...อ้อมกอดเด็กช่าง(Drama story)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...อ้อมกอดเด็กช่าง(Drama story)  (อ่าน 1036342 ครั้ง)

ออฟไลน์ jimmyFG

  • Ich Liebe dich.
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-4
    • @Facebook

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
แก้วคิดมากนะนั่น แต่ก็คงเพราะการกระทำเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของฝิ่นบางทีก็เลยทำให้แก้วไม่มั่นใจ แต่แก้วทุกสิ่งที่ฝิ่นแสดงออกก็บ่งบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่าฝิ่นรู้สึกยังไง ฝิ่นตอนพูดกับพงษ์เท่มาก ๆ ไม้กับขวัญนี่ยังไง ๆ ก็ไม่รู้ รอตอนพิเศษค่ะ

ออฟไลน์ tuek

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +214/-3
ฝิ่นแมนโคตรๆ
รอตอนพิเศษนะคะ

ออฟไลน์ bobby_bear

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-5
 o13 o13

จบลงอย่างสวยงามแล้วกับนิยายเรื่องนี้ที่ชอบมากจริง ๆ
รักพี่ฝิ่น รักแก้วมาก ชอบความอบอุ่นแบบแข็ง ๆ ที่ฝิ่นให้แก้ว
อยากมีมั่ง อิอิ

ขอบคุณที่แต่งนิยายสนุก ๆ แบบนี้มาให้อ่านนะจ๊ะ
จะรอตอนพิเศษ และเรื่องใหม่นะ

ออฟไลน์ -west-

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1393
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1875/-12
    • FACEBOOK PAGE
ภาระแบบนี้ มันก็น่ามีอะนะ

ออฟไลน์ Number1_90

  • 넘버원~
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 631
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-0
สนุกมาก o13

อ่านไปน้ำตาก็หยดเเหมะๆ สงสารเเก้วเวอร์ :m15:

กว่าจะรักกันได้เลือดตาเเทบกระเด็น :เฮ้อ:

รอตอนพิเศษอยู่นะคะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Gutjang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 256
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-0
"กูอยากมีภาระ"...จบเลยจ้า

ชอบประโยคนี้จริงๆ
ชอบฝิ่น ><

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
อย่าเพิ่งรวมเล่มเลยค่ะ
เพราะเก็บเงินไม่ทัน :เฮ้อ:

กลับดาวละนะ

  • บุคคลทั่วไป
ขอแสดงความยินดีกับผู้แต่ง  o22

เธอได้สำเร็จในสิ่งที่ยากยิ่งไปแล้ว นั่นคือการเขียนจนจบเรื่อง

มันช่างเป็นเรื่องที่ใช้ความสามารถมากมายจริงๆ (หนูไม่สามารถทำได้)

รีบๆรวมเล่ม เค้าอยากอ่านเป็นเล่มง่ะ ไม่ชอบอ่านในเว็บ งุงิงุงิ

ออฟไลน์ Satanza321

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 671
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ว้าจบซะและ ชอบจังตรง "กูอยากมีภาระ" เนี้ย  :impress2: รอตอนไม่ค่อยพิเศษครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






topperha

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้วเสียดายจัง
สนุกมากเลย
 o13

ออฟไลน์ Bong

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
จบแล้ว..>.<
พี่ฝิ่นจบประโยคได้สวยมาก.."กูอยากมีภาระ"..ได้ใจสุดๆ.. o13
รอตอนพิเศษนะคะ :pig4:

FanJKi

  • บุคคลทั่วไป
"กูอยากมีภาระ" โดนใจมากประโยคนี้ ดีใจแทนแก้วด้วย  :impress2:

รอตอนพิเศษที่ไม่พิเศษด้วยคนเพราะยังอยากรู้อีกหลายเรื่องเลย 

 :L2:  ขอบคุณค่ะสำหรับเรื่องสนุก ๆ เรื่องนี้

ออฟไลน์ ลู่เคอOlive♥

  • แซ่บเว่อร์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +95/-8
 :a5: ฮะ จบแล้วเหรอ
แล้วพี่ไม้จะคู่กับใคร ยังไม่มีคู่ให้พี่ไม้เลย

ออฟไลน์ Bowbonk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1187
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-4

ออฟไลน์ DoubleBass

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
สนุกมากกกกกก มีหลายความคิดของตัวละครที่อ่านแล้วชอบปนอึ้งจนต้องคิดตามเลยค่ะ

ขอบคุณนะจ๊ะสำหรับนิยายดีๆเรื่องนี้ o13

ออฟไลน์ everyone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อยากให้มีตอนพิเศษ

แบบหวาน ๆ งอน ๆ ง้อ ๆ กัน ริมทะเลไรงี้นะ

สักตอนไม่ได้เหรอ
... :-[ :-[ :-[ :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ river

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2398
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +231/-3
เข้ามาอ่านรวดเดียวจบ สนุกมาก
มีงงบ้างที่บางตอนที่ไม่รู้ใครพูด ต้องเดาเอา

สรุปว่าดิวบ้าที่สุด เป็นโรคจิตอยากได้การยอมรับ ขี้อิจฉา
ส่วนดี อ่านแรกๆดูเหมือนเกลียดดิว เบ่งว่าใหญ่กว่า ไหงตอนท้ายดูเหมือนกลายเป็นลูกน้องดิวซะงั้น

ออฟไลน์ nine_molly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 36
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ชอบมากค่ะ ไม่รู้จะเขียนอะไร
แต่ขอบคุณนักเขียนอ่ะ สนุก
รอพี่ไม้ด้วยคนอ่ะ o13

ออฟไลน์ everyone

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 121
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
อ่าน จบไปแล้ว ก็รู้ว่าจบ แต่ก็แบบ งง งง

พอรู้ว่าตอนจบมันเป็นยังไง

แล้วกลับมาอ่านอีกรอบ 

อืมมม  เข้าใจแระ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Karn12

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +165/-2
ผมว่าจบแบบนี้ถือว่าสมบูรณ์แล้วสำหรับเรื่องนี้  ชอบครับ

รอตอนพิเศษนะ

ออฟไลน์ loveooo

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ชอบอ่ะ น่ารักมากๆๆๆๆ  ตอนแรกๆนี้แบบว่าโกรธเค้า ไม่ชอบ  แต่สุดท้ายนี้ห๊วงหวงนะฝิ่น  555
อยากอ่านตอนพิเศษแล้วอ่ะ  อยากรู้ว่าระหว่างไม้กะพี่ขวัญจะเป็นยังไงต่อไป ???

