+++ หมู่บ้านหัวกุด +++ บทส่งท้าย + ปริศนาเงาเที่ยงคืน 25/9/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

............................

รัฐกรณ์
14 (35%)
การุณ
8 (20%)
วสัน
2 (5%)
สรรพวุฒิ
3 (7.5%)
สาวิตรี
2 (5%)
วรวิทย์
0 (0%)
ภคดล
0 (0%)
กรรณิกา
0 (0%)
อาญา
9 (22.5%)
สิ่งลี้ลับอื่นๆ
2 (5%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 28

ผู้เขียน หัวข้อ: +++ หมู่บ้านหัวกุด +++ บทส่งท้าย + ปริศนาเงาเที่ยงคืน 25/9/55  (อ่าน 74258 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ฮิ้ววววววววววว สวัสดีเจ้าทุกคน มาต่อกันเลยนะคะ

ปล. ไม่ว่าจะเขียนเรื่อง ดราม่า หรือ เรื่องเขย่าขวัญ.....ไหงมาจบที่ ตลก เสียได้นี่ 5555555




บทที่ 2 การเริ่มต้น



     หญิงสาวในชุดนักศึกษานั่งอยู่ลำพัง ณ โถงโล่งใต้อาคารเรียน ขณะนี้เวลาเที่ยงกว่าแล้ว เลยเวลานัดหมายไปนานพอสมควร แต่เธอก็ยังไม่เห็นคนที่นัดไว้  เธอหยิบโทรศัพท์ กดหมายเลขโทรออกไปเพื่อนตามบรรดาเพื่อนๆคนที่เหลือ
“เร็วๆหน่อยสิ เดี๋ยวฉันมีเรียนตอนบ่ายสองนะ” เธอพูดอย่างหงุดหงิด ลำพังแค่นั่งรอใต้ตึกก็ร้อนมากพออยู่แล้ว ยิ่งมาเจอฝูงชนที่กำลังทยอยเลิกเรียนเข้าไปอีก ยิ่งทำให้อารมณ์เสียมากขึ้น

จะมองอะไรนักหนา

     หญิงสาวไม่ชอบการถูกจ้องมอง ด้วยรูปร่างสมส่วน บวกกับเครื่องแต่งกายที่เน้นหน้าอกหน้าใจ เอวที่คอดกิ่ว เรียวขายาวระหงส์ เธอมักจะถูกมองจากบรรดาชายหนุ่มเสมอ ช่วงแรกก็เหมือนจะดี แต่นานเข้าเธอชักรู้สึกขยะแขยงกับสายตาที่มองเหมือนอยากจะกลืนกินเธอไปเสียทั้งตัว ที่สำคัญ ช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาเธอเหมือนถูกจ้องมองอยู่ตลอดเวลา และนั่นก็ทำให้เธอกังวล
“โอ้ มาเร็วเหมือนเคยนะ ณิ” ชายหนุ่มร่างผอมสูงเดินเข้ามายังโต๊ะที่สาวสวยนั่ง เขาทักทายอย่าสนิทสนม โดยไม่สนใจท่าทีโกรธเคืองของ กรรณิกา เพื่อนในกลุ่มเพียงคนเดียวที่เป็นผู้หญิง
“แล้ว วิทย์ ล่ะ” ภคดล ไม่สนใจท่าทีของ ณิ เขานั่งลงอีกฝั่งของโต๊ะเพื่อรอเพื่อนในกลุ่มที่เหลืออีก 2 คน วรวิทย์และการุณ
ไม่นานนักหลังจากที่ปล่อยให้ ภคดลนั่งฟังกรรณิกาบ่น วรวิทย์ ชายหนุ่มร่างยักษ์ที่มีความสูงถึง 180 ร่วมกับน้ำหนักที่เฉียด หลักร้อย ก็เดินมายังเพื่อนของเขาทั้งสอง แน่นอน ว่าต้องทนฟัง กรรณิกา บ่นไปตามระเบียบ

“แล้วทำไม กาน ยังไม่มาอีก” ภคดลก้มลงดูนาฬิกาอีกครั้งก็พบว่าตอนนี้เลยเวลามากว่าครึ่งชั้วโมงแล้ว แต่ยังไม่เห็นวี่แววของ การุณ เพื่อนคนใหม่ที่พึ่งจะเข้าร่วมกลุ่มของพวกเขา ซึ่งปกติแล้ว การุณเองมักจะมาตรงเวลาเสมอ กรรณิกา ตัดสินใจกดโทรศัพท์หมายจะโทรตาม แต่ยังไม่ทันที่สัญญาณจะติดต่อเสร็จ ชายผิวเข้มก็วิ่งกระหืดกระหอบมาเสียก่อน
“ขอโทษที โทษที” การุณรีบกล่าวขอโทษเพื่อนใหม่ นึกโมโหตัวเองที่เผลอหลับไปในรุ่งเช้า มารู้ตัวอีกทีก็ปาเข้าไปเที่ยง ซึ่งเขาก็รีบสุดๆแล้วเช่นกัน
“ไม่เป็นไร พวกเราก็พึ่งจะมาถึงเหมือนกัน” ภคดล รีบตอบเสียงใส ทำเอา สาวกรรณิกาวีนแตก ถึงการที่เธอต้องมานั่งรอผู้ชายทั้งสามถึง 30 นาทีด้วยกัน
“เอา รีบไปเหอะ” วรวิทย์ รีบเปลี่ยนเรื่อง เขารู้ดีว่าถ้า กรรณิกา เริ่มบ่นเมื่อไร กว่าจะหยุดก็อีกนาน ยิ่งเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจด้วยยิ่งเป็นเรื่องเข้าไปใหญ่ เขายันตัวขึ้นลุกอย่างลำบาก ช่วงเดือนที่ผ่านมาน้ำหนักเขาขึ้น และมันก็ทำให้เขาเคลื่อนไหวตัวลำบากมากขึ้น วรวิทย์เคยคิดที่จะลดน้ำหนัก เพียงแต่เวลาเจออาหารน่ากินทีไร เขามักจะหยุดตัวเองไม่ได้เสียที

     ทั้งหมดออกเดินทางโดยใช้รถของ วรวิทย์ ให้กรรณิกา นั่งหน้า ส่วนสองหนุ่มที่เหลือนั่งอยู่ข้างหลัง ทันทีที่ การุณ นั่งลง ลมเย็นๆจากเครื่องประอากาศทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไอ้การที่ต้องอยู่ในห้องร้อนๆ ไม่เปิดหน้าต่างระบายอากาศ แถมยังห่มผ้าห่มครอบตัวไว้นั้น ช่างทรมารนัก ใช่ แล้วคืนนี้ล่ะ เขาควรจะทำอย่างไรดี
“ไปทำอะไรมา ดูหมดแรง” ภคดล สังเกตเห็นความผิดปกติ จึงถามอย่างเป็นห่วง
“เปล่า……….เอ้อ ดล คืนนี้ขอไปนอนที่ห้องด้วยได้เปล่า” การุณเองขออนุญาต เพื่อนตน เขาเองก็รู้สึกเกรงใจ เพียงแต่เขาคงอดนอนเป็นเวลาสองสามวันติดกันไม่ไหว ขนาดตอนกลางวัน ของวันนี้เขายังไม่กล้าลงลิฟ วิ่งลงทางบันไดแทน
“ดะ…ได้สิ” ภคดลตอบโดยไม่คิด ทำเอาเพื่อนอีกสองคนที่แอบฟังอยู่หน้ารถ ยิ้มออกมา พวกเขารู้ว่า ภคดลรู้สึกชอบพอคนผิวเข้ม ถึงได้ไปตีสนิททันทีที่ มีการประชุมชมรมวันแรก และคอยที่จะดึง การุณ มาเข้าร่วมกิจกรรมของกลุ่มเสียทุกครั้งจนกลายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว
“โอ้ย ขอบใจนะ” การุณร้องออกมาอย่างดีใจ อย่างน้อยเขาคงได้นอนหลับเต็มตื่นเสียทีในคืนนี้

     ไม่ถึง 10 นาที พวกเขาทั้ง 4 ก็มาถึงบริษัททัวร์ ทั้งหมดตัดสินใจที่จะพากันไปเที่ยวในวันหยุดยาว แต่จะให้ไปเที่ยวแบบปกตินั้นคงจะไม่เข้าท่าเท่าไรนัก อยู่ชมรมเรื่องลึกลับทั้งที ก็ต้องขออะไรที่มันไม่เหมือนชาวบ้านสักหน่อย เพียงแค่ก้าวเท้าเข้าประตูเลื่อน พวกเขาก็รู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป อากาศที่เย็น กลิ่นอับเล็กโชยออกมาจากเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่าที่มีเสียงทำงานค่อนข้างดัง ด้านหน้ามีเพียงโต๊ะประชาสัมพันธ์ ที่ไร้วี่แววว่าจะมีใครมาต้อนรับ โปสเตอร์ติดเรียงรายอยู่รอบๆผนังบอกรายละเอียดต่างๆถึงการท่องเที่ยวในแบบพิเศษ  ทั้ง ทะเลสาบสีเลือด ผาสาบสูญ ป่าต้องห้าม และอื่นๆอีกมาก

     กรรณิกาเอ่ยปากเรียกหาพนักงาน ไม่ช้าประตูไม้ด้านในก็เปิดออก คนที่มาใหม่ชะงักเล็กน้อยเมื่อพบเจอลูกค้าทั้ง4 เขารีบเดินเข้าไปทักทายและจัดแจงหาเก้าอี้ให้ทุกคน ก่อนจะเล่ารายละเอียดคร่าวๆของทัวร์ให้ฟัง
“เราต้องการ ไปหมู่บ้านหัวกุดครับ” วรวิทย์บอกความต้องการ
“ครับ หมู่บ้านหัวกุด 4 ท่านนะครับ” พนักงานจัดแจงเปิดคอมพิวเตอร์ตรวจรอบของรถและจัดแจงบอกรายละเอียดให้ลูกค้าทราบ ทัวร์ครั้งนี้รับคนได้สูงสุด 8 คน และตอนนี้หากรวมพวกของการุณเข้าไปแล้วก็นับได้ 6 คนแล้ว เหลืออีกเพียง 2 คนก็ครบตามจำนวน
“แล้วถ้าไม่มีคนมาเพิ่มล่ะ” กรรณิกาซักถาม
“ไม่ต้องห่วงครับ ถึงจะ 6 คนเราก็รับปากว่าจะพาทุกท่านไปทัวร์อย่างแน่นอน” พนักงานรับปากอย่างหนักแน่น พร้อมกับทำเรื่องออกใบเสร็จรับเงิน มอบตั๋วเดินทางและเอกสารสำคัญต่างๆให้ลูกค้าทั้ง 4

“ผมชื่อ วสัน ครับ รับหน้าที่ดูแล ทริป หมู่บ้านหัวกุด ขอรับรองว่า ทุกท่าน จะต้องสนุกจนไม่มีวันลืมแน่”



“แน่ใจนะว่าไม่ต้องมารับตอนเย็น” ภคดลถามย้ำกับ การุณอีกครั้ง
“ไม่เป็นไร เราเลิกเย็น พวกนายไม่มีเรียนนี่” การุณปฏิเสธอย่างเกรงใจ เขาเองเรียนอยู่คนละคณะกับพวกของ ภคดล อีกทั้งวันนี้     กว่าจะเลิกเรียนก็ปาเข้าไป เย็นถึงค่ำ คงไม่ดีนักที่จะต้องให้มารับ เขาเองก็จำทางไปหอเพื่อนได้ดี อยู่ใกล้กว่าหอของเขาเสียด้วยซ้ำ
“ว้าย คืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นนะ” กรรณิกาเปรยขึ้นพรางหัวเราะ วิทยาก็ร่วมวงด้วย ทำเอาอีกคนที่โดนรุม เบือนหน้าหนี พลางบ่นให้เพื่อนที่ชอบแซว
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง” ภคดล ทำเป็นเฉไฉ แล้วเปลี่ยนเรื่องคุยเสีย แต่ก็ไม่สามารถหยุดเสียงหัวเราะของคนอีกสองคนข้างหน้าได้



     กว่าที่จะถึงเวลาเลิกเรียนนั้น การุณต้องใช้ความพยยามเป็นอย่างมากในการฝืนที่จะไม่ให้นอน แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ฟุบไปเสียจนได้ มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อาจารย์เดินออกห้องไปเสียแล้ว บรรดานักศึกษาต่างรีบเก็บของแล้วเงออกไปจากห้องทันที และก็เป็นหน้าที่ของคนที่ออกห้องคนสุดท้ายที่จะต้องทำการปิดไฟ ปิดเครื่องปรับอากาศให้เรียบร้อย
“กาน ฝากหน่อยนะโว้ย เดี๋ยวมีแข่งบอล กูรีบไปก่อน” เพื่อนในคณะของเขารีบไปเปลี่ยนเสื้อเพื่อแข่งขันกีฬาระหว่างคณะ ยังดีที่วันนี้ การุณไม่มีแข่ง ไม่อย่างนั้นเขาคงไปยืนหลับในสนามเป็นแน่แท้
     แต่กว่าที่เขาจะเก็บของเข้ากระเป๋าได้หมด ในห้องก็ไม่เหลือใครแล้ว บรรยากาศวังเวงจนไม่น่าเชื่อว่าเขายังอยู่ในอาคารเรียน แต่คงเพราะว่าชั้นเรียนของเขาเลิกเป็นห้องสุดท้าย จึงไม่แปลกนักหากนักศึกษาทุกคนจะรีบเพื่อไปทำธุระส่วนตัวที่อื่น ลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศพัดวูบมาทางเขา การุณรู้สึกไม่ค่อยดีนัก รีบเดินไปยังผนังด้านใน ปิดสวิชเครื่องใช้ไฟฟ้าให้หมด ไฟหน้าห้อง ไฟกลางห้อง ดับลงไปแล้ว เหลือเพียงไฟหลังห้องที่ยังคงเป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวของห้องนี้
     การุณไม่กล้าหันไปมองที่มุมมืดของห้อง เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางคืนยังฝังในหัวไม่จางหาย เขากลั้นใจก้าวยาวๆไปปิดสวิชไฟอันสุดท้าย ก่อนที่ห้องจะมืดลง มีเพียงแสงสว่างจากทางเดินที่ส่องเข้ามาทางประตู แน่นอนการุณรีบก้มหน้าเดินออกจากห้องให้เร็วที่สุด
     บรรยากาศในมหาลัยตอนพลบค่ำช่างเงียบสงบ นักศึกษาส่วนใหญ่มักจะออกไปเดินเที่ยวกันที่ด้านหน้าของมหาลัยเสียมากกว่า จึงเป็นเหตุให้ภายในมหาลัยค่อนข้างเปลี่ยวผู้คน 

‘รู้แบบนี้ให้ ดล มารับเสียดีกว่า’

     การุณรู้สึกว่าคิดผิด เมื่อเห็นทางเดิน ที่ตนต้องเดินกลับ คณะของเขาอยู่ด้านในสุดของมหาลัย อีกทั้งยังเป็นเพียงทางเดินแคบๆ ที่ข้างทางมีแต่ต้นไม้และกอหญ้า ถ้ามีคนเดินด้วยคงจะดีไม่น้อย เขาไม่รอช้า รีบออกเดินก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดไปกว่านี้

     ต้นไทรต้นใหญ่ที่ตั้งอยู่ข้างทางไหวไปมาตามแรงลม รากไทรปลิวไหวไปมาดูคล้ายหญิงสาวสยายผม ที่ตรงนี้มีตำนานเล่าขานมารุ่นต่อรุ่น แน่นอน การุณนึกโกรธตัวเองที่คิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง เขาตัดใจไม่มองไปทางนั้นเด็ดขาด แต่แล้วก็ได้ยินเสียงดังมาจากทางนั้น เขาหยุดก้าว เพื่อหยุดฟัง
     เสียงนั้นดังอยู่ข้างหลัง ใกล้เข้ามาทุกที เขาเริ่มหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่กล้าที่จะหันไปมองข้างหลัง แต่อีกใจก็คิดว่าอาจจะมีคนตามเขามา เขานับในใจอีกครั้ง เมื่อเสียงนั้นหยุดใกล้เขา

“เฮ้ย”

     การุณร้องเสียงหลงเมื่อเขาหันมาชนกับนักศึกษาอีกคน ทางฝ่ายอีกคนก็ตกใจไม่แพ้กัน เผลอตัวปล่อยมือจากลูกชึ้นปิ้งจนมันลอยไปโดนเสื้อของการุณเป็นรอยน้ำจิ้มติดอยู่บนนั้น
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวรีบขอโทษเมื่อเห็นคราบที่ตนได้ทำไว้ การุณบอกไม่เป็นไร เขาเองก็ผิดเหมือนกันที่อยู่ๆก็หันไป ผู้หญิงคนนี้คงใจเสียไม่น้อย เขารีบเดินเข้าห้องน้ำที่อยู่ถัดไปอีกตึก

     เสื้อสีขาวถูกถอดออกมาเนื่องจากไม่มีคนอื่นอยู่  ที่อ่างล้างหน้า สายน้ำเย็นค่อยๆล้างชำระรอยเล่านั้น แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงเหลือรอยจางๆทิ้งไว้
     การุณลองขยี้เสื้อดูอีกครั้ง ในทันใดนั้นเองเขาต้องหยุดเคลื่อนไหวอีกครั้งเมื่อได้ยินเหมือนเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขารีบก้มหน้าลงมอเสื้อในอ่างน้ำทันที ภาวนาขออย่าให้เกิดเรื่องอะไรอีก เสียงฝีเท้าหยุดลงข้างหลังเขา การุณรู้สึกเหมือมีสายตาจ้องมาที่เขา นั่นทำเอาขนอ่อนตรงต้นคอลุกชัน


นับหนึ่ง ค่อยๆเงยหน้า


นับสอง เห็นขอบกระจกแล้ว


นับสาม เขาเปิกตากว้าง แข้งขาอ่อน แทบจะทรุดลงกองกับพื้นเมื่อพบ สายตาที่จ้องมาที่เขา





สายตาจาก ชายใบหน้าซีดขาว ชายผู้มีกลิ่นฟอร์มาลีน ชายที่เขาได้เจอเมื่อคืนวาน

killermoonlit

  • บุคคลทั่วไป
อ้าวนายเอกเป็นผีแล้วจะจ้ำจี้กันยังไงละเนี่ย

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
ฮือ... น่ากลัวจริงๆ อ่ะ ยังไม่ทันไปหมูบ้านหัวกุดเลย พระเอกเจอผีตลอดเลยอ่ะ

บรึ๋ยส์

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
แกเรียนหมอใช่ไหม !!!!

ออฟไลน์ bigeye

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 332
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
เฮ้ย..ไม่จริงอ่ะ...บอกมาว่าหลอนไปเองใช่ไหม?
เหอๆ

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ตอนนี้ก็ลุ้นว่าจะเจอ...สองรอบ :try2:
นายกาน..ขี้กลัวขนาดนี้ ยังจะไปเที่ยวที่น่ากลัวๆอีกนะ
เป็นเรา ไม่ไปเด็ดๆ :serius2:


Moonmaid

  • บุคคลทั่วไป
คิดในแง่ดีก็คือนักศึกษาแพทย์นั่นเอง

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ขี้กลัว แต่ก็อยู่ชมรมลี้ลับอะไรแบบนี้นะกาน :laugh:
แต่ถ้าเจอแบบนี้ ขอสลบก่อนเลย ไม่ไหวจะเคลียร์ มาให้เจอเป็นตัวๆ
อยากไปหื่นใส่เค้าดีนัก เป็นไงล่ะกาน มาให้กอดถึงที่เลย o22

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เห๊ย.....อย่าหลอกอย่าหลอนกันเลย...อินเหลือเกินกู!

ออฟไลน์ papa

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 818
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-3
อึ๋ยย   หลอนจัง   o21

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ไม่ใช่ผี................มั้ง  :laugh:
อยากอ่านตอนไปหมู่บ้านหัวกุดแล้วอ่าาาา >< (รีบไปไหม 555)

 :pig4: :L1:

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
ไม่ใช่ผี................มั้ง  :laugh:
อยากอ่านตอนไปหมู่บ้านหัวกุดแล้วอ่าาาา >< (รีบไปไหม 555)

 :pig4: :L1:

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
อืมไม่ใช่ผีมั้งคงเป็นนักศึกษาแพทย์แน่ๆเลย

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
สวัสดีเจ้าทุกคน คิดถึงนาย การุณ คนเก่งกันหรือเปล่านะ


ปล ตอนนี้ไม่น่ากลัวนะคะ ชิลๆ





บทที่ 3 ออกเดินทาง




     การุณใช้มือยันอ่างล้างหน้าไว้กันไม่ให้ร่างของตนทรุดลงกับพื้น เหงื่อเขาแตกพลัก ราวกับไปวิ่งรอบสนามกีฬานับสิบรอบ กล้ามเนื้อบนใบหน้าเกร็งแน่น เห็นเส้นเอ็นปูดชัดเป็นแนวยาว ชายผิวขาวเอียงหัวไปมาจ้องการุณไม่วางตา จนเขามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของการุณ ชายตัวใหญ่กลั้นหายใจ เขาเคยได้ยินมาหากกลั้นหายใจไว้ผีจะไม่เห็นตัว ใบหน้าขาวนั้น จ้องมองการุณไม่กระพริบ นิ้วเรียวยาวยกขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าคม สัมผัสแรกการุณรู้สึกได้ถึงความเย็นจากปลายนิ้วที่จับหน้าเขาหันไปมา
จนการุณกลั้นหายใจต่อไปไม่ไหว เขาสูดหายใจเข้าปอดจนเต็มหลับตาลงอย่างเร็ว ไม่อยากจะมองภาพตรงหน้าอีกต่อไป

“อย่าหลอกผมเลยครับ….ผมขอโทษที่ทำรุ่มร่ามกับคุณ” การุณยกมือขึ้นไหว้ ปากก็บอกขอโทษขอขมาเรื่อยๆ จนรู้สึกมือเย็นๆนั้นถอดถอนออกไป เขาค่อยๆลืมตา เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปสักพัก แต่ก็ต้องรีบหลับตาลงใหม่อย่างรวดเร็วเมื่อเห็นใบหน้าขาวนั้น อยู่ใกล้เพียงไม่กี่คืบ

“อย่าหลอกผมเลย……อย่าหลอกผมเลย” การุณพนมมือสั่นเหนือหัว พร่ำขอขมาอย่างต่อเนื่อง จนรู้สึกได้ถึงแรงจับที่มือของเขา
“ทำบ้าอะไรของคุณ”

     เสียงแหบพร่าดังขึ้น ทำเอาการุณตัวสั่นมากยิ่งขึ้น ยิ่งเขาสั่นมากเท่าไรมือที่จับที่ข้อมือยิ่งบีบแรงมากขึ้น เขาหายใจถี่รัวจนรู้สึกเหนื่อย เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลจากหน้าผากลามลงมาถึงลำคอแกร่ง เรี่ยวแรงค่อยๆลดลง จนเขาทรุดลงนั่งกองอยู่กับพื้น

“หัวใจเต้น 140 ครั้งต่อนาที หายใจเร็วหอบ เหงื่อออกตามร่างกาย” เสียงแหบพร่าดังต่อเนื่อง แต่การุณฟังไม่รู้เรื่องแล้ว เขารับรู้ได้เพียงว่ามีคนเรียกเขาอยู่
“ทำใจดีๆครับ คุณ เฮ้ย คุณ หายใจช้าๆ”
“ดีครับ ผ่อนคลาย” เสียงนั้นดังต่อเนื่อง แต่น่าแปลกใจที่เสียงแหบนั้นไม่ได้ฟังน่ากลัวอย่างที่คิด การุณเอนตัวตามแรงบังคับของชายผิวซีด เขาหลับตาอยู่เช่นเคย ผ่อนลมหายลมหายใจตามเสียงที่สั่ง

ความรู้สึกโล่งอกค่อยๆเข้ามา เขารู้สึกหายใจได้โล่งมากขึ้น อาการจุกอกค่อยๆบรรเทา
“ดี ทีนี้ค่อยๆลืมตา”
การุณส่ายหน้าแรง
“ลืมตา” เสียงแหบนั้นเน้นเสียงทีละคำช้าๆ เป็นแนวออกคำสั่ง
การุณไม่กล้าฝืนคำสั่ง เขาค่อยๆลืมตา มองเห็นชายตรงหน้าเต็มๆ ให้ตายสิ ถ้าไม่ติดว่าจะเป็น…….. การุณก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาช่างดูน่าดึงดูดไม่น้อย
“ปฏิกิริยาม่านตา ปกติ” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง การุณได้เพียงจ้องริมฝีปากสีแดงขยับขึ้นลง มันช่างเพลินตาเสียจนลืมความกลัวไปสิ้น
“ดีขึ้นไหม” เขาจัดแจงยกศีรษะของการุณให้ยกสูงขึ้น การุณรู้สึกหายใจได้สะดวกขึ้นพยักหน้าเป็นคำตอบ แต่ยังไม่ทันที่จะได้ทำอะไร เสียงกรี๊ดก็ดังลั่นห้องน้ำแคบๆนั้น

“กรี๊ดดดด พี่รัฐ กอดกับผู้ชายเปลือย” เสียงจากเด็กนักศึกษาชายร่างท้วม เธอกรีดร้องอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อเห็นภาพอันล่อแหลมตรงหน้า ผู้ชายรุ่นพี่ที่เธอแอบชอบกำลังโอบคอของผู้ชายผิวเข้มที่ถอดเสื้อเผยหุ่นล่ำอุดมไปด้วยกล้ามเนื้อ เธอกรีดร้องซ้ำอีกครั้ง กรีดมือป้องปากอัตโนมัติ น้ำตาแห่งความผิดหวังไหลผ่าน เครื่องสำอางค์ที่ฉาบไว้บนหน้าของเธอจนผิวหนังของเธอไม่ได้รู้สึกถึงความชื้น

“เฮ้ย เดี๋ยว ปุ๊กโกะ มันไม่ใช่แบบนั้น” ชายหนุ่มผิวขาวรีบผละตัวออกจาก อีกคน  เขากำลังจะอธิบายให้รุ่นน้องคณะเดียวกันได้เข้าใจ แต่ช้าไปเสียแล้ว เจ้าหล่อนพาร่างท้วมของเธอวิ่งออกไปพร้อมกับเสียงร้องไห้ดังไปทั่ว

“เพราะนายคนเดียว” ชายผิวขาวชี้หน้าเอาโทษการุณที่ทำให้เขาถูกเข้าใจผิด ก่อนจะวิ่งตามรุ่นน้องไป ทิ้งการุณให้งุนงงเพียงลำพังในห้องน้ำเล็กๆแห่งนี้ กับเสียงตะโกนที่ค่อยๆ เลือนเบาลงไป


“พี่รัฐ กอดกับผู้ชายเปลือย แอร๊ยยยยย”




     กว่าที่การุณจะเดินทางถึงห้องของ ภคดล ก็ใช้เวลาไปอีก 10 นาที เพราะมัวแต่คิดเรื่องของชายหนุ่มที่ชื่อรัฐ ในตอนแรกที่เขาคิดได้ถึงความจริงที่เขากลัว เขาก็นึกขำตัวเองในใจที่คิดไปเองเอาเสียหมดสภาพนักกีฬาสุดเท่ห์ ไหนจะไปแอบดมกลิ่นเขาในลิฟ ไหนจะกลัวจนแข้งขาทรุดหายใจติดขัด ในห้องน้ำ สงสัยคะแนนความประทับใจคงติดลบเสียน่าดู คงต้องหาทางทำคะแนนเพิ่ม โชคยังดีที่ได้อยู่หอพักเดียวกัน แบบนี้น่าจะมีลุ้น

     “มาช้านะ” ภคดลเปิดประตูให้การุณเข้ามา การุณที่ตอนนี้อยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นอย่าที่เขาชอบใส่ทุกครั้งตอนนอน โชว์วงแขนหนาน่าจับต้อง ภคดลจ้องตาเป็นมัน เขาเชิญเพื่อนให้เอาของไปวางไว้เป็นที่ทาง การุณขอตัวทำการบ้านที่ยังค้างไว้ที่โต๊ะทำงาน ภคดลจัดแจงเคลียหนังสือการ์ตูนให้เรียบร้อย ก่อนที่จะถือไปอ่านที่เตียง ถึงกระนั้นภคดลเองไม่มีสมาธิอ่านหนังสือมากนัก ในเมื่อมีคนที่ต้องตามานั่งอยู่ในห้องด้วยแบบนี้ ยิ่งอยากที่จะมองไม่วางตา ตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก เขาเองก็สะดุดตากับความสูงของการุณที่สูงมากกว่ามารตฐานชายไทยไปมากโข ไหนจะใบหน้าเข้มได้รูปนั่นอีก ยิ่งเห็นยิ่งหลงใหล ยิ่งได้พูดคุยกัน ก็ทำให้เขาหลงรักไปโดยไม่รู้ตัว

     “นายง่วงแล้วหรอ” การุณที่นั่งทำงานหันมาเจอ กับเพื่อนของเขาที่นอนฟุบอยู่ ภคดล พยักหน้าเบาๆ การุณรีบลงมือจัดการงานของเขาจนเสร็จในไม่กี่นาที เขาลุกขึ้นปลุกอีกคนให้นอนให้ถูกที่ แต่ภคดลเองเหมือนจะ งัวเงียจนไม่คิดจะลุกขึ้นแล้ว
     “ให้มันได้แบบนี้สิ” การุณส่ายหัว ยิ้มให้กับท่าทีของเพื่อนตนที่งอแงเหมือนเด็ก เขาจัดแจงลากตัวของเพื่อนให้หันไปยังหัวเตียง ยัดหมอนรองใต้หัวภคดล จัดแจงปิดไฟ เปิดพัดลมให้อากาศถ่ายเท น่าปลกที่คืนนี้ เขาเองรู้สึกสบายใจกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา อาจจะเพราะมีเพื่อนนอนด้วย หรืออาจจะเพราะรับรู้ได้ว่าเรื่องที่พบเจอนั้นเป็นเรื่องที่เขาคิดไปเอง
     การุณหัวเราะเบาๆอีกครั้ง นึกถึงสีหน้าเอาเรื่องของคนๆนั้นตอนที่เขาไม่พอใจที่แอบไปดมกลิ่น ทำไมมันช่างติดตาแบบนี้ นี่ถ้าเขาเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมเสียหน่อยคงจะดีไม่หยอก อาจจะอดใจไม่ไหว เข้าไปกอดในลิฟเลยก็ได้ หึหึ
ค่ำคืนที่การุณได้นอนอย่างเป็นสุข เขาเองคงไม่รู้หรอกว่านอกจากการุณเองแล้ว ยังมีอีกคนที่อยู่ข้างๆนั้นยิ้มอย่างเปี่ยมสุขด้วยเช่นกัน ภคดลเองได้เพียงยิ้มให้กับร่างของการุณที่หลับไปพร้อมรอยยิ้ม แสงจากด้านนอกหน้าต่างพอทำให้เห็นได้รางๆ ภคดลเองต้องห้ามใจตัวเองอย่างหนักที่จะไม่เผลอทำรุ่มร่ามกับเพื่อนที่นอนข้างๆ มันคงไม่ดีนักหากอีกคนรู้เข้า ภคดลเลือกที่จะให้มันค่อยๆเป็นค่อยๆไปจะดีกว่า


     นับจากวันนั้น การุณก็กลับไปนอนห้องของตัวเอง ทำเอาภคดลผิดหวังไปทีเดียว แต่ถึงกระนั้น ภคดลเองก็ยังชื้นใจที่ในอีกไม่กีวันข้างหน้า พวกเขาจะได้ไปเที่ยวกัน และคงได้มีช่วงเวลาดีๆ กับการุณให้มากกว่านี้






     เช้าวันแรกของการหยุดพักผ่อน การุณเดินทางมาถึงด้านหน้าของบริษัททัวร์เป็นคนแรก เขาเห็นรถตู้สีขาวเก่าๆ จอดอยู่ด้านหน้า ซึ่งเขาเองไม่แปลกใจนักกับสภาพรถ เมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายที่ตนได้จ่ายเป็นค่าเดินทางครั้งนี้ ที่มันถูกมากเสียจนไม่น่าเชื่อ
“สวัสดีครับคุณ……การุณใช่ไหมครับ” พนักงานชายหนุ่มวัย 30 เดินออกมาต้อนรับลูกค้า เขาแนะนำตัวอีกครั้ง
“ผมวสัน ทำหน้าที่ดูแลพวกคุณในการเที่ยวครั้งนี้ครับ” เขาพูดอย่างสุภาพ ทำเอาการุณรีบบอกว่าไม่ต้องเป็นทางการขนาดนั้นก็ได้ อย่างน้อยการุณเองก็เกรงใจด้วยความที่ วสันเองก็ดูมีอายุมากกว่า
“เรียก กาน เฉยๆ ก็ได้ครับ”
แต่ชายหนุ่มไม่ยอม อ้างว่าเป็นนโยบายของบริษัทและอาจโดนหัวหน้าเล่นงานเขาได้ ได้ยินแบบนั้นการุณก็จนใจ
“แล้วตกลงมีคนไปด้วยกี่คนครับ”
“มีทั้งหมด  8 คนครับ ถ้ารวมผมด้วยก็จะเป็น 9 คน” วสันเปิดเอกสารเช็คดูอีกครั้งเพื่อความเน่ใจว่าไม่ตกหล่นผู้ใดไป การุณพยักหน้าตอบ เขาขอตัวไปหาอะไรใส่ท้องเพื่อเตรียมตัวเดินทางไกล เขาแวะเข้าร้านสะดวกซื้อเลือกขนมปังมาได้สัก 3 ชิ้น ตบท้ายด้วยนมขวดใหญ่ เมื่อกลับมาถึงจุดนัดก็เจอเพื่อนๆของเขา จัดแจงเก็บกรพเป๋าเดินทางเข้าหลังรถตู้ ทั้งหมดทักทายกันเล็กน้อย ก่อนที่การุณจะสังเกตเห็นชายและหญิงวัยกลางคน ที่ยืนแยกตัวออกไป ข้างๆพวกเขามีกระเป๋าเดินทางเช่นกัน คิดว่าคงเป็นลูกทัวที่จะไปเที่ยวด้วยกันในครั้งนี้

      อีกไม่ถึง 10 นาทีก็จะถึงเวลาออกเดินทาง แต่ผู้โดยสารยังเหลืออีก 2 คนที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะมา วสันเองก็ดูร้อนรนกับการจัดข้าวของที่ดูแล้วช่างมากมาย ทั้งวัตถุดิบอาหารที่ดูแล้วพวกเขาต้องทำกินกันเอง เตาแก๊ซขนาดเล็ก อุปกรณ์อื่นๆอีกมากมายถูกโยนขึ้นไปด้ายบนของรถ โดยมีบรรดาผู้ชายเป็นคนช่วย
     ไม่นาน ผู้โดยสารคนที่ 7 ก็เดินทางมาถึง ทันทีที่เขาก้าวเท้าลงจากรถก็ทำให้การุณถึงกับหยุดหายใจ ผิวสีขาวเด่นเห็นได้ชัดแม้จะยังไม่สว่าง ผมสีดำขลับถูกจัดทรงมาอย่างเรียบร้อยไม่ยุ่งเหยิง กระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่แบกอยู่ที่หลังนั่นใหญ่เสียจนไม่น่าเชื่อว่าคนตัวผอมแบบนั้นจะยกไหว การุณรีบเข้าไปอาสาช่วยแบกกระเป๋าให้ทันที ทำเอาเพื่อนๆของเขาประหลาดใจไปตามๆกัน โดยเฉพาะ ภคดล

“ไม่ต้อง” ชายหนุ่ม ปฏิเสธ เขายังรู้สึกเคืองคนตัวใหญ่ไม่หาย ที่ไม่ว่าได้เจอกันเมื่อไรก็เกิดเรื่องขึ้นเสียทุกที การุณไม่ยอมแพ้รู้ตัวว่าคะแนนติดลบ และนี่ก็เป็นโอกาสดีที่จะกู้หน้าคืน
“เอาเหอะน่า” เขาแย่งกระเป๋ามาแบกโดยไม่สนใจแรงยื้อจากอีกคน และนั่นก็ทำเอาสายสะพายของเป้ฉีกออกเสียงดัง กระเป๋าทั้งใบร่วงหล่นลงสู่พื้น
“ผม…ขอโทษ” การุณรีบเก็บกระเป๋าขึ้นมาพร้อมทำหน้าเจื่อนขอโทษอีกคนอย่างเร็วเมื่อเห็นสายตาไม่พอใจที่มองมา เด็กหนุ่มถอนหายใจกอนจะเดินไปรายงานตัวกับคุณวสัน

“คุณ รัฐกรณ์ นะครับ” วสันขีดเครื่องหมายตรงหน้าชื่อของเด็กหนุ่มพร้อมกับมอบเอกสารรายละเอียดต่างๆให้ รัฐกรณ์เดินไปยังหลังรถเพื่อตรวจดูกระเป๋าของตนว่าไม่ได้มีอะไรเสียหายเพื่อมจากคนตัวซวยที่ขยันสร้างเรื่อง
“เดี๋ยวผมซ่อมให้ครับ……ผมการุณ” การุณฉีกยิ้มให้ แต่ก็ต้องหุบยิ้มเสียทันทีที่รัฐกรณ์ ส่งสายตาไม่พอใจมาให้
“โหดชิป”
“นายว่าไงนะ” เสียงแหบๆอันเป็นเอกลักษณ์ของรัฐกรณ์ดังขึ้น ทำเอาการุณรีบสั่นหัว ไม่คิดว่าเขาจะได้ยินสิ่งที่ตนบ่น


     เลยเวลามา 10 นาทีแล้วสมาชิกคนสุดท้ายก็ยังไม่มีวี่แววจะมาถึง วสันกดมือถือบ่อยครั้ง จนคู่สามีภรรยาทนไม่ไหว “นี่มันเลยเวลาแล้วนะ”
“ใจเย็นๆนะครับ คุณสรรพวุติ คุณสาวิตรี เดี๋ยวผมขอเวลาอีกนิด” วสันเองก็ดูร้อนใจไม่น้อย เขายังคิดโทรติดต่อลูกทัวร์อีกคน แต่ดูเหมือนเขาคนนั้นจะติดต่อไม่ได้
“ยังเหลือใครอีกหรอคะ” กรรณิกาถาม เธอเองก็เบื่อที่จะยืนรอแล้วเช่นกัน
“เหลือคุณ อาญา อีกคนเดียวครับ” สิ้นเสียงที่วสันพูด กรรณิกา วรวิทย์ และ ภคดล ก็มีสีหน้าตื่น พวกเขาเข้าไปรวมกลุ่มกันโดยเร็วพร้อมกับพูดคุยกันเบาๆ กรรณิกาคอยสอดส่อง เป็นระยะด้วยความเกรงที่จะมีคนอื่นได้ยิน

 “อาญา นามสกุลอะไรครับ” เจ้าของเสียงแหบถามบ้าง ท่าทางของรัฐกรณ์เองก็เปลี่ยนไปเช่นกันเมื่อได้ยินชื่อ อาญา หลุดออกมาจากปากของ วสัน


“อาญา ณาศวานัย ครับ”


“เป็นไปไม่ได้……” เสียงแหบพร่านั้นสั่น การุณสังเกตได้ เขาขยับเข้าไปใกล้เตรียมพร้อมเผื่อคนตงหน้าล้มพับลง 






“เขา…….เขาตายไปแล้วนี่”



     ดวงอาทิตย์ในเช้านี้ แตกต่างไปจากทุกวัน สีแดงสดราวกับเลือด นั้นแผ่ออกไปรอบข้าง ย้อมให้ท้องฟ้าที่ควรจะสดใสให้แปดเปื้อนไปด้วยสีชาด การเดินทางในครั้งนี้ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อวงล้อแห่งชะตากกรมเริ่มหมุนวน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2012 04:36:13 โดย Tifa »

ออฟไลน์ cancan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +581/-0
^
^
^  จิ้ม  เพิ่งเข้ามาอ่าน  อยากบอกว่าชอบมากๆๆๆ เดี๋ยวอ่านแล้วมาเม้นต่อ  แค่สามตอนก็จิ้นกานกับรัฐไปไกลแระ  ว่าแต่  อาญา ณาศวานัย เป็นใครกันนะ  คงต้องติดตามตอนเฉลยต่อไป   :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-02-2012 18:38:35 โดย cancan »

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
กร๊าซ....ปมเก่าคลาย ปมใหม่มาอีกแล้ว...ขนลุกๆๆๆ

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เอ่อ ขอให้เป็นคนละนามสกุลกับคนที่เอ่ยเมื่อกี้ก็ดีนะ
จะได้ไม่ไปกับคนที่ไม่มีชีวิตแล้ว

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
โอย....  ให้ความรู้สึกเหมือน ห้าแพร่ง (เรื่องที่มีมาช่าเล่นอ่ะ)

ลึกลับซับซ้อน หลอกคนดู  555

ตอนแรกก็ นึกว่านายเอก (คิดว่านะ เพราะกานตัวใหญ่กว่า) ตายแล้ว 5555

แต่มาเฉลยว่ายัง (ชิ ปล่อยให้เราหลอนไปตั้งสองตอน 5555 )

แต่รู้ไหม เค้าชอบอ่ะ แบบว่าชอบฟังเรื่องผี แล้วยิ่งเรื่องผี ซับซ้อนหักมุมยิ่งชอบมาก

ช่วงนี้ขยันนะคะตัวเธอ ซันนี่ก็มาบ่อย เรื่องนี้ก็เรื่อยๆ

รีบมาต่อไวๆ นะเค้าติดเรื่องนี้แล้วล่ะ  บวกๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
กำลังจะออกเดินทางแล้ว แต่ว่าจะให้ไปกับคนตายแล้วเนี่ยนะ :a5:

ออฟไลน์ ratnalin

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
กลับมาฮาจนได้ 555 รัฐน่ารักอ่ะ  :-[

 :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
น้องรัฐเสียงแหบ..โอ้~เซ็กซี่ :-[
แล้วนี่ไปทริปน่ากลัวๆคนเดียว ไม่มีเพื่อนไปด้วยเหรอ
กล้าจัง
ดูสิ แค่เริ่ม ก็น่ากลัวแล้ว (ไหนบอกชิลๆไง o18)

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
ฮิ้ว กลับมาเเล้วค่ะ มาต่อกันเลย

ปล ชักอยากจะเขียนให้เป็นเรื่องตลกเเล้วสิ คริๆ







บทที่ 4 คืนที่หนึ่ง





“คุณแน่ใจหรอครับ” วสันดูจะตกใจไม่น้อยที่ได้ยินสิ่งที่ รัฐกรณ์บอก
“ครับ…เขาเสียได้สองปีกว่าแล้ว” รัฐกรณ์ยืนยันคำเดิม “อาญาเขาเรียนคณะเดียวกับผมครับ เราค่อนข้างสนิทกัน” เสียงแหบพร่านั้นดูสั่นเทา การุณเองอดใจไม่ไหวจนต้องเข้าไปดูแล แต่ก็ถูกรัฐส่งสายตาดุมาให้
“อาจเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันนะครับ คุณอาญาที่จะไปเที่ยวกับเรา เขาพึ่งมาสมัครด้วยตัวเองเมื่อสองวันก่อนนี้เอง” วสันยังยืนยันว่า   มีคนชื่ออาญามาสมัครจริงๆ “ผมอาจจะลงนามสกุลเขาผิดก็ได้ครับ” เขาพยายามเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้ลูกทัวร์ของเขาไม่กลัวจนยกเลิกการเที่ยวเสียก่อน
     การุณเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น เขาเองก็ไม่ค่อยถูกกับเรื่องพวกนี้เท่าไรนัก ถ้าไม่จำเป็นต้องทำหัวข้อวิจัยเรื่องหลักความเชื่อกับหลักทางวิทยาศาสตร์แล้วล่ะก็ เขาไม่มีทางมาเด็ดขาด

     วสันพยายามโทรติดต่อคนที่ยังไม่มาอีกครั้งจนเวลาล่วงไปกว่า 30 นาที เขาจึงตัดใจโทรแจ้งรายละเอียดให้กับบริษัท แล้วเริ่มออกเดินทางทันที


“กว่าจะไปได้” ทันทีที่ทุกคนทยอยขึ้นรถคุณสรรพวุติ ก็บ่นตบท้ายอีกที ทำเอาวสันต้องก้มหัวขอโทษแล้วขอโทษเล่า จนสาวิตรี ภรรยาของเขาเอ็ดเข้าให้ “คุณนี่ ช้าไปนิดเดียวเอง” แล้วเธอก็จัดแจงลากสามีตนเองเข้าไปนั่งตำแหน่งแถวหน้าสุด “น้องๆ พี่ขอนั่งแถวหน้านะคะ พี่เมารถน่ะ” เธอขออนุญาตจากเด็กๆอย่างเป็นกันเอง ทุกคนตกลง มีเพียงกรรณิกาที่แอบหัวเราะเบาๆให้กับสรรพนามที่หญิงวัยกลางคนเรียกตนเอง “เรียกป้า ดีกว่าไหมนะ” เธอกระซิบให้วรวิทย์ฟัง พร้อมกับเสียงหัวเราะคิกคัก

     แถวถัดมาเป็นที่นั่งของภคดล การุณ และ กรรณิกา แถวสุดท้ายถูกยกให้เป็นของ วรวิทย์ ที่ตัวใหญ่ จึงต้องการพื้นที่ในการนั่งค่อนข้างมาก ทุกคนจึงสละแถวสุดท้ายให้ ส่วนรัฐกรณ์เลือกที่จะนั่งแถวหน้าสุดกับคู่สามีภรรยา นั่นทำเอา การุณเสียดายเล็กๆที่ไม่ได้นั่งคู่กับ คนตัวซีดนั้น


     เมื่อทุกคนพร้อม วสัน ก็เริมขับเครื่อนรถตู้คันเก่าออกจากริมถนน ทั้งหมดวิ่งออกจากเมืองไปทางเหนือ อากาศวันนี้ไม่ร้อนนัก ลมเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศ ชวนให้ง่วงนอน เสียงเพลงที่บรรเลงไม่ได้เปิดดังมากไปนักค่อยๆกล่อมให้ ภคดลรู้สึกง่วงจนลืมตาแทบไม่ขึ้น เขาเอียงศีรษะเข้ากับไหล่ของการุณช้าๆ ก่อนจะทิ้งน้ำหนักลงไป จนแน่ใจว่าเพื่อนของตนไม่ว่าอะไร เขาจึงหลับไปอย่างสุขใจ

     ทางการุณเองก็ไม่ว่าอะไร ถ้าจะปล่อยให้นอนคอพับ ก็คงจะโหดร้ายไปเสียหน่อย อีกอย่างหัวของภคดลเองก็ไม่ได้หนักมาก ก็ปล่อยเสียเลยตามเลย เขากลับมาสนใจคนที่นั่งเยื้องอยู่ข้างหน้าที่กำลังสนทนากับคู่สามีภรรยาอย่างสนุก
“น้องรัฐเรียนหมอหรอคะ โหเก่งจริงๆ” สาวิตรีออกปากชมเมื่อรู้ว่า รัฐกรณ์เรียนคณะแพทย์ปี 4 แล้ว “งั้นก็คงอายุ พอๆกับลูกของเราเลยนะคุณ”
“จริงหรือครับ แล้วเรียนอะไรครับ” รัฐกรณ์ถามต่ออย่างสุภาพ โดยไม่ทันสังเกตถึงสีหน้าของอีกสองคน
“เขาไม่อยู่แล้วจ๊ะ” เธอตอบเสียงเศร้า ถึงแม้สาวิตรีจะยิ้ม แต่ลึกๆเธอเองยังคงทำใจกับการสูญเสียในครั้งนี้ไม่ได้ สำหรับ พ่อแม่แล้วคงไม่มีอะไรจะเลยร้ายไปกว่าการต้องมาจัดงานศพให้ลูกของตนเอง
“ผมขอโทษครับ” รัฐกรณ์รีบขอโทษ ถึงแม้เขาจะเรียนอยู่สายการแพทย์จนเห็นความตายเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้ว แต่ก็ไม่ได้ใจหินถึงขนาดไม่ได้รู้สึกยินดียินร้ายกับการจากลา เขาเองก็เคยประสบมาด้วยตนเอง ว่ามันเจ็บปวดแค่ไหน

     กรรณิกาเองนอนไม่หลับเธอยังคิดกังวลกับเรื่องที่เกิดเมื่อตอนเช้าอยู่ เธอนั่งกัดเล็บอยู่ลำพัง รอเวลาที่คนที่นั่งข้างหน้าหลับกันหมด รวมถึงการุณ เมื่อทุกคนหลับกันหมด เธอจึงแอบย้ายที่นั่งไปข้างหลัง ปลุกเพื่อนตัวใหญ่ให้ตื่น
“มีอะไร” วรวิทย์งัวเงียจากการหลับอย่าไม่ค่อยพอใจ
“เรื่อง อาญา” กรรณิกา พูดเสียงเบาที่สุดพลาง หันไปมองคนที่เหลือ เมื่อไม่เห็นว่ามีใครเคลื่อนไหวก็เบาใจ แต่ก็ยังระวังไม่ให้เสียงดังเกินไป
“แค่บังเอิญน่า คุณวสันเองก็บอกแล้วอาจจะจดนามสกุลผิด คนชื่อ อาญามีเยอะไป” วรวิทย์ตอบไปเพื่อให้เพื่อนหญิงของตนสบายใจ ทั้งๆที่ตนเองก็คิดกลัวในใจเช่นเดียวกัน
“แต่”
“ไม่เอาน่า ณิ เรื่องไร้สาระ” เขาปัดไปอย่างรำคาญ “อีกอย่างเรื่องนั้น พวกเราก็ไม่ได้ผิด” เขาไล่ให้กรรณิกากลับที่นั่งของตนแล้วหลับตาลง แต่ตลอดการเดินทางนั้น วรวิทย์เองไม่ได้หลับเลยแม้แต่น้อย




“ถึงแล้วครับ” วสัน จอดรถยังริมทาง หลังจากมื้ออาหารที่ร้านอาหาร พวกเขาก็แวะมายังวัดป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งวสันแนะนำว่า เป็นวัดที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ทางเข้าวัดนั้นเป็นเพียงทางเดินแคบๆ รายล้อมไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ คณะท่อเที่ยวพากันเดินเรียงหนึ่งขึ้นไปอย่างเรียบร้อย การุณแอบเดินตาม รัฐกรณ์ เผื่อเขาจะสะดุดหกล้มหรือเหนื่อยจนเดินขึ้นเขาไม่ไหว การุณเองจะได้ช่วยทัน และอาจมีโอกาสได้สัมผัส น่าเสียดายที่ รัฐกรณ์เองแข็งแรงมากจนเดินขึ้นไปยังยอดเขาได้อย่างปลอดภัย
“ถึงแล้ว ดล” การุณบอกเพื่อนของตนอย่างเซ็งๆ ที่ต้องมาดูแล ภคดลที่ออกอาการหอบตั้งแต่คร่งทาง ต้องคอยดึงขึ้นไปเรื่อยๆ นี่ล่ะนะไม่ยอมออกกำลังกายเสียบ้าง การุณได้เพียงบ่นในใจ


     เมื่อทุกคนถึงยอดเขา ก็พบกับวัดเล็กๆตั้งอยู่บนนั้น สภาพโดยรวมแล้วแทบเรียกได้ว่าถูกกลืนเข้ารวมกับป่าได้อย่างลงตัว แมกไม้ข้างๆยกตัวสูง บดบังแสงแดดให้ดูร่มรื่น กำแพงโบสถ์ เต็มไปด้วยตะไคร่สีเขียวจับเป็นปื้น วสันนำทุกคนเข้าไปสักการะ องค์พระประธาน แต่เพียงก้าวเข้าไปทุกคนต้องตกใจ เมื่อพบว่าพระพุทธรูปทุกองค์ ในที่นี้นั้น ไม่มีศีรษะ

“ตามตำนานเล่าว่า….เมื่อครั้งก่อน สมัยที่ยังมีพระจำวัดอยู่ ณ ที่นี้ ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาขอเงินจากพระเป็นจำนวนมาก” วสันเริ่มทำงานของตน เขาพาทุกคนไหว้พระเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงเริ่มเล่าเรื่องที่เคยได้ยินให้ฟัง “
“แน่นอน ว่าพระเองก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น จึงปฏิเสธไป แต่ชายคนนั้นยังไม่ยอมแพ้ เขาดื้อดึงจะเอาเสียให้ได้” วสันพาทุกคนมายังเรือนพักหลังเล็กด้านหลัง อุโบสถ เป็นเรือนไม้หลังน้อยที่ตอนนี้ดูเก่าไปมากโข แผ่นไม้แต่ละอันดูผุ เกรงว่าหากเหยียบเข้าไปคงพังลงมาไม่เหลือซาก
“สุดท้าย ทางพระเองก็จนใจที่จะสนทนาด้วยจึงออกปากไล่ชายคนนั้น แน่นอนว่าเขาไม่พอใจมาก ตะคอกกลับด้วยเสียงอันดังว่า ‘แล้วมึงจะเสียใจ’

“รุ่งเช้า ชาวบ้านต่างพากันแปลกใจที่ไม่มีพระออกมาบิณฑบาต สองวันผ่านไปก็เช่นกัน จนกระทั่งย่างเข้าวันที่สาม ชาวบ้างต่างเป็นห่วงจึงพากันมายังที่แห่งนี้ที่พวกเรากำลังยืนอยู่ตรงนี้ ชาวบ้านคนนั้นเคาะประตู แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบ” วสันลงมือเคาะประตูไม้ด้วยเช่นกัน ทำเอาทุกคนที่รับฟังขนลุก ยิ่งกรรณิกาแล้วยิ่งเป็นเอามาก เธอเบียดตัวเข้ากับวรวิทย์และภคดล การุณแอบเหงื่อซึม เขาสังเกตเห็นรัฐกรณ์ยังคงนิ่ง นั่นทำให้เขาต้องรักษามาดต่อ เขากำหมัดแน่น ยืดอกขึ้นเพื่อไม่ให้ใครรู้ว่าตนกลัว

“จนกระทั่งชาวบ้านคนนั้นทนไม่ไหว เขาผลักประตูเข้าไป เพียงแค่นั้นคำตอบก็ปรากฏ กลิ่นคาวเลือดลอยโชยออกมาจากข้างใน แสงที่เข้ามาทางประตูพอทำให้เห็นผ้าสีเหลืองที่ชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด ร่างกายที่นอนนิ่งนั้นไม่ไหวติง แน่นอนว่าศีรษะของพระรูปนั้นถูกตัดขาดออกไป เช่นเดียวกับพระพุทธรูป” พูดถึงตรงนี้วสันค่อยผลักบานประตูให้เปิดออก เสียงกรี้ดเบาๆดังมาจากสาวิตรี และ กรรณิกา ที่เอามือปิดหน้าร้องกรี้ดใส่ฝ่ามือตนเอง

“ไม่มีอะไรสักหน่อย” ภคดลปลอบเพื่อนของเขา
“ใช่ๆ ไม่มีอะไรสักหน่อย” การุณรีบสมทบ หลังจากที่แอบหลับตาไปเหมือนกัน แต่เมื่อรู้ว่าปลอดภัยจึงลืมตาขึ้น เขามาช่วยปลอบเพื่อนๆอีกแรง
“ไม่มีอะไรหรอกครับ หลังจากเกิดเรื่อง ตำรวจเองก็มาเก็บกวาดให้เข้าที่เข้าทาง แต่ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้” วสันอธิบายให้ฟังต่อ “และหลังจากนั้น วัดแห่งนี้ก็ถูกปล่อยให้รกร้าง ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อีกเลย”




บ่ายวันนั้นทั้งหมดออกเดินทางต่อจนกระทั่งถึงที่หมายในวันแรก
“เราเข้าเขตหมู่บ้านหัวกุดแล้วนะครับ หรือจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่าหมู่บ้าน หนองก่ำ แต่ถึงวันนี้เราจะพักกันบริเวณเขตหมู่บ้านกันก่อน เพราะเป้าหมายจริงๆของเรา หรือสถานที่เกิดเรื่องนั้นอยู่ห่างไปอีกพอสมควรอีกทั้งทางยังค่อนข้างลำบาก” วสันจอดรถยังโรงแรมเล็กๆ จัดแจงแจกจ่ายห้องนอนให้แบ่งเป็นห้องละสองคน โดยที่สองสามีภรรยานอนด้วยกัน กรรณิกาได้ห้องเดี่ยวไปเนื่องจากเป็นผู้หญิงคนเดียว เหลือ รัฐกรณ์ ภคดล วรวิทย์และการุณ ที่ดูยังจัดสรรไม่ได้
“เดี๋ยวดลอยู่กับวิทย์ก็ได้” การุณชิงเข้าหาตัวรัฐกรณ์ ภคดลเองดูไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าไล่วรวิทย์ไปนอนกับคนอื่น จึงยอมรับข้อเสนอนั่นอย่างไม่เต็มใจนัก
“กานมานอนห้องด้วยกันก็ได้นะ”
“ไม่เป็นไรหรอก เตียงเล็กนิดเดียว เดี๋ยวนอนไม่สบาย” การุณขนของ ดันคนที่ต้องร่วมห้องด้วยเข้าไปข้างในอย่างกลัวที่จะมีการเปลี่ยนใจ ซึ่งเมื่อเห็นเตียงที่เป็นเตียงเดียวที่ต้องนอนด้วยกันก็ทำให้การุณกระชุ่มกระชวย
“นายลงไปนอนพื้นเลย” รัฐกรณ์อ่านสายตากรุ้มกริ่มนั้นออก รีบเอ่ยปากตั้งเงื่อนไขขึ้นมาเสียก่อน “ไม่งั้นเราจะไปนอนห้องอื่น” และนั่นก็เป็นเหตุให้การุณต้องทำหน้าจ๋อยขนผ้ามาปูนอนที่พื้นห้อง

   

      มื้อค่ำของวันนี้ วสันพามากินอาหารพื้นเมืองใกล้ๆกับโรงแรมทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น คุณสรรพวุฒ ดวลเบียร์กับวรวิทย์อย่างสนุก ที่เหลือก็ค่อยๆเริ่มแนะนำตัวและพูดคุยกัน เพราะยังไงก็ต้องอยู่ด้วยกันไปอีก 3 วัน ดังนั้นทำความรู้จักกันไว้ก็ไม่เสียหาย
     ก่อนจะกลับที่พัก กลุ่มของการุณเดินรั้งท้ายเนื่องจากต้องไปส่งกรรณิกาเข้าห้องน้ำ เมื่อออกมาก็ไม่เหลือใครในร้านแล้ว มีเพียงเด็กพนักงานหญิงคนเดียวเก็บกวาดโต๊ะอยู่ เธอจ้องมองมายังกลุ่มของเขาอย่างหวั่นเกรง การุณยิ้มให้ขณะเดินผ่าน เธอรีบหลบตา
“อย่าไปเลย….อย่าไป” เสียงแผ่วเบาของหญิงสาว ทำเอาทั้ง 4 คนหยุดชะงัก
“ว่าอะไรนะครับ” ภคดล ถามซ้ำ
“อย่าไปเลยนะคะ…..ที่นั่น…..” แต่ก่อนที่เธอจะพูดจบ หญิงสาวสูงอายุก็ตะโกนเรียกเธอให้ไปเก็บของหลังร้านเสียก่อน
“ประหลาดคน” กรรณิกามองหญิงสาวรีบเดินเข้าหลังร้านไป


     ทันทีที่กลับมาถึงโรงแรม  วสันก็จัดแจงนัดเวลาออกเดินทางวันรุ่งขึ้น ทุกคนรับทราบและแยกย้ายกันไปพักผ่อน
ค่ำคืนวันนี้อากาศเย็นสบาย ถึงแม้ในห้องจะเหม็นอับไปหน่อยแต่ก็คงไม่มีอะไรที่ทำให้การุณอารมณ์เสียได้ ในเมื่อตอนนี้เขาได้มองคนตัวซีดอยู่ในห้องกัน สองต่อสอง
“มองอะไร” รัฐกรณ์อดเอ็ดคนตัวใหญ่ ที่จ้องดูเขาอย่างไม่วางตา พอตวาดใส่ทีก็ทำหน้าหงอ แต่เดี๋ยวสักพักก็แอบมองใหม่อีกรอบอยู่ดี เขาเองก็คิดผิดที่เอากางเกงขาสั้นมาเป็นชุดนอน ใครจะคิดว่าต้องมาได้นอนห้องเดียวกับคนๆนี้

เฮ้อ…….คิดถูกหรือเปล่านะที่มาเที่ยวกับคนพวกนี้






     เที่ยงคืนกว่าแล้วแต่ กรรณิกาเองยังไม่นอน เธอรู้สึกใจคอไม่ดีนักกับการเดินทางในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ถึงแม้เธอจะกลัวในเรื่องลึกลับ แต่ในครั้งนี้มันผิดแผกไปจากเดิม
ทุกอย่างมันดูน่ากลัวมากจนเกินไป

     อยู่ๆเสียงเคาะประตูก็ทำเธอตกใจ กรรณิกากอดผ้าห่มแน่น ชะโงกดูประตู สักพักก็ได้ยินเสียงเล็บมือครูดกับประตู เธอตกใจ น้ำตาไหลออกมาโดยไม่ตั้งใจ มือไม้เย็นเฉียบ สักพักเสียงนั้นก็หายไป เธอค่อยๆย่องไปตรงหน้าประตูเอาหูแนบเพื่อฟังเสียง
เงียบ

     แต่เธอกลับเห็นเศษผ้าสีขาวอยู่ตรงประตู มันถูกสอดออกมาจากข้างนอก เป็นผ้าสีขาว มีรอยไหม้ตรงชายผ้า เธอใจเต้นรัว พยายามดึงเศษผ้านั้นแต่มันติด เธอชั่งใจอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะค่อยๆแง้มประตูออกไป เธอเอาตาส่องช่องว่างพบว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น มีเพียงกองผ้าสีขาวที่อยู่บนพื้นหน้าห้องเธอ กรรณิกาเปิดประตูออกมาดึงผ้านั้นออกจากประตู แต่เมื่อสังเกตดูเธอถึงกับทรุดลงกับพื้น ดวงตาเบิกโพรง


      เสียงกรี๊ดของเธอ ปลุกเอา ทุกคนวิ่งมาหา และสิ่งที่พวกเขาพบเจอนั่นก็คือ ภาพของหญิงสาวที่นั่งร้องไห้อยู่หน้าห้อง มือข้างขาวชี้ไปยังกองผ้าสีขาวที่มีร่องรอยการถูกไฟไหม้ไปเสียครึ่ง

มันคือเสื้อสีขาว เสื้อกาวน์ของแพทย์ที่สวมใส่เพื่อทำงาน

และที่หน้าอกนั้นเอง มีด้ายสีเขียวปักไว้ ซึ่งบางส่วนถูกไฟเผาจนเสียหายไป










นศ.พ.   อ…………………………..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-02-2012 07:33:42 โดย Tifa »

ออฟไลน์ ๛ナーリバス๛

  • ~~~๛NaaribuS๛~~~ ~ [TBL-081-588]
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1500
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +898/-26
    • NaaribuSS
 :z13: :z13:

ไม่เอาตลกค่ะ
กำลังหลอนได้ที่เลย
การุณเหมือนไอ้โรคจิตอ่ะ เอาแต่จ้องคนตัวซีดอยู่ได้  :jul3:

เรื่องเล่าเรื่องผีในเรื่องนี้พาเอาหลอนตลอดอ่ะ เรื่องพระ ก็น่ากลัว

แล้ว นศพ อ...ที่หายไปนั่น มัน อาญาหรือเปล่า?

ไม่ใช่ว่า คู่สามีภรรยาที่ลูกเสียไปคงไม่ใช่พ่อแม่ของอาญามาแก้แค้นให้ลูกหรอกนะ (เป็นไง นิจิ้นไกลป่ะล่ะ ฮ่าๆ) o18 o18

สู้ๆ นะ  :L2: :กอด1:


ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
อ่านตอนไหนก็ กะ กลัววว :a5:
ไอ้คนที่ฆ่าพระนี่คงไม่ได้ตายดี แถมตายไปแล้วก็คงไม่ได้ผุดได้เกิด แต่ว่าเสื้อกาวน์มาจากไหน o22
อย่าบอกว่าคนนี้ก็ยังไม่ได้ไปเกิด กรี๊ดดด  :z3:
นึกถึงสมัยเด็กๆที่อยากรู้อยากลองเข้าไปในบ้านร้างริมคลอง ที่หน้าบ้านมีต้นไทรใหญ่เบ้อเริ่ม แถมมีจอมปลวกขึ้นอยู่หน้าบ้านอีก
เจ้าของบ้านก็ผูกคอตายเลยกลายเป็นบ้านร้าง ไอ้เราเด็กๆอยากรู้มาก เลยขอให้ป้าบ้านข้างๆที่เป็นญาติกันพาเข้าไป
ป้าแกก็บ้าจี้ พาไปดูตรงขื่อบ้านที่เจ้าของบ้านผูกคอตายด้วยนะ คิดแล้วตลกตัวเอง :jul3:
แต่ไม่ได้น่ากลัวขนาดนี้อ่ะ ตอนนั้นเข้าไปก็เป็นสิบคน มีการไปขอให้สอบได้ที่ 1 ด้วยอ่ะ :laugh:
แต่ถ้าตอนนี้ให้ไปลองของแบบพวกกานนี่ไม่เอาแล้ว กลัวมากกกกก o22

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
เสื้อกาวน์นั้นเป็นของอาญาหรือเปล่านะ

ทำไมกรรณิกาต้องตกใจกลัวขนาดนั้นด้วย

หรือจะรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการตายของอาญา

ส่วนรัฐเคยเป็นเเฟนกับอาญาด้วยหรือเปล่านะ

หรือรัฐจะรู้ว่าอาญาเคยมาที่นี้เเล้วก็เลยท่บ้างเพื่อหาสาเหตุการตาย

จิ้นแหลก

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
น่ากลัวมากมายจ้า
เป็นเรื่องแรกที่เคยอ่านเลย นิยายสยองขวัญเนี่ย
แต่ละตอนนี้ต้องมีทิ้งท้ายชวนหลอนตลอดเลย  :a5:
+1 กับความสยองขวัญจ้า

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
ยัยณินี่ต้องมีส่วนรู้เห็นในการตายของอาญาแหงๆ
เขามาแก้แค้นแล้ว หึๆๆ o18

Loveyoujung

  • บุคคลทั่วไป
สนุกมากเลยอะค่ะ
มาต่ออีกนะคะ กำลังค้างงงง...อย่างแรง

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1915
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ง่ะ น่ากลัวมากกกกกกกกกกกก
เลิกไปได้ป่ะเนี่ย
กลัวเอาชีวิตไปทิ้ง

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
อร๊าก.....น่ากลัว!....เปิดมาเจอตอนกลางคืนทุกที

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด