Re: **เมื่อความกลัวมาเยือน * ตอนพิเศษ สอง กด ภูมิ จบแล้วจร้า 15/12/54 p.14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

......คิดว่าใครโดนกด เอ่ย!

ภูมิ  กด  สอง
33 (43.4%)
สอง กด  ภูมิ
18 (23.7%)
ต่างคนต่างกด  ตามวาระและโอกาส......
25 (32.9%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 59

ผู้เขียน หัวข้อ: Re: **เมื่อความกลัวมาเยือน * ตอนพิเศษ สอง กด ภูมิ จบแล้วจร้า 15/12/54 p.14  (อ่าน 114899 ครั้ง)

modYlove

  • บุคคลทั่วไป
อ่านก่นอนะคะ

เรื่อกำลังเข้มข้น  พร้อมกับเรื่องที่ทำเดินมาถึงกลางเรื่องก็ว่าได้

สองนี้...น่าสงสารได้โล่อีกค่ะ  แต่เมื่อผ่านพ้นมาได้ ก็จะมีสิ่งดีๆ มาแทนเช่นกัน

สองฝากบอกว่า  "สิ่งที่เขาทำมาไม่ได้อยากให้ใครรู้หรอก  แค่ถ้าคนอ่านเห็นใจเขาก็พอแล้ว..และยกโทษให้ทุกคนในครอบครัวเพียงแค่นี้เท่านั้น....."  (อึนได้อีกสองเรา)

ค่ะๆ  ไม่พูดมากแล้วแค่ต้องการฝากข้อความของสองให้ผู้อ่านเท่านั้น   :bye2: :bye2:


ตอน 9


“อะไรว่ะ...ทำไมมันป่วยได้บ่อยขนาดนี้  ตอนเด็กออกจะแข็งแรง...”  ผมบ่นอุบอยู่คนเดียวที่เห็นน้อยเดินมาบอกนม

ให้มาทำโจ๊กให้คุณสองหน่อย  แกไม่สบาย

ผมได้ยินพอดี....งตอนที่น้อยเดินมาบอกนมนั้นแหละครับ   ผมว่า...ไอแค่เจาะนมก็เหมือนเจาะต้มหูนั้นแหละ

ไม่สามารถทำให้ใครไม่สบายได้ได้หรอก....แต่ทำไมไอสองมันถึงได้อ่อนแอนัก....ทำให้ผมรู้สึกผิดไปด้วยเลย..

ผมนั่งเล่นอยู่ในสวน.........ขณะที่น้อยเดินมาหาผมอีกรอบ

“คุณหนูค่ะ  คุณนุชเรียกที่บ้านใหญ่ค่ะ..........”  ผมสงสัยมากที่แม่เลี้ยงใจร้ายเรียกขึ้นบ้านใหญ่

เพราะมันไม่เคยเรียกผมอีกเลยตั้งแต่ผมขึ้น ม.6  แถมยังไม่ให้ผมขึ้นไปหาพ่อด้วยอีก



ผมเดินตามน้อยไปที่ตึกใหญ่  เพราะอยากรู้ว่าอีแม่เลี้ยงจะเรียกผมทำไม

ขณะที่ผมเดินเข้าบ้านใหญ่ก็มีรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านใหญ่แล้ว

ผมเดินเข้าไปในห้องโถง ที่มีอีกแม่เลี้ยง  มีสอง  และทนายความ  แต่อีหนึ่งไม่เห็นมาหลายวันแล้ว

“เรียกมาทำไม...” ผมถามออกไปก่อนที่จะสบตาแม่เลี้ยง  ที่นั่งหน้าตึงอยู่



“คุณหนูภูมิครับ ..........”  เสียงทนายความขัดขึ้นเมื่อผมถามออกไป

“ครับ..คุณทนาย...”

“เชิญนั่งก่อนครับ........”  เสียงทนาย  เชิญผมนั่ง ทั้งที่เจ้าของบ้านไม่เชิญด้วยซ้ำ 

ผมนั่งตามที่ทนายเชิญ

“วันนี้ผมจะมาแจ้งเรื่องการเปิดพินัยกรรม......”



“อะไรนะ......สามีฉันยังไม่ตายจะมาเปิดได้ไง....” เสียงอีแม่เลี้ยงแจ๋นขึ้นมาทันที

คงเพราะจะรู้ว่าตัวเองจะเป็นอย่างไง  ในต่อไปแน่นๆๆ




“ครับ  คุณท่านสั่งให้ผมเปิดพินัยกรรมหลังจากวันเกิดอายุครบ 20 ปี ของคุณหนูภูมินะครับ....นี้ก็เหลือเวลาอีก 1 อาทิตย์ ผมเลย
มาแจ้งให้ทางบ้านใหญ่ และเรือนเล็กทราบครับ อยากจะขอให้ทุกคนอยู่พร้อมหน้าในวันเปิดพินัยกรรมครับ”

















“แต่ตามกฎหมายต้องเปิดหลังจากสามีดิฉัน  เสียชีวิตเท่านั้นนี้ค่ะ” 

ผมคิดในใจว่าอีแม่เลี้ยงนี่ก็หัวหมอห๊ะ  รู้กฎหมายซะด้วย





“ครับ..จริงอย่างที่คุณนายว่า...แต่เรื่องนี้เป็นเหตุจงใจของผู้ทำพินัยกรรมครับ...ดังนั้นจึงถือว่าเป็นคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ครับคุณนาย...”  เสียงทนายความโต้งกลับเช่นกัน...........





ทนายความขอตัวกลับหลังจากแจ้งกำหนดวันเปิดพินัยกรรมเรียบร้อยแล้ว........

ซึ่งผมก็ยังนั่งมองหน้าอีแม่เลี้ยงอยู่ว่าจะทำไงต่อไป

“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆ........................”  นั้นเป็นเสียงแม่เลี้ยงที่ดังลั่นทั่วบ้าน

คงมีเพียงผมเท่านั้นที่นั่งยิ้มเยาะอยู่

“แม่ครับ.......หยุดก่อน.........แม่.....”

ปึก!!!!!  เสียงนั้นทำให้ผมตกใจได้ทีเดียว     เพราะ ไอสองมันเข้ามาห้ามแม่ตัวเองที่เหมือนกำลังจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่มือจับ
อะไรได้ก็ปามันลงพื้นระบายอารมณ์ 

แต่แรงแม่มันดันมีมากกว่ามันในตอนนี้นี่สิครับ (ก็อย่างที่รู้กันว่ามันไม่สบายอยู่) 

มันเลยโดนแรงอันมหาศาลของแม่มันผลัก  ตัวเลยเซหงายหลังไปชนขอบเก้าอี้สลบไปเลย...



ผมรีบลุกขึ้น  เพี๊ยะ!!  เสียงตบที่ดังออกมาจากมือผมนั้นแหละครับ 

“มึงเลิกบ้าได้แล้ว...เห็นไหมว่าทำอะไรลูกตัวเอง...”  ก่อนที่ผมจะไปอุ้มสองไว้ในมือ





ตอนนี้ผมเห็นใจมันจริงๆๆ  ดีนะที่หัวไม่แตก.....ถ้าหัวแตกผมจะเอาเลือดแม่มันออกเหมือนกันเลย

ดูเหมือนตอนนี้แม่มันจะสงบได้จริงๆ  เห็นมีน้อยนั่งอยู่ข้างๆ 

ผมจึงพาสองขึ้นข้างบน.......พร้อมกับนมที่ตามขึ้นมาด้วย.........

ผมวางเขาลงบนเตียงของเขาเอง  โดยมีนมช่วงประคองอยู่ข้างๆ....

ไม่เคยสังเกตมันเลย   แม้ว่าจะอยู่กับมันบ่อยๆ ก็ตาม

หน้าตามันดูซูบๆๆ  เหมือนคนไม่มีแรงจริงๆ นั้นแหละ  หรืออาจเป็นเพราะไข้ที่มันเป็นอยู่ก็ไม่รู้

ผมนั่งเฝ้าอยู่กับนม นานเป็นชั่วโมง  พร้อมกับคอยประคบถุงเย็นตรงที่หัวมันโนอยู่ 

กว่าสองจะรู้สึกตัวก็เล่นหลับไป 2 ชั่วโมงเต็มๆ



“สอง....สอง..”  ผมเรียกเขาเมื่อเห็นว่าขนตายาวๆ  นั้นเริ่มกระพริบ....

“นม  สองตื่นแล้ว...”  เสียงผมเรียกนมที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ในห้องของสอง

“คุณสองค่ะ  เจ็บหัวอยู่ไหม....ไปหาหมอไหมค่ะ...” เสียงของนมที่ถามด้วยความเป็นห่วง

“ไม่ครับ......” ผมตอบกลับนมอย่างงุนงง    หัวผมไม่เจ็บเท่าไหร่ และรู้สึกเหมือนอยากอ้วกมากกว่า

“นมผมอยากอ้วก...”  ผมบอกนมออกไป

“นมรีบไปเอาถุงมาเร็ว....”  ผมบอกนม  ซึ่งทำให้นมต้องวิ่งลงไปในครัวเพื่อหาถุง







“ภูมิไม่ไหว อุ้มที่  ห้องน้ำ....”  ผมพยายามบอกความต้องการ

ภูมิอุ้มตัวผมลอย  แต่ก่อนที่ผมจะถึงห้องน้ำ.......ก็อ้วกใส่ภูมิไปเรียบร้อยแล้ว 

ผมถูกอุ้มทั้งๆ ที่ตัวภูมิเปรอะอ้วกมายังห้องน้ำ.......ผมนั่งอยู่หน้าโถก่อนที่จะอ้วกเอาโจ๊กที่กินไปออกมา

“วันหลังหัดเอาถุงมาไว้ในห้องบ้างนะ”  เสียงภูมิ  ผมรู้สึกเหมือนเขาจะหัวเสียกับอ้วกผมแน่นเลย

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่ยืนค้ำหัวผมอยู่  แต่สีหน้าไม่เหมือนคำพูดซักเท่าไหร่ 

ก่อนที่ภูมิจะถอดเสื้อ.....เพื่อล้างอ้วกที่ผมปล่อยไว้ที่เขานั้นแหละครับ

นมกลับขึ้นมาก็เห็นพวกผมอยู่ในห้องน้ำแล้วครับ  ผมบ้วนน้ำล้างคอก่อนที่จะถูกภูมิอุ้มกลับมาไว้ที่เตียง

ผมไม่เคยเห็นภูมิตอนถอดเสื้อเลยซักครั้ง   กล้ามเนื้อที่แสดงถึงความเป็นชาย  ซึ่งผมสู้ไม่ได้อย่างแรง

บ่งบอกความน่าอับอายของตัวเอง......ผมคิดว่าถ้าผู้หญิงที่ผมรักล้มลง ผมก็คงจะอุ้มไม่ได้เช่นกัน

ตอนนี้เสื้อผ้าผมก็เปรอะอ้วกตัวเองเช่นกัน......กลิ่นนี่แรงได้ใจผมมากๆ

“นมเดี๋ยวผมเปลี่ยนเสื้อให้สองเอง  นมลงไปทำอะไรร้อนๆ ให้มันกินหน่อยสิ..” เสียงภูมิบอกกับนม

“นั้นเดี๋ยวนม หาอะไรร้อน มาให้จะได้สบายนะคะคุณสอง.”

ผมพยักหน้าตอบแทนคำพูด  ตอนนี้ผมแสบคอมากเพราะเพิ่มอ้วกจนตัวโกร่งไป...

ผมรอนมออกไป แล้วหันไปมองภูมิค้นตู้เสื้อผ้าหาเสื้อตัวที่คิดว่าใส่สบายให้ผมครับ

“อ้าว..ยกแขนยึ้น...” มันสั่งผมเป็นเจ้านายเลย

“ไม่ต้อง ผมเปลี่ยนเองได้.....” พอได้อ้วกก็มีแรงเถียง  ผมยังจำเรื่องเมื่อคืนได้ที่มันฝากของไว้ที่ตัวผม





“เหอะ  พอมีแรงก็ปากดีเลยนะสอง...” ผมบ่นออกปาก

“ชิ.......”  เสียงผมพร้อมกับสะบัดหน้าหนี

“จะเปลี่ยนดีๆ หรือจะให้เปลี่ยนนมเป็นคนมาเปลี่ยน  แล้วเห็น..............ของดี  หือ...”  ผมพูดพร้อมกับยิ้มแบบกวนๆ ให้

และนั้นทำให้สอง ต้องยอมผมแต่โดยดี  เขายกมือขึ้นถอดเสื้อ และสวมเสื้อตัวใหม่เข้าไปแทนที่




ผมมองสิ่งที่ตัวเองฝากเอาไว้บนตัวของสอง ที่มีสีแดงและรอยช้ำนิดหน่อยที่บริเวณนั้น

“นายมองอะไร....ไป ออกไปได้แล้ว...” เหมือนผมมองเห็นสองเมื่อครั้งอดีตเลย

“ทำไม.....จะอยู่  มีไรเปล่า..” ผมตอบขัดใจมัน

“เออ...มึงจะอยู่  นั้นกูไปเอง...” จริงๆ ด้วยไอสองคนเดิม

“ถ้ามึงลองขยับดูสิ  กูจะจับมึงแก้ผ้าคอยดู...ป่วยแล้วไม่เจียม...” ผมคาดโทษมันจริงๆ และตั้งใจจะทำด้วยถ้ามันยังดื้ออยู่

....ก็จริงอย่างที่ผมพูดไหมอ่ะ  ป่วยแล้วยังไม่เจียมตัวเอง  ขนาดแรงจะเดินไปอ้วกยังไม่มีเลย...



เหมือนมันจะรู้สภาพตัวเองตัว เลยล้มตัวลงนอนหลับซะหนีผมไปซะแล้ว  แต่ผมรู้ว่ามันไม่ได้หลับหรอก

“สอง....ทำไมช่วงนี้นายป่วยบ่อยจัง...” เสียงผมนุ่มนวลขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวอ่อนลง

“.................................”  ไม่มีเสียงตอบ มีเพียงแต่สายตาที่ลืมขึ้นมามองผมก่อนที่จะหลับตาอีกครั้ง

“นายนี้ เคาะกรรมเยอะนะ  โดนรุมกระทืบแล้วยังจะโดนแม่ตัวเองอีก”

“อย่าลืมรวมตัวนายด้วยภูมิ”  เสียงไอสองพูดก่อนที่ผมจะพูดเสร็จ  แต่มันไม่ยอมลืมตาอีกแล้ว

ผมนั่งมองมัน...แต่ก็ไม่ชวนคุย จนนมเดินขึ้นมาอีกรอบ   แต่สองดันหลับจริง..ผมเลยไม่ปลุกปล่อยให้นอนต่อไป



ผมจึงเดินลงมาข้างล่างซึ่งเงียบเป็นปกติ...สงสัยอีแม่เลี้ยงคงอยู่ในห้อง....คงกำลังคลั่งอยู่แน่นๆ  ซะใจจริงๆ

คืนนั้นผมขอร้องให้นมมาเฝ้าไอสอง กลัวว่ามันจะไข้ขึ้น 

คือผมไม่อยากเห็นคนตายในบ้านนะครับ...แต่ถ้าผมฆ่าก็อีกเรื่อง



วันรุ่นขึ้งอีพี่ตัวดี.....กลับมาแบบหืดขึ้นคอก็ว่าได้.........ผมเห็นมันขับรถเข้ามาแล้ว 

รู้เลยว่ามันมาเพื่อเรื่องสมบัติล้วนๆๆ  ผมยกให้วันแล้วกัน...ปล่อยพวกมันไปก่อน........



++++++++++++++



“แม่...เกิดอะไรขึ้น...”

“หนึ่ง.....แย่แล้วลูก...”

“เมื่อวานทนายมา....ว่าจะเปิดพินัยกรรมหลังวันเกิดไอภูมิ...”

“แล้ววันเกิดมันวันไหน......”  เป็นเสียงที่ตื่นตระหนกซะจริง

“อีก 1 อาทิตย์ ลูก  เราจะทำไงกันดี...”

“แม่แล้วไอสองมันอยู่ไหน  ปล่อยให้แม่อยู่เดียว”

“เออ......สองไม่สบายนะลูกอยู่บนห้อง...” เสียงแม่เลี้ยงบอกกับลูกสาว

“มันใช่เวลามาป่วยซะที่ไหน...ไปแม่  ขึ้นไปห้องสองมัน เราจะได้คุยว่าจะเอาไงดี..” เสียงอีพี่หนึ่ง  พร้อมกับฉุดแม่ตัวเองขึ้นห้อง
สอง



“สอง...มันใช่เวลามานอนป่วยที่ไหน....”  เสียงของพี่หนึ่งทำให้ผมตื่นขึ้นมา...ตอนนี้ผมอาการดีขึ้นแล้ว....

“แม่  พี่หนึ่งมาทำไรกัน....” ผมถามออกไปด้วยความแปลกใจ  ซึ่งผมก็นึกได้ว่าเรื่องอะไร

“มาเรื่องสมบัติหรอ......ทำไมอ่ะ....” 

“แหม  แกนี่นะ  เงินมันจะบินหนีไปแล้วแก่ยังไม่รู้สึกอีกหรอ...” เสียงพี่หนึ่งบอกด้วยความโมโห

“พี่หนึ่ง  พ่อไม่ให้เราอดตายหรอน่า....พี่ไม่ดีใจหรอ แบ่งสมบัติกันแล้ว แม่จะได้มีเงินใช้หนี้คุณภพไง...”  ผมพยายามหาข้อดี
ของการเปิดพินัยกรรม

“ไอโง่...แกไม่หน้าเกิดมาเป็นน้องชายฉันเลย....”  เสียงพี่หนึ่งด่าผม  ซึ่งถ้าผมไม่ใช่น้องชายคงต้องตบเละไปแล้ว

“แกคิดหรอว่าเงินที่ใช้พอเอาไปใช้........เงินมันจะเหลือเท่าเดิมนะ...”

“หนึ่งพูดเบาๆ ก็ได้ลูก  สองไม่สบายอยู่นะ...”  แม่ผมพูดเหมือนจะเกรงใจผมอยู่ในที

อาจเป็นเพราะเมื่อวานแม่ทำผมหัวฟาดเก้าอี้ก็ได้



“แม่ดูแลพ่อยังไงอ่ะ  ปล่อยให้ทนายความมาเปิดพินัยกรรมได้”  เสียงพี่หนึ่งบ่นแม่ตัวเองอยู่

“พี่หนึ่งนั้นแม่นะพี่...”  ผมพูดเตือนสติเขา

“พอพูดถึงพ่อ  พ่อเลี้ยงพวกแกนี้มันน่า......นัก.....”  นี้คือเสียงแม่ที่เหี้ยมผิดปกติ  ซึ่งทำให้ผมกลัวว่าเขาจะคิดอย่างที่ผมคิด  แต่
อยากให้เป็นแบบนั้นเลย   อีกนิดเดียวก็จะได้เป็นอิสระจากคำสาปบนกองเงินกองทองกันแล้ว

ตอนนี้ผมอยากไปจากบ้านนี้ตอนที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่ครับ.......



“แม่ครับ.....พวกเราพอเถอะ....เราเอาของเขามาแล้ว....” ผมบอกแม่

มีเพียงสายตาแม่ที่โต้ตอบผม  แต่ไม่ได้พูดอะไรซักอย่าง

“แม่ครับ....คืนให้เขาไปเถอะๆ  เงินที่เหลือจากใช้หนี้ก็น่าจะมีอีกเยอะ...เราไปกันเถอะครับ..” ผมพูดโน้มน้าวแม่



เพี๊ยะ!!!  มือตบของบ้านผมเองครับ  ผมโดนเต็มๆ แบบตั้งใจด้วย 

“แกมันโง่ไอสอง....แม่จะยอมให้มันเอาของเราไปหรอ..” เสียงพี่หนึ่งที่เรียกสติแม่ผมกลับมา

“แม่..”  “มึงหยุดพูดเลยนะไอสอง...ถ้ามึงพูดแล้วทำให้ตัวเองดูดีขึ้นหยุดเลย  กูอยากจะอ้วก...” เสียงพี่สองที่สติแตกเพราะเรื่อง
ผมสมบัติ



ศึกภายในครอบครัวผมสงบ  แบบงงๆ ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกัน



+++++++++++++++





ผมรู้สึกใจไม่ดีที่เห็นสีหน้าแม่ตัวเอง...เวลาพูดถึงพ่อ

“คุณพยาบาลเชิญข้างนอกหน่อยครับ............”  ผมเรียกเข้าออกมาที่ห้องผม

“มีอะไรค่ะคุณสอง.........” 

“แม่ผมเอาอะไรให้คุณใช่ไหมครับ...........”  ผมถามออกไป

“เออ....ค่ะ  คุณรู้ได้ไง...”

“แม่บอกผมเอง................”  ผมพูดเองผมแทบร้องไห้เองได้เลย  ที่แม่ผมจะทำกับพ่อเลี้ยงได้ถึงเพียงนี้

“คุณเอามันให้ผมได้ไหม..........”  ผมถามออกได้......

“ได้ค่ะ........เพราะดิฉันกลัวจริงๆๆ ที่จะต้องทำแบบนี้.....ดิฉันไม่ไหวแล้วจริงๆ...” เสียงพยาบาลบอกบางอย่างที่ผมไม่คิดว่าจะ
ได้ยิน

“ไม่เป็นไรครับ  ผมจัดการเอง........”

ตอนเย็นผมพอตัวเองเข้าไปหาพ่อ......ก่อนที่จะฉีกยาต่อหน้าพยาบาล  แล้วเขาก็ออกไปจากห้อง

“พ่อครับ.....”  ผมเรียกผมขึ้นมาก...ซึ่งอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด....ผมคิดว่านางพยายามคงจะเริ่มรู้อะไรบ้างแล้ว...หรืออาจ
เพราะเขาเริ่มมีจรรยาบรรณขึ้นก็ได้.....



“อือ  สอ สอ สอง..”  สีหน้าดีขึ้น เพียงแต่ยังพูดไม่ค่อยได้

“พ่อครับ อีก 1 อาทิตย์ ทนายจะเปิดพินัยกรรมที่พ่อทำไว้แล้วนะ.....”  ผมบอกพ่อออกไป...

มือของพ่อมากุมที่มือผม   

“สอ  สอ  สอง  พอ  พอ  เถอะ”  เสียงเขาที่พยายาม

“พ่อครับอีกนิดเดี๋ยว  ผมกับพ่อก็จะได้เป็นอิสระแล้ว....ผมรู้ว่าผมทำอะไรอยู่.....ทนอีกหน่อยนะครับ อาทิตย์เดียวเอง...”

มีน้ำตาหยดออกมาจากดวงตาของพ่อเลี้ยง.....  “วันนี้ผมลืมเอาข้าวมา  พ่อกินกับอย่างเดียวก่อนนะ  ส่วนข้าวผมจะทิ้ง....”  ผม
ป้อนแกลงจืดที่นมทำให้พ่อ.....จนหมด ก่อนที่จะเอาข้าวต้มไปเททิ้ง

แต่นางพยาบาลกลับมาไว้กว่าปกติ  ซึ่งผมเพิ่มจะเททิ้งได้ไม่นาน............

“เออ  ข้าวต้มมันหกนะ... ผมเลยป้อนแกงจืดแทนให้แล้ว...”

ไม่มีคำพูโตอบกลับของนางพยาบาล

ผมออกไปจากห้องของพ่อพร้อมกับถ้วยอาหารที่กินเสร็จเรียบร้อย

ตอนนี้ทั้งพี่หนึ่ง ทั้งแม่ไม่ได้เขามาหาผมอีกเลย  พวกเข้าอยู่แต่ให้ห้องของแม่



“ภูมิ.........”  ผมโทรศัพท์ถึงภูมิ....

“ไง  มีแรงแล้วหรอ...”  เสียงตอบกลับจากปลายสาย

“ผมมีเรื่องรบกวน......ภายในวันมะเรื่อนี้ผมอยากให้คุณขึ้นมาดูแลพ่อคุณหน่อยได้ไหม”

“ได้สิ  ทำไหมหรอ...”

“เปล่า..เพียงแต่พ่อเรียกหาคุณนะ...........ผมเลยคิดว่าให้คุณมาดูแลท่านบ้างก็ดี”  ผมบอกออกไปก่อนที่จะวางสาย



++++++++++++



เหลืออีก 4 วันก็เป็นวันเปิดพินัยกรรมแล้ว  ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ผมให้ภูมิเข้ามาป้อนข้าวพ่อเลี้ยง

ผมถือถ้วยข้าวรออยู่โดยมีนางพยาบาลยืนอยู่ด้วย......

“เออ  ภูมิพอดีผมมีเรื่องจะบอกพ่อแป๊ปนะ  คุณกับพยาบาลออกไปก่อนได้ไหม แป๊ปเดียวเดี๋ยวคุณกับมาป้อนท่าน”

มีสีหน้าแปลใจของภูมิ  ผมรีบทำให้สิ่งที่ต้องทำ เพราะไม่กล้าที่จะทิ้งอีกแล้ว  แต่การที่ให้ภูมิกับพยาบาลออกไปก่อน

ทำให้เธอไม่กล้าเข้ามา  ข้าวต้มถ้วยเล็กๆ ถูกเปลี่ยนเป็นถ้วยใบใหม่ และข้าวต้มถุงเล็กๆ ที่เตรียมมาก็ถูกเทใส่

“พอครับ อีก 2 ครั้งเท่านั้นๆ”  ผมใช้เวลาเร็วกว่าปกติสำหรับทุกอย่างก่อนที่จะเปิดประตูเรียกภูมิเข้ามา  ซึ่งตามมาด้วยนาง
พยาบาล  ที่รอยู่หน้าห้อง...

มีเพียงน้ำตาของพ่อที่ไหลรินอยู่  “ภูมิดูสิท่านดีใจมากที่คุณมาดูแลท่าน...”  ผมปล่อยให้ภูมิและนางพยาบาลคอยดูแลปรนนิบัติ
พ่อเลี้ยง และผมขอตัวออกมา....เพื่อให้เวลาส่วนตัวกับเขา

ผมกลับไปอ้วกของที่กินเข้าไป.....อยากที่ผมบอก ผมไม่คิดจะตายแน่นอน....

ผมไม่รู้ว่ามันเป็นยาอะไร แต่ที่รู้มันต้องแรงกว่าเดิมแน่นๆๆ ผมอ้วกเอาข้าวต้มออก  พร้อมกับดื่มน้ำตาม







..................วันสุดท้ายก่อนเปิดพินัยกรรม”””””””””””””

มันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่พวกผมจะได้ออกจากบ้านหลังนี้แล้ว  พรุ่งนี้ก็เป็นวันตัดสินชะตากรรมครอบครัวของผม

อาหารมื้อสุดท้ายที่พ่อเลี้ยงผมจะได้กิน.......ผมเป็นคนป้อนเองครับ  ผมใช้เทคนิคนิดหน่อยในการสับเปลี่ยน

ซึ่งวันนี้ก็มีพยาบาล และภูมิขึ้นมาอยู่ด้วย   เมื่อผมป้อนอาหารเสร็จผมก็อ่านหนังสือ  ให้ท่านฟังซึ่งเป็นปกติของผมที่ทำเช่น
นั้น..... ก่อนเราสองคนจะออกมาจากห้องของพ่อเลี้ยง




“สอง......”  ผมโดนมันลากเข้าไปจูบตรงมุมอับของห้อง

“อะไร....” ผมถาม

“พรุ่งนี้แล้วนะ......จะรับได้หรอ..กับชีวิตที่เปลี่ยนแปลง......”  เหมือนเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ

“ผมตั้งใจรอรับเต็มที่...ปล่อย..”  ผมผลักเขาเบาก่อนที่จะเดินเข้าห้องตัวเองและล็อคห้อง

ผมเข้าไปในห้องน้ำของตัวเองเพื่อจะอ้วกมันออกมา.......มันคือครั้งสุดท้ายแล้ว  ผมจะได้เป็นอิสระจริงๆ ซะที

อาการมึนเกินขึ้นนิดหน่อยกับอาหารที่กินเข้าไป  ผมเลยกินน้ำตามมากๆ 

ผมเข้านอนเร็วกว่าปกติ.....เพื่อวันพรุ่งนี้จริงๆ..................



++++++++++++++

ตอนนี้เวลา 9.00 น.    พวกเรามารวมกันที่ห้องโถงใหญ่ของบ้าน   คนใช้ทุกคน

ร่วมทั้งพ่อเลี้ยงและนางพยาบาลก็มาร่วมตัวอยู่กันนะที่นี่

ผมไม่เคยเห็นน้าเพ็ญอยู่กับพ่อเลี้ยงอีกเลยตั้งแต่ท่านหย่าขาดจากกัน

รถของทนายความมาจอดยังตัวบ้านใหญ่............

แล้วทนายก็เดินออกมาจากตัวรถ....ผมเอกสารที่บรรจุสิ่งที่พวกเราต้องการอยู่ในนั้น

“สวัสดีครับคุณท่าน....”  เสียงทนายความทักพ่อเลี้ยง  ก้มหน้าคำนับทุกคนเช่นกัน

พวกเรานั่งลงที่เหมือนจะเป็นการแยกฝั่งก็ว่าได้  มีเพียงน้อยเท่านั้นที่นั่งอยู่ด้านเรา



รายละเอียดต่างๆ  ได้ถูกแจกแจงต่อหน้าทุกคนอย่างชัดถ้อยชัดคำ.....

เป็นอย่างที่บอก คือ สมบัติ เกินครึ่งถูกยกให้เป็นสมบัติของบุตรชายที่แท้งจริงเพียงคนเดียว

ส่วนพวกผมได้เงินสด  อาคารพาณิชย์ และหุ้นของบริษัทซึ่งรวมกันแล้...ก็มากพอที่จะใช้หนี้คุณภพได้

บ้านใหญ่ถูกโอนเป็นชื่อ ลูกชาย คือคุณภูมิ  ส่วนเรือนเล็กเป็นชื่อของน้าเพ็ญ 

ส่วนพวกผมพ่อเลี้ยงให้บ้านหลังหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในอาณาเขตรั่วของที่นี้ ซึ่งผมดีใจเป็นอย่างมาก

ส่วนคนใช้ ก็ได้ตามอายุการทำงานของแต่ละคนซึ่งเป็นเงินสด  ร่วมทั้งนางพยาบาลที่ดูแลพ่อเลี้ยงมาตลอด 5 ปี ก็ได้เงินเป็นค่า
ตอบแทนไม่ใช่น้อยเช่นกัน  ซึ่งผมแอบเห็นว่าเขาร้องไห้

ก่อนที่จะทนายความจะกลับ........ท่านได้กล่าวเพียงว่า  “สมบัติของคุณท่านมีอยู่มากมายก็จริง แต่ทุกอย่างไม่สามารถเอาไป
ได้.....เมื่อจากโลกนี้...”  นั้นเป็นคำพูดของพ่อเลี้ยงที่เขียนไว้ในพินัยกรรม   ก่อนที่ทนายความจะกลับ



ทุกอย่างอยู่ในความสงบ     เหมือนจะอึ้งๆ เมื่อทนายจากไปแล้ว

“กรี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คุณแม่ทำไหมคุณพ่อทำแบบนี้  อย่างน้อยบ้านหลังนี้ก็ต้องเป็นของคุณแม่สิ...” พี่หนึ่งเป็นเสียงแรกที่ดังฝ่า
กลางวง

ผมเดินมายังพยาบาล กระซิบบอกให้เขาพาพ่อเลี้ยงขึ้นข้างบน

“คุณพ่อ ยังไม่ไหนไม่ได้ กลับมาก่อน ทำไหมถึงทำกับหนูแบบนี้”  พี่หนึ่งพยายามจะดึงพ่อมานั่งอย่างเดิม

“พี่หนึ่งพ่อไม่สบาย...ปล่อยท่านไปเถอะ...”

“ไม่  ไม่ ต้องคุยให้รู้เรื่องก่อน... “  เหมือนจะเกิดเหตุปะทะระหว่างผมกับพี่หนึ่งจริงๆ 



“หยุด  หยุด  กูบอกให้หยุดไง...” เสียงภูมิสั่งขึ้น ด้วยเสียงอันทรงพลัง

“ปล่อยพ่อ....” ภูมิสั่งขณะที่พี่หนึ่งกำลังจะดึงพ่อให้ลงมานั่ง

ตอนนี้พ่อถูกพ่อพาขึ้นข้างบนเรียบร้อยแล้ว



“แก  แก  ไอภูมิ  แกคิดหรอว่ามันจะจบ....แกก็ไอลูกที่พ่อไม่รักนั้นแหละว่ะ”  เสียงพี่หนึ่ง

“....................” ไม่มีเสียงตอบกลับ

นั้นคือสิ่งที่พี่หนึ่งทำได้คือ การอาละวาด และด่าไปทั่ว  แต่ไม่มีมือตบเกิดขึ้น......

ดูเหมือนแม่ผมจะอึ้งไม่หายเช่นกัน  ผมจึงพาแม่ขึ้นไปข้างบน แล้วปล่อยให้พี่หนึ่งโวยวายอยู่คนเดียว

ซึ่งทุกคนก็แยกย้ายไม่สนใจสิ่งที่พี่หนึ่งพูด



ผมพาแม่ขึ้นข้างบน  “สอง   สอง  มันไม่พอ...” เหมือนแม่จะละเมอ

“อะไรแม่ เราได้ตั้งมากมาย  .....”  ผมเถียง เพราะทุกสิ่งที่เรารวมแล้วเพียงพอจริงๆ ครับ แม้ว่าจะใช้หนีแล้วก็ตาม

“สอง......แม่.....แม่  อืออออออ”   เสียงแม่ร้องไห้.....

“แม่เป็นอะไรบอกสองสิ...........”  ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่ถึงร้องไห้

“สอง   สอง  แม่ผิดไปแล้ว.......” 

“อะไร  แม่ผิดอะไร  บอกสองซิ”

“แม่....เล่นเสีย...............”

“ฮะ.....เส่นเสีย...........แม่เล่นเสียอีกเท่าไหร่...........”

“แม่........”  “เท่าไหร่...............”  ผมคาดคั้นจากแม่

“12 ล้าน  แม่แค่อยากจะเอาคืนเท่านั้น แต่ไม่รู้เมื่อไร่......พอรู้ตัวอีกทีก็เป็นหนีแล้ว...อือ...”

ผมแทบหมดแรงทรุดลงไปกองตรงนั้นจริงๆ  “แม่พี่หนึ่งรู้ไหม.........”  มีเพียงศีรษะที่ส่ายไปมาเท่านั้น

ผมอยากจะบ้าตาย  เงิน 22 ล้าน สูญเพียงพริบตาเพราะการพนันของแม่..........  ผมจะจดจำว่าการพนันไม่เคยให้อะไรตอบแทน
เลย  ผมจะจำได้จนวันตาย และผมจะไม่ขอข้องเกี่ยวกับมันแน่นอน

“เงินที่พ่อให้ ประมาณด้วยตาเปล่า รวมๆ เกือบ 30 ล้าน  ซึ่งสามารถเรียกได้ว่า..........พวกผมเป็นเศรษฐีได้เลย 

แต่ตอนนี้ เงินสดแทบไม่เหลือแล้วด้วยซ้ำ  คงเหลือแค่อสังหาริมทรัพย์

ผมเริ่มกลัว   ขึ้นมาแล้วซิ ว่าตัวเองจะอยู่ได้ยังไง  พวกผมไม่เคยอยู่แบบลำบากเลย

“สอง......แม่ขอโทษ.......”

ผมถอนหายใจก่อนที่จะขอคำสัญญาจากแม่  “แม่สัญญากับผมได้ไหมว่าต่อไปจะเลิก....ถ้าอยากเล่นบอกผม  ผมจะพาแม่ไป
เอง....แต่แม่ห้ามไปคนเดียวเด็ดขาด.....” ผมที่เพิ่งสัญญากับตัวเองเมื่อกี้ ต้องผิดคำพูด..ยังไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ 

มีเพียงการพยักหน้า  “แม่พูดซิ...”   “แม่สัญญา...”  เพียงเท่านี้ผมก็ดีใจแล้วครับ



พี่หนึ่งออกจากบ้านโดยที่ไม่กลับเข้ามาอีกเลย  ผมโทรไปก็ไม่รับโทรศัพท์......



แต่น้อยได้ใจผมอย่างมาก..  น้อยจะขอตามพวกผมไปบ้านใหม่  ทั้งๆ ที่รู้ว่าอาจต้องเจอกับงานที่หนักกว่าอยู่ที่นี่

และอาจต้องเป็นที่ระบายอารมณ์ของของพี่หนึ่งด้วย  แต่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะไปอยู่ด้วย  ซึ่งผมได้รับน้ำใจจากเธอ และบอกว่า
จะดูแลน้อยอย่างดีเช่นกัน........

พวกเราขนของที่จำเป็นออกจากบ้านใหญ่ในวันรุ่งขึ้น..........เราไม่ได้เอาอะไรมาด้วยนอกจากเสื้อผ้าเท่านั้น

บ้านใหม่ที่เรามาอยู่ เป็นมีบ้าน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ กว่าๆ  ได้  ซึ่งนั้นก็เพียงพอสำหรับเรา 4 คนแล้วครับ

ตอนนี้แม่ผมเงียบจนผิดปกติ...........มีอาการซึมๆ  ซึ่งคงได้ผลกระทบการเรื่องต่างๆ  เพราะแม่ผมก็อายุมากแล้ว



ก่อนผมออกจากบ้าน ผมเข้าไปลาพ่อเลี้ยง  และขอคุยเป็นการส่วนตัวกับนางพยาบาล

ผมบอกเธอว่าจะไม่พูดอะไรทั้งสิ้น  ผมอยากขอให้เธอดูแลพ่อเลี้ยงต่อไป ให้สมกับค่าจ้างที่เธอได้รับมากโขนั้น

ผมขอให้เธอสัญญาว่าจะไม่คิดว่าแบบนี้อีกเป็นเด็ดขาด......ผมบอกว่าถ้าพ่อเลี้ยงเป็นอะไรผมจะแจ้งความกับเธอ

ซึ่งเธอกับปากผม พร้อมกับขอโทษที่คิดสั้นทำโง่ๆ  เพียงเพราะเงิน  ซึ่งเธอบอกว่าจะไม่คิดทำอีกเด็ดขาด



++++++++++++++++



ตอนนี้สภาพพี่หนึ่งย่ำแย่มาก  เธอกลับมาพร้อมกลิ่นเหล้าทุกคืน

ส่วนหนี้ต่างๆ  พวกผมได้ชดใช้ให้หมดแล้ว.........ส่วนมากจะเหลือที่ดิน กับตัวอาคารซึ่งพวกเราประกาศขาย

ส่วนหุ้นผมขายคือให้กับบริษัทของพ่อเลี้ยง..............ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคือผมเงิน  มากว่าชื่อเสียง  หรือ บ้านที่ใหญ่โต

และเงินที่เหลือ  ถ้าพวกเราไม่ฟุ่มเฟือยเหมือนเมื่อก่อน  ก็มีเพียงพอที่จะใช่ครับ เพราะถือว่าไม่คลาดแคลน...

ผมตั้งใจจะตั้งใจเรียน  พอจบมาก็จะใช้วิชาความรู้หาเลี้ยงแม่...ซึ่งการเป็นหมอเป็นอาชีพที่ได้เงินเยอะเลยที่เดียว

นั้นคือความคิดผมให้ตอนนี้



++++++++++++



ปล. ขอบคุณคุณflawless ค่ะ ที่บอกว่าเป็นมาโซต้องอดทน  (ศรี(สอง) ทนได้แน่นอนค่ะ)..หุ หุ  หุ

กำลังมันส์ในอารมณ์และมันส์มันตาม  เดี๋ยวดึกๆ จะมาลงให้ค่ะ (เห็นใจเหมือนกันเพราะอ่านเรื่องคนอื่นแล้วก็อยากให้มาต่อเร็วๆ)

เรามีสภาพเหมือนกัน คือพอตอนที่มันเข้มข้นแล้วอยากอ่านต่อ

ออฟไลน์ nemonoy

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 200
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ทำไหมภูมิไม่รั้งสองไว้ >_<" สงสารสองจิงๆ

ออฟไลน์ cocoaharry

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 619
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
    • cocoaharry_Demmy Chan_Otaku Y Girl
กรรมตามสนอง สมควรแล้ว
อยู่กันอย่างลำบากบ้างนะ

ออฟไลน์ moonoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 52
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
 :sad11: :sad11:  สองจะเปนไงบ้างงง  อีพี่หนึ่ง  ไปตายซะ

ออฟไลน์ shabushabu4

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
เหมือนแม่สองจะเริ่มสำนึกขึ้นมาหน่อยๆแล้ว :เฮ้อ:

ส่วนหนึ่งนี่ คาดว่ามันต้องหาทางทำอะไรบางอย่างแน่ๆ :m16:

ภูมิเดี๋ยวก็คงจะชวนสองไปอยู่ด้วยกันละมั้ง

หวังว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับสองหรือภูมินะ :call:

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
กลัวเรื่องนี้จบแบบ  หักมุมจัง>< :monkeysad:

Warlock

  • บุคคลทั่วไป
เข้มข้นมากตอนนี้กำลังมันเลย สุดท้ายก็ต้องเป็นแบบนี้แหละนะ แล้วสองจะทำยังไงต่อไปละนี่

poisongirl

  • บุคคลทั่วไป
สนุกอ่ะ เนื้อเรื่องน่าติดตามค่ะ

แต่อีพี่หนึ่งนี่ ท่าทางจะไม่ยอมอะไรง่ายๆนะ

มาต่อเร็วๆนะคะ

2kysarang__

  • บุคคลทั่วไป
อ๊าก มาเร็วไปเร็ว เรื่องดำเนินเร็ว
แต่เข้มข้นมาก ภูมิจัดการพวกมันให้หมด~
เออ เห็นตอนแรกๆ สองจะร้ายแบบร้ายมากๆเลยนะ
พอมาเทียวกับตอนนี้อ่อนลงมากๆแล้ว ดูเหมือนเป็นคนดีไปแล้ว
สงสัยกลัวภูมิ

รอต่อค่า

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
กลัวสองมันเจออะไรแปลกๆ จากคนอื่นอ่ะ  บอกไม่ถูก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Mio

  • บุคคลทั่วไป
สามคำให้อีแม่กับอีหนึ่ง>> บ้า ไป เลย  :m20:

เอาให้จมดินไปเลยได้ยิ่งดี เกลียดมัน  :m31:

สอง........นางฟ้าเอาใจช่วยให้ได้กับภูมิ เอ้ย ให้มีชีวิตดีกว่าแม่และพี่นะจ๊ะ o18

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
 :เฮ้อ: โล่งอกโล่งใจแยกย้ายกันไป

แต่ดูเหมือนมันจะไม่เคลีย  รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
เริ่มสงสารสองขึ้นมานิดๆ
แล้วต่อไปจะเป็นยังงัยเนี่ย :กอด1:
ส่วนแม่กับยัยหนึ่งขอจัดหนักๆ
ให้สักที :z6:

ออฟไลน์ →Yakuza★

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1829
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-0
ดีที่พ่อภูมิไม่เป็นไรมาก เราว่าเรื่องของแม่ภูมิกับพ่อภูมิที่ต้องทะเลาะกันอาจจะถูกจัดฉากขึ้นก็ได้
แม่ภูมิดูไม่ใช่คนแบบนั้นเลยอะ เรารอ่านรอบดึกอีกที คนแต่งน่ารักมากเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6
SAD SAD SAD sAd  SaD

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
พินัยกรรมเปิดแล้ว
เรื่องต่างๆคงตามมาก
แต่ขอที คนชื่อภพนั่นนะ ถ้าไม่ดี เอาออกนอกโลกไปพร้อมกับพี่หนึ่งเลย  :z6:
สองเขาก็กลับมาดีแล้ว แต่ว่าอาการป่วยทรุดหนักเข้าไปอีก
ภูมิก็เออ ดูแลสองเขาหน่อยน้า

vi2212

  • บุคคลทั่วไป
สนุกอะ :impress2:....
ยิ่งอ่านยิ่งชอบสอง :o8:

ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
ภูมิรีบมาดูแลสองเร็ว!!
เอิ้กๆ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
เฮ้อ อึนๆกับภูมิจริง

flawless

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดด...อยากอ่านต่อเลยอ่ะ กำลังสนุกเลย
พี่หนึ่ง เธอร้ายดี แต่แอบอยากให้ร้ายกว่านี้ และที่สำคัญพี่ภพ
จะมีบทบาท กับสองพี่น้อง อย่างไรต่อไป หุๆ
แอบอยากเป็นตาภูมิ เถื่อนอีกอ่ะ ชอบเวลาอ่าน
พระเอกเถื่อนๆ รุนแรงเล็กน้อยพอเป็นกระษัย
อย่าลืมคืนนี้มาต่ออีกนะคะ... :3123:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ zaferianight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
สงสารสองมากๆ :sad4: สู้ๆนะสอง

modYlove

  • บุคคลทั่วไป
อ่านก่อน.......ได้โปรด

ตอนนี้เป็นฉากที่สะเทือนขวัญกันจริง  เพราะมันดูแย่ มาก ขนาดเราที่แต่งเองยังใจไม่ดีเลย

ถ้าไงกรุณาทำใจก่อนอ่าน  (เราเตือนด้วยความหวังดีนะ)

แต่พอจบจากตอนนี้ เราจะไม่ทำมันอีกแล้ว  เราจะปลดปล่อยความรัก และความน่ารัก ไปจนจบเรื่อง

ถ้ารับไม่ได้เราต้องขอโทษอย่างแรง 

ขอบคุณที่อ่านก่อนนะ




ตอน10



ช่วงเวลาเดือนกว่าๆ ที่ผมปิดเทอม  เหมือนกับเป็นปีก็ว่าได้

เพราะมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในชีวิตของผม 

เหมือน......พี่หนึ่งไม่ยอมรับสภาพในปัจจุบันทำให้เขาไม่ยอมไปเรียน

ทางมหาลัยก็แจ้งมาที่บ้านเรื่องของพี่หนึ่ง....ผมพูดอย่างไงเขาก็ไม่ไปถ้าเดียว

แม่ก็พยายามพูดเช่นกันแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ...วันๆ ที่เอาแต่เที่ยวแล้วกับบ้านดึกๆ



ตอนนี้ผมเปิดเทอมแล้ว  อย่างที่ผมเคยบอกเรื่องการคบเพื่อนนั้นแหละ 
ถ้าวันหนึ่งเราตกขึ้นมา...เราก็จะโดนคนดูถูก  เหยียบย่ำ  แต่ถ้าเรายิ่งสูงขึ้นก็จะมีแต่คนอิจฉา
ผมก็เป็นเช่นกัน    ตอนนี้เรื่องของครอบครัวผม   ถือว่าเป็นข่าวฉาวรายวันของคณะได้เลย

มีเรื่องผมให้ได้ยินตลอด  แต่ผมก็ยังมีอุ้มค่อยเป็นกำลังใจไม่ได้ทิ้งไปไหน



ผมนั่งรออยู่อยู่ที่โรงอาหารของคณะ  “อุ้มหวัดดี.....” ผมกล่าทักขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ดีต่อผม

เธอเดินเข้ามาทัก “โทษที...รถมันติดเลยมาช้านะ...”   

“อืม...เราก็เพิ่งมา.....ป่ะเข้าห้องเรียนดีกว่า...” ผมทักก่อนจะพาตัวเองเดินขึ้นห้อง


เกือบ 2 อาทิตย์ก่อนเปิดภาคเรียนผมได้ยกเลิกคอนโดที่เช่าไว้ เพื่อเป็นการประหยัดอีกทางหนึ่ง
ส่วนรถผมก็เปลี่ยนมาใช้รถธรรมดา.....รถเมื่อผมขายแล้วก็มีเงินมากพอเอาไว้เก็บ...เช่นกัน
ตอนนี้ชื่อเสียง กับฐานะผมมันไม่ได้จำเป็นอีกแล้ว......

สิ่งที่ผมเคยติดอยู่กับมันมาทั้งชีวิต  ผมเคยคิดว่าคงทำใจได้อยากกว่านี้

แต่เหมือนสิ่งที่ภูมิผมกับผม   ทำให้ความคิดเหล่านี้ง่ายขึ้นที่จะยอมรับมัน

พูดถึงภูมิตั้งแต่ 2 อาทิตย์ที่ผมย้ายออกจากบ้าน  เขาก็ไม่เคยติดต่อมาอีกเลย.....

ซึ่งทำให้ผมดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกัน   เพียงแต่ผมหาเหตุผลนั้นไม่เจอ  ว่าทำไม....



อุ้มเดินควงแขนผมและเดินพูดถึงเรื่อง  ในช่วงที่ปิดเทอมให้ฟัง ว่าเธอได้ทำอะไรบ้าง

เรื่องราวที่เธอเหล่าว่าได้ไปเป็นอาสาสมัครออกหน่วยกับญาติที่อยู่ต่างจังหวัดทำให้ผมรู้สึกดี

ที่ได้ฟังสิ่งดีๆๆ บ้าง ไม่ใช้ฟังแต่เรื่องไม่ดี   เข้าหู

“สองเย็นนี้ไปไหนเปล่า......เราไปเดินซื้อหนังสือกันไหม.....อุ้มอยากได้หนังสืออ่ะ..”

“อือได้สิ.....”  ผมตอบออกไปพร้อมทั้งยิ้มให้.......



“สอง  นายดูผอมลงนะหัดดูแลตัวเองหน่อย  อนาคตนายจะเป็นหมอนะไม่ใช้คนไข้...” อยู่ๆ เธอก็หยุดเดิน แล้วหันมาพูดกับผม
ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองผอมลง  ผมก็ว่าผมก็เท่าเดิมนะไม่ได้เปลี่ยนเท่าไหร่เลย

เราสองคนเข้าห้องเรียน  พร้อมกับสายตาอยากรู้อยากเห็นของชาวบ้านที่คอยสังเกตพฤติกรรมของผม

ซึ่งทุกสายตามองผมเป็นเหมือนตัวน่ารังเกียจของสังคมมากกว่า.....

เพราะหลังจากที่เรื่องพินัยกรรมเสร็จภูมิก็ถูกเชื้อเชิญให้ออกงานสังคมในฐานะผู้สืบทอดกิจการ.....

ซึ่งเมื่อก่อนจะมีแต่ครอบครัวผมเท่านั้นที่ได้รับเชิญ.......

ข่าวหนังสือพิมพ์  หรือหนังสือดารา ก็ได้ซิบซุบเรื่องครอบครัวผมเช่นกัน....และข่าวพวกนี้ยิ่งทำให้พี่หนึ่งและแม่ทุกข์ใจหนัก
เข้าไปอีก........



เย็นหลังจากที่ผมเรียนเสร็จ เรานัดกันว่าจะไปร้านหนังสือ......  ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคณะเท่าไร....

พวกเราตัดสินใจที่จะเดินไป....เพราะจะได้เดินดูของไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน (มหาลัยผมอยู่ติดกับย่างการค้าวัยรุ่น)

เราเดินกันไปเรื่อยๆ  ก่อนที่จะมาหยุดอยู่ใจกลางลานกว้าง 

“อุ้มพักแปะ  เราหายใจไม่ออก..”  ผมบอกเขา เพราะคนที่เดินเยอะมาก  และเบียดเสียดกัน   แถมเหมือนจะแย้งอากาศกัน
หายใจ

“สอง...เป็นไรเปล่า...” สีหน้าอุ้มดูเป็นห่วง  แต่ผมว่าอุ้มนะแข็งแรงกว่าปกติเพราะเธอดูธรรมดามากๆ

เราเดินมานั่งพักตรงเก้าอี้สาธารณะเพื่อเอาแรง....

“ปะ หายเหนื่อยแล้ว....”  ผมบอกเมื่อตัวเองรูสึกดีขึ้น

จากนั้นเราก็เดินกันต่อไปจนถึงร้านหนังสือที่เราต้องการ

อุ้มเดินตรงไปยังชั้นหนังสือการแพทย์  ส่วนผมเดินไปยังแผนกสุขภาพ  ผมตั้งใจจะบำรุงตัวเองซักหน่อย..

เพื่อเวลาเดินจะได้ไม่เหนื่อยเอาง่ายๆ...  พวกเราเลือกดูหนังสือไปเรื่อยๆ



จนผมได้ยินเสียงที่คิดว่าน่าจะเป็นภูมิ......ตัวผมแข็งเพราะไม่อยากให้เขาดูถูกหรือถากถางต่อหน้าผู้คน

ผมพยายามเดินเลี่ยงไปยังช่องที่คิดว่าจะไม่ต้องเจอเขา.....

“สองได้หนังสือยัง....” เสียงอุ้มเดินเขามาด้านหลังผม ซึ่งทำให้ผมตกใจ

“เบาๆ...” ผมบอกออกไป

“ทำไมหรอ...” เสียงของเธอเบาตามที่ผมบอก

“พอดีผมไม่อยากเจอเพื่อนนะ...เรารีบไปกันดีกว่า...”  ผมบอกพร้อมดึงมือของอุ้มไปที่เคาเตอร์เพื่อจ่ายเงิน

ก่อนที่จะรีบเดินออกมาจากร้านหนังสือนั้น....



เราต้องเดินกลับไปยังคณะของเราอีกเช่นเคย  ซึ่งเที่ยวนี้เราเดินแบบไม่รีบร้อนเท่าไหร่ แวะตรงนู้ตรงนี้ที

ส่วนมากอุ้มจะชวนผมเข้าไปดูของประดับที่เธอชอบ  และผมก็จะแนะนำว่าเหมาะสมกับเธอไหม

เราเดินออกมาจากศูนย์กลางค้า เพื่อมาขึ้นรถของตัวเองก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน



ผมรอให้อุ้มขับออกไปก่อนที่จะขับตามไป........ “แม่ผมกำลังกลับ....” ผมโทรบอกแม่ก่อนที่จะวางสาย

ขณะที่ผมขับรถออกไปจากคณะ ตรงปากทางคณะมีรถจอดไฟกระพริบคาอยู่ที่ประตูทางออก....  ซึ่งทำให้ผมรถไม่สามารถออก
ได้....ผมรออยู่นานก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกไป เพื่อว่ามีอะไรจะช่วยได้บ้าง  ....เพราะดูเหมือนเจ้าของรถจะไม่ยอมลงมา........



ก๊อกๆๆ........”คุณครับ รถเป็นอะไรหรือเปล่า..มีอะไรให้ช่วยไหมครับ.”  ผมพูดขณะที่กระจกค่อยๆ เลื่อนลงมา

“คุณ...ภูมิ.....” ผมรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นเขา ซึ่งรถก็เสียอยู่ที่หน้าคณะผม...

“ไง..สองไม่เจอกันตั้งนาน....” เราทักทาย

“ครับ..”

“ผมมีเรื่องจะคุยด้วยนะ...ขึ้นรถก่อนสิ....”

“แต่รถคุณเสียนี้......”

“เปล่าหรอ....ผมรอคุณอยู่นะ....”  น้ำเสียงที่สุภาพนั้น เหมือนเขาเป็นอีกคนที่ผมไม่รู้จักก็ว่าได้

ผมยอมขับรถของตัวเองไปจอดใกล้ๆ  ในบริเวณคณะ ก่อนที่จะขึ้นรถภูมิ



ผมยังไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมถึงยอมขึ้นมาง่าย  หรือเพราะเสียงที่ดูเป็นการเป็นงานนั้น

ทำให้ผมคิดว่าเราทุกคนโตเพียงพอที่จะพูดกันด้วยเหตุและผล

ผมเข้ามานั่งที่รถเขาก่อน   ก่อนที่รถจะพุ่งตัวออกไปจากประตูหน้าคณะผม

“คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ....”  ผมถามด้วยน้ำเสียงที่สุภาพเช่นกัน

“อือ..ผมอยากจะพาคุณไปที่หนึ่งนะ....”

ผมไม่ได้คุยกับเขาอีกเลยในรถ เพราะเขาต้องการพาผมไป ไม่ใช้พูดคุย

ผมรอจนกระทั่งเริ่มสังเกตได้ว่าตัวเองมุ่งตรงมายังคอนโดที่เคยเช่าไว้

“คุณพาผมมาทำไม...”

“อ้อ..ผมมาเช่าอยู่ที่นี่นะ....”

“ห๊ะ..คุณมาอยู่ที่นี้หรอ..ตั้งแต่เมื่อไหร่...”

“ก็ตั้งแต่คุณออกจากห้องนั้นแหละ...”  ผมรู้สึกไม่ดีแม้ว่าน้ำเสียงเขาจะดูสุภาพแต่ตอนนี้แววตาเขาไม่เหมือนกับเสียงที่ส่งออกมา
เลย

“คุณจะให้ผมมาดูห้องคุณงั้นหรอ  ห้องที่ผมเคยเช่า....คุณจะมาซ้ำเติมเรื่องฐานะของผมหรอ....” เสียงผมที่เหมือนจะรั้นทด
มากกว่าจะร้องไห้ด้วยซ้ำ

“ผมเคยบอกแล้วไงว่าทาสเวลาทำอะไรต้องได้รับการอนุญาตจากคนผู้เป็นนายเสียก่อน....”  น้ำเสียงที่สุภาพ..แต่คำพูดที่ออกมา
เป็นมันน่ากลัวกว่าหลายเท่า

“ภูมิ...เราไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันแล้ว...เปล่อยผมเถอะ...พวกเราคืนให้คุณแล้ว...” ผมพยายามบอกสิ่งที่ตัวเองคิด



“แต่นายยังคืนไม่หมด.....นายเอาชีวิตของฉันไป.....นายก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิตเช่นกัน  นายก็จะต้องสูญเสียเช่นกัน...”

“ภูมิ...นายทรมานเรา ....ยังไม่พอใจอีกหรอ....”

“........................................”

“ภูมิ........”  ผมเรียกเขาซึ่งจอดรถอยู่ทีใต้คอนโด



“สอง.....ถ้านายไม่ชดใช้มันด้วยชีวิตนาย....แม่และพี่นายก็ต้องชดใช้แทน....”  คำพูดที่ภูมิเป็นเป็นคำตัดสินชีวิตผมว่าจะเลือก
อะไร  ระหว่างตัวเองกับ แม่และพี่ 

เขาพาผมเดินมายังห้องที่อดีตเคยเป็นห้องของผม...ภายในห้องจัดเหมือนเดิมทุกอย่าง แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนเลยด้วยซ้ำ

ตั้งแต่ผมยกเลิกสัญญา ผมก็ฝากให้เจ้าของคอนโดเก็บของใช้ส่วนตัวทิ้งให้ด้วย....

“ภูมิ......ปล่อยพวกเราไปเถอะนะ  ตอนนี้พวกเราก็กำลังชดใช้สิ่งที่ทำอยู่...”  เหมือนหัวใจผมถูกบีบคั้น  เพราะสิ่งที่ผมพูดย้ำให้
ผมรู้ถึงสิ่งที่เคยทำมาในอดีต



“กูจะปล่อยก็ต่อเมื่อย....กูพอใจ.....”   ตอนนี้น้ำเสียงภูมิและหน้าตากลับมาเป็นภูมิที่ผมกลัว....

ผมไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มที่จะกลัวภูมิตั้งแต่เมื่อไร  มารู้ตัวอีกทีก็กลัวเขาไปเสียแล้ว...



เขาเข้ามากอดผม ก่อนที่จะกำเส้นผมพร้อมกับดึงเพื่อให้ผมเงยหน้าขึ้น.....

ริมฝีปากผมที่โดนบนขยี้......เหมือนเป็นการเตือนเมื่อครั้งในอดีตที่เขาเข้าห้องผม....

“ภูมิ...ปล่อยผมเถอะ...”  ผมบอกพร้อมกับพยายามดันตัวเองออกจากร่างกายที่แนบสนิทของภูมิ

“ภูมิ..ปล่อยพวกเราไปเถอะ...” นั้นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ลิ้นร้อนของเขาจะเข้ามาในโพรงปากของผม

ไม่มีความอ่อนนุ่ม...มีเพียงน้ำหนักที่ถาโถมเข้ามาเพื่อให้ผมยอมจำนน.....



“สอง นายเคยบอกว่านายเป็นทาสเราไง...ทาสจะไม่ได้รับการปลดปล่อยจนกว่าจะมีคนมาไถ่ถอน...”  นั้นเป็นเสียงของภูมิที่พูด
ออกมาก่อนที่จะเลิกเสื้อเชิ้ตที่ผมใส่อยู่    พร้อมกับใช้นิ้วมือสัมพันธ์เครื่องหมายที่เขาทำไว้กับผม

ผมรู้สึกไวมากเมื่อเข้าสัมผัสจิวที่เงิน  ที่อยู่ในร่างกายของผม เพียงเขาแต่โดนมันนิดเดียวผมก็ขนลุกแล้ว

รสจูบของเขายังถาโถมอยู่ที่ผม พร้อมทั้งเสื้อเชิ้ตที่ถูกเกาะกระดุมออก.......

..........

....

..............



ผมไล้ริมฝีปากตัวเองมาที่ต้นคอของสองก่อนที่จะใช้ฟันขบเบาๆ ที่เนื้อนิ่มๆ ตรงซอกคอและเม้นจนเกิดรอยช้ำและห้อเลือดตาม
มา.......มือที่เริ่มแกะกระดุมของเขา และกลับมาบีบหัวนมที่ตั้งชันนั้น   

สองไม่ได้มีทีท่าว่าปฏิเสธเพียงแต่กำลังจับแขนผมเพื่อให้ตัวเองยืนได้เท่านั้น........เมื่อผมบีบ และดึงที่หัวนม   ขนแขนของสอง
ลุกตั้งชันไวต่อสัมผัสผม......ซึ่งนั้นทำให้ผมดีใจ....



ผมเคยคิดว่าจะปล่อยครอบครัวนี้ไปจริงๆ   ตอนที่พินัยกรรมถูกเปิดออก......

ผมย้ายตัวเองมาอยู่บ้านใหญ่...แต่แม่ไม่ต้องการเช่นนี้...เธอจึงเลือกที่จะอยู่เรือนเล็กเหมือนเดินพร้อมกับนม

ผมย้ายตัวเองมาอยู่ห้องของสอง.......ซึ่งข้าวของและเสื้อผ้าถูกเก็บไปหมดแล้ว.....

ผมตั้งใจจะหยุดและปล่อยให้เขาใช้ชีวิตที่เขาสมควรจะได้รับ....

แต่สุดท้ายผมทำใจปล่อยเขาไปไม่ได้.......



สองเหมือนกับแมงมุงที่กางยักใยไว้คอยดักกินแมลงที่ผ่านเข้ามาติดกับนั้น   และตัวผมเหมือนเป็นแมลงที่หลงเข้ามา

ที่ถูกใยแมงมุงนั้นกักขังเอาไว้.......แม้ช่วงเวลาหนึ่งที่ผมจะหนีออกมาจากใยแมงมุงได้ 

แต่ผมก็ยอมที่จะให้ตัวเองติดอยู่แบบนั้น  รอจนแมงมุมมาฆ่าผมให้ตายอย่างช้าๆ



ผมเริ่มหลงให้สองตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้มีอะไรกับเขา.........ร่ายกายที่มีเพียงผมคนเดียวเท่านั้นที่ได้ครอบครอง

และผมคนเดียวเท่านั้นที่ปลดปล่อยนิสัยแย่ๆ ของเขาออกไป....ผมรู้สึกได้ว่าเขาเปลี่ยนไป..

ตั้งแต่ที่ผมเริ่มที่จะตอบแทนสิ่งที่เขาเคยทำไว้กับผม......

ผมรู้ว่า    ตัวเองแย่แค่ไหนที่ทำนิสัยแย่ๆ  เพื่อข่มเขาให้ยอม......แต่ผมพร้อมที่จะให้ตัวเองถูกเกลียดดีกว่าต้องอยู่อย่างไม่มี
เขา...........

ผมยอมรับว่าผมหลงเขามาก  ซึ่งในตอนแรกผมไม่เชื่อความรู้สึกตัวเองด้วยซ้ำ ผมพยายามปฏิเสธ  แต่ต้องมายอมแพ้

เมื่อเริ่มรู้ว่าเขาต้องการจะไปจากผม.....

ผมตัดสินใจจะทำทุกทางเพื่อให้เขาสนองผม.......แม้ว่าสิ่งนั้นจะเกิดจากการถูกข่มขู่ก็ตาม.....



“สอง....นายไม่คิดจะช่วยฉันหน่อยหรอ....”  ผมถามออกไปเพราะไม่มีการสนองกลับ แม้ร่างกายเขาจะซื่อสัตย์ต่อผมก็ตาม  แต่
ความรู้สึกเขามันไม่ใช่.....



“ภูมิ..ปล่อยผมกลับบ้านเถอะนะ...”  นั้นเป็นเพียงคำพูดเดียวหลังจากผมร้องขอความช่วยเหลือจากเขา



“นาย........นั้นอย่าหวังว่าจะได้กลับเลย...” ผมกดเสียงให้ต่ำก่อนที่จะดึงเขาเข้ามาในอ้อมกอดตัวเอง



ผมกดฟันตัวเองไปที่ไหลปลาร้าที่โชว์โดดเด่นอยู่......... “อ่า......เจ็บ....”  ผมแทบอยากจะกัดกินสองเสียด้วยซ้ำ

ก่อนที่ผมจะผลักเขาลงบนที่นอนผมถอดเสื้อผ้าของตัวเอง  ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้าของเขาตาม ผมร่วมรักกับเขา..

....ผมไม่เคยสอดใส่เข้าไปอีกเลยหลังจากครั้งแรก....แต่ตอนนี้ผมจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว 

ผมใช้ร่างกายตัวเองทรมานสอง.....เราสัมผัสร่างกายของกันและกัน....และแทบจะไม่ได้แยกออกจากกันเลย....

ผมไม่รู้ว่าเป็นเวลาเท่าไหร่ที่ผมกับสองอยู่ด้วยกัน......เราเริ่มที่จะลืมวันและเวลา 

เราตื่นและหลับ เราร่วมรักกัน....ผมใช้เวลาอยู่กับเขา  เขาไม่เคยพูดอะไรอีกเลยนอกจากตอบสนองสิ่งที่ผมกระตุ้นให้เขา

อาหารหลายมือที่เราพลาดไป เพราะเราไม่คิดจะออกจากห้อง   เวลาเรียนเราขาดไปเพราะเราไม่คิดจะไปเรียน

เหมือนผมและเขาติดอยู่ในคุก.....ที่ไม่มีทางออกได้.....จนสองเริ่มที่จะหมดแรง และเหนื่อยอ่อนอย่างเห็นได้ชัด

เขาเดินลุกจากเตียงในสภาพที่ไม่มีอะไรเลยรวมทั้งผม....ผมนั่งมองดูเขาก่อนที่ร่างกายนั้นจะล้มลงไปต่อหน้าผม

“สอง..........สอง........”  เสียงของผมตกใจกับภาพที่เห็น

ร่างของเขาร่วงตกลงมายังพื้น  เหมือนใบไม้ที่ร่วมจากต้นไม้




ปล. เดี๋ยวมาต่อให้นะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-11-2011 20:35:02 โดย modYlove »

ออฟไลน์ moobarpalang

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +185/-6

ออฟไลน์ zaferianight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0

ออฟไลน์ i-love-you

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 716
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-3
โห  ภูมิโรตจิตป่ะเนี้ย  555+ :z3:

ออฟไลน์ POPEA

  • Blood Type :: Y
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
    • http://writer.dek-d.com/popae/writer/view.php?id=794488
เฮ้อ! :เฮ้อ: เหนื่อยใจกับแม่หนึ่งสองค่ะ
รอมาต่อนะ ~

Timpooh

  • บุคคลทั่วไป
อืม...รอจ้า สนุกมากๆๆ
ในที่สุดภูมิก็ยอมรับว่ารักสองแล้ว

2kysarang__

  • บุคคลทั่วไป
เราอ่านคำเตือนแล้วกลัว.. นั่งทำใจแปปนึง แล้วอ่าน
พออ่านมา อุแหม.. ความรู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปหลายปี สองคนนี้ก็กลับมาเจอกันอีก
ฮ่าๆ..นึกเป็นละครมากไปและ อ่านมาเรื่อยๆก็ มากลัวตรงกัดไหปลาร้า =_= คือ ไม่รู้จะพูดยังไง
ไม่รู้ถึงตอนที่ คนแต่งว่า รู้สึกไม่ดีเองแล้วรึยัง แต่เรายังเฉยๆนะ จะรอดู T^T
สองหลงภูมิ แอร๊ยย ไม่เห็นรู้ อ่อ.. มารู้ตัวเอาตอนที่ภูมิไปแล้วนี่เอง
ชอบคำหลายคำในตอนนี้มากเลยค่ะ รู้สึกดีจัง  :กอด1:

ออฟไลน์ MiSS-U

  • {^o^} {^3^}
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2800/-11
รอมาต่อค่ะ

กำลังได้ฟิวเลย ฮุๆๆ

หมวยเล็ก

  • บุคคลทั่วไป
มาต่อด้วยนะคะ รออ่านจ้า

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด