.
.
.
บ้านไม้ชั้นเดียวริมลำธารท่ามกลางป่าไม้ผืนกว้าง คงเป็นบ้านของเขาจริง ๆ เพียงแห่งเดียวในความรู้สึก
ข้างนอกรั้วนั่น คือสวนมะพร้าวน้ำหอมที่ไม่มีอะไรให้นักท่องเที่ยวได้สนใจมากนัก วัน ๆ หนึ่งจะมีก็แต่คนสวนที่มาเก็บลูกมะพร้าวไปไว้รับรองแขกเพียงไม่กี่เที่ยว และที่ตรงนี้ ก็เป็นส่วนตัวเกินกว่าใครจะกล้าเข้ามาหรือแม้แต่ส่งเสียงรบกวน
“เอาเป็นว่า มึงต้องการอะไรจากพ่อมึง?” พี่ฝิ่นเอ่ยถามอยู่ข้างเขาซึ่งยืนอยู่ตรงระเบียงหน้าบ้าน มองไปยังลำธารตรงหน้า
“มันผ่านมาแล้วล่ะ จากที่เคยต้องการ ก็ไม่มีอะไรให้ต้องการแล้ว” เขาตอบโดยไม่หันไปมองคนข้างกาย
“มึงมันเป็นเอามากกว่าที่คิด”
“พี่คิดว่าผมเป็นยังไงล่ะ?” เขาหันไปถามซึ่งหน้า
“กล้าดีขึ้นทุกวัน” พี่ฝิ่นทำหน้าเคร่ง ยกมือกอดอกตัวเอง พลางเหล่หางตามองเขาเหมือนปราม ๆ แต่เขาดันยิ้มตอบกลับเลยโดนพี่มันแสยะยิ้มให้ก่อนจะหันหนี
“มึงเคยเห็นพ่อกูพูดดี ๆ พูดเพราะ ๆ กับกูบ้างไหม?” อยู่ ๆ พี่ฝิ่นก็ถามขึ้นมา ...พ่อพี่ฝิ่นน่ะเหรอ เห็นเอ่ยปากทีไรเหมือนจ้องจะต่อยกับลูกชายตลอด ซึ่งพ่อในสมัยหนุ่ม ๆ ก็คงเหมือนพี่ฝิ่นเป๊ะ “เขาเสียงแข็งกับกูตลอด แต่กูอยากทำอะไรก็ปล่อยให้คิดเองทำเอง แล้วถ้ากูพลาดขึ้นมา เขาก็จะซ้ำเติมกูให้หนักเข้าไว้ แต่กูไม่ยักคิดว่าพ่อไม่รักไม่หวังดี กูว่าวิธีแสดงความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอกว่ะ ให้พ่อกูโอ๋กูก็คงไม่เอา” พูดจริงจังขึ้นมาเชียว
“หึ สิ่งที่ผมต้องการมันไม่มีวันเป็นจริงได้หรอก มันหายไปหมดตั้งนานแล้ว” เขาก้มหน้าพูดก่อนเงยหน้าหันไปมองพี่ฝิ่นที่ชำเลืองมองเขาอยู่ตลอด เขายิ้มบาง ๆ “...บางทีพ่ออาจยังรักผม รักแม่ แต่...มันส่งมาไม่ถึงผมแล้ว ...แล้วพี่คิดว่าผมจะต้องการอะไรได้เหรอ? ได้กอด ได้ยินคำบอกรัก ผมก็คงไม่ดีใจ” เขาบอกด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี
แต่ความจริงยังอยากอยู่ใกล้ ๆ แต่พอเข้าใกล้กลับเหมือนโดนเตะออกนอกวงโคจรเพราะรอบกายของพ่อ คือใคร? ใช่ ...ใคร? ซึ่งไม่ใช่แม่ของเขา แล้วอะไรคือรัก อะไรคือผูกพัน อะไรคือครอบครัว?
พงษ์รู้ดีเพราะมันเคยกีดกันความรู้สึกเหล่านี้เพื่อไม่ให้เขาได้สัมผัส ซึ่งเขาก็เพิ่งได้พูดคุยกับพ่ออีกครั้งก็คือช่วงที่ฝึกงาน เขารู้ว่าพ่อคงรู้ข่าวคราวของเขาอยู่ห่าง ๆ ตลอดเวลา และความคิดของพงษ์คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการประกาศตนว่ายังมีเขาอีกคนที่เป็นลูกพ่อ ไม่ก็คงอยากให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง หลังจากถอยห่างมาหลายปีเพื่อทำใจ หึ แต่กลับไปเผชิญหน้าอีกครั้งก็เหมือนมีกระจกใสกั้นอยู่ดังเดิม
“เดี๋ยวกูพามึงมาเจอพ่อมึงบ่อย ๆ ละกัน”
“หืม?” เขาเลิกคิ้วสูงด้วยความข้องใจ เพื่ออะไร?
“เอาเป็นว่าตกลงแล้วกัน กูเชื่อว่าพ่อมึงไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกน่า” พี่ฝิ่นหันหลังยืนพิงรั้วระเบียงและมองหน้าเขาตรง ๆ
“พี่เอาอะไรมาเชื่อ รู้จักกันไม่ถึงปี”
“กูเชื่อมึงก็เชื่อตามกูเถอะน่า” ไม่พูดเปล่ายังยกมือขวาขึ้นขยี้ศีรษะเขาอีกต่างหาก
“..................” เขาทำหน้ามุ่ยใส่
“นี่กูไม่ได้บังคับมึงนะ ...แต่มึงเองก็อยากอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เหรอ?”
เขาลังเลเล็กน้อยแต่กลับพยักหน้าออกไป
...จากเคยอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยรอยยิ้มซึ่งเกิดจากความอบอุ่นภายในครอบครัว หลังจากที่แม่เสียชีวิต คุณพ่อก็เปลี่ยนไป เจอหน้าเขาก็เอาแต่ทำหน้าเครียด และเวลาของพ่อก็หมดไปแต่กับการทำงาน ไม่นับรวมสมาชิกใหม่ที่เข้ามาอยู่ร่วมบ้าน ณ ขณะนั้นอีกสองคน ยิ่งทำให้เขา ห่างไกลพ่อออกไปมากขึ้นทุกที
แล้วเขาล่ะ? เขากลายเป็นใครในครอบครัวที่ไม่มีตัวตน
เขาคงไม่ต้องการอะไรมากกว่าความรู้สึกเดิม ๆ ของการเป็นครอบครัวเดียวกัน ซึ่งไม่ว่ายังไงก็ไม่มีวันเป็นจริง
“พงษ์บอกอะไรพี่ ถึงได้กล้าไปว่าพ่อผมอย่างนั้น” เขาถาม
“บ้าง...แต่กับพ่อมึงก็พูดตรง ๆ ได้นี่หว่า ไม่เห็นมีอะไรยุ่งยากเหมือนที่มันบอกเลย แล้วไอ้พงษ์มันก็ตามใจมึงแบบผิด ๆ เกิน จะไม่ให้คิดว่ามันระ...”
“หืม?” เขาเลิกคิ้วสงสัยเมื่อพี่ฝิ่นหยุดพูดไปดื้อ ๆ
“เปล่า เอาเป็นว่าลองค่อย ๆ เปิดใจให้พ่อมึงไปเรื่อย ๆ ละกัน กูว่ามึงเก็บกดเพราะตัวมึงเองนี่แหละ แล้วเลิกคิดเยอะได้แล้ว คิดอะไรตื้น ๆ หน่อยนะ เป็นอย่างนี้ ใครเขาก็ห่วงมึงทั้งนั้น” พี่ฝิ่นพูดหน้ามุ่ย
“สนอะไรผมมีพี่ฝิ่นทั้งคน” เขาตอบหน้าตาเฉย
“มึงนี่นะ...” พี่ฝิ่นพูดอย่างหมั่นเขี้ยวพร้อมเอามือจับแก้มเขาสองข้างส่ายไปมา ก่อนเราจะหัวเราะร่วนทั้งคู่
“สวีทในบ้านสิครับ เตียงออกจะใหญ่”
“ไอ้โจ้!” พี่ฝิ่นเน้นเสียงเรียกชื่อรุ่นน้อง โจ้มันเพิ่งเดินกลับมาจากทางต้นน้ำพร้อมกล้องถ่ายรูป
“แฮ่ ขอโทษครับ” มันเสียงสูงยิ้มตาหยี “แล้วพี่ไม้ล่ะพี่”
“อยู่โน่น” พี่ฝิ่นลุกจากระเบียงมองไปริมลำธารทางด้านซ้ายมือไม่ไกลมาก พี่ไม้ยืนอยู่ตรงนั้นสักพักได้แล้ว หลังกางเต้นท์ที่เอามาจากรีสอร์ตเสร็จ
“ครับ” โจ้ตอบรับแล้วเดินเลยไปหาพี่ไม้พร้อมตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงร่าเริงเกินเหตุ “จะเล่นน้ำแต่หัววันเลยเหรอพี่ ร้อนตายห่า”
“พี่ไม้ดูเงียบ ๆ นะพี่” เขาถามคนข้าง ๆ มองไปยังพี่ไม้ซึ่งยืนอยู่คนละฝั่งกับเจดีย์เถ้ากระดูกของแม่เขา
ตรงนั้นมันสงบสำหรับแม่มาก เขาคิดว่าท่านน่าจะชอบเมื่อได้มองกลับมายังบ้านหลังนี้
เขาหันมองข้าง ๆ เมื่อพี่ฝิ่นยังเงียบอยู่ เห็นพี่มันมองสองคนที่อยู่ริมน้ำด้วยแววตาเป็นห่วงเป็นใยที่น้อยครั้งจะเห็นจนจับได้อย่างนี้
“ไอ้เป้งมันชอบเที่ยว” พี่ฝิ่นบอก ...เกี่ยวอะไรกับที่เขาถาม? “เปลี่ยนที่เที่ยวยังไงบรรยากาศก็เดิม ๆ ล่ะวะ เป้งมันชอบเล่นน้ำทั้งที่มันขี้หนาว แต่มันก็เล่นทุกครั้งที่มีพี่ไม้อยู่ด้วย เพราะพี่ไม้จะเตรียมผ้าไว้ห่มให้ตอนมันตัวสั่นงก ๆ ขึ้นจากน้ำตลอด ...จะทำอะไรมันเลยไม่ห่วงตัวเอง เพราะมีคนคอยห่วงมันอยู่แล้ว”
เขาเงียบตั้งใจฟัง
“เจดีย์เก็บกระดูกมัน พี่ไม้เป็นคนบอกให้สร้างไว้ตรงนั้นเอง ขนาดตายไปแล้วพี่ยังเป็นห่วงกลัวมันไม่มีความสุขถ้าไม่ได้อยู่กับอะไรที่ชอบ ...แต่ที่มากกว่า ก็ต้นไม้ใหญ่ที่เหมือนตัวแทนพี่ไม้นั่นล่ะ มันก็พูดของมันไปเรื่อย ยามแดดออก ฝนตก ก็มีที่กำบัง เหมือนตอนหาเรื่องแต่ยังมีพี่ไม้เข้าข้าง ...พี่กูก็เก็บไว้ทุกคำ”
พี่ไม้คงไม่ต่างจากเขาเมื่อเห็นเจดีย์เก็บกระดูกของพี่เป้งแล้วพลอยนึกถึงแม่ขึ้นมาเพราะแวดล้อมดูใกล้เคียงกัน ซึ่งนั่นก็เพราะ...
“พี่ไม้เขา...”
“กูถึงบอกมึงไงว่ารักก็คือรักจะไปจำกัดให้ความหมายมันแคบไม่ได้หรอก เพราะกูเคยเห็นมาแล้ว...ว่ารักมันสร้างความสุขและเจ็บปวดได้ขนาดไหน”
“อืม...”
“ขอโทษที่เอามาเล่นกับมึง” เขาไม่เคยโกรธเคืองเลย เพราะสิ่งที่ได้กลับมามันคุ้มเหลือเกิน “แต่กูจะรักมึงให้มากกว่าที่เคยเจอ แล้วไม่ต้องมาถามหาความหมายจากกูด้วย”
“ฮื่อ” เขายิ้มกว้าง “ผมรักพี่จัง”
“พูดอะไรบ่อย ๆ ได้หน้าตาเฉยวะ เอาไว้กูถามค่อยบอกสิ” พี่ฝิ่นมองหน้าเขาก่อนมองไปทางอื่น ...ซ้ายบ้าง ขวาบ้าง มองเลยหัวเขาไปบ้าง
“หึ ไม่เอาหรอก ผมรักพี่ผมก็บอกว่ารัก พี่ก็ชอบฟังใช่ไหมล่ะ?” เขาย้อนขำ ๆ อย่างไม่กลัวโดนลูกหลงเพราะคนตรงหน้าพอใจซะยิ่งกว่าอะไร
<i>ตัวเล็ก...มึงกลับมาถึงบ้านกูก็อยู่นิวยอร์คแล้วล่ะ ขอโทษนะที่ไปโดยไม่บอกก่อน แต่ว่า...กูยอมให้มึงโกรธที่กูหนีมาก่อนยังดีกว่าให้มึงมองตามหลังกูว่ะ ส่วนหนึ่งกูก็เห็นแก่ตัวนะยอมรับ ก็กูไม่อยากรู้สึกเหมือนทิ้งมึงอีกนี่หว่า ...มึงคงกำลังน้อยใจ แต่คงไม่มาก เพราะไอ้เหี้ยฝิ่นคงทนดูไม่ได้ ฮ่า ๆ ไว้กูอยู่ตัวแล้วจะโทรหาให้มึงบ่นกูให้หนำใจไปเลยแล้วกัน แต่กูคำนวณก่อนนะอีกกี่วันมึงจะหายโกรธ หึ ตัวเล็กครับ...ไม่ต้องร้องไห้นะ ถึงไอ้ฝิ่นอนุญาตแต่กูก็ไม่อยากให้มึงเสียน้ำตาเพราะกูหรอก ตลอดเวลาของกู ต้องการแต่รอยยิ้มของมึง ^^ ยิ้มสิวะ! ...คราวนี้กูคงอยู่นาน พวกมึงดูแลกันและกันด้วย ...กูเชื่อว่าไอ้ฝิ่นดูแลมึงได้ดี </i>
......................................ตั๊กบริบูรณ์ จ๊าก! จบบริบูรณ์จ้า................................................
...จะเล่นทำไม?
?