มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: มหาหงส์ บทที่ ๓๗ : คอย (ครึ่งหลัง๒๐%) [๒๔ ก.ย. ๒๕๖๒]  (อ่าน 710928 ครั้ง)

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
อ่านแล้วมันตะหงิดในใจนิดๆ ตกลงว่าคุณชายกับอาจารย์ นอนด้วยกันแล้ว หรือ แค่ช่วยกันช่วยตัวเอง
แบบ...เสร็จเพราะมือ มันสงสัยนิดๆ

ส่วนน้องจ้อยกับพี่สิงห์ เอาเถอะ เด่วพอรู้ว่าน้องจ้อยเป็นลูกใครที่นี้ล่ะ พี่สิงห์จะกลายเป็นแมวนอนหวด
เพราะทำเค้าไว้เยอะ จะโดนเอาคืนแบบจัดหนัก

รออยู้่นะค่ะ หายไปนานคิดถึงจังเลย ^^

faratellll

  • บุคคลทั่วไป
 :m25: คุณชายยยเล็กนะคุณชายเกือบไปละไหมเนี่ย แต่ก้อหวานดี  :o8:

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
บทที่ ๑๔

ดอกไม้ยังปั่นไม่เสร็จเลยค่ะ

ขอโทษคนอ่านทุกคนด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆ :m5:
ช่วงนี้ทั้งงานที่บริษัทและงานฟรีแลนซ์เยอะมากๆ
อยากแยกร่างจริงๆ ค่ะ  :z3:

ขอเลื่อนอัพบทที่ ๑๔ เป็นวันเสาร์หน้านะคะ

ขอบคุณทุกๆคอมเม้น ขอบคุณคนอ่านทุกคน
และขอโทษที่ทำให้รออีก ๑ อาทิตย์นะคะ

(เพราะเจ้าตัวนี้แหละ ตั้งแต่มาอยู่ด้วยแม่มันก็งานชุ๊มชุม  :กอด1:)

ออฟไลน์ jeaby@_@

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1160
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +454/-3
ไม่เป็นไรค่ะ รอได้เสมอ

ออฟไลน์ shiki senri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
เย้พี่ดอกไม้ แค่พี่มาคอยบอกข่าวคราวให้เรารู้ว่าพี่ยังอยู่เสมอแค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ รอได้เสมอ ><
 ตอนที่ 14  พี่อย่าลืมเซอร์ไพรส์นะคะ ขอแบบไม่เศร้ามากก้พอ คริคริ  ขอบคุณค่ะ

Zymphoniz

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวจะไปย่องขโมยแมวมาซะ พี่จี้จะได้มีเวลาแต่งนิยาย 555

รอค่ะรอ  :กอด1:

ออฟไลน์ CoMa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
รอได้ค่ะรอได้^^
แมวเหมียวน่ารักมากๆ>_<
เห็นแล้วอยากอุ้มกลับบ้านจังสีเดียวกับตัวที่บ้านเลยได้จับมันคู่กัน555+

ออฟไลน์ kunchan

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
รอได้ค่ะ ปล.แมวน่ากินนะค่ะ

shabu

  • บุคคลทั่วไป
ว้าว แมวน้อยร้อยหมื่นชาติ ตัวจริงรึนี่ ^^

oattie

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






appletokki

  • บุคคลทั่วไป
แมวน่ารักจังเลยค่ะ

ares_jum

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:

ไม่เป็นไรนะคะ ไม่ว่าอะไรหรอก

เพราะช่วงนี้หนูก็ไม่ว่างเหมือนกัน   Final !!!!!   :sad4:


เอ๊ะ !! แล้วชั้นมาทำอะไรตรงนี้ ไม่อ่านหนังสือรึไงย่ะ

ไปละ ฟิ้วววววว

saylmya

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้เป็นครั้งแรก แล้วนี่ก็เป็นนิยายย้อนยุคเรื่องแรกที่อ่านด้วย
อ่านรวดเดียวเลยเพราะสนุกมากๆ รู้สึกพลาดที่ไม่ได้ตามอ่านตั้งแต่แรก
เราชอบสำนวนของคุณดอกไม้นะคะ
อีกอย่างตอนนี้เราหลงรักคุณหนูเล็กเข้าเต็มเปาเลย

 :L2: :L2: :L2:

shabu

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วมันตะหงิดในใจนิดๆ ตกลงว่าคุณชายกับอาจารย์ นอนด้วยกันแล้ว หรือ แค่ช่วยกันช่วยตัวเอง
แบบ...เสร็จเพราะมือ มันสงสัยนิดๆ

ฮาเม้นนี้น่ะค่ะ ทำให้เราต้องกลับไปอ่านอีกรอบ<<<จริงจังมาก
อันนี้เลยคิดว่าต้องรอดูอาการชายเล็กในตอนหน้าน่ะค่ะ ถึงจะชัดเจน 555

faratellll

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Phantom

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 210
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-0

แมวสวยมากกกก ชื่อมหาหงส์ หรือเปล่า
เอาใจช่วยให้เคลียร์งานเสร็จไวไวนะ

ตอนที่แล้วเราอ่านแต่พาร์ทของอาจารย์กับคุณชาย
ใจไม่เด็ดพอจะอ่านพาร์ทของจ้อย แหะ แหะ

รอเรื่องราวคลี่คลายหายโศกา ค่อยอ่านรวดเีดียว
ขอบคุณนะคุณดอกไม้
 :L1:

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
อ้างถึง
อ้างจาก: pure_ka ที่ 03-03-2012 13:40:48 
อ่านแล้วมันตะหงิดในใจนิดๆ ตกลงว่าคุณชายกับอาจารย์ นอนด้วยกันแล้ว หรือ แค่ช่วยกันช่วยตัวเอง
แบบ...เสร็จเพราะมือ มันสงสัยนิดๆ

ฮาเม้นนี้น่ะค่ะ ทำให้เราต้องกลับไปอ่านอีกรอบ<<<จริงจังมาก
อันนี้เลยคิดว่าต้องรอดูอาการชายเล็กในตอนหน้าน่ะค่ะ ถึงจะชัดเจน 555

กร๊ากกกกกกกกกก

รีบมาตอบให้ก่อนเลยนะคะเนี่ย เดี๋ยวไม่แล้วใจ
ยังค่ะ ยังไม่ได้กัน อาจารย์แค่ใช้มือให้ตัวเองและคุณชายเฉยๆ จ้า  :-[

แค่ฝนตก พายุมา แต่สำเภายังไม่ได้ลัดเข้าคลองเลย (ว้าย เขิลล์ :o8:)

(คนเขียนใช้สำนวนเข้าใจยากไปหรือเปล่าคะ งั้นเดี๋ยวจะพยายามปรับปรุงใหม่ ให้เข้าใจง่ายกว่านี้นะคะ^^)

ออฟไลน์ sine

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 321
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +129/-3
นานๆเข้าเล้าที  มาเจอเรื่องที่แสนจะถูกใจเข้าซะแล้วซิ  คือเราชอบอ่านแนวพีเรียดนะเพราะเรื่องราวมันค่อนข้างแบบไทยๆดี (ลูกทุ่งว่างั้น?)  นานๆจะมีแนวนี้ออกมา  ยิ่งเขียนดีแบบนี้เลยยิ่งถูกใจคูณสองค่ะ^^ แนวนี้มันยากทั้งการดำเนินเรื่องและการใช้ภาษา ประเพณีเก่าแก่และอะไรอีกมากมายเลย  นับถือคนแต่งจ้า^^

เข้ามาก็อ่านรวดเดียวเลย  มีความสุขจัง^^
ตอนนี้พอคลายใจเรื่องของอาจารย์กะคุณชายไปบ้างแล้ว  เพราะอย่างน้อยก้รู้ว่าเขาใจตรงกันและยืนยันว่าจะรอให้หัวใจของอีกคนพร้อมที่จะรัก... แต่อีกคู่หนึ่งนี่ซิ...โถ...ไม่รู้ว่าจะสงสารใครดีระหว่างพ่อนักเลงปากแข็งกับคนตัวเล็กใจแข็ง ดราม่าชวนน้ำตาไหลนะคะงานนี้  คือเข้าใจจ้อยนะว่าความเจ็บที่ได้รับในอดีตมันฝังใจให้เกลียดชัง  กับอีกคนที่รักแต่ไม่รู้จะแสดงออกอย่างไรให้รู้ว่ารักเนี่ย...อืม  ทรมานทั้งคู่แฮะ  คราวนี้ไม่รู้ว่าเรื่องราวจะเลวร้ายกว่าดิมไหมเพราะไม่อยากเดาเรื่องราวล่วงหน้า  รอให้คนเขียนมาเฉลยดีกว่าค่ะ  ลุ้นๆ^^

เอาใจช่วยและให้กำลังใจค่ะ^^

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
กร๊ากกกกกกกกกก

รีบมาตอบให้ก่อนเลยนะคะเนี่ย เดี๋ยวไม่แล้วใจ
ยังค่ะ ยังไม่ได้กัน อาจารย์แค่ใช้มือให้ตัวเองและคุณชายเฉยๆ จ้า  :-[

แค่ฝนตก พายุมา แต่สำเภายังไม่ได้ลัดเข้าคลองเลย (ว้าย เขิลล์ :o8:)

(คนเขียนใช้สำนวนเข้าใจยากไปหรือเปล่าคะ งั้นเดี๋ยวจะพยายามปรับปรุงใหม่ ให้เข้าใจง่ายกว่านี้นะคะ^^)


เคยสงสัยเหมือนกันครับ เวลาอ่านวรรณคดีไทย ตอนพระ-นางได้กัน มักจะอธิบายด้วยสภาพฝนฟ้าอากาศเหมือนกัน

ตอนนั้นเด็กๆ อ่านไปก็ไม่รู้ว่าสื่อถึงอะไร พอแก่แล้ว....อ๋อ มันอย่างนี้นี่เอง  :z1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04-03-2012 07:07:16 โดย PetitDragon »

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
ไม่ต้องปรับปรุงหรอกครับ อย่างนี้แหละดีแล้ว ผมเข้าใจครับ
รอไดซำเหมือฮับ
แมวน้อยน่ารักอ่ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Pithchayoot

  • พิชญ์ชยุตม์
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-2

nan_chp

  • บุคคลทั่วไป
รอด้วยคนคร้าบบบบ

ออฟไลน์ shiki senri

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 54
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
รอคอยค่ะ อ้ากกกก ไม่ไหวแล้ววว อยากมี time machine เร่งไปวันเสาร์แล้วอ่ะ >,<

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1

บทที่ ๑๔

โจรปล้นจูบ


นี่หรือคือโจรที่คอยปล้นจูบหญิง
ไม่จริง  สาบานก็ได้ไม่เคย
ไม่เคยจริงนะ?
ไม่เคย
ไม่เคยสักนิด?
ไม่เคย
อ๋อ..นิดๆ ไม่เคยเพราะเคยมามากมาย*




หม่อมราชวงศ์เลอมานฝันประหลาด
   
สถานที่.. ที่ไหนสักแห่ง  มีดอกไม้มากมายเหลือเกิน  สวย..สดสีเจิดจ้าสาดแสงแข่งกัน 

“เล็ก..”

แว่วเสียงทุ้มละมุนเรียกหา  เด็กหนุ่มก้าวเท้าตามต้นเสียงไป  ลัดเลาะเข้าป่าเกลื่อนกล่นลูกไม้  ในห้วงอากาศบรรจุกลิ่นหอม  เถาวัลย์พันเกี่ยวเป็นเกลียวมาลัย  ในเงื้อมเงาภูผาใหญ่กังวานด้วยเสียงน้ำซ่านกระทบ  ดังเป็นจังหวะ  ผีเสื้อน้อยบินมาเกาะตรงอกซ้าย ขยับปีกไหวระรัว ก่อนผละบินหนีจาก  เลอมานไล่ตามไขว่คว้า  พลัดตกลงในสระบัวเย็นชื่น 
   
สระน้อยกลับกลายเป็นห้วงทะเล  ร่างเขาจมดิ่งลงสู่ก้นบึ้ง  หัวใจวูบหวิวระส่าย  สำลัก..แต่ไม่ยักทรมาน  ก่อนถูกมือที่มองไม่เห็นฉุดร่างลิ่วถลาขึ้นสู่ผิวน้ำ  ลอยละลิ่วสู่ท้องฟ้าเบื้องบน  ปุยเมฆกลั่นฝนเป็นหยดพรั่งพรู 
   
เขาซุกกายใต้ซอกเมฆนุ่มจนฝนหยุด  แสงอาทิตย์ส่องสายประกายสวย  เกิดสายรุ้งพาดผ่าน  นกน้อยตัวหนึ่งบินมาเกาะไหล่  กดจูบไซ้ซอกคอ..

เย็นเจี๊ยบ!

เลอมานสะดุ้งตื่น  ลืมตาโพลง  สัมผัสเย็นเฉียบที่ลำคอยังไม่จางหาย  สิ่งแรกที่เห็นคือแดดจ้าสาดส่องลอดม่านลูกไม้พลิ้ว  ตะเพียนน้อยสองตัวแหวกว่ายอยู่ใต้กรอบหน้าต่าง
   
“ตื่นแล้วหรือ” เสียงทุ้มนุ่มอย่างในฝันดังขึ้นข้างหู  เขาหันไปมองช้าๆ  เห็นอาจารย์นิ่งมองมาด้วยสายตาที่อุ่นล้ำกว่าแสงตะวัน

เขาขยับปาก.. แต่ไม่มีเสียงใดเล็ดรอด  ปากคอแห้งผากดั่งกลั้วเม็ดทราย 

คนึงวางช้อนสแตนเลสแช่เย็นในมือลง  รอยจูบแดงช้ำยังติดตรึงอยู่บนเรียวคอขาวผ่อง  สงสัยเมื่อคืนเขาจงใจซ้ำรอยคนอื่นรุนแรงไปหน่อย  มันถึงยิ่งแดงช้ำเกือบม่วงเอาตอนเช้าแบบนี้  กำลังใช้ช้อนเย็นๆ แตะรอยช้ำเพื่อกระจายเลือดคั่งออกให้จางมากที่สุดอยู่ดีๆ  ลูกศิษย์ก็ลืมตาขึ้นเสียก่อน
   
เลอมานพยายามจะลุกนั่ง  แต่แล้วกลับรู้สึกหัวหนักอึ้งจนต้องกุมขมับ  อาจารย์ขยับเข้าประคองศิษย์เอนซบแนบอก  รินชาร้อนจากปั้นน้ำบนตั่งเล็กลงถ้วยกังไส  เป่าไล่ไอร้อนก่อนยื่นจรดริมฝีปากแห้งผาก บรรจงป้อนอย่างนุ่มนวล 

ชาจีนหอมกรุ่นกำซาบผ่านลำคอ  คุณชายกระแอมไอ  ค่อยมีเสียงขึ้นทีละนิด  อาจารย์ผละออกประคองร่างเล็กนั่งเอนพิงหมอนกับหัวเตียง  มืออุ่นเกลี่ยเส้นผมนุ่มที่ยุ่งเหยิงปรกหน้าผากออก  อาการปวดหัวจี๊ดจู่โจมจนเลอมานต้องยกมือกุมขมับ
   
“ปวดหัวหรือ  ปวดมากไหม” เสียงอาจารย์ดูตระหนก  หลังมือใหญ่ไล่แตะหน้าผาก สองแก้ม ซอกคอให้วุ่น  ก่อนถอนใจโล่งอกเมื่อไม่ได้มีอุณหภูมิสูงจัดอย่างที่นึกกลัว
   
ศิษย์พยักหน้าเชื่องช้าแทนคำตอบ  นัยน์ตาแดงก่ำมองอาจารย์แวบหนึ่ง  ก่อนก้มหน้าม่อยอย่างสำนึกผิด 
   
“เมื่อคืนนี้.. เล็กเมามาก” แม้น้ำเสียงทุ้มนั้นจะอ่อนเอื้อ  ไม่มีความขุ่นเคืองปนอยู่แม้แต่น้อย  แต่เลอมานก็ยังคงรู้สึกผิดในสิ่งที่ตนทำลงไป

เขาจำเหตุการณ์เมื่อคืนได้ไม่ค่อยดีนัก  ความทรงจำลางเลือนเหมือนท้องฟ้าคลุ้มหมอก  จำได้เพียงนายลอยบอกว่าจะพามาส่งโรงเรียน  แต่แล้วกลับพาเขาไปที่ซ่อง  คะยั้นคะยอให้ดื่มเหล้า  พอเขาปฏิเสธก็ทำหน้าคล้ายจะดูถูก  เขาเลยต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าตนก็เป็นชายชาติคนหนึ่ง  ครั้นพอเหล้าเข้าปากสักสี่ห้าแก้ว  ทุกอย่างก็พร่าเลือนไปหมด   
   
จากนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง  เขาจำไม่ได้เลยจริงๆ 
   
แม้จำไม่ได้  หากสัมผัสอ่อนหวาน  อารมณ์สะท้านหวิวจากฝันประหลาดยังตราตรึง  สับสนจนไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันหรือความจริงกันแน่ 

“ผม.. กลับมาได้ยังไง” เสียงแหบพร่าหล่นจากปากซีดเผือด  สายตาจับจ้องมือตนเองที่กำผ้าห่มแน่นจนข้อนิ้วขาว 
“จำไม่ได้หรือ” คนึงวางมือลงบนศีรษะทุยสวย  ลูบผมสีอ่อนแผ่วเบา 
“อาจารย์.. ผมขอโทษ” ศิษย์พึมพำทั้งดวงตาแดงก่ำ  มือกำแน่นจนสั่นสะท้าน “มันมืด  มันเงียบ  ไม่มีใครเลย  เขาบอกว่าจะพามาส่ง ผมก็เลย..”
   
พูดยังไม่ทันจบ  เลอมานมีอันต้องสะดุ้งเมื่อมือใหญ่คว้ามือเขาไปกุมไว้ 
   
“ไม่เป็นไรครับ” ถ้อยคำปลอบประโลมดั่งน้ำใสเย็นรินรดหัวใจร้อนรุ่ม  ดวงตาสีนิลแสนอ่อนโยนที่จ้องมองมา  ราวมีมนต์สะกดตรึงสายตาเขาไว้จนไม่อาจละ  บีบมือเขาแน่นอย่างจะย้ำคำมั่น “ฟังครูนะ.. เมื่อคืน.. ครูไปรับเล็กที่นั่น  พาเล็กกลับมา  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก.. ไม่มี..”

“ผมไม่ได้.. ทำตัวไม่ดีกับอาจารย์ใช่ไหม” ศิษย์ถามอ้อมแอ้ม  รู้ตัวเองดีว่าพอเหล้าเข้าปากแล้วจะเป็นอย่างไร  ดูจากคราวก่อนที่ถูกเฆี่ยนสามไม้นั่นสิ  ไหนจะตอนไปกรุงเทพนั่นอีก  อาจารย์โกรธจนถึงขั้นตัดครูตัดศิษย์กันเลยทีเดียว 
   
แต่อาจารย์กลับส่ายหน้ายิ้มเรื่อ  จะไม่ให้เขางงได้หรือ
   
“ไม่เลย  เมื่อคืนนี้..” หากแดดเช้าไม่หลอกตา  คล้ายเขาเห็นโหนกแก้มอาจารย์ขึ้นสีเรื่อ “เล็กเป็นเด็กดี”

สองสายตาประสานกันชั่วขณะ  จนกระทั่งคนึงกระแอมไอ  เปลี่ยนหัวข้อสนทนา 

“เล็กไม่สบาย  วันนี้ไม่ต้องไปสอนก็ได้” เสียงนุ่มเอ่ยแผ่ว “ครูก็ลาเหมือนกัน  วันนี้จะไม่ไปไหน  จะเฝ้าอยู่ข้างๆ เล็กทั้งวัน”

ริมฝีปากได้รูปหยักยิ้มเมื่อเห็นเด็กหนุ่มสูงศักดิ์พยักหน้าอย่างว่าง่าย  มือใหญ่ลูบซ้ำที่กลุ่มผมนุ่มละเอียด 

ข่าวเสื่อมเสียของคุณชายเดินทางเข้าหูเขาแต่เช้า  ที่โรงอาหารทั้งนักเรียนและอาจารย์ก็ลือกันให้แซ่ดเรื่องอาจารย์ฝึกสอนคนใหม่ดอดไปเที่ยวซ่อง  แม้แต่ตัวเขาเองยังถูกอาจารย์ใหญ่เรียกตัวไปตำหนิเรื่องนี้ตั้งแต่เช้า  ถูกกำชับย้ำหัวตะปูแน่นหนาว่าให้ดูแลคุณชายให้ดีกว่านี้
   
คนึงยิ้มจาง  รสชาติที่ไหลเวียนอยู่ในความทรงจำยังตรึงตรา  ปลายนิ้วเกลี่ยไล้แก้มขาวที่ดูเผือดไป  ความจริง.. ถึงอาจารย์ใหญ่จะไม่บอก  เขาก็ตั้งใจจะดูแลคนๆ นี้ให้ดีที่สุด  จะถนอมกาย ถนอมใจ  แม้หากเป็นไปได้.. ก็จะไม่ปล่อยให้คลาดสายตาอีกเลย 

***************************

เมื่อหลายปีก่อนจ้อยป่วยหนัก  ยายอุ้มจ้อยแนบอกพาไปขอยืมเงินคุณนายพูนทรัพย์  จ้อยต้องนอนโรงพยาบาลนานเป็นเดือนกว่าจะหาย  ค่าหมอค่ายาก็แพงเหลือใจ  สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นคือหนี้ก้อนใหญ่  แรกเริ่มเดิมทีเป็นจำนวนเงินแค่หลักพัน  แต่ครั้นยายหาเงินไปส่งดอกไม่ทัน  หนี้ก็ทบต้นทบดอกไปเรื่อยๆ  กินระยะเวลานานร่วมสิบปี  ศิริรวมหนี้ที่จ้อยกับยายต้องหามาชดใช้นับเป็นเงินร่วมสองหมื่นบาท
   
จ้อยจะไปหาเงินมากขนาดนั้นมาจากไหน

มือขาวยกขึ้นปาดเหงื่อที่ไหลอาบหน้า  ระมัดระวังไม่ให้ฟองสบู่ที่เปื้อนเต็มมือกระเด็นเข้าตา  ร่างเล็กนั่งคุดคู้บนเก้าอี้ตัวเล็กล้างจานชามอยู่หลังร้าน  นานๆ ทีก็มีเสียงเรียกให้ช่วยยกอาหารไปส่งตามโต๊ะ
   
เวลากระชั้นเข้ามาทุกที  จ้อยไม่หวังว่าจะมีเงินก้อนใหญ่ไปคืนไอ้สิงห์หรอก  แต่อย่างน้อยขอให้มีเงินพอส่งดอก  แล้วค่อยไปขอร้องคุณนายพูนทรัพย์อีกที 
   
ถึงกระนั้น.. แค่ค่าดอกก็หายากจนเลือดตาแทบกระเด็น  เช้ามืด..จ้อยไปขายผักกับยายที่ตลาด  พอตกเย็น..แทนที่จะอ่านหนังสือหรือทำรายงานเช่นทุกที  จ้อยก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้ามุ่งมาตลาด  มีห้องแถวในตลาดอยู่หลายแถว  และห้องหนึ่งเป็นร้านขายข้าวแกง  จ้อยมารับจ้างล้างจานที่ร้านข้าวแกงเจ๊เน้ยนี่ละ 

แม้ค่าแรงจะน้อยนิด  แต่ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย 

“จ้อย! มาช่วยยกกับแกล้มไปส่งที” เสียงเจ๊เน้ยจากในครัวร้องเรียก  หนุ่มน้อยรีบล้างมือล้างไม้ เช็ดมือกับชายเสื้อ ลุกขึ้นเดินไปรับจานจากในครัว  หากพอเห็นโต๊ะที่เจ๊บุ้ยปากให้เท่านั้นละ.. มือไม้จ้อยก็เริ่มเย็นเฉียบ  กัดปากแน่นอย่างลืมตัว
   
ไอ้สิงห์ ไอ้ลอย ไอ้หมาน ไอ้เลิศ กำลังคุยกันออกรสออกชาติ!

จ้อยพยายามสูดหายใจเข้าปอดลึก  บังคับมือไม้ไม่ให้สั่นเทา  ยามเดินเข้าไปวางจานยำหนังหมูบนโต๊ะพวกมัน  ทันทีที่เห็น  ไอ้พวกจิ๊กโก๋พากันหัวเราะลั่นสนั่นร้าน     
   
อ้อ..ไม่สิ  ยกเว้นไอ้สิงห์  ที่เอาแต่จ้องหน้าเขานิ่งงัน  ผ้าพันแผลบนหัวมันหายไปแล้ว  เหลือเพียงพลาสเตอร์สีเนื้อแผ่นเล็กๆ ติดอยู่ตรงหางคิ้ว 
   
“ฮ่าๆๆๆ มาหาเงินใช้หนี้หรือจ๊ะครู” ไอ้หมานทำเสียงแหลมเสียดแทงแก้วหู 

“ทำงานแบบนี้  กี่ชาติจะหาเงินหมื่นได้วะ” ไอ้หมูตอนเลิศค่อนขอดทั้งที่ยังเคี้ยวอยู่เต็มปาก 

“ลูกจ้างร้านนี้ หน้าตาน่ารักดีแท้” ไอ้ลอยหนักสุด  นอกจากคำพูดแล้ว  สายตามัน..มือไม้มัน..หยาบโลนจาบจ้วง น่าขยะแขยง  จ้อยปัดมือใหญ่ที่ยื่นมาลูบแก้มออกอย่างแรง  คนตัวโตกลับจุ๊ปากเหมือนปลอบเด็ก  แล้วก็พากันหัวเราะครืนจนโต๊ะอื่นหันมามองเป็นตาเดียว

‘ลูกพี่’ ยังคงนิ่งเป็นรูปปั้น  จ้อยหันไปสบดวงตาคมเข้มนั้นแว่บหนึ่ง  แววตาเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ใดทำให้เขาพรั่นพรึงบอกไม่ถูก  แต่ไหนแต่ไรมา.. ดวงตาไอ้สิงห์มักสะท้อนสิ่งที่อยู่ในหัวใจของมันออกมาเสมอ  จะโกรธ จะเกลียด จะแค้น จะชัง ดวงตาคู่นั้นจะถ่ายทอดออกมาหมดอย่างไม่อาจซ่อนเร้น  หากระยะนี้มันดูแปลกไป  ทุกครั้งเมื่อมองมา  สายตาคู่นั้นแสนเย็นชาว่างเปล่า  ราวกับไร้หัวใจ  ราวกับหัวใจของมันถูกควักออกจากอกไปแล้ว
   
จนจ้อยต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหลบ  หนุ่มน้อยกำลังจะหันหลังกลับ   หากไอ้ลอยกลับเรียกไว้  มันสั่งให้เอาจานที่กินหมดแล้วกลับไปด้วย
   
จ้อยคว้าจานมาตามหน้าที่  แต่แล้วกลับต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมือหนาเทอะทะของไอ้ลอยจับหมับที่มือขาว  จ้อยทั้งตกใจทั้งขยะแขยงจนเผลอสะบัดมือ  จานกระเบื้องลื่นหลุดลงไปกระทบพื้นแตกดังเปรื่อง
   
“เอ๊าๆๆ ชิบหายวายวอดหมดแล้ว!” เสียงเจ๊เน้ยโวยวายลั่นมาจากในครัว  แกเคาะตะหลิวกับกระทะเสียงดังตามอารมณ์หงุดหงิด  จ้อยหน้าถอดสีขณะย่อตัวลงเก็บกวาดเศษกระเบื้อง  แบบนี้ค่าเสียหายก็ถูกหักออกจากค่าแรงเขาน่ะซี
   
พวกนักเลงหัวเราะเกรียวกราว  ตบไม้ตบมือชอบใจ  จ้อยกัดฟันแน่น  ไม่เงยหน้าขึ้นมองก็รู้ว่าพวกมันทำสายตาแบบไหน
   
“มือเอ็งนี่มันนิ่มกว่ามือพี่เอ็งเยอะเลยว่ะ” ถูกมันเกี้ยวราวกับผู้หญิงแบบนี้ จ้อยถึงกับหมดความอดทน  ใบหน้าอ่อนเยาว์เงยขึ้น ถลึงตาใส่มันด้วยความเคียดแค้น  ไอ้ลอยยิ่งหัวเราะชอบใจ  หนำซ้ำยังดมมือตัวเองทำท่าชื่นอกชื่นใจหนักหนา  เล่นเอาจ้อยขยะแขยงจนตัวสั่น  ได้แต่รีบเก็บกวาดแล้วกลับเข้าหลังร้านโดยเร็ว

ไอ้ลอยมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินลิ่วๆ  สะกิดลูกพี่ด้วยปลายศอก 
   
“พี่สิงห์..” มันบุ้ยปากไปทางนักเรียนครู “เห็นมันทำหน้าไหม  จองหองนัก  มันน่าหลังมือให้เลือดกบปาก”
   
ลูกชายกำนันทำท่าคล้ายคำพูดนั้นเป็นเพียงลมผ่านหู  เอาแต่กรอกเหล้าเข้าปากแก้วแล้วแก้วเล่า 
   
“คงนึกว่าเป็นนักเรียนครู  ทำเป็นอวดดีใส่  ระวังเถอะพี่  ซักวันจะปราบมันไม่อยู่” ไอ้หมานเป็นลูกขุนพลอยพยัก  รินเหล้าให้ทั้งพี่ลอยพี่สิงห์อย่างประจบ 
   
“พี่สิงห์ใจดีกับมันเกินไป  เป็นฉันหน่อยไม่ได้..” ไอ้ลอยหยักยิ้มมุมปาก  ซดเหล้าโฮก

ลูกพี่คิ้วกระตุก  ตวัดถามเสียงห้วน “เป็นเอ็งแล้วทำไม”
   
“เอ๊า” มันว่าเสียงสูง  ตบมือกับเข่าดังฉาด  ก่อนลดเสียงลงเป็นกระซิบ “ถ้าฉันเป็นเจ้าหนี้มันอย่างพี่  ฉันอยากทำอะไรมันฉันก็จะทำ  ไม่มานั่งเฉยให้มันเห็นเป็นหัวหลักหัวตอแบบนี้หรอก”

สิงห์นิ่งงัน  คิดตามคำพูดมันทุกคำ

“ทำเป็นวางท่าเป็นนักเรียนครูผู้ทรงเกียรติ  ถุ้ย!” สมุนตัวโตถ่มน้ำลายลงพื้น “จะเป็นครูหรือเป็นกุ๊ย  เป็นผู้ดีหรือเป็นไพร่  เวลาน้ำแตกมันก็ทำหน้าเหมือนกันหมดละว้า” ไอ้เลิศไอ้หมานประสานเสียงหัวเราะขบขัน  เคาะแก้วเคาะจานถูกอกถูกใจ
   
“เออ พี่ลอย” ไอ้หมูเลิศหัวเราะจนพุงกระเพื่อม “พี่ว่าอย่างไอ้จ้อยมันจะเคยชักว่าวไหมพี่”
   
พวกมันสามคนคุยหยาบโลนออกรส  หัวเราะจนหน้าแดงก่ำ  แม้แต่ลูกพี่เองก็หน้าขึ้นสีเรื่อ  ไม่ใช่เพราะฤทธิ์เหล้า  ไม่ใช่เพราะขบขัน  แต่เป็นเพราะ.. เขาเผลอวาดภาพตามคำพูดพวกมันขึ้นในใจ 
   
ไม่ใช่ไม่เคย.. สิงห์ฝันถึง ‘น้อง’ บ่อยครั้ง  บางฝันก็เป็นภาพวัยเยาว์อันงดงาม  หากบางฝัน.. ต่ำช้าน่าละอายนัก  ฝันแบบนั้นทีไร  ตื่นมาตอนเช้าได้แอบไปซักกางเกงทุกที 
   
น่าขำ.. หัวหน้าอันธพาล ‘เอา’ ผู้หญิงมาทั้งซ่อง  แต่คนที่อยู่ในความฝันมาตลอด  กลับทำได้อย่างเก่งก็แค่หอมแก้ม

“พี่สิงห์คิดอะไรอยู่” ไอ้ลอยทักขึ้นเมื่อเห็นลูกพี่เอาแต่นั่งเหม่อคลึงปากแก้วเล่น  ลูกพี่สะดุ้ง  กระแอมไอกลบเกลื่อน

“ปะ..เปล่า” ถึงอย่างนั้นสมุนก็ยังตาไวพอที่จะสังเกตเห็นโหนกแก้มลูกพี่ขึ้นสีแดงเรื่อ  มันหรี่ตาลงอย่างใช้ความคิด  ก่อนสะกิดกระซิบกระซาบ
   
“เอาอย่างนี้ไหม  ฉันมีความคิดดีๆ”

“ความคิดดีๆ อะไรของเอ็ง” ลูกชายกำนันชะงักมือที่กำลังจะกรอกเหล้าเข้าปาก  จ้องตาลูกน้องคนสนิทอย่างใคร่รู้เต็มที 

ไอ้ลอยยิ้มพราย  ดวงตาเป็นประกายวาววับ 
   
***************************

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
วันครบกำหนดชำระหนี้เป็นวันเสาร์  จ้อยกับยายตั้งใจจะไปหาคุณนายพูนทรัพย์ที่บ้านแต่เช้าตรู่  กลับต้องประหลาดใจเมื่อคนที่กำลังจะไปหา  กลับเป็นฝ่ายมาเยือนถึงกระท่อม
   
“ไหว้พระเถอะย่ะ” นิ้วอวบขาวประดับแหวนเพชรรับไหว้จ้อยส่งๆ  คุณนายนั่งลงบนแคร่ที่เพิ่งสั่งให้ผู้ติดตามอย่างน้าเวกเช็ดให้สะอาด  ถอดแว่นกันแดดกรอบใหญ่  บ่นว่าร้อนจนน้าเวกต้องคอยพัดให้พั่บๆ 
   
พัดแรงไปก็ไม่ได้อีก  เดี๋ยวผมหยิกเป็นหลอดของคุณนายจะเสียทรง   

“แม่ทรัพย์จ๊ะ” ยายช้อยนั่งบนแคร่ตัวเดียวกัน  แต่ทิ้งระยะห่างออกมา  เมียกำนันไม่ชอบให้คนจนเข้าใกล้เท่าไรนัก  “ยายกับจ้อยหามาได้แค่ดอก  ส่วนเงินต้น..”
   
“ฉันมาวันนี้ ก็จะมาพูดเรื่องนี้แหละ” เมียกำนันรีบเข้าประเด็น  ไม่พิรี้พิไรท่ามาก  หล่อนมองขันน้ำฝนลอยดอกมะลิที่จ้อยเอามาวางให้อย่างเคลือบแคลงในความสะอาด  ก่อนหันไปถามเจ้าตัวที่ถอยไปนั่งพับเพียบเอี้ยมเฟี้ยมอยู่กับพื้น “ตกลงจะเอายังไงล่ะ”

ดวงตาคมวาวใต้เรียวคิ้วถาวรเขม้นมองหน้าเด็กหนุ่มที่ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างไม่ชอบใจ  ผิวขาว  ตาสวย  ปากนิด จมูกหน่อย  พิมพ์เดียวกับอีกำไลแม่มันไม่มีผิด   

“เอาอย่างนี้ไหมล่ะไอ้จ้อย” ไม่รอฟังความเห็น  คุณนายชี้ทางออกให้เสร็จสรรพ “ช่วงนี้นังแป้นมันต้องคอยเลี้ยงลูก  ไม่ค่อยมีเวลาทำงานบ้าน  ครั้นไอ้ฉันจะหาคนมาเพิ่มก็สิ้นเปลือง  ไหนๆ หนี้สินแกก็ยังค้างอยู่อีกเยอะ  ฉันเองก็ขี้คร้านจะมาตามเก็บดอกทุกเดือนๆ” 
   
เมียกำนันจ้องตาลูกหนี้ตัวน้อยเขม็ง  พูดไม่กระพริบตา “แกไปทำงานขัดดอกให้ฉันไหมล่ะ”
   
“จ..จ๊ะ?” จ้อยแทบไม่เชื่อหูตัวเอง 
   
เจ้าหนี้ถอนใจแสนรำคาญ  แย่งพัดจากมือน้าเวกมาพัดเองพึ่บพั่บ “ฉันไม่ได้คิดเองหรอกนะ  เป็นความคิดพ่อสิงห์เขา”

ไอ้สิงห์..

ความชิงชังเปล่งประกายวาบในนัยน์ตาสีอ่อน  จ้อยกัดริมฝีปากแน่น  มือเล็กขยุ้มชายเสื้อตัวเองจนยับย่น  ยิ่งคิดยิ่งคับแค้นใจ  ไอ้สิงห์กำลังต้อนเขาให้จนตรอก  ไร้ทางออก หมดทางหนี  ถ้ามันคิดจะกลั่นแกล้งกันแบบนี้  สู้พาพวกมาซ้อมเขาให้ตายไปเลยเสียยังดีกว่า

“ป้าทรัพย์” นักเรียนครูวิงวอนจากใจ  เขาไม่อยากเป็นลูกไก่ในกำมือคนชั่วช้าอย่างมัน  ไม่อยากเลย.. “จ้อยขอเวลาอีกหน่อย  อีกปีเดียวก็เรียนจบแล้ว  จ้อยจะหามาคืนให้ทั้งต้นทั้งดอก  ช่วงนี้ขอทยอยจ่ายดอกไปก่อนไม่ได้หรือ”
   
“โอ๊ย อีกตั้งปี  ฉันรอไม่ไหวหรอกนะ  แล้วเงินเดือนครูจะซักเท่าไรกันเชียว” คุณนายเบ้ปากอุทานเสียงสูงกรีดหัวใจจ้อยนัก  “ฉันออกเงินกู้นะยะ  ไม่ใช่เปิดโรงทาน  จะได้ให้เงินคนอื่นฟรีๆ แบบนี้” 

หลานมองตายายอย่างจะขอความเห็น  คุณนายรีบหว่านล้อม “ไปอยู่กับฉัน  ที่หลับที่นอนอาหารการกินก็มีให้  แค่ขอแรงช่วยแบ่งเบางานนังแป้นมันนิดๆ หน่อยๆ  ไม่ได้เอาไปโขกสับรับใช้เยี่ยงทาสหรอกน่ะ”
   
“ไปอยู่ด้วยหรือ?” หนุ่มน้อยชะงักกึก  แค่ให้ไปทำงานก็ลำบากใจแล้ว  แล้วนี่.. “ป้าทรัพย์จะให้จ้อย..อยู่บ้านกำนันหรือ?” 
   
จ้อยมัวแต่ตกใจ  ไม่ทันสังเกตประกายความหวังความยินดีในแววตายาย
   
เจ้าหนี้พยักหน้าแทนคำตอบ  เล่นเอาจ้อยกลืนน้ำลายฝือคอ “จ้อยเลิกเรียนแล้วค่อยไปทำงานไม่ได้หรือจ๊ะ  จ้อยจะทำงานให้จนดึกเลยแล้วค่อยกลับ  แล้วพอตอนเช้าจ้อยก็จะรีบไป..”
   
“โอ๊ย พ่อคู๊ณ” คุณนายโบกไม้โบกมือ  ส่ายหน้าระอา “มัวแต่ไปๆ มาๆ เสียเวลาทำมาหากิน  ก็อยู่มันที่นั่นซะเลยจะเป็นไรไป  มีอะไรจะได้เรียกใช้ถนัด  ทำไม  ดูทำหน้าเข้า  เห็นฉันเป็นยักษ์เป็นมารหรือไงไอ้จ้อย”

จ้อยก้มหน้านิ่ง  อยากบอกว่าคนเป็นยักษ์เป็นมารน่ะ  ลูกชายของคุณนายต่างหาก

“ถ้าไม่อยากไปก็ได้  ไม่ว่ากัน  โบราณว่าอย่าข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า” เมียกำนันเปลี่ยนท่าที  แบบนี้จ้อยค่อยยิ้มออก  หากความหวังริบหรี่กลับดับวูบเหมือนเปลวเทียนกลางพายุ “แต่เห็นทีฉันต้องขอยึดที่นายายละนะ  หนี้ค้างปีดักดานแบบนี้  ยกที่นาให้ฉันซะก็ถือว่าแล้วกันไป”
   
สองยายหลานเลิ่กลั่กมองหน้ากัน 
   
“ยะ..อย่าขายที่ยายเลยนะแม่ทรัพย์  ที่ตรงนั้นมันตั้งแต่รุ่นทวดเจ้าจ้อยมัน  ยายอยากเก็บไว้ให้หลาน  โตไปมันจะได้ มีหลักมีฐาน  มีสมบัติติดตัว”
   
“แล้วจะให้ทำยังไงล่ะ  นั่นก็ไม่เอา นี่ก็ไม่เอา เล่นตัวจริงนะพ่อคุณ” เจ้าหนี้เริ่มหงุดหงิด  โบกพัดในมือไล่ความร้อนที่คุกรุ่นในใจ
   
“จ้อยเอ๋ย.. ไปอยู่กับป้าทรัพย์  ไปอยู่กับลุงกำนันเถอะลูก”  ยายช้อยลูบหลังลูบไหล่หลานชายที่เหลืออยู่เพียงคนเดียว  ในดวงตาเปี่ยมล้นไปด้วยความรักและหวังดี “จะได้อาศัยพึ่งใบบุญ  ยายก็เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง  วันไหนยายไม่อยู่แล้ว เอ็งจะได้มีที่พึ่ง”
   
“แต่หนูเป็นห่วงยาย”
   
คุณนายเบะปากเหยียดหยัน “จะห่วงอะไรนักหนา  บ้านอยู่ใกล้กันแค่นี้  แล้วอีกอย่าง  ไปทำงานให้ฉัน  ฉันมีค่าแรงให้นะยะ  เผื่อเหลือเผื่อขาดยังไงแกจะเอามาให้ยายก็ได้  ยายจะได้ไม่ต้องทำงานงกๆ”
   
“ไปเถอะจ้อยเอ๋ย  ไม่ต้องห่วงยาย” ยายยิ้มอ่อนเอื้อ    จ้อยได้แต่ก้มหน้านิ่ง 
   
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคำตอบของเขาแล้ว  ถ้าจ้อยตกลง  ที่นาของบรรพบุรุษก็ไม่ต้องถูกขาย  หนี้สินที่ติดค้างก็จะหายไป  แถมยังมีรายได้จากคุณนายมาให้ยายอีก 
   
ที่สำคัญ.. จ้อยดูออก  ว่ายายดีใจไม่น้อยที่จ้อยจะได้เข้าไปอยู่บ้านนั้น 
ความกตัญญูฝังแน่นอยู่ในสำนึกจ้อยเสมอ  หากยายอยากให้จ้อยไป  จ้อยจะทำให้ยายผิดหวังได้ลงคอหรือ

ดวงตาใสแจ๋วหากมั่นคงแน่วแน่เงยขึ้นสบตามารดาของคนที่แสนชิงชัง “ก็ได้จ้ะ  ป้าทรัพย์จะให้จ้อยไปเมื่อไร”

ริมฝีปากเคลือบสีแดงสดคลี่ยิ้มสาสมใจ

“งานบ้านฉันมีเยอะแยะ  แกเก็บของย้ายมาอยู่เสียพรุ่งนี้เลยก็แล้วกัน”

พรุ่งนี้!?  จ้อยตะโกนก้องอยู่ในหัวใจคับแค้น  เวลากระชั้นชิดเหลือเกิน  มือเล็กกำหมัดแน่น  นึกถึงใบหน้าคมคร้ามของคนที่ชังแสนชัง
   
ไอ้สิงห์..
   
******************************
   
ศาลาท่าน้ำหลังโรงเรียนแสนสงบ  มีเพียงเสียงระหัดวิดน้ำทำงานดังจ๋อมๆ  ลมเย็นพัดกลิ่นไอคลองโชยรื่น  หากเลอมานกลับเหงื่อแตกเต็มหน้า  มือขาวประคองชามตราไก่ไว้มั่น  ปากแดงเจ่อสูดซื้ดด้วยความเผ็ดร้อน   
   
คนึงมองชิ้นตั้งไฉ่กับพริกที่ถูกเขี่ยขึ้นเรียงแถวเต็มขอบชามแล้วอดหัวเราะไม่ได้  ใบหน้าเปื้อนยิ้มหันไปสั่งเจ๊กบนเรือที่คอยท่า 
   
“แปะเหล็ง  ขออีกชาม  เอาก๋วยเตี๋ยวเด็กนะ” ว่าแล้วก็แย่งชามใส่มือเด็กมากินเสียเอง  คุณชายได้แต่มองตาค้าง  ปากเจ่อจนขยับท้วงไม่ทัน  “อ้อ ตัดเส้นให้ด้วย  เด็กใช้ตะเกียบไม่เป็น”
   
ชามใหม่ถูกยื่นส่งให้  มีแต่เส้นที่ถูกหั่นจนสั้นกับลูกชิ้นและเนื้อหมู  อาจารย์คีบลูกชิ้นวางในชามให้  ยิ้มเอ็นดูเมื่ออีกฝ่ายประคองชามลงวาง พนมมือไหว้ขอบคุณ   

คลองท่อมีเจ๊กขายก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด  มีทั้งก๋วยเตี๋ยวน้ำ ก๋วยเตี๋ยวแห้งและเกี้ยมอี๋  ชามละ ๒ บาทได้หมูเต็มชาม  หากนานๆ ทีจึงจะมีอาจารย์หรือนักเรียนกวักมือเรียก  เพราะส่วนใหญ่จะพากันไปกินที่โรงอาหารกันเสียมากกว่า  ไม่ต้องเสียเงินด้วย
   
หากระยะนี้  อาจารย์ต้องพาลูกศิษย์ตัวดีออกห่างจากโรงอาหารชั่วคราว
   
ทั้งโรงเรียนโจษจันเรื่องหม่อมราชวงศ์เลอมานเที่ยวซ่องกันให้แซ่ด  ด้วยศักดิ์แห่งบุตรชายเอกอัครราชทูต  ไม่มีใครกล้าพูดต่อหน้า  หากพอลับหลังก็ซุบซิบกันสนุก 
   
แค่คุณชายเฉียดกรายเข้าโรงอาหาร  สายตาหลายคู่ก็มองมาเป็นตาเดียว  เลอมานถูกเลี้ยงดูมาอย่างฝรั่ง  คนึงจึงไม่แปลกใจที่อีกฝ่ายไม่สะทกสะท้าน  เด็กหนุ่มยังทำทุกอย่างเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น  หากพอลองสังเกตดีๆ  เขาจับกระแสความรำคาญในดวงตาสีน้ำตาลใสได้ไม่ยากเย็น 

และแล้วสิ่งที่คนึงไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้น

หม่อมราชวงศ์เลอมาน บูรพวงศ์  แสนเย่อหยิ่งทระนงในศักดิ์ศรี  ใจร้อนเอาแต่ใจหรือก็ที่หนึ่ง 
   
อาจารย์วิรัชมัวแต่นั่งนินทาคุณชายอยู่ที่โต๊ะอย่างสนุกปาก  คนถูกนินทาถือแก้วน้ำเดินผ่านหลังไปถึงกับชะงักกึก  คนมองไม่เห็นยังพูดจ้อยๆ  นักเรียนที่นั่งฝั่งตรงข้ามพากันขยิบตาบอก  แต่คนไม่รู้ตัวก็ยังคงไม่รู้ตัว   
    
มารู้ตัวก็อีตอนมือเรียวสาดน้ำเข้าให้เต็มหัวนั่นล่ะ 

คนปากเสียหันขวับ  กะจะหาเรื่องเต็มที่  แต่พอเห็นว่าเป็นใครเท่านั้น  อึ่งอ่างพองลมก็ตัวหดเหลือเท่าลูกเขียด 
   
“What's your business in this?” เลอมานโกรธจัด  กระแทกแก้วเปล่าลงกับโต๊ะดังปึ้ง  “It's my business. What I will do and with whom is my business. Don't bother! Shut up!”

อาจารย์ลากศิษย์ออกมาแทบไม่ทัน  จนต้องพากันมากินก๋วยเตี๋ยวเรือที่ท่าหลังโรงเรียนเงียบๆ สองคนฉะนี้แล
กินไปอาจารย์ก็แอบมองหน้าศิษย์ไป  แอบมองไปอาจารย์ก็ครุ่นคิดไป
ว่าจะจับคุณชาย ‘ใส่ตะกร้าล้างน้ำ’ อย่างไรดี

คุณชายตาไวเห็นสหายร่างเล็กเดินอุ้มลังกระดาษมาแต่ไกล  มือเรียวโบกไม้โบกมือให้  คนึงหันมองตาม  จ้อยเดินตรงเข้ามาหา  แดดแรงจนต้องหยีตา  มือเล็กค่อยๆ วางลังกระดาษในมือลง  ก่อนปาดเหงื่อที่เกาะพราวเต็มหน้าผาก   
   
เลอมานหันไปสั่งก๋วยเตี๋ยวให้โดยไม่ถามสักคำ  พอหันมาอีกทีก็เห็นสมบัติของจ้อยเต็มกล่อง  หนังสือเรียนเอย  เสื้อผ้าเอย  แสนสงสัยจนอดถามไม่ได้  “เก็บของไปไหนน่ะ”
   
“อาจารย์  คุณชาย” จ้อยอึกอัก  ก้มหน้าก้มตา “พรุ่งนี้จ้อยต้องไปอยู่บ้านกำนันเสริม”
   
“หือ” คุณชายแทบสำลัก “ทำไมล่ะ”   
   
จ้อยเล่าเรื่องหนี้สิน  เรื่องทำงานขัดดอกให้คุณชายฟังหมดเปลือก 

“อะไรกัน” บุตรชายท่านทูตเคืองแค้นแทนเพื่อนนัก  มือขาวกระแทกชามลงพื้นกระดานจนลูกชิ้นกระเด้ง “ต้องไปทำงานเป็นคนรับใช้เขาแบบนี้น่ะหรือ  แล้ว..”
   
“คุณชายไม่ต้องห่วง” จ้อยแทรกขึ้นกลางคัน  รู้สึกผิดต่อเพื่อนต่างชนชั้น “ถึงจ้อยจะมาทำงานให้คุณชายไม่ได้  แต่เดี๋ยวจ้อยแนะนำคนอื่นให้” จ้อยหมายถึงงานเก็บที่นอน ทำความสะอาดห้อง ซักผ้า รีดผ้าที่เขาทำให้เลอมานมาตลอด “พวกคนงานในโรงครัวก็รับจ้างกันหลายคน”
   
“เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ  ไม่ต้องห่วงฉันหรอก” เลอมานกลอกตาหน่าย  พ่นลมออกจมูก “ไปเป็นบ่าวเขาแบบนั้น  ไม่มีศักดิ์ศรีหรือไง”

คำพูดนั้นแทงใจจ้อยดังฉึก  หนุ่มน้อยก้มหน้านิ่ง  คุณชายจึงเพิ่งรู้ตัวว่าพูดแรงไป  แต่เพราะห่วงหรอกถึงได้พูดแบบนั้น  ลูกแก้วสีน้ำตาลใสเสมองท้องน้ำไหลเอื่อย  เผื่อมันจะช่วยบรรเทาความรุ่มร้อนในใจลงได้ 

คนึงเห็นลูกศิษย์สองคนเบือนหน้ากันไปคนละทางถึงกับส่ายหน้า  เสียงทุ้มห้าวเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบน่าอึดอัด  “หนี้เท่าไรจ้อย  ครูจะช่วยเอง”
   
“มะ..ไม่เป็นไรครับอาจารย์” จ้อยหน้าตื่น  โบกไม้โบกมือวุ่น  โกหกคำโต “คือ..ความจริงผมก็อยากไปอยู่กับกำนัน    ยายก็อยากให้ไป”

อาจารย์หนุ่มมองเสี้ยวหน้าละมุนของน้องชายอดีตคนรักอย่างคลางแคลง  แต่ในเมื่อจ้อยตัดสินใจแล้ว  เขาจะว่าอะไรได้  ได้แต่ให้คำมั่นว่าถึงอย่างไรจ้อยก็ยังคงเป็นนักเรียนประจำของที่นี่  จะมานอนค้างที่หอพักเมื่อไรก็ได้  และยังมีสิทธิ์กินอาหารกลางวันฟรีที่โรงเรียนดังเดิม 
   
แต่มีเรื่องหนึ่งที่คนึงอดห่วงไม่ได้จริงๆ  “แล้วนายสิงห์ล่ะ” 

เขารู้เรื่องความบาดหมางไม่ลงรอยกันระหว่างจ้อยกับลูกชายกำนันดี  ยิ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก่อน  ไม่ต่างอะไรกับโยนเชื้อฟืนลงในกองไฟ  เปลวเพลิงโหมไหม้ลุกฮือ 
   
ศิษย์ตัวน้อยกลับยิ้มอ่อนจาง  ดวงตาคู่สวยมองตรงแน่วแน่คล้ายไม่หวั่นกลัวสิ่งใด “ไม่เป็นไรหรอกครับ  เขาก็อยู่ของเขา  ผมก็อยู่ของผม”

คนึงถอนใจพรู  สงสัยความใจแข็งถ่ายทอดกันได้ทางสายเลือด  จ้อยถึงได้เด็ดเดี่ยวเหมือนจินดาไม่มีผิด  หนุ่มน้อยหน้าซื่อ  ท่าทางอ่อนโยนเรียบร้อย ว่านอนสอนง่าย  แต่จิตใจกลับหนักแน่นเข้มแข็งเหมือนหินผา  ไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมากระทบกระทั่งได้ง่ายๆ   
   
อดเปรียบเทียบกับอีกคนไม่ได้  ภายใต้ใบหน้าที่เคลือบไว้ด้วยความทระนง  เย่อหยิ่งจองหองจนน่าหมั่นไส้  หากพอกะเทาะเปลือกออก  หม่อมราชวงศ์เลอมานก็ไม่ต่างอะไรกับเนื้อนิ่มๆ ใต้เปลือกมะตูม  เปราะบางอ่อนไหวกว่าที่คิด
   
มะตูมอ่อนในแข็งนอก  มะกอกอ่อนนอกแข็งใน  คนเรานี่ดูกันแค่เพียงภายนอกไม่ได้จริงๆ

แล้วดูสินั่น  เจ้าลูกมะตูมนั่งหน้าตูมเป็นม้าหมากรุกไม่พูดไม่จา  เขาดูออกหรอกว่า.. กลัวเหงา
   
จ้อยเองก็คงดูออก  มือเล็กคว้าชามก๋วยเตี๋ยวที่คุณชายสั่งให้มาตักกินเอาใจ “จ้อยคงไม่มีเวลามาคุยเล่นกับคุณชายแล้ว  เพราะฉะนั้น  คุณชายอย่าดื้อกับอาจารย์นะครับ”
   
เลอมานหันมาถลึงตาใส่  ทำเอาอาจารย์หนุ่มหัวเราะ  ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นเด็ดดอกขจรที่รัดเกี่ยวเสาศาลา  เลือกแต่ช่อตูมอ่อน  วักลงล้างในน้ำคลองใส  ก่อนวางในชามก๋วยเตี๋ยวลูกศิษย์ทั้งสองคนละนิดละหน่อย     
   
“ดอกขจร  กินกับก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อย” ใบหน้าคมสันตอบให้เมื่อเห็นเรียวคิ้วสีอ่อนขมวดยุ่ง
   
ในขณะที่จ้อยนิ่งมองช่อดอกสีเหลืองอมเขียวที่ลอยอยู่ในชามนิ่งงัน

ดอกไม้ที่เพิ่งผลิดอกตูมเป็นครั้งแรกในฤดู  สิ่งมีชีวิตที่น่ารัก  แค่ฝนพรำไม่กี่ครั้งก็เหยียดก้านชูช่อ  ฝันว่าจะได้พบแสงแดด  แล้วเป็นไงเล่า  กลับต้องถูกเด็ดกิ่งลงเพื่อลิดเอาช่ออ่อนดอกอ่อน  ลงมานอนตายอยู่ในน้ำแกงร้อนๆ
   
จ้อยหวังเพียงว่าชีวิตของเขาจะไม่เป็นเหมือนดอกขจรช่อนี้

ชีวิตหลังจากไปอยู่บ้านกำนัน  อยู่ใต้ชายคาเดียวกับไอ้สิงห์จะเป็นอย่างไร  สุดที่จ้อยจะคาดเดา  ไม่อยากคิดในทางเลวร้าย  แต่ก็ค่อนข้างแน่ใจว่าคงไม่สวยหรูนัก  บ่วงของความเป็นลูกหนี้ก็คล้องคอแน่นหนาอยู่แล้ว  หากนับแต่พรุ่งนี้ไป  จะมีแอกความเป็นขี้ข้ามากดลงบนไหล่เพิ่มอีก  ป่านนี้ไอ้สิงห์มันคงกำลังยิ้มอย่างสาใจ  ที่นักเรียนครูผู้เคยเหยียดหยามว่ามันเป็นคนชั้นต่ำ  กลับต้องกลายมาเป็นบ่าวรองมือรองตีนมันในที่สุด

ไม่อยากให้พรุ่งนี้มาถึงเลยจริงๆ

******************************
   
จ้อยกับยายพายเรือไปบ้านกำนันแต่เช้าตามที่ตกลงกันไว้กับคุณนายพูนทรัพย์  เขาไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปนอกจากลังกระดาษใบเดียว  น้าเวกน้าแป้นจูงน้ำฝนมารอรับที่ศาลาท่าน้ำ  แม่หนูน้อยดีอกดีใจถึงขั้นวิ่งถลาเข้ามากอดเอว 
   
บ้านกำนันเสริม สีตลาเป็นเรือนไทยสร้างด้วยไม้สักทองทั้งหลัง  รายล้อมด้วยพรรณไม้นานาที่จัดแต่งอย่างสวยงามร่มรื่น  ไม้ดอกสวยสดสี  กุหลาบ จำปี ชมนาด สร้อยระย้า มะลุลี มะลิลา โมก ราตรี ฯลฯ  จ้อยแทบนึกไม่ออกว่ายามดึกบ้านกำนันจะหอมหวานปานใด 

สองยายหลานประคองกันขึ้นบันได ลอดผ่านซุ้มประตูสู่ชานเรือน  กระถางไม้จัดวางเรียงรายสลับอ่างบัว  บนตั่งไม้ยกพื้น  คุณนายกำลังอิงหมอนขวานตะไบเล็บแดงสด  กำนันหยุดให้น้ำนกกรงหัวจุกที่แขวนเรียงราย  หันมายิ้มให้ทันทีที่เห็นจ้อยกับยายจูงมือกันมา  บ่าวสามพ่อแม่ลูกตามติดมาเป็นพรวน 

ผู้น้อยประนมมือไหว้อ่อนช้อย  กำนันในเสื้อกุยเฮงกางเกงแพรยิ้มกว้างอวดฟันทอง  มือใหญ่หนาประดับแหวนทองฝังหยกรับไหว้ซ้ำยังลูบหัวลูบไหล่อย่างเอ็นดู  ในขณะที่คุณนายเพียงปรายตามองเบะปากหยัน  บ่นอุบอิบคนเดียวไม่มีใครได้ยิน  “จะแห่กันมาต้อนรับทำไม  มันมาเป็นขี้ข้านะ  ไม่ใช่มาเป็นลูกเป็นหลาน”

กำนันเสริมประคองหนุ่มน้อยนั่งลงบนตั่ง  หากความเจียมตนสั่งให้จ้อยลงไปนั่งพับเพียบกับพื้น  หนูน้ำฝนประคองขันน้ำลอยดอกมะลิมาวางให้พร้อมรอยยิ้มกว้าง  เจ้าบ้านดูดีอกดีใจนักหนาที่นับจากนี้จะมีนักเรียนครูหน้ามนมาร่วมชายคา  ชมแล้วชมเล่า  ลูบหัวแล้วลูบหัวอีก  พาดพิงลูกชายคนกลางที่แสนไม่เอาไหนทีหนึ่งแล้วก็หันมาชมจ้อย 
   
“ครูมาอยู่ด้วยก็ดี  เผื่อมีอะไรจะได้สั่งสอนเจ้าสิงห์มัน  ไม่แน่นา.. มันอาจจะทำตัวดีขึ้นก็ได้” กำนันหัวเราะร่า  แต่จ้อยยิ้มเจื่อน  ยิ่งเห็นคุณนายเหยียดปากหมั่นไส้ยิ่งน้ำลายฝืดคอ
   
“ยายฝากหลานด้วยนะ  พ่อกำนัน” สายตายายปลาบปลื้มยินดี  ปากก็ฝากฝัง  มือเหี่ยวก็ลูบแขนขาวอย่างอาทร  กำนันรับปากเป็นมั่นเหมาะ  ตะแกยิ่งยิ้มชื่น 

จ้อยเดินไปส่งยายที่ท่า  อยากไปส่งให้ถึงบ้านแต่คุณนายบอกว่ามีงานรออยู่  มือเล็กกระพุ่มกราบตรงอกเหี่ยวแห้ง  ยายรั้งตัวไปกอดไว้  ลูบผมนุ่มซ้ำๆ ด้วยความรักสุดหัวใจ  “อยู่ที่นี่ต้องเชื่อฟังลุงกำนัน  เชื่อฟังป้าทรัพย์  เขาใช้ทำอะไรก็อย่าเกี่ยงงอน  เป็นผู้น้อยค่อยก้มประนมกร  หนักไปก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือนะลูกนะ”
   
หลานน้ำตาคลอ  รีบเช็ดออกก่อนที่ยายจะทันเห็น  ยายลงเรือแจวกลับบ้าน  แขนผอมแห้งวาดพายสุดแรงล้า  จ้อยได้แต่มองตามหลังยายจนลับสายตา 

ร่างเล็กเดินกลับขึ้นเรือน  กำนันเข้าห้องหนังสือไปแล้ว  ส่วนบ่าวพ่อแม่ลูกก็ถูกไล่ไปทำการทำงาน  คุณนายยืนกอดอกอยู่ข้างลังกระดาษ สัมภาระเพียงหนึ่งเดียวของบ่าวคนใหม่  ใบหน้าขาวผ่องเชิดขึ้นอย่างเดียดฉันท์
   
“ให้จ้อยเอาของไปเก็บที่ไหนจ๊ะ” จ้อยถามซื่อๆ 
   
“นี่พ่อคุณ  นึกว่ามาอยู่บ้านนี้อย่างราชารึไงยะ” คุณนายกลับแหวใส่  นิ้วเรียวจิ้มหน้าผากเล็กจนหน้าหงาย “วาดฝันว่าฉันจะเตรียมห้องส่วนตัวไว้ให้รึไง”
   
“ปะ..เปล่าจ้ะ”
   
เมียกำนันเบะปาก  ชี้มือไปทางห้องทิศตะวันออก “โน่นเลย  เอาข้าวของแกไปเก็บไว้ในห้องตาสิงห์โน่น!”

จ้อยชะงัก  ตากลมโตเบิกกว้าง  ทั้งร่างชาวาบ

ห้องไอ้สิงห์?!

“ป้าทรัพย์..” จ้อยคราง “จ้อย..จ้อยไปอยู่เรือนคนใช้กับพวกน้าเวกก็ได้”
   
“อย่ามาเรียกฉันว่าป้า  ฉันไม่ใช่พี่สาวแม่แก” คุณนายตอกกลับด้วยความขุ่นเคือง “หนอย..ให้มาอยู่บนเรือนดีๆ ไม่ชอบ  ดันอยากอยู่เรือนคนใช้ข้างล่าง  ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้แกมาอยู่บนเรือนหรอกนะ  แต่ตาสิงห์เขาขอไว้  ให้แกไปนอนด้วย  มีอะไรจะได้เรียกใช้สะดวก”

เหมือนโลกจะถล่ม  ฟ้าจะพังครืนลงมาตรงหน้าจ้อย  มือเล็กกำหมัดแน่นด้วยความคับแค้น  ที่แท้ก็ไอ้สิงห์นี่เอง  มันวางแผนทุกอย่าง  ตั้งแต่ให้แม่มารีดนาทาเร้นจะเอาเงินคืน  เสนอแนะให้เขามาทำงานขัดดอก  แค่มาอยู่ร่วมชายคากับมันจ้อยก็สะอิดสะเอียนแล้ว  นี่ต้องมาร่วมห้องกันอีก..
   
ไอ้สิงห์  ไอ้หมาลอบกัด  ไอ้หน้าตัวเมีย!

“เอ๊า ยืนเซ่ออยู่ได้  รีบไปสิยะ!” คุณนายไล่  เตะลังกระดาษส่งให้  จ้อยได้แต่ก้มหน้ารับกริยาดูหมิ่นนั้น  อุ้มลังไว้ด้วยสองแขน  ค้อมหลังผ่านคุณนายตรงไปยังห้องทิศตะวันออก
   
บานประตูไม้สีน้ำตาลแก่ปิดสนิท  จ้อยแทบกลั้นใจยามยกมือเคาะตามมารยาท 
   
“เข้ามา” เสียงทุ้มห้าวที่เคยคุ้นดังแว่วมาจากหลังบานประตู  หัวใจจ้อยเต้นรัวด้วยแรงชิงชังอยู่ในอก  มือเล็กผลักประตูเปิดเข้าไป  เสียงไม้เก่าลั่นออดราวจะต้อนรับเขาสู่ขุมนรก

‘มัน’ ยืนอยู่ตรงนั้น  ในห้องกว้างที่ประกอบด้วยเครื่องเรือนไม้ชั้นดี  ตู้เสื้อผ้าตั้งชิดผนังด้านหนึ่ง  เตียงนอนไม้สักหนาหนัก  มุ้งหลังใหญ่ครอบเสาเตียงสี่มุม  ประตูมุ้งเหน็บเกี่ยวไว้กับขอ  เผยให้เห็นผ้าห่มที่กองเขละบนที่นอนยับย่น  ‘มัน’ ยืนพิงขอบหน้าต่าง  พ่นบุหรี่ปล่อยควันเป็นสายคลุ้ง  อวดแผ่นอกเปลือยเปล่าสมบูรณ์ด้วยมัดกล้าม  ท่อนล่างมีเพียงกางเกงขาก๊วยสีเข้มผูกไว้หมิ่นสะโพก  ดวงตาคมวาวจ้องมองมาไม่วางตา 
   
ห้องสวย  แต่รกอย่างกับรังหนู  เสื้อผ้ากองเขละที่หน้าตู้  ซองบุหรี่เปล่าขยำทิ้งเกลื่อนห้อง  ขวดเหล้ากลิ้งอยู่ปลายเตียง  และถ้าจ้อยตาไม่ฝาด  คล้ายเห็นหนังสือปกขาววางอยู่บนกองผ้าห่ม       
   
หนุ่มน้อยยืนหันซ้ายหันขวาละล้าละลัง  ไม่รู้จะวางลังตรงไหน  ตัดสินใจถามเจ้าของห้องเอาดื้อๆ “จะให้วางของตรงไหน”
   
ลูกชายกำนันบุ้ยปากไปตรงปลายเตียง  จ้อยก้มลงเก็บขวดเหล้ากลิ้งโคโร่  วางสัมภาระตัวเองชิดมุมห้อง 

“วาสนากูดีแท้  ได้นักเรียนครูมาเป็นขี้ข้า” เสียงทุ้มห้าวแดกดัน  ร่างเล็กหันขวับ  ตากลมโตจ้องกลับอย่างไม่กลัวเกรง  นักเลงโตลูบปลายคาง  สายตาเจ้าเล่ห์มองสำรวจหัวจรดเท้า   
   
“จะไม่ทักทายนายเอ็งหน่อยเรอะ” ลูกชายกำนันขยี้ก้นบุหรี่กับวงกบก่อนโยนทิ้งนอกหน้าต่าง  ร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาหา  ใกล้จนจ้อยเห็นเงาตัวเองสะท้อนในแววตาสีสนิมเหล็ก     
   
กลีบปากบางขยับเรียกโดยไม่หลบตาแม้แต่น้อย “ไอ้สิงห์”

คิ้วเข้มกระตุกทันที  โทสะฉายชัดในดวงตาเรียวคม  สิงห์กดเสียงต่ำถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง “เอ็งเรียกข้าว่าไงนะ”
   
“ไอ้สิงห์” จ้อยพูดคำเดิม  สีหน้าไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย  รังเกียจ..ชิงชัง..

โดยไม่ทันตั้งตัว  สิงห์เงื้อมือตบฉาดลงบนปากเรื่อ  แม้มันจะยั้งแรงแล้ว  แต่มือใหญ่เป็นใบพายนั่นก็ทำเอาปากจ้อยชาเจ่อ  ความโกรธเกลียดหล่อรวมจนนักเรียนครูสั่นสะท้านไปทั้งร่าง  ดวงตาคู่สวยแข็งกร้าวจ้องคนตรงหน้าเขม็ง 
   
“เรียกใหม่”
   
จ้อยกลัวที่ไหน  “ไอ้-สิงห์”  คราวนี้ย้ำ..ช้า..ชัดกว่าเก่าด้วย

ตามคาด  มือใหญ่ซัดผลั่วะซ้ำที่เดิม  แรงกว่าเดิมจนจ้อยหน้าหัน   

“ไอ้จ้อย” สิงห์ขบกรามกรอด  ชี้หน้าคาดโทษ “ขืนเอ็งเรียกคำเดิมอีกที  ข้าจะเอาอย่างอื่นตบปากเอ็ง”

จ้อยเม้มปากแน่น  สายตาหวาดระแวงกวาดมอง ‘อย่างอื่น’ ที่ไอ้สิงห์ว่า  ที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะ? ขวดเหล้าข้างเตียง? สนับมือ?  หรืออย่างร้ายที่สุด.. จ้อยเหลือบมองลงต่ำ  เท้าหนาเทอะทะของมันนั่น  แต่ละอย่างถ้ากระแทกปากเข้าล่ะก็  มีหวังเลือดกบอย่างไม่ต้องสงสัย 

จ้อยเตรียมใจไว้แล้ว  อย่างมากก็แค่ฟันร่วง

อย่าคิดว่าหลานยายช้อยไม่กล้า!

“ไอ้สิงห์ๆๆๆๆๆๆๆ” จ้อยตะโกนใส่หน้ามันจนลมหมด  รีบโกยอากาศเข้าปอดลึกอีกเฮือก  ย้ำอีกทีเน้นๆ “ไอ้-สิงห์!”

ลูกชายกำนันถลึงตาทำหน้ายักษ์  หักข้อนิ้วดังกร๊อบๆ  ทำหน้าเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันใส่คนที่เชิดหน้าท้าทาย  คำรามเสียงต่ำในคอ “เอ็งโดนแน่ไอ้จ้อย”
   
เดี๋ยวมันจะหาว่าปอดแหก  จ้อยเลยไม่หลับตาด้วยซ้ำ  แทบไม่ทันตั้งตัวยามมือใหญ่กระชากใบหน้าเขาเข้าหาจนปลิวหวือ  แล้วใบหน้าคมคร้ามก็โน้มต่ำลงมา  กดปากมันบดเบียดกับปากจ้อย 

ร้อนเหมือนโดนถ่านนาบ

“อื๊อ!!” จ้อยเบิกตาโพลง  ไม่คิดไม่ฝันว่าไอ้สิงห์จะทำแบบนี้  กำปั้นเล็กทุบหนักๆ ลงหลังไหล่ล่ำสัน  หากกลับไม่สะดุ้งสะเทือนเหมือนหินผา  ริมฝีปากหนาบดขยี้ไม่ปรานีปราศรัย  ดูดกลืนตักตวง  หนวดเคราเพิ่งขึ้นเป็นตอแข็งครูดผิวอ่อนของจ้อยจนแสบไปหมด  อ้อมแขนแกร่งกอดรัดร่างน้อยแนบแน่นจนแทบจมหายลงกับอก  จ้อยสะบัดหน้าหนี  ดิ้นรนอย่างไรก็ไม่หลุด  เนิ่นนานจนแทบขาดอากาศหายใจ 
   
สิงห์ผละออกก่อนที่จ้อยจะขาดใจตาย  แลบลิ้นเลียริมฝีปาก  จ้องมองกลีบปากอิ่มแดงช้ำราวหลงละเมอ

“ท-ทำอะไร!” จ้อยตะคอกเสียงสั่น  หลังมือเล็กเช็ดปากตัวเองอย่างขยะแขยง  พยายามดิ้นรนออกจากอ้อมกอด  หากยิ่งดิ้นยิ่งรัดแน่น  เหมือนงูเหลือมกำลังจะกลืนกินลูกกระต่าย  เมื่อมันโน้มหน้าลงมาจะฉกปากจ้อยอีกครั้ง  มือเล็กรีบยันปลายคางมันไว้  “อย่านะไอ้สิงห์!”
   
คำนั้นเหมือนราดน้ำมันใส่กองไฟ  คนตัวโตอุ้มร่างเล็กลอยหวือ โยนตุ้บลงบนเตียงกว้างก่อนตามลงไปคร่อมทับไว้  มือหยาบใหญ่ตรึงมือน้อยกดลงกับเตียง  จ้อยไม่ทันหนี  ไม่ทันแม้แต่จะเปล่งเสียงห้าม  ปากอุ่นผ่าวก็บดเบียดลงมาอีกครั้ง  หนักหน่วงขึ้น รุนแรงขึ้น 
   
“อื๊อออ!!” จ้อยทั้งกลัวทั้งขยะแขยงจนตัวสั่น  คราวนี้มันสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากเล็ก  ปลายลิ้นแข็งราวกระเบื้องกวาดคว้านซอกซอน  เกี่ยวพันกระหวัดกับลิ้นเล็ก  ก่อเกิดเป็นเสียงชุ่มฉ่ำเปียกชื้นคลอเคล้าเสียงครางทรมานดังระงม  สิงห์ยิ่งละลานใจ  ราวถูกผลักลงในห้วงน้ำความลุ่มหลง 
   
ยิ่งปั่นป่วนรวนเรเสน่ห์รัก     สุดจะหักวิญญาณ์เหมือนบ้าหลัง**
   
“พะ..พอ..อื๊อ..พอแล้ว!  ยอมแล้ว!” จ้อยส่ายหน้าหนี  น้ำตาคลอเบ้า  ยอมแพ้อย่างสิ้นท่า  แมวน้อยขนพองอวดเก่งวิ่งเตลิดหายไปไหนไม่รู้  เหลือแต่ลูกกระต่ายตัวสั่นระริกอยู่ใต้ร่างราชสีห์กระหายหิว  ปากคอสั่นสะท้านกระซิบแผ่ว  “ค-คุณสิงห์”

“ไม่เอา เรียกใหม่!” ร่างกำยำตะคอกทั้งหอบหนัก  จ้อยถึงกับสะดุ้งผวา  น้ำลายใสๆ ที่ปลายคางสากนั่น  ไม่รู้ของมันหรือของจ้อย  ดวงตาสีเข้มมองมาตาไม่กระพริบ  เสียงห้าวเอ่ยช้า..ชัด..


“พี่-สิงห์”



โปรดติดตามตอนต่อไป

----------------------------------------------------------------------------------------------
* โจรปล้นจูบ, ชัย อนุชิตและหฤทัย หิรัญญา ขับร้อง
** พระอภัยมณี, สุนทรภู่


ออฟไลน์ Donaldye

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 563
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
โอ้ยไอ้ลอย ไม่ขี้ยุ!
พี่สิงห์นี้ก็แม่งจะดีๆกับน้องหน่อยไม่ได้เลยหรือไง :m31:

ออฟไลน์ akiko

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-2
อ่านตอนนี้แล้วนึกถึง หนังไทย ตบจูบอะ พี่สิงห์อย่ารุนแรงกับน้องจ้อยเลย
สงสารน้องจอย   :z3: :z3:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
พูดไม่ถุกกับความคิดของไอ้สิงห์ คนเหี้ยอะไรไม่มีความเป็นตัวของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก


ให้คนอื่นจูงจมูกเหมือนควาย ทำได้ทุกอย่างที่เลวร้ายกับคนที่ตัวเองเคยบอกว่าจะปกป้อง

แต่กลับมาทำร้ายคนที่ตัวเองบอกว่ารัก.....ด้วยคำพูดที่แสนเลวที่ออกมาจากปากของคนที่มันคบเป็นเพื่อน

เพื่อนที่มันได้มาจากคำยกยอเลียแข้งเลียขาเหมือนหมาตัวนึง(อุ๊ย!สงสารหมาวะ หมายังมีค่ากว่าไอ้ลอยอีก)

ความจริงใจจากเพื่อนที่ได้ก็หามีไม่  ซ้ำยังคิดจะทำร้ายคนที่มึงรักอีกเชรี่ยสิงห์สัด!


ไม่น่าจะมาเป็นคนที่ครั้งนึงไอ้จ้อยเคยเรียกว่าพี่ เสียดายคำๆนั้นจริงๆ

ออฟไลน์ ดอกไม้

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 157
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +326/-1
และจากนี้คือมหกรรมตอบเม้นค่ะ  :L2:


Donaldye
เนอะๆ เกลียดมันเนอะ ไอ้ลอยเนี่ย^^

aisen
พี่สิงห์กับน้องจ้อยนอกจากงมโข่งแล้วยังมีแต่จะถอยหลังลงคลองไปทุกทีๆ ด้วยค่ะ  แต่ละตอน ความยาวประมาณ ๑๐ หน้าค่ะ  อยากเขียนให้ได้มากกว่านี้เหมือนกันแต่.. เขียนได้แค่นี้เอง ขอโทษทีน๊า T^T

fuku
ในที่สุดก็โล่งเนอะ  ไอ้ลอยมันไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่าแค่กอดๆ หอมๆ  อย่าเครียดมากเน้อ..เดี๋ยวไตวายจริงๆนะแย่เลย ^^ ส่วนน้องจ้อย ยังรันทดได้อีกค่ะ

akiko
อาจารย์ปล่อยเนื้อเข้าปากเสือชัดๆ  ไอ้เสือตัวนั้นตายยากซะด้วยสิคะ  ไม่รู้ต่อไปมันจะทำอะไรอีก

IIMisssoMII
เหะๆ เราอัพตามลำดับความง่ายน่ะค่ะคุณส้ม  บอร์ดนี้อัพง่ายกว่าอีกบอร์ดนึงน่ะค่ะ ก็เลยมาที่นี่ก่อน  คุณส้มสะดวกเม้นที่ไหนก็ได้จ้า^^  ว่าแต่ตอนนี้คุณส้มหายโกรธน้องจ้อยยังเอ่ย

fox
เห็นด้วยค่ะ  ไปเปลี่ยนชื่อซะเหอะไอ้เลวเอ๊ย  ส่วนน้องจ้อย  อย่าหมั่นไส้น้องเลยนะคะ  สงสารน้องเถอะ  เพราะจากนี้  พี่สิงห์จะเอาจริงแล้ว

silverspoon
คนเขียนชอบวางระเบิดค่ะ เหะๆ  จากนี้พี่สิงห์จะโหดเต็มตัว ส่วนน้องจ้อยก็เข้าโหมดรันทดสมบูรณ์แบบนะน๊า  o18 ขอบคุณที่เข้าใจตัวละครของเราทุกคนนะคะ  ความจริงที่สิงห์โตมาเป็นแบบนี้  ก็เพราะครอบครัวด้วยแหละส่วนนึง

WinterRose
อยากจะเขียนให้เร็วกว่านี้เหมือนกันค่ะ  แต่งานรัดตัวจัง  กว่าจะได้ตอนนึงปาเข้าไปอาทิตย์นึงแน่ะ  T^T

thearboo
เห็นทีน้องจ้อยจะเปิดใจยากค่ะ  โดนทำไว้ซะขนาดนั้น T^T  คุณชายไม่ได้อ่อนต่อโลกน๊า  แค่หลงผิดไปนิดหน่อยเอง

่patsaporn
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้จ้า  เม้นตั้งแต่ตอน ๑๑ แต่เพิ่งได้ตอบเม้นกันเนอะ  (อยากบอกว่าคนเขียนก็รักคนอ่านเหมือนกันค่ะ^^)  เรื่องพ่อของจ้อยนั้น  กว่าจะเฉลยก็อีกนานเลยค่ะ  เดาเล่นๆไปก่อนเน้อว่าเป็นใคร

Artemis
คุณ Artemis มามะขอกอดที :กอด1: ผู้ชายคนนั้นช่างใจร้ายจัง  โหดร้ายมากๆ ที่ทำร้ายจิตใจคนรักได้ในขณะที่เขากำลังมีความสุข  มันหักดิบกันเกินไป ฮือๆ  คุณ  Artemis เป็นครูสอนโยคะเหมือนน้องมูนใช่ไหมคะ  ขอไปสมัครเป็นลูกศิษย์ด้วยคนได้ป่าว ^^

Pithchayoot
โชคดีที่ไอ้ลอยมันได้แค่จูบค่ะ ^^

kunchan
คนเขียนใจร้ายไม่พอที่จะให้ชายเล็กโดนไอ้ลอยปล้ำเหมือนกันค่ะ  เลยทำใจเขียนออกไปได้แค่นั้นล่ะจ้า  แหะๆ 
ส่วนพี่สิงห์กับจ้อย  จากนี้ไปเราว่าคุณ kunchan ต้องย้ายข้างมาสงสารน้องจ้อยแทนแน่เลย  พี่สิงห์อย่าใจร้ายมากนะ T^T

Yร้าย
ชายเล็กปลอดภัยดีจ้า  คนเขียนก็ใจร้ายไม่พอที่จะ(ให้ตัวโกง)ทำร้ายนายเอก  (เพราะมันควรเป็นหน้าที่ของพระเอกมากกว่า^^)

meiji
ดูท่าแล้วน้องจ้อยคงจะเห็นใจจริงของพี่สิงห์ยากซะแล้วล่ะค่ะ  พี่สิงห์หมดความอดทนที่จะทำดีด้วย  ตอนนี้เข้าโหมดโหดเต็มตัวแล้ว (ใจดีกับน้องบ้างเน้อพี่สิงห์) คนเขียนก็อยากเขียนให้ได้มากกว่าอาทิตย์ละตอนเหมือนกันค่ะ  แต่ช่วงนี้งานเยอะจังเลย  ขอเป็นอาทิตย์ละตอนเนอะ  (ถ้าอาทิตย์ไหนมาอัพไม่ทันจะแจ้งล่วงหน้านะคะ^^)

silverphoenix
พี่สิงห์นี่นอกจากปากไม่ตรงกับใจแล้วยังหลงผิดตามเพื่อนเลวๆ อีกด้วยค่ะ  แล้วแบบนี้จ้อยมันจะเห็นใจได้ยังง๊ายย  ส่วนคุณชายโดนอาจารย์ลงโทษไปเรียบโร้ยย  อิอิ  ส่วนพ่อน้องจ้อยเป็นใคร  เรื่องนี้ยังคงเป็นปริศนาต่อไปจ้า

roseen
อย่าโกรธอย่าเกลียดคุณชายเลยนะคะ  T^T  ส่วนที่ด่าไอ้สิงห์มา  ขอกดไลค์ให้เลยค่ะ โดนใจอย่างแรวง^^ 

2pmui
ว้าว..ทายแม่นสุดๆไปเลยค่ะ  ส่วนคุณชาย โดนอาจารย์ทำโทษไปแล้วเน้อออ

jeaby@_@
พี่สิงห์ได้จับน้องจ้อยทำเมียแน่ในวันใดวันหนึ่งค่ะ  และต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่หลังๆมานี่ วันศุกร์จะเป็นวันรอเก้อซะแล้ว  (ปั่นไม่ทันอ่า แงๆT_T)  ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ  เราไม่ได้เฟอร์เฟคขนาดนั้นหรอกเน้อ  (เขินเลย)

~l3aml3ery~
เทียบไอ้ลอยกะยูสุเกะแล้ว  พี่ว่าไอ้ลอยมันเลวกว่านะคะ  คือร้ายแบบ..ร้ายเงียบๆ เชือดนิ่มๆ  ยูสุกันร้ายแบบตรงไปตรงมา  บางทีก็โง่ๆด้วย  แต่ไอ้ลอยเนี่ย..พี่ว่ามันฉลาดนะ  ส่วนพี่สิงห์ไม่ฉุดน้องจ้อยหรอกค่ะ  เอาหนี้มาอ้างจนน้องหนีไปไหนไม่ได้เลย

MinKKniM
กร๊ากกก สงกะสัยจะได้ฤกษ์พาไอ้ลอยไปอำเภอ  จับมันเปลี่ยนชื่อเป็นไอ้เลวซะให้รู้แล้วรู้รอดไปเล้ย คิคิ  อย่างอนคุณชายเลยนะคะ  คุณชายหลงผิดไปหน่อย  แถมเมาด้วย อย่าถือสาเลยน๊า

mamichan
เซียมซีชายเล็กเป็นจริงตามนั้นเลยค่ะ แม่นมาก ดีนะที่ของไอ้ลอยได้แค่พอหอมปากหอมคอ

izanagi
ดูท่าต่อให้พี่สิงห์ขอโทษให้ตาย น้องจ้อยก็ไม่มีวันยกโทษให้แน่เลยค่ะ น้องยิ่งใจแข็งอยู่ด้วย

ChigoRita
กร๊ากก..ขอบคุณที่มองเห็นความน่ารักของพี่สิงห์นะคะ

pk11677
ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์นะคะ  ได้รู้ความหลังของสิงห์กับจ้อยแล้วเป็นไงมั่ง  ยังสงสารเจ้าสิงห์อยู่หรือเปล่า  โดยส่วนตัวพี่เข้าใจสิงห์มันนะ แต่ใจหนึ่งก็สมน้ำหน้าลึกๆ  (ส่วนมี่จัง..เรื่องนั้นเขียนตั้งแต่ยังเป็นสาวน้อย  ภาษามันเลยก๊องแก๊งๆไปหน่อย เหะๆ ^^”)

Guill
แต่ในที่สุดมันก็ทำอะไรคุณชายเล็กไม่ได้  โชคดีไป ฟู่วว.. แต่ในอนาคตมันก็ไม่แน่นะคะ ^^ ส่วนเรื่องที่มาของน้องจ้อย  ยังคงเป็นปริศนาจ้า

Loveyoujung
ได้อ่านบทที่ ๑๓ แล้วเข้าใจจ้อยบ้างหรือยังเอ่ย? อย่าโกรธน้องจ้อยเลยนะคะ  เพราะที่ผ่านมา พี่สิงห์ก็ทำเกินไปจริงๆ

blackyoyo
อาจารย์ยังมาช้าไปค่ะ  ถ้าพี่สิงห์มาไม่ทันละก็แย่เลย

MIkz_hotaru
ถ้ารักเขาแต่แสดงออกแบบนี้ มันก็สมควรที่เขาจะชังน้ำหน้าแหละน๊าสิงห์เอ๊ย  คนเขียนไม่สงสารพี่สิงห์หรอกค่ะ  สงสารน้องจ้อยมากกว่า (รักลูกไม่เท่ากัน) จากนี้น้องจ้อยจะไม่ค่อยได้ทำร้ายพี่สิงห์แล้วค่ะ  จะเปลี่ยนเป็นพี่สิงห์ทำร้ายน้องจ้อยมั่งละน๊า

wdaisuw
พี่สิงห์จ๋า.. รักจ้อยมากแค่ไหน  รักมากกว่าศักดิ์ศรีตัวเองหรือเปล่า  ถ้ายอมทิ้งศักดิ์ศรีจอมปลอมเพื่อจะมารักจ้อยไม่ได้  พี่ก็ต้องชีช้ำแบบนี้ต่อไปนะพี่นะ  ส่วนอาจารย์กับลูกศิษย์  วันนั้น.. วันที่มีสติทั้งสองฝ่าย  คงอีกไม่นานเกินรอค่ะ^^

PetitDragon
ก็ไอ้สิงห์มันอยากใจร้ายกับน้องจ้อยก่อนนี่นา  ^^” สองคนนี้ท่าจะคืนดีกันยากส์ค่ะ

Wordslinger
คุณแป้งจี่  :กอด1: ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ สำหรับคอมเม้นที่อ่านแล้วเล่นเอาคนเขียนตัวลอยเลย ๕๕๕+  ขอบคุณที่หา ‘สาระ’ จากนิยายเรื่องนี้เจอนะคะ  คือตอนเขียนก็ตั้งใจจะใส่เกร็ดสังคมในยุคนั้นๆ สอดแทรกไว้ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเขียนออกมาได้ดีพอ ถูกต้องพอหรือเปล่า (ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)  ส่วนเรื่องแบงค์สีน้ำเงินนี่ ในท้องเรื่องคือแบงค์ ๒๐ บาทค่ะ (เป็นธนบัตรไทยแบบที่ ๘ น่ะค่ะ^^)  ชอบครูอาจินต์เหมือนกันเลยค่ะ  นักประพันธ์ชั้นครูที่เราชื่นชอบ(ไล่ตามยุคมาเลย) ก็มีศรีบูรพา, ยาขอบ, อิงอร, รงษ์ วงศ์สวรรค์, สุวรรณี สุคนธา (รุ่นเก่าทั้งน๊าน) และที่ขาดไม่ได้คือทมยันตีค่ะ (สไตล์การสอดแทรกบทกลอนลงไปในงานเขียน เราก็เอามาจากท่านนี่แหละ^^)

EoBen
แหะๆ ระยะหลังมานี้อัพช้าตลอดเลย  ต้องขอโทษด้วยนะคะ T^T  ขอบคุณที่เข้าใจสิงห์นะคะ  คือจริงๆแล้วมันก็เป็นคนดี  แต่เพราะครอบครัวมีปัญหา  แถมได้เพื่อนเลวอีก  เลยเตลิดเลยทีนี้

ordkrub
ถ้าพี่สิงห์ไม่ยอมปรับปรุงตัว  ชาตินี้คงไม่มีทางญาติดีกับน้องจ้อยแน่เลยค่ะ

@BUA@
คุณชายเล็กไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ  อย่าร้องไห้นะ โอ๋ๆๆ  เข้าข้างน้องจ้อยเหมือนกันเลยค่ะ  :-[ เนอะๆ ตั้งแต่อ่านมายังไม่มีตอนไหนเลยที่สิงห์มันแสดงออกอย่างอ่อนโยนกับน้อง  แบบนี้มันก็สมควรแล้ว  คุณชายรู้สึกตัวแล้วก็จำอะไรไม่ได้ไปตามระเบียบ  ส่วนอาจารย์ดูท่าจะห่วงจะหวงยิ่งกว่าเก่าซะแล้วค่ะ 

silent_loner
พี่สิงห์นี่ต่อให้ทำดีแค่ไหน จ้อยก็คงไม่มีทางมองในแง่ดีได้แน่ๆเลยค่ะ เล่นทำน้องไว้ซะหนักขนาดนั้น (ขอบคุณสำหรับคะแนนนะคะ^^)  ตอนนี้คุณชายก็ได้รับผลจากอบายมุขแล้วค่ะ  โดนชาวบ้านเอาไปเม้าท์กันสนุกเลย 

Takamine
เข้าท่าค่ะ  เปลี่ยนให้ไอ้ลอยเป็นพระเอกดีไหมนะ  ได้อารมณ์ดอกฟ้ากับหมาวัดยิ่งกว่าอ.คนึงอีกนะนี่ (แอ๊ เค้าย้อเย่นน๊า) 

kissey_love
โหะๆ เดี๋ยวนี้วันศุกร์เริ่มไม่ทันแล้วจ้ะ  หลังๆมานี่เป็นวันเสาร์ตลอดเลย  พี่ขอโต้ดดด.. ในที่สุดก็รู้แล้วเนอะว่ารอยร้าวระหว่างน้องจ้อยกับพี่สิงห์มันเกิดจากอะไร  ส่วนนิยายอีกเรื่องของพี่  ตอนนี้กำลังเร่งรีไรท์หูตูบเลยจ้า  แบ่งเวลาไม่ค่อยลงตัว  ประกอบกับช่วงนี้เดินทางบ่อยด้วย  โอว..เหนื่อยจังเยย..ขอกอดน้องปัดที :กอด1:

tonkhaw
น้องจ้อยใจแข็งสุดๆเลยจ้า  คนที่ดูอ่อนโยนแบบน้องจ้อยนี่แหละตัวดี  บทจะตัดใครก็ตัดได้แบบไร้เยื่อใยทีเดียวเชียว  และจากนี้ไปพี่สิงห์ก็จะโหดของจริงแล้วล่ะเน้อ  ส่วนแหวน.. ตอนนี้ยังไม่มีบทบาทค่ะ  เป็นความลับก้นกระถางธูปรอคอยวันเฉลยต่อไป  ^^   

yayee2
จ้อยจะมองสิงห์ยังไงก็ขึ้นอยู่กับตัวพี่สิงห์เองนี่ละค่ะ  ถ้าไม่เลิกคบเพื่อนเลว  ถ้าไม่ปรับปรุงตัว  ชาตินี้ก็คงได้แต่แอบรักเขาข้างเดียวแบบนี้แหละสิงห์เอ๊ย   ส่วนน้องจ้อยกับคุณชาย จะเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือเปล่า  อันนี้ต้องติดตามต่อไปค่ะ^^

Zymphoniz
คู่สิงห์กับจ้อยนี่  ต่างคนต่างเจ็บกันทั้งคู่เลยค่ะ  ในที่สุดก็ได้รู้แล้วเนอะว่าจ้อยจะโดนอะไร  อยู่ใกล้พี่สิงห์แบบนี้.. ฮี่ๆๆ น้องจ้อย โดนแน่แน่ :oo1:   ส่วนเรื่องน้องจ้อยเป็นลูกใคร  ถ้าจะให้ดี คนอ่านลืมตรงนี้ไปก่อนเลยก็ได้นะคะ  เพราะกว่าจะเฉลยก็นู่น.. อีกนานเลยค่ะ

G-NaF
ไอ้ลอยมันเป็นตัวโกงดีเด่นค่ะ  ขยั๊นขยัน โผล่มาสร้างปัญหาได้ตลอดซีน่า  ส่วนอาจารย์กับลูกศิษย์  ยังค่ะ.. ยังไม่ได้กันนะคะ  คือ.. แค่ภายนอกน่ะค่ะ (แอร๊ เขิลล์)

appletokki
กร๊ากกกก  :m20:ขำที่บอกว่าอยากจะซื้อเทอร์โบมาติดเรืออาจารย์จังเลยค่ะ  คุณappletokki ทำเราขำในที่ทำงานจนเจ้านายหันมามองเลยนะ (แอบอ่านคอมเม้นในเวลางาน^^)

yagin
บางทีตัวร้ายก็มีเสน่ห์แบบร้ายๆอ่ะเนอะ^^

ลิงน้อยสุดเอ๋อ
พี่สิงห์คงเป็นพวกแสดงความรู้สึกไม่เป็นน่ะค่ะ  ประกอบกับยิ่งอยู่ต่อหน้าพวกลูกน้อง  จะให้พวกนั้นรู้ไม่ได้เด็ดขาดเลยว่าชอบน้องจ้อย  ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ^^ 

vk_iupk
กร๊ากกก เดาเรื่องได้ตามสะดวกเลยค่า  พี่สิงห์ฝากบอก คู่อาจารย์ไปไกลแล้วใช่ไหม  ไม่ต้องห่วง  เดี๋ยวจะตามไปติดๆ ตอนนี้กำลังวางแผนจับจ้อยทำเมียอยู่  (คิคิคิ :o8:)

BossoM
ไอ้ลอยเจออาจารย์ต่อยไปชุดนึง  ยังรู้สึกไม่ค่อยสะใจเท่าไหร่เลยแฮะ 

นางฟ้า
สามคำให้นางฟ้าค่ะ >> รัก นาง ฟ้า  (ขอบคุณมากนะคะ  มาเม้นให้ทุกตอนเลย จุ๊บๆ)

hewlett
พี่สิงห์คงกลัวว่าถ้าบอกไปแล้ว  เกิดจ้อยไม่รับรักขึ้นมา มันคงเจ็บยิ่งกว่าเก่าน่ะค่ะ T^T 

BlooDDy_KilleR
พี่สิงห์ก็ไม่น่าใจร้อนไปต่อยอาจารย์แบบนั้นเลย  จ้อยยิ่งเกลียดเข้าไปใหญ่เลยค่ะ เฮ่อ

iamew
อย่าโกรธน้องจ้อยเลยนะคะ  พี่สิงห์เคยทำน้องไว้เจ็บจริงๆ ไม่งั้นน้องคงไม่ฝังใจเจ็บมาจนป่านนี้  แต่ต่อจากนี้ไป.. สิงห์มันจะเริ่มโหดกับน้องจริงๆจังๆแล้วสิ T^T

CoMa
โชคดีค่ะที่ไอ้ลอยมันไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าแค่จูบ  ฟิ่ววว.. :เฮ้อ:

vavacoco
ขอโทษที่มาอัพช้า ทำให้รอนานนะคะ  และแล้ว..คุณชายก็ถูกอาจารย์ทำโทษไปแล้วเน้อ คิคิ  ส่วนที่ถามมาว่าเรื่องนี้ยาวไหม.. อืม..ก็ค่อนข้างยาวพอสมควรทีเดียวเลยค่ะ  แต่คราวนี้ไม่ใช้เวลาเขียนนาน ๕ ปีเหมือน Protégé แล้วค่ะ สัญญาๆ (ช่วงนั้นพอดีเจอมรสุมชีวิต T^T ก็เลยต้องหยุดเขียนไปเป็นปีเลย) เรื่องนี้ไม่ลงไหเหมือนเรื่องนั้นแล้วค่ะ ^^

threetanz
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้นะคะ (กอดกันๆ) ดีใจมากๆที่อ่านแล้วชอบค่ะ  ถึงเรื่องนี้จะดราม่า  คนเขียนก็จะพยายามเติมน้ำตาลบ้างก็แล้วกันนะคะ^^

Phantom
อยากดูลำนำอัมพวาจังค่ะ  ออกอากาศวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันทำงานของเรา เลยอดดูเลย  ได้แต่ตามดูย้อนหลังในยูทูปค่ะ (ว่าแต่คุณชายโดนอาจารย์ทำโทษไปแล้วน๊า>///<) อ้อ..แมวพี่ไม่ได้ชื่อหาหงส์หรอกจ้า  ตัวนั้นชื่อทองหล่อ (ก็เค้าหล่อไง) ส่วนอีกตัวคู่กันชื่อสุขุมวิท (ตัวนี้เค้าเรียบร้อย นิ่งๆ)

ka~O
ขอบคุณที่รอค่ะ  (ดีใจจัง มีคนรอด้วย^^) น้องจ้อยไม่ได้อคติน๊า.. น้องแค่เจ็บแล้วจำเท่านั้นเองค่ะ

ares_jum
ความยาวแต่ละตอนจะประมาณ ๑๐ หน้าเด้อค่ะ  เวลาเราอัพก็เลยจะอัพทีละครึ่ง อัพช้าไปหน่อยต้องขอโทษที (เม้นคั่นได้ค่า ดีซะอีก แสดงว่ามีคนกำลังอ่านสดๆ ตอนกะลังอัพ^^) เอาใจช่วยเรื่องไฟนอลนะคะ

ai_no_uta
น้องพิมพ์.. ก็แบบ.. หวานในแบบของพี่ไงคะ แหะๆ  เอาน่าๆ หวานจริงๆ แต่อาจจะยังไม่ใช่ตอนนี้ โดยเฉพาะน้องจ้อยกับพี่สิงห์ค่ะ T^T

oattie
จ้อยไม่รอดแน่ๆจ้า  พี่สิงห์ใช้แผนชั่วให้แม่มาพาน้องไปอยู่ใกล้ๆแล้ว  โธ่จ้อย T^T  ชอบตอนเขียนถึงจ้อยกับสิงห์ตอนเด็กเหือนกันค่ะ น่ารัก ใสๆ 

Sofa
พี่สิงห์เลวแบบ.. เลวมีปมด้อยค่ะ  คือจริงๆ เนื้อแท้ก็เป็นคนดีแหละ แต่ไปคบเพื่อนเลว เลยพากันเลวไปเลย

mello-frappe
ว้าวๆๆ เคยอ่านนิยายเรื่องแรกของพี่ด้วยเหรอคะ  ขอบคุณมากๆเน้อที่ตามมาอ่านเรื่องนี้ด้วย  คุณชายทำตัวน่าผิดหวังจริงๆแหละค่ะ  รู้ว่าของไม่ดีแล้วยังริจะลอง  แต่อย่างว่าแหละเนอะ  ของแบบนั้นห้ามกันยาก  พอได้ลองแล้วก็เตลิด  คิดซะว่าคุณชายโดนอาจารย์ทำโทษแล้วก็แล้วกันนะคะ  ปล. จะว่าไปจ้อยก็คล้ายๆโนโนะเนอะ  แต่จ้อยจะเรียบร้อยกว่า ซื่อกว่า (แต่รันทดพอๆกันเลย)

akihito
อย่าไปสงสารไอ้สิงห์มันน๊า  มันทำตัวเองโดยแท้ สมน้ำหน้ามัน  ถ้าทำดีๆกับน้องตั้งแต่แรก น้องก็ไม่เกลียดหรอก ฮึ่ (รักลูกลำเอียงชัดๆ แหะๆ^^)

Heisei
ว้าวๆๆ ยินดีต้อนรับคนอ่านคนใหม่ค่ะ (มามาะกอดกัน) ขอบคุณมากที่แวะเข้ามาอ่านนิยายเรื่องนี้นะคะ 

ฟิชโช่
ก็คนเขียนชอบมาม่านี่นา  มันก็เลยออกมาบีบหัวใจแบบนี้แหละค่ะ  แต่จะว่าไป..เราชอบความรู้สึกเจ็บหนึบตึ๊บๆตรงอกเวลาอ่านเจอฉากสะเทือนใจมากเลย (สงสัยคนเขียนซาดิสม์^^) 

Nus@nT@R@
น้องจ้อยใจแข็งเป็นหินเลยล่ะค่ะ  ถ้าพี่สิงห์อยากคืนดีกับจ้อยให้ได้  ต้องปรับปรุงตัวด่วนๆ  ส่วนชาติกำเนิดน้องจ้อย ช่วงนี้ลืมกันไปก่อนนะคะ  กว่าจะเฉลยก็อีกนานเลย

ares_jum
จากนี้น้องจ้อยเข้าโหมดรันทดแล้วค่ะ  เพราะพี่สิงห์ถือคติ ทำดีด้วยก็ไม่เห็นค่า งั้นก็เลวแมร่งซะเลย  กว่าสองคนนี้จะเข้าใจกัน ท่าจะยากแล้วล่ะค่ะ T^T

namngern
พี่ก็เข้าใจสิงห์มันนะคะ  ว่าทำไมมันถึงได้เป็นคนแบบนี้  แต่อีกใจก็สมน้ำหน้า  อยากไปคบคนพาลทำไม  ถ้าจิตใจหนักแน่นเสียอย่าง  คงไม่ต้องเสียจ้อยไปแบบนี้  แหะๆ เรื่องนี้ไม่ซับซ้อนมากขนาดนั้นหรอกค่ะ  ปมในเรื่อง  อีกไม่นานก็คงคลี่คลายแล้วล่ะ 

Aimiya
อย่ารำคาญจ้อยเลยนะคะ  น้องมีเหตุผลที่เกลียดพี่สิงห์น๊า  นิยายเรื่องนี้ก็มีบทที่ไม่รันทดนะคะ  (แต่อยู่ไหนเอ่ย)  เอาน่า.. มีจริงๆค่ะ  เร็วๆนี้ละ

~MiKi~
อย่าโกรธคุณชายเลยนะคะ  คุณชายไม่ได้เกเรน๊า  แค่หลงผิดตามไอ้ลอยไปหน่อยเท่านั้นเอง  โดนลูกยุเข้าไป แถมมันหยามหน่อยๆด้วย  ก็เลยต้องกินเหล้า  แล้วพอกินมันก็เลยติดลม  ส่วนน้องจ้อย.. อย่าหมั่นไส้จ้อยเลยนะคะ  น้องเคยถูกกระทำมาเยอะ  ก็เลยเกลียดเขาแบบนี้

mkooo
ว้าว..ประโยคที่บอกว่า “อ่านนิยายเรื่องนี้แล้วไอ้อารมณ์เหมือนดูละครพีเรียดหลังข่าวช่อง ๕” อ่านแล้วตัวลอยเลยค่ะ  (เราชอบมาลัยสามชายม๊ากมาก) เย้ๆ นานๆ จะเจอคนหมั่นไส้สิงห์  ถูกใจค่ะ  ก็สิงห์มันอยากทำตัวเองนี่นา สมควรแล้วเนอะๆ  ส่วนคนเขียนก็ชอบแคแรกเตอร์นายเอกทั้งสองเหมือนกันค่ะ  ทั้งชายเล็กทั้งน้องจ้อยเลย  สองคนนี้เขาจะเหมือนกระจกส่องกันและกันอยู่ในทีนะคะ

llPETCHll
คงอีกนานเลยค่ะ  กว่าสิงห์กับจ้อยจะเข้าใจกัน  (พี่สิงห์ปรับปรุงตัวด่วนๆ)

นางคุ้ม
ไม่ว่าค่ะไม่ว่า  เชียร์ได้จิ้นได้ตามสะดวกเลยค่ะ ^^  แต่เอิ่ม.. ให้ไอ้ลอยจับทำเมียให้หมดทั้งคุณชายเล็ก จ้อย สิงห์ อ.คนึง.. แบบ.. ไม่ไหวอ่ะค่าาา T^T

looknamniiz
พี่สิงห์จัดการน้องจ้อยแน่ค่ะ  ในไม่ช้านี่แหละ T^T

ycrazy
พี่สิงห์ต้องเลือกค่ะ  ระหว่างศักดิ์ศรีของความเป็นหัวโจก  กับการได้ครอบครองหัวใจของจ้อย  ถ้าเลือกไม่ได้ก็จงค้างคาแบบนี้ต่อไป  ส่วนชาติกำเนิดของจ้อยเป็นอย่างไร  ขออุบไว้ก่อนนะคะ^^

moredee
ไม่ได้อ่านข้ามหรอกค่ะ  คนเขียนยังไม่ได้เขียนถึงฉากที่จินดาตายเลย  เพียงแต่เป็นคำพูดจากปากอาจารย์เท่านั้นค่ะ

tuek
ขอบคุณที่อ่านแล้วชอบนะคะ  เห็นใจจ้อยเถอะนะ อย่าหมั่นไส้น้องเลยนะคะ  เรื่องนี้น้องจ้อยรันทดที่สุดแล้วค่ะ T^T

Eomoge
น้องจ้อยโดน..  :oo1:แน่ๆ ฮ่าๆๆ

K3n0
ว้าว..ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้ค่ะ (จุ๊บๆ) ขอบคุณมากสำหรับคำชมนะคะ (เขินจัง)  และขอบคุณมากที่มองเห็นสาระที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องนอกเหนือไปจากความสนุกสนานค่ะ (มีความสนุกสนานด้วยเหรอ โศกตล๊อดๆ)

ต่ายน้อย
ขอบคุณมากค่า คนเขียนก็รักคนอ่านเหมือนกัน  :กอด1:จากนี้พี่สิงห์จะเริ่มเลวกับน้องจ้อยละเน้อ  ส่วนคุณชายกับน้องจ้อยจะเป็นพี่น้องกันหรือเปล่า  จิ้นได้ตามสะดวกเลยค่ะ  ^^

zazakapp
ขอโทษที่คนเขียนชอบทำให้รอนะคะ T^T

shabu
รู้สึกว่าหลังๆมานี่จะไม่ค่อยมีวินัยในการอัพเลย  ช้ามั่ง ไม่เป็นเวลามั่ง  ต้องขอโทษด้วยนะคะ

shiki senri
ขอบคุณมากนะคะที่รักนิยายเรื่องนี้  (เราก็รักม๊ากมาก) อยากบอกว่าเราชอบฟังเพลงลาวคำหอมตอนเขียนเหมือนกันค่ะ ^^ ความจริงน้องจ้อยเป็นลูกใครกันแน่  ลองเดากันได้ตามสะดวกเลยจ้ะ  ยังไม่เฉลยเร็วๆนี้แน่นอน  คนเขียนไม่ใจร้ายกับคนอ่านหรอกค่า (แต่ถ้าเป็นตัวละครละก็ไม่แน่น๊า อิอิ) ปล. ขอโทษด้วยนะคะที่หลังๆมานี่ทำให้รอเก้อตลอดเลย T^T

Jploiiz
ถ้าพี่สิงห์ทำตัวเลวกว่าเดิม  อะไรๆที่แย่อยู่แล้วคงยิ่งแย่ลงเยอะเลยค่ะ  แต่จะให้เลิกคบไอ้ลอยนี่ท่าจะยาก  ส่วนคุณชายกับอาจารย์  ตอนนี้ปล่อยให้หวานกันไปก่อนนะคะ

aorpp
จากนี้พี่สิงห์จะจำเลยรักกะน้องจ้อยละน๊า  ตบจูบๆ กันไปเล้ย  อยากไม่มีเงินมาใช้หนี้  ก็เอาอย่างอื่นมาชดใช้แทนละกัน  คิคิ

ณยฎา
บทที่แล้วหวานปนขมค่ะ  เพราะคุณชายทำไปโดยไม่รู้ตัวนี่นา  และเรื่องคืนนั้นจะเป็นบ่อเกิดของอะไรหลายๆอย่างในอนาคตด้วย 

nutgen
อะไรน่ารักเอ่ย  งั้นขอเหมารวมว่าคนเขียนน่ารัก  ตัวละครน่ารัก  คนอ่านก็น่ารักละกันนะคะน้องนัท^^

ALittleN
ใครเป็นพ่อน้องจ้อยกันน้อ  เดาเล่นได้ตามสบายเลยค่ะ ^^

money loving
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้ค่ะ (กอดรับขวัญ) ขอบคุณที่ชอบนิยายเรื่องนี้ ชอบภาษาแบบนี้นะคะ  ส่วนตัวเราเป็นคนชอบอ่านนิยายภาษาสวยๆ อยู่แล้ว  พอมีโอกาสได้เขียนนิยายก็อยากใช้คำสวยๆ กับเขาบ้างน่ะค่ะ  สำนวนที่ใช้ในเรื่อง  ออกจะเก่าๆ เชยๆ หน่อยตามแบบนิยายรุ่นเก่าเน้อ 

 My_Rain
ขอบคุณที่ชอบพี่สิงห์กับน้องจ้อยนะคะ  ^^

~ยำโซดาเผา~
ดีใจที่ชอบค่ะ  ตอนเขียนนิยายเรื่องนี้  คนเขียนก็มีความสุขมากๆเหมือนกัน^^

casper75
เมื่อก่อนสิงห์ทำกับจ้อยไว้เยอะจริงๆแหละค่ะ  น้องเลยฝังใจเจ็บจนป่านนี้  แต่สิงห์คงตัดใจเลิกชอบจ้อยไม่ได้ เลยต้องเอาตัวมาพัวพันกับน้องอยู่เรื่อย

vassalord4822
ขอบคุณที่ชมค่ะ  (เขินจัง) แหะๆ  ส่วนตัวแล้วคิดว่าเราไม่ได้เขียนเก่งขนาดนั้นหรอกค่ะ  แค่เขียนอย่างที่อยากอ่านเท่านั้นเอง  รู้ว่ามีคนอ่านชอบก็ดีใจมากๆเลยค่ะ^^

YaoTJi
ไม่ต้องขอโทษหรอกจ้าที่เป็นนักอ่านเงา ^^ แค่แวะเข้ามาอ่าน คนเขียนก็ดีใจมากๆ แล้ว  ยิ่งคนอ่านอ่านแล้วชอบยิ่งดีใจเข้าไปใหญ่เลย  แต่คอมเม้นก็ดีเหมือนกันนะ เราจะได้รู้จักกัน ได้คุยกันไง ยินดีที่รู้จักนะคะ (กอด) ตอนนี้ขณะที่คุณชายกับอาจารย์กำลังหวาน  พี่สิงห์กับน้องจ้อยจะเข้าโหมดโศกแล้วเน้อ  จะได้บาลานซ์กันไง^^

A_ay
แหะๆ  ปมเยอะ  แต่คนเขียนจะค่อยๆแก้ไปทีละปมนะคะ  ^^

pure_ka
พี่สิงห์โดนไอ้ลอยยุมาอีกที  น้องจ้อยเจอศึกหนักแน่คราวนี้ T^T ส่วนที่ถามมาว่าอาจารย์กับคุณชายได้กันหรือยัง  ขอตอบว่า..ยังจ้า^^

โดดเดี่ยวแต่ไม่
ใช่แล้วค่ะ  คิดเหมือนกันเลย  ในเรื่องนี้น้องจ้อยรันทดที่สุดแล้ว  แต่ถึงจะรันทดยังไงน้องก็ยังยึดมั่นในความดีเสมอ  หวังว่าสุดท้ายน้องจะได้พบเจอแต่สิ่งดีๆค่ะ

kjnt
ไม่เป็นไรค่ะไม่เป็นไร  เราไม่เคยมองว่าคนอ่านแล้วไม่เม้นนิสัยไม่ดีเลย^^  คือการที่เราเขียนนิยายขึ้นมาเรื่องหนึ่ง   แค่ได้เขียนเราก็มีความสุขแล้ว  ยิ่งดีใจเมื่อมีคนอ่าน  และจะยิ่งดีใจมากๆถ้าคนอ่านอ่านแล้วชอบค่ะ  บางคนอ่านแล้วเก็บไว้ในใจก็ได้  แต่ถ้าอ่านแล้วอยากคุยกับเราเราก็ยิ่งยินดีค่ะ  นี่แหละคือข้อดีของคอมเม้น  ทำให้เราได้ปรับปรุงผลงานตัวเอง  และทำให้เราได้รู้จักคนอ่านด้วย^^ ส่วนที่ถามมาว่าทำไมอาจารย์กับคุณชายรักกันเร็วจัง  ถ้าตอบแบบเอาเท่  ก็ต้องตอบว่า ‘ถ้ามีเหตุผลก็ไม่เรียกว่าความรักน่ะสิ^^’ (แอร๊ อย่าตื้บเค้าน๊า) 

เอาจริงๆ ^^ เราว่าเรื่องแบบนี้มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน  ถ้าจะรักใครสักคนโดยใช้หัวใจมากกว่าใช้สมอง  เคยอ่านเจอกระทู้ในพันทิป  (นานมาแล้วค่ะ) มีคุณพ่อลูกติดคนหนึ่งเข้ามาตั้งกระทู้  ภรรยาของเขาเพิ่งเสียไป  แต่เขากลับรู้สึกแปลกๆ กับรุ่นน้อง(ผู้ชาย)ที่คอยเข้ามาดูแล มาช่วยเลี้ยงลูกให้  เราอ่านแล้วรู้สึกว่า..น่ารักมากเลย (ทั้งที่จริงๆเขาเครียดนะนั่น^^”) วันก่อนก็ดูหนังเรื่อง My Neighbor's Daughter เป็นเรื่องเกี่ยวกับหนุ่มใหญ่ที่มีครอบครัวแล้ว (เพิ่งมีลูกเล็กๆด้วย) แล้วดันไปมีความสัมพันธ์กับลูกสาวเพื่อนบ้านวัย ๑๗ ปี หนังสนุกดีค่ะ 

ส่วนเรื่องนี้  ถ้าจะว่ากันตามท้องเรื่อง  อาจารย์กับคุณชายคงเป็นคนเหงาๆ สองคนที่บังเอิญเดินทางมาพบกัน  และได้ใกล้ชิดกันมั้งคะ  อะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นก็ล้วนเป็นใจทั้งนั้นเลย  แต่จากใจเลยนะคะ  ไม่ว่ายังไงเราก็ไม่เห็นด้วยกับความรักครั้งนี้  ถ้าเราเป็นเพื่อนอาจารย์เราคงห้ามค่ะ  เพราะไม่ว่าจะมองยังไง  รักครั้งนี้มันก็ผิดและไม่เหมาะไม่ควรไปเสียทุกอย่าง  คอยเป็นกำลังใจให้พวกเขาละกันนะคะ^^

devillpatt
แหะๆ  นิยายเรื่องนี้เนื้อเรื่องแตกต่างจากนิยายวายส่วนใหญ่เนอะ  ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องจริงของหนุ่มน้อยหลานรัฐบุรุษอังกฤษที่มาเป็นอาสาสมัครคนแรกในเมืองไทยน่ะค่ะ  (คนเขียนจิ้นกระจายตั้งแต่เห็นคำอุทิศที่รองปกในแล้ว^^)  ส่วนที่ถามมาว่าทำไมจึงเลือกดอกมหาหงส์เป็นชื่อเรื่อง  อืม.. ความจริงจะมีเฉลยในเนื้อเรื่องค่ะ  แต่บอกใบ้ให้ก่อนก็ได้ว่า ‘มหาหงส์’ หมายถึงนายเอกทั้งสองคนของเรื่องจ้า^^
     
faratellll
คุณชายเล็กรอดจากไอ้ลอยมาได้  แต่ต้องมาเจออาจารย์แทน ^^ (อ้าวก็เค้าเป็นพระเอกหนิเนอะ)

saylmya
ยินดีต้อนรับสู่นิยายเรื่องนี้นะคะ  ไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่แรกก็ไม่เป็นไรค่ะ  ยินดีที่ได้รู้จักคนอ่านเพิ่มอีกคนนะคะ^^

sine
ว้าว..คนอ่านใหม่ มามะ กอดต้อนรับค่ะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ  แนวย้อนยุคเขียนยากจริงๆนั่นละค่ะ ภาษาเอยสำนวนเอยต้องปรับหมดเลย  ส่วนวิถีชีวิตชาวบ้านในยุคนั้นเราก็อาศัยถามผู้หลักผู้ใหญ่ที่บ้านเอาค่ะ  ถ้ามีจุดไหนผิดพลาดไปบ้างก็ต้องขออภัยล่วงหน้านะคะ

ขอบคุณคนอ่านทุกคนมากเลยค่ะ รักคนอ่านนะ

ดอกไม้
๙ มี.ค. ๕๕


ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
โหดเกิ๊นพี่สิงห์ สงสารจ้อย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด