...อ้อมกอดเด็กช่าง(Drama story)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...อ้อมกอดเด็กช่าง(Drama story)  (อ่าน 1026048 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yร้าย

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
ถึงจะดราม่าแต่จบแบบแฮปปี้ดีที่สุด.....
อ่านเรื่องนี้แล้วมองภาพเด็กช่างออกเลยนะ.....
แถมทำให้คิดถึงเรื่อง...กลรักเปื้อนสี.......
นี่ก็สนุกนะทำให้มองเห็นความรัก มิตรภาพของเพื่อนได้ดีจริง ๆ...
รอเรื่องต่อไป... o13

ออฟไลน์ keem

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขอระบายก่อน ตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 48 รู้สึกแก้วเป็นคนน่ารำคาญมากๆเลย ไม่รู้จักสู้คนอ่านแล้วเหมือนปัญหาทั้งหมดเกิดจากแก้ว ไม่ชอบแก้วเลยอะ ไปอ่านต่อและ

ออฟไลน์ keem

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ก่อนอื่นขอขอบคุณก่อนสำหรับเรื่องที่มีโครงเรื่องที่ดี 2 วันอ่านจบ แต่จะหยุดอ่านหลายครั้งเพราะปวดหัวมาก คือมันอ่านแล้วเข้าใจยากมากว่าใครกำลังพูด หรือ เป็นความคิดของใคร อ่านยากไปหน่อย (ขอวิจารณ์งานเขียนตรงๆนะครับอย่าโกรธกันน้า)  แต่โ๕รงเรื่องสนุก ชอบตัวละครทุกตัว แต่ไม่ชอบแก้ว  แก้วเป็นตัวละครที่อ่อนแอเกินไปดูแย่ไปเลย  ส่วนเรื่องครอบครัวแก้วก็เป็นอะไรที่ไม่เคลีย เริ่มเรื่องได้หนักขนาดแม่แก้ว ฆ่าตัวตาย และน่าจะมีประเด็นต่อเพราะแม่เลี้ยงร้าย ลูกขวัญร้าย แต่ยังไม่มีอะไรเกิดกับคนพวกนี้ (หรือคนเขียนอธิบายแล้วแต่ผมอ่านไม่ทั่ว)  แต่โดยรวมผมชอบนะครับ อ่านแล้วมีหลายอารมดี เพียงแต่ปรับให้อ่านง่ายขึ้นก็จะดีกว่านี้ขึ้นไป

ปล. เป็นเรื่องที่ผมวิจารณ์เยอะสุดเลย เพราะชอบโครงเรื่องมากๆๆ 

ขอบคุณมากเลยนะครับสำหรับเรื่องดี ^^

tippy

  • บุคคลทั่วไป
สนุกอ่า ไม่รู้จะใช้คำไหนดี นอกจากบอกว่าสนุก พล๊อตเรื่องดีมาก แต่งง บางตอนที่ไม่รุว่าเป็นคำพูดของตัวละครตัวไหน เอาเรื่องแบบนี้มาเขียนอีกน้า เรื่องของเด้กช่าง เด็กสายอาชีพ ไม่ค่อยมีคนเขียน พออ่านแล้วมันทำให้เราได้เห็นอีกแง่มุมนึงเลย สนุกมาค่ะ :pig4:

ruta

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณที่แต่งเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านะคับ..ถ้ามีรวมเล่มก็แจ้งด้วยนะคับ..อยากได้ๆ.. :oo1:

ออฟไลน์ akeins

  • ชีวิตเรา Undo ไม่ได้
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0

tenten

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณผู้แต่งมากสสสสสส์ ค้าบบบบบบบบ  อ่านจนจบเลย   แต่...ยังไม่อยากให้จบเลยอะคับ    ถ้ายังไง ช่วยมีตอนต่อ ๆๆๆไป มาให้อีกได้มะคับ.....

ออฟไลน์ AgotoZ

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
น้ำตาซึมไปกะแก้ว หลายรอบมากมาย  ...  :m15:

ออฟไลน์ wargroup

  • Twitter/IG : @inaSSusani
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 454
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +52/-3
ชอบเรื่องนี้มากกก หลายอย่างโดนใจ ทั้งพล็อต, ตัวละคร(ชอบหลายตัวเลย ฝิ่น แก้ว พงษ์ โซ่ โจ้ พ่อฝิ่น), ปม(มากมาย มีผลสืบเนื่องกันมันส์ดี), การเปิด/ปู/ปิดในแต่ละตอน น่าติดตาม, รายละเอียดเฉพาะทางต่างๆแน่น --- บางช่วงบางตอนมีเปิด clue นิดๆ พอให้เดาออกเบาๆ แต่ก็ได้การลำดับเรื่องที่ซ้อนทับ ทำให้อ่านสนุก

จะรอติดตามผลงานของคุณหลงไหลในม่านหมอกต่อไป ชอบวิธีการเขียน และความธรรมชาติของบทพูด+เสียงความคิดของตัวละครมากเป็นพิเศษ  :L1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09-02-2013 05:30:05 โดย wargroup »

ออฟไลน์ JaJa89

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 296
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
จบแล้วหรอคะะะ t.t รักพงษ์ที่สุดเลยย
สงสารนิดนึง ว่าแต่ไม่มีรวมเล่มหรอคะะ
ชอบนิยายแนวเด็กช่างมากๆเลย
รออเรื่องใหม่(?)อยู่นะคะะ รักคนเขียน <3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
คาดว่าน่าจะมีภาคพี่พงษ์ พี่ไม้ ลูกขวัญแ้ล้วก็โจ้ต่อ ตัวละครยังมีปมแกะอีก
เหมือนความสัมพันธ์ของไม้ักับลูกขวัญมันมีประเด็นเหมือนกันนะ พ่วงด้วยโจ้อีกคน
เนื้อเรื่องดีค่ะ ชอบพี่ไม้มากเป็นพิเศษเหมือนพระรองซีรีย์เกาหลี เสียดายเป้งไม่น่าตายเลยแล้วก็สงสารพี่ไม้มาก
รักมากเสียใจมากแต่เลือกที่จะเก็บไ้ว้คนเดียว ช่วยหาคนดามใจหน่อย
ส่วนพี่พงษ์ภาวนาสาธุให้มีภาคต่ออยากได้พี่พงษ์มีที่รักมั่งเหมือนกัน
สนุกค่ะ รอภาคต่อนะคะ

ออฟไลน์ pee122

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 156
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 :bye2:ขอบคุณ สำหรับเรื่องราวดีๆ :bye2:
 o13 :pig4: :pig4: o13

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
คิดถึงฝิ่นกับแก้วมากจ้าาาาาาาาาา
อยากรู้ว่าพี่ไม้จะได้กับคนนั้นมั๊ย(บอกตรงๆลืมชื่อ เอาเป็นว่าเค้าคือพี่ชาย?ของแก้ว)
อยากรู้ว่าพงษ์จะมีคู่รึเปล่า
อยากรู้ว่าเรื่องนี้จะรวมเล่มมั๊ย อยากดั้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ  :z3: :z3:

ไม่เคยรักเด็กอาชีวะได้เท่านี้มาก่อนเบยยยยย  :L2:

 :กอด1:

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
คิดถึงงงงงงงงงงงง
คนเขียนอย่าหายไปนานแบบนี้น๊าาาาาาา หรือจะมาช้าไม่เป็นไร แต่อย่ายกเลิกรวมเล่มนะคะ ขอร้องงงงง  :impress3:
เค้ารอเสมอจริงๆ  :mew2: :mew6: :o12:

คิดถึงฝิ่นแก้ว และสนับสนุนให้พงษ์มีคู่ และลุ้นสุดใจกับไม้ขวัญ สุดท้ายชื่นมื่นไปกับโซ่ภู ฮือๆๆๆๆๆๆ  :z3: :z3:

ออฟไลน์ slurpee04

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 691
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-1
ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆค่ะ
สนุกมาก .... ที่ไม่ได้เข้ามาอ่านทีแรกเพราะ คำว่า Drama story เพราะไม่ชอบดราม่า มันปวดใจ
 แต่เข้ามาอ่านแล้วชอบค่ะประทับใจความเป็นเพื่อนเป็นพี่น้อง  :katai2-1:

อ่านแล้วได้หลายอารมณ์ เสียใจ ดีใจ มีความสุข เศร้า ซึ้ง   :mew2:

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
สนุกมากๆๆเลยครับบบบบบบบ ขอบคุณผู้แต่งที่เขียนนิยายดีๆๆแบบนี้ออกมาให้อ่านกัน

watop

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นทั้งเรื่องเชียว ละก็ยังสนุกอีกด้วย แต่เสียอย่างเดียวตรงที่สับบทไปสับบทมา ทำให้อ่านข้างลำบากนิดนึง แค่นินึงนะ นิดเดียว จิงๆ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
 :mew2: ถ้ารวมเล่มบอกนะ อยากได้

ออฟไลน์ indyska

  • •ความสุขที่เsาสร้างเอv• - monblurx -
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 150
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
คือบัพ บ่องตงนะ ปวดตับ จนลามไปถึงไส้ติ่ง แต่ชอบแนวนี้ ให้อารมชีวิตแบบสุดๆ มันให้ความหมายอะไรหลายๆอย่างในชีวิต ซึ่งถ้าพลาดไปเพียงแค่ครั้งเดียว ก้อาจไม่มีโอกาสได้แก้ตัวอีก ชอบมากฮับ เรื่องนี้ถึงจะงงๆตอนเปลี่ยนบทตัวละคร แต่ก้ถือว่ายังพออ่านเข้าใจใช้ได้อยู่ฮับ :)

ออฟไลน์ beautyless

  • PP Kintai Love
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ขอบคุณครับ เป็นเรื่องอีกเรื่องที่สนุก และได้รับความสุขมากจริงๆ

ขอชมเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับ คำพูด วิธีคิด สัญลักษณ์ต่างๆ กับบุคลิกตัวละครที่เป็นเด็กช่าง
เพราะนอกจากจะทำให้เข้าใจเรื่องได้มากขึ้น ยังได้รู้ถึงที่มาที่ไปของพวกเขาได้ดี

ผมรู้สึกดีใจที่ธาตแท้ของฝิ่นเป็นคนดี รวมถึงคนอื่นๆ ด้วยยกเว้นไอ้ดิวไอ้ดี
มันทำให้ผมเข้าใจในความดีของคนจากภายในได้ดีขึ้น
ทั้งนิสัยรักพวกพ้องที่บางทีก็มากเกินไป แต่เมื่อถึงจุดที่ต้องพอ เขาก็พร้อม
จะเสียศักดิ์ศรีเพื่อสิ่งที่ควรจะทำมากกว่า การยอมลดทอนความยโสตัวเอง
เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก ความเกื้อกูลระหว่างกันลึกๆ

เป็นอีกเรื่องที่อ่านแล้วได้เรื่องราวมาก และค่อนข้างจะตื่นเต้นตลอดเวลาใน
แทบทุกบทพูดที่เกิดขึ้น อ่านแล้วไม่เบื่อ อ่านแล้วยิ่งอยากอ่านต่อจนจบ
ไม่ใช่แค่ไม่รู้สึกเสียเวลาที่ได้อ่าน แต่รู้สึกโชคดีที่เลือกอ่านเรื่องนี้
เพราะมันยกระดับจิตวิญญาณให้สูงขึ้น และอิ่มเอมไปหลายวันเลยทีเดียว

ขอบคุณคุณหลงไหลในม่านหมอกที่ได้เขียนนิยายที่ดีมากเรื่องนี้ขึ้นมาครับ
ประทับใจเนื้อเรื่องมาก และรู้สึกชื่นชมคุณจริงๆ จากใจครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Saantos

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
อ่านจบแล้ว

สนุกและประทับใจมากค่ะ

ไม่น่าเชื่อว่านิยายเด็กช่างเถื่อนๆฆ่ากัน จะเขียนออกมาได้น่าอ่านขนาดนี้นะคะ

ออฟไลน์ หลงไหลในม่านหมอก

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 548
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +298/-2
ตอนพิเศษ (เหรอ?)






เข็มนาฬิกาก้าวเดินข้ามสู่วันใหม่                  

ครืด ครืดดด                     

ชายหนุ่มนอนลืมตาเอามือขวาก่ายหน้าผากท่ามกลางความมืดพร้อมพ่นลมหายใจอยู่บนเตียงขนาดสามฟุตครึ่ง
ก่อนเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์มือถือที่แผดเสียงดังลั่นห้องพร้อมกับระบบสั่นของมันซึ่งกระทบครืดกับหัวเตียงที่ทำจากไม้
ยิ่งทำให้เกิดเสียงดังรบกวนเวลานอนเข้าไปอีก            

“ม้ายยย...”  ทันทีที่เอาโทรศัพท์มือถือแนบใบหูก็ได้ยินน้ำเสียงยาน ๆ ของคนเมาเปล่งเรียกชื่อเขาตามมา   

   “เฮ้อ  ว่าไง?”  ไม้อดถอนหายใจไม่ได้  ก่อนเอ่ยถามออกไปอย่างนั้นแทนประโยคทักทายว่า สวัสดี เพราะมันไม่เข้ากับสถานการณ์เท่าไรนัก       

ด้วยความที่เป็นเรื่องปรกติไปซะแล้วกับการที่ต้องตื่นมารับโทรศัพท์ดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้แทบทุกคืน   

   “เหมือนจะเมามากเลยยย...มึน ๆ หัวด้วย”              

“เมาก็หาที่จอดรถนอน  สร่างแล้วค่อยขับกลับห้อง” 

เวลานี้แทบทุกคืน...

ไม้บอกประโยคเดิมเหมือนที่เคยบอกคนปลายสายบ่อย ๆ และเขาก็คิดว่าคนโทรมาน่าจะรู้ดีว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยจากอุบัติเหตุบวก
กับปลอดภัยจากการโดนตำรวจเรียกที่สุดแล้ว  แต่ปลายสายกลับเลือกโทรมาให้เขาพูดประโยคเดิม ๆ ซ้ำ ๆ แทนการทำอะไร
แบบนั้นด้วยตัวเอง            

“รู้แล้ว ๆ ไอ้เหี้ยก้อ...มันยืนดักอยู่หน้ารถเนี่ยก็คงไปไหนไม่ได้หรอก”  คนจากปลายสายใส่อารมณ์หงุดหงิดกลับมาแต่ยังคงรักษาระดับน้ำเสียงยานคางทำให้เขาต้องตั้งใจฟังเพื่อปะติดปะต่อข้อความ                       

“หืม?  ไอ้เหี้ยก้อ?”  ชื่อใครต่อใครใหม่ ๆ เข้ามาในหูไม่ซ้ำสักคืน  “ไปทำอะไรไว้อีกล่ะ?”  ไม้ลุกนั่งพร้อมขยี้หัวเพื่อปลุกสติตัวเองท่ามกลางความมืด  ก่อนเอื้อมมือกดเปิดสวิตซ์ที่โคมไฟซึ่งตั้งอยู่บนตู้ขนาดเล็กข้างหัวเตียงอย่างรู้ชะตากรรม
         
“งี่เง่าว่ะ  รำคาญลูกตาเดี๋ยวเหยียบให้เละคาล้อเลยเหี้ยนี่!”  ปลายสายไม่ได้ตอบหากแต่กำลังก่นด่าใครอีกคนออกมาอย่างต่อเนื่อง               

“อยู่ร้านไหนเดี๋ยวไปรับ”  เขาเอ่ยถามและบอกมันในประโยคเดียว

เขาคิดว่าจะไม่ยุ่งแล้ว  แต่นี่ดันมีคู่อริขึ้นมา  ชายหนุ่มจึงเลี่ยงไม่ได้...อีกตามเคย

ทั้งที่ไม่แน่ใจว่าเป็นการตัดรำคาญ  หรือเป็นห่วง?         

“ร้านxxx”  คนปลายสายตอบเสียงห้วนกลับมาทันที              

ไม้ส่ายหน้าพลางลุกจากเตียงไปเปิดตู้เสื้อผ้า                

“มันถืออะไรในมือรึเปล่า?  ไม้? มีด? ปืน?”  อดถามไม่ได้โดยที่ยังไม่รู้สถานการณ์แน่ชัดแต่ก็ไม่ต้องเดาให้ยากในเมื่อพฤติกรรมของคนปลายสายมักพ่วงเรื่องมาให้หลายต่อหลายรอบ 

...และก็เรื่องเดิม ๆ ทั้งนั้น               

“กูหลับตาแล้ว  กูง่วง!  กูจะเห็นได้ยังไง?!”              

เออเอาเข้าไป...                     

น้ำเสียงของคนปลายสายฟังดูง่วงจริง ๆ แต่ก็ตามประสาเจ้าตัว  จะเมาหรือไม่เมาก็เป็นซะอย่างนี้                      

“ลืมตาดูให้หน่อย”  เขากัดฟันข่มอารมณ์แล้วเน้นเสียงหนักบอก         

“ไม่อยากมองหน้าแม่ง”                     

“บอก-ให้-ดู-ให้-หน่อย  ทำให้ได้ไหม?”  ไม้บอกอีกรอบพร้อมใช้หูหนีบโทรศัพท์มือถือไว้กับไหล่เพื่อจะได้สวมกางเกงยีนส์ทับบ็อกเซอร์ที่ใส่นอนเมื่อก่อนหน้า      

“เออ ๆ ๆ  ...ไม่มีมั้ง  มานเดินมาเคาะกระจกรถแล้วด้วย  เดี๋ยวนะม้าย  กูเคลียร์แป๊บบบ”                             

“ไม่ต้อง!”  ไม้เผลอเสียงดังจนตัวเองชะงัก  แต่ก็หวังว่ามันจะทันฟังและหยุดการกระทำทันที  “หยุด  มึงอยู่เฉย ๆ  มันมีพวกมาด้วยรึเปล่า?  หรือมีคนอื่นอยู่แถวนั้นอีกไหม?” 

ถ้ามันไม่เคยก่อเรื่องให้เห็น  เขาสาบานได้เลยว่าจะไม่ยุ่งกับมันเด็ดขาด        

“เปล่า  มีไอ้พี่ก้อคนเดียว  เออ มีการ์ดสองคน ...มันยืนมองอยู่ใกล้ ๆ นี่แหละ  มองเหี้ยอะไรวะแม่ง  เฮ้ย ๆ เดี๋ยวนะม้าย...ไอ้เหี้ยพี่ก้อมีสองคนแล้วว่ะแม่ง...มาจากไหนอีกคนว๊า”                             

นั่นตามึงเองแล้วล่ะ                     

“...ล็อกรถ  ปรับเบาะเอนนอน  ไม่เกินชั่วโมงเดี๋ยวไปถึง  แล้วถ้าพูดไม่ฟังก็ไม่ต้องคุยกันอีก”                             

ปลายสายเออ ๆ ออ ๆ กลับมาด้วยน้ำเสียงเหมือนแค่ตัดความรำคาญ 

ส่วนไม้ ก็ขู่ไปเหมือนไอ้คนปลายสายเคยคิดจะเกรงกลัว               

เขาหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีดำออกจากตู้เสื้อผ้าก่อนสวมทับเสื้อยืดสีขาวตัวที่ใส่นอนโดยไม่ลืมหยิบมีดพับใส่กระเป๋ากางเกงไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน  แล้วเดินออกจากบ้านเสียงเบากลัวแม่จะได้ยิน                     

 
ผลประโยชน์ที่ได้มาแค่ครั้งสองครั้งแต่สิ่งที่ต้องตอบแทนชักจะมากขึ้นทุกวัน      

ไม้ไม่ได้ยินดียินร้ายจะทำอะไรแบบนี้สักเท่าไหร่  แต่เหมือนว่าเขากระทำจนชินไปแล้วสิ 

เวรกรรม...



...



ไม่ถึงสี่สิบนาทีก็มาถึงหน้าผับที่หมาย  ด้วยการจราจรที่โคตรโล่งแต่ถ้าเป็นตอนกลางวันเดินทางชั่วโมงครึ่งก็ไม่มีทางถึง 
ผับนี้ตั้งอยู่ห่างจากที่พักของคนที่เขามารับมาก  ทั้งที่เจ้าตัวอาศัยอยู่ใจกลางกรุงเทพฯโน่น 
แต่กลับขับรถมาเที่ยวแถบชานเมืองประจำ  แล้วภาระก็มาตกอยู่ที่ไม้เพราะผับที่มันเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากบ้านเขาทั้งนั้น 
...ซึ่งถ้าย้อนเวลาได้เขายังย้ำว่าจะไม่ยุ่งกับมันตั้งแต่แรกจะได้ไม่ต้องมาทำตัวคล้ายต้องรับผิดชอบชีวิตใครอีก       


จ่ายเงินค่าแท็กซี่เสร็จชายหนุ่มรีบก้าวเท้าเดินเข้าไปทางโซนที่จอดรถซึ่งอยู่ด้านข้างของตัวผับและเป้าหมายก็หาไม่ยากเลย
เมื่อมองเห็นการ์ดในชุดสีดำสองคนยืนอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับแสงไฟจากรถยนต์คันเดียวซึ่งจอดสตาร์ทเครื่องไว้อยู่         

ไม้เดินเข้าไปใกล้จึงเห็นผู้ชายวัยรุ่น ๆ เดียวกันยืนสูบบุหรี่พิงรถอีกคันซึ่งจอดขนาบข้างกัน                        

ก๊อก ก๊อก                         

เขาเคาะกระจกรถเบ็นซ์สปอร์ตคันสีบรอนซ์เงินเพื่อเรียกคนที่นอนหลับอยู่ข้างใน 

ส่วนคนที่ยืนพิงรถอีกคันอยู่นั้นน่าจะเป็นไอ้เหี้ยก้อของมัน           

ผู้ชายคนนั้นทิ้งบุหรี่ลงพื้นก่อนจะเหยียบซ้ำพร้อมล้วงกระเป๋ากางเกงพลางมองมาทางเขาด้วยท่าทีข้องใจ

แต่ไม่ใช่ธุระอะไรที่เขาต้องสนใจผู้ชายของมันมากกว่านี้  ...ถ้ายังไม่มายุ่งกับเขา                        


ไม้ควักโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเบอร์โทรออกไปหาคนที่นอนกอดโทรศัพท์มือถือหลับอยู่ในรถ 

หลังจากไร้สัญญาณตอบรับจากการปลุกด้วยวิธีแรก                           

“ปลดล็อก”  คนโทรออกเอ่ยปากบอกสั้น ๆ                

“อื้อ ถึงแล้วเหรอ?”  คนในรถทำหน้ายุ่งและบ่นด้วยน้ำเสียงงัวเงียมาตามสายแต่มือก็ปัดป่ายไปมาจนโดนปุ่มปลดล็อกจนได้ทั้งที่ตายังปิดอยู่              

เขาดึงประตูรถให้เปิดพร้อมกับผู้ชายคนที่ยืนพิงรถอีกคันเริ่มมีปฏิกิริยา     

“นายเป็นอะไรกับเขา?”  ผู้ชายคนนั้นเอ่ยถามขึ้นมาซะทันใจที่ไม้คิด  แต่คำถามไม่ใช่น้ำเสียงหาเรื่องแต่อย่างใดหากแต่ฟังดู
เหมือนถามเพราะความข้องใจที่เจ้าตัวคงข้องใจตั้งแต่เขามาถึงรถคันนี้แล้ว                        

“คนรู้จัก”  ไม้ตอบหน้านิ่งเสียงนิ่งเพื่อหยั่งเชิงดูท่าทีของคู่สนทนา 

ขนาดไอ้คนในรถมันยังหลับไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลยแล้วเขาจำเป็นต้องเดือดร้อนอะไร?         

“หึ  บอกเขาด้วย  ฉันไม่เลิกง่าย ๆ หรอก”  ไอ้เหี้ยพี่ก้อของมันแค่นเสียงใส่เหมือนไม่เชื่อที่เขาบอกซะเลย                        

“...”  เขายักไหล่ให้  “ก็บอกกันเองสิวะทำไมต้องฝากด้วย”             

“ถ้านายรู้จักเขานายก็น่าจะรู้ว่าทำไม?  ...ฉันรอแค่ให้เขาสร่างเมาหรือไม่...ก็มีใครมารับเท่านั้นล่ะ” 

ผู้ชายคนนั้นเอ่ยประโยคที่ฟังดูแล้วน่าจะเป็นห่วงสวัสดิภาพคนในรถมากกว่าต้องการคุกคาม       
         
อีกแล้วนะ  ...ไอ้อาการประหนึ่งจะมีเรื่องให้ได้คงเป็นมันคนเดียวสิท่า        

...ไม้มองคนขี้เมาพลางส่ายหน้าในขณะที่ผู้ชายคนนั้นขึ้นรถตัวเองแล้วขับออกไป   

“ตื่น  แล้วย้ายที่นั่งได้ละ”  เขาก้มไปเรียกคนที่หลับตาพริ้มอยู่บนเบาะคนขับอย่างสบายใจตามเคยพร้อมตบแก้มมันเบา ๆ สองที
                
นี่ถ้าสติมันดีมันคงยิ้มเยาะอย่างได้ใจที่เขาถ่อมาด้วยความระแวงว่ามันจะโดนกระทืบจากผู้ชายที่มันเพิ่งสลัดทิ้ง 

แต่ก็นั่นแหละ  ถ้ามันสติดีเขาคงไม่ถ่อมาหรอก       


“นี่...แดกอะไรเยอะแยะวะ”  ไม้ยังคงพูดคนเดียวต่อเพราะไอ้คนที่เขาปลุกยังคงหลับตานอนนิ่งเงียบเหมือนเดิม                       

...ละเหี่ยใจกับมัน  รวมทั้งกับตัวเองด้วย                 

ทั้งที่บอกตัวเองว่ายังไม่พร้อมดูแลใคร  แต่กับคนนี้ไม่ต่างจากสิ่งที่เขาไม่พร้อมเลย                              

...ต่างกันก็แต่สถานะของความสัมพันธ์เท่านั้น               


เขาก้มหน้าเข้าไปใกล้ ๆ หยิบโทรศัพท์มือถือจากมือคนเมาแล้วจับแขนมันทั้งสองข้างขึ้นคล้องคอพลางสอดแขนตัวเองเข้าใต้
รักแร้มันก่อนจะโอบพยุงอุ้มคนตัวบางกว่าที่เริ่มโอนอ่อนผ่อนตามขึ้นมาบ้างแล้วลากมันออกจากรถอย่างเก้ ๆ กัง ๆ เพื่อพาไปนั่งที่
เบาะข้างคนขับพร้อมปรับเบาะเอนลงให้มันนอนเสร็จสรรพ            

เขาหย่อนโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีฟ้าอ่อนที่รัดรูปเจ้าตัวก่อนปิดประตูรถให้แล้วเดินมาขึ้นอีกฝั่งทำหน้าที่สารถี
ให้มัน               

การก้าวเข้าไปรับรู้ชีวิตของใครสักคนไม่ใช่เรื่องยากเลย  แต่การก้าวออกมามันยากยิ่งกว่า
                            

รู้ทั้งรู้...แต่แล้วนี่เขากำลังทำอะไรอยู่?   

คำถามที่ไม่ได้ถามใครเว้นแต่ถามใจตัวเองว่า  ทำอย่างนี้จะไม่เป็นไรใช่ไหม?  สิ่งที่ทำอยู่นี้จะไม่มีทางซึมลึกเข้าไปในใจตัวเอง
ใช่หรือไม่?               

ไม้ตอบตัวเองได้ไม่เต็มปากเต็มคำ  แต่ที่รู้  เขาไม่สามารถปล่อยให้ผ่านสายตาไปเฉย ๆ ได้เลย 

เพราะครั้งนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เขาเพียงคนเดียว            


...   



ชายหนุ่มขับรถเข้าจอดภายในอาคารที่จอดรถของคอนโดมิเนียมหรูกลางใจเมืองกรุง  ที่พักของมันในกรุงเทพฯมีสองแห่ง 
อีกที่หนึ่งคือในโรงแรมของพ่อมันเอง  แต่พอเมาแล้วโทรตามเขา  เขาต้องขับรถมาส่งมันที่คอนโดทั้งที่มันยังหลับสนิทอยู่เบาะ
ข้าง ๆ  โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องเอ่ยปากบอกอะไรเลย 

...หรือนี่เพราะเขาก้าวลึกเข้าไปในชีวิตมันอีกก้าวสินะ      

ถ้ามันเป็นใครคนอื่นไม้คงถอยห่างไปได้ง่ายดายเหมือนทุกครั้งที่เคยทำ 

...แต่ไอ้คนนี้มันยิ่งกว่าปลิง                        

“นี่  ตื่นได้แล้ว”  หันไปส่งเสียงปลุกเมื่อมาถึงคอนโดที่พักของคนที่หลับอยู่      

“...”                     

“ตื่น  ไม่อุ้มนะจะบอกให้”                     

“หื๊อ  พูดมากว่ะ”  มันบ่นน้ำเสียงงัวเงียพลางขยับตัวหลังจากที่เขาออกจากรถไปเปิดประตูฝั่งมันออก                        

“อ่ะ  กุญแจรถ  ขึ้นลิฟท์ไปเองได้นะ”  ไม้บอกพร้อมวางกุญแจรถใส่มือเจ้าของที่กำลังปรับเบาะขึ้นมาแล้วปรือตามองหน้าเขา                   

หมดภาระพามาส่งถึงที่แล้วเขาก็ควรต้องกลับบ้านสักที            

“โอ้ยยย  เดินยังไม่ตรงจะเอาปัญญาที่ไหนเดินไปถึงลิฟท์”

ลืมตาได้มันก็โวยเสียงยาน                          

“รู้แล้วยังเสือกเมา”  เขาต่อว่าให้พร้อมกับเซถอยหลังเมื่อเจ้าตัวลงจากรถแล้วถลาเอาสองแขนมาโอบรอบคอเขาไว้เป็นหลักยึด                 

“ไปส่งที่ห้องหน่อยน้า...น้าไม้น้า...”  มันช้อนสายตาเยิ้ม ๆ ขึ้นมองหน้าเขา  บวกกับใบหน้าแดงระเรื่อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ของ
มันทำให้เขาต้องเสมองไปทางอื่นแต่ก็โดนฝ่ามือมันดันให้หันกลับทันที                        

“เฮ้อ”  ไม้ถอนหายใจใส่คนตรงหน้า  แต่กลับหันตามแรงมือที่ไม่ค่อยจะมีอย่างง่ายดาย                  

เขาเปล่าพอใจเขาเพียงจนปัญญาจึงแกะแขนข้างหนึ่งของมันออกจากคอ  ส่วนอีกข้างจับพาดไหล่ไว้พยุงทั้งยังต้องเอากุญแจรถ
กลับมาถือไว้เองอีกรอบป้องกันมันปล่อยหลุดมือแล้วพยุงโอบเอวพาคนเมาเดินไปที่หน้าลิฟท์                

 “สักวัน  ถ้ากูปิดโทรศัพท์นอน  ตื่นเช้ามาคงได้อ่านข่าวหน้าหนึ่ง”  เขาพูดไปเรื่อยระหว่างเดิน  “เกย์ใจแตกโดนคู่ขากระทืบตายหน้าผับ”  พลางว่าอย่างไม่จริงจัง      

“...มึงไม่เข้าใจหรอก  ถ้ากูไม่เมา  คนอย่างมึงเนี่ย  ก็ไม่มาหากูหรอก  โธ่เอ้ย มีค่าแค่ตอนคนจะกอบโกยผลประโยชน์เท่านั้นแหละกูเนี่ย”  น้ำเสียงยานคางเริ่มพล่าม  นิ้วก็เอามาจิ้มหน้าจิ้มตาเขาทั่ว                        

“หึ  ทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา”                  

“มึงก็คอยแต่จะด่า ๆ ๆ  เอาน่าเดี๋ยวกูเล่าเรื่องที่มึงชอบให้ฟังเป็นการตอบแทนละกาน...”  มันเถียงพร้อมมีข้อแลกเปลี่ยน                      


...ใช่เขาเคยใช้ประโยชน์จากมัน...แต่เขาก็คิดว่าได้ตอบแทนมันไปแล้ว 
เรื่องราวระหว่างเขากับมันก็ควรจบเท่านั้น  แต่มันดันยื้อค่าตอบแทนของเขามาได้เรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้ 
ทั้งที่เขาไม่มีอะไรติดค้างกับมันเลยสักเสี้ยวของนิดเดียว  แต่เขากลับจบกับมันไม่ได้ตามที่ควรจะเป็น 
ซึ่งตอนนี้ข้อแลกเปลี่ยนของไอ้คนเมาไม่จำเป็นสำหรับพวกเขาแล้ว         

เพราะอดีตก็แค่เรื่องราวที่เคยเดินผ่านมาแล้วเท่านั้น              

แต่เขาบอกแล้วว่ามันเป็นปลิง 

...และเป็นปลิงประเภทที่นึกจะเกาะใครก็เกาะ  นึกจะปล่อยใครก็ปล่อย                          

“ก็ดูมึงทำตัวสิ  ขนาดกูด่ามึงยังไม่จำเลย”  ไม้ว่าซ้ำอีกรอบ  ใช้มือข้างที่พยุงเอวมันล้วงกระเป๋ากางเกงเจ้าตัวเพื่อหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา               

เขายื่นกระเป๋าสตางค์ที่มีคีย์การ์ดอยู่ข้างในไปสแกนที่กล่องซึ่งติดอยู่หน้าประตูลิฟท์  แล้วพาคนเมาเดินเข้าข้างในหลังจากประตูลิฟท์เปิด            

“ช่างตัวกูเถอะน่า  ว่าแต่...นี่มึงต่อยไอ้เหี้ยก้อให้กูรึยาง...  ผู้ชายอะไรวะโลกสวยฉิบหาย  มันเอาอะไรมาคิดว่ากูจะรักมาน 
โธ่...อ่อนต่อโลกจริง ๆ รู้จักกันไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มวุ่นวายกับชีวิตกูละ  พี่มีบ้าน  พี่มีรถ  ถุย  อวดเพื่อ?  กูก็มีรึเปล่าวะทำมาอวดคิด
ว่ากูจะติดใจเหรอ?  นี่...กูจะบอกอะไรให้นะ...  กูน่ะรำคาญคนตอแยกูที่สุดในโลกเลยว่ะ  ถ้ากูอยากได้เป็นผัวเดี๋ยวกูก็ให้เอาเอง
แหละน่า  ทำไมชีวิตต้องเจอแต่คนงี่เง่าวะ ฯลฯ”  สารพัดที่ออกจากปากคนสติไม่เต็ม  แถมยังยืนเอนไปเอียงมาอยู่อย่างนั้นทั้งที่
เขาก็โอบเอวมันไว้แน่น      

ติ้ง!!                           

ประตูลิฟท์เปิดเองอัตโนมัติเมื่อถึงชั้นยี่สิบสอง  และไม่สามารถขึ้นหรือลงไปยังชั้นอื่นนอกเหนือจากที่ระบบคีย์การ์ดระบุได้ซึ่งก็
คือเฉพาะชั้นที่พักของตัวเอง  ยกเว้นทางบันไดหนีไฟ 

ที่นี่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวสูง  แต่ละชั้นจะมีเพียงสี่ห้องและอยู่คนละมุมกัน  ถึงกระนั้นเขาก็ไม่กล้ายืนอยู่นอกห้องนานเพราะ รู้สึกว่าเสียงมันค่อนข้างก้อง  ยิ่งในช่วงที่ทุกห้องหลับกันหมดอย่างนี้ 

เขาเกรงว่าเสียงคนเมาจะดังรบกวนคนอื่นเข้าให้        

ไม้ดันหน้าคนขี้เมาออกจากบ่าทั้งยังเรียกชื่อซ้ำ ๆ ให้มันตื่นก่อน  เพราะถ้าไม่พูดมันก็จะหลับ 

นี่ขนาดเขาลากเขายังเหนื่อยเลย  แล้วถ้าขนาดต้องแบก  ก็บอกเลยว่าไม่ไหว       


ไม้ยื่นกระเป๋าสตางค์เอาคีย์การ์ดไปสแกนที่กลอนประตูดิจิตอลก่อนกดรหัสเพื่อให้ประตูห้องปลดล็อกแล้วจึงพยุงเจ้าของห้อง
เข้าไปข้างใน            เขากดเปิดสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตูทำให้มีแสงสว่างตรงทางเดินกลางห้อง      

“ถอดรองเท้า”  แล้วบอกเจ้าของห้องหลังจากเอาเท้าเขี่ย ๆ รองเท้าตัวเองจนถอดออกมาได้สำเร็จ 

แต่เจ้าของห้องแค่หรี่ตาขึ้นมาพิจารณาใบหน้าเขา  แล้วก็แค่ยกแขนอีกข้างมาโอบรอบคอเขาอีกรอบพร้อมเอาคางมาเกยที่บ่า เป็นของแถม            

“ห้องกู ๆ”                        

พูดอย่างนี้คือจะไม่ถอด?                  

ไม้หันหลังพิงผนังห้องกันตัวเองล้ม  มือหนึ่งจับแขนคนเมาออกจากคอเพราะ...   เขารู้สึกไม่ดี 

อีกมือกอดเอวมันไว้แล้วเอาขาเกี่ยวขามันเพื่อจะใช้เท้าดันส้นรองเท้ามันไว้   

“ถอดรองเท้านะ”  เขาบอกอีกรอบ                  

“ฮื่อ!”  คนเมาทำเสียงขัดใจใส่ข้างหูเขาแต่ก็ยอมยกเท้าออกจากรองเท้าเองอย่างง่ายโดยที่เขาไม่ต้องออกแรง      


ถ้ามันเป็นคนปัดกวาดห้องนี้ด้วยตัวเองอยากใส่ไปถอดที่หัวเตียงเขาก็ไม่ว่าอะไร  เขาไม่ได้ขอให้มันช่วยแม่บ้านรักษาความ
สะอาด  แต่เขาอยากให้มันรับผิดชอบตัวเอง  ไม่ว่าจะเมาแค่ไหน  กับแค่การถอดรองเท้าก่อนเข้าห้องนี่มันไม่ได้ยากอะไรเลย         

เอาแขนมันพาดไหล่แล้วพาเดินมาจนถึงห้องนอนของเจ้าตัว 
อาศัยแสงไฟจากห้องใหญ่พอมองเห็นสวิตซ์ไฟที่อยู่ข้างประตูเช่นเดียวกันจึงกดเปิดได้อย่างง่ายดาย 
ก่อนทิ้งร่างคนเมาให้ลงคว่ำหน้าเข้ากับเตียงนอนแล้ววางกุญแจรถ  กระเป๋าสตางค์ ไว้ที่หัวเตียง 


ไม้ผละออกมามองแผ่นหลังเจ้าของห้องอีกทีแล้วส่ายหน้าอย่างไร้คำบรรยาย  ก่อนจับตัวมันพลิกหงายเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือ
ออกจากกระเป๋าเสื้อมันแล้วเอาไปวางรวมกันที่หัวเตียง   

หมับ!                           

คนบนเตียงปรือตาขึ้นมองพร้อมจับแขนเขาที่มือยังค้างอยู่หัวเตียง         

“ม้ายยย  อยู่กับขวัญก่อนน้า  ...อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนนะ  น้า...”

ไม้ใช้มืออีกข้างที่ว่างหยิบรีโมทแอร์ซึ่งวางระเกะระกะอยู่กับกองรีโมทอื่น ๆ ที่หัวเตียงมากดเปิด                        

“ทำให้ทุกอย่างแล้ว  นอนหลับได้สบายแล้วนะมึง”  เขาจับมือมันออก  เจ้าตัวก็ยอมแต่โดยดี                           

“ถ้าได้เช็ดหน้า  เช็ดตัวนะ  คงหลับสบายกว่านี้...”  มันหลับตาลงยิ้ม ๆ พร้อมแกะกระดุมเสื้อตัวเอง

เม็ดที่หนึ่ง 

เม็ดที่สอง... 

จนเผยให้เห็นหน้าอกแบน ๆ ขาว ๆ    

“ไม่เลือกตามเคย”  ไม้ทักท้วง?  หรืออาจเป็นคำด่าออกไป  เจ้าตัวถึงได้เบ้ปากและหยุดมือที่กระดุมเม็ดที่สาม                    

“ฮึก...”  ริมฝีปากชมพูเม้มเข้าหากันพร้อมกับหัวคิ้วทั้งสองข้าง           ไม้รู้ว่าคนบนเตียงกำลังกลั้นน้ำเสียงนั้นไว้อยู่ 

...เขาอยากพูดอะไรแรง ๆ กับพฤติกรรมของมัน  แต่เขา...โคตรเกลียดความอ่อนแอ   

ไม้จึงนั่งลงที่เตียงแล้วเอื้อมมือไปปลดดึงเข็มขัดที่เอวของคนเมาออกจากกางเกง      

“หลับไปเถอะ  เดี๋ยวกูอยู่ดูดบุหรี่อีกแป๊บ”  เขาบอกเสียงเบาด้วยความจุก 

ลุกออกจากเตียงและวางเข็มขัดเส้นนั้นไว้หน้าโต๊ะทีวี  ก่อนเดินออกจากห้องนอนโดยไม่ลืมปิดไฟให้มัน         



การเป็นพี่ใหญ่ทำให้เขาต้องวิเคราะห์ลักษณะนิสัยของคนในสายให้ได้เพื่อที่จะคุมแต่ละคนอยู่ 

ประสบการณ์จากอดีตสอนให้เขาเป็นคนแบบนี้จนติดเป็นสันดานและเลยเถิดไปถึงทำเกินหน้าที่บ่อยครั้ง 

เพราะนอกจากต้องสนใจแค่คนในปกครอง  เขายังมักจะใช้หลักการนี้มองคนอื่นทั่วไปอีกด้วย     
                                             
ไม้มักจะมอง  เดา  เรียนรู้ความเป็นคนอื่น  ...จนบางครั้งก็รู้มากเกินไป      

คนเป็นสิบ  เป็นร้อย  ที่ผ่านสายตาเขาโดยไม่ใช่การมองผ่านเฉย ๆ          

แต่มันแย่นะ  ...เมื่อเขาเกิดลำเอียงสนใจใครสักคนมากกว่าคนอื่น ๆ         

มันแย่...สำหรับตัวเขาเอง
                     


ไม้เปิดกระจกบานเลื่อนออกไปยืนสูบบุหรี่ที่ระเบียงหลังห้อง 

ยืนมองเงาสะท้อนของแสงไฟระยิบระยับในผืนน้ำของทะเลสาบที่คนเราพยายามสร้างจุดเด่นให้มัน 

ไม่ว่าความกว้างใหญ่ที่เห็นได้ชัดตอนกลางวัน  หรือกระทั่งยามที่ผู้คนหลับใหล  ทะเลสาบแห่งนี้ก็รายล้อมไปด้วยแสงไฟ
ประหนึ่งต้องเป็นจุดสนใจตลอด ๒๔ ชั่วโมง 

สายตาหยุดมองน้ำกระเพื่อมน้อย ๆ จากแรงลมยามพัดมาเบา ๆ โดยพยายามไม่คิดอะไรให้หนักสมอง 

เขาไม่อยากคิด  ไม่อยากรื้อฟื้นอะไรขึ้นมาเพราะมันเปล่าประโยชน์ที่จะยึดติดกับเรื่องราวที่ผ่านมาแล้วทั้งเพ                             

...หากแต่  ทุกขณะที่เขาจมดิ่งอยู่ในความคิดของตัวเอง  กลับไม่ได้รู้สึกว่ากำลังอยู่เพียงลำพัง 

เช่นในเวลานี้...เขาก็รู้สึกว่ามีใครอีกคนยืนอยู่ข้างกายตรงนี้อีกครั้ง 

ใครคนนั้น...คนซึ่งไม่มีตัวตนมาเป็นปี ๆ  หลงเหลือก็แต่เพียงทุกความรู้สึก   

ที่ยังอยู่ข้างกายนี้เสมอ...



ไม้เดินกลับเข้าไปดูเจ้าของห้องหลังจากที่ดูดบุหรี่จนหมดมวน  แสงไฟจากนอกห้องพอช่วยให้มองเห็นมันนอนขดเป็นกุ้งอยู่บน
เตียงใหญ่  แล้วเขาก็เลือกเดินเข้าไปดึงผ้าห่มจากปลายเท้าขึ้นห่มคลุมตัวแทนการปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศเพิ่มเพราะเจ้า
ตัวมักจะบอกว่าหายใจไม่ออกเวลานอนถ้าอากาศเย็นไม่มากพอ            


ตีสี่สามสิบห้านาที 

ไม้วางรีโมทเครื่องปรับอากาศไว้บนหัวเตียงอีกรอบหลังตั้งเวลาปิดไว้เรียบร้อยเพื่อเป็นการปลุกเจ้าตัวอีกทาง               

วันนี้  หน้าที่เขาคงหมดลงสักที

ทั้งที่ความจริง  คนที่มันต้องการให้ทำหน้าที่นี้  ก็ไม่ใช่เขาเลย...

แต่เขากลับไม่ขัดข้องที่จะทำ 
   







************************

อะไรคือต้องจัดหน้ากระดาษใหม่? รู้สึกไม่ชินกับการลงนิยาย <แน่สิ ฮ่าาาาาาาาาาาาาาาา

//กราบสวัสดีค่ะ  ตอนพิเศษอะไร?  อะไรที่ว่าพิเศษ ความพิเศษอยู่ตรงไหน ? ฮ่าาาา หนูมิรู้ค่ะ หนูอยากลง ><

หลังจบอ้อมกอดเด็กช่างก็เขียนตอนนี้นานแล้วค่ะ  คิดอยู่ว่าจะได้แปะที่ไหน แปะเรื่องใหม่ หรือแปะที่นี่  พอแก้ไขจนพอใจตัวเอง 

ก็คิดว่าแปะนี่แหละถูกแล้ว ฮ่า 

ฤกษ์งามยามดี  ได้กลับมาใช้ชีวิตตามลำพังในห้องนอนอีกครั้ง  ก็คิด(เอาเอง)ว่า ตัวเองจะมีเวลาเขียนนิยายเรื่องใหม่สักทีจึงเอา
ตอนพิเศษส่งท้ายท้ายสุดมาทิ้งก่อนค่ะ

งง ๆ มึน ๆ ตามเดิมนะคะ เพลียตัวเองอยู่ ทำไมไม่มีอะไรพัฒนาเลย ฮ่า

ขอบคุณทุกคนอ่าน ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ทั้งติทั้งชมมาก ๆ เลยนะคะ  ไม่รู้จะขอบคุณเท่าไหร่ถึงจะพอกับความรู้สึก  ดีใจทุกครั้งที่ได้อ่านคอมเม้นท์ค่ะ มันสะท้อนนิยายที่ตัวเองตั้งใจเขียนได้ดีจริง ๆ กอดนะคะ จุ้บ ๆ^^ :pig4:





ออฟไลน์ NewYearzz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2544
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +346/-2
แอบลืม"ขวัญ"ไปเบาๆ เห็นทีต้องอ่านใหม่  :-[


ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษครับ   :pig4:

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
พี่ขวัญคู่กับไม้ ดีแล้วล่ะ! ให้ไม้ดัดนิสัยเลย รังแกหนูแก้วของเรามาเยอะ ถึงจะเป็นพี่ชายแก้วก็เหอะ   
===============
แนวเด็กช่างในเล้าเป็ดเรื่องนี้สนุกสุดแล้ว ยังอยากอ่านเรื่องต่อไปอยู่นะคะ 

ออฟไลน์ mro

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
แอร้ยยยยยยกรี้ดร้องงง กรี้ดจริงๆนะตอนเห็นว่าเรื่องนี้อัพ ฮือๆ
พี่ม้ายยยย เท่เหมือนเดิมอ่ะคนอะไรรรร

ออฟไลน์ Aoya

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 906
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-3
มันต้องมีต่ออีกใช่ไหมคะ คือแบบ พี่ลูกขวัญยังใช้ชีวิตล่องลอยอยู่เลย
ให้พี่ไม้มาเป็นหลักให้ชีวิตลูกขวัญมั่นคงเถอะค่ะ

คิดถึงลูกแก้วกับฝิ่น
ไหนคุณคนเขียนบอกว่ารวมเล่มแล้วจะมีตอนพิเศษหวานๆ ของลูกแก้วและฝิ่นไงคะ
หายไปเลยนะ เค้ารอรวมเล่มอยู่นะตัว

เรื่องใหม่ดราม่าได้แต่ขอจบแฮปปี้นะคะๆๆๆๆ แอบผวาเบาๆ

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
โอยยย อยากอ่านคู่นี้ต่อแหะ

~^^~

ออฟไลน์ Inamning

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่ไม้เหมาะกับบทพระเอกที่สุดแล้ว กระซิบ ๆ กลัวพี่ฝิ่นได้ยิน อิอิ

ออฟไลน์ naamsomm

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-2
คิดถึงเรื่องนี้มากกกกกกกกก
พี่ไม้  ใจดีอบอุ่นอีกแล้ว
แบบนี้ของขวัญไม่เลิกทำนิสัยแบบนี้หรอก
เพราะรู้ยังไงพี่ไม้ต้องมาดูแล


ปล.อยากอ่านเรื่องยาวของคู่นี้จัง  ^  ^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด