ตอน มุมโซแซดของเด็กดอย“เป็นอะไรอีม้ง....ทำหน้าเป็นส้นตีนเชียว....ไอ้เด็กหล่อมันแกล้งอะไรแกอีกล่ะ”
“เปล่านิ....เฮ้ย...เจ้รู้ได้ไง....ว่าเค้าไปกับมัน”
“มีอะไรที่ชั้นไม่รู้....ชั้นน่ะผู้รอบรู้ทุกเรื่องบนโลกใบนี้...จะบอกให้รู้ไว้นะยะ”
เด็กดอยถอนใจพรืด คิ้วขมวดพันกันเป็นเลขแปด ยิ่งสร้างความหมั่นไส้ให้อีเจ้คนงามเป็นทวีคูณ
“เจ็บนะ....เจ้ตบเค้าไมเนี่ย”
“ตอแหล......”
“อะไรเล่า คนยิ่งเครียด ๆ อยู่ๆ”
“เครียดเรื่องอะไรบอกพี่มา”
“เค้าไปเจอพ่อมาด้วยแหละ”
“เฮ้ยยยยย!!!!”
เด็กดอยรีบเอามือตะครุบปาก ก่อนที่ยัยป้าแก่จะส่งเสียงดังโฉ่งฉ่างตามสไตล์เจ้าหล่อน ด้านหลัง...มีตาแก่ตัวใหญ่กำลังย้ายร่างกายขึ้นข้างบน เปลือยอกโชว์ซิกแพคแบบหมี ๆ ลุงหมีเพิ่งอาบน้ำเสร็จ....ว่าแต่หมู่นี้ ลุงดูซึม ๆเซื่อง ๆพิกล
“เกิดไรขึ้น มันมาโวยวายอาละวาดอะไรใส่แกรึเปล่า มาไถตังค์แกใช่มั้ย”
“เปล่า....เค้าแค่ขอให้ถ่ายรูปครอบครัวน่ะ”
“ไหงงั้น”
“เค้ามีลูกมีเมียแล้ว....จำม้งไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิ้มหวานให้ม้งด้วยทั้งผัวทั้งเมียเลย”
“แล้วแกจะมาเครียดอะไร....น้อยใจเหรอ พ่อเลว ๆแบบนั้น มีไม่มีก็ไม่เห็นจะต่างกัน....”
“ก็ไอ้เฟิร์สน่ะสิ...ดันเรียกชื่อม้งซะเสียงดัง....เค้าก็เลยหน้าเสียไปหน่อยนึงน่ะ”
“แล้วไงต่อ”
“ไม่มีอะไรแล้ว ก็แยกย้ายกันไปน่ะ”
"โธ่เอ๊ย.....ขวัญเอ๊ยขวัญมานะแก"
เด็กดอยถูกรวบตัวไปกอด พี่สาวไม่ค่อยเล่นอะไรอ่อนโยนแบบนี้กับเขานัก จะว่าไปครั้งสุดท้ายที่ถูกเอาจมูกถูหัวถูแก้มป่อง มันก็นานเนิ่นมาแล้ว พี่เคี้ยงไม่ใช่คนหวาน ออกจะปากร้ายแต่ใจดีสุดติ่ง
“แกโตเป็นหนุ่มขึ้นเยอะเลยน้องพี่”
“อื่อ....เค้าโตแล้ว แตกเนื้อหนุ่มดังเปรี๊ยะ ๆ”
“โอบไม่มิดแล้ว แถมสูงขึ้นเรื่อย ๆ อีกหน่อยแซงพี่แหง ๆ”
“รักพี่เคี้ยงนะ....รักลุงด้วย ครอบครัวเค้าก็มีแค่นี้ ถึงแม่จะส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือน แต่ก็ไม่เคยกลับมาหาอย่างที่สัญญากัน ถ้าไม่มีพี่เคี้ยงกับลุงหมี ป่านนี้เค้าคงเป็นเด็กข้างถนน...”
“แม่แกน่ะ....เค้าจำเป็นนะม้ง....ตอนนี้เค้ามีชีวิตใหม่ที่ดี มีลูกผัวที่ต้องดูแล แต่เค้าก็ไม่อยากทิ้งแกเอาไว้อย่างนี้ โดยที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย ถึงพี่จะไม่ค่อยชอบแม่แกซักเท่าไหร่ แต่จะพูดไป...แม่แกก็เป็นคนดีพอใช้....อย่างน้อยก็ดีกว่าพ่อแก....แกเองก็ต้องรักแล้วก็เข้าใจแม่แกให้มาก ๆเถอะ อย่างน้อยเค้าก็คลอดแกออกมานะ”
“ก็รัก....แต่รักพี่เคี้ยงมากกว่า....รองลงมาก็ลุง....แล้วก็แม่....แล้วก็พี่ดิน.....ไอ้เฟิร์สด้วยนิดนึง”
“ดีแล้ว....พี่ไม่อยากให้แกแอนตี้แม่ แล้วก็กลายเป็นเด็กมีปัญหา ถึงครอบครัวเรามันจะแปลกประหลาดเอามาก ๆก็เถอะ....เออนี่!!! อย่ามัวแต่พูดถึงเรื่องเก่า ๆ กันอยู่เลย....หดหู่ชิบ....พี่ว่าเรามาวางแผนถึงอนาคตกันดีกว่า.....เช่นเย็นนี้จะแดกห่าอะไรดี....”
“นั่นดิเนอะ....”
นั่นสิ....จะมัวรื้อฟื้นเรื่องเก่า ๆ กันทำไม ทุกคนต่างก็มีทางเดินเป็นของตัวเองกันทั้งนั้น
ไม่เว้นแม้แต่ชายคนนั้น...
เด็กน้อยพยายามสลัดคำพูดของชายคนนั้น พ่อ...หรือปิศาจร้ายในอดีตที่แอบตามเขาเข้ามาในห้องน้ำของสวนสนุก มือของชายคนนั้นบีบแขนของเขา ทั้งบีบและกระชากไปมา มันช่างเจ็บปวดและทรมาน....
.
.
.
.
.
.
“มึงคิดจะทำอะไร....ไอ้เด็กเหลือขอ....ตามกูมาถึงนี่ คิดจะทำลายชีวิตกูใช่มั้ย”
“พ่อ.....เปล่านะ....ผมไม่....”
“ไม่ต้องมาเรียกกูว่าพ่อ กูไม่เคยเห็นมึงเป็นลูก แม่ของมึงไปนอนกับใครที่ไหน แล้วก็มาตู่เอากับกู แม่มึงมันร่าน”
“หยุด!!! อย่าว่าแม่ พ่อขายผมให้ลุงหมีแล้ว ต่างคนก็ต่างอยู่ ผมลืมพ่อไปแล้ว พ่อก็ลืมผมไปซะ ผมไม่ยุ่งกับครอบครัวของพ่อหรอก แค่บังเอิญเท่านั้นแหละ”
“ก็ดี....จำคำพูดของมึงเอาไว้นะ แล้วก็อย่าคิดมารบกวนหรือแบล็คเมล์อะไรกูอีก ชีวิตกูกำลังดีขึ้น อย่ามายุ่งกับกู”แล้วปิศาจร้ายก็ถูกถีบจนกระเด็นติดผนัง ใครคนหนึ่งตวัดแขนโอบตัวเขาเอาไว้ ราวกับจะปกป้อง เพื่อนลับ ๆ ของเขาโกรธจัดจนปากสั่น ไม่เคยเห็นหมอนี่โกรธใครถึงขนาดนี้ หากไม่นับตอนที่ชกกันในร้านอาหารวันนั้น
“ลุงอย่ามายุ่งกับเพื่อนผม....มาทางไหนไปทางนั้นเลย ถ้าเรื่องเงินล่ะก็ ผมมีให้มันไม่อั้นอยู่แล้ว ไม่ต้องไปรบกวนครอบครัวกระจอก ๆ ของลุงหรอก เจ็บมั้ยม้ง...ไอ้หมอนี่มันมาไถเงินนายสินะ....ไม่ยักรู้ว่านายมีพ่อห่วย ๆแบบนี้ คนแบบนี้ให้มันหายไปจากชีวิตของนายนั่นแหละดีแล้ว ฟังไว้เลยนะลุง ลุงน่ะ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยซักนิด จะเป็นจะตายก็ไม่เห็นจะมีใครสนใจ....ม้งมันไม่ต้องการพ่อบ้า ๆ อย่างลุงหรอกนะ...ไปสิวะ...ยิ้มอะไร!!!”“หึหึ....กูจะบอกให้ก็ได้นะ....ว่าพ่อจริง ๆของมึงน่ะ....อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากมึงหรอกไอ้ม้ง.....อยากพิสูจน์เหรอ....นั่นไง...หลักฐาน...หันไปดูให้เต็มตาเสียสิ” ชายใจร้ายชี้ไปทางด้านหลังของเขา กระจกเงาบานใหญ่ สะท้อนให้เห็นถึงใบหน้าที่ซีดเผือดของเขา ใบหน้าที่ดูคุ้นตาเหลือเกิน....
.
.
.
.
.
“เอ่อ....ม้ง.....มาคุยกับลุงเดี๋ยวสิ”
ลุงหมีเรียกเขาในค่ำคืนหนึ่ง ด้วยสุ้มเสียงอันมีพิรุธ เสียงแบบนี้ หน้าซีด ๆ แบบนี้ หากเป็นแต่ก่อน สมัยที่ผีพนันยังเข้าสิง ไม่ต้องเดาก็บอกได้เลยว่ามีเรื่องซวย ๆ มาให้พี่สาวของเขากลุ้มใจอีกแน่ ๆ
“มีอะไรลุงหมูอู๊ด ๆ”
“เรื่องสำคัญน่ะไอ้หลานรัก....เออนี่....คืนนี้พระจันทร์สวยเนอะ....ลมก็เย็น....เย็นวูบเลย ฮ่ะฮ่ะ”
“มีอะไรจะบอกผมรึเปล่าลุง”
“มันก็พูดยากน่ะ....แต่สัญญากับลุงได้มั้ยว่าจะไม่โกรธ....”
กระดาษแผ่นหนึ่ง...ถูกส่งให้เขา เด็กดอยหยิบมันมาด้วยมืออันสั่นเทา เด็กน้อยรู้โดยอัตโนมัติ ว่าเนื้อความในกระดาษแผ่นนี้ ต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับเขาโดยตรง
“ม้ง....ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ลุงยังรักแกเหมือนเดิม สถานะมันอาจจะเปลี่ยนไป แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมนะลูก”
“อ่า...ครับลุง....ลุงดูซีเรียสนะเนี่ย”
“ขอโทษที่ลุงปล่อยความสงสัยเอาไว้นานเหลือเกิน ลุงมันเห็นแก่ตัว ไม่อยากจะทำลายความสุขของตัวเอง ความสุขที่ลุงคิดว่ามันเพียงพอแล้วสำหรับลุง....เอาล่ะ แกเปิดจดหมายอ่านดูได้แล้ว”
กระดาษหนึ่งแผ่น สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้....เห็นจะจริง เด็กดอยยืนนิ่งอยู่นาน จนอีกฝ่ายใจเสีย รวมถึงคนสองคนที่แอบยืนฟังดูห่าง ๆ ก็พลอยเป็นไปด้วยเช่นกัน
“เราทำถูกหรือเปล่าพี่ดิน”
“ไม่รู้สิ แต่ม้งมันควรมีพ่อ....แล้วพี่ยุทธเองก็จะได้ทำอะไรเพื่อมันมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าที่ผ่านมามันไม่ดี แต่สถานะของหลานมันก็ต่างจากลูกอยู่ดี”
“เคี้ยงกลัวมันจะโกรธ แล้วก็เสียใจ เหมือนพวกเราหลอกมันมาตลอด ทั้งที่ความจริงเราเพิ่งจะสงสัยเองนะ....ไม่รู้ไม่ชี้แล้ว เรื่องนี้เคี้ยงไม่เกี่ยวนะเออ”
มือของไอ้หนุ่มรอยสักขาโหด กระชากตัวผู้สมรู้ร่วมคิดเอาไว้ งานนี้ความโหดของพี่แกชนะขาด คนงามได้แต่ยืนตัวหงอ รอฟังผลอยู่ตรงที่เดิมด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น.....
น้ำตาของไอ้เด็กดอยค่อย ๆ ไหล นั่นยิ่งทำให้ทุกคนใจหาย....
“แกโกรธลุงมั้ย.....ม้ง.....ที่ผ่านมาลุงเป็นพ่อที่ไม่เอาไหน แถมยังเป็นลุงที่แย่เอามาก ๆ แต่ถ้าลุงรู้....ถ้ากานดาบอกลุงตั้งแต่แรก แกจะไม่มีวันต้องเจอกับไอ้ผู้ชายใจร้ายคนนั้น แล้วลุงก็จะไม่ยอมให้แม่แกไปไหน....ลุงผิดเองที่ตอนนั้นไม่เอาไหน ไม่เอาไหนจนแม่ของแกไม่กล้าที่จะฝากชีวิตด้วย....”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน....ล้อกันเล่นใช่มั้ย....พี่เคี้ยง....เค้าไม่ขำหรอกนะ....เพราะเค้าเล่าเรื่องที่ไปเจอพ่อมาใช่มั้ย พี่เคี้ยงไม่อยากให้เค้าเศร้าที่มีพ่อแบบนั้น ก็เลยให้ลุงหมีมาแอบอ้างใช่มั้ย....ลุงหมีจะเป็นพ่อเค้าได้ไง....ไม่จริง....แล้วผลตรวจนี่ก็โกหกทั้งเพ....”
ผลตรวจไม่โกหก....ดีเอ็นเอจากเส้นผมของคนทั้งคู่เป็นเครื่องยืนยัน เด็กดอยฉีกกระดาษแผ่นนั้นออกจนไม่เหลือชิ้นดี ก่อนจะวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน พี่ดินล็อคตัวเขาเอาไว้ ทำให้เขาได้เห็นพี่สาวที่กำลังร้องไห้....พี่เคี้ยงร้องไห้ ในชีวิตนี้ คนอย่างพี่เคี้ยงจะร้องไห้ได้สักกี่ครั้งเชียว....
“ทุกอย่างยังเหมือนเดิมม้ง......พี่ยังเป็นพี่แก......ทุกคนยังรักแก.....แกเพียงแค่เสียลุงไปคนหนึ่ง แล้วได้พ่อกลับมา แกไม่อยากมีพ่ออย่างลุงเหรอ.....ไหนแกบอกว่ารักลุงไงม้ง”
“เค้ารับเรื่องนี้ไม่ได้หรอก....ถ้างั้นทำไมเจ้ถึงไม่ตรวจของตัวเองด้วยล่ะ....จะได้รู้ว่าเจ้กับลุงเป็นพ่อลูกกันจริง ๆหรือเปล่า เค้าอยู่อย่างนี้ก็มีความสุขดีอยู่แล้ว ทำไมผู้ใหญ่จะต้องเข้ามายุ่งด้วย ฮึก...ทั้ง ๆที่ไว้ใจทุกคนมากแท้ ๆ ปล่อยเลยนะ....ไอ้พี่ดินก็ด้วยใช่มั้ย ต่อไปนี้เราขาดกัน ห้ามมาเล่นที่บ้านเค้าอีกนะ....ปล่อยเด้”
เด็กน้อยทั้งเตะทั้งถีบ ดิ้นจนกระทั่งหมดแรง เขาร้องไห้อย่างเศร้าสร้อย.....สิ้นหวัง ทุกอย่างบนโลกใบนี้เปลี่ยนไปแล้วตลอดกาล สิ่งเดียวที่จะช่วยเขาได้ก็คือ....
ยา....เขาต้องการยามารักษา....จะฉีดหรือเสพย์ก็ไม่เกี่ยง ช่วยทำให้เขาหลุดพ้นจากโลกที่แสนหดหู่นี้ด้วยเถิด.....
.
.
.
.
.
“หมี....หมี.....ไอ้หมี.....นี่พี่คิดอะไรฟุ้งซ่านอีกแล้ววะ”นี่แหละหมี ชอบตีตนไปก่อนไข้ทุกครั้ง ครั้งก่อนก็เรื่องไอ้หนวดดก(ที่ตอนนี้สวยวันสวยคืน) ล่าสุดนี่ก็เรื่องผลตรวจ คนแก่ก็งี้ ชอบคิดเยอะ คิดกังวลไปต่าง ๆนานา
“กูจะบอกมันยังไงดีวะดิน” หมีแก่กุมขมับ ช่างเป็นอะไรที่น่ารักเหี้ย ๆ น่ารักจนไอ้โฉดอดใจไม่ไหว ต้องฟัดให้หายอยาก อยากล่อหมี....อยากอึ๊บหมี.....อยากป้าบ ๆ ๆ กับหมี....
“เหี้ยดิน....หยุดเลยนะมึง....สันดานแม่ง ฉวยโอกาสกับกูตลอด....กูเครียดอยู่นะไอ้เหี้ย ไอ้หลานมันต้องโกรธกู โกรธจนไม่อยากเห็นหน้ากูแน่ ๆ แล้วทีนี้มันก็หนีออกจากบ้าน ติดยา เป็นขยะสังคม....เหมือนกับมึงไง”
“โถ....พ่อคนวิเศษ....เมื่อก่อนพี่น่ะก็เหี้ยไม่แพ้ผมหรอก.....แต่ถึงพี่จะเหี้ย ไอ้น้องเคี้ยงมันยังรับพี่ได้เลย ผมเองก็รักพี่....มาล่อทีมา โดนสักดอกจะได้เลิกเครียด”
“อย่า....ไอ้เหี้ย...อ๊า...ซี๊ดดดดดด.....ตรงนั้นไม่ได้นะไอ้สัด....โอ๊ววววว...อา....อย่าดูดหัวนม...กูหยิว....เหยยยยย”
แล้วหมีก็โดนจัดอย่างสาสม
.
.
.
.
.
“ไปก่อนนะลุง....”
“ฮะแฮ่ม.....ยังจะเรียกลุงอีก”
“เออ.....ไปก่อนนะพ่อ....แหม่...มันไม่ชินปากนี่เนอะ”
เด็กดอยขึ้นชั้นมัธยมปลาย วันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก มีใครบางคนมาคอยรับส่งเขา เนื่องจากเป็นทางผ่าน ใครบางคนกำลังนั่งเก๊กอยู่เบาะหลัง ใบหน้านั้นดูเย็นชา ทว่าสาวเห็นแล้วต้องกรี๊ดสนั่น....แล้วยิ่งสวมแว่นสายตาด้วยแล้ว ยิ่งดูเป็นหนุ่มน้อยมีมาดเข้าไปใหญ่ ผิดกับไอ้เด็กตาตี่อีกคน ที่ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน....
ยกเว้นความเกรียนที่มากขึ้น....
อ่อ....แล้วก็ตอนนี้เขามีพ่อใหม่แล้วนะ....ตั้งสองคนแน่ะ
“เร็วเข้าสิ....ไม่ได้มีเวลาทั้งวันนะ เดี๋ยวเราก็สายหรอก”
“เออน่า”
ถึงจะไม่ได้เรียนที่เดียวกัน แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ ทั้งคู่พอขึ้นชั้น ม.ปลาย ต่างก็สอบติดกันคนละที่ แต่คราวนี้ดีหน่อย ที่โรงเรียนของเด็กดอย คือทางผ่านไปยังโรงเรียนของอีกฝ่าย...แน่นอน ว่าโรงเรียนของไอ้เด็กสินเชื่อจะต้องหรูกว่า ไฮโซโก้เก๋กว่า มีระดับกว่า
เรื่องนั้นค่อยวัดกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยดีกว่าน่า เด็กดอยท้าในใจ
เอาเป็นว่าเรื่องราวก็จบลงด้วยดี โดยที่ไม่มีใครเสียน้ำตา เด็กดอยไม่ร้องไห้ มิหนำซ้ำยังดูดีใจจนล้น หลังจากอ่านผลตรวจ มันวิ่งแหกปากไปทั่วบ้าน....กูมีพ่อแล้วเว้ย.....กูมีพ่อแล้ว....ทำเอาหมีแก่....พี่โหด....อาเจ้...ต่างอึ้งจนตาค้างไปตาม ๆกัน
แถมยังมีพ่อมากกว่าคนอื่นอีกต่างหาก ทั้งพ่อหมี...และพ่อดิน ตอนแรกพ่อหมีดูไม่ค่อยจะเต็มใจนัก แต่ไม่รู้เป็นไงมาไง สุดท้ายก็ต้องยอมพ่อดินจนได้ พี่สาวของเขา ตอนนี้กลายเป็นพี่สาวจริง ๆ พี่เคี้ยงเพิ่งไปทำนมมา ถึงแม้จะคิดช้ากว่าตุ๊ดเด็กสมัยใหม่ แต่ต้องยอมรับว่าทำทีหลัง วิทยาการย่อมไฉไลกว่า ที่เหลือก็แค่เก็บตังค์ รอผ่าเบื้องล่างเท่านั้น ซึ่งต้องปรึกษาหมออย่างรอบครอบที่สุด
ชีวิตของเขาช่างสุขแท้ ตลอดทางที่รถติดแหงก เขาเอาแต่ยิ้มแป้น จนคนข้าง ๆ หมั่นไส้ อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ชนะมันหลายเรื่อง ทั้งจำนวนของพ่อที่มี พี่สาวแสนประหลาด ครอบครัวหรรษา ยิ่งไปกว่านั้น ส่วนสูงของมันยังไม่แซงหน้าเขาอย่างที่เคยโม้เอาไว้....
“ยิ้มไร....ไอ้แป๊ะยิ้ม”
“ความสุขของผมอ่ะคร้าบคุณชาย....เนอะลุงเนอะ” หันไปยิ้มแฉ่งผ่านกระจกมองหลัง ลุงคนขับคนเก่าคนแก่หันมาสบตาด้วย พร้อมยิ้มตอบอย่างสงวนท่าที ก็อย่างว่า คนสนิทของคุณหนูก็อย่างงี้แหละ....
เด็กดอย....นายมันเป็นเด็กที่น่าอิจฉาโครต ๆ รู้ตัวมั้ย
.
.
.
.
.
To be con
มาช้ายังดีกว่าไม่มานะตัว