Lesson 98
( Prom Part )
ผมงงไปหมดเลยครับจำได้ว่าผมกำลังถูกป๊อปทำร้ายแล้วทำร้ายอีกจนผมแทบทนไม่ได้แต่ทำไมอยู่ๆก็รู้สึกแปลกๆ พอมารู้สึกตัวอีกทีปากผมก็โดนป๊อปคอบครองไปซะแล้ว
“หื้ออออ...ป๊อปนายทำอะไรเรา” ผมประท้วงทันทีที่ป๊อปผละออกจากตัวผม
“พรหม...พูดกับเราหรือเปล่า” อ้าว แล้วจะให้เราพูดกับใครอ่า ก็อยู่กันแค่สองคน
“อื้อ นายมาจูบเราทำไม” ผมไม่ได้รับคำตอบแต่โดนดึงตัวเข้าไปกอดเฉยเลยผมก็อึ้งทำอะไรไม่ถูก เมื่อกี้ยังจะทำร้ายผมอยู่เลยไม่ใช่หรอ
“พรหม กลับมาซักทีนะ” ป๊อปพูดแล้วก็น้ำตาไหล กลับ...กลับไหนอ่ะ
“เดี๋ยวก่อน...กลับไหน...แล้วทำไมเราถึงอยู่สภาพนี้” เมื่อผมมองตัวเองก็เกิดอาการหน้าร้อนวูบวาบ ก็ผมเปลือยเลยนี่นาแล้วแถมยังอยู่ในห้องน้ำกับป๊อปสองคนอีกต่างหาก ผมจึงรนรานเอาผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวไว้
“พรหม อาบน้ำไปก่อนนะเราจะไปโทรหาพี่ตัสก่อน” พูดจบป๊อปก็ออกจากห้องน้ำไปเลย พรหมยิ่งงงหนัก ผมไม่เข้าใจอะไรของเค้าเนี่ย แต่ก็ทำตามที่ป๊อปบอกไปก่อนคืออาบน้ำ และเมื่อผมออกมาจากห้องน้ำคนก็เต็มห้องเลยครับ
“เอ้ย มากันทำไมเยอะแยะเนี่ย” ผมอุทานพร้อมกับเอาผ้าที่ใส่แล้วมาปิดช่วงบนไว้ ถึงจะแค่ช่วงบนผมก็อายอยู่ดีอ่ะ
“มาดูคนป่วยไง ยังจะมาถามอีก” อัทพูดแล้วก็ยิ้ม
“ไม่ได้เป็นอะไรมากซักหน่อย” ผมแค่ไม่สบายแล้วก็ร้องไห้อย่างหนักแค่นั้นเองและผมก็หวังว่าป๊อปจะไม่กลับมาร้ายกับผมอีก
“ไม่หนักอะไรล่ะ.....ใจลอยไปไหนต่อไหนตั้งนาน” คราวนี้วินพูดครับ พร้อมกับตีหน้ามุ่ยนิดหน่อย ว่าแต่ผมใจลอยอะไรเนี่ย งง
“พรหมมันไม่รู้ตัวหรอก” พี่ตัสเห็นผมทำหน้างงๆก็เลยพูดแทรกขึ้นมา
“รู้ตัวอะไรพี่ตัส” ผมถามไปเพราะความสงสัย พี่ตัสจึงเดินเข้ามาใกล้ๆผม
“เหตุการณ์สุดท้ายที่จำได้....พรหมจำอะไรได้บ้าง” เมื่อพี่ตัสถามผมก็เงียบเพราะต้องการเวลานึก มันแปลกๆผมจำได้ว่าผมกลับมานอนแล้วรู้สึกมีคนมาปลุกแล้วพอเห็นว่าเป็นป๊อปผมก็เกร็งแล้วร้องไห้ แล้วพอเสร็จผมก็เห็นว่าป๊อปกำลังเข้ามาทำร้ายผมครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนหนังฉายซ้ำ แล้วมันก็ตัดมาที่ฉากห้องน้ำที่ป๊อปกำลัง....ผมเลย
“มันค่อนข้างสับสนน่ะพี่ผมก็บอกไม่ถูกอ่ะ....คือมันเป็นแบบนี้......” แล้วผมก็สาธยายให้พี่ตัสฟัง แต่พี่ตัสไม่ได้ฟังคนเดียวหรอก ฟังกันทั้งห้อง
“ผมจำได้แค่นี้แหละพี่” ผมบอกพี่ตัส พี่ตัสก็หันไปมองหน้าทุกคนในห้อง
“พรหมรู้อะไรไหม”
“อะไรพี่”
“ที่พรหมเป็นไข้แล้วป๊อปไปปลุกน่ะ....มันผ่านมาจะเกือบเดือนแล้ว และอีกอย่างตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบเดือนเนี่ย....ป๊อปเป็นคนดูแลพรหมตลอด” ผมแทบไม่เชื่อหูตัวเอง มันจะเป็นไปได้ยังไง
“เป็นไปได้ยังไงพี่ตัส....ป๊อปยังจะทำร้ายผมอยู่เลย” ผมค้านพี่ตัสเพราะมันไม่ใช่
“พรหม....มันค่อนข้างอธิบายยาก แต่พรหมมีอาการหลุดลอยและสร้างโลกส่วนตัวของตัวเองขึ้นมาและจินตนาการจากจิตใต้สำนึกว่าตัวเองโดนป๊อปทำร้ายเหมือนหนังฉายซ้ำวนไปวนมาไม่รู้จบ” พี่ตัสพูดแล้วก็ลูบหัวผม พี่ตัสกำลังจะบอกว่าผมเป็นบ้าหรือเปล่า น้ำตาผมเริ่มไหล ผมกลัวจริงๆ กลัวตัวเองจะเป็นบ้า
“ร้องไห้ทำไม...ฮึ” พี่ตัสถามผม
“พี่....ผมกำลังจะเป็นบ้าใช่หรือเปล่า” น้ำเสียงผมเริ่มสะอื้น
“มันเลยจุดนั้นมาแล้วแหละ...พี่ว่าตอนนี้พรหมน่าจะหายแล้ว หยุดร้องได้แล้วน่า” พี่ตัสยื่นมือมาเช็ดน้ำตาให้ผมและอยู่ๆผมก็รู้สึกถึงไออุ่นจากด้านหลัง
“พรหมเราขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่ผ่านมา” เสียงป๊อปนี่...แต่คราวนี้ผมกลับไม่มีอาการเกร็งใดๆทั้งสิ้น เหมือนมีสัมพันธ์บางอย่างที่ทำให้ผมไม่รู้สึกหวาดระแวงป๊อปแล้ว
“อะ...อื้อ….ปล่อยเราได้แล้ว” ป๊อปก็ยอมปล่อยผมแต่โดยดี ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีจึงขอให้พี่ตัสเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับตัวผมในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเกือบเดือน และเมื่อผมได้ฟังผมก็อึ้งและพูดไม่ออก ไม่นึกไม่ฝันว่าผมจะเป็นได้ขนาดนี้
“พอเลิกอึ้งได้แล้ว...ว่าแต่ว่าป๊อปแกทำยังไงพรหมถึงรู้สึกตัวพี่ลืมถามแกเลย” ทำยังไงอ่ะหรอ....เฮ้ย ผมไม่ได้บอกไปนี่นา มันอายอ่ะ
“ผมก็...อุ๊บบบ” ผมเอามือไปอุดปากป๊อปไว้ทันที ขืนบอกไปผมอายตายเลย
“อะไรพรหม...ไปอุดปากป๊อปมันทำไม” อัทพูดแล้วก็มาดึงมือผมออก แต่ผมก็ขัดขืนจะเอามือไปอุดปากป๊อปใหม่ แต่คราวนี้วินก็มาช่วยอัทจับผมไว้ผมจึงต้องสงบลง
“ผมก็แค่....ทำให้รู้สึกตัวด้วย....” เอ้ย อย่าพูดนะป๊อป ผมจ้องหน้าป๊อปเขม็ง
“อย่าลีลา เดี๋ยวพ่อถีบตกตึก เว้นวรรคทำซากอะไร” พี่ตัสดูหงุดหงิดนิดหน่อยคงเพราะไม่ได้ดั่งใจพี่แก
“ก็ด้วยจูบที่เร้าร้อนไงพี่” ผมหน้าร้อนผ่าวไปเรียบร้อย ส่วนคนอื่นในห้องก็มองมาที่ผมแล้วอมยิ้มกันยกใหญ่ โอ้ย อาย
“เลิกอายได้แล้ว ไปหาข้าวกินกันดีกว่าไป ฉลองการกลับมาหน่อย” พี่ตัสออกปากชวนพวกเราก็เห็นดีเห็นงามกันไปได้ด้วยครับ
“ร้านไหนดีพี่ตัส” อัทพูดขึ้นเลยรับ
“เดี๋ยวๆ พี่โทรหาพวกไอ้เตยก่อน” พูดจบพี่ตัสก็โทรหาพวกเตยเลยครับ พี่ตัสออกไปคุยที่ระเบียงห้องแปปนึงก็กลับเข้ามา
“ป๊อปเดี๋ยวไปร้านพ่อแกอ่ะแหละ ที่นนทบุรีอ่ะ ร้านเปิดใหม่นิ” พ่อป๊อปมีร้านอาหารด้วยหรอเนี่ย กว้างขวางจังแฮะ นึกว่าจะเป็นแต่มาเฟียแปปพวกวินซะอีก ทั้งวิน ทั้งพี่เบิร์ด เป็นมาเฟียกันหมด น่าขยาดแฮะ ไม่ค่อยน่าเข้าใกล้เท่าไหร่เลย
“ได้ๆพี่ตัส ตอนนี้ไม่ได้ดึกมาก ร้านผมปิดตั้งตีสองแหนะ” อื้ม เปิดดึกอยู่แฮะ แต่ปิดพร้อมกับร้านที่ผมเคยทำเลยอ่ะ
“งั้นก็ตามนี้ เดี๋ยวไปรถคันเดียวกันนี่แหละพี่เอาฟอร์จูเนอร์มา”
“แล้วพวกเตยอ่ะพี่ตัส” อัทถามขึ้น
“มันแรดกันอยู่นนพอดี พี่ถึงชวนไปกินที่นั่นไง” เมื่อเข้าใจตรงกันหมดแล้วพวกเราก็ออกเดินทางกันครับ ใช้เวลาการเดินทางชั่วโมงครึ่งพอรถจอดหน้าร้านก็ชัดเจนทันที ร้านเดียวกับที่ผมทำงานเลยครับ
“น้องป๊อปสวัสดีครับ…อ้าวพรหมหายไปไหนมาเนี่ยรู้ไหมเนี่ยคนในร้านเค้าเป็นห่วงกัน อยู่ๆก็หายไปเฉย” พี่แบงค์พูดยาวเหยียดเลยครับแต่ผมเข้าใจพี่แกคงเป็นห่วงจริงๆ
“ขอโทษครับพี่...พอดีผมไม่สบาย” ผมตอบไปตามความจริง
“แล้วจะมาทำอีกปะ....”
“ไม่แล้วล่ะพี่..พรหมเค้าขอลาออกเลยครับ” ป๊อปพูดขัดพี่แบงค์ขึ้นทั้งๆที่พี่แบงค์ยังพูดไม่จบ แต่ผมก็คงไม่มาอีกแล้วล่ะครับก็เลยไม่ได้ค้านอะไร
คืนนี้เค้าสั่งอาหารกันกระหน่ำเลยครับ แต่ผมนี่สิกังวลแทนเลยเวลาคิดเงินเพราะนี่มันไม่ใช่ถูกๆเลยผมทำงานที่ร้านทำไมจะไม่รู้ว่าค่าอาหารแต่ละอย่างแพงหูฉีกขนาดไหน แต่เมื่อถึงเวลาคิดเงินพี่ตัสกลับบอกว่าจะจ่ายเอง แต่เอาเข้าจริงๆพี่เบิร์ดก็จ่ายอ่ะแหละครับ ก็นะ เค้าใช้กระเป๋าเดียวกันนี่ น่าอิจฉาความรักของเค้าทั้งคู่จังเลย
“พี่ขอกลับก่อนล่ะ” พี่ตัสมาส่งพวกผมและขอกลับในทันทีเพราะมาถึงคอนโดผมก็จะตีหนึ่งแล้ว ผมขึ้นมาถึงห้องก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวนอนว่าแต่ทำไมป๊อปยังไม่กลับบ้านตัวเองไปล่ะ ยังลอยนวลอยู่ในห้องผมอยู่เลย
“ป๊อปทำไมนายยังไม่กลับห้องล่ะ” ผมถามตรงๆเลยแหละครับ
“เป็นห่วงพรหมแหละ”
“ห่วงทำไมเราไม่เป็นอะไรแล้ว”
“พรหม.....” ป๊อปพูดแล้วหยุดเหมือนมีอะไรจะพูดต่อแต่ไม่พูดออกมา
“อื้อ...ว่าต่อสิ” เมื่อผมพูดจบผมก็โดนสวมกอดจากด้านหลังตอนแรกก็สะดุ้งนิดหน่อย แต่ตอนหลังก็ชิน
“เราอาจจะขอมากไป.......แต่เป็นแฟนเราได้ไหม”