[คุ ณ ช า ย ๒] : บทที่ 46 หนีตาย ! 3/4/14 - 18.50
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [คุ ณ ช า ย ๒] : บทที่ 46 หนีตาย ! 3/4/14 - 18.50  (อ่าน 46242 ครั้ง)

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
รอการกลับมาของคนเขียน อิอิ  :mew3:

honeystar

  • บุคคลทั่วไป
คุณชายเจ้าขา ยังรออยู่เสมอนะเจ้าคะ :L2:

ออฟไลน์ TiwAmp_90

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 292
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
ถ้าถามว่าประทับใจใครที่สุดในเรื่อง
จะขอตอบว่า คุณหญิงดาริกา นี่ล่ะค่ะ....
เหมือนแม่หญิงนักสืบ 555
เก่ง ฉลาด สวย ครบเครื่องจริงๆ
 :mew1:
ปล.ถ้าหม่อมวิไลวรรณรู้ความจริง จะยอมรับได้หรือ?
เอาใจช่วยชายภาสกับหนูน้ำ นะคะ

ออฟไลน์ The_Beggar

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
อยากอ่านต่อจังเลยค่ะ ชอบมากเลยสนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ chaWice

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-0
มาต่อเถอะ
นะนะนะนะ
 :ling1:

ออฟไลน์ VOODOO DOLL

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1

ออฟไลน์ Purple_Sky

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 171
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +354/-1
46


     ดาริกาเล่าเรื่องที่หล่อนเพิ่งได้ยินมาให้พี่ชายฟัง นรัตถพลก็ตั้งใจฟังอย่างดีแต่พอพูดจบ ชายหนุ่มก็ขมวดคิ้วแล้วออกความเห็นว่า
    “แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราจะรู้ได้ยังไงว่าสองคนนั้นใช่สองคนที่มาฉกกระเป๋าหม่อมวิไลวรรณ”
    “แต่มันก็เข้าเค้านะคะพี่ชาย ถ้านายคนที่มาขอเช่าชุดวินและมอเตอร์ไซค์คือมือปืนจริงๆ อีกสองคนก็น่าจะเป็นคนที่ฉกกระเป๋าหม่อม ถ้าเกิดนายนั่นบอกว่าจ้างไปเป็นตัวประกอบในละครก็พอดีเลยนะคะ สมเหตุสมผลด้วยถ้าจ้างไปวิ่งราวเฉยๆ คนก็คงไม่ยอมแต่ถ้าบอกว่าเป็นตัวประกอบในละครแล้วก็ให้วิ่งไปฉกกระเป๋าเสียก็เป๊ะ”
    “นั่นสิ พี่ว่ามันก็ใช่นะ คนร้ายถึงร้องออกมาว่าไม่เอาด้วยแล้ว เพราะถ้าเขาคิดว่าถ่ายละครก็คงไม่คาดหวังว่าจะมีการยิงกันจริงๆ!” นรัตถพลร้องออกมา “ถ้าเพียงแต่ว่าเรามีข้อพิสูจน์ ว่าหนึ่งในสองคนนั้นเป็นอ๊อดจริงๆละก็นะ”
    “มันก็มีทางไม่ใช่หรือคะพี่ชาย”  หญิงสาวยิ้มให้กับพี่ชายของตนก่อนจะวิ่งไปทางร้านกาแฟ นรัตถพลกึ่งเดิน กึ่งวิ่งตามมาโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว ตะโกนถามว่า
    “นี่หญิงจะไปไหน จะพิสูจน์ยังไง”
    “รูปที่น้องคนนั้นที่ร้านกาแฟถ่ายคู่กับฟ้าทิฆัมพร เป็นรูปที่ถ่ายหน้าร้าน เขาบอกว่าผู้ชายแปลกหน้าที่มาถามหาคุณชายนั่งอยู่ในร้าน เขาถึงกล้าไปถ่ายรูปหน้าร้าน ถ้าเราโชคดี เราก็จะได้เห็นละค่ะพี่ชายรัตว่ามีผู้ชายเสื้อดำลายทองอยู่ในร้านหรือเปล่า”

