[ กลรัก ... เปื้อนสี ] แล้วนะครับ !!!!
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [ กลรัก ... เปื้อนสี ] แล้วนะครับ !!!!  (อ่าน 279589 ครั้ง)

silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
น้ำมนต์น่ารักจัง เป็นคนที่เข้าใจอะไรง่ายดี ไม่ค่อยคิดมาก ปีโป้ถึงรักขนาดนี้  :-[

ส่วนเรื่องของโอ๊ตนี่ดูซับซ้อนจริงๆ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
รู้สึกดีจังเลยน้า เวลามีปัญหาแล้วมีคนยืนเคียงข้าง

ออฟไลน์ changnoy

  • i ❤ ChangnoY
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
    • FB
คนแต่งกำลังจะอัพแล้วววววว มาลอยคอ รอคอย อย่างตั้งใจ วิ้วววววว

lungkhao

  • บุคคลทั่วไป
เอาคอนพิเศษมาแก้ขัดครับ  :L2: :L2:




ตอนพิเศษ :: ช้างน้อย – พี่บ่าว


“ช้างน้อย เดี๋ยวเธอกลับกับใครเหรอ” นังหญิงเอ๋ยถามชั้นเบาๆ เมือ่ถึงเวลาแยกย้ายกันกลับบ้านกลับช่อง งานเลี้ยงย่อมมีวีนเลิกรา ชั้นรู้ดี แต่ชั้นนี่สิ ยังไม่เลิกเวิ้นเลย ทั้งหน้าพี่ปีโป้จูบนังน้ำมนต์ และพี่บ่าวหอมแก้มชั้นมันยังวิ้งๆอยู่ในหัวไม่หายเลย

“อ้าว แล้วตอนมาช้างน้อยมากับใครเหรอ” พี่เอ็มหันมาถามชั้นบ้าง

“อ๋อ เพื่อนที่วิทยาลัยมาส่งอ่ะคะ ก็คิดว่าตอนกลับจะให้พี่ปีโป้ไปส่งก่อน แต่เค้าก็ไปกันหมดแล้ว” ชันพูดไปด้วยความน้อยอกน้ออยใจ ที่ดันเกิดมาเป็นกระเทยที่ไม่มีใครสนใจเท่าไหร่นัก ได้แต่สร้างเสียงหัวเราะให้ทุกรอยยิ้ม แต่ก็ต้องอยู่อย่างคนเหงา พูดแล้วชั้นเศร้า น้ำตาอยากจะไหล




“เดี๋ยวกูไปส่งเอง” และแล้วเหมือนเสียงฟ้าประทาน เสียงพี่บ่าวดังมาจากข้างหลัง พี่แกพูดกับพี่เอ็ม ชั้นหันไปมองแก เหมือนมีแสงออร่าอยู่ด้านหลงพี่เค้า .. พระเอกมาอ่ะ !!

“จะดีเหรอออ .. พี่บ่าวก็” ชั้นถามพี่ไปแบบเขินๆอายๆ ก็รู้ๆกันอยู่ว่า look live love คนนี้แค่ไหน

“อย่าเรื่องมาก หรือจะนอนเฝ้าร้าน” โห มามาดไหนอีกเนี่ย ดุเชียว เมื่อกี้ยังตบมุกกับชั้นอย่างกับมาจากคณะเชิญยิ้มเหมือนกัน พอตกดึก ตลกตกงานซะงั้น

“ไปค่ะไป ชั้นแล้วนะหญิง ไว้เจอกัน” ชั้นบอกกับพี่บ่าว ก่อนจะหันไปลานังหญิง ที่ยืนเบียดๆกับพี่เอ็ม อย่างกับจะสิงร่างกันแล้ว 







สายลมอ่อนๆในยามดึกของคืนนี้ช่างหนาวบาดขั้วหัวใจชั้นจริงๆในตายเถอะแจ็ก โรสหนาวปานอยู่ในทะเลน้ำแข็ง อยากเอามือโอบกอดพี่บ่าวเพื่อคลายความเหน็บหนาวแทบตาย แต่ก็ทำได้แค่มองแผ่นหลังที่กว้างและสง่านั้น รู้ดีว่าที่พี่แกเล่นด้วยก็เพื่อให้ทุกคนครึกครื้น เค้าไม่ได้จริงจัง หรือสนใจเราจริงจังอย่างคำยุของใครต่อใคร



ชั้นก็เลยต้องเจียมตัว ว่าแค่อยู่ในฐานะ ดาราตลกแค่นั้น ใครกันละจะมารักดาราตลกอย่างชั้น ก็ชั้นมันไม่ใช่นางเอกนี่ .. แค่มีบทบาทในเรื่อง ได้สร้างสีสันก็ดีแค่ไหนแล้ว




“หนาวเนอะ” อยู่ๆพี่บ่าวก็พูดขึ้น

“ช้างน้อยหนาวมั๊ย” พี่แกหันมาถามชั้น ชั้นได้แต่พยักหน้าเชิงรับรู้ว่าหนาวเหมือนกับที่พี่แกรู้สึกเหมือนกัน

“ไปทางเดิมใช่มั๊ย” พี่กถามอีกครั้ง

“ใช่ครับ ทางเดียวที่เคยไปส่งวันก่อนนั่นแหละ” พี่แกเคยไปส่งชั้นมาครั้งนึงแล้ว ครั้งนั้นก็ที่พานังชะนีจอยไปส่งหอ ก่อนจะพาชั้นไปส่งอีกที

“ครับเหรอ ?” พี่แกทักท้วงกับคำขานรับของผม

“อ๋อ ค่ะ” อันที่จริง ก็ไม่อยากจะพูด คะ ขา ให้ใครต่อใครมองว่าแรดแบบนั้นแบบนี้ แต่ก็บอกไง เวลาชั้นอยู่กับเพื่อน เสียงหัวเราะของเพื่อน สำคัญกับชั้นที่สุด ใครจะมองยังไงก็ช่างหัวเค้า ชั้นไม่แคร์อยู่แล้ว

“ตกลงจะคะ หรือจะครับ” พี่บ่าวยังไม่หยุดสงสัย

“แล้วพี่ต้องการให้ช้างน้อยพูดแบบไหนละ” ชั้นเลยถามไปบ้าง

“ลองพูดครับ ทำตัวแบบผู้ชายสักวันได้มั๊ย” พี่แกพูดพร้อมกับเลี้ยวรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้านชั้น

“สักวัน ?” ชั้นงงกับคำว่าสักวันนั้น

“พรุ่งนี้พี่จะมารับไปดูหนัง แต่ช้างน้อยต้องเป็นผู้ชายนะ ตอนเที่ยงก็แล้วกัน พีไปละ” พี่แกบอกชั้นแค่นั้น พร้อมกับควันรถและเสียงแว๊นก็หายไป ทิ้งให้ชั้นยืนงงกับเรื่องที่ได้ยิน








“กรี๊ดดดดดด” ชั้นกรี๊ดในใจเสียงดังกว่า 135 เดซิเบล ถ้ากรี๊ดออกเสียง ป่านนี้คนทั้งหมู่บ้านคงตื่นกันหมด  นี่พี่แกชวนชั้นไปเดทหรือเนี่ย ไม่น้า .. ชั้นเขินนะเนี่ย




ตายแล้ว ต้องพอกหน้าก่อนสิ ไม่นะ เพิ่งกินเหล้ามา หน้าโทรมแน่ๆ แล้วชุดละ จะใส่ชุดอะไรไป โอ๊ยยย แม่จะซักชุดโปรดให้หรือยังนะ

โอ๊ยย ตื่นเต้น คือนนี้ชั้นจะได้นอนมั๊ยเนี่ย !!!








หลายคนคงคิดว่าชั้นโอเว่อร์แอคติ้ง แต่ก็จริงคะ ก็ชั้นไม่ได้เดทมานานมากๆแล้วนะสิ ไม่ค่อยมีใครเข้ามาจีบชั้นหรอก ถ้าเป็นชายจริงก็จะเช้ามาหานังหญิง ถ้าเป็นชายเทียมก็จะหลงเสน่ห์นังน้ำมนต์ ชั้นเลยไม่ได้ชายไหนมาสนใจ บางทียังมีชะนีเล็กชะนีน้อยมาตามขอถ่ายรูปขอเบอร์ จนชั้นต้องแรดกลบเกลื่อนให้รู้ไปเลยว่า “กูเป็นตุ๊ด” อย่ามาจีบกูนะยะ





ว่าแล้วกว่าที่ชั้นจะพอกหน้า จะขัดผิว จะจัดชุดเสร็จสรรพ ราตรีนี้ก็ใกล้จะหมดแล้วซะงั้น ชั้นหลับไปด้วยความเพลียตั้งแต่ตอนไหนไม่ยักรู้หรอก รู้แต่แผ่นมาร์คหน้าที่พอกไว้ ยังไม่ได้เอาออกเลย ตื่นมาก็กรี๊ด กร๊าดอยู่พักใหญ่ กลัวสิวอุดตันขึ้นสิ  กว่าจะหน้าใสแบบไม่พึ่งวุฒิศักดิ์เนี่ย ชั้นหมดไปหลายหมื่นแล้วนะ ใครบอกมีของดีมีสูตรเด็ด ชั้นลองมาหมด ถ้าใครมาถามเคล็ดหน้าใสจากชั้น ชั้นก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าตัวไหนดีสุด เพราะใช้มาเยอะมากกกกก





ขณะที่ชั้นอยู่ในสภาพผ้าขนหนูพันคาดอก บนหัวใส่หมวกอาบน้ำ พาดผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเอาไว้ที่คอ มือก็กำลังบีบครีมสำทารองพื้น คำพูดของพี่บ่าวเมื่อคืนก็ดังขึ้น




“พรุ่งนี้พี่จะมารับไปดูหนัง แต่ช้างน้อยต้องเป็นผู้ชายนะ”





กรี๊ดดดดดดดดด  ต้องเป็นผู้ชายนะ !!!!! นี่มันอะไรของพี่บ่าวเนี่ย ทำอย่างไรละคะทีนี้ เปิดตู้เสื้อผ้ารื้อตู้ใหญ่ หาชุดที่แมนที่สุดในสามโลกมาใส่ แล้วมันจะมีไหมเนี่ย บริจาคเด็กข้างบ้านไปหมดแล้วห ม่าม้าอ่ะ รู้ว่าหนูไม่อบก็เอาไปให้เขาหมด ตอนนั้นชั้นก็ดีใจ แต่มาตอนนี้หนูชักโกรธหม่าม้าแล้วนะ







ในที่สุดชั้นก็แปรงโฉมตัวเองเสร็จจนได้ ทันเวลาที่เสียงมอเตอร์ไซค์ของพี่บ่าวมาเทียบท่าจอดหน้าบ้านพอดิบพอดี ชั้นรีบคว้าเป้ที่เพิ่งรื้อมาจากลังเก็บของ อาจจะดูเชยไปหน่อย แต่แมนมากกกกกก






“ตรงเวลาจังเลย พี่บ่าว” ชั้นพูดพร้อมกับเปิดประตู คว้าผ้าใบคู่โปรดใส่เท้าอย่างไว หันไปมองอีกทีก็เห็นพี่บ่าวมองชั้นตาค้างแล้ว นี่ถ้าไม่คิดว่าตัวเองเป็นแค่ตัวประกอบของเรื่องนะ ชั้นคงคิดว่าชั้นเป็นนางเอกไปละ ฉากที่พระเอกมองชั้นตอนนุ่ชุดราตรี เดินลงจากบันไดบ้าน




ว้ายๆๆๆ วนิดาชัดๆ  .. เขินเลยนะเนี่ย !!!




“แต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักดีนี่” พี่บ่าวพูดมาพร้อมกับอมยิ้มเล็กน้อย แต่เล่นเอาใจชั้นสั่นไปทั้งตัว ใจสั่นนะคะ แต่รู้สึกได้ทั้งตัว




ชั้นหันไปมองกระจกของบานประตูบ้าน ที่พอสะท้อนให้เห็นตัวชั้นในวันนี้อีกครั้ง ภาพข้างหน้าคือเด็กชายตัวเล็กๆ กับผมที่ไม่ได้เซ็ทอะไร แค่เป่าให้แห้ง เสื้อยืดที่พอดีตัว ยี้ห้อ YATTA ที่ดาราชอบใส่กัน ที่เพื่อนที่รู้จักซื้อให้ตอนวันเกิด และก็ไม่ได้ใส่มันสักที กางเกงยีนเดฟที่รัดขาเส้นเลือดแทบปริ กับผ้าใบสีฟ้าคู่โปรด และเป้สะพายข้าง ..




แค่นี้ .. พี่บ่าวก็ตะลึงชั้นแล้วเหรอเนี่ย หลงใส่บิ๊กอาย พอกหน้าซะนาน .. หึหึ



“ไปกันยัง” พี่แกเรียกให้ชั้นรู้สึกตัวอีกครั้ง

“อ่า .. ครับ” ผมตอบพี่แกไป ก่อนที่พี่บ่าวจะส่งหมวกกันน็อคมาให้ชั้น ชั้ยสวมมันเข้าศีรษะ รู้สึกดีที่วันนี้ไม่เซ็ทผมมา มางั้นคงเสียทรงไปกับหมวกใบนี้ แต่มันก็ใส่ที่ล็อกใต้คางยากเย็นจริงๆ


“มาพี่ช่วย” พี่บ่าวพูดพร้อมกับเอามือของแกมาจับสาย แล้วก็ใส่สายรัดคางหั้น สายตาพี่แกวันี้ ทำไมมันดูแตกต่างจากทุกๆวันนะ พี่บ่าวหนุ่มพูดทองแดง ที่คอยแต่พูดอะไรกวนประสาท ทำตัวกวนตีนเพื่อนในกลุ่ม สายตาของแกวันนี้ช่างดูอบอุ่น ชวนมองมาก ชั้นตื่นเต้นฉี่แทบเล็ด กับสายตานั้น  อุ๊ยย !!!






แล้วพี่บ่าวก็พาชั้นมาที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัด พี่แกลากชั้นเดินอย่างไว ชั้นไม่ทันได้สนใจเลยว่าใครมองมา หรือใครมาห้างวันนี้บ้าง รู้เพียงแต่พี่บ่าวแกมุ่งหน้าไปชั้นดูหนังในทันที





“จองตั๋วก่อน” พี่แกหันมาบอกแค่นั้น

“ครับ ..” ผมตอบไป

แล้วพี่แกก็เข้าช่องซื้อตั๋ว โดนไม่ได้ถามชั้นสักคำว่าจะดูเรื่องอะไร รอบไหน แต่ก็ปล่อยไปเถอะ แกคงเลี้ยงชั้น ชั้นยังไงก็ได้ แค่สงสัยว่าพวกเด็กช่างนี่ ไม่มีความโรแมนติกอะไรเลยหรือไง




“อ่ะ ตั๋วของช้างน้อย” พี่แกส่งตั๋วมาให้ชั้น ชั้นก็รับไป

“140 บาท” พี่แกบอกต่อ ชั้นหันควับไปมองอย่างงงๆ

“ไม่ได้เลี้ยง แค่ชวนมาดู” พี่แกยืนยันว่าจะเอาเงินชั้น  กรี๊ดดดดด แล้วทำไมไม่บอกแต่แรกคะ จะได้เลือกเรื่องกับเค้าบ้าง ชั้นควักเงินให้พี่แกไปอย่างลวกๆ วางไปบนฝ่ามือของพี่แก





“ไป กินข้าวกัน” พี่แกพูด แล้วก็เดินนำไปอีกแล้ว

“เดี๋ยวพี่บ่าว” ชั้นเลยต้องห้ามพี่แกก่อน

“มีอะไรเหรอ” พี่แกหยุดแล้วหันมาถาม

“จะไปกินอะไร ถามช้างน้อยด้วยสิ” ชั้นบอกแกไป แกทำหน้าคิดเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มๆมาให้ผม

“แล้วน้องช้างน้อยอยากกินอะไรละ”

“กินพิซซ่า” ชั้นบอกไป

“หือ ไม่เอาอ่ะ ไม่เห้นจะอร่อย เลี่ยนก็เลี่ยน” พี่บ่าวให้เหตุผลมา

“เคเอฟซี ดีมะ” ชั้นให้อีกอย่าง

“โห กินไก่ทอดหาดใหญ่ ยังอร่อยกว่าอีก”  เอ่อ .. พี่แกเปรียบเทียบซะ

“เอ็มเค เอาป่ะ”

“กินหมูกระทะโก๊ะตี๋ก็ได้มั้ง”

“แล้วพี่อยากกินอะไรละ”  ชั้นเริ่มจะไม่ไหวกับสิ่งที่พี่แกแทนเข้ามาแล้วนะ

“ข้าวแกงแล้วกัน พี่อยากกินอะไรเผ็ดๆ” พี่แกพูดเสร็จก็เดินนำชั้นไป 







กรี๊ดดดดดดดดดดด นี่เหรอการเดทของชั้นกับพี่แกในวันนี้ ..





“น้องช้างน้อยไม่กินอะไรเหรอ” พี่แกพาชั้นมากินที่ฟู๊ดคอร์ทของห้าง และพี่แกก็ไปซื้อหาอาหารของแกมาจนได้

“ช้างน้อยยังไม่ค่อยหิว เดี๋ยวช้างน้อยเดินไปซื้อขนมกินก่อนนะ” นบอกพี่แกก่อนจะเดินมาซื้อเบเกอรรี่ร้านดังของเมืองไปนั่งกินกับพี่แก





ขณะนั่งกินข้าวนั้น ชั้นรู้สึกได้ถึงความเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า  นี่หน้าจะมันเท่ากระทะทอดกล้วยแขกยังเนี่ย รู้สึกเสียความมั่นใจ เอามือลูบริมฝีปาก ก็รู้สึกได้ถึงริมฝีปากที่แตกแห้งระแหงไปหมด


โอ๊ยยย หมดกัน ปากอมชมพูของชั้น ไมได้รับวิตามินตามที่ควรได้ หน้าชั้นจะเป็นสิวไหมเนี่ย หน้ามันซะอย่างนี้





“เวลาแต่งตัวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ ไม่เห็นต้องแต่งอะไรให้มากเลย” พี่บ่าวบอกชั้น

“แต่ ..” อยากจะถียงใจแทบขาดว่าแบบนี่อ่ะ มันไม่ใช่ชั้น แต่ก็นะ อย่าดีกว่า

“อ่าครับ อิ่มหรือยัง ไปดูหนังกัน” ชั้นบอกพี่บ่าว แกยิ้มให้ชั้นเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินออกจากศูนย์อาหารไปพร้อมๆกัน








“เอ๊ย ไอ้บ่าว” ยังไม่พ้นจากศูนย์อาหารก็มีเสียงเรียกพี่บ่าวดังมาจากด้านหลัง ชั้นหันควับไปมองด้วยความสงสัย 

“อ้าว ไอ้นนท์ ว่าไงวะ กลับมั้งแต่เมื่อไหร่” พี่บ่าวหันไปสนทนากับชายหนุ่มที่เดินมา ชั้นแอบกรี๊ดในใจดังกว่าเดิม เพื่อนพี่บ่าวคนนี้หล่อมากกกก หล่อจนชั้นอยากลากกลับบ้าน

“เพิ่งถึงเมื่อเช้านี่แหละ มึงละเป็นไงบ้าง”

“เออ กูสบายดี ไม่เจอนาน หล่อขึ้นเยอะเลยนะมึง เป็นเด็กเทพก็งี้แหละนะ”

“เอ๊ย ชมเกินไปแล้ว แล้วนี่มึงมากับใคร” พี่เค้าพูดแล้วหันมามองชั้น ทั้งที่ชั้นก็ยังจ้องหน้าพี่เค้าอยู่ อุ๊ยตาย หลบไม่ทัน

“อ๋อ เพื่อน ชื่อช้างน้อย” พี่บ่าวหันมามองชั้น ก่อนที่จะหันไปพูดกับพี่คนนั้น

“เอ๊ย ชื่อน่ารักดีวะ ดีครับช้างน้อย ผมนนท์นะครับ” พี่แกชื่อนนท์ พี่แกบอกชั้น ได้ยินกันทั่วมั๊ยยะ

“ดีครับ” เก็กเสียงหล่อที่สุดในสามโลก ตอบแกไป

“เพื่อนมึงน่ารักดีนี่ ไม่น่าเป็นเด็กช่างเหมือนมึงนะ” พี่นนท์ชมชั้นอีกแล้ว อ๊ายยย ชั้นเขินที่สุดในสามโลก

“เออ มันเรียนวิทยาลัยศิลป์ มันมีเมียแล้ว” อ๊ากกกก พี่บ่าวพูดอะไรออกไป ทำไมพูดทำร้ายช้างน้อยแบบนี้ มีเมียเนี่ยนะ

“หือ อะไรนะ นึกว่ายังโสด เสียดายจัง” ม่ายยยยยยยยยย ช้างน้อยอยากตาย ใครก็ได้ลากช้างน้อยไปเผาหน่อย ทำไมพี่บ่าวถึงทำกับช้างน้อยแบบนี้

“เสียดงเสียดายอะไร แฟนมึงเยอะแยะ” พี่บ่าวหันไปคุยกับพี่นนท์ต่อ โดยทิ้งให้ชั้นยืนก้มหน้ามองเล็บตีบตันตัวเองอย่างอนาถใจ

“เยอะแยะอะไร ก็เลิกหมดแล้ว” นั่นไง พี่เค้าอยากจีบชั้นแน่ๆ

“เออ ค่อยคุยกันมึง เดี๋ยวกูไปธุระก่อน” พี่บ่าว จะรีบไปไหนนนนนนน ยังอีกนานกว่าหนังจะเข้า

“เออ เดี๋ยวค่อยโทรชวนไปกินเหล้า” พี่นนท์พูดพร้อมกับกับโบกมือไป

“ไปก่อนนะช้างน้อย” กรี๊ดดดด ยังไม่ลืมหันมาลาชั้น

“ครับ ไว้ค่อยเจอกัน” อ๊ายยย ชั้นอยากบอกว่า ขอเบอร์ ขอพิน ขอวอทแอพได้มั๊ย อยากพูดมากกว่านี้  แต่ติดกับสายตาตรงหน้านั้น






“ชอบอะดิ เพื่อนพี่” หันมามองแบบรู้

“ทำไมพี่บ่าวพูดไปแบบนั้นละ ช้างน้อยเสียหายหมดนะ” ชอบยังไงก็ต้องแอ๊บไว้ แอ๊บไว้ช้างน้อย พุทโธ ธัมโม สังโฆ

“ก็ทำไมละ บอกไปว่าโสด มันก็จีบเราดิ มันอ่ะเสือไบ ขาฟันเลยนะ อย่างช้างน้อยอ่ะ หลงมันแน่ โดนมันฟันแล้วทิ้งอยู่แล้ว พี่ไม่อยากให้ไปยุ่งกับมันนัก”

พี่แกตอบมาด้วยหน้าตาจริงจัง จนอิชั้นน้ำตาจะไหล นี่พี่แกเป็นห่วงชั้นเหรอเนี่ย 

“หน้ามันหมดแล้ว ไปห้องน้ำก่อนมั๊ย” พี่บ่าวทักชั้น ยอมรับว่ารู้สึกเสียเซลฟ์ ถ้ามีใครมาทักชั้นแบบนี้ แต่วันนี้ตั้งใจจะแมนแล้วก็แมนให้ทั้งวัน หน้ามงหน้ามันไม่สนใจ เพราะชั้นมั่นใจว่าคนไทยเกินหนึ่งล้านคนก็เหมือนชั้น

“ไม่เป็นไรครับ ไปดูหนังกันเถอะ” ชั้นบอกพี่แก พี่แกยิ้มให้ชั้นเล็กน้อย ก่อนจะเดินใกล้ชั้น แล้วเอามือมาเกาะบ่าพาชั้นเดิน





“ตึกตึก ตึกตึก” ชั้นสัมผัสได้ถึงใจที่สั่นของชั้นแทบไม่เป็นจังหวะ นี่มันอะไรกันเนี่ย แค่พี่แกเดินมาเกาะบ่าใจชั้นก็สนั่นหวั่นไหวหมดแล้ว





แต่ใจต้งอมาสั่นเป็นสองเท่า เมื่อชั้นเดินมาเจอกับสิ่งนี้

“พี่บ่าวววว !!!” ชั้นเรียกชื่อพี่แกออกมา

“มีอะไรช้างน้อย” พี่แกถามมาด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้ชั้น








“เครื่องสำอางลดราคา !!!” 











อึ้ง อึ้ง พี่บ่าวอึ้งจนพูดอะไรไม่ถูก ก่อนจะทำหน้าบึ้งไม่พอใจใส่ชั้นมา ชั้นเลยต้องหลบตาต่ำ ลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องแอ๊บแมน แต่ก็นะ เครื่องสำอางยี่ห้อโปรดของชั้นมันลดราคานี่ หึหึ ดูสิชะนีสี่ห้าตัวกำลังตบตีแย่งกันอย่างเมามัน ถ้าชั้นพลาดงานนี้ คงได้ซื้อราคาเต็ม เงินหมดกันพอดี  ม่ายยยยยย





“จะดูมั๊ยหนังอ่า” พี่แกพูดพร้อมกับมือที่กระชับบ่าชั้นแน่นกว่าเดิม พร้อมกับออกแรงลากไป สายตาชั้นยังคงปรายตามองที่ร้านเครื่องสำอางนั้นเล็กน้อย จนลับสายตาชั้น





ถือว่าหนังที่พี่บ่าวเลือกดูจะมีรสนิยม เหมาะกับชั้นพอสมควร เพราะพี่แกเลือกหนังฮอลีวู้ดทุ่มทุนสร้างดู เพราะชั้นก็ชอบหนังแนวนนี้อยู่แล้ว พระเอกแสนหล่อ นางเอกแสนเปรี้ยว ยิงกันตู้มต้าม  แอฟเฟ็กอลังการตระกาตาดาวล้านดวง มันเป็นอะไรที่ช้างน้อยไลท์มากๆ






“ไง ชอบมั๊ย” พี่บ่าวถาม ระหว่างที่เราสองคนออกมาจากโรงหนังแล้ว

“ชอบครับ มันมากเลย” ชั้นตอบไปยิ้มๆ และจริงใจ ไม่ได้เสแสร้ง

“ดีครับ ช้างน้อยชอบพี่ก็ดีใจ” พี่แกพูดพร้อมกับเดินมาเตะมือที่บ่าชั้นพาเดินอีกครั้ง ครั้งนี้ผมรู้สึกชินมากขึ้น และก็พอจะรู้เหตุผลที่แกให้ชั้นแต่งตัวแมนๆแบบนี้แล้วละ เพราะพี่แกคงไม่อยากให้ตกเป็นเป้าสายตาใคร ไปไหนมาไหนแบบเพื่อนๆกัน ซึ่งชั้นก็เข้าใจ เพราะถ้าเดินกับคนแรดๆอย่างชั้นสองต่อสอง ก็ต้องตกเป็นขี้ปากขี้ตาใครๆเค้า




แต่วันนี้ชันก็อึดอัดเล็กน้อยเหมือนกันนะ ชุดนะไม่เท่าไหร่ เพราะปกติชั้นก็แต่งแบบนี้ แต่แค่เยอะกว่านี้นิดหน่อย แต่หน้าที่มันเยิ้ม ปากที่ซีดแตกนี่สิ มันทำให้ความมั่นใจในตัวชั้นลดลง 56.39 เปอร์เซ็นต์





“รอพี่ตรงนี้แป๊บนะ เดี๋ยวพี่มา” เหมือนพี่แกมีอะไรต้องไปทำ ชั้นเลยยืนรอพี่แกอย่างที่พี่แกบอก






จะว่าไปมาเดทกับพี่บ่าววันนี้ เอ๊ะ เรียกว่าเดทคงไม่ได้สิ เอาว่ามาดูหนังกับพี่แกวันนี้ ก็ไม่ได้เลวร้าย  ถึงแม้ว่าพี่แกไม่ได้หล่อเหลา เดินมาปุ๊บ สาวกรี๊ดเหมือนหนูวิ่งตัดหน้า แต่พี่แกก็มีเสน่ห์ในแบบของพี่แก เสน่ห์ของผู้ชายบ้านๆ ที่แสดงได้แค่ความจริงใจ และความเป็นห่วงเป็นใย ชั้นว่าถ้าผู้หญิงคนไหนได้พี่แกเป็นแฟน คงโชคดีไม่น้อยเลย อย่างน้อยพี่แกก็น่าจะดูแลผู้หญิงคนนั้นได้




ภาพของเด็กช่างกวนบาทาเมื่ออยู่ในกลุ่มพี่เขา กับภาพที่ชั้นเห็นวันนี้ดูแตกต่าง แต่ก็ดูน่าสนใจไปอีกแบบ รู้สึกดีใจเล็กน้อยที่อย่างน้อยชั้นก็ได้สัมผัสกับอีกมุมหนึ่งของผู้ชายคนนี้ ถึงพี่เค้าจะไม่ได้คิดอะไรกับชั้น แต่ชั้นก็แอบคิดว่าตัวเองฉลาดที่เลือกชอบผู้ชายคนนี้ เพราะพี่แกมีดีกว่าที่คนอื่นๆคิด




ว้ายย เขินจังเลย คิดอะไรของชั้นเนี่ย






“รอนานมั๊ย”  พี่บ่าวกลับมาละ

“เปล่าคะ  เอ๊ย เปล่าครับ” ชั้นตอบไปยิ้มๆ  แหม มันไม่ชินสักที

“ถ้ามันลำบาก ก็ไม่ต้องฝืนก็ได้ เป็นตัวของตัวเองเถอะ” พี่แกพูดมายิ้มๆกับชั้น ดูเป็นยิ้มของความจริงใจ หาใช่ยิ้มเยาะเย้ย
“แต่ ..”

“พี่ขอโทษ ทีไปบังคับให้เราทำอะไรที่ไม่ถนัด  เอ๊านี่  พี่ซื้อให้” พี่บ่าวพูดพร้อมกับยื่นถุงเครื่องสำอางร้านที่ลดราคามาให้ชั้น

“พี่ชื้อให้ช้างน้อยเหรอ” ชั้นถาม ตาโตด้วยความสงสัย

“ใช่ แต่ไม่รู้จะถูกใจมั๊ยนะ  พี่บอกพนักงานว่า เอาไอ้ตัวที่ทำให้หน้าไม่มัน และก็ไม่วอกมาก เอาแบบปากไม่แดง แต่ก็ไม่แตก  ช้างน้อยใช้ได้หรือเปล่า”  พี่บ่าวยิ้มๆ เอามือเกาหัวแสดงถึงความเขินอาย  ว๊ายยยย เวลาเขินอายพี่แกน่ารักขึ้น 25 เปอร์เซ็นต์นะเนี่ย




“ขอบคุณนะคะ” ชั้นตอบพี่แกไป





ก่อนที่พี่แกจะเอาถุงไปถือให้ และมือกลับมาพาดบ่าชั้นอีกครั้ง  ชั้นไม่รู้หรอก ว่าพี่แกรู้สึกกับชั้นแบบไหน พี่น้อง เพื่อนกัน หรือมากกว่านั้น แต่ชั้นก็ดีใจนะ ที่พี่แกเข้าใจชั้น และไม่รังเกียจที่ชั้นเป็น


คนเราถ้าจะรักจะชอบกัน ก็อย่าพยายามไปเปลี่ยนอีกคนให้มากจนเกินไป จนทำลายความเป็นตัวเค้า แต่ถ้าอีกคนพร้อมจะเปลี่ยนนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง ไม่ผิดนี่ ถ้าจะเปลี่ยนเพื่อคนที่เรารัก 



เส้นทางของใครก็เส้นทางมัน แต่ถ้าจะมาร่วมทางเดินกัน ก็ตองเอาเส้นทางของทั้งสองมาต่อกัน ข้างทางข้างหนึ่งเป็นของตัวเอง ข้างทางอีกข้างหนึ่งก็เป็นของอีกคน ผลัดกันเดินชมข้างทางของกันและกันไปเรื่อยๆ

สักวันหนึ่งมันก็จะเป็น “ทางของเรา” 


ชั้นพล่ามไปอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้ชั้นก็ยังเดินในทางของชั้น พี่บ่าวก็ยังเดินในทางของแก แค่วันนี้ทางเดินของเราสองคนมันมาตัดผ่านกันเฉยๆ ... พรุ่งนี้อาจจะแยกไปตามของตัวเอง หรือว่าจะสร้างถนนตัดใหม่ ก็ไม่มีใครรู้หรอก







ขอบใจนะพี่บ่าว .. สำหรับวันนี้ ..

teae

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะเปงอีกคู่นะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ต่อให้พี่บ่าวและช้างน้อยจะไม่ใช่คู่กัน แต่เราเชื่อนะว่าสองคนนี้จะมีมิตรภาพที่ดีต่อกันตลอดไป เราชอบโมเม้นต์นี้ค่ะ
ขอบคุณมากๆ :กอด1:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
จะมีหวังมั้ยคู่นี้  :call:

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
ช้างน้อยกะพี่บ่าว :-[ :-[

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
อบอุ่นดีนะ

วันนึงคงมีคนมารักช้างน้อย อย่างที่ช้างน้อยเป็น ^_______^

ปล. คิดถึงน้ำมนต์

ออฟไลน์ gookgik

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1966
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +341/-6
รอถนนตัดใหม่ที่มีช้างน้อย-พี่บ่าวร่วมทางกัน   

พี่บ่าวคงคิดว่าได้ว่าเป็นตัวของตัวเองนั่นแหละดีที่สุด อย่าไปฝืนใจใคร  เพราะตัวพี่บ่าวก็คงไม่อยากถูกบังคับ

แต่แอบฮาพี่บ่าว ที่เก็บเงินค่าตั๋ว  มีการบอกช้างน้อยว่า ชวนมาดู   เดทแรกกับข้าวแกง อืมหรูจริงๆ พี่บ่าว  แต่ยังมีมุมน่ารักที่แอบไปซื้อเครื่องสำอางให้ช้างน้อยอ่ะ 


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ changnoy

  • i ❤ ChangnoY
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
    • FB
เครื่องสำอางยี่ห้ออะไรเนี๊ยยยย สรรพคุณดีเวอร์

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
น่ารักนะเนี่ย
ช้างน้อยมีคู่กับเค้าซะที :z2:

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
คู่นี้น่าสนใจไม่แพ้คู่เอกแหละ อิ อิ  พี่บ่าวกับช้างน้อย
หวังว่าคงมีเรื่องราวของคู่นี้อีกนะจ๊ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ถ้าไม่คิดอะไรมาก ก็คบ ๆ กันไป เป็นเพื่อน พี่-น้อง มีความรู้สึกดี ๆ ให้กัน ดูแลกัน

lungkhao

  • บุคคลทั่วไป
จัดมาอีกคู่ !!



ตอนพิเศษ หญิง – พี่เอ็ม


“พี่เอ็ม หญิงรออยู่ที่เดิมนะคะ”  สิ้นเสียงของน้องหญิง ผมวางหูโทรศัพท์แล้วหลับตาลงอีกครั้ง  วันนี้ผมมีนัดไปรับหญิงมาทานข้าวเที่ยงครับ ตั้งแต่ผมเริ่มจีบ และเริ่มคบกัน การทานข้าวเที่ยงของเราสองคนก็ดูเป็นอะไรที่ต้องพบ ต้องเจอกันทุกวันแล้วสิ



ที่หลับตานี่เพราะว่ากำลังนึกถึงช่วงที่จีบๆกันครับ หลายคนคงงง ว่าผมเข้าไปในชีวิตหญิงตั้งแต่เมื่อไหร่ และหญิงละเข้ามาในชีวิตผมตั้งแต่เมื่อไหร่





ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนเลยว่า ผมเป็นคนค่อนข้างขี้อายครับ จึงไม่ค่อยมีแฟนตลอดเวลาอย่างกับคนอื่นเค้า แต่ก็มีคนเข้ามาคุยกับผมเรื่อยๆ แต่ก็นั่นละครับ ในเมื่อมันไม่ใช่ ผมก็ไม่ฝืนใจเท่าไหร่






จนไอ้โป้มันมาจีบน้องน้ำมนต์ และทำให้ผมรู้ว่าหญิงกับน้ำมนต์ไม่ได้เป็นแฟนกัน  ตอนนั้นมันก็ทำให้ผมมองหญิงในมุมมองที่เปลี่ยนไป จะว่าชอบก็ใช่  แต่ก็ยังไม่กล้าจีบหรอกครับ ก็บอกแล้วไงว่าผมเป็นคนขี้อาย





จนกระทั่งวันนั้น





.

.

.







“พี่เอ็มคะ  ..” เสียงน้องหญิงเรียกผม ผมหันไปมองเธอ

“ว่าไงครับน้องหญิง” ถามไปหน้าสงสัย พอๆกับเธอที่ทำหน้าสงสัยเช่นกัน

“พี่พอรู้เรื่องน้ำมนต์ กับพี่ปีโป้หรือเปล่าคะ พอดีหญิงเห็นว่าช่วงนี้น้ำมนต์แปลกๆไป เค้าสองคนทะเลาะกันหรือเปล่า” น้องหญิงถามผมมาด้วยความสงสัย เช่นเดียวกัน ผมก็สงสัยในประเด็นนี้ เพราะพักนี้ไอ้โป้มันดูแปลกๆไป

“พี่คิดว่าต้องมีเรื่องอะไรบ้างแหละ แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องอะไร พี่ถามมัน มันก็ไม่ยอมบอก”  ผมบอกเธอไป ใจก็กลุ้มใจว่าสองคนนี้มีปัญหาอะไรกัน

“ยังไงพี่เอ็มรู้เรื่องอะไร พี่เอ็มบอกหญิงด้วยนะคะ หญิงเป็นห่วงน้ำมนต์ รายนั้นยิ่งเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่ด้วย”  น้องหญิงบอกผม แต่สีหน้าและแววตาก็ยังเต็มไปด้วยควาเมป็นห่วงเป็นใยในตัวน้องน้ำมนต์



“เอ่อ น้องหญิง เดี๋ยวครับ” ผมเรียกไว้ก่อนที่น้องหญิงจะเดินออกไป

“มีอะไรเหรอคะ” น้องหญิงหันมาถามอีกครั้ง

“พี่ขอเบอร์น้องหน่อยสิ  .. เผื่อมีอะไรพี่จะได้โทรบอก” ถึงจะมีเหตุผลมารองรับ แต่ก็ต้องยอมรับครับ ว่าเขินเหมือนกันกับการขอเบอร์สาวแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้




น้องหญิงคงเห็นรอยยิ้มและความเขินของผม เธอก็เลยอมยิ้มตาม และคงรู้ว่าแม้จริงแล้วผมอยากได้เบอร์เธอทำไม





.

.

.

.




หลังจากวันนั้น ผมก็โทรคุยกับหญิงทุกคืน แรกๆก็เรื่องของน้ำมนต์กับปีโป้ แต่หลังชักจะเป็นเรื่องของเรา .. จนสุดท้ายก็มีแต่เรื่องของเราสองคนเท่านั้นที่พูดคุยกัน


“พี่เอ็มโทรมาคุยกับหญิงทุกวันแบบนี้ ไม่เบื่อแย่เหรอ” มีครั้งหนึ่ง เธอเคยถามผมแบบนี้

“ไม่นี่ครับ หรือว่าน้องหญิงเริ่มเบื่อพี่แล้ว” ผมถามกลับบ้าง แอบกลัวคำตอบเล็กน้อย

“ไม่เบื่อหรอกค่ะ แค่ช่วงหลังๆ เหมือนเรื่องคุยมันจะน้อยลง หญิงกลัวพี่เอ็มจะเบื่อๆอ่ะค่ะ” เธอตอบผมมา

“ไม่หรอก สำหรับพี่ คุยมากคุยน้อยไม่สำคัญ แค่ได้คุยกัน พี่ก็ดีใจแล้ว” ผมบอกเธอไป





เราสองคนเงียบกันอยู่ครู่ใหญ่ ไม่ต้องบอกว่าทำไม ก็เขินนั่นแหละครับ ..






เราเปลี่ยนจากคุยโทรศัพท์กันน้อยลง แต่เจอกันบ่อยขึ้น น้องหญิงอนุญาตให้ผมไปรับส่งเธอทุกวัน ซึ่งปกติเธอจะไปจะมากับช้างน้อย ทำให้ผมต้องตื่นเช้าทุกวันมารับมาส่งเธอ ก็ดีเหมือนกันครับ ผมได้เข้าเรียนกับเขาบ้าง






ต้องบอกว่าเมื่อได้รู้จักน้องหญิงจริงๆขึ้นแล้ว เขาน่ารักกว่าที่คิดเลย ปกติหญิงจะเป็นคนพูดน้อย แต่เวลาอยู่กับช้างน้อยและน้ำมนต์ก็พูดเยอะหน่อย แต่พออยู่กับผมนี่ พูดเยอะสุดๆเลย  เธอมีมุมมองของผู้หญิง ที่บางทีก็ผู้หญิงจ๋า แต่บางทีเธอก็มีมุมมองของผู้ชาย สงสัยเพราะเธออยู่กับน้ำมนต์และช้างน้อย เธอเลยเข้าใจความคิดความอ่านของผมดี







“หญิงคิดยังไงกับเรื่องไอ้โป้จีบน้ำมนต์เหรอ” ครั้งหนึ่งผมเคยถามเธอ

“คิดยังไง หมายถึงอะไร ถามให้ชี้เฉพาะหน่อยสิ” เธอมักต้องการคำถามที่ตรงไปตรงมาเสมอ

“ชอบ หรือไม่ชอบ รังเกียจ หรือเฉยๆ” ผมเลยถามแบบให้ตัวเลือกไป

“อืม ก็ชอบนะ พี่ปีโป้ดูน่ารักดี ถ้าไม่มาหลอกน้ำมนต์นะ แต่ก็ไม่รู้สิ ว่าน้ำมนต์จะชอบพี่แกหรือเปล่า เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา ก็ไม่เห็นทีท่าว่ารายนั้นจะมีแฟนเลย ใครมาจีบ น้ำมนต์ก็เชิดใส่ตลอด หลายรายเลยท้อ จนหายไปหมด”

“แล้วถ้าเพื่อนเป็นแฟนกับผู้ชาย เราไม่คิดอะไรบ้างเหรอ”

“แล้วเราจะไปคิดแทนเขาสองคนทำไมละ เขารักกันสองคน ไม่เกี่ยวกับเราซะหน่อย” เธอตอบผมพร้อมกับรอยยิ้ม เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่มองโลกในแง่บวกหรอกครับ เธอแค่มองในมุมมองที่มันควรจะเป็น ยอมรับและปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกของมัน  นี่แหละครับที่ทำให้ผมหลงใหล







แต่ก็ใช่ว่าเวลาแค่ไม่นาน ทำเอาผมหลงผู้หญิงคนนี้หัวปักหัวปำนะครับ มีอะไรอีกหลายๆเรื่องเลยภายในเวลาแค่ไม่นาน ที่ทำให้เธอมีความน่าสนใจ ผมเคยถามเธอว่าทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่มีแฟน เธอบอกว่าเธอรอให้ใครมาจีบน้ำมนต์ก่อน เพราะใครหลายคนเข้าใจว่าเธอเป็นแฟนน้ำมนต์ ถ้าเธอชิงมีแฟนก่อน คนจะหาว่าเธอนอกใจน้ำมนต์ คนจะมองว่าตัวเองไม่ดี และน้ำมนต์ก็จะตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่น




“ถามจริง หญิงชอบน้ำมนต์หรือเปล่า” ผมถามไปทันทีที่ได้ยินเรื่องนี้

“อืมมมม  เคยชอบ” เธอยิ้มตอบมา

“แล้วตอนนี้ทำไมไม่ชอบแล้วละ”

“มีคนอื่นให้ชอบมากกว่า” และต้องบอกว่าเธอยิ้มมาทางผม ด้วยรอยยิ้มที่กว้างกว่าเดิม





ผมถามว่าทำไมเธอถึงชอบน้ำมนต์ เธอก็บอกว่า น้ำมนต์เป็นคนน่ารัก ใครเห็นใครก็ชอบ ทั้งชายทั้งหญิงนั่นแหละ หลงเสน่ห์หนุ่มน้อยหน้าหวานคนนี้ทั้งนั้น

“พอหญิงได้มาเป็นเพื่อนกับน้ำมนต์ หญิงเลยเข้าใจคำว่าเพื่อนได้ดีเลย จนคิดว่าไม่อยากจะเปลี่ยนไปเป็นแฟน เพราะน้ำมนต์เป็นคนที่มีเพื่อนไม่ค่อยเยอะ  เพราะเขาต้องการคนที่เข้าใจเขา และเขาก็ศึกษาเพื่อนแต่ละคนจนรู้จักจริงๆ ไม่ได้คบเอาปริมาณ แต่คบเอาคุณภาพ หญิงเลยคิดว่า เป็นเพื่อนกันนี่แหละ ยั่งยืนดี” เธอบอกผมมาแบบนี้





ผมลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว รอไปรับสาวน้อยที่มาครอบครองหัวใจดวงน้อยๆของผมไปกินข้าว เรากินอาหารธรรมดา ร้านป้าตามสั่ง ขนมจีนหน้าเมือง มีบ้างบางมื้อที่อยากไปกินในห้างแก้เลี่ยน  แต่ก็ไม่บ่อยมากหรอกครับ บางมื้อเท่านั้น



การไปกินกันแต่ละครั้งก็มีผมออกบ้าง เธอออกบ้าง บางมื้อก็แชร์กัน เธอบอกผมว่า ถ้าเป็นแฟนกันเมื่อไหร่เธอจะไม่ออกเลยสักมื้อ แต่ผมเห็นพอตกลงเป็นแฟนกัน เธอก็ยังช่วยผมออกอยู่ดี




นั่นแหนะ อยากรู้ละสิ ผมขอเธอเป็นแฟนอย่างไง ไม่อยากจะเล่าเลย ผมเขินเหมือนกันนะเนี่ย เพราะถึงขนาดเพื่อนๆผม เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าผมขอคบกับน้องหญิงตอนไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร




เอาวะ เล่าก็เล่า






ก็วันนั้นผมกับน้องหญิงก็ไปกินข้าวกันปกติ ยอมรับครับว่าเราสองคนสนิทกันมากขึ้น ด้วยช่วงเวลาที่รวดเร็ว แต่หนูนา กวนมึนโฮยังบอกเลย ว่ารักไม่ต้องการเวลา พี่เอ็มก็เลยเพิ่มว่า มันต้องการความเข้าใจ และผมคิดว่า เราสองคนเข้าใจตรงกัน




“หญิงรู้มั๊ย ว่าเราคุยกันมานานเท่าไหร่แล้ว” ผมถามเธอ

“ก็จะครบเดือนแล้วมั้ง” เธอตอบแบบไม่ได้คิดอะไร

“สามสัปดาห์ หกวัน สิบสามชั่วโมง ยี่สิบห้านาที ใกล้จะยี่สิบหกแล้ว” ผมบอกเธอ

“เอ๊ยย จริงอ่ะ มั่วหรือเปล่า”

“ไม่เชื่อก็ลองนับดูสิ” ผมท้าเธอ

“ไม่เอาละ แล้วมีอะไร ทำไมต้องนับด้วย”

“ไม่มีอะไรหรอก แค่อยากบอกเฉยๆ”

“เหรอคะ ทำตัวน่าสงสัยนะเนี่ย” เธอถามมาเชิงเล่นเชิงจริงจัง แต่ก็ยังยิ้มๆในแบบของเธอ



“หญิง เดี๋ยววันนี้พี่พาไปรู้จักแฟนพี่นะ”  ผมบอกเธอไปใจสั่นระรัว

“แฟนของพี่ ?” เธอถามกลับมาหน้าเศร้า รับรู้ได้เลยว่าเธอคงใจแป้วเล็กน้อย

“ใช่ พี่อยากให้เรารู้จักไว้” ผมใจสู้บอกเธอไปอีกครั้ง

“อ๋อ ค่ะ ได้ค่ะ” เธอบอกผมมา ก้มหน้าก้มตา





แล้วเมื่อผมทานอาหารเที่ยงกับเธอเสร็จ ผมก็จูงมือเธอมาในส่วนของชั้นขายเสื้อผ้าของห้าง เธอไม่พูดไม่จากับผมเลย แม้แต่มือเธอก็ยังไม่อยากให้ผมจูง แต่ผมก็ยังพยายามจับมือเธอไว้ ไม่ยอมปล่อยมือเธอ




“ถึงแล้ว นี่ไงแฟนพี่ รู้จักกันไว้วะ” ผมพาเธอมาในมุมหนึ่งของโซนเสื้อผ้าหญิง แล้วจับบ่าเธอหันเข้าหากระจกบานใหญ่ที่มองเห็นเธอได้เต็มตัว เห็นหญิงแอบปิดตาเล็กน้อย ก่อนจะเปิดตาและพบว่าตัวเองอยู่ในกระจกบานนั้น




นี่แหละครับ  แฟนผม




“เป็นแฟนกับพี่นะหญิง” ผมบอกเธอ เห็นสายตาเธอที่งง เหมือนไม่เข้าใจว่าผมกำลังเล่นอะไร กว่าเธอจะนึกได้เล่นเอาผมใจแป้วไปเลย เธอยิ้มตอบกลับผมมา ในแววตาเธอแอบมีน้ำตาซึมๆเล็กน้อย




“แฟนพี่เอ็มนี่ สวยใช่ย่อยเลยนะ”  เธอพูดประโยคนี้ออกมา รอยยิ้มของเธอแสดงให้เห็นอีกครั้ง เป็นรอยยิ้มที่แสนวิเศษ เพราะมันทำให้ผมยิ้มตามอย่างง่ายดาย

“พี่ตาถึง จะมีแฟนทั้งทีก็ต้องให้ได้แบบนางสาวไทย” ผมแซวเธอไป เธอหัวเราะชอบใจใหญ่ ก่อนจะหมุนซ้ายหมุนขวาหน้ากระจกไปมา





และนั่นแหละครับ ฉากขอเธอเป็นแฟนของผม ผมจำได้จากหนังเกาหลีเรื่องนึงที่เคยดู ที่พระเอกให้รูปถ่ายคนที่รักกับนางเอกไป บอกว่าในนี้มีคนที่พระเอกรักที่สุด พอนางเอกเปิดดูก็เป็นกระจกส่องมาที่หน้านางเอก  ผมประทับใจฉากนั้นมาก






เห็นผมโหดๆ แต่ผมก็มีอารมณ์โรแมนติกกับเขาเป็นเหมือนกันนะ






แล้ววันนี้ผมก็มารับเธอตรงเวลาเหมือนเดิม หลังๆเธอจะนั่งรถสองแถวมารอผมที่หน้าวิทยาลัยเธอ เพราะเธอไม่อยากให้ผมขับรถไปไกล ผมก็ไม่อยากขัด เพราะผมก็ไม่อยากตื่นไว้กว่านี้ วันนี้เธอมาในชุดลำลองธรรมดา กับเดรสสีน้ำตาลรับกับผมของเธอที่ทำกับสีโค้ก ติดกิ๊บอันเล็กบนหัวเล็กน้อย น่ารักใช่เล่นเลยนะเนี่ยแฟนผม







“รอนานมั๊ย” คำถามแรกที่ผมถามเธอเมื่อจอดมอเตอร์ไซค์เทียบฟุตบาตร เธอยิ้มให้ผมเล็กน้อยก่อนจะพูดว่า

“นาน !!” และหน้าบึ้งใส่ ..




จะให้ไม่นานได้ไงละครับ ก็ผมมัวแต่เพ้อระลึกอดีตอยู่ แต่ทำไงได้ละครับ สายไปแล้ว ผิดไปแล้ว เลยได้แต่ยิ้มใสซื่อน่าเอ็นดูให้เธอไป


“ไม่ต้องมายิ้มเลย มื้อนี้เลี้ยงหญิงด้วย” เธอบอกผมแค่นั้นแล้วก็ขึ้นซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มา





ถ้าความรักเปรียบเสมือนเส้นทางของสองคนมารวมกัน  ตอนนี้ผมคงมีเส้นทางลาดยางที่ตัดผ่านขั้วหัวใจของผมแล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่าถนนลาดยางสายนี้จะตัดได้ยาวเท่าไหร่  มันคงขึ้นอยู่กับงบประมาณของหัวใจที่ให้กันมั้ง ถ้าผมยังสู้ งบประมาณยังเยอะ และถ้าเธอพร้อม ทรัพยากรเต็มที่ ถนนสายนี้ก็จะเดินทางไปสู่จุดนิรันดร์ของมัน




เส้นทางข้างหน้าอาจจะมีปัญหาแล้วอุปสรรคอีกมากมาย มีหลุมมีบ่อ มีป่า มีน้ำ หลายต่อหลายอย่างขวางกั้น แต่ผมเชื่อว่าถ้ามีมือใครอีกคนกำไว้อย่างอุ่นๆ และลุยไปพร้อมๆกัน เส้นทางสายนั้นคงจะเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ถึงจะยิ้มบนขวากหนามก็ตาม







“พี่เอ็ม” หญิงเรียกผมมาจากด้านหลัง ขณะที่ผมจอดรถติดไฟแดง ผมหันไปมองเล็กน้อย



“ไฟเขียวแล้วค่ะ  เหม่ออะไรเนี่ย เดี๋ยวเหอะ !!!”









โอย โอยย .. เธอแค่สร้างภาพดุเฉยๆครับ ปกติ .. เธอไม่กล้าหรอก







เดี๋ยวปั๊ดดดดดดดดดดดดด   จูบเลย !!!!





ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
  :z13:
กด+เป็ด
ให้คนขยัน

lungkhao

  • บุคคลทั่วไป
  :z13:
กด+เป็ด
ให้คนขยัน


ไม่ได้ขยันครับ แค่มันตันเรื่องหลัก เลยอยากยัดๆเรื่องรองๆ

Crossley

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
อย่างนี้นี่เองง 555
น่ารักทั้งสองคู่เลยย  :-[

ออฟไลน์ Still_14OC

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2041
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +180/-7
ช้างน้อย+พี่บ่าว ท่าทางจะมีซัมติง แต่คงยังอีกนาน

น้องหญิง+พี่เอ็ม จะบ้าตายไม่ยักรู้ว่า พี่เอ็มมีมุม โรแมนติกเว่อร์ๆ

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ไม่ได้ขยันครับ แค่มันตันเรื่องหลัก เลยอยากยัดๆเรื่องรองๆ

^
^

เขียนเลิฟซีนของโป้กับน้ำมนต์มันยากขนาดนั้นเลยเหรอ ปีโป้ไม่มีน้ำยาทำอะไรน้ำมนต์ล่ะสิ  หุหุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






silent_loner

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักทั้งสองคู่เลย   :-[
คู่ช้างน้อยบ่าวนี้ฮาน่ารัก สงสารช้างน้อยอุตส่าห์พยายามแอ๊บแมน :laugh:
ส่วนคู่หญิงเอ็มนี้หวานได้อีก  :o8:

ออฟไลน์ zaferianight

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อย่าตันนานนะคะคนอ่านคิดถึงน้องน้ำมนต์กะนายปีโป้จะแย่แล้ว :-[

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
คู่นี้น่ารักดีค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าพี่เอ็มจะขี้อาย น้องหญิงน่ารักและรักเพื่อนมากๆ พี่เอ็มห้ามทำน้องหญิงเสียใจเด็ดขาดเข้าใจมั้ยยยย

yayee2

  • บุคคลทั่วไป
หูยยย..เอ็มแอบโรแมนติกนะเนี่ย อิ อิ ขนาดขี้อาย ดูดิขอเป็นแฟนได้น่ารักซะ
(แม้จะแอบๆจำมาจากในหนังก็เหอะ)
หญิงก็น่ารักนะ ดูไม่มากไม่น้อยดี
และ..คนเขียนก็น่ารักแหละ ขยันอัพด้วย

ออฟไลน์ ต่ายน้อย

  • กระต่ายน้อยลอยคอ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 816
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-3
    • http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=27719.0
น่ารักทุกคู่เลย

lungkhao

  • บุคคลทั่วไป
คู่สุดท้ายยยยย !!!



ตอนพิเศษ เดช – โอ๊ต













ถ้าผมย้อนเวลากลับได้ .. วันนั้นผมจะบอกความจริงกับมัน



.


.


.


.



“นายชื่ออะไร” เสียงของเพื่อนร่วมชั้นของผมถามขึ้น ผมเงยหน้ามอง เป็นเพื่อนหน้าหล่อ ที่ทำตัวลัลล้า เดินถามชื่อเพื่อนเกือบทั้งห้อง

“เดช” ผมตอบมันไปสั้นๆ

“เราชื่อปีโป้ นี่เพื่อนเราชื่อโอ๊ต” มันแนะนำตัวเองให้รู้จัก ก่อนจะแนะนำเพื่อนของมันอีกคนหนึ่ง เพื่อนของมันยิ้มให้ผม จนผมเผลอมองรอยยิ้มนั้นอยู่นาน ไม่รู้ว่าอะไรมันสะกดให้ผมหลงในรอยยิ้มนั้น กว่าจะตั้งตัวได้ ก็ปาไปหลายนาที

“มาอยู่กลุ่มเราไหม มาเป็นเพื่อนกