ต่อกันเลยนะ ทีแรกว่าจะไม่มาโพสท์ต่อล่ะ แต่กลัววันจันทร์จะยุ่ง อ่านกันไปเลยแล้วกันคร๊าบ
++++++++++++++++++++
ตอนที่ 36
จะให้เห็นหน้าสุดที่รักแล้วหายเมาทันทีมันก็คงไม่ได้หรอกครับ แต่ความตกใจมันก็ยังมีอยู่ ตอนนี้ลืมไปแล้วครับว่างอนกันอยู่
“พี่ต่ายเหรอ....เข้าบ้านผิดปล่าวพี่นี่มันบ้านผมน่ะ...เอิ๊กกก...” ผมก็พูดไปยิ้มไปก็มันมาวนี่ครับ
“โอมมานั่งนี่ก่อน” พี่ต่ายพาผมมานั่งบนฝาชักโครก
“นั่งอยู่เฉยๆก่อนนะ” แล้วพี่ต่ายก็ไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้าผมแรงๆครับ
“พี่กระต่ายยย....เบาๆหน่อยซิพี่พีพี.... หน้าคนนะ.......ไม่ใช่ส้วม...เช็ดซะแรงอย่างกะมัน
สกปรกมากนักหนา...มานเจ็บบบ” ผมอดโวยวายไม่ได้ มือผมก็เปะปะปัดมือพี่ต่ายไปด้วย
“เจ็บซิดีวันหลังจะได้จำไม่ทำตัวแบบนี้อีก” เสียงพี่ต่ายก็ไม่ดุนะครับแต่เย็นยะเยือก
“ใครๆเค้าก็เที่ยวกันทั้งนั้นนนน...พี่แหล่ะผิดปกติ”
พี่ต่ายไม่ตอบครับ....แกเลิกเช็ดหน้าผมล่ะ แต่กำลังจะถอดเสื้อผม ผมปัดมือพี่ต่ายออก
“พี่จะทำอารายยผม”
“ก็ถอดเสื้อเราซิ ไปอาบน้ำซะจะได้นอน ตัวมีแต่กลิ่นบุหรี่เหม็นจะตาย”
พี่ต่ายมองหน้าผม แล้วก็ส่ายหน้า
“ไม่ไหวเลยโอมเมาขนาดนี้”
พี่ต่ายยืนกอดอกมองผม ยืนมองพักนึงแล้วพี่ต่ายคงรำคาญเต็มทีเลยบอกผมว่า
“เอ้า.....โอมถอดเองก็ได้....เร็วๆไม่งั้นพี่ช่วยนะ”
“ก็ได้ๆ ผมถอดเองนะ ไม่ต้องช่วย”แล้วผมก็พยายามถอดเสื้อเองจนได้ครับถึงแม้จะช้าไปหน่อย
“อ้าวถอดกางเกงด้วยซิ ไม่งั้นจะอาบน้ำได้ยังไง” ยังกับแม่มาเองเลยครับ พี่ต่ายเนี่ย
“พี่ออกไปก่อนเดะ ผมอาบน้ำเองด้ายยย ไม่มาววเท่าไหร่ หึหึ”
“ยืนก่อนแล้วเอาหัวมาพิงพี่ไว้ แล้วค่อยๆถอดเดี๋ยวล้ม”
ผมเลยยืนเอาหัวไปอิงที่ไหล่พี่ต่ายก้มหน้าก้มตาถอดกางเกงครับ ตอนที่ยืนอยู่คนเมานะครับ
เลยแกล้งโขกหัวที่หน้าอกพี่ต่ายเล่น พี่ต่ายเลยเขกหัวผมไปทีนึง หายทะเล้นไปเลยครับหึหึ
พี่ต่ายก็เอามือจับเอวประคองตัวผมไว้ไม่ให้เอนไปมา พอผมถอดกางเกงเสร็จกำลังจะถอดปราการด่านสุดท้าย พี่ต่ายก็ผลักให้ผมนั่งลงบนฝาส้วมอีกที แล้วพี่ต่ายก็ก้มลงมาพูดว่า
+
+
+
“เดี๋ยวโอมอาบน้ำเองได้ใช่ไม๊ ฮึ” แล้วพี่ต่ายก็เอามือลูบแก้มผม ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้
“ครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก พี่ต่ายเอามือมาขยี้หัวผมแล้วก็ออกจากห้องน้ำไป
ผมนั่งง่วงงงอยู่พักนึง แล้วก็ลุกไปอาบน้ำ ระหว่างอาบน้ำสติผมก็กลับมาครึ่งนึงล่ะ ผมเลยเพิ่งนึกได้ว่า เราไม่ค่อยเข้าใจกันจากการโทรหาครั้งสุดท้ายของผม แล้วผมควรทำยังไงดี หรือว่าแกล้งเมาดิบพิสูจน์ใจพี่ต่ายหน่อย ผมคงอาบนานไปหน่อยก็คิดอะไรไปด้วยครับ พี่ต่ายเลยมาเคาะประตูเรียกผม
“โอมๆ...ยังไม่เสร็จอีกเหรอ...เป็นไรปล่าว”
“เสร็จแล้วพี่..กำลังจะออกไปครับ”
อ้าวตายห่า....ผมลืมเอาผ้าเช็ดตัวเข้ามาด้วย ถ้าอยู่คนเดียวก็คงไม่เป็นไร แต่นี่พี่ต่าย
ยังอยู่ด้วยซิ ปรกติอยู่กับพี่อั้มสองคนก็บ่อยไปที่เดินโทงๆออกจากห้องน้ำเข้าห้องนอนเลย แต่ตอนนี้
คงไม่ดีแน่
ผมเลยแง้มประตูยื่นหน้าออกไปหน่อยนึง
“พี่ต่ายหยิบผ้าขนหนูให้หน่อยค๊าบ...อยู่ในตู้”
แล้วพี่ต่ายก็เคาะประตูเรียก ผมเลยยื่นมือออกไปรับผ้ามาครับ พี่ต่ายก็นะ...เอาผืนเล็กมาให้ผม พันเอวมันก็รอบน่ะครับแต่มันสั้นจัง นุ่งแล้ววาบหวิว เหมือนนุ่งมินิเสกิ๊ตยังไงไม่รู้ ผมเลยต้องพันให้มันต่ำๆหน่อย เห็นพุงหน่อยก็ยังดีกว่าข้างล่างโผล่ ก็เลยทำให้ผมไม่ค่อยมั่นใจตอนออกไปเลย
ผมก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจเดินออกไปแบบปรกติ พี่ต่ายเปิดเพลงเบาๆด้วยครับ ทำเสมือนเป็นห้องตัวเองเลยนะเนี่ย แล้วทำไมไฟก็ไม่เปิด.....มืดๆ ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าจะหยิบเสื้อผ้ามาใส่
แล้วก็มีมือมาโอบเอวผม อีกล่ะ
ผมทำเป็นใจเย็นครับ......ไม่สนใจหยิบเสื้อมาใส่ พี่ต่ายกลับมาช่วยผมใส่อีก ใจผมก็เต้นตึกตักแต่ยังทำใจดีสู้เสืออยู่ มือพี่ต่ายมาโดนผิวผมตรงไหนก็เหมือนจะร้อนวูบขึ้นไปตรงนั้น
แล้วผมก็ก้มลงหยิบกางเกงมาใส่นึกในใจว่าอันนี้ไม่ต้องมาช่วยเลยนะ แต่พอผมก้มตูดก็จะโด่งโผล่ออกมา ผมเลยต้องย่อๆขาลงไปด้วย ท่าทางผมตอนนั้นคงพิลึกน่าดู
พอผมยืนขึ้นพี่ต่ายแกเริ่มเอาจมูกมาไซร้ที่ซอกคอผมแล้วครับ ผมขนลุกซู่ไปหมด แต่ตัดใจแกะมือพี่ต่ายออกจากเอว แล้วดึงตัวออกมา ทำเป็นพูดขรึมๆ
“พี่มีอะไรเหรอ ผมง่วงแล้วจะนอนนน” ผมเริ่มงอแงครับ
“คุยกันก่อนไม่ได้เหรอ”
“มีเรื่องอะไรต้องคุย” งอนอยู่ท่องไว้โอม
“วันหลังไปเที่ยวอย่าดื่มเยอะแบบนี้ได้ไม๊”
“ไม่รู้.....แล้วแต่สถานการณ์...ผมบอกไม่ได้หรอก”
“งั้นวันหลังให้พี่ไปด้วย” ฝันไปเหอะ ไม่ให้ไปด้วยหรอก
“พี่ก็อยากเที่ยวเหมือนกันใช่ม้า 555...บอกมาเถอะ”
“โอมอย่านอกเรื่องน่า”
+
+
+
“พี่จะมาสนใจผมทำไม....ก็ผมเบื่อ...ผมเหงาน่ะ...พี่เข้าใจไม๊”
ผมไม่ไหวล่ะ แต่ก่อนตอนไม่มีพี่ต่ายผมก็อยู่ของผมได้ วันหยุดผมก็อยู่บ้านดูหนังเกาหลี/ญี่ปุ่นบ้าง อ่านหนังสือบ้าง นอนเล่นบ้างไปตามเรื่อง แต่พอผมมาสนิทสนมกับพี่ต่าย แล้วพี่ต่ายก็มาๆหายๆ ผมเลยปรับอารมณ์ตัวเองไม่ทัน แล้วอยู่ดีๆน้ำตาผมก็ไหล เป็นบร้าไปอีกละกรู ปรอทแตก ผีนางเอกเข้าสิง
“ผมเหนื่อยใจ.........ตลอดเวลาเหมือนชีวิตผมต้องล้อไปตามแต่ที่พี่ต่ายจะลากไป”
แล้วผมก็พูดไปเรื่อยๆตามความรู้สึกตอนนี้ มันแย่มากๆ
“ผมยังไม่รู้สึกเลยว่า......ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของพี่ต่าย”
“พี่ต่ายนึกจะมาหาผมก็มา นึกจะหายก็หาย ไม่เคยอธิบายอะไรเลย”
เรื่องมันก็เดิมๆครับ แล้วผมก็ยังบร้าเหมือนเดิม เหมือนเทปที่มันย้อนกลับมาซ้ำๆๆ
จนผมเบื่อ เสียงผมยังเครือๆครับ รู้สึกกดดันในตัวเอง เหมือนเป็นเมียน้อยยังไงไม่รู้
+
+
+
“พี่ทำร้ายโอมขนาดนี้เลยเหรอ........ ที่ผ่านมา”
เสียงพี่ต่ายดูเศร้าสร้อยมากเลยครับ แล้วพี่เค้าก็เดินไปเปิดไฟ
พี่ต่ายเดินมากอดผมที่ยังยืนสะอึก สะอื้นตาแดงก่ำอยู่ ผมคงอ่อนไหวเกินไป ร้องไห้ง่ายไป
พี่ต่ายลูบหัวผมเบาๆ เช็ดน้ำตาให้ผมไปพลางๆ
“พี่ว่าเราคงต้องคุยกันจริงๆจังๆซักที”
ผมยังคงเงียบครับ แอบป้ายขี้มูกใส่เสื้อพี่ต่ายด้วย
“ไม่อย่างนั้นเราคงต้องมีเรื่องแบบนี้กันตลอด” พี่ต่ายถอนใจเฮือกใหญ่
“โอมก็รู้ล่ะว่าพี่เป็นแบบนี้ แล้วโอมอยากให้พี่ทำยังไง”
“ผมไม่รู้........แต่ผม.....ผมคิดถึงพี่”
ช่วงที่ทำงานผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมันยุ่ง แต่พอว่างทีไร ผมก็อดน้อยใจไม่ได้ แฟนคนอื่นเค้าเป็นแบบนี้กันมั่งไม๊ว่ะ ขนาดบุ้งมันเป็นแค่เพื่อนมันยังโทรหาผมได้ทุกวันเลย
“พี่ก็คิดถึงโอม”
พี่ต่ายจูงมือพาผมไปนั่งคุยที่เตียง ผมก็เดินตามไปโดยดี
+
+
+
“แล้วทำไมพี่ไม่โทรมา” ยังแอบสะอื้นเล็กน้อย ทำไมกรูอ่อนแอแบบนี้ว่ะ สงสัยตัวเองเหมือนกัน
“เวลาพี่ทำงานโอมก็รู้.....พี่ไม่ชอบคุยโทรศัพท์”
“ตอนกลางคืนล่ะ”
“พี่เหนื่อย...กลับมาก็หลับ”
“ถ้างั้นจันทร์ถึงศุกร์นี่เราไม่ต้องติดต่อกันเลยใช่ไม๊” ผมเริ่มโมโหแล้วนะ
“ไม่ใช่อย่างนั้น โอมคิดถึงพี่.....ก็โทรหาพี่ซิ” พี่ต่ายคงรู้ว่าผมเริ่มโกรธอีกล่ะ
“โอมก็ทำอย่างที่อยากจะทำแล้วกัน คิดถึงพี่ก็โทรมา” พี่ต่ายลูบมือผมเบาๆ
“ก็พี่ไม่ชอบคุยโทรศัพท์นี่ ผมเกรงใจ”
“โอมโทรมาพี่กลับดีใจ แต่พี่คงคุยได้ไม่นาน”
“ผมแค่อยากให้เวลาพี่คิดถึงผมก็โทรหาผมบ้าง เพราะผมก็ไม่รู้ว่าตอนไหนที่พี่พร้อมที่จะคุยกับผม”
“ถ้างั้นพี่คงทำไม่ได้หรอก” ผมกำลังจะวีนอีกทีครับ แต่พี่ต่ายชิงพูดก่อน
“เพราะพี่คิดถึงโอมตลอดเวลา ถ้าพี่โทรทุกครั้งที่คิดถึงโอมพี่คงไม่ต้องทำอะไรเลย”
+
+
+
ผมไม่รู้หรอกว่าที่พี่ต่ายพูดมามันเป็นแค่คำพูดหวานๆที่หลอกให้ผมดีใจรึเปล่า แต่มันก็ทำให้ผมพูดไม่ออกไปชั่วขณะ
“พี่ไม่กล้าสัญญาว่าจะโทรหาโอมได้ทุกวันเหมือนบุ้งหรือเปล่า”
เออไม่วายแอบเหน็บนะ รู้อีกแนะว่าผมแอบคิดอะไร
“แต่พี่สัญญาว่าจะไม่หายไปนานๆ แล้วถ้าพี่หายไปโอมก็โทรหาพี่นะ”
“ผมทำให้พี่ไม่สบายใจรึเปล่า” ผมเริ่มรู้สึกว่าผมทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กเกินไปรึเปล่า ชักเริ่มรู้สึกผิด
“ไม่หรอก.....พี่ก็ไม่อยากทำให้โอมเสียใจ ถึงพี่จะไม่รู้ตัวก็เถอะ”
“เราทั้งสองคนต่างก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน” พี่ต่ายยังคงพูดต่อ คงบอกทั้งตัวเอง แล้วก็บอกผมด้วย
ผมว่ายังไงพี่ต่ายก็ยังใจเย็นกว่าผม
“พี่ต่ายโกรธผมเรื่องบุ้งไม๊ครับ”ผมเริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้วครับ
“นิดหน่อย” ผมมองหน้าพี่ต่ายอย่างเกรงๆ พบเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ต่าย
“แต่ขอให้ลิมิตแค่เพื่อนแล้วกัน...พี่รู้นะว่าบุ้งเค้าชอบโอม”
“แล้วพี่ไม่กลัวผมจะไปชอบบุ้งเหรอ”ผมสงสัย ไม่หึงบ้างรึไงกัน
“กลัวทำไม ยังไงโอมก็ชอบพี่มากกว่าอยู่แล้วหึหึ” ไม่กลัวจริงเร้อ หุหุหุ
มั่นใจตัวเองเหลือเกินนะพี่ต่าย เรื่องบุ้งคงไม่ใช่ปัญหาของเราแล้ว ปัญหามันอยู่ที่ถ้าผมจะ
คบพี่ต่ายต่อไปผมก็คงต้องพยายามทำใจเรื่องความห่างของเรา แต่ตอนนี้ผมเริ่มง่วงแล้วครับ
“แล้ววันนี้พี่ไม่กลับเหรอ” ชักสงสัยแล้วว่ามาได้ไง ทำไมชอบทำตัวเป็นนินจา โผล่มาให้ผมตกใจทุกที
“บอกอั้มมันแล้ว ว่าจะนอนนี่กับโอม” พี่ผมเอาอีกล่ะ ทำไมไว้ใจเพื่อนง่ายๆแบบนี้นะ เฮ้อ.... กำลังจะ
ถามว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“โอม.....”
มาแบบจู่โจมอีกแล้วครับไม่ทันตั้งตัว จุมพิตร้อนๆของพี่ต่าย นับวันก็ชักเก่งขึ้นเรื่อยๆ
ไอ้ผมก็เริ่มจะติดใจ มันก็ทำให้เลือดลมสูบฉีดดีเหมือนกัน เราก็นัวๆเนียๆกันพักนึงล่ะครับ
จนผมต้องขอเบรคพักหายใจ ต้องผลักพี่ต่ายออกไปเพราะน้องชายผมมันชักเกเรแล้วครับ ต้องกำราบมันก่อน เดี๋ยวพี่ต่ายจับได้ล่ะแย่เลย
“พี่ต่าย.....แค่นอนเฉยๆนะพี่...... ขอร้อง” ผมยังคงตื่นเต้นทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ เสียงเลย
อดสั่นไม่ได้
“คร๊าบขอนอนกอดแค่นี้ก็ได้...นะโอม”
แล้วพี่ต่ายก็นอนกอดผม แต่ท่าทางน้องชายพี่ก็ดื้อเหมือนกัน มันมากวนๆผมข้างหลังอยู่ได้
เดี๋ยวจับตีตายเลย
แต่ผมว่าทั้งผมและพี่ต่ายคงดื่มมาเยอะพอควรเหมือนกัน ใช้เวลาไม่นานเลยเผลอ
หลับไปไม่รู้ตัวครับ
ตกลงคืนนี้เด็กๆของเราเลยกลับเข้าห้องกันหมดไม่มีใครออกมาเล่นซนข้างนอกอีกเลย หุหุหุ
********************************************************
ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคร๊าบที่เป็นกำลังใจให้ คิดว่าอีกไม่นานก็คงใกล้จบแล้ว
ถ้าตรงไหนที่ชอบก็ดีใจ ตรงไหนไม่ชอบก็บอกกันมานะคร๊าบ