่ะลูก?"
"ส่งมันที่บ้านแล้วครับ แต่บอยฝากบอกเย็นๆมาหา"
"จ้า"
"งั้นเดี๋ยวผมขอตัวก่อนนะครับ สวัสดีครับ"
"อ่าวไม่อยู่คุยกับหมูก่อนเหรอลูก"
"อ่อ คือเดี๋ยวผมไปน้ำตกวังก้านเหลืองต่ออ่ะครับ ไปแค้มปิ้งกัน"
"อ่อจ้า ขอบใจมากๆนะแจ๊ค"

พลกฤษณ์กับพีร์ยกมือไหว้คุณพรเพ็ญ นิธินกล่าวขอบคุณพลกฤษณ์ที่มีน้ำใจมาส่ง โดยเจ้าตัวตบไหล่นิธินเบาๆรับคำขอบคุณ เขาหันไปมองพีร์ที่มองอธิปพงศ์ด้วยความหลงใหลแม้เก็บอาการแล้ว จริงอยู่เพื่อนของเขาดูดีแม้ไม่มีคิ้วและเส้นผมในตอนอุปสมบท หรือกระทั่งตอนนี้ในชุดชาวสวนที่มีหมวกและเสื้อแขนยาวคลุมตัว แต่เขาก็ไม่ชอบให้พีร์มองใครแบบนี้อยู่ดี จึงกระแอมเบาๆให้พีร์รู้ตัวก่อนจะพากันเดินออกไป

"ทำอะไรอยู่ครับฮันหนี?"
"ช่วยแม่ตากดินของแปลงนี้อยู่" อธิปพงศ์ตอบยิ้มๆ
"งั้นเดี๋ยวผมมาช่วยนะ"
"ครับ"
คุณพรเพ็ญมองลูกชายที่ตอนนี้อยู่กับคนรักอย่างปลาบปลื้ม เธอมองตามหลังนิธินที่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในบ้าน ทุกวันหยุดที่ผ่านมาถ้าทั้งคู่กลับมาบ้านนิธินมักจะอยู่ช่วยเธอทำงานในสวนนี้ เพราะอธิปพงศ์เป็นคนไปเฝ้ายายที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาล
เธอยังจำครั้งแรกที่เจอคนรักของลูกได้ดี นิธินหล่อเหลาและอบอุ่นเหมือนพระเอกในหนังบอลลีวูดอย่างที่แม่ของเธอว่าไว้ เมื่อเธอเข้าไปหาลูกชายก็ไม่ได้กลิ่นบุหรี่ตามตัวหรือผ่านลมหายใจเหมือนทุกครั้งที่เคยเจอ เธอประหลาดใจและดีใจเป็นอย่างมากที่เห็นลูกชายคนเดียวทำในสิ่งที่เธอปรารถนานั่นก็คือการเลิกสูบบุหรี่ได้เสียที และเมื่อเจอกันครั้งต่อๆมาอธิปพงศ์ก็ดูดีขึ้น มีความคิด ความรับผิดชอบที่ดีขึ้นสมวัย
คงเป็นเพราะนิธินที่เปลี่ยนลูกชายของเธอ จริงอยู่ที่เธอเคยเป็นห่วงว่าความเป็นชาวต่างชาติ และความแตกต่างทางการศึกษาจะเป็นปัญหากับชีวิตคู่ของลูกหรือไม่ แต่เวลาที่ผ่านมานั้นก็พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เธอเคยบอกกับอธิปพงศ์ก่อนที่จะตกลงปลงใจกับนิธินเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
นิธินออกมาในชุดชาวสวนพร้อมทำงานเหมือนทุกคนในสวน ตอนนี้เป็นเวลาใกล้จะสิบเอ็ดโมงเช้า งานช่วงเช้าส่วนใหญ่เป็นงานกลางแดดอย่างเช่นปรับหน้าดินแปลงผักสลัดที่เพิ่งเก็บส่งขายไป นิธินช่วยอธิปพงศ์กับคุณพรเพ็ญตากดินที่แปลงผักสักพักก็เสร็จ พวกเขาทำงานส่วนอื่นต่ออีกหน่อยก่อนจะพักเที่ยง และเริ่มงานช่วงบ่ายที่เป็นงานในร่มอย่างบรรจุดินปลูกลงกระสอบ และปลูกชำต้นไม้ ที่ลูกชาวสวนอย่างอธิปพงศ์ยังต้องเรียนรู้อีกมาก ต่างกับนิธินที่ดูคล่องแคล่วกว่าอย่างเห็นได้ชัด คนงานสองสามคนกลับบ้านเมื่อเมื่อถึงเวลาเลิกงาน เย็นนี้มีบอยแวะมาพูดคุยกับคุณพรเพ็ญและสมาชิกในครอบครัว บอยชวนครอบครัวเพื่อนออกไปกินหมูกระทะด้วยกันแต่อธิปพงศ์กับแม่ปฏิเสธ พวกเขาอยากให้เวลาอยู่ด้วยกันในบ้านสวนอันแสนสงบ กับกับข้าวธรรมดาที่ทำกันเองมากกว่า แม้กินข้าวกันแล้วแต่ทั้งสามคนก็ยังนั่งอยู่ด้วยกันบนโถงของบ้านที่ชั้นสอง โทรทัศน์ที่เปิดอยู่ทำให้ตัวบ้านพอมีเสียง คุณพรเพ็ญมองลูกชายกับคนรักอย่างอิ่มเอม หลายครั้งที่เธอเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันสองคนตามลำพัง แม้ทั้งคู่จะใช้ชีวิตด้วยกันนานแล้ว แต่ดูเหมือนชีวิตคู่ของพวกเขาจะยังไม่จืดจางลงไปเลย แม้กระทั่งตอนนี้ที่พวกเขาไม่ได้แสดงออกซึ่งความคิดถึงกันเพราะอยู่ต่อหน้าเธอก็ตาม
“แม่ไม่รู้จะดูอะไรแล้วอ่ะ” คุณพรเพ็ญบอกกับลูกๆ ทันทีที่รายการข่าวจบ เธอลุกขึ้นเพื่อจะไปห้องนอนตัวเอง
“หมูมาเอาเครื่องนอนของลูกด้วยสิ”
อธิปพงศ์ได้ยินอย่างนั้นก็อึกอัก เขาไม่อยากให้แม่ต้องนอนคนเดียว คุณพรเพ็ญรีบพูดอะไรก่อนที่ลูกชายจะพูด
“แม่นอนได้ลูก คืนนี้นิธินกลับมาแล้วลูกอยู่กับนิธินเถอะ”
อธิปพงศ์จึงเดินตามแม่ไปหยิบหมอนกับผ้าห่มของตัวเอง เขารู้สึกลำบากใจไม่น้อยที่ต้องนอนตามลำพัง หรือถ้าเขาเลือกอยู่กับแม่ ก็นึกถึงนิธินที่ตั้งใจรอเจอหน้า เขาสัมผัสได้ถึงความคิดถึงของคนรักที่รอการแสดงออก เขาหยิบของตัวเองและขอเข้าไปกอดแม่ เธอตกใจเล็กน้อยแต่ก็ดีใจที่ลูกชายแสดงความรัก
“มันก็ต้องเป็นแบบนี้ล่ะหมู ลูกก็มีหน้าที่ที่ต้องดูแลนิธินให้ดีนะ” เธอกระซิบบอกลูกชายที่กอดกันแน่น ก่อนจะคลายกอดและละจากกันเมื่อความรู้สึกทั้งหมดได้ผ่านการถ่ายทอด เยียวยากันและกันอย่างสมบูรณ์แล้ว
นิธินที่นั่งรออยู่ที่เดิมยิ้มให้คนรักผู้เดินออกมาจากห้องนอนของแม่ บนบ้านเงียบสงัดทันทีที่พวกเขาปิดโทรทัศน์และปิดไฟ แต่ในห้องนอนของพวกเขาที่ชั้นล่าง ทันทีที่ประตูปิดลง ความรู้สึกคิดถึงกันและกันของคนทั้งคู่ก็เปิดเผยขึ้นมาทันที นิธินรวบตัวอธิปพงศ์เขามากอดโดยที่อธิปพงศ์ก็กอดรัดเขาตอบจนแน่น ก่อนที่จะก้มมองคนรักที่ไม่มีเส้นผมและขนคิ้วหนวดเครา เขาค่อยๆไล้มือสัมผัสใบหน้าที่คิดถึง อธิปพงศ์ในตอนนี้ที่มีแต่ใบหน้าโล้นๆดูสะอาด บริสุทธิ์ แต่ก็ยังน่าเย้ายวนใจสำหรับเขาเสมอ ชายหนุ่มทั้งสองไม่อาจห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ความคิดถึงได้เปลียนเป็นความต้องการโอบกอดคนตรงหน้า แม้ว่าวันนี้จะทำงานกลางแดดมาค่อนวัน แต่ความเหนื่อยล้านั้นก็หายไปทันทีเพียงแค่พวกเขาได้สูดกลิ่นกายฟิโรโมนของคนรัก ความต้องการของพวกเขาในตอนนี้มีแค่กันในกันในอ้อมกอดยามนอนหลับเท่านั้น ....

เมษายน 2563
“แล้วเมื่อไหร่จะมีวิดิโอคอลครอบครัวอีกล่ะลูก” คุณพรเพ็ญถามนิธิน เธอชอบบรรยากาศเวลามีครอบครัวของนิธินที่มุมไบในการพูดคุยทางวิดิโอคอลด้วย แม้จะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ก็ต่างฝ่ายต่างก็ดีใจที่ได้พบหน้ากัน ยังเห็นว่าทุกคนยังสบายดี ไม่มีใครติดโรคระบาด
“พรุ่งนี้ก็ได้ครับแม่” นิธินนึกขึ้นได้กับผลงานของตัวเองในวันที่ไม่ได้ออกไปที่ทำงาน “นี่ๆ ผมมีอะไรให้หมูกับแม่ดู”
เขาหยิบกระปุกที่ใส่น้ำมันสีเหลืองขึ้นมาอวดในกล้องอย่างภูมิใจ “ผมนำ Ghee homemade เองได้แล้วนะ”
“มันคืออะไรเหรอลูก น้ำมันจากอะไร”
“น้ำมันจากนมครับแม่ปกติใส่ในอาหารอินเดีย ราคาแพงกว่าน้ำมันทั่วไป ผมเลยลองทำเอง ตามยูทูปนี่แหละครับ”
“เก่งมากลูก นิธินเก่งเนอะลูกเนอะ” คุณพรเพ็ญพยักเพยิดกับลูกชายคนเดียวที่มองคนรักยิ้ม ๆ
“สัญญานะว่าจะถ้าเลิกล๊อกดาวน์มาทำแกงไก่อินเดียกับนานให้ผมกับแม่กิน”
“ครับๆ สัญญา อยากไปใจจะขาดอยู่แล้วเนี่ย ฮันหนี”
“อดทนนะลูก เบื่อก็คอลมาหาหมู หาแม่เมื่อไหร่ก็ได้” คุณพรเพ็ญรู้สึกเบื่อเหมือนกันที่ต้องพูดคำนี้ทุกครั้งเวลาคุยกับนิธิน แต่เธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรให้กำลังใจลูกชายอีกคนได้ดีไปกว่านี้แล้ว
“ครับแม่” นิธินแบ่งรับแบ่งสู้ตามเดิม เขาไม่อยากให้ใครเป็นห่วงก็จริง แต่ก็รู้สึกเซ็งเกินกว่าจะเข้มแข็งบอกกับทุกคนว่าเขาไม่เป็นไรในเวลานี้ได้
“คุยอะไรต่อกับหมูมั้ยลูก”
“ไม่ครับ” อธิปพงศ์เองก็ส่ายหน้าเช่นกัน พวกเขารู้สึกอิ่มใจ พอใจกับบทสนทนาในวิดิโอคอลวันนี้ เหมือนแบตเตอร์รี่ของพวกเขาได้รับการชาร์ทพลังงานจนเต็มแล้ว พวกเขาล่ำลากันสักพักก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ต่างฝ่ายต่างหวังว่า ชีวิตในวันไปจะมีสถานการณ์โรคระบาดที่ขึ้น จะได้กลับมาอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าเสียที

มีต่อค่ะ
หัวข้อ: Re: (ตอนพิเศษ น.23)Mujhe apana hatha de-Give me your hands–แบ่งรักให้อุ่นใจ
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำพริกแมงดา ที่ 24-11-2020 21:26:37
มิถุนายน 2563

อธิปพงศ์เปิดประตูเข้าบ้านตอนสี่ทุ่มครึ่งเหมือนอย่างทุกวันในช่วงนี้ นิธินที่คืนนี้ยังไม่เข้านอนนั่งรอเขาอยู่โดยดูซีรี่ส์อยู่กลางห้องในชุดนอน หันไปตามเสียงแล้วยิ้มให้คนรักที่ยิ้มตอบ ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปอาบน้ำ วันนี้เป็นอีกวันที่เหน็ดเหนื่อยของเขา จากการคลายล๊อกดาวน์ทำให้มีผู้มาใช้บริการที่ร้านมากขึ้น ซึ่งคราวนี้เขาไม่ได้ทำงานที่ร้านพี่กุ้งในฐานะช่างตัดผมอีกต่อไปแม้จะกลับมาทำงานประจำกับพี่กุ้งตามคำขอร้องของนิธินแล้วก็ตาม แต่พี่กุ้งกลับมอบภาระงานที่ท้าทายกว่าให้อธิปพงศ์ ในช่วงโควิดที่ผ่านมา พี่กุ้งได้ไปเริ่มฟื้นฟูร้านเดิมของเซนเซที่ชุมชนญี่ปุ่นย่านสุขุมวิทที่เซนเซตั้งใจยกให้เขาทำกิจการ เขาได้เล็งเห็นโอกาสในช่วงนี้ที่จะเปิดร้านใหม่ นำเสนอบริการในรูปแบบซาลอนและสปาเส้นผมกับผิวหน้า แม้ตอนนั้นใครๆจะหาว่าเขาเสี่ยงแต่เขาก็มั่นใจว่าหลังคลายล๊อกดาวน์จะมีลูกค้ากลับมาใช้บริการธุรกิจร้านตัดผมเยอะขึ้น เมื่อเดือนพฤษภาคม อธิปพงศ์เองต้องกลับมากรุงเทพฯเพื่อเรียนรู้งานใหม่ ที่ไม่ใช่แค่เนื้องาน แต่เป็นการบริหารร้านในฐานะผู้จัดการและหุ้นส่วน

น้ำอุ่นจากฝักบัวทำให้ชายหนุ่มสบายตัวขึ้น แม้จริงๆเขาอยากจะแช่น้ำในอ่างอาบน้ำที่นิธินซื้อมาติดตั้ง แต่เขาก็ไม่มีเวลาละเลียดฟองสบู่เพราะเหนื่อยล้าจากการทำงานเป็นทุน งานใหม่ของเขามีแต่ความท้าทาย การแต่งหน้าและทำผมสำหรับงานต่างๆว่าท้าทายแล้ว งานคุมคน งานตรวจงานที่ลูกน้องทำถือว่าท้าทายยิ่งกว่าสำหรับเขา ที่ผ่านมาแม้เขาจะไม่ค่อยถูกพี่กุ้งตำหนิเรื่องการทำงาน แต่กับช่างที่ยังไม่ชำนาญเขาเองต้องรับบทพี่เลี้ยงคอยสอนคอยจี้ เพราะงานบริการผลงานคือความพอใจที่ลูกค้าได้รับโดยตรง ไหนจะต้องทำบัญชีเรียนรู้ระบบเอกสารที่เจ้าของร้านต้องทำ ต้องรู้ต้นทุนกำไรอีก เขานับถือพี่กุ้งจริงๆ ที่เป็นเจ้าของกิจการมาตั้งแต่อายุน้อย และบริหารมันมาได้ในหลายสิบปี เขาว่าตัวเองคิดถูกมาก ๆ ที่ไม่ริเริ่มหาทำร้านของตัวเองตอนอายุน้อยกว่านี้ อธิปพงศ์ในวัย 41 คิดว่าเวลานี้คือลงตัวที่สุดสำหรับเขา

เขาใส่เสื้อคลุมอาบน้ำออกจากห้องน้ำมาเจอคนรักที่ย้ายมานอนดูซีรี่ส์เรื่องเดิมอยู่บนเตียง เขาเบาเสียงเพื่อจะเริ่มสนทนากับคนรัก
“เป็นไงมั่งครับวันนี้”
อธิปพงศ์ที่เช็ดผมอย่างเบามืออยู่ยิ้มยู่ปากให้กับคนที่ถามประโยคเดิม ๆ ทุกวันตั้งแต่เขามีตำแหน่งงานใหม่ ภาระงานใหม่
“ก็ยังงงๆ กับทำบิล ลงข้อมูลอยู่อ่ะครับ วันหลังคงต้องให้คุณช่วยติวเอ็กเซลล์ให้แล้วล่ะ” อธิปพงศ์นึกถึงตัวเองที่เคยกลัวตอนแรกกับความแตกต่างทางการศึกษาของเขากับนิธิน แต่ตอนนี้เขายิ่งคิดว่าตัวเองคิดถูกสุดๆ
“วันไหนดีล่ะ วันหยุดผมมั้ย ผมไปหาคุณที่ร้าน”
“ได้ๆ ดีเลย” เขาละจากการเช็ดมือมาหอมแก้มคนใจดี “ขอบคุณนะครับ” ก่อนจะเดินไปเป่าผมให้แห้ง นิธินยิ้มพอใจกับสิ่งที่ได้รับ อธิปพงศ์ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จภารกิจทั้งผมและการบำรุงผิวหน้า
“เอ๊ะ ฮันหนี คุณทาชุดสกินแคร์ที่ผมจัดให้หลังอาบน้ำรึยังนะ” อธิปพงศ์เข้ามาดูหน้าคนรักที่ดูเหมือนจะลืมการบำรุงผิวหน้า เพราะเจ้าตัวเองนั่นแหละที่ชอบบอกว่าอธิปพงศ์ที่อายุเท่ากันทำไมผิวหน้าดีขึ้นทุกวัน ต่างกับเขาที่ไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ จึงถูกอธิปพงศ์จับมาเป็นผู้ได้รับการทดลองคอสสปาผิวหน้า และทรีตเม้นต์ของทางร้านอยู่บ่อยครั้ง ให้เห็นถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่เขามีว่าสามารถฟื้นฟู บำรุงผิวผู้ชายที่ละเลยการดูแลมานานได้ดีแค่ไหน แต่ก็ต้องบำรุงและทาครีมกันแดดควบคู่ไปด้วย อธิปพงศ์จึงจัดชุดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าผิวกายให้คนรักใช้ด้วย แต่ดูเหมือนนิธินจะชอบลืมอยู่บ้าง
“เอ่อ ผมลืมอ่ะครับ” นิธินตอบเสียงอ่อยๆ อธิปพงศ์ถอนหายใจ และไปหยิบขวดโทนเนอร์กับสำลีมาเช็ดหน้าให้คนรักที่นั่งรออยู่บนเตียง นิธินนั่งนิ่งยิ้มกริ่มเพราะชอบให้คนรักทำแบบนี้ให้อยู่แล้ว อธิปพงศ์แอบหมั่นไส้ท่าทีของเขา เลยหัวเราะพรืดออกมา ก่อนจะเช็ดหน้าต่อให้เสร็จแล้วลงผลิตภัณฑ์เนื้อครีมที่ต้องวอร์มถูในนิ้วมือแล้วค่อยๆ ทาก่อนกดเบาๆลงบนผิวหน้าและลำคอ และไม่ลืมลงอายครีมรอบดวงตาที่เริ่มมีริ้วรอยให้คนรัก ทันทีที่ทาเสร็จ เขาหยุดนิ่งเพราะรู้ตัวว่านิธินมองเขาไม่วางตาตลอดการทาครีมให้
“อะไรเนี่ย” อธิปพงศ์เริ่มเขินจึงแก้เก้อไปแบบนั้น แต่ก็ไม่ทันกล้ามแขนล่ำที่โอบเขาอย่างว่องไว ดวงตาคมกล้านั้นมองเจ้าเล่ห์ ก่อนคางสากจะแนบลงข้างแก้มแล้วกระซิบ 
“ที่ไม่ทาครีม ไม่ใช่ลืมหรอก” อธิปพงศ์เริ่มงง แต่นิธินก็สมทบมาว่า “ทาไปก็ต้องล้างหน้า แล้วทาใหม่อยู่ดี” อธิปพงศ์ไม่ทันได้พูดอะไร รู้ตัวอีกทีก็ถูกจู่โจมจูบเข้าเสียแล้ว ร่างลีนแกร่งของชายหนุ่มอ่อนระทวยไปกับรสจูบที่เขาได้รับ ก่อนที่นิธินที่รอคอยจังหวะนี้มานานจะเอ่ยปากทวงถามเหมือนจะงอนเล็ก ๆ
“คุณจำไม่ได้จริงๆเหรอว่าเราไม่ได้มีอะไรกันนานแค่ไหนแล้ว” อธิปพงศ์นิ่งไปเพราะเขายุ่งกับงานใหม่จนลืมไปสนิทจริงๆ ตั้งแต่กลับมาอยู่ด้วยกันพวกเขาเพิ่งมีอะไรกันได้แค่สองครั้ง หนึ่งในสองเป็นแบบรีบๆ ที่เขาก็จำไม่ได้ว่ามันกี่สัปดาห์มาแล้ว
เขาไม่กล้าสบตาคนรัก ก่อนจะถูกช้อนมาจูบ จูบที่ทวงทุกสิ่งที่นิธินคิดถึง มือของอีกฝ่ายแกะกระดุมชุดนอนซาตินอย่างดีที่เขาเองซื้อให้ ก่อนคางสากๆนั้นจะซุกไซร้ซอกคอที่กรุ่นกลิ่นหอมอย่างเอาแต่ใจ อธิปพงศ์ได้แต่นอนนิ่งเหมือนกลับไปไร้เดียงสาอีกครั้ง เสียงครางของเขาทำให้นิธินพอใจ ก่อนจะบอกว่า “รู้มั้ย ผมคิดถึงเสียงคุณเวลาครางที่สุดเลย”...
เช้าวันใหม่ นิธินที่กำลังเตรียมอาหารเช้าและอาหารกลางวันใส่กล่องให้กับอธิปพงศ์ที่ยังไม่ตื่น เพราะเวลาเข้างานของอธิปพงศ์สายกว่าเขาเลยสามารถพักผ่อนได้ เมื่อคืนเขาได้คุยกันหลังเสร็จกิจโดยที่อธิปพงศ์ได้ขอโทษเขาที่ลืมไป เขาไม่ได้โกรธอะไรอธิปพงศ์ เพียงแต่อยากจะออดอ้อน ขอเวลาของคู่รักบ้าง อีกใจของนิธินไม่อยากให้อธิปพงศ์ออกไปทำงานข้างนอกเท่าไหร่ ด้วยตำแหน่งหน้าที่ของเขาที่โตขึ้นเขาคิดว่าเขาสามารถเลี้ยงดูอธิปพงศ์ได้เหมือนที่พ่อเป็นคนเลี้ยงดูแม่และพี่ชายกับตัวเขา แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ชีวิตมันสอนเขาว่าความฝันต้องใช้เงิน และอธิปพงศ์ก็มีความฝันที่จะดูแลครอบครัวของตัวเองเช่นกัน เขาจึงได้แค่ขอให้อธิปพงศ์ทำงานที่เหนื่อยน้อยลงกว่าเมื่อตอนออกมารับจ้างอิสระ และงานใหม่นี้ก็เป็นโอกาสที่ดีของตัวอธิปพงศ์เอง เขาจึงค่อนข้างพอใจ และทำใจได้บ้างถ้ามันจะขโมยเวลาของอธิปพงศ์ไปบ้างในช่วงแรกนี้ แต่เจ้าตัวก็เย้ายวนจริงๆ เขาไม่อาจต้านทานเสน่ห์ของคนรักตัวเองได้ แม้จะอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วก็ตาม
 นิธินนึกถึงตัวเองตอนที่ต้องล๊อกดาวน์อยู่คนเดียวในห้องนี้ เสื้อยืด เสื้อนอนของอธิปพงศ์ทุกตัวได้ถูกเขาเอามากอดนอนให้หายว้าเหว่ หนึ่งเดือนกว่าๆที่ห่างกันแค่ร้อยกว่ากิโลเมตร ได้เห็นหน้ากันแค่ผ่านวิดิโอคอล มันรู้สึกเหงายิ่งกว่าตอนที่ยังสามารถออกนอกประเทศไปทำงานที่อื่นเสียอีก นิธินพรูลมหายใจก่อนจะเข้าไปหาคนรักที่ยังนอนอยู่ เขานั่งลงบนเตียงก่อนจะจูบที่หน้าผาก อธิปพงศ์ลืมตามองใบหน้าหล่อเหลาในชุดทำงานภูมิฐาน กลิ่นน้ำหอมผู้ชายอย่างดีอ่อนๆ ที่นิธินใส่ทำให้เขาเริ่มมีสติหลังลืมตา
“ฮันหนีครับ เบรกฟัส ลันช์บ๊อกซ์ของคุณอยู่บนโต๊ะนะครับ”
อธิปพงศ์พยักหน้ารับ “ครับ ขอบคุณนะครับ”
“นอนต่อเถอะ” นิธินลูบผมนุ่มๆนั้น แต่อธิปพงศ์ก็คว้ามือของคนรักมาไว้ที่แก้ม ก่อนจะจูบที่ฝ่ามือ
“แค่นี้ก่อน ผมไม่อยากไปทำงานสาย” นิธินเอ่ยปากห้าม กับกริยาเย้ายวนของคนรัก
“อื้อ โชคดีครับ” ก่อนจะจูบเร็วๆที่มือใหญ่ของนิธินอีกหนึ่งครั้ง นิธินได้แต่เขิน อธิปพงศ์พูดไล่หลังตามไปว่า
“ล้างมือด้วยนะครับ”
นิธินหัวเราะน้อย ๆ กับสิ่งที่อธิปพงศ์รู้ว่าเขาอยากหรือไม่อยากทำอะไร เพราะจำเป็นต้องล้างมือและสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านในยุคนี้ แต่ก็เสียดายรอยประทับรักจากอธิปพงศ์ อย่างไรก็ตามเขาก็ล้างมือ ทาเจลแอลกอฮอล์ ก่อนจะสวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้านเหมือนทุกครั้ง
หนึ่งวันของพวกเขาผ่านไปอย่างรวดเร็วเหมือนทุกวัน วันนี้เป็นวันศุกร์ นิธินที่อธิปพงศ์บอกว่าไม่ต้องไปรอรับเขาเพื่อกลับบ้านด้วยกันถึงบ้านก่อนในเวลาหกโมงเย็น เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลงไปฟิตเนสส่วนกลางคอนโด วันนี้เขาลงไปว่ายน้ำในสระที่เพิ่งเปิดให้ลงไปว่ายน้ำได้ เมื่อออกกำลังกายครบแล้วก็ขึ้นมากินอาหารเย็นที่เป็นเวย์โปรตีนปั่นกับผักต่างๆ ก่อนจะทำธุระส่วนตัว เขียนแพลนเนอร์ หรือดูซี่รี่ส์แนวธุรกิจที่เขาคิดว่ามันช่วยสร้างพลังในการทำงานให้เขาเป็นอย่างดี หลายวันมานี้เขามักจะเข้านอนก่อนเวลาที่อธิปพงศ์กลับบ้าน
ตอนแรกเขาไม่ค่อยอยากจะทำตามที่อธิปพงศ์สั่ง แต่ก็จริงอย่างที่เจ้าตัวว่า นิธินอุตส่าห์มีเวลาให้ตัวเองเยอะขึ้นกว่าเมื่อก่อนแล้วก็ควรจะใช้เวลาของตัวเองให้คุ้มค่ากับสิ่งที่เขาชอบ
 วันนี้อธิปพงศ์กลับบ้านมาเร็วกว่าเวลา เขาอุตส่าห์ดีใจที่คนรักกลับบ้านเร็วในคืนก่อนวันหยุดของเขา แต่ก็ต้องชะงักเมื่ออีกฝ่ายบอกว่า เพราะพรุ่งนี้มีงานแต่งหน้าเจ้าสาว เขาถึงต้องกลับมาพักผ่อนเร็ว
“พรุ่งนี้ผมไปด้วยนะ”
นิธินบอกกับอธิปพงศ์ก่อนเข้านอนแบบนั้น
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เบื่อหรอ ไปรอผมแต่งหน้าเจ้าสาวเนี่ย งานนี้ผมต้องอยู่ถึงบ่ายเลยนะ”
“ไม่หรอก” นิธินส่ายหน้า “ผมว่างานนี้ผมต้องไป”

ทั้งคู่ตื่นนอนในเวลาตีหนึ่งครึ่งก่อนจะรีบแต่งตัว โดยมีช่างอีกคนที่ตกลงเป็นทีมงานกันมารับเพื่อไปตามเวลานัดหมายตอนตีสามเพื่อไปถึงโรงแรมที่นัดหมายกับลูกค้า เมื่อถึงห้องพักที่เป็นห้องแต่งตัว เจ้าสาวก็รีบลุกมาทักทายทั้งสองคนทันที
“สวัสดีค่ะพี่หมู สวัสดีค่ะพี่นิธิน”
ทั้งสองคนรับไหว้ปิ่นปักเจ้าสาวของงานนี้ หญิงสาวยิ้มดีใจปนตื่นเต้นที่จะได้แต่งหน้าทำผมกับอธิปพงศ์ในวันสำคัญของชีวิต เจ้าบ่าววัยไล่เลี่ยกันที่นั่งอยู่ไม่ไกลก็เข้ามาหาทั้งสองคนและยกมือไหว้ตามมารยาท
“ป่ะ แต่งหน้ากัน วันนี้พี่ต้องแต่งหน้าทำผมให้ใครบ้างเนี่ยปิ่น”
“ก็มีปิ่น แล้วก็เดี๋ยวแม่ปิ่น เพื่อนเจ้าสาวแบ่งกับพี่อีกคนคนละ4 และก็ญาติๆปิ่นอีกสามคนอ่ะค่ะ”
“อืม” อธิปพงศ์รับคำโดยที่นิธินกำลังเซ็ทอัพไฟและวางกระเป๋าอุปกรณ์แต่งหน้าทำผมบนโต๊ะหน้ากระจกที่เตรียมไว้อย่างรู้งาน ปิ่นปักมองคนรักของแฟนเก่าที่ช่วยเขาทำงานอย่างตกใจปนชื่นชม
อธิปพงศ์เริ่มแบ่งผมและจัดการทำทรงตามชั้นตอน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแต่งหน้า หญิงสาวสังเกตและรู้ตัวว่าตลอดเวลาที่อธิปพงศ์แต่งหน้าทำผมให้เธอนั้น มีสายตาของนิธินจับจ้องอยู่
“เอ่อ พี่เขาตามไปเฝ้าพี่หมูแบบนี้ทุกงานเลยเหรอคะ”
“ก็ ไม่ทุกงานหรอก พรุ่งนี้เขาหยุดน่ะเลยมาได้”
“อ๋อ” ปิ่นปักนึกถึงวันเก่าๆแล้วพูดออกมา
“นึกถึงปิ่นตอนนั้นเนอะ ปิ่นเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ ตอนนี้เข้าใจลูกค้าพี่หมูที่ปิ่นเคยไปยืนจ้องเลย”
อธิปพงศ์ยิ้มๆ รับฟังแม้กำลังใช้สมาธิลงรองพื้นบนหน้าของหญิงสาว ด้วยความที่เจ้าสาวนั่งใกล้กันกับช่างแต่งหน้ามาก เธออดหลุดปากชื่นชมสิ่งที่เห็นจากคนตรงหน้าไม่ได้
“พี่หมูหล่อขึ้นกว่าเดิมเยอะเลยนะคะ ผิวดีมากกว่าตอนนั้นอีก”
“ขอบใจนะ ปิ่นก็เหมือนกัน” เขาตอบตามความเป็นจริงแค่นั้น ก่อนจะออกคำสั่งให้เจ้าสาวขอความร่วมมือในการตกแต่งดวงตา และก็สำเร็จออกมาสวยงามถูกใจทั้งเจ้าสาวและเป็นที่พอใจของช่าง
“เดี๋ยวพี่ขอถ่ายรูปนะปิ่น”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้มดีใจ ก่อนจะนั่งนิ่งๆให้เขาถ่ายรูปเพื่อเป็นผลงานของตัวเอง อันที่จริงงานเขาตั้งใจว่าจะเลิกรับแต่งหน้าทำผมบ่าวสาวเพราะมันแบ่งเวลายากจากงานประจำ แต่พอดีว่าเป็นปิ่นปักที่ตั้งใจมาจ้างเขาให้แต่งหน้าเธอในวันสำคัญของชีวิตนี้ และเพื่อยังมีลูกค้าที่สนใจในวันที่เขามีเวลาว่างจากงานที่ร้านตรงกัน เลยยังไม่หยุดลงภาพผลงานของตัวเอง ในช่วงแรกที่ลงรูปผลงานช่างอีกคนที่เป็นเพื่อนร่วมงานของเขาบอกว่าให้ลงรูปแต่งหน้านิธินเป็นตัวอย่างแต่งหน้าเจ้าบ่าว แต่อธิปพงศ์ไม่เห็นด้วย เขาไม่ชอบเวลามีคอมเม้นต์มาถามหาว่านายแบบเป็นใครเพื่อจะกดติดตาม เลยได้แต่ลงรูปเจ้าบ่าวที่เป็นลูกค้าจริง ๆ แทนงานสาธิต
 เธอขอตัวไปแต่งตัวโดยเปลี่ยนที่ให้คุณแม่เข้ามาแต่งหน้าทำผมกับอธิปพงศ์ ก่อนจะเป็นเพื่อนๆของเจ้าสาว และญาติๆตามลำดับ เมื่อเธอแต่งตัวเสร็จก็ต้องออกไปที่งาน พวกเขาทีมช่างแต่งหน้าทำผมเริ่มเก็บกวาดของตัวเองบางส่วน เพราะต้องแต่งหน้าอีกรอบช่วงเสร็จพิธิเข้า งานนี้เป็นงานเลี้ยงฉลองสมรสตอนกลางวัน พวกเขาจึงมีเวลาไม่นานสำหรับการแต่งหน้าทำผมในรอบสอง ในการเข้ามาแต่งหน้าทำผมรอบที่สอง ชายหนุ่มมองหญิงสาวที่เคยเป็นคนรักของเขาในชุดเจ้าสาว มากกว่ารับรู้พลังของความสุขเหมือนที่เคยสัมผัสมาทุกงานแต่งงานที่พวกเขาเคยไปเนรมิตรความงามให้บ่าวสาวมา สำหรับอธิปพงศ์วันนี้ปิ่นปักดูเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว จนเขานึกภาพวัยรุ่นเอาแต่ใจคนเดิมแทบไม่ออก เธอเติบโตขึ้นมากจนเขาแทบไม่เชื่อว่าจะได้เห็นเธอในภาพนี้
ปิ่นปักหมุนตัวหน้ากระจกอย่างพอใจในตัวเอง โดยมีความยินดีปนโล่งใจของทีมช่างแต่งหน้าทำผม
“ขอบคุณพี่หมูนะคะ” เธอไม่ลืมขอบคุณคนรักเก่าที่วันนี้เขาเองก็เติบโตและสงบนิ่งขึ้นเยอะเช่นกันในสายตาของเธอ
“จ้ะ ปิ่นสวยมากๆเลยนะ” เธออยากกอดเขาเป็นการขอบคุณ แต่ก็รู้ว่านิธินยังจับจ้องเธออยู่ และเกรงใจว่าที่สามีที่ยืนอยู่ข้างๆด้วย เลยได้แต่ยิ้มตอบ ก่อนที่ทีมออแกไนซ์จะมาพาบ่าวสาวออกไปสแตนบายรอรับแขกหน้างาน นิธินเก็บของที่ห้องแต่งตัวนี้ โดยที่เขากับช่างแต่งหน้าอีกคนตามไปดูแลความเรียบร้อยของบ่าวสาวจนจบงาน

กรกฎาคม 2563
 เครื่องเทศอินเดียจากหม้อแกงบนเตาส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วครัวของบ้านสวน โดยที่เตาข้าง ๆ มีกระทะก้นแบนที่กำลังมีแป้งนานที่เป็นโฮลวีตจี่พลิกไปมาโดยนิธิน คุณพรเพ็ญมองดูคนรักของลูกชายประกอบอาหารอย่างสนใจใครรู้แม้จะเคยเห็นมาบ้างแต่เวลาเห็นเจ้าของสูตรอาหารต่างชาติทำให้เธอกินก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี สักพักแกงชีสและถั่วลูกไก่แบบอินเดียก็งวดได้ที่ โดยมีแป้งนานร้อนๆที่นิธินทำเอง รับประทานแทนข้าวสวยเปลี่ยนบรรยากาศมื้อกลางวันในวันหยุดยาวนี้
 อธิปพงศ์ที่เพิ่งมาจากสวนเข้ามาในครัว
“ตามกลิ่นมาใช่มั้ยลูก”
“ใช่ครับ” เขาตอบแม่ก่อนจะหันไปอ้อนพ่อครัว “ผมหิวจังครับฮันหนี”
“เสร็จแล้วครับ มากินกันดีกว่า”
“เดี๋ยวแม่ตักแกงกับแป้งนานไปแบ่งให้บ้านป้าไพกับน้าๆคนงานก่อนนะลูก” เธอตักแกงในหม้อใส่ชามและแผ่นนานจำนวนหนึ่งใส่จาน แกงสองชุดยกใส่ถาดออกไปไปบ้านข้างๆ ที่คอยดูแลกันตอนที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วย อีกชุดกับให้คนงานสองคนที่มาทำงานในวันหยุดราชการนี้ พวกเขาเองก็เพิ่งพักจากการขายต้นไม้และดินปลูกหน้าสวนเช่นกัน “ครับ” นิธินรับคำก่อนจะนั่งลงข้างๆอธิปพงศ์ที่กำลังใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปอาหาร เขารีบปิดหน้าจอ นิธินฉีกแผ่นนานเหนียวนุ่มที่ทำเองจิ้มลงบนแกงให้ได้เนื้อชีสหั่นเต๋ากับถั่วลูกไก่ก่อนจะป้อนใส่ปากคนรักที่อมยิ้มรออยู่
“เป็นไงอร่อยมั้ยครับ”
อธิปพงศ์ส่ายหัวแบบเวลาที่เคยเห็นนิธินกับเพื่อนร่วมชาติคนอื่นชื่นชมอะไรมากๆ แทนคำว่ามันดีมาก เจ้าตัวหัวเราะกับภาพตรงหน้า
“หมูเป็นไงมั่งลูก อร่อยเหมือนเดิมมั้ย” คุณแม่ที่เพิ่งเข้ามาถามลูกชายที่ได้ชิมไปหนึ่งคำแล้ว
“ครับ”
“นิธินเก่งจังลูก มันทำยากนะแม่นั่งๆดูเนี่ย”
“ก็ครับ ผมก็ถามแม่บ้าง ดูในยูทูปบ้างตอนที่ล๊อกดาวน์อยู่บ้านอ่ะครับ”
“เก่งลูก เนอะ” คุณพรเพ็ญพยักเพยิดไปทางลูกชายคนเดียว
“ที่ห้องยังมีแผ่นนานโฮลวีตที่นิธินฟรีชไว้อีกครับแม่”
“แต่หมูก็ต้องทำอะไรให้นิธินเค้าบ้างนะลูก”
“ครับ คร้าบ” อธิปพงศ์รับคำแม่ยิ้มๆ มื้ออาหารของครอบครัวเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข นิธินบอกกับคุณพรเพ็ญในสิ่งที่เขากับอธิปพงศ์วางแพลนไว้
“แม่ครับ ถ้าบินออกนอกประเทศได้แล้ว แม่ไปทานแกงฝีมือแม่ผมที่มุมไบกันนะครับ”
คุณพรเพ็ญชะงักเล็กน้อย ก่อนจะตอบมาพร้อมรอยยิ้มปลื้มใจ
“จ้ะ แม่ไปแน่นอน”


End.

ขอขอบพระคุณสำหรับการติดตามนะคะ นิยายฉบับตีพิมพ์ EBook ยังมีวางจำหน่ายที่ https://fictionlog.co/eb/5d0a6f7ee0a4c7a07b70c265 นะคะ