ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับสรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด 7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชมกรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0
......................................................................
รวมเล่มแล้วนะคะ
รายละเอียดตามลิ้งค์เลยค่ะ http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46577.msg3041902#msg3041902
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่เพจนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ^^
...
นิยายเรื่องนี้โนกุ๊กกิ๊ก เนื้อหา(ค่อนข้าง)รุนแรง(มั้ง) (ไม่นะY^Y) โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เพราะคนเขียน ชอบความรุนแรง
เข้ามาอิดิทเมื่อ ๙ พ.ย.๕๔ ......................................................................
อ้อมกอดเด็กช่าง ตอนที่ ๑
“ที่จริงไม่ต้องมาส่งก็ได้นะพี่” เขาพูดพลางไขกุญแจบ้านไปด้วย
“ที่จริงต้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนต่างหาก” หนุ่มรุ่นน้องทั้งส่ายหน้าทั้งหัวเราะเบาๆให้กับคำตอบของประธาน
ปีสามดูจะคิดมากเกินเหตุ
“ผมเข้าบ้านแล้ว พี่สบายใจรึยัง” ก้าวเท้าเข้าเขตบ้านปุ๊บก็กอดอกเลิกคิ้วถามปั๊บ
“อืม” แค่พยักหน้าให้คนถามรู้ว่าเข้าใจ แต่ทำไมยังไม่ไปอีก เจ้าของบ้านที่ยืนพิงขอบประตูอยู่ต้องถอน
หายใจอย่างเอือมๆ
“ผมอยู่คนเดียวได้ ไม่มีใครกล้าทำอะไรถึงในบ้านผมหรอกน่า ของที่พี่ให้มาผมก็เอาติดตัวไว้ตลอด
พี่กลับบ้านเหอะ ค่ำกว่านี้อันตรายเปล่าๆ” ชายหนุ่มชูปืนปากกาด้ามที่ได้มาเมื่อเช้าพร้อมควงเล่นให้รุ่นพี่
ดูอย่างไม่ยี่หระ เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตูพร้อมปิดทันที เป็นการไล่ทางอ้อม เขาไม่ค่อยชอบให้ใครมา
ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขานัก ไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหนก็ตาม ถึงจะแค่หน้าประตูบ้านก็เหอะ รุ่นพี่จำยอมพยัก
หน้าแล้วเดินออกจากบริเวณบ้านไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันจะก้าวขึ้นห้องนอนที่อยู่บนชั้นสองของบ้านเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกไปหาอะไรกินมื้อค่ำแถว
ตลาดกลับมีเสียงเคาะประตูบ้านขัดจังหวะซะก่อน หรือพี่เขามีอะไรอีก?
ชายหนุ่มวางกุญแจบ้านและปืนปากกาที่อยู่ในมือไว้บนโต๊ะโทรทัศน์ แล้วเปิดประตูออกไปอย่างหงุดหงิด
“พี่ดิวมีอะ...” ไม่ทันจบคำ ประตูได้ถูกดึงจากอีกฝั่งให้เปิดอ้าเต็มบาน มีผู้ชายมากกว่าสองดันร่างเขาเข้า
มาในบ้าน แล้วพากันกรูตามเข้ามาติดๆ คาดเดาจากสายตาเห็นว่าพวกมันมีกันถึงหกคน ไม่สิ เจ็ด
ต่างหากเพราะมีอีกคนยืนดูต้นทางอยู่หน้าบ้านโน่น หึ เล่นอย่างนี้สินะ
ตั้งแต่เมื่อวานแล้วที่เขาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแต่ก็บอกตัวเองว่าไม่มีอะไรหรอก ลูกผู้ชายเขาไม่ลอบกัด
หรอก นักเลงจริงเขาไม่แทงข้างหลังแน่ เพราะคิดอย่างนั้น เลยพลาดเอง เผลอชะล่าใจได้เป็นวันๆ ใน
ที่สุดมันก็แค่นักเลงข้างถนนนี่นา จะถามหาวิถีความเป็นลูกผู้ชายอะไรจากพวกมันได้ ขอแค่ได้เอาคืนไม่
ว่าจะด้วยวิธีสกปรกแค่ไหน พวกมันก็ไม่สนใจหรอก แค่ให้ได้สิ่งที่ต้องการ มันก็พร้อมทำกันทุกวิถีทาง
สินะ
.
.
.
ทันทีที่ผ้าคาดตาถูกเปิด คนที่ถูกมัดข้อมือทั้งมือสองข้างก็ได้ถูกผลักให้เดินเข้าไปในห้องซึ่งมีหญิงสาวในชุด
นักเรียนร่วมสถาบันรออยู่ก่อนแล้ว เธออุทานเรียกชื่อเขาอย่างตกใจ ตามด้วยเสียงล็อคกุญแจจากประตู
ด้านนอก
ไม่ต้องเดาก็ตอบได้ ถึงกับต้องขังกันเลยเหรอ
“แก้ว!” หญิงสาวโผเข้าแก้เชือกที่มัดมือชายหนุ่มออกอย่างลนๆแล้วกระโดดกอดเขาด้วยอาการวิตกวังวล
สั่นกลัว น้ำตาของเธอไหลพรากสะอื้นไห้โดยมีหน้าอกของแก้วเป็นที่พึ่งพิง เขาเองคงทำได้ดีที่สุดเท่านี้
แฟนสาวของไอ้เพื่อนตัวดีคงจะกลัวมากที่ต้องมาอยู่ในสภาพแบบนี้ ไม่งั้นคงไม่กล้ากอดเขาแน่นซะ ทั้งที่
จริงแล้วทั้งคู่ไม่ได้สนิทอะไรกันมากมายมาก่อนเลย
“มิว! พวกมันทำอะไรมิวรึเปล่า” แก้วลูบหลังปลอบโยนแฟนเพื่อนและถามไถ่อาการเธอ “ใจเย็นๆสิมิว มี
สติหน่อย” มิวยิ่งสะอื้นดังกว่าเดิม จากที่ว่าปลอบคงกลายเป็นเรียกต่อมน้ำตาเจ้าหล่อนให้ทำงานซะ
ล่ะมั้ง
“ฮึก ฮึก XX” มิวผละจากอกเขา พูดชื่อโรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่งออกมา แก้วไม่ได้แปลกใจเลยสักนิด
เพราะพวกมันนี่แหละที่เอามีดจี้เอวเขาถึงในบ้านแล้วพามานี่...ที่ไหนก็ไม่รู้ ช่วงที่ถูกจับขึ้นรถมาก็ถูกผ้าปิด
ตาตลอดทาง เมื่อลงจากรถก็แค่ได้กลิ่นหอมของหญ้าอ่อนๆ ไอ้พวกนักเลงข้างถนนมันเปิดตาให้ก็ตอนที่
ผลักเข้ามาในห้องแล้ว
“มันซักที่อยู่พงษ์ แต่มิวไม่รู้ มิวไม่รู้จริงๆนะแก้ว มิวได้ยินมันพูดกันว่าจะเอาเราเป็นตัวล่อ ยังไงๆพงษ์ก็
ต้องออกมาแน่ แต่ถ้าพงษ์ไม่ออกมาล่ะแก้ว พวกมันจะทำร้ายเรารึเปล่า มิวกลัว มิวกลัวนะแก้ว ฮือออ”
“มิวๆ ฟังนะ” แก้วเรียกสติแฟนสาวของเพื่อนเมื่อเห็นว่าเธอเริ่มควบคุมมันไม่อยู่แล้ว ก่อนจะเตลิดไป
มากกว่านี้ เขาจึงจับไหล่หญิงสาวตรงให้มองหน้ากันได้ พูดด้วยน้ำเสียงเบาแต่จริงจัง
“พวกมันไม่ทำอะไรเราหรอก อย่างที่ได้ยิน เราแค่เป็นตัวล่อ ถ้ามันถามเราก็บอกไม่รู้ ไม่เห็นอย่างเดียว
เชื่อแก้วนะ เดี๋ยวพวกเราก็คงมาช่วย” แก้วปลอบเธออีกครั้ง เขามั่นใจว่าถ้าพี่ดิว ประธานปีสามรู้เรื่องล่ะ
ก็ ยังไงซะต้องตามมาช่วยแน่ ยิ่งเป็นสถาบันคู่อริด้วยแล้ว การอุ้มเด็กในสายมาทั้งคนอย่างนี้มันไม่ไว้หน้า
กันมากไป
“พงษ์อยู่ไหน ทำไมแก้วใจเย็นจัง ไม่กลัวพวกมันเลยเหรอ แล้วแก้วไม่ห่วงพงษ์เลยรึไง” มิวยังซักไม่เลิก
แต่แก้วเลือกที่จะเงียบแทน
“แต่พงษ์ทิ้งมิว พงษ์หลบไปไหนไม่คิดจะบอกมิวเลย พวกมันก็ตามรังควาญมิวทั้งที่บ้านทั้งโรงเรียน พงษ์
แม่งเห็นแก่ตัว ฮึก ฮือออ” เมื่อได้ยินคำนี้เข้าไม่รู้จะบอกว่าใครเห็นแก่ตัวกันแน่ แต่แก้วเริ่มรำคาญ และไม่
มีอารมณ์มาปลอบหรือโต้ตอบอะไรกับมิวแล้ว จึงปล่อยให้เธอร้องไห้ไปจนเหนื่อย แล้วหลับไปเอง ตอนนี้
เขาห่วงแค่ว่าไอ้พงษ์ ไอ้เพื่อนตัวดีมันจะรู้เรื่องรึยังว่าเพื่อนกับแฟนถูกจับมาเป็นตัวประกันเพื่อล่อให้มัน
ออกมารับผลจากการกระทำของมันอยู่ แก้วได้แต่ภาวนาขออย่าให้พงษ์มันติดต่อมาตอนนี้เลย
ประตูถูกเปิดออกด้วยชายในชุดฉ็อปต่างสถาบัน ในมือถือข้าวกล่องพร้อมขวดน้ำเข้ามาวางไว้ที่พื้นห้อง
สองชุด ไม่วายมองหน้าเขาแถมแสยะยิ้มสมน้ำหน้าอีก ประตูห้องถูกปิดและตามด้วยเสียงลงกุญแจอีก
ครั้งหลังเสร็จธุระของมัน
ผนังไม้พื้นปูนฉาบโล่งๆ ไม่มีอะไรเลยภายในห้องนี้ ให้คิดว่าเป็นบ้านหลังเล็กๆที่ยังสร้างไม่เสร็จเพราะขาด
การตกแต่งก็คิดได้ ถึงไม่มีเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นแต่น่าจะสร้างไว้ให้คนอาศัยมากกว่าสร้างไว้เพื่อจับใครมาขัง
ไว้เป็นข้อต่อรอง
แก้วปลุกมิวให้มาล้างหน้าล้างตาแล้วกินข้าวซะ อย่าเพิ่งฟุ้งซ่านคิดอะไรเยอะเลย นั่นกลับทำให้หญิงสาว
มองแก้วด้วยสายตาแปลกๆ แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ใส่ใจสายตาคู่นั้นมากมาย การที่แก้วไม่แสดงอาการเป็น
ห่วงเพื่อนอย่างออกนอกหน้าไม่ใช่ว่าเขาสบายใจซะที่ไหน เพียงแต่เขาต้องการอยู่ในความคิดของตัวเอง
เพื่อหาทางออกสำหรับเรื่องนี้มากกว่าเดิม เท่านั้นเอง
ตอนนี้เขาเอาเวลาไปเดินสำรวจรอบห้องดีกว่า เห็นมีรูเล็กๆจากช่องไม้จึงลองมองลอดช่องหนึ่งดู แต่กลับ
มีเพียงเงาดำของต้นไม้ใหญ่เท่านั้นที่ผ่านเข้ามาในสายตา คงเพราะตอนนี้มันมืดแล้ว เดาไม่ได้อยู่ดีว่าอยู่
ที่ไหน แก้วจึงเปลี่ยนใจเดินหน้าตาไร้อารมณ์มานั่งกินข้าวข้างมิวบ้าง จะให้อดข้าวประชดผู้ร้ายมันปัญญา
อ่อนเกินไป
ไม่ได้ต้องการให้มิวคิดเยอะก็ถูก แต่ไม่ใช่ไม่ให้คิดอะไรเลย
วันก่อนหญิงสาวยังภูมิใจยิ่งกว่าอะไรที่รู้ว่าแฟนตัวเองทำร้ายเด็กช่างต่างสถาบันได้
แต่วันนี้กลับต้องมาร้องไห้กับเรื่องที่เคยคุยโวและภูมิใจในตัวไอ้พงษ์นักหนา
หวังว่าหญิงสาวคงรู้คำตอบด้วยตัวเองบ้างนะว่ามันไม่ใช่เลย
ไอ้พงษ์ไม่ควรทำร้ายเขาหรือใครทั้งนั้น
และมิวไม่ควรยินดีกับสิ่งที่ไอ้พงษ์ทำ
เพราะใครทำอย่างไรก็ต้องได้รับผลตอบแทนอย่างนั้น
มิวเป็นแฟนไอ้พงษ์ ถ้าจับมิวมา ไอ้พงษ์ต้องเป็นเดือดเป็นร้อนแน่
เกี่ยวโยงมาถึงเขาที่เป็นเพื่อนสนิท ถ้าไอ้พงษ์รู้ว่าเพื่อนกับแฟนตกอยู่ในอันตราย เพราะตัวมันเอง ยังไง
มันต้องโผล่หัวออกมาแน่
พวกนี้มันไม่ปล่อยให้เรื่องจบง่ายๆด้วย ...
ในเมื่อการล้างแค้น...มันคือหนึ่งในวัฏจักรเด็กช่างอย่างพวกเขาที่ใครก็อย่าหวังว่าจะเปลี่ยนมันได้
.
.
.
บรรยากาศตรงนี้มันเงียบจนได้ยินเสียงจิ้งหรีดร้องอยู่รอบข้าง
อืม คงจะห่างไกลความเจริญเยอะอยู่มั้ง เสียงกลุ่มคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกคุยกันเสียงดังบ้างเบาบ้าง
คาดว่าคงตั้งวงกินเหล้ากันตามปกติ และแก้วก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรอีกเช่นกัน
เขาไม่ได้ชิวกับการถูกอุ้มหรอกนะ แต่ใจเขามันไม่ได้จดจ่อตรงนี้ต่างหาก
แก้วหลับๆตื่นๆข้างๆมิว มารู้สึกตัวอีกทีเอากลางดึก กี่ทุ่มแล้วไม่รู้ แต่อากาศเย็นสบายจริงๆ
และคงจะเป็นเวลาที่พระสวดเสร็จเรียบร้อยแล้วสินะ ลืมตาขึ้นมาถึงได้เห็นว่ามีชายชุดดำยืนจ้องเขาอยู่
เขาไม่รู้ว่าถูกมองด้วยสายตาอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มันก็ทำให้การพลิกตัวเปลี่ยนท่านอนของแก้วชะงัก
ค้าง
“มึงรู้ใช่ไหมกูต้องการอะไร” เสียงทุ้มต่ำเย็นยะเยือกแต่น้ำหนักเอียงไปทางดุเอ่ยเมื่อเห็นแก้วลืมตา
ชายชุดดำดึงคอเสื้อแก้วให้ลุกจากซอกมุมหนึ่งของห้องที่อาศัยซุกตัวนั่งหลับจนปะทะเข้ากับหน้าอกเขา
ใกล้จนได้กลิ่นน้ำเมา
“ผมไม่รู้”
“นอกจากเมียมันก็มีแต่มึงที่เป็นเพื่อนสนิท มึงจะให้กูเชื่อว่าเพื่อนซี้อย่างมึงไม่รู้ว่าเพื่อนตัวเองจะเป็นจะ
ตายที่ไหนอย่างงั้นเหรอวะ” แก้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูงกว่า นัยย์ตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความแข็ง
กร้าว ดุดัน แต่เศร้า...จนแก้วแทบจะควบคุมอาการเกร็งของตัวเองไม่ไหว ถ้าเป็นผู้หญิงคงได้ปลดปล่อย
ความรู้สึกตอนนี้ด้วยการร้องไห้เหมือนมิวไปแล้ว ง่ายชะมัด
“ก็..ก็ผมไม่รู้จริงๆนี่ วันที่มีเรื่องผมก็ไม่ได้อยู่กับมัน มารู้เรื่องก็ตอนที่...”
“ตอนที่เพื่อนกูตาย?” ชายชุดดำพูดแทรก
ไม่ใช่ ไม่ได้ตั้งใจจะพูดอย่างนั้นสักหน่อย แก้วเม้มปากก้มหน้าลงต่ำเพื่อจะได้ไม่ต้องเห็น ไม่ต้องรับรู้ถึง
ความเจ็บปวด การสูญเสีย คนที่รักที่ผูกพันจากสายตาของคนตรงหน้า แต่ชายชุดดำต่างสถาบันกลับบีบ
ปลายคางแก้วแน่นจนเจ็บเพื่อให้ยังมองหน้ากันอยู่ แก้วใช้สองมือพยายามดึงมือเดียวที่ปลายคางออกแต่
กลับไม่เป็นผล ทั้งที่ความสูงน่าจะพอๆกัน พละกำลังน่าจะใกล้เคียงแค่แก้วดูผอมกว่าหน่อยเดียวถึงขนาด
สู้แรงผู้ชายด้วยกันไม่ได้เชียวเหรอ?
“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร มึงเป็นเพื่อนก็คงจะห่วงเพื่อนตัวเองเป็นธรรมดา เฮ้ย!พวกมึง” มันตะโกนเรียกพวกที่
อยู่ข้างนอกให้หันมาสนใจ แต่คนพวกนั้นก็แค่โผล่หน้าเข้ามามองเหตุการณ์อย่างสะใจเท่านั้น
“ใครเอาศพมันมาได้ กูจ่ายไม่อั้น” ชายชุดดำบอกกล่าวพวกของตนแต่กลับแสยะยิ้มส่งให้แก้ว
“ทำแบบนั้น...” ... ไม่ได้นะ! แก้วอ้าปากโต้ตอบแต่ไม่ทันได้จบประโยคตัวก็ลอยหวือหลังกระแทกเข้ากับ
ผนังไม้พร้อมๆกับเสียงกรี๊ดของมิว และนั่นยิ่งทำให้หญิงสาวร้องไห้เสียงดังขึ้นมาอีก แต่คนต้นเหตุไม่ได้
สนใจมิวเลยด้วยซ้ำ เขาล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกพับอย่างไม่เป็นระเบียบนักเขวี้ยงใส่
ตัวแก้วก่อนจะเดินออกจากห้องไป
แก้วซึ่งยกแขนบังหน้าไว้ด้วยสันชาตญานค่อยๆลดมือลง หยิบกระดาษแผ่นนั้นคลี่ออกช้าๆ
วันที่xx เดือน xx ปีxx เวลา 19.00 นาฬิกาโดยประมาณ
นายธรรมรัตน์ คงไพศาล ถูกทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ชีวิตด้วยอาวุธมีด บริเวณหน้าบ้านที่พักอาศัย เลขที่
xx ตำบลxx อำเภอxx จังหวัดxx ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งว่า ผู้ตายได้มีปากเสียงและเกิดการทะเลาะ
วิวาทกับนายพงษ์ศิริ วัชระตระการกุล นักเรียนโรงเรียนเทคโนT ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา
...............ฝากนิยายด้วยนะคะ
...............
แอร๊ยยย จัดหน้ากระดาษไม่เป็น มันพรืดๆไงไม่รู้ เพลียเหลือเกิน... 
https://goo.gl/oG6PWY เพจข้าเจ้า