ปล.ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ

 :L2: :L2:

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
อ้อมกอดเด็กช่าง Drama Special Part 1




ลงจากรถเมล์สาย ๓T แล้วเดินหิ้วชุดครุยเข้ารั้วโรงเรียนอย่างพะรุงพะรัง  พลันหันไปด้านซ้ายยกมือไหว้องค์พ่อ(พระวิษณุกรม)ซึ่งตั้งห่างจากรั้วโรงเรียนไม่กี่เมตรโดยไม่ได้หยุดฝีเท้า

ก่อนหน้านี้หลังจากฝึกงานเสร็จเขาก็ยังต้องมาเรียนอีกหนึ่งเดือนก่อนจบ  การเดินทางก็โดยสารรถประจำทางตามปกติ  จะเปลี่ยนไปก็แต่นอกจากเพื่อนร่วมสายคนอื่น ๆ ที่คุ้นเคยแล้ว  กลับไม่ได้มีพงษ์  ไม่ได้มีพี่ดิว  เหมือนก่อนหน้านี้  แต่ไอ้ประธานสาย๕x มันก็ปล่อยให้เขาเดินทางตามลำพัง  โดยติดเงื่อนไขเล็ก ๆ ที่ว่า  หากมีอะไรไม่เข้าท่าต้องรีบโทรหามันทันที 
ตั้งแต่กลับมาเรียนจะมีก็แต่เพื่อนร่วมสายบางคนมองมาอย่างขัดเคืองบ้าง  แต่ก็ไม่ได้มีการกระทบกระทั่งอะไร  ส่วนหนึ่งคงเพราะมีคนเดิมอีกคนที่ไม่ได้หายไปไหน  ยังนั่งตัวโตอยู่ตรงเบาะหลังสุดของรถทุกวัน

ยกเว้นวันนี้ที่พี่แชมป์พร้อมคนในสายบางส่วนไม่มา  และรถเมล์ก็โล่งจนมีที่นั่งเหลือเฟือ...

เมื่อเดินมาถึงซุ้มไม้หน้าตึกบริหารฯ  แก้ววางชุดครุยที่เพิ่งได้มาเมื่อวานตอนเย็นลงที่โต๊ะกลางซุ้ม แล้วยกมือไหว้พี่โซ่  ประธานสาย๙T ซึ่งนั่งอยู่มุมโต๊ะคนละฝั่งกับไอ้แสน 

ประธานสาย๙T พยักหน้าและชูบุหรี่ที่อัดเข้าปอดแต่เช้าให้เป็นการทักทายตอบ

...วันนี้มีพิธีรับใบประกาศนียบัตรของ ปวช.๓ กับ ปวส.๒  ที่จบการศึกษาในปีนี้

แต่ประธานสาย๙Tซึ่งเทอมนี้เรียนอยู่ปวส.๑ แผนกช่างยนตกรรม  มานั่งทำอะไรที่นี่?  เวลานี้?

“แสน”  ก้าวขาเข้าไปในซุ้มแล้วนั่งลงข้างเพื่อนพลางสะกิดแขนที่มันวุ่นอยู่กับการผูกเนคไทพันรอบคอด้วยสีหน้าเอาเป็นเอาตาย 

“บั๊ดดี้มึงผูกเป็นใช่ไหมผูกให้กูบ้างสิ  อ้าว”  ตอนแรกมันก้มหน้าก้มตาถามแต่แล้วมันก็ดึงเนคไทออกจากคอแล้วเงยหน้ามองเขา ...มองคอเสื้อเขา  “เมื่อวานอาจารย์สอนมึงผูกได้แล้วนี่หว่า?”

“ก็ว่าจะซักไง  ซักเสร็จค่อยผูกใหม่ก็ได้  ...แต่กลัวชุดครุยไม่แห้งเลยเปลี่ยนใจ”  หิ้วชุดครุยกลับเข้าโรงเรียนด้วยสภาพเดิมของเมื่อวาน  และเนคไทที่ยังไม่ได้ผูกใหม่

แก้วหยิบเนคไทเส้นสีน้ำเงินที่มีตัวหนังสือปักชื่อย่อของโรงเรียนอยู่ด้วยออกจากกระเป๋ากางเกงเอามาคล้องคอแล้วดึงไขว้  ทับ สอด สลับไปมา  อย่างมุ่งมั่น

“ถุยครับมึง”  ไอ้แสนคงไม่ได้ชื่นชมเขาเป็นแน่

ต่างกันตายล่ะ...

เหน็บมันในใจแล้วลุกออกจากซุ้มเพื่อยืนเคารพเพลงชาติและเพลงมาร์ชประจำโรงเรียนจบแล้วนั่งลงหันหลังให้แสนเพราะขี้เกียจก้าวเข้าก้าวออก  และหันมาวุ่นกับคอใครคอมันต่อจนลืมข้องใจเรื่องพี่โซ่ไปแล้ว

“ไอ้แก้วมานานรึยัง?”  หลังจบเพลงมาร์ชไม่กี่นาทีพี่ภูเดินมาจากไหนไม่รู้มาจับบ่าไหล่เขา

“พี่สวัสดีครับ”  หันไปยกมือไหว้อย่างที่เคยทำทุกวัน  “สักพักแล้ว  แล้ววันนี้พี่มาแต่เช้าเลยเหรอ?”   

พี่ภูเดินอ้อมไปนั่งฝั่งเดียวกับพี่โซ่ที่ตอนนี้ดับบุหรี่เรียบร้อยแล้ว  แก้วหันข้างมองตาม 

งานพิธีตอนเช้าไม่มีอะไรเกี่ยวกับรุ่นพี่คนนี้  แต่งานเลี้ยงส่งตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ โน่นถึงเป็นหน้าที่พี่ที่ต้องขึ้นไปร้องเพลงพร้อมวงดนตรีสากลของโรงเรียนไม่ใช่เหรอ?

“กูต้องมาคุมเครื่องเสียงน่ะ  เมื่อกี้ก็ด้วย  พวกสาว ๆ เขายุ่งแต่งตัวกัน กูว่างสุดแล้วนี่หว่า”  พี่ภูหมายถึงเปิดเพลงเคารพธงชาติเมื่อครู่นี้ด้วยซึ่งมันเป็นงานของพวกเด็กกิจกรรม  ถ้าอย่างนั้นเมื่อกี้พี่ภูก็คงเดินมาจากตึกบริหารฯข้างหลังเขานี่แหละ

“อ้อ ครับ”  รับรู้แล้วก็ผูกเนคไทต่อ

“บั๊ดดี้กูว่าอันนี้มันต้องทับกันรูปนี้ถูกละนะ”  ไอ้แสนแนะนำไม่พอมันยังโผมาช่วยจับสายนั้นทับกับสายนี้ช่วยเขา 

แต่ทำไมไทมันพันกันเป็นก้อนเลยวะ

“แน่ใจเหรอแสน”  ลังเล  คิ้วขมวดเป็นปม  แต่ก็ทำอย่างที่เพื่อนบอก   

ไอ้แสนก็เครียดไม่แพ้กัน

“กะอิแค่ผูกเนคไทนี่เป็นปัญหาระดับชาติของพวกมึงเลยไหม?”  พี่ภูจิ๊ปากเสียงดังพลางลุกมาแกะปมเนคไทที่คอเขาออกจากกันแล้วดึงพรวดออกจากคอ

...แสบ  เหอ ๆ 

แก้วลูบคอตัวเองป้อย ๆ 

ไอ้แสนมองเนคไทในมือพี่ภูตาละห้อย

“โห  พี่ครับแสนนั่งผูกให้พี่เห็นตั้งแต่อยู่บนรถเมล์ยันผูกต่อที่โรงเรียน  แต่ทำไมไม่ช่วยกันบ้างเลย  แล้วดูของไอ้แก้วสิ”  ไอ้แสนพล่ามขณะที่พี่ภูเอาเนคไทเขาไปคล้องคอตัวเองที่วันนี้พี่ภูก็ยังใส่เสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาว  แต่ไม่ได้ผูกเนคไทมาเหมือนทุกวันที่มีเรียน  “...นั่น  ไม่กี่วินาที  สวยงามมาก” 

พี่ภูเอาเนคไทที่ผูกเสร็จออกจากคอตัวเองมาสวมเข้าที่หัวเขาหลังจากดึงให้เขาลุกแล้วจัดปกจัดคอเสื้อให้ด้วย 

“นั่นครุยมันทับครุยแสนอยู่  สวมให้กันเลยไหมครับพี่”  ไอ้แสนยังเหน็บแนมไม่เลิก

ถึงว่ามันตั้งใจจะผูกให้ได้แถมมาตั้งใจหน้าตึกบริหารฯอีกด้วย  ที่แท้ก็ทำเอาหน้าพี่ภูนี่เอง 

“บั๊ดดี้! กูรู้นะมึงคิดอะไร”  มันมองเขาตาขวาง  แต่เขายักไหล่ให้เชิงตอบว่า...เปล่า

คนเราก็ต้องเอาตัวรอดกันบ้าง

“ก็จะดูว่ามึงมีความพยายามสักเท่าไหร่  ทีชกต่อยล่ะเก่งนัก  แค่จะจบยังไม่มีปัญญาผูกเนคไทตามระเบียบ  อนาคตจะไปทำอะไรห๊ะแสน?”

“แรงว่ะ ...อนาคตแสนไม่รับจ้างผูกเนคไทแน่นอน”  มันเถียงหน้าตาย

“เถียงตลอด”  พี่ภูยืนสองมือเท้าสะเอวมองหน้าไอ้แสนกวน ๆ  อย่างกับจะท้าตีท้าต่อย

“ออกความคิดเห็นครับพี่  ใครจะกล้าเถียงพี่ครับเฮียนั่งคุมอยู่เนี่ย  อ่ะ”  มันลุกออกจากซุ้มนั่งแล้วยื่นเนคไทเส้นของมันให้พี่ภู  พี่ส่ายหน้าแต่ก็รับไปผูกให้แล้วกระชาก ๆ คอเสื้อมันตอนที่พี่เขาสวมให้  “ขอบคุณครับ”  ไอ้แสนลากเสียงยาวพลางยกมือไหว้พี่ภูแนบอก

แก้วส่ายหน้าหัวเราะ

“เรียนจบไปขั้นนึงแล้วนะ  ต่อไปก็เลิกโตแต่ตัวได้แล้วนะมึง”  พี่ภูใช้นิ้วชี้จิ้มหน้าผากไอ้แสนให้มันออกจากหน้าอกพี่แก

“อย่าสั่งเสีย  เทอมหน้าแสนยังต่อที่นี่ตามเดิม  เอาไว้ให้พี่ภูเห็นพัฒนาการของน้องคนนี้ต่อไปเองดีกว่า  แสนไม่อยากอวยตัวเองว่ะครับ” 

“ถุย”  เสียงประธาน๙T แทรกมา  “โซ่ไปช่วยอาจารย์รันรอนะ  ร้อนว่ะ”  พี่ภูพยักหน้ารับแล้วพี่โซ่ก็ลุกออกจากซุ้มพร้อมตะโกนเรียกอาจารย์รันซึ่งเดินผ่านซุ้มไปเมื่อครู่นี้  ไปทางหอประชุม

“แล้วมึงล่ะแก้ว”  พี่ภูถาม

“...จะลองไปสอบที่มหาวิทยาลัยP ดูครับ” 

ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ต้องคิดเพราะมีคนคิดแทน  แต่ในเมื่อทุกอย่างไม่เหมือนเดิม  การก้าวไปข้าวหน้า  เพื่อออกจากสิ่งที่เราไม่เห็นด้วยจึงเป็นทางเลือกที่ควรทำที่สุด  แม้ที่ตรงนี้จะมีเรื่องราวดี ๆ และไม่ดีคละกันบ้าง  แต่ก็ให้เหลือไว้เป็นเพียงประสบการณ์ชีวิตละกัน 

...ดีกว่ามาฟาดฟันกับสถาบันของคนรักต่อไปอีกตั้งสองปี

“เห็นคนอื่นดีกว่าเพื่อน  ดีกว่าพี่”  ไอ้แสนต่อว่าหน้าหงิกหน้างอ  แต่เขารู้ว่ามันไม่ได้จริงจังเลยยิ้ม ๆ ตอบ

“จะไปต่อที่ไหนกูก็พี่มึงเหมือนเดิม  ส่วนเพื่อนบางคน  มึงลืม ๆ ไปเลยก็ดี”  พี่ภู

“เฮ้ย ๆ ๆ พี่น่ะ!  เพื่อนเขารักกันดี ๆ”  ไอ้บั๊ดดี้มาสามปีรีบมากอดแล้วเอาแขนเกาะบ่าไหล่เขาแสดงจุดยืนพร้อมสีหน้าระรื่นขึ้นทันตา

ไอ้กิ้งก่า...

“ฮะ ๆ”  แก้วหัวเราะทั้งส่ายหน้าพลางจับมือไอ้แสนออกจากไหล่  “เออ แล้วพี่โซ่ญาติดีกับอาจารย์รันตอนไหนเหรอพี่”  หยิบชุดครุยมาสวมทับเสื้อนักศึกษาแขนสั้นแต่วันนี้ผูกไทสถาบันพลางถามรุ่นพี่  ปกติเห็นประธานสาย๙T ไม่ชอบหน้าอาจารย์คนไหนสักคน

“ไม่รู้สิ  มันอยากทำอะไรก็ทำ”  พี่ภูยักไหล่แล้วพูดตอบ

“ถ้าวันนี้ไม่ช่วยงานพี่ภูจะยอมให้เฮียมาโรงเรียนเหรอ  นี่เฮียต้องปั้นหน้าอยู่ร่วมกับพวกอาจารย์  พวกชมรมดนตรี  ดูท่าว่าคงต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยล่ะมั้ง”  ไอ้แสนทำเป็นกระซิบเขา

“ไอ้แสน! กูได้ยิน  นินทาเหี้ยอะไรของมึงต่อหน้าเนี่ย”  พี่ภูทำตาดุใส่เขาทั้งคู่  “กูไม่ได้ขอร้องให้มันช่วย  มึงเข้าใจใหม่เลย  แต่ถ้าทำตัวไม่มีประโยชน์จะต่างจากรออยู่ที่บ้านตรงไหน?” 

อืม...เข้าใจแล้ว

“คนใจร้าย... ถ้าเฮียไม่ช่วยพี่ก็ต้องเหนื่อยคนเดียวอีกน่ะสิ”  ไอ้แสนมองพี่ภูด้วยความเป็นห่วงแต่ก็ต่อว่าไปพร้อมกัน  แล้วมันก็ฟึดฟัดหยิบชุดครุยมาสวมทั้งหน้าบึ้ง ๆ

“ก็คนอื่นมันไม่ได้ดั่งใจ  เอาเสื้อเข้าในกางเกงด้วยแสน”

“นั่นแหละถึงต้องให้เฮียอยู่ด้วย  คนเขาเป็นห่วงไม่ดีรึไง”

“พอเถอะแสน  มึงจะต่อว่าพี่ภูทำไม”  แก้วห้ามทัพ  เพราะพอเข้าใจอะไรแล้ว  …สำหรับพี่ภู  พี่โซ่ประธานสายใหญ่๙T สามารถทำอะไรที่คนอื่นไม่คิดว่าพี่แกจะทำได้เลยจริง ๆ  ขนาดเขากับพงษ์ที่เป็นคนอื่น  แต่แค่สนิทกับพี่ภู  พี่โซ่ยังยอมช่วยเลย  “มีพี่โซ่ช่วยก็ดีนะ  พี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาก”  เขาเห็นด้วยกับเพื่อน  เพราะพี่ภูเวลาหยิบจับอะไรแล้วต้องเป๊ะ  การที่จะไหว้วานคนอื่นทำให้แทน  น้อยจนแทบไม่เคย  สู้เหนื่อยคนเดียวแต่งานออกมาเป็นที่น่าพอใจ  พี่แกก็ทำเองคนเดียวหมด  คนที่หวังดีกับพี่ภูก็เห็นไปทางเดียวกันหมดนั่นแหละ  เอาเป็นว่าเขาเชื่อมือพี่โซ่ตามไอ้แสนละกัน

“ถ้ามันไม่เอางานกูบังหน้าเพื่อจะได้ตามคุมกูมันจะทำไหมเถอะ”  พี่ภูแค่บ่นก็คงรู้ดีที่สุดอยู่แล้ว

“แหม  ไม่รักไม่ห่วงเขาจะคุมเหรอครับ”  ไอ้แสน

แก้วเผลอพยักหน้าเห็นด้วยกับแสนอีกครั้ง

“เออออ?”  พี่ภูถามเขาอย่างหาเรื่อง

“เปล่า ๆ พี่  ...เอ่อ  นิดหน่อยมั้ง แหะ ๆ”  เขาเกาศีรษะแก้เก้อ

เสียงอาจารย์รันประกาศเรียนทุกคนรวมแถวก่อนเข้าหอประชุมดังขึ้น  พี่ภูจึงต้องแยกออกไปจัดเตรียมงานตามหน้าที่พี่แกก่อน  เขากับแสนจึงเดินออกจากหน้าตึกบริหารฯไปรวมกับเพื่อนคนอื่นหน้าตึกช่าง  เสร็จแล้วก็เดินแถวเข้าหอประชุม  ไปนั่งตามลำดับที่อาจารย์ที่ปรึกษาชี้ให้ดู

ปวช.แผนกบริหารธุรกิจ                                         ปวช.แผนกช่างอุตสาหกรรม
-  การตลาด                                                          -  ช่างอิเล็กทรอนิกส์
-  คอมพิวเตอร์รธุรกิจ                                            -  ช่างไฟฟ้ากำลัง
-  การบัญชี                                                           -  ช่างยนต์
-  การประชาสัมพันธ์
และ  ปวส.  จัดให้นั่งเรียงแถวตามแบบระดับ ปวช.ไม่ต่างกัน

ผู้อำนวยการกล่าวอะไรเยอะแยะมากมายบนเวที 

แว่ว ๆ ที่เขาได้ยินเล็ดลอดจากเสียงของนักศึกษาซึ่งดังกลบเสียงจากไมรโครโฟน ก็ประมาณ  “โรงเรียนเทคโนโลยีT  เป็นโรงเรียนอาชีวะศึกษาเอกชนอันดับหนึ่งของจังหวัดT  นักศึกษารวมทั้งโรงเรียนมีหนึ่งพันกว่าคน  และที่ร่วมพิธีจบการศึกษาในขณะนี้ก็มีจำนวนสามร้อยกว่าคนรวมภาคปกติ  และภาคค่ำ”  แผนกนี้  เท่านั้น  แผนกนั้น  เท่านี้  บลา ๆ

แต่จะดีกว่านี้มากถ้าในสามร้อยกว่าคนที่ว่ามีอีกคนยืนข้างเขาในวันที่เรียกว่าประสบความสำเร็จแม้จะในขั้นอนุบาลก็ตามที

ถึงแม้โรงเรียนและหลักสูตรที่เรียน  สังคมส่วนใหญ่จะมองด้วยสายตาหยามเหยียดก็ตาม

แต่คนนอกคงไม่รู้ว่าพวกเราเรียนกันหนักตั้งเท่าไหร่กว่าจะสอบผ่านแต่ละหน่วยกิต  บางวิชาทั้งหนักทั้งเหนื่อย  ไม่ใช่ใช้สมองอย่างเดียวบางงานต้องลงแรงเข้าไปอีก  หามรุ่งหามค่ำทำงานให้เป็นชิ้นเป็นอันกว่าจะผ่านเหมือนกัน  ไม่ใช่ว่าเรียนง่ายจบง่ายซะที่ไหน 

ถ้าวัยรุ่นบางส่วน  จะใช้ชีวิตโลดโผนในช่วงหนึ่งของชีวิต  ประสบการณ์ที่หาไม่ได้ในชั้นเรียน 

แต่ในอนาคตพวกเขาก็ยังสามารถเป็นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมต่าง ๆ  ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจได้ไม่แพ้สาขาวิชาไหน ๆ  อาจเป็นแค่ฟันเฟืองตัวเล็ก ๆ  แต่หากขาดไปสักตัวเครื่องจักรก็ไม่สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้โดยสมบูรณ์ 

ขาด ๆ เกิน ๆ บ้าง แต่ทุกคนย่อมยังคือส่วนหนึ่งของสังคมอยู่ดี

ความผิดพลาดก็คือความผิดพลาด  ใช่ว่าทุกคนจะรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกหรือผิดตั้งแต่เริ่ม 

หากถ้ารู้ว่าผิดแต่ยังทำ  นั่นก็ควรหาสาเหตุและทำความเข้าใจกันก่อน  ไม่ใช่ตัดสินความผิดไปทันทีทันใด

...คนทุกคน  ไม่ว่าจะเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่  ล้วนแต่มีเหตุผลของตนเอง 

เด็กช่างทุกคนพร้อมรับโทษจากการกระทำ  แม้บางครั้ง  เราจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์  แม้บางครั้ง  เรารู้...แต่เราก็ทำ

เพราะจุดที่เรายืนเราไม่สามารถอธิบายให้ใครเข้าใจได้และพวกเราก็ไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่คนอื่นอยากให้เข้าใจ

แต่เมื่อถึงเวลาพวกเราจะเข้าใจมันด้วยตัวเอง

และถ้าไม่มีไอ้พงษ์  เขาก็คงไม่เห็นอะไรในด้านนี้

ทั้งที่มึงเป็นคนพาก้าวเข้ามาที่นี่  แต่วันที่ก้าวออกไปมึงน่าจะยืนอยู่ข้างกัน

“ผอ.คงดีใจอย่างน้อยก็มึงคนนึงที่ซาบซึ้งกับเรียงความของท่าน”  ไอ้แสนชวนคุยแต่ออกแนวเรียกให้ตบปากมันมากกว่า

“คิดถึงไอ้พงษ์  คนอย่างมันไม่ควรสะดุดอะไรเดิม ๆ ซ้ำ ๆ”  จะจบมอหกก็ไม่จบ  จะจบ ปวช.ก็ไม่จบ 

ไม่ใช่ว่าพอมีฝิ่นเข้ามาในชีวิตแล้วจะทิ้งอีกคนที่เป็นทุกอย่างมาตลอดได้  สามปีที่ผ่านมา   ไม่สิ  ห้าปีทางการศึกษาของพงษ์ไม่ควรเสียเวลาเปล่า...เพียงเพราะมีเขาเป็นศูนย์กลาง 

“หึ”

หึบ้าหึบอ

แก้วปรายตามองแสนอย่างเคือง ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพร้อมกับเพื่อนร่วมแผนกคนอื่นเมื่ออาจารย์ประกาศเรียกชื่อแผนกถัดไปที่ต้องขึ้นไปรับใบประกาศ

“ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ  สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์” 

คนแล้วคนเล่าตั้งแต่หัวแถวจนเกือบท้ายแถวต่างพากันเรียบร้อยผิดปกติเมื่อขึ้นไปรับใบประกาศตามพิธีจากมือ ผอ.ก็ถึงชื่อเขา  ตามด้วยชื่อไอ้แสน  และชื่อเพื่อนคนถัดไปเรื่อย ๆ

เรื่อย ๆ

“นายพงษ์ศิริ  วัชระตระการกุล”

ห๊ะ?

กึก!

“เหี้ยแก้วหยุดทำส้นอะไรวะ” 

เพื่อนอีกคนที่เดินตามหลังกัดฟันด่าหลังจากที่เขาหยุดกึกระหว่างเดินกลับเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมจนคนอื่นต้องชนหลังกันเป็นทอด

“แสน  มึง  มึง”  เขาไม่ได้ตอบเพื่อนอีกคน  แต่ตามองขึ้นไปบนเวทีดูไอ้คนที่โค้งให้ ผอ.แล้วเดินลงเวทีมายืนต่อแถวซึ่งกำลังยืนเก้ ๆ กัง ๆ กันอยู่แถวยาว

“ก็ไอ้พงษ์ไง  มึงตาบอดหูหนวกเหรอ?”  ไอ้แสนบอกหน้านิ่งก่อนเดินแซงเขาเข้าไปนั่งที่เก้าอี้

นั่นแหละคำถามที่เขาจะถามมันว่าเขาคิดถึงไอ้พงษ์จนหูแว่วจนตาฝาดไปรึเปล่า

เห?

เดี๋ยวก่อน

มันไม่ได้หน้านิ่งแต่มันกำลังแสดงว่านิ่งอยู่ต่างหาก

“นี่พวกมึงรวมหัวกันปิดกูเหรอ?”  เขาก้าวตามไปนั่งเก้าอี้ตัวเดิม  คนอื่น ๆ ถึงได้เดินกันได้  รวมถึงไอ้คนปลายแถวด้วย

“โอ๋ ๆ หึ ฮ่า ๆ ๆ กูไม่เกี่ยวโว้ย  มึงไม่ได้ถามว่าเห็นไอ้พงษ์ไหมหรือว่าวันนี้ไอ้พงษ์จะมาไหมนี่หว่า  อย่ามั่ว ๆ”

มึงนั่นแหละที่มั่ว!  แถไปเรื่อย!

  (ต่อด้านล่างจ้า)

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
จบพิธีการก็ปาไปบ่ายโมงกว่า  ลำพังมอบใบประกาศน่ะใช้เวลาไม่เท่าไหร่แต่ที่นานเพราะอาจารย์พูดนั่นแหละ 
ใครหิวก็ไปที่โรงอาหารกันได้  แต่พวกเขาไม่จำเป็น  จากนั้นทุกคน  ทุกแผนกต่างรวมกลุ่มกันถ่ายรูปตามแต่ละมุมของสถานศึกษา  แก้วและเพื่อนร่วมสาขา  เพื่อนร่วมแผนก  เพื่อนร่วมสาย ต่างเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกเช่นกัน 

หลายชั่วโมงผ่านไป

“ไอ้พงษ์”  เขาถอดชุดครุยวางไว้ที่นั่งตรงหน้าห้องเรียนรวมกับของคนอื่นแล้วเสียงห้วนใส่ไอ้พงษ์ซึ่งนั่งทำหน้ากวนเบื้องล่างอยู่

“คุยกันดี ๆ คนบ้านเดียวกัน  กูไปช่วยพี่ภูก่อนนะ”  ไอ้แสนถอดครุยถอดเนคไทวางเสร็จแล้วชิ่งอย่างเร็ว

“ไม่ดีใจรึไง  ที่ทำเนี่ยก็ให้มึงทั้งนั้น”  พงษ์ลุกขึ้นยืนเสมอเขาและถอดเนคไทออกจากคอให้  แล้วเอาไปรวมกับของมัน ของไอ้แสน  ก่อนรวบชุดครุยสามชุดเข้าด้วยกันพร้อมหอบเข้าไปกองไว้กลางห้องของอาจารย์ที่ปรึกษารวมกับหลาย ๆ ชุดที่กองอยู่ก่อนแล้ว 

รอจนมันออกมา

“เขาให้มึงจบจริงเหรอ  ได้ยังไง?”  แก้วเปิดดูใบประกาศของพงษ์  หรือเขาจะพิมพ์ชื่อให้เฉย ๆ เคยมีอย่างนี้รึเปล่า  หรือว่า  “มึงเอาเงินจ้างจบมาใช่ไหม?”

“มึงนี่”  ไอ้พงษ์ยิ้มอย่างหมั่นเขี้ยวยื่นมือมาจับหัวเขาโยกแล้วกอดไหล่พาเดิน  “จบจริง ๆ จบด้วยความรู้ความสามารถล้วน ๆ  ตอนไปอเมริกากูไม่ได้ทำเรื่องดร็อป ชื่อกูก็ยังฝึกงาน  เสร็จจากฝึกงานเรียนไม่เรียนก็ไม่ต่างกันแค่สอบผ่านก็พอแล้วนี่” 

จริงของมันที่ว่าไม่ได้ดร็อปเรียน

“มึงสอบตอนไหนวะ?”  เขาซักให้หายข้องใจ  แผนกเดียวกัน  สาขาเดียวกัน  มันสอบจริงก็ต้องเจอสิ

“อันนี้กูขอสอบนอกตาราง”  มันตอบ   เหล่ตามองเขาอีกต่างหาก

“มึงปิดกูเหรอ?  ทั้งที่”  เขาหยุดเดิน  กัดปากตัวเองพลางก้มหน้า  กำมือตัวเองแน่น  “ทั้งที่กูต้องดีใจอยู่แล้วที่มึงไม่ทิ้งเรียน”  อ้าว กรรม  ต้องต่อว่ามันเยอะ ๆ สิ  แต่ความตื้นตันที่มันไม่เคยทิ้งเขาเลยท่วมโทษของมันที่เขาคาดไว้ทุกกรณี

“กูอยากให้มึงดีใจสุด ๆ”  มันเปลี่ยนจับไหล่เขาสองข้าง  เขาเงยหน้ามองไอ้พงษ์ตาพร่าแล้วจับแขนเสื้อเช็ดตาตัวเองทันที  “กูไม่ให้มึงผิดหวังตลอดหรอกน่า  เพื่อมึงน้อยกว่านี้ได้ที่ไหน  มึงดีใจที่เห็นกูเมื่อเช้านี้ใช่ไหมล่ะ"

“ตกใจเถอะ”  ค้านเสียงสั่นทั้งที่ไอ้พงษ์มองข้ามอาการของเขา

พงษ์เอามือออกจากบ่าเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือเขาดัง 

“เสร็จแล้วเหรอ?”  ปลายสายเอ่ยถาม

หลังเสร็จพิธีเขาก็เปิดเครื่องแล้วโทรไปหาแต่มันไม่รับสายและเพิ่งจะโทรกลับมา

“เสร็จสักพักแล้ว”  ตอบฝิ่นพลางเดินตามพงษ์ที่นำหน้าไปทางโต๊ะจีนซึ่งตั้งอยู่กลางสนามฟุตบอลของโรงเรียน

หกโมงเย็นแต่ยังมีแดดอยู่เลย

“ซ่อมเด็กที่หาดไม่ได้เอามือถือติดตัวกลัวเปียกน่ะ”  อืม เหตุผลของมัน

เมื่อเช้าตอนออกจากบ้านมันบอกไปเลี้ยงฉลองให้รุ่นน้องที่เรียนจบแต่มีซ่อมรุ่นยันวันจบเลยเหรอสายนั้น

“กินเลี้ยงเสร็จกี่ทุ่มแล้วมีเลี้ยงสายต่อรึเปล่า”  ฝิ่นถามต่อ

“พงษ์สายเรามีเลี้ยงต่อรึเปล่า?”  เขาจึงถามพงษ์ให้แน่ใจเพราะพี่แชมป์ไม่ได้บอกอะไร

“ยัง”  มันตอบมาสั้น ๆ

แก้วเลื่อนเก้าอี้พลาสติกสีขาวมานั่งข้างพงษ์ร่วมโต๊ะกับเพื่อนคนอื่น ๆ

“พี่แชมป์ยังไม่ได้นัด  งั้นคงกลับไม่ดึกสองสามทุ่มน่าจะเลิกงานแล้วล่ะ”

“อืม  กลับบ้านดี ๆ ระวังตัวด้วย”

“เดี๋ยว ๆ เอ่อ...”  แอบมองพงษ์ที่ดูไม่ได้สนใจอะไรเขาหรอก  “พี่จะกลับเมื่อไหร่?”

“ดึก ๆ  ทำไม?”

หันข้างออกนอกโต๊ะแล้วเอามือป้องปากก่อนพูดใส่โทรศัพท์มือถือเบา ๆ

“พี่ฝิ่น...ผมรอนะ”

“หึ ฮึ่ม อืม ๆ  แล้วเจอกัน”  แล้วไอ้พี่ฝิ่นก็วางสายไป

ในเมื่อวันนี้มันมีความพิเศษ ...เขาย่อมอยากอยู่กับคนพิเศษไม่แปลกนี่นา

.

.

.

บนเวที...พี่ภูนักร้องนำของวงโรงเรียนร้องเพลงที่ล้วนแต่ความหมายดี ๆ เพื่อแสดงความยินดีกับรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันที่กำลังจะจบออกไป  ต้องยอมรับว่าเวลาพี่ภูร้องเพลงช่างดึงดูดผู้ชมให้มีอารมณ์ร่วมด้วยได้ทุกเพลงจริง ๆ  ตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน  จนวันนี้  มาตรฐานพี่ภูไม่เคยเปลี่ยน  นับวันมีแต่เพิ่มขึ้นทั้งนั้น  อาจเพราะประสบการณ์ที่พี่แกจดจำมาเป็นอย่างดี
เพลงช้า  พวกข้างล่างก็กอดคอกันร้องตาม  เพลงเร็ว  พวกข้างล่างก็กระโดดโลดเต้นกันลืมตายทั้งผู้ชายทั้งผู้หญิง  บรรดาอาจารย์ที่ห้ามนักศึกษาเอาเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาในงานคงคิดว่าพวกนี้เมาดิบกันแน่

“พงษ์...” 

เสียงยาน ๆ ตาหวานเยิ้มพร้อมใบหน้าที่โน้มมาวางกับไหล่ไอ้พงษ์จนมันสะบัดออกแทบจะตกเก้าอี้

“ฮื่อ หก  เสียของ”  ไอ้แสนยกแก้วเหล้าผสมเป๊บซี่ออกห่างจากตัวเมื่อไอ้พงษ์ดันไอ้แสนออกแต่เหล้าในแก้วดันหกใส่ตัวจนเปียกมันทั้งคู่

“เสือกเล่นเหี้ยอะไรของมึง”  ไอ้พงษ์บ่นพลางแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาแล้วถอดมาเช็ดเสื้อยืดสีขาวที่มันใส่อยู่เพราะมีรอยเปียก

“พงษ์...” ไอ้แสนหันไปเติมใหม่จนเต็มแก้วจากโต๊ะข้าง ๆ แล้วยืนเงียบมองไอ้พงษ์เช็ดเสื้อก่อนโพล่งปากออกมา  “มึงคิดอะไรกับกูรึเปล่าเนี่ย” 

เท่านั้นล่ะเสียงกร๊ากเฮลั่นลามไปยังโต๊ะข้าง ๆ มีแต่แก้วที่นั่งจิบเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์นิ่ง ๆ คนเดียว

...น่าขำตรงไหน

“หึ”  ไอ้พงษ์แสยะยิ้มเจ้าเล่ห์มองเขาแว๊บเดียวก่อนลุกขึ้นแล้วทิ้งเสื้อลงกับเก้าอี้  “ตอนแรกไม่คิด  แต่ตอนนี้คิดละ”

พงษ์เดินอาดแต่สายตากรุ้มกริ่มเหมือนเวลามันมองสาว ๆ เดินเข้าไปหาไอ้แสนที่ถอยหลังจนชนเก้าอี้เพื่อนอีกโต๊ะ

“ว๊าก ไอ้ห่า  กูไม่ผสมพันธ์กับควาย”  ไอ้แสนโวยวายเอนตัวเอนแขนไปเท้าเก้าอี้ที่เพื่อนนั่งอยู่แล้วยกตีนข้างหนึ่งดันท้องไอ้พงษ์ทั้งที่มันยังไม่ได้ทำอะไร 

“เหี้ยเป็นรอยตีนเลย”  พงษ์จับขามันออกพลางเบ้หน้าใส่เสื้อตัวเอง

“เล่นกับใครไม่เล่น”  ไอ้แสนกระดกเครื่องดื่มในมือเข้าปาก  “ขออีกกรึ๊บเพื่อน”  แล้วยื่นแก้วไปขอเติมอีก

“ถุย  ทำคุย  ไม่แน่จริงนี่หว่า โธ่”  ไอ้พงษ์พูดปรามาสก่อนหันกลับมานั่งที่เดิมแถมยักคิ้วให้เขา 

“บ๊ะ บ๊ะ ไอ้นี่  กูใคร?  กูนี่  แสน๙T  ไม่ใช่ไม่แน่แต่แค่ไม่อยากเล่น ๆ ถ้ากูจะเหนือชายกูไม่เอาควายอย่างมึง มึง และก็มึงหรอก”  ไอ้แสนเดินมานั่งตักเพื่อนเขาอีกคนซึ่งนั่งคนละข้างกับพงษ์แล้วชี้หน้าเรียงตัว  “กูน่ะมีรักเดียว  แต่ถ้าเศษเสี้ยวกูให้ไอ้แก้วละกัน”

“ไร้สาระ”  โอ๊ตเจ้าของตักส่ายหน้าพร้อมตบหัวไอ้แสนแล้วคุยกันในโต๊ะเสียงดังต่อ

แสนเอื้อมแขนข้ามเก้าอี้มาโน้มคอเขาเข้าไปใกล้จนหัวชนกันแล้วมันก็เอาเหล้าป้อนใส่ปากเขา

“แดกตีนกูนี่”  ไอ้พงษ์

“ตีนพี่ฝิ่นอีกคู่”  เขายิ้มพลางตบแก้มมันสองข้างเบา ๆ  ไอ้บั๊ดดี้แสนก็เอาแต่ยิ้มจนตาหยี  ก่อนโดนมือไอ้พงษ์จับแยกทั้งสองหัว   

.

.

.

พงษ์ขับรถเข้าจอดถึงหน้าบ้าน  แก้วมองเวลาหน้ารถเป็นเวลาสี่ทุ่มเกือบห้าทุ่ม  บ้านไม่มีไฟเปิดสักดวง  สงสัยว่าพี่ฝิ่นจะยังไม่กลับ

“เมารึเปล่า”  พงษ์ถาม

“ไม่  แค่โล่ง ๆ หัวนิดหน่อย”  เขาตอบ  โดนไอ้แสนส่งให้สาม-สี่ แก้วเหมือนกัน  แต่ไอ้พงษ์ไม่ดื่มสักแก้วและไม่ห้ามเขาด้วยจนเขาต้องบอกพอเอง

ปลดเข็มขัดนิรภัยได้ไอ้พงษ์ก็พูดขึ้น

“คุยกันหน่อยสิ”

“หืม?”  เขามองหน้ามัน

“ตรงนี้แหละ”  อย่างกับรู้ว่าเขาจะชวนเข้าไปคุยในบ้าน  “อยู่บ้านเคยได้คุยกันจริง ๆ จัง ๆ ด้วยเหรอ?”  มันถาม 

อืม  ความคิดเห็นขัดแย้งกับฝิ่นเสมอนี่

“พี่ฝิ่นยังไม่กลับนะ  ว่าแต่เป็นอะไร?”  เขาเดาตามสภาพบ้านและถามกลับ  มันปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วหันมาคุย

“เหนื่อยไหม?”

“มะ ไม่”  เขาตอบ

“แล้วมือมึง  เจ็บรึเปล่า?”  มันดึงมือเขาไปแล้วพลิกหลังมือขึ้นมอง

“แรก ๆ ก็เหนื่อยมาก”  เขาวิ่งวันละยี่สิบนาที  “เจ็บมือ เจ็บหน้าแข้ง  เจ็บกระดูกกระเดี้ยว”  ชกและเตะกระสอบทราย  “แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้ว”  เขาบอกพงษ์  วางมือแตะมือมันเชิงบอกว่าไม่ต้องห่วง  แล้วมันก็ปล่อย

“ถ้าอย่างนั้น  ...ต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องมีกู”

“ไอ้พงษ์!”

“หึ”  มันเหล่ตามองเขาแล้วยักไหล่หันไปมองหน้ารถเหมือนไม่สนใจสิ่งที่มันพูดเลย 

“มึงไม่อยากไปคนเดียวเหรอ?”  แก้วเอ่ยเสียงเบา 

เขา ฝิ่น พงษ์  คุยกันแล้วว่าเขาจะอยู่ที่นี่  แต่พงษ์ยังยืนยันจะไปเรียนที่อเมริกาตามความต้องการของพ่อกับแม่ของมันโดยไม่สนว่าเขาจะรู้สึกยังไง

“มึงรักกูไหม?” 

“ห๊ะ?!”

ไอ้พงษ์หันขวับมาจ้องหน้าเขาจริงจัง  ทั้งที่เขากำลังวิตกกังวลกับชีวิตมันอยู่

“กูทำอะไรผิดมึงมักจะยกโทษให้กูเสมอ  ทั้งที่หลายเรื่องมันไม่น่าให้อภัย”  มันว่า  อย่างกับเปลี่ยนเรื่องคุย

“มึงเองก็เหมือนกัน”  สิ่งที่ผิดของเขา  พงษ์เองก็ไม่เคยคิดโทษเลย

“ถึงกูจะทำผิดอีกมึงก็ไม่โกรธกูใช่ไหม?”

“อ่า...”  ไอ้นี่

“แล้วตกลงมึงรักกูไหม?”  เวรกรรม  มันถามซ้ำ

“มึงไม่ให้กูบอกมึงเอง  แล้ววันนี้เป็นอะไรมาถามอย่างนี้วะ?” 

...ผู้ชายไม่ต้องบอกรักกันหรอก  มันตลกว่ะ  ทางที่ดีมึงเก็บไว้ในใจนั่นแหละ

ไอ้พงษ์บอกเมื่อหลายปีก่อน  เป็นวันสุดท้ายที่เขาบอกว่ารักมัน 

แต่ถ้ามันอยากรู้เขาก็ยินดีบอกเสมอ

“รักสิวะ  พอใจรึยัง?”  เขาบอกขำ ๆ

“รักกูเหมือนที่มึงรักมันรึเปล่า?”  ไอ้พงษ์ถามต่อดูท่าทางจริงจังจนเขาขำต่อไม่ไหว

ฉึก!

“...พี่ถามอะไร  จะเหมือนไม่เหมือน...”  เขาเปลี่ยนสรรพนามเรียกมัน  แต่ยังพูดไม่จบ

“มึงต้องเด็ดขาดแก้ว!”  ไอ้พงษ์ตะคอกจนเขาสะดุ้ง  ความรู้สึกบอกให้เขาอยู่นิ่ง ๆ ห้ามพูดห้ามเอ่ยอะไรออกไป

เขากับพงษ์มองหน้ากันเงียบ  เขาเห็นมันเม้มปากตัวเองพร้อมสีหน้าลังเลก่อนเอื้อมมือมาลูบศีรษะเขาแล้วโน้มใบหน้ามันเข้ามาใกล้จนหยุดเมื่อริมฝีปากมันแตะกับริมฝีปากเขา

“พงษ์!”  เขาผลักมันออกทันที

“กลัวเหรอ  กลัวอะไร  กลัวทำไม?”  มันยังมีหน้ามายักคิ้วถาม

“ถ้า...ถ้ามึงเป็นคนอื่นกูจะต่อยมึงให้ฟันร่วง”  เขาชูกำปั้นใส่มันแล้วเปิดประตูออกไป 

ปึ๊ก!

ไอ้พงษ์เปิดประตูรถตามออกมาทันทีเหมือนกัน

“เป็นกูก็ต่อยได้  ยิ่งวิชาที่ไอ้ฝิ่นสอนมึงยิ่งต้องใช้ในงานนี้ไม่ใช่เหรอ?”  ไอ้พงษ์ตะโกนตามหลัง

เขารุดเดินเข้าบ้าน  แต่เมื่อไขกุญแจเปิดประตูบ้านและเปิดสวิทช์ไฟซึ่งอยู่ข้างประตูจนบ้านสว่างกลับผงะจนต้องก้าวถอยหลัง

“กูไม่อยากให้มึงรอ...เลยกลับไวกว่ากำหนด”  พี่ฝิ่นยืนล้วงกระเป๋าเสื้อช็อปสีกรมท่ารออยู่ในบ้าน  มันเอ่ยบอกทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา  “เมาเหรอ?  หน้าแดงมาเชียว”  มันมีท่าทีข้องใจแล้วเดินเข้ามาหา  ฝิ่นเอามือออกจากกระเป๋าเสื้อข้างหนึ่งแล้วยกขึ้นจะมาจับหน้าเขา

“เอ่อ ขอผมอยู่คนเดียวสักพัก”  แก้วเบี่ยงตัวหลบแล้วก้าวเท้าวิ่งขึ้นบันไดเข้าห้องล็อคประตู

แน่นอนมันต้องตามมาด้วยเสียงเหล่านี้

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“แก้ว  แก้ว”  ฝิ่นเรียก

ปัง ปัง ปัง

“แก้ว  ไอ้แก้ว  เป็นอะไรเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้นะ!”  ระดับอารมณ์มันคงครุขึ้นมาแล้ว  ในขณะที่เขายืนพิงผนังห้องข้างประตู

“เวลาอย่างนี้มึงเรียกมันก็ไม่เปิดหรอก”  เสียงพงษ์ 

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ลูกแก้วเปิดประตูให้พี่หน่อย”  ไอ้พงษ์

เหอะ

เสียงอ่อนโยนแค่ไหนก็อย่าฝันเลย

“ถ้าคิดจะเอากุญแจสำรองมาเปิดกูจะกระโดดออกทางหน้าต่าง”  เขาตะโกนบอกสองคนที่อยู่หน้าห้อง  เพราะนิสัยไอ้พงษ์มันไม่ให้เขาอยู่คนเดียวนานแน่  ...ตอนนี้คงรวมพี่ฝิ่นอีกคน  แต่เขาเอาจริงแน่   

ไอ้พี่พงษ์มันเล่นอะไรของมัน  ทั้งคำถามที่พี่ฝิ่นเคยถาม  ทั้ง...เออ แค่ปากแตะปากแต่มันไม่ใช่เรื่องที่เพื่อน  พี่น้องจะทำกันปกตินี่หว่าเขาไม่ได้โง่นะ

เวลานี้เขาต้องการอยู่คนเดียว  อยากอยู่เงียบ ๆ เพื่อที่จะคิดทบทวนความรู้สึกของตัวเองตามลำพัง

แม้เสียงข้างนอกจะดังขึ้นเรื่อย ๆ  จนเกรงว่าสองคนนั่นจะลงไม้ลงมือกันรึเปล่า

แต่...เขาต้องหาคำตอบให้ตัวเองให้ได้ก่อน  ว่าทำไม...ใจเขาโหวง ๆ สมองเขาตื้อ ๆ อย่างนี้







..................................................
ถ้าอ่านแล้วหมั่นไส้คนเขียน  ก็อย่าเพิ่งเม้นท์นะคะ  ตั้งใจให้ค้างจริง ๆ กร๊ากกก (บอกอย่างไม่กลัวรองเท้าเขวี้ยงเลย)  …เอาไว้เม้นท์ทีเดียวก็ได้  เค้าเกรงใจอยู่นะเห็นอย่างนี้ก็เถอะ :-[

ตอนไม่ค่อยพิเศษเหลืออีกสองตอนค่ะ  (ยังไม่ได้แต่งต่อสักตัวอักษร -*-  บอกเพื่อ?) 
คนอ่านคาใจตรงไหนบ้างก็ไม่รู้  เอาที่คนเขียนค้างเติ่งไว้เท่าที่ตัวเองจำได้กำลังตามมาค่ะ

นึกได้พอดี...
เฮียโซ่+พี่ภู  หมดงบแล้วจ้า  ไว้เจอกันยาว ๆ ทีเดียวเน้อ
พี่ไม้(ที่รัก)  ไอ้พงษ์  ไอ้โจ้  ไอ้ขวัญ  คงได้มีเรื่องยาว  เพราะคนเขียนสนุกมากเกินเหตุ ฮา

ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่มีกำหนดแน่ชัดค่ะ  ตอนนี้ทำงานคนเดียวที่บริษัทอื่นคงแบ่งกันทำสัก 5 ตำแหน่ง 
แต่เพื่ออนาคตที่ใกล้ได้เป็นไทละ   สู้โว้ยยย

ขอบคุณทุกคนอ่าน  ขอบคุณทุกคอมเม้นท์นะคะ กอด ๆ จุ๊บ ๆ^^ ฮือออ เหนื่อย



ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พงษ์จะมากวนน้ำให้ขุ่นทำไม๊
แล้วแก้วจะมาเขวอะไรตอนนี้ เดี๊ยะให้ฝิ่นลงโทษเลยนี่

ขอบคุณสำหรับพี่โซ่-พี่ภู มาพอให้ชื่นใจ คู่โปรดในดวงใจ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
ต้องการอะไรกันแน่
 :a5: :a5:

ออฟไลน์ sirikanda28

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1758
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +117/-3
ไอ้พงษ์มันเป็นอะไรวะ
คิดอะไรของมัน :z13:

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
อยากจะบอกว่า ค้างอ่าาาา TT^TT

ออฟไลน์ jeeu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 688
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
สวยงามมากกกก
ค้างกันไปเลยทีเดียว แต่เรื่องแค่นี้พี่ฝิ่นเอาอยู่
พี่พงษ์กลับมากวนให้ขุ่นทำไมน้อ
อยากรู้คำตอบเหมือนกันเน้อ
พี่ภูกับพี่โซ่มีโผล่มาแว๊บๆ
เพื่อนแสนน่ารัก กวนบั๊ดดี้แก้วตลอด
ดีใจกับแก้วแล้วก็เพื่อนๆด้วย
สอบเข้ามหาลัยให้ได้นะ สู้ๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ค้างแต่ก็อยากเม้นท์อยู่ดี :impress2:
เม้นท์ให้รู้ว่าค้างมากกกกก แก้วจะคิดตกไหมเนี่ย :z3:
พงษ์ทำแบบนี้มีเหตุผลใช่ไหม ถึงมันจะไม่เข้าท่า แต่ก็คงทำเพื่อแก้วล่ะสิ
โอ๊ย ไม่อยากเดา แต่อยากอ่านต่อ  :man1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด