All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55  (อ่าน 344069 ครั้ง)

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: All I want 26 (หน้า24) 1/6/55
«ตอบ #720 เมื่อ03-06-2012 01:08:29 »

 o22  o22  o22 ชุน!!!!! ไม่น้าาาาาาาาาาาาาาา

โฮๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คนเขียนอย่าให้ชุนตายนะ เพิ่งจะเข้าใจกันแท้ๆ  :o12:  :o12:  :o12:

ออฟไลน์ greensoda

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
Re: All I want 26 (หน้า24) 1/6/55
«ตอบ #721 เมื่อ03-06-2012 01:55:58 »

กว่าจะรักกันได้นี่นานมากเลยนะ
เพราะฉะนั้นชุนจะตายไม่ได้นะ  :sad4:

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
Re: All I want 26 (หน้า24) 1/6/55
«ตอบ #722 เมื่อ03-06-2012 12:38:22 »

เย้~ในที่สุด


ในที่สุด


ในที่สุดก็กลับสู่ปัจจุบัน

อ่านๆดู วายะท่าจะลืมสนใจกล้องวิดีโอไปแล้วเนี่ย

ส่วนเรื่องหนังสืิอ จนถึงตอนนี้ เรามีแนวโน้มจะซื้อนะ ถึงจะไม่ชอบตอนรันจังก็เถอะ แต่จะนับเป็นคำตอบแน่นอนไม่ได้ ต้องดูภาพรวมทั้งเล่มเลย เพราะอย่างตอนcome closer ตอนแรกเราก็อยากได้แหละ แต่พออ่านตอนโดนอาจับไปทรมานแล้ว เบรกเอี๊ยด หัวทิ่มเลย บางจุดเราก็ไม่อ่านจริงๆ ดังนั้นเรายังไม่มีคำตอนแน่นอนจ้า

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want 26 (หน้า24) 1/6/55
«ตอบ #723 เมื่อ08-06-2012 22:23:02 »

All I want # It's the END

โทโมกินั่งอยู่ในห้องปลอดเชื้อข้างเตียงที่มีร่างหนึ่งนอนเหยียดยาว  มีสายระโยงระยางเชื่อมต่อกับร่างนั้นไปยังเครื่องมือต่าง ๆ รอบเตียงที่เด็กหนุ่มไม่รู้ว่ามันคืออะไรบ้าง  เสียงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์วัดคลื่นหัวใจและคลื่นสมองดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ

ดวงตาดำขลับหรุบต่ำ  รอบตาแดงช้ำเต็มไปด้วยร่องรอยแห่งความทุกข์ทรมาน  ลืมไปแล้วว่าตัวเองนั่งอยู่ที่นี่ตามลำพังมานานแค่ไหน...นั่งอยู่ข้าง ๆ ร่างที่นอนนิ่งไม่ไหวติงนี้...กี่วัน...กี่คืนแล้ว...

เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามมาด้วยเสียงเปิดประตูโดยไม่รอให้คนในห้องอนุญาต  คงจะเป็นคนในบ้านกระมัง  ถึงได้ผ่านคนเฝ้าประตูมาได้ง่าย ๆ แบบนี้

หากผู้มาเยือนผิดความคาดหมายของโทโมกิ  ผู้ที่เดินมายืนข้างกายเขาคือคิริฮาระ  ยูกับใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก

“สวัสดีครับ  โทโมกิซัง”  สรรพนามที่ใช้เรียกเปลี่ยนไปนับตั้งแต่โอโนเสะรับโทโมกิเป็นบุตรบุญธรรม

“...คิริฮาระซัง...”

พูดได้แค่นั้นแล้วโทโมกิก็เห็น...ใบหน้างดงามนั้นซีดเซียว  ดวงตาคมกริบที่เคยเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นอยู่เสมออ่อนแสงลงอย่างเห็นได้ชัด...และฉาบไปด้วยความทุกข์ทรมานแบบเดียวกับเขา

เพียงแค่เห็น...น้ำตาที่แห้งเหือดไปแล้วก็กลับไหลรินออกมาอีก  โทโมกิผวากอดเอวคิริฮาระไว้แน่น  ซบหน้าลงกับเสื้อสูทตัวสวยแล้วกลั้นสะอื้น

มือเรียววางลงบนเรือนผมของเด็กหนุ่มแผ่วเบา  ตามมาด้วยเสียงกระซิบนุ่มนวล

“ไม่เป็นไรครับ  โทโมกิซัง...หมอนี่ยังมีชีวิตอยู่...ยังไม่ตาย...”

ดูเถอะ...ทั้งที่เจ็บปวดใจไม่น้อยกว่ากันแท้ ๆ แต่ยังมีแก่ใจมาปลอบโยน

“แต่...แต่...ชุนเขา...ชุน...”

ถ้อยคำติดค้างอยู่ในลำคอ  โทโมกิไม่อาจพูดออกมาได้

“ไม่เป็นไรหรอกครับ  วายะก็คือวายะ...จะต้องลุกมาทะเลาะกับคุณได้อีกแน่”

ลุกขึ้นมางั้นหรือ...แค่ยังมีชีวิตอยู่ก็ปาฏิหาริย์แล้ว...คิริฮาระเองก็คงรู้  น้ำเสียงปลอบถึงได้แหบเหือดและสั่นพร่าถึงเพียงนั้น

“แต่หมอบอกว่าชุน...ชุน...จะไม่ลืมตาขึ้นมาอีกแล้ว”  เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาในที่สุด

“ผมรู้...แต่เราต้องเชื่อ”  คิริฮาระทรุดกายลงนั่งคุกเข่าตรงหน้าโทโมกิ  สองมือประคองใบหน้าเปื้อนน้ำตาไว้และปาดเช็ดให้อย่างอ่อนโยน  “ความคิดของคนเรามีพลังมหาศาล  โทโมกิซัง...มันสร้างความเป็นไปได้ที่ดีและเลวร้ายได้อย่างเหลือเชื่อ  ถ้าคุณอยู่ข้าง ๆ หมอนี่และเอาแต่บอกว่ามันจะไม่ลืมตาขึ้นมาอีก  มันก็จะเป็นไปอย่างนั้น  แต่ถ้าคุณบอกว่ามันจะลืมตาขึ้นมา...สักวัน...มันก็จะเป็นอย่างนั้น”

“จะบอกว่าชุนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ?”

แม้สีหน้าจะยังมีแววรวดร้าว  แต่คิริฮาระก็ยิ้มให้โทโมกิ

“ผมเคยเสียสติไป  ถึงกับถูกขังไว้ในโรงพยาบาล  หมอก็บอกว่าผมคงกลับมาเป็นคนเดิมไม่ได้อีกแล้ว...แต่ยังมีคนเชื่อว่าผมจะกลับมา  เขาเชื่อและอยู่เคียงข้างผมมาตลอด  แม้ว่าผมที่ไม่รู้สึกตัวจะทำเรื่องโหดร้ายกับเขามากแค่ไหน  เขาก็ยังคงเชื่อว่าผมจะกลับมาเป็นผมคนเดิมที่เขารัก...แล้ววันหนึ่ง  เสียงของเขาก็สื่อมาถึงผม  ทำให้ผมได้กลับมาเป็นผมอย่างที่คุณเห็นในตอนนี้อีกครั้ง...คุณเองก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ  เคยสูญเสียตัวเองไปเพราะสิ่งที่วายะทำ  แต่โอโนเสะซังก็ยังเชื่อว่าคุณจะก้าวพ้นมันมาได้และคอยประคับประคองอยู่ตลอด...ตอนนี้คุณก็ได้ตัวตนของคุณกลับคืนมาแล้ว  ถึงเวลาที่คุณจะต้องช่วยประคองไอ้บ้านี่แล้วละครับ”

“แล้วจะให้ผมทำยังไง?...หมอบอกว่ากระสุนเข้าไปฝังอยู่ในจุดสำคัญที่ผ่าออกมาไม่ได้  ส่งผลกระทบกับสมองและเส้นประสาท...และ...และ...จะต้องเป็นเจ้าชายนิทราตลอดไป...ชุน...ชุนจะ...ไม่ตื่นขึ้นมาอีก...ชุน...”  โทโมกิสะอื้นฮัก

คิริฮาระกอดเด็กหนุ่มไว้แน่น  “เชื่อสิครับ  วายะจะไม่นอนไปตลอดชีวิตหรอก  สำหรับคนอย่างหมอนี่  ถ้าได้แต่นอนมันก็น่าเบื่อแย่...สักวันหมอนี่จะเบื่อเตียง  เบื่อผ้าห่ม  เบื่อความฝันที่จับต้องไม่ได้  แล้วลุกขึ้นมาทำอะไรบ้า ๆ บอ ๆ แบบที่มันชอบทำแน่ ๆ...แค่เชื่อก็พอครับ  แค่นั้นสำคัญที่สุดแล้ว...อาจจะไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้  แต่วายะจะต้องลุกมากอดคุณอีกครั้งแน่ ๆ...เชื่อสิครับ”

โทโมกิรู้สึกได้ว่าอ้อมแขนที่โอบกอดเขาไว้สั่นเทา  บางทีคิริฮาระอาจจะกำลังบอกตัวเองให้เชื่อไปด้วยก็ได้...ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่ามันแทบไม่มีความหวังอะไรเลย  แต่ก็ยังพยายามให้กำลังใจเขา  พยายามมอบความเชื่อมั่นที่จะทำให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้...เข้มแข็งเหลือเกิน  นี่คือความเข้มแข็งของคิริฮาระ  โทโมกิเข้าใจแล้วว่าทำไมครั้งหนึ่งวายะถึงได้อยากให้เขาเป็นอย่างผู้ชายคนนี้  ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์  แต่ทั้งหมดของคิริฮาระมันช่างน่าหลงใหล...ถึงตอนนี้โทโมกิไม่แปลกใจเลยที่วายะจะเคยอยากครอบครองผู้ชายคนนี้  เขาเองก็ชักอยากเป็นคนอย่างคิริฮาระขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน

“...ขอบคุณครับ  คิริฮาระซัง”  โทโมกิเงยหน้าขึ้นจากแผ่นอกที่ซุกซบอยู่แล้วเช็ดน้ำตาด้วยมือของตัวเอง  “ผมจะเชื่อครับ  สักวัน...ชุนจะลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง”

คิริฮาระยิ้ม  “ฝากด้วยนะครับ”

แล้วเด็กหนุ่มจึงได้เหลือบสายตาไปมองคนทื่ยืนยิ้มน้อย ๆ อยู่ข้างหลังคิริฮาระ  “ขอโทษนะครับ...คุณคือ...?”

“อิชิกาวะ  นัตสึเมะครับ  เป็นเพื่อนของคิริฮาระ”

ชื่อนี้ช่างคุ้นหู  เหมือนเคยได้ยินที่ไหนบ่อย ๆ...แต่ก็นั่นแหละ  นามสกุลอิชิกาวะไม่ใช่นามสกุลหายากอะไร  บางทีเขาอาจจะเคยมีเพื่อนร่วมชั้นชื่อนี้ก็ได้...เพียงแต่เค้าหน้าของผู้ชายคนนี้ช่างคุ้นตา  เหมือนเคยได้เห็นจากที่ไหน...ใช่...เหมือนเคยเห็นในโทรทัศน์  ดูเหมือนจะเป็นรัฐมนตรีอะไรสักอย่าง

“อิชิกาวะซัง...”

“เรียกนัตสึเมะหรือไม่ก็มาสเตอร์เถอะครับ  ผมทำร้านกาแฟที่วายะซังชอบไปนั่งบ่อย ๆ น่ะครับ”  นัตสึเมะยิ้มให้

ทำร้านกาแฟ...?  โทโมกิบอกตัวเอง...งั้นคงไม่ใช่หรอก  เขาคงคิดไปเอง  ลูกชายรัฐมนตรีที่ไหนจะมาทำร้านกาแฟแบบนี้

แล้วนัตสึเมะก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู  “คิริฮาระ  จวนได้เวลาเปิดร้านแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“อ๊ะ  จริงด้วย  ลืมเวลาไปเลย”  คิริฮาระบีบมือโทโมกิเบา ๆ  “เดี๋ยวขอผมคุยอะไรกับหมอนั่นหน่อยนะครับ”

เมื่อเด็กหนุ่มพยักหน้าให้  คิริฮาระก็เดินไปที่ข้างเตียงแล้วพิศมองคนที่นอนนิ่งเหมือนกับหลับสนิทอยู่ตรงหน้า...ที่ศีรษะมีผ้าพันแผลพันไว้หนา  ยังมีสายยางระบายเลือดที่ยังซึมอยู่ในช่องกระโหลกต่ออยู่  ดวงตาปิดสนิท  และยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

นายแบบหนุ่มซบร่างลงกับอกกว้างและกอดวายะไว้แน่น  แล้วโทโมกิก็ได้ยินเสียงกระซิบปนมากับเสียงสะอื้น

“คุ้มแล้วใช่มั้ย  วายะ  นายใช้ชีวิตตัวเองปกป้องคนที่นายต้องการที่สุดในชีวิตได้แล้ว...แต่รีบ ๆ ตื่นขึ้นมาเร็ว ๆ นะ  โทโมะของนายเขาร้องไห้ใหญ่แล้วรู้มั้ย...อย่าให้เขาต้องรอนานนักนะ”

ครู่หนึ่ง  นัตสึเมะจึงได้เข้าไปประคองคิริฮาระให้ผละออกจากวายะ  เขาบีบมือวายะเบา ๆ

“ตื่นมาแล้วผมจะชงกาแฟอร่อย ๆ ให้นะครับ”


หลังจากที่คิริฮาระกับนัตสึเมะร่ำลาเด็กหนุ่มและออกจากห้องไปไม่นาน  โอโนเสะก็มาถึง

“เป็นไงบ้าง  ไอ้ตัวเล็ก  เลิกร้องไห้หรือยัง?”  มือใหญ่วางลงบนเรือนผมนุ่ม  ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องขึ้น  โทโมกิก็อยู่กับวายะที่โรงพยาบาลมาตลอดและไม่ยอมกลับบ้านไม่ว่าใครจะพูดยังไง...แล้วก็เอาแต่ร้องไห้

แต่วันนี้แววตาที่เงยขึ้นมามองสบตาดูแปลกไป

“คุณพ่อโอโนเสะครับ  ผมมีเรื่องอยากจะขออีกสักเรื่อง”

โอโนเสะเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ  วิธีการพูดของโทโมกิดูแปลก...ครั้งเดียวที่เด็กคนนี้เคยขออะไรเขา  ก็คือขอให้เขารับเป็นลูกบุญธรรม

ท่านประธานแห่งลูนาติก  ลัสท์ดึงเก้าอี้อีกตัวมานั่งลงตรงหน้าเด็กหนุ่ม

“ว่ามาสิ  ถ้าให้ได้  ก็จะให้”

“ผม...อยากดูแลชุนเองครับ”

คำพูดนี้น่าประหลาดใจกว่าเก่า  แต่เดิมเขาก็ไม่ได้คิดจะปล่อยวายะไปตามยถากรรมอยู่แล้ว  เขาคิดจะจัดหาพยาบาลพิเศษมาคอยดูแลไปจนกว่าจะตายจากกัน  แต่อะไรทำให้โทโมกิพูดขึ้นมาแบบนี้

“ทำไมล่ะ?”

“ชุนทำเพื่อผมมาเยอะแล้ว  ผมอยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง”

เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงความอดทนและสิ่งที่วายะอ่อนข้อให้เขาตลอดหลายปีที่เป็นบอดี้การ์ดให้แล้ว  มันมากมายเสียจนไม่อยากเชื่อเลยว่าคนเอาแต่ใจตัวเองอย่างวายะจะสามารถทนมาได้ขนาดนั้น  จริงอยู่ว่ามันไม่อาจเทียบน้ำหนักกับสิ่งที่เขาสูญเสียไปจากการกระทำของวายะได้  แต่มันก็มากพอแล้วในความรู้สึกของโทโมกิ

“มันลำบากนะ  โทโมกิ  การดูแลพยาบาลมนุษย์พืชน่ะ  แล้วยิ่งกับคนไม่เคย...”

“ผมจะไปเรียนเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยครับ”  คำตอบหนักแน่นอย่างคนที่คิดมาดีแล้ว

“นี่จะลงทุนเรียนเพื่อคนที่จะไม่ลืมตาขึ้นมาแล้วเนี่ยนะ?”

“ชุนจะตื่นขึ้นมาแน่ครับ”

โอโนเสะจ้องหน้าลูกชายคนเล็ก  แววตาที่จ้องกลับมาไม่หวั่นไหว

“ไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?”

“ผมไม่ได้มั่นใจ  แต่คิริฮาระซังบอกให้ผมเชื่อแบบนั้น...ผมก็จะเชื่อ”

โอโนเสะถอนใจพลางส่ายหน้ายิ้ม ๆ...คิริฮาระอีกแล้ว  ทั้งที่ตัวเองก็ร้องไห้เสียเป็นการใหญ่ตอนที่รู้เรื่องวายะ  แต่ตอนนี้กลับมาจุดไฟอะไรให้โทโมกิเสียแล้ว...

“แล้วถ้ามันเกิดตายไปก่อนที่จะตื่นขึ้นมาอีกครั้งล่ะ?”  โอโนเสะจงใจใช้คำถามที่โหดร้ายเพื่อลองใจโทโมกิ

มีแววสะเทือนใจวูบไหวอยู่ในดวงตาของเด็กหนุ่ม  แต่แค่วูบเดียวเท่านั้นมันก็จางหายไป

“ถ้า...ถ้าเป็นแบบนั้น...ผมก็ยังใช้สิ่งที่เรียนดูแลคนอื่นได้อีก...”

ผู้มากด้วยวัยหัวเราะเบา ๆ  “อยากฟังแค่นี้แหละ...ไม่ใช่ลงทุนลงแรงเพื่อคนเพียงคนเดียว  แต่มันต้องเป็นประโยชน์กับคนอื่นได้ด้วย  เอาละ...โทโมกิ  ฉันอนุมัติให้แกทำอย่างที่แกอยากทำ  แต่วายะจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลไปจนกว่าแกจะมีความรู้ความสามารถมากพอที่จะดูแลมันได้  แล้วจะยกเรื่องของวายะให้แกจัดการ  วายะยังมีภาระยุ่งยากบางอย่างอยู่อีก  ซึ่งฉันจะให้แกจัดการทั้งหมด  แกจะได้เรียนรู้ถึงชีวิตและอดีตของวายะด้วย  จะได้รู้จักคนที่ตัดสินใจจะอยู่ด้วยไปทั้งชีวิต”

คนที่ตัดสินใจจะอยู่ด้วยไปทั้งชีวิต...คำพูดนี้กระทบใจโทโมกิอย่างแรง  ใช่...จนกว่าความตายจะแยกพวกเขาจากกัน  ไม่ว่าวายะจะลืมตาขึ้นมาก่อนหรือไม่  เขาก็จะดูแลวายะไปจนตาย...

...เพราะนี่คือคนเพียงคนเดียวที่ต้องการเขา...

...

รถเบนซ์สีดำคันงานเลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าเรือนใหญ่ของบ้านโอโนเสะ  บรรดาชายหนุ่มที่ทำงานอยู่แถวนั้นรีบวิ่งมาตั้งแถวต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ  คุณหนูโทโมกิ!!”

“กลับมาแล้วครับ  ทุกคน”  หนุ่มน้อยผู้มีเรือนผมสีดำยาวปรกต้นคอเอ่ยทักทายทุกคนที่นั่น  ที่จริงเขาออกจากบ้านไปทำธุระแค่ไม่นานเท่านั้นเอง

โทโมกิเดินเข้าเรือนใหญ่เกือบจะพร้อม ๆ กับที่นายแม่เดินมารับเขาที่หน้าประตู

“กลับมาแล้วเหรอคะ  โทโมกิซัง”

“กลับมาแล้วครับ  นายแม่”

“คุณอันนะเป็นยังไงบ้างคะ?”  ยูคาริถามพลางวางรองเท้าสำหรับใส่ในบ้านให้ลูกชายคนเล็ก

“ก็เหมือนเดิมครับ  ยืนยันไม่ยอมย้ายมาอยู่ที่นี่  ยังสนุกกับงานที่ซางะน่ะครับ”  โทโมกิตอบพลางถอนใจนิด ๆ

“ทั้งที่ลูกชายอยู่ที่นี่น่ะนะคะ...ใจแข็งจริง ๆ เลย”

“นายแม่ก็ใจแข็งนี่ครับ  คุณพี่ฮิโรอากิหนีไปเรียนเมืองนอกตั้งสองปีแล้วยังไม่ยอมโทรไปสักครั้งเลย” เด็กหนุ่มเอ่ยถึงพี่ชายคนเล็กที่ปฏิเสธไม่ยอมรับงานที่ลูนาติก  คลับแล้วหนีไปเรียนต่อที่อังกฤษ

“ก็ฮิโรอากิซังเขาตัดสินใจเองนี่คะ  จะมาคร่ำครวญว่าเหงาหรืออะไรไม่ได้หรอก  แล้วยังไงจูอิจิโร่ซังก็ไปเยี่ยมบ่อย ๆ อยู่แล้วด้วย  แค่ดูแลบ้านก็ไม่มีเวลาโทรศัพท์แล้วละค่ะ”  ยูคาริบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉย

“พูดเหมือนอันนะซังเลยครับ...บอกว่าชุนตัดสินใจเองถึงได้กลายเป็นแบบนี้  ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะยุ่งด้วย  เธอยังมีภาระอยู่ทางโน้นอีกเยอะ”  โทโมกิยิ้มน้อย ๆ เมื่อคิดไปถึงผู้เป็นมารดาของวายะ

นับตั้งแต่เกิดเรื่องกับพวกเขาจนวายะต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา  โอโนเสะควานหาตัวอันนะจนเจอและแจ้งเรื่องทั้งหมดให้ทราบ  อันนะรีบขึ้นมาโตเกียวทันที  โทโมกิยังจำได้ถึงภาพของเธอที่ยืนอยู่ข้างเตียงลูกชายด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง...เป็นใครก็คงช็อคทั้งนั้น  ที่เห็นลูกตัวเองเป็นแบบนี้...ไม่สิ  บางทีพ่อแม่เขาอาจจะไม่รู้สึกอะไรเลยก็ได้มั้ง...โทโมกิบอกกับตัวเอง

แต่แล้วอันนะก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด  เธอทุบเปรี้ยงลงกับแผ่นอกของวายะเต็มแรงพร้อมกับกรีดเสียงใส่

“ไอ้เด็กบ้า!!!!  ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ!!  คิดว่าแกล้งทำเป็นหลับแบบนี้แล้วจะหนีปัญหาได้หรือไง!?  แกทำอะไรกับคุณหนูเขาเอาไว้น่ะ  ลุกขึ้นมารับผิดชอบเดี๋ยวนี้นะยะ!!”

“วายะซังครับ!  ใจเย็น ๆ ไว้ครับ!!  วายะซัง!”  โอโนเสะกับทาคายะช่วยกันจับอันนะไว้

แต่อันนะยังอาละวาดทุบตีพร้อมกับด่าทอวายะต่อไปอีกครู่ใหญ่  ก่อนจะทรุดลงสะอื้นไห้

“บ้าที่สุด!  ไหนบอกว่าจะกลับมาดูแลเด็กคนนั้นไง...แล้วนี่อะไร...มานอนอยู่แบบนี้  มันหมายความว่ายังไง...ไอ้เด็กบ้า!...บ้า...”
เป็นโทโมกิที่เข้าไปนั่งข้าง ๆ อันนะและกุมมือเธอไว้

“ชุนต้องลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแน่ครับ  คุณป้า...ชุนจะต้องไม่เป็นอะไรครับ”

อันนะจ้องมองโทโมกิเต็มตาเป็นครั้งแรก  ความรู้สึกหลากหลายส่งผ่านมาทางดวงตาคู่นั้น  ราวกับเธอกำลังเห็นสิ่งอัศจรรย์บางอย่างในคำพูดของโทโมกิ

“...โทโมะ...ใช่มั้ยจ๊ะ?”

“...ครับ”

อันนะยิ้มบาง ๆ ก่อนจะลูบแก้มของเด็กหนุ่มอย่างอ่อนโยน  “ในที่สุดก็ได้เจอตัวเจ้าของชื่อบนอกไอ้เด็กบ้านั่นเสียที...น่ารักมากจ้ะ  เหมือนรันจังไม่มีผิด...”

แล้วเธอก็กอดโทโมกิไว้แน่นพร้อมกับพร่ำขอโทษในสิ่งที่ลูกชายได้ทำเอาไว้

ตลอดหลายวันที่อันนะพักอยู่ที่โตเกียว  โทโมกิได้พูดคุยกับเธอหลายอย่าง  เธอทำใจเรื่องวายะได้รวดเร็วเหลือเกิน  แม้จะยังเห็นแววความเศร้าอยู่บนใบหน้านั้นอยู่บ้าง  แต่เธอก็สามารถเล่าเรื่องซุกซนในวัยเด็กของวายะได้ทั้งที่นั่งกุมมือชายหนุ่มอยู่ข้างเตียง

โทโมกิได้รู้จักรันจังในตอนนั้นเอง  ผู้ชายที่มีใบหน้าเหมือนกับเขา...ผู้ซึ่งตกเป็นเหยื่อความรักอันผิดปรกติของวายะเป็นคนแรก  และเมื่อได้รับภาระเรื่องวายะทั้งหมดจากโอโนเสะ  โทโมกินั่นเองที่เป็นคนที่ส่งเงินค่ารักษารันมารุไปที่ซางะทุกเดือน

โอโนเสะและโทโมกิพยายามขอร้องและเกลี้ยกล่อมอันนะให้ย้ายมาอยู่ที่โตเกียวเพื่อจะได้อยู่ใกล้ ๆ ลูกชาย  แต่เธอปฏิเสธ...หลายปีที่ผ่านมาเธอปฏิเสธคำขอนั้นครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยรอยยิ้ม

“ฉันเป็นคนสอนให้ชุนเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง  และนี่เป็นเส้นทางที่ชุนเลือก  ฉันไม่มีสิทธิ์ยุ่งเกี่ยวด้วยหรอกค่ะ  เขาอยู่ได้โดยไม่มีฉัน  และฉันก็อยู่ได้โดยไม่มีเขา  เราเป็นแม่ลูกกันแบบนี้  ถ้าคุณยืนยันว่าจะรับผิดชอบดูแลเขา  ฉันก็วางใจค่ะ  แต่รับรองค่ะว่าฉันจะมาเยี่ยมชุนให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้”

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want 26 (หน้า24) 1/6/55
«ตอบ #724 เมื่อ08-06-2012 22:36:09 »

อันนะมาเยี่ยมวายะปีละสองถึงสามครั้ง  มาอยู่แต่ละครั้งนานเป็นอาทิตย์  เธอให้ความรักและเอ็นดูโทโมกิเหมือนลูกชายคนหนึ่ง  และขอบคุณเขานับครั้งไม่ถ้วนที่อุตส่าห์เลือกเรียนพยาบาลเพื่อวายะ  และถึงกับลงมาแสดงความยินดีเมื่อโทโมกิเรียนจบ

“เป็นผู้หญิงทำงานเก่งนี่น่าสนุกดีนะคะ”  ยูคาริเอ่ยขึ้น

“...นายแม่ไม่เคยคิดอยากไปทำงานนอกบ้านบ้างเหรอครับ?”  โทโมกิเคยคิดอยู่เสมอว่าบางครั้งยูคาริเองคงนึกเปรียบเทียบตัวเองกับอันนะเช่นกัน

นายหญิงแห่งตระกูลโอโนเสะหัวเราะน้อย ๆ  “ตอนก่อนแต่งงานน่ะเคยคิดค่ะ  แต่พอแต่งงานกับฮิซาโนบุซังแล้วก็ไม่รู้จะคิดไปทำไม...นอกจากเรื่องในบ้านจะยุ่งจนไม่มีเวลาจะคิดเรื่องอื่นแล้ว  บางทีก็ต้องช่วยฮิซาโนบุซังแก้ปัญหาเรื่องคนอีก”

“เอ๊ะ  คุณพ่อโอโนเสะปรึกษากับนายแม่ด้วยเหรอครับ?”  เขาคิดว่ายูคาริรับผิดชอบเฉพาะเรื่องในบ้านอย่างเดียวเสียอีก

“ใช่สิคะ  ใครจะเข้าใจเรื่องเด็ก ๆ ได้ดีกว่าผู้หญิงล่ะคะ  ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน  คิริฮาระซังไม่ได้เป็นมานายแบบอยู่อย่างนี้หรอกค่ะ...เอาละ  ขอตัวนะคะ  ให้โนงุจิซังแต่งต้นไม้ในสวนไว้  ต้องไปดูหน่อยน่ะค่ะ”  พูดแล้วยูคาริก็เดินจากไป  ปล่อยให้โทโมกิยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

แล้วเด็กหนุ่มก็หัวเราะออกมาเบา ๆ  ลักษณะภายนอกของยูคาริกับอันนะไม่เหมือนกันเลยสักนิด  ยูคาริดูอ่อนหวานแต่เข้มแข็งแบบผู้หญิงญี่ปุ่นแท้ ๆ  ในขณะที่อันนะกระฉับกระเฉงคล่องแคล่วแบบผู้หญิงตะวันตก  แต่ในส่วนลึกแล้วเหมือนกันไม่มีผิด  ทั้งเข้มแข็ง  เฉลียวฉลาด  และมั่นคงในวิถีชีวิตของตนยิ่งกว่าใคร...เป็นแม่ที่วิเศษในความคิดของโทโมกิ


“กลับมาแล้ว  ชุน”  โทโมกิพูดพร้อมกับเปิดประตูบานเลื่อนออก

ร่างสูงนอนนิ่งอยู่บนฟูก  ข้างที่นอนมีอุปกรณ์จำเป็นสำหรับผู้ป่วยจำพวกที่ให้อาหารทางสายยางและอุปกรณ์สำหรับการขับถ่าย  โทโมกิเดินไปนั่งที่ข้างฟูกแล้วค่อย ๆ จับชายหนุ่มพลิกตัวจากท่านอนตะแคงให้นอนหงายเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ

โทโมกิพิศมองใบหน้าของคนที่หลับสนิท  แผลที่ศีรษะเรียบร้อยดีและยังคงมีหัวกระสุนฝังอยู่ข้างในนั้นเรือนผมสีทองที่เจ้าตัวเคยภูมิใจเป็นหนักหนา  บัดนี้เป็นสีดำสนิทและยาวไปถึงกลางหลัง  โทโมกิเคยตัดผมให้ชายหนุ่มหลายครั้งแต่ก็ยังปล่อยให้ผมของวายะยาวไปอย่างนั้น  เผื่อว่าสักวันหนึ่งที่ชายหนุ่มลืมตาขึ้น  จะได้ย้อมสีและตัดทรงอย่างที่เคยทำได้เลย  ผมสีดำทำให้ดวงหน้าของวายะดูเครียดขรึมและเผือดขาว...ไม่คุ้นตา...ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่คุ้นตา  วายะคนที่โทโมกิคุ้นเคยคือผู้ชายร่างสูงผมทองท่าทางหยิ่งยโสเท่านั้น

เด็กหนุ่มลูบแขนของวายะเบา ๆ แล้วก็สะท้อนใจ  ร่างกายใหญ่โตที่เคยเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อบัดนี้ผอมซูบ  แขนแข็งแรงที่เคยโอบกอดเขาไว้บอบบางลงถึงเพียงนี้  แม้จะคอยบริหารอยู่สม่ำเสมอแต่กล้ามเนื้อก็ฝ่อลีบลงทุกที...นานเหลือเกิน  วายะนอนอยู่อย่างนี้มานานเหลือเกินแล้ว  จนแทบจะกลายเป็นคนที่เขาไม่รู้จักไปเสียแล้ว

น้ำตากำลังจะหยดไหลเมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

“ประทานโทษครับ  คุณหนู”

โทโมกิรีบเช็ดน้ำตาอย่างรวดเร็ว  “มะ...มีอะไรเหรอ?”

“มีจดหมายมาน่ะครับ  จ่าหน้าซองถึง...วายะซัง”

โทโมกิสะดุ้งวาบ...จดหมายถึงวายะ  จากใครกัน?...เขารีบลุกไปเปิดประตูห้องแล้วรับจดหมายมา  ลายมือที่ไม่คุ้นเคยปรากฏอยู่บนซองจดหมาย  เด็กหนุ่มพลิกดูชื่อผู้ส่ง

...โอมิยะ  อิจิโร่  จากซางะ...

แม้จะไม่เคยได้ยินชื่อนี้แต่โทโมกิรู้ว่าคนคนนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับวายะเป็นแน่  เขากลับไปนั่งที่ข้างที่นอนของวายะ

“ชุน...มีจดหมายจากคนที่ชื่อโอมิยะซังแน่ะ  รู้จักใช่มั้ย?  เดี๋ยวฉันจะอ่านให้ฟังนะ”

โทโมกิฉีกซองจดหมายแล้วคลี่กระดาษเขียนจดหมายออกอ่าน

“สวัสดี  วายะ  เธอบอกให้ฉันติดต่อมาเมื่อถึงเวลา  ฉันก็ติดต่อมาตามสัญญาแล้ว”  เด็กหนุ่มขมวดคิ้วนิดหน่อยกับข้อความที่ขึ้นต้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแต่ก็อ่านต่อไป

เนื้อความในจดหมายสั้น ๆ นั้นมีอยู่ว่า


สวัสดี  วายะ

เธอบอกให้ฉันติดต่อมาเมื่อถึงเวลา  ฉันก็ติดต่อมาตามสัญญาแล้ว

การผ่าตัดของรันมารุเมื่อปีที่แล้วเป็นไปด้วยดี  และการฟื้นตัวก็ดีมาก  หลังจากทำกายภาพบำบัดอยู่หลายเดือน  รันมารุก็เดินได้โดยไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว  และเดินได้นานขึ้นด้วย  ตอนนี้เขาก็เดินไปทำงานทุกวันแล้ว

จริงอยู่ว่าถ้าต้องไปไหนไกล ๆ ให้นั่งรถเข็นจะสะดวกกว่า  แต่ถ้าฝึกเดินอีกหน่อยก็จะกลับมาเดินได้เหมือนเดิมเอง  และหมอบอกว่าไม่ต้องทำการผ่าตัดอะไรอีกแล้ว

เพราะงั้นนะ  วายะ...ไม่จำเป็นต้องส่งเงินมาแล้ว  เงินที่เธอส่งมาให้ตลอดก็ยังเหลือ  ซึ่งฉันตั้งใจจะเก็บสะสมไว้ซื้อบ้านเล็ก ๆ สักหลังในละแวกนี้  รันมารุเคยบอกเธอหรือเปล่าว่าเขาฝันอยากมีบ้านที่มีบริเวณ  ถ้าไม่เคย...แปลว่านี่เป็นความฝันที่เขามีร่วมกับฉัน  ไม่ใช่มีกับเธอ...อย่าหาว่าเยาะเย้ยเลยนะ  แต่ฉันดีใจมากเลยว่ะ

ฉันขอรับรันมารุไว้ละนะ  และสัญญาว่าจะดูแลเขาให้ดีที่สุดจนกว่าจะตายจากกันเลย  แล้วก็ขอบคุณสำหรับแหวนแต่งงานที่เธอให้ไว้  รันมารุใส่ติดนิ้วไม่ยอมถอดเลยละ


สุดท้ายนี้ก็ขอให้เธอมีความสุขกับคนที่เธอเลือก  อย่าให้แพ้ฉันล่ะ

ถ้าโชคชะตากลั่นแกล้ง  เราคงได้เจอกันอีก


ลาก่อน

โอมิยะ  อิจิโร่


ตัวหนังสือตรงหน้าพร่าเลือน  แล้วหยดน้ำตาก็ตกต้องกระดาษ  โทโมกิรีบปาดเช็ดมันออกโดยเร็ว  แต่น้ำตายังคงไม่หยุดไหล

ขอให้มีความสุขงั้นหรือ...ผู้ชายคนนั้นไม่รู้สินะว่าเขาต่างหากที่เป็นคนส่งเงินไปให้แทนวายะตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้  ที่ส่งจดหมายมานี่ก็เพราะเขาเผลอใส่ที่อยู่เป็นที่นี่ลงไปเสมอด้วยความเคยชิน  โอโนเสะจ่ายเงินรายเดือนให้วายะส่งกลับไปบ้านเกิดอย่างสม่ำเสมอตามที่สัญญาไว้  และผู้ชายคนนั้นคือคนที่รับรันจังของวายะไปดูแลและสร้างครอบครัวอย่างมีความสุข

...แล้วเขาล่ะ...อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าความสุข...

“ชุน...โอมิยะซังเขา...บอกให้มีความสุขมาก ๆ แน่ะ...แล้วตอนนี้  ชุนมีความสุขหรือเปล่า?...”

โทโมกิซบหน้าลงกับอกของวายะแล้วสะอื้นไห้


หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้นกับโทโมกิและวายะ  โอโนเสะได้ตัวไซงะ  คาซุกิในที่เกิดเหตุคาหนังคาเขาในสภาพบอบช้ำเหมือนผ้าขี้ริ้ว  ห้องขังของลูนาติก  ลัสท์คือที่ไปของคาซุกิโดยไม่ต้องไต่สวน  และบทลงโทษที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าความตายก็รออยู่ที่นั่น
ห้องขังที่โอโนเสะส่งคาซุกิเข้าไปไม่ใช่ห้องแบบที่วายะเคยโดนขัง  แต่เป็นห้องพิเศษสำหรับกิจกรรมทรมานโดยเฉพาะ  ในห้องมีอุปกรณ์มากมายเช่นพวกโซ่  รอก  ม้าไม้  และขื่อคา  เพื่อใช้ในการถ่ายแบบหรือถ่ายภาพยนตร์...และในวันนั้น  กล้องวิดีโอหลายตัวก็ถูกในมาติดตั้งในห้องนี้  โดยไม่รอให้คาซุกิได้ฟื้นตัวจากการบาดเจ็บ

“เรียลลิตี้ SM โชว์”  คือภาพยนตร์พิเศษที่ถูกจัดแทรกเข้ามาในลำดับกระบวนการผลิตของลูนาติกลัสท์  นักแสดงนำคือคิริฮาระ  ยู  นายแบบตลอดกาล  โดยมีผู้ช่วยเป็นโทคิโตะ  โฮสต์ระดับต้น ๆ ของลูนาติกคลับที่เพิ่งได้รับบทในภาพยนตร์เป็นครั้งแรก

ตลอดหนึ่งอาทิตย์แห่งการคุมขัง  คิริฮาระประเคนเอาความคลั่งแค้นที่ถูกพรากเอาคนที่เป็นเสมือนพี่ชายไปใส่คาซุกิไม่ยั้ง  ทุกการลงโทษและการทรมานถูกงัดมาใช้กับนักโทษเท่าที่จะคิดได้  เพียงแค่สามวันแรก  คาซุกิก็ได้ทำความรู้จักกับอุปกรณ์ทุกชนิดในห้องนั้นและทรมานจนแทบกระอักเลือด  แม้จะได้รับอาหารบ้างแค่กันตายแต่ก็แทบไม่ได้ดื่มได้กินอะไรนอกไปจากน้ำรักของผู้คุมทั้งสอง  ไม่มีโอกาสได้เอนหลังแตะพื้นแม้แต่ในตอนที่หมดสติ  ร่างของเขาถูกแขวนกับโซ่ที่ห้อยลงมาจากเพดานตลอดเวลา

“ฉันจะทำให้แกรู้จักใช้แต่ประตูหลังจนไปนอนกับผู้หญิงที่ไหนไม่ได้อีกเลย!!”  คิริฮาระประกาศกร้าวและก็ทำเช่นนั้นจริง ๆ

กว่าจะสิ้นสุดความทรมาน  ช่องทางด้านหลังของคาซุกิไม่เคยได้ว่างเว้นจากสิ่งแปลกปลอมที่ถูกนำมาสอดทิ้งไว้ตลอดเวลา  ถูกโทคิโตะข่มขืนครั้งแล้วครั้งเล่า  ถูกคิริฮาระย่ำยีเสียจนแทบไม่เหลือความเป็นคน

แล้วโอโนเสะก็ปล่อยตัวเขาออกมา...เพื่อต่อรองกับไซงะกรุ๊ป

ความเสียหายที่คาซุกิทำไว้กับโทโมกิถูกคิดบัญชีทบต้นทบดอกจนไซงะกรุ๊ปต้องสูญเสียธุรกิจในมือทั้งหมดให้กับลูนาติก  ลัสท์  และมันยิ่งเลวร้ายลงไปอีกเมื่อมีคนบางกลุ่มในไซงะกรุ๊ปพยายามต่อกรกับลูนาติก  ลัสท์อีกครั้ง  และนั่นทำให้ภาพยนตร์ที่ถูกถ่ายไว้ออกวางจำหน่ายทันทีในชั่วข้ามคืน

ด้วยชื่อของคิริฮาระทำให้ภาพยนตร์เรื่องนั้นขายดีถล่มทลายจนทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครทำลายสถิติได้!!

คาซุกิไม่มีหน้าจะอยู่ในญี่ปุ่นอีกต่อไป...และไม่มีหน้าจะไปอยู่ตรงส่วนไหนของโลก  ใครก็ตามที่อยู่ในวงการ SM ย่อมจะรู้จักหน้าเขาจากภาพยนตร์เรื่องนั้น  และเพราะสร้างความเสื่อมเสียอับอายให้กับวงศ์ตระกูลด้วยความโง่ของตนครั้งแล้วครั้งเล่าทำให้คาซุกิถูกอัปเปหิออกจากตระกูล  เขาต้องใช้เงินเก็บของตนทำศัลยกรรมเปลี่ยนใบหน้าและหนีไปอยู่ต่างประเทศ  ไม่เหลือตัวตนของไซงะ  คาซุกิอีกต่อไป


โทโมกิรู้เรื่องนี้จากฮิโรอากิ  แต่มันไม่มีความหมายอะไรกับเขาอีกแล้ว  ในตอนนี้เขามีภาระอื่นที่ต้องทำ

เด็กหนุ่มทุ่มเทชีวิตให้กับการดูแลวายะ  หลังจากเริ่มเรียนพยาบาลได้ไม่นานเขาก็ขอให้โอโนเสะย้ายวายะมาไว้ที่บ้าน  ระหว่างที่เรียนอยู่  ในตอนกลางวันโอโนเสะก็จ้างพยาบาลมาคอยจัดการให้  ส่วนโทโมกิรับหน้าที่ตอนกลางคืนและคอยเป็นผู้ช่วยจนกระทั่งเรียนจบ

แม้การดูแลวายะจะเหนื่อยยากสาหัสแค่ไหน  แต่เขาไม่เคยทิ้งความหวังว่าวายะจะลืมตาขึ้น  ทุก ๆ วันโทโมกิจะคอยนวดไปตามร่างกายของวายะพร้อมกับพูดคุยด้วย  บางครั้งก็ร้องเพลงให้ฟัง...เขาไม่รู้ว่าวายะชอบเพลงอะไร  จึงร้องแต่เพลงที่ตัวเองชอบ  ในวันเกิดของเขาหรือของวายะและวันคริสต์มาสก็จะมีเค้กและของขวัญมาจัดงานฉลองเงียบ ๆ ที่ข้างฟูกนอน

โทโมกิพร่ำกระซิบบอกที่ข้างหูของชายหนุ่มอยู่เสมอ  ว่าเขารออยู่...แต่การรอคอยนั้นช่างแสนยาวนาน  กว่าหกปีแล้ว...วายะยังคงนอนหลับสนิทโดยไม่มีสัญญาณใด ๆ บ่งบอกว่าจะตื่นขึ้นมาได้  หลายครั้งที่ความเข้มแข็งพังทลายลง  โทโมกิก็จะกอดวายะแล้วร้องไห้อย่างนี้...เผื่อว่าสักวันหนึ่ง  วายะจะกอดเขาไว้แล้วปลอบโยนอีกครั้ง

นั่นเป็นความหวังที่รางเลือนยิ่งกว่าความฝันในความฝัน  วายะไม่เคยตอบสนอง  ไม่เคยรู้สึกรู้สาแม้กระทั่งตอนที่เขาสุดจะอดกลั้นอารมณ์ของตัวเองและอาละวาดเอากับร่างที่นอนนิ่งนั้นจนคนอื่น ๆ ต้องเข้ามาช่วยกันห้าม  โอโนเสะเคยถามอยู่หลายครั้งว่าเขาจะเปลี่ยนใจไปจ้างพยาบาลมาดูแลต่อไหม  แต่โทโมกิก็ปฏิเสธและพยายามทำให้ดีขึ้นกว่าเดิม

ชื่อของเขาสลักไว้บนแผ่นอกนั้นแล้ว...เขาจะต้องดูแลของของเขาให้ดีที่สุด...แม้จะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตก็ตามที

...เพียงแต่...


“ถ้า...ในความฝันมีความสุข  ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอกนะ...ชุนจะอยู่กับรันจังฉันก็ไม่ว่า...แต่...ชุน...”  น้ำเสียงเหือดหายไปในลำคอ  “ฉันไม่มีความสุขเลย...ในขณะที่ใคร ๆ ก็มีความสุขกัน  มีแต่ฉันคนเดียว...ไหนบอกว่าฉันเป็นของชุนคนเดียวไง  แล้วทิ้งฉันไว้แบบนี้น่ะเหรอ?...อุตส่าห์ได้ฉันคืนไปแล้วทั้งที  แล้วทิ้งฉันไว้แบบนี้น่ะเหรอ...ชุน...นี่ไง  โอมิยะซังบอกว่าชุนไม่ต้องรับผิดชอบรันจังแล้วไง  ก็รับผิดชอบฉันซี่  ชุนเป็นคนเดียวในโลกที่ต้องการฉันนะ...ฉันที่แม้แต่พ่อแม่ตัวเองยังไม่ต้องการ...ชุนต้องการฉันไม่ใช่เหรอ  แล้วทิ้งฉันไว้อย่างนี้ได้ยังไง...ชุน...”

โทโมกิพร่ำพูดแบบนี้มานับครั้งไม่ถ้วน  แต่ครั้งนี้เขากลั่นมันออกมาจากความรู้สึกรวดร้าวลึกล้ำ  แม้แต่รันจังยังมีความสุขได้  แล้วเขาล่ะ...เขาจะไม่มีสิทธิ์มีความสุขบ้างเลยหรือ  ทั้งที่เขาสามารถก้าวข้ามกำแพงแห่งความกลัวของตัวเองมาได้แล้ว...เขาจะมีความสุขบ้างไม่ได้เลยหรือ

เด็กหนุ่มซุกอยู่กับอกกว้างสะท้านร่างสั่นด้วยแรงสะอื้นอยู่เป็นนานกว่าจะสงบลงได้  เขาไล้ปลายนิ้วไปตามรอยแผลที่สลักเป็นชื่อของตนบนแผ่นอกนั้น...คิดไปถึงห้องไร้กาลเวลาแห่งนั้น  คิดถึงอกกว้างที่เคยหนุน  คิดถึงเสียงหัวใจคุ้นเคยที่อยู่ใต้แผ่นอกนี้...

พลันก็แว่วเสียงถอนใจและแรงสะเทือนแปลกประหลาดจากอกที่หนุนซบอยู่  โทโมกิเบิกตากว้าง...เขาหูแว่วไปเองงั้นหรือ...ไม่หรอก  แรงสะเทือนแปลก ๆ นั้นเกิดขึ้นอีกครั้ง  พร้อมกับเสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น

โทโมกิยันกายลุกขึ้นแล้วจ้องขวับไปที่ใบหน้าของวายะทันที  แล้วก็ได้พบกับดวงตาสีเข้มที่จ้องมองมาก่อนแล้ว!!

ริมฝีปากของชายหนุ่มขยับแผ่วเบา  พยายามเอื้อนเอ่ยเป็นถ้อยคำที่ไร้เสียง  หากโทโมกิรับรู้ได้...


“...โทโมะ...”


ปาฏิหาริย์...โทโมกิบอกกับตัวเอง  หากนี่เป็นความฝันก็อย่าให้เขาตื่นขึ้นมาตอนนี้เลย  ให้เขาได้ฝันอย่างนี้ต่อไปเถอะ...

แต่นี่ไม่ใช่ความฝัน  เมื่อริมฝีปากนั้นขยับเรียกชื่อเขาอีกครั้ง

“...โทโมะ...”

“ชุน!  ชุน!!”

โทโมกิผวาเข้ากอดวายะแน่น  น้ำตาที่เพิ่งหยุดไหลไปไม่นานหลั่งรินออกมาอีกครั้ง  หากครั้งนี้มันหลั่งออกมาด้วยความปีติตื้อในหัวใจ...ปาฏิหาริย์ที่เขาเฝ้าหวังมาตลอดหลายปีเป็นจริงแล้ว  ความเชื่อที่เขาไม่ยอมทิ้งมันไป  ในที่สุดก็สื่อไปถึงวายะแล้ว!!
เด็กหนุ่มจับมือผอม ๆ ของวายะมาจูบเบา ๆ ที่ฝ่ามือแล้วแนบลงกับแก้มของตน

“นายมาช้าอีกแล้วนะ...ชุน...คนบ้า...”

เรียวปากแห้งผากเหยียดออกเป็นรอยยิ้มที่คุ้นเคย...แม้จะต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้วายะคนเดิมกลับคืนมา  แต่มันคงไม่หนักหนาไปกว่าหลายปีที่ผ่านมานี้หรอก...ไม่ว่าจะสุขหรือทุกข์  แต่เพียงเท่านี้เวลาของพวกเขาก็จะเดินไปด้วยกันอีกครั้ง  แม้จะไม่ใช่ในห้องไร้กาลเวลาแห่งนั้นก็ตาม...

...

สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาปะทะใบหน้าพร้อมกับกลีบดอกซากุระที่ร่วงพริ้วลงมาบนถนน  มือใหญ่ยกขึ้นเสยเส้นผมสีทองที่ปลิวระใบหน้าออก

“อากาศดี  แต่ลมแรงไปหน่อยนะ”  ร่างบนเก้าอี้รถเข็นบ่น

“ก็เรื่องปกตินี่นา  จะไปสนใจอะไรกับลม  สนใจดอกไม้สิ”  คนที่เดินเข็นรถให้ชี้ให้ดูซากุระย้อยกิ่งที่อยู่ในสวนของมหาวิทยาลัยที่เดินผ่าน

“ไอ้ต้นนั้นฉันเห็นทุกปีนี่นา”

“แต่ไม่ได้เห็นมาหลายปีแล้วไม่ใช่เหรอ  ดูซะให้หายคิดถึงสิ”

“ไม่ได้คิดถึงเสียหน่อย  คิดถึงกาแฟของมาสเตอร์มากกว่าอีก”

“เดี๋ยวก็ได้ดื่มแล้วน่า  ซื้อออกมานั่งชมดอกไม้ด้วยเลยมั้ยล่ะ?”

“ไม่ละ  อยากคุยกับมาสเตอร์มากกว่า”

“นั่นสินะ  มาสเตอร์ต้องตกใจแน่เลย  ถ้าเห็นหน้าชุนน่ะ”

“ต้องตกใจแหงอยู่แล้ว  ยิ่งนั่งรถเข็นมาแบบนี้...ให้ตายสิ  นี่มันกรรมที่ทำกับรันจังตามสนองชัด ๆ”  ชายหนุ่มหัวเราะพลางส่ายหน้าน้อย ๆ

“ก็ใช้คืนเขาให้หมด ๆ ไปซะ  แล้วจะได้ใช้คืนให้ฉันเสียที”

“หึ...จะชดใช้ให้ทั้งชีวิตเลยครับ  คุณหนูโทโมะ”

“อย่ามาประชดนะ”  พูดแบบนั้นแต่ก็หัวเราะเบา ๆ แล้วหยุดรถเข็นที่ประตูกระจกของร้านกาแฟเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง

“โอ๊ะ  มีคนที่อยากเจออยู่ด้วยแฮะ”  พูดพลางยิ้มกว้างเมื่อเห็นเงาของใครอีกสองคนนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์

เสียงกระดิ่งที่แขวนไว้หน้าประตูร้านกาแฟดังขึ้นเมื่อผู้มาเยือนผลักประตูเข้าไป  แล้วก็ได้ยินเสียงทักทายที่คุ้นเคยดังต้อนรับ

“ยินดีต้อนรับครั...วายะซัง!!?”

“วายะ!!?”

“กลับมาแล้ว  มาสเตอร์  กลับมาแล้ว  คิริยู  และกระต่ายของคิริยูด้วย...”

ร่างสูงยกมือโบกทักทาย  แม้จะต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าเขาจะเดินมาที่นี่ด้วยขาของตัวเองได้อีก  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก  เมื่อยังมีคนคุ้นเคยรอต้อนรับการกลับมาของเขาอยู่เสมอ

...และมีคนที่เป็นของเขาเพียงคนเดียวคอยอยู่เคียงข้างเสมอ...

วายะกุมมือโทโมกิแล้วบีบเบา ๆ


...เพียงแค่นี้ก็พอแล้วจริง ๆ...


13  มกราคม  2555


END

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาตลอดนะครับ

Minako

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #725 เมื่อ08-06-2012 22:53:54 »

โฮวววว สงสารวายะกะโทโมะ  :sad4:
สมน้ำหน้าคาซุกิโคตรๆ อ่านแล้วสะใจมาก สม!!!
....แต่ว่า.... จบแล้วหรอ  :sad4:
ยังอารมณ์ค้างอยู่เลย อย่าจบน้าาาาาา *เวิ่น
รักคนเขียน รักเรื่องนี้ ขอบคุณน้าที่แต่งเรื่องหนุกๆให้อ่าน  :กอด1:
ถ้าตีพิมพ์ขอเล่มนึงนะคะ 5555

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #726 เมื่อ08-06-2012 23:07:33 »

สเปเชียลลลลลลลลลลล  อังกอร์ตอนนึงได้ไหมคะ   ยังไม่สุด

ออฟไลน์ Angel_K

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 263
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +352/-0
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #727 เมื่อ08-06-2012 23:16:15 »

สุดท้ายก็ได้เข้าใจถึงความรักกันจริงๆ สักทีนะ  :L2:

ออฟไลน์ dear77

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #728 เมื่อ08-06-2012 23:38:52 »

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆ มาให้อ่านค่ะ จะติดตามต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ Pupay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 904
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +171/-1
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #729 เมื่อ08-06-2012 23:41:08 »

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ลุ้นๆ น่าตื่นเต้นค่ะ  :L2:

 :pig4: :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
« ตอบ #729 เมื่อ: 08-06-2012 23:41:08 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #730 เมื่อ08-06-2012 23:44:49 »

เอ่อ จะเป็นไรไม๊ที่เราสงสารคาซุกิอ่ะ ตายไปเลยยังง่ายกว่าอีก

ตอนแรกเราหวังว่ามันจะมีเนื้อหาต่อยอดจากตอนต้นเรื่องไปอีกหน่อย แต่ว่า...ต่อตอนปัจจุบันแล้วจบเลยเหรอเนี่ย อยากให้ต่อไปอีกหน่อยจังเลย

ยังไงก็ตาม ลูกแมวก็อยู่กับเจ้าของอย่างมีความสุขแล้วสินะ ดีใจด้วยจ้า โทโมะจัง

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #731 เมื่อ09-06-2012 00:38:34 »

เอาจริงๆเลยนะ...
ไม่คิดว่าคนแต่งจะบีบหัวใจเราขนาดนี้ มันโคตรเจ็บปวดอ่ะ
ยิ่งตอนที่บรรยายถึงโทโมะกิที่ทำเพื่อวายะด้วยแล้วมันเศร้ามากอ่ะ
สุดๆเลย

เรื่องนี้คือ SM เรื่องแรกในบอร์ดนี้ตั้งแต่สมัครมาแล้วอ่านติดมากๆ
ชอบมากๆ มันไม่รุนแรงแบบเว่อร์ๆอ่ะ มันอยู่ในระดับที่รับได้
ชอบตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย ไม่มีตอนไหนที่ไม่ชอบเลย
คนแต่งแต่งได้ดีมากๆ บรรยายลื่นไหลไม่มีตรงไหนขัดกันเลย
ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวเด่นชัด
ปกติถ้าตัวละครใช้ชื่อญี่ปุ่นเราจะอ่านเป็นการ์ตูน
แต่นี่คือนิยายวายเรื่องแรกที่เราอ่านเป้นชื่อญี่ปุ่น
เราอ่านเรื่องนี้วนอยู่สองสามรอบเพื่อรอตอนต่อไป
คือชอบมากจริงๆ

ขอบคุณคนเขียนนะคะที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่าน
ขอบคุณมากๆค่ะ ^^



 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #732 เมื่อ09-06-2012 01:43:35 »

 :pig4:+1 :pig4: สนุกอ่ะ ในที่สุดชุนก็ฟื้นมา แต่อยากอ่านชุนโทโมะ เยอะ ๆ อ่ะ เขาดีกันแค่ 2 ตอนเองง่ะ :z1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #733 เมื่อ09-06-2012 05:00:47 »

อ๊ายยยยย จบแล้วเรอะ
ขอตอนพิเศษด้วยนะคะ

ร้องไห้ไปกับโทโมะด้วย และดดีใจมากกกกกที่วายะฟื้นขึ้นมา

ชอบตอนนี้คะ มีหลายอารมณ์แต่เข้ากันมา

แต่เค้ายังอยากได้ NC หลังจากวายะนอนมา 6 ปีอะ เหอๆ ไม่ค่อยเลยยย

ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องราวความรักในหลายๆแง่มุมมาให้อ่านค๊าา

คันจัง

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #734 เมื่อ09-06-2012 07:54:12 »

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆมาให้อ่านนะคะ รอติดตามผลงานชิ้นต่อไป  o13

vocaloid

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #735 เมื่อ09-06-2012 08:14:11 »

จบแล้ว นิยายเรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ  :L2:
อยากได้ตอนพิเศษอีกนิดนึงอ่ะ
รู้สึกว่ามันจบเร็วไปหน่อย อาจจะมีตอนย้อนอดีตเยอะไปหน่อยมั้ง
เลยทำให้มาปัจจุบันช้า และน้อยไปหน่อยด้วย
รู้สึกอารมณ์มันค้างอ่ะ 55
แต่ถ้ามีหนังสือก็ซื้อนะคะ

sunshadow

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #736 เมื่อ09-06-2012 08:18:19 »



    โฮ่ โทโมะลงทุนเรียนพยาบาลเลยเหรอเนี่ย
    จะน่ารักเกินไปแล้ว
    แต่ว่ายะนี่กินแรงชะมัด ต้องให้โทโมะดูแลตลอดเลยอ่า
    แต่อย่างน้อยทั้งคู่ก็มีความสุขละนะ ^ ^




   

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #737 เมื่อ09-06-2012 09:23:02 »

น้ำตาแทบจะไหลเลยอะ
อ่านแล้วซึ้งอะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #738 เมื่อ09-06-2012 09:41:23 »

เป็นอีกเรื่องที่ชอบค่ะ

ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #739 เมื่อ09-06-2012 10:04:59 »

จบแล้วสิน่ะ น้ำตาคลอเลยT T ขอตอนพิเศษได้มัยค่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
« ตอบ #739 เมื่อ: 09-06-2012 10:04:59 »





ออฟไลน์ fastation

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 632
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-3
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #740 เมื่อ09-06-2012 10:10:35 »

จบแล้ว สนุกมากเลย
ซึ้งโคตร  :monkeysad:

ออฟไลน์ КίmY

  • BJYX♥
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1714
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-3
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #741 เมื่อ09-06-2012 10:15:07 »

จบแล้ววว   :m2:
นึกว่านายจะไม่ตื่นขึ้นมาแล้วซะอีกชุน ฮื่อๆ   :sad4:
สนุกมากๆเลยฮะ จะรอติดตามผลงานต่อๆไปนะฮะ  :bye2:
              :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #742 เมื่อ09-06-2012 10:21:58 »

จบซะแล้ว

ซึ้งมากๆ  โทโมะน่ารักที่สุด

ขอตอนพิเศษแบบหวานๆของชุนโทโมะสักตอนได้ไหม
 

ออฟไลน์ $VAN$

  • Moderator
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1738
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-6
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #743 เมื่อ09-06-2012 11:52:36 »

ชุนจังได้ชดใช้กรรมที่กระทำไว้กับรันจังแล้ว
ด้วยการกลายเป็นมนุษย์ผัก :monkeysad:

โทโมะเข้มแข็งมาก ดูแลชุนตั้ง 6 ปี
ชุนต้องทะนุถนอม อ่อนโยนกับโทโมะให้มากๆนะ :กอด1:

คาซุกิโดนลงโทษแบบยิ่งกว่าตายทั้งเป็น โหดมากๆ  :try2:
แบบนี้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับลูนาติกลัสท์แล้ว

ชูมืออยากอ่านสเปเชียลด้วยคนนะคะ :call:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆค่ะ :pig4:
+vote,duck

ออฟไลน์ maple4120

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #744 เมื่อ09-06-2012 13:56:48 »

จบจนได้แฮะ ไม่อยากให้จบเลยย  o22
ช็อคแทบตายตอนที่วายะโดนยิงอ่า เกือบร้องไห้ไปหลายหนด้วยตอนที่ยังไม่ฟื้นขึ้นมา  :m15:
พอฟื้นขึ้นมาก็ดีใจยิ่งกว่าถูกหวยซะอีก ในที่สุดทั้งโทโมะและวายะก็จะได้มีความสุขกันเสียที  :sad4:
อุปสรรคเยอะเหลือเกินจริงๆ สำหรับคู่นี้ แต่สุดท้ายก็จบอย่างแฮปปี้ล่ะนะ
ชอบสำนวนการแต่งของคุณ KOKURO จริงๆค่ะ ภาษาสวยมากๆ อ่านลื่นไหลไม่ติดขัดเลย
ส่วนเรื่องรวมเล่ม แนะนำว่าเอารูปการ์ตูนไว้เป็นรองปกดีกว่าค่ะ แล้วหน้าปกก็ปล่อยไว้โล่งๆ มีแต่ชื่อเรื่องก็ได้
ไม่ได้ไม่ชอบรูปการ์ตูนนะคะ เพียงแต่ถ้าหน้าปกมันส่อเกินไป เราจะไม่กล้าเอาไปอ่านในที่สาธารณะอ่ะ  :z3:
แต่นี่เป็นแค่ความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ ไม่ต้องทำตามก็ได้ แค่ลองออกความเห็นดูเฉยๆ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างน่ะค่ะ
อย่างไรก็ตาม เราจะรอติดตามเรื่องต่อๆไปนะคะ  :กอด1:

ขอบคุณที่แต่งนิยายดีๆแบบนี้มาให้อ่านค่ะ

ออฟไลน์ kungyung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #745 เมื่อ09-06-2012 15:41:52 »

จบซะแล้ว ชอบอ่ะ o13

ออฟไลน์ karmdodcom

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #746 เมื่อ09-06-2012 18:01:27 »

จบแล้ว....(เสียดายจัง)
น้ำตาแทบไหลตอนสุดท้าย เหอๆ..
อยากอ่านเรื่องของมาสเตอร์จังเลยยยยยยยย T^T!!!!!
มาสเตอร์น่ะ!!! เฮ้ย!! ใช่ลูกชาย...จริงๆเร๊อะ!!
(เง้อ..แอบหวังให้นัตสึเมะรับนา...)

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #747 เมื่อ09-06-2012 18:51:10 »

จบแล้วอ่่อ  เหมือนยังไม่สุดในอารมณ์
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆแบบนี้นะคะ

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #748 เมื่อ09-06-2012 19:45:41 »

ถ้าวายะไม่ฟื้นนี่คงรู้สึกว่าโลกใบนี้โหดร้ายมาก

ขอบคุณค่ะ เรื่องนี้สนุกดีมากๆ รอติดตามผลงานต่อไป

ปล. เราชอบ nc คุณนะ ไม่ถึงขั้นหยาบโลน แต่ก็ไม่เลี่ยนซ้ำซากเหมือนขนบนิยายวายเรื่องอื่น

ออฟไลน์ phoenixa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 569
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
«ตอบ #749 เมื่อ09-06-2012 20:17:24 »

จบแล้ววว
แต่ยังไม่อยากให้จบเลยอ่ะค่ะ
ต่างคน ต่างก็ก้าวผ่านอุปสรรค ปัญหากันแล้วอ่ะเนาะ
ทำให้โตขึ้น มีทัศนคติที่แตกต่างไปจากเดิมด้วย
ขอบคุณมากค่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด