พิมพ์หน้านี้ - ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: kongkilmania ที่ 14-11-2007 12:02:28

หัวข้อ: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 14-11-2007 12:02:28
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ



.::.กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่ .::. (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0)







ขออนุญาติลงนิยายของเพื่อนนะจ๊ะ   ติชมกันเยอะๆก็ดีนะ  คนแต่งจะได้มีกำลังใจ

เรื่องของผมก็ไม่มีอะไรมาก ชอบไม่ชอบยังไงบอกมาได้นะครับ

ตอนที่1

ก่อนอื่นผมขอแนะนำตัวเองก่อนนะครับ ผมชื่อ โอม  เรียนจบบัญชี จากมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง
    ตอนที่ผมเลือกเรียนวิชาบัญชีก็ไม่มีอะไรมากคือมีบัญชามาจากที่บ้าน   ซึ่งมีธุรกิจค้าขายอยู่ต่างจังหวัดในอำเภอเล็กๆแห่งหนึ่ง ในจังหวัดใหญ่ในภาคอีสาน      
ที่จริงที่บ้านผมก็มีพี่น้องหลายคน แต่ส่วนใหญ่พี่ๆผมจะเรียนวิศวะกัน ผมก็อยากเรียนนะ แต่สมองอาจจะด้อยกว่าพวกพี่ๆหน่อยเลยขอมักน้อยเอาแค่บัญชีละกัน  อย่างน้อยก็คงจะมีประโยชน์กับที่บ้านมั่งล่ะ

พี่น้องทุกคนที่บ้านผมถูกส่งมาเรียนในกรุงเทพฯตั้งแต่เด็กๆ   เพราะพ่อแม่อยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้  พวกเราพี่น้องตั้งแต่ตอนที่เรียนหนังสือชั้นมัธยมก็อยู่กันเองครับ พวกผมมีบ้านอยู่ที่กรุงเทพฯ ทุกคนดูแลตัวเอง ถึงเวลาแม่ก็เอาเงินมาให้  เป็นชีวิตที่อิสระดี แต่ก็ทำให้ความใกล้ชิดกับพ่อแม่น้อยลงไป  แต่ไม่มีใครออกนอกลู่นอกทางเลยครับ  เป็นความภูมิใจของที่บ้านมาก

เล่าไปซะเพลินกลับมาเรื่องของผมกับการทำงานดีกว่า ตอนที่จบใหม่ๆที่บ้านก็ไม่ได้บอกว่าจะให้กลับมาช่วย ผมก็เลยตามเพื่อนๆไปสมัครงานหลายแห่ง เนื่องจากผลการเรียนที่ค่อนข้างดีก็เลยได้หลายที่ แต่ผมก็เลือกที่ๆเพื่อนในกลุ่มผมเข้าได้เยอะที่สุด จำได้ว่าตอนนั้นสิบกว่าคน

ที่ทำงานของผม เป็นสำนักงานตรวจบัญชีครับ   เป็นที่รวมนักบัญชีจำนวนมากส่วนใหญ่ก็มาจากสถาบันดังๆทั้งนั้น แต่ละคนก็มีแต่เก่งๆกันทั้งนั้น   ในการทำงานจะแบ่งเป็นสายตามหัวหน้า     ก็แล้วแต่ดวงใครดวงมันหัวหน้าบางคนก็ใจดีบางคนก็เขี้ยวจริงๆ      ในแต่ละสาย ก็จะมีรุ่นพี่หลายๆรุ่นจบก่อนเราปีนึงหรือสอง สามปีก็ว่าไป พี่ๆก็คุมงานน้องๆเด็กใหม่อีกที  งานของเราก็คือการเข้าไปตรวจบัญชีของแต่ละบริษัทว่าทำบัญชีได้ถูกต้องตามควรหรือเปล่า สถานที่ทำงานของผมก็เลยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆครับ

ผมได้อยู่สายพี่เพ็ญเป็นรุ่นพี่คณะประมาณ 5ปี พี่เพ็ญเป็นคนโผงผางออกทอมๆหน่อยพูดเสียงดัง แต่ใจไม่มีอะไร  พี่ที่รองลงมาก็มีพี่ส้ม พี่ก้อง พี่ต่าย เวลาออกไปทำงานน้องๆก็ตามพี่แต่ละคนไป บางที่ก็ไป2 คนบ้าง 3 คนบ้าง  แล้วแต่ว่างานเร่งไม๊ ในสายยังมีเพื่อนคณะที่จบมาก่อนด้วยชื่อ เนย  จะว่าไปเนยก็ถือว่าเป็นรุ่นพี่ในการทำงานเพราะทำมาก่อนครึ่งปี  
แต่วันที่ผมเข้าไปไม่มีพี่ๆอยู่เลยเพราะออกไปทำงานข้างนอกหมด ผมก็เลยเจอแต่พี่เพ็ญ  เพื่อนรุ่นเดียวกันที่เข้ามาพร้อมกันมีอีก 2 คน หญิง 1 ชื่ออ้อม  ชาย 1 ชื่อหมี  

หลังจากเราผ่านการอบรบพนักงานใหม่ประมาณ 1 เดือน   เด็กใหม่ทุกคนก็ถูกส่งเข้าสาย แต่ตอนแรกๆเนื่องจากยังว่างอยู่ พี่เพ็ญก็ให้ไปเอาแฟ้มงานของปีก่อนๆมาศึกษาเพื่อเตรียมตัวเข้างานของปีนี้ อ่านไปอ่านมาก็นั่งคุยบ้าง หลับๆตื่นๆกันบ้าง ตามประสาเด็กที่ไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไร

“โอม เธอรู้จักเนยไม๊ ที่อยู่สายเราน่ะอยู่มหาลัยเดียวกะเธอนี่  ”อยู่ดีๆอ้อมก็ชวนคุยขึ้นมาขณะที่ผมกำลังเคลิ้ม ใกล้จะหลับล่ะ “ไม่รู้จักหรอก แต่ไม่แน่ใจนะเห็นหน้าอาจจะอ๋อ เพราะว่าคงเคยเห็นที่คณะ แต่ไม่เคยคุยด้วยหรอก ผมไม่มีเพื่อนชื่อนี้” คนในมหาลัยเยอะมาก แล้วก็แบ่งเป็นกลุ่มๆ ผมเองก็ไม่ใช่คนที่ป๊อปอะไรมากนัก  นับว่ารู้จักเพื่อนต่างกลุ่มน้อยมาก
“เห็นเค้าว่าเก่งนะ จบ 3 ปีครึ่ง นี่เห็นพี่เพ็ญบอกว่าออกไปกะพี่ส้ม” อ้อมยังสงสัยไม่เลิก
“ก็คงงั้น แต่ผมก็เก่งนะ แต่ไม่รู้จะรีบจบไปทำไม เรียนสบายๆดีกว่า หุหุ แอบยอตัวเอง”
“หูย คนอะไรขี้โม้ ยังไม่ทันไรเลย กลัวเค้าไม่รู้รึไงว่าตัวเองเก่ง”
แล้วอยู่ดีๆก็มีเสียงใครไม่รู้ลอยมา
“เก่งไม่เก่งมันต้องออกไปทำงานก่อน  คนเราจะคุยยังไงก็คุยได้” เสียงแบบเย็นชาสุดๆใครว่ะเริ่มกวนกันแล้ว  ไอ้พูดอย่างนี้ต้องเจอมิใช่น้อย

พอผมหันไปดู นักกีฬาว่ายน้ำที่ไหนว่ะ หุ่นสุดยอด สูงประมาณ 180 กว่าๆ ไหล่กว้าง  ขาว ตี๋  ใส่แว่นแต่หน้าแบบว่าไม่ยิ้มเลย หน้าตาไม่แสดงอารมณ์เฉยสุดๆ   จะว่าหล่อก็ไม่ใช่ จะว่าไม่หล่อก็ไม่เชิง รวมๆกันแล้วน่ามอง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใคร แต่ว่าถ้าหน้าแบบนี้เอาวะ ยกให้ทีนึง แต่ตอนที่หันไปนะซิ ผมก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าเค้าคงเห็น เลยส่งมาให้อีกดอกนึง

   “เห็นมาเยอะล่ะ พวกที่ว่าเก่งๆ เกียรตินิยม พอทำงานจริงๆ ไม่ได้เรื่อง”
อ้าวพูดอย่างนี้ที่ยกให้ผมขอคืนแล้วกัน    ไรกันฟะหาเรื่องกันอยู่ได้
“แหมพี่ต่ายก็ ก็แค่คุยกันเล่นๆ เป็นจริงเป็นจังไปได้” หมีเพื่อนผมก็เลยแทรกขึ้นมาบ้าง  เออหมีมึงเพื่อนกรู   แต่ไอ้พี่กระต่ายน่ะกรูไม่นับเว้ย  คนไม่รู้จักกัน ทำไมต้องมาว่ากรูด้วย
แล้วอีกอย่างผมก็ไม่ได้คุยกะพี่ แล้วพี่มาเคียดอะไรกะผม(ว่ะ)

ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ตอนนี้เลยเงียบไว้ก่อนดีกว่า  พูดไปเดี๋ยวจะมีเรื่องไปกันใหญ่เปล่าๆ
หมีเห็นบรรยากาศชักไม่ดีเลยรีบแนะนำ เพราะคงเห็นผมกับอ้อมทำหน้าเหรอหรา “เฮ้ยโอม อ้อม นี่พี่สายเราพี่ต่าย พอดีเป็นรุ่นพี่มหาลัยน่ะ ผมเลยรู้จักก่อน”

“สวัสดีครับ/ค่ะ พี่”เราประสานเสียงพร้อมประสานมือกันไหว้ไอ้คุณพี่กระต่าย
“อือ” พี่กระต่ายพูดแค่เนี้ย แล้วเดินไปเลยเข้าไปหาพี่เพ็ญในคอก  เออพี่เป็นคนมารยาทดีจังพี่ อบอุ่นกับน้องใหม่มากเลยพี่ ผมไม่ทันดูด้วยซ้ำว่าพี่เค้าได้ทัน มองหน้าผมกับอ้อมหรือเปล่า แล้วพี่เค้ายกมือรับไหว้หรือเปล่า ไอ้หมีเองก็ทำหน้างง งง
แต่ผมเริ่มรู้ละว่าการทำงานมันคงไม่สนุกอย่างที่ผมคิดไว้ ถ้าผู้ร่วมงานเราแสดงความมีมิตรจิตมิตรใจขนาดนี้ เฮ้อชีวิตผมจะเป็นยังไงต่อไปนะ
****************************************************************************

จะพยายามมาลงให้ต่อเนื่องทุกวันครับผม   รักทู๊กกกกกโคนนนนนน


*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 14-11-2007 12:09:50
มาเจิม

โพสทุกวันก็ดีนะ จะได้ไม่ขาดตอน
แล้วจะมาติดตามดู แต่อาจจะไม่ได้เม้นบ่อยนะ
 :m7: :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 14-11-2007 13:12:22

พอผมหันไปดู นักกีฬาว่ายน้ำที่ไหนว่ะ หุ่นสุดยอด สูงประมาณ 180 กว่าๆ ไหล่กว้าง  ขาว ตี๋  ใส่แว่นแต่หน้าแบบว่าไม่ยิ้มเลย หน้าตาไม่แสดงอารมณ์เฉยสุดๆ   จะว่าหล่อก็ไม่ใช่ จะว่าไม่หล่อก็ไม่เชิง รวมๆกันแล้วน่ามอง ผมก็ไม่รู้หรอกว่าใคร แต่ว่าถ้าหน้าแบบนี้เอาวะ ยกให้ทีนึง แต่ตอนที่หันไปนะซิ ผมก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดว่าเค้าคงเห็น เลยส่งมาให้อีกดอกนึง

บรรยายซะขนาดนี้ ตกลงว่าอีพี่ต่ายนี่ เป็นพระเอกใช่มะ  :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-11-2007 15:13:42
ขอเจาะไข่แดงหน่อยนะ   :give2:

แล้วมาต่อเร็วๆนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 14-11-2007 21:34:37
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: yoki ที่ 14-11-2007 21:52:13
เป็นกำลังใจให้น่ะ :m1: :m1: :m1:

มาอัพไวๆๆล่ะ :m11: :m11:

ติดตามอยู่จ้า :m18: :m18:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-11-2007 22:02:48
เรื่องนี้ท่าทางน่ารัก น่าหยิก  :m1:  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 14-11-2007 22:33:10
หุหุ มาร้ายและไม่สมชื่อต่าย
หรือจะเป็นกระต่ายยักษ์อ่ะ ดุโคตรๆ
 o21
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 15-11-2007 10:53:37
ตอนที่ 2 แบ่งทีม

 
วันนั้นจนเลิกงาน ผมก็ไม่เห็นพี่เค้าออกมาจากคอกพี่เพ็ญเลย แต่เห็นเอางานให้พี่เพ็ญดู แล้วก็ปรึกษากัน จนห้าโมง พวกผมยิ่งว่างๆก็กลับบ้านซิ พวกเราเด็กใหม่(ผมชอบคำว่าเด็กจัง ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่เพิ่งจบ อะไรๆมันดูดีไปหมด) 3 คนเลยเข้าไปบอกพี่เพ็ญ

“พี่เพ็ญครับพวกผมกลับก่อนนะ” ผมเป็นตัวแทนพูดขึ้นมา   

“เออ พวกเอ็งกลับไปเลย พี่ต้องอยู่ต่อคุยกะต่ายก่อน ไปเลย ไปเลย”

แล้วไอ้พี่ต่ายก็เงยหน้าขึ้นมานิดเดียวครับ ตามองผมซัก 2 วินาทีได้ แล้วย่นคิ้ว(เข้มๆ)เล็กน้อย ทำหน้าแบบว่า

“เด็กพวกนี้เป็นใครกัน?????” แล้วก็ก้มหน้าดูงานต่อครับ ไม่สนใจพวกเราเลย
เออพวกผมมันสูญญากาศมั๊ง ไม่เป็นไรไม่รู้จักก็ได้  ทำงานกันตั้งหลายคนคงไม่ซวยสุดๆต้องไปทำกะไอ้พี่บ้านี่หรอก

“พี่เค้าดูดุๆไงไม่รู้เนอะหมี โอม น่ากลัวจัง ดีที่หล่อนะเนี่ย ไม่งั้นหน้าพี่เค้าเรายังไม่อยากมองเลย” อ้อมเดินไปบ่นไป ระหว่างเราเดินไปที่ป้ายรถเมล์กัน

“พี่เค้าใจดีมากนะ ตอนที่อยู่มหาลัยแล้วแบบว่าเก่งมากๆ ขนาดแกไม่ค่อยเข้าเรียนเกรดยังกระฉูดตลอด แต่ไม่ค่อยพูดนะ”(แต่เรื่องนี้เด็กๆไม่สมควรเอาอย่างเพราะเป็นความสามารถส่วนบุคคล) หมีพูดขึ้นมาบ้างฐานที่รู้จักกันมาก่อน

ผมเลยอดแสดงความเห็นไม่ได้“หน้าเงี้ยนะหล่อ อ้อม งั้นๆแหล่ะขาวซีดจะตาย  แล้วที่หมีว่าใจดี ขนาดไม่รู้จักกันยังกัดผมซะเลือดสาด นี่ว่าขากลับจะแวะหาหมอ”

“อ้าวเป็นไร”อ้อมถาม

“ไปฉีดยากันหมาบ้า ไม่รู้จะโดนกัดอีกเมื่อไหร่” ผมก็สู้คนนะ มาแขวะกันงี้อดโกรธไม่ได้ :m16:

“เอ้ย โอมพี่เค้าคงพูดเล่นน่าอย่าคิดมาก เดี๋ยวคบๆไปก็เข้าใจเอง” หมียังอดโปรโมทพี่คณะตัวเองไม่ได้

“อ้อมขอบอกนะ อ้อมไม่ไปกะพี่ต่ายเด็ดๆเลย กลัว แล้วยิ่งหมีว่าพี่เค้าเก่งกลัวทำงานตามไม่ทัน เรามิกลายเป็นพวกโง่ไปเลยเหรอ”

“อือ ช่าย เราก็ไม่ไป ใจดีนักหมี คุณก็ไปกะเค้าละกัน”ผมอดเสริมอ้อมไม่ได้

“เราเลือกได้ด้วยเหรอว่าจะไปกะใคร ผมไม่แน่ใจ ฮึอ้อม”

“ไม่รู้ แต่เราจะคุยกะพี่เพ็ญ ยังไงผู้หญิงก็น่าจะไปกับผู้หญิงไม่ใช่เหรอ” อ้อมคงกะเอาความเป็นหญิงมาหลีกเลี่ยงพี่ต่าย แล้วผมจะเอาอะไรดีล่ะ จะเอาความเป็นชายก็ดูแปลกๆ อือคืนนี้ต้องกลับไปคิดวิธีการ ว่าจะเอาไงดี

“เออน่า ยังไงช่วงนี้เราก็คงอยู่ออฟฟิซอีกนาน พวกคุณอย่าเพิ่งกังวลไปเลย” หมีนี่ดีนะปลอบใจตลอด เสียอย่างเดียวไม่หล่อ ไม่งั้นสาวๆน่าจะชอบ ดูเป็นคนใจเย็นดี ดีที่อยู่สายเดียวกัน คงพอพึ่งพากันได้

-------------------------------------------------------------------------------------------------
วันรุ่งขึ้นผมไปถึงที่ทำงาน 7.30น.  แต่เนื่องจากเข้างาน 8โมง ผมเลยเอาหนังสือพิมพ์มานั่งอ่านไปพลางๆ ก็เวลาปกติก็อ่านแฟ้มงานอยู่แล้ว กำลังอ่านเพลินๆก็สะดุ้งเพราะมีคนเอาแฟ้มงานมาวางโครมที่โต๊ะ พอเงยหน้าขึ้นไปมอง เอาอีกละจะมายุ่งอะไรกับผมนักหนา ก็ไอ้พี่กระต่ายนะซิ  โต๊ะว่างเต็มไปหมดเพราะยังเช้าคนยังมากันไม่เยอะ ทำไม๊จะต้องมานั่งตรงนี้ด้วย

ผมเลยเลื่อนเก้าอี้ออกมานิดนึง แล้วไม่สนใจอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ก็เมื่อวานคุณยังเห็นผมเป็นสุญญากาศอยู่เลย วันนี้ผมก็ไม่อยากเห็นคุณเหมือนกัน อีกอย่างนึงดูนาฬิกา เพิ่ง7.45 ยังมีเวลากำลังอ่านข่าวบันเทิงมันๆอยู่ อยากจะรู้ไอ้เรื่องตบตีเนี่ยใครผิดกันแน่
เงียบไปพักใหญ่ๆ ก็มีเสียงเอ่ยขึ้นมาว่า “คุณอยู่สายไหน”

เอาเข้าไป อายุดูๆไม่น่าเกิน 27 ทำไมความจำสั้นว่ะ ตกลงพี่จะไม่รับรู้ตัวผมจริงๆใช่ไม๊เนี่ย
ก็เมื่อวานหมีก็แนะนำแล้วนี่ แล้วตอนไปลาพี่เพ็ญ พี่ก็เห็น
โอเค  ได้......แนะนำตัวใหม่ก็ได้ “ผมชื่อ โอมครับอยู่สายพี่เพ็ญ แล้วพี่ชื่ออะไรครับ อยู่สายไหน”

พี่จำผมไม่ได้ ผมก็ลืมพี่ไปแล้วเหมือนกัน กัดผมขนาดนั้นยังมีลืมอีกไม่เข้าใจ
มีอึ้งครับ พี่ต่ายเงียบไปพักใหญ่แล้วก็ตอบว่า “อือ”
 แล้วไม่สนใจผมอีกละ กลับมานั่งดูงานตัวเองต่อ  แล้วจะมาถามกันทำไมเนี่ย ไม่ตอบผมด้วยว่าชื่ออะไร สายไหน
หงุดหงิดเว้ย คนอะไรแบบนี้  ผมหมดอารมณ์อ่านหนังสือพิมพ์ กวนกันแบบนี้ไปเข้าส้วมดีกว่า สบายกว่านั่งกะพวกอัลไซเมอร์ เดี๋ยวเกิดอีก 5 นาทีพี่แกหันมาถามผมอีกทีผมคงคลั่ง

   พอ 8โมงนิดๆ ผมเลยออกมาจากห้องน้ำ  เตรียมตัวไปเบิกแฟ้มงานที่อ่านค้างเอามาอ่านต่อ  แต่ไปเหล่ที่โต๊ะหน่อยดีกว่าว่าหมี กับอ้อมมารึยังจะได้ไปชั้น3 ด้วยกัน
   ไปชะโงกดูครึ่งตัว ยังไม่มีใครมาเลยมีแต่คุณพี่ต่าย นั่งอยู่คนเดียว กำลังจะหันหลังไปละ ก็ได้ยินเสียงปิยะวาจาของพี่ว่า
 “คุณนั่นน่ะ”  คนเค้ามีชื่อนะเว้ย พึ่งบอกพี่ไปยังไม่ถึง15 นาทีเลยลืมอีกล่ะ หรือไม่สนใจกรูเลยเนี่ย “มานี่หน่อย ไปเบิกแฟ้มบริษัทfff ปี254x กะ254Yกะพี่แห้ว ชั้น3  ให้หน่อยขอด่วนนะ บอกพี่แห้วว่าพี่ต่ายขอ”

“ครับ” ผมจะทำไงได้ พี่เค้าสั่งก็ต้องทำอ่ะดิ แล้วยังไงผมก็ต้องไปชั้น3 ไปเบิกงานอยู่แล้วด้วย

“พี่แห้วครับ ผมขอแฟ้มบริษัทfff ปี254x กะ254Yแล้วก็บริษัทYYY ปี254Yด้วยครับ”ผมบอกพี่แห้วไปด้วยเสียงอันเคารพ พร้อมกับจดรายการให้พี่เค้าไป
คือเป็นอันรู้กันว่าพี่แห้วเนี่ยเป็นมาเฟียที่รัก เอ๊ยไม่ใช่ มาเฟียดูแลแฟ้มงาน แล้วก็ถ่ายเอกสารด้วยใครไปเร่งพี่แกไม่ได้อาจเจอ สายตาอำมหิตส่งมาให้ รอไป 5นาที 10นาที 15นาที 20 นาที จะครึ่งชั่วโมงแล้วนะเฟ้ย

    เอ่อพี่ครับมันนานแล้วพี่ผมเริ่มเมื่อยแล้ว เมื่อไหร่จะได้ละพี่ ไปหาถึงไหนกัน เนี่ยใช้งานวันนี้นะพี่ ไม่ใช่ชาติหน้า ถ้าพี่ช้าขนาดนี้ ผมเข้าไปช่วยไม๊
ปล่าวครับผมแค่คิดในใจ ใครจะกล้าไปเร่งแก ไม่ใช่ผมคนเดียวที่มาเบิกไฟล์เช้าๆเนี่ยมีคนมาเบิกกันเต็มไปหมด แล้วหน้าพี่แกก็...อาจเป็นได้ว่าเมื่อเช้าไม่ทันได้ถ่าย หรือโดนนักเลงที่ไหนเหยียบเท้ามา ใครจะไปกล้าตาม

ผมดูนาฬิกา เอาไงดีล่ะจะ8.30น.ล่ะ ขณะที่กำลังลังเล หน้าตามู่ทู่ ก็มีเสียงห้าวๆ มาข้างหลังว่า “กะแล้วว่าไม่ได้เรื่อง กะแค่งานเบิกแฟ้มยังไม่รู้จักทำ สงสัยจะไม่เก่งจริงอย่างที่โม้ไว้แล้ว”
จี๊ดขึ้นสมองเลยครับ แต่ก็อดทนข่มใจนับ1 2 3 4.....10 ก็จำกันได้นี่แล้วมากวนอะไรกัน ไม่เห็นเหรอว่าก็ยืนขาแข็งรออยู่เนี่ย “ผมให้รายการพี่แห้วไปแล้วครับพี่เค้าหาอยู่”

“พี่แห้วครับแฟ้มที่ผมให้น้องมาเอาของ บริษัทfff ปี254x กะ254Y ได้รึยังครับพี่” พูดเพราะเชียวนะมรึงทีเงี้ย

“อ้าวของต่ายเหรอ น้องไม่เห็นบอก เห็นมายื่นให้ แล้วก็ไปยืนคุยกะเพื่อนพี่เลยนึกว่าไม่รีบไม่เห็นบอกนี่ว่าของต่าย ถ้าพี่รู้ พี่ก็รีบเอาให้แล้ว รู้ว่าต่ายน่ะใจร้อน”

อ้าวพี่เอาความซวยมาให้ผมอีกล่ะพี่แห้ว กะแค่คุยกะเพื่อนรุ่นเดียวกันนิดเดียวเอง แค่ทักกันว่าเอาบริษัทอะไรไปดู  เหมาเป็นว่าคุยซะงั้น
หน้าผมคงตลกน่าดู แต่เป็นตลกหน้าเสีย(แค่เสียยังไม่ทันเน่า)  ก็พี่แห้วทำหน้ากวนซะขนาดนั้น แล้วพี่ต่ายก็รับแฟ้มจากพี่แห้ว(ซึ่งหยิบมาให้เร็วมากหลังจากที่ผมยืนรอไปเกือบครึ่งชั่วโมง ) แล้วเดินไปเลย ไม่พูดกะผมซักคำ
เฮ้อ ไม่อยากกลับไปชั้น 5 เลย ไม่อยากเจอพี่ต่ายเลยทำไงดีล่ะตรู ไม่รู้จะพูดอะไร จะทำยังไง

ครับผมยังไม่ขึ้นไปเพราะแฟ้มผมยังไม่ได้ ก็ไอ้ที่เบิกไปพร้อมกันแหล่ะ ผมก็เลยซื่อบื้อรอต่อไป(แอบอู้เล็กน้อย) ซักพัก อ้อมลงมาตามผมบอกว่าพี่เพ็ญเรียกประชุมสาย จะแบ่งทีมออกไปทำงาน
แต่ดูอ้อม ยิ้มๆ แปลกๆ ผมก็ยังไม่คิดอะไร  ผมเลยบอกพี่แห้วว่าเดี๋ยวผมลงมาเอาอีกทีแล้วกัน แต่ดูพี่แห้วแกก็ยังไม่สนใจผมเหมือนเดิม เฮ้อ ทำไมกันเนี่ยผมมันดูไม่น่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ เซ็งเป็นบ้า

แต่ผมต้องเซ็งกว่าเดิมครับ เพราะผมขึ้นไปช้าเค้าแบ่งทีมกันแล้ว ใช่ครับอย่างที่คุณคิดกันแหล่ะ ผมต้องไปกะพี่ต่าย  แล้วไหนใครบอกต้องอยู่ออฟฟิซอีกนาน หลอกให้ตายใจนี่หว่า
ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ใครก็ด้ายช่วยผมที  ผมจะลาออกดีไม๊เนี่ย  หนีมาน.......
***************************************************************************
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 15-11-2007 11:25:27
^
^
^
 :m8:  ขอโต๊ดคร๊าบ  กะจะเข้ามาแก้ข้อความที่มันสลับบรรทัดกันเลยกลายเป็นโพสต์ซ้ำซะนี่  เปลืองหน้าจริงๆเลย   :m17:

 :m23:  แก้ตัวไม่ถูกเลยเรา  บื้อเจงๆ

ว่าแต่ ถ้าเราอยากจะเข้าไปแก้ไขข้อความที่โพสต์ไปแล้วนี่ สามารถทำได้ไม๊  กูรูท่านใดเข้ามาอ่าน ช่วยแนะนำด้วยเน้อ  ขอบคุณคร๊าบบบบ   
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-11-2007 11:29:21
 :laugh: :laugh:
เข้ามาขำเด็กใหม่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: [D]a[D]a [T]oo[N] ที่ 15-11-2007 11:33:37
ซวยแล้วมั๊ยอ่ะ

ได้งานสายเดียวกันอีก

อย่างนี้น่าลุ้นๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 15-11-2007 11:44:47
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 15-11-2007 12:06:52


เจอแบบนี้เราก็ไม่ไหวหน้าเหมือนกัน
มันจะแค่ไหนกันเชียว
 :m16:





ปล.
กด modify หรือ แก้ไข ตรงบนขวา ของ รีพลายที่เราจะแก้นะครับ
ผมลบออกไปให้แล้ว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-11-2007 13:48:14
บรรยายหุ่นพี่ต่ายซะ หึหึ  :m1:

แต่ดูนิสัยไม่น่าเป็นมิตรเล้ยยยย ...
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 15-11-2007 14:01:33
อย่างนี้ต้องรอติดตามตอนต่อไป  อิอิ

 :m9:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 15-11-2007 17:43:35
 o1  ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาอ่าน & เม้นท์ให้กำลังใจคนแต่งคร๊าบ

ขอบคุณคุณเรย์ด้วย เราเข้าไปแก้ไขสำเร็จแล้ว   :m1:  สอนง่ายแถมหัวไวจริงๆเลยนะเรา
ว่าแล้วก็โพสต์ต่ออีกตอน

ตอนที่ 3

พอแบ่งสายเสร์จพี่เพ็ญก็เริ่มเอางานมาแบ่งให้พี่ทีมแต่ละคน ตกลงอ้อมไปกะพี่ส้ม  หมีไปกะพี่ก้อง ส่วนผมไปกับเนยแล้วก็พี่ต่ายเป็นหัวหน้าทีม ผมก็ยังไม่อยากไปกับพี่แกอยู่ดีแหล่ะถึงแม้จะมีเนยไปด้วยก็ตาม

พูดถึงเนยก่อนครับ พอผมเห็นผมก็จำได้แล้วครับก็เธอเป็นคนหน้าตาน่ารัก ขาว หมวยๆหน่อยรูปร่างกำลังดี นับว่าค่อนข้างสูง ที่ผมจำได้ก็เพราะว่ามีเพื่อนในกลุ่มผมคนนึงแอบชอบเค้าอยู่ แต่โดยส่วนตัวผมก็ไม่เคยคุยด้วย แต่อยู่มหาลัยเดียวกัน ปีเดียวกันก็คงจูนกันไม่ยากหรอก

ผมคงทำหน้ากังวลมากที่จะต้องออกไปกับพี่ต่ายจนพี่เพ็ญสังเกตเห็น พี่เค้าเลยถามผมขึ้นมาว่า “โอม เป็นไรไม๊ ไปกับเนยกับต่าย เมื่อกี้โอมไม่อยู่พี่เลยไม่ทันได้ถาม  แต่เพราะเห็นว่า
จ๊อบที่จะไปอยู่แถวบ้านโอมน่ะ เวลาไปทำงานเอ็งจะได้สะดวกไง  แล้วจ๊อบนี้ก็เร่งจัง เลยต้องลงสามคน”

“ผมไปได้พี่ พี่ให้ไปไหนผมก็ไป(ถึงแม้ผมจะไม่อยากไปอย่างมากกก ก็เหอะ)” :m17:

“เออดีแล้ว จะได้เริ่มทำงานกันซะที เห็นพวกเอ็งสามคนมานั่งคุยกันในออฟฟิซแล้วกลัวพี่ฑูรย์แกว่าเอานะซิ” พี่ฑูรย์ที่ว่านี่เป็นหุ้นส่วนที่ดูแลชั้น5 นี้อีกทีนะครับ  ห้องแกก็อยู่แถวโต๊ะพวกผมแหล่ะ แต่พวกผมมันหมูไม่กลัวน้ำร้อน เวลาคุยนี่ไม่เคยมองหน้ามองหลังหรอก  พี่เพ็ญแกก็บ่นจนเลิกบ่นไปแล้ว

พี่เพ็ญกลับเข้าคอกแกแล้วหันมาสั่งต่อว่า “พวกหัวหน้าทีม(incharge)ก็จัดการเตรียมตัวได้แล้วนะ ส้ม ก้อง ต่าย โทรนัดลูกค้าเองว่าเค้าสะดวกให้เราเข้าวันไหน ให้เค้าเตรียมให้พร้อมล่ะ ไม่ใช่เข้าไปทำอะไรไม่ได้ อย่าลืมล่ะว่าเดดไลน์วันไหน แล้วไอ้สามคนนี้ไปสอนกันให้ดีๆละกัน จะได้ช่วยได้ เผื่อคล่องละก็ พี่ว่าปล่อยเดี่ยวไปเลย เพราะเรา3คนน่ะ(พี่ส้ม พี่ก้อง กี่ต่าย)ยังต้องไปอีกหลายจ๊อบ”

พี่เพ็ญ พวกผมยังไม่ได้เริ่มแตะงานเลย พี่กะลอยแพแล้วเหรอ แล้วจะไปกันรอดไม๊เนี่ย

ผมไม่มีเวลาคิดนานหรอกครับ พี่ต่ายแกเริ่มก่อนใครเลย “เนยสอนเพื่อนเราด้วยนะเรื่อง
จ๊อบเนี้ย เนยไปมาหนนึงแล้วนี่  ถ้าพรุ่งนี้ไปลงจ๊อบแล้วไม่รู้เรื่อง พี่ไม่มีเวลามาคอยหรอก ถ้าช้าพี่คงต้องขอเปลี่ยนคน ต้องส่งให้ทันปลายวีคหน้า”

“ค่ะพี่ต่าย แต่เนยก็เคยทำไปไม่กี่ตัวเอง ไม่รู้จะสอนโอมได้ไม๊”เนยคงกลัวซวยไปอีกคนหากว่าผมโง่เกินเยียวยา

“พี่ไม่ห่วงเนยคนสอนหรอก ห่วงคนรับมากกว่า ไม่เอาล่ะพี่ไปก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันที่นี่7.30น.นะ วันนี้พี่นัดลูกค้าไว้ แล้วเนยเตรียมเอกสารให้เรียบร้อยล่ะที่พี่สั่งไว้น่ะ”
แล้วพี่เค้าก็หอบข้าวของออกไปเลย  เออจะไปแล้วยังไม่วายแขวะ นี่ละมังเค้าเรียกคนไม่ถูกชะตา พี่เค้าคงไม่ชอบผม สงสัยผมคงหล่อเกินไปน่ะ เค้าเลยกลัวผมเด่นกว่า หึหึหึ     ไม่หรอกครับผมไม่ได้หน้าตาดีอะไรก็คนหน้าตาบ้านๆธรรมดานี่แหล่ะ  ผมก็หาข้อแก้ตัวไปเรื่อยปลอบใจตัวเองว่าเค้าไม่ชอบผมเพราะอะไร แต่ก็ช่างเหอะอย่างน้อยวันนี้ก็ไม่ต้องเจอพี่เค้าแล้วทั้งวัน คงสบายหูหน่อย

“เนย ฝากตัวด้วยนะ รุ่นพี่ โปรดชี้แนะข้าน้อยด้วย” :m5:     ผมต้องอ้อนหน่อยจะได้มีพวกไว้ต่อกรกับพี่ต่าย ผมว่าผมยังดีมีรุ่นเดียวกันไปด้วยสงสัยอะไรก็ปรึกษากันได้
   วันนั้นเนยก็เลยให้ผมเอาแฟ้มเก่ามาอ่าน แล้วก็แนะนำผมบ้างเกี่ยวกับข้อมูลบริษัทลูกค้านิดหน่อย เนยน่ารักมากครับมิน่าเพื่อนผมถึงได้ชอบ นิสัยดี ร่าเริง น่ารักด้วย เฮ้อถ้าผมชอบเธออีกคนนี่เพื่อนผมจะด่าไม๊เนี่ย

   ตอนนี้ผมเลยกังวลน้อยลงแล้วครับเรื่องจะไปทำงาน อย่างน้อยก็มีเพื่อน แต่เรื่องงานนะซิ มันยากนะครับตอนเรียนก็อย่างนึงตอนทำงานก็อีกอย่างนึง แล้วผมก็เคยแต่อบรมในบริษัทยังไม่เคยออกไปหาลูกค้าซักที ทำให้อดตื่นเต้นไม่ได้
   พอใกล้เที่ยงพวกผมกับเพื่อนที่อยู่คนละชั้นก็ไปกินข้าวกลางวันกัน  ต่างคนก็ต่างคุยกันเรื่องหัวหน้าทีม เรื่องบริษัทที่จะออกไปทำงานแล้วเพื่อนผมคนนึงที่อยู่ต่างสายก็มาถามผม “โอม คุณอยู่สายพี่เพ็ญใช่ไม๊ พี่สายคุณเท่ห์จังว่ะ คนที่สูงๆขาวๆน่ะ  รู้สึกชื่อพี่ต่ายป่าวว่ะ”     :m30:

   ผมไม่รู้หรอกครับว่าผู้หญิงเค้าชมเพศเดียวกันไม๊ แต่ผมว่าผู้ชายมันแปลกๆอยู่นา เลยงงงงกับไอ้เพื่อนคนนี้ว่ายังไงกันแน่ ชักกลิ่นไม่ค่อยดี  แต่คงมีคนสงสัยกว่าผม ก็อ้อมเพื่อนผมเอง
“ว๊ายๆๆๆ อะไรกันเนี่ย ธูปมาปิ๊งพี่เราเหรอ อย่าบอกนะว่าเป็น...” มันหน้าแดงเลยครับไอ้ธูปแล้วอ้อมๆแอ้มๆบอกว่า “อ้อมก็คิดไปเรื่อย เราแค่เห็นว่าพี่เค้าหุ่นนักกีฬาดี ผมชอบเล่นกีฬาไง เลยอยากรู้ว่าพี่เค้าทำไง หุ่นดีแบบนี้ พูดแบบนี้เป็นผู้ชายผมชกแล้วนะ” แล้วก็หัวเราะหึหึหึ
อ้อมเลยรีบขอโทษกลัวไอ้ธูปมันโกรธ “ โทษนะเราพูดเล่นเหมือนกัน ก็แหม พี่เราคนนี้ยกให้โอมไปแล้ว เค้าถูกคอกันดี ใช่ไม๊โอม เดี๋ยวก็ต้องไปจ๊อบด้วยกันอีก แล้วพี่ต่ายนะ คุยกะโอม คนเดียวเลย กะเรานะยังไม่เคยคุยด้วยเลย”

อ้อม แกพูดกวนใจมากเลย พูดแบบนี้อารมณ์ดีๆที่ได้กินข้าวกะเพื่อน ได้คุยกะเนย หมดกัน อุตส่าห์ลืมๆไปแล้วผมเลยอดประชดไม่ได้  “เออพี่ต่ายน่ะของผม ธูปคุณจะนิยมชมได้ แต่ถ้าชอบล่ะก็ไม่ได้ผมหวง 555555” ยังครับ  ผมยังบ้าไม่เลิกขนาดนั่งกันอยู่เต็มเลยนะครับโต๊ะผมก็รุ่นเดียวกัน โต๊ะข้างๆก็รุ่นพี่แต่คงอยู่สายอื่นผมไม่รู้จัก  แต่ผมพูดเล่นไงเลยมั่วต่อ “เนี่ย เมื่อเช้าผมเจอแป๊ปเดียวพี่แกก็ออกไปล่ะ โคดคิดถึงเลยว่ะ แต่ไม่เป็นไรเดี๋ยวออกจ๊อบเจอกันทุกวันให้หายคิดถึงเลย 555”

    อ้อมรับมุกครับมีเสริม “ช่ายทีแรกนะอ้อมขอไปกับพี่ต่าย พี่เค้ายังไม่เอาเราเลย บอกไม่ได้ต้องโอมเท่านั้นที่พี่ต้องการ เรานะเสียเซลฟ์เลย ใครๆก็ไม่รัก” ยังครับสายผมเนี่ยสงสัยแหล่งรวมของพวกบ้า หมีครับ กลัวคนไม่รู้ว่ามาด้วย “ผมอยากไปจ๊อบนี้เหมือนกันเพราะขึ้นรถไฟฟ้าไปได้ ขอพี่ต่ายไป ขนาดรุ่นน้องมหาลัยนะ พี่เค้ายัง Just say no เลย ผมละเซ็ง ต้องไปกะพี่ก้องจ๊อบไกลมาก”

ผมเห็นว่าจะไปกันใหญ่เลยรีบห้ามพวกนั้น “พอๆเลย ไม่ช่วยแล้วยังมาทำพูดดี” ผมหมายถึงสองคนนี้รู้อยู่แล้วว่าผมไม่อยากไปยังปล่อยให้ผมต้องไปกะพี่ต่าย สองคนน่ะเข้าใจแต่คนอื่นนะซิไม่เข้าใจ ธูปเลยถามผมว่า “ช่วยอะไรเหรออ้อม”

อ้อมหัวไวมากครับผมยังคิดไม่ทันเลย “อ๋อ โอมเค้าอยากไปกะพี่ต่ายตั้งแต่วันนี้ มาบอกให้เราไปบอกพี่ต่ายขอไปด้วยแต่เราลืม พี่ต่ายเลยไปเลยคนเดียว ปล่อยให้โอมว้าเหว่อยู่ที่ออฟฟิซคนเดียว” จบกัน ไปกันเรื่อยเปื่อยผมเลยขี้เกียจแก้ตัวละ  เลยได้แต่ส่ายหัวอย่างเดียว
อ้อมกับหมี เลยหัวเราะกันใหญ่ คนอื่นก็คงงง แต่ไม่ได้ถามอะไรต่อ เป็นอันว่าวันนั้นผมไม่รู้หรอกว่าคนอื่นคิดยังไง ผมแค่รู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่เค้า แล้วคนในสายผมก็รู้แค่นั้นเอง แต่เนยนี่ผมไม่แน่ใจนะครับเพราะเธอsave อย่างเดียว คือฟังไม่มีแสดงความเห็น อีกอย่างผมก็เพิ่งเจอเนยวันนี้ เพราะก่อนๆเธอออกจ๊อบไปกับพี่ส้มตลอด  แต่เดาว่าเนยน่าจะรู้เพราะก็ได้ยินพี่ต่ายแขวะผม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-11-2007 00:36:33
กัดกันไป กัดกันมา
จะต้องพูดกันอีกนานเลยนะนี่
จะไปรอดหรือ
 :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 16-11-2007 13:11:08
แล้วอย่างนี้จาไปกันต่อท่าไหนดีเนี่ย

เริ่มมาก็ตั้งแง่กันซะละ

เฮ้อออออ  :try2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 16-11-2007 13:52:19
ตอนที่ 4

วันนี้ผมต้องออกจ๊อบวันแรกครับเลยนอนไม่ค่อยหลับ ตื่นเต้นนิดหน่อย  ตื่นแต่เช้าไปที่ทำงานไปถึงเพิ่ง 7 โมง ผมเลยออกไปหาอะไรกินแถวที่ทำงาน ก็เป็นพวกข้าวแกงธรรมดาแหล่ะครับ กำลังนั่งรอข้าวที่สั่งไปอยู่ก็มี คนมานั่งตรงข้ามครับ ........

ไม่ใช่พี่ต่ายหรอกครับ อย่าเดากันซิ แหมอะไรจะบังเอิญขนาดนั้น  แต่เป็นใครก็ไม่รู้ ผมไม่รู้จัก  แต่เคยเห็นแว๊ปๆที่ทำงาน  อายุ30กว่าแล้วครับท้วมๆ หน้าตาใจดี แล้วเค้าก็ชวนผมคุยครับ

“คุณอยู่สายเพ็ญใช่ไม๊ ผมว่าใช่นะ คนที่นั่งคุยหน้าห้องเพ็ญน่ะ ขึ้นไปคุยกะพี่ฑูรย์ทีไรก็เห็นนั่งคุยอยู่หน้าห้องน่ะ”
 อ้าวซวยละซิ ภาพพจน์ผมไปหมดล่ะกลายเป็นไอ้คนคุยเก่งไปแล้วซิ ผมเลยได้แต่แฮะๆตอบพี่เค้ากลับไปว่า
 “ครับอยู่สายพี่เพ็ญ พี่อยู่ชั้น 3 เหรอครับ”
“ใช่ผมชื่อมีน สายผมอยู่ชั้น 3 แต่เด็กใหม่ปีนี้สายผมมีแต่ผู้หญิงนะซิ กำลังว่าจะไปคุยกะเพ็ญขอแลกตัวซะหน่อย เพราะบางจ๊อบต้องการผู้ชายไปลุย คุณมาอยู่กับผมไม๊ล่ะ"       :m18:
5555555 ทางสว่างแล้วครับ  อย่าว่าผมใจง่ายเลยครับ แต่ผมหาทางออกได้แล้วที่จะไม่ต้องไปกับพี่ต่าย ตอนนั้นผมลืมหมดเลยครับ เนย อ้อม หมี พี่เพ็ญที่แสนห้าวของผม ตอนนี้ขอพ้นหน้าไอ้พี่ต่ายก่อน

“ครับพี่ ถ้าพี่อยากให้ผมไปผมไปได้ แต่พี่ต้องคุยกับพี่เพ็ญเอง เดี๋ยวพี่เค้าจะเข้าใจผมผิด” ผมกลัวพี่เค้าเปลี่ยนใจครับเลยต้องรีบตอบรับ
ตอนนั้นเราคุยกันไปกินกันไป พี่มีนใจดีมากครับ เป็นกันเองมากๆขนาดเป็นระดับหัวหน้าสายแล้ว พี่มีนเป็นรุ่นพี่พี่เพ็ญอีกที เค้าซี้กันมากปกติกลางวันก็ไปทานข้าวด้วยกันตลอด อย่างที่ผมบอกแหล่ะครับพี่เพ็ญแกห้าวก็เลยคุยกันกับผู้ชายได้สนิทสนมดี  อันนี้พี่มีนเป็นคนบอกผมเอง พี่มีนบอกว่าได้ยินว่าพี่เพ็ญได้เด็กใหม่เป็นชาย 2 เลยอยากขอแบ่งมาคนนึง เค้าก็ยังไม่เจอหมีหรอกครับ แต่แกคงคิดว่าใครก็ได้ขอเป็นผู้ชายแล้วกัน

 คุยกันไปจนผมมาดูนาฬิกา ตายห่า7.30น.แล้ว ผมเลยขอตัวพี่มีนรีบกลับออฟฟิซเพราะพี่ต่ายนัดเจอตอน7.30น. ผมเลยได้แต่หวังว่าพี่มีนจะไปสู่ขอผมเอง กะพี่เพ็ญ  แต่ยังไงวันนี้ก็คงต้องทนไปก่อน กว่าจะเดินไปถึงที่ทำงาน7.45 ครับ กูจะซวยไม๊ว้า
ปรากฎว่าพี่ต่ายยังมาไม่ถึง  โชคดีไปมีแต่เนยนั่งอยู่ผมยิ้มเลยครับ รอดตายไปอีกหนกรู เนยบอกว่า

“โอมพี่ต่ายโทรเข้ามาบอกว่านัดลูกค้าไว้ที่นู่นจะไปคุยรายละเอียดก่อน ให้เราสองคนไปกันเอง ไปเจอกันที่นู่นเลย ไม่ต้องรอพี่เค้าแล้ว”

“แล้วพี่เค้าถามไม๊ว่าเรามายัง” ผมยังกลัวอยู่ครับเลยอดถามไม่ได้

“ไม่เห็นถามอะไรนี่ บอกว่าพร้อมแล้วก็ออกไปเลยเพราะตอนนี้พี่เค้าอยู่ที่ลูกค้าแล้ว”
เออรอดของจริงครับ ผมเลยชวนเนยออกไปเลยครับ คนกำลังไฟแรงกลัวไปช้าด้วยเพราะเช้าๆแบบนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่ารถติดขนาดไหน

เราไปถึงกันหลังจากนั้นซักชั่วโมงครึ่งครับเก้าโมงกว่า เข้าไปที่บริษัทลูกค้าเค้าก็พาไปที่ห้องที่จัดไว้ให้พวกเรา ยังไม่มีใครนั่งเลยครับเป็นห้องประชุมเล็ก แต่มีกองเอกสารวางอยู่เต็มเลยครับ นั่นละครับงานของเรา  นั่งกันไปแป๊ปนึงพี่ต่ายก็เข้ามาครับ........
กับหญิงสาวสวยคนนึงเลยล่ะชื่อพี่ แต้ว เป็นสมุหบัญชีของที่นี่  จะว่าสวยมากก็ไม่เชิงแต่ดูคล่อง เท่ห์ เก๋บอกไม่ถูก เป็นหญิงทำงานยุคใหม่ อายุน่าจะแก่กว่าพี่ต่ายนิดหน่อย
พี่ต่ายแนะนำผมกับเนย ให้พี่แต้วรู้จัก พี่แต้วก็น่ารักมาก

 “สวัสดีค่ะน้องๆ มีอะไรไปคุยกับพี่ได้โดยตรงเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ แต่ต่ายมาคุมนี่เราเบาใจไปเยอะเลยนะ งานคงเสร็จทันแน่”
ฟังดูก็รู้ซิครับว่าสนิทกันแค่ไหน

“คุณแต้วก็เชื่อใจผมจริงเหรอ ตอนก้องมาก็บอกว่าเชื่อก้อง  เฮ้อคนเราเค้าถึงว่า 1 ปีจาก นารีเป็นอื่น 55555” ครับพี่ต่ายคนเดียวกันนี่แหล่ะ แต่แกเปลี่ยนโหมดมาเป็นหนุ่มเจ้าเสน่ห์ไปแล้ว  ผมละรับไม่ทัน

“บ้าต่ายเนี่ย เค้ามีแต่ 3 วันจากนารีเป็นอื่น ไปเอามาจากไหน 1 ปี” พี่แต้วแกไม่ว่าเฉยๆครับมีตีที่แขนเบาๆด้วย  เอ๊ะนี่ตกลงเค้ามาทำงานหรือมาทำไรเนี่ย ผมละแปลกใจ มิน่าพี่แกรีบมาคนเดียวแต่เช้าเลย สงสัยกลัวพวกผมมาขัดคอแกมั๊ง
แล้วเค้าลืมไปไม๊ว่ามีอีก 2 หัวโด่อยู่ในห้องด้วยหรือว่าโลกนี้มีเพียง 2เรา  พี่ต่ายแกตอบครับ 
“ก็แหมกว่าจะมาเจอกันอีกทีก็ปิดงบปีหน้า ก็ต้อง 1 ปีซิครับ คุณแต้ว”

“ไม่คุยด้วยแล้ว ต่ายจะชักใบให้เรือเสีย พวกน้องๆจะได้ทำงานกัน ยังไงก็ช่วยพี่หน่อยแล้วกันนะ ขอไวนิดนึง นะเนยกับน้องอะไรนะคะ” พี่แต้วหันมาถามผม
ผมกำลังอ้าปากจะตอบแต่มีคนตอบแทนครับ

 “ชื่อน้องโอมครับ อยู่มหาลัยเดียวกับคุณแต้วนี่แต่ไม่รู้ว่ากลุ่มเดียวกันด้วยหรือเปล่า”

“อ้าวรุ่นน้องคณะเหรอ ดีๆเลยได้คุยกันง่ายหน่อย แต่พี่ไม่ถามรุ่นดีกว่ากลัวแก่ เอาเป็นว่าสงสัยอะไรเข้าหาพี่ได้เลยนะ เข้าหาพี่นะง่ายใช่ไม๊ต่าย ขึ้นอยู่กับว่าอยากเข้าหารึเปล่า หึหึหึ” พร้อมส่งสายตาวิบวับให้พี่ต่ายด้วย      :m13:
พี่แต้วเนี่ยเปรี้ยวจังเลยนะครับ ผมละอึ้งกะคำพูดแกเลย พี่ต่ายก็คงอึ้งเหมือนกันเห็นหน้าแดงไปเลย แล้วพี่แต้วก็จากไปครับ ทิ้งไว้เพียงประโยคเด็ดของแก กับชายหนุ่ม 2 คนที่ยืนงง กับสาวสวยอีกคนที่ยังไม่ได้พูดซักคำ

“เอ่อ คือเนยว่า พี่ต่ายแบ่งงานเลยไม๊ค่ะ จะ10 โมง แล้ว” ในที่สุดก็มีคนทำลายความเงียบครับ เนยขอบใจเธอมากเลย เธอทำให้เรายังรู้สึกว่าผู้หญิงมีมุมที่อ่อนหวานอยู่
ถ้าเจอแบบพี่แต้วบ่อยๆเราคงหัวใจวาย

พี่ต่ายแกคงรู้สึกตัวแล้วครับ “โอเค เนย”
แล้วแกก็เปลี่ยนมาโหมดเดิมครับ 
“เนยทำ.....นะพี่ขอพรุ่งนี้บ่ายโอเคไม๊ ส่วนเราน่ะทำ........ขอวันนี้เย็นหรืออย่างช้าเช้าวันพรุ่งนี้” ครับใช่ทีเนยเรียกชื่อสนิทสนม ทีผมชื่อก็มีไม่เรียกเรียกเรา แล้วเมื่อกี้ใครใช้ให้คุณไปแนะนำชื่อแทนผม เซ็งว่ะคนอะไรแบบนี้
แต่พอนึกถึงที่พี่แกสั่ง “ขอวันนี้” พี่บ้าป่าว ผมมาทำงานวันแรกนะพี่ แล้วผมยังไม่รู้อะไรเลย ทำไมมันโหดนักว่ะ  ใครจะไปทำทัน 

“พี่ผมทำไม่ทัน”ปากไปก่อนครับ แล้วก็ตกใจอ้าวดันพูดที่ใจคิดไปล่ะ เวรละซิ เอ๊ะเมื่อกี้ว่าคิดในใจนี่หว่า ไหงมีเสียงออกมาแล้ว
ครับหน้าแบบเดิมๆกลับมาอีกแล้ว เคยดูละครไทยไม๊ครับ ที่เวลาตัวร้ายทำหน้าให้รู้ว่าโกรธ หรือเยาะเย้ย ดูแล้วแบบไม่ต้องคิดมากนะครับ มาแบบนั้นเลย

“ไม่ได้ถามเลยว่าทำทันไม๊ บอกว่าพรุ่งนี้ต้องเสร็จ”
เบื่อครับ เคยไม๊ที่เซ็งเพราะคำพูดคนจนไม่อยากทำอะไรเลย ประชดนะครับ แต่อย่างที่เคยบอกผมน่ะสู้คน 

 “โอเค พี่ พรุ่งนี้เสร็จ” ปากก็บอกไป แต่คิด เอาอีกแล้วกูหาเรื่องใส่ตัวอีกล่ะ รู้ก็รู้ว่าทำไม่ทันดันไปอยากเอาชนะ เนยก็งงครับ พี่ต่ายก็งง

“เออก็ดี” ครับพี่เค้าพูดแค่นี้แล้วเค้าก็ไปนั่งทำงานเค้าครับ แล้วเราก็แยกย้ายกันทำงานครับ เงียบมากครับได้ยินแต่เสียงลมหายใจ เสียงพลิกกระดาษ  ไม่มีใครคุยกันเลย โคตรอึดอัดเลย พอดีผมมีส่วนที่ต้องไปคุยกับลูกค้าเพื่อขออะไรเพิ่มผมเลยลุกออกไปข้างนอกครับ ซัก 15 นาทีได้กลับเข้ามาหายกันไปหมดล่ะ มาดูนาฬิกา อ้าวเที่ยงกว่าแล้วนี่มิน่าเมื่อกี้ลูกค้าดูลุกลี้ลุกลน แล้วทำไมไปกินข้าวไม่รอกรูเลย เนยนะเนยทิ้งกันได้ลงคอ ไอ้พี่ต่ายน่ะไม่หวังหรอกคนอย่างนั้น ผมนะเซ็งสุดๆ เดินไปกดลิฟท์รอให้ลิฟท์มา พอผมก้าวเข้าไปลิฟท์กำลังจะปิด
เคยดูหนังเกาหลีไม๊ครับลิฟท์จะปิดแล้วมีมือโผล่มากันแล้วลิฟท์เปิดออก ครับพี่กระต่ายแสนซนของผมเอง หอบมาเลยครับ แถมด้วยโวยอีกทีนึง

 “ทำไมไม่รอ”  อ้าวพี่ตกลงพี่ทิ้งพ้มหรือพ้มทิ้งพี่ หรือใครทิ้งใคร งง 

“อ้าวผมไปที่ห้องไม่เจอใครเลยนึกว่าไปกันหมดแล้ว” พูดไปก็ยังงงกรูผิดหรือใครผิด

“น้องเนยไปแล้วเค้านัดแฟน  ผมเห็นคุณยังไม่มาเลยไปเข้าห้องน้ำกลับมาก็ไม่เห็นล่ะ คนอะไร อุตส่าห์รอ ยังไม่ขอบคุณอีก” เออกรูผิดก็ได้ อะไรๆก็ผิดหมดแหล่ะ ไม่รู้จะไปแก้ตัวทำไม ผมเลยเงียบ พี่ก็เงียบ ลิฟท์ก็เงียบ เงียบมากขนาดที่ว่าเหมือนเราสองคนกลั้นลมหายใจเพราะกลัวเสียงดังรบกวนอีกฝ่าย
แล้วก็มีเสียงดังทำลายความเงียบขึ้นมา

 “ป๊าดๆๆๆๆ.....ฟิ้ว..” พร้อมกับกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ครับขึ้นลิฟท์กัน 2 คน ต่างคนก็ต่างรู้ว่าใครเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติขึ้นมา แต่เป็นก๊าซที่เอามาเป็นพลังงานทดแทนไม่ได้ แถมเอาไปช่วยชาติก็ไม่ได้  เราสองคนหันมามองหน้ากันครับ 
แล้วก็ “เอ่อ...”พร้อมกัน        :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nattabadin ที่ 16-11-2007 13:59:14
เดี๊ยวจะมาอ่านคับ ขอติดไว้ก่อนนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 16-11-2007 14:21:20
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 16-11-2007 16:05:56
555555555
อุบาทว์ที่ซู๊ดดดดดดดดด
กำลังเครียดๆ เป็นตรูฮาแตกตายคาลิฟท์
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-11-2007 21:28:55
ครายทำ...........บอกมานะ :angry2:

ทั้งคู่เลยยอมรับมาดีๆ :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nattabadin ที่ 16-11-2007 23:07:28
สงสัยพี่กระต่ายแน่เลย
มนรักต์ ผายลม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-11-2007 09:51:26
หลังจากสูดลมรักเข้าไป :m26:
ทั้งสองอาจเปลี๊ยนไป o17
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-11-2007 10:32:26
5555 จะมีใครยอมรับมั๊ยล่ะเนี่ย  :m20:  :m20:  :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nattabadin ที่ 17-11-2007 11:46:15
อยากรู้ๆๆ มาต่อตอนใหม่เถอะคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 17-11-2007 17:02:59
มาลงต่อแล้วน้า 
เด๋วลงไว้2ตอนเรย  เผื่อพรุ่งนี้ไม่ได้เล่นเน็ท

ตอนที่  5

เหม็นมากเลยครับ ผมว่าศพหมา หรือหนูตาย ยังเหม็นน้อยกว่าอีก ตอนนี้เรากลั้นหายใจกันจริงๆ ภาวนาอย่างเดียวเมื่อไหร่จะถึงชั้นล่าง แล้วก็อย่าให้ใครเข้ามาเพิ่มด้วย เพราะถ้ามีคนเข้ามาเราก็ต้องตกเป็นผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เหม็นซะขนาดนั้น ใจจะขาดครับกลั้นหายใจแทบแย่  ลิฟท์บ้านี่ก็ช้าจัง พวกผมอยู่ชั้น12 ครับ

 พอลงมาถึงชั้นหนึ่ง  เราสองคนรีบวิ่งออกมาจากลิฟท์ แล้วก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วรีบเดินออกมาเลยครับเพราะมีคนรอขึ้นแล้วเนื่องจากพนักงานบางคนคงออกมากินก่อนเที่ยงและกำลังจะกลับไปทำงาน ขนาดว่าเราเดินไปไกลแล้วนะครับยังได้ทั้งกลิ่นทั้งเสียงลอยมาว่า

 “อี๋.. อึ๊ย อ๊วก.......ใครว่ะตดออกมาได้กลิ่นนรกมากๆ อุบาทว์ว่ะ  ไม่รู้ไส้เน่าหรือเปล่า บลาาาาาบลาาาา” เสียงหลายคนครับแต่นาทีนั้นไม่กล้าหันไปมองกลัวเค้าจับได้   รีบจ้ำกันใหญ่เลย 2 คน  แต่พยายามไม่ให้ดูมีพิรุธ พอเลยออกมาซักระยะนึงแล้ว หันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะก๊ากเลยครับ    :laugh:

เป็นครั้งแรกที่เห็นพี่เค้าหัวเราะแล้วก็ยิ้ม คนไรว่ะฟันสวยมากๆ ขาวจั๊วะเรียงเป็นระเบียบ หน้าดูเด็กไปอีกเป็นกองเลย ผมมัวแต่มองหน้าพี่เค้าครับ 

 “โอมแกตดเหม็นมากเลยว่ะ พี่จะอ๊วก เกือบตาย”

อายครับ อายสุดๆ   :o8:      ไม่เคยอายอะไรเท่านี้มาก่อน ผมก็เคยนะครับนั่งเรียน หรือคุยกับเพื่อนแล้วตดออกมา เพื่อนจับได้ แต่หน้ามึนยอมรับแล้วบางที ยังกำเอาตดไปให้เพื่อนดมด้วย  สนุกเฮฮาไปซะอีก แต่นั่นมันเพื่อนน่ะ สนิทกัน ส่วนพี่ต่ายเนี่ยจะว่าไปก็เหมือนคู่อริกลายๆ แล้วก็เพิ่งมาเจอกันไม่นานด้วย ก็เลยโคตรอายเลย หน้าผมคงแดงมาก

 ผมเลยอ้อมแอ้มตอบไปว่า “ขอโทษพี่ ผมไม่รู้ตัว เอ่อ....” 

พี่เค้าตบมาที่บ่าผมแล้วพูดยิ้มๆว่า “เฮ้ยมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ต้องขอโทษหรอก แต่อย่าบ่อยแล้วกัน พี่กลั้นหายใจได้ไม่นาน 5555” ครับแล้วพี่เค้าก็เดินนำหน้าผมไป ผมยังอึ้งๆอยู่ทำไมใจดีงี้ล่ะ ไม่ด่ากรูด้วย       :m23:

“อ้าวไม่ไปกินข้าวเหรอ แล้วจะทำเสร็จไม๊เนี่ย มัวแต่อู้อยู่ได้ เร็ว หิวจะตายห่า.. บลาาาาา บลาาา” พี่เค้าหันมาบอกให้ผมรีบตามไป เออ เอาอะไรแน่ไม่ได้เลย พี่กระต่ายของผม บ้าป่าวว่ะเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เฮ้อ..ผมได้แต่วิ่งตามไปครับ มัวแต่คิดเรื่องตดลืมไปเลยครับที่พี่บอกว่าเนยนัดกับแฟน.......... 

ระหว่างทานข้าวพี่เค้าไม่พูดอะไรเลย สงสัยแกคงหิวจัด  ต่างคนต่างหิวด้วย แล้วก็ไม่มีใครอยากพูดเรื่องตดอีก เพราะผมน่ะอาย แล้วพี่เค้าคงกลัวกินข้าวไม่ลง  กินไปคนละ 2 จานอย่างว่าครับวัยทำงาน ใช้สมองเยอะก็ต้องเติมพลังกันให้มากหน่อย

  พอทานอิ่มคิดเงิน พี่เค้าจ่ายไปก่อนครับผมก็กะว่าเออเดี๋ยวผมไปให้พี่ทีหลังคงได้มาควักเงินกันตอนนี้ 40-50 ดูตลกๆ   ผมก็เลยเฉยๆแต่ในใจคำนวณแล้วครับว่าของผมเท่าไหร่ตามประสานักบัญชี 
พอทานเสร็จเราก็กลับเข้าไปทำงานเลยครับ พอเข้าไปเนยก็นั่งอยู่แล้วผมเลยบ่นเนยนิดหน่อยที่ไม่รอ 

“เนยอ่ะไม่รอผมเลย ทิ้งกันหน้าตาเฉย เห็นแฟนดีกว่าเพื่อน”

“อ้าวก็เนยบอกพี่ต่ายแล้ว พี่ต่ายจะรอเอง เนยขอโทษแล้วกันนะโอม”เนยก็ยังคงน่ารักอยู่ดี ถึงแม้จะมีแฟนแล้ว   

 “ผมล้อเล่นน่า..555 อย่าคิดมากไม่โกรธหรอก” เราคงจะคุยกันต่อไปถ้าไม่มีเสียงแทรกมาว่า 

 “คุยกันแล้วงานจะเสร็จไม๊ ถ้าเสร็จก็คุยต่อแต่ค่อยๆหน่อย พี่ไม่มีสมาธิ”
แป่ว องค์ลงอีกละพี่กรู เอองานไม่เสร็จจริงๆด้วยผมก็กลัวเหมือนกัน เนยก็คงกลัวไม่เสร็จเหมือนกัน เลยต่างคนต่างทำงานกันต่อ ทำไปเรื่อยๆจน 6 โมงครึ่ง พี่แต้วเข้ามาหาที่ห้อง
 
“แต้วกลับก่อนนะ ต่าย พรุ่งนี้เจอกัน แต่ อยู่กันได้ตามสบายเลย แต้วบอก ยามให้ล่ะ ว่าคงอยู่ดึกเหมือนเคย  วันนี้ขอตัวจริงๆ ต้องไปมหาลัย บายน้องๆ บายต่าย”คือพี่แต้วแกคงเรียนโทน่ะครับผมเดาๆเอา

 “ครับ พรุ่งนี้เจอกัน คุณแต้ว” มารยาทดี๊ดีพี่กรู(โดยเฉพาะกะสาวๆ)
  เราทำงานกันต่อจนเกือบ ทุ่มครึ่ง เนยเริ่มดูนาฬิกาแล้วบอกพี่ต่ายว่า

 “พี่ต่ายเนย ขอกลับก่อนได้ไม๊ เพราะวันนี้แฟนเนยมารับ แต่เนยรับรองว่าพรุ่งนี้งานเสร็จแน่ เนยเอากลับบ้านด้วย” เป็นผมๆก็ให้ก็เนยออกจะน่ารัก เสียงอ้อนๆด้วย 

 “ไปเหอะเนยพี่ไว้ใจเรา พี่ก็ลืมไปเลยกะให้กลับไปตั้งแต่คุณแต้วมาบอกล่ะ มัวแต่คิดเพลินไปหน่อย เลยลืมบอก” ผมบอกแล้วกะหญิงละใจดีนักเชียว
ครับเลยเหลือกัน 2 คน เงียบมากๆ เริ่มร้อนด้วย เดาว่าเค้าคงปิดแอร์ เลยต้องเปิดประตูห้องไว้ ผมเริ่มเอาเน็คไทออก มันอึดอัดนะครับ

   พี่เค้าคงอึดอัดเหมือนกันก็เลยเอาออกด้วย แต่มีแถมกระดุมอีก 3 เม็ด แกคงขี้ร้อนน่ะ  พี่ต่ายขาวจริงๆครับผมอดเห็นไม่ได้ ก็มันนั่งตรงข้ามกัน เวลาเงยหน้ามาพี่เค้าก็อยู่ตรงหน้า อกพี่เค้าก็ตรงกะตาผมพอดี ไม่ได้แอบมองยังเห็นเลย  แต่ไม่ได้คิดอะไรเลย แค่เปรียบเทียบกะตัวเองว่าเอ๊ใครจะขาวกว่าใครถ้าเทียบกัน

“ทำไปถึงไหนล่ะ มัวแต่ใจลอย”อยู่ดีๆพี่ก็พูดขึ้นมา ผมตกใจสะดุ้งนิดหน่อย ก็คนกำลังคิดอะไรเพลินๆ อยู่ดีๆไม่ไห้สุ้มให้เสียง

 “เกือบแล้วพี่เดี๋ยวผมเอากลับไปสรุปที่บ้านพรุ่งนี้เช้าให้พี่ดูได้เลย” ผมก็ทำไปไม่รู้หรอกครับใช้ได้ไม๊ รู้แต่เอาของเก่ามาดูแล้วก็ทำตามๆเค้าไป บอกแล้วว่ายังไม่ค่อยรู้อะไร 

“งั้นไปกินข้าวกัน หิวแล้ว” ราวกับเสียงสวรรค์ครับก็มันเกือบ 3 ทุ่มแล้วอ่ะ ทำงานวันแรกยังขนาดนี้ เหนื่อยน่าดู ผมก็หิวด้วยอยากกลับด้วย 

“ดีพี่ หิวเหมือนกัน” ผมเลยเก็บของเผื่อกินข้าวเสร็จแล้วก็กลับเลย แต่พี่เค้าแค่รวมๆงานวางไว้ที่โต๊ะแล้วก็เดินออกมา  เห็นพี่เค้าคุยกับยามอะไรไม่รู้พอผมเดินมาพี่เค้าก็พยักหน้าให้ผมเดินตามไป เราลงลิฟท์กันสองคนอีกแล้วครับ ผมตัวลีบเลย

“อย่าตดอีกนะ พี่ขอร้อง วันนี้เหนื่อยล่ะ ไม่อยากลั้นหายใจอีก หึ หึหึ ”
พี่ผมน่ะลืมไปแล้ว พี่จะมาขุดคุ้ยทำไม อายน่ะอาย รู้บ้างไม๊ ผมคงหน้าแดงมากครับ พี่เค้ามองหน้าผมแล้วก็แอบยิ้ม แบบกลั้นยิ้มน่ะ แต่กลั้นไม่ค่อยอยู่ มีเสียง “หึหึ หึ”ออกมาจนได้
อายจนหายหิวเลย  พอลงมาถึงข้างล่าง ผมเลยบอกพี่เค้าไปว่า

 “พี่ผมกลับเลยดีกว่า ไปกินที่บ้าน แยกกันตรงนี้แล้วกัน  สวัสดีครับ” อารมณ์ อายบวกงอน ด้วย ล้อกันอยู่ได้ ตดครั้งเดียวจะล้อไป 3 ชั่วคนเลยไม๊

“ถ้าคุณไม่กิน ก็ตามใจ”พี่เค้าหันหลังกลับขึ้นลิฟท์ไปเลยครับ แต่รอลิฟท์อยู่
ผมก็เลยตะโกนไปว่า “พี่ขึ้นไปทำไมล่ะ” แล้ววิ่งไปหน้าลิฟท์

“ทำงานต่อ” แล้วก็ขึ้นลิฟท์ไปเลย เหมือนหนังน่ะครับลิฟท์ค่อยๆปิด แล้วก็มีหน้าพระเอก ใส่เสื้อแบะอกกระดุม 3 เม็ด ยืนหน้าเฉยๆเหนื่อยนิดๆ แววตาอิดโรยเล็กน้อย จนลิฟท์ปิด
นี่กรูผิดอีกแล้วใช่ไม๊เนี่ย อะไรกันหนักหนาว่ะ เฮ้อ    :เฮ้อ:
----------------------------------------------------------------

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 17-11-2007 17:18:40
เอ! ดูเหมือนตอนนี้มานจาสั้นๆอยู่นะเนี่ย     :m23:

ตอนที่ 6

บางทีผมก็งง งงนะครับ งงบ่อยไปไม๊ไม่รู้  พี่ต่ายน่ะผู้ชาย ทำไมทำตัวหยุมๆหยิมๆ มีกัดมีประชด มีแปลกๆ อะไรก็ไม่รู้ แถมเป็นกะผมคนเดียว
แล้วผมล่ะ ก็ผู้ชายจะมาสนใจอะไรกับอารมณ์ผู้ชายที่เมนส์คงมาไม่ปกติ น่าจะไม่สนใจทำงานของตัวเองไป เค้าไม่ชอบเราก็คุยกะเค้าน้อยหน่อย

“เอ้าพี่ ข้าวมันไก่ ทานซะเดี๋ยวจะหิว” ครับผมกลับขึ้นไปเอาข้าวไปให้พี่เค้า แถมด้วยกาแฟเย็นแล้วมีบะหมี่แห้งอีกอย่าง   
 “ผมกลับล่ะ ไปนะพี่”

“อ้าวไม่ทานด้วยกันล่ะ ทานแล้วเหรอ” หน้าตาแกดูดีขึ้นแฮะ สงสัยดีใจมีคนเอาข้าวมาเลี้ยง เหมือนตอนหมากระดิกหางตอนเราให้ข้าวมัน แฮะๆ เปรียบมากไปปะ กำลังหมั่นไส้คนน่ะ   

“ผมจะกลับไปทานที่บ้านอ่ะพี่ ไปละ”แล้วผมก็กลับครับ ยังได้ยินเสียงแว่วๆว่า 

“ขอบใจนะ โอม”ลอยมา เป็นอันว่าผมซื้อคืนพี่เค้าไปแล้วนะ แทนค่าข้าวเมื่อกลางวัน  หักกลบลบกันยังกำไรนิดหน่อยด้วย แถมยังได้หน้าอีก หุหุ  แผนสูงไม๊ล่ะผม บอกแล้วนักบัญชีไม่มีหรอกเสียเปรียบ เจอกับยามตอนจะออก

 “กลับแล้วเหรอครับ อ้าวนึกว่าซัก 5 ทุ่ม เห็นคุณคนนั้นบอก”

หูยพี่ต่ายแกทำงานหนักงั้นเลยเหรอ ผมละทึ่งจริงๆทำไมต้องทุ่มเทขนาดนี้ด้วย มิน่าพี่แต้วถึงบอกเชื่อใจ แล้วถ้าผมไม่เอาข้าวมาให้พี่เค้ากิน เค้ามิหิวตายไปเลยเหรอ สำนึกดีบอกว่ากลับไปช่วยแกดีกว่า น่าสงสารต้องอยู่คนเดียวร้อนก็ร้อน  แต่สำนึกร้ายบอกว่าไม่ใช่เรื่อง ตัวเองงานก็ยังไม่เสร็จ หิวด้วย


ในที่สุดครับผมกลับบ้าน หิวจะตาย ตัวใครตัวมันล่ะครับ ก็สำนึกร้ายน่ะมันเป็นตัวผมมากกว่านี่ สำนึกดีน่ะมีเอาไว้เป็นทางเลือกเท่านั้นเอง ให้ดูชีวิตมีสีสันหน่อย เพราะผมชอบเลือกครับไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม........ปล่อยแกไปองค์ขยันกำลังลง เดี๋ยวเกิดองค์บ้าเข้ามาตอนผมนั่งอยู่ ไม่อยากต้องไปหาหมอฉีดยากันหมาบ้าอีกเข็ม 5555

คืนนั้นผมต้องเอางานมาทำ ดูว่ามีตรงไหนที่มีปัญหาที่ต้องถามลูกค้า   ก็จดออกมาแต่อันไหนที่สรุปได้ผมก็พิมพ์เป็นรายงานออกมาเลย กะว่าพรุ่งนี้ไปแต่เช้าแล้วคงเรียบร้อยก่อนพี่ต่ายมาดูงาน   

“โอม ดึกแล้วนะ ยังไม่นอนอีกเหรอ” พี่ชายผมครับพี่อั้มชะโงกหน้ามาถาม

“วันนี้ก็กลับมาซะค่ำแล้วไม่รู้จักหาอะไรกินมาก่อน  เห็นกินแต่มาม่าแล้วอิ่มเหรอ”แหะๆผมชอบกินมาม่าครับ บางทีนั่งดูโฆษณาไป ก็นั่งคิดว่าเอออยากกินบ้างจริงๆ     ที่บ้านเลยติดมาม่าสารพัดชนิดเก็บไว้เป็นเสบียง  คืนนี้ก็มัวแต่เซ็งเรื่องไปตดต่อหน้าชาวบ้าน  ไม่มีอารมณ์จะไปรอซื้อข้าวมากิน   เลยกินมาม่านี่แหล่ะสะดวกดี อร่อยด้วย
 
“เออน่าเค้าอิ่มก็แล้วกัน อย่ามายุ่งเค้ากำลังทำงาน  ตัวเองทำไมยังไม่นอน เล่นเน็ตละซิ” พวกเราพี่น้องสนิทกันครับไม่ค่อยเรียกพี่หรอก แม่บ่นประจำ พี่ผมก็ไม่ถือสาหรอกคงชินมากกว่า อีกอย่างคงเกินเยียวยาแล้วผมน่ะ   

“เออ ไม่รู้ใครเป็นพี่เป็นน้อง โอมแกนี่ ไอ้เราเป็นห่วงงานเค้าหรอก ไม่รู้จะเสียหายเท่าไหร่  คิดยังไงนะรับแกไปทำงาน 5555 น่าเป็นห่วง”
ครับมาแซวหน่อยแล้วพี่ผมก็ไป ผมทำงานต่อหน่อยนึงแล้วเลยนอน กะว่าพรุ่งนี้ไปซัก 7โมงเลยดีกว่า รับรองว่าพี่ต่ายเห็นงานผมแล้วต้องอึ้ง.......ผมมั่นใจ

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 17-11-2007 17:37:57
สงสัยพี่ต่ายจะหลงกลิ่นตัวของโอมเข้าซะแล้ว

ก้ากๆๆๆๆๆๆ

 :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 17-11-2007 18:51:29
เรื่องนี้สนุกจังเลย ชอบๆ

อยากรู้แล้วสิว่า ถ้าพี่ต่ายเห็นงานโอมแล้วจะเป็นยังไง

 o17 o17 o17
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-11-2007 21:13:12
โอมมั่นใจ.....

มั่นใจ....ตั้งใจ....จะไม่รัก..... :m3:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 17-11-2007 21:44:41
มาต่อไวๆ นะคับ รออ่านอยู่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-11-2007 21:46:06
หุหุ โอมมั่นใจขนาดนั้นเชียว เดี๋ยวเจอพี่ต่ายมาดโหดก็เรียบร้อยแล้ว  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 18-11-2007 10:55:44
ชอบเรื่องนี้จังเลย

สนุกมากกกกกกกกก รอตอนต่อไปจร้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 18-11-2007 11:36:29
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 18-11-2007 14:06:20
นิยายเรื่องนี้มันแหวกแนวดีจริง ๆ  o7 o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 18-11-2007 16:01:31
พลังตด ฟิชิตใจ
 :laugh: :m4: :m4:
ไม่ต้องพึ่งน้ำมันพราย
โดนที่เดียวอยู่
ติดต่อเข้ามาตอนนี้ ท่านจะได้รับขอสมนาคุณฟรีทันที
 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 18-11-2007 17:45:11
ง่าๆ....ขอมาสมัครเปงสมาชิกเรื่องนี้ด้วยคนนะฮะ

ยังไงก้อเข้ามาต่อให้อีกนะฮะ

จะรออ่านต่อไปนะฮะนี่

เปงกำลังใจให้นะนี่   สู้ๆนะฮะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 19-11-2007 14:57:02
ขอบคุณกำลังใจจากทุกๆคนเรยยยย    :impress:
ซึ้งใจมากมายยยย    o7

ตอนที่7

 พี่ต่ายชมผมใหญ่ครับ เออวันนี้แกดูดีแฮะ หล่อด้วย ใส่เสื้อเชิตสีเหลืองอ่อน พี่แกยิ่งผ่องมากๆเลยครับ  แถมหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส

“โอม พี่ขอโทษนะที่พูดไม่ดีกับโอม คุณทำงานดีจริงๆ ละเอียดรอบคอบมาก ไม่น่าเชื่อว่าเป็นจ๊อบแรกของคุณ พี่ค่อยเบาใจหน่อยที่มีคุณมาช่วย”

“ผมดีใจที่งานที่ผมทำพี่พอใจ  ครับพี่กระต่าย”

ผมดีใจมากครับ ที่พี่เค้าชม แหมก็เค้าเกลียดขี้หน้าผมเรื่องที่ไปคุยว่าตัวเองเก่ง  คราวนี้คงรู้แล้วซิว่าผมน่ะตัวจริงเสียงจริง  ไม่ได้โม้

“เนย ตรงนี้พี่ว่ายังไม่เคลียร์น่ะไปถามลูกค้าหน่อยว่า  ทำไมยอดมันสูงผิดปกติขนาดนี้”

นั่น  ขนาดเนยยังต้องแก้งาน  ของผมน่ะฉลุยเลย ม้วนเดียวจบ พี่ต่ายกำลังจะมอบงานใหม่ให้ผมแล้วครับ “โอม เอางานนี้ไปทำต่อนะ..........”

เสียงกระแทกดังโครม เสียงอะไรว่ะ  ผมตกใจนึกว่าอะไรหล่น

  อ้าวนี่ผมฝันไปเหรอเนี่ย เหลือบไปดูนาฬิกา  เวรละซิ 6.30น.แล้ว รีบลุกไปอาบน้ำ แต่งตัวดีกว่า    เสียงที่ว่านั่นเสียงพี่ผมครับปิดประตูห้องน้ำแรงมาก พอดีมันฝืดนิดหน่อยต้องกระแทกแรงๆ   ข้าวก็คงไม่กินแล้วครับ   ก็มันกินไม่ทันแล้วนี่ ค่อยดูเวลาอีกที

ผมไปถึงที่ทำงานช้ากว่าที่คิดนิดหน่อยครับ 7.30น. กะว่าเช้ากว่าคนอื่นแน่ เพราะพี่ต่ายก็เลิกดึกตั้ง 5 ทุ่ม ส่วนเนยคงเข้าตามลูกค้า8.30 น.

ปรากฏว่าไปถึงพี่ต่ายมาแล้วครับใส่เสื้อเหมือนในฝันผมเลย  แกเป็นคนเหล็กจริงๆผมยอมเลย  ทำงานดึกตื่นเช้า นอนกี่ชั่วโมงกันเนี่ย  ผมแอบดีใจที่พี่เค้าเหมือนในฝัน คงเป็นแบบที่เค้าเรียกว่า “เดจาวู” คุณเคยไม๊ครับที่เราเจอเหตุการณ์ที่เหมือนเราเคยเจอมาก่อน  ลางดีมาแล้ว       :m18:

แน่ะ พี่เค้าเงยหน้ามายิ้มให้ผมด้วย “มาแต่เช้าเชียว เอางานมาดูซิ” พี่ต่ายเอ่ยขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงปรกติ

อ้าวซวยละซิขออีกนิดนะพี่ นิดนึง “พี่ครับ ขอคุยกับพี่วันที่ทำเพย์เม็นท์ แล้วดูเอกสารอีกนิดนะพี่ 8โมงผมเสร็จเลย ให้พี่ดู” ขอต่อเวลาอีกทีซิ พี่แกคงไม่ว่านะ

“ได้ กินข้าวรึยัง เอาแซนด์วิชไปกินซิ ผมซื้อมาเหลืออยู่” เออใจดีเว้ยวันนี้  แต่ถ้าบอกว่าซื้อมาเผื่อจะฟังดูดีกว่านี้นะ แต่อารมณ์หิวครับไม่ปฎิเสธหรอก ขี้เกียจคิดมาก ของฟรีด้วย

“ขอบคุณครับพี่” เราสองคนทำงานไปกินไป แต่ไม่ได้คุยกันครับ

ซักพักลูกค้าเริ่มมาผมเลยออกไปคุยกับลูกค้า พร้อมดูเอกสารเพิ่ม  แล้วกลับมาสรุปงานที่โต๊ะ  อ้าวพี่แกหายไปละไม่รู้ไปไหน เหลือแต่เนยนั่งทำงานอยู่  เราก็ต่างคนต่างทำงานครับพอผมทำเสร็จ ก็เลยอดชวนเนยคุยไม่ได้
“เนยเสร็จยัง ทำไมต้องเร่งขนาดนี้ไม่รู้เนอะ เนี่ยเมื่อวานพี่ต่ายทำจน 5 ทุ่มแน่ะ”

“อ้าวโอมไม่รู้เหรอเรามีเวลาแค่ 4 วันนะต้องสรุป เพราะลูกค้าเร่งแล้วพี่ต่ายมีจ๊อบรออีก 3 จ๊อบน่ะ เนี่ยเมื่อกี้ พี่ต่ายบอกเราว่าบ่ายเราต้องไปแล้วนะไปอีกจ๊อบกับพี่ต่าย โอมต้องอยู่ทำคนเดียวที่นี่” เนยยังไม่มองหน้าผมครับเพราะต้องรีบปั่นงาน ทำงานไปคุยไป

 :m30:     “อ้าวเฮ้ย ผมจะอยู่ยังไงคนเดียว แล้วผมจะทำได้ไงล่ะ อะไรว่ะ ตายๆๆๆ ไม่ได้หรอก ไม่ไหว .....” ผมคงยังไม่เลิกบ่นถ้าพี่ต่ายไม่เข้ามาซะก่อน

“บ่นอะไรเสียงดังไปถึงข้างนอก  ฮึ โอมคุณเอางานมาดูซิ”

ตอนแรกพี่เค้าก็ยังดูหน้าเฉยๆนะครับ ผมแอบลุ้น   ตอนที่พี่เค้าดูงานผม หน้าพี่ต่ายเริ่มเครียดๆ พี่เค้าเอากระดาษมาจดอะไรไม่รู้ยิกๆ จากหนึ่งแผ่นเป็นสองแผ่น   แล้วตอนนี้คิ้วเริ่มมาชนกันแล้วครับ    เป็นสามแล้วครับตอนนี้คิ้วสองข้างผูกโบว์แล้วครับ    แล้วในที่สุดพี่เค้าก็เงยหน้าขึ้นมาส่ายหัว   แล้วส่งไอ้สามหน้านั้นมาให้ผม

“ไปเคลียร์มาให้หมดที่ผมจดคำถามข้อสงสัยไว้น่ะ   เพราะผมดูงานคุณแล้ว เวลา 1 วันที่เสียไปไม่คุ้มเลย ถ้าคุณทำได้แค่นี้ ผมจะบอกให้พี่เพ็ญส่งคุณไปอบรมใหม่”ผมหน้าเสียเลยครับ ไม่เห็นเหมือนในฝันเลยว่ะกรู

“ไม่มีเวลามาสอนงานหรอก ถ้าไม่รีบนี่ไม่เอาจริงๆเลยเด็กใหม่ เฮ้อ”อันนี้แกพูดกะตัวเองครับ แต่ผมก็ใจเสียอยู่ดี เสียความมั่นใจ อุตส่าห์ทำจนดึก อายเนยด้วย  เสียฟอร์มหมดเลย ต่อหน้าสาวน่ะครับยังไงก็ต้องดูฉลาดไว้ก่อนเป็นดี

 แต่ไม่มีเวลาคิดครับต้องเอาที่พี่เค้าเขียนมาดู    โหย......นี่ผมทำงานหลุดเยอะขนาดนี้เลยเหรอครับ  ปลอบใจตัวเอง ก็มันครั้งแรกก็อย่างนี้แหล่ะ  แต่พี่เค้าละเอียดมากครับบางเรื่องผมเจอแล้ว   แต่คิดแค่ที่เจอแต่พี่เค้าคิดไปอีก 2-3 ชั้น งานบัญชีใครว่าง่ายก็ง่าย แต่จะว่ายากมันก็ยากนะครับ

การทำงานของเราต้องมีการสอบทานกันเป็นขั้นๆครับ พี่ต่ายสอบทานงานของผม  แล้วพี่เพ็ญก็ต้องสอบทานพี่ต่ายอีกที  จากนั้นพี่เพ็ญก็ต้องเอางานไปให้พาร์ทเนอร์ดูงานเป็นขั้นตอนสุดท้ายอีกที  บางครั้งพี่ต่ายต้องเข้าไปรายงานโดยตรงกับพาร์ทเนอร์เองด้วยซ้ำครับ  เพราะฉะนั้นพี่ต่ายที่รับผิดชอบโดยตรง  ก็คือคนที่ต้องเคลียร์ระเบิดที่อาจซุกซ่อนอยู่ในบัญชีให้ได้มากที่สุด

ผมก็นั่งแก้งานผมไป   ได้ยินแว่วๆแต่เสียงพี่ต่ายกะเนยถกปัญหากัน แต่ไม่มีแบบคุยกับผมครับถามนิดหน่อย   เนยก็เคลียร์จนหมด แล้วพี่ต่ายก็ให้งานเนยเพิ่มนิดหน่อย เพราะต้องออกจากจ๊อบนี้ตอนบ่ายแล้ว       แต่แกก็ยังไม่พูดกะผมตรงๆนะ ว่าจะทิ้งกัน เฮ้อ ผมก็ได้แต่เซ็งไปทำงานไป

จนเที่ยงวันนี้เราไปกินพร้อมกัน 3 คน ระหว่างทานข้าวพี่เค้าถึงบอกผมว่าจะทิ้งกันแล้ว

“โอม ช่วงบ่ายผมต้องพาเนยไปบริษัท....นะ เพราะลูกค้าเค้าพร้อมแล้ว คุณก็อยู่เคลียร์งานคุณไป  ตอนเย็นผมจะเข้ามาตรวจงานคุณอีกที” พี่เค้าก็ดูพูดปกติดีนะครับ แต่ผมซิไม่ปกติ ไม่มั่นใจเอาซะเลยที่ต้องอยู่คนเดียว

“พี่จะให้ผมอยู่คนเดียวเหรอครับ”  ผมหน้าเสียเลยครับ เสียงผมคงแสดงออกมาว่าไม่อยากอยู่คนเดียว

“คุณก็ทำงานคุณไปแล้วกัน ผมคงเข้ามาเป็นระยะ ทำไม กลัวอะไร ผมไม่อยู่คุณน่าจะดีใจมากกว่า”

พี่อย่ามาเดาส่งเดช  จริงอยู่ผมกลัวพี่นิดหน่อย  แต่ผมก็ไม่อยากอยู่คนเดียว มันไม่มั่นใจ ลูกค้าก็ยังไม่สนิท ขนาดเมื่อวานยังโดนลูกค้าข่มเอาซะแย่ตอนไปขอเอกสาร  พี่เค้าคงเห็นเป็นเด็กใหม่ยังอ่อนประสบการณ์

“เนยก็ต้องอยู่คนเดียวนะโอม จ๊อบใหม่น่ะ พี่ต่ายวิ่งรอกอยู่แล้ว โอมไม่ต้องกังวลหรอก เนยยังอยู่ได้เลย”

เนยพยายามปลอบผมครับ ผมเลยไม่กล้าบ่นอีกอายหญิง เดี๋ยวเค้าจะว่าไม่แมน 
พอตกบ่ายไปกันหมดเลยครับ ทิ้งผมไว้คนเดียว แต่ที่จริงก็ดีอย่างมีสมาธิดีครับ ทำไปเรื่อยๆ จน 6 โมงพี่ต่ายก็เข้ามา ผมเลยเอางานให้แกดู

“โอมมานั่งนี่ซิ พี่ถามไรหน่อย” พี่ต่ายหน้าเครียดจัง ครับพี่แต่พี่อย่ากัดผมนะ ผมพยายามเต็มที่แล้วนะ
ให้อภัยผมเหอะ ผมไม่เคยทำ มันไม่เหมือนตอนเรียน ผมยอมรับผมไม่เก่งก็ได้ พี่จะเอายังไงก็ยอมแล้ว กลัว

พี่เค้าพูดกับผมดีครับ เราถามตอบกันเรื่องงาน พี่เค้าถามอะไรมาผมเคลียร์ได้หมดเพราะ นั่งทำมาหมดแล้ว ถามลูกค้า หาเอกสารประกอบ วิเคราะห์ข้อมูล อาจจะมีตะกุกตะกัก ต้องค่อยๆคิดบ้างแต่ผมคิดว่าผมทำงานค่อนข้างเคลียร์แล้ว

 พี่เค้าอยู่ใกล้ผมมากเลย ไม่เคยใกล้กับผู้ชายคนไหนมากขนาดนี้มาก่อน ยิ่งดูก็ยิ่งน่ามอง ทำไมหน้าพี่เค้าเนียนจัง แล้วทำไมฟันสวยจัง คิ้วก็เข้มดีนะ เสียงก็ทุ้มน่าฟัง ถ้าร้องเพลงคงเพราะ

“โอมๆ ทำไมไม่ตอบ ถามตั้งนาน”
  อ้าวลืมตัวไป คิดอะไรเพลินไปหน่อย แฮะๆ เป็นอย่างงี้ประจำ

“ครับพี่...... อืมมม.. เอ๊ย ผมถามพี่วัน..........”เสร็จครับผม ผมเรียบร้อยไปแล้ว

งานครับงานที่ทำเสร็จ ไม่ใช่อย่างอื่น อย่าคิดมากไป  จนเกือบ 2 ทุ่มครับคราวนี้ พี่ต่ายเลยให้งานตัวใหม่ผมทำ เพราะพรุ่งนี้แกเข้าบ่ายอีก เห็นแกทำงานแล้วเหนื่อยแทนจริงๆ

“วันนี้จะไปกินข้าวด้วยกันไม๊ล่ะ เดี๋ยวพี่ต้องกลับมาทำต่อ”พี่ชวนผม พี่ชวนผม

ใช่แล้วพี่ชวนผมกินข้าวแล้ว แสดงว่าคงหายหมั่นไส้ผมแล้วมั๊ง  เราคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกันได้ แล้วมั๊งคราวนี้  มิเสียแรงที่ผมพยายามตั้งใจทำงานเต็มที่

“ไปซิพี่ผมหิว เหมือนกัน”
 ผมยิ้มตอบรับคำชวนของพี่เค้าด้วยความเต็มใจ พี่เค้าก็ยิ้มตอบนิดนึงแล้วเก็บของ

ผมไม่ได้คิดอะไรกับพี่จริงๆนะครับผมยังยืนยัน แต่ความรู้สึกชื่นชมในตัวพี่เค้ามันชักเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ โดยผมไม่ทันสังเกตุ
 
ผมรู้แต่ว่าตอนนี้  ผมดีใจที่พี่เค้าชวนผมไปทานข้าว
      ผมดีใจที่งานที่ผมทำใหม่พี่เค้าไม่ว่าอะไรอีก แสดงว่ามันคงพอใช้ได้
      ผมดีใจที่พี่เค้ากลับมาหาผมอีกครั้งที่ทำงานนั่งคนเดียวมันมีสมาธิ แต่มันก็เหงาครับ มีพี่เค้ามานั่งด้วยก็ยังอุ่นใจดีกว่า
      ผมดีใจที่พี่พูดกับผมดีๆครับ ผมมันก็เหมือนโคนันทวิศาล ชอบคนพูดเพราะๆ พูดดีๆนะให้ทำอะไรยอมหมดเลย

แต่ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าพี่เค้าคิดยังไง หรือไม่คิดอะไรเลย
---------------------------------------------
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 19-11-2007 15:42:06
โถๆ น้องโอมถูกทิ้งอยู่คนเดียว  น่าสงสาร

จ๊อบแรกก็เงี้ยแหละ มีผิดมีพลาดกันบ้าง สู้ๆน้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 19-11-2007 17:15:09
พี่ต่ายต้องคิดอะไรกะ โอมอยู่แล้วล่ะน่าออกจะออกนอกหน้าขนาดนั้น  :m26:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-11-2007 17:40:02
 :m30: ตดสื่อรัก เหอๆๆ

พี่ต่ายต้องคิดไรแหง่มๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 19-11-2007 18:12:21
ง่าๆ......เริ่มเข้ากานได้แย้วนะนี่

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายนะฮะ.

จะรอนะฮะ คุคุ

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-11-2007 19:16:03
เริ่มเข้ากันได้แล้ว หุหุ  :a3:  :a3:  :a3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine ที่ 19-11-2007 20:29:31
โอ้ๆๆๆๆๆๆ  พระเอกชื่อกระต่าย :m1:

คนชื่อ ต่าย มักจะน่ารัก...อิอิ

ถึงจะดุ แต่จิตใจดีน้า........ :m18:

ว่าแต่.......เรย์  กระต่ายยักษ์ นี่หมายถึงครายยยยย :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 19-11-2007 21:07:55
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-11-2007 21:25:17
เป็นกำลังใจให้จ้า รออ่านต่อนะ  :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 19-11-2007 22:45:01
หลงรักเขาไปแล้วนี่น่า ทำงานแลกกับที่เขาจะเหลียวแลมา
โธ่ ช่างน่ารันทดแท้ๆ
 :m17: :m17: :m17:

ว่าแต่.......เรย์  กระต่ายยักษ์ นี่หมายถึงครายยยยย :m16:
น่านร้อนตัว
ผมหมายถึง ทำไมพี่ต่ายดุจัง เหมือนยักษ์ต่างหาก
 :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 19-11-2007 23:08:17
 :เฮ้อ:กว่าพี่ต่ายจะรู้ว่าโอมใช้ได้
โอมก็คงอ่วมพอดี :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 20-11-2007 10:57:12
ตอนที่ 8

ผมจะบอกว่า   ผมว่าผมไม่ใช่เกย์ครับ ไม่เคยรู้สึกรักผู้ชายในทางชู้สาว (เอ๊ะ หรือต้องเรียกชู้ชาย) ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงตอนอยู่มหาลัย เป็นความรักแบบเด็กๆ แต่เราเลิกกันไปตั้งแต่ผมอยู่ปี3 ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกัน  ยังมีความรู้สึกดีๆให้กันอยู่  แต่ผมก็ลืมๆเธอไปบ้างแล้ว  แต่พอนึกขึ้นมาทีไรก็ยังอดยิ้มไม่ได้   

 ส่วนเพื่อนผู้ชาย หรือเพื่อนรุ่นพี่ผมก็มีเยอะเหมือนกันครับ  แต่ส่วนใหญ่คบเฉพาะในกลุ่ม  แต่ผมว่าไม่มีใครเหมือนพี่ต่าย  ผมไม่เคยเอาเรื่องของใครมาคิดพินิจจารณาแบบนี้  ไม่รู้เป็นไงซิ

หลังจากวันนั้นแล้วความสัมพันธ์ของเราดีขึ้นครับ  ( อืม  ผมเผลอนับพี่ต่ายมารวมกับผม กลายเป็นเราไปซะละ)   เราก็พูดกันมากขึ้นแต่ก็เกี่ยวเฉพาะเรื่องงาน ผมว่าพี่เค้าเป็นคนพูดน้อยจริงๆ อย่างที่หมีเคยบอกแหล่ะ

พี่ต่ายก็เข้าๆออกๆบริษัทที่ผมทำ    เอาแน่เรื่องเวลาไม่ได้ว่าจะมาตอนไหน  แต่ตกเย็นแกก็ต้องมาทุกทีทำงานจนดึกดื่น  แต่ผมก็ไม่เคยอยู่ด้วยจนกลับพร้อมพี่เค้าซักวัน  เพราะพอซัก 2 หรือ 3 ทุ่มพี่เค้าก็ให้ผมกลับก่อนทุกที  แต่ส่วนใหญ่เราออกไปทานข้าวเย็นด้วยกันแทบจะทุกวัน

ช่วงทานข้าวคุยกันน้อยครับ แต่ผมก็ชินล่ะ ก็ไม่อึดอัดอะไร  เพราะพี่เค้าเลิกกัดผมละ สงสัยเขี้ยวเริ่มบิ่น หรือว่าเครียดเรื่องงาน  จนไม่มีอารมณ์จะกวนใคร (แต่ผมก็ไม่กลัวหรอกผมฉีดยากันหมาบ้า กับบาดทะยักไว้แล้ว ขอกัดหน่อยนึงนะพี่ ตกลงเราคงเป็นหมาเหมือนกัน หุหุหุ  )

 แต่เวลาเราคุยกันเรื่องงานสนุกดีครับ งานของผมก็เหมือนนักสืบแกะรอย  ว่ามีอะไรผิดปกติไม๊  บางทีก็ต้องช่วยลูกค้าแก้ปัญหา ได้ใช้ความรู้กันเต็มที่ แล้วบางทีลูกค้าก็สอนเราในบางเรื่องของธุรกิจเค้า  ทำให้เรามีโลกทัศน์กว้างมากขึ้น

อะไรๆก็ดูเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง  ผมคงเป็นบัดดี้ในการทำงานกับพี่ต่ายได้ ถ้าผมทำงานกับพี่เค้าเรื่อยๆ ผมคงได้อะไรอีกเยอะจากพี่เค้า  เพราะพี่เค้าเป็นคนเก่งจริงๆครับ

จนวันสุดท้ายที่เราต้องสรุปงานกลับเข้าออฟฟิซ  ให้พี่เพ็ญตรวจทานขั้นสุดท้าย ผมเลยต้องอยู่ช่วยพี่ต่ายจน 4 ทุ่มกว่าเกือบ 5 ทุ่มละ  ตอนจะกลับพี่ต่ายก็ถามผมว่า “บ้านคุณอยู่ไหน เดี๋ยวผมไปส่ง” อ้าวเพิ่งรู้ว่าพี่เอารถมา ผมเลยทำตัวมารยาทดี บอกพี่เค้าไปว่า “ไม่เป็นไรพี่ ผมกลับเองได้ ดึกแล้ว เกรงใจ” ที่จริงไปก็ดีพี่ ประหยัดค่ารถไปอีก 555

“ไม่เป็นไร คงเป็นครั้งแรก ที่ผมจะได้ไปส่งคุณ แล้วก็คงเป็นครั้งสุดท้ายด้วย” พี่ต่ายพูดกับผมด้วยเสียงปกติครับ  เหมือนบอกว่าไปกินข้าวกันอะไรแบบเนี้ย  แต่ผมว่ามันแปลกๆนะ เหมือนพี่จะลาไปตายพูดเป็นลางร้าย  หรือพี่จะลาออก หรือลาไปบวช หรือพี่โดนไล่ออก แต่ผมว่าถ้าโดนไล่ออกคงเป็นผมมากกว่า 

อ้าว เกิดอะไรขึ้นอีกละเนี่ย “ทำไมพี่พูดแบบนั้นล่ะ”ผมอดถามไม่ได้       :m29:

“ก็คุณจะไม่ได้ทำงานกับผมแล้วนี่” อ้าวซิบหายแล้วซิ  หรือว่าผมโดนไล่ออกจริงๆ ไม่เคยได้ยินว่าทำงานได้เดือนกว่าแล้วโดนไล่ออกเลย  เพิ่งได้เริ่มทำงานจริงๆแค่4-5 วัน  ความแตกแล้วเหรอว่าผมโง่  เอ๊ยไม่ใช่อย่างนั้น   หรือว่านี่ผมทำอะไรผิดมากเลยเหรอ   ก็สายเดียวกันแล้วไม่ได้ทำงานด้วยกันมันจะด้วยเหตุผลอะไรล่ะ

“ผมจะได้เงินชดเชยไม๊พี่” ผมถามพี่ต่ายไปด้วยเสียงเบา  แทบจะไม่มีแรงพูด จะไปบอกที่บ้านยังไงว่าโดนไล่ออกแล้ว อายที่บ้าน อายพ่อแม่ อายพี่  อายเพื่อน อายๆๆๆ

“เงินชดเชยอะไร?”พี่ต่ายถามผมงงๆ ผมเพิ่งสังเกตุว่าพี่เค้าเก็บของเสร็จละ แล้วเราก็กำลังจะเดินไปที่ลิฟท์

“ก็ชดเชยที่ ผมถูกออกโดยไม่มีความผิด”

ผมยังแอบหัวหมอ   นึกในใจเอาว่ะขอซัก 3 เดือนมาเป็นทุนช่วงหางานใหม่   ถ้าไม่ให้เราจะฟ้องดีไม๊    หรือจะเอาไงดี     คิดไปลิฟท์ก็เลื่อนลงไปเรื่อยๆ ผมไม่ได้สังเกตหน้าพี่ต่าย  มัวแต่คิดว่าจะไปทำงานที่ไหนดี  แต่พอเงยหน้าขึ้นมาเห็นพี่เค้าอมยิ้ม สะท้อนกับลิฟท์ที่เป็นกระจกเงา พี่เค้าคงไม่รู้ว่าผมมองอยู่ เออทำเป็นเบือนหน้าไปทางอื่น สะใจคุณแล้วใช่ไม๊ คงเอาเรื่องผมทำงานไปบอกพี่เพ็ญละซิ  นึกว่าเราจะสงบศึกกันแล้วซะอีก เสียแรงนับถือ เสียแรงไว้ใจ เสียแรงรัก เสียแรงหวัง ว่าเราจะได้ทำงานด้วยกัน กลับมาเป็นไอ้พี่บ้าอีกล่ะ

“พี่ไปส่งผมแล้วกัน ผมหมดแรงแล้ว บ้านผมอยู่ที่.....” พี่ต่ายแกก็ไม่พูดอะไรครับ แล้วแกก็ไม่ตอบผมด้วยว่าผมจะได้เงินชดเชยไม๊

ระหว่างทาง ผมไม่มีอารมณ์ชวนคุยเลยครับ “พรุ่งนี้เข้าออฟฟิซละกันเดี๋ยวพี่เพ็ญคงบอกสาเหตุ”พี่เค้าบอกกับผมอย่างอารมณ์ดีครับ 

 ผมเลยยิ่งโมโหใหญ่  อะไรกันวะคนอื่นโดนไล่ออกตัวเองยังมาทำหน้าระรื่นกว่าปกติอีก  เซ็งโว้ย แต่บ้านผมคงใกล้ที่ทำงานมากไป ยังไม่ทันได้คุยกันต่อก็ถึงบ้านผมแล้ว
 
“ขอบคุณครับพี่ที่มาส่ง”ผมยกมือไหว้ ตามประสาคนมารยาทดี กำลังจะออกจากรถแล้วก็เตรียมตัวจะเข้าบ้าน แต่พี่ต่ายก็มาดึงแขนผมไว้ครับ.....

“ลาก่อนนะ โอม”พี่ต่ายยิ้มให้ผม แต่ผมน้อยใจ เสียใจ พี่จะมาทำเป็นพูดดีกับผมทำไม ผมออกมาทำงานกับพี่เป็นคนแรก ถ้าผมจะโดนให้ออก มันก็ต้องมาจากพี่นะแหล่ะ

“ขอบคุณครับพี่ที่ดูแลสอนงานผมมา  ไปละครับ”

ผมได้แต่เดินเป็นไก่หงอยเข้าบ้าน คอตก ผมคงไม่ได้เจอพี่อีกละ อุตส่าห์ดีใจอยู่ได้ไม่กี่วัน ที่ทำงานเข้าขากันดี แล้วผมก็สนุกกับงานด้วย ความร้อนจากมือพี่ที่จับแขนผมมันยังอุ่นๆอยู่เลย ผมรู้สึกไปเองหรือเปล่าไม่รู้ว่า ตอนที่พี่ปล่อยแขนผมไปใจผมมันชาๆ  งงงง  แปลกจังผมเป็นอะไรไปเนี่ย     แต่คิดไปก็ปวดหัว เตรียมตัวไปพบความจริงพรุ่งนี้ดีกว่า

   ผมไปที่ทำงานตรงเวลาเลยครับ 8.00น. ไม่รู้จะมาก่อนทำไม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องว่าจะออกแล้วจะทำตัวยังไงก็ได้ แต่พี่เพ็ญยังไม่มาครับ ปกติพี่แกเข้าสายตลอด ตามประสาคนมีครอบครัวแล้ว

   เจอแต่คนเดิมครับ พี่ต่าย...ของคนอื่น ไม่ใช่ของผมอีกต่อไป  พี่แกเห็นผมก็กวักมือเรียกครับ
 “ผมรอคุณตั้งนาน เดี๋ยวตอนพี่เพ็ญreview งาน คุณอยู่แถวนี้แหล่ะ เผื่อแกมีอะไรจะถาม”
จะออกแล้วยังต้องทำงานด้วยเหรอ เอาเลย จะเอายังไงก็ได้
 “ได้พี่”ผมก็ตอบแกไปสั้นๆแค่นั้นด้วยน้ำเสียงหงอยๆ  ท่าทางผมคงดูซึมๆด้วย       

พี่ต่ายเงยหน้ามองผมแล้วยิ้มให้   นี่หรือเปล่านะที่เค้าเรียกว่ารอยยิ้มที่มันเปิดโลกได้ถึงแม้ผมจะรู้ว่าแกยิ้มขำผม    อาจเป็นยิ้มสมน้ำหน้าก็ได้  แต่ทำไมผมก็อยากให้แกยิ้มอยู่ดี ก็พี่ต่าย ยิ้มทีดูห้องมันสว่างไปหมด ความสดใสมันเข้ามาทันที    แต่ตอนนี้ผมไม่อยากยิ้มตอบหรอกนะ  คนกำลังเซ็ง

ผมคงทำใจได้แล้ว โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า อย่างมากก็หางานใหม่        อันที่จริงช่วงที่ผมยังอบรมอยู่ก็มีหลายบริษัทยังโทรมาเรียกผมไปสัมภาษณ์     ผมคงหางานใหม่ได้ไม่ยากหรอก  ผมมันเก่งเลือกได้อยู่แล้ว เหอๆๆๆปลอบใจตัวเองเข้าไว้

จนพี่เพ็ญมา เรียกพี่ต่ายเข้าไปreviewงาน        พี่ต่ายก็ตอบได้หมด    ผมว่าพี่ต่ายรู้เรื่องงานดีกว่าพนักงานที่ทำบัญชีเองบางคนอีก ก็แกทุ่มเทให้งานขนาดนั้น  ช่วงที่คุยงานกันพี่เพ็ญกับพี่ต่ายก็หันมามองผมเป็นระยะ แต่ก็ไม่ยักกะเรียกผมเข้าไป

ถึงเวลาประหารครับพี่ต่ายออกมาแล้วบอกผมว่า “โอมเข้าไปหาพี่เพ็ญหน่อย แกมีอะไรจะบอก ทำใจดีๆไว้นะ”

ผมนะทำใจมาหลายชั่วโมงละ แต่ก็อยากรู้อยู่ดีว่าตัวเองผิดตรงไหน
 “ไงโอม ทำงานเป็นไงบ้าง เหนื่อยไม๊เห็นต่ายบอกกลับดึกเกือบทุกคืนนี้”

“ก็สนุกดีพี่ เหนื่อยนิดหน่อยแต่ผมก็ไหว”ผมฝืนยิ้มให้พี่เพ็ญทั้งที่ใจเต้นตึกตัก รอว่าเมื่อไหร่พี่จะบอกผม

“พี่มีเรื่องจะบอก โอมรู้จักพี่มีนไม๊ที่อยู่ชั้น 3 น่ะ”ผมยังงงครับ แต่ก็พยักหน้าตอบพี่เพ็ญไปว่ารู้จัก แต่ผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่ามันเกี่ยวกันยังไงกับผม

“พี่มีนนะเค้าอยากได้น้องผู้ชายเข้าสาย พี่เลยไม่แน่ใจว่าจะให้หมี หรือโอมไปแทนดี พี่เลยเรียกโอมมาถามความสมัครใจดู แต่หมีเค้าก็ตามใจพี่นะ”

ผมเพิ่งรู้.......เพิ่งเข้าใจ  .......ไอ้พี่บ้ามาหลอกให้คนเค้านอนไม่หลับมาทั้งคืน  แต่มานึกๆดูพี่เค้าก็ไม่ได้บอกผมซักคำว่าผมโดนไล่ออก  มีแต่ผมทึกทักเข้าใจไปเอง  ที่แท้คือผมคงต้องย้ายสายเพราะเคยไปรับปากพี่มีนไว้     ทั้งที่ผมเองก็ลืมไปแล้ว   แต่พอนึกได้ว่าพี่เค้าคงไม่อยากได้ผมถึงพูดกับผมทำนองว่า คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ผมก็น้อยใจครับ

“ผมไปอยู่กับพี่มีนได้ครับ”   ผมไม่อยู่แล้วครับถ้าเค้าไม่อยากจะทำงานกับเราก็ไปเสี่ยงเอาดาบหน้าดีกว่า    ทั้งที่ทุกคนในสายดีกับผมมากๆครับ อดเสียดายลึกๆไม่ได้ แต่อารมณ์ประชดนะครับทำให้ตอบไปแบบนั้น

“อ้าว พี่ก็นึกว่าเราจะปฎิเสธซะอีก เห็นต่ายบอกว่าทำงานดี เข้ากันได้ แต่ก็ตามใจนะ  พี่ไม่มีปัญหา เกรงใจพี่มีนด้วย งั้นเดี๋ยวเอ็งลงไปหาพี่มีนเลย”

พี่เพ็ญ.........พี่จะไม่รั้งผมไว้หน่อยเหรอ .........ผมก็พูดไปอย่างงั้น ผมรักพี่นะครับ

ใช่ครับผมชักเสียดายก็ไอ้คำว่าพี่ต่ายบอกว่าผมทำงานดี เข้ากันได้ มันแทบจะทำให้ผมต้องกลับคำเสียเลยครับ แล้วดูๆไม่รู้พี่เพ็ญแกจะงอนผมด้วยหรือเปล่าซิ ที่ผมตกลงไปเร็วขนาดนี้

“พี่เพ็ญครับ แล้วผมจะได้มาทำงานกับพี่อีกไม๊ ที่จริงผมอยากอยู่กับพี่นะครับ  แต่วันนั้นพี่มีนถามผมก็เกรงใจ” ผมพยายามเปิดทางไว้ครับ

“ไม่แน่เหมือนกัน บางทีก็อาจได้เจอกันอีก พี่เข้าใจน่ะ ไปไป ไปหาพี่มีนเดี๋ยวแกจะรอ”

“ครับผม......... ผมลาล่ะพี่” เฮ้อ เอาเข้าจริงผมไม่อยากย้ายสาย แต่คิดในแง่ดี เรื่องนี้ก็ยังดีกว่าโดนออกละว่ะ     แล้วทำไมพี่เพ็ญแกไม่อาลัยผมเลยครับ น้อยใจเว้ย

“เป็นไง โอม พี่เพ็ญว่าได้เงินชดเชยไม๊ล่ะ”คนที่มองมาเป็นระยะๆ ช่วงที่ผมคุยกับพี่เพ็ญถามขึ้นมา  ยังไม่เลิกแซวกันอีกนะ เพราะพี่นะแหล่ะทำให้ผมโดนเตะโด่งออกจากสาย

“ผมไปนะพี่” ผมได้แต่ลาพี่ต่ายครับ คงไม่ได้เห็นหน้ากันละ อดเลยอดดูอกขาวๆของพี่ ดูมา 3-4 วันชักจะติด (อดที่จะแอบหื่นไม่ได้ แหะ แหะ) ที่สำคัญผมไม่ได้ทำงานกับพี่แล้ว ฮือๆๆๆ              :m15:

“อ้าวไปไหนล่ะ” พี่ต่ายยังจะมาถามอีก
“ก็ไปหาพี่มีนไง ผมย้ายสายตามที่พี่ต้องการแล้วไง” ผมก็อดประชดไม่ได้ เออทำตัวเป็นผู้หญิงเลยเว้ย

“ใครบอกว่าพี่อยากให้เราย้าย   พี่เพ็ญบอกจะถามโอมดูก่อน แล้วถ้าโอมย้ายก็ต้องมาจากตัวโอมเอง ไม่ใช่จากใครทั้งนั้น พี่ไม่มีสิทธิที่จะบังคับใจใคร”พี่ต่ายพูดเสียงแข็ง ทำหน้าบึ้ง

พี่จะมาโกรธผมทำไม ถ้าพี่บอกผมตรงๆว่าไม่อยากให้ผมไป ผมก็ไม่ไป แต่มันสายไปแล้วล่ะพี่       พี่แหล่ะผิด ไม่ใช่ผม มันสายไปแล้ว ผมได้แต่คิดในใจแล้วมองพี่ต่ายด้วยแววตาเสียใจ แต่แววตาพี่ต่ายผมไม่เห็นเพราะพี่เค้าไม่เงยหน้ามองหน้าผมอีกเลยเมื่อผมเดินออกมา      :m17:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 20-11-2007 11:36:31
โอมเริ่มหลงรักพี่ต่ายแล้วสิเนี่ย ถึงได้งอนขนาดนี้  :m26:

แหง่วๆๆ ถ้าย้ายสายน้องโอมกะพี่ต่ายก็ห่างกันน่ะสิ อดดูอกขาวๆของพี่ต่ายเลยนะโอม :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 20-11-2007 12:55:58
ดูท่าโอมจะคิดกะพี่ต่ายไปพอควรแระ เหอๆๆ  :m18:

ว่าแต่พี่ต่ายอ่ะ คิดไงบ้างน๊อออ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 20-11-2007 13:19:18
แยกกันอย่างนี้แล้วจะสานต่อไงอ่า

 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-11-2007 15:29:36
น่านมีอะไรไม่พูด กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้วเห็นมะ
 :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 20-11-2007 16:15:23
มาต่ออีกตอนดีก่า   :m19:

ตอนที่ 9

ผมไม่เจอพี่ต่ายเลยครับเกือบเดือน  อยู่สายพี่มีนก็สนุกดี  พี่แกเฮฮาไม่แพ้พี่เพ็ญ แถมในสายมี ติง เป็นบัดดี้ด้วย

ติง เป็นผู้หญิงครับ  ขาว สูงโปร่ง เรียบร้อย เก่งมากๆ ทำให้ผมนึกถึงแฟนเก่า ช่วงนี้บอกตรงๆบางครั้งผมลืมพี่ต่ายไปเลยครับ แต่ติงเป็นรุ่นพี่ผมปีนึงครับ แต่ผมก็ตีเสมอไม่เรียกพี่ละครับ  ก็คนมันคิดไม่ซื่อนี่ครับ 

แต่การทำงานช่วงนี้หนักมาก ผมกลับ3-4 ทุ่มทุกวัน  แต่ก็ดีได้อยู่กับติงทุกวัน แต่ยังครับผมยังไม่ได้จีบ  แค่คบกันเป็นเพื่อน ใครจะว่าผมใจง่ายผมก็ยอมละครับ  ก็อยู่ด้วยกันทุกวัน ทำงานกันสองคน    ปรึกษาเรื่องงานกันมั่ง  กินข้าวกันสองคนทุกวัน  ติงก็วางตัวดีครับ ท่าทางเค้าก็ยังไม่คิดอะไรกับผม  ผมก็ไม่รีบร้อนอะไร  ตอนนี้ตั้งใจทำงานครับ  เสาร์ อาทิตย์ บางทียังต้องไปทำเลย

มีบ้างเหมือนกันเวลาเข้าออฟฟิซ แล้วไปเจอเนย หรือ อ้อม หรือหมี  เราก็กินข้าวด้วยกันคุยเรื่องนู้นนี้ แต่ไม่มีใครพูดเรื่องพี่ต่าย ผมก็อยากถามแต่ก็ไม่กล้า แต่ทุกคนก็บ่นว่าเหนื่อยกับงานกันมาก แล้วตอนนี้บางคนก็ต้องอยู่ที่ออฟฟิซลูกค้าคนเดียวด้วย  เพราะพี่ๆต้องวิ่งรอก ตอนนี้เนยทำงานกับพี่ต่ายตลอดครับ พอดีวันนึงระหว่างที่คนอื่นๆคุยกันผมเลยอดถามเนยไม่ได้

“พี่ต่ายเป็นไงบ้าง ตอนนี้” ทำเป็นคุยเนียนๆครับ แกล้งทำเป็นว่าถามไปงั้นๆ  แต่ความจริงลึกๆก็คิดถึงนะครับ
“พี่ต่ายเหรอ ตอนนี้โดนลูกค้าตามจีบอยู่นะ อิอิ”

คราวนี้คนอื่นที่คุยเจี๊ยวจ๊าวกันอยู่พร้อมใจกันหันมาฟังเลยครับ แย่งกันถามใหญ่

“ใครน่ะเนย สวยไม๊ อายุเท่าไหร่ แล้วพี่เค้าโอเคไม๊ ไม่เห็นเล่าให้อ้อมฟังบ้างเลย ถ้าโอมไม่ถามก็ไม่รู้เลยซิ” อ้อมอดตัดพ้อเนยไม่ได้ เพราะรุ่นเดียวกันที่เหลืออยู่เป็นผู้หญิงก็ต้องสนิทกันนะครับ แต่เนยคงไม่เคยเล่า

“ไม่ใช่ไม่เล่า แต่มันไม่ค่อยดี เลยไม่อยากพูด กลัวพี่ต่ายรู้จะโดนดุสิ”เนยก็ยังคงเป็นเนย ไม่ค่อยพูด

“แล้วมันเป็นยังไงล่ะ คนไหนพี่ต่าย ชี้ให้เราดูหน่อยซิ” อันนี้ติงครับเป็นคนถาม   คือติงอยู่คนละสายกันก็อาจจะไม่เคยเห็นหน้าพี่ต่ายนะครับ เพราะอย่างที่บอกพวกเราเข้าๆออกๆออฟฟิซ   นานๆจะมาเจอกันที บางทีอยู่ได้วันเดียวก็ต้องออกไปบริษัทลูกค้าต่อละ

“คนขาวๆสูงๆ ใส่แว่น หล่อๆน่ะ ไว้วันหลังชี้ให้ดู คิ้วเข้มๆ  ไม่เอาเนยเล่ามาก่อน”อ้อมเร่งได้ดีมาก ผมก็อยากรู้ครับเนยก็อ้ำอึ้งอยู่ได้

“ก็คนที่มาจีบน่ะเป็นผู้ชายนะซิ” เนยตอบยิ้มๆ พอขาดคำเนยครับ ทุกคนยิ่งอยากรู้กันใหญ่

“หล่อไม๊ แล้วเค้าจีบยังไง เอออยากรู้มานานละ เรื่องแบบนี้”คำถามนี้ของหมีครับ

“ที่สำคัญ พี่ต่ายโอเคกะเค้าไม๊ ผมอยากรู้แค่เนี้ย” ผมเข้าประเด็นไปเลยครับจะมามัวชักแม่น้ำทั้งสาย  มาอ้อมไปอ้อมมาผมคงอกแตกตายไปด้วยความอยากรู้

“เนยไม่รู้ ก็เห็นพี่ต่ายก็พูดกับเค้าดีนี่ พี่เค้ามาชวนไปทานข้าว พี่ต่ายก็ไป บางทีพี่เค้าก็เอากาแฟมาให้ เอาขนมมาให้ พี่ต่ายก็ไม่เห็นปฎิเสธนี่”
คำตอบของเนยมันทำให้ผมหงุดหงิดครับ ผมก็ไม่รู้เป็นอะไร พี่เค้าก็ไม่ได้เป็นอะไรกับผม แต่ผมก็หงุดหงิดอยู่ดี

“ตัดออกไปอีกคนล่ะ ต้องเสียชายให้กับชายไป เฮ้อเรายังไม่ทันจีบเลย มิน่าประชากรโลกเลยลดลง”อ้อมบ่นรำพึงรำพัน ก็ผมบอกแล้วอย่างพี่ต่ายน่ะ น่ามอง หญิงก็ชอบชายก็ชอบ

“แต่เนยว่าไม่ใช่หรอก ไม่รู้ซิ ไปถามพี่เค้าเองซิ แต่อย่าบอกว่ารู้จากเนยนะ”
 ใครจะไปกล้าถาม  ผมก็ได้แต่คิดในใจ  แต่พอได้ยินเรื่องนี้ผมก็คิดถึงพี่เค้าตะหงิดๆอยากเห็นหน้าครับ  ไม่เจอมาตั้งเดือน ไม่รู้พี่เค้าจะหายเขม่นผมหรือยัง

แต่เพราะงานที่มันยุ่งๆ ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปซะสนิท  จนวันนึงผมเข้าออฟฟิซอยู่เคลียร์งานผมก็ไม่ได้มองอะไร ตอนนั้นก็ซัก 2 ทุ่มได้ครับมีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน แต่พี่มีนยังอยู่ที่คอก (ที่จริงมันเป็นpartition กั้นเป็นล็อคๆนะครับแต่เราเรียกกันว่าคอกมันง่ายดี)

“พี่มีนครับ เห็นพี่เพ็ญให้มาหา”เสียงคุ้นๆแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร งานยังไม่เสร็จอยากกลับบ้านแล้ว

“เออๆนั่งก่อน ต่าย แป๊ปนึงนะ” หูตั้งเลยครับ พอได้ยินชื่อพี่ต่าย ครับต่ายคนเดียวกันนี่แหล่ะ ผู้ชายที่ชื่อต่ายมีไม่มากหรอก มันไม่ค่อยเข้ากันชื่อนี้น่าจะเป็นผู้หญิงมากกว่า

“โอมเอ๊ย มาหาพี่หน่อย เอาแฟ้มบริษัท....มาด้วย”ผมใจเต้นแรงเลยครับไม่ได้เจอกันเป็นเดือน พี่จะลืมผมหรือยัง

พี่ต่ายเงยหน้ามองผมนิดนึงครับตอนผมเอาแฟ้มไปให้พี่มีน แต่ก็ไม่แสดงสีหน้าอะไร มีแต่ผมที่มองหน้าแก ก็คนมันคิดถึง อดไม่ได้จริงๆ แกยังเหมือนเดิม น่ามองไม่มีเปลี่ยน

“คืองี้นะต่าย พอดีงานพี่เร่งจริงๆเห็นว่าคุณจบงาน.......นั้นไปแล้วใช่ไม๊มาเป็นin charge ให้ผมหน่อยซิ น้องผมมันปิดงานกันไม่ทัน”

“ถามเพ็ญดูแล้วบอกว่าจ๊อบของคุณอีกที่  เห็นว่าลูกค้ายังไม่พร้อมให้เข้า ว่าไงสะดวกไม๊”พี่มีนพูดม้วนเดียวจบเลยครับ ผมไม่ได้แอบฟังนะ แต่ได้ยินเอง ก็มันดึกแล้วมันก็เงียบๆ

พี่ต่ายก็ยังไม่ตอบครับ เห็นแต่เอาสมุดบันทึกมาเปิดๆดูอะไรไม่รู้
พี่มีนเลยพูดต่อ “คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน ไม่น่าเกิน5 วัน ระดับคุณแล้วนี่ ก็คงพอดีกับที่ลูกค้าคุณพร้อมน่ะ”
“แล้วพี่มีนให้ใครไปกับผมครับ”พี่ต่ายถาม   นั่นซิผมก็อยากรู้ว่าใครไปกับพี่ต่าย พี่มีนผมอยากไปน่ะ  ให้ผมไปนะ   :m5:

“ให้ติงไป เพราะปีที่แล้วติงเค้าเคยตรวจที่นี่”หมดกันความหวัง ความฝันที่จะได้ทำงานกับพี่ต่ายอีกครั้ง  พี่มีนนะ  ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย

ผมละเซ็ง กลับบ้านดีกว่า ผมเลยหันไปลาพี่มีน “พี่มีนผมกลับก่อนนะครับแล้วพรุ่งนี้ผมไปที่ลูกค้าเลยนะพี่ พี่ต่ายครับผมไปล่ะ” ผมยังคงยกมือไหว้พี่เค้าครับ มันติดครับ คนมารยาทดีก็งี้ ขนาดเจอหน้าทุกวันยังไหว้เช้าไหว้เย็น จนพี่มีนบ่นว่าเอ็งจะไหว้ทำไมบ่อยๆคนเค้าก็รู้หมดว่าข้าแก่
เก็บของไปเรื่อยๆ ได้ยินพี่มีนคุยกันเรื่องงานอยู่กับพี่ต่าย จนผมจะเดินออกมาละ

 พี่ต่ายก็พูดขึ้นมาว่า “โอมรอพี่ซิ เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านทางเดียวกัน”เหมือนมีเสียงสวรรค์มาโปรดครับ

ดีใจมากกกกครับ ขอบอก   :m3:
ข้อแรกไม่ต้องเสียค่ารถ ได้นั่งรถสบายๆไม่ต้องไปเบียดบนรถเมล์ให้เหนื่อย
ข้อสอง ได้อยู่กับพี่ต่าย สองต่อสอง(ตอนนั้นลืมเรื่องลูกค้าที่มาจีบไปแล้วครับ)
ข้อสาม ให้กลับไปดูข้อหนึ่งครับ

หุ หุ พอดีมันนึกไม่ออกนะครับก็คนกำลังดีใจ แต่จะมีกี่ข้อสรุปก็คือดีนะครับ ผมก็รออยู่ซัก15 นาที พี่เค้าก็ออกมาจากห้องพี่มีน แล้วพยักหน้าให้ผมตามแกไป

“บ้านพี่ต่ายอยู่ที่ไหนพี่ ผ่านบ้านผมเหรอ”ผมพยายามชวนพี่เค้าคุยครับ ต้องมารื้อฟื้นความสัมพันธ์กันอีก  หลังจากที่เราแยกกันครั้งก่อนมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่

“ก็ถัดจากบ้านเราไปสองซอยเอง”พี่ต่ายตอบพร้อมมองหน้าผมยิ้มๆ

อ้าวก็ผมไม่รู้นี่   ดีจังเลยบ้านใกล้กัน แต่คิดไปคิดมาไม่มีผลนี่หว่า ก็ไม่ได้ทำงานด้วยกันอยู่ดี แต่ลึกๆผมก็ยังดีใจนะ

ระหว่างกลับผมก็ชวนพี่เค้าคุยเรื่อยๆครับ แต่อย่างพี่ต่ายพูดน้อย ก็ไม่ค่อยพูดอะไรกับผมเท่าไหร่
“พี่ต่าย ครับผมมีเรื่องจะปรึกษา”นาทีนี้ก็ต้องหาเรื่องมาชวนคุยไปเรื่อยๆละครับ

“อือ มีอะไรล่ะว่ามา แต่หิวข้าวนะ ไปกินกันก่อนดีไม๊ คุณหิวหรือยัง หรือจะไปกินบ้านอีก”
“ไปก็ได้พี่ หิวเหมือนกัน” ผมไม่มีปัญหาครับกินที่ไหนก็ได้ เราเลยแวะตลาดโต้รุ่งแถวบ้าน

“คืองี้พี่ เพื่อนผมมาชวนไปเรียน ปส.นะพี่ที่มหาลัยผมน่ะ”

 ปส.นี่เป็นคำที่เราเรียกกันย่อๆเองครับ   ย่อมาจากประกาศนียบัตรชั้นสูง ของการสอบบัญชีนะครับ แต่จะเรียนหรือไม่ก็ได้    ส่วนใหญ่เพื่อนๆผมก็ชวนๆกันไปเรียนครับ เรียนตอนกลางคืน 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม แต่อาทิตย์ละ 3 วัน จันทร์ พุธ ศุกร์ ผมก็ว่าดีนะครับ ได้เพิ่มเติมความรู้เพื่อเตรียมตัวสอบขอใบอนุญาติในการตรวจสอบบัญชี   แต่ใจผมไม่คิดอะไรเรียนครับก็เรียน

“พี่ว่าผมไปเรียนดีไม๊”พยายามหาเรื่องชวนคุยครับ ก็ไม่เจอกันตั้งนาน มันก็ห่างๆไปหน่อย
“แล้วทำงานล่ะไม่มีปัญหาเหรอ มันก็เหนื่อยนะ”พี่ต่ายถามกลับ
“ผมว่าผมไหว งานก็ออกซัก 6 โมง วันที่ไม่มีเรียนก็อยู่ดึกหน่อย” ผมชอบเรียนครับ ดีกว่าอยู่เปล่าๆ หรือเที่ยวไปวันๆ  อีกอย่างมีเพื่อนไปเรียนด้วยกันหลายคน มีติงด้วยนะครับแหะ แหะ

“ถ้าคิดว่าไหวก็ไปเรียน เพราะความรู้มันก็เอามาใช้ในงานเราได้ แต่คุณต้องตัดสินใจเอาเอง เพราะช่วงงานมากๆน่ะ คุณก็จะยิ่งเหนื่อยกว่าเดิม”

 พี่ต่ายก็ออกความเห็นเรียบๆนะครับ แต่ผมก็ว่าคงจะจริง กำลังกินกันเพลินๆครับ เสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้น ของพี่ต่ายนะครับ เห็นพี่ต่ายยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วทำหน้าเบื่อๆ แล้วกดทิ้งครับ แต่ซักพักก็มีเสียงโทรมาอีก คราวนี้พี่แกเลยวางไว้เฉยๆปล่อยให้มันดังไปเรื่อยๆ ผมก็อดไม่ได้ครับ

“พี่ต่ายไม่รับละพี่   มันดังนานแล้วน่ะ”ผมก็พูดธรรมดานะครับ ไม่ได้แสดงอารมณ์อยากรู้อะไร  ทั้งที่อยากรู้เหมือนกันว่าใครโทรมา  หรือว่าจะเป็นลูกค้าคนนั้นที่ตามจีบพี่เค้าอยู่  พี่เค้าก็ไม่สนใจครับ ไม่รับเหมือนเดิม

“พี่ไม่รับผมรับแทนให้ไม๊ รับทั้งสาย รับทั้งคนโทรมาเลย ยกให้ไม๊ละ”ผมเห็นพี่เค้าอารมณ์ดีๆก็พูดเล่นๆ  พี่เค้าตาเขียวเลยครับ  :m16:           สงสัยผมคงล้ำเส้นไปหน่อย เราก็ยังไม่สนิทขนาดที่ว่าผมจะล้อแกได้เลย
“ถ้าอยากได้ก็เอาไปซิ”  เสียงเขียวเลยครับ  ทำไมต้องมาโกรธผมอีกละ ล้อนิดเดียวเอง ประชดดีนักรับซะเลย

“สวัสดีครับ โทรศัพท์พี่ต่ายครับ ไม่ทราบใครจะเรียนสายครับ”

“เอ่อ ต่ายไม่อยู่เหรอครับ แล้วใครพูดสายน่ะ ต่ายไปไหน ทำไมไม่มารับเอง”สงสัยจะเป็นลูกค้าคนนั้นจริงๆแฮะ แต่เค้าก็พูดสุภาพนะครับ  ผมยื่นให้พี่ต่าย พี่ต่ายยังไม่สนใจ ผมเลยคุยต่อ

“พี่ต่ายอยู่ในห้องน้ำครับ ไม่ทราบจะให้บอกว่าใครโทรมา หรือจะสั่งอะไรไม๊ครับ”

พี่เค้าเงียบไปพักนึงแล้วบอกว่า “บอกต่ายด้วยนะว่า คมโทรมา แล้วให้มาเอาเน็คไทที่ผมด้วยเค้าลืมไว้”

ยังกับละครไทยครับ แต่ผมก็เข้าใจละว่าทำไมนางเอก ต้องโกรธพระเอกด้วยกับเรื่องงี่เง่าแบบนี้  ก็การลืมของบางอย่างไว้กับใคร   มันก็แสดงออกถึงระยะห่างของความสนิทสนมกับคนนั้นๆด้วย  ผมรู้สึกแปลกๆ  ครับมันอึดอัดใจ จุกๆเจ็บๆ    ผมเลยตอบคุณคมที่โทรมาไปด้วยเสียงอันแผ่วเบาว่า “ครับผมจะบอกให้”  แล้วคุณคมก็วางหูไปพร้อมคำขอบคุณ

ผมไม่กล้าถามพี่ต่ายหรอกครับว่าไปลืมไว้ได้ยังไง ลืมที่ไหนทำไมถึงได้ลืม ก็ผมมันไม่ใช่ใครสำหรับพี่เลย  เออแล้วกรูมาเครียดไปทำไมว่ะ พอนึกขึ้นมาได้ ผมเลยบอกพี่เค้าไปตามที่คุณคมบอก พี่เค้าก็เฉยๆไม่ว่าอะไร  ผมอยากกลับบ้านละ กินก็ยังไม่หมด แต่มันกินไม่ลง แต่เห็นของพี่ต่าย ยังเหลืออยู่เกือบค่อนจาน

 “พี่ผมกลับก่อนนะปวดท้อง อยากเข้าห้องน้ำ” ตรงนั้นมันใกล้บ้านผมแล้วครับ เดินไปซัก 5 นาทีก็ถึง อารมณ์เนี้ยเหตุผลบ้าอะไรก็ต้องยกมาก่อน จะให้เค้ารู้ทำไมว่าใจเรามันเป็นยังไง

แต่พี่ต่ายยังไม่ทันพูดอะไรครับ เสียงโทรศัพท์ผมก็ดังบ้าง “ครับผม ติง มีอะไรครับ”ติงโทรมาครับ แต่พูดอะไรไม่รู้ไม่ค่อยได้ยิน แว่วๆว่าพรุ่งนี้ต้องไปจ๊อบใหม่กับพี่ต่าย จะไม่กลับไปที่บริษัทที่เราทำงานกันแล้ว  ฝากผมเคลียร์งานให้ด้วย แต่ติงโหลๆๆตลอดครับคงไม่ค่อยได้ยินเสียงผมเหมือนกัน แล้วก็วางหูไปครับ แต่ผมยังไม่วาง

 “ติงคิดถึงจัง ทานข้าวรึยัง...... โอมทานแล้ว อือ อือ ไม่อยากเหมือนกันเลยอ่ะ ....อือ ไม่เป็นไรนะเดี๋ยวเจอกันที่ออฟฟิซได้....จ้า...จ้า..ครับผม.....ทราบแล้วครับ...ครับวางสายแล้วนะ... แต่ติงวางก่อนซิ .....ไม่เอาติงวางก่อนซิ ..ไม่เอาติงวางก่อน... รักนะ จุ๊บๆ”

  :m30:       ผมยังแทบอ้วกเลยครับ กรูพูดไปได้ยังไงกันเนี่ย  ถึงเป็นแฟนกันจริงๆผมก็ไม่ใช่คนที่จะพูดแบบนั้นหรอกครับ   มันหวานเกินไป  แต่ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องพูดไปแบบนั้นด้วย

แต่คนที่คงจะผะอืดผะอมกว่าผม นั่งตาค้างมองอยู่ คงฟังอยู่ด้วยแหล่ะ ก็พูดขึ้นมาว่า “คงไม่ต้องไปห้องน้ำแล้วมั๊ง ความหวานคงต้านทานไว้หมดทุกอย่างแล้ว ท้องคงหายปวด” คำพูดก็ปกติครับ แต่หน้าตาไม่ปรกติ เหมือนคนไร้อารมณ์นะครับ

“กลับก็กลับ ผมไปส่ง”พี่เค้าจ่ายเงินค่าข้าวครับ แต่คราวนี้ผมจะคืนให้พี่ทั้งเงิน ทั้งใจ ยังเคืองเรื่องไอ้คมบ้าบอไรเนี่ย  ผมเลยเอาตังค์ให้พี่เค้าครับ

 “ไม่ต้อง ไม่เป็นไร นิดหน่อย” พี่ต่ายไม่ยอมรับ เงินที่ผมให้     พี่เอาไปเหอะ เราจะได้จบๆความรู้สึกที่ค้างคาซักที

“พี่เอาไปเหอะผมไม่อยากติดค้างพี่”ผมพูดเสียงห้วนๆครับ  คราวนี้ผมคงเสียงแข็งจริงๆ พี่เค้ามองหน้าผมเลยครับมองนิ่งๆพักนึงแล้วเดินไปที่รถเลย  ไม่เห็นพูดอะไรซักคำ

 คราวนี้ไม่เห็นไปส่งผมเลยล่ะ พอผมเดินมาถึงรถ   นู่น........ไปไกลแล้วครับ   ผมเพิ่งนึกได้   อ้าวแล้วของผมล่ะที่อยู่ในรถพี่ทำไงดีจะไปเอาคืนมาได้ไง   แล้วใจผมล่ะ มันคงไปกับรถด้วยมั๊ง
มันเลยทำให้ผมเข่าอ่อนจนต้องทรุดตัวไปนั่งยองๆ จนคนที่เดินผ่านไปมาหันมามองกันใหญ่   มีป้าคนนึงถามผมว่า “ลูกเป็นอะไร ไม่สบายรึเปล่า”

“ผมไม่เป็นไรครับป้า ร่างกายผมปรกติดี”แต่ใจผม ผมก็ไม่แน่ใจครับว่ามันยังปรกติไม๊
*************************************************************************

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 20-11-2007 16:49:03
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-11-2007 17:15:07
เฮ้อคนเรา หึงซะ  o16

แล้วยังโทรศัพท์ที่ทำเป็นแกล้งคุยกะติงอีก ขนาดให้พี่ต่ายเชื่อได้นี่ สงสัยปีหน้าตุ๊กตาทองคงไม่ไปไหนล่ะนะ  :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: •♀NoM!_KunG♀• ที่ 20-11-2007 17:26:13
ง่าๆ......มานคืออาการอารายหยอฮะเนี่ย

ยังไงก้อมาต่อให้อีกนะฮะ

อยากอ่านต่อมากมายเยยนะนี่

เปงกำลังใจให้นะฮะ สู้ๆนะ คุคุ :m1: :m1:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 20-11-2007 22:16:39
อ่าวทำไมถึงทำอย่างน้านนนนนนน

 :a3:

เรายังไม่ได้เป็นแฟนเขานะ ไปหึงหวงคงจะไม่ดีทีเดียว
 :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-11-2007 22:30:22
คู่นี้ท่าทางลุ้นยากแฮะ  :m13:  :m13:  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 20-11-2007 23:34:52
ไหงเป็นแบบนี้ไปได้ จะเป็นยังไงต่อไปน้า สงสัยต้องลุ้นกันตัวโก่ง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 20-11-2007 23:44:40
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม ชอบๆๆครับ

อ่านทีเดียวถึงตอนล่าสุดเลย

เลยมึนๆๆ เป็นกำลังใจให้พี่โอมนะครับ

แต่เรื่องที่ ตด ในลิร์ฟ อ่าไม่น่าเกิดขึ้นเลยนะครับ อิอิ

เสียหมดเลย อิอิ

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 21-11-2007 12:07:10
น่าจะถามไปเลยนะครับ  เรื่องที่คาใจอ่า

ม่ายน่าเกบเอามาคิดคนเดียวเลย

ม่ายรู้ว่าที่คิดผิดหรือถูกกันแน่

เลยไม่เข้าใจกันเลยอ่า   :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 21-11-2007 12:18:28
มาช่วยลงต่อนะจ๊ะ ขอบคุณทุกกำลังใจเลย o15


ตอนที่10

ผมก็เลยต้องเดินกลับครับ   :undecided: ก็ไอ้คนที่ว่าจะมาส่งมันเปิดแน๊บไปแล้วนี่     แต่ขามันไม่มีแรง 5 นาทีถึงบ้านเลยกลายเป็น15 นาที

ก็เดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยแหล่ะครับ คิดอยู่ว่าจะไปเอาแฟ้มคืนมาได้ยังไง แล้วพี่ต่ายเค้าจะมาโกรธผมทำไม :m17:

แล้วทำไมผมกะพี่ต่ายต้องมามีเรื่องบ้าบอแบบนี้ให้ทะเลาะกันด้วย   ดูๆแล้วมันไร้สาระนะเนี่ย  ผู้ชายนะเค้าต้องคิดเรื่องใหญ่ๆซิ ไม่ใช่เรื่องตังค์กินข้าวแบบนี้ 

พอมาถึงบ้านเห็นไฟในห้องรับแขกเปิดอยู่ เสียงหัวเราะของพี่อั้มดังขึ้นมากับเสียงใครไม่รู้แผ่วๆ   


อ้าวพี่อั้มมีแขกนี่หว่าใครว่ะมาดึกๆดื่นๆไม่รู้จักเกรงใจ นี่มันเกือบ 4 ทุ่มแล้วนะผมกะว่าแอบๆเดินขึ้นห้องไปดีกว่าไม่มีอารมณ์รับแขก  วันนี้ก็เหนื่อยมากแล้วด้วย

แต่โชคไม่ดี พี่อั้มดันเห็น “โอม ทำไมกลับดึก ไอ้ต่ายมันมารอ ตั้งนาน ไปทอดหุ่ยอยู่ไหนมา แล้วไหนหุ่ยไม่เอามาฝากเค้าบ้าง555 มานี่ดิ”  :m28:

พี่ผมชอบตลกฝืดเรื่อยเลย ไม่เห็นจะขำ แต่สงสัยแขกพี่อั้มจะขำ    แขกพี่อั้มหันมายิ้มกับผมครับ ยังไม่เปลี่ยนเสื้อเลย ยังเป็นเสื้อตัวเดิม ผมพึ่งสังเกตว่าพี่เค้าไม่ได้ผูกเน็คไท

พี่ต่ายมาได้ไงเนี่ย  แล้วผีออกไปแล้วเหรอ หรือว่ากลับบ้านไปโดนรดน้ำมนต์มา เลยสำนึกได้ว่าโกรธอะไรผมไม่รู้ 

แต่ว่าทำไมคุยกันสนิทสนมจัง

 “โอม ต่ายเค้าเป็นเพื่อนเค้านะรุ่นเดียวกันที่มัธยมน่ะ แต่คนละห้อง แต่ก่อนก็เห็นหน้ามันประจำแหล่ะ บ้านทางเดียวกัน แต่ตั้งแต่ไปมหาลัยก็ไม่ได้เจอกันเลย โลกมันกลมจริงๆ มาทำงานที่เดียวกันได้ "

"เฮ้ยคุยกันไปก่อนนะ ไปเข้าห้องน้ำก่อน” อ้าวมาเป็นเพื่อนพี่ผมซะละ

“พี่เอาแฟ้มงานเรามาให้ เห็นลืมในรถ”พี่ต่ายหยิบแฟ้มมาให้ผมครับ
 
“อีกอย่างค่าข้าวน่ะพี่ไม่เอาหรอกอยากให้ระหว่างเรามันคาๆ ค้างๆแบบนี้แหล่ะ พี่ไปละโอม”

แล้วพี่เค้าก็ลุกออกไปครับ หันหน้ามาบอกผมอีกทีว่า

“ฝากลาอั้มด้วย ไว้วันหลังมาคุยใหม่ เพิ่งรู้ว่าอั้มเป็นพี่โอม มันโคตรบ้าเลย พี่เราน่ะ แต่จริงใจสุดๆ”

   ผมไม่รู้จะพูดอะไรดี พี่พูดอะไรอยากให้อะไรค้าง ค้างตรงไหน  ผมก็ได้แต่เดินออกไปส่งที่หน้าบ้าน    อ๋อพี่เค้ามาจักรยานนี่เอง  มันพิงอยู่ที่รั้วแต่ผมไม่ทันได้สังเกตุตอนเข้าบ้าน 

“พี่ผมขอโทษ”ผมยังไม่รู้เลยว่าผมทำอะไรผิด แต่ขอโทษไปก่อน  o1

   พี่ต่ายมองหน้าผม   แต่ไฟถนนมันไม่ค่อยสว่างผมเลยดูไม่ออกว่าพี่เค้ารู้สึกยังไง ได้ยินแต่เสียงพี่ต่ายพูดว่า

“พี่ก็ขอโทษ”

ผมก็ไม่รู้ว่าพี่เค้าขอโทษผมเรื่องอะไร แต่ผมรู้สึกดีจัง
ผมว่าคนเราน่าจะรู้จักขอโทษกันบ่อยๆนะ 

“ผมซิต้องขอโทษพี่  ผมยังอยากทำงานกับพี่นะ พี่กระต่าย”

ผมพูดยิ้มๆ แล้วเดินเข้าไปหาพี่เค้า ผมไม่เคยเรียกชื่อเล่นพี่เต็มๆซักที



“ปรกติพี่ ไม่ชอบให้ใครเรียกแบบนี้นะ แต่พี่ยอมให้โอมคนเดียว”


“ทำไมละพี่” ผมถามพี่ต่ายเบาๆ

บรรยากาศดีจริงๆครับ  อากาศกำลังเย็นสบาย ถนนหน้าบ้านก็ไม่มีใคร   ผมภาวนาให้หมาอย่าเห่า หรือหอน กลัวเสียบรรยากาศ

“ชื่อกระต่ายมันเหมือนผู้หญิง พี่ไม่ค่อยชอบ”  พี่ต่ายพูดยิ้มๆครับ น่ารักจัง

“พี่ก็อยากทำงานกับโอมนะ  คิดว่าคราวนี้จะได้ทำด้วยกันซะอีก น่าเสียดาย”

พี่เค้าจะไปแล้วครับขึ้นขี่จักรยานแล้ว

“ขี่รถระวังๆนะพี่ เจอกันครับ”ผมยกมือไหว้พี่เค้า

พี่เค้าเอามือมาจับมือผมกดลง “วันหลังไม่ต้องไหว้”

พี่เค้าขี่ไปไกลแล้วครับ แต่ผมยังยืนบื้ออยู่เลย  มือยังอุ่นๆอยู่เลย  ผมจะนอนหลับไม๊นะคืนนี้  ผมคงยืนต่อไปถ้าพี่อั้มไม่มาเรียกเข้าบ้าน

“ยืนทำไร ทำไมไม่เข้าบ้าน ต่ายกลับไปแล้วเหรอ”

“กลับไปแล้ว กำลังจะเข้าบ้านนี่แหล่ะ” ผมตอบไปแบบใจลอยๆ

ได้ยินเสียงพี่อั้มพูดอะไรไม่รู้ แต่ผมก็ไม่ได้ตอบ ได้แต่เดินขึ้นบันไดไปคิดอะไรไปด้วย 

แต่ถามผมตอนนี้ว่าคิดอะไรผมก็ตอบไม่ถูกมันเบลอๆ

เหมือนว่าผมจำได้แค่ที่พี่เค้าพูดว่า “พี่ยอมให้โอมคนเดียว” กับความรู้สึกอุ่นๆที่มือ กับเสียงที่มันก้องไปก้องมาอยู่ในหูผมซ้ำๆ

ผมเป็นอะไรเนี่ย ก็ผมไม่ใช่เกย์นะ หรือพี่ต่ายเป็นเกย์ หรือเราไม่ได้เป็นเกย์ทั้งคู่ แล้วผมจะรู้ได้ยังไงล่ะ หรือใครจะบอกผมได้     

แล้วตกลงที่เรื่องพี่คมล่ะมันยังไงกัน แล้วเรื่องติงที่ผมไปแสดงละครให้พี่เค้าดูอีกล่ะ

ปวดหัวไม่รู้มันจะจบลงยังไงกันแน่  ไม่อยากจะคิดแล้ว ติงผมก็ชอบ แล้วความรู้สึกที่ผมมีกับพี่ต่ายล่ะ มันคืออะไรกัน  :o8:


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 21-11-2007 12:30:21
หลังจากวันนั้น พี่ต่ายก็เงียบไปเลยครับ ไม่ได้เจอกันเลย  ผมก็งานยุ่งมาก ผมยังอยู่ที่บริษัทเดิมอีก2วัน แต่ติงก็ไปแล้วครับ ไปทำงานกับพี่ต่าย   

มีบางทีที่ผมติดงานบางตัวต้องโทรไปถามติง    แต่ติงก็ไม่ได้พูดอะไรถึงพี่ต่ายบอกแค่ว่า

“พี่ต่ายน่ารักจัง โอม”

 อือ ผมก็รู้  แล้วกับผมล่ะใครน่ารักกว่ากัน  ผมยังสับสนครับ ผมหวงติงไม่อยากให้ไปชอบพี่ต่าย หรือว่าผมหวงพี่ต่ายที่ไปกับติง   แต่สรุปแล้วทำไมคนที่ไปไม่ใช่ผมแต่เป็นติง  แล้วไม่รู้ติงพูดอะไรถึงผมบ้างหรือเปล่ากับพี่ต่าย 

คิดไปก็ทำอะไรไม่ได้  งานก็สุมหัววันๆต้องแก้ปัญหากันตลอด  แต่สุดท้ายก็เสร็จครับ แล้วผมก็ต้องกลับเข้าออฟฟิซ    พอกลับเข้าไปพี่หลิวที่เป็นคนดูแลงานผมก็เข้าไปเคลียร์งานกับพี่มีนครับ   
 เออผมคงได้พักสบายๆซักวันซะที :เฮ้อ:

วันนี้ผมเลยได้กลับบ้านเร็วครับ วันนี้จะขอนอนดูหนังเกาหลีที่ซื้อมาซักที ซื้อมาดองไว้ตั้งนานแล้วไม่มีเวลาดูซักที ผมไม่ได้ทำตามกระแสนิยมนะครับ  แต่เพื่อนเอามาให้ดูฟรีแล้วมันสนุก 

ช่วงก่อนทำงานพอมีเวลาเลยนั่งดูไปเรื่อยๆ เพราะผมไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ดูไปก็อินไป บางเรื่องดูไปแล้วก็น้ำตาไหล  จนโดนพี่อั้มล้อบ่อยๆ จนตอนหลังเค้าชินแล้วครับ ตอนหลังของฟรีหมดเลยต้องเสียเงินซื้อ

วันนี้กะว่าจะดูเรื่องเกี่ยวกับเด็กผู้หญิงที่บังเอิญไปติดโรคเอดส์  แล้วต้องอยู่กับแม่ที่ต้องหาเลี้ยงลูก กับปู่ที่เป็นอัลไซเมอร์  ตามลำพัง

ดูไปจน 3 ทุ่มครับกำลังกินมาม่าเป็นอาหารค่ำ กินไปก็น้ำตาไหลไป :m15:  ต้องเอากระดาษทิชชูวางไว้ข้างๆ สงสัยมาม่าจะเผ็ดด้วย  แล้วก็สงสารนางเอกมากครับโดนกดขี่ข่มเหง สังคมบางทีก็โหดร้ายกับคนอื่นทั้งที่ เค้าไม่ได้ทำอะไรให้เราเดือดร้อนซักหน่อย  เพียงเพราะว่าเค้าจน

“ชอบดูหนังเกาหลีเหรอ” สะดุ้งเลยครับมาได้ไงเนี่ย ก็พี่ต่ายนะซิอยู่ดีๆก็มานั่งข้างๆผม หน้าตาดูเหน็ดเหนื่อยนิดหน่อย เอ๊ะทำไมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยล่ะ

“พี่เห็นประตูไม่ได้ล็อค เลยถือวิสาสะเดินเข้ามา ขอโทษนะทำให้ตกใจ”
พี่ต่ายพูดไปยิ้มไปแต่ตามองที่ละครครับ

ผมยังซื๊ดซีาดอยู่เลย  สั่งน้ำมูกปื๊ดๆ เอาทิชชูมาซับน้ำตาอยู่ เสียงพูดยังอู้อี้เหมือนคนเป็นหวัด

“พี่มาได้ไง ตกใจหมดเลย ฮึดๆ.....”

 ยังครับน้ำตายังไม่หยุดไหล สั่งให้หยุดไม่ทัน แต่มือนะเอื้อมไปหยุดหนังไว้ก่อนล่ะ

“พี่มาหาโอมนะซิ ไม่บอกไม่รู้นะว่าอายุ 20 กว่าแล้ว  จบมหาลัยแล้วด้วย  ยังมานั่งดูหนังไปน้ำตาไหลไป เออจิตใจเปราะบางเหลือเกินนะ หึ หึ หึ ก็น่าเอ็นดูไปอีกแบบ”

แล้วพี่ต่ายก็มองผมแล้วครับ เอาละซิ ชุดโปรดของผม  :serius2: เสื้อยืดแขนล้ำเก่าๆเละๆ นิ่มๆ  กางเกงขาสั้นที่ใส่จนบางแล้วครับ ก็ใส่มาตั้งแต่อยู่มหาลัยปี1 ขาดบ้างนิดหน่อยแต่ก็เย็นดี ถ้าไม่ถึงที่สุดก็ไม่ทิ้งหรอกครับ กางเกงตัวนี้ผมต้องซักเอง เพราะเคยส่งซักแล้วเค้าทำขาด  ผมรักมากครับ  เคยไปซ่อมยางยืดมาหลายหนแล้ว แต่เราอยู่กันพี่น้องไม่มีใครสนใจมองใคร  แถมผู้ชายกันหมดผมเลยไม่ค่อยอาย ถึงมันจะเก่าไปซักหน่อย

แต่ตอนนี้ผมอาย เพราะว่าพี่เป็นแขก แล้วผมว่าผมก็โทรมเกินไปที่จะรับแขกด้วยชุดนี้

“ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะพี่ เดี๋ยวมาคุย”  :m21:

ขอลี้ภัยไปก่อนดีกว่า หน้าตาก็ดูไม่ได้ หัวหูกระเซิง ตาก็แดง  เสียงก็อู้ๆอี้ๆ ชุดก็ยังกับคนจรจัดข้างถนน เฮ้อกรู พี่ต่ายมาดึงมือผมไว้ครับ

“ไม่ต้องหรอกโอมพี่ขอ ชาร้อนๆดีกว่า ได้ไม๊”

แหมพี่ขอผมหรือจะจัดให้ไม่ได้ บ้านผมน่ะมีแต่ผู้ชายก็จริงแต่เรื่องของกินมีเต็มไปหมด ทั้งชา กาแฟ นม ขนมปัง สารพัด เพราะพี่ชายผมชอบเดินซุปเปอร์มาร์เก็ต  ส่วนผมชอบกินอย่างเดียว ไม่เสียตังค์ด้วย  หุหุหุ

“เดี๋ยวนะพี่ แป๊ปนึง” ผมรีบออกจากตรงนั้นเลยครับ อ้าวรอน้ำร้อนในกาให้เดือดก่อน เพราะผมพึ่งจะต้มใหม่ พอผมกลับไปที่ห้องรับแขก พี่เค้าหลับไปแล้วครับ
**************************************************************************
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-11-2007 12:40:27
อ่าพี่ต่ายหลับไปแล้ว

โอมเดินมาเห็นอดใจไม่ไหว เห็นแก้มขาวๆใสๆ เลยขอแอบหอมแก้มซักหน่อย หุหุ :m1:

พี่ต่ายรู้สึกตัว ดึงตัวโอนเข้าไปหา ตอนนี้กลายเป็นสองหนุ่มนอนกอดกัอยู่บนโซฟา คิกๆๆ :m10: 

แล้วจะมีอะไรต่อนะ อิอิ  แอบจิ้นเอง เหอๆๆ :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 21-11-2007 17:00:36
คนมาเมนท์น้อยจัง    จะมาลงต่อดีอีกตอนวันนี้ดีไม๊ละเนี่ย :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 21-11-2007 17:49:35
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 21-11-2007 18:04:41
สงสัยพี่ต่ายมาหาน้องโอมเพราะ "คิดถึง"  :a10:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 21-11-2007 19:28:32
พี่ต่ายต้องแอบชอบแน่ ๆ เลย  :m1:  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: gateau ที่ 22-11-2007 03:28:20
มาตามดูพี่กระต่ายของน้องโอม

 :m22:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 22-11-2007 08:13:26
เอิ้กๆๆๆ  พี่จ่ายหลับไปแว้วววว

ทางโล่งแล้วนะโอมม

จาทำไรก็รีบๆๆๆๆ  อิอิ

 :kikkik:  :kikkik: :kikkik:



ปล.  ตรูไปยุเขาเนี่ย  ถูกป่าวหว่า  :try2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 22-11-2007 10:28:53
มาลงต่อแล้วนะ  หวังว่าจะชอบกัน

 ตอนที่11

พี่ต่ายนั่งหลับเอียงคอพาดกับโซฟา ไม่เมื่อยคอแย่เหรอพี่  ผมเลยไม่กล้า
เรียกเลยครับท่าทางจะเหนื่อยมาก  ผมเลยเอาหมอนมาวางไว้ข้างๆกันพี่ตะแคงลงมา   แต่ดูๆไม่มีแววตื่น ผมเลยไปนั่งบนโซฟาข้างๆพี่ต่าย 

คราวนี้ผมเลยมีเวลามองพี่เค้าแบบชัดๆ วันนี้หวีผมเปิดหน้าแฮะ หน้าผากก็สวยดีไม่แคบจนเกินไป     ผมว่าเปิดหน้าแบบนี้ดีกว่าเดิมอีก ทำให้ดูสดใสขึ้น

 พี่เค้าถอดแว่นวางอยู่ที่โต๊ะครับ  เลยเห็นขนตาดกดำหนาแต่ไม่ยาวเท่าไหร่  ถึงแม้ว่าพี่เค้าจะไม่ใช่คนตาโตเท่าไหร่แต่ก็ไม่เล็กนะครับ    ผมว่ากำลังดี รับกับคิ้วเข้มๆ คางผ่าซะด้วยเพิ่งสังเกตเห็น   เห็นเค้าว่าคนที่คางแบบนี้ชอบผจญภัยไม่รู้จริงหรือเปล่า

แล้วสายตาผมก็มาสะดุดกับเสื้อพี่เค้าครับ ก็มันเปิดกระดุมไว้อีกแล้ว แต่เพราะพี่เค้านอนอยู่เสื้อก็เลยแนบไปกับตัว หมดกันเลยไม่ได้ดูอกขาวๆเลย  แต่คอที่โผล่ออกมาก็ขาวดี  พอผมนึกอย่างนี้ได้ เลยอดขำตัวเองไม่ได้

 “หึหึหึ ท่าจะบ้านะเรา”  :o8:

“หน้าพี่ตลกมากเหรอ”

 พี่ต่ายตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย   อยู่ๆก็ถามผมขึ้นมา    หน้าตางัวเงียแบบคนเพิ่งตื่น แต่ตาเชื่อมเลยครับ เอ่อ อย่ามาตาหวานใส่ผมซิพี่  ผมกลัว(กลัวห้ามใจไม่อยู่)   :m13:

ผมเลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ตอบคำถาม     แต่ถามกลับพร้อมส่งชาไปให้พี่ต่ายก่อนที่มันจะเย็นหมด 

“พี่กระต่ายมีอะไรเหรอมาซะดึก”
พอพี่ต่ายได้ยินผมเรียกแบบนี้พี่เค้าแอบซ่อนยิ้ม ผมเห็นนะพี่

“พี่จะมาบอกโอมว่าพรุ่งนี้ให้ตามไปที่บริษัท....ที่พี่ทำอยู่กับติง”
  “ว่างแล้วไม่ใช่เหรอ พี่ไปถามพี่มีนมาแล้ว”

พูดพลางจิบชาไปพลางเออ ปากก็สวยนะ  รูปปากสวยดีเป็นกระจับเชียว  ผมเผลอดูปากพี่ต่ายอยู่   คนไรว่ะนั่งกินชาธรรมดาๆก็ยังน่าดู
 
“อ้าวถามก็ไม่ตอบ แล้วนี่อั้มไม่อยู่เหรอ ไปไหนล่ะ”
 พี่ต่ายถามขึ้นมาอีก ผมเลยตกใจตอบไปว่า

“ว่างแล้วพี่  แล้วมันอยู่ที่ไหนล่ะไอ้บริษัทนี้ แล้วต้องไปกี่โมงพี่ ผมต้องทำไรบ้าง แล้วติงยังอยู่ไม๊   อ้อพี่อั้มกลับบ้าน(ต่างจังหวัด) ผมอยู่คนเดียว”
 :m23: ผมตอบส่งไปเป็นซีรีส์เลยครับรวดเดียวจบ

“เอ้อ ทีนี้ตอบมายาวเชียว  แล้วถามมาเยอะขนาดนี้พี่เลยไม่รู้จะตอบอะไรก่อนดี ”
พี่ต่ายหัวเราะหึหึ หมู่นี้อารมณ์ดีจังนะพี่ แต่ก็ดีกว่าตอนองค์ลง ขอให้ดีๆแบบนี้
ไปนานๆเถอะ

“พรุ่งนี้พี่มารับซัก 7โมงแล้วกัน ไปด้วยกัน แล้วเดี๋ยวพี่แบ่งงานอีกที แล้วทำไมต้องถามถึงติงด้วย”

 พี่ต่ายนี่เพิ่งชมอยู่ว่าอารมณ์ดี องค์ไหนมาลงอีกล่ะไม่ทันขาดคำ พูดจบปุ๊ปขมวดคิ้วปั๊ป

“ทำงานคนเดียวไม่ได้แล้วใช่ไม๊ ต้องอยู่กับแฟน”แฟนใครที่ไหนกัน ผมละงง

“แฟนใครพี่ ใครแฟนใคร”  พี่พูดถึงใครล่ะ ได้โปรดอธิบาย  :m21:

“ก็ติงไง แฟนโอมไม่ใช่เหรอ”

 พี่ต่ายถามผมตรงๆ  ผมเลยถึงบางอ้อ คราวก่อนที่ผมไปสร้างเรื่องเอาไว้ เอาไงดีว่ะ เฉลยไปเลยดีไม๊ ว่าผมยังโสดอยู่ (แต่ที่จริงผมก็เล็งติงไว้จริงๆแหล่ะ แต่ยังไม่ทันได้ยิง หึหึหึ)  จะไถลเถลไปทางไหนดี แถไปก่อนละกัน แต่คิดไปคิดมาพี่ยังมีพี่คมเลย

 “ผมไม่มีแฟนมีแต่เพื่อนทั้งนั้น   ไม่เหมือนคนอื่นหรอกเที่ยวไปทิ้งเน็คไทไว้ห้องแฟน”
มันต้องอย่างงี้ซิไอ้โอม ปล่อยให้คนอื่นมาสอยเราฝ่ายเดียวได้ไง มันต้องสอยคนอื่นบ้างเอาให้ตกเลย รู้ซะบ้างนะพี่ต่าย

“ใครกันทิ้งเน็คไท แฟนใคร”
พี่ต่ายงงเล็กน้อยครับ แล้วแกคงนึกได้ ก็เลยพูดแล้วมองหน้าผม

“คมน่ะเหรอ เค้าเป็นลูกค้า พี่ไปทำงานแล้วมันร้อน เราก็รู้พี่ชอบถอดเน็คไท เวลาเลิกงาน เลยลืมไว้ที่ออฟฟิซลูกค้า ทำไมหึงพี่เหรอหึ หึ หึ”
ผมยังไม่ทันแก้ข้อกล่าวหา พี่ต่ายก็พูดต่อ

“ติงไม่ใช่แฟน ก็แสดงว่าจีบอยู่ซิ พี่รู้นะ ใช่ไม๊ละ”
พี่ต่ายมาถามผมกลับอีกละ ทำไมต้องจริงจังนักล่ะพี่ก็  นึกว่าพี่ลืมไปแล้วซะอีก ตอบว่าไงดี ให้ดูดี มีคุณค่าไม่เป็นพวกขี้หลีสาว   แต่ให้พี่ต่ายรู้ว่ายังแคร์พี่อยู่

“เป็นเพื่อนสนิทพี่ อนาคตไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไร”

“ตอนนี้ผมคิดแต่เรื่องงาน หรือพี่หวงผมเหรอ 555 ”

ผมพูดต่อ   ไม่เว้นวรรคให้พี่ต่ายได้สวนทัน ไม่ใครก็ใครต้องหึงต้องหวงกันบ้างละว้า   แต่ใครจะยอมรับ ก็เรามันเพศเดียวกันนี่ ผมไม่ยอมรับแน่ๆ      ถึงแม้จะมีไขว้เขวไปบ้าง     ผมว่าคำพูดผมคงไปโดนจุดระเบิดอะไรในเครื่องยนต์ของพี่ต่ายเข้า พี่เค้านิ่งไปเลยครับ

พี่ต่ายไม่ตอบคำถามผมแต่นั่งนิ่งเหมือนคนใช้ความคิด แล้วเขยิบมาใกล้ๆผม แล้วมองผมด้วยสายตาครุ่นคิด ถอนหายใจเฮือกนึง เหมือนคนกำลังลังเลว่าควรจะพูดดีหรือไม่ 
   
ผมก็ลุ้นจนลืมหายใจ  พี่ไม่พูดหรือผมพูดเอง


      “เอ่อ....”

เราเลยพูดพร้อมกันครับ  เหมือนในอดีตครับ ถ้ายังจำกันได้  เหมือนตอนที่ตดในลิฟท์น่ะ  เงียบสนิทเหมือนกำลังกลั้นลมหายใจ

แต่ผมสาบานคราวนี้ผมจะไม่ตดอีก  ครั้งเดียวก็เกินพอ   ผมอาบน้ำแล้ว ตัวออกจะหอม   แต่ได้กลิ่นจากพี่ต่าย  แต่ก็เป็นกลิ่นเหงื่อธรรมดาของผู้ชายครับไม่มีอะไรแปลก   

“พี่พูดแล้วกัน พี่ก็ยังสับสนตัวเอง พี่ถึงอยากให้โอมไปทำงานกับพี่ ใกล้ชิดกับพี่ พี่เคยตรวจแต่บัญชี  ไม่รู้เรื่องความรัก ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง หรือชายกับชาย”

ผมก็เหมือนพี่ แต่ผมเคยมีแฟนเป็นผู้หญิงนะ แต่กับผู้ชายผมไม่เคย ผมไม่ได้พูดอะไรครับได้แต่นึกในใจ พี่พูดมาเหอะ เราคงคิดคล้ายๆกัน

“ พี่ไม่รู้ว่าเริ่มเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ความรู้สึกแปลกๆที่อธิบายไม่ถูก จะถามใคร บอกใครก็ไม่ได้ โอมเป็นไม๊”
คำถามหรือคำรำพันพี่ คำถามนี้ผมต้องตอบไม๊

“พี่ก็แค่คิดถึงโอมบางเวลา มันแว๊บเข้ามาในใจ”
ที่เคยบอกว่าพี่พูดไม่เก่งผมขอถอนครับท่านประธาน สำนวนใช้ได้เลยพี่ เอาอีกๆๆๆชอบๆๆๆ

“แต่พี่ก็เดาใจโอมไม่ถูก ไม่รู้ว่าโอมคิดยังไง เรายังรู้จักกันไม่มากพอ”

 “แล้วพี่ก็ว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ เพราะพี่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับใคร”
ผมก็เดาพี่ไม่ออก ตอนนี้องค์ไหนลงพี่อยู่นะ ผมก็ว่าผมไม่ใช่เกย์ เออคิดเหมือนกัน

“ในออฟฟิซ พี่ไม่รู้ว่ามีเกย์หรือเปล่า แต่ถึงมีก็คงไม่เปิดเผย”

“ พี่ไม่แน่ใจว่าจะมีใครยอมรับไม๊ แต่พี่ยินดีจะเสี่ยงที่จะลองสำรวจใจตัวเองดู โอมจะยินดีให้พี่เสี่ยงไม๊ล่ะ เพราะโอมเป็นส่วนนึงในเรื่องนี้นะ พี่ถือว่าให้ความเป็นสาระสำคัญมากกว่า80% เลยล่ะ”

มันเป็นศัพท์แบบเราๆเลยครับ ใช้เป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบว่ามีความสำคัญพอไม๊ที่จะตรวจบัญชีนี้    โหพูดคนเดียวแบบนอนสต๊อปเลยครับ พูดได้ไง ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่เคยพูดยาวขนาดนี้

แล้วคราวนี้ผมต้องตอบไม๊ล่ะ แต่พี่เงียบๆแฮะผมชะโงกมองข้างๆพี่เค้า  จับตัวพี่เค้าพลิกขยับไปมาเหมือนหาของที่พี่เค้าเอามาด้วยแต่แอบซ่อนไว้

“หาอะไรโอม” 
เนียนๆนะพี่มาจับมือผมไว้นะ เออแต่ผมชอบ        แกล้งทำเป็นไม่รู้ตัวแล้วกันพี่ต่ายคงสงสัยว่ามันเป็นอะไรไปละคราวนี้ เค้ากำลังซึ้งๆอยู่

“ผมหาเครื่องเล่นหรือ เครื่องบันทึกเสียง หรือบทพูด พี่พูดยาวมากจนผมไม่แน่ใจว่ามีเทปแล้วพี่ลิปซิงค์หรือเปล่าซิ หรือเตรียมบทมาเป็นอย่างดี หุหุหุ”
ทำเป็นตลกแก้เขินครับเลี่ยงไม่ตอบด้วย เอาไงดีว่ะกรู ตอบไงดี ถ่วงเวลาก่อน

“พี่ไม่ต้องอัดเทปหรือเขียนบทหรอก ก็มันอยู่ในหน่วยความจำในใจของพี่นี่”

ตอนนี้หน้ามันร้อนๆนะ ท้องไส้ปั่นป่วน เราเป็นไข้หรือปล่าวเนี่ย หน้ากรูแดงป่าวว่ะ คลื่นไส้นิดหน่อย ไม่ไหวล่ะ เดินหนีดีกว่า :a4:

แต่ผมไปไหนไม่ได้ครับอ้าวพี่ยังจับมือผมอยู่เหรอ  มือแฉะเลยเหงื่อใครเนี่ยของพี่หรือของผม หรือของเราสองคน

“ไปเอาชามาให้พี่เพิ่มดีกว่า นะพี่นะ”

ผมพยายามดึงมือออก  ทำไมมันเหนียวงี้ล่ะแอบเอากาวตราช้างมาติดรึเปล่าเนี่ย  ผมขอไปอายไกลๆดีกว่าพี่ เหมือนพี่จีบผมอยู่เลย หรือผมคิดไปเอง หรือคนนี้เป็นพี่เต่า แฝดของพี่ต่าย พูดซะจนผมเริ่มเคลิ้มล่ะ  คนละคนมั๊ง

“ไม่ต้องเพิ่มหรอก ตอนนี้ใจพี่มันชาพอแล้วโอม”

 เอ่อ.....ไปไม่เป็นเลยครับ อยู่ไม่ไหวแล้วมั๊ง เอิ๊กๆๆ จะเป็นลม o2
 **********************************************************************************
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 22-11-2007 11:10:46
เอาละวุ้ยๆ พี่ต่ายปล่อยหมัดเด็ด ชนะน็อคน้องโอมเสียแล้ว :try2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-11-2007 13:13:54
 :m3:  พี่กระต่าย เผยความในใจซะ
โดนไปหลายดอก พูดไม่ออกเลยหล่ะซิโอม  หุหุ  เขินแทน แหะๆๆ  :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-11-2007 14:06:01
นั้นถูกกระต่ายรุกฆาตซะแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 22-11-2007 16:19:34
กระต่ายรุกซะโอมไปไม่เป็นเลย :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 22-11-2007 16:35:43
ชาไปทั้งตัวแล้ว คริคริ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 22-11-2007 16:48:16
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม แบบว่าพี่ต่ายไม่ค่อยคุยนะ

แต่เวลาคุยก้คุยจะซึ้งเลยครับ

เอาใจช่วยพี่ต่ายกับโอมครับ

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 22-11-2007 17:08:10
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-11-2007 19:03:34
หุหุ เริ่มเปิดใจกันแล้ว  :m1:  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 23-11-2007 09:34:43
พี่ต่ายสารรูป  เอ้ย  สารภาพ   :try2:

แล้วว่าชอบโอนะ

แลวทีนี้โอมจะตอบไปไงเนี่ย

 :m5:  :m18:  :m27:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 23-11-2007 10:04:04
มาต่อให้แล้วคร๊าบ 

ตอนที่12

   โอ๊ยยยยยย สถานการณ์แบบนี้ผมควรทำยังไงดี   :a4:

ข้อแรก       สมยอมพี่ต่ายไปเลย ........เอ....แต่พี่ต่ายยังไม่ได้มีทีท่าอะไรเลยนะ
แค่จับมือเอง จะให้ยอมอะไรล่ะ  :m21:

ข้อสอง       ปฎิเสธพี่ต่ายไปเลย แล้วทำเสียงเข้มแข็งว่า....ผมไม่ได้ชอบผู้ชายยย
 ไม่คิดอะไรแบบนั้นกับพี่......อืมมมแต่ว่า.......... o12
กรูแอบคิดนี่หว่า ไม่อยากโกหกกลัวผิดศีล  ถึงแม้จะยังไม่ได้บวชเรียนก็ตามเถอะ :o8:

ข้อสาม       จับพี่ต่ายมาเขย่าๆตัว เอาน้ำมนต์มาพรม      อืมมม รู้ล่ะนิมนต์พระมาดีกว่า
เผื่อผีจะออกไป   แต่จะว่าไปผีตัวนี้พูดเพราะจังฟังแล้วก็เคลิ้ม  เพียงแต่คงอ่านนิยายหวานซ่อนเลี่ยนมากไป  เลยพูดซะหวานอ๊วกไปเลย

“คิดอะไรน่ะ เป็นอะไรไป ทำไมเงียบไปล่ะ โอม”

ผมคงคิดทางเลือกมากไปหน่อยจนพี่ต่ายเริ่มผิดสังเกตว่าผมคงสติแตกไปแล้ว
เลยเขย่าๆมือผม   ไม่พี่ก็คงหายเมาชาไปล่ะ เมาซะยิ่งกว่าเหล้าอีกนะพี่ ทำเอาคนชงชาเมาไปด้วยเลย

“ปล่าวพี่ไม่มีอะไร  พรุ่งนี้ 7 โมงใช่ไม๊    อ่า........ผมไปนอนดีกว่าง่วงแล้ว พี่กลับยัง....ไป...ผมไปส่งที่ประตู” :m13:
 
โมเมมั่วๆไปก่อน เผื่อพี่เค้าจะลืม แล้วก็ทำหน้าเด๋อด๋าไป ดึงมือพี่เค้าจะพาไปที่ประตู  นี่ก็จับไม่ยอมปล่อยซะทีมือเหนียวหนึบมีแต่เหงื่อ แถมดึงผมนั่งลงต่ออีก

“ยังไม่ตอบพี่เลย ว่าจะยอมเป็นสาระสำคัญให้พี่หรือเปล่า”
พี่ต่ายยังคงถามอยู่น่านแหล่ะ สำนวนบัญชี๊บัญชี  แต่น้ำเสียงอบอุ่นจัง
 
ผมรู้สึกเกรงใจพี่ต่าย อีกอย่างพี่ก็พูดมาเยอะละ    ถึงเวลาผมบ้าง  ผมก็เลยต้องตอบ
พี่ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  แต่ความรู้สึกของผมมันเป็นแบบนี้จริงๆ

“ผมก็คิดหนักไม่แพ้พี่หรอก ไม่ว่าจะเกิดผลยังไงก็ตามผมก็คงต้องเจ็บปวดอยู่ดี”
“ ถ้าผมกับพี่รักกันจริง สังคมจะยอมรับเราเหรอ ครอบครัวพี่ละ ครอบครัวผมอีก”
 
“แต่ถ้าเราไม่ได้รักกันแบบนั้น เวลาที่เรารู้ว่าเราไปกันไม่ได้  เราจะไม่เจ็บหรือพี่”
 ผมจะพูดต่อดีไม๊นะ   ผมชักไม่แน่ใจ

“ขนาดผมไม่เจอพี่ไม่กี่วัน หรือเข้าใจพี่ผิดด้วยเรื่องบ้าบอที่ผ่านมา  พี่รู้ไม๊ว่าผมทรมานใจแค่ไหน นี่ดีนะที่งานยุ่ง  ไม่งั้นผมคงบ้าไปแล้ว”

เมื่อพี่เปิดใจให้ผม ผมก็เลือกที่จะบอกความรู้สึกผมไปเลยดีกว่า ตอนนี้ผมเข้าโหมดจริงจังแล้วครับ สาระก็มีครับ  ไม่ได้มีแต่ไร้สาระ แต่พูดไปแล้วก็ตกใจตัวเอง

“พี่ดีใจที่ได้ยินโอมพูดแบบนั้น  อย่างน้อยพี่ก็ไม่ได้เพ้อไปคนเดียว“
 พี่ต่ายพูดด้วยเสียงอันอ่อนโยน

“แต่เรื่องที่เราจะลองมาทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้  พี่ไม่คิดว่าหากเราไปกันไม่ได้ แล้วเราจะเจ็บปวด อย่างน้อยเราก็ได้โอกาสที่จะเรียนรู้ในการรักกันไม่ใช่เหรอ......หรือโอมกลัว”
พี่ก็พูดถูก ผมเข้าใจ ก็ผมกลัวจริงๆนี่นา เคยแต่รักกับผู้หญิงแต่พี่เป็นผู้ชายนี่  ผมไม่แน่ใจ

“แล้วถ้าเรารักกันจริง พี่เชื่อว่าเราต้องผ่านปัญหาที่เกิดขึ้นไปได้ เราจะผ่านมันไปพร้อมๆกัน”

เสียงพี่ต่ายยังคงดังต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เหมือนเสียงเพลงที่ดังแผ่วๆ  แล้วผมก็ยังคงคิดไปด้วยตามที่พี่พูด เสียงคำพูดที่ค่อยๆซึมซาบเข้าไปในใจของผมอย่างช้าๆ แต่ผม....

“ผมขอเวลาคิดก่อนนะพี่ ให้เราผ่านเวลาช่วงนี้แบบเพื่อนร่วมงานกันไปก่อนแล้วกัน แล้วถ้ามันจะเป็นไปยังไง ก็ให้มันเป็นไป วันนี้ผมขอไปนอนแล้วนะพี่”
พูดไปแล้วก็งงเอง  :a3:

เอ๊ยนี่เราตอบตกลงลองคบพี่เค้าไปแล้วนี่หว่า ใช่ไม๊เนี่ย    เอ๊ยแต่พี่เค้าคงฟังไม่รู้เรื่องหรอกก็คนพูดเองยังไม่รุ้เรื่องเลย ไม่ได้การละเปลี่ยนเรื่องดีกว่า พี่ต่ายก็ทำหน้างง งง 

ก็ใจผมน่ะมันให้พี่เค้าไปตั้งค่อนแล้ว   ที่เหลือก็ให้เวลาเป็นตัวบอกผลของมันแล้วกัน แต่วันนี้ปวดหัวตั้งแต่ดูหนังเกาหลีล่ะร้องไห้จนปวดตา  ยังไม่อยากคิดอะไรมากไป พี่ต่ายก็คงต้องใช้เวลาในการคิดเรื่องนี้เหมือนกัน     เราสองคนยังต้องเจอกันไปอีกนาน

“งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะโอม แล้วดูแลปิดบ้านดีๆล่ะ ขนาดวันนี้พี่เข้ามายังไม่รู้เรื่องเลย”

พี่ต่ายยังไม่ปล่อยมือผม       แต่เปลี่ยนข้างตอนไหนไม่รู้สงสัยมันคงแฉะไปแล้วมือข้างนั้น   พี่จะเอาผมกลับไปเลี้ยงที่บ้านด้วยไม๊พี่ กินไม่เยอะหรอก ชอบกินแต่มาม่า อิอิ   

แล้วมือขวาพี่จับมือขวาผมมันเดินยากจังพี่ พี่เลยต้องเดินเหมือนโอบผมกลายๆ   หลังผมกับหน้าอกพี่ชนกันเป็นระยะ  แล้วไปๆมาๆแขนพี่เลื่อนลงมาเหมือนโอบเอวไปละ ร้อนวูบๆแฮะ   เหมือนเนื้อเราแนบกันโดยไม่มีผ้ากั้นเลย แต่ผมว่าพี่หัวใจเต้นแรงจังมันตุ๊บๆตับๆ  อยู่ข้างหลังจนผมรู้สึกได้เลย

       แล้วพี่ก็ยกอีกมือนึงมาลูบหัวผมเบาๆ   พี่ต่ายเดินโอบผมไปเรื่อยๆตรงไปที่รถ
ผมรู้สึกว่ามือที่ลูบหัวผมอยู่เหมือนพี่ผม   แต่มือที่โอบผมอยู่เหมือนเป็นแฟนกัน แต่ไหงมารวมกันอยู่ที่คนๆเดียวกันได้นะ  แต่โดยรวมๆผมก็อบอุ่นใจดี :o8:

       ลมตอนกลางคืนพัดโชยมาเบาๆ จนผมเริ่มหนาวนิดๆก็ชุดมันทั้งบางทั้งเบา 
พี่ต่ายคงเห็นว่ากวนเวลาผมมากแล้ว  แล้วแบตเตอรี่แกคงหมดไปละ  ก็วันนี้พูดยาวที่สุดตั้งแต่ที่รู้จักกันมา 2-3 เดือนเอามารวมกันอีก เลยปล่อยมือผมแล้วขึ้นรถไป  ยกมือบ๊ายบายให้ผมเล็กน้อย ผมทำปากบอกพี่ไปแต่ไม่มีเสียงว่า

”ขับรถดีๆนะพี่...เจอกันพรุ่งนี้”
พี่ต่ายขมวดคิ้วแล้วยกมือขึ้นแล้วหมุนๆ แสดงว่าไม่รู้เรื่องว่าผมพูดอะไร  :m28:

ผมเลยต้องอ้าปากกว้างๆพูดใหม่   “ขาบ-รถ-ดี-ดี-นะ-พี่-เจอ-กัน-พรุ่ง-นี้”

พี่ต่ายพยักหน้าว่าเข้าใจละแล้วตอบกลับมาว่า
”ฝัน-ดี..............รัก-นะ” แล้วส่งยิ้มหวานมาให้อีกอัน

หุหุหุ ชอบจริงโว๊ย เคยแต่ไปจีบคนอื่น พอมีคนมาจีบมันบอกไม่ถูก    ตอนนี้ไม่หนาวอีกแล้วเลือดมันฉีดขึ้นหน้า เข้าบ้านดีกว่า    เดี๋ยวโดนข่มขืนยิ่งแต่งตัวXXอยู่  นอนฝันดีแน่เลยเรา :m3:

 หนังเกาหลีไม่ดูแล้ววันนี้     ก็มันมีหนังไทยมาเล่นสดๆกันที่บ้านแล้วนี่  ยุงบินกันว่อนเลย สงสัยต้องฉีดยากันยุงก่อนออกจากบ้านล่ะพรุ่งนี้   สงสัยจะน้ำเน่ามากไปหน่อยวันนี้   
---------------------------------------------------------------------------------------------------
เดี๋ยวบ่ายค่อยมาต่ออีกครึ่งนึงนะครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 23-11-2007 11:06:04
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 23-11-2007 13:02:49
 :m3: ปลื้มแทนนน  มีคนมาจีบ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 23-11-2007 13:52:49
"ผมรู้สึกว่ามือที่ลูบหัวผมอยู่เหมือนพี่ผม   แต่มือที่โอบผมอยู่เหมือนเป็นแฟนกัน"

และจะเป็นสามีเราในอนาคตซะด้วยจริงมะ  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 23-11-2007 15:14:02
อ่านแล้วจะตายยยยยยยยยยยยยยยให้ได้ จะเอาแบบพี่ต่ายบ้างอ่ะ.........เอาของเก่าไปเซ้งได้ม่ะๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 23-11-2007 15:20:30
มาต่อรอบบ่ายค๊าบ  :a11:
*****************************************************
วันรุ่งขึ้นผมก็ไปทำงานกับพี่เค้าแต่เช้าครับ  แต่วันนี้เราสองคนอารมณ์ดีทั้งคู่ครับ  แต่ไม่ได้คุยอะไรกันมาก   สงสัยโควตาของเมื่อวานมันกินมาวันนี้ด้วย วันนี้เลยพูดน้อยลงไปหน่อย  

 พอเข้าไปที่บริษัทลูกค้าติงยังไม่มาถึง  พี่ต่ายก็สั่งงานเลยครับ  ไม่มีเวลาสวีทหวานเลย เพราะเรื่องงานมาก่อนอยู่แล้วแต่ก็ดีครับ  ไม่งั้นผมคงเขินแน่ๆถ้าพี่มาโหมดเดียวกับเมื่อวานอีก กลัวติงสงสัยด้วย

พอติงมาก็เลยเห็นผมกับพี่ต่ายนั่งทำงานกันอยู่สองคนเงียบๆ   ติงแอบเลิกคิ้วให้ผมนิดนึงแล้วพูดภาษาใบ้ถามว่า  ” มา-ได้-ไง”      :m28:
 
ใครจะไปกล้าตอบเลยบอกไปว่า”เดี๋ยว-ค่อย-คุย” พองับปากเสร็จพี่ต่ายเงยหน้าขึ้นมาพอดีครับ แต่แกก็ไม่ได้ว่าอะไรทำงานของแกต่อไป

ทำงานต่อไปอีกพักนึงติงออกไปขอเอกสารลูกค้า  พอติงลุกออกไปเท่านั้นแหล่ะครับเป็นเรื่อง

“คุยอะไรกัน ทำไมต้องทำภาษาใบ้ ไม่อยากให้พี่รู้เหรอ”   o12
พี่ต่ายคนแรกที่ผมเจอกลับมาแล้วครับ   เสียงโหดมากๆเมื่อกี้ก็ยังปรกติดี  
โกรธไรอีกล่ะพี่ค๊าบบ   ผมกลัวนะ     :try2:

 “ติงเค้าถามว่า....มาได้ไง ....ผมเลยบอกว่าค่อยคุยกันที่หลัง”
ผมก็บอกพี่เค้าไปเสียงอ่อยๆธรรมดาๆละครับก็ผมจริงใจนี่  

“วันหลังให้พูดออกมาเลยแบบมีเสียง   ไอ้ใบ้ๆแบบนี้ให้พูดกับพี่คนเดียว”

ผมกำลังอ้าปากค้างครับกำลังจะสวนกลับ ติงเข้ามาพอดี เลยกลับมาทำงานกันต่อครับ  ไม่มีใครพูดอะไรอีกยกเว้นเรื่องงาน

พอเที่ยงเราก็ไปทานข้าวกันครับทั้งสามคน พี่ต่ายคุยกับติง กับผมตามปรกติ   ไม่ได้แสดงท่าทีอะไรเป็นพิเศษ แต่ดูติงนะซิครับท่าทางดีใจมากที่ผมมาแบบที่ติงไม่รู้มาก่อนล่วงหน้า  ชวนผมคุยนู่นนี่นั่น จนพี่ต่ายเหล่มาบ่อยๆ  

ผมสงสัยว่าติงร่าเริงไปไม๊เนี่ยซิ  ไม่เจอกันไม่กี่วันอะไรทำให้เธอเปลี่ยนไป หรือว่าพอไม่เจอผมแล้วถึงรู้ใจตัวเองว่าแอบชอบผมเข้าไปแล้ว แอบดีใจนิดหน่อย สงสัยช่วงนี้เสน่ห์ของผมคงออกมาเต็มที่มั๊ง  มีทั้งชายหญิงมารุมรัก   o17

ใครจะว่าหลงตัวเองก็ยอมละครับ ตอนนี้ร้องเพลงเป็นเพลงเดียวครับ  อยากเก็บเธอไว้ทั้งสองคน ยังไม่วายหลายใจอีกนะผม

“โอมพรุ่งนี้เราจะไปสมัครปส.แล้วนะไปด้วยกันไม๊ตอนเลิกงานน่ะ”
ติงถามผมเรื่องเรียนต่อภาคค่ำครับที่ผมเคยปรึกษาพี่ต่ายไปวันก่อน ผมกำลังจะตอบตกลงแล้วเชียว แต่พี่ต่ายชิงถามมาก่อน

“เค้าสมัครวันสุดท้ายวันไหน”
พี่ถามทำไมล่ะ พี่จะเรียนด้วยเหรอพี่อิอิ   แก่ไปปล่าวแอบแซวแกในใจครับ

“ช่วงนี้งานจะเสร็จแล้วเลื่อนไปอีกซัก 3 วันได้ไม๊ พี่อยากให้เราสองคนอยู่ดึกนิดนึงช่วงนี้”

เข้าใจล่ะ แต่ผมไม่รู้ซิว่าได้ไม๊   พอหันไปมองหน้าติง ให้ติงตอบแทนดีกว่า  คือผมเป็น
พวกตามครับให้เค้าทำๆกัน บอกมาทำตาม ตอนสมัครงานก็ทำแบบนี้แหล่ะ   ดังนั้นไม่รู้อะไรกับเค้าเล้ยจริงๆ

“ได้พี่ เดี๋ยวงานเสร็จก่อน แล้วเราค่อยไปก็ได้ นะโอมนะ”
ส่งตาวิงค์ๆมาให้ผมด้วยนะติง   แปลกๆกินยามาผิดหรือเปล่าเนี่ย หรือว่าวันนี้ผมเผลอถอดรูปเงาะออก ร่างของสังข์ทองเลยโผล่ออกมาให้ติงหลงรักเข้า

แต่ถ้าผมเป็นสังข์ทอง สงสัยพี่ต่ายคงเป็นทศกัณฑ์น่ะครับ  ใครเอาหน้ากากยักษ์ไปให้แกใส่ตอนไหนเนี่ย หน้ายังกะโกรธใครมา คิ้วเข้มๆแทบจะชนกัน แล้วอยู่ๆพี่ต่ายก็พูดขึ้นมาว่า

”กินเสร็จรึยังงานยังเหลืออีกเยอะ”  
พี่ต่ายเองก็ไม่น่าจะอิ่มนะ ทำไมกินน้อยกว่าปรกติ อะไร๊ ขนมยังไม่ได้กิน  กะจะซื้อข้าวโพดต้มมากินซะหน่อย  ขนมหวานก็น่ากินไปหมด ยังไม่อิ่มเว้ย         ไม่เอาหรอกรักษาสิทธิ ขอพักหนึ่งชั่วโมง

“พี่ไปก่อนแล้วกัน ผมยังไม่อิ่ม”
ผมเลยก้มหน้าก้มตากินแล้วก็บอกพี่เค้าไป  ไม่กล้าสบตากลัวตัวแข็ง แบบเจอเมดูซ่า

“ติงไปก่อนดิ” ผมบอกติง พยักเพยิดให้ติงไปกับพี่ต่าย

“ติงจะกินขนมก่อน พี่ต่ายไปก่อนนะคะ”  ติงก็ยังไม่ไปครับ  
พูดเสียงหวานกับพี่ต่ายด้วย  พี่ต่ายก็เลยต้องกลับไปคนเดียวครับ ท่าทางหงุดหงิดนิดหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร สงสัยคงรีบไปทำงานจริงๆ พอพี่ต่ายไปเท่านั้นแหล่ะครับได้เรื่อง

    “โอม อูยกว่าจะได้นั่งกันสองคน อกจะแตกตาย....”
ติงยิ้มใหญ่เลยครับ ไม่รู้ดีใจอะไรนักหนา สงสัยเพราะผมมา

“ดีใจมากเลยที่โอมมา”   น่านไง ซื้อหวยไม่ถูกแบบนี้นะ เอ้าว่าไงต่อจะสารภาพรักละซิ

“เราชอบพี่ต่ายจัง โอมเป็นพ่อสื่อให้หน่อยดิ”

 ผมฟังผิดหรือติงพูดผิด  ใช่แน่เลยสงสัยดีใจมากไป พูดชื่อกลับกัน ที่จริงต้องเป็น “เราชอบโอมจัง พี่ต่ายเป็นพ่อสื่อให้หน่อยดิ” แต่มันแปลกนะ  ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ต้องไปพูดกับพี่ต่ายดิ แล้วมาพูดกับผมทำไม    :o

“นะโอมเป็นพ่อสื่อให้เรากับพี่ต่ายหน่อย นะโอมนะ”   :a6:
คราวนี้เข้าสองหูเต็มๆครับเอาไงดีว่ะ     สงสัยคราวนี้ผมต้องมาสวมบทเป็นนางอิจฉาแล้วล่ะมั๊ง
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 23-11-2007 17:01:13
อ่ะนะ

บทนางอิจฉา หนับหนุนเต็มที่  o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-11-2007 19:25:11
เอาละซี จะตัดสินใจยังไงน้า  :a11:  :a11:  :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 23-11-2007 19:50:14
โอมจะทำยังไงละเนี่ย :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-11-2007 05:52:11
555 อยากรู้แล้วสิ ว่าจะทำไง เดี่ยวสงสัยำด้มีงอนง้อกับนายต่ายแน่ๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 24-11-2007 09:07:21
สุขสันท์วันลอยกระทง บุญจะส่งให้เรารักกัน  :a9:

ขอให้ความรักอยู่คู่กับคนอ่านตลอดไปนะครับ วันนี้มาต่อแต่เช้าเลย
***********************************************
ตอนที่13

ติงพูดอะไรอีกเยอะเลยครับแต่เหมือนลมผ่านหูผม    :undecided:  เข้าหูไปแล้วทะลุ ออกไปเลย
 ไม่ได้ผ่านระบบรับรู้ในสมองผม  คงเหมือนที่เค้าว่าบางคนมีสมองไว้คั่นหู 

ได้ยินแว่วๆแผ่วๆ ใจผมตอนนี้นะคิดแต่ว่าผมกำลังเสียดาย แต่เสียดายติง
หรือเสียดายพี่ต่าย ผมก็ไม่รู้   ผมควรจะทำยังไงดีตอนนี้ หมดเรื่องเข้าใจผิดกับพี่ต่าย
  ก็มามีเรื่องนี้อีก

“ได้ไม๊โอม ทำอย่างนี้ดีไม๊”   อ้าว เวรเลยไม่ทันฟัง ติงพูดอะไรน่ะ

“ทำอะไรยังไงนะ ติง จะให้เราทำอะไร”  ผมพยายามตั้งสติฟังสิ่งที่ติงพูด 
ถึงแม้ตอนนี้ใจผมมันหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้  :m28:

“โอมน่ะ ปล่อยให้เราพูดคนเดียวตั้งนาน ไม่ฟังเลย ชอบทำแบบนี้เรื่อยเชียว”
ติงเริ่มงอนแล้วครับ  :a14:

“จ้าๆๆ ทำอะไรครับบอกผมมา” ผมรีบเอาใจครับ  เป็นแฟนไม่ได้ก็ยังเป็นเพื่อน
กันอยู่แต่พี่ต่ายนะซิ จะเอาไงดี ยุ่งจังเว้ย ดูนาฬิกาเดี๋ยวต้องรีบไปทำงานต่อแล้ว

“คืออย่างนี้นะโอม พี่ต่ายนะไม่ค่อยพูดเลย   เราก็ไม่ค่อยกล้าคุยกะแกเลย
ไม่รู้ว่าพี่เค้าคิดยังไงกะเรา”
เหอๆๆ ถ้าเจอพี่ต่ายพูดเมื่อวานแล้วจะตกใจ  พูดซะผมเคลิ้ม

“เราอยากให้เวลาโอมไปไหนกับพี่ต่ายก็ชวนเราไปด้วย แล้วพยายามชวนเราคุย
แล้วให้พี่ต่ายคุยด้วยน่ะ พอซักพักนึงสนิทกันแล้ว คงไม่มีปัญหา”

ผู้หญิงสมัยนี้กล้าขึ้นนะครับ  ชอบคนไหน ก็พยายามเข้าหาเลย     ผมว่าผู้หญิงบางคนกล้ากว่าผู้ชายอย่างผมอีก   แต่ก็ดีนะครับรักใครชอบใครก็ให้รู้กันไปเลย     ยุคนี้หญิงชายเท่าเทียมกันแล้ว ไม่ต้องมามัวอายหรอกครับผู้ชายยิ่งน้อยๆอยู่ (เพราะมาชอบกันไปเองซะก็เยอะครับ)

แต่ก็ให้มันพอสมควรยังไงก็ยังเป็นคนไทย  แล้วอีกอย่างถ้ารุกมากไปผู้ชายบางคนก็กลัวครับ  แต่ทำไม๊ติงจะต้องมาชอบพี่ต่ายด้วย  :a6:

“ผมก็ไม่ได้สนิทอะไรกับพี่ต่ายมากหรอกติง  เคยอยู่สายเดียวกันก็จริง แต่ทำงานด้วยกันจ๊อบเดียวเอง  จ๊อบนี้เป็นงานที่สองนะ”
ผมต้องออกตัวก่อนครับ ความสัมพันธ์เรื่องงานเราเป็นแบบนั้นจริงๆ  แต่เรื่องอื่นๆมันอธิบายยาก

“แต่เราเคยได้ยินพี่ๆเค้าคุยกันว่าตอนเข้าใหม่ๆ      พี่ต่ายขอโอมไปทำงานด้วยโดยเฉพาะ
เลยนะ เรายังเคยถามพี่ต่ายเรื่องนี้ พี่ต่ายยังไม่เห็นปฎิเสธ ยิ้มๆอีกต่างหาก”

ติงยังยืนยันจะให้ผมสนิทกะพี่ต่ายให้ได้ แล้วไม่รู้ไปเอาเรื่องอะไรมาพูด ไม่เห็นเข้าใจ    แล้วถ้าพี่ต่ายรู้จะทำยังไง คิดไปปวดหัว

“ไม่เคยเป็นพ่อสื่อ นะติง” ผมพยายามโอดโอยหน่อย  เพราะยังหาทางออกไม่ได้
“แต่ตอนนี้ขั้นตึกก่อนเหอะ นะ เดี๋ยวโดนดุ”ตัดบทชวนไปทำงานเลยครับ  แล้วไงค่อยตามๆน้ำไป

ขึ้นไปทำงานก็ไม่มีเวลามาทอดสะพานหารักกันล่ะครับ  พี่ต่ายแกโยนงานมาให้
ผมสองคนเพียบ เพราะลูกค้าแกโทรมาตามแล้ว แกต้องไปดูงานที่แกรับผิดชอบอยู่  เพราะงานที่เราทำอยู่เนี่ยมันเป็นการยืมตัวพี่ต่ายมาช่วยเท่านั้น  เผลอๆต้องอยู่ทำที่เหลือกันเอง แล้วรอพี่ต่ายมาสรุปทีเดียว

ผมว่างานก็เยอะขนาดนี้ แฟนเฟินไม่มีเวลามาหากันละครับ เวลาจะจีบกันยังไม่มีเลยมิน่าพี่ต่ายเลยไม่มีใคร(อันนี้ผมเดาเอาเองครับ)   เนยที่ไปทำงานด้วยกันกับพี่ต่ายบ่อยๆก็มีแฟนแล้ว    อ้อมเพื่อนผมมันก็ห้าวซะ  แต่ถ้าผมปล่อยติงให้อยู่กับพี่ต่ายเรื่อยๆ  พี่ต่ายต้องตกเป็นของติงแน่เลย    :m29:

ผมเลียบๆเคียงๆถามพี่ต่ายดีกว่าว่าคิดยังไงกับติง

แต่ตอนนี้ขอทำงานก่อนครับ.......เดี๋ยวไม่เสร็จ บางคนคิดว่าทำไมพวกผมงานหนักจังคุณก็ลองคิดดูซิครับ  บริษัททำบัญชี1 ปี ทำไปเรื่อยๆ       พวกผมเข้าไปตรวจที่เค้าทำมา1ปี ในเวลาไม่กี่วัน    บางที4 วัน อย่างยาวๆก็เป็นอาทิตย์  แล้วจะไม่ไห้หนักได้ยังไง เพราะมันมีกำหนดเวลาที่ต้องเสร็จบีบอยู่
      

ทำงานกันจนค่ำ อยู่ด้วยกันหมดทุกคนล่ะครับ  ก็งานมันเร่ง จน3 ทุ่มกว่า
พี่ต่ายชวนกลับ  ไม่มีใครอิดออด  ทุกคนเก็บของเร็วมาก ผมน่ะกลับกับพี่ต่ายอยู่แล้ว แต่ติงนะซิ
   
ติงขยิบตาให้ผมเป็นสัญญาณให้ช่วยหน่อย ช่วยไงว้า ตัวเองยังลุ่มๆดอนๆอยู่เลย

“ติงบ้านอยู่แถบไหน ทางเดียวกันรึเปล่า กลับๆพี่ต่ายไม๊”
ผมชวนหน้าตาเฉยเสมือนเป็นรถของตนเอง  ตอนนี้หลบตาพี่เค้าครับ กลัวเหมือนกัน

“นั่นซิ อยู่ไหน ปรกติติงกลับก่อนพี่เลยไม่ทันได้คุย”พี่ต่ายก็พูดดีครับ แต่ฟังเสียงก็รู้ว่าเหนื่อย
“บ้านติงอยู่แถวสี่พระยา....ค่ะพี่ผ่านไม๊”  ติงคงดีใจครับที่จะได้นั่งรถฟรีเหมือนผม

“อืม บ้านเราไปทางลาดพร้าวน่ะ”
พี่ต่ายบอกทางไปบ้านเราครับ อืม....บ้านเราฟังดูดีจัง

ผมดีใจจังที่บ้านติงคนละทิศเลย อ้าวผมแอบคิดในทางไม่ดีอีกละ ผมก็อยากกลับบ้านไวๆครับ  ถ้าต้องวนอยู่แต่ในเมืองก็ไม่ไหวกว่าจะถึงบ้านผม มิปาเข้าไปเกือบ 5 ทุ่ม จะว่าเห็นแก่ตัวก็ยอม
   
“งั้นติงขอติดรถไปต่อรถเมล์แล้วกันพี่”
ผมว่าก็ย่นระยะทางได้นิดเดียวเอง แต่ติงคงอยากใกล้ชิดพี่ต่ายให้มากกว่านี้มากกว่า

      ผมเลยให้ติงนั่งหน้าจะได้คุยกะพี่ต่ายสะดวกหน่อย  พี่ต่ายมองหน้าผม
ทำหน้าบึ้งนิดๆ แต่ผมทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้  ตอนแรกๆผมก็เป็นคนเริ่มชวนคุยครับ
พยายามหาเรื่องให้พี่ต่ายกับติงได้คุยกัน จนออกจะนอกหน้าไปด้วยซ้ำ 

แต่หลังๆเค้าก็คุยกันเอง         ผมก็เผลอเคลิ้มหลับไปไม่รู้ตัว จนได้ยินเสียงติงปิดประตู อ้าวลงไปตั้งแต่เมื่อไหร่  กำลังขยับตัวครับจะเลื่อนไปนั่งข้างหน้าแทน  เดี๋ยวพี่เค้าจะกลายเป็นคนขับซะ เราเองก็จะเป็นคนไม่มีมารยาทไป

      “ไม่ต้องมาหรอกอยู่นั่นแหล่ะ”
พี่ต่ายห้ามผมครับ แกมองสบตาผมผ่านกระจกมองหลังแวบเดียว ส่งแต่เสียงอันเยือกเย็นมาให้ผม

“ไม่อยากนั่งคู่กับพี่ก็ไม่ต้องมา ไม่อยากกลับกับพี่ 2 คนก็บอกมา”

บรรยากาศสงครามโลกเริ่มเข้ามาอีกแล้วครับ ผมเริ่มคิดว่าพี่ทำไมขี้หงุดหงิดจัง ผมจะไปกับพี่ได้เหรอ ผมมันคนคิดน้อย  หรือพูดอีกอย่างเป็นคนไม่ค่อยคิด   :o11:

เสียงเพลงที่หวานใสของนักร้องในวิทยุ    ไม่ได้ช่วยให้บรรยากาศดีขึ้นเลยครับ พี่ต่ายก็ตั้งอกตั้งใจขับรถ   เหมือนกับว่ากำลังเป็นคนขับรถของนายทหาร  คอแข็งตั้งตรง หน้าตรงมองไปข้างหน้า ไม่วอกแวกไปซ้ายขวา

ถ้าผมยังคงเงียบอยู่แบบนี้ คืนนี้ผมคงอกระเบิดตาย เพราะดูท่าทางพี่ต่ายคง
เอาซิบรูดปากไว้ครับ แถบแปะทับด้วยกระดาษกาวอีกชั้น คงจะเปิดปากยาก

   “ก็ติงนะ..... ติงน่ะ...”เกิดจะพูดไม่ออกขึ้นมาอีกละผม   จะบอกว่าติงชอบพี่นะซิ
   “ติงทำไม... โอมมีอะไรกับติง?” คอแข็งเหมือนเดิม ไม่หันมามอง แต่ซิบปากเปิดล่ะ
   “ติงเค้าชอบพี่ต่ายนะซิ.....จะมีอะไร”  ตัวเองไปเที่ยวหว่านเสน่ห์ใส่สาวๆแล้วยังมาพาล
คนอื่นอีกนะ

   
             “แล้วทำไม...... โอมจะมายกพี่ให้เค้าเหรอ”   พี่ต่ายมองสบตาผมทางกระจกครับ

   “พี่ไม่เคยชอบใคร แต่ถ้าคิดจะชอบก็ตัดสินใจเองได้  ไม่ต้องให้ใครมาชี้ทาง”

   “ผมก็ไม่ได้.........” พูดไม่ทันเลย  :m21:
   “แล้วทำไมชวนติงมา.........รู้ก็รู้ว่าเรามีเวลาไม่มากที่ได้อยู่กันสองคน”
   “ผมไม่รู้จะ.......”...ทำยังไงครับพี่.......แต่พี่แกแซงอีก

   “เวลาทำงานพี่ไม่คิดเรื่องนี้  แต่เลิกงานแล้วพี่อยากใช้เวลากับเรา....แค่ไม่กี่ชั่วโมง
ให้พี่ไม่ได้เหรอ”


 พี่ต่ายไม่มองหน้าผมเลยครับ แต่เสียงพี่เค้าเหนื่อยมาก คงรวมหลายๆอย่างทั้งเหนื่อยกายทั้งเหนื่อยใจ  ผมคงทำอะไรผิดไปจริงๆ ผมคงคิดถึงติงมากไป แล้วก็คิดถึงพี่ต่ายน้อยไป แล้วความเงียบก็เริ่มเข้ามาครับ พี่ต่ายไม่พูดต่อแล้ว

ผมไม่รู้ว่าผมเลื่อนหน้าไปตรงช่องระหว่างเบาะหน้าตอนไหน  ผมเอาคางเกยกับเบาะฝั่งคนขับด้านซ้าย  มือขวาผมอ้อมไปข้างขวาของเบาะคนขับตอนนี้เหมือนผมโอบหลังพี่ต่ายแต่มีเบาะรถคั่นระหว่างเราเท่านั้นเอง  ผมเอามือไปจับที่ไหล่พี่ต่ายทั้ง 2 ข้างบีบเบาๆ      มันตึงมากเลยครับคงเนื่องมาจากความเครียด สาบานว่าไม่ได้คิดอะไรทำนองนั้นจริงๆ   แค่อยากจะให้พี่เค้ารู้ว่าผมรับรู้ความรู้สึกที่พี่มีให้ผมได้

   อยากให้พี่รู้ว่าผมแคร์พี่นะ “ผมขอโทษพี่.....ผมขอโทษ......”  :m15:

ผมพูดเสียงเบาเหมือนกระซิบ ตอนนั้นกำลังเสียใจสิ่งที่ตัวเองทำไป  (แต่ที่จริงก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากเท่าไหร่นะ แค่พยายามเป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้นเอง)    มือผมยังคงบีบเบาๆครับ  พี่ต่ายก็ไม่ได้พูดอะไร  เกือบถึงทางแยกเข้าบ้านผมแล้วครับแต่รถติดไฟแดงอยู่ เลี้ยวขวาไปนิดนึงก็ถึง
บ้านผมแล้ว
    
แล้วพี่ต่ายก็หันหน้ามามองผมครับ  หน้าเราใกล้กันมากที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา ผมรู้สึกถึงลมหายใจของพี่    แล้วกำลังคิดว่าเราเหมือนมีลมหายใจเดียวกันรึเปล่า 

ผมไม่ทันจะพูดอะไรเลยครับ  ตอนที่พี่ต่ายเอาปากมาสัมผัสริมฝีปากผมเบาๆ   แล้วไฟก็เขียวพอดี พี่ต่ายเลยหันกลับไปขับรถ ผมมองไม่เห็นแววตาพี่ต่าย  ไม่รู้ว่าพี่หายโกรธผมหรือยัง

ตอนที่พี่ต่ายจอดรถหน้าบ้านผม ผมยังเอ๋ออยู่เลย แต่มือก็ยังคาอยู่ที่ไหล่ แต่เลิกนวดไปแล้วครับ  :impress:
***************************************************************


ขอให้ลอยกระทงกันด้วยความสุข  ทุกคนนะ :a10:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 24-11-2007 09:51:53
หวิวดีฮะ . . . แหม.. พี่ต่ายน่ารักจัง อิอิอิ +
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 24-11-2007 14:42:32
ถือว่าจูบละกัน

มีอะไรค่อยๆ คุย  ค่อยๆ ปรับกันนะครับ

โอก็ไม่น่าเลย เฮ้อออออ

 :o11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 24-11-2007 14:48:31
โอมบอกติงไปเลยว่าพี่ต่ายนะของเราห้ามยุ่ง  :m11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-11-2007 15:13:32
มาเป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-11-2007 16:19:08
โอมเดินหมากผิดรึเปล่าเนี่ย ไปบอกต่ายตรง ๆ แบบนั้น  :a6:  :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 24-11-2007 17:06:01
กรำ  :a6: แล้วโอมจะทำไงต่อไปดีเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-11-2007 00:11:51
เชียร์พี่ต่ายใจขาดดิ้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 25-11-2007 01:23:49
สนุกดีคับ

เดี๋ยวจะมาติดตามอีกนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 25-11-2007 09:22:28
ตอนที่14
      “จูบใครคิดว่าไม่สำคัญ จูบเบาๆเท่านั้นทำเอาฉันสั่นไปถึงหัวใจ”

เหมือนมีใครมาร้องเพลงรุ่นแม่ให้ฟังยังไงยังงั้น  นั่นแหล่ะครับความรู้สึกของผมในตอนนี้ ถึงแม้ผมจะรู้ว่าอย่างนี้มันก็แค่เอาปากมาแตะๆกัน  ไม่ได้เป็นดีพคิสเหมือนในหนัง แต่มันก็ยังทำเอาใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้เหมือนกัน   :m25:

ผมยังคงนั่งเอ๋ออยู่  ตอนที่พี่ต่ายเอามือมาจับมือผมที่ยังคาอยู่ที่บ่าของพี่  ผมสะดุ้งรีบดึงมือออกเลยครับ  แล้วเอื้อมมือไปเปิดประตูรถ    ลงดีกว่าเขินเว้ย  พี่ทำไรว่ะ ตกใจหมดเลย ไม่ทันตั้งตัว   
ผมไม่กล้ามองหน้าพี่ต่ายครับ  :o8:

ผมยังงงๆอยู่นานครับไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นกับผมอีก  ผมเดินเหม่อลอยกำลังจะ
เข้าบ้านแล้วครับ   แต่ยังทันได้ยินพี่ต่ายพูดเบาๆว่า   “ฝันดีครับ....โอม”

ครับผม ----ฝันดี แน่เลยพี่...........วู้ว---- อันนี้คิดในใจครับ    :m13:
****************************************************************

ผมกำลังเดินขึ้นบันไดไปห้อง  แต่ดันสวนกับพี่อั้มครับที่กำลังเดินลงบันไดมา
 
“โอมไม่สบายปะ ทำไมหน้าแดงๆ  มีไข้หรือเปล่า” พี่อั้มเอื้อมมือมาจับหน้าผากผมครับ
“เอ ไข้ก็ไม่มี ทำไมหน้าแดง หูแดง ไปเอายาไปกินดักไว้ก่อนดีกว่านะ”

“ไม่เอา เค้าไม่ได้เป็นไข้  ไม่ต้องหรอก จะไปอาบน้ำนอนแล้ว”   
ต้องรีบบอกแกครับ เพราะไม่งั้นวุ่นวายหายาหาน้ำมาให้ผมแน่ พี่อั้มชอบห่วงผมเรื่อยแหล่ะครับ
ไม่งั้นกลัวแม่ว่าไม่ดูแลกัน

“เออโอมแม่บอกว่าเสาร์นี้ให้กลับบ้าน  ไปดูบัญชีที่บ้านหน่อย แม่บอกได้เวลาใช้ทุนแล้ว”
ผมพอเข้าใจครับ เพราะผมเคยบอกแม่แล้วว่าเรียนจบผมจะทำบัญชีให้ที่บ้านเอง  ไม่ต้องไปจ้างคนอื่น กำลังไฟแรงครับตอนนั้น 

“โอเค แล้วตัวเองกลับด้วยไม๊” ผมถามเผื่อพี่อั้มกลับด้วยผมจะได้ไม่ต้องนั่งรถทัวร์ไป
“ไม่ไปหรอกเพิ่งกลับมาเอง  พอดีเค้ามีธุระไปคนเดียวแล้วกัน”

ทำงานก็เหนื่อยกลับไปพักที่บ้านซักคืนก็ดีเหมือนกัน ชาจน์แบตซะหน่อย  เปลี่ยนสถานที่บ้างจะได้มีเวลาคิดอะไรๆให้ดี  ผมเลยลืมเรื่องพี่ต่ายไปเลยครับพอพูดเรื่องบ้านขึ้นมา  ชักคิดถึงแม่ตะหงิดๆแล้วซิ

ตอนเช้าเจอกับพี่ต่าย  ผมว่าต่างคนต่างเขินครับ  ก็คงไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผู้ชายทั้งคู่นี่ (เอ๊ะ หรือพี่ต่ายเคย แต่ผมน่ะไม่เคยแน่)  เราเลยคุยกันเรื่องอื่นครับ

พี่ต่ายบอกผมว่าพี่เค้าส่งผมแล้ว ต้องไปบริษัทลูกค้าอีกที่นึงครับ  ที่จริงวันนี้เค้ากะเข้าบ่าย  แต่ไม่ได้บอกผมไว้ก่อนเลยไม่อยากให้ผมรอเก้อ  ก็ดีแล้วล่ะพี่ผมไม่อยากขึ้นรถเมล์   ผมก็อยากเจอพี่ด้วยแหล่ะ  พี่ก็อยากเจอผมใช่ไม๊ล่ะ เค้ารู้ทันนะ  :m12:

เวลาที่เราจะได้ทำงานด้วยกันน้อยมากเลยครับ  ยังไม่รู้จะวนมาเจอกันอีกได้ยังไง  เพราะคนละสายด้วย  ผมเองจนตอนนี้ก็ยังไม่มั่นใจในอะไรเลย แต่ผมก็มีความสุขครับ  ส่วนเรื่องติงผมคงไม่ยุ่งแล้วไปจีบกันเอาเองแล้วกัน    แต่ยังไงพี่ต่ายเค้าคงไม่สนหรอกก็ผมอยู่ทั้งคนนี่ อิอิ

อีกอย่างถ้าหมดจากงานนี้โอกาสที่ติงจะเจอกับพี่ต่ายก็ยากพอๆกับผม   ตอนนี้ปัญหามันเลยอยู่แค่ว่า ถ้าต่างคนต่างงานยุ่งขนาดนี้   เราจะรักกันไปได้นานแค่ไหนมากกว่า

“คิดอะไรอยู่เหรอ โอมเงียบเชียว”
“ก็เรื่อยๆพี่ต่าย    ไม่รู้ว่าพี่กับผมจะเจอกันได้อีกเมื่อไหร่ ถ้าจบจากงานนี้แล้ว”
“อย่าไปกังวลเลย ถ้าพ้นช่วงงานมากแล้ว ก็พอแบ่งเวลาได้เองล่ะ”

     “แต่ที่สำคัญโอมจะต้องไปเรียนปส.ด้วยนี่พี่” เวลาผมก็แน่นเหมือนกันนะ
“พี่ไม่เห็นกังวลเลย พี่มั่นใจ” พี่ต่ายหันมามองหน้าผมแล้วพูดยิ้มๆครับ

   อ้าว พี่มั่นใจก็ตามใจพี่แล้วกัน ผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะดีแล้วกัน 
*****************************************************************************

วันนั้นผมทำงานกับติงกันสองคนครับช่วงเช้า  ติงยังคงพูดถึงพี่ต่ายบ้าง  แต่ผมก็ไม่ได้เสริมอะไร
แต่แอบโล่งใจที่ติงบอกว่ากล้าคุยกับพี่ต่ายแล้ว  เพราะก่อนหน้านี้พี่ต่ายไม่คุยเรื่องอื่นเลยยกเว้น
เรื่องงาน  แต่เมื่อวานตอนที่ผมหลับพี่ต่ายก็คุยกับติงสนิทสนมดี

“พี่ต่ายพูดน้อยนะ แต่เราก็ชอบ บางคนพูดมากดูไม่มีฟอร์มเลย  อย่างนี้ดูน่าศึกษาดีนะโอม”
 ติงก็เอาแต่พูด เดี๋ยวก็แย่หรอกถ้าทำเสร็จไม่ทัน ผมได้แต่บ่นในใจ

แล้วที่ว่าคนพูดมากคงไม่ได้หมายถึงผมนะ ผมว่าผมพูดเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้นนะ  แต่ก่อนผมพูดไม่เก่งครับ แต่ตั้งแต่เริ่มทำงาน ต้องเปลี่ยนหน้าลูกค้าบ่อยๆ  เลยทำให้ต้องปรับปรุงนิสัยตัวเองให้เข้ากับคนง่าย 

ไม่มีใครหรอกครับชอบให้ใครมาตรวจว่าคุณทำงานถูกไม๊   มีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า แต่พวกผมก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะมันเป็นงาน   จะมาหยวนให้ผิดเป็นถูกก็ไม่ได้ เวลาไปขอเอกสารหรือไปสอบถามเรื่องงานกับลูกค้า  เลยต้องใช้ความเป็นเด็กกว่าเข้าหาครับให้เค้าเอ็นดูเรา 

แต่บางทีลูกค้ากลับมาสอนเราด้วยครับ เพราะส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์มากกว่าเรา  ก็เล่าเรื่องงานให้ฟังพอเพลินๆครับอย่าเพิ่งเบื่อไปซะก่อน

ผมเอาแต่ทำงานครับ ติงก็เลยไม่ได้พูดอะไรอีก ผมว่าวันศุกร์งานคงเสร็จ  วันเสาร์ผมจะได้กลับบ้านอย่างสบายใจ  ช่วงบ่ายก็ทำงาน งานคือเงิน เงินคืองานบันดาลสุขครับ  เหลือพรุ่งนี้อีกวันผมก็ไม่ได้ทำงานกับพี่แล้ว เราต้องแยกกันเป็นครั้งที่สองแล้วนะพี่กระต่ายของผม  ฮือๆ o7

พี่ต่ายเข้ามาทำงานตอนบ่าย 2 ครับ แต่ไม่ค่อยได้อยู่ที่ห้อง เห็นเข้าออกคุยกับลูกค้าตลอด   ผมสังเกตว่าเวลาพวกผมมีปัญหา  บางทีลูกค้าไม่ยอมแก้บัญชี  พอให้พี่ต่ายไปคุยยอมทำตามทุกที ทั้งที่ก็เหตุผลเดียวกันกับที่พวกผมได้บอกไปแล้ว น่าจะเกี่ยวกับความเชื่อถือด้วยครับ  พวกผมยังไม่มีตรงนั้นมากพอ  คงต้องทำงานกันอีกนานกว่าจะได้แบบพี่ต่าย

ช่วงที่ทำงานด้วยกันผมอดที่จะแอบสังเกตพี่ต่ายกับติงไม่ได้   :m22: แต่ดูก็ไม่มีอะไรในกอไผ่ทำให้ผมสบายใจขึ้นว่าสองคนนี้คงไม่มาสานสัมพันธ์กันง่ายๆหรอก

   วันนี้ติงขอกลับก่อนเพราะมีธุระ ผมเลยกลับกับพี่ต่ายกันแค่ 2 คน  เป็นคนอื่นคงอึดอัดกับเราสองคน แทบจะไม่ได้พูดอะไรกันเท่าไหร่เลย   

ผมว่าวันที่พี่ต่ายพูดว่าขอรู้จักผมมากขึ้น วันนั้นที่บ้านผมน่ะ   พี่เค้าพูดมากที่สุดแล้วครับ  ไม่รู้มากที่สุดในชีวิตหรือเปล่าด้วยซิ     แต่สงสัยเราอยู่ช่วงอินเลิฟ เหมือนกับว่าแค่นั่งใกล้ๆกันก็มีความสุขแล้วครับ   รถจะติดมากติดน้อยก็ช่างมัน
   
“วันอาทิตย์  โอมจะไปไหนหรือเปล่า?”
อยู่ดีๆกลายเป็นพี่ต่ายทำลายความเงียบครับ ถามผมขึ้นมา

“ผมว่าวันเสาร์จะกลับบ้าน   กลับมากรุงเทพฯวันอาทิตย์น่ะพี่”
คิดถึงบ้านมากครับตั้งแต่ทำงานไม่ค่อยได้กลับเลย  เพราะเสาร์อาทิตย์ก็อยากนอนนิ่งๆ  ไม่ทำอะไรเลยให้สมกับเหนื่อยมาทั้งอาทิตย์

“พี่ต้องไปจบงานกับพี่มีนซิวันเสาร์  นัดแกไว้แล้ว ว่าจะชวนโอมไปเที่ยวไหนซักหน่อย”
พี่ต่ายคงอยากคลายเครียดเหมือนกันครับ  ผมว่างานผมหนัก  แต่ของพี่งานก็หนัก  รักก็เหนื่อย ใช่ไม๊พี่ หุหุหุ

“โอมกลับบ้านยังไงน่ะ”   
ถามทำไมพี่จะไปส่งผมเหรอ  ก็พี่มีนัดแล้วนี่ อย่ามาหลอกให้เค้าดีใจนะ

“กลับรถทัวร์ครับ”

“แล้วไปกับใคร”

“ไปคนเดียวซิพี่   จะให้ไปกับใครเล่า คนที่อยากให้ไปก็ทำงานนี่” ผมหมายถึงพี่อั้มครับ

“อยากให้พี่ไปด้วยจริงเหรอ” พี่เค้ายิ้มใหญ่เลยครับ  แต่พี่ต่ายคงเข้าใจผิด   ที่จริงผมหมายถึงพี่อั้ม  เพราะผมอยากนั่งรถเก๋งกลับมากกว่านั่งรถทัวร์  แต่ไหนๆก็เข้าใจผิดไปแล้ว  หลอกให้คนแก่ดีใจไปดีกว่า

“จริงซิพี่ แต่พี่ต้องทำงาน ไม่เป็นไรหรอก ไปวันหลังก็ได้” 

พูดไปงั้นแหล่ะ ใครจะอยากพาผู้ชายเข้าบ้านละครับ  ถ้าเป็นแค่เพื่อนคงไม่คิดมาก แต่นี่เพื่อนก็ไม่ใช่ พี่ก็ไม่เชิง  ไม่รู้เป็นอะไรกันแน่ สถานภาพคลุมเครือ  ไม่รู้จะไปอธิบายยังไงกับที่บ้าน

“งั้นพี่ไปวันหลัง....ได้แน่นะ”   พี่ต่ายยิ้มแปลกๆแฮะ
“ได้ซิพี่ทำไมจะไม่ได้  บ้านผมไม่ได้หนีไปไหน ไปเมื่อไหร่ก็ได้”

“โอเค....งั้นพี่ไปวันอาทิตย์”  พี่ต่ายหันมาบอกผมครับ รถติดไฟแดงพอดี

“เฮ้ย...ไหนบอกจะไปวันหลังไง”     ผมขยับตัวนิดหน่อยครับกลัวไฟแดงจัง  ไฟแดงอันนี้
มันมีความหลัง

“อ้าวก็วันอาทิตย์อยู่หลังวันเสาร์ไง ...ก็โอมบอกให้ไปวันหลัง.....พี่ก็ทำตามที่โอมบอกแล้วไงไม่ใช่เหรอ”

เฮ้อ เอากับพี่เค้าซิ  ผมว่านะพี่ต่ายเนี่ย พูดน้อยก็จริง   แต่เวลาพูดทีต้องทำให้ผมต้อง อึ้งทึ่ง......ไปซะทุกครั้งจริงๆนะพี่  o22
***************************************************


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 25-11-2007 10:22:17
 :laugh:  พี่ต่ายนี่บทแกจะพูดก็รุกนักดีเนาะ เข้าทำนองพูดน้อยต่อยหนักเลยนะเนี่ย  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 25-11-2007 10:42:46
อิอิ  :laugh:

อึ้งเลยอะดิโอมม  เปนไงละไปหยอกพี่ต่ายดีนัก  อิอิ

สงสัยงานนี้

มีเฮ....  ฮิ้วววววววว

 :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 25-11-2007 16:43:24
ฮ่าๆๆ เป็นไงละหลอกให้พี่ต่ายดีใจ พอพี่ต่ายเอาจริง  อึ้งเลยละซี่  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 25-11-2007 18:35:32
ของเค้าแรงจริง ๆ อิอิอิ +
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Turn_righT ที่ 25-11-2007 18:41:45
มาลงชื่ออ่านด้วยคน   :a1:

พี่กระต่ายน่ารัก...ชื่อก็น่ารัก...คนก็น่ารัก  :m3: :m3: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 25-11-2007 19:47:00
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 25-11-2007 21:56:15
วันหลังจริงๆ แต่เว้นระยะหน่อยก็ดีพี่  :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-11-2007 23:21:01
ได้ใจจิงๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 25-11-2007 23:49:50
แหม อิจฉาคุณโอม จริงๆ เลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 26-11-2007 09:14:50
มาอ่านรอบเช้ากันก่อนนะ :a11:
*****************************************
ตอนที่15
มาถึงแล้วครับวันเสาร์ได้กลับบ้านแล้วดีใจจัง  ผมขึ้นรถทัวร์ไปแต่เช้าครับจากหมอชิตมาบ้านผมใช้เวลาไม่มากประมาณ 2-2.30 ชม.ก็ถึง   บางทีนั่งรถติดในกรุงเทพฯ ยังนานกว่านั่งรถกลับบ้านเลยครับ 

สบายๆครับมาถึงที่บ้านผมสิบโมงกว่าๆ  ที่ร้านก็ยังยุ่งครับ เพราะที่ร้านขายของวันเสาร์ด้วย แม่ก็ไม่มีเวลามาคุยหรอกครับ  ต้องดูแลลูกค้า ดูลูกน้อง ขายของ ส่งของ

เนื่องจากผมมีเวลาน้อยเลยต้องรีบเอาบัญชีมาดูครับ แต่ก่อนนี้ที่บ้านต้องจ้างคนทำบัญชีครับ  พอผมเรียนจบก็ร้อนวิชาครับ เสนอตัวทำให้ที่บ้าน อยากช่วยเค้าด้วยมากกว่า  แต่ผมเอาที่เค้าทำมาดูแล้วปวดหัวครับ ไม่รู้เอาตัวเลขมาจากไหน ถ้าพูดแบบบ้านๆก็คือมั่วครับ  ขนาดผมเพิ่งจบมาใหม่ๆ  มาดูยังรู้เลย

มันก็เสี่ยงหลายอย่างนะครับ  เสี่ยงสรรพากรด้วย  แล้วก็ได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องด้วย  แล้วเผลอๆถ้ามั่วมากมันผิดกฎหมายด้วยครับ  อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล่นๆนะครับเรื่องบัญชี

ผมเลยต้องมาตั้งระบบบัญชีกันใหม่  พยายามปรับๆเอาครับช่วงแรกๆก็ทำเองบ้าง  แล้วให้พนักงานที่มีอยู่ทำตามที่ผมสอน   หนึ่งอาทิตย์หรือสองอาทิตย์ผมค่อยมาดูก็ได้ครับ  วันนั้นทั้งวันผมก็เลยทำแต่งานอีกแล้วครับเหนื่อยจริงๆ 

พอตอนเย็น ป๋ากับแม่เลยชวนไปทานข้าวนอกบ้านกันครับ  ลูกรักกลับมาทั้งคน เฮฮามากครับ มีพวกพี่ๆผมที่ช่วยอยู่ที่บ้าน มีคุณอา คุณป้า ไปกันหมดเลย  แถวบ้านผมมีร้านอาหารอร่อยๆ บรรยากาศดีๆมากเลยครับ อากาศก็ดี มีคนกรุงเทพฯมาทำบ้านพักตากอากาศกันเยอะเชียว

ซัก1 ทุ่มครับมีโทรศัพท์เข้ามือถือผม   ตอนนั้นผมยังกินข้าวกันอยู่ที่ร้านอาหารเลยครับ  กำลังเจี๊ยวจ๊าวใหญ่เลย  ทีแรกผมก็ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ 

แต่พี่ผมสะกิด “เฮ้ย..โอมโทรศัพท์แฟนโทรมารึเปล่ารับซิ”  ไอ้พี่บ้ารู้ดีอีกล่ะ  เรื่องชาวบ้านละรู้ไปหมด

ก็พี่ต่ายโทรมาซิครับ  “โหล...เดี๋ยวนะ” :m26:

มองกันทั้งโต๊ะซิครับจะให้นั่งคุยที่โต๊ะได้ไง   ไม่ได้มองอย่างเดียวหูผึ่งกันเป็นแถว  ผมเลยต้องลุกออกไปคุยข้างนอกน่าจะดีกว่า 

“เพื่อนโทรมานะแม่.....เดี๋ยวมานะ”  ผมเลยต้องบอกแม่ไปอย่างนั้นก่อน
“คร๊าบพี่ ....ว่าไงคร๊าบ”
“เสียงใสเลยนะ ได้กลับบ้าน”พี่ต่ายแซวก่อนเลยครับ
“พี่ก็....แซวกันได้นะ พรุ่งนี้พี่มากี่โมงครับ ผมจะได้ตื่นรอ” ทีแรกกะนอนตื่นสายๆซักหน่อยอดเลยตรู

“พี่กะไปถึงซัก7 โมง เช้าไปไม๊โอม”    7 โมงเนี่ยนะ บ้านผมยังไม่ตื่นกันเลยวันอาทิตย์ที่ร้านปิด นอนอืดกันทั้งบ้าน 


“พี่จะมาทำไมเช้าขนาดนั้นพี่  กะมานอนต่อที่บ้านผมเหรอ”
ก็ 7โมงน่ะ กะว่ายังไม่อยากตื่นนะซิ มาทำไม๊แต่ไก่โห่  หรือตื่นเต้นจะได้เจอผม  หลังจากไม่เจอกัน 1 วัน หุหุหุ

“พี่อยากเดินป่าเขาใหญ่ เดินเช้าๆอากาศดีนะ ”   
หือ.......พี่จะกลับบ้านพี่ด้วยหรือไงพี่   ลืมตัวนึกว่าเป็นกระต่ายจริงๆเหรอพี่ ป๊าดโธ่

แต่ที่จริงผมก็ไม่เคยเดินป่านะ ชักเกรงๆว่าจะไหวหรือทำงานที่กรุงเทพฯ    ไม่มีเวลาได้ออกกำลังกายเลย  ขนาดบ้านอยู่แค่นี้ยังไม่เคยไปเดินป่าเลยซักครั้ง  ไม่ใช่เดินไปยังไม่ถึงแล้วเดี้ยงกลางทาง  หรือเป็นลมไปก่อน   อายเสียชื่อเจ้าที่ เอ๊ยเจ้าถิ่นพอดี

แต่ว่า  7 โมงผมก็ว่ายังเช้าไปอยู่ดี แล้วมาถึง 7 โมง    อย่างน้อยๆพี่ต่ายต้องออกจากบ้านตี  5  ไม่อยากให้พี่เค้าต้องลำบากขนาดนั้นครับ

“ผมว่าพี่มาถึงซัก 8 โมงดีกว่า พี่จะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามากด้วย บ้านผมสายๆก็ไม่ค่อยร้อนหรอกพี่”

ผมจะได้พอมีเวลาเตรียมตัวด้วย  ช่วงนี้ยังมีฝนครับ ไม่รู้จะมีทากหรือเปล่าผมจะไปหาอุปกรณ์ก่อนครับ  เช้าๆที่ตลาดพอมีขาย  หางานให้ผมจริงๆเลยพี่กระต่ายเนี่ย

“ก็ได้ 8 ก็ 8  พี่ก็แค่อยากเห็นเหน้าเรานานขึ้นมาอีกชั่วโมงแค่นั้นเอง”

“พี่อ่ะ..........”พูดไม่ออกเลย พี่ต่ายนะพี่ต่าย :o8:
“โอมฟังอยู่รึเปล่า  ทำไมเงียบไป” ก็พี่แหล่ะทำผมนึกคำพูดไม่ออกเลย

“แล้วโอมให้พี่ไปหาที่ไหน   ที่บ้านโอมนะ”

ที่บ้านจะดีเหรอพี่ .......เอาไงดีหว่า ไม่พาไปบ้านก็เสียมารยาทนะ  ผมไม่อยากให้ที่บ้านมาว่าทีหลังได้ว่าพี่ต่ายไม่มีมารยาทมาบ้านเราแล้วไม่เข้าไปไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ 

“ที่บ้านผมนะพี่  อยู่ที่ตลาดนะเข้ามาในเมืองแล้วก็เลี้ยวขวา.......ชื่อร้าน.......พอพี่มาถึงหน้าบ้านแล้วโทรหาผมแล้วกัน ผมจะได้เปิดประตูให้”

“คร๊าบ เจ้านาย พรุ่งนี้เจอกันนะ  ฟิตร่างกายให้ดีแล้วกัน  พี่ไม่อยากต้องมาอุ้มหากใครเป็นลมขึ้นมา หึ หึ”

“อย่ามาดูถูกกันนะพี่ เดี๋ยวเจอกัน  ยังไงผมก็หนุ่มกว่าพี่หลายปีนะ”
มาปรามาสกันแบบนี้ได้ไงกัน  ให้รู้ซะบ้างไผเป็นไผ(ใครเป็นใคร)

“ครับเด็กครับเด็ก  ไม่แก่บ้างให้รู้ไป   ฝันดีนะ...โอม  พรุ่งนี้เจอกัน”
“ครับพี่...บายครับ”  สงสัยวันไหนไม่ได้ยินพี่โอมบอกฝันดี ผมคงฝันร้ายแน่ๆเลย

“ว่าไงลูกคุยกันซะนานเลย”   แม่อดถามไม่ได้ครับ

ผมเลยเล่าให้ฟังคร่าวๆว่าพี่ที่ทำงานรู้ว่าผมกลับบ้าน   เลยอยากตามมาเที่ยวเดินป่าที่เขาใหญ่ด้วย    พรุ่งนี้ผมคงต้องไปกับพี่ต่ายทั้งวัน    แม่บ่นเสียดายว่านานๆกลับมาทีนึกว่าจะได้อยู่บ้านด้วยกันทั้งวัน

“แม่อ่ะ เดี๋ยวโอมมาใหม่ก็ได้  ใกล้ๆแค่นี้เองนะแม่นะ  ผมก็ไม่อยากให้พี่เค้ามาแต่เกรงใจปฎิเสธไม่ลง  พี่เค้าก็ดีกับผมมาก”
ผมคิดอย่างงี้จริงๆครับ ไม่อยากโกหกที่บ้าน ก็ตอนแรกยังไม่ได้คิดจะให้พี่เค้ามารู้จักที่บ้านด้วย 

“แม่ก็พูดไปงั้นเองลูก  แล้วนี่โอมต้องเตรียมข้าวของให้พร้อมนะ ทั้งถุงกันทาก น้ำดื่ม แว่นตา หมวกกันแดด  ของกิน.................”

มาเป็นชุดเลยครับ แม่คงนึกว่าผมไปปิคนิค มากกว่าเดินป่า  จะให้ผมเอาข้าวเหนียว ส้มตำ  ไก่ย่างไปด้วย แต่ที่บ้านผมเค้าก็ทำอย่างนี้กันจริงๆครับ ผมเลยชักลังเลว่าจะเอาไงดี  ขี้เกียจให้สัมภาระมันมากไป

“เออแล้วนี่มากันกี่คนล่ะ”
“คนเดียวแม่” คนเดียวในดวงใจ อิอิ  :m1:
“ทำไมมาคนเดียว แล้วจะสนุกเหรอ มันต้องมากันเยอะซิ ไปเดินหลายๆคนจะได้สนุกๆ”

“อิง ไปกับน้องด้วยซิเราน่ะ” แม่จะให้พี่ชายคนโตผมไปด้วยครับแต่ผมว่าพี่เค้าไม่ไปหรอก
“กี่โมง......ล้อหมุน” พี่อิงถามเพื่อตัดสินใจอีกทีครับ
“ 8 โมงอย่างเร็ว 8ครึ่งอย่างช้า”

“งั้นไม่ไป”    พี่อิงตัดสินใจได้เลยครับ  ผมว่าแล้วว่าไม่ไปหรอก
“ผมขี้เกียจตื่น วันอาทิตย์อยากนอนตื่นสายๆ”    พี่อิงให้เหตุผลกับแม่ครับ
“ตามใจถ้างั้นไม่ไปก็ไม่ไป  แค่ไปเป็นเพื่อนน้องแค่นี้ก็ไม่ได้”   

แม่ยังบ่นพี่อิงไม่เลิกครับผมเลยต้องห้ามทัพก่อนศึกนี้จะยืดเยื้อ จนพี่ผมต้องเสียเลือดเนื้อไป

“แม่ไม่เป็นไร  ผมไปกันสองคนได้  พี่เค้าคงเคยเดินป่าน่ะ  เพราะเค้ามาชวนผมเอง ไม่ต้องไปกวนพี่อิงหรอก” 
“กลับกันเหอะแม่  ผมจะไปนอนเอาแรง เดี๋ยวพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า”
ใช่ครับพรุ่งนี้ผมต้องไปจ่ายตลาดตอนเช้าอีก  เฮ้อ ไม่ได้พักเลยผม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ถึงแม้พี่ต่ายจะมาแปดโมงผมก็ต้องตื่นเช้าไปจ่ายตลาดอยู่ดีครับ   ก็ต้องซื้อข้าวของที่แม่ว่ามาละครับ โดยเฉพาะถุงกันทาก ยังไม่อยากบริจาคเลือดครับ   เคยเจอมาครั้งนึงตอนไปเดินภูกระดึง ยังขยาดไม่หาย   แล้วก็ซื้อไก่ย่างด้วย  (เพราะผมอยากกิน อันนี้ชอบส่วนตัว)  ซื้อไว้ก่อนเอาไปหรือเปล่าค่อยปรึกษากันอีกที

กำลังช๊อปปิ้งเพลินๆครับ  ยังไม่แปดโมงเลย  พี่ต่ายโทรเข้ามาละ

“โอมอยู่ไหน”

“อยู่ตลาดพี่ .....พี่อยู่ไหน”

“ตลาดพี่อยู่ที่ไหน”  พี่ต่ายถามกลับ  อะไรว่ะ ตลาดพี่  งง

“ตลาดอะไรพี่” วันนี้คงไปไม่ถึงไหน พูดกันไม่รู้เรื่อง

“อ้าวก็โอมบอกอยู่ตลาดพี่”

“ไม่ช่ายพี่ต่าย  ผมหมายถึงผมอยู่ตลาดครับพี่ต่าย” ไม่รู้พี่มามุขไหน เฮ้อ

“อ๋อ...พี่ก็นึกว่าตลาดชื่อพี่ ยังคิดว่าคงมีตลาดน้องด้วย หึหึ”

“พี่อ่ะ พูดอะไรไม่รู้เรื่อง พี่อยู่ไหนครับตอนนี้”

“อยู่หน้าบ้านโอม คุยกะแม่โอมอยู่”

ฮ้า คุยกับแม่ เจอกันได้ไงล่ะ ชิบโหงสงสัยต้องรีบกลับแล้ว  :o

 “งั้นเดี๋ยวผมรีบกลับแค่นี้นะพี่นะ เดี๋ยวเจอกัน”
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เดี๋ยวบ่ายๆค่อยมาลงต่อค๊าบ  o14


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 26-11-2007 09:23:54
อิอิ  มาถึงพี่ต้ายก็เข้าทางแม่ซะแล้ว

สงสัยคงมีขบวนขันหมากมาเร็วๆ นี้แน่นอน

555+

 :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-11-2007 09:30:54
อิอิ เข้าทางแม่เลยเหรอเนี่ย แต่เอ๊ะเคยเป็นเพื่อนของพี่ชายนี้หว่า อาจรู้จักกันมาก่อน

ตอนเดินป่าคงสนุก อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 26-11-2007 10:16:45
แหม่ๆ พี่ต่ายมาถึงเร็วจิง แถมไปทักทายผู้ใหญ่ก่อนเป็นที่เรียบร้อย ใช้ได้ ใช้ได้  o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 26-11-2007 10:44:14
หนทางสู่การเป็นลูกเขยอยู่ไม่ไกล พี่ต่ายสู้ ๆ  :a2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 26-11-2007 10:55:44
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม พี่ตายคุยกับแม่พี่โอมอยู่ อิอิ

ตีสนิจแม่ซะงั้น ครับ อิอิ

เอาใจช่วยทั้ง2ครับผม รักกันเร็วๆๆนะครับ

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 26-11-2007 12:31:35
มาถึงก็เข้าทางแม่ทันทีเลยหรอ  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 26-11-2007 13:26:33
เข้าตามตรอกตามประตู  อิอิ

พี่ต่ายอ่ะมีมุขเยอะใช้ได้นะนี่ เวลาอยู่กะโอนี่กลายเป็นอีคนเลยนะ อิอิ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 26-11-2007 15:02:40
ดูพี่ต่ายเป็นคนตรง ๆ ดีจัง  :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 26-11-2007 15:22:38
อ่านต่อนะคร๊าบ
คนเขียนฝากขอบคุณผู้อ่านทุกท่านนะคร๊าบ  o15
*****************************
ตอนที่16

ทำไมพี่ต่ายมาก่อนเวลาได้ละ (ลืมไปว่าแม่ต้องออกมารอใส่บาตรพระตอนเช้าทุกวัน)
 แล้วจะคุยอะไรกันยังไงบ้างเนี่ย   
 แม่จะรู้ไม๊ว่าพี่ต่ายมาหาเราเพราะอะไร
  แม่จะชอบ พี่ต่ายไม๊     สารพัดที่ผมจะคิด  :m29:

             ผมว่าในสมองผมมันยิ่งกว่ายี่สิบคำถามอีก  แต่ยังเบาใจว่าก็คงเจอแม่คนเดียว  เพราะเช้าๆคงยังไม่มีใครตื่น  ผมเลยรีบขี่รถกลับไปที่บ้านครับ  ทั้งที่ยังคิดว่าต้องซื้ออะไรขาดอีกแน่ๆ    แต่คิดอะไรไม่ออกครับ เดี๋ยวค่อยว่ากันใหม่

      “สวัสดีครับพี่ต่าย ทำไมมาถึงก่อนเวลานัดล่ะ”

             ผมยกมือไหว้พี่ต่ายครับ  ก็ผมเป็นเด็กดีนี่ ต้องเคารพคนที่อายุมากกว่า แม่สอนไว้ เพราะฉะนั้นต่อหน้าแม่เรียบร้อยไว้ก่อนเป็นดี
 
   “พี่กะเวลาผิดไปหน่อย ไม่นึกว่ามันจะใกล้แค่นี้เอง เลยมาแต่เช้าเลย”

   “แม่รอพระมาอยู่ ตอนที่เพื่อนโอมมา...... เห็นเก้ๆกังๆ ยืนอยู่หน้าบ้าน"   
             "แม่เลยเดาว่าต้องเป็นเพื่อนโอมที่บอกว่าจะมาวันนี้”
             “นี่แม่เลยชวนลูกต่ายใส่บาตรด้วยกันเลย  เพิ่งเสร็จเมื่อกี้ก่อนโอมมาแป๊ปเดียวเอง”

    “แม่น่ะ แอบไปใส่บาตรร่วมขันกับพี่เค้าแล้ว  เนียนนะแม่เดี๋ยวโอมจะฟ้องป๋า”
              มาแย่งลูกได้ไงกัน แม่ หึหึ อันนี้คิดต่อในใจครับ 

               “บ้าเหรอลูกคนนี้นี่ ลามปาม พูดอะไรกัน ไม่รู้จักโตซักที”
              ฮั่นแน่แม่แอบเขินครับ หน้าแดงเชียว สงสัยจะแอบคิดอะไรเหมือนกัน อิอิ   o16
         เราสามคนเลยหัวเราะกันใหญ่ครับ

        “ไปเข้าบ้านไปกินข้าวเช้ากันก่อน จะได้มีแรงไปเที่ยว ”
           แม่เดินนำไปก่อนครับ  ให้ผมเก็บของตามไป    พี่ต่ายรอเดินพร้อมผมตามหลังแม่ แล้วพูดภาษาของเราครับ ภาษาที่ไม่มีเสียง แต่อ่านตามปากยิ้มๆของพี่ได้ว่า

       “คิด-ถึง-จัง”

          ไม่ได้ยินเสียงเลยครับ แต่ทำไมมันวาบๆเข้ามาในใจ  เหมือนมีเสียงสะท้อนเข้ามาในหู หัวใจเต้นตูมตาม  แต่ไม่รู้ว่าหน้าแดงด้วยไม๊ แต่ร้อนๆที่หู   ผมทำอะไรไม่ถูก  เลยรีบเดินจ้ำตามแม่ไป ไม่ได้พูดอะไรซักคำ ก็คนมานเขินนี่........... :m7:

พอเข้าไปแม่ก็เรียกพี่ต่ายก่อนเลยครับ

 “ต่ายมานั่งนี่ก่อนลูก  รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวแม่ตั้งโต๊ะแป๊ปนึง  โอมเข้ามาช่วยแม่หน่อย”
“ให้ผมไปช่วยดีกว่าครับ คนกันเอง ทั้งนั้น ผมก็เหมือนลูกแม่คนนึง”

+
+
+

พี่เจอแม่ผมถึง20 นาทีไม๊พี่ มาเป็นลูกแม่ละ คุยกันแป๊ปเดียวเอง ใช้เวลาตั้งท้องกะคลอดกี่นาทีเนี่ย แล้วไม่ต้องโตเลยนะเกิดมาคงตัวเท่านี้แล้ว แม่เราเราหวงนะ

“งั้นมากันหมดเลยก็ดี จะได้รีบกินรีบไปเดี๋ยวสายจะร้อนนะ”
“คร๊าบแม่”    
ผมดูที่แม่เรียกพี่ต่ายแล้ว ผมค่อยเบาใจว่าแม่คงไม่สงสัยอะไร รอดตัวไปผมคราวนี้

                กับข้าวเช้าๆก็ง่ายๆครับ  พี่ต่ายก็เป็นคนกินง่าย เราเลยรีบกินจะรีบไปด้วย ระหว่างทานข้าวผมถามพี่ต่ายเรื่องสัมภาระว่าผมมีอะไร แล้วพี่มีอะไรบ้าง  อันไหนจะเอาไป ไม่เอาไป เพราะจะได้ช่วยกันถือครับ แล้วเอาไปมากก็เป็นภาระเปล่าๆ

          ทานข้าวเสร็จพี่ต่ายเลยลาแม่ก่อนครับ  แล้วบอกว่าจะกลับมาอีกทีตอนเย็น  แม่ก็อวยพรให้เดินทางปลอดภัย  เที่ยวให้สนุก แล้วยังมาฝากให้ช่วยดูแลผมด้วย  แม่ผมทำอย่างกะลูกอายุสิบกว่าขวบ  ทำเอาผมอายเลยครับ

              ตกลงพี่ต่ายจะขับรถขึ้นเขาใหญ่เองครับ  เราเลยรีบออกเดินทางจะได้ถึงจุดหมายไวๆ  เส้นทางจากถนนมิตรภาพ เข้าสู่ถนนธนะรัชต์ เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว  แต่ไม่ถึงขนาดแม่ฮ่องสอนนะครับ แต่ก็ต้องขับด้วยความระมัดระวัง เพราะมีอุบัติเหตุแรงๆหลายครั้งเหมือนกัน

           เนื่องจากยังค่อนข้างเช้าสำหรับนักท่องเที่ยว ถนนเลยค่อนข้างโล่ง สองข้างทาง เต็มไปด้วยต้นไม้ ถึงแม้จะน้อยลงกว่าเดิมเยอะเพราะเจ้าของที่ดินเดิม ขายให้กับนักท่องเที่ยว เอามาทำเป็นโรงแรม รีสอร์ท  ร้านอาหาร หรือบ้านพักตากอากาศกันไปเยอะแล้ว    แต่โดยรวมๆแล้วก็ยังมีพื้นดินที่เป็นป่า เป็นต้นไม้อีกมาก

        ผมเลยบอกพี่ต่ายให้ปิดแอร์ เปิดกระจก เพื่อที่เราจะได้สูดโอโซนกันเต็มที่
อากาศเย็นสบายครับ    ช่วงหน้าหนาวผมยังเคยพูดเล่นๆว่าที่อำเภอเราเปิดแอร์กันทั้งเมือง

               แนวโค้งของถนนที่ทอดยาวไปข้างหน้า  มีร่มเงาของต้นไม้พาดไปเป็นระยะ แสงแดดรำไรทะลุผ่านตามช่องใบไม้เขียวบ้างเหลืองบ้าง       ส่องผ่านลงมาเหมือนเป็นสีทอง ลดเย็นๆพัดเรื่อยๆทะลุผ่านเข้ามาในรถ ทำเอาผมเคลิ้ม ก็วิวมัน..........เฮ้อสวยจัง........สบายใจจัง จนผมอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้   :a10:

พี่ต่ายหันมามองผมแล้วถามว่า “โอมยิ้มอะไร คิดอะไรอยู่ดูมีความสุขจัง”

“ผมกำลังคิดว่าบ้านผมก็อยู่แค่นี้ แต่เป็นครั้งแรกที่ผมมาเขาใหญ่เช้าๆแบบนี้   ทำให้ได้เห็นภาพที่มันสวยขนาดนี้ ได้มาสูดอากาศดีๆแบบนี้”

“ขอบคุณครับพี่ต่าย ที่พาผมมา”
ผมอดหันไปมองหน้าพี่ต่ายไม่ได้ แอบส่งตาหวานไปให้ด้วย  พี่ต่ายยิ้มครับแล้วตอบผมว่า

“พี่ต่างหากต้องขอบคุณโอม ถ้าโอมไม่กลับบ้าน พี่ก็ไม่ได้มาที่แบบนี้หรอก”
“โอมรู้ไม๊ ปีนี้พี่ยังไม่ได้ออกต่างจังหวัดไปเที่ยวไหนเลยนะ ไม่มีเวลาเลย”

“ทำไมพี่ต่าย ทำงานมากจัง ไม่เหนื่อยบ้างเหรอ ผมว่าจะถามหลายทีละ”
“เหนื่อยซิ แต่พี่ก็สนุกกับงานนะ มันมีอะไรมาให้เราเรียนรู้ตลอดเวลา  ถ้าพี่ไปทำบัญชีตามออฟฟิซ
 พี่อาจจะไม่ชอบก็ได้”

“ไม่เอาโอมไม่พูดเรื่องงาน   วันนี้ขอเว้นวรรคเรื่องงานซักวัน”

“ได้เลยพี่ พี่เคยมาเขาใหญ่ไม๊”

“ไม่เคยนี่ครั้งแรก”

“เชยจังเลย....ใกล้แค่นี้เองนะ เค้าออกจะดัง” ผมอดแซวไม่ได้

“แล้วพี่เคยเดินป่าที่ไหนมาล่ะ”

“ใครว่าพี่เคย.....นี่ก็ครั้งแรก”

อ้าวพี่ เห็นเป็นคนชวนนึกว่าเจ๋ง แล้วไงดี ผมก็ครั้งแรก พี่ก็ครั้งแรก  จะพากันไปหลงป่าไม๊เนี่ย ผมก็อึ้งไปครู่ใหญ่  o22

“พี่ ผมก็ไม่เคยนะ” ผมบอกไปก่อนดีกว่า อย่ามาคาดหวังผมนา

“ไม่เคยอะไร พูดซะสั้น”

“ก็ไม่เคยเดินป่าซิ ...............ครั้งแรกเหมือนกัน”
พี่ต่ายเหยียบเบรคจึ๊ก...จึ๊ก... หัวทิ่มเลยครับ แล้วลดความเร็วลง

พี่ต่ายหันมามองหน้าผม  แล้วคงรู้ตัวขับต่อ เพราะรถยังไม่หยุดทันที  พี่ต่ายนะพี่....พี่ทำไมขับรถห่วยแบบนี้ล่ะ ถึงตายนะเนี่ย ถ้าผมไม่ใส่เข็มขัดนิรภัย  มีหวังหัวโนแน่เลย  แม่อุตส่าห์ให้มาดูแล ไหงทำแบบนี้

“เป็นไรพี่ มีอะไร หมาเหรอ”
“ไม่ใช่...โทษที...พี่นึกว่าโอมเดินป่าบ่อยเห็นบ้านอยู่แถวนี้... เอาไงดี” พี่ต่ายมีลังเลครับ
 
          แต่ผมเดินหน้าแล้วไม่มีถอย อายที่บ้านซิกลับตอนนี้น่ะ เลยทำเป็นใจดีสู้เสือ  ก็คงเหมือนเดินน้ำตกธรรมดาแหล่ะ อีกอย่างที่เขาใหญ่มีให้เลือกหลายเส้นทางครับ เราก็เอาแบบง่ายๆก่อนซิพี่ก็     เสียแรงเป็นกระต่ายซะเปล่า สู้เต่าๆแบบผมก็ไม่ได้

“เอาน่าพี่ คงไม่ลำบากหรอก อย่ากังวลไปเลยโอมอยู่ทั้งคน เข็มทิศผมก็เอามา   ไก่ย่างผมก็มี เอ้าแถมข้าวเหนียวด้วย   หลงยังไงก็ได้กินไก่   ไม่ให้พี่กินข้าวลิงหรอก 5555”

“สู้ๆ  พี่ต่ายสู้ๆ”  :a9:

 ผมพยายามสร้างความมั่นใจครับ ลืมตัวตะโกนเชียร์แบบหนังเกาหลีมากไปหน่อย   จนพี่ต่ายคงสมเพชปนขำ  อดหัวเราะไม่ได้  คงรู้แล้วว่าคบเด็กสร้างบ้านมันเป็นยังไง

“โอม หึหึ เล่นอะไรเป็นเด็ก  พี่จะบอกโอมว่าพี่ไม่กลัวหลงหรอก  กลัวแต่จะพาลูกรักกลับไปให้แม่เค้าไม่สมบูรณ์เท่านั้นเอง ก็แม่โอมให้พี่ดูแลเราน่ะ”   

“พี่ ไม่ต้องเลย ผมโตแล้ว พี่อย่าแปลงร่างเป็นกระต่ายโดดหนีผมไปตอนอยู่ในป่าแล้วกัน ผมกลัววิ่งตามพี่ไม่ทัน”   ผมพูดแบบขำๆครับ

“โอมไม่ต้องตามพี่หรอก มีแต่พี่จะคอยวิ่งตามโอม”

 พี่อย่ามาทำเสียงแบบนี้นะ แล้วอย่ามามองผมด้วยสายตาแบบนั้นด้วย..........  ผมกลัว 

ไม่ได้กลัวว่าจะรักพี่มากขึ้นหรอก
+
+
+
+
กลัวพี่ไม่มองทางแล้วรถมันจะแหกโค้งนะซิพี่พี่พี่.................
*************************************
 คราวหน้าคงถึงป่าซักที....เฮ้อ :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 26-11-2007 15:47:44
อ้างถึง
“ให้ผมไปช่วยดีกว่าครับ คนกันเอง ทั้งนั้น ผมก็เหมือนลูกแม่คนนึง”
^
^
^
ได้ที ทำเนียนเลยนะ พี่ต่าย  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-11-2007 18:36:56
คงไม่พากันหลงป่านะ  :a3:  :a3:  :a3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-11-2007 22:33:30
“โอมไม่ต้องตามพี่หรอก มีแต่พี่จะคอยวิ่งตามโอม” ชอบๆๆๆๆประโยคนี้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 26-11-2007 22:37:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 26-11-2007 22:46:55
มาอ่านแล้วคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 27-11-2007 09:50:07
หนาวกันบ้างไม๊นะ :a3:

ไปขึ้นเขาใหญ่กันดีกว่าครับ  ช่วงนี้มีคนมาตั้งเต้นท์กันเยอะเชียว  o21
************************
ตอนที่17

                 ยังครับชีวิตผมยังอยู่ดีครบทุกประการครับ    ถึงแม้พี่ต่ายจะหยอดคำพูดให้ผมคิดมาก(นั่นซิหรือแกไม่คิดแต่ผมคิดไปเองก็ไม่รู้ อิอิ)    แล้วก็มองผมซะผมเขิน  แต่พี่ต่ายก็สมาธิดีครับ  ขับรถปลอดภัยดี  แต่ยกเว้นไอ้ที่หัวทิ่มคราวที่แล้วนะ .... 555

                 ตอนที่พี่ต่ายมองมา     ผมว่า......จะบอกว่าพี่ต่ายตาหวานก็คงไม่ได้  เพราะพี่ต่ายไม่ใช่คนตาโตมาก  แต่เอาเป็นว่ามองผมมาทีไร ผมไม่กล้าสบตาตอบแล้วกัน

                ประมาณ 25กม.ครับจากถนนมิตรภาพ  ก็จะถึงด่านเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่  เราต้องเสียค่าเข้าชมคนล่ะ 40 บาท ค่ารถ 50 บาท ก็คิดซะว่าช่วยราชการแล้วกันครับ เพราะค่าใช้จ่ายก็มาก ต้องจ้างเจ้าหน้าที่จำนวนมากมาทำงาน   แต่ถ้าคุณ อายุ 60 ขึ้นไปก็ฟรีครับ   (อันนี้ผมให้ข้อมูลเผื่อพาคุณพ่อคุณแม่ที่บ้านไปครับ) แต่ถ้าเป็นต่างชาติคนละ 400 บาทครับ
 
                   ผ่านด่านเก็บเงินมาซัก 500 เมตร ด้านขวามือจะมีศาลของเจ้าพ่อเขาใหญ่ตั้งอยู่  ผมเลยให้พี่ต่ายกดแตรรถแสดงความเคารพท่าน     แล้วผมก็ยกมือไหว้ให้ท่านช่วยคุ้มครองให้เราเดินทางปลอดภัยครับ

              จากด่านเก็บเงินต้องขับรถขึ้นเขาไปอีกประมาณ14 กม.ครับ  แต่ไม่ใช่ทางราบนี่ครับอย่างที่บอกว่าขึ้นเขา  เส้นทางคดเคี้ยวกว่าตอนอยู่ข้างล่าง บางช่วงเป็นโค้งหักศอก  ที่สำคัญชันมากครับ  แต่ถนนดีเพราะราชการเพิ่งปรับปรุงทำเสร็จใหม่ๆ

             แต่อากาศซิครับเย็นกว่าช่วงที่ผ่านมาอีก  ผมต้องเลื่อนหน้าต่างขึ้นนิดนึงเพราะหน้าเริ่มชา ลมเย็นมันตีหน้าครับ อากาศทั้งเย็นทั้งสดชื่นครับ มือผมเย็นเฉียบเลยผมไม่ทันคิดครับ ตอนที่เอามือไปจับมือพี่ต่าย

“หนาวเนอะพี่ ดูดิพี่มือผมเย็นเฉียบเลย”

          ผมมันคนขี้หนาวครับ สงสัยเป็นเพราะเมื่อกี้เปิดหน้าต่างกว้างไป เลยขนลุกนิดหน่อย แต่พี่ต่ายแกพลิกกลับฝ่ามือขึ้นมาจับมือผมแทน แล้วบอกว่า

“งั้นจับมือพี่ไว้จะได้อุ่น”

           มือของพี่ต่ายก็อุ่นจริงๆครับ ตอนนี้พี่ต่ายดึงมือผมมากุมไว้วางที่เบาะข้างๆขาแกครับ  ผมก็ดึงมือกลับนะ (พอเป็นพิธี อิอิ ก็มันอุ่นขึ้นจริงๆนี่นา)  แล้วผมก็บอกพี่ต่ายว่า

“อย่าเลยพี่ๆต้องขับรถ เดี๋ยวก็ต้องเปลี่ยนเกียร์อีก มันจะอันตราย”
 แต่พี่เปลี่ยนเกียร์เสร็จแล้วอย่าลืมมาจับมือผมต่อแล้วกัน หุ หุ หุ

“เหอะน่า...”    พี่ต่ายพูดแค่เนี้ยครับ แล้วจับมือต่อ

           ตอนนี้พวกเราเริ่มขึ้นมาสูงแล้วครับ  มองไปทางซ้ายมือ เห็นต้นไม้เขียวขจีขึ้นอยู่หนาแน่นเลยครับ  มองเห็นทิวเขาน้อยใหญ่ปกคลุมหนาทึบ  บนยอดเขามีหมอกจางๆลอย

             ผมหันไปดูข้างหลังยังเห็นถนนที่เราเพิ่งขึ้นมาอยู่ลิบๆเลย  แต่ถ้ามองไปที่เหวข้างล่าง ไม่เห็นพื้นดินแล้วครับมีแต่ป่าอยู่   ไม่น่าเชื่อนะครับว่าจะมีสถานที่ที่เป็นธรรมชาติขนาดนี้อยู่ใกล้กรุงเทพฯนิดเดียวเอง

              อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่18 กันยายน 2505 มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 2,168 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 1,355,396.96 ไร่ กินพื้นที่4 จังหวัด คือปราจีนบุรี นครราชสีมา นครนายก และสระบุรี   และปัจจุบันได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก จากยูเนสโก เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2548   น่าภูมิใจจริงๆครับ

                 พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าทุ่งหญ้า มีป่าเต็งรังนิดหน่อย  มีพันธ์พืชไม่ต่ำกว่า 2,000-2,500 ชนิด  และยังมีสัตว์ป่า และนกต่างๆอยู่อีกกว่า 294 ชนิด       
ผมเองก็ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องเขาใหญ่เท่าไหร่หรอกครับ  ผมก็แค่เคยมาส่องสัตว์ตอนกลางคืนสมัยยังผมเป็นเด็กๆ  แล้วก็มีโอกาสได้มาพักค้างคืนที่บ้านพักของอุทยานฯ เป็นบางครั้งเท่านั้นเอง

            แต่ผมก็รักเขาใหญ่มากครับ  อยากให้เขียวแบบนี้ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพันธ์ไม้แบบนี้   มีสัตว์เยอะๆแบบนี้ไปนานๆ
 
             หูผมเริ่มอื้อๆแล้วครับ   ก็มันสูงมากขึ้นไปเรื่อยๆ โชคดีที่ไม่มีใครเมารถ กำลังมองวิวข้างทางเพลินๆ  พี่ต่ายแตะเบรคหน่อยนึง คราวนี้ดีหน่อยหัวไม่ทิ่ม

“อะไรพี่” ผมหันไปถามพี่ต่าย  เห็นทำตาโต

“เหมือนตัวอะไรไม่รู้วิ่งตัดหน้ารถ”

“ไหนพี่ ไหนกัน....ดูด้วย”

“มันวิ่งเข้าไปป่าไปแล้ว ไม่รู้ตัวอะไร หางยาวๆเป็นพวงเลย”

“ว้า...... อดดูเลย”

“เดี๋ยวก็มีอีกน่า รอดูไปก่อน”

             แต่ก่อนสมัยผมยังเด็กๆสัตว์เยอะครับ  บางทีขับรถอยู่บนอุทยานฯนี่แหล่ะ เจอช้างเป็นโขลงกำลังข้ามถนน ตกใจกันแทบแย่กลัวช้างเหยียบแต่ก็ตื่นเต้นดี  ทั้งลิง ทั้งกวางก็มาก แต่ต้องมานอนค้างครับ  ทั้งลิง เม่น  กวางเดินมาหาที่บ้านเลยตอนเช้าๆ

แล้วอยู่ดีๆผมก็ถามพี่ต่ายขึ้นมา

“พี่ต่าย......ผมถามอะไรพี่หน่อยซิ”    มีอยู่เรื่องนึงที่ผมคาใจ

“เรื่องอะไรครับ”

“ทำไมวันแรกๆที่พี่เจอผมพี่ต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ” นี่แหล่ะครับเรื่องที่สงสัย

“ทำแบบไหนเหรอ  ที่ว่าแบบนั้นน่ะ”

“ก็แบบแสดงออกว่าไม่ชอบผมน่ะ”
จริงๆอยากบอกว่าพี่กวนตรีนมาก แฮ่ะๆ แต่ยังเกรงใจอยู่  อันนี้เลยขอจริงใจน้อยลงหน่อย

“เอาคำตอบแบบจริงๆ หรือเอาแบบเล่นๆ”   แน่ะ มีให้ทางเลือกอีก

“เอาแบบหวานๆ หรือเอาแบบโหดๆ” 

พี่ต่าย.........ผมถามพี่ดีๆไม่ได้สั่งซื้อพิซซ่านะจะได้เลือกหน้าได้   งั้นขอหนานุ่มแล้วกัน ใส่ชีสเยอะๆด้วย เพิ่มแองโชวี่  เอ๊ยไม่ช่าย  ผมก็บ้ากันไปใหญ่

“ต้องเลือกไม๊ ....หรือเอาถูกทุกข้อได้”
ผมกวนกลับบ้างครับ  ไม่ยอมฝ่ายเดียวหรอก  พี่ต่ายยิ้มเลยครับ คงปลงกับผมแล้ว

“ก็พี่ปิ๊ง.......โอมไง”   
พี่ต่ายทำผมเขินอีกละ กระโดดหอมแก้มเลยดีไม๊   o17  ไม่ได้ซิ...ต้องรักนวลสงวนตัว  เย็นไว้ก่อน

“ ถ้าอยากให้โอมจำได้ ก็ต้องสร้างความสนใจไว้ก่อน โอมจำพี่ได้ไม๊ล่ะวันนั้นน่ะ ถามจริง”

“ใครจะจำไม่ได้ละพี่ ผมโดนซะขนาดนั้น วันนั้นเซ็งเลย” ก็วันนั้นน่ะโดนกัดไปหลายแผลครับ จะให้ลืมง่ายๆได้ไง แต่ยังไม่หายเขินครับ

“แต่อันนี้พี่พูดเล่น........ ตอบแบบเล่นๆ แบบหวานๆเอาใจโอม” พี่ต่ายหัวเราะหึหึ

แป่ว .......หน้าแตกหมอแทบไม่อยากรับเย็บเพราะกลัวเปลืองยาชา เพราะท่าทางจะหน้าด้านมาก  ผมว่าผมกวนแล้วนะ พี่กวนกว่าผมอีก โชคดีเมื่อกี้รักษาฟอร์มไว้ดีไม่แสดงอะไรออกไป สมควรโกรธไม๊เนี่ย  :a6:

“จริงๆแล้วเพราะพี่เคยเจอมาเยอะแล้วไง  เด็กเรียนจบมาใหม่ๆได้เกียรตินิยม  จบจากมหาวิทยาลัยดังๆ  เชื่อมั่นว่าตัวเองเก่งทำได้ทุกอย่าง จนบางทีมองไม่เห็นหัวคนที่อายุมากกว่า ประสบการณ์มากกว่า แต่ให้ไปทำงานเข้าจริงยังต้องหัดกันอีกเยอะ”

 จริงของพี่ครับ  แต่ผมพูดเล่นเองนะวันนั้นน่ะ  ไม่ได้จริงจัง อยากแก้ตัวครับ  แต่ตอนนี้ปล่อยให้พี่เค้าพูดไปก่อน

“เวลาเราไปที่ลูกค้าต้องเจอคนหลายแบบ บางทีก็อายุน้อยกว่า แต่บางคนอายุมากกว่าจนแทบจะเป็นแม่เราได้  บางคนก็เรียนสูงกว่าเรา บางคนก็เรียนน้อยกว่าเรา บางคนที่เราต้องไปติดต่อด้วยเป็นคนงานด้วยซ้ำ”

“ถ้าเรามีตัวกูของกูมากไป เชื่อมั่นมากไป   ทำงานอะไรถึงจะเก่งแค่ไหน  เรียนมาสูงขนาดไหน ก็ไม่สำเร็จไปด้วยดีหรอก หรือถึงสำเร็จก็ไม่มีใครชอบ”

“พี่ก็เลยเบรคๆน้องใหม่ไว้ก่อนแค่นั้นเอง”

“ครับพี่..”   สาธุ  สงสัยวันนี้โควตาพูดของพี่หมดล่ะ  พูดยาวขนาดนั้น  :amen:

แต่ผมเข้าใจที่พี่เค้าพูดนะครับ แต่ผมไม่ถึงขนาดนั้นหรอก  อาจเป็นบ้างแต่ไม่ใช่คนก้าวร้าว  ผมก็รู้ผมต้องเรียนรู้อีกเยอะ  ก็ว่าจะให้พี่สอนนี่แหล่ะ

“แต่ผมพูดเล่นนะพี่ ไม่ได้จริงจังวันนั้นน่ะ”

“พี่รู้แล้ว ตอนหลังก็แค่แกล้งสนุกๆเท่านั้นเอง” สนุกมากเลยนะพี่ พี่สนุกแต่ผมน่ะทุกข์จะตาย

“พี่ไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องสนุกๆ  จะเป็นเรื่องที่ทำความสุขให้พี่ได้”

ผมว่าพี่ต่ายแกขยันหยอดบ่อยจังครับ  ผมละกลัวใจตัวเอง เกิดไปรักเค้ามากๆ  แล้ววันหลังเกิดเลิกกันผมมิช้ำใจตายเหรอ เลยต้องเปลี่ยนเรื่องดีกว่าครับ

“พี่แวะนี่ก่อนไม๊” ยังไม่ทันพูดไรต่อครับ ถึงจุดชมวิวพอดี ผมเลยชวนพี่ต่ายแวะจอดรถชมวิวหน่อย ก่อนไปเดินป่าจริงๆแล้วครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เฮ้อ.........ไม่ถึงป่าซักที
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 27-11-2007 10:07:36
อ่านตอนนี้แล้วเขิลล์  :o8:
สวีทหวานจ๋อย หยอดเป็นระยะๆ :m4:
ถึงอากาศจะเริ่มเย็น แต่ก็มีคนข้างๆนั่งกุมมือให้อุ่นใจ  :give2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-11-2007 10:41:35
รักเลย.........คนฟอร์มเยอะแบบพี่ต่ายเนี่ย อิอิ :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 27-11-2007 11:47:27
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 27-11-2007 12:44:46
หวานแหวว โรแมนติคกันน่าดู   :m3: ไม่อายสิงห์สาราสัตว์บ้างเหรอ

เกรงใจมังน๊าาา  :a14: อิจฉา
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 27-11-2007 16:36:30
 :m22:  ตามอ่านจนทันซะที

ขอบคุณ t-jangน้าที่ช่วยโพสต์ต่อ

 :m18:   รออ่านตอนต่อปาย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 27-11-2007 17:44:31
 :a3:ชอบมากๆๆครับ จะติดตามอ่านต่อไป
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-11-2007 19:40:51
ต่ายสอนดีเนอะ  :a11:  :a11:  :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 27-11-2007 23:27:46
ตอนแรกไม่เคยสนใจเลยเรื่องนี้ แต่ปรากฏว่าเมื่อหลงเข้ามาอ่านแล้ว ติดใจเลย ชอบมาก  :m3:ถ้าไม่ได้อ่านคงเสียใจมากเลย :m8:ยังไงก็มาต่อบ่อย ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 28-11-2007 00:00:19
จะหวานกันไปถึงไหนกันเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 28-11-2007 08:23:16
หวานกันจังเลย

อิอิ

ชอบๆ

 :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 28-11-2007 08:24:58
เดินป่ากันละ คงไม่หลงนะ :m18:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 28-11-2007 09:41:21
 o21 o21 ถ้ามาเขาใหญ่ตอนนี้จริง  คงหนาวกว่าในเรื่องแน่ๆเลย 
ไปดูกันต่อนะ :a1:
**********************

ตอนที่18
              ระหว่างทางที่จะไปที่ทำการอุทยานมีจุดชมวิวอยู่ข้างๆถนนครับ  เนื่องจากยังเป็นยามเช้า  แม้จะเกือบเก้าโมงเช้าแล้ว      แต่ก็ยังมีหมอกอยู่บางเบาครับล่องลอยเหมือนม่านสีขาวพาดผ่านอยู่ตามยอดแนวเขาที่ลดหลั่นกันไปสูงๆต่ำๆ   เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่หลากพันธ์สีเขียวครึ้ม  ต่างเติบโตอยู่ด้วยกันบนเทือกเขาใหญ่น้อย 

              ผมก็ไม่รู้ว่าภูเขาด้านไหนกินพื้นที่จังหวัดอะไร  เพราะมันดูกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ผมรู้สึกแค่ว่ามันเขียวดีจัง มันสดชื่นมากๆ  ทำงานอยู่ในกรุงเทพฯทุกๆวันเห็นแต่รถ  ตึกอาคาร สำนักงาน 

               ผมเคยทำงานบนสำนักงานสูงๆมองวิวของตึกระฟ้า   เคยดูทั้งในตอนกลางวันและยามค่ำคืน   วิวของหมู่ตึกอาคารก็สวยงามไปอีกแบบครับโดยเฉพาะตอนกลางคืน   แต่เวลามองแล้วมันไม่ให้ความรู้สึกสดชื่นแบบนี้

               เหมือนอากาศที่บนเขาใหญ่มันผ่านจากจมูกเข้าไปถึงข้างในร่างกายทั้งหมดของผม ผ่านทะลุเย็นยะเยือกเข้าไปถึงใจ

             เรายืนมองภาพของป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์นี้ด้วยกัน  ผมว่าพี่ต่ายเองก็คงมีความสุขไม่ต่างไปจากผม ไม่มีคำพูดอะไรจากเราสองคน  ได้แต่ยืนดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติด้วยกัน   

           เรากำลังสูดลมหายใจอันบริสุทธ์ของธรรมชาติที่มีให้กับมนุษยชาติร่วมกัน  เก็บภาพแห่งความงามไว้เพื่อเป็นกำลังในการกลับไปทำงานต่อไป จนได้ยินเสียงนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นที่เริ่มเดินเข้ามา  พี่ต่ายยกมือดูเวลา

“โอมไปกันเถอะครับ เราคงต้องรีบไปแล้ว เดี๋ยวจะสายเกินไป  ต้องไปติดต่อเจ้าหน้าที่อีก”

            พี่ต่ายยื่นมือมาให้ผม ทั้งที่คนอื่นกำลังเดินมาเพียบครับ แต่ผมคงกำลังโดนมนต์สะกดของธรรมชาติ  ผมยื่นมือไปให้พี่ต่ายเดินจูงผมกลับไปที่รถด้วยกันโดยไม่รู้ตัว :give2:

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

               การที่เราจะไปเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ครับ  โดยเข้าไปติดต่อที่สำนักงานที่ทำการอุทยานฯ โดยต้องแจ้งชื่อที่อยู่ของผู้เดินทาง   เราสามารถขอแผนที่เส้นทางเดินป่าได้ครับ  แล้วถ้าใครต้องการให้เจ้าหน้าที่เป็นมัคคุเทศก์นำทางก็ติดต่อที่ทำการฯได้ครับ  จะส่องสัตว์ก็จองรถที่นี่  จะติดต่อจองบ้านพักก็ทำได้ครับ แต่ทางที่ดีติดต่อล่วงหน้าดีกว่าครับเพราะศุกร์เสาร์มักจะเต็ม

                 เส้นทางเดินป่ามีให้เลือกหลายเส้นทางครับแต่เนื่องจากเราสองคนมือใหม่หัดเดินทั้งคู่  ปรึกษากันแล้วเลยเลือกที่จะไปเดินเส้นทางผากล้วยไม้-เหวสุวัติระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร  เราต้องนั่งรถสองแถวของอุทยานฯจากที่ทำการไปอีกประมาณ  8  กม.เพื่อจะไปเริ่มเดินทางที่น้ำตกผากล้วยไม้

               ก่อนการเดินทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯบอกว่า   ช่วงนี้ยังมีฝนตกเป็นระยะ  อาจจะมีทากอยู่บ้างเลยแนะนำให้ใส่ถุงกันทากด้วย  ซึ่งผมก็เตรียมมาจากบ้านแล้ว

              ถุงกันทากทำจากผ้าดิบสีขาว  ทำเป็นรูปรองเท้าบูท  เวลาสวมต้องสวมเหมือนใส่ถุงเท้าแต่หุ้มขึ้นมาสูงถึงหัวเข่า ตรงปลายจะมีเชือกให้ผูกจะได้ไม่เลื่อนลงเวลาเดิน  ใส่ไว้ก็ดีครับจะได้อุ่นใจ

            ช่วงนั่งรถสองแถว ลมโกรกจนหนาวเลยครับผมกับพี่ต่ายเลยนั่งเบียดกันไปเลย   แก้หนาวครับ ไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ   ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยแต่ก็อุ่นใจเพราะไปกับพี่ต่าย 

            ผมถามเจ้าหน้าที่ว่าใช้เวลานานแค่ไหนในการเดิน สำหรับระยะทางขนาดนี้ เค้าบอกว่าน่าจะประมาณ สามชั่วโมงถ้าเดินแบบเรื่อยๆ    ก็ไม่นานนะครับน่าจะกำลังดี   ไม่เหนื่อยมากด้วย  ก็ผมสองคนน่ะ ไม่ได้ออกกำลังกายกันเลย   วันๆทำแต่งานเผลอๆยังแข็งแรงสู้ผู้หญิงบางคนไม่ได้ด้วย   

            ระหว่างการเดิน ตอนแรกๆเรายังคุยกันชี้ชวนดูนู่นนี่ครับ แต่พอเดินไปเรื่อยๆ เส้นทางเริ่มมีสูงต่ำ บางช่วงทางเดินเป็นดิน บางช่วงเป็นคอนกรีตที่ทางอุทยานฯทำไว้เพื่อให้สะดวกในการเดิน ถ้ามัวแต่คุยลงได้มีหกล้มกันบ้างเลยต้องระวังมากขึ้น

“พี่ต่ายเหนื่อยไม๊”   ผมถามหลังจากเดินไปได้ซัก 15 นาที  :a10:
 
“ยังเลยโอมเหนื่อยแล้วเหรอ”

“ยังพี่ นึกว่าเผื่อพี่อยากทานน้ำ”ผมจะได้เอาของผมให้พี่ไง

“ของพี่ก็มี”ผมรู้แต่อยากบริการไง  :m18:

“เอาหน่อยนะ....นะ” อ้อนอีกหน่อย

“เดี๋ยวจุก เดินไม่ไหว”พี่ต่ายยังยืนยันครับ

ผมเปิดขวดน้ำเลยครับ แล้วยื่นให้พี่ต่ายดื่ม   พี่ต่ายส่ายหัวเดินต่อไป

“คนเค้าอุตส่าห์เป็นห่วง ยังไม่เห็นความดี”  ผมก็เลยเดินล่วงหน้าไปเลยครับ งอน :a14:

“โอม.... โอม....”    เสียงพี่ต่ายเรียกครับ แต่ผมทำเป็นหูทวนลม  ไม่ต้องมาง้อเลย  o12

“โอม............”   ทำไมเสียงไกลๆ สงสัยเราเดินนำมาเยอะ

“โอม” คราวนี้พี่ต่ายตะโกนเลยครับ

“ไม่ใช่ทางนั้น..........   ต้องมาทางนี้ จะไปไหน”

อ้าว......เหรอ  เวรเลยมัวแต่ก้มหน้าก้มตาไม่ได้ดูทาง อายตายห่าเลย    :m23:

ผมเลยทำเป็นเดินไปตามทางที่พี่ต่ายชี้  “ทางนี้เหรอพี่”

“อือ ทางนี้ไม่ใช่ทางนั้น”แน่ะทำเป็นมาอมยิ้ม  อย่านะถ้าหัวเราะละก็มีเคืองด้วย

           ผมเลยทำตาขึงใส่พี่ต่าย เป็นสัญญาณว่า  ห้าม –หัว-เราะ-เยาะ ได้ผลครับแต่พี่เค้าต้องหันหน้าไปทางอื่น ผมเลยรีบเดินไปเลยครับ ก่อนที่จะอายไปมากกว่านี้

         ตกลงพี่เค้าไม่ง้อผมเลย  แต่ผมก็ไม่น่าไปโกรธพี่เค้าหรอกครับ เพราะเราเพิ่งเดินมานิดเดียวเองจะไปหิวน้ำได้ไง  แล้วที่ผมให้พี่เค้าก็ไม่ใช่อะไรหรอก ผมกะว่ากินของผมให้หมดก่อนผมจะได้ไม่ต้องถือ สงสัยผมจะทำความชั่วไม่ขึ้น   สวรรค์ไม่เป็นใจเลย  ผมก็เลยเลิกงอนแล้วครับ งอนไปก็ไม่มีประโยชน์  :m8:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

          เราเดินเลียบริมธารน้ำตกไปครับ   เส้นทางที่เราเดินก็มีรอยเท้าคนเหยียบจนเป็นรอยทาง แทบไม่ต้องดูแผนที่ก็เดินได้    บางครั้งก็เดินขึ้นเนินบ้าง เดินลงบ้าง  อากาศยังเย็นอยู่ก็จริงแต่จากการที่เราเดินมาพักนึงแล้วก็เลยเริ่มมีเหงื่อแล้วครับ  ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ระหว่างทางมีมากครับมีทั้งไม้เลื้อย ไม้ยืนต้น ผมรู้จักอยู่อย่างเดียวครับ ก็คือต้นไผ่ แหมก็ความรู้ผมเรื่องพืชพันธ์มันน้อยจริงๆ

กำลังเดินๆอยู่ครับพี่ต่ายก็เรียกผม

“โอม.....โอม....มานี่หน่อย”  :m26:

“มีไรพี่ทำไมเหรอ  หยุดทำไม”

“ช่วยพี่หน่อยซิ” ทำไมพี่ต้องพูดกระซิบด้วยล่ะ

“ได้พี่หิวน้ำแล้วเหรอ”ผมกำลังจะหยิบน้ำให้พี่ต่ายแล้ว

“ไม่ใช่.....เอาทากออกให้พี่หน่อยมันเดินมาบนเสื้อพี่แล้ว ...เร็ว”   :m29:

          มันคงกำลังจะเล่นกายกรรมเปียงยางบนตัวพี่ต่ายแล้วครับ แต่มันเดินเร็วมากๆ   ถ้าใครเคยเห็นก็คงแหยง แล้วไอ้ตัวนี้ มันก็ตัวใหญ่เหมือนกันครับ ทากมันเดินคล้ายๆหนอนครับ ปลายข้างนึงจะส่ายหัว  พอหาที่ได้ก็จะเกาะแล้วปลายอีกข้างก็จะตามมาเกาะชิดกันกับปลายอันแรก

“อ้าวเร็วซิ โอม”

           พี่ต่ายคงกลัวนะครับ  ก็มันเล่นส่ายหัวหาพี่ซะขนาดนั้น  ทำอย่างกับเป็นงูส่ายหัวกำลังจะฉกเหยื่อ  ผมเลยรีบหาใบไม้ใบใหญ่ๆครับกะว่าจะดึงมันออกไป แต่มันเหนียวมากครับ ต้องหากิ่งไม้มาช่วยเขี่ยด้วยถึงจะเอาออกได้  แล้วโยนมันทิ้งไป

ตลกดีพี่ต่ายตัวออกจะโตกลับกลัวทากตัวแค่นี้ 5555  :laugh:

            คราวนี้เราเลยต้องหยุดสำรวจก่อนครับ ว่าตามตัวเรามีน้องทากอีกรึเปล่า ก็มีบ้างครับตัวเล็กๆน้อยๆแต่มันก็ยังไม่ได้เลือดเราไปหรอกครับ กำจัดไปหมดก่อน

          เสียงลำธารที่ไหลรินๆ  เสียงนกร้องจิ๊บๆ เสียงแมลงร้องกันระงมครับก็เพลินๆดี ผมแหงนหน้ามองขึ้นไป   ร่มเงาของใบไม้ต้นไม้ มันครอบคลุมจนไม่เห็นดวงอาทิตย์ได้เต็มๆเลย  เห็นแต่แสงสว่างส่องมาเป็นลำ  ต้นไม้ในป่านี่มันสูงจริงๆครับ มันต้องอยู่มานานกว่าชั่วอายุผมแน่ๆ

          ผมกับพี่ต่ายเดินไปเงียบๆ มีชี้ชวนกันดูต้นไม้บ้าง  แต่ก็ความรู้แย่พอกันครับ  ไม่รู้จักต้นอะไรเลย    แต่ตอนนี้ไม่มีกล้วยไม้ครับ คงต้องเป็นช่วงเดือนเมษา แต่เรายังเห็นต้นของมันอยู่ประปราย แต่ไม่มีดอกให้เห็น แต่ก็มีดอกหญ้าขึ้นอยู่ตามพื้นสีขาวๆ   แต่ผมก็ไม่รู้จักอยู่ดี ผมยังคิดว่าถ้ามากับเจ้าหน้าที่อุทยานฯคงจะได้ความรู้อีกมาก

            เราเดินมาถึงส่วนของน้ำตกที่เป็นลำธารตื้นๆ    ผมเลยชวนพี่ต่ายถ่ายรูปแล้วก็ลงไปนั่งเล่นน้ำกัน   ผมวางของไว้แล้วถอดรองเท้า  :a11:

 “พี่ต่ายไปเล่นน้ำกันนะ”  น้ำในลำธารเย็นเฉียบเลยครับ 
         ผมลองกวักน้ำมาล้างหน้า  ล้างแขนสดชื่นจริงๆเลยครับ  ผมอยาก ให้พี่ต่ายสดชื่นบ้าง เล่นคนเดียวก็ไม่สนุกซิ

“พี่ต่ายหันมาทางนี้หน่อย” พอพี่ต่ายหันหน้ามา ผมเลยกวักน้ำใส่พี่ต่ายเลยครับ  :m11:

“เล่นอย่างนี้เหรอ....เอาซิ”

คราวนี้เราเล่นกันจนเปียกเลยครับ เนื่องจากเรามาเดินกันแค่สองคน ไม่มีคนเลยครับแถวนั้น เลยส่งเสียงดังกันไม่ต้องเกรงใจใคร

ผมเลยกะว่าเล่นน้ำตรงนี้ล่ะเงียบดี 

“พี่ต่ายผมเอากางเกงขาสั้นมา ไปพี่......ไปเปลี่ยนกัน เสื้อก็ถอดตากไว้ก่อน เดี๋ยวจะได้ใส่กลับ เล่นน้ำตรงนี้เลยดีกว่า”

            พี่ต่ายก็ว่าง่ายครับ ไม่มีใครคิดอะไรแบบนั้นหรอกน่า   เราหันหลังกันครับตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าพอเราเปลี่ยนเป็นกางเกงขาสั้นเสร็จ ก็ถอดเสื้อ พอต่างหันกลับมา  ผมว่าเราขาวพอๆกันเลยครับเผลอๆผมจะขาวกว่าอีก 

       แวบนึงผมนึกถึงหนังฝรั่งที่เค้าชอบถอดเสื้อผ้าเล่นน้ำตกกันไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย  แต่แวบต่อมาผมเกรงใจผีสางเทวดา เจ้าป่าเจ้าเขา  กลับท่านตกใจกันป่ากระเจิง  ผมเลยได้แต่คิดในใจคนเดียวครับ   หุหุหุ

          แต่พี่ต่ายน่ะก็อย่างที่บอกว่าหุ่นแกน่ะสุดยอดขนาดผมเห็นแกใส่เสื้อมาตลอด    พอแกถอดเสื้อเห็นเต็มๆสองตาผมเป็นผู้ชายยังอิจฉาเลย  ผมไม่บรรยายดีกว่าว่าเป็นยังไง    เก็บไว้ในใจคนเดียวดีกว่า  ซร๊วบบบบ.................. ผมไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะสาบานได้ 

แต่ทำไมน้ำลายไหลหว่า เอิ๊กกกกก.......  :m25:

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


เอารูปน้ำตกในระหว่างเดินป่ามาให้ดูครับ

<img src="http://img406.imageshack.us/img406/9594/img1906lt8.jpg" alt="Image Hosted by ImageShack.us"/><br/>
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-11-2007 10:28:04
หุ่นก็ดี บรรยากาศก็เป็นใจ อิอิ...................จิ้นๆๆๆๆ  :m10:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 28-11-2007 12:53:13
 :a4:ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่นำพาสองเรามาพบกันและรักกัน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 28-11-2007 13:58:34
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 28-11-2007 19:21:11
วันนี้มาลงรอบดึกนะ  :m18:
******************************
ตอนที่19

   เล่นน้ำกันสนุกมากเลยครับ ผมกับพี่ต่ายว่ายน้ำพอได้กันทั้งคู่   ตอนแรกๆที่ลงมันก็หนาว
 แต่พอเล่นไปซักพักเริ่มอุ่นแล้วครับ   ตรงที่เราเล่นน้ำกัน   น้ำไม่ลึกมากครับก็เลยไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ แต่ก็กลัวเป็นตะคริวน่ะครับก็น้ำมันเย็น 

              ตอนที่เล่นน้ำก็มีโดนเนื้อตัวกันบ้างผมก็แค่ใจเต้นแรง  ผมแอบดูพี่ต่ายนิดหน่อยพอเป็นยาชูกำลัง  แต่พี่ต่ายก็เฉยๆนะครับไม่ได้มีท่าทางจะดูหรือทำอะไรผม (ผมล่ะลุ้นจะตาย 5555) สารภาพครับมีแต่ผมแหล่ะอยากจะไปทำอะไรพี่เค้า   แต่ไม่ได้ครับต้องรักนวลสงวนตัวแม่สอนไว้    เลยต้องหักห้ามใจ

   “พี่ต่ายหิวล่ะ ขึ้นเหอะ ไปกินไก่กัน”

                 ผมชักหิวครับสงสัยคงใกล้เที่ยงแล้ว ไก่ย่างที่เอามาเอามาเผื่อๆนะครับ  แต่จะรอจนกว่าเดินไปถึงน้ำตกเหวสุวัติ  ผมคงหิวตาย ไม่รู้ว่าไกลขนาดไหนจากที่นี่

                พอขึ้นจากน้ำมันหนาวครับ   โชคดีเอาผ้าขนหนูผืนเล็กมาด้วย ต้องขอบคุณแม่ผมที่แนะนำ ทั้งกางเกงขาสั้น  ทั้งผ้าขนหนูแม่เตรียมให้ครับ   แม่บอกน่าจะมาเล่นน้ำตกด้วย  ผมก็เลยมีพร้อมเลย พี่ต่ายคงงงเหมือนกัน

“โอมนี่เตรียมของมาพร้อมเลยนะ รอบคอบจัง”

“แม่น่ะ พี่ไม่ใช่ผม อิอิ” ผมกำลังเช็ดตัวครับ พี่ต่ายเดินเข้ามาแล้วก็เอาผ้าไปจากผม

“มาพี่เช็ดให้เด็กน้อย...ขี้งอน” พี่ต่ายพยายามช่วยผมเช็ดตัว ผมก็พยายามปัดมือออก

“อึ๊ย...ไม่ต้องพี่ผมไม่ใช่เด็กแล้ว” เลิกงอนไปตั้งนานแล้ว งอนไปก็ไม่มีใครง้อ

“เอาน่า พี่หนาวจะได้เสร็จไวๆ”  พี่ต่ายยืนยัน

“ ก็ได้ๆ”  พี่อย่าทำไรผมนะ ผมกลัว(แฮะ แฮะ กลัวติดใจ)

พี่ต่ายเช็ดหน้าผมไป ก็ยิ้มไป
“ยิ้มอะไรพี่”

“ปล่าว ไม่ได้ยิ้ม” คนเรานี่ก็แปลก  ยิ้มก็ไม่ยอมรับ  แล้วถ้าไม่เรียกว่ายิ้มพี่นึกว่าพี่แปรงฟันอยู่รึไงนะ ยิ้มจนจะเห็นฟันหมดปากแล้ว


พอพี่ต่ายเช็ดตัวให้ผมเสร็จ  พี่เค้าก็เช็ดจริงๆครับไม่ทำอะไรเลย น่าเสียดายจัง
  ผมก็เอาแต่หน้าแดงอยู่นั่นแหล่ะ  :o8:

“อ้าว........คราวนี้ตาเราล่ะ”

“อะไรพี่ ตาใคร”

“ก็ตาเราเช็ดตัวให้พี่บ้างไง”พูดหน้าตาเฉยเลยนะพี่ 

              ผมต้องรีบตกลงครับกลัวพี่เปลี่ยนใจ แล้วผมก็เช็ดจริงๆครับไม่ได้ทำอะไร (เพราะทำไม่เป็นหรอก) แต่เช็ดไปก็เขินไป สงสัยหน้าผมคงแดงจนเห็นได้ชัด  เห็นพี่ต่ายมองแล้วยิ้มๆ อีกพอเราแต่งตัวกันเรียบร้อย ก็ถึงเวลาที่เราสองคนรอคอยครับ
*
*
*
*
               เรานั่งกินไก่ย่าง ข้าวเหนียว กันอย่างเอร็ดอร่อย เสียดายอย่างเดียวไม่มีส้มตำ  ไม่ถึงสิบห้านาทีครับหมดเรียบ  สงสัยเป็นเพราะเหนื่อยจากการเดินทางและการเล่นน้ำ เลยทานกันเร็วมากครับ  คราวนี้ผมได้กำจัดน้ำขวดของผมล่ะกระเป๋าเบาขึ้นเยอะเลย  เสร็จแล้วเรารวบรวมขยะจากอาหารของเราเพื่อจะเอาไปทิ้งถังขยะข้างบน  ไม่ได้ทิ้งให้เป็นขยะของป่าเลยครับ

          แล้วเราเริ่มเดินเลียบลำธารกันต่อครับ ตอนนี้อากาศเริ่มร้อนนิดๆเพราะเที่ยงกว่าแล้ว เดินต่อมานิดเดียวครับ พี่ต่ายหยุดอีกแล้ว

“โอมดูอะไรซิ เร็ว”

“อะไรพี่ไหน มีอะไร”

              พี่ต่ายชี้ให้ผมดูครับ จระเข้ตัวอวบดำใหญ่มากๆเลยครับ  ผมว่ายาวประมาณ สามเมตรน่าจะได้ พุงป่องเชียว มันนอนนิ่งอยู่บนโขดหินกลางลำธารครับ สงสัยกำลังอาบแดด มันนิ่งมากเลยครับ   คงนึกว่าตัวเองเป็นนายแบบ   ผมจะเข้าไปง้างปากมันแล้วถ่ายรูปก็ไม่กล้า ครับกลัวมันจะอ้าปากแล้วงับผมไปด้วย ถ่ายรูปออกมาก็ไม่เห็นหน้าผมพอดี    แล้วยังไม่อยากลงข่าวหน้าหนึ่งด้วย
   
               จากที่เรายืนดูมันอยู่ก็ห่างพอสมควรครับ แต่ก็พอจะเห็นรายละเอียดอย่างตาของมัน ผิวของมันดำเป็นเงาเลยครับ   ผมตื่นเต้นมากเลยครับ พี่ต่ายก็คงตื่นเต้นไม่แพ้กัน เพราะมันเป็นสัตว์ป่าจริงๆครับ  เราไม่ได้อยู่ในสวนสัตว์เปิด

“ไม่น่าเชื่อเลยนะพี่ จะมีจระเข้อยู่ในน้ำแบบนี้ แล้วอย่างงี้คนเล่นน้ำตกไม่หนาวเหรอ เนอะพี่เนอะ แล้วพุงป่องเชียวไม่รู้ไปกินอะไรมานะ555”
   
พี่ต่ายหันมามองผม “ก็เราก็เพิ่งขึ้นจากน้ำตกนี่....ใกล้นิดเดียวนะโอม”

              ผมใจหายเลยครับ พอพี่ต่ายพูดขึ้นมา นึกแล้วหวาดเสียวไม่หาย เกือบได้มาอุทิศร่างกายให้อาหารสัตว์แบบไม่ได้ตั้งใจซะแล้ว ผมว่าชักไม่ค่อยดี

“ไปกันเหอะพี่ กลัวพี่เข้มันเข้ามาทัก ผมไม่ค่อยอยากเจอมันเท่าไหร่แล้วตอนนี้ กลัวมันนึกว่าผมเป็นนางตะเภาแก้ว แล้วพี่เป็นตะเภาทองงาบเราไปใต้บาดาลละแย่เลย”

   เราเลยไปต่อครับ แต่อันที่จริงพี่เข้มันก็ไม่ได้มาทำอะไรหรอกครับ   แต่ผมก็ไม่ไว้ใจ กลัวมันอยากกินของหวาน     เราเดินต่อมาอีกไกลเลยครับ บางช่วงต้องเดินข้ามขอนไม้ บางทีก็ต้องเดินบนต้นไม้ใหญ่ที่มันพาดลงมาเป็นสะพาน บางทีก็ต้องลอดครับ  กิ่งไม้พาดไปพาดมาแต่ทางเดินก็ยังชัดเจนครับ  ถึงแม้บางช่วงจะดินเละแฉะไปซักน่อย  เป็นร่องรอยของฝนที่ยังคงเหลืออยู่

“โอ๊ย...”เสียงพี่ต่ายร้องครับ  อ้าวอะไรอีกล่ะพี่ ผมหันไปดูเห็นพี่เค้ากุมหัวครับ

“เป็นอะไรครับพี่....ไหนดูหน่อย”

ผมเดินกลับมาดูพี่เค้าครับเอามือแหวกผมด้านหน้า เห็นรอยแดงๆที่หน้าผาก  ไม่รู้จะหัวโนรึเปล่า

“พี่โดนอะไรน่ะ ทำไมเดินไม่ระวังเลย” ผมก็ปากเสียครับ ถึงจะบ่นค่อยๆ แต่พี่เค้าก็ได้ยินอยู่ดี

“ก็มีคนใจร้ายนะซิเดินจับกิ่งไม้ไว้   พอพ้นจากตัวเองก็ปล่อยมือเลย มันก็ดีดคนเดินตามหลังมานะซิ”
 อ้าวก็ผมเองอะดิ  ไม่ทันระวัง เลยไปโดนพี่เค้า แฮะๆ

“ขอโต๊ด.....ขอโทษษษษจริงๆพี่”ผมยกมือไหว้พี่เค้าเลย ดีที่มันไม่แรงไปกว่านี้  :m5:

“ผมจะระวังไม่ให้เป็นแบบนี้ล่ะพี่”    ผมกลัวพี่เค้าโกรธจังครับ  ทำเค้าแล้วยังปากไม่ดีไปว่าเค้าอีก

“พี่ไม่ไว้ใจ เอางี้ดีกว่าพี่นำหน้าแล้วเราเดินตาม มานี่” แล้วพี่เค้าก็คว้ามือผมไปเลยครับ
ผมไม่ทันโต้แย้งอะไร  พี่เค้าก็ลากผมเดินไปลิ่วแล้วครับ

สรุปว่าจนถึงทางออกที่น้ำตกเหวสุวัติ     พี่ต่ายจูงมือผมตลอดทางเลยครับ  :a10:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ลืมโชว์รูปพี่เข้  ที่มาแสดงตัวให้เค้าตกใจกันเล่น
<img src="http://img406.imageshack.us/img406/4416/img1907tr0.jpg" alt="Image Hosted by ImageShack.us"/><br/>
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-11-2007 19:29:58
สวีทหวานท่ามกลาง ... อากาศหนาว และ ทากกกกกกกก  :m30:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-11-2007 20:19:52
หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนน จนน่าอิจฉา  :m26:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 28-11-2007 23:35:56
อยากไปมั่ง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 29-11-2007 01:07:40
ฮันนีมูนท่ามกลางแมกไม้ใบหญ้า  :m3: :m3: :m3: :m3:
 แล้วจะค้างคืนที่ไหนอ่ะ
 :m25: :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 29-11-2007 01:11:23
ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ ชี้ไปชี้มา เจอจระเข้ซะงั้น  o17

ป.ล. แหม่ๆ สวีทกันเหมือนโลกใบนี้ มีแค่เราสอง  :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: gateau ที่ 29-11-2007 01:19:47
 :give2:   :give2:   :give2:

อยากไปมั่งอะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-11-2007 05:22:31
สวีทท่ามกลางธรรมชาติ  :m3: :m3: รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 29-11-2007 08:01:30
โอ้ยยย

อ่านไป  ยิ้มไป  อิจฉาไป

น่ารักกันจังเลยง่า

 :give2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 29-11-2007 08:17:54
ดีไม่โดนไอ้เข้งับไประหว่างเล่นน้ำ  :m18:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 29-11-2007 08:58:09
ดีใจจังที่มีคนอยากมาเที่ยวเขาใหญ่กันเยอะๆ :m4:
***************************************
ตอนที่ 20

   พูดถึงน้ำตกเหวสุวัติ ถ้าใครเคยมาเที่ยวเขาใหญ่ก็น่าจะเคยมาที่น้ำตกแห่งนี้  ผมจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน  หนังฮอลลีวู๊ดยังใช้โลเกชั่นของที่นี่ถ่ายหนังเรื่อง The Beach ที่พระเอกสุดหล่อพ่อแจ็ค ดอว์สัน แห่งเรื่อง Titanic  เป็นคนเล่น ก็ลีโอนาโด ดิคาปริโอ นะครับ ทุกคนคงพอนึกออก

                 น้ำตกเหวสุวัติ มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตรเศษ บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำ และลำธาร

                   มีคนมาเล่นน้ำกันมากเลยครับ เพราะช่วงนี้มีน้ำมาก  เนื่องจากฝนตกติดต่อกันมาหลายวัน  แต่พวกผมคงเล่นไม่ไหวเพราะเล่นกันมาแล้ว แล้วคนก็เยอะมากครับ  เลยได้แต่ยืนมองจากจุดชมน้ำตกที่อยู่ด้านบน เห็นความสูงของน้ำตก กับความแรงของสายน้ำที่ตกลงมาในแอ่งน้ำ  แล้วก็รู้สึกว่าถ้ากระโดดลงมาแบบในหนัง  มันจะรอดเร้อ

ตอนที่เราออกมาจากการเดินป่าก็บ่ายโมงกว่าแล้วครับ

“พี่ต่ายไปหาอะไรกินอีกดีกว่า  เมื่อกี้มันไปหมดล่ะ”

                  ก็จากจุดที่เราเล่นน้ำจนถึงปลายทาง เราก็เดินกันต่อมาเกือบชั่วโมงน่ะครับ  มันย่อยไปหมดแล้ว ผมเลยชวนพี่ต่ายมาทานข้าวกันแถวๆที่ทำการอุทยาน เพราะมีร้านค้าของสวัสดิการพนักงานอยู่ เค้าปรับปรุงไว้สะอาดน่านั่งเลยครับ

“โอมเหนื่อยไม๊” พี่ต่ายถามผมระหว่างนั่งรออาหารตามสั่งครับ

“เหนื่อยซิพี่  ไม่รู้พรุ่งนี้จะเป็นยังไง คงปวดเมื่อยน่าดู”
       
ผมไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ครับ แต่มันก็ไม่ได้ลำบาก หรือยากเย็นอย่างที่คิด  สนุกไปอีกแบบ

“แล้วพี่ล่ะ...เป็นไงบ้าง” ผมถามพี่ต่ายกลับบ้าง  แต่ดูพี่เค้าก็เฉยๆนะ

“ได้เหงื่อนิดหน่อย ดีจัง พอออกมาเจออากาศสดชื่นหลังจากเหงื่อออก รู้สึกสมองมันโล่ง” แก้มพี่ต่ายมีสีชมพูระเรื่อนิดๆ มีเหงื่อเม็ดเล็กๆเกาะอยู่ตามไรผม

“วันหลังเรามาเที่ยวที่นี่ด้วยกันใหม่นะโอม”เสียงพูดอันอ่อนโยนของพี่ต่าย กับรอยยิ้มอันสดใส ทำให้หัวใจผมเต้นแรงครับ

“ได้ซิพี่.... ไว้เรามาด้วยกันอีก”

                ผมตอบพี่ต่ายพร้อมส่งรอยยิ้มกลับไปให้พี่ต่าย  ถ้าใครนั่งอยู่แถวนั้นคงเห็นผู้ชายสองคน  นั่งอมยิ้มสีหน้าออกชมพูทั้งคู่  มองกันไปมองกันมา แต่ไม่มีใครพูดอะไรกัน  คงจะแปลกๆดีเหมือนกัน
   
                  ตอนบ่ายๆเราขับรถวนรอบๆเขาใหญ่  หยุดชมธรรมชาติเป็นระยะ ขับรถไปดูบ้านพักของอุทยานฯเผื่อวันหลังถ้าอยากมาพักจะได้จองได้ถูก พอได้เวลาพอสมควรก็ขับรถลงจากเขาใหญ่ 
ตอนบ่ายๆ สองข้างทางถนนธนะรัชต์  มีคนเอาผลไม้  ต้นไม้มาวางขายกันเยอะครับ  ผมเลยซื้อผลไม้กลับไปฝากแม่ที่บ้าน พี่ต่ายก็ซื้อผลไม้กลับไปฝากที่ทำงานด้วย ก็ที่นี่ผลไม้เยอะนี่ครับถูกกว่าที่กรุงเทพฯด้วย

“เฮ้อถึงซะที   พี่ต่ายเข้าบ้านด้วยกันก่อนนะ  พี่ไปลาป๋ากับแม่ก่อนแล้วค่อยกลับ”

“อะไรกันเราจะกลับกันเลยเหรอ เพิ่งบ่าย3กว่าๆเอง”

“เราไหน ก็พี่ไงจะกลับ ผมเย็นๆถึงกลับ”

“เมื่อเช้าพี่บอกแม่โอมไปแล้ว  ว่ามารับโอม”

“หาพี่ว่าไรนะ.....พี่พูดผิดหรือเปล่า” :m28:

“พี่บอกว่ามารับโอม.....ทำไมล่ะ  ก็พี่มารับโอมจริงๆ”

“แล้วแม่ผมว่าไง”

“คุณแม่บอกว่าดีแล้ว....... โอมจะได้ไม่ต้องกลับรถทัวร์”

แม่ผมทำไมไม่หวงลูกเลย  แต่คนอื่นจะคิดยังไงซิ อยู่ดีๆเพื่อนผู้ชายมารับถึงบ้าน

“ผมกลับเองได้พี่  นั่งรถทัวร์สบายจะตาย”

“ไม่อยากประหยัดเหรอ  ช่วยชาติไปทางเดียวกัน นั่งรถไปด้วยกันไง”

พี่ต่ายถามลอยๆขึ้นมา
เออก็จริงแฮะ ประหยัดไปอีกหลายร้อย สงสัยพี่ต่ายเริ่มรู้แล้วว่าผมงก อิอิ

“ก็ได้ๆ  นั่งกลับไปเป็นเพื่อนพี่หรอกนะ  พี่จะได้ไม่ง่วงเวลาขับกลับ ได้มีเพื่อนคุย”

“โอม เป็นไงสนุกไม๊”ป๋าผมมาจากไหนล่ะเนี่ย

“อ้าวป๋า.....นี่พี่ต่ายพี่ที่ทำงานผมครับที่บอกว่าจะมาเที่ยวเขาใหญ่”

“สวัสดีครับ”พี่ต่ายยกมือไหว้ป๋า แล้วป๋าก็ยิ้มให้ครับ

“อ๋อ สวัสดี ... แม่เค้าบอกป๋าแล้วว่าเมื่อเช้าเจอเพื่อนโอม ไงเที่ยวสนุกไม๊ครับ”

“สนุกครับ อากาศดีมาก”

“งั้นวันหลังให้โอมพามาใหม่ซิ  ยังเที่ยวเขาใหญ่ไม่ทั่วมั๊ง” พ่อผมโปรโมทเขาใหญ่ครับ สงสัยลืมตัวนึกว่าทำงานอยู่ททท.

“ครับป๋า.....ไว้คราวหน้าผมขอมาค้างบ้างได้ไม๊ครับ” เรียกซะหนิดหนมเชียวพี่

แล้วนี่ยังไม่ทันกลับคิดจะมาอีกแล้วเหรอ   จะมาค้างด้วยค้างที่ไหนอ่ะพี่

“มาซิมาเลย  บอกโอมแล้วกันป๋าจองบ้านให้” ดี....ป๋าอย่าให้มานอนบ้านเรา

“นานๆจะเห็นเพื่อนโอมมาเที่ยวบ้าน  อยากพักผ่อนก็มาเลยนะ......ที่นี่มันใกล้กรุงเทพฯ ไม่ต้องเกรงใจนึกซะว่าเป็นลูกเป็นหลาน” อะไรกันป๋าเนี่ย o12

“ครับผม”พี่ต่ายยกมือไหว้ป๋าอีกทีครับ

“ตามสบายนะ  เดี๋ยวป๋าไปธุระก่อน”

“ครับ สวัสดีครับป๋า”  พอป๋าเดินพ้นไปเท่านั้นแหล่ะครับ

“พี่ผ่านมา 2 ด่านแล้วนะโอม”  :a2:
            พี่ต่ายชูนิ้วเป็นตัวV ให้ผมครับแล้วซ่อนยิ้มไว้ แต่ทำแววตาเจ้าเล่ห์น่าดู ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ไม่รู้จะพูดอะไรดี

ผมเลยพาพี่ต่ายเข้าไปในบ้าน    เจอแต่พี่อิงครับกำลังนั่งดูทีวีอยู่ ไม่รู้แม่ไปไหน

“พี่อิง.......แม่ไปไหน”

“แม่ไปซื้อของจะให้เราเอากลับไปกินกรุงเทพฯไง”

“อ้าว.....เพื่อนโอมเหรอ”พี่อิงเพิ่งเห็นพี่ต่ายครับ

“สวัสดีครับ....ผมชื่อต่ายครับ”พี่ต่ายไหว้พี่อิงแนะนำตัวเองครับ

“เอ๊ยไม่ต้องไหว้อายุไม่ต่างกันเท่าไหร่ ......รู้ล่ะ.....โอมคนนี้ใช่ไม๊ที่เป็นเพื่อนอั้มด้วยน่ะ วันก่อนอั้มมันมาเล่าให้ฟัง"

" เออ......พอพี่เห็นหน้าแล้วคุ้นๆ คงเคยเจอกันที่โรงเรียนน่ะ   พี่เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเรานะปีนึง”

“ใช่พี่อิง  นี่แหล่ะเพื่อนพี่อั้ม”

“ตกลงรู้จักกันแล้วใช่ไม๊  งั้นคุยกันไปก่อนนะ  ผมจะขึ้นไปอาบน้ำหน่อย เหนียวตัวจะไปเก็บของด้วย เดี๋ยวตอนเย็นจะกลับล่ะ”

        ผมมองหน้าพี่ต่ายประมาณว่าพี่อยู่ได้ไม๊  พี่ต่ายพยักหน้าทำนองว่าไปเหอะพี่อยู่ได้ ผมเลยขึ้นบ้านเลยครับไปอาบน้ำให้สบายตัวซะหน่อย 

        พออาบน้ำเสร็จเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสบายๆขาสั้นก่อนครับ  เพราะคงอยู่อีกพักนึงค่อยกลับ มีรถกลับก็ไม่ต้องรีบ 555 เก็บของเสร็จชักง่วง   คงเพราะเพลียจากการไปเดินตากแดดมานาน  เลยกะว่าจะนอนซักพักครับ  เดี๋ยวค่อยลงไปสมทบพี่ต่ายกะพี่อิง  :a12:

          แต่ผมเลยเผลอหลับไปเลยครับ ตื่นขึ้นมาอีกทีเหมือนใครมานั่งอยู่ที่เตียง  ทำไมเตียงยวบๆ   ผมนึกว่าแม่จะมาปลุก ทำไมห้องมันมืดๆว่ะ ตายห่ากี่โมงแล้วเนี่ย กำลังจะยกตัวขึ้นจากที่นอน

“ตื่นแล้วเหรอ........ เวลาโอมนอนน่ารักจังยังกับกุ้ง    ตัวงอเชียว”

           ตกใจครับ    :o   แม่ไม่เจอกันแป๊ปเดียวทำไมเสียงห้าว  ไปกินอะไรมาเสียงแหบ บอกแล้วว่าอย่าชอบกินของทอดๆ เดี๋ยวจะร้อนในไม่สบาย

“พี่มานั่งตั้งนานโอมเพิ่งจะตื่น.............สงสัยเพลียมากหลับลึกเลยนะ”

ผมยื่นหน้าไปมองใกล้ๆ        อ้าวไม่ใช่แม่นี่...........เสียงพี่ต่ายนี่หว่า แว่นก็ไม่ใส่ แล้วพี่เข้ามาห้องผมได้ไงเนี่ย  แต่ที่สำคัญ........... :m26:

ทำไมพี่ไม่ใส่เสื้อ  นุ่งแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเองล่ะพี่  มันล่อแหลมน่ะพี่....................อย่าทำผมใจสั่นซิ. :m29:
*******************************************************************

ไม่รู้ว่าหวานกันเกินไปรึเปล่า  ยังไงก็อย่าเพิ่งเอียนกันไปซะก่อนนะ o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 29-11-2007 09:51:32
หึหึ สถานการณ์น่าหวาดเสียวววววววว  :m12:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 29-11-2007 11:03:39
อุอุ เข้าทางผู้ใหญ่  เตรียมจะสู่ขอป่าวเนี่ย  :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 29-11-2007 11:36:43
 :a4:ติดตามต่อเนื่องครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 29-11-2007 11:59:42
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 29-11-2007 13:09:19
 :m3: สถานการณ์คืบหน้าไปมากกก

ว่าแล้วก็จิ้นไปฉากโรแมนติกๆ ต่อ อิอิ  :m18:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 29-11-2007 15:54:16
สงสัยจวนจะเสียตัวกะพี่ต่าย  :m11: :m11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-11-2007 19:09:49
มีลุ้นครับงานนี้  :m10:  :m10:  :m10:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 30-11-2007 00:33:07
จินตนาการจนเห็นภาพเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 03-12-2007 09:03:14
 :o11: ]ลงใหม่แล้วกันเนอะ เอาตอนใหม่ไปด้วยเลย  :a1:
*************************************************
ตอนที่21
“พี่ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ.....แล้วกี่โมงแล้วนี่”
ผมพูดเบาๆครับ แทบจะกระซิบ   :m26:  เหมือนผมถามกับตัวเองมากกว่า  อีกอย่างนึงก็หน้าพี่เค้าอยู่ห่างกับผมนิดเดียวเอง   ผมรู้สึกกลัวนิดๆ  :m29:

“เกือบหกโมงแล้ว     นอนเพลินเลยนะเรา หึ หึ” พี่ต่ายเอามือมาขยี้หัวผม
“ไหนโอมเขยิบหน่อยซิ มาคุยกันก่อน”
ผมขยับตัวเลื่อนให้พี่ต่ายนั่งพิงหัวเตียง ผมก็นั่งข้างๆพี่เค้าแหล่ะครับ ยังงัวเงียนิดหน่อย

“พี่เข้ามาได้ไงพี่”  :m28:
ผมยังไม่หายสงสัย ว่าอยู่ดีๆทำไมพี่ต่ายมาอยู่ในห้องผม แล้วทำไมเราต้องมานั่งคุยมืดๆ สลัวๆแบบนี้  พี่ต่ายยังไม่ทันตอบ  ผมเลยจะลุกไปเปิดไฟ

“จะไปไหน” พี่ต่างดึงมือผมไว้ครับ

“ไปเปิดไฟไงพี่......มันมืด”

“คุยก่อนซิ.....เดี๋ยวค่อยเปิด”

“มันแปลกๆนะพี่  เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”

“ไม่มีใครเข้ามาหรอก  เค้ารู้ว่าโอมหลับ”

“ตกลงพี่เข้ามาได้ไง  ยังไม่ตอบผมเลย”

 เอ้าคุยก็คุย แล้วมือไม่ปล่อยเลยนะ ชอบจับมือผมจริงๆเลย นี่ถ้าคิดตังค์เป็นชั่วโมงตอนจับมือผมคงได้เงินเยอะละ

“แม่โอมให้พี่มาอาบน้ำ ให้ผ้าขนหนูมา แต่ไม่ได้ให้เสื้อ พี่เลยว่าจะยืมเรา”

“แล้วจะคุยอะไรล่ะพี่......พี่กระต่ายไม่หนาวเหรอเดี๋ยวผมไปหยิบเสื้อให้”

พอได้ยินผมเรียกชื่อเต็มๆของพี่เค้า พี่ต่ายแอบยิ้ม

“ไม่หนาวหรอก.........พี่อุ่นในหัวใจ”  พี่ต่ายพูดเสียงกระซิบ  แถมทำแววตาวิบวับให้ผมด้วยซิ  เอ่อ......ผมอึ้งอีกละ

เอ....แต่สถานการณ์ชักล่อแหลม    แล้วสถานที่มันบ้านผม  ป๋า แม่ พี่อิง อยู่กันเต็มบ้าน
ตื่นเต้นเว้ย เอาไงดีว้า เอาไงดี......จังหวะนี้......  เผ่นดีกว่า  :m7:

“ผม ......”
               
                 ยังไม่ทันพูดอะไรเลยครับ แค่ขยับตัวนิดเดียวกำลังจะลุกขึ้น กลายเป็นว่าผมโน้มตัวไปหาพี่ต่ายเอง   พอดีกับพี่ต่างดึงตัวผมเข้าไปหา  เลยกลายเป็นว่าผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของพี่ต่ายเข้าไปแล้ว
                 
 เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกัน ได้ยินแต่เสียงลมหายใจของกันและกัน  ร่างกายเราแนบชิดกันผมได้กลิ่นสบู่จางๆจากตัวพี่ต่าย    รับรู้ได้ถึงไอร้อนจากร่างกายของเราสองคน  ผมว่าผมได้ยินเสียงหัวใจเต้น ตึกตัก ตึกตัก แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเสียงของใครระหว่างผมกับพี่ต่าย สงสัยเราจะเป็นโรคหัวใจเต้นแรงกันทั้งคู่

“ตอนนี้โอมคิดยังไงกับพี่”  เสียงพี่ต่ายสั่นนิดๆ  ผมสัมผัสได้กับลมหายใจร้อนของ
พี่ต่ายที่อยู่ที่ลำคอผม ตัวพี่ต่ายสั่นนิดๆ    ผมก็สั่น........แต่สั่นสู้  :m29:

ผมไม่รู้จะตอบยังไง เมื่อเช้าที่เราไปเที่ยวกัน บางครั้งผมรู้สึกเหมือนไปกับพี่ชาย แต่ส่วนใหญ่ทุกๆช่วงเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน  ผมมีความสุขมาก

ผมรู้สึกอิ่มใจกับการเอื้ออาทรเล็กๆน้อยๆที่พี่ต่ายดูแลผม   
ผมใจเต้นแรงเวลาเราสัมผัสตัวกันถึงแม้เราจะไม่ตั้งใจ 
ผมอายเวลาที่ผมแอบมองร่างกายของพี่ต่าย  :o8:
ผมดีใจเวลาที่ป๋ากับแม่กับพี่อิง เข้ากันได้ดีกับพี่ต่าย

 “ความรู้สึกของพี่ที่มีต่อโอม  มันมากขึ้นไปเรื่อยๆ”
“ ทุกๆช่วงเวลาที่เราได้อยู่ไกล้กันพี่มีความสุข”  เสียงพี่ต่ายนุ่มนวลมากครับ  ทำเอาผมเริ่มเคลิ้ม

             พี่ต่ายคลายอ้อมกอดลงจากตัวผม จับไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง ตอนนี้ตัวเราอยู่ตรงข้ามกัน มองหน้ากัน  แววตาพี่ต่ายที่มองมาที่ผมทำให้ผมไม่กล้าสบตาอีกแล้ว

“ผมก็มีความสุขเวลาอยู่กับพี่”
             ผมตัดสินใจพูดสิ่งที่ผมรู้สึกออกไปด้วยเสียงแผ่วเบา  แกล้งเสมองไปที่คอพี่ต่าย ไม่กล้าสบตาพี่ต่ายตรงๆ

                 แล้วพี่ต่ายก็ค่อยๆใช้สองมือประคองหน้าผม  แล้วค่อยๆโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ผม ผมต้องหลับตาตอนที่พี่ต่ายค่อยๆมอบสัมผัสที่แสนอบอุ่นให้กับริมฝีปากผม  มันไม่ได้แผ่วเบาเหมือนขนนุ่นเหมือนกับสัมผัสวันนั้นที่รถติดไฟแดง  แต่มันทำให้ผมรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ทะนุถนอม ความห่วงใย ความอบอุ่น ที่พี่ต่ายมีมาให้ผม 

              ผมเปิดปากรับความรู้สึกทั้งหมดที่พี่ต่ายมีให้ผม ผมรู้สึกดีมากๆ  ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไป จะไปไกลกันแค่ไหน  ถ้าผมไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าพร้อมเสียงตะโกนของพี่อิงที่กำลังขึ้นมา

“โอม !!!!! ต่ายทำไมยังไม่ลงไปอีก แม่ให้มาตามไปกินข้าว เดี๋ยวก็กลับดึกหรอก เฮ้อ ทำไรกันอยู่ว่ะ”

             ผมผลักพี่ต่ายกระเด็น  แล้วกระโดดตีลังกาหน้ารวดเดียวไปเปิดไฟเลยครับ   ถ้ากรรมการยิมนาสติกลีลามาเห็น คงรีบให้คะแนนผมเต็ม   พี่อมรเทพ  แววแสง คงอยากได้ผมไปเป็นรุ่นน้อง

              แล้วรีบกระโดดไปที่ตู้เสื้อผ้า  คว้าเสื้อยืดมาตัวนึงหยิบมามั่วๆ  โยนไปให้พี่ต่ายที่ตอนนี้นั่งทำหน้างงๆอยู่ที่พื้นแถมโชว์อนาคอนดาให้ผมอยู่   ผมไม่มีเวลาดูมันหรอกครับ  ไม่มีเวลาแล้ว

             ผมรีบดึงกระเป๋าใส่เสื้อผ้าที่วางอยู่มาแกล้งทำเป็นนั่งลงจัดของอยู่  มือไม้สั่นไปหมดหยิบของเข้าๆออกๆ เหมือนเป็นโรคพาคินสัน หายใจหอบแรงไม่รู้ตัว

พี่อิงเปิดประตูทันทีโดยไม่เคาะ มารยาทดีอีกล่ะพี่ผม  พอดีกับพี่ต่ายใส่เสื้อเสร็จ

“เสียงอะไรโครมครามหึ  ชอบทำเสียงตึงตัง ไม่อายต่ายมันบ้าง”

               พี่อิงคงได้ยินตอนผมกระโดดมาเปิดไฟ แล้วเหลือบไปมองพี่ต่ายที่นั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่บนเตียง พร้อมนุ่งผ้าขนหนูกับเสื้อผมที่....... :try2:

“ต่ายมึงใส่เสื้ออะไรน่ะ เน่าชิบหาย...... โอมทำไมไม่เอาเสื้อที่มันดีกว่านี้หน่อยให้เค้ายืม บ้าเหรอ เสื้อตั้งแต่สมัยไหนว่ะ อุบาทว์”

               ก็ผมชอบใส่เสื้อเก่าๆอยู่บ้าน อย่างที่ทำตอนอยู่กรุงเทพฯ  แล้วไอ้ตัวที่โยนให้พี่เค้ามันย้วยมากเลยครับตรงชาย  แต่มันรัดตรงตัวพี่เค้า  เพราะพี่ต่ายตัวสูงใหญ่กว่าผม  ถึงแม้เสื้อผมมันจะย้วยเละยังไง มันก็ยังคับอยู่ดี  ไม่รู้พี่เค้ายัดลงไปได้ยังไง ผมก็ขำแทบตายแต่ต้องกลั้นหัวเราะเอาไว้ :m20:

“กู...กู... หยิบมาเองแหล่ะ เกรงใจโอม” พี่ต่ายพูดอ้อมๆแอ้มๆครับ แล้วมองหน้าผมแบบว่าฝากไว้ก่อน

“ผมก็บอกพี่แล้วไม่เชื่อว่าอย่าเอาตัวนี้    มันเก่าเห็นไม๊ผมโดนพี่อิงว่าเลย” ผมพูดไปยิ้มไป พี่อิงไม่เห็นครับหันหลังอยู่ ผมทำท่าหัวเราะแบบไม่มีเสียง  :m14:

 “เออๆ เปลี่ยนซะ ทุเรศว่ะ กูก็บอกโอมแล้ว   เสื้อตัวนี้กูเห็นมันใส่ที่ไรกูรักสะอาดทันที”
“มันเกี่ยวไรกันว่ะ” พี่ต่ายงง ผมก็เง็งครับ

“ก็กูอยากไปจับแม่งมา ถอดทำผ้าขี้ริ้วนะซิ555 ท่าทางจะเนื้อนุ่มดี ซับน้ำด้วย” ผมละเบื่อพี่ผมจริงๆครับ มุขบ้าอีกล่ะ

“แล้วสองคนเป็นอะไร  เป็นไข้แดดเหรอ หน้าแดงทั้งคู่  ไรว่ะแค่เดินป่าไม่กี่กิโลเอง แล้วเหงื่อแตกพลั่กอีก  แอร์ก็ออกจะเย็น”

พี่ผมชักจะฉลาดแล้ว ต้องรีบให้ออกไปโดยด่วน  ผมเลยรีบบอกพี่อิงว่า 
“ไม่ได้เป็นอะไรหรอกน่า  เดี๋ยวเค้าเก็บของเสร็จแล้วลงไปเอง”

“เออ....เร็วรีบลงไป เค้ารอกินข้าวกันอยู่อย่าช้าล่ะ” พี่อิงบอกก่อนเปิดประตูออกไปครับ

พอพี่อิงลงไปเราสองคนถอนหายใจเฮือกใหญ่เลยครับ   :เฮ้อ: แล้วพี่ต่ายเดินมาเขกหัวผม

“โอ๊ย ทำไรพี่ ผมเจ็บน่ะ”

“อยากมาแกล้งพี่ทำไม ดูซิ เอาเสื้ออะไรมา  ถอดก็ไม่ออก”

             ผมได้แต่ยืนหัวเราะจนปวดท้องครับ  :laugh: :laugh: ก็พี่ยัดเข้าไปได้ยังไง๊ มันคับขนาดนั้น     พี่ต่ายพยายามถอดอย่างทุลักทุเล  แต่มันติดตรงหน้าอก แป๊ปเดียวครับแคว๊กกกก......ขาดเลยครับเสื้อตัวโปรดของผม

“เฮ้ย  น้องย้วย  ขาดเลยอ่ะพี่”ผมรีบไปรับเสื้อจากพี่ต่ายครับ  เอามาพลิกๆดู

“โหยจะซ่อมได้ไม๊เนี่ย ขาดขนาดนี้ สงสัยต้องเป็นเป็นผ้าขี้ริ้วจริงๆแล้วมั๊งเนี่ย” ผมเริ่มโอดครวญ
“พี่ไปซ่อมให้ แต่ซ่อมแล้วพี่ขอได้ไม๊”

“พี่จะเอาไปทำไม พี่ก็ใส่ไม่ได้”
 ผมหันไปถามพี่ต่ายที่ยืนเปลือยอกอยู่ เออ...ผมลืมเอาเสื้อใหม่ให้พี่เค้าเลย ผมเลยเดินไปหยิบเสื้อให้พี่ต่ายใหม่

“พี่จะเอาไปเป็นที่ระลึก  เวลาเอามาดูพี่ก็จะได้นึกถึงเรื่องวันนี้ของเรา”

แล้วพี่ต่ายก็ทำปากส่งจูบมาให้ผม  แถมด้วยยิ้มหล่อๆแบบของพี่

ผมรีบเอาเสื้อตัวใหม่ยัดใส่มือพี่ต่าย ยกกระเป๋าของผม เปิดประตู  แล้วบอกพี่ต่ายว่า

“ผมลงไปก่อนนะพี่เดี๋ยวรีบตามลงไปล่ะ”

รีบวิ่งลงบันไดไปเลยครับ   ไม่ไหวแล้วครับ   เพิ่งนึกได้ว่าทำอะไรลงไป มันเขินครับ  o7
***********************************************************
หลายคนคงผิดหวังไปต่อว่าพี่เอิงกันเอาเองครับ :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 03-12-2007 09:13:54
ตอนที่ 22

              วันนั้นผมกับพี่ต่ายทานข้าวที่บ้าน  พร้อมเลยครับ ป๋า แม่ พี่อิง  ดีแม่ไม่ไปเรียกลุงป้าน้าอามาให้หมดตระกูล ผมเลยค่อนกินข้าวสบายใจหน่อย 

              แต่พี่ต่ายน่ะเนียนมากครับ  จนผมนึกว่าป๋ากับแม่ผมไปมีลูกชายอีกคนที่พลัดพรากจากครอบครัวไปตั้งแต่เด็กกลับมา 

               ถ้าผมไม่ตัดบทคงจะยิ่งดึกกว่านี้    กว่าจะร่ำลาออกมาได้  ปาเข้าไปสองทุ่มกว่า  แต่ก็ขนของกลับมาเพียบครับ ทั้งผลไม้ กุนเชียง หมูหยอง ไส้กรอกอีสาน  ผมอยู่ได้อีกนานเลย  เสบียงเยอะเหมือนจะส่งผมไปรบที่ไหน

“พี่รู้แล้วทำไมโอมถึงเป็นคนแบบนี้”
 อยู่ดีๆพี่ต่ายก็พูดขึ้นมาในรถ ตอนที่ผมเกือบจะหลับล่ะ

“ฟังดูแปลกๆนะพี่ แบบนี้มันแบบไหน แล้วมันดีหรือไม่ดี”

“ดีซิ......ที่บ้านโอมอบอุ่นนะ  สุขภาพจิตดีกันทุกคน มองโลกในแง่ดีด้วย”

            อันนี้ผมเห็นด้วยครับ ไม่งั้นเค้าจะยินดีปรีดากับพี่เร็วขนาดนี้เหรอ ยังไม่ถึงสิบสองชั่วโมงเลยอย่างกับจะรักพี่มากกว่าผมแล้ว  เป็นพวกเชื่อคนง่ายทั้งบ้าน

“โอมง่วงเหรอ นอนเหอะเดี๋ยวถึงแล้วพี่ปลุกเอง แต่เหมือนใครไม่รู้บอกพี่ว่าจะนั่งคุยเป็นเพื่อน”
พี่ต่ายหันมาเห็นผมหาวแล้วหาวอีก  ก็เลยอดถามไม่ได้

“ผมก็นอนเยอะนะพี่ แต่ทำไมยังง่วงก็ไม่รู้”  ผมเลยบิดเนื้อบิดตัวหน่อยให้หายง่วง

“พรุ่งนี้พี่ต่ายไปจ๊อบไหนพี่”   ผมเลยควรต้องตื่นครับ  ไม่อยากผิดคำพูด  เป็นเพื่อนพี่ต่ายชวนคุยซะหน่อย

“พี่ต้องไปบริษัท...... เร่งอีกแล้วมีเวลาไม่กี่วันเอง แล้วโอมล่ะ”

“เห็นพี่มีนว่าจะให้ตามไปช่วยอีกจ๊อบนึงพี่  แต่ผมยังไม่รู้เลยว่าที่ไหน” ไม่ได้เจอพี่อีกแล้วอ่ะ

“คงอีกนานกว่าเราจะเจอกันนะโอม” พี่ต่ายพูดเสียงอ่อยๆ  :undecided:

“นั่นซิพี่” ผมเลยเสียงเหี่ยวตามเลย  :m8:

ชวนคุยเรื่องอะไรดีน้า  พอคุยเรื่องนี้แล้วผมก็พลอยเศร้าไปด้วย ไม่อยากพูดถึงมันเลย
เอาเรื่องนี้ดีกว่า  สร้างกำลังใจให้ตัวเอง

“ผมถามพี่หน่อย   ทำไมพี่ไม่ชอบติง”

“ใครบอกว่าพี่ไม่ชอบ”
พอฟังคำตอบของพี่ต่ายแล้ว.......เฮ้อ.........กูไม่น่าถามเลยไอ้โอม  เสือกไปถามทำไม๊อยู่ดีไม่ว่าดี  :m16:

“ติงออกจะสวย ขาว สูง ทำงานก็เก่ง ไม่ต้องพูดมาก สอนมากเลย   ไม่รู้เหรอ”
 แน่ะ.....ยังมีเสริมเหตุผลประกอบอีก

“ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะพี่ต่าย”  ผมถึงเคยชอบติงไง  แต่ตอนนี้ไม่แล้วนะ

          ผมเริ่มอารมณ์ไม่ดีครับ   คิดแบบเลวๆหน่อย  พี่น่าจะหลอกให้ผมดีใจหน่อยซิ  คิดอะไรก็ไม่ต้องบอกมาหมดก็ได้  ทำไมต้องตอบจริงๆด้วย(ว่ะ)  :serius2:

“ถ้าได้ทำงานกับติงอีกก็ดี” พี่ต่ายพูดเปรยๆครับ
 
    เปรยทำไม๊  o12..... จากใจเลยซิ...... คิดงี้มาตลอดซิท่า .... แล้วทำไมพี่ไม่พูดว่าอยากทำงานกับผมบ้างล่ะ    ผมมันทำงานห่วยขนาดนั้นเลยเหรอ  ผมก็ว่าเรื่องงานผมโอเคขึ้นเยอะแล้วนะ  พี่มีนก็สอนผมเยอะเหมือนกัน ผมเลยเซ็งไม่อยากคุยด้วยแล้ว ไอ้พี่ต่ายบร้า บ้าๆๆๆๆๆ  o9

“ผมง่วงแล้ว......ถึงก็ปลุกแล้วกันพี่”  ผมเลยแกล้งนอนดีกว่าครับ หมดอารมณ์ เบื่อคน เซ็งเว้ย

“อ้าวคุยกันอยู่ดีๆ  ง่วงแล้วก็นอนไปเหอะ เดี๋ยวก็ถึงแล้ว”  พี่ต่ายยังอารมณ์ดีครับ พอพูดถึงสาวๆละเป็นไม่ได้ ยิ้มกริ่มเชียว หมั่นไส้โว้ย 

               แล้วผมก็หลับไปจริงๆครับไม่รู้เผลอกรน  หรือน้ำลายยืดไปรึเปล่าซิ   แต่ทำไมเสื้อแฉะๆหว่า    พอถึงบ้านพี่ต่ายก็ปลุกผมด้วยปากคับ    ผมเคลิ้มกับปากพี่เลยครับ ไม่ใช่........ไม่ช่าย.....แบบที่คิดอย่างนั้นหรอกน่า   แบบนี้ต่างหาก

“โอม.... โอม.....ไอ้น้องโอม....ถึงบ้านแล้ว  จะตื่นเองหรือจะไปนอนบ้านผม”

       เคลิ้มมมม........เกือบตื่นขึ้นมาแล้วด่าสวนกลับน่ะครับ  ยังโมโหอยู่นะ  อย่านะ....อย่า....ชี้โพรง  เดี๋ยวไปอยู่จริงแล้วไล่ไม่ยอมกลับด้วย

                ผมเลยต้องตื่นช่วยพี่ต่ายเอาของลง  ผมไม่พูดอะไรเลยครับ ขนของอย่างเดียว  ไม่รู้พี่ต่ายจะสังเกตรู้รึเปล่า   ก็เห็นคุยสนุกสนานกับพี่อั้ม ไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลยว่าผมโกรธอยู่ ผมละอ่อนใจ  แต่ก็ยังไม่ใจอ่อน  ยังไม่หายโกรธง่ายๆหรอก   ผมเลยลาพี่ต่ายเชิดหน้าแล้วเดินขึ้นบ้านไปเลย  (ผมว่าผมชักลีลาจัดขึ้นไปทุกวันครับ  อารมณ์นางเอกคงเข้าสิง) :a14:

“อ้าวเฮ้ย โอม เป็นไรว่ะ อยู่ดีๆนึกจะไปก็ไป ไอ้น้องคนนี้นี่ ผีเข้าอีกล่ะ.....เออ”
พี่อั้มแกก็ดีครับมักชื่นชมน้องให้คนอื่นฟัง

 “อยู่คุยก่อนไม๊ว่ะต่าย หรือมึงจะไปดื่มน้ำปัสสาวะหน่อยไม๊ ขับรถมาตั้งไกล 5555”

“ไม่ดีกว่าว่ะดึกแล้ว......กูกลับก่อน  ไว้ค่อยมาหามึงใหม่เว้ย  กูเบื่อมุขเสี่ยวๆแป๊กๆของมึงจริงไอ้อั้ม   กูไปละ”

          ผมแอบมองจากหน้าต่างบนบ้านครับ  :m22:  เห็นพี่ต่ายเงยหน้ามองมาข้างบนนิดนึง   ผมเลยหลบแต่พี่ต่ายก็คงไม่เห็นอะไร   เลยขึ้นรถขับกลับไป    ผมเลยไม่รู้ว่าผมมัวโมโหบ้าบอทำไมกัน ในเมื่ออีกคนเค้าไม่รู้เรื่องเลย  คิดอย่างงั้นได้เลยเลิกโมโหก่อนก็ได้ว่ะวันนี้    ไปอาบน้ำนอนให้สบายดีกว่า  พอออกมาจากห้องน้ำกำลังจะนอนแล้ว  ก็มีข้อความส่งมาทางโทรศัพท์จากพี่ต่าย

“ ฝันดีนะ  โอม....เพี้ยง  จาก พี่กระต่าย”

             ผมคงนอนหลับฝันดีล่ะคืนนี้  แต่ผมก็อยากรู้อยู่ดีว่าตกลงพี่ต่ายเค้ารู้ไม๊เนี่ยว่าผมโกรธเรื่องที่พี่ต่ายบอกว่าชอบติง

                เฮ้อ.......ใจคอพี่ต่าย......ผมงอนไปตั้งหลายหนเมื่อไหร่จะง้อซักทีว่ะ   ปล่อยให้งอนเองหายเองหลายครั้งแล้วนะ........พี่กระต่ายของผม ไอ้พี่บร้าาาา  :a6:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกๆคอมเมนท์นะครับ  อยากให้มีเยอะๆจะได้เป็นกำลังใจให้แต่งต่อไป o14
น่าเสียดายคอมเมนท์ที่หายไปช่วงปรับปรุงแต่ผมก็saveเก็บไว้ก่อนแล้วครับ
ขอบคุณอีกครั้งครับ
K-one o15
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 03-12-2007 09:30:10
งอนอีกแล้วหรอ แล้วพี่ต่ายรู้ตัวเปล่าหว่า  :m7: :m7:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-12-2007 09:41:48
พี่ต่ายคงขี้เกียจง้อ เลยแกล้งทำหน้ามึน ไม่รู้ไม่ชี้ว่างอนหรือเปล่า  :m26:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: terukizawa ที่ 03-12-2007 09:48:35
แง่ม.....เค้าเชื่อว่าพี่ต่ายรู้แหล่ะว่างอน

แต่................

ไมไม่ง้อซักหน่อยฟระ.........ฮึ่ม................ o12

ท่านโอมอย่าหายงอนง่ายๆน่อ งืบๆๆๆ (ยุให้ชาวบ้านทะเลาะกันซะงั้น เอิ๊กๆๆๆ)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 03-12-2007 11:21:02
โอมงอนซะแล้ว พี่ต่ายรีบมาง้อเร็ววววว :try2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 03-12-2007 12:28:34
 :m21: เหอๆๆ  งอนเองหายเอง  ...แทงใจดำอ่าา  หัวอกเดียวกาน   :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-12-2007 14:08:43
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 03-12-2007 14:46:02
 :a4:ชอบมากครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 03-12-2007 17:24:56
อ่านต่อกันนะ :m27:
++++++++++++++
ตอนที่  23

“โอมไปบริษัทนี้นะ ช่วยกันไปช่วยกันมาไปช่วยสายพี่ไข่หน่อย”  พี่มีนมาสั่งงานแล้วครับ

            ครับผมต้องเดินสายอีกแล้ว  พี่ต่ายก็ไปทำงานของพี่ ผมก็ไปทำงานของผม  แล้ววันนี้ผมก็ต้องไปสมัครเรียน ปส.กับติง  เดือนหน้าก็ต้องเริ่มเรียนแล้ว  ผมยังไม่รู้เลยว่าเราจะเป็นยังไงต่อไป  จะได้เจอกันบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ ผมนึกถึงที่พี่ต่ายพูดครั้งสุดท้ายก่อนจากกัน

“คงอีกนานกว่าเราจะเจอกันนะโอม”  คิดขึ้นมาทีไรก็ใจหายทุกที  :undecided:

            ไม่รู้ว่าอาทิตย์นึงจะได้เจอกันซักกี่วัน  จะได้คุยกันบ้างหรือเปล่า  ปรกติพี่ต่ายก็ต้องทำงานดึกๆทุกวันอยู่แล้วด้วย  ทำงานเสร็จก็คงอยากกลับบ้านนอน ก็เหมือนกับผม  เส้นทางของเราต่างคนก็คงต้องอดทนมากๆเลยครับ    แต่งานมาก็ไม่มีเวลามาคิดแล้วครับ  ถึงแม้จะวอกแวกไปบ้างแต่ก็พยายามระงับความคิดครับ ทำงานไปดีกว่า

              แต่ละวันผ่านไป หนึ่งวันก็แล้ว สองวันก็แล้ว จนอาทิตย์นึงแล้วครับ  เรื่องจะให้พี่ต่ายมาง้อไม่ต้องไปคิดแล้วครับ  แค่ให้โทรศัพท์มาหาผมได้ก็คงร้องYes!!   Yes!!  Yes!! สามหนแล้ว  ผมจะโทรไปหาก่อนมันก็ผิดคอนเซ็ปท์ของฝ่ายงอนซิครับ  ใช่ไม๊ล่ะ   :เฮ้อ:

            แต่ว่า....มันเงียบ.........มากกกก....มากเสียจนผมสงสัยว่าผมเคยรู้จักคนที่ชื่อต่ายไม๊ หรือวันอาทิตย์ก่อนมันไม่ใช่เรื่องจริงแต่เป็นหนังชายรักชายเรื่องนึง  ที่โดนหน่วยงาน ก.บ.ว ห้ามฉายในโรงหนัง  แต่ผมไปโหลดบิทมาดู โดยตัวละครนำสองคน  ดันหน้าตาคล้ายผม  แล้วผมบังเอิญได้ดูในฝัน  แล้วหนังก็สมจริงซะเหลือเกิน  มันเหมือนฝันจริงๆครับ  :m17:

   ผมต้องเข้าออฟฟิซวันจันทร์ตอนเช้าครับ    ก็เลยทำเป็นเดินขึ้นไปทักทายพี่เพ็ญ  เสนอตัวเข้าไปช่วยงานพี่ถ้าพี่ขาด พี่เพ็ญก็ไม่ว่าง  ไม่สนใจผมเลย(แงๆๆๆ)    เข้าไปหาเพื่อนๆสายพี่เพ็ญก็เจอกันแวบเดียว  แต่ทั้งหมดไม่มีใครเอ่ยถึงพี่ต่ายให้ผมได้ยิน จนผมอดไม่ไหวถามหมีตรงๆ

“เฮ้ยหมีทำไมช่วงนี้กูไม่เห็นหน้าพี่ต่ายเลยว่ะ พี่เค้าอยู่ไหนอ่ะตอนนี้”

          หมีพูดแต่ว่า “กูก็ไม่เจอพี่เค้าเลย ไม่รู้ไปไหน  หรือว่าพี่เค้าลุยเดี่ยวก็ไม่รู้ เนยก็ไปกะกูเนี่ย  ไม่ได้ไปกะพี่ต่ายล่ะวันนี้” แล้วหมีก็รีบไปครับ  ผมเลยไม่ได้ถามอะไรต่ออีก กลัวผิดสังเกต

          ในที่สุดพี่ต่ายก็เงียบหายไปเหมือนกับสายลมที่พัดผ่านเลยครับ  สองอาทิตย์เต็มๆ  ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มาหา    แมสเสจทางโทรศัพท์  อีเมล์  วอยซ์เมลล์   ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหลายหน  พยายามเปิดข้อความว่ามีที่ผมหลงๆลืมเปิดอ่านรึเปล่า  ก็เจอแต่อันสุดท้ายที่พี่เค้าส่งให้ผมวันอาทิตย์นั้น 

               แต่อย่างน้อยผมก็ดีใจนะครับว่า  อือ....อย่างน้อยวันนั้นก็ไม่ใช่ฝัน  แต่พี่ไปไหนกันว่ะ ผมเหนื่อยแล้วนะ  เหนื่อยกับการรอคอย  มันทรมาน......มากจริงๆ  :sad2:

            ผมคิดๆจะกดเบอร์โทรพี่ต่ายหลายครั้ง  แต่พอจะกดโทรออกก็ไม่กล้าซักที   ไม่น่าเชื่อครับผมไม่เคยโทรหาพี่เค้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว  พี่ต่ายก็เองโทรหาผมน้อยมาก   คิดแล้วก็แปลกเหมือนกัน

             พอผมเข้าออฟฟิซอีกทีพอมีช่วงเวลาว่าง  ผมแกล้งทำเป็นขึ้นไปหาเพื่อน เนย อ้อม หมี ก็เจอแต่เนยครับที่อยู่ออฟฟิซตอนนี้  แต่ไม่เห็นคนอื่นเลยอยู่ดีๆจะถามเนยเรื่องพี่ต่ายก็คงแปลกๆ   แต่ก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนที่หมีว่าว่าทำไมเนยไม่ออกจ๊อบไปกับพี่ต่ายเพราะปรกติเป็นบัดดี้กัน   ผมเลยชวนเนยไปทานข้าวด้วยกัน  เผื่อจะพอรู้เรื่องพี่ต่ายด้วย   ไม่ไหวแล้วครับอกจะระเบิด หงุดหงิดใจมาก

“เนยทำไมทานน้อยจัง ช่วงนี้งานหนักเหรอ”

             ผมว่าเนยดูไม่ค่อยสดใสครับ ปรกติเนยก็ไม่ใช่คนพูดเก่งมากเท่าไหร่  แต่ตอนนี้แทบไม่พูดเลย แปลกมากๆหรือปวดท้องวันนั้นของเดือน (ดันไปรู้เรื่องผู้หญิงเค้าอีก อิอิ)

“เนยเป็นอะไร หรือเรื่องงาน   เออผมสงสัยทำไมเนยไม่ไปกับพี่ต่ายล่ะ” 
เข้าเรื่องละเว้ย  แต่พอผมพูดชื่อพี่ต่ายครับ  ยังไม่ทันเสริมอะไรต่อเลย เนยน้ำตาร่วงเผาะๆเลยครับ

                 เฮ้ยเป็นไรน่ะ   :o  ผมไม่ได้ยังไม่ได้พูดลามกอะไรเลยนะ ไม่ได้ลวนลามเนยด้วย หรือเผลอไปเหยียบเท้าเนย  ก้มลงดูก็ไม่ใช่นี่นา

“เนยเป็นอะไร ผมพูดอะไรไม่ดีเหรอ ผมขอโทษเนยอย่าร้องไห้เลยนะ”

                ผมไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้เลยครับ มันให้ความรู้สึกว่าเราแย่  แล้วร้านที่เราไปกินนี่มันกลางตลาดเลยครับ  เค้าจะคิดว่าผมทำอะไรผู้หญิงซิ

                เนยยังคงไม่พูดอะไรครับแต่คงพยายามกลั้นน้ำตาอยู่           ค้นของในกระเป๋าใหญ่เลยครับคงหากระดาษทิชชู หรือผ้าเช็ดหน้า มาเช็ดน้ำตา  แต่ไม่มีครับ เลยได้แต่เอามือเช็ดน้ำตาป้อยๆ 

                  ผมก็พยายามควักกระเป๋าให้วุ่นวายครับ  ลืมตัวนึกว่าตัวเองเป็นพระเอกละครที่มักจะมีผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตาให้ผู้หญิงอยู่เสมอ  แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าผมไม่เคยใช้ผ้าเช็ดหน้าครับ  แล้วตรูจะไปมีได้ยังไงล่ะ เฮ้อ!!!! ไอ้โง่  :a6:

ผมเลยบอกเนยให้รอเดี๋ยวแล้ววิ่งไปซื้อกระดาษทิชชูมาให้เนยครับ
 
“ขอบคุณนะโอม”
             
               เนยยิ้มแล้วรับกระดาษไปครับ  เพราะไอ้ผมก็ซื่อบื้อดันซื้อแบบเป็นม้วนมา เค้าเอาไว้เช็ดก้นนี่หว่า กูทำอะไรเปิ่นๆอีกละ  แต่ก็โอเคน่าเนยยิ้มได้แล้ว

“ตอนเย็นโอมว่างไม๊ เราอยากปรึกษาโอมน่ะไม่รู้จะคุยกับใครดี   ก็เรื่องพี่ต่ายด้วยนี่แหล่ะ”

                ถึงผมไม่ว่างผมก็ต้องว่างครับ ใครจะมาลากผมไปไหนผมก็ไม่ไป  ต่อให้เลี้ยงข้าวเลี้ยงเหล้าผมก็ไม่ไป  แล้วพอดีวันนี้ผมก็ว่างด้วยซิ

“ได้เนย เลิกงานแล้วเจอกันนะ  แล้วมีอะไรค่อยคุยเนยอย่าร้องไห้นะ”

              ผมดีใจที่เนยหยุดร้องไห้แล้ว  ถึงแม้ว่าใจผมมันกำลังจะต้องร้องแทนรึเปล่านี่ซิ   ผมคงต้องรอตอนเย็นถึงจะรู้   ถึงแม้ว่าผมจะอยากรู้มากแค่ไหนก็ตาม

             เคยไม๊ครับดูละครแล้วพอเค้าจะเฉลยตอนจบ  มันก็ดั๊นจบไปซะงั้น   ทำให้เราค้างคา ต้องรออีกอาทิตย์นึง   ทำให้เราแทบอยากจะกระโดดเข้าไปจับที่ไหล่ไอ้คนทำละครจับมันเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน  แล้วถามมันว่า “ตอนต่อไปเป็นยังไงบอกมานะ”

               ตอนนี้อารมณ์ผมมันประมาณนั้นเลยครับ แต่ผมไม่กล้าทำกับเนย   กลัวว่าเนยจะกลัวผมแล้วร้องไห้อีก   ที่สำคัญมันไม่ใช่ละคร  แล้วเนยก็ไม่มีตอนหน้าพรีวิวให้ดูก่อนซะด้วยซิ

                 แต่ผมว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีซักเท่าไหร่หรอกถ้าดูจากอาการและน้ำเสียงของเนยแล้ว   ที่สำคัญพี่ต่ายกับเนยมาเกี่ยวกันได้ยังไงสิที่ผมสงสัย  คาใจจริงๆ  :m21:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-12-2007 18:53:54
อย่าให้มีอะไรเลย   :เฮ้อ: :เฮ้อ:  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 03-12-2007 19:27:15
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 03-12-2007 19:35:16
อ้างถึง
     เคยไม๊ครับดูละครแล้วพอเค้าจะเฉลยตอนจบ  มันก็ดั๊นจบไปซะงั้น   ทำให้เราค้างคา ต้องรออีกอาทิตย์นึง   ทำให้เราแทบอยากจะกระโดดเข้าไปจับที่ไหล่ไอ้คนทำละครจับมันเขย่าให้หัวสั่นหัวคลอน  แล้วถามมันว่า “ตอนต่อไปเป็นยังไงบอกมานะ”

^
^
^
ตอนนี้ก็กำลังอารมณ์แบบนี้เลย!!! มาต่อด่วนๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  o9
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 03-12-2007 20:31:58
มาต่ออีกจิ ค้างคาไว้ไม่ดีนะ  :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 03-12-2007 22:16:34
ไม่ชอบ ก็อย่าทำให้เค้าค้างไปด้วยจิ  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 03-12-2007 23:34:50
ค้างคาอ่ะ อยากอ่านแล้ว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 04-12-2007 08:18:09
โอ้ยยยย

ค้างคาอย่างแรง

เนยกับพี่ต่าย?  เกิดอะไรขึ้น?  ทำไมเนยร้องไห้?

อยากรู้ๆๆๆๆๆๆ

 :serius2:  o9
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 04-12-2007 08:40:24
               ตอนนี้อารมณ์ผมมันประมาณนั้นเลยครับ แต่ผมไม่กล้าทำกับเนย   กลัวว่าเนยจะกลัวผมแล้วร้องไห้อีก   ที่สำคัญมันไม่ใช่ละคร  แล้วเนยก็ไม่มีตอนหน้าพรีวิวให้ดูก่อนซะด้วยซิ

ช่าย ตอนนี้ก็มีคนทำอย่างนี้เหมือนกัน
ตัวเองโดน แล้วมาให้คนอ่านโดนกันถ้วนหน้า  :m15:

มาต่อวันนี้นะ :impress: นะ นะ นะ นะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 04-12-2007 09:32:12
จ๊าก.............................................กกกกกกกกกก ค้างคามากๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 04-12-2007 10:00:04
ถ้าไม่มาต่อคนเขียนคงโดนรุม :เตะ1:  แต่ต่อไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะรอดไม๊  :m29:
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่24
 
“โอม...โอม.....ถามก็ไม่ตอบ  คิดอะไรอยู่น่ะ”

                 เสียงติงหงุดหงิด แล้วก็บ่นพึมพำเมื่อคุยกับผม  แต่ผมไม่คุยด้วย ใจผมมันอยากจะให้ถึงตอนเย็นไวๆ  ใครจะพูดอะไรออก

“ตอนกลางวันก็หายไปไหนไม่รู้  ไม่ยอมรอติงเลย  เดี๋ยวนี้แปลกๆแฮะ” ติงยังพูดไปเรื่อยๆ

“เออ....โอมรู้ไม๊ เดี๋ยวเราต้องแยกกันแล้วนะ ติงต้องไปตรวจบริษัท......ส่วนโอมต้องไปกับสายพี่เพ็ญ”

               เคยเป็นไม๊ครับเวลาเราชอบใคร  เราอยากให้เค้าคุยกับเรามากๆ  คุยเรื่องอะไรก็ได้ เรื่องไร้สาระขนาดไหนเราก็ยังสนุก   ต่อให้เรากำลังปวดท้องอยากจะไปปล่อยเรือดำน้ำในห้องน้ำเรายังสนุกในเรื่องที่เค้าพูดเลย 

                แต่พอเราอารมณ์ไม่ดีต่อให้เคยชอบยังไง  ให้มานั่งอยู่ตรงหน้าเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไรซักคำ แค่หน้าเค้าเรายังไม่อยากมองเลย   พาลให้เราอยากลุกหนีไปเข้าส้วมด้วย

                ผมไม่รู้สึกกับติงขนาดนั้นหรอกครับ  แต่ก็เกือบๆล่ะ  เพราะเรื่องที่คุยกับพี่ต่ายวันก่อนด้วย  แล้วก็เรื่องที่ผมกำลังกังวลกับเรื่องที่เนยจะบอกผม  ผสมๆกัน   ทำให้วันนี้ติงพูดอะไรผมก็ไม่อยากฟัง   แถมยังรู้สึกรำคาญนิดหน่อยด้วย 

                แต่ผมก็พยายามอดทนครับ  เพราะยังไงติงกับผมก็อยู่สายเดียวกันยังต้องทำงานด้วยกันไปอีกนาน ติงไม่ผิดหรอกครับ  มันผิดที่ตัวผมมากกว่า   แต่ที่ติงพูดคำสุดท้ายนี่ซิครับ ทำให้ผมต้องกลับมาถามติง
   
“ติงว่าอะไรนะ ที่ว่าเราต้องไปสายพี่เพ็ญน่ะ”  :m28:

“แหมพอจะได้กลับไปทำกับสายเก่า เลยหูผึ่งเลยนะ” ติงยังอดเหน็บผมไม่ได้

“ก็โอมไม่รู้เหรอ  รู้สึกว่าพี่ต่ายลาพักร้อน งานเลยทำไม่ทัน  พี่เพ็ญต้องระดมคนมาช่วยจ๊อบนี้ แล้วพอดี ล๊อตเตอรี่รางวัลที่1 มาเป็นโอมพอดีนะซิ พี่มีนเลยส่งโอมไป”

ผมตื่นเต้นน่าดูเลย พอได้ยินข่าวนี้ อยู่ดีๆก็มีข่าวพี่ต่ายมาแล้วครับ   แต่ดันมาจากติง

“แล้วติงรู้ไม๊งานนี้ใครเป็น incharge ใช่พี่ต่ายไม๊” 

“ไม่แน่ใจนะ  เพราะไม่รู้ว่าพี่ต่ายจะกลับมารึยัง  แต่ที่จริงจ๊อบนี้เป็นของพี่ต่ายโดยตรงเลยล่ะ”

“แล้วติงไปรู้เรื่องพี่ต่ายได้ไง  ว่าเค้าลาพักร้อน  แล้วเรื่องที่โอมต้องไปทำงานกับสายพี่เพ็ญด้วย ผมยังไม่ได้ยินพี่มีน  หรือใครพูดซักคนเดียว”

  ทำไมติงรู้ละเอียดจังผมล่ะสงสัย

“ติงก็ต้องรู้มาจากพี่ต่ายซิ เรื่องพี่ต่ายลาพักร้อน”

                    แปลกครับพอติงพูดแค่นี้ผมก็จิ๊ดดดด.....โมโหมากกกก   :serius2: แต่ตอนนี้ผมสับสนว่าผมโกรธใครกันแน่  โกรธติงที่มารู้เรื่องของพี่ต่ายในขณะที่ผมไม่รู้อะไรเลย  หรือว่าโกรธพี่ต่ายคนที่บอกว่ามีความสุขเวลาอยู่กับผม แต่ไม่ติดต่อผมเลยมาสองอาทิตย์แล้ว แต่กลับไปบอกติงว่าจะลาพักร้อน

 นี่ผมเป็นอะไรกันแน่สำหรับพี่ต่าย  :o12:

                แต่ติงก็ยังคงพูดต่อไปครับ ติงที่ผมเคยเห็นว่าเธอน่ารักเวลาเธอเจรจา  ตอนนี้ผมเห็นว่าเธอเป็นใครไม่รู้ที่พูดไม่หยุด        เหมือนเป็นหุ่นยนต์ที่ผมอยากจะไปกดปุ่มปิดสวิทซ์การทำงานไปตลอดชีวิตเลย

“ส่วนเรื่องพี่พี่เพ็ญจะขอให้โอมไปช่วย เพราะพี่เพ็ญไปขอโอมกับพี่มีน เห็นว่าโอมเคยไปบอกพี่เพ็ญว่าถ้ามีอะไรให้ทำให้บอก ใช่ไม๊ล่ะ”

“ แล้วพี่มีนเลยมาถามเราว่าโอมไปไหน  เมื่อตอนกลางวันนี้เอง เราก็เลยรู้โดยบังเอิญน่ะ”

                  ผมไม่อยากคุยกับติงแล้วครับ ทำไมพี่ต่ายต้องบอกติงไม่บอกผมเรื่องลาพักร้อน   ผมก็ไม่อยากรู้เหตุผล  บางที่สิ่งที่ผมคุยกับพี่ต่ายวันนั้นเรื่องติงมันอาจจะเป็นจริง  ไม่ใช่ผมบ้าโมโหไปโดยลมๆแล้งๆ  ติงพูดอะไรมามันก็คงแค่ผ่านหูผมไป

“แปลกเนอะโอม ช่วงนี้งานก็ยังเยอะนะ  พี่ต่ายนึกยังไงลาพักร้อน แล้วพี่เพ็ญยอมได้ไง”
เออ อย่ามายุ่งกับผม ผมไม่เกี่ยวแล้วนี่ ไปถามกันเอาเองเว้ย  :seng2ped:

               ผมยังคงทำเป็นทำงานไปโดยไม่สนใจ   แต่ผมก็ไม่รู้หรอกครับว่างานมันจะใช้ได้ไม๊  ก็สมาธิสติสตังของผมมันไม่มีเลยครับ  ติงคงเห็นผมไม่ตอบด้วยก็เลยเลิกชวนคุย  เค้าคงคิดว่าผมงานเยอะมากจนไม่อยากคุย 

                พอตอนเย็นพี่มีนก็เรียกผมไปเรื่องที่ติงว่าจริงๆ  พี่มีนไม่ได้บอกว่าทำไมผมต้องไปช่วยพี่เพ็ญ  ไม่บอกว่าใครเป็น inchargeงานนี้   บอกแต่ว่าพรุ่งนี้ให้ไปหาพี่เพ็ญเพื่อไปจ๊อบใหม่

                ผมรับคำมาด้วยสมองที่ว่างเปล่า   ผมไม่อยากเจอเนยแล้วครับเย็นนี้ ผมเริ่มกลัวสิ่งที่เนยกำลังจะบอกผม เลยกะว่าจะแอบกลับไปก่อน

                 แต่กลายเป็นว่าเนยมานั่งรอผมที่โต๊ะ  ผมเลยหนีไปไหนไม่ได้ ต้องไปกับเนย   ตอนนี้ถ้าเทียบกันแล้วระหว่างติงกับเนย ผู้หญิงสองคนที่ผมเคยรู้สึกว่าตัวเองชอบทั้งคู่  ผมไม่อยากเจอใครเลยครับ

                  อารมณ์ตอนนี้อยากกลับบ้าน  บ้านต่างจังหวัดนะครับ  อยากกลับไปหาแม่ หาป๋า หาพี่อิง  ไปฟังมุขแป๊กๆของพี่อิงก็อาจจะดีกว่าอยู่ที่นี่ตอนนี้  ลากเอาพี่อั้มไปอีกคน  สองคนนี้เจอกันที่ไรเหมือนมีตลกประจำบ้านหัวเราะกันทั้งวัน   ผมคิดถึงบ้านนนนนนนอ่ะ  แต่ตอนนี้ใครจะช่วยผมได้เล่า ฮือๆ ไม่รู้ว่าวันนี้มันเป็นวันสุดเซ็งอะไรของผมนักหนา  :m17:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
   แล้วผมก็ต้องไปนั่งหน้าเป็นตูดอยู่หน้าเนย

“เนย ถ้าเนยไม่สะดวกใจ  ไม่ต้องเล่าให้ผมฟังดีกว่า  เรื่องของพี่ต่ายกับเนย มันก็เป็นเรื่องของคนสองคน  ผมว่าผมฟังไปก็คงทำอะไรไม่ได้”   o12

                    ผมตัดสินใจพูดกับเนยแบบนี้ละครับก็ผมมานั่งเฉยๆฟังเสียงเนยถอนหายใจ แล้วก็นั่งเช็ดน้ำตาป้อยๆอยู่ที่ร้านนี่เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วครับ ไม่พูดอะไรเลย

“เนยทำให้พี่ต่ายเดือดร้อน  เนยไม่ได้อยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ เนยสับสน”

                 เนยพูดด้วยเสียงสั่นเครือ   แต่เออนะ........เอาเข้าไปพูดแบบนี้ผมจะไปช่วยอะไรได้  นี่ผมชักจะรำคาญเพื่อนผู้หญิงพวกนี้แล้วนะ   

“เนยไม่คิดว่าเรื่องมันจะเลยเถิดขนาดนี้ ทำให้พี่ต่ายเสียหายงานการแบบนี้”
เกริ่นเข้าไป ทำเป็นขี่ม้าเลียบค่ายแบบนี้  คืนนี้เที่ยงคืนผมจะรู้ไม๊ว่ะเนี่ย   :undecided:

“แล้วพี่ต่ายไปไหน”
 ผมอดถามไม่ได้เสียงผมแข็งไปโดยไม่รู้ตัว    ก็ที่อยากรู้น่ะแค่นี้บอกมาซักทีซิเนย เว้ย :m16:

“เนยไม่รู้  เนยไม่เจอพี่ต่ายมาอาทิตย์นึงแล้วเหมือนกัน”
 เนยก็ไม่รู้ สาธุ  แล้วลากผมมาพูดเรื่องอะไรกันนี่  :a6:

“แล้วเนยรู้ไม๊เรื่องพี่ต่ายลาพักร้อน” ผมลุ้นคำตอบครับ

“ทำไม โอมรู้ล่ะ” แน้......ทำมาถามผมกลับอีก มีย้อน :angry2:

“เอาน่า.....ตกลงเนยรู้ไม๊”  บอกมา  ไม่บอกกรูกลับแล้ว  โคตรเสียเวลา

“รู้ซิ แต่เรื่องนี้มีแค่ไม่กี่คนที่รู้นะ”

                 ใช่มีเนย ติง แล้วก็คงพี่เพ็ญ พี่มีน อาจจะมีไอ้หมี อ้อมฯลฯ ด้วย  ยกเว้นก็แต่กรูคนเดียว  พอกันทีไม่ฟังแล้วโว้ย

“เนยผมกลับแล้วนะ  เพราะเนยจะพูดอะไรก็ไม่พูด พูดอะไรมาก็ไม่รู้เรื่อง เหมือนเนยยังไม่ไว้ใจที่จะบอกผม”
หมดแล้วครับความอดทน ความเป็นสุภาพบุรุษ

“โอม เนยขอโทษ เนยจะเล่าแล้ว  ถ้าวันนี้ไม่พูดให้โอมฟังเนยคงนอนไม่หลับอีกแน่ จะคุยกับพี่ต่ายก็ไม่รู้จะเจอกันได้ยังไง”

                 ครับแล้วเนยก็เล่าเรื่องให้ผมฟังทั้งหมด  คืนนี้เนยคงนอนหลับเพราะมีผมช่วยรับฟัง  แต่คนที่นอนไม่หลับจะเปลี่ยนมาเป็นผมแทน   

                  แต่คืนนั้นก่อนจะนอนผมตัดสินใจโทรหาพี่ต่าย  แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเลขหมายที่ท่านเรียก ผมเลยส่ง sms ไปบอกพี่ต่ายว่า

“พี่กระต่ายโทรหาผมด้วยนะ”  แค่นี้แหล่ะครับ   

แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังเรื่องเลวๆของคนเลว    ที่ผลของมันดันชิ่งไปชิ่งมาจนทำให้ผมจะเป็นบ้าไปด้วยให้ฟัง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แฮะๆบ่ายๆมาต่อให้ครับ  คนเขียนชอบแกล้งคนอ่านน่ะ :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 04-12-2007 10:49:45
จ๊ากกกกกก  ค้างคาอีกแล้ววววว อย่าใจร้ายกับคนอ่านเลย มาต่อเร็วๆๆๆน้า :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-12-2007 13:05:22
 o7 เกิดไรขึ้น


  o9   ค้างอ่ะ  มาต่อไวๆค้าบบบ   :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 04-12-2007 15:06:34
อ้างถึง
แล้วผมจะมาเล่าให้ฟังเรื่องเลวๆของคนเลว    ที่ผลของมันดันชิ่งไปชิ่งมาจนทำให้ผมจะเป็นบ้าไปด้วยให้ฟัง

หมายความว่าไงอ่ะ

ใครเลว  :m28:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 04-12-2007 15:15:06
 :o ตัวเองนอนไม่หลับ เลยมาส่งไม้ผลัดให้คนอ่านกระสับกระส่าย 

คนเขียนแกล้งอ่ะ :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 04-12-2007 15:26:43
มาแล้วครับ  :m5:
++++++++++++++++++++++
 ตอนที่25
   
เรื่องที่เนยเล่ามันเป็นอย่างนี้ครับ

   “โอมจำแฟนเราได้ไม๊     คนที่เคยไปรับเราที่ทำงานที่บริษัท....  ตอนจ๊อบแรกที่เราไปทำด้วยกันน่ะ” เนยเริ่มเล่าด้วยเสียงที่ดูออกจะเศร้าสร้อย

“อืม  โอมเห็นแค่ไม่กี่ครั้งแต่พอจำได้”

                ผมจำได้ครับแฟนเนยตัวสูงใหญ่  ผมว่าพี่ต่ายสูงแล้วพี่นุ้ยแฟนเนยนี่สูงกว่าอีก  หน้าตาดีเลยทีเดียว  ผิวออกจะคล้ำๆหน่อย แต่งตัวดี  พูดจาสุภาพดูเป็นผู้ใหญ่  ผมว่าอายุคงประมาณ 35 ได้   ท่าทางเข้ากับคนง่าย

                แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ค่อยชอบครับ บอกไม่ถูก  เหมือนคนที่ไม่ถูกชะตามากกว่า  ผมว่าเค้าดูเป็นมิตรแต่ไม่จริงใจ  แต่ก็แค่นี้ครับผมไม่รู้อะไรไปมากกว่านี้  แล้วพี่ต่ายมาเกี่ยวยังไง  ผมยังสงสัย

“เรารู้จักกัน  จากทางอินเตอร์เน็ต  จากเวปหาคู่น่ะ”
เนยเอาเวลาที่ไหนไปเล่นว้า  แล้วน่ารักอย่างนี้ทำไมต้องไปหาคู่ทางเน็ต ผมได้แต่งง

“เราเล่นตามเพื่อนน่ะ กะเล่นสนุกๆ ไม่ได้คิดอะไร” เนยคงอายผมเหมือนกัน

“แต่เราคุยกับพี่นุ้ยถูกคอ เลยมานัดเจอกันทีหลัง” เนยยังคงเล่าต่อไปด้วยเสียงเรื่อยๆ

“พี่นุ้ยบอกว่าจบดอกเตอร์  ทำงานที่บริษัท....อยู่การตลาด ตำแหน่งสูงเหมือนกัน”
ฟังๆดูแบคกราวน์ก็ดูดีนะครับ  ถ้าบวกกับรูปลักษณ์ภายนอก  ผมว่าเป็นชายในฝันที่คนมองหาเลยทีเดียว Dark Tall and Handsome

“เราก็คบกันมาเกือบปีแล้ว  เราเคยไปหาพี่นุ้ยที่บริษัทหลายๆหน  หลังจากที่เราเลิกงานน่ะ”

              แสดงว่าต้องไปตอนดึกๆเลยครับ  เพราะกว่าพวกเราจะเลิกงานก็ต้อง2-3 ทุ่มไปแล้ว ขยันจริงๆเลยเนย  ไม่เหนื่อยบ้างรึไงนะ เพื่อความรักจริงๆ

“ฟังๆดูก็ดีนี่เนย ไม่น่ามีปัญหาอะไร แล้วพี่ต่ายมาเกี่ยวอะไรด้วย”
 เนยเล่าช้าครับไม่ทันใจผม   :m21:

“โอมเดี๋ยวซิ  นี่เราเห็นเป็นโอมนะเราเลยกล้าเล่า  นอกจากพี่ต่ายเราไม่เคยคุยเรื่องนี้แบบเปิดอกเลย”
 
“พี่นุ้ยชอบให้เราเอาใจ  ตอนเย็นเราต้องไปรับที่ทำงานพี่นุ้ยเกือบทุกวัน  ขับรถไปส่งพี่นุ้ยที่บ้าน  แถวลาดพร้าวน่ะ  เราเองก็พบคุณพ่อคุณแม่ของพี่นุ้ยตั้งหลายหน”

                     ถ้าผมจำไม่ผิด   ถ้าบ้านพี่นุ้ยอยู่ลาดพร้าว  แล้วบ้านเนยอยู่ฝั่งธน  คนละทิศละทางกันเลยครับ  แล้วกว่าจะไปรับไปส่งเนยจะถึงบ้านกี่โมงกันแน่  เป็นผมคงไม่ไหวมั๊งเนยทนได้ยังไงกัน

“เนยไม่เหนื่อยเหรอ” ผมก็อดถามไม่ได้ครับ ผู้ชายประสาอะไรให้ผู้หญิงขับรถรับส่ง...เวรกรรมของเนยจริงๆ

“เราทนได้  เพราะพี่นุ้ยเค้าบอกว่ารักเรา เราเองก็อยากอยู่กับเค้านานๆ”  เนยพูดไปก็เอากระดาษซับน้ำตาไป

แต่เนยก็เป็นคนน่ารักครับ  เป็นใครก็ต้องชอบนิสัยก็ดีช่างเอาใจ  ใครอยู่ใกล้ก็อดรักไม่ได้

“ช่วงอาทิตย์ก่อนๆเราทำงานกับพี่ต่ายหนักมาก  ไม่มีเวลาไปรับส่งพี่นุ้ยเลย......พี่นุ้ยเลยมาตามเราที่บริษัทไม่บอกเราให้รู้ล่วงหน้า”

“แล้วก็มาเจอเราอยู่สองคนตอนดึกๆกับพี่ต่าย   พี่นุ้ยเลยโมโหเรา  หาว่าแอบคบกับพี่ต่าย”

“เรากับพี่นุ้ยทะเลาะกัน พี่นุ้ยบอกให้เราเลิกทำงานที่บริษัทนี้”

“เราก็เครียดนะโอม เรารักงานนี้  แล้วก็ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับพี่ต่ายด้วย”
ตอนนี้เนยเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้วครับ ร้องไห้หนักขึ้นไปเรื่อยๆ

“แล้วช่วงนั้นก็มีผู้หญิงคนนึงโทรมาหาเรา  เค้าบอกว่าเป็นแฟนพี่นุ้ย  คบกันมาหลายปีแล้ว  ให้เราเลิกยุ่งกับพี่นุ้ย  แล้วเค้าก็เล่าเรื่องพี่นุ้ยกับเค้า    เรื่องที่บ้าน  เรื่องพ่อแม่พี่นุ้ยมันก็ตรงทุกอย่าง”
 
“พอเราไปถามพี่เค้าเรื่องนี้  เค้าก็บอกเราว่า เค้ารักเราคนเดียว คนนั้นเป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว  ผู้หญิงคนนั้นโกหก  แต่เราเริ่มไม่เชื่อพี่เค้าแล้วไงโอม”

“เราเลยไปเช็คเรื่องที่พี่เค้าบอกว่าจบด๊อกเตอร์  เรื่องที่เค้าจบที่ไหนมา มันไม่จริงเลยโอม แล้วเราก็ไปถามเพื่อนพี่นุ้ยเรื่องผู้หญิงคนนั้น ปรากฎว่าเค้าเป็นแฟนกันจริง”

“พอเรารู้มันเจ็บนะโอม  เรามาคิดๆดูแล้ว  เค้าคงคบสองคนพร้อมกันมาตลอด แต่พี่นุ้ยเค้าหลอกเราทุกเรื่องเลย”  
เนยร้องไห้สะอึกสะอื้น น่าสงสารมากเลยครับ
 
“เป็นปีกว่านะโอมที่เราคบกับพี่เค้ามา  เรารักพี่เค้ามาโดยตลอดทั้งที่เรารู้สึกว่าพี่เค้าเอาเปรียบเรา  เราก็ไม่เคยแคร์  ทั้งๆที่เพื่อนๆเนยก็ไม่มีใครปลื้มกับพี่นุ้ยซักคน”

“พอเรารู้แบบนี้เราเลยตัดสินใจ ที่จะเลิก  แต่พี่เค้าไม่ยอม เค้าบอกถ้าเลิกเค้าจะแบล็คเมล์เรา”

                  แมร่งผู้ชายหมาๆอะไรอย่างนี้ว่ะ  :m16:   เสียชื่อเกิดมาเพศเดียวกับผม  ผมแค้นแทนเพื่อนเลยครับ

“ทำไมเนยต้องกลัว  เราไม่ได้ทำอะไรผิด มันจะเอาอะไรมาทำเราได้”

“ถ้ามันมาก่อกวนเนย เนยบอกเราเราจะไปด่ามันให้”  

เนยอ้ำอึ้งไปซักครู่  เงียบไปพักใหญ่  ก่อนจะตัดสินใจบอกผม  

“เนยเคยถ่ายคลิปกับพี่เค้า   แต่รูปก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้นน่ะโอม แค่จูบกอดนิดหน่อย  แต่มันก็ดูไม่ดีน่ะ เค้าบอกจะเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่แล้วก็ส่งอีเมล์ไปทั่วที่ทำงานลูกค้าด้วย ที่ออฟฟิซเราด้วย  เนยอายน่ะโอม แล้วที่บ้านเนยอีก แม่ไม่รู้เลยนะ”

                    :angry2: ผมฟังแล้วของขึ้นจริงๆ ผมถึงว่าเห็นหน้ามันแล้วไม่เคยชอบเลย  ทำไมมันเลวได้ขนาดนี้ ผมไม่เข้าใจจริงๆ  แล้วอาชีพของเราความเชื่อถือก็เป็นสิ่งสำคัญ  ถ้าลูกค้าเห็นเข้าเรื่องใหญ่แน่ๆ

“ผมถามเนยหน่อยนะ อย่าโกรธผมเลยนะ   ทำไมไปถ่ายกับเค้า”

“ก็พี่เค้าบอกไว้ดูกันเอง ไม่ได้ให้ใครดู  เรารักเค้า แล้วก็คิดไปถึงว่ายังไงเราก็จะแต่งงานกันด้วย”

“แล้วนอกจากเรื่องนี้มีเรื่องเงินด้วยรึเปล่า”  ผมก็อดอยากรู้ต่อไม่ได้

                  บ้านเนยฐานะดีครับ เนยขับรถบีเอ็ม  ทำงานของที่บ้านด้วยแต่เข้าออฟฟิซแค่เดือนละ 2 วัน ก็ได้เงินเดือนที่แม่ให้อีกหลายหมื่น  ผมว่าที่มันรั้งเนยไว้ไม่ยอมให้เลิกก็เพราะเรื่องนี้ด้วยแหล่ะ

“พี่เค้าเคยเกริ่นๆจะยืม  แต่เราบอกเราไม่มี เราไม่เคยให้หรอก”

อืมมมม......ก็ยังดีนะ อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียตัวเสียเงิน ถึงแม้จะเสียใจ  แต่เนยอาจบอกผมไม่หมดก็ได้

“อย่าให้เจอหน้านะ ผมจะชกมัน”
ผมสงสารผู้หญิงครับ เนยไม่ได้ทำอะไรผิด ก็แค่รักมากไป  โดนเอาเปรียบยังไงก็ยอม

“อย่านะโอม ก็เพราะแบบนี้แหล่ะ พี่ต่ายเลยต้องพลอยแย่ไปด้วย”

“เออ แล้วพี่ต่ายมาเกี่ยวอะไร” เข้าเรื่องพี่ต่ายซักที

“ก็หลังจากเกิดเรื่อง เราก็เลยขาดงานบ่อย แล้วพอมาทำงานก็นั่งซึมร้องไห้  พี่ต่ายทนไม่ไหวถามเรา  เราก็เลยต้องเล่าให้พี่ต่ายฟัง”

“พี่ต่ายโมโหแทนเรามาก เลยโทรไปคุยกับพี่นุ้ยให้เลิกมายุ่งกับเรา แล้วโทรนัดพี่นุ้ยให้มาคุยกันต่อหน้ากับเราให้รู้เรื่อง”

ผมเลยถามต่อ  “แล้วเค้ายอมมาไม๊ล่ะ”

“ไม่มา.....แต่หลังจากนั้นพี่นุ้ยก็โทรก่อกวนมาทะเลาะกับพี่ต่ายตลอดเลย”

“พี่นุ้ยเค้าโทรมาว่าเราด้วยน่ะว่ามีอะไรกับพี่ต่าย”

                    เนยเล่าไปร้องไห้ไป พรุ่งนี้มีหวังตาปูดแน่ๆ  แล้วพี่ต่ายของผม ต้องบอกว่าเนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รองนั่ง  หาเหาใส่หัวจริงๆ  แล้วจะเป็นไงต่อหว่า

“พี่นุ้ยน่ะ........ เคยพาทั้งเราทั้งผู้หญิงคนนั้นไปที่บ้านด้วย พ่อแม่เค้ารู้มาตลอดนะโอม ฮือๆ เพื่อนพี่นุ้ยทุกคนก็รู้หมด มีเราโง่อยู่คนเดียว ทุกคนหลอกเรา” เนยยังคงร้องไห้ครับ

“เราไม่เข้าใจว่าเดี๋ยวนี้การคบคนสองคนพร้อมกัน  มันเป็นเรื่องปรกติไปแล้วเหรอ แล้วทำไมไม่บอกเราตรงๆ  ให้เราตัดสินใจเองว่าจะคบต่อหรือเลิก ทำไมต้องหลอกลวงกัน”

“เฮ้อ!!!!!!”  :เฮ้อ:
                  ผมได้แต่ถอนใจครับ พี่ต่ายไม่ทำผมก็คงทำแทนล่ะครับ ไอ้เรื่องด่าเนี่ย  เนยเป็นคนน่ารัก  ไม่น่าจะเจอเรื่องรักเผื่อเลือกแบบนี้ แล้วทำไมคนเป็นพ่อแม่พี่นุ้ยกลับไปร่วมมือให้ลูกตัวเองทำกับผู้หญิงแบบนี้ได้  เป็นผู้ใหญ่แบบไหนกัน

“พี่นุ้ยเองก็ไม่ชอบพี่ต่ายอยู่แล้ว   ตอนหลังพอมาเจอกันก็ทะเลาะกันใหญ่  พี่นุ้ยจะชกพี่ต่ายแต่พี่ต่ายหลบทัน   แล้วตอนชุลมุนกันพี่ต่ายเลยชกสวนกลับพี่นุ้ยไปทีนึง  แต่พอดีมีคนมาช่วยแยกทัน  เลยไม่ยุ่งไปมากกว่านี้”
 
                   เออเรื่องมันยุ่งไปกันใหญ่จริงๆ  ผู้ชายคนนี้มันอันธพาลจริงๆ  เนยไม่น่าเอาตัวไปเกลือกกลั้วกะคนแบบนี้เลย

 แล้วพี่ต่ายของผมก็พลอยซวยไปด้วย  ไปยุ่งกับแฟนชาวบ้านเค้าทำไม๊ ฟังแล้วเครียดครับ :try2:
*************************************************************************
อ่าครับ....รอพี่ต่ายกันต่อปาย   o1
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 04-12-2007 15:45:21
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 04-12-2007 17:10:58
 :a4:เมื่อไหร่พี่ต่ายจะกลับมาครับ หายไปหลายตอนแล้วนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 04-12-2007 22:43:08
โอ๊ะ โอ พี่ต่ายโผล่มาหน่อยนึง ให้หายคิดถึงไปบ้าง
แต่ถ้าให้ดีตอนหน้าโผล่มาได้แล้วววววว คิดถึงงงงงงง  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-12-2007 23:53:03
ไอ้พี่นุ้ยนี่มานนนนนนน  :m16:  :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 05-12-2007 00:08:38
สงสารพี่ต่ายจังเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-12-2007 06:08:10
พี่ต่ายจะเป็นไงบ้างเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 05-12-2007 08:23:29
สวัสดีวันพ่อคร๊าบ  o14
 วันนี้มาเช้าหน่อยเพราะไปใส่บาตรมา สบายใจจังเลย  :a10:
+++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่26
   
เรื่องของเนยยาวจริงๆครับ  แต่มันยังไม่จบ หึหึหึ ฟังจนเหนื่อยเลยครับ

“พี่นุ้ยโทรเข้าไปหาพี่เพ็ญด่าพี่ต่าย    ว่ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเนย ทำไมพี่เพ็ญไม่ควบคุมลูกน้องให้ดี  แล้วขู่พี่เพ็ญว่าจะส่งจดหมายไปด่าพี่ต่ายทุกๆที่  ที่พี่ต่ายไปทำงาน ให้เตรียมรอจดหมายจากทนายไว้ได้เลย”

เนยเล่าไปก็ยังสะอื้นไป  พี่เพ็ญเลยพลอยซวยไปอีกคน  แล้วจะทำยังไงดีว่ะ

“แต่พี่เพ็ญก็กล้ามากนะ  ขนาดยังไม่รู้เรื่องอะไร พี่เพ็ญบอกให้ส่งมาเลยจะรอ................   ไม่เคยกลัว พี่เพ็ญมั่นใจในตัวพี่ต่ายและเนย”

“พี่นุ้ยเลยไม่กล้าโทรหาพี่เพ็ญอีก”

เนยอดยิ้มไม่ได้ครับ  พี่ผมเก่งที่สุดเลย  หญิงไทยใจห้าวหาญ  :a1:

“แต่พี่นุ้ยก็โทรมาด่าพี่ต่ายตลอด  แล้วก็ขู่เหมือนที่บอกกับพี่เพ็ญ เนยไม่รู้จะทำยังไงดี”

“แล้วพี่ต่ายว่าไง” พี่ต่ายของผมไม่โมโหเหรอ

“พี่ต่ายก็บอกไม่กลัว เพราะป้องกันตัว  พี่ต่ายบอกพี่นุ้ยก็ต้องกลัวเสียชื่อเหมือนกัน”

น่านก็ต้องอย่างงั้นแหล่ะพี่ต่ายตัวจริง

“แต่พี่เพ็ญกลัวพี่นุ้ยบ้าทำจริง  เลยให้พี่ต่ายลาไปก่อนซักอาทิตย์รอดูท่าที”

                คราวนี้ผมก็รู้ล่ะว่าทำไมพี่ต่ายลาพักร้อน  ผมว่าพี่เพ็ญทำถูกแล้วครับ คงกลัวว่าถ้าต้องมาเผชิญหน้ากันแล้วพี่ต่ายจะคุมอารมณ์ไม่อยู่

“แล้วตอนนี้ล่ะ เนยทำไง”

“ก่อนหน้านี้เนยก็โทรไปหาพี่นุ้ยบอกว่าเนยขอโทษเรื่องพี่ต่าย”

“เนยไปทำแบบนั้นทำไม  เนยก็ไม่ผิด พี่ต่ายก็ไม่ผิด” 

ผมเผลอพูดเสียงแข็งเลยครับ   ผมโมโหเนยไปพูดดีกับมันทำไม  ทำไมกลายเป็นนุ้ยต้องไปขอโทษมัน  :m16:

“เนยกลัวพี่นุ้ยทำจริง  แล้วก็อยากให้เรื่องมันจบด้วย” เสียงเนยยังหวาดหวั่นมากๆ

“แต่พี่เพ็ญบอกว่าไม่ต้องไปสนใจพี่นุ้ย ถ้ามีอะไรให้ไปบอกพี่เพ็ญ พี่เพ็ญจะคุยให้เอง”

                   ผมว่าเวลาเราเจอเรื่องแบบนี้ต้องปรึกษาผู้ใหญ่กว่าเราครับ  ไม่ว่าเนย ผม หรือพี่ต่ายก็ยังนับว่ายังเด็กอยู่  บางทีก็ทำอะไรตามอารมณ์ ผมค่อยโล่งอกไปหน่อย

“แต่ตอนนี้พี่นุ้ยมาขอโทษเรา  บอกขอคืนดี พี่นุ้ยบอกรักเรา เลิกกับคนนั้นไปแล้ว”

ผมฟังแล้วก็งงกับมัน  ไอ้หมานุ้ย มันจะเล่นเกมอะไรอีกว่ะ

“แล้วเนยจะเจ็บไม่จำเหรอ ผมไม่เข้าใจ”  ผมละเบื่อจริงๆเลย ไม่เข้าใจผู้หญิงด้วย

“เจ็บซิ แต่เราก็เฉยๆไปก่อน กะว่าจะหลอกให้พี่นุ้ยตายใจ  จะได้เลิกฟ้องพี่ต่าย”

                   แต่ผมฟังดู ผมรู้ครับว่าเนยยังรักไอ้บ้านั่นอยู่ ผมว่าความรักทำให้คนตาบอดนี่มันเป็นเรื่องจริงเลย  ผมว่าไอ้บ้านั่นคงรู้แล้วด้วยว่าฟ้องพี่ต่ายไม่ได้ แล้วถ้าเรื่องแดงขึ้นมาตัวเองก็เสียด้วย  เลยรีบกลับลำกะว่าจะหลอกเนยต่อ

“เนยค่อยสบายใจมีโอมรู้เรื่องอีกคน  ช่วยตามพี่ต่ายให้หน่อยซิ ตอนนี้เนยเป็นห่วง
พี่ต่ายมาก ไม่รู้ไปไหน” เนยพูดด้วยน้ำเสียงกังวล

                    ผมว่าผมเป็นห่วงพี่ต่ายมากกว่าเนยอีก  ไม่เข้าใจด้วยว่าทำไมเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมพี่ต่ายไม่บอกผมบ้าง พอฟังเรื่องเนยจบเหมือนดูละครช่อง 7 เลยครับไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่ามันมีเรื่องแบบนี้จริงๆด้วย   เค้าถึงพูดกันบ่อยๆว่าชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย โคตรน้ำเน่าเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++

ผ่านไปอีก 2 วันครับผมได้ sms มาจากพี่ต่าย

“ทำงานอยู่ต่างจังหวัด กลับมาพรุ่งนี้แล้วค่อยคุยกัน.......ฝันดีนะ.....พี่กระต่าย”

                      คืนนั้นผมนอนพลิกตัวเป็นร้อยๆครั้งได้มั๊ง  นอนไม่หลับเลยครับ   นอนหมุนไปหมุนมาเป็นไก่ย่าง 5 ดาวอยู่อย่างนั้น   คิดแต่เรื่องว่าถ้าเจอพี่ต่ายแล้วจะพูดอะไรดี  แล้วเราจะเจอกันได้ยังไง 

                        แต่ผมกะว่าผมจะลองใจไม่ถามพี่ต่าย ผมอยากรู้ว่าพี่ต่ายจะบอกอะไรผมบ้าง  แต่ใจผมก็สงสัยว่าพี่ต่ายไปที่ไหนตอนพักร้อน แถมยังบอกว่าไปทำงานด้วย    คิดวนๆเวียนๆจนมาเคลิ้มหลับเอาใกล้ๆสว่าง

                         ตื่นขึ้นมาส่องกระจกจะแปรงฟัน  ผมนึกว่าตัวเองเป็น พระเอกMVที่ไหน  เพลงที่ดังๆน่ะครับ   ***หมีแพนด้า***   ขอบตาผมดำโบ๋เลยครับ  ดูไม่ได้เลย ดวงตาแดงก่ำ เหมือนคนป่วยเลยครับ

                          ผมว่าหลินฮุ่ยเห็นผมคงวิ่งเข้ามาหานึกว่าส่งสามีใหม่มาให้    แต่ผมเห็นหน้าตัวเองแล้วอยากลาป่วย  ไม่อยากเอาหน้าตาทุเรศๆออกไปให้ใครเห็น   สลึมสลือด้วยครับ  แต่มันจำเป็นยังไงผมก็ต้องไปทำงาน ก็งานมันเร่ง

                          ผมก็ไปถึงที่ทำงานเช้าตามปรกติครับ    ทีแรกกะว่าจะใส่แว่นดำไปทำงานอำพรางใบหน้า  แต่ก็กลัวว่าเค้าจะไม่ให้เข้าตึก  แล้วก็จะเป็นที่ครหาของลูกค้าด้วยว่าเท่ห์มากไป 

                         พอเข้าไปในห้องเท่านั้นแหล่ะครับตาสว่างเลย     ก็ที่นั่งอยู่ตัวเป็นๆหล่อๆอยู่ใช่แล้วครับพี่ต่ายของผมเอง  ไม่รู้ล่ะตอนนี้ยังไม่มีใครมา  ผมอุ๊บอิ๊บเป็นของผมแล้ว  :m18:

                           ผมลืมตัวจะวิ่งเข้าไปทักพี่ต่าย  แต่ก็มานึกได้ว่าพี่เค้าไม่แคร์ผมเลย  มีเรื่องอะไรก็ไม่บอกกันทำเหมือนเราเป็นคนอื่น  ทั้งๆที่หลังจากกลับมาจากเขาใหญ่ถ้าไม่นับเรื่องผมงอนงี่เง่านั่น  ผมว่าเราเข้าใจกันมากขึ้นตั้งเยอะ ผมก็เลยได้แต่เก็บสีหน้าดีใจไว้

ผมเลยทักพี่ต่ายแค่นี้ครับ  “สวัสดีครับพี่”

พี่ต่ายก็ดีครับเงยหน้ามองนิดนึง  ขมวดคิ้วแล้วตอบกลับว่า

“อืม...อย่าเพิ่งคุย   ทำงานก่อน”

                   เย็นชาเป็นที่สุด  :m17:   ผมต้องข่มเก็บเอาความเสียใจ  น้อยใจไว้ข้างใน ผมไม่พูดอะไรเลยครับ ทำไมต้องทำอาการแบบนี้กับผมด้วย ไม่รู้เลยเหรอว่าผมเป็นห่วงแล้วก็คิดถึง   จะทักผมดีๆหน่อยก็ไม่ได้ 

                    ผมต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้แล้วเอางานมาทำต่อ    จนซักครู่เริ่มมีเพื่อนๆมาทำงาน   ทุกคนเฮฮาทักทายพี่ต่าย  แต่ก็เจอไม่ต่างกับผม  o7

                     เลยเครียดทำงานกันใหญ่เลยครับ  พอกลางวันเราก็ไปทานข้าวเป็นกลุ่มใหญ่  คนอื่นก็ชวนพี่ต่ายคุย แต่ไม่มีใครคุยเรื่องการลาพักร้อน  ผมก็ทำเป็นไม่สนใจคุยแต่กับอ้อม

“อ้อมผมอยากไปซื้อของ ไปเป็นเพื่อนหน่อยนะ”

“ได้ซิ งั้นไปกันเลย เหลือเวลาอีกแป๊ปเดียวเอง  จะได้มีเวลาดูของด้วย”
ผมกับอ้อมเลยขอแยกตัวไปก่อนครับ 

                           ผมไม่มองหน้าพี่ต่ายเลย   ไม่สนใจด้วยว่าพี่ต่ายจะรับรู้ไม๊  ผมยังมองไม่เห็นทางด้วยว่าเราจะปรับความเข้าใจกันได้ยังไง  ผมว่าตอนนี้เราต่างกำลังก่อกำแพงระหว่างกันขึ้นมา แล้วมันกำลังจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆ 

                             แต่ผมก็โล่งใจที่เห็นพี่ต่ายกลับมา อย่างน้อยก็แสดงว่าเหตุการณ์น่าจะเป็นปรกติแล้ว ไอ้หมาบ้าพี่นุ้ยมันคงเลิกกัดเค้าไปทั่วแล้ว

                              ผมกะอ้อมไปซื้อของกินไปฝากแม่ครับ  กะว่าเสาร์ อาทิตย์จะกลับบ้านดีกว่า  แถวที่ทำงานมีของขายเยอะมาก  เลยซื้อกันเพลินทั้งสองคนเลย  จนเกือบเข้างานสาย

พี่ต่ายเหล่มองหน้าผมหน่อยนึง ทำเอาอ้อมกลัว   เลยรีบแยกย้ายกันทำงาน

“ผมไปขอเอกสารนะครับ” ผมมีส่วนที่ต้องไปขอเอกสารลูกค้าครับเลยแยกตัวไป

                             ขณะที่ผมกำลังถ่ายเอกสารครับ  พี่ต่ายเดินผ่านมาพูดกระซิบเบาๆให้ผมได้ยินเพียงคนเดียวว่า  “ตอนเย็น รอกลับด้วยกัน”

                              พี่ต่ายยืนรอพักนึง เหมือนรอคำตอบจากผมแต่    มันไม่มีสัญญาณจากเลขหมายที่ท่านเรียกครับ  ผมไม่สนใจ ทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินด้วย  :a14:

พี่ต่ายทำหน้าหงุดหงิดแล้วเดินจากไป


ผมไม่รับปาก   แล้วผมก็จะไม่กลับกับพี่ต่ายด้วย  ผมจะหายตัวบ้างแล้วคราวนี้
***************************************************************************
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 05-12-2007 08:35:47
555 กะจะแก้แค้นว่างั้น  :m14:  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 05-12-2007 09:08:55
เย้ เย้ พี่ต่ายกลับมาแว้ววววว  :m13:

แต่โอมงอนซะแล้ว พี่ต่ายรีบง้อเร็ววววววววว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 05-12-2007 09:16:51
มาแก้แค้นตอนนี้แล้วจะได้คืนดีกันไหมหว่า  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 05-12-2007 11:21:20
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 05-12-2007 14:42:19
 :m18:   หนุกหนานมั่กมากเลย

รออ่านตอนต่อไปจ้า

 :m26:  ตอนหน้ามีลุ้นให้พี่ต่ายง้อโอมซะทีนะ

ปล่อยโอมงอนเก้อมาหลายทีแล้วนะ  ง้อเค้าซะทีดิอ้ายคุงพี่ต่าย   :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 05-12-2007 16:18:03
โอมงอนมาหลายทีแล้ว พี่ต่ายก้อง้อโอมบ้างนะ

ชอบทำให้โอมน้อยใจอยู่เรื่อยเลยนะเนี่ย

รอตอนต่อไปคร้า ค้างงงงงงมากกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-12-2007 00:16:25
นั้นเอาคืนกันแบบนี้เลยเหรอ เดี่ยวจะยาวน่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 06-12-2007 08:11:10
อย่าทำเลยนะ

เดวจาไปกันหย่ายยย

 :m17:  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 06-12-2007 09:11:28
มีคนอ่านบอกว่า  เรื่องของพี่นุ้ยเหมือนละครช่อง 7จริงๆ
แต่ผมอยากจะบอกว่าตัวเป็นๆน่ะมานเลวกว่านี้อีก
ถ้าไม่เจอคนแบบนี้ได้จะดีที่สุดครับ  :m16:
++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่27

   ที่จริงแล้ววันนี้ผมมีนัดกับติงครับ  เราต้องไปเรียนปส.ภาคค่ำด้วยกันแล้วครับ  ทีแรกผมกะว่าจะโดดเรียนเพื่อรอเจอพี่ต่าย   แต่ตอนนี้ผมเปลี่ยนใจแล้ว 

   พอถึงเวลาเลิกงานครับ   แต่งานยังไม่เลิก   ทุกคนทำงานต่อกันแต่ผมกลับก่อนครับ

   “พี่ต่ายผมขอกลับก่อนนะครับ  ผมต้องไปเรียน แต่ผมเอางานกลับไปทำด้วย  พรุ่งนี้จะเอามาให้พี่ดู  เพื่อนๆผมไปแล้วนะ”   ผมพูดรวดเดียวเลยครับ  แล้วผมก็ลาทุกคน 
   
               เพื่อนๆก็รู้กันอยู่แล้วครับ  เพราะก่อนหน้านี้เราก็เคยคุยกันเรื่องผมไปเรียน  เลยไม่มีใครสงสัยอะไร  พอโบกมือลาให้ผมเสร็จต่างคนก็ก้มหน้าก้มตาทำงานกัน

                พี่ต่ายก็ไม่ตอบอะไรซักที  มองหน้าผมนะ แต่ไม่พูดอะไร  ผมไม่รู้หรอกว่าพี่คิดยังไง ถ้าพี่ไม่พูดออกมา ผมเลยไม่รอคำอนุญาตจากพี่ต่าย   ผมสบตาพี่ต่ายยกมือไหว้  แล้วเดินออกมาเลย


                วันนี้ผมไม่มีสมาธิเลย  เรียนก็รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง   ต้องพยายามดึงสติกลับมาที่การเรียน   พยายามไม่คิดเรื่องอะไรแล้ว

“โอมเป็นอะไร  ทำไมดูเหม่อๆ ทำไมงานยุ่งเหรอ” ติงถามผมตอนเลิกเรียนแล้ว

“อืม งานเร่งมากเลย ก็เลยเหนื่อยหน่อยน่ะติง”

“น่านซินะ ไม่รู้เราสองคนคิดถูกรึเปล่าที่มาเรียนกันเนี่ย” ติงก็คงเหนื่อยเหมือนผม

“เอาน่าไหนๆก็หลวมตัวมาเรียนแล้ว  เราก็ต้องอดทนละนะติง  ไปทานข้าวก่อนเหอะนะ”

“โอเคจ๊ะ”

   ชีวิตผมก็วนเวียนอยู่กับติงแหล่ะครับ  เดี๋ยวโกรธติง  แต่พอคุยกันพักนึงก็ลืมอีกแล้วครับ  ก็ติงไม่รู้อะไรเลยนี่ ผมก็วนเวียนคิดโกรธเอาเอง  หายโกรธเอาเองอยู่คนเดียว ผมว่าหลายรอบแล้วครับ  ติงก็ยังเหมือนเดิมเสมอมา   ไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย

ระหว่างทานข้าวเราก็คุยเรื่องทั่วไปครับ  แต่ติงก็วกกลับมาเรื่องนี้

“เออ ได้ข่าวว่าพี่ต่ายเข้าจ๊อบเดียวกับโอมเหรอ เค้าไปไหนมาโอมได้ถามพี่เค้าไม๊”

“เปล่าทำแต่งาน ไม่ได้คุยกันเลย”  :o11:

“อ้าวเหรอ  ลาไปตั้งหลายวันไม่รู้ไปไหนเนอะ”

“ติงอิ่มยัง  ผมต้องรีบกลับไปทำงานแล้ว”

               ผมไม่อยากคุยเหนื่อยกายเหนื่อยใจ  เกินกว่าจะมาเครียดเรื่องนี้อีก  กลับบ้านอาบน้ำทำงานแล้วนอนดีกว่า  เมื่อคืนก็นอนไปนิดเดียว  :seng2ped:

“จ้าอิ่มก็อิ่ม  กลับก็ได้ วันนี้โอมเป็นอะไรไม่รู้ดูหงุดหงิดจัง” 

ขอโทษนะติงเราเหนื่อยจริงๆ  ผมอยากบอกติงแค่นี้ครับ
 
              ผมอาบน้ำแล้วก็นั่งทำงานไปครับ ดูเวลาเที่ยงคืนล่ะ ผมเลยปิดไฟหัวโต๊ะกำลังจะนอน
ได้ยินเสียงอะไรไม่รู้ที่หน้าต่าง เหมือนใครเอาอะไรโยนใส่ 

ผมมองออกมาข้างนอก มองไปข้างล่าง  สบตากับคนข้างล่างพอดี  พี่ต่ายยืนอยู่ครับพร้อมจักรยานคู่ใจ

“ลง-มา-ข้าง-ล่าง-หน่อย” พี่ต่ายพูดภาษาใบ้กับผม  แล้วทำท่าเอานิ้วชี้ทิ่มลง

“ไม่-ไป-ดึก-แล้ว-กลับ-ไป-จะนอน-มา-ทำ-ไม” ผมส่ายหัวประกอบครับ  :m19:

“ไม่-รู้-เรื่อง.........ลง-มา”พี่ต่ายยืนยันครับ  พยักหน้าใหญ่เลย

                  แต่ผมไม่ไป......ผมจะนอน ผมกลับมานอนเลยครับ  ไม่สนใจ พี่ต่ายโยนก้อนหินอีกหลายครั้ง   ผมก็ไม่ลุกไปดูอีก  เงียบหายไปพักใหญ่  จนผมนึกว่าพี่แกกลับไปแล้ว
   
“อ๊อดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกริ่งหน้าบ้านดังแบบไม่หยุดเลยครับ

   “ไอ้ห่าาาา...... ใครว่ะเสือกมากดกระดิ่งเล่น  กูจะฆ่ามัน  คนจะหลับจะนอน  ไอ้ชั่ว”
 
              เสียงพี่อั้มครับด่าเป็นชุด พร้อมเสียงกระแทกประตูโครมใหญ่ พี่อั้มคงโมโหน่าดู  ถ้าให้ผมเดาผมก็เดาว่าพี่ต่ายแน่ๆ   แต่ช่างเหอะเดี๋ยวพี่อั้มก็ด่าไปเอง เล่นกวนแบบนี้ต่อให้เป็นเพื่อนยังไงก็คงต้องไม่ยอม 

               นอนดีกว่าไม่สนใจ  เสียงเงียบไปแล้วด้วยครับ  ผมเลยว่าพี่อั้มคงไล่พี่ต่ายไปแล้ว ส่วนผมเป็นคนนอนง่ายแป๊ปเดียวหลับเลย  อาจเป็นเพราะเมื่อคืนนอนน้อยด้วย  ผมเลยหลับไปอย่างรวดเร็ว

                ผมมาลุกอีกทีตอนเข้าห้องน้ำครับเกือบตี 2   จนเข้าเสร็จแล้วกลับมาที่เตียงนอนก็ล้มตัวนอนลงไปเลย  แล้วดึงผ้าห่มมา  ดึงเท่าไหร่ก็ติด เอ๊ะมันอะไรกัน

“โอ๊ย...อะไรว่ะ”

ผมตกใจครับใครมาอยู่บนเตียงผม แล้วอยู่ๆส่งเสียงร้องขึ้นมา ผมรีบวิ่งไปเปิดไฟดู

“เฮ้ยยยย......พี่มาอยู่บนเตียงผมได้ยังไงกัน”  :m30:

               ก็พี่ต่ายน่ะซิครับ  ทำไมมานอนสบายอยู่บนเตียงผมตั้งแต่เมื่อไหร่ห่มผ้าห่มผมซะดิบดีเลย แล้วทำไมผมไม่รู้เรื่องเลยล่ะ

“พี่มานอนตั้งนานแล้ว โอมเพลียมากเลยเหรอ  นอนหลับสนิทเลย”

               พี่ต่ายเดินมาจูงมือผมที่ยังยืนงงอยู่ที่สวิทซ์ไฟ  ให้เดินตามมานั่งที่เตียง  ผมยังเบลอๆครับเดินตามมาได้หน่อยนึงอยู่ที่หน้าเตียงแล้ว   นึกขึ้นมาได้  เลยสะบัดมือพี่ต่ายออก แล้วยืนนิ่ง

“พี่มาทำอะไรที่นี่......บ้านตัวเองก็มี”

                  พี่ต่ายเอาแขนรวบเอวผมเลยครับ  ดึงให้ตัวผมน่ะอยู่บนตัวพี่ต่ายอีกที  กลายเป็นว่าตอนนี้ผมนั่งตักพี่ต่ายอยู่บนเตียงครับ   พี่ต่ายกอดผมเอาไว้แน่น  เหมือนกลัวผมจะหนีไป 

พี่ต่ายเอาจมูกซุกที่ซอกคอผม จนผมขนลุก พูดเสียงอู้อี้บ่นพึมพำ   พอได้ยินว่า

“ขอกอดให้ชื่นใจหน่อยนะโอม....ไม่เจอกันตั้งสองอาทิตย์คิดถึงโอมใจจะขาด” 
+
+
+
+

“พี่รู้เหมือนกันเหรอ.....ว่าพี่ทิ้งผมไปสองอาทิตย์”

                    ผมไม่รู้ตัวครับว่าน้ำตามันมาจากไหน  อยู่ดีๆมันก็ไหลออกมา   เหมือนกับสายฝนที่นึกจะตกก็ตกลงมาเอง  ผมพยายามบังคับเสียงให้เป็นปรกติ แต่น้ำเสียงผมก็ยังสั่นเครือ   o7

                    ผมพูดไปมือผมก็พยายามแกะมือพี่ต่ายออก แต่มือพี่ต่ายเหนียวมากครับแกะยังไงก็ไม่ออก พี่ต่ายเอามืออีกข้างมาค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ผม

 “โอมพี่......”

“พี่กับผมไม่ได้เป็นอะไรกัน.........  ผมน่าจะรู้ตัว”

พี่ต่ายเลื่อนจมูกมาที่แก้มผม  แล้วจูบอย่างแผ่วเบา แล้วแนบแก้มของเราไว้ด้วยกัน

“ผมมันไม่มีค่าอะไรในสายตาพี่เลย” 

                    ผมก็ยังคงพูดไปเรื่อยๆ ในขณะที่ความน้อยใจ ความอัดอั้นตันใจ ความเสียใจ ทั้งหมดที่เก็บสะสมมาตลอดช่วงเวลาที่พี่ต่ายขาดการติดต่อไป  มันค่อยๆย้อนกลับมาในความคิดผม

“ทุกคนรู้หมดว่าพี่ไปพักร้อน    ขนาดติงอยู่คนละสายก็ยังรู้  แต่ผมกลับต้องรู้มาจากติง”

 “พี่มีเรื่องกับเนยมากขนาดนั้น  ผมก็ไม่รู้อีก”

“สองอาทิตย์กว่าเลยนะพี่  ที่พี่ไม่ติดต่อผมเลย”

“แล้วที่ผ่านมา  พี่เข้ามาในชีวิตผมทำไม”

                  ผมหยุดไม่ได้แล้วครับ  ผมว่าจะเรียกว่าผมเสียศูนย์ไปแล้วก็ไม่รู้ แล้วตอนนี้เบรคกำลังจะแตก มันพร้อมที่จะพุ่งชนไปแบบห้ามไม่อยู่แล้ว ผมใส่เกียร์เดินหน้าลุยไปแล้วครับ แล้วผมก็พูดคำพูดที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะกล้าพูดได้ออกไป

“ถ้าพี่เข้ามาแล้วมาทำแบบนี้  พี่ออกไปเลยดีกว่า”    :o12:
 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 06-12-2007 09:33:33
ฮ่ะๆๆๆ โอมมาไม้นี้ แล้วพี่ต่ายจะว่าไงเอ่ย :a10:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 06-12-2007 10:29:02
ช็อค ช็อค ช็อค  o22

เย็นชาจริง ๆ   o21 o21
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 06-12-2007 10:34:39
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-12-2007 12:34:15
 :o12:  อารมณ์ประมาณ  "อยู่คนเดียวมันเหงาเข้าใจ ดีกว่าคนใจร้านเข้ามา มาทำให้เจ็บ ให้มีน้ำตา ให้ผิดหวังฟรีๆ" ..  :เฮ้อ:

ใช่ป่ะโอมถึงได้พูดแบบนั้นไป

แต่พี่ต่ายไม่ได้เป็นแบบนั้นหรอก  มั่นใจ   คุยกานดีๆน๊าาา :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 06-12-2007 18:18:33
 :laugh:
นิสัยเหมือนกันเลย คิดเองเออเอง
พอมันคาใจแล้วได้พูด ... ก็จะหลุดโลก
และหลังจากนั้น ก็จะไม่จำมันอีก

แล้วพี่กระต่ายจะว่าไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-12-2007 19:08:43
 :เฮ้อ: ได้เจอกันทั้งที  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 06-12-2007 20:06:06
พูดให้เคลียร์ไปเลยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 07-12-2007 03:30:35
คีนดีกันให้ได้นะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 07-12-2007 09:26:56
วันก่อนไปดูพลุมาสวยจริงๆครับ  ไม่รู้ใครได้ไปดูมาบ้าง :give2:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 28

 “ถ้าพี่เข้ามาแล้วมาทำแบบนี้  พี่ออกไปเลยดีกว่า” 

              ผมพูดไปแล้วก็ใจหาย  นี่ผมพูดแรงไปรึเปล่า  ก็ใจจริงของผมมันแค่น้อยใจ  เป็นห่วง  แล้วก็โกรธที่พี่ต่ายไม่ติดต่อมาเลย

               แต่อารมณ์มันพาไปน่ะครับ  แล้วคำพูดที่พูดออกไปแล้วจะเรียกมันคืนมาทันทีก็ไม่ได้ เราก็ต้องยอมรับผลของมัน พอพูดออกไปแล้วก็แทบอยากจะกัดลิ้นตัวเอง

                พี่ต่ายเองก็คงตกใจเหมือนกันครับ นิ่งเงียบไปพักใหญ่  คิ้วเข้มๆสองข้างวิ่งเข้ามาชนกัน  พี่ต่ายมองตาผม   แล้วพูดกับผมด้วยเสียงเย็นๆว่า

“พี่ไม่รับคำขอสุดท้ายของโอมหรอกนะ”

“พี่จะไม่ออกไปจากชีวิตโอมง่ายๆ....เพราะเหตุผลแบบนี้หรอก”

                 เฮ้อ......โล่งอกไปทีครับ  :เฮ้อ: ผมเกือบเผลอถอนหายใจออกไป  เกิดพี่ต่ายออกไปจากชีวิตผมจริง  ผมมิต้องวิ่งตามไปกอดขาพี่ต่ายร้องไห้   ให้พี่ต่ายยกโทษกับความปากพล่อยของผมเหรอเนี่ย  เกือบไปแล้วไม๊ล่ะ   :m17:

“โอมอย่าโกรธพี่เลยนะ...........ชีวิตพี่ไม่เคยมีใคร"

"พี่ไม่รู้มาก่อนว่าจะมีใครคิดถึงพี่..........เป็นห่วงพี่.......จนต้องมาร้องไห้ขี้มูกโป่งแบบนี้”

                   พี่ต่ายพูดไปก็ลูบหัวผมไปด้วย  เสียงพี่ต่ายอ่อนโยนมากครับ  แล้วก็หอมแก้มผมอีกที พี่ต่ายยังคงพูดไปเรื่อยๆ ผมก็ได้แต่ฟัง เริ่มใจอ่อนลงทีละนิด

“ถ้าพี่ไม่อธิบายเหตุผล     แล้วก็ไม่เล่าเรื่องที่เกิดกับพี่ในสองอาทิตย์นี้ให้โอมรู้ โอมจะโกรธพี่ไม๊”
 พี่ก็คิดดิ.....ว่าผมจะโกรธไม๊เล่า

“เพราะพี่คิดว่าเรื่องมันผ่านไปแล้ว   แล้วมันก็ไม่มีอะไร”

“ ให้โอมรู้อย่างเดียวก็พอ    ว่าไม่มีวันไหนเวลาไหน  ในเวลาที่ผ่านมาที่พี่ไม่คิดถึงโอม”
 ไปเอามาจากไหนเนี่ยคำพูดแบบเนี้ย

                จมูกกับปากพี่ต่ายยังคงเคลียคลออยู่แถวๆแก้มผม  ทำเอาผมใจอ่อนไปเยอะเลย   แต่ถึงพี่ต่ายจะพูดแบบนี้ผมก็ยังโกรธอยู่ดี  แต่ไอ้เรื่องที่ผ่านมาผมไม่สนใจแล้ว   จะช่างมันไปก็ได้   เรื่องบางเรื่องตัดๆไปบ้างก็ดีไม่อยากคิดให้รกสมอง ผมจะหายงอนเร็วเกินไปไม๊นะ  แต่ว่า

“แล้ว.....แล้วพี่หายไปกับใคร” ผมถามเสียงเข้ม

พี่ต่ายชูนิ้วแบบลูกเสือปฎิญานตน  พร้อมรอยยิ้มทะลวงใจแบบเดิมส่งให้ผม

“พี่ไปคนเดียวจริงๆ....สาบานได้”

              เออ.....แล้วไปอย่าให้รู้นะว่าไปกับใคร เรื่องอื่นๆผมค่อยถามวันหลังก็ได้ ยังไงพี่ก็กลับมาอยู่ตรงนี้แล้ว แต่ตอนนี้ผมง่วงมากเลย   แล้วพี่จะได้เลิกลวนลามผมซะที

“ผมยังโกรธอยู่นะ   แต่วันนี้นอนก่อนเถอะผมง่วงละ” ก็คืนก่อนนอนไม่หลับเลยอ่ะ

“ก็นอนซิ  ใครไปห้าม”

“ก็พี่กอดผมแน่นขนาดนี้  แล้วผมจะนอนได้ไง”

“ก็นอนไปด้วยกันแบบนี้ไง”

                  พี่ต่ายพูดแล้วก็ล้มตัวลงนอนทำให้ผมนอนตะแคงลงไปด้วย  พี่ต่ายกอดเอวผมจากข้างหลัง เอาหน้ามาซุกกับซอกคอผม ลมหายใจพี่ต่ายทำให้ผมอืมมม.....ชอบบบจริงๆเลย

“พี่ขอนอนกอดโอมแบบนี้ได้ไม๊  เมื่อกี่พี่ห้ามใจแทบแย่   ตอนเข้ามาแล้วเห็นโอมนอนหลับตาพริ้มเชียว  อยากจะเข้าไปกอดก็ไม่กล้า”

                   ทำไมต้องพูดเสียงกระซิบๆด้วยนะพี่   แล้วยังมาทำตาเชื่อมใส่ผมอีก แล้วถ้าคนอย่างพี่ต่ายเรียกไม่กล้า  แล้วไอ้คนแบบกล้าๆนี่ผมคงไม่กล้าคบด้วย  แล้วไอ้ที่คว้าเอาเรามานั่งตักแล้วมากอดๆหอมๆแก้มเราเนี่ย   ไม่ค่อยกล้าเลยนะ 

 “แล้วพี่เข้ามาได้ไงครับ”  หรือว่าสะเดาะกลอนมาแบบขุนแผน

“อั้มไงให้เข้ามา..........พอเห็นหน้าพี่มันด่ามาชุดใหญ่ชุดนึง แล้วพี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ   มันบอกมีอะไรก็คุยกันเองมันจะนอน     แล้วลากพี่เข้ามาห้องโอมเลย” พี่ต่ายเล่าให้ผมฟังแบบขำๆ  o17

                    เออพี่กรู.....เจริญแล้วไม่ล่ะ  ไม่ได้ห่วงน้องนุ่งเลยว่าอาจจะเสียตัวได้  ส่งเจ้าบ่าวเข้าห้องให้น้องเลย  แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้เรื่องนึง  เลยต้องรีบพูดขึ้นมาก่อน
 
“ผมบอกพี่ก่อนนะ พี่นอนได้แต่ห้ามพี่ทำอะไรผมมากไปกว่านี้  ถ้าพี่ทำ.....เลิกคบเลย”

                  ผมยังไม่อยากเสียใจทีหลังครับ  ยังไงผมก็ต้องดูๆไปอีกนาน  ผมเลยต้องตัดสินใจพูดแบบนี้ แต่ถ้าพี่ต่ายจะหวังแต่เรื่องเซ็กซ์กับผมละก็  ผมก็คงต้องตัดใจ  ผมกลัวว่าถ้าอะไรที่มันเริ่มเร็วมันก็จะจบเร็วไปด้วยนะซิ

“พี่จะไม่ทำอะไรที่โอมไม่เต็มใจครับ  พี่สัญญา” พี่ต่ายส่งสายตาอันอ่อนหวานมาให้ผม

                    ผมซิมองตาพี่ต่ายแล้วกลับกลัวใจตัวเอง   กลัวจะเผลอไปทำอะไรพี่เค้าซะอีก5555 ก็แค่นอนมองหน้าพี่อยู่ตอนนี้  ผมก็ใจแข็งแต่ตัวอ่อนไปหมดแล้ว :m13:

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

                 ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนเช้าในอ้อมกอดของพี่ต่าย   ที่ยังคงหลับตาพริ้มลมหายใจสม่ำเสมอ  เป็นอีกครั้งที่ผมได้มองเวลาพี่ต่ายนอนหลับ   เวลานอนก็ดูเป็นกระต่ายบ้านไม่มีพิษสงอะไรเลย   แล้วทำไมพอตื่นขึ้นมากลับกระโดดเข้ามาวิ่งซุกซนในหัวใจผม   ทำให้ใจผมเต้นไม่ปรกติได้ตลอดเวลา

                    ผมแอบเอามือลูบที่แก้มพี่ต่าย  สันจมูก แนวคิ้วเข้มเรียวยาว  ปากรูปกระจับสีสวย มันเป็นช่วงวินาทีที่อบอุ่นสำหรับผม    ผมบอกกับตัวเองว่า  ผมคงจะตกหลุมรักผู้ชายคนนี้เข้าแล้ว พี่ต่ายทำให้ผมมีความสุข ได้ดีใจ ได้ยิ้ม  แต่ก็มีบางเวลาที่เสียใจ เศร้าใจ น้อยใจ ตื่นเต้น    แต่ผมก็ยังรักพี่ต่ายอยู่ดี

“พี่ต่ายครับตื่นได้แล้ว  เดี๋ยวไปทำงานสายนะ”

                ผมแอบหอมแก้มพี่ต่ายเบาๆ  ก่อนที่จะเขย่าตัวให้พี่ต่ายตื่น  พี่ต่ายตื่นแบบงงๆครับแล้วพอนึกขึ้นได้ว่าอยู่ที่ไหน  ก็อมยิ้มแล้วคว้าตัวผมเข้าไปกอดอีกที  หอมแก้มผมอีกครั้งก่อนจะลุกขึ้นไปล้างหน้า

“เดี๋ยวพี่ไปบ้านเอารถแล้วกลับมารับโอมนะครับ”

              พี่ต่ายแต่งตัวเสร็จแล้วก็จากผมไป   ผมอาบน้ำแต่งตัวไปก็คิดไปเพลินๆว่าจะถามพี่ต่ายเรื่องที่ยังค้างคาตอนนั่งในรถนี่แหล่ะ      จะไม่บอกเหตุผลเราได้ยังไงหายไปตั้งสองอาทิตย์

เจอพี่อั้มก่อนไปทำงานงัวเงียเพิ่งจะตื่น   แล้วอยู่ดีๆพี่อั้มก็พูดขึ้นมา

“เฮ้ย โอมเมื่อคืนต่ายกลับไปกี่โมงว่ะ  ไอ้เพื่อนชั่วนี่ เสือกมากดกริ่งบ้านตอนดึกๆ ไม่รู้แมร่..งมีงานอะไรนักหนา ต้องมาหาโอมตอนดึกๆดื่นๆ    วันหลังบอกมันน่ะถ้ามาแบบนี้อีกเค้าจะถีบมันกระเด็นไปนอกบ้านเลย  ไม่ให้เข้าบ้านด้วย”

             นึกแล้วก็ขำ  เฮ้อ......พี่ผมไม่เคยรู้อะไรเล้ย ปล่อยไปดีกว่า ผมเลยไม่ได้ตอบครับปล่อยให้เข้าใจผิดไปเถอะ ดีแล้วที่ไม่รู้ว่าชักศึกมานอนกอดน้องชายตัวเองทั้งคืน ถ้ารู้เข้าละก็ไม่รู้จะเป็นไง  :m23:

แล้วผมก็ไปทำงานครับ  ระหว่างนั่งรถไป  ผมเลยถามเรื่องเนยก่อนเลย

“เรื่องเนยเรียบร้อยแล้วใช่ไม๊พี่   ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไม๊” ผมเป็นห่วงนะ

“ไอ้เลวนั่น มันไม่กล้าหรอก พี่ก็ไม่กลัวมันด้วย  แต่พี่เพ็ญบอกให้พี่หยุดงานไปก่อน  เพื่อความสบายใจพี่ก็เลยตามใจพี่เพ็ญ”

หมดไปอีกหนึ่งเรื่อง  ต่อไป “แล้วพี่ต่ายไปไหนมา”

“หลังจากไปเที่ยวเขาใหญ่อาทิตย์แรกกลับมาพี่ก็ทำงานจนยุ่ง  ยุ่งเรื่องเนยด้วย  จนพี่หงุดหงิด เลยไม่อยากโทรหาโอม”

“พอลาพักร้อนได้อีกอาทิตย์นึง   พี่เลยไปช่วยผู้ใหญ่ที่นับถือทำงานมา แลกกับค่าที่พัก อาหาร  สบายใจดีด้วย”

“แล้วทำไมพี่ไม่บอกผม.......ทุกเรื่องที่เกิด”

“พี่นึกว่าไม่เกี่ยวกับโอมนี่” ผมกำลังจะวีนแล้วครับถ้าพี่ต่ายไม่พูดขึ้นมาก่อน

“อย่าพึ่งโกรธอีกนะ”

             จะไม่โกรธได้ไง  ป๊าดโธ่  ผมก็เป็นคนนะ   แต่พอพี่ต่ายพูดดักแบบนี้ผมเลยขี้เกียจซักต่อแล้วครับ  จะบอกอะไรก็บอกไม่หมด  ชอบให้มันค้างคาใจอยู่ได้   ถ้าจะคบกับพี่ต่ายผมคงต้องทำใจ เพราะคงเป็นสไตล์บุฟเฟห์ตัวใครตัวมันแล้วละมั๊ง
**************************************************************************
รักคนอ่านทุกคนคร๊าบ :m18:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 07-12-2007 10:56:13
ดูท่าทางก็มีความสุขดีนะ

อิจฉาอ่ะ  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 07-12-2007 10:57:26
อิอิ ดีกันแล้ว แถมนอนกอดกันทั้งคืน  :m11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 07-12-2007 11:26:28
งอนง้อกันไปมาน่ารักจัง  :m3: ติดใจเรื่องนี้จริง ๆ นะเนี่ย ต้องเข้ามาดูวันละหลาย ๆ รอบ  o9
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 07-12-2007 11:33:55
เฮียอั้ม ชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้าน
มะรู้จักกระต่ายแสนกลซะแล้ว
นี่ก็เอาหัวใจโอมไปใส่กล่องกลเก็บไว้ ออกมะด้ายเลย  :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 08-12-2007 20:51:42
เฮ้อขยันจริงๆ  พอเวปเข้าได้ก็เอามาลงเลย :try2:
++++++++++++++++++++++++
ตอนที่29

   พอเรามาถึงที่ทำงานเราก็ตัดต่อพันธุกรรมตัวเองทันทีครับ  เปลี่ยนโหมดอารมณ์เป็นพนักงานตรวจสอบที่ดีครับ  ไม่มีอีกแล้วเรื่องหวานแวว   ไอ้สองคนที่นอนกอดกันเมื่อคืนหายไปแล้วครับ  เหลือแค่คนสองคนที่เครียดกับการทำงาน

   พี่ต่ายหายไปหลายวันเลยอยากชดเชยที่ทำให้คนอื่นต้องทำงานหนักเพราะตัวเอง    เลยตั้งใจทำงานให้เสร็จเต็มที่   ยิ่งทำให้ผมชื่นชมในตัวพี่เค้ามากขึ้น 
   
ส่วนตัวผมก็เหมือนเดิมครับจะโกรธ จะงอนอะไรพี่ต่ายก็ไม่เคยง้อ ผมเลยเลิกดีกว่า

   “โอม.... อันนี้ต้องไปถามลูกค้าเพิ่มน่ะ      พี่ว่าเค้าลืมตัวสินค้าล้าสมัย ไม่ได้แยกยอดออกมา   ไปให้เค้าทำมาให้ด้วยว่าเยอะหรือเปล่า”

“ครับพี่”  เนี่ยครับมีแต่เรื่องงานๆๆๆแล้วก็งาน  o2

                 แต่ถึงยังไงจะจีบกันก็ไม่ได้หรอกครับ  นั่งกันอยู่เต็มไปหมด  แต่ก็ไม่มีใครสังเกตอะไร  ผมก็เลยทำงานอย่างสบายใจ  แต่อีกไม่กี่วันผมก็ต้องกลับสายผมแล้วครับ

                   การที่เราจะย้ายสายกันทีหลังไม่ค่อยมีคนทำครับ  เพราะงานที่ทำผูกพันต่อเนื่องกันไป  ดังนั้นถึงแม้ผมจะอยากกลับมาอยู่สายพี่เพ็ญเพื่อทำงานกับพี่ต่ายก็เป็นไปได้ยาก   ยังดีที่พี่เพ็ญกับพี่มีนสนิทกันเลยยืมตัวกันไปมาได้   
***********************************************************************
ตอนกลางวันทานข้าวกันอยู่ดีๆพี่ต่ายก็พูดขึ้นมาครับ 

“โอม    ตอนเย็นคุณกลับกับพี่นะ”

                    ผมสะดุ้งเลยครับ  ก็นั่งกันเต็มเลย  แต่นึกขึ้นมาได้ว่าบ้านเราใกล้กัน    กลับด้วยกันก็ไม่แปลกนี่ ผมก็เลยตกลงไป

“ครับพี่”  คนอื่นๆก็ไม่ได้ถามอะไร มีแต่สีหน้าสงสัยกันนิดหน่อย

“ทำไมล่ะ  บ้านโอมทางเดียวกันกับพี่ต่ายเหรอ” 

                 อ้อมมาถามผมทีหลังครับ คงไม่รู้ว่าผมกับพี่ต่ายสงบศึกรบกันแล้ว  แต่ตอนนี้อยู่ในศึกรัก อิอิ   พอดีเราไปถ่ายเอกสารด้วยกันเลยถือโอกาสคุยซะหน่อย

“ช่าย โชคดี มีรถนั่งฟรี  ทั้งขาไปขากลับ”

 ผมทำเป็นงก กลบเกลื่อนครับ ก็ผมยังไม่รู้ว่าถ้าคนรู้เรื่องของผมจะรับกันได้ไหม

“แล้วโอม  ไม่เครียดเหรอนั่งกลับกับพี่ต่ายน่ะ แกพูดมั่งไม๊นั่น  วันๆทำแต่งาน”

               อ้อมก็ยังคงไม่รู้จักพี่ต่ายอยู่ดี  เพราะอ้อมไม่ค่อยได้ไปกับพี่ต่ายครับ ส่วนใหญ่ไปทำงานกับพี่ส้ม  นานๆถึงจะเจอกันที

“ก็โอเค นะ  จริงๆแล้วพี่เค้าใจดีนะ  เก่งด้วย”  ผมอดชมที่รักผมไม่ได้ครับ :m13:

“เออเก่งนะรู้  แต่ไม่ไหวว่ะ ดุจะตาย” ดุเฉพาะกะอ้อมดิ  กับผมน่ะน่ารักจะตาย

“นี่......แต่โอมรู้ไม๊เราได้ยินมาว่า มีลูกค้าตั้งหลายบริษัท มาชวนพี่ต่ายไปทำงานด้วยอ่ะ”

                เป็นเรื่องธรรมดาครับ  คนเก่งๆใครๆก็อยากได้ไปทำงาน  ผมเองก็กะว่าคงทำงานที่นี่ไม่นานแล้วก็คงเรียนต่อ  ต่างคนก็ต่างต้องแยกย้ายกันไป  แต่พี่ต่ายเองก็ยังไม่เคยพูดเรื่องนี้

               แต่พอฟังอ้อมพูดแล้วผมก็รู้สึกว่า  ตอนนี้เราซ้อมๆแยกๆกันก็ดีเหมือนกัน  เพราะดูๆแล้วหนทางของเราก็คงไม่ราบรื่นนัก  แต่ผมนะซิจะทนได้ไม๊  แค่คราวที่แล้วก็ทำเอาเสียศูนย์ไปเลย


                ช่วงนี้เราไปกลับด้วยกันทุกวันครับ  ตอนกลางคืนก็กินข้าวด้วยกันทุกวัน  เป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆสำหรับผม ทั้งพี่อั้ม  ทั้งเพื่อนร่วมงานไม่มีใครสงสัยอะไร ก็นึกว่าเราสนิทกันเพราะเรื่องงานเท่านั้น

                 เวลาอยู่บ้านผมพี่ต่ายก็ไม่ได้แสดงออกมากครับ  ยกเว้นพี่อั้มไม่อยู่ ก็อาจมีจับมือบ้างกอดบ้างนิดหน่อย  แต่ไม่มีอะไรเกินไปกว่านั้นเพราะเราคงเหนื่อยจากการทำงานด้วยครับ  เลยไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้น

“พี่ต่าย   อาทิตย์นี้โอมจะกลับบ้านนะ แล้วพี่ต่ายทำอะไร”
ผมว่าจะเอาขนมกลับไปฝากแม่หน่อย  ไปดูบัญชีด้วยไม่รู้ทำไปถึงไหนกัน

“พี่ต้องทำงานนะซิ  แล้วโอมกลับกะอั้มไม๊  หรือไปคนเดียว”

“ไปคนเดียวพี่  พี่อั้มไม่ว่าง” ใช้บริการเจ๊เกียวอีกแล้วครับ รถทัวร์ครับ

“พี่ไปรับนะ วันอาทิตย์”  พี่ต่ายน่ารักจัง จะไปรับผมด้วย

“ไม่อาว เดี๋ยวแม่สงสัย  วันอาทิตย์พี่ก็ต้องทำงานด้วยนี่” เปลืองด้วยน้ำมันก็แพง

“ก็ได้     งั้นพี่ไปรับที่หมอชิต  โอมมาถึงใกล้ๆกรุงเทพฯแล้วโทรหาพี่  แต่อย่ากลับเย็นมากล่ะ  จะได้ทานข้าวเย็นด้วยกัน”

“ครับ...ผม” มีคนคอยห่วงใยนี่มันดีจังนะครับ

ผมเลยกลับบ้านอย่างสบายใจ  ไม่ได้รู้เลยว่าคุณพี่ต่ายไปทำอะไรมาบ้าง
*************************************************************
ตอนนี้ไม่ค่อยมีอะไรเลย .....เนอะ :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 08-12-2007 15:39:20
ขยันดีแล้วค่า
ชอบๆ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 08-12-2007 19:03:30
แค่มาต่อก็ดีใจแว้ว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 09-12-2007 00:01:03
ขยันอัพแบบนี้ รักตายเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 09-12-2007 02:20:18
มาอ่านแล้วคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 09-12-2007 08:10:16
ถ้าพี่ต่ายทำอะไรอีก ขอแนะนำว่าให้  :oo1: อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 09-12-2007 12:49:30
หุหุ ฟ้าสงบก่อนพายุจะมารึเปล่าหว่า  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 10-12-2007 08:57:50
วันนี้วันหยุด  แต่ผมไม่ได้หยุดนะต้องทำงาน :เฮ้อ:
++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่30

   วันเสาร์นี้ผมก็เลยไปบ้านอย่างสบายใจครับ       ทีแรกนึกว่าต้องหอบเอาหัวใจกลับไปเลียแผลที่บ้านซะแล้ว   แต่ดีที่หัวใจยังแข็งแรงอยู่  เลยกลับบ้านแบบอารมณ์เบิกบานครับ  พอไปถึงบ้านแม่ทักก่อนเลยครับ

   “โอมมาแล้วเหรอ  แล้วต่ายล่ะลูกไม่มาด้วยเหรอ”    แม่....ไหง๋ทักกันแบบนี้  :m21:

   “พี่ต่ายมาเกี่ยวอะไรด้วยล่ะแม่!!!  ทำไมเค้าต้องมาล่ะ”   แม่อย่ามาทำให้ผมจิตตกนะ

   ผมตกใจเลยครับ ไม่รู้แม่ไประแคะระคายอะไรมารึเปล่า  ทำไมอยู่ดีๆจะมาถามถึงพี่ต่าย
หรือว่า.....แม่จะรักพี่ต่ายมากกว่าผมแล้ว  อะไรกันนี่มาหนเดียวเองนะ  จะเป็นไปได้ยังไง

   “ก็เค้ามาช่วยดูบัญชีให้เราตอนโอมไม่อยู่นะซิ  แม่นึกว่าโอมรู้แล้วซะอีก”

   “แม่ว่าอะไรนะ!!!!!!!!!!!”   แม่พูดอะไรผมงง ผมเลยเผลอตะโกนไปครับ

   “จะบ้าเหรอโอมตะโกนทำไม  ก็ยืนกันอยู่ตรงนี้เอง เดี๋ยวตีตายเลย  หูจะแตก  แม่ตกใจหมด”
   
   “แม่ผมงงจริงๆนะ  พี่ต่ายมาดูบัญชีให้บ้านเราเมื่อไหร่กัน  ผมไม่รู้เรื่องจริงๆนะ”

   “ก็อาทิตย์ก่อนไง” แม่ตอบ

   “แล้วอยู่กี่วันครับ”ผมถาม

   “5-6 วันนี่แหล่ะ”แม่ตอบอีก

   แม่ก็ไม่เล่าซะทีเดียว  ให้ผมถามทีละคำถามอยู่ได้  จะโวยวายก็กลัวโดนบ่น เอาไงดี

   “แม่เล่ามาทีเดียวได้ไม๊  เหนื่อยละขี้เกียจถาม”  พอผมพูดจบแม่ตีผัวะไปที่แขนผม

              อาจจะดูว่าผมไม่ค่อยเคารพแม่ แต่ไม่ใช่นะครับเราสนิทกันมากกว่า คนอื่นเลยอาจจะดูว่าไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ แม่ก็ว่าง่ายครับคงรำคาญผมถามทีละคำถามเหมือนกัน

               “ก็อยู่ดีๆ  ต่ายก็มาบอกว่าให้ช่วยหาที่พักให้.....ลาพักร้อนมา”

                “แม่เห็นห้องโอมก็ว่างๆ  เลยบอกให้มานอนบ้านเรา   แล้วจะไปเที่ยวไหนก็ค่อยไป”

                “ทีแรกเค้าก็ไม่ยอมมาอยู่นะ  แต่แม่คะยั้นคะยอ”

                 “ทีหลังเลยบอกว่างั้นก็จะขออยู่ด้วยซักพักนึง แล้วก็บอกจะช่วยดูบัญชีที่โอมมาตั้งไว้ให้ แม่บอกไม่ต้องก็ไม่ยอม”

                   “  ต่ายเค้าบอกเป็นค่าที่พักที่กิน  แม่ก็เลยให้พักกะเรานี่แหล่ะ”

                   “จบล่ะ” แม่จบเอาดื้อๆ

                   “แม่น่ะ  ทำงี้ได้ไง แล้วไม่บอกโอม ให้นอนห้องโอมอีกต่างหาก”

                    “อ้าวก็เห็นเป็นเพื่อนเรา  สนิทขนาดพามาบ้านก็นึกว่ารู้หมดแล้ว”

               ผมไม่รู้ว่ามีอะไรที่ผมน่าจะต้องรู้แล้วดันไม่รู้   อันเนื่องมาจากพี่ต่ายรึเปล่า ไม่เข้าใจพี่ต่ายเลยจริงๆ  ว่าคิดยังไงทำไมต้องหนีร้อนมาบ้านผมด้วย  ที่อื่นตั้งเยอะแยะ

                     “โอมอย่ามัวแต่ถามไร้สาระ  กลับมาทำงานก็ไปทำงานซิ แม่ไม่ว่างแล้ว  ไปๆทำงาน”

                 แล้วแม่ก็บ่นๆๆ บลาบลาๆๆๆๆๆๆ  บ่นไปเดินไป ทิ้งให้ผมยังยืนงงอยู่พักนึง ผมเลยส่งsmsไปหาพี่ต่ายก่อน

                  “กลับไป อธิบายด้วย” แค่นี้ละครับรู้ว่าตอนนี้พี่ต่ายทำงานอยู่ไม่อยากกวน  กลับไปเจอกันแน่

                  ผมอยู่บ้านคราวนี้ สองหูผมมีแต่เรื่องพี่ต่าย       ขนาดพนักงานบัญชีบ้านผมก็เอาแต่ชมพี่ต่าย  บอกว่าสอนทำงานดี  ไม่เหมือนคุณโอมเอาแต่ดุ  ป๋าผมแม่ผม ก็พูดแต่ว่าพี่ต่ายนิสัยดี  มีสัมมาคารวะแล้วมาช่วยขายของด้วยน่ะ(ขนาดผมยังไม่ทำเลย)

                  พี่อิงก็บอกว่าจริงใจดี  แล้วแถมมารู้จักญาติๆผมที่อยู่ทางนี้หมด ผมละกลุ้มใจ พี่ต่ายทำอะไรแปลกๆ   ขนาดลูกค้าผมที่เคยมาเจอพี่ต่ายยังบอกว่าพี่ต่ายหล่อเลย  ผมจะบ้าตาย ไม่รู้จริงๆว่าพี่ต่ายคิดยังไง

                   กลับมาบ้านคราวนี้ผมเลยแทบไม่ต้องทำอะไรเลยครับ  ก็พี่ต่ายเล่นมาทำไปหมดแล้ว  ไอ้ช่วงที่ผมกระวนกระวายใจว่าพี่หายไปไหน  พี่กลับมาอยู่ที่บ้านผมซะได้  แต่กลับไม่บอกผมซักคำ ต้องให้ผมมารู้เองอีกล่ะ

                    ตอนเย็นๆผมกลับบ้านไม่รู้จะทำอะไร  เลยไปขี่จักรยานออกกำลังกายครับ  กำลังขี่เพลินๆก็มีคนตะโกนเรียกชื่อผม

                    “โอม....ใช่โอมป่าว” 

                     เสียงไม่ค่อยคุ้นครับ  แต่พอหันไปดูอ้าวเพื่อนสมัยแฟนฉันน่ะครับ  ตอนเด็กๆเรามีแก๊งค์ขี่จักรยานกัน   ก็เป็นเพื่อนๆพี่ๆแถวๆบ้านแหล่ะครับ  สนุกสนานมากมาย  ไม่ต้องคิดอะไรจริงๆ

                     “เฮ้ย......ไงบุ้ง   มรึงเป็นไงบ้างว่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน  ทำงานที่ไหน”

                    ดีใจเหมือนกันครับนานๆเจอกันที  มันตัวสูงกว่าผมแล้ว  แต่ก่อนเตี้ยเชียว ดำด้วย  ตอนนี้ทำไมตอนนี้สูงจังแต่ผิวก็ยังคล้ำๆอยู่ดี

                      “กรูทำอยู่ที่บริษัท....ทำมาร์เก็ตติ้งน่ะ แล้วมรึงล่ะโอม”  บุ้งตอบผมยิ้มๆ

                       “กรูทำตรวจสอบว่ะอยู่บริษัท........”

                        ตอนนี้เราเลยจูงจักรยานเดินคุยกันแล้วครับ  อากาศก็ดี คนไม่พลุกพล่าน  ลมพัดเย็นๆกำลังสบายๆ เราก็คุยกันเรื่องทั่วไป เรื่องเรียน เรื่องงาน เรื่องเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่เจอกัน  เพราะเราสองคนก็ไปเรียนกรุงเทพฯตั้งแต่เด็กๆเหมือนกัน  แป๊ปเดียวครับก็จูนกันติดเหมือนสมัยก่อนเลย

                        “แล้วกลับวันไหนล่ะโอม”  บุ้งถามผมครับหลังจากที่เราใกล้ถึงบ้านแล้ว

                         “พรุ่งนี้.......แล้วมรึงล่ะ  แต่กรูกลับรถทัวร์นะ”

                         “เฮ้ยกรูก็กลับเหมือนมรึงแหล่ะ  ยังไม่มีรถเลยว่าจะเก็บเงินดาวน์อยู่เนี่ย”

                          “งั้นกลับด้วยกันไม๊”

                           “งั้นกลับด้วยกันไม๊”

                          เราพูดขึ้นมาพร้อมๆกันเลยครับ พอรู้ตัวเราเลยหัวเราะกันใหญ่  อยู่ดีๆก็พูดพร้อมกันซะได้ขำจริงๆครับ  พวกเราเลยนัดเวลากลับด้วยกัน แต่ก่อนจะแยกกันบุ้งก็บอกกับผมว่า

                        “มรึงรู้ไม๊  กรูดีใจมากเลยที่กลับมาบ้านคราวนี้เจอมรึง.....โอม คิดถึงมรึงจริงๆนะเว้ย”

                        แล้วบุ้งก็ยกมือเกาหัวทำหน้าเขินๆครับ   ผมตลกกับท่าทางมันจริงๆ  มันก็ยังขี้อายเหมือนเดิม ไม่ว่าจะอายุมากขึ้นไปเท่าไหร่มันก็ไม่เปลี่ยน       ผมเลยเอื้อมมือไปผลักไหล่มันเบาๆแล้วพูดกับมันเพราะๆว่า

                         “บ้าเหรอ เค้าเขินนะตัว 5555”

                         แล้วผมก็ขำตัวเองครับ ทีแรกมันทำหน้างงๆ แต่พอรู้ว่าผมล้อเล่น มันเลยหัวเราะดังลั่นเลย  มิตรภาพตอนเด็กๆนี่มันดีจังเลยครับ
   *******************************************************************

   พอถึงเวลากลับแม่ผมดีใจมากที่ผมมีเพื่อนกลับ  แต่ยังไม่วายพูดถึงคนที่ไม่มาด้วย

             “โอมบอกต่ายนะลูก  วันหลังให้มาอีก ไม่ต้องเกรงใจ”

              “คร๊าบแม่........... ไม่รับเป็นลูกบุญธรรมซะเลยล่ะ  ถ้ารักมากขนาดนั้น”

              ชักหมั่นไส้ครับ  ไม่รู้ไปทำยังไง  ทำให้คนบ้านผมหลงเสน่ห์ได้ แต่อย่าไปว่าคนที่บ้านเลย  ผมเองก็ถอนตัวถอนใจจากพี่ต่ายยากแล้ว    คิดไปก็ยิ้มไปจนบุ้งที่นั่งข้างๆผมบนรถถาม

              “มรึงเป็นอะไรว่ะโอม    นั่งยิ้มคนเดียวก็ได้ เออ.....บ้ารึปล่าว”

              “ไม่มีอะไรคิดอะไรเพลินๆ” แล้วบุ้งก็เอาเลย์ขึ้นมากินครับ แล้วชวนผมกินด้วย

               “ไม่เอาหรอก มรึงกินไปเถอะ”

               “เอาน่า อ่ะ”

                แล้วบุ้งก็เอาเลย์มาป้อนผมที่ปากครับ  ผมนึกในใจมรึงจะบ้าเหรอว่ะมาป้อนกรูทำไม๊ แต่จะไม่กินก็ไม่ได้ครับ ก็มันดันจนเข้ามาในปากผมแล้ว แล้วมานก็ยังไม่หยุดป้อนครับ ผมก็กินกับมันต่อไปพักนึง   ดีเหมือนกัน no hand แล้วไม่ไหวแล้วครับ

                “ไม่เอาแล้วบุ้ง  กรูหิวน้ำแล้ว มรึงกินไปคนเดียวเหอะ”

                “เอ้าน้ำ”   ถึงปากผมอีกแล้วครับน้ำ  เออมึงเอาใจกูดีจังว่ะ เตรียมมาพร้อมเชียวนะเมึง

                 “บุ้งมรึงเอาใจเก่งชิบหายเลยว่ะ    ใครเป็นแฟนมรึงคงสบายน่าดู”

                  “เฮ้ย กรูยังไม่มีแฟนหรอก.......แล้วมรึงล่ะมียัง”

                  ผมก็นึกทบทวนอย่างพี่ต่ายนี่เรียกว่าอะไรล่ะ ใช่แฟนรึเปล่า  แต่คิดไปคิดมาไม่ใช่มั๊ง

                  “แฟนมีก็ต้องมาดิ แฟนไม่มาก็เพราะว่าแฟนไม่มี”  :m12:

                   ผมเลยตอบไปกวนๆแบบนี้ละครับ บุ้งก็ไม่ว่าอะไรแค่ยิ้มๆ

                  คุยต่อกันไปพักนึง  ก็เป็นเรื่องที่ทำงานแล้วเลยแลกนามบัตรกับเบอร์โทรกันครับ  จนหลังๆผมชักง่วง   แล้วผมก็เผลอเคลิ้มหลับครับ หลับๆไปก็เอาหัวไปโขกกับหน้าต่าง สะดุ้งมาทีนึง เจ็บนิดๆครับ   แล้วก็หลับต่อ แล้วก็โขกอีกที เอ๊ะแต่ทำไมมันไม่เจ็บล่ะ

                  ลืมตางัวเงียขึ้นมาดูมือใครล่ะเนี่ย   มีมือคนครับ   (น่ะ.....ถ้าเป็นตีนคนผมคงตกใจยิ่งกว่านี้)  เอามาวางบนคั่นกระจกรับหัวผมที่โขกโป๊กๆอยู่เนี่ย

                   ก็มือของบุ้งแหล่ะครับมันเอาแขนอ้อมคอของผมแล้วเอาฝ่ามือมาบังหัวผมให้  ถ้าใครมาเห็นก็เหมือนกึ่งๆว่ามันโอบไหล่ผมอยู่นะครับ   ผมหันไปดูบุ้งมันก็หลับ ผมก็เลยช่างมันว่ะหลับก็หลับ  ถึงแม้จะแปลกๆอยู่บ้าง  เพราะผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับมันจริงๆ

                   “เมึงไม่เมื่อยรึไงว่ะไอ้บุ้ง”  :m26:

                   ผมก็ได้แต่พึมพำกับตัวเองแค่นี้ครับ       แล้วก็หลับเอาหัวโขกมือมันต่อไปจนถึงกรุงเทพฯครับ  ไม่ได้สังเกตเลยว่าบุ้งมันซ่อนยิ้มนิดๆไว้อยู่ด้วย  :give2:

*******************************************************************************
เมื่อวาน....ใครมาดูคอนเสริท์พี่บอยที่เขาใหญ่บ้าง....ยกมือขึ้น :m27:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-12-2007 09:33:19
หุหุ ต่ายแอบมาทำคะแนนกับพ่อตาแม่ยายนี่เอง  :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-12-2007 11:00:46
นั้น นายบุ้งโผล่มาแล้ววววววววววววว พี่ต่ายอย่ามัวแต่บ้างานน่ะค้าบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 10-12-2007 13:18:20
โอ้โห ขนาดคุณพ่อตาแม่ยายยังนิยมชมชอบ ต้อนรับว่าที่ลูกเขยซะดิบดีขนาดนี้  :laugh:

อนาคตตอนไปขอลูกสาว เอ้ย ลูกชาย ผ่านฉลุยแน่ๆๆๆ o17

แต่ แต่ แต่ คู่แข่งพี่ต่ายปรากฎตัวมาแล้ววววววววว พี่ต่ายสู้ๆน้า :a1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 10-12-2007 15:45:30
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 10-12-2007 19:31:21
บุ้งน่ารักจังเลย

เค้าเชียร์บุ้ง หุ หุ หุ แล้วก้อเชียร์พี่ต่ายด้วย หลายใจ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 11-12-2007 08:52:57
ระวังพี่ต่ายงอลนะ  :m26: :m26:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 11-12-2007 09:31:44
เข้ามาแล้วก็มัวแต่ไปอ่านของคนอื่นก่อน หุหุ :m21: อ่านต่อเลยครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่31
   
   เราสองคนตื่นขึ้นมาก็เกือบถึงกรุงเทพฯแล้วครับ  ผมเลยโทรหาพี่ต่ายให้มารอรับ

   “พี่ต่ายผมถึงแถวๆฟิวเจอร์ปาร์คแล้วพี่”

   “อือ  เดี๋ยวพี่ไปรับ.......ถึงแล้วโทรหาพี่อีกทีแล้วกันนะครับ” พี่ผมพูดเพราะจังครับ อิอิ
   ผมอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้

   “ใครน่ะโอมพี่อั้มเหรอ”  อยู่ดีๆบุ้งก็ถามขึ้นมาจนผมตกใจ  ลืมไปเลยว่าบุ้งมาด้วย

   “อ๋อพี่ที่ทำงานน่ะ  พอดีเรามีเรื่องงานจะคุยต่อ  พี่เค้าเลยจะมารับ”

   “เออ แล้วบ้านมรึงอยู่ไหน กลับไงว่ะ”  ผมเลยถามมันไปหน่อยเดี๋ยวจะว่าไม่สนใจเพื่อน
   
             “บ้านกรูอยู่ลาดพร้าว 125  แล้วมรึงก็ถามมาด้าย กรูก็ต้องนั่งรถเมล์กลับซิ  ไม่มีสาวมารับ
             เหมือนมรึงนี่หว่า”

             แน่ะมีการมาประชดประชันกันด้วย  กรูถามมึงดีๆนะเว้ย  บุ้งมันคงนึกว่าพี่ต่ายเป็นผู้หญิงครับ ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นหรอก

             “5555  พี่ต่ายกรูผู้ชายเว้ย หญิงเหยิงอะไรไม่มี”

             “อ้าวเหรอ กรูจะไปรู้เรอะ  ว่าเป็นผู้ชาย” แล้วเสือกยิ้มทำไมว่ะ

             “เฮ้ยบุ้ง....ที่จริงบ้านกรูก็ไม่ไกลจากบ้านมรึงนะ บ้านกรูก็ลาดพร้าว   เออวันหลังนัดกินข้าว  กันดิว่ะ” 
             นานๆผมก็อยากเจอเพื่อนฝูงบ้างครับ  เจอเพื่อนที่คบตอนเด็กๆมันก็อีกอารมณ์นะครับต่างกันกับเพื่อนที่ทำงาน  หรือเพื่อนมหาลัย  เพื่อนสมัยเด็กๆมันแบบใสๆน่ะอธิบายไม่ถูก

               “เออดีๆ วันหลังกรูนัดมึงเที่ยวได้ไม๊ว่ะ ไม่ค่อยมีเพื่อนเที่ยวเลย”
              ท่าทางบุ้งมันดีใจมากเลยครับ  ที่ผมชวนมัน  สงสัยเป็นพวกขาดเพื่อนเหมือนกัน

                “เที่ยวแบบไหนล่ะ กลางคืนเหรอ” ผมไม่ค่อยชอบน่ะครับ

                “เออดิ เมึงไปบ่อยป่าวว่ะ” ท่าทางบุ้งมันกระตือรือร้นมากเลยครับ

                 “กรูมีเวลาที่ไหน ทำงานด้วยเรียนด้วยวันๆ  เหนื่อยตายห่า กลับถึงบ้านแมร่งเหมือนกรูไปทำงานก่อสร้างมา  หมดแรงว่ะ”

                  “แต่ก็เอาดิบุ้ง   อย่างวันเสาร์ไรเงี้ยมรึงก็ลองโทรมาแล้วกัน  ถ้ากรูไปได้กรูก็ไป  วันศุกร์บางทีกรูมีเรียน  ไปไม่ได้”
 บางทีผมก็อยากเที่ยวแบบวัยรุ่นบ้างเหมือนกัน  ทำงานนี่มันเครียดนะครับ เครียดมากซะด้วย

                   “แล้วกรูไปหามรึงที่บ้านได้ป่าวว่ะโอม” บุ้งถามแบบเกรงใจน่ะครับ

                   “ได้ดิ มรึงไปบ้านกรูเมื่อไหร่ก็ได้  บ้านกรูไม่ไปไหน มีแต่กรูไปตลอด555 ไม่ค่อยอยู่บ้าน  มรึงจะไปขี่จักรยานเป็นแก๊งค์กับกรูอีกรึไงว่ะไอ้บุ้ง 555”

                   “บร้าดิเมึงอ่ะ  โตจนควายเลียตูดไม่ถึงแล้ว   กวน...เหมือนเดิมเลย  ก็เผื่อกรูคิดถึงมรึงไงก็ไปหา  แค่เนี้ยเอง”

                   “เออ.....มรึงเกิดจะมาโหยหาเพื่อนอย่างกรูอะไรนักหนาว่ะ   เมึงจะมาก็ได้.......แต่ต้องโทรหาก่อนนะเว้ยไม่งั้นกรูไม่รับผิดชอบนะ  ถ้ามรึงเกิดเจอแต่พี่กรูน่ะ”

                    ผมว่าไอ้บุ้งมันพิรี้พิไร ยังไงไม่รู้ครับ  เกิดจะมาเกาะติดผมเป็นเพื่อนร๊ากอะไรกันตอนนี้  เพื่อนร๊ากน่ะผมไม่รังเกียจ   แต่เพื่อนใจน่ะผมกำลังจะได้เจอแล้วคร๊าบ อิอิ รถทัวร์เลี้ยวเข้าหมอชิตพอดีเลย

                      พอผมลงจากรถ ผมเลยกะว่าดี๋ยวให้บุ้งติดรถไปต่อรถเมล์ครับ น่าจะสะดวกกว่า
                      “บุ้ง เดี๋ยวไปกะกรูไปต่อรถข้างนอกไม๊” แล้วผมก็ต่อหาพี่ต่ายครับ

                      “เออดีว่ะ แต่กรูเกรงใจพี่มรึงดิ  เค้าไม่ว่าเอาเหรอ”     บุ้งมันเป็นอย่างนี้แหล่ะครับขี้เกรงใจ  ผิดกับผมเลย
                     
                       “พี่ต่ายใจดี  เดี๋ยวกรูบอกให้”

                       พี่ต่ายรับสายพอดีครับ “ว่าไงอยู่ไหนแล้วล่ะ ตอนนี้”

                       “ถึงแล้วพี่  ตอนนี้โอมเดินออกมารอตรงใกล้ๆกับที่เค้ารอแท็กซี่ แล้วพี่ต่ายล่ะ....ถึง  ยัง?”   
                       ผมอดไม่ได้ทำเสียงอ้อนไปโดยไม่รู้ตัวครับ  เสียงผมคงระรื่นไปหน่อย ไอ้บุ้งมันหันมามองเลยครับ

                        “รอตรงนั้นแหล่ะพี่ไปรับ  พี่เลี้ยวรถเข้ามาล่ะ”

                 เสียงพี่ต่ายตอบกลับมาครับแล้วก็วางสายไป  หันไปหาไอ้บุ้งมันมองหน้าผมแปลกๆครับ เป็นบ้าอะไรอีกว่ะ ไอ้นี่

                 “ไมบุ้ง มีปัญหาไรมรึง  มองหน้ากรูหาเรื่องเหรอว่ะหึ หึ   กรูรู้แล้วว่ากรูหล่อ...หักห้ามใจหน่อยนะเมึง” ผมเลยแซวมันไปเล่นๆครับ

                 “ปล่าว.....กรูแค่คิดอะไรอยู่เท่านั้นเอง  ไม่มีอะไร”
                มันอายไปเลยครับ  แต่ท่าทางบุ้งมันกังวลอะไรไม่รู้ ผมไม่อยากจะไปสนใจ  ก็พี่ต่ายผมมาแล้ว  เดี๋ยววันนี้ต้องซักฟอกให้สะอาดเลย ชอบทำลับลมคมใน

                   พอรถพี่ต่ายจอดปั๊ปผมไล่บุ้งขึ้นข้างหลัง  ตัวเองนั่งข้างหน้า  พี่ต่ายทำหน้างงๆ เหมือนถามผมว่าใครล่ะตาคนนี้

                    “สวัสดีครับพี่ต่าย นี่บุ้ง....เพื่อนผมที่บ้าน พอดีนั่งรถมาด้วยกัน”บุ้งยกมือไหว้พี่ต่ายครับ  พี่ต่ายก็ยิ้มตอบให้

                    “พอดีผมชวนเค้านั่งไปต่อรถเมล์ที่ข้างนอกน่ะพี่ต่าย นะครับ”

                     “ได้ซิ ไม่มีปัญหา ไป”
                      แล้วพี่ต่ายก็ชวนบุ้งคุยครับแต่มันก็ไม่ค่อยพูด ไปๆมาๆผมเลยคุยกับพี่ต่ายแทน

                    “พรุ่งนี้พี่เข้าออฟฟิซปล่าวพี่  ผมได้ไปด้วยพี่มีนให้เข้าไปอยู่ก่อนวันนึง”

                     “ไปซิ ต้องเข้าไปสรุปกับพี่เพ็ญก่อน  แล้วพี่ไปรับนะ”
                     แล้วก็ส่งยิ้มหวานมาให้ผมหนึ่งดอก หุหุหุ เขิน เราหันมาสบตากันวิงค์ๆ
    
                     แล้วอยู่ดีๆไอ้บุ้งครับมันก็ยื่นหน้ามาตรงกลางระหว่างผมกับพี่ต่าย  แล้วพูดกับผมว่า
                      “โอม  พรุ่งนี้กรูโทรหามรึงนะ”

                       “โทรมาทำไมล่ะ”
                      ไอ้บ้าวันนี้เพิ่งเจอ  พรุ่งนี้ก็วันจันทร์ไม่ใช่วันเสาร์ซักหน่อยมึงจะโทรมาทำไม๊

                        “ก็...ก็...ก็กรูอยากคุยกับมรึงน่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
                         เสียงมันตะกุกตะกักยังไงไม่รู้ครับ

                        “วันนี้เราก็คุยกันมาตลอดทางแล้วนะ”
                         ผมไม่กล้าโวยวายมากครับ   ก็พี่ต่ายนั่งอยู่ด้วย

                        “ทำไม.......มรึงไม่อยากคุยกับกรูเหรอ งั้นกรูไม่โทรไปก็ได้”
                        บุ้งมันงอนไปเลยครับ แล้วก็ไปนั่งเงียบอยู่ข้างหลัง ผมหันมามองหน้าพี่ต่าย แล้วเราก็งงกัน  แต่บรรยากาศมันอึดอัดน่ะครับ

                         ตอนนี้ผมก็เลยต้องง้อมันหน่อยครับ ไม่เข้าใจเหมือนกัน  แฟนก็ไม่ใช่แล้วมางอนกูทำไม แต่ก่อนตอนเด็กๆมันไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย

                          “เออๆ.... มรึงอยากโทรก็โทร แต่ไม่โทรเวลาทำงานน่ะ  โทรมาค่ำๆแล้วกัน”

                          “ได้ๆแล้วพรุ่งนี้กรูโทรไป” เสียงบุ้งมันร่าเริงเหมือนดอกไม้ได้น้ำเลยครับ
 แต่คนที่ขาดน้ำกลายเป็นพี่ต่ายแทน ชักหน้าบึ้งๆ

                          พอดีถึงที่ป้ายรถเมล์พอดี  พี่ต่ายเลยจอดรถให้บุ้งลง  บุ้งยกมือไหว้ลาพี่ต่าย

                          “ขอบคุณครับพี่แล้วเจอกัน”
                          พอบุ้งลงไปแล้วรถกำลังจะออก บุ้งมันเคาะกระจกข้างผมครับ ผมก็นึกว่ามันลืมอะไร
                         
                           “ลืมไรบุ้ง”

                           “เมึงเอาหูมานี่”

                          แล้วมันก็กระซิบเบาๆใส่หูผมครับ  ลมจากปากมันที่พูดใส่หูทำเอาผมขนลุก  แล้วมันก็โบกมือลาให้ผม  พร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ แบบอายๆมาให้ผม ผมก็ยิ้มให้มัน แต่มันออกจะเฝื่อนๆไปซักหน่อย  ผมกำลังมึนๆตอนพี่ต่ายถามผม

                             “เค้าพูดอะไร  ทำไมต้องกระซิบด้วย”  ผมจะบอกพี่ต่ายว่าอะไรดีล่ะ
ถ้าผมบอกไปตามตรง    ผมว่าคนที่จะโดนซักฟอกจะเป็นผมมากกว่าที่ตั้งใจไว้ซิ   ก็บุ้งมันบอกผมว่า

                  “กรูว่า....กรูชอบมรึงว่ะ” มานเกิดอารายกันเนี่ย  มานดูหนังพี่พจน์มากไปป่าวว่ะ 
***********************************************************
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 11-12-2007 09:43:20
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกก นายบุ้งใจกล้ามากกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 11-12-2007 09:45:41
จ๊ากกกกกกก  :m30: เพื่อนบุ้งบอกมาแล้วๆๆๆ บอกกันต่อหน้าต่อตา ถึงจะกระซิบก็เหอะ

ป.ล. เชียร์พี่ต่ายซำเหมอ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 11-12-2007 09:52:22
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-12-2007 14:13:31
โอ้พระเจ้าพายุตั้งเค้าแล้ว o21
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-12-2007 17:20:32
อ๊ากส์   พี่ต่ายเป็นว่าที่ลูกเชต ที่น่าร๊ากกมากกก   :m3:

บุ้งก็ดูน่ารักดีเนอะ กล้าดี ชอบก็บอกเลย  เด่วโอกาสหลุดลอยย  สวรรค์อุตสาห์พามาให้เจอ อิอิ

พี่ต่ายออกอาการหึงแล้วดิทีนี้ คิกๆๆ :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 11-12-2007 17:23:22
 :a4:ชอบพี่ต่ายตรงที่รู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ของฝ่ายที่เราสนใจ เป็นสิ่งที่ดีครับ จะคอยติดตามต่อไป
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 11-12-2007 18:16:33
รู้สึกเหมือนพายุกะลังมา  :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 11-12-2007 19:13:31
บุ้งสารภาพเร็วไปรึเปล่าน้า  :m21:  :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 12-12-2007 09:44:54
ตอนที่ 32
“กรูว่า....กรูชอบมรึงว่ะ” คำพูดบุ้งมันย้อนกลับเข้ามาในความคิดผม

          ผมก็ไม่รู้ที่บุ้งพูดมันกินความหมายขนาดไหน  ที่จริงผมก็ชอบมันนะ มันเป็นคนใจดี  สมัยที่เรายังเป็นเด็กมันถือเป็นเพื่อนที่ผมรักมากที่สุด 

          แต่ท่าทางของมันที่แสดงออกกับผมวันนี้  ก็ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่าเป็นไปในทำนองคู่รักมากกว่าเพื่อน    ซึ่งผมก็ยังไม่เข้าใจว่าบุ้งมันมองเห็นอะไรในตัวผม  ถึงได้พูดคำนั้นออกมา  หรือว่าตัวผมมันมีรังสีออร่าชายรักชายเปล่งประกายออกมา  :confuse:

“อ้าวเลยเงียบไปเลยคิดอะไรอยู่โอม”   เสียงพี่ต่ายปลุกผมให้ตื่นขึ้นมาจากความคิด

“อ๋อ ก็แค่คิดถึงที่บุ้งพูด.... เห็นว่าให้ผมรอรับโทรศัพท์ด้วยนะพี่” ผมเลยตัดสินใจโกหกพี่ต่ายครับ  ไม่กล้าบอกความจริงไปทั้งหมด

“โอมนี่ชักจะเนื้อหอมใหญ่แล้วนะ  กลับบ้านไป2 วัน มีคนมาตามจีบแล้ว”
พี่ต่ายไม่ได้พูดเล่นครับน้ำเสียงเป็นจริงเป็นจังมาก ทำเอาบรรยากาศไม่ค่อยดี

“เพื่อนสมัยเด็กน่ะพี่ไม่เจอกันมาเกือบ 10 ปี เลยมีเรื่องคุยมากหน่อย ไม่มีอะไรหรอกน่าพี่”
 คือผมน่ะคิดแบบนี้  แต่บุ้งน่ะคิดอะไรผมก็ยังไม่มั่นใจ

“อย่าให้มันเกินกว่านั้นแล้วกันนะโอม”  พี่ต่ายพูดแค่นี้ครับ ทำเอาผมใจไม่ดี

   ก่อนจะถึงกรุงเทพฯ   ผมอยากให้พี่ต่ายเล่าให้ฟังว่าไปอยู่บ้านผมได้ยังไง  แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนครับ ไม่เจอกันสองวัน  ผมออกจะคิดถึงพี่ต่ายนะ  แต่ทำเอาพูดไม่ออกเลย

“เราจะไปกินข้าวที่ไหนพี่” เห็นพี่ต่ายขับรถแล้วมันไม่ใช่ทางไปบ้านนี่ครับ จะพาผมไปไหนกัน

“ไปหาทานริมน้ำดีไม๊  เปลี่ยนบรรยากาศ” พี่ต่ายกลับมายิ้มให้ผมแล้วครับ  ค่อยยังชั่วหน่อย
   
“ก็ดีพี่ หิวแล้วนะเนี่ย” จังหวะนี้ผมข้ออ้อนบ้าง
   
“คิดถึงพี่จัง”  ขอประจบไว้ก่อน  เพื่อความปลอดภัย :impress:

              ผมเอามือไปจับมือพี่ต่ายครับ    แล้วส่งแววตาซึ้งๆไปให้ ผมเพิ่งรู้ว่าผมชักจะติดนิสัยพี่ต่ายไปซะแล้วชอบหยอด หุหุ  พี่ต่ายหันมามองหน้าผมแล้วหัวเราะเบาๆ    แล้วพี่ต่ายเลยไม่ปล่อยมือผมตามเคย

   ร้านอาหารที่เราไปทานอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ  แต่งเป็นแบบสมัยใหม่  มีนอกชานออกไปมองเห็นบ้านเรือนผู้คนริมน้ำ  มีเรือลอยผ่านไปมาอยู่เป็นระยะ   แสงไฟแวววามจากบ้านเรือนในตอนกลางคืน  ทำให้สวยงามไปอีกแบบ 

             เนื่องจากเป็นคืนวันอาทิตย์ก็เลยมีคนเยอะพอสมควร  แต่เราก็เลือกตรงมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว  ทำให้นั่งกันได้แบบสบายใจ  ไม่รู้พี่ต่ายนึกครึ้มอะไรเลยสั่งเบียร์มาดื่ม ผมเองก็ทานได้นิดหน่อยก็เลยทานเป็นเพื่อนพี่ต่าย

“พี่ยังไม่ได้เล่าให้ผมฟังเลย  ทำไมไปอยู่ที่บ้านผมช่วงลาพักร้อน” 
ผมเริ่มถามระหว่างที่เรารออาหารอยู่  ผมจะทำบรรยากาศเสียไม๊เนี่ย

“ก็ไม่มีอะไร พี่คิดอะไรไม่ออกนอกจากบ้านโอม ก็เลยไป”
พี่ต่ายนั่งดื่มเบียร์ชมวิว ร้องเพลงเบาๆคลอไปตามเสียงเพลงที่เปิด อารมณ์ดีจังนะพี่

“แล้วไม่เห็นเล่าให้ผมฟังบ้าง บ้านผมนะพี่...... กลับไปแม่ถามผมถึงพี่ผมเอ๋อเลย”

พี่ต่ายก็คงยังยิ้มอยู่เหมือนเดิม  ไม่พูดอะไร  ผมเลยพูดต่อ
“พี่พูดเหมือนเป็นเรื่องปรกติเลยนะไปอยู่บ้านผมเป็นอาทิตย์เนี่ยนะ”

พี่ต่ายหันหน้ามาจากวิวริมแม่น้ำมามองหน้าผมแทน  สบตาผมแล้วพูดนิ่งๆ

“ก็ไปอยู่บ้านแฟน มันไม่ปรกติตรงไหนล่ะโอม”   o18
 
 จากแววตาของพี่ต่ายเหมือนส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ผม  แก้มผมเปลี่ยนเป็นสีชมพูไปโดยไม่รู้ตัว

ผมถึงกับใบ้ไปชั่วขณะ กับคำว่าบ้านแฟนของพี่ต่าย  แล้วถามตัวเองว่า...ใช่เหรอที่เราเป็นแฟนกับ
พี่ต่าย.........

“ใครเป็นแฟนใครพี่....มั่วเรื่อย”
 :-[ผมก็ได้แต่พูดแค่นี้แหล่ะครับ เขินตายอ่า.... แต่พี่ต่ายก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่อมยิ้มเฉยๆ

          พอดีอาหารมาถึงครับ   เราก็เลยทานข้าวกันไป คุยกันไปต่อ คุยไปทานไปจนผมต้องบอกว่าเบียร์พอแล้วเพราะเดี๋ยวพี่ต่ายต้องขับรถ ก็ไม่มากหรอกครับ แต่เราสองคนขาวทั้งคู่ทานเบียร์ไปหน่อยเดียวก็หน้าแดงแล้ว  เกิดโดนจับตรวจแอลกอฮอล์ล่ะแย่เลย

          ผมไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้ว  ปล่อยมันไปดีกว่า ผมอยากให้เวลาที่เราอยู่ด้วยกันสองคนมันมีแต่เรื่องสบายใจ  อย่างน้อยวินาทีที่มีความสุขมันก็จะเป็นความทรงจำดีๆของเราตลอดไป

           ผมว่าเราสองคนคล้ายกันหลายอย่างครับ ไม่ชอบเที่ยวกลางคืน ชอบเที่ยวต่างจังหวัด  แล้วก็ทำแต่งาน  เวลาว่างก็พอใจที่จะอยู่ที่บ้านมากกว่า  ระหว่างที่คุยๆกันครับเสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นมา

“โอมเหรอ มาถึงกรุงเทพฯรึยัง  แม่โทรมาถามเค้าก็ไม่รู้เรื่อง”
 เสียงพี่อั้มเองครับ  คงเห็นว่าตั้งนานทำไมยังไม่ถึงบ้าน  ดีที่ไม่ใช่ไอ้บุ้ง  ยังหนาวๆร้อนๆอยู่เนี่ย

“กลับมาแล้วพี่อั้ม เค้ากินข้าวอยู่กับพี่ต่าย  เดี๋ยวอีกพักนึงกลับล่ะ”
 ก็บอกไปตรงๆนี่แหล่ะครับ  ไม่รู้จะโกหกไปทำไม

“เออ ไปกับต่ายเหรอ  เค้าจะได้เบาใจ”
แล้วพี่อั้มก็วางสายไปครับ ผมเห็นว่า3 ทุ่มกว่าแล้วเลยชวนพี่ต่ายกลับ

“พี่ต่าย.....พี่อั้มโทรมาตามแล้วกลับกันเถอะพี่”

“ไปก็ไป  ที่จริงยังอยากนั่งฟังเพลงอยู่เลย กลับก็ได้ตามใจคุณหนูโอม”

          พี่ต่ายแซวผมว่าเป็นคุณหนูอีกแล้ว ผมก็อยากอยู่ต่อนะแต่ยังกลัวพี่อั้มสงสัย  เรายังมีเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันอีกนาน

           ตอนนี้ผมก็มึนๆง่วงๆเล็กน้อย  ตอนนั่งรถกลับเลยเผลอหลับไป จนผมตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเกือบจะถึงบ้านผมแล้วแต่อ้าว........พี่ต่ายขับรถเลยซอยบ้านผมไป จะยังไงอีกละ

“พี่ต่าย  พี่เลยบ้านผมแล้วเมารึเปล่าเนี่ย”  ผมเอามือไปเขย่าแขนพี่ต่ายเบาๆ

“เปล่าเมา.....พี่จะพาไปรู้จักบ้านพี่  โอมยังไม่เคยมาเลยนี่”
  จริงของพี่ต่ายผมยังไม่เคยไปบ้านพี่ต่ายเลยตั้งแต่รู้จักกันมา ทั้งที่บ้านอยู่ใกล้กันนิดเดียว  แต่จะว่าไปมันดึกแล้วนะ 4ทุ่มกว่าแล้ว

“แล้วพี่อยู่กับใครล่ะพี่”ผมชักเกร็งๆครับ ไม่รู้ว่าต้องไปเจอใครบ้าง

“พี่อยู่คนเดียว...ไม่มีใครอยู่ที่บ้านหรอก”
 แล้วพี่ต่ายก็ยิ้ม เป็นบ้าอะไรพี่ยิ้มทำไมกัน   กินเบียร์ไปหน่อยทำตาเยิ้มเชียว  คิดอะไรอยู่ว้า วันนี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้ 

            รถมาจอดที่บ้านหลังหนึ่ง  เป็นบ้านแบบเก่าที่เป็นไม้ทั้งหลังสองชั้น  แต่อยู่ในสภาพดี ทาสีขาวทั้งหลัง  ด้านหน้ามีสวนเล็กๆที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี  มีที่จอดรถได้ประมาณ 2 คัน  มีจักรยานจอดพิงอยู่

“เข้าก่อนซิโอม มานั่งเล่นพักนึง เดี๋ยวค่อยกลับก็ได้ อั้มมันไม่ว่าหรอก”

             พี่ต่ายเดินมาจูงมือผมเข้าไปในบ้าน  ข้างในแทบไม่มีสมบัติอะไรเลยครับ บ้านโล่งอย่างกับถูกขโมยขึ้นบ้านผมละงง  ในห้องรับแขกเก้าอี้นั่งซักตัวยังไม่มี  มีแต่บ้านจริงๆ  แต่ก็สะอาด  ไม่มีฝุ่นเลย ถ้าจะนั่งเล่นบนพื้นก็ยังได้
 
“พี่แต่งบ้านแบบใหม่เหรอ  ไม่เห็นมีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลย แปลกดีนะ 555 หรือว่าขโมยขึ้นน่ะพี่” 
ผมมองๆดูมีโต๊ะกินข้าวเล็กๆตัวนึง  เก้าอี้ตัวนึง แล้วก็ตู้เย็น นอกนั้นไม่มีเลย สงสัยแต่งแบบ  MinimalList  ที่ว่าให้มีของน้อยที่สุด  แต่เน้นเรียบง่าย

               พี่ต่ายยิ้มๆไม่ตอบจูงผมขึ้นไปดูข้างบน  ผมละแปลกใจให้มาดูอะไร ไม่เห็นมีอะไรเลย ขึ้นมาข้างบน ก็มีห้องนอน 3 ห้องครับ  พี่ต่ายพาผมไปดูห้องนอน  ก็คล้ายๆกัน  เฟอร์นิเจอร์น้อยมาก  มีเตียงนอนปูผ้าสีขาว  โต๊ะทำงานวางชุดนึง  ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ แล้วก็มีทีวี

“ไม่เห็นมีอะไรเลยพี่  พามาดูทำไม๊”  :m28:

              ผมยังไม่ทันพูดอะไรต่อครับตอนที่พี่ต่ายดึงตัวผมมาจูบ   สงสัยเบียร์แค่ไม่กี่ขวดคงทำเอาตบะพี่แตกไปแล้ว  ผมว่าผมไม่ได้แอบใส่ยาอะไรลงไปในเบียร์นะ  รสจูบของพี่ต่ายทำให้ผมรู้สึกได้ถึงรสชาติของเบียร์มันขมๆหวานๆอย่างบอกไม่ถูก    ลมหายใจของพี่ต่ายยังทำให้ผมร้อนไปด้วย
 
              มือพี่ต่ายกอดผม   ลูบไล้หลังผมไปมาจนผมขนลุกไปหมด   มือผมก็กอดเอวพี่ต่ายไปด้วยไม่รู้ตัวเลยจริงๆ  ผมรู้สึกเหมือนตัวเราชิดกันเกินไปแล้ว  ผมว่าเบียร์คงมีผลกับการควบคุมตัวเองของผมเหมือนกัน   ผมตัวสั่นเบาๆ รู้สึกเหมือนเลือดในกายมันฉีดพล่านไปทั่ว  ได้ยินเสียงพี่ต่ายพูดกระซิบเบาๆ   “พี่คิดถึงโอมนะ”

“พี่ต่ายอย่า...นะ”
           
          เสียงผมก็เบามากๆ  มันสั่นครับพูดไม่ออก พี่ต่ายยังคงจูบปากจูบแก้มผม ตรงซอกคอ หลังใบหู  ผมไม่ไหวแล้ว  ถ้ายังเป็นอย่างนี้ในบรรยากาศแบบนี้ ผมคงทนไม่ไหว  ตอนที่มือพี่ต่ายเริ่มลุกลามเข้าไปในเสื้อผม  ผมเลยรวบรวมสติแล้วผลักพี่ต่ายออกจนพี่ต่ายถอยหลังไป

            ตอนนี้เราสองคนเหมือนจะได้สติทั้งคู่  พี่ต่ายนั่งลงบนเตียง นั่งหอบ เอามือเสยผมตัวเองแล้วยิ้มเก้อๆให้ผม    ผมเองก็ยืนหายใจเต้นแรง  จนรู้สึกเหมือนมันออกมาเต้นดึ๋งดั๋งอยู่ข้างนอก เหมือนมีเพียงเราสองคนในโลก  ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจเรา 
+
+
+   
“โอมโกรธพี่ไม๊” ในที่สุดพี่ต่ายก็เอ่ยคำพูดออกมา

“ผมแค่กลัว”   ผมเอามือปิดหน้าตัวเอง อายด้วย หลายๆความรู้สึกมันปนเปไปหมด  รู้สึกได้ชัดเจนว่าเลือดสูบฉีดขึ้นไปบนใบหน้า

“ผมยังไม่คิดว่าเราจะไปถึงขั้นนั้น”
“ผมยังไม่กล้าครับพี่   ขอเวลาทำใจหน่อยมันกะทันหันเกินไป”   :impress:

          พี่ต่ายพยักหน้าเล็กๆเอื้อมมือมาดึงมือผมเข้าไปหาตัวเอง  พอผมมายืนอยู่ข้างหน้าพี่ต่าย พี่ต่ายก็เอามือมาโอบเอวผมหลวมๆ  แล้วเอาหน้าซุกที่หน้าอกผม พี่ต่ายเอาจมูกกดลงเบาๆขยับหน้าไปมา

“พี่ไม่รู้เป็นอะไร  ไม่น่าทำแบบนี้กับโอมเลย  พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ”

“พี่ขอโทษนะ  ที่ทำให้โอมกลัว”
           พี่ต่ายเงยหน้าขึ้นมามองผม  เห็นแววตาพี่ต่ายแล้วผมจะทำอะไรได้ละครับ ยังไงวันนี้ผมคงยังเวอร์จินอยู่   รอดไปอีกวัน :-[
 ***********************************************************
พี่ต่ายเปลี๊ยนไป  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 12-12-2007 09:59:17
 :o8: :give2:

อีกนิดเดียวเองอ่ะ

 


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 12-12-2007 10:17:50
ว้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เสียดาย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 12-12-2007 11:07:11
คิดเหมือนรีบนเยย

ว้า

เสียดายจังอะ  อีกนิดเดียวเอง

อิอิ

 :laugh:  :laugh:  :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 12-12-2007 11:34:22
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 12-12-2007 12:24:30
 :a4:ลุ้นแทบแย่ แต่ก็นะพี่ต่ายเป็นคนดีมาก ถามความรู้สึกของคู่รักก่อน ยอมรับและนับถือครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-12-2007 12:55:22
 :m4:  รอดตัวไปนะโอม เหอๆๆ

แต่คนอ่านลุ้นให้ไม่รอด  อิอิ  พี่ต่ายจับกดเลย  :oo1:  โฮะๆๆ  :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ❝CHŌN❞ ที่ 12-12-2007 18:39:55
เกือบแล้วเชียว หุหุ

พี่ต่ายนี่แสนดีจังเลยง่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 12-12-2007 19:32:51
หุหุ รอดไปอีกวัน  :m1:  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 12-12-2007 20:48:33
เปลี่ยนไปเยอะเลยนะ พี่ต่าย นู๋ชอบ :m10: :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 12-12-2007 21:18:41
เสียดายไม่น่ารอดเลยนะ  :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 12-12-2007 23:26:09
สงสัยคราวหน้าไม่รอดแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 13-12-2007 00:01:44
ช่วงนี้มีโชคลาภมาก(หลาย) เป็นสัตว์สองเท้าเพศผู้  :o8:

ทำไมเราไม่มีงี้บ้างฟระ   :o11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 13-12-2007 09:54:06
มาอ่านกันต่อเลยนะ  :a9:
++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 33

 “วันนี้พี่ไม่รู้เป็นอะไร  ตั้งแต่ตอนที่เรานั่งคุยกันแล้ว  พี่อยากกอดโอมมากเลยนะ”
พี่ต่ายพูดไปก็ยกมือเสยผมไปด้วย  หัวเราะเขินๆ

“เฮ้อ......  พี่ไม่รู้ว่าพี่เริ่มเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่  โอมกำลังจะทำให้พี่เสียคน”   o18
เอ๋....โทษผมได้ไงล่ะ  ไม่เห็นได้ไปทำอะไรเลย

“พี่ต่ายอย่ามาเอาผมเป็นข้ออ้างซิ .....ผมไม่เกี่ยวนะ”

 “ความหื่นมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล  ใครจะไปชี้นำได้ 5555”   o17         
           ผมต้องทำเป็นขำกลบเกลื่อนทั้งที่ยังตื่นเต้นไม่หาย แต่ก็อดขำพี่เค้าไม่ได้ครับ  ตอนนี้เราแค่นั่งคุยกันบนเตียงแล้วครับแต่แขนพี่ต่ายยังโอบเอวผมหลวมๆอยู่ 

“เชื่อไม๊ว่าพี่อยากทำแบบนี้กับโอมคนเดียว........พี่ว่าโอมมีเซ็กซ์แอพพีลสำหรับพี่น่ะ”
+
+
+
เงียบไปชั่วขณะครับ.........

“หึหึหึ.....พี่ก็พูดอะไรกับผมเนี่ยนะ จะบร้าตาย”   :a11:

              เขินครับเขิน ซีดเป็นไก่ต้มแบบผมเนี่ยนะ  ไม่เห็นมีใครเคยเห็นเซ็กซ์แอพพีลในตัวผม  ตัวเองยังมองไม่ออกเลย  ผมว่าพี่ต่ายคงมีรสนิยมแปลกๆ

“โอมจูบพี่หน่อยซิ  ไหนบอกว่าคิดถึงพี่ไง” 

              พี่ต่ายแกเมาดิบรึเปล่าผมชักสงสัย  ต้องยอมรับอิทธิพลของน้ำเปลี่ยนนิสัยจริงๆ แต่น้ำเสียงเว้าวอนน่าดู

“ไม่อาว กลับบ้านดีกว่า เดี๋ยวพี่อั้มโทรตาม"
ผมเลยลุกขึ้นยืนครับ  แต่พี่ต่ายไม่ยอมปล่อย  ยังรั้งเอวผมไว้ให้นั่งอยู่

“ถ้าไม่จูบก็ไม่ให้กลับ.....นอนนี่แหล่ะ”  :interest:
พี่ต่ายพูดเสียงกรุ้มกริ่มครับ แล้วก็เอาแก้มมาถูไปมาที่หน้าผม

               ผมว่าถ้าไม่ทำคงต้องนั่งพูดกันบนเตียงทั้งคืน  ย้ำนะครับว่าพูดกันไม่ได้มีอะไรแบบน้าน  ผมบอกแล้วขอทำใจก่อน

“ก็ได้...แล้วกลับเลยนะ”
เอาวะ......กรูขอลองซักตั้ง  หรือว่าผมคงเริ่มแก่กล้าขึ้นมานิดหน่อยแล้วมั๊ง 5555  :a2:

            แล้วผมก็เอาปากไปแตะปากพี่ต่ายเบาๆ แล้วรีบถอนออกอย่างเร็ว  ผมถอนปากออกแล้ว แต่พี่ต่ายเอามือประคองหน้าผมไว้  ผมส่ายหน้า พี่ต่ายไม่พูดอะไรแต่ยิ้ม เราสบตากันชั่วครู่ 
แล้วพี่ต่ายก็เริ่มจูบผม  พี่ต่ายกัดริมฝีปากผมเบาๆแล้วค่อยๆเน้นๆ  หนักหน่วงขึ้นไปเรื่อยๆ   แล้วค่อยๆแทรกลิ้นเข้าไปในปากผม 

            ผมรู้สึกเหมือนกำลังเล่นรถไฟเหาะตีลังกาตอนที่มันขึ้นไปสูงสุดแล้วทิ้งตัวลงมา รู้สึกหวิวๆเหมือนใจจะขาด   เอาอีกแล้วครับผมเริ่มรู้สึกปั่นป่วนใจ  ไอ้ที่คิดว่าจะรอด ถ้าเจอพี่ต่ายปลุกอารมณ์แบบนี้คงไม่รอดแน่ๆ 

             ตอนนี้เราเริ่มเอนตัวลงนอนแล้วครับ พี่ต่ายนอนทับตัวผมอยู่ มือพี่ต่ายลูบไล้ไปทั่วหน้า  สัมผัสไปทั่วทั้งตัวผม ตัวเราแนบชิดกันตั้งแต่อกจรดเท้า  ส่วนกลางของลำตัวเราเสียดสีกันไปมา  แล้วดูเหมือนจะไม่มีใครยอมใคร ในนาทีนี้  ปากพี่ต่ายยังคงทำงานต่อเนื่องอยู่ จนผมต้องเผลอครางออกมา

“อา...อือ..พี่...”

            มือของพี่ต่ายเริ่มพยายามเลิกเสื้อผมขึ้น  ส่วนมือผมก็กำเสื้อพี่ต่ายแน่น เรื่องคงจะไปถึงที่สุดของมัน........แต่เอ๊ะทำไมกางเกงผมมันสั่นๆ  สั่นแรงขึ้นเรื่อยๆจนพี่ต่ายทนไม่ไหว

“โอมมม........โทรศัพท์โอมมาแน่ะ” 

            พี่ต่ายหน้าแดง หายใจแรงเลยครับ แล้วพลิกตัวออกไปจากผม  ไม่รู้ว่าหงุดหงิดหรือเปล่าครับ  ท่าทางเหมือนคนกำลังโหลดหนังx อยู่ แต่โหลดไปได้50% แล้วเครื่องดันแฮ็งค์ค้างไปเลย ต้องกดดีลีทไป   แบบว่าเสียดายยย.....มากกก. :serius2:

            แต่สภาพผมก็แทบไม่ต่างกัน   ผมรีบลุกขึ้นยืนควักโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงออกมา มือไม้สั่นจนทำโทรศัพท์หล่นพื้น แข้งขาแทบไม่มีแรง  ต้องนั่งลงกับพื้น  ผมรีบหยิบโทรศัพท์มารับ   ไม่ทันได้มองหรอกครับว่าเป็นเบอร์ใคร

“ฮัลโหล ครับ.....”
 ผมเผลอหอบออกมานิดหน่อยครับ หัวใจเต้นเร็วมากเหมือนกับกำลังวิ่งแข่งกรีฑาระยะสั้น  ตื่นเต้นเหมือนตอนกำลังจะถึงเส้นชัย

“โอมเหรอ..กูบุ้งนะ...เป็นอะไรน่ะไม่สบายหรือเปล่าเสียงแปลกๆ”
 มึงโทรมาได้ถูกจังหวะมากเลยเพื่อน  กรูเกือบไปล่ะ เกือบได้ล่ะ ได้เสียตัว  :เฮ้อ:

“ปล่าวไม่ได้เป็นอะไร  มีอะไรไม๊ ไหนว่าจะโทรมาพรุ่งนี้ไง”
“  กู...กูกำลังออกกำลังกายก่อนนอนน่ะ” ได้ยินเสียงพี่ต่ายหัวเราะแว่วๆมาครับ

“ไม่มีอะไร กรูแค่โทรมาคุยเล่น  นอนรึยัง”

ผมยังไม่อยากคุยแล้วตอนนี้  ใจยังตูมตามอยู่เลย เสียงก็สั่น มือก็สั่น
“ว่าจะนอนแล้วเนี่ย   พรุ่งนี้ค่อยคุยดีกว่านะบุ้ง” เฮ้อ...หอบ

“เออ...ก็ได้งั้นกูไม่กวนแล้ว แล้วค่อยเจอกันโอม”

“แต่มึงไม่เป็นไรแน่นะ” มันถามย้ำอีกทีครับ

“อือไม่เป็นไร...บาย”
ผมก็ได้แต่บอกมันไปแบบนี้ละครับ  ทั้งที่อยากบอกมันไปเหมือนกันว่ากูหัวใจจะY อยู่แล้วเมื่อกี้นี้

   แล้วบุ้งก็วางหูไปครับ  ผมหันไปมองพี่ต่ายแกนอนตะแคงมองผมโทรศัพท์อยู่ครับ เซ็กซี่เป็นบ้า.......นึกว่าถ่าย Volume อยู่รึไงไม่รู้    สาบเสื้อแบะอกออกนิดๆพอให้เห็นหน้าอกขาวๆ   ชายเสื้อร่นมานิดนึงจนเห็นช่วงบริเวณหน้าท้องเป็นลอนๆนิดๆ   เห็นแนวไรขนที่พ้นขอบกางเกงขึ้นมาเรียงตัวสวย  เอามือเสยผม  แววตายังคงดูกรึ่มๆอยู่  หน้าเป็นสีชมพูระเรื่อ  เห็นเหงื่อเม็ดเล็กๆเกาะที่ปลายจมูก  โอ๊ย......ไปเซ็กซี่ไกลๆหน่อยได้ไม๊พี่ 

           เฮ้อ....เห็นทีอยู่สองคนคงไม่ไหวแน่ผม  เดี๋ยวเปลี่ยนใจไปปล้ำพี่ต่ายแทน   ขี้เกียจเดือดร้อนแม่พาไปขอ

“พี่ผมกลับแล้วนะ..พี่ไม่ไปส่งผมไปเองก็ได้”
ผมพูดออกไปแล้วก็อายเสียงตัวเอง  มันสั่นๆเล็กน้อยครับ  วินาทีนี้ต้องฉากตัวเองออกไปจากสถานการณ์ล่อแหลมนี่ก่อน

“ทำไมจะไม่ไปส่งล่ะ  ขืนให้กลับเองตอนนี้เกิดอารมณ์เปลี่ยวไปฉุดใครเข้าล่ะก็หมดกัน หึหึหึ”
“ดูน้องชายตัวเองก่อนซิ”  พี่ต่ายลดสายตามามองที่ส่วนกลางลำตัวผมครับ  :o9:

         ดูไอ้พี่ต่ายมานพูดครับ ผมมองตามสายตาพี่ต่ายแล้ว  แทบจะยกมือขึ้นมาปิดไม่ทัน  แล้วพี่ต่ายมานก็ลุกเดินลงไปเลย   ปล่อยให้ผมยืนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว  ตัวเองมาทำเค้าใจแตกแล้วยังมาว่ากันอีกนะ  ไอ้น้องชายผมก็ไม่รักดี  ปล่อยใจตามเค้าไปได้ยังไง  ไม่มีระเบียบวินัยเลย

“ไม่กลับใช่ไม๊ ไม่ลงมานะ” พี่ต่ายตะโกนขึ้นมาอีกครับ  เมื่อเห็นผมยังไม่ลงไปอีก

“ไปแล้วพี่”  ผมรีบวิ่งลงไปเลยครับ  เดี๋ยวพี่เค้าจะว่าผมอ่อยนะซิ

             ผมเผลอตบท้ายดินเนอร์วันนี้ด้วยฉากเลิฟซีนเล็กๆ  ไปจนเกือบ5 ทุ่มครับไม่รู้พี่อั้มจะว่าไง เพิ่งจะออกจากบ้านพี่ต่ายซะดึกเลย  ผมต้องนั่งตะแคงครับ บิดๆตัวนิดนึง กลัวน้องผมมันดื้อออกมาให้เค้าเห็นอีก  แล้วพยายามชวนคุยเรื่องอื่น
 
“พี่ต่ายทำไมบ้านพี่ไม่มีของอะไรเลยล่ะ เพิ่งซื้อบ้านใหม่เหรอ”

“ซื้อมานานแล้ว  แต่ไม่รู้จะซื้อของเข้าบ้านทำไม  พี่ไม่ค่อยได้อยู่  ทำแต่งาน”

“แล้วครอบครัวพี่อยู่ไหนล่ะ” ผมไม่เคยคุยเรื่องนี้กับพี่เลยครับ ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรของพี่ต่ายเลยจริงๆ

“ที่บ้านพี่อยู่ต่างจังหวัดกันหมด พี่อยู่คนเดียวมาตลอด” 

“แล้วพี่นึกยังไง  พาผมมาบ้านพี่”
ถามไปแล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าหรือหวังเอาเรามาฟันว่ะ  ร้ายนะพี่ต่ายเนี่ย

“ก็หลายเหตุผลนะ...อย่างแรกเผื่อวันหลังโอมคิดถึงพี่ก็จะได้มาหาไง”
 มาแล้วไม่อยู่ก็ไม่มีความหมายหรอกพี่ครับ  ผมอยากบอกแบบนี้แฮะๆ  แต่ก็พูดได้แค่ในใจ

“แล้วอีกอย่างก็พาแฟนมาดูบ้าน  เผื่ออยากตกแต่งอะไร  จะได้ช่วยกันคิดไง”

“หา....อะไรนะ” ผมละงง 

“อยากให้โอมมาช่วยกันคิดแต่งบ้าน”

“บ้านพี่  มาเกี่ยวอะไรล่ะ  ผมไม่ได้มาอยู่ซักหน่อย” บ้านผมก็มีนะ

“ใครจะรู้  เผื่ออีกหน่อยเรามาอยู่ด้วยกันไง”
.
.
.
             เงียบไปชั่วขณะครับ  ผมพูดไม่ออกไม่รู้จะพูดอะไร  ผมไม่รู้ว่าพี่ต่ายคิดไปถึงขั้นนั้นแล้ว   ในขณะที่ผมเองถึงแม้จะยอมทำอะไรแบบเมื่อกี้กับพี่ต่ายไปหลายครั้ง  แต่ลึกๆในใจผมก็ยังสับสน  ผมก็เลยเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ จนมาถึงบ้านผมพอดี

“โอมไม่อยากอยู่กับพี่เหรอ” พี่ต่ายถามผมก่อนผมจะลงจากรถ
ผมลังเลนิดหน่อยว่าควรพูดยังไงดี  เพราะผมก็รู้สึกดีๆกับพี่เค้ามาก

“อยากซิพี่.....แต่ผมยังอยากให้มันเป็นแบบนี้ไปก่อน...พี่เข้าใจผมนะ”  :m21:
พี่ต่ายถอนใจ แต่พยักหน้าให้ผม  เอามือมาลูบแก้มผมเบาๆ สบตาผมด้วยแววตาอ่อนโยน

“พี่เข้าใจ...ยังไงพี่ก็รอโอม....”
         แล้วพี่ต่ายก็หอมแก้มผมครับ  ผมเลยลาพี่ต่ายเข้าบ้านพร้อมกับความวาบหวามในใจ  วันนี้เหนื่อยจริงๆ     เหมือนไปผจญภัยมาเลยครับ  ผมว่าเหงื่อผมออกมากกว่าตอนไปขี่จักรยานออกกำลังกายอีกครับ  :a4:
******************************************************
เหนื่อยลุ้นแทนเหมือนกัน  แต่ก็ยังรอดไปได้นะ  o3
 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 13-12-2007 10:22:59
คริคริ พี่ต่ายความพยายามเป็นเลิศมั่กๆๆๆ  :m4:

แต่แหม เพื่อนบุ้งไม่น่าโทรมาขัดจังหวะเลย :m16:

เสียดาย เสียดาย เสียดาย  :m17:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 13-12-2007 10:35:41
รอดปากเหยี่ยวปากกาพี่กระต่ายได้อย่างหวุดหวิด :เฮ้อ:
แต่จะว่าไปดีใจหรือเสียดายหวานี้ :m23:สู้ๆนะครับเป็นกำลังใจให้นะครับผม :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 13-12-2007 11:04:05

เป็นกำลังใจให้เหมือนกัน :a9:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 13-12-2007 11:49:09
ดูไปดูมา พี่กระต่ายจะไม่รอดเงื้อมมือโอมมากกว่าซะละมั๊ง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 13-12-2007 12:03:28
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 13-12-2007 12:28:59
อ๊ากก  ยังมีตัวช่วยอีกนะโอม  รอดไปได้ซะงั้น หุหุ :m23:

อย่าให้อยู่กันสองต่อสองอีกนะ คราวหน้า เสร็จแน่ๆ สาธุ หุหุ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 13-12-2007 12:38:51
แหมรอดอีกและ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 13-12-2007 13:22:09
 :a4:รู้สึกดี เมื่อได้อ่านครับ เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 13-12-2007 21:34:24
รอดอีกแระ  :m14:  :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 14-12-2007 08:52:04
ตอนที่ 34

“พี่เข้าใจ...ยังไงพี่ก็รอโอม....”

                 เป็นอีกคืนนึงที่ผมต้องนอนพลิกตัวไปมา  คำพูดของพี่ต่ายยังก้องอยู่ในหูผมพี่ต่ายไม่รู้หรอกว่าผมน่ะรับพี่เข้ามาในใจตั้งนานแล้ว  แต่มันก็ยังมีอีกหลายๆอย่างที่ผมยังไม่อยากจะก้าวข้ามเส้นนั้นไป

                 พอนึกถึงเรื่องที่เราทำกันคืนนี้แล้วยังใจสั่นไม่หาย  แล้วก็อดจินตนาการต่อไปไม่ได้ จนต้องลุกออกมาวิดพื้น  กระโดดเชือกให้เหงื่อมันออก  แต่มันก็ยังนอนไม่หลับ  ผมเลยต้องไปอาบน้ำอีกรอบ   จัดการตัวเองให้ความรุ่มร้อนในใจมันลดลง  คืนนี้ผมถึงได้หลับตาลง

วันถัดมาครับ บุ้งมันก็โทรมาหาผมอีก
“โอมหรือเปล่า.......บุ้งนะ”

“อือว่าไงบุ้ง......กรูเพิ่งถึงบ้านเนี่ยเก็งแม่นจังว่ะ” ผมดูนาฬิกาสองทุ่มพอดี

“กูโทรมาหลายทีแล้ว พี่อั้มว่ามรึงยังไม่กลับ ทำงานเป็นไงว่ะวันนี้...ของกรูโคตรเหนื่อยเลยว่ะประชุมทั้งวันเถียงกันหน้าดำหน้าแดง”

           ผมก็คุยกับบุ้งไปเรื่อยๆน่ะครับ เรื่องงานเรื่องส่วนตัวไปเรื่อย ผมเองก็ลืมๆเรื่องที่วันนั้นบุ้งพูดกับผมไปแล้ว  ก็ฟังๆดูมันก็ไม่มีท่าทีอะไรครับ  คุยไปก็เพลินๆดี

     จนเกือบสามทุ่มครึ่งล่ะ  พี่อั้มเริ่มเดินมามองๆ ว่ามันจะคุยอะไรกันหนักหนา   ผมเลยว่าเลิกคุยดีกว่า

“บุ้งกรูจะไปอาบน้ำล่ะ วันนี้แค่นี้ก่อนนะมรึง ไว้ว่างๆค่อยคุย”

“.........”

“บุ้งยังอยู่ปะ”

“..........”

“งั้นกรูวางแล้วนะ...บุ้ง”

“โอม ....มรึงรังเกียจกรูไม๊” อ้าวไอ้นี่มันถามอะไรแปลกๆว่ะ   :a3:

“กรูจะไปรังเกียจมรึงเรื่องอะไรล่ะ”

“เปล่าไม่มีอะไรหรอก....งั้นพรุ่งนี้กรูโทรมาใหม่นะโอม”

“เออ...ก็ได้”

             คุยกับมันก็สนุกดี ช่วงนี้ผมไม่ค่อยได้ติดต่อเพื่อนที่มหาลัยเลย  อีกอย่างท่าทางช่วงนี้บุ้งคงมีปัญหาอะไรบางอย่าง  ถ้าผมช่วยได้ก็อยากทำครับ  เมื่อก่อนเราสนิทกันมากๆ

   บุ้งกับผมมีพื้นฐานหลายๆอย่างที่คล้ายกัน เป็นคนบ้านเดียวกัน ลูกคนเล็กเหมือนกัน  ชอบหรือสนใจอะไรก็คล้ายๆกัน  แต่ที่บ้านมันจะเข้มงวดมากกว่าบ้านผม 

             บุ้งชวนผมไปเรียนต่อที่เอมริกาด้วยกัน   แต่ผมก็ยังไม่ได้ตอบรับอะไร  เพราะใจอยากเรียนที่เมืองไทยมากกว่า  ก็เลยบอกมันไปว่าต้องอีก 1-2 ปีถึงจะคิด   เพราะผมอยากสอบใบอนุญาติสอบบัญชีให้ได้ก่อน ก็ต้องอีกประมาณ 1 ปีผมถึงจะมีสิทธิสอบได้

แต่บุ้งก็บอกว่า “กรูจะรอเรียนพร้อมมรึง” 

             แล้วบุ้งมันก็โทรมาหาผมทุกวันครับ  จนบางวันผมว่าผมรอโทรศัพท์มันด้วยซ้ำ  บางวันเราก็คุยกันนาน  บางวันก็แป๊ปเดียว จนบุ้งมันรู้แล้ววันไหนผมเรียน หรือผมไปทำงานอยู่ที่ไหน   

             ส่วนพี่ต่าย  พอเราไม่ได้ทำงานจ๊อบเดียวกันก็ไม่ได้เจอกันเลยครับ แล้วพี่ต่ายก็ไม่โทรหาผมเลย เหมือนคราวก่อน   ผมเองทำงานกลับบ้านมาคุยกับบุ้งก็ไม่อยากคุยต่อแล้วครับ     เหนื่อยหมดแรงแล้วนอนดีกว่า

              ผมก็คิดถึงพี่ต่ายนะครับ  แต่ผมก็ไม่โทรไปหา  ผมอยากจะดูว่าพี่ต่ายเค้าจะบริหารความสัมพันธ์ของเราอย่างไร แล้วก็ทดสอบตัวเองด้วยว่าผมจะรับได้ไม๊

              แต่ผมก็อดที่จะรอโทรศัพท์จากพี่ต่ายไม่ได้หรอกครับ   ก็ยังคงแอบหวังว่าพี่เค้าจะโทรมาหา   แต่พี่ต่ายก็ไม่โทรมาเลย จะให้ไปหาที่บ้านพี่ต่ายผมก็ไม่รู้ว่าควรไปตอนไหน  :o11:

              วันศุกร์ผมมีเรียนด้วยเลยกลับบ้านดึก  หลังจากที่ผมคุยกับบุ้งเสร็จเกือบ 5 ทุ่มแล้วครับ  พี่ต่ายก็โทรหาผมครับ

“สวัสดีครับพี่ต่าย” พอได้ยินเสียงพี่ต่ายผมดีใจมาก รอมาตั้งนาน  :m18:

“โอมคุยกับใครน่ะ....พี่โทรตั้งนานก็ไม่ติด”  o12

            เสียงพี่ต่ายดุมากๆเลยครับ  เหมือนไปโกรธใครมาชาตินึง  พอโทรมาหาผม ก็ไม่มีเลยที่จะพูดหวานๆ  ความดีใจเริ่มลดระดับลง

“บุ้งโทรมาครับพี่”

“คุยเรื่องอะไรกันนักหนาตั้งนาน” เสียงพี่ต่ายยังคงเข้มอยู่

“ก็เรื่องทั่วๆไปน่ะพี่” ผมเริ่มหงุดหงิดล่ะ จะมาดุอะไรกันเนี่ย  :m19:

“โทรมาบ่อยไม๊”

“เค้าก็โทรมาทุกวัน” ผมเลยแกล้งถามคำตอบคำไป เซ็งแล้วนะ

“...............”

“แล้วโอมก็คุยกับเค้าทุกวัน?”

“ครับพี่” เออดิ...คุยทุกวัน  ก็แฟนไม่โทรมาแล้วคุยกับเพื่อนมันเป็นยังไง

“.................”

              ครับแล้วพี่เค้าก็วางสายไปเลย  ไม่พูดอะไรอีก ไม่มีคำลา  ไม่ถามต่อด้วย ผมยังไม่รู้เลยว่าตกลงพี่เค้าโทรมาหาผมทำไม แล้วเค้าโกรธอะไรผมหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจ  แล้วจะมาโกรธเรื่องอะไรล่ะ

 ผมเลยตัดสินใจโทรกลับไปหาพี่ต่าย แต่ก็ลังเลอยู่นานเลยครับกว่าจะตัดสินใจโทรได้

“ว่าไงโอม”  เสียงพี่ต่ายเหมือนไม่อยากคุยกับผมเลย  ทำเอาผมเริ่มน้อยใจอีกแล้ว   :m15: แต่ก็ข่มใจคุยต่อ

“พี่ต่ายโทรมามีอะไรไม๊”

“.............” ไม่มีสัญญาณตอบรับจากพี่ต่าย เหมือนไม่มีคลื่นซะงั้น

“พี่ต่ายฟังอยู่ปล่าว”

“ฟังอยู่.....ไม่มีอะไรหรอกโอมไปนอนเถอะดึกแล้ว”

              แล้วผมจะพูดอะไรได้ครับ ตอนที่วางสายผมน้ำตาซึมเลย ผมไม่เข้าใจพี่ต่ายเลย  เค้าไม่คิดถึงผมบ้างรึไง  ไม่ได้คุยกันตั้งหลายวัน ผมก็นึกว่าเค้าจะมาชวนผมไปไหนวันเสาร์ อาทิตย์ แต่ก็กลับมาเย็นชาแบบนี้   :o7:

ผมเลยได้แต่นอนเสียใจอยู่คนเดียว  นี่อาจจะเป็นข้อสอบข้อแรกที่ผมต้องพยายามผ่านมันไปให้ได้
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สั้นหน่อยนะครับ  :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 14-12-2007 08:58:58
กระต่ายหึงละมั้ง  :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 14-12-2007 09:14:28
กระต่ายหึงละมั้ง  :m17: :m17:
^
^
^
ใช่เลย  :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 14-12-2007 10:48:17
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 14-12-2007 10:58:01
ถ้าเปรียบความรักเป็นเช่นดั่งดอกกุหลาบ กว่าได้เชยชมกลีบบางแล กลิ่นหอมต้องเผชิญกับหนามแหลมก่อนที่จะพบความสุขสันต์ :a9:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 14-12-2007 11:12:09
ง่า เป็นแบบงี้อีกหละ  :seng2ped: เลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 14-12-2007 15:31:02
 :a4:พี่ต่ายขี้น้อยใจจังเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 14-12-2007 18:03:06
 :a6: ไม่คุยกันจะเข้าใจกันมั้ยนี่ ยิ่งไม่ไค่อยได้เจอได้คุย

แถมรู้ว่าคุยกะคนอื่นทุกวันอีก  เฮ้ออออ....  เรื่องราวถ้าจะไม่หมูซะแระ เหอๆ  :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-12-2007 18:36:34
น้อยใจ คนยิ่งใจน้อย  :a3:  :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 15-12-2007 00:37:14
มารออออออ ครับบบ  :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-12-2007 01:19:53
ต้องเข้าใจพี่กระต่ายบ้างน่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 15-12-2007 09:15:47
ตอนที่โกรธกันผมนึกถึงเพลงนี้ครับ
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2E4DGCPAD&Autoplay=0
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 35

                 วันเสาร์ผมเลยตัดสินใจออกไปเที่ยวข้างนอกดีกว่า   ผมเลยตื่นแต่7โมงเช้าไปวิ่งออกกำลังกายที่สวนรถไฟ    ทั้งที่ร้อยวันพันปีไม่เคยนึกอยากตื่นเช้า  คงเป็นเพราะนอนต่อก็ไม่หลับด้วย 

                พอวิ่งเสร็จผมก็ไปหาข้าวกิน แล้วพอสายๆผมก็ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร เดินไปเรื่อยๆครับ   ดูนู่นนี่ ของแต่งบ้านบ้าง   หมูหมากาไก่ไปเรื่อยเปื่อย  แต่อารมณ์ผมก็ยังไม่ดีขึ้นเลยครับ   จนบ่ายสามกลับเข้าบ้าน   ถึงได้รู้ว่าผมลืมเอาโทรศัพท์มือถือไป

                มีมิสคอลเยอะเลยครับทั้งของพี่มีน    พี่ต่าย    บุ้ง แล้วก็มีของพี่อั้มด้วย  ผมเลยโทรหาพี่มีนก่อน พี่มีนก็โทรมาสั่งงานน่ะครับ  แล้วก็โทรหาพี่อั้ม ก็ไม่มีอะไรครับพี่อั้มเค้าโทรมาบอกว่าให้ผมซื้อของกินมาเผื่อด้วยแต่มันไม่ทันแล้วไง

                ทีแรกผมก็ว่าจะโทรหาพี่ต่าย  แต่คิดไปคิดมาผมยังน้อยใจอยู่  ไม่โทรดีกว่า  แล้วคนสุดท้ายที่ผมโทรหาคือ....บุ้งครับ

“บุ้งว่าไงว่ะ....มีไรโทรหากรู”

“กรูจะชวนมรึงไปเที่ยวคืนนี้ว่ะไปปะ........กรูนัดเพื่อนไว้”

“เอาดิไปก็ได้  กรูกำลังเซ็งๆ  แต่มรึงต้องมารับกรูนะ”

“เออกรูไปหามรึงซัก 6 โมงครึ่งนะแล้วไปหาข้าวกินกันก่อนแล้วค่อยไปต่อ”

“เออแล้วเดี๋ยวเจอกัน”

                  ยังไงวันนี้ผมก็ขออกไปปล่อยผีซักหน่อยครับ  อยากจะปลดปล่อย ขอพ้นจากความคิดที่มันวนๆเวียนๆอยู่ในหัวก่อน  วันนี้ผมไปเที่ยวทั้งวันผมก็ยังไม่สบายใจเลย  เค้าถึงบอกว่าความรักมันมาพร้อมกับความสุขและความทุกข์  ก็คงจะจริง 

                  บุ้งมันหล่อมาเลยครับตอนที่มารับผม  ผมซิแต่งตัวธรรมดามากๆใส่แค่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบแค่นี้เอง จนผมชักอายมัน

“หูย....บุ้งกรูต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไม๊ว่ะ  มรึงหล่อมาเชียว”

“ไม่ต้องหรอก แต่งยังไงมึงก็ดูดี”  o18

               เหอๆๆๆชมผมตาเป็นประกายเชียวนะมรึงไอ้นี่มันตาถึงเว้ย  อย่างงี้น่าคบมาก  ยังดีที่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็มีมัน  แต่ไอ้บุ้งมันหน้าบานมากเลยครับ  เหมือนสมัยก่อนตอนผมแบ่งขนมให้มันกิน  จนผมอดแซวมันไม่ได้

“บุ้งมรึงดีใจมากเหรอว่ะแค่จะได้ไปเที่ยวแค่นี้  หน้าตาเบิกบานมากไปป่าวมรึง”

“ไมว่ะ...เพิ่งไปครั้งแรกรึไง” ที่จริงผมต่างหากที่ดีใจที่มันมาชวน ยังเซ็งอยู่

“ไม่ใช่.......กรูดีใจได้ไปเที่ยวกับมรึงต่างหาก” :m18:

              ไอ้พวกใครๆก็ไม่รักมันก็เป็นงี้แหล่ะครับ  แล้วเราก็นั่งรถไอ้บุ้งไปครับ  มันไปยืมรถพี่มันมา  อืม....ไอ้เรื่องฟรีๆนี่ขอให้บอกชอบจริงๆเชียว

               บุ้งมันพาผมไปกินข้าวร้านกึ่งผับครับ  บรรยากาศสลัวๆ  มีเพลงฟังเปิดคลอเบาๆ  อาหารอร่อยดี  แต่คนไม่มากหรอกรับ  เพราะท่าทางจะแพงเอาการเหมือนกัน

“เออบรรยากาศดีนี่....มาบ่อยเหรอบุ้ง”

“ไม่บ่อยหรอก...นานๆที  มาบ่อยก็จนตาย”

“แล้วทำไมเรามากัน 2 คนล่ะแล้วเพื่อนๆมรึงล่ะ”

“อ๋อ..เดี๋ยวค่อยไปเจอกัน  ขืนมาพร้อมๆกันก็ไม่ได้คุยกะมรึงสบายๆดิ”

“มรึงยังคุยกะกูไม่พออีกเหรอว่ะ.....มรึงโทรมาคุยได้ทุกวัน  ไม่เบื่อบ้างเหรอว่ะ”

“กรูจะเบื่อมรึงได้ไง.....กูไม่มีวันเบื่อมรึงหรอกโอม” แล้วมันก็ทำตาเชื่อมใส่ผม

เหอๆๆ เอาอีกแล้วนะบุ้งมรึงชอบพูดให้กูคิด  กูยิ่งใจง่ายด้วย
“บุ้งมรึงน้ำเน่าอีกล่ะ...เลิกเลยมรึงเดี๋ยวข้าวติดคอกรู 555”   :laugh3:

              ผมก็ทำได้แค่นี้แหล่ะครับ ยังไงมันก็เพื่อนผม ต่อให้มันคิดยังไงมันก็ยังคงเป็นเพื่อนผมอยู่ดี 
เรานั่งกินข้าวไปคุยกันไปจนได้เวลาก็ย้ายไปที่ผับ เป็นผับแบบฟังเพลงครับมีนักร้องเพลงให้ฟังแบบสบายๆ    แต่ก็แบ่งอีกโซนนึงเป็นโซนเต้นรำ

               ตอนที่เราไปถึงเพื่อนๆของบุ้งมากันแล้วครับ  มีหลายคนทั้งชายและหญิงผมก็จำชื่อได้ไม่หมด  จำได้คนสองคน คนนึงเป็นผู้หญิงชื่อ จ๊อยส์ ดูเป็นผู้หญิงคล่องๆตัดผมซอยสั้น ดวงตากลมโต ยิ้มเก่ง แต่งตัวแบบเท่ห์ๆ สมกับเป็นนักการตลาด

              กับอีกคนผู้ชายชื่อ เอ  แต่งตัวดูออกจะเนี๊ยบๆ ทั้งหมดอยู่ฝ่ายการตลาดกันหมด  เลยกลายเป็นว่าวันนี้ผมแต่งตัวดูโลโซที่สุด แต่ก็ไม่มีใครสนใจใครหรอกครับ

ส่วนใหญ่เค้าก็คุยกันเรื่องที่ทำงานผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง  เลยได้แต่นั่งฟังเพลงไป จ๊อยส์เลยชวนผมคุย
“โอม ไม่สนุกหรือเปล่า  ไม่ค่อยพูดเลย”

“สนุกซิ เพลงเพราะดี  ผมไม่ค่อยได้มาเที่ยว คุณจ๊อยส์มาบ่อยเหรอครับ”

“ก็มาบ้าง แต่ไม่บ่อยหรอก คลายเครียดน่ะโอม”

“โอมเรียกจ๊อยส์เฉยๆได้มะ ไม่ต้องเรียกคุณมันดูแก่ไปน่ะ”

“ได้ครับจ๊อยส์”

“หน้าตาโอมไม่เหมือนนักบัญชีเลย”

“ทำไมเหรอนักบัญชีต้องเป็นยังไง”

“ก็ต้องใส่แว่น ขาวๆหน้าจืดๆ ดูน่าเบื่อน่ะ”

“ผมก็หน้าจืดนะ ดูน่าเบื่อด้วย 555” ผมว่าผมเป็นแบบนั้นนะ

“โอมถ่อมตัวจัง....จ๊อยส์ว่าโอมก็คุยสนุกดีออก  เดี๋ยวคุยๆไปเราก็สนิทกันเอง”

                    แล้วจ๊อยส์ก็คุยกับผมตลอดเลยครับ แล้วก็ขยันรินเหล้าให้ผมด้วย บุ้งก็มองๆมาเป็นระยะ  บางทีก็เข้ามาคุยด้วยแต่พอเข้ามาคุยทีไร  เอก็จะเข้ามาร่วมด้วยตลอด

                  ผมชักมึนๆแล้วครับพอดีกับจ๊อยส์ชวนไปเต้นรำกันอีกโซนนึง     บุ้งกับเอก็เลยจะไปด้วย  เราเลยไปกันสี่คน  ผมก็เต้นเป็นบร้าไปเลยครับ   :เหอะ1:  มันเมาๆด้วย  กะว่าจะได้สร่างหน่อย  เวลาจ๊อยส์เต้นดูเซ็กซี่มากเลยครับ  ขนาดใส่ชุดเรียบๆเวลาโยกเอวที  เสื้อมันรั้งหน้าอกจนเห็นได้ชัด  ทำเอาผมแอบเผลอมองไปหลายที

               วูบนึงผมมีความคิดว่าเปลี่ยนใจไปสีหญิงแบบเดิมดีกว่ามั๊งเนี่ย  ท่าทางรักพี่ต่ายจะไม่รุ่ง   แต่คนอย่างผมก็ไม่ใช่คนที่จะเปลี่ยนใจเร็วอย่างนั้นซิ เฮ้อคิดแล้วก็เศร้า

              ช่วงที่เต้นกัน  พอบุ้งเต้นเข้ามาใกล้ผม เอก็จะแทรกเข้ามาเลยครับ  จนผมชักรำคาญ  ผมว่าผมมีเซ็นส์นะ  เอไม่ค่อยชอบผมเท่าไหร่ แต่ยังรักษามารยาทอยู่  แต่จ๊อยส์น่ะชอบผมมากเลยล่ะ  ขอเบอร์โทรผมไปด้วย  แต่ผมยังไม่ได้ให้ไป   แค่นี้ก็ปวดหัวพอแล้ว

              พอรู้สึกว่าได้เหงื่อกันนิดหน่อยแล้ว   เราก็กลับไปนั่งฟังเพลงกันต่อครับ  แต่จ๊อยส์ก็ยังคงเติมเหล้าให้ผมเรื่อยๆ    ไอ้ผมก็เซ็งๆขัดหญิงไม่ได้ด้วยก็เลยดื่มแบบลืมตัวครับ  จนบุ้งคงเห็นผมไม่ไหวแล้ว

“โอมผมว่าพอเหอะ  นายดื่มเยอะแล้ว” บุ้งมันพูดเพราะครับเพราะอยู่ต่อหน้าเพื่อนมัน

“บุ้งมรึงพูดเพราะจังวะหึหึ”  ผมอดแซวมันไม่ได้

“โอมกลับบ้านไม๊ ตีหนึ่งล่ะ เดี๋ยวพี่อั้มดุเอา”

“จ๊อยส์กลับยังคร๊าบ  ถ้าจ๊อยส์กลับเรากลับกันก็ด้าย” สงสัยสันดานผมเริ่มออก แต่ก็ยังสุภาพนะครับ

“กลับก็ได้ค่ะ ท่าทางโอมจะเมาแล้ว แต่เมาแล้วน่ารักจัง พูดเก่งกว่าเดิมอีก”

“จ๊อยส์อย่ามาหลอกผมให้ดีใจนะผมมันคนใจง่ายยยย อิอิ”แล้วผมก็ร้องเพลงไอซ์ครับ เพลงคนใจง่าย แต่ร้องเบาๆนะครับ บุ้งกับจ๊อยส์เลยหัวเราะผมกันใหญ่

“จ๊อยส์ กับบุ้งคุณอยู่ก่อนซิ  นานๆเราได้ออกมาเที่ยวด้วยกันซักที พวกเรายังอยู่กันตั้งหลายคน”
เอเอ่ยขัดขึ้นมาครับท่าทางยังอยากให้บุ้งอยู่ต่อ ท่าทางบุ้งมันก็เกรงใจ

“เรากลาบเองได้......บุ้งนายยยอยู่ต่อเหอะ” ผมก็อยากกลับครับชักไม่ไหวเหมือนกัน

“แต่นายมากับเรา  เราก็ต้องไปส่งซิ”

“เรายังไหว....กลับเองได้น่าาาาบุ้ง”

“กลับเองได้แน่นะโอม.....ถึงแล้วโทรหาเราด้วยนะ”

“คร๊าบบบบคุณพ่อ”
            ในที่สุดผมเลยกลับก่อนคนเดียวครับ  บุ้งมันมาส่งผมขึ้นรถแท็กซี่บอกสถานที่เสร็จแล้วมันก็กลับเข้าไป  มันเป็นห่วงผมมาก ย้ำหลายหนว่าถึงบ้านแล้วให้โทรบอก
###########################################

“โครมมมม...............”ผมมาถึงบ้านเข้ามาสะดุดล้มกระป๋องเบียร์ครับ ทำไมมันเกลื่อนขนาดนี้

“อ้าวพี่อ้ามมมทำมายมานอนอยู่ตรงนี้ว่ะ....พี่อ้ามมมม”

                ผมเลยเดินโซเซไปปิดทีวีครับ สงสัยจะเชียร์บอลเพลินจนหลับคาทีวี ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ยอมตื่น ตัวเองก็จะไม่ไหว  ผมเลยเดินขึ้นไปนอนเลยครับ  พอเข้าห้องนอนได้ผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าบุ้งมันสั่งไว้ โทรหามันซักหน่อย

“โหลววว ....บุ้งเว้ยกรูถึงบ้านนนนนแล้วนะ....เออ...เออ..แค่นี้นะ”
มันไม่ค่อยได้ยินครับผมเลยต้องตะโกน

“เออน่ากรูรู้แล้ว....เออสั่งอย่างกับเป็นเมียกรูเลยยยย....บายยยย..”

                พอวางสายเสร็จผมก็ไม่ไหวแล้วครับมันกำลังจะพุ่งออกมา   ผมเลยรีบวิ่งเข้าห้องน้ำอาเจียนไอ้สิ่งที่มันผะอืดผะอมออกมา  :oak:   กำลังโก่งคอเอาของเก่าออกก็มีมือใครไม่รู้ครับมาลูบหลังผมอยู่  ผมไม่ได้หันไปดูครับคงเป็นพี่อั้มน่ะแหล่ะ

“พี่อ้ามมม...ตื่นแล้วเหรอออ..ผมมาวววน่ะพี่..เอื๊อก”

“ใครใช้ให้กินจนเมาขนาดนี้นะโอม”

เสียงคุ้นๆครับกำลังจะหันไปคุยหน่อย  มันก็มาจ่อถึงคออีกครับ
“อ๊อกก......อืออออ..เข็ดเลยยยตัวเอง.....วันหลังเค้าไม่กินเยอะแบบนี้แล้วววว” มือนั้นก็ยังลูบหลังผมอยู่

“เอ้าน้ำบ้วนปากหน่อย” เสียงพี่อั้มนุ่มจังวันนี้  :impress:

“ขอบคุณพี่อ้ามมม”มือผมก็ยื่นไปรับแก้วน้ำแต่ยังหลับตาครับ

             ผมอาเจียนจนน้ำตาไหลเลยครับทรมานจริงๆ พอผมลืมตาขึ้นมามองเท่านั้นแหล่ะคร๊าบ . :m30: .......จ๊ากกกกพี่ต่ายหนี่หว่า.......มาจากไหนอีกล่ะเนี่ย  ตกลงเป็นกระต่ายหรือเป็นนินจากันแน่ว่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ใครอ่านอย่างเดียวแสดงตัวกันหน่อยครับ  :m26:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 15-12-2007 09:24:31
 :m5:โหยพี่กระต่ายแมนมากๆครับแต่ยังเคืองอยู่นิดๆนะพี่ :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 15-12-2007 10:06:30
พี่ต่ายโผล่มาคราวนี้ หวังว่าจะได้คืนดีกันนะ  :a10:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Y_Yami ที่ 15-12-2007 12:23:37
 :m22: แฮ่แอบอ่านมานาน

พี่ต่ายโผล่มาทำคะแนนแล้ว หลังจากต่อให้บุ้งมานาน

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 15-12-2007 13:17:22
อย่างนี้ต้องมีทำโต๊ดดดดด  o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-12-2007 13:49:36
พี่ต่ายมานั่งกินเบียร์รอล่ะสิ คนนึงขี้น้อยใจ อีกคนก็นิ่งเงียบเก็บอารมณ์เฮ้ออออออออออออ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 15-12-2007 16:17:46
งุงุ พี่ต่ายมีงอล น้องโอม ระวังตัวน้อ
ฮิๆๆๆ  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 15-12-2007 18:27:00
ขอให้คุยกันรู้เรื่องนะ ประชดกันซะขนาดนั้น  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-12-2007 20:44:53
หุหุ สร่างเมาทันตาเห็น  :m27:  :m27:  :m27:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 16-12-2007 01:31:52
555

พี่ตายตามติดเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 16-12-2007 09:48:26
ต่อกันเลยนะ ทีแรกว่าจะไม่มาโพสท์ต่อล่ะ แต่กลัววันจันทร์จะยุ่ง อ่านกันไปเลยแล้วกันคร๊าบ :a1:
++++++++++++++++++++
ตอนที่ 36

   จะให้เห็นหน้าสุดที่รักแล้วหายเมาทันทีมันก็คงไม่ได้หรอกครับ  แต่ความตกใจมันก็ยังมีอยู่  ตอนนี้ลืมไปแล้วครับว่างอนกันอยู่

“พี่ต่ายเหรอ....เข้าบ้านผิดปล่าวพี่นี่มันบ้านผมน่ะ...เอิ๊กกก...” ผมก็พูดไปยิ้มไปก็มันมาวนี่ครับ
   
“โอมมานั่งนี่ก่อน” พี่ต่ายพาผมมานั่งบนฝาชักโครก
   
“นั่งอยู่เฉยๆก่อนนะ” แล้วพี่ต่ายก็ไปเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาเช็ดหน้าผมแรงๆครับ

“พี่กระต่ายยย....เบาๆหน่อยซิพี่พีพี....  หน้าคนนะ.......ไม่ใช่ส้วม...เช็ดซะแรงอย่างกะมัน
สกปรกมากนักหนา...มานเจ็บบบ” ผมอดโวยวายไม่ได้ มือผมก็เปะปะปัดมือพี่ต่ายไปด้วย

“เจ็บซิดีวันหลังจะได้จำไม่ทำตัวแบบนี้อีก” เสียงพี่ต่ายก็ไม่ดุนะครับแต่เย็นยะเยือก

“ใครๆเค้าก็เที่ยวกันทั้งนั้นนนน...พี่แหล่ะผิดปกติ”

พี่ต่ายไม่ตอบครับ....แกเลิกเช็ดหน้าผมล่ะ  แต่กำลังจะถอดเสื้อผม ผมปัดมือพี่ต่ายออก

“พี่จะทำอารายยผม”

“ก็ถอดเสื้อเราซิ   ไปอาบน้ำซะจะได้นอน   ตัวมีแต่กลิ่นบุหรี่เหม็นจะตาย”
 พี่ต่ายมองหน้าผม  แล้วก็ส่ายหน้า

“ไม่ไหวเลยโอมเมาขนาดนี้”
พี่ต่ายยืนกอดอกมองผม  ยืนมองพักนึงแล้วพี่ต่ายคงรำคาญเต็มทีเลยบอกผมว่า

“เอ้า.....โอมถอดเองก็ได้....เร็วๆไม่งั้นพี่ช่วยนะ”

“ก็ได้ๆ  ผมถอดเองนะ  ไม่ต้องช่วย”แล้วผมก็พยายามถอดเสื้อเองจนได้ครับถึงแม้จะช้าไปหน่อย

“อ้าวถอดกางเกงด้วยซิ  ไม่งั้นจะอาบน้ำได้ยังไง” ยังกับแม่มาเองเลยครับ  พี่ต่ายเนี่ย

“พี่ออกไปก่อนเดะ  ผมอาบน้ำเองด้ายยย ไม่มาววเท่าไหร่ หึหึ”

“ยืนก่อนแล้วเอาหัวมาพิงพี่ไว้  แล้วค่อยๆถอดเดี๋ยวล้ม”

            ผมเลยยืนเอาหัวไปอิงที่ไหล่พี่ต่ายก้มหน้าก้มตาถอดกางเกงครับ  ตอนที่ยืนอยู่คนเมานะครับ
เลยแกล้งโขกหัวที่หน้าอกพี่ต่ายเล่น  พี่ต่ายเลยเขกหัวผมไปทีนึง  หายทะเล้นไปเลยครับหึหึ

            พี่ต่ายก็เอามือจับเอวประคองตัวผมไว้ไม่ให้เอนไปมา   พอผมถอดกางเกงเสร็จกำลังจะถอดปราการด่านสุดท้าย พี่ต่ายก็ผลักให้ผมนั่งลงบนฝาส้วมอีกที แล้วพี่ต่ายก็ก้มลงมาพูดว่า
+
+
+
“เดี๋ยวโอมอาบน้ำเองได้ใช่ไม๊ ฮึ” แล้วพี่ต่ายก็เอามือลูบแก้มผม ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“ครับ” ผมพยักหน้าหงึกหงัก  พี่ต่ายเอามือมาขยี้หัวผมแล้วก็ออกจากห้องน้ำไป

   ผมนั่งง่วงงงอยู่พักนึง แล้วก็ลุกไปอาบน้ำ   ระหว่างอาบน้ำสติผมก็กลับมาครึ่งนึงล่ะ ผมเลยเพิ่งนึกได้ว่า  เราไม่ค่อยเข้าใจกันจากการโทรหาครั้งสุดท้ายของผม  แล้วผมควรทำยังไงดี หรือว่าแกล้งเมาดิบพิสูจน์ใจพี่ต่ายหน่อย   ผมคงอาบนานไปหน่อยก็คิดอะไรไปด้วยครับ พี่ต่ายเลยมาเคาะประตูเรียกผม

“โอมๆ...ยังไม่เสร็จอีกเหรอ...เป็นไรปล่าว”

“เสร็จแล้วพี่..กำลังจะออกไปครับ”

                 อ้าวตายห่า....ผมลืมเอาผ้าเช็ดตัวเข้ามาด้วย ถ้าอยู่คนเดียวก็คงไม่เป็นไร แต่นี่พี่ต่าย
ยังอยู่ด้วยซิ  ปรกติอยู่กับพี่อั้มสองคนก็บ่อยไปที่เดินโทงๆออกจากห้องน้ำเข้าห้องนอนเลย  แต่ตอนนี้
คงไม่ดีแน่

ผมเลยแง้มประตูยื่นหน้าออกไปหน่อยนึง   :m22: “พี่ต่ายหยิบผ้าขนหนูให้หน่อยค๊าบ...อยู่ในตู้”

   แล้วพี่ต่ายก็เคาะประตูเรียก  ผมเลยยื่นมือออกไปรับผ้ามาครับ  พี่ต่ายก็นะ...เอาผืนเล็กมาให้ผม   พันเอวมันก็รอบน่ะครับแต่มันสั้นจัง  นุ่งแล้ววาบหวิว      เหมือนนุ่งมินิเสกิ๊ตยังไงไม่รู้  ผมเลยต้องพันให้มันต่ำๆหน่อย  เห็นพุงหน่อยก็ยังดีกว่าข้างล่างโผล่  ก็เลยทำให้ผมไม่ค่อยมั่นใจตอนออกไปเลย

   ผมก็ต้องแกล้งทำเป็นไม่สนใจเดินออกไปแบบปรกติ  พี่ต่ายเปิดเพลงเบาๆด้วยครับ  ทำเสมือนเป็นห้องตัวเองเลยนะเนี่ย  แล้วทำไมไฟก็ไม่เปิด.....มืดๆ  ผมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าจะหยิบเสื้อผ้ามาใส่ 
แล้วก็มีมือมาโอบเอวผม  อีกล่ะ  :try2:

   ผมทำเป็นใจเย็นครับ......ไม่สนใจหยิบเสื้อมาใส่    พี่ต่ายกลับมาช่วยผมใส่อีก  ใจผมก็เต้นตึกตักแต่ยังทำใจดีสู้เสืออยู่  มือพี่ต่ายมาโดนผิวผมตรงไหนก็เหมือนจะร้อนวูบขึ้นไปตรงนั้น   

            แล้วผมก็ก้มลงหยิบกางเกงมาใส่นึกในใจว่าอันนี้ไม่ต้องมาช่วยเลยนะ แต่พอผมก้มตูดก็จะโด่งโผล่ออกมา   ผมเลยต้องย่อๆขาลงไปด้วย  ท่าทางผมตอนนั้นคงพิลึกน่าดู

   พอผมยืนขึ้นพี่ต่ายแกเริ่มเอาจมูกมาไซร้ที่ซอกคอผมแล้วครับ  ผมขนลุกซู่ไปหมด  แต่ตัดใจแกะมือพี่ต่ายออกจากเอว  แล้วดึงตัวออกมา ทำเป็นพูดขรึมๆ

“พี่มีอะไรเหรอ  ผมง่วงแล้วจะนอนนน” ผมเริ่มงอแงครับ

“คุยกันก่อนไม่ได้เหรอ”

“มีเรื่องอะไรต้องคุย” งอนอยู่ท่องไว้โอม

“วันหลังไปเที่ยวอย่าดื่มเยอะแบบนี้ได้ไม๊”

“ไม่รู้.....แล้วแต่สถานการณ์...ผมบอกไม่ได้หรอก”

“งั้นวันหลังให้พี่ไปด้วย” ฝันไปเหอะ ไม่ให้ไปด้วยหรอก

“พี่ก็อยากเที่ยวเหมือนกันใช่ม้า 555...บอกมาเถอะ”

“โอมอย่านอกเรื่องน่า”
+
+
+
“พี่จะมาสนใจผมทำไม....ก็ผมเบื่อ...ผมเหงาน่ะ...พี่เข้าใจไม๊”   :serius2:

         ผมไม่ไหวล่ะ       แต่ก่อนตอนไม่มีพี่ต่ายผมก็อยู่ของผมได้  วันหยุดผมก็อยู่บ้านดูหนังเกาหลี/ญี่ปุ่นบ้าง    อ่านหนังสือบ้าง  นอนเล่นบ้างไปตามเรื่อง แต่พอผมมาสนิทสนมกับพี่ต่าย  แล้วพี่ต่ายก็มาๆหายๆ  ผมเลยปรับอารมณ์ตัวเองไม่ทัน   แล้วอยู่ดีๆน้ำตาผมก็ไหล เป็นบร้าไปอีกละกรู  ปรอทแตก ผีนางเอกเข้าสิง  :o12:

“ผมเหนื่อยใจ.........ตลอดเวลาเหมือนชีวิตผมต้องล้อไปตามแต่ที่พี่ต่ายจะลากไป”

แล้วผมก็พูดไปเรื่อยๆตามความรู้สึกตอนนี้  มันแย่มากๆ 

 “ผมยังไม่รู้สึกเลยว่า......ตัวเองเป็นส่วนหนึ่งของพี่ต่าย”

  “พี่ต่ายนึกจะมาหาผมก็มา  นึกจะหายก็หาย  ไม่เคยอธิบายอะไรเลย”  :m15:

             เรื่องมันก็เดิมๆครับ  แล้วผมก็ยังบร้าเหมือนเดิม   เหมือนเทปที่มันย้อนกลับมาซ้ำๆๆ   
จนผมเบื่อ  เสียงผมยังเครือๆครับ  รู้สึกกดดันในตัวเอง  เหมือนเป็นเมียน้อยยังไงไม่รู้
+
+
+
“พี่ทำร้ายโอมขนาดนี้เลยเหรอ........  ที่ผ่านมา”
เสียงพี่ต่ายดูเศร้าสร้อยมากเลยครับ  แล้วพี่เค้าก็เดินไปเปิดไฟ

               พี่ต่ายเดินมากอดผมที่ยังยืนสะอึก สะอื้นตาแดงก่ำอยู่  ผมคงอ่อนไหวเกินไป ร้องไห้ง่ายไป
พี่ต่ายลูบหัวผมเบาๆ เช็ดน้ำตาให้ผมไปพลางๆ

“พี่ว่าเราคงต้องคุยกันจริงๆจังๆซักที”

ผมยังคงเงียบครับ แอบป้ายขี้มูกใส่เสื้อพี่ต่ายด้วย

“ไม่อย่างนั้นเราคงต้องมีเรื่องแบบนี้กันตลอด” พี่ต่ายถอนใจเฮือกใหญ่

“โอมก็รู้ล่ะว่าพี่เป็นแบบนี้  แล้วโอมอยากให้พี่ทำยังไง”

“ผมไม่รู้........แต่ผม.....ผมคิดถึงพี่”  :m17:

              ช่วงที่ทำงานผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะมันยุ่ง  แต่พอว่างทีไร  ผมก็อดน้อยใจไม่ได้  แฟนคนอื่นเค้าเป็นแบบนี้กันมั่งไม๊ว่ะ ขนาดบุ้งมันเป็นแค่เพื่อนมันยังโทรหาผมได้ทุกวันเลย

“พี่ก็คิดถึงโอม”
พี่ต่ายจูงมือพาผมไปนั่งคุยที่เตียง ผมก็เดินตามไปโดยดี
+
+
+
“แล้วทำไมพี่ไม่โทรมา” ยังแอบสะอื้นเล็กน้อย ทำไมกรูอ่อนแอแบบนี้ว่ะ สงสัยตัวเองเหมือนกัน

“เวลาพี่ทำงานโอมก็รู้.....พี่ไม่ชอบคุยโทรศัพท์”

“ตอนกลางคืนล่ะ”

“พี่เหนื่อย...กลับมาก็หลับ”

“ถ้างั้นจันทร์ถึงศุกร์นี่เราไม่ต้องติดต่อกันเลยใช่ไม๊” ผมเริ่มโมโหแล้วนะ o12

“ไม่ใช่อย่างนั้น  โอมคิดถึงพี่.....ก็โทรหาพี่ซิ” พี่ต่ายคงรู้ว่าผมเริ่มโกรธอีกล่ะ

“โอมก็ทำอย่างที่อยากจะทำแล้วกัน  คิดถึงพี่ก็โทรมา” พี่ต่ายลูบมือผมเบาๆ

“ก็พี่ไม่ชอบคุยโทรศัพท์นี่  ผมเกรงใจ”

“โอมโทรมาพี่กลับดีใจ  แต่พี่คงคุยได้ไม่นาน”

“ผมแค่อยากให้เวลาพี่คิดถึงผมก็โทรหาผมบ้าง  เพราะผมก็ไม่รู้ว่าตอนไหนที่พี่พร้อมที่จะคุยกับผม”

“ถ้างั้นพี่คงทำไม่ได้หรอก” ผมกำลังจะวีนอีกทีครับ แต่พี่ต่ายชิงพูดก่อน

“เพราะพี่คิดถึงโอมตลอดเวลา  ถ้าพี่โทรทุกครั้งที่คิดถึงโอมพี่คงไม่ต้องทำอะไรเลย” 
+
+
+
             ผมไม่รู้หรอกว่าที่พี่ต่ายพูดมามันเป็นแค่คำพูดหวานๆที่หลอกให้ผมดีใจรึเปล่า  แต่มันก็ทำให้ผมพูดไม่ออกไปชั่วขณะ  :-[

“พี่ไม่กล้าสัญญาว่าจะโทรหาโอมได้ทุกวันเหมือนบุ้งหรือเปล่า”

เออไม่วายแอบเหน็บนะ  รู้อีกแนะว่าผมแอบคิดอะไร

“แต่พี่สัญญาว่าจะไม่หายไปนานๆ  แล้วถ้าพี่หายไปโอมก็โทรหาพี่นะ”

“ผมทำให้พี่ไม่สบายใจรึเปล่า” ผมเริ่มรู้สึกว่าผมทำตัวงี่เง่าเป็นเด็กเกินไปรึเปล่า ชักเริ่มรู้สึกผิด

“ไม่หรอก.....พี่ก็ไม่อยากทำให้โอมเสียใจ  ถึงพี่จะไม่รู้ตัวก็เถอะ” 

“เราทั้งสองคนต่างก็ต้องปรับตัวเข้าหากัน” พี่ต่ายยังคงพูดต่อ  คงบอกทั้งตัวเอง  แล้วก็บอกผมด้วย 
ผมว่ายังไงพี่ต่ายก็ยังใจเย็นกว่าผม

“พี่ต่ายโกรธผมเรื่องบุ้งไม๊ครับ”ผมเริ่มอารมณ์ดีขึ้นแล้วครับ

“นิดหน่อย” ผมมองหน้าพี่ต่ายอย่างเกรงๆ  พบเพียงรอยยิ้มอ่อนโยนของพี่ต่าย

“แต่ขอให้ลิมิตแค่เพื่อนแล้วกัน...พี่รู้นะว่าบุ้งเค้าชอบโอม”

“แล้วพี่ไม่กลัวผมจะไปชอบบุ้งเหรอ”ผมสงสัย ไม่หึงบ้างรึไงกัน

“กลัวทำไม ยังไงโอมก็ชอบพี่มากกว่าอยู่แล้วหึหึ” ไม่กลัวจริงเร้อ  หุหุหุ  o16

           มั่นใจตัวเองเหลือเกินนะพี่ต่าย   เรื่องบุ้งคงไม่ใช่ปัญหาของเราแล้ว  ปัญหามันอยู่ที่ถ้าผมจะ
คบพี่ต่ายต่อไปผมก็คงต้องพยายามทำใจเรื่องความห่างของเรา    แต่ตอนนี้ผมเริ่มง่วงแล้วครับ

“แล้ววันนี้พี่ไม่กลับเหรอ” ชักสงสัยแล้วว่ามาได้ไง  ทำไมชอบทำตัวเป็นนินจา  โผล่มาให้ผมตกใจทุกที

“บอกอั้มมันแล้ว  ว่าจะนอนนี่กับโอม” พี่ผมเอาอีกล่ะ ทำไมไว้ใจเพื่อนง่ายๆแบบนี้นะ เฮ้อ.... กำลังจะ
ถามว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่

“โอม.....”

               มาแบบจู่โจมอีกแล้วครับไม่ทันตั้งตัว   จุมพิตร้อนๆของพี่ต่าย นับวันก็ชักเก่งขึ้นเรื่อยๆ
ไอ้ผมก็เริ่มจะติดใจ    มันก็ทำให้เลือดลมสูบฉีดดีเหมือนกัน  เราก็นัวๆเนียๆกันพักนึงล่ะครับ
จนผมต้องขอเบรคพักหายใจ    ต้องผลักพี่ต่ายออกไปเพราะน้องชายผมมันชักเกเรแล้วครับ  ต้องกำราบมันก่อน เดี๋ยวพี่ต่ายจับได้ล่ะแย่เลย  :impress2:

“พี่ต่าย.....แค่นอนเฉยๆนะพี่...... ขอร้อง” ผมยังคงตื่นเต้นทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ เสียงเลย
อดสั่นไม่ได้

“คร๊าบขอนอนกอดแค่นี้ก็ได้...นะโอม”
แล้วพี่ต่ายก็นอนกอดผม แต่ท่าทางน้องชายพี่ก็ดื้อเหมือนกัน  มันมากวนๆผมข้างหลังอยู่ได้ 
เดี๋ยวจับตีตายเลย

               แต่ผมว่าทั้งผมและพี่ต่ายคงดื่มมาเยอะพอควรเหมือนกัน   ใช้เวลาไม่นานเลยเผลอ
หลับไปไม่รู้ตัวครับ   

              ตกลงคืนนี้เด็กๆของเราเลยกลับเข้าห้องกันหมดไม่มีใครออกมาเล่นซนข้างนอกอีกเลย หุหุหุ
********************************************************
 :impress: ขอบคุณคนอ่านทุกคนนะคร๊าบที่เป็นกำลังใจให้   คิดว่าอีกไม่นานก็คงใกล้จบแล้ว  :a11:
ถ้าตรงไหนที่ชอบก็ดีใจ  ตรงไหนไม่ชอบก็บอกกันมานะคร๊าบ   :teach:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-12-2007 09:58:16
หุหุ ต่ายเป็นผู้ใหญ่ดีจัง  :m1:  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 16-12-2007 10:05:31
พี่ต่ายดูแลโอมดีเชียว  o18
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-12-2007 11:54:46
เมื่อไหร่เด็กๆจะออกมาวิ่งเล่นเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 16-12-2007 11:55:21
ทำเราใจหายใจคว่ำอีกแล้วววววว คู่นี้  :try2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 16-12-2007 12:26:09
เกือบไปแล้วนะคู่นี้  :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 16-12-2007 12:28:29
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 16-12-2007 12:51:44
 :o8:
ตามมาทันละ มีคนบอกว่า "น่ารัก" เลยแวะมาอ่าน ติดเลยยยยยยย
ลักษณะการเขียน เดินเรื่อง ถ้อยคำ ลงตัวดีจัง รู้สึก ใส ใส... :m3:
อ่านแล้วสดชื่น....มีความสุขดี...แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้กับความห่าง
และความบ้างานของพี่กระต่าย...เคลียร์กันให้ลงตัวนะ...เอาใจช่วย
 :catrun:
+1 ให้เป็นกำลังใจ รอติดตามกันต่อไปปปปปปป :write-a-letter:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 16-12-2007 13:02:13
หุหุๆๆๆ :m12: นึกว่าจะมีอาไรเหอ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 16-12-2007 15:46:08
เรื่องนี้ชอบพี่ต่ายจังเลย เป็นผู้ใหญ่ที่น่ารักที่ซู้ดดดดดดดด
ถึงจะบ้างานไปบ้าง แต่ก็มั่นคงตรงไปตรงมาดี
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 16-12-2007 20:44:57
รีบๆมาต่อนะคับ
รออยู่สนุกมากมาย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 17-12-2007 11:02:35
อ่านตอนนี้แล้ว ไม่เม้นท์ไม่ได้แล้ว หวานซะ เฮ้อ จะมีแบบนี้บ้างไหมนะ อิจฉาจริง ๆ เลย  :sad2:  :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 17-12-2007 11:25:08
วันนี้บอร์ดเข้ายากจังเลยนะ :a11:
+++++++++++++++++++++++++++++
 ตอนที่ 37

“โอม...โอม...ตื่นเถอะ” พี่ต่ายเขย่าตัวผมเบาๆ แล้วก็กระซิบปลุกผมที่หู  จั๊กจี้น่าดู

“ไปใส่บาตรด้วยกัน”

ผมอดบิดขี้เกียจไม่ได้ เมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบเช้าไม่อยากลุกเลย เฮ้อ พี่ต่ายนึกอะไรขึ้นมา
จะใส่บาตรวันนี้  ไม่อยากตื่นเลย

“ง่วงน่ะพี่.....อือ” :a12:

“วันนี้วันเกิดพี่ พี่อยากใส่บาตรกับโอม”

                 พี่ต่ายนอนตะแคงมองหน้าผม เอามือมาเขี่ยผมของผมที่ปรกหน้าอยู่  ผมกระพริบตา
ปริบๆนอนมองหน้าพี่ต่าย  แฟนใครน่ะน่ารักจัง  คิดเองแล้วก็อายเอง  เลยกระเด้งตัวเองลุกขึ้นมา 
วันเกิดทั้งพี่ต่ายทั้งทีนี่เนอะ

“ทำไมพี่ไม่บอกผมก่อนล่ะ..กระทันหันจังผมไม่มีอะไรให้พี่เลย” ผมเผลอยกมือปิดปากหาว   ยังง่วงน่ะ :onion_asleep:

“ก็วันศุกร์ที่พี่โทรก็ว่าจะชวนน่ะ   แต่พอดีโทรไม่ติดเพราะโอมคุยกับเพื่อนสนิทอยู่ไง  จำไม่ได้เหรอ”

ผมก็งงๆไปพักนึงแล้วก็นึกขึ้นมาได้  ไอ้วันนั้นเองน่ะเหรอ  แล้วก็พยักหน้าหงึกๆ

“ก็พี่ต่ายแหล่ะไม่พูดเอง โอมโทรไปถามก็บอกไม่มีอะไร”

“ช่างมันเถอะ  แล้วไปแล้ว....ไปอาบน้ำแปรงฟันไป”

              อ้าวเพิ่งสังเกตพี่ต่ายแต่งตัวเรียบร้อยแล้วนี่นา ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวอย่างไวเลยครับ
  ออกมาพี่ต่ายหายไปแล้ว ผมลงมาข้างล่างเจอพี่อั้มนั่งหลับอยู่ พี่ต่ายนั่งอยู่ข้างๆ

“อั้มๆ........ ตื่นไปกัน   โอมลงมาล่ะ”
อ้าวพี่อั้มไปด้วยเหรอ นึกว่าไปกันสองคน  ชาติหน้าคงเจอพี่อั้มอีก หึหึ

“โอมเมื่อวานกลับมากี่โมง  เค้านั่งกินเบียร์กับต่ายรอตัวเองตั้งนาน” พอขึ้นรถพี่อั้มก็ถามเลยครับ

“เค้ากลับมาซักตี 1 กว่าๆได้มั๊ง  ตัวเองแหล่ะนอนหลับคาทีวีเลย  ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” ไม่ค่อยอยากคุยเลยเรื่องเที่ยวกลัวพี่อั้มเอาไปบอกแม่

แล้วพี่อั้มก็เริ่มบ่นครับ  แต่บ่นพี่ต่ายนะ
“เออ ไอ้ต่ายมรึงขึ้นไปนอนก็ไม่ปลุกกรู   ปล่อยให้กรูนอนข้างล่าง....หนาวจะตาย”

“เนี่ยถ้าไม่เกรงใจว่าวันเกิดมรึง   กะมรึงเอาเบียร์มาเลี้ยง........กรูด่าไปแล้วนะ”
 เค้าจะวางมวยกันไม๊เนี่ย   สองคนนี้ 

“เออ แล้วที่มึงพูดอยู่นี่ให้พรกรูเหรอว่ะ” พี่ต่ายสวนเริ่มกลับเป็นชุดครับ

“งั้นกรูขอโทษก็ด้าย......พี่อั้มครับ  ผมขอโทษที่ปล่อยให้พี่เมาเหมือนศพหมานอนอยู่ข้างล่าง”

“ ขอโทษที่ไม่ส่งพี่ไปเผาที่เมรุซะเลย  หรือเรียกเทศบาลมาเก็บศพมรึงไป” 

แต่คนอย่างพี่อั้มไม่มียอมง่ายๆหรอกครับ
“ไอ้เวงต่ายนี่....เดี๋ยวนะมรึงจะได้ของขวัญวันเกิดเป็นอวัยวะที่ใช้กับรองเท้าของกรู   วอนนะมรึง”

“กรูอุตส่าห์ตื่นแต่เช้ามาทำบุญร่วมกับมรึง.....ดีเหมือนกันเผื่อชาตินี้กูทะเลาะกับมรึงไม่จบ   
กรูได้ไปต่อภาค 2 เอาชาติหน้า 555”

พี่ต่ายเองวันเกิดแท้ๆมาเจอพี่อั้มยั่วหน่อย กู่ไม่กลับอีกคน

“กรูชวนมรึงมาทำบุญ....จะได้หมดกรรมกันชาตินี้เว้ย    ชาติหน้ากรูขอไม่มาเจอมรึงแล้วขี้เกียจ
มาฟังมุขแป็กๆของมรึง”

               ผมละสงสัยวันนี้จะได้บุญไม๊เนี่ย แล้วสองคนก็ปะทะคารมกันไปตลอดทางครับ  ผมได้แต่นั่งหัวเราะไปตลอดทาง  ตอนที่พี่สองคนคุยกันนี่เหมือนเด็กเลยครับฮาแตก กัดกันตลอดแต่ก็ไม่มีอะไรครับขำๆ      จนไปถึงใกล้ๆวัด พี่ต่ายก็จอดรถ  เราลำเลียงอาหารที่พี่ต่ายไม่รู้ไปเตรียมมาตั้งแต่ตอนไหน
ลงจากรถ  รอพระผ่านมาครับ   ระหว่างรอพระมาพี่อั้มก็ถามพี่ต่ายขึ้นมาครับ

“ต่ายมรึงอยู่คนเดียวเหรอที่บ้านน่ะ”

“อือ...ทำไมว่ะ”

“มาอยู่บ้านกรูไม๊” อ้าวพี่อั้มบ้านเค้าก็มีไปชวนมาทำไม๊ :m28:

“ทำไมว่ะ...รักกูมากเหรอ ถึงอยากเห็นหน้ากรูทุกวัน” พี่ต่ายกวนพี่อั้มครับเอามือไปลูบหัวพี่อั้ม  แต่แอบส่งยิ้มมาให้ผม

“อ้าวไอ้ห่านี่ลามปามนะมรึง..เดี๋ยวเจอๆ” พี่อั้มปัดมือพี่ต่ายออก

“กูจะไปเรียนต่อเมกาเร็วๆนี้ล่ะ ห่วงโอมมันอยู่บ้านคนเดียวซิ” พี่อั้มทำหน้าจริงจังแล้วครับ

“เค้าอยู่คนเดียวได้พี่อั้ม” ผมคิดแบบนั้นจริงๆ  ผมก็โตแล้วเรียนจบ ทำงานแล้วด้วย

“เงียบเลย...ผู้ใหญ่เค้าจะคุยกัน” พี่อั้มมาเบรคผมอีก ผู้ใหญ่บร้าอะไรกันเมื่อกี้ยังนั่งเถียงกัน
ไร้สาระอยู่เลย ผมเลยได้แต่หุบปาก หน้างอ

“แล้วที่บ้านมรึงเค้าจะไม่ว่าเหรอ” พี่ต่ายถามแบบเกรงใจแต่หน้าตาแสดงออกว่าสนใจมาก

“กรูคุยกะที่บ้านแล้ว  เค้าก็โอเคนี่ มรึงไปทำอีท่าไหนเข้า แม่กรูดีใจซะด้วยซ้ำถ้ามรึงมาอยู่”

“กรูมันดีโดยธรรมชาติอยู่แล้วเว้ย....ไปไหนใครๆก็รัก”

“แล้วตกลงมรึงจะมาไม๊ล่ะ” พี่อั้มถามซ้ำอีกที

         พอดีพระมาครับ  เราก็เลยใส่บาตรกันก่อน เสร็จแล้วก็กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติสนิท
มิตรสหาย เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย

                   ตอนที่พระสวดในขณะที่พี่ต่ายกำลังรินกรวดน้ำอยู่     พี่ต่ายเอามือผมให้มาแตะที่
แขนพี่ต่าย ผมรู้สึกดีมากๆเลยครับ  อิ่มใจที่ได้ทำบุญด้วย ดีใจที่เราได้มาทำบุญร่วมกันด้วย

“เอ้ามาคุยกันต่อ...ต่ายตกลงมรึงว่าไง” ผมไม่รู้ว่าพี่อั้มจะห่วงอะไรผมนักหนา  ยังไม่จบอีกเรื่องนี้

“..................” พี่ต่ายคงยังไม่ค่อยแน่ใจครับ เลยเงียบไป

“งั้นกูขอช่วยค่าน้ำค่าไฟนะเว้ย  กรูไม่มาอยู่ฟรีๆหรอก” แสดงว่าพี่ต่ายจะมาอยู่จริงดิ แล้วผมล่ะควรทำไง

“พี่ต่ายแล้วบ้านพี่ล่ะ....ใครจะอยู่” ผมชักลังเลครับ อยู่บ้านเดียวกันจะดีเหรอ  มันจะใกล้ชิดกันเกินไปไม๊

“โอมว่าบ้านพี่ต้องกลัวขโมยด้วยเหรอ”พี่ต่ายยิ้มๆ

“เออจริง...บ้านพี่ต่ายไม่มีอะไรเลย  แล้วพี่จะทิ้งไว้งั้นเหรอ”

“อือก็ไว้งั้นแหล่ะ...เผื่อวันดีคืนดีโอมโกรธพี่ไล่พี่ออกจากบ้านเดี๋ยวไม่มีที่ซุกหัวนอน” พี่ต่ายพูดแซวผมพร้อมส่งตาหวานมาให้อีก  o18

“พี่อ่ะ...ทำอย่างกะผมเป็นคนไม่มีเหตุผล” ผมกำลังอายอยู่ตอนที่พี่อั้มโพล่งขึ้นมา :o8:

“มรึงสองคนเป็นห่าอะไรว่ะ จีบกันอยู่รึไง”  :m12:

              วงแตกเลยครับ ทำตัวไม่ถูกเลย  เลยขึ้นรถกันหมดทุกคน  พี่อั้มคงแซวแบบไม่ได้คิดอะไร 
แต่ผมสองคนประเภทวัวสันหลังหวะ   นาทีนี้ต้องระแวงไว้ก่อน  แล้วพี่อั้มก็แยกออกไปหาเพื่อน ส่วนผมกับพี่ต่ายยังตกลงกันไม่ได้เลยกลับไปตั้งหลักที่บ้านผมกันก่อน

“วันนี้วันเกิดพี่ต่าย พี่อยากทำอะไรล่ะ”

“ไม่รูซิ  ปรกติพี่ใส่บาตรเฉยๆแล้วก็ไม่ได้ไปไหน”

“พี่อยากไปไหนไม๊  ผมจะไปเป็นเพื่อน”  :m13:
 
“อยากให้ไปเป็นแฟนมากกว่า.....เพื่อนมีพอแล้ว”

“...........” เอ่อ.....พูดต่อไม่ถูกเลย   :-[  ไปเดี่ยวไมโครโฟนแข่งกับโน้ตดีกว่ามั๊ง  มุขชักเยอะขึ้นไปทุกวัน

“5555  โอมรู้ตัวไม๊ว่าหน้าแดง” 

แล้วพี่ต่ายก็เอามือมาสัมผัสแก้มผมเบาๆ  แล้วก็ลูบแก้มผม หันมามองหน้าผม  แล้วก็พูดว่า
“วันนี้เป็นวันเกิดที่พี่รู้สึกดีที่สุดเลย  เพราะมีโอมอยู่ข้างๆ”  o18

            ผมก็ได้แต่ยิ้มละครับ  รู้สึกดีที่ผมมีส่วนทำให้คนอื่นมีความสุข  ถึงแม้ผมจะไม่ได้ทำอะไรเลย  ออกจะงงๆซะด้วยซ้ำ เรานั่งคุยกันที่โซฟาครับ ตอนนี้ผมเอาหัวมาพิงที่ไหล่พี่ต่าย เรานั่งคุยกันสบายๆ  ผมดึงมือพี่ต่ายให้ลุกขึ้น

“ผมยังไม่ได้ให้อะไรพี่เลย  ออกไปหาซื้อของที่พี่อยากได้กันเถอะ”

“พี่ไม่อยากได้อะไร ไม่ต้องซื้อให้พี่  แค่โอมให้เวลากับพี่ก็พอ”

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่  พอพี่ต่ายพูดจบ  “พี่จะใจดีกับผมแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน”

จนถึงตอนนี้ความรู้สึกนี้ก็ยังกวนใจผมอยู่ตลอด  ผมกลัวความไม่แน่นอน  ทั้งมาจากตัวพี่ต่าย
แล้วก็ตัวผมเองด้วย

“พี่ไม่รู้เหมือนกัน...อีกต่อๆไปความรู้สึกพี่อาจจะเปลี่ยน”
พี่ต่ายมองตาผม  ผมก็มองตอบเหมือนโดนมนต์สะกด

“พี่ก็สัญญาไม่ได้   แต่ตอนนี้พี่รักโอมที่สุด” พี่ต่ายจับหัวผม แล้วโยกเบาๆ ผมเกือบเวียนหัวละพี่

“โอมอย่าไปกังวลกับสิ่งที่มันยังไม่เกิด  พี่มีเวลาทั้งชีวิตให้โอมคอยดู”

“พี่ว่าเราไปหาอะไรทาน  แล้วก็ไปซื้อหนังมาดูที่บ้านดีกว่าไม๊”

“ไปซิพี่วันนี้พี่ว่าไง.....ผม....ครับๆๆๆๆๆๆ...ตลอดเลย”  :m18:

“Happy birth day ครับพี่ต่าย ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ”  :a13:

                    เราต่างยิ้มให้กันครับ แล้วก็จุ๊บปากกันเบาๆ  จูงมือกันออกไปข้างนอก บรรยากาศมันดี๊ดีครับ   อะไรๆก็ดูจะดีไปหมด  อีกหน่อยพี่ต่ายมาอยู่บ้านผม  เราคงเจอกันบ่อยขึ้น ผมก็คงไม่เหงาแล้ว  ผมก็ได้แต่หวังว่ามันจะราบรื่นครับ   

                    ตอนนี้ผมไม่อยากกังวลอะไรแล้ว  อะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ก็ตามผมคงผ่านมันไปได้  ก็ผมไม่ได้อยู่คนเดียวนี่ครับ
*********************************************
ทีแรกว่าจะจบลงแค่นี้  แต่พอมีคนตามอ่านอยู่ก็เลยอยากต่อไปอีกหน่อยนึง 
ยังไงก็อย่าเพิ่งทิ้งกันไปนะครับ   :impress2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 17-12-2007 11:55:03
ย้ากกกกกก อย่าเพิ่งจบน้า มาเล่าต่อเรื่อยๆ ยังไม่มีตอน โอมเอาตัวเองผูกโบว์ เป็นของขวัญให้พี่ต่ายเลยยย

ไม่ยอมๆๆๆๆ  :a6: o9 :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 17-12-2007 12:08:19
ก็ถ้ารู้ว่าจีบกันจริง ๆ พี่อั้มจะว่าไงหว่า

แต่คงไม่หนักหนาหรอก เพราะแม่เองก็ชอบพี่ต่ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่ น่าจะผ่านไปได้ด้วยดีนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 17-12-2007 12:11:51
ไม่ต้องกลัวคนอ่านทิ้งเลย  มีแต่คนที่อ่านแหละ จะกลัวคนเขียนทิ้ง  เหอ เหอ แต่ถ้าทิ้งกันละน่าดู  :angry2: อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 17-12-2007 12:40:02
คงไม่ใช่จบแค่นี้จริงน้า  o9 o9
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 17-12-2007 12:47:15
มีคนแนะนำให้อ่านเรื่องนี้

เลยอ่านซะรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ 

อ่านแล้วติดเลย  o13

เดี๋ยวต้องกลับไปให้รางวัลคนแนะนำซะหน่อย  o17
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 17-12-2007 12:50:32
ไม่ต้องกลัวคนอ่านทิ้งเลย  มีแต่คนที่อ่านแหละ จะกลัวคนเขียนทิ้ง  เหอ เหอ แต่ถ้าทิ้งกันละน่าดู  :angry2: อิอิ

หนับหนุน ment ข้างบนนี้มากกกกกกกก คนอ่านไม่เคยทิ้งงงงง
มีแต่คนเขียนทิ้งไปทุ๊กกกกกที ช้ำใจจจจ :sad2:
เรื่องราวน่ารักกกกกกก ชอบบบบบบ  :give2:    
อย่าเพิ่งจบเลยน๊า....แต่ก็อย่าให้เศร้า....รักษาความน่ารักของเรื่อง
เป็นความชุ่มชื่นหัวใจให้คนอ่านนนนนน.....
 :m3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 17-12-2007 12:59:45
ไม่น่ะๆต่ออีกเยอะเถอะน้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ รักพี่ต่ายยยยยยยยยยยย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 17-12-2007 14:14:55
อ่านะ จะจบอีกหละ โห้ ใจร้ายจริง
เรากะลังอ่านหนุกๆ จะจบซะงั้น :เฮ้อ:
เซ็งเป็ด เลย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 17-12-2007 14:51:30
รีบๆมาต่อนะคับ
รออยู่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 17-12-2007 17:33:50
 :a4:เป็นกำลังใจให้เสมอ มาต่อเร็ว ๆ นะครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-12-2007 18:00:45
โหะๆๆ  จะมาอยู่บ้านเดียวกันแล้ววว   กิ๊ดๆๆ ชอบใจ  :m3:

 :a13:  HBD นะค้าบพี่ต่ายย   ..เอ่อ โอมก็เอาตัวผูกโบว์ใหพี่ต่ายดิ ไม่เห็นต้องออกไปซื้อของขวัญให้วุ่นวายย  :m26:

พี่ต่ายอยากได้กว่าของอีก คิกๆๆ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 17-12-2007 23:44:25
อิจฉาจังเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 18-12-2007 10:28:13
ไม่ต้องกลัวคนอ่านทิ้งเลย  มีแต่คนที่อ่านแหละ จะกลัวคนเขียนทิ้ง  เหอ เหอ แต่ถ้าทิ้งกันละน่าดู  :angry2: อิอิ

หนับหนุน ment ข้างบนนี้มากกกกกกกก คนอ่านไม่เคยทิ้งงงงง
มีแต่คนเขียนทิ้งไปทุ๊กกกกกที ช้ำใจจจจ :sad2:
เรื่องราวน่ารักกกกกกก ชอบบบบบบ  :give2:    
อย่าเพิ่งจบเลยน๊า....แต่ก็อย่าให้เศร้า....รักษาความน่ารักของเรื่อง
เป็นความชุ่มชื่นหัวใจให้คนอ่านนนนนน.....
 :m3:


เห็นด้วยอย่างยิ่งครับป๋มหุหุหุ(พี่นาทงับของลอกความคิดพี่ทั้งดุ้ยเลยนะฮะ :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 18-12-2007 11:46:56
 :oni1: มาต่อกันไปเลยครับ
++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่38

              ผ่านไปหลายเดือนแล้วครับนับตั้งแต่พี่อั้มไปเรียนต่อที่อเมริกา  แต่พี่ต่ายก็ยัง
ไม่ได้ย้ายมาอยู่บ้านผมซักที  เพราะงานเยอะเหมือนเคย แต่อาทิตย์นี้แหล่ะครับที่ผมจะต้องช่วย
พี่ต่ายย้ายของ 

            แม่ตกลงให้พี่ต่ายใช้ห้องของพี่อั้มไปก่อน  เพราะกว่าพี่อั้มจะกลับอย่างน้อยก็ต้องปีครึ่ง
  แม่ไม่ยอมรับเงินที่พี่ต่ายบอกว่าจะช่วยค่าน้ำค่าไฟ  ทีแรกพี่ต่ายก็เลยไม่ยอมมาอยู่  จนแม่ต้อง
ยอมให้พี่ต่ายซื้อของกินเข้าบ้านแทนผม   พี่ต่ายถึงยอมมาอยู่

           ไม่มีใครสงสัยความสัมพันธ์ของเราสองคน  เพราะถ้าอยู่ในที่สาธารณะเราค่อนข้างวางตัว
ไม่ค่อยเปิดเผยเท่าไหร่  ส่วนที่ทำงานเราแทบไม่เจอกันเลยไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องนั้น :m26:.....555 
ก็ยังไปไม่ถึงไหนครับ  ผมยังคงรอดพ้นได้ทุกสถานการณ์

พอมาใกล้จะถึงบ้านพี่ต่ายเลยโทรมาบอกผมครับให้เตรียมเปิดประตูรอ

“โอมพี่กำลังจะไปถึงเรือนหอเราแล้วนะ  เดี๋ยวเปิดประตูให้พี่ด้วย”พี่ต่ายเริ่มหยอดอีกละ

“พี่ว่าอะไรนะ......บ้านผมพี่ไม่ใช่เรือนหอ” พูดเล่นแบบนี้ผมชักกลัวๆแล้วซิ คิดดีแล้วเหรอเนี่ยให้กระต่ายหื่นมาอยู่ในบ้าน   :m23:

“หึหึหึ.....”พี่ต่ายหัวเราะชอบใจใหญ่   :laugh3:

“แล้วนี่ผมไม่ต้องไปบ้านพี่ช่วยย้ายของเหรอ”

“ไม่ต้องหรอกของพี่มีน้อย”

แล้วรถพี่ต่ายก็เลี้ยวเข้าบ้านมาพอดี  ผมเลยเดินไปปิดประตู  แล้วมารับพี่ต่ายที่รถ

“ยินดีต้อนรับครับพี่ต่าย”   o15

            ผมส่งมือจะไปช่วยรับของ  แต่พี่ต่ายกลับดึงมือผมเข้าไปจนตัวชนกับตัวพี่ต่าย  แล้วแอบขโมยหอมแก้มผมไปหนึ่งที แล้วก็พูดด้วยความร่าเริง

“เฮ้อ หอมจัง .......”

“พี่ต่ายน่ะทำอะไรไม่รู้...เดี๋ยวใครเห็นเข้า”     :-[    ผมอายนะเว้ย  ยังกับเป็นเมียตอนรอผัวกลับบ้านไงไม่รู้  ยังไม่ชิน แหะ แหะ

“ใครล่ะจะมาเห็น......นี่มันในบ้านเรานะ” กลายเป็นบ้านเราไปซะละ พึ่งจะมาถึงเองเนี่ย

“ไม่รู้ล่ะ....มาครับผมช่วยถือของ” ถ้าผมอยู่นานคงเข้าตัวไปกว่านี้....ไปดีกว่า

         สมบัติพี่ต่ายน้อยจริงๆครับมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 1 ใบ กล่องใส่ของจุกจิกนิดหน่อย
หนังสือลังนึง แล้วก็มีคอมพิวเตอร์มาแค่นั้นเอง

“ของน้อยจริงๆพี่ต่าย” ดีเหมือนกันไม่ต้องเหนื่อยย้ายของ  พี่ต่ายบอกกับผมอีกว่า

“ก็แบบนี้แหล่ะชีวิตพี่  มีแต่ตัวกับใจที่มันไม่น้อย”
ผมว่ามันลูกทุ่งจังเลยสำนวนนี้  อดจะขำไม่ได้  ต้องแซวออกไป

“พี่เริ่มน้ำเน่าแล้ว5555” :laugh:

         นับจากวันนี้เราก็ได้อยู่บ้านเดียวกันแล้ว  ผมรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อย ไม่รู้ว่าพอมาเจอกันบ่อยๆเข้าจะเป็นยังไง   มีความรู้สึกเหมือนทดลองอยู่ก่อนแต่งยังไงไม่รู้

           พอจัดข้าวของเรียบร้อยแล้ว เนื้อตัวเราก็มอมแมมมากเลยครับ  เพราะถือโอกาสทำความสะอาดห้องไปด้วยในตัว  ต้องเก็บของพี่อั้มให้ดีด้วยเพราะเดี๋ยวเค้ากลับมาแล้วจะว่าเอาได้  พี่ต่ายคงเห็นผมซกม๊กน่าดูเลยบอกให้ผมไปอาบน้ำ  อีกอย่างก็เกือบเที่ยงแล้วด้วย

“โอมไปอาบน้ำก่อนไป...เดี๋ยวพี่ออกไปซื้ออะไรมาให้กิน...โอมจะทานอะไรครับ”

“เอาส้มตำไก่ย่างนะพี่ต่าย...ผมอยากกินน่ะพี่”

“ดีเหมือนกัน เดี๋ยวพี่มานะ”

           พอผมอาบน้ำเสร็จแล้วก็มาเตรียมจัดโต๊ะ  พี่ต่ายซื้อส้มตำกลับมาพอดี  พี่ต่ายเลยไปอาบน้ำ   พอลงมาผมก็จัดเสร็จพอดี  กำลังหิวจัดกันทั้งคู่เลยครับ เราคุยกันไปกินกันไปเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามัน (หุหุหุ อันนี้ผมแอบคิดคนเดียวครับให้มันชุ่มชื่นหัวใจเล่นๆ)

          ผมนึกถึงวันที่เราไปเที่ยวด้วยกันเป็นครั้งแรกที่เขาใหญ่  เหมือนได้บรรยากาศที่นั่นกลับมาเลย  เว้นแต่พี่ต่ายใส่เสื้อครบคราวนี้ 555 ผมอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้

“เห็นไก่ย่างแล้วนึกถึงตอนที่เราไปเขาใหญ่กันนะพี่...สนุกดีนะวันนั้น”

“ใช่   พี่อยากไปลองเดินป่าระยะไกลดูมั่ง....วันหลังเราไปไม๊โอม”

“ได้ซิพี่ต่ายแต่ผมขอฟิตร่างกายหน่อยนะ......ตอนนี้ร่างกายไม่เฟิร์มเลย.....ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย” แล้วผมก็ยกกล้ามเหี่ยวๆของผมให้พี่ต่ายดู 

พี่ต่ายยิ้ม หัวเราะเบาๆแล้วบอกผมว่า
“ไม่เป็นไรเรื่องนี้เดี๋ยวพี่ช่วย...รับรองว่าได้ออกกำลังกายทุกวันแน่”

พี่ต่ายไม่พูดเปล่าครับทำตาเยิ้มๆใส่ผมด้วย   o18 แล้วก็เอามือมาลูบมือผมที่วางอยู่ที่โต๊ะ

“เฮ้ยพี่พูดอะไรน่ะ....อย่านะ” ผมรีบดึงมือออก มันขนลุก  :o

“โอมคิดไปถึงไหน.....พี่หมายถึงพี่จะชวนไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าทุกวันไง”
พี่ต่ายพูดยิ้มๆส่ายหัว   จะไม่ให้ผมคิดได้ไงกัน  น้ำเสียงกะตาพี่ต่ายมันบอกว่าเรื่องนั้นแหล่ะ ไม่ใช่เรื่องวิ่ง

“ก็พี่น่ะ...พูดชวนให้คิด”ผม ไม่ได้ลามกนะ     แต่คิดไปเองไม่รู้ตัวจริงๆ อิอิ

“หึหึหึ...”พี่ต่ายหัวเราะน่ะ.....คิดอะไรว้า

“แล้วเรื่อง........นั้นโอมพร้อมรึยังล่ะ”  o3
 
“เรื่องวิ่งเหรอพี่....เช้าๆไม่ไหวหรอกขี้เกียจตื่น” ผมต้องนอนให้ได้อย่างน้อย 6ชั่วโมงครับไม่งั้นผม
จะหงุดหงิด

“ไม่ช่าย.....เรื่องนั้น”

“เรื่องไหนพี่.....” เรื่องไหนกันอีกล่ะว้า คำถามชวนคิดอีกล่ะ

“...........” ไม่ตอบครับเอาแต่อมยิ้ม  พี่ต่ายนะเป็นบร้าอะไร...ชอบพูดให้ผมคิด
ชักไม่ค่อยดีอีกแล้วครับ  นี่วันแรกเองนะพี่กะจะมาฟันผมแล้วเหรอ  :try2:
+
+
+
“เรื่องพี่จะชวนมาอยู่สายพี่ไง” คำตอบของพี่ต่ายทำเอาผม

“เฮ้ออออ...........” โล่งอก  :เฮ้อ:

               เป็นอีกครั้งนึงที่พี่ต่ายทำผมหน้าแตก(ในใจ)  ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ต่ายตั้งใจรึเปล่า แต่มันก็
บ่อยนะ ผมเลยไม่รู้ว่าผมลามกหรือพี่ต่ายขี้กวนกันแน่  ผมยิ่งเกร็งๆเรื่องนี้อยู่ ต้องมาอยู่บ้านเดียว
กันสองต่อสอง ผมว่าผมคงต้องตกเป็นของพี่ต่าย  หรือไม่พี่ต่ายจะต้องตกเป็นของผมเข้าซักวันแน่ๆ   มันต้องมีได้เสียกันแน่ๆ

                ผมจะประคองความบริสุทธ์ของผมไปได้อีกนานแค่ไหน ทำเอาใจหนุ่มน้อยอย่างผม
ไหวหวั่น  แต่ตอนนี้คุยเรื่องงานก่อนก็ดีเหมือนกัน

“ผมก็อยากไปอยู่สายพี่นะ  แต่มันเปลี่ยนได้เหรอพี่  แล้วพี่มีนจะยอมเหรอ”

“พี่ต่ายน่ะไม่รู้อะไรผมชายเดี่ยวมือหนึ่งของสายเลยนะ” 
มันก็แน่อยู่แล้วล่ะก็สายผมมีผู้ชายคนเดียวเองอ่ะ  คงยากที่พี่มีนจะปล่อยผมออกมา  เพราะก็ต้องปีหน้ากว่าจะได้น้องใหม่มาช่วย

“พี่จะลองขอพี่มีนดู”

“พี่ไม่เบื่อผมบ้างเหรอ   บางทีผมยังแอบเบื่อตัวเองเลยนะ”

“แล้วเดี๋ยวเราก็ต้องเจอกันทุกวันที่บ้านอยู่แล้วด้วย”   ถ้าเจอกันทั้งวันพี่เค้าจะเบื่อผมไม๊นะ

“ไม่รู้เหมือนกัน....พี่ไม่เคยคิดเรื่องเบื่อหรือไม่เบื่อ”

“เวลาเรารักใคร   เราก็อยากใช้เวลากับเค้าให้มากที่สุดน่ะ”  :teach:

“ถ้าโอมกลัวก็เอางี้ซิ....โอมก็ทำตัวน่ารักๆอย่าให้พี่เบื่อซิ”

แล้วพี่ต่ายก็เอื้อมมือมาจับหัวผมเขย่าเบาๆ   ผมเงยหน้าสบตาพี่ต่าย  มีเรื่องนึงที่ผมสงสัย

“พี่ต่าย...มันเป็นความจริงเหรอที่พี่รักผม....ทำไมถึงเป็นผมล่ะ”  :confuse:

จนวันนี้ผมก็ไม่อยากจะเชื่อนะ  ก็เราสองคนเป็นผู้ชายทั้งคู่น่ะ

“พี่จะบอกเหตุผลโอมก็พูดไม่ถูก......โอมก็ค่อยๆตรวจสอบพี่ไปเรื่อยๆแล้วกัน”

“เดี๋ยวโอมก็หาเจอเองแหล่ะ”

“ยังไงพี่ก็มีเวลาให้โอมทั้งชีวิต........ไม่มีdeadlineเหมือนบัญชีหรอก”

            ผมคงยังพูดอะไรไม่ได้ ไม่อยากจะถามต่อไปด้วย  เพราะผมรู้แล้วว่าคงหาคำสัญญาใดๆ
จากพี่ต่ายไม่ได้     เราสองคนก็คงต้องต่างดูแลใจกันไป ผมไม่อยากใช้คำว่าตรวจสอบเหมือนที่
พี่ต่ายใช้  เพราะไม่มีใครชอบให้ใครมาตรวจสอบเราหรอก ผมว่าคำว่า “ดูแลใจ”นี่แหล่ะเหมาะที่สุด
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

             หลังจากทานข้าวเสร็จเราก็ช่วยกันจัดข้าวของครับ  แล้วก็ออกไปหาซื้อของเข้าบ้านกัน
 ก็พวกของกินของใช้ที่จำเป็นทีแรกผมจะช่วยแชร์กับพี่ต่าย   แต่พี่ต่ายไม่ยอมจะจ่ายเองผมเลยสบายไป
“พี่บอกกับแม่โอมแล้วว่าพี่จะรับผิดชอบเรื่องพวกนี้เอง”

“แต่ผมเกรงใจนี่พี่”
ก็ผมชอบหยิบๆๆๆบางทีก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ถ้าพี่ต่ายเป็นคนจ่ายผมคงต้องระวังมากกว่านี้

“โอมอยากกินอะไรวันนี้.....พี่จะทำให้กิน”

“พี่ต่ายทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ...เก่งจัง”

“พอได้นิดหน่อย.....ปรกติพี่ชอบทานข้าวบ้านมากกว่าแต่มันไม่ค่อยมีเวลาน่ะ”

“ผมชอบทานอาหารแบบพวกยำๆน่ะพี่ รสจัดๆ”

“ได้เลย...วันนี้ลองฝีมือพี่ดูรับรองจะติดใจ”

           พูดพร้อมขยิบตาให้ผมด้วย  บริหารเสน่ห์เหลือเกินพ่อคุณ  แค่นี้ผมก็จะแย่แล้วแค่คิดอยาก
จะปีนขึ้นมาจากหลุมรักพี่     ต่อให้คนเอาบันไดลิงโยนมาให้ผมยังไม่สนใจจะปีนขึ้นไปเลย
พร้อมยอมตายอยู่ก้นหลุม

            แต่พอเรากลับไปถึงบ้านครับปรากฏว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญมาที่บ้าน ใช่ครับคนที่คุณก็รู้ว่าใคร  หรือคุณจะไม่รู้ล่ะ  อย่าเดาเลย  เพื่อนผมเอง.....บุ้งน่ะครับ  ผมมีพี่ต่ายแล้วก็ไม่ใช่ว่าลืมเพื่อนไปนะครับ

             บุ้งก็ยังคงโทรหาผมอยู่ทุกวันพี่ต่ายก็รู้  แต่ก็ไม่เห็นว่าอะไร (แงๆไม่หึงกรูเล้ย) :m15: 
 แต่หลังจากที่มันพาผมไปกินเหล้าวันนั้น  ผมยังไม่เจอตัวเป็นๆมันเลยครับ มันโทรมาอย่างเดียว  แล้วก็หงอยลงทุกวันๆจนผมกลัวมันจะไปฆ่าตัวตาย

             ไม่รู้มีเรื่องอะไรหนักหนา แล้วก็ไม่ยอมเล่าด้วย  แต่วันนี้หน้าตามันดูแย่มากๆเลยครับ  ยืนเป็นหมาหงอยอยู่หน้าบ้าน

“อ้าวบุ้งมานานแล้วเหรอ” ตามประสาเจ้าของบ้านที่ดีครับผมเลยทักมันก่อน

             บุ้งมันไม่ตอบแต่ยกมือไหว้พี่ต่าย แล้วก็มองหน้าผมทำนองว่าทำไมผมกับพี่ต่ายมาอยู่ด้วยกัน ได้ยังไง  ผมก็เลยต้องเล่าให้มันฟัง

“พี่ต่ายย้ายมาอยู่บ้านกูวันนี้แล้ว.....มาเข้ามาข้างในก่อนบุ้ง”

มันยังยืนงงๆครับผมเลยต้องไปลากมันเข้าบ้าน  พี่ต่ายก็เดินตามมาเงียบๆ ไม่ได้พูดอะไร

“โอมคุยกับเพื่อนไปก่อนเดี๋ยวพี่ไปทำกับข้าวก่อน....บุ้งอยู่กินข้าวด้วยกันก่อนนะ” แล้วพี่ต่ายก็แยกไปทำครัวครับ

บุ้งมองตามจนพี่ต่ายลับสายตาไปแล้วก็หันมามองหน้าผม  แล้วถามผมว่า

“ทำไมพี่ต่ายต้องมาอยู่บ้านโอมล่ะ.....กรูไม่เข้าใจ” มันหน้านิ่วคิ้วผูกโบว์เลยครับ  o12

“แม่ให้มาอยู่เป็นเพื่อนกรูแทนพี่อั้ม......พี่ต่ายเป็นเพื่อนพี่อั้ม” ผมก็พยายามอธิบายอย่างใจเย็น
 แต่ดูหน้ามันก็รู้ว่าคงอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่   สงสัยจะยืนรอนานละมั๊ง

“แล้วพี่อั้มไปไหน” เสียงมันเครียดจังเลย

         มันยังคงซักผมอย่างต่อเนื่องเลยครับ  จนผมชักรำคาญว่า มรึงจะมาสนใจอะไรนักหนาว่ะ
  ก็มันไม่เห็นจะมีผลอะไรกับมันเลย ผมเริ่มหงุดหงิด :serius2:

“พี่อั้มไปเมกาแล้ว  กูเลยต้องอยู่บ้านคนเดียวไง”

“ทำไมมรึงไม่บอกกรู....กรูก็มาอยู่เป็นเพื่อนมรึงก็ได้” บุ้งมันพูดเหมือนงอนๆครับ

“หรือมรึงไม่เห็นกรูเป็นเพื่อน” อ้าว...ไอ้นี่นิ ไปถึงนู่น

“คุยโทรศัพท์กันทุกวัน....มรึงไม่เคยบอกกรูเลย” ไปกันใหญ่แล้วล่ะ มันทำตาแดงๆด้วย

“มรึงจะมาน้อยใจทำห่าอะไรว่ะเนี่ย”  o12
          ผมชักโมโหแล้วครับ  เลยพูดเสียงแข็งไปไม่รู้ตัว แฟนก็ไม่ใช่  อะไรกันเนี่ย มรึงต้องให้
กูจุดธูปบอกมรึงทุกเรื่องรึไงว่ะ

“กรูไม่ได้น้อยใจ....แต่กรูเสียใจ”   :monkeysad: เออมันก็แทบไม่ต่างกันละว้า

“ถ้ามรึงมาง๊องแง๊งหาเรื่องกรูแบบนี้....มรึงกลับไปก่อนไม๊” ผมไม่อยากคุยกับคนที่มีอารมณ์แบบนี้

“......ให้มรึงอารมณ์ดีกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกับกรูใหม่”

            พอผมพูดจบ บุ้งมันตาแดงๆลุกออกไปเลยครับ.....ผมก็ตกใจเหมือนกัน....เสือกไปจริง
แล้วกรูต้องง้อมรึงไม๊เนี่ย  ผมต้องนั่งกุมขมับเลยครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อวานเห็นreply เพื่อนๆแล้วชื่นใจจริงๆ จะพยายามดัน(ทุรัง)เขียนต่อไป สู้ๆ  :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-12-2007 12:59:28
น่าสงสารบุ้งเหมือนกันนะนี่    :a6:แต่ก็นะ มาทีหลังเค้านี่  แล้วเรื่องหัวใจมันก็บังคับกันไม่ได้
 

 :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-12-2007 13:22:09
อิอิ แบบนี้ต้องเขียนให้ถึง 100 ตอนไปเลยน่ะคับ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 18-12-2007 13:41:08
เคลียร์กะบุ้งไปเลย บอกว่าพี่ต่ายเป็นแฟน
บางทีอะไร ๆ มันอาจจะดีขึ้นก็ได้
ไม่งั้นโอมอาจจะแย่เอง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 18-12-2007 18:19:15
อิอิ แบบนี้ต้องเขียนให้ถึง 100 ตอนไปเลยน่ะคับ อิอิ
  แฮะๆ ไม่สามารถครับ เอาเท่าทีพอไหวแล้วกันนะ แต่ก็ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นะครับ :pig4:

แล้วก็ทุกๆreply เลยครับที่ช่วยๆกันอ่านมาตลอด   o7
 
 แต่ยังไงอย่างที่บอกผมต้องดันให้มันจบจนได้แหล่ะครับ 
ไหนๆก็หลวมตัวกันทั้งคนเขียนคนอ่านแล้ว :pig4:

คาดว่านะจะจบก่อนปีใหม่น่ะครับ(ถ้าเขียนออกนะ) :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-12-2007 18:50:19
หุหุ อยากจะสงสารบุ้งแฮะ แต่ความรักมันบังคับกัน บ่ ได้   :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 18-12-2007 18:57:40
 :a4:เอาหละสิบุ้งเอ๋ย  จะทำพังไหมเนี่ย  พี่ต่ายๆ ออกมาไล่บุ้งไปไกลๆๆที
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 18-12-2007 21:28:08
โอมบอกบุ้งไปเถอะ ยิ่งนานวันบุ้งจะยิ่งเสียใจมากขึ้นนะ น่าสงสารอ่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 18-12-2007 21:50:14
^
^
^
^
เห็นด้วยกับค้าง 

โอมต้องจัดการให้เคลียร์ไปเลยดีกว่า

ไม่งั้นคงมีคนเสียใจกันหลายคน

นะจ๊ะ   :oni2: :oni2:

แหง่ะ ทำไมจะรีบจบเร็วจัง ขอต่อรองหน่อยจิ

จากที่ว่าจะจบก่อนปีใหม่

ช่วยต่อไปเรื่อยๆ จนถึง สงกรานต์เลยดีกว่า 




หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 18-12-2007 22:16:53
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: madamkung ที่ 18-12-2007 22:52:28
น่ารักททั้งพี่ต่าย และ น้องโอมนะคะ
หยอดกันอยู่เรื่อยเชียว

มาส่งกำลังใจค่ะ เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ อ่านแล้วอมยิ้มในใจ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 18-12-2007 23:56:29
ผมมารอฉากนั้น...........  :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 19-12-2007 01:35:58
อ่านะ รอรอตอนต่อไป :m26:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ● MaYa~Boy ● ที่ 19-12-2007 02:28:02
รอตอนต่อไปก๊าบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 19-12-2007 04:42:09
อ่านจนตาแฉะเลย โอมเอ๋ย เสน่ห์แรงใหญ่แล้ว ทำเอาเพื่อนสนิท(ตอนมหาลัย)คิดไม่ซื่อ 555

แล้วพี่กระต่ายของเรามิหึงแย่เร๊อออ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 19-12-2007 08:58:12
 :mc3:
พี่ต่ายกับโอมน่ารักจริงๆ อยากเก็บช่วงเวลารักใส ๆ แบบนี้ไว้นาน ๆ จัง... :oni1:
ดูแลกันและกันให้ดีต่อไปให้ดีนะ....เป็นกำลังใจให้เช่นกันนนนน

แต่ก็อดสงสารบุ้งไม่ได้  :m15:       ทำไมความรักต้องมีคนผิดหวังด้วยนะ....
 :เฮ้อ:

ปล. ลืมมมม +1 ให้เป็นกะลังใจจจจจ  :mc1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 19-12-2007 09:06:06
  :oni2: อ่านต่อเลยนะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 39
              ผมนั่งงงๆไปพักนึง แล้วก็นึกขึ้นมาได้  ว่าผมอาจจะพูดอะไรไม่ดีไปหรือเปล่า
 ง้อก็ได้ว่ะ  ไหนๆมันอุตส่าห์มาหาถึงบ้าน   ผมล่ะไม่เข้าใจเวลาใครงอน ทำไมผมต้องง้อ
 แล้วทำไมเวลาผมงอนไม่มีใครง้อเลย  ไม่เข้าใจจริงๆ  :เฮ้อ:

“บุ้งมรึงกลับมาก่อนดิ”

                ผมวิ่งตามไปคว้ามือมันมาครับ มันกำลังจะออกไปนอกบ้านล่ะ  มันก็ยังดึงดัน
จะไปอยู่นั่นแหล่ะ ยื้อๆยุดๆกันอยู่ตรงนั้น เหมือนเล่นชักคะเย่อ

“มรึงไม่ต้องมายุ่งกับกรู..........กรูมันคนนิสัยไม่ดีชอบหาเรื่องชาวบ้าน”  :m15:
 ไอ้ห่าบุ้งนี่มันงอนยังกับผู้หญิง

“กรูไม่ได้ว่าแบบนั้น...กรูไม่ได้ตั้งใจ”

“กรูจะกลับ.....ก็มรึงไล่กรูเอง”

            มันยังยืนยันครับ  ง้อยากนักนะมรึง งอนซะให้พอผมเลย  ผมสะบัดมือมันทิ้งเลยครับ
กรูชักยัวะแล้วนะ  o12

“ตามใจ....แต่ถ้ามรึงกลับมรึงก็ไม่ต้องมาพูดกะกูอีก...มึงจะไปไหนก็ไป”

            ผมเองก็เริ่มน้อยใจเหมือนกันครับ  ก็ผมง้อแล้วนะ ยังมาเล่นตัวอีก  ผมกับบุ้งมองหน้ากัน
พักนึง เหมือนวัดใจกันว่าใครจะพูดก่อน

“...........” มันก็เงียบ

“............” ผมก็เงียบ

                  ผมเลยจะเดินเข้าบ้านละ เซ็ง........คนกำลังอารมณ์ดีๆ   ทำไมต้องมาหาเรื่องทะเลาะ
กะกรูแบบดีลิเวอร์รี่ด้วยว่ะ ส่งตรงถึงบ้านเลย   กรูไม่ได้โทรสั่งมาซักกะหน่อย

                 บุ้งเอื้อมมือมาดึงมือผมไว้ครับ มันน้ำตาไหลด้วย   o7   โอว......เพื่อนกรู.........
ช่างเซ็นซิทีฟอะไรขนาดนี้  ผมเลยน้ำตาซึมไปด้วย 

“กรูขอโทษโอม.....กรูแค่....แค่....กำลังกลุ้มใจกะจะมาคุยกับมรึงให้สบายใจ”

“พอมาเจอมรึงพูดเสียงดังกรูเลยเสียใจ.....มากไปหน่อย”

                มันเช็ดน้ำตาซะน่าสงสารเลยครับ  ผมมันคนใจอ่อน  ผมเลยดึงตัวมันมากอดหลวมๆ
แล้วตบไหล่มันเบาๆ

“กรูก็ขอโทษ......มรึงมีเรื่องอะไรมา.......ไป....เข้าไปคุยกัน”

                 พอเราหันกลับมากำลังจะเข้าบ้านครับ   ปรากฎว่าพี่ต่ายยืนอยู่ที่ประตู  ไม่รู้ว่ายืนนาน
มาแล้วแค่ไหน  สีหน้าพี่ต่ายไม่ได้บอกอะไรเลยครับ  พี่ต่ายบอกผมแค่ว่า

“โอมแม่โทรมาน่ะ.....รอสายอยู่” แล้วพี่ต่ายก็เดินเข้าไปในบ้านครับ

ผมกับบุ้งก็เดินตามเข้าบ้านไปเงียบๆ ผมแยกไปรับสายแม่  บุ้งเลยนั่งรอผมอยู่ที่ห้องรับแขก

“แม่.....หวัดดีครับ” ไม่รู้แม่มีเรื่องอะไร  สงสัยคิดถึงผม

“โอม....เป็นไงพี่ต่ายมาอยู่ด้วย....ดีไม๊”

“แม่ก็...เพิ่งจะมาวันแรกเอง  จะไปรู้ได้ไง  แต่ก็ดีไม่เหงา  แม่รู้ไม๊พี่ต่ายกำลังทำกับข้าวให้โอมทานด้วย”

“เหรอก็ดีแล้วนี่.....ถ้ามีต่ายมาอยู่ด้วยแม่ก็เบาใจหน่อย...โอมน่ะยังไงๆก็ยังไม่ค่อยรู้จักรับผิดชอบ
เรื่องอะไรเลย” :teach:

อ้าวชมคนอื่นนะได้แต่ไหงว่าลูกตัวเองแบบนั้นเล่า “แม่อ่ะ...ทำไมพูดแบบนี้”  :o

“หรือไม่จริง  เราน่ะก็ยังเด็กอยู่ดี”

“ไปเรียกพี่ต่ายมาคุยกับแม่อีกที”

 “ครับผม” คุยกันไปแล้วเรอะ...เมื่อกี้ พ่อลูกคนโปรดคนใหม่

“พี่ต่าย....พี่ต่ายแม่จะคุยด้วย” ผมเลยใช้ไมค์ตะโกนครับ  ขี้เกียจเดิน พี่ต่ายเดินมาเขกหัวผม

“โอ๊ย.......อะไรพี่” อยู่ดีๆมาทำร้ายผมทำไม

“ก็เรานะเสียงดัง...ตะโกนทำไม...โตแล้วนะไม่ใช่เด็กๆ”

 ผมเลยโดนเทศน์เลยครับ  แค่เนี้ย....ก็ไม่ได้  ตกลงมีแฟนมาอยู่หรือได้พ่อมาอีกคนกันแน่

“ครับแม่...ครับ..ผมสอนไปแล้วครับ...กำลังทำครับ....ไม่เป็นไรครับผมชอบทำอยู่แล้ว”

“ครับผม...ได้ครับ..สวัสดีครับ”

“ไม่รู้ใครเป็นลูกกันแน่นะ...แม่เรา” ผมได้แต่บ่นไปอย่างนั้นล่ะครับ ตกกระป๋องไปซะละ

“พี่ต่ายหิวแล้ว..........ทำกับข้าวเสร็จยังคร๊าบ”  :oni2:

              ผมเผลออ้อนพี่ต่ายไปหน่อยครับ เอามือไปเกี่ยวแขนพี่ต่ายด้วย   แล้วก็รู้สึกเหมือน
มีใครมองอยู่ อ้าวลืมไปว่าบุ้งอยู่ด้วย  รีบปล่อยมือแทบไม่ทัน   ไอ้บุ้งมันมองตาแป๋วเลยครับ   
แล้วก็พอดีกับที่พี่ต่ายหันหน้ามาเรียกผมไปกินเลยครับ

 “เสร็จแล้ว   ไป....โอมเรียกบุ้งมากินได้เลย”

             ระหว่างทานข้าวเราก็คุยกันปรกติครับ  แต่บุ้งมันคอยมองผมกับพี่ต่ายตลอดเวลา
จนบางครั้งผมก็รู้สึกอึดอัดเหมือนกัน ว่ามันจะมองเอารางวัลหรือไงว่ะ  เดี๋ยวกรูก็จัดให้หรอก 

“โอมสนิทกับพี่ต่ายจังนะ”  บุ้งมันเริ่มแล้วครับ  แล้วผมจะตอบไงดี

“ครับสนิทมาก” พี่ต่ายตอบแทนครับ ผมกำลังจะอ้าปากพูด แต่บุ้งมันสวนมาอีก

“พี่ต่ายไม่มีบ้านเหรอ” อ้าวไอ้บุ้งกวนซะละ หยาบคายไปไม๊มรึง  พี่ต่ายตอบกลับครับ

“มีครับ....แต่พี่อยากมาอยู่บ้านนี้” พอกันทั้งคู่ ผมกำลังจะพูดบ้าง

“ถ้าใครอยากจะมาอยู่แล้วก็มาได้...ผมก็จะมาอยู่บ้าง” บุ้งมันก็ร้ายนะเนี่ย  แต่ที่พูด กันเนี่ย
บ้านกรูนะ  แล้วนี่จะไม่ให้กรูพูดบ้างเหรอว่ะ ชักฉุนแล้วนะ  :a14:

“ห้องเต็มแล้ว...ใช่ไม๊โอม”พี่ต่ายโยนมาให้ผมเลยครับ ไม่ทันได้ตั้งตัวเลย ถึงกับสะดุ้ง

“อือ..ใช่ๆ....ห้องที่เหลือมีแต่ของพี่อิง...ต้องกันไว้บางทีพี่เค้ามาค้างน่ะเวลาเข้ากรุงเทพฯ”

ผมก็ไม่ได้โกหกนะเรื่องจริง บุ้งมันหน้าเจื่อนไปเลยครับ  ผมเลยต้องเปลี่ยนเรื่องคุย  เดี๋ยวมัน
เกิดปี่แตกขึ้นมาอีก  ผมคงไม่ไหว เอาใจมันหน่อยแล้วกัน

“บุ้งกินเยอะๆนะ...พี่ต่ายทำเองอร่อยดีนะ” ผมตักกับข้าวให้บุ้ง

“ก็งั้นๆแหล่ะ...พอกินได้”  ดูมันตอบครับ มันคงต้องการรอยแผลกลับบ้านไปด้วยมั๊ง

        ไม่เป็นไร เชิญกันตามสบาย  ผมรอเป็นหน่วยกู้ภัยเอง  สงบศึกเมื่อไหร่ค่อยตามเก็บศพ :try2:
บุ้งมันกวนประสาทมากครับวันนี้ ทำไมไม่ชมไปตามมารยาทซักหน่อย พี่ต่ายเริ่มหน้ามุ่ยล่ะ 
ไม่รู้จะสวนกลับว่าอะไร

“ถ้าไม่อร่อย  บุ้งคงต้องไปหากินที่อื่นแล้วล่ะ  แล้วนี่จะกลับหรือยัง  จะได้ไปหาซื้อของอร่อยๆกิน
” เหอๆๆ เสียงพี่ต่ายเฉยเมยมากครับ น่ากลัวจริงๆ

         เฮ้อ...กรูจะบร้า.....นี่จะมาตั้งป้อมทะเลาะกันใช่ไม๊เนี่ยสองคนนี้  กินข้าวแทบไม่ลงเลย
นั่นก็เพื่อนนี่ก็คนอันเป็นที่รัก หุหุหุ  แล้วบุ้งมันก็พูดตอบแบบเสียงเค้นๆนะครับ

“ผมไม่ได้ว่าไม่อร่อย  ผมบอกว่าพอกินได้  ผมจะกินต่อ....ยังไม่อยากกลับ” เน้นด้วยครับอีตรงประโยคสุดท้าย

“งั้นก็...กินไปซิ” พี่ต่ายยิ้มกวน....ใจ....มากเลยครับ  แต่ตานะซิน่ากลัวจัง   o3

         แล้วสองคนเค้าก็คุยกันแบบนี้ไปจนกินข้าวเสร็จครับ  ผมก็ทำอะไรไม่ได้  ได้แต่นั่งฟัง
สองคนโต้คารมกัน  สงสัยจะอยู่ชมรมโต้วาทีของมหาลัยกันทั้งคู่  กินกันไม่ลงจริงๆ ยังดีที่
ไม่ลุกขึ้นมาตีหัวกันไปข้างนึง  แต่ถ้ากินเหล้าก็ไม่แน่ครับ   ถ้าเมากันทั้งคู่ผมคงต้องจับ
แยกกันก่อนไม่ให้มาเจอกัน น่ากลัวจริงๆ  ผมเลยกินข้าวไม่ค่อยลงเลยครับ

           มีคนรักก็ดีกว่าคนเกลียดแต่ขอมาทีละคนจะดีกว่าครับ  มานปวดหัว  พอทานข้าวเสร็จ 
 บุ้งก็ไม่มีท่าทีจะกลับครับทั้งที่เกือบสองทุ่มแล้ว  พี่ต่ายคงอยากคุยกับผมเป็นส่วนตัว ก็เลยออกมา
ในแนวๆนี้

“โอม...ขึ้นไปหาแว่นอีกอันกับพี่หน่อยซิ  ตอนที่จัดของไม่รู้โอมเอาไปไว้ไหน”

“ผมไม่......”เห็นเลย  แต่ไม่ทันได้พูดพี่ต่ายลากผมไปเลยครับ  บุ้งมันก็ทำหน้างงๆนะครับ

“บุ้งเดี๋ยวกูมานะ”

          บุ้งมันก็พยักหน้าครับ  ตกลงจนตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันอยากจะคุยเรื่องอะไรกับผม
เฮ้อ สงสารมันเหมือนกัน  แต่ไม่รู้จะทำยังไง จะให้ผมบอกมันไปตรงๆเรื่องพี่ต่ายผมก็ไม่กล้า

          พี่ต่ายใช้กำลังลากผมมาที่ห้องพี่ต่ายครับ จนผมชักเจ็บมือ  เลยสะบัดมือตอนที่ขึ้นมา
ถึงบนห้อง อดโวยไม่ได้

“พี่ต่ายผมเจ็บแล้วนะ...ทำไมต้องมาฉุดไม้ฉุดมือกันขนาดนี้” ท่าทางพี่ต่ายตกใจเหมือนกัน
 เลยยกข้อมือผมขึ้นมาดู  มันแดงเป็นรอยนิ้วมือทั้งห้านิ้วเลยครับ

“พี่ขอโทษ....พี่ลืมตัวไปหน่อย...โอมเจ็บมากไม๊” 

         พี่ต่ายจูบที่ข้อมือผม  เอาริมฝีปากคลึงๆไปมา เหมือนนวดนะครับ แต่มันแปลกๆนะ 
ไม่ปล่อยซักที มีโอกาสละเป็นไม่ได้เชียว

“พี่ต่าย.....พี่ต่ายทำอะไรนะ....” แล้วพี่ต่ายก็เลิกเอาปากสัมผัสที่ข้อมือผมครับ แต่เปลี่ยนมา
จับมือผมเอามาแตะไว้ที่เอวพี่ต่าย    แล้วรวบตัวผมเข้าไปสวมกอดผมโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว

“โอม...พี่อยากอยู่กับโอมสองคนแล้วล่ะ”   o18
 เสียงพี่ต่ายค่อยมากๆเลยครับ ไม่รู้จะกระซิบกระซาบทำไม  ก็ยืนอยู่กันแค่นี้

“จะทำยังไงให้บุ้งกลับไปฮึ.....ฮึ......ฮึ.....ฮึ” แล้วพี่ต่ายก็หอมแก้มผมสลับซ้ายขวาไปมา
ตอนที่ทำเสียงฮึๆนั่นแหล่ะครับ

“พี่ต่ายยยย....ทำอะไร....ไม่เอานะบุ้งอยู่ข้างล่าง”  ผมได้แต่ส่ายหน้าหลบ  แต่มันก็ไม่รอดหรอกครับ

“ถ้าโอมไม่รับปากพี่ว่าจะทำให้บุ้งกลับไปพี่ก็จะไม่ปล่อยโอมหรอก...ลองดูซิ”

“จะกอด......จะหอมแก้มโอม.....จนบุ้งขึ้นมาตาม...แล้วก็จะทำแบบนี้......” 

            พี่ต่ายไม่รอให้ผมยกมือฟ้องกับท่านปวีณาที่โดนพี่ต่ายประทุษร้ายครับ   แต่ประทับริมฝีปากลงมาที่ปากผม  สัมผัสริมฝีปากผมอย่างหิวกระหายเม้มนิดๆ   แล้วพยายามสอดแทรกลิ้นเข้ามาในปากผม  จนผมต้องเปิดปากรับ พี่ต่ายเอาลิ้นล้อเล่นกับลิ้นผม ผมรู้สึกร้อนไปหมดทั้งร่างกาย  หัวใจเต้นแรง แข้งขาอ่อนไปหมด จนต้องกอดเอวพี่ต่ายแน่นๆ ผมเหมือนใจจะขาด พี่ต่ายเริ่มไซร้หลังหูผม ซอกคอผมแล้วอ่ะ แล้วเริ่มเอามือลวนลามเข้ามาในตัวผมแล้ว

“อืออ....พี่ต่ายยย...อย่า”ผมเสียงสั่นมากเลยครับ  อายจังเลย  :o8:

“ผมไปบอกบุ้งแล้วพี่......อื๋อ”

             แล้วพี่ต่ายก็ปิดปากผมด้วยจุมพิตอีกครั้ง  ใช้ปากซุกซนกับผมน่าดู   ส่วนมือพี่ต่ายยัง
คงทำงานต่อเนื่องครับ  มือนึงลูบไปตามแนวกระดูกสันหลังผมในเสื้อ   อีกมือนึงก็ลูบไล้ด้าน
หน้าของผม  ใช้มือลูบจากแนวไหปลาร้า ลงมาสัมผัสที่หน้าอกผม ถึงแม้จะผ่านเสื้อแต่มันก็
ทำให้ผมสั่นไปหมด  ไม่ไหวแล้วถ้าเป็นแบบนี้บุ้งต้องขึ้นมาแน่ ผมเลยต้องผลักพี่ต่ายออกไปเบาๆ

“ผมไปไล่บุ้งแล้วนะพี่นะ” หอบเล็กน้อยครับ

“พี่อาบน้ำไปก่อนแล้วกัน” แล้วผมก็รีบลงไปเลยครับ  เหงื่อแตกหมดเลย  ขณะที่ผมลงบันได
มาก็สวนกับบุ้งกำลังจะขึ้นมาตามครับ

“อ้าวเห็นหายไปนาน  เลยจะขึ้นมาดู....มีอะไรรึเปล่าโอม”

“ไม่มีอะไรหรอก..พอดีเพิ่งย้ายของมาเลยวุ่นๆหาของน่ะ”

“ไป....ลงไปข้างล่างกัน”

              ผมกับบุ้งเลยลงไปนั่งคุยต่อกันพักนึง  เพื่อเป็นการปรับอารมณ์ผมไปด้วย  บุ้งก็ไม่เห็นพูดเรื่องอะไรเลย  นอกจากเรื่องสัพเพเหระทั่วๆไป ซักครึ่งชั่วโมงได้ครับ

“กรูว่าวันนี้กรูกลับก่อนดีกว่าไม่ค่อยสะดวกคุย....ไว้กรูมาหามรึงใหม่”

ผมตบไหล่มันเบาๆ แล้วบอกมันว่า
“มรึงมีอะไร  ก็มาบอกกรูนะ   กรูยินดีรับฟังทุกเรื่อง”

             บุ้งมองหน้าแล้วสบตากับผมไม่พูดอะไรอีก    พยักหน้า แล้วดึงตัวผมมากอดหลวมๆ   เหมือนเวลาหยุดนิ่งไปพักนึงครับบุ้งมันถอนหายใจแล้วก็ปล่อยผม   แล้วมันก็กลับไปครับ ผมไม่รู้ว่ามันมีอะไร   แต่ผมก็ดีใจที่อย่างน้อยมันก็รู้ว่ามีผมเป็นเพื่อนมันอยู่ตรงนี้

   แต่ผมนะซิ  พอนึกขึ้นมาได้เมื่อกี้บุ้งอยู่ทั้งคนยังแทบจะไม่พ้นมือพี่ต่าย  แล้วนี่
เหลือกันสองคน  ผมจะทำไงดี   ไม่รู้ว่าคิดถูกไม๊ที่ให้บุ้งกลับไป  ผมค่อยๆเดินขึ้นบ้าน 
ชะโงกดูในห้องน้ำมีร่องรอยว่าพี่ต่ายอาบน้ำเสร็จแล้ว  คงอยู่ในห้องนอน   ผมเลยเคาะประตูห้องพี่ต่าย

“พี่ต่ายๆ  พี่ช่วยไปปิดประตูบ้านข้างล่างให้ผมหน่อยนะ  ผมจะได้อาบน้ำบ้าง”

พี่ต่ายชะโงกหน้าออกมาจากห้อง  ส่งยิ้มสดใสมาให้ผม กลิ่นแชมพู  สบู่ รวยระรินออกมาจากตัวพี่ต่าย

“ได้ครับ...โอม รอพี่ก่อนนะอย่าเพิ่งนอนล่ะ”

   แล้วผมก็รีบอาบน้ำเลยครับ  ด้วยความรวดเร็ว ยังได้ยินเสียงฝีเท้าพี่ต่ายเดินลงไป
ข้างล่าง   ผมอาบเสร็จรีบประแป้ง  แต่งตัวเรียบร้อยเลยครับแล้วนอนรอพี่ต่ายในห้องนอนผม
  คอยฟังเสียงว่าเมื่อไหร่พี่ต่ายจะมา  ตื่นเต้นจัง  สักครู่ได้ยินเสียงบิดลูกบิดประตู กริ๊กๆ แก๊กๆ
  แล้วตามด้วยเสียง ปัง....ปัง.....ปัง

“โอม...เปิดประตูให้พี่หน่อยมันล็อคอยู่น่ะ....โอมได้ยินไม๊”

อิอิอิ  ขำครับ โดนผมหลอกซะละ ผมว่าเสียงผมเริงร่ามากตอนที่ตอบกลับไปว่า :laugh3:

“พี่ต่ายผมง่วงแล้วจะนอนแล้วพรุ่งนี้เจอกันนะครับ.....บาย”  :oni1:

 พี่ต่ายยังคงทุบประตูต่อไปอีกพักนึงครับ  แล้วก็ได้ยินเสียงบ่นเบาๆว่า

“จำไว้เลยนะโอม......มาหลอกพี่....จำไว้ หึหึหึ เจ้าเด็กแสบ....”

 คืนนี้ผมนอนสบายเลยครับ  ได้หลอกพี่ต่ายกลับบ้าง หุหุหุ  :laugh:

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมบอกแล้วว่าพี่ต่ายเปลี๊ยนไป๋  :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 19-12-2007 09:34:54
บอกความจริงกะบุ้งไปเลย ... คำว่าไม่กล้าน่ะ เค้ามักใช้เมื่อมีความกลัว
ถามว่า โอมกำลังกลัวอะไร
มันมีสองทางให้เลือกเอง คือ รับได้ กะรับไม่ได้

ส่วนเรื่องเจ็บน่ะ มันก็ต้องเจ็บเป็นธรรมดา ...
เพราะอย่างไรเสีย กับบุ้งมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ดีไม่ดี ไอ้ที่ปล่อยไว้อย่างนี้ อาจจะทำให้บุ้งเจ็บมากขึ้นก็ได้


ปล. แต่ผมว่า ... บุ้งคงดูออกแล้วละ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 19-12-2007 09:55:48
 :m16: น่าจะบอกบุ้งไปตรงๆเลยน่ะ จะไม่กวนใจ ไม่คาราคาซังแบบนี้  :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 19-12-2007 10:06:34
:oni1: :oni1: :oni1:
หลอกพี่ต่ายคราวนี้ ระวังคราวหน้าพี่ต่ายเอาคืนหนักกว่าเดิมนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 19-12-2007 11:02:59
 :a4:ตอนหน้าเรียบร้อยโรงเรียนพี่ต่ายแน่โอมเอ๋ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 19-12-2007 12:17:03
จะรอดพี่กระต่ายไปสักกี่หนน๊า :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 19-12-2007 12:44:49
เมื่อไหร่จะเข้าหอ นอนห้องเดียวกันอ่ะ   :m26:


ปล. มีอีโมใหม่หลายตัวเลย น่ารักทั้งน้านนน
 :oni1:  <<  ตัวนี้อ่ะน่ารัก ดูร่าเริง แววตา และท่าทางแรดเล็กน้อยพองาม อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 19-12-2007 13:07:25

>>> อ่ะหุ อ่ะหุ~ เริ่มแอบอ่านเมื่อไม่นานมานี้  วันนี้ขอเม้นท์ซักรีพลาย...

พี่สองคนน่ารักดี  :oni2: คนนึงก็งอนทั้งที่รู้ว่าเค้าไม่รู้ อีกคนก็ไม่รู้เล้ยว่าเค้างอน

ตอนนี้มาอยู่บ้านเดียวกันแล้ว หวังว่าคงเข้าใจ กันและกัน มากขึ้นเรื่อยๆ

เป็นกำลังใจให้ และ รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ (มากๆ!!!)



.
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 19-12-2007 14:42:07
โอม จงยอม จงยอม  :oni3:

เพื่อสนองความต้องการของเราชาวเล้านะ  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 19-12-2007 17:01:56
 :a4:เข้ามาทักทายอีกรอบครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 19-12-2007 17:24:29
  :oni1: ทักทายด้วยคน

กำลังแต่งตอนต่อๆไปอยู่นะครับที่แต่งสต็อคเอาไว้เริ่มใกล้หมด  :m29:

แอบขโมยเวลางานมานั่งแต่ง  นึกแล้วก็ขำตัวเอง เขียนไปได้เยอะขนาดนี้   :m23:

ถ้าไม่มีคนมาเมนท์ คงถอดใจไปแล้ว  :เฮ้อ:

 :mc2: สงสัยผมคงโดนคนอ่าน  :oni3: ให้ทำไปได้

พรุ่งนี้เจอกันครับ :bye2:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 19-12-2007 19:55:20
 :m22:   วันนี้เข้ามาอ่านวันแรกอ่ะ
                                     
                                          อ่านรวดเดียวจบเยย  หนุกมากมาย
 
                                        รออ่านตอนต่อไป คับ มาต่อไว ๆ นะ คับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 19-12-2007 20:09:04
หุหุ เดี๋ยวเจอพี่ต่ายเอาคืนแล้วจะหนาว  :m1:  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 19-12-2007 21:04:09
รออ่านต่อนะ   :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 19-12-2007 21:25:12
โอมใจร้าย     :serius2:

ทำแบบนั้นน่ะไม่ได้แกล้งแค่พี่ต่ายคนเดียวนะ

มันเป็นการกลั่นแกล้งคนอ่านด้วยอ่ะ


จะคอยวันที่โอมหนีไม่รอด  มันต้องมีซักวันล่ะน่า   :a2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 19-12-2007 22:45:47
ปล. มีอีโมใหม่หลายตัวเลย น่ารักทั้งน้านนน
 :oni1:  <<  ตัวนี้อ่ะน่ารัก ดูร่าเริง แววตา และท่าทางแรดเล็กน้อยพองาม อิอิ

อุตส่าห์ชอบตัวนี้...เวนกำ บรรยายซะเห็นภาพเลยยยย หรือว่าจะคือตัวเราหว่า... :m28:

ยังขอชื่นชมความน่ารักของพี่ต่าย...อยากเห็นตอนโต้คารมกะบุ้งจัง...
แต่ที่แน่ ๆ รักกันขนาดนี้รอปลอบใจนายบุ้งได้เลย...  :try2:
เป็นกำลังใจให้พี่ต่าย....คราวหน้าแอบใส่ยาให้โอมกินซะเลย ช่วยพี่ต่าย...
 :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 20-12-2007 09:19:46
โดน :oni3: ต้องมาๆๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 40

“ก๊อกๆๆๆๆ....โอม ตื่นได้แล้ว....สายแล้วนะ”
สายแล้วเหรอ ผมยกหัวขึ้นมาดู ทำไมฟ้ายังไม่สว่างเลยล่ะ  นอนต่อดีกว่า :a12:

“ก็อกๆๆๆๆๆ....”
“ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...”

            ฮือๆ  พี่ต่ายยังเคาะไม่เลิกไอ้พี่ต่ายมาปลุกผมแต่เช้าทำมาย   :serius2:  ผมดูนาฬิกามันเพิ่งตี5 เองน่ะ จะตื่นมาทำอะไรกัน  ผมเดินงัวเงียเปิดประตูเจอพี่ต่ายยืนยิ้มเผล่อยู่หน้าห้อง

“พี่มาปลุกผมทำไม   ผมไม่ไปวิ่งนะพี่....นี่เพิ่งตี5เองตื่นมาทำไม” หงุดหงิดๆ

“ตื่นมาสวดมนต์ไง  จะได้จิตใจสงบไปทำงานก็มีสมาธิ” พี่ต่ายพูดหน้าตาเฉย :a6:
 สาธุ.......เชิญพี่เถอะ  แต่ถ้าไม่สวดจะบาปไม๊อ่ะ  แต่คนมันง่วงนอนนนน.....

“ไว้วันหลังนะพี่  ปรกติผมตื่น6โมงเช้า....ไปนอนก่อนนะ”
เจอคำชวนของพี่ผมประทับใจมากครับ แต่ไม่สนใจ   :onion_asleep:

           ผมนิ่วหน้าบอกพี่ต่ายไป แล้วผมก็ดึงประตูปิดครับ  พี่ต่ายก็ยังคงดึงดัน  เอาตัวแทรกเข้ามาห้องผม  แต่ตอนนี้ผมไม่สนใจกลับไปนอนต่อห่มผ้าเรียบร้อย  กำลังสะลึมสะลือครับ  ซักพักเหมือนมีคนมานอนเบียดๆอ่ะ   แต่ผมก็หลับต่อได้ไม่สนใจ  กรูจะนอนนนน...........

   พอ 6โมงผมก็ตื่นอัตโนมัติ  แต่ทำไมตัวมันหนักๆหว่า  อ้าวพี่ต่ายมานอนกอดผมอยู่  ไหนว่าจะตื่นมาสวดมนต์ไง  โกหกกันนี่หว่า  แล้วมาเรียกเราตื่นทำไมล่ะ  เสียอารมณ์จริงๆ  ทีอย่างนี้ตัวเองนอนอุตุเชียว

   ผมพยายามหยิบเอาแขนพี่ต่ายออก แล้วจะลุกขึ้น   แต่แขนแข็งแรงนั้นก็รั้งตัวผมลงนอนต่อ เสียงพี่ต่ายงึมงำในคอ  ยังไม่ยอมลืมตา

“นี่เป็นการลงโทษที่หลอกพี่เมื่อคืน...”
 พี่ต่ายลืมตามองผมทำตาซึ้ง  แล้วพี่ต่ายก็เอามือมาลูบแก้มผมแล้วก็.......บีบบบ!!!!! :m14:

“โอ๊ยยยย.....พี่ต่ายมาบีบแก้มผมทำไม” เจ็บนะเว้ย  แก้มคนนะไม่ใช่หลอดยาสีฟัน o9

            แก้มผมคงช้ำไปหมดแล้ว ผมดึงมือพี่ต่ายออกจากแก้มผม    กำลังจะเล่นงานพี่ต่ายอยู่แล้ว     แต่พี่ต่ายวิ่งหนีออกไปแล้วครับ   ก่อนที่หมอนที่ผมขว้างจะไปถึงตัว ได้ยินแต่เสียงหัวเราะร่าดังมาแต่ไกล  พี่ต่ายบร้านี่บางทีก็เล่นเป็นเด็กๆเลย   เฮ้อ.... แต่ก็น่ารักดีครับแฟนผม :เฮ้อ:
++++++++++++++++++++++++++++++++++

   ทุกๆวันพี่ต่ายก็ยังพยายามเข้าห้องผมครับ  แต่ผมก็สามารถหนีได้ซะทุกครั้งไป จนผมชักเกรงๆว่า  พี่เค้าจะเบื่อกับเกมนี้ของผมไปก่อนหรือเปล่า  เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าเล่นตัวมากไปเลยชวดซะงั้น หุหุหุ  แต่ตอนนี้ก็ต้องไปแบบนี้เรื่อยๆไปก่อนแหล่ะครับ จนผมก็ชักวางใจ

   จนใกล้จะครบอาทิตย์นึงพอดี วันนี้เป็นวันศุกร์  อยู่ดีๆตอนเช้าพี่ต่ายก็บอกผมว่า

“โอม...วันนี้กลับมากินข้าวบ้านนะ”

“วันนี้พี่กลับได้เร็ว...จะมาเตรียมกับข้าวไว้ให้”

“เนื่องในโอกาสอะไรพี่ต่าย” ปรกติต่างคนต่างหากินกันเองครับ  เกิดอารายขึ้น

“ก็....ไม่มีอะไร....แค่อยากทำแค่นั้นเอง” ผมว่าพี่ต่ายดูมีลับลมคมใน  อยากจะรู้เหมือนกันจะมาไม้ไหน

“โอเค..เลิกงานปุ๊ปผมกลับเลย” ทีแรกผมก็รับปากไปแต่นึกขึ้นมาได้

“เอ๊ย.....วันนี้ผมมีเรียนปส.อ่ะพี่  ทำไงดีหรอจะโดด”ผมมองหน้าพี่ต่ายขอความเห็น

“อย่าโดดเลยไปเรียนเถอะ.....แต่เรียนเสร็จรีบกลับนะ” แต่พี่ต่ายก็แอบทำหน้าเซ็งเล็กน้อย

“คร๊าบผม....แต่พี่กินไปก่อนนะไม่ต้องรอผม”

             พี่ต่ายพยักหน้ายิ้มให้ผม   แล้วเราก็ไปทำงานกันอย่างมีความสุขครับ  เรียนเสร็จขากลับผมแวะซื้อไอศกรีมกลับไปด้วย  กะเอาไว้เป็นของหวาน

   พอเดินเข้าบ้านก็เห็นพี่ต่ายนอนหลับอยู่บนโซฟาครับ ผมเลยไม่อยากกวน  เดินไปดูที่โต๊ะกินข้าว  อาหารก็ยังอยู่ครบ พี่ต่ายไม่น่ารอผมเลย คงหิวแย่  ผมเลยรีบขึ้นไปอาบน้ำครับจะได้ลงมาทานข้าว

ลงมาพี่ต่ายยังหลับอยู่เลย  ผมเลยเข้าไปปลุกเขย่าตัวพี่ต่ายเบาๆ

“พี่ต่ายตื่นมาทานข้าวกันเถอะ”

“อือ....โอมกลับมานานแล้วเหรอ....พี่หิวจังเลย”

“ผมก็บอกพี่แล้วว่าไม่ต้องรอ...มันดึก”

“ก็พี่อยากกินพร้อมๆกันบ้างนะซิ...เราไม่ค่อยได้คุยกันเลยนะโอมขนาดอยู่บ้านเดียวกัน”

   เออแปลกคน ทีแต่ก่อนหายไป 2 อาทิตย์ 1 อาทิตย์ไม่ติดต่อผมเลย  ปล่อยให้ผมสติเสียอยู่คนเดียว  ตอนนี้เกิดจะมาตัดพ้อต่อว่า

“อยากจะนอนกอดก็ไม่ยอม....ไม่รู้จะหวงตัวไปถึงไหน......เฮ้อ”  :m21:
พี่ต่ายยังบ่นอยู่ไม่หยุด  ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย คนละเรื่องนะนี่

“พี่ต่ายกินดีกว่า....หิวแล้วไม่ใช่เหรอ” ผมต้องตัดบทไม่งั้นไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อไปอีก

   ตอนนี้ก็เงียบๆครับ  ต่างคนต่างกินเพราะว่าหิวจัดกันทั้งคู่ แล้วไม่รู้จะมารอกันให้ทรมานร่างกายทำไม๊  กินจนผมรู้สึกว่าผมคงจะอิ่มเกินไปแล้ว  ไอศกรีมที่ซื้อมาก็ไม่อยากกินแล้ว  พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มหย่อน  แต่พี่ต่ายคงยังไม่ง่วงเพราะชวนผมดื่มเบียร์ต่อ  ผมก็เลยตกลงดื่มเป็นเพื่อน เพราะพรุ่งนี้ก็ไม่มีงานอะไร

“พรุ่งนี้พี่ต่ายไม่ต้องไปทำงานเหรอ....ปรกติเห็นไปทุกอาทิตย์” ผมก็อดจะถามไม่ได้

“ไม่ไปหรอก...เดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนเมื่อก่อน”

“ตอนนี้งานลดแล้วเหรอพี่...ผมก็ว่าเหมือนเดิมนะ สายผมก็ยังยุ่งเหมือนเดิม”

“ไม่ใช่หรอกแต่ก่อนไม่มีแฟน...พี่ก็ว่างเลยไปทำงานดีกว่า....แต่ตอนนี้มีโอมแล้ว  พี่ก็ต้องให้เวลากับโอมซิ”

พูดแบบธรรมดาๆครับ  เหมือนพูดเรื่องดินฟ้าอากาศ  สายลมแสงแดด  แต่ผมซิ
 
Yes! Yes! Yes!   :a2: ผมไชโยในใจครับ  พยายามเก็บรอยยิ้มเอาไว้ในแก้ม  เดี๋ยวมันจะออกนอกหน้ามากไปพี่ต่ายจะได้ใจ เหอๆๆๆ  มีคำหวานๆเป็นของหวานหลังอาหารค่ำก็ไม่เลวแฮะ

“ผมกลัวพี่จะหายตัวไป  เหมือนเมื่อก่อนนะซิ”
พี่ต่ายน่ะมีคดีเก่าอยู่นะ ผมไม่อยากจะรื้อฟื้น  เดี๋ยวจะกลายเป็นเซ้าซี้น่ารำคาญแต่ก็อดเหน็บพี่ต่ายไม่ได้

“หายไป......โอมก็ตามซิ....โอมไม่เห็นตามพี่เลย...ไม่โทรหาพี่ด้วย”

             อ้าวกลายเป็นความผิดของผมไปซะงั้น   ทำตัวไม่ถูกเลยกรู   ถ้าตามมากๆไม่ดูน่ารำคาญเหรอ  ใครจะไปคอยโทรจิกกันได้   ผมเองยังไม่ชอบเลยแล้วเรื่องอะไรผมจะทำ  ผมก็มัวคิดอะไรเพลินๆจนพี่ต่ายถาม

“โอมคิดอะไรอยู่   มีอะไรคาใจถามพี่ได้หมดนะ”

“ไม่ถามหรอก   อยากให้พี่ลองเดาใจผมบ้างว่าผมคิดอะไร”

“อ้าว....แล้วพี่จะรู้ได้ยังไงล่ะ”

“ถ้าผมบอกพี่หมด...ก็ไม่หนุกดิ...อย่างงี้แหล่ะดี...ผมจะได้ดูน่าค้นหาหน่อยอิอิ”

“แล้วถ้าพี่เบื่อไม่อยากค้นหาแล้วล่ะ” พี่ต่ายถามผมแบบกวนๆน่ะ

ผมก็อึ้งๆไปพักนึง  ทำไมเบื่อกันง่ายจัง  สงสัยต้องแกล้งดูใจกันซะหน่อย

“ผมจะไปทำอะไรได้...ก็ต้องปล่อยพี่ไป”  :undecided:
           ผมพยายามทำเสียงสั่นๆ พร้อมทำหน้าเศร้าประกอบ  อ้อล้อน่าดูตรู  นึกซะว่าเล่นละครช่อง 3 ก็ได้  ขอแค่รางวัลดาราดาวรุ่งพอ  ไม่หวังทีวีทองคำ

“โถ....พี่ล้อเล่น”

             พี่ต่ายลุกขึ้นมากอดผมจากด้านหลัง  ผมแกล้งเงียบไปพักนึง พี่ต่ายลูบหัวผมใหญ่เลย ผมแกล้งเงียบไปพักนึง
3
2
1

แล้วผมก็หันหน้าไปหาพี่ต่ายครับพร้อมส่งยิ้มทะเล้นไปให้ แล้วพูดว่า 
“ผมก็....ล้อเล่น” :kikkik:

            พอดีกับพี่ต่ายชะโงกหน้ามามองหน้าผม หน้าเราเลยมาจ๊ะเอ๋กันพอดี แล้วพี่ต่ายก็จูบผมอีกแล้วครับ  มันนุ่มนวลมากๆเลย  ขณะที่เรากำลังฝึกกำหนดลมหายใจกันอยู่  มีแต่ความเงียบกับเสียงลมหายใจของเรา  พักนึงครับมีโทรศัพท์เข้าเป็นมา   ผมต้องผละไปรับอย่างเสียดาย  ของผมเองครับ  เจ้าเก่าและดั้งเดิม...ไอ้บุ้งเพื่อนผม

“ไม่รับได้ไม๊” พี่ต่ายถามผมตอนที่ชะโงกหน้ามาดูว่าใครโทรมา

“ไม่รู้บุ้งมีเรื่องอะไรซิ” ผมก็เกรงใจเพื่อน

“งั้นเปิดเป็นspeakerพี่ฟังด้วย” โหยอย่างงี้ก็มีด้วย  ผมก็นินทาไม่ได้ซิ o12

“คนอื่นพี่ไม่ว่า...แต่คนนี้พี่ขอ...พี่รับปากพี่จะไม่ส่งเสียงให้เค้ารู้ว่าพี่ฟังอยู่”

“ก็ได้...ยอมหนเดียวนะ” ผมว่าเราก็ต้องมีเรื่องส่วนตัวกันบ้าง  ถึงแม้ว่าจะรักกันแค่ไหนก็เถอะ  ที่จริงก็แอบเคืองบุ้งเหมือนกันนะเนี่ย  มาขัดจังหวะได้ไง

“บุ้งว่าไง”

“โอมเหรอ   คืองี้นะเอเพื่อนกรูเค้าไม่เชื่อว่ามรึงเป็นแฟนกรู  พูดกะเค้าให้หน่อยดิ”
           ผมฟังก็ถึงกับเหวอ หันมามองหน้าพี่ต่าย พี่ต่ายขมวดคิ้วเลยครับแต่ยังไม่พูดอะไร บุ้งมันจะเล่นอะไรว้า

“สวัสดีครับ  ผมเอนะจำได้ไม๊ครับ”
เสียงเพื่อนบุ้งพูดมาครับ  แต่ผมก็จำได้ดีเลยล่ะ เพราะวันนั้นเค้าก็แสดงออกน่าดูว่าหวงบุ้ง

“สวัสดีครับ  ผมจำได้”

“ผมถามคุณโอมตรงๆเลยนะ  คุณโอมเป็นแฟนบุ้งจริงๆเหรอ”

             เสียงเอเครียดมากครับ  แต่ผมเครียดกว่า  จะตอบไงดี  พี่ต่ายก็ยืนฟังอยู่นี่  มองหน้าพี่ต่าย ขอความเห็น  ก็ดันไม่พูดอะไรหน้ามุ่ยเหมือนเดิม ฟังอย่างเดียว

“มันเป็นเรื่องส่วนตัวของผมกับบุ้งครับ...ผมขอไม่ตอบ”

“แต่บุ้งบอกว่าคุณโอมเป็นแฟน”

“ก็แล้วแต่คุณเอจะคิดนะ”

           ผมก็ตอบแบบนี้ไปล่ะครับให้มันคลุมๆเครือๆไปก่อน อยากจะเหยียบไอ้บุ้งจริงๆ  หาเรื่องมาให้ผมอีกล่ะ  กลัวจะเจอแบบพี่ต่ายกับเนยซิ  ไอ้หรือจะปฎิเสธว่าไม่ใช่ก็กลัวบุ้งมันจะเดือดร้อน  เพราะมันก็คงมีเหตุผลของมัน ช่วยเพื่อนไปก่อน  แต่เอก็คงไม่อยากคุยกับผมเท่าไหร่  เค้าก็เลยบอกลา

“งั้นแค่นี้นะครับคุณโอม.....คุยกับบุ้งต่อแล้วกัน” ผมก็เลยคุยกับบุ้งต่อ

 “โอมเดี๋ยวกรูโทรไปหาใหม่นะ”

“เออ..พรุ่งนี้ก็ได้นะดึกละกรูจะนอน”

“เออๆ..พรุ่งนี้ก็ได้...บาย”

          พอวางสายครับ  หันไปมองหน้าพี่ต่ายยังหน้ามุ่ยเหมือนเดิมครับ  ผมเลยเอามือไปเขี่ยๆโบว์ที่ผูกอยู่ที่คิ้วแกให้มันคลายออกจากกัน พี่ต่ายจับมือผมไว้ไม่ปล่อย  แล้วดึงผมมานั่งที่โซฟา

“โอมกับบุ้งนี่ยังไงกันแน่” พี่ต่ายถามผมเสียงเครียด

“เป็นเพื่อนกัน”

“แค่นี้” พี่ต่ายถามต่ออีก

“ใช่....แค่นี้” ผมไม่เคยคิดเป็นอื่นจริงๆ

“แล้วทำไมบุ้งถึงจะให้โอมรับว่าเป็นแฟน”

“ผมก็อยากรู้เหมือนกัน...ผมยังไม่รู้อะไรเลย”
ท่าทางพี่ต่ายยังไม่ค่อยพอใจกับคำตอบผม  o12

“บุ้งรู้เรื่องของเรารึเปล่าโอม”

“ผมไม่รู้...อาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ได้...ผมไม่เคยพูดตรงๆ”

“มีเรื่องอะไรเกี่ยวกับบุ้งต้องเล่าให้พี่ฟังให้หมดนะ” พี่ต่ายพูดเหมือนสั่ง

            ผมมองหน้าพี่ต่าย หน้าผมคงจะเป็นแบบเดิม  แสดงออกมาหมดว่าตอนนี้ผมไม่พอใจนะ  เหมือนจะถามพี่ต่ายว่ามันเกินไปไม๊  มันเรื่องของผมกับเพื่อนนะ ถ้าผมอยากบอกผมก็คงบอกเอง ผมก็เลยไม่รับปากพี่ต่าย  ทำเฉยๆไปเลย   พี่ต่ายคงพอมองออกว่าผมคิดอะไรอยู่   พี่ต่ายเลยโอบไหล่ผมเอานิ้วมือเขี่ยๆที่หัวไหล่ผมเล่น แล้วพูดเย็นๆว่า 

“ไม่เป็นไร...ตามใจโอม...แต่ถ้าเป็นปัญหาขึ้นมาโอมค่อยบอกพี่แล้วกัน”

            แล้วพี่ต่ายก็ลุกไปเก็บถ้วยจานเอาไปล้าง  เช็ดโต๊ะทำความสะอาด ส่วนผมก็นั่งเป็นคุณชายอย่างไม่สำนึกละอายใจเลย  ผมเริ่มลังเลว่ากริยาที่ผมทำไปมันถูกหรือเปล่า  แล้วพี่ต่ายโกรธผมหรือเปล่า  ผมก็เลย...ไปนอนดีกว่า  พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่

             ผมขึ้นห้องไปก็เตรียมตัวนอนครับ ทำธุระส่วนตัวแล้วก็ว่าจะนอน  ง่วงนิดหน่อยคงเพราะดื่มเบียร์ด้วย ผมเปิดประตูไปชะโงกดู  เห็นข้างล่างปิดไฟมืดเชียว  แสดงว่าพี่ต่ายคงขึ้นมาแล้ว  แต่วันนี้ไม่ยักมาจุ๊กจิ๊กหน้าห้องผม  หรือว่าไม่สนผมแล้ว  ไปง้อหน่อยจะดีไม๊นะ

             ผมเลยย่องๆไปที่ห้องพี่ต่ายแนบหูที่ประตู    :m7: ได้ยินเสียงแว่วๆมาแต่ไม่ค่อยชัด ผมเลยใช้ความพยายามในการฟังมากขึ้น  ทำไมเหมือนได้ยินเสียงภาษาต่างชาติสงสัยพี่ต่ายจะดูหนังฝรั่ง   เอ๊ทำไมเสียงมันขาดๆหายๆ  เสียงหงุงหงิงๆแล้วก็เหมือนมีเสียงร้องไห้  ตอนแรกก็ค่อยๆ  ตอนหลังก็ดังมากขึ้นเรื่อยๆ   สงสัยจะเป็นหนังดราม่า  พวกน้ำตาท่วมจอ ดูหนังแล้วไม่ยักกะชวนแฮะ  รู้ก็รู้ว่าผมชอบดูหนังรันทด

              ผมเคาะประตูเบาๆ  พี่ต่ายก็ไม่ยักกะตอบ ก็เล่นเปิดเสียงขนาดผมอยู่ข้างนอกยังได้ยินนี่  คงไม่ได้ยินเสียงเคาะประตู ผมลองบิดประตูดูก็ไม่ได้ล็อค ผมก็เลยค่อยๆเปิดประตูเข้าไป

             พี่ต่ายไม่ได้ดูหนังดราม่าหรอกครับ  แต่เป็นสารคดีประเภทชีวิตสัตว์โลก  กำลังแสดงวิธีการสืบทอดทายาทกันครับ   แต่ผมว่าคงไม่ได้ทายาทหรอกครับ  เพราะว่ามันเป็นเพศเดียวกันจะมีลูกได้ยังไง  ผมตกตะลึงไปพักใหญ่ เสียงร้องของนักแสดงชายร่างกายกำยำ  ยังคร่ำครวญดังต่อเนื่อง หน้าตาแสดงอารมณ์น่าดู รวมทั้งเสียงเนื้อกระทบเนื้อ  มันดังก้องไปมาในหูผม

            ผมหันไปมองพี่ต่ายที่นั่งอยู่บนเตียง  ปรากฎว่ากางเกงพี่ต่ายมันร่นลงมาอยู่ที่ขาอ่อนครับ  แล้วไอ้เจ้านั่นน่ะ......มันก็กำลังถูกลูกพี่มันควบคุมอยู่ในมือ  มันกำลังแหงนหน้ามองเพดานครับ  ผมถึงกับตาค้าง  ไม่รู้ว่ากลืนน้ำลายด้วยรึเปล่า เอื๊อกก......    :sad5:

            พี่ต่ายคงเพิ่งเริ่มรู้สึกเหมือนมีคนมายืนมองอยู่ข้างๆ  หันมามองหน้าผม ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมผมต้องอายด้วย พี่ต่ายซิน่าจะอายผม พอรู้สึกตัวผมก็วิ่งออกไปจากห้องพี่ต่ายแล้วเข้าห้องผมล็อคประตูเลยครับ  พี่ต่ายวิ่งตามออกมา เคาะเรียกผมใหญ่  ได้ยินเสียงเหมือนจะสะดุดล้มด้วย

ก๊อกๆๆๆๆ.....ไม่เปิด

ปังๆๆๆๆๆๆ.....ไม่เปิดเว้ย

“โอมๆๆ...เป็นอะไร...เปิดประตูให้พี่หน่อย” เสียงพี่ต่ายถามผมอย่างร้อนรน

“พี่ต่ายลามก”ผมตะโกนตอบไปแบบนั้น  แล้วก็อายซะจนเลือดสูบฉีดไปทั้งหน้า  พอนึกถึงว่าผมเพิ่งไปเห็นอะไรมา  :m10:

 “โอมพี่อธิบายได้นะ...โอมเปิดประตูให้พี่หน่อย”

           พี่ต่ายยังคบทุบประตูห้องผมอยู่  ผมค่อยๆดึงสติกลับมาอันที่จริงเรื่องแบบนี้สำหรับผู้ชายมัน
ก็ไม่ใช่ของแปลกอะไร  เพียงแต่ผมไม่ทันเตรียมใจที่จะเห็นพี่ต่ายในสภาพนั้นเท่านั้นเอง  ผมเลยตอบออกไปว่า

“ไม่...ไม่ต้องอธิบายพี่.......ผมเข้าใจ......พี่ไปดูของพี่ต่อเถอะผมจะนอนแล้ว”  :-[

“โอมไม่ออกมาคุยกับพี่หน่อยเหรอ....โอม” เสียงพี่ต่ายอ่อยๆไป  ไม่รู้ว่าเขินผมบ้างไม๊นะ   หรือว่ายังปรับอารมณ์จากหนังไม่ทัน  พี่ต่ายยังคงเงียบยืนนิ่งอยู่หน้าห้องผมพักนึง แล้วคงตัดสินใจไปทำเรื่องที่ค้างคาให้จบ เลยบอกลาผม

“งั้นพี่ไปนอนแล้วนะ...ฝันดีนะครับ”พี่ต่ายเลยถอยกลับห้องไป
 
ผมเดินไปส่องกระจกดู 
เอามือลูบหน้า.....ยังคงร้อนผ่าว หน้าผมแดงมากเลย   สงสัยเลือดคงสูบฉีดขึ้นมาหมดตัว  :o8:

จับที่หน้าอก.....หัวใจยังเต้นตุ๊บๆๆอย่างแรง   

จับน้องชายผม.....มันกำลังพยายามชะโงกหน้าออกมาจากกางเกงขาสั้นของผม

           ผมว่าคืนนี้คงไม่ได้ฝันดีหรอกครับแฮะๆ.......มันจะฝันเปียกมากกว่า...เอิ๊กกกก.......ผมคงต้องสั่งสอนน้องผมหน่อยแล้วที่แตกแถวออกมาได้  พี่ต่ายนะพี่ต่าย   ลามกกกกก
+++++++++++++++++++++++++++++++ 
เขียนไปก็เขินไป  :impress2: ต้องขออำภัยสำหรับคนที่รอบทแบบนั้น เขียนไม่เป็นครับ แต่อีกไม่นานโอมก็คงไม่รอดหรอกครับ  รอ :mc4: กันได้เลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 20-12-2007 09:44:53
กระต่ายน้อยของพี่ต่ายพร้อมออกศึกซะขนาดนั้น โอมยังใจแข็งได้อีกน่ะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 20-12-2007 09:47:22
โอมก็ยอมๆพี่ต่ายไปซะทีจิ ลุ้นนานเหนื่อย :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 20-12-2007 10:52:53
พี่ต่ายวางแผนไว้แน่ ๆ ถึงไม่ล๊อคประตู

โอมจะทำไงต่อไปละเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 20-12-2007 11:24:53
ฉลองล่วงหน้า :mc4: :mc3: :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 20-12-2007 11:57:08
นิสัยคนไทยเนอะ...กลัวไรกะ sex มันเป็นเรื่องธรรมชาติ....
โอมเอ๊ยยยยย คิดมากไปป่าวววววว...
สงสารพี่กระต่ายแย่....สงสัยจะอัดอั้น..... :m25:
สงสัยต้องยุให้ข่มขืนนนนน   :m4:     
เอาใจช่วยพี่กระต่ายกันต่อไปปปปปปปปปปปป
 :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 20-12-2007 12:14:28
รอดไปได้อีกหน :m4:
   ครับจะรออ่านนะครับป่ม :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 20-12-2007 12:35:58
 :m4: ฉลองล่วงหน้า  :mc4: :mc3: :mc2:   หวังว่าคงไม่ให้พี่ต่ายต้องรอนานนะ  :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 20-12-2007 13:12:18
 :m20:  โดนพี่ต่ายยั่วเข้าให้แล้ว 

ไปๆมาๆ โอมอ่ะ จะเป็นฝ่ายไปลวนลามพี่ต่าย คิกๆๆ

 :oni3: จงยอมพี่ต่าย  :oni3:จงยอมพี่ต่าย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 20-12-2007 14:24:22
     ไม โอม ไม่เหงจาย เพ่ ต่าย บ้างอ่ะ 

                                                 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 20-12-2007 16:50:25
 :a4:อยากรู้ว่าบทรักพี่ต่ายจะประทับใจโอมไหมเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 20-12-2007 21:49:34
 :oni3:  :oni3: :oni3: :oni3: จงยอม จงยอม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 20-12-2007 22:11:35
รอค่ะ  :a2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 21-12-2007 09:15:18
ตอนที่ 41

   ก็อกๆๆๆ  เอาอีกแล้วพี่ต่าย....มาปลุกผมแต่เช้าอีกแล้ว  :angry2:  จะอะไรกันนักหนา  วันนี้วันเสาร์ไม่ต้องไปทำงาน  มาปลุกกรูทำไม๊   ผมดูนาฬิกา  7 โมงเช้า คราวนี้จะสวดมนต์อะไร
อีก  ผมไม่หลงกลแล้ว  ผมจะนอนนนน

   พี่ต่ายยังเคาะไม่เลิกแล้วผมจะนอนได้ยังไง  ชักโมโหแล้วนะ  เมื่อคืนก็ทำเอาน้องชายผมไม่ยอมหลับยอมนอน   กว่าจะทำให้มันสงบได้ทำเอาผมเพลีย  แล้วพอเช้าเอาอีกล่ะ  ถ้าไม่ลุกไปด่าไม่ใช่ผมแน่  พี่ต่ายก็พี่ต่ายเหอะ  ผมเลยต้องลุกไปเปิดประตูให้พี่ต่ายอย่างหงุดหงิด

“ผมไหว้ละพี่  ขอเหอะ....ผมอยากจะนอน  พี่ช่วยไปเคาะห้องอื่นได้ไม๊”ผมหลับหูหลับตายกมือไหว้เลยครับ  ด้วยรักและเคารพ   :m5:

“โอม....ดูซินอนขี้เซา....แม่เองไม่ใช่ต่าย”

 อ้าวคุณหญิงแม่ผมเองมาไม่บอกไม่กล่าว   แล้วนี่เข้าบ้านมาได้ไงกัน  กำลังจะถามก็เห็นคุณชายต่ายยืนยิ้มประจบอยู่ข้างหลัง โชคดีไม่ได้ด่าออกไปเกือบซวย

“แม่มาทำไมแต่เช้า....ยังง่วงอยู่เลยอ่ะ...โอ้ว”
ผมเผลอหาวออกไปครับ  แต่ยังดีปิดปากทัน  :onion_asleep:

 “แม่จะไปซื้อของเลยต้องรีบมาแต่เช้า  เพราะบ่ายต้องรีบกลับด้วยมีงาน”

“โอมไปกับแม่หน่อยซิ”

ผมไม่อยากไปเลย  แต่แม่ก็ไม่ได้มาบ่อยๆ  ก็ต้องบริการกันหน่อยครับ  ตามประสาลูกกตัญญู  แต่ผมยังไม่ทันตอบ  ก็มีลูกคนใหม่ตอบแทน

“แม่จะไปไหนครับผมพาไปเอง   วันนี้ผมว่างไม่มีงาน” 
เหอๆๆๆ พี่ต่ายเป็นหน่วยอาสาไปแล้วครับ  แต่ยังไงผมก็ต้องไปด้วยอยู่ดีแหล่ะ  จะปล่อยให้แม่ไปกับชายหนุ่มตามลำพังได้ไง

“ไม่ต้องหรอกต่ายทำงานเหนื่อยๆ   วันหยุดก็พักไปเดี๋ยวแม่ไปกับโอมได้”
แม่คงเกรงใจนะครับ  ผิดกับผมเลยไม่ค่อยเกรงใจ  ชอบสบาย....มีคนขับรถให้ดีจะตาย

“แม่.....พี่ต่ายเค้าอยากบริการก็ให้เค้าทำเถอะ” ผมยกมือสนับสนุนรถฟรีครับ

“ใช้ครับแม่ผมเต็มใจ...จะได้ไปช่วยหิ้วของด้วย”

“ก็ได้ตามใจ...งั้นโอมรีบอาบน้ำแต่งตัวนะเดี๋ยวลงไปกินข้าวด้วยกัน”

แล้วแม่ก็ออกไปครับมีพี่ต่ายเดินตาม แต่ยังไม่วายหันมายักคิ้วให้ผม  ไม่รู้อารมณ์ไหน  แต่พอผมได้ถึงเรื่องเมื่อคืน  หน้าแดงโดยไม่รู้ตัวเลย  เลยวิ่งไปอาบน้ำดีกว่า

พอลงมาก็เห็นแม่นั่งอยู่ที่โต๊ะ  มีพี่ต่ายเดินวนเวียนยกเอากับข้าวมาวาง  คุยกันหัวเราะกิ๊กๆกั๊กๆ  ไม่รู้ว่าคุยเรื่องอะไรอยู่

“อ้าว....โอมมาเลยมากินข้าวกำลังรออยู่พอดี” แม่กวักมือเรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ

“คุยเรื่องอะไรน่ะแม่” นินทาตรูป่าวว่ะ

“กำลังนินทาคุณชายโอมซิ” น่าน....กรูว่าแล้ว o12

“แม่เริ่มสงสารต่ายแล้ว....ต้องมาอยู่กับโอม”

“กำลังบอกว่าลูกคนเล็กก็แบบนี้  ไม่เคยต้องรับผิดชอบอะไร..พี่ๆเค้าช่วยหมด”

“แม่อ่ะ...เดี๋ยวโอมไม่ไปนะ”ผมเริ่มหงุดหงิด  โดนแต่เช้าเลย

“ขี้งอนก็เป็นที่หนึ่ง..ขี้น้อยใจ.....ชอบฟุ้งซ่านด้วย...ต่ายทนๆน้องหน่อยนะลูก”

พี่ต่ายไม่ตอบแต่หัวเราะชอบใจใหญ่เลยครับ เข้ากันดีจริงประสานเสียงขำผมกันใหญ่  พอเห็นผมหน้างอยิ่งชอบใจกัน  ผมเลยรีบๆกินรีบลุก อารมณ์เสีย

“กินกันเร็วๆซิ   จะได้รีบไป”  แม่กับพี่ต่ายยังหัวเราะกันไม่เลิกครับ ผมชักโมโห คุยกันไม่ยอมกินข้าว  จนผมกินเสร็จก่อนละเค้ายังกินกันไม่ถึงไหน

 “ผมไปรอบนห้องนะ....เสร็จแล้วเรียกแล้วกันเดี๋ยวผมลงมา” แล้วผมก็เดินขึ้นไปเลยครับ  เชิญเผาผมกันซะให้พอ  จะเรียกไปเก็บกระดูกเมื่อไหร่ค่อยมาตามละกัน

“ดูนะต่ายลูกคนนี้...แม่พูดอะไรไม่ได้เลย...งอนอีกละ”

“ต่ายจะทนน้องไหวไม๊เนี่ย...แม่ชักเป็นห่วง”

“แม่อย่าใช้คำว่าทนเลยครับ...เพราะผมเริ่มชินแล้ว...เดี๋ยวเค้าก็หายเอง”

ผมได้ยินแว่วๆ ไม่สนแล้ว  เชิญตามสบายเลย ขึ้นไปแป๊ปเดียวผมก็หลับได้ครับ เด็กกำลังกินกำลังนอนก็แบบนี้แหล่ะครับ 

แต่นอนไปพักนึงเหมือนมีอะไรมาจุ๊กจิ๊กแถวๆคอ  ผมเอามือไปปัดๆ  กลับเป็นจมูกพี่ต่ายมาดมๆแถวคอผม กำลังจะหันไปเม้งเล่นซนอะไรเนี่ย  คราวนี้พี่ต่ายขบหูผมครับ  ขนลุกซู่ไปหมดทั้งตัว ก็พี่เล่นเม้มๆดูดๆเล่นลิ้นด้วยมันจั๊กกะจี๋  เดี๋ยวนี้ชักเล่นเก่งขึ้นทุกทีนะ  สงสัยเป็นเพราะดูไอ้หนังเมื่อคืนแน่เลย ผมเลยสะบัดหัวไปข้างหลังโขกหัวพี่ต่ายดังโป๊กเลยครับ

“โอ๊ย....โอมเล่นเจ็บน่ะ” ผมละขำ... :m20:

“สมน้ำหน้าคนหื่น....”อิอิอิ  แล้วผมก็วิ่งหนีลงมาข้างล่างเลยครับ  ขนาดแม่อยู่นะนี่ พี่ต่ายทำไมหื่นได้ถึงขนาดนี้

++++++++++++++++++++++++++

แม่ผมมาซื้อของไปแจกลูกค้าตอนปีใหม่ครับ   ซื้อไว้แล้วเดี๋ยวพี่อิงมากรุงเทพฯเมื่อไหร่ค่อยมาเอา  วันนี้เราก็เลยไปชอปปิ้งกันทั้งตามห้าง แล้วก็ที่จตุจักรด้วยครับ  ตอนไปสวนจตุจักรอากาศมันร้อนมากเลย   ขนาดเราไปกันแต่เช้า 10โมง  เดินวนไปวนมาจนเกือบเที่ยงเลยหาอะไรกินแถวนั้น 
พอดีมีคู่ผู้ชายคู่นึงนั่งทานข้าวอยู่  ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร  แต่แม่ผมคงเห็นอะไรบางอย่าง  เลยชวนผมดู

“โอม...ต่าย..ดูคู่นั้นซิ  อย่าไปจ้องเค้าล่ะ”

 “สงสัยจะเป็นแฟนกันนะนั่น...น่าเสียดายหน้าตาดีทั้งคู่”

ผมกับพี่ต่ายอึ้งครับ มองตากันโดยมิได้นัดหมาย  แต่แม่ก็ยังพูดอยู่ แต่ผมสองคนนิ่งเงียบกันทั้งคู่

“แปลกนะสมัยนี้ทำไมผู้ชายรักกันเยอะจัง”

“แล้วแม่ว่าไงล่ะ” ผมลองแย๊บๆดูหน่อยครับ อยากรู้เหมือนกันว่าแม่จะคิดยังไงเรื่องนี้

“ก็ไม่ว่าไง...ชีวิตของเค้าเราจะไปตัดสินได้ยังไงว่าดีหรือไม่ดี” แม่ก็พูดถูกแต่ถ้าเป็นชีวิตของลูกแม่ล่ะ ผมยังสงสัยว่าแม่จะคิดแบบนี้ไม๊

“แล้วถ้าเป็นคนที่แม่รู้จักล่ะ...แม่จะ...จะ...รังเกียจ...หรือไม่ชอบไม๊” :m29:

ผมคงพูดดูไม่เป็นธรรมชาติ แม่เลยเงยหน้ามามองผม  แล้วก็ถามผมว่า
“ทำไมมีคนรู้จักเป็นเกย์เหรอโอม”

  พอแม่ถามมาตรงๆผมก็ไม่รู้จะโกหกยังไงดีนะซิครับ  แต่จะให้พูดว่าไงล่ะ
“เพื่อนที่ทำงานผมนะครับแม่เป็นเกย์”พี่ต่ายเลยพูดขึ้นมาแทนตอนที่ผมชะงักไป

“เหรอ..งั้นแม่ถามเราสองคนว่ารังเกียจเพื่อนคนนั้นไม๊ที่เค้าเป็นเกย์”

“ไม่ครับ”
“ไม่ครับ” เราสองคนประสานเสียงเป็นแดนกับบีมเลยครับ   พูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย

“ก็น่านนะซิ...เราจะไปรังเกียจเพื่อนเราได้ยังไง”

“เรายิ่งต้องเป็นกำลังใจให้เค้าซิ...มันไม่ได้ง่ายๆนะ”

“ยังไงก็ยังมีคนไม่ยอมรับอีกเยอะ” แม่ผมสรุปแค่นี้ครับ

 ผมโล่งอกไปนิดหน่อยครับ  แต่เรื่องแบบนี้ไม่เจอกับตัวเองพูดยังไงก็พูดได้  แล้วถ้าผมเป็นบ้างแม่จะพูดได้แบบนี้หรือเปล่า

ผมกับพี่ต่ายแอบมองหน้ากัน  แล้วก็คงต่างคิดกันไป  ไม่รู้เหมือนกันว่าพี่ต่ายคิดยังไง  เราไม่เคยมาพูดเรื่องสังคมรอบข้างกันอย่างจริงๆจังๆซักที

“ช่างเค้าเหอะนะชีวิตใครก็ต้องค่อยคิดกันไป....แล้วเราล่ะโอมไม่เรียนโทต่อซักทีล่ะ”

แม่ไม่รู้ว่าเรายังครุ่นคิดเรื่องนี้กันอยู่  เลยถามผมเรื่องเรียนต่อ
“ผมกะว่าปีหน้านะแม่.......ให้สอบใบอนุญาตได้ก่อนค่อยเรียนครับ”

“ตามใจโอม...คิดเอาเองนะว่าจะเรียนหรือจะทำอะไรโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ”

“คร๊าบคุณแม่ที่รัก”

เราเลิกสนใจเรื่องอื่นๆครับพาแม่เดินดูของนู่นนี่  จนเหงื่อไหลไคลย้อย แล้วก็พาไปอบแอร์ต่อในห้างฯ  วันนี้ผมกับพี่ต่ายหิ้วของกันซะเหนื่อย  ระหว่างเดินซื้อของกันอยู่บุ้งมันก็โทรเข้ามือถือผม

“ว่าไงบุ้ง”

พอได้ยินผมรับสายเท่านั้นพี่ต่ายเดินมาประชิดตัวผมเลยครับ ตั้งใจฟังอย่างชัดเจนไม่มีแอบๆเลย
“กรูพาแม่มาซื้อของ....เออ...กรูไม่ว่าง”  :try2:
 
“มรึงจะตามมา...จะมาทำไม” มันบอกมันจะมาสมทบครับ  มันจะพิศวาสอะไรกรูนักหนา

“ไม่ใช่....เดี๋ยวแม่กรูก็ไปแล้ว”

“ไม่ว่างซิ....เสร็จแล้วกรูจะไปทำธุระต่อ”

“มรึงจะไปด้วย” o22

ผมหันไปมองหน้าพี่ต่าย ตอนนี้ไม่เหมือนกระต่ายเลยครับ เหมือนเสือมากกว่า  หน้าโหดมากกก

“ไว้วันหลังนะบุ้ง...เออๆพรุ่งนี้ก็ด้ายยย”
พอมองหน้าพี่ต่าย  สงสัยผมจะตอบผิดอีกละ   เอาไงดีว่ะ  พรุ่งนี้ค่อยคิดเว้ย

“เออ..บาย”

“ใครน่ะโอม”แม่ผมถามครับ

“บุ้งอ่ะแม่...ลูกป้าวรรณร้านสมเจริญน่ะ”

“อ๋อ..จำได้....ยังติดต่อกันด้วยเหรอ.....เออดียังไงก็คนบ้านเดียวกัน”

“ต่ายเหนื่อยเหรอลูก....ทำหน้าเมื่อยเชียว”

แม่คงเห็นพี่ต่ายหน้าหงิกนะครับ  แต่แม่คิดว่าพี่ต่ายเหนื่อย แต่ผมน่ะรู้ว่าหงิกเพราะอะไร แค่ได้ยินชื่อบุ้งก็เริ่มแล้วครับ  ทีแต่ก่อนบอกมั่นใจ หึหึหึ

แม่เลยชวนทานไอศกรีมดับอารมณ์ร้อนครับ ท่าทางพี่ต่ายได้กินไอศกรีมจะอารมณ์ดีขึ้นครับ นั่งกินไปไม่คุยเลย ผมอดที่จะแอบเผลอมองปากแดงๆของพี่ต่ายตอนทานไม่ได้       โดยเฉพาะตอนที่ปากพี่ต่ายอมช้อนไอศกรีม หรือตอนเอาลิ้นเลียริมฝีปากที่ติดคราบไอศกรีม  มันดูเซ็กซี่มากๆ  ภาพในหนังเมื่อคืนมันย้อนกลับเข้ามาในหัว  ผมเผลอหลับตาไม่รู้ตัว :myeye:

“โอมแม่ถามก็ไม่ตอบ” ผมสะดุ้งเลยครับกำลังลวนลามพี่ต่ายทางความคิดอยู่

“แม่ว่าไรนะ” ผมได้แต่เกาหัวเขินๆ  พี่ต่ายหัวเราะหึหึ  ไม่รู้เห็นตอนผมมองรึเปล่าซิ

“แม่ถามว่าเมื่อไหร่จะกลับบ้านเราบ้าง”

“ไม่รู้ซิแม่  แต่ปีใหม่ไม่ได้กลับแน่ๆต้องทำงาน”

“ว้า...อะไรกันปีใหม่ไม่หยุดเหรอ”แม่อดสงสัยไม่ได้

“ก็ปีใหม่ผมต้องไปดูเค้านับสต๊อคสิ้นปีน่ะแม่...ใช่ไม๊พี่ต่าย”

“ใช่ครับผมก็ต้องไปเหมือนกัน”

พี่ต่ายยืนยันครับ  มันเป็นงานของเราที่ต้องทำน่ะครับแต่ผมก็ชอบนะ  เห็นพี่ๆบอกว่าปีใหม่บางทีลูกค้าก็มีของขวัญให้เราด้วย ผมไม่เคยบอกใช่ไม๊ว่าผมงก  เป็นนิดหน่อยครับชอบของฟรีน่ะ

 พอบ่ายแม่ก็ให้พี่ต่ายขับรถไปส่งที่หมอชิต  ก่อนจะขึ้นรถเห็นพี่ต่ายคุยอะไรกับแม่ก็ไม่รู้ชอบซุบซิบนินทาผมแน่ๆเลย  พอส่งแม่เสร็จเราก็ว่างแล้วครับผมหันไปมองพี่ต่าย แล้วถามว่าเราไปไหนดี

“ปรกติวันหยุดพี่ทำสวนน่ะ  เราไปซื้อต้นไม้มาทำสวนบ้านโอมดีไม๊”

ผมน่ะไม่ชอบอะไรที่ร้อนๆเหนื่อยๆ  เลอะเทอะ  สกปรก แต่ตอนนี้ความรักบังตาครับ  ว่าไงว่าตามกัน  ก็เราต้องปรับตัวหากันนี่นะ

“ได้พี่...แต่ผมเป็นลูกมือเฉยๆนะ...ทำไม่เป็น” :m21:

“ครับผม....รับรองคุณชายไม่เหนื่อย”

แล้วพี่ต่ายก็พาผมไปเลือกซื้อต้นไม้ครับ  ส่วนใหญ่เป็นพวกไม้ใบ เพราะดูแลง่ายหน่อย   ถ้าเอาประเภทที่ต้องรดน้ำทุกวันมันคงตายหมด  เพราะผมขี้เกียจ  หึหึหึ...ไม่ใช่หรอกครับทำงานกันกลับดึกทั้งคู่ไม่ค่อยมีเวลา  แต่พี่ต่ายรับรองว่าจะดูแลเอง  ผมเลยเบาใจ

พอกลับถึงบ้านก็เย็นพอดีครับ  ผมถูกพี่ต่ายไล่ไปเปลี่ยนเป็นเสื้อเก่าๆเพราะกลัวเลอะ   พอกลับลงมาพี่ต่ายก็ทำอะไรอยู่ที่สวนแล้วครับ พี่ต่ายยืนหันหลังอยู่ใส่เสื้อกล้ามกางเกงขาสั้น  ผมเห็นกล้ามที่ไหล่กับแขนขาของพี่ต่ายที่โผล่พ้นเสื้อออกมา  แล้วก็มาดูตัวเองเราหุ่นแย่จังเลย  ผอมเอาซะมากๆชักอาย

“อ้าวโอมมาแล้วเหรอมานี่ซิ” พี่ต่ายหันมาเห็นผมเลยเรียกผมไปหาครับ

“ยกกระถางที่วางตรงนู้นมาตรงนี้ด้วย”
ไหนว่าไม่เหนื่อยไง  เริ่มจากงานกรรมกรเลยนี่หว่า สงสัยจะโดนหลอกแล้วละเนี่ย :m29:

แล้วพี่ต่ายก็ใช้ผมยกต้นไม้  ยกถุงปุ๋ย ถุงดิน ไปเอาสายยาง บางทีก็ย้ายไปย้ายมา  สารพัดครับ แต่ตัวพี่ต่ายเองก็ขุดดิน  เอาต้นไม้ลง  ตัดนู่นนี่ ถอนนั่นเต็มไปหมด  ผมเลยไม่กล้าโวยทั้งที่เหนื่อยใจจะขาด  o7 เหงื่อออกโทรมกายทั้งคู่  พอมีช่วงว่างๆผมเลยไปเอาน้ำมากินแล้วมาเผื่อพี่ต่ายด้วย

“พี่ต่ายทานน้ำครับ”

“ดีเหมือนกันกำลังหิวน้ำพอดี...พักก่อนก็ดี”

แล้วเราสองคนนั่งแผ่ดื่มน้ำอยู่ที่สนาม   แก้มพี่ต่ายเป็นสีชมพู ที่แขนกับไหล่ออกเป็นสีแดงๆนิดหน่อยคงเพราะโดนแดด  ถึงแม้จะเป็นแดดยามเย็นก็ตาม  เหงื่อเกาะพราวอยู่ทั่วตัว ผมก็เปียกชื้นไปด้วยเหงื่อ  หุหุหุ เซ็กซี่น่าดุ :อิอิ1:

ผมก็ไม่รู้ตัวหรอกว่าพี่ต่ายก็กำลังดูผมอยู่เหมือนกัน  เพราะผมรู้สึกว่าตัวเองกระเซิงมาก เสื้อก็เน่า หน้าก็แดง เหงื่อโทรม กำลังเพลินๆดูดน้ำอยู่เงยหน้าขึ้นมาสบตาพี่ต่ายพอดี   เห็นพี่ต่ายตอนนี้หยุดดื่มน้ำแล้วแต่กำลังนั่งมองผมอยู่อย่างเงียบๆ   ผมเลยชักเขินๆ เลยถามพี่ต่ายแก้เขินไปว่า

“พี่ไม่เคยเห็นคนหล่อเหรอ....มองจัง”

“ใคร...โอมน่ะเหรอหล่อ”แล้วพี่ต่ายก็ส่ายหัว แล้วก็หัวเราะดังมากๆครับ จนผมงงว่าขำอะไรนักหนา   ผมหล่อน่ะมันผิดกฎหมายรึไง  ไปเรียกตำรวจมาจับเดะ

“ไม่หล่อแล้วมามองทำไมล่ะ...มองทำไม”  :a14:
 ผมชักโมโห...อีกล่ะกรู   กวนเค้าจนได้เรื่อง  พอเค้าหัวเราะก็ไปโกรธเค้าอีก แล้วพี่ต่ายก็พูดออกมาอีกคำนึง

“ก็ไม่หล่อแต่เร้าใจไง...ก็เลยมอง....หึหึหึ”  :o9:
กะว่าถ้าพี่ต่ายพูดไม่ดีอีกจะสวนกลับ  แต่เจอตอบแบบนี้ก็คิดไม่ทันครับว่าจะตอบยังไง  เงียบไปพักนึงเขินอ่ะ....แล้วเลยพูดส่งเดชว่า

“พี่เสร็จยัง...เหนื่อยแล้ว....หิวด้วย”

พี่ต่ายไม่ตอบ  เอาแต่ยิ้ม  แต่ผมก็เหนื่อยจริงๆนะ ไปตอนนี้จะดูเอาเปรียบไม๊อ่ะ  แต่ว่าปากก็ไปแล้วครับ

“ไปอาบน้ำก่อนนะ...พี่ต่าย”

“ไปเหอะ...เดี๋ยวพี่ตามไป ”

พี่ต่ายพยักหน้าแล้วครับ  แต่ยังไม่เลิกหัวเราะ  สงสัยคงดีใจที่กวนผมได้  ผมเลยลุกไปอาบน้ำ พออาบเสร็จ  ผมลงมามองไปที่สนามพี่ต่ายไม่อยู่แล้วครับแต่เก็บข้าวของเรียบร้อย  เดินหาพี่ต่ายปรากฏว่ากำลังหั่นแตงโมอยู่

“อ้าวโอมมาแล้วเหรอ...มาเอาแตงโมไปกินก่อนเดี๋ยวพี่ไปอาบน้ำก่อน”

ผมรับจานแตงโมมาจากพี่ต่ายมานั่งทาน  กินไปผมก็คิดไป พี่ต่ายก็เหนื่อยไม่น้อยไปกว่าผม  แต่ยังอุตส่าห์มาหั่นแตงโมให้ผมทาน  ผมนี่นิสัยแย่จัง ไม่เคยช่วยอะไรพี่ต่ายเลย

ทั้งที่สวนนี่ก็ของบ้านผม  แต่ผมก็ไม่เอาธุระ  ปัดไปให้พี่ต่ายคนเดียว  ไม่เคยช่วยดูแลบ้าน  ล้างจานก็ไม่เคย  หรือว่าผมจะเป็นเด็กไม่รู้จักรับผิดชอบเหมือนที่แม่ว่าจริงๆ  ยิ่งคิดก็ยิ่งละอายใจ  ถ้าผมยังทำตัวเป็นคุณชายอยู่แบบนี้อีกหน่อยทุกคนก็คงเบื่อผม  รวมทั้งพี่ต่ายด้วย

ซักพักนึงครับ  ผมกินเสร็จแล้ว  เลยนั่งคิดถึงนิสัยตัวเองอยู่  พี่ต่ายก็อาบน้ำเสร็จเดินเข้ามา เอามือมาแปะไว้บนหัวผม

“อร่อยมั๊ยโอม.....นี่แม่ซื้อมานะ  พี่แช่ตู้เย็นไว้กินตอนเหนื่อยๆ  อร่อยดีนะ”

“อ้าวพี่พูดด้วยก็ไม่ตอบ....คิดเรื่องอะไรอยู่”
พี่ต่ายมายืนอยู่ข้างหลังผม  ผมเลยหันไปกอดเอวพี่ต่ายไว้  ยังไม่รู้จะพูดอะไรดี  :haun5:

“เป็นอะไร...เหนื่อยมากเหรอ...”

“พี่อยากให้เราออกกำลังกายบ้างน่ะทำแต่งาน  สุขภาพจะไม่แข็งแรงนะ”

พี่ต่ายเลื่อนตัวมานั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม  จับมือผมไว้
“พี่ต่ายผมนิสัยแย่มากใช่ไม๊....ผมเป็นคนเห็นแก่ตัวมากใช่ไม๊”  :m23:
 
“พี่บอกผมมาตรงๆผมรับได้”

“อืมม...พี่ไม่เคยคิดแบบนั้นนะ....พี่มีความสุขเวลาทำอะไรให้กับโอม”

“ไม่เคยคิดว่าโอมต้องมาทำอะไรให้พี่”

“แต่ผมนิสัยไม่ดี  ไม่เคยช่วยอะไรพี่เลย  แต่ก่อนพี่อั้มก็ทำทุกอย่างให้ผม”

“โอมคิดว่างั้นเหรอ...ก็ถ้าโอมคิดแบบนั้นโอมก็แก้ไขซิ”

“ถ้าผมทำอะไรไม่ดีพี่ต่ายต้องบอกผมนะ....ผมจะได้ปรับปรุงตัว”

“พี่รักโอม.....ไม่ว่าจะเป็นยังไงพี่ก็รักอยู่แล้วล่ะ”

“แค่โอมรู้จักคิดที่จะทำตัวให้น่ารัก....พี่ก็ดีใจแล้ว”

“โอมแค่ทำตัวสบายๆเวลาอยู่กับพี่ก็พอ”
ผมค่อยโล่งใจหน่อย  อย่างน้อยตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมควรต้องเริ่มปรับปรุงนิสัยอะไรบางอย่างของตัวเองบ้าง  ก็เพื่อตัวผมเองด้วย

“โอม...วันนี้เราไปหาอะไรกินข้างนอกดีกว่าเนอะพี่เหนื่อยแล้ว  ไม่มีแรงทำกับข้าว”

“ดีพี่...หิวล่ะ” พอพี่ต่ายชวนผมก็รีบตกลงทันทีครับ เพราะอย่างน้อยวันนี้ขอเป็นคุณชายอีกวันส่งท้าย  ขี้เกียจล้างจานอ่ะ หุหุ

วันนี้เราเลยออกไปกินข้าวนอกบ้านครับ  ก็เป็นวันเสาร์นี่นา  คราวนี้พี่ต่ายหาร้านแถวบ้านเผื่อเมาครับจะได้ไม่ลำบากตอนกลับ  เราไม่เน้นบรรยากาศเท่าไหร่  ขอสบายๆครับ เลยนั่งกินนั่งดื่มกันไปพอมึนๆ  แล้วก็กลับครับ  ผมดูนาฬิกาประมาณ 3 ทุ่มได้ 

ถึงบ้านผมขอพี่ต่ายอาบน้ำก่อนครับ  แล้วผมก็เหมือนเดิม  เข้าห้องนอนก่อนแล้วล็อคประตู  คราวนี้ไม่กล้าไปยุ่งกับพี่ต่ายแล้วครับกลัวไปขัดจังหวะอะไรเข้าอีก  เดี๋ยวผมจะเดือดร้อนอีก 

นอนหลับสบายๆอยู่  คราวนี้เหมือนมีใครมากอด  ในใจก็คิดว่าพี่ต่าย  แต่นึกแบบง่วงๆก็ว่าไม่น่าใช่  จะเข้ามาในห้องได้ไง คิดว่าคงเมาแล้วคิดไปเองแต่ก็ง่วงเกินกว่าจะลืมตามาดูเลยนอนต่อไป

แต่เริ่มเหมือนมีใครมาลูบหน้าอกผมอยู่  แบบเนื้อๆน่ะครับคือมือล้วงเข้ามาในเสื้อนะครับ  เอ๋...มันชักเหมือนจริง  ผมแกล้งทำเป็นหลับแต่ที่จริงแอบหรี่ตามอง  ก็พี่ต่ายนี่แหล่ะครับ ผมอยากรู้นักพี่ต่ายจะทำอะไรต่อไป แต่ผมจะทนไม่ไหวแล้วนาาา.....อรึ๋ยยยยย  :sad5:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++

 o20 รอบหน้า....แน่นอน
 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 21-12-2007 09:48:44
จองคิวรอรอบหน้า  :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 21-12-2007 10:07:46
จองตั๋วครับผม :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 21-12-2007 10:22:06
พี่ต่ายคงเตรียมการมาพร้อม โอมล็อคห้องหรอ ไม่เป็นไรๆ พี่ต่ายไปหากุญแจมาไขซะเลย อิอิ  :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 21-12-2007 12:24:57


>>> รอบหน้า แน่นอน        จริงเร้ออออออออออออ~!!!!!!1


จะรอดู๊~!!!!!


ว่าแต่ว่า พี่ต่ายของพี่โอมน่ารักมากกกกกก ขยันทำงาน ทำกับข้าวเป็น ทำสวนก็ยังได้

ละต่อไป จะ ทำ อะไรน๊ออออ ห้าๆๆๆ


.
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 21-12-2007 13:05:52
 :a4:อ๊ะๆๆชักจะอดใจไว้ไม่ไหวแล้วสิครับ โอมจ๋าไม่รอดแน่55555
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 21-12-2007 15:26:20
 :oni1: วิ่งมาจอ แถวหน้าเลยค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 21-12-2007 17:47:58
มารอน้อ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-12-2007 17:53:16
 :o8:  พี่ต่ายอ่ะ  ลักหลับเหรอ คิกๆๆ

จองรอบหน้าขอบเตียง 1 ที่ค้าบบบ  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 21-12-2007 18:16:47
:oni1:   เพ่ ต่าย จัดการโอม เลย หุหุ 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 22-12-2007 01:29:50
แอบ ๆ อยู่แถว ๆ มุมห้อง ใกล้ไปเค้าเขิน  :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 22-12-2007 01:34:33
เวนกำ อ่านแล้วลืม ment  :m23:
เสร็จแน่งานนี้นายโอมเอ๋ยยยยยย
พี่ต่ายสู้ ๆ  :ped149:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-12-2007 08:02:24
ปูเสื่อรอ ในที่สุดก็   :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 22-12-2007 09:28:37
อ่านเม้นท์ของแต่ละคนแล้วกลัวจัง  o2
บอกไว้ก่อนแล้วนะว่าเขียนบทแบบนี้ไม่ค่อยเป็น :m21:
สงสัยต้องให้ใช้จิ้นกันไปเองตามอัตภาพแล้วกันนะตัวเอง :m23:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 42
   พี่ต่ายก็ยังคงใช้มือสำรวจไปทั่วร่างกายผม  แล้วก็ค่อยๆเอาจมูกมาซุกไซร้ที่คอผม  หลังหู แล้วมาที่แก้ม  แล้วก็มาหยุดที่ปากครับ พี่ต่ายดูดปากผมแบบรุกเร้า ผมแทบหายใจไม่ทัน รู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าวิ่งพล่านไปทั่วร่างกาย  ตอนนี้จะทำเป็นไม่ตื่นมันก็คงไม่เนียนแล้วครับ  โดนเข้าไปขนาดนี้แล้วจิตใจมันก็กระเจิดกระเจิงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว  :m25:

 ผมเลยหันหน้ามารับรอยจูบจากพี่ต่ายแบบเต็มๆ   ผมได้กลิ่นสบู่จากตัวพี่ต่าย   มันทำให้ผมรู้สึกปั่นป่วนรัญจวนใจมากๆครับ  ผมเองก็ยังคงมึนๆเมาๆอยู่ด้วย แต่ก็ไม่รู้ตัวว่าเอามือไปคล้องอยู่รอบคอพี่ต่ายตอนไหน

ร่างกายผมมันโอนอ่อนไปตามพี่ต่ายไปหมด  พี่ต่ายจูบเก่งขึ้นมากครับถ้านับตั้งแต่วันแรกที่เราจูบกัน  ไม่รู้ไปฝึกซ้อมกับใครมานะซิ ผมรู้สึกตาลาย หูอื้อไปหมด  :m29:

ตอนนี้ตัวพี่ต่ายมาอยู่บนตัวผมแล้วครับ  พี่ต่ายไล่จูบผมตั้งแต่ที่คอ  ที่หน้า ใบหู เลื่อนลงมาที่หน้าอก  อ้าวตายห่า.......เสื้อผมหลุดไปตั้งแต่เมื่อไหรว่ะ  มิน่าขนลุกซู่ๆ  แต่ตอนนี้ขนลุกซู่กว่าเดิมอีกครับ  ก็พี่ต่ายเล่นมาดูดๆเม้มๆที่ยอดอกผม  ขนทั้งตัวมันพร้อมใจกันลุกหมดเลยครับ ผมรู้สึกเหมือนใจจะขาด  พี่ต่ายเองก็ไม่ได้ใส่เสื้อครับผมพึ่งสังเกต  เรามองตากันแววตาของพี่ต่ายทำให้ผมเขิน  แล้วพี่ต่ายก็เอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงสั่นพร่า

“โอม.....ขอพี่นะ...โอม..หือ” o18

 พี่ต่ายถามผมหรือพี่สั่งผม  ผมก็ไม่รู้  รู้แต่ว่าตอบไม่ไหว  ขออะไรน่ะ...จะมาเอาอะไรตอนนี้ ขออะไรกัน  อยากได้อะไรก็ไปซื้อเอาซิพี่มาขอผมทำไม

“อื๋ออ...พี่ต่ายย”พี่ต่ายเอาน้องชายพี่ต่ายมามาดันขาผมทำไม  ถึงแม้มันจะมีกางเกงบางๆกั้นอยู่แต่ผมยังรู้สึกได้ว่ามันร้อนมากๆเลยครับ  พี่ต่ายเลื่อนมือมาบีบก้นผมเบาๆ  แล้วก็เอานิ้วมือค่อยๆเกี่ยวกางเกงขาสั้นผมลงมา

“เฮ้ย....พี่ต่าย”

ผมกำลังจะโวยครับแต่พี่ต่ายก็มาจูบปากผมไว้  ผมเลยได้แต่อู้ๆอี้ๆไป  แต่จะดึงกางเกงผมลงก็ไม่ง่ายครับเพราะน้องชายผมมันดันค้ำขอบกางเกงเอาไว้  แล้วผมก็ดิ้นส่ายสะโพกไปมา  ตอนนี้เลยกลายเป็นว่าน้องผมกับน้องพี่ต่ายเผชิญหน้ากันอยู่ครับ  ยิ่งเสียดสีก็เลยทำให้เสียวไปกันใหญ่  กางเกงด้านหลังมันหลุดจากก้นผมไปแล้วครับ  แต่ด้านหน้าน่ะยังคาๆอยู่  ผมเผลอครางออกมา

“อืออ.....โอว..พี่ต่าย......”โอย....หายใจไม่ทัน.....

พี่ต่ายถอดของผมไม่ได้เลยถอดของตัวเองก่อนครับ  ตอนนี้พี่ต่ายไม่มีเสื้อผ้าอยู่แล้ว  เห็นหมดเลยครับแต่ผมไม่กล้ามองตรงๆ   พี่ต่ายเอามือมาลูบหน้าผม  ส่งสายตาเว้าวอนให้ผม  จูบแตะปากผมเบาๆ แล้วพูดอีกครั้ง

“ขอพี่นะโอม”  ขณะที่ผมยังงงกับคำพูดพี่ต่าย  คงจะใช้เวลางงนานไปหน่อยมือพี่ต่ายก็ถอดกางเกงผมออกไปแล้วครับ  หมดกันเสื้อผ้าผม  มันหนาวนะเนี่ย

“ผมหนาว...พี่”  :freeze: ผมบอกพี่ต่ายเสียงสั่นๆ   เอามือมากอดอก  เริ่มอายที่มาแก้ผ้าต่อหน้าพี่ต่าย พี่ต่ายยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วพูดด้วยเสียงเซ็กซี่ว่า :interest:

“เหรอ...งั้นพี่ทำให้ร้อนเองนะ.....”อ้าวตายอ่า....เข้าทางพี่เค้าไปซะละ

พี่ต่ายเอามือมาปลุกใจน้องผมเบาๆ  ผมบอกแล้วว่าผมก็สู้คน  แต่น้องผมมันสู้กว่าครับพี่ต่ายปลุกมันพักเดียว  มันสู้มือพี่ต่ายจนผมต้องร้องครางออกมา

 แล้วพี่ต่ายก็เลยเอามือผมมาจับที่น้องพี่ต่ายบ้าง  ทีแรกผมไม่ยอมแต่พี่ต่ายก็เอามือพี่ต่ายกดเอาไว้ แล้วบอกว่า

“ทำให้พี่ด้วยนะโอม....”
 ฮือออ.....พี่ให้ผมไปด่ากับลูกค้าง่ายกว่า  ทำยังไงว่ะเคยทำให้แต่กับตัวเอง   แต่ผมก็ทำไปแบบฝืนๆนะครับเหมือนที่พี่ต่ายทำให้ผม   :myeye: ถึงแม้จะทำไม่ค่อยเป็น  ตอนนี้น้องของทั้งสองฝ่ายยืนตะเบ๊ะพร้อมแล้วครับ  แล้วก็คงรออะไรอีกไม่ได้แล้ว

ผมไม่มีเวลาวิเคราะห์  หรือประเมินเหตุผลอะไรหรอกอีก  ได้แต่ปล่อยให้อารมณ์พาไป  ผมรู้แต่ว่าผมรักคนๆนี้  แล้วก็คงไม่สามารถต้านทานอะไรได้แล้ว

  พี่ต่ายเอื้อมมือไปหยิบอุปกรณ์ครับ เครื่องมือกันผมท้อง  กับสารหล่อลื่นพิเศษ  เตรียมพร้อมมาดีขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย  คราวนี้ก็ลงมือใช้อุปกรณ์ได้เลย
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2AGD0FBPB0&Autoplay=0
+
+
+
+
+

ครับแล้วมันก็เป็นไปอย่างที่พี่ต่ายศึกษามา พี่ต่ายคงมีทฤษฎีแน่นครับ  ไม่รู้ว่าศึกษามากี่คืนแล้ว  คราวนี้เลยใช้ผมฝึกภาคปฏิบัติ  ลองถูกลองผิดกันหลายหนครับ ใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง  ก็ต้องลองกันใหม่ เล่นกันเหงื่อตกไปทั้งคู่  หายหนาวไปเลย  ผมซิแย่อุปกรณ์จะพังเอา  เล่นให้มือใหม่หัดขับแบบนี้ จนคืนผ่านพ้นไปพี่ต่ายถึงเริ่มเชี่ยวครับ

ผมเจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย  โดยเฉพาะตรงนั้น  ตอนที่ฝึกภาคปฏิบัติกับพี่ต่ายมันก็ชาๆ เสียวๆแหล่ะครับ คิดอะไรไม่ค่อยออก แต่พอเช้าขึ้นมามันระบมนะซิ ผมเลยลุกไม่ไหว   :sad4:ตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบสิบโมงเช้า  เพราะพี่ต่ายมาปลุก เอามือมาจับหน้าผากผม ยิ้มตาหวานให้ผม หอมแก้มผมเบาๆ

“ตื่นแล้วเหรอค๊าบ.....”

“โอมมีไข้นิดหน่อยนะ  กินข้าวก่อนนะแล้วค่อยกินยา”

“ใครทำให้ผมป่วยล่ะ....ก็พี่นะแหล่ะ”
 :a14: ผมเผลอขึงตาใส่พี่ต่าย ส่งเสียงงอนๆไปให้ แต่พี่ต่ายกลับยิ้มๆ ไม่โกรธผม

พี่ต่ายเอาข้าวต้มมาให้ผมกินครับ  แต่มันจะอิ่มเหรอ  เมื่อวานผมเสียน้ำ  เสียพลังงานไปเยอะ  ไหนจะทำสวน  ไหนจะทำ....  :oo1:ผมเลยขอสามครับ  ขอข้าวต้มนะครับ  :อิอิ1:

กินอิ่มแล้วก็ทานยา พี่ต่ายบอกให้ผมนอนไปก่อน  แล้วพี่ต่ายก็ลุกออกไป   พักนึงผมรู้สึกเย็นๆที่หน้า พี่ต่ายกำลังค่อยๆเช็ดหน้าให้ผมครับ  แล้วพี่ต่ายก็เปิดผ้าห่มออก  ตายห่า....ผมไม่ได้นุ่งอะไรเลย  มิน่ามันเย็นยะเยือกยังไงไม่รู้ ผมรีบดึงผ้ามาปิดส่วนล่างครับ  :-[

“พี่...ผมหนาว...เปิดทำไม...พี่เอาเสื้อผ้ามาให้ผมหน่อยซิ”
 โอดครวญเล็กน้อยครับ  ขอใช้พี่ต่ายหน่อยเหอะ  คนที่ทำให้ผมต้องอยู่ในสภาพนี้

“เดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้โอมก่อน  จะได้นอนสบายๆ”

“ไม่ต้องพี่...เดี๋ยวผมค่อยไปอาบน้ำ”

 มันสว่างแล้วอ่ะ  ขืนปล่อยให้เช็ดตัวให้ก็เห็นหมดดิ  ขาดทุนน่ะ  ทีพี่ต่ายยังแต่งตัวครบเลย  ส่วนเมื่อคืนไม่นับเพราะไม่เน้นดู...แต่เน้นทำมากกว่า หุหุ

“อายอะไร...ตอนโอมยังไม่ตื่นพี่ดูตั้งนาน...แล้วก็saveไว้ในฮาร์ดดิสค์พี่หมดแล้ว”  o3

ดูพี่ต่ายพูดครับ  ผมอายจนไม่รู้จะซุกหน้าไปตรงไหน  ก็เท่ากับว่าเรานอนเปลือยให้เค้าดูแบบจะๆเลยละซิ ผมเลยได้แต่เอามือปิดหน้า  ตอนที่พี่ต่ายเช็ดตัวผม  ยังได้ยินเสียงพี่ต่ายหัวเราะท่าทางของผมเบาๆ  ตรงหน้าอกพี่ต่ายไม่ได้เช็ด  เช็ดแค่ซอกคอ ซอกแขน ข้อพับ  เพราะเดี๋ยวจะไม่สบายหนักกว่าเดิม แต่เช็ดตั้งแต่ท้องลงมา  น้ำมันเย็นนะครับผมก็เลย....ไม่รู้ตัวว่า

“โอมครับ....น้องชายโอมมันชี้หน้าพี่น่ะ...ไม่รู้ว่ามันจะให้พี่ช่วยอะไรรึเปล่า หึหึหึ”

ไอ้น้องเวรนี่ก็ไม่รักษาหน้าผมเลย  ผมเลยไม่ตอบ  พี่ต่ายก็ไม่ว่าอะไรเช็ดทำความสะอาดมันอย่างดี ผมขนลุกอีกแล้วครับนะ....ก็มันน่าไม๊ล่ะ  แล้วพี่ต่ายก็อ้อยอิ่งเหลือเกินจนผมต้องบอกว่า

“พี่ต่ายพอแล้ว”แต่เสียงผมมันสั่นมากๆเลยครับ....อายจัง :o8:

“เดี๋ยวพี่ไปเปลี่ยนน้ำก่อนนะ”เสียงพี่ต่ายเดินออกไป ผมเลยเอาผ้ามาห่มตัวแล้วนอนหันหลังให้   ซักพักพี่ต่ายมานั่งที่เตียง

“พลิกตัวหน่อยโอม...นอนคว่ำนะ...พี่จะเช็ดด้านหลัง”

ผมก็พลิกตัวครับ....ก็อายนะไม่ใช่ไม่อาย...แต่มันก็ไปถึงไหนๆแล้วนี่  ปล่อยไปตามเวรตามกรรมแล้วกัน  อย่าให้ถึงทีผมบ้างแล้วกัน

พี่ต่ายเช็ดตั้งแต่หลังคอผมแล้วไล้ผ้าชุบน้ำเย็นๆไปตามแนวกระดูกผม  ขนลุกไปหมดเลยครับ พอมาถึงบั้นท้ายผม พี่ต่ายลูบก้นผมเบาๆ  แล้วบอกว่า

“โอมรู้ไม๊...โอมมีบั้นท้ายที่เซ็กซี่มากๆเลย...เจ็บมากไม๊”

 ผมเกร็งก้นโดยอัตโนมัติเลยครับ  :m29:  สถานการณ์หวาดเสียวดูล่อแหลมต่อการเสียตัวอีกรอบ  แต่พี่ต่ายก็หัวเราะอีกครั้งแล้วบอกให้ผมสบายใจว่า

“พี่ไม่ทำอะไรโอมหรอกน่า”  o16

พอพี่ต่ายเอาผ้าเช็ดไปแค่ใกล้ๆเท่านั้นล่ะครับ  เจ็บแปล๊บขึ้นมาจนต้องร้องโอ๊ยออกมา
“พี่ขอโทษนะโอม...คงเจ็บน่าดู”

มาลองบ้างไม๊ล่ะพี่  แล้วพี่จะรู้  แต่ผมไม่ได้พูดอะไรครับ  อายไปหมดตอนนี้  พอนึกถึงคืนอันเร่าร้อนของเราเมื่อคืน

แล้วพี่ต่ายก็ทาแป้งให้ผม  ทำเหมือนผมเป็นเด็กอนุบาลเลย แล้วก็เอาเสื้อ  กับกางเกงขายาวมาใส่ให้ผม  ผมโวยเล็กน้อยว่ามันร้อนแต่พี่ต่ายบอกว่า 

“พี่ไม่อยากให้โอมแต่งตัวล่อตะเข้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว..ชอบแต่งตัวโป๊ๆ  อยู่บ้าน”

“ตะเข้ที่ไหนกัน...มีแต่พี่แหล่ะตะเข้ตัวจริง”ผมแอบบ่นเบาๆครับ

“แซวเหรอ..เดี๋ยวนะเดี๋ยวโดน”
พี่ต่ายขู่ผมแล้วครับ  ผมเลยรีบเอาผ้าคลุมโปงเลย พี่ต่ายหัวเราะกับท่าทางผม  แล้วก็พูดขำๆว่า

“พี่ยังไม่ทำอะไรหรอก  เดี๋ยวโอมช้ำพอดี...พี่พูดเล่น....โอมนอนพักเหอะ  เดี๋ยวเที่ยงค่อยลงไปทานข้าวนะ”

“คร๊าบ” แล้วผมก็หลับไปอย่างรวดเร็วครับ  ก็มันเพลียจริงๆนี่นา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมไม่รู้ว่าผมนอนไปนานแค่ไหน  แต่ก็รู้สึกสดชื่นดีครับตอนที่ตื่นขึ้นมา ถึงแม้จะยังเจ็บๆส่วนนั้นอยู่บ้าง เหลือบดูนาฬิกาเที่ยงกว่าแล้วนี่  ชักจะหิว  กำลังจะลุกขึ้นพอดี  แต่ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันไดมา   ผมนึกว่าเป็นพี่ต่ายกะว่าจะแกล้งทำเป็นไม่ตื่น  อยากรู้ว่าพี่ต่ายจะปลุกผมแบบไหน

แล้วพี่ต่ายก็เปิดประตูเข้ามาครับ  แล้วก็เอามือลูบหัวผม  ลูบหน้า ลูบปาก เปลือกตา จมูก จะเล่นอะไรเนี่ยพี่ต่าย แล้วพี่ต่ายก็เอาปากมาสัมผัสปากผมครับ จูบเบาๆ  แล้วก็เลื่อนมาที่แก้ม มันทั้งนุ่มนวล แล้วก็เงียบมากๆครับ  พี่ต่ายไม่พูดซักคำ ผมกำลังจะทำเป็นตื่นแล้วครับ  เริ่มหิว กลัวว่าจะเลยเถิดไปกว่านี้ด้วย

แล้วผมก็ได้ยินเสียงคนเดินขึ้นบันไดมาอีกคน  อ้าวมีใครมาล่ะ  พอได้ยินเสียงเปิดประตูก็ได้ยินเสียงพี่ต่ายพูดขึ้นมาครับ

“อ้าวโอมยังไม่ตื่นเหรอบุ้ง  แล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ” 

 อ้าวแล้วไอ้คนเมื่อกี้ที่มาจูบมาลูบหน้าผมมันใครกันล่ะ  ไม่ใช่พี่ต่ายเหรอ เป็นบุ้งเหรอ  :m28:

“กำลังจะปลุกครับเห็นนอนหลับสบายอยู่เลย”
 ชัดเลยครับเสียงบุ้ง อายมากๆเลยครับ  ปล่อยให้บุ้งมันทำอะไรไปซะเยอะเลย  จะทำหน้ายังไงดี ผมเลยแกล้งนอนต่อ  แต่พี่ต่ายมาเขย่าตัวผมครับ

“โอม..ตื่นเถอะเที่ยงแล้ว.....กินข้าวแล้วจะได้มากินยา”

“อืม..เที่ยงแล้วเหรอพี่...อ้าวบุ้งมรึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
ผมแกล้งทำเป็นงัวเงียเพิ่งตื่น กลัวบุ้งมันรู้ด้วยว่า  ผมรู้ว่ามันทำอะไรกับผม

ผมเดินตามพี่ต่ายกับบุ้งลงไปทานข้าวครับ  พี่ต่ายเตรียมทำข้าวผัดไว้แล้ว  พี่ต่ายคงชวนบุ้งกินด้วย  เห็นบุ้งนั่งที่โต๊ะด้วย ผมละงงทำไมเกิดมาญาติดีกันได้

“เห็นพี่ต่ายว่าเมื่อวานทำสวนตากแดดหน่อยเดียว”

“แล้วเลยป่วยเหรอ....ผิวบางจังนะมรึง”

ผมเกือบสวนกลับแล้วครับว่าไม่ใช่  แต่หุบปากทัน  ขืนบอกเหตุผลแท้จริงไปก็ซวยซิ  เลยได้แต่ก้มหน้าก้มตากินต่อไป  กลายเป็นคนพูดน้อยไปเลย

“ยังมีไข้เหรอไม่ค่อยพูดเลย”บุ้งมันพูดเสียงเป็นห่วงผมมากเลยครับ  แล้วมันก็เอามือมาจับหน้าผากผม  แล้วบอกว่า

“ไข้ก็ไม่ค่อยมีแล้วนะ  แต่พักต่ออีกน่อยเถอะ”

“เดี๋ยวกินข้าวเสร็จแล้วขึ้นไปนอนนะ  กรูอยู่เป็นเพื่อนมรึงเอง”

 บุ้งมันก็ดีครับแต่ผมเกรงใจมัน  อีกอย่างถ้าอยู่กับพี่ต่าย กลัวจะทะเลาะกันอีกนะซิ
“ไม่เป็นไรกรูค่อยดีขึ้นล่ะ...เมึงไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนกรูหรอก”

“กรูอยากอยู่”บุ้งมันก็พูดแค่นี้ครับ  แล้วก็ตีหน้าเศร้า  ผมเลยพูดไม่ออก

พี่ต่ายเองก็นั่งเงียบอยู่นาน ฟังผมพูดกับบุ้ง  แล้วในที่สุดก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
“ก็ให้บุ้งอยู่ก่อนพักนึงก็ได้นี่โอม”

บุ้งก็งง ผมเองก็งง  วันนี้พี่ต่ายอารมณ์ดีจัง
“ตามใจ...แต่ถ้ากรูหลับมรึงก็กลับไปนะ” ผมก็บอกมันไปแค่นี้แหล่ะครับ ไม่อยากให้มันมาแกร่วอยู่กับผมทั้งวัน

“ก็ได้” มันยิ้มดีใจมากเลยครับ

พอทานข้าวเสร็จผมก็ขึ้นไปนอน  บุ้งมันตามขึ้นไปด้วยส่วนพี่ต่ายบอกว่าจะทำสวนต่อให้เสร็จ  ทำไมตอนนี้ไม่หวงเลยล่ะ  หรือว่าเห็นเราเป็นของตายไปซะละ  อย่างนี้แหล่ะผู้ชาย  พอได้เราไปแล้วคุณค่าก็น้อยลง ฮือๆไม่น่าเลย   เมื่อคืนมันเคลิ้มอ่ะ

“โอมง่วงไม๊” บุ้งมันให้ผมนอนแล้วมันก็ถามผม   สรุปแล้วมรึงอยากให้กูนอนไม๊ล่ะเนี่ย

“อือ...ยังไม่ง่วงมรึงว่าไงล่ะ   วันก่อนทำเอากรูงงไม่เตี๊ยมกันล่วงหน้าว่ะ”
 ก็เรื่องไอ้เอเพื่อนมันนะครับ  ที่มาถามว่าผมเป็นแฟนบุ้งรึเปล่า

“กรูก็ว่าจะมาคุยเรื่องนี้แหล่ะ...แต่มรึงดันมาป่วย”

ยังดีที่มรึงไม่มาเช้าๆไม่งั้นกรูอายตายห่าเลย  แต่ตอนนี้เริ่มง่วงอีกแล้วซิ

“อือ....มรึงเล่ามา....กรูขอนอนฟังนะ” นอนสบายครับเพราะยังรู้สึกเหมือนมีไข้นิดหน่อย   อยากพักมากๆพรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องลางาน

“ไอ้เอน่ะมันเป็นเกย์.......มันชอบมาตื๊อกรู...ตั้งแต่กรูเข้าทำงานใหม่ๆล่ะ”

“ตอนแรกกรูก็ไม่รู้ว่ามันเป็น....ก็สนิทกับมันเพราะเข้าทำงานพร้อมกัน”
ผมเริ่มเงียบๆครับ  บุ้งมันคงรู้ว่าผมจะใกล้ไปเฝ้าพระอินทร์ล่ะ มันเลยเขย่าตัวแล้วถามผม

“ฟังอยู่ป่าวโอม...หรือจะนอน” ผมตาปรือๆอยู่ต้องเบิ่งตาเลยครับ

“ฟังดิ...มรึงเล่ามา”ผมก็อยากรู้เรื่องมันน่ะครับ ง่วงยังไงก็ต้องฟัง

“แต่ตั้งกะวันนั้นที่กรูพามรึงไปเที่ยวด้วยมรึงจำได้ไม๊”

“อือ..กรูจำได้ดิ...วันนั้นกรูเมาเหมือนหมา...อ๊วกแทบแย่เลย”

“ไอ้เอมันมาวุ่นวายกะกรูน่าดู”
ผมก็ยังสังเกตได้เลยครับ  วันนั้นไอ้เอมันหวงบุ้งมาก  แล้วบุ้งมันจะไม่รู้ตัวได้ยังไง 

“คืนนั้นน่ะ....มันสารภาพรักกับกรู”

“อือ...แล้วเมิงว่าไง”ผมง่วง..งงงจริงๆครับ ผมหาวอีกที

“กรูบอกว่า....กรูมีคนที่ชอบแล้ว”เสียงบุ้งมันเบาลงไปเรื่อยๆครับ

“กรูบอกไปว่ากรู.....กรูรักเมิง....กรูรักเมิงจริงๆนะโอม”

ผมได้ยินที่บุ้งมันพูดทุกคำครับ  แต่ตามันหนักเกินกว่าจะลืมขึ้นมา  ผมหลับไปเลยทั้งที่บุ้งมันกำลังสารภาพรักผมอีกเป็นครั้งที่สอง  ผมไม่รู้หรอกว่าตอนที่บุ้งพูดแววตามันเศร้าขนาดไหน  รู้แต่ว่าคิดถึงเพลงนี้น่ะครับ You don’t  know me

http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2E4GDCPAD&Autoplay=0
++++++++++++++++++++++++++++++++

ตื่นขึ้นมาอีกที  ผมนอนอยู่ในห้องคนเดียว  บุ้งคงกลับไปนานแล้ว  ผมเลยนอนคิดเรื่องที่บุ้งพูดกับผม  ทำไมมันมารักผมได้  เมื่อก่อนตอนเรายังเด็กๆมันเป็นคนขี้อาย  แล้วติดผมแจก็จริง  แต่ก็ไม่มีท่าทีอะไรทำนองนั้น  หรือว่าเรายังเด็กเกินไปกว่าที่จะคิดถึงเรื่องความรัก

แล้วผมจะทำยังไง  ในเมื่อตอนนี้ใจผมมันมีพี่ต่ายแล้ว  แต่ถึงไม่มีพี่ต่าย  ผมก็ไม่เคยคิดถึงมันไนแง่นี้มาก่อน  แล้วมันรู้ได้ไงว่าผมชอบผู้ชาย  ผมไม่มีคำตอบสำหรับเรื่องนี้  ก็คงคบมันในสถานภาพเพื่อนต่อไป นึกแล้วก็อดสงสารเพื่อนไม่ได้

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนกับพี่ต่าย  คิดขึ้นมาแล้วก็รู้สึกว่าเลือดสูบฉีดหน้า  :-[ ผมยังงงตัวเองว่าทำไมถึงยอมพี่ต่ายไปได้  ผมไม่อยากจะโทษฤทธิของแอลกอฮอล์   ผมว่าตอนที่พี่ต่ายขอผมยังมีสติครบดีอยู่  แต่ที่ผมยอมก็เพราะผมรู้อยู่แล้วว่ายังไงวันนี้ก็ต้องมาถึง  ผมอดกังวลไม่ได้ว่าต่อไปเรื่องของเราจะเป็นยังไง

“โอม...ตื่นแล้วเหรอเป็นไงบ้าง” เสียงพี่ต่ายมาเรียกผมให้ตื่นจากความคิดวุ่นวายในสมอง

“ดีขึ้นแล้วพี่...เริ่มหิวอีกล่ะ” วันนี้ชีวิตผมมีแต่เรื่องกินกับนอนจริงๆครับ

“ไป....งั้นลงไปนั่งรอพี่แป๊ปนึง”แล้วพี่ต่ายก็มาพยุงผมลุกขึ้น  พี่ต่ายโอบเอวผมเบาๆ

“พี่ต่ายผมไม่ได้ป่วยหนักนะ...ยังเดินไหวอยู่” ผมอดขำกับท่าทีของพี่ต่ายไม่ได้

“พี่รู้สึกผิดมากเลยที่โอมมาป่วยแบบนี้” ทำเสียงสำนึกเชียวครับ

“พี่ไม่น่าเลย....ไม่น่า....”

“ไม่น่าอะไรพี่” ผมยกมือไปทุบที่แขนพี่ต่ายเบาๆ   หรือว่าพี่เสียใจเรื่องของเราเมื่อคืน  พี่น่ะทำผมซะจนเป็นแบบนี้  :o

“เอ๊ย..โอมทุบพี่ทำไม....พี่แค่ว่าพี่ไม่น่าให้โอมช่วยทำสวนเลย”

“โอ๊ย....ผมอยากจะบร้าตาย.....” :serius2: ผมเอามือเกาหัวตัวเองด้วยความแค้น  นี่พี่ต่ายนึกว่าผมป่วยเพราะยกกระถางเดินตากแดดไปมาน่ะเหรอ  ผมเลยได้แต่แค้นไอ้พี่ต่ายในใจครับ  ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย แล้วเดินลงบันไดไปเลย เดินไปก็เจ็บก้นไปโมโหโว้ย  o9

“โอมเป็นอะไร...ไข้กลับเหรอ”  o18

เสียงพี่ต่ายยังหัวเราะไล่หลังผมมาครับ  o17 ผมเลยชักสงสัย ผมโดนหลอกอีกล่ะ ผมตกหลุมที่พี่ต่ายขุดไว้แกล้งผมอีกแล้วเหรอเนี่ย

  ไอ้โอมนะไอ้โอม.....ทำมายกรูโง่อย่างนี้ว่ะ :m23:
++++++++++++++++++++++++++++++++++
น้องโอมก็เรียบร้อยไปแล้ว :mc1: ขอไปเลือกตั้งก่อน แล้วเจอกันค๊าบ

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 22-12-2007 10:06:05
โอ้ววน้องโอมมมมมมน่ารักจังเลยครับบบบบ

ขอบคุณคนแต่งคร้าบบบบบบ

 :pig4: :pig4: :pig4:


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 22-12-2007 11:13:56
เอิ๊กๆๆ มีเพลงประกอบฉากด้วย  :o8: kiss me kiss me
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 22-12-2007 11:29:47
พี่ต่ายน่ารักนะ คงสงสารบุ้งถึงยอมให้อยู่ดูแลโอม

แต่โอมบอกบุ้งไปเถอะ สงสารเค้าน่ะ

อือ แง้ บุ้งน่าสงสารจัง  รักไม่สมหวัง :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-12-2007 11:53:58
แหม แอบเล่าแบบไม่ลงดีเทลละเอียดด้วยน่ะ

แต่บุ้งนี้แอบร้ายน่ะ โอมไม่โกรธบ้างเหรอ แอบจูบน่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 22-12-2007 12:40:19
พี่กระต่ายคงอยากให้บุ้งคุยกะโอม...จะได้มาเค้นความภายหลังอ่ะดิ๊... :m20:
สุดยอดนักตรวจสอบบบบบบจิงจิ๊งงงงง  :m4:
และแล้วก็เป็นของกันและกัน...สมใจท่านผู้ชม ไงก็รักกันยืนยาวววววว
เรื่องบุ้งยังค้าง ๆ คา ๆ ต่อไปปปปปปป น่าสงสารรรรร  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 22-12-2007 17:48:43


>>> เค้ารักกัน น่าร๊ากกกกกกก~!!!!!!


 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 22-12-2007 20:08:19
หุหุ ในที่สุดก็สำเร็จจนได้นะพี่ต่าย

หลังจากลุ้นมาหลายตอนแล้ว

 :m4: :m4: :m4: :m4:


อย่างงี้ต้องฉลอง

 :mc4:

 :mc3:

 :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: graydragon ที่ 22-12-2007 20:13:31
ตกลงบุ้งนี่ให้ช่วยเล่นละครหรือชอบจริงกันแน่นะ  o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 22-12-2007 21:46:19
 :a4:และแล้วก็เสร็จพี่ต่ายจนได้โอมเอ๋ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-12-2007 22:27:53
หุหุ ในที่สุดก็  :m4: :m4: :m4: ขอเก็บหลักฐานนิดนึง   :m24: :m24:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 23-12-2007 03:09:03
 :mc4: :mc4: ฉลองงงงงงงงงง น้องโอมเสียความบริสุทธิ์  :m14: :m14:

ว่าแต่ รอบสองจะต่อเมื่อไหร่ง่ะ  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 23-12-2007 03:31:31
โอมโดนไปแล้วค่ะ เอาอีกนะคะพี่ต่ายยยย ย้ำหลายๆรอบหน่อย อิอิ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น ที่ 24-12-2007 00:00:43
ในที่สุดก็ลงเอยเสียที คนหนึ่งก็เล่นตัว คนหนึ่งก็มัวแต่ซื่อ
 :mc2: :mc2: :mc2:

ทุกครั้งที่บุ้งออกมา รู้สึกเรื่องมีพล็อตจะวิ่งตลอดเวลา
ชักชอบบุ้งมากๆแล้วสิ
รักจริง ทำจริงนะคนนี้
 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 24-12-2007 09:12:25
แบงค์หยุดแต่เราไม่หยุด   :a5: ต่อกันเลยนะ
+++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 43

   ผมมานั่งรอพี่ต่ายทำกับข้าวให้กินอีกแล้วครับ  ผมก็ยังคงเป็นคุณชายเหมือนเดิมก็คนป่วยนี่นา  อยากช่วยนะแต่ไม่ไหว เลยนั่งดูทีวีรอไป  ซักพักพี่ต่ายเรียกไปทานข้าว

“โอมมาเลย...กินได้แล้ว”

“พรุ่งนี้ผมคงหายนะพี่  วันนี้นอนเยอะไปหรือเปล่าไม่รู้  กลัวกลางคืนนอนไม่หลับจัง”

“เดี๋ยวกินยาอีกซักมื้อคงดีขึ้นแล้วล่ะ....แต่โอมอย่าพึ่งอาบน้ำนะเช็ดตัวก่อนเดี๋ยวไข้กลับ”

   เราก็ทานข้าวกันไปเรื่อยๆ  ไม่มีใครพูดถึงเรื่องเมื่อคืน ที่ผมไม่พูดเพราะผมอาย แต่ที่พี่ต่ายไม่พูดผมก็ไม่รู้เหมือนกัน  หรือว่าเสียใจก็ไม่รู้ ผมเผลอถอนหายใจออกมา เฮ้อ.... เอาอีกแล้วผมเริ่มคิดวนเวียนสติแตกคนเดียวอีกแล้ว

 กินข้าวไปผมก็ชักคุยน้อยลง  พี่ต่ายเองก็คงผิดปรกติว่าทำไมผมไม่ค่อยพูด

“โอมเป็นอะไร...ปวดหัวเหรอ”พี่ต่ายลุกขึ้นมาจับหน้าผากผม

“ผมดีขึ้นแล้วพี่”

“แล้วโอมเป็นอะไร..บอกพี่ซิ”พี่ต่ายย้ายที่มานั่งข้างๆผม จับมือผมไว้

“พี่ว่าเราเป็นเกย์ไม๊”ที่จริงเรื่องนี้ผมก็ไม่เชิงกังวลซะทีเดียว  :m21: แต่ทำไมถามไปแบบนั้นก็ไม่รู้

“โอมเสียใจเรื่องเมื่อคืนเหรอ.....” พี่ต่ายถามผม

“.........ผมไม่เสียใจ”  แต่ผมอยากถามพี่มากกว่า...ว่าพี่ต่ายเสียใจไม๊

“หรือโอมกังวลใจอะไร”ผมไม่พูดตอบพี่ต่าย  แต่พยักหน้า

“พี่ว่าเป็นหรือไม่เป็นไม่เห็นสำคัญเลย  เราแค่รู้ว่าเรารักใครก็พอ”พี่ต่ายพูดแล้วก็ยิ้มให้กับผม

“เอางี้..พี่ถามโอมนะ เวลาเรากรอกประวัติสมัครงาน เค้าถามอะไรบ้าง.....ไหนโอมลองบอกพี่ซิ”

พี่ต่ายถามผม แต่ผมก็ยังงงว่าคุยเรื่องเดียวกันรึเปล่า  :m28:  แต่ผมก็ตอบไป
“ก็ถามชื่อ อายุ ที่อยู่ เพศ การศึกษา สถานภาพสมรส ที่ทำงานเก่า  ประมาณนี้พี่ แล้วมันเกี่ยวอะไรกันล่ะ”

“เค้ามีถามไม๊ล่ะว่ารักเพศเดียวกัน  หรือเพศตรงข้าม”คำถามพี่ต่ายทำให้ผมหัวเราะออกมา  o17

“ใครเค้าจะไปถามละพี่....”

“ก็นั่นซิ....ถ้าเรื่องนี้มันสำคัญเค้าคงถามไปแล้ว”พี่ต่ายยังคงอธิบายให้ผมฟังเรื่อยๆ

“เค้าก็สนใจถึงข้อมูลที่เค้าคิดว่าจำเป็นต่อการทำงานเท่านั้นแหล่ะ”

“เพราะฉะนั้นโอมอย่าไปกังวลเลยนะ...เชื่อพี่”

             พี่ต่ายก็ยังคงมีเหตุผลที่ดีๆให้ผมเสมอครับ  คิดแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน   ผมพยายามจะทำใจให้สบาย ดูๆแล้วตอนนี้ผมก็มีความสุขดี  ดีเกินไปซะด้วยซ้ำ  มันราบรื่นจนน่ากลัว

   ทานข้าวเสร็จผมเลยช่วยพี่ต่ายนิดหน่อยเก็บจานชาม  แต่หน้าที่ล้างจานผมยังเห็นว่าพี่ต่ายเหมาะกว่า แฮะๆ  พี่ต่ายก็ดีครับล้างจานไปชวนผมคุยไป

“บุ้งเค้าว่าไงบ้าง”แล้วอยู่ดีๆพี่ต่ายก็ถามผมขึ้นมา

“เรื่องอะไรล่ะพี่”จะให้ตอบว่าอะไร   บุ้งมันก็พูดไม่มาก  แต่พูดเรื่องไหนก็ดูจะเข้าตัวผมไปหมด  เลยไม่ค่อยอยากบอกพี่ต่ายเท่าไหร่  :m29:

“ก็เรื่องคืนก่อนที่เพื่อนเค้าโทรมาน่ะ” พี่ต่ายยังคงสนใจเรื่องนี้อยู่  ผมนึกว่าเลิกสนใจบุ้งไปแล้ว  เห็นปล่อยให้บุ้งอยู่กับผมสองคนตั้งหลายหน

“ก็เพื่อนคนนั้นเค้าชอบบุ้ง...แต่บุ้งเค้าไม่ชอบน่ะพี่”

ผมไม่ได้โกหกนะ พูดความจริงเท่าที่รู้มาทุกอย่าง  แต่ไม่อยากพูดหมดเท่านั้นเอง
“บุ้งมันก็เครียดๆนะพี่”

“พี่ดูหน้าก็รู้แล้ว  เลยไม่ห้ามไงตอนที่เค้าขออยู่กับโอมน่ะ”

“แต่ยังไงๆโอมก็อย่าให้ความหวังเค้ามากไปแล้วกัน”

“แล้วก็อย่างที่พี่บอก  มีเรื่องอะไรต้องบอกพี่ด้วย”พี่ต่ายพูดเสียงขึงขัง

“คร๊าบ.....ผม..ทราบแล้วครับ”  :m23:

ยังไงถึงผมรักมันแบบแฟนไม่ได้แต่มันก็ยังเป็นเพื่อนผมอยู่  ก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไปละครับ 

           พอทานข้าวเสร็จผมยังไม่อยากนอน  อยากดูทีวี  ส่วนพี่ต่ายไม่ชอบดูทีวีแต่ชอบอ่านหนังสือ  เราก็เลยต่างคนต่างทำอย่างที่อยากจะทำครับ  แต่เราก็อยู่ด้วยกันตลอด  พี่ต่ายนั่งอ่านหนังสือ แต่ตัวผมนอนพิงพี่ต่ายดูทีวี   แขนพี่ต่ายโอบตัวผมหลวมๆ   มันเป็นวันที่แสนสุขจริงๆ   พอพรุ่งนี้วันทำงานก็ไม่มีเวลามาสบายๆแบบนี้แล้วครับ

“โอม 4 ทุ่มแล้ว ไปเช็ดตัวแล้วนอนดีกว่ามั๊งดึกแล้ว  พึ่งหายไข้ด้วย”

“ก็ดีพี่งั้นผมไปก่อนนะ”

ผมเลยลุกเดินขึ้นข้างบนครับ  พี่ต่ายจะลุกเดินตามผมขึ้นมา  ผมเลยบอกว่า
“เดี๋ยวผมอาบเสร็จ  แล้วผมมาบอกพี่แล้วกัน”

“ทำไมล่ะ.....ก็พี่จะไปเช็ดตัวให้โอมไง” ไม่รู้พี่ต่ายคิดยังไง  เห็นผมเป็นเด็กๆเรื่อยเลย  หรือคิดอะไรไม่ซื่ออีก  ผมเลยต้องรีบห้าม

“ไม่ต้องพี่.....เดี๋ยวผมเช็ดตัวในห้องน้ำเองได้”

“ก็ได้ๆ...จะมาอายอะไรพี่เห็นไปถึงสุไหงโกลกแล้ว หึๆๆ”   :o9:

ผมอุตส่าห์ลืมไปแล้วนะครับพี่ต่ายมาพูดให้ผมคิดอีก  ผมเลยได้แต่วิ่งขึ้นบ้านไปแบบอายสุดชีวิต วิ่งไปก็ดันเจ็บก้น โดยมีเสียงหัวเราะของคนเจ้าเล่ห์ตามหลังมา  คืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับผมอีกนะ  ผมชักกลัวๆแล้วซิ
+++++++++++++++++++++++++++++

พอผมอาบน้ำเสร็จ  ผมก็ตะโกนบอกพี่ต่ายว่าผมขอไปนอนก่อน แล้วผมก็ล็อคประตูครับ  เพราะผมมาคิดดูเมื่อคืนผมคงเมาแล้วลืมล็อค  แต่วันนี้มั่นใจว่าล็อคแน่  ผมเลยนอนหลับไปอย่างสบายใจ

แต่พี่ต่ายก็เข้ามาได้อีกครับ  ผมมารู้สึกตัวว่ามีคนมานอนกอดตอนเกือบ 5 ทุ่ม ผมเลยงัวเงียถามพี่ต่าย

“พี่ต่ายเหรอ...ผมล็อคห้องแล้วเข้ามาได้ไง” ผมตกใจ   :try2: ปนกับทำใจนิดหน่อย

“ขอโทษน่ะ....พี่ทำให้โอมตื่นเหรอ”แล้วพี่ต่ายก็กระชับกอดแน่นขึ้น

“พี่มีกุญแจ...ขอแม่ไว้”

พอพี่ต่ายตอบมา  ผมก็ได้แต่คิดว่า....เออดีแล้ว...งั้นวันหลังก็ยกบ้านให้เค้าไปเลย  :m16:  ทั้งแม่ทั้งพี่ผมไว้ใจคนง่ายจริงๆ  ผมยังไม่มีกุญแจห้องตัวเองเลย ไม่เข้าใจชีวิตเล้ย

“พี่ขอมานอนกะโอมทุกคืนได้ไม๊....นอนคนเดียวมันเหงาน่ะ”

เริ่มแล้วครับ...มารยาผู้ชาย  ผมก็เป็นผู้ชายทำไมจะไม่รู้  ถ้าผมเป็นผู้หญิงก็คงต้องบอกว่า  ไม่ได้หรอกพี่ต่ายขา...มันไม่ดี  เรายังไม่ได้แต่งงานกัน หึๆ

 แต่ผมเป็นผู้ชายแล้วเมื่อคืนก็นะ....ไปถึงไหนๆกับเค้าไปแล้ว  จะตอบว่าไงดี
“ห้องพี่ก็มี...ไม่ไปนอนล่ะ..มานอนเบียดกับผมทำไม”

“พี่ลองนอนแล้ว   มันนอนไม่หลับ”  :interest:

“แล้วรู้ได้ไง...ว่ามานอนนี่แล้วจะหลับ”เออ..คืนนี้ไม่ต้องมีใครได้นอนแน่  มานอนโต้คารมกันดีกว่า

“ก็เมื่อคืนน่ะ  พี่หลับสนิทเลย...รวดเดียวถึงเช้า” พี่ต่ายหอมแก้มผมเบาๆ

เหอๆๆ  ก็แน่ละซิใช้พลังงานไปซะขนาดนั้น  ปลดปล่อยไปซะขนาดนี้  ไม่หลับก็ต้องหาแฟนใหม่แล้วนะพี่ต่าย  ผมไม่ไหวหรอก

“วันนี้อาจจะไม่หลับก็ได้”ผมจะทำไงกับพี่ต่ายดีนะ  ให้นอนด้วยก็หวาดเสียวซิ

“มันก็ขึ้นอยู่กับโอม...จะทำให้พี่หลับหรือเปล่า” พี่ต่ายไม่พูดเฉยๆ  แต่เอามือมาลูบแก้มผม  แล้วก็เริ่มจูบผม  เอามือเข้ามาในเสื้อผมแล้ว เริ่มลูบไล้จนผมขนลุก ผมเลยต้องอุทธรณ์

“พี่ต่าย....เดี๋ยวติดไข้นะ...อือออ”ผมพยายามเอามือจับหน้าพี่ต่ายผลักออกไป

“ติดก็คุ้ม....”แล้วก็ไม่พูดอะไรเลยครับ  จัดการลอกคราบผม เสื้อไปแล้วครับ  ฮือออ สงสัยไม่รอดแน่ของเก่ายังไม่หายเลยอ่ะ  o6

“พี่ต่าย...ผมยังเจ็บอยู่อ่ะพี่...ไม่ไหวหรอก”ถ้าผมเจออีกผมคงต้องป่วยอีกหลายวันแน่เลย ผมน้ำตาซึม  คนบร้าอะไรเมื่อคืนยังไม่หนำใจอีกรึไง

“พี่ก็ให้นอนพักตั้งเยอะแล้วไงล่ะโอม....หือ..มันเขี้ยวอ่ะ”

ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วงที่เราไม่สบาย  เลยให้เรานอนมากๆ  ไม่รู้เลยว่าเพราะยังงี้  ไอ้พี่ต่ายเจ้าเล่ห์  ชักน้อยใจแล้วนะ

พี่ต่ายซุกไซร้ไปทั่วคอ  ทั่วหน้าผม จูบไล่ลงมาที่หน้าอก แล้วก็เลียที่ยอดอกผมแล้ว ดูดเบาๆ  อืออ....นมผมไม่ใช่หลอดนะพี่  ดูดอยู่ได้  ยังไงมันก็ไม่มีนมออกมาหรอกมันเจี๋ยวอ่ะ 

กางเกงขาสั้นน้องย้วยตัวเก่งของผม  มันหลุดลงไปกองที่หัวเข่าตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ฮือๆ  พี่ต่ายเอามือจับก้นผมแล้วบีบเบาๆ มันคงไปสะเทือนไปถึงแผลจนผมต้องครางออกมา

“อื๋อ...พี่ต่ายผมเจ็บจริงๆนะพี่”  :sad4:
 ผมน้ำตาไหลเลยครับ  นี่พี่ต่ายไม่ห่วงผมเลยเหรอ  สงสัยเป็นเพราะผมไม่สบายด้วย  เลยรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอมากกว่าปรกติ ผมกลั้นสะอื้น  ขณะที่พี่ต่ายเริ่มรู้สึกตัว เอามือมาจับใบหน้าผม  แล้วเช็ดน้ำตาให้ผม

“โอมเจ็บมากเลยเหรอ...พี่ขอโทษ”แล้วพี่ต่ายก็กอดผม  เอามือจับหัวผมมาไว้ที่หน้าอก  แล้วลูบหัวผมปลอบโยน

“ไม่ร้องนะ...พี่ไม่ทำอะไรแล้ว ...ล้อเล่นเท่านั้นเอง” ล้อเล่นบร้าอะไรล่ะ...ถ้าไม่ห้ามคงเอาจริงไปแล้ว ล้อประเทศไหนเสื้อผ้าไม่เหลือเลย

“ก็พี่บอกโอมแล้ว  อย่าแต่งตัวแบบนี้มันล่อตะเข้น่ะ”

เออกรูผิดอีก..ก็แต่งแบบนี้มาตลอดนี่นา  แค่ลืมไปนิดเดียวเอง  ว่าพึ่งเอาตะเข้มาเลี้ยงไว้ในบ้านเท่านั้นเอง

พี่ต่ายหยิบเสื้อผ้ามาใส่ให้ผม ใส่กางเกงให้ด้วยแต่แอบมองน้องชายผมนิดหน่อย  ตาละห้อยเชียวพี่ อย่านะห้ามยุ่งด้วย  วันนี้ป่วยจิตตกอ่ะ

อย่าคิดว่าพี่ต่ายปลอบผมแล้วมือหยุดนะครับ อีกมือนึงก็ผลักผมลงนอน
 
“พี่ขอจูบก่อนนอนนิดนึงนะโอม...แล้วก็ขอนอนกอดแค่นั้นเองนะครับ”       

เสียงพี่ต่ายอ้อนมากเลยครับ ถ้าขอแค่นี้ผมก็จะไปห้ามได้ยังไง ผมไม่ตอบอะไร   พี่ต่ายถือว่าผมไม่ค้านก็คืออนุญาติ 

ก็เลยจูบละเอียดให้ผมหนึ่งที ทั้งกัดทั้งเม้มทั้งเอาลิ้นชอนไชเข้าไปเล่นกับลิ้นผม ทำเอาผมระทวยแทบจะเปลี่ยนใจถอดกางเกง  :kikkik:เสนอตัวเองให้พี่ต่ายแล้วครับ  555  แต่ยังไม่อยากป่วยอีกหลายวัน  เลยต้องทำใจผลักพี่ต่ายออกห่าง  หลังจากพี่ต่ายใช้เวลาจูบนานไปแล้ว

แล้วคืนนี้ผมกับพี่ต่ายถึงได้นอนกันซักที นอนหลับจริงๆครับไม่ได้ทำอะไร  แค่กอดกันกลมเท่านั้นเอง เสื้อผ้ายังครบ หุหุหุ
++++++++++++++++++++++++++++++

ยังไงดีล่ะ  พอเช้าขึ้นมาพี่ต่ายก็หายไปแล้ว  ทิ้งร่องรอยเพียงแค่รอยบุ๋มที่หมอนผม  กับรอย Kiss mark  ตามตัวผมซึ่งผมต้องพกพาไปทำงานด้วย  โชคยังดีที่ผมต้องใส่เสื้อเชิ้ตผูกไทด์   ก็คงไม่มีใครเห็น รอดตัวไป

ผมอาบน้ำเสร็จลงมาข้างล่างพี่ต่ายเตรียมแซนด์วิช กับกาแฟไว้ให้ผมล่ะ  ผมได้แต่นึกในใจว่า  ตั้งแต่เสียตัวไปนี่ดูเอาใจมากผิดปรกติแฮะ  สงสัยของเราดีจริง หุหุหุ   :อิอิ1:

แล้วผมก็นั่งเป็นคุณชาย...รอให้ที่รัก(เต็มปากเต็มคำ5555)เอากาแฟมาเสริฟ อากาศตอนเช้าๆที่บ้านนี่มันดีจัง  แต่พอขึ้นรถแล้วออกไปติดแหง็กอยู่บนถนน มันก็น่าเบื่อแล้วครับ  แต่ยังโชคดีที่มีพี่ต่ายนั่งไปด้วยกัน  พอดีวันนี้เราต้องเข้าออฟฟิซทั้งคู่ผมเลยสบายไป 

“พี่ต่ายโชคดีนะที่ผมป่วยวันอาทิตย์  ผมยังได้นอนพักวันนึง   วันนี้เลยมาทำงานได้ไม่ต้องลางาน”

“ที่จริงโอมถ้าโอมป่วยวันเสาร์  ยังไงก็ไม่ต้องลางานอยู่ดีแหล่ะ”

พี่ต่ายพูดยิ้มๆออกมาครับ  แต่ผมงงว่าพี่ต่ายทำไมถึงจะมากำหนดว่าผมต้องป่วยวันไหน  มันยังไงกัน
“แล้วทำไมผมถึงควรจะต้องป่วยวันเสาร์ละพี่   ผมไม่เข้าใจ”  :m28:

 ผมก็พยายามคิดนะ หรือว่าผมต้องทำสวนตอนเช้า เพื่อป่วยบ่าย หรือว่าผมมีทีท่าว่าจะป่วยตั้งแต่วันศุกร์ คิดแล้วก็ไม่แน่ใจ  เลยถามพี่ต่ายอีกที

“พี่ต่าย....ทำไมล่ะพี่...บอกมาซิ”

ชักยัวะแล้วนะ  ไม่พูดมาให้ชัดๆ  ผมก็เลยหน้างอคิ้วขมวดแล้วครับ
“พี่บอกก็กลัวโอมจะโกรธพี่นะซิ”พี่ต่ายพูดแล้วก็กลั้นยิ้ม o18

“พี่ไม่บอก.....ก็โกรธแล้วตอนนี้” เริ่มรมณ์เสียแล้ว  มายั่วให้อยากรู้ทำไม

“ก็วันศุกร์ที่พี่ชวนโอมทานข้าวก็กะว่าจะ.....ขอโอมไง”  พี่ต่ายไม่ยอมสบตาผมครับ  ผมเริ่มทำตาปริบๆ  ฟังพี่ต่ายพูด  ขออาราย?????   :confuse:

 “แล้วบุ้งก็ดันโทรมาทำบรรยากาศเสียหมดเลย...แล้วโอมก็งอนพี่ขึ้นไปนอน”
อือ...พอนึกออกละวันนั้นเอเพื่อนบุ้งโทรมา   เลยมีงอนกันนิดหน่อย

“พี่ก็เลย...ดูหนังแทน”
“........................”

ดูหนัง....อ๋อไอ้หนังAVนั่น  พอนึกขึ้นมาแล้วผมก็อายหน้าแดง   :m25: ก็วันนั้นผมเห็นพี่ต่ายกำลัง......ผมเลยขอหยิกก่อนทีนึงนะพี่ต่ายโทษฐานทะลึ่ง

“โอ๊ย....โอมหยิกพี่ทำไม  ก็โอมไม่ยอมพี่น่ะ   พี่ก็ต้อง....ช่วยเหลือตัวเองซิ” พี่ต่ายพูดเบาๆครับไอ้ประโยคสุดท้ายเนี่ย  แต่ผมก็ยังได้ยิน

พอฟังที่พี่ต่ายพูดครับ   ถ้าเป็นอาคิมิดิสก็คงต้องร้องว่า “ยูเรก้า” แต่ผมได้แต่อึ้งครับ อ้าปากค้างไปพักนึง  แล้วก็บรรลุในทันใด   พี่ต่ายมานวางแผนครับ  กะมอมเบียร์ผมวันศุกร์แล้วก็เผด็จศึกผม  แล้วก็คงกะเล่นจนผมป่วยน่ะแหล่ะพูดง่ายๆ  :sad3:

เพราะอย่างงั้นผมถึงน่าจะป่วยวันเสาร์ไงครับ  แต่แผนพลาดเพราะเราดันมางอนกันก่อน......ผมก็เลยรอด

แต่ก็รอดได้ไม่นาน......ฮือๆ... :o7: ก็ต้องมาเสียท่าเพราะแม่ดันไปให้กุญแจพี่ต่ายซะงั้น  สมควรโกรธหรือขำดีตอนนี้   หรือควรให้รางวัลกับพ่อนักวางแผน

ผมก็เลยหยิกไปที่ขาพี่ต่ายครับเอาแบบเน้นๆ  ใจจริงอยากจะไปบิดน้องชายพี่ต่ายให้พี่ต่ายหน้าเขียวไปเลย  แต่เกรงใจเห็นขับรถอยู่  กลัวตัวเองจะพลอยซวยไปด้วย  แล้วก็กลัวของพี่เค้าใช้งานไม่ได้ผมก็อดอ่ะดิ  อิอิ

“โอ๊ยยยยย!!!!!!!.. ........โอมพี่เจ็บนะ” พี่ต่ายหน้าเบี้ยวไปเลยครับ ดีสมน้ำหน้า

“ก็เป็นรางวัลไงพี่........ให้กับจอมวางแผน” ผมพูดแบบแค้นๆครับ เจ็บแค่นี้ยังน้อยไป   ผมเจ็บมากกว่าหลายเท่า  ตอนนี้ก็ยังเจ็บอยู่เลยเจ็บใจโว้ย

“ขอโทษครับ.....ก็พี่บอกแล้วว่าเดี๋ยวโอมก็โกรธพี่อีก”

“พี่ทำก็เพราะรักนะครับ......พี่รักโอมนะ” แล้วพี่ต่ายก็หยิกจมูกผมเล่นเบาๆ

“อื๋อ....แล้วทำไมต้องวางแผนด้วยล่ะ”ผมก็แกล้งโกรธไปงั้นแหล่ะครับ  ขืนหายไวเดี๋ยวจะได้ใจ

“ก็ขอดีๆแล้วโอมไม่ให้นี่....ล็อคห้องหนีพี่ตลอดเลย”

“แล้วพี่ไปบอกแม่ว่าไงน่ะ....ถึงได้กุญแจห้องผมมา”พี่ต่ายต้องทำเสน่ห์แน่เลย

“หึๆ...พี่ก็บอกว่าแม่ว่าเผื่อพี่เผลอล็อคห้องตัวเองจะไม่มีกุญแจไข  เลยถามแม่ว่ามีกุญแจสำรองไม๊  แม่เลยให้มาทั้งบ้านเลย”

“ไม่ได้ตั้งใจนะ....แต่ต้องเรียกว่าโชคช่วยมากกว่า หึๆ”  โชคดีช่วยพี่   แต่โชคร้ายของผมนะซิ  อยู่ดีๆก็ต้องมาป่วยเพราะพี่ต่ายแท้ๆเลย

แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นครับเป็นของพี่ต่าย  พี่ต่ายพยักหน้าให้ผมรับแทนก่อน

“สวัสดีครับมือถือคุณวริศครับ”

“คุณต่ายไม่อยู่หรือครับ”เสียงหล่อมาเชียวครับ   เหมือนเคยได้ยินที่ไหนนะแต่จำไม่ได้

“อยู่ครับ....แต่ขับรถอยู่ให้ผมบอกว่าใครโทรมาครับ”

“บอกว่าคม...ครับ”คมไหนว่ะ  เหมือนเคยได้ยินชื่อมาก่อน

“ครับ...ซักครู่ครับ”

“พี่ต่าย...คุณคมพี่”

“โอมเอา small talkใส่ให้พี่ด้วย”  ผมจัดการแล้วส่งให้พี่ต่ายครับ  พี่ต่ายรับไปแล้วก็ยิ้มใหญ่เลยครับ

“ครับ....ผมจะเข้าไปวันนี้...แล้วพร้อมแล้วหรือยังครับ”

“ครับ....ครับ....อ๋อ....น้องชายครับ...มีซิครับ”แล้วพี่ต่ายก็หันมามองหน้าผมยิ้มๆ

“ครับเดี๋ยวเจอกัน....สวัสดีครับ”

“คมไหนพี่...”ผมขมวดคิ้วถามพี่ต่าย   เหมือนเป็นลางครับไม่ชอบชื่อนี้เลย

“ก็คมบริษัท.......ไง  พี่ต้องไปตรวจระบบก่อนสิ้นปีแล้ว”

ผมคิดไปพักนึงบริษัท....เหรอคุ้นๆแฮะ   
 
คมไหนอ่ะ.....คม....  ไม่ชอบชื่อนี้เลยดิ  :o10:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วตามกันต่อไปนะ :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 24-12-2007 09:46:52
เอาละไง "คม" คนที่จีบพี่ต่ายแหง๋มๆ ...เดี๋ยวมีรายการผิดใจกันแน่เลย
ประเมินจากสถานการณ์แล้ว ยังเชื่อใจพี่กระต่ายอยู่....  :mc2:
ตอนต่อไปเตรียมพบกับบททดสอบความรักจากพระเจ้าได้เลยยยย
 :d1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 24-12-2007 09:53:16


>>> “เอางี้..พี่ถามโอมนะ เวลาเรากรอกประวัติสมัครงาน เค้าถามอะไรบ้าง.....ไหนโอมลองบอกพี่ซิ”

 อืมมมม... พี่ต่ายช่างเปรียบเทียบ  มีเหตุผลดีจัง

แถมยังเป็นนักวางแผน  :m12:   ทำไรรอบคอบมีการวางแผนล่วงหน้า เหอๆๆ

.

>>> ว่าแต่ว่า... พี่คม นี่ใช่พี่คนนั้นที่เคยมาจีบพี่ต่ายรึเปล่าเนี่ย...  :a5:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 24-12-2007 10:11:01
มาขอบคุณทั้งคนโฟสคนแต่งฮะ  :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-12-2007 10:31:58
ยังมีมุขฮาแอบสอดตลอดเลย ชอบมากอ่านแล้วขำจิงๆ  :m4:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 24-12-2007 10:47:37
เอาล่ะซี ถึงคิวโอมหึงแล้ววุ้ย   :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 24-12-2007 12:15:11
เห็นเงียบ ๆ แต่มีแผนแฮะ  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 24-12-2007 12:44:15
 :a4:มีมือที่สามมาอีกแล้ว กลุ้มใจจัง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kaporzung ที่ 24-12-2007 13:14:23
คมมายุ่งไรอีกเนี่ย -*- :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 24-12-2007 13:27:07
 :m20: :m20: :m20:

ที่แท้พี่ต่ายก็วางแผนไว้นี่เอง



เอาแล่วๆ  จะมือที่สามที่สี่เข้ามาอีกแล้ว   :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 24-12-2007 13:37:16
อ้าววว  โดนพี่ต่ายวางแผนหลอก 555+  :kikkik:

อย่างงี้สงสัย  เดวโดนแผนพี่ต่ายอีกหลายรอบแน่ๆ อิอิ   :haun5:

แต่ว่านะ  มะอยากให้เข้าใจผิดกันเยยจิงๆ นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tonnaruk ที่ 24-12-2007 23:13:05
         หวังว่ามือที่ 3 คงไม่สามารถทำอะไร กับความรักของคุณทั้ง 2 ได้นะครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 25-12-2007 10:16:12
สุขสันต์วันคริสต์มาสทุกคนนะ :d1: แอบเป็นฝรั่งนิดนึง  :oni2:
มาต่อเลยดีกว่า เถลไถลไปอ่านของคนอื่นซะนาน :oni1:
+++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 44

จนจะถึงบริษัทผมก็ยังนึกไม่ออกว่าคุณคมไหน  ผมเลยลืมไปแล้วก็เลิกสนใจไปเลย  พอเราไปถึงออฟฟิซก็เจอติงกำลังเดินเข้ามาพอดีครับ ผมกำลังจะทักแต่ติงไวกว่า

“พี่ต่ายหวัดดีค้า....มากับโอมได้ไงคะ”
ติงส่งรอยยิ้มมาให้พี่ต่ายมาแต่ไกล  สงสัยยังสนใจพี่ต่ายอยู่  ผมยืนหล่ออยู่นี่ไม่ทักเลยนะติง

“พี่ย้ายไปอยู่บ้านโอมตั้งนานแล้วติง”

 พี่ต่ายตอบไปแบบสบายๆมากครับ  แต่ผมถึงกับเหวอ  เอาจริงเหรอพี่  เหอๆๆเปิดเผยไปไม๊   :o8: ผมมองหน้าพี่ต่ายแต่พี่ต่ายมองข้ามไปที่ติง  ผมหันไปมองติงกำลังอ้าปากค้างอยู่

“พี่เป็นเพื่อนพี่ชายโอม  พอดีเค้าไปเรียนต่อ  แม่โอมเลยให้พี่มาอยู่เป็นเพื่อนโอม” อธิบายแบบม้วนเดียวจบเลยครับ  แล้วก็ชิ่งไปเลย

“พี่ไปนะติงพอดีนัดพี่เพ็ญไว้...แล้วเจอกัน”
คำหลังนั่นคงพูดกะผม  เพราะหันมามองหน้าผม  แล้วก็วิ่งไปเลยครับ  ปล่อยให้ผมกับติงยืนบื้ออยู่  ติงหันมามองหน้าผม

“อยู่บ้านเดียวกันนานแล้ว....ทำไมโอมไม่เล่าให้ติงฟังเลย...งอนนะ”
เอาแล้วซิเจอเพื่อนขี้งอนอีกคนละ  หมู่นี้ทำไมเจอแต่แบบนี้ฟะ

“ติงจะมางอนโอมเรื่องอะไร...โอมไม่เข้าใจ”

 ติงเดินเชิดนำหน้าผมไปเลย แล้วก็หันกลับมา  “ล้อเล่น....”  :m14:

“ก็แหมไปอยู่ด้วยกันตั้งนานไม่เห็นเล่าให้เราฟังบ้างเลย....ทำไม...หวงพี่ต่ายเหรอ”  :m12:

“เฮ้ย...ทำไมพูดแบบนั้น...บร้าเหรอคิดอะไรกัน” จะซวยไม๊เนี่ย ติงแซวเล่นหรือว่ารู้อะไรมาว่ะ

“ไม่รู้ซิเห็นสนิทกันยิ่งกว่าคนอื่น” ติงก็ตอบมาแค่เนี้ยแล้วก็ไม่ได้พูดต่ออีก  ผมก็เลยค่อยโล่งใจไปหน่อย

“ถามจริงๆ.....ติงยังชอบพี่ต่ายอยู่ไม๊อ่ะ”แต่ผมก็อดอยากรู้ไม่ได้

“ชอบก็ชอบนะ...แต่พี่ต่ายเค้าไม่สนใจเรานี่   เลยไม่รู้จะทำยังไงดี หรือว่าแอบมีแฟนแล้วก็ไม่รู้”
 พอติงพูดจบหันขวับมามองผม ผมสะดุ้งเลยครับ  รีบปฏิเสธทันที  :m29:

“ผมไม่รู้”

“ถ้าโอมไม่รู้...ก็คงไม่มีใครรู้แล้วมั๊ง”

“โอมก็ไม่รู้จะช่วยยังไงนะติง”ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนโกหกเพื่อนยังไงไม่รู้

 “อย่าซีเรียส....เรายังไงก็ได้น่ะโอม  มีหนุ่มๆจีบเราตรึม”

ติงหันมายิ้มให้ผม ผมว่ายังไงติงก็ยังเป็นเพื่อนที่น่ารักอยู่ดีนะ  แล้วเราก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย

 วันนี้มีรุ่นเดียวกันเข้าออฟฟิซเยอะ  กลางวันรวมคนแล้วเลยกลุ่มใหญ่พอควรครับ   พวกเราเลยไปทานข้าวด้วยกัน  ก็เหมือนกับนกกระจอกแตกรังล่ะครับ   ต่างคนต่างพูด  กลุ่มสายพี่เพ็ญก็ไปด้วย  เพราะสายเราสนิทกัน  พอผมเห็นหน้าเนยเรามองตากันพักนึง  แล้วเนยก็ส่งยิ้มอย่างสบายใจให้ผม  ผมก็เลยเดาเอาว่าเรื่องของเนยตอนนี้คงเรียบร้อยดีแล้ว

“เนยตอนนี้ทำที่ไหนล่ะ”ส่วนใหญ่ก็ถามกันเรื่องนี้ละครับ

“ไปบริษัท.....ที่พี่ต่ายไปไง”

“นี่พี่ต่ายไปแล้วนะ  เดี๋ยวเรากะหมีตามไปตอนบ่าย”

“เหรอไปหลายทีแล้วซิบริษัทนี้   สบายเลยเนอะ”

ถ้าเราไปที่ลูกค้าเดิมก็ง่ายครับทั้งเรื่องงาน  และเรื่องการทำความสนิทสนมกับลูกค้า  เสียดายผมไม่ได้ทำกับพี่ต่าย  เพราะเปลี่ยนสายไม่ได้

“ก็บริษัทนี้ไง...ที่มีลูกค้าจีบพี่ต่าย”เนยไม่ได้พูดครับ  แต่ไอ้หมีเพื่อนผมมันพูด  แต่ผมน่ะหูผึ่งไปแล้ว  รอว่าเนยจะพูดอะไรต่อ

“ใช่ชื่อคุณคมไง....ที่เคยเล่าให้ฟัง”
ผมถึงได้อ๋อ....ไอ้คมนี่เองเหรอฮึ่มมม  o12

“หล่อมากๆเลยนะ...ที่แรกเนยยังปิ๊งพี่เค้าเลย....ไม่น่าเป็นเกย์เลย” หล่อด้วยเหรอ เอาละซิ  แล้วตรูหน้าจืดแบบนี้จะไปสู้เค้าไหวเหรอ

“หล่อขนาดไหนอ่ะ...เหมือนใครเปรียบเทียบหน่อยซิ”ผมไม่กล้าถาม  แต่ติงถามไปแล้วครับ ดีผมก็อยากรู้

“ก็ประมาณพระเอกหนังเกาหลีเรื่อง My girl ลีดองวุค ...เนอะหมีเนอะ”

หมีมันทำหน้าเหวอๆ“ลีไหนไม่รู้จัก  แต่หล่อว่ะโอม...ผมคอนเฟิร์ม”

ลีดองวุคเลยเหรอ เหอๆ ขาวสูงปากแดงซะขนาดนั้น แล้วกรูล่ะหน้าเหมือนใคร

“แล้วพวกคุณว่าผมหน้าเหมือนใคร”  ผมเผลอพูดที่ใจคิดออกมาครับ  มันจะสงสัยไม๊ว้า  ว่ากรูบร้า ผมเลยยิ้มแหยๆออกไป  :m23:

“โอมเหรอ..บอกไม่ถูกอ่ะหน้าไม่เห็นคล้ายดาราคนไหนเลย” ติงพูดขึ้นมาครับ

“ไม่หล่อหรอก...แต่น่ารักเนอะเนย”  ติงสุดยอดครับผมบอกแล้ว  ผมถึงโกรธติงไม่ลงซักที หึๆ อวยกันดี ชอบนักคนแบบนี้

“คุยเรื่องอีตาคมต่อดีกว่าน่า..เนย”ติงยังอยากเม้าท์ต่อครับ 

“เห็นพี่เพ็ญยังแซวพี่ต่ายเลย...ว่าเมื่อไหร่จะยอมคุณคม  จีบมาตั้งหลายปีแล้ว”

“จริงอ่ะ” ติงช่วยถามย้ำครับ

“...จริงเดะรักมั่นคงจริงๆ” แล้วเนยก็พูดอีกหลายอย่างครับ  ทำเอาผมแย่ไปเลย  แล้วต้องไปทำงานกันอีกตั้งหลายวัน  ถ้าพี่ต่ายใจอ่อนผมจะทำไงดี ผมเริ่มกลัวแล้วครับ   

+++++++++++++++++++++++++++++++
ช่วงบ่ายๆเย็นๆผมเลยทำงานอย่างไม่มีความสุขเลยครับ  สงสัยเป็นเพราะความรู้สึกที่ที่เราเป็นเจ้าของพี่ต่ายมันเริ่มมาอยู่ในความคิดผม  เริ่มมีห่วงหวงครับ  ตอนเย็นผมเลยแวบออกไปโทรไปหาพี่ต่าย

“ว่าไงครับ”  พี่ต่ายรับสายแต่เสียงสุภาพมากครับ

“มีคนอื่นอยู่เหรอพี่”  ผมเดาเอานะครับ

“ใช่ครับ”พี่ต่ายคงไม่อยากพูดตอนนี้ซิ  เอาไงดีว่ะ  :a3:

“พี่ผมคิดถึงพี่นะ.....”ผมว่าผมได้ยินเสียงพี่ต่ายหัวเราะหึๆ แว่วๆมา

“ครับ...เหมือนกันครับ”ผมเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว  มีความสุขจังพอได้ยินแบบนี้

“วันนี้ผมไปเรียนนะพี่...กลับค่ำหน่อยพี่กินข้าวไปก่อนเลยนะครับ”  ผมเรียนอีกไม่นานก็ใกล้จบแล้วครับ   ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ปี

“แล้วเจอกันคืนนี้นะครับพี่”แล้วผมก็เตรียมจะวางสาย แต่พี่ต่ายพูดขึ้นมาก่อนว่า

“ครับ....แล้วคืนนี้ผมจะทำงานต่อที่ค้างอยู่เมื่อวานให้เสร็จนะครับ”แล้วพี่ต่ายก็วางสายครับ

“..............”
ผมงงไปชั่วขณะก่อนวางสายไป   พยายามคิดว่าพี่ต่ายส่งรหัสลับอะไรมาให้ผมรึเปล่า  คิดตั้งนานก็คิดไม่ออกครับ  เลยกลับไปทำงานต่อ   แต่สมองก็ยังคงคิดอยู่ดี  แต่ก็ยังคิดไม่ออกกะว่ากลับไปจะไปถามให้รู้เรื่อง

แต่กว่าจะกลับพี่ต่ายก็เข้าห้องนอนไปแล้วครับ   เอาหูไปแนบฟังเสียงก็ได้ยินแต่ความเงียบครับ กลัวได้ยินเสียงแปลกๆเหมือนกัน  เห็นแสงไฟลอดมาหน่อยสงสัยทำงานอยู่  ผมเลยเคาะประตูบอกพี่ต่ายว่า

“ผมกลับมาแล้วนะพี่.............จะอาบน้ำแล้วนอนเลยนะ”

“ครับโอม...พี่ทำงานอยู่”พี่ต่ายก็ตอบมาแค่นี้เองครับ

           ผมเลยอาบน้ำนอนกะว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เจอกันค่อยคุยก็ได้     แต่ไม่แน่ใจว่าควรถามเรื่องคุณคมด้วยรึเปล่า    ผมไม่ชอบให้ใครมาจุกจิกกับผม  คนอื่นก็คงไม่ชอบเหมือนกัน

             คืนนี้ผมไม่ได้ล็อคห้องเพราะรู้ดีว่า   ยังไงก็ไม่มีผล  ถ้าพี่ต่ายอยากเข้ามาจริงๆผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี   แต่นอนยังไงก็นอนไม่หลับคิดแต่เรื่องคุณคม  เค้าจีบพี่ต่ายมาหลายปีแล้วเหรอ  แสดงว่าเค้าก็ต้องรักจริงซิ  แล้วเค้าก็ต้องสนิทกับพี่ต่ายมากกว่าผมซิ   แล้วผมควรทำตัวยังไงดี

   แล้วพี่ต่ายก็เข้ามาในห้องผมครับ  ทำเป็นตีนแมวย่องมาเชียว  ผมเลยแกล้งทำเป็นหลับ    อยากโดนพี่ต่ายลวนลามนะครับ หุหุ  ไม่ใช่หรอกครับ  อยากล้อพี่ต่ายเล่นมากกว่า ไม่รู้จะทำตัวยังไงด้วยให้ดูเป็นธรรมชาติ

“โอมหลับรึยัง”  o18
 พี่ต่ายมากระซิบข้างหูครับ  มันจั๊กจี๋มากๆเลย  จะแกล้งหลับก็ไม่ไหวแล้วซิ ขนลุกไปหมด  ก็เลยต้องตื่น
“เพิ่งจะใกล้หลับนะพี่...ทำงานซะดึกเชียวนะ”

ผมลูบแก้มพี่ต่าย  ได้กลิ่นแป้งเด็กกรุ่นๆมาจากตัวพี่ต่าย  น่าหอมจัง  แล้วผมก็โน้มใบหน้าพี่ต่ายลงมา  แล้วหอมที่แก้มพี่ต่ายไปฟอดนึง ...เฮ้อชื่นใจ  :o8:

“โอมขยับไปหน่อยซิ.....พี่นอนด้วยคน”

พี่ต่ายคงงงผมนิดหน่อย  ปรกติผมมักไม่ใช่คนที่เริ่มก่อน  แต่พอพี่ต่ายนอนลงมาที่เตียงก็เริ่มจูบผมแล้วครับ  แล้วพี่ต่ายก็เฉลยคำตอบที่ทิ้งปริศนาไว้ให้ผมเมื่อตอนกลางวัน

“โอมพี่ขอทำต่อจากเมื่อคืนนะครับ....วันนี้โอมคงหายเจ็บแล้วนะ”

“พี่จะพยายามทำให้เบาที่สุด”  ผมไม่ได้พูดอะไรเลยครับ  กำลังนึกที่พี่ต่ายพูดอยู่

“โอมเคยได้ยินไม๊....ว่าอะไรก็ตามรู้แต่ทฤษฎีมันไม่พอ    ต้องหมั่นปฏิบัติให้ชำนาญถึงจะสำเร็จ....นะครับ” เสียงพี่ต่ายอ้อนมากๆเลยครับ

แล้วพี่ต่ายก็ปิดปากผมที่อ้าปากค้างอยู่ด้วยความงงงันด้วยจูบของพี่ต่ายครับ  แล้วก็เริ่มลอกคราบผม แล้วทุกอย่างก็เป็นไปเหมือนเดิมครับ  ผมไม่รู้ว่าพี่ต่ายเข้าใจอะไรผมผิดไปรึเปล่าที่ไปหอมแก้มเค้าก่อน  สงสัยจะคิดว่าผมเชิญชวน  จนในที่สุดเราสองคนก็ฝึกภาคปฏิบัติกันไปจนเช้า  เกือบตื่นกันไม่ไหวนะครับ....เอิ๊กกก...  :try2:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   ชีวิตหลังจากนั้นก็ดีครับ   ทั้งเรื่องงานเรื่องเรียนรวมทั้งเรื่องความรักของผมก็ไปได้ดี  ช่วงนี้ผมต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบเป็นผู้สอบรับอนุญาตแล้วครับ  ต้องแบ่งเวลามาอ่านหนังสืออย่างจริงๆจังๆ   บางคืนผมเลยให้พี่ต่ายนอนห้องตัวเอง  ไม่งั้นผมก็ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือเลย ก็คงรู้นะครับว่าเพราะอะไร  ส่วนพี่ต่ายเค้าสอบได้มาหลายปีแล้วครับ

   แต่มีอยู่คืนนึงที่ผมรู้สึกว่าผมห่างเหินกับพี่ต่ายนานเกินไปรึเปล่า    ผมเลยกะเข้าไปนอนห้องพี่ต่ายบ้างเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศด้วย  เกือบ 4 ทุ่มแล้วครับ  ผมเข้าไปพี่ต่ายกำลังอ่านหนังสือที่เตียงนอนอยู่

“พี่ต่าย....ผมมากวนรึเปล่า”ไม่แน่ใจครับว่าจะพูดยังไงดีให้ดูไม่อ่อยจนเกินไป

“อื๋อ...ไม่กวนหรอกแล้ววันนี้ไม่อ่านหนังสือเหรอโอม”พี่ต่ายตบที่เตียงให้ผมมานั่งลง

“พักดีกว่าพี่...อ่านมาหลายคืนแล้วน่าเบื่อจัง”ผมนั่งลงที่เตียงแล้วพี่ต่ายก็โอบไหล่ผมไว้

“แล้วพี่ต่ายอ่านอะไร.....”พี่ต่ายไม่ตอบแต่พลิกปกหนังสือเล่มหนาให้ผมดู......แฮรี่พอตเตอร์  กับเจ้าชายเลือดผสม  ผมไม่พูดอะไรได้แต่ยิ้มๆ พี่ต่ายเห็นผมยิ้มเลยแกล้งหยิกจมูกผม

“ยิ้มอะไรฮึเรา....”

“ยิ้มให้คนน่ารัก....”ผมตอบกวนๆครับ  แต่จากใจ อิอิ

“ไม่น่าเชื่อว่าพี่ต่ายชอบอ่านหนังสือนิยายแฟนตาซีด้วย”

“ใครๆเค้าก็ชอบกันทั้งนั้นแหล่ะ....โอมเคยอ่านไม๊”

“อ่านซิพี่...แต่ตั้งแต่ทำงานไม่ได้อ่านเลย เอ๊ะแต่เล่มนี้มันเก่าแล้วนี่”

“อืม..พี่ไม่มีเวลาอ่านเลย  ได้วันละนิดหน่อย”

“ยิ่งมาอยู่กับโอมยิ่งไม่ได้อ่านเลย”  :o9: พี่ต่ายยกมือมาเขี่ยผมที่ปรกหน้าของผมเบาๆ

“เอาอีกแล้วพี่อ่ะ....ทุกเรื่องเลยนะยกมาความผิดมาให้ผมหมด”  o6
 
“อ้าวก็ใจพี่ก็ยกไปให้แล้ว....อย่างอื่นก็ต้องเอาไปให้หมดซิ”
 พูดแล้วก็ตามด้วยหอมแก้มผมอีกหนึ่งฟอด   แล้วก็เลื่อนมาที่ปาก ลามมาที่คอ ผมเห็นว่าท่าจะเลยไปต่อละ  ก็เลยต้องรีบบอก

“คืนนี้ผมนอนห้องนี้กับพี่นะ” กะว่ามีเรื่องจะถามนิดหน่อยด้วย

ผมตัดความอายบอกพี่ต่ายไปครับ  ถ้าเกิดพี่เค้าบอกว่าไม่เอาคงหน้าแตก  แต่พี่ต่ายคงเข้าใจอะไรไม่ค่อยตรงกับผม เพราะพี่ต่ายเก็บหนังสือ จัดหมอน ขยับหมอนข้าง  เลื่อนผ้าห่ม  แล้วลุกไปปิดไฟเลยครับ  เสร็จแล้วก็จับตัวผมลงนอนเลย จนผมต้องลุกขึ้นมา

“เฮ้ยพี่ต่าย....ทำอะไรพี่เพิ่ง 4 ทุ่มผมยังไม่ง่วงเลยพี่”

“อ้าว.....พี่ก็นึกว่า....”ไม่พูดต่อครับแต่ทำตากรุ้มกริ่ม แล้วก็มาลูบแขนผม

“.......คนอะไรคิดแต่เรื่องอย่างว่า”อดเหน็บไม่ได้ครับ   พี่ต่ายนี่ดุซ่อนหื่นจริงๆ  ประเภทคล้ายๆกับพวกเสือซ่อนเล็บ  จิ้งจกซ่อนหาง

“ผมอยากมาคุยกันก่อนน่ะพี่....(เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง)”อันหลังนี่ไม่กล้าพูดดังครับ  คิดแค่ในใจ อิอิ

“อะคุยมาซิ...นอนคุยก็ได้”พี่ต่ายดึงตัวผมลงนอน จนตอนนี้เรานอนตะแคงคุยกันครับ แต่เสื้อผ้ายังครบนะครับ   ไม่ต้องห่วง

“มันไม่เข้ากับเรื่องที่จะคุยเลยพี่...นั่งคุยเหอะมันมืดด้วย”

 ผมยังไม่ได้ไปเปิดไฟเลยครับ ผมมันเป็นคนชอบทำลายบรรยากาศ   ก็ว่าจะถามเรื่องสอบน่ะ ผมทำท่าจะลุกแต่พี่ต่ายเอาแขนมากอดล็อคไว้   ผมเลยลุกไม่ได้

“เอา...นอนคุยก็ได้เฮ้อ....ผมว่าจะถามพี่เรื่องสอบน่ะพี่”

“อ้าวนึกว่าจะถามว่าวันนี้ท่าไหนดี....หึหึ” อึ้งไปแล้วครับ เจอพี่ต่ายกวน  :m29:
“..................”
+
+
+
“.......เดี๋ยวกลับห้องเลย  ไม่คุยแล้ว” อายด้วยนะ

 ชักหงุดหงิด  เจอคนกวนนะครับ นานๆผมจะมีสาระทีนึงพี่ต่ายก็ดันมาไร้สาระกับผม  ผมเครียดกับเรื่องสอบมากเลย  เพราะถ้าคนที่เรียนบัญชีจะรู้ว่าสอบเพื่อเป็นผู้สอบรับอนุญาติมันไม่ได้ง่ายๆ  บางคนสอบเป็นสิบๆหนยังสอบไม่ได้เลย  แต่พี่ต่ายนะครั้งเดียวได้เลยครับ

“โอ๋ๆๆๆๆ....ไม่งอนนะเดี๋ยวพี่ไม่ง้อนะ”

“ก็ไม่เห็นเคยง้อซักที....ผมโกรธทีไรพี่ก็ไม่เคยสนใจ” คราวนี้ผมเริ่มงอนจริงล่ะ

“เอ้าคราวนี้งอนจริงๆแล้ว.....โอเคยอมแล้ว...ว่ามาเรื่องสอบยังไงครับโอม”

“คือผมจะถามพี่ว่าทำยังไงสอบหนเดียวได้...ก็แค่เนี้ยก็กวนอยู่ได้”

“อืมถามแค่นี้แต่ตอบยากนะ...”พี่ต่ายอึ้งไปพักใหญ่

“พี่ก็ไม่ใช่คนหัวดีมากนะ   แต่พี่ว่าพี่ขยันมั๊ง  ตอนที่อ่านหนังสือสอบพี่ทรมานมากเลยนะ” พี่ต่ายพูดไปก็ยิ้มไป  ผมเลยเผลอมองปากพี่ต่ายซะเพลิน

“พี่คิดแต่ว่าขออ่านหนเดียวพอ   เพราะถ้าสอบไม่ได้ต้องมาทรมานอ่านอีกรอบพี่คงไม่ไหว”  เออคิดแบบนี้ก็ดีเหมือนกันเนอะ  จะได้พยายามให้สุดๆไปเลย

“แต่พี่ว่าช่วงนี้ที่เราทำงานด้วย   อ่านหนังสือไปด้วย  เวลาทำงานเราก็เอาความรู้ที่อ่านมาประยุกต์ใช้  คราวนี้เราก็จะจำได้ง่ายขึ้น  เหมือนกับว่าพออ้างมาตรฐานฉบับไหนก็มีตัวอย่างจากงานเรา” 

“มันเป็นเทคนิคของแต่ละคนน่ะ   โอมต้องหาวิธีของตัวเองดูน่ะ”

“พี่ต่ายเคยท้อไม๊ตอนอ่านหนังสือน่ะ” ผมเริ่มท้อแล้วไง  นึกว่าเรียนจบแล้วไม่ต้องอ่านหนังสือแล้ว  กลับต้องมาอ่านหนักกว่าเดิมอีก

“พี่ไม่เคยท้อนะ...อาจจะมีล้าไปบ้างก็หยุดไปทำอย่างอื่น ดูหนัง  ฟังเพลง  สบายใจแล้วก็กลับมาอ่านต่อ”

“เราต้องมีเป้าหมายในชีวิตซิ   ถ้าเราจะมาทางนี้เราก็ต้องทำให้ถึงที่สุด”
การเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเป็นความฝันของนักบัญชีที่มาอยู่บริษัทตรวจสอบทุกคนครับ   รวมทั้งผมด้วย   ถึงแม้จะยังไม่เข้าใจลึกซึ้งสักเท่าไหร่

“ที่สำคัญเลยนะรู้แต่ในหนังสือมันไม่ได้   ต้องได้ทำจริงๆถึงจะรู้ปัญหา   จะได้แก้ปัญหาเป็น เรื่องนี้ใช้ได้กับทุกเรื่องแหล่ะ  รวมถึงเรื่องนี้ด้วยนะโอม”

พี่ต่ายเริ่มมือไม่นิ่งแล้วครับ  วันนี้คงไม่ได้คุยสาระอะไรกันอีกแล้วครับ  คงต้องทำเรื่องอื่นให้เสร็จก่อนแล้ว    สงสัยคืนนี้คงไม่พ้นมือพี่ต่ายไปแล้วครับ  ตอนนี้ผมว่าภาคทฤษฎีกับภาคปฏิบัติของพี่ต่ายนี่แน่นเปรี๊ยะทั้งสองอย่างเลยครับ หุหุหุ  :m25:
+++++++++++++++++++++++++++++++++
 :mc2: :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 25-12-2007 10:51:51
แน่นทั้งทฤษฎีและปฎิบัติอย่างนี้ เอา A ไปเลย  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 25-12-2007 11:04:18
พี่ต่ายเนี่ย เก่งจริงๆ นะทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเลย

คนมันเก่ง ทำอะไรก็เก่งไปหมด :mc4: น่าร้ากกกกก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 25-12-2007 12:27:10
ทั้งทฤษฎีทั้งปฏิบัติแน่นขนาดนี้แล้วยังจะฝึกอยู่อีกเหรอ (เอ๊ะ เค้าทำกันจริงนี่หว่า)

 :mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 25-12-2007 12:56:32
ภาพรวมมันก็ดีอ่ะนะ แต่ไม่ชอบเลยอ่ะที่ยังไม่เคลียร์เรื่องนายคม  o12
แต่จีบมาหลายปี พี่กระต่ายไม่เล่นด้วย...พอจะเชื่อมั่นได้มะนะ...
เอาใจช่วยนายโอมกับพี่กระต่ายให้รักกันต่อไปนาน ๆๆๆๆๆๆๆๆ
 :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 25-12-2007 13:02:41
  :o8: สงสัยวิชานี้พี่ต่ายจะเรียนรู้เร็ว ได้ A++ ดีไม่ดีจบหลักสูตรได้เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทองแน่ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 25-12-2007 14:09:07
 :a4:ขาดทุนไปเยอะแล้วนะโอม มีแต่พี่ต่ายได้กำไรคนเดียว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 25-12-2007 15:07:01
ขอ Take course  วิชาพี่ต่ายด้วยคนดิคับ ...  :m13:  สมัครได้ที่ไหนค้าบบบ  :m23:


 :mc3: Merry X'Mas ค้าบบ  :d1: :mc4:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 25-12-2007 16:20:16
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 25-12-2007 17:38:51
เข้ามาให้ 1 บวก คนแต่ง   :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 25-12-2007 17:55:59
อ่านมาตั้งแต่เช้ากว่าจะทัน ได้เม้นให้ซักที  :a2:

น่ารักมากๆ เหมือนที่พี่ๆว่าไว้จริงๆด้วย กุ๊กกิ๊กกำลังดีแถมมีอารมณ์ขัน  :m4:

ทีแรกที่อ่านถึงตอนตดในลิฟท์นี่ขำออกมาเลยอะ เพื่อนที่ออฟฟิศมองหน้าเลย

โอมก้ชอบพี่ต่ายก็ชอบ พัฒนาการหื่นของพี่ต่ายดีขึ้นเป็นลำดับขั้น ชอบๆ  :mc2:

แล้วตกลงคุณคมนี่ยังไงเนี่ย ดูไม่น่าไว้ใจ พี่ต่ายอย่าทำคนอ่านเสียใจนะ    :m13:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 25-12-2007 23:24:00
พี่ต่าย อย่าทำร้ายโอมนะ รักกัน รักกัน  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 25-12-2007 23:49:39
มันตะหงิดๆ ยังไงก็ไม่รู้

เหมือนกำลังจะมีปัญหาเกิดขึ้น

เราคิดไปเองป่ะเนี่ย  ขอให้เป็นอย่างงั้นล่ะนะ

 :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 26-12-2007 10:00:14
หมู่นี้สมองตันคิดอะไรไม่ค่อยออก :เฮ้อ:
+++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 45

   หลังจากนั้นผมก็ลืมเรื่องคุณคมไปแล้วพี่ต่ายเองก็ไม่ได้พูดถึงด้วย  ผมก็เลยไม่ถามดีกว่าไม่มีเรื่องก็ดีแล้ว  เกิดถามไปแล้วทะเลาะกันขึ้นมาไม่คุ้มหรอกครับ   จนวันศุกร์ผมกำลังจะออกจากบริษัทลูกค้ากำลังจะไปเรียนปส.กับติง  พี่ต่ายโทรหาผม

“โอมวันนี้พี่คงกลับดึกนะ...พอดีลูกค้าชวนอยู่งานเลี้ยงปีใหม่ของบริษัทน่ะ”

“ทำไมเค้าจัดเร็วจังพี่ต่าย   อีกตั้งนานกว่าจะปีใหม่”จัดก่อนตั้ง2 อาทิตย์นี่นะ

“มันเป็นประเพณีของเค้าไปแล้ว...พี่ก็ปฏิเสธเค้ามา 2 ปีแล้ว ปีนี้เลยไม่อยากขัดน่ะ”

“แต่พี่ต่ายอย่าดื่มเยอะนะ....เดี๋ยวขับรถไม่ได้” ห่วงแฟนครับห่วง....... :m1:

“งั้นโอมเรียนเสร็จมาหาพี่ไม๊...แล้วกลับด้วยกัน”

พี่ต่ายบอกสถานที่จัดงานกับผม  มันก็ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ครับ  ผมว่าก็ดีเหมือนกัน  อย่างน้อยก็ไปขับรถแทนพี่ต่าย

“ได้พี่......แล้วพอผมไปถึงจะโทรหานะครับ”
พอผมวางสาย ติงยื่นหน้ามามองผมครับ ผมเลยเพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่าติงก็อยู่ตรงนี้   แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรผิดปรกตินี่นา

“อะไรติง.....มีอะไรจ๊ะ”

“สงสัยนะซิ” ติงขมวดคิ้ว   ทำหน้าสงสัยเต็มที่

“สงสัยอะราย” ผมเอานิ้วจิ้มหน้าผากติง หุหุ ติงน่าแกล้ง

“อื้อ...ไม่บอก...ขอเก็บข้อมูลก่อน” แล้วติงก็เดินออกไปเลยครับ 

ผมว่าซักวันติงต้องรู้เรื่องผมกับพี่ต่ายแน่เลย  แต่ก็ช่างเหอะผมไม่สนใจแล้ว  ถ้าผมจะมาทางนี้ก็ต้องยอมรับถึงผลของมันให้ได้  แต่ขอเริ่มจากคนใกล้ตัวก่อน   อยากรู้เหมือนกันถ้าติงรู้ว่าผมเป็นแฟนกับพี่ต่าย  ติงจะรู้สึกยังไง  แล้วกับผมติงจะเหมือนเดิมไม๊ 

ผมไม่หวังให้ใครมาเข้าใจผมเรื่องผมกับพี่ต่าย   เพราะบางทีตัวเราก็ยังไม่พยายามเข้าใจคนอื่นเลย   ผมขอเพียงแค่อย่าเกลียดที่ผมเป็นแบบนี้  อย่าเอาเรื่องนี้มาตัดสินทุกอย่างในตัวผมแค่นี้ก็พอ

ผมยังต้องเรียนปส.อีกไม่กี่อาทิตย์ก็สอบแล้วครับ  พอเรียนจบก็ไม่ต้องตาเหลือกจากที่ทำงานมาเรียนตอนค่ำแล้ว  จะได้มีเวลาอยู่กับพี่ต่ายมากหน่อย

ผมเลิกเรียนประมาณ 3 ทุ่ม  แล้วเลยนั่งแท็กซี่ต่อไปหาพี่ต่ายที่โรงแรม ก็ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงเพราะดึกแล้วรถเลยไม่ติดเท่าไหร่   พอถึงปุ๊ปผมก็พยายามโทรหาพี่ต่าย    แต่ไม่มีคนรับสายเสียงอาจจะดังเกินไปก็ได้พี่ต่ายเลยไม่ได้ยิน  ผมเลยไปถามที่ฟร้อนท์ว่าบริษัท.....จัดงานที่ห้องไหน

พอผมเปิดห้องที่จัดงานเลี้ยง  บนเวทีมีการแสดงอยู่ คนเยอะมากเลยครับแต่ทุกคนแต่งแฟนซีแล้วใส่หน้ากาก   ผมเลยมองไม่ออกว่าแต่ละคนหน้าตายังไง   เนื่องจากบริษัทนี้พนักงานมีมากและคงมาจากหลายแผนกผมถามหาพี่ต่ายเค้าก็ไม่รู้จัก  พอถามแผนกบัญชีนั่งตรงไหนก็ไม่มีใครรู้

 ผมเดินวนเวียนอยู่เกือบสิบนาที จนชักเขิน  เพราะผมแต่งตัวปรกติไม่เข้ากับงานเลย  โทรหาพี่ต่ายก็ไม่รับ  ก็เลยกะว่าหาที่นั่งก่อนก็ได้ว่ะ  แต่ก็ลองยืนมองไปทั่วๆเผื่อจะเจอพี่ต่าย
สักพักนึงมีคนใจดีเห็นผมไม่มีหน้ากากเลยเอามาให้

“พี่ใส่เถอะ  น่ารักดีนะ”  ผู้หญิงคนที่เอามาให้บอกผมครับ เป็นหน้ากากที่มีแค่ครึ่งบนมีตากับจมูกแล้วก็หูเป็นรูปกระต่าย  ผมเห็นแล้วก็ขำดีกะว่าจะเก็บไปให้พี่ต่าย   

ผมจนปัญญาที่จะหาพี่ต่ายเลยเอาเหล้าที่เค้าเดินเสริฟมานั่งดื่ม หาโต๊ะที่พอมีที่ว่างนั่งไปเลย  เริ่มสนุกไปกับงานด้วย  ผมกลายเป็นแขกผสมดอยไปซะแล้ว   :laugh3:

พอการแสดงบนเวทีจบพิธีกรก็ชวนให้คนเต้นรำกัน   เปลี่ยนพื้นที่ว่างตรงด้านหน้าเวทีเป็นฟลอร์เต้นรำ   พวกพนักงานก็ออกไปเต้นกันเต็มที่   คนที่นั่งที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่ก็ลุกกันไปเกือบหมด

“คุณไปเต้นด้วยกันไม๊ครับสนุกๆ”   เค้ามีน้ำใจชวนผมด้วยแต่ผมปฏิเสธไป

“ผมจะมองหาเพื่อนที่ให้มารับน่ะครับ” ตาผมก็สอดส่ายไปทั่ว   แต่ค่อนข้างแน่ใจว่าพี่ต่ายยังอยู่ในงาน  เพราะถ้ากลับก่อนก็ต้องโทรบอกผมแล้ว

แล้วก็มีมือใครไม่รู้มาดึงผมออกไปที่ฟลอร์เต้นรำ   ผมพยายามที่จะปฎิเสธ
“ไม่ดีกว่าครับ...ผมไม่ใช่พนักงานที่นี่ครับ”

  แต่เค้าก็ไม่พูดอะไร  แล้วโค้งให้ผมอีกหลายที ผมเลยเกรงใจแล้วก็อายคนอื่นด้วยเลยต้องตามเค้าไป  ผู้ชายคนนี้ตัวสูงพอๆกับพี่ต่ายเลยครับ  เค้าแต่งแฟนซีเป็นหนุ่มคาวบอยใส่หมวกคาวบอยด้วย  แต่เพราะเค้าใส่หน้ากากผมเลยเห็นหน้าไม่ชัด  รู้แต่ว่าจมูกโด่งเป็นสัน  คิ้วเรียวยาวเส้นคิ้วเรียงกันสวย  ริมฝีปากบาง   พี่เค้ายิ้มตลอดเวลา  ทำให้ผมต้องส่งยิ้มตอบไปให้ 

แต่ที่สำคัญพี่เค้าเต้นสวยมากครับมันพลิ้วน่ะ  :เหอะ1: แค่ดูก็เพลินแล้ว บางช่วงเค้าเอาไหล่มาสีกับไหล่ผมด้วย เต้นไปพักนึงจนผมชักเขิน  เพราะผมยังไม่รู้จักเค้าเลยแต่มาเต้นด้วยกัน  อย่างกับรู้จักกันมาก่อน  ผมเลยชวนเค้าคุย

“ผมยังไม่รู้จักชื่อพี่เลยครับ  พี่ชื่ออะไรครับ  ผมชื่อโอม”
 แต่เสียงเพลงดังมากพี่เค้าทำท่าไม่ได้ยิน  ผมเลยต้องป้องปากแล้วพูดใส่หูพี่คนนั้น

คราวนี้เค้าพยักหน้าครับแล้วก็จับไหล่ผมดึงตัวให้เข้ามาใกล้ๆ  แล้วป้องปากกระซิบที่หูผม  ใกล้กันจนลมหายใจรดต้นคอเลยครับ ได้ยินเต็มๆเลยครับ

“พี่ชื่อคม  อยู่แผนกบัญชีน้องมาจากไหน”

ให้มันได้อย่างนี้ซิ   o22 ผมได้แต่คิดอุทานในใจ   อยากจะเจอมานาน  แล้วก็ได้มาเจอโดยไม่ทันตั้งตัว  ผมจะทำยังไงดี ถามถึงพี่ต่ายแล้วตามตัวกลับกันเลยดีกว่า  ทำไมศัตรูหัวใจผมมันเร้าใจแล้วก็เพอเฟ็กซ์ซะขนาดนี้ล่ะ   ทำเอาใจเสีย

“ผมมาหาคุณวริศน่ะครับ  พี่รู้ไม๊ครับอยู่ที่ไหน” หนีกลับดีกว่าวุ้ย  ไม่รู้จะอยู่ทำไมแค่นี้ก็กินเหล้าเค้าฟรีไป 2 แก้วล่ะ

ผมต้องไปพูดที่หูพี่เค้าอีก  เพราะเค้าได้ยินไม่ชัด แต่คุณคมยังไม่ทันตอบก็มีคนมาจับไหล่ผม   ผมเลยหันไปดู  คนนี้.....ถึงแม้จะแต่งตัวยังไงผมก็จำได้ครับ   ยิ่งไม่แต่งตัวนี่ติดตาเลยจำได้หมด  พี่ต่ายนั่นเอง  :give2:

วันนี้พี่ต่ายก็แต่งแฟนซีมากับเค้าด้วย  ทำตัวเนียนเสมือนเป็นพนักงานเค้าเลย  ผมล่ะขวางตาจริงๆ   คงจะสนิทกันมากเลยซิท่า  พี่ต่ายแต่งเป็นนักฟุตบอลทีมชาติอิตาลีครับ   เสื้อยืดสีฟ้าสดใสรัดรูปกับกางเกงขาสั้นสีขาว   ใส่รองเท้ากีฬา  ถุงเท้ายาวถึงเข่า  แบบนั้นเลยล่ะ หน้าเป็นสีชมพูนิดหน่อยครับคงกินเหล้ามาบ้าง  แต่ใส่หน้ากากด้วย  พอเห็นพี่ต่ายใส่เสื้อแบบนี้ผมยิ่งหวงไม่อยากให้ใครเห็น  พี่เค้าน่ารักมากเลยครับเสื้อมันพอดีตัวจนเห็นร่างกายที่สมบูรณ์ไปด้วยมัดกล้ามของพี่ต่าย

พี่ต่ายจูงมือผมออกมาที่โต๊ะด้านข้าง  คงเป็นที่นั่งพี่ต่าย   คุณคมเดินตามออกมาด้วย  แล้วเราสามคนก็นั่งลงคุยกัน  แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าอย่างนี้เรียกคุยหรือเปล่า

“ไม่ใส่ชุดว่ายน้ำไปเลยล่ะพี่”ผมแซวแบบจริงๆนะครับแอบแดกดันนิดหน่อย  แต่พี่ต่ายคงนึกว่าผมล้อเล่น  เลยไม่รู้ตัว

“ไว้งานบริษัทเราก่อน   พี่จะแต่งให้ดูนะโอม 555” น่านนนน.....ยังไม่รู้ตัว

“คุณคม   รู้จักน้องผมดีพอรึยัง  เป็นไงบ้าง”

“โอมนี่พี่คม...ลูกค้าพี่ไง”พี่ต่ายแนะนำให้ผมรู้จัก  แต่ผมน่ะอยากรู้จักมากอยู่แล้ว

“สวัสดีอีกครับพี่คม....ผมได้ยินชื่อพี่มานานแล้ว ดีใจที่ได้เจอครับ”

สุภาพไปไม๊น่ะ หรือควรบอกไปเลยว่าอย่ามาจีบพี่ต่ายอีก   เอาให้ดีฉี่รดรอบพี่ต่ายแสดงอาณาเขตกันเลยดีกว่า  :a1:

“ดีใจเช่นกันครับ....น้องชายต่ายน่ารักจัง   ผมอยากมีน้องชายมานานแล้วอยากได้แบบนี้มั่ง” คุณคมมานเน้นคำว่าน้องชายมากเลยครับ   ผมล่ะจี๊ด....ไม่ต้องมากันให้ผมไปเป็นแค่น้องชายนะ  o12

“ผมมีพี่หลายคนแล้วครับพี่คม   พอดีกว่า....จะเยอะเกินไป”

แต่ผมพูดไปยิ้มไปนะครับ หึหึหึ  o3  พี่ต่ายหันมองหน้าผม  แต่เราก็มองกันไม่ถนัดหรอกครับ  เพราะต่างก็ใส่หน้ากากเข้าหากัน  ผมก็เพิ่งซึ้งใจกับคำนี้ก็ตอนนี้เอง

“เหรอไม่อยากได้พี่เป็นพี่ชาย......งั้นเป็นแฟนของพี่โอมได้ไม๊ล่ะหึหึ”

ผมก็ปากไวไปหน่อยครับ  ตอบกลับไปทันที
“ผมมีแต่พี่ชายครับ...เสียใจด้วยพี่คม”  ผมว่าตอบได้ใจแล้วนะ ยิ้มเยาะเค้าไปด้วย

“อ้าวก็ยิ่งดีซิ....พี่เป็นเกย์”

“...............................”
ใบ้สนองครับ   :sad5:  เจอคำตอบของคุณคมเข้าไป  ชีช่างกล้า...ขนาดนี้ผมจะไหวเหรอ  ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก  กลับไปตั้งหลักก่อนดีกว่ามั๊ง  พี่คมเป็นคนแรกที่ผมรู้จักแล้วประกาศว่าตัวเองเป็นเกย์ให้ผมฟังชัดๆ ผมเริ่มเลิ่กลั่ก

“คุณคม......เดี๋ยวน้องเค้าตกใจพอดีกัน”
ดีที่พี่ต่ายมาช่วยผมไว้ทัน  ผมได้แต่เก็บเอาใว้ในใจ   แค้นนี้ยังไม่สาย 

“พี่ต่าย....กลับเถอะผมเหนื่อยแล้ว” เริ่มงอแงแล้วครับผม   อาการปัญญาอ่อนกำเริบ

“เดี๋ยวซิน้องโอม   เดี๋ยวเค้ามีนักร้องมาร้องเพลงนะ”

“ใครล่ะพี่คม....” ง่วงแล้ว....แต่ก็ชอบดูคอนเสริทฟรี หุหุ

“มีหมอโอ๊ยแล้วก็   สามหนุ่มสามมุมน่ะ” โอ๊ยไหนไม่รู้จัก เป็นหมอแล้วมาเป็นนักร้องได้ไง  รู้จักแต่พี่อ๊บ พี่ท่อน พี่เฟิร์น ผมหันไปมองหน้าพี่ต่ายว่าเอาไงดี   :m21:

“ตามใจโอม...จะอยู่ต่อหรือกลับ”
พี่ต่ายให้ผมตัดสินใจ  ผมดูนาฬิกาเกือบ 4 ทุ่มแล้ว  ไหนๆก็วันศุกร์เอาว่ะอยู่ต่อก็ได้  อยากรู้อีตาคมมันจะทำยังไงบ้าง

“อยู่ก็ได้กลับซัก 5 ทุ่มนะพี่”ผมหันไปบอกพี่ต่าย

“น้องโอมไปเต้นกับพี่ต่อนะ”
คุณคมมาชวนผมครับ แต่ว่าพี่แกเล่นประกาศตัวโจ่งแจ้งอย่างนี้   ผมกลัวแล้ว

“ขอพักดีกว่าครับ..พี่ไปเหอะ”  คือใจอยากจะบอกไปไหนให้ไกลๆยิ่งดี

“งั้น......ต่ายคุณไปกับผม”   รั้งไม่ทันเลยครับ

ไม่พูดอย่างเดียวครับจับมือพี่ต่ายแล้วฉุดไปเลย  ต่อหน้าต่อตาผม ผมกำลังจะโวยว่าให้ผมนั่งกับใครล่ะ  :angry2: แต่ไม่ทันแล้วครับ  มานเอาแฟนผมไปแล้ววว ได้ยินแต่เสียงพี่ต่ายหัวเราะ  มีความสุขมากเลยนะฮึ่ม  ขนาดผมนั่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิอยู่นี่นะ

ผมนั่งเซ็งค่อยๆดื่มไปอีกแก้วครับ   :seng2ped: พี่ต่ายท่าทางจะรู้จักกับพนักงานหลายคน  มีคนมาเต้นกับพี่ต่ายเยอะทั้งหญิงและชาย  แต่อีตาพี่คมนี่ไม่ปล่อยให้พี่ต่ายว่างเลยครับ  คอยมากระแซะเรื่อย   เดี๋ยวก็เอาไหล่ไปสี  เอาสะโพกไปชน  ผมแทบจะอยากลุกขึ้นมาทึ้งผมตัวเองแล้วลงไปนอนดิ้นกับพื้นที่ทำอะไรไม่ได้   แล้วไปลากตัวพี่ต่ายกลับบ้าน

นี่ถ้าไม่ติดว่าอยากเจอพี่สามหนุ่มสามมุมนะ  กลับไปแล้ว  ไม่นั่งบื้ออยู่อย่างนี้ดูแฟนตัวเองถูกจีบ  ถูกลวนลามหรอก   จนแก้วที่ 4 แล้วครับ  ตอนนี้หมอโอ๊ย ออกมาแล้วร้องเพลงอะไรก็ไม่รู้  เป็นเพลงช้าๆครับ  พวกนักเต้นทั้งหลายเลยกลับมานั่งที่โต๊ะ

แต่อีตาพี่คมนี่มานแสบครับ  ผมนั่งดูอยู่เห็นมานดึงมือพี่ต่ายไว้ไม่ยอมให้กลับจะเต้นสโลว์กับพี่ต่าย   พี่ต่ายก็ไม่ยอม   เออนะถ้าพี่ต่ายไปยอมมานละก้อน่าดู  พี่คมเลยไปเต้นกับน้องผู้หญิงอีกคนแทนครับ

“โอยเหนื่อยจัง....พี่ไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้วนะ  สนุกดีเหมือนกัน”หน้าระรื่นมาเลยครับพ่อนักบอลรูปหล่อ   เหงื่อเปียกเสื้อซะจนเห็นไปถึงไส้ติ่งแล้ว  ดูกางเกงก็บาง   ขัดใจมากๆครับ  นี่ถ้าอยู่บ้านถ่ายรูปเก็บเอาไปลงเวปแล้ว :m16:

“พี่ต่ายไปเอาเสื้อผ้าพวกนี้มาจากไหนน่ะ” ผมก็อดอยากรู้ไปไม่ได้  เอาเวลาที่ไหนไปเตรียมตัวแต่งแฟนซีเนี่ย  ไหนว่าทำแต่งาน

“คุณคมเค้าหาให้...บังคับให้พี่ใส่” ผมยิ่งหน้างอเข้าไปใหญ่ครับ  แต่ยังไม่กล้าวีนแตกตอนนี้เพราะพนักงานคนอื่นก็นั่งกันอยู่เยอะ

“แล้วพี่จะกลับชุดนี้เหรอ” ผมแทบอยากจะพาพี่ต่ายไปถอดชุดนี้ออกให้หมดแล้วคืนเค้าไป

“เดี๋ยวก็ขึ้นรถแล้วโอม    ซักเสร็จแล้วค่อยเอาไปคืนเค้า”
พี่ต่ายก็ยังจับอารมณ์โกรธผมไม่ได้อยู่ดี   ผมชักเมานิดหน่อยแล้วนะนี่ตอนนี้เมาทั้งเหล้า   เมาทั้งรัก

กำลังจะบอกพี่ต่ายว่าผมเปลี่ยนใจอยากกลับบ้านแล้ว ก็พอดีไอ้พี่คมเดินกลับมาที่โต๊ะแล้วครับ  ถอดหมวกแล้ววางไว้ที่โต๊ะ  ผมนึกว่าเค้าจะมานั่งแต่เปล่าครับ

“ต่ายผมยืมน้องแป๊ปนึงนะ” ครับกลับมาดึงผมไปเต้นด้วย   ผมมองหน้าพี่ต่ายให้ช่วยผมหน่อย

“ห้ามทำอะไรมากกว่าเต้นนะคุณคม หึหึ”
ดูพี่ต่ายครับปล่อยผมไปเฉยเลย  ผมก็เลยตกอยู่ในกำมือของพี่คม

ตอนนี้บนฟลอร์มีคนอยู่ไม่มากครับ มีคู่เต้นทั้งหญิงชาย หญิงหญิง แล้วก็ชายชายก็มีผมกับพี่คมนี่แหล่ะครับ  แต่ผู้หญิงน่ะมีเยอะกว่า   เค้าจะคิดว่าผมเป็นอะไรกับพี่คมไม๊นะซิ   แต่ช่างมันเหอะผมไม่ได้คิดอะไรจะร้อนตัวไปทำไม

หมอโอ๊ยร้องเพลงที่ผมชอบมากเลยครับเพลงยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บของอินคา
http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?songID=V2A4EBBBPA0&Autoplay=0

 เป็นเพลงเก่ามากๆแล้ว  แต่ก็ฟังทีไรยังเพราะอยู่  เราก็เต้นไปคุยกันไปนะครับ ถ้าเป็นคนอื่นก็อาจมองว่าเราคุยกันธรรมดา  แต่มันเรื่องสำคัญเชียวครับ

“พี่ชอบเพลงนี้มากเลยนะโอม....แต่ตอนนี้ฟังแล้วพี่ยิ่งเจ็บ”

“ชีวิตพี่ตอนนี้มันเหมือนเพลงนี้มากเลย” เสียงพี่คมดูเศร้ามากครับ เอาไปเลยรางวัลออสการ์

“...................”

“นี่พี่คมจะพูดอะไรกับผมแน่ครับ” ผมเมาแล้วครับก็เลยลืมกลัวไปแล้ว  ดูไปดูมาพี่เค้าก็ไม่ได้ร้ายอะไร  เอ๊ะ...หรือมันจะเป็นกลลวง

“พี่เห็นต่ายเค้ารักโอมเหมือนน้องนะพี่เลยกล้าพูดเรื่องนี้ให้ฟัง”

“พี่ชอบต่าย...ชอบมาตั้งหลายปีแล้ว”  :o7:

ผมอยากจะบอกพี่คมว่าผมไม่ใช่ศิราณีนะ  ไม่ต้องมาปรึกษาปัญหาหัวใจ  ผมเป็นแค่เกย์มือใหม่เท่านั้นเอง  ยังไม่รู้จะรอดรึเปล่าด้วย

“แต่ก่อนต่ายเค้าก็ปฏิเสธพี่นะ   แต่เค้าก็ยังไม่มีแฟน  พี่ก็ยังมีหวัง”

 ช่ายแต่ตอนนี้เค้ามีแล้ว  คนที่พี่โอบอยู่นี่แหล่ะ รู้ไว้ซะ  ผมได้แต่โต้ตอบในใจ  แต่ภายนอกก็ทำได้เพียงพยักหน้าทำเป็นปัญญาอ่อนใสซื่อ

“แต่มาคราวนี้เค้าบอกพี่ว่ามีแฟนแล้ว.....พี่อกหักแล้วโอม”

“เอ่อแล้วพี่ยังไม่มีแฟนเหรอพี่”

ดันเจือกเรื่องเค้าอีกล่ะกรู   ขอศึกษาไว้เป็นcase studyหน่อยละกัน   นานๆจะเจอเกย์ตัวจริงเสียงจริง  เสียดายแทนผู้หญิงจริงๆ   แต่ดีใจกับวงการชายรักชายด้วย  ตอนแรกก็ไม่อยากรู้  แต่ตอนนี้อยากรู้มาก เราต้องรู้เขารู้เราใช่ไม๊ครับ

“พี่ก็มีมาตลอดแหล่ะ” พี่คมพูดหน้าตาเฉยครับ

“เอ้า...แล้วพี่มาจีบพี่ต่ายทำไม” แฟนมีมาตลอดแต่ยังตามจีบพี่ต่ายมาเป็นปีเว้ย

“ก็หน้าตาแบบพี่  มานก็มีเข้ามาเรื่อยแหล่ะ...ก็นะคนมันหน้าตาดี”เอออันนี้เห็นด้วย แต่แอบหมั่นไส้นิดหน่อย

“แต่พี่ก็ชอบต่ายคนเดียว” พี่คมทำเป็นเสียงสลด

“ต่ายเค้าบอกว่าแฟนเค้าทำงานที่เดียวกัน   เป็นน้องที่ทำงาน”

ผมขนลุกวาบเลยครับ  พี่คมหลอกผมมาให้ยืนเชือดหลอกด่ารึเปล่า หยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่นึกขึ้นมาได้ว่าไม่คุ้มเลยหายใจต่อ
+
+
+
“แต่พี่ว่าไม่ใช่เนยดูแล้วมันไม่ใช่น่ะ...โอมรู้ไม๊ว่าใคร”  ผมถอนหายใจเฮือกเลยครับ  สรุปไม่รู้ว่าพี่ต่ายชอบผม  ยังนึกว่าแฟนพี่ต่ายเป็นหญิง

“ผมไม่รู้หรอกพี่...ผมอยู่กันคนละสาย”เพลงจบพอดีครับ   หมอโอ๊ยลาไปแล้ว คราวนี้สามหนุ่มสามมุมกำลังจะมา เป็นโอกาสอันดีที่จะรอดตัว  ผมเลยกลับไปนั่งที่โต๊ะกับพี่ต่าย  พี่คมก็เดินตามมาด้วยครับ

แล้วก็เป็นรายการของพี่อ๊บครับ  มาร้องเพลงฟังอย่างเพลงเก่าๆพวกปาฏิหาริย์ ขีดเส้นใต้ ตอนที่เราฟังเพลงกัน  ผมกับพี่ต่ายจับมือกันตลอดครับ  แอบมองตากันเล็กน้อย  พอให้ใจวาบหวิว   แต่คนอื่นเค้าก็ไม่สนใจหรอกครับ  ก็พี่อ๊บแกอ้อนแฟนเพลงขนาดนั้น  สายตาของทุกคนก็ไปอยู่บนเวที
สักพักตามมาด้วยพี่ท่อน  ก็สไตล์เฮฮากับมุขของแกน่ะครับน่ารักดี  ผมว่าแกไม่หล่อมากแต่เสน่ห์ก็ไม่น้อยไปกว่าใคร   แล้วก็ตามด้วยพี่เฟิร์น 

พอมาร้องเพลงครบกันสามคนตอนนี้ไม่มีใครนั่งที่โต๊ะแล้วครับ    วิ่งออกไปข้างหน้าเวทีกันหมด  แล้วก็กรี๊ดๆๆๆกัน  ผมไม่ได้ออกไปแต่นั่งอยู่ที่โต๊ะ  เลยสะกิดพี่ต่าย

“กลับกันเถอะพี่....พอล่ะ” พี่ต่ายก็พยักหน้าให้ผม  แล้วบอกผมว่า

“โอมไปรอข้างนอกก่อนนะเดี๋ยวพี่บอกคุณคมก่อน”

“แล้วผมไม่ต้องไปลาพี่คมเหรอพี่”ผมว่าอย่างน้อยก็น่าจะไปสวัสดีหน่อยนะ

“ไม่เป็นไรเดี๋ยวพี่บอกให้”

แล้วพี่ต่ายก็ผละไปครับ  ผมเลยเดินออกไปข้างนอก ผมดูเวลา 5 ทุ่มกว่าแล้วครับ กำลังยืนคิดอะไรเพลินๆก็มีโทรศัพท์เข้ามาหาผม  ไอ้บุ้งเจ้าเก่าอีกแล้วครับ  ตอนนี้มันยังรักษาสถิติโทรมาหาผมทุกวันอยู่  บางวันก็แค่พูดว่าหวัดดีนะ   คิดถึงนะ  หิวข้าวรึยัง ง่วงไม๊ กินข้าวรึยัง แล้วมันก็วาง  แต่ถ้าโทรมาตอนที่ผมว่างก็คุยกันมากกว่านั้นครับ

“ว่าไงมรึง...กลับบ้านรึยังบุ้ง” วันนี้วันศุกร์บางทีมนุษย์ทำงานแบบมันก็เที่ยวตามประสาโสดน่ะครับ ผมได้ยินเสียงเพลงแว่วๆมา

“ยังเลยว่ะมากับไอ้เอมันน่ะ”เสียงมันเมาๆนิดหน่อยครับ

“มึงไม่รักเค้าก็บอกเค้าไปซิว่ะ...แล้วไปกับเค้าอีกทำไม” ผมไม่เข้าใจมันเลย

“กรูบอกเค้าไปแล้ว....แต่เค้าบอกว่าเค้าจะรอกรู” เสียงมันเองก็สับสนครับ

“เออแล้วมึงก็มากลุ้มใจเนี่ยนะ...มึงรำคาญเค้าไม๊ล่ะ”ผมก็ถามไปอย่างงั้น

“กรูก็เหงานะ...กรูไม่มีใคร...แต่กรูไม่ค่อยรำคาญมันหรอก” สรุปว่าอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อน ดีกว่าไม่มีใคร น่าสงสารมันว่ะ  หรือควรสงสารคุณเอดี

“แล้วมรึงรำคาญกรูไม๊ล่ะโอม....ที่กรูโทรหามรึงทุกวันน่ะ”

“ถ้ามรึงถามกรูมากกว่านี้กรูจะเริ่มรำคาญล่ะ...เมิงรู้ไม๊มรึงถามกรูประเภทนี้มาหลายทีแล้วนะ” ผมชักรู้สึกว่ามันชอบพูดซ้ำซาก   จนกำลังจะรำคาญแล้ว

“มรึงอย่าเพิ่งโมโหกูดิ...กรูกำลังจะบอกว่าเอมันก็เหมือนกรู”

“รักเค้าข้างเดียว...รู้ว่าเค้ารักคนอื่น...แต่ก็ยังพร้อมที่จะรอ”
เสียงมันสั่นเครือมากเลยครับ  ผมไม่น่าไปหงุดหงิดใส่มันเลย  กรูผิดไปแล้ว  o6

“ตอนที่มานมายุ่งกับกรู....กรูก็คิดตลอดว่ากรูก็อยากทำกับมรึงแบบที่มันทำ”

“แต่กรูกลัวมึงจะรำคาญ...กรูก็เลยรำคาญเอไม่ลง    สงสารมันหัวอกเดียวกัน”

“เฮ้อ.....”ผมเผลอถอนหายใจไปแล้ว  สงสารเพื่อนเหมือนกัน  ตอนนี้ต่างคนเลยต่างเงียบ  จมอยู่กับความคิดตัวเอง  แล้วบุ้งก็ทำลายความเงียบขึ้นมา

“โอมยังไม่กลับบ้านเหรอ......เสียงเหมือนอยู่ข้างนอกเลย”

“อือ...กูกำลังจะกลับล่ะมางานเลี้ยงของลูกค้าน่ะ” พูดความจริงครับแต่ไม่หมด  ไม่อยากให้มันเสียใจไปกว่านี้

“กลับดีๆละระวังตัวด้วยดึกแล้ว...กรูเป็นห่วง”
เสียงมันอ่อนโยนมากเลยครับ ทำเอาผมน้ำตาซึม

“อือ....มรึงก็เหมือนกัน” ผมซึ้งกับความเป็นห่วงของมัน   แต่ไม่รู้จะทำยังไงดี เลยได้แต่ยืนซึม  น้ำตาเอ่อ

“โอม...เป็นอะไร”พี่ต่ายมาตบไหล่ผมพอดีครับ

“แสบตาน่ะพี่...สงสัยสูบบุหรี่กันเยอะ”ผมยิ้มให้พี่ต่ายนักบอลรูปหล่ออิตาลี 

“ทำไมไม่ถอดหน้ากากออก  ไม่อายคนอื่นเหรอ”

อ้าวตายห่า....ลืมไปเลย มิน่ามีแต่คนมอง พี่ต่ายเอื้อมมือมาปลดหน้ากากออกจากหน้าผม เราสบตากันพอดี

“โอมร้องไห้ทำไม...แสบตามากเหรอ” ผมพยักหน้า

  “รู้งี้กลับก่อนก็ดีนะไม่น่ารอเลย” แล้วพี่ต่ายก็เอานิ้วปาดน้ำตาให้ผม  ลูบหัวผม แล้วก็โอบไหล่ผม

“ไปกลับบ้านเรากันนะ..เด็กขี้แย”

เสียงพี่ต่ายที่อ่อนโยน รวมทั้งรอยยิ้มของพี่ต่าย ยิ่งทำให้ผมรู้สึกผิดกับบุ้งมากขึ้น  เพราะผมบอกกับตัวเองว่าตอนนี้คนที่ผมรักมีเพียงพี่ต่ายคนเดียวจริงๆ 

บุ้งก็คงยืนได้อยู่แค่เส้นกั้นฝั่งของคำว่าเพื่อน.....ไม่สามารถที่จะก้าวผ่านมายังคำว่า......รักได้เท่านั้นเอง 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เพิ่งสังเกตว่าช่วงนี้มีคอมเมนท์ใหม่ๆเข้ามา ดีใจจังเลยที่มีคนมาอ่านเพิ่มขึ้น  แต่คนที่หายๆไปอยากบอกว่าก็ขอบคุณเหมือนกัน  แล้วก็รอคำวิจารณ์อยู่เสมอนะครับ :m13:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 26-12-2007 10:56:50
ไอ้พี่คมรู้แล้ววววแน่เลยยยย โยนนนนหินนนถามมมทางงงง   :m21: :m21:


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 26-12-2007 11:06:43
สู้ๆนะครับผม :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 26-12-2007 11:25:37
เหงื่อเปียกเสื้อซะจนเห็นไปถึงไส้ติ่งแล้ว  ดูกางเกงก็บาง   ขัดใจมากๆครับ  นี่ถ้าอยู่บ้านถ่ายรูปเก็บเอาไปลงเวปแล้ว  >>> ลงเว็บไหนบอกด้วยนะคะ จะตามไปดู  :m12:

พี่คมท่าทางแผนสูงนะเนี่ย

ปล. สงสารบุ้ง  :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 26-12-2007 11:43:01
เข้าใจความรู้สึกของบุ้งเลยอะ

รกัเขาข้างเดียวว

เฮ้อออออออ   :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 26-12-2007 11:55:37
เง้อ สงสารเพื่อนบุ้ง รักเค้าข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่ง  :sad2:
แล้วพี่คมจะมาไม้ไหนเนี่ย จู่ๆก็ถามมาได้ เหอะๆๆ :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 26-12-2007 12:22:30
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 26-12-2007 12:31:22
 :a4:ไม่มีคำวิจารณ์ครับ จากใจดวงนี้มีแต่คำชมครับ สุดยอด
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 26-12-2007 12:33:37
ดูท่าโอมคงเป็นคนอารมณ์ดีนะ กะลังซึ้ง กะลังลุ้น ยังมีกะใจแอบฮาอีก
อ้างถึง
... หยุดหายใจไปชั่วขณะ แต่นึกขึ้นมาได้ว่าไม่คุ้มเลยหายใจต่อ ...

 :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 26-12-2007 12:47:31
คนแบบคมเนี่ยคงมีเยอะ....หน้าตาดีมีมาเรื่อย ๆ แต่ยังรักต่ายอยู่เพราะยังไม่ได้กินไง  o12
ของที่ยังไม่ได้ ได้ยาก มันดูน่าสนใจเสมอแหละ พอได้แล้วก็เบื่อ.... มนุษย์โลก.....
บุ้งก็เช่นกัน ความรักมันห้ามกันไม่ได้... สงสารก็ส่วนสงสาร แต่ทำไงได้ล่ะ...เวรกรรม...
อยู่ที่พี่กระต่ายกะนายโอมแล้วละว่าจะมั่นคงได้แค่ไหนนนนนนน  :mc2:
 :a2:


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 26-12-2007 12:53:33
อ่า  ตาคมยังมากะลิ้มกะเลี่ยกับโอมด้วยนะนี่ เหอๆๆ


ว่าแต่กลับบ้านกับหนุ่มนักบอล  ระวังอดใจไม่ไหว พาฝึกภาคปฏิบัติกันอีกนะ อิอิ :m12:

รีบวิ่งไปจองที่ขอบเตียงดีก่า   :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 26-12-2007 13:58:00
ว่าแต่คืนนี้ นักบอลจะยิงได้กี่ประตูน้า  :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-12-2007 14:29:16
สงสัยคมคงรู้แล้วล่ะ แต่แกล้งหยั่งเชิงโอมเล่น  :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 26-12-2007 15:09:21
 :serius2: กลัวว่าทั้งคมทั้งบุ้ง ต่อไปจะสร้างปัญหาป่าวหว่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 26-12-2007 19:53:15


>>> พี่ต่าย~~~~~ พี่โอมเค้าจะงอน จะโกรธ จะน้อยใจ ไม่เคยจับความรู้สึกเค้าทันเล้ยยยยยยยย

เฮ้ออออ~


.
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tonnaruk ที่ 26-12-2007 21:10:38
      เรื่องของความรักนี่เข้าใจยากจริงๆเลยเนอะ

ผมเนี่ยตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีแฟนกับเค้าสักที

เคยลองพยายามจะลองเข้าไปหาแล้ว

แต่ไปได้ไม่เท่าไหร่  ต้องรีบถอยออกมาก่อนทุกที

บอกตามตรงกลัวครับ  กลัวความผิดหวัง

ไม่รู้ว่าเคยมีคนต้องเสียใจ  กับการกระทำของผมบ้างหรือปล่าว

เฮ้อ  พูดแล้วเศร้า   :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 26-12-2007 22:21:56
น่าสงสารบุ้งอ่ะนะ

แต่ไม่รัก มันก็คือไม่รักอ่ะ   :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 26-12-2007 23:02:19
แบบนี้แหละคับ ความรักถึงเจ็บก็ยังจะรัก รักแล้วหัวใจก็เลือกไม่ได้  :m13:

โอมน่าจะบอกคุณคมไปตรงๆเลยนะ ว่าพี่ต่ายเป็นแฟน เดี๋ยวรู้ทีหลังเค้าโกรธแย่เลย

เป็นกำลังใจให้คับ จะรออ่านตอนต่อไป อิอิ  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 26-12-2007 23:48:17
ตังปัญหามาแล้ว หุๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 27-12-2007 09:25:16
เห็นรีบน ๆ แล้ว
รู้สึกว่าคนใหม่ ๆ เข้ามาเยอะ
ก็เลย +1 ให้กะคนที่ยังไม่ถึง 10
 :mc1: :mc1: :mc1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 27-12-2007 09:44:41
อ่านหลายๆreply แล้วก็เอ๊ะ เราว่าเราพยายามให้เรื่องมันอ่านแล้วขำๆนะ :m23:
ไหงทำไมเศร้ากันไปได้ จะปีใหม่แล้วยิ้มๆกันดีกว่านะ  :a4:
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 46

ปรากฏว่าพี่ต่ายก็ต้องเป็นขับรถกลับอยู่ดีครับ   เพราะนับไปนับมาผมดื่มเยอะกว่าพี่ต่ายอีก  5555 เป็นครั้งแรกที่ไปมั่วกินงานชาวบ้านเค้าอย่างจริงๆจังๆ  รู้สึกละอายใจปนหน้าด้าน  :a3:

“พี่ต่าย....ผมถามอะไรหน่อยซิ” อยากรู้จริงๆเลย

“ถามมาซิครับ”แล้วพี่ต่ายก็หันมายิ้มให้ผม

“พี่คม........เค้าก็จีบพี่มาตั้งหลายปีแล้วทำไมพี่ไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ” เป็นช่วงสัมภาษณ์ดาราครับ

“อืมม.......ไม่รู้ซิ”

 “เนอะ.....นั่นซิไม่เคยคิด....ทำไมไม่ชอบก็ไม่รู้” เหอๆๆแล้วผมจะรู้ไม๊เนี่ย

“ที่จริงคุณคมเค้าก็ท่าทางนิสัยดีนะพี่”ลองโยนหินถามทางดูเล่นๆ  ว่าพี่ต่ายคิดยังไง

“ใช่เค้านิสัยดีนะ.....หน้าตาก็ดีด้วย”

ชมคนอื่นต่อหน้าแฟน  แถมเป็นคนที่มาชื่นชมตัวเองด้วย  ผมควรจะโกรธพี่ต่ายไม๊ครับ  o12  เริ่มชินแล้วครับไม่โกรธหรอก  อย่างน้อยพี่ต่ายก็พูดความจริงกับผม  เหมือนเคยถามเรื่องติงก็อย่างเนี้ย  คราวนี้ไม่หลงกลพี่ต่ายละ

“แล้วที่บริษัทพี่คม   เค้ารู้กันหมดเลยเหรอครับว่าพี่คมเป็นเกย์” คุยไปคุยมาเปลี่ยนเรื่องแล้วครับ

“ใช่.....เค้าก็ไม่ถึงกับประกาศออกมาหรอกนะ   แต่ไม่ปิดบังน่ะ”

“แล้วที่ทำงานเค้าเป็นไงน่ะพี่....เค้าแสดงออกอะไรไม๊”ผมกำลังแอบคิดเผื่อตัวเองนะครับ

“ไม่มีใครค่อยกล้าแซวหรอก  คุณคมเค้าตำแหน่งสูงพอตัว   แล้วอีกอย่างเค้าทำงานเก่งนะ”

“แต่ถึงจะแซวพี่ก็ไม่เห็นเค้าโกรธ   พวกน้องๆเค้าก็มีแซวพี่กับคุณคมเหมือนกัน”

“ถามจริงๆนะ   ผมหล่อสู้พี่คมก็ไม่ได้   หุ่นก็ไม่ได้ดีไปกว่า   เก่งก็ไม่เก่ง  แล้วทำไมเป็นผม”ผมถามพี่ต่าย แล้วก็เหมือนถามตัวเองไปด้วย  :confuse:

“โอมพูดเหมือนไม่มั่นใจตัวเอง” พี่ต่ายถามผมขึ้นมา   สงสัยไม่รู้จะตอบผมยังไงมากกว่า ก็ที่ผมพูดมาทั้งหมดน่ะมันจริง

“ก็ผมไม่เข้าใจนี่พี่   ผมไม่เคยมองว่าตัวเองดีไปกว่าคนอื่น”

“มันก็ไม่มีใครที่จะดีไปกว่าคนอื่นได้หมดหรอก”

“มันก็ไม่มีเหตุผลด้วย....ในการที่เราจะรักใคร” พี่ต่ายตอบแบบนี้   สรุปผมก็ไม่รู้อยู่ดีซิ

“โอมไม่ต้องห่วงเรื่องคุณคมนะ  ยังไงพี่ก็ไม่เปลี่ยนใจหรอก” พี่ต่ายพูดเหมือนรู้ว่าผมกังวลเรื่องอะไรอยู่  แล้วพี่ต่ายก็พูดต่อ

“เค้าเป็นได้แค่เพื่อนร่วมงานเท่านั้นเอง”

หุหุหุ  ผมเชื่อพี่ต่ายครับ  เพราะพี่ต่ายเป็นคนดี ผมจะขอรถเข็นให้พี่ซักคันจากคุณไตรภพ รายการแกก็ดันเลิกไปนานแล้ว อิอิ ตอนนี้เอาจักรยานของคุณปัญญาไปแทนละกัน

“ผมเชื่อพี่  แต่กลัวพี่คมแกไม่เลิกซิ” พี่ต่ายเชื่อได้  แต่คุณคมถ้าแกเอาจริงก็น่ากลัวครับ

“คุณคมเค้าก็เป็นลูกผู้ชายพอดูนะ......โอมควรต้องขอบคุณคุณคมด้วยซ้ำนะ” ผมขมวดคิ้วเลย ขอบคุณเรื่องอะไรกัน  พี่ต่ายพูดอย่างกับว่าเค้าหลีกทางให้ผม

“เค้าเป็นคนทำให้พี่รู้ใจตัวเอง”

“เรื่องอะไรล่ะพี่ต่าย” 

“ก็เรื่องที่ว่า....พี่รักโอมที่เป็น....ผู้ชาย” ผมเงียบไปเลยครับ   มันก็เป็นความจริงที่เรารู้แต่ไม่ค่อยอยากไปเน้นให้มากนัก

“คุณคมเค้าทำให้พี่รู้ว่า.......มันไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร” พี่ต่ายพูดเหมือนรำพึงกับตัวเองมากกว่า

“พี่ยอมรับ....ว่าพี่ไม่รู้หรอกว่าพี่เริ่มมองโอมในแบบนั้นตั้งแต่ตอนไหน”

“แล้วพอพี่มาเจอกับคุณคมอีกที....พี่ถึงรู้ว่าความรู้สึกที่มีต่อโอมมันใช่น่ะ”

พี่ต่ายพูดไปเรื่อยๆ  ฟังดูเหมือนบทเพลงแจ๊ซที่มันอ่อนหวาน  ช่วงนี้ผมขอนั่งฟังเงียบๆครับ  เหมือนกับว่ากำลังโดนสารภาพรักกลายๆ  ออกจะเขินอยู่ไม่น้อย หุหุ   :o8:

“โอมรู้ไม๊......ช่วงที่พี่ลังเลใจว่าควรจะเริ่มกับโอมยังไง...หรือควรจะเริ่มดีไม๊”

“พี่เคยออกไปเที่ยวกับคุณคมด้วยนะ.....”พี่ต่ายหันมามองหน้าผม   รถติดไฟแดงพอดีครับ

ผมอึ้งไปเลยครับ จ้องตาพี่ต่ายไม่รู้ตัว  อารมณ์สับสนบอกไม่ถูก   มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอเหมือนตามันร้อนๆ  น้ำตามันจะไหลอีกล่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรออกไป

“พี่กับพี่คมไปกันถึงไหน”   :m17:
ที่ผมถามมันก็กินความหมายถึงทุกเรื่องแหล่ะครับ  ไม่ได้เฉพาะสถานที่  แต่พี่ต่ายจะบอกผมไม๊ซิ
   
พี่ต่ายเงียบไม่ตอบครับ ผมหลับตา....น้ำตาไหลออกมาเรื่อยๆ   ผมหันหน้าออกไปทางหน้าต่างไม่อยากให้พี่ต่ายเห็น  ทำไมผมต้องเศร้าขนาดนี้นะ   สักพักนึงรถจอดนิ่งพี่ต่ายเปิดประตูออกไป  ผมเลยลืมตาขึ้นมาดู  ถึงบ้านเราแล้วนี่...........บ้านของเรา

 พี่ต่ายกลับมาที่รถแล้วเอารถเข้าไปจอด  พอรถจอดเสร็จผมเดินเข้าบ้านไปเลยครับ  พี่ต่ายจัดการเดินไปปิดประตูรั้ว  ต่างคนต่างไม่ได้พูดอะไร  แล้วผมก็ได้ยินพี่ต่ายตะโกนบอกผมว่า

“โอมไปอาบน้ำก่อนนะดึกแล้ว....แล้วเดี๋ยวเราค่อยคุยกัน”

ผมก็ทำตามที่พี่เค้าบอกนะครับ  อาบน้ำไปด้วยน้ำตาก็ไหลไปด้วย  บางทีก็ยิ้มขำตัวเอง  ว่าพอมีความรักแล้วทุกคนเค้าจะอ่อนแอเกินเหตุแบบผมไม๊  เมื่อก่อนตอนที่มีแฟนผู้หญิง  เวลาเค้าร้องไห้ผมมักจะนึกเสมอว่า  ผู้หญิงนี่ช่างอ่อนแอเสียจริงอะไรนิดๆหน่อยๆก็เอาแต่ร้องไห้  แต่ตอนนี้ดูตัวเองซิมันแย่ยิ่งกว่าผู้หญิงบางคนอีก

นึกไปนึกมาพี่ต่ายยังไม่ได้พูดอะไรซักคำ  ผมท่าจะเป็นบร้าร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่ได้  แต่ความรู้สึกผมมันเหมือนกับว่าพี่ต่ายกำลังพูดถึงแฟนเก่ายังไงไม่รู้  เฮ้อ  o7

อาบน้ำเสร็จพี่ต่ายก็ยังไม่ขึ้นมาผมเลยเข้านอนก่อน  ร้องไห้แล้วมันปวดหัวเพลียๆยังไงไม่รู้ครับ 
นอนรอไปรอมาเลยหลับไปเลย   :sad2:

ตื่นขึ้นมาอีกทีเช้าแล้วครับ  แต่พอกวาดมือที่เตียงไม่มีใครอยู่ด้วย   เตียงมันเย็นมากครับเวลาไม่มีพี่ต่าย  ผมนอนเอามือก่ายหน้าผากอยู่อย่างนั้น  สมองโล่งว่างเปล่านอนต่อดีกว่า  แล้วพอหลับตาน้ำตาก็ไหลออกมาอีก ผมก็ปล่อยให้มันไหลอยู่อย่างนั้น  :o7:

แล้วก็มีคนมาเช็ดน้ำตาให้ผม  นิ้วของพี่ต่ายค่อยๆปาดน้ำตาที่แก้มผม  พี่ต่ายยกหัวผมขึ้นให้มานอนอยู่ที่ตักพี่ต่าย แล้วก็ลูบหัวผม  ได้ยินเสียงของพี่ต่ายแล้วผมยิ่งน้ำตาไหล มีสะอื้นด้วย

“อะไรกันโอม...พี่ไม่มานอนด้วยคืนเดียวเองร้องไห้เลยเหรอ...หืม”

 ผมไม่ตอบแต่นอนตะแคงหันหน้าเข้าหาตัวพี่ต่าย เรื่องอะไรยังไม่รู้อีกหรือไงพี่ต่ายนะพี่ต่าย  มาเล่าให้เค้าฟังทำไมเรื่องไปเที่ยวกับพี่คมน่ะ 

คิดไปคิดมาผมว่าพี่ต่ายรู้แต่แกล้งมากกว่า แล้วพี่ต่ายก็พูดต่อ

“หรือว่าเรื่องเมื่อคืนที่โอมถาม........”

“พี่แค่ไปทานข้าว....แล้วก็” ผมกัดปากตัวเองไม่รู้ตัว ลุ้น

พี่ต่ายพูดๆแล้วหยุดซะงั้นนะครับ  ไอ้คนรอฟังซิลุ้นจนใกล้บร้า แทบจะก้มหน้ากัดน้องชายพี่ต่ายประท้วง  ที่พี่มานแกล้งผม

“แล้วก็อะไร.....”ผมเงยหน้ามองพี่ต่าย ผมว่าเสียงผมนี่โหดน่าดูครับ แต่พี่ต่ายคงไม่กลัวเพราะหัวเราะเสียงดังลั่น   :laugh:

“พี่ไปฟังเพลงกันแค่นั้นเอง...แล้วก็แยกย้ายกันกลับบ้าน”

“แค่ไปด้วยกันแค่นั้นพี่ก็รู้แล้วว่ากับคุณคมน่ะไม่ใช่......เพราะไปไหนพี่ก็คิดแต่ว่าถ้ามากับโอมก็คงจะดี”

“เรื่องพี่กับคุณคมมันมีแค่นี้จริงๆ”  o16

“โอ๊ยยยยยยยยย.................”พี่ต่ายร้องดังลั่นเลยครับ  ก็คงต้องร้องแน่ๆ

เพราะผมเลยกัดที่ขาอ่อนพี่ต่ายเลยครับ  มานแค้นไอ้พี่ต่ายบร้าหลอกให้เราเสียน้ำตาไปหลายปี๊ป  รู้ก็รู้ว่าผมมันบร้าคิดมาก  ขี้ใจน้อยยังมาแกล้งกันอีก

แต่พี่ต่ายก็ไม่ยอมง่ายๆหรอกครับ  ตอนนี้เลยปล้ำกันอยู่บนเตียงแหล่ะครับ พี่ต่ายเลยกัดผมบ้าง  แต่ไม่ได้กัดที่ขาหรือแขนหรอกครับ  แต่กัดที่ปากผมจนผมตัวอ่อนไปหมด แล้วก็มากัดที่คอผม  ผมก็เลยกัดตอบขบไปที่หูพี่ต่ายเบาๆ 

 ตอนนี้เลยบร้ากันทั้งคู่แล้วครับ แลกหมัดกันไปเลย แป๊ปเดียวเสื้อผ้าของผมกับพี่ต่ายก็ไม่เหลือแล้วครับ  พี่ต่ายเริ่มไซร้ที่ซอกคอผม หลังหู แล้วเลื่อนตัวต่ำลงมาเรื่อยๆ ผมได้ยินเสียงตัวเองพูดกับพี่ต่ายสั่นๆว่า

“พี่ไปทำแบบนี้กับพี่คมหรือเปล่า....อือออ”

พี่ต่ายยังไม่ตอบครับปากไม่ว่างกลับมาดูดปากผมอีกรอบ แล้วพี่ต่ายก็ประคองหน้าผมไว้  มองตาผมด้วยแววตาอ่อนหวาน  แล้วพูดเสียงกระเส่าว่า

“พี่ไม่เคยทำกับผู้ชายคนไหน ....โอมเป็นคนเดียว...เท่านั้น” 

ผมไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มตอบ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่มีคำพูดใดๆจากผมและพี่ต่ายอีกเลย  เราจบคำสนทนากันเท่านั้น   ถ้าจะมีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาก็คงมีเพียงเสียงครางของความสุขของเราสองคนแค่นั้นเอง....วิ๊ดวิ้ว..... :m25:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

  แล้วเราก็นอนหลับต่อกันยาวไปจนเกือบเที่ยงครับ  ข้าวเช้าไม่ต้องกินเลย  แต่มาตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงคนกดกริ่งประตูบ้าน  แต่คนอย่างผมเหรอที่จะลุกก่อนเหอๆ 

“ไม่รู้ใครมาน่ะพี่  พี่ต่ายลงไปดูนะ  ผมขออาบน้ำก่อน”

พี่ต่ายก็ไม่ว่าอะไรครับ   ก็พี่ต่ายแต่งตัวเรียบร้อยกว่าผมเป็นคนลงไปเปิดประตูก็ถูกต้องอยู่แล้วนี่   ผมก็อาบน้ำไปอย่างสบายใจครับ  ก็ไม่เห็นพี่ต่ายขึ้นมาบอกว่าใครมา  พอผมอาบน้ำเสร็จชะโงกหน้าลงไปข้างล่าง  มีคนที่คุณก็รู้ว่าใครเบอร์สองมาครับ    ถ้าเป็นเบอร์1 น่ะบุ้ง  แต่เบอร์2 นี่เป็นภาคหลังครับเลยออกมาทีหลัง พี่คมนั่นเอง 

วันนี้มาแบบไม่มีหน้ากากล่ะครับ  เปิดเผยให้เห็นใบหน้าอันสดใสชวนน่ามอง  พี่คมแต่งตัวดีมาเชียวครับใส่เสื้อโปโลสีขาว กางเกงยีน หล่อซะขนาดนี้ เหมือนมีรังสีเปล่งประกายออกมา 

ผมวิ่งกลับมาที่ห้องใหม่อีกทีเปิดตู้เสื้อผ้าส่องกระจกแบบเห็นทั้งตัว  ผมเห็นไอ้ตี๋หัวยุ่งคนนึงมองตอบกลับมา หน้าตามันเหรอๆหราๆ  ตาก็ชั้นเดียวถึงแม้จะมีขนตาดกดำ  มีดีก็แค่มีดั้งกะเค้าหน่อยนึง กับปากสีแดงสดแต่ทำไมวันนี้ยังกับปากแองเจลิน่า โจลี่ยังงี้ล่ะ  ต้องโทษพี่ต่ายจูบผมซะจนผมปากเจ่อขนาดนี้ 

 ไอ้ตี๋คนเดิมมันใส่เสื้อปูนที่เค้าแถมมาครับเขียนว่าปูนตราเสือ พี่เสือไว้ใจได้ แต่ผมชักไม่ไว้ใจตัวเองซิ  ดูเสื้อผมมีรอยมดกัดเป็นรูๆด้วย  แล้วก็มีรอยซีอิ้วกระเด็นเป็นลายดาว  ใส่กางเกงขาสั้นเก่าๆตัวนึงแถมจะหลุดมิหลุดแหล่  ก็ยางยืดมันเสื่อมแล้วนี่  ผมพยายามไปหยิบหวีมาหวีผม  ลองเก็กหน้าหล่อใส่กระจก  แต่หน้าตาผมมันก็ยังหล่อแต่.....หล่อน้อยเหมือนเดิม สรุปกับตัวเองได้แค่ว่า  กรรมของกรูเอง  o6

ผมเลยตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อผ้า  เค้าว่าไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง  ลองพยายามดูซักหน่อยจะเป็นไร พยายามหาชุดที่คิดว่าดีที่สุดมาใส่  ก็เห็นแค่เสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินเข้ม   กับกางเกงยีนส์ขาดๆเหมือนเดิม  ส่องกระจกอีกที  ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วก็พูดกับตัวเองดังๆให้กำลังใจตัวเองว่า   :m19:
 
“เอาว่ะ.....คนจะงามๆที่ใจใช่ใบหน้า  คนจะสวยๆจรรยาใช่ตาหวาน....สู้ๆ....ไฟท์ติ้ง” พร้อมทำท่าYes! Yes! Yes! ประกอบ   :a2:

แล้วผมก็ปิดตู้ครับ............... เห็นพี่ต่ายยืนเอามืออุดปากกุมท้องตัวสั่นกลั้นหัวเราะอยู่  :m20:ผมละอายชิบหายเลย  มาตั้งแต่เมื่อไหร่ว้า  เห็นหมดเลยดิ  ตอนตรูทำท่าบร้าๆบอๆ

ผมเข้าไปทุบที่แขนพี่ต่ายเลยครับ “พี่น่ะ..เข้ามาเงียบๆหยุดไปเลยนะห้ามหัวเราะด้วย”

พี่ต่ายไม่ปิดปากกลั้นแล้วครับคราวนี้หัวเราะออกมาดังๆเลย :laugh: :laugh: :laugh: 555555555555555555555555555555555555555555555555555  แล้วก็ไปนั่งหัวเราะที่เตียง เอามือจับท้องไว้

ผมแทบจะไปหาปี๊ปมาคลุมหัว  ไม่รู้จะทำไงให้พี่ต่ายหยุดขำ  คนอะไรว่ะขำไม่ปรึกษา  ไม่มีเกรงใจกันบ้างเลย

ผมทำอะไรไม่ได้ ก็เลยยืนกอดอกมองพี่ต่ายหัวเราะซะงั้น ยกนาฬิกาขึ้นมาดู

“ผมให้เวลาพี่ 1 นาทีไม่หยุดหัวเราะจะโกรธแล้วนะ”   :angry2: ได้ผลครับท่าทางพี่ต่ายพยายามดีมาก

“โอเคๆ..หยุดแล้ว....โอมนี่น่ารักจริงๆเลย ชอบมีอะไรมาเซอร์ไพรส์พี่เรื่อย...หึหึหึ”พี่ต่ายยังพูดไปหัวเราะไปครับ  :laugh3:

“คืองี้.........คุณคมเค้ามาหาจะมาชวนไปทานข้าว”
ผมกำลังจะบอกว่าไม่ให้พี่ต่ายไปแต่พี่ต่ายพูดออกมาก่อนว่า

“ไปด้วยกันนะโอม...พี่จะคุยกับเค้าเรื่องงานใหม่ด้วย”

พี่ต่ายเอื้อมมือไปหยิบโคโลญ มาทาให้ผม เอาหวีมาหวีให้ผมด้วย ทาแป้งให้หน่อยนึงพอไม่ให้หน้ามัน  หอมแก้มผม แล้วก็ตบแก้มผมเบาๆ  ก่อนมองหน้าผมแล้วยิ้มๆ

“เอ้าหล่อล่ะ...ลงไปคุยเป็นเพื่อนเค้าก่อนเดี๋ยวพี่ไปแต่งตัวก่อน”แล้วพี่ต่ายก็เขม้นมองมาที่ปากผม

“เอ๊ะ แต่ปากเป็นอะไร...แพ้อะไรรึเปล่าทำไมวันนี้ดูเซ็กซี่เป็นพิเศษ”
พี่ต่ายยังมีหน้ามาถามผมอีกนะ แล้วเอานิ้วมาแตะๆจับๆดู

“ก็แพ้ปากพี่ไง...ทำแล้วยังไม่รู้เรื่องอีก...งั่มม” ผมแกล้งกัดนิ้วพี่ต่ายซะเลยเบาๆ พี่ต่ายไม่ร้องอะไรแค่พูดว่า

“งั้นต้องถอนซิ...จะได้หายแพ้”  o18
แล้วพี่ต่ายก็จูบปากผม  แต่ไม่รู้ว่าถอนพิษหรือเพิ่มพิษก็ไม่รู้ครับ ผมว่ามันเจ่อกว่าเดิมอีกตอนที่พี่ต่ายกลับออกไป  ผมต้องมาลูบหน้าลูบตาปรับอารมณ์ก่อนลงไปเจอพี่คม

“สวัสดีครับพี่คม...ขอโทษด้วยครับลงมาช้าไปหน่อยพอดีมันร้อนเลยอาบน้ำอยู่”

“ไม่เป็นไรพี่รอได้....โอมไม่ใส่หน้ากากแล้วก็น่ารักดี  ดูยังเด็กอยู่เลย”

“พี่คมก็หล่อเหมือนกัน...แหะๆๆ”
เหมือนยังใส่หน้ากากกันอยู่เลยครับ  ยอกันไปยอกันมา เฮ้อ..เมื่อไหร่พี่ต่ายจะลงมาซักที  แต่พี่คมแกก็ชวนคุยดีครับ

“โอมเมื่อไหร่จะไปตรวจบริษัทพี่มั่งล่ะ”

“ผมอยู่คนละสายครับพี่....ไม่ได้อยู่สายพี่เพ็ญ”

พี่คมก็เลยพยักหน้า“อ๋อ...มิน่าพี่ไม่เคยเห็นโอมเลย”

“พี่คมกับพี่ต่ายนี่รุ่นเดียวกันไม๊ครับ”ผมเดาอายุไม่ถูก เพราะหน้าตาก็น่าจะพอๆกัน

“พี่เป็นรุ่นพี่คุณต่ายปีนึง....แต่ก็นับว่าใกล้เคียงนะ”อืมก็เป็นเพื่อนกันได้เลยล่ะ แล้วผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรต่อดี เงียบไปซักพัก พี่คมชวนคุยอีก

“งานเมื่อวานสนุกไม๊โอม...ไม่น่ากลับกันก่อนเลย  หลังจากนั้นเค้าเต้นกันต่อมันส์มาก”

“พอดีเหนื่อยนะครับ  ทำงานเสร็จแล้วก็ไปเรียนต่อมาด้วย  ก็เลยอยากพัก”

“เรียนต่อด้วยเหรอขยันจัง โทรึเปล่า”

“ไม่ใช่ครับ..เรียนประกาศนียบัตรชั้นสูงวิชาสอบบัญชี  เรียนไว้เตรียมตัวสอบน่ะครับ”

“เหรอ....แล้วสอบผู้สอบเมื่อไหร่ล่ะ” ผมชักเหนื่อยเหมือนสอบสัมภาษณ์ยังไงไม่รู้

“ปีหน้าครับ...ตอนนี้ก็เริ่มๆอ่านหนังสืออยู่”

  พอผมตอบไปเสร็จพี่ต่ายก็ลงมาพอดี  หล่อมาแต่ไกลเลยครับ ขนาดพี่ต่ายใส่เสื้อลำลองแขนสั้นหลวมๆมีลายดอกไม้จางๆปล่อยชายกับกางเกงยีนธรรมดายังดูดีเลย   คนอะไรไม่รู้ใส่อะไรก็ดูดีไปหมด พอมาดูกันสามคนแล้ว  เค้าจะนึกว่าผมเป็นคนขับรถไม๊เนี่ย 

ตกลงเราไปรถพี่คมกันครับ  พี่คมจะพาไปทานข้าวที่ไหนไม่รู้ผมก็ได้แต่ตามไปกินน่ะครับ  ไม่จ่ายหรอก  อ้อ...แล้วก็ไปสังเกตการณ์ด้วย  ถึงพี่ต่ายจะยืนยันนั่งยันรวมทั้งนอนยันไปแล้วเมื่อเช้าว่าไม่มีอะไร   แต่เราก็ไม่ควรปล่อยกระต่ายย่างไปไว้ตามลำพังกับเสืออย่างพี่คมใช่ไม๊ครับ

ผมก็นั่งฟังพี่เค้าคุยกันไปเรื่อยๆนะครับจนมาถึงร้านอาหารแถวซอยศาลายา ไปกินกันไกลเชียวครับ เป็นร้านอาหารที่จัดแบบไทยประยุกต์กับแบบโมเดิร์นน่ะครับ  ด้านนอกมีหลังคาแบบศาลาไทย  ด้านในตกแต่งแบบสมัยใหม่ทาสีส้มสด  มีภาพเขียนสีน้ำมันประดับอยู่โดยรอบ  ผมเปิดดูเมนูแล้วก็อืมม...ราคาค่อนข้างแพงเหมือนกัน  แต่ดูจากแขกที่มาทานก็เป็นชาวต่างชาติเป็นส่วนใหญ่  ก็คงสมกับระดับของลูกค้าละครับ

 พี่คมเค้าดูดีมีชาติตระกูลมากเลยครับ  อันนี้ไม่รวมเรื่องรถดาว 5 แฉกของแกนะครับ  แต่ผมว่ากริยามารยาทการพูดคุยดูดีมากๆ  ถ้ามาเทียบกับผมแล้วคงประมาณแมวเปอร์เซียกับปังคุงนะครับ  พอคิดได้แบบนั้นผมก็หงอยไปในบัดดล 

แต่ดีที่พี่ต่ายนั่งข้างเดียวกับผม พี่ต่ายจับมือผมไว้ตลอดถึงแม้ว่ามือของเราจะซุกอยู่แค่ใต้โต๊ะ   เหมือนกับความรักของเราที่ไม่ได้เปิดเผยทั่วไป  แต่อย่างน้อยมันก็แสดงว่าความรักของเรายังมีอยู่.....ผมรู้สึกได้ :impress2:

ระหว่างรออาหารพี่คมก็ถามพี่ต่ายเรื่องงานครับ  ทำให้ผมต้องฟังไปด้วย
“คุณต่ายตัดสินใจได้หรือยังครับ...ผมจะได้ไปบอกนาย”ผมหันไปมองพี่ต่าย  ตัดสินใจอะไรน่ะ สงสัย 

พี่ต่ายพูดกับคุณคมแบบสบายๆครับ “ผมยังไม่ได้ตัดสินใจ   ขอถามคนที่บ้านก่อน...กลัวเค้าจะห่วงเพราะงานที่ทำตอนนี้ก็โอเคค่อนข้างดีอยู่แล้ว” ฟังแล้วก็ยังไม่ชัดเจนเลย

“แต่ผมก็รอนะ.....”

“เพราะกว่าเรื่องการดำเนินงานของบริษัทจะเรียบร้อยก็ปีหน้า แต่ผมอยากให้มาร่วมก่อนเริ่มทำงานกัน   มันจะง่ายกว่า”

“ผมว่าออกมาเถอะ   ทำงานที่บริษัทผมสบายกว่าอยู่บริษัทคุณเยอะจะได้มีเวลาไปเรียนโทด้วยไง”

พอผมฟังที่พี่คมพูดก็พอรู้แล้วครับ  สรุปก็คือพี่คมจะดึงตัวพี่ต่ายไปทำงานด้วยน่ะเอง  ผมก็เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง  ผมมองพี่ต่ายก็ดูเฉยๆไม่แสดงออกว่าสนใจหรือไม่สนใจ

“ผมอยากให้คุณต่ายลองไปคุยดูก่อน   ไปฟังscope ของงาน แล้วก็เรื่องเงินเดือนด้วย  เรื่องความมั่นคงไม่ต้องห่วง  บริษัทผมปึ๊กแค่ไหนคุณต่ายตรวจบัญชีอยู่ก็รู้ดี”

พี่ต่ายก็คงสนใจเหมือนกันครับ  เป็นผมก็สนใจ “ก็ได้ครับ...งั้นคุณคมนัดให้ผมหน่อยแล้วกันว่าจะไปคุยวันไหนได้   ผมจะได้ลาหยุด”

“ดีครับดี   แล้วผมจะบอกคุณต่ายอีกที”พี่คมยิ้มดีใจมากเลยครับ  เลยอารมณ์ดีมาชวนผมคุยด้วย

 “น้องโอมไม่เห็นค่อยคุยเลย  เบื่อไม๊ครับ”

“ไม่เบื่อครับ  ฟังเพลินไปเลย”ผมยิ้มให้พี่คม

“แต่ทำไมใครๆเค้าชอบมองเรา   พี่คมรู้จักเหรอครับ”
เวลาไปไหนกับคนหน้าตาดีนี่ลำบากใจเหมือนกันครับ  ไปไหนก็คนมอง  ไอ้เราก็พลอยติดร่างแหความหล่อไปด้วย ก็ทั้งพี่คมพี่ต่ายแกเปล่งประกายออร่ามาเผื่อผมด้วย  พี่คมหัวเราะ แล้วพูดด้วยความมั่นใจว่า

“หึหึ  ไม่รู้จักหรอก   เราสามคนคงน่าสนใจมั๊ง”
ผมก็พลอยยิ้มไปด้วย  กำลังฟังเพลินๆครับ  พี่คมก็ถามขึ้นมาว่า

“โอมมีแฟนหรือยัง” ผมสำลักน้ำเลยครับ  :m30: ดีที่ไม่พ่นพรวดออกมาให้ได้อาย  แต่ก็ไออยู่พักใหญ่ หน้าก็ธรรมดาแล้วถ้ามารยาทแย่  จะทำให้คนที่มาด้วยเค้าอับอายน่ะครับ

“.......................” คิดไม่ทัน  จะตอบไงดี เหมือนสมองเสื่อมไปพักใหญ่

ผมมองหน้าพี่ต่าย  ถามในใจว่า     -ตอบว่าไงดี -  :m21:

 ดูหน้าพี่ต่าย........ไม่บอกผมครับ สงสัยไม่มีคลื่น  คงจะอยู่มุมอับสัญญาณ  ผมขยับตัวหาคลื่นนิดนึง  ท่าทางพี่ต่ายเริ่มรับสัญญาณได้  แต่ยังทำหน้าเป็นปริศนาอยู่

 เอ๊ะหรือจะบอกว่า          - คิดเอาเองซิโอมโตแล้วนะ  ต้องตัดสินใจเอง –  :teach:

  ผมถามในใจไปอีกรอบ    - งั้นผมบอกไปเลยนะว่าเป็นแฟนพี่ –

 พี่ต่ายไม่บอกอีกล่ะ แต่ยิ้มหวาน   -  โอมบอกไปเลย –

- อย่าท้านะ  -   ผมส่งสายตาบอกไปอีก   ทำไมมันเหนื่อยอย่างนี้ล่ะ  พูดกันปรกติดีกว่ามั๊ง

แต่พี่คมคงรู้ว่าเราคุยกันทางโทรจิตน่ะครับ  เลยหันไปถามพี่ต่ายแทน หน้าตาจริงจัง

“โอมเป็นแฟนต่ายหรือเปล่า.........”

ผมหุบปากเงียบ ตกใจกับคำถามนี้ ทำตาปริบๆ “..........................”  o22

 พี่คมมีเกย์ด้าแน่เลย  สงสัยมีรุ่นใหม่ด้วย  พยากรณ์แม่นยำ  ครั้งเดียวโป๊ะเชะ หรือเป็นเทพธิดาพยากรณ์ 1911 อาชีพเสริม

พี่ต่ายซิครับตอบไปเลยมั่นใจสุดๆ  “.......................ใช่ครับ”

 คำเดียวเองครับง่ายๆสั้นๆ  แต่ชัดสุดๆ เหมือนกับว่า  ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวถูกแฮรี่ พอตเตอร์เสกเวทมนต์ให้หยุดนิ่ง  :oni3: ถ้าใครทำเข็มตกซักเล่มก็คงได้ยิน  แต่ผมน่ะเหมือนอย่างกับมีดนตรีรับตอนประกาศผลรางวัลออสก้า แต่น แตนแตนแต๊นนนนนน  ผมเกือบเผลอลุกยืนโค้งคำนับให้ผู้ชมที่ปรบมือให้
+
+
+

แล้วก็.....เฮ้ยยยยย!!!!.....พี่ต่ายพูดอะไรออกไป ปลื้มก็ปลื้มนะ อายด้วย ความรู้สึกปนๆเปๆแยกไม่ออก  ผมหน้าแดงสลับซีด  :m29: เหมือนทีวีเสื่อมสภาพ   ส่วนพี่คมผมเดาใจแกไม่ถูก  หน้าพี่คมเฉยมากๆ   แต่ถ้าไม่ได้คิดไปเองผมว่าซีดไปเล็กน้อย  แต่ก็ยังสงบนิ่งอยู่ ผมว่าพี่คมคงนึกไม่ถึงว่าพี่ต่ายจะตอบตรงๆแบบนี้ แล้วพี่คมก็ฝืนส่งยิ้มมาให้ผมแล้วบอกผมว่า

“พี่ดีใจด้วย...พี่ดูไม่ผิดจริงๆ” พี่คมแกเป็นพระรองหนังเกาหลีจริงๆครับ  ตอนอกหักยังไม่วายหล่อ  หล่อไม่สร่างจริงๆ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขำๆกันนะอย่าไปเศร้าเลย ยังมีรักรออยู่เสมอ (บอกตัวเองด้วยหุหุหุ)  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 27-12-2007 10:13:15
อ่า....ตอนนี้อ่านแล้วได้จายยยยจิงจิงครับบบบ

เยี่ยมเลยยยยยย ตรงประเด็น.......

พี่ต่าย...ตัวจริง..ชัดเจน  o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 27-12-2007 10:23:48
 :mc1:ฉลองใหเกบความกล้าของพี่ต่ายครับ o13 สะใจมากกล้าทำ กล้ารับนี้ ปลื้มๆๆๆ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 27-12-2007 10:49:53
ในที่สุดก็บอกความจริงกะพี่คมไป  เคลียร์ไปอีกหนึ่งคน  :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-12-2007 11:00:08
ใช่ครับ   :oni2: :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
เยี่ยมมั่กๆ  :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 27-12-2007 11:27:59
ซูดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ยอด

 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 27-12-2007 12:31:09
จิ้มคนข้างบนนนนนน  :m1:

หลงรักพี่กระต่ายซะแล้วสิ.....อบอุ่น แม๊นแมน กล้ารับเต็มปากเต็มคำ  :o8:
มีขายห้างไหนหว่า....ปู้ชายอย่างเงี้ยยยยย เหมาหมดเซตได้มะ .....
 :impress2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 27-12-2007 15:25:21
 :mc3:  พี่ต่ายเยี่ยมมากกน่ารักที่ซู้ดด :m1:

พี่คมก็อกหักแล้วดิ   มาทางนี้ก็ได้น๊า  คิกๆๆ   

ปล.เสียงครางแห่งความสุข เหอๆๆ ช่างคิดคำเนอะ.... :m25: ชักอยากมีความสุขซะแว้ววว  :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tonnaruk ที่ 27-12-2007 18:52:20
 :oni1: :oni1: :oni1: เย้ เย้ เย้ หมดเรื่องน่าปวดหัวไป 1

เหลือบุ้งอีก 1 เชียร์ คม กับ บุ้ง ให้รักกันดีกว่าเนาะ

                       555  :mc4:  :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 27-12-2007 19:01:15
พี่ต่ายน่ารักจริงๆ  ตอบอย่างเปิดเผยเลย ว่าเป็นแฟนกัน
น่ารักอย่างนี้จะหาได้ที่ไหนเนี่ย :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 27-12-2007 22:01:33
ใจกล้า หน้าด้านอย่าง พี่ต่าย
อิอิ ชอบมากจ้า  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 27-12-2007 22:30:22
โอ๊เย......พี่ต่ายสุดยอด   :m4: :m4: :m4:


 :mc2: :mc2: :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 28-12-2007 00:04:17

พี่ต่ายน่ารักจังงเลยคับ คุณคมก็ดูสุภาพบุรุษดี
ขอซื้อต่อคนนึง ใส่ถุงล้วย อิอิ  :mc1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 28-12-2007 01:15:38
เพิ่งได้มาอ่าน ...ตอนแรกมึนส์ๆ นึกว่าเป็นนิยายจบแล้ว .. :o8:
เพราะว่า ถ้ายังไม่จบมันจะติดหนึบหนับ ...

อ่านไปอ่านไป..ก็ลุ้นตัวโก่ง หลายตอนอยู่ ...
ชอบพี่ต่าย ..กะ น้องโอมอย่างแรง ..
(แอบชอบพี่อิง กะ เฮียอั้มด้วย 555)
หลายใจจิงตู..  :m13:

เอาเป็นว่า จะตามติดต่อไปค่ะ ...
สนุกดี ..  :m1:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 28-12-2007 10:12:10
สงสัยคนอ่านจะหนีไปเที่ยวปีใหม่กันหมดแล้ว  :mc1:
แต่คนที่ไม่ได้ไปไหนก็อ่านไปเพลินๆก่อนนะ  :mc3:
เพราะหลังจากนั้นอาจจะไม่ได้มาลงทุกวัน :m29:
สต็อคจะหมดแล้ว หุหุหุ ทำไงดีล่ะ :a6:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 47

ตอนที่พี่คมพูดออกมา  ผมนึกว่าจะเจอคำพูดอะไรที่ไม่ดีแล้วครับ  แต่ก็อย่างที่พี่ต่ายบอกว่าพี่คมนิสัยดี  ผมก็เลยไม่เจออะไรที่ไม่น่าฟังครับ  ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร  แต่พี่ต่ายคงรู้ใจผมเลยพูดขึ้นมาก่อน

“ขอโทษอีกครั้งนะคุณคม.....”

พี่คมยิ้มเศร้าๆให้พี่ต่าย “จะขอโทษเรื่องอะไรครับ...ความรักมันบังคับกันไม่ได้”

“ทั้งที่ผมรู้จักคุณมาตั้งนานแล้ว   คุณก็ยังไม่เคยมองผมแบบที่มองโอมเลย”น้ำเสียงพี่คมเหมือนจะพูดกับตัวเองมากกว่า

“ผมดูเวลาคุณมองกันผมก็รู้แล้ว”

ผมน้ำตาซึมฟังพี่คมพูดแล้วเหมือนดูละครเศร้า  แอบสงสารเห็นใจพี่คมนิดนึง  แต่ก็ยังดีที่ไม่ใช่ตัวเองต้องมาพูดคำพูดพวกนี้  เก็บไว้ให้พระรองอย่างพี่คมพูดดีแล้ว

“ถ้าคุณมีปัญหาอะไรคุยกับผมได้นะ   เราก็เหมือนเพื่อนกันมากกว่า”พี่คมพูดกับพี่ต่ายครับ  แล้วก็หันมาพูดกับผมว่า

“น้องโอมถ้าเบื่อคุณต่ายเมื่อไหร่อย่าลืมบอกพี่   พี่รอเอาให้ของเก่ามาเทิร์นของใหม่อยู่นะ.....รับรองพี่หาของใหม่ให้โอมไม่แพ้ของเก่าเลย”  :m12:

พูดเสร็จแกก็หัวเราะครับ  :laugh3: ผมก็ได้แต่หัวเราะแหะๆ  นึกในใจพี่คมยังชอบพี่ต่ายอยู่นะซิ  พร้อมรับเทิร์นชั่วชีวิตเลยไม๊ล่ะ   ถ้าพร้อมก็รอไปเถอะไม่มีทางหรอก  ผมมันคนชอบใช้ของเก่าๆมันคุ้นเคยกันดี  แล้วก็ทนดีด้วย  พูดอย่างนี้ก็แสดงว่ายังวางใจ100%ไม่ได้ซิ

หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่องอื่นไปเลยครับ  ไม่มีใครพูดเรื่องนี้อีก  ผมเพิ่งรู้มาอีกอย่างนึงว่าพี่คมเองก็มีใบอนุญาตผู้สอบบัญชีแล้ว  คุณสมบัติแกเพียบพร้อมจริงๆครับ  ไอ้รถที่ขับอยู่ก็ของตัวเอง  รู้สึกว่าจะรวยอยู่แล้วเดิม   ทำงานก็แบบสนุกๆ  กิจการของที่บ้านก็มี    แต่ไม่ได้ทำเองจ้างผู้บริหารมืออาชีพมาทำ  พี่คมบอกว่าจะเลือกทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำเท่านั้น    แต่ดูๆเหมือนแกไม่มีความสุขเท่าที่ควรยังไงไม่รู้ครับ

มื้อนี้พี่คมขอเลี้ยงทีแรกพี่ต่ายไม่ยอมจะจ่ายเอง   แต่พี่คมก็ไม่ยอมเหมือนกันในที่สุดพี่คมก็เลยเลี้ยงจนได้   ส่วนผมไม่ว่าเป็นใครก็ฟรีอยู่แล้วครับ  เลยได้แต่นั่งดูสองคนแย่งกันจ่ายแบบขำๆ   เสร็จแล้วพี่คมก็ขับรถไปส่งเราที่บ้าน  แล้วพี่คมก็ขอตัวกลับ  ก่อนกลับผมเดินไปส่งพี่คมที่รถ  ไปขอบคุณที่พาผมไปเลี้ยง

“พี่คมขอบคุณนะครับ  อาหารอร่อยมาก  ถ้าพี่คมไม่พาไปผมคงไม่รู้จักร้านนี้”

“ชอบใช่ไม๊วันหลังพี่พาไปร้านอื่นอีกก็ได้   ถือว่าพี่เป็นพี่อีกคนแล้วกันนะโอม”

พี่คมแกดีนะครับ  ผมว่าแกเป็นลูกผู้ชายคนนึงจริงๆ  ผมก็เลยพยักหน้าตอบรับให้แกเป็นพี่ผมอีกคน  แต่คำพูดของพี่คมต่อมานะซิครับ

“แล้วพี่ชายโอมอีก 2 คนน่ะยังโสดใช่ไม๊...อย่าลืมแนะนำให้พี่ล่ะ55555  พี่อยากเป็นพี่สะใภ้โอม5555”  :laugh:

 ผมยังอ้าปากค้าง   :sad5: ยืนอึ้งเกาหัวงงๆอยู่เลยครับตอนที่พี่คมขับรถออกไป    พี่แกพูดจริงพูดเล่นเนี่ย  ผมจะบร้าตาย หุหุหุ

พอผมเข้าไปในบ้านพี่ต่ายก็ยกน้ำมะนาวปั่นมาให้ผมทานพอดีครับ  มีแฟนช่างเอาใจนี่มันดีจังเลยครับ   ผมเลยเดินไปกอดแล้วก็หอมแก้มพี่ต่ายเป็นรางวัลซะหนึ่งที

“เดี๋ยวนี้โอมใจกล้าขึ้นเยอะนะ”พี่ต่ายยิ้มหวานให้ผมอีกแล้ว

“ก็พี่น่ารักอ่ะ....ต้องให้รางวัลซิ”ผมเดินไปเกี่ยวแขนให้มานั่งที่โซฟาด้วยกัน

“พี่ต่ายไม่ทานเหรอ”ผมยื่นแก้วน้ำมะนาวให้พี่ต่ายชิม  พี่ต่ายส่ายหัวทำเป็นหลับตาปี๋

“พี่ไม่ชอบทานเปรี้ยวๆ”พี่ต่ายทำหน้าเปรี้ยวแทนผม  น่าร๊ากจริงๆ  :m1:

ผมดื่มไปก็อดถามพี่ต่ายไม่ได้ “อ้าว.....แล้วพี่ทำทำไมล่ะ”

“ก็เห็นโอมชอบทาน....อีกอย่างทานแล้วได้วิตามินซีจะได้ไม่เป็นหวัดด้วย”
น่ารักขนาดนี้   จะไม่รักได้ไงเนี่ย เฮ้อ!  แล้วผมก็ควรเอาใจพี่ต่ายบ้างซิ ผมก็เลยลองเสนอตัวช่วยพี่ต่ายซะหน่อย

“แล้วพี่ต่ายจะทานอะไร  ผมทำให้เอาไม๊” ผมพยายามส่งสายตาอันน่าเอ็นดูไปให้พี่ต่าย  :impress:

พี่ต่ายไม่ตอบครับแต่ทำหน้ากรุ้มกริ่ม  หยิบแก้วน้ำที่ผมดื่มหมดแล้วเอาไปวางที่โต๊ะ จูบมือผมเบาๆ  แล้วก็ดึงผมลุกขึ้น  ผมเลยงงๆถามพี่ต่ายไป

“จะออกไปกินข้างนอกเหรอพี่   ยังไม่หิวข้าวเลย”พี่ต่ายส่ายหัว

“ในนี้แหล่ะก็โอมบอกจะทำให้พี่ไง...ไปข้างบนกัน”  :interest:
ผมขมวดคิ้วพักนึง ยังคิดไม่ออกครับ  แต่พอมองหน้าพี่ต่ายอีกที พี่ต่ายพยักหน้าเชิญชวนอีกรอบครับ  เห็นหน้าก็จะบร้าแล้วครับ  ไอ้พี่ต่ายบร้าลามกจริงๆ

“พี่ต่ายหื่นน่ะ...ไม่ไหวแล้วพี่เมื่อเช้ายังไม่พออีกเหรอ...ไม่เอา”
ผมสะบัดมือพี่ต่ายนั่งกอดอกไม่ไปไหนล่ะครับ  คิดแต่เรื่องอย่างว่าตลอดเลย 

พี่ต่ายหัวเราะใหญ่เลยครับ “พี่ก็พูดไปงั้นแหล่ะ...เผื่อฟลุค หึหึหึ”  o3

ผมหันไปมองพี่ต่าย  ท่าทางจะชอบมากเลยแกล้งผมเนี่ย พี่ต่ายมานั่งลงข้างๆผม ทำหน้าซีเรียสเชียวครับ

“พี่มีเรื่องจะปรึกษา” ท่าทางจะเป็นเรื่องใหญ่ ผมพยายามตั้งใจฟัง พี่อย่าขอผมแต่งงานแล้วกัน   ถ้าเรื่องนี้ผมต้องถามแม่ก่อนค๊าบ อิอิ

“พี่จะถามโอมว่า พี่จะลาออกดีไม๊ ”

“อ้าว...ก็ต้องแล้วแต่พี่ซิ...ผมไม่รู้” มันก็เรื่องใหญ่นะครับจะเปลี่ยนงานที่ทำมาสี่ห้าปีแล้ว

“ก็ที่พี่บอกคุณคมไปไงเมื่อตอนกลางวัน   ว่าต้องถามคนที่บ้านก่อน”พี่ต่ายโอบไหล่ผมบีบไหล่ผมเบาๆ

“ตอนนี้ทุกเรื่องที่สำคัญพี่ก็ต้องให้โอมรับรู้ด้วย....”พี่ต่ายพูดนุ่มนวลมากเลยครับ ผมก็กำลังยิ้มปลื้มใจอยู่เลย   แล้วพี่ต่ายก็คุยต่อว่า

“ไม่งั้นโอมจะน้อยใจ....แล้วก็้ร้องไห้ขี้มูกโป่งอีก หึหึ” เฮ้อ....พี่ต่ายก็ยังคงเหมือนเดิมครับกวน.....อีกล่ะ   จะทำไงดี ฮือๆ

“แต่ไม่เป็นไรนะ.....พี่ชอบ.....ร้องไห้ทีไรก็ได้ปลอบ.....ปลอบทีไรก็ได้ทำแบบนี้....”

  พี่ต่ายจูบปากผมเบาๆ แล้วก็กอดผมไว้  ผมเอนหัวลงไปพักที่ไหล่ของพี่ต่าย  เราต่างซึมซับบรรยากาศความอบอุ่นนี้ไว้ด้วยกัน ตกลงก็ไม่ได้คุยเรื่องเปลี่ยนงานกันเลยครับ  มัวแต่จุ๊กๆจิ๊กๆกันอยู่จนลืมไปเลย   :-[
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   อีกหลายวันต่อมาพี่ต่ายก็บอกผมว่าจะลาหยุดงานไปคุยที่บริษัทพี่คม  ผมก็ได้แต่รอว่าพี่ต่ายจะตัดสินใจยังไง  แต่ที่สุดแล้วยังไงพี่ต่ายก็ยังอยู่บ้านเดียวกับผมอยู่ดี  แต่ถึงไปทำงานกับพี่คมผมก็เฉยๆแล้วครับ  ไม่รู้ว่าเชื่อคนง่ายเกินไปรึเปล่าซิ

   ส่วนผมช่วงนี้ก็เรื่อยๆครับอ่านหนังสือบ้าง  เตรียมตัวสอบ ปส.ด้วย ติงมาชวนผมเรียนต่อโทที่มหาลัยของรัฐแห่งนั้น(ไม่อยากใช้แห่งหนึ่งคนใช้เยอะแล้วครับ)  แต่เป็นภาคกลางวัน  ผมก็เลยลังเลว่าจะเอาไงดี

“ถ้าเราเรียนตอนกลางวันเราก็ต้องลาออกซิติง   แต่เรายังทำงานไม่ถึง 2 ปีเลย เค้าต้องให้มีประสบการณ์ไม่ใช่เหรอ”
“ก็ลาออกซิ   เดี๋ยว 2 ปีปุ๊ปออกเลย นะโอมไปเรียนด้วยกันอยากให้ไปเป็นเพื่อนด้วยน่ะ”

เหอๆๆๆ ติงพูดง่ายจังเลย ลาออกแล้วเกาะพ่อแม่กินต่อเหรอ  เรียนอย่างน้อยก็ต้องเกือบสองปี  แล้วจะเอาอะไรกินล่ะ แล้วติงก็เล่าให้ผมฟังว่า  เธอมีแผนอะไรบ้างครับ

“เรากะว่าปีหน้าใช่ไม๊เราก็ทำงานเก็บเงินไว้เรียน   พอสอบผู้สอบได้เราก็รับจ๊อบซิทำบัญชีหรือสอบบัญชีก็ได้   เป็นพวกรับทำงานอิสสระ”

“มันจะหาง่ายแบบนั้นเหรอติง”ผมว่าพูดยังไงมันก็พูดได้แล้วเราจะสอบกันได้รึเปล่าก็ยังไม่รู้เลย ผมว่ามันออกจะฝันเฟื่องเกินไปหน่อย

“เอาน่าอะไรก็ทำได้ทั้งนั้นแหล่ะ   ถ้าเราวางแผนให้ดีแล้วก็มั่นใจในตัวเอง”

ติงเค้าก็มั่นใจดีครับผมก็เลยไม่ได้ขัดอะไร  ผมว่าทำได้แบบที่ว่าก็ดี ผมก็ไม่อยากไปขอเงินที่บ้านมากเท่าไหร่  เพราะที่จริงผมทำงานได้แล้วก็น่าจะให้เงินแม่มากกว่าด้วย  แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยให้อะไรเลย กะว่าปีใหม่นี้แหล่ะจะซื้อของขวัญไปให้ทุกคน

ทำงานอยู่เพลินๆก็มีโทรศัพท์เข้ามาครับ พี่ต่ายนั่นเองแปลกจังปรกติพี่ต่ายไม่ค่อยโทรหาผมก่อน

“ครับผม....”อยากจะถามว่านึกยังไงโทรมาติงก็นั่งอยู่ด้วยซิ

“มีใครอยู่ด้วยไม๊โอม....คุยได้ไม๊” พี่ต่ายน่าจะอยู่ข้างนอกครับผมได้ยินเสียงรถ

“มีครับ...คุยได้”พี่ต่ายโทรมาทั้งทีคุยไม่ได้ตรูก็จะคุยฟระ

“โอมวันนี้พี่อาจจะกลับเย็นนะ   ว่าจะไปธุระต่อ”ผมก็อยากรู้ว่าไปไหน  แต่พี่ต่ายไม่บอกซิผมก็เลยได้แค่เงียบ

“ตกลงพี่อาจจะลาออกนะโอม   แต่ไว้คุยกันที่บ้านแล้วกัน”

“ครับ....”ไม่รู้จะพูดอะไรดี

“ทำไมไม่พูดอะไรเลยปรกติพูดจ๋อยๆ”แล้วพี่ต่ายคงนึกได้ว่าผมนั่งอยู่กับคนอื่น

“อ๋อ....พี่ลืมไป   งั้นตอบพี่ก็พอนะ”

“คิดถึงพี่ไม๊ครับ”

“ครับ”

“รักพี่ไม๊ครับโอม” อารายวะถามกันอย่างงี้เลยเหรอ หน้าแดงเลย  :o8: ชอบแกล้งผมเรื่อยเลย

“ว่าไงครับ  ตอบให้พี่ชื่นใจหน่อย”เสียงพี่ต่ายออดอ้อนมาเลยครับ 
+
+
+
“ครับ”ผมอายนะเนี่ย เหมือนพี่แกมานั่งถามอยู่ตรงหน้าเลย

“รักมากไม๊” ยังไม่พออีก พี่ต่ายนะ ไม่รู้วันนี้พี่ต่ายอารมณ์ไหนกันแน่

“มากครับ”เอิ๊กก ....อยู่บ้านไม่ถาม  เจอกันอยู่ทุกวัน แต่คิดไปคิดมาผมก็ไม่เคยบอกรักพี่ต่ายจริงๆแหล่ะ

“ชื่นใจจัง  แล้วเจอกันที่บ้านนะครับ   พี่ก็รักโอม”
แล้วพี่ต่ายก็วางหูไป  ทิ้งผมนั่งเป็นคนป่วยหน้าแดงอยู่ท่ามกลางเพื่อนร่วมงาน  ผมวางสายไปตั้งนานแล้วหน้าก็ยังแดงอยู่  :-[

ทำงานก็แบบเบลอๆอยู่ครับ  มิน่าพี่ต่ายถึงไม่ชอบคุยกับผมเวลาทำงาน  มันคงเป็นแบบนี้แหล่ะ
“โอมไปทานข้าวกัน...เป็นไรน่ะไม่สบายเหรอตัวร้อนปะ”ติงคงเห็นผมเบลอๆครับ

“ไปดิไป..หิวเหมือนกัน” ผมเก็บของเตรียมออกไปกินกลางวันครับ แต่ติงมากระซิบกับผมว่า “เราไปกินกันสองคนนะโอม”

“มีอะไรเหรอติง”ติงมีเรื่องอะไรอีกล่ะ   ไม่ใช่ให้เป็นพ่อสื่ออีกนะ  ถ้าถามอีกยอมเสียเพื่อนเว้ย

“เหอะน่ะ” ติงพูดแค่นี้แล้วก็ป่าวประกาศกับทุกคนว่า   วันนี้ขอไปกับผมสองคนเพราะจะไปซื้อของกันต่อ

แล้วเราก็แยกกันไปหาร้านเงียบๆทานกันครับ  พออาหารมาติงก็ขอยืมโทรศัพท์ผมบอกว่าลืมเอาของตัวเองมา  ผมก็ให้ไปไม่คิดอะไร ผมก็นั่งกินข้าวไปเรื่อยๆ เห็นติงกดไปกดมาที่โทรศัพท์แล้วก็ยื่นคืนมาให้ผม

“อ้าวแล้วไม่เห็นโทรล่ะ” ติงยืมไปทำไมไม่เห็นโทรออกหาใครเลยครับ แต่ติงไม่ตอบผมว่าทำไมไม่โทร

“โอม...พูดความจริงกับเรามานะ”หน้าตาติงขึงขังมากเลยครับ o12

“โอมเป็นแฟนกับพี่ต่ายใช่ไม๊?” เหมือนคนโดนน็อคน่ะครับ   ข้าวติดคอในทันใด ต้องรีบหาน้ำมาดื่ม  ติงมันบ้าไปแล้วถามมาได้ไงว่ะ  :m30:

“แค๊กๆๆๆ.......ติงพูดผิดปะผมงงนะ”

“โอมบอกเรามาเถอะ.....เราทำใจได้”ดูติงมานพูดครับ

“ทำใจเรื่องอะไร”ผมยังงงกับเพื่อนผมอยู่   ยิ่งคบกันติงยิ่งไม่ค่อยเหมือนผู้หญิง

“ทำใจเรื่องที่ผู้ชายจะหายไปจากคู่ของผู้หญิงอีก 2 คนน่ะซิ”  :teach:
 
“เหอะๆๆๆๆ ห่ะๆๆๆ” ผมว่าเสียงหัวเราะของผมมันสะเหล่อน่าดู   แต่จะทำอะไรได้นอกจากฝืนๆหัวเราะออกไปล่ะครับ  :m23:

“ติงไม่กินข้าวล่ะเย็นหมดแล้ว  เดี๋ยวไม่อร่อยนะ”ผมแกล้งกินต่อครับ แต่กลืนไม่ค่อยลงหลบตาติงไว้อย่าไปสบตา  เค้าจะว่าเป็นกระสือก็ช่างเค้า  หลบไว้ๆ  o6

ติงก็กินข้าวอย่างที่ผมชวนนะครับแต่ก็พูดไปด้วย เข้าใจล่ะทำไมชวนมากินกันสองคน
“ติงสังเกตมาหลายครั้งล่ะ วันนี้ก็อีกพูดโทรศัพท์ไปก็หน้าแดงอยู่นั่นแหล่ะ ยิ้มด้วยจนปากจะฉีก หูก็แดง  โอ๊ยเห็นแล้วหมั่นไส้”  :o9:

“เราดูแล้วนะเมื่อกี้พี่ต่ายโทรมา อิอิอิ  ไม่ต้องมาปฏิเสธเลยโอม”

ผู้หญิงที่เป็นนักตรวจสอบบัญชีนี่อย่าไปคบมากครับ  มานตรวจสอบหมดทุกเรื่องเลย  ผมล่ะทึ่งกับประสิทธิภาพของติง  ผมเลยทำมือวนๆเหมือนเลื่อนเมาส์บนโต๊ะ  กดที่นิ้วชี้จิ๊กๆๆ  แล้วเอานิ้วจิ้มไปที่หน้าผากติง  ติงหน้าหงายไปเล็กน้อย  ติงงงครับว่าผมเล่นละครใบ้เหรอ

“ทำอะไรโอม  ถามแค่เนี้ยแกล้งเสียสติเลยนะ”

“เรากดdelete แล้วไง ความจำลบหมด แล้วก็ปิดเครื่องแล้วด้วย หยุดพูดได้แล้วกินไป”

ติงอ้าปากค้างกับมุขของผม  แต่เธอเป็นผู้หญิงที่อดทนครับ ยังไม่ย่อท้อ ผมชักดีใจที่ไม่จีบติง ขืนมีแฟนแบบนี้คงโกหกอะไรไม่ได้เลย

“โอมไม่ต้องมาเฉไฉเลย  ถ้าไม่บอกเรานะเราจะไปบอกหมี เนย พี่ส้ม พี่ก้อง พี่เพ็ญ พี่มีน  พี่.....”ผมต้องเสียมารยาทเอามือไปอุดปากติงครับ  ไม่งั้นไม่หยุด  กรูจะบร้า  :sad5:

“เออ..เป็นแฟนแล้วไง”ผมจ้องหน้าติงที่ตอนนี้ยิ้มปากฉีกเลยครับ  หน้าทะเล้นมาก แต่ก็ยังน่ารัก หึหึ  ผมยอมเลยครับ

“ไม่ต้องไปบอกใครเลยนะ  ไม่งั้นโกรธจริงๆด้วย” ติงพยักหน้าประมาณ 5 รอบครับแต่

“แต่โอมต้องเล่ามาให้ฟังให้หมดด้วยล่ะ” ยายเพื่อนสาวตัวแสบเบอร์1เลยครับ

ผมจะทำอะไรได้ล่ะครับ  ผมต้องตกเป็นทาสของติงไปแล้ว ฮือๆพี่ต่ายไม่น่าโทรมาเลยวันนี้  ความแตกจนได้  แต่ก็ดีไปอย่างนึง  ตอนนี้ผมมีที่ปรึกษาแล้วครับ เรื่องนี้ยังไม่มีใครรู้เลยนอกจากพี่คม แล้วก็ติง  ส่วนบุ้งผมว่ามันรู้ครับแต่มันไม่ยอมรับมากกว่า

“โอมรู้ไม๊เราดีใจมากเลยนะ   ที่พี่ต่ายกับโอมเป็นแฟนกัน”ติงดูมีความสุขมากครับที่ได้รู้ความลับของผม   :m4:

“ทำไมละติง  ผมไม่เข้าใจ” ไม่เข้าใจผู้หญิงจริงๆ  ว่าคิดอะไรกัน ติงพูดด้วยน้ำเสียงร่าเริงต่อไปว่า

“ก็เราชอบพี่ต่าย ชอบโอม  คนที่เรารักทั้งสองคนมารักกันเราก็ต้องดีใจซิ”

“เราจะช่วยโอมปกปิดเอง  ดีไม๊”พอติงพูดขึ้นมาผมว่าฟังดูแปลกๆ  ผมรู้สึกเศร้าใจครับ  ความรักของผมมันเป็นเรื่องที่ต้องปกปิดเชียวเหรอ

“ติงไม่ถึงกับต้องปกปิดหรอก  แค่เป็นกำลังใจให้ผมก็พอ”ผมรู้สึกได้ถึงความเศร้าในน้ำเสียงของผม ผมคิดในใจว่าถ้าเรื่องมันเปิดออกมาก็ต้องทำใจครับ  แต่จะให้ไปป่าวประกาศผมคงไม่ทำ
ติงเอื้อมมือมาบีบมือผมเบาๆ “โอมไม่ต้องกังวลใจ  เราอยู่ข้างโอมเสมอ”

ผมแอบน้ำตาซึมกับความจริงใจของติง ผมรู้สึกว่าผมผ่อนคลายไปด้วยซ้ำที่อย่างน้อยก็มีคนรับฟังเรื่องของผมแล้ว  แต่ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนๆนั้นจะเป็นติง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พี่ต่ายกลับดึกไม่รู้ไปอยู่ไหนโทรก็ไม่ติดครับ  สี่ทุ่มแล้วยังไม่กลับมาเลย  ผมอาบน้ำเสร็จแล้วก็ง่วงมากเลยครับ  พอดีบุ้งโทรมาผมก็ไม่ค่อยอยากคุยเท่าไหร่กลัวพี่ต่ายโทรมาไม่ติดแต่ก็กลัวมันงอนอีก   วันนี้ไม่มีอารมณ์ง้อ  แต่ผมก็อดบ่นเรื่องพี่ต่าย ให้บุ้งฟังไม่ได้

“บุ้ง พี่ต่ายยังไม่กลับเลยล่ะ  กรูเป็นห่วงว่ะไม่รู้มีเรื่องอะไรรึเปล่า”

“........”บุ้งมันเงียบ 

“บุ้งมรึงยังฟังอยู่ปะ....สงสัยหลุดไปแล้ว เอ๊ะ”ผมกำลังจะวางสายแล้วครับ  แต่เสียงมันสวนขึ้นมา

“โอม....กรูฟังอยู่อย่าเพิ่งวาง” เสียงยังกับคนไม่ได้กินข้าวมาน่ะครับ  แต่คงฝืนใจพูด

“กรูว่าโทรศัพท์พี่เค้าคงแบตหมดน่ะมรึงไม่ต้องไปห่วงเค้าหรอก”

“เออกรูก็ว่างั้นแต่อดห่วงไม่ได้ว่ะ   แล้วมรึงเป็นอะไร....ไม่สบายรึเปล่าเสียงมรึงแย่จัง”

“........กรูไม่เป็นไร.......กูแค่ปวดใจ” :sad2: ผมฟังบุ้งพูดก็รู้แล้วครับว่ามันหมายถึงอะไร ผมทำร้ายเพื่อนรึเปล่าผมชักไม่แน่ใจ

“บุ้งมรึงอยากให้กรูบอกอะไรมรึงไม๊”ผมอยากจะเคลียร์กับมันไปเลยครับว่าผมกับพี่ต่ายเป็นอะไรกัน

“มรึงไม่ต้องบอกอะไรกรู....กรูพอใจที่จะรับรู้แค่นี้”พอฟังมันพูดผมยิ่งปวดใจกว่ามันอีกครับ ผมน้ำตาไหลไม่รู้ตัว   ผมจะผลักมันออกไปมันก็ยังดันตัวเองเข้ามาอีก

“บุ้งกรูขอโทษ....ที่รักมรึง....มะ”ผมกำลังจะพูดว่ากรูรักมรึงแบบนั้นไม่ได้  แต่บุ้งมันขัดขึ้นมาก่อนครับ

“มรึงไม่ต้องพูด.....กรูไม่อยากฟัง”เสียงของมันสั่นเครือ  :sad4:

  วันนี้มันไม่น่าโทรมาเลย  อันที่จริงทุกๆวันที่คุยกันทั้งมันและผมต่างก็หลีกเลี่ยงที่จะพูดกันตรงๆมาตลอด  แล้ววันนี้มันก็ไม่ยอมรับรู้จริงๆทั้งที่ผมอยากจะบอกมันไปให้ชัดๆเลย

“บุ้ง.....กรูเสียใจ”ผมได้แต่เรียกชื่อมัน  มีเพียงคำนี้ที่ผมพยายามจะสื่อความหมายไปถึงมันว่าผมก็รักมันมาก  เพราะมันเป็นเพื่อนรักผม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไปๆมาๆ มาจบที่บุ้งอีกล่ะ ไม่รู้ทำไมซิ :m21:

สุขสันต์วันปีใหม่ล่วงหน้านะ  :mc4: ขอให้มีความสุขกับความรักกันทุ้กคน :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 28-12-2007 12:18:26
พี่ต่ายมีพิรุธอีกแระ  :m29: :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 28-12-2007 12:41:53
เง้ออ
จะเกิดไรขึ้นกะพี่ต่ายป่าวหว่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 28-12-2007 13:41:21
 :m16:
ปู้จายไว้ใจมะล่าย
 :a14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 28-12-2007 14:13:39
 :a4:พี่ต่ายจะกลับดึกอะเปล่าหนอ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 28-12-2007 22:31:23
โดนพี่คมปล้ำป่าวว้า......  :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 28-12-2007 22:44:25

เพ่ต่ายไปหนายยยยย ฮือๆๆๆ  :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 28-12-2007 23:09:28
 :o :o :o

พี่ต่ายหาย ???


หวังว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นน้า   :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-12-2007 00:47:55
มารอพี่กระต่าย อิอิ

ปล.ติงนี้ได้โล่ห์จิงๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 29-12-2007 02:18:30
พี่กระต่ายน่ะคงไว้ใจได้อยู่ ... แต่ไอ้คนอยากกินกระต่ายอ่ะ ไม่แน่ใจ o12
แอบชวนไปมอมเหล้าซะละก็ไม่รู้.....รอบหน้าต้องหาผ้าเช็ดหน้าไว้ข้างตัวละ
บททดสอบหัวใจ...บทต่อไป..... :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 29-12-2007 09:46:16
ปีใหม่แฟนๆหายหน้ากันไปหมด เหลือแต่เราเศร้าใจ :m15:
แต่เราก็จะลงต่อไปอีก  :a2:
ถึงแม้จะหนาวๆกับวันปิดปรับปรุงเวปว่าจะหายไปอีกรึเปล่า  :m29:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 48

   พอวางสายจากบุ้งผมก็ลองโทรหาพี่ต่ายอีกทีก็ไม่ติดครับ  ผมรอด้วยความกังวลใจ 
ปรกติพี่ต่ายไม่เคยกลับดึกขนาดนี้ จนเที่ยงคืนกว่าครับพี่ต่ายโทรเข้าโทรศัพท์ที่บ้าน

“โอมเหรอ.....พี่เองนะ” เสียงพี่ต่ายดูเหนื่อยมากๆเลยครับ

“พี่ต่ายอยู่ที่ไหน   เป็นอะไรรึเปล่า แล้วทำไม....”ผมดีใจมากเลยครับละล่ำละลักถาม  จนลิ้นพันกันไปหมด 

“โอมใจเย็นๆนะ ...พี่ไม่เป็นอะไร   พอดีรถพี่เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย ก็เลยรอประกัน รอตำรวจก็เลยกลับช้าน่ะ”
ผมตกใจน่าดูครับนี่มันตั้งเที่ยงคืนแล้ว   น่าจะรุนแรงพอสมควรถึงใช้เวลาจนดึกดื่น ผมเลยถามไปเป็นชุดเลยครับ

“แล้วพี่ต่ายปลอดภัยไม๊   แล้วอยู่ไหน   หาหมอรึยัง” :o

“พี่ไม่เป็นอะไรเลย   แต่มันช้าที่รอประกันด้วย   เดี๋ยวโอมนอนไปก่อนเลยนะ  ไม่ต้องรอพี่ อีกซักชั่วโมงคงถึงบ้านน่ะ”

“พี่ต่ายไม่เป็นอะไรจริงๆนะ”ผมยังไม่มั่นใจ   กลัวว่าพี่ต่ายจะพูดให้ผมสบายใจเท่านั้น

“ไม่เป็นไรจริงๆ  โอมไม่ต้องห่วงนะ  พี่ขอโทษไม่ได้โทรมาบอก ไม่นึกว่ามันจะยืดเยื้อขนาดนี้ โทรศัพท์พี่แบตหมดด้วย”  พอพี่ต่ายยืนยันผมค่อยสบายใจ

“ไม่เป็นไรครับพี่  พี่ปลอดภัยก็พอ  งั้นพี่ขับรถดีๆนะ”

“ครับ   โอมนอนเลยนะ”
แล้วพี่ต่ายก็วางสายไป   ผมถึงเข้านอนได้อย่างสบายใจ  อันที่จริงผมก็กะว่าจะนอนรอ  แต่ไปๆมาๆผมก็เผลอหลับไปจนได้  มารู้สึกตัวคล้ายๆกับมีคนมานอนกอดผมไว้  ผมสะลึมสะลือตื่นเห็นพี่ต่ายครับนอนยิ้มให้ผม  กลิ่นสบู่จากตัวพี่ต่ายยังคงหอมเหมือนเดิม

“พี่กลับมาแล้วเหรอ”
 ผมซุกตัวเข้าหาอ้อมกอดพี่ต่าย  รู้สึกอบอุ่นใจเสมอๆเมื่อมีพี่ต่ายอยู่ใกล้ๆ  ผมว่าผมชักเสพติดอ้อมอกนี้มากเกินไปแล้ว 

เสียงพี่ต่ายตอบผมลอยมาเบาๆ“ครับ....โอมนอนต่อเถอะนะ”

พี่ต่ายจูบที่หน้าผากผมเบาๆ  พี่ต่ายก็คงเพลียเหมือนกัน  เราทั้งคู่ก็เลยหลับไปอย่างรวดเร็ว :a12:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เช้านี้เป็นครั้งแรกที่ผมตื่นก่อนพี่ต่าย  ผมมองนาฬิกา 6โมงกว่านิดหน่อย  พี่ต่ายยังหลับสนิทอยู่เลย  ผมเขย่าตัวปลุกพี่ต่ายเบาๆ  พี่ต่ายก็ยังไม่ค่อยอยากจะตื่น

“กี่โมงแล้วโอม.....” พี่ต่ายลืมตามองผมปริบๆ

“6 โมงกว่าแล้วพี่...เพลียมากเหรอ  งั้นพี่นอนก่อนก็ได้เดี๋ยวผมอาบน้ำเสร็จค่อยมาเรียกพี่ตื่น”

“อือดีครับ....”

แล้วพี่ต่ายก็นอนต่อครับ ผมแปลกใจนิดหน่อยดูพี่ต่ายแปลกๆไป  พอผมอาบน้ำเสร็จดูเหมือนพี่ต่ายยังหลับสนิทอยู่เลย  ผมเลยเอามือไปแตะที่หน้าผาก  พี่ต่ายตัวร้อนจี่เลยครับ  สงสัยจะไม่สบายมาก  เอายังไงดีไม่เคยดูแลใครด้วยซิ  ผมนึกอะไรไม่ออก  เลยลงไปหายาแก้ไข้แก้ปวดได้ยาแก้ไข้มา   แต่ว่าน่าจะให้พี่ต่ายกินข้าวก่อนซิ  ไอ้ผมก็ทำกับข้าวไม่เป็นซะด้วย ผมเลยโทรไปหาติงว่าจะลางานซักครึ่งวันดีกว่า

“ติงเหรอ....”

“ว่าไงโอม...มีอะไรจ๊ะ”

“พี่ต่ายไม่สบายตัวร้อนจี๋เลย   เราว่าจะลางานซักครึ่งวันคงได้มั๊งเนอะ”

“อ้าวเหรอ  เออๆ...ลาไปเถอะเดี๋ยวเราบอกพี่เค้าให้  แล้วงานโอมไว้ไหนเผื่อพี่เค้าเรียกดู”

“อยู่ที่โต๊ะแหล่ะ...ติงถามหน่อยดิ  ดูแลคนป่วยทำไงบ้าง”
ยังโชคดีมีติงเป็นที่ปรึกษาครับ ติงก็เลยซักถามผมเรื่องอาการพี่ต่ายแล้วแนะนำผมว่าควรต้องทำอะไรบ้างครับ

ผมก็เลยจะไปซื้ออะไรมาให้พี่ต่ายกินก่อน แต่แวะไปดูพี่ต่ายเห็นหลับอยู่เหมือนเดิม  พอผมไปเขย่าตัวพี่ต่าย  พี่ต่ายตาปรือมองผมแบบงงๆจะลุกขึ้น ผมเลยบอกว่า

“พี่ต่ายไม่สบายนอนต่อเถอะพี่  ผมจะโทรบอกที่ลูกค้าให้ แล้วเดี๋ยวผมออกไปซื้อโจ๊กให้พี่กิน  เดี๋ยวมานะครับ”

พี่ต่ายคงมึนๆเพราะว่าง่ายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  หน้าพี่ต่ายแดงระเรื่อด้วยพิษไข้ นอนต่อไปตามที่ผมบอก  เชื่อฟังดีมากลูกพ่อ หึหึหึ :m12:

ผมขับรถพี่ต่ายออกไปซื้อโจ๊ก  ดูสภาพรถพี่ต่ายที่ไปชนแล้วก็บุบไปพอสมควรแต่โชคดีที่ไม่ถึงเครื่องยนต์ก็เลยยังขับได้อยู่  ผมซื้อกับข้าวมาอีกนิดหน่อยเผื่อมื้อกลางวันด้วย  กลับมาถึงบ้านเพึ่งจะเจ็ดโมงกว่าเองครับวิ่งขึ้นไปดูพี่ต่ายยังหลับอยู่  ผมเลยเตรียมโจ๊กกับยาลดไข้  แล้วก็ขึ้นไปเรียกพี่ต่ายเช็ดตัวลดไข้ก่อน

“พี่ต่ายครับ....ผมเช็ดตัวให้นะ  ถอดเสื้อนะครับ”

 เหมือนพี่ต่ายโดนผมสะกดจิต  :oni3: พี่ต่ายตื่นขึ้นมามองผมงงๆ  แล้วลุกขึ้นมาถอดเสื้อออกเองแล้วก็นอนต่อ เป็นครั้งแรกที่ผมได้ดูพี่ต่ายแบบจะๆ  นานๆเนื้อๆเน้นๆ  ขอปาดน้ำลายหน่อย ซรวบ..... ผมค่อยๆเช็ดตัวพี่ต่ายไปด้วยใช้เวลานี้แอบแทะโลมพี่ต่ายด้วยสายตาไปด้วย   อืมมมขาวดีนะ วงแขนกล้ามเป็นมัดๆ ล่ำด้วยแฟนผม หุหุหุ   :kikkik:

พี่ต่ายยังหลับตาตลอดเลยครับ  ตัวยังร้อนจี๋ ผมเช็ดหน้า เช็ดซอกคอ ข้อพับต่างๆ ตามที่พี่ต่ายเคยทำให้ผม  ผมตัดสินใจไม่ถอดกางเกง  ไม่กล้าครับ  ไม่ไว้ใจเจ้าอนาคอนดาของพี่ต่าย   กลัวมันเกิดฉกผมขึ้นมา ไม่ได้เลยครับผมรู้ฤทธิมันดี อิอิ  :m23:
 
  ผมใส่เสื้อให้พี่ต่ายเรียบร้อยแล้วก็ปลุกพี่ต่ายอย่างจริงจังให้มาทานข้าว ทานยา
“พี่ต่ายตื่นนะครับ  ทานข้าวก่อนนะ”

พี่ต่ายก็ตื่นครับ  ป้อนอะไรไปก็กิน ทานไปได้เยอะทีเดียว  แต่หน้ายังแดงๆอยู่  ผมจับที่หน้าผากความร้อนลดลงล่ะ  ค่อยวางใจหน่อย

“โอมตัวจริงรึเปล่านี่....ไม่น่าเชื่อเลย” คำแรกที่พี่ต่ายพูดออกมาผมก็รู้แล้วครับว่าอาการดีขึ้นแล้ว   เริ่มกัดผมอีกแล้วครับ 

“คนเค้าอุตส่าห์ลางานมาดูแล  ยังมาโดนกัดอีกนะ”ผมมันไม่ค่อยยอมใครง่ายๆซะด้วยซิ  ทำดีแล้วไม่เห็นความดี เคืองแล้วนะเว้ย  o12

“แหมก็พี่ปลื้มใจแฟนน่ารัก  แล้วพี่ก็ชอบแกล้งคนขี้งอนน่ะ 5555” พี่ต่ายเอามือมาบีบจมูกผม  เสียงพี่ต่ายก็แหบไข้ก็ยังไม่ได้ลดมาก  แต่ไอ้นิสัยขี้แกล้งนี่ไม่ได้ลดดีกรีลงเลย เฮ้อ

“มันน่าปล่อยให้เป็นไข้นอนเดี้ยงอยู่คนเดียวจริงๆเล้ย” ผมเอามือไปหยิกที่หน้าอกพี่ต่าย กะเอาให้เจ็บเลย

“โอ๊ย....โอมมันโดนใจพี่นะ”  :haun5:

แล้วพี่ต่ายก็จับมือผมไว้ แล้วดึงตัวผมเข้ามาในอ้อมกอดพี่ต่าย  ปากพี่ต่ายยังร้อนผ่าวไปด้วยพิษไข้  แต่พี่ต่ายก็ไม่ละโอกาสที่จะได้สัมผัสผม  อาการป่วยไม่ใช่ปัญหาเลยครับ  ไม่รู้ว่าผมเป็นชาวนากับงูเห่าหรือเปล่า  พอให้อาหารเสร็จก็โดนแว้งกัดเลย

ผมเริ่มสงสัยเมื่อกี้นี้ที่ทำเป็นนอนเงียบให้ผมเช็ดตัวเป็นแผนอีกหรือเปล่า แต่ผมก็ไม่มีเวลาคิดอะไรหรอกครับ  เจอพี่ต่ายจูบเข้าไปเดี๋ยวกัด เดี๋ยวเม้ม แล้วก็เอาลิ้นเข้าในปากผม ผมแกล้งปิดปากแต่ก็โดนพี่ต่ายรุกเร้าจนในที่สุดก็ต้องเปิดปากรับจนได้ 

ตอนนี้กระต่ายหงอยแปลงสภาพเป็นกระต่ายป่าไปแล้วครับ  ถอดเสื้อผ้าผมออกไปแล้ว  แล้วก็ถอดของตัวเองออกไปด้วย  แล้วก็ไม่บอกกันก่อนไม่งั้นเมื่อกี้ก็ไม่ต้องเสียเวลาใส่ๆถอดๆกันหรอก หึหึ   

ตัวพี่ต่ายยังร้อนไปหมดเลยครับ ผมล่ะแปลกใจป่วยยังไงกันแน่ ท่าทางพี่ต่ายคงไม่ยอมหยุดแน่ๆแล้ว แต่ผมเองก็หยุดไม่ได้เหมือนกัน  ฝ่ามือที่ร้อนไปด้วยพิษไข้ของพี่ต่ายลูบไล้ไปตามตัวผม แล้วพี่ต่ายก็จับมือทั้งสองของผมไว้เหนือหัว  มือของเราประสานกัน  ผมมองที่ใบหน้าพี่ต่ายมีเหงื่อเม็ดเล็กๆอยู่ตามไรผม  ปากอิ่มเป็นสีแดงจัด ผมยุ่งไปหมดแต่ดูยังไงก็เซ็กซี่  แววตาพี่ต่ายแวววาว  รอยยิ้มของพี่ต่ายทำผมใจละลาย

 ผมกลืนน้ำลายทำตาปริบๆ  พี่ต่ายจูบผมเบาๆที่หน้าผาก  ไล่มาที่เปลือกตา  จมูก แล้วก็หยุดใช้เวลาที่ปากอีกที  สัมผัสของพี่ต่ายอ่อนโยนนุ่มนวล   พี่ต่ายแสดงให้ผมรู้ว่าเซ็กซ์มันมาพร้อมกับความรักด้วย  ร่างกายของผมทุกส่วนเปิดรับพี่ต่ายอย่างเต็มใจ   ผมว่าผมหยุดรักพี่ต่ายไม่ได้แล้ว
เมื่อทุกสิ่งผ่านพ้นไป   ผมพึ่งนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้โทรบอกเนยเลยว่าพี่ต่ายลางาน ผมลุกขึ้นแล้วโทรศัพท์หาเนย

“เนยเหรอ.....อืมโอมเอง....คืองี้นะวันนี้พี่ต่ายไม่เข้าลูกค้านะ.....อืมไม่สบายน่ะ”

“เนยจะคุยกับพี่ต่ายไม๊ล่ะ....มีอะไรจะถามไม๊...โอเค...เดี๋ยวนะ” ผมส่งโทรศัพท์ให้พี่ต่ายที่นอนอยู่

“พี่ต่ายเนยครับ....”

พี่ต่ายยื่นมือมารับโทรศัพท์แต่แกล้งดึงมือผมล้มลงมานอนด้วย แววตาระยิบระยับ  ได้ยาดีไปจากผมแล้วละซิ  เหมือนจะหายแล้วนะเนี่ย แต่ยังไม่วายแกล้งกันนะ  เดี๋ยวมีเอาคืนแน่ๆ หึหึๆรู้จักผมน้อยไป o8

“เนยว่าไงครับ....”

ผมเอามือไปลูบที่ตัวพี่ต่าย หุหุ  o3 แกล้งบ้างดิ แกล้งไปจับที่ยอดอก เอามือไปเขี่ยๆเล่น แล้วก็บีบเบาๆมันตึงขึ้นมาทันทีเลยครับ  มองหน้าพี่ต่ายทำหน้าแปลกๆครับ ผมแกล้งต่อ แกล้งไปขบที่ใบหูอีกข้างของพี่ต่าย เลียเบาๆ พี่ต่ายมองจ้องตาผมเป็นทำนองว่า  เดี๋ยวน่าดู ผมสังเกตดูพี่ต่ายขนลุกหมดเลยครับ

“ครับ..ได้...อืมมม...เดี๋ยวพี่โทรหาพี่เพ็ญเอง....อาาาา...” ผมไซร้ตรงซอกคอพี่ต่ายครับ  เลียไล่จากหน้าอกลงมาเรื่อยๆ 

“ไม่ได้เป็นอะไร...มันหนาวๆร้อนๆน่ะ...อึ๋ยยย....”
 พี่ต่ายไม่เห็นผลักผมออกไปเลย  สงสัยจะชอบ หุหุ ตอนนี้ผมลงมาที่สะดือแล้วครับ แกล้งเลียวนตรงรอบๆรอยบุ๋ม พี่ต่ายเกร็งตัวเล็กน้อย

“ตรงไหนนะเนย....อึ๋ยยย....อือออ...ไม่เป็นไรคุยได้” เสียงพี่ต่ายสั่นน่าดุ

หะๆๆขำจริงๆ  ผมลงมาที่น้องชายพี่ต่ายแล้วครับ เงยหน้าไปมองพี่ต่าย เอาไงพี่....ต่อไม๊หรือจะคุยธุระ 5555  :m4:

พี่ต่ายหายใจแรงครับ “ต่อไปซิ.....อะไรนะเนยว่ามาาา.” บอกผมเหรอ  ได้เลยจัดให้  :m12:

“ลุกหนี้เหรอ....เช็ครับเงินซิ...อืมมม นั่นล่ะ” พี่ต่ายพยักหน้าให้ผม  ผมกำลังช่วยน้องพี่ต่ายครับ เท้าพี่ต่ายเกร็งไปหมด พี่ต่ายยื่นอีกมือมาจับที่มือผม  เราประสานมือกันไว้ มือพี่ต่ายกดมือผมแน่นจนเหมือนจะเป็นเนื้อเดียวกัน อีกมือกำโทรศัพท์แน่น

“พี่ไม่ไหวแล้ว...เนย..แค่นี้นะ...อืออ...แล้วพี่โทรกลับ” พี่ต่ายโยนโทรศัพท์ทิ้ง คราวนี้ส่งเสียงมาแบบไม่ต้องเกรงใจใครแล้วครับ

“อาวว......อืมมม...โอมเก่งใหญ่แล้วนะ...พี่ไม่ไหวแล้วโอมขอพี่นะ”แล้วพี่ต่ายก็กดผมลงนอนคว่ำที่เตียง  เอามือมาลูบที่ก้นผม คลึงเบาๆ

“อยากมาแกล้งพี่ดีนัก...วันนี้ลาทั้งวันไปเลยนะไม่ต้องไปทำงานแล้ว”   :interest:
 
หลังจากนั้น  ก็ไม่ได้คุยกันต่อครับ พี่ต่ายยกสะโพกผมขึ้นมา แล้วก็ใช้เจลช่วยทาด้านหลังมันเย็นวูบๆวาบๆเลยครับ  หลังจากนั้นผมก็เจ็บๆจุกๆเสียวๆนะครับ  ใช้เวลาอีกไม่นานเราทั้งคู่ก็ไปถึงที่สุดครับ  :m25: :m25:  ผมคงต้องโทรไปบอกติงว่าผมไม่ไปทำงานแล้ววันนี้  เหมือนไปออกกำลังกายวิ่งรอบสนามฟุตบอลมา  นอนหอบกันไปทั้งคู่

เรานอนยิ้มมองตากันมือยังคงประสานกันอยู่  ผมเอามือไปอังที่หน้าผากพี่ต่ายไม่ค่อยมีไข้แล้วครับ  มีแต่เหงื่อออกมาเยอะเลย  พี่ต่ายยิ้มเจ้าเล่ห์ให้ผม

“พี่ไม่เคยรู้สึกว่าป่วยแล้วมันดีอย่างนี้เลย....เหงื่อออกอย่างนี้เดี๋ยวก็หายละ ”

พี่ต่ายพูดออกมาได้ครับ   ผมซิไม่ได้ป่วยแต่ตอนนี้ทำท่าจะป่วยแล้วครับ  จะติดไข้ไม๊เนี่ย  แต่ที่แน่ๆโรครักเนี่ยไม่อยากรักษา  อยากจะป่วยโรคนี้ไปเรื่อยๆเลย  ผมขยับตัวเข้าหาอ้อมอกพี่ต่าย กอดพี่ต่ายแน่นๆ   ผมว่าผมมีความสุขมากกกเลย  :-[

“ถ้าอีกหน่อยมีเหตุให้เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน....ผมจะนึกถึงวันนี้”ผมพูดเหมือนกับบอกตัวเอง ผมว่านับวันเราจะผูกพันกันมากขึ้นไปเรื่อยๆ  ถ้าเราต้องแยกกันผมจะอยู่ได้ยังไง

“โอม....คิดอะไรอีกแล้ว”พี่ต่ายลูบหัวผม จูบที่ศรีษะผม แล้วเราทั้งคู่ก็นอนกอดกันหลับไปด้วยความอ่อนเพลียครับ  แหมก็มันหลายรอบนี่ครับ อิอิ
++++++++++++++++++++++++++++++++++

หลังจากเราใช้เวลานอนเอาแรงกันทั้งวัน  เย็นนั้นเราคุยกันเรื่องงานใหม่ของพี่ต่าย ทานข้าวกันไปคุยกันไปครับ

“พี่ว่าจะลาออกปีหน้าน่ะโอม”

“เงินดีงานดีเหรอพี่”มันก็เป็นเรื่องใหญ่เหมือนกันนะผมว่า

“งานก็ดูท้าทายดี  เงินเดือนก็เยอะกว่าหลายเท่าน่ะ”พี่ต่ายพูดยิ้มๆ

“อู้หู  อย่างนี้ก็หลายหมื่นซิพี่” อิจฉาคนเก่งๆไปทำงานที่ไหนก็ได้

“เงินก็ไม่เท่าไหร่นะ...ถ้าพี่อยู่ที่เดิมต่ออีกหน่อยก็ได้เป็นpartner ก็เงินดีเหมือนกัน”
ผมก็ได้แต่พยักหน้าหงึกๆ  เรื่องรายได้ของพวกผู้ใหญ่ผมไม่รู้หรอกแต่ว่าคงเป็นแสน  แต่ก็ต้องอยู่นานครับ คงเป็นสิบๆปี

“แต่งานใหม่มันดูท้าทายดี  พี่จะได้เริ่มมีส่วนร่วมในบริษัทใหม่  อีกหน่อยเค้ามีแผนจะเอาเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย”
 ก็น่าสนใจดีครับ  แต่มันจะกระทบกับชีวิตของเราไม๊นะซิ  ผมอดกังวลนิดหน่อย

“แล้วพี่จะได้มีโอกาสเรียนต่อโทด้วย..เค้าให้พี่ลาเรียนได้ถ้าจำเป็น”

“ดูจากเหตุผลทั้งหมดก็ดีนะพี่  ผมเห็นด้วย”ผมออกจะคล้อยตามความเห็นพี่ต่าย

“แล้วจะมีผลกับเราไม๊พี่.....” เรื่องนี้ผมเป็นห่วงที่สุดเลย

“ที่จริงเรื่องของเราก็มีส่วนนะ  พี่อยากเก็บเงินเพื่ออนาคตของเรา”พี่ต่ายพูดแววตาเป็นประกาย เหมือนคนกำลังพูดถึงความฝันที่สวยงาม

“หืมมม.....อนาคตของเราเหรอพี่......มันจะเป็นยังไงล่ะ”ผมอยากรู้แล้วซิ ผมจะได้ไปอยู่ในความฝันนี้ด้วยเหรอ

“พี่จะทำงานเก็บเงินให้ได้เยอะๆ  แล้วพอซักอายุ 55 เราก็เกษียณ  ว่างก็ไปเที่ยวกันนะโอม  แล้วก็ปลูกบ้านซักหลังแถวต่างจังหวัดบ้านโอม  พี่ไม่ต้องการอะไรมากกว่านี้หรอก ให้ได้อยู่กับโอมต่อไปเรื่อยๆก็พอ”

“แล้วเราจะพอกินเหรอพี่”ผมอดขำพี่ต่ายไม่ได้ ดูมันจะง่ายไปไม๊

“เราก็รับสอบบัญชีซิ   ไม่ต้องมากทำพอให้ได้ใช้ความรู้ของเรา  พออยู่แล้วสบายๆ” พี่ต่ายบอกผมด้วยเสียงนุ่มนวล  ผมรู้ว่ารายได้มันคงไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าขยัน

“โอมยินดีจะอยู่กับพี่ตลอดไปไม๊”  o18
 พี่ต่ายกุมมือผม ส่งผ่านความรู้สึกดีๆมาให้  ผมรับมันไว้ทั้งหมด  ผมไม่เคยเชื่อความรู้สึกของตัวเองมากเท่าครั้งนี้ เหมือนพี่ต่ายขอผมแต่งงานเลย  :impress:

“ผมอยู่แน่พี่   อยู่จนกว่าพี่จะไล่ผมออกไปเท่านั้นเอง” ไม่มีคำพูดใดๆอีก เราต่างก็รับรู้กันอยู่ในใจ  ผมอดจะเขินๆไม่ได้  ผมไม่เคยคิดเรื่องอะไรไปเกินกว่าชีวิตประจำวันเลย

“แปลกดีนะพี่.....เราอายุแค่ ยี่สิบกว่าๆเองมานั่งคุยกันเหมือนคนแก่เลย”

“ก็ถ้าเราคิดที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน   พี่ก็ต้องคิดให้ดีซิ”

ผมยิ้มแล้วพยักหน้าให้พี่ต่าย พี่ต่ายคงจะเป็นผู้นำชีวิตผมได้แน่นอนครับผมเชื่ออย่างนั้น

หลังจากวันนั้นพี่ต่ายก็ยังไม่ได้ทันได้บอกใครครับเรื่องที่จะลาออก  แต่ว่าต้องบอกพี่เพ็ญแล้ว  พี่เพ็ญโวยวายน่าดูครับ  ก็พี่ต่ายเป็นรุ่นน้องที่พี่เพ็ญเชื่อใจที่สุด  พี่เพ็ญบอกว่า

“พี่เสียดายเอ็งว่ะ  เอ็งอยู่ต่อรุ่งแน่พวกพาร์ทเนอร์เค้าชอบเอ็งกันทุกคน  ข้าว่าเอ็งได้ขึ้นก่อนใครในรุ่นแน่ๆ”

 แต่พี่ต่ายก็บอกไปว่า “พี่เพ็ญ  ตอนนี้ผมกำลังหาสิ่งที่ผมสนใจอยากจะทำมากกว่า”

“ผมกำลังตามหาความท้าทายในชีวิต   ไม่อยากให้วันๆมันมีแต่งานถ้ามีโอกาสได้ลองทำอะไรใหม่ๆก็อยากลอง”

“งั้นก็ตามใจเอ็ง  พี่ว่าหมู่นี้เอ็งแปลกๆว่ะ แต่ก็ในทางที่ดีนะ  แต่ยังไงเอ็งก็ยังเป็นน้องพี่อยู่นะ”แล้วพี่เพ็ญก็ตบไหล่ให้กำลังใจพี่ต่าย

ช่วงนี้พี่ต่ายก็เลยยุ่งมากเพราะต้องพยายามถ่ายทอดงานให้น้องๆ  แต่ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าทำไมช่วงนี้พี่ต่ายสอนงานมากจัง

 ช่วงปลายปีเรามีงานต้องไปสังเกตการณ์ลูกค้าตรวจนับสต็อคอยู่เรื่อยๆ  ผมกับพี่ต่ายเลยไม่ค่อยเจอกันตอนกลางวัน   แต่กลางคืนก็ยังปรกติครับ   นอนกอดกันทุกวัน ผมว่าเราเข้ากันได้ดีทีเดียว หุหุหุ

แต่ผมนึกเรื่องนึงขึ้นมาได้ครับของขวัญปีใหม่  ผมยังไม่ได้ซื้อให้ใครเลย  ผมเลยชวนติงไปหาซื้อของขวัญกัน

“ติงบ่ายนี้นับสต๊อคเสร็จเราไปซื้อของขวัญกันนะ”

“ได้เลย...แล้วโอมกลับบ้านไม๊อ่ะปีใหม่”

“กลับวันอาทิตย์จ๊ะไปกับพี่ต่ายด้วย”

“แล้วที่บ้านโอมรู้ไม๊เรื่องที่เป็นแฟนกันน่ะ”

“เฮ้อ.........ยังไม่รู้เลย”
ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่  ยังไม่รู้ว่าจะปิดที่บ้านไปได้นานแค่ไหน  ไม่อยากจะคิดด้วย  เพราะคิดไม่ออก  ติงเอาไหล่มากระแทกไหล่ผมเบาๆ แล้วพูดให้กำลังใจผม  พร้อมยิ้มให้ผมด้วย
“เฮ้ย.....อย่ากังวลน่าทุกอย่างจะต้องดีเอง” ผมได้แต่ยิ้มขอบคุณติง

บ่ายวันนั้นเราก็เลยซื้อของกันเพลินเลยครับ ผมซื้อของให้ป๋าให้แม่ พี่อิงแล้วก็พี่ต่ายด้วย กะว่าจะเซอร์ไพรส์วันปีใหม่  ตอนนี้เรามีแต่ร่วมกันสร้างความทรงจำที่ประทับใจให้แก่กันครับ  เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้ามิตรรักแฟนพี่ต่ายกับโอมด้วยนะ ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้า :mc4:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tonnaruk ที่ 29-12-2007 10:15:10
   เย้ เย้ เย้ ขอให้รักจงเจริญ  :mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 29-12-2007 10:25:56
พี่ต่ายเนี่ย เป็นแฟนที่ดีจังเลยนะ :m1:
รู้จักวางแผนชีวิตไว้ล่วงหน้าด้วย ผู้ชายอย่างนี้จะมีอีกมั้ยเนี่ย
โอมโชคดีจังที่เจอแฟนอย่างพี่ต่าย

สวัสดีปีใหม่กะพี่ต่าย โอม แล้วก็น้อง T-Jang  ด้วยจ้า ขอให้มีความสุขตลอดปีนะจ๊ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 29-12-2007 11:40:17
 :m23:
คิดไปเองตลอดเลยเรา....ไม่เคยมีเรื่องไรให้ปวดใจเล๊ยยยยย
พี่กระต่ายเนี่ยน่ารักกกกกกจริง ๆๆๆๆๆๆๆ  อยากได้มั่งอ่ะ
แต่จะวางใจได้เหรอปล่อยไปทำงานกะตาคม... :mc2:
อย่าลืมนา....รักแท้แพ้ใกล้ชิดอ่ะ... คิดเองอีกละเรา.... :เฮ้อ:
 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 29-12-2007 14:57:17
หวังว่าต่ายคงไม่ไขว้เขวไปก่อนนะ  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 29-12-2007 15:21:27
 :a4:ขอให้มีความสุขปีใหม่ครับ พี่ต่าย และน้องโอม และเพื่อนๆๆในบอร์ด ทุกท่านครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 29-12-2007 16:16:12


>>> ก่อนอื่นต้องขอ    สวัสดีปีใหม่ ล่วงหน้าาาาาาาา



>>> พี่ต่ายนี่หนอ~ ขนาดป่วยนะนั่น เหอๆๆ


รักกันนานๆนะพี่นะ อนาคตถึงจะไม่แน่ไม่นอน แต่ขอให้พวกพี่สองคนมั่นคงต่อกันตลอดไป~

.
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 30-12-2007 23:09:21
 :pig3: หากจะรักแล้ว รักใครก็จงรักเถิด ความรักบรรเจิดพริ้งเพริด แสน หวาน  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 31-12-2007 00:07:21
วิธีลดไข้ได้ใจ น่าจำไปใช้จิงๆ

สวัสดีปีใหม่น่ะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ  :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 31-12-2007 22:45:39
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 01-01-2008 10:25:41
สวัสดีปีใหม่ครับทุกคน เวลาผ่านมาเร็วๆมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนกันจนข้ามปี
ออกจะเหนือความคาดหมายน่าดู ไม่รู้เป็นเพราะว่าเขียนแล้วจบไม่ลงหรือเปล่าซิ 5555
แต่ที่แน่ๆก็คือเป็นเพราะกำลังใจจากเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆทุกคนนะครับ  :m13:
 ขอกราบแบบงามๆที่ยอดอก  1หน   o15 ไม่ว่ากันนะครับถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ รู้ว่าชอบ 5555

ขอบคุณ kongkilmania  ที่ช่วยเอาเรื่องมาลงให้ แล้วก็เป็นคนที่ยุให้เราเขียน  แล้วก็คอยเป็นกำลังใจให้ ขอบใจมากน้องรัก

กฤช,Just let it be, acht, MyLoveMyBabe, nartch, THIP, mist, graydragon, deshiwa, pongsj, ● MaYa~Boy ●,piyakorn, sayajang, three,i-pex, gateau, @SZA, terukizawa, YMP, aisen , fc_uk , Y_Yami , zeazaiz, น้ำค้าง, premkoe, @BUA@,, BICHA,madamkung, kaporzung, EDICIUS, tonnaruk , viva, ChiiCaLorz, SodaSaa ขอคารวะที่ติดตามกันมาตลอด o14 เป็นเหมือนยาชูกำลังให้หัวใจจริงๆ ไม่รู้จะเขียนยังไงดี ถ้าไม่มีพวกคุณเหล่านี้ก็คงจบไปตั้งแต่ตอนที่ 37 ล่ะ  แล้วถ้าตกหล่นใครไปบ้างก็ขอโทษด้วยแล้วกันครับ  :haun5:

b|ueBoYhUb, Poes, oaw_eang   ถึงแม้จะมาเป็นระยะๆ ก็ดีใจนะครับ

ken_krub  ได้กำลังใจจากคุณเคนบ่อยๆ แล้วเวลาหายไปแอบคิดถึงนะ ขอบคุณคับสำหรับกำลังใจที่ให้กัน  :impress:

แล้วสุดท้ายก็ต้องขอบคุณคนอ่านที่ไม่ได้มาreply แต่ติดตามอ่านอยู่ ขอบคุณจากใจจริงๆครับ
  ไหนๆก็หลวมตัวอ่านมาแล้ว  ก็อ่านต่อไปนะครับจะพยายามจบให้ลง อิอิ  :a1:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 49

   วันนี้เป็นวันปีใหม่แรกที่เราได้อยู่ด้วยกันครับ  ผมพยายามจะคิดว่ามันก็แค่วันๆนึงที่ผ่านไป  แต่ก็อดที่จะอยากให้มีอะไรซึ้งๆบ้าง แต่พอถึงเวลาก็ทำไม่ได้เลย ผมต้องไปทำงาน พี่ต่ายก็เหมือนกัน 

ผมกลับมาถึงบ้านเกือบ 2 ทุ่ม หมดแรงไม่ไหวแล้วครับ เดินในโกดังทั้งวัน เดี๋ยวปีนขึ้นข้างบน  บางทีก็นั่งรถโฟลค์ลิฟท์ยกขึ้นไปสูง  กลัวก็กลัวแต่ทำไงได้  เมื่อยขาไปหมด  นี่พี่ต่ายยังไม่กลับเลย ผมเลยโทรหาซักหน่อย

“พี่ต่ายครับอยู่ไหนแล้ว...”

“ยังไม่เสร็จเลยโอม....ปีนี้เค้าจัดของไม่เรียบร้อยนี่พี่อยู่โรงงานที่ระยอง  ไม่ต้องรอนะครับ”

“แล้วพี่ต่ายขับรถไปเองหรือว่าไปรถบริษัทล่ะพี่”

“พี่มารถตู้   เดี๋ยวก็ต้องกลับเข้าไปเอารถที่บริษัทลูกค้าอีก  ไม่ต้องห่วงนะ”

ถึงพี่ต่ายจะพูดแบบนี้แต่ผมก็อดห่วงไม่ได้  นึกถึงตอนที่วันนั้นรถพี่ต่ายไปชน  ผมก็ยังคงห่วงเหมือนเดิม   ผมเดินเซ็งๆเอาของขวัญปีใหม่ไปวางที่โต๊ะพี่ต่าย พร้อมกับสคส.ปีใหม่  แล้วผมก็ไปนั่งที่เตียงพี่ต่าย  แล้วก็นอนเล่นๆจนเผลอหลับไปเลยไม่รู้ตัว  ผมไม่รู้ว่าพี่ต่ายกลับมากี่โมง  รู้แต่ว่ามีคนมากอดแล้วก็หอมแก้ม  เสียงพี่ต่ายกระซิบที่หู

“สวัสดีปีใหม่นะโอม.....มีความสุขมากๆนะครับ”

“อือพี่ต่ายเหรอ....”

แล้วผมก็หลับไปต่อครับ ไม่รู้เรื่องเลย  มารู้สึกตัวอีกทีก็เช้าแล้ว  แต่วันนี้ไม่มีงานแล้วได้หยุดปีใหม่  วันนี้กะกันว่าจะกลับบ้านกับพี่ต่าย  แต่พี่ต่ายลุกไปไหนแล้วไม่รู้  ผมเลยไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า

กำลังแปรงฟันอยู่ครับแล้วก็แปลกๆครับ  พึ่งสังเกตเห็น

“เอ๊ย.....แหวนอะไรน่ะ”
ที่มือข้างซ้ายผมนิ้วกลางครับมีแหวนสวมอยู่  เป็นแหวนทองคำขาวเกลี้ยงๆแต่แอบมีเพชรอยู่ตรงกลางเม็ดนึง มันมาตอนไหนว่ะ  พอผมคิดได้ก็วิ่งลงมาข้างล่างทั้งที่ยาสีฟันยังเต็มปากเลยครับ มือยังถือแปรงอยู่เลย  :m1:

“พี่ต่ายอยู่ไหน...พี่ต่ายค๊าบ”

แล้วก็เจอครับ พี่ต่ายอยู่ที่ครัว  กำลังทอดอะไรไม่รู้ พี่ต่ายหันหน้ามากำลังจะอ้าปากพูด  แต่ไม่ทันครับ  ผมเข้าไปกอดพี่ต่ายจากด้านหลัง  แล้วก็หอมแก้มพี่ต่ายไปหนึ่งชุด  ยาสีฟันเลอะเทอะแก้มไปหมดเลยครับ 555

“สวัสดีปีใหม่ครับพี่ต่าย....ผมชอบของขวัญปีใหม่มากเลย” ดีใจจนเหมือนคนบร้า  :m3:

“โอมนี่หึหึหึ  เล่นเป็นเด็กๆอีกแล้ว  ดูซิแปรงฟันยังไม่เสร็จเลยทำมาได้”

พี่ต่ายเอามือปาดยาสีฟันที่แก้ม แล้วยิ้มเขินๆ  ที่นิ้วพี่ต่ายมีแหวนแบบเดียวกันอยู่ด้วย  อ๊ะ...แหวนคู่ด้วย ปลื้มสุดๆครับ

“จะสวมแหวนให้ก็ไม่ยอมให้ตอนตื่นนะพี่ต่ายอ่ะ”

พูดไปยาสีฟันก็ย้อยออกจากปากไป  ชักสกปรกเข้าไปทุกที 5555 ขำตัวเองว่ะ  พี่ต่ายคงระอาในตัวผม  อีกอย่างไข่ในกระทะจะไหม้แล้ว พี่ต่ายเลยบอกผมว่า

“โอม..ไปแปรงฟันให้เสร็จไป...ไม่งั้นเอาแหวนคืนนะ”

“เรื่องอะไร....มาตัดนิ้วเค้าไปดิ.....รับรองจะไม่ถอดเลย”
แล้วผมก็วิ่งขึ้นไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนครับ อาบน้ำไปอย่างมีความสุขสุดๆ

พอผมลงมาก็เจอแต่อาหารเช้าครับ  พี่ต่ายเดินสวนขึ้นไปอาบน้ำ  ผมเลยรอพี่ต่ายทานข้าวโดยการเตรียมของที่จะเอากลับบ้านมาวางไว้   กะว่าจะค้างวันอาทิตย์แล้ววันจันทร์ค่อยกลับครับ  แต่ที่จริงวันนี้ก็ยังนับเป็นปีเก่าอยู่เลยนะ  วันสุดท้ายของปีเก่ากับวันแรกของปีใหม่เราจะได้อยู่ด้วยกัน  คิดแล้วก็ครึ้มใจ  แต่ระหว่างที่รอบุ้งก็โทรมาครับ

“โอม...กลับบ้านไม๊ว่ะ”พอรับสายมานก็ถามเลยครับ

“กลับดิ....เนี่ยเดี๋ยวกลับวันนี้  มรึงอยู่ไหน” มรึงอย่าบอกนะว่าจะไปกะกรูด้วย

บุ้งมันตอบกลับมาว่า“กรูอยู่ที่บ้านแล้ว.......กลับมาเมื่อวานไปมองๆแถวบ้านมรึงไม่เจอ   กรูเลยโทรมาเนี่ย”

เออดี.....ค่อยยังชั่วหน่อย “เออแล้วค่อยไปเจอกันที่บ้าน...แล้วมรึงกลับวันไหน”

“พรุ่งนี้ว่ะ...แล้วมรึงล่ะ”

“กรูก็กลับพรุ่งนี้.....”พอตอบไปแล้ว ผมก็ลังเลใจจะชวนมันกลับด้วยกันจะดีไม๊  เลยรอถามพี่ต่ายดีกว่า

แต่บุ้งมันทำเสียงดีใจครับ “เออดี..เราจะได้กลับด้วยกันอีก”

 ผมน่ะพูดไม่ออก เดี๋ยวไปเจอมันที่นู่นคงต้องพูดกันให้จริงจังซักที ก็เลยบอกวางสายมันไปเฉยๆ ไม่ได้พูดอะไรมาก ก็พอดีกับพี่ต่ายลงมา  พี่ต่ายใส่ของขวัญที่ผมให้ด้วย ผมยิ้มแก้มแทบแตก  พี่ต่ายเดินตรงมาที่ผมยืนอยู่  แล้วคว้าตัวผมเข้าไปกอดจุ๊บที่ปากผมเบาๆ

“ขอบคุณสำหรับของขวัญปีใหม่นะครับ  พี่ชอบมาก”

ปรกติพี่ต่ายไม่ใส่นาฬิกาครับ ผมก็ไม่เคยถามว่าเพราะอะไร  แต่ผมก็ดันทุรังซื้อนาฬิกาให้พี่ต่าย  ตอนนี้เราคุยกันไปกินกันไป เพราะเดี๋ยวต้องเดินทางแล้ว

“ทำไมแต่ก่อนพี่ต่ายไม่ใส่นาฬิกา” แต่ก่อนผมก็ไม่เคยถาม  ตอนที่ซื้อมายังไม่แน่ใจเลยว่าพี่ต่ายจะใส่ไม๊

พี่ต่ายทำหน้าแปลกใจ “อ้าวโอมรู้เหรอว่าพี่ไม่ใส่”

ผมพยักหน้าหงึกๆ “รู้ซีพี่....แต่อยากลองดูน่ะ แฮะๆ”

“พี่ไม่ชอบผูกมัดตัวเองกับเวลา   พอใส่นาฬิกาเราก็จะกังวลตอนนี้กี่โมง  ต้องยกขึ้นมาดูอยู่เรื่อยๆ” อือคิดแปลกๆ

“อ้าว...แล้วทำไมวันนี้พี่ใส่ล่ะ”
ไม่น่าซื้อมาเลยเรา  เหมือนไปบังคับให้พี่เค้าทำในสิ่งที่ไม่ชอบ

พี่ต่ายพูดยิ้มกริ่ม“ก็พี่อยากผูกมัดตัวเองไว้กับโอม คราวนี้ดูเวลาทีไรพี่ก็จะได้นึกถึงแต่โอมไง”

โฮะๆๆๆ พี่ต่ายปากหวานมากๆครับ  มารักกันให้ตายกันไปข้างนึงเลยดีกว่าไม๊  :impress2:

   ตอนนี้บรรยากาศกำลังดีผมเลยไม่อยากพูดถึงเรื่องบุ้ง  เราทานข้าวเสร็จเลยรีบออกจากบ้านครับ แต่รถติดมากกกขนาดว่าหยุดมาหลายวันแล้ว  ทำไมรถยังเยอะขนาดนี้โดยเฉพาะช่วงขึ้นเขา  แทบจะคลานเลยครับ  ที่จริงผมก็ไม่อยากมาติดแหง๊กแบบนี้หรอก  แต่ปีใหม่ทั้งทีพ่อแม่ก็ต้องอยากเจอลูกๆทั้งนั้น  เวลาวันปรกติเราก็เจอเพื่อนบ่อยๆอยู่แล้ว   ผมก็เลยว่ากลับบ้านดีกว่า  พี่ต่ายเองก็เห็นดีด้วยกับผม 

   กว่าเราจะถึงบ้านก็บ่ายโมงพอดี  ผมหิวจนไส้จะขาดก็เลยไปหาร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆทานครับง่ายดี   เร็วดีด้วย  แต่เวลาช่วงเทศกาลร้านอาหารก็แน่นมีแต่คนเต็มไปหมด

“พี่ต่ายจะรอไม๊  หรือเปลี่ยนร้านดี”

“เปลี่ยนร้านอื่นมันก็แน่นเหมือนกันแหล่ะโอม  ใจเย็นๆ”

“พี่หิวไม๊ล่ะ  ผมเป็นห่วง”ผมมองซ้ายมองขวามีแต่คนๆๆๆ แล้วก็คน

“พี่ทนได้...โอมหิวมากเหรอ....อดทนหน่อยน้อง”
 เอ้า..รอก็รอ  อีกหน่อยผมคงใจเย็นแบบพี่ต่ายได้   ระหว่างที่ยืนรอครับก็มีสาวน้อยคนนึงมาทักผม

“พี่โอมรึเปล่าค่ะ”
ผมกับพี่ต่ายหันไปมอง  พี่ต่ายมองหน้าผมทำนองว่าเพื่อนโอมมั๊ง

ผมขมวดคิ้วใครน่ะนึกๆยังไงก็ไม่ออก  เค้าคงรู้แล้วล่ะว่าผมจำไม่ได้ ก็เลยรีบเฉลย
“บีนน้องพี่บุ้งไงค่ะ”
ผมถึงได้นึกออก  เออน้องบุ้งมันน่ารักว่ะ  น่ารักกว่ามันเยอะเลย หุหุ  :interest:

“พี่จำได้ล่ะ”ผมยิ้มให้น้องเค้าแล้วผมก็หันไปหาพี่ต่าย “แต่ก่อนก็อยู่แกงค์ขี่จักรยานด้วยกันน่ะพี่ต่าย”

“พี่บุ้งก็อยู่ที่บ้านนะคะ  เดี๋ยวบีนจะไปบอกให้”
ผมหันไปยิ้มแหยๆให้พี่ต่ายอีกที ยังไงพี่ต่ายก็ต้องรู้อยู่ดี น้องบีนก็ไม่ค่อยพูดอะไรครับดูอายๆเหมือนกัน ผมก็ไม่ชวนคุยน้องเค้าก็เลยบอกลาครับ

“บีนไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ”
ผมก็ออกจะเขินๆเวลาคุยกับน้องครับ  ไม่ได้เจอกันนานมากเลย  ผมคงไปทำท่าทางเก้อเขินให้พี่ต่ายเห็นเข้า  เลยโดนแซวเลยครับ

“เจอสาวเข้าหน่อยพูดไม่ออกเลยเหรอโอม” แต่เสียงพี่ต่ายเข้มจังเลย

“บ้านนี้มันเป็นยังไงนะ...มาหลงเสน่ห์โอมกันหมดทั้งพี่ทั้งน้อง”
 ผมเริ่มจะกินก๋วยเตี๋ยวไม่ลงแล้วครับ  ยังไม่กล้าขอพี่ต่ายให้บุ้งกลับด้วยเลย  จะพูดออกไม๊เนี่ย

“พี่ต่ายก็พูดเกินไป  น้องเค้าไม่ได้มีท่าทีอะไรซักหน่อย”
พี่ต่ายมองหน้าผมเฉยๆ ผมเดาใจไม่ถูกว่าพี่ต่ายโกรธจริง  หรือแกล้งโกรธ  เพราะพี่ต่ายชอบแกล้งผมบ่อยๆ  แต่ปีใหม่ทั้งทีไม่ควรมาโกรธกันเรื่องไร้สาระ  ง้อหน่อยก็ได้ว่ะ  ไม่เสียตังค์ซักหน่อย

“ให้ยกมาทั้งบ้านก็ไม่มีผลหรอกพี่ต่าย”  :impress:
ผมค่อยๆช้อนตามองพี่ต่าย  พยายามส่งสายตาแห่งความรักไปให้เต็มที่  แต่ก็ไม่รู้หรอกว่าจะเป็นแบบไหน แล้วก็ปล่อยประโยคที่คิดว่าเด็ดสุดออกไป

“เพราะผมรักพี่ต่ายคนเดียว” :give2:
 ผมก็ลืมไปว่าอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยว คนก็พลุกพล่าน มีแต่เสียงคนสั่งก๋วยเตี๋ยวกันวุ่นวาย  แล้วอาแปะที่เดินผ่านมาพอดีก็ถามว่า

“ลื้อว่าไรนะเส้นเล็กลูกชื้นอย่างเดียวเหรอ ล่ายๆรอเลี๋ยวนะ”

“..................”ผมล่ะอึ้งงงง  :m30:

พี่ต่ายหัวเราะพรืดออกมาเลยครับ ผมโคตรรอายพี่ต่าย  นี่กรูทำบร้าอะไรว่ะเนี่ย  แล้วดูอีพี่ต่ายไม่กินก๋วยเตี๋ยวแล้วครับ  นั่งหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง  :laugh: :laugh: ให้คนเค้ามองกันทั่วว่าไอ้หน้าหล่อคนนี้มันเป็นอะไรหัวเราะไม่หยุด  ส่วนอีกไอ้หน้าตี๋อีกคนนึงก็นั่งหน้าแดงเป็นมะเขือเทศอยู่ข้างๆ

   คำบอกรักของผมเลยกลายเป็นเส้นเล็กลูกชิ้นไปซะแล้ว  เฮ้อ  แต่ก็ดีอยู่อย่างนึงครับพี่ต่ายอารมณ์ดีขึ้นมาเยอะเลยครับ ผมก็กินก๋วยเตี๋ยวไปขำไป นั่งมองตากันแล้วยิ้มกันไปตลอดเลยครับ   :o8:

พอตอนบ่ายเราเข้าบ้านแม่บ่นชุดใหญ่เลยครับ  ว่าทำไมไม่มากินข้าวที่บ้าน  จะได้ไม่ต้องไปรอกินข้างนอกให้เสียเวลา แล้วหลังจากนั้นป๋ากับแม่ก็ใช้เวลาทั้งหมดคุยกับลูกรักครับซึ่งคนนั้นคงไม่ใช่ผม  แต่เป็นพี่ต่าย  ไม่รู้สรรหาอะไรมาคุยกันนักหนา  จนผมหลับไปตื่นนึง  เค้ายังคุยเฮฮากันอยู่เลยครับ  ผมเห็นทีจะอีกยาวเลยขอตัวขึ้นไปนอนที่ห้อง คืนนี้พี่ต่ายก็นอนห้องผมน่ะครับ  ชินซะแล้วไม่มีอะไรต้องกลัวอีกต่อไป

ผมว่าผมนอนไปนานทีเดียว แล้วก็มีมือมาหยิกก้นผมครับ  เล่นพิเรนทร์อีกล่ะพี่ต่าย เดี๋ยวนี้ชักเอาใหญ่ ผมงัวเงียๆปัดมือพี่ต่ายออกไป ปากก็บ่นพึมพำๆ ก้นก็บิดไปบิดมา

“พี่ต่ายไม่เล่นนะ ....จะนอน” มือพี่ต่ายยังไม่เลิกครับ เปลี่ยนจากก้นผม มาที่หูเอานิ้วเล็กๆมาเขี่ยๆในรูหูผม ผมขนลุกไปหมด

“พี่ต่ายไม่เอานะ....เดี๋ยวใครมาเห็น”
ผมก็ไม่ตื่นอยู่ดี เอามือปัดนิ้วออกไปอีก แต่คราวนี้พี่ต่ายกวนไม่เลิกครับ  เป่าลมเข้าไปในหูผม  คราวนี้ผมสยิวไปทั้งตัว ผมชักโมโห ลุกขึ้นมาเอาหัวโขกไปอย่างแรงเลยครับ  ต้องเจอแบบนี้ซะบ้าง

“โอ๊ย....ไอ้โอมแมร่งเล่นแรงว่ะ” พอได้ยินเสียง ผมตกใจลืมตาขึ้นมาพี่อิงนี่หว่า  สมน้ำหน้าจริงๆเล่นอะไรไม่เข้าเรื่อง 5555 พี่อิงเอามือคลำหัวป้อยๆ แล้วก็เริ่มบ่น

“ตัวเองเล่นกะไอ้ต่ายแบบนี้บ่อยเหรอว่ะ.....ทำเป็นมากลัวคนเห็น..หึ”
พี่อิงมองมองหน้าผม ผมจะหลบตาก็กลัวพิรุธ  เอาไงดีว้า เอาไงดี

“ก็เล่นเหมือนเล่นกะตัวเองกะพี่อั้มแหล่ะ...คิดบร้าไรว่ะ”ผมทำเป็นฟอร์มรำคาญครับ แล้วก็เปลี่ยนเรื่องดีกว่า

“แล้วตัวเองมาปลุกเค้าทำไมล่ะ”
แต่ผมก็ส่ายตามองพี่ต่ายไปไหนว่ะ พี่อิงคงรู้ว่าผมมองหาใคร  ก็เลยบอกผมว่า

“ไม่ต้องไปมองหาเลย ไอ้ต่ายออกไปข้างนอกกะแม่กะป๋าไปไหนไม่รู้”

“แล้วมาตามเค้าทำไม”คนกำลังนอนมันส์ๆ

“แม่ให้ไปเจอที่ร้านอาหารเลย...ไปได้แล้ว...เกิดมาไม่ได้นอนเหรอว่ะ....นอนได้นอนดี”แล้วพี่อิงก็เดินบ่นไปตลอดจนขึ้นรถน่ะครับ  ตอนที่อยู่ในรถไอ้บุ้งก็โทรมาครับ

“โอมมรึงอยู่บ้านปะกูไปหานะ”เสียงมันร่าเริงมากๆเลยครับ

“อ้าวบุ้งเหรอ กรูกำลังจะไปกินข้าว...ที่ไหนนะตัวเอง”ผมหันไปถามพี่อิง พี่อิงก็บอกชื่อร้านผมมา ผมเลยบอกมันต่อ

“ร้านน่านน้ำ....ไปกะที่บ้าน”ผมบอกมันไปครับ มันจะได้ไม่ต้องมาหาผมที่บ้าน

“กรูไปด้วยได้ปะ....”เอาละซิ กำลังลังเลถึงความควรหรือไม่ควร  พี่อิงตะโกนมาว่า

“ชานบุ้งไปด้วย..ไปกินเหล้ากันหลายคนหนุกดี” ตะโกนซะขนาดนั้นมานก็ได้ยินซิครับ  ผมยังไม่ได้พูดชวนอะไร มันก็บอกผมว่า

“เออ....เดี๋ยวเจอกัน”
แล้วมันก็วางหูไปเลย ผมเริ่มรู้สึกหนาวๆร้อนๆ  สัมผัสได้ถึงเค้าลางของความยุ่งยาก  กรูซวยแน่แล้ว  มีหวังความลับแตกโพละ  จะโดนป๋ากับแม่ไล่กลับกรุงเทพวันนี้เลยป่าวว่ะ

พอไปถึงร้านอาหาร  ป๋าแม่พี่ต่ายนั่งรออยู่แล้วครับ  พี่ต่ายส่งยิ้มมาให้ผมมาแต่ไกล  ผมรู้สึกเหมือนไปพบหน้าพ่อแม่แฟนมากกว่าพ่อแม่ตัวเอง ยังแปลกใจทำไมมันกลับสถานะกันได้ยังไง

พี่ต่ายพยักหน้าให้ผมมานั่งด้านในที่พี่ต่ายกันเอาไว้ให้  คือฝั่งที่ผมนั่งมันจะติดกับราวระเบียงที่เค้ากั้นริมน้ำไว้น่ะครับ ส่วนพี่อิงก็ไปนั่งข้างแม่ ตอนนี้ก็นั่ง ข้างนึง3คน ข้างนึง 2 คน

 พี่ต่ายดูรื่นเริงมากๆเลยครับ แล้วบรรยากาศก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อคนที่คุณก็รู้ว่าใครเบอร์ 1 เข้ามา บุ้งมันมาแล้ววว  พี่ต่ายหันมามองหน้าผม ผมไม่กล้าสบตา  แต่พี่อิงพูดลั่นเลยครับ  แถมกวักมือเรียกบุ้ง

“เฮ้ยบุ้งมานี่....มานั่งข้างต่าย”
บุ้งเองก็เหมือนกับจะชะงักไปพักนึง แล้วมันก็ยกมือไหว้ทุกคนที่นั่งอยู่

“สวัสดีครับ ป๋าแม่พี่อิง....พี่ต่าย” ป๋ากับแม่ก็ดีใจใหญ่เลยครับที่มากันเยอะๆ

“มาๆๆบุ้ง  นานๆเจอกันที  แล้วทำงานที่ไหนล่ะ”แล้วจากนั้นก็ยาวเลยครับ พี่ต่ายก็แจมเป็นระยะ  แต่ผมว่าพี่ต่ายแอบเครียดนิดหน่อย  ผมเองก็สนุกนะ  กินกันหลายๆคนสนุกดี แต่มันสุดๆไม่ได้  ก็มันเหมือนมีสายตาของพี่ต่ายกับบุ้งมันฟาดฟันกันอยู่ยังไงไม่รู้ ผมรู้สึกเสียววาบๆยังไงไม่รู้ พี่ต่ายก็จับมือผมแน่นเลยครับ

ถ้าไม่มีป๋าแม่ผมอยู่ก็ไม่รู้เหมือนกัน  แล้วเวลาที่ผมคาดว่ามันจะมาก็มาเร็วจริงๆครับ ป๋าแม่กลับไปก่อนทิ้งไว้เพียงพวกผมหนุ่มๆ  นั่งดื่มกันสี่คน เค้าดื่มกันเหมือนพรุ่งนี้จะไม่มีกินเหล้ากินกันอย่างนั้นล่ะครับ  บุ้งย้ายมานั่งตรงข้ามกับผม สบตากันไม่ได้ครับ ราวกับว่าผมเป็นกระสือ  ไม่กล้ามองหน้าใครเลย นี่กรูกลัวนะ ดีมีพี่อิงอยู่ด้วย  แต่เวลาคนเมานี่ก็แปลกนะครับ  บางคนก็เฮฮา  บางคนก็เงียบ บางคนก็เศร้า

คนที่เริ่มแสดงอาการก่อนใครก็พี่ผมเองครับเป็นพวกคอแป๊ป  แป๊ปเดียวเมาเลยครับ  แล้วก็เริ่มพูดมากแบบไร้สติ

“แต่ก่อนนะต่าย....ไอ้โอมกับบุ้งมันสนิทกันมาก....ยิ่งกว่ากรูกะโอมอีก”
พี่อิงไม่ได้มองหน้าใครครับ  แต่ผมนะแอบมองอยู่ พี่ต่ายตาขวางแล้ว  แต่บุ้งมันยิ้มกริ่ม  ส่วนผมน่ะหน้าซีด :m29:

“แต่ตอนนี้นะบุ้ง ฮ่าๆๆ...”พี่อิงชี้หน้าบุ้ง “มรึงโดนแย่งคู่หูไปล่ะ....ตอนนี้ไอ้โอมมันเป็นของไอ้ต่ายไปล่ะ...เอิ๊ก”

พอพี่อิงพูดจบ เงียบ...อึ้ง...ไปชั่วขณะ  :sad5: ตอนนี้หน้าผมซีดกว่าเดิมอีก พี่อิงรู้ไรมาว่ะ พี่ต่ายหัวเราะหึหึครับ ส่วนบุ้งหน้ามันจะร้องไห้แล้วครับ  แต่พี่อิงก็ยังไม่หยุด ไอ้พี่เวรนี่  รู้งี้ไล่มานกลับไปด้วยก็ดี  อุตส่าห์จะให้เป็นไม้กันหมากัดกัน  ดันมาเป็นไม้เขี่ยให้หมากัดกันซะงั้น

“แมร่งอยู่ด้วยกันทุกวัน....ต่ายมันขโมยน้องกรูไปละ” แล้วพี่อิงก็ดื่มอีก

“มีแต่คนแย่งน้องกรูไป...อ้ายพวกนี้...มันไม่มีน้องเป็นของตัวเองรึไงฟะ”  พี่อิงเกิดจะมาหวงน้องอะไรตอนนี้  เค้าไม่ใช่ผู้หญิงนะเว้ยพี่อิง ผมชักไม่ไหวล่ะ  สงสัยต้องหาตะกร้อมาครอบปากพี่ผมก่อน  ก่อนที่จะนำความวิบัติมาสู่ผม

“พี่อิงพูดบร้าอะไร   เมาแล้วเพ้อเจ้อใหญ่แล้วนะ กลับบ้านดีกว่า  เลิกๆๆๆ”  :angry2:

ชั่วขณะนั้นผมลืมตัวไปเลยใครเป็นพี่เป็นน้อง   ผมลุกไปดึงแก้วเหล้าออกมาจากมือพี่อิง แต่พี่อิงไม่ยอม ยื้อๆกันอยู่จนเหล้าหกครับ  สาดไปที่หน้าบุ้ง ผมหันไปมองหน้าบุ้ง  เหล้าเลอะเต็มหน้ามันเลยครับไหลเลอะเทอะไปหมด  เลอะมาที่เสื้อด้วย

ผมตกใจลุกขึ้นทันที  ซวยแล้วซิกรูผมรีบหันไปหาบุ้ง ยังไม่ทันได้มองหน้ามันครับว่ามันเป็นยังไง  แต่จับแขนมันดึงไปห้องน้ำ

“ไปบุ้ง มรึงไปล้างหน้าก่อนเลอะหมดเลย  กรูขอโทษไม่ได้ตั้งใจ”
 ดีที่เหลือผมคนนึงที่ดื่มไม่หนัก  เพราะกลัวจะเกิดเรื่อง แต่พอเหลือบไปมองพี่ต่ายหน้าไร้อารมณ์มากๆ พี่ต่ายมองผมแต่ไม่พูดอะไร นั่งดื่มอย่างเดียว  ส่วนคนก่อเรื่องพี่อิงนั่งหลับไปแล้วครับ  พี่ผมแสนจะน่ารักจริงๆ  ช่วยได้มากเลยช่วยก่อเรื่องได้ดี  o6 กลับไปบ้านต้องให้ถ้วยรางวัลล่ะ

บุ้งมันก็เดินตามผมมาอย่างว่าง่ายครับ พอเข้าไปในห้องน้ำ  มันก็ยืนเฉยอยู่หน้าอ่างล้างหน้าครับ  ไม่ทำอะไรเลย  ผมก็นึกว่ามันเมามาก  ก็เลยจะช่วยมัน

“มาบุ้ง.....มึงก้มหน้านะกรูล้างหน้าให้”มือนึงผมโอบเอวมันไว้  อีกมือนึงเอื้อมไปเปิกก๊อก  แล้ววักหน้าล้างให้มัน  กะให้มันรู้สึกดีขึ้นจากอาการมึนๆด้วย พอล้างเสร็จมันก็ยังยืนบื้ออยู่  ผมละอ่อนใจ  ชีวิตกรูทำไม๊ต้องมาดูแลคนเมาสามคนในวันเดียวกันด้วยนะ เอาทีละคนแล้วกัน  เดี๋ยวที่เหลือค่อยตามไปเก็บศพ

ผมพยุงบุ้งไปยืนหันหลังพิงกับกำแพงไว้ก่อน  กะว่าจะเช็ดหน้าให้มัน ผมเอามือนึงผลักไหล่มันไว้ให้พิงผนังไม่ให้ล้ม แล้วก็เอาผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเย็นค่อยๆเช็ดหน้ามัน  บุ้งมองหน้าผมตลอดเวลา  แต่ผมเช็ดเท่าไหร่หน้ามันก็ไม่แห้ง มันยังไงว่ะเนี่ย  แล้วผมก็พึ่งจะเห็นว่า มันเป็นเพราะน้ำตาของบุ้งไหลลงมาตลอดนี่เอง

“บุ้งเป็นอะไร....”ผมพูดเสียงอ่อนโยนกับมัน

“มรึงก็รู้ว่ากรูรักมรึง.....กรูเจ็บมากแค่ไหนมรึงรู้บ้างไม๊”เสียงของบุ้งสั่นเครือ

“บุ้ง.....”ผมพูดไม่ออก แต่กำลังจะบอกมันให้มันตัดใจ บุ้งก็สวนขึ้นมาว่า

“กรูยอมรับแล้ว...กรูยอมแล้ว...ว่ามรึงรักกับพี่ต่าย”มันพูดไปร้องไห้ไป

“แต่กรูหยุดรักมรึงไม่ได้....กรูจะทำยังไง....มรึงจะให้กรูทำยังไง”  :o12:

“มรึงไม่ต้องทำอะไรหรอกบุ้ง   แค่หยุดรักกรู..ตัดใจนะมรึง”ผมก็พูดได้แค่นี้  นึกคำพูดดีๆไม่ออก ผมพูดได้แค่

“กรูรักมรึง...แต่แบบเพื่อนเท่านั้น”

ผมกำลังจะอธิบายต่อแต่ก็พูดไม่ได้ครับ บุ้งมันรั้งตัวผมเข้ามาแล้วก็จูบผมอย่างรุนแรง  มือนึงมันรั้งเอวผมไว้แนบตัวมัน อีกมือนึงมันจับที่หลังคอผมล็อคผมไว้แน่น  ผมพยายามจะผลักมันออกแต่มันก็ไม่สนใจ  แรงมันเยอะจริงๆ

ผมเจ็บปากไปหมด มันทั้งดูดทั้งกัดปากผมจนผมรับรู้ได้ถึงรสปร่าของเลือดกับเหล้าที่ผสมกันอยู่ ผมพยายามปิดปากไม่ให้มันรุกล้ำไปมากกว่านั้น  แต่มันก็ดึงดันจนเข้าไปจนได้ บุ้งมันกอดผมแน่นจนเหมือนกระดูกผมจะแหลกคาอ้อมกอดมัน

ผมบอกไม่ถูกว่านอกจากความเจ็บปวดทางร่างกายแล้วตอนนี้ผมรู้สึกอะไร  มันไม่ใช่ความรู้สึกวาบหวิวเหมือนที่มีเวลาจูบกับพี่ต่าย  แต่ผมรู้อย่างเดียวว่านี่อาจเป็นการลงโทษจากบุ้งที่ผมทำร้ายจิตใจมัน ร่างกายผมก็เลยอ่อนแรงลงเหมือนพร้อมที่จะรับโทษนั้น  แต่น้ำตาของผมก็ไหลออกมาเพราะความเสียใจ  เพราะหลังจากวันนี้แล้วระหว่างผมกับมันก็คงไม่เหมือนเดิมแล้ว จะมองหน้ากันแบบเดิมได้ไง ผมไม่รู้ว่าเราอยู่แบบนั้นนานแค่ไหน  จนกระทั่ง

“บทรักในห้องน้ำตามร้านอาหาร  ดูจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นะ  ไปหาที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ”
จ๊ากกกกกกกก..............................  :m30:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
แล้วเจอกันครับ.... :oni1:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tonnaruk ที่ 01-01-2008 10:59:53
 :sad2: :sad2: :sad2: ใครอ่า พี่ต่ายเหรอ

งานนี้จะมีใครกลายเป็นศพหรือปล่าวหว่า

ใจเย็นๆกันเน้อ  ทุกอย่างแก้ไขได้

บุ้งก็น่าสงสาร  แต่ยังไงก็ต้องทำใจ

ของๆคนอื่น  จะแย่งมาเป็นของเรา

ก็คงไม่ดี  ยังไงก็ต้องพยายามหักห้ามใจ

ขอให้บุ้งโชคดีเจอคนที่รัก

และขอให้ความรักของพี่ต่าย กับ โอม

จงเจริญงอกงาม  และ  สวัสดีปีใหม่นะครับ

 :mc3: :mc3: :mc3: :mc3: :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-01-2008 11:00:24
 :o พี่กระต่ายต้องโกรธมากแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :o
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-01-2008 11:07:46
 :a6: :a6: :a6: :a6:    ต่ายมาเห็นแน่ ๆ      :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 01-01-2008 11:23:49

ตั้งใจจะเข้ามาหวัดดีปีใหม่  แต่เห็นว่าอัพแล้วเลยอ่านก่อน    แต่ว่ามัน...  อ๊า ไม่น๊า  แง แง แง     :o12:  :m15:

เฮ้อ  :เฮ้อ:   ถ้าอะไรที่มันไม่ดีก้อขอให้มันผ่านไป  อย่าได้กลับมาแผ้วพานอีกนะ  ปีใหม่ก้อขอให้โอมมีความสุขมากๆ

มีความเจริญในหน้าที่การงาน  มีเงินใช้มีเงินเก็บมากๆนะครับ    :mc1: :mc1:

ขอให้พี่ต่ายรักโอมมากๆ รักไปนานๆ  โอมก้อต้องหมั่นเอาใจพี่ต่ายเยอะๆนะครับ  รับรองไปไหนไม่รอด อิอิ  :m1: :m1:

แล้วก้อให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ   :mc3: :mc3: :mc4: :mc4:



หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 01-01-2008 12:01:27
โอมนะ โอม ไม่รู้จักขัดขืนเลย ปล่อยให้บุ้งปล้ำอยู่ได้

เดี๋ยวพี่ต่ายก็โกรธหรอก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 01-01-2008 12:04:31
สวัสดีปีใหม่นะ ขอให้โอมมีความสุขมั่กๆ  คิดหวังสิ่งใดก็ขอให้เป็นจริงในปี 2551 นี้  :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 01-01-2008 12:09:57
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 01-01-2008 12:51:32
ตัดฉับกันอย่างงี้เลย ค้างมากๆ  :serius2:

ตามเรื่องก้น่าจะเป็นพี่ต่ายเข้ามาเห็น แต่ขอเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้ป่าวอ๊ะ

เค้าไม่อยากเศร้ารับปีใหม่นะ  :impress:

-----------------

เมื่อกี๊ลืม สวัสดีปีใหม่ด้วย ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกคนค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 01-01-2008 14:32:44
โอ๊ย ค้างคาอย่างแรงเลยอะ   o13  ส่วนเรื่องที่ว่าจะจบลงแล้วนะ  ไม่ต้องจบเลยมาเขียนอีกเยอะ ๆ เลยอะ ชอบ เรื่องนี้มาก  นะ (ต้องทำน้ำเสียงอ้อนอย่างแรง)    :mc3:

สวัสดีปีใหม่คร้าบบบบบบบบบบบบบ   :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 01-01-2008 16:59:45
จ๊ากกกกกกกกกกกกกด้วย

 :o :o :o


ใครมาเห็นหว่า 

=========================

สวัสดีปีใหม่นะคะ   

:mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 01-01-2008 17:36:41
ซวยฉลองปีใหม่ละโอมเอ๊ยยยยยยยย  :m29:
ต้องรีบเคลียร์....พี่ต่ายโกรธแล้ววววววววววว
 :o
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 01-01-2008 18:43:15

ค้างคาแฮะ ที่แน่ๆ อาจมีต่อย  :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Y_Yami ที่ 01-01-2008 18:50:25
 :mc4:หวัดดีปีใหม่ค่า :mc3: :mc1: :mc2:

ขอให้คนเขียนมีความสุข คิดอะไรก็สมหวัง :pig3: :pig3: :pig3:

พี่ต่ายโกธรโอมแน่ ๆ แต่ที่จริงที่แอบสงสารบุ้งนะ :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 02-01-2008 00:29:38
โวววว จูบบกานเลือดดดสาดดดด

ไอ้โอมโดนพี่ต่ายฟันหัวแบะงานนี้  :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 02-01-2008 10:00:43
ไม่ต้องพูดกันมากอ่านต่อไปเล้ย :oni1:
+++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 50
“บทรักในห้องน้ำตามร้านอาหาร  ดูจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นะ  ไปหาที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ”
+
+
+
 o22
เสียงก้องในห้องน้ำมันชัดครับ และแล้วความซวยก็มาเยือนแล้วครับ    :sad3: พี่ต่ายเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เสียงพี่ต่ายเหมือนกับเสียงของครูประจำชั้นที่เรียกตอนผมทำผิดน่ะครับ มันเย็นชา เครียดขึง ราวกับจะประกาศว่า  เธอจะต้องโดนทำโทษ แต่พอผมหันไปก็เห็นแต่หลังพี่ต่ายไวๆแล้วครับ

“พี่ต่าย...เดี๋ยวก่อน”    :m15:
 เสียงผมมันเบามากในความรู้สึกเลยครับ ไม่รู้ว่าจะส่งไปถึงใจพี่ต่ายหรือเปล่า  ผมทำผิดอีกแล้วใช่ไม๊ 

พอหันมาทางบุ้งมันทรุดตัวลงไปนั่งกับพื้นแล้วครับ  ยังนั่งร้องไห้อยู่แล้วพร่ำ(พล่ามด้วย)รำพันอยู่นั่นแหล่ะว่า :sad2:

“โอมกรูขอโทษ....แต่กรูรักมรึง”

มันพูดอีกเหมือนซีดีตกร่อง“กรูขอโทษ”  :o12: :o12:

ผมล่ะอยากจะกระทืบมันจริงๆ  :m16: แต่ก็ยังโกรธมันไม่ลง  ผมได้แต่ไปล้างหน้าล้างตาผม  ดูไม่ได้เลยครับปากบวมเจ่อ หน้าตาเลอะไปด้วยคราบน้ำตา ผมได้แต่ปาดน้ำตาที่ยังไหลอยู่ทิ้ง 

หันไปมองบุ้งจะทิ้งมันอย่างนี้ก็ไม่ได้ เลยส่งมือไปให้บุ้งจะดึงมันขึ้นมา มันก็ไม่เงยหน้ามามอง ผมเลยผลักหัวมันไปโขกผนังห้องน้ำแรงๆหลายที  นี่แน่ะๆๆๆ มรึงจะได้สร่างซะทีไอ้เพื่อนสนิทคิดมารักกรู   :angry2:

“โป๊กๆๆๆๆๆๆ”

“โอ๊ยมรึงทำไรว่ะไอ้เชี่ยโอม...กรูเจ็บน่ะ”

มันหยุดร้องไห้เลยครับมาด่าผมแทน ดีสมน้ำหน้ามรึง ผมขอด่ามันอีกที เสือกมาจูบไอ้เชี่ย
อย่างกรูทำไม

“มรึงจะได้สร่างไง....เสือกสร้างปัญหาให้กรูแล้วเนี่ย”

มันเลยหน้ามามองผมแล้วพูดว่า “เออ!....กรูสร่างเมาแล้วเสือกโขกมาได้....แต่กรูยังไม่สร่างรักมึงนะ”

ยัง....มันยังไม่พอครับ....มันยังไม่วายหยอดครับทำตาเชื่อมใส่ผมด้วย  ผมล่ะพูดไม่ออกเลย ผมว่ามันต้องเมาอยู่แน่ๆ  แต่จะมาเสียเวลาไม่ได้แล้วครับ  ไอ้คนข้างนอกจะเป็นไงไม่รู้

ผมเลยต้องจบกะมันก่อน “มรึงจะลุกขึ้นมาเองหรือว่าจะให้กรูทิ้งเมิงตรงนี้” o12

มันส่งมือมาให้ผม  ผมเลยต้องดึงมันขึ้นมา  แต่พอมันยืนได้ “มรึงดึงกรูขึ้นมายืนได้   แต่มรึงดึงกรูจากหลุมรักมรึงไม่ได้หรอกนะโอม”

พอได้ยินมันพูด  เอ๊ะ...ไม่ใช่ซิที่มันพล่าม ผมว่าผมก็ไม่ได้กินเหล้ามากมายอะไร    ทำไมคลื่นไส้ว่ะ    กรูจาอ๊วก :oak: พูดมาด้าย

 แล้วไงต่อดีล่ะ  ผมพยุงกึ่งลากมันไปที่โต๊ะให้มันนั่งลงก่อน   ยังดีที่พี่ต่ายยังนั่งอยู่  แต่พอผมดูเหล้ามันเกือบหมดขวดแล้วครับ ตอนที่ออกไปยังเหลือตั้งครึ่งขวด  ผมไปนั่งข้างๆพี่ต่ายเอามือจับแขนพี่ต่ายที่กำลังจะยกดื่มไว้  กำลังจะบอกห้ามพี่ต่ายว่าเลิกดื่มเถอะ  พี่ต่ายก็ยกมือขึ้นเหมือนปางห้ามญาติ  แล้วพูดเสียงเข้มกับผม

“อย่าห้ามพี่...ขอพี่ดื่มเถอะ”
เจอเสียงสยบมารเข้าไป  มารแบบผมก็หงอยซิครับ จะไปทำอะไรได้  ดูหน้าพี่ต่ายตอนนี้แดงมากเลยครับ ส่วนพี่อิงเงียบสนิท....หลับ

ผมก็เลยได้แต่รอดูพี่ต่ายกินเหล้า  :m22:  ส่วนบุ้งเหรอครับมันก็นั่งหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา....เมา...มองหน้าผม  พี่ต่ายเหรอครับนั่งดื่มแล้วก็มองหน้าบุ้ง  ผมก็ไม่เข้าใจมันมีสามเหลี่ยมด้านเท่าอะไรที่นี่  ถ้าเทียบระยะที่นั่งมองแล้วคงพอกัน  แต่ถ้าเทียบความแรงแห่งรักกับชังที่ส่งถึงกันก็อาจสูสี  โว้ยยย...กรูจะบร้า :serius2:

   ไม่นานครับพี่ต่ายก็หยุดดื่มเพราะเหล้าหมดครับ  ผมก็พึ่งรู้ว่าพี่ต่ายคอแข็งน่าดู แสดงว่าที่ผ่านมาเนี่ยเมาดิบมาตลอด   หลอกฟันผมบ้างลวนลามผมบ้าง เฮ้อ กำลังคิดเพลินๆ พี่ต่ายหันหน้ามามองผมแล้วก็สั่งครับ

“อาวบุ้งขึ้นรถไปส่งที่บ้านเค้า  เดี๋ยวพี่พาอิงขึ้นรถเองงง”

แต่ผมดูแล้วคงไม่ไหวหรอกครับกินกันเข้าไปขนาดนั้น  ผมเลยเรียกบ๋อยมาช่วยพยุงสามคนขึ้นรถ  แล้วผมเคลียร์เงินเอง  เลยกลายเป็นว่าผมต้องเป็นคนจ่าย ซวยจริงๆเลยกรู  อยู่ดีๆก็ต้องมาเสียเงิน เสียจูบ แล้วยังโดนแฟนโกรธอีก ปีใหม่อะไรจะซวยโชค 3ชั้นขนาดนี้

พอผมไปถึงที่รถพี่ต่ายนั่งหน้าเป็นรูปปั้นอับเฉาอยู่ข้างหน้า  ส่วนบุ้งกับพี่อิงหลับไปแล้วครับ ผมขับรถพาบุ้งไปส่งที่บ้านก็ยังไม่ดึกมากครับ ห้าทุ่มกว่าๆ  กดกริ่งเรียกซักพักน้องบีนมาเปิดประตู

“พี่โอมสวัสดีค่ะ.....หูยพี่บุ้งทำไมเมาขนาดนี้ได้น่ะ”

“โทษทีนะพี่ห้ามมันดื่มไม่ได้น่ะ....แล้วนี่กุญแจรถอยู่ที่ร้านน่านน้ำนะ  พรุ่งนี้ค่อยไปเอาแล้วกันนะน้อง”

 ผมช่วยน้องบีนพาบุ้งไปถึงห้องนอนมัน แล้วผมก็ลากลับบ้านผมครับ ไม่กล้าทิ้งอีกสองคนไว้นานเกินไป 

ผมขับรถไปก็แอบเหล่มอง  พี่ต่ายตาปรือๆครับแต่ไม่หลับ  ผมกะเคลียร์ๆไปเลย  แอบมองกระจกหลังพี่อิงหลับสนิทครับ ทางสะดวก

“พี่ต่ายผม....”   :m21: พี่ต่ายโบกมือลาครับ....จะลาไปไหนล่ะ 

 แต่พอพูดออกมากลับเป็นโบกมือห้ามครับ  ไม่ให้ผมพูด“โอมม่ายต้องพูด”

“ไม่พูดได้ไง....”ก็พี่โกรธผมอยู่น่ะ ผมพูดเสียงอ่อยๆ :m17:

“ไม่ต้องพูด” :angry2:

คราวนี้เสียงดุมากครับ ผมสะดุ้งเลย  เออไม่พูดก็ได้กลัวแล้วนะ ดุกรูจั๊ง ผมน้ำตาไหลเลยครับ  :m15: ไม่เคยเห็นพี่ต่ายโกรธขนาดนี้มาก่อน  ผมก็เลยไม่กล้าพูดอะไรอีกขับรถไปเช็ดน้ำตาไป  โกรธไอ้บุ้งก็โกรธแต่โกรธตัวเองมากกว่า  ไม่น่าไปยอมมันเลย กรูจะทำไงดีว่ะ

   พอไปถึงบ้านผมยังไม่อยากยุ่งกับพี่ต่ายคนไรดุยังกะ....เลยปล่อยไปก่อน  ลากพี่อิงขึ้นบ้านก่อน

“พี่อิงถึงบ้านแล้วไหวไม๊...กินเข้าไปทำไมเยอะแยะนะ”ผมก็บ่นไปงั้นแหล่ะครับ  แต่พอพี่อิงพูดขึ้นมาผมก็บ่อน้ำตาซึมอีก

“อ้ายโอมมานน้องกรูนะ....มายุ่งกับมานอยู่ด้ายยยย”
ผมเพิ่งรู้ว่าพี่อิงหวงผมขนาดไหนเหอๆๆๆ  ผมขำก็ขำซึ้งก็ซึ้ง  เออกรูนี่ท่าจะบร้าเดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้ 

ยังดีที่ป๋ากับแม่ไม่ออกมาเห็นครับไม่งั้นโดนดุแน่ๆ พี่อิงก็อ้อๆแอ้ๆจนผมต้องเตือน
“พี่อิงจุ๊ๆๆๆ...เดี๋ยวป๋าได้ยินอยากโดนดุรึไง”

“โอเค...จุ๊ๆๆๆๆ...ไม่อาวไม่พูด อิอิอิ”พี่ผมเมาแล้วน่ารักจริงๆ แต่วันนี้ปากพี่พาน้องซวยแล้วนะฮือๆ

 ผมพาพี่อิงนอนเรียบร้อยแล้วก็ใจตุ๊มๆต่อมๆ  จะเอายังไงกับพี่ต่ายดี  พอลงมาดูที่รถปรากฏว่าพี่ต่ายลงมายืนข้างนอกรถแล้วครับ ยืนหันหลังพิงรถอยู่  ผมค่อยๆเดินมาหยุดยืนอยู่หน้าพี่ต่าย  เรามองหน้ากันนานไม่กี่นาทีครับ   แต่ผมรู้สึกเหมือนมันนานจริงๆ  ไม่มีคำพูดใดๆจากพี่ต่าย ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร  ก็พี่ต่ายไม่ให้พูดนี่  แล้วพี่ต่ายก็พูดเบาๆทำลายความเงียบขึ้นมา แล้วยื่นแขนมาให้ผม

“โอมมม....ช่วยพาพี่ขึ้นไปหน่อย”

ผมเอื้อมมือไปจับแขนพี่ต่ายมาพาดที่คอ ค่อยๆพยุงพี่ต่ายเดินขึ้นบ้าน น้ำตาก็ไหลออกมาอีกล่ะ  :o7: พี่ต่ายหันหน้ามามองผมแป๊ปนึง  แต่ก็ไม่พูดเหมือนเดิม  วูบนึงผมบอกกับตัวเองว่าพี่ต่ายจะโกรธอะไรกันนักหนาน่ะ  คำว่าให้อภัยน่ะสะกดไม่เป็นรึไง ผมไม่ได้ตั้งใจ.......แค่สมยอมบุ้งมันนิดส์เดียวจริงๆ...นะ

   ผมพาพี่ต่ายไปนอนที่เตียงผม  พี่ต่ายนอนหลับตาแต่ไม่รู้ว่าหลับไปจริงๆรึเปล่า เอาไงดีทิ้งไว้ก่อนล่ะกัน  ผมเลยไปอาบน้ำถ้าไม่ได้อาบน้ำสระผมก่อนนอนล่ะก็ผมนอนไม่ลงจริงๆครับ  พออาบน้ำเสร็จมาดูพี่ต่ายตัวเหม็นเหล้านิดหน่อย  แต่น่าจะเช็ดหน้าเช็ดตาหน่อยจะได้หลับสบาย  ผมเลยเอาผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาค่อยๆเช็ดหน้าเช็ดคอให้พี่ต่าย  เช็ดไปได้พักนึง  พี่ต่ายลืมตาขึ้นมองผม

   พี่ต่ายไม่พูดแต่พี่ต่ายเจ็บปวด  ผมดูได้จากสายตาพี่ต่ายที่มองผมอย่างตัดพ้อ เราไม่ได้ละสายตาจากกัน แต่ผมน้ำตาไหลไปเช็ดหน้าพี่ต่ายไป  ไม่มีแม้แต่คำพูดใดๆจากพี่ต่ายอีก

พอผมเช็ดหน้าเสร็จแล้วพี่ต่ายก็นอนหันหลังให้ผม มันช่างทรมานใจไม่แพ้กันครับ ให้พี่ต่ายด่าผมหรือทำร้ายผมทางร่างกายยังดีกว่ามาเมินหน้ากันแบบนี้  ผมได้แต่รับบทลงโทษของพี่ต่ายอีกคน  วันนี้ผมโดนคนที่รักผมลงโทษถึงสองคน  นี่จะปีใหม่แล้วนะทำไมซวยอย่างนี้นะ  คนอื่นเค้าได้ของขวัญกันแต่ผมคงต้องไปทำขวัญแล้ว

   ผมยืนน้ำตาไหลมองพี่ต่ายนอนอยู่สักครู่  แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง  ผมเลยปิดไฟแล้วล้มตัวลงนอนข้างพี่ต่าย ลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะเอามือไปกอดเอวพี่ต่ายซุกหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างๆนั้น   แล้วก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นไปอย่างไม่เกรงใจใคร เสื้อพี่ต่ายเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของผม ผมเดาไม่ถูกว่าพี่ต่ายหลับไปแล้วหรือยัง  แต่พี่ต่ายก็นอนเฉยๆ  ผมไม่รู้ว่าร้องไห้ไปนานแค่ไหน ผมพูดกับพี่ต่ายอยู่เพียงคำเดียวคือ”ขอโทษ”จนผมผลอยหลับไปเองตอนใกล้สว่าง  แต่ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้ยินคำพูดอะไรจากพี่ต่ายเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

   พอตื่นมาตอนเช้าผมปวดหัวเหมือนคนกินเหล้าเลย  สงสัยผมคงร้องไห้มากไปหน่อย  พี่ต่ายยังนอนหลับอยู่  ผมเข้าห้องน้ำจะล้างหน้าแล้วก็ต้องตกใจ ตาผมบวมแดงมาก ปรกติก็ตาไม่ได้โตมากอยู่แล้วแต่ตอนนี้ตาปูดเลย  ดูไม่ได้ ใครดูก็ต้องรู้ว่าร้องไห้มา  กรูจะทำไงดีว่ะ  จะเอาหน้าไปสู้ใครได้  ถ้าเป็นผู้หญิงคงแต่งหน้ากลบเกลื่อนได้  แต่ถ้าไปเอาเครื่องสำอางแม่มาแต่งคงโดนป๋ากับพี่อิงเตะออกจากบ้านนึกว่าผมเปลี๊ยนไป๋ 

   ผมก็เลยเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า  หนีกลับกรุงเทพไปเลยดีกว่า ขี้เกียจตอบคำถามทุกคน  ยังไม่อยากเจอทั้งพี่ต่ายทั้งบุ้งด้วย  ผมรู้ว่าวันนี้มันมาหาผมแน่ครับ ยื่นหน้าไปชะโงกดูพี่ต่าย  ยังหลับสนิทก็กินเหล้าไปซะขนาดนั้น  อยากจะก้มลงไปจูบที่แก้มก็ไม่กล้า ผมตัดใจเดินออกมา

ผมหยิบแว่นดำมาใส่  ลงมาเจอกับแม่และป๋า  ผมเลยเอาของขวัญให้แม่กับป๋า แล้วก็บอกว่า

“แม่ค๊าบ...เพื่อนโอมโทรมาบอกให้ไปช่วยงานเค้าน่ะแม่  เค้าไม่สบาย  โอมกลับก่อนนะแม่นะ ป๋านะ”
แม่ทำหน้างงๆ เพราะเมื่อวานก็ไม่มีวี่แววว่าผมจะกลับก่อน ป๋าผมก็สงสัยในอาการแปลกๆของผมเลยถามว่า

“แล้วทำไมโอมต้องใส่แว่นดำด้วย  ทำเป็นเท่ห์ไม่เข้าเรื่อง...นี่อยู่บ้านน่ะ ไม่หล่อยังไงป๋ากับแม่ก็รัก”

“ป๋าก็....พอดีเมื่อวานไม่รู้ตัวไรกัดน่ะ  ตาบวมนิดๆโอมเลยอายน่ะป๋า”

แม่ผมเห็นผมลงมาคนเดียวเลยถามถึงพี่ต่าย “กลับก่อนแล้วต่ายล่ะ”

“พี่ต่ายยังไม่ตื่นเลย เมื่อวานกินกะพี่อิงไปเยอะเลย ฝากบอกด้วยแล้วกันนะแม่  ของขวัญพี่อิงอยู่นี่นะ” ผมเข้าไปหอมแก้มแม่กับป๋า  แม่กอดผมไว้ลูบหัวผมด้วยความรัก

“โอมรักแม่รักป๋านะ มีความสุขมากๆนะค๊าบ ฝากลาพี่อิงด้วยนะแล้วโอมมาใหม่วันหลัง”

แม่ก็ยังบ่นๆๆๆน่ะครับว่าปีใหม่ทั้งทีทำไมทำแต่งาน   มาก็มาแป๊ปเดียวแล้วก็รีบกลับ  ผมเลยต้องรีบชิ่งครับก่อนที่แม่จะบ่นจนกลายเป็นหมี(กินผึ้ง)ไปซะก่อน

แล้วผมก็เปิดตูดเลยครับ  รถทัวร์ก็แน่นมากแต่ทำไงได้ล่ะ  ผมโทรหาที่ปรึกษาส่วนตัวก่อนติงนะครับ

“โหลติงเหรอ อยู่กรุงเทพปะ....แล้วไปไหนไม๊”

“อยู่บ้าน...เบื่อจะตาย...ปีใหม่อะไรไม่รู้เซ็ง  ไม่มีไรทำ  ว่าไงมีไรจ๊ะ”

“เจอหน่อยดิ...มีเรื่องปรึกษา”

“เอาซิที่ไหนดี......ได้ๆแล้วเจอกันนะค่ะ...บาย”

“ติงแต่แบตเราใกล้จะหมดน่ะ  เดี๋ยวเราจะปิดเครื่องล่ะแล้วเราโทรหาติงเองนะ”อันที่จริงจะปิดเครื่องหนีน่ะครับ ขอลี้ภัยไปตั้งหลักก่อน

ผมนัดติงไปเจอที่ร้านอาหารน่ะครับ  เป็นร้านเงียบๆแบบนั่งได้นานๆ  กะว่าไปถึงกรุงเทพก็เที่ยงกว่านิดหน่อย  นั่งรอติงซักพักติงก็มาครับ

“โอมใส่แว่นดำแล้วหล่อล่ะ  แต่ถอดเหอะดูแปลกๆเดี๋ยวเค้านึกว่าดาราหนีเที่ยว 555”

ผมก็ดีใจนะที่มีสาวชมว่าหล่อ  แต่ตอนนี้ยิ้มไม่ออก
 “อย่าถอดเลยติง  ตาปูดน่ะเมื่อวานร้องไห้น้ำหมดตัวเลย”

“เฮ้ย...เป็นไร...เล่ามาเลยนะโอม  น้ำหมดตัวเลยเหรอขำว่ะ” ติงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากน่าดู  o17

“เดี๋ยวเหอะติง  เป็นสาวเป็นนางทะลึ่งใหญ่นะ”

แล้วผมก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ติงฟัง  พอติงฟังเสร็จคำแรกที่พูดก็คือ

“พี่ต่ายโกรธมากแน่ๆเลย”ผมอยากจะบอกติงว่าผมรู้แล้ว  เรื่องนี้ไม่ต้องย้ำเลย

 แล้วติงก็พูดต่อ“แล้วโอมจะทำไง”เออก็นั่นแหล่ะที่ตรูจะถาม ผมว่าผู้ช่วยผมไม่ค่อยช่วยเล้ย

“พูดตามตรงนะติง  ถ้าจะให้แก้ตัวกับพี่ต่ายเราก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน”

“เฮ้อ....รักสามเส้า”แล้วเราสองคนก็นั่งเงียบกันไปพักใหญ่แล้วก็

“เฮ้อ...” :เฮ้อ:
“เฮ้อ...”พร้อมกัน เราเลยมองหน้ากันแล้วก็หัวเราะเบาๆครับ  แล้วติงก็ถามคำถามที่ผมก็ไม่เคยคิดออกมา

“โอมจะกล้าที่จะเลิกคบบุ้งไม๊ล่ะ   ถ้าพี่ต่ายขอ”
ผมฟังแล้วก็นิ่งไปพักนึง  แต่ผมรู้ว่าพี่ต่ายจะไม่ถามผมแบบนี้แน่  ผมค่อยๆพูดในสิ่งที่ผมคิดถึงแม้มันจะดูเห็นแก่ตัวไปหน่อย

“บุ้งเป็นเพื่อนรักเรานะ   เราจะเลิกคบได้ยังไง”

“บุ้งมันก็ไม่ผิด  แค่มันมารักเราแต่เรารักมันแบบนั้นไม่ได้เท่านั้นเอง”

ติงเงียบไปสักครู่แล้วถามผมต่อ“แล้วพี่ต่ายล่ะ”

“พี่ต่ายก็เป็นคนที่เรารัก...มากที่สุด”
ผมถอดแว่นออกแล้วเอามือปิดหน้ากลุ้มใจ  ผมจะทำยังไงดีผมคิดอะไรไม่ออก  ติงลุกจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆผมแล้วตบไหล่ผมเบาๆ

“ค่อยๆคิดใจเย็นๆ...พี่ต่ายก็ไม่ได้ว่าอะไรไม่ใช่เหรอ”

ผมเงยหน้ามามองติงกำลังจะพูดขอบคุณที่ติงให้กำลังใจ แต่ติงอ้าปากหวอ แล้วก็หัวเราะผม :laugh: เหมือนกับว่านั่งดูตลกโก๊ะตี๋  หรือดูดันดารา หัวเราะซะหมดสวยเลยครับ

“ฮ่าๆๆๆๆๆ...โอมหน้าเธอ.....ขำอ่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”  :m20:ชี้ที่หน้าผมด้วย ขำอะไรกัน พอผมเอามือมาลูบหน้าก็จำได้ว่าเผลอถอดแว่นออก   ตานกกะปูดอ่ะกรูอายยยย.......ติง  ผมเลยรีบเอาแว่นดำมาใส่แทบไม่ทัน

“ติงไม่หยุดขำผมโกรธจริงๆนะคนยิ่งกำลังกลุ้มใจมาหัวเราะเยาะอยู่ได้” คนยิ่งอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ด้วย พอติงเห็นผมเริ่มหงุดหงิดเลยหยุดหัวเราะแต่ก็ยังแอบอมยิ้มกลั้นหัวเราะไว้นิดๆ

“โอ๋ๆๆๆๆ...ไม่ขำแล้วนะอย่าเพิ่งงอน” แล้วติงก็เริ่มแนะนำผม

“เราว่านะโอมอย่าพึ่งคิดอะไรในแง่ร้ายเกินไป  พี่ต่ายก็เป็นผู้ใหญ่นะเค้าคงเข้าใจ”

“แต่พี่ต่ายไม่พูดกับเราเลยซิ  เราไม่รู้ว่าพี่ต่ายเค้าจะคิดยังไง” ผมล่ะกลุ้มใจ o6

“เราว่ายังไงโอมก็เจอกับพี่ต่ายก่อนแล้วกัน พี่ต่ายจะพูดอะไรโอมก็ยอมรับไปซะ  เพราะคราวนี้โอมผิดจริงๆ  ส่วนบุ้งเนี่ยเราว่าโอมควรห่างๆไปก่อน   พอพี่ต่ายใจเย็นแล้วค่อยเคลียร์กัน”

ผมฟังติงพูดแล้วก็เห็นด้วย  ดีแล้วล่ะที่ผมไม่เผชิญหน้าใครตอนนี้ ถ้าเราต่างก็อารมณ์ไม่ปรกติเหมือนเมนส์มาแบบนี้  เจอกันก็จะมีแต่เรื่องต้องทะเลาะกันไปเปล่าๆ  แต่ปัญหาคือผมจะเอาหน้าตาตุ่ยๆเหมือนโดนใครชกตามาแบบนี้ไปเจอหน้าใครได้

 แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ของติงดังขึ้นมาครับ  ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าผมปิดมือถือนานแล้ว ระหว่างที่ติงรับสายผมก็เลยลองเปิดเครื่องดู  ปรากฎว่ามีมิสคอล 5-6 สายเป็นพี่อิงซะหนึ่งสาย  ที่เหลือเป็นบุ้งครับ ไม่มีจากพี่ต่าย  ผมน้ำตาร่วงเลยครับ ติงหันมาพอดี

“อะไรกัน...เป็นอะไรไปโอม”

“ติงพี่ต่ายไม่โทรมาเลย”ติงโอบไหล่ผมแล้วเขย่าตัวผมเบาๆ

“ไม่ร้องนะ  เดี๋ยวตาจะยิ่งบวมกว่านี้” ผมเช็ดน้ำตาไปก็เริ่มอายติงที่ผมอ่อนแอมากเกินไป  ผมยังไม่อยากกลับบ้านครับเลยชวนติงไปเที่ยว

“ติงไปดูหนังเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ  ผมเบื่อๆน่ะ”

“ได้เลยวันนี้ขอควงโอมซักวัน  แต่บอกก่อนนะห้ามร้องไห้อีก”

เราก็เลยควงกันไปชอปปิ้งก่อนดูหนังครับ  แต่ผมว่าผมน่ะซวยก็ที่หน้าโรงหนังนะซิผมดั๊นไปเจอคนที่คุณก็รู้ว่าใครเบอร์สอง  พี่คมครับ  แต่ที่จริงพี่คมไม่น่าจะจำผมได้ก็ผมใส่แว่นดำน่ะ  แต่ก็อาจเป็นเพราะผมใส่แว่นเลยยิ่งเป็นจุดสังเกต แล้วหน้าตาดีๆแบบผมจะมีก็คงไม่มากนักครับ หุหุหุ  พี่คมเลยเรียกผมเลย...ซวยจริงๆ

“น้องโอมใช่ไม๊ครับ” พี่คมเดินยิ้มร่ามาแต่ไกลเลยครับมากับใครไม่รู้แต่ว่าหล่อแมนแฮนด์ซั่ม
ครับ  หึหึหึ  เข้าใจหาแฟนรสนิยมดีจริงๆพี่คมเนี่ย......เหมือนผมเลย

“แหมใส่แว่นซะพี่จำไม่ได้เลย” พี่คมเดินมาตบไหล่ผมเบาๆ

“สวัสดีครับพี่คม..พอดีผมตาแดงครับพี่” ทำไมต้องมาเจอตอนที่สภาพแย่ๆแบบนี้ด้วยนะ  ไม่อยากเจอคู่แข่งตอนที่เราด้อยกว่ามากๆน่ะ เสียเซลฟ์จริงๆ

“อ้าวแล้วต่ายไม่มาด้วยเหรอ”เหอๆๆๆ ถามแบบจับผิดป่าวว่ะ  หรือถามจริงๆ

“พี่ต่ายไปต่างจังหวัดครับ  แล้วปีใหม่พี่คมไม่ไปไหนเหรอ” ถามผมดีนัก  ถามกลับมั่งซิ  แต่พี่คมเค้าก็ตอบมาดีๆครับแต่ตาน่ะมองติงใหญ่เลย  ทำนองว่าผมมากับหญิงนี่หว่า

“พี่ชอบอยู่กรุงเทพฯน่ะมันโล่งดี  คนหายไปพร้อมๆกันหมดสบายจะตาย”

ผมเห็นว่าท่าไม่ค่อยดีผมเลยลาดีกว่า “พี่คมผมไปก่อนนะครับ  แล้วค่อยเจอกัน”

ไม่มีอะไรจะคุย เบื่อ  ขี้เกียจปั้นหน้าหาเรื่องคุย แล้วผมก็ไปดูหนังกับติงครับไม่รู้หรอกกว่าพอผมคล้อยหลัง   พี่คมมานก็โทรหาพี่ต่ายทันที  แสบซะยิ่งกว่าทิงเจอร์ราดแผลอีกนะไอ้พี่คมเนี่ย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ไปก่อนนะ :mc1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 02-01-2008 10:49:23
แหมพี่คม :m29:ช่างกล้านะครับแสบยิ่งกว่าทิงเจอร์ผสมซีม่าจริง :angry2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 02-01-2008 11:06:18
 :a4:พี่ต่ายรีบกลับมาเคลียร์กับโอมให้รู้เรื่องไปเลย  อย่าปล่อยให้ค้างคานะครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 02-01-2008 11:07:27
พี่คมทำงี้ได้ไง  :angry2:     โอ๊ยอยากจะบร้า...... :serius2:

พี่ต่ายก้อจะโกรธไปถึงไหน  แค่แฟนไปจูบกะคนอื่น   :m30:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 02-01-2008 11:51:13
อ๊ะ จ๊ากกกกกกก พี่ต่ายน่ากลัววววววว  :a5:
แถมพี่คมไปรายงานเพิ่มเติมอีก งือๆๆ สงสารโอม  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-01-2008 12:45:19
 :เฮ้อ: ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 02-01-2008 13:09:06
กลับมาแว้วววว

ดูท่าพี่ต่ายคงจะโทรหาติงแล้วละมั๊ง
แล้วก็ไม่แน่หรอก พี่อิงอาจจะคุยอะไร ๆ กะพี่ต่ายไปแล้วก็ได้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 02-01-2008 17:38:06
เหอๆ พี่คม คมบาดจริงๆ   :เตะ1:

อยากเห็นโอมตาปูดอ่ะ คงจะน่ารัก มีรูปมั๊ยขอดูหน่อยจิ  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 02-01-2008 18:34:54


ชีวิตไอ้โอมมมม.....

 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 02-01-2008 19:53:10
 :pig3:
รีบๆมาต่อนะคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-01-2008 20:27:19
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ปั่ น ป่ ว น ที่ 02-01-2008 21:05:27
 :angry2:  นายคมนะนายคม ทำกันได้ แล้วพี่ต่ายจะว่าไงบ้างเนี่ย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-01-2008 21:11:08
อาการนี้เรียกว่าซวยซ้ำซวยซ้อน แนะนำให้รดน้ำมนต์ 9 วัดด่วน คงจะพอทุเลาไปบ้าง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 02-01-2008 23:17:23
ซวยแล่วๆ

ซวยซ้ำ ซวยซ้อนนะเนี่ยโอม

 :m29: :m29: :m29: 

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 03-01-2008 08:31:57
สู้ๆ อย่ายอมแพ้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: T-Jang ที่ 03-01-2008 09:54:07
ทีแรกว่าจะลงทั้งตอนแต่ขอแบ่งลงละกัน :a11:
 เพราะเดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีลง 555
บอกกันก่อนว่าครั้งนี้ไม่ใช่โอมแต่เป็นใครต้องลองอ่านเอง :mc2:
 อ่านต่อกันไปเลยนะ :a1:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 51
   ผมจะทำยังไงดี ภาพที่ผมเห็นมันแทบจะทำให้ผมบ้า  ได้แต่ยืนกัดฟันกำหมัดมองอยู่ตรงนั้น ถ้าผมไม่พูดออกไปก็ไม่รู้ว่าโอมกับบุ้งจะยืนจูบกันไปอีกนานแค่ไหน

“บทรักในห้องน้ำตามร้านอาหาร  ดูจะไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นะ  ไปหาที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ”

พอพูดออกไปแล้วบุ้งก็ปล่อยตัวโอมทันที  โอมหันหน้ามามองผมน้ำตายังคลอตาท่าทางตกใจน่าดู  o22 ส่วนบุ้งก็หน้าเหวอไม่แพ้กันแต่ยังดูงงๆอยู่  ผมคงต้องทำร้ายร่างกายใครซักคนแน่ๆถ้าไม่เดินออกมาก่อน  ตอนที่ผมผละออกมาได้ยินเสียงโอมเรียกแว่วๆแต่ตอนนี้มันโกรธจนหูอื้อไปหมด  :m16:

   ผมต้องนั่งสงบจิตใจ  สงบอารมณ์พักใหญ่มือยังคงกำแน่น  ผมเป็นคนไม่ชอบใช้กำลังเพื่อแก้ปัญหา   ได้แต่เรียกสติตัวเองกลับมา  สมองที่ทีแรกเริ่มมึนๆเพราะดื่มไปนิดหน่อย  แต่พอนึกถึงภาพที่เห็นกลับทำให้ผมแทบสร่างเมา

ผมก็เลยดื่มเพื่อดับอารมณ์โกรธ  สักพักนึงโอมก็พาบุ้งมานั่งตรงข้ามผม  โอมลังเลที่จะเอามือมาจับแขนผมไว้เหมือนจะห้ามให้ผมหยุดดื่ม ผมเกือบจะสลัดมือโอมออกด้วยความโกรธ  แต่พยายามใจเย็นยกมือบอกโอมว่า

“อย่าห้ามพี่...ขอพี่ดื่มเถอะ”

แล้วผมก็ดื่มๆๆๆๆต่อไป ผมนั่งมองหน้าบุ้งอยากจะชกหน้ามัน   บุ้งมีสิทธิอะไรไปทำแบบนั้นกับโอมแฟนผม  แต่ผมบอกตัวเองว่าสงบไว้ สงบใจ ใจเย็นไว้ไอ้ต่าย โอมคงไม่ได้อยากให้เป็นแบบนั้นหรอก

ผมแอบมองโอมที่นั่งทำหน้าซึมอยู่หงอยเป็นหมาป่วยไปเลย  ส่วนบุ้งก็นั่งจ้องมองหน้าโอมตาละห้อยอย่างกับหมาอยากกินน้ำข้าว  ผมนั่งดื่มไปเรื่อยๆจนเหล้าหมดก็ได้เวลากลับสักที  โอมขับรถไปส่งบุ้งก่อนแล้วก็ขับกลับมาที่บ้าน  โอมพยายามจะคุยกับผม  แต่ตอนนี้ผมไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้น เสียงโอมสั่นๆ
 
“พี่ต่ายผม....” :monkeysad:ผมโบกมือให้โอมหยุดพูด 

 “โอมม่ายต้องพูด”  ผมว่าผมเมาน่ะเสียงเหมือนไม่ใช่ตัวเอง

“ไม่พูดได้ไง....” :dont2:เสียงอ่อยๆของน้องที่ตอบมาดูเหมือนร้องไห้ไปแล้ว  ถึงแม้ผมจะไม่ได้มองก็ตาม วูบนึงผมโมโห ทำขนาดนี้แล้วยังจะมาแก้ตัวอะไรอีก ผมเลยเผลอพูดเสียงแข็งใส่โอมไป

“ไม่ต้องพูด”  :angry2:

พอพูดไปแล้วก็ตกใจ  ว่าเราไม่เคยพูดอะไรแรงๆแบบนี้กับใครเลย เห็นโอมหน้าซีดยกมือเช็ดน้ำตาป้อยๆ  ผมแทบจะอยากเอื้อมมือไปช่วยเช็ดน้ำตา  แต่ก็ต้องฝืนทำใจแข็งไว้

พอมาถึงบ้านโอมปล่อยผมไว้ในรถ  แล้วพาพี่อิงขึ้นบ้านไป  รายนั้นก็เมาง่ายพอๆกับอั้มเลย   ผมนั่งอึดอัดอยู่ในรถพักนึงเลยต้องออกมายืนข้างนอก  จะเดินเข้าบ้านเองก็กลัวจะไปได้ไม่ถึงไหน  เลยยืนสูดอากาศบริสุทธิ์รอโอม

   โอมส่งอั้มเสร็จเดินหงอยๆมายืนอยู่ข้างหน้าผม  เรายืนมองหน้ากัน ผมก็คิดๆๆผมรักน้องมาก  แล้วผมก็รู้ว่าน้องไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิด  แต่บุ้งต่างหากเป็นคนทำ  แต่ภาพมันติดตาพอนึกขึ้นมาแล้วก็ทำให้เสียใจเล็กๆ  เพราะโอมไม่ได้มีท่าทีขัดขืนบุ้งเลย
 
แต่แค่เห็นหน้าน้องเศร้าแบบนี้พี่ต่ายก็แทบจะอยากดึงตัวมากอดแล้วปลอบว่า “ไม่เป็นไร..พี่ไม่โกรธ  ไม่ต้องร้องไห้นะ” แต่ผมก็ทำไม่ได้  ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะศักดิ์ศรีหรืออะไรที่ทำให้ผมต้องทำแบบนี้  แต่ตอนนี้ผมไม่ไหวแล้วก็เลยต้องบอกให้โอมพาขึ้นไปนอน 

ระหว่างเดินขึ้นบ้านผมหันมามองหน้าโอม  เห็นยังน้ำตาไหลพรากๆ  เด็กขี้แยเอ๊ย  จะร้องไปทำไม   ทำยังกับว่าโลกจะแตกวันนี้พรุ่งนี้ น่ารักน่าสงสารจริงๆแฟนผม  แต่ตอนนี้ใจผมมันไม่อยากพูด โอมพาผมไปนอนที่เตียง  แล้วโอมก็หายไปไหนแล้วไม่รู้  ผมคิดว่าผมหลับไปแล้วแต่พอรู้สึกได้ว่าโอมเอาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดคอให้ สบายจังเลย

ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมองโอม  เห็นแววตาของความเสียใจมองกลับมา  ความรู้สึกของผมมันบอกไม่ถูก  ทั้งรักทั้งโกรธทั้งเสียใจรวมๆกัน   แต่ถ้าให้แยกออกมาว่าอะไรมากที่สุด  ผมก็ตอบได้ทั้งที่ยังเมาๆนี่แหล่ะว่า....รัก....มันมีมากที่สุด

 แต่วันนี้ผมเมาแล้วก็ง่วงยังไม่อยากพูดอะไรตอนที่สติยังไม่สมบูรณ์  ไม่อยากมีคำพูดที่มาจากอารมณ์โกรธพร้อมกับน้ำเมา   เพราะมันยืนยันไม่ได้ว่าเรื่องราวมันจะดีขึ้นหรือเลวลงไป   ผมเลยนอนก่อนดีกว่า  ผมนอนหันหลังให้โอมไม่รู้ตัว

แล้วโอมก็มานอนกอดผมไว้  ได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้น  เสื้อผมเปียกชุ่มไปหมดด้วยน้ำตา  ผมร่ำๆจะใจอ่อนดึงมือโอมมากอดเอาไว้แล้วหันไปเช็ดน้ำตาให้  แต่ก็ต้องฝืนใจแข็งเข้าไว้  โอมใจอ่อนเกินไป  บางทีความใจอ่อนของเราก็ไปทำร้ายคนอื่นได้เหมือนกันผมคงต้องสอนบทเรียนโอมบ้าง

  ก่อนที่ผมจะหลับไปผมก็ยังทันได้ยินคำขอโทษของโอม  ผมเลยสัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้ผมจะคุยกับโอมเองว่าผมยังรักโอมเหมือนเดิม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

พอผมตื่นขึ้นมาปรากฏว่าโอมไปไหนแล้วไม่รู้  ผมแฮงค์นิดหน่อยเพราะเมื่อคืนดื่มไปเยอะ  แต่พออาบน้ำล้างหน้าแปรงฟันเสร็จแล้วลงมาข้างล่างแทบจะหายแฮงค์  ก็เจ้าตัวดีหนีไปไหนแล้วก็ไม่รู้   ผมละอ่อนใจกับความเป็นเด็กของโอมจะหนีไปทำไมก็ไม่รู้  คงคิดเองเออเองสร้างเรื่องราวในความคิดไปใหญ่โต  ผมกำลังจะลาป๋ากับแม่กลับกรุงเทพฯแล้ว    ก็พอดีบุ้งพาหน้าตายุ่งเหยิงเข้ามาหาโอม 

“พี่ต่ายครับ...ผมมาหาโอม”  ทำเสียงสลดมาเลยครับ ผมตอบไปเสียงแข็งๆโดยไม่ได้ตั้งใจ  ยังไม่ทันไรก็มาหาแฟนคนอื่นแต่เช้าเลยนะ มันน่าเตะคนรับปีใหม่จริงๆ :m16:

“โอมกลับกรุงเทพฯไปแล้ว” พอรู้ว่าโอมกลับไปแล้ว บุ้งมันยิ่งหน้าจ๋อยหนักกว่าเก่าอีก

“พี่มีเรื่องอยากจะคุยกับบุ้ง”    ถ้าโอมไม่เคลียร์กับบุ้ง  ผมคงต้องเป็นคนจัดการเอง

“ก็ได้พี่...”บุ้งทำเสียงอ่อยๆ  คงรู้ตัวเหมือนกันว่าสร้างปัญหาให้ผมกับโอม

เราเดินไปคุยกันที่โรงเรียนเก่าของโอม  อยู่ไม่ไกลจากบ้านโอมเท่าไหร่เดินไปไม่ถึง 5 นาทีก็ถึง  เข้ามาในโรงเรียนแล้วก็ให้อีกอารมณ์นึงครับ  ผมค่อยรู้สึกกลับมาเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น  เรือนไม้แบบโบราณ  ต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่น ลมเย็นๆพัดมาเบาๆทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้น  ช่วงนี้ปีใหม่เลยไม่มีเด็กนักเรียนมาเรียน  ผมกับบุ้งเลยนั่งคุยกันสบายๆใต้ต้นไม้  ระหว่างเดินมาโรงเรียนผมเห็นบุ้งพยายามต่อโทรศัพท์แต่คงไม่ติด

“โอมปิดเครื่องหนีไปเลยพี่ต่าย...มันต้องโกรธผมแน่ๆเลย”   :m17:
 
หน้าตาบุ้งร้อนรนกังวลใจเอามากๆ  เดินไปเกาหัวไป ผมอยากจะเห็นใจนะ  แต่กลับสมน้ำหน้ามากกว่า

“แล้วบุ้งไปทำแบบนั้นกับโอมได้ไง”ผมก็เลยเริ่มเรื่องซะเลย แต่บุ้งไม่ตอบผมครับนิ่งเงียบ

“...........................” ผมก็เลยถามต่อ

“พี่ถามจริงๆ...บุ้งรู้ใช่ไม๊ว่าพี่กับโอมเป็นอะไรกัน”  บุ้งเงยหน้ามองผมสายตาเศร้าสร้อย  แล้วก็ไม่ตอบอีกแต่กลับถามผมแทน

“พี่ต่ายก็รู้ใช่ไม๊ว่าผมคิดยังไงกับโอม” ผมเงียบไปพักหนึ่งแล้วก็ตอบบุ้งไปตรงๆ

“ใช่.....พี่รู้มาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะ”ผมไม่เคยปิดหูปิดตากับทุกเรื่องของโอม  เรื่องที่บุ้งโทรมาหาโอมทุกวันผมก็รู้  แล้วโอมก็ไม่เคยปิดบังผมด้วย
 
บุ้งพยักหน้าเข้าใจ  แต่ท่าทางบุ้งคงอัดอั้นตันใจมานาน  ผมก็เลยได้แต่ฟังที่บุ้งพูดระบายความในใจออกมา

“ผมชอบโอมมาตั้งแต่เด็กแล้ว.....ชอบมานาน.....ก่อนที่พี่ต่ายจะรู้จักกับโอมด้วยซ้ำ”

“ที่โรงเรียนนี่เรามีความทรงจำที่ดีๆต่อกัน  เราเคยหัวเราะ ร้องไห้ด้วยกัน ทะเลาะกัน ชกกัน แล้วก็ไม่เคยโกรธกันได้นานๆซักที  ผมต้องง้อโอมตลอดตั้งแต่เด็กๆละ”

“เมื่อก่อนผมไม่รู้ว่าความรู้สึกแบบนั้นมันคืออะไร  ผมคิดแค่ว่าเราเป็นเพื่อนรักกัน”

“ช่วงที่ผมเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯผมก็มีแฟน  แต่ผมกลับคิดถึงแต่ว่าถ้าเป็นโอมล่ะ   ทำไมถึงไม่เป็นโอม  ได้แต่คิดว่าถ้าแฟนผมเป็นโอม  ผมก็คงมีความสุขกว่านี้”

“ช่วงนั้นนานๆเราถึงจะเจอกันทีเพราะกลับบ้านไม่ตรงกัน  ผมก็พยายามจะหักห้ามใจ”

“จนวันที่ผมมาเจอโอมอีกครั้งที่บ้าน  แล้วเรามีเวลาคุยกันมากขึ้น  ได้นั่งรถกลับด้วยกัน ผมมีความสุขมาก  วันนั้นผมบอกกับตัวเองว่า  ผมจะไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป”

“ผมจะยอมรับผลของมันไม่ว่าจะดีหรือร้าย......  การที่เรารักใครซักคนแล้วได้แต่เพียงยืนมองอยู่ห่างๆในฐานะเพื่อน  มันทรมานมากนะพี่”   :o7:

บุ้งยังคงพูดต่อ ผมยิ่งฟังก็ยิ่งไม่สบายใจ น้ำเสียงของบุ้งที่ปวดร้าวทำให้ผมสะเทือนใจอยู่เหมือนกัน

“อย่างน้อย  ผมก็อยากให้โอมรู้ว่าผมรักเค้า  แค่เค้ามองมาทางผมบ้างในฐานะคู่รัก  ให้โอกาสผมบ้างที่จะได้รัก  ได้ดูแลห่วงใยเค้า  ผมก็พอใจแล้ว”

บุ้งเช็ดน้ำตาที่เริ่มไหลออกมาเรื่อยๆ   พูดไปก็ร้องไห้ไป ผมว่าบุ้งกับโอมนิสัยเหมือนกัน   เป็นคนอ่อนไหวง่ายแล้วก็ช่างคิด  ผมพอเข้าใจเหตุการณ์เมื่อวานแล้วว่าทำไมมันเกิดขึ้นได้

“พี่ต่ายครับ” บุ้งมองหน้าผมผ่านม่านน้ำตา o7

“ขอแค่ผมรักโอมไม่ได้เหรอ........ฮึก ฮึก...ฮือ..... แค่รักเองนะพี่ไม่ได้หวังจะครอบครอง” บุ้งเอื้อมมือมาจับแขนผมแล้วเขย่า แล้วร้องไห้อย่างหนัก

“ผมขอแค่นี้เอง”

 เสียงของบุ้งที่สั่นเครือ ทำเอาผมพูดไม่ออกเลยครับ ผมไม่รู้มาก่อนว่าบุ้งจะรักโอมมากมายขนาดนี้   แต่ถึงแม้ผมจะไม่ได้พูดออกมาว่ารักโอมแค่ไหน  ผมว่าความรักของเราคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพียงแต่ว่าผมโชคดีกว่าบุ้งที่เป็นคนที่โอมเลือก  ในเกมของความรักตอนนี้ผมชนะบุ้งอยู่
 ผมลังเลใจเหมือนกันที่จะพูดกับบุ้งเรื่องนี้ เพราะผมไม่รู้ว่าจะเกิดความยุ่งยากอะไรตามหลังมารึเปล่า

“พี่ไม่ว่าถ้าบุ้งจะรักโอม  แล้วก็คบกับโอมต่อ แต่พี่จะไม่ปล่อยให้บุ้งทำแบบเมื่อวานกับโอมอีก”

“พี่คงต้องถือสิทธิในฐานะของคนรักของโอมในการห้าม”

ผมคิดว่าคำพูดของผมคงไม่ใจร้ายกับบุ้งจนเกินไป  แล้วถ้าผมไม่ให้โอมคบกับบุ้งต่อโอมก็คงไม่พอใจแน่  แล้วเกิดบุ้งเครียดมากจนไปทำร้ายตัวเองผมก็คงรู้สึกผิดไปด้วย  แต่คำพูดของผมคงยังไม่โดนใจบุ้งพอเท่าไหร่

“พี่ต่าย ให้โอกาสผมมากว่านี้ได้ไม๊ล่ะ ผมเชื่อว่าซักวันโอมต้องรักผม” มันกวนครับบุ้งได้คืบจะเอาศอก มันน่า.......จริงๆ :เตะ1:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พี่ต่ายไปก่อนนะ :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 03-01-2008 10:16:27
 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:

อ้ายเวงบุ้ง แม่ง ยังมะสำนึกกกกกกก ..
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 03-01-2008 10:26:53
 :m15:ความรัก :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 03-01-2008 10:50:10
 :a4:พี่ต่ายมาเองเลยครับ หายข้องใจไปอีกวัน แต่บุ้งดื้อมากๆๆๆ ก็เข้าใจนะ คนมันรักจะทำยังงัยก็รัก จะเจ็บยังงัยก็รัก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 03-01-2008 10:58:01
เข้าใจความรู้สึกพี่ต่ายนะ

แต่ก็เข้าใความรู้สึกโอมด้วยอะ

เฮ้อออออ  ตอนนี้อ่านแล้วอึดอัดจัง

แล้วที่ว่า  ความใจอ่อนนี่แหละ  ที่จะไปทำร้ายคนอื่น

ใช่เลยจริงๆ

ถ้าโอมชัดเจน  ตั้งแต่แรก  รุ้ตัวอยู่ตลอด  ก็คงจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้หรอก

อยากให้ดีกันๆๆ

 :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 03-01-2008 11:19:28
 :m22:
เค้าเดาเรื่องผิดอ่ะ


แต่ไอ้บุ้งนี่มันก็นะ  :เตะ1:

เอ๊ะ รึว่า ยังไม่ถึงตอนที่พี่คมรายงานเหตุการณ์หว่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-01-2008 12:22:40
พี่ต่ายมาเองเลย ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม อิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-01-2008 12:34:25
ได้คืบจะเอาศอก สักทีเถอะ  :เตะ1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 03-01-2008 12:53:03
เห็นใจบุ้งมาตลอดนะ จนถึงประโยคสุดท้ายนี่ละ .....  :o
แค่พี่ต่ายยอมให้คบ ยอมให้รัก มันก็มากไปละนะยังไม่พอใจ
ที่แน่ ๆ ไอ้พี่คมน่ะไว้ใจไม่ได้เล๊ยยยยยย ให้ตายสิ....
แล้วนี่พี่ต่ายจะไปทำงานด้วยเนี่ยนะ จะไหวเร้ออออออ  :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 03-01-2008 13:01:46

อ้ายบุ้ง อ้ายบร้า....... :angry2:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 03-01-2008 13:08:36
อย่าไปยอมนะเพ่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 03-01-2008 15:49:10
มาช่วยลุ้นเป็นกำลังใจ

"ความไม่ชัดเจน มันทำร้ายทั้งตัวเองและคนที่รัก"  เศร้า  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-01-2008 16:16:28
บุ้งนี่นะ   จากน่าสงสาร จนจะไม่สงสารแระ...  o12

พี่ต่ายกับโอม คุยกัน เคลียร์กัน ให้รู้เรื่องไวๆน๊า


ปล... เฮ้อออ ที่ใดมีรักที่นั้นมีทุกข์  แต่เราจะอยู่ยังไงถ้าไม่มีความรัก   o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 06-01-2008 16:28:32
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 06-01-2008 16:57:15
คิดไปกันคนละทาง
แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกัน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 06-01-2008 20:34:51
มาต่อตอนปีใหม่แล้ว ไมมันเศร้างี้นี่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nananon ที่ 06-01-2008 20:48:04
โค้ดลับวันนี้


สำหรับพี่ต่าย    :a2:   

สำหรับคุณโอม    :เฮ้อ:

สำหรับอ้ายคุณบุ้ง    o12

   
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 06-01-2008 21:53:53
โอย อ่านตั้งแต่ต้นจนจบ ตาลายเยย  o2
ชอบพี่ต่ายที่ซู้ดดด  o13
แต่ตอนสุดท้ายทำไม มานเศร้าจางเลย  :o12:
นายบุ้งนี่ละก็ ได้คืบจะเอาศอกเลยน้า  :angry2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 07-01-2008 10:01:56
ขอเอามาลงต่อนะคะ
อย่าสับสนเรื่องชื่อคนแต่งคนเอามาลงเลย  :m23:
เพราะคนแต่งเองก็สับสนมากพอแล้ว หุหุ :m29:
+++++++++++++++++++++
ตอนที่51 (ต่อ)

ถึงแม้แววตาบุ้งจะน่าสงสารขนาดไหน   แต่พอผมฟังแล้วก็กลับมาโมโหอีกรอบ  มีที่ไหนกันมาขอโอกาสจีบแฟนเค้า  ใครจะไปยอมกัน  เรียนจบทำงานแล้วแต่ทำไมยังมีความคิดแบบเด็กๆได้   ให้ผมเป็นบ้าก่อนผมคงยอมตามที่บุ้งขอ :m16:

“บุ้งมีโอกาสมาตลอดนะ  มากกว่าพี่อีกด้วย  บุ้งรู้จักโอมมาก่อนพี่ซะอีก  แต่บุ้งก็ต้องรู้นะไอ้เรื่องของความรักเนี่ย  ถ้ามันไม่ใช่แล้วละก็  เวลานานแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์  ยังไงมันก็ไม่ใช่”

“พี่ให้บุ้งคบกับโอมต่อในฐานะเพื่อนเท่านั้น  แต่บุ้งจะคิดมากไปกว่านี้พี่ก็คงห้ามไม่ได้  พี่บอกได้แค่....ยังไงพี่ก็ไม่ปล่อยโอมให้ใครแน่ๆ”

บุ้งพยักหน้า แล้วคงกลัวผมโกรธ เลยยกมือไหว้ผม  ดูๆไปก็น่ารักดีไอ้เด็กบ้าเอ๊ย  เป็นน้องเป็นนุ่งคงโดนเตะตายไปแล้ว

“ผมขอโทษพี่ต่ายนะครับที่ผมไปทำแบบนั้นกับโอม  ตอนนั้นผมทั้งเมา ทั้งกำลังเสียใจน่ะพี่  โอมมันโดนผมบังคับนะครับ”

พูดสารภาพบาบขนาดนี้แล้วผมจะใจดำไม่ให้อภัยได้ยังไง  ยังไงบุ้งก็เป็นคนนึงที่รักและหวังดีกับโอม  แต่เจ้าน้องตัวดีของผมนะซิ  ป่านนี้ไม่รู้ร้องไห้น้ำท่วมกรุงเทพไปแล้วมั๊งไม่รู้ไปอยู่ไหน

“พี่ต่ายว่าโอมจะโกรธผมไม๊   มันจะยกโทษให้ผมไม๊   ทำไมต้องหนีกลับก่อนด้วย  ผมไม่เข้าใจ”

แล้วบุ้งก็บ่นต่อไปเรื่อยๆครับ  ก็คงกลัวโอมจะไม่ยอมคบเป็นเพื่อนอีก มือก็กดโทรศัพท์หาโอมแต่คงไม่ติด  ผมน่ะรู้นิสัยโอมเป็นคนใจอ่อน   เดี๋ยวหายงอนก็คงยอมยกโทษให้เอง  แต่โกรธนานๆหน่อยก็ดีวันหลังจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้อีก

“บุ้งกลับกรุงเทพฯด้วยกันไม๊ล่ะ  แล้วมีอะไรยังไงเราคุยกันต่อในรถ” ผมมันคนใจอ่อนครับ  คิดซะว่าเป็นน้องอีกคนแล้วกัน  ผมว่าบุ้งก็นิสัยตรงไปตรงมาดีนะครับ

“ครับพี่  ผมขอไปขอโทษโอมได้ไม๊  พี่จะว่าอะไรไม๊” บุ้งกังวลกลัวโอมโกรธมากๆเลยครับ  ผมนึกขำในใจ

“ก็ได้  แล้วคุยกันให้ชัดเลยนะ  อย่าไปคุยกันลับหลังพี่”  จะมีใครใจดีไปกว่าผมไม๊นะ

ผมกับบุ้งไปลาป๋ากับแม่โอมแล้วขอตัวกลับ  ท่านก็ให้ศีลให้พรจนผมปลื้มใจที่พวกท่านเอ็นดูผมเหมือนลูกจริงๆ

“ต่ายเดินทางปลอดภัยนะลูก แล้วปีใหม่ก็ขอให้เจริญในหน้าที่การงาน แล้วก็แต่งงานเมื่อไหร่อย่าลืมบอกแม่ล่ะ”

แต่พอฟังประโยคสุดท้ายผมกลับรู้สึกผิดต่อพวกท่านมากมาย  เหมือนผมกำลังโกหกพ่อแม่ที่ผมเคารพ  ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่าผมจะไม่ทำให้ลูกของแม่ต้องเสียใจ  แล้ววันนึงผมจะบอกกับป๋าแม่ด้วยตัวเองเรื่องของผมกับโอม

 ระหว่างนั่งรถกลับก็มีโทรศัพท์เข้ามาครับ  ผมดูชื่อสายเข้าแล้วก็งงนิดหน่อย

“สวัสดีครับคุณคมว่าไงครับ”

“คุณต่าย สวัสดีปีใหม่ครับ อยู่ไหนครับเนี่ย”เสียงคุณคมดูร่าเริงมากเลยครับ  :m18:

“ผมอยู่ต่างจังหวัดครับ  สวัสดีปีใหม่ครับ มีความสุขมากๆนะครับ”

“ผมจะมีความสุขมากๆเลยถ้าได้เจอหน้าคุณต่ายทุกวัน  ปีหน้าผมคงสมหวัง หึหึหึ”
 :haun5:ผมฟังแล้วก็ขำ คุณคมเนี่ยแกหยอดมาทุกปี  ขนาดผมมีแฟนเปิดเผยแล้วก็ยังไม่วาย  ผมฟังจนชินแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย

“เงียบไปเลยนะคุณต่าย   เจอผมจีบหน่อยเขินเหรอ”เสียงคุณคมหัวเราะร่ามาเลย

“ผมกำลังขำน่ะครับ  คุณคมชอบพูดเล่นเรื่อย”

“ใครว่าผมพุดเล่น  ผมพูดจริงทุกครั้งนะ”

ผมฟังแล้วชักเบื่อ น่ากลัวเหมือนกันแฮะ  ไอ้พูดทีเล่นทีจริงแบบนี้  อีกหน่อยทำงานด้วยกันทุกวันจะเป็นยังไง  มิต้องมานั่งฟังคำพูดแบบนี้ทั้งวันเหรอ

“ผมขอตัวก่อนนะคุณคม  พอดีจะไปลาผู้ใหญ่กลับกรุงเทพฯ”
ตอนนี้ผมอยากวางสายแล้ว  เลยพยายามส่งสัญญาณให้คุณคมรู้ตัว  แต่เหมือนยังไม่ตรงกับเจตนาที่โทรมา

เสียงคุณคมดูมีความสุขมากจริงๆ “คุณต่ายผมเจอน้องโอมด้วยนะ  ทำไมไม่อยู่ด้วยกันล่ะ”

อ้าวไปเจอที่ไหนกันล่ะเนี่ย  ไปเจอกันได้ยังไง
 “เจอที่ไหนครับ  พอดีเลิกงานไม่พร้อมกันเลยไม่ได้มาด้วยกัน”

“เจอที่โรงหนังมากับสาวสวยซะด้วยนะ”

พอคุณคมพูดแค่นั้นวูบแรกผมหึงเอามากๆอยากรู้ว่าไปกับใคร  :fire: มือกำโทรศัพท์แน่นไปเองโดยอัตโนมัติ  หลบจากกิ๊กทางนี้ไปมีกิ๊กทางนู้นรึไง  แต่ลองฟังคุณคมพูดก่อน

“เดี๋ยวผมส่งรูปไปให้ดูนะครับ”    o8
คุณคมผู้หวังดีแต่ประสงค์ไม่ค่อยดีเสนอตัวเป็นปาปารัซซีสมัครเล่นซะแล้ว แต่พอผมหยุดคิดนิดนึง  มันก็ไม่น่าจะมีใครตอนนี้โอมสนิทกับติงคนเดียว  ผมคงต้องวัดดวงเอาว่าผมจะเดาถูกไม๊

“ไม่ต้องก็ได้ครับเค้าไปกับเพื่อนเค้าน่ะ  โอมเค้าโทรบอกผมแล้ว สูงๆขาวๆสวยๆใช่ไม๊ล่ะ น้องติงน่ะเพื่อนที่ทำงานสายโอมเค้า” ผมก็เดาเอานะครับแต่คงจะเดาถูก คุณคมเงียบไปพักนึง

“อ้าวเหรอ  แหมงั้นแผนตีหัวแล้วแย่งเอาแฟนเค้ามาของผมก็ไม่สำเร็จซิ  อุตส่าห์นึกว่าโชคดีแล้วเชียว หึๆ”
คุณคมนี่พูดตรงเกินไปรึเปล่าไม่รู้ซิ จนทำให้ผมหนาวกว่าเดิม  ผมเลยต้องย้ำไปอีกที

“คุณคมก็รู้ยังไงผมก็รักโอมไม่ต้องมาล้อเล่นหรอกครับ  แค่นี้นะครับแล้วค่อยคุยกันที่ทำงาน”

แล้วผมก็กดวางสายไปเลย  ไม่ทันได้ฟังคุณคมพูดอะไรอีก  บุ้งนั่งอยู่ข้างๆคงไม่รู้เรื่องอะไร  แต่พอได้ยินผมพูดถึงโอมก็เลยถามขึ้นมา

“พี่ต่ายคุยกะใครน่ะเสียงดุจัง  แล้วโอมอยู่ไหนพี่”

“พี่คุยกะลูกค้าน่ะพอดีเค้าไปเจอโอมที่โรงหนังกับเพื่อน”

ผมอดโมโหคุณคมไม่ได้ แล้วก็พาลโมโหไปที่โอมด้วย  หนีผมไปแล้วก็ไปดูหนังกับสาวมันน่าจับตีซะให้เข็ดอย่างนี้ต้องแกล้งให้หนักๆเลย  ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะแกล้งยังไงดี  บุ้งก็ถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

“โอมไปกับใครน่ะพี่ต่าย”บุ้งไม่ได้สนใจเลยว่าผมอยู่ในอารมณ์ที่จะตอบรึเปล่า

“ไปกับใครนะ”บุ้งก็ถามผมอยู่นั่นแหล่ะ

“ไปกับติง...เพื่อนเค้าน่ะ” ผมเลยชักเซ็งไม่อยากกลับบ้านกลับไปก็ไม่เจอเจ้าตัวดี  แล้วไม่รู้นึกยังไงผมเลยชวนบุ้งไปดูหนัง

“บุ้งไปดูหนังกับพี่ไม๊”บุ้งหันมามองหน้าผมเหมือนผีหลอก ทำตาโตเชียว น่าเอ็นดู หึหึหึ

“พี่ต่าย...นึกยังไงพี่”บุ้งถามผมอย่างกับว่าผมทำสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ขำดี แกล้งโอมไม่ได้แกล้งบุ้งดีกว่า แก้เบื่อ

“ก็ทำไมล่ะ โอมเค้าก็ไปเที่ยวกับสาวแล้ว ทิ้งเราสองคน  เราก็ไปเที่ยวกันมั่งซิ”

ผมหันมายิ้มให้กับบุ้ง บุ้งอ้าปากค้างหน้าแดง ผมเห็นแล้วก็ขำ  บุ้งขี้อายพอๆกับโอมเลย  สมกับเป็นเพื่อนกันจริงๆ

“พี่เห็นว่างๆ  กลับไปก็ไม่เจอโอมหรอก ไม่ไปก็ได้นะพี่ไม่ได้บังคับซักหน่อย”

บุ้งทำท่าลังเลว่าจะเอายังไงดี  ผมเองก็ไม่ได้อยากดูหนังหรอกแต่กลับไปก็ไม่เจอโอม  เลยอยากหาอะไรทำฆ่าเวลา

“ไปก็ได้พี่ต่าย”  :m23:
บุ้งทำท่าเหมือนตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิต ผมอดจะอมยิ้มไม่ได้ แต่พอหันไปเห็นหน้าบุ้งที่ทำหน้าไม่ค่อยแน่ใจ   เลยต้องหุบยิ้มกลัวจะเข้าใจเลยเถิดไปกันใหญ่

ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่าชวนบุ้งไป เปลี่ยนใจล่ะ เอางี้ดีกว่า
“บุ้งลองโทรหาโอมซิว่าอยู่ที่ไหน  เราตามไปเจอดีกว่า  แต่ไม่ต้องบอกนะว่าพี่ไปด้วย”

“จะดีเหรอพี่ต่าย  แล้วโอมเค้าจะยอมเจอผมเหรอ”
บุ้งถามผมแบบนี้แต่มือนะกดโทรไปแล้ว ไอ้พวกปากไม่ตรงกับใจ  กลัวๆกล้าอยู่นั่นแหล่ะ

“ติดแล้วพี่.....โอมเปิดเครื่องแล้ว”บุ้งทำหน้าดีใจเหมือนเจอตังค์ 20 บาทที่ใครทำหล่นนะครับ

“โอมๆๆๆ ....เอ่อ..กรู...เอง”   :try2:
 ผมฟังบุ้งพูดแล้วก็ขำเหมือนคนสติแตก  โอมนี่เค้าเก่งเรื่องที่ทำให้ใจคนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจริงๆ  ผมหมายถึงตัวเองด้วยนะครับ หึหึ

“ดูหนังเหรอ...ที่ไหนล่ะจะไปหา”

“ให้กรูไปเหอะ..กรูอยากเคลียร์”

“ได้....ออกมาแล้วเจอกันนะ”

“โอมเค้ายอมคุยกับผมแล้วพี่”  o17
คราวนี้ทำท่าเหมือนเก็บแบงค์ 100ได้ครับ ยิ้มหน้าบานได้แล้ว

“ก็ดีแล้วนี่  คุยกันให้รู้เรื่องนะ แค่เพื่อนนะเข้าใจไม๊”

ผมย้ำกับบุ้งอีกที  ไม่อยากมาทะเลาะกับโอมอีกแล้วเรื่องบุ้ง  เวลาเราโกรธกับใครก็ตามมันไม่ดีเลยครับเสียสุขภาพจิต  โดยเฉพาะกับคนที่เรารัก บุ้งก็พยักหน้าตอบผมแบบหงอยๆ คงพยายามตัดใจได้ซักที

“ครับพี่ต่าย”

พอไปถึงที่ห้างสรรพสินค้าที่โอมนัด  ผมก็ทิ้งบุ้งไว้ที่นั่นแล้วแยกตัวไปเดินที่อื่นก่อน  แต่ไม่ลืมบอกบุ้งว่า

“บุ้งไปคุยที่ไหนกับโอมแล้วโทรบอกพี่นะ   แล้วคุยเสร็จกดหาพี่ทีนึงแล้วพี่จะเข้าไปหาเอง  แล้วอย่าบอกโอมล่ะ ไม่งั้นพี่ห้ามเจอโอมอีกจริงๆด้วย”

เด็กพวกนี้ต้องทั้งขู่ทั้งปลอบครับ  เป็นวิธีของผมเองใช้กับน้องๆที่ทำงานบ่อยๆค่อนข้างได้ผลครับใครจะหาว่าเป็นจอมวางแผนก็ยอม  แต่ผมเรียกแบบเข้าข้างตัวเองว่าเป็นวิธีเชิงจิตวิทยามากกว่าครับ

พอแยกจากกันกับบุ้ง  ผมก็ไปหาซื้อของใช้เข้าบ้านครับ  กะว่ายังไงวันนี้ขออยู่บ้านจัดการกับเจ้าน้องตัวดีของผม  ต้องเอาซะให้เข็ดครับ น้องโอมที่รัก............ของพี่ต่าย  o18
 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เล้าปิดหลายวัน แต่มัวไปคุยกับเพื่อนๆน้องๆ แต่งไปไม่คืบหน้าเลย  :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Givesza ที่ 07-01-2008 10:07:41


5555+


เข้ามาจิ้มตูดพี่ฟาง   :m14:  เจ็บไหมนั้นอ่ะ จิจิ  :oni1:


กำลังอ่านอยู่  จายเย็นๆ  เข้ามาจิ้มไว้ก่อน  เจิ่มเป็นดี หุหุ



คิดถึงเพ่มากมาย ปล. รูปที่ส่งไปให้  เอิ๊กๆๆ คนดูร้องไห้เอง แต่...

เราจาร้องทามไมหว๋า  :m28:

 :dont2: :dont2: :dont2: 

แล้วเราจาร้องทามไมเนี้ย ฮือๆๆๆ  :o12: :o12: :o12:


เริ่มเพ้อหละเพ่  ก็นะ อิอิ  วันนี้ต้องไปรับตอนเที่ยง 

อีกใจก็อยากเคลีย  แต่....ก็งงว่า เคลียปรายทามม๊ายยย เราก็...เพื่อนกานม่ายช่ายหร๋อ จริงม่ะ  :o7:



มิสยูเพ่ฟางนะง๊าบ  จุฟจุฟจุฟ  วันนี้แถม 3 จุ๊ฟ อิอิ

บะบายคนสวย  แง่มๆแง่มๆ :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 07-01-2008 10:47:32
พี่ต่ายนี่ร้ายเหมือนกันแฮะ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 07-01-2008 11:02:09
 :laugh:
หัวเราะดัง ๆ สมน้ำหน้าตาคม ขาหยอดขนมครก ชิส์...
 :m4:
ตบมือดัง ๆ ให้พี่กระต่าย ที่ฉลาด รู้ทัน และมั่นคง
 :a2:
สำหรับนายบุ้ง เอาใจช่วยยยยย สำหรับความเป็นเพื่อน
 :o8:
อิจฉานายโอมจิงจิ๊งงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-01-2008 11:07:37
ดูท่าจะสนุกขึ้นเรื่อยๆแล้วสิเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 07-01-2008 11:33:22
มา ต่อ เรวววววววววว  :oni3: :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 07-01-2008 12:45:25
งานนี้ต่ายวางแผนเองเลยวุ้ย  :m30: มีลุ้น  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 07-01-2008 12:51:17
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 07-01-2008 13:05:09
พี่ต่าย(แอบ)ร้ายได้ใจเลย
หุหุหุ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 07-01-2008 13:29:26
โอมจะโดนพี่ต่ายแกล้งอีกแย้ววว  อิอิ

ดีกันไวๆน๊าาา   ไปง้อกันที่ห้องเน้ออ จะไปเกาะรอขอบเตียง อิอิ  :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 07-01-2008 14:12:42
 :a4:พี่ต่ายอย่าทำรุนแรงกับโอมนะครับ ยังงัยพี่ต่ายก็รักโอมอยู่แล้วผมว่าคงไม่ทำแรงหรอกแต่อย่างอื่นอาจทำแรงไม่แน่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 07-01-2008 15:06:03


>>> หงึ๊!!!! แอบงง... ตกลงนี่พี่ต่ายมาเอง หรือว่าเป็น เรื่องแต่ง มาตั้งแต่ต้นหว่า???

อ่านจนอินว่าเป็นเรื่องเล่าจากเรื่องจริงไปแล้ว :serius2:


>>> สะใจคุณคม แผนไม่สำเร็จ เหอๆๆ

.
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 07-01-2008 15:18:25
มาต่อ มาต่อ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 07-01-2008 17:44:18

อ่านไปอ่านมา เริ่มชอบบุ้ง และ หมั่นไส้คุณคมละ  :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 07-01-2008 18:16:32
 :a4:คืนนี้ มีแด๊ปๆ ชัวร์ :a3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 07-01-2008 19:10:59
:oni2:  กำลังหนุก ๆ มาต่อไว ๆ นะ ค๊าบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 07-01-2008 19:27:42
พี่ต่ายน่ารักจังเลย  ฉลาดร้ายสุดๆ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 07-01-2008 22:03:32
อ่านรวดเดียวตามทันแล้วคร้าบบบบ...

อยู่สาขาสอบเหมือนกันเลยงับ

ข้าน้อยขอคาระวะ :m13:

ให้กำลังใจและติดตามผลงานนะคร้าบบบ...
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 07-01-2008 22:10:27
หุหุ พี่ต่ายมีแผนอารายหรอ :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 08-01-2008 10:45:11
 :a4:รอพี่ต่ายอยู่นะครับ หรือว่าน้องโอมกักตัวไว้เนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 08-01-2008 10:53:25
พี่ต่ายก็ร้ายเหมือนกันนะครับผม :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 08-01-2008 14:39:35
เสดพี่ต่ายแน่ๆ โอม  งานนี้สงสัยจาไม่รอดดดดด

หึหึหึ

 :m12:  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nananon ที่ 08-01-2008 18:58:49
มารอพี่ต่ายรายงานความคืบหน้า   :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 08-01-2008 22:08:55
จงลง :oni3:
จงลง :oni3:
จงลง :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 08-01-2008 22:47:50
โพสท์ไปทีหายหมดเซ็งเลย
++++++++++++++++++
ตอนที่52

อยู่ดีๆไอ้บุ้งมันก็โทรมาหาผมครับ  เป็นคนที่ผมไม่ได้รอสายซักหน่อย  คนที่ได้แต่หวังว่าจะโทรมาก็คงไม่โทรหรอก  พี่ต่ายฟอร์มเยอะ  ผมรู้  หรือว่าโกรธมากก็ไม่รู้ซิ  ไม่กล้าคิดหรอกครับหนาวเลยพอคิดถึงเสียงดุๆของพี่ต่ายเมื่อวานนี้  ผมเองก็ลังเลอยู่เหมือนกันว่าจะรับสายบุ้งมันดีไม๊  ยังเซ็งเพราะมันอยู่เนี่ย

“โอมๆๆๆ ....เอ่อ..กรู...เอง” พูดตะกุกตะกัก ไอ้บ้าบุ้ง เรียกชื่อผมมาตั้ง 3-4 ที

“มึงเป็นอะไร...ติดอ่างไปละ” ทำมาเป็นกลัวผมจะโกรธ  ทีเมื่อวานจูบกรูเอ๊าจูบกรูเอา ปากยังระบมอยู่เลย

“กรูจะดูหนังล่ะไม่ว่างคุย”ยังไม่หายโกรธมันหรอก ยังไม่อยากคุยด้วย

“ดูหนังเหรอ...ที่ไหนล่ะจะไปหา”บุ้งมันยังตื๊ออยู่อีก

“เรื่องของกรูอย่ามายุ่งกะกรู”

มันจะให้ผมหายโกรธมันง่ายๆได้ไง ก็มานน่ะทำความคาดหวังปีใหม่ของผมพังทลาย  กะว่าจะอยู่พร้อมหน้าคนที่รัก  ทั้งป๋าแม่พี่อิงพี่ต่าย แต่เพราะมัน...เพราะมันคนเดียว(ผมไม่ผิดหรอก  ตัวเองต้องถูกเสมอซิ)ทำให้ผมต้องมาดูหนังที่ไม่ได้อยากดูเลยกะติงซะอย่างนั้น

บุ้งยังคงอ้อนวอนครับ  “ให้กรูไปเหอะ..กรูอยากเคลียร์”

ไอ้ผมมันคนใจอ่อนด้วย  เฮ้อ “แต่กรูจะดูหนังน่ะ   มรึงรอได้มรึงก็รอนะ  นานนะเว้ย”

บุ้งรีบตอบตกลงเลยครับ“ได้....ออกมาแล้วเจอกันนะ”
สรุปว่าผมก็เผลอตกลงกับมันไปแล้วง่ะ คิดถูกรึเปล่านะ  ชักไม่แน่ใจ

ผมบอกสถานที่มันไปแล้วก็วางสายครับ  ก็ติงดึงมือผมเข้าไปดูหนังแล้ว พอดูหนังผมก็ลืมไปแล้วครับว่านัดกับบุ้งไว้  แหะๆเพราะดูไปแป๊ปเดียวก็หลับยาวเลย  ก็เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับนี่นา

 ตื่นมาอีกทีเพราะติงเอาศอกมากระทุ้งครับ แล้วทำหน้าขยะแขยง
“โอมนำลายเธอเลอะแขนเสื้อเราเลย  น่าเกลียดจริงๆ”

 ผมเอามือปาดน้ำลายที่ปาก แล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่  ผมไปซบแขนติงตั้งกะเมื่อไหร่  เห็นรอยน้ำลายผมเป็นดวงๆเลยเลอะเสื้อติง  อายเหมือนกัน แต่ไม่รู้จะทำไงดี

“แหะๆๆ มันเลอะไปแล้วนี่” ดีที่เป็นเพื่อนกัน  ถ้าเป็นผู้หญิงที่จีบอยู่คงเสียเซลฟ์กว่านี้

“เอางี้แล้วกันติง  เพื่อเป็นการขอบคุณที่มาเป็นเพื่อน แล้วก็ขอโทษที่ทำเลอะ  เดี๋ยวเราซื้อเสื้อให้ใหม่ตัวนึง  ดีไม๊ครับที่รัก” ติงก็รับมุกครับ

“ดีซิคะที่ร๊าก ติงชอบ”

แล้วติงก็มาเกาะแขนแล้วจุ๊บแก้มผมเบาๆ  ทำเอาผมเหวอไปเหมือนกัน 555 แต่ชอบนะไม่ใช่ไม่ชอบ ห่างหายไปนานกับสัมผัสของผู้หญิง แต่ว่ามันดันมามีมารน่ะครับ มารเสียงคุ้นๆ

“น้องโอมพี่ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย”

ผมสะดุ้งเลยเสียงคนที่คุ้นเคยครับ  ไอ้พี่คมมานมานั่งหลังผมได้ไง  เซ็งว่ะทำไมไม่ไปผุดไปเกิด  สงสัยพรุ่งนี้ตอนใส่บาตรตอนกรวดน้ำต้องอุทิศส่วนกุศลให้แล้ว

“โทษครับพี่”

ผมกับติงแยกตัวจากกันเลยครับ  แอบหันมาหัวเราะแหะๆให้กันนิดนึง แล้วก็ดูหนังกันต่อ  แล้วผมก็นอนหลับอีก  ไม่รู้จะมาดูทำไม๊เหมือนกัน เสียดายเงินจริงๆ  จนหนังจบล่ะครับถึงตื่นขึ้นมา  แล้วก็เจอพี่คมอีก

“โอมไปทานข้าวด้วยกันไม๊พี่เลี้ยงเอง”เอาอาหารมาล่อ  คงเห็นว่าผมชอบกินฟรีละซิ  มันก็ถูกอ่ะนะ  แต่วันนี้ไม่อดอยากน่ะขอบอก  บ้านมีอันจะกินนะพี่

“ไม่ดีกว่าพี่  พอดีนัดเพื่อนอีกคนไว้ด้วยครับ”
เกรงใจนิดหน่อยครับ แต่ไม่อยากมากกว่า  แค่นี้เรื่องของผมก็ยุ่งน่าดูแล้ว  ไม่อยากให้ยุ่งไปกว่านี้

“ไม่เป็นไร  เพื่อนก็มากินด้วยกันนะโอม  ถือโอกาสฉลองปีใหม่ด้วยไง”

ว้อนท์มากเลยเหรอพี่  ผมชักเกรงใจ  แกคะยั้นคะยอเหลือเกิน  หันไปมองหน้าติง  เธอทำหน้าสมองกลวง ทำนองว่าตามใจโอม เอาไงดีล่ะ  ขณะที่ผมลังเลอยู่ก็มีเสียงหล่อๆลอยมาครับ

“น้องไปเถอะครับ  จะได้คุยกันหลายๆคนสนุกดี”

ไม่ใช่พี่คมนะครับที่พูดเนี่ย  แต่เป็นคนที่มาด้วยกับพี่คมที่ผมบอกว่า หล่อมั่กๆหล่อได้โล่ห์เลยล่ะ  ผมเกือบจะตกลงไปแล้วครับแพ้คนหน้าตาดี  ท่าทางพี่หน้าหล่อแกก็เป็นมิตรดี

ผมก็ยืนคิดอยู่ล่ะครับ  แต่พี่คมแกลากผมไปแล้วครับ  เห็นบุ้งมันเดินมาพอดี  ทำหน้างงๆครับ  ผมเลยได้แต่เรียกเพื่อนผมให้ตามมา

“ติง บุ้งไปเถอะ”เห็นพี่หน้าหล่อนั่นก็หัวเราะเบาๆครับแล้วก็เดินตามกันไป

พี่คมพาผมเข้าไปทานอาหารญี่ปุ่นครับ  ตามใจกินก็กินบังคับกันมากินแล้วนี่งั้นขอสั่งแบบเกรงใจแล้วกัน

ผมเลยสั่งสเต็คปลาหิมะเลยครับ แอบอ่านราคาแล้วทำเป็นสมองเสื่อมลืมไป 555
ส่วนติงกับบุ้งคงเกรงใจเหมือนกันก็คนไม่รู้จักกันนี่ครับ แต่เห็นติงสั่งปลาดิบมากิน บุ้งก็สั่งข้าวหน้าปลาไหลคงกะว่าวันนี้จะได้พูดจาไหลลื่น หุหุหุ  วันหลังคงไม่มีใครคิดเลี้ยงข้าวเราสามคนแล้วครับ  เพราะเป็นคนขี้เกรงใจมากกก อิอิ 

ท่าทางบุ้งยังไม่รู้เรื่องครับ   มันคงงงว่าทำไมขบวนผมมันใหญ่ขนาดนี้ มันเลยแอบกระซิบผมว่าไปห้องน้ำกันไม๊   ผมฟังทีแรกก็ตกใจเมิงจะทำไรกรูอีกรึเปล่าเนี่ย  กรูกลัวนะมาชวนเข้าห้องน้ำเนี่ย แต่ผมก็เพิ่งนึกได้ว่านัดจะมาเคลียร์กับมันนี่หว่า แล้วติงล่ะ

   หันไปดูติงคุยกับพี่รน(พี่สุดหล่อ)สนุกสนานไปแล้วครับ  ผมเลยบอกติงว่าขอไปห้องน้ำก่อน ติงก็พยักหน้าไม่ว่าอะไรครับ  ผมกับบุ้งเลยแว๊บไปหาที่นั่งตรงเก้าอี้ที่เค้ามีวางทั่วไปตามห้างนะครับ สถานที่ไม่อำนวยแต่ทำไงได้ครับ

“กรูจะขอโทษมรึงน่ะโอม เมิงอย่าโกรธกรูเลยนะ”

 ทำหน้าตาให้น่าสงสารครับไอ้เพื่อนWell ทำท่าจะมาดึงมือผมไปจับด้วย ผมเลยต้องเอามาไขว้หลังไว้ ผมน่ะคนใจอ่อนก็เห็นใจมันด้วย  ไม่น่ามาชอบคนอย่างผมเลยไม่รู้มีอะไรมาดลใจมันให้เห็นผิดเป็นชอบ แต่ก็มันน่ะนะ  เค้กอร่อยๆถึงจะแต่งหน้าเค้กไม่สวยยังไงก็ต้องมีคนชอบกินอยู่ดี เกี่ยวกันไม๊ครับ หุหุ

แต่พอนึกถึงที่มันมาทำเซ็กช่วลฮาลราสเม้นท์กับผม ก็ยังเคืองโว้ย
“แต่มรึงไม่น่าทำกับกรูแบบนั้น  มรึงก็รู้กรูเป็นอะไรกับพี่ต่าย” มันทำให้ผมซวยไปด้วย

“กรูรู้ว่ากรูผิด เออแล้วตาเมิงเป็นอะไรทำไมบวมๆ”

เอ๊า... ดันมาเหยียบตาปลาผมเข้าให้เกือบหายโกรธแล้วนะ โกรธต่อเลยภาค 2  มาทำให้ผมต้องใส่แว่นดำตั้งครึ่งค่อนวัน ตอนนี้ถอดแล้วครับอายมาก....มีแต่คนมอง  บางคนเอาโทรศัพท์มาแอบถ่ายผมด้วยคงนึกว่าเป็นดาราหนีมาเที่ยวกับแฟนผมจะบร้าตาย แต่ตอนนี้ตาก็ยุบไปเยอะแล้วครับ  ความหล่อค่อยๆคืบคลานกลับมาแต่ช้าไปหน่อย

“เมิงแหล่ะไม่ต้องมายุ่งกะกรู  เพราะมรึงคนเดียวพี่ต่ายโกรธกรูเลย”ผมปัดมือมันที่จะมาจับตาผม  แล้วดูมันทำคอตกเลยครับ  ไม่พูดอีกเลย เงียบสนิท

“......................”

“ถ้าเมิงทำแบบนั้นกระกรูอีก  คราวนี้กรูเลิกคบเลย  เป็นเพื่อนก็ไม่เอา มรึงจำไว้นะ”
ผมเอานิ้วจิ้มหน้าผากบุ้ง มานจะได้จำ

“คราวนี้เห็นแก่ความดีงามของมึงที่สั่งสมมาหลายสิบปี  กูอภัยทานให้” ผมพูดผิดรึเปล่าไม่รู้  ดูสำนวนแปลกๆ  แต่ผมว่าดูน่าเชื่อถือดี

บุ้งมันยังก้มหน้าครับ  ทำตัวน่าสงสารเชียวนะเมิง  ผมเลยอดใจอ่อนอีกล่ะ แต่พอผมประคองหน้าบุ้งที่ก้มอยู่ให้เงยขึ้นมา  ผมก็นึกว่ามันร้องไห้ไปแล้ว  แต่มันยิ้มอยู่นะครับยิ้มทั้งน้ำตาเลย ผมเลยตบกระบาลมันไปทีนึง  โทษฐานมาหลอกให้ผมใจเสียไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมกรู มันไม่ว่าครับได้แต่หัวเราะเหมือนคนบ้า  สบตาผมอย่างซึ้งใจ

“ขอบใจนะโอม...เพื่อนรัก” คำพูดของบุ้งทำให้ผมมีความสุขมากเลยครับ มันคงเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

แล้วผมก็ลุกขึ้น ดึงแขนชวนมันไปกินข้าว  ป่านนี้เค้าคงสงสัยว่าไปเข้าส้วมอีกห้างรึเปล่านานจริงๆ แต่พอดีบุ้งมีสายเข้าครับ มันสะดุ้งเลย  แล้วหันมาบอกให้ผมเข้าไปก่อนเดี๋ยวมันตามไป ท่าทางมันแปลกๆครับ  แฟนโทรมาป่าวว้า  แล้วมาหลอกว่ารักผม ผมก็อดสอดรู้สอดเห็นไม่ได้

ผมเลยเดินเข้าร้านไปก่อน พอไปถึงพี่รนก็ทักเลยครับ 
“พี่กำลังจะไปตามนะเนี่ยเห็นหายไปนานเลย”

“พอดีเค้าล้างห้องน้ำน่ะพี่  เลยรอนานไปหน่อย” ผมเป็นคนไม่ดีจริงๆ ผิดศีลตลอด ชาติหน้าคงแย่  โกหกเรื่อยเลยไม่รู้จะทำไงดีนี่นา

แล้วพี่คมก็ถามผมว่า “พี่โทรเรียกต่ายมากินด้วยดีไม๊โอม”
ทำหน้าเจ้าเล่ห์อ่ะพี่คม  ใครจะไปยอมเล่า

“พี่ต่ายอยู่ต่างจังหวัดพี่คม  มาไม่ได้หรอก”เอามาทำไมให้มันวุ่นวายเล่า  แล้วบุ้งมันก็เดินตามเข้ามานั่งเงียบๆครับ

“เห็นว่าคุณต่ายจะกลับแล้วนะ  เดี๋ยวพี่ลองโทรดีกว่า”

จะห้ามก็ไม่ทันแล้วครับ  โทรไปแล้วพี่ค้มมมม.... ผมอยากกลับบ้านแล้วอ่ะ   กลัวเจอพี่ต่ายถึงแม้จะทำใจมาแล้วทั้งวัน ผมเริ่มเลิ่กลั่กมองหน้าติง มองหน้าบุ้ง แต่สองคนนั้นไม่มองผมเลย ทำไงดี

“คุณต่ายเหรอ ผมเอง จะชวนมาทานข้าว เนี่ยโอมก็อยู่กับผม”

“ครับอยู่ที่ร้าน...ครับผมจะรอ” พี่คมพูดไปก็ยิ้มไป

“เดี๋ยวต่ายมา”พี่คมบอกผมแค่เนี้ย  ผมต้องพยายามยิ้มครับแสดงว่าเรารักกัน  เราไม่มีปัญหา  เราไม่ได้ทะเลาะกัน ผมดีใจมากที่พี่ต่ายจะมา เหอๆๆๆ ยิ้มเข้าไว้กรู

ผมมองปลาหิมะพึ่งจะกินไปได้ครึ่งนึง  ทำไมตอนนี้มันไม่อร่อยแล้วล่ะ  แต่ไอ้จะเลิกกินก็กลัวพี่คมด่าเล่นสั่งของแพงมาด้วย  ก็ต้องกล้ำกลืนกินต่อไป

“น้องโอมทานน้อยจังไม่อร่อยเหรอ”พี่รนถามผมอีกแล้ว ผมกำลังจะตอบพี่รน แต่บังเอิญหันไปเห็นหน้าบุ้งก็เห็นมันมองอยู่มันทำหน้าแปลกๆ

“อร่อยครับพี่...แต่ผมรู้สึกไม่ค่อยสบายพี่เลยกินไม่ค่อยลง”

บุ้งมันโวยขึ้นมาครับ “อ้าว...แล้วก็ไม่บอกโอมเนี่ย  ไม่สบายมากไม๊”

 มรึงจะโวยทำไม๊......กรูโกหกเค้าไอ้บ้าบุ้ง ผมต้องขยิบตาให้มันมันถึงรู้ตัว แต่พี่รนซิ

“อ้าวแล้วตาโอมเป็นอะไรขยิ๊กๆ บวมนิดๆด้วย”เง้อ....แต่ละคนจะมายุ่งอะไรกับผมนักหนานะ

“ผมโดนแมลงกัดน่ะพี่ วันนี้เลยเคืองๆนิดหน่อย”ตอบไปแล้วก็   ผม...อยากกก....กลับบบ...บ้านนนน

“เออพี่ว่าจะถามโอมอยู่เหมือนกัน  บอกพี่ว่าตาแดงแต่พี่ว่าตาอย่างกับร้องไห้มาแน่ะ”

พี่คมเสริมขึ้นมาอีกน่ะครับ ยังจำที่ผมตอบโกหกไปได้อีกนะว่าเป็นตาแดง ขนาดผมลืมไปแล้วนะ  ไม่รู้จะตามมาซ้ำเติมให้กรูวิบัติรึไงนะไอ้พี่คม   

ผมใกล้จะร้องไห้จริงๆแล้วตอนนี้  พี่ต่ายต้องใกล้ถึงแล้วแน่เลย  หันไปมองติงช่วยหน่อยดิเพื่อน ไอ้บุ้งผมไม่หวังพึ่งมันหรอกครับมานซื่อเกินไป

“โอมเป็นบ่อยพี่คมพี่รน  ชอบโดนแมลงกัดเรื่อยตาบวมประจำ  ที่จริงวันนี้เค้าก็ไม่อยากมาแต่ติงลากมาเอง”
ติงเพื่อนรักช่วยได้มาก ยังไงชวนคุยต่อไปก่อนนะ ขอทำใจเตรียมเจอพี่ต่ายก่อน

“พี่คมกับพี่รนเป็นเพื่อนกันตั้งแต่ตอนเรียนเลยเหรอค่ะ”
ผมก็อยากรู้เหมือนกันเค้าเป็นแฟนกันรึเปล่า ดีแล้วที่ติงถาม แล้วเหมือนพี่คมจะรู้ว่าผมสงสัยอะไร

“ใช่ครับเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยมน่ะ  แต่เราไม่ได้เป็นแฟนกันนะน้องติง
พี่คมบอกติงครับแต่มองหน้าผม พี่รนก็มองหน้าผม  มามองผมทำไมล่ะ  ผมไม่ได้เป็นคนถามซักหน่อย แล้วพี่รนก็บอกผมว่า

“คนไม่มีแฟนทั้งคู่ก็อย่างนี้แหล่ะโอม ก็เลยต้องมาเที่ยวด้วยกัน”

ผมเผลอมองตาพี่รนแล้วแปลกๆครับ บอกไม่ถูก  เหมือนอย่างกับว่าพี่เค้ามองผมอยู่ตลอดหันไปทีไรก็จ๊ะเอ๋กันน่ะครับ ขณะที่ผมกำลังเบลอๆกับความหมายที่พี่รนส่งมาให้ผมอยู่นั้น  พี่ต่ายก็เข้ามาาาาา..............

“อ้าวคุณต่ายมาพอดี”

เสียงพี่คมที่ทักพี่ต่าย ทำผมสะดุ้ง บุ้งก็สะดุ้ง สงสัยเราอยู่ตลกคณะเดียวกัน 555

“สวัสดีค่ะพี่ต่าย”ติงไม่สะดุ้งครับยกมือไหว้พี่ต่าย  แต่ผมน่ะยังไม่กล้ามองหน้าพี่ต่ายเลย  พี่คมขยับให้พี่ต่ายนั่ง เลยกลายเป็นว่าเรานั่งตรงข้ามกัน

“คุณต่ายทานอะไรมารึยังครับ  แล้วนี่เพื่อนผมชื่อรนครับ” พี่รนส่งคำทักทายพร้อมรอยยิ้มไปให้พี่ต่าย

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ เคยได้ยินคมพูดถึงคุณต่ายบ่อยๆ  เพิ่งเจอตัวจริงก็วันนี้โชคดีจังเลย”

“ครับยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน  ผมทานมาเรียบร้อยแล้วครับคุณคม” พี่ต่ายเท่าที่ฟังๆดูอารมณ์ดีครับ  คือผมฟังแต่เสียงแกน่ะครับ วางตัวไม่ถูกจริงๆ

แล้วคนที่เหลือเค้าก็คุยกันครับ เน้นครับว่าทุกคนที่เหลือเลยยกเว้นผมคนเดียว  ผมเครียดมากเลยครับเหมือนจะคลื่นไส้ยังไงไม่รู้  มันอึดอัดเอามากๆ แล้วผมก็สะดุ้งอีกทีตอนที่โดนทัก วันนี้ผมขวัญอ่อนจริงๆ

“โอมไม่สบายรึเปล่าหน้าซีดๆ”ให้ทายว่าใครพูดกับผมทายถูกให้รางวัลหอมแก้มพี่คม 1 ฟอด สงสัยไม่มีใครอยากทายใช่ไม๊ล่ะ  หึหึหึ เฉลยก็ได้

ตอนแรกที่ได้ยินเสียงนั้นผมแทบจะวิ่งออกไปซื้อดอกไม้ธูปเทียน เอากลับไปไหว้พระที่บ้านคืนนี้  ก็เสียงที่ว่าเป็นเสียงพี่ต่ายครับ  พี่ต่ายพูดกับผมแล้วนี่ดีใจสุดๆ 

ผมค่อยๆช้อนสายตาที่ปริ่มๆไปด้วยน้ำตามองพี่ต่าย  เสมือนว่าไม่มีใครนั่งอยู่กับเราเลย พี่ต่ายถามผมซ้ำอีกครั้งว่า
“โอมไม่สบายใช่ไม๊  พี่พาไปหาหมอไม๊โอม”

พี่ต่ายที่แสนจะห่วงใยผมก็กลับมาแล้ว  แต่รอบตัวผมตอนนี้มีแต่โจทย์นั่งรายล้อมอยู่เต็มไปหมด ทั้งบุ้ง พี่คม พี่รนนี่ก็ท่าไม่ค่อยน่าไว้ใจเท่าไหร่  มีติงนั่งริงไซด์เป็นผู้ชมแถวหน้าอยู่คนเดียว

 ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดงัดไม้ตายที่จะตัดปัญหาทั้งเรื่องบุ้งเรื่องพี่คมเรื่องพี่รันที่ท่าทางไม่น่าไว้ใจ  ถือซะว่าส่งความอายไปเที่ยวปีใหม่เดี๋ยววันที่ 2 ค่อยให้มันกลับมาทำงาน ผมพูดเสียงเบาๆตอบพี่ต่ายไปว่า

“ผมไม่สบายเพราะคิดถึงพี่ต่ายแหล่ะ”

เหอๆๆๆ เงียบเป็นสากกระเบือกันทั้งโต๊ะครับ มือถือช้อนถือตะเกียบค้างกันไปเลย งงกันละซิ !!!!! คงนึกกันไม่ถึงว่าผมจะใจกล้าหน้าทนขนาดนี้  ก็บอกแล้วว่าส่งความอายไปเที่ยวมันยังไม่กลับมา 

ผมค่อยๆละสายตาจากพี่ต่ายที่ยังเอ๋อรับประทานอยู่ หันมามองหน้าพี่คมที่ขมวดคิ้ว พี่รนก็ดูเจื่อนๆไปหน่อย ติงเอามือปิดปากกลั้นหัวเราะครับ ส่วนบุ้งตาปริบๆมองผมละห้อยเลย กลับมาที่พี่ต่าย

พี่ต่ายมองผมตาเชื่อมเลยครับ ผมไม่นึกว่าจะได้รับสายตาแบบนี้อีกแล้ว  พี่ต่ายเอื้อมมือมาลูบแก้มผม แล้วก็บอกว่า

“พี่ก็คิดถึงโอม”

หุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุหุ

ความอายไม่อยู่แต่ความเขินยังทำงานครับ  เอาไปเลยโอทีวันหยุด4เท่าไอ้เจ้าความเขินผมเขินซะหน้าแดงหูแดงทั้งที่ตัวเองเป็นคนเริ่มชงลูกก่อนแท้ๆ  แค่พี่ต่ายรับลูกเอาไปเลี้ยงต่อเท่านั้นเอง

คนที่เหลือไม่ต้องพูดถึงครับหน้าตาแสดงความอิจฉาตาแหกกันหมด  ผมได้ยินเสียงติง Yes! Yes! Yes! เบาๆ อยากไปสะกิดว่า ออกนอกหน้าไปนิดนะเพื่อน เหอๆๆ  แต่มือไม่ว่างครับบิดมือตัวเองกันอยู่นั่นแหล่ะ

ผมว่าเผลอๆจะมีพวกผู้ชมไม่ได้รับเชิญที่ชอบนักเรื่องของชาวบ้าน พวกโต๊ะอื่นน่ะครับคงแอบมองอยู่ด้วยแน่ๆ  เพราะจะว่าไปแล้วผมว่าโต๊ะผมเนี่ยเป็นที่รวมของคนหน้าตาดีครับ  ใครๆก็คงสนใจอยู่แล้วด้วย  คือมันมีรังสีแกมม่าเบตาออร่าเปล่งประกายเรืองรองออกมาน่ะครับ  ผมเลยยิ่งเขินเข้าไปใหญ่

บรรยากาศของโต๊ะมันก็แปลกๆครับจะว่าหวานซึ้งมันก็คงใช่สำหรับผมกับพี่ต่าย  แต่คนอื่นเนี่ยผมก็บรรยายไม่ถูก  รู้แต่ว่าคงมีคนที่หงุดหงิดคนนึงแน่ๆก็พี่คม พี่คมคงอยากกลับบ้านไปล้างซวยแล้วครับ อิอิ

“อิ่มกันแล้วใช่ไม๊งั้นผมเรียกเก็บเงินนะ”

พอพี่คมพูดแบบนั้น ทุกคนก็พร้อมใจกันพยักหน้าโดยมิได้นัดหมาย เป็นอันว่าพี่คมเลี้ยงหมดไปสองพันกว่าบาทเกือบสามพันครับสะจายผมที่สุดอยากชวนดีนัก  แต่พี่เค้าขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับแกรวย  เผลอๆแกโกนหมดแล้วมั๊งด้วย ฮ่าๆๆๆ

   กินเสร็จพวกผมก็ชิ่งซิครับคงไม่อยู่ให้เค้าเปลี่ยนใจเรียกมาหารหรอก พวกนักบัญชีนี่ไม่น่าไว้ใจครับเอะอะอะไรหารเท่าหมด  เราพร้อมใจกันขอบคุณแล้วก็สวัสดีลาพี่คมกับพี่รน 

พี่รนมองผมกับพี่ต่ายแปลกๆ  พี่ต่ายคงสังเกตเห็นเหมือนกันเลยมองหน้าผมแล้วดึงมือผมไปจับเอาไว้ให้ผมไปยืนใกล้ๆ   พี่คมโบกมือให้พวกผมแล้วจับมือพี่ต่ายเขย่าแบบฝรั่ง

“โชคดีปีใหม่นะน้องๆทุกคน  คุณต่ายแล้วเจอกันที่ทำงานนะ”

ส่วนพี่รนก็ส่งยิ้มสวยมาให้พวกผม  แล้วมาหยุดที่ผม”ยินดีที่ได้รู้จักน้องๆทุกคน  แล้วคงได้เจอกันใหม่”

ผมก็เลยส่งยิ้มกลับไปให้   แต่รู้สึกได้ถึงมือพี่ต่ายที่บีบมือผมแน่น ผมถึงรู้สึกตัวว่าเหาเก่าเพิ่งเอาหวีสางออกไปหมด  จะหาเหาใหม่มาใส่หัวอีกล่ะ  ลืมตัวไปหน่อยนึง หุหุหุ
แล้วพวกเราก็แยกย้ายกับกลุ่มพี่คมครับ  พี่ต่ายเลยชวนบุ้งกับติงกลับด้วย

“ไปบุ้งติงเดี๋ยวพี่ไปส่งบ้าน” พี่ต่ายกลับมาใจดีเหมือนเดิมแล้วครับ  แต่ยังไม่ปล่อยมือผมจับซะแน่นเชียว

“พี่ต่ายติงขอแยกกลับเองดีกว่าค่ะบ้านคนละทางกัน     สวัสดีค่ะพี่ต่าย ”

แล้วติงก็ดึงมือผมออกไปคุยครับพี่ต่ายเลยยอมปล่อยมือผมแต่โดยดี  ผมหันไปมองพี่ต่ายกับบุ้งคุยอะไรกันไม่รู้

“โอมอย่าลืมนะติดเสื้อติงตัวนึง  วันนี้ติงตื่นเต้นมากเลยโอม  ติงว่าหนังวันนี้ไม่สนุกเลยโอมว่าไม๊”

“ไม่รู้เหมือนกัน หลับไปค่อนเรื่อง แหะๆๆ”

“ติงว่านะ  เรื่องโอมเนี่ย  มันส์สุดๆรู้งี้ไม่เสียตังค์ไปดูหนังหรอก ”ติงหัวเราะเบาๆ ผมต้องเขกหัวติงไปทีนึง

“โอ๊ย  โอมมาเขกหัวติงทำไม....ผมไม่สบายเพราะคิดถึงพี่ต่าย.....หมั่นไส้จริงจริ๊งๆๆๆ”ติงทำเสียงทำหน้าล้อเลียนผมครับ  สงสัยความอายกลัวรถติดเลยกลับมาก่อน ผมอายมั่กๆเลยครับ หึหึหึ ทำไปได้นะกรู เขินจริงจริ๊ง

“ติงห้ามแซว......”

“พี่ต่ายเค้าไม่โกรธโอมแล้วนะดีใจด้วยเราไปก่อนละ  คืนนี้เราคงนอนหลับฝันดี ฮ่าๆๆ”แล้วติงก็โบกมือลาไป  บุ้งกับพี่ต่ายยังคุยกันอยู่ครับ  แต่พอผมเดินเข้าไปก็เงียบ ผมไม่ชอบเลยเหมือนโดนนินทายังไงไม่รู้

“ไปกลับบ้านกัน”พี่ต่ายเดินโอบไหล่ผมกลับไปที่รถครับ  ผมแอบมองบุ้งมันก็หน้าจ๋อยๆน่ะครับ  แต่คงทำใจได้แล้วล่ะ  ตอนอยู่บนรถผมว่าดีครับ  พี่ต่ายก็ชวนผมกับบุ้งคุยไปเรื่อยๆ
ผมอดแปลกใจไม่ได้พี่ต่ายใจดีมา๊๊ก  ทำไมวันก่อนดุกับผมจังเลย แต่ก็ดีเหมือนกันครับที่ที่รักกับเพื่อนรักปรองดองกันไว้ก็ดี  ผมคนกลางก็สบายใจ  ผมว่าจากวันนี้ไปอะไรๆก็น่าจะดีแล้ว.....มั๊ง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :m29:กว่าจะเสร็จ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 08-01-2008 23:19:56
 :oni1: อ่านตอนนี้แล้วซะใจพี่คมจิงๆ หน้าแหกกลางร้านเลย สมๆๆๆๆๆๆ สงสัยกะแพ็คคู๋กับ

อีตาพี่รน ให้มาจีบโอมแน่ๆ สมๆๆๆๆซะใจจิง อิอิ

ปล.สงสัยกลับบ้านคืนนี้พี่ต่ายไม่ปล่อยโอมไว้แน่ กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 08-01-2008 23:26:35
โอ้ย หนุกหนานได้ใจจิงๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 09-01-2008 00:12:47
55555  "ผมไม่สบายเพราะคิดถึงพี่ต่าย..."  โย่ สุดยอด เจ๋งจริง  o13

แบบนี้พี่ต่ายต้องให้รางวัลน้องโอมเยอะๆๆแล้วละ 5555555
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 09-01-2008 00:14:24
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 09-01-2008 01:14:48
สุดยอดเลยโอม  o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 09-01-2008 10:00:49
อ่านตอนนี้แล้วได้ใจไปเตมๆ เลยอะ

แต่ว่า  พี่คม  กะพี่รน  นี่ชักยังไงๆ นะ

มีแผนไรรึเปล่าก็ไม่รู้อะ


น่าเปนห่วงจิงๆๆๆ

  :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 09-01-2008 10:21:48
พี่โอมสุดยอด o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 09-01-2008 12:13:34
ทำไปได้นะคนเรา
 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 09-01-2008 12:51:28
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:

“ผมไม่สบายเพราะคิดถึงพี่ต่ายแหล่ะ”

“พี่ก็คิดถึงโอม”


kyaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaaa
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 09-01-2008 13:06:24
 o13 ตอนนี้สุดยอดเลย  ได้ใจผมไปเลย   :m1:

พี่ต่ายกับโอมคืนดีกัน เรื่องบุ้งก้ดูท่าจะโอเคแล้ว

แถมยังได้เล่นงานพี่คมขาฟ้องไปด้วย 55 :m20:  กลับบ้านเอาหัวโขกกำแพงแน่เลย  :a6:

ดูท่าพี่คมกับพี่รนจะแทคทีมแยกพี่ต่ายและโอมนะนี่  หุหุ  เสน่ห์แรงกันจริ๊งงง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 09-01-2008 13:28:40
โอ้วววว พระเจ้านายแน่มากกกกกก  :mc3:
ประโยคเดียวตัดปัญหาเก่า ใหม่ เสร็จเรียบร้อยยยยยยยย
กลับมาหวานแหว๋วกันอีกแล้วววววว อิจฉาโอมคืนนี้จังเลยย
 :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 09-01-2008 14:21:53
 :a4:คุณโอมกลับมาเล่าต่อแล้ว เย้ๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 09-01-2008 14:36:23
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 09-01-2008 18:28:05
โอ๊ย :o8:บทจะหวานก้หวานซะ :m1: มาต่อเร้วๆนะ อยากรู้ว่ากลับถึงบ้านแล้วจะหวานกว่านี้ไหมนะ :o8: :m13: :o8: :m13: :o8: :m13: :o8: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 09-01-2008 22:38:40
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 10-01-2008 01:39:44
อ๊ากกกกกกส์ :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 10-01-2008 10:10:48
หวาย ถูกใจน้องโอมตอนนี้จริงๆ  :m4:

ตกลงเรื่องนี้พี่ฟางแต่ง  :m28:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 10-01-2008 10:37:41
 :a4:คุณโอมครับวันนี้ไม่ว่างรึอย่างไรครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 10-01-2008 11:58:25
โอมยังมะมาอีกเหรอ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 10-01-2008 12:06:59
ยังไม่มาอีกเหรอ :sad2:
รออัพเดจข้อมูลอยู่นะ :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 10-01-2008 12:50:24
ไม่อยากลงตอนนี้เลยอ่ะ :m29:
++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 53

พอพี่ต่ายส่งบุ้งเสร็จเหลืออยู่กับผมสองคน  ผมรู้สึกกลัวยังไงไม่รู้มันเหมือนคนที่เพิ่งจะหายโกรธกันใหม่ๆมันขัดเขิน ไม่กล้าพูดกล้าคุย  ก่อนหน้านี้ก็ยังมีติงมีบุ้งก็ทำให้ผมพอจะเนียนๆมั่วๆไปได้  แต่ตอนนี่ผมไม่รู้จะพูดอะไรจริงๆ ผมรู้สึกเหมือนตอนที่รู้จักพี่ต่ายใหม่ๆ  แล้วก็เป็นอีกครั้งที่พี่ต่ายเป็นคนเริ่มพูดก่อน

“ทำไมโอมเงียบไป...มีอะไรค้างคาใจรึเปล่า  หือ” ผมก็ยังพูดไม่ออกอยู่ดี

“......................................”

“โอมคุยกับบุ้งรู้เรื่องแล้วใช่ไม๊”พี่ต่ายพูดเสียงเย็นๆ แต่ผมน่ะพูดเสียงอ่อยๆ

“รู้เรื่องแล้วพี่.....”

ผมกำลังจะพูดอธิบายต่อเล่าให้พี่ต่ายฟังว่าคุยเรื่องอะไรกันบ้างกับบุ้ง แต่พี่ต่ายก็พูดแซงขึ้นมาก่อน ที่สำคัญแซงแล้วเฉี่ยวจนผมถลอกไปหมดทั้งตัวด้วยคำๆนี้

“แต่ถ้าโอมรักบุ้งจริงๆพี่ก็ยินดีที่จะถอยนะ  พี่ไม่ชอบบังคับจิตใจใคร ถ้าโอมไม่รักพี่แล้วถ้าเป็นบุ้งพี่ก็ยินดี”

ผมถึงกับตะลึงหันไปมองหน้าพี่ต่ายด้วยความเสียใจ :m15: น้ำตาร่วงมาเป็นชุดเหมือนกับท่อน้ำแตก  ผมถึงกับพูดไม่ออกไปทันที  พี่ต่ายจะยกผมไปให้คนอื่นง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ ผมไม่ใช่กระดาษทิชชู่ที่ใช้เสร็จแล้วทิ้งนะ

ผมได้แต่ยกแขนเสื้อเช็ดน้ำตาน้ำมูกที่ไหล พยายามล้วงกระเป๋าเสื้อกระเป๋ากางเกงก็ไม่มีผ้าเช็ดหน้าอยู่ดีได้แต่นึกเสียใจ  ทำไมไม่หัดพกผ้าเช็ดหน้าว่ะไม่ได้ไว้เช็ดหน้าก็เผื่อไว้เช็ดอย่างอื่นได้  ผมชะโงกไปที่นั่งด้านหลังจะหากล่องกระดาษทิชชู  ก็ไม่มี  ไม่มีอะไรเลย....แม้แต่พี่ต่ายผมก็ไม่มี

ทำอะไรไม่ถูกก็นั่งร้องไปจนปวดหัวปวดตาไปหมด ผมไม่ได้คิดอะไรเลยนอกจากว่า.....พี่ต่ายไม่รักผมแล้ว ทำไมมันทรมานอย่างนี้นะความรัก

“...........................”พี่ต่ายเงียบไปอีกละ เว้นพักนึงแล้วก็สอบสวนต่อ  ไม่ได้สนใจที่ผมร้องไห้เลย เหลือบมามองนิดเดียวแล้วก็ขับรถต่อ

“โอมรู้ตัวไม๊ว่าทำผิด.........”

พี่ต่ายเป็นครูเก่ารึเปล่าไม่รู้ หรือเป็นพวกCIA   เป็นCPAนี่หว่า  ตรวจบัญชีนะไม่ใช่ตรวจจับขโมย ตอนนี้นอกจากหดหู่เศร้าหมองแล้วยังรู้สึกหนาวๆร้อนๆยังไงไม่รู้

ผมเองก็รู้ตัวว่าผิด  แต่ไม่กล้าพูดเพราะกลัวเสียงจะสั่น น้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดเลยได้แต่พยักหน้า  ผมไม่น่ารีบหลงดีใจเลยว่าพี่ต่ายจะหายโกรธ ไม่น่าเลย ผมแอบมองหน้าพี่ต่ายทำไมอมยิ้มล่ะ....????  o8 แล้วพี่ต่ายก็พูดต่อตอนนี้กลับมาทำหน้าขรึมอีกล่ะ

 “พี่จะไม่บอกหรอนะว่าโอมควรจะวางตัวยังไงกับบุ้ง   เพราะพี่เคารพสิทธิส่วนตัวของโอม”
พูดซะเครียดไปหมดทั้งตัวแล้วเนี่ยยย...

“แต่โอมก็ต้องรู้ว่าโอม...เป็น...แฟน...ของพี่” เน้นทีละคำด้วยนะ

“โอมโตแล้วนะ  การที่เราเห็นใจคนอื่น มันก็ดี”

“แต่การที่เราใจอ่อน ไม่อยากให้เค้าเสียใจ  แล้วเราไม่พูดกับเค้าไปตรงๆ  มันทำร้ายทั้งตัวเค้าตัวเรา  แล้วก็อาจมีคนรอบข้างอีก  โอมเข้าใจไม๊”

เข้าเรื่องซะที ผมอยากบอกพี่ต่ายว่า.....เข้าใจซึ้งเลยพี่  จำไปจนตายเลย ผมพยักหน้าให้พี่ต่ายอีกรอบ ว่าผมเข้าใจแล้วพี่.......เข้าใจมากที่สุดในชีวิตแล้วมั๊ง :o7:

พี่ต่ายหันมาลูบหัวผม  แล้วมองผมด้วยสายตาของคนที่รักผม ทำเหมือนตอนที่หมามันกัดรองเท้าเรา เราเอารองเท้าตีปากมันแล้วพอมันร้องวูบนึงเราก็อดสงสารมันไม่ได้  จนต้องไปลูบหัวมันด้วยความรัก ผมเกือบเผลอเลียมือพี่ต่ายไปแล้ว อิอิ

 แล้วนี่ตกลงพี่ต่ายเอาไงแน่เดี๋ยวก็พูดจาทำร้ายใจเดี๋ยวก็มาทำดีด้วย  ผมชักสงสัย 

“ถ้าโอมบอกบุ้งไปตั้งแต่แรกๆ  พี่ว่าบุ้งอาจจะเสียใจน้อยกว่านี้นะ” พี่ต่ายพูดเหมือนรำพึงกับตัวเองมากกว่า  ผมไม่รู้ว่าพี่ต่ายจะมาเข้าจิตเข้าใจบุ้งตั้งแต่ตอนไหนกัน

 พี่ต่ายเป็นฝ่ายพูดอยู่คนเดียวในขณะที่ผมได้แต่ฟัง จนพี่ต่ายเริ่มทนไม่ไหวต้องเอามือประคองหน้าที่ก้มอยู่ของผมให้หันมามองพี่ต่าย  ผมเพิ่งสังเกตว่ารถเรามาที่จอดหน้าบ้านแล้วครับ

“โอมเป็นอะไรไม่ค่อยพูดเลย” จะไปมีอารมณ์พูดอะไรล่ะ  ร้องไห้ซะขนาดนี้

แต่ผมเองก็อยากพูดให้มันจบปัญหาไปวันนี้เหมือนกัน  ยังไงเมื่อวานกับวันนี้ก็อึดอัดเหมือนคนท้องผูกมาทั้งวันแล้ว  เราก็ควรที่จะปล่อยออกไปให้หมด        จะได้ไม่เกิดแกสในกระเพาะอาหาร

“ผมกำลังเสียใจน่ะพี่  ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาได้ยังไง”

“ผมทำผิดต่อบุ้ง  ทำผิดต่อพี่ต่ายใช่ไม๊พี่”ผมเงยหน้ามองพี่ต่าย  พี่ต่ายค่อยๆเอามือมาเขี่ยผมที่มาปรกหน้าผมอยู่

“บางทีเราก็มองอะไรด้วยตัวเองไม่เห็น  ทั้งที่มันอยู่ใกล้แค่ขนคิ้วเราเอง”

“แต่คนอื่นเค้ามองมาเค้าเห็นได้ชัดกว่าเราอีก  เพราะฉะนั้นเมื่อเกิดปัญหา  เราต้องหาคนช่วยบอกช่วยแนะ” 

“เราไม่สนใจมองมันเพราะเราไม่เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่  แต่คนอื่นเค้าอาจไม่คิดแบบนั้น”

พี่ต่ายพูดอะไรให้ผมงงอีกแล้ว  สมองผมคงช้าเกินไป  บางทีการทานปลาแม้แต่ปลาหิมะก็ไม่ช่วยทำให้ฉลาดขึ้นมาได้ในทันที  แต่ผมเดาๆเอาที่พี่ต่ายพูดว่าหมายถึง  วันหลังมีเรื่องอะไรให้ปรึกษาพี่ต่าย  ผมคิดว่าชีวิตหลังจากนี้ของผมคงต้องให้ผู้ชายคนนี้รับรู้ทั้งหมด  แล้วพี่ต่ายก็ถามผมอีกเรื่องนึงซึ่งเป็นคำถามที่ผมไม่เคยคิดมาก่อน

“แล้วติงว่าไง”

“ติงทำไมพี่”ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัย :confuse:

“โอมคบกับติงในฐานะอะไรกันแน่....พี่อยากถามให้แน่ใจ”

“คมโทรมาบอกพี่ว่าโอมมาดูหนังกับผู้หญิง  พี่ก็พอเดาออกล่ะว่าเป็นติง  แต่ไม่นึกว่าจะสนิทกันมากขนาดนี้”

ผมเริ่มงอนพี่ต่ายอีกแล้ว แต่ตอนนี้อยากเหยียบหน้าไอ้พี่คมด้วยมากกว่า  กัดกันทั้งซึ่งหน้าทั้งลับหลังเลย แล้วพี่ต่ายก็น่าจะรู้ว่าผมคบกับติงก็แค่เพื่อน  ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นเลย  ทำไมไม่เชื่อใจกันบ้างเลย  ยังครับเรื่องยังไม่หมด  พี่ต่ายพูดต่ออีกมาก๊อกสอง

“แล้วยังอีตารนอีก  พี่เห็นนะที่เค้าส่งสายตาให้เราน่ะ”
น้ำเสียงพี่ต่ายพอพูดเรื่องพี่รนฟังดูขึงขังกว่าตอนพูดเรื่องติงอีก

“ผมไม่เคยคิดว่าพี่ต่ายจะมาหึงผม   แต่ผมไม่ดีใจหรอกนะเพราะว่ามันไม่ใช่” :oผมพูดไปด้วยความโมโห  แล้วก็เอื้อมมือไปเปิดประตูจะลงจากรถ แต่พี่ต่ายดึงมือผมไว้   ผมเริ่มเจ็บข้อมือเพราะพี่ต่ายบีบแน่น ผมก็พยายามแกะออกแต่มันไม่ออกง่ายๆซิ

“พี่ยังไม่ให้เราลงไปไหนทั้งนั้นถ้าเรายังพูดกันไม่จบในวันนี้  พี่ไม่อยากเอาเรื่องรกสมองเก็บมันไปจนข้ามปี   โอมจะหนีปัญหาไปถึงไหนกัน”

“ผมไม่ได้หนีปัญหา  ก็พี่ต่ายไม่เชื่อใจผมเลย   ผมก็บอกแล้วว่ามันไม่ใช่ทั้งติงทั้งพี่รน”   :serius2:

ผมสะบัดข้อมืออย่างแรงพี่ต่ายเลยต้องปล่อยมือผม ทำไมผมต้องผิดเรื่อยเลยนะไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ข้อมือผมแดงเป็นรอยนิ้วห้านิ้ว พี่ต่ายขมวดคิ้วพูดต่ออีก

“พี่พึ่งพูดไปว่าบางทีเราก็มองอะไรด้วยตัวเองไม่เห็น แต่คนอื่นเค้ามองมาเค้าเห็นได้ชัดกว่าเราอีก   โอมอยากจะให้เกิดปัญหาแบบเรื่องบุ้งขึ้นมาอีกเหรอ”

“มันไม่ใช่นะพี่...”ผมเริ่มทนไม่ไหว  แล้วน้ำตาค่อยๆไหลอาบแก้มอีกแล้ว  วันนี้ผมเครียดมาทั้งวันแล้วพี่ต่ายก็ยังมาบีบคั้นผมอีก

“โอมหยุดร้องเถอะ  น้ำตามันไม่ได้ตอบคำถามพี่ได้หรอก”พี่ต่ายยังไม่หยุดดุผมเลย  แล้วเรื่องอะไรผมต้องหยุดร้องด้วยเล่า  จะร้องๆๆๆๆจะทำไมว่ะ

“ติงเค้ารู้เรื่องเราหมดแล้ว  เค้าเห็นใจผม เป็นที่ปรึกษาผมก็แค่นั้นเอง ผมไม่สบายใจเรื่องของเราผมคุยกับใครก็ไม่ได้  แค่เรื่องแค่นี้พี่ก็ต้องมาระแวงผมด้วย  พี่ต่ายรู้ไม๊ว่าผมเสียใจ  รู้ไม๊”

ผมเผลอโวยใส่พี่ต่ายไปแล้วครับ ไม่รู้จะมาว่ากันทำไม  พี่ต่ายชะงักไปนิดนึงครับ  เพราะผมยังไม่เคยบอกพี่ต่ายว่าติงรู้เรื่องของเราแล้ว หรือชะงักเพราะเจออิทธิฤทธิ์ของผมก็ไม่รู้

“พี่ต่ายก็เคยพูดว่าติงทั้งเก่ง ทั้งสวย ทั้งฉลาด น่ารัก.............เป็นใครก็ต้องหลงรักติง”

พี่ต่ายมองหน้าผมเลิกคิ้วขึ้น “.............................หืมมมม”
+
+
+
“จริงๆนะ.....”ผมยกมือปาดน้ำตา มองหน้าพี่ต่ายที่กำลังขมวดคิ้วอยู่ เราสองคนต่างก็เงียบไปนาน  แล้วผมก็พูดต่อว่า

“ถ้าผมไม่รักพี่ไปจนหมดใจแล้ว.....ผมก็คงรักติงนี่แหล่ะ”

แล้วผมก็ลงจากรถไปเลยครับ ยังไม่หายงอนนะ เซ็งด้วยแหล่ะ  คราวนี้พี่ต่ายไม่ดึงผมไว้แล้ว  สงสัยกำลังงงว่าผมพูดอะไร  ผมเลยวิ่งขึ้นห้องไปเลย

ผมเหนื่อยมากเลยครับวันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าที่ผมคงลืมไม่ลงอีกนานเลย  พี่ต่ายยังไม่ขึ้นมาเลยครับผมชะโงกดูเห็นพี่ต่ายนั่งคิดอะไรคนเดียวอยู่ที่โซฟา  ผมก็เลยอาบน้ำนอน

ผมว่าผมพูดเคลียร์หมดแล้วนะทั้งเรื่องบุ้งเรื่องติง  ผมจะไม่ร้องไห้อีกแล้วตอนนี้ปวดหัวเอามากๆเลย  ส่วนเรื่องพี่รนผมไม่รู้จะเคลียร์อะไรเพราะเค้ายังไม่ได้มีท่าทีอะไรกับผมเลยด้วยซ้ำ  ไม่รู้พี่ต่ายไปเอามาจากไหน  ก็มานั่งแป๊ปเดียวเองนี่นา
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จนจะนอนแล้วผมก็ยังไม่รู้ว่าตกลงวันนี้เราคืนดีกันรึยังแน่มันคลุมๆเครือๆยังไงไม่รู้  พี่ต่ายเองก็เดี๋ยวดีเดี๋ยวดุไม่รู้เป็นอะไร  เดาใจไม่ถูก สงสัยผมคงจะเพลียมากผมก็เลยหลับไปเลยตั้งแต่ 2 ทุ่มกว่าๆ  จนมารู้สึกตัวเพราะพี่ต่ายมาดึงตัวผมลุกขึ้นมานั่งหอมแก้มแล้วก็กอด

“โอมตื่นเถอะ.......มาข้ามสู่ปีใหม่ไปด้วยกันกับพี่”  ผมยังคงนั่งง่วง ....งงกับที่พี่ต่ายพูด  แล้วก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่มือพี่ต่ายดึงไว้

“โอมจะทำอะไร...?”

“จะเปลี่ยนเสื้อผ้าไงพี่ต่าย   ไปเคาท์ดาวน์ไม่ใช่เหรอ  ที่ไหนอ่ะเวิร์ลเทรดเหรอ”
พี่ต่ายยิ้มๆแล้วลูบหัวผม  จูบสัมผัสแก้มผมเบาๆ แล้วพูดด้วยเสียงอันอบอุ่นว่า

“ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกที่บ้านนี่แหล่ะ....ไป..ลงไปข้างล่างกับพี่”แล้วพี่ต่ายก็จูงมือผมลงไปข้างล่าง

ข้างล่างมืดๆครับผมต้องคลำบันไดลงไป  ไฟฟืนก็ไม่เปิดแฮะพี่ต่ายนี่  ตกบันไดไปใครจะรับผิดชอบกัน หรือว่ากะฆาตกรรมอำพราง  ผมเลยยึดราวบันไดแน่นให้มั่นใจว่ายังไงก็ไม่ตกแน่ๆ

  แต่พอพ้นบันไดลงมา  ก็เห็นแสงสว่างวาววามของแสงเทียนรำไรๆ  พอมองเห็นว่ามีเทียนจุดอยู่บนโต๊ะ   บนโต๊ะมีเค้กก้อนเล็กๆวางอยู่ แจกันดอกไม้น่ารักๆ พร้อมด้วยขวดไวน์และแก้วสองใบ  เสียงเพลงคลอเบาๆ  ผมไม่ทันฟังว่าเป็นเพลงอะไรรู้แต่ว่ามันเข้ากับบรรยากาศสุดๆ  ชวนให้เสียตัวจริงๆ 5555

 ผมหันไปมองหน้าพี่ต่ายก็พบว่าพี่ต่ายกำลังมองหน้าผมอยู่เหมือนกัน สองมือของพี่ต่ายจับที่ต้นแขนผม

“ปีนี้เป็นปีแรกที่เราจะได้อยู่ด้วยกันในวันสุดท้ายของปี  แล้วก็เข้าสู่ปีใหม่ด้วยกันสองคน”

“พี่อยากจะบอกโอมว่า  พี่ดีใจที่ได้มีวันนี้....กับใครซักคนที่พี่รัก...ก็คือโอม”

แล้วพี่ต่ายก็สัมผัสริมฝีปากผมอย่างอ่อนหวาน พี่ต่ายใช้เวลากับริมฝีปากผมอย่างเต็มที่  รสสัมผัสจากพี่ต่ายนุ่มนวลไม่ดึงดันเหมือนอย่างกับที่บุ้งทำ  และผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่พี่ต่ายจูบ  ผมคงจะไม่หยุดถ้าพี่ต่ายไม่เลิกก่อนกำลังชอบเลยครับอดเสียดายไม่ได้ หึหึหึ

“เกือบเที่ยงคืนแล้วนี่โอม ....เรามาดื่มกันก่อนนะ” พี่ต่ายรินไวน์แล้วส่งมาให้ผม 

เหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีจะเข้าสู่ปีใหม่  ทั้งที่มีเพียงเราสองคนแต่ผมรู้สึกเหมือนมีใครมาเปิดดนตรีในหัวใจ  เสียงของหัวใจมันดังและพร้อมที่จะเปล่งเสียงไชโยออกมา

“เรามานับด้วยกันดีกว่าพี่ต่ายนะ”

“เอาซิโอม”

แล้วเราก็เริ่มเปล่งเสียงนับพร้อมกันเบาๆ ตาของเรามองที่เข็มนาฬิกา 5 4 3 2 1 0 ผมกับพี่ต่ายมองตากัน เหมือนมีใครมาจุดพลุในใจของเรามันส่องสว่าง เปล่งประกาย หลากสีสันสวยงาม สร้างความประทับใจให้กับเราสองคน :mc3: เราชนแก้วกันแล้วก็ดื่มไวน์พร้อมๆกัน  รสชาติของมันช่างหอมหวานเหมือนกับบรรยากาศในคืนนี้  พี่ต่ายรับแก้วไวน์ไปจากมือผมแล้ววางลง  แล้วพี่ต่ายก็สวมกอดผมแล้วพูดว่า

“สวัสดีปีใหม่ครับโอม  พี่ขอให้ปีนี้และปีต่อๆไปของเรามีแต่ความรักนะครับ  เราจะไม่ทะเลาะกันแล้วนะโอม”

 พี่ต่ายยกมือของผมขึ้นสัมผัสด้วยริมฝีปากตรงแหวนที่ผมใ่ส่ แล้วบอกคำพูดที่เหมือนเป็นคำสัญญาของเราว่า

“โอมอย่าถอดแหวนวงนี้นะถ้ายังรักพี่อยู่  แต่ถ้าวันไหนหมดรักพี่แล้วก็เก็บมันไว้แล้วกันไม่ต้องคืนพี่”

“เพราะว่าใจของพี่ที่ให้โอมไปแล้วพี่ไม่เอาคืน”  o18

ผมกอดตอบพี่ต่ายด้วยความเต็มใจ   ผมรู้สึกอบอุ่นใจจากอ้อมกอดของพี่ต่าย 
“ครับพี่ต่าย”

ผมพูดสั้นไปหน่อยเพราะมันตื้นตันจนไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี  แต่ผมอยากเก็บความประทับใจนี้ไว้ให้นานๆ  ผมนึกขึ้นมาได้เลยชวนพี่ต่ายถ่ายรูปครับ

“พี่ต่ายถ่ายรูปคู่กันเถอะ  ใช้โทรศัพท์ผมนี่แหล่ะนะพี่นะ เรายังไม่เคยมีรูปคู่กันเลย”

“ครับโอม”

แล้วเราก็ถ่ายรูปคู่กันหลายใบครับ มีทั้งต่างคนต่างหอมแก้มกัน  จูบปากกัน  พี่ต่ายจูบที่หน้าผากผม  จูบที่ตาผม ที่จมูกผม แล้วก็อีกเยอะครับบางรูปก็เป็นฝ่ายผมบ้าง  :m24:

ผมรู้ความรักของเราจะนำพาเราเดินเคียงไปด้วยกันอย่างแน่นอน  มันอาจจะมีสะดุดไปบ้างแต่เราต่างก็พร้อมที่จะช่วยดึงกันและกันขึ้นมา  แล้วก็ร่วมเดินทางกันต่อไป 

แต่ผมไม่รู้หรอกครับว่าการถ่ายรูปคืนนั้นจะเป็นการถ่ายรูปครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา....
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขอตัวไปซัก2-3วันไปสะสมเสบียงกรังไว้ออกรบก่อนนะค่ะ ตอนนี้ข้าวกะปิน้ำปลาหมดแล้ว กรุงใกล้จะแตก ยังไงคนอ่านอย่าเพิ่งยกพลมารุมนะขอเวลานิดส์นึง  :m5:

ปล.Snowblack ทำงานสอบเหมือนกันเหรอ เหอๆๆอย่าทำงานหนักมาน่ะ มีไรติดต่อหลังไมค์ได้ :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 10-01-2008 13:03:10
อ้างถึง
แต่ผมไม่รู้หรอกครับว่าการถ่ายรูปคืนนั้นจะเป็นการถ่ายรูปครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา....

หึ หึ หึ

ฟางใจร้ายยยยยย........

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 10-01-2008 13:14:39
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ :o12: ทิ้งปมแสนเศร้าไว้  ไม่ยอมมมมมม :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 10-01-2008 14:46:49
แต่ผมไม่รู้หรอกครับว่าการถ่ายรูปคืนนั้นจะเป็นการถ่ายรูปครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา....


หง่า ไม่อยากให้เรื่องมันเศร้าเลย  :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 10-01-2008 16:00:53
ง่ะครั้งแรกและครั้งสุดท้ายไม่ชอบคำนี้จริงๆ(ไม่อยากใช้คำว่าเกลียดเพราะยิ่งเกลียดยิ่งเจอ)

ปล.หลังไมค์คนไหนอ่ะครับคนโพสหลายคน pm บอกเมลล์ผมดีฟ่าอยากคุยด้วยอ่ะครับ  :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 10-01-2008 16:43:35
 :a5:
 :m16:
ชะหนอยแน่ะ มาสปอยเค้า รีบมาเคลียร์ให้ไวเลย
 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 10-01-2008 18:00:42
ม่ายยยยยยยยยยยยยน้า  :serius2: อ่านประโยคนั้นแล้วหัวใจหล่นวูบ :m15: :m15: :m15:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 10-01-2008 18:21:29
 :o :o :o

เฮ้...ไหงตัดตอนกันจั๋งซี้เล่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 10-01-2008 19:13:29
อ้างถึง
แต่ผมไม่รู้หรอกครับว่าการถ่ายรูปคืนนั้นจะเป็นการถ่ายรูปครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา....

หึ หึ หึ

ฟางใจร้ายยยยยย........

 :o12: :o12: :o12:







ไม่นะไม่ :serius2: :serius2: :serius2:อย่ามาทำใจร้ายกะคนเล้านี้ o7 o7 o7 จะมาบอกครั้งแรกและครั้งสุดท้ายให้ใจหายกันทำไม :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 10-01-2008 20:15:46
ไม คิดอย่างงั้นอะ โอม เหมือนเป็นลางไม่ดีนะนี่

แต่มันไม่เป็นจริงหรอก เพราะโอมกะพี่ต่ายรักกันซะขนาดนั้น
 :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 10-01-2008 20:16:12
มุขแน่ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ... ปลอบใจตัวเองงงงง คนเขียนเค้าแกล้งงงงง   :oni3:
 :m5:      
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 10-01-2008 20:18:29
เอาแล้วไง  งานนี้จบเศร้าแน่ ๆ  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 10-01-2008 21:14:24
อย่าบอกนะ ว่ากล้องของโอมถ่ายติดวิญญาณได้ แฮ่ๆ  :m24:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 10-01-2008 22:05:16
อ้างถึง
แต่ผมไม่รู้หรอกครับว่าการถ่ายรูปคืนนั้นจะเป็นการถ่ายรูปครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา....

หึ หึ หึ

ฟางใจร้ายยยยยย........

 :o12: :o12: :o12:


ไม่นะไม่ :serius2: :serius2: :serius2:อย่ามาทำใจร้ายกะคนเล้านี้ o7 o7 o7 จะมาบอกครั้งแรกและครั้งสุดท้ายให้ใจหายกันทำไม :a5: :a5: :a5:

คุณฟางกรุณาเคลียด่วน ก่อนจะคนอ่านจะเป็นบ้าหรือไม่ก็หัวใจวายไปซะก่อน  :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 11-01-2008 09:39:07
มาเคลียร์ด่วน ไม่ยอมมมมมมมมมมมมมมมมม  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 11-01-2008 10:12:41
 :a4:ต๊กกะใจหมด กับประโยคที่ว่า ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายอ่ะไรเนี่ย ขอภาวนาให้เป็นเรื่องดีด้วยเถิด สาธุ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 11-01-2008 10:25:56
 :m15:เกิดอะไรขึ้นอ่ะครับพี่มาต่อด่วนเลยนะผมจะคลั่งตายแล้ว :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 11-01-2008 11:20:24
อะร้ายยยยยยยยยยยยย ถ้าจบเศร้าไม่ย้อม ไม่ยอม โอนดีแน่ หือ หือ  :angry2: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 11-01-2008 12:30:04
 :a5:  อ่านๆ กำลังอิน โรแมนติคอยู่เลย เสียงพลุในใจมันเป็นไง ก็กำลังจินตนาการอยูี่  :mc3:


แต่ แต่ แต่ ทำไมมาทิ้งท้ายบบนี้หล่ะค้าบบบ ใจร้ายที่สุด  :o12: 



หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 11-01-2008 13:02:03
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 12-01-2008 23:24:25
ต่อ ต่อ เร็วๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 13-01-2008 00:43:06
ทำไมทิ้งท้ายแปลกอะ

ใจไม่ดีเลย

 :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 13-01-2008 00:53:19
 :m22:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 13-01-2008 04:11:33
 :a4:ถ้าจบแล้วเศร้าไม่เอานะครับ โอม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 13-01-2008 13:14:17
พี่ฟางอย่ามาจบตอนด้วยประโยคอย่างนี้นะ ไม่อาวววว  :o12: :o12: :o12:

หลอกกันเล่นใช่ป่าว อำให้ตกใจใช้ม้าา  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 13-01-2008 15:49:08
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:


อิจฉามากมาย  คนพิเศษในคืนพิเศษ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 13-01-2008 15:55:21
ยังไม่มาต่อหรอ  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fantastic_7 ที่ 13-01-2008 17:55:53
 o13  :m4:  o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 13-01-2008 18:04:33
ง่ะ ไม่อยากคิด

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 13-01-2008 22:58:23
รอ ต่อไปจ่ะ
  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 14-01-2008 03:17:13
ถ้าจบไม่ดีพี่ฟางอาจตายได้เลยนะพี่....ฮ่าๆ :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-01-2008 09:28:05
 :m30:นี่เราทำอารายลงไป
หาเรื่องใส่ตัวจริงๆ จะโดนคนอ่านรุมรึเปล่า :m29:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 54

ผมหยิบรูปในโทรศัพท์ขึ้นมาดู  ตอนนี้ผมเปลี่ยนโทรศัพท์ไปหลายเครื่องแล้วครับ  แต่รูปที่เก็บอยู่ในเครื่องก็ยังเป็นภาพชุดเดิม  ผมดูทีไรก็อดนึกถึงคืนนั้นไม่ได้ซักทีถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานกว่าสามปีแล้ว 

ภาพของเราสองคนที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆตามที่ผมกดเลือก  มีบางรูปที่ผมอดหัวเราะไม่ได้  ก็วันนั้นผมร้องไห้หลายรอบมากตาก็เลยบวมๆยังกับปลาทอง  อดขำความเป็นเด็กของตัวเองไม่ได้  ร้องทำไมก็ไม่รู้เป็นบร้าเป็นบอทำอย่างกับว่าโลกจะสลายลงไปต่อหน้า  แต่บางภาพก็ทำให้ผมยิ้ม  ภาพรอยยิ้มตาหยีของพี่ต่ายที่โดนผมหอมแก้ม  ภาพที่พี่ต่ายทำแก้มป่องให้ผมหอม

 ส่วนบางภาพก็ทำผมน้ำตาซึม  :m15: ภาพพี่ต่ายจูบปากผม  จูบที่เปลือกตาผม จูบหน้าผากผม วูบนึงผมรู้สึกร้อนๆที่ปากราวกับว่าได้รับสัมผัสลมหายใจของพี่ต่าย  ผมเผลอยกมือขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองอย่างเหม่อลอย ผมห่างหายจากสัมผัสแบบนี้มานานแค่ไหนแล้วนะ  ป่านนี้พี่ต่ายคงมีความสุขสบายดี  ไม่รู้ว่าเค้าจะลืมผมหรือยัง

ถ้าใครผ่านมาเห็นผมตอนนี้คงจะสงสัยว่าผมบ้าหรือเปล่า เดี๋ยวก็หัวเราะ เดี๋ยวก็ยิ้ม แล้วก็ซึม  อย่าว่าแต่คนอื่นเลยผมก็ยังแอบคิดว่า  ผมนี่มันบ้าจริงๆภาพที่มันผ่านมานานถึงสามปี  ผมกลับรู้สึกเหมือนกับว่ามันเกิดขึ้นเมื่อวาน ผมก็ยังคงหลอกตัวเองตลอดเวลา

ผมยกมือข้างซ้ายขึ้นมาดูแหวนวงเดิมที่เคยสัญญาว่าจะไม่ถอด  ตอนนี้มันเลื่อนสถานะจากนิ้วกลางมาอยู่ที่นิ้วนางแล้วครับ ผมเอามือหมุนแหวนดูมันออกจะหลวมไปหน่อย  ไม่รู้ว่าแหวนมันยืดหรือว่าผมผอมลงก็ไม่รู้ แต่แหวนวงนี้ก็ยังสวยงามที่สุดเสมอในความรู้สึกของผม

ขณะที่คิดอะไรเพลินๆก็มีคนที่คุณก็รู้ว่าใครเบอร์หนึ่งครับมาตบที่ไหล่ผม  ผมหันไปก็พบบุ้งมันส่งยิ้มสดใสให้ผม  หน้าแดงระเรื่อเพราะเลือดสูบฉีดจากการขี่จักรยาน  มีเหงื่อไหลโทรมกาย เสียงมันหอบเล็กน้อยตอนที่ทักทายผม

“เฮ้ย!!!โอมซึมอีกล่ะ.....เหนื่อยว่ะ" บุ้งหายใจแรงด้วยความเหนื่อย แล้วมันก็เริ่มพล่าม
"นี่กรูว่าจะถามมรึงหลายทีล่ะ  มรึงจะรีบขี่สปีดท้านรกมาหาหอกหาดาบอะไรว่ะ   เรามาขี่จักรยานออกกำลังกายนะเว้ย  ไม่ได้ไปกวดจับผู้ร้าย  เมิงนี่ท่าจะบร้า  นึกว่าเป็นพระเอกหนังหม่ำหรือเป็นโทนี่จารึไงว่ะ”

“เดี๋ยวเหอะเมิง....ขี่แมร่งเป็นเต่าลานขาดแล้วยังมาพาลกรูอีก  วันหลังกรูเอาเสื่อเอาหมอนเอาห่อข้าวมาด้วยดีกว่าจะได้มานอนรอเมิง  ขี่แมร่งโคตรรช้าาาา”แล้วผมก็นึกอะไรขึ้นมาได้ แล้วก็ขำ  o3

“เออกรูรู้แล้วไอ้บุ้ง....กรูว่าคราวหน้านะเมิงเอาร่มมาด้วยเมิงมีไม๊” ผมยิ้มให้มันเพราะนึกภาพตามไปด้วย  o17

“มรึงจะให้กรูเอามาทำเชี่ยอะไร....ฝนก็ไม่มี  แดดก็ไม่มี  เอามาตีหมาเหรอว่ะ”ไอ้บุ้งมีงงครับ มันก็นะน่างงอยู่หรอก

“มรึงก็เอามากางไง  แล้วก็ขี่จักรยานประกวดนางงามแบบที่เชียงใหม่นะ  กรูรับรองเมิงได้ที่1แน่กรูว่า  ขี่นวยนาดซะขนาดนั้น ขี่แบบกะเอาสายสะพายเลยนะเมิง 55555 ”  :laugh:
แล้วผมก็วิ่งเลยครับก่อนที่เท้าของไอ้บุ้งมันจะลอยมาหาผม

ผมได้ยินเสียงก่นด่าของมันลอยมาตามลม ประสานกับเสียงหัวเราะของผมและมัน ก็คงมีเพื่อนอย่างบุ้งนี่แหล่ะครับที่ทำให้ผมยังหัวเราะได้  ยังยิ้มได้อยู่ทุกๆวัน

หลังจากปะทะคารมเป็นการวอร์มดาว์นหลังออกกำลังกายกันนิดหน่อย  ก็กลับบ้านกันครับ พอใกล้บ้านเราเริ่มเดินไปจูงจักรยานกันไป  คุยกันทุกๆเรื่องครับสัพเพเหระยกเว้นเรื่องนั้นเรื่องเดียวที่ผมขอมันไว้  ถึงแม้มันจะพยายามบอกอะไรกับผมหลายครั้งแต่ผมก็ไม่อยากฟัง  จนในที่สุดมันก็เลิกพูดไปโดยปริยาย

“พรุ่งนี้พี่อั้มกลับมาไม๊ว่ะ  คิดถึงเหมือนกันตั้งแต่กลับมาจากเมกากรูยังไม่เจอเลย”
บุ้งมันสนิทกับทุกคนในครอบครัวผมครับ  เป็นเหมือนญาติไปแล้ว

“กลับซิ  เห็นว่าจะมาค้างหลายคืนด้วย  คราวนี้ครอบครัวกรูอยู่ครบเลยว่ะ”
ผมมีความสุขดีครับกับครอบครัวของผม  ครอบครัวที่ยั่งยืนแน่นอนเสมอมา  ไม่แปรเปลี่ยนแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“มรึงมาบ้านกรูด้วยซิ  มากินข้าวกัน  พรุ่งนี้เย็นนะชวนน้องบีนมาด้วยล่ะ”พอผมพูดแค่นี้เท่านั้นแหล่ะบุ้งมันก็แสดงความเป็นพี่ชายที่แสนดีออกมาเลยครับ

“กรูถามเมิงจริงๆ  ชอบน้องกรูเหรอว่ะไอ้โอม” ผมก็สะดุ้งไปนิดนึงแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรยังคงจูงจักรยานเดินต่อไป  น้องบีนก็น่ารักดี

บุ้งมันเอามือมาจับที่แฮนด์จักรยานของผมไว้ไม่ยอมให้ผมเดินต่อ  ผมหันไปมองหน้ามันแต่เห็นไม่ชัดหรอกครับ เพราะตอนนี้มันพลบค่ำแล้ว  พระอาทิตย์กำลังเดินทางกลับไปพักผ่อนแล้ว ความมืดก็เริ่มคืบคลานมาอย่างช้าๆ   อากาศเริ่มเย็นเพราะเป็นช่วงเดือนธันวาคมผมต้องโอบกอดตัวเองให้คลายหนาว  แล้วผมก็ถอนใจเฮือกใหญ่ผมไม่รู้หรอก ว่ามันคิดยังไงมาถามผมเรื่องนี้

“กรูหนาวแล้วบุ้ง  อยากกลับบ้านถ้ามรึงจะยึดจักรยานกรูไว้ก็เอากลับบ้านให้กรูด้วยแล้วกัน”

บุ้งตะโกนมาหาผม “กรูไม่ว่านะเว้ยถ้ามรึงชอบบีนจริง  แต่ถ้ามรึงลืมพี่ต่ายไม่ได้ ไม่ยอมถอดแหวนที่มือมรึงออก  มรึงก็ไม่ต้องมาทำดีกับน้องกรู  ถึงมรึงจะเป็นเพื่อนรักแต่กรูก็ไม่ยอมให้มรึงมาทำร้ายความรู้สึกน้องกรูได้หรอก”

ผมได้แต่ยิ้มนิดๆแล้วค่อยๆเดินจากบุ้งมา  ไม่มีคำตอบใดๆจากปากผม  เพราะใจผมมันรู้คำตอบดีอยู่แล้ว  ว่าไม่มีใครจะมาแทนที่พี่ต่ายได้  แล้วผมก็จะไม่ถอดแวนวงนั้นให้แหวนวงอื่นมาสวมแทนได้ด้วย 

หึหึ สมน้ำหน้าบุ้งดันมาถามผมไม่รู้เวล่ำเวลาจูงจักรยานไปเลยสองคันเลยนะเมิง   เอาซะให้เข็ด หวงน้องสาวดีนัก  :m12:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 ผมแยกกับบุ้งที่หน้าบ้าน แล้วนัดมันให้มาตอนเย็นวันพรุ่งนี้  แล้วพอเข้าบ้านก็ได้หอมแก้มผู้ชายเลยครับ  อย่างผมนี่ตอนนี้ได้หอมแก้มคนนี้คนเดียวทุกวันก็สุดยอดแล้วครับ

“กลับมาแล้วครับมาให้อาโอมหอมหน่อย.....”  :oni1: :oni1:
เด็กชายตัวเล็กๆขี้อายส่งยิ้มหวานทักทายมาให้ผม  แม่ของเด็กส่งน้องมะขามมาให้ผม

“ไหนๆหอมหน่อยซิ.....อื้อน่ารักจังเลยหลานใครน้า”

แฮะๆหลานผมเองครับลูกพี่อิง แต่งงานปุ๊ปก็มีลูกปั๊ปทำเอาหลงกันไปทั้งบ้าน ตอนนี้ขวบกว่าๆแล้วกำลังซน  ตอนนี้ผมกลับมาช่วยที่บ้านได้ปีกว่าแล้วครับไล่ๆกับอายุน้องมะขาม  ก็สนุกดีไม่เครียด   งานก็สนุกถึงแม้ช่วงแรกอาจจะมีขลุกขลักไปบ้าง  แต่ก็มีแม่กับป๋า  พี่อิงคอยช่วยอยู่   

กำลังฟัดหลานอยู่อย่างเมามันหลานผมก็หัวเราะคิกๆคักๆเล่นด้วย  กลิ่นของเด็กนี่มันสะอาดจังครับมีความสขจริงๆนะเป็นเด็กเนี่ย  ไม่ต้องคิดอะไรเลย  แล้วพ่อมะขามก็มาทวงลูกคืน

“โอมแกเอาลูกฉันมาเลย....ไป...เหงื่อเต็มตัวไปอาบน้ำก่อนค่อยมาเล่นกับหลาน”

พี่อิงหวงลูกยิ่งกว่าจงอางหวงไข่  หลานผมมันก็รักผมครับ หน้าก็เหมือนผมตอนเด็กๆ  ผมเลยยิ่งรัก  โตขึ้นคงเป็นเกียรติเป็นศรีแก่วงศ์ตระกูลหน้าตาแบบนี้มีแต่เจริญ 555 แต่อย่ามาเหมือนผมเรื่องเดียวเท่านั้นเอง  ผมไม่อยากให้หลานต้องมาเจอปัญหาแบบผมก็เรื่องความรักนี่แหล่ะครับ เฮ้อ!!!!เปลี่ยนเรื่องดีกว่า  คิดแล้วเซ็ง

อาบน้ำเสร็จก็มากินข้าวด้วยกันทั้งครอบครัวครับ  ชีวิตผมที่เคยมีสองคน  ตอนนี้มันเยอะไปหมด อบอุ่นจนบางครั้งร้อนเกินไปด้วยซ้ำยังกับติดฮีทเตอร์   จนบางทีรู้สึกอยากจะแบ่งความอบอุ่นนี้ไปให้คนอื่นบ้าง

กำลังจะตักข้าวเข้าปากล่ะ แล้วอยู่ดีๆพี่อั้มก็มาชวนผมไปไหนไม่รู้
“โอมพรุ่งนี้ไปกับเค้าหน่อยซิตอนสายๆนะ”
ที่จริงตอนกินข้าวนี่ผมไม่ชอบพูดเรื่องงานครับ  แต่คนบ้านเนี้ยขยัน  ชอบเอามาพูดเรื่อยไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน

“ทำไม มีอะไร ไปไหน ปีใหม่นะ ไม่เอ๊า”  :seng2ped:

อิอิ โวยไว้ก่อนครับ  กว่าหลานผมมันจะโตที่บ้านต้องทนกับน้องคนเล็กอย่างผมไปก่อนช่วยไม่ได้ จนอายุขนาดนี้ผมก็ยังเป็นแบบนี้ล่ะ  พี่อิงไม่พูดอะไรครับลุกออกจากที่นั่ง ผมก็นึกว่าจะไปเอาอะไร  แต่กลับเดินมาเขกหัวผม

“นี่แน่ะ...ตัวโตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้วไม่เลิกนิสัยเด็กๆซะที  ยังพูดไม่หมดไม่รู้เรื่องเลยโวยล่ะ”ไม่อยากบอกว่าหมาเลียไม่ถึงแต่คนน่ะถึงนะ  แต่กลัวโดนเตะฮ่าๆๆๆๆ  :m23:

“อ่ะว่ามาพี่อิง  คนจะกินข้าวพูดเรื่องงานอยู่ได้ไม่รู้อะไรกันนักหนา......”

แล้วผมก็บ่นไปเรื่อยครับเหมือนพวกประกาศในห้างนะครับพูดไปแต่ไม่มีใครฟัง  เข้าผ่านหูแล้วออกทางด่วนเลยไม่แปลงสารออกมา 555   แต่เค้าก็ทนๆผมน่ะครับคงอยากจะชดเชยในสิ่งที่เค้าไม่ให้ผมมากกว่า

“ตอนนี้งานเค้าเต็มมือเลย  มีลูกค้ารายนึงเค้าเป็นคนกรุงเทพฯมาจ้างเราปลูกบ้านน่ะ โอมไปช่วยคุมแทนให้เค้าหน่อยซิ”

ผมมันพวกเจเนอรัลเบ๊ครับดูสัพเพเหระ ช่วยบัญชี ฝ่ายขาย จัดซื้อ บางทีก็ไปช่วยคุมก่อสร้างบ้าง เหอๆๆๆชีวิตหนุ่มผู้แสนบอบบางอย่างผม  ตอนนี้ผมผอมลง คล้ำขึ้นร่างกายก็ดูเหมือนจะแข็งแรงขึ้นด้วยได้ออกกำลังกายทุกวัน ก็ดีๆๆ ชีวิตที่ไม่ว่างเปล่า  ผมบอกตัวเองอย่างนี้เสมอๆ

“ได้เท่าไหร่....ดูผลประโยชน์ก่อน  แต่พรุ่งนี้วันหยุดนะของพิเศษ4เท่า อิอิ”ไม่ค่อยงกหรอกครับ  แต่ทำงานมันต้องมีต้นทุนใช่ไม๊ครับ  เพราะงานรับเหมานี่คนล่ะกระเป๋ากันกับที่บ้าน ผมก็ต้องรักษาผลประโยชน์ที่บ้านก่อนเอาเวลาไปทำข้างนอกนี่ :m21:

“อ่ะให้เดือนละหมื่นนึง...แม่ไม่น่าให้มันเรียนบัญชีเลยน่ะ เค็มยิ่งกว่าปลาเค็มอีก  ไอ้น้องบ้า”

“กินปลาเค็มซิดีได้เกลือไอโอดีน  แล้วยังอร่อยอีก  กินกับข้าวก็ไม่เปลือง มีหอมแดงซอยหน่อยบีบมะนาว พริกขี้หนู  โอ๊ยพูดแล้วอยากกินพี่อิง 555”

 พอพูดไปแค่นั้นพี่อิงเอาอะไรไม่รู้ครับทำท่าจะขว้างผม  แต่คงเกรงใจแม่ ป๋านั่งมองอยู่  ไม่กล้าหรอกครับ หุหุหุ แล้วแม่เป็นผู้รักความยุติธรรมครับก็เข้าข้างผม

“ดีแล้วให้เงินน้องไป  น้องจะได้มีกำลังใจช่วยงานเราไงล่ะ” 5555ผมล่ะดีใจ  จะได้เงินสมทบทุนกองทุนท่องโลกต่างแดนของผม  :laugh3:

แหมเค้าเอาเงินมาประเคนขนาดนี้ก็ต้องทำล่ะครับ “ถ้างั้นก็โอเค  แต่โทรมาบอกล่วงหน้าล่ะเค้าจะได้เคลียร์งานก่อน  แล้วงบเค้ากี่ล้านน่ะพี่อิงบ้านหลังเนี้ย” ทำก็ได้  เงินเท่านั้นที่หล่อเลี้ยงชีวิตเรา

“หลังก็ไม่ใหญ่มากนะ แต่เค้าจ้างพี่ไม่เกินสองล้านน่ะรวมค่าวัสดุด้วยนะ”
อืมสมองผมก็คำนวณเลยครับ  ก็คงอย่างน้อย5-6 เดือนกว่าจะเสร็จ ก็คงได้เหนาะๆ6-7 หมื่นล่ะว้าเศษของเดือนปัดขึ้น  ขืนไม่ให้มีโวยกันล่ะคราวนี้ คราวนี้ล่ะงานยุ่งจนไม่มีเวลาฟุ้งซ่านแล้ว  :o211:

“โอเค! พอล่ะๆเลิกพูดเรื่องงานเปลี่ยนเรื่องไว้ค่อยคุยทีหลัง...แม่พรุ่งนี้โอมชวนบุ้งกับน้องบีนมากินข้าวบ้านเรานะแม่”

“เอาซิ.....เด็กๆจะได้สนุกกันแม่ว่าจะทำบาบิคิวด้วยดีไม๊”

“เอาเลยแม่  พรุ่งนี้พี่อั้มก็จะมาด้วย พี่อั้มก็ชอบกินบาบิคิว”

 ปีนี้เป็นปีแรกที่พี่อั้มจะมาฉลองปีใหม่ด้วยกันกับเราหลังจากไปเรียนมานาน  ผมกำลังสบายใจเมื่อพูดถึงพี่ผมคนนี้ แต่พอป๋าพูดออกมาผมก็เหนื่อยใจทันที เรื่องเดิมๆเก่าๆที่ทุกคนพยายามให้ผมเป็น

“โอมน้องบีนก็น่ารักดีนะลูก  ตอนนี้ก็เรียนจบแล้วด้วยเห็นว่าจะมาช่วยบุ้งทำงานที่บ้านเค้า โอมไม่สนใจบ้างเหรอลูก” ผมเผลอถอนหายใจออกไป  :เฮ้อ:

“ป๋าก็พูดอะไรไม่รู้เดี๋ยวไอ้บุ้งมันมาเหยียบผมตายพอดี  มันหวงน้องจะตาย..... ผมอิ่มแล้ว  ขอตัวก่อนนะครับทุกคน”

บางทีเวลาเราไม่อยากจะตอบปัญหาใคร  หรือไม่อยากพูดเรื่องอะไร ที่เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้หรือมันไม่ใช่  ผมใช้วิธีนี้แหล่ะครับจะว่าผมหลบหนีปัญหาก็ยอม   เพราะถึงเราพูดไปมันก็ไม่มีประโยชน์มีแต่จะไม่สบายใจกันทุกฝ่าย  แต่ก็ดีครับทุกคนรู้ว่าถ้าทำแบบนี้คืออย่ามายุ่งกับผม  เค้าก็จะเงียบไปเอง ไม่เซ้าซี้กับผมอีก

ผมรู้สึกว่าเวลาทำให้ผมเปลี่ยนไปในบางเรื่อง  ผมเลิกร้องไห้มาเป็นปีแล้วครับ  พอกันทีพี่ต่ายเคยบอกผมว่าน้ำตาไม่ช่วยให้คำตอบอะไรได้ มันก็จริงอย่างที่พี่ต่ายพูด  ผมร้องไห้มาเป็นเดือนแต่ไม่มีคำตอบอะไรเลย   :sad2:

จนวันนึงผมก็คิดได้เองว่าพอเถอะ   มันมากเกินไปแล้ว  แล้วก็ไม่มีน้ำตาอีกต่อไป  อย่างมากก็แค่ซึมๆที่หางตาเท่านั้น

พอมาอยู่ต่างจังหวัดเวลาจะเหมือนมีเยอะครับ  ถ้าใครเคยอยู่กรุงเทพฯแล้วมาอยู่ต่างจังหวัดจะรู้ดี  เหมือนเราได้เวลากลับมาอีกอย่างน้อยวันนึง 3-4 ชั่วโมง  ตอนเช้าได้นอนมากขึ้น  ตอนเย็นมีเวลาไปออกกำลังกาย  มีเวลาส่วนตัวมากขึ้น  นอกจากว่าคุณจะชอบเข้าสังคมหรือชอบเที่ยวคุณก็คงจะอยู่ไม่ได้  เพราะมันเงียบน่ะครับ   :undecided: นอกจากจะอยู่ในตัวจังหวัดจริงๆ

แต่ผมก็อยู่ได้อย่างสงบเงียบไปตามประสาหนุ่มโสด   ผมขึ้นไปอ่านหนังสือที่ซื้อมาตุนเอาไว้แล้วทะยอยๆอ่าน กำลังเพลินครับก็มีสายเข้ามา พอเห็นชื่อก็ยิ้มแล้วครับ

“ว่าไงครับที่รัก....”ผมยิ้มได้ทุกทีครับกับคนนี้  เสียงใสๆอ้อนตอบกลับมา

“คิดถึงกันบ้างหรือเปล่าโอม”

“ก็คิดถึงซิ...จะลืมกันได้ยังไงเล่า” คิดถึงอยู่เสมอๆเลย เป็นคนที่ผมพูดได้ทุกๆเรื่องอีกคนนึง

“มาเจอกันหน่อยซิเพื่อนๆบ่นหาโอมน่ะ”

ผมก็เงียบไปพักนึงครับ ไม่ใช่ว่าไม่อยากเจอใครนะครับ  ผมก็ไปเจอติงบ่อยแต่กับคนอื่นผมไม่ค่อยเจอ  แต่ก็ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องผมกับพี่ต่ายหรอกครับ  เค้ารู้กันแต่ว่าผมกลับมาช่วยงานที่บ้าน 

“ก็เอาซินัดมาแล้วกันจะเอาวันไหนติง....ขอเป็นเสาร์เย็นไม่ก็อาทิตย์นะ”

“ได้จ๊ะ....เอาอาทิตย์นี้เนอะ  แล้วติงโทรบอกสถานที่โอมอีกที” แล้วติงก็เงียบไปพักนึงเหมือนกับลังเลว่าควรจะพูดดีไม๊
+
+
+
 “โอมตอนนี้โอมเป็นไงบ้าง”
+
+
+
 พอติงพูดแบบนี้ผมก็นิ่งไปพักนึงครับ  แต่คุยทางโทรศัพท์ก็ดีเพราะเรายังสามารถเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเองได้อยู่บ้าง  ผมต้องหลับตาข่มความรู้สึกที่มันพลุ่งพล่านขึ้นมา  ยังไงผมก็ยังอ่อนไหวกับเรื่องนี้อยู่ดี  o7

  บางทีผมก็งงตัวเองเวลาบุ้งถามผมอย่างนี้ผมจะหงุดหงิด  แต่ถ้าเป็นติงผมกลับรู้สึกดีเหมือนยังมีคนห่วงใยผม  ทั้งที่ผมก็รู้ว่าบุ้งก็หวังดีต่อผมไปไม่น้อยกว่าติง คงจะเป็นเพราะว่าลึกๆแล้วผมคงละอายใจต่อบุ้งที่ไม่รับความรักของมานแต่ไปรักพี่ต่าย   แล้วในที่สุดมันก็จบไม่สวยแบบนี้  แต่ละคำพูดที่พูดเรื่องนี้มันช่างยากเย็นเหลือเกินสำหรับผม

ผมตอบคำถามติงไป  ก็เหมือนกับบอกย้ำความรู้สึกให้กับตัวเองไปด้วย

“ติงผมไม่เจอพี่ต่ายมาปีกว่าแล้วนะ  ผมควรจะดีขึ้นได้แล้วไม่ใช่เหรอติง”  :o11:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อย่าโกรธกันนะ :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 14-01-2008 09:40:53
 :serius2: :serius2:  อะไรครับเนี่ยะ  เปิดตอนนี้มาก็ทำให้เศร้าซะงั้นนะคุณโอม  :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 14-01-2008 10:05:33
อะไรกัน อ่านแล้วงงไปหมด พี่ต่ายไปไหน  มาเคลียร์ด่วนนนนน :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 14-01-2008 10:16:22
 :a5:
มันเกิดอะไรขึ้น
ทำไมต้องแยกกัน
มีอะไรเข้าใจผิดแน่ ๆ
ต้องเป็นเรื่องตาคมแน่เลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 14-01-2008 10:19:38
ม่ายยยยยย  :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 14-01-2008 10:33:49
อะไรกันนี่ๆๆๆ :o
เกิดอะไรขึ้น!!! :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 14-01-2008 10:39:53
มันขาดตอนแบบ งงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอ่ะ กลับมาอธิบายรายละเอียดให้เคลียดิ๊ ช่วยชี้ชัดหน่อยค่ะพี่น้องค่ะ :angry2: มันเกิดไรขึ้นอ่ะ :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 14-01-2008 11:02:07
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 14-01-2008 11:05:35
เวง เปิดมาอ่านเป็นอย่างงี้ เซงเลยพี่น้อง o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 14-01-2008 11:18:40
อ่านตอนนี้แล้วหมดแรงเลยย

ไม่มีแรงจะทำงานแล้ววว

ทำไม่ใจร้ายอย่างนี้อ่า

เศร้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :sad2:  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 14-01-2008 11:24:22
มันเกิดอะไรขึ้นอ่ะครับ :o
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 14-01-2008 11:38:15
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดาประท้วง  :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 14-01-2008 12:02:42
 :เฮ้อ:   มันเกิดขึ้นได้อย่างงัยอ่ะ  :m15:

 :m15: :m15: :m15:..... :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 14-01-2008 12:30:03
 :o ...............................ทำไมเกิดอะไรขึ้น ถ้าไม่เคลียร์มีเลือดแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :angry2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-01-2008 13:42:55
เริ่มเคืองๆ แล้วล่ะฟาง

แต่ให้โอกาสแก้ตัว ให้จบแบบสวยๆหน่อย

ถ้าจบแบบเศร้าๆ โกรธจริงๆด้วยนะเนี่ย 

 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 14-01-2008 14:17:28
 :serius2: :serius2: :serius2:

อย่าทำแบบนี้
หยุดตอนนี้เลย...

หยุดทำร้ายจิตใจ
แต่โปรดมาต่อตอนต่อไปไวๆ ได้ไหมอ่ะ

ใจจะขาด
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 14-01-2008 15:28:03
คิดไปไกลขนาดมีตายยยย ... เอาน่าจากเป็นก็ดีแล้ว :m23:
ยังคงรอคอยพี่กระต่าย return เป็นกำลังใจให้โอมน๊า......
แต่แหม...อยากรู้เรื่องราวจังเลยยยย...ไอ้พี่คมแหง๋ ๆ ฟันธง
 :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 14-01-2008 15:35:39
คนเขียนใจร้ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย   

:o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tonnaruk ที่ 14-01-2008 15:38:33
 :m15: เศร้าอะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณโอม

หวังว่าคุณโอม คงสามารถผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้ด้วยดี
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 14-01-2008 17:10:27
 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:

คนเขียนบอก.....ไปไม่เป็นเลย ทีนี่โดนรุม หนักกว่าเดิม.....

 :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 14-01-2008 18:55:11
 :a4:เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเหรอโอมถึงได้หักมุมถึงขนาดนี้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 14-01-2008 19:07:15
ม่าายยยน้าาาาา ทำไมมันเป็นแบบนี้ไปได้อ่า :o12:
พี่ต่ายไปไหนแล้ววว มาตามโอมหน่อยเร็วววววว

คุณฟางห้ามจบเรื่องนี้แบบเศร้าๆ นะครับ  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ปั่ น ป่ ว น ที่ 14-01-2008 22:01:10
 :serius2: พี่ต่ายยยยหายยยยไปหนายยยยยยยยยยย   :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 14-01-2008 23:04:09


>>> หงึ หง่ะ หยึ๋ยยยย~!!!!!  อารายกานนนนนนนนนเนี่ยยยยยยยยยยยยย

.
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Y_Yami ที่ 14-01-2008 23:38:04
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

เกิดไรขึ้นกะพี่กระต่ายอ่ะ :a6: :a6:

 :oni3: :oni3: :oni3:จงคลายความกระจ่างเดี๋ยวนี้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ChiiCaLorz ที่ 14-01-2008 23:51:04
ให้พี่ต่ายตายไปยังเสียใจน้อยกว่าที่จะรู้ว่าพี่ต่ายนอกใจนะคับ ฮือๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 15-01-2008 00:20:10

พี่ต่าย ไปอยู่ไหน กลับมาหาโอมเถอะน๊า

 :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: civava14 ที่ 15-01-2008 00:50:14
โอ้ยเศร้า ชักหวั่นใจ ตอนจบ ขออย่าให้เศร้ามากเลยน่ะ

 o2                           :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 15-01-2008 09:53:05
ยืนรอขาแข็งไปหมดแระ เมื่อไหร่จะมาต่ออ่ะตะเอง ไงก็ช่วยแข็ง......ใจมาต่อหน่อยนะเค้ารออยู่เอง :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided: :undecided:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-01-2008 10:05:46
ข้าน้อยขอยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว  :o7:
แต่มีคนอ่านคนนึงยุให้เขียนแบบนี้อ่ะขอฟ้อง  :m15:
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 55

“เราอยู่ได้นะติง....อาจจะสุขน้อยไปหน่อย  แต่ทุกข์มันก็ลดลงไปเยอะละ...ยังไม่ตายติง ฮ่าๆๆๆ”
เสียงหัวเราะของผมคงเสแสร้งมากไปหน่อย หรือไม่ก็เบาไปนิด ติงไม่พูดอะไรเลยเงียบสนิท  นี่ผมเลยทำให้การคุยของเรากร่อยไปเลยหรือเปล่า  ผมเลยเปลี่ยนเรื่องคุยดีกว่า

“ติงมีแฟนรึยัง.....มีได้แล้วนะอยู่คนเดียวมันเหงานะ”  :m21:
ผมไม่อยากให้เพื่อนเหงาเหมือนกับผม ผมเองก็ห่วงติงเหมือนกัน มีคนมาจีบเยอะมากๆ  แต่ก็ไม่เห็นถูกใจใคร   ตอนที่เรียนโทด้วยกันผมกับบุ้งต้องกลายเป็นไม้กันหมาไปก็ตั้งหลายหน  กันคนที่ไม่มีคุณสมบัติพอที่มาจีบติงน่ะครับ

“ติงฟังเราอยู่รึเปล่าทำไมเงียบไป”
แล้วติงก็พูดออกมาเบาๆ “โอม.....เธอยังมีเรานะโอม”

ผมไม่รู้หรอกว่าคำนี้มันกินความหมายขนาดไหน  แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีทีเดียวครับ แค่มีแค่ซักคนที่เห็นเรามีค่าก็พอใจแล้วครับ  :m13:

“อีกหน่อยมีแฟนแล้วก็จะลืมเพื่อนอย่างผมนะซิ   ไอ้อ้วนนั่นว่าไงบ้างโอเคกะเค้าไปยัง”

“อิอิ  นี่ไอ้อ้วนที่เธอว่าน่ะเจ้านายเรานะโอม....หึหึไม่เอาหรอก   มีเมียแล้วยังมาเที่ยวหว่านเสน่ห์ ไม่ไหวเลยผู้ชายสมัยนี้เห็นเราเป็นของเล่นไปได้”

“เรากลัวเค้าจะไม่เล่นๆเค้าจะจริงๆนะซิ...น่ากลัวออก....เปลี่ยนงานดีกว่ามั๊งติง”

“ยังไม่เปลี่ยนหรอกยังสนุกกับงานอยู่โอม....ไม่ต้องห่วงเราหรอก”
“ถ้าหาไม่ได้ดีก็อยู่เป็นเพื่อนโอมไปเรื่อยๆแบบนี้ดีกว่า” น้ำเสียงของติงที่พูดฟังดูปลงๆยังไงไม่รู้ :เฮ้อ:

 “แล้วนี่โอมทำอะไรอยู่ติงกวนรึเปล่า”ผมหัวเราะขำๆๆ 55555  :laugh: :laugh:

 “ขำอะไรโอม....อยู่ดีๆก็หัวเราะบร้ารึเปล่า” ผมปวดท้องเลยครับขำความคิดตัวเอง คุยไปผมก็หัวเราะไปด้วย  :m20:

“เปล่าหรอกติง หึหึหึ เมื่อกี้ที่ติงถามว่าติงกวนรึเปล่า เราฟังผวนเป็นกวนตีงรึเปล่า 5555”  o17

“โอมน่ะบร้าาา 5555”   :pandalaugh: ผมรู้สึกว่าบรรยากาศดีขึ้นทันตาเลย

“สายไปแล้วติง  กว่าติงจะรู้ตัวว่าคบคนบร้าอยู่  คนบร้านี่ก็ไม่ปล่อยติงแล้ว”

“ไม่เป็นไรเพราะติงก็คงบ้าด้วย  ถึงได้คบกันได้ หึหึหึ  แล้วตกลงทำอะไรอยู่นอนรึยัง”

“เราอ่านหนังสืออยู่น่ะ แต่คุยก่อนดีกว่า  อ่านหนังสืออ่านเมื่อไหร่ก็ได้” ผมพลิกๆดูหนังสือที่อ่านไปเล่นๆ

“โอมวันก่อนติงเจอพี่คมด้วยนะ......เค้าบอกว่าพี่ต่า....”ติงยังพูดไม่จบหรอกครับ  แต่ผมไม่อยากฟังแล้วถ้าคุยเรื่องนี้  ผมเลยขัดขึ้นมายอมเป็นคนไม่มีมารยาทดีกว่า

“ติงเราเริ่มง่วงแล้วล่ะขอโทษนะ....ขอไปนอนก่อนดีกว่า”

“โอมน่ะ....ทำไมเป็นแบบนี้”  :m17:
 เสียงของติงที่ตัดพ้อก่อนจะวางสาย  เหมือนจะยังติดอยู่ในหูผมถึงแม้จะวางหูไปนานแล้ว  ผมก็เป็นแบบนี้แหล่ะได้แต่ยิ้มแค่นๆให้กับคัวเอง    ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ผมก็คงอยู่ในความคิดวนๆเวียนๆเรื่องนี้ไม่มีวันเลิกรา  แล้วมันจะมีอะไรดีกับชีวิตผมขึ้นมา  

ในวันที่พี่ต่ายตัดขาดการติดต่อกับผมพี่ต่ายเค้ายังทำได้ทันทีเลย  อย่างของผมเนี่ยไม่เรียกว่าหักดิบแบบพี่ต่าย  แต่เรียกว่าเข้าบำบัดถ้ำกระบอกค่อยๆคายพิษออกมามากกว่าแล้วก็ท่องคาถากันใจอ่อนไปด้วย  มันก็คงจะช่วยให้ทั้งร่างกายและจิตใจค่อยๆแข็งแรงขึ้น ถึงแม้ว่าพิษของความรักมันจะฝังลึกในใจยากที่จะถอนเหมือนยาเสพติด  แต่ผมก็กำลังพยายามครับ  ทำไงได้ผมมันเสพติดความรักจากพี่ต่ายไปแล้วนี่

ถึงแม้ไม่มีรักจากคนรัก  แต่ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินต่อไป   ไม่มีใครมาช่วยใครให้เลิกเจ็บปวดจากความรักได้หรอกครับ  นอกจากตัวเราเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้ตอนเช้าผมออกไปใส่บาตรปีใหม่กับป๋าและแม่   เป็นปีแรกในรอบๆหลายปีที่ผ่านมาครับ  ก่อนหน้านั้นก็มีเหตุตลอดไม่ได้จังหวะซักที  อากาศเย็นสบายกับการฟังพรจากพระในวันขึ้นปีใหม่ก็ทำให้จิตใจผมสงบขึ้น   พอใส่บาตรเสร็จเราก็ค่อยๆเดินกลับบ้าน  เดินกันไปคุยกันไปพ่อแม่ลูก  

“ป๋าแม่ครับ...โอมขอพรปีใหม่หน่อยครับ” ตามประสาลูกคนเล็กน่ะครับผมชอบอ้อนแบบนี้แหล่ะ

“โอม....ปีใหม่แล้วแม่กับป๋าขอให้ลูกมีความสุขความเจริญ  สุขภาพแข็งแรง  มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตนะลูกนะ” แล้วแม่กับป๋าก็สวมกอดผม  กลางทางเดินนี่แหล่ะครับแม่ลูบหัว ลูบหลัง ผมเบาๆ  แล้วก็ยังอวยพรผมต่อ

“ต่อนี้ไปลูกของแม่จะมีแต่รอยยิ้มนะลูกเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจขอให้มันหมดไปนะลูกนะ”

แค่นี้ผมเองก็มีความสุขแล้วครับ ยิ้มแรกในปีใหม่นี้ผมยิ้มให้กับคนที่รักผมมากที่สุดเหมือนกันครับ  พอเห็นรอยยิ้มของแม่ผมก็รู้สึกว่าปีใหม่นี้ชีวิตผมคงต้องมีอะไรดีๆแน่ๆ

วันนี้ที่ร้านยังปิดอยู่ผมก็เลยว่างๆ  ไปเจอหนังสือเล่มนึงที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะอ่านเพราะชอบบอกตัวเองว่าเรายังไม่แก่   ไม่ต้องอ่านหรอกเดี๋ยวรอให้แก่ๆก่อนค่อยอ่านก็ได้  มีแต่คนที่แก่ๆโบราณๆเท่านั้นแหล่ะถึงจะอ่านกัน

แต่วันนี้หันไปหันมาเห็นหนังสือเล่มนี้วางฝุ่นเขรอะอยู่   ก็เลยลองหยิบขึ้นมาดูเล่นๆ  
เป็นหนังสือธรรมะเล่มเล็กๆหน้าปกสีชมพูมีตัวการ์ตูนเป็นรูปคนนั่งหันหลังเอาหัวชนกันดูพระอาทิตย์ตกดิน มีรูปหัวใจคล้องสองคนไว้ด้วยกันอยู่

ชื่อหนังสือ “สาระแห่งชีวิต  คือรักและเมตตา” ของพระอาจารย์มิตซูโอะ  คเวสโก วัดสุนันทวนาราม อ.ไทรโยค  จ.กาญจนบุรี ท่านเป็นคนญี่ปุ่นครับ

หนังสือขึ้นต้นว่า “ชีวิตคือความรัก”  ผมใช้เวลาอ่านไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็อ่านจบครับเพราะมีอยู่แค่ประมาณ100 หน้าแต่ บางหน้าก็เป็นรูปบ้าง เป็นคำโปรยบ้าง  บางช่วงผมต้องใช้ความคิดตามอยู่นิดหน่อยเพราะเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก  แต่บางตอนก็เข้าใจ โดนใจจนผมน้ำตาเอ่อไม่รู้ตัวก็ในส่วนของความรักของพ่อแม่น่ะครับ  แล้วที่ชอบอีกบทนึงก็เรื่องความรัก

ชีวิตที่ปราศจากความรักไม่ใช่ชีวิต
สำคัญที่สุดในชีวิตคือความรัก
ความรักคือชีวิต ชีวิตคือความรัก
ความสุขของชีวิต เกิดจากความรัก
ความทุกข์ของชีวิต เกิดจากความรักเช่นกัน  

ท่านกล่าวว่า  อารมณ์รักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน  เมื่อเราสามารถเริ่มต้นชีวิตคู่กับคนที่เรารักมากๆ เรารู้สึกสมหวังในความรัก โลกทั้งโลกสดใสสวยงามสำหรับเรา  แต่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตนี้ไม่แน่นอน  อย่าหลงเชื่อในความรู้สึกรัก ซึ่งไม่แน่นอน  เมื่อรู้ว่าอารมณ์รักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน  เราจึงไม่ควรใช้อารมณ์รักเพียงอย่างเดียวมาเป็นข้อตัดสินใจในการเลือกคู่ชีวิต

พออ่านหนังสือเล่มนี้จบ  ผมก็รู้สึกว่าผมก็ไม่ได้แก่ลงไปนี่กะอีแค่อ่านหนังสือธรรมะ  แล้วก็คิดได้ว่า  อะไรที่เราคิดว่ามันไม่เหมาะกับเรามันก็อาจจะเอาสิ่งดีๆมาให้ชีวิตเราก็ได้
เราน่าจะลองได้ลองเปิดโอกาสให้กับตัวเองดู   แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่าใจสบายอย่างที่สุด

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ช่วงสายๆพี่อิงพาผมไปดูที่ของลูกค้าที่จะปลูกบ้าน  ที่ก่อสร้างก็ไม่ไกลมากขับรถเข้าไปไม่ลึกประมาณ สิบกว่ากิโลเมตรจากในเมืองก็ถึง   ที่สวยอยู่ริมเขายังเห็นหมอกจางลอยอยู่บางเบาถึงแม้จะสายมากแล้ว

“เค้าเข้าใจหาที่เนอะ  เค้าซื้อมานานแล้วแล้วเหรอพี่อิง  หรือเพิ่งซื้อ”  
ผมยังชอบที่นี่เลย  อากาศดีแล้วก็ไม่ไกลมาก  เดินๆดูมีต้นไม้ใหญ่อยู่บ้างแล้วคงต้องทิ้งไว้เหมือนเดิมไม่อยากไปตัด

“รู้สึกว่าที่ซื้อหลายปีแล้วนะ 2-3 ปีนี่แหล่ะ  เค้าอยากปลูกบ้านไว้อยู่กับแฟนน่ะ เค้าบอกพี่ว่าไม่ต้องใหญ่มาก  แต่ให้เรียบๆสบายๆ  โอมทำเต็มที่เลยนะ  แต่เรื่องก่อสร้างช่างจิตรค่อนข้างไว้ใจได้  ดูเรื่องรายละเอียดแล้วกัน  ยังไงพี่ไม่ทิ้งไปเลยหรอก”    

ความรู้เรื่องก่อสร้างของผมก็งูๆปลาๆล่ะครับ  ผมแค่ผู้ช่วยดำเนินการมากกว่า  ด้านเทคนิคพี่อิงต้องมาดูเองอีกที  เรื่องแบบนี้ซี้ๆซั้วๆบ้านเค้าพังขึ้นมาผมก็รับไม่ไหวเหมือนกัน  แต่พี่อิงงานเยอะผมก็เลยต้องช่วย  แถมได้เงินแบบนี้ยิ่งสนุกกว่านั่งอยู่กับโต๊ะทำบัญชีเป็นไหนๆ

 ดูแป๊ปเดียวก็กลับบ้าน กลางวันผมก็ไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านเดิมครับที่เคยทานกับพี่ต่ายเมื่อหลายปีก่อน  แม่ถามผมว่า
“โอมทำไมไม่กินข้าวบ้านละลูก....ร้านมันคนเยอะนะ”  ผมก็บอกแม่ไปว่า
“วันนี้ผมอยากกินก๋วยเตี๋ยวมากกว่าน่ะแม่...นะแม่นะอยากกินเป็นพิเศษ”

ผมก็บ้าๆแบบนี้ล่ะครับ  ทั้งที่ช่วงปีใหม่จะมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก  ผมก็ยังอุตส่าห์ไปยืนรอได้อย่างใจเย็น  ผมยังมีความสุขกับความทรงจำที่ดีๆกับพี่ต่ายครับ  กินก๋วยเตี๋ยวไปผมก็นึกขำไปว่าผมเคยทำอะไรตลกๆไว้ที่นี่  :m23:  อาแป๊ะคนนั้นก็ยังอยู่ครับดูแกก็แข็งแรงดี คงมีแต่ผมมั๊งแก่ลงไป   หรือว่าอาแป๊ะแกแก่อยู่ตัวแล้วมั๊ง  คงไม่แก่แก๊แก่ไปกว่านี้ได้หรอก  ฮ่าๆๆๆ  o17

วันนี้ผมตัดสินใจแล้วว่า  ถึงแม้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ผมก็ยังรักพี่ต่ายได้เหมือนเดิม  ไม่มีใครมาดึงความรักของผมกลับคืนไปได้
แต่ผมก็จะไม่ปิดกั้นตัวเองอีกต่อไป  ผมพร้อมที่จะเจอกับคนใหม่ๆ  และเรียนรู้กันไป  เพราะอารมณ์รักมันเป็นสิ่งไม่แน่นอนครับ  
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
พอเย็นๆพี่อั้มก็กลับมาถึงบ้านก็เลยสนุกสนานกันใหญ่  บุ้งกับน้องบีนก็มาแล้ว เราจัดทานข้าวกันในบ้านนี่แหล่ะครับ  มีแต่พวกเราพี่ๆน้องๆ  ผมรู้สึกสบายใจขึ้นคุยกันได้สนุกสนานดี

“พี่อั้มผมถามหน่อยดิ   ใครๆเค้าไปเมืองนอกกันเค้าก็มีแฟนกลับมาด้วยทั้งนั้นแล้วพี่ไม่มีบ้างเหรอพี่”
คนถามน่ะบุ้งครับ ไม่รู้ว่าบุ้งมันจะไปอยากรู้เรื่องพี่อั้มทำไมครับ  ผมชักเป็นห่วงพี่อั้มแล้วซิ  หน้ายิ่งคล้ายๆผมอยู่ด้วย หุหุ  เกิดบุ้งมันไปสนใจพี่ผมเข้าผมจะทำไงดี

“บุ้งเมิงไม่ต้องมายุ่งก็พี่กรูเลย...เดี๋ยวโดน”

ผมผลักบุ้งที่มันมาลอยหน้าลอยตามองพี่ผมอยู่  ไม่น่าไว้ใจมันเลย  กะว่าไม่ได้พระเพื่อนจะเอาพระแพงเลยนะเมิง  แต่พี่อั้มกลับไปโอบไหล่บุ้งมันครับ  ผมละหวาดเสียวแทน

“โอมไปทำบุ้งแบบนั้นทำไม...ถามมาก็ไม่เห็นเป็นไร..พี่ก็เจออยู่คนกำลังจีบอยู่เป็นดาวมหาลัยเลยนะ  อยากเห็นปะน่ารักสุดๆ”

 ไอ้บุ้งมันหงอยกร่อยไปเลยครับ 555 ผมละสมน้ำหน้ามัน  เป็นอย่างผมนี่ในตระกูลคนเดียวก็เกินพอแล้ว  มีทำไมเยอะแยะ  อีกอย่างไม่อยากเรียกไอ้บุ้งมันว่าพี่สะใภ้ครับ  ไม่อยากยกมือไหว้มานเสียฟอร์มตายเลย   แล้วน้องบีนก็ถือจานบาบีคิวมาเสริฟให้พอดี

“พี่อั้ม พี่โอม พี่บุ้งทานได้แล้วค่ะสุกแล้ว”

“ขอบคุณค่ะน้องบีน.....อยากมีน้องสาวจังเลย”พูดเสียงอ้อนสาวเลยครับพี่ผม

แต่พอพูดถึงน้องชายทำเสียงประณามหยามเหยียด “มีน้องชายไม่ได้เรื่องเลยมีแต่ต้องให้พี่ดูแลมัน.....ไม่มีล่ะจะบริการพี่บ้าง”
พี่อั้มชมน้องบีนครับแต่แอบแฝงด่าผมไปในตัว  อย่านึกว่าผมไม่ทันฟังนะครับ  เรื่องแบบนี้หัวไวหูไวครับปากก็ไวด้วย

“อยากได้น้องสาวก็ได้เลยซิ   บีนมาเป็นน้องพี่อั้มแทนพี่มา  วันนี้พี่ลาออกเลยจากน้องพี่อั้มแต่ขอเงินชดเชยถูกไล่ออกจากการเป็นน้องด้วยนะ    แต่พี่ว่าบีนจะทนปากพี่อั้มได้ป่าวล่ะ” หึหึหึ  อย่างนี้ไม่มีพลาดครับขอให้บอก  :o9:

“พี่อยากได้บีนมาเป็นน้องสะใภ้มากกว่านะซิ   โอมก็ไม่ต้องลาออกจากน้องพี่ด้วยอยู่กวนกันต่อไปตลอดชีวิตเนี่ยแหล่ะ”

พี่อั้ม!!!! :m30: เอาแล้วซิไอ้พี่บร้าหาเรื่องมาให้ผมอีกคนละนี่ขนาดกินน้ำแดงนะเนี่ย  ถ้ากินน้ำเมาจะขนาดไหน   ผมได้แต่เอามือมาตบหน้าผากตัวเอง  กรูซวยอีกแล้วมาแซวกันระยะเผาขนขนาดนี้น้องเค้าก็แย่อะดิ  ตอนนี้น้องบีนหน้าแดงอายม้วนเป็นกิ้งกือเลยครับ   ไม่รู้จะม้วนหน้าม้วนหลังไปทำไมพี่ผมมันปากแบบเนี้ย   เอาเรื่องเอาราวได้ที่ไหน

“พี่อั้มพูดงี้ได้ไง  ผมไม่ยกให้โอมมันหรอก  มันบร้าาาา....ผมไม่อยากเป็นพี่เมียมัน”
อ๊ะไอ้บุ้งนี่ไม่อยากเป็นพี่เมียชิชะ  แล้วอยากจะมาเป็นอะไรว่ะ  อยากมาเป็นเมียกรูรึไง  อยากจะเอาเท้ายันมันก็เกรงใจน้องบีนที่ยังยืนอายต่อเนื่อง  :o8: อายแบบไม่มีทีท่าว่าจะเลิกอาย

“เลิกๆๆพูดอะไรกันพี่อั้มน้องบีนเค้ายังเด็กอยู่มาพูดอะไรก็ไม่รู้  ไอ้บุ้งนี่ก็เหมือนกันเป็นพี่ภาษาอะไรเมิงพาน้องเมิงไปนั่งกินดีๆเลยเมิง  เอาน้องมาแล้วไม่ดูแลเทคแคร์ให้ดี”
แล้วผมก็เดินไปเลยครับทำเป็นเฉไฉตะโกนถาม

“ใครเอาน้ำไรป่าว  พี่อั้มไวน์ซักแก้วนะ  บุ้งเมิงเอาปะ” แล้วของอย่างนี้มีเหรอครับใครจะปฏิเสธ

“ด้วยๆๆนะโอมเพื่อนรักแก้วนึง....”ผมได้แต่เดินไปบ่นไป “ทีเนี้ยมาเรียกกรูเพื่อนรักทีเมื่อกี้เสือกทำรังเกียจไอ้สตอเบอรี่เอ๊ย”

แล้วสุดท้ายครับก็เหลือแต่หนุ่มๆนั่งโจ้กัน   น้องบีนขอตัวกลับก่อนเพราะดูทีท่าบุ้งจะดื่มยาว  ส่วนพี่อิงหลังจากส่งลูกเมียเข้านอนก็มาร่วมวงสังสรรค์ครับ  สามคนพี่น้องครบองค์ประชุมในรอบ3 ปี  ก็เฮฮาปาร์ตี้น่ะครับแล้วพี่อิงก็เริ่มนินทาเมีย  พี่กุ้งน่ะครับ

“ตัวเองรู้ไม๊ไอ้กุ้งแห้งน่ะขี้บ่นชิบหาย   พี่แค่เล่นเกมนานไปหน่อยก็บ่น  เปลืองไฟ เสียสายตา chat กะสาวที่ไหนอยู่  ไม่รู้จะบ่นไปทำไม๊”

“มีอยู่วันนึงเค้ารำคาญ   เลยไปนอนก่อนเลิกเล่นคอมไปล่ะ”  

“ตื่นมาตอนดึกจะไปเข้าห้องน้ำ...ก็เอ๊ะเมียกรูไปไหนหรือว่าไปเข้าห้องน้ำเหมือนกัน”

“ก็ไปเดินตามหา...เอ้ามาเจอในห้องทำงานปรากฎว่าอะไรรู้ไม๊”

“มานั่ง chat กะสาวๆ อยากจะบร้าตาย  แล้วไปจีบเค้าอีกแน่ะ  ไอ้เรากะว่าเออให้มีสาวๆไว้คุยสนุกๆไม่ได้คิดอะไร  ทำวงแตกไปเลย”

“เค้ากลายเป็นไอ้หัวงูไปเลย  วันหลังไม่มีใครยอมมาคุยด้วยอีกเลย  แสบจริงๆเมียกรู  ไม่รู้ไปคุยอีท่าไหน”

 พี่ผมเนี่ยเมียจับได้ยังไม่สำนึกอีกครั้ง  สำนึกดีแบบรีเจนซี่เนี่ยจะมีบ้างไม๊  ผมเลยอดไม่ได้อีกแล้วชอบทำตัวเป็นน้องบังเกิดเกล้า   ด่าพี่บ่อยๆนี่บาปไม๊ครับชักสงสัย

“พี่อิงไม่โดนพี่กุ้งเจื๋อนก็บุญแล้วยังจะมาบ่นอีกนะ  หน้าไม่อายมีเมียแล้วยังมาทำลั้ลลากับสาวๆ” :teach:

แต่คนอย่างพี่อิงน่ะครับพอเหล้าเข้าปากแล้วก็ลืมหมด  ใจดีมากไม่ดุผมกลับหรอก ก็ผมมันน้องตัวอย่าง  ตัวอย่างที่ไม่ดีนะครับ หุหุหุ แม่บ่นประจำว่าชอบลามปาม  

พอพี่อิงเมาแล้วอยากจะพูดอะไรก็พูด  คราวนี้มีพี่อั้มผสมโรงด้วยอีกคนเลยสองคนแท็กทีมเลยครับเล่าเรื่องบ้าบอคอแตกอะไรไม่รู้  ผมกับไอ้บุ้งนั่งขำกันท้องแข็ง

ผมว่าเรื่องที่พี่อิงนินทาเมียน่ะมีแต่เรื่องที่ตัวเองทำไม่ดีแล้วเมียจับได้ทั้งน้าน  แล้วไม่รู้จะไปโกรธเมียตัวเองทำไม  ผมว่าเรื่องนี้ผู้ปกครองควรชี้แนะนะครับมันไม่ดีหรอก  แต่เราคนฟังก็สนุกดี ส่วนพี่อั้มก็เล่าเรื่องคนที่กำลังตามจีบอยู่ครับ

“น้องใบเฟิร์นน่ะน่ารักA+เลยว่ะ  เรียนก็เก่งนิสัยก็ดี  ท่าทางน้องเค้าก็เอนเอียงมาเยอะล่ะ  อีกไม่นานคงโอเคยอมรับเค้าเป็นแฟนแน่ๆ  นี่ทีแรกกะพามาเปิดตัวนะ  แต่พอดีน้องเค้าต้องไปเที่ยวกับที่บ้านเลยมาไม่ได้”

“สงสารน้องเค้าว่ะ  อยากเจอจริงๆอะไรทำให้เห็นผิดเป็นชอบไปได้ 5555 พี่อั้มอย่าไปทำให้ชีวิตที่รุ่งโรจน์ของน้องเค้าต้องมัวหมองเลย  มันจะเป็นบันทึกด่างพร้อยในชีวิตเค้านะ”

ผมก็แซวพี่ตัวเองอีกล่ะครับ หมั่นไส้คนจะมีแฟน  พอพูดถึงแฟนแล้วตาเยิ้มจนจะหยดล่ะ ส่วนพี่อิงเริ่มตาปรือแล้วครับผมว่าเดี๋ยวพี่กุ้งต้องมาตามตัวแน่ๆ  เริ่มพูดน้อยลงล่ะสงสัยนินทาเมียจนหมดละ  ส่วนบุ้งมันก็เป็นประเภทยิ่งกินยิ่งซึมครับ  มีแต่พี่อั้มยังเมามันกับการคุยอยู่

 “เออมีเรื่องจะเล่าให้ฟัง วันก่อนนะเค้าไปหาน้องใบเฟิร์นที่ทำงานนึกแล้วก็ขำ  โลกมันโคตรกลมไปเจอใครรู้ปะ  เจอไอ้ต่าย  ทีแรกก็จำมันไม่ได้   ไม่ได้เจอไม่กี่ปีมันหล่อกว่าเดิมอีก”

 พอพี่อั้มพูดขึ้นมาเท่านั้นล่ะครับ  พี่อิงกะบุ้งสะดุ้งเลยครับ  o22 ทำหน้าสร่างเมาเป็นกรณีพิเศษผมเห็นแล้วก็ขำ  ส่วนผมตั้งแต่ทำใจได้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว  ผมก็ใจสงบขึ้นฟังเรื่องพี่ต่ายได้  อาจจะมีความตื่นเต้นนิดหน่อยด้วยซ้ำไปจนรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงกว่าปรกติ  พี่อั้มก็เล่าต่อไปไม่รู้เรื่องอะไร  พี่อิงกับบุ้งก็นั่งจ้องหน้าผมอย่างกับเห็นดารา  ไม่ได้มองหน้าพี่อั้มคนเล่าเรื่องเลย

“ต่ายมันเข้ามาทักเค้านะโอม   ปรากฎว่ามันเพิ่งย้ายกลับมาจากสิงค์โปร์เมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง  มันยังบอกเลยว่าจะแวะไปหาเค้าที่บ้าน  แต่คุยกันได้แป๊ปเดียวเห็นฝรั่งมาเรียกมันไปท่าทางมันตำแหน่งใหญ่เหมือนกันล่ะ   งงเลยไม่คิดว่าจะเจอได้”

ผมก็ได้แต่ยิ้มครับไม่ได้พูดอะไร  อย่างน้อยพี่ต่ายก็ดูมีความสุขดี  แลัวก็ยังมีชีวิตอยู่5555  
ก็ดีแล้วนี่ยังไม่ตาย    เราเลิกจากกันไปก็จริง  แต่ก็ยังกินได้ นอนหลับ หายใจได้
ยิ้มได้ หัวเราะได้ จะเอาอะไรอีก  

ส่วนสองคนนั้นเห็นหน้าผมที่ยิ้มแล้วก็หันมามองหน้ากันทำหน้าแปลกใจ  ไม่รู้จะงงอะไรนักหนา  ก่อนที่จะนั่งทำหน้าตาเหรอหราไปมากกว่านี้ผมก็เลยบอกให้เข้าใจไปเลย

“ไม่ต้องห่วงเค้าทำใจได้แล้วพี่อิง บุ้ง จริงจริ๊ง”  แต่พี่อั้มไม่รู้เรื่องอะไรก็เลยเป็นคนเดียวที่ไม่เข้าใจ

“โอมทำใจเรื่องอะไร  เค้าไม่เข้าใจ  เค้าตกข่าวอะไรไปรึเปล่าหือ”
ทุกคนก็เงียบครับไม่มีใครพูดอะไร  ก็คงไม่แน่ใจด้วยว่าผมแน่ใจแล้วเหรอที่พูดออกมาว่าทำใจได้  พี่อั้มเลยมองมาที่ผม แล้วคราวนี้เข้าสู่โหมดพี่ชายที่แสนดีถามผมออกมาตรงๆ

“โอมมีอะไรเล่าให้เค้าฟังเดี๋ยวนี้”  :m28:
 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :o12: :o12:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 15-01-2008 10:46:36
โอ้ว จอร์จ :m30: พี่อิงก็รู้เรื่องแล้วหรือนี่
เหลือแต่พี่อั้มกะคนอ่านตาดำๆที่ยังไม่รู้เรื่องกะเค้า :sad2:
ฮือๆ อยากรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น :m15: :m15: :m15:
เลิกกัน, ตัดขาด, เพิ่งกลับจากสิงคโปร์ >>>โอย hint ไม่ช่วยเลย งงไปหมดแล้ว เดาเรื่องไม่ถูก   o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 15-01-2008 11:14:41
 :a4:พี่อิงก็รู้แล้ว บุ้งก็รู้แล้ว เหลือผมกับคุณอั้มสินะที่ยังไม่รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณต่ายและคุณโอมหลังปีใหม่ปีนั้น  ช่วยมาเล่าให้ผมฟังด้วยครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 15-01-2008 11:25:37
รู้สึกว่าที่ซื้อหลายปีแล้วนะ 2-3 ปีนี่แหล่ะ  เค้าอยากปลูกบ้านไว้อยู่กับแฟนน่ะ เค้าบอกพี่ว่าไม่ต้องใหญ่มาก  แต่ให้เรียบๆสบายๆ  โอมทำเต็มที่เลยนะ  แต่เรื่องก่อสร้างช่างจิตรค่อนข้างไว้ใจได้  ดูเรื่องรายละเอียดแล้วกัน  ยังไงพี่ไม่ทิ้งไปเลยหรอก”     
............................. หรือว่า คน ๆ นั้น จะเป็นพี่ต่าย  :sad2: :angry2: o13      ยังเศร้าและยังงงไม่เลิก  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 15-01-2008 11:34:16
ยังงงๆอยู่ดี

ฟางนะฟาง ไม่น่าทำกันเลย  :m29:



เดี๋ยวจะไปจัดการฟ็อก  โทษฐานยุยงดีนัก  :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 15-01-2008 11:56:35
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 15-01-2008 12:34:30
โอ้วววว ใครเขียนว่ะเนียะ !!

เศร้าสะเด๊ดดด!!!!

ทำไปได้ ไม่เห็นใจคนอ่านเล้ยยยยยย!!!! 


 :m22: :m22: :m22: :m22:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 15-01-2008 12:45:45
"ถึงแม้ไม่มีรักจากคนรัก  แต่ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินต่อไป   ไม่มีใครมาช่วยใครให้เลิกเจ็บปวด
จากความรักได้หรอกครับ  นอกจากตัวเราเอง"  ชอบประโยคนี้จังงงงงง   :impress:

แต่ประโยคที่ทำให้  :m15:  

“โอม....ปีใหม่แล้วแม่กับป๋าขอให้ลูกมีความสุขความเจริญ  สุขภาพแข็งแรง  มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตนะลูกนะ” แล้วแม่กับป๋าก็สวมกอดผม  กลางทางเดินนี่แหล่ะครับแม่ลูบหัว ลูบหลัง ผมเบาๆ  แล้วก็ยังอวยพรผมต่อ

“ต่อนี้ไปลูกของแม่จะมีแต่รอยยิ้มนะลูกเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจขอให้มันหมดไปนะลูกนะ”

รอฟังเหตุการณ์จากปากโอม...เกิดไรขึ้นกันแน่นะ...แต่เชื่อว่ากระต่ายจะ return ในไม่ช้า
 :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 15-01-2008 13:13:58
"ถึงแม้ไม่มีรักจากคนรัก  แต่ชีวิตเราก็ยังต้องดำเนินต่อไป   ไม่มีใครมาช่วยใครให้เลิกเจ็บปวด
จากความรักได้หรอกครับ  นอกจากตัวเราเอง"  ชอบประโยคนี้จังงงงงง   :impress:

แต่ประโยคที่ทำให้  :m15:  

“โอม....ปีใหม่แล้วแม่กับป๋าขอให้ลูกมีความสุขความเจริญ  สุขภาพแข็งแรง  มีแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิตนะลูกนะ” แล้วแม่กับป๋าก็สวมกอดผม  กลางทางเดินนี่แหล่ะครับแม่ลูบหัว ลูบหลัง ผมเบาๆ  แล้วก็ยังอวยพรผมต่อ

“ต่อนี้ไปลูกของแม่จะมีแต่รอยยิ้มนะลูกเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจขอให้มันหมดไปนะลูกนะ”

รอฟังเหตุการณ์จากปากโอม...เกิดไรขึ้นกันแน่นะ...แต่เชื่อว่ากระต่ายจะ return ในไม่ช้า
 :mc3:

แหะ แหะ ไม่ได้ตั้งใจลอกน๊า  แต่คิดเหมือนกันเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-01-2008 13:57:03
ชอบประโยคนี้มาก

อย่าหลงเชื่อในความรู้สึกรัก ซึ่งไม่แน่นอน  เมื่อรู้ว่าอารมณ์รักเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน  เราจึงไม่ควรใช้อารมณ์รักเพียงอย่างเดียวมาเป็นข้อตัดสินใจในการเลือกคู่ชีวิต
[/b] ... อารมณ์รักมันไม่ใช่ทุกสิ่งจริง ความเหมาสะมอื่นๆมันก้จำเป็นนะ

ว่าแต่เล่ามาเดี่นยวนี้ มานเกิดอะไรขึ้น   :serius2:  ไปต่ายยยย  นอกใจเหรอ  ไม่ยอมมมม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 15-01-2008 14:07:52
 :เตะ1:


รัก
...
...
...
รัก
...
...
...
รัก
...
...
...

รัก
...
...
...
...
...



รัก........ไม่ช่วยอะไร

 :m23:
แหะๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 15-01-2008 16:01:23
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
มาต่อเร็วๆเลยนะ ไม่เคลียร์อะ..................
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-01-2008 16:52:58
ทำไมส่งพี่ต่ายมาให้เค้ารัก  :o8:

 :angry2: แล้วฟางเอาพี่ต่ายเค้าไปไหนอะ

เค้าจะมาสมัครไปแฟนคลับพี่ต่ายอะ  :serius2:

เอาพี่ต่ายของเค้าคืนมาน้า...  :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nananon ที่ 15-01-2008 18:22:42
มานเกิดอะไรขึ้นกันแน่   ม่ายยยยยย  พี่ต่ายกลับมาด่วน   :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 15-01-2008 19:36:42
ไม่เคลียร์เลย  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:  :serius2: :serius2: เกิดอะไรขึ้นo :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 15-01-2008 22:02:53
รีบมาต่อนะคับ

จะได้หายงงสักที

ผมงงอยู่นะเนี้ย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 15-01-2008 23:09:26
รอคร้าบบบบ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: civava14 ที่ 16-01-2008 09:27:30
เตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้ซับน้ำตาตอนจบแระ

เอ้า ปูสาด ปูเสื่อ นั่งลุ้นกันหน้าคอมเนี้ยแระ

 :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 16-01-2008 09:35:04
อึดอัดๆๆๆๆๆ

เหมือนจะรู้เรื่องราว

แต่มันก็ไม่รู้อยุ่ดี

เกิดอะไร  ยังไง  ตอนไหน  ทำไม  เพราะอะไร

 :serius2:  :serius2:  :serius2:  :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 16-01-2008 09:48:12
บ้านที่ปลูก

เป็นของพี่ต่ายป่าวหว่า

รอคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-01-2008 10:30:29
 :เฮ้อ: ยิ่งเขียนยิ่งเครียด
++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 56

พี่อิงกับพี่บุ้งมองหน้ากันคงสงสัยว่าผมจะเปิดปากพูดเองเหรอ  เพราะผมไม่ยอมพูดเรื่องนี้กับใครมานานแล้ว  แต่ผมกลับรู้สึกว่าตัวเองอยากจะพูดมากกว่า  บางทีการที่ผมอึดอัดกับเรื่องพี่ต่ายมาเป็นเวลานานมันก็ต้องการ  การปลดปล่อยเหมือนกัน   เรื่องมันก็ไม่นานจนผมจะจำไม่ได้นี่  ก็แค่เท่าอายุน้องมะขามเอง
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เช้านี้ผมถือวิสาสะเดินเข้าไปในห้องพี่ต่าย  พี่ต่ายหันหน้ามาพอดีกำลังติดกระดุมเสื้อจะผูกไทด์ไปทำงาน  ผมก็เลยเสนอตัวเป็นผู้ช่วย  พี่ต่ายเอามือมาโอบรอบเอวผม แล้วเราก็เลยดูเหมือนยืนกอดกันโดยปริยาย พี่ต่ายก็ยืนมองหน้าผมอยู่ได้  ก็รู้อยู่แล้วว่าผมเขินนะเว้ย  :o8: 5555 เขินซะจนเกือบลืมเรื่องที่จะมาบอกพี่ต่ายไปแล้ว

“พี่ต่ายครับวันนี้ไปเจอกันที่โรงพยาบาลนะ  จะไปดูหน้าทายาทคนแรกของตระกูลหน่อย”
ลูกของพี่อิงกับพี่กู้งพี่สะใภ้ผมเองครับ  คลอดไปเมื่อวานนี้เอง ยังไงผมก็ลอยตัวแล้วครับมีทายาทแล้ว  วันนี้ก็เลยกะจะไปเยี่ยมซะหน่อย

 “วันนี้ผมมีเรียนตอนบ่าย  เสร็จแล้วว่าจะชวนบุ้งกับติงไปด้วยกันน่ะพี่”พี่ต่ายก็ฟังผมเฉยๆไม่ได้พูดอะไรครับยิ้มๆอย่างเดียว

“พี่ต่ายซื้ออะไรรับขวัญหลานดีล่ะ”ผมเองพูดไปก็ผูกไทด์ให้พี่ต่ายไปด้วย พอผูกเสร็จพี่ต่ายก็เอาตัวผมเข้าไปกอดซะแน่น

“พี่ต่ายเดี๋ยวเสื้อยับนะ  พี่จะไปทำงานแล้วด้วย”พี่ต่ายส่ายหน้าแล้วก็ไม่ปล่อย แถมมาหอมแก้มผมอีก

“ยับได้ก็รีดได้   แต่ตอนนี้ขอกอดแฟนหน่อยเดี๋ยวต้องไปทำงานก็ไม่ได้เห็นหน้าคิดถึงแย่”

“ไม่เบื่อบ้างรึไงพี่ หึหึหึ” ผมนะชอบครับทำเป็นฟอร์มบ่นๆไปอย่างนั้นเอง  แต่ที่จริงขออีกชอบบบบ
“ไม่เบื่อหรอก อยากจะขอกอดไปตลอดชีวิตเลยนะ” o18

พี่ต่ายหอมแก้มผมอีกที ผมก็ยังเขินอยู่ดี ไม่รู้จะเขินไปทำไม  เพราะคบกันมาเกือบ 2 ปีล่ะ   ถ้ามีลูกได้อาจจะโตจนจะวิ่งเล่นได้แล้วมั๊ง  เสียดายไข่ผมไม่ยอมตกซักที ฮ่าๆๆๆ พี่ต่ายก็ยังไม่ยอมปล่อยมือจากผม  ผมเลยต้องสรุปเรื่องของขวัญก่อน

 “พี่ยังไม่แนะนำผมเลยเอาไรดีน่ะพี่ให้หลาน”

ผมก็ยังลังเลว่าเราให้รวมกันจะดูแปลกๆไม๊  หรือว่าต้องแยกกันให้  จนถึงตอนนี้ที่บ้านก็ยังไม่รู้เรื่องผมกับพี่ต่าย

“เดี๋ยวพี่จัดการให้เอง....ให้ทีหลังก็ได้นี่อิงจะกลับวันไหน”

“ไม่แน่ใจเลยพี่  อย่างน้อยก็น่าจะต้องมาพักอยู่ที่บ้านอาทิตย์นึงมั๊งกว่าพี่กุ้งจะกลับไปที่นู่นได้”

 พี่อิงก็ยังไม่ได้พูดอะไรแน่นอนว่าจะอยู่กี่วันกัน  แต่ที่แน่ๆช่วงนี้คงต้องแยกห้องนอนกันอยู่ซักพักล่ะครับ เดี๋ยวก่อนไปมหาลัยผมก็คงต้องจัดการเรื่องข้าวของที่มันปะปนอยู่ให้เรียบร้อย พี่ต่ายคว้ากุญแจรถเตรียมจะลงไปข้างล่างละ  อีกมือก็เอามือผมไปกุมไว้  เราเดินลงไปข้างล่างพร้อมๆกัน

“พี่ต่าย...อีกไม่กี่เดือนโอมจะเรียนจบแล้วนะจะทำยังไงดีล่ะ”

“ทำอะไรยังไง...พี่ไม่เข้าใจ”พี่ต่ายจับมือผมแน่น มองหน้าผมแล้วทำขมวดคิ้วสงสัย :m28:

“ผมไม่แน่ใจว่าแม่จะให้กลับบ้านไปช่วยไม๊นะซิ  เพราะผู้สอบผมก็สอบได้แล้ว  เรียนโทก็จะจบแล้ว”

ผมเผลอดึงแขนพี่ต่ายมากอดแน่น  ลืมไปหมดที่ตัวเองพูดว่าเสื้อพี่ต่ายจะยับ ทำไมผมรู้สึกเหมือนกับว่ามันจะต้องมีอะไรที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปหลังจากผมเรียนจบ

“ให้พี่คิดดูก่อนนะ....”พี่ต่ายหันหน้ามาแล้วถามผม

“แต่โอมเองก็โตขึ้นแล้วนะลองคิดดูก่อนว่าจะเอายังไง.....พี่รับได้หมดกับทุกการตัดสินใจของโอม”
ผมไม่ชอบคำพูดแบบนี้เลย  มันดูดีหรือไม่ดีน่ะพูดไม่ถูก  อธิบายไม่ได้  ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะผมเองก็ยังคิดไม่ออกเหมือนกัน 

ผมไปเปิดประตูให้พี่ต่ายโบกมือให้  ตอนที่พี่ต่ายขับรถออกไป  เราไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยซักคำ  หลังจากนั้นผมก็ไปเรียนตามปรกติ  พอเรียนเสร็จก็ชวนบุ้งกับติงไปโรงพยาบาลไปเยี่ยมหลาน

“น้องน่ารักจังเลยตัวแดงเชียว  เห็นแล้วอยากมีลูกเนอะโอม”
ติงหันมาถามความเห็นผม  ผมเกือบเผลอพยักหน้าไปแล้ว  แต่พอนึกขึ้นมาได้กลับรู้สึกอายติงขึ้นมาจนได้  แต่คนที่หน้าแดงกลับเป็นติง   แล้วพูดต่อเหมือนรำพึงกับตัวเอง

“ถ้าเป็นลูกโอมจะหน้าตาเป็นแบบไหนน่ะ”

“ติงอย่าพูดแบบนั้นก็รู้อยู่แล้วว่าเป็นไปไม่ได้”

แล้วติงก็พูดต่อ“อยากมีลูกกับโอมน่ะ”  :sad5:ผมว่าผมตกใจกับหน้าตาเฉยๆของติงตอนที่พูดมากกว่า เลยแกล้งทำเป็นเล่นต่อไปด้วยเลย

“งั้นเรามาแต่งงานกันซิติง”

“โอมขอรึเปล่าล่ะ...ถ้าโอมขอติงก็แต่งนะ” ติงหันกลับมามองหน้าผมอย่างจริงจัง  :m17:เราสบตากันอยู่ครู่ใหญ่ แต่ผมกลับเป็นคนเบือนหน้าหนีไปก่อน

“เฮ้ยจะบร้าเหรอ...คุยอะไรกันสองคนนี้”บุ้งก็คงฟังมาตั้งแต่ต้นน่ะครับแต่คงฟังจนทนฟังไม่ได้เลยต้องขัดขึ้นมา

“บุ้งก็จริงจังไปได้ติงแค่พูดเล่นๆเอง....ยังไม่ชินอีกเหรอฮึ”ติงเอามือไปตีผลัวะที่ไหล่บุ้ง

“ไม่รู้ห้ามๆๆๆ พูดเล่นอะไรแบบนี้เราไม่ชอบ” บุ้งขมวดคิ้วยืนกอดอกทำหน้างอ o12

บุ้งก็ยังคงเป็นบุ้งครับ  ตอนนี้คงอนุญาตให้ผู้ชายคนเดียวใกล้กับผมได้คือพี่ต่าย  ตอนที่เรียนโทด้วยกันบุ้งก็กันผู้ชายที่เข้ามาหาเราทั้งกันให้ผมกันให้ติงด้วย

 ส่วนตัวเองเหรอครับยังเอาตัวเองไม่รอดจากคุณเอที่มีมานะพยายามในการจีบบุ้งมาตลอด  จนผมร่ำๆจะยกบุ้งไปให้กับคุณเอเป็นรางวัลแห่งความพยายาม  แต่ติดที่ว่าของรางวัลมันไม่ยอมน่ะซิครับ คุณเอทำยังไงบุ้งมานก็ไม่รัก  แต่ก็คบเป็นเพื่อนเที่ยวกันได้อย่างเดียวเท่านั้น

พวกเราสามคนดูหลานเสร็จก็เข้าไปหาพี่อิงที่ห้อง  พี่อิงกำลังจะออกไปพอดี

“อ้าวพี่อิงไปไหน...”

“เค้าลืมเอาที่ชาจแบ็ตมาน่ะโอม  กำลังจะออกไปโทรสาธารณะพอดี  ตัวเองเอาโทรศัพท์มาให้ยืมหน่อยดิจะคุยเรื่องงาน  แล้วจะโทรบอกแม่ด้วยเรื่องว่าต้องอยู่ทางนี้กี่วัน  กุ้งเดี๋ยวเค้าไปดูลูกหน่อยนึงดีกว่าจะไปถามพยาบาลด้วยว่าออกได้วันไหน  เดี๋ยวมานะ”

“อ่ะเอาไปดิ....แต่ของเค้าแบ็ตก็เกือบหมดเหมือนกันนะ”

ผมก็ส่งโทรศัพท์ให้ไปไม่ได้คิดอะไร  แล้วก็หันมาฟังติงคุยกะพี่กุ้งเรื่องคลอดลูก  ซักพักพี่อิงก็เดินออกไปโทรข้างนอกเพราะพวกเราเสียงดังมาก

ผมว่านานเป็นชั่วโมงนะครับกว่าพี่อิงจะกลับมาจนติงกับบุ้งจะลากลับล่ะ  ส่วนผมกะว่าจะรอกลับพร้อมพี่ต่าย  เพราะยังไงวันนี้พี่อิงก็ต้องนอนเฝ้าพี่กุ้งอยู่ดี  พี่อิงคืนโทรศัพท์ให้ผม  ผมเอามาดูโหยใช้จนแบ็ตเกือบหมดน่ะเหลือขีดเดียวเอง  โทรศัพท์ยังร้อนอยู่เลย  ถ้าเงินค่าโทรศัพท์ผมหมดเร็วต้องเก็บตังค์กับพี่อิงแล้ว

“อ่ะโอม...โทรศัพท์  เมื่อกี้ต่ายโทรมาน่ะว่ามาโรงพยาบาลไม่ได้ติดงานด่วนให้ตัวเองกลับบ้านเอง” พอฟังแบบนี้กำลังจะทวงค่าโทรจากพี่อิงก็ลืมไปเลยครับมาโวยอีกเรื่องแทน :o

“อ้าวพี่ต่ายทำไมทำงี้ล่ะ  เดี๋ยวโทรไปโวยหน่อยยังงี้เค้าก็ต้องนั่งรถเมล์กลับเองดิเซ็งอ่ะ”

“เห็นเค้าว่าจะเข้าประชุมน่ะ...โอมกลับบ้านไปก่อนไปไม่ต้องอยู่หรอก”

ผมว่าพี่อิงดูเครียดๆไปนะครับ  เวลาแกยิ้มให้เมียก็ดูหน้าตาเหนื่อยๆสงสัยจะกังวลเรื่องงานเพราะต้องทิ้งมาหลายวัน  บุ้งมานก็เลยชวนกลับพร้อมกันเลยครับ

“โอมงั้นเดี๋ยวกรูไปกับมรึงเองยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว  งั้นติงกลับพร้อมกันเลยเนอะ”

แล้วเราก็แยกย้ายกันไปครับ  พอถึงบ้านเพิ่งจะ 5 โมงกว่า ผมก็เลยนั่งดูทีวีรอพี่ต่าย  กะว่าให้พี่ต่ายซื้อของกินเข้ามาเลยดีกว่า  ผมก็โทรไปหาพี่ต่ายนานเลยครับกว่าจะรับสาย

“ว่าไงครับโอม”
เสียงพี่ต่ายดูเหนื่อยมากเลยครับ  แต่เสียงเงียบมากๆ หรือว่าประชุมอยู่ก็ไม่รู้

“พี่ต่ายซื้อส้มตำมาให้ด้วยนะอยากกินน่ะพี่เอาแซ่บๆนะ  ไก่ย่างด้วย”
ผมก็สั่งขอกินไปหลายอย่างนะครับพี่ต่ายก็พูดแต่ครับๆๆๆๆ  แล้วผมก็วางหูไป

ผมขึ้นไปอาบน้ำแล้วลงมานอนเล่นที่โซฟารอพี่ต่ายแล้วก็เผลอหลับไป   ตื่นขึ้นมาอีกทีเงียบมากๆไฟมืดไปหมด ผมก็ลุกขึ้นมานั่งงัวเงียพักนึงจนสายตาชินกับความมืด   ทีแรกผมตกใจตัวเย็นวาบก็เงาตะคุ่มๆอยู่ที่นั่งฝั่งตรงข้าม  :m29: พี่ต่ายมานั่งที่โซฟาเงียบๆไม่พูดอะไรไอ้ผมก็นึกว่าผีนะซิ  ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ด้วย   พอเห็นชัดๆว่าเป็นใคร ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ :เฮ้อ:

“พี่ต่ายชอบเล่นแบบนี้อีกล่ะ  กลับมาแล้วทำไมไม่ปลุกมานั่งมืดๆ  กลัวน่ะเนี่ยพี่กระต่าย   เกิดผมหัวใจวายไปจะรีบไปหาแฟนใหม่ล่ะซิ  บอกก่อนนะผมไม่ตายไม่ยกให้ใครด้วย”

ผมลุกขึ้นเดินผ่านหน้าพี่ต่ายจะไปเปิดไฟ แต่พี่ต่ายดึงมือผมให้นั่งลงที่ตัก  พี่ต่ายกอดผมแน่น  ยังเงียบอยู่ไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนพี่ต่ายเครียดๆนะผมว่า

“พี่ต่ายเป็นอะไร   เหนื่อยเหรอพี่” :haun5:

ผมเอามือขึ้นคล้องคอพี่ต่ายไว้แล้วเอามือไปบีบที่หัวไหล่พี่ต่ายมันตึงมากๆเลยครับ พี่ต่ายก็ยิ้มอ่อนโยนมาให้ผมยังไม่พูดอะไรอีก

“ติดใจล่ะซิ  เจอนวดแล้วเงียบเชียวนะพี่   ไม่รู้มาก่อนเลยว่าพี่ชอบ  วันหลังโอมไปเรียนนวดที่วัดโพธิ์ดีกว่า  เอาไว้บริการแฟนตอนทำงานกลับมาเหนื่อยๆ ดีไม๊พี่”

ผมก็พูดไปเรื่อยล่ะครับ  ถ้าแฟนเราพูดน้อยเราก็ต้องพูดมากขึ้น  ไม่งั้นต่างคนต่างไม่พูดก็ไปบวชกันดีกว่าอึดอัดตายเลย  แต่วันนี้ผมว่าพี่ต่ายต้องเครียดเอามากๆเลย  พูดน้อยมากกก

 ผมอ้าปากจะชวนคุยต่อ  แต่พี่ต่ายก็เอาปากมาปิดปากผมไว้ สัมผัสอ้อยอิ่งเนิ่นนานแต่อบอุ่นอ่อนหวานมากที่สุดในความรู้สึกของผม  มันอ้อยสร้อย โหยหา  เรียกร้อง แล้วบางทีก็เร่าร้อน สัมผัสครั้งนี้นานจนผมจะขาดใจ  พี่ต่ายประคองหน้าผมไว้ขณะที่จูบผม  เมื่อพี่ต่ายผละออกมาผมยังใจหวิวๆอยู่เลย แล้วพี่ต่ายก็ซบหน้าลงบนบ่าผม  เสียงแผ่วเบาของพี่ต่ายดังแว่วเข้ามาในหูผม

“โอม.....พี่ขอบคุณนะ  อุตส่าห์จะไปเรียนนวดให้พี่  แต่ไม่ต้องหรอกพี่ไม่อยากให้โอมต้องไปโดนเนื้อต้องตัวใครพี่หวง” ยังจะมาหวงอีกครับ

“พี่ต่ายล่ะก็  ผมก็พูดไปงั้นแหล่ะพี่  ยังไม่มีเวลาเลย หึหึหึ  ไม่ไปเรียนก็นวดได้น่า”

แล้วผมก็นวดไหล่ให้พี่ต่ายไปเงียบๆ  ไม่รู้ว่าผมอุปทานไปรึเปล่าว่าพี่ต่ายผ่อนคลายมากขึ้นแต่ก็ยังไม่พูดอะไรอยู่ดี  นวดจนเมื่อยมือน่ะครับ

“พี่ต่ายผมหิวแล้วไปกินข้าวกันนะ”
ผมกำลังจะลุกขึ้น แต่มือของพี่ต่ายที่เอว  รั้งตัวผมเอาไว้  พี่ต่ายยังไม่เงยหน้าจากไหล่ผม เสียงของพี่ต่ายดูเหนื่อยจริงๆ

“เดี๋ยวได้ไม๊วันนี้พี่เหนื่อยมากๆ  ขอกอดโอมอีกซักนาทีนะ”
 
เรานั่งกอดกันเงียบๆอยู่นานทีเดียวครับผมว่ากว่านาทีแน่ๆ   แต่ผมก็มีความสุขดี  ตลอดเวลาที่คบกันเราอยู่ด้วยกันก็จริงแต่ช่วงหลังงานพี่ต่ายค่อนข้างยุ่ง  บางทีผมก็ต้องทำรายงานดึกๆไม่ค่อยมีเวลามาทำซึ้งกันบ่อยเหมือนแต่ก่อน

“ไปโอมไปทานข้าวกัน”
ไม่นานพี่ต่ายก็ปล่อยตัวผมแล้วจูงมือไปที่โต๊ะอาหาร  ผมเพิ่งสังเกตว่าบนโต๊ะมีจุดเทียนด้วยแต่อาหารเป็นไก่ย่างส้มตำ  พี่ต่ายตลกดีครับ  ซึ้งแบบอีสานรึไงไม่รู้    ผมเลยหันไปหาพี่ต่ายแล้วบอกว่า

“พี่ต่ายรู้ปะว่ามันแปลกๆ  ให้เข้ากันนะพี่ผมว่ามีบั้งไฟดีกว่า  มันถึงจะเข้ากับส้มตำ5555”
 :laugh3: พี่ต่ายแค่ยิ้มๆแล้วส่ายหัวครับ  วันนี้ไม่ค่อยทานเอาแต่มองหน้าผมเป็นส่วนใหญ่

 แต่ตอนนี้ผมหิวมากก็เลยทานอย่างเดียวเลยครับไม่สนใจอะไร  แปลกมากๆกินส้มตำกี่ครั้งก็ยังชอบ  บางทีเผ็ดจนน้ำตาไหล  เวลาเข้าห้องน้ำทรมานช่วงล่างมากที่สุด   แต่พอถึงเวลาก็อดที่จะชอบกินไม่ได้ ผมมานึกๆส้มตำก็เหมือนกับความรักน่ะครับบางทีก็ทำให้เราถูกใจกินไปยิ้มไป  แต่บางครั้งก็ทำเราน้ำตาไหลกินไปร้องไห้ไป  แต่สุดท้ายเราก็ขาดมันไม่ได้ต้องกลับมากินซ้ำไปซ้ำมาไม่มีเบื่อ

“พี่ต่ายขอค่าสึกหรอด้วยนะ”ผมเงยหน้ามองพี่ต่ายยิ้มๆ :oni1:

“ค่าสึกหรออะไรโอม”พี่ต่ายก็ยังมองผมอยู่ดี เลิกคิ้วสงสัย

“ก็เนี่ยเห็นมองผมตั้งนาน   จนถ้ามันวัดค่าออกมาได้ผมว่าผมได้ตังค์หลายแสนแล้วนะค่าตัวผมคิดเป็นวินาทีนะพี่ 555” :teach:

“เท่าไหร่พี่ก็จ่ายของมองหน่อยนะ”

เสียงพี่ต่ายเศร้ามากๆเลยครับ แววตาก็ไม่สดใสเหมือนเคย เป็นอะไรไปหว่า  หรือโดนพี่คมลวนลามมาเลยจิตตก  พี่คมแกก็อดทนครับยังทำตัวเป็นหมาป่าคอยจะงาบลูกแกะอย่างพี่ต่ายเรื่อย  นานๆทีผมก็ต้องออกไปแสดงตัวซักที  แกก็ถอยไปพักนึงแล้วเอาใหม่อีกล่ะ

“พี่ต่ายงานเยอะลาออกดีกว่าพี่   แฟนคนเดียวโอมเลี้ยงได้เรารับจ๊อบ audit กันนะ”พี่ต่ายหัวเราะกิ๊กเลยครับ  o3
 
“ไม่ต้องมาเลี้ยงพี่  พี่จะเก็บเงินไว้เลี้ยงโอมเองเจ้าเด็กขี้งอน”

พี่ต่ายพูดแค่นี้ครับแล้วหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดเรื่องอะไรกันจริงๆจังๆอีก  ทานข้าวเสร็จแปรงฟันผมก็เข้านอนไปก่อนตามปรกติ  พี่ต่ายอาบน้ำเสร็จก็ตามเข้ามานอนในห้องผม

พี่ต่ายเข้ามากอดผมค่อยๆถอดเสื้อผมออก  ผมก็พอรู้น่ะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้นแต่วันนี้อารมณ์ดีเพิ่งจะได้หลานเลยแซวพี่ต่ายไปว่า

“พี่ต่ายจะหาน้องให้ไปเป็นเพื่อนเล่นลูกพี่อิงหรือพี่  ได้เลยพี่7วันก่อนมีเมนส์พอดีช่วงไข่ตกมาเลยพี่” ผมยักคิ้วให้พี่ต่ายด้วย หุหุ แรดซะไม่มี   :kikkik:

มือพี่ต่ายที่กำลังจะดึงกางเกงผมลงหยุดเลยครับ   :m30: แล้วแกก็เปล่งเสียงหัวเราะเอาเป็นเอาตายเอามือกุมท้อง จนผมอดขำท่าทางพี่ต่ายไปด้วยไม่ได้ ตอนนี้เราเลยนอนหัวเราะกันสองคน  :laugh: :laugh: แล้วพี่ต่ายก็หันมามองหน้าผม เอามือมาเขี่ยผมที่หน้าผากเบาๆ  ค่อยๆเอามือลูบแก้มผม เอามือเท้าคางนอนตะแคงมองหน้าผม แล้วพูดค่อยๆว่า
 
“ถ้าพี่ไม่มีโอมแล้วพี่จะหัวเราะได้แบบนี้อีกไม๊น่ะ” ผมก็เลยพูดตามไปยิ้มๆ

“ถ้าผมไม่มีพี่ต่ายแล้วผมจะหัวเราะได้แบบนี้อีกไม๊น่ะ”  :impress:พี่ต่ายไม่พูดอะไรครับแต่ดึงตัวผมเข้ามากอด  นิ่งไปพักนึงแล้วถึงพูดว่า

“ต้องได้ซิโอมน่ะอารมณ์ดีจะตาย  พี่ก็เห็นเรายิ้มได้ทุกที”

แล้วพี่ต่ายก็ลูบไล้หลังผมเลื่อนมือขึ้นมาจากลำตัวไล่ขึ้นไปที่คอ    พี่ต่ายฝังจมูกลงที่ซอกคอผมแล้วเลื่อนมาที่แก้มสูดความหอมจากแก้มผมแล้วมาอ้อยอิ่งอีกครั้งที่ริมฝีปาก  พี่ต่ายกัดริมฝีปากผมเบาๆผมเองก็สนองตอบไปด้วย   เราจูบกันเนิ่นนานไม่แพ้เมื่อตอนเย็น   ผมว่าเป็นจูบมาราธอนอย่างกับว่าเตรียมตัวจะไปเข้าแข่งขันลงกินเนสบุ๊ค
   
พอพี่ต่ายจะหยุดผมก็เริ่มต่อ   พอผมจะหยุดพี่ต่ายก็ต่ออีกจนเราเหนื่อยไปด้วยกันทั้งคู่  แล้วพี่ต่ายก็หยิบเสื้อมาใส่ให้ผม  ผมแอบงงนิดหน่อย :confuse:

แต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไรจนพี่ต่ายใส่เสื้อห่มผ้าให้ผมเสร็จ แล้วพี่ต่ายก็จูบผมเบาๆที่หน้าผากแล้วพูดว่า

“คืนนี้พี่ขอนอนกอดโอมอย่างเดียวดีกว่า  ระหว่างเรามันไม่ใช่แค่เรื่องนั้นซักหน่อย”

ผมเองพี่ไม่ทำผมก็ไม่ว่าครับจะให้ผมทำเองก็ออกจะไม่งาม 5555  อย่างที่พี่ต่ายบอกว่าระหว่างเรามันไม่ใช่แค่เรื่องนั้น   ผมก็เลยนอนหลับไปในอ้อมกอดพี่ต่ายอย่างสบายใจ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ต่ายลุกไปตอนไหน  ขนาดว่าวันนี้ผมตื่นเช้าเพราะมีเรียนแต่เช้าก็ยังไม่ทันพี่ต่ายเลย  สงสัยออกไปแต่เช้ามาก  ผมก็รีบออกไปเรียนไม่ได้สนใจอะไร  วันนี้ทั้งวันผมก็วุ่นวายเรื่องเตรียมสอบคอมพรีฯ  ติวสอบกับเพื่อนจนบ่ายๆพี่อิงโทรมาหาผม

“โอมวันนี้พี่กลับที่ร้านนะ  ไม่ต้องมาหาพี่ที่โรงพยาบาล”เสียงพี่อิงเหมือนคุยอยู่ในรถน่ะครับ  คงกำลังขับรถกลับต่างจังหวัดอยู่

“อ้าวแล้วใครเฝ้าพี่กุ้งล่ะพี่   โอมไปเฝ้าให้ไม๊”ผมก็เอ๊ะพี่อิงทิ้งเมียไปได้ไงกัน  ห่วงงานมากกว่าเมียอีกเหรอ

“ไม่ต้องเฝ้าหรอกกุ้งเค้าโอเค  พรุ่งนี้จะออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว”

“ก็ได้งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่กุ้งออกจากโรงบาลเมื่อไหร่  พี่อิงโทรบอกเค้าแล้วกันเค้าจะได้ไปช่วยย้ายของ”

แล้วพี่อิงก็ถามแปลกๆครับ“โอมอยู่คนเดียวได้ใช่ไม๊”
ผมก็งง  ก็พี่อิงก็รู้อยู่แล้วนี่ว่าพี่ต่ายอยู่ที่บ้าน

“อยู่ได้.....ก็พี่ต่ายก็อยู่ลืมแล้วเหรอตัวเอง”

“เอ่อลืมไป...แค่นี้นะโอมพรุ่งนี้เจอกัน”

แล้วพี่อิงก็วางสายไป  ผมก็ติวต่อครับจนเย็นก็โทรหาพี่ต่ายจะถามว่าเย็นนี้จะให้ผมซื้ออะไรเข้าไปทานไม๊แต่ก็โทรไม่ติดครับ  ไม่รู้ว่าแบ็ตหมดรึเปล่า  ผมก็เลยโทรเบอร์ที่ทำงานก็ไม่มีคนรับ  ผมเลยจนปัญญากลับบ้านไปก่อนแล้วไปหาซื้อเอาดาบหน้า

พอกลับไปถึงบ้านเงียบสนิท  ดูบรรยากาศวิเวกวังเวงวิเหว๋โหว๋วยังไงไม่รู้ครับ  ผมก็นั่งพักแป๊ปนึงพอหายเหนื่อยแล้วก็ต่อโทรศัพท์หาพี่ต่ายก็ยังไม่ติดอีก  ผมก็เลยไปอาบน้ำก่อน  กะว่าเดี๋ยวมารอกินข้าวพร้อมพี่ต่าย

รอไปจนสามทุ่ม  รอไม่ไหวเลยโทรหาบุ้งโทรไปบ่นกับมัน

“บุ้งพี่ต่ายหายไปไหนไม่รู้ติดต่อไม่ได้อีกแล้วล่ะ   ทำไงดีว่ะ”อย่างน้อยก็ดีกว่าบ่นอยู่คนเดียวไม่มีคนได้ยิน   ยังไงบุ้งก็เป็นคนยังโต้ตอบได้

“กรูจะไปรู้ได้ไง  พี่ต่ายไม่ใช่แฟนกรูนี่หว่า”อ๊ะไอ้นี่กวนผมแล้ว  คนกำลังอารมณ์ไม่ดีนะ

“งั้นกรูวางสายล่ะ....ไม่ช่วยคิดยังมากวนตรีนอีกนะเมิง” :angry2:

“โอ๋ๆๆๆๆ.....อ่ะคุยยยย  มีแฟนแล้วยังมางอนกรูอีกนะไอ้โอม”ดูมันพูดครับ อิอิ แต่ก็จริงของมัน
 
“ก็มันหงุดหงิดนี่หว่า   ทำไมพี่ต่ายไม่ติดต่อมาเลยล่ะ” :serius2:

“แล้วกรูจะรู้ไม๊เนี่ย  วันหลังมรึงเอาพี่ต่ายไปติดGprsเลยไป  หายตัวไปไหนก็หาเจอ”

ผมล่ะอยากตื๊บมัน แต่ก็ขำที่มันพูด  อยากจะบอกว่ากรูทำได้กรูทำไปแล้ว  ชอบหายตัวประจำพี่ต่ายเนี่ย แต่ก็ยังดีที่กลับมาเองทุกครั้งผมไม่ต้องไปตาม  หรือจะเลี้ยงหมาซักตัวเอาไว้ตามกลิ่นดี   ก็กลัวจะเว่อร์เกินไป

“มรึงโทรไปหาพี่คมให้กรูหน่อยดิ   แล้วเมิงคุยอ้อมๆสืบให้รู้ให้ได้ว่าพี่ต่ายไปไหนนะ  ทำได้ไม๊”

 ผมต้องหาผู้ช่วยแล้วครับเกือบ 4 ทุ่มแล้วพี่ต่ายยังเงียบหายอยู่เลย  ช่วยไม่ได้นะเมิงอยากเกิดมาเป็นเพื่อนกรูเอง  ฟ้าส่งผมมาเกิดแล้วส่งบุ้งมาเป็นผู้พิทักษ์ครับ หุหุหุ แต่ไอ้บุ้งมันโวยขึ้นมา  มันก็ยังไม่อยากไปสืบให้ผมอยู่ดี

“กรูพูดไม่เป็นมรึงก็รู้พี่คมฉลาดชิบหาย   กรูกลัวโดนจับได้” กรูรู้เค้าฉลาดมาก  มรึงก็ซื่อมากกก

“เอางี้ดิ  มรึงก็ทำเป็นโทรไปหางานทำกะพี่เค้า  บอกว่ากำลังจะจบโทแล้วก็เฉไฉเลี้ยวไปหาพี่ต่ายไง  แค่เนี้ยได้ไม๊ล่ะ”

  ถ้าผมโทรไปเองก็เสียฟอร์มซิครับเป็นแฟนกันแต่ไม่รู้เรื่อง  เพราะพี่คมก็ยังเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของผมอยู่ก็ต้องให้คนอื่นล่ะครับ  แต่ก็หวั่นๆว่าบุ้งจะทำแผนแตก ก็มานซื่อขนาดนั้นผมเลยต้องเตรียมเรื่องไว้นิดนึง 

“เออก็ได้...แล้วมีอะไรเป็นรางวัล” เราร้อนใจมันยังมีอารมณ์มามีลูกเล่นกะผมอีก ผมเลยบอกมันไปแบบนี้ล่ะครับ 555

“รางวัลน่ะเหรอกรูจะให้เมิงหอมพี่ต่ายทีนึง....หวงนะเว้ยไม่รักกันจริงไม่มีให้” :teach:

“ไอ้โอมกรูไม่เอา....เดี๋ยวจะได้ตรีนพี่ต่ายแถมมาเป็นโบนัสน่ะซิ” มันมาทำเสียงขยะแขยงครับ  แฟนผมออกจะหล่อแก้มก็หอม  ไม่เอาก็อย่าเอา

“มรึงรอกรูแล้วกันนะ   จะพยายามเต็มความสามารถที่กรูมี”

ก็ไอ้ความสามารถที่มันมีนี่แหล่ะครับที่น่าเป็นห่วงที่สุด   ผมไม่อยากจะบั่นทอนความเชื่อมั่นมัน  พอวางสายเสร็จผมก็รอด้วยความกระวนกระวายใจ 10 นาทีก็แล้ว15 นาทีผ่านไป จน30นาทีครับ  มันถึงโทรกลับมา

“ว่าไงบุ้ง...ว่าไงได้เรื่องเปล่า”

ผมละล่ำละลักถามมันไป  เพราะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมมันคุยกะพี่คมนานจัง  ทีแรกบุ้งมันก็เงียบๆนะครับจนผมต้องถามมันซ้ำ

“อ้าวว่าไง...เงียบทำไมล่ะบุ้งได้เรื่องไม๊” พักนึงมันถึงเปิดปากออกมา

“กรูว่ามันไม่ได้เรื่องนะซิโอมมันจะเสียเรื่องแล้ว....มรึงไม่รู้เลยเหรอว่าพี่ต่ายลางานสองอาทิตย์ตั้งแต่วันนี้แล้ว”

พอบุ้งมันพูดเท่านั้นล่ะครับผมขาอ่อนต้องเอามือไปจับพนักเก้าอี้เอาไว้นี่มันเกิดอะไรขึ้น ไม่เห็นพี่ต่ายเล่าอะไรเลย ได้ยินเสียงบุ้งมันเรียกแว่วๆ

“โอมๆฟังอยู่ไม๊......มรึงมีอะไรกันรึเปล่า...ให้กรูไปหาไม๊โอม”

เสียงบุ้งมันก็เป็นกังวลห่วงผม  แต่ใจผมมันไม่รับรู้อะไร  ตอนนี้มีแต่ความสงสัยเท่านั้นว่าเกิดอะไรกับพี่ต่าย  ผมไม่รู้ว่าผมตอบบุ้งไปว่าอะไร  เหมือนจะพูดไปว่า

“ไม่ต้องมาหา   กรูไม่เป็นอะไรกรูจะรอพี่ต่ายเอง  แค่นี้นะขอบใจนะเมิง  เด๋วพี่ต่ายกลับมากรูให้หอมทีนึง”แล้วผมก็วางสายครับ

  นั่งงอยู่พักใหญ่แล้ววิ่งขึ้นไปข้างบนที่ห้องพี่ต่าย  ปรกติพี่ต่ายก็ไม่ล็อคประตูอยู่แล้ว  ผมก็เลยเปิดเข้าไปอย่างง่ายดาย  พอเปิดประตูไปเท่านั้น  ผมก็ขาอ่อนไปอีกหนจนคราวนี้นั่งกองลงไปกับพื้น  ในห้องไม่มีของพี่ต่ายเหลืออยู่เลยครับ  เก็บทำความสะอาดเรียบร้อยเหมือนก่อนที่พี่ต่ายจะย้ายมาอยู่ไม่มีผิด
 
ผมขยี้ตาอีกครั้ง หยิกแก้มตัวเองหลายหน  ว่าผมเมาไปรึเปล่า  แล้วก็สงสัยว่าเมื่อกี้คุยโทรศัพท์มากไปรับคลื่นจากโทรศัพท์มากไปจนสมองเสื่อมรึเปล่า  แต่ภาพที่ผมเห็นก็ยังคงเหมือนเดิม     ผมบอกกับตัวเองอย่างงงๆด้วยเสียงที่สะท้อนอยู่ในใจของผมคนเดียวว่า

“พี่ต่ายไปแล้ว......” o7
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
วิ่ง :o12: :o12: อีกรอบนึง  ก่อนจะม้วนตัวหนีก้อนอิฐของคนอ่านที่เขวี้ยงมา
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 16-01-2008 10:46:07
มาจิ้มตูดนักเขียนก่อน   :oni2:

โทษฐานทำให้คนอ่านค้างคา  o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 16-01-2008 10:47:56
บัวเตรียมอิฐไว้พร้อมแล้วนะฟาง   :oni2:


รอดูว่าจะได้ขว้างรึป่าว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 16-01-2008 10:48:07
 :m15: :m15: :m15: กระต่ายหอบผ้าหอบผ่อนหนีโอมไปแล้วอ่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 16-01-2008 10:55:20
 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:


มารุมคนแต่งงงงง

ต้องเอาหนักหนัก!!!
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 16-01-2008 11:09:09
ตอนแรกเฉย ๆ แต่ตอนนี้เริ่มโกรธ  o13 คนแต่งแล้ว  อย่างนี้ต้องให้น้องมาเดินขบวนประท้วงซะหน่อยแล้ว

 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 16-01-2008 11:10:04
พี่ฟาง.... :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 16-01-2008 11:29:54
 :a4:พี่ต่ายเค้าต้องมีเหตุผลแน่นอนถึงได้ตัดสินใจอย่างนี้    แต่ก็อยากรู่ว่าทำไม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 16-01-2008 11:35:19
มาต่อยาวๆๆๆๆๆๆๆๆเลยคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: civava14 ที่ 16-01-2008 11:35:48
 :seng2ped:

ก้อนอิฐอยู่ไหน ทำมัยชอบทำให้ค้างคากันนักน่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 16-01-2008 12:32:23
โฮกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

ไอ้พี่ต่ายบ้า
จะไปจะมาช่วยเคลียร์กับโอมก่อนด้ายม้ายยยย

ปวดใจอ่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 16-01-2008 12:56:39
 :a5: ได้งั้ยอ่ะ ไปไม่บอกไม่กล่าว  :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 16-01-2008 13:02:32
เค้าอ่านตอนที่แล้ว
อ้างถึง
“ต่อนี้ไปลูกของแม่จะมีแต่รอยยิ้มนะลูกเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจขอให้มันหมดไปนะลูกนะ”

เค้าว่าพี่กระต่ายอ่ะ คุยกะครอบครัวของโอมเรียบร้อยแระ แต่โอมอ่ะมะสนใจมะใส่ใจเอง ก็เหมือนตอนที่ติงกำลังพูดถึงแล้วโอมปฏิเสธที่จะรับรู้นั่นละ

แต่ ... พี่ต่ายก็น่าจะบอกอะไรมั่งนะ มะใช่หายไปดื้อ ๆ แบบนั้น
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 16-01-2008 13:09:44
ตอนพี่อิงเอาโทรศัพทืโอมไปใช้แน่ๆเลย .... พี่ต่ายคงโทรมานึกว่าโอม คงพูดไรไปแน่ๆ ทำให้พี่อิงรู้  :a6:

ในมือถือก็ยังมีรูปถ่ายด้วยกันอีกนี่  :a5:.... พี่อิงคงไม่ปลื้ม ยังรับไม่ได้ คงคุยกับพี่ต่ายไป ทำให้พี่ต่ายต้งตัดสินใจไปจากโอมทั้งที่ยังรัก  o7

มันเป็นแบบนี้ใช่ป่าว .... น่าสงสารพี่ต่าย น่าสงสารโอม น่าสงสารทุกๆคน  :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 16-01-2008 13:24:42
อ่านไปด้วยใจหวาดหวั่นนนนน ไม่รู้ก็อยากรู้ พอจะรู้ก็กลัว.... :sad2:
กระต่ายทำไร ไปไหนทำไมไม่บอก ... เพราะอะไร ทำไมต้องไป
สารพัดคำถามเลยวุ้ยยยย  o12
รอ
รอ
รอ
 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: krit-c ที่ 16-01-2008 13:35:04
ก่อนได้อ่านก็ลุ้น ...  :oni1:อ่านไปก็บีบหัวใจ ...  :m15:อ่านจบก็ยังต้องลุ้นต่อไปอีก .... ยังไงก็รีบมาต่อนะคร๊าบบบบบบ ... :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ปั่ น ป่ ว น ที่ 16-01-2008 14:18:25
 :serius2: :serius2:  พี่กระต่ายหายไปไหนอ่าาาาา    :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 16-01-2008 14:24:28
 :a6: :a6:ทำไมเปงแบบเน้หล่ะเนี่ยยยยยยยยย....

ม่ายยอมน๊า.. :o12: :o12:

คนแต่งใจร้ายอ่า..... :m15: :m15:

ถ้าม่ายแฮปปี้จะโป้งด้วย.. o12 o12

 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 16-01-2008 20:47:42
 :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-01-2008 20:56:35
 :m15: ได้แต่เดาไปสารพัด  :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 16-01-2008 21:52:34
 :m15: :m15:  หายไปแบบนี้เนี่ยะนะครับ  ทำไมมีไรไม่พูดกัน  o12 o12 ทิ้งไว้อย่างนี้ถ้าจิตไม่แข็งพอเนี่ยะ  แล้วทำร้ายตัวเอง  อะไรก็คงสุดที่จะแก้ไขได้นะคับ  :m17: :m17:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 16-01-2008 22:14:32
ง่ะ

ไม่ยอม

มาต่อด้วย

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 16-01-2008 22:15:07
คงต้องโทษคนแต่งละว่าใจร้ายที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Y_Yami ที่ 16-01-2008 22:23:07
อ๊ากกกกกก :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

คนเขียนใจร้ายยยยย..ขอความกระจ่างด่วน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: wutwit ที่ 17-01-2008 09:20:48
ยังไม่มาต่ออีก งอนแล้วน้า.......... o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 17-01-2008 09:45:20
มาต่อแล้วค่ะ ด้วยความช้ำใจ ใครๆก็ไม่ร๊ากกก :sad2:
เดี๋ยวก็จบไปเลยซะดีไม๊เนี่ย :a14:
++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 57

“พี่ต่ายไปแล้ว....พี่ต่ายไปไหน” :m15:

ผมเฝ้าวนเวียนถามตัวเองหลายครั้งแต่ก็ไม่มีใครตอบ  ผมโซซัดโซเซเดินกลับมานั่งซึมอยู่ที่ห้อง  แต่แปลกที่ไม่มีน้ำตาไหลมาซักหยด  หันหน้ามองไปรอบๆห้องทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนเดิม  แต่ทำไมมันช่างหนาวขนาดนี้นะ  ผมลุกไปดูว่าเราเปิดแอร์เย็นไปหรือเปล่า  แต่ปรากฏว่าผมยังไม่ได้เปิดแอร์ด้วยซ้ำ

ผมโอบตัวเองด้วยความหนาวหันไปเห็นซองจดหมายอยู่บนโต๊ะ  ผมรีบลุกไปหยิบมาเปิดอ่านด้วยมือไม้สั่น  พี่ต่ายต้องมีธุระด่วนแล้วทิ้งจดหมายไว้บอกผมแน่นอน

แต่พอเปิดออกมาเห็นเป็นพันธบัตรออมสินใส่ชื่อพี่อิง จำนวนเงิน20,000 บาทแล้วก็มีจดหมายเขียนด้วยลายมือพี่ต่ายสั้นๆสองใบ
ใบแรกเขียนว่า

อิงเพื่อนรัก

ให้หลานคนแรกของเราด้วยความรัก
จากต่ายและโอม
ใบที่สองเขียนแค่ว่า

พี่ต่ายรักโอม

มีแค่นี้เองครับผมพลิกไปดูด้านหลังก็ไม่มีอะไร  เอาไปส่องกับไฟก็ไม่มีหรือว่าต้องมีวิธีพิเศษแบบในหนังเอาไฟลน  หรือเอาไปจุ่มน้ำแล้วตัวอักษรจะขึ้นมา  ผมก็สติแตกคิดไปเรื่อยครับ  แล้วก็รู้ว่ามันไม่มีหรอก  มันก็มีแค่นี้เอง  ความจริงมันก็มีอยู่เท่าที่ในมือผมแค่นั้นเอง   :undecided:ผมเชื่อในสิ่งที่พี่ต่ายบอกว่าพี่ต่ายรักผม  แต่พี่บอกแค่นี้มันสั้นเกินไป

ผมนั่งซึมยังคิดไม่ออกว่าควรจะทำอะไร  แล้วสักพักผมก็คิดขึ้นมาได้  พอดูนาฬิกาตี1 แล้วครับ ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าหยิบกระเป๋าสตางค์ลงไปข้างล่าง

บรรยากาศมันเงียบและหนาวมากเลยครับ  ได้ยินเสียงหมาหอนรับส่งกันเป็นระยะ เห็นจักรยานจอดนิ่งอยู่ที่หน้าบ้าน  นี่คงเป็นสิ่งเดียวที่พี่ต่ายทิ้งไว้คงจะลืมเอาไปด้วย  ผมคว้าจักรยานมาขี่ไปตามถนนที่ว่างเปล่า   ผมขี่ไปใจก็คิดไม่ออกว่ามันเกิดอะไรขึ้น  เมื่อวานนี้เราคุยอะไรกัน  เราทำอะไรกัน เราไม่ได้โกรธกันหรืองอนอะไรกันเลยนี่  ผมเริ่มน้ำตาเอ่อ  แล้วผมก็ตะโกนออกมาดังๆอย่างไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นแล้ว

“กรูไม่เข้าใจโว้ย!!!!!!!!”   :serius2:

พี่ต่ายไม่ได้ยินครับ  แต่หมามันหอนรับกันเกรียวเลย มันคงคิดว่ามานก็ไม่เข้าใจว่าไอ้บร้านี่มันเป็นอะไร  จะตะโกนไปทำไมดึกๆดื่นๆ

 น้ำตาผมไหลพร่างพรูอาบแก้ม  ผมขี่จักรยานไปด้วยดวงตาที่พร่ามัวไปด้วยหยาดน้ำตา  o7  จนมาถึงบ้านหลังเดิมที่ผมเคยมากับพี่ต่าย  ถึงจะมาไม่บ่อย  แต่ผมก็จำทางมาได้ดี  ที่นี่เป็นบ้านของพี่ต่ายครับ

 บ้านที่พี่ต่ายเคยพูดว่าอยากให้ผมมาช่วยแต่งบ้าน  บ้านที่พี่ต่ายบอกว่าจะเก็บไว้เผื่อโดนผมไล่ออกจากบ้านจะได้มีบ้านอยู่  แต่กลับไม่มีแม้แต่เงาของพี่ต่าย  รถก็ไม่มีจอด  บริเวณบ้านเงียบเชียบ สวนก็ยังสวยเหมือนเดิมเพราะพี่ต่ายหมั่นมารดน้ำต้นไม้ดูแลเสมอๆ   อากาศยามดึกทำให้ผมต้องห่อตัวด้วยความหนาว
 
ผมจอดจักรยานแล้วตัดสินใจปีนรั้วเข้าไปในบ้าน   เข้าไปส่องดูด้านในตามหน้าต่าง  ภายในบ้านก็ยังคงว่างโล่งเหมือนเดิม  ไม่มีข้าวของอะไรมาวางอยู่   ผมคิดไม่ออกจริงๆว่าพี่ต่ายทำอะไรอยู่  แล้วไปไหน   สุดท้ายผมก็ต้องปีนออกมาแล้วทรุดตัวนั่งลงบนฟุตบาทหน้าบ้านพี่ต่าย

“งงโว้ย!!!!!!!!!” :serius2:
 
ผมตะโกนระบายความอัดอั้นออกมาอีกที  ผมนั่งชันเข่าเอามือกุมหน้าผาก แล้วก็นั่งอยู่อย่างนั้นล่ะครับ  น้ำตามันก็ไหลไปเรื่อยๆ  ไม่มีการฟูมฟาย  มีแต่ความทรมานใจ  ทิ้งกันไปง่ายๆอย่างนี้เลยเหรอ  นี่เหรอคนที่รักกัน  ผมทำอะไรผิดผมก็ยังไม่เข้าใจ ไม่มีแม้แต่คำอธิบาย   :o7:

จนเริ่มเห็นแสงอาทิตย์รำไร  ผมถึงเริ่มรู้สึกตัวผมลุกขึ้นยืนด้วยความปวดเมื่อย เดินไปที่จักรยานอย่างช้าๆ   แล้วก็ขี่กลับบ้านตัวเองไปเหมือนเป็นหุ่นยนต์

พอกลับมาถึงบ้านผมก็ขึ้นไปนอนเลยครับ  อดไม่ได้ที่จะเดินไปดูที่ห้องพี่ต่ายอีกครั้งแต่ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง  เงียบร้างว่างเปล่าเหมือนกับใจของผมในตอนนี้

แล้วผมก็นอนขดตัวหลับไปยาวเลยครับ  ไม่รู้ตัวเลยว่านอนไปนานแค่ไหน  บางครั้งเหมือนได้ยินเสียงโทรศัพท์แต่ก็ไม่แน่ใจ  ผมว่าผมฝันด้วยว่าพี่ต่ายมานั่งที่เตียงแล้วลูบหัวผม  ผมจับมือพี่ต่ายไว้ยังไม่ยอมลืมตา   แล้วผมก็สะอื้นร้องไห้ขึ้นมา  :sad2: พี่ต่ายลูบหัวผมอีกครั้งเหมือนปลอบใจผม  ได้ยินเสียงพูดเบาๆว่าไม่เป็นไรโอมพี่อยู่นี่ ผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมากเลยนอนหลับสนิทไปอีกที   แต่ผมก็รู้สึกว่าผมยังคงจับมือพี่ต่ายไว้ไม่ปล่อย

“โอม....ตื่นมาทานข้าวได้แล้ว”
เสียงของพี่อิงครับปลุกให้ผมตื่นขึ้นมา  ผมลุกขึ้นงัวเงียยังปวดหัวอยู่เพราะร้องไห้มานาน  หันไปมองรอบกายไม่มีใครอยู่นอกจากพี่อิง

“โอมไม่ได้ทานอะไรเลยทั้งวันกินข้าวซะจะได้กินยา  ตัวเองตัวร้อนนะ”

เสียงอ่อนโยนของพี่อิงทำผมน้ำตาไหลอีกที  ผมยอมกินข้าวที่พี่อิงเอามาให้  กินไปน้ำตาก็ไหลไป   แล้วผมก็หัวเราะนี่น่าจะเรียกว่ากินข้าวคลุกน้ำตามากกว่า พี่อิงเองก็ดูหน้าเศร้าไม่แพ้กันมองหน้าผมแล้วทำตาแดงๆด้วย  :monkeysad:  ผมถามพี่อิงไปเสียงสั่นๆ  น้ำตาก็ไหลอยู่

“ตัวเองเป็นอะไร   ทำไมทำตาแดงๆ” คราวนี้พี่อิงน้ำตาไหลเลยครับ บอกผมว่า

“สงสารน้อง”

แล้วพี่อิงก็วางจานข้าว  แล้วโอบเอาตัวผมมากอดไว้ลูบหลังลูบไหล่ผม  แล้วเราสองคนพี่น้องก็ร้องไห้กันครับ   ผมรู้แล้วว่าพี่อิงรู้ว่าพี่ต่ายจากไป  แล้วก็รู้ด้วยว่าผมกับพี่ต่ายคงเป็นอะไรกัน  แต่พี่อิงไม่พูด  ไม่พูดอะไรเลย ไม่มีคำถามใดๆจากพี่อิง  แต่กริยาที่พี่อิงลูบหลังผมมันบอกครับว่าพี่อิงสงสารผมเป็นห่วงผม 

ผมปล่อยโฮออกมาอย่าไม่อายใคร  มันเป็นช่วงเวลาปลดปล่อยความทรมานใจที่ผมได้สั่งสมมาตลอดทั้งคืน  มันบีบคั้นอารมณ์ผมให้ทนไม่ไหวต้องระเบิดเป็นน้ำตาออกมา   เมื่อมาเจอกับพี่ชายของผมแค่คำว่า “สงสารน้อง”เพียงคำเดียว  ผมก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหน  ที่ผมร้องไห้ในอ้อมอกของพี่ชาย  :โฮๆ1:


จนกระทั่งบุ้งกับติงค่อยๆเดินเข้ามา  ผมหันไปเห็นพอดี  ในความเสียใจก็ยังมีความอายอยู่ พูดออกไปเสียงก็ยังสั่นเครือ

“ติงเข้ามาได้ไงห้องผู้ชายนะเป็นสาวเป็นนาง  บุ้งด้วยเมิงคิดจะมาทำอะไรกรู  มรึงพาติงออกไปก่อนเดี๋ยวกรูตามลงไป”
 
 พี่อิงเองก็หยุดร้องแล้วครับแต่ตายังแดงๆอยู่  หันไปบอกบุ้งกับติงที่ยืนทำหน้าเศร้าเหมือนกำลังดูมิวสิควีดีโอพี่ชายที่แสนดีอยู่ให้ลงไปก่อน

“ไป....ลงกันไปก่อนเดี๋ยวให้โอมเค้าเช็ดตัวเสร็จแล้วตามลงไปนะติง บุ้ง”  แล้วหันมาบอกผม

“โอมเดี๋ยวพี่มาเช็ดตัวให้รอเดี๋ยว”
แล้วทั้งสามคนก็เดินออกไปครับ  ผมอยากจะบอกพี่อิงว่าผมทำเองได้  แต่ตอนนี้ใจมันก็ไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น  เลยได้แต่นอนนิ่งๆตามแต่ที่พี่อิงสั่ง

พี่อิงกลับมาเช็ดตัวให้ผมอีกครั้ง  พี่อิงเช็ดตัวผมไปผมก็นึกถึงตอนที่ผมไม่สบายแล้วพี่ต่ายมาเช็ดตัวให้ผม  น้ำตาผมค่อยๆไหลรินลงมาอีกครั้ง  พี่อิงเงยหน้าขึ้นมองผม ไม่มีเสียงใดๆจากพี่อิงอีกนอกจากตาแดงๆ  แล้วผมก็หัวเราะขึ้นมาอีก  เพราะอยู่ดีๆก็นึกถึงเพลงของพลพลกับน้องพันช์ 

พี่อิงทำหน้าตกใจ“หัวเราะอะไรโอม  บร้ารึเปล่า เดี๋ยวร้องไห้เดี๋ยวหัวเราะ”

แต่ผมว่าผมก็บร้าจริงๆน่ะแหล่ะ “เปล่าเค้านึกถึงเพลงพลพลกะพันช์น่ะ เพลงตาแดงๆ  เลยขำ”

“ไอ้บร้า ยังจะมีแก่ใจไปนึกถึงเพลงอีก” พี่อิงส่ายหัวทั้งๆที่หน้ายังเศร้าอยู่

พอพี่อิงเช็ดตัวผมเสร็จ ผมเพิ่งนึกขึ้นมาได้เรื่องหลาน  เลยเดินไปหยิบพันธบัตรที่พี่ต่ายทิ้งไว้ให้พี่อิง  พี่อิงรับมาดูแล้วบอกว่า”ขอบใจนะโอม”

 ผมเลยตอบกลับไปว่า “ของพี่ต่ายพี่...ของพี่ต่าย”

พี่อิงมองหน้าผมแล้วบแกผมด้วยเสียงเรียบๆว่า “ก็ต่ายเค้าบอกอยู่แล้วนี่ว่าของต่ายกับโอม” แล้วผมจะพูดอะไรได้   :m15:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมเดินลงไปหาบุ้งกับติงที่กำลังเล่นกับหลานของผมอยู่ครับ  ที่จริงวันนี้ผมตาบวมมากเลยน่ะ  ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่อยากพบใคร  แต่ช่างมันล่ะไม่มีอะไรจะต้องอายมากไปกว่าโดนเค้าทิ้งเอาดื้อๆแบบนี้แล้ว   แต่ถ้าพวกติงหัวเราะเยาะน่ะมีเคืองแน่ๆ ผมคงไล่ให้ออกไปจากบ้านไปเลย  ติงพูดเสียงเบาๆเหมือนกลัวว่าถ้าพูดดังๆ  จะไปกระตุ้นต่อมเศร้าของผมเข้า

“โอมเราเอาชีทมาให้  โอมจะไปเรียนไม๊น่ะพรุ่งนี้คาบสุดท้ายล่ะนะเผื่ออาจารย์จะบอกเรื่องแนวข้อสอบ”

“.........................”ยังไม่อยากคุยอะไรเลยครับ  มันหดหู่ เศร้าหมอง เซ็ง จิตป่วย อยากบอกว่า  อย่ามายุ่งกับผม  ติงมองหน้าหุ่ยๆของผมแล้วก็บอกว่า

“ถ้าไม่อยากไปก็ไม่เป็นไรนะอยู่บ้านอ่านหนังสือกันก็ได้  เดี๋ยวติงไปฟังแล้วมาเล่าให้ฟังเอง”
 ติงพูดเมือนอย่างกับว่าผมจะตัดขาดจากโลกภายนอกไปแล้ว  ผมต้องอยู่ได้ซิครับ  แค่โดนทิ้งเอง ชิลด์ๆจะตาย

“โอมเมิงไม่ต้องไปก็ได้นะ....กรู...”บุ้งมันก็เสริมมาอีกคน

“กรูจะไป...กรูอยากไป” o12

ผมไม่อยากอยู่คนเดียว  ผมต้องหาอะไรทำให้มันยุ่งๆเข้าไว้  ยังไงๆผมก็ไม่รู้จะไปตามพี่ต่ายที่ไหนอยู่ดี  ลองโทรไปหาใหม่กี่ครั้งก็ไม่เปิดเครื่อง  ผมได้แต่ฝากข้อความไว้เป็นร้อยๆครั้งในความรู้สึกผม

แล้วอยู่ดีๆหลานผมก็หัวเราะเอิ๊กๆ ออกมาครับ  เราสามคนหันหน้าไปมองหลานผม  เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ  แก้มใสอ้วนน่ากอด  เป็นอีกชีวิตใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมา ผมยิ้มเศร้าๆให้กับตัวเอง  ผมมีสิ่งใหม่เข้ามาทำให้อิ่มเอมหัวใจแทนได้  ในขณะที่สิ่งที่มีค่าในชีวิตอีกสิ่งหนึ่งได้หายไป

ผมลุกเดินไปดูหลานที่นอนพลิกไปมาอยู่บนเบาะ “ไหนหลานอา เป็นยังไงครับพี่กุ้งเหนื่อยไม๊  พี่อิงช่วยบ้างรึเปล่า”

ผมพยายามให้ความสนใจหลานดีกว่าครับ  เห็นเด็กๆแล้วสบายใจกว่า ไม่อยากทำให้ช่วงเวลาที่มีความสุขของครอบครัวกับหลานผม  ต้องมาแปรเปลี่ยนไปเพราะเรื่องของผมคนเดียว
 
“พี่ดูแลเองได้ค่ะ   เมื่อวานน้องโอมไม่สบายพี่เลยไล่อิงให้ไปเฝ้าน้องโอม  แต่ไม่ต้องเกรงใจนะ  พี่ยังไหว  วันนี้ดูน้องโอมอาการดีขึ้นแล้วนี่ค่ะ” ผมหันไปมองหน้าพี่อิงที่กำลังหยอกลูกอยู่  พี่อิงเงยหน้าขึ้นมามองผมแว๊บนึง

ผมถึงได้รู้ว่ามือเมื่อวานที่ลูบหัวผมคงเป็นมือพี่อิงนั่นเอง  ลึกๆก็อดเสียใจไม่ได้ที่ไม่ใช่มือพี่ต่าย  แต่อีกความรู้สึกนึงที่ตามมาก็คือพี่ผมเป็นคนอบอุ่น  ถึงแม้บางครั้งจะพูดจาตรงๆไปหน่อย  แต่พี่อิงก็รักน้องที่สุด  ผมปาดน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาอีกออกไป  แล้วฝืนยิ้มให้พี่กุ้ง

“หายดีขึ้นเยอะแล้วพี่กุ้ง  วันนี้ผมคืนพี่อิงให้ไปช่วยพี่เลี้ยงลูกดีกว่า  ไอ้น้องอย่างผมมันไม่ไหวทำให้แต่พี่ๆเสียใจ” :m17:
 
ไม่มีใครพูดอะไรอีก  ไม่มีคำถาม ไม่มีข้อโตเถียง  ทุกคนทำเหมือนกับว่าเข้าใจทุกสิ่งที่ผมพูดออกมา   แล้วก็ไม่มีใครพูดถึงพี่ต่ายเลย ราวกับว่าบ้านหลังนี้ไม่เคยมีพี่ต่ายมาอยู่ถึง 2 ปี เราไม่รู้จักคนที่ชื่อวริศ หรือพี่ต่ายมาก่อน

 ผมอดสงสัยไม่ได้ว่ามันจะง่ายเกินไปหรือเปล่า  เราจะตัดคนที่เรารักได้ง่ายๆเพียงข้ามคืนเหรอ  ถ้ามันง่ายเหมือนเรากดดีลีทไฟล์ที่ไม่ใช้อย่างนั้นก็ดีน่ะซิ   

 แต่ผมว่าความรักที่ไม่สมหวังมันเป็นไวรัสที่ลบออกไปจากหน่วยความจำกันไม่ได้ง่ายๆ   ถึงแม้ว่าเราจะลงโปรแกรมแม็คอาฟี่หรือสปายแวร์ป้องกันเป็นภูมิต้านทานไว้แล้ว  แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันติดขึ้นมาแล้วล่ะก็   มันก็ไม่ได้ลบทิ้งกันง่ายๆเลยครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

หลังจากนั้นผมก็ไปเรียนตลอดครับ  ไม่เคยขาดเรียนเลยแต่เพื่อนที่ไม่สนิทกันจะบอกว่าผมเหมือนหุ่นยนต์มากกว่า  แต่ก็ยังดีที่เค้าว่าเหมือนหุ่นยนต์อาซิโม(Asimo)ไม่ใช่ไอ้ควายเหล็กอย่างคูโบต้า  ถ้าใครว่าอย่างนั้นมีโกรธจริงๆครับ
 
 ผมก็พยายามนะครับฝืนความรู้สึกตัวเอง  บอกตัวเองตลอดเวลาว่าเราต้องยิ้มได้ เราต้องหัวเราะได้  แล้วเราก็ต้องอยู่ได้

แต่พอกลับบ้านไปอยู่ที่เดิมๆ  ที่ไหนๆก็มีแต่พี่ต่ายครับยิ่งตอนนี้พี่อิงหอบลูกเมียกลับบ้านไปแล้ว  ก็เหลือผมคนเดียวมันยิ่งเหงา  เป็นโคตรรรรของความเหงาเลยครับ  แล้วจะไปเหลือเหรอ  ผมก็นอนร้องไห้ทุกวัน

 บุ้งกับติงพยายามจะมาขออยู่ด้วยเป็นเพื่อนแต่ผมก็ไม่ยอมเพราะผมรู้ดีว่า  จะมีใครอยู่ด้วยหรือไม่มีผมก็ร้องอยู่ดี  แล้วจะมาเปิดการแสดงโชว์ร้องไห้ของคนอกหักให้เพื่อนดูทำไมกัน  เงินก็ไม่ได้ซักกะบาทเดียว
 
ผมไม่โกรธที่พี่ต่ายหายไป  แต่ผมไม่เข้าใจว่ามันเป็นเพราะเหตุอะไร  เพราะคราวนี้มันเป็นไม่ใช่การเปลี่ยนชีวิตผมแบบ Minor change นะครับอันนั้นมันปรับนิดๆหน่อยๆเปลี่ยนเบาะหนัง เปลี่ยนคอนโซลล์ ปรับหน้าจอ หรือไฟท้าย  แต่นี่มันเปลี่ยนแบบMajor change เลยเปลี่ยนรูปร่างทั้งคัน ปรับใหม่หมด  อยู่ด้วยกันนอนห้องเดียวกันมาสองปี ตื่นมาอีกทีหายไปละ เหมือนฝัน

แล้วที่สำคัญเปลี่ยนแบบปฎิวัติด้วยนะครับ  เหมือนตื่นขึ้นมาเจอรถถังอยู่หน้าบ้าน  ดึงปุ๊ปตกลงจากเก้าอี้  ไม่ได้มีเวลายุบสภา  แล้วเลือกตั้งกันใหม่  เป็นใครก็ต้องตกใจล่ะครับ  เตรียมใจไม่ทัน  บางคนยังพอรู้ลาดเลา  หอบเอาเงินไปฝากไว้ที่อื่นก่อนไปซื้อบ้านหาที่อยู่สำรอง  แต่ผมซิไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเลย  ผมว่าผมไม่บ้าไปเลยก็ดีแล้วครับ

พอครบสองอาทิตย์ที่พี่ต่ายลาพักร้อนผมก็ยังพอมีความหวัง  ว่าจะได้รู้เรื่องกันบ้าง  ผมตัดสินใจยอมลดอาการเสียวฟัน เอ๊ยเสียฟอร์ม  ไปหาพี่ต่ายที่ทำงานครับ  เคยมีคนบอกว่าเมื่อเรามีความรักให้วางศักดิ์ศรีเอาไว้บ้าง  ถือไว้มันก็จะหนักเปล่าๆ  แล้วอีกอย่างการไปหาพี่ต่ายมันก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้ตัวผมลดคุณค่าของตัวเองลงไปนี่นา

ผมเข้าไปติดต่อที่พนักงานต้อนรับขอพบพี่ต่าย  เธอก็บอกให้ผมนั่งรอสักครู่ สักประมาณ5 นาทีก็เห็นพี่คมเดินออกมา  ผมเองก็คาดเดาอยู่แล้วว่าจะต้องเจอแน่ๆ  ก็เลยเตรียมใจไว้แล้วล่วงหน้าแล้ว

“สวัสดีครับพี่คม  พอดีผมมาพบพี่ต่าย” พี่คมรับไหว้ผมแต่สีหน้าก็ไม่ค่อยดีเลยครับ ทำหน้าอย่างกับคนปวดท้อง  แต่ก็ยังอุตส่าห์ยกมือรับไหว้แล้วส่งยิ้มมาให้ผม

“สวัสดีครับน้องโอม   ก็นี่แหล่ะพี่จะมาบอกว่าต่ายกำลังคุยกับนายอยู่คุยตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่ออกมาเลย  ท่าทางจะยาวเสียด้วยซิ  มานั่งรอห้องพี่ก่อนไม๊”

“ก็ดีครับพี่......แต่ผมมีสอบวันนี้ตอนบ่ายคงรอได้ซักครู่”

พี่คมเดินนำผมไปที่ห้องทำงานพี่คมซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากห้องพี่ต่ายเท่าไหร่  ถ้าพี่ต่ายเข้ามาเมื่อไหร่ก็คงจะเห็นทันทีเพราะห้องทำงานเป็นกระจกใสหมดเห็นได้รอบ

“โอมนั่งรอแป๊ปนึงนะเดี๋ยวพี่มา”

พี่คมทิ้งผมไว้ที่ห้องแล้วพักนึงก็มีคนเอากาแฟมาให้ผม   ผมดื่มกาแฟไปนั่งรอไปด้วยความกระวนกระวายใจ  ไหนจะเรื่องพี่ต่ายแล้วก็เรื่องสอบตอนบ่ายอีก แล้วพี่คมก็กลับมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี

“โอมทำไงดีต่ายออกไปข้างนอกกับนายแล้ว  พี่ไปบอกแล้วแต่ขัดนายไม่ได้ ท่าทางซีเรียสกันมาก  พี่ว่าโอมไปสอบก่อนดีกว่ามั๊ง  แล้วพี่จะบอกต่ายให้”

ผมแทบจะร้องไห้ตรงนั้น  แล้วจะเจอกันได้ยังไง  ผมรอมาแล้วตั้งสองอาทิตย์นี่อีกแค่เอื้อมเท่านั้นเอง  ผมพยายามเก็บรักษาอาการของความผิดหวังยิ้มเจื่อนๆให้พี่คม  แล้วบอกลาพี่คม

“ขอบคุณพี่คมมากครับ  ยังไงให้พี่ต่ายโทรหาผมแล้วกัน” 

พี่คมตบไหล่ผมเบาๆแล้วพยักหน้าให้ผม  ผมเดินคอตกเป็นไก่หงอยกลับออกมาจากบริษัท แต่ไม่มีเวลาจะมาคิดมากยังมีสอบรออยู่  ผมรีบเดินทางไปสอบที่มหาวิทยาลัย

แล้วนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่ได้รับคำตอบเช่นเคย แล้วผมก็คิดว่ายังไงพี่ต่ายก็คงจะไม่ได้โทรหาผมด้วย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันรุ่งขึ้นผมมีสอบปากเปล่า  เป็นการสอบจบปริญญาโทของผม  ผมเลยต้องพยายามดึงสมาธิกลับมาที่การเรียน   พยายามตัดความคิดเรื่องพี่ต่ายออกไป  ถึงแม้มันจะคอยมาวนๆเวียนๆให้ผมหดหู่เป็นระยะ   แต่สำนึกดีของผมบอกว่า  ผมไม่ควรจะเอาเรื่องความรักมาทำให้ความตั้งใจเรียนที่ผ่านมาทั้งหมดของผมต้องพังทลายลง  ป๋ากับแม่กับพี่อิงจะเสียใจแค่ไหนถ้าผมไม่จบ  ผมจะต้องทำให้ได้

ผมเข้าสอบไปด้วยความมั่นใจไม่เต็มร้อย  แต่ก็พยายามเต็มที่  จนตอนเย็นสอบเสร็จผมชวนบุ้งกับติงไปหาพี่ต่ายที่บริษัทอีกครั้ง  แต่บุ้งกับติงไม่ค่อยเห็นด้วยครับ
 
บุ้งบอกว่า“มรึงแน่ใจเหรอว่ะโอม  เมิงจะไปหาเค้าทำไมเค้าเก็บของออกไปขนาดนี้ไม่บอกอะไรเมิงเลย  มันก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าพี่เค้าต้องการอะไร”

ส่วนติงถึงไม่ค้านออกมาตรงๆ  แต่ฟังๆดูก็ไม่อยากให้ผมไปเจอพี่ต่ายเหมือนกัน

“น่านซิโอม  แน่ใจนะว่าเข้มแข็งพอที่จะเจอน่ะ”

“เราอยากรู้เหตุผลน่ะติง  จะเลิกกันเราก็ทำอะไรไม่ได้หรอก  แต่เราอยากรู้สาเหตุว่าเพราะอะไร  เราทำอะไรผิด  หรือพี่ต่ายไม่รักเราแล้วมีคนอื่น  เราก็รับได้  แต่ไม่ใช่ไม่บอกอะไรเราเลยติง  มันทรมานน่ะติง  เหมือนพี่ต่ายลงโทษเราโดยที่เราไม่รู้ข้อหา” :impress:

ผมน้ำตาเอ่อ แต่ติงน้ำตาไหลเลยครับ  ไอ้บุ้งก็ตาแดงๆ  แล้วในที่สุดทุกคนก็ยอมไปกับผม  แต่กว่าจะไปถึงก็เกือบ6 โมงเย็นแล้วครับ  พนักงานทยอยกลับกันไปเกือบหมดละ
แต่ผมก็เจอพี่คมจนได้  พี่คมเลยเรียกเราไปนั่งในห้อง  พี่คมเองหน้าขมวดคิ้วตลอดเวลา

“โอม  พี่ไม่รู้จะบอกโอมว่ายังไงดี”หน้าตาพี่แกดูลำบากใจมากครับ ทำอย่างกับจะบอกว่าผมติดF แต่ไม่กล้าบอกกลัวผมเสียใจ

“บอกมาเถอะพี่  พี่ต่ายกลับไปแล้วเหรอ  แล้วตอนนี้พี่ต่ายไปอยู่ที่ไหน”
ผมถามออกไปแบบไม่สนใจแล้วว่าพี่คมจะรู้หรือไม่รู้   ว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว  ขอเพียงให้ได้เจอพี่ต่ายเท่านั้น

“ต่ายบินไปสิงค์โปร์เมื่อเช้านี้แล้ว  เค้าต้องไปทำงานที่นั่น”

พอพี่คมพูดออกมาประโยคนี้  ผมบอกกับตัวเองว่า มันก็แค่ทำให้ผมหมดหวังที่จะได้เจอพี่ต่ายเท่านั้นเองครับ  แต่ความเสียใจน่ะมันคงมากไปกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว  เพราะระดับความเศร้ามันขึ้นสูงสุดไปแล้ว  ปลงเถอะไอ้โอม

“ทำไมมันกะทันหันขนาดนี้ล่ะพี่คม  พี่รู้เรื่องมาก่อนไม๊”บุ้งเป็นคนถามขึ้นมาเพราะผมคงพูดอะไรไม่ออกแล้ว

พี่คมที่ตอนนี้รู้เรื่องอยู่คนเดียวก็ยังเอ๋อครับ “พี่เองก็เพิ่งรู้เมื่อเช้านี้เอง  พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น  แต่มารู้ทีหลังว่าช่วงอาทิตย์ก่อนที่ต่ายลา  เค้าเข้ามาหานายว่าอยากขอย้ายที่ทำงานไปต่างประเทศที่เป็นสาขาของเราที่ไหนก็ได้  นายก็ไม่อยากให้ไปนะ  แต่ขัดไม่ได้  พี่ก็งงไปสิงคโปร์ก็ไม่ได้ดีกว่าที่นี่นะไม่รู้คิดยังไง  งงอยู่เนี่ย”

 ผมว่าผมเชื่อที่พี่คมพูดทุกอย่างไม่มีเหตุผลอะไรที่จะโกหก  พี่ต่ายต้องการหนีผมเท่านั้นเอง  เป็นเหตุผลเดียวเท่านั้นที่ผมคิดได้ในตอนนี้  ผมตัดสินใจกลับดีกว่า

“ไปเถอะ บุ้ง ติง รบกวนเวลาพี่คมมากไปแล้ว”

ใจผมมันด้านชาไปแล้วครับ ยกมือสวัสดีพี่คมแบบมึนๆ  ยังได้ยินพี่คมบ่นเรื่องงานที่พี่ต่ายทิ้งไว้ด้วยซ้ำต้องหาคนมาทำแทน
 
 นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้ยินเรื่องของพี่ต่าย  เพราะผมหยุดการตามหาพี่ต่าย  ไม่มีการติดตามอีกต่อไป  ผมจะทำอย่างที่พี่ต่ายต้องการคือ-----ไม่ต้องมาเจอหน้ากันต่อไป----
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :เฮ้อ: :seng2ped:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 17-01-2008 10:09:20
พี่ต่ายยยย พี่มีเหตุผลอะไรถึงต้องหักดิบ ไม่พูด ไม่บอก ไม่กล่าว ไม่เจอหน้าโอมขนาดนี้อ่า  :serius2:
รู้ไม๊มันเจ็บปวดแค่ไหนที่อีกฝ่ายจากไปโดยไม่บอกเหตุผลสักอย่าง มันเจ็บสุดๆๆ อยากรู้เหลือเกินว่าทำไม ทำไม ทำไม...
ป.ล. พี่ฟางอย่างอนน้า แต่งต่อนะ ที่อินมากไปหน่อยเพราะเนื้อเรื่องมันแทงใจดำพอดี กระซิกๆๆ  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-01-2008 10:10:43
คนเขียนน้อยใจ หาว่าใคร ๆ ก็ไม่ร๊ากก  :m20:

คนอ่านก็รักอะนะ แต่รักปนแค้นอะ  o12

 :angry2: จะให้มันเศร้าอะไรกันหนักกันหนาห๋า

 :m15: สงสารทั้งโอมทั้งพี่กระต่าย  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: GoneOn ที่ 17-01-2008 10:19:35
อ้างจาก: Manfang
“กรูไม่เข้าใจโว้ย!!!!!!!!”   :serius2: 

ไม่เข้าใจเหมือนกันโว้ยยยยย   

อ้างจาก: Manfang
“งงโว้ย!!!!!!!!!” :serius2:

งงด้วยโว้ยยยยย   :serius2:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 17-01-2008 10:56:48
อ้างจาก: Manfang
“กรูไม่เข้าใจโว้ย!!!!!!!!”   :serius2: 

ไม่เข้าใจเหมือนกันโว้ยยยยย   

อ้างจาก: Manfang
“งงโว้ย!!!!!!!!!” :serius2:

งงด้วยโว้ยยยยย   :serius2:




ดีใจก๊าบมีคนเป็นเหมือนกันผม
 :m22:

ปล. เป็นกำลังใจให้นะก๊าบบบบบบ ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 17-01-2008 11:35:30
นิรันดรนี้นานนัก.....แต่รักนี้นานกว่านั้น
นิรันดรนี้นานนัก... แต่รออ่านเรื่องนี้นานกว่านั้น    :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 17-01-2008 12:16:49
^
^
^
^
ท่อนสุดท้ายของรีบน เค้ารับมะด้ายยยยยยย  :serius2:

แต่ว่า ... ก็ยังงงอยู่ดี มันต้องมีอะไรมากกว่านั้นสิ


ปล. นึกถึงเรื่องของคุณเอ้กะตาวุธตอนก่อนที่ตาวุธลองใจเอ้แล้วจะไปบวชเลยอ่ะ แต่ ... เรื่องนี้งงมากกว่า  :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 17-01-2008 12:21:27
 :a5: o2 :serius2: :o12: :sad2:

ไม่เข้าใจ อะไรกันนี่ จะเลิกหรือไม่รักกันแล้วก็บอกดิ หายไปแบบนี้มันคืออะไร ไม่เข้าใจ ไม่แฟร์เลย ทำแบบนี้ยิ่งกว่าเกลียดกันอีก  :serius2:

ช่วยมาต่อทีเถอะ ตอนนี้คนอ่านน่าสงสารมากๆๆ :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 17-01-2008 12:36:34
พูดไม่ออก บอกไม่ถูก   :seng2ped:



ปล.

เค้ารักฟางนะ

แต่รักมากก็แค้นมากด้วย หึหึ

รีบๆมาเคลียร์นะจ๊ะ

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 17-01-2008 12:46:54
 :sad2:  มันอะไรกันนี่ ... พี่อิงก็ไม่พูด เลยไม่รู้กันเลย ว่าพี่อิงรู้ไรแค่ไหน  พูดอะไรไปกับพี่ต่ายบ้างงง


แงๆ แงๆ  :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 17-01-2008 12:57:26

“สงสารน้อง”

แล้วพี่อิงก็วางจานข้าว  แล้วโอบเอาตัวผมมากอดไว้ลูบหลังลูบไหล่ผม  แล้วเราสองคนพี่น้องก็ร้องไห้กันครับ   ผมรู้แล้วว่าพี่อิงรู้ว่าพี่ต่ายจากไป  แล้วก็รู้ด้วยว่าผมกับพี่ต่ายคงเป็นอะไรกัน  แต่พี่อิงไม่พูด  ไม่พูดอะไรเลย ไม่มีคำถามใดๆจากพี่อิง  แต่กริยาที่พี่อิงลูบหลังผมมันบอกครับว่าพี่อิงสงสารผมเป็นห่วงผม 

ผมปล่อยโฮออกมาอย่าไม่อายใคร  มันเป็นช่วงเวลาปลดปล่อยความทรมานใจที่ผมได้สั่งสมมาตลอดทั้งคืน  มันบีบคั้นอารมณ์ผมให้ทนไม่ไหวต้องระเบิดเป็นน้ำตาออกมา   เมื่อมาเจอกับพี่ชายของผมแค่คำว่า “สงสารน้อง”เพียงคำเดียว  ผมก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ผมไม่รู้ว่านานแค่ไหน  ที่ผมร้องไห้ในอ้อมอกของพี่ชาย  :โฮๆ1:


เวลาทุกข์ใจ มักเลือกอยู่คนเดียวมากกว่า... :m15:
เพราะรู้ว่าคำแสดงความห่วงใยโดยเฉพาะจากคนในครอบครัว
ทำให้เรา  :m8:          สงสารโอมจัง.. แต่พี่กระต่ายคงมีเหตุผล
และคงไม่อยากบอกลาโอม แค่แยกกันกันชั่วคราวววว รอ รอ รอ
 :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 17-01-2008 16:03:30
อ่านแล้วทรมานจังเลยอะ

แต่ก็แอบหวังไว้ว่า  พี่ต่ายจะต้องมีเหตุผลแน่นอนที่ทำแบบนี้

แต่ก็อีก  อยู่ด้วยกันแล้ว  น่าจะตัดสินใจด้วยกัน

มากกว่าที่จะคิดเองแบบนี้

เหนื่อยใจจังเลยยยย

 :m15:  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 17-01-2008 16:40:51
 :a4:ผมหละอยากรู้เหตุผลของพี่ต่ายจริงๆๆ ที่หายไปอย่างนี้มันต้องมีอะไรแอบแฝง อยู่ แต่ผมเชื่อว่าพี่ต่ายมั่นคงนะ  สักวันสองคงนี้คงจะกลับมารักกันเหมือนเดิม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 17-01-2008 17:10:38
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 17-01-2008 17:33:46
น้ำตาคลอเลยอ่ะ
 o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 17-01-2008 18:18:29
 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:

 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 17-01-2008 19:44:49
ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังไม่ธรรมดา   :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 17-01-2008 20:46:26
 :m15: :m15:
พี่ต่ายทำไมทิ้งโอมไปได้หละครับ อย่างน้อยก็น่าจะบอกเหตุผลกันก็ยังดี

ทำแบบนี้มันเหมือนว่าต้องเสียใจกันทั้งสองฝ่ายเลยนะ  :sad2:

แอบหวังให้ทั้งสองคนกลับมารักกันเหมือนเดิมจัง :m13:

อยากให้บ้านที่โอมจะต้องไปควบคุมเป็นบ้านที่พี่ต่ายสร้างไว้ให้กับโอมจัง ทั้งสองคนจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 18-01-2008 00:17:10
 :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 18-01-2008 00:21:24
รอคับรอ

 :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 18-01-2008 00:27:04
 :m21: :m21: จากเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนรอบข้างรู้รึป่าวคับ   :m15: :m15: แต่ก็เกินไปนะครับคุณพี่ต่ายเนี่ยะ  น่าจะคุยกันก่อน  ทำแบบนี้โอมถึงเศร้ามาเปนปีๆ  :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-01-2008 00:36:02
งงมากมายยยยยยยยยยยยยยยยยย ถ้าไม่มาอธิบายแบบกระจ่าง เป็นเรื่องแน่ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 18-01-2008 08:49:30
เป็นกำลังใจให้ครับ

ตาเคน เม้นอย่างอื่นไม่เป็นรึ เค้าโศกเศร้าโศกากะนิยายกัน
ตะเองไม่เห็นจะอินเหมือนคนอื่นเลย
เห็นแต่ประโยคเดียวนี่ละ







 :m13: เค้าล้อเล่น แค่เห็นแล้วอดไม่ได้อ่ะ มะว่ากันนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 18-01-2008 09:51:54
คุณกฤชอย่าไปแซวคุณken_krub เลย
ชอบน่ะ.....เมนท์แบบนี้วันไหนไม่เห็นเหมือนขาดอะไรไป  :m13:
แต่ขอแบบนี้คนเดียวพอ ถ้าคนอื่นเมนท์แบบนี้หมด  คงไม่รู้ว่าคนอ่านคิดยังไง :m23:
reply แบบไหนมาก็ขอบคุณทั้งน้านแหล่ะค่ะ :oni2:
แต่ตอนนี้เก็บก้อนอิฐที่คนอ่านเขวี้ยงมาได้เยอะล่ะ เตรียมปลูกบ้านได้หลังย่อมๆ  :m15:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 58

หลังจากวันนั้นผมก็ย้ายออกจากห้องนอนตัวเองไปนอนห้องพี่อิง   เพราะหลังจากสอบเสร็จผมก็ว่างมากๆ  พอไม่มีอะไรทำก็จะคิดเรื่องนี้แล้วก็น้ำตาไหล  พออยู่ห้องตัวเองมองไปทางไหนก็เห็นแต่พี่ต่าย   เลยขอย้ายไปนอนห้องพี่อิงที่ตอนนี้ไม่มีใครใช้  จากตอนนั้นจนตอนนี้   ปีกว่าผมก็ไม่เคยใช้ห้องนอนตัวเองอีกเลย  มันนอนไม่ได้ มันนอนไม่หลับจริงๆ  :sad2:

จนกระทั่งเรียนจบโทแล้วผมก็ย้ายกลับมาอยู่บ้านต่างจังหวัดอย่างถาวร  ทิ้งสถานที่แห่งความทรงจำไว้เพียงลำพัง  สำหรับผม....บ้านที่ไม่มีพี่ต่ายอยู่มันก็แค่ที่ซุกหัวนอนเท่านั้นเองครับ  มันไม่ใช่บ้านในความหมายของผมอีกต่อไป o7
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
จนถึงวันนี้ผมถึงได้ยินเรื่องจากพี่อั้มว่าพี่ต่ายกลับมาแล้ว  เป็นปีๆที่ผมไม่อยากจะฟังเรื่องของพี่ต่ายจากใครอีก แต่วันนี้ผมก็ฟังได้อย่างสบายใจขึ้นแล้วครับ   ที่จริงผมก็ดีใจที่ได้ยินข่าว ถ้าถามผมว่าอยากเจอมั๊ย.....ก็ตอบได้ทันทีว่าก็อยาก  แต่....คงไม่ไปเจอดีกว่า  :m23:   

ผมเคยคิดถึงสาเหตุที่พี่ต่ายจากผมไป  ผมคิดว่าผมรู้  เพียงแต่ผมไม่พูดออกมาเท่านั้นเองว่าเพราะอะไร  เรื่องทุกเรื่องมันมีเหตุผลเสมอ  เพียงแต่รอเวลาที่จะคลี่คลาย

 แต่สิ่งหนึ่งที่ผมมั่นใจก็คือ คำพูดในกระดาษใบนั้นที่พี่ต่ายทิ้งไว้ “พี่รักโอม” ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเชื่อมันมาตลอดและคิดเสมอว่า  เมื่อพี่ต่ายรักผมซักวันพี่ต่ายจะกลับมาหาผมเองโดยที่ผมไม่ต้องไปตามหา  แต่ถ้าวันนั้นไม่มาถึงผมก็พร้อมที่จะปล่อยมันไป

พอผมเล่าให้พี่อั้มฟังจนจบ  พี่อั้มก็ไม่พูดอะไรเลย  คงกำลังตกใจที่น้องชายตัวเองชอบผู้ชาย  :m29: หรือไม่ก็คงสำนึกผิดนิดหน่อยที่ชักนำพี่ต่ายให้เข้าห้องผมก็หลายครั้ง  แล้วที่สำคัญเป็นคนเสนอให้ชวนพี่ต่ายมาอยู่บ้านเราด้วย  คงจะอึ้งไปเลยนะครับ  จะด่าตัวเองก็คงใช่ที่  จะด่าผมก็คงกลัวผมเสียใจ  แกเลยเอาไวน์มารินดื่มอึ๊กๆๆใหญ่  ผมก็ไม่รู้ว่าดื่มดับอารมณ์คับแค้นใจหรือเพื่อดับอารมณ์อยากกินเหล้ากันแน่  555  :m12:

สักพักพี่อิงคงเห็นพี่อั้มกินเยอะคงกลัวจะเปลืองไวน์  เปลืองกับแกล้ม  พี่อิงเลยเรียกพี่อั้มไปคุยสองคน “อั้มมานี่”  ทีแรกพี่อั้มก็ทำท่าจะไม่ลุกครับ  แต่เจอพี่อิงลากคอไปเลย

แล้วสองคนก็ไปคุยกันครับแต่ไม่วายคว้าขวดไวน์ไปด้วย  เป็นพี่ที่ดีครับของไม่ดีไม่อยากให้น้องกินเยอะเลยต้องกำจัดมันไปให้หมดด้วยน้ำำมือตัวเอง

ผมเห็นบุ้งนั่งเงียบๆไม่รู้ว่าหลับหรือคิดอะไรอยู่ก็เลยชวนมันคุยไปพลางๆ

 “บุ้ง  อาทิตย์นี้ติงนัดไปทานข้าวจะไปด้วยกันไม๊”  บุ้งเงยหน้ามองผม แล้วส่ายหัว

“กรูไปไม่ได้...นัดแม่จะพาไปวัด  เอาไว้วันหลังละกัน”แล้วบุ้งก็เงียบไปพักนึงแล้วมันก็ถามผมต่อ 

“ มรึงทำใจได้แล้วจริงๆหรือโอมเรื่องพี่ต่ายน่ะ”

ผมถอนหายใจ  ยกมือขึ้นเสยผมตัวเองแล้วแหงนหน้าขึ้นมองพระจันทร์  ผมยิ้มให้กับตัวเองแล้วชี้ให้บุ้งดูพระจันทร์ที่วันนี้ส่องประกายงดงาม  ถึงแม้จะไม่เต็มดวงเหมือนคืนวันลอยกระทง  แต่ก็ยังกลมส่องแสงนวลสวยงามอยู่ดี :impress:

“บุ้งมรึงดูพระจันทร์ซิ เมิงเห็นไม๊.....มีกระต่ายอยู่ในนั้น  แต่กระต่ายมันก็ไม่เคยวิ่งออกมา”ผมพูดไปเรื่อยๆเหมือนที่ใจผมคิด

  “มันก็เหมือนใจกรูแหล่ะ  มันมีพี่ต่ายอยู่ในใจเสมอถึงแม้จะไม่ได้อยู่ด้วยกันกับตัวเป็นๆ   กูก็ขังเค้าไว้ในใจ.....แค่นี้กรูก็พอใจแล้ว”

ผมยิ้มให้บุ้งแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นไปชนแก้วกับบุ้ง
“แฮปปี้นิวเยียร์นะบุ้ง  ขอบใจที่ดูแลกันมาตลอด เพื่อนรัก” บุ้งก็ยิ้มจริงใจตอบส่งกลับมาให้ผมทำตาคลอๆ :monkeysad:  มานดันมาบิลด์อารมณ์ผมอีก  เดี๋ยวผมก็ร้องมั่งหรอก

“เหมือนกันว่ะโอม  แฮปปี้นิวเยียร์  ขอบใจมรึงที่เกิดมาเป็นเพื่อนรักกรู”

แล้วเราก็ต่างคนต่างเขิน  แหมผู้ชายนะครับมาพูดอะไรเลี่ยนๆแบบนี้มันก็อดเขินไม่ได้  แต่ผมก็คิดว่า ถ้าเราแคร์ใคร รักใครบอกเค้าไปไม่ดีกว่าเหรอ  ดีกว่าวันนึงเค้าจากเราไปโดยไม่ทันตั้งตัวเราจะได้ไม่เสียใจทีหลัง

ราตรีนี้ยังอีกยาวนานครับ  พี่อิงกับพี่อั้มก็เดินเข้ามาพร้อมขวดไวน์ขวดใหม่  หน้าตาดูสดใสขึ้นทั้งคู่  พี่อิงโวยมาแต่ไกลเลยครับ

“เฮ้ยมาชนแก้วกันสองคนได้ไง  ไม่รอพี่บ้างเลย เร็วอั้มมามะเพื่อความสุขของโอม  ซึ่งเป็นความสุขของเราทุกคน”

“ไชโย ไชโย ไชๆๆๆ โยๆๆๆ” :a1:

 ผมปลื้มใจกับคำพูดพี่อิงมากครับจนน้ำตาซึมออกมา  พร้อมกับหัวเราะไปด้วย  ถ้าความสุขของผมคือความสุขของทุกคนในที่นี้จริงๆ  งั้นนับตั้งแต่วันนี้ไปผมจะขอมีความสุขให้มากขึ้นครับ   ผมได้แต่บอกกับตัวเองว่า สู้โว้ย สู้....ไอ้โอม :a2:
 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ช่วงวันหลังจากปีใหม่งานก็ยังไม่มากครับ  เพราะงานก่อสร้างขึ้นกับคนงาน  ก็หยุดปีใหม่กันยาวไหนจะกินเหล้า  ไหนจะกลับบ้านเกิดกัน  กว่าจะมาครบทำงานได้ก็ปาเข้าไปหลายวัน  ผมขับรถเข้าไปดูสถานที่ปลูกบ้านของลูกค้า  คนงานกำลังเตรียมปรับพื้นที่ขุดหลุมเทคานกัน  ถ้าเรื่องวิชาการผมไม่รู้หรอกครับไม่ได้เรียนมาทางนี้แต่เรื่องพื้นๆก็พอรู้บ้างจากประสบการณ์

“คุณโอมครับ  เจ้าของบ้านเค้าจะมีฤกษ์ลงเสาเอกไม๊  แล้วเค้าต้องเชิญพระมาทำพิธีไม๊ครับ  มันจะถึงงานตรงนั้นแล้วนะครับ”

เอาล่ะซิคนงานมาถามผม  แล้วผมจะรู้ไม๊เนี่ยยังไม่เคยเจอเจ้าของบ้านสักที   ชื่ออะไรผมยังไม่รู้เลย เรียกกันแต่บ้านริมเขา  ว่าจะขอเบอร์โทรพี่อิงก็ลืมทุกที

“พี่อิงขอเบอร์เจ้าของบ้านหน่อยซิ  จะโทรไปถามเรื่องลงเสาเอกน่ะ” 

“พี่มีแต่เบอร์เลขาว่ะ  ติดต่อกับคนนี้นะชื่อคุณป่าน เบอร์ 081xxxxxxxถามเค้าแล้วกันเจ้าของบ้านเค้างานเยอะ”

เยอะยังไงมันก็ต้องคุยกันน่ะครับไม่งั้น  มาบอกไม่ชอบทีหลังทะเลาะกันตายดิ

“สวัสดีครับขอเรียนสายคุณป่านครับ”เสียงที่ตอบกลับมาเป็นเสียงสาวน้อยน่ารักเชียวครับ

“ค่ะป่านพูดค่ะ  ไม่ทราบติดต่อธุระเรื่องอะไรค่ะ”

“ผมโอมนะครับโทรมาเรื่องบ้านริมเขาที่เขาใหญ่นะครับ” ผมก็ไม่รู้จะบอกว่าบ้านคุณอะไรน่าอายจริงๆไม่รู้จักชื่อนายจ้าง

“อ๋อ....บ้านของนายที่เขาใหญ่ว่าไงค่ะ”เสียงขลุกๆขลักๆเหมือนมีคนอยู่แถวนั้นน่ะครับหรือคุณป่านเปิดสปีคเกอร์โฟนก็ไม่รู้

“ผมจะถามน่ะครับว่านายจะเข้ามาลงเสาเอกด้วยมั๊ย  แล้วมีฤกษ์หรือยัง จะนิมนต์พระมาไม๊น่ะครับ”  เค้าเรียกนายผมก็นายด้วยล่ะครับ  ไม่รู้จะเรียกอะไรนี่หว่า

เหมือนมีเสียงซุบซิบจุ๊กจิ๊กอะไรไม่รู้ครับ แล้วคุณป่านก็ตอบมาว่า
“นายบอกให้คุณโอมจัดการไปตามสมควรเลยค่ะ  แล้วมาเบิกค่าใช้จ่ายเอา”

“แล้วจะไม่มาดูหน่อยเหรอครับ” o12งงปลูกบ้านทั้งทีไม่สนใจมาดูหน่อยรึไง  หรือถือว่ามีเงิน

“นายงานเยอะค่ะคุณโอม  ปลีกตัวไปไม่ได้จริง”เฮ้อ!! เบื่อพวกคนรวยๆ งั้นก็ตามใจแล้วกัน บอกแล้วนะ มาโทษกันไม่ได้ด้วย :m21:

“ครับงั้นผมดูฤกษ์ให้แล้วกันนะครับ  แล้วมีอะไรผมโทรแจ้งอีกที”
หมดไปอีกเรื่องก็ดีเหมือนกันงั้นก็จัดการไปเลยสะดวกไปอีกแบบ หมดจากเรื่องบ้านก็มีลูกค้าโทรเข้ามาครับ

“หวัดดีครับคุณโอมผมก้อยนะครับ”

“ครับคุณก้อยว่าไง”เป็นลูกค้าวีไอพีอีกคนครับ  ซื้อของทีไรต้องโทรมาหาผม  บางทีก็รำคาญเพราะชอบต่อราคา  แต่บางทีก็คุยสนุกดี  แต่ที่ยังคบกันได้ดีเพราะเรื่องการเงินไม่มีเสียหายครับ

“ผมจะมาชวนทานข้าวเย็น...วันนี้ว่างไม๊” ปรกติไม่ค่อยเจอตัวกันครับคุยกันแค่ทางโทรศัพท์   แต่คุยกันเกือบทุกวันจนจะกลายเป็นเพื่อนล่ะ   ไม่รู้นึกยังไงมาชวนผมทานข้าว

“อ้าววันนี้คุณก้อยค้างเขาใหญ่เหรอ   ปรกติเห็นขับกลับกรุงเทพฯทุกที”

“วันนี้ค้างเลยอยากกินอะไรอร่อยๆ   คุณโอมพาไปกินหน่อยซิ” แล้วผมต้องเลี้ยงด้วยไม๊เนี่ยชักสงสัย  ก็เค้าเป็นลูกค้านี่เนอะ  เลี้ยงก็ได้นานๆที

“ได้ครับ...งั้นเอาไงดี   คุณก้อยมารับผมที่ร้านตอนประมาณหกโมงไม๊  เร็วไปรึเปล่า”

“ได้ครับได้   แล้วเราจะไปกินที่ไหนดีผมอยากกินเสต็ค”เอางั้นเลยนะคุณก้อย หึหึหึ  รับปากเค้าไปแล้วนี่  ก็ต้องไปล่ะนะ

“มีร้านนึงไม่ไกลนี่แหล่ะครับ   แล้วเจอกันครับ”แล้วคุณก้อยก็วางหูไป ผมก็วุ่นๆเรื่องงานวิ่งไปวิ่งมาที่ไซท์งานกับที่ร้าน  จนลืมไปแล้วครับเรื่องนัดทานข้าว  พอตอนเย็นบุ้งก็โทรมาหาตามปรกติ

“โอม...วันนี้กรูว่าเราเปลี่ยนที่ขี่จักรยานบ้างดีไม๊กรูว่าไปขี่ที่เขื่อนลำตะคองดีกว่า  เปลี่ยนบรรยากาศ”

หูยไกลพอสมควรเหมือนกันนะครับ  ขึ้นเขาด้วยไม่ไหวละมั๊ง มันคงว่างจัดบุ้งเพื่อนผม
“มรึงว่างมากเหรอบุ้ง  แล้วขี่ไปไกลขนาดนั้นกรูว่าไม่ต้องเหนื่อยแน่ๆ  ถ้าขี่เองแล้วแป๊ปเดียวคงถึง...ถึงที่” :m12:

“ทำไม...กรูไม่เข้าใจ...ถึงที่ไหน” สมองช้าคิดตามไม่ทันซักทีบุ้งเอ๊ย

“อ้าวขี่ไปแ๊ป๊ปเดียวก็มีคุณพี่สิบล้อช่วยเสยมรึงพาไปส่งวัดนะซิ  รถเยอะตายห่า....”

“5555 มรึงจะบร้าเหรอโอม...ผีบร้าที่ไหนเค้าจะขี่ไปเอง  กรูหมายถึงเอาจักรยานใส่รถไปขี่ที่นู่น...ไอ้โง่”  :m20:

อ้าวผมจะไปรู้ได้ไงนึกว่ามันจะเจ๋งขี่ไปเอง  แล้วยังมาด่าผมอีก

“อ้าว....แล้วมรึงไม่เล่ามาให้หมดปล่อยให้กรูนึกว่ามรึงมันบร้า” กัดกันทุกวันจนหนังหนาไปหมดแล้วครับผมสองคน   แต่ไม่มีมันผมคงแย่นอกจากจะเฉาปากแล้วก็คงเหงาด้วย

ทีแรกผมก็คิดว่าวันนี้จะออกกี่โมงดีจะได้ไม่มืดเกินไป แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีนัดกับคุณก้อยนี่หว่าเย็นนี้

“เอ๊ะบุ้งๆ....กรูลืมวันนี้นัดกินข้าวกับลูกค้าว่ะไม่ได้เลยไว้วันอื่นแล้วกัน”
ปรกติผมไม่ค่อยได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านหรอกครับ  รักนวลสงวนชายอยู่บ้านตลอด  บุ้งมันเลยสงสัย

“ใครลูกค้ามรึง...หญิงเหรอ...ใคร”ดูมันครับยิ่งกว่าพ่อแม่ผมอีก  ไอ้เพื่อนมหาจำเริญเพื่อนบังเกิดเกล้า  มาทำเสียงขู่เข็ญผม  ถามมาอย่างงี้ยิ่งไม่บอก  ให้มันอยากรู้จนลงแดงไปเลย

“กรูบอกไปมรึงก็ไม่รู้จัก.....แค่นี้นะกรูต้องไปอาบน้ำเตรียมตัวให้ตัวกรูหอมๆไว้ หึหึหึ”

“โอมมรึงวางหูไม่ได้นะบอกกรูมา......โอม” :serius2:

ผมยังทันได้ยินเสียงมันโวยวายครับก่อนวางหู  ผมรู้ว่ามันไม่ปล่อยผมแน่ๆ  แต่อยากรู้ว่ามันจะทำยังไง   ดีครับไม่มีใครหวงแล้วก็ให้บุ้งมันหวงบ้าง  คนเราก็แปลกครับชอบให้มีคนสนใจ   ก็ผมมันคนขาดรักนี่แล้วก็ไม่มีใครมาหวงตั้งนานแล้วด้วย

ปิดร้านแล้วผมก็เลยอาบน้ำแต่งตัวให้ดูสดชื่นหน่อย   กับคุณก้อยผมก็ไม่ได้คิดอะไรครับ  เจอกันสองทีเองมั๊งตั้งแต่รู้จักกันมา  ก็5-6 เดือนแล้วล่ะ  คุณก้อยเป็นหน้าตาดีครับ  หล่อกว่าพี่ต่ายซะด้วยซ้ำ  ดวงตาเปล่งประกายสดใส จมูกเป็นสันโด่งพองาม  คิ้วเข้มเรียวยาว มีรอยยิ้มขี้เล่นอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา  เสียแต่ไม่ใช่คนตัวสูงเท่าไหร่ก็พอๆกับผมล่ะครับ

 คุณก้อยมารับเหมาปลูกบ้านที่เขาใหญ่แล้วก็มาซื้อของผมไปทำ  สั่งของกันทางโทรศัพท์แล้วก็ชำระเงินโดยการโอนผ่านธนาคาร   ถึงไม่เจอตัวกันแต่เราคุยกันถูกคอเพราะอายุไล่เลี่ยกัน  ไปๆมาๆเลยสนิทกันแบบนี้แหล่ะครับ

พอ 6 โมงคุณก้อยก็มารับผมที่ร้าน  ขับรถไปไม่ไกลก็ถึงร้านอาหาร  เป็นร้านที่ตกแต่งแบบคาวบอย  ร้านขนาดไม่ใหญ่นักแต่จัดประดับด้วยของที่ทำให้เก๋ไก๋  ร้านค่อนข้างเงียบเพราะเพิ่ง 6 โมงยังไม่ดึกมากนักมีคนนั่งอยู่ไม่มาก  ผมเองก็เคยมาทานไม่กี่ครั้งแต่อาหารก็อร่อยดีทีเดียว  สั่งอาหารไปแล้วคุณก้อยก็ยิ้มๆถามผมก่อนว่า

“คุณโอมตัวหอมจังใช้น้ำหอมอะไรครับ”  o18 ผมได้แต่ทำตาปริบๆ เอาแล้วซิจะมายังไงล่ะเนี่ย   มาดมกรูตอนไหนว่ะ

“ผมไม่ได้ใช้น้ำหอมนะ   กลิ่นแชมพูมั๊ง  ผมทาแต่แป้ง เลิกใช้พวกโคโลญจ์มานานแล้วครับ”ตั้งแต่ไม่ได้อยู่กับพี่ต่าย  ไม่อยากใช้อะไรเลยครับนึกถึงแต่คนที่เคยทาให้

คุณก้อยก็ไม่ว่าอะไรชวนคุยต่อ “เหรอ....ตัวหอมจังขนาดนั่งห่างอย่างนี้ยังได้กลิ่นเลย”

จึ๋ยๆอย่ามายุงกะกลิ่นกรู  เอ๊ะหรือว่าเราล้างตัวไม่สะอาดล่ะเนี่ย  กลับไปต้องไปอาน้ำล้างตัวใหม่อีกรอบไม๊เนี่ย   :m29:

พนักงานเอาเบียร์มาเสริฟครับแล้วรินให้เราคนละแก้ว  คุณก้อยดื่มเบียร์แล้วก็ถามผมว่า
 “คุณโอมเบื่อไม๊อยู่ที่นี่”

“ผมไม่นะ กำลังสนุกกับงาน  ทำของตัวเองก็สบายใจด้วยไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร”
ที่จริงอีกเหตุผลนึงผมอยากช่วยที่บ้านด้วย  พ่อแม่ก็แก่ลงไปทุกวัน ชวนป๋วยปี่แป่กอเป็นผู้สนับสนุนผมเอง

“แล้วคุณก้อยล่ะ   ขยันจังไปๆกลับๆขับรถทุกวันไม่เหนื่อยเหรอ”กรุงเทพฯเขาใหญ่ ร้อยกว่าสองร้อยกิโลนะครับไม่ใช่ใกล้ๆ
 
“ก็มีงานทำก็ต้องขยันน่ะครับ   อีกหน่อยแก่ๆผมจะได้มีเงินเยอะๆเอาไว้ไปเที่ยว”

พอคุณก้อยตอบแบบนี้มันทำให้ผมนึกถึงฝันของอีกคนนึงครับ  ความฝันที่เคยมีผมอยู่ในนั้นด้วยแต่ตอนนี้ฝันเค้าคงเปลี่ยนไปแล้ว ผมคงหมกมุ่นกับความคิดตัวเองนานไปหน่อย  เสียงเรียกของคุณก้อยทำให้สติผมกลับมาอีกครั้ง  ผมดื่มเบียร์ไปหมดแก้วตอนไหนไม่รู้  คุณก้อยเลยรินเติมให้

“ทำไมเงียบไปคุณโอม  ไว้แก่ๆเราไปเที่ยวด้วยกันนะดีมั๊ย” รอยยิ้มที่ส่งมาผมก็ว่าดูจริงใจดีนะ คงไม่ได้คิดอะไรหรอก

“ก็เอาซิ  อย่าลืมมาชวนผมแล้วกัน  กลัวรวยแล้วจะลืมกันมากกว่า”

“เฮ้ยจะไปลืมกันได้ไงง่ายๆเล่า   หาได้ง่ายๆที่ไหนคุยกันถูกคอขนาดนี้”  :o9:

พอดีอาหารมาเสริฟครับ ก็มีเสต็กหมู ไส้กรอกรวม  พาสต้า  แล้วก็สลัดทูน่า ก็กินด้วยกันน่ัะครับ  คุณก้อยหั่นไส้กรอกแล้วตักใส่จานให้ผม  ก็นั่งกันอยู่สองคนมันก็ตักเองได้น่ะครับ  มาตักให้กันทำไม  ไม่ได้เป็นผู้หญิงนะเว้ย

“คุณก้อย....ผมตักเองได้  ทานไปตามสบายเถอะ”  :m23:คุณก้อยยังไม่หยุดครับหั่นเสต็กให้ผมอีก

“ทำไมล่ะบริการหน่อยไม่ได้เหรอ  นานๆจะเจอกันทีนึง”   :a11:
 
เออกลายเป็นว่าผมต้องมาให้ลูกค้าบริการ ตามใจเลยอยากทำก็ทำซะ  ทำซะให้พอใจ  แล้วหลังจากนั้นก็คุยกันไปเรื่อยๆนะครับ เรื่องงานเรื่องที่บ้าน  ก็สนุกดีไม่ได้สนใจใครเดินเข้าออกในร้าน

“คุณโอมไปกรุงเทพฯบ่อยไม๊”

“ไม่บ่อยนะแต่อาทิตย์นี้ว่าจะไปพอดีนัดเพื่อนไว้”

“เหรอเราไปกินข้าวกันอีกนะ  ไปวันเสาร์เย็นซิวันเสาร์ผมมานี่  แล้วขับตามๆกันไป”

คุณก้อยอารมณ์ไหนเนี่ยสงสัยใครๆก็ไม่รักไม่มีเพื่อนรึไง “จะดีเหรอ คุณมาทำงานนี่เดี๋ยวไปรบกวนเปล่าๆ  ทำให้ต้องรีบกลับ”

“ไม่กวนหรอกนะ  ไปกินด้วยกันผมอยากพาไปกินอะไรอร่อยๆที่กรุงเทพน่ะ” ผมไม่ควรจะปฎิเสธเพราะเค้าก็เป็นลูกค้า แล้วผมก็ตอบไป

“ก็ได้  แล้วเดี๋ยวเรานัดกันอีกที” ผมตอบออกไปแล้วก็ขำตัวเอง  ไม่ค่อยได้นัดกับผู้ชายทานข้าวรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน  ปฏิบัติงานนอกสถานที่ด้วยนะ  นี่ตกลงชีวิตผมจะมีแต่แบบนี้ไช่ไม๊

แล้วเราก็ดื่มเบียร์กันต่อไปอีกครับ  จนหมดไปหลายขวดผมเริ่มง่วงนอน ผมเลยชวนคุณก้อยกลับ 
“กลับกันดีกว่าครับพรุ่งนี้ผมต้องตื่นแต่เช้าด้วย” คุณก้อยพยักหน้าแล้วเรียกคนมาเก็บเงิน

“ผมเลี้ยงเองยังไม่เคยเลี้ยงคุณก้อยซักทีนานๆจะมีโอกาสได้รับใช้”
ผมควักกระเป๋าจะจ่ายแต่ก็โดนคุณก้อยตัดหน้าไปครับ ก็เลยไม่ทันเลย  o16 ใจจริงแอบดีใจนิดหน่อย แต่ปากน่ะพูดว่า

“คุณก้อยทำไมทำอย่างนี้งั้นคราวหน้าผมเลี้ยงนะ  ห้ามแย่งด้วย”คุณก้อยหัวเราะร่วน

“โอเคๆ  เลี้ยงกันไปเลี้ยงกันมาจะได้กินกันเรื่อยๆ” ยังจะกินอีกเรอะ  จะเอาเวลาที่ไหนไปเจอกั๊น  อยู่กันคนละทิศละทาง คราวหน้ายังไม่มาคิดไปคราวนู้นล่ะ

ผมลุกขึ้นยืนเซๆนิดๆ คุณก้อยรีบเดินมาประคองผม แต่ว่าคนที่คุณก็รู้ว่าใครเบอร์1 ครับโผล่มาจากไหนไม่รู้ ปร๊าดมาเกาะเอวผมเลย   o22 แล้วกระแทกคุณก้อยเด้งไปยืนงงนู่นแล้ว

แล้วทำเนียนเป็นบังเอิญมาเจอ“อ้าวโอม...มากินที่นี่เหมือนกันเหรอ จะกลับพอดีเหมือนกันเลย...ไปกรูไปส่งกรูเอารถมา”

ผมขมวดคิ้วมองหน้าบุ้ง   มันเอาจริงโว้ยมีการสะกดรอยตามผมด้วย หันไปมองคุณก้อยทำหน้าแปลกๆมองผมกับบุ้งเกาะเอวกัน  ผมต้องรีบปัดมือมันออกไป  แล้วแนะนำให้รู้จักกัน

“กรูยืนเองได้บุ้ง.....นี่คุณก้อยลูกค้า  นี่บุ้งเพื่อนผมเองครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณก้อย” ผมเมานิดๆก็จริง  แต่ยังมองเห็นหน้ากวนตรีนของบุ้งที่มองคุณก้อย แต่บุ้งก็พูดสุภาพครับ

“เดี๋ยวผมไปส่งโอมเองดีกว่า  ที่บ้านเค้าหวงลูกชายครับ แต่กับผมสนิทกันดี  ป๋าแม่ไม่ว่าอะไร” ดีมากเพื่อนรัก กีดกันกรูดีมาก  กรูจะให้รางวัลมรึงด้วยอะไรดี

คุณก้อยกลับบอกว่า “ผมไปส่งดีกว่า  ผมรับมาก็ควรไปส่ง”
 เหอๆๆๆบ้านกรูอยู่แต่นี้ แป๊ปเดียวก็ถึงจะมาแย่งกันทำไม๊  ไม่เข้าใจ o16

“คุณก้อยทำงานทั้งวันคงเหนื่อยแล้ว  อีกอย่างก็ดื่มเบียร์  แต่ผมไม่ได้ดื่ม  ผมไปส่งดีกว่า” บุ้งก็ยังมีเหตุผลมาหักล้าง  แต่คุณก้อยก็โยนมาให้ผมตัดสินใจ

“ถามคุณโอมดีกว่า  ว่าจะให้ใครไปส่ง” แหะๆอุตส่าห์จะรอฟังว่าจะต่อล้อต่อเถียงกันจนใครชนะ  เมาจนนั่งรอแล้วนะ  แล้วจะเอาไงดี  พอดีพี่อิงโทรมาครับ

“โอมอยู่ไหน  ทำไมยังไม่กลับ”  o12 ผู้พิทักษ์มาอีกคนแล้วครับ หุหุ

“มารับหน่อยดิ  เค้าอยู่ร้านคาวบอยเนี่ยนะมาหน่อย  กำลังปวดหัวเลย”สองคนนั้นยืนฟังตาปริบๆ   พี่อิงตอบมาเลยทันที

“โอเคเดี๋ยวเค้าไปรับ  รอนั่นแหล่ะ” จบเรื่องครับ  สองคนมองหน้าผมแล้วเงียบไปเลย
เฮ้อ!!!! เบื่อตัวเอง  ทำไมเสน่ห์แรงอย่างนี้นะ หุหุหุ  :m1:
 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 ไปก่อนล่ะ ไปคิดว่าจะเอายังไงกะชีวิตดี   :m27:
 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 18-01-2008 10:14:26
บ้านพี่กระต่ายแน่ ๆ เลย  :m1:

เสน่ห์แรงเกินห้ามใจไปป่าวโอม :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 18-01-2008 10:24:32
 :a4:ผมพอจะเดาออกแล้วหละว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร คุณ manfang ครับ ช่วยให้พี่ต่ายกับโอมสมหวังด้วยนะครับ 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 18-01-2008 10:29:21
แอบเดาเอาว่าคนที่ปลูกบ้านต้องเป็นพี่ต่ายด้วยอีกคน

แต่ว่ามีคนเริ่มมาพัวพันกับโอมอีกแล้ววว

งึมๆๆๆ

ขอให้สมหวักันที่เถอะนะ

 :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 18-01-2008 10:31:04
มาๆ

มาปรึกษากันดีกว่าฟาง

ทีหลังมีไรก็ถามบัวดีกว่า

 เด๋วก็ได้อิฐมาสร้างบ้านอีกหรอก

 :m20: :m20: :m20:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 18-01-2008 10:41:15
มีลางสังหรณ์ว่าพี่ต่ายมาแว้ววววววววววว  แต่ยังไม่เปิดเผยตัวหรือเปล่านะ   :oni2:

ป.ล. เรื่องจะเป็นยังไงไม่ว่าเลย   แต่ต้องมาทุกวันไม่งั้น         :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 18-01-2008 11:04:07
แอบเดาเอาว่าคนที่ปลูกบ้านต้องเป็นพี่ต่ายด้วยอีกคน

แต่ว่ามีคนเริ่มมาพัวพันกับโอมอีกแล้ววว

งึมๆๆๆ

ขอให้สมหวักันที่เถอะนะ

 :m23:

เห็นด้วยทุกประการ  :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 18-01-2008 12:11:30
ขอบคุณ คุณManfangครับที่ไม่รังเกียจการเม้นท์ของผม  รักคุณนะครับ

ขอบคุณ คุณกฤชที่ช่วยให้เห็นจริงกับภาษิตที่ว่า "คนรักเท่าผืนหนัง  คนชังเท่าผืนเสื่อ"แต่ผมก็รักคุณกฤชนะครับที่ช่วยเติมสีสรรให้กับชีวิตผม

เป็นเม้นท์ที่ยาวที่สุดในชีวิตที่เคยทำมาเลยนะนี่จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณManfangเสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 18-01-2008 12:42:31
แปลกใจ พี่ต่ายมาแล้วทำไมไม่มาหาโอม... o12
ยังคงอยากรู้เหตุผลการจากไปของพี่กระต่ายอยู่ดี
ให้คำตอบดี ๆ นะไม่ดีมี  :m16:

เพิ่มคุณก้อยมาอีกคนละ...งานนี้พี่ต่ายจะรู้สึกกกก
 :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-01-2008 12:49:01
 :m4: โอมอาจจะไม่รุ้ตัวว่ากำลังสร้างเรื่อหาตัวเองอยู่แน่ๆเลย    :m1:  แอบลุ้นให้เป็นแบบนี่


ปล. หมั่นไส้ เสน่หืแรงจริงๆเล่ยน๊าาาา  อิาจฉา มีหนุ่มๆมาแย่งกันไปส่งบ้าน  .... ชีวิตนี้ไม่เค้ยไม่เคย เหอๆๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 18-01-2008 13:04:57
หุหุ งานนี้ถ้าต่ายไม่รีบมาหาโอมนี่อาจมีเฮนะ   :m14: :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: GoneOn ที่ 18-01-2008 13:15:53
บ้านริมเขา  หึหึ  บ้านไอ้พี่ต่าย แหง๋ม แหง๋ม   :a2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 18-01-2008 13:30:31
มาให้กำลังใจคนแต่งแล้วจ้า    :a3:
หลังจากโดนคนแต่งงอนเข้าให้ เพราะเราเล่น   :a5:  อย่างเดียวไม่เคยเม้นท์เลย
ขออะไรอย่างได้ป่าว  (เพิ่งโผล่หน้ามาเม้นท์ ก็จะขอไรซะละ คนเรา)
ขอให้โอมเล่นตัวนานๆ  (ถ้าพี่ต่ายกลับมาง้อจริงๆอ่ะนะ)
เอาแบบวิ่งตามง้อกันข้ามเขาสิบลูกแล้วโอมก็ยังไม่หายงอน     :oni1:
(ไม่ใช่ไรหรอก ถ้าโอมงอนนานๆ จะได้ตามอ่านกันได้อีกหลายๆตอน ถ้าดีกันไวนัก เรื่องมานก็จบอ่ะดิ)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 18-01-2008 13:40:43
กลับมาได่ม้าย
กลับมาห๊ากัน
กลับมารักฉ้านคนที่รักเธอหมดจายยยยยยยย

กลับมาอยู่ด้วยกันสักทีเห้อ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 18-01-2008 14:02:16
บ้านไอ้พี่ต่ายแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดแล้วมันน่าเอาคืนนัก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 18-01-2008 15:55:35
 :m13: ขอให้พี่ต่ายเป็นเจ้าของบ้าน ละกันน้าพี่ฟาง
หวังว่าคงไม่ใช่หักมุม หลอกคนอ่านอีกน้าค้าบ  :m29:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 18-01-2008 16:01:45
สเน่ห์แรงเจงๆ o13 o13

รอตอนต่อไปอยู่นะงับพี่ฟางกำลังหนุกหนาน :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 18-01-2008 17:15:23
ได้ข่าวว่าคนแต่งจะไม่มาลงตอนใหม่.....

ต้องรอซัก 2-3 วัน......

หึ หึ ใจร้าย เน๊อะ......

 :o8: :o8: :o8:


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: mahama ที่ 18-01-2008 17:47:51
หุหุ :m4: :m4:

ใกล้จะจบแล้วมั่งเกือบจะถึงบทสรุปแล้วนิ  o13 o13

มาต่อไวๆ อยากรูแล้วว่าจะเป็นไง นะครับพี่ฟาง :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 19-01-2008 08:59:33
ขอบคุณ คุณManfangครับที่ไม่รังเกียจการเม้นท์ของผม  รักคุณนะครับ

ขอบคุณ คุณกฤชที่ช่วยให้เห็นจริงกับภาษิตที่ว่า "คนรักเท่าผืนหนัง  คนชังเท่าผืนเสื่อ"แต่ผมก็รักคุณกฤชนะครับที่ช่วยเติมสีสรรให้กับชีวิตผม

เป็นเม้นท์ที่ยาวที่สุดในชีวิตที่เคยทำมาเลยนะนี่จะคอยเป็นกำลังใจให้คุณManfangเสมอและตลอดไปครับ

 :o
เค้ามะได้ว่าไรนะ
 :m21: :m21: :m21: :m23:



 :m4:
แต่ ... ในที่สุด คุณเคนก็ได้เม้นยาว ๆ ซะที o3

ว่าแล้วก็ไปหาฤกษ์ปลูกบ้านให้พี่กระต่ายกะโอมดีก่า  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 19-01-2008 12:47:20
 :m22:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 19-01-2008 14:38:40
เรือนหอ....มันต้องกลายเป็นเรือนหอแน่ๆ :m1: :m1:

มีคนไปหาฤกษ์ปลูกบ้านแย้ว เราไปหาฤกษ์ส่งตัวมั่งดีก่า...

 :oni1: :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 19-01-2008 15:03:46
 :a4:ขอภาวนาให้บ้านหลังนั้นเป็นของพี่ต่ายด้วยเถิด ปลูกไว้เพื่ออยู่กับโอม 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 19-01-2008 17:07:28
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 19-01-2008 18:22:29
ยังคงติดตามเป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 20-01-2008 20:58:22
 :a4:
รออยู่น้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 20-01-2008 21:54:05
รีบๆมาสิคับ
รอนานแร้วนะเนี้ย
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 20-01-2008 21:55:58
เข้ามารอด้วยคนคร้าบบบ

อยากรู้จาแย่แล่วว

 :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 21-01-2008 11:50:29
 :m29:

ลุ้นๆๆๆ
จนเหงื่อตก ตัวโก่งแล้วนะเนี่ย

ทั้งคู่จะเป้นอย่างไรต่อไป

ขอให้ทั้งโอมและต่ายมีทางออกให้กับปัญหานี้ด้วยเถอะงับ


รอๆๆงับ

 :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 21-01-2008 13:07:55
รออยู่นะึ้่ค้าบบบ  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 21-01-2008 14:09:21
 :a4:ต้องมาต่อให้จบนะครับ อย่าให้ค้างคา สงสารคนอ่านบ้าง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 21-01-2008 19:20:49
 :m22:
ยังไม่มารึเนี่ย
ไม่เปนไร รอได้จ้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 21-01-2008 19:26:15

ไม่มาแล้วว.......

คนแต่ง ยังแต่งไม่เสร็จเลย......

แถมไปสอบ ก้อทำไม่ได้....... 

:m20: :m20: :m20: :m20:





หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: civava14 ที่ 22-01-2008 00:02:48
คนแต่งจ๋าาาาา
อย่านานนักนะ  คนอ่านมันค้างคา
ขอตอนจบมา ไว ไว หน่อย ก็ดี
ดีกว่าค้างๆ คาๆ

 o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 22-01-2008 00:02:49
คนที่replyก่อนหน้าเนี่ยfc_uk ช่วยซ้ำเติมตลอด ขอบคุณนะคะ :m14:

คุณ ken_krubขอบคุณค่ะ ที่ยังเป็นกำลังใจให้ อิอิ เขียนยาวขึ้นดีใจจัง :m4:

แล้วก็คุณผู้อ่านทุกท่านที่ช่วยกันลุ้นอยู่ขอบคุณนะค่ะ 
พยายามอยู่ค่ะแต่ช่วงนี้ยุ่งๆนิดหน่อย อาจจะทิ้งช่วงไปอีกนะ :oni1:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 59

พอพี่อิงมารับ  ผมก็เดินออกมาเลยครับมึนจนจำไม่ได้ด้วยว่าบอกลาคุณก้อย กับบุ้งหรือเปล่า   แล้วก็ไม่ได้สนใจว่าสองคนนั้นจะสานสัมพันธ์กันต่อหรือจะพากันไปทะเลาะกันรึเปล่า หรือเค้าจะรักกันไปแล้วก็ได้ใครจะรู้ หึหึ พอพยุงผมขึ้นนั่งรถเสร็จเรียบร้อยพี่อิงก็เริ่มถามผม

“ทำไมโอมต้องกินเหล้าเยอะขนาดนี้ด้วย” o12

 เริ่มอีกละพี่ผม.....เหมือนเปิดเทปพระเทศน์เลย อยากจะบอกว่ากินแต่เบียร์เหล้าไม่ได้กินก็กลัวโดนตบ อิอิ  หันไปจะรูดซิบปิดปากพี่อิงให้หยุดพูด พอเอื้อมมือไปเท่านั้นแหล่ะครับ เหมือนรู้ทันเลยสมเป็นพี่น้องกัน พี่อิงปัดมือผม  ดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาดให้

“นั่งเฉยๆ...โตแล้วยังต้องให้พี่มาดูแลอีกแย่จริงๆเรานี่”พี่อิงบ่นอย่างนี้ทุกทีครับ  ขนาดผมไม่ได้เมาบ่อยๆนะ

“ก็ไม่มีแฟนดูแลก็ต้องให้พี่ดูแลซิ”พอพูดออกไปแล้ว  ผมก็งงตัวเองว่าพูดอะไรออกไป สงสัยผมจะเปล่าเปลี่ยวหัวใจมากไปหน่อย หึหึ  ผมก็ว่าผมเลิกคิดเรื่องนี้ไปนานแล้วนะ

“เงียบไปเลยโอม”พี่อิงเป็นอะไรว่ะ อารมณ์ไม่ดีแหงเลย  พูดก็ไม่ได้  ก็เกิดมาไม่ได้เป็นใบ้แล้วทำไมไม่ให้พูดหือ....งั้นไม่พูดแล้วงอน :serius2:

พอมาถึงบ้านผมก็ลุกเองเดินเข้าบ้านเองครับแต่เซนิดหน่อยพอให้รู้ว่ากินเบียร์ไปแล้ว เมาไปแล้ว  ไม่เสียของ  กินแล้วไม่เมากินไปทำไมเปลืองเงินเปล่าๆ  แต่ถ้าเมาแล้วอ๊วกซิเปลืองมากกว่า  ค่อยๆเดินไปพี่อิงก็ยืนเท้าสะเอวมองตาม   แต่ไม่ช่วยครับกวนจริงๆพี่ผม  ผมพยายามเดินให้ตรงทางแต่ทำไมทางมันคด  ผมไม่เข้าใจใครเป็นคนออกแบบทางเดินในบ้านทำไมเลื้อยเป็นงูเลย

ผมก็เดินขึ้นบ้านไปได้แล้วก็เข้าห้องนอนได้เอง  เก่งพอใช้ได้ครับ แล้วก็ล้มตัวลงนอนเลยอย่างสบายใจกำลังขยับท่าทางให้ดีกำลังจะหลับล่ะ  พี่อิงก็ดึงจิกตัวผมขึ้นมานั่ง

“ไปอาบน้ำก่อน  เหม็นสาบนอนได้ไง”ผมสะบัดตัวออกจากพี่อิงเหมือนโฆษณาแชมพูสระผมที่ต้องสะบัดๆ แล้วก็ล้มตัวลงนอนต่อ ปากก็พูดไป  แต่ไม่ลืมตา

“อาบแล้ววว.....ก่อนไปกินข้าวไง....คุณก้อยยังบอกว่าตัวหอมเลย หุหุหุ”ผมก็พูดเล่นๆไปไม่ได้จริงจัง พี่อิงเงียบไปเลยครับ แล้วบอกผมเสียงเครียดๆว่า

“โอมอย่าทำตัวแบบนี้อีกนะพี่ไม่ชอบ”  :angry2:ไม่ชอบ...แล้วชอบอะไรล่ะ อิอิ

“ทำแบบไหน...พูดมาดีๆนะพี่อิง  เค้าไปทำอะไร๊....แค่ไปกินข้าวกับลูกค้าเอง”
 เมาแต่ยังพอรู้เรื่องครับ  ไอ้เรื่องต่อล้อต่อเถียงไม่ยอมแพ้ใคร  คงจมลึกอยู่ในกมลสันดานของผมยากที่จะเลิกได้ เป็นกรรมของคนที่บ้านจริงๆ

“ก็ไปให้คนอื่นเค้าดมตัวเองทำไม” อ๋ออออ.....พี่ผมหวงน้องนี่เอง ฮ่าๆๆ

“ไม่ได้ให้ดม....เค้าได้กลิ่นเอง” :m23:
  ผมเลยพูดยิ้มๆกวนๆต่อไป  แต่คราวนี้หรี่ตามาดูหน้าพี่ผมซะหน่อยกะว่าให้เซ็กซี่   แต่พี่อิงคงไม่คิดอย่างนั้น  เลยทำให้หน้าผมไปกวนเบื้องล่างของพี่ผมโดยไม่ได้ตั้งใจ พี่อิงเลยดึงผมขึ้นมานั่งอีกครั้ง

 “เค้าเป็นหมาเหรอ...เค้าถึงจมูกดีขนาดได้กลิ่นน่ะ”พี่ผมเองครับ หึหึหึ ภูมิใจจริงๆ  เปรียบเทียบซะเห็นภาพ เหมือนเห็นคุณก้อยยืนเห่า ฮ่งๆ อยู่ข้างๆ หุหุหุ :m4:

“หมาที่ไหน จบวิศวะ  มาซื้อของที่บ้านเราได้  จ่ายตังค์ดีด้วยนะ  ถ้าหมาเป็นแบบนี้รักตายเลย ฮ่าๆๆๆ”

พี่อิงแกคงเบื่อผมแล้วครับ  พูดเท่าไหร่ก็แถไปได้ตลอด  จนสีข้างแดงเถือกไปหมดแล้ว พี่อิงยืนกอดอกมองผมอยู่พักนึง  ผมก็นั่งมองตาเยิ้มใส่พี่ผม  แกคงทนดูสภาพของผมไม่ไหวเลยจับตัวผมลุก  แล้วกึ่งประคองกึ่งลากให้ผมไปล้างหน้า  แล้วพี่ผมก็บ่นตลอด

“นี่ตกลงกรูมีลูกกี่คนกันแน่ว่ะเนี่ยจะบร้าตาย.....เฮ้อ” หึหึหึ บ่นเข้าไป บ่นเข้าไป  ง่วงนอนเว้ย

“มีน้องชายเหมือนมีน้องสาว  ต้องดูแลมันตลอด” บ่นๆๆๆ ผมว่าผู้ชายนี่ก็ขี้บ่นพอๆกับผู้หญิงเลยครับ  เรื่องขี้บ่นเนี่ยไม่ต้องแย่งกันเลยว่าใครชนะเลยผมว่าพอกัน

“โอมอย่าไปยุ่งกับคุณก้อยเลยนะ  เค้าไม่ไว้ใจ”

แต่พอพี่อิงพูดคำนี้ขึ้นมาเท่านั้นแหล่ะครับ  ผมเป็นอะไรไม่รู้ มันหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทั้งที่ทีแรกก็เงียบๆอยู่ พูดกับพี่อิงไปด้วยความปวดใจว่า

“ทำไมกลัวเค้าจะไปรักกับผู้ชายอีกเหรอ...” o7 แต่พอพูดไปแล้วก็นึกเสียใจ เพราะเห็นสีหน้าพี่อิงที่มองกลับมา

พี่อิงก็เลิกบ่นไปเลยเป็นปลิดทิ้ง เงียบสนิทก้มหน้าก้มตาพาผมกลับมานอนที่ห้อง  เหมือนผมไปพูดอะไรที่เค้าไม่อยากจะรับรู้  แต่พี่อิงก็พูดประโยคที่ทำให้ผมอึ้งไปมากกว่า

“โอมไม่รักต่ายแล้วเหรอ”

  ผมไม่รู้จะตอบยังไงเลยครับ พูดไม่ออกจริงๆ  ไม่รู้จะถามให้ได้อะไรขึ้นมา  ผมนั่งมองหน้าพี่อิงที่มองผมกลับอยู่เหมือนกัน แล้วผมก็ตอบไปจากใจจริงของผมว่า

“รักซิ........ก็มีคนนั้นคนเดียวแหล่ะที่ผมรัก” :impress:

พูดเสร็จผมก็ล้มตัวลงนอน พี่อิงหยิบผ้าห่มมาห่มให้ผม แต่ผมรู้ว่าพี่อิงยังยืนอยู่ตรงนั้น ผมพลิกตัวนอนหันหลังให้พี่อิงแล้วก็พูดว่า

“พี่อิงไม่ต้องห่วงเรื่องคุณก้อยหรอก  ผมคิดกับเค้าแค่เพื่อนเท่านั้นเอง”

ผมได้ยินเสียงฝีเท้าพี่อิงเดินออกไปจากห้อง  พร้อมคำพูดแค่ว่า “ก็ดีแล้ว”
+
+
+
ทีแรกผมง่วงมากๆเลยแต่ตอนนี้เหมือนจะตาค้างเอาดื้อๆ  คิดถึงแต่สิ่งที่ตัวเองพูดออกไป  และคำพูดที่พี่อิงพูด ผมนอนคิดวนเวียนอยู่อย่างนั้นแล้วผมก็เผลอหลับไปด้วยความสงสัยว่ามันยังไงกันแน่
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันต่อๆมาของผมก็มีแต่ทำงานครับ  พี่อิงกับผมไม่พูดเรื่องที่คุยกันวันนั้นอีก ผมก็ลืมไปเลยด้วย  ช่วงนี้ผมต้องให้ความสนใจกับงานหลายอย่างก็เลยไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นๆมากนัก  ที่ยุ่งๆที่สุดก็ไอ้เรื่องบ้านริมเขานั่นน่ะครับ  ก็เจ้าของไม่มาสนใจอะไรเลย  ติดต่อผ่านคุณป่านก็กว่าจะรู้เรื่อง  จนผมแทบจะอยากเลิกทำไปเลย

“พี่อิงตกลงบ้านนี่เค้าจะเอายังไง  แบบก็ไม่ชัดเจน...จะถามอะไรก็บอกแต่ตามใจคุณโอม”

“นี่มันบ้านเค้าเองนะพี่อิง....ไม่ใช่บ้านผม” เบื่อๆๆๆยิ่งไม่ค่อยมีเวลา  กลับต้องมาเสียเวลากับไอ้บ้านนี่

“เอาไปทำเองเหอะพี่อิง...เบื่ออ่ะ” หุหุหุ เริ่มขี้เกียจแล้วครับ  มันวุ่นๆวายๆยังไงไม่รู้ไม่คุ้มตามเรื่องเลย

“เอาน่าทำไปแล้วก็ทำต่อ   เค้าเองก็ไม่ไหวแล้วงานล้นมือ  คนนู้นก็เร่งคนนั้นก็เร่งหัวหงอกแล้วเนี่ย”

 หงอกก่อนวัยอันสมควรจริงๆพี่ผม  ผมแอบชะโงกไปดูที่ศรีษะของพี่อิง หึหึ อายุยี่สิบกว่าๆก็หงอกซะแล้ว   สงสัยเพราะมีน้องอย่างผมด้วยมั๊ง

“ทำก็ได้.....แล้วตกลงเจ้าของบ้านเค้าชื่ออะไรกันแน่ล่ะเนี่ยพี่อิง  ติดต่อไม่ได้ซักที”ปลูกบ้านมาให้เค้าเป็นเดือนยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยผม

“ชื่อคุณวรา เพิ่งกลับมาจากเอเมริกาน่ะเค้าเลยยุ่งเรื่องงานอยู่”
“ผู้หญิงหรือผู้ชายพี่”
“ผู้หญิง”

พอพี่อิงตอบผมเซ็งเลย....ผู้หญิงปลูกบ้าน  o12 ไม่ค่อยรู้เรื่องแล้วก็จู้จี้ที่สุด เฮ้อ ยังไม่รู้ว่าทำๆไปไม่ใช่พี่แกไม่ชอบมาบอกให้รื้อหรือทุบทิ้งนะ เจอประจำเลยแบบเนี้ย

แล้วพี่อิงก็ทิ้งผมไว้ให้ดูงานอยู่ที่นั่นจนเย็น  ผมก็เดินดูคนงานทำงานไปเรื่อยๆ  แล้วก็พบมุมถูกใจใต้ต้นไม้ใหญ่  ลมพัดอากาศเย็นๆเข้ามาเบาๆ ทำให้ผมรู้สึกสงบใจอย่างประหลาด แล้วก็มีเวลานั่งคิดอะไรไปเงียบๆเพียงลำพัง
 
ผมนั่งมองภูเขาเขียวๆที่ตั้งตระหง่านอยู่ไกลๆ แสงอาทิตย์เริ่มอ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ อากาศเริ่มเย็นขึ้นทีละนิด หมู่นกเริ่มทยอยบินกลับบ้านของมัน คนงานเริ่มเก็บของเตรียมเลิกงาน  ผมมองพวกเค้าทำงานกันแล้วผมก็คิดได้อย่างนึงว่า  ชีวิตของพวกเค้าช่างเรียบง่ายจริงๆมีแต่เรื่องชีวิตประจำวัน  คิดแค่ว่าวันนี้จะทำงานไปเพื่อเลี้ยงชีพ หรือมีแค่เงินกินเหล้าไปวันๆ  ในขณะที่ชีวิตของผมที่ดูเสมือนไม่มีอะไร  แต่ในใจของผมซิมันช่างปั่นป่วนเหลือเกิน

 ผมจับมือของตัวเองขึ้นมาแล้วก็หมุนแหวนในมือเล่นๆ   คิดถึงวันที่ได้มันมาแล้วก็อดยิ้มไม่ได้   ผมพยายามบอกกับตัวเองว่าผมไม่อยากเจอพี่ต่ายแล้ว  แต่ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆทำไมผมถึงไม่เคยถอดแหวนวงนี้ออกล่ะ
 
มันปวดใจเมื่อนึกถึงเรื่องพี่ต่ายขึ้นมาอีกครั้ง  ผมก็อดคิดไม่ได้อีกว่าช่วงที่เราไม่ได้เจอกัน  พี่เค้าจะรู้บ้างไม๊ว่าผมเสียใจแค่ไหน  แล้วพี่ต่ายรู้สึกยังไงบ้างที่ทิ้งผมไปทันทีแบบนั้น แล้วที่สำคัญตอนนี้เค้าจะยังรักผมอยู่อีกหรือเปล่าผมชักไม่มั่นใจ 

เสียงของคนงานที่ตะโกนบอกผมทำให้ผมต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลง“คุณโอมครับ....มืดแล้วกลับเถอะครับ”

ผมลุกขึ้นยืนปัดเศษหญ้าที่ติดตามกางเกงแล้วก็ถอนหายใจ  มองพระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้     ปีกว่าที่ผ่านมาทำให้ผมกลายเป็นคนคิดมากขึ้นอีกเยอะ  ไม่น่าเลย   ผมชอบตอนที่ตัวเองไร้สติมากกว่า  อย่างน้อยผมว่าผมหัวเราะมากกว่านี้  ขำได้โดยไร้เหตุผลมากกว่า
   
ตอนนี้ผมคิดมากเกินไปจนเกือบจะไร้สุข  ขนาดว่าทำใจได้แล้วแต่ก็ยังรู้สึกว่าปลงไม่ได้อยู่ดี  สงสัยต้องไปหาหนังสือธรรมะมาอ่านอีกซักหลายๆโหล  ท่าจะดี หึหึหึ  ตอนที่ผมเริ่มขับรถออกมาก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา...แม่นั่นเอง

 “โอมอยู่ไหน...ทำไมยังไม่กลับมาอีกลูก”

“กำลังจะกลับแล้วแม่  เพิ่งออกจากไซท์งานครับเดี๋ยวก็ถึง”

 ผมวางสายแล้วยิ้มให้กับตัวเองอย่างน้อยผมก็มีครอบครัวที่รักผมที่สุด  ยังโชคดีกว่าคนจำนวนมากในโลกใบนี้  เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง  คราวนี้เป็นบุ้งครับมันบ่นมาก่อนเลย

“โอมมึงไม่มาก็ไม่บอกกรู  ปล่อยให้กรูมาขี่รอจนน่ิองเหี่ยวแล้ว” :o

 หึหึ ผมลืมไปเลยครับ ปรกติผมออกไปขี่จักรยานกับมันทุกวัน  วันนี้นั่งเพลิดเพลินกับธรรมชาติมากไปหน่อยจนลืมไปเลย

“ขี่อะไรว่ะจนน่องเหี่ยว......แล้วอย่างอื่นมรึงเหี่ยวไปด้วยรึเปล่า...อย่ามาโทษกันนะเว้ยไม่เกี่ยวกะกรู หุหุหุ”  :m12:

“มึงไม่ต้องนอกเรื่องเลย  ไรว่ะไม่มาก็ไม่บอก  แล้วนี่มรึงอยู่ไหนทำไมเสียงไม่ค่อยชัดเลย”

มันก็ยังไม่เลิกโวยอยู่ดี  ผมว่ามันติดเชื้อพี่อิงมาแน่ๆ  แอบไปกัดกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

“กรูอยู่ไซท์งานในเขาใหญ่เนี่ยกำลังกลับอยู่   มรึงอย่าถามมากไม่ต้องมาเป็นแม่กรูอีกคนเลยยย...กำลังขับรถอยู่” :o

“เออๆ...ขับรถดีๆล่ะมืดแล้วอันตราย  ถึงบ้านแล้วโทรหากรูด้วยนะ”

บุ้งเนี่ยนอกจากมันจะเป็นเพื่อนแล้วผมขอมอบตำแหน่งแม่บุญธรรมให้มันไปเลยครับ  บางทีมานห่วงผมยิ่งกว่าแม่ผมอีก  ผมกำลังคิดว่าต้องไปอำเภอจดทะเบียนรับแม่บุญธรรมอย่างมันไม๊   แต่ผมก็รับปากมันไปก่อนที่จะวางหู

“เออๆๆๆๆ”

ผมก็รับๆปากมันไปแหล่ะครับ แล้วก็ขับรถต่อไปอีกพักนึงมานโทรมาอีกล่ะ  ไม่รู้อะไรกันนักหนา  นี่ผมอายุจะ25 แล้วนะห่วงอะไรกันจริ๊ง ผมรับสายอย่างทุลักทุเล

“กรูรู้แล้ว!!!จะขับระวังๆ  พอใจยังมรึงนี่พูดไม่รู้เรื่อง  กรูกำลังเข้าโค้งอยู่  จะตายก็เพราะรับสายมรึงนี่แหล่ะ” :angry2:

ผมก็โวยไปเลยครับคนกำลังขับเข้าโค้งอยู่มันหวาดเสียว โทรมาอยู่ได้  แต่เสียงที่ตอบกลับมาบอกว่า

“งั้นเดี๋ยวพี่โทรมาใหม่แล้วกันโอม” o18
 +
+
+
แล้วเค้าก็วางหูไปเลยครับ  แต่ว่าที่สำคัญมันไม่ใช่บุ้งนะซิ  แล้วเสียงนี้ทำไมผมจะจำไม่ได้ก็มันเป็นเสียงของคนเดียวที่ผมรัก...พี่ต่าย

ผมตกใจจนขับรถแฉลบไปนิดนึงจนรถที่ขับสวนมาต้องบีบแตรดังลั่น o22  ผมมือสั่นใจสั่นจนต้องจอดรถเข้าข้างทางก่อนชั่วคราว  มือผมยังกำพวงมาลัยแน่นเหงื่อออกเต็มมือไปหมด  นั่งนิ่งงงอยู่ครู่ใหญ่จนแสงไฟจากรถฝั่งตรงข้ามที่แล่นสวนมาสาดส่องเข้ามาที่รถจนผมแสบตาผมถึงรู้สึกตัว

ผมรีบโทรกลับเบอร์ที่โทรเข้ามา  แต่โทรศัพท์กลับไม่มีสัญญาณ อารมณ์เสียจนแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งแต่ติดที่ยังเสียดายอยู่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ :serius2:

  ผมเพียรพยายามโทรหาพี่ต่ายหลายครั้งก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม    ผมเลยตัดสินใจขับรถกลับบ้านทั้งที่หัวใจที่เต้นแรง ตาคลอไปด้วยหยาดน้ำตา  ความรู้สึกมันอัดอั้นสับสนไปหมด

ผมถามคำถามเดิมซ้ำๆอยู่ในหัวตลอดเวลา  พี่ต่ายโทรหาผมเรื่องอะไร พี่ต่ายกลับมาตั้งนานแล้วทำไมถึงเพิ่งจะโทรมา  พี่ต่ายยังรักผมอยู่ไม๊และอีกหลายร้อยคำถามที่ผมอยากจะถามแต่ทำไมมันซวยอย่างนี้นะ  ดันไม่มีคลื่นเอาซะเลย  แล้วก็ชอบโฆษณากันจริงๆว่าทุกทิศทั่วไทย

 ผมรีบขับรถให้เร็วขึ้นเพื่อที่จะมาถึงบ้านให้เร็ว จนเกือบจะชนหมาโชคร้ายที่วิ่งเล่นอยู่ริมถนนหลายตัว  จนในที่สุดผมก็กลับมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย  นับเป็นโชคดีของรถหลายๆคันที่ไม่ต้องโหดร้ายเหยียบศพหมาบนถนน เฮ้อ

ผมรีบต่อโทรศัพท์หาพี่ต่ายแต่ก็สายไม่ว่างตลอด  จนผมหงุดหงิดอีกครั้ง  กำลังจะต่ออีกเป็นครั้งที่ร้อยแล้วมั๊ง  คุณพี่อิงของผมก็มาเคาะกระจกรถ ก๊อกๆๆๆๆๆ  ผมหันไปมองหน้านิ่วคิ้วขมวด  ไม่สนใจแล้วขอปฏิบัติภารกิจสำคัญก่อน

 ผมยังต่อโทรศัพท์อย่างมัวเมา  พี่อิงเริ่มดึงประตูจะเปิดออก แล้วเคาะอีก  ผมเริ่มหงุดหงิดเลยเปิดกระจกถามพี่อิง

“เดี๋ยวออกไป๊......ขอต่อโทรศัพท์หน่อยดิ.....มีอะไรป่าว” :m16:

พี่อิงพูดออกมาคำเดียวเท่านั้นแหล่ะครับ “ต่ายมา”

ผมตกใจรีบเปิดประตูรถจนลืมคิดไปว่าพี่อิงยืนอยู่ข้างๆ  ประตูกระแทกพี่อิงล้มไปข้างๆรถดังโครม :m30:

“เฮ้ย...พี่อิง........ขอโทษ”ผมรีบปิดประตูกำลังจะก้มไปพยุงพี่อิงลุกขึ้น  แต่มีคนมาช่วยพยุงแล้วครับ

“อิงเป็นยังไงบ้าง”

เสียงนุ่มนวลของพี่ต่าย ทำให้ผมรู้สึกว่าเลือดในร่างกายมันเหือดหายไปหมดครับ  มันเย็นเยือกไปทั้งตัว   :freeze:ผมกลายเป็นใบ้พูดไม่ได้ไปเลย  ตาก็จ้องมองที่พี่ต่ายไม่วางตา  พี่ต่ายพยุงพี่อิงให้ยืนขึ้นเรียบร้อยแล้ว ก็หันมาทางผม

พี่ต่ายมองสบตาผมแล้วเงียบไปชั่วขณะ  ผมดูสีหน้าพี่ต่ายไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร  พี่ต่ายเอามือมาจับที่ข้อศอกผมเบาๆเพื่อที่จะพาผมเดินไปด้วยกัน  แต่ผมกลับเบี่ยงแขนออกจากมือพี่ต่ายทันทีจนดูเหมือนสะบัด  ทั้งที่ผมเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

“ไปโอม......ไปกินข้าวได้แล้วทุกคนรออยู่”

พี่อิงที่ลุกขึ้นมาทำหน้ายู่ๆยี่ๆเรียกสติผมกลับคืนมา  ผมเลยเดินไปหาพี่อิงแล้วยกมือไหว้ขอโทษ  เพราะท่าทางจะกระแทกแรงเหมือนกัน  น่าจะเจ็บ

“ผมขอโทษพี่อิง....เจ็บมากไม๊”

 ผมพยายามบังคับเสียงพูดของตัวเองให้เป็นปรกติที่สุดเท่าที่จะทำได้   แล้วผมก็ประคองพี่อิงเดินเข้าบ้านไป  ผมไม่ได้ทักหรือยกมือไหว้พี่ต่ายแม้แต่นิดเดียว  ลึกๆในใจแล้วผมรู้สึกเหมือนผมป่วย ผมรู้สึกตะครั่นตะครอ  หนาวๆร้อนๆเหมือนคนเป็นไข้  แต่ผมก็ดีใจที่ผมควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีพอสมควร ทั้งที่เมื่อกี้นี้ต่อโทรศัพท์หาพี่ต่ายเหมือนคนบ้า 

แต่มือผมคงจะเย็นมากจนพี่อิงหันมามองหน้าผม  แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก  ทีนี้ทำไมไม่บ่นซักคำล่ะแปลกไปอีกคนล่ะ  ถ้าเป็นสถานการณ์ปรกติผมโดนเม้งเละไปเรียบร้อยแล้ว
 
พี่ต่ายก็เดินตามหลังผมมาเงียบๆไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน  พอเข้ามาในบ้านแม่ก็เรียกให้ไปทานข้าว  ป๋าแม่ทุกคนมีสีหน้ายินดี  เหมือนได้ลูกรักกลับมาอีกละ เซ็งจริงๆไม่เข้าใจชีวิตเลย

“ต่าย โอม อิงมาทานข้าวลูก  เร็วๆทำไมมาช้านักละโอม  ต่ายเค้ามาตั้งนานแล้ว”
ผมขับรถเกือบจะชนหมาตายไปตั้งหลายตัว  ตั้งกะแม่โทรตามเนี่ยไม่ถึง 20 นาทีเลย ยังบอกว่าช้า  ทำไมต้องมาโอ๋คนที่ทำให้ลูกแม่เจ็บเจียนตายด้วยนะ  อยากจะบร้าอีกรอบ

แต่ผมก็ยังงงอยู่ดีๆพี่ต่ายมาทำไม ผมแอบมองหน้าพี่ต่ายตาก็ไปจะเอ๋กันพอดี :m22: ผมน่ะสะดุ้งรีบหลบแทบไม่ทัน แต่พี่ต่ายน่ะผมไม่รู้เพราะไม่กล้าแอบมองอีก  แล้วแม่ก็ดันให้ไปนั่งคู่กันด้วย   ฮือๆหัวใจมันเต้นแรงเหมือนตอนจะต้องออกไปพรีเซนท์รายงานหน้าห้องเลย ตุ๊บๆๆๆๆ หน้าต้องแดงแน่ๆผมรู้สึกว่าหน้ามันร้อนๆ
 
แล้วแม่ก็นะ......พอลูกรักมาก็เริ่มหาเรื่องให้ผมอีกล่ะ
“ต่ายกินข้าวเสร็จแล้วค้างซิลูก  มืดแล้้วไม่อยากให้ขับรถกลับดึกๆดื่นๆอันตราย”

 พี่ตายเอามือมาจับที่ต้นขาผม....หมับ....  ผมเงยหน้าไปมอง แต่พี่ต่ายทำหน้าเฉยมากครับ  พูดกับแม่แบบเนียนๆดูเคารพนบนอบผู้ใหญ่  แต่มือน่ะจับขาผมแล้วก็บีบเบาๆเป็นจังหวะ1-2-123 อย่างเนี้ยทำอย่างกะให้จังหวะปรบมือ  ผมอยากจะบอกว่า....พี่ส่งสัญญาณอะไรมาผมแปลไม่ออกหรอก  ผมเป็น....คน....ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวนะพี่

“แล้วแต่โอมเค้าจะให้ผมอยู่รึเปล่าครับ  ถ้าผมอยู่ก็คงต้องนอนห้องเค้า”  :interest:
 พี่ต่ายตอบแม่ผมแบบเนี้ย คิดเหรอว่าผมจะตอบว่าให้ค้างเพราะเกรงใจพี่ต่าย  ฝันไปเหอะ

“พี่กลับเถอะ.....ห้องผมมันเล็กผมชอบนอนคนเดียว”  :a14:

หึหึหึ อยากทิ้งให้เรานอนคนเดียวมาตั้งนาน  อย่ามาหวังจะกลับมาง่ายๆนะ  แต่ป๋าผมน่ะซิ
“โอมอย่าเสียมารยาทกับพี่เค้า....ต่ายเค้าเพิ่งกลับมาเมืองไทยอุตส่าห์มาไหว้ป๋ากับแม่...ทำไมพูดไม่เพราะเลย”

เซ็งสุดๆผมหน้างอหงิกไปเลย....ผมโดนดุเพราะพี่ต่ายคนเดียว พ่อตัวดีซิครับยังสวมบทพระเอกช่องเจ็ดอยู่ ทำเป็นพูดเพราะกับพ่อแม่ผม

 “ไม่เป็นไรครับป๋า....ผมมีงานตอนเช้าคงค้างไม่ได้อยู่ดี  ไม่กวนน้องโอมดีกว่า”

 พอพี่ต่ายตอบออกมาแบบนี้   ผมอ่ะงงไปเลย!!!!!.......นึกว่าจะยื้อซักหน่อย  แบบว่าพี่อยากค้างด้วยจริงๆ  แต่นี่พี่ต่ายไม่มีเลยจะกลับบบบง่ะ.....   อยากจะถามว่าแล้วมาทำไมกันนนนนนน  โกรธแล้วนะโว้ย :o

 ผมอยากคุยอยากถามหลายๆเรื่องกับพี่ต่ายมากมาย  หายไปตั้งเป็นปีๆ  ทิ้งให้ชีวิตผมหดหู่มาตลอด  ผมไม่อยากจะกินข้าวต่อล่ะมันกินไม่ลง  อยากจะร้องไห้มากกว่า  แต่มือผมน่ะหยิกมือพี่ต่ายที่ยังวางอยู่บนขาผมไปแล้ว เอาซะให้สะใจ พี่ต่ายทำหน้าเบี้ยวไปเล็กน้อย แต่ยังพยายามเก็กหน้าเฉยๆอยู่ แต่ปากผมน่ะบอกกับทุกคนว่า

“ผมเหนื่อย...ยังไม่อยากกินข้าวขอตัวก่อนน่ะครับ” ผมจะลุกขึ้นแต่มือพี่ต่ายกดขาผมไว้ทำให้ผมลุกไม่ได้  พี่ต่ายหันมามองหน้าผมแล้วก็ยิ้มๆ  :o9:

“ทานข้าวก่อนดีกว่าโอม  ยิ่งเหนื่อยยิ่งน่าจะหิวนะ”
 
ผมควรจะทำอย่างไรดีครับในกรณีเช่นนี้  มีหลายทางเลือกจริงๆ  ทุกคนก็มองหน้าผมหมดทั้งบ้าน  ทำอย่างกับกำลังดูละครแห่งชีวิต  หรือรายการคนค้นคน มองจนผมประหม่าน่ะ  แล้วไอ้มือข้างล่างก็ส่งสัญญาณจั๊ง  บีบๆๆๆอยู่ได้ มันหมายความว่าไงกัน

ผมไม่รู้จะเอาไงดี แต่ไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้แล้ว แต่มือพี่ต่ายก็ไม่ปล่อยจับแน่นจนผมรู้สึกว่าไอร้อนจากมือพี่ต่ายมันลามไปทั้งขาแล้ว

ผมหันไปมองหน้าพี่ต่าย
 พี่ต่ายส่งรอยยิ้มแบบเหมือนจะบอกว่า.......พี่เป็นคนชนะ หึหึหึ.....ส่งมาให้ผม

ผมก็เลยส่งรอยยิ้มบอกว่า....พี่ก็คอยดูซิ....ส่งให้พี่ต่ายบ้าง    o16

แล้วผมก็เอาเล็บที่ยังไม่ได้ตัดทั้ง 5 นิ้ว จิกลงไปบนมือพี่ต่ายแบบแมวตะปปแล้วขยุ้มบิด  แล้วก็เอาส้นเท้ากระแทกไปที่เท้าพี่ต่ายอย่างแรง พี่ต่ายสะดุ้งโหยงชักมือออกทันที   ผมลุกขึ้นยืนส่งยิ้มให้ทุกคนรวมทั้งพี่ต่ายที่ทำหน้าเหยเกอยู่   แล้วบอกว่า

 “ขอตัวนะครับทุกคน”  แล้วผมก็เดินออกไปเลย  ให้มันรู้ซะบ้างว่าไผเป็นไผ หึหึหึ  :oni1:
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ไปก่อนเนอะ ง่วงนอนแล่ว :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: civava14 ที่ 22-01-2008 00:14:30
อ้าว สะงั้น

 :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 22-01-2008 00:16:38
 :sad2: :sad2:  หลังจากน้ำตานองมาเปนปี  ทำไมไม่ถามให้รู้เรื่องไปเลยอ่ะคุณโอม  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 22-01-2008 00:17:52
วันนี้พี่ฟางมาดึกนะเนี่ย นึกว่าวันนี้จะไม่มาต่อซะแล้ว ดีใจๆๆ  :oni1: :oni1: :oni1:
ในที่สุดๆๆๆ กระต่ายก็โผล่ตัวเป็นๆมาแล้ว  o7 o7 o7 คิดถึงเป็นที่สุด
 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 22-01-2008 00:18:41
ต่ายมาแล้ว   :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 22-01-2008 00:20:36
ในที่สุดก็โผล่มาแล้ววววววววววววว โอมต้องเอาคืนเลยน่ะ งอนเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sunshine ที่ 22-01-2008 00:39:44
 :serius2: :serius2: :serius2:

อ๊ากกกกกกกกก........กระต่ายโผล่

ปล่อยน้องโอม นอนช้ำใจเป็นปี......

โอม.....ทุบหัวแล้วลากเข้าห้อง :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 22-01-2008 00:47:20

อ้างถึง
คนที่replyก่อนหน้าเนี่ยfc_uk ช่วยซ้ำเติมตลอด ขอบคุณนะคะ


รักฟางนะครับ  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 22-01-2008 01:14:37
นึกว่าจะรอเก้อซะแล้ว  :m1:


“รักซิ........ก็มีคนนั้นคนเดียวแหล่ะที่ผมรัก”
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 22-01-2008 01:33:55
เพิ่งได้อ่านงับ...

ตื่นเต้นมากเรย

ให้ 1 แต้ม เป็นกำลังใจครับป๋ม

 :pig3:   :pig3:   :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 22-01-2008 01:37:07
ในที่สุดก็มาอัพแล้ว o7

รอตอนต่อไปนะพี่ :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 22-01-2008 08:23:54
มันเหมือนจะซึ้ง ๆ ปนอึ้งเล็ก ๆ
แต่ ....... ไมมีฮาด้วยหว่า  :m20:

อย่างอนมากนะ เดี๋ยวพี่ต่ายไม่ง้อแล้วจะยุ่งไปใหญ่  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 22-01-2008 08:59:52
จับกระต่ายให้มั่น แล้วคั้นให้ตายเลยดิ โอม  o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 22-01-2008 09:03:35
และแล้วก็มาได้ซักที

เข้าใจความรู้สึกโอมนะ

น่าจะให้รู้สำนึกก่อน  ก่อนจะคืนดี

หึหึ

 o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 22-01-2008 09:33:06
เอาคืนให้สาสมกับ2ปีที่เราทรมานเลย o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 22-01-2008 10:03:58
เป็นกำลังให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 22-01-2008 10:48:13
 :a4:คุณวริศ กลับมาแล้วพร้อมปลูกเรือนหอไว้รอรัก โดยให้โอมควบคุมเอง 555 เซอร์ไพรส์ สุดๆๆๆ นี่แหละหนาความรัก  ถึงแม้ว่าจะนานเพียงไรเพื่อคนที่เรารักย่อมทำได้ทุกอย่างอย่าง  พี่ต่ายนี่แหละคือตัวอย่างถึงแม้จะปล่อยให้โอมอยู่ตามลำพังแต่ก็เพื่อเป็นการพิสูจน์อะไรบางอย่าง   
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 22-01-2008 11:56:00
กระต่ายกลับมาแล้ววววว พี่อิงต้องรู้เห็นอะไรแน่ ๆ เลยยยยย
รีบกลับมาเพราะกลัวโอมเปลี่ยนใจละสิ.....  :m14:
เอาคืน ๆๆๆๆๆ   :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 22-01-2008 13:13:19
 :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2: :dont2:กลับมาต่ออออออออออออ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 22-01-2008 14:04:20
กลับมาแล้วววว   :m4:   คใจร้ายยหายไปตั้งนาน ไม่บอกไม่กล่าวว  :o12:


ต้องงอน ต้องเอาคืนซะให้เข็ด 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 22-01-2008 18:13:06
โอ้ยยยย อยากรู้เหตุผลที่หายไปไม่บอกไม่กล่าวอ่ะ ไม่เข้าใจจจจจจจจ  :serius2:

อยากจะบ้าอ่ะ ช่วยมาบอกเหตุผลที่เถอะ คิดจนปวดตับไปหมดแล้ว  :angry2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 22-01-2008 19:04:04
พี่ต่ายไปไหนมา  :angry2:
ให้โอมรออยู่คนเดียวตั้งสองปีได้ไง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 22-01-2008 20:02:50
โอมเล่นตัวไว้ก่อนนะคับ
เล่นทิ้งเราไปเป็นปี
โดยไม่ให้รับรู้อะไรเลย
ไม่แฟร์อ่ะ

โย่ โย่

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 22-01-2008 20:20:53
โอม อย่าใจอ่อนเร็วนัก พี่ต่ายทำแสบมาก ไม่ยอมบอกเหตุผล ใจร้ายมาก :o :angry2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: momo_2007 ที่ 22-01-2008 22:21:53
ย๊ากก พี่ต่ายกลับมาแล้วววว
อยากรู้เหตุผลเหมือนกัน มาต่อไวๆนะคร๊าบบ รออ่านอยู่
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 23-01-2008 12:33:44
 :a4:หายไปทั้งโอมทั้งพี่ต่ายเลยทีนี้ จะไปตามหาที่ไหนเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 23-01-2008 14:08:20
 :m13:   ในที่สุดพี่ต่ายก็กลับมาหาน้องโอม
 :m12:    แต่โอมต้องใจแข็งไว้ก่อนนะ อย่าใจอ่อนยอมคืนดีด้วยง่ายๆ
 :m16:    เจ็บแล้วต้องจำอ่ะ  ถึงเป็นคนที่ถูกทิ้งแต่ก็มีศักดิ์ศรีนะเฟ้ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 23-01-2008 14:49:11
รออยู่นะครับผม :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 23-01-2008 15:54:31
อย่ายอมพี่ต่าย นะครับ เอาคืนให้สมใจก่อน
 

 :m16:

 :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 23-01-2008 19:06:14
มาตั่งป้อมรอพี่ฟางครับ ได้ข่าวว่าดึกๆจะมาลง

กระดาษทิชชู่พร้อมครับ(ไม่รู้ว่าจะได้เช็ดอะไรเอามาก่อน)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-01-2008 22:00:27
มาตั่งป้อมรอพี่ฟางครับ ได้ข่าวว่าดึกๆจะมาลง

กระดาษทิชชู่พร้อมครับ(ไม่รู้ว่าจะได้เช็ดอะไรเอามาก่อน)

เหอๆๆเอามาเช็ดน้ำลายมั๊งโน๊ต อิอิ ไม่มี๊  ไม่ต้องเตรียมจ๊ะ  :m12:
ยังไม่ดึกเท่าไหร่  ลงไปเลยละกันเนอะ  :m13:
 +++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 60

หลังจากที่วางมาดว่าไม่หิวเดินสะบัดก้นเล็กน้อยแต่พองามเดินขึ้นห้องมา  พอเข้าไปในห้องผมต้องทรุดตัวลงนั่ง  พอเอามือจับที่หน้าอก ผมรู้สึกได้ทันทีว่าหัวใจผมเต้นแรงมาก จนต้องบ่นด่าใจตัวเองออกมาว่า
 “เต้นแรงออกนอกหน้าไปแล้วไอ้น้อง....มรึงคิดถึงแฟนเก่ามากรึไงว่ะ  ศักดิ์ศรีน่ะมีไม๊   รักษาหน้าลูกพี่มรึงหน่อย”  :m29:
 
ผมสูดลมหายใจลึกๆเพื่อให้คลายความตื่นเต้นลงไป  พยายามหายใจให้ช้าลง  กรูจะตายเพราะหัวใจวายไม๊เนี่ย  พี่ต่ายก็ยังคงมีอิทธิพลต่อทั้งร่างกายและจิตใจของผมอย่างน่ามหัศจรรย์จริงๆ  ถึงแม้จะหายไปนาน

 แล้วท้องผมมันก็ร้องดังโครกออกมาเตือนผมอีกว่าอย่าทำเสล่อหรือทำหยิ่ง   ก็ที่จริงมันหิวมากเลยครับแทบจะกินหัวคนได้ด้วยเลยมั๊ง  แต่นาทีนี้จะลงไปข้างล่างอีกครั้งไอ้ที่ปูพื้นทำฟอร์มไว้ว่าไม่สนไม่หิวก็คงไม่ดี  จะไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเพราะพี่ต่ายก็คงยังไม่กลับทันที  ผมก็เลยต้องอดทนหิวแบบรอคอย   ยังหวังว่าจะมีมาม่าหลงเหลืออยู่บ้างเดี๋ยวดึกๆค่อยลงไปกินก็ได้ฟะ 

ผมเลยตัดสินใจไปอาบน้ำเอาน้ำมาลูบท้องไปพลางๆก่อน อาบน้ำสระผมไปผมก็คิดไปเรื่อยๆ   พี่ต่ายกลับมาแล้วกลับมาทำไม  มาแล้วก็ไม่พูดอะไรแล้วก็ไม่มีท่าทีอะไรด้วยนอกจากไอ้สัญญาณบ้าบอนั่น ไปเรียนมาจากไหนไม่รู้  แล้วตกลงไม่ยอมมาค้างจริงๆด้วยใช่ไม๊  โกรธอ่ะอยากจะฆ่าให้ตายคามือจริงๆ   ผมควรจะทำตัวยังไงดีคิดอะไรไม่ออกจริงๆ  กลับมาสมองกลวงอีกครั้ง 

ผมจะแปรงฟันแต่พอส่องกระจกแล้วก็งงภาพที่สะท้อนกลับมาผมยิ้มหน้าบานมากเลยครับ  :impress2: นี่กรูยิ้มทำไม๊เนี่ย  มันเหมือนตอนที่เรากำลังเล่นคอมฯน่ะครับ  แล้วคนอื่นเค้าก็มองว่าเรายิ้มให้กับคอมฯทั้งที่จริงๆแล้วเราอ่านหรือดูอะไรอยู่แล้วยิ้ม  หรือไม่ก็กำลังchatมันส์ๆกะใครอยู่  แต่เราน่ะไม่รู้ตัวหรอก  พอดูในกระจกมันชัดเลยครับ  นี่ผมดีใจที่พี่ต่ายกลับมาขนาดว่ามันแสดงออกมาทางใบหน้าเลยเหรอ เฮ้อ

ไอ้จะนอนก็นอนไม่หลับเพราะมันหิว  เลยลุกมานั่งที่โต๊ะเอาสมุดมาเขียนอะไรเล่นๆเป็นแผนผังทางเลือกตามที่ผมสงสัย

ขั้นแรกพี่ต่ายกลับมาเพื่ออะไร ???????????

1.กลับมาเยี่ยมป๋ากับแม่ผมอย่างเดียว   แล้วก็มาดูหน้าแฟนเก่าที่เขี่ยทิ้งไปแล้ว ผมเผลอเอามือดึงทึ้งผมตัวเองออก....แล้วก็...เจ็บหัวโว้ย...เจ็บใจด้วย   
ใจร้ายยยจริงๆ  ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ผมจะได้ทำใจถือซะว่ามันไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตละกัน งึ่มๆ :m15:

หรือ

2.กลับมาหาผม  กลับมารักกันใหม่เหรอ  เป็นจริงก็ดีเลยล่ะ ถ้าเป็นแบบนี้ผมก็มีสองทางเลือกอีก

2.1 ยอมคืนดีด้วย    แต่ว่าระยะเวลาการยอมเนี่ยก็ยังต้องมาพิจารณาอีก อืมมม

   2.1.1 ยอมไปเล้ย   รอมาตั้งนานเค้ากลับมาแล้วจะไปเล่นตัวทำไม๊  เดี๋ยวหนีไปอีกรอบมิต้องร้องไห้ขี้มูกโป่งเหรอ  ไม่ต้องไปสนใจเหตุผลแล้วว่าหายไปเพราะอะไร  อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ช่างมัน  อย่างพี่ต่ายหายากต้องรีบคว้าไว้  เพราะยังมีคนเข้าคิวรออีกแยะ  ไม่ต้องปิดป้ายเซลส์ก็มีคนจะมาซื้อแล้ว

   2.1.2 งอนนานๆหน่อย   ปล่อยให้เราเหงาเศร้าหุ่ยอยู่เป็นปีๆ  อยากจะรู้ว่าพี่ต่ายจะทำยังไง  ต้องให้ง้อซะให้เข็ด  o12 จะได้รู้ว่าเราไม่ใช่ง่ายๆนึกจะไปก็ไป นึกจะมาก็มา    แต่แอบกังวลใจว่าถ้าเค้าไม่ง้อต่ออีกจะทำไงดี  ชักลังเลซิ :m29:

2.2 เข็ดแล้ว......ก็ตัดใจไปเลยดีกว่า   รักมากก็เจ็บมากเดี๋ยววันดีคืนดีพี่ต่ายหายไปอีกที  ผมจะทำยังไง  :o12: คงทนไม่ได้แน่นอนคราวนี้คงมีถึงชีวิต(พี่ต่าย)ต้องฆ่าให้ตายกันไปข้างนึง  หรือไม่จะเดือดร้อนวัดแถวบ้านต้องมามีคนอย่างผมไปสิงผ้าเหลืองให้ศาสนาเสื่อมเปล่าๆ

ผมอ่านที่ผมเขียนเสร็จแล้วก็ขำ  o13 ว่าทำไปได้นะเรา.....จะมีคนเพี้ยนแบบผมอีกไม๊เนี่ยทำอย่างกะเขียนแผนงานธุรกิจ หุหุหุ คริคริ  ผมว่าผมอารมณ์ดีเกินไปรึเปล่าเนี่ย  กรูนี่ท่าจะบร้า    ตอนเรียนโทยังไม่เคยทำอะไรอย่างนี้เลย :laugh3:

 เอามานอนอ่านเล่นบนเตียงแล้วก็ยังตอบแต่ละคำถามไม่ได้  เพราะแค่คำถามแรกผมก็ตอบไม่ได้แล้ว  ว่าพี่ต่ายกลับมาทำไม  คิดจนเผลอหลับไปไม่รู้ตัว  ตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะความหิวท้องมันร้องครวญครางยังกับจะเปิดมินิคอนเสริท  ผมดูนาฬิกา 5 ทุ่มกว่าล่ะได้เวลากินมาม่าแล้ว  อาหารเย็นมื้อเฉพาะกิจของผม

พอลงมาข้างล่างก็ไม่มีใครอยู่แล้ว ผมก็ก๊อกๆแก๊กๆหานู่นนี่มากิน   ระหว่างนั่งรอมาม่าบวมได้ที่   ผมก็เอาไอ้ที่ผมเขียนติดมือมาวางไว้  กะว่าจะนั่งอ่านเพื่อพิจารณาตัดทิ้งไปทีล่ะข้อ  ผมก็นั่งคิดอะไรไปเรื่อยๆ  ตอนดึกๆนี่มันเงียบมากครับได้ยินแต่เสียงหริ่งหรีดเรไรและเสียงหมาเห่าเป็นช่วงๆ   กำลังคิดเพลินๆถึงพี่ต่าย ว่ากลับมาคราวนี้ก็ยังดูดีน่ามองเหมือนเดิม  ดูมีเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นไปด้วย แล้วผมก็นั่งยิ้มเป็นคนบร้าอยู่คนเดียว  อยู่ดีๆก็มีเสียงที่ไม่ได้รับเชิญพูดขึ้นมาค่อยๆที่ข้างหูผม
 
“ตกลงเลือกข้อไหนล่ะ” :m30:
+
+
+
 ผมหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม  o22เหมือนกับว่ามันหลุดกระเด็นออกไปเลยใจหายวาบ  รีบตะครุบหัวใจแทบไม่ทัน สะดุ้งเหมือนโดนไฟช๊อต  แล้วเจ้าของเสียงปริศนานั้นก็ดึงเอากระดาษที่วางอยู่บนโต๊ะไปดู

“ไหนดูซิ”  เฮ้ยยยยยยยย!!!! มาได้ไงอ่ะ :sad5:

“พี่อิงเอาของเค้าคืนมานะ”

ผมไปยื้อดึงกลับคืนมาแต่ก็ไม่ได้เลยพี่อิงปัดมือผมออก ผมเลยปลงล่ะ  พี่อิงรีบเดินออกไปอ่านนอกห้อง ผมเลยช่างหัวพี่อิงล่ะ  เชิญเลยตามสบายยังไงพี่อิงก็รู้เรื่องผมอยู่แล้ว  จะรู้ว่าผมสติแตกอีกซักอย่างก็คงไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่านี้อีกล่ะ  ผมนั่งกินมาม่าต่อไปอย่างกังวล  กินจนเกือบจะเสร็จล่ะ  แล้วพี่อิงก็เอากระดาษแผ่นเดิมมาคืนให้ผม  วางไว้ที่โต๊ะแล้วบอกแ่ค่นี้เองครับ

 “อ่ะ...คืนแล้วนะ....เอาตามนี้แล้วกัน”  แล้วก็เดินขึ้นบ้านไปเลยครับ พอผมเห็นที่พี่อิงมาวางไว้  ผมล่ะทึ่งกับพฤติกรรมพี่ผมจริงๆ  สุดยอดดดด o13

พี่อิงเอาปากกามาไฮไลท์ให้ผมครับ  ตรงนี้ล่ะครับ
2.กลับมาหาผม        
            2.1 ยอมคืนดีด้วย   
          2.1.2 งอนนานๆหน่อย   

หุหุหุ    คริคริคริ      ฮ่าฮ่าฮ่า     กร๊ากกร๊ากกร๊าก :laugh:   yes!yes!yes! :a2: :a2:
 
เอาว่ะ!!!! พี่ชายช่วยเลือกให้ขนาดนี้ว่าไงว่าตามกัน  ผมจะทำได้ไม๊เนี่ยผมมันคนใจอ่อนซะด้วย  เมื่อกี้นี้ตอนที่เจอกันที่แรกในใจผมแทบจะวิ่งเข้าไปกอดพี่ต่ายอยู่แล้ว  แต่ว่ายังยั้งไว้ด้วยหิริโอตัปปะ ทิษฐิมานะ  สัพเพสัตตา มุทิตา อุเบกขาทั้งหลายแหล่มั๊ง  :amen:  แปลว่าอะไรบ้างก็ไม่รู้แต่ก็ทำให้ฝืนข่มใจไปได้
 
แต่พี่ต่ายซิใจดำ  ไม่ถามผมซักคำว่าเป็นไงบ้าง  ผมก็ยังไม่รู้ว่าต่อไปจะเป็นไงแต่คราวนี้ผมคงจะต้องรอคอยอย่างเดียวด้วยใจอดทน  รอมาตั้งปีกว่าแล้วนี่ให้พี่ต่ายรอบ้างจะเป็นไรไป  ส่งบัตรคิวให้พี่ต่ายรอต่อไปบ้างแล้วกัน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผมกำลังนั่งตรวจบัญชีอยู่ที่โต๊ะหมกมุ่นกับงานจนไม่ได้เงยหน้ามองอะไร  ตอนที่พี่ต่ายมาจากไหนไม่รู้อยู่ดีๆก็มานั่งข้างๆผม  ผมหันไปมองเพราะมีความรู้สึกเหมือนมีใครมานั่งมองหน้าอยู่  หันไปเห็นพี่ต่ายนั่งทำหน้ายิ้มเผล่อยู่  ผมทำเป็นไม่สนใจกลับมาทำงานต่อ แต่ปากก็พูดไปด้วย

“พี่มีอะไรเหรอ....ผมยุ่งมาก” เสียงของผมคงแข็งไปหน่อย  เพราะผมเองยังตกใจกับน้ำเสียงตัวเองเลย  เสียงเราทำไมมันดุอย่างนี้นะ

“พี่คิดถึงโอม...มาหาไม่ได้เหรอ” :haun5:

พี่ต่ายพูดด้วยเสียงออดอ้อน  เหอๆๆ คิดถึงเนี่ยนะหลังจากที่ทิ้งกันไปเป็นปีๆ

“พี่มีอะไรพูดมาเลยดีกว่า....ผมไม่มีสมาธิทำงาน”มาดผู้จัดการเข้าสิงเลยครับ แบบตอนที่มีเซลส์มาตื๊อขายของน่ะ  หรือตอนที่มีคนจะมาขายประกันชีวิต

ผมเงยหน้าขึ้นไปมองพี่ต่าย  แอบกังวลนิดนึงวันนี้ผมหน้าตาดูดีไม๊เนี่ยเมือคืนนอนดึกไปหน่อย  ขอบตาจะดำไม๊หว่า  ผิดกับพี่ต่ายที่ยังดูดีแบบไม่ต้องเกรงใจใคร

“พี่ขอโทษที่ผ่านมาทำให้โอมเสียใจ.....โอมจะให้อภัยพี่ได้ไม๊” :impress2:

 คำพูดเสียงเศร้าสร้อยประกอบกับหน้าตาที่ดูเหมือนสำนึกผิดของพี่ต่าย  ทำให้ผมใจอ่อนไปประมาณ10% ละ แต่ผมต้องใจแข็งไว้ให้ได้ อีก90%  ต้องรอไปก่อน
 
แต่เนื่องจากเป็นตอนเช้าคนค่อนข้างพลุกพล่าน  ระหว่างที่คุยก็มีลูกค้าบ้าง  ลูกน้องบ้างมาถามนู่นนี่กับผมตลอดเวลา  บางครั้งผมต้องลุกออกไปจัดการธุระ  พี่ต่ายก็ได้แต่นั่งทำตาละห้อยรอผม  กว่าจะได้คุยกันอีกทีผมก็ปล่อยให้พี่ต่ายนั่งรอไปเกือบชั่วโมง 
ผมกลับมานั่งคุยกับพี่ต่ายต่อ  แล้วก็ถามอย่างที่ผมอยากจะถามมาตลอดตั้งแต่พี่ต่ายหายไป

“ผมอยากรู้เหตุผลที่พี่ต่ายหายไป....” o12

 พี่ต่ายเงียบก่อน “................................”แล้วพี่ต่ายก็ส่ายหัว

ผมถามไปอีกครั้ง “บอกมาซิพี่”ถามแค่นี้เองทำอย่างกับว่าผมถามว่าสส.คนไหนจะได้ใบแดงมั่ง  มันไม่ได้ตอบยากอะไรเลยนะ  ไม่ต้องรอ กกต.ประกาศด้วย  ผมมองหน้าพี่ต่ายอีกครั้ง

ในที่สุดพี่ต่ายก็พูดว่า “พี่ไม่อยากพูด......”

อืมมมน่ะ......ให้มันได้แบบนี้นะ ผมเกือบเผลอตบเข่าตัวเอง  ถ้าไม่อยากพูดก็เป็นใบ้ไปตลอดชีวิตแล้วกันนะพี่

“พี่เป็นใบ้หรือไงพูดไม่ได้น่ะ”   :o
 อ้าวตายยยย!  กรูว่ากรูคิดในใจนี่หว่าแล้วทำไมพูดออกไปได้ล่ะเนี่ย  เริ่มลืมตัว  วันนี้ผมเป็นอะไรไปนะดูเข้มแข็งและกวนตรีน  เป็นตัวของตัวเองอย่างที่สุด  ยังคงไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากพี่ต่ายทำให้ผมใจฮึกเหิมมากขึ้น

“ไม่เป็นไรพี่ไม่พูดก็ไม่ต้องมาพูดกับผมละ”

แล้วผมก็ทำงานต่อดีกว่า  ไม่บอกก็ไม่ต้องมาบอกเลย  ไม่เคลียร์เรื่องนี้แล้วจะคบกันต่อไปได้ยังไง  กลับบ้านไปเลยไปพี่ต่าย
+
+
แต่ว่า......พี่ต่ายลุกไปเลยครับ  เฮ้ยยยย!!!!! :sad3: ตายอ่า.....แค่คิดในใจทำไมรู้อ่ะ  ยังไม่ได้เอ่ยปากพูดไล่ไปเลยนะสาบานเลย  ทำไงดี ทำไงดี แงๆๆๆๆ  ผมได้แต่ตะโกนตามไปว่า

“กลับมาก่อนพี่ต่าย กลับมาก่อน........”  :o12:ไม่ฟอร์มโกรธแล้ว  กลับมาหาผมเถอะพี่ต่าย  หายโกรธแล้วนะ  ไม่งอนแล้วก็ได้  ทำไมง้อแป๊ปเดียวเองยังไม่ถึง 3 ชั่วโมงเลย ผมกำลังจะวิ่งตามพี่ต่ายไป

แล้วใครก็ไม่รู้มาดึงตัวผมไว้แล้วเขย่าๆๆอย่างแรง  จะเขย่าทำไมมันเวียนหัวน่ะเนี่ย o2

“โอมๆๆๆๆ  ตื่นๆๆๆเป็นไรไม๊ลูก  สายแล้วนะ  ทำไมตื่นสายยังงี้ล่ะ....แล้วนี่ละเมออะไรกัน”

ผมลืมตาขึ้นมาดูแม่นี่หว่าที่เขย่าตัวผม  :sad5:  อ้าวตายเลยก้มลงมองตัวเองยังอยู่ในชุดนอน แต่น้ำตายังคลอๆตาอยู่เลย  ทำไมมันฝันได้เหมือนจริงขนาดนี้ได้ ผมขยี้ตาตัวเองฝันจริงๆด้วยอ่ะ เวรกรรม.....มันจะเป็นลางร้ายบอกเหตุอะไรหรือเปล่า

“อ้าวยังมานั่งงงอะไรอยู่อีกล่ะ  ไปอาบน้ำได้แล้วโอม”แม่จับไหล่ผมเขย่าเบาๆ ผมมองหน้าแม่  แล้วก็กอดเอวแม่ไว้แอบดมพุงแม่ด้วยหอมจัง

“อะไรมาอ้อนแม่แต่เช้าเชียว...จะเอาอะไรรึเปล่า”พอแม่ถามผมอยากบอกแม่ว่า...จะเอาพี่ต่ายน่ะแม่  ขอได้ไม๊อ่ะ

“อึฮึ...แม่.....”ผมสั่นหัวแต่ยังคงกอดเอวแม่แน่น  แม่ลูบหัวผมเบาๆผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกหลังจากฝันร้ายมาเมื่อกี้ แล้วแม่ก็พูดกับผมด้วยเสียงอ่อนโยนว่า
+
+
+
“โอมหัวเหม็นน่ะ.....สระผมมั่งป่าว” o6

หุหุหุ หมดกันช่วงเวลาแห่งความประทับใจ  แม่อ่ะเกิดจะมาจมูกดีเอาตอนผมกำลังซึ้งๆ  มันคนละซีนกันเลยนะแม่  หมดอารมณ์ไปเลย o20

“ฮึ....ไปอาบน้ำดีกว่า.......ออกจะตัวหอมมาว่าเค้าเหม็น”
ผมรีบลุกไปอาบน้ำดูนาฬิกาเกือบ 8 โมงแล้ววันนี้ต้องไปพบลูกค้าด้วย ได้ยินเสียงแม่หัวเราะไล่หลังตามมาเบาๆ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
วันนี้เป็นวันเสาร์แต่ที่บ้านผมก็คงทำงานกันตามปรกติครับ  แต่วันนี้ผมมีนัดกินข้าวเย็นกับคุณก้อยด้วยนะซิ  พรุ่งนี้ก็มีนัดกินข้าวกะพวกติงจะชวนบุ้งไปด้วยมันก็ดันไม่ว่าง  ผมก็ไม่รู้ว่าพี่ต่ายจะกลับมาตอนนี้  แต่ที่จริงทำไมผมต้องไปสนใจด้วยล่ะในเมื่อพี่ต่ายเองก็ยังเงียบๆอยู่ไม่มีท่าทีอะไรเลย  พอบ่ายๆคุณก้อยก็โทรเข้ามา

“คุณโอม....วันนี้จะเข้ากรุงเทพฯกี่โมงจะได้นั่งรถไปด้วยกัน”ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัย อ้าวแล้วคุณก้อยไม่มีรถรึไง  จะมานั่งไปกับผมเนี่ยนะ  ผมก็เลยถามไปว่า

“อ้าวแล้วรถคุณก้อยล่ะ.....ไม่ได้รังเกียจนะแต่สงสัยเฉยๆ”

“ผมยังไม่ได้ว่าอะไรเลยคุณโอมก็.....หึหึหึ”คุณก้อยคงกำลังอยู่หน้างานได้ยินเสียงคนตะโกนถามให้วุ่นวาย

“ผมจะให้ลูกน้องขับตามไปที่ร้านที่เราจะไปกิน  ผมจะได้นั่งรถไปเป็นเพื่อนคุณโอมไง”จะดีเหรอนั่งไปด้วยกันเนี่ย   แต่คิดไปคิดมาถ้ามาขับรถให้ก็ดีเหมือนกันนะกำลังขี้เกียจขับอยู่

“งั้นคุณก้อยมารถผมแต่ช่วยขับได้ไม๊ล่ะ.... ผมไม่รู้จักร้านที่จะไปกินด้วยเป็นพวกบ้านนอกนานๆเข้าเมืองที อิอิ” ถ้าเรียกเพราะๆก็คือแอบอ้อนหน่อยนึง  ถ้าเรียกแบบไม่เพราะก็คือพูดดีๆแล้วหลอกให้เค้าขับรถให้ ฮ่าๆๆๆ

“ได้ซิไม่มีปัญหา.....กี่โมงครับเจอกันที่ไหนที่ร้านไม๊ผมเข้าไปหา”
 เสียงคุณก้อยกระตือรือร้นมากเลยครับเข้าทางผมเลย   แต่ผมไม่อยากให้มาที่ร้านนะซิเดี๋ยวเจอพี่อิงล่ะยุ่งเลย  เป็นความลับครับบุ้งก็ไม่รู้   ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะปกปิดเป็นความลับไปทำไม  ผมไม่ได้ทำอะไรผิดซักหน่อยนี่นาแค่ไปกินข้าวกับลูกค้าธรรมดาๆ  ผมเลยตัดสินใจไปหาคุณก้อยเองดีกว่า

“เอางี้....ผมเสร็จงานแล้วเข้าไปหาคุณก้อยที่ไซท์งาน  แล้วค่อยไปด้วยกันก็ประมาณ 4 โมงเย็นดีไม๊ครับ   ไปถึงกรุงเทพฯไม่ดึกเกินไป”

“โอเค...ตามใจคุณโอมงั้นผมรอนะแล้วค่อยเจอกันครับ”

ผมวางสายไปรู้สึกตื่นเต้นนิดหน่อยเหมือนกำลังมีนัดกับคู่รักยังไงไม่รู้   มันก็อดหวั่นไหวไม่ได้เหมือนกันครับ  คุณก้อยคุยกับผมทุกวันแต่ต่างกับตอนที่คุยกับบุ้ง  สำหรับบุ้งคุยทุกวันเจอทุกวันก็ไม่สั่นคลอนใจผมในแนวทางของคู่รักไปได้  อาจเป็นเพราะผมเริ่มจากความเป็นเพื่อน  แต่ความผูกพันกับบุ้งแน่นอนว่าผมย่อมมีให้มากกว่าอยู่แล้ว

พอใกล้เวลานัดผมเข้าไปบอกแม่ว่าจะเข้ากรุงเทพฯ
 “แม่โอมไปแล้วนะเดี๋ยวไปไซท์งานแล้วจะเลยเข้ากรุงเทพฯ  พรุ่งนี้กลับตอนเย็นๆ  คืนนี้จะค้างที่บ้านกะพี่อั้ม”

“อ้าวไหนว่านัดติงวันพรุ่งนี้ไง  แล้วรีบไปทำไมตั้งแต่วันนี้”แม่จำได้ด้วยเฟ้ย เอาไงดีไม่อยากมุสา

“วันนี้นัดเพื่อนคนล่ะกลุ่มน่ะแม่....จะไปกินข้าวด้วยกัน”แม่มองผมทำหน้าสงสัยว่าเพื่อนกลุ่มไหนอีก

“พอดีเค้ารู้ว่าโอมจะเข้ากรุงเทพฯเค้าเลยชวนไปกินข้าว”

“ตามใจ.....ขับรถดีๆแล้วกันนะ   แล้วพรุ่งนี้ก็อย่ากลับค่ำมากล่ะ   ดึกๆขับรถมันอันตราย”

แม่สั่งแล้วก็เดินไปครับ  ผมยังไม่ทันเจอพี่อิงเลยรีบเผ่นก่อนดีกว่า  ไม่อยากถูกซักอะไรไปกว่านี้อีก ก่อนจะไปหาคุณก้อยผมเลยเข้าไปดูไซท์งานบ้านริมเขานิดนึง  เผื่อช่างจะมีอะไรมาปรึกษา ช่างคนนี้ก็รุ่นพ่อน่ะครับผมรู้จักมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว  แกก็เอ็นดูผมแบบลูกหลาน

“ช่างจิตรครับเดี๋ยวผมจะเข้ากรุงเทพฯ   พรุ่งนี้ก็ไม่อยู่จะเอาของอะไรไม๊ผมจะได้รีบสั่งให้  เดี๋ยวพรุ่งนี้ร้านเค้าปิดนะครับไม่มีรถส่งของ”

“โอม....เห็นว่าเจ้าของบ้านเค้าจะเข้ามาดูพรุ่งนี้นะ  โอมจะไม่อยู่เหรอ” ตายเลยทำไงดีว่ะ  อยากจะเจออยู่เหมือนกันมีเรื่องที่อยากคุยอยู่เยอะทีเดียว แต่ทำไมไม่ได้ข่าวเลยล่ะว่าเค้าจะมา

“แล้วช่างจิตรรู้ได้ไงล่ะ....ผมยังไม่รู้เลย”งงจริงๆ  o12

“เห็นอิงบอกน่ะแต่ลุงก็ยังไม่รู้นะว่าจะมากี่โมงเค้าคงมาดูทั่วๆไปน่ะ   เพราะไม่ได้นัดเวลาแน่นอน”

 เอาไงดีล่ะกับติงก็เลื่อนนัดไม่ได้เพราะนัดล่วงหน้ามาตั้งนานแล้ว  เพื่อนคนอื่นๆด้วยนะซิ ในที่สุดผมก็ต้องโทรหาพี่อิงจนได้
“พี่อิงเห็นว่าเจ้าของบ้านริมเขาจะมาเหรอพรุ่งนี้น่ะ  เห็นช่างจิตรบอกโอม”

“อืมใช่แล้ว”

“แล้วทำไมตัวเองไม่เห็นบอกเค้าล่ะ   เค้าจะได้อยู่รอ”  :o
หงุดหงิดน่ะเนี่ยทำไมไม่รู้ได้ไง ผมก็คนมีความรับผิดชอบนะ  ทำอะไรแล้วก็ต้องเต็มที่  ปลูกบ้านมากว่าเดือนยังไม่เคยเจอตัวเลย

“ก็เค้ามาดูเฉยๆ  ก็โอมมีนัดไม่ใช่เหรอเค้าเลยไม่ได้บอก” อืมก็จริง

“งั้นตัวเองมาช่วยคุยกับลูกค้าเองแล้วกันนะ...สงสัยอะไรโทรถามเค้าแล้วกัน  นี่เค้าจะไปกรุงเทพฯแล้วนะ”  ให้พี่อิงรับไปเลยแล้วกันเรื่องคุยกะลูกค้า

“เออได้...แล้วรีบไปทำไมตั้งแต่วันนี้อ่ะนัดติงพรุ่งนี้นี่”
เซ็ง.....ชีวิตของผมถูกผู้คนรู้กันไปหมดเลยครับ :try2:  ความเป็นส่วนตัวไม่มีเลยเฮ้อ  ผมถึงไม่อยากบอกใครเรื่องที่นัดกินข้าวกับคุณก้อยไง  ไม่งั้นเรื่องยาวแน่ๆ  แต่ก็ต้องตอบเอาหน้ารอดไปก่อนครับ

“เค้ามีนัดกินข้าวกับเพื่อนอีกกลุ่มนึงวันนี้ไง” ผมรู้ว่าพี่อิงต้องถามต่อแน่ว่าใคร  ก็เลยเล่นมุกนี้

“ZZZZZZZZZZZZZZZZ..โหลๆๆ.....ไม่ได้ยินเลยพี่อิง.....วางแล้วนะ”
 หุหุหุ มุกไม่มีสัญญาณนี่แหล่ะเด็ดสุด o16

“เดี๋ยวๆๆๆๆ.....ไปกินกะใคร.....โอมได้ยินปะ.....โอมไปกับใคร....อะไรว่ะสงสัยไม่ได้ยินเฮ้ออยู่ไหนเนี่ย”

ผมได้ยินเสียงพี่อิงบ่นพึมพำๆก่อนที่ผมจะวางหูไป หึหึหึ  ขืนไม่ใช้แบบนี้มีหวังโดนซักเละครับ  แล้วผมก็ขับรถเลยไปหาคุณก้อยครับ  ไปถึงคุณก้อยกำลังคุมงานอยู่  ผมเลยเดินดูไปรอบๆบ้านที่คุณก้อยปลูก  ก็เป็นพวกบ้านคนมีเงินที่กรุงเทพฯน่ะครับเงินเหลือก็มาปลูกๆไว้เป็นที่พักผ่อนไว้สูดโอโซนที่เขาใหญ่  แล้วก็มีมือมาจับที่บ่าผมตกใจเลยครับ  พอหันไปดูเป็นคุณก้อยนั่นเองยืนส่งยิ้มสวยมาให้ผม 

“ฮั่นแน่แอบมาดูอะไรครับคุณโอม.....ขอค่าเข้าชมด้วยนะ”คุณก้อยยังไม่ปล่อยมือจากบ่าผมเลยตอนนี้โอบไหล่ผมไว้  หน้ายิ้มๆอยู่ใกล้กับผมนิดเดียวเอง  หล่อไม่เบาแฮะ o18

“คุณก้อยไปทำงานก่อนเถอะ...ผมรอได้”อยากบอกว่าเอามือออกไปได้ไม๊อ่ะมันหนักไหล่นะเนี่ย  อึดอัดด้วย

“งั้นคุณโอมรอซัก 10 นาทีนะเดี๋ยวผมสั่งงานแป๊ปนึง  นั่งรอข้างหน้าก็ได้มีม้าหินอยู่”

“ครับ....งั้นผมรอข้างหน้า”

 แล้วคุณก้อยก็ผละไปทำงาน ผมเลยเดินๆแล้วก็มานั่งรอคุณก้อย  ผมแอบคิดว่าอีกหน่อยถ้ามีบ้านแบบนี้มั่งก็ดีเหมือนกัน  ได้อยู่กับคนที่เรารัก แล้วผมก็ไปคิดถึงไอ้ฝันเมื่อคืน  ถ้าผมงอนนานๆแล้วพี่ต่ายไม่ง้อ  ผมจะทำไงดี คิดจนหน้านิ่วคิ้วขมวด  คุณก้อยมาจากไหนไม่รู้มาทักผม

“คุณโอมเครียดเรื่องอะไรหน้างอเชียว....ช่วยไม๊เรื่องบ้านที่คุมอยู่รึเปล่า”
ผมเลยลุกขึ้นเดินไปที่รถส่งกุญแจให้คุณก้อยแล้วก็ส่ายหน้า
 
“ไม่ใช่หรอกเรื่องอื่นน่ะ....คุณก้อยขับนะผมเพลียๆเดี๋ยวขับๆไปแล้วง่วง”โชคดีจริงๆมีคนมาขับรถให้  เมื่อคืนก็ดันฝันว่างอนเล่นเอาเหนื่อยไปเลย

“ไม่มีปัญหา...ยินดีรับใช้ตลอดเวลาครับคุณโอม”
คุณก้อยนั่งที่คนขับรัดเข็มขัดเรียบร้อยแล้วก็มองมาที่ผมที่ยังนั่งเฉยอยู่   อยู่ต่างจังหวัดขับใกล้ๆไม่ค่อยได้รัดเข็มขัดเวลาขับรถครับมักจะลืม  คุณก้อยทำเสียงดุผม

“ทำไมไม่รัดเข็มขัดล่ะครับอันตรายนะ”

ผมกำลังจะเอี้ยวตัวไปเอาเข็มขัดมาคาด  แต่ไม่ทันครับคุณก้อยชะโงกตัวไปดึงเข็มขัดข้างๆประตูมารัดให้ผม   ผมไม่ทันตั้งตัวหน้าของคุณก้อยใกล้กับผมนิดเดียว  ผมรู้สึกได้ถึงลมหายใจของคุณก้อยที่หน้าผม  ผมมองหน้าคุณก้อยนิ่งๆเราสบตากันแล้วต่างชะงัก  คุณก้อยอมยิ้มหน้าแดงระเรื่อแล้วก็กลับมานั่งที่ตัวเอง  ก่อนจะบอกผมว่า

“มองหน้าคุณโอมใกล้ๆแล้วน่ารักจัง”คราวนี้กลายเป็นผมแล้วครับที่หน้าแดง :o8: ก็มาชมกันอย่างนี้ได้ไง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
  :m29:ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆจริงๆเลยเรา

ขอหายไปอีกหลายๆวันนะ ช่วงนี้จิตตก :a6:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: A GE ที่ 23-01-2008 22:13:48
 :m29: :m29:เจอคนหน้าตาดีก็หวั่นไหวได้  แต่อย่าอ่อนไหวนะคับคุณโอม :m12: :m12:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 23-01-2008 22:20:39


โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ยาวได้ใจ

 o2 o2 o2

อ่านจนเหนื่อย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 23-01-2008 22:31:37
เริ่ม ไม่ชอบ พี่ต่ายแระ

เด่วเชียร์ให้โอมเปลี่ยนใจเลยนิ

 :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 23-01-2008 22:44:47
มาตั่งป้อมรอพี่ฟางครับ ได้ข่าวว่าดึกๆจะมาลง

กระดาษทิชชู่พร้อมครับ(ไม่รู้ว่าจะได้เช็ดอะไรเอามาก่อน)


เหอๆๆเอามาเช็ดน้ำลายมั๊งโน๊ต อิอิ ไม่มี๊  ไม่ต้องเตรียมจ๊ะ   :m12:
เช็ดน้ำลายตาคุณโอมแล้วกันที่เห็นพี่ต่ายเหมือนเห็นกระดูก 55555+ (ล้อเล่น)

เปลี่ยนโหมดอารมร์ไม่ทันเลยไอ้เรานึกว่าจะเศร้าเคล้าน้ำตา  :oni1:

แต่แบบว่าอารมณ์ไม่เคลียร์อ่ะพี่ฟางกับตาพี่ต่ายเนี่ยะแกจะเอายังงายยยย :serius2:

รอตอนต่อไปนะคร้าบบบบบ :m13:

ปล.ขายผ้าเอาหน้ารอดบ่อยๆนะพี่ :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 23-01-2008 22:46:10


โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ยาวได้ใจ

 o2 o2 o2

อ่านจนเหนื่อย

 :m23:ใกล้จบแล้วเจ๊ ทนๆอ่านหน่อย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 23-01-2008 22:49:09
โอม ได้ทีแระ จัดการเลย   :m12: :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 23-01-2008 23:21:40
 :m29:

ลุ้นๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนเฆมสีคราม ที่ 23-01-2008 23:27:53
ไปกินข้าวกะก้อย  แล้วพี่ต่ายจะมีงอนอีกป่าวหว่า  :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 23-01-2008 23:28:04
อยากรู้เหตุผลที่หายไป ทำไมทำตัวแบบนี้อ่ะ  :serius2: :serius2: :serius2:

งอน งอน งอน เดี๋ยวก็เลิกเชียร์ต่ายละดีไมเนี่ย เปลี่ยนเป็นเชียร์คุณก้อยดีกว่า ทิ้งอดีตแล้วไขว่คว้าปัจจุบันซะทีไม  o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 24-01-2008 00:06:34
โอมทำดีมาก ต้องเล่นตัวซะให้เข็ด ชิส์
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 24-01-2008 01:10:09
แบบนี้ต้องงอนนานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเลยน่ะ แต่อย่าเผลอใจไปกับคุณก้อยซะล่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 24-01-2008 01:20:28
หูย ยาวได้จายมากเรยงับ...

จารอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ

 :m23:  :m23:  :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 24-01-2008 01:31:02
 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 24-01-2008 09:06:47
ม่ายสนๆ

งอนนานๆๆๆๆๆ  ไปเลย

ดีมั้ยหว่า??

 :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 24-01-2008 09:33:15
พี่โอมครับอ่อนไหวดั่งต้สนนะครับพี่ไหวเอนแล้วก็กลับมาตั้งตรงดั่งเดิมนะครับผม o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 24-01-2008 10:17:44
ลงยาวให้สมกับที่หายไปหลายวัน  :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 24-01-2008 11:06:15
 :a4:พี่ต่ายทำอะไอยู่อ่ะ เดี๋ยวคุณก้อย ก็เอาโอมไปหรอก  รีบทำคะแนนหน่อยดิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 24-01-2008 11:13:13
อ้างถึง
ขายผ้าเอาหน้ารอดไปวันๆจริงๆเลยเรา

ขอหายไปอีกหลายๆวันนะ ช่วงนี้จิตตก

หลายวันเลยเหรอ  :เฮ้อ:
ว่าแต่ ... จิตตกตรงไหนเหรอ จะตามไปเก็บให้  :laugh3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 24-01-2008 12:53:53
พี่ต่ายนะหายไปไหน  ตามมาง้อเร็วๆดิ๊   

นี่เห็นมั้ย เค้าเริ่ม spark กันแล้ว  แอบมีหวั่นไหว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 24-01-2008 12:56:47
มาต่อเร็วๆดิ๊ ลุ้นตอนต่อไปจนฉี่จะราดแล้วอ่ะ o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7 o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 24-01-2008 14:11:08
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 24-01-2008 17:34:14
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 24-01-2008 19:35:55
เมื่อหรายยยย มาต่อซักทีคับ

รออยู่น้า :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 24-01-2008 21:10:25
รออยู่ๆๆๆๆๆ :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 24-01-2008 21:23:30
เข้ามากระยึกกระยือ เป็นเพื่อนฟ็อก

 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 25-01-2008 12:46:59
นานไปหน่อยแล้วนะ ที่ปล่อยให้ฉันได้แต่นั่งคอย
คอยจนเมื่อยปวดหลัง แต่ว่าเรื่องนี้ก็ยังไม่มา
 :angry2: :angry2: :angry2: :m16: :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 25-01-2008 13:24:39
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:นอนคอย  :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 25-01-2008 14:36:03
 :oni1: :oni1: :oni1:




 :o




 :sad2:






 :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 25-01-2008 14:51:35
เข้ามา  รอ  ร้อ  รอ...

 :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 25-01-2008 15:18:20
 :a4:เข้ามารอเช่นกันครับ คุณโอม พี่ต่าย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 25-01-2008 16:32:25
มาทำให้งง แล้วก็ให้รอนานอีก

ไมคุณโอมถึงใจร้ายขนาดนี่้นิ

 :m15: :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 25-01-2008 19:52:27
เข้ามากระยึกกระยือ เป็นเพื่อนฟ็อก

 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:



เปลี่ยนท่า....

 :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11: :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ &
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 25-01-2008 22:14:40
มีข่าวล่าสุดมาจากพี่ฟางครับ!!!

ช่วงนี้พี่ฟางงานค่อยข้างเยอะน่ะครับแล้วก็หักโหมไปหน่อยเลยเปื่อยๆไปนิดส์นึง

เลยฝากมาขอโทษเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลานๆที่ติดตามนิยายพี่เค้าด้วยนะครับ

เมื่อพี่ฟางเค้าสะดวกกายเมื่อไรพี่เค้าจะรีบมาอัพให้ทันทีครับ

ปล.หายไวๆนะครับพี่ฟางอย่าหักโหม.....หึหึ

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 26-01-2008 13:30:04
 :a4:ครับ สบายกายสบายใจวันไหนค่อยมาอัพได้ ยินดีรอครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 26-01-2008 14:12:22
รับทราบจ้า  พักผ่อนให้มากๆ น้า  :a1: :a1: :a1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 26-01-2008 19:42:00
รอค๊าบ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 26-01-2008 20:47:47
พักผ่อนเยอะๆนะครับ จะได้หายไวๆนะครับ o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 26-01-2008 23:10:29
หายไวๆนะค๊าบบบบ  take care
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: skysonata ที่ 27-01-2008 00:11:35
อ่านเรื่องนี้รวดเดียวจบเลยค่ะ ชอบมากๆ ชอบคุณโอมน่ารักดี อิ อิ
แต่ไม่เคลียร์กับพฤติกรรมของพี่ต่าย  แต่ก็คงมีเหตุผลที่สมควรของพี่เขาแหละเนาะ
เป็นกำลังใจให้คุณฟางหายเร็วๆนะคะ   :a2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 27-01-2008 02:00:47
หายไวๆน่ะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 27-01-2008 02:06:29
เอ๋าพี่ฟางป่วยรือนี่ หลายวันแล้วดีขึ้นรึยัง หายไวๆเน้อ

ตัวการของความยุ่งยากของเรื่องนี้มันมาจากไอ่คุณฟ๊อกใช่มะนี่

พี่ฟางโดนฟ๊อกยุใช่ม๊ายย เขกกะโหลกฟ๊อก o12

ฝากบอกโอมงอนนานๆหน่อยนะพี่ เอาให้คุ้มปีกว่าต้องแลกมาอย่างสมน้ำสมเนื้อ  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 27-01-2008 02:22:37
เย้ๆๆๆ  :mc4:  ตามอ่านทันแล้ว 
คุณฟางป่วย  สงสัยเราต้องรอเป็นเดือนแหง๋ๆ   เพราะเราป่วยกว่าจะหายเป็นเดือนๆ เลย  :sad2:  ต้องนอนพักมากๆ นะค๊ะ  :bye2:

อย่าลืมบอกให้โอม ใจแข็งหน่อย  อีตากระต่ายบ้า  รอให้เข็ดเลย รักแค่ไหน แต่หายไปทำให้โอม เจ็บปวดขนาดนี้  รับไม่ได้ ฮึ ฮึ  :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 27-01-2008 12:11:45
 :m25: :m25: :m25:

 :เฮ้อ:

 :m15:

  :m4:พยายามเข้านะ

 :mc4:

 :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 27-01-2008 18:30:02
 :a2:

แข็งแรงเมื่อไหร่ค่อยกลับมานะคะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 27-01-2008 18:56:19
รับแซบ หายไวๆนะ :catrun:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 27-01-2008 22:22:23
 :m23: กลับมาแล้วเน้อ  หายไปนานไม่ได้คิดถึงคนอ่าน อิอิ
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ  หายเปื่อยไปเลย :a2:
แต่ถ้าไม่รีบมาลงตอนนี้ งานกำลังจะมาจริงๆ  :m29:
 เพราะงั้นอ่านกันไปเลย แต่ไม่ยาวนะกลัวคนอ่านเหนื่อย  :m21:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 61

ผมยืนคุยกับอิงรอโอมอยู่หน้าบ้านด้วยกัน  เห็นรถของโอมเข้ามาจอดที่หน้าบ้านอย่างกับเป็นรถแข่งที่ถึงเส้นชัย   อดจะงงไม่ได้   โอมไม่ได้เป็นคนชอบขับรถเร็วๆมาแต่ไหนแต่ไรแล้ววันนี้นึกยังไงขับได้เร็วขนาดนี้  จนอิงส่ายหัวแล้วเดินไปบ่นไปที่รถ  o12

“มันจะบ้าหรือไงว่ะขับรถแบบนี้  แล้วดูซิ....มาถึงบ้านก็ไม่ลงจากรถมัวทำอะไรอยู่ว้า”  :o

ผมหัวเราะขำอิง  ผมชอบคนบ้านนี้จริงๆ  ดูแลเป็นห่วงเป็นใยกันถึงแม้ว่าปากจะบ่นๆ  แต่ที่จริงรักกันมาก  อิงยืนพิงกับประตูข้างๆรถพยายามจะเปิดประตู  แล้วก็เคาะที่กระจกรถเรียกให้โอมลงมา

  ผมไม่ได้เดินตามอิงไปเพราะอยากจะยืนมองโอมให้นานๆ  ใ้ห้สมกับความคิดถึงที่ไม่ได้เห็นหน้ามานาน  จากระยะที่ยืนมองไม่ไกลมากนักจากรถ   โอมกำลังก้มหน้าก้มตาทำอะไรไม่รู้หน้านิ่วคิ้วขมวด  ท่าทางหงุดหงิดน่าดู  ปากก็บ่นพึมพำๆ  เฮ้อ.... แฟนผม  o13
น่ารักจัง :loveu:................  ขนาดตอนกำลังโมโหก็ยังน่าเอ็นดู

อยากจะเดินเข้าไปหาแล้วเปิดประตูดึงตัวออกมาจากรถมากอดให้สมอยาก  อยากจะทำโทษปากแดงๆที่กำลังบ่นอะไรอยู่  ได้แต่ทำใจแข็งเข้าไว้ห้ามใจตัวเองไม่ให้เกเร  โอมเปิดหน้าต่างรถ  หันหน้ามาหาอิงได้ยินเสียงแว่วๆมาฟังไม่ชัดว่าพูดอะไรกันแน่
 
สักพักโอมเปิดประตูกระแทกอิงล้มลง  ผมรีบวิ่งเข้าไปดูว่าโอมทำอะไรกันเนี่ย  ทันได้ยินเสียงของโอมที่ตะโกนออกมาว่า“เฮ้ย...พี่อิง........ขอโทษ”

ผมเข้าไปพยุงอิงที่นอนอยู่ให้ลุกขึ้นยืน  “อิงเป็นยังไงบ้าง”

 แล้วหันไปมองโอมที่ตอนนี้ลงมาจากรถแล้ว  แต่ยืนตัวแข็งเป็นเทวรูปหินอยู่  โอมมองจ้องผมเขม็งสีหน้าซีดขาวเหมือนตกใจที่อยู่ดีๆผมก็โผล่มา  :freeze:   ผมว่าโอมก็น่าจะรู้ว่าผมยังไม่ตายแต่ทำไมทำหน้าซีดยังกับเห็นผี 

เราสบตากันแต่ไม่มีใครพูดอะไรเลย   ผมขยับตัวเข้าใกล้เอามือไปแตะข้อศอกโอม  แต่โอมเบี่ยงแขนออกทันทีหน้าตาเคร่งเครียด  ก็ยังดีไม่ยื่นพระมาหาผม   แต่ก่อนที่บรรยากาศจะตึงเครียดเกินไป อิงที่ทำหน้าตาเจ็บปวดอยู่ก็ทำลายความเงียบนั้นขึ้นมา

“ไปโอม......ไปกินข้าวได้แล้วทุกคนรออยู่”
โอมเดินเข้าไปขอโทษอิงแล้วพาอิงเดินเข้าไปในบ้าน  ทิ้งให้ผมยืนซึมอยู่ตรงนั้นเพียง ลำพัง  :undecided:  ไม่มีคำพูดใดๆออกมาจากปากโอมแม้แต่คำเดียว  โอมคงจะโกรธผมมากจริงๆแต่ผมก็เข้าใจอย่างที่สุด  ผมคงต้องยอมรับผลแห่งความโกรธนั้น  ผมได้แต่เดินตามอิงกับโอมไปเงียบๆ

พอเข้าไปในบ้านแม่โอมเรียกทานข้าว  ผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมาอีกครั้ง  กลับมาที่นี่ครั้งใดผมก็รู้สึกเหมือนอยู่บ้านตัวเองทุกครั้ง  ครอบครัวของโอมกลายเป็นครอบครัวที่ผมอยากจะมาอยู่ร่วมด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

คุณแม่โอมเรียกผมมานั่งข้างๆโอม  เจ้าตัวดีทำท่าทางกระฟัดกระเฟียดไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่  ทำหน้าแดงๆเขียวๆน่าขำเป็นที่สุด  ผมหันหน้าไปมองโอมพอดีตอนที่โอมแอบมองมาแล้วรีบหลบตาผมไป  :m22: ผมอดอมยิ้มไม่ได้เริ่มงอนอีกแล้วซิน้องโอมของผม หึหึหึ

ทานข้าวไปโอมก็ไม่กล้ามองหน้าผมอีก แต่พอแม่โอมชวนผมนอนค้างเท่านั้นแหล่ะเป็นเรื่องเลย
“ต่ายกินข้าวเสร็จแล้วค้างซิลูก  มืดแล้้วไม่อยากให้ขับรถกลับดึกๆดื่นๆอันตราย”

พอเห็นโอมชักสีหน้าผมก็อยากแกล้งขึ้นมาทันที  มันเขี้ยวคนขี้งอนจริงๆ  อยากจะหยิกจมูกรั้นๆนี้จริงๆ  ผมเอามือจับไปที่ต้นขาของโอมแล้วบีบเบาๆเป็นจังหว่ะ  อยากจะบอกโอมว่า พี่รัก รักโอม  รักโอมที่สุด  นี่แหล่ะครับที่ผมคิด  :give2:

แต่โอมหยุดกินข้าวแล้วครับคิ้วเริ่มขมวด  ผมต้องกลั้นหัวเราะแทบแย่ขำก็ขำ  แต่อยู่ต่อหน้าผู้ใหญ่ก็เลยต้องพยายามสำรวมให้มากที่สุด  แล้วพอผมตอบแม่โอมไปว่า
“แล้วแต่โอมเค้าจะให้ผมอยู่รึเปล่าครับ  ถ้าผมอยู่ก็คงต้องนอนห้องเค้า”

 เจ้าตัวดีหน้าหงิกไปเลยครับ ฮ่าๆๆๆ  แล้วตอบสวนขึ้นมาทันควัน
“พี่กลับเถอะ.....ห้องผมมันเล็กผมชอบนอนคนเดียว” :a14:

ผมมองหน้าโอมก็รู้ใจ.....ว่างอนผมมากกกอยู่แล้ว  แต่ใจโอมน่ะคงไม่มีอะไรแค่อยากให้ผมง้อ  แต่ผมไม่มีเวลามาง้อตอนนี้   ยังไงวันนี้ผมก็ค้างไม่ได้อยู่ดีมีงานพรุ่งนี้แต่เช้า  ที่สำคัญจะต้องกลับไปทำต่อในคืนนี้ 

แล้วป๋าก็ดุโอมจนได้เรื่องคำพูดแต่เจ้าตัวดีก็ไม่มีหรอกที่จะสลด  ก็เป็นลูกรักนี่ครับใครๆก็ตามใจ   คราวนี้หน้าหงิกกว่าเดิมอีกอยากจะหาเตารีดมารีดหน้างอๆนี้จริงๆ หึหึหึ
ก่อนที่จะโดนดุไปกันใหญ่  ผมเลยต้องรีบช่วยคลี่คลายสถานการณ์ก่อน

 “ไม่เป็นไรครับป๋า....ผมมีงานตอนเช้าคงค้างไม่ได้อยู่ดี  ไม่กวนน้องโอมดีกว่า”

โอมทำสีหน้าตกใจทำตาโตเชียวครับ  คงจะผิดคาดไปหน่อยนึกว่าผมจะขอค้างด้วย
แล้วแป๊ปเดียวก็เปลี่ยนสีหน้าเป็นโกรธไปแล้วครับ  ผมได้แต่แอบยิ้มขำเพราะกลัวถ้าโอมเห็นว่าผมยิ้มจะยิ่งโกรธไปกันใหญ่  แต่โอมนะซิครับหยิกมือผมที่ยังวางอยู่บนขาโอม  o6 เจ็บมากๆเลยครับแต่ไม่กล้าแสดงออก  แสบจริงๆทั้งหยิกทั้งบิด แล้วทำท่าจะลุกครับ

“ผมเหนื่อย...ยังไม่อยากกินข้าวขอตัวก่อนน่ะครับ”

แต่เรื่องอะไรผมจะยอมให้ไปง่ายๆ  ผมเลยเอามือกดขาโอมไว้ไม่ให้ลุกไปได้หรอก
ผมอยากบอกว่า...โอม.....พี่ต่ายยังไม่หายคิดถึงเลย  ยังอยากนั่งใกล้ๆแล้วก็มองหน้าโอมอยู่แบบนี้นะครับ  แล้วมันก็เป็นไปไม่ได้ด้วยที่ว่าไม่อยากกินข้าวทั้งที่น่าจะหิวแล้ว

“ทานข้าวก่อนดีกว่าโอม  ยิ่งเหนื่อยยิ่งน่าจะหิวนะ”

ผมยังคงบีบขาโอมต่อไป  พี่รัก รักโอม  รักโอมที่สุด  เป็นจังหวะ 1-12-123  บีบจนมือผมร้อนไปหมด  ผมอยากจะเลิกบีบขาเปลี่ยนมาเป็นกอดแทนแต่ก็ทำไม่ได้

ป๋า แม่ อิง คงงงผมกับโอมว่าเล่นอะไรกันก็เลยนั่งมองผมกับโอมอยู่  ทำเอาผมเขินไปเหมือนกัน  ผมหันไปมองหน้าโอมแล้วยิ้มเหมือนจะบอกว่า.....ให้เลิกเล่นตัวได้แล้วโอม :o9:

แต่โอมคงแปลความหมายผมผิด  โอมทำหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องยังไงไม่รู้จนผมรู้สึกหนาวๆร้อนๆ  ผมว่าดูออกจะน่ากลัวซะด้วยซ้ำไป  ไม่รู้โอมจะเล่นอะไรซิ

ไม่นานครับผมก็รู้.......ก็น้องโอมของผมเอานิ้วมาขยุ้มที่มือผม  คงคิดว่าตัวเองเป็นแมวป่าจิกเล็บลงมาบนมือผมขยุ้มแล้วบิดเป็นเกลียว  ผมว่าผมต้องเลือดซึมแน่ๆแต่ไม่กล้ามองได้แต่ทำหน้าปูเลี่ยนๆอย่างจะร้องออกมาดังๆแต่ต้องฝืนอดกลั้นไว้   :try2:  แต่โอมไม่แค่นั้นน่ะซิครับกระแทกส้นเท้ามาที่เท้าผมอย่างแรง  คราวนี้ผมตกใจสะดุ้งกระตุกมือออกทันที
 :sad5:

โอมหันมายิ้มให้ผมอย่างสมใจ แล้วก็ว่า
 “ขอตัวนะครับทุกคน”
 แล้วก็เดินเชิดขึ้นบ้านไปเลยครับทั้งเจ็บทั้งแสบจริงๆแฟนผม หึหึหึ

แม่ ป๋า อิงเห็นแล้วก็แอบยิ้มกันหมดครับ  ผมได้แต่ยิ้มตอบแต่หน้าตาเหยเกไปหมด  มันเจ็บน่ะครับ  แม่ส่งยิ้มใจดีมาให้ผม

“โอมก็เป็นแบบนี้แหล่ะต่ายแสนงอน   กี่ปีๆก็เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนหรอก  แต่เรื่องงานเค้ารับผิดชอบดีนะ   เป็นหัวหน้างานที่ดีทีเดียวเลยล่ะ”

“แต่ต่ายรอน้องได้ใช่ไม๊ลูก”แม่ยิ้มๆถามผม  ผมแทบไม่ต้องคิดเลยกับคำถามนี้ตอบได้ทันทีเลย

“ผมรอได้ครับแม่.....ปีกว่ามาแล้วผมก็ยังทนมาได้กับแค่โอมงอนแค่นี้......ยังไงผมก็รอได้”

อิงที่นั่งเงียบอยู่นานเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่ผมไม่คิดว่าจะได้ยินอีกครั้ง
“ต่ายไม่โกรธเราใช่ไม๊ที่ทำแบบนี้” 
มันเป็นคำถามที่ผมจำได้ดีทีเดียว  เพราะผมเคยได้รับคำถามนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง

“ไม่โกรธ  ไม่เคยโกรธ  แล้วก็ไม่คิดจะโกรธด้วย”ผมจะไปมีสิทธิอะไรที่จะโกรธล่ะครับทุกคนก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่รักโอมกันทั้งนั้น

ป๋าของโอมคงเห็นว่าเราจะเครียดกันเกินไปแล้วเลยเปลี่ยนเรื่องพูด
 “แล้วงานต่ายเป็นยังไงบ้างหลังจากกลับมาเมืองไทยแล้ว”

“ดีครับผมไปอยู่นู่นก็ได้ประสบการณ์มามากเลย  แล้วกลับมาตำแหน่งก็ดีขึ้น  แต่ผมก็ต้องตัดสินใจอีกทีล่ะครับว่าจะทำต่อหรือเปล่า  คงต้องถามโอมอีกที  ผมไม่อยากห่างเค้าแล้ว  แทบตายเลยป๋าไอ้ปีกว่าที่ผ่านมาเนี่ย” :o8:
ผมยกมือขึ้นเกาหัวเบาๆ  เขินหน่อยๆครับเผลอบอกความในใจที่มีต่อลูกชายเค้าไปซะแล้ว

“หึหึหึ  เขินเหรอต่าย  โอมเค้าก็แย่เหมือนกันล่ะน่า  แต่ตอนนี้สงสัยจะแย่กว่าต่ายเพราะคงนอนหิวอยู่บนบ้าน  มีหวังดึกๆได้ลงมาหาอะไรกินแน่ๆ ไอ้ลูกคนนี้มันฟอร์มจัด ฮ่าๆๆๆ” :laugh3:

ก็นี่ล่ะครับผมกลายเป็นลูกของบ้านนี้ไปแล้ว  เราทานข้าวไปคุยกันไปอย่างมีความสุขช่วงเวลาที่ผ่านมา   คงจะพอพิสูจน์ให้ครอบครัวโอมได้รับรู้ถึงความตั้งใจจริงของผมที่มีต่อโอมแล้ว 

จนได้เวลาพอสมควรผมก็เลยขอตัวลากลับ  อยากจะไปหาโอมอีกครั้งแต่ก็ไม่กล้าครับ  แต่พอผมจะเดินออกมา  อิงก็มาดึงแขนเสื้อผมไว้แล้วยักคิ้วให้พร้อมยิ้มกวนๆ
“ขึ้นไปหาโอมซิ  เค้านอนหลับอยู่  ไปดูหน้าสุดที่รักซะหน่อยน่า...ไป”

 หึหึหึ  ผมว่าผมมีพวกเยอะจริงๆครับในบ้านหลังนี้  o17

ผมค่อยๆเปิดประตูเข้าไปในห้องโอม  แอร์ค่อนข้างเย็นทีเดียว  โอมเป็นคนขี้หนาวต้องนอนขดตัวอยู่แน่ๆ  แล้วก็ไม่ผิดครับ  โอมนอนขดเป็นกุ้งอยู่ตามเคยผมไปนั่งบนเตียงมองหน้าโอมที่ยังหลับตาพริ้มอยู่  ผมรู้ว่าโอมหนาวแต่ยังไม่ห่มผ้าห่มให้ เพราะอยากนั่งมองโอมไปทั้งตัวให้หายคิดถึง

โอมก็ยังคงเหมือนเดิมชอบใส่เสื้อเก่าๆ กางเกงย้วยๆขาสั้น  เรียวขาที่โผล่พ้นขากางเกงออกมาทำให้ผมรู้สึกว่าสีผิวของโอมเข้มขึ้นแต่ก็เป็นกล้ามเนื้อที่สวยงาม  อาจจะเป็นเพราะขี่จักรยานกับบุ้งเรื่อยๆตามที่บุ้งบอกผมมา  แขนที่โอมซุกอยู่ที่หน้าอกก็คล้ำขึ้น  คงเป็นเพราะตากแดดจากการช่วยคุมงานก่อสร้าง

โอมผอมลงจริงๆนะครับแต่ดูแข็งแรงขึ้น  ผมมองหน้าโอมที่ยังหลับตาพริ้มอยู่  อยากจะเอามือไปลูบแก้ม เปลือกตา คิ้ว  แนวจมูก ผมไล่สายตาลงมาเรื่อยๆ สายตาไปหยุดอยู่ที่ริมฝีปากแดงๆนั้น  อดคิดถึงครั้งสุดท้ายที่ผมสัมผัสริมฝีปากนี้ไม่ได้  ผมเอื้อมมือออกไปอยากจะสัมผัสเหลือเกิน  ผมรู้สึกว่าในใจผมมันพลุ่งพล่านขึ้นมาจนยากที่จะควบคุมใจได้

ผมก้มหน้าลงช้าๆกำลังจะแอบขโมยจูบคนที่นอนหลับยั่วอยู่ตรงหน้า  แต่สายตาเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นนึงที่หล่นอยู่ที่หน้าอกโอม  พอหยิบขึ้นมาดูอารมณ์มันเปลี่ยนเลยครับ  ต้องหัวเราะกิ๊กออกมาเบาๆ ขำโอมจริงๆ  o3 โอมมักจะทำให้ผมยิ้มได้เสมอถึงแม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม    ผมคงจะไม่จากโอมไปไหนอีกแล้วนับจากวันนี้ 

ผมกำลังตัดใจจะออกไปจากห้อง  อดเสียดายนิดหน่อยที่ไม่ได้จูบโอม  ผมขยับผ้าห่มมาห่มให้โอม  แล้วมองหน้าโอมอีกครั้งโอมเอาลิ้นออกมาเลียริมฝีปากพอดีแล้วขยับๆปากเหมือนจะดูดอะไร  เฮ้อ!!  ทำไมมานยั่วกันขนาดนี้นะ ผมก้มลงอีกครั้งเอาวะเป็นไงเป็นกัน  จะตื่นก็ให้ตื่นไปเลย  ยั่วกันขนาดนี้ไม่จูบไม่ได้แล้ว อีกนิดเดียวจะถึงปากโอมแล้วครับ  แล้วก็มีเสียงดังโครกกกกกกกออกมาลั่นเลย 55555  :laugh:

โอมขยับตัวอีกครั้งเหมือนจะตื่น  แต่ก็น่าจะรู้สึกตัวน่ะครับท้องร้องออกมาดังขนาดนั้น  แล้วมาทำเป็นบอกว่าไม่อยากกินข้าว หึหึหึ   ผมต้องเอามือมาปิดปากไว้ไม่ให้หัวเราะออกมา  :อิอิ1: ไม่ไหวแล้วครับกลับดีกว่า  ไม่งั้นไม่หลุดขำออกมาก็ได้ปล้ำคนล่ะครับ   
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :m13: พอไหวไม๊คะ  พี่ต่ายมาแล้วนะ พวกตัวเองเลิกว่าเค้าซักทีนะ :โหลๆ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 27-01-2008 22:34:11
^
^
^

จิ้ม ๆๆ

เย้ ๆ มาแล้ว ขอจิ้มก่อน เดียวมาอ่านนน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 27-01-2008 22:36:07
อื่ม พอจะเข้าใจเหตุผลที่หายไปแล้ว  :เฮ้อ: แต่ก็นะ กาลเวลาได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความจริงใจของต่ายแล้ว ที่เหลือก็แต่โอม.....
 :o แล้วคุณก้อยละ...... o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 27-01-2008 22:37:19
ที่บ้านโอมก็ทางสะดวกแล้ว  :m4:
ที่นี่พี่ต่ายก็ไม่ต้องจากโอมไปแล้วซินะ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 27-01-2008 22:59:22
 :m16:


ไม่ว่าจะยังไง โอมต้องเอาคืนให้เข็ดไปเลย


หนอยๆๆ ทรมานเราตั้งปีกว่า

คิดว่ามันสนุกนักไง

รวมถึงคนอื่นๆด้วย สมรู้ร่วมคิด ปิดกันดีนัก

ชิ
ชิ
 :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 27-01-2008 23:28:23
หุหุ ที่แท้ก็คุณพ่อคุณแม่ขอร้องนี่เอง  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 27-01-2008 23:54:11
ตามทันแล้ว รออ่านต่อนะ เอาใจช่วยพี่ต่าย  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 28-01-2008 00:10:06
เย้ เย้

น่ารักดีคับ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนเฆมสีคราม ที่ 28-01-2008 00:13:58
อืม ชักเห็นสาเหตุแล้ว มาต่อเร็วๆน้า :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-01-2008 00:34:41
อ้อออออออออออออออออออออ พอเดาเหตุผลของพี่ต่ายออกแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 28-01-2008 10:19:48
เวนกำ...ที่แท้ก็เป็นผลมาจากบ้านโอมเองเหรอ...
แม้จะยังไม่เคลียร์แต่ก็เห็นภาพลาง ๆ ... :m23:
บทสรุปจะมาเมื่อไหร่น๊า.... รอต่อไปนะจ๊ะ....

รมณ์ดี +1 ให้เป็นกะลังใจจจจจจจ  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 28-01-2008 10:27:25
เง้ออออ

สมรู้ร่วมคิดกันเป็นขบวนการเลยอะ

ถ้าโอมรู้

จาเป็นยังไงกันเนี่ย

 o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Hickey405 ที่ 28-01-2008 10:27:58
 :m4:
แอบอ่านมาแรมเดือน ในที่สุดความจิงก้อกระจ่าง พี่ต่ายแอบมาโพสต์เองเลย
ฮิ ๆๆๆๆๆ  มาต่อไวไวนะ  รออยู่ไม่ไปไหนไกล สัญญา! :m15: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 28-01-2008 10:54:12
:oni2: พี่กระต่ายจำใจทิ้งโอม   

:oni3: มาต่อเร็ว ๆ น้า  :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 28-01-2008 11:27:25
 :a4:พี่ต่ายน่ารักมาก รู้จักวางแผนอนาคตเพื่อคนที่เรารัก อย่างนี้รักมากมาย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 28-01-2008 11:43:51
ชอบมากมาย
รอคับคอ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 28-01-2008 15:03:53
 :m23: ที่แท้รู้กันทั้งบ้านเลยเหรอนี่  บุ้งก้รู้เหรอ

แ๖่ก็เข้าใจนะ คนที่บ้านโอมคงต้องการพิสูจน์ใจของทั้งสอง ว่ารักกันจริงหรือเปล่า

เวลานึงปีไม่ใช่น้อย แต่ละคนก็ใช่จะขี้เหร่ แต่ยังคงรักกันไม่เปลี่ยน ..วู้ววว  :m1:


ว่าแต่ถ้าต่ายยังขืนช้าอย่อีกล่ะก้  ต้องโดนแย่งไปแน่ๆเลย  มีคู้่แข่งแล้วนะรู้ยังเนี้ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 28-01-2008 15:15:39
 :angry2:แล้วทำไมไม่บอกโอมซักคำ????
 o12



หลงคิดว่า.....โดนทิ้ง


เกิดโอมฆ่าตัวตาย  

จะเอาที่ไหนมาใช้แม่เค้า  :m16:


( แต่คงไม่คิดมากหรอก  สมรู้ร่วมคิดกันเป็นแก๊ง :m12: )
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 28-01-2008 15:16:31
อานะ พอเป็นอย่างงี้ :เฮ้อ: เหอโล่ง

นึกว่าจะร้ายแรงอิอิ

ก็นะคนรักกันนะ ยังงัยก็รัก

 :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 28-01-2008 15:47:09
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 28-01-2008 21:12:56
หายศรีษะไปหลายทิตย์ ..
กลับมาเจอมาต่อตอนใหม่ ดีใจมากๆๆๆ .. :mc4:

เลยอ่านต่อซะเลย...
อ่านตอนก่อนถึงตอนล่าสุด บอกตรงๆ ..บีบหัวใจอย่างแรง สงสารโอมอ่ะ...
ความไม่รู้ ..นี่มันทำอึดอัด....

พออ่านถึงสองตอนล่าสุด ...
เห็นด้วย ที่ให้โอม งอนนานๆ เลย ..แม้จะเป็ฯแผนพี่อิง ก็เหอะ ..รับไม่ได้จริงๆ ...
ทนให้้น้องเป็นงี้ได้ไง ตั้งปี ...ใจร้าย ...  :serius2:

รับไม่ได้ ... :m16:

.........................
ทั้งหมดที่เมนท์มา ขอยกความดีความชอบให้คนเขียน ..เขียนให้เราอินได้ขนาดนี้ ..
ขอบคุณที่ทำให้เกิดความสุข (เศร้า เคล้าน้ำตา บางที)
ยังตามติดงานต่อไปเสมอค่ะ
.........................


ตอนนี้นะ อยากให้ เจ้าโอมอยู่เฉยๆ ..แล้วมีหนุ่มๆ มาจีบเพียบๆๆ เลย..
จะสมน้ำหน้า พี่ต่าย ชิร์  :a2:
ถึงจะปลูกบ้านให้ก็เหอะ โอม อย่าใจอ่อนง่ายๆ นะจ้ะ ..ลูกยกเป็นกำลังใจให้อย่างแรง  :mc2:

สู้เว้ย โอม ..
.......................
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 28-01-2008 21:59:58
ชิ ชิ ชิส์  งอนๆๆ โกรธทุกคนเลย  โอมอย่ายอมๆ ๆ ๆ 12 123 123 12 1  :ped149:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 28-01-2008 22:08:11
ชอบพี่ต่ายมากกกกกกกกกกกก โอมด้วย เเต่เทคะเเนนให้พี่ต่ายมากว่าอิอิอิ น่ารักมาก ได้เเฟนงี้จะรักให้ตาย ฮ่าๆๆๆๆๆ

ชอบมากค่ะ  จะรอตอนต่อไปด้วยใจจดจ่อมากกกกก(ถึงมากที่สุด) :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 28-01-2008 22:22:23
 :m23:เพิ่งคิดได้ว่าควรเอามาลงกลางคืน  กลางวันจะได้ทำงานบ้างอิอิ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 61(ต่อ)

ระหว่างทางขับรถกลับผมก็รู้สึกสบายใจอย่างประหลาด  ผมกลับมาเมืองไทยอยู่สักพักแล้ว   แต่ถ้าไม่มีสัญญาณส่งให้ผมมาหาโอมได้   ผมก็ต้องอดทนรอต่อไป  ผมเองก็อดทึ่งในความอดทนของตัวเองไม่ได้  

แล้วเหตุการณ์ในวันนั้นก็ย้อนกลับมาหาผมเหมือนกับหนังที่ผมดูแล้วดูอีกจนจำได้ติดใจ  วันนั้น.....วันที่ผมนัดกับโอมจะไปเจอที่โรงพยาบาลเยี่ยมลูกคนแรกของอิง

“โอมเหรอ.........อีกไม่เกินชั่วโมงพี่ไปถึงโรงพยาบาลล่ะ” ผมรับสายโอมแล้วก็พูดขึ้นมาเลยเพราะคิดว่าโอมโทรมาตาม  แต่เสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่ครับ

“ต่ายนี่อิงพูดนะไม่ใช่โอม.......ขอคุยด้วยหน่อยซิที่โรงพยาบาลนี่แหล่ะ”เสียงของอิงเครียดมากเลยครับ  ผมไม่เคยได้ยินเสียงแบบนี้จากอิงเลย  ปรกติมันจะทะเล้นทะลึ่งตลอดเวลาคุยกับผม

“ได้ๆบอกโอมด้วยว่ากรูจะไปถึงแล้วนะ..เดี๋ยวเค้าจะบ่นว่ารอนาน”ผมยังไม่รู้หรอกครับว่าวันนั้นผมจะไม่ได้เจอโอมที่โรงพยาบาล  จนไปถึงนั่นแหล่ะที่อิงถึงบอกว่าโอมกลับไปแล้ว

“โอมกลับไปแล้ว  แต่กรูมีเรื่องต้องคุยกับมรึงเรื่องโอมน่ะแหล่ะ”  

เราเดินอย่างช้าๆไปหาที่นั่งคุยในบริเวณโรงพยาบาล  มีเก้าอี้ให้คนนั่งข้างๆสวนหย่อม  ขณะนั้นเวลาค่อนข้างดึกแล้ว  แต่ยังพอมีแสงไฟจากโคมถนนให้พอมองเห็นหน้ากันได้  อิงมีสีหน้าเคร่งเครียดขณะที่บอกให้ผมนั่งลง

อิงนิ่งไปอึดใจหนึ่งก่อนที่จะตัดสินใจถามผมว่า
“กรูถามมรึงตรงๆเลยไม่ต้องอ้อมค้อมแล้ว.....มรึงเป็นอะไรกับน้องกรู”  o12
+
+
+
ขนาดว่าผมเตรียมใจไว้นานแล้วว่าเรื่องนี้จะต้องถูกครอบครัวโอมรู้เข้าสักวัน  แต่ผมก็ยังอดตื่นเต้นไม่ได้อยู่ดี   ความจริงผมอยากจะเป็นคนบอกเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำ  แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง  แล้วในเมื่อผมกับโอมก็มีความสุขกันดี  ผมก็ยังไม่อยากจะเป็นผู้เริ่มให้มามีปัญหาขึ้น  แต่เมื่ออิงถามขึ้นมาผมก็ต้องตอบคงจะเลี่ยงไปไม่ได้อีกแล้ว

“เราเป็นแฟนกัน....นานแล้ว”  :m21:

เมื่ออิงได้ฟังคำตอบผม  อิงนั่งพิงกับพนักเก้าอี้อย่างอ่อนแรง  สีหน้าที่ดูเคร่งเครียดในคราวแรกคราวนี้ขมวดคิ้วหน้านิ่วอย่างชัดเจน

“มรึงเป็นเกย์เหรอ......แล้วน้องกรูด้วย”  o6

ผมไม่รู้ว่าอิงพูดกับตัวเองหรือถามผม  แต่ถ้าถามผมๆก็ไม่เคยถามตัวเอง  ผมรู้แค่ว่า....ผมรักโอม   ซึ่งบังเอิญ......เป็นผู้ชาย

ผมนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไรอีกเพราะไม่แน่ใจว่าควรจะพูดอะไรต่อไป  ผมซึ่งไม่เคยกลัวเรื่องอะไรแต่กับเรื่องนี้แล้วผมเพิ่งรู้ว่าผมก็อ่อนแอเหมือนกัน  เราสองคนนิ่งเงียบต่างคนต่างใช้ความคิดกันไป  อิงมองหน้าผมแล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างสงสัย

“ต่ายกรูถามมรึงคำเดียว.......มรึงรักโอมจริงๆหรือแค่ความใกล้ชิด.....หรือแค่เหงา”

ถ้าเป็นเกมที่แข่งความเร็ว 20 วินาทีต้องตอบคำถาม  ผมก็คงไม่พลาด ผมตอบไปได้ทันที  ไม่ต้องใช้เวลาในการลังเลเลย

“กรูมั่นใจมานานแล้วว่ากรูรักโอม......เป็นเรื่องที่กรูแน่ใจที่สุดในชีวิต”ผมมองตาของอิงแสดงความมั่นใจออกมาทางสีหน้า

อิงถอนหายใจแรงแล้วก็นั่งเอาข้อศอกยันเข่าไว้กุมขมับ “กรูจะทำยังไงดี”  :o11:

คราวนี้ผมก็อึ้งซิครับ  แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะยอมรับกันได้ง่ายๆในช่วงเวลาไม่กี่นาที  อิงคงยังทำใจไม่ได้ที่น้องชายรักกับผู้ชาย ผมชั่งใจอยู่นานว่าควรพูดดีไม๊
+
+
+
“มรึงก็ให้เรารักกันต่อไปซิ” :m23:

พอผมพูดแบบนี้แล้วอิงเงยหน้ามามองผม  ด้วยแววตาเสียใจ

“กรูรักน้องนะต่าย.....กรูไม่อยากให้โอมมาเสียใจทีหลัง  กรูไม่รู้ว่าทั้งมรึงทั้งโอมต่างกำลังสับสนกันรึเปล่า  มันจะยั่งยืนแค่ไหนความรักที่มรึงว่า”

“อิง......แล้วมรึงจะให้กรูทำยังไง...มรึงถึงจะเชื่อใจกรู”  :myeye:
 ผมมั่นใจเรื่องที่ผมรักโอม  แต่พออิงพูดมาแบบนี้ผมชักเริ่มรู้สึกสั่นคลอน  ไม่แน่ใจแล้วว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันอีกไหม

“กรูไม่รู้....กรูตัดสินใจไม่ได้”  :เศร้า1:

อิงส่ายหน้า แล้วผมก็เห็นว่าอิงเริ่มตาแดงๆ  พี่น้องกันขี้แยเหมือนกันไม่มีผิด  แต่มันเป็นน้ำตาของพี่ที่รักน้องจริงๆ  อิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแต่ดูเหมือนจะแบ็ตหมด

“ต่ายกรูยืมโทรศัพท์หน่อยดิ  ของกรูแบ็ตหมด”
 ผมส่งโทรศัพท์ไปให้อิง  อิงรับมาแล้วมองหน้าผม  แล้วยกโทรศัพท์ผมให้ผมดูมันเป็นรูปผมถ่ายคู่กับโอมครั้งนั้น

“นี่ไงทำให้กรูรู้เรื่องพวกมรึง.....ไม่ระวังกันเลยนะมรึง”อิงส่ายหัวแล้วต่อโทรศัพท์ต่อไป

“โหล....แม่เหรอครับ”

แล้วอิงก็ลุกเดินออกไปพูดที่อื่นครับ เดินไปพูดไปกุมขมับไป แล้วก็หันหน้ามามองผมเป็นระยะ  ผมรู้สึกเหมือนคนที่กำลังรอผลคำพิพากษา  ไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองว่าโทษจะหนักขนาดไหนที่บังอาจมาหลงรักลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเค้า  แล้วอิงก็ส่งโทรศัพท์ให้ผม
 “แม่จะพูดด้วย”

ผมชะงักไปพักนึงสูดลมหายใจเข้าปอดเต็มๆ  ตั้งสติก่อนที่จะพูดกับแม่

“สวัสดีครับแม่.....ผมต่ายครับ”

“ต่าย.....แม่..งง” คำแรกที่แม่พูดกับผมทำให้ผมพูดไม่ออกเอาเหมือนกัน

“ผมขอโทษครับ......ทีทำให้แม่เสียใจ” อิงนั่งฟังอยู่ข้างๆผมตบไหล่ผมเบาๆ

แม่เงียบไปพักหนึ่งแล้วก็พูดออกมาด้วยเสียงสั่นเครือ  
“พรุ่งนี้เช้าเข้ามาคุยกับแม่กับป๋าหน่อยนะต่าย....ที่บ้านน่ะ”
เสียงของแม่ทำให้ผมรู้สึกแย่กว่าเดิมอีก นี่ผมทำให้คนที่ผมเคารพรักต้องเสียใจหรือเนี่ย

“ครับผมจะเข้าไปแต่เช้า”
แม่วางหูไปแล้วแต่เสียงของแม่ที่พูดก่อนวางหูยังติดในใจผมอยู่เลย

“แม่รักต่ายนะลูก”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คืนนั้นผมนอนกอดโอมก็จริงแต่ก็ไม่หลับเลย  ผมรู้ว่ามันมีความไม่แน่นอนในอนาคตของเรา  นับจากวันพรุ่งนี้มันจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่ผมคาดเดาไม่ถูก

ตอนนี้ถ้าย้อนกลับไปได้ผมก็อยากจะหยุดเวลาไว้แค่วันนั้น  วันที่ผมได้กอดโอมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะต้องจากกันไปอีกนาน

ผมมาถึงบ้านโอมยังไม่แปดโมงเช้า ผมยกมือไหว้พวกท่าน แม่ป๋าเหมือนกับจะรอผมอยู่แล้ว ลุกขึ้นรับไหว้แล้วส่งยิ้มเศร้าๆมาให้ผม
“ต่ายทานข้าวก่อนนะ  มาถึงแต่เช้าคงยังไม่ทันได้ทานอะไร”

ผมน้ำตาซึมกับความเอื้ออาทรของท่าน  ถ้าผมจะต้องเลิกรากับโอมไปจริงๆผมก็คงไม่ลืมความอบอุ่นที่พวกท่านมีให้ผม เราเดินตามกันเข้าไปในบ้าน  เราใช้เวลาในการทานข้าวไม่นานนัก  เพราะมีเรื่องที่สำคัญรออยู่  พอทานข้าวเสร็จป๋าก็เป็นคนเริ่มพูดก่อน

“เรารู้เรื่องต่ายกับโอมจากอิงแล้ว......แต่ป๋าอยากรู้จากต่ายอีกทีเล่าให้เราฟังก่อนว่ามันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

ผมพยักหน้าให้ป๋าแล้วเริ่มเล่าให้ฟังตั้งแต่แรกๆที่เราทำงานด้วยกัน ผมประทับใจกับความสดใสของโอม ความมีน้ำใจและมองโลกในแง่ดีของเค้า จนมารักกันตั้งแต่เมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้  ความรักของเรามันเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆแล้วก็ไม่มีท่าทีที่จะหยุด

ป๋ากับแม่จับมือกันตลอดเวลาที่ผมเล่าให้ท่าฟัง ท่านไม่ได้ขัดอะไรผมเลย  จนผมพูดจบด้วยคำพูดที่ว่า

“ผมรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดาที่ผู้ชายจะมารักกัน  แต่ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นปัญหาในเมื่อผมรักโอม   ผมไม่สนใจคนอื่นจะมองยังไง  ที่ผมแคร์ที่สุดคือความรู้สึกโอมกับครอบครัวเท่านั้น”

ป๋ากับแม่เงียบไปนานจนผมเริ่มเครียด  เดาไม่ถูกว่าท่านจะพูดว่าอย่างไร
+
+
+
ป๋าถอนหายใจก่อนที่จะเอ่ยออกมา
“ป๋ากับแม่รู้จักต่ายมานาน...รักต่ายเหมือนลูก  ไม่ใช่ไม่เชื่อใจต่ายนะลูก แต่เราไม่แน่ใจในความรักแบบนี้ว่ามันจะยั่งยืน”ผมใจหายกับคำพูดของป๋า  ป๋าจะให้ผมเลิกกับโอมเหรอ

“ผมรักโอมจริงๆนะครับ..ผมมั่นใจ” แต่แม่ก็พูดขึ้นมาว่า

“แล้วต่ายแน่ใจเหรอว่าโอมเค้ารักต่ายจริงไม่ใช่แค่เผลอ”

ผมไม่เคยคิดเรื่องนี้เลยต่างหาก  โอมเป็นคนที่ดูง่ายมาก  เก็บความรู้สึกไม่ค่อยเป็น  คิดยังไงก็แสดงออกมา ถึงแม้บางครั้งจะไม่พูดออกมาอย่างชัดแจ้งแต่ผมก็รู้

“ผมเชื่อว่าโอมรักผมครับ...ผมคิดว่าผมเข้าใจโอมที่สุด”
 ป๋ากับแม่มองหน้ากัน  ผมคิดว่าพวกท่านมีคำตอบอยู่ในใจให้กับเรื่องนี้แล้ว  ที่เรียกผมมาวันนี้ก็เพื่อมาบอกผลต่างหาก

“ถ้าต่ายมั่นใจขนาดนั้น  ป๋ากับแม่ขอหน่อยได้ไม๊......ขอให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์” ผมไม่เข้าใจที่แม่พูดว่าจะให้ผมทำอะไร ผมเริ่มขมวดคิ้ว

“ยังไงครับแม่...จะให้ผมทำยังไง”ผมเริ่มกังวลใจแล้วซิ

“ต่ายไปจากโอมได้ไม๊.................”แม่ทำให้ผมช็อคไปแล้ว  แต่ผมก็ฝืนใจถามต่อ

“นานแค่ไหนครับแม่.....ผมต้องห่างจากโอมนานแค่ไหน”แค่คิดว่าจะต้องจากกันผมก็แทบทนไม่ไหว

“แม่ขอแค่ปีเดียวเท่านั้นนะต่าย.....แค่ปีเดียว”มันตั้งปีนึงนะครับแม่ไม่ใช่แค่ปีเดียว  แม่ยังคงบอกเหตุผลที่ต้องการให้โอมแยกกันกับผม

“แม่อยากให้มั่นใจว่าต่อๆไปทั้งโอมและต่ายจะไม่มาเสียใจกันทีหลัง  แล้วก็พลาดโอกาสที่จะรักผู้หญิงซักคน”

ผมได้แต่นิ่งเงียบ :undecided:.....
+
+
+
ผมคงต้องยอมรับกับเรื่องนี้เพราะมันเป็นคำขอจากพ่อแม่ของคนที่ผมรัก ผมคิดมาตลอดว่าถ้าเราจะต้องแยกกันมันต้องมาจากเราสองคนเองไม่ได้มาจากมือที่สาม   แต่ครอบครัวของโอมเป็นส่วนที่ผมไม่ได้นึกมาก่อน  แต่กลับเป็นคนที่ผมปฏิเสธไม่ได้ด้วย

แม่คงห่วงโอมมาก“ต่ายจะบอกกับโอมยังไงก็ได้แต่อย่าให้น้องเสียใจมากนะลูก  เค้ายังเด็กแม่กลัวเค้าจะรับไม่ไหว”  แต่ผมซิห่วงไม่ได้น้อยไปกว่ากันเลย

“ถ้าผมเจอหน้าโอมผมก็ทนบอกลาเค้าไม่ได้เหมือนกันครับ   ผมไม่รู้จะอธิบายเค้ายังไงด้วย”

 ตอนนั้นผมเลยตัดสินใจจากมาทันทีเลยดีกว่า  คิดในแง่ดีว่าก็ดีเหมือนกันให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์  ให้เราได้ใช้เวลาตรวจสอบใจของเราอีกครั้งว่าเราจะรักกันยั่งยืนแค่ไหน  ผมกับโอมคงต้องอดทนรอคอย

 ผมยังโชคดีกว่าโอมตรงที่ผมรู้เหตุผลของการจากลา  แต่โอมคงต้องจ่อมจมกับความไม่รู้ไปอีกนาน  ลึกๆแล้วผมก็อดเป็นห่วงไม่ได้  แต่ผมไม่มีทางเลือกจริงๆครับ   จากกันปีนึงก็ยังดีกว่าต้องจากกันไปตลอดชีวิตนี่ครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไปแระนะ :oni1: :oni1: :oni1:
ปล.ขอบคุณ คุณ Sodasaa ที่ช่วยบอกจุดที่ผิดให้ค่ะ  แก้แล้วนะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 28-01-2008 22:31:19
รีบ มาจิ้มคุณฟาง ก่อน  จึ๊ก ๆ
แล้วกลางคืนทำงาน  กลางวันจะได้ทำงานเหรอ ง่วงนอนอ่ะ  :a12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 28-01-2008 22:38:03
พี่ฟาง...

ไม่เศร้าต่ออีกสักหน่อยล่ะคะ

แหม...จะได้ "จำ" ไปนานๆ



เหอ เหอ เหอ
เหตุผลจริงๆ ไม่อยากให้จบไวอ่ะ...ซะงั้น
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนเฆมสีคราม ที่ 28-01-2008 22:48:05
เหตุผลเริ่มคลี่คลาย แต่ว่า จะมีเรื่องงอนๆ กะที่โอมแอบไปกินข้าวกะก้อยป่าวหว่า :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 28-01-2008 23:06:55
ในที่สุดความจริงก็กระจ่างแล้ว  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 28-01-2008 23:09:27
พี่ต่ายก๊าบ ผมขอโต๊ดดด ที่เข้าใจพี่ต่ายผิด

 :m15: :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 28-01-2008 23:16:55
ป๊า ม๊า เป็นเหตุนี่เอง เอาน่า สู้ต่อไปพี่ตาย ยังไงโอมก็ของพี่ตายอยู่เเล้ว  อย่าให้พลิ้วไปได้น๊า~

เป็นกำลังใจให้พี่ฟางค่ะ :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: delufy.monkey ที่ 28-01-2008 23:17:37
พี่ต่าย......... ต่อไปผมจะเชียร์พี่ต่ายคนเดียว แน่นอน......... :a2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 29-01-2008 00:02:30
 :m15:

กระจ่างแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น


ว่าแต่จากนี้จะเป็นอย่างไร สำหรับทั้งคู่ อยากรู้จังงับ


 :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 29-01-2008 00:29:53
เย้ๆมาอัพแล้ว ดีจายๆ

ที่แท้มันเป็นแบบนี้นี่เอง

ยังไงก็ง้อแล้วก็ง้อโอมให้ได้ไวๆนะคร้าบบบ ^^

ปล.รักษาสุขภาพนะครับพี่ฟาง  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-01-2008 01:13:45
เป็นอบ่างนี้นี่เองงงงงงงงงงงงงงง สงสารทั้งโอมทั้งต่ายจิงๆ

แบบนี้ ต่อไปคงน่าสนุกตอนขอคืนดี กับตอนโอมรู้ความจริงเนี่ยแหละ อิอิ

เอาเป็นว่าเดี่ยวคืนพรุ่งนี้ จะมารอน่ะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 29-01-2008 01:44:36
 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 29-01-2008 06:25:05
 :m4: รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 29-01-2008 08:19:33
 :oni1: มารอดูปฏิบัติการง้องอนโอมของพี่กระต่าย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 29-01-2008 08:43:51
ไม่เข้าใจอยู่ดี

เหตุผลเข้าใจ  แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

กับเรื่องที่ควรจะช่วยกันคิด  ช่วยกันทำ

กลับตัดสินใจเอาเองฝายเดียว  คนที่ถูกทิ้งไว้กับความว่างเปล่า

คงจะเศร้า  และเหงาน่าดู  เพราะว่าถูกทิ้งไว้

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 29-01-2008 09:33:32
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 29-01-2008 09:48:08
ความจริงกระจ่างชัดสู้ๆนะครับผม o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 29-01-2008 09:48:48
กรี๊ดดดด...ได้อ่านต่ออีกแล้ว ดีใจๆๆ  :m4:

................................
อันนี้น่าจะพิมพ์ผิดนะคะ

ผมมาถึงบ้านโอมยังไม่แปดโมงเช้า ผมยกมือไหว้พวกท่าน แม่ป๋าเหมือนกับจะรอผมอยู่แล้ว ลุกขึ้นรับไหว้แล้วส่งยิ้มเศร้าๆมาให้ผม
โอมทานข้าวก่อนนะ  มาถึงแต่เช้าคงยังไม่ทันได้ทานอะไร”

น่าจะเป็น
" ต่าย ทานข้าวก่อนนะ...."
................................

ปล. เหตุผลที่ว่ามา... บอกตรงๆ รับไม่ได้อ่ะ ให้โอม เป็นแบบนี้ได้ไงอ่ะ ..ใจร้าย :serius2:
ไม่รู้เหรอไงว่า ปีนึงกับความทุกข์ มันยาวนานขนาดไหน ..แค่คืนเดียว ...ก็ยากเต็มทีแล้ว ..
โกรธ..............  :o12:
...........................
อินไปไม๊เนี่ย ช้านนนน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 29-01-2008 12:35:59
เรื่องราวเป็นแบที่คิดไว้จริงๆด้วย

ทุกคนน่าสงสารหมดเลย พี่ต่าย ครอบครัวโอม

แต่ที่เสียใจที่สุุดคงไม่พ้นโอม เพราะไม่รุ้เหตุผลอะไรเลย  น่าสงาสารมากก

ปีนึงมันนานมากนะ  o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 29-01-2008 14:19:15
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 29-01-2008 15:26:45
เหอ เหอ เป็นละครเกาหลีจริง ๆ  แต่พี่ต่ายนู๋ก็จะรักพี่ต่ายคนเดียวเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 29-01-2008 16:05:29
เหอ เหอ เป็นละครเกาหลีจริง ๆ  แต่พี่ต่ายนู๋ก็จะรักพี่ต่ายคนเดียวเหมือนกัน

 :o12: :o12: :o12: มาบอกว่าพี่ต่ายของเค้าเป็นละครเกาหลี เกาหลีจริงตายกันไปข้างนึงเลยนะ เอาปะ


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 29-01-2008 18:07:27
ไม่เข้าใจอยู่ดี

เหตุผลเข้าใจ  แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

กับเรื่องที่ควรจะช่วยกันคิด  ช่วยกันทำ

กลับตัดสินใจเอาเองฝายเดียว  คนที่ถูกทิ้งไว้กับความว่างเปล่า

คงจะเศร้า  และเหงาน่าดู  เพราะว่าถูกทิ้งไว้



เหนด้วยอย่างแรง เรื่องของตัวเองแท้ๆ แต่ตัวเองกลับไม่มีสิทธิ์คิดและตัดสินใจ

คิดแล้วมันรับไม่ได้นะถ้าถูกทำแบบนี้ ถึงจะเปนการกระทำของคนที่รักเรา หวังดีต่อเรามากที่สุด ก้อเหอะ

เวลาหนึ่งปี มันกัดกร่อนหัวใจเราได้มากมายแค่ไหน ถ้าเปนเรา คงต่อกันไม่ติดแล้วล่ะ

ถึงแม้จะรู้ว่าเค้ามีเหตุผลของเค้า แต่การถูกทิ้งให้ทนอยู่กะการไม่รู้อะไรเลย มันก้อยากที่จะทำใจรับได้นะ

ช่องว่างในใจที่ถูกกัดกร่อนไปแล้วน่ะ มันคงยากที่จะเติมเต็มให้เหมือนเดิมได้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 29-01-2008 18:51:48
 :a4:ความจริงพี่ต่าย เริ่มเปิดเผย แต่ว่าพี่ต่ายก็พิสูจน์หัวใจให้โอมและครอบครัวเห็นแล้วนี่น่า ว่าพี่ต่ายพูดจริงทำจริง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 29-01-2008 18:55:49
เหอ เหอ เป็นละครเกาหลีจริง ๆ  แต่พี่ต่ายนู๋ก็จะรักพี่ต่ายคนเดียวเหมือนกัน

 :o12: :o12: :o12: มาบอกว่าพี่ต่ายของเค้าเป็นละครเกาหลี เกาหลีจริงตายกันไปข้างนึงเลยนะ เอาปะ



 :m20: :m20: :m20: :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 29-01-2008 19:10:11
เหตุผลน้อยไปนะพี่ต่าย :m16:


 :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 29-01-2008 21:56:14
 :a6: :a6:
++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 62

ผมไหว้ลาแม่กับป๋ากลับกรุงเทพฯ  แม่โอบกอดผมลูบหลังผมเบาๆ  ผมรู้ได้เลยว่าแม่รักผมเหมือนลูกจริงๆ  แต่แม่ก็คงไม่อยากให้โอมลูกชายแม่มารักกับผู้ชายอยู่ดี

 ผมพยายามมองโลกในแง่ดีว่า  แยกกันชั่วคราวแบบนี้ก็ยังนับว่าครอบครัวโอมให้โอกาสกับความรักของเราแล้ว   ดีกว่าบังคับให้เลิกกันทันที  สายตาของแม่ที่มองผมคลอไปด้วยน้ำตา  แม่ก็คงไม่ได้อยากทำแบบนี้ผมเข้าใจ :m15:

“ต่ายรู้ไว้นะลูก...ว่าแม่ยังรักต่ายเหมือนเดิม...แล้วก็ติดต่อมาบ้างอยากรู้เรื่องอะไรก็ถามผ่านมาทางอิงแล้วกัน”

ผมกอดตอบแม่อีกครั้งก่อนที่จะขับรถจากมา มือผมกำพวงมาลัยแน่นแต่ผมก็ยังรู้สึกได้ว่ามือเย็นเฉียบ  ผมขับรถกลับไปบ้านด้วยความปวดใจ  ปวดหัวตุ๊บๆ  ระยะทางร้อยกว่ากิโลเหมือนกับสั้นแค่สิบกิโล  ผมก็ไม่รู้ว่าผมขับกลับมาอย่างปลอดภัยได้ยังไงมันเบลอไปหมด  มันเหมือนหุ่นยนต์ที่ไร้ชีวิตจิตใจ  :undecided:
 
สักพักนึงผมก็มาถึงบ้านมันเงียบมากๆเพราะโอมไม่อยู่  เหมือนกับในใจผมตอนนี้ที่มันส่งเสียงไม่ออก  พอเข้าไปในห้องนอนโอมผมทรุดตัวลงนั่งบนเตียง  เอาหมอนที่โอมนอนมากอด   ยังได้กลิ่นกรุ่นๆของโอมที่ยังมีอยู่ที่หมอน

 ผมล้มตัวลงนอนบนเตียงหลับตาซึมซับความรู้สึกอบอุ่นที่เคยมีกันและกันให้ได้มากที่สุด  น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวเลย  มันโหดร้ายที่ต้องจากกันทั้งที่ยังรักกันมาก  เมื่อวานนี้ผมยังได้นอนกอดเจ้าของหมอน  แต่ตอนนี้ทำได้เพียงกอดหมอนเท่านั้นเองมันช่างน่าเศร้า

ผมไม่เคยร้องไห้มานานแล้วหลังจากที่พ่อผมเสียไปเมื่อหลายปีก่อน  โอมเป็นผู้ชายอีกคนที่ผมต้องเสียน้ำตาให้  ผมนอนร้องไห้ไปพักนึงแล้วก็ต้องหยุดต้องเอามือปาดน้ำตา  ไม่มีเวลาที่จะร้องไห้ได้นานนัก  ผมยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ

ผมเริ่มเก็บของที่ไม่ได้มีมากใส่รถ  แต่ไม่ลืมที่จะทิ้งของขวัญวันเกิดไว้ให้หลาน  ผมลังเลใจอยู่นานว่าจะเขียนจดหมายทิ้งไว้ให้โอมดีไม๊  ผมหยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นนึง แล้วจรดปากกาเขียนด้วยความยากลำบาก  เขียนรายงานการตรวจสอบมาก็หลายหน  เขียนจดหมายแนะนำการปฏิบัติงานให้ลูกค้าก็หลายครั้ง  ยังไม่ยากเท่ากับเขียนจดหมายลาคนที่เรารัก

ถึงโอมที่รัก

   พี่มีความจำเป็นต้องจากโอมไป  โอมไม่ต้องเสียใจเพราะยังไงเราก็ยังรักกันเหมือนเดิม  โอมสัญญาว่าจะรอพี่ได้ไม๊  พี่จะกลับมาให้เร็วที่สุด

ผมลองอ่านจดหมายที่เขียนไม่จบแล้วก็ไม่ชอบเลย  อ่านแล้วดูน้ำเน่า  แล้วผมก็ไม่อยากผูกมัดให้โอมมารอผมด้วย   ถึงแม้ว่าใจจะอยากให้รอแค่ไหนก็ตาม  ผมเองก็อยากเปิดโอกาสให้โอมเหมือนกัน  ผมเลยต้องขยำทิ้งไป  แล้วผมก็เขียนใหม่
 
ถึงโอมที่รัก

   พี่ไม่อยากจากโอมไป   แต่ต้องไปทำงานต่างประเทศ  ยังไม่มีกำหนดกลับไม่ต้องเป็นห่วง  รักษาตัวด้วย

ผมอ่านแล้วยังรู้สึกเหมือนเดิม  ผมรู้ว่าถ้าโอมอ่านจดหมายนี้โอมต้องรอผมแน่ๆ  ผมก็เลยไม่ใช้จดหมายฉบับนี้อีก  เขียนไปอีกหลายฉบับก็ยังไม่ถูกใจ

 ในที่สุดมันก็เลยจบลงแค่ว่า “พี่ต่ายรักโอม”

 ผมคิดว่าคำๆนี้สื่อความหมายจากใจของผมให้กับโอมมากที่สุดแล้ว  ส่วนเรื่องอนาคตจากนี้   ก็ต้องแล้วแต่บุญวาสนาของเราสองคนเท่านั้นเอง

พอออกมาจากบ้านผมก็แวะเข้าบริษัท  ลางานสองอาทิตย์ทั้งที่ยังคิดไม่ออกว่าจะลาไปทำอะไร   แล้วก็เข้าไปคุยกะนายขอย้ายตัวเองไปต่างประเทศ    นายค่อนข้างงงว่ามีสาเหตุอะไรรึเปล่าแต่ผมก็บอกไปแค่ว่าเป็นปัญหาส่วนตัว  นายก็เลยรับปากจะช่วย
 
แล้วพอออกจากบริษัทผมก็เคว้ง   ไม่รู้จะไปไหนดีจะกลับไปบ้านตัวเองก็กลัวโอมตามไป  ถ้าผมมีโอกาสเจอกับโอมผมคงทิ้งโอมไปไม่ได้แน่ๆ  ผมเลยปิดมือถือไม่กล้าเปิดกลัวโอมจะโทรมาหา  ตกลงผมตัดสินใจหาโรงแรมนอนไปก่อนชั่วคราว  แต่ผมก็อยู่เฉยๆที่โรงแรมไม่ได้   มันร้อนใจเหมือนคนโดนเล่นคุณไสย
 
ในที่สุดผมต้องขับรถมาแอบซุ่มอยู่ไม่ห่างจากบ้านโอมเท่าไหร่  ถ้าใครมาเห็นผมตอนนี้อาจจะนึกว่าผมเป็นพวกโรคจิตชอบแอบติดตามชาวบ้าน  ผมดูนาฬิกาสี่ทุ่มกว่ายังเห็นโอมเดินไปเดินมาในบ้านคุยโทรศัพท์กับใครอยู่ก็ไม่รู้ท่าทางเคร่งเครียด  ผมเลยพลอยเครียดไปด้วย  อยากจะให้โอมไปนอนไวๆจะได้หยุดฟุ้งซ่าน

ผมเห็นแสงไฟในห้องผมสว่างขึ้นมา   โอมคงเข้าไปดูที่ห้องแล้วและคงรู้แล้วว่าผมย้ายของออกไปหมดแล้ว  ผมว่าโอมคงช็อคเพราะเรายังคุยกันดีๆอยู่เมื่อคืน  มันไม่มีแม้กระทั่งแมวดำกระโดดผ่าน  หรือลางร้ายใดๆเลย

สักพักนึงผมเห็นโอมออกมาจากบ้านกระโดดขี่จักรยานแล้วขี่ออกไปอย่างรวดเร็ว  ผมกำลังงงว่าโอมจะไปไหนแล้วก็ต้องสะดุ้งกับเสียงโอมที่ตะโกนออกมา

“กรูไม่เข้าใจโว้ย!!!!!!!!”
 
 ผมอดอมยิ้มไม่ได้โอมก็ยังคงเป็นโอมอยู่ดีในทุกสถานการณ์   ผมเริ่มขับตามโอมไปอย่างช้าๆ   บรรยากาศตอนตี 1 กว่าๆช่างเงียบจนน่ากลัว   ได้ยินแต่เสียงหมาหอนกันเกรียวสงสัยจะซ้อมร้องประสานเสียงกันอยู่ 

ผมขับรถไปก็งงตัวเอง  อยู่ดีๆผมกลายเป็นstalkerไปตั้งแต่เมือไหร่กันเนี่ย  ผมค่อยๆตามโอมไปถึงจุดหมายที่ไม่ไกลนัก โอมขี่จักรยานไปที่บ้านผมนั่นเอง  พอไปถึงก็สวมวิญญาณนักย่องเบาปีนข้ามรั้วไปเลย  ใช้เวลาไม่นานสักพักนึงก็ปีนออกมานั่งอยู่ริมฟุตบาทหน้าบ้านผม  แล้วก็ตะโกนออกมาอีก

“งงโว้ย!!!!!!!!!”

  โอมนั่งกุมหน้าผากเงียบๆอยู่ตรงนั้น  แต่ผมรู้ว่าโอมกำลังร้องไห้ด้วยความเสียใจ  ผมไม่หัวเราะโอมแล้วครับ   ผมได้แต่นั่งมองโอมแล้วน้ำตาผมก็ค่อยๆไหล   ตอนนี้ผมสงสารทั้งโอมทั้งตัวเอง  ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่ได้มารักกับโอม  ถ้าไม่นับเรื่องที่เราเข้าใจผิดกันนิดๆหน่อยๆ  ก็เรียกได้เลยว่าเราทะเลาะกันน้อยมาก  ราวกับว่าชีวิตรักเราไม่มีอุปสรรคอะไรเลย

แต่สุดท้ายเรากลับต้องมาแยกกันเพื่อพิสูจน์ว่าเรารักกันจริง  ผมยกมือขึ้นปาดน้ำตาคิดแล้วก็น่าขำแต่มันขำไม่ออก  ผมอยากจะขับรถกลับออกไปแต่ก็เป็นห่วงโอม  ก็เลยจอดรถมองโอมที่นั่งอยู่อย่างเงียบๆเพียงลำพัง   ผมนั่งมองโอมอยู่ห่างๆแต่ผมรู้สึกว่าความเศร้าของเรามันอยู่ร่วมกัน   เราไม่เคยแยกจากกันแม้กระทั่งความเสียใจ

 จนใกล้สว่างโอมถึงลุกขึ้นแล้วขี่จักรยานกลับบ้านไปอย่างอ่อนแรง

ผมกลับไปที่โรงแรมหลังจากมั่นใจว่าโอมกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย  แต่ก่อนที่ผมจะหลับพักหลังจากที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน ผมตัดสินใจโทรหาอิง

“อิงเหรอ....กรูเองต่าย...กรูว่าวันนี้มรึงขึ้นมาดูโอมหน่อยซิกรูไม่ค่อยวางใจ”ผมรู้ว่าโอมเป็นคนคิดมากพอสมควร   เลยไม่อยากจะปล่อยไว้คนเดียว

“กรูไปได้ตอนบ่ายว่ะ  ตอนเช้าเคลียร์งาน บ่ายๆก็ต้องไปรับกุ้งกะลูกกลับจากโรงพยาบาล  เอาไงดีว่ะ.......โอมดูแย่มากเหรอกรูชักเป็นห่วงแล้วซิ”
อิงเองไหนจะลูกอ่อนไหนจะงานอีกผมก็พอเข้าใจน่ะครับ

“เอางี้แล้วกันกรูจะคอยดูอยู่ห่างๆแล้วกัน   ตอนนี้โอมคงหลับอยู่กรูก็กะว่าจะงีบพักนึงแล้วจะแอบไปดูโอม   แต่มรึงรีบมาแล้วกัน   ถ้าเจอกันจะๆกรูก็ชักไม่แน่ใจตัวเองแล้วว่าจะยอมแยกจากน้องมรึงได้ไม๊”  แค่นี้ผมก็แทบทนไม่ไหวแล้วครับ  มันจะตายเอา

“เออๆ..กรูรู้ยังไงกรูก็ต้องขอโทษมรึงอยู่ดี” อิงพูดเสียงอ่อยๆ

“มรึงไม่โกรธกรูใช่ไม๊ที่ทำแบบนี้” ผมได้ยินเสียงอิงถอนหายใจ ทุกคนลำบากใจกับเรื่องนี้กันหมด

“กรูจะไปโกรธได้ไง...กรูเข้าใจว่าที่บ้านมรึงคิดยังไง   ยังไงๆทุกคนก็รักและหวังดีกับโอมกันทั้งนั้น”

 ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆมาขัดขวางเรื่องของผมกับโอม  ผมคงไม่มีวันถอยออกมาง่ายๆแบบนี้หรอก  แต่ป๋ากับแม่ของโอมเป็นคนที่ผมต้องเชื่อฟังอย่างที่สุด  มันดูราวกับว่าผมคิดอะไรง่ายๆ  อยากจะทิ้งก็ทิ้งกันไป  แต่ผมกลับคิดว่า  ถึงแม้ผมจะดื้อดึงไปไม่ยอมทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่บอก  ก็จะยิ่งทำให้ทุกคนเสียใจรวมถึงตัวโอมเองด้วย  เพราะสำหรับโอมครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญมากกว่าตัวผมเสียด้วยซ้ำ

 ผมรู้ว่าโอมต้องกลับไปทำงานที่บ้านเมื่อเรียนจบ  เราก็ต้องแยกกันอยู่ดี  และปัญหาการยอมรับจากครอบครัวไม่เจอวันนี้วันหน้าก็ต้องเจอ  สู้อดทนรอคอยเพื่อที่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างยั่งยืนจะไม่ดีกว่าหรือ  ผมรู้ว่าช่วงเวลาที่ผมไม่อยู่โอมจะต้องกลับไปอยู่บ้าน  โอมจะมีคนในครอบครัวเป็นกำลังใจให้อยู่แล้ว  ผมต่างหากล่ะที่ไม่มีใคร.....  ผมต่างหากที่ไม่เหลือใครเลย........


อิงวางสายไปแล้วแต่กำชับให้ผมไปดูโอมให้อีกที  ผมง่วงมากเลยหลับไปครู่ใหญ่  ตื่นขึ้นมาอีกทีเกือบเที่ยง  ผมตกใจนี่ผมนอนไปนานขนาดนี้เลย  ออกจะอดเป็นห่วงโอมไม่ได้

ผมเลยรีบอาบน้ำแต่งตัวแล้วไปจอดรถซุ่มอยู่หน้าบ้าน  บ้านดูเงียบมากๆเหมือนไม่มีใครอยู่  ผมเลยตัดสินใจใช้โทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะโทรเข้าไปที่บ้าน   ก็ไม่มีคนรับสาย  ผมโทรเข้ามือถือโอมก็ไม่มีคนรับผมเลยไม่แน่ใจว่าตกลงโอมอยู่ในบ้านหรือเปล่า

  ผมลองเสี่ยงเปิดประตูบ้านเข้าไป   บ้านเงียบมากๆราวกับไม่มีคนอยู่ ผมค่อยๆย่องไปดูที่ห้องโอม  พอเปิดประตูเข้าไปเห็นโอมยังนอนอยู่หน้าแดงระเรื่อเหมือนคนเป็นไข้  :sad2: ทุกสิ่งทุกอย่างในห้องยังเหมือนเดิม  มีแต่ใจของเราสองคนที่มันทรมานจริงๆมันไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว 

ผมเข้าไปนั่งข้างๆเตียงเอามือลูบหัวโอม  สงสารน้องอย่างบอกไม่ถูก  ยังเห็นร่องรอยคราบน้ำตาที่แก้มของโอม  โอมคว้าเอามือของผมที่ลูบหัวไปจับไว้แน่นแต่ยังหลับตาอยู่  แล้วโอมก็สะอื้นร้องไห้ออกมา   ผมแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อยากจะรั้งตัวโอมขึ้นมากอดปลอบให้หายร้องไห้  ผมใช้มืออีกข้างลูบหัวปลอบใจโอม
 
“พี่ต่ายอยู่นี่นะโอม”ผมพูดเบาๆเหมือนกับจะบอกโอมว่า  ผมยังอยู่ตรงนี้ในใจของโอมเสมอ  ผมพยายามจะดึงมือออก  แต่โอมก็จับไว้แน่นผมเลยต้องปล่อยให้จับไว้อยู่อย่างนั้น  ใช้เวลาไม่นานโอมก็หยุดสะอื้นแล้วหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

ผมรอจนอิงกลับเข้าบ้านจึงได้จากโอมมา

“แล้วกรูจะติดต่อมาแล้วกันนะ........อิง....ฝากโอมด้วยนะ” ผมจับมืออิงพร้อมกับตบไหล่  อิงจับมือผมแน่น  ผมมองอิงที่ตาแดงๆ  แล้วอิงก็บอกผมว่า

“ไว้เจอกันใหม่นะต่าย....ไม่ต้องห่วงโอมยังไงมันก็น้องกรู”ฟังแค่นี้ผมก็สบายใจขึ้นแล้วครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


  :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 29-01-2008 22:07:08
แม้ว่าจะต้องจากกันไปช่วงเวลาหนึ่ง แต่มันก็เหมือนกันเป็นการพิสูจน์ว่าทั้งคู่รักกันหรือเปล่า
แต่ทั้งสองก็ก้าวฝ่าฟันมาได้ ทีนี้พี่ต่ายกับโอมก็คงไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว

กลับมาสวีทกันเร็วๆนะครับ    :m1::m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 29-01-2008 22:18:55
เหตุผลน้อยไปนะพี่ต่าย :m16:


ใจเย็นๆก่อนจ่ะ  อิอิ

รอตอนต่อไปน้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 29-01-2008 22:26:42
พิสูจน์แบบนี้ แรงจิงๆ ไม่ไหวๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 29-01-2008 22:32:53
เอ่อม...

พิสูจน์กันแบบนี้เลยเหรอครับ

รับไม่ไหวเลยนะนี่ - -"

 :m15:   :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 29-01-2008 23:05:52
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 29-01-2008 23:20:05
พี่ต่าย     :m15: :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 29-01-2008 23:38:28
ทำไม ถึงเศร้าแบบนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ  :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 29-01-2008 23:40:06
 :m15:
เป็น 1 ปี แห่งความทรมานสุดๆเลยงับ

 :m15:
 :m15:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 29-01-2008 23:46:07
อือ!!!!! นะ

วิธีที่พิสูจน์ดีกว่านี้..มีมั้ย :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 30-01-2008 00:11:49
ถ้าโอมเป็นอะไรไป  น้องฟางจะเอาโอมไหน ไปคืนพี่ต่ายเนี่ย  :angry2:
อินจัด  :m23:  ง่วงไปนอนแระ  :a12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 30-01-2008 01:08:16
พี่ต่ายร้องไห้ด้วย  :sad2: :sad2: :sad2: :o12: :o12: o7 o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 30-01-2008 02:41:27
เข้ามาลองดูก่อนไปนอนว่ามีอัพป่าว ...
มีอัพจริงๆ ด้วย ขอบคุณค่า  :mc2:

...........................
แต่รับไม่ได้ ..มันทรมานนนนนนนนน... :o12:
บีบคั้นจิตใจมากๆๆๆๆๆๆๆ
พิสูจน์แบบนี้ไม่ดีเลย .....

สงสารโอม มากๆๆๆๆๆ จริงๆ  :m15:
................................
แค่อ่านตัวหนังสือ ยังเสียใจแทนเลย ..
เจอเองจริงๆ ..ตายแน่ๆ :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 30-01-2008 09:10:35
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 30-01-2008 10:38:35
ทำไมทุกคนไม่เหนให้โอมตัดสินใจมั่งเลยอะ

คิดกันไปเอง  คิดกันเอาเองทั้งนั้นเลย

ไม่เข้าใจจริงๆ

 :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 30-01-2008 11:02:03
พิสูจน์แบบนี้น่าสงสารจัง o7สู้ๆนะครับพี่ต่ายยังไงซะตอนนี้ครอบครัวพี่โอมก็เปิดรับแล้สู้ๆนะครับ o13ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 30-01-2008 12:41:49
บทพิสูจน์อันโหดร้ายย   :sad2:

ไม่มีใครไม่เจ็บปวดจากเหตุการณ์นี้เลย   o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 30-01-2008 12:51:57
อิอิ :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 30-01-2008 13:24:45
ชั้นว่าแล้วไง
ครอบครัวของโอมกะพี่ต่ายอ่ะรู้กัน

มีแต่โอมแหละที่ไม่รู้อะไร
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 30-01-2008 15:45:10
 :o12: :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 30-01-2008 15:55:10
และแล้ว.....ความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ  :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 30-01-2008 16:25:30
 :a4:ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ว่าพี่ต่ายมั่นคงต่อความรักแค่ไหน รักพี่ต่ายที่สุดเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 30-01-2008 18:29:43
 :sad2: :sad2: :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: chanram ที่ 30-01-2008 18:48:41
ซึ้งงงงงง  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 30-01-2008 22:14:41
 :m23:สั้นอ่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++
62 (ต่อ)

ผมหยุดความคิดถึงเรื่องเก่าๆที่มันผ่านมาแล้ว  ยังไงวันนี้ผมก็ได้เจอโอมแล้วอีกไม่นานเราก็คงได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีก  ผมมาถึงบ้านเห็นไฟเปิดอยู่แสดงว่ากระแตคงกลับมาแล้ว

“อ้าวพี่ต่ายกลับมาซะดึกเลย   ทานไรมารึยังเอาไม๊...เดี๋ยวแตทำให้”สาวสวยร่างสูงโปร่งในชุดอยู่บ้านสบายๆ  เดินมารอรับผมที่หน้าบ้านส่งรอยยิ้มสวยมาให้
 
“พี่ทานมาเรียบร้อยแล้ว  แล้วเราล่ะเพิ่งกลับมาเหมือนกันเหรอ  ทำไมทำงานหนักนักเล่า  ไม่ดีนะอันตรายด้วยกลับดึกๆ”
 ผมเดินเข้าไปโอบไหล่กระแต  น้องสาวคนเก่งของผมที่เพิ่งกลับมาจากอเมริกาหลังจากไปเรียนต่ออยู่หลายปี

“พี่ต่ายไม่ต้องห่วงเลย  แตดูแลตัวเองได้แล้วไหนล่ะ  แล้วหัวใจพี่ต่ายที่ไปตามหามาล่ะ  เจอกันรึยังค่ะ”
กระแตจูงมือผมให้มานั่งคุยกันที่โซฟา  ตอนนี้บ้านผมไม่โล่งเหมือนเดิมแล้วครับน้องสาวผมจัดการไปตามที่จำเป็นแต่ก็ยังนับว่ามีเฟอร์นิเจอร์ไม่มากอยู่ดี  ผมเคยอยากให้โอมมาแต่งบ้านให้   แต่โอมก็บอกว่าเปลืองเพราะยังไงเราไม่ได้มาอยู่ที่นี่อยู่ดี

“เราเจอกันแล้ว  แต่เค้ายังงอนพี่อยู่  เลยยังไม่ได้คุยอะไรกันเท่าไหร่”

พอพูดเรื่องนี้ผมก็กร่อยๆไปเล็กน้อยได้แต่ส่ายหน้าเซ็งๆ   ใจจริงผมอยากคุยกับโอมให้มากกว่านี้  แต่เหมือนผมจะเลือกผิดจังหวะ ผิดเวลาไปหน่อย  สงสัยว่าจะก้าวขาผิดข้างก่อนออกจากบ้าน  กระแตยิ้มล้อผมเมื่อเห็นสีหน้าผมจ๋อยๆ

“หึหึหึ แตอยากเจอจังเลยพี่โอมเนี่ย  ต้องน่ารักแน่ๆพี่ต่ายถึงได้รักขนาดนี้”

“อ้าวก็นี่ไงในโทรศัพท์พี่  แตเคยดูแล้วไม่ใช่เหรอ  นี่ไง”

ผมส่งโทรศัพท์ไปให้กระแตดู  เป็นรูปที่ถ่ายคู่กันมานานแล้วครับแต่ผมก็ยังเก็บไว้ดูเสมอๆเวลาคิดถึงกัน รูปนี้โอมโดนผมหอมแก้มเลยยิ้มอายๆยังเห็นลางๆว่าแก้มเป็นสีระเรื่อ   พอดูทีไรผมก็อดยิ้มไม่ได้  เอามือลูบที่ภาพโอม อีกไม่นานคงได้จับแก้มตัวจริงๆแล้ว  กระแตก็ดูตามที่ผมเลื่อนให้ทีละภาพแล้วยิ้มๆ

“แตดูจนขึ้นใจแล้วพี่ต่าย  แต่อยากเจอตัวจริงมากๆเลย”

น้องสาวผมเพิ่งกลับมาได้ไล่ๆกันกับผมกลับมาจากสิงค์โปร์  ก็เลยยังไม่มีโอกาสได้เจอตัวโอมสักที   ผมเองก็อยากให้เจอกัน  แต่โอมก็อยู่ต่างจังหวัด  แตก็ทำงานไม่รู้จะเจอกันได้ไง  แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้

“เอางี้ซิแตก็ไปช่วยดูบ้านแทนพี่  จะได้เจอโอมด้วย” ผมยังไม่มีเวลาได้ไปดูบ้านเลย  กะว่าให้โอมปลูกตามใจเค้าไป ก็มันเป็นบ้านของเค้านี่ครับ 

กระแตใช้เวลาคิดนิดนึงก่อนจะตกลงใจไป  “วันอาทิตย์นี้แตพอว่างแตไปดูให้  แต่แตไม่เคยไปนะซิจะไปยังไงล่ะ”ผมก็ไม่ค่อยอยากให้น้องขับรถไปเองด้วยเอาไงดี   ผมเลยพอนึกถึงตัวช่วยมาได้

“แตรอเดี๋ยวนะ   แป็ปนึง” ผมต่อโทรศัพท์หาอั้มพี่แฟนผมเอง  แล้วอั้มก็รับสายพอดี

“โหล....อั้มเหรอ   มรึงกลับบ้านป่าวว่ะวันอาทิตย์นี้   กรูจะฝากน้องสาวเค้าจะไปช่วยดูบ้านที่โอมปลูกให้กรู”

“ได้ดิไม่มีปัญหา   แต่น้องมรึงเค้าจะกล้าไปกะกรูเหรอไม่รู้จักกันมาก่อน”
พออั้มพูดขึ้นมาผมก็เลยเพิ่งนึกได้ว่าจริงของอั้ม  ผมก็ห่วงน้องเรื่องต้องไปคนเดียวซะจนลืมคิดไปหน่อย  ว่าไปสองคนแต่เป็นคนแปลกหน้ากันจะไปได้เหรอ

“เออจริงว่ะ   เดี๋ยวนะกรูถามน้องกรูดูก่อน  เดี๋ยวโทรกลับ  แล้วมรึงจะไปกี่โมง”ผมคงต้องคุยกับแตด้วยเพราะไม่รู้ว่าจะว่างทั้งวันหรือเปล่า 

“กรูกี่โมงก็ได้ว่างทั้งวัน   แต่เนี่ยเดี๋ยววันเสาร์โอมมันจะเข้ามากรุงเทพฯนะมรึงรู้รึเปล่า”

ผมไม่ได้ตอบอั้ม  และผมก็วางสายไปแล้วแต่ใจลอยครับ  คิดถึงแต่เรื่องที่อั้มบอกว่าโอมจะเข้ามา  ผมไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย  เอาไงดีทำไงผมถึงจะได้เจอกับโอมได้  ผมอยากคุยให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย พรุ่งนี้ผมก็ต้องไปทำงานทั้งวันเลย

“พี่ต่ายว่าไงค่ะ” แตเขย่าแขนผมเบาๆ  ทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่ากำลังคุยกันค้างเรื่องจะไปดูบ้านกันอยู่  หันไปมองแตที่ทำหน้าสงสัยกับท่าทางของผม

“แตไปกับพี่ชายโอมได้ไม๊ล่ะชื่ออั้ม   เป็นเพื่อนพี่เอง  แต่โอมเค้าเข้ากรุงเทพฯนะ ถ้าไปก็คงไม่เจอแตจะไปไม๊”

“อ้าว.....แล้วแตจะไปทำไมล่ะ   งั้นไปก็ไม่เจอพี่โอม”กระแตทำหน้างอ  เริ่มไม่อยากไปแล้วมั๊ง  ที่จริงมันก็ธุระของผมแท้ๆเลยเรื่องบ้าน

“ก็ไปดูบ้านให้พี่ไง  ก็แตเป็นวิศวะ  พี่ไปดูก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง” แต่ใจจริงผมก็อยากให้ไปรู้จักกับครอบครัวโอมด้วยครับอีกหน่อยก็เป็นญาติกันแล้ว กระแตใช้เวลาคิดแป๊ปนึงแล้วก็บอกว่า

“งั้นไปก็ได้  แต่พี่อั้มอะไรนี่ไปด้วยไม่เป็นไรแน่นะ”แตถามผมแปลกๆ เป็นอะไรคือยังไง

“แต....หึหึหึ....เค้าบ้าก็จริง  แต่เค้าไม่ได้เป็นหมาบ้านะเค้าไม่กัดหรอก   จะได้รู้จักกันไว้ไงเค้าก็จบวิศวะมาเหมือนกันนะ  คงคุยกันรู้เรื่องน่า ”ผมอดหัวเราะไม่ได้   เพราะมาคิดดูมันก็บร้านะอั้มเนี่ย  แต่ตอนอยู่กับผู้หญิงผมไม่รู้ว่ามันเป็นไง

“เดี๋ยวพี่โทรนัดให้ แตรอแป๊ปนึง”แล้วผมก็ต่อโทรศัพท์ถึงอั้ม

“อั้มเหรอวันอาทิตย์นี้มารับน้องกรูด้วยนะ   มรึงจะมากี่โมง”

“ประมาณ 9 โมงแล้วกันกรูไปรับที่บ้านมรึง” อั้มมันลังเลพักนึงก่อนที่จะถามผม

“นี่ต่ายกรูถามมรึงหน่อย   น้องมึงสวยไม๊” อ้าวไอ้นี่ชักไม่น่าไว้ใจแล้วครับ   นี่ผมกำลังจะส่งน้องผมให้เสือไปขย้ำรึเปล่าซิ

“มรึงไม่ต้องมายุ่งกะน้องกรูเลย   เดี๋ยวจะโดนดี”ผมต้องขู่มันก่อนครับ  หรือจะเปลี่ยนใจดี  น้องผมไม่ต้องไปดีกว่าท่าทางเหมือนจะไม่ปลอดภัย

“ทีมรึงยังมายุ่งกะน้องกรูเลย   ขืนหือกรูไม่ช่วยนะเว้ย   ไอ้โอมมันยังโกรธเมิงอยู่นี่”

อ้าวเวงแล้วซิ  มันเล่นมาขู่กันแบบนี้  ผมไม่น่าเลยจะให้น้องถอนตัวก็ไม่ทันแล้ว  ก็คงต้องยอมมันไปก่อน  แต่น้องผมก็ไม่ใช่ย่อยๆคงไม่เป็นไรหรอก  เอาว่ะเพื่อพี่นะแต ตอนนี้คงต้องเสียสละเพื่อชาติแล้ว

“เออๆๆ(ไอ้เพื่อนเลว.....อันนี้คิดในใจครับ) มรึงมารับแล้วกัน  แต่ห้ามรุ่มร่ามนะเว้ย  แล้วที่ว่าจะช่วยกรูจะช่วยยังไงไหนบอกมาซิ...อ่อ...เดี๋ยวนะอั้ม”

ผมหันไปบอกแตที่ยังนั่งดูทีวีรออยู่ “แตเดี๋ยวอั้มจะมารับ 9 โมงเช้าวันอาทิตย์นะ”แตหันมาพยักหน้าให้กับผมว่ารับรู้แล้ว

ผมก็เลยเดินขึ้นบ้านไปครับเรื่องแบบนี้มันเป็นความลับ “เอ้ามรึงว่ามา  มรึงรู้อะไรมาบ้าง”

ใช้เวลาไม่นานนัก   พอฟังจากอั้มผมก็พอรู้คร่าวๆว่าโอมนัดทานข้าวกะเพื่อนๆวันอาทิตย์  แต่จะมาค้างก่อนวันเสาร์  ผมคงต้องคิดให้ดีๆว่าจะทำยังไงที่จะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุด   ผมจะได้หยุดการรอคอยที่เนิ่นนานนี้ซักที  น้องโอมครับรอพี่ต่ายหน่อยนะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 :oni1: :oni1:วิ่งหนีก่อนดีกว่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 30-01-2008 22:22:00
 :o กลับมาเดี่ยวนี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มาแว๊บเดี่ยวแล้วก็วิ่งหนีเค้าไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 30-01-2008 22:36:38
 :m29:

ดีไม่ดี ต้องมีเรื่องให้เข้าใจผิดกันหนักกว่าเดิมอีกมั้ง หรือจะช่วยให้เรื่องเป็นไปด้วยดีก็ไม่รู้สิ



สู้ๆพี่ต่าย

สู้ๆๆโอม

 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 30-01-2008 22:38:39
 :o8: ฝันที่เป็นจริงของพี่ต่ายกะโอม
แต่มีลางสังหรณ์แฮะ ว่าพี่อั้มต้องคู่กับน้องพี่ต่ายแน่เลย  :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 30-01-2008 23:58:37
กลับมาก่อนนนนนนนน     :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 31-01-2008 00:19:48
 :m21:

เอ่อ เกรงว่าเรื่องมันจะ go so big เพราะว่าตาก้อย ..ที่ไปกินข้าวกันนี่แหละป่าวหว่า ...
วุ้ย ...
พี่ต่าย ง้อเร็วๆ หน่อยเฟร้ยยยยยยยย... o12
ปล. โอมมม งอนนได้ แต่อย่าประชดนะขอร้องงงงงงง.......  :m13:
กลัวไม่เข้าใจกันไปใหญ่ ...อ่ะ  :m29:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 31-01-2008 00:29:32
หวังว่า โอมคงไม่เข้าใจผิดเรื่องกระแตนะ  :m29:
แล้วเข้า กทม ไปหวานกะนายก้อย ยั่วให้พี่ต่ายหึงเลย  :m14: 
หุ หุ  ยั่ว กันไปยั่วกันมาก็อย่าลืมให้พี่ต่ายง้อน้องโอมแบบสวีทๆ หน่อยนะ  :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 31-01-2008 01:05:44
แอบคิดว่าจะมีศึกชิงโอมล่ะ :o8:

อยากรู้นึกว่าพี่ต่ายจอมเจ้าเล่ห์จะทำไง :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 31-01-2008 01:10:59
 :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4: :a4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 31-01-2008 01:18:37
รู้สึกว่า จะมีอีกคู่ รึป่าว



 :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 31-01-2008 04:39:04
โย่ โย่

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 31-01-2008 08:04:37
พี่กระต่ายกับพี่อั้ม  มาแลกน้องกันซะแล้ว :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 31-01-2008 08:21:38
วางแผนๆ

วางแผนการกันอีกแล้วววว

 o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 31-01-2008 08:41:41
ไอ้พี่กระต่าย
แผนสูงจัง
แต่ ... เอาใจช่วยนะ  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 31-01-2008 08:51:02
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 31-01-2008 09:01:13
ได้มีเรื่องเข้าใจผิดแน่ :เฮ้อ:
พี่ฮะมาต่อจึ้งเดียวเองอ่ะไม่สาแก่ใจเลยอ่ะครับ :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 31-01-2008 10:27:02
โอมทิ้งมันเลยลูก :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 31-01-2008 13:36:30
มีหวังได้ไปเจอภาพโอมกินข้าวสองตจ่อสองแน่ๆ   ทีนี้จะยิ่งเข่าใจผิดป่าวเนี้ยยย
 :m15:
ไม่นะ  ทุกข์กันมานานแล้ว  :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 31-01-2008 14:16:34
 :a4:จะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไป โปรดติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 31-01-2008 14:36:04
ขอสมัครเป็นแฟนพันธุ์แท้เรื่องนี้ด้วยอีกคนงับ :m1:

อ่านแล้วเกิดอาการ "โอ๊ยๆๆๆ :dont2: :o11: :impress3:มากมาย" คือปองไม่แปลกใจเลยถ้าโอมจะ

งอนฝังรากขนาดนี้ เป็นใครก็คิดฮะ ทำเหมือนกับเลิกกันไปแล้วจู่ๆก็โผล่มาดื้อๆแบบนี้

ถึงจะอ่านเหตุผลฝั่งไอ้คุณพระเอกแล้วก็เถอะนะ :o211:แบบนี้ต้องมีเคลียร์ :interest:

ทำเราเกิดอาการ :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:อ่านตั้งแต่เมื่อคืนจนว่างๆเลยมานั่งอ่านต่อ

สนุกงับ รออ่านขอคืนนี้อยู่นะ :m5:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 31-01-2008 15:45:48
เดี๋ยวเจอคุณก้อยอยู่กะโอมจะเป็นงัย ไม่อยากคิดเลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 31-01-2008 16:24:34
โอมจ๋า พี่เชียร์ให้หนูงอนนานๆเลยนะ  ทำกันขนาดนี้ต้องให้ง้อซะให้เข็ด   o12
แต่อย่าไปสวีทวี๊ดวิ๊ว..กะคุณก้อยประชดพี่ต่ายน้า....
เค้าสงสารพี่ต่ายอ่ะ    :sad2:
ต้องอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวเป็นเจ้าหนู home aloneตั้งปีนึงแน่ะ    o7
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 31-01-2008 22:02:46
  :a1: ภูมิใจนำเสนอตอนต่อไปคร๊าบบบบ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 63

พอเย็นๆวันเสาร์อิงมันก็มีสายด่วนมาหาผมเลยครับ  ตอนนั้นผมยังนั่งทำงานอยู่เลย
 
“ต่ายโอมมันไปกินข้าวกับใครไม่รู้น่ะคืนนี้   มรึงจะทำไงว่ะ  กรูว่า  มันปิดๆกรูยังไงไม่รู้เป็นห่วงว่ะ” o12

เสียงของอิงที่โทรมาบอกผมฟังดูไม่สบายใจเท่าไหร่  แต่ใจผมซิยิ่งร้อนมากขึ้นไปเป็นสองเท่า  ผมชักเริ่มไม่มั่นใจว่าช่วงที่ผ่านมาโอมจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน  มือผมเย็นขึ้นไปโดยอัตโนมัติ

“อ้าว.....แล้วมรึงเป็นพี่ไม่ถามน้องล่ะวะ   กะกรูเค้ายังไม่ยอมคืนดีด้วยแล้วจะไปรู้ได้ยังไงกัน” ผมชักเริ่มหงุดหงิดแล้วซิ  :serius2: วันนี้ยังคิดไม่ออกว่าจะเอายังไงเลยดี  จะพูดยังไงดีเวลาเจอหน้ากัน  แค่เรื่องนี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว  ยังมามีเรื่องนัดกับใครไม่รู้อีก

“ไม่รู้โว้ย....กรูอุตส่าห์โทรมาบอกยังไม่มีความดีอีก   มรึงไปหาทางง้อเอาเองแล้วกันไม่งั้นมคปด.แน่นะมรึง   กรูเตือนก่อน”  ไม่รู้ว่ามันหวังดีกะผมเลยโทรมาบอก  หรือมันมาระบายอารมณ์ห่วงน้องของมันให้ผมฟังกันแน่   แถมยังมาพาลผมอีก แต่ผมน่ะเริ่มอารมณ์เสียแล้วเลยประชดอิงไป

“เออขอบใจเว้ยที่ช่วยโทรมาบอกว่าแฟนกรูจะมีกิ๊ก...ขอบพระคุณคุณพี่อิงมากครับเดี๋ยวผมจะจัดการเอง”
 
“มรึงไม่ต้องมาว่าแดกกรูเลย   เดี๋ยวกรูไม่ให้กลับมาคบกันอีกเลยนี่  วอนท์มากใช่ไม๊ไอ้ต่าย”

ท่าทางอิงจะโมโหครับ  แต่ไม่รู้ว่าโมโหผมหรือโมโหที่ไม่รู้ว่าโอมไปไหนกันแน่  แต่พี่แฟนครับสงสัยต้องเคารพไว้ก่อนเป็นดี  ผมคงต้องตกเป็นเบี้ยล่างของสามพี่น้องนี่ไปตลอดชีวิตซะละมั๊ง   เอะอะเดี๋ยวก็จะไม่ยกน้องให้กันอยู่เรื่อยขู่กันจริงๆเลยไอ้สองคนนี้

คุยกันไปคุยกันมาจะกลายมาเป็นทะเลาะกันเองซะงั้น  ไปกันใหญ่แล้ว ผมกลัวมันโกรธจริงๆเลยต้องข่มอารมณ์ตัวเองไม่ให้เครียดไปด้วย  เดี๋ยวจะเผลอไปทะเลาะกะมันเข้า :m29:

“เอาน่าอิงกรูล้อเล่น   เดี๋ยวกรูจัดการเองมรึงไม่ต้องเป็นห่วง”

ปากผมก็บอกอิงไปน่ะครับว่าไม่ต้องเป็นห่วงแต่ใจน่ะ  โคตรห่วงโคตรหวงเลย  ปีนึงที่ผ่านมาผมก็ถามบุ้งตลอดเป็นระยะๆว่าโอมมีใครบ้างไม๊  แต่บุ้งก็บอกว่ามีแต่ผู้หญิงมาชอบ  แต่โอมก็ไม่เคยสนใจใคร  ผมก็เลยเบาใจ  แต่ตอนนี้เริ่มกังวลแล้วก็ไม่แน่ใจแล้วซิ  :เฮ้อ:

“ไม่รู้ล่ะ....ดูแลโอมด้วยล่ะต่าย  กรูยกมันให้มรึงแล้วนะ”

อิงมันอยู่ไกลยังไงมันก็ตามมาคุมน้องมันไม่ได้มันก็ต้องพึ่งผมล่ะครับนาทีนี้   แต่น้องผมนะซิใครจะตามไปคุม  ห่วงโอมก็ห่วง ห่วงน้องก็ห่วง  ห่วงเต็มไปหมด

“ต่ายแล้วตกลงน้องมรึงจะมาดูบ้านใช่ไม๊พรุ่งนี้  แล้วมาเมื่อไหร่”

 ก็อิงมันถามผมมาแบบนี้ ผมเลยชักไม่แน่ใจ  นี่ถ้าอิงยังไม่แต่งงานหัวเด็ดตีนขาดผมไม่ส่งน้องคนเดียวของผมไปหาพี่น้องสองคนนี้แน่ๆ   ไม่ไว้ใจเลยพับผ่ามันก็นิสัยดีครับสองคนนี้  แต่ผมกลัวความบร้าของมันมากกว่า  กลัวแพร่เชื้อบร้าทางลมหายใจ  มันจะติดกันง่ายๆแบบหวัดนกไม๊ซิ กลับมาคราวนี้น้องผมจะปรกติไม๊

“น้องกรูจะไปกับอั้ม  คงไปถึงเที่ยงๆมั๊งฝากดูแลด้วยนะ  กระแตเค้าเป็นวิศวะน่ะอาจจะถามอะไรมากหน่อยก็อย่าไปรำคาญล่ะ  เค้ายังไฟแรงอยู่”  ปากอยากจะบอกว่าห้ามยุ่งกับน้องกรู  ก็กลัวจะโดนสวนกลับเลยต้องสงบปากสงบใจไว้

เรื่องบ้านที่เขาใหญ่  ผมไม่อยากให้โอมรู้ว่าเป็นบ้านของผม  เลยต้องใช้ชื่อน้องบังหน้าไปก่อน    ผมคิดเรื่องนี้มาตั้งนานแล้วครับ  ผมมีเป้าหมายว่าจะมาอยู่กับโอมที่นี่ตั้งแต่ตอนที่คบกับโอมใหม่ๆแล้ว    ก็ไอ้วันที่ไปต่างจังหวัดแล้วรถอุบัติเหตุน่ะ  ก็เป็นวันที่ไปจัดการโอนที่น่ะแหล่ะครับ  ผมคิดว่าเป็นเพราะผมจริงจังจริงใจขนาดนี้  พ่อแม่โอมถึงยังให้โอกาสผมอยู่

พอวางสายจากอิงไปผมก็รีบเคลียร์งานเลยครับ   ไม่ได้ขยันเป็นพิเศษหรอกแต่ใจมันร้อนรุ่มต้องเตรียมตัวไปเจอกับโอมที่บ้าน  ก็ผมไม่รู้ว่าเค้าไปไหนก็คงได้แต่รอล่ะครับ  เค้าก็รอผมมานานแล้ว  นาทีนี้ผมก็คงต้องเป็นฝ่ายรอบ้าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนี้อั้มก็เป็นใจครับออกไปเที่ยวกับเพื่อนคาดว่าจะกลับดึก  ผมก็เลยได้ใบอนุญาติให้เข้ามารอในบ้าน  พอเดินเข้าไปที่ห้องโอม  ห้องเหมือนไม่มีใครมาอยู่นานแล้ว  เตียงนอนมีผ้าคลุมอยู่ ข้าวของทุกอย่างถูกเก็บไว้เป็นระเบียบแต่มีฝุ่นอยู่บ้างเล็กน้อย 
 
ผมยืนมองไปรอบๆห้อง  เหมือนได้กลับมาบ้านเก่าที่เรารัก  สถานที่ที่มีแต่ความทรงจำดีๆ  ผมไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือมือซุกซนเปิดลิ้นชักออกมาดู  ยังเห็นกระดาษที่ผมเขียนให้โอมวางอยู่ในนั้น “พี่ต่ายรักโอม”

ผมอ่านวนไปวนมาอ่านไปก็ยิ้มไป  ไม่น่าเชื่อว่าเราผ่านวันคืนของการทดสอบมาแล้ว  เหลือแต่เพียงแค่เราจะสรุปผลด้วยกันเท่านั้นเอง
 
เห็นอิงเล่าว่าโอมไม่ยอมเข้ามานอนที่ห้องนี้อีกเลยนับตั้งแต่วันที่ผมจากไป  ผมเลยต้องทำความสะอาดไปพลางๆระหว่างที่รอโอมกลับมา  เปลี่ยนผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ถูพื้น เช็ดโต๊ะ  ปัดฝุ่น

ทำความสะอาดไปตั้งนานพอเงยหน้ามองนาฬิกาเกือบเที่ยงคืนแล้วครับแต่โอมก็ยังไม่กลับมา ผมเริ่มเป็นห่วงเพราะมันดึกมากแล้ว   โอมไปไหนกันแน่ :m21:

ผมร้อนใจเลยกะว่าจะโทรศัพท์ไปถาม  แต่ไม่อยากให้รู้ว่าเป็นผมโทรไป ผมเลยใช้โทรศัพท์ที่บ้านโทรเข้ามือถือโอมรอสายอยู่ซักพักนึงก็มีคนรับ  แต่ว่า.......

“สวัสดีครับมือถือคุณโอมครับ” มันไม่ใช่เสียงโอมน่ะซิครับ  แล้วใครกันมารับสาย ผมขมวดคิ้วไปแล้ว  เริ่มปวดหัวตุ๊บๆ  :o
 
“เอ่อไม่ทราบว่าโอมไปไหนครับทำไมไม่มารับสายเอง”  :angry2:ผมแทบจะคุมน้ำเสียงไม่ให้ดุไม่ได้ อยากจะรู้ว่า.....โอมอยู่กับใคร  และ....มานเป็นใคร เริ่มหึงหวงแล้วครับ

“ผมก้อยครับเป็นเพื่อนคุณโอม  พอดีว่าแกดื่มหนักไปหน่อย  ผมกำลังจะไปส่งที่บ้านน่ะครับ  แต่คุณโอมให้พามาบ้านใครไม่รู้มาถามแล้วเค้าก็ว่าไม่ใช่”ก้อยเหรอ.....ก้อยไหน  แล้วไอ้ก้อยไอ้กร๋อยอะไรเนี่ยมันดันมาถามผมกลับซะอีก

“เอ่อไม่ทราบว่า  ผมเรียนสายกับใครอยู่ครับ  เห็นโชว์เบอร์ว่าบ้านที่กรุงเทพฯ”

แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้    อ๋อ :m16:......ไอ้ก้อยนี้เองที่บุ้งโทรมาเล่าให้ผมฟังว่าท่าทางคิดอะไรกับโอม   ผมอยากจะจับโอมมาหวดก้นเสียให้เข็ด  ทำไมเหลวไหลขนาดนี้  เมาจนจำทางกลับมาบ้านตัวเองไม่ได้  ถ้าเค้าคิดไม่ดีกับตัวเองขึ้นมาจะทำยังไงกัน

“ผมเป็นพี่ชายโอมครับ  บ้านของเราอยู่ที่xxxxxxxxx” เครียดเว้ย  เดี๋ยวต้องไปหาพาราซักแผงมากิน

“ แล้วไม่ทราบว่าตอนนี้คุณก้อยอยู่ที่ไหนครับ  ผมจะได้บอกทางมาให้ถูก”

หรือจะให้ไปรับล่ะว่ะ  แทบอยากจะไปตามรถหน่วยกู้ภัยให้ไปช่วยรับโอมมาแทน  พวกนี้เค้าขับกันเร็วดีครับ   ก็มันไม่ทันใจผมเลย  กว่าเค้าจะมาส่งที่บ้าน  แต่ผมก็กลัวโอมจะโกรธที่คิดว่าเค้าเป็นศพถึงส่งรถพวกนี้ไปรับ   ความคิดตอนนี้มันสับสนวุ่นวายไร้สาระไปหมดจริงๆ

แต่พอไอ้คุณก้อยมันบอกสถานที่ที่อยู่ตอนนี้เท่านั้นล่ะครับ  ผมปลื้มจนตัวเบาหวิว  ก็ที่โอมให้พาไปน่ะมันบ้านผมนี่ครับโอมคงอยากจะไปหาผม  แต่ผมกลับไม่อยู่ ดันมารออยู่ที่นี่ซะได้  ไปบ้านผมก็คงเจอแต่กระแต  โชคดีที่โอมเมาไม่งั้นอาจจะยุ่งกันไปอีกว่ากระแตเป็นใครกันเป็นอะไรกับผม

ไอ้คุณก้อยมันเองก็เสียงเมาๆนิดๆนะครับผมรู้สึกได้  ผมเลยต้องรีบบอกให้รีบมาส่งไวๆ  เกิดเค้าเปลี่ยนใจไม่มาส่งผมคงจะเป็นบร้าแน่ๆ
“คุณก้อยรีบมาส่งเถอะครับ  มันดึกมากแล้วคุณจะได้กลับไปพักผ่อน”

 ไอ้คุณก้อยมันรับปากอย่างรวดเร็วครับ คงจะนึกว่าผมเป็นพี่ชายโอมจริงๆเลยเกรงใจ

“ครับๆผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”เออท่าทางฟังเสียงดูก็ไม่เลวครับ  คงพอจะไว้ใจได้บ้าง  น่าจะนะ...แค่น่าจะ.....

ผมแทบจะอดใจรอโอมไม่ไหว  เลยต้องลงมาเดินวนเวียนรอโอมอยู่หน้าบ้านเป็นนักบวชเดินจงกรม   ถึงแม้อากาศตอนกลางคืนจะเย็นสบายแต่ผมกลับเหงื่อออกเหมือนคนไปอบซาวน่ามา   รอไม่ถึง20 นาทีแต่ใจผมเหมือนรอเป็นชั่วโมง คุณก้อยก็พาโอมมาถึงบ้านครับ  ในสภาพที่.......ดูไม่ได้เลย

“สวัสดีครับพี่  ผมก้อยครับที่โทรมาเมื่อกี้" คุณก้อยยกมือไหว้ผมแบบทุลักทุเล แล้วยิ้มปูเลี่ยนปูเลี่ยนให้ผม

"โทษทีนะครับที่ช้าหน่อยพอดีเมื่อกี้เกือบถึงบ้านแล้วแต่คุณโอมบอกไม่ไหวขออาเจียน  ผมเลยต้องจอดข้างทางให้อาเจียนให้เรียบร้อย แฮะๆเกือบไม่ทันน่ะครับ”

คุณก้อยหิ้วปีกโอมมาเลยครับผมเลยต้องไปรับต่อแล้วช่วยกันพยุงโอมมานั่งที่โซฟาก่อน
พ่อตัวดีก็สะลึมสะลือสะโหลสะเหลมาเลยครับ  ตาปรือยิ้มๆยั่วน่าดู  แต่ยั่วโมโหนะครับไม่ได้ยั่วสวาท หึหึหึ แต่โอมเองยังพอรู้สึกตัวบ้าง  ว่าเป็นผมเองที่กำลังยืนหน้าบึ้งอยู่ยังมีแก่ใจทักผมเลย

“อ๊าวววว.....พี่ต่ายเหรอ  มาแล้วเหรอพี่”โอมส่งจูบให้ผมพร้อมรอยยิ้ม :impress2:  แล้วก็หลับต่อครับ  มันน่าตีไม๊ล่ะ

พอโอมนั่งที่เก้าอี้เรียบร้อย  ผมถึงมีเวลามาสังเกตคุณก้อย  เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีเชียวครับ  แต่ตัวเตี้ยกว่าผมเยอะ  ดูก็สุภาพดีตอนนี้ยังดูไม่ออกว่าคิดกับโอมแบบไหนกัน แต่ผมต้องตัดไม้ข่มนามไว้ก่อน  เสียงผมก็เคร่งเครียดไปเลย

“ทำไมทานเหล้าเยอะจนเมาขนาดนี้ล่ะครับ   ปรกติโอมเค้าไม่ค่อยดื่มนะครับ”มามอมเหล้าแฟนกรูรึเปล่าว่ะ  ที่จริงผมอยากถามอย่างนี้มากกว่า    คุณก้อยก็คงรู้ว่าผมไม่ค่อยพอใจ  รีบอธิบายละล่ำละลัก  พร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด

“ทีแรกผมก็ชวนดื่มนิดหน่อย   แต่ตอนหลังๆคุณโอมเป็นอะไรไม่รู้ครับดื่มไม่หยุดเลย ผมห้ามเท่าไหร่ก็ไม่ฟัง  ผมก็ไม่รู้จะทำยังไง” :m23:

ผมแอบคิดในใจว่าก็แกน่ะไปชวนเค้าดื่มทำไมตั้งกะทีแรกคิดไม่ซื่อละซิ  ทำเป็นเนียนๆมอมเหล้าโอมมากกว่าละมั๊ง  แต่ผมว่าตอนนี้คุณมรึงควรจะกลับไปได้แล้วครับ

“ดึกแล้วคุณก้อยกลับก่อนดีกว่าทางนี้ผมจัดการเอง  แล้วนี่คุณจะกลับยังไง”
ผมก็ถามไปตามมารยาทน่ะครับ  แต่ไม่คิดจะไปส่งหรอก สมน้ำหน้ามันอยากมายุ่งกับแฟนชาวบ้าน  ต่อให้ต้องเดินออกไปนอกหมู่บ้านเป็นกิโลๆก็ช่างมาน

“ผมให้คนรถมารับแล้วครับรออยู่หน้าบ้าน  งั้นผมลาก่อนนะครับพี่”
อ่ะหัวดีนี่เตรียมพร้อมมาดีเชียวนะ  หมั่นไส้โว้ย   แต่ไอ้คุณก้อยก็ยังมารยาทดีครับยกมือไหว้ผม   ผมกำลังชมอยู่ในใจนิดนึง.....แต่ว่า

คุณก้อยก็เดินมาที่โอมแล้ววว......โอ้ววว.... :sad5:เอามือมาจับมือโอมกุมไว้แน่น  อีกมือก็จับหน้าโอม  ตบแก้มเบาๆจนโอมลืมตาปรือๆขึ้นมามองแล้วก็บอกโอมว่า

“ผมไปก่อนนะครับคุณโอมแล้วเจอกันใหม่”   :interest:

ผมกัดฟันจนปวดกรามไปหมด  มือกำหมัดแน่น  ผมอยากจะฆ่ามัน.......มาลวนลามแฟนผมต่อหน้าต่อตาได้ไง  มานไปสนิทสนมกันตอนไหนกับโอมถึงได้เนื้อถึงตัวกันขนาดนี้  o9
-----------------------------------------------------------------------------
 :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 31-01-2008 22:15:11
 :เฮ้อ: ค่อยยังชั่ว นึกว่าเดี่ยวต่ายเข้าใจผิดแล้วพาลหนีไปอีก กลัวจริงๆๆ กลัวการติดตามละครไทยสไตล์อินเดียอ่ะ  อิอิ

อย่างน้อยตอนนี้โอมก็อยู่ในมือต่ายอย่างปลอดภัยจากคุณก้อยแล้ว แต่จะปลอดภัยจริงหรือเปล่า หรือจะปรับความเข้าใจกันด้วยวิธีไหนก็คงต้องรอเจ้าของเรื่องมาเฉลยแล้วละ 

:m13: รีบๆๆมาน๊า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 31-01-2008 22:22:12
 :o8:

งั้นคืนนี้ต้องมีไร ไรแน่ๆเลย อิอิ

รอตอนต่อไปงับ
 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 31-01-2008 22:37:46
กรี๊ดดดดด...เจอกันแล้ว ..
ใจเย็นนะพี่ต่าย ..ตัวอ่ะต้องง้อ..เข้าใจมะ ...  :m12:
โอม เค้าใช้เหล้าเพื่อลดภาวะ ไม่เข้าใจเฟร้ย

ดังนั้น ตัวเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วต้องเย็นๆ ใจเข้าใจมะ ..

สู้ๆๆ ..น้องโอม และพี่ต่าย ..
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 31-01-2008 22:40:34
แล้วพี่ต่ายจะง้อโอมยังไงน้า

รออยู่จ้า :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 31-01-2008 22:51:33
พี่ต่ายค้าบ ง้อโอมหน่อยเร็วว
ปล่อยให้โอมรอตั้งนาน เด๋วโดนพี่ก้อยงาบไปกินน้า   :m2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 31-01-2008 22:56:40
ตามลุ้นตอนต่ายง้อโอม  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 31-01-2008 23:20:43
ดีสม พี่ต่ายเจอแบบนี้ซะบ้าง  สะจายเจงเว๊ยย  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 31-01-2008 23:26:24
ท่าทางพี่ต่ายจะต้องเหนื่อยง้ออีกนานแน่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ แอบสะใจ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 31-01-2008 23:59:04
โห นี่ขนาดอยุ่ในมือพี่ต่ายแล้วยังจะ . . . ช่างกล้า!!!

พี่โอมเจอคู่แข่งแบบนี้จะสู้ไหวเหรอ โอมยังงอนอยู่นะพี่ พูดบ้างก็ได้ เด็กขี้งอนมันจะได้เข้าใจซะที

มัวแต่งกๆเงิ่นๆอยู่มคปดอย่างพี่อิงพูด :m14:ให้ อิอิ

ลุ้นเหนื่อยคู่นี้ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 01-02-2008 02:59:49
 :m13: งั้นตอนต่อไป บนเตียงดิ  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 01-02-2008 08:28:40
สมน้ำหน้า  เป็นไงละพี่ต่าย

ยังน้อยไปนะเนี่ย

หึหึ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 01-02-2008 10:33:39
 :a4:อยากรู้จังพี่ต่ายจะง้อด้วยวิธีใด
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 01-02-2008 10:50:20
สาสมแกล้งพี่โอมเอาไว้เยอะโดนเอาคืนซะบ้าง :m20:เป็นกำลังใจให้นะครับผม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 01-02-2008 12:58:11
 :m15: จะมาว่าพี่ต่าย มาสมน้ำหน้าก็ไม่ถูกนะคับ  พี่ต่ายใช่ว่าอยากจะทิ้งโอมไป

เพราะครอบครัวโอมขอร้องต่างหาก เพื่อพิสูจน์ความรักของทั้งสอง  :o12:

ตอนนี้คงต้องให้กำลังใจพี่ต่ายสู้ๆ ง้อคืนดีให้ได้  o7

เพราะยังไงโอมก็ไม่รู้เลยด้วยว้ำว่าพี่ต่ายทิ้งไปทำไม และกลับมาทำไม  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 01-02-2008 13:34:27
รีบ ๆ ปรับความเข้าใจกันเถอะ
มะอยากให้ยืดเยื้อเลย เดี๋ยวก็ได้เตลิดกันอีก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 01-02-2008 14:50:44
สะใจ :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 01-02-2008 15:35:48
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naumi ที่ 01-02-2008 17:06:47
:o8:

งั้นคืนนี้ต้องมีไร ไรแน่ๆเลย อิอิ


 :m1:

คิดเหมือนกันเรย อิอิ

รอด้วยเช่นกันจ้า :m1:

ปล.ก้อรู้อ่ะนะว่าพี่ต่ายไม่ผิด แต่ไหงอ่านแล้วสะใจลึกๆก้อไม่รู้ โดนซะมั่ง อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 01-02-2008 18:17:08
 :oni1:
พี่ต่าย สู้เค้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 01-02-2008 21:58:59
  :oni1: :oni1: :oni1:
++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 63(ต่อ)

ผมเอามือไปดึงมือคุณก้อยออกมาจากหน้ากับมือโอมทันที   แล้วบีบแรงๆไม่ได้กะจะลวนลามอะไรนะครับ  แต่กะให้เจ็บ......จะได้จำ  คุณก้อยหน้าเบี้ยวไปเลย  นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมมองหน้าคุณก้อยแล้วยิ้มๆหึหึ  o3

“หน้าโอมมือโอม   มีผมสัมผัสได้คนเดียวครับ   ขอโทษนะครับผมจดสิทธิบัตรไปแล้ว”
พอผมพูดแบบนี้คุณก้อยหน้าเหวออ้าปากหวอไปเลยครับ o22 หันไปมองหน้าโอมที่กลับไปหลับต่อ  แล้วก็มองหน้าผม  มองสลับไปมาจนผมเวียนหัวว่าเมื่อไหร่มันจะเลิกมองซักที กรูตาลาย

ผมว่าเค้าคงยังงงๆอยู่แต่ไม่กล้าถามออกมาตรงๆ  แต่ก็ไม่ยอมไปซักทีผมเลยจับมือคุณก้อยแล้วลากออกมานอกบ้าน  ก่อนที่จะปล่อยมือไป  ผมเลยบอกย้ำไปอีกครั้งว่า

“ขอบคุณนะครับที่มาส่งโอม    คงไม่ต้องรบกวนแล้วล่ะครับเพราะคงไม่มีโอกาสอีกแล้ว เดินทางปลอดภัยนะครับ”   :m12:
แล้วผมก็เดินเข้าบ้านไปเลย   ไม่ได้หันไปมองคุณก้อยที่ยังหน้านิ่วสะบัดมือตัวเองด้วยความเจ็บปวดพร้อมทำหน้างงๆมองตามผมมาอีกเลย

ผมเดินเข้ามาในบ้านพอมองไปที่โซฟาโอมไม่อยู่แล้วครับ  ไม่รู้ไปไหนผมเลยเดินไปที่ห้องน้ำได้ยินเสียงโอมอาเจียนอยู่  ผมเลยเดินเข้าไปลูบหลังโอมเหมือนที่ผมเคยทำ
“ทำไมทานซะเยอะละโอม    ก็รู้อยู่ว่าทานเหล้าทีไรก็เป็นแบบนี้ทุกที”

โอมหยุดเลยครับ  ผมไม่รู้ว่าอาเจียนจนหมดแล้วหรือว่าหยุดเพราะเสียงผม โอมหันหน้ามามองผมน้ำตายังคลอๆอยู่   :m15: คงจะอาเจียนจนแสบคอ  เอ๊ะหรือว่าร้องไห้เพราะผม  เพราะตอนนี้น้ำตาโอมไหลอาบแก้มเลยครับ โอมหันกลับไปอาเจียนอีกครั้ง  ผมเลยผละไปเอาแก้วรองน้ำให้โอมบ้วนปาก  เหตุการณ์เหมือนย้อนกลับมาอย่างที่เคยเป็นในอดีต

ผมยื่นแก้วน้ำให้โอม โอมมองหน้าผมนิดนึงแล้วก็รับไปบ้วนปาก  เปิดก๊อกแล้ววักน้ำมาล้างหน้าอยู่นานราวกับว่าจะล้างคราบน้ำตาออกไปให้หมด   เมื่อโอมเงยหน้าขึ้นมาเราสบตากันจากในกระจก  ผมไม่รู้ว่าโอมคิดอะไรแต่โอมกำลังร้องไห้อยู่  ผมขยับตัวจะเข้าไปหาโอม แต่โอมเบี่ยงตัวออกกระแทกผมที่ยืนอยู่  :a14: แล้วเดินโซเซออกจากห้องน้ำไป

ผมเดินตามโอมขึ้นบันไดไป  เพราะกลัวว่าจะตกบันไดลงมา ก็ดูสภาพแล้วยังไม่สร่างเมาเท่าไหร่เลย  แต่ผมพูดได้แค่เพียง “โอมระวัง”

แต่โอมก็ยังโหนยึดราวบันไดค่อยๆเดินขึ้นต่อไปช้าๆอย่างไม่สนใจฟังที่ผมพูด  แล้วก็ไม่สนใจผมเลยเหมือนกับว่าผมไม่ได้อยู่ที่นี่  ตรงนี้ 

ผมเลยเดินไปประชิดด้านหลังโอมเอามือกอดเอวโอมไว้หลวมๆกึ่งๆประคอง  โอมชะงักไปนิดนึงแล้วหันมามองหน้าผม  โอมเอามือมาแกะมือผมออก  แต่ผมก็ไม่ปล่อยแต่กลับกอดเอวให้แน่นขึ้น

“พี่ปล่อยผม” แววตาของโอมที่มองผมมีแต่การตัดพ้อ  เสียงที่พูดก็แข็งกร้าว ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

“..............”

“เอามือออกไป.....พี่ปล่อยผมไปแล้วพี่จะกลับมาอีกทำไม” :serius2:

โอมพูดเหมือนกับจะตะโกนใส่ผม ผมสะดุ้งแล้วเผลอคลายมือที่กอดเอวโอมไว้  โอมเลยเดินขึ้นบันไดไป  ผมได้แต่ยืนมองอยู่เงียบๆ  ไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี  ผมนึกว่าเมื่อผมกลับมาโอมน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ

โอมเดินไปที่ห้องอิงแต่กุญแจล็อคอยู่  โอมบิดลูกบิดไปมาด้วยความโมโหที่เปิดไม่ออก ก็ผมเป็นคนไปล็อคเอาไว้เองจะเปิดออกได้ยังไง  โอมตะโกนขึ้นมาว่า

“ล็อคห้องทำไมพี่อั้มมมม”
แล้วก็เดินเป๋ไปเป๋มาไปที่ห้องอั้มที่ผมก็ล็อคเอาไว้เหมือนกัน  โอมเข้าไปทุบประตูห้องอั้มอย่างเอาเป็นเอาตาย   เพราะคงคิดว่าอั้มอยู่ในห้อง

ปังๆๆๆๆๆๆ “พี่อั้มมมมม.....ตื่นเดี๋ยวนี้นะ    ไปล็อคห้องทำมายยยย”

โอมยืนบ่นอะไรไม่รู้เบาๆ  อยู่หน้าห้องอั้มเอาหัวพิงประตูไว้มือก็ทุบประตูไปด้วยเบาๆ  ก็ยืนจะไม่ไหวอยู่แล้วนี่  เมาซะหมดรูปยังมาทำงอนอีก

ผมทนดูสภาพโอมไม่ไหวต้องบอกโอมไปจนได้“อั้มยังไม่กลับหรอกเค้าไปเที่ยวกับเพื่อน”

โอมหันมามองผมด้วยหางตาแต่ไม่พูดอะไร  งอนเป็นจริงๆเป็นจังเลยคราวนี้  สงสัยผมต้องพยายามให้มากกว่านี้แล้ว  แล้วโอมก็หันหลังพิงประตูห้องอั้มแล้วค่อยๆทรุดตัวลงนั่ง  ทำท่าจะนอนอยู่หน้าห้องนั้น

ผมเลยต้องเดินขึ้นไปข้างบนบ้าน   แล้วดึงตัวโอมขึ้นมา แต่โอมก็สะบัดตัวไม่ยอมให้ผมจับแบบง่ายๆ ผมเลยต้องใช้กำลังบังคับ
“โอมไปนอนที่ห้องเราซิ”

โอมส่ายหัวแล้วร้องโวยวายออกมา “ไม่ไปไม่ไป......จะนอนตรงนี้” o9อาละวาดเป็นเด็กเลยครับแฟนผมวันนี้ ผมยืนกอดอกมองพักนึงถ้าไม่จัดการคงต้องทิ้งไว้ตรงนี้แล้ว

ผมก็เลยต้องเอาแขนสอดเข้าไปใต้รักแร้โอมแล้วลากครับ   ก็พ่อตัวดีน่ะทำตัวเป็นคนตายเลยครับ  นอนแบบไม่มีแรง  วูบนึงผมนึกว่าโอมแกล้งรึเปล่าเนี่ยไม่น่าเมาขนาดนี้นะ

แต่ยังไงผมก็ทิ้งโอมไว้แบบนี้ไม่ได้ไม่งั้นพี่ชายโอมสองคนคงมายึดน้องชายคืนไปแน่ๆ  แล้วที่ผมอดทนมาตลอดปีกว่าก็คงไร้ความหมาย

ผมลากโอมเข้ามาในห้องแล้วก็เอาขึ้นเตียงจนได้  แทบหมดแรงเลยครับ ผมถึงกับนั่งหอบอยู่บนพื้น  เหมือนหูแว่วๆจะได้ยินเสียงหัวเราะหึหึ  แต่พอหันไปดูก็เห็นโอมนอนหลับอยู่ผมถึงกับรำพึงกับตัวเอง “ไม่รักกันจริงทิ้งไว้นอนห้องแล้วเนี่ย  เมาอะไรขนาดนี้นะ”

ผมรู้สึกได้ว่าเตียงสั่นไปนิดนึงเพราะโอมพลิกตัวนอนตะแคง  ก็น่าจะพอรู้สึกตัวมีสติบ้างเหมือนกัน ผมเลยหันไปสะกิดโอม

“โอมไปอาบน้ำก่อน  นอนได้ไงเหม็นเหล้าจะตาย”

“...............” ไม่มีเสียงตอบอะไรเลยครับ  เหมือนผมพูดบร้าอยู่คนเดียวหรือว่าหลับไปแล้วจริงๆ

 ผมเลยออกไปจากห้องไปเอาผ้าชุบน้ำ  จะมาเช็ดตัวให้โอมครับ  พอกลับมาได้ยินเสียงโอมกรนเบาๆคงจะหลับไปแล้ว   ผมก็เลยจัดการถอดเสื้อออกก่อนครับ   ผมค่อยๆใช้เวลาถอดกระดุมทีละเม็ดๆก่อน  มือสั่นแปลกๆเหมือนตื่นเต้นที่ได้กลับมาทำอะไรแบบนี้อีก  หัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ   ทุกขณะที่ผมเช็ดตัวให้โอมผมรู้สึกเต็มตื้นในใจ   ในที่สุดผมก็ได้กลับมาดูแลคนที่ผมรักอีกครั้ง :o8:

ผมค่อยๆเช็ดไปที่ซอกคอ  ลำคอระหง  แล้วค่อยๆเลื่อนลงมาที่หน้าอก  พอผ้าขนหนูเช็ดไปถูกที่ยอดอกของโอมเท่านั้นมันแข็งเป็นไตขึ้นมาทันทีครับ  ผมต้องเบือนหน้าออกไปเพราะผมเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหว รู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงขึ้น หน้าร้อนผ่าว :-[

โอมเริ่มบิดตัวเพราะความหนาว  อาจจะมาจากความเย็นของน้ำที่ผมเอามาเช็ดตัวให้ ผมเลยดึงตัวโอมขึ้นมากอดหลวมๆแล้วถือโอกาสถอดเสื้อออก  กลิ่นตัวของโอมที่อยู่ในอ้อมกอดผม ยิ่งทำให้ใจผมปั่นป่วนมากขึ้น  ผมทนไม่ไหวต้องประคองโอมลงนอนก่อน  แล้วลุกไปเปลี่ยนน้ำที่จะเอามาเช็ดตัวโอม   ก่อนที่ผมจะเปลี่ยนใจทำอย่างอื่นแทน :try2:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

สั้นเนอะ  :oni2: :oni2: กระโดดหนีอีกรอบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Y_Yami ที่ 01-02-2008 22:14:40
สั้นอ่ะ :o12: :o12:

คนเขียนหนีไปหนายยยย.....คนอ่านจาตามจับบบบบ :oni1: :oni1: :oni1:

หึหึ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 01-02-2008 22:15:30
กระโดดจับคนแต่งไว้  แต่ไม่ทัน  :m29: :m29: อ่ามันค้างงง  :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนเฆมสีคราม ที่ 01-02-2008 22:18:32
สั้นเจงๆ  :เฮ้อ: 

พรุ่งนี้ขอแบบยาวๆนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 01-02-2008 22:32:26
อิอิ มาสั้นๆๆแต่ก็ได้ใจ 5555555

แต่อยากได้แบบเล่ายาวๆๆหน่อยอ่ะ จะได้ยกหัวใจให้ไปเลย 555555
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 01-02-2008 22:53:33
ง่า...

รีบมาต่ออีกน๊า

ลุ้นจะแย่แล้วคร้าบบบ

 :oni3:  :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 01-02-2008 22:55:09
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 01-02-2008 23:00:04
หนีไปไหน  :m16: กลับมาต่อนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 01-02-2008 23:07:17
ไอ่พี่กระต่ายกลับมาก่อนนนนนน :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 01-02-2008 23:07:39
สั้นไปมั้ยค้าบ  :m23:
 :oni3: :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 01-02-2008 23:25:29
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 01-02-2008 23:36:18
 :m25:

ไมลงสั้นจิ๊ดเดียวง่ะ ........

ลุ้น พี่ต่าย ง้อไวไวหน่อย สงสารน้องโอมเฟร้ย ...  o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 01-02-2008 23:44:03
พี่ต่าย ยังน่ารักเหมือนเดิม ง้อโอมดีๆนะ เชียร์ๆ

เป็นกำลังใจค่ะ :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 01-02-2008 23:51:29
สงสารทั้งคู่เลย
 :sad2:
 :angry2: แต่ทำไม เข้ามาเหมือนนินจา แว้บเดี่ยวแว้บบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ ๆๆๆ ล่ะคร้าบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 02-02-2008 00:03:48
ไม่ทันซาหวีดเลย   o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 02-02-2008 00:18:09
ตอนหน้าต้องมีเฮ แหงมๆๆ ลุ้นๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 02-02-2008 01:42:32
สู้ ๆ ก๊าบพี่ต่ายยยย


 :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 02-02-2008 02:11:55
 :serius2:


โหย...ตัดฉับ

อย่าไปยอมเขาน้องโอมเอ๋ย
ตื่นขึ้นมาก่อนเถอะ
ฮิ้วววววววววววววววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 02-02-2008 02:36:54
โอ่พี่ต่ายเป็นเอามากเลยนะนี่  :m12:

มาต่ออีกนะพี่ฟางรออยู่  :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 02-02-2008 11:12:05
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 02-02-2008 11:25:49
 :o8: คืนนี้จะมีอะไรต่อละเนี่ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 02-02-2008 13:28:05
โอม อย่าเพิ่งหลับเด่ะ ตื่นมาวีนพี่กระต่ายก่อน :angry2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 02-02-2008 17:03:14
 :a4:กลับมาเลยพี่ต่ายชอบกระโดดเข้าป่าไปทุกที
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 02-02-2008 20:48:12
พี่ต่ายก๊าบ จับกด เลยก๊าบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 02-02-2008 20:56:30
ยังมะพอหรอกกกก ต้องเอาคืนอีกกกก คืนดีง่าย ๆ ได้งายยยย
มองในมุมของโอมที่ไม่รู้เรื่องไรด้วยเลยสิ....ทรมาน... :serius2:
แต่กระนั้นต้องหาโอกาสเคลียร์โดยไวนะพี่กระต่ายยยย....
เอาใจช่วยยยยยกันต่อไปปปปปป  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 02-02-2008 21:01:48
ดูเลขตอนแล้วก็งงตัวเองเขียนไปได้ยาวขนาดนี้  o2
 สงสัยเขียนจบเค้าไล่ออกจากงานพอดี  :m29:
 ขอฟางไปทำงานด้วยคนนะจ๊ะแควนๆทั้งหลาย :m23:
+++++++++++++++++++++++++++++++++

ตอนที่ 64
 
กลับมาดูโอมอีกทีคราวนี้โอมนอนตัวงอเป็นกุ้งอีกแล้วครับคงจะหนาว ก็ผมถอดเสื้อน้องเค้าไปแล้วตอนนี้ก็นอนโชว์ความขาวยั่วใจผมอยู่   ผมจับตัวโอมให้นอนหงาย  แล้วผมก็ค่อยๆเอาผ้าเช็ดหน้าโอมอย่างเบาๆจะได้นอนหลับสบายๆ  ผมพิจารณาใบหน้าโอมอย่างละเอียดไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  ถึงแม้จะคล้ำลงไปหน่อย  แต่ก็ยังดูสดใสน่ามอง

บรรยากาศมันเงียบมากๆครับได้ยินเพียงเสียงลมหายใจของผมกับโอม  ผมหยุดเช็ดหน้าโอมไปชั่วครู่  แล้วก็นั่งมองหน้าโอมอยู่อย่างนั้น  ผมค่อยๆลูบแก้มโอมเหมือนกับจะลบรอยที่เคยโดนคุณก้อยมาสัมผัส  ริมฝีปากของโอมเผยอเล็กน้อยเหมือนกับว่าจะเรียกผมให้ไปสัมผัสมัน  และผมก็ทำตามเสียงเรียกนั้น  จะว่าผมเข้าข้างตัวเองก็ยอม  o18

โอมหลับตาพริ้มเมื่อผมค่อยๆก้มลงสัมผัสริมฝีปากของโอม  มันยังคงอ่อนหวานน่าสัมผัสเหมือนเคย  ผมไม่รู้ว่าโอมตื่นหรือยัง  แต่โอมก็เปิดปากรับลิ้นของผมที่ค่อยๆรุกเร้าเข้าไปทีละนิด   มือของโอมมาคล้องอยู่ที่คอผมตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ นิ้วมือของโอมสอดแทรกเข้าไปในผมของผม   รู้สึกได้ถึงแรงกดจากนิ้วมือของโอมที่ตอบสนองเมื่อผมเริ่มขบริมฝีปากโอมเบาๆ

“อือ...อือ....”

โอมส่งเสียงครางเบาๆ  เมื่อจูบของผมรุนแรงขึ้น  ผมเพิ่งรู้ว่าที่ผ่านมาผมช่างมีความอดทนมหาศาล   ผมโหยหารสสัมผัสจากโอมมาตลอดและเมื่อมาเจอกันอีกครั้ง  มันเหมือนกับเราได้ชีวิตของเรากลับคืนมา  ผมผละจากริมฝีปากเลื่อนมาที่แก้มสูดเอาความหอมหวานจากพวงแก้มที่ผมคิดถึง  ไซร้ไปที่ซอกคอ ขบใบหูโอมเบาๆ

“อื๋อ...พี่ต่าย”

โอมตาปรือค่อยๆลืมตามองหน้าผม เราจ้องตากัน  สายตาโอมที่มองมามันบอกผมชัดเจนว่าโอมรักผม  โอมหลับตาลงน้ำตาไหลรินอาบแก้มอย่างช้าๆอีกครั้ง o7  ผมค่อยๆใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาที่แก้มโอมออกไป  จูบประทับที่เปลือกตาของโอม

“มองพี่ซิโอม....มองให้เต็มตา”

โอมลืมตาขึ้นมองผม  ผมมองใบหน้าของโอมด้วยความรัก  โดยไม่ทันรู้ตัวโอมรั้งตัวผมเข้ามากอดแล้วสะอื้น  ใช้กำปั้นทุบที่หลังผมเบาๆแล้วร้องไห้  :sad4:

“พี่ต่ายทำกับผมได้ยังไง.......พี่ทิ้งผมไปได้ยังไง....พี่ต่ายใจร้ายยย”  :o12:

เสียงของโอมรวมทั้งแววตาที่ตัดพ้อของโอม  ทำให้ผมสะเทือนใจ  ผมรู้ว่าโอมเสียใจมากขนาดไหนเพราะสำหรับผมเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่าโอม  ผมลูบหัวโอมเบาๆ  โอบกอดโอมด้วยความรักจากใจของผม  เรากอดกันแน่นขึ้นจนเหมือนกับว่าเราจะไม่แยกจากอ้อมกอดกันและกันแล้ว  ตัวของโอมสั่นเทาไปตามแรงสะอื้น ผมแทบจะพูดไม่ออก

“พี่ขอโทษ...โอมอย่าร้องไห้นะพี่กระต่ายของโอมกลับมาหาโอมแล้ว  พี่จะไม่ไปไหนอีกแล้วนะ” โอมยังคงร้องไห้เงียบๆอยู่ในอ้อมกอดผมจนเสื้อผมชุ่มไปด้วยน้ำตา

“ไม่ร้องนะคนดีของพี่ต่าย......พี่ยอมใ้ห้โอมทำโทษทุกอย่างเลย  ขออย่างเดียวให้โอมยิ้มอย่างมีความสุข”

 โอมค่อยๆหยุดร้องไห้แต่ยังสะอื้นอยู่   แล้วโอมก็ยกมือขึ้นมาลูบแก้มผม  ผมประคองให้โอมลงนอนตอนนี้เรานอนมองหน้ากันโดยมีโอมอยู่ในอ้อมกอดผม  แววตาของโอมสุกใสผมไม่รู้ว่ามันเปล่งประกายเพราะว่ามีน้ำตาหล่อเลี้ยงอยู่ หรือเพราะว่ามีผมอยู่ตรงหน้าโอม

น้ำตายังติดอยู่ตามขนตาของโอม  ผมทำให้โอมต้องเสียน้ำตาจนได้  เราใช้เวลามองหน้ากันอยู่แบบนั้น นานจนเหมือนกับจะชดเชยที่เราไม่ได้เห็นหน้ากันเลยตลอดปีกว่าๆ    ไม่มีคำพูดจากเราสองคนเราคงสื่อกันด้วยความรู้สึกมากกว่า  เราสอดประสานนิ้วไว้ด้วยกัน  หายใจจากลมหายใจเดียวกัน

โอมเอามือมาลูบที่ริมฝีปากผมแล้วหน้าก็เปลี่ยนเป็นสีชมพู  :o8: แอบซ่อนยิ้มในหน้าแล้วหลบตาผมอายๆ  ผมจูบที่ปลายจมูกโอมเบาๆ

“โอมคิดอะไรบอกพี่มานะ” ผมถามโอมไปยิ้มๆ  o18 เวลาที่คนยิ้มน่าดูน่ารักกว่าคนร้องไห้เป็นไหนๆ  แต่คนที่ยิ้มทั้งๆที่มีน้ำตาอยู่ยิ่งน่ารักกว่าเดิมอีก

“ผมคิดว่า.......”แล้วโอมก็เงียบไปแต่หน้าแดงอีกครั้ง :-[

“หืม....คิดว่าอะไรครับโอม”ผมจับผมโอมเขี่ยเบาๆ  ผมโอมยาวขึ้นนิดหน่อยแต่ก็ทำให้ดูเป็นเด็กลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำ   ผมจ้องตาโอมด้วยสายตาแห่งความรัก

“เอ่อ....ผมคิดว่า.....พี่ต่ายยย.....จูบผมอีกทีได้ไม๊” โอมพูดออกมาอย่างเขินอาย  ผมปั่นป่วนใจอย่างที่เคยเป็นอีกครั้งเมื่อเจอโอมพูดแบบนี้

ผมไม่ตอบโอมครับแต่รีบทำในสิ่งที่โอมบอกผมทันที   เปิดทางขนาดนี้ช้าไปแค่นาทีเดียวก็ไม่ดีแล้วครับ  ผมค่อยๆกัดริมฝีปากโอมเบาๆอีกครั้ง  โอมจูบผมตอบอย่างที่ไม่ค่อยจะได้ทำ  เราจูบกันเหมือนคนกระหายน้ำดื่มที่เท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ เราใช้เวลาแลกลิ้นหยอกล้อกันนานทีเดียว  ผมใจแทบจะขาดมันร้อนไปทั้งตัว

เสื้อผ้าของเราสองคนถูกถอดออกไปจากตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครถอดให้ใคร  หรือต่างคนต่างถอดของตัวเองออกไปก็ไม่รู้  อากาศที่ผมรู้สึกว่าเย็น มันเปลี่ยนไปทันทีเมื่อเราต่างรับสัมผัสจากกายของกันและกัน

 เมื่อร่างกายของเราต่างไม่มีอาภรณ์ใดๆมากั้นขวางอีก  เราสองคนต่างเรียกร้องจะสำรวจแต่ละฝ่ายอย่างโหยหา   ผมและโอมผ่านคืนแห่งความเร่าร้อน ตักตวงสิ่งที่ขาดหายไปแรมปีจากกันจนไม่รู้กี่ครั้งกี่ครา  และมันก็มีทั้งช่วงเวลาที่นุ่มนวลอ่อนหวานและน่าจดจำ จนใกล้รุ่งสางเราถึงต่างหลับไปด้วยความอ่อนเพลียในอ้อมกอดของกันและกัน

 ใบหน้าของโอมที่หลับไหลซุกอยู่ที่หน้าอกผมระบายด้วยรอยยิ้ม   เม็ดเหงื่อเล็กๆซึมอยู่ตามไรผม มือของโอมกอดที่เอวของผม  ผมจูบที่หน้าผากโอมด้วยความรักก่อนที่จะหลับตามไปอีกคน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปังๆๆๆๆ  เสียงเคาะประตูดังๆทำให้ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมามองนาฬิกา 8 โมงกว่า  แต่โอมยังขมวดคิ้วไม่ยอมลุก

“โอมๆ......ต่ายๆ....ตื่นยัง”เสียงอั้มนี่เองครับที่มาปลุกเรา   ผมหยิบกางเกงมาใส่แล้วลุกไปเปิดประตูด้วยความเพลีย
 
“มีไรมรึงเรียกแต่เช้าเลย.....โหวววว....”  :onion_asleep:ผมปิดปากหาวแล้วยกมือเกาหัวตัวเองไปด้วย สงสัยว่าจะมาเรียกทำไม  อยากบอกว่ากรูเพลียจะตายยย  ขอเอ็มร้อย ลิโพ เกรเตอเรด  คาราบาวแดง หรือสปอนเซอร์ก็ได้มีอะไรก็ขอหมดถึงแม้ว่าเค้าจะบอกว่าห้ามดื่มเกินวันละสองขวดก็ตาม  วันนี้ขอสามขวดหมดแรงครับ  แฮะๆ

แต่อั้มมันทำหน้าแปลกๆครับ  :sad5: อ้าปากค้างจ้องผมเหมือนเห็นสิ่งแปลกประหลาดในโลก อ้าปากเป็นวงกลมจนผมอยากจะหาอะไรมายัดให้มันหุบปาก  น่าเกลียดจะตาย

“มรึงเป็นอะรายยย”ผมก็ต้องถามมันจนได้ก่อนที่ผมจะบร้าตายเพราะอาการของมัน  ที่เจือกไม่พูดอะไรเลยด้วย  กรูคนนะเว้ยไม่เคยเห็นรึไงกัน ผมเอามือจิ้มหน้าผากมัน มันยังยืนเง็งอยู่ไม่ยักด่าผม

“ต่าย....มรึงทำไรว่ะ  ตัวมรึงแม่งแดงเป็นจ้ำๆไปหมดเลยว่ะ  น้องกรูรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอไอ้ห่า.....น่ากลัวชิบหาย”  :sad3:
 
อั้มมันพูดไปส่ายหัวไปยกไหล่ขึ้น ทำหน้าสยองครับ แล้วเหลือบมองผมด้วยสายตาหวาดกลัว  ผมก้มลงมองที่หน้าอกตัวเองแล้วก็ต้องตกใจตาเหลือกเหมือนกันครับ  มันเป็นรอยแดงๆไปหมด รีบเอามือมาปิดหน้าอกแทบไม่ทัน หึหึหึเมื่อคืนมันห้ามอะไรไม่ได้แล้วครับ  ผมว่าโอมก็คงมีร่องรอยไม่น้อยไปกว่าผมหมือนกัน

“ตายอ่าแล้วน้องกรูเป็นไงบ้างว่ะ  มันจะไปหาเพื่อนมันไหวไม๊นั่น”

ผมยังไม่ทันได้ห้ามแต่อั้มไม่พูดอย่างเดียวแต่เบียดตัวผม เดินเข้ามาในห้องเลยครับ  ชะโงกมองโอมที่นอนหลับอยู่บนเตียงผ้าห่มคลุมแค่ที่เอว  ข้างล่างก็ไม่ได้ใส่อะไรซะด้วย เห็นลำตัวท่อนบนอย่างชัดเจน  รอยคิสมาร์คเต็มไปหมดครับ   รอยแดงๆบนตัวขาวๆ
 
โอมก็นอนแสดงนิทรรศการโชว์เลยครับ   มีบิดตัวเล็กน้อยทำให้เห็นชัดขึ้นไปอีก เวรจริงๆ ผมกลัวจะมีอะไรโผล่มาให้ดูนะซิ  ทำไมยั่วใจกันได้ขนาดนี้น่ะ ผมเลยรีบเดินมาดึงผ้าห่มปิดตัวโอม  เขินเหมือนกันครับ ต้องรีบผลักอั้มออกไปนอกห้อง  แล้วปิดประตู

“มรึงออกไปเลยอั้ม  กรูกะน้องมรึงไม่ใช่รายการเนชั่นแนลจีโอกราฟฟิคหรือรายการส่องโลกนะเว้ย  จะได้มาดูพวกกรูหลังจากมีอะไรกันไอ้เวง” ผมทั้งอายทั้งเขินขนาดว่าเป็นเพื่อนกัน  ของแบบนี้มันก็มาดูกันไม่ได้ครับ

อั้มมันหัวเราะกิ๊กเลยครับ :อิอิ1: แล้วผลักไหล่ผมเบาๆ “มรึงดีกันแล้วซิไอ้ห่า...เมื่อคืนกรูกลับมาเสียงแมร่งดังชิบหาย....ขนาดกูปิดห้องฮ่าๆๆๆยังได้ยินเสียงออกมาเลย” แล้วมันก็เริ่มสวมบทนักพากษ์ละครวิทยุ  ทำดัดจริตเป็นสองเสียง :m1:

“โอมมม....ดีไม๊  ดีไม๊”  :give2:

“พี่ต่ายๆๆ...ไม่ไหวแล้วววว”

มันพูดเสร็จแล้วก็กุมท้องหัวเราะใหญ่เลยครับ  :m20: พี่แฟนผมช่างเป็นคนดีมีศีลธรรม  ไม่มุสาเลยได้ยินมายังไงบอกหมด  ไอ้เพื่อนเวง อยากจะเตะมันจริงๆ แต่เท้าไปไวกว่าความคิดครับยันตูดมันไปเบาๆ  มันก็ไม่โกรธวิ่งหนีผมซะงั้น

แต่คิดไปคิดมา ผมแทบอยากจะหนีไปเกิดใหม่  ไม่น่าเชื่อว่ามันได้ยินชัดขนาดนั้นเลยเลยครับ  อายยยยโคตรร ผมว่าหน้าผมหูผมคงแดงเถือกแน่ๆ  สงสัยบ้านใหม่ผมคงต้องติดผนังชานอ้อยแบบที่เค้าใช้ในห้องฟังเพลงกันเสียงสะท้อน  หรือไม่ก็ต้องใช้ผนังหนาพิเศษแบบกันเสียงได้แล้วล่ะครับ  ไม่งั้นผมต้องมาโดนมันล้อแบบนี้อีกมันอายยยยครับไม่ไหว o6

“มรึงไม่ต้องเลยไอ้บ้าอั้มเสือกมาแซวน้องตัวเอง หยุดหัวเราะได้แล้ว   เดี๋ยวโอมได้ยินจะงอนน่ะเว้ย  กรูไม่รู้ด้วยล่ะ  แล้วนี่มรึงมาเรียกกรูทำไมแต่เช้า”

อั้มยังคงหัวเราะอยู่ครับไม่ยอมหยุด  :laugh:ผมเลยเอาเท้าเตะตูดมันไปเบาๆอีกซักทีนะมรึง  มันก็ไม่ว่าอะไรครับยังหัวเราะอยู่  จนเริ่มสงสัยว่ามานจะดีใจอะไรนักหนาที่รู้ว่าน้องชายเสียตัว  มานน่ะบร้่าของจริงเลย

“กรูจะมาบอกว่ากรูจะไปรับน้องมรึงแล้วนะ  กรูจะไปแล้ว”อั้มพูดไปยักคิ้วไป น่าทริบเปิ้ลถีบอีกจริงๆ

“เออแค่นี้ใช่ไม๊  แล้วดูแลน้องกรูด้วยล่ะ   น้องกรูเป็นไรนะมรึงเจอดี” ผมชี้หน้าอั้ม :angry2:

“เออห่วงจริงน้องตัวเอง   ทีน้องกรูมรึงถนอมๆหน่อยนะเว้ยไอ้ต่าย   ท่าทางน่วมเลยนะนั่น”

ผมต้องรีบดันหลังมันออกไปครับก่อนที่มันจะพูดมากไปกว่านี้   มันยังคงเดินไปหัวเราะไปเหมือนคนบร้าที่ไม่ได้ทานยา เวรกรรมของผมจริงๆเลยที่มันมานอนเป็นพยานรักอยู่ห้องข้างๆ  แต่ก่อนอยู่กันสองคนก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องเสียงอะไร  ต่อไปคงต้องดูทิศทางให้ดีๆก่อน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 :โหลๆ: ประกาศ ใกล้จบแล้ว  
คนเขียนหมดมุกแล้ว ไม่มีเวลาแล้วด้วย หุหุ :m23:
 :oni1: :oni1: วิ่งหนีไปอีกรอบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 02-02-2008 21:13:46
ฮิ้วววววว  :oni1: :oni1: :oni1: :oni1: ดีกันแล้ววว   :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ก้อนเฆมสีคราม ที่ 02-02-2008 21:35:22
ยังไม่อยากให้จบอ่ะ ครบ100ตอนก่อนนนน :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 02-02-2008 22:01:42
โอมอ่ะ  o12        หายโกรธละ เร็วจิงงงงง
แต่คิดไปคิดมาก็ดีนะ โกรธนาน ๆ แก่เร็วพอดี
คืนดีกันปุ๊ป ก็  :m25:
 :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 02-02-2008 22:11:43
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: korn_ken ที่ 02-02-2008 22:42:17
   มา                  เป็น
     ต่อ                   กำ
       เร็ว                   ลัง
         เร็ว                   ใจ
           นะ                    ให้
              :m13:            :m1:      :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 02-02-2008 23:37:36
นะ ตอนแรกก็อยากให้โอมงอนนานๆ ... :o8:
แต่ อ่านไปอ่านไป อึดอัดด้วย  :m29: สงสารโอมด้วย  :m15:

ดีดี ก็ดีแล้ว ดีใจจจจจจจจจจ....
ขอสวีทๆ เลยค่าาาาาาาาา...

หมดทุกข์หมดโศกนะโอมเอ้ยยยยยยยย.....

พี่ต่าย เขินทำไมเนี่ย  :m12:
55555

ปล. เฮียอั้มน่ารักนะนี่ ...  :mc2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 02-02-2008 23:56:06
คืนดีกันแล้ววววววววววววววววววว แบบ  :m25: ซะด้วย อิอิ

จะรอตอนจบแล้วก็เรื่องต่อไปล่ะกันน่ะคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 03-02-2008 00:19:48
น่ารักอ่ะ อย่างนี้ต้องฉลอง :mc3: :mc3: :mc3:
แต่งเมื่อไหร่เรียกด้วยนะครับ คุณK-one :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 03-02-2008 01:04:04
ดีจายจังเยยย...

ดีกานแร้วจริงๆ ช่ายม๊าย

มะช่ายโอมตื่นมาแล้วงอนต่ออีกละ

 :m23:   :m23:   :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 03-02-2008 01:25:16
โอมยอมง่ายไป ไม่ดีๆๆ o12
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 03-02-2008 04:04:59
อ๊ากกกกกกกกกก ชอบ  :m25: :m25:

รอตอนต่อไปนะคร้าบบบบบบ :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 03-02-2008 09:53:44
 :a4:ไม่อยากให้จบครับ  ถ้าจบแล้วผมต้องคิดถึงคุณโอม คุณต่าย แน่นอน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 03-02-2008 10:26:01
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 03-02-2008 12:34:56
ไม่เอา
ไม่ให้จบ (น่าน...คนเรา)

โอม...ตื่นมาเล่นตัวอีกเยอะๆ ได้ป่ะ

กร๊ากกกกกกกกก :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 03-02-2008 15:11:09
 :mc4: เย้ เย้ ดีใจ ดีกันแล้ว

วิธีนี้ง้อด้วยภาษากายนี้ได้ผลชงัดจริงๆๆๆ  :o8: 555555
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 03-02-2008 15:44:08
ใช้ภาษากายนี่ช่างโรแมนติกดีจิงๆ
อยากจะเจอบ้างซักครั้งวุ๊ย
 :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 03-02-2008 16:14:55
 :o8:
ยิ่งอ่าน
ยิ่งรักพี่ต่ายขึ้นเป้นเท่าตัวเลย




หวานหยด :o8:

 o13
 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 03-02-2008 17:16:26
 :m25: :m25:
รักโอมกับพี่ต่ายจัง ไม่อยากให้จบเลยคร้าบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 03-02-2008 20:53:14
 :m25: :m25: ฟ้าเหลืองรึป่าวน๊า  o17 o17
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 03-02-2008 20:54:07
 :m23: Xeroz เดาถูกด้วยอ่ะ  :m4:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 64(ต่อ)

พออั้มออกไปแล้ว  ผมเลยโทรไปหากระแตเพื่อจะบอกว่าไอ้บร้าอั้มจะไปรับแล้ว

“แตเหรออั้มเค้าเพิ่งออกจากบ้านไปเดี๋ยวคงไปถึงน่ะ    แล้วยังไงอย่ากลับดึกล่ะ”

“ค่ะพี่ต่าย   แล้วเมื่อคืนทำไมไม่กลับบ้าน  ตอนเที่ยงคืนกว่าๆมั๊งมีคนมาถามว่าเป็นบ้านพี่โอมด้วยล่ะ  แตงงเลยก็เลยบอกไปว่าไม่ใช่  น่ากลัวอ่ะมันดึกมากแล้ว”  

ถ้ามีคนแปลกหน้ามาหาตอนเที่ยงคืน  ผมว่าเป็นผู้หญิงคนเดียวไม่น่าลงไปคุยด้วยเลยด้วยซ้ำครับ  มันอันตรายเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพมันมีกันหลายรูปแบบจริงๆ

“โอมเองแหล่ะที่ไปน่ะ   แต่คนที่ไปถามไม่ใช่นะ  คนนั้นเพื่อนเค้า  เดี๋ยวไว้เจอกันแล้วพี่เล่าให้ฟัง” แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้ว่า

“กระแตแดดมันร้อนนะ  อย่าลืมเอาแจ็คเกตไปใส่กันแดด  กับหมวกหรือแว่นกันแดดไปด้วยล่ะ”

“ค่ะพี่ต่ายเตรียมไว้หมดแล้วไม่ต้องมาห่วงแตเลย  แล้วพี่ต่ายง้อพี่โอมได้รึยังล่ะหายไปทั้งคืนแบบนี้ อิอิ”  พอน้องทักแบบนี้ผมชักเขินๆนิดหน่อย  ได้แต่ยกมือเกาหัว ยิ้มให้โทรศัพท์ก็ได้ด้วย :o8:

“เอาน่า....เดี๋ยวไว้ พี่เล่าให้ฟัง   แตดูแลตัวเองด้วยล่ะพี่เป็นห่วง”

โครม!!!   ผมได้ยินเสียงปิดประตูดังปังครับสงสัยโอมคงตื่นแล้วล่ะ  แล้วทำไมต้องปิดประตูดังขนาดนั้น  มีอะไรอีกล่ะเนี่ย  แต่พอหันไปมองก็ไม่เห็นใครแล้วครับ

“แตแค่นี้นะ  มีอะไรก็โทรเข้ามือถือพี่แล้วกัน”
ผมรีบเดินไปหาโอมที่ห้องแต่ห้องล็อคอยู่  ทำไมล็อคล่ะแปลกจัง  ผมเลยต้องไปเคาะเรียกโอม

ก๊อกๆๆๆ “โอม....ล็อคห้องทำไมครับให้พี่ต่ายเข้าไปหน่อย”ไม่มีเสียงตอบจากโอมครับ  แต่ได้ยินเสียงกุุกๆกักๆในห้อง  ผมต้องเรียกซ้ำไปอีกครั้ง

“โอมคุยกันหน่อยซิ   ทำอะไรอยู่ครับ”

“พี่กลับไปเถอะ.....ผมจะออกไปข้างนอกแล้วจะแต่งตัว”

เสียงโอมอู้อี้ออกมาจากห้องผมยืนงงเง็งอยู่นอกห้อง อ้าวทำไมยังงอนอยู่อีกล่ะ  เมื่อคืนผมว่าผ่านกันมาขนาดนั้นน่าจะยอมคืนดีกันแล้วนะ   หรือว่าปริมาณและคุณภาพไม่เพียงพอ  อันที่จริงก็ติชมแนะนำได้นี่นา

ผมยืนก้มหน้าคิดไม่ออกอยู่หน้าห้องเงียบๆ  กำลังคิดว่าเอาไงดีว่ะ   อยู่ดีๆไม่ทันตั้งตัวโอมก็ผลักเปิดประตูผลัวะออกมาโขกหัวผมอย่างแรง  :a6: ผมลงไปนอนแอ้งแม้งอยู่กับพื้น ต้องนั่งกุมหัวอยู่ไม่รู้ว่าหัวโนรึเปล่า แต่พอตัวดีซิครับ  ทำหน้าตกใจนิดเดียวเองที่เห็นผมลงไปนอนอยู่ที่พื้น  แล้วก็พูดเฉยเมยทำเสียงเย็นชาใส่ผม

“ขอโทษพี่ต่าย.....ผมไปละ  ปิดบ้านให้ด้วยนะ”

 แล้วโอมก็เดินลงบันได แล้วขับรถออกไปเลยครับ  ทิ้งผมที่วิ่งตามลงมาไม่ทันให้ยืนอึ้งคลำหัวตัวเองงงกับอาการของโอมอยู่ที่หน้าบ้านนั้น
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ผมกลับไปอาบน้ำที่บ้านอย่างมึนๆ  คิดอะไรไม่ออกตอนทำงานผมยังไม่ปวดหัวเท่านี้เลย   ผมนึกถึงผู้พิทักษ์โอมได้คนนึงครับผู้ช่วยของผมเอง

“โหล.....บุ้งพี่ต่ายนะ”

“พี่ต่าย....หวัดดีครับ   ผมว่าจะโทรหาพี่อยู่  ได้ยินว่ากลับมานานแล้ว  โอมมันไม่อยู่พี่ไปกรุงเทพฯ  พี่เจอมันยัง?”

“ก็นี่แหล่ะที่พี่โทรมาหาบุ้งน่ะ   เมื่อคืนบุ้งรู้ไม๊โอมไปกินข้าวกับใคร”
ไม่รู้จะปรึกษาใครบุ้งนี่แหล่ะครับดีที่สุด  อย่างน้อยมันก็ไม่ข่มขู่ผมเหมือนกับอิงอั้ม

“ไม่รู้ดิพี่...โอมมันไม่ยอมบอก  ผมก็เลยไม่รู้  พี่รู้เหรอใครน่ะ”

“คุณก้อยไงคนที่บุ้งเคยเล่าให้พี่ฟัง   โอมไปกินเหล้ากับเค้ามาแล้วกลับมาอาเจียนต่อที่บ้านน่ะ”

“ผมว่าไม่ค่อยน่าไว้ใจนะพี่ต่ายคุณก้อยเนี่ย  กินกันจนเมาเลยเหรอ ผมว่าเค้าแปลกๆดูไม่ค่อยออกน่ะพี่  ที่สำคัญมันหล่อด้วยซิ” ผมก็คิดเหมือนบุ้ง  แต่ตอนนี้ปัญหามันอยู่ที่โอมมากกว่าไม่รู้ว่าไปที่ไหน

“ก็ใช่ไม่น่าไว้ใจ  แต่เมื่อวานพี่ว่า เค้าอาจจะรู้แล้วนะว่าพี่เป็นอะไรกับโอม  พี่พยายามบอกอ้อมๆแล้วนะ”  ผมกลัวคุยไปคุยมาจะไม่ตรงเรื่องที่อยากรู้ซักที  เลยต้องตัดบท  เรื่องกิ๊กนี่ค่อยไปจัดการทีหลัง

“บุ้งแต่พี่โทรมาอีกเรื่องนึงไม่ใช่เรื่องคุณก้อยหรอก”

“อ้าวแล้วเรื่องไรพี่  แล้วนี่พี่ต่ายคืนดีกับโอมรึยังล่ะ”

“เมื่อคืนพี่ก็ว่าดีกันแล้วนะ  แต่ตอนเช้าชักไม่แน่ใจซิ  ไม่รู้โอมงอนเพราะอะไร ตอนนี้ไปไหนไม่บอกพี่เลย  บุ้งสืบให้พี่หน่อยซิ”  เหนื่อยใจจริงๆ  แต่ยังไงวันนี้ต้องเคลียร์กันให้ได้  ไม่งั้นอยู่ต่อไปไม่มีความสุขแน่ๆ

“ฮ่าๆๆๆๆ  โอมมันขี้งอนน่ะพี่  แต่วันนี้เค้านัดกินข้าวกะสาวๆนะพี่   เดี๋ยวผมโทรไปสืบให้พี่ต่ายใจเย็นๆนะ”

“เออขอบใจบุ้ง...พี่รอนะ” ผมก็เลยนั่งรอโทรศัพท์สายสืบส่วนตัวของผมครับ จากนั่งรอเป็นยืน เปลี่ยนเป็นเดิน เกือบครึ่งชั่วโมงน่ะครับ  ทำไมมันนานขนาดนี้นะ  ผมเลยลองโทรศัพท์หาบุ้ง   แต่ก็สายยังไม่ว่างอีกมันอะไรกันเนี่ย  ผมเริ่มใจไม่ดีหงุดหงิดสุดๆ

จนอีกครึ่งชั่วโมงน่ะครับรวมๆกันก็ชั่วโมงนึงเต็มๆบุ้งถึงโทรกลับมา ไม่รู้บุ้งโทรศัพท์ไปหาหรือโทรเลขไปกันแน่ถึงได้นานขนาดนี้  พอรับสายผมยังไม่ทันบ่นครับ แต่บุ้งดันโวยขึ้นมาก่อน

“พี่ต่าย.....บอกผมมาเลยนะไปมีผู้หญิงที่ไหน  ถ้าไม่บอกผมผมเลิกเลยไม่เป็นผู้ช่วยพี่แล้ว”พอบุ้งพูดว่าผู้หญิงผมยังนึกไม่ออกเลยครับ  มันพูดเรื่องอะไรว่ะ  ผู้หญิงอะไรกัน

“บุ้ง....พี่งงน่ะ  ผู้หญิงที่ไหนกัน  เรื่องอะไรนี่เราคุยกันเรื่องโอมอยู่รึเปล่า”บุ้งมันโวยขึ้นมาเลยครับ

“ก็เรื่องโอมนี่แหล่ะพี่....พี่ไปมีผู้หญิงที่ไหนซ่อนไว้โอมมันเสียใจมากนะ   นี่มันไปนั่งเศร้าอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้   ติงยังโทรมาตามกับผมเลยว่าโอมยังไปไม่ถึงที่เค้านัดกันเลย”
อ้าวตายเลย.....ผู้หญิงที่ไหนใครกันผมยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเลย

“แล้วโอมเค้าว่าผู้หญิงที่ไหนล่ะ   ลองเล่ามาก่อนซิ  พี่จะได้ตอบถูก” :m21:

“โอมมันบอกว่าพี่ต่ายคุยจ๊ะจ๋ากับสาวที่ไหนไม่รู้ที่บ้านน่ะพี่  โอมมันบังเอิญได้ยินพอดี”

ทีแรกผมก็เหวอๆว่าผู้หญิงที่ผมคุยด้วยเป็นใคร  นึกสักพักถึงนึกออกครับ  ก็ผมคุยกับน้องสาวผมคนเดียวเองเมื่อเช้านี้  โอมคงมาได้ยินไม่หมดเลยนึกว่าคุยกับคนอื่น  แล้วโอมก็คงไม่รู้ด้วยว่าน้องสาวผมกลับมาแล้ว

“กระแตน้องสาวพี่เองบุ้ง  ที่เคยเล่าให้ฟังจำได้ไม๊  เอาไงดีล่ะเดี๋ยวพี่โทรไปเคลียร์กับโอมเองดีกว่า” แต่บุ้งมันขัดขึ้นมา

“เดี๋ยวผมโทรไปเองพี่แล้วซักพักพี่่ค่อยโทรตามไปนะ”

ก่อนที่ผมจะวางสายไปบุ้งเรียกผมไว้ก่อน “พี่ต่าย  พี่อย่าทำให้โอมเสียใจอีกนะ  โอมมันคงทนไม่ได้อีกแล้ว”  ผมเลยต้องบอกบุ้งไปอีกทีว่า

“บุ้งมั่นใจในตัวพี่เถอะนะ   พี่ไม่ทำให้เพื่อนของบุ้งต้องเสียใจอีกแน่ๆ”
ผมรอซักพักก็พยายามโทรหาโอมก็ยังสายไม่ว่างครับ  ไม่รู้คุยอะไรกันนักหนา   แต่ผมก็โทรต่อเนื่องน่ะครับเกือบ 15 นาทีถึงต่อได้

“สวัสดีครับ......”โอมพูดแค่นี้เองครับเสียงก็ชาเย็นใส่นมเลย  แล้วก็ไม่พูดต่อเงียบไปเฉยๆ  ผมก็อึ้งว่าผมควรจะพูดอะไรต่อดี ลืมไปเลยว่าจะคุยเรื่องไหน  :m23:
 
“มีอะไรไม๊ครับไม่งั้นผมวางนะ....”เฮ้ยยย ยังไม่ได้พูดอะไรเลยแล้วจะวางได้ไงกัน

“โอมๆๆๆ เดี๋ยว......โอมอยู่ไหนน่ะพี่ต่ายไปหานะ” ผมว่าผมได้ยินเสียงถอนหายใจครับ  ผมคิดว่าใช่นะ

“ผมอยู่กับเพื่อน  พี่จะมาหาผมทำไม  กลับไปบ้านพี่ซิ  มีอะไรอีกไม๊ครับผมกำลังยุ่ง”

ผมจ๋อยเลยครับโอมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย  โอมคนเดิมที่ถึงแม้จะขี้งอนแต่ก็ไม่เคยพูดตัดบัวไม่เหลือใยกับผมขนาดนี้  ผมจนด้วยคำพูดอารมณ์ไม่ดีขนาดนี้  จะไปอธิบายเหตุผลได้ยังไง

“พี่อยากคุยกับโอมยาวๆน่ะ  โอมจะกลับเมื่อไหร่ครับพี่จะรอ  หรือจะให้พี่ต่ายไปหาก็ได้นะ”ผมพูดไปก็เขินไป  :m13: กระดากปากไม่เคยอ้อนง้อใครแบบนี้เลย  แต่พูดไปขนาดนี้ผมก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าโอมจะยอมมาเจอผมไม๊  เป็นครั้งแรกที่ผมไม่มั่นใจในตัวเองเลย

“พี่ต่ายอยากรอก็รอไม่อยากรอก็ตามใจ   แค่นี้นะครับติงเรียกผมแล้ว  สวัสดีครับพี่ต่าย”

โอมพูดแค่ี้นี้น่ะครับแล้วก็วางสายไปเลย   ผมยังไม่ทันพูดเลยด้วยซ้ำว่าผมจะรอ  จะนานแค่ไหนก็จะรอ  :m15: แต่อย่างน้อยผมก็ยังดีใจที่โอมยังรับสายผมไม่ปิดโทรศัพท์หนีผมไปเลย
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ปรับใจกันทันไม๊เนี่ย  :m23: อะนะแต่งแล้วไมกลับไปกลับมาไม่รู้ เวียนหัวเหมือนกัน o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 03-02-2008 21:04:46
เอ๋า ... :m22:
ไหงเป็นงี้ได้ละเนี่ย  :m29:

น้องโอม งอนน่ารัก แต่พี่ต่ายจะง้อไหวป่าวเนี่ย ...  :m14:

ปล. สองสามตอนมานี้ยังกะนั่งรถไฟเหาะ ..หัวใจจะวาย ..เด๋วดี เด๋วงอน .. :m25:

คนอ่าน มึนสส์  o2
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 03-02-2008 21:06:11
 :m13: :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 03-02-2008 21:36:31
55555555555555555555555555555555555 :m20:

ถูกใจคนอ่านคนนี้จริงๆเยยยยยย แต่รอบนี้คงพอหอมปากหอมคอไม่ปล่อยรออีกปีกว่าหรอก เอิ๊กๆ :m4:

ขืนทำงั้นเดี๋ยวโอมได้ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังอีก กลัวแทนพี่ต่ายอ่ะ เหอๆ :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 03-02-2008 22:00:21
 o7 o7 o7
 o13 o13 o13
 :oni1: :oni1: :oni1:


 :oni3: :oni3: :oni3:
โอมจ๋า
ปั่นให้พี่ต่ายหัวหมุนเป็นลูกข่างไปเล้ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 03-02-2008 22:28:46
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 03-02-2008 22:40:01
ค้างงงงงงงง  :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 03-02-2008 22:42:49
 o2

หัวหมุนแน่ๆ

สงสารพี่ต่ายนะ แต่พี่ต่ายก็ต้องพยายามเองด้วย

จะได้กลับมาเหมือนเดิมเสียที

เอาใจช่วยงับ

 :m13:
 :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 03-02-2008 23:13:27
หุหุ กะแล้วว่าโอมต้องได้ยินต่ายคุยกับแต แล้วงอน  :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 03-02-2008 23:17:06
งอนแบบนี้ดีแล้วแหละ สนุกดีให้พี่ต่ายตามง้อให้สนุกไปเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 03-02-2008 23:20:20
อย่าไปดีกะต่ายนะโอม :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 03-02-2008 23:38:12
 :a3: :a3: :a3: :a3: :a3: :a3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 03-02-2008 23:54:04
ว่าแล้ว ต้องเข้าใจแตผิด
ดีนะ ที่ได้เคลียร์กันไปแล้วหลายรอบ อุ อุ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 03-02-2008 23:59:25
หึหึหึหึหึหึ โอม งอนต่อไปเล่นตัวเข้า เอาให้คุ้มกับเวลาของเราซะ  หึหึหึหึหึหึ
(เเกล้งพี่ต่ายสะใจ o7)





 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 04-02-2008 00:06:54
เอิ้กๆๆๆ มีงอล ต่อีกนิด

แหม น่ารักกันจิง คู่นี้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 04-02-2008 00:13:42
อย่างนี้พี่ต่ายต้องงัดมุขเสี่ยวๆ มาง้อโอมนะครับ
โอมจะได้ใจอ่อน :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-02-2008 02:51:13
 :impress: :impress: :impress:

ว้าไม่ได้เข้ามาอ่านนาน

ตามเพื่อนๆๆไม่ทันเลยครับผม

ชอบๆๆอ่าครับ ตอนนี้ผมยังอ่านถึงตอนที่30อยู่เลย

จะพยายยามอ่านให้ทันครับผม

:impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 04-02-2008 08:42:32
พี่ต่าย แป่วววววววววววววววว :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 04-02-2008 09:00:01
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 04-02-2008 09:17:52
เป็นกำลังใจให้เสมอครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 04-02-2008 09:24:47
โอมยอมพี่ต่ายง่ายจังเลยอะ

เฮ้ออออ

ความรักชนะทุกสิ่งอีกแล้ว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 04-02-2008 10:02:50
งอนอย่างแรงงงงง :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 04-02-2008 10:05:58
ต้องให้แตออกโรงมั๊ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 04-02-2008 10:24:20
ขอบพระคุณมากๆนะครับผม o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 04-02-2008 10:38:36
 :a4:อยากรู้จัง ว่าพี่ต่ายจะทำอะไรเมื่อโอมกลับมา
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MeepadA ที่ 04-02-2008 12:41:46

กำลังหายโกรธแล้วเชียว ไม่น่าเลย 

แต่เมื่อคืน พี่ต่ายทำได้ดีนะ  o13 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 04-02-2008 12:52:46
ผ่านคืนหฤหรรย์มา นึกว่าจะดีกันซะแล้ว  :m1:

ที่ไหนได้มีเรื่องไปสะกิดต่อมงินโอมอีก เฮ้อออ   ง้อครับง้อ  อดทน เท่าน้านน ครับพี่ต่ายยย :m12:

เด่วซื้อ m100ไปฝาก เอากี่ขวดดีค้าบบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 04-02-2008 19:29:48
โอมทำตัวน่ารักมากๆๆๆ สมน้ำหน้าไอ่พี่กระต่าย หุหุหุ :mc3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 04-02-2008 20:57:52
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับผม ยังอ่านไม่ทันเพื่อนๆๆครับผม

อ่านถึงตอน 49อยู่ครับผม

อ่านเพราะชอบนะครับ เป็นกำลังใจให้ครับผม

เดี๋ยวมาอ่านต่อ หวังว่าคืนนี้คงอ่านทันเพื่อนๆๆ

จะสู้อ่านต่อไปครับผม

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-02-2008 21:04:55
 :a4: :a4: :a4: ค่อยๆอ่านไปนะคะ รักกันแล้วรอกันได้เสมอใช่มะค่ะท่านผู้ชม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 65

ผมนั่งนิ่งๆอยู่ท่ามกลางความเงียบของสวนสาธารณะตอนสายๆ  ผู้คนบางตาอาจจะเป็นเพราะว่าแดดเริ่มแรงเข้าไปทุกที  ผมออกจากบ้านมาก็ยังไม่อยากไปหาเพื่อนเพราะมันยังไม่ถึงเวลานัด  เลยมานั่งเล่นอยู่ที่นี่ :o11:
 
บรรยากาศที่เงียบสงบ  ลมพัดโชยมาเบาๆดูได้จากใบไม้ที่สั่นไหว  บ้างก็ปลิวร่วงหล่นไปตามแรงลม แต่ถึงมันจะเงียบยังไงก็ไม่ช่วยให้ใจผมสงบขึ้นได้เลย  ผมก็เหมือนใบไม้พวกนั้นโดนลมพัดเพียงเบาๆก็อดสั่นไหวไม่ได้  คิดถึงเรื่องเมื่อเช้าที่พี่ต่ายคุยโทรศัพท์กะใครไม่รู้ ท่าทางจะเป็นผู้หญิงแล้วก็โมโห  เมื่อคืนทำกับเราซะขนาดนั้นพอเช้ามาก็ยังมาจ๊ะจ๋ากับใครอีก  คิดแล้วมันเจ็บใจจริงๆ o12

แต่พอบุ้งมันโทรมาอธิบายเรื่องกระแต ผมก็เลยเข้าใจขึ้น ผมรู้มานานแล้วว่าน้องสาวพี่ต่ายไปเรียนต่อที่เมืองนอก  แต่มันก็นานจนผมลืม  แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าเค้ากลับมาแล้ว แต่ตอนนี้ที่สำคัญผมเริ่มสงสัยอะไรบางอย่าง  สงสัยเริ่มฉลาดหลังจากโง่มานาน ปริญญาหลายใบไม่ได้ช่วยให้ใครฉลาดกับเรื่องแบบนี้เลย  

“บุ้ง  กรูถามมรึงหน่อยทำไมมรึงรู้เรื่องพี่ต่ายดีนัก  พี่เค้าก็เพิ่งกลับมา  เมิงไปสนิทสนมกับเค้าตั้งแต่เมื่อไหร่”

“.........................”  :try2:

บุ้งมันไม่ตอบครับเงียบไปเลย ผมเริ่มขมวดคิ้ว ผมว่ามันไม่ธรรมดาซะแล้วซิ  บุ้งมันก็โกหกใครไม่เป็นเหมือนกัน  แค่มันเงียบไปแบบนี้ผมก็รู้แล้วว่ามันต้องมีอะไรปกปิดผมแน่ๆ  
ผมเลยต้องคาดคั้นมันให้ได้ เพิ่มน้ำเสียงโหดลงยันต์เข้าไปด้วยให้ขลัง

“บุ้งถ้ามรึงไม่เล่ามาให้หมดกรูเอามรึงตายแน่   แล้วก็เลิกคบมรึงด้วย มรึงจะบอกกรูรึไม่บอก”  :angry2:

ผมรู้สึกว่าชีวิตผมมันคลุมเครือมานานแล้ว  ทุกคนดูเหมือนรู้เรื่องกันทุกอย่างเพราะไม่เคย
ถามผมเลยเรื่องพี่ต่ายว่าไปไหน  ทำไมหายไป ทุกสิ่งที่ทุกคนทำคือปลอบผมเท่านั้น ผมก็เคยสงสัยเหมือนกันว่าทำไมทุกคนรู้เรื่องผมรักกับพี่ต่ายได้ไง  แล้วก็ที่สำคัญไม่ร่วมกันประณามพี่ต่ายที่ทิ้งผมไปด้วย  มันผิดปรกติ  เกิดจะเพิ่งมาคิดได้เอาตอนนี้นะกรู  :m23:

เราคุยกันไปได้แป๊ปเดียวก็มีเสียงสายเข้าของพี่ต่ายเรียกเข้ามาเป็นระยะๆจนผมรำคาญ
 แต่ผมไม่สนใจ ยังคุยกับบุ้งต่อ บุ้งอธิบายไปก็กลัวผมโกรธไป  แต่ผมเริ่มปวดหัวแล้วล่ะครับ นี่มันเล่าเรื่องน้ำเน่าอะไรให้ผมฟังเนี่ย  ยังกับละครช่อง 3 พ่อแม่กีดกันเพื่อพิสูจน์รักแท้
กรรมของกรูจริงๆ  เรื่องนี้ใครเขียนบทว่ะ  o6 (คนแต่งแอบแซวตัวเอง อิอิ)

“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ล่ะโอม  กรูว่ามรึงจะไปโกรธพี่ต่ายหรือที่บ้านมรึงก็ไม่ถูกนะ  ทุกคนเค้า
ก็รักมรึง   แล้วยิ่งกรูเนี่ยเมิงห้ามมม.....เลยนะห้ามโกรธกรู  :m21: กรูเพิ่งมารู้เอาทีหลังเหมือนกัน  ตั้งหลายเดือนหลังจากพี่ต่ายไปแล้ว  พี่เค้าโทรมาถามเรื่องเมิงกรูถึงรู้เรื่อง แต่มรึงอยากรู้รายละเอียดต้องคุยกะพี่ต่ายเองนะ  กรูรู้มาแค่เนี้ย”

ผมวางสายจากบุ้งไปแล้วก็ยังมึนๆ  ความรู้สึกมันสับสนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ออก
ต้องค่อยๆประมวลเหตุการณ์ที่ผ่านมา  ตกลงมีผมคนเดียวเองที่เล่นไปตามเกมของทุกคนโดยไม่รู้ทิศทาง  มันเจ็บปวดใจที่สุด  มันน้อยใจมากๆ  มันทรมานใจจริงๆครับ  o7

ถ้าผมจะไปของติดต่อสมาคมภาพยนตร์ไทย  ขอรางวัลตัวประกอบยอดเยี่ยมมาให้ครอบครัวผมกะไอ้เพื่อนบุ้ง  เค้าจะให้ผมไม๊  แสดงกันเนียนจริงๆให้ตายเหอะ  มานั่งขายของกันให้เหนื่อยทำไมไม่รู้  ไม่ไปสมัครเล่นละครกันซะให้หมดเรื่อง  :a14:

แต่แปลกที่ถึงผมจะเสียใจมันก็ไม่มีน้ำตา  มันคงร้องหมดไปแล้วมั๊งครับ  เมื่อคืนก็ร้องไปแล้ว  ตอนนี้ได้แต่หัวเราะหึหึให้กับความโง่ของตัวเอง  แ่ต่ถ้าจะคิดในแง่ดีผมก็ได้ผ่านช่วงเวลาที่ครอบครัวต้องการลองใจผมกับพี่ต่ายไปแล้วนี่  มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดีไม่ใช่เหรอ
ที่พี่ต่ายกลับมาหาผมแล้ว    

แต่ใจผมมันก็มีคำถามตามติดมาอีกมากมาย ทำไมตอนนั้นแม่กับป๋าไม่บอกผมตรงๆ
 ไม่ถามผมบ้าง  แล้วถ้าการลองใจครั้งนี้พี่ต่ายไม่กลับมาอีกผมจะเสียใจขนาดไหน  แล้วพี่ต่ายจากผมไปทำไมไม่บอกเหตุผลกับผมสักคำ  ถ้าผมเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นก็เพราะพี่ต่ายเองนั่นแหล่ะที่จะต้องเสียใจ  พี่ต่ายไม่กลัวหรือยังไง หรือนึกว่าผมเป็นของตาย

ผมหลับตาพยายามทำใจให้สบาย แล้วค่อยๆใช้เหตุผลมาตอบคำถามเหล่านั้น  ป๋ากับแม่ผมไม่โกรธที่เป็นห่วงผม  ถึงแม้วิธีการของท่านจะทำให้ผมต้องเสียใจ  ท่านมีสิทธิที่อยากจะให้ผมได้ชอบกับผู้หญิงได้แต่งงานมีครอบครัวตามที่ควรจะเป็น  แต่ท่านก็ยังให้โอกาสผมกับพี่ต่ายได้รักกันนี่  ไม่ได้บังคับให้เลิกกันไปเลย

ส่วนพี่ต่ายผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมไม่บอกให้ผมรู้บ้าง  ปล่อยให้ผมเศร้าเสียใจอยู่คนเดียวนึกว่าถูกทิ้งไปแล้วจิตตกไปเป็นปีๆ  สูญเสียความเชื่อมั่นในรักไปเลย  เกือบจะไปบวชแล้วก็กลัวจะไปทำให้ศาสนาพุทธตกต่ำ  

 แต่ผมก็ยังดีใจที่เมื่อเวลาผ่านไปพี่ต่ายก็ยังกลับมา   และผ่านเหตุการณ์เมื่อคืนมาแล้วผมรู้ว่าผมยังรักพี่ต่ายและพี่ต่ายก็รักผมเหมือนกัน  มันพิสูจน์กันด้วยร่างกายไปแล้วครับ หึๆๆๆ  ยังคลิกกันดีอยู่ครับไม่มีแฮงค์จนต้องบูทเครื่องใหม่เลย   :haun5:

เสียงโทรศัพท์พี่ต่ายเข้ามาพอดีทำให้ผมไม่มีเวลาคิดอะไรมากนัก  คุยกันใช้เวลาไม่นานผมก็วางสาย แอบสะใจเล็กๆพอได้ยินเสียงอ้อนๆของพี่ต่าย  ต้องพยายามเก็กเสียงเย็นๆแทบแย่  แอบเอาน้ำเสียงตอนที่คนโทรมาตื๊อให้ซื้อของหรือขายเมมเบอร์มาใช้  ไล่เตลิดเปิดเปิงไปหลายรายแล้วครับ  :laugh:

“พี่ต่ายอยากรอก็รอไม่อยากรอก็ตามใจ   แค่นี้นะครับ ติงเรียกผมแล้ว สวัสดีครับพี่ต่าย”

พอวางสายจากพี่ต่ายไป ผมก็รู้สึกว่าผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย ผมไม่เคยพูดจาตัดรอนแบบนี้กับใคร ผมไม่เคยโกหกใคร  ผมไม่ได้รอด้วยซ้ำว่าพี่ต่ายจะพูดตอบกลับว่าอะไร  อะไรทำให้ผมเป็นแบบนี้กันแน่  เค้าจะว่าผู้ปกครองไม่ชี้แนะรึเปล่าเนี่ย

 ตอนแรกผมก็ว่าผมทำใจได้แล้วนะ  แต่พอพี่ต่ายมาง้อแล้วของมันขึ้นน่ะ  หรือว่าลึกๆแล้วความจริงที่ผมเพิ่งรู้ทำให้ผมโกรธ  แต่ผมกำลังโกรธใครล่ะ โกรธพี่ต่าย โกรธป๋า โกรธแม่ โกรธพี่อิงแล้วก็อาจมีพี่อั้มอีกคน  ถ้างั้นหรือว่าผมโกรธบุ้งไอ้เพื่อนที่กลายเป็นคนสมรู้ร่วมคิดในเกมนี้ไปด้วย   แต่ไม่รู้ล่ะตอนนี้ผมขอลงไปที่พี่ต่ายคนเดียวก่อน ต้องแกล้งซะให้เข็ด :interest:

เสียงเพลงของโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกทำให้ผมต้องหยุดความคิดวนเวียนในใจชั่วคราว  
ดูสายที่โทรเข้ามาเป็นติง “ครับติง....”
“โอมมาถึงรึยังติงไม่เห็นเลย”
“เรากำลังจะไปเดี๋ยวนี้แหล่ะติง รอแป๊ปนึงนะ”

  เมื่อเจอเพื่อนๆผมก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิทเลยครับ  ก็นานๆเจอกันที มีติง เนย หมี ธูป แล้วก็คนอื่นๆอีก  ตอนนี้เหลือที่บริษัทเก่าไม่กี่คนแล้ว  ลาออกมาเป็นสมุหบัญชีบริษัทอื่นกันหมด  เหลือแค่ไม่กี่คนเองที่ยังทนทำหรือทำทนกันอยู่  ซึ่งก็คงจะเติบโตกันเป็นใหญ่เป็นโตในอนาคตกันที่นั่น

ถ้าอดทนได้น่ะครับ  เพราะยิ่งสูงก็ยิ่งหนาวงานก็เยอะ ต้องรับผิดชอบมากขึ้นไปด้วย  และการเมืองในที่ทำงานมันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ  แต่ผมว่ามันก็มีทุกที่น่ะครับต้องทำใจ  หมีที่ตอนนี้ยังคงทำงานอยู่ที่เดิมมันก็คงเริ่มเบื่อๆเหมือนกันน่ะครับ เลยชวนผมคุย

“ทำงานแบบโอมก็ดีนะเป็นอิสระดี  ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร”

“แต่นายไปอยู่แบบนั้นแล้วจะหาแฟนได้เหรอ  จะไปเจอใครล่ะอยู่นั่น”
ผมกำลังยิ้มๆอยู่ค้างเลยครับ แล้วก็ค่อยๆหุบปากลง อยากบอกว่าไม่ต้องมายุ่งกับกรูก็เกรงใจ ติงก็มองหน้าผมยิ้มๆแล้วช่วยผมตอบแทน

“อย่าไปยุ่งกับโอมเลย   หมีอยู่นี่ก็ยังไม่มีแฟนเหมือนกันล่ะว้า  มีไม๊ล่ะ”

 ฮ่าๆๆๆจริงของติง  ไอ้เรื่องแฟนนี่มันบทจะมาก็มามั๊งครับ  ไม่เลือกสถานที่และเวลาหรอก  จะให้โทรสั่ง1150 ก็คงไม่ได้   ถ้าเลือกได้แบบพิซซ่าก็ดีจะได้เลือกหน้าเลือกหุ่นได้ แบบว่าของเพรียวบางหน้าหล่อๆสวยๆ  หรือหนานุ่มขาวอวบ  o3 ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่ต้องมาตบตีแย่งกันแบบในละครทีวีบ้านเราแย่งพระเอกกัน  แต่ถ้ามันมาแล้วผลุบๆโผล่แบบของผมก็ไม่ไหวเหมือนกันทำเอาแย่ต้องส่งศูนย์ซ่อมไปเลย
 
หลังจากนั้นต่างคนก็ต่างแย่งกันคุยครับก็เพลินๆดีเหมือนกัน  ทำให้ผมอารมณ์ดีขึ้นเยอะเลย ก็คุยกันไปเรื่อยจนเกือบสี่โมงเย็นน่ะครับ  คนอื่นๆถึงได้เวลาแยกย้ายกันกลับ  แต่ผมกับติงนั่งคุยกันต่อก็เรื่องพี่ต่ายนี่หล่ะครับ

“แล้วโอมจะทำยังไงล่ะ  พี่ต่ายเค้าก็ง้อโอมแล้วนี่  ก็คืนดีกับเค้าไปเหอะ”

ติงส่งยิ้มเศร้าๆให้ผม เอื้อมเอามือมากุมมือผมไว้  ผมมองเหม่อออกไปด้านนอกไม่กล้าสบตาติง  แต่ผมสัมผัสความอบอุ่นจากมือติงที่ส่งผ่านมาถึงผมได้  ผมรู้ว่ามันส่งความห่วงใย  และความรักมาให้ผมด้วย    แต่ผมซิไม่มีสิ่งนั้นตอบกลับไปให้ติงเลย ผมรักติงได้แค่เพื่อนเท่านั้นเอง

ติงบีบมือผมเบาๆ  ผมหันมามองติงยังคงมองผมอยู่แบบนั้น  ด้วยสายตาที่ผมต้องหลบอยู่เสมอๆ
“โอมไม่เคยเปลี่ยนใจจากพี่ต่ายเลย  แล้วจะงอนไปทำไม  ติงไม่เห็นว่าใครจะมีความสุขจากการทะเลาะกันได้เลยซักคน”

 ผมพยักหน้าเห็นด้วยกับความเห็นของติง  แต่ว่า....

“แต่ถ้ายอมคืนดีง่ายๆวันหลังพี่ต่ายอยากจะทำอะไรก็จะทำอีกซิติง  การที่เราเป็นคู่ชีวิตกัน”

พูดไปผมก็เขินที่ใช้คำๆนี้ “ทำอะไรก็ต้องคิดกันเป็นคู่ไม่ใช่เหรอ ถ้าคิดเองทำอะไรเองคนเดียวเค้าเรียกคู่ขาแล้วไม่ใช่คู่ชีวิต” :serius2:

 ยิ่งพูดยิ่งมีอารมณ์ครับ เลือดมันขึ้นหน้า  แต่ติงกลับหัวเราะกิ๊กเลย

“หัวเราะอะไรติงเราไม่ขำด้วยหรอกน่ะ” ติงยังหัวเราะเบาๆ

“ก็ขำโอมซิใช้คำพูดตลกน่ะ คู่ชีวิตอย่างงี้คู่ขายังงี้  สำนวนตลก เชยจริงๆ อิอิ”ผมค่อยๆดึงมือออกจากมือติงไม่ให้ติงรู้สึกตัว

“ไม่ต้องเลยติง อย่ามาแซวกันเอง” ผมถอนหายใจแบบเบื่อๆ  :เฮ้อ:ไม่อยากเป็นคนขี้งอนเลย

“ ที่จริงเราไม่โกรธพี่ต่ายแล้วน่ะแค่น้อยใจบ้างเท่านั้นเอง  เราว่าพี่ต่ายก็คงคิดเหตุผลที่ดีแล้วล่ะถึงตัดสินใจแบบนี้”

บางทีรู้มากไป คิดมากไป หรือแค้นมากไปมันก็ไม่ทำให้เรามีความสุขไปได้หรอกครับ  คนรักกันอย่าไปตั้งเงื่อนไขกันมากเลยครับ  ซับซ้อนมากไปเครียดไปเปล่าๆ  ทิษฐิอะไรก็ต้องละวางบ้างถ้าเรารู้ว่าเค้ารักเราแล้ว  แต่วันนี้ขอแกล้งพอขำๆแล้วกัน เอามันส์เข้าว่าดีกว่า
  
“งั้นก็งอนพองามแล้วกันน่ะโอม  เดี๋ยวพี่ต่ายเ้ค้าเกิดที่จะเบื่อง้อแล้วเตลิดเข้าป่าไปละก็ติงช่วยไม่ไหวนะ อิอิ”

ตอนที่แยกกันจากติงผมก็ยังคิดอะไรไม่ออกจริงๆครับ   ใจน่ะอยากให้พี่ต่ายมานั่งร้องไห้กระซิก กระซิิกต่อหน้าผมซะด้วยซ้ำ เอาแบบผมเป็นคนคอยเช็ดน้ำตาให้คงสนุกดีพิลึก เพื่อความสะใจ  กำลังคิดว่าจะเอาไงดีจะกลับไปหาพี่ต่ายที่บ้าน  หรือว่าจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปเลยก็ยังไม่แน่ใจ  เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีก ใครโทรมาหว่าตอนนี้......
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
  :เฮ้อ:รอดไปอีกวันนะตรู  :m23:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 04-02-2008 21:30:53
เห็นด้วยทุกความคิดของโอมอย่างแรง 

ตอนแรกโกรธ พอรู้เหตุผลว่าทำเพราะด้วยความห่วงดีต่อเรา จะโกรธก็โกรธไม่ได้ เพราะเหตุผลเค้าก็ทำเพื่อเรา 

ขอบอกว่าอาการที่จะโกรธก็โกรธไม่ได้แบบนี้มันทรมานนนนนน  แต่หลังจากอ่านตอนนี้แล้ว  หุ หุ หุ........ o3
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 04-02-2008 21:45:46
โกรธก็โกรธไม่ลงหรอก

 :m29:

แต่เอาคืนบ้างก็ดี

อิอิ :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 04-02-2008 22:01:37
 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ปั่ น ป่ ว น ที่ 04-02-2008 22:13:47
 :serius2:  อย่าแกล้งพี่กระต่ายซิ  :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 04-02-2008 22:17:37
หนับหนุน แกล้งต่ายนิดๆ พอสะจายยยยย  :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 04-02-2008 22:56:30
แอบซาดิสเหมือนกันนะโอเนี่ยะ  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 04-02-2008 23:43:27
เห็นด้วยกับความคิดโอมเหมือนกันนะ

เอาเป็นว่า เเกล้งพี่ต่ายเเต่พองามเเล้วกัน เดี๋ยวหนีไปเป็นกระต่ายป่าโอมจะเเย่นะ  อาจต้องขี่ช้างจับกระต่ายฮ่าๆๆ


 :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 04-02-2008 23:56:02
โอมอย่างอนพี่ต่ายนานเลยน้า  o16
คงไม่ใช่พี่ก้อยโทรเข้ามาหรอกนะ   :m29:

ว่าแต่ 1177 นี่มันเบอร์โทรสั่งอะไรหงะ  :confuse:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 04-02-2008 23:57:14
อืมม์ ก้อยังดีนะ ที่พี่ต่ายรักเดียวใจเดียว ไม่งั้นโอมแย่เลย  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 04-02-2008 23:58:44
โอ้ว!!! :o อย่าพึ่งเอาไอ้คุณก้อยมาขวางทางรักของทั้งสองคนเลย

ให้บุ้งจับเก็บเข้าป่า ยัดลงหม้อ ฝังกลบหรือทำไรก็ได้แบบว่าปล่อยให้เขามีความสุขหน่อยเตอะ

ตามรักกันเหนื่อยแย้ว :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 05-02-2008 00:07:46
เหอ เหอ เหอ

สักนิดส์น่าโอม
เอาพอแสบๆ คันๆ นะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-02-2008 00:10:03
แหม จะโกรธก็ไม่ได้ งั้นของอนและแกล้งให้แสบๆพองามสไตล์โอมแล้วกันน่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 05-02-2008 00:15:02
รีบๆมาด้วยล่ะกานนะคับ
รออยู่เลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 05-02-2008 00:17:18
น้องกันต์ :m23:
พี่ผิดไปแล้ว 1177เป็นเบอร์แจ้งเหตุขัดข้องTOT อิอิ หน้าแตกเลย
พี่ไปแก้แล้วเป็น 1150  ขอบคุณนะที่บอก อายอ่ะ :o8:
ก็พี่อยู่บ้านนอกอ่ะ  :m13:
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 05-02-2008 00:28:22
โอม อย่าแกล้งพี่ต่ายเลยนะ

 :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 05-02-2008 08:26:41
ไอ้ตอนที่เพิ่งรู้เรื่องจากบุ้งอ่ะ
จะไปโกรธใครต่อใครมันก็ไม่ถูกอยู่แล้วละ

เพราะโอมเองก็ไม่ต้องการรับรู้เรื่องของพี่ต่าย
แค่ติงเอ่ยถึง โอมยังชิงวางสายเลย
แล้วอีกอย่าง ... ไอ้ที่ว่าลองใจ มันก็ลองด้วยกันทั้งสองฝ่ายแหละ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 05-02-2008 08:49:07
จะแกล้งก็อาพอหอมปากหอมคอนะครับ :m13:พี่โอมอย่ามานักเดี้ยวพี่โอมเขาจะหมดแรงท้อซะก่อนนะครับผมหุหุหุ :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 05-02-2008 08:55:00
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 05-02-2008 12:14:46
ใช่ o7

อย่าไปยอมเค้านะโอม :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 05-02-2008 12:17:39
 :m23:  มีคนแอบมากระซิบบอกให้มาเม้นท์เป็นความเห็นที่ 1000
 :mc4:  เลขสวยเชียว ชอบๆๆ
มารอคุณพี่กระต่ายง้อคุณน้องโอม  ขอให้   :pig3:  :pig3:

 :o  มีคนตัดหน้าไปแล้ว
1001 ก็ได้ฟระ    :m16:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 05-02-2008 12:48:58
ก็รักอ่ะนะ เลยโกรธไม่ลง

ว่าแต่อย่างอนมากกนะ สงสารพี่ต่ายย  เอาแต่พอขำๆ  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 05-02-2008 14:00:58
อ่านสิ่งที่โอมคิดแล้วยอมใจอ่อนก็ได้

จิงมากเลยครับที่ว่า  คนที่รักกัน  โกรธกันไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมาหรอก

สู้ปรับความเข้าใจกัน  ประคองกันไปยังจะดีกว่า

แต่ว่านะ  ต้องแกล้งพี่ต่ายให้สาสมไปเลย

 :m14:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-02-2008 14:54:02
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับพี่ต่ายโทรมาแน่เลย

เอาใจช่วยนะครับดีกันเร็วๆๆนะครับ

พี่โอมอย่างอนมากนะครับ เดี๋ยวพี่ต่ายเตลิดเข้าป่า

อย่างที่พี่ติง ว่า จริงๆๆอะแล้วจะหาว่าไม่เตือนเน้อออออ

เย้............ในที่สุดก็อ่านทันครับผม แต่ขออีกตอนนะครับ

มาต่อด่วนๆๆ เร็วๆๆด้วย อิอิ

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 05-02-2008 17:59:32
 :a4:โอมอย่างอนพี่ต่ายให้มากนะเดี่ยวพี่เค้าหนีไปอีกนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 05-02-2008 18:13:05
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 05-02-2008 18:31:15
แหะๆ รอพี่ฟางมาต่อนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 05-02-2008 19:58:21
วันนี้มาเร็วเพราะจะไปไหว้เจ้าจ๊ะ อิอิ :m23:
++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 65 (ต่อ)

“สวัสดีครับคุณโอม”

เสียงนั้นคุณก้อยโทรมาครับ  ผมจำไม่ได้จริงๆว่าเมื่อวานแยกกันตอนไหนยังไงอะไรเกิดขึ้นบ้าง  มันลางๆเลือนๆรู้แต่ว่าผมเมาจนอาเจียนไปหลายรอบ  โดยที่มีคุณก้อยนี่แหล่ะที่เป็นคนประคองผม  แต่ตอนที่กลับบ้านไปแล้วมันเบลอๆ

“สวัสดีครับคุณก้อย  เมื่อวานผมขอโทษนะผมเมาไปหน่อยเลยเป็นภาระคุณก้อยให้ลำบากต้องไปส่ง” เสียงคุณก้อยหัวเราะเบาๆ

“หึหึ ไม่เป็นไรครับคนกันเอง  แล้วนี่กลับบ้านหรือยังครับหรือยังอยู่กรุุงเทพ”

“กำลังจะกลับครับอีกซักพักว่าจะกลับไปบ้านไปเอาของนิดหน่อยก่อน  มีเรื่องอะไรไม๊ครับ”

“ผมแค่อยากคุยด้วยเท่านั้นเอง วันนี้ผมว่างๆไม่ได้ทำงาน”

ผมยกมือดูนาฬิกาเกือบห้าโมงเย็นแล้ว  หรือว่าคืนนี้ผมจะค้างอีกซักคืน  วันนี้ไปกินข้าวกับคุณก้อยอีกซักวันแกล้งพี่ต่ายให้รอซะให้เข็ด  ยังคิดไม่ออกด้วยว่าจะเอายังไงดีไปกะคุณก้อยซื้อเวลาไปก่อนแล้วกัน

“ได้เลยครับ....แต่วันนี้ผมคงงดแอลกอฮอล์แล้วนะ  เมื่อคืนแทบแย่เลยอาเจียนซะเพลียไปเลย” :m23:

แต่ในใจผมน่ะรู้ว่าที่วันนี้เพลียๆมันเพราะอะไรกันแน่  เพราะคนที่รอผมอยู่ที่บ้านน่ะแหล่ะเล่นซะหลายรอบเลย หึหึหึ  ไม่รู้ว่าไปตายอดตายอยากมาจากไหน  แต่ผมก็เมาๆเคลิ้มๆลืมเรื่องที่โกรธไปจนหมดเลยสงสัยเป็นสัญชาติญาณของมนุษย์  คิดแล้วมันน่าอายจริงๆ

เราเลยนัดกันไปทานข้าวแถวๆบ้านผมเพราะมีร้านอาหารน่านั่งอยู่เยอะทีเดียว  เราเลือกร้านอาหารไทยบรรยากาศสบายๆ  นั่งรับลมกันด้านนอก  ผมนั่งรอซักพักคุณก้อยก็เดินส่งยิ้มเข้ามา

“หวัดดีครับ  มานานรึยัง”คุณก้อยนั่งลงข้างๆผม  :m29: ทั้งที่ฝั่งตรงข้ามก็ว่างนะคุณก้อย เมื่อวานก็อย่างนี้ทีนึงแล้ว  เป็นพวกขาดความอบอุ่นรึไงไม่รู้ 

“นั่งตรงนี้ดีกว่ามันสว่างกว่า  แล้วคุยกันก็ไม่ต้องตะโกนด้วย”
แล้วจะให้ผมบอกว่าไม่ได้!!เมิงไปนั่งอีกฝั่งกรูไม่ชอบให้คนมานั่งเบียด :angry2:  ผมก็พูดไม่ออกก็ลูกค้าอ่ะ.....ก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลย

“สั่งอาหารรึยังครับ  ทานอะไรกันดี”

ถามผมครับ  แต่คุณก้อยสั่งอาหารให้ผมหมดทุกอย่าง  แล้วก็....บริการดีทุกระดับประทับใจเหมือนเดิม  คอยตักนู่นนี่ให้จนผมชักเขิน แทบจะเอาน้ำมาป้อนที่ปาก    :m1: จนบางทีผมว่าผมต้องมีคนแอบดูแน่ๆ  ว่าไอ้หน้าหล่อสองคนนี้มานเป็นอะไรกันคนนึงอาจจะเป็นหนุ่มรักบริการเพราะบริการจริ๊ง  อีกคนอาจจะไม่มีแขนมั๊งพวก no hand  ผมเลยต้องพยายามยกมือขึ้นไว้  เหมือนบอกคุณก้อยไปด้วยว่ากรูไม่ได้เป็นไอ้ด้วนนะมือนะมี....สองข้างด้วยยังใช้งานได้อยู่  :a4:

 ฟันธงครับ.....ว่าจีบผมชัวร์ก็เอาใจซะขนาดนั้น  ถ้าผมไม่รู้คงต้องเอาที่คาดผมเขาควายมาสวมแล้ว  แล้ววันหลังคนเรียกก็ต้องตอบว่า มอออ  มอออ ไม่ต้องไปพูดภาษาคนกันล่ะ

“ผมถามคุณโอมจริงๆนะ.....ตอบผมตรงๆนะได้ไม๊”  :m21:

คุณก้อยทำหน้าจริงจังมากครับเหมือนจะชวนผมคุยเรื่องการเมือง  ซึ่งผมก็ไม่่ค่อยถนัดจะเน้นไปในทางการมุ้งมากกว่า  พอดีเพิ่งทบทวนมาเมื่อวานหลายบทเหมือนกัน หุหุหุ  พอจะปรึกษาได้เรื่องนั้น  แต่ใครจะเป็นนายกจะหน้าเหลี่ยมหน้าหมูผมก็ไม่แน่ใจ  ไม่มีความเห็นด้วย  แต่จะพูดแบบนั้นไปเค้าก็จะว่ากวนตรีน  ก็เลยอ่ะ....อยากถามอะไรก็ถามแล้วกัน
 
“ครับ...เรื่องอะไรครับถามได้หมด  ยกเว้นห้ามถามต้นทุนราคาสินค้าผมเพราะคงบอกไม่ได้ ฮ่าๆๆ”  กรวนตีนลูกค้าอีกแล้วผมลืมตัวไป  อย่ามาต่อราคาของผมนะไม่ลดให้หรอก

  ผมพยักหน้าให้คุณก้อยถามต่อ “ถามมาเลยตอบได้ตอบ”   :m13:

คุณก้อยยังคงซีเรียสอยู่ “คุณโอมมีแฟนรึยัง...."

"............" ผมอึ้งเงียบไป :o8:

"ผมเคยถามไปรึยังนะจำไม่ได้”แล้วก็ยกมือเกาหัวตัวเองทำหน้าเขินๆด้วย น่าร๊ากกกกจริงๆ :oni2:

เออตัวเองจำไม่ได้แล้วผมจะจำได้ไม๊ล่ะ ผมล่ะขำ  ตั้งแต่กลับมาทำงานอยู่ที่บ้านมีแต่คนถามแบบนี้มาตลอด  เพื่อนแม่ก็จัดงานสังสรรค์ตลอดพาลูกๆมาให้ผมสนิทสนมหลายคนตั้งแต่ 8ขวบยัน 30 กว่าๆ  มีทั้งต้องรับไหว้และยกมือไหว้  จนหลังๆผมต้องบอกแม่ว่าให้พอทีผมไม่ไหวแล้ว  ไม่อยากเลี้ยงต้อยแล้วก็ไม่อยากมีแฟนแก่กว่าด้วย 

วันนี้มาเจอคุณก้อยถามอีก ผมต้องคิดหนักว่าจะตอบยังไงดี

“มีแล้วครับ เอ๊ะหรือไม่มีดี   เอาเป็นว่าดูๆกันอยู่ดีกว่าครับ”
 แล้วก็เผลอตอบกวนๆกำกวมๆซะอีก  เพราะบางเรื่องผมไม่อยากฟันธง  มันยังลูกผีลูกคนอยู่

ผมก็ตอบให้ชีวิตสับสนพอได้เลยแต่มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆนี่  ผมไม่อยากผิดศีล 5 มุสาวาทา แต่ถ้ามาถามเมื่อวานอาจจะเป็นอีกคำตอบนึงก็ได้นะ แล้วอยู่ดีๆคุณก้อยก็ยกมือผมขึ้นมากุมไว้ เฮ้ยยย!!!ตกใจหมดไม่มีขออนุญาติกันบ้างเลย  :m30:  แต่ที่ตกใจกว่าก็คำพูดนี่
แหล่ะครับ

“แสดงว่ายังไม่มี  งั้นผมขอคบคุณโอมได้ไม๊”  :m29:
+
+
“ไม่ได้”  :angry2: คำตอบเสียงดังมากครับ  แทบจะเรียกโต๊ะอื่นที่นั่งอยู่ข้างๆมาร่วมเป็นสักขีพยานด้วย

คุณก้อยมองหน้าผม ผมรีบยกมือที่เหลืออีกข้างโบกมือปฏิเสธ ทำหน้าตาเหรอหราพร้อมส่ายหน้าให้กับคุณก้อย เปล๊า...เปล่าครับผมไม่ได้เป็นคนตอบ  ใครจะไปตอบเร็วได้ขนาดนั้น  มันต้องผ่านการกลั่นกรองของสมองแล้วประมวลผลก่อนซิ  คำถามสำคัญแบบนี้  ผมไม่ใช่หัวคอมพิวเตอร์นี่  แต่ว่าใครไม่รู้ที่ยืนอยู่ข้างหลังผมตอบแทน :o

ผมกับคุณก้อยหันหน้าไปดูข้างหลังพร้อมกันแต่คนละข้างนะครับเลยเหมือนหันหน้ามามองกันพอดี  แต่พอหันไปเห็นคนพูดก็ต้องมามองหน้ากันอยู่ดีล่ะครับ  คุณก้อยทำหน้างงๆถามผม

“ใครน่ะคุณโอม....”   :confuse:

“แฮะๆๆพี่ผมเอง....พี่อั้มครับ”   :m23: พี่อั้มส่งยิ้ม...กวน....ตรีนให้คุณก้อย   ดูเสแสร้งมากครับ
 
แล้วพี่ผมก็แกะมือคุณก้อยออกจากมือผม  จับไหล่ของเราที่ชิดกันอยู่แยกออกจากกัน  แล้วยื่นหน้ามาตรงกลาง  พูดระยะประชิดหน้า  จนผมขนลุกเหมือนในละครที่ผมมักจะสงสัยว่าใครเค้าจะพูดกันหน้าใกล้ขนาดนั้น  เกิดใครปากเหม็นคงอ๊วกแตกแย่

“คุยเรื่องไร้สาระอะไรกันอยู่  ข้าวบ้านมีทำไมไม่กลับไปกิน” o12

เหอๆๆๆพี่ผมอารมณ์ไหนว่ะ  ปรกติผมก็กินข้าวนอกบ้านประจำเวลามากรุงเทพฯ  ใครจะไปรอพี่อั้มที่กลับช้าบ้างเร็วบ้างเป็นสารณะ  แล้วก็พูดซะเสียงโหดจริงๆ  คุณก้อยยกมือไหว้อย่างจ๋อยๆครับ  ทำท่ายังกับไหว้เจ้ายกมือซะท่วมหัวเลย

“สวัสดีครับพี่อั้ม  พี่ทานด้วยกันไม๊ครับ” คุณก้อยก็ดีนะครับยังมีแก่ใจชวนพี่ผม  ผมเองซิกำลังจะเอ่ยปากไล่พี่ผมให้กลับบ้านไปก่อนพอดีเลย  นิสัยดีกว่าน้องตัวจริงของพี่อั้มอีก หึหึ

“ทานก็ได้   แต่ผมชอบนั่งข้างน้องผมนะคุณไปนั่งอีกฝั่งแล้วกัน”  :m12:

ไม่พูดอย่างเดียวครับ  ยกจานข้าว แก้วน้ำของคุณก้อยไปไว้อีกฝั่งเลย  ผมน่ะอ้าปากค้าง  แต่คุณก้อยน่ะนอกจากอ้าปากค้างแล้วยังตาค้างด้วย   แล้วก็ลุกแบบมึนๆงงๆไปนั่งอีกฝั่งนึง

 พี่อั้มเอาจานเปล่าที่วางอยู่มาที่นั่งตัวเอง  แล้วเริ่มกินครับไม่ได้สนใจผมสองคนที่มองหน้ากันแบบงงๆ  สักพักครับคงเริ่มรู้ตัวเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผมกับคุณก้อยแล้วเตือนสติผมที่แตกไปแล้วให้มารวมตัวกันใหม่ พยักเพยิดหน้าให้

“เอ้า......เจรจาการค้ากันต่อไปซิ  พี่ไม่กวนหรอก”  :o9:

ใครจะไปกินลงครับผมเลยอิ่มไปเลยทั้งที่กินไปยังไม่ถึงครึ่งกระเพาะเลย  ส่วนคุณก้อยอิ่มหรือเปล่าไม่รู้เห็นกินแต่น้ำครับจนกระทั่งกลับ เหอๆๆๆ  พี่ผมแต่ละคนสุดยอดดดดด  o13
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
 
แล้วเจอกันตอนจบคร๊าบบบบ :mc4: ซินเจียอยู่อี่ซินนี้ฮวดไช้   รวยๆกันถ้วนหน้านะ

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: civava14 ที่ 05-02-2008 20:12:26
มาอีกแระ แนวนี้อีกแระ
มาล่อให้อยากแล้วจากไป เหอๆๆ

 :m30:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 05-02-2008 20:23:07
เฮงๆๆๆๆๆๆ :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 05-02-2008 20:54:20
ลุ้นกันต่อไป
สู้สู้นะ พี่ต่ายกะโอม   :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 05-02-2008 21:56:49
จะจบแล้วเหรอ :m21: 

ตามอ่านมาตั้งนาน  อยากให้ยาวกว่านี้ โอมเล่นตัว นานๆ หน่อยจิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 05-02-2008 22:02:47
 :m4:

มีพี่ก็ดีอย่างเสียอย่าง อย่างนี้แล...................

 :m4:
 :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 05-02-2008 22:17:09
โอ้ น่ารักทั้งครอบครัวจิง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ~•SAkurAIro•~ ที่ 05-02-2008 22:37:58

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก  :oni1: ตามอ่านทันแล้วววว  o7
หนุกมั่กเลยคับบ  พี่ต่ายน่ารัดมั่กๆ อ่า :m1: :o8: :oni1:
อ่านช่วงที่พี่ต่ายทิ้งโอมไปนี่ให้ความรุ้สึกเดียวกะเรื่อง sky of love เลย (รึเปล่า)(เพราะยังไม่เคยดุแต่น่าจะแนวๆ นี้  :m17:) ตอนนี้กำลังอยากดุเรื่องนี้เลย  :oni1:

พี่อั้มมาได้ไงเนี่ยย ถุกจังหวะมั่กมายอ่ะ  :m4:

พี่ต่ายน่ารักกกก  :m1: :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 05-02-2008 23:00:34
ตอนแรกนึกว่าที่ตะโกนบอกไปจะเป็นพี่ต่ายซะอีกครับ  :m23:

แต่พี่อั้มนี่ก็ห่วงน้องดีนะ...เอ๋หรือว่าเป็นบอดี้การ์ดติดตามโอมแทนพี่ต่าย  :m12:

ปลล. ตรุษจีนแล้วขอให้ได้อั่งเปากันเยอะๆนะครับ เฮงๆกันทุกคน  :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 05-02-2008 23:23:54
พี่อั้ม o7

ใจมาก o13

ได้ใจสุดๆ :haun5:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 05-02-2008 23:43:28
 :impress: :impress: :impress:

ตอนจบห้ามมีหักดิบเน้อออ

จะฆ่าคนแต่งก็คราวนี้เละครับ

แต่ถ้าไม่อยากโดนฆ่าหั่นศพละก็

แต่แบบ ให้พี่ต่ายกับโอม ได้ รักกัน อะครับ

ต้องจบต้องแบบนี้เท่านั้นนะครับ

:impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 05-02-2008 23:44:12
 :mc4: มีพี่ที่ดีมาก นะโอม  (แต่คุณต่ายจ่ายเท่าไหร่  :m14:)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 05-02-2008 23:50:36
555 พี่อั้ม มาเอง แอบสะใจเล็กๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 06-02-2008 00:06:35
เจ๋งไปเลยพี่อั้ม     :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 06-02-2008 00:17:28
เอิ๊กๆ มีมารมาขัดคอ ชอบๆ :m4: แกล้งคนไม่ขึ้นจริงๆนะโอมเอ๋ย

พี่อั้มนี่ดูท่าจะเป็นประเภทปากว่ามือถึง แล้วงี้น้องแตของพี่ต่ายจะไม่เสร็จเฮียอั้มเหรอเนี่ย

แต่ร่วมหอลงโลงกันก็ดีนะ จะได้ดองกันทั้งตระกูล เอิ๊กๆ :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 06-02-2008 02:04:20
สะดุ้งตื่นมาอ่านนิยายพี่ฟาง(หลังจากสติดับวูปไปเมื่อหัวค่ำ)

พี่อั้มนี่ใช้ได้ไม้กัน...ให้พี่ต่ายได้ดีแท้  :m4: :m4:

ตอนแรกนึกว่าพี่ต่าย  :m20: :m20:

พรุ่งนี้รอตอนต่อไปนะพี่ฟาง  :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 06-02-2008 02:34:19
 o13 พี่อัี้มได้ใจมากเลย  :oni2: :oni2: รออ่านต่อนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 06-02-2008 08:39:41
ตอนแรกก็นึกว่าพี่ต่ายเหมือนกัน

แต่ ... โอมทำแบบนี้ก็อันตรายนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 06-02-2008 09:39:59
อยากให้โอมงอนให้ พี่ต่ายง้อนะ ..
แต่ไม่อยากให้ เอาตัวไปพัวพันคนอื่นเลย..
ดีใจที่พี่อั้ม มา ...55555 ....
 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 06-02-2008 09:53:30
โอมไม่ระวังตัวอีกแล้วอะ

เดวได้เป็นเรื่องแน่

ดีนะพี่อั้มมาเนี่ย

หึหึ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 06-02-2008 10:05:59
ดีจังมีพี่ชายแบบนี้หายห่วง :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 06-02-2008 10:21:22
 :a4:พี่อั้มน่ารักจัง หวงน้องมากซะด้วย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 06-02-2008 12:24:02
พี่อั้มสุดยอดดดด   o13

มาได้จังหวะมากก   ตอนแรกนึกว่าพี่ต่ายซะอัก เหอๆๆ

แต่ดีแล้วที่พี่ต่ายไม่มาเห็น  สงสารง่ะ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 06-02-2008 12:24:55
ถึงจะจบแล้ว ก็มีตอนพิเศษมาบ้างน้า :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 06-02-2008 13:22:18
แง แง

จาจบแล้ว

ไม่อยากให้จบอ่ะ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: viva ที่ 06-02-2008 14:22:58
นานๆมาตามเก็บทีไม่ว่ากันนะพี่ฟาง  :m13:

ชอบพี่อั้มตอนนี้จัง กันท่าได้ใจ

ไหว้เจ้าเสร็จอย่าลืมมาต่อด้วยนะพี่  :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 06-02-2008 15:11:15
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 06-02-2008 19:22:41
เหอะ งานนี้ไอ่พี่กระต่ายน่าจะมาเห็น จะได้กระอักเลือดซะบ้าง  :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 06-02-2008 21:18:17
   :m23:เพิ่งรู้ว่าตอนสุดท้ายมันเขียนยากจริงๆ เหอๆๆๆ
ทั้งดีใจและเสียใจในเวลาเดียวกันที่จบแล้ว :เฮ้อ:
อ่านก่อนเนอะเด๋วมาคุยใหม่  :m21:
+++++++++++++++++++++++++++++++++
ตอนที่ 66

ทานข้าวเสร็จพี่ผมก็ส่งคุณก้อยกลับบ้านเลยครับ  เดินไปส่งถึงรถโบกมือลาด้วย  :bye2: จนผมชักสงสารคุณก้อย  ก็พี่ผมน่ะกวนประสาทใช่ย่อยเลย   พอรถคุณก้อยลับตาไป  พี่อั้มก็หันมามองหน้าผมทำตาหรี่ๆมองผมเหมือนจะจับผิดผม  แล้วถามผมด้วยเสียงแมวขู่ฟ่อๆเลยครับ

“ทำไมมาอยู่นี่ล่ะ  ไม่กลับบ้าน”  o12 ผมแกล้งมารยาทำหน้าจ๋อย พี่อั้มเลยเสียงอ่อนลง
 
“พอดีเค้าเพิ่งกลับมาจากเขาใหญ่นะเนี่ย  ผ่านหน้าร้านเห็นตัวเองนั่งอยู่น่ะเค้าเลยแวะเข้ามา”

เคยมีคนบอกว่าคนจะทำอะไรไม่ดีนี่ยังไงก็ปิดไม่มิดเห็นท่าจะจริงแฮะ  :m21:  ผมคงจะโชคไม่ดีเอาซะงั้นวันนี้  พี่อั้มตาดีจริงๆหูตาเป็นสับปะรด  ขับรถผ่านแว๊บเดียวยังเห็นได้

“มันเพลียๆนะพี่อั้มเค้าเลยกะค้างอีกคืนแล้วค่อยกลับพรุ่งนี้เช้า   พอดีคุณก้อยลูกค้าเค้าชวนทานข้าวก็เลยโอเคกำลังเบื่อๆพอดี”  :impress:

ต้องพยายามทำเสียงเหนื่อยๆเพลียๆเข้าไว้จะได้น่าสงสาร  เอาตุ๊กตาทองมาให้ผมด้วยตัวนึงน่ะ อิอิ  ตอแหลไม่เบา  :m4:

“แล้วรถเราล่ะไปไหนโอม”พี่อั้มถามผมเมื่อผมเดินตามพี่อั้มมาที่รถ

“จอดที่บ้าน  คุณก้อยไปรับที่บ้านไง”  ก็ร้านอาหารมันใกล้บ้านเลยไม่รู้จะเอารถมาทำไมเยอะแยะ  ผมก็เลยให้คุณก้อยไปรับ  ก็เท่านั้นเองครับไม่มีอะไรเป็นพิเศษ  นอกจากว่า.......ตอนรัดเข็มขัดนิรภัย  คุณก้อยเป็นคนคาดให้ผมอีกแล้วว แก้มแทบจะชนแก้มเลยครับ หุหุหุ  แต่ก็แค่นั้นจริงๆครับไม่มีอะไรกุ๊กกิ๊กกันเลย  :o8:

พี่อั้มเลิกสงสัยเรื่องรถผม  แต่พอผมเข้าไปนั่งในรถเรียบร้อย พี่อั้มก็หันมาจ้องหน้าผมเปลี่ยนสีหน้าทำจริงจัง “โอมจะเอายังไงกันแน่เรื่องต่าย  เมื่อวานก็คืนดีกันแล้วไม่ใช่เหรอ” ทำไมอยู่ดีๆก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา  :m28:

ผมค่อยๆเหลือมมองหน้าพี่อั้มที่มองกลับมาแต่พี่อั้มยิ้มแปลกๆอ่า o18  เริ่มรู้สึกอายหน้าแดง  ได้ยินอะไรไปบ้างก็ไม่รู้  ทำไมผมจะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเราปล่อยใจปล่อยเสียงปล่อยนู่นนี่นั่นกันไปถึงไหนๆ  ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างเล้ย  :-[ ผมเลยตอบพี่อั้มไม่ถูกเลยแกล้งเบือนหน้าออกไปมองนอกหน้าต่าง อืม...เด็กขายพวงมาลัยนี่ก็หน้าตาดีนะ หุหุหุ

“อ้าว....ทำไม่ไม่ตอบ แล้วเนี่ยออกมากับคนอื่นแบบนี้  ถ้าต่ายรู้เข้าจะทำยังไงกัน”

สะดุ้งเลยครับกำลังคิดอะไรเพลินๆ  ผมชักอารมณ์เสีย  พี่อั้มทำไมต้องมาดุผมด้วยในเมื่อมันก็แค่การกินข้าวเท่านั้นเอง  แล้วถึงแม้เค้าจะจีบผมจริง  ผมก็ไม่ได้ไปตกลงอะไรกับเค้าด้วยนี่ ผมเริ่มหงุดหงิดมากขึ้น  ผมทำอะไรก็ผิดหมด   o20 พี่ต่ายทำอะไรก็ถูกหมดมีแต่คนเข้าข้าง ใครเป็นน้องเป็นลูกตัวเองกันแน่เนี่ย คนบ้านผมเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า  :serius2:

“ช่าง....ไม่สนใจ.... รู้ก็รู้....ไม่แคร์” :m19: ผมก็เลยตอบประชดไปเลย ทำท่ายกไหล่ประกอบ สะใจไม๊ล่ะ  อยากจะมาเข้าข้างกันดีนัก  พี่อั้มส่ายหัวแล้วก็มาเขกหัวผมทีนึง  ผมจะเอามือป้องกันก็ไม่ทัน

“มาเขกหัวเค้าทำไมเล่า...เจ็บนะ”ผมขมวดคิ้วหน้างอ  :o12: พี่อั้มส่ายหัวแล้วก็เริ่มบ่น

“ตอนนั้นก็ทำหน้าเศร้าเป็นหมาป่วย  พอเค้ากลับมาก็ยังมาทำลีลา ทำเป็นท่ามากอีก  เอาไงกันแน่ฮึเราน่ะ  โตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ  เจ้าแง่แสนงอนไม่เข้าเรื่อง  ไม่ได้เล่นมิวสิควีดีโอนะ  นี่มันชีวิตจริง”

บลาๆๆๆๆ บ่นไปตลอดทางครับจนมาถึงบ้าน  ผมมาถึงบ้านเหมือนมีเสียงหึ่งๆของพี่อั้มแว่วๆอยู่ในหู  บ่นจนผมคิดว่าเค้าสวดมนต์ไล่ผีหรือเปล่า   แน่จริงก็เอาน้ำมนต์มาสาดกันให้เปียกโชกไปเลยให้หมดเรื่องดิ  เค้าไม่ได้ถูกผีสิงซักหน่อยน่ะ
 
 รถยังไม่ทันเข้าจอดดี  ผมก็ชะโงกมองหารถพี่ต่ายว่ามีจอดแถวๆบ้านไม๊ก็ไม่มี   ไหนว่าจะรอแล้วนี่  หายไปไหน  ไม่มีจอดอยู่เลยครับทั้งหน้าบ้านในบ้าน   :seng2ped: เซ็งจริงๆเลยหมดอารมณ์ต่อล้อต่อเถียงกับพี่อั้ม  เดินกระแทกเท้าขึ้นบ้านไปอาบน้ำ   ก่อนไปอาบน้ำผมเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ไม่มีมิสคอลหรือข้อความใดๆฝากไว้เลย  แค่นี้ก็ถอดใจแล้วรึไง มิน่าแข่งกับเต่ายังแพ้ได้ ไอ้พี่ต่ายบร้าาาาา  o9

ไม่ง้อก็อย่าง้อว่ะ  ไม่อยากจะสนใจแล้ว  อาบน้ำไปดูสภาพตัวเองแล้วก็อายอีก  รอบตัวเป็นจ้ำไปหมด  ฝีมือไอ้พี่ต่ายคนเดียวเลย  วันนี้อากาศก็ร้อนต้องทำเป็นไฮโซใส่เสื้อแขนยาวคอปิด  เพื่อนถามก็ต้องบอกว่าไม่ค่อยสบาย  ผมล่ะสมเพชตัวเองจริงๆเลย

อาบน้ำเสร็จผมก็เพลียมากเข้านอนเลย  กะว่าพรุ่งนี้จะออกไปแต่เช้ากะว่าให้ถึงบ้านไม่เกิน 8.30 น. เพราะมีนัดกับลูกค้าไว้  แต่นอนไปก็ินอนไม่หลับคิดถึงแต่พี่ต่าย  ว่าทำไมบอกว่าจะรอแต่ก็ไม่มา  หรือว่าพี่ต่ายเบื่อที่จะง้อผมแล้ว  เลยลุกมานั่งที่โต๊ะอยากเขียนระบายอะไรออกมาก็เขียนไม่ออก ความคิดมันฟุ้งซ่านกระจัดกระเจิง ผมเลยเดินลงมาข้างล่าง เอามาม่ามาต้มกินเพราะกินข้าวไม่อิ่มเลย   เจอพี่อั้มแย่งกินหมด

ระหว่างนั่งรอมาม่าบวม  ผมก็นั่งรอคิดไปเรื่อยเปื่อยคิดแล้วก็ขำตัวเอง  คนที่กำลังมีความรักกลายเป็นคนไร้สาระได้ตลอด  เพราะเราจะมีแต่เรื่องของเค้าอยู่ในหัวตลอดเวลา  ไม่ว่าเราจะกำลังทำอะไรอยู่ เข้าส้วม แปรงฟัน กินข้าว ขับรถ ก่อนนอน ก่อนอาหาร หลังอาหาร  ระหว่างอาหาร
  
ความรักมันตามติดคนเราได้ขนาดนั้นเลยเหรอ มิน่าเค้าถึงเรียกกันว่ามหัศจรรย์แห่งรัก  ถ้าเรามาจดทำสถิติเล่นๆดูช่วงที่รักกันสถิติความคิดถึงคงพุ่งสูงปรี๊ด  พอรักไปซักพักสถิติคงลดไปเรื่อยๆ   แล้วมันจะมีวันหมดไม๊นะ  วันที่เราจะหยุดคิดถึงเค้าหลังจากรักกันไปนานๆ  ผมก็ยังสงสัยคงต้องใช้เวลาทั้งชีวิตถึงจะตอบได้มั๊ง

พอมาม่าบวมได้ที่ผมก็ไปเปิดทีวีดูกินไปดูไป  ก็ไม่รู้จะดูอะไรดีมีแต่ละครน่าเบื่อ  กรี๊ดกันได้ทุกเรื่อง   ระหว่างคิดอะไรเพลินๆเหมือนได้ยินเสียงแกรกๆๆๆ  ผมเลิ่กลั่กหันซ้ายหันขวามันมืดมากเลยครับเพราะผมประหยัดไฟ มองไปทางไหนก็มีแต่เงาตะคุ่มๆ  ได้ยินเสียงหมาหอนรับส่งกันไกลๆ  :try2:

ผมมีนิสัยอย่างนึงที่มักโดนบ่นเสมอๆ  ก็เวลาเดินลงมาข้างล่างผมไม่ชอบเปิดไฟครับ  ใช้วิธียืนให้สายตาชินความมืดพักนึงสายตาเราจะปรับให้พอมองเห็นทางได้ลางๆ  ก่อนที่จะเริ่มคลำทางเอา  แบบว่าแอบงกนิดส์นึงช่วยลดภาวะโลกร้อนด้วยไงครับ   ส่วนไฟผมก็เปิดเฉพาะตรงครัว  ตอนดูทีวีก็เปิดแต่ทีวีไม่ได้เปิดไฟ   ช่วยชาติน้ำมันมันก็แพงขึ้นทุกวันๆ ก็นะปิดไปดวงนึงหนึ่งนาทีก็ช่วยชาติได้แล้ว

  ผมเห็นท่าไม่ดีบรรยากาศชักส่อไปในทางหนังผีครับ   ผมว่ารีบๆกินรีบๆไปดีกว่า  รีบจนสำลักพริกแสบคอจนน้ำตาไหล ต้องวิ่งไปกินน้ำ  นึกในใจทำไมวันนี้มันเงียบขนาดนี้น่ะ  แล้วก็ได้ยินเสียงกุกๆกักๆแว่วๆมาอีก ผมรีบลุกขึ้นทันที “ผีป่าวว่ะ”  :sad3:

 อากาศยิ่งเย็นๆด้วยขนลุกจนต้องกอดตัวเองไว้  รีบเดินขึ้นบนบ้านแปรงฟันเสร็จก็วิ่งเข้าห้องนอนกระโดดขึ้นเตียงเลย แล้วก็มีเสียงดัง “โอ๊ย” ขึ้นมาครับจากบนเตียง

“เฮ้ยยยย”  o22 ผมสะดุ้งโหยงร้องแล้วกระเด้งตัวเองออกมาจากเตียงออกมายืนสังเกตการณ์อยู่ห่างๆ

คนที่อยู่ในผ้าห่มค่อยๆเปิดผ้าออกมาครับ :impress:  ทำหน้าตาให้น่าสงสารเอามือกุมท้องสงสัยเมื่อกี้ตอนผมกระโดดลงไปที่เตียง  ผมเอาข้อศอกลงไปด้วย  สมน้ำหน้าอยากมาซ่อนทำไม ดีไม่กระโดดกระแทกเตียงแบบนักมวยปล้ำกระแทกพุงคู่ต่อสู้

พี่ต่ายชอบทำตัวเป็นกระต่ายผีน่ะครับ  แล้วชอบมาโผล่แบบนี้หลายครั้งแล้วด้วย  คราวนี้
ก็มาทำให้ผมกลัวผีด้วย ผมยืนหน้างออยู่....เงียบ พี่ต่ายก็ไม่พูดอะไรแต่ค่อยๆยื่นนิ้วก้อย
ให้ผมทำตากระพริบถี่ๆ ปริบๆหน้าตาน่าเอ็นดู  :give2:ตอนที่พี่ต่ายไม่ใส่แว่นหน้าใสปิ๊งครับ

ผมขำจะตายที่พี่ต่ายมามุกเด็กๆขอคืนดี  อยากจะหัวเราะแต่ต้องลงยันต์หน้าเหี้ยม
ไว้ก่อนอยากดูลีลาพี่ต่ายต่อไป   ผมเดินเข้าไปหาพี่ต่ายเอามือไปจับไอ้มือที่ยื่นนิ้วก้อย
แหล่ะครับ  แต่ไม่ได้ไปเกี่ยวก้อยนะ  เกมเด็กๆผมไม่เล่น หุหุ เล่นแต่เกมผู้ใหญ่  :interest: ผมไปดึงพี่ต่ายลงมาจากเตียง

 “บ้านมีไม่ไปนอนมาอยู่ที่นี่ได้ไงกัน”  :angry2:โคตรดุเลยผม  ดุไปป่าวหว่า เดี๋ยวเค้าพาไปฉีดยากันหมาบ้าทำไง

พี่ต่ายตัวหนักมากครับลากไม่ค่อยไหว  ผมต้องเอาสองมือทั้งดึงทั้งลากลงมา แล้วก็นะพี่ต่ายก็ดื้อดึง “พี่ขอโทษษษษโอม.....” :sad2:ทำเสียงอ้อนๆทำหน้าเศร้าๆครับ  น่าสงสารมากเลยครับ  แต่เทียบกันแล้วน่าหมั่นไส้มากกว่า เจ้าแผนการดีนัก  แถมผู้ช่วยก็เยอะเหลือเกิน  ไม่รู้เอาอะไรไปซื้อใจเค้ามาได้

“ลงมาดีๆเลยพี่ต่ายผมเหนื่อยแล้วนะ  เล่นอะไรเป็นเด็กๆ”ผมบ่นไปลากไปเริ่มเหงื่อตก :m29:  จะหมดแรงมาม่าแล้วนะ  พี่ต่ายทำไมเล่นด้วยยังงี้ล่ะ  เข้าใจเลยวันก่อนที่
พี่ต่ายลากผมมามันลำบากขนาดไหน  หึหึหึที่จริงคืนนั้นผมรู้ตัวหน่อยๆ แต่แกล้งครับคืน
นั้นไม่อยากเดินมันง่วง  แต่วันนั้นผมไม่ได้ดิ้นไปดิ้นมาแบบนี้นี่นา

ทุลักทุเลน่าดูแต่พี่ต่ายก็โดนผมลากออกมานอกห้องจนได้ครับ  พอผมจะปล่อยมือพี่ต่าย
  พี่ต่ายกลับไม่ยอมปล่อยผม  มือพี่ต่ายก็จับมือผมไว้อย่างนั้น  พี่ต่ายเงยหน้ามองผมตาละห้อยเหมือนอีเย็นที่มันอ้อนวอนกับท่านเจ้าคุณในเรื่องนางทาส  :m17: ที่ผมเคยดูตอนเด็กๆ ฮ่าๆๆๆๆ  ผมจะตะบะแตกแล้ว  ไม่คิดมาก่อนว่าพี่ต่ายจะใช้ไม้นี้

“โอมครับพี่นอนด้วยคนนะ...นะ...นะโอม” เสียงพี่ต่ายออดอ้อนมากเลยครับ

ผมจะงอนก็งอนไม่ออก จะหัวเราะก็ไม่ได้  จะร้องไห้ก็ไม่เข้ากันกับสถานการณ์  จะเอาไงดีผมเลยค่อยๆแกะนิ้วทีละนิ้วของพี่ต่ายออกจากมือ ต้องทำใจแข็งเข้าไว้ แล้วก็พูดเสียงเข้มไป

“ไม่ได้....พี่กลับบ้านพี่ไป  ไม่งั้นก็ลงไปนอนโซฟาข้างล่างนู่น  มาทำไมดึกๆดื่นๆบ้านคนอื่นเค้า ไม่เกรงใจกันบ้างเลย”  :a14:

พูดไปแล้วก็นะชักอินเว้ย  แต่ไม่รู้ว่ามันส์เกินไปรึเปล่าเพราะพี่ต่ายหน้าสลด  ไม่พูดอะไรต่อเลย  เดินคอตกลงบันไดไปไฟไม่เปิด  เพราะผมเคยอบรมให้ช่วยประหยัดพลังงานกันไปแล้วสมัยอยู่ด้วยกัน  แป๊ปเดียวครับผมกำลังจะกลับเข้าห้องตัวเอง  ได้ยินเสียงดังตุ๊บๆๆๆ โครมมมม  มาพร้อมกับเสียง “โอ๊ยยย....”

อ้าวซวยแล้วซิเสียงดังแบบนี้   โง่ๆแบบผมก็รู้ได้โดยสัญชาติญาณ   พี่ต่ายตกบันไดแน่เลย  เป็นไงบ้างก็ไม่รู้  ผมเลยต้องเปิดไฟดูก็เป็นจริงอย่างที่คาดครับ  พอมองลงไปพี่ต่ายนอนแอ้งแม้งอยู่บนพื้น  ผมแทบจะกระโดดลงไปดูแต่ติดว่าผมยังพอมีสติว่ากรูไม่ใช่ซุปเปอร์แมน  ก็เลยแค่รีบวิ่งลงไปดูอย่างเดียว

“พี่ต่ายเป็นไงบ้างพี่  เป็นไรมากไม๊”ผมทรุดตัวลงไปดูที่ขาของพี่ต่าย มันแดงๆน่ะครับ  ไม่รู้ว่าตกลงมากี่ขั้นกันซิ แข้งขาหักไปรึเปล่านะ โตแล้วทำไมซุ่มซ่ามได้นะ

“โอ๊ยๆๆ พี่เจ็บขาน่ะโอม”พี่ต่ายร้องเบาๆ  ทำหน้าตาบูดเบี้ยวคงจะเจ็บจริงๆน่ะครับ

“พี่ต่ายไปนั่งที่โซฟาก่อนนะเดี๋ยวผมหายามาทาให้”  ผมนึกในใจลำบากผมอีกละต้องเป็นบุรุษพยาบาลจำเป็น  คนจะหลับจะนอนก็ไม่ได้นอน

ผมต้องไปช่วยประคองพี่ต่ายให้ลุกขึ้นพี่เค้าเจ็บแบบนี้จะไปตั้งแง่อะไรกันครับ  ผมสอดแขนเข้าไปโอบที่เอวพี่ต่าย   พี่ต่ายเองก็โอบไหล่ผมผมเลยจับมือที่โอบไหล่ไว้ด้วย  พี่่ต่ายค่อยๆเอาขาอีกข้างยันตัวเองให้ลุกขึ้น

 แต่อาจจะเป็นเพราะพี่ต่ายตัวใหญ่น้ำหนักทั้งหมดต้องรับไว้ที่ขาข้างเดียว แล้วขาข้างที่เจ็บก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย   ผมก็ประคองไม่ค่อยเป็นเก้ๆกังๆ  แล้วมันเสียหลักยังไงไม่รู้ กลายเป็นว่าพี่ต่ายรั้งตัวผมล้มลงไป ผมร้องได้แค่ “โอ๊ะ...” เท่านั้นเองครับ

แล้วไอ้ผมก็แข้งขาไม่มีแรงสงสัยเป็นเพราะเมื่อคืนรึเปล่าก็ไม่รู้ที่ทำให้ยังเข่าอ่อนอยู่ หึหึหึ  คราวนี้เลยล้มลงไปนอนไปทั้งคู่ครับ  ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆสาบานได้  แต่พี่ต่ายผมไม่รู้ว่าแกล้งรึเปล่าซิ  ดูไม่เห็นตกใจอะไรเลยที่ล้มลงไป  คิดว่าซ้อมล้มตอนเล่นยูโดรึไงไม่รู้

สภาพเราตอนนี้เหมือนเปลี่ยนกิจกรรมมาจัดนอกสถานที่น่ะครับจากห้องนอนมาเป็นหน้า
บันได  น่าอับอายเป็นที่สุด  :o8: ผมนอนอยู่บนอกพี่ต่ายที่โอบผมอยู่  น้องชายเราก็จะเอ๋กันพอดี คงจะสวัสดีกันไปเรียบร้อยแล้วล่ะ
 
 ผมเงยหน้ามองพี่ต่ายว่าเป็นอะไรรึเปล่า แต่คนเจ็บยิ้มกริ่มทั้งปากทั้งตาเลยครับ :kikkik: หึหึหึ เอาอีกแล้วครับเจอแผนอีกแล้วมั๊งเนี่ย   พี่ต่ายนะพี่ต่ายยยย....ไอ้คนเจ้าเล่ห์....  ผมเลยจะลุกขึ้นแต่อ้อมแขนที่รัดผมหลวมๆมันแ่น่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ครับ  กว่าจะรู้ตัวก็โดนกอดเป็นงูรัดไปแล้วก็แก้ไม่ทัน   ผมเอามือพยายามดันตัวพี่ต่ายออกจะลุกขึ้น

“พี่ต่ายปล่อยนะ....ให้ผมนอนทับอยู่แบบนี้ไม่เจ็บหรือไงกันนะ” พี่ต่ายส่ายหัวยิ้มเจ้าเล่ห์  :interest:

“ให้โอมทับตลอดชีวิตก็ไม่หนัก” แล้วทำตากรุ้มกริ่มใส่ผม o18

“ ตอนพี่นอนทับโอมๆยังไม่เคยบ่นเลย แล้วพี่จะไปบ่นโอมได้ไงกัน”

เจอมุกนี้เข้าไปหน้าด้านๆแบบผมก็อายสุดๆครับ  หน้าแดงร้อนผ่าวไปหมด  :impress2: ไปต่อไม่ถูกเลย  ได้แต่นอนนิ่งๆอยู่ให้พี่ต่ายกอด ฟังเสียงหัวใจของพี่ต่ายที่เต้นแรงเหมือนกัน

  ความเงียบเข้าครอบคลุมบรรยากาศในห้องนั้นไปชั่วขณะ  เสียงพี่ต่ายพูดมาเบาๆเหมือนเสียงเพลงที่กำลังค่อยๆซึมซาบเข้าไปในใจผม

“พี่รู้ว่าพี่ทำผิดต่อโอมที่ทิ้งโอมไปโดยไม่ได้บอกเหตุผล   แต่พี่รู้ว่าถึงแม้พี่ไม่อยู่โอมก็จะถูกโอบอุ้มด้วยคนที่รักโอม.....พี่เลยวางใจ”พี่ต่ายลูบหัวผมเบาๆ  มือที่โอบผมอยู่ก็ลูบแขนผมเบาๆ

“พี่คงเป็นคนเห็นแก่ตัวที่ไม่มาลาโอมตรงๆ  เพราะพี่ทนความเจ็บปวดที่ต้องทิ้งคนที่พี่รักไปไม่ได้  พี่ต้องขอโทษโอมนะ”

ผมน้ำตาไหลอีกครั้งเมื่อย้อนคิดไปถึงตอนที่เราจากกัน  o7 พี่ต่ายยังคงพูดต่อไปเรื่อยๆ
“ต่อไปเราจะไม่จากกันแล้วนะโอม  เราจะอยู่ด้วยกัน  เราไม่ต้องตอบคำถามใครๆอีกแล้วว่าเรารักกันจริงหรือเปล่า”ผมได้แต่ถอนหายใจเมื่อได้ฟัง

“พี่รู้แล้วก็มั่นใจ  ว่าโอมก็รักพี่.....ใช่ไม๊  ตอบให้พี่ชื่นใจอีกที”
ผมค่อยๆพยักหน้าหงึกๆ ไม่อยากพูดเพราะพูดไม่ออก  :m15: ความตั้งใจที่จะงอนมันหายไปแล้ว  ตอนนี้มันเข้าโหมดซึ้งครับ

 พี่ต่ายคงเริ่มรู้สึกว่าผมร้องไห้เพราะเสื้อพี่ต่ายเริ่มชุ่มไปด้วยน้ำตาของผม พี่ต่ายก้มหน้าลงมามองหน้าผม พี่ต่ายกอดผมแน่นขึ้นจนผมเจ็บไปหมด

“โอมร้องไห้ทำไมครับ  ต่อไปนี้ไม่ร้องแล้วนะ  พี่ขอให้เป็นครั้งสุดท้ายที่โอมจะร้องไห้เรื่องพี่  ถึงพี่ตายก็ไม่ต้องร้อง”  ผมเลยหน้ามองพี่ต่ายบ้าง  สีหน้าพี่ต่ายดูจริงจัง แต่ผมไม่ชอบเลย

“พี่พูดอย่างนี้ทำไม  ผมไม่ชอบนะ  พี่ห้ามพูดแบบนี้อีก”ผมขมวดคิ้ว แล้วก็ทุบอกพี่ต่ายเบาๆ  พี่ต่ายคว้ากำมือของผมไปแล้วจูบที่มือผม

“พี่คงทนไม่ได้ถ้าโอมจะเสียใจอีก”พี่ต่ายมองหน้าผมยิ้มๆ  
“พี่จะไม่พูดแบบนั้นแล้ว  แต่โอมก็ต้องหยุดร้องด้วยนะครับ” ผมทำหน้างอกัดปากพูดไปก็ทั้งรักทั้งแค้น
 
“ก็พี่ชอบวางแผน  ชอบแกล้งผม  เนี่ยลงทุนนะแกล้งทำเป็นตกบันไดอีก  มันน่าไม๊เนี่ย” :m16:

ผมไม่พูดอย่างเดียวครับ วันนี้ผมมาแนวโหดครับ  ผมเอาส้นเท้ากระแทกไปที่ข้อเท้าที่พี่ต่ายแกล้งเจ็บ  กะว่าให้เจ็บตัวซะบ้างพ่อคนแผนสูง  แต่ว่า...พี่ต่ายร้องเสียงหลงเลยครับ

“โอ๊ย.....พี่ไม่ได้แกล้งนะโอม....ตกจริงๆ  ดูซิมันบวมแล้วเห็นไม๊”

อ้าวตายอ่า ผมชะโงกดูก็จริงตามที่พี่ต่ายว่าครับ  ตอนนี้มันบวมๆกว่าเดิมแล้วด้วย  ซวยเลย....เล่นซะจนเกินไปไม่ได้ดูตามาตาเรือ  ใครจะไปรู้ว่าจะซุ่มซ่ามตกลงมาจริงๆ  เห็นปรกติก็ระมัดระวังตัวดีออก  เห็นบวมขนาดนั้นผมชักเป็นห่วง

“พี่ไปหาหมอดีกว่าเนอะลุกเหอะ”

ผมจะลุกขึ้นแต่พี่ต่ายก็ยังรั้งตัวผมไว้อยู่ครับ แต่คลายอ้อมกอดนิดหน่อยแล้วค่อยๆจับประคองตัวผมให้มาอยู่ด้านบนตัวพี่ต่ายตอนนี้หน้าเราตรงกัน  ตัวผมนอนทับพี่ต่ายทั้งตัวแล้วครับ

 พี่ต่ายมองหน้าผมด้วยสายตาอ่อนหวานแล้วจูบปากผมเบาๆ  ผมมองปากพี่ต่ายมันเผยอเย้ายวนใจผมมากครับ  คราวนี้เป็นผมที่ทนไม่ไหวจูบปากพี่ต่ายแทน  ผมเริ่มกลายเป็นฝ่ายรุกไปแล้ว ผมดูดปากพี่ต่าย  เอาลิ้นไปแตะลิ้นยั่วเย้า  จนพี่ต่ายต้องเป็นฝ่ายจัดการผมแทน มือของพี่ต่ายเริ่มลูบไล้ไปข้างในเสื้อผม  อีกมือนึงก็สอดเข้าไปในกางเกงผมบีบก้นผมเบาๆ

น้องชายของเราเสียดสีกันไปมาจนเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว  ผมเองโดนพี่ต่ายจูบที่ซอกคอ ไล่ไปที่ติ่งหู  ปากพี่ต่ายแตะไปตรงไหนก็ร้อนไปหมด  พี่ต่ายจูบที่คอผมแล้วทำท่าจะถอดเสื้อผมออก  กางเกงผมมันไปครึ่งก้นแล้วครับ อย่างที่รู้ว่ายางยืดมันเสื่อม  เหมาะด้วยประการทั้งปวงสำหรับกิจกรรมเยี่ยงนี้ หึหึหึ :laugh3:

“อื้อพี่...ไม่อาวววว...ไม่แล้ว...ลุกเหอะพี่  พี่ไม่เจ็บขาเหรออออ...”

 ผมพูดแทบไม่เป็นภาษาใจมันสั่นปากมันสั่นไปหมด  ก็พี่ต่ายอยู่ไม่สุขเลยครับทำอะไรกับตัวผมไม่รู้  ผมทำอะไรไม่ถนัดได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่บนตัวพี่ต่าย  พี่ต่ายดึงกางเกงผมจะหลุดแล้วครับ  ผมเองก็ทานพี่ต่ายไม่ไหวแล้วววว.....

“มันเจ็บก็แค่ข้อเท้า  ห่างไกลกันเยอะน่าโอมมมม......อือออ....ส่วนอื่นๆไม่มีปัญหา”
ดูพี่ต่ายของผมครับหื่นเกินห้ามใจจริงๆ  พี่ต่ายพูดไปแต่มือไม่หยุดครับพยายามถอดตลอด

“อาาาา....อืมมมม”พี่ต่ายเองก็ครางเบาๆ  แล้วก็มีเสียงครางอีกเสียงแทรกเข้ามาครับ :confuse:

“อื๋ออ๋าอื๋ออ๋าแอร๊ยยย.......ไอ้ต่าย....ห้องมีนะมรึงประเจิดประเจ้อ....เข้าห้องไป  กรูไม่อยากซื้อตั่วมาดูรอบUncut นะมรึง   ไปเล่นกันในห้องไป    กูฟังซาวน์แทรคอย่างเดียวพอ  ไม่อยากเป็นตากุ้งยิงเว้ย.....ไอ้ห่ากรูได้เสียงอะไรครางๆนึกว่าขโมยเข้าบ้าน  อุตส่าห์ตื่นมาดูกลายเป็นหนังกลางแปลงไปซะได้” แล้วพี่อั้มก็เดินบ่นบลาๆๆๆๆเข้าห้องไปครับ

แต่ผมน่ะอายม๊ากกกก  :-[เหมือนกับตัวเองแอบดูหนังโป๊แล้วแม่จับได้ตอนมัธยม แต่คราวนี้ดันมาเล่นเป็นตัวเอกซะงั้น หันมามองหน้าพี่ต่ายก็หน้าแดงเหมือนกัน  แล้วเราก็หัวเราะให้กันเสียงดังเลยครับผมลงไปนอนข้างๆพี่ต่ายแล้วก็หัวเราะกันสองคน  :laugh: :laugh:เสียงพี่อั้มตะโกนมาอีก ผมก็งงไหนว่าเข้าห้องไปแล้วไงทำไมได้ยินอีกล่ะ

“ไอ้สองคนนั้นน่ะ  ทำอะไรกันแน่ว่ะบร้ารึเปล่า  ขำเข้าไปได้ตอนทำอย่างว่า...กรูเพิ่งเคยได้ยิน........” :m12:

แต่ผมสองคนไม่สนใจพี่อั้มแล้วครับ  เสียงหัวเราะของเราเบาลงเรื่อยๆ เราหยุดหัวเราะกันแล้ว  ค่อยๆหันหน้ามาสบตากันอย่างซึ้งๆ ผมไม่รู้ว่าหน้าของเราเลื่อนเข้าไปหากันตอนไหน  เรากลับมาจูบกันอีกรอบแล้วครับ  ต่อภาคพิเศษหลังจากคั่นโฆษณาโดยพี่อั้ม

 ตอนนี้ผมแค่คิดว่า  ไม่ให้หัวเราะก็ได้
                         ไม่ให้ทำอะไรกันตรงนี้ก็ได้  
                         ไม่ให้ครางกันตอนนี้ก็ได้
                         ไม่แก้ตรงนี้ด้วย ทั้งที่แก้ไปเกือบหมดแล้ว หุหุหุ   o18
 
 เดี๋ยวเราค่อยไปต่อภาค 2 แบบเต็มๆกันข้างบนก็ได้  เพราะต่อๆไปเรายังมีเวลาได้ทำอะไรแบบนี้อีกเยอะ  เพราะเราต้องใช้ชีวิตด้วยกันไปอีกนานครับ  เราต้องมีช่วงเวลาแบบนั้นอีกหลายครั้งหลายหน  จนเราไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว  

ก็เราได้พิสูจน์ใจของเราไปแล้วนี่ครับว่าเรารักกันจริง........................ใช่ไม๊ครับ......เอ๊ยยยย................  :impress2:
+
+
+
+
“พี่ต่ายยยยย...........ไปต่อข้างบนเถอะพี่นะ.........ผมไม่ไหวแล้วววววว”

“อีกนิดนะโอม.......อีกนิดดดด......”
++++++++++++++++++++++++++++++++++
จบแล้วนะ  อิอิ  ที่เหลือแล้วแต่จินตนาการเองนะจ๊ะ บ๊ายบาย :oni1: :oni1:
ยาวจริงๆเลยนะ :m23:

กำลังมีโครงการรวมเล่มหนังสือขายค่ะ ถ้าใครสนใจให้PMมาแจ้งชื่อและเมลล์ติดต่อกลับ แล้วถ้ามีข่าวยังไงจะแจ้งให้ทราบค่ะ :pig4:

อ่านจบแล้วไปอ่านตอนพิเศษและ ภาค เล่าสู่กันฟังกันต่อนะคะ ตามนี้ค่ะ จิ้มเลย
ตอนพิเศษ "บ้านเรา" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2968.1080)
ตอนพิเศษ "บ้านเรา"(ต่อ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2968.1100)
ตอนพิเศษ "บ้านเรา"(จบ) (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2968.1120)
ภาคเล่าสู่กันฟัง  ตอน "แฟนเก่า" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6127.0)
ภาคเล่าสู่กันฟัง  ตอน "ไปเที่ยวเชียงใหม่กัน" (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6127.8)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 06-02-2008 21:39:06
แต่ไหงท้ายที่สุดกลายเป็นว่าโอมหื่นกว่าพี่ตายอีก มีการเรียกร้องให้ไปต่อกันข้างบนด้วย  :m12:

แต่ว่าจบแล้วหรอครับพี่ฟาง  :m15:
อย่างนี้จะไม่ได้เจอโอมกับพี่ต่ายแล้วอะสิ  คิดถึงแย่เลย :sad2:

ขอบคุณพี่ฟางมากนะคร้าบ สนุกมากๆเลย  o13

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 06-02-2008 21:47:39
 :oni2: :oni2: :oni2:

 :oni1: :oni1: :oni1:

 :m4: :m4: :m4:

ขอบคุณมากมายค่าพี่ฟาง
แหม...ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ

ตรุษจีนปีนี้
ขอให้เฮง เฮง เฮงนะค้า

มั่งมีศรีสุขค่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 06-02-2008 21:51:23
จบแล้วเหรอ  เศร้าเลย  :o12:
อยากอ่านตอนพิเศษจัง  ต้อนรับวาเลนไทน์ก็ได้ค่ะ  เอาแบบโอมเป็นผู้นำบ้างนะ หุ หุ  :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ta_toon ที่ 06-02-2008 21:53:17
  o7  o7  o7

ผมแอบอ่านเรื่องนี้มานานมากคับ    :m23:  :m23:

ชอบเรื่องนี้จิง ๆ ๆคับ  สนุกมากคับ   :o8:  :o8:

ขอบคุณพี่ฟาง มากคับ   ที่นำเรื่องสนุกๆ อย่างนี้มาให้อ่านคับ    :m13:   :m13:

ไอ้ผมก็เรียนบัญชีอยู่  ก็เคยคิดเล่น ๆ  เหมือนกันน่ะคับว่า  ถ้าได้มีชีวิตแบบในเรื่องของพี่ฟางคงจะดีมาก ๆๆ เลยอ่ะ   o7   o7

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับรอยยิ้ม  และความสุขที่ได้รับจากเรื่องนี้คับ   :m4:   :m4:

 :bye2:   :bye2:   :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 06-02-2008 21:58:50
ต่อได้อีกนิดนา ยังไม่เฉลยเรื่องบ้านเลยอะ อย่าเพิ่งจบนะ  :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 06-02-2008 22:03:58
 :serius2:

อ๊า...............

หักดิบจบกันแบบนรี้เลยเหรองับ

มันไม่เคลียร์อ่ะ

มันไม่เคลียร์

เหมือนยังขาดๆอะไรอีกตั้งเยอะเลยอ่ะ
 :serius2:
 :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 06-02-2008 22:05:37
จบแล้วงั้นเรอะ  :serius2: ม่ายๆๆ

จบเลขไม่สวย มาต่อตอนพิเศษซะดีๆ  :oni3: (เอาให้ได้ 69  :o8:)




 :m21: ค้างอ่ะ บ้านที่ปลูกก็ยังไม่ได้เฉลยให้โอมฟังเลย  :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: BEta-K ที่ 06-02-2008 22:08:56
จบแล้วเหรอ ง่าอยากให้ยาวก่านี้อ่ะ  แต่ขอบคุณนะครับที่แต่งเรื่องหนุกๆ ให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 06-02-2008 23:07:42
หุหุ จบแบบให้จิ้น  :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องน่ารักๆ  :m4: :m4: :m4: สนุกมากๆเลย
ขอบคุณค่ะ  :a1: :a1:

ปล.แอบหวังว่าจามีตอนพิเศษ  :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 06-02-2008 23:17:53
จบแล้วน่าใจหายเน๊าะ  :o12:

ขอบคุณพี่ฟางที่ทำให้ได้อ่านเรื่องนี้นะพี่

และทำให้เราได้มารู้จักกัน  :o8:

ไงก็ขอตอนพิเศษด้วยนะพี่  :m23: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 06-02-2008 23:21:08
หุหุ อ่านแล้วมีความสุขที่ซู๊ดดด


 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 06-02-2008 23:22:14
รีบๆมาเรย
 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:

กระโดดรอ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 06-02-2008 23:31:30
อาไร จะตัดจบอย่างงี้บ่ยอมน้อ

มาต่ออย่างไวเลย ค้างคามั๊ก....มาก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: SodaSaa ที่ 06-02-2008 23:44:28
ขอบคุณค่า อ่านแล้วยิ้ม  :m1:

ปล. ตกลง พี่อั้ม จีบ น้องพี่กระต่ายปะเนี่ย 5555

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 07-02-2008 00:25:51
มันก็หื่นด้วยกันทั้งคู่ล่ะว้า . . . ทั้งน้องโอมไฟแรงสูงกะพี่กระต่ายป่าหื้นหื่น~ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 07-02-2008 02:04:15
แอบมีซึ้ง น้ำตาซึมด้วย แต่ตอนจบฮาปนหื่นน่ะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: naja ที่ 07-02-2008 06:05:23
เรื่องนี้สนุกมากมากกกกกก  คนเขียนก้อเขียนได้น่ารักมากกกกกกกกก

ขอบคุณนะครับ จะรอผลงานเรื่องต่อไปน๊าาา  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 07-02-2008 09:42:48
 :oni1: :oni1:

มีความสุขจริงๆที่เขียนจบแล้ว อิอิ รู้สึกเหมือนยกภูเขาออกไปจากอก :m23:

แต่ลึกๆก็อดคิดถึงไม่ได้ว่าคราวนี้ก็ไม่ได้มาอ่านreply ของคนอ่านแล้ว :m13:

อยากจะขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเวียนเข้ามาอ่านทั้งที่แสดงตัว แล้วก็ที่ซ่อนอยู่ o15

ขอบอกว่าตลอดช่วงเวลาที่เขียนเรื่องนี้มีความสุขมากค่ะ :oni2:

 ถึงแม้บางตอนจะแต่งไปร้องไห้ไป :sad2: แบบว่าใครอินไม่อินไม่รู้แต่คนแต่งอินไปแล้วเรียบร้อย ฮ่าๆๆๆ

 ได้มีประสบการณ์ใหม่ๆที่เดิมแค่เพียงคิด  แต่ในที่สุดก็ได้ทำออกมาจริงๆคือการเขียน Fic

ที่สำคัญคือได้รู้จักกับน้องๆเพื่อนๆพี่ๆหลายๆคนจากการเขียนนิยายเรื่องนี้ทั้งจากที่ทักทายส่วนตัว และที่ทักกันในเล้า   :m1: เป็นมิตรภาพที่ดีจริงๆค่ะ

ส่วนเรื่องชื่อคนแต่งที่หลายคนสับสน  :serius2: K-one =T-Jang= Manfang

คนเดียวกันแหล่ะค่ะอย่าแปลกใจไปเลย อิอิ  ก็คนเขียนมานเพี้ยน  :m20: เลือกไม่ถูกว่าจะเอาไงดีก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

 แต่เอาเป็นว่าคำตอบสุดท้ายคือ Manfang แล้วกันค่ะ  :m23:

ท้ายนี้จะบอกว่าถ้าพอมีเวลาก็จะแต่งตอนพิเศษมาให้อ่านแล้วกันค่ะ 

ขึ้นอยู่กับ ดินฟ้าอากาศ ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง นายกคนใหม่ อารมณ์ของคนแต่ง แล้วก็ที่สำคัญคือว่าฟางจะทำงานเสร็จเร็วแค่ไหนด้วย  เพราะดินที่มันพอกหางฟางอยู่ตอนนี้มันดึงถ่วงไว้จนจะเดินแทบไม่ไหวแล้ว (ผู้ปกครองควรชี้แนะอย่าเอาเยี่ยงอย่าง นักบัญชียิ่งไม่ควรทำ อิอิ)

ท้ายนี้ถ้างานเขียนเรื่องนี้ทำให้ใครมีความสุข ก็เป็นความสุขของคนแต่งด้วย แต่ถ้าทำให้ใครสะเทือนใจ เศร้าใจก็ขอน้อมรับความผิดไว้ทั้งหมดนะคะ

แล้วพบกันใหม่ค่ะ  :a2: เป็นกำลังใจให้กับคู่รักทุกคู่ค่ะ

ปล.ทักทายกันได้ทางPM อีเมลล์หรือในเรื่องนะค่ะ จะวนๆเวียนๆอยู่แถวๆนี้แหล่ะ (อ่านเรื่องคนอื่น อิอิ)



หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 07-02-2008 09:51:04
มาจิ้มพี่ฟางงงงงงงงงงง

หวังว่าจะสามารถกระเทาะดินตรงหาง(?)ได้โดยเร็ววันนะคะ :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 07-02-2008 10:01:31
สรุปว่า พี่ต่ายเจ๊บขา มะ  :m21:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 07-02-2008 10:18:58
ขอบคุณคุณพี่คนแต่ง
อ่านแล้วมีความสุขมากคะ

ขอบคุณค่ะ :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 07-02-2008 10:27:27
ขอบคุณนะที่แต่งเรื่องน่ารัก ๆ มาให้ได้อ่าน  :mc4:

ขอให้ดินที่หางหมดไปไวๆ  จะได้มาอ่านตอนพิเศษต่อนะ  :m1:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 07-02-2008 10:30:01
พี่
โอมสุดยอด :m4:และแล้วก็จบลงอีกเรื่องแล้วนะครับขอบคุณมากๆนะครับสำหรับนิยายดีๆที่ทำให้รู้คุณค่าของความรัก สอนให้ผมรู้ว่าระยะทาง ความห่างไกล ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับคนที่มีรักแท้ในหัวใจ :m4: :pig4:ขอบคุณมากๆครับ จะรอติอตามผลงานอีกนะครับผม :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Just let it be ที่ 07-02-2008 10:34:11
มีความสุขมากเลยครับ

สำหรับเรื่องราวดีๆ ที่คุณ Manfang มอบให้

ยังงายจารอตอนพิเศษนะค้าบบบบ

 :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 07-02-2008 11:56:22
และแล้วก็จบลงอย่างมีความสุข :m1:

อย่าลืมมาต่อตอนพิเศษส่งท้ายซักหน่อยล่ะ
ยังมีเรื่องบ้านที่โอมยังไม่รู้ รวมถึงกระแตที่โอมยังไม่เคยเจออีกนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 07-02-2008 16:41:59
จบแบบมีความสุขแบบนี้ ช๊อบชอบ...
ร๊ากกกกคนแต่งจัง    :m1:
ทั้งสนุก  หื่น ฮา ซึ้ง เศร้า  ครบเครื่อง ยังกะปลาหมึก 5 รสแน่ะ
จะรออ่านตอนพิเศษด้วยน้า
 :pig4:   :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 07-02-2008 18:00:24
ฮู้เร.. :m4:

น่ารักกันจิงจิ๊งงง

มีตอนพิเศษสักตอนก้อดีน้า

 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 07-02-2008 18:13:52
เย้ๆๆ..จบแล้ว..

แต่ว่าค้างคาใจอ่า.... :serius2: :serius2:

บ้านหลังนั้นช่ายเรือนหอรึป่าวอ่ะ..ยังม่ายเฉลยเลยน๊า..

มาเฉลยแบบเป้นตอนพิเศษก้อดีน๊า.... :o8: :o8:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: animob ที่ 07-02-2008 18:24:43
ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 07-02-2008 18:34:13
ขอบคุณพี่ฟางนะครับ สนุกมากๆเลย

มารอตอนพิเศษด้วยครับ อิอิ โอมกับพี่กระต่ายจะเป็นยังไงบ้างน้อ  :m13:

ว่าแต่พี่ฟางมีโปรเจคจะแต่เรื่องต่อไปมั้ยครับ  :m12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 07-02-2008 18:39:40
 :impress: :impress: :impress:

งะ จบ แบบเรื่องบนเตียงยังไม่เสร็จกันเลย

ทำเอาคนอ่านแทบลุ้น นึกว่าจะได้อ่านฉากบนเตียงอย่างเคยซะอีก

ชอบมากครับผม เป็นกำลังใจให้เสมอครับผม ชอบมากๆๆ

พี่อั๊มเป็นพี่ที่ดีที่สุดเลยครับ พี่ อิง ด้วย อิอิ

หวังว่าคงมีตอนพิเศษนะครับ

:impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: acht ที่ 07-02-2008 18:52:50
ตามมาอ่านตอนจบทันพอดี :m23:
ขอบคุณพี่ฟางที่แต่งเรื่องดีๆ สนุกๆ ให้พวกเราอ่านกันนะ   o13
ว่างๆก็แต่งตอนพิเศษมาให้อ่านกันบ้างนะพี่ ไม่งั้นคิดถึงโอมกะพี่ต่ายแย่เลย  :sad2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 07-02-2008 20:52:15
จบแบบนี้ได้งายยย  :a6: :a6: มาต่อนะอารมณ์ค้างงงงงง  :m23: :m23:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวสนุกๆนะ  :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: astral ที่ 07-02-2008 21:36:03
หวัดดีค่ะ กว่าจะได้เข้ามาทัก ก็จบซะแล้ว เพิ่งตามได้ครึ่งเดียวเอง  :serius2: สนุกมากๆเลยค่า พี่ต่ายน่ารักสุดๆ  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 07-02-2008 23:07:54
อะไรนะ จบแล้วเหรอ ยังค้างอยู่เลยอ่า  :m15: :m15: :m15:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: G_wa ที่ 07-02-2008 23:10:52
จบแล้วจริงๆ อ่ะเหรอ ขอตอนพิเศษหน่อยจิ:oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
มันค้างงงงงงงง  :m30: :m30:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: imon ที่ 08-02-2008 09:19:15
อิอิ :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 08-02-2008 13:05:07
 :m1:  จบแบบซึ้งๆ ฮาๆ  หื่นๆ  อิอิ

รออ่านตอนพิเศษนะคร้าบบบ  :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 08-02-2008 13:46:38
มารอตอนพิเศษคร้าบบบ... :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 08-02-2008 15:38:14
 :a4:ถ้าจบแล้วขอตอนพิเศษด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 08-02-2008 19:14:01
 :oni3:ตอนพิเศษจงมา 





 :oni3:ตอนพิเศษษษษษจงมา



 :oni3:ตอนพิเศษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษษจงงงงงงงมา


พี่ต่ายยังน่ารักเหมือนเดิม ขอตอนพิเศษค่ะ (เเอบหื่น)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 08-02-2008 19:26:20
จะเอาตอนพิเศษด้วย

จะเอา

จะเอา :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mahmeow ที่ 08-02-2008 21:14:34
เรื่องนี้สนุกมากๆเลยคะ......นึกว่าพี่ต่ายจะทิ้งโอมไปจิงๆแล้ว....หายไปนานมากเลย....

ที่แท้ก็มีพวกพี่ๆเก็บไว้ให้.....อย่างงี้นี่เองถึงได้กล้าทิ้งไป......

แต่จิงๆแล้วพี่ต่ายก็ไม่ผิดจิงๆอะคะ....ก็จะให้ทำยังไง..พ่อกะแม่โอมขอไว้นี่.....

อาจจะผิดตรงที่ทิ้งโอมเอาไว้...ไม่ยอมอธิบายให้เคลียร์....ตรงนี้ก็คิดว่าโอมน่าจะงอนให้นานกว่านี้หน่อยอะคะ....คืนดีเร็วไปนิ้ดดดด.......555+

แต่ก็ดีแล้วคะ.....สงสารพี่ต่ายอยู่เหมือนกัน....^^
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 09-02-2008 11:39:07
เย้...

จบแว้ววววว

แต่ก็จายหายที่จบไว ห่ะๆ

ซึ้งดีจังเรยยยยยยยยยย

 :m1:  :m1:  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: EDICIUS ที่ 09-02-2008 11:50:01


>>> เหอๆๆ กลับมาอ่านก็จบซะละ

แฮปปี้ด้วย ดีใจ~


แฮปปี้หน้าบันได(???)ด้วย 55555+


>>> อยากอ่านตอนพิเศษด้วยคน  แต่ยังไงก็ขอบคุณคนเขียนมากๆ สำหรับเรื่องสนุกๆเรื่องนี้ o13


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: BICHA ที่ 09-02-2008 20:38:57


        และแล้วก็ลงเอยกานด้วยดี   
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 10-02-2008 15:47:43
มารอตอนพิเศษ  :m13: :m13: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 12-02-2008 12:05:45
 :m13:ตอนพิเศษ :oni3: :m13:ตอนพิเศษ :oni3:
 :m13:ตอนพิเศษ :oni3: :m13:ตอนพิเศษ :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 12-02-2008 13:17:06
 o14 o15
ขอบคุณมากมายยยยย สำหรับนิยายดี ๆ
ถึงจะจบแล้วแต่ก็ยังรอตอนพิเศษน๊า....
ประทับใจจจจจมากมายยยยย  :m1:

ฟางเขียนดีนะ สำบักสำนวน กวนเหลือคณา
ท่าจะกะล่อนใช่ย่อย เอ๊ยม่ายช่ายยยยย  :m23:
เอาเป็นว่ารอนิยายเรื่องใหม่กันต่อไปปปปป

+1 ให้เป็นกำลังใจจจจจจ  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 12-02-2008 13:39:54
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: piyatida ที่ 12-02-2008 18:48:57
 :m22: :m22: :m22: :m22: :m22:เข้ามาดูเผื่อจะมีหลงเหลือตอนพิเศษไว้ให้อ่าน :m22: :m22: :m22: :m22:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: ToDo ที่ 14-02-2008 12:29:53
ตามอ่านมาจนจบ  :pig4: :pig4: :pig4:

มารอตอนพิเศษ.....ไปช่วยกันตกแต่งบ้าน :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-02-2008 13:18:46
 :m30:เห็นคนอื่นเค้ามีเรื่องมาลงวันวาเลนไทน์ 
ด้วยใจคิดอิจฉาก็โดดเรียนมาเขียน  :m29:
ยังไม่พองานไม่ทำอีก อิอิ :m4:
คงจะเจริญเข้าซักวัน :m14:
เอาไปอ่านก่อนพอเป็นน้ำจิ้มนะ  แล้วเดี๋ยวมาลงต่อให้   :oni1:
++++++++++++++++++++++++++
ตอนพิเศษ  "บ้านเรา"

เกือบสองเดือนแล้วครับที่เราเคลียร์กันได้   ทุกๆเรื่องครับผมคิดว่าเป็นแบบนั้น  ทั้งเรื่องที่พี่ต่ายหายไป เรื่องที่บ้านผมแล้วก็เรื่องทำงานของพี่ต่าย  ก็คืนนั้นแหล่ะครับก่อนที่ผมจะกลับมาบ้านต่างจังหวัด

 ตอนนี้ผมก็ยุ่งกับงานที่ร้านเพราะกำลังจัดโปรโมชั่น  ซึ่งผมเป็นคนคิดขึ้นมาเอง  ก็เลยยุ่งมากไม่มีเวลาคิดเรื่องสุดที่รัก  ซึ่งก็คงจะยุ่งมากเหมือนกันเพราะพึ่งย้ายกลับมาต้องเริ่มต่องานกันใหม่อีก  แต่พี่ต่ายก็ยังมีแก่ใจโทรหาผมเป็นระยะๆ  เหอๆๆๆ  ผมว่าพี่ต่ายเปลี่ยนไปครับ  ดูแสดงออกมากขึ้นว่ารักผม  แต่ผมก็เปลี่ยนไปครับแสดงออกน้อยลงว่ารักพี่ต่าย  ผมว่าอะไรๆมันก็เปลี่ยนกันได้ทั้งนั้นแหล่ะครับ :m23:

ผมไม่ได้รักพี่ต่ายน้อยลงนะครับแต่งานผมมีเยอะมากขึ้น  ต้องรับผิดชอบงานที่ตัวเองทำ  พอจะหมดวันก็หมดแรงพอดี  แล้วผมว่าคงเป็นเพราะตอนนี้ผมไม่ทุรนทุรายแล้วว่าพี่ต่ายรักผมรึเปล่า  คิดถึงผมรึเปล่า  เพราะผมมั่นใจในความรักของเรามากขึ้นครับ  ตอนนี้เราเจอกันแค่อาทิตย์ละสองวันเองครับ  เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน  ผมยังจำคืนวันที่เราคุยกันวันที่พี่ต่ายตกบันไดได้ดี

“พี่อยากอยู่กับโอมทุกวัน  อยากเจอกันทุกคืน  อยากได้นอนกอดโอมแบบนี้ตลอดเวลาพี่ลาออกดีกว่า” พี่ต่ายพูดหน้าตาเฉยครับ  ไม่มีเสียดายงานอะไรเลย

“ไม่เอาพี่...จะลาออกทำไำมเงินเดือนจะเป็นแสนแล้วนะ...เสียดายยยยอ่ะ”

พี่ไม่เสียดายแต่ผมน่ะเสียดายเงินเดือน....มากกกกด้วย อิอิ แอบงกทั้งที่เงินพี่ต่ายไม่ใช่เงินผมสักหน่อย  :m14:

“งั้นเราจะได้อยู่ด้วยกันได้ไงล่ะ.....หืมโอม”พี่ต่ายทำปากยื่น ขมวดคิ้ว ทำหน้างอนอย่างกับเด็กๆ ผมเห็นแล้วก็น่าขัน

ผมคลานขึ้นมานอนบนตัวพี่ต่าย เอามือมาลูบแก้มพี่ต่ายเล่น  เอานิ้วกดลากที่คิ้วทั้งสองข้างให้แยกจากกัน เอานิ้วมือกดปากที่ยื่นๆให้หุบลง  แต่พี่ต่ายกลับงับนิ้วผมไว้ ผมเลยต้องรีบดึงเอานิ้วออกมา  พี่ต่ายยิ้มแล้วครับหัวเราะกิ๊กเชียว  ผมเอานิ้วดึงแก้มพี่ต่ายออกสองข้าง ฮ่าๆๆเหมือนแป๊ะยิ้มเลยหน้าบานๆ

“ไม่เอาไม่เครียดน่ะ  เดี๋ยวแก่เร็วผมไม่รักนะ” ผมยิ้มๆแล้วก็ขโมยจุ๊บปากพี่ต่ายเร็วๆ พี่ต่ายจุ๊บตอบแล้วเอามือประคองหน้าผมไว้  มองหน้าผมยิ้มๆ

“พี่คิดถึงโอมนะ.........ไม่อยากคิดเลยว่าจะไม่ได้เจอกันอีกตั้งอาทิตย์นึง  เฮ้อ”พี่ต่ายถอนหายใจ

ผมต้องกลับบ้านพรุ่งนี้ พี่ต่ายก็ต้องทำงานตลอดอาทิตย์ที่กรุงเทพฯ  พี่ต่ายหอมแก้มผมสลับไปมาซ้ายขวาหลายครั้งเหมือนคนมันเขี้ยวน่ะครับ จนผมต้องดึงตัวเองออกมาก่อนที่แก้มผมจะช้ำ

“อาทิตย์นึงอะไรพี่แค่ 5 วันเอง  พี่ต่ายก็มาหาผมที่บ้านวันเสาร์ไง”

“ไม่แค่5 ล่ะ มันตั้ง5วันนะ  แล้วพี่ก็กลัวงานด่วนเสาร์จะได้ไปรึเปล่าก็ไม่รู้”พี่ต่ายขมวดคิ้ว ทำหน้ายุ่ง  o12
 
“พี่จะไปกังวลทำไม  ทีทิ้งผมไปตั้งปีพี่ยังทนได้เลย ชิ”

ทำเป็นมาบ่นเป็นตาแก่  ทีตอนนั้นไม่เจอกันตั้งนาน  ไอ้เรื่องนี้เอาไว้เล่นได้ตลอดแหล่ะครับ  เป็นประวัติศาสตร์ของชีวิตรัก   เหมือนพวกประวัติศาสตร์ชาติไทยประมาณนั้น หุหุหุ  ขุดขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นต้องมีเสียเลือดเนื้อกันไปข้าง

“ก็ตอนนั้นไม่เจอก็ทนได้  แต่พอเจอแล้วได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่อยากจากไปไหนแล้วนี่” :m13: พี่ต่ายทำเสียงเล็กเสียงน้อยน่ารักตายเลยครับ  ไม่รู้ไปหัดอ้อนมาจากไหน

“อย่ามาพูดดีเลย”ผมพลิกตัวลงมานอนข้างๆพี่ต่าย

“ตอนนั้นพี่ก็งงนะไม่รู้ทนได้ไง   อย่างดีก็แค่โทรมาถามข่าวคราวจากอิงกับบุ้ง  แต่คุยถึงโอมทีไรก็คิดถึ้งคิดถึง” พี่ต่ายตะแคงตัวนอนมองหน้าผม  มีเหงื่ออยู่ที่ปลายจมูกพี่ต่าย ผมเอานี้ไปเขี่ยเล่น  แล้วแอบดึงจมูกพี่ต่ายเล่น

“แล้วเค้าเล่าเรื่องผมว่าไงบ้างพี่  นินทาอะไรผมบ้าง” ผมก็นอนมองหน้าพี่ต่าย พี่ต่ายเหมือนเดิมทุกอย่าง น่ารักเหมือนเคย  ผมมองปากพี่ต่ายซะเพลิน

“เค้าบอกว่าโอมหงอย  ซึมนั่งน้ำตาไหล ไม่ค่อยกินข้าว  ไม่ยิ้ม ไม่คุย” พี่ต่ายจูบหน้าผากผมเบาๆ

“แล้วพี่ไม่สงสารผมเหรอ” ผมถามพี่ต่ายเพราะถ้าในทางกลับกันถ้าผมทิ้งพี่ต่ายไปแล้วพี่ต่ายเป็นแบบนี้   ผมคงแล่นกลับมาหาพี่ต่ายแล้ว  ผมคงทนไม่ไหว

“พี่สงสารโอมมากนะ  แต่ถ้าพี่กลับมาที่เราเสียใจกันไปก็ไม่มีความหมายซิ  ตัดสินใจไปแล้วก็ต้องอดทนให้ถึงที่สุด” พี่ต่ายพูดเสียงนุ่มนวลค่อยๆสอนผม

“เหมือนคนที่เค้าวิ่งมาราธอนน่ะมันเหนื่อยมากนะโอม   แต่ถ้ามีเป้าหมายคือชัยชนะข้างหน้าให้วิ่งไปแล้วมันเหนื่อยแทบจะขาดใจยังไง  ก็ต้องกัดฟันวิ่งต่อไปให้ถึงเส้นชัย”

ผมเข้าใจทุกอย่างที่พี่ต่ายพูด  แต่ตอนที่พี่ต่ายวิ่งทางไกลพี่ต่ายยังรู้ว่าเส้นชัยอยู่ตรงไหน  ในขณะที่ผมวิ่งไปเหมือนโดนผลักให้วิ่ง  โดนผูกตาวิ่งไปแบบไร้ทิศทาง  ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องวิ่งไปไกลอีกแค่ไหน  แล้วมันมีเส้นชัยรอผมอยู่หรือเปล่า :o12:

“พี่ต่ายใจร้าย”ผมตะแคงตัวหันหลังให้พี่ต่าย  คิดแล้วก็ยังอดแค้นใจไม่ได้ “พี่ยังรู้เรื่องผมบ้าง  ผมซิไม่รู้เรื่องพี่เลย  พี่คิดว่าใครทรมานกว่ากันล่ะ”

พี่ต่ายเอื้อมมือมาโอบเอวผม  จูบผมที่ซอกคอแล้วซุกหน้าอยู่ตรงนั้นไม่พูดอะไรแล้วถอนหายใจ  คงแก้ตัวไม่ถูกน่ะซิ  พี่ต่ายกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้นแล้วกระซิบที่หูผมเบาๆ “พี่รักโอมน่ะครับ”

ผมรู้ว่าพี่ต่ายกำลังบอกผมในแบบของพี่ต่าย  ผมเลยเลิกที่จะรื้อฟื้นเรื่องที่ทำให้เราขุ่นใจไป  พยายามลืมๆมันไปชั่วคราวถึงแม้จริงๆแล้วมันยังคอยโผล่มากวนใจผมอยู่  พี่ต่ายเริ่มซุกซนมากขึ้นเรื่อยๆ  แฮะๆๆ สงสัยเป็นอีกวิธีนึงปิดปากผมมั๊งครับ  แล้วมันก็สำเร็จซะด้วย  ใครจะไปพูดออกล่ะครับ เอิ๊กกกกกเอิ๊กกกกกกก  :m25: โดนอีกรอบแล้วครับภาค 3
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

บอกแล้วว่ามันสั้น  :oni1:

เด๋วมาต่อดึกๆมั๊ง หรือพรุ่งนี้ดี อือดูก่อนล่ะกัน สับสน :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 14-02-2008 13:37:29
เย้ เย้ เย้ ตอนพิเศษ  :m4:

 :oni2: :oni2: :oni2:

 :oni1: :oni1: :oni1:

อ่านแล้วมีความสุข  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 14-02-2008 13:39:59
 :mc4:  ตอนพิเศษ  :mc4:

มาอีกบ่อย ๆ นะ ฟาง  :m1:

ไอ เลิฟ ยู  :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: sayajang ที่ 14-02-2008 13:42:46
และแล้ว....ตอนพิเศษก็ปรากฏ :oni2: :oni2: :pig3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one จบแล้วจ้า
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 14-02-2008 14:09:23
 :c2:

ตอนพิเศษมาแว้วววว.....
มาต้อนรับพี่ต่ายสุดที่รักของน้องโอม    :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 14-02-2008 14:25:36
จะสวีทวีดวิ้วกันไปถึงไหนครับพี่น้อง อิจฉาโว้ยอิจฉา :serius2:

เฮ้อ . . . อยากให้คนปลูกต้นรักกลับมาช่วยกันพรวนดินรดน้ำจัง มันจะได้ออกดอกสวยๆอวดคนอื่นมั่ง

 :L1: :L2: :L1: :L2: :L1: :L2: :L1: :L2: :L1: :L2: :L1: :L2: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 14-02-2008 14:26:07
เย้ ๆ  ชอบมากมาย หุหุ




 :c2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: @BUA@ ที่ 14-02-2008 15:17:50
 :c2:

 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 14-02-2008 16:02:28
 :impress: :impress: :impress:

อ่าครับ รักกันดีจริงๆๆ

หลังจากที่ผ่านอุปสรรค มาด้วยครับ

เอาใจช่วยเหมือนเดิมครับ รักกันตลอดไปนะครับผม

พี่ต่ายพี่โอม

 :impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: mist ที่ 14-02-2008 17:23:31
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนพิเศษ ตอนพิเศษ  :oni1: :oni1: :oni1:


:c1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 14-02-2008 18:05:04
ฮิ้ววววฮิ้ววว  :m4:

ในที่สุดก็มาตามคำเรียกร้อง

รอดูบ้านของต่ายกะโอมจ่ะ

 :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Poes ที่ 14-02-2008 18:36:00
:L1: :c2: :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 14-02-2008 18:44:14
 :c2:  :c2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: [€]ŝĊörŦ ที่ 14-02-2008 18:56:54
ตอนพิเศษฉลองวาเลนไทน์เยย อิอิ

 :c1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 14-02-2008 20:26:32
ยังคงเป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 14-02-2008 20:31:45
 :c1: :L2:

เย้ๆในที่สุดก็ได้อ่านตอนพิเศษ o7

แต่หวานจังเยยยยย... :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 14-02-2008 20:48:13
                            :c2:

ดีใจจังได้อ่านตอนพิเศษ  พี่ต่ายยังน่ารักเหมือนเดิมเลย

เพียงแต่หวานมากขึ้น จนน้ำเชื่อมหยดเรี่ยราดไปหมด

มาบ่อยๆ นะคะ จะตั้งตารอเลย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 14-02-2008 23:58:00
 :c1:

โอมน่ารัก

 :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 15-02-2008 00:07:49
เย้ เย้

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 15-02-2008 00:14:56
 :c1: :c2: :L1: :L1: :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 15-02-2008 00:21:16
อ่ะนะคนเรา...

รอ รอ รอ

รอพี่ฟางคนดีของน้อง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: G_wa ที่ 15-02-2008 01:14:13
เย้ๆๆๆ ตอนพิเศษมาจิงๆ ด้วย
รออยู่นะจ๊ะ

 :c1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: fc_uk ที่ 15-02-2008 01:58:24
 :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1: :m1:


ฟาง......อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: dawa_11 ที่ 15-02-2008 02:48:59
เหมือนคนที่เค้าวิ่งมาราธอนน่ะมันเหนื่อยมากนะโอม   แต่ถ้ามีเป้าหมายคือชัยชนะข้างหน้าให้วิ่งไปแล้วมันเหนื่อยแทบจะขาดใจยังไง  ก็ต้องกัดฟันวิ่งต่อไปให้ถึงเส้นชัย”


ชอบมากเลยน่ะ............ :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-02-2008 10:04:07
  :oni2:ดีใจได้ดอกไม้จากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆในเล้าเต็มเลย อิอิ
 :m1: ตอนนี้ดอกไม้เลยบานในใจคนแต่ง  ขอบคุณนะคะ
+++++++++++++++++++++++++++++
ตอนพิเศษ (ต่อ1)
“โอม  วันนี้ตัวเองไปดูบ้านริมเขาหน่อยนะจะทาสีแล้ว  เห็นช่างจิตรว่าให้ตัวเองเลือกสีน่ะ  สีรองพื้นเค้าทาไปแล้วเหลือแต่สีจริง”

พี่อิงยังคงไปดูบ้านแทนผมเรื่อยๆครับเพราะรู้ว่าตอนนี้ผมยุ่งหลายอย่าง  ไม่ได้เข้าไปดูหลายวันแล้วด้วย  แต่ถึงไม่ได้เข้าไปแต่ค่าจ้างคุมงานไม่มีหรอกครับจะลดให้ เก็บเงินเต็มๆๆๆ  ไม่มีลดหรอกครับคนละกระเป๋ากันนี่นา  :m23:

 แต่จนแล้วจนรอดผมก็คลาดกันกับเจ้าของบ้านทุกทีไม่รู้เป็นอะไร  พอเค้ามาเขาใหญ่ผมก็เข้าไปหาพี่ต่ายที่กรุงเทพฯ   แล้วพอผมอยู่เค้าก็ไม่ว่างมาดูบ้านซะงั้น  แล้วผมก็ตัดสินใจเองตลอดทุกเรื่องเหมือนเคย  จนบ้านจะเสร็จแล้วครับ

“พี่อิงเรื่องสีเนี่ยผมว่าให้เค้าเลือกเองไม่ดีกว่าเหรอ เดี๋ยวไม่ถูกใจก็แย่นะพี่   สีมันต้องเห็นทุกวันมันไม่ใช่งานโครงสร้างนะพี่”

ผมพูดไปก็อดเครียดไม่ได้  เจ้าของบ้านนี่จะว่าง่ายก็ง่ายนะครับ   เพราะตามใจคนสร้างทุกอย่าง แต่ผมก็ยังกลัวเค้าไม่พอใจสิ่งที่ผมเลือกอยู่ดี ผมว่ารสนิยมผมก็ไม่ใช่ว่าดีนักหนาแค่ปานกลางเท่านั้นเอง

“เอาน่าอยากเอาสีอะไรก็เอาไปเหอะ   เออ....เค้าลืมบอกอีกเรื่องนะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ของเจ้าของบ้านเค้าอยากได้วัสดุเก็บเสียงนะ ทั้งฝ้าทั้งผนังโอมจัดการด้วยนะ   ไม่รู้มันจะไปร้องคาราโอเกะในห้องนอนรึยังไงเค้าก็ยังงงๆอยู่เนี่ย”

 เอาเข้าไป....ท่าทางเจ้าของบ้านจะเพี้ยนนะเนี่ย  แต่ผมฟังแล้วจะเพี้ยนตามน่ะซิต้องไปสั่งแก้อีก  งึ่มๆๆๆชักหงุดหงิด  พี่อิงยังพูดเรื่องบ้านต่ออีก

“นี่นะโอม....จบเรื่องทาสีจะได้จัดการเรื่องเฟอร์นิเจอร์ กับจัดสวนด้วย  เค้าว่าเดือนหน้าตัวบ้านก็เรียบร้อยแล้วนะเร่งหน่อยก็ดี   เรียกพ่อซิลูก ปาป๊า ปาป๊า”

พี่อิงยังคงเล่นกับลูกไปด้วยคุยเรื่องงานกับผมไปด้วยครับ  ไม่รู้แบ่งโสตประสาทยังไง แต่หลานผมมันก็น่ารักจริงๆครับ  หน้าเป็น....หัวเราะเอิ๊กอ๊ากตลอดเห็นแล้วก็สบายใจจริงๆ  เห็นแล้วอยากมีลูกเป็นของตัวเองจริงๆแต่ติดที่ผมตัดมดลูกทิ้งไปแล้ว จะเรียกว่าตัดต่อพันธุกรรมตั้งแต่ปฏิสนธิก็คงได้  ตั้งแต่ยังอยู่ในท้องแม่หุหุหุ  แหมก็ไม่นึกว่าจะได้พ่อพันธุ์แบบพี่ต่ายนี่นา  ไม่งั้นล่ะก็จะขอเก็บมดลูกเอาไว้สืบพันธุ์สักหน่อย  อิอิ ผมก็เพ้อเจ้อไปกันใหญ่  ต้องดึงสมาธิกลับมาเรื่องงานต่อ

“งั้นเลือกสีเองก็ได้ว่ะ   ถ้าไม่ชอบแล้วมาทาใหม่  บอกก่อนนะคิดค่าแรงเพิ่มด้วยแหล่ะ  แล้วทำไมเฟอร์นิเจอร์กับทำสวนเราต้องทำด้วยล่ะ  ไม่ใช่งานเราสักหน่อย พี่อิงๆๆ”

ผมก็ได้แต่บ่นพึมพำล่ะครับตะโกนไปก็ไม่มีประโยชน์  เพราะพี่ผมเค้าเดินไปแล้วครับไปเล่นกับลูก  ไม่ได้สนใจฟังผมเลยผมล่ะอิจฉาครอบครัวสุขสันต์จริงๆ  ผมได้แต่มองตามภาพพี่อิงกับน้องมะขามแล้วก็ต้องยิ้มตาม  แต่ตอนนี้ตัวผมก็มีความสุขนะครับ  แต่เป็นความสุขในแบบของผมมากกว่าที่ไม่ต้องเหมือนใคร 

 ผมดูนาฬิกาบ่ายสามแล้วครับ  ผมเลยตัดสินใจเข้าไปดูบ้านซักหน่อยจะได้ตัดสินใจอีกทีเรื่องสี ระหว่างทางที่เข้าไปที่ไซท์งานเสียงโทรศัพท์เป็นเพลงประกอบหนังเกาหลีดังขึ้นมา ผมก็รู้เลยครับใครโทรมา  เพราะผมตั้งเสียงนี้สำหรับพวกน้ำเน่าน่ะครับหึหึหึ

“ว่าไงบุ้งเพื่อนเลิฟ  มีไรว่ะกรูกำลังจะเข้าเขาใหญ่”

“เหรอ...กรูไปด้วยดิ  เมิงมารับกรูหน่อยกำลังหนีแม่ว่ะ  ไปนัดผู้หญิงมาให้กรูดูตัวอีกล่ะเบื่อชิบหาย”

เสียงไอ้บุ้งมันดีใจมากเลยครับ  :oni2: เหมือนผมเป็นคนส่งห่วงยางให้มันตอนมันกำลังจะจมน้ำ  แต่มันไม่รู้อะไรห่วงยางที่มันคิดว่าผมจะส่งไปให้มันรั่ว ฮ่าๆๆๆๆๆ มันรับได้ก็จมอยู่ดี  ผมจะไปช่วยอะไรมันได้ก็แม่มันน่ะโทรมาดักคอผมไว้แล้ว  ว่ามีนัดอะไรกับบุ้งไม๊แล้วผมก็ดันตอบไปแล้วว่าไม่มี  ขืนไปรับมันตอนนี้ก็เสียคนซิครับ

“ไม่เอา....กรูมาตั้งไกลแล้ว  อีกอย่างแม่มรึงโทรมาดักทางเมิงไว้แล้วโว้ย  เค้ารู้ว่ากรูไม่มีนัดกับมรึง”

ผมอดขำมันไม่ได้ครับ เพราะผมเคยเจอชะตากรรมนี้มาแล้ว  ให้มันโดนบ้างก็ดีชีวิตจะได้เท่าเทียมกันฮ่าๆๆๆ อีกอย่างผมก็อยากให้มันเจอใครที่ดีๆสักทีเหมือนกันครับ  ผมอยากให้มันมีความสุข  ให้มันได้มีความรักที่สวยงามเหมือนความรักของผมกับพี่ต่าย

เสียงของบุ้งยังโอดครวญมาครับ “แล้วทำไมมรึงไม่บอกกรูก่อนไอ้เพื่อนทรยศ  ถ้ากรูรู้ก่อนกรูจะได้หลบเข้ากรุงเทพฯ  ไม่อยู่บ้านซะเลย  ไอ้โอมเมิงนะเมิง” :serius2:

“หึหึ แล้วเมิงจะกลัวอะไรก็ไปเจอๆเค้าเหอะน่า   ไม่ชอบแบบนั้นก็คบเป็นเพื่อนไป”ตอนนี้ผมก็พูดได้ครับแต่ตอนนั้นก็จะเป็นจะตายเหมือนกัน  ผมไม่เข้าใจพวกผู้ใหญ่เลยครับไม่รู้คิดยังไงกัน  ต้องมาหาคู่ให้พวกหนุ่มๆอย่างผม 

“เออๆๆก็กรูหนีไปไหนไม่รอดแล้วนี่หว่า   ไอ้เพื่อนเลวทีเรื่องเมิงกรูยังช่วยเลยนะ  ตอนนี้กรูไม่มีค่าแล้วล่ะซิ  ใช่สิกรูมันไม่หล่อ ไม่เร้าใจ ไม่ขาวเหมือนพี่ต่าย.....”  :o12: มันทำท่าจะพล่ามอีกยาวครับผมเลยต้องตัดบทมันเดี๋ยวมันจะพร่ำรำพันจนน้ำลายท่วมบ้านมัน

“เมิงพอเลย...แมร่งเล่นลิเกวิกไหนว่ะน้ำเน่าชิกหาย  ฟังแล้วกรูประสาทจะกิน....ซ่าาาาาซ่าาาาา.....เอ๊ยบุ้งไม่ค่อยได้ยินแล้วแค่นี้นะเมิงกรูกลับแล้วจะแวะไปหาที่บ้านนะโชคดีนะเมิง....ซ่าาาาา...”หุหุุหุ  มุกนี้ใช้ประจำครับถ้าเข้าไปในเขาใหญ่ยิ่งเนียนครับ

พอมาถึงที่ทำงานผมก็เดินดูงานรอบๆ  ช่างเหลือไม่มากแล้วครับเพราะงานส่วนใหญ่ใกล้เสร็จแล้วก็เหลือเก็บงานตกแต่งนิดหน่อย   ผมดูไปก็ภูมิใจไปแอบคิดว่าเออกรูก็เก่งเหมือนกันขนาดจบบัญชีก็ยังคุมเค้าจนสร้างบ้านออกมาเป็นรูปเป็นร่างได้เหมือนกัน

  ผมเข้าไปดูห้องน้ำก็เป็นแบบที่ผมชอบเลยครับเป็นแบบหลังคาโปร่งแสงตรงที่อาบน้ำ  อันที่จริงผมอยากได้แบบไม่มีหลังคาเลยด้วยซ้ำ  เผื่อเวลาอาบน้ำหรือเข้าส้วมอยากดูดาวเดือนก็เห็นได้  แต่คิดไปคิดมาเกิดขโมยขึ้นบ้านเค้าจะมาโทษผมน่ะซิ

 ผนังห้องน้ำ็ข้างนึงผมก็ติดเป็นกระจกเลยครับ  กะว่าไม่โชว์ด้านบนก็โชว์ข้างๆนี่แหล่ะ  กะว่าเดี๋ยวเอามู่ลี่ไฟฟ้ามาติดถ้าเิกิดวันไหนอายก็เอามู่ลี่ลง  แต่ถ้าอยากโชว์ก็เปิดมู่ลี่ออกไปเลยครับเอ็กซ์สะใจผม  อยากไม่ออกความเห็นกันดีนักผมก็บร้าไปเลยครับ  สนองความต้องการตัวเองเต็มที่ยังไงผมก็ไม่ได้มาอยู่อยู่แล้วนี่มันส์จริงๆ 

ตอนที่ทำเสร็จพี่ผมมาเห็นมานยังบอกว่าท่าทางผมจะบร้า อิอิ  พี่อิงพูดถูกครับแต่สงสัยจะรู้ช้าไปหน่อยเพราะผมทำไปหมดแล้วตอนที่เค้ามาดู  แก้ไม่ทันแล้วครับก็เลยต้องเลยตามเลย  ผมดูด้านในเสร็จก็ออกมายืนมองด้านนอกตรงต้นไม้ที่ผมชอบมานั่งเล่นบ่อยๆน่ะครับ  ไม่รู้ใครเอาเปลมาแขวนไว้ผมก็เลยนั่งเล่นสบายไป

กำลังนั่งคิดว่าจะเลือกทาสีอะไรดี  ลมเย็นๆก็พัดมามันสบายจริงๆครับ ผมเลยล้มตัวนอนลงไปในเปลมีกลิ่นฉุนๆโชยมานิดหน่อย หึหึหึ  แต่อารมณ์กำลังเคลิ้มๆครับเลยไม่ได้สนใจอะไร  รู้สึกว่ามาที่นี่ทีไรพอมาอยู่ตรงนี้แล้วใจมันสงบอย่างประหลาด  กำลังจะได้ที่เลยครับโทรศัพท์ในกางเกงผมสั่นอีกล่ะก่อนเสียงเพลงกันและกันจะดังขึ้นมา หุหุหุ   ไม่ต้องดูก็รู้แล้วครับว่าพี่ต่ายเองครับที่โทรมา ผมรับโทรศัพท์ด้วยรอยยิ้ม

“โอมครับ...ทำอะไรอยู่.....คิดถึงพี่ต่ายไม๊”ฟังเสียงนุ่มๆอ้อนๆของพี่ต่ายแล้วผมก็นึกถึงหน้าพี่ต่ายเลยครับเหมือนเห็นพี่เค้ายิ้มๆคุยกับผมอยู่   ฟังเสียงแล้วก็คิดถึงจังเลย

“กำลังคิดถึงพี่ต่ายอยู่ไง.....คิดถึงพี่ต่ายยยย”  :o8:ผมก็อ้อนเหมือนกันครับ  แต่เดี๋ยวนี้ผมไม่ต้องโทรหาพี่ต่าย  พี่ต่ายก็โทรมาหาผมทุกวันเลย อิอิ

“พี่ก็คิดถึงโอมนะอยากไปหาวันนี้จังเลยพี่เหนื่อยจังเลย   อยากไปนอนหนุนตักโอม”
อิอิ ผมแทบจะหยิกเปลจนขาดน่ะครับ  มานเขินวุ้ย อายต้นไม้ อายสายลม  อายเปลเน่าๆ :-[

“โอมคร๊าบบทำไมเงียบไป......พี่ต่อตั้งนานแน่ะโอมเหมือนไม่มีสัญญาณน่ะโอมอยู่ไหนครับ”

“ผมอยู่ที่บ้านลูกค้าน่ะพี่ที่ผมมาคุมอยู่น่ะครับพี่”ผมยังหน้าแดงอยู่เลย เขินนน

“.....................” พี่ต่ายเงียบไป เอ๊ะหรือสายจะหลุด

“พี่ต่าย...พี่ต่ายครับยังอยู่ึเปล่า”ผมล่ะขัดใจกำลังคุยหวานๆกันอยู่ทำไมเงียบไปล่ะ

“อยู่ครับโอมพี่ฟังอยู่  แล้วเป็นไงบ้างบ้านเกือบเสร็จรึยัง” วันนี้ทำไมเกิดมาสนใจงานของผมถามแปลกๆแฮะ

“ยังไม่เสร็จเลยพี่แต่เดือนหน้าคงเรียบร้อย   ผมอยากให้พี่ต่ายมาเห็นจังเลย  พี่รู้ปะผมคุมเองเกือบหมดเลยนะก็ไอ้เจ้าของบ้านน่ะโยนเงินมาแล้วไม่เคยมาดูเลย  ผมว่านะสงสัยเศษเงินเค้ามั๊งหมั่นไส้อ่ะ  อยากเห็นหน้ามาน  พี่เชื่อไม๊ปลูกมาตั้งหลายเดือนยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆกันเลย” o12

“ค๊อกๆๆๆ....”เสียงพี่ต่ายไอหรือสำลักอะไรบางอย่าง   ไม่สบายรึเปล่าไม่รู้
 
“พี่ต่ายไม่สบายรึเปล่า....เป็นไรพี่ทานยารึยังครับ  ผมเป็นห่วงนะพี่ ดูแลตัวเองหน่อยซิ” ไม่ได้เจอพี่ต่ายก็จริงแต่ผมรู้ว่าพี่ต่ายทำงานดึกๆทุกวันเลย ไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองไม่รู้จะทุ่มเทอะไรกันหนักหนา

“เปล่าๆพี่ไม่ได้เป็นอะไร....พี่ยังไม่ได้บอกโอมเหรอ....ซวยล่ะซิ”  :m29:ผมขมวดคิ้วพี่ต่ายจะบอกเรื่องอะไรล่ะ

“บอกเรื่องอะไรพี่ต่าย  ไม่เห็นรู้เรื่อง”งงจริงๆครับ

“.........”พี่ต่ายเงียบไปอีกล่ะ  มีอะไรปิดบังผมรึปล่าวเนี่ยชักสงสัย  แล้วพี่ต่ายก็เงียบบบไปเลย  ไม่รู้ไปส้วมรึเปล่า

“พี่ต่าย.....” ผมชักทนไม่ไหวเลยต้องตะโกนซะเลย

“พี่ต่ายยย.....พี่ต่ายโว้ยยย” :angry2: ชักหงุดหงิดแล้วนะมีอะไรไม่บอก  มาพูดให้อยากรู้แล้วก็จากไป

“ครับโอม....พี่ยังอยู่   ตะโกนทำไมขี้หูแทบออกมาเต้นระบำ  หึหึหึ”ยังมีหน้ามาขำอีกนะแฟนเรา

“ก็พี่ทำไมเงียบ  พี่จะบอกอะไรเนี่ยเรื่องดีหรือไม่ดี”
เสียงแข็งไปแบบไม่รู้ตัวเริ่มสวมบทโหดแบบไม่ได้ตั้งใจอีกแล้วครับ  ผมชอบเป็นอย่างเงี้ยพอเจอคนเอาใจล่ะก็ลืมตัวทุกที

“พี่กลัวจนขนหัวลุกไปหมดแล้วโอม   ทำไมดุอย่างนี้แม่ให้กินหวานมากไปปะ หึหึหึ”งอนแล้วครับ บอกก็ไม่บอกยังมายั่วโมโหกวนประสาทอีก

“จะบอกไม่บอกไม่บอกวางแล้ว  เสียอารมณ์”  :m16:งึ่มๆ อิอิ ที่จริงผมก็ดุจริงๆน่ะครับ  แต่ทำไงได้  มันทำไปแล้วก็ต้องรักษาสถานภาพดุอย่างหมาๆไปก่อน  เดี๋ยวเสียฟอร์ม

“พี่จะบอกว่า พี่ลืม......ลืมบอกว่าเสาร์นี้...พี่ไปหาโอมไม่ได้น่ะ....”ฟังแล้วหน้าหงิกดิ  ไม่ได้เจอกันมาอาทิตย์นึงแล้วนะ แล้วทำไมต้องตะกุกตะกักทำอย่างกับเป็นเรื่องใหญ่

“โอมมาหาพี่นะ.....คิดถึงจังเลยอยากกอดโอมจะแย่อยู่แล้วเนี่ย”

อิอิ แต่คราวนี้ฟังแล้วต้องแอบยิ้ม หายโกรธเป็นปลิดทิ้ง จะเชื่อดีไม๊ครับ สำนึกดีบอกผมว่าพี่ต่ายพูดจริงเพราะพี่ต่ายรักผมมาก  แต่สำนึกร้ายบอกว่ามันไม่เนียนเลย

“โอมครับ...โกรธพี่เหรอ....โอมมาหาพี่นะ...คิดถึง”ใครจะไปทนลูกอ้อนพี่ต่ายไหวล่ะครับ  ผมเองก็อยากกอดพี่ต่ายเหมือนกัน  หายงอนก็ได้ว่ะ  หายเร็วอีกล่ะงอนได้ไม่เกิน สิบห้านาที ฮ่าๆๆๆ

“ไปก็ได้ตอนเย็นๆนะพี่ต่าย  ต้องอยู่ดูเค้าทาสีบ้านน่ะพี่  ก็ไอ้บ้านหลังนี้แหล่ะ จะทาสีอะไรก็ต้องให้ผมมาเลือก  ไม่เลือกอะไรเลย”

“หึหึ โอมก็คิดซะว่าเป็นบ้านโอมซิ  เจ้าของเค้าคงพอใจแบบนั้น  เค้าต้องวางใจโอมแหล่ะถึงปล่อยให้โอมทำ” พี่ต่ายปลอบผมต่อไป

“นะโอม  โอมคิดว่ายังไงเหมาะก็ทำไปเลย”

คำพูดของพี่ต่ายทำให้ผมค่อยสบายใจขึ้น  เราคุยกันต่ออีกพักนึงแล้วก็นัดแนะว่าจะไปเจอกันที่กรุงเทพฯครับ  พอวางสายพี่ต่ายไปผมนอนมองบ้านอีกซักพักนึง  แล้วผมก็เลือกได้ครับ......ผมว่าผมจะทาสีขาว  เหมือนบ้านของพี่ต่าย  บ้านสีขาวคงจะตัดกับแนวเขาสีเขียวด้านหลังเป็นอย่างดี   ดูแล้วก็จะสดชื่น สดใส  ที่สำคัญผมชอบบ้านหลังนี้จังเป็นบ้านในฝันของผมเลย 
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณที่ยังติดตามกันค่ะ   :oni1: เหลืออีกนิดส์นึงนะ พรุ่งนี้จบ :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 15-02-2008 10:06:26
ชอบอ่ะ

มาต่อตอนพิเศษเรื่อยๆ น้า :oni1:

มีฟามสุขตอนรับวันวาเลนไทน์จัง  :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 15-02-2008 10:21:08
 :oni3:  :oni3:  :oni3: เอาอีก ๆ ๆ ๆ ๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 15-02-2008 11:08:58
 :a2:ขอบคุณมากครับสำหรับตอนพิเศษ ทำให้คลายความคิดถึงลงไปบ้าง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 15-02-2008 11:25:26
มีเรื่องอะไรไม่บอกโอม เด๋วโอมก็งอนอีกหรอกพี่ต่าย

หรือพี่ต่ายชอบให้โอมงอนนะ เพราะโอมงอนแล้วก็น่ารักดี

 :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: YMP ที่ 15-02-2008 11:42:03
  เออ....เค้าลืมบอกอีกเรื่องนะเห็นว่าห้องนอนใหญ่ของเจ้าของบ้านเค้าอยากได้วัสดุเก็บเสียงนะ ทั้งฝ้าทั้งผนังโอมจัดการด้วยนะ   ไม่รู้มันจะไปร้องคาราโอเกะในห้องนอนรึยังไงเค้าก็ยังงงๆอยู่เนี่ย

หึหึ เห็นเจตนามั่กมาก :laugh:


รอตอนต่อไปคร้าบ  :pig4:


ปล. ปีนี้ก็ยังคง  :L3: << เปลี่ยนคำเป็น "ไม่มีแฟนให้บอกรัก"
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 15-02-2008 11:46:55
อิอิ มาแล้วววววววววววววววววตอนพิเศษที่รอคอย

ตอนต่อไปก็ต้องสนุกแน่ๆ อยากรู้พี่ต่ายจะบอกยังไง อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: three ที่ 15-02-2008 11:52:11
ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษนะครับผม :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 15-02-2008 12:28:33
ห้องเก็บเสียง .. 555555555+

บ้านนี้ก็ช่างไรเดียงสาเสียนี่กะไร "ร้องเกะในห้องนอน" 555555+

รอตอนพิเศษตอนต่อไปนะครับพี่ฟาง... :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 15-02-2008 13:11:04
คิกๆๆ  คุมงานสร้างเรือนหอตัวเองไม่รู้ตัวเลยน๊าา อิอิ  :o8:

มีการสร้างห้องนอนบุตัวเก็บเสียวด้วย  หุหุ  เรพาะไรน๊าา  ต้องไปถามพี่อั้ม อิอิ  :m25:



ขอบคุณสำหรับตอนพิเศานะคร้าบบ  มาพิเสาบ่อยๆนะค้าบบ แหะๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 15-02-2008 14:42:01
ชอบเรื่องนี้อะ
 
น่ารักทั้ง โอม ทั้งพี่ต่ายเลย

อิอิ อ่อ คนแต่งก็น่ารัก เด๋ว

จะน้อยใจ หาว่าเราลำเอียง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: anna_007 ที่ 15-02-2008 15:03:51
 :c5: o7

ทายม๊าย ทำมาย ต้องมีห้องเก็บเสียงด้วยรู้ยัง รู้ยัง

ต้องถามโอมแล้วแหละ :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 16-02-2008 01:53:04
ห้องน้ำติดกระจก :m25:
โอมนะโอม....ไม่อายบ้างหรอ อิอิ

ส่วนห้องนอนก็ติดวัสดุเก็บเสียง...สงสัยพี่ต่ายต้องทำกิจกรรมใช้เสียงดังแน่ๆเลย  :m4:  :o8:

รอตอนต่อไปนะครับ พี่ฟาง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Amamiya ที่ 16-02-2008 02:04:24
ห้องเก็บเสียง...!?!...

ที่อื่นอาจเอาไว้ร้องเกะ..แต่ที่นี่คงม่ายช่ายแน่ๆ..

 :m12: :m12:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 16-02-2008 09:11:16
 :oni1: ตอนสุดท้ายของตอนพิเศษแล้วนะค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการอ่านค่ะ :m1:
+++++++++++++++++++++++++
ตอนพิเศษ (จบ)

ตอนนี้บ้านเสร็จแล้วครับผมรู้สึกสบายใจจริงๆ  งานนี้รับทรัพย์เหนาะๆเฉพาะค่าคุมงานได้มาแปดหมื่น หุหุหุ o16  ไม่รวมกำไรจากการขายวัสดุ  กับค่าแรงก่อสร้างของพี่อั้ม ที่สำคัญเป็นบ้านสวยเหมือนภาพในฝันของผม  เป็นความภูมิใจในผลสำเร็จของงาน  รอก็แต่เจ้าของบ้านจะมาติชมเท่านั้นเอง  พี่อิงเองยังเบาใจว่าสามารถวางใจผมเรื่องงานได้

 เฟอร์นิเจอร์ผมลงแค่หลักๆเช่นเตียงในห้องนอน  โซฟาในห้องนั่งเล่น โต๊ะกินข้าว  แต่ก็ส่งแบบร่างไปให้เจ้าของบ้านดูแล้ว  ก็เหมือนเคยคือไม่มีคำว่า “ไม่ชอบ”กลับมา  ก็เลยง่ายสำหรับผมอีก  ผมใช้หลักที่เรียบๆน้อยๆเน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่า   เพราะถ้าเค้ามาแต่งเองทีหลังจะได้ง่าย  

แต่ตราบใดถ้าเค้าไม่มาดูเองผมก็ยังมั่นใจไม่ได้เต็มร้อยว่างานผมจะจบแค่นี้หรือเปล่า เพราะก็ยังมีเปอร์เซ็นที่เจ้าของบ้านจะไม่ชอบ     ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของบ้านผมก็รู้น้อยมากไม่รู้ว่าเค้ามีครอบครัวรึยังด้วย  รู้แต่แค่ว่าจะมาอยู่กับแฟน

 ผมเดินเข้ามาห้องนอนใหญ่ของเจ้าของบ้าน  ผมต้องปรับฝ้าเป็นอาคูสติคบอร์ด
กันเสียงสะท้อน  ผนังห้องผมตัดสินใจใช้ผนังชายอ้อยแล้วบุด้วยผ้าไหมใช้สีเอิร์ทโทนเรียบๆแล้วก็ใส่ผ้าม่านคงพอช่วยลดเสียงสะท้อนได้บ้าง  ไม่รู้ทำไมต้องทำอย่างกับห้องเอาไว้ดูหนังด้วยความคิดเจ้าของบ้านท่าจะบร้า  ผมยืนมองแล้วได้แต่ยืนส่ายหัวขำหัวเราะกับตัวเอง

พอเปิดหน้าต่างออกไปลมเย็นๆพัดผ่านเข้ามาอากาศดีมากๆครับ  มองเห็นวิวด้านหน้าเป็นภูเขาสีเขียวๆ  ผมยืนยิ้มคนเดียวแล้วหายใจสูดอากาศบริสุทธิเข้ามาเต็มปอด   เป็นบ่ายวันเสาร์ที่ผมรู้สึกอารมณ์ดีจริงๆ  พรุ่งนี้พี่ต่ายก็จะมาหาผมที่นี่   ผมว่าการที่เราอยู่ห่างกันบ้างทำให้เรารักกันมากขึ้นครับ  ช่วงเวลาที่เรามาเจอกันแต่ละครั้งมันมีค่ายิ่งกว่าอะไร  :a4:
 
ตอนที่ผมย้ายกลับมาอยู่บ้านต้องห่างจากพี่ต่ายไปปีนึง  ผมได้รู้ว่าบางครั้งคนเราก็ต้องการมีเวลาที่เป็นส่วนตัว  ที่เราจะได้อยู่กับตัวเอง  คิดอะไรทำอะไรที่เราอยากจะทำเอง  โดยไม่ต้องมาคำนึงถึงความรู้สึกของใคร  มันคือความหมายของคำว่าอิสระ แต่ก็ต้องมีพื้นฐานจากการเชื่อใจกันด้วยนะครับ  ผมว่าพี่ต่ายเองก็คงต้องการเวลาส่วนตัวนั้นเหมือนกัน  ผมจึงไม่เคยคิดว่าผมจะอยู่ไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวัน เราจะมีทั้งช่วงเวลาส่วนตัวและช่วงเวลาที่เราได้อยู่ร่วมกัน
 
เวลานี้ที่บ้านไม่มีช่างเหลืออยู่แล้วครับเพราะเก็บงานไปแล้วค่อนข้างเรียบร้อย บ้านเลยค่อนข้างเงียบได้ยินแต่เพียงเสียงลมพัดและมีเสียงนกร้องมาเป็นครั้งคราว  ถ้ามาอยู่ที่นี่จริงๆก็คงจะได้ความสงบ  ห่างไกลจากสังคมเมืองอย่างแท้จริง

  ผมดีใจเหมือนกันว่าจะได้เจอกับเจ้าของบ้านแล้ว  วันนี้เค้าจะเข้ามาดูบ้านของเค้า
ผมเลยมารอที่นี่  ผมตื่นเต้นนิดหน่อย  อยากรู้ว่าเค้าจะชอบบ้านที่ผมทำไม๊เหมือนกับที่ผมชอบ

 ยังมีเวลาอีกชั่วโมงกว่า  ผมไปนั่งที่เตียงแล้วก็เอนตัวลงไปเรื่อยๆ นอนเกลือกกลิ้งไปมา แล้วก็คิดฟุ้งซ่านอยากมีบ้านแบบนี้บ้าง  ไว้ผมชวนพี่ต่ายมาปลูกบ้านตากอากาศบ้างดีกว่า   ผมอยากมีที่ๆเราสามารถอยู่ด้วยกันสองคนได้  ใช้เวลากันเต็มที่ไม่ต้องเกรงใจใคร เพ้อไปแล้วครับผม อิอิ  คิดวนเวียนไปมาแล้วผมก็เคลิ้มหลับไปเลยตามเคยครับ   :m23:

ผมมารู้สึกตัวเอาตอนไหนไม่รู้  แต่เหมือนผมนอนไปนานมากเลยครับแสงอาทิตย์สีทองสาดเข้ามาในห้อง  หน้าต่างยังคงเปิดอยู่เพราะลมหนาวพัดเข้ามาจนผมรู้สึกได้  
ผมหนาวนิดหน่อยจนต้องกอดตัวเอง  สูดน้ำลายที่รู้สึกว่าเหมือนไหลออกมา หุหุหุ เอามือปาดน้ำลายที่ไหลย้อยลงมาหยดเป็นดวงอยู่ที่เตียง  ต่ายอ่า....เจ้าของบ้านจะเห็นไม๊หว่า  :try2: ต้องผลุดลุกขึ้นมานั่งเกาหัวตัวเองแบบสลึมสะลือ

พอลืมตาขึ้นมาเต็มที่ก็ต้องสะดุ้ง  o22  ขยี้ตาเมื่อเห็นเงาดำๆของร่างๆหนึ่งยืนหันหลังอยู่ข้างหน้าต่าง  ถึงผมจะเขม้นมองก็ยังดูไม่ออกว่าเป็นใครเพราะผมมองย้อนแสงอยู่  ร่างสูงนั้นยืนกอดอกมองออกไปที่วิวข้างหน้า  ผมตกใจหรือว่านี่คือเจ้าของบ้าน  ผมช่างเสียมารยาทจริงๆที่มาเผลอหลับบนที่นอนของเค้าได้   แถมยังเพิ่มรอยน้ำลายลงบนเตียงที่เค้ายังไม่ได้ใช้ด้วย ซวยล่ะซิ  :m29:

กว่าผมจะเปิดปากพูดไปอย่างลำบากใจและกระดากอายก็ใช้เวลาตั้งตัวเตรียมใจพักใหญ่   พยายามเอามือลูบหน้าตาผมเผ้าให้เรียบร้อย “ขอโทษน่ะครับ ผมเผลอหลับไปหน่อย” ผมค่อยๆลุกเดินไปหาคนๆนั้น   ก็พอดีกับที่เค้าหันหน้ามาหาผมแล้วพูดว่า

“โอมนอนไปเถอะไม่เห็นจะเป็นไร” เสียงที่ตอบมาทำให้ผมสะดุ้งอีกที พี่ต่ายนี่หว่ามาได้ไง   โผล่มาทีไรทำผมหัวใจจะวาย   เกือบร้องเฮ้ย!!!ออกมาดังๆ :sad3:

“พี่ต่ายเหรอ!!!   เข้ามาได้ไงพี่  มานานรึยัง  แล้วเจอใครบ้างไม๊พี่ผมมารอเจ้าของบ้านอยู่”

 เสียงผมสูงปรี๊ดขึ้นมาทันทีด้วยความตื่นเต้น ถามรัวไปหมดอย่างกับคนสติแตก  พี่ต่่ายหัวเราะขำผมแล้วดึงตัวผมเข้าไปกอด  ผมไม่ทันตั้งตัวเลยเซถลาเข้าไปที่อกพี่ต่าย  เหมือนในหนังเลย  พี่ต่ายหอมแก้มผมแรงๆ

“เฮ้อชื่นใจ......ถามพี่เต็มไปหมดพี่ไม่รู้จะตอบอะไรดีก่อน หึหึหึ”ผมทั้งเขินทั้งงงในอ้อมกอดอันอบอุ่นของพี่ต่าย  ผมแหงนหน้ามองพี่ต่าย  ไม่คิดเลยว่าจะตามมาหาผมถึงที่นี่

“พี่ต่ายมาได้ไงครับ....หืม”พี่ต่ายไม่พูดยาวแต่ยิ้มๆ “พี่ก็มาดูบ้านไง”

ผมขมวดคิ้วเงยหน้าถามพี่ต่ายอีกที แต่มือผมโอบเอวพี่ต่ายไปแล้วตามความเคยชินครับ  ของมันเคยมือ “ดูบ้านใคร...บ้านอะไรพี่” :m28:

พี่ต่ายยิ้มแปลกๆบอกไม่ถูกว่าเป็นยังไงแบบกลัวๆกล้าๆน่ะครับ เหมือนตัดสินใจว่าจะพูดดีไม๊ดี  “บ้านเราไงโอม”

“บ้านเรา...บ้านอะไรบ้านเรา?????”

 ไม่กระจ่างเลย  พี่ต่ายเล่นพูดเป็นคำๆ  อยากบอกพี่ต่ายว่านี่ไม่ใช่รายการใบ้คำนะพี่บอกอะไร  ไม่บอกมารวดเดียว มีกั๊กตลอด หรือคิดว่าผมเป็นกูเกิ้ลใส่คำอะำไรมาก็เสิร์ชหาได้หมด  พี่คิดอาร๊ายยย

“ก็ที่นี่ไงบ้านพี่กับโอม”พี่ต่ายโอบตัวผมแน่นขึ้นกดตัวผมเข้าไปที่อกพี่ต่าย ผมยังงงๆ
เหวอๆอยู่ตอนที่พี่ต่ายพูดรัวต่อไป  อย่างกับว่าพูดช้าแล้วผมจะกดปุ่มปิดให้หยุดพูด

 “พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกโอม  ตอนแรกพี่ก็ปิดนะ  แต่ตอนหลังพี่ยอมรับว่าพี่ลืมบอกให้โอมรู้ไปจริงๆ  ก็อยากให้โอมสร้างบ้านอย่างที่อยากจะได้ด้วยแหล่ะ”  พูดเร็วมากครับจนผมจับใจความแทบไม่ทัน  ได้แต่อ้าปากค้าง มึนงงกับสิ่งที่พี่ต่ายกำลังบอก  ตกลงบ้านหลังนี้เป็นของพี่ต่ายเหรอ ??????? งงงงงงง :sad5:

พี่ต่ายหยุดพักนึงแล้วเอามือมางับปากผมที่ค้างอยู่ให้หุบลง  คงทนดูต่อไปไม่ได้
“โอมจำที่พี่เคยบอกโอมไม๊ว่าพี่อยากมาอยู่ที่นี่กับโอม”

ผมพยักหน้าให้พี่ต่าย  เพราะผมไม่เคยลืมความฝันของพี่ต่ายเลยความฝันที่มีผมอยู่ด้วย
ยังเบลอๆอยู่ครับ  ว่าอันไหนมันจริงอันไหนมันฝัน  เอ๊ะหรือเรายังไม่ตื่น  แอบเอามือไปหยิกแขนตัวเอง  แล้วก็เจ็บจริงๆแหล่ะ เวง.....

“พี่ซื้อที่ไว้นานแล้วนะโอม  พี่กำลังเริ่มทำทีละอย่างแล้วนะ”พี่ต่ายลูบหัวผมพร้อมกอดผมเหมือนจะให้คลายหนาว  แต่ผมว่าพี่ต่ายกอดผมแน่นกลัวผมจะเล่นงานพี่ต่ายมากกว่า รู้ทันครับเล่นล๊อคแขนซะขนาดนี้ หึหึหึ

“โอมไม่โกรธพี่นะครับ  ที่ไม่ได้บอกเรื่องบ้าน” o18

 พอพี่ต่ายทัก  ผมเลยนึกได้ว่า...โกรธเหรอ....เออจริงลืมไปเลยว่าควรต้องโกรธ 555  ช่างมัน...ไม่โกรธก็ได้ว่ะ  อยู่ดีๆก็ได้บ้านหลังที่ชอบมาแล้วนี่ อิอิ   :yeb:แต่คิดไปคิดมา....ไม่ได้ครับต้องมีบ่นนิดหน่อยไม่งั้นไม่ใช่ผม  ผิดคอนเซ็ปท์ เลยขอเม้งแบบพอเป็นพิธี

“โกรธซิพี่  จะปลูกบ้านทั้งทีไม่บอกกันตรงๆ  ผมจะได้เต็มที่กว่านี้อีก”ผมเอากำปั้นทุบอกพี่ต่ายเบาๆ  พอให้ดูหน่อมแน้มน่าเอ็นดูเล็กน้อย  อิอิ แล้วผมก็นึกขึ้นมาได้ว่าสงสัยอยู่เรื่องนึง

“พี่ต่ายทำไมห้องนี้ต้องเก็บเสียงด้วยล่ะพี่   ผมงงมันห้องนอนนะ  พี่จะเอาโฮมเธียร์เตอร์มาไว้ห้องนี้เหรอ” พี่ต่ายอมยิ้มครับไม่พูดทำหน้าตากรุ้มกริ่ม   :interest:แล้วก็ปล่อยผมออกจากตัวให้ผมยืนเง็งอยู่ตรงนั้น  เดินไปล็อคประตูห้อง  ไม่รู้ทำอะไรซิ  แล้วก็เดินกลับมาหาผม

“ทำไมเหรอพี่...”ผมก็ยังซื่อเหมือนที่เคยเป็นมาน่ะครับ อิอิ ซื่อน่าดูเลยคนอย่างผม :impress:

พี่ต่ายเอามือประคองหน้าผมส่งสายตาหวานล้ำมาให้แล้วเริ่มจูบผม  เราจูบกันไปและเริ่มขยับตัวไปเรื่อยๆจากริมหน้าต่างมาเรื่อยๆแล้วหยุดที่ข้างเตียง  พี่ต่ายยังคงไม่ปล่อยจากตัวผม ตอนนี้มือพี่ต่ายเริ่มทำงานอย่างชำนาญแล้วครับ เสื้อผมหลุดไปแล้ว จ๊ากกก  แต่ผมซิจูบจนหายใจจะไม่ทันเกือบตะโกนขออ๊อกซิเจน  ช่วยด้วย  ไม่ได้คิดมาก่อนว่าเจ้าของบ้านจะมาดูบ้าน  แล้วจะมาดูตัวคนสร้างบ้านด้วย ไม่ทันตั้งตัวเลย  หุหุหุ :impress2:

หลังผมติดเตียงไปแล้ว  ตอนที่พี่ต่ายปล่อยตัวผม  แล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าของตัวเองออก  แววตาพี่ต่ายร้อนแรงจนผมไม่กล้าสบสายตา  ต้องลดตามองต่ำลงมา ไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะครับ ก็เลยมองพี่ต่ายเปลือยกายแบบเต็มสองตา  ผมรู้สึกว่าน้ำลายมันสออยู่ที่ปากต้องกลืนน้ำลายตัวเองลงไป  อย่างที่บอกว่าอากาศมันเย็นครับ  ผมขนลุกเกรียวเมื่อมองร่างกายพี่ต่าย  

อากาศมันหนาวผมก็บอกตัวเองแบบนั้น    ผมไม่ได้คิดอะไรจริงจริ๊ง  ขนมันลุกก็เพราะหนาว  หัวใจเต้นแรงก็เพราะหนาว  เลือดฉีดขึ้นหน้าก็นั่นแหล่ะ  มันหนาว :m10:

“พี่ต่าย.....ยังสว่างอยู่เลยนะพี่” เสียงผมสั่นๆ สั่นสู้  สู้โว้ยยย!!!! ผมก็งงตัวเองก่อนที่พี่เค้าจะถอดเสื้อมัวแต่อ้าปากค้างไม่พูดห้ามซักคำ  ตอนของผมโดนถอดด้วย  พอพร้อมใช้งานดันมาท้วงซะได้ เป็นพวกปากอย่างใจอย่างน่ะครับ  หรือเรียกอีกอย่างพวกปากไม่ตรงกับใจ หึหึหึ

พี่ต่ายพูดเสียงกระซิบนุ่มๆที่ข้างหูผมทำเอาผมใจสั่น  จะเร้าอารมณ์กันไปถึงไหนพี่.....

“พี่จะแสดงให้โอมรู้ไงว่าทำไมพี่ต้องการห้องเก็บเสียง หึหึหึ” พี่ต่ายกำลังจะทำอะไรผมก็รู้  แต่ผมไม่เข้าใจอยู่ดี  ว่ามันเกี่ยวกันยังไง   :confuse:ใครช่วยบอกผมทีนะ............คร๊าบบบบ
+
+
+
+
หลังจากพายุอารมณ์ผ่านไปรอบนึงเราสองคนนอนกอดกันบนเตียง  เหงื่อท่วมกายไม่รู้สึกหนาวแล้วครับร่างกายมันอุ่นจนร้อนแล้ว  

ผมก็ยังคาใจ “พี่ต่ายผมยังไม่เก็ตน่ะว่ามันเกี่ยวกันยังไง  บอกหน่อยดิ”   ผมไม่รู้ว่าผมคิดถูกคิดผิดที่ถามไปแบบนั้นแต่พี่ต่ายยิ้มกรุ้มกริ่มน่ากลัวจริงๆครับ เหอๆๆๆ

“งั้นพี่บอกอีกรอบนะ....”  :haun5:พี่ต่ายเริ่มไซร้ซอกคอผมอีกแล้วครับ  แล้วเลื้อยไล่ลงมาเรื่อยๆ ฮือๆๆๆ ฉลองบ้านใหม่น่วมเลยผม
+
+
+
“อื๋ยยยย....ไม่ไหวแล้วพี่ต่ายยยย” หุหุหุ วันนั้นจนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่รู้คำตอบอยู่ดีครับ   :kikkik:
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จบแล้วนะค่ะตอนพิเศษ อิอิ หวังว่าคงชอบกัน : 222222:

กำลังคิดจะรวมเล่มทำหนังสือค่ะ ถ้าใครสนใจอยากให้มาแจ้งPM ชื่อและอีเมลล์ไว้แล้วจะแจ้งกลับเมื่อมีการจัดทำค่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: THIP ที่ 16-02-2008 09:30:58
จบตอนได้  :m25:  :m25: :m25: :m25:

 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: น้ำค้าง ที่ 16-02-2008 10:46:31
อ่านตอนพิเศษค่อยหายคิดถึงหน่อย

น้องฟางมาต่อตอนพิเศษบ้างนะคะ ถ้าว่างจากงาน

จะคอยอ่านค่ะ เรื่องนี้น่ารักมากเลย ไม่อยากให้หายไป
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: cassper_W ที่ 16-02-2008 10:50:16
หุหุ ช๊อบ ชอบ น่ารักดีอ่ะ  มาแต่งต่ออย่างด่วน :c5:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nartch ที่ 16-02-2008 11:09:54
น่ารักยังไงก็ยังคงน่ารักอย่างนั้นนนนน น่าอิจฉาโอมจิง ๆๆๆๆ
ผู้ชายอย่างพี่ต่ายมีวางขายตามห้างฯป่ะนะ... :m23:
ว่าง ๆ ฟางก็มาต่ออีกนะ ต่อจนกว่าโอมจะรู้ว่าห้องเก็บเสียงมีไว้ทำไม  :m20:
 :pig4: :pig4: :pig4:
สำหรับนิยายน่ารัก ๆๆๆๆ หวานปนหื่น ติดตามผลงานใหม่ต่อไปนะค๊าบบบบ
 :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: snowblack ที่ 16-02-2008 12:35:06
วิธีตอบข้อสงสัยของพี่ต่ายนี่ได้ใจมักๆ :o8:

ชอบคร้าบบบบ....อยากได้ตอนพิเศษอีกอ่ะพี่ฟางทำไงดี  :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Simply Blue ที่ 16-02-2008 13:16:51
น่ารักกกกกกกกกมหาศาลมากๆๆๆๆๆๆ

ขอบคุณน้องฟางอย่างแรง

วุ้ยๆๆๆ อ่านไปอมยิ้มไป น้องโอมน่ารักได้ใจจริงๆๆๆๆ 55555555
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: bamtham ที่ 16-02-2008 13:37:52
ชอบอ่ะ  มาต่อตอนพิเศษอีกเร็ววววๆๆๆๆน้า :m1:

ขอบคุณค้าบ :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: oaw_eang ที่ 16-02-2008 14:04:27
 :a5:

น่ารักอะไรอย่างเนี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ไม่ไหวๆๆๆ

ขอตัวไปหาทางลดน้ำตาลในเลือดก่อนนะเคอะคุณน้อง

 :sad2:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 16-02-2008 14:32:14
555 จบตอนพิเศษไปแบบน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก อิอิ  :oni2:

แหมโอม จะไม่รู้คำตอบไปเรื่อยๆป่าวเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: anna_007 ที่ 16-02-2008 14:49:05
โลกนี้เป็นสีชมพู
 :L1: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: butterfly ที่ 17-02-2008 14:30:37
อ่านรวดเดียวจบเลย

พี่ต่ายน่ารักมากๆ ถึงช่วงแรกจะเก๊กไปหน่อยก็เถอะ  :o8:

ว่างๆเขียนมาอีกนะคะ  o13

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ToDo ที่ 17-02-2008 18:26:40
จบตอนพิเศษ แบบพิเศษๆ ฮิฮิ 

o2 o2 o2

 :L3: :L3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ภาณุเมศพลัง ที่ 17-02-2008 19:06:04
ตอนพิเศษเเบบนี้ชอบค่ะ  พี่ต่ายนะพี่ต่าย สร้างห้องเก็บเสียง เพราะงี้นี่เอง

 :o8: :o8:

ส่งความรักมห้คนเขียนด้วย ย้อนกลังไปหน่อยนะคะ  :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 17-02-2008 19:11:38
พี่ฟางฮับ

น้องอยากได้คนมาตรวจสอบหัวใจมั่งอ่ะฮับ

มีสินค้าให้ทดลองใช้ไหมฮับ

อยากได้เจรงๆ

ป๋อหลอ...มีตอนพิเศษมาเรื่อยๆ ก็ดีนะฮับ
น้องเป็นโรคขาดน้ำตาลอ่ะฮับ

เอิ๊ก เอิ๊ก เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ★L'Hôpital ที่ 17-02-2008 19:32:53
 :m1: :m25: พี่ต่ายน่ารักอีกแล้ว จะตอบคำถามโอมดีๆก็ไม่ได้ ต้องมีฉากให้เสียเลือดกันอีกแล้ว (ฮา)

รอพี่ฟางมาต่อตอนพิเศษอีกนะคร้าบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ukimi ที่ 17-02-2008 19:36:49
อ่านรวดเดียวจบ แบบว่า อืม.. น่าร้ากกกอ่ะ   o13  ว่าแต่จะมีตอนพิเศษอีกรึเปล่าเนี้ย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 17-02-2008 23:03:08
จะน่ารักไปถึงไหนคู่นี้

หมั่นไส้อย่างแรง ฮ่า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Heater ที่ 18-02-2008 02:10:56
อ่านรวดเดียวจบ
18.00-02.30น.
555+

ชอบมากมายครับ ขอบคุณจริงๆครับ o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: DeShiWa ที่ 18-02-2008 02:33:28
:impress: :impress: :impress:

ก็เวลาพี่โอมกับพี่ต่ายเอากันอะ

เสียงดังไง พี่ต่ายเลยเก็บเสียงซะเลย

เพราะพี่โอมร้องเสียงดังมาก

จนพี่อั๊มได้ยินตอนที่อยู่บ้านที่กรุงเทพอะครับ อิอิ

พี่โอมจำได้ยังคราวนี้ อิอิ

ตอนพิเศษมาลงตอนไหนเนี้ยเพิ่งเห็นอะครับ

พลาดไปได้ไงตั้ง2ตอน

แต่ตอนนี้อ่านจบแล้วครับผม ชอบมากๆๆ

:impress: :impress: :impress:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: SoN ที่ 18-02-2008 05:02:14
จบซะละ


 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: niph ที่ 18-02-2008 08:44:46
ต้องพาพี่อั้มมานอนห้องข้าง ๆ
แล้วเช้ามาก็ถามเลย

เผื่อวัสดุจะไม่ได้มาตรฐาน

ว่าแต่ ... โอมนี่คิดไม่ทันใช่มะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 18-02-2008 10:35:53
 o13

เอาอีกอ่ะ

 :oni2:  :oni2:  :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: anna1234 ที่ 18-02-2008 13:03:11
 :o8:

มาต่อตอนพิเศษอีกหน่อยดิ

สงสารนู๋โอม ยังไม่getเลย

พี่ต่ายก็ใจร้ายบอกอ้อมจน คนอ่านเลือดอาบตัวเลย

 :m25: :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: MyLoveMyBabe ที่ 18-02-2008 13:35:01
นี่ๆๆๆ คุณโอม แลก้งไม่รู้ป่ะคับ  :m21:

อยากให้พี่ตายบอกแบบัน้นหลาบๆรอบอ่ะดิ อิอิ   :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 18-02-2008 15:07:41
 :a4:จบตอนพิเศษ1 แล้วควรจะมีตอนพิเศษมากๆๆ อีกด้วยครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Ryuse ที่ 18-02-2008 15:37:59
โอมแอ็บแบ็วเปล่าเนี่ย ถึงได้ไม่รู้น่ะ เอิ๊กๆ

พี่ต่ายก็นะ รู้สึกเดี๋ยวนี้ลุกล่อลุกชนเพียบเลยนะ แต่ขืนเอาออกมาชนเยอะๆระวังโอมจะช้ำแล้วพี่ต่ายอดกินนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: lucifel ที่ 18-02-2008 20:02:29
 :oni1: :oni1:

 o13

เจ๋งมาก

ห้องเก็บเสียง

 :oni2:
มองการณ์ไกลมากเลยพี่ต่าย
 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ken_krub ที่ 20-02-2008 00:36:58
เป็นกำลังใจให้เสมอและตลอดไปครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 20-02-2008 11:09:14
ตอนพิเศษน่าร๊ากกกก   :m1:
น้องโอมแบ๊วเหมือนเราเลย
เราก็ไม่รู้เหมียลกัล...ว่าทำห้องเก็บเสียงไว้ทำมาย     :o8:   
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ~•SAkurAIro•~ ที่ 21-02-2008 02:00:24
อ่า ได้อ่านซะที เหนตั้งนานแล้วแต่ไม่ได้เข้ามาซะที  :m23:

ชอบอ่ะ ๆ ตอนพิเศษ หวาน+หื่น  :m4: :m4: :oni1:

พี่ต่ายน่าร๊ากกกก โอมก้ชั่งใสซื่อจริงๆ  :m20:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: MiTo™ ที่ 21-02-2008 09:15:35
คิดถึงพี่ต่ายกับโอมอ่าก๊าบบบบบ

 :oni2: :oni2: :oni2: :oni2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 22-02-2008 12:42:11
 :a4:นึกว่ามีแต่จินตหรา แอ๊บแบ้ว  คุณโอมก็ด้วยคนหรือครับ
มาเล่าต่อสิครับ คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: christiyaturnm ที่ 22-02-2008 18:09:20
 :m1:


รักพี่ต่ายขึ้นจมเลย

หวังว่าจะมีตอนพิเศษๆมาอีกเรื่อยๆนะงับ



ว่าแต่ทำอย่างอื่นบ้างนะ  อย่ามัวคลุกอยู่ในห้องเก็บเสียง


อิอิ

 :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kongkilmania ที่ 28-02-2008 11:37:58
 :m23:  ไม่มีอาราย  แค่มาดันเจ๋ยๆ
เผื่อคนแต่งชะแว๊บมาเห็นเรื่องนี้อยู่บนๆ
จะได้มีอารมณ์บรรเจิด แต่งตอนพิเศษมาให้อ่านซัก10-20 ตอน     :m20:


ไปละ     :oni1:    :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pongsj ที่ 28-02-2008 11:43:10
:m23:  ไม่มีอาราย  แค่มาดันเจ๋ยๆ
เผื่อคนแต่งชะแว๊บมาเห็นเรื่องนี้อยู่บนๆ
จะได้มีอารมณ์บรรเจิด แต่งตอนพิเศษมาให้อ่านซัก10-20 ตอน     :m20:


ไปละ     :oni1:    :oni1:

ถ้าช่วยดันแล้วตอนพิเศษไม่มา.............มีโกรธ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: aisen ที่ 28-02-2008 22:59:41
แว็บมาดู เพื่อมีตอนใหม่อีก
อิอิ  :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: piyakorn ที่ 29-02-2008 16:50:13
 :a4:มาต่อเถอะครับ ผมคิดถึงจะแย่อยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: boboaje ที่ 07-03-2008 21:44:19
เข้ามาอ่านค่ะ   :a4:ไม่มีใครแนะนำนะค่ะ

แต่คงบุญพาวาสนาส่งมั้ง :a11:

หนุกดีอ่ะ  o13 อ่านปาย  :angry2: แมร่งเสียรมอ่ะ 

อยู่ดีดี  พี่ต่ายเราปายไหนว่ะ   o2 แต่ตอนท้ายนี่ดิ   :m1:หวานซะ


เลยให้อภัยค่ะ  :L1: เค้าบอกว่า  การให้อภัยเป็นการให้ทานอันประเสริฐค่ะ


แต่จาให้ดีที่สุดมีผลงานใหม่ก็แนะนำกันบ้างนะค่ะ   :L2: ขอบคุณค่ะ :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Water ที่ 13-03-2008 13:57:37
ค่อย ๆ อ่านมาวันละหน้า ผ่านไปเกือบเดือน จบจนได้ค่ะ  :mc4:

อ่านจบแล้วอยากมีบ้านเป็นของตัวเองเลย~~~ เมื่อไหร่จะมีใครมาสร้างให้ยังงี้มั่งอ่า  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: panari ที่ 20-03-2008 01:54:11
 :a5:  ตามอ่านจบจนได้ อาฮุอาฮุ  :m1: มานั่งอ่านตั้งแต่ 7 โมงเช้า อ่านไป กินข้าวไป สักพักร้อนลุกไปอาบน้ำกลับมาอ่านต่อ อ่านไปอ่านมาดูเวลาอีกที จะตีสองแล้ว  o2

สนุกจริงๆ นิยายเรื่องนี้ ชอบโอมกับพี่ต่ายน่ารักทั้งคู่เลย  :o8: แล้วอย่าลืมแวะมาต่อตอนพิเศษนะคะ จะรอๆ  :oni3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: panzzs ที่ 03-04-2008 23:04:34
กว่าจาอ่านจบ

หนุกมากค๊าฟฟฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-04-2008 21:35:44
^
^
^
^
ไม่ได้มาลงต่อนะเพราะยังไม่ได้แต่ง 555555+
แต่มาจิ้มน้องใหม่ :laugh: :laugh:
ขอบคุณค่ะที่มาอ่าน :o8:
อยากแต่งต่อนะแต่ว่า...... o7งานยังไม่เสร็จเลย :o12:


ใครจะช่วยช้านได้ :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 05-04-2008 16:19:19
นั่งอ่านตั้งแต่เช้าถึง4โมงเย็น

สนุกมากจริงๆขอบอก
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ( = ___ = ) ที่ 07-04-2008 20:39:55

   :o8:คุงเพ่กระต่ายน่าร๊ากกกก จุ๊บๆๆคุณฟางคนเขียน

ตอนพิเศษก็ชอบ หุหุ น่ารักได้อีกอ่า :a11:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ย้งยี้ ที่ 17-04-2008 02:21:14
ซึ้งมากๆ

อยากได้แบบนี้อ่า

ยังไม่อยากให้จบเลย ชอบจัง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: chee ที่ 17-04-2008 08:39:23
    อ่านรวดเดียวจบเลย สนุกมากค่ะ  :m4:

 o13 ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆมาให้อ่านนะคะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: __ .iMzii3 ที่ 21-04-2008 13:24:12
อ่านม้วนเดียวจบเลยแหะ
สนุกมากเลยครับ

แต่บางทีก็ยังบนนยายได้ไม่ชัดเจนอ่าฮะ
แต่ก็ชอบมากๆเลยแหละครับ


ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆนะฮะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: TonG_x_Zhi ที่ 22-04-2008 02:17:49
พี่ต่ายน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :oni1: :oni1: :oni1:
ตอนที่หายไปนึกว่าพี่ต่ายจะเป็นอะไรซะอีก...โล่งอกเลยที่รู้ความจริง อิอิ :o9:

ว่าแต่ว่ากระแตน้องพี่กระต่ายจะจับคู่กับพี่อั้มหรือเปล่าล่ะเนี่ย หุหุ :-[

ขอบคุณที่นำเรื่องน่ารักๆมาให้อ่านกันนะครับ   เรื่องต่อไปเป็นกำลังใจให้นะ :teach:

ขอบคุณพี่ไปป์ที่แนะนำให้อ่านเรื่องนี้ด้วยครับ^^ o15
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: zilveria ที่ 06-05-2008 19:49:03
ชอบมากคับ  แต่งเก่งจิง ๆ
เพิ่งเข้ามาอ่านได้ไม่นาน  แต่ติดมากเลยคับ
มาแต่งตอนพิเศษต่อนะคับ  ชอบจิง ๆ
 :m1: :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nuballe ที่ 11-05-2008 15:46:29
 :m4:อ่านรอบสองแล้วก็ยังหวานน่ารักเหมือนเดิมค่ะ ชอบมากเลยเรื่องนี้ อย่าลืมนำเรื่องใหม่มาลงนะคะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 12-05-2008 20:03:28
 :oni1:

 :oni1:

 :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: boylanla ที่ 12-05-2008 21:16:07
 :oni3: :oni2: :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 14-05-2008 01:51:52
อ่านถึงตอนที่ 7 แระ

 :oni1:

 :oni1:

 :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 15-05-2008 00:24:14
 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 15-05-2008 23:40:12
ตอนที่ 15 แล้ว

 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: K-altz ที่ 16-05-2008 13:54:00
ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลย   :m1:



อยากให้แต่งตอนพิเศษอีกจังเลย   :m13:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 16-05-2008 19:52:20
อ่านได้อีกหน่อยหนึ่ง ตอนที่ 17 แล้ว

 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 17-05-2008 21:30:12
 :a2: ตอนที่ 37 แล้ววุ้ย  :a2:

 :laugh: :laugh: :laugh:

ชอบมากมาย

 :pig4: :pig4: :pig4:

 :oni1: :oni1: :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 18-05-2008 09:21:00
yes!!! yes!!! yes!!!

ตอนที่ 47 แล้ววววว

 :laugh: :laugh: :laugh:

 o13 o13 o13

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 19-05-2008 03:20:02
อีก 3 ตอนเองจบแล้ว

สนุกมากกกกก

ขอบคุณคนแต่งคร๊าบบบบบ +1 ให้ด้วย

แล้วก็อ่ะ  :L2: ให้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: moonlight ที่ 19-05-2008 04:20:22
อ่าน2วันกว่าจะจบ

หนุกมากค่ะ o13

โอมกับพี่กระต่ายน่ารัก :o8:

แอบเศร้าตอนที่จากกัน1ปี :sad2:

รอตอนพิเศษต่อนะค่ะ :a11:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 19-05-2008 21:57:00
จบแล้วววววว

ให้พี่ฟาง 10+ เลย

คะแนนเต็ม

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: sakiko ที่ 19-05-2008 22:18:58
เพิ่งจาด้ายอ่านเรื่องนี้ ชอบมากค่ะ


แล้ว จารอตอนพิเศษ ตอนต่อ ไปนะค่ะ


 :bye2: :L2: :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: marchmenlo ที่ 20-05-2008 01:47:31
 :m1: สู๊ดยอดดด....เล่นเอาซึ้งไปหลายวัน เห่อ ๆ ๆ :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Bogiecoco ที่ 23-05-2008 02:48:54
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย

อ่านรวดเดียวจบ

ข้าวปลาก็กินมันหน้าคอมนี่แหละ

ทำไมน่ารักอย่างเน้

น่ารักอ่ะ สนุกมากกกกก

พี่ต่ายน่ารักสุดๆๆ โอมก็น่ารักกกกกกกกก

กีสสสสสสสสสสสสสสสสส

สรุป

อยากอ่านต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

พลีสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

มาต่อตอนพิเศษอีกเหอะนะ นะ นะ น๊า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pindream ที่ 08-06-2008 01:00:27
นั่งอ่านมาประมาณสามวันจบจนได้  :mc4: :mc4:
อ่านทีแรกสงสารโอมมากกกกก พี่ต่ายทิ้งโอมไปหนายยยยย :o12: :o12: น้ำตาซึมเลยยย
แต่พอมารู้ความจริงกลับสงสารพี่ต่ายมากกว่า  :m15: :m15: :m15: ทนได้ไงอ่ะ  แต่ชอบในความรักที่มั่นคงของทั้งคู่  :กอด1: :กอด1:
พี่อิงกะพี่อั้มก็น่ารักกกก  :m1: :m1:

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆที่เขียนให้ได้อ่านนะคะ :กอด1: :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: cozy-love ที่ 21-06-2008 06:42:14
ตามอ่านตั้งแต่ตีสองจนมาถึงตอนนี้...

เฮ้อลุ้นดี.. ลุ้นแรก..เมื่อไหร่ ..น้องโอมสุดน่ารักจะเสียตัว..( ส่อเจตนาไปไหมนี่..)

เรื่องมันก็ดำเนินไปในแนวราบ มีงอน มีหวาน มีตื่นเต้น ..แต่ที่ชอบมากที่สุดก็น่าจะการใช้ชีวิตประจำของสองตัวละคร การผูกโยงกับงาน หน้าที่ และกิจวัตร :m1: ..

มันทำให้เชื่อว่ารักแบบนี้ยังมีอยู่จริงในโลก

แต่พอมาถึงฉาก 3 ปีผ่านไป... ถึงกับอึ้ง เซ็ง นอย... ทำอะไรลงไป..ตามอ่านมาอย่างเซ็งๆพี่ต่าย แต่สุดท้ายก็กระจ่าง..แต่เหตุผลอ่านะ..จริงๆอยากให้อธิบายมากกว่านี้ เพราะยอมรับว่าซึ้งมากถ้ามันพูดมากกว่านี้

ส่วนสุดท้ายก็น่ารักต่อ.. ลุ้นพี่ต่ายตามง้อ..ในที่สุดก็อ่านะ..แต่ห้องเก็บเสียงจะเอาอยู่เหรอ..หุหุ...  :oni1:

สนุกมากจ้า..ขอบคุณมากๆ...
 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: xiiiNG ที่ 21-06-2008 18:33:13
ตอนแรกที่อ่านอ่า ตอนพี่ต่ายหนีไปอ่า


โหยๆๆๆ กะจะเลิกอ่านแล้วน๊า แต่พอดี กดผิดไปเห็ย รีพาย อันนึกบอกว่า พี่ต่ายกลับมาแล้วว


เลยต้องอ่าน ต่อ อิอิ



สนุกดีคร๊าฟฟฟฟ มาแต่งตอน พิเศษ หน่อยน๊า รอ่านคร๊าฟฟฟฟ รอ + ด้วยๆๆๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: yiyo ที่ 24-06-2008 19:48:17
สนุกมากๆเลยค่ะ

เราอ่านสองวันรวดจนจบเลย

โอมน่ารัก พี่กระต่าย พี่อั้ม พี่อิง ก้อน่ารัก ...ป๊ากะม๊าก้อน่ารัก น่ารักทุกคนเลย โดยเฉพาะคนแต่ง << ชมกันเห็นๆ เอิ๊กๆๆๆ

แล้วจะรอผลงานใหม่ๆนะคะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: patiharn ที่ 25-06-2008 07:11:06
เพิ่งได้เข้ามาอ่านแบบม้วนเดียวจบ
 o13พล๊อตเรื่องเนี่ย..สุดสุดค่ะยกนิ้วให้เรื่องที่ทำให้คนอ่านอึ้งไปตามๆกัน
คิดได้ยังไงเนี่ย...แบบว่า o13 o13 o13

 :pig4: :pig4:ขอบคุณนะคะที่แต่งฟิคดีดี..มาให้ชื่นชม :pig4: :pig4:

 :L1:ความรักมหัศจรรย์เสมอ :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 25-06-2008 07:26:15
อิอิ แอบมาเจาะไข่ ได้ 2 ฟอง  :m32:

ช่ายเลย คนแต่งก็น่าร้ากกกก  :m1:

รอตอนพิเศษด้วยคนนนนน  :oni2:

 :L1:  :L1:  :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-06-2008 22:44:53
 :o12: ซึ้งใจมากมายเขียนจบไปตั้งนานแล้วยังมีคนมาอ่านกันอีก

แถมอ่านกันเช้าจรดเย็น ข้ามวันข้ามคืน :m23:
ชักสงสัยว่าทำภาระให้น้องๆเพื่อนๆพี่ๆรึเปล่าต้องมาถ่างตาอ่าน :laugh:
อิอิ แอบมาเจาะไข่ ได้ 2 ฟอง  :m32:

ช่ายเลย คนแต่งก็น่าร้ากกกก  :m1:

รอตอนพิเศษด้วยคนนนนน  :oni2:

 :L1:  :L1:  :L1:
ตะเองมาเจาะไข่ หรือมาทวงนิยายจ๊ะ หรือยิงนกทีเดียวได้ไข่หลายใบ :laugh:
 ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอดนะค่ะ ส่วนเรื่องตอนพิเศษ :m29:
สารภาพว่าพยายามเขียนมาหลายรอบแระ แต่ไม่สำเร็จอันเนื่องมาจากปัญหาหลายประการ
เช่น คนแต่งฟุ้งซ่านเปลี่ยนใจไปมาว่าจะเอาไงดี เปลี่ยนไปหลายเวอร์ชั่นมากจนในที่สุดไม่ได้แต่งต่อ :a4:
คนแต่งเอาเวลาไปอ่านนิยายของคนอื่นที่หื่นมากกว่าเรื่องของตัวเอง  :m20:
คนแต่งขี้เกียจ อันนี้คงจะเป็นสาเหตุหลัก :oni1:
คนแต่งชักสงสัยว่าจะมีคนรออ่านจริงๆเหรอ :m13:

เอาเป็นว่าจะพยายามทำให้สำเร็จให้ได้ค่ะ ตอนพิเศษ :a2:
แต่ว่ารอไปก่อนเน้อ  :a6:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: patiharn ที่ 27-06-2008 10:25:39
 :m13: :m13: :m13: :m13:
รอตอนพิเศษของน้องฟางอยู่จริงๆน๊า

...เป็นนิยายที่ทำให้คนอ่านรู้สึกได้ว่า
 :L1:......รักคือรัก.... :L1:
เรื่องอื่นๆที่ตามมาก็เพราะรัก
รัก..อธิบายไม่ได้ :m1:
รัก..ไม่มีข้อจำกัดของเพศ :m1:
รัก..ไม่มีข้อแม้ :m1:

ขอบคุณนะคะน้องฟางผู้น่ารักสำหรับนิยายที่ให้ความรู้สึกดีดี
ตอนนี้อ่านไป 2 รอบแล้วใน 4 วัน


จะน่ารักกว่านี้อีกนะถ้ามีตอนพิเศษ..อิอิ :m13:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nana ที่ 02-07-2008 15:35:22
ชอบมากๆสนุกมากๆ น่ารักทุกคนจริงๆ o13


 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Doodleberry® ที่ 10-07-2008 23:09:49
อ่านจบแว้วววววววววว

สนุกมากๆเลยค่า  :m1:

สุดยอดๆ  o13

ตอนแรกแอบคิดว่าเป็นเรื่องจริงอ่ะ

ที่ไหนได้แต่งนี่นา หุ หุ

 :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: TongZA ที่ 18-07-2008 22:13:04
อ่านตั้ง 2 วันแน่ะกว่าจาจบ :a2: :a2: :a2:

สนุกจังเลยอ่า :m1:  ถ้าไม่บอกนึกว่าเรื่องจริงอ่าคับ 

ขอบคุณคนเขียนนะคับ ที่เขียนเรื่องดีๆมาให้อ่านคับ

 :m4: :m4: :m4: :m4: :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 21-07-2008 13:13:54
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าค่า
เรื่องโหวต เซ็งเป็ดอวอร์ด ครั้งที่ 2
เริ่มเปิดรับโหวต สิงหาคมนี้
รายละเอียดและของรางวัลตามไปดูได้ที่ลิงค์ข้างล่างเลยค่ะ

รายละเอียดและของรางวัลเซ็งเป็ดอวอร์ด (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=5282.0)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 30-07-2008 22:24:55
อยากมาลงต่อจริงๆเลย แต่ว่ายังเขียนค้างเติ่งอยู่ o7
 ไม่รู้เอาเวลาไปทำอะไรหมด :laugh: :laugh:
สงสัยต้องปลีกวิเวกซักเดือนสองเดือน :laugh:
กลับมาพี่ต่ายบรรลุสัจธรรม บวชไปเลยดีกว่า :a1: :a1:


ขอบคุณที่ยังมีคนติดตามรื่องนะค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: แมววาย ที่ 01-08-2008 02:33:45
เขียนค้างอยู่  ก็มีแววได้อ่านสินะค๊า   :a1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: shoucream ที่ 01-08-2008 21:18:59
เอาอิมเมจดาราเกาหลีมาให้ดูค่ะ อยากรูว่าจาตรงกับอิมเมจพี่ต่ายกับโอม ในใจคนแต่งหรือเปล่า

นี่พี่ต่าย สุดหล่อ ปากแดง น่าจูบค่ะ อิอิ รูปนี้ขรึมๆตามบุคลิกเลยนะ

(http://i247.photobucket.com/albums/gg123/shoucream/specialconcertbook-mic101.jpg)

แล้วนี่น้องโอมค่ะ น่าร๊ากกกกกกก หน้าตี๊ๆ ดูเด็กๆ อิอิ

(http://i247.photobucket.com/albums/gg123/shoucream/A6799475-1321.jpg)

อยากบอกว่าโคตรชอบ โคตรรักนิยายเรื่องนี้เลยอ่ะ

แบบว่าไม่อยากให้จบเลย

อยากให้มีตอนพิเศษไปเรื่อยๆ

แบบว่ารูสึกผูกพันกับพี่ต่ายกับน้องโอมยังไงก็ไม่รู้

อยากให้เป็นเรื่องจิงค่ะ แต่ก็นะ ฮืออออ :o12:

รักคนแต่งจัง แต่งนิยายเรื่องไหนบ้างบอกด้วยนะ

แบบว่าเพิ่งเป็นสมาชิกใหม่ของบอร์ดนี้อ่ะค่ะ

รักพี่ต่าย รักน้องโอมด้วย

สุดยอดจริงๆ เรื่องนี้ หนุกมากๆ o13

อ่านรวดเดียวจบเลย อินมากๆ น้ำตาไหลเลยตอนที่พี่ต่ายทิ้งโอมไปไม่บอกไม่กล่าว

แบบรู้สึกเหมือนเรื่องของตัวเองนะ

ทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น

ไม่เคยร้องไห้ตอนอ่านนิยายอย่างนี้เลยนะ ให้ตายสิ

ขำสุดๆ โคตอ๊ายๆตอนตดในลิฟท์น่ะ เป็นเราก้อไม่รู้จาเอาหน้าไปไว้ที่ไหน

แถมปล่อยกลิ่นต่อหน้าคนที่ชอบด้วย อิอิ

ยังไงก้อแต่งต่อเรื่อยๆนะคะ อยากติดตามความรักของต่ายกับโอมไปเรื่อยๆค่ะ

ผูกพันมากๆค่ะ สุดท้ายนี้รักคนแต่งจัง :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kYos ที่ 09-08-2008 12:31:33
 :m1:  เพิ่งจาอ่านจบ
เรื่องนี้น่าร๊ากกกมาก
ทำไมเพิ่งได้อ่านเนี่ย เสียดายเวลาที่ผ่านมาจริงๆ อิอิ
 :กอด1: คนเขียนทีนึง  ชอบเรื่องนี้มากจ้า  รอตอนพิเศษอีกนะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: echisen ที่ 11-08-2008 19:23:08
อ่านจบแล้วฮับบบ ชอบอ่ะ น่ารักมากอ่ะ สนุกจังเลย ชอบมากๆๆๆ ชอบพี่กระต่ายจังเลยคนอะไรน่ารักจิงๆๆๆ ดีไปหมด อิจฉาโว้ยยยย อยากได้มั้ง 55 ชอบโอมด้วยน่ารักอ่ะ ตลกดีอ่ะ ตอนพิเศษอ่ะ ชอบๆๆๆ
ชอบครอบครัวโอมด้วยอ่ะ ตลกทุกคนเลย  สรุปแล้วชอบทุกคนฮับบบบบ แต่อยากได้สุดคือกระต่าย  :o8:

รออ่านเรื่องต่อไปอยู่ฮับ o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: AidinEiEi ที่ 13-08-2008 20:24:33
ซู๊ดดดด.....ยอดดดดด....ค่ะพี่ขา....สนุกมากกกกกก o13
ในที่สุดก็อ่านจบจนได้ เหอเหอเหอ...เลือดกระฉูดหลายรอบจะหมดตัวแล้วเนี่ย :m25:
ก็แหม..พี่ต่ายตัวดีหื่นได้จายยยย จริงๆ :laugh:
จะมีตอนพิเศษให้อ่านอีกม๊ยอ่า...ยุให้เต่งเพิ่มนะเนี่ย(เผื่อขึ้น)
 :L2: :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Bethophen ที่ 14-08-2008 00:04:49
 :m31: งืดส์ๆ รู้สึกว่า
 พอเริ่มอ่านเหมือนโดน สะกดจิตให้อ่าน  :oni3:
 ไม่มีกะจิตกะใจไปอ่านหนังสือสอบเล้ยยย เห้อออ
 สนุกมากมายครับ อ่านแล้วน้ำตาท่วมจอยิ่งกว่า หนังเกาหลีอีก  :o12:
 ขอบคุณมากมายคร้าบ ที่แต่งเรื่องนี้มาให้ได้อ่านกานน 
                                                   รัก โอม + กระต่าย จิงๆคู่นี้  :oni1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: To_Feel ที่ 23-08-2008 00:51:06
มาอ่านตอนพิเศษ

o13

 :pig4:

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: BuzZenitH ที่ 07-09-2008 15:49:36
 :m23:....เพิ่งได้อ่านนิยายของเจ๊ฟาง...
เหมือนจะเคยเข้ามาอ่านแล้วนิดนึง...แต่ก็ไม่ได้อ่านต่อ...
แล้วก็เพิ่งจะมาสำนึกได้ ก็ตอนไปเห็นที่บอร์ดลู ฮ่าๆ :laugh:

อ่านในนั้นเจ๊ยังลงไม่จบ...
แต่มะโนได้ว่าเคยเห็นว่าเจ๊แต่งจนจบในเล้าแล้ว...(มาฉลาดตอนจะจบอะ)

เลยมาอ่านยาววววววจนจบ...

ว่าไปว่ามา...ก็แอบอิจฉานายโอม...หมั่นไส้พี่ต่าย...สงสารไอบุ้ง...รักพี่อิงพี่อั้ม และติงเป็นที่สุด

เห็นเวลาว่านานพอสมควร...ควรแก่การจะมีตอนพิเศษได้แล้ว...

เขาอยากให้ต่อชีวิตบุ้งอะ...ไม่รู้ว่าไปดูตัวถึงไหนแล้ว...ฮ่าๆ

ไม่มีอะไรจะบอกนอกจาก... :กอด1:...รักนะจุ๊บๆ...

ปล.เจอกันเมื่อตู่เขาบ๊อกซ์นะเจ๊ฟาง...และก็ตามทู้ทั่วไป...หึหึ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-09-2008 11:03:28
มาบอกอะไรให้ ไปตามอ่านตอนพิเศษ เล่าสู่กันฟังที่นี่เลยค่ะ  :m13:

•:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• ภาค เล่าสู่กันฟัง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6127.new#new)
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kurugmin ที่ 15-09-2008 19:30:28
ข้ามกลับมาอ่านต่อในนี้จนจบ
ชอบที่โอมคุมงานสร้างบ้าน
บ้านในฝัน
ถึงตัวเองไม่ได้อยู่เอง  แต่โอกาสสร้างตามใจตัวเองทุกๆอย่างแบบนี้
คนทำงานสร้างบ้านชอบมากๆ
(เพราะตัวเองก็เป็นคนรับทำบ้านเหมือนกัน  เลยปลื้มลูกค้าแบบนี้สุดๆ  ลูกค้าในฝันจริงๆ  เรื่องจริงไม่มีเลยอ่ะ)
แต่ยังไม่เคยเจอสั่งผนังกันเสียงในห้องนอนแบบของพี่ต่าย :laugh:
มีแต่สั่งทำเตียงซุปเปอร์แข็งแรงกระแทกยังไงก็ไม่หักไม่ดังเอี๊ยดๆติดตั้งกับผนังปูนจะได้ไม่โยก
ผมงี้ :a5: (ในใจ)พูดได้ชัดเจน ตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อม  รู้เลยว่าเตียงนี่ได้มีไว้นอน(เฉยๆ)
 :m25:หยั่งงี้จัดให้

แล้วก็ห้องน้ำกรุกระจกวันเวย์แบบมองจากข้างนอกเข้ามาไม่เห็น
ก๊าก..แต่หารู้ไม่ว่าเวลาข้างนอกมืดแล้วข้างในเปิดไฟสว่างมันก็เห็นหมดแหละ
แต่เค้าไม่ชอบมีม่าน  สุดท้ายเลยปลูกต้นไม้บังๆ   :o8:เซ็กซี่โคตร
(แอบน้ำยายไหย  เจ้าของบ้านหล่อ  ฮี่ฮี่)

แล้วถ้าโอมอยากนอนดูดาวในห้องน้ำ  แต่กลัวขโมยล่ะก้อ
แนะนำหลังคาแบบเลื่อนเปิดได้  เวลาฝนตกก็เปิดหลังคาแก้ผ้าเล่น..........(น้ำฝน)กะพี่ต่าย  อร๊ายยยยย..
ฝันๆๆๆๆๆ :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Plabu ที่ 15-09-2008 20:50:30
อิอิ :m4:
อ่านรวดเดียวจบเลย
อิอิ :m4:
พี่กระต่ายน่ารัก :m1:อิอิ :mc4:
คงจะเป็นเสือหุ้มหนังกระต่ายซะมากกว่าม๊างงง :m29: :m23:
เจ้าเล่ห์จริง :m12: :m16:
แต่ชอบๆ :m4: :m13: :m1: :m25:
อิอิ :m25:
หนูโอมก็น่าร๊ากกกกกกกกกกกกกกซ้าาาา :m25: :m25:
เซ็กซี่ทั้งคู่เลยๆอิิอิ :m10: :m10:
สงสารหนูโอมมากเลยตอนคุณกระต่ายหายไป :a6: :a5: :angry2: o12
เดาไปต่างๆนาๆ o12 o12 :angry2: :serius2:
ที่ไหนได้ เค้ากำลังพิสูจน์รักแท้กันอยู่ :a1: :a1: :a2:
555555555+ :a2:
แถมพอบ้านเสร็จก็ฉลองกันซ้าาาาาาาาาาา :m25: :m25: :m1:
อิิอิ :m10: :m10: :m10: :m10:
 :m13: :m13: :m4: :m4:สนุกมากๆเลยอ่า
น่าสงสารคุณก้อยออกไม่กี่ตอนเอง :laugh:
พี่คมด้วยน่าจะมีตอนของคุณพี่คมมั้ง :m25: :m1: :m1: :mc4:
อิอิ :mc4: :mc4:
บายยยชอบๆ :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 21-09-2008 16:19:48
 :mc4:


เพิ่งอ่านจบครับ

จริงๆ จบตั้งแต่มะคืน ตอนตีสาม อ่านตั้งแต่ตอนเย็นๆ ค่ำๆ
หนังสือไม่ได้อ่าน สอบพรุ่งนี้ ฮ่าๆๆ (ไมได้โทษนะครับ โฮะๆ)
(นี่เข้ามาอ่าตอนพิเศษ ภาคเรื่องเล่าฯ ต่อ)


สนุกมากครับ

พี่กระต่าย น่ารักมากกกกกก อิอิ
ตอนแรกๆ ก็โหดซะ ตอนหลังล่ะ โครตจะหื่น จะหวานเลย


ตอนที่นายโอม เศร้าๆ นี่ ผมน้ำตาคลออะ สงสารมาก...
พอรู้ความจริง ก็สงสารพี่ต่ายด้วย งืมๆ


พี่อิง พี่อั้ม ก็ฮาดีครับ น่ารักดีๆ

นายบุ้ง ก็นะ.... น่ารักเหมือนกัน อิอิ

 :m30: :m30: :m30: :m30:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: maabbdo ที่ 26-09-2008 01:39:15
เย้ เย้  ดีใจจังอ่านเรื่องที่พี่ฟางเขียนจบแล้ว


น่ารักมากมาย   :o8: :L2: :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: aa_mm ที่ 26-09-2008 23:43:13
น่ารักจังเลยค่ะ  :m1: :m1:

เห็นผู้คนโหวตให้พี่กระต่าย เลยตามเข้ามาอ่านจ้า

มิผิดหวัง ของเค้าดีจิง ๆ  o13

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: GajonG ที่ 26-11-2008 15:03:56
 o13

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: sodamini ที่ 03-12-2008 10:02:27
แวะกลับมาอ่านอีกซักรอบ

 :กอด1: :กอด1:

ก็ยังน่ารักเหมือนเดิมม
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: MonsterP ที่ 07-12-2008 03:25:38
คุณฟาง มีการวางโครงได้อย่าง ไฮโซว ยิ่งนักครับ  เล่ากลับไปกลับมาในภาคของแต่ละตัวละครได้เหมาะ  เรื่องก็ บีบคั้นใจผู้อ่าน ทำให้เข้าใจผิด คุณต่ายขึ้นมาได้ และเมื่อได้รับการเฉลย ก็ทำให้คนอ่าน เสียใจกับการที่ สาปแช่ง คุณต่ายไปนานับประการ ห้า ห้า ห้า ชอบครับ จะติดตามต่อไปนะครับ :-[ :o8: :L1: :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: www.maxdevil ที่ 07-12-2008 12:45:15
 o13
ขอบคุณ ๆ สนุกจริงๆ
 :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Angel_K ที่ 09-12-2008 23:07:49
ว่าจะอ่าน จะอ่าน หลายรอบแล้ว ก็ไม่ได้อ่านซะที
จนเพิ่งมีโอกาสกลับมาอ่านจนจบ แล้วก็รู้ว่า

สนุกมากกกกกกก...

รักพี่กระต่ายกับน้องโอมเลย >_<

 :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 11-12-2008 00:28:36
kakoku_kin:ชะมด วันนี้พาไปส่ง ตรวจสอบหัวใจ ปะเถอะขอรับเดี๋ยวสาย

ชะมด :????(ปกติไม่ใช่ตูหรือไงที่ไปส่ง บ่น จิง อายุไม่เท่าไหร่ ทำมาสังนะ ใจบ่นแต่ หัวก้มล้มสองครึ่ง แทนคำตอบว่า รับทราบ)
----------------------------------------
--
--
---
-----
------
------------
-----------------
(ผ่านไปสองชม.)

kakoku_kin:อ่ะนั่นขอรับ ถึงแล้วขอบคุณ ไปล่ะรอแบ็บ

ชะมด:(วันนี้มาแปลก ไม่ยักกะหลับ แถมที่แปลกที่สุดน่าจะเป็น รู้ด้วยว่าถึงแล้ว  งั้นตอนพากลับเห็นวันนี้เป็นเด็กดี เดี๋ยวไปเลี้ยงซุชิ หิหิหิ)


หวัดดีขอรับ เพิ่งมาอ่านบอร์ดนี้ได้ เดือนหนึ่งแล้ว แต่มาสมัครใช้ไปเมื่อวาน วันนี้ได้มาอ่านหรือ นี้ ชอบมากเลย พี่กระต่าย (หื่นๆๆๆ)กับ น้องโอม (อิอิอิ)

วันนี้อ่านไปถึงตอนที่สี่สิบสามนึกขึ้นได้ว่าพุ่งนี้มาเรียน เดี้ยวพุ่งนี้มาอ่านต่อน กำลังมีแต่ฉากเสียวๆๆ ฮิฮิฮิ 

ขอบคุณมากนะขอรับที่ให้อ่าน  เป็นกำลังใจให้นะขอรับ

ไปละนะขอรับ ฝันดี


kakoku_kin:ชะมดประไปนอนกัน

ชะมด:????
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ &
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 13-12-2008 02:44:37
kakoku_kin:ชะมด ตื่นๆๆๆๆๆๆๆขอรับ พาไป ตรวจสอบหัวใจ หน่อยขอรับ :m5:

kakoku_kin:อ่านช้าไปหน่อย:m23:

ชะมด(ยายพาหนาะคู่ใจ):ไม่นาย ง่วง ไป เอง เถอะ นายมาช้าเองนะ ช่วยย ไม่ ได้  คร่อกกกกกกกกกฟี้ฟี้ฟี้ฟี้ฟี้ :a12:

kakoku_kin:ชะมดดดดดดดดดดด อย่า เพิ่ง ซวยล่ะ :m29: ขอรับ อ่านช้าไปหน่อยทำไงดี ตายแต่ว่าจะไปถึง เอาว่ะ สู่โว้ย :try2:

---------------------------------------
--------------------------------
-------------------------------
-------------------------
--------------------
------------
 o7 o7ในที่สดก็มาถึงด้วย ลำแข็ง ขอตัวเอง ฝากไว้ก่อนเถอะชะมด o12

  หวัดดีคุณK-one =T-Jang= Manfang อ่านจบแล้ว ขอขอบคุณอีกครั้งที่เขียนเรื่องดีดี มาให้อ่านนะขอรับ ดีใจนะขอรับที่ได้อ่านเรื่องของคุณ จะเป็นกำลังใจ ให้นะขอรับ ชอบมาก ตัวละคร พี่กระต่าย น้องโอม ครอบครับน้องโอม เพื่อนร่วม งาน อบอุ่น ตลอดเวลาที่อ่าน แม้จะเพิ่งอ่านจบไม่เมื่อไม่กี่นาที แต่รอยยิ้มยังไม่ยอมหุบเลย ซึ้งใจได้ที่สุด อบอุ่นได้ที่สุด ขำได้ที่สุด ขอบคุณที่ให้สิ่งเหล่านี้ ขอบคุณมาก ขอบคุณขอรับ  จะรอตอนพิเศษล่ะจะเป็นกำลัง ใจ ให้ด้วย

“ชีวิตคือความรัก”

ชีวิตที่ปราศจากความรักไม่ใช่ชีวิต
สำคัญที่สุดในชีวิตคือความรัก
ความรักคือชีวิต ชีวิตคือความรัก
ความสุขของชีวิต เกิดจากความรัก
ความทุกข์ของชีวิต เกิดจากความรักเช่นกัน

ขอบคุณขอรับ

รอ ต่อ ไป ตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ &
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 13-12-2008 11:25:02
วันนี้ก็มาเป็นกำลังใจให้เหมือนขอรับ สู้ มาคนเดียวขอรับ ทะเลาะกันนิดหน่อย กับไอ้ชะมดเน่านนนนนนนนนนน

ผู้อธิบาย:หิหิหิ ทำให้นึกถึงตอนที่โอม ตดให้ พี่กระต่ายดม เลย :m20:(ความจริงโดนชะมดตดใส่แต่อายเลยไม่กล้าบอกใคร )

kakoku_kin:อยากมีเรื่องหรือคุณผู้อธิบาย :m16:

ผู้อธิบาย:???(อยากบอกkakoku_kinล่ะว่าผู้อธิบายเล่าให้ฟัง555+)


หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 13-12-2008 23:26:08






ประกาศ ตอนนี้มีดาวตกด้วย ถ้าใครว่าง ก็ลองมาที่ท้องฟ้านะขอรับ  เห็นตกเต็มเลย แต่ ตัวเองเห็นตกแค่ดวงหนึ่งเลยมาบอกนะขอรับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 14-12-2008 09:53:45
kakoku_kin:หยุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ชะมด(ยานพาหนะคู่ใจ) : เอียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


ชะมด :???


kakoku_kin:แวะ ตรวจสอบหัวใจ ก่อน คิดถึง น้องโอม กับ พี่กระต่าย


ชะมด:???(ก้มตัวให้นายลง)


kakoku_kin:วันนี้เงียบ ไม่พูดอีกแล้วหรือขอรับ  :เฮ้อ: o22
ชะมด:เงียบ



หวัดดีขอรับ  คุณ K-one =T-Jang= Manfang kongkilmania หวัดดีขอรับน้องโอม หวัดดีขอรับพี่กระต่าย คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย เมื่อวานมีดาวตกด้วยนะขอรับ ได้ดูไหม ช่วงนี้อากาศไม่แน่นอน ไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะ เพื่อน ทุกคน ด้วยนะ

รอ ต่อ ไป

ขอบคุณขอรับที่ให้อ่าน
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 15-12-2008 14:10:22




คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย เรื่องตรวจสอบหัวใจ โดย K-one คุณ K-one =T-Jang= Manfang kongkilmania
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 15-12-2008 14:36:21
 :laugh:เพิ่งเข้ามาอ่าน เรียกชื่อเดียวก็ได้ค่ะ(Manfang)เกรงว่าจะลำบากมากไป
ขอบคุณ คุณkakoku_kin กะคุณน้องชะมดที่น่ารัก พาเจ้านายมาเยี่ยมชมนิยายเรื่องนี้

ขอบคุณท่านผู้อ่านที่เพิ่งมาอ่านด้วยนะคะ  :pig4:
อย่าลืมไปอ่านต่อภาคเล่าสู่กันฟังค่ะ
จิ้มที่นี่----->(Novel)•:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• ภาค เล่าสู่กันฟัง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6127.0)


ดีใจจังยังมีคนอ่านด้วย :m4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kimagain ที่ 15-12-2008 14:44:48
รวมเล่มให้หน่อยจิฟางจ๋า o18 o18
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 17-12-2008 12:42:11
:laugh:เพิ่งเข้ามาอ่าน เรียกชื่อเดียวก็ได้ค่ะ(Manfang)เกรงว่าจะลำบากมากไป
ขอบคุณ คุณkakoku_kin กะคุณน้องชะมดที่น่ารัก พาเจ้านายมาเยี่ยมชมนิยายเรื่องนี้

ขอบคุณท่านผู้อ่านที่เพิ่งมาอ่านด้วยนะคะ  :pig4:
อย่าลืมไปอ่านต่อภาคเล่าสู่กันฟังค่ะ
จิ้มที่นี่----->(Novel)•:*´¨`*:•ღ ตรวจสอบหัวใจ ღ•:*´¨`*:• ภาค เล่าสู่กันฟัง  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=6127.0)


ดีใจจังยังมีคนอ่านด้วย :m4:




kakoku_kin:เห็นไหมพลาดหลายอย่างเลย :angry2:เพราะ ใครห่าหหหหหหหห

ชะมด:โทษตูอีก ล่ะ :เฮ้อ:

kakoku_kin:กล้าเถียงหรือ ฮึ่ม :m16:

ชะมด:โถ น่าก็ ชะมดนายก็รู้ว่าเมื่อวานชะมดมีนัดกับน้องชะมดชาวจีน น่ะนายนะอย่างอนเลย :m12:

kakoku_kin:อืม ไม่พูดก็ได้ เบื่อไอ้มดเน่านนนนนน รีบไปดูภาคเล่าสู่กันฟัง ดีกว่าห้าห้าห้า  ขอบคุณ Manfang

ชะมด:มดดูด้วย ขอบคุณคร้าบบบบบบบบ คุณManfang แถมชมกันว่าน่ารัก ผมเขินนะ :o8: คนอ่านก็น่ารัก  :impress2: (ได้ทีหยอดหน่อยตู) :z1:




คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย ดีใจจัง ที่  ที่คุณ โดย K-one คุณ K-one =T-Jang= Manfang kongkilmania  ล้อเล่น คุณ Manfang

ขอบคุณที่ให้อ่านดีใจจัง แถมเอาตอนใหม่มาให้ดูน่ารักจัง คนเขียน (ตูหยอดมั่งห้าห้าห้า :m25:)


ป.ล.จิ้ม>>>> คุณ Manfang :z1: :z1:

อีกป.ล.อาจจะไม่ได้ค่อยมา เพราะอยู่ในช่วงสอบแล้ว แต่ดีใจมีกำลังใจอ่านหนังสือเยอะเลย :bye2:

อีกอีกป.ล.ดีใจที่ คุณ Manfang มาคุย :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 19-12-2008 00:46:38





ชะมดนะ มาคนเดียววันนี้แยกไปคนล่ะที่กับนาย นายฝากบอกว่า คิดถึง คุณฟาง และ พี่ตาย กับ น้องโอมด้วย  ผมก็คิดถึงนะคุณฟาง :-[ 


แต่ต้องไปอ่านหนังสือล่ะคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบ :serius2: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 20-12-2008 10:12:30
ชะมด: คุณฟาง ช่วยด้วยคร้าบบบบบบ ช่วยทำข้อสอบแทนชะมดที  :o12:

kakoku_kin:เอาน่าชะมด แกก็ไม่กระเตื่อง นายก็อย่างฉันก็ไม่กระเตื่องอย่าบ่นเลย เรามารอตอนพิเศษ รอให้คุณฟาง เขียนให้เราเป็นของขวัญหลังสอบเสร็จ และเป็นของขวัญตอนรับปีใหม่ดีกว่าน่า

ชะมด:ได้คร้าบบบบบบบคุณฟางงงงงงงงเขียนเยอะเยอะเยอะให้มดอ่านนะคร้าบบบบบบ :m15:

kakoku_kin:ว่านอนสอนง่ายดี ขอรับ :z1:

ชะมด:??? o22

ไปล่ะคิดถึงคิดถึง

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kungki ที่ 22-12-2008 07:23:31
 :L1: :L1:

ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ เริ่มอ่านเมื่อตอน ตี2 เพิ่งจบตอนนี้เอง 07.15 และ แต่จะตามไปอ่่านภาคเล่าสู่กันฟังต่อเลยค่ะ

อยากบอกว่าสนุกมากเลย เพลินมากๆ แอบรู้สึกดีใจ ที่เช้าวันจันทร์นี้เราหยุดงาน ถ้าไม่หยุดคงเป็นน้องหมีแพนด้าไปแน่เลย

อ่านแล้วหลงรักพี่กระต่ายกับน้องโอม รวมทั้งพี่อิงพี่อั้มด้วย (สองพี่ฮาได้ใจมากๆ)

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 26-12-2008 14:59:28
ชะมด : Merry Chirsmas!!~\(≧▽≦)/~  คุณฟาง          น้องโอม พี่กระต่าย

kakoku_kin:((((●ω●)))  merry Chirsmas((( ●ω● ))) คุณฟาง        น้องโอม พี่กระต่าย



 ตรวจสอบหัวใจ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: WEERACHOT ที่ 30-12-2008 07:50:07
 :man1: พี่ฟาง ผมชอบเรื่องนี้ครับนารักดี
ซึ้งกินใจ ไม่มีร้องไห้ แต่เกือบแหละ ฮ่าๆๆ
รักเนอะๆ....ว่างๆเขียนอีดิพี่ พี่ฟางเขียนเก่งเนอะ
มาลงอีกน่ะครับ รออ่านต่อไป

ต่าย...โอม

รักนี้นิรันดร o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: lalala123 ที่ 31-12-2008 15:27:04
หนุกมาก ๆ เลย
เพิ่งได้อ่าน แต่จะมาอ่านอีกหลาย ๆ รอบแน่นอน
 o13 o13 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: akaipee ที่ 31-12-2008 20:22:34
 :impress2: เย้ในที่สุดก้อจบ :laugh: เหลือตอนพิเศษ

ชอบพี่กะรต่ายจังเลยอ่ะ :haun4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 01-01-2009 18:45:54
ชะมด: ~\(≧▽≦)/~ สุขสันต์ปีใหม่ขอรับ คร้าบ น้องโอม พี่กระต่าย คุณฟาง         

kakoku_kin:((( ●ω● )))สุขสันต์ปีใหม่ขอรับ น้องโอม พี่กระต่าย คุณฟาง     


ปล.ชะมด:คุณฟาง ไปเที่ยวไหนบ้างขอรับ :o8: ไปด้วยคนได้ไหม   
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 09-01-2009 17:38:27
kakoku_kin:คิดถึงนะเป็น ห่วงด้วย

ชะมด:ผมก็คิดถึงคุณฟางนะ :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 12-01-2009 21:16:27
ปู่หนอนรถเมล์: เอี๊ยดดดดดดดดดดด   เจ้าคิน เจ้าชะมด ถึงแล้ว

ชะมด : ถึงแล้วหรือคร้าบปู่ :confuse:


ปู่หนอนรถเมล์ : อืมป้าย เรื่อง ตรวจสอบหัวใจ  เขียนโดย คุณฟาง

kakoku_kin: อืม ถึงแล้วจิงด้วย   :m23:


kakoku_kin:หวัดดีวันนี้ก็มาเยี่ยมอีกขอรับ คิดถึง คุณฟาง พี่กระต่าย น้องโอม  :-[ รอตอนพิเศษขอรับ ขอบคุณนะขอรับ คุณฟางที่ไปเป็นกำลังใจ เรื่องความทรงจำ 


ชะมด : คุณฟางน่ารัก  คิดถึงน้องโอมมมมมมมมมม ตอนพิเศษ :man1:


ปล.kakoku_kin: ไปนะขอรับเดี๋ยว ปู่รอ :o12:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 16-01-2009 21:45:04
คุณช้าง : ถึงแล้ว

kakoku_kin:หรือขอรับ

คุณช้าง : อืม

kakoku_kin: o22 ขอบคุณขอรับคุณช้างรอ แบ็บนะ(คุณช้างจอมโหด :เฮ้อ:)

kakoku_kin: หวัดดีขอรับคุณฟาง ยังคงมาหาเหมือนเดิม ก็มันคิดถึง :o8:

kakoku_kin: วันนี้ชะมดมันไม่อยู่(ไปจีบสาวอีกแล้ว รู้อย่าบอกมันนะขอรับ  :m26: )เลยมากับคุณช้างขอรับ

ปล.kakoku_kin: รักงานเขียนคุณฟางเหมือนเดิม :m25:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nOn†ღ ที่ 17-01-2009 00:51:31
^
^
^

เชื่อแล้ว ว่า kakoku_kin รักคุณฟางจริง ๆ  o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 22-01-2009 12:42:16
^
^
^


^
^
^

เชื่อแล้ว ว่า kakoku_kin รักคุณฟางจริง ๆ  o13

kakoku_kin :  :z13: จิ้มคุณ nOn†ღ  แน่นอนขอรับ คนมันรักทำไงก็รัก  ฮิ้วๆๆๆๆๆ :o8:

ชะมด(ยานพาหนะคู่ใจ) : อ้าวๆนาย ได้ดี ไปคนเดียว ชะมดก็รักคุณฟางนะ  :man1:

kakoku_kin: ................. o18

ชะมด(ยานพาหนะคู่ใจ) : นายก็จะโกรธอะไรหนักหนา นายก็ไปเองได้ หรือให้คุณช้างหรือปู่หนอนรถเมล์ก็ได้ ไปส่ง ทำไม่ต้องเป็นชะมดด้วย  :เฮ้อ:

kakoku_kin:  :angry2:ไอ้ชะมดแกรู้  ไม่ใช่หรือ ว่าว่า ตู กลัว ผู้สูงอายุ  :o12:


ชะมด(ยานพาหนะคู่ใจ) :  :laugh:


คิดถึงเรืองนี้เสมออยู่แล้วอ่านยังไงก็ไม่เบื่อ o13 o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 24-01-2009 22:29:54
kakoku_kin: คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 25-01-2009 02:33:43
ชะมด&kakoku_kin: 新正如意 新年发财   นะคุณฟาง ขออังเปาหน่อยสิขอรับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 31-01-2009 11:55:42
คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 02-02-2009 01:48:45
晚安
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 06-02-2009 00:49:58
คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: shoucream ที่ 06-02-2009 21:46:40
มาดันอีกครั้งชอบจริงๆนะเรื่องนี้ คนแต่งสู้ สู้  :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 09-02-2009 01:19:09
good night  na p'fang
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: BABOO ที่ 09-02-2009 20:55:09
สนุกมากคับ ชอบตอนไปร้องเกะคับ โรแมนติกดีคับ

ขอบคุณมากคับ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 11-02-2009 01:23:40
ฝันดีขอรับ ห้าห้ห้า
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 12-02-2009 11:03:30
ชะมด : หวัดดีตอนเช้าครับคุณฟาง  :man1:

kakoku_kin: หวัดดีตอนเช้าขอรับพี่ฟาง  :o8:  แวะมาแซว

ชะมด : ชะมดไม่ได้มาแซวแต่มาเพราะคิดถึงครับ คิดถึง คิดถึง  :-[

kakoku_kin:  แหม คิดถึงนะ คิดถึง  :angry2: แล้วหาไปไหนมา
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: shoucream ที่ 12-02-2009 13:36:01
มาดันคับผม อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ (ถ้ามี แหะ แหะ)

ภาวนาขอให้มีพี่ต่าย น้องโอมต่อไป  :call:

คิดถึงจะแย่อยู่แล้ว  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 14-02-2009 00:24:40
สุขสันต์วันแห่งความรักนะขอรับ :3123:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: DEMON3132 ที่ 14-02-2009 12:08:42
มาให้กำลังใจคนแต่ง วันวาเลนไทน์ นะคะ ขอตอนพิเศษที่หวาน ๆ เหมือนกันค่ะ

HAPPY VALENTINE'S DAY ทุกคนค่ะ

 :L2: :L1: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 18-02-2009 01:15:26
miss  :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 20-02-2009 01:57:46
ฝันดีขอรับพี่สาว  :3123:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 25-02-2009 03:26:51
คิดถึงนะขอรับ เป็นห่วงนะขอรับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: life_fracture ที่ 25-02-2009 18:02:06
^
^
^
จิ้มน้องคิน


วันนี้เข้ามาอ่านอีกรอบ
ไม่ได้อู้นะเพ่ฟาง
เบ็ตไม่ได้อู้งานเลย

จริงจริ๊ง

เชื่อหนูเห๊อะ o18
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nuttykung ที่ 18-03-2009 16:53:58
แบบว่าเพิ่งเข้ามาอ่านคับ

ชอบมากมาย

น่ารักที่ซู้ดดดดดดดดดดดดดด

 :L1: เป็นกำลังใจให้คนเขียนคับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: everytime ที่ 21-03-2009 22:47:45
 :laugh: สนุกมากกกกกกกกกกก


 o13   o13   o13 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: XwoB ที่ 04-04-2009 23:51:05
 o13

รอบ2แล้ววว ที่เรื่องนี้ทำเค้าไม่ได้นอน


เอิ๊กๆๆๆ


แบบว่า โดนหลอกอ่าน ไปตั้งกะต้นจนจบ แล้วก้อมานั่งคุ้น เอ๊ะ!!


อ่านแล้วนี่น่า 55  แต่กี่รอบ ก้อชอบมากมาย^^
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 13-04-2009 20:17:34
สุขสันต์ปีใหม่ไทยนะขอรับ

คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย

 :3123:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 13-04-2009 20:33:20
^
^
^
^ :z13: ย้อนกลับมาจิ้มพี่เบ๊ตตี้ :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: luna ที่ 18-04-2009 22:05:59
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ   

เรื่องนี้อ่านแล้วประทับใจจริงๆค่ะ 
อ่านเสร็จแล้วอยากไปเป็นนักบัญชี  555 

การดำเนินเรื่อง การใช้ภาษา  ดีมากค่ะ  o13
ขอบบุคลิก ลักษณะนิสัยตัวละครแต่ละตัว โดยเฉพาะ  นายเอก ที่ตอนแรกดูธรรมดา  แต่พอเริ่มอ่านไปได้เรื่อยๆกลางเป็นติงต๊อง ทำเราทั้งอาย(แทน)และหัวเราะตลอด  ส่วนพระเอกนี่ พี่แกตอนแรกมาแบบนิ่งๆ  แบบนึกว่าจะได้พระเอกแบบเย็นชา พูดน้อย ประมาณนี้ แต่พอหลังๆมา พี่แกทำเอาระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งปรี๊ด แถมเลือดหื่นๆในตัวก็พุ่งตามไปด้วย 555
แล้วมุกในเรื่อง ฮากระจายแทบทุกตอน  บางทีอารมณ์เศร้าๆน้ำตากำลังจะไหล ก็โดนมุกทำซะหลุดขำจนปวดท้องเลย

ไม่มีโครงการรวมเล่มบ้างเหรอคะ  อยากได้เก็บไว้อ่าน


รักกันครั้งหนึ่ง...คิดถึงตลอดไป

ภาพทุกภาพยังจดจำ ราวกับเพิ่งเมื่อวานนี้
ในวันที่ฝนพรำนั้น เธอเดินจากฉันไป
ทุกๆครั้งที่มองดาว ก็ยังทำให้เหงาใจ
ไม่ว่าจะพบใคร ไม่ว่าจะรักใคร ไม่ต่างกัน

* อาจจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้ แต่อยู่กับความรักที่มีวันนั้น
ค่ำลงทุกคืนหลับตาทุกคราว ก็ยังคิดถึงเธอแล้วมีน้ำตา
ปฏิทินจะพลิกไปสักกี่ครั้ง นาฬิกาจะเดินวนไปเท่าไร
ก็ไม่เคยลบเลือนภาพเธอจากใจ เธอรู้บ้างหรือเปล่า
ว่าใจฉันไม่เคย รักใครได้เท่ากับเธอ

หรือว่านี่คือราคา แลกกับการได้รักเธอ
คือยังจะต้องเจ็บ และจำจนฝังใจไม่เปลี่ยนไป

ซ้ำ *

อาจจะมีชีวิตอยู่ในวันนี้ แต่อยู่กับความรักที่มีวันนั้น
ค่ำลงทุกคืนหลับตาทุกคราว ก็ยังคิดถึงเธอแล้วมีน้ำตา
ปฏิทินจะพลิกไปสักกี่ครั้ง นาฬิกาจะเดินวนไปเท่าไร
ก็ไม่เคยลบเลือนภาพเธอจากใจ ไม่รู้ถึงวันไหน
กว่าที่ฉันจะลืม ว่าเคยรักเธอหมดใจ


สุดท้ายนี้  ขอขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆด้วยค่ะ  :pig4: 

จะรอติดตามอ่านเรื่องใหม่นะคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: tongner ที่ 25-04-2009 03:33:25
สนุกมากๆ เลยคับ ^^ ขอบคุนมากนะคับที่เอาเรื่องดีดีมาให้อ่าน  o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-04-2009 09:44:41
^
^
^มาเจาะไข่  :laugh:


ขอบคุณทุกๆรีพลายค่ะ ยังแอบสงสัยยังมีคนอ่านอีกเหรอเนี่ย  :m23:
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ ดีใจทุกครั้งที่มาอ่านแล้วมีคนบอกว่าชอบ :m13:
ไว้เจอกันค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: REMIND ที่ 17-05-2009 11:24:45
เพิ่งเข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ

เง้อออออ น่ารัก และสนุกมากมายยย

ชอบพี่ชายทั้งสองของน้องโอมมาก น่าร๊ากกกกกก



ดีใจที่มีภาค เล่าสู่กันฟังต่อ

ตามไปอ่าน ฟิ้วววววววววววววววว
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: dekba428 ที่ 24-05-2009 22:39:31
 o13

 :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: casperko ที่ 27-05-2009 02:43:15
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ

เรื่องทั้งสนุกแล้วก็น่ารักมากๆเลยค่ะ


เด๋วไปอ่านภาคเล่าสู่กันฟังต่อนะคะ


เป็นกำลังใจให้ค่า   :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kun ที่ 31-05-2009 07:51:11
อืม..........
























ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ น่ารักดีจัง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: dragonfly08 ที่ 05-06-2009 01:38:52
เพิ่งมีโอกาสได้เข้ามาเม้น

เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วสนุก น่ารัก ชอบๆ

 :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: clubza ที่ 09-06-2009 23:32:37
แอบโมโหตอนพี่ต่ายหาย
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: mayoomay ที่ 11-06-2009 21:19:49
เพิ่งได้อ่าน  บ้านนอกม่ะ 55+

เป็นอีกเรื่องที่ชอบมาก 

ช่วงแรกยังไม่ค่อนเท่าไหร่  พอหลังๆอ่านไปนั่งยิ้มไป  น่ารักได้อี๊ก :-[

ไม่รวมเล่มหรอค่ะ  อยากได้ๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kittyfun ที่ 17-06-2009 16:14:08
เพิ่งตามมาอ่านเรื่องนี้

ประท้บใจในความรักของพี่ต่ายกับน้องโอมเหลือเกิน

ทั้งตลก หวาน เศร้าในเรื่องเดียวกัน

ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ

เสียดายที่มาอ่านช้าไปนิด
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: annestrong ที่ 06-07-2009 17:52:28
ชอบเรื่องนี้จังครับ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: nin@ ที่ 15-07-2009 01:24:57
 :-[ ชอบเรื่องนี้มากนะ...
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: morrian ที่ 17-07-2009 21:12:57
ชอบเรื่องนี้มากเหมือนกันครับ เขียนได้ดีจริงๆ

แอบเสียน้ำตาไปหลายตอนเหมือนกัน ^_^

ขอบคุณนะค้าบ   :bye2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: hours ที่ 18-07-2009 00:49:55
ติดตามอ่านแบบมาราธอนเลยคับๆ

อ่านไปก้ออินตามเรื่องไปๆๆๆๆๆๆๆๆ

ไว้จะติดตามเรื่องต่อๆๆไปนะคับๆ


เรื่องนี้สนุกจิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: สาวบ้านนอก ที่ 01-08-2009 14:42:25
มาช่วยดันดาราค่ะ รอเรื่องใหม่เหมือนกัน แต่สงสัยจะอีกนานมั๊ยค่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 04-09-2009 15:45:03
แอบมาดันกระทู้ตัวเอง อิอิ
วันนี้มีน้องมาเล่าให้ฟังว่ามีคนเจอจระเข้ที่เขาใหญ่ แล้วถ่ายรูปมาออกรายการสรยุทธช่อง 3
ฟังแล้วก็ขำนึกถึงพี่ต่ายกับโอมในเรื่องที่ไปเจอมาเหมือนกัน
แต่แอบเสียดายที่เราน่าจะส่งมาช่อง 3 มั่ง จะได้ดังไปนานแล้วก็ที่เจอมันสองปีกว่าแล้วอ่ะ :laugh:


ปล.อยากทำหนังสือมั่งจัง แอบตามกระแส  :jul3:
กำลังมีโครงการรวมเล่มหนังสือขายค่ะ ถ้าใครสนใจให้PMมาแจ้งชื่อและเมลล์ติดต่อกลับ แล้วถ้ามีข่าวยังไงจะแจ้งให้ทราบค่ะ :pig4:

ขอบคุณสำหรับคนใหม่ๆทีเพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 04-09-2009 15:58:26
^
^
^
^
จิ้มพี่ฟาง


แอบมาดันกระทู้ตัวเอง อิอิ
วันนี้มีน้องมาเล่าให้ฟังว่ามีคนเจอจระเข้ที่เขาใหญ่ แล้วถ่ายรูปมาออกรายการสรยุทธช่อง 3
ฟังแล้วก็ขำนึกถึงพี่ต่ายกับโอมในเรื่องที่ไปเจอมาเหมือนกัน
แต่แอบเสียดายที่เราน่าจะส่งมาช่อง 3 มั่ง จะได้ดังไปนานแล้วก็ที่เจอมันสองปีกว่าแล้วอ่ะ :laugh:


ปล.อยากทำหนังสือมั่งจัง แอบตามกระแส  :jul3:
ใครอยากได้มาลงชื่อไว้นะคะ ถ้าได้ทำ นะ เน้นว่า....ถ้าได้ทำ จะPMไปบอกค่ะ

ขอบคุณสำหรับคนใหม่ๆทีเพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ :pig4:


^
^
^
^

ลงชื่อคนแรก คิน ว่ะฮ่ะฮ่ะ รอมานานแล้ว อยากได้หนังสือของพี่ฟาง

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: OhJa ที่ 21-11-2009 16:53:29
สนุกมากๆเลยค่ะ

ลุ้นๆ ไปกับความรักของโอมกับพี่ต่าย 

เดี๋ยวตามไปอ่านตอนพิเศษก่อน  :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 27-11-2009 17:18:46
ชอบเรื่องนี้จังน่ารัก :o8:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ToeY_@_KP ที่ 28-11-2009 07:54:24
เพิ่งอ่านจบ..

 :m20:  โอม..งอนไม่ได้นานจริงๆ


 :impress2: พี่กระต่าย..หื่นได้ทุกวันสิน่ะ.. :haun4:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: b2friend ที่ 07-12-2009 14:10:45
 :o8: ชอบมากค่ะ อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ

 o13 o13 o13 o13 o13 o13 o13

อยากให้พี่อั้มมีคู่บ้างจัง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kakoku_kin ที่ 26-12-2009 02:02:45
merry christmas

คิดถึงนะ เป็นห่วงด้วย :กอด1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: No_Idea ที่ 31-12-2009 02:18:10
เพิ่งได้มาอ่านค่ะ อ่านตอนหลักจบแล้ว เลยมาคอมเมนท์หน่อยค่ะ เด๋วไปอ่านตอนพิเศษ :-[

เขียนได้สนุกมากเลย  มีมุขอะไรๆแบบอ่านแล้วขำอะ คือมุขก็ไม่อะไรมาก แต่ทำไมขำไม่รู้ นั่งอ่านนี่ อ่านไปยิ้มไปเลย กัวคนหาว่าบ้า  :o8:

แต่ตอนง้อง่ายไปหน่อยอะค่ะ อาจจะเพราะเราเปนคนนิสัยไม่ดีมั้ง เจ้าคิดเจ้าแค้นด้วย แล้วยิ่งเรื่องแบบคิดแทนนี่ เกลียดโคตร  o18 เราถือว่าเรื่องของเรา คนอื่นไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจ คนอื่นนี่คือทุกคนนอกจากเรา เหอะๆ จะว่าเป็นลูกที่เลวก็ได้ค่ะ แต่แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจแทน ยิ่งแค่แฟนนี่บอกตรงๆ เหอะๆ กลับมาทางไหน ก็คลานกลับไปทางนั้นเลย ในเมื่อตอนไปตัดสินใจเอง ตอนกลับก็คงไม่ต้องรอให้เราช่วยล่ะมั้ง  o18 อาจจะเพราะเราตัดสินใจอะไรเองตั้งแต่เด็กแล้วมั้ง ไม่เคยให้พ่อแม่มาคิดอะไรให้อะ ยิ่งไม่ใช่พ่อใช่แม่นี่ อย่ามากล้า แรงไปมั้ยเนี่ย  :laugh:

แต่ก็นะนี่มันนิยาย คนแต่งก็ต้องแต่งตามพล็อต แล้วเราว่าคนที่หายโกรธอะไรง่ายๆแบบนี้ก็ึคงมีมั้ง แต่แหมหายไปเป็นปีไม่มีคำอธิบายอะไรเลย คิดไงก็ไม่เข้าใจวา่หายโกรธได้ไง คงสื่อสารกันทางจิตจริงๆมั้ง  o22

แต่เรื่องเขียนได้สนุึกนะ อ่านแล้วเพลินค่ะ แต่ถ้าถามว่าตัวละครชอบตัวไหนมั้ย อืมม ม่ายมีเลยอะค่ะ คือทุกคนก็เป็นคนดีค่ะ แต่ไม่ได้แบบว่าน่าประทับใจอะไร แต่เนื้อเรื่องสนุกน้า อย่างอนเค้านะตะเอง  :กอด1:

อ้อ ว่าแต่พี่อั้มมะมีคู่เหรอคะ แอบลุ้นนึกว่าจะเป็นแฟนกับกระแต อ่าแต่มันน้องเป็น yaoi ช่ายมะ แต่ว่าพี่แกตลกดีนะ มีแฟนน่าจะน่ารัีกดีค่ะ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: NUTSANAN ที่ 03-01-2010 18:51:20
อ่านอันนี้จบ

ตามไปอ่านันนั้นต่อ

โฮะๆ

อ่านแล้วรุ้สึกเลยว่า

พี่ต่ายเปลี่ยนไป๊


น่ารักมากจ้า

 :-[
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: Nanzari ที่ 15-01-2010 15:18:01
เพิ่งได้เข้ามาอ่านอ่ะค่ะ

แต่จะพยายามอ่านให้จบไว ๆ

แล่วจะกลับมาเม้นท์ให้อีกครั้งนะคะ ^^

 :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 14-02-2010 10:31:20
 
:oni1: วิ่งเอาความรักมาฝากวันวาเลนไทน์เล่นๆ
 :c3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pdolphin ที่ 14-02-2010 15:56:11
ทิ่มก้น คนแต่งอย่างแรง  อุ อุ อุ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: yunjaejoong ที่ 18-02-2010 08:02:47
ว่าจะเม้นท์ตั้งแต่ตอนแรกแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เขียนไรเลยมัน มันติดง่ะ
พออ่านแล้วมันต้องแบบว่าต้องอ่านต่ออ่านต่อทำนองนี้น่ะ

    :pigha2:
 น้องโอมน่ารักมาก นิสัย ดื้อ ซุ่มซาม เอาแต่ใจ ขี้ใจน้อย ขี้งอล


    :man1:
 พี่ต่ายเป็นผู้ใหญ่ที่หล่อมากๆเท่ห์ แมนแฮนท์ซั่มเลยล่ะแถมอีกอันหนึ่ง หื่นแล้วก็หื่น

โอม ตดในลิฟอีกตลกง่ะไม่คิดว่าจะทำได้ พี่ต่ายเล่นว่าวเองโดยที่โอมไปเจอ

น่ารักมากเลยค่ะคู่นี้
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: PEENAT1972 ที่ 15-03-2010 01:15:39
สนุกดีจัง

ชอบมาก

ขอบคุณที่มาให้ได้อ่าน


 :pig4:




หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: ptyunjae ที่ 15-03-2010 02:02:37
 :haun4:พิเศษแบบนี้ชอบ
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pppp ที่ 16-03-2010 08:03:07
น่ารักมากกกก
คืออ่านตอนแรกๆ มันก็ไม่ติดหรอกระ
แต่พี่ต่ายนี่น่ารักไม่ไหว
รักจริงหวังแต่งมาก

แต่ก็หื่นนะพี่ หึหึ  :z1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: pimkihae ที่ 31-03-2010 10:38:11
 :mc4:ในที่สุดก็อ่านจบแล้ว
หลังจากที่อ่านภาคพิเศษจบไปก่อนนี้แล้ว
รู้สึกจะรักพี่ต่ายและน้องโอมมากขึ้น
กว่าจะรักกัน กว่าจะผ่านอุปสรรคนั้นมาได้นิ
ก็สงสารทั้งคู่เลยอ่ะ  แต่จะสงสารน้องโอมมากกว่า
เพราะโอมไม่รู้เรื่องราว และสาเหตุที่พี่ต่ายต้องหายไป
แต่สุดท้ายก็แฮปปี้ กลับมารักกันเหมือนเดิม
พี่ต่ายเนี่ย หื่นได้ใจจริงๆ  :z1:

ขอบคุณคนแต่งมากๆนะค่ะ :กอด1:
ที่แต่งเรื่องน่ารัก สนุกๆๆแบบนี้มาให้อ่าน
อยากได้หนังสือมาครอบครองจังเลย
ไม่ทราบว่ายังพอมีเหลืออีกสักชุดมั้ยอ่ะค่ะ
ถ้ามี รบกวนช่วย พีเอ็ม มาแจ้งด้วยนะค่ะ
 :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 31-03-2010 21:45:51
ตอบPMไปแล้วนะคะ หนังสือยังพอมีอยู่บ้าง
ขอบคุณที่ชอบค่ะ  :pig4:
พี่ต่ายยิ่งแก่ยิ่งหื่น (เหมือนคนแต่ง) ไม่ว่ากันนะคะ  :jul3:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: N.T.❁ ที่ 06-05-2010 14:12:42
เรื่องนี้เราว่าจะมาเม้นหลายรอบแล้วค่ะ แต่มันติดพัน ฮ่าๆ วันนี้เลยได้โอกาสมาเม้นซะที >__________<

อยากบอกว่าแรกๆเราอึดอัดเหมือนกันอะค่ะ อารมณ์ว่าพี่ต่ายนี่จะทำเข้ม เก๊กโหดไปไหน
อ่านแบบอึนๆมาเรื่อย จนมาเจอ "ตดในลิฟท์" เข้าไป นี่เราขำค้างอย่างแรงอะค่ะ มันตัดฟีลมากๆ ฮ่าๆๆ  :laugh:

เรื่องน่ารักมากๆ ทั้งฮาทั้งหวานทั้งอึนทั้งเศร้า โอยยย ครบรสมากมาย

แรกๆนี่แอบรู้สึกไปเองว่าพี่ต่ายจะออกแนวผะชายเรียบร้อย...
ทำไมหลังๆ  :-[ เอิ๊กๆๆๆ สงสารน้องโอมขึ้นมาตะหงิดๆ

ตอนที่อยู่ๆพี่ต่ายก็หายไป...เราก็อารมณ์เดียวกะนุ้งโอมในเรื่องเลยอะค่ะ งงว่ะ = =" เกิดไรขึ้น?
สุดท้ายก็แบบ เห้ออออ ยังดีที่ผ่านช่วงนั้นมาได้เนอะ
แต่ก็แบบสงสารโอมด้วย ไม่รู้อะไรกับใครเค้าเลย แล้วเกิดวันนึงดันเปลี่ยนใจจากพี่ต่ายขึ้นมาจะทำไงละนี่ ฮ่าาา

แต่น่ารักมากๆอะค่ะ ขอบคุณเจ้าของเรื่องที่แต่งนิยายน่ารักๆแบบนี้มาให้อ่านนะคะ ชอบมากๆเลยค่ะ  :pig4:



 
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: NIID ที่ 11-05-2010 01:36:58
หวานมักๆ  ชอบๆ :-[


ยังอ่านไม่จบเลย

เด๋วมาต่อใหม่นะ  ง่วงมาก ก ก ก

 o13

หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: beautyless ที่ 24-06-2010 03:51:51
 :o8: น่ารักเกินบรรยาย  :-[ :impress2:

ขอบคุณมากมายนะ  :call:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: bbyuqin ที่ 27-06-2010 08:12:27
เพิ่งอ่านเรื่องนี้จบอ่ะ....................อยากบอกว่า น่ารักมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :o8:  สนุกมากๆด้วย..
พี่ต่ายนี่ขรึมๆก็จริงแต่พักหลังตั้งแต่มีความรัก พี่ต่ายเปลี่ยนไปเป็นกระต่ายจอมหื่น 555555

แต่แอบเศร้าตอนที่พี่ต่ายหายไปอ่ะ...แบบว่ายังไม่ถึงตอนเฉลยก็ยังสงสัยว่าหายไปยังไงเนี่ย โอมจะอยู่ยังไง ไม่รู้เรื่องอะไรเลย...ที่แท้..สมรู้ร่วมคิดกันเป็นทีมเชียว หุหุ
แต่ตอนนี้รักกันหวานแหวว น่ารักได้อีก...ขอไปตามอ่านตอนพิเศษต่อก่อน..ขอบคุณนะคะ สำหรับเรื่องน่ารักๆๆเรื่องนี้  o13
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: PeeYaR ที่ 28-07-2010 19:14:13
สนุกมากเลยค่า
น่ารักอ่ะ
>///<
อิจฉาคุณชายโอม อยากมีพี่ต่ายมาคอยดูแลบ้างจัง
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: i3igM ที่ 11-08-2010 19:43:36
 :L2: :L1: :L2: :L1:ความรักชนะทุกสิ่ง  :L2: :L1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: (Fiction) ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one ตอนพิเศษมาแว้วววว
เริ่มหัวข้อโดย: kokikung ที่ 12-08-2010 06:22:12
อันนี้ภาค1ใช่ไหม

กร๊ากกกกกกกกกกกก

โอ๊ยขอยอมรับเลยไม่ได้มาอ่านเลยภาค1แต่อ่านภาค2อนหน้านี้มาแล้ว

ตลกตัวเองมากกกกกกก

แบบอ่านภาค2แล้วค่อยมา1

ตอนแรกก็เอ๋ทำไมชื่อเรื่องเหมือนกับเรื่องที่เคยอ่าน

พอวันนี้ได้เข้ามาอ่านตัวละครชทื่อคุ้นๆๆ

อ่านไปอ่านมาใช่เลยมาเจอตอนตดนี้ละถึงแน่ใจมาเรืองเดียวกัน(โง่ได้นานมากกกก)

ชอบเรื่องนี้ตั้งแต่ภาค2อยู่แล้วแบบอ่านไปนึกไปถึงภาค2ที่อ่านก้ตลกดี

ฮาสุดๆๆตอนตดนี้ละขำไม่หยุด

สนุกจริงๆๆเรื่องนี้

โอมน่ารักอ่านะขี้งอลแอบไร้สาระในบางอารมณ์แต่น่ารัก

พี่ต่ายก็น่ารักยอมโอมสุดๆๆๆๆๆ

ติงนี้ภาค2เต็มๆๆเลยอ่านแล้วเศร้าจิต

ถ้าไม่ได้อ่าน2มาก่อนไม่รู้เลยนะเนี่ยว่าแอบรักโอม  :o12:

สงสารมากๆๆๆๆๆบุ้งด้วย

ชอบเรื่องนี้จริงๆๆๆยอมรับเลยละว่าภาค2อ่านไปหลายรอบมากกก

แต่ภาค1เพิ่งอ่านรอบแรกเรื่องนี้อ่านกี่ทีก็ไม่เบื่อเลยจริงๆๆ

มีความสุขซึ้งน้าตาไหลตามโอม(อินไปไหน)ตอนห่างกันไป

ขอบคตุณนะที่แต่งเรื่องนี้มาสนุกจริงๆๆ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: M@nfaNG ที่ 25-09-2010 18:24:46
 :oni2: มาดันทั้งหมดเลย ไม่มีอะไรในกอไผ่
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Muzik ที่ 29-09-2010 11:17:46
อ่านเรื่องนี้แล้วได้ข้อคิดหลายเรื่องๆ
เขียนได้ดีมากๆค่ะ เดี๋ยวจะไปอ่านต่อภาคสอง
รักน้องโอม รักพี่กระต่าย(ป่า) :z1:
 :L2:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Bejae ที่ 29-09-2010 23:12:33
โหย ยยยย กว่าจะอ่านจบ เล่นเอาหลังแข็ง  :laugh:
อ่านรวดเดียวจบเลย เรื่องนี้ อื้อ อออ ดีมากๆ ชอบ
โอมน่ารักมาก ก แต่พี่กระต่ายได้ใจมากกว่า ฮี่ฮี่
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีดีแบบนี้ค่า  :L2:

หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: coffin ที่ 01-10-2010 16:40:40
จบแล้วหรออออ  อยากอ่านต่ออีกอะ ชอบๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะ :really2: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: littleFiNgeR ที่ 02-10-2010 09:48:47
โอดครวญตามคนอื่นด้วยคน สองวันกว่าจะอ่านจบ เหตุเพราะเน็ตเน่า 555 แต่ชอบนะเรื่องนี้รู้สึกว่าจะมีทุกอารมณ์ สุข เศร้า เหงา ซึ้ง อิอิ อ้อ!รู้อีกอย่างด้วย พี่ต่ายหี่น เอิ๊กๆๆ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ppanudet ที่ 03-10-2010 01:47:38
สนุกมากครับ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: rainy_naja ที่ 25-12-2010 08:45:08
merry★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
•。★Christmas★ 。* 。
° 。 ° ˚* _Π_____*。*˚
˚ ˛ •˛•*/______/~\。˚ ˚ ˛
˚ ˛ •˛• | 田田|門| ˚★ 。 • ˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •
Jaaaaaaaa \\(^^)//
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: พระสนมฝ่ายซ้าย ที่ 17-01-2011 01:09:29
อ่านจบแล้วค่า
พี่ต่ายเป็นผู้ใหญ่ที่อบอุ่นดีจัง
อิจฉาโอมจังเลยค่าที่มีคนรักมากขนาดนี้ ><
ไปอ่านภาคต่อไปก่อนนะคะ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nishiauey ที่ 17-01-2011 20:34:15
เิลิศศศศ ชอบๆๆๆๆๆ     
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: gummin ที่ 24-02-2011 16:00:43
น่ารักมากมายเรื่องนี้
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: akiko ที่ 06-03-2011 16:46:40
น่ารักมากๆคะ ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆให้อ่าน
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: zisom ที่ 06-03-2011 18:28:30
ดีค่ะ ชื่อ น้ำ คร้า

มาแนะนำตัวนร้าคร้า

เพิ่งเข้ามาอ่าน

ยังไงก็ฝากตัวด้วยนร้าคร้า
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: choicep ที่ 02-04-2011 14:38:02
อ่านแล้วน้ำตาไหลด้วยเลยคับผม o13
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: doobadoo ที่ 10-05-2011 10:26:54
 :-[ขอบคุณมากค่ะ  สนุกมาก
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: ASSASSIN ที่ 15-09-2011 10:16:36
ชอบจัง  ใช้โลเกชั่นที่ ปากช่องด้วย  นึกตามได้สบายเลย  เอิ๊กๆๆๆๆ  o13 :z2:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: tum23082521 ที่ 16-09-2011 11:01:10
เข้ามาดันไว้ก่อน
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: NAS ที่ 20-10-2011 18:19:08
น่ารักมากค่ะ อยากได้หนังสืออ่ะค่ะ ต้องทำยังไงค่ะ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Alone Alone ที่ 11-02-2012 07:58:45
อ้ายยยยยยยย อยากได้หนังสือ (แต่ดันมาช้าไปเป็นปีชั้น เห้อๆๆๆๆๆ)
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: kyoya11 ที่ 20-04-2012 01:34:33
อ่านแล้วอินเลยทีเดียว
มีจ๋อยๆตอน 1 ปีที่ห่างกัน :z3: ตอนแรกสงสัย + ไม่ชอบพี่ต่ายขึ้นมาฉับพลัน แต่พอได้อ่านต่อๆไปแล้วก็...นับถือพี่ต่ายเลย o13
ตอนพิเศษก็หวานได้ใจ แต่ดูเหมือนว่าโอมจะมึนๆ ถึงขั้นยังไม่รู้เลยว่าทำไมถึงต้องเก็บเสียง :m20:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: TinyB ที่ 18-05-2012 23:38:00
ตามอ่านรวดเดียวจบเลย ชอบมากกกกกกกกกกกก
พี่ต่ายกับน้องโอมน่ารักมาก ถึงน้องโอมจะขี้แสนงอนไปหน่อยก็เถอะ อิอิ งอนแบบน่ารักๆอ่านะ
แต่ชอบสุดๆคงต้องตรงคำบรรยาย การดำเนินเรื่องนี้แหละ เขียนได้ฮามากแต่ละบรรทัด  :laugh:
ว่าแล้วก็วิ่งไปอ่าน ตรวจสอบหัวใจ ภาคเล่าสู่กันฟังดีก่า  :oni2:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: phai ที่ 21-05-2012 02:29:07
สนุกมากๆค่ะ o13


อ่านไปทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ทั้งเรื่องเลย  :impress2:
 :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: shogun chai ที่ 22-05-2012 12:26:12
ลุ้นตัวโก่งเลยทีเดียว  :really2:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 23-05-2012 11:27:18
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: 4559 ที่ 25-05-2012 22:10:25
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 06-10-2013 22:58:40
พึ่งเริ่มอ่าน แต่สนุกจริง ๆ นะ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-10-2013 18:49:30
อ่านแล้วมีความสุขมากๆ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sasaka8 ที่ 21-09-2014 20:48:26
ขอบคุณนะคะเรื่องนี้น่ารักมากๆเลย จบก็น่ารักอินตาม
อยากให้มีตอนพิเศษอีก ติดตามเรื่องต่อไปค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: sunipum ที่ 27-08-2015 19:00:23
ขอบคุณนะคะสำหรับเรื่องนี้ น่ารักมากๆเลยคะ ^^
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 01-09-2015 18:12:44
อ่านจบแล้ว เย้
ใช้เวลาไปหลายวันทีเดียว อิอิ
สนุกมากเลยค่ะ

อบคุณคนเขียนมากนะคะ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 14-09-2015 16:47:05
พี่ต่ายน้องโอมน่ารักมาก หลงเลยค่ะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nuch-p ที่ 10-09-2016 22:49:19
 :-[ :-[
น่ารักมากกกกกเรื่องนี้
คนเขียนสู้ๆๆๆๆๆๆ

 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nunda ที่ 24-02-2017 18:27:06
ขอบคุณค่ะ
เรื่องน่ารักดี
แต่มาม่าตอนหลังๆก็ทำเอาปวดตับเหมือนกัน
ดีที่สุดท้ายก็แฮปปี้เอนดิ้ง ^^
หัวข้อ: Re: ตรวจสอบหัวใจ โดย K-one
เริ่มหัวข้อโดย: nyxca ที่ 10-03-2020 23:30:35
อ่านถึงหน้า18 คือบั่บ พี่ต่ายน่ารักมากอะ55555 คุณคนเขียนเก่งจังเพราะปรกติเราน่ะสมาธิสั้น จะให้มาอ่านพวกslice of life ไม่ค่อยรอด แต่เรื่องนี้เราอ่านได้ สนุก ไม่ข้ามแม้แต่บรรทัดเดียวด้วยแหละ 5555 อ่านต่อก่อร ขอบคถณที่เขียรนะคะ><




Edit////เรารอฟังเหตุผลพี่ต่ายอยู่นะ ถ้าฟังไม่ขึ้นหรือมันไม่สำคัญพอที่จะทิ้งกันไปโดยไม่บอกกล่าวนี่พังเลยนะ