 
    คุณหญิงดาริกามาถึงร้านกาแฟร้านเดิมพร้อมกับพี่ชายของหล่อน เพียงเดินเข้าไปในร้าน เด็กพนักงานคนเดิมก็ยิ้มกว้างให้ทั้งคู่ พร้อมกับเอ่ยทักด้วยเสียงสดใสว่า “เอ้าคุณพี่ทั้งสองคน รับอะไรเพิ่มดีคะ”
    “พี่ไม่แน่ใจน่ะค่ะว่าทำของตกไว้ที่นี่หรือเปล่า”
    “เอ๊ะ ทำอะไรตกคะ หนูเพิ่งกวาดพื้นไปก็ไม่เห็นอะไรนะคะ”
    “ต่างหูน่ะค่ะ แบบที่พี่ซื้อให้พี่ฟ้าไปตอนที่เคยเจอกันในงาน มีทแอนด์กรี๊ดในกรุงเทพ” ดาริกาว่าตามบทยังแกล้งทำเป็นหาของไปเรื่อยอย่างไม่ใส่ใจ ตอนนั้นเองที่พนักงานสาวร้องขึ้น
    “ว้าย พี่เคยไปงานมีทแอนด์กรี๊ดพี่ฟ้าด้วยหรือคะ”
    “ใช่สิจ๊ะ เนี่ยตอนนั้นให้ไปใส่พี่ฟ้าก็ใส่นะ ชอบใส่อยู่บ่อยๆ เป็นต่างหูหินลายสวยๆ สีฟ้าๆส้มๆน่ะจ้ะ” ดาริกาว่า หล่อนจำได้ว่าทิฆัมพรใส่ต่างหูอย่างนี้เมื่อคืนที่งานเลี้ยง ถ้าหล่อนไม่ได้ถอดเปลี่ยน ตอนมาเดินตลาดเมื่อวานเย็นก็น่าจะใส่คู่เดียวกันนี้แหละ
    ได้ผล พนักงานสาวทำตาโตหยิบมือถือขึ้นมากดดูรูป
    “โอ้ยรูปที่ถ่ายคู่เห็นไม่ชัดค่ะ แต่รูปถ่ายเดี่ยวใช่เลยค่ะพี่” เด็กคนนั้นยื่นมือถือมาให้หล่อนดู ดาริกามองเห็นต่างหูก็พอใจว่าหล่อนจำได้ไม่ผิดจริงๆ แต่เท่านั้นเองไม่ตื่นเต้นดีใจไปอย่างเด็กสาวพนักงาน หล่อนมองไปยังด้านหลังของดาราสาว เห็นบริเวณในร้านชัดเจนว่า มีผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ตรงโตะที่ใกล้กับประตูที่สุด
    ใส่เสื้อสีดำ ลายทองวูบวาบเหมือนชุดลิเกจริงๆ!
    ดาริกาชี้ต่างหูในรูปให้พี่ชายดู
    “เจ๊ดูสิค่ะ นี่แหละแบบนี้เลยที่หนูทำหาย” นรัตถพลเข้าใจดีเลยมองกวาดตาไปทั่วภาพเช่นกันคงจะเห็นคนที่ดาริกาตั้งใจให้ดูแล้วก็พูดขึ้นว่า
    “คุณน้องขา กลับกันเถอะค่ะ เจ๊ว่ามันหายก่อนมาที่นี่นะคะ ไปค่ะๆ รีบกลับบ้าน!” ยังไม่ทันจะได้ออกไปพ้นร้านดี ดาริกาก็พบว่าโทรศัพท์มือถือของตนดังขึ้น มองดูเบอร์ก็พบว่ามาจาก ภาสกร หญิงสาวรับสายไม่ทันพูดอะไรก็ได้ยินชายหนุ่มพูดตะกุกตะกัก แทบฟังไม่รู้เรื่องมาในสายแทบจะทันทีที่รับ
    ข่าวที่หล่อนได้ยินทำให้ต้องรีบบึ่งขึ้นรถไปหาคุณชายภาสกรทันที

    ภาสกรกำลังคุยกับหม่อมราชวงศ์ เตชวัฒน์พี่ชายของหล่อนอยู่หน้าห้องฉุกเฉินพอดี ตอนที่ดาริกาไปถึง ชายหนุ่มยืนหันหลังให้หล่อนคุยกับพี่ชาย ซึ่งเดาจากสีหน้าก็รู้ว่าคงเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดกับเด็กรับใช้ของคุณชายเมื่อเช้านี้นั่นแหละ พอหล่อนเข้าไปถึงตัวภาสกรชายหนุ่มทั้งสองก็หยุดพูดแล้ว
    “แม่เด็กคนนั้นล่ะคะ”
    เตชวัฒน์ส่งสายตาปราม แต่ภาสกรกลับพูดขึ้นว่า
    “ตายแล้วล่ะ เรามาส่งเขาช้าเกินไป”
    ดาริกายกมือขึ้นปิดปาก พอดีกับนรัตถพลที่เพิ่งวนรถไปจอดได้เสร็จวิ่งตามมาพอดี สามพี่น้องสุวรรณฉายใบหน้าเคร่งเครียดไม่ต่างกัน ภาสกรเองก็เม้มปากแน่นอย่างใช้ความคิด เหลือบมองนทีที่อยู่ห่างไปสักหน่อยครั้งสองครั้งก็พูดว่า
    “เราหาที่คุยกันเงียบๆดีไหมครับ”
    “ก็ดี” คุณชายเต้ พี่คนโตของดาริกาว่า “จะได้ไม่วุ่นวาย ผมจะให้คนติดต่อญาติของเด็กคนนี้มารับตัวไปทำศพก็แล้วกัน ถ้าญาติเขามาแล้วเราค่อยมารับหน้าก็ได้ครับ ป่านนั้นเราคงจะคุยกันเสร็จแล้ว”
    ขาดคำเตชวัฒน์ก็เดินนำหน้าไปก่อน ตามด้วยนรัตถพลและดาริกา ส่วนภาสกรรั้งท้ายอยู่หลังสุดเดินเข้าไปหานทีก่อน เอื้อมมือไปบีบที่บ่าเบาๆเหมือนพี่ชายปฏิบัติต่อน้องชาย
    “นทีหน้าซีดเชียว ไปหากาแฟดื่มกันนะครับ”
    “คุณชาย” หนุ่มน้อยกระซิบแผ่วเบา “ถ้าคุณชายได้ดื่ม...”
    “โธ่นที อย่าคิดมากเลยครับ” เขาลดเสียงลงให้ได้ยินกันสองคน “ยิ่งคุณคิดมากผมก็ยิ่งคิดมากตาม ถ้ายังคิดมากอยู่ผมก็ต้องอยากจะปลอบคุณนะเดี๋ยวก็กอดเสียตรงนี้หรอก”
    นทีอมยิ้มที่มุมปากก่อนจะบ่นว่า “บ้า” เบาๆ แล้วก็เดินนำหน้าชายหนุ่มไปทางเดียวกันกับพวกดาริกา
    ทั้งห้ามาที่ร้านกาแฟเล็กๆร้านหนึ่งในโรงพยาบาล เลือกที่ที่อยู่ด้านในถึงบรรยากาศจะดูสบายๆ แต่ทั้งห้ากลับเคร่งเครียดไม่สบายใจกันเสียส่วนใหญ่มีดาริกา และนรัตถพลเท่านั้นที่ค่อนข้างไม่สบายกายด้วยเพราะได้เดินมาทั้งวัน คนที่เริ่มบทสนทนาก็คือดาริกาที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร รู้แต่ว่าภาสกรโทรมาบอกว่าคนใช้คนหนึ่งของเขาตายอย่างกระทันหันในบ้านให้รีบมาโรงพยาบาลเท่านั้น
    “เกิดอะไรขึ้นคะ คุณชายเล่าให้หญิงฟังเถอะค่ะ”
    “คืออย่างนี้ครับ เมื่อเช้ามีคนส่งนมสดจากนิวซีแลนด์มาให้ผม เป็นของขวัญวันเกิด เด็กในบ้านก็ออกไปรับมาผมเลยสั่งให้รินมาให้ผมและนทีดื่มด้วย ปรากฏว่าเด็กคนนั้นคงแอบชิมก่อน มาเจออีกทีก็มีแก้วนมแตกกระจายหกเต็มพื้นไปหมด เขาก็ลงไปชักหายใจไม่ออกแล้ว ขนาดผมรีบขับรถมาส่งที่โรงพยาบาลขนาดนี้ก็ยังไม่ทัน”
    ดาริกายกมือทาบอกอย่างตกใจ
    “ถ้าอย่างนี้ก็ชัดเลยนะครับ” นรัตถพลออกความเห็น “เป้าหมายของมันก็คือคุณชายจริงๆ จะเป็นคนเดียวกับเมื่อวานหรือเปล่าไม่รู้นะครับ”
    เตชวัฒน์หันขวับไปมองน้องชายอย่างไม่เข้าใจว่าพูดถึงอะไรอยู่ภาสกรเห็นจากท่าทางก็เข้าใจแล้วว่า นรัตถพลคงยังไม่ได้บอกเรื่องราววุ่นวายที่เกิดขึ้นให้ภาสกรฟัง คุณชายหนุ่มก็เลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พี่ชายคนโตของราชสกุล สุวรรณฉายฟังอีกรอบ พยายามไม่ให้รายละเอียดใดตกหล่นไปได้
    พอเขาเล่าจบนรัตถพลก็เล่าเสริมว่า
   “วันนี้ผมกับน้องหญิงไปสืบเรื่องนี้มาครับพี่ชายเต้” เขาว่า ทีแรกเตชวัฒน์ก็ทำหน้าไม่พอใจ แต่ก็คงเห็นว่าเรื่องที่ไปสืบมานั้นมีความสำคัญอยู่ ควรจะรับรู้เสียก่อนตำหนิน้องๆ ก็ตั้งตัวตรงพร้อมฟังเรื่องราวทั้งหมดพอดีกับที่ชายคนหนึ่งเดินเข้ามานั่งโต๊ะใกล้ๆ ใส่หูฟังฟังเพลงอย่างไม่มีความหมายอะไร
    คุณชายกลางแห่งสุวรรณฉายเล่าเรื่องที่ไปสืบมาให้กับพี่ชายคนโต รวมถึงคุณชายภาสกรและนทีที่เป็นคู่เสียหายฟังด้วย ทั้งห้านั่งฟังอย่างตั้งใจจนจบ ต่างคนต่างก็เงียบไปเสียสนิท ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา กระทั่งเตชวัฒน์เป็นฝ่ายถอนหายใจออกมาเสียก่อน คนอื่นจึงค่อยหายใจกันคล่องคอขึ้น
    “เอาเป็นว่าพี่จะส่งเรื่องนี้ไปให้ลูกน้องตำรวจสืบต่อดีกว่า น้องหญิงกับชายรัตไม่ควรไปเล่นเสี่ยงๆ แบบนี้” พี่ชายคนโตจ้องน้องสองคนด้วยแววตาอย่างผุ้ใหญ่ดุเด็ก จนสองคนนั้นรู้สึกตัวเล็กลงทันตา “แต่จากที่ฟังก็นับว่าเล่นกันได้สมบทบาทดี อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเป้าหมายคือคุณชาย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรทำอีกนะ เกิดพวกมันรู้ว่าพวกเธอรู้จักกับคุณชายภาสกร และตามมาถึงตัวเข้าละเป็นเรื่อง”
    “แต่มันส่งนม มาถึงที่วังพัทยานะคะ” ดาริกาว่า “ถ้ามันจะมาจัดการคุณชายจริงๆ อย่างไรมันก็ย้อนกลับมาได้"
    “ข้อเสียอยู่ตรงนี้แหละ ใครๆก็รู้ว่า บ้านของคุณชายหรือวังพัทยาอยู่ที่ไหน” เตชวัฒน์คนกาแฟก่อนจะยกจิบ “ตอนนี้มันคงยังไม่รู้หรอกว่าฆ่าผิดตัว ถ้าพี่เดาไม่ผิด มันคงดักซุ่มอยู่แถวปากทางเข้าเขตวังพัทยา คงเห็นรถคุณชายออกมาแล้วละ โชคดีที่คันนี้ติดฟิลม์มืด ไม่น่าจะรู้ว่าคนขับคือคุณชาย แต่ถ้ามันตามมาที่โรงพยาบาลละก็ ป่านนี้มันต้องรู้แล้วแน่ๆว่าคุณชายยังปลอดภัย”
    จะด้วยอุปาทานหรือไม่ ก็ไม่รู้ จู่ๆนทีก็รู้สึกว่ามีคนแอบมองพวกเขาอยู่ไม่ไกล หันขวับไปก็พบว่าไม่มีใครเสียหน่อย จึงหันมามองหน้าภาสกรเห็นคุณชายเลิกคิ้วเป็นคำถาม แต่นทีไม่ทันได้บอกอะไรเตชวัฒน์ก็สบโอกาสขัดขึ้นก่อน
    “คุณชายภาสกรอยู่ที่นี่ไม่ได้หรอก วังพัทยาไม่ปลอดภัยแล้ว ให้ท่านชายเรืองเดชและหม่อมวิไลวรรณกลับกรุงเทพเถอะครับ”
    “แต่ผมไม่อยากทิ้งนที” เขารีบปฏิเสธโดยไม่คิดหน้าคิดหลัง ทำเอาหนุ่มน้อยข้างๆ ทั้งอุ่นใจ ทั้งลำบากใจในเวลาเดียวกัน
    “คุณชายพูดอย่างนี้ไม่ได้ ความปลอดภัยของคุณชาย รวมถึงท่านชายเรืองเดช และหม่อมวิไลวรรณ ต้องมาก่อนผม คุณชายเชื่อผมเถอะกลับไปกรุงเทพก่อน ไม่ใช่ว่าจะต้องจากกันตลอดไปเสียเมื่อไหร่ ผมไปหาคุณชายที่กรุงเทพบ่อยๆก็ได้เชื่อผมนะครับ เกิดคุณชายเป็นอะไรขึ้นมา...”
    ภาสกรยิ้มกว้างแม้จะมีแววกังวลใจอยู่ในตาแต่เขาก็กระซิบบอกคนรักของเขาเบาๆ ว่า “นทีไม่ต้องกลัวนะ ผมไม่ยอมเป็นอะไรไปหรอก กลัวจะไม่มีใครคอยดูแลนที”

    ท่านชายเรืองเดชคงทรงทราบเรื่องจากนมอุ่นแล้ว จึงเสด็จมาถึงโรงพยาบาล เมื่อทั้งหมดเดินกลับไปที่ห้องฉุกเฉิน ท่านชายก็ประทับอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องนั้นแล้ว ร่างไร้ชีวิตของจิ๋มนอนอยู่บนรถเข็นมีผ้าขาวคลุมไว้เรียบร้อยข้างๆนั้น คือพ่อและแม่ของหล่อนที่กอดร่างลูกสาวร้องห่มร้องไห้แทบจะขาดใจตายไปด้วยอีกคน หม่อมวิไลวรรณและทิฆัมพรยืนอยู่ไกลๆ ไม่กล้ามองศพและไม่อยากเข้าใกล้โรงพยาบาลเพราะกลัวเชื้อโรค ส่งสายตาตำหนิมาให้ภาสกรจนเสียวหลังวาบ
    เขากัดฟันเข้าไปขอโทษพ่อแม่ของจิ๋ม เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ฟัง มั่นใจว่าคงถูกด่าว่า ทุบตีบ้างที่เอาลูกเขามาตายแต่สองคนนั้นก็คุมสติได้ดีพอสมควรไม่ได้โวยวายหรือกรีดร้องใส่ภาสกร
    คนพ่อเอ่ยขึ้นเพียงว่า “ดีแล้วละ นังจิ๋มมันตายแทนคุณชาย อย่างน้อยมันก็ได้ทำประโยชน์ให้กับคนอื่น”
    “เรื่องงานศพเราขอเป็นเจ้าภาพเอง จะออกเงินให้ทุกอย่าง รวมถึงขอให้ช่วยรับค่าเสียหายไปด้วย” ท่านชายเรืองเดชรับสั่ง
    “มิได้พะย่ะค่ะ” คนพ่อพูดราชาศัพท์ผิดๆถูกๆ ระล่ำระลักขึ้น “ข้าพระพุทธเจ้า ไม่ทรงบังอาจ ให้ท่านชายมาออกค่าใช้จ่ายให้หรอก พะย่ะค่ะ เท่านี้ก็ทรงตื้นตันใจแล้ว”
    ท่านชายเรืองเดชคงนึกขันอยู่บ้างแต่ก็รับสั่งเพียงว่า
    “ไม่ต้องพูดราชาศัพท์กับเราหรอก เรายินดีให้เงินทำขวัญแล้วก็เป็นเจ้าภาพให้จริงๆ ไม่ได้พูดตามมารยาท จะปฏิเสธน้ำใจเราทีเดียวหรือ” เพียงนั้น สองตายายก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก แต่ยังคงร้องไห้อยู่อีกนานกว่าจะกลับกันไป
   นทียืนมองด้วยความสงสาร ไม่รู้ว่าพ่อแม่ต้องมาเห็นลูกตายไปก่อนตนหรือว่าลูกเห็นพ่อแม่ตาย อย่างไหนมันน่าเศร้ากว่ากัน

    ความเศร้าโศกที่เพิ่งประจักษ์มา และความใจหายที่รอดตายไปอย่างน่าอัศจรรย์ถึงสองครั้งติดๆกันทำเอาภาสกรและนทีถึงกับกินข้าวไม่ลง ท่านชายเรืองเดชก็คงพอกัน แม้จะตัดสินใจหาร้านอาหารกินข้าวไปคุยไปก็นั่งฟังเรื่องของลูกชาย พร้อมกับกินข้าวไปไม่กี่คำเท่านั้น มีก็แต่ทิฆัมพรคนเดียวที่กินเอาๆ ชวนหม่อมวิไลวรรณกินบ้าง คุยเล่นเรื่องอื่นไม่สนใจภาสกรบ้าง จนท่านชายต้องปรายตามองอยู่บ่อยๆ พอ ทิฆัมพรเริ่มหมดฤทธิ์ ท่านชายเรืองเดชก็พูดขึ้นว่า
    “พ่อจะกลับกรุงเทพกับแม่เราเดี๋ยวนี้” ภาสกรแทบจะวางช้อนแล้วเงยหน้ามองด้วยความตกใจ แต่เมื่ออยู่กับพ่อ มารยาทเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด จึงได้แต่รับคำเท่านั้น “ให้มิ่งเมืองขับรถไปส่งเดี๋ยวอีกสองชั่วโมง อาหมอของชายก็ออกเวรแล้ว พ่อก็จะกลับทันที อยู่ต่อไปไม่ได้ อันตรายมาก ชายภาสและนทีเองก็ต้องไปกรุงเทพด้วยนะ พ่อไม่ให้อยู่ที่นี่”
     ภาสกรตกใจไม่คิดว่าจะได้ยินท่านพ่อพูดเหมือนอนุญาตให้นทีมาที่บ้านอย่างนี้เขากำลังคิดอยู่เลยว่าทำอย่างไรถึงจะชวนนทีไปด้วยกันได้ นทีเองได้ยินชื่อตัวเองก็เงยหน้ามองท่านชายแต่พอรู้ตัวว่าเสียมารยาทจึงรีบก้มหน้าหลบตา ภาสกรเห็นกิริยานั้นก็เข้าใจว่านทีเกรงใจไม่อยากไปกรุงเทพพร้อมท่านพ่อของเขา
    “หนูนทีมีธุระอะไรที่พัทยาหรือไม่ ถ้าไม่มี ฉันขอเชิญไปที่วังผกากรองนะไปเป็นแขกให้ฉันควบตำแหน่งพ่อครัวด้วย” ท่านชายเรืองเดชสรวล “บอกตามตรงว่าติดใจ แล้วก็เป็นห่วงเห็นชายภาสว่าเราตัวคนเดียว”
    “ท่านพ่อไม่เคยชวนเพื่อนคนไหนของชายภาสมาเที่ยวที่วังเลยนะจ๊ะหนูนทีอย่าปฏิเสธเลยจ้ะ” วิไลวรรณยิ้มให้กับหนุ่มน้อยเมื่อเห็นว่านทีเตรียมตั้งท่าจะปฏิเสธ  “อีกอย่างถ้าพวกมันต้องการฆ่าชายภาสจริงๆ วันที่หนูวิ่งจับโจรฉกกระเป๋า มันก็คงเห็นหนูแล้ว อยู่ที่นี่ต่อไปก็จะอันตรายไปอยู่ที่วังกับพวกเรานะจ๊ะ”
    “ถ้าเป็นประสงค์ของท่านชาย และหม่อม ผมก็ยินดีครับ”
   “ได้ยินแล้วนะชายภาส เราขับรถตามไปกับหนูนทีนะ” ท่านชายเรืองเดชรับสั่ง “ถ้าทำได้ก็กลับเลยคืนนี้”
   ทิฆัมพรหน้าบึ้งขึ้นทันทีรีบแย้งว่า
    “น้องนที ดูเด็กๆน่าจะยังเรียนไม่จบนะจ๊ะ ไปอยู่กรุงเทพได้ยังไง ไม่ต้องไปเรียนหรือ ให้พี่นั่งรถไปกับคุณชายดีกว่าเราน่ะอยู่นี่ล่ะจ้ะ”
    “ผมปิดเทอมแล้วครับ อีกนานกว่าจะเปิด” นทีตอบอมยิ้มแบบปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ “พี่ฟ้ามีถ่ายละครมะรืนนี้อีกฉากไม่ใช่หรือครับ ไปๆมาๆ เหนื่อยแย่เลย อยู่พักผ่อนที่พัทยานี่เถอะครับ จะได้สวยๆเวลาเข้ากล้อง”
    คำพูดแบบใบมีดอาบน้ำผึ้ง เฉือนหูทิฆัมพรจนแดงแปร๊ด สวยเวลาเข้ากล้องก็คือไม่สวยในชีวิตจริงนั่นแหละ! มือกำส้อมแน่นเข้าจนเจ็บมือ แทบจะยกขึ้นแทงนทีแล้วถ้าทำได้ ยิ่งท่านชายเรืองเดชรับสั่งเสริมอีกว่า “ฉันเห็นด้วย หนูฟ้าอยู่ที่นี่ไม่ต้องตามไปหรอก” ทิฆัมพรก็แทบจะกรี๊ดออกมาดังๆ ทีเดียว

ออฟไลน์ Nano PL

  • ขอร้อง
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 869
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-7
สมควร หึหึ

ออฟไลน์ kasarus

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1780
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
นานมาก ขอทวนความจำก่อนนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: [คุ ณ ช า ย ๒] : บทที่ 46 หนีตาย ! 3/4/14 - 18.50
« ตอบ #159 เมื่อ: 03-04-2014 23:20:21 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
สงสาร นทีกับคุณชายนะ แต่ขำคุณฟ้าเธอจริงๆ

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ตอนแรก้ศร้าๆ
พอมาตอนท้าย ฮาเลยจ้า
สมน้ำหน้ายัยฑิฆัมพร 555

ออฟไลน์ mutoo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-37
อยากให้มาต่อค่ะ
อย่าเพิ่งเลิกแต่งเรื่องนี้นะ เค้าชอบ

xdevo2divx

  • บุคคลทั่วไป
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ่านปางบรรพ์ อาทิตย์นี้อ่านเรื่อง คุณชาย ยอมรับเลยครับว่าคนเขียนเขียนได้ดีจริงๆครับบบ ^^

มาอัพเร็วๆนะครับ เป็นกำลังใจให้  :-[

ปล. สมัครล็อกอินมาเพื่อเรื่องนี้เลยครับบ  :hao5:

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นนิยายวายนะ จะเชียร์ดาริกาเลยจริงๆ ทั้งสวย ฉลาด มีชาติตระกูล

ออฟไลน์ แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-14
ช่วยมาต่อให้จบทีเถอะ พลิสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

 :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ akajinkame

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 82
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
มาต่อเถอะค่ะเรื่องนี้ มันสนุกมากจริงๆ

ออฟไลน์ unicorncolour

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1006
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
จะรอ รอ รอ รอ รอ รอคนเขียนกลับมาต่อ  :mew2:

ออฟไลน์ AkuaPink

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2033
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-1
 :pig4:
 :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด