All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: All I want : It's the END (หน้า25) 8/6/55  (อ่าน 324450 ครั้ง)

@Kanda@

  • บุคคลทั่วไป
เราอ่านเรื่องนี้ในบอร์ดของคนแต่งที่แต่งไปถึงตอนที่นู่นนนนนแล้วอ่ะค่ะ(ไกลมาก) :o8: แล้วเราก็สมัครสมาชิกเพื่อนเม้นท์เรื่องนี้(ในอีกบอร์ด)โดยเฉพาะ เต็มสตรีมมาก จำได้ว่าเม้นในตอน 20 กว่าๆ ราวๆสองกระทู้เลยล่ะค่ะ 555555 เลยไม่ได้อ่านในนี้ซ้ำอีกที

แต่ว่านะ......ขว้างแอร์การ์ดทิ้งเลยหรอคะ แอบ S นะตะเอง..... o22

ออฟไลน์ biw43

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
คนเขียนใจเย็นๆนะ

 o22 o22

รอเสมอ .. ฮื้อ~  o18

ออฟไลน์ maple4120

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 320
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกอ้างว้างจริงๆ สงสารโทโมะจัง
คิริยูอย่างเท่อ่ะ ไลค์เลย!
มาต่อไวๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ ชินจัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 307
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-0
แอร์การ์ดสั่งซื้อทางเน็ตก็มีนะคะ

เล็งๆais 1490 บาทกับ ifox อยู่เหมือนกัน
ตัวเก่าพังไปนานแล้ว  ราคาถูกลงเยอะ
แต่โปรเน็ตแพงขึ้นเรื่อยๆ เศร้า ><

ปล.ชอบนิยายของคุณ ไม่ได้จึ้กๆกะเอสเอ็มอย่างเดียว
แต่มีความรู้สึกนึกคิดของตัวละครที่น่าติดตาม
ขอบคุณค่ะ รอรวมเล่ม(ขอให้เก็บตังค์ได้เร็วๆ)
ลองซาวเสียงในเล้าก่อนก็ได้ค่ะ จะได้ไม่เจ็บตัวเหมือนเล่มแรก

 :กอด1:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ใจเย็นค่ะ บ้านเราก็อยู่ตจว.เหมือนกัน ถึงไม่กันดารมากเท่าไหร่แต่เน็ตก็ห่วยเหมือนกัน
อยากจะเปลี่ยนบริษัทเน็ตแต่ก็ห่วยพอๆกัน ทนใช้กันไป มาช้าหน่อยคนอ่านก็เข้าใจค่ะ  :a2:



ปล.อยากให้โทโมะกับวายะเจอกันแล้วอะ :sad4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05-03-2012 14:17:14 โดย M@nfaNG »

THE MIN

  • บุคคลทั่วไป
รอต่อไปคะ  สู้ๆนะคะ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
เราเข้าใจ มันทำให้เราฟิวส์ขาดแบบนี้บ่อยๆ o18

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
All I want # 14

ในค่ำคืนอันเงียบงัน  สายฝนยังคงตกกระทบหน้าต่างกระจกไม่ขาดสาย  กระแสลมแรงพัดละอองฝนให้หมุนวนไปในอากาศ...ความปั่นป่วนนอกหน้าต่างนั้นดุจเดียวกับอารมณ์ของคนที่นอนขดอยู่ในผ้านวมในตอนนี้

อากาศหนาวเหน็บด้วยไอฝนที่ครอบคลุมไม่อาจทำให้ความเร่าร้อนของโทโมกิลดลงได้เลย  เด็กหนุ่มบิดกายอยู่บนเตียงพลางหอบคราง  มือเรียวกอบกุมอยู่ที่ส่วนกลางกายซึ่งเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำเหนียว

ร่างกายของเขา...เกิดความต้องการขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้  มันถูกสอนให้เป็นอย่างนี้  แม้จะพยายามยับยั้งอารมณ์ตัวเองอย่างที่หมอบอกให้ฝึกมาได้หลายวัน  แต่พอถึงเวลากลางคืนที่ต้องอยู่คนเดียวจริง ๆ  โทโมกิก็รู้ว่ามันช่างยากเย็นเหลือเกิน  แม้ว่าเขาจะไม่แตะต้องร่างกายของตนเลย  แต่มันก็ตามไปรังควานเขาในความฝัน...ทุกเช้า  เด็กหนุ่มจะต้องตื่นขึ้นมาพร้อมกับกางเกงที่เปรอะเปื้อนคราบไคลของตัวเอง

ตอนกลางคืนที่จะต้องอยู่ตามลำพังทำให้เขาโหยหา...อ้อมกอดที่ใครคนหนึ่งเคยให้เขา  อ้อมกอดที่มอบความอบอุ่นให้แม้จะไม่มีความรักเลยก็ตาม  แต่เมื่อรอยแผลเกิดเจ็บปวดขึ้นมาด้วยอากาศที่หนาวเย็น  ความโหยหานั้นก็เปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัว  ภาพของวายะที่ได้เห็นตามมาหลอกหลอนครั้งแล้วครั้งเล่า...พร้อมกับสัมผัสของมือแกร่งที่บีบลงบนลำคอของเขา

โทโมกิผวาเยือกขึ้นทั้งร่าง  ดวงตากลมเบิกกว้าง...วายะจะฆ่าเขา!!...เด็กหนุ่มผุดลุกขึ้นนั่ง  ยกมือขึ้นกอดตัวเองแน่น  ทั้งร่างสั่นสะท้าน

นานทีเดียวกว่าโทโมกิจะค่อย ๆ สงบลงได้  เขากวาดตามองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อให้แน่ใจว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องของวายะและเขาอยู่ที่นี่คนเดียว

ใช่...อยู่คนเดียว...นี่เขาต้องอยู่คนเดียวแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว  ทั้งที่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้เดือนกว่าเท่านั้น  แต่นั่นกลับนานนับปีในความรู้สึกของเขา...ซานาดะ  โทโมกิ  อยู่ในห้องพักแห่งนี้ตามลำพัง...

พ่อกับแม่แวะมาบ้างในช่วงเย็น  มาถึงก็เอาแต่ทะเลาะกันเรื่องที่เรียนใหม่ที่จะหาให้เขา  พ่อยังคงยืนกรานจะให้เขาไปเข้าโรงเรียนประจำ  แต่แม่กลับอยากให้เขาอยู่บ้านเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย...น่าแปลก  แม่ที่ไม่เคยสนใจว่าเงินจำนวนมากที่ให้เขาในแต่ละเดือนนั้นเขาจะเอาไปทำอะไรบ้างกลับมาพูดเรื่องประหยัดในตอนนี้  พ่อก็คงจะสังเกตเห็นเช่นกัน  จึงยกประเด็นนี้ขึ้นมาเป็นหัวข้อทะเลาะกันใหม่...โทโมกิแอบคิดอยู่คนเดียวในใจ  บางทีเขาอาจจะได้น้องต่างพ่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้  แม่ถึงได้ไม่อยากจะจ่ายอะไรให้เขาอีกแล้ว  แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก  เงินที่พ่อกับแม่เคยให้เขาไว้ยังมีเหลืออยู่พอสมควร  ถ้าไม่ได้เอาไปโยนทิ้งน้ำก็คงไม่หมดเร็วนักหรอก

หลังจากที่ทะเลาะกันจนพอใจแล้ว  ทั้งพ่อทั้งแม่ก็จะแยกย้ายกันกลับรังรักของตัวเอง  โดยไม่ได้สนใจโทโมกิที่ปิดประตูขังตัวเองไว้ในห้องนอนแม้แต่น้อย  จนทุกอย่างเงียบดีแล้วนั่นแหละ  เด็กหนุ่มถึงได้ออกมากินมื้อเย็นที่แม่บ้านทำเอาไว้ให้

จะเรียกว่าเหงา...ก็คงไม่ใช่  แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยรู้จักความอบอุ่นของสิ่งที่เรียกว่า  “ครอบครัว”  อยู่แล้ว  แต่อาการโหยหาความอบอุ่นจากร่างกายของใครสักคนที่เกิดขึ้นนี่...มันเป็นความผิดของวายะทั้งนั้น!  ถ้าหากไม่สอนให้เขารู้จักมันก็คงไม่ต้องทรมานถึงเพียงนี้

ไม่ไหวแล้ว...โทโมกิบอกกับตัวเอง  เขาพยายามช่วยตัวเองมานานแล้วแต่ยังไม่สามารถถึงจุดสุดยอดได้เลย  เขาต้องการให้ใครสักคนช่วย...ใช่  มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว  ตอนนั้นโชคดีที่โอโนเสะมาช่วยเขาไว้ได้  และยังได้ช่วยเขาอีกหลายครั้ง...แต่ตอนนี้ที่นี่ไม่มีใคร  และเขาเองก็ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร...แบบนี้มันทรมาน  มีความต้องการแต่ไม่สามารถเสร็จสมได้นี่มันเป็นที่สุดของความทรมานทีเดียว  วายะเคยใช้วิธีนี้ลงโทษเขามาหลายครั้งหลายหนจนซึ้งแก่ใจดี...แต่จะต้องทำยังไงล่ะ  ถึงจะบำบัดอาการนี้ได้...

“ไปหาโอโนเสะซังดีมั้ย...”  โทโมกิพึมพำกับตัวเองพลางเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง

ลมยังแรงและฝนยังคงตกไม่ขาดสาย  เด็กหนุ่มเดินไปที่หน้าต่างแล้วมองออกไปข้างนอก...ยังมีรถวิ่ง  ฝนก็ไม่ได้ตกหนักเท่าไรนัก  เขาคงพอจะหาแท็กซี่ได้  โทโมกิเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบออกจากห้องไปทันที


แท็กซี่จอดได้แค่ริมถนนใหญ่เพราะในช่วงกลางคืนแบบนี้ย่านที่ตึกลูนาติก  ลัสท์จะเป็นถนนคนเดินที่อนุญาตให้แค่รถส่งของเข้าไปได้เท่านั้น  แต่จากตรงนั้นไปก็ไม่ไกลแล้ว  โทโมกิจ่ายเงินแล้วลงจากรถ  แถวนี้ลมไม่แรงเท่าแถวแมนชั่นของเขา  แต่ละอองฝนก็ยังคงโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย

แม้ฝนจะตกแต่ผู้คนในย่านบันเทิงแห่งนี้ก็ยังพลุกพล่าน  โทโมกิเดินฝ่าละอองฝนไปท่ามกลางสายตาคนบางคนที่นึกสงสัยว่าทำไมเด็กตัวแค่นี้ถึงมาเดินอยู่แถวนี้ในเวลาเช่นนี้ได้  แต่เด็กหนุ่มไม่สนใจ  เขาแค่ต้องการพบโอโนเสะให้เร็วที่สุดเท่านั้น

หากเด็กหนุ่มก็ต้องชะงักลงตรงหน้าปากซอยเล็ก ๆ มืด ๆ ข้างลูนาติก  คลับ...โอโนเสะไม่ได้บอกทางเข้าด้านหลังให้เขา  นี่จึงเป็นทางเดียวที่จะเข้าไปหาโอโนเสะได้...แต่มันน่ากลัว...ในความมืดนั่นจะมีอะไรอยู่ก็ไม่รู้  ถ้าหากว่า...ใครคนนั้นอยู่ที่นั่นล่ะ...ถ้าหากว่า...เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีกล่ะ...แล้วถ้า...

โทโมกิสะบัดหัวแรง ๆ เพื่อไล่ความคิดออกไปจากสมอง  ครั้งก่อนคิริฮาระเคยพูดกับเขาเอาไว้  ถ้ากลัวก็จะผ่านที่นี่ไปไม่ได้  และจะไม่ได้พบโอโนเสะ...ใช่  ครั้งนี้คิริฮาระไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย  ปาฏิหารย์ไม่ได้จะเกิดขึ้นกับเขาเสมอไป

...

ร่างสูงเจ้าของเรือนผมสีทองยาวประบ่าเดินออกจากลิฟท์มาพลางยกมือเสยผมด้วยท่าทางเหนื่อยหน่าย  เขาเพิ่งเสร็จจากการรับรองลูกค้าไปรายหนึ่งซึ่งต้องการแค่ความเจ็บปวดแต่ไม่มีเซ็กส์  และเพราะอะไรไม่รู้เขาถึงได้รู้สึกว่าลูกค้าคนนั้นน่ารำคาญในอารมณ์เลยเฆี่ยนเสียหนำใจจนสลบคาแส้ไป  ตอนนี้หน่วยพยาบาลของทางคลับได้พาตัวไปปฐมพยาบาลแล้ว  แต่แบบนี้มีหวังโดนเจ้านายด่าอีกเป็นแน่...ก็ช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา  เขาเฆี่ยนลูกค้าจนน่วมไป 4 – 5 รายแล้ว

ชายหนุ่มมองไปรอบ ๆ คลับที่มีผู้คนนั่งดื่มกินและเคล้าคลอกันอยู่  ยังไม่มีใครเรียกใช้เขา...เพราะงั้นจะอู้สักพักคงได้  เขาหยิบกล่องใส่บุหรี่ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วเดินเกร่ไปที่ทางออกด้านหลัง

“เฮ้ย  วายะ  จะไปไหนน่ะ?”  เสียงหนึ่งทักขึ้นจากโต๊ะลูกค้าใกล้ ๆ  พอหันไปดูก็พบโทคิโตะที่ไม่ได้กำลังรับลูกค้าแต่คอยช่วยผสมเหล้าอยู่

“ไปสูบบุหรี่”  วายะตอบอย่างเฉยเมยพลางยกกล่องใส่บุหรี่ที่ทำจากเงินขึ้นมาโชว์ให้ดู

โทคิโตะทำหน้าเหมือนจะบอกว่าสูบในคลับก็ไม่มีใครว่าอะไรอยู่แล้ว  แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจขอตัวคนในโต๊ะแล้วลุกตามมาด้วย

“ไปด้วยคนสิ”

“จะตามไปคุมสินะ”

“อย่าคิดแบบนั้นน่า”

วายะแค่นยิ้ม  เขารู้ว่ามีคำสั่งจากเบื้องบนให้คนในคลับคอยตามดูเขาอย่างใกล้ชิดหลังจากพ้นโทษคุมขังและทรมานออกมาแล้ว  โทคิโตะเป็นคนที่คอยประกบเขาบ่อยที่สุด  ในสายตาคนอื่นอาจเป็นเพราะตัวไล่เลี่ยกันและคงจะสามารถรับมือเขาได้แน่  แต่ที่เขาคิดก็คือ...บางทีหมอนี่อาจจะคิดว่าที่เขาทำความผิดจนต้องโทษนั้นเป็นความผิดของตนส่วนหนึ่งก็ได้...ช่างเป็นคนดีเสียเหลือเกิน  แต่ก็เอาเถอะ  เขาไม่ได้เกลียดชังอะไรโทคิโตะหรอก  แถมมีคนอยู่ด้วยก็ดีกว่าอยู่คนเดียวเยอะ

หลังจากพ้นโทษคุมขังเกือบสองเดือน  สิ่งที่กลับไปพบที่บ้านคือความรู้สึกเหมือนบางอย่างในชีวิตขาดหายไปและความฟุ้งซ่านอย่างน่าประหลาด  วายะไม่อายที่จะบอกว่าหลังจากถูกปล่อยตัวเขาฝันร้ายทุกคืน  มันสับสนปนเปไปหมดระหว่างความทรงจำเก่าแก่กับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้...บางครั้งที่สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วมองมือตัวเอง...ว่าคนที่มันบีบคอไปในความฝันนั้นคือใครกันแน่...

ควันบุหรี่สีเทาลอยตัวแทรกผ่านละอองฝนที่โปรยปรายขึ้นไปสู่ท้องฟ้ามืดมิด  วายะอัดควันเข้าปอดพลางฟังโทคิโตะบ่นกระปอดกระแปดว่าทำไมเขาต้องหาเรื่องมายืนตากฝนให้บุหรี่มันชื้นแบบนี้  วายะเพียงแค่ยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร...มีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าเขาชอบหิมะกับฝน  หิมะสีขาวที่ปกคลุมทุกสิ่งเหมือนจะกลบฝังความเลวร้ายทั้งมวลย้อมโลกทั้งโลกให้บริสุทธิ์  และสายฝนก็จะช่วยชำระล้างทุกสิ่งให้สะอาดสะอ้าน...คิริฮาระเคยค่อนบ่อย ๆ ว่าเรื่องนี้มันช่างโรแมนติกไม่สมกับเป็นความคิดของเขาเลย  ซึ่งที่จริงมันก็ไม่ใช่ความคิดของเขาหรอก  เพียงแต่ใครบางคนเคยบอกกับเขาอย่างนี้  เมื่อคิดตาม...ก็พบว่ามันจริงอย่างที่ว่า

หากหิมะก็ยังไม่อาจกลบฝังความผิดของเขาและสายฝนก็ยังไม่อาจล้างความรู้สึกบางอย่างในหัวใจได้

“เฮ้ย  รีบ ๆ สูบแล้วรีบ ๆ กลับเข้าไปกันเถอะ  วายะ  หนาวแล้ว  เดี๋ยวคิริฮาระจะมีโชว์ด้วยไม่ใช่เรอะ”  โทคิโตะเร่งมา

“หนาวก็เข้าไปก่อนสิ”  วายะตอบอย่างเฉยเมย  วันนี้คิริฮาระมีโปรแกรมมาโชว์ที่คลับ  แต่เล่นบทราชินีซึ่งเขาไม่จำเป็นต้องช่วย  และเขาไม่มีวันยอมเล่นเป็นทาสแน่

“เอาแต่ใจจริงวุ้ย  ถือว่ายอดขายกลับมาที่เดิมแล้วหยิ่งเรอะ”  โทคิโตะอดค่อนไม่ได้  หลังจากถูกคุมขังไปสองเดือน  พอกลับมาได้ไม่ทันไรยอดขายของวายะก็เด้งกลับมาสู่อันดับหนึ่งอย่างเดิมทันที  เร็วจนน่าหมั่นไส้  แถมยังคงอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง

“ขออีกเดี๋ยวน่า”  โฮสต์หนุ่มหัวเราะกับคำค่อนนั้น...เขาไม่ได้ทำอะไรเลยแท้ ๆ  แต่ดูเหมือนเกือบสองเดือนที่ต้องโทษลูกค้าประจำของเขาจะอดอยากปากแห้งกันไม่น้อย  พอเขากลับมาทำงานก็ถึงกับแย่งกันจองคิวจนแทบไม่มีเวลาได้พักเลยทีเดียว

“รอก็ได้วะ”  โทคิโตะว่าแล้วก็ดีดบุหรี่ไปยังถนนชื้น ๆ ที่นองไปด้วยน้ำ  พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นเงาคนเดินเข้ามาในซอยเล็ก ๆ แห่งนั้น  ชายหนุ่มขยับตัวทันที  “ใครวะ  มาเดินแถวนี้เอาป่านนี้”

วายะเหลือบมองตาม  แล้วบุหรี่ในมือก็ร่วงลงพื้น  ดวงตาคมเบิกกว้างอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง  ชื่อหนึ่งหลุดลอดริมฝีปากออกมาดังไม่เกินกระซิบ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2012 23:25:35 โดย KOKURO »

dolphins

  • บุคคลทั่วไป
เจอกันแล้ว จะเป็นยังไงเนี่ย ลุ้นๆๆๆๆๆ

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #369 เมื่อ08-03-2012 23:41:49 »

เจอกันแล้วๆๆๆ!!  :กอด1:

โทโมะจะหายกลัวรึยังเนี่ย!!

 :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
« ตอบ #369 เมื่อ: 08-03-2012 23:41:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #370 เมื่อ08-03-2012 23:45:39 »

All I Want 14 ต่อ

“...โทโมะ...”

ร่างที่เดินเข้ามาในซอกมืด ๆ นั้นหยุดชะงักอยู่ตรงสุดขอบของแสงไฟนีออน  ดวงตากลมที่มองตอบมาเบิกกว้างเช่นเดียวกับวายะ...หากเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกระคนหวาดกลัว  เหมือนเลือดในกายกลายเป็นน้ำแข็ง  ทั้งร่างเย็นเยียบเสียยิ่งกว่าหิมะ

...นั่นเป็นภาพลวงตา  ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้นจริง ๆ  นี่เป็นแค่สิ่งที่คิดไปเอง...

เด็กหนุ่มบอกกับตัวเองแบบนั้นหากร่างกายที่ไม่ยอมฟังคำสั่งของหัวใจอีกแล้วก้าวถอยหลังตามสัญชาตญาณ  แต่พอขยับถอย  ร่างที่คิดว่าเป็นภาพลวงตาก็กระโจนพรวดเดียวถึงตัว  มือแกร่งคว้าแขนของเขาไว้แน่น

“โทโมะ!?”

เสียงนั้นเรียกชื่อเขาดังลั่นเหมือนกับตวาด...ไม่ผิดแน่  คนตรงหน้าไม่ใช่ภาพลวงตา  น้ำเสียงนั้น  กลิ่นบุหรี่นั้น  สัมผัสจากมือนั้น...นี่คือวายะตัวจริง!!

“ไม่!!!!”  โทโมกิร้องออกมาสุดเสียงพร้อมกับสะบัดแขนให้หลุดจากการเกาะกุม

หากวายะรีบรวบร่างนั้นมากอดไว้แน่น

“โทโมะ!  โทโมะจริง ๆ เหรอเนี่ย?  โทโมะ...”

โทโมกิผลักร่างสูงสุดแรงพลางกรีดร้องอย่างไม่คิดชีวิต  เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อกลับสู่อ้อมแขนของคนคนนี้  เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อจะถูกฆ่า!

“ไม่!!  ไม่เอา!  อย่า!!”  เด็กหนุ่มดิ้นรนแต่ไม่เป็นผลอะไรเลย

วายะเองก็ไม่ฟังอะไรอีกแล้ว  เขากอดร่างเล็ก ๆ นั้นไว้แน่น  ยอมให้ทุบตี...จะด่าว่าหรืออย่างไรก็เถอะ  แต่เขาจะไม่ปล่อยโทโมกิไปอีกแล้ว

มือแกร่งขยุ้มลงบนไหล่เสื้อของโทโมกิบริเวณบาดแผลที่ตนเคยทำเอาไว้  มันไม่ได้ทำให้เจ็บ  แต่ในใจของโทโมกิกลับรู้สึกได้ถึงคมมีดที่กรีดลงบนผิว

“อ๊า!!!!”

เสียงหวีดร้องดังก้องไปในซอยมืดนั้น  โทคิโตะพลันได้สติ  ในตอนแรกเขาออกจะตกใจที่อยู่ ๆ วายะก็พรวดพราดออกไป  แต่พอได้ยินเสียงร้องอันเป็นเสียงของเด็กที่ยังไม่ทันโตเป็นผู้ใหญ่เขาก็เริ่มนึกออก...คู่กรณีของวายะเป็นแค่เด็กมัธยมต้นเท่านั้น  และนี่คงใช่...

“วายะ!  หยุด!!”  โฮสต์หนุ่มปราดเข้าไปกระชากเพื่อน

แต่วายะที่ขาดสติเสียแล้วหวดกำปั้นมากระแทกเข้าหน้าพอดีจนโทคิโตะล้มลง

...จะให้โทโมะร้องไม่ได้  เดี๋ยวใครได้ยินเข้าจะมาพาตัวไปอีก...จะให้ใครเห็นไม่ได้...

คิดได้แค่นั้นก็ขยุ้มผมที่ท้ายทอยของโทโมกิดึงให้ต้องเงยหน้าขึ้นแล้วประกบริมฝีปากลงบดจูบอย่างรุนแรง  โทโมกิผวาเยือก  กลิ่นของบุหรี่เข้ามาพร้อมกับปลายลิ้นร้อน...สัมผัสที่คุ้นเคย  รสชาติและกลิ่นอายนั้นรุกล้ำเข้ามากัดกินเขา  เขาจำได้ทั้งที่ไม่อยากจะจำ!

โทคิโตะเห็นท่าไม่ดีรีบกลับเข้าไปในคลับ  คนเดียวที่จะหยุดวายะได้ในตอนนี้อยู่ที่นั่น...ต้องรีบแล้ว!

ประตูห้องแต่งตัวเปิดผลัวะ  ทำเอาคนในห้องสะดุ้ง  แต่พอหันมาเห็นว่าเป็นใครก็แหวเอา

“อะไรของนาย  โทคิโตะ!  จะเข้ามานี่เคาะประตูหน่อยไม่ได้หรือไง?”

“คิ...คิ...คิริฮาระ...”  โทคิโตะพยายามพูดทั้งที่หอบฮัก  “มะ...มา...มาด้วยกันเร็ว”

“อะไร?  ยังไม่ถึงเวลาโชว์นี่  มีลูกค้าเรียกหรือไง?”  คิริฮาระสะบัดเรือนผมสีแดงของตนแล้วตรวจเช็คความเรียบร้อยในกระจก

“ไม่...ไม่ใช่...วายะน่ะ...วายะมัน...”  โฮสต์หนุ่มยังกระท่อนกระแท่น

“วายะทำไม?”

“เด็กคนนั้น...เด็กคนนั้นมาที่นี่...แล้ววายะก็บ้าไปแล้ว!”

ไม่ต้องรอให้โทคิโตะอธิบายเพิ่ม  คิริฮาระคว้าเสื้อคลุมมาสวมแล้วผลุนผลันออกจากห้องแต่งตัวโดยคว้าแส้ที่แขวนไว้ข้างประตูไปด้วย

...ถูกฆ่า...จะต้องถูกฆ่าแน่...จูบที่เร่าร้อนนั้นช่วงชิงเอาอากาศไปจนเด็กหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกบีบคอ  โทโมกิดิ้นรนสุดแรงเกิดเพื่อเอาชีวิตรอด  ทั้งที่วายะถอนริมฝีปากออกหลายครั้งแต่ทำไมเขาถึงหายใจไม่ได้  ต้องหนีให้พ้นจากผู้ชายคนนี้ถึงจะรอดตาย...โทโมกิบอกกับตัวเองแบบนั้น  แต่ดูเหมือนร่างกายจะล้าแรงลงทุกทีจนไม่ยอมฟังคำสั่งของสมอง  สองมือที่จิกทึ้งและทุบตีร่างสูงค่อย ๆ เคลื่อนไหวช้าลง  ในที่สุดก็เปลี่ยนเป็นยึดเสื้อโค้ทของชายหนุ่มไว้  สติล่องลอยออกไปไกล

พลันก็รู้สึกได้ถึงท่อนขาที่แทรกเข้ามาตรงหว่างขาของตน  ส่วนกลางกายที่คุกรุ่นด้วยอารมณ์ใคร่มาตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมาตอบสนองกับสัมผัสนั้นทันที  วายะรู้ดีที่สุดว่าจะต้องสัมผัสเด็กหนุ่มอย่างไรจึงจะกระตุ้นอารมณ์ได้  ไม่เพียงแต่ต้นขาที่บดเบียดอยู่สองมือก็ยังลูบไล้ไปทั้งเรือนร่างนั้นเหมือนจะสำรวจให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดไปจากที่เคยได้กอด

ทว่าในขณะที่ร่างกายตอบสนองกับการกระทำของวายะ  โทโมกิกลับรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจตาย  เขาหายใจไม่ออก  แม้ว่าวายะจะปล่อยริมฝีปากของเขาให้เป็นอิสระแล้วก็ตาม  ที่ลำคอปวดแน่นและแสบร้อน  สัมผัสของมือแกร่งที่เคยบีบรัดมันหลอกหลอนให้รู้สึกเสมือนจริง  โทโมกิอ้าปากไล่งับอากาศ...เขากำลังจะตาย...

เสียงของอะไรบางอย่างที่เป็นเส้นเรียวแหวกอากาศและกระทบเข้าที่แผ่นหลังของวายะอย่างแรงจนสะดุ้ง  พอหันกลับไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นสิ่งนั้นก็ฟาดมาที่ใบหน้าจนผงะหงาย

“ปล่อยเด็กซะ  ไอ้หมาบ้า!”

เสียงตะโกนแหวมาพร้อมกับท่อนแขนที่หวดใบหน้าของเขาซ้ำ  คราวนี้วายะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น  เขาจำเสียงนั้นได้ดี...คิริฮาระ
แค่เรี่ยวแรงกับแขนเล็ก ๆ ของคิริฮาระไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มบาดเจ็บสักเท่าไรนัก  แต่แส้ม้าที่หวดตามมาซ้ำแล้วซ้ำอีกทำให้ต้องล่าถอยออกจากร่างที่ปล่อยให้ทรุดลงกับพื้น  คิริฮาระใช้แส้ได้คล่องเหลือเกิน  นั่นเป็นครั้งแรกที่วายะนึกแค้นใจตัวเองที่สอนให้นายแบบหนุ่มเชี่ยวชาญถึงเพียงนี้  ในตอนนี้เขาได้แต่ยกแขนขึ้นป้องกันตัวเองและไม่สามารถเข้าใกล้คิริฮาระได้  พลันก็เหลือบไปเห็นโทคิโตะค่อย ๆ ประคองร่างเล็กขึ้น

“อย่าแตะต้องโทโมะนะ!!”  โฮสต์หนุ่มตวาดแล้วก็ต้องรีบยกมือขึ้นป้องหน้าตัวเองเมื่อปลายแส้หวดมาอีกครั้ง

“ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้อีกเรอะ!  แกนั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์จะแตะต้องเขา”  คิริฮาระร้องแล้วก็อาศัยจังหวะที่วายะยังไม่ทันตั้งตัวถีบเข้าที่ยอดอกจนร่างสูงทรุดลงนั่ง

“ทำไมจะไม่มี...”  วายะเข่นเขี้ยว  ดวงตาแข็งกร้าวยังจับจ้องไปที่โทคิโตะกับโทโมกิ

“เพราะแกถูกห้ามไม่ให้เข้าใกล้เด็กคนนี้อีกแล้วตลอดชีวิต  ชัดมั้ย?”  ส้นรองเท้าบู้ทหนากระแทกซ้ำลงบนไหล่ของโฮสต์หนุ่ม  กดให้หมอบลงกับพื้น  พอทำท่าจะขืนตัวลุกขึ้นมาคิริฮาระก็กระหน่ำแส้ฟาดไม่ยั้ง  “แกควรจะจำได้ว่าแกไม่มีสิทธิ์แตะต้องเขาอีกแล้ว  แกทำถึงขนาดนั้นแล้ว  ก็ไม่มีสิทธิ์จะครอบครองเขาอีก”

วายะกัดฟันกรอด  เขารู้ว่าโอโนเสะพิพากษาเขาไว้เช่นนั้น  เขาสลักชื่อของเขาไว้บนร่างกายของโทโมกิ  ในเมื่อแสดงความเป็นเจ้าของไว้แบบนั้นแล้ว  แม้จะไม่ได้พบไปตลอดชีวิตก็คงไม่เป็นไร...ชายหนุ่มเองก็ทำใจไว้ว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น  แต่เขาไม่คิดมาก่อนว่าโทโมกิจะมาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเขาอีกครั้ง  มาถึงที่ของเขา  ก้าวเข้ามาในโลกของเขา...พริบตาที่เห็นร่างนั้นอยู่ตรงหน้า  ความยับยั้งชั่งใจทั้งหลายทั้งปวงก็มลายหายไปจนหมดสิ้น  แม้กระทั่งในตอนนี้ถูกคิริฮาระกระหน่ำเฆี่ยนตีอยู่อย่างนี้  เขาก็ยังคิดจะครอบครองโทโมกิ

“โทคิโตะ  พาเด็กนั่นไปหาโอโนเสะซังซะ”

โฮสต์หนุ่มได้ยินคิริฮาระออกคำสั่ง  เขาขยับตัวหมายจะห้าม  แต่ปลายเท้าชองนายแบบหนุ่มก็ตวัดเข้าที่หน้าจนผงะหงาย  ตามมาด้วยด้ามแส้ที่กระแทกเข้ามาที่คอหอยจนสำลัก

“ฉันไม่ให้แกไป  วายะ”  คิริฮาระพูดเสียงเย็นเยียบ  มองมาด้วยสีหน้าเหมือนนายที่มองดูทาส  หากแววตาเป็นประกายประหลาด  “ถ้าแกแตะต้องเด็กคนนั้นตอนนี้  ทุกอย่างก็จบ  เพราะงั้นฉันจะไม่ให้แกไป”

วายะนิ่งอึ้ง  จ้องตาคิริฮาระอย่างไม่เข้าใจ  กระทั่งหัวใจที่พลุ่งพล่านค่อย ๆ สงบลง  เขาปิดตาลงเบา ๆ แล้วพยักหน้าน้อย ๆ เป็นเชิงรับรู้

“โอกาสยังมี  แต่ไม่ใช่ตอนนี้”  ด้ามแส้ที่กดอยู่ที่ลำคอผละออกไป  คิริฮาระถอยออกห่าง  “แกยังต้องรับโทษที่ทำลายชีวิตเด็กคนนึงมากกว่านี้”

เสียงฝีเท้าดังห่างออกไป  วายะกอดเข่าแล้วซบหน้าลงกับท่อนแขน  คำพูดของคิริฮาระดังก้องอยู่ในสมอง

“เมื่อโทษทัณฑ์จบสิ้นลง  ถึงตอนนั้น...แกจะทำอะไรก็ทำ”

เกร็ดหิมะตกลงมาต้องร่างกายที่แสบร้อนไปด้วยรอยแส้  วายะรู้ว่าโทคิโตะพาโทโมกิไปไหน  แต่เขาไม่ได้ตามไป  คิริฮาระพูดถูก...เขายังต้องรับโทษทัณฑ์อีกยาวนานนัก  และเขาเตรียมใจไว้แล้ว  ถ้าหากโทโมกิไม่มาที่นี่ในคืนนี้เขาก็คงไม่ไปตามหาหรือพยายามไขว่คว้ามาครอบครอง  แต่ในใจก็ยังหวังเอาไว้ว่าสักวันหนึ่งข้างหน้า  เมื่อทุกอย่างดีขึ้นกว่านี้เขาก็อยากพบโทโมกิอีกสักครั้ง  ไม่ว่าการพบกันนั้นจะเป็นไปในรูปแบบใด  จะดีขึ้นหรือเลวร้ายกว่านี้  เขาก็ยังปรารถนาจากส่วนลึกของหัวใจ  คิริฮาระรู้และเข้าใจดีว่าเขาคิดอะไรถึงได้พยายามหยุดยั้งเขาไว้ทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้ความปรารถนาของเขาสูญเปล่า  และเขาก็นึกขอบคุณ

...แต่แบบนี้มันก็ออกจะเกินไป...วายะส่ายหน้า  คิริฮาระทำกับเขาเหมือนทำกับทาสอย่างสมบูรณ์แบบ  ไม่ไหวเลย  เขาไม่น่าปั้นคิริฮาระมาให้สมบูรณ์แบบขนาดนี้เลย  แต่ช่างเถอะ...แบบนี้ก็ดีแล้ว  ร่างสูงลุกขึ้นปัดหิมะออกจากตัวแล้วกลับเข้าไปในคลับ  พยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่และตัดใจจากคนที่ถูกพาตัวไปไกลเกินเอื้อมเสียให้สิ้น

โทโมกิซุกกายสั่นเทาอยู่ข้างกายโอโนเสะ  ทันทีที่หลุดพ้นจากวายะมาได้เขาก็หายใจออก  แต่อาการหวาดกลัวไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย  โทคิโตะพาเขาขึ้นมาถึงชั้นที่ 29 นี้ด้วยสภาพเหมือนจะอุ้ม  นั่นทำให้โอโนเสะกับยามานากะตกใจทีเดียว  พอเห็นหน้าโอโนเสะ  หนุ่มน้อยก็ผวาเข้ากอดแล้วร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาย  ปล่อยให้โทคิโตะเป็นคนเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้โอโนเสะฟัง
มือใหญ่ลูบไล้เรือนผมสีดำขลับที่ยาวเคลียบ่าเหมือนจะปลอบโยนพลางบอกกับโทคิโตะ  “ทำได้ดีมาก  แล้วก็บอกยูด้วยล่ะว่าเก่งมากที่เอาไอ้หมาบ้านั่นจนอยู่”

โทคิโตะโค้งรับคำชมนั้นเล็กน้อย  แต่ยังมองร่างเล็ก ๆ ที่นั่งสั่นอยู่ข้างโอโนเสะด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใย  และท่านประธานแห่งลูนาติก  ลัสท์ก็รู้ถึงสายตานั้น

“ไม่เป็นไรแล้วละ  ถึงมือฉันแล้วนี่”

“เอ้อ...ครับ”  โทคิโตะแน่ใจว่าถ้าอยู่กับโอโนเสะแล้วจะไม่มีใครแตะต้องหนุ่มน้อยได้แน่  แต่เรื่องของจิตใจมันก็อีกเรื่องหนึ่ง

“เธอลงไปทำงานเถอะ  กระตุ้นยอดขายหน่อย  เผื่อสิ้นเดือนจะมีรางวัลพิเศษให้มากกว่านี้”  โอโนเสะเอ่ยยิ้ม ๆ

โทคิโตะกล่าวคำลาอย่างอิดออดนิดหน่อย  แต่เขาคิดว่าโอโนเสะคงจะมีวิธีรับมือกับเด็กคนนั้นได้จึงกลับลงไปที่คลับใต้ดิน...ไม่คิดเลยว่าอยู่ ๆ วายะจะคลั่งขึ้นมาได้แบบนั้น  วายะเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้ดีเสมอ  และมักจะสอนพวกเด็กใหม่เสมอว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการเล่น SM คือการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง  ดังนั้นเมื่อเห็นวายะสูญเสียการควบคุมแบบนั้นเขาจึงตกใจไม่น้อย  แค่เด็กคนนั้นมาอยู่ตรงหน้าก็ทำให้วายะเสียสติไปได้ถึงขนาดนั้นเชียวหรือ...ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองที่โดนกำปั้นของวายะหวดเอาเมื่อครู่  มันเพิ่งจะเจ็บขึ้นมาตอนนี้  จากนี้ไปเขาคงต้องให้ความร่วมมือกับคิริฮาระในการคอยดูแลวายะให้มากกว่านี้แล้วละมั้ง...ถ้าหากวายะจะไม่แหกอกเขาเสียก่อนน่ะนะ

“ไอ้ตัวเล็ก  เลิกร้องไห้ได้แล้ว  ไม่เป็นไรแล้วนะ”  โอโนเสะโอบร่างเล็ก ๆ ไว้แล้วเขย่าเบา ๆ เหมือนจะปลุกปลอบ

โทโมกิพยักหน้าแต่น้ำตายังไม่ยอมหยุดไหล  เมื่อครู่เขาคิดว่าจะต้องตายเสียแล้ว  ไม่รู้ว่าทำไม  ทั้งที่วายะไม่ได้แตะต้องลำคอของเขาเลยแม้แต่น้อยแต่เขากลับหายใจไม่ได้  มันเจ็บไปหมดเหมือนวันนั้นที่ถูกบีบคอ

“วายะไม่ได้ทำอะไรเธอใช่มั้ย?”

“...ครับ”  ตอบออกไปแล้วก็เพิ่งนึกได้ว่าวายะกอดและจูบเขาอย่างเร่าร้อน  เพียงแต่ในตอนนั้นสมองของเขาไม่รับรู้อะไรแล้วเสียมากกว่า

“ถ้างั้นก็เลิกร้องไห้ได้แล้ว”

“ผม...นึกว่าจะไม่ได้...เจอคุณแล้ว...”  โทโมกิพูดปนสะอื้น

“ทำไมจะไม่ได้เจอล่ะ?”

“ผมหายใจ...ไม่ออก...เหมือนจะตาย...”

โอโนเสะลอบสบตากับยามานากะ  ก่อนจะถามเด็กหนุ่ม  “เขาบีบคอเธออีกเหรอ?”

“เปล่าครับ...เขาไม่ได้ทำอะไร...แต่ผมหายใจไม่ออก  ผม...กลัว...”

โอโนเสะไม่ได้เป็นจิตแพทย์โดยตรงแต่คิดว่านี่คงเป็นอาการข้างเคียงจากการช็อคอย่างรุนแรงในครั้งนั้น  แค่อยู่ใกล้วายะสมองก็จะสั่งให้หยุดหายใจเหมือนตอนที่ถูกบีบคอทันที...เขาลอบถอนใจหนักหน่วง  อาการแบบนี้คงต้องรักษากันอีกนาน

“เอาละ  ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว  หมอนั่นก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย  ไม่ต้องกลัวแล้วนะ”

โทโมกิพยักหน้าน้อย ๆ แต่ยังเกาะโอโนเสะไว้แน่น

“ว่าแต่...มาหาฉันถึงที่นี่มีอะไรเหรอ?”

ในตอนนั้นเองที่เด็กหนุ่มเพิ่งนึกออกถึงจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่  ความตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เขาลืมเรื่องนั้นไปจนหมดสิ้น  แต่กระนั้นร่างกายที่ตอบสนองกับสัมผัสของวายะเมื่อครู่กลับยังไม่ลืม...โทโมกิสะท้านน้อย ๆ ไปทั้งร่างก่อนจะกระซิบเสียงสั่น

“ผม...มีอารมณ์...แล้วไม่รู้จะทำยังไงครับ...มัน...ทรมาน”

แค่คำพูดสั้น ๆ โอโนเสะก็เข้าใจได้  โทโมกิมีอาการแบบเดียวกับตอนที่อยู่โรงพยาบาลอีกแล้ว  ตอนที่รักษาตัวอยู่อาการแบบนั้นมักจะเกิดขึ้นตอนที่เด็กหนุ่มรู้สึกตัวครึ่ง ๆ กลาง ๆ  ซึ่งหมอก็ได้บำบัดรักษาจนดีขึ้น  ในช่วงก่อนออกจากโรงพยาบาลเขาไม่ได้มีความต้องการทางเพศเลย  แต่ก็นั่นแหละ  ที่สมองของโทโมกิโดนทำลายด้วยยากล่อมประสาทก็เป็นความจริง  ในบางครั้งอาการแบบนั้นอาจจะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวได้  และหมอก็ยังบอกเอาไว้อีกว่าโทโมกิกำลังเป็นวัยรุ่น  การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจะกระตุ้นความต้องการอย่างช่วยไม่ได้  อาจจะต้องคอยระวังและให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ

...ให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ...บางทีโอโนเสะก็นึกอยากยกหน้าที่นี้ให้ใครสักคน  แต่กลัวว่าสุดท้ายมันจะไปลงอีหรอบเดียวกับที่วายะทำ  พวกเด็ก ๆ ในสังกัดของเขามันเป็นมืออาชีพก็จริง  แต่มีของน่ากินมาล่ออยู่ตรงหน้าบ่อย ๆ เป็นใครก็อยากตะครุบ  อย่ากระนั้นเลย...เขาจัดการเองดีกว่า

หลังจากพาเด็กหนุ่มเข้าไปช่วยปลดเปลื้องความต้องการให้ในห้องพักแล้ว  โอโนเสะก็กลับมาสะสางงานของตัวเองต่อโดยปล่อยให้โทโมกิหลับอยู่ในห้อง

“แย่นะครับ”  อยู่ ๆ ยามานากะก็เอ่ยขึ้น

“อะไรแย่?”

“ดึกป่านนี้แล้ว  ลูกชายหายออกมาอยู่ในที่แบบนี้ทั้งคน  แต่พ่อแม่ของซานาดะคุงกลับไม่ติดต่อมาเลย”

โอโนเสะชะงักเอกสารที่กำลังอ่านอยู่แล้วเหลือบมองยามานากะ  เลขา ฯ คนสนิทกำลังเหม่อมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่ผนัง  เที่ยงคืนกว่าแล้ว  แต่ไม่มีใครตามหาหรือเป็นห่วงเด็กหนุ่มที่นอนอยู่ในห้องของเขาเลย

โอโนเสะไม่แก้ตัวว่าพ่อแม่ของเด็กคงกำลังยุ่ง  เพราะเขารู้ดีว่ามันไม่ใช่  จากที่โทโมกิเคยเล่าให้ฟังก็บอกอะไรได้หลายอย่างอยู่แล้ว  โทโมกิถูกทอดทิ้งและไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่นานแล้ว  เพราะรู้แบบนั้นเขาจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กคนนี้สามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยตัวคนเดียวให้ได้  เขาไม่เคยอ้อมค้อมหรือปลอบประโลมโทโมกิเกินความจำเป็น  ด้วยคิดว่าโทโมกิจะต้องก้าวข้ามกำแพงตรงหน้านี้ไปให้ได้  มิฉะนั้นจะไม่สามารถมีชีวิตต่อไปตามลำพังได้  เขาให้ความช่วยเหลือโทโมกิได้เท่าที่เขาเคยให้กับคิริฮาระ  แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากจะชักจูงเด็กหนุ่มเข้ามาในเส้นทางเดียวกับคิริฮาระ  โทโมกิยังเด็กนัก  ควรจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้

“ไว้เสร็จแล้วค่อยไปส่งเขาที่บ้านก็แล้วกัน”  โอโนเสะตัดบทแล้วกลับไปทำงานต่อ

ยามานากะมองผู้ที่เป็นทั้งเจ้านายและน้าชายด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก  บางทีเขาอยากจะแนะนำอะไรบางอย่าง  แต่มันก็เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าจะพูดพล่อย ๆ ออกไปได้  คงต้องรอเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมแล้วปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่มันควรจะเป็น

...

อากาศเริ่มอุ่นขึ้นบ้างแล้วในตอนที่ครอบครัวซานาดะอยู่กันพร้อมหน้า  แต่บรรยากาศในห้องนั้นไม่ได้อบอุ่นเหมือนอากาศภายนอกเลย

“โทโมกิ  ตั้งแต่เทอมหน้าไปแกต้องไปเรียนที่นี่”  ผู้เป็นพ่อโยนเอกสารแนะนำโรงเรียนลงบนโต๊ะเตี้ยตรงหน้าโทโมกิที่นั่งอยู่บนโซฟาด้านตรงข้าม

ผู้เป็นแม่ที่นั่งอยู่บนโซฟาเดี่ยวอีกตัวจ้องเอกสารนั้นแล้วเบิกตากว้าง  “โรงเรียนหน้าตาแบบนี้มันแพงหูดับเลยนี่คุณ”

“แล้วไง  ก็จ่าย ๆ ไปเถอะน่า  คนรู้จักของผมแนะนำมา  พอลองดู ๆ แล้วมันก็น่าจะเหมาะกับไอ้ลูกชายของคุณด้วย”

คนได้ชื่อว่าเป็นแม่ของโทโมกิคว้าเอกสารใบบนสุดไปอ่าน  เด็กหนุ่มจึงกวาดตามองเอกสารที่เหลือซึ่งส่วนมากเป็นภาพถ่ายของโรงเรียนที่อยู่ท่ามกลางต้นไม้รายล้อม  มีอาคารเรียนและหอพักที่สวยงามครบครัน  แต่เมื่อดูจากกำแพงรั้วที่สูงและหนาแน่นแล้ว  โทโมกิก็บอกกับตัวเองว่านั่นคือเกาะกลางทะเลป่า...เป็นคุกที่พ่อจะเอาเขาไปลอยแพชัด ๆ

เขาคิดไว้แล้ว  มันคงไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แน่  แต่เอาเถอะ  แค่ถูกจับเข้าโรงเรียนประจำก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายนี่นะ  แถมบรรยากาศของโรงเรียนก็ดูดีทีเดียว  ได้ไปอยู่ท่ามกลางธรรมชาติแบบนั้นเขาคงสงบลงได้บ้างละมั้ง  ถ้าจะเสียดายก็มีแค่เรื่องที่เขาคงไม่ได้เจอโอโนเสะอีกเท่านั้นแหละ

หากสายตาก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อโรงเรียน  โทโมกิคว้าเอกสารขึ้นมาดูให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ตาฝาด  พออ่านได้ความแล้วความโกรธชนิดเลือดขึ้นหน้าก็ปะทุพล่านไปทั้งร่าง  โทโมกิลุกพรวดขึ้นแล้วปาเอกสารลงตรงหน้าพ่อด้วยท่าทางเอาเรื่อง

“หมายความว่าไง!?”

“หมายความอะไรของแก?”  ผู้เป็นพ่อจ้องตอบอย่างนึกฉุนอยู่ในใจเหมือนกัน

“ไอ้โรงเรียนบ้านี่มันหมายความว่าไง!?  สถานดัดสันดานใช่มั้ย?  พ่อจะส่งผมไปอยู่สถานดัดสันดานใช่มั้ย!?”  โทโมกิตะโกนใส่หน้า

ผู้เป็นแม่ที่ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกรีบดูเอกสารในมือ  เมื่อกี้เธอมัวแต่สนใจรายละเอียดเรื่องค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ จนลืมสนใจเรื่องโรงเรียนไปทั้งที่ชื่อโรงเรียนก็เขียนไว้หราบนปกหน้าอยู่แล้วว่า

“สถาบันบำบัดและดูแลพฤติกรรมเยาวชนเซนต์โจเซฟ”

ใบหน้าของเธอซีดเผือด  รีบหันขวับมามองหน้าสามีที่กำลังจ้องตากับลูกชายเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

“ก็แกทำตัวแบบนี้น่ะสิ  ฉันถึงได้จะส่งแกไปที่นั่น!”  เขาตวาดลั่น  “ใครมันสั่งมันสอนให้แกทำอย่างนี้กับพ่อวะ!  แกกล้าดียังไงโยนของใส่หน้าฉัน  ไอ้เด็กบ้า!!”

“พ่อเรอะ!?  คนอย่างคุณมันมีค่าพอจะให้ใครเรียกว่าพ่อหรือไง”  โทโมกิขึ้นเสียงอย่างไม่ยอมแพ้

ผู้ได้ชื่อว่าเป็นพ่อหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ  เขาชะโงกตัวข้ามโต๊ะมาตบโทโมกิจนถลาล้ม  แล้วหันไปตวาดเอากับภรรยา  “ดูมันนะ!  ลูกคุณน่ะ  ดูมันพูดกับผม  คุณเลี้ยงมันภาษาอะไร!?”

“อย่ามาว่าฉันนะ!!”  หญิงสาวตวาดแว้ด  ลุกพรวดขึ้นยืน  “จะมาโทษฉันไม่ได้นะ  โทโมกิก็เหมือนคุณนั่นแหละ  นิสัยเหมือนกันไม่มีผิด  ไอ้นิสัยเลว ๆ อะไรน่ะได้คุณมาทั้งนั้นแหละ  ไม่ใช่ความผิดของฉันนะ!!”

“นี่คุณว่าผมเหรอ!?”  เขาปราดเข้าไปหา  แต่เธอที่คุ้นชินกับพฤติกรรมของสามีอยู่แล้วหลบอย่างรวดเร็ว

“จะทำอะไรฉัน!?  ถ้าคุณตบฉันอีกคราวนี้ฉันจะเอาให้ตายเลย  เรื่องถึงศาลก็ให้มันถึงไปเลย!!”

โทโมกิที่ยังนั่งอยู่กับพื้นปล่อยให้เสียงพวกนั้นไหลผ่านหูไป  เขาฟังมามากพอแล้ว  เรื่องที่ว่าเขานิสัยเลวเหมือนใครหรือใครเลี้ยงเขามาให้เลวนั่นน่ะ...ไม่อยากจะบอกเลยว่าที่เขาเป็นอย่างนี้ก็เพราะทั้งสองคนนั่นแหละ  แต่ไม่ใช่เพราะว่าเขาถูกเลี้ยงมาแบบไหนหรือมีนิสัยเหมือนใครหรอกนะ  เพราะคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ไม่เคยสนใจเขาเลยต่างหาก  ในบ้านของเขาไม่เคยมีภาพถ่ายครอบครัว  ไม่ว่ามันจะเป็นภาพที่ถ่ายมาเพื่อโกหกตัวเองว่าครอบครัวของพวกเขาสมบูรณ์แบบหรืออะไรก็ตาม  ไม่เคยมีอ้อมกอดไม่ว่าจะจอมปลอมหรือเสแสร้ง...เขาเป็นเด็กที่ไม่มีใครต้องการมาตั้งแต่แรกแล้ว  และเขาไม่ได้ทำตัวแบบนี้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนไร้ความรับผิดชอบทั้งสองคนนี้เลยสักนิด  เขาเป็นอย่างนี้เพราะเขาอยากเป็น  เพราะไม่มีใครเคยบอกสอนหรือห้ามปรามอะไรเขาจึงทำทุกอย่างที่เขาอยากทำตามใจชอบ  ไม่เคยอยู่ในกฎเกณฑ์อะไรเพราะที่บ้านไม่เคยมีใครมากำหนดอะไรเขา  ไม่มีใครชื่นชมผลการเรียนของเขา  เขาจึงไม่สนใจที่จะเรียน  พวกครูก็เห็นว่าเขาเป็นแค่ขยะในโรงเรียนและพากันเอือมระอา  แต่นั่นจะแปลกอะไรในเมื่อที่บ้านเขาก็เป็นขยะที่ไม่มีใครเหลียวแลอยู่แล้ว

ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่เขาจะไม่มีวันยอมไปอยู่สถานดัดสันดานแบบนั้น  นิสัยร้ายกาจและแส่หาเรื่องอาจจะนำภัยมาถึงตัวเขาก็จริง  แต่มันก็ไม่ได้เลวร้ายถึงขนาดจะต้องโดนส่งไปอยู่ที่นั่น  เขาไม่เคยล้ำเส้นไม่เคยทำผิดกฎหมาย  อย่างน้อยโอโนเสะก็ไม่เคยบอกว่าเขาเป็นเด็กเลวก็แล้วกัน

โอโนเสะ...ใช่...ทั้งที่เป็นคนนอก  ทั้งที่รู้ว่าเขาโดนกระทำย่ำยีมาขนาดไหนก็ไม่เคยด่าว่าหรือมองเขาด้วยสายตารังเกียจเหมือนสองคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อแม่ของเขาเลย  ไม่ว่าเขาจะซมซานไปขอให้ช่วยปลดเปลื้องอารมณ์ให้ไม่รู้กี่ครั้งกี่หน  โอโนเสะก็ไม่เคยว่าอะไรสักคำนอกจากปลอบโยนและให้กำลังใจเขา...แล้วเขาผิดอะไรถึงจะต้องไปอยู่สถานดัดสันดานนั่น

“หุบปากได้แล้ว!!”

โทโมกิตะโกนลั่นจนพ่อกับแม่ที่ด่าทอกันอยู่ชะงัก  เด็กหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วจ้องทั้งสองด้วยสายตาแข็งกร้าว

“ผมจะไม่ไปอยู่โรงเรียนบ้า ๆ นั่น  และคุณก็ไม่มีสิทธิ์บังคับผม”

“ไม่มีสิทธิ์เรอะ!?  ฉันเป็นพ่อแกนะ  ฉันมีสิทธิ์จะสั่งให้แกทำอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ  และแกต้องทำตาม!”  พ่อย่างสามขุมเข้ามาหาโทโมกิ

“ไม่  คนอย่างคุณผมไม่นับเป็นพ่อหรอก  ก็แค่ผู้ชายขี้เอาที่ทำให้ผมเกิดมาเท่านั้นเอง”

ถ้อยคำนั้นคงบาดเข้าไปในหัวใจของผู้ชายคนนั้น  รู้สึกตัวอีกทีโทโมกิก็กองอยู่กับพื้นและโดนตบไม่นับ  มิไยที่ผู้เป็นแม่จะพยายามเข้ามาห้าม  แต่สามีของเธอก็หน้ามืดเต็มที่จนไม่ฟังเสียงอะไรแล้ว  เขากระหน่ำทุบตีเด็กหนุ่มเต็มแรงแค้น

บาดแผลแค่นี้มันเด็ก ๆ...เทียบกับที่โดนวายะเฆี่ยนด้วยเข็มขัดหนังแล้วมันเป็นแค่เรื่องเล็กนิดเดียว  จริงอยู่ว่ามันเจ็บ  แต่ไม่ได้ครึ่งของความทรมานในหัวใจที่วายะเคยมอบให้

ในหัวใจของโทโมกิตอนนี้ว่างเปล่าและมืดดำเหมือนบ่อลึกไร้ก้น  ไม่มีความเจ็บปวด  ไม่มีความโกรธแค้น...ไม่มีอะไรเลย  ไร้ซึ่งความรู้สึกทุกอย่าง...กระทั่งเสียงหนึ่งดังขึ้นใกล้ตัว

“โทโมกิคุง  ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

โทโมกิเงยหน้าขึ้นตามเสียงที่เริ่มคุ้นเคยนั้น  ตรงหน้าคือโอโนเสะกับยามานากะ  เขาขยับปากอยากจะตอบแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่นิ่งเงียบ

“เกิดอะไรขึ้นน่ะ  ทำไมหน้าตาถึงเป็นแบบนี้!?”  โอโนเสะรีบนั่งลงแล้วประคองใบหน้าของเด็กหนุ่มไว้

หน้าตาเขาเป็นแบบไหนเหรอ...ไม่รู้สิ  เขาไม่รู้อะไรเลย...บางทีคงเพราะพ่อตบเขาแรงเกินไปละมั้ง  มันคงมีรอยช้ำ...ใช่  เขาโดนพ่อตี  จนหนำใจแล้วพ่อก็ออกจากบ้านไป  แม่ได้แต่ร้องไห้แล้วก็ทำอะไรไม่ถูกอยู่อย่างนั้น  ไม่ได้ช่วยอะไรเขาเลย  ดังนั้นเขาจึงออกมาหาโอโนเสะ...เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามาถึงที่นี่ได้อย่างไร  บางทีอาจจะเป็นแท็กซี่  ไม่รู้ว่าตัวเองเดินผ่านซอกเล็ก ๆ ที่หวาดกลัวนักหนานั่นมาได้อย่างไร  เขารู้แค่ว่าเดินผ่านยามและขึ้นลิฟท์มาข้างบนนี้  แต่โอโนเสะไม่อยู่และเขาไม่มีรหัสเข้าไปในห้อง  จึงได้นั่งรออยู่ที่หน้าประตูนิรภัยนี้  แม้ไม่รู้ว่าโอโนเสะจะมาหรือเปล่า...เขารู้แค่นั้น

ในสมองและดวงตาที่ว่างเปล่า  โทโมกิพยายามใช้ความคิด...เขามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากคุยกับโอโนเสะ  แต่มันเรื่องอะไรกันนะ...เรื่องสำคัญมาก  ทำให้ต้องรีบมาที่นี่ทั้งที่เห็นอยู่แล้วว่าตัวเองมีเลือดออกจากที่ไหนสักแห่ง  อาจจะเป็นในปาก...เรื่องอะไรกันนะ  เรื่องที่พ่อทำร้ายเขางั้นหรือ...ไม่ใช่หรอก  นั่นมันแค่เรื่องเล็ก ๆ ไม่ได้สำคัญอะไรเลย...หรือว่าเรื่องที่พ่อจะส่งเขาไปเข้าสถานดัดสันดาน  อาจจะเป็นได้  แต่เขารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องใหญ่กว่านี้  เรื่องที่ต้องบอกกับโอโนเสะโดยตรง  เกี่ยวข้องกับโอโนเสะโดยตรง...มันติดอยู่ที่ริมฝีปากนี่เอง...เรื่องที่อยากขอร้อง...

ริมฝีปากที่กรังไปด้วยเลือดแห้ง ๆ ขยับน้อย ๆ เป็นเสียงกระซิบที่แทบจะไม่ได้ยินจนโอโนเสะต้องเงี่ยหูฟัง


“ให้ผม...เป็นลูกคุณได้มั้ยครับ...”


salapaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #371 เมื่อ09-03-2012 00:14:31 »

มาบ่อยๆๆนะคะ  อยากอ่านมากเลยเรื่องนี้ 
ความรู้สึกเหมือนอยุ่ในสถานการณ์จริง

wolfram

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #372 เมื่อ09-03-2012 00:17:48 »

โทโมะ นายรีบๆหายหลอนซะทีสิ!!
ชุนก็อย่ารุนแรงกับโทโมะมากนักสิ!!

สู้ๆนะคะ!!  :กอด1:

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ BBnuna

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 299
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #373 เมื่อ09-03-2012 01:11:21 »

 :กอด1: :กอด1:
ติดตามๆ ถึงโทโมกิจะน่าสงสารก็เถอะ แต่ก็สงสารวายะ(?)ด้วยแหะ

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #374 เมื่อ09-03-2012 01:44:02 »

อารายกานเนี่ย......โดนแล้วโดนอีก โทโมะสู้ๆน้อ

ออฟไลน์ ~มือวางอันดับ1~

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #375 เมื่อ09-03-2012 01:54:54 »

+1 ชอบอ่ะ เพราะ แต่ละละคนมีเรื่องที่กลัวกันทั้งนั้น แล้วเรา ต้องผ่านมันไปให้ได้ ทั้งวายะและโทโม๊ะ :z2:สู้ๆ น่ะ

ออฟไลน์ elieanna

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #376 เมื่อ09-03-2012 02:08:36 »

กรีดดดดด
ชอบวายะอ่ะ SM :z3:

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #377 เมื่อ09-03-2012 06:57:54 »

ใกล้ถึงปัจจุบันแล้วป่ะ
สงสารโทโมะ

Minako

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #378 เมื่อ09-03-2012 07:17:25 »

ชอบแนวนี้มากๆอ่ะ อยากได้ อยากซื้อ Come closer รู้สึกจะรู้ตัวว่าชอบช้าไป T^T สอยไม่ทัน
ถ้าเล่มนี้ตีพิมพ์ จองคนแรก 5555  :impress2:
ปล. อยากได้เล่มก่อนๆด้วยอ่ะ  :sad4:

ออฟไลน์ KOKURO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 331
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-2
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #379 เมื่อ09-03-2012 07:33:54 »

ชอบแนวนี้มากๆอ่ะ อยากได้ อยากซื้อ Come closer รู้สึกจะรู้ตัวว่าชอบช้าไป T^T สอยไม่ทัน
ถ้าเล่มนี้ตีพิมพ์ จองคนแรก 5555  :impress2:
ปล. อยากได้เล่มก่อนๆด้วยอ่ะ  :sad4:

Come closer ยังมีให้สอยนะครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
« ตอบ #379 เมื่อ: 09-03-2012 07:33:54 »





Minako

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #380 เมื่อ09-03-2012 07:36:34 »

Come closer ยังมีให้สอยนะครับ

>< เย่ ........แต่ต้องรออีกราวๆเกือบสี่เดือนเลยอ่ะ ฮือๆ T_T
ว่าแต่ ราคาประมาณเท่าไรหรอคะ?

ออฟไลน์ Guill

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 678
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #381 เมื่อ09-03-2012 08:41:55 »

มาร้อ...มารอ

tonkhaw

  • บุคคลทั่วไป
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #382 เมื่อ09-03-2012 08:57:01 »

โอ้ น๋อ คุณพ่อ คุณเเม่ ประเสริฐที่สุดดดด

ออฟไลน์ biw43

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #383 เมื่อ09-03-2012 11:27:21 »

โกรธพ่อโทโมะ แทนโทโมะ  :fire: :fire: :fire:
รุนแรงไปป้ะ '___________________'
ใกล้จะกลับมาความจริงแล้วคนเขียน เย่ ๆ
เรื่องนี้ประมาณกี่ตอบจบค่ะ ?

ขอบคุณมากๆค่า  :-[

ออฟไลน์ janamanza

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 649
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #384 เมื่อ09-03-2012 11:48:45 »

บีบคั้นหัวใจรุนแรง 
ขอบคุณที่มาต่อนะ  คิดถึงคนเขียนมากๆ

ออฟไลน์ jiki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1567
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +175/-2
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #385 เมื่อ09-03-2012 12:02:23 »

ลูกเจี๊ยบอยากได้พ่อใหม่แล้ว เย้ๆ แต่ว่าพ่อแม่เก่าคงฟันค่าตัวลูกหัวแบะเลยเนี่ย
แต่ลูกเจี๊ยบที่อยู่บ้านพังพินาศอย่างนั้น มันน่าสงสารนี่นา

โอ๋ๆ รักนะ โทโมะ

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #386 เมื่อ09-03-2012 12:09:18 »

อ่านแล้วก็บีบหัวใจ เฮ้อ  :pig4:

ออฟไลน์ natalee22

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +86/-3
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #387 เมื่อ09-03-2012 12:56:45 »

พ่อกับแม่โทโมะที่เลวสุดจะบรรยายจริงๆ แย่ที่สุดเลย ทำแบบนั้นกับลูกตัวเองได้ยังไง

ออฟไลน์ tong_pub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 356
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-5
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #388 เมื่อ09-03-2012 14:14:00 »

เหมือนจะยังไม่จบมั้ย?
มันไม่มีคำว่า
ติดตามตอนต่อไปอ่ะ T[]T

ออฟไลน์ ชะรอยน้อย

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 973
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-0
Re: All I want 14 (หน้า13) 08/03/55
«ตอบ #389 เมื่อ09-03-2012 14:20:39 »

อ่านแล้วสงสารวายะ กับ โทโมะ
วายะก็ดูจะมีปมลึกเหมือนกันแถมล่าสุดไปบีบคอไว้เกือบตาย กว่าจะหายกลัวคงเลยปัจจุบันไปอีก = ="

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด