ตอนที่ 41
ก็อกๆๆๆ เอาอีกแล้วพี่ต่าย....มาปลุกผมแต่เช้าอีกแล้ว
จะอะไรกันนักหนา วันนี้วันเสาร์ไม่ต้องไปทำงาน มาปลุกกรูทำไม๊ ผมดูนาฬิกา 7 โมงเช้า คราวนี้จะสวดมนต์อะไร
อีก ผมไม่หลงกลแล้ว ผมจะนอนนนน
พี่ต่ายยังเคาะไม่เลิกแล้วผมจะนอนได้ยังไง ชักโมโหแล้วนะ เมื่อคืนก็ทำเอาน้องชายผมไม่ยอมหลับยอมนอน กว่าจะทำให้มันสงบได้ทำเอาผมเพลีย แล้วพอเช้าเอาอีกล่ะ ถ้าไม่ลุกไปด่าไม่ใช่ผมแน่ พี่ต่ายก็พี่ต่ายเหอะ ผมเลยต้องลุกไปเปิดประตูให้พี่ต่ายอย่างหงุดหงิด
“ผมไหว้ละพี่ ขอเหอะ....ผมอยากจะนอน พี่ช่วยไปเคาะห้องอื่นได้ไม๊”ผมหลับหูหลับตายกมือไหว้เลยครับ ด้วยรักและเคารพ
“โอม....ดูซินอนขี้เซา....แม่เองไม่ใช่ต่าย”
อ้าวคุณหญิงแม่ผมเองมาไม่บอกไม่กล่าว แล้วนี่เข้าบ้านมาได้ไงกัน กำลังจะถามก็เห็นคุณชายต่ายยืนยิ้มประจบอยู่ข้างหลัง โชคดีไม่ได้ด่าออกไปเกือบซวย
“แม่มาทำไมแต่เช้า....ยังง่วงอยู่เลยอ่ะ...โอ้ว”
ผมเผลอหาวออกไปครับ แต่ยังดีปิดปากทัน
“แม่จะไปซื้อของเลยต้องรีบมาแต่เช้า เพราะบ่ายต้องรีบกลับด้วยมีงาน”
“โอมไปกับแม่หน่อยซิ”
ผมไม่อยากไปเลย แต่แม่ก็ไม่ได้มาบ่อยๆ ก็ต้องบริการกันหน่อยครับ ตามประสาลูกกตัญญู แต่ผมยังไม่ทันตอบ ก็มีลูกคนใหม่ตอบแทน
“แม่จะไปไหนครับผมพาไปเอง วันนี้ผมว่างไม่มีงาน”
เหอๆๆๆ พี่ต่ายเป็นหน่วยอาสาไปแล้วครับ แต่ยังไงผมก็ต้องไปด้วยอยู่ดีแหล่ะ จะปล่อยให้แม่ไปกับชายหนุ่มตามลำพังได้ไง
“ไม่ต้องหรอกต่ายทำงานเหนื่อยๆ วันหยุดก็พักไปเดี๋ยวแม่ไปกับโอมได้”
แม่คงเกรงใจนะครับ ผิดกับผมเลยไม่ค่อยเกรงใจ ชอบสบาย....มีคนขับรถให้ดีจะตาย
“แม่.....พี่ต่ายเค้าอยากบริการก็ให้เค้าทำเถอะ” ผมยกมือสนับสนุนรถฟรีครับ
“ใช้ครับแม่ผมเต็มใจ...จะได้ไปช่วยหิ้วของด้วย”
“ก็ได้ตามใจ...งั้นโอมรีบอาบน้ำแต่งตัวนะเดี๋ยวลงไปกินข้าวด้วยกัน”
แล้วแม่ก็ออกไปครับมีพี่ต่ายเดินตาม แต่ยังไม่วายหันมายักคิ้วให้ผม ไม่รู้อารมณ์ไหน แต่พอผมได้ถึงเรื่องเมื่อคืน หน้าแดงโดยไม่รู้ตัวเลย เลยวิ่งไปอาบน้ำดีกว่า
พอลงมาก็เห็นแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะ มีพี่ต่ายเดินวนเวียนยกเอากับข้าวมาวาง คุยกันหัวเราะกิ๊กๆกั๊กๆ ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรอยู่
“อ้าว....โอมมาเลยมากินข้าวกำลังรออยู่พอดี” แม่กวักมือเรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ
“คุยเรื่องอะไรน่ะแม่” นินทาตรูป่าวว่ะ
“กำลังนินทาคุณชายโอมซิ” น่าน....กรูว่าแล้ว
“แม่เริ่มสงสารต่ายแล้ว....ต้องมาอยู่กับโอม”
“กำลังบอกว่าลูกคนเล็กก็แบบนี้ ไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไร..พี่ๆเค้าช่วยหมด”
“แม่อ่ะ...เดี๋ยวโอมไม่ไปนะ”ผมเริ่มหงุดหงิด โดนแต่เช้าเลย
“ขี้งอนก็เป็นที่หนึ่ง..ขี้น้อยใจ.....ชอบฟุ้งซ่านด้วย...ต่ายทนๆน้องหน่อยนะลูก”
พี่ต่ายไม่ตอบแต่หัวเราะชอบใจใหญ่เลยครับ เข้ากันดีจริงประสานเสียงขำผมกันใหญ่ พอเห็นผมหน้างอยิ่งชอบใจกัน ผมเลยรีบๆกินรีบลุก อารมณ์เสีย
“กินกันเร็วๆซิ จะได้รีบไป” แม่กับพี่ต่ายยังหัวเราะกันไม่เลิกครับ ผมชักโมโห คุยกันไม่ยอมกินข้าว จนผมกินเสร็จก่อนละเค้ายังกินกันไม่ถึงไหน
“ผมไปรอบนห้องนะ....เสร็จแล้วเรียกแล้วกันเดี๋ยวผมลงมา” แล้วผมก็เดินขึ้นไปเลยครับ เชิญเผาผมกันซะให้พอ จะเรียกไปเก็บกระดูกเมื่อไหร่ค่อยมาตามละกัน
“ดูนะต่ายลูกคนนี้...แม่พูดอะไรไม่ได้เลย...งอนอีกละ”
“ต่ายจะทนน้องไหวไม๊เนี่ย...แม่ชักเป็นห่วง”
“แม่อย่าใช้คำว่าทนเลยครับ...เพราะผมเริ่มชินแล้ว...เดี๋ยวเค้าก็หายเอง”
ผมได้ยินแว่วๆ ไม่สนแล้ว เชิญตามสบายเลย ขึ้นไปแป๊ปเดียวผมก็หลับได้ครับ เด็กกำลังกินกำลังนอนก็แบบนี้แหล่ะครับ
แต่นอนไปพักนึงเหมือนมีอะไรมาจุ๊กจิ๊กแถวๆคอ ผมเอามือไปปัดๆ กลับเป็นจมูกพี่ต่ายมาดมๆแถวคอผม กำลังจะหันไปเม้งเล่นซนอะไรเนี่ย คราวนี้พี่ต่ายขบหูผมครับ ขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัว ก็พี่เล่นเม้มๆดูดๆเล่นลิ้นด้วยมันจั๊กกะจี๋ เดี๋ยวนี้ชักเล่นเก่งขึ้นทุกทีนะ สงสัยเป็นเพราะดูไอ้หนังเมื่อคืนแน่เลย ผมเลยสะบัดหัวไปข้างหลังโขกหัวพี่ต่ายดังโป๊กเลยครับ
“โอ๊ย....โอมเล่นเจ็บน่ะ” ผมละขำ...
“สมน้ำหน้าคนหื่น....”อิอิอิ แล้วผมก็วิ่งหนีลงมาข้างล่างเลยครับ ขนาดแม่อยู่นะนี่ พี่ต่ายทำไมหื่นได้ถึงขนาดนี้
++++++++++++++++++++++++++
แม่ผมมาซื้อของไปแจกลูกค้าตอนปีใหม่ครับ ซื้อไว้แล้วเดี๋ยวพี่อิงมากรุงเทพฯเมื่อไหร่ค่อยมาเอา วันนี้เราก็เลยไปชอปปิ้งกันทั้งตามห้าง แล้วก็ที่จตุจักรด้วยครับ ตอนไปสวนจตุจักรอากาศมันร้อนมากเลย ขนาดเราไปกันแต่เช้า 10โมง เดินวนไปวนมาจนเกือบเที่ยงเลยหาอะไรกินแถวนั้น
พอดีมีคู่ผู้ชายคู่นึงนั่งทานข้าวอยู่ ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่แม่ผมคงเห็นอะไรบางอย่าง เลยชวนผมดู
“โอม...ต่าย..ดูคู่นั้นซิ อย่าไปจ้องเค้าล่ะ”
“สงสัยจะเป็นแฟนกันนะนั่น...น่าเสียดายหน้าตาดีทั้งคู่”
ผมกับพี่ต่ายอึ้งครับ มองตากันโดยมิได้นัดหมาย แต่แม่ก็ยังพูดอยู่ แต่ผมสองคนนิ่งเงียบกันทั้งคู่
“แปลกนะสมัยนี้ทำไมผู้ชายรักกันเยอะจัง”
“แล้วแม่ว่าไงล่ะ” ผมลองแย๊บๆดูหน่อยครับ อยากรู้เหมือนกันว่าแม่จะคิดยังไงเรื่องนี้
“ก็ไม่ว่าไง...ชีวิตของเค้าเราจะไปตัดสินได้ยังไงว่าดีหรือไม่ดี” แม่ก็พูดถูกแต่ถ้าเป็นชีวิตของลูกแม่ล่ะ ผมยังสงสัยว่าแม่จะคิดแบบนี้ไม๊
“แล้วถ้าเป็นคนที่แม่รู้จักล่ะ...แม่จะ...จะ...รังเกียจ...หรือไม่ชอบไม๊”
ผมคงพูดดูไม่เป็นธรรมชาติ แม่เลยเงยหน้ามามองผม แล้วก็ถามผมว่า
“ทำไมมีคนรู้จักเป็นเกย์เหรอโอม”
พอแม่ถามมาตรงๆผมก็ไม่รู้จะโกหกยังไงดีนะซิครับ แต่จะให้พูดว่าไงล่ะ
“เพื่อนที่ทำงานผมนะครับแม่เป็นเกย์”พี่ต่ายเลยพูดขึ้นมาแทนตอนที่ผมชะงักไป
“เหรอ..งั้นแม่ถามเราสองคนว่ารังเกียจเพื่อนคนนั้นไม๊ที่เค้าเป็นเกย์”
“ไม่ครับ”
“ไม่ครับ” เราสองคนประสานเสียงเป็นแดนกับบีมเลยครับ พูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
“ก็น่านนะซิ...เราจะไปรังเกียจเพื่อนเราได้ยังไง”
“เรายิ่งต้องเป็นกำลังใจให้เค้าซิ...มันไม่ได้ง่ายๆนะ”
“ยังไงก็ยังมีคนไม่ยอมรับอีกเยอะ” แม่ผมสรุปแค่นี้ครับ
ผมโล่งอกไปนิดหน่อยครับ แต่เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวเองพูดยังไงก็พูดได้ แล้วถ้าผมเป็นบ้างแม่จะพูดได้แบบนี้หรือเปล่า
ผมกับพี่ต่ายแอบมองหน้ากัน แล้วก็คงต่างคิดกันไป ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ต่ายคิดยังไง เราไม่เคยมาพูดเรื่องสังคมรอบข้างกันอย่างจริงๆจังๆซักที
“ช่างเค้าเหอะนะชีวิตใครก็ต้องค่อยคิดกันไป....แล้วเราล่ะโอมไม่เรียนโทต่อซักทีล่ะ”
แม่ไม่รู้ว่าเรายังครุ่นคิดเรื่องนี้กันอยู่ เลยถามผมเรื่องเรียนต่อ
“ผมกะว่าปีหน้านะแม่.......ให้สอบใบอนุญาตได้ก่อนค่อยเรียนครับ”
“ตามใจโอม...คิดเอาเองนะว่าจะเรียนหรือจะทำอะไรโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ”
“คร๊าบคุณแม่ที่รัก”
เราเลิกสนใจเรื่องอื่นๆครับพาแม่เดินดูของนู่นนี่ จนเหงื่อไหลไคลย้อย แล้วก็พาไปอบแอร์ต่อในห้างฯ วันนี้ผมกับพี่ต่ายหิ้วของกันซะเหนื่อย ระหว่างเดินซื้อของกันอยู่บุ้งมันก็โทรเข้ามือถือผม
“ว่าไงบุ้ง”
พอได้ยินผมรับสายเท่านั้นพี่ต่ายเดินมาประชิดตัวผมเลยครับ ตั้งใจฟังอย่างชัดเจนไม่มีแอบๆเลย
“กรูพาแม่มาซื้อของ....เออ...กรูไม่ว่าง”
“มรึงจะตามมา...จะมาทำไม” มันบอกมันจะมาสมทบครับ มันจะพิศวาสอะไรกรูนักหนา
“ไม่ใช่....เดี๋ยวแม่กรูก็ไปแล้ว”
“ไม่ว่างซิ....เสร็จแล้วกรูจะไปทำธุระต่อ”
“มรึงจะไปด้วย”
ผมหันไปมองหน้าพี่ต่าย ตอนนี้ไม่เหมือนกระต่ายเลยครับ เหมือนเสือมากกว่า หน้าโหดมากกก
“ไว้วันหลังนะบุ้ง...เออๆพรุ่งนี้ก็ด้ายยย”
พอมองหน้าพี่ต่าย สงสัยผมจะตอบผิดอีกละ เอาไงดีว่ะ พรุ่งนี้ค่อยคิดเว้ย
“เออ..บาย”
“ใครน่ะโอม”แม่ผมถามครับ
“บุ้งอ่ะแม่...ลูกป้าวรรณร้านสมเจริญน่ะ”
“อ๋อ..จำได้....ยังติดต่อกันด้วยเหรอ.....เออดียังไงก็คนบ้านเดียวกัน”
“ต่ายเหนื่อยเหรอลูก....ทำหน้าเมื่อยเชียว”
แม่คงเห็นพี่ต่ายหน้าหงิกนะครับ แต่แม่คิดว่าพี่ต่ายเหนื่อย แต่ผมน่ะรู้ว่าหงิกเพราะอะไร แค่ได้ยินชื่อบุ้งก็เริ่มแล้วครับ ทีแต่ก่อนบอกมั่นใจ หึหึหึ
แม่เลยชวนทานไอศกรีมดับอารมณ์ร้อนครับ ท่าทางพี่ต่ายได้กินไอศกรีมจะอารมณ์ดีขึ้นครับ นั่งกินไปไม่คุยเลย ผมอดที่จะแอบเผลอมองปากแดงๆของพี่ต่ายตอนทานไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่ปากพี่ต่ายอมช้อนไอศกรีม หรือตอนเอาลิ้นเลียริมฝีปากที่ติดคราบไอศกรีม มันดูเซ็กซี่มากๆ ภาพในหนังเมื่อคืนมันย้อนกลับเข้ามาในหัว ผมเผลอหลับตาไม่รู้ตัว
“โอมแม่ถามก็ไม่ตอบ” ผมสะดุ้งเลยครับกำลังลวนลามพี่ต่ายทางความคิดอยู่
“แม่ว่าไรนะ” ผมได้แต่เกาหัวเขินๆ พี่ต่ายหัวเราะหึหึ ไม่รู้เห็นตอนผมมองรึเปล่าซิ
“แม่ถามว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้านเราบ้าง”
“ไม่รู้ซิแม่ แต่ปีใหม่ไม่ได้กลับแน่ๆต้องทำงาน”
“ว้า...อะไรกันปีใหม่ไม่หยุดเหรอ”แม่อดสงสัยไม่ได้
“ก็ปีใหม่ผมต้องไปดูเค้านับสต๊อคสิ้นปีน่ะแม่...ใช่ไม๊พี่ต่าย”
“ใช่ครับผมก็ต้องไปเหมือนกัน”
พี่ต่ายยืนยันครับ มันเป็นงานของเราที่ต้องทำน่ะครับแต่ผมก็ชอบนะ เห็นพี่ๆบอกว่าปีใหม่บางทีลูกค้าก็มีของขวัญให้เราด้วย ผมไม่เคยบอกใช่ไม๊ว่าผมงก เป็นนิดหน่อยครับชอบของฟรีน่ะ
พอบ่ายแม่ก็ให้พี่ต่ายขับรถไปส่งที่หมอชิต ก่อนจะขึ้นรถเห็นพี่ต่ายคุยอะไรกับแม่ก็ไม่รู้ชอบซุบซิบนินทาผมแน่ๆเลย พอส่งแม่เสร็จเราก็ว่างแล้วครับผมหันไปมองพี่ต่าย แล้วถามว่าเราไปไหนดี
“ปรกติวันหยุดพี่ทำสวนน่ะ เราไปซื้อต้นไม้มาทำสวนบ้านโอมดีไม๊”
ผมน่ะไม่ชอบอะไรที่ร้อนๆเหนื่อยๆ เลอะเทอะ สกปรก แต่ตอนนี้ความรักบังตาครับ ว่าไงว่าตามกัน ก็เราต้องปรับตัวหากันนี่นะ
“ได้พี่...แต่ผมเป็นลูกมือเฉยๆนะ...ทำไม่เป็น”
“ครับผม....รับรองคุณชายไม่เหนื่อย”
แล้วพี่ต่ายก็พาผมไปเลือกซื้อต้นไม้ครับ ส่วนใหญ่เป็นพวกไม้ใบ เพราะดูแลง่ายหน่อย ถ้าเอาประเภทที่ต้องรดน้ำทุกวันมันคงตายหมด เพราะผมขี้เกียจ หึหึหึ...ไม่ใช่หรอกครับทำงานกันกลับดึกทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลา แต่พี่ต่ายรับรองว่าจะดูแลเอง ผมเลยเบาใจ
พอกลับถึงบ้านก็เย็นพอดีครับ ผมถูกพี่ต่ายไล่ไปเปลี่ยนเป็นเสื้อเก่าๆเพราะกลัวเลอะ พอกลับลงมาพี่ต่ายก็ทำอะไรอยู่ที่สวนแล้วครับ พี่ต่ายยืนหันหลังอยู่ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น ผมเห็นกล้ามที่ไหล่กับแขนขาของพี่ต่ายที่โผล่พ้นเสื้อออกมา แล้วก็มาดูตัวเองเราหุ่นแย่จังเลย ผอมเอาซะมากๆชักอาย
“อ้าวโอมมาแล้วเหรอมานี่ซิ” พี่ต่ายหันมาเห็นผมเลยเรียกผมไปหาครับ
“ยกกระถางที่วางตรงนู้นมาตรงนี้ด้วย”
ไหนว่าไม่เหนื่อยไง เริ่มจากงานกรรมกรเลยนี่หว่า สงสัยจะโดนหลอกแล้วละเนี่ย
แล้วพี่ต่ายก็ใช้ผมยกต้นไม้ ยกถุงปุ๋ย ถุงดิน ไปเอาสายยาง บางทีก็ย้ายไปย้ายมา สารพัดครับ แต่ตัวพี่ต่ายเองก็ขุดดิน เอาต้นไม้ลง ตัดนู่นนี่ ถอนนั่นเต็มไปหมด ผมเลยไม่กล้าโวยทั้งที่เหนื่อยใจจะขาด
เหงื่อออกโทรมกายทั้งคู่ พอมีช่วงว่างๆผมเลยไปเอาน้ำมากินแล้วมาเผื่อพี่ต่ายด้วย
“พี่ต่ายทานน้ำครับ”
“ดีเหมือนกันกำลังหิวน้ำพอดี...พักก่อนก็ดี”
แล้วเราสองคนนั่งแผ่ดื่มน้ำอยู่ที่สนาม แก้มพี่ต่ายเป็นสีชมพู ที่แขนกับไหล่ออกเป็นสีแดงๆนิดหน่อยคงเพราะโดนแดด ถึงแม้จะเป็นแดดยามเย็นก็ตาม เหงื่อเกาะพราวอยู่ทั่วตัว ผมก็เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ หุหุหุ เซ็กซี่น่าดุ :อิอิ1:
ผมก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าพี่ต่ายก็กำลังดูผมอยู่เหมือนกัน เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองกระเซิงมาก เสื้อก็เน่า หน้าก็แดง เหงื่อโทรม กำลังเพลินๆดูดน้ำอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่ต่ายพอดี เห็นพี่ต่ายตอนนี้หยุดดื่มน้ำแล้วแต่กำลังนั่งมองผมอยู่อย่างเงียบๆ ผมเลยชักเขินๆ เลยถามพี่ต่ายแก้เขินไปว่า
“พี่ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ....มองจัง”
“ใคร...โอมน่ะเหรอหล่อ”แล้วพี่ต่ายก็ส่ายหัว แล้วก็หัวเราะดังมากๆครับ จนผมงงว่าขำอะไรนักหนา ผมหล่อน่ะมันผิดกฎหมายรึไง ไปเรียกตำรวจมาจับเดะ
“ไม่หล่อแล้วมามองทำไมล่ะ...มองทำไม”
ผมชักโมโห...อีกล่ะกรู กวนเค้าจนได้เรื่อง พอเค้าหัวเราะก็ไปโกรธเค้าอีก แล้วพี่ต่ายก็พูดออกมาอีกคำนึง
“ก็ไม่หล่อแต่เร้าใจไง...ก็เลยมอง....หึหึหึ”
กะว่าถ้าพี่ต่ายพูดไม่ดีอีกจะสวนกลับ แต่เจอตอบแบบนี้ก็คิดไม่ทันครับว่าจะตอบยังไง เงียบไปพักนึงเขินอ่ะ....แล้วเลยพูดส่งเดชว่า
“พี่เสร็จยัง...เหนื่อยแล้ว....หิวด้วย”
พี่ต่ายไม่ตอบ เอาแต่ยิ้ม แต่ผมก็เหนื่อยจริงๆนะ ไปตอนนี้จะดูเอาเปรียบไม๊อ่ะ แต่ว่าปากก็ไปแล้วครับ
“ไปอาบน้ำก่อนนะ...พี่ต่าย”
“ไปเหอะ...เดี๋ยวพี่ตามไป ”
พี่ต่ายพยักหน้าแล้วครับ แต่ยังไม่เลิกหัวเราะ สงสัยคงดีใจที่กวนผมได้ ผมเลยลุกไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ ผมลงมามองไปที่สนามพี่ต่ายไม่อยู่แล้วครับแต่เก็บข้าวของเรียบร้อย เดินหาพี่ต่ายปรากฏว่ากำลังหั่นแตงโมอยู่
“อ้าวโอมมาแล้วเหรอ...มาเอาแตงโมไปกินก่อนเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน”
ผมรับจานแตงโมมาจากพี่ต่ายมานั่งทาน กินไปผมก็คิดไป พี่ต่ายก็เหนื่อยไม่น้อยไปกว่าผม แต่ยังอุตส่าห์มาหั่นแตงโมให้ผมทาน ผมนี่นิสัยแย่จัง ไม่เคยช่วยอะไรพี่ต่ายเลย
ทั้งที่สวนนี่ก็ของบ้านผม แต่ผมก็ไม่เอาธุระ ปัดไปให้พี่ต่ายคนเดียว ไม่เคยช่วยดูแลบ้าน ล้างจานก็ไม่เคย หรือว่าผมจะเป็นเด็กไม่รู้จักรับผิดชอบเหมือนที่แม่ว่าจริงๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งละอายใจ ถ้าผมยังทำตัวเป็นคุณชายอยู่แบบนี้อีกหน่อยทุกคนก็คงเบื่อผม รวมทั้งพี่ต่ายด้วย
ซักพักนึงครับ ผมกินเสร็จแล้ว เลยนั่งคิดถึงนิสัยตัวเองอยู่ พี่ต่ายก็อาบน้ำเสร็จเดินเข้ามา เอามือมาแปะไว้บนหัวผม
“อร่อยมั๊ยโอม.....นี่แม่ซื้อมานะ พี่แช่ตู้เย็นไว้กินตอนเหนื่อยๆ อร่อยดีนะ”
“อ้าวพี่พูดด้วยก็ไม่ตอบ....คิดเรื่องอะไรอยู่”
พี่ต่ายมายืนอยู่ข้างหลังผม ผมเลยหันไปกอดเอวพี่ต่ายไว้ ยังไม่รู้จะพูดอะไรดี
“เป็นอะไร...เหนื่อยมากเหรอ...”
“พี่อยากให้เราออกกำลังกายบ้างน่ะทำแต่งาน สุขภาพจะไม่แข็งแรงนะ”
พี่ต่ายเลื่อนตัวมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม จับมือผมไว้
“พี่ต่ายผมนิสัยแย่มากใช่ไม๊....ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวมากใช่ไม๊”
“พี่บอกผมมาตรงๆผมรับได้”
“อืมม...พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นนะ....พี่มีความสุขเวลาทำอะไรให้กับโอม”
“ไม่เคยคิดว่าโอมต้องมาทำอะไรให้พี่”
“แต่ผมนิสัยไม่ดี ไม่เคยช่วยอะไรพี่เลย แต่ก่อนพี่อั้มก็ทำทุกอย่างให้ผม”
“โอมคิดว่างั้นเหรอ...ก็ถ้าโอมคิดแบบนั้นโอมก็แก้ไขซิ”
“ถ้าผมทำอะไรไม่ดีพี่ต่ายต้องบอกผมนะ....ผมจะได้ปรับปรุงตัว”
“พี่รักโอม.....ไม่ว่าจะเป็นยังไงพี่ก็รักอยู่แล้วล่ะ”
“แค่โอมรู้จักคิดที่จะทำตัวให้น่ารัก....พี่ก็ดีใจแล้ว”
“โอมแค่ทำตัวสบายๆเวลาอยู่กับพี่ก็พอ”
ผมค่อยโล่งใจหน่อย อย่างน้อยตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมควรต้องเริ่มปรับปรุงนิสัยอะไรบางอย่างของตัวเองบ้าง ก็เพื่อตัวผมเองด้วย
“โอม...วันนี้เราไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่าเนอะพี่เหนื่อยแล้ว ไม่มีแรงทำกับข้าว”
“ดีพี่...หิวล่ะ” พอพี่ต่ายชวนผมก็รีบตกลงทันทีครับ เพราะอย่างน้อยวันนี้ขอเป็นคุณชายอีกวันส่งท้าย ขี้เกียจล้างจานอ่ะ หุหุ
วันนี้เราเลยออกไปกินข้าวนอกบ้านครับ ก็เป็นวันเสาร์นี่นา คราวนี้พี่ต่ายหาร้านแถวบ้านเผื่อเมาครับจะได้ไม่ลำบากตอนกลับ เราไม่เน้นบรรยากาศเท่าไหร่ ขอสบายๆครับ เลยนั่งกินนั่งดื่มกันไปพอมึนๆ แล้วก็กลับครับ ผมดูนาฬิกาประมาณ 3 ทุ่มได้
ถึงบ้านผมขอพี่ต่ายอาบน้ำก่อนครับ แล้วผมก็เหมือนเดิม เข้าห้องนอนก่อนแล้วล็อคประตู คราวนี้ไม่กล้าไปยุ่งกับพี่ต่ายแล้วครับกลัวไปขัดจังหวะอะไรเข้าอีก เดี๋ยวผมจะเดือดร้อนอีก
นอนหลับสบายๆอยู่ คราวนี้เหมือนมีใครมากอด ในใจก็คิดว่าพี่ต่าย แต่นึกแบบง่วงๆก็ว่าไม่น่าใช่ จะเข้ามาในห้องได้ไง คิดว่าคงเมาแล้วคิดไปเองแต่ก็ง่วงเกินกว่าจะลืมตามาดูเลยนอนต่อไป
แต่เริ่มเหมือนมีใครมาลูบหน้าอกผมอยู่ แบบเนื้อๆน่ะครับคือมือล้วงเข้ามาในเสื้อนะครับ เอ๋...มันชักเหมือนจริง ผมแกล้งทำเป็นหลับแต่ที่จริงแอบหรี่ตามอง ก็พี่ต่ายนี่แหล่ะครับ ผมอยากรู้นักพี่ต่ายจะทำอะไรต่อไป แต่ผมจะทนไม่ไหวแล้วนาาา.....อรึ๋ยยยยย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
รอบหน้า....แน่นอน