ขอบคุณอีกครั้งสำหรับคำแนะนำดีๆ
ขอบคุณทุกความเป็นห่วงและความรู้สึกดีๆที่มอบให้กัน
แล้วก็ขอบคุณสำหรับของขวัญที่แสนมีค่า
ที่พวกคุณส่งมาผ่านตัวหนังสือ...
ขอบคุณจริงๆ
***********************************
http://media.imeem.com/m/XYx5-M-WEQ---- บทส่งท้าย ----
จากที่ได้อ่านเรื่องของเรามา คนอ่านก็คงพอจะดูออกว่าเราเป็นที่เจ็บแล้วไม่ค่อยจำ
มันก็จริงถ้าจะบอกว่าเราเป็นที่เจ็บแล้วไม่จำ
แต่เมื่อไหร่ที่เราเจ็บจนแล้ว เราจะไม่มีทางกลับไปยืนจุดเดิมอีกแน่นอนไม่ว่ายังไงก็ตาม
เราเป็นคนจำยากก็จริง แต่จำแล้วจำเลยและจะจำไปจนตาย
มันไม่ใช่การอาฆาตพยาบาท แต่มันเป็นการจำความเจ็บที่เคยได้รับไว้คอยเตือนตัวเอง
ธันวาคม 2550....
คณะที่ภีมเรียน จะต้องเรียน 5 ปี ซึ่งปีที่ 5 มันต้องๆไปฝึกอยู่บนเรือทั้งปีเลย แล้วก็ไม่ได้อยู่ที่เมืองไทยด้วย มันต้องอยู่บนเรือขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ
มันจะไม่สามารถติดต่อใครได้เลย นอกเสียจากว่ามันได้เข้าฝั่ง
ยิ่งใกล้วันที่ภีมจะต้องไปฝึกบนเรือ เพื่อนเก่าสมัยมอปลายหลายๆคนก็โทรมาชวนเราไปส่งมันที่สนามบินบ้าง
โทรมาชวนวันที่เลี้ยงส่งมันบ้าง
แต่เราก็เลือกที่จะปฏิเสธทุกครั้งไป เพราะยังไม่พร้อมที่จะเจอหน้ามัน
จนก่อนวันที่มันจะไปประมาณหนึ่งอาทิตย์
เราจึงตัดสินใจโทรไปหามันหลังจากที่เราไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยนับจากวันนั้น
“ สบายใจแล้วเหรอถึงโทรมาหาเค้า ? ” ภีมพูดเสียงอ่อนโยน
“ อืม.... ว่างอยู่รึป่าว? ” เราพูด
“ ว่าง... แกโทรมามีไรล่ะ ? ” ภีมพูด
“ ก็ว่าจะโทรมาลาไง... ไหนๆแกก็จะไปแล้วหนิ ” เราพูด
“ อืม... ” ภีมพูดอย่างแผ่วเบา
“ ที่ผ่านมาถ้าเค้าทำอะไรไม่ดีไว้กะแกเค้าก็ขอโทษแล้วกัน ส่วนอะไรที่แกทำเค้าไม่เอามาคิดอีกแล้ว.. ปล่อยมันเป็นอดีตไปเหอะ... ” เราพูด
“ ที่ผ่านมา... แกก็ไม่เคยทำไรไม่ดีหนิ แกดีกะเค้ามาตลอด..... มีแต่เค้าที่ทำแย่ๆกับแก ” ภีมพูดด้วยท่าทีสำนึก
“ แหม.. ที่ตอนนี้มาพูดแบบนี้นะ ” เราพยามพูดเล่นบ้างเผื่อว่าบรรยากาศที่คุยกันจะดีขึ้น
เพราะการคุยกันครั้งนั้นดูมันค่อยข้างอึมครึม
“ ก็มันจริงหนิ... สำหรับเค้า..... แกคือคนที่รักเค้ามากที่สุด และเค้าก็รักแกมากที่สุดด้วย ” ภีมพูดด้วยท่าทีจริงจัง
“ แต่เค้าก็ไม่ใช่คนที่แกเลือก.... ” เราพูด
“ แกก็รู้ว่าตอนนี้เค้าเลือกอะไรไม่ได้แล้วต่างหาก ” ภีมพูดอย่างน้อยใจ
“ ช่างเหอะ.... แต่มะปรางก็รักแกไม่น้อยไปกว่าเค้าหรอกนะ.. แกดีกับมะปรางให้มากๆแล้วกัน ” เราพูด
“ แกอย่าพูดแบบนี้เลย.. เค้ารู้ว่ามันทำให้แกรู้สึกแย่ ” ภีมพูด
“ ไม่หรอก... ถ้าเค้าตัดใจจากแกไม่ได้จริงๆเค้าไม่พูดอะไรแบบนี้หรอก เพราะมันเป็นสิ่งที่ออกมาจากใจเค้าจริงๆและเค้าก็ไม่ได้กำลังประชด ” เราพูด
“ แกคงเลิกรักเค้าได้แล้วจริงๆใช่มั้ย? ” ภีมถามอย่างอ่อนใจ
“ อืม.... เค้าเลิกรักแกแล้ว ” เราพูดเสียงหนักแน่น
“ เค้าดีใจกับแกด้วยนะ ” ภีมพูดเสียงสั่นเครือ
“ ไหนๆแกก็จะไปแล้วเค้าก็ขอ..... ” เราพูดยังไม่ทันจบแต่ภีมก็แทรกขึ้นมาก่อนว่า
“ ถ้าจะบอกลากันก็เอาไว้พูดตอนวันที่เค้าจะไปเหอะ ” ภีมพูด
“ เค้าคงต้องพูดวันนี้เลย เพราะว่ามันคงเป็นครั้งสุดท้ายที่เค้าจะโทรหาแก ” เราพูด
“ ครั้งสุดท้าย.......... ” ภีมรำพึงกับตัวเองเบาๆ แต่ก็ไม่เบาจนเราจะไม่ได้ยิน
“ อยู่บนเรือก็ตั้งใจฝึกละกัน ที่บ้านแกเค้าหวังกับแกไว้มาก กว่าแกจะกลับมาเค้าก็คงจะไปอยู่ไหนแล้วก็ไม่รู้ ถ้าเราไม่มีโอกาสได้เจอกันจริงๆก็ปล่อยเรื่องของเค้ากะแกไว้เป็นความทรงจำแล้วกันนะ ” เราพูด
“ อืม... ”ภีมพูดเสียงสั่น
“ นี่แก... เค้าว่าแกกะเค้ามาพูดเมิงกูกันเหอะ ” เราพยายามพูดด้วยเสียงสนุกสนานเพื่อลดความอึมครึมที่เกิดขึ้น
“ ทำไมอ่ะ... แบบนี้ก็ดีแล้ว... ” ภีมพูด
“ พวกไอ้โอ๊ตมีแต่คนแซวเค้า.... หาว่าทำไมเวลาพูดกะแกถึงพูดเพราะ แต่กับพวกมันเค้าถึงพูดเมิงกู”
เราพูด
“ เอางั้นก็ได้... ตามใจแก ” ภีมพูดเสียงนิ่งเช่นเดิม
“ โอเค.. นี่เมิง... แหวนที่กูเคยบอกว่าจะทำมาใส่ด้วยกันอ่ะ กูยกเลิกเค้าไปแล้วนะ ” เราพูดเสียงร่าเริงคล้ายมันเป็นเรื่องทั่วๆไป
“ อืม ... ” ภีมพูดด้วยเสียงผิดหวัง
“ ส่วนหนังที่กูเคยบอกเมิงว่ากูจะซื้อให้เมิงตอนวันที่เมิงไปกูก็ไม่ได้ซื้อนะ ” เราพูด
คือว่ามีหนังหลายเรื่องที่ภีมมันอยากดูแต่ไม่กล้าไปดู
เช่นเพลงสุดท้าย.... เพื่อนกรูรักเมิงว่ะ.... และหนังแนวๆนี้อีกหลายเรื่อง
เราเคยบอกมนไว้ตั้งแต่หนังยังไม่ฉายว่าเราจะซื้อให้มัน
“ อืม... ” ภีมพูดด้วยเสียงผิดหวังเช่นเดิม
“ นี่เมิงไปดูหนังเรื่องรักแห่งสยามดิ ” เราพูด
“ ทำไมอ่ะ... มันเป็นหนังเกย์ไม่ใช่เหรอ? ” ภีมถามอย่างสงสัย
“ กูว่าพระเอกมันสับสนพอๆกับเมิงเลย.... ลองไปดูแล้วกันเมิงไม่ต้องสนใจหรอกว่าใครจะมองยังไง เพราะคนเค้าก็ไม่ค่อยรู้กันหรอกว่ามันเป็นหนังแนวนี้... ถือซะว่าเป็นสิ่งที่กูขอเมิงครั้งสุดท้ายแล้วกัน ” เราพูด
“ เออ... เค้า.. เอ๊ย.. กูจะไปดูแล้วกัน เดี๋ยวชวนไอ้บอยไปดูเป็นเพื่อน ” ภีมพูด
“ โชคดีนะเมิง ” เราพูด
“ เมิงจะไม่ไปส่งกูเหรอ? ” ภีมถามอย่างน้อยใจ
“ คงไม่ได้ไปว่ะ... เพราะวันที่เมิงไปกูต้องถ่ายโปสเตอร์ละครเวที ” เราพูด
“ งั้น... ไม่เป็นไร ” ภีมพูดเสียงอ่อนใจ
“ ดูแลตัวเองด้วยละเมิง... กูคงไม่ได้อยู่ด่าเมิงหรือดูแลเมิงแล้ว ” เราพูด
“ ทำไมอ่ะ... ยังไงกูกะเมิงก็ยังเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ? ” ภีมพูด
“ กูว่า... เมิงกะกูไม่ได้ถูกสร้างให้มาเป็นเพื่อนหรือเป็นคนรักกันว่ะ... แต่เราถูกสร้างให้มาเป็นคนที่เคยรู้จักกัน ”
เราพูดก่อนจะวางสาย
หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกับภีมอีกเลยจนวันที่มันไปขึ้นเครื่อง
อาจจะมีบางครั้งที่เราคิดถึงมันขึ้นมาบ้าง
แต่มันสำหรับเราก็มีตัวตนอยู่เพียงแค่ในความทรงจำเท่านั้น
วันที่มันจะไปขึ้นเครื่องมันส่งเพลงมาให้เราฟังเพลงนึง
ชื่อเพลง ผูกพัน ของ บอย ตรัย ภูมิรัตน
เนื้อเพลงคือ...
นี่ใช่ไหม อะไร อะไรที่เคยคิด
ชีวิตที่มีแต่ฉัน ต่อจากนี้คงตัวคนเดียวอย่างที่คิด
นี่หรือที่ใจต้องการ นี่ใช่ไหมที่ฉันเคยฝันตลอดอยู่ในใจ
ชีวิตที่ไม่มีเธอรู้สึกเหมือนมันขาดอะไรไปไม่เข้าใจ
เก็บเรื่องราวที่มันเก่าๆใส่กล่องไว้ มองเห็นแล้วมันปวดร้าว
รูปถ่ายเราไปเที่ยวด้วยกันเมื่อตอนนั้น ตอนนี้ยิ่งดูยิ่งเศร้า
ไม่มีเสียงคำคำของเขาที่เราได้เคยฟัง
ไม่มีใครให้คอยมาไถ่ถาม เหลือเพียงแค่ความทรงจำ
ที่ย้ำให้รู้ว่า
เธอใช่ไหม ที่หัวใจของฉันผูกพัน
และคือเธอเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่มีเธอมันดูเหงาๆ ยิ้มเศร้าๆบอกตัวเองไว้
นี่ยังไงโลกที่ไม่มี เธอแล้ว
ขาดเธอไปวันนี้ จึงได้เจอความหมาย
ไม่มีเธอวันนี้ ฉันถึงเข้าใจ
เธอใช่ไหม ที่หัวใจของฉันผูกพัน
และคือเธอเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่มีเธอมันดูเหงาๆ ยิ้มเศร้าๆบอกตัวเองไว้
นี่ยังไงโลกที่ไม่มี เธอแล้ว
เธอใช่ไหม ที่หัวใจของฉันผูกพัน
และคือเธอเท่านั้น วันนี้ฉันเพิ่งจะเข้าใจ
ไม่มีเธอมันดูเหงาๆ ยิ้มเศร้าๆบอกตัวเองไว้
นี่ยังไงโลกที่ไม่มี เธอแล้ว
นี่ยังไงโลกที่ไม่มีเธอแล้ว
เราฟังไปก็ยอมรับว่าเราร้องไห้เหมือนกัน
ยิ่งเข้าไปดู hi5 มันเราก็ยิ่งร้องไห้
แต่ก็อย่างที่เราบอกมันนั่นแหละ
ว่าเรากะมันถูกสร้างมาให้เป็นคนที่เคยรู้จักกัน
************************************
มีนาคม 2551.....
บ่ายของวันหนึ่ง.....
เราได้รับมิสคอลจากเบอร์ที่เราไม่ได้เมมไว้เบอร์นึง
เรามองดูเบอร์นั่นอยู่พักนึง รู้สึกว่าเบอร์มันคุ้นๆ
นึกไปนึกมาถึงจำได้ว่าเป็นเบอร์ภีมที่เราลบออกไปจากเครื่องแล้ว
ความงงเข้ามาแทนที่มามันโทรมาได้ยังไง เพราะมันคงต้องอยู่บนเรือในน่านน้ำของประเทศอะไรสักแห่งบนโลก
เราเลยตัดสินใจโทรกลับไป เพราะอยากจะปลดเปลืองข้อสงสัย
“ ฮัลโหล... นั่นใครพูดอ่ะ ? ” เราถามอย่างแปลกใจทันทีที่ปลายสายรับโทรศัพท์
“ ไม่คุยกันแค่สามสี่เดือนจำกันไม่ได้แล้วเหรอ? ” ภีมพูดด้วยเสียงขี้เล่น
“ ภีม... ” เราพูดกับตัวเองด้วยความแปลกใจ
“ อืม... เค้าเอง ” ภีมพูดพร้อมกับแอบหัวเราะ
“ แกยิงมาหาเค้ามีไร? ” เราถาม
“ ป่าวหนิ... เค้าไม่ได้ยิงไป ” ภีมพูดเสียงกวนๆ
“ จะไม่ได้ยิงมาได้ไง ก็เบอร์มันขึ้นอยู่ ” เราพูด
“ ก็เค้าไม่ได้ยิงไปจริงๆหนิ... สงสัยคิดถึงแกมากไปมั้ง.... มันเลยขึ้นเป็นมิสคอล ” ภีมพูดเสียงกวนๆ
“ ปัญญาอ่อนแล้ว... เมาเรือรึไง ? ” เราพูดอย่างกวนๆ
“ สงสัยจะเมาอย่างอื่น... ฮึฮึ ” ภีมพูดแล้วก็หัวเราะในคอ
“ เออถ้าไม่มีไรเค้าวางแล้วนะ.. ” เราพูดเพราะเบื่อที่มันมัวแต่กวนตีน
“ เออ ” มันพูดเราก็เลยวาง
วันนั้นทั้งวันเรายอมรับว่าเราก็คิดถึงมัน
ที่คิดถึงมันเพราะว่า เราไม่เข้าใจว่ามันโทรหาเราได้ไง
มันน่าจะอยู่บนเรือ หรือว่ามันลงเรือแล้วหรืออะไร
แล้วเราก็ได้คำตอบจากเจมส์จากการคุยกันผ่าน MSN
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
ดีจ้า คุยกับไอ้ภีมยัง
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
คุยแล้วมันโทรมาหา
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
เห็นมันบ่นว่าคิดถึง
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
คิดถึงเค้าอ่ะนะ
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
ช่าย
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
รู้ได้ไง เจอมันเหรอ
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
มันขึ้นฝั่งที่เมืองไทย เจมส์ยังไปกินเบียร์กับมันมาเลย
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
แล้วมันออกไปอีกวันไหน
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
เมื่อวานมั้ง
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
ไม่มั้ง วันนี้มันยังโทรหาเค้าอยู่เลย
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
งั้นคงไปวันนี้แหละ
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
อืมๆ
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
คิดถึงมันอะดิ
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
เฉยๆ
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
ไม่จริงมั้ง
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
จริง มันโทรมาก็พูดจากวนตีนใส่เค้า
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
5555+ มันก็คงคิดถึงปอแหละ ถามถึงใหญ่เลย
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
ไม่มีไรหรอกมั้ง
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
จร้า
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
ทำไรอยู่นี
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
เล่นเกมส์
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
งั้นตามบายเลย เค้าไม่กวยแระ
เจมส์ >>>>>>>>>>>>>>>>>>
จ้า ไว้เจมส์โทรหา
ปอ <<<<<<<<<<<<<<<<<<
จร้า
############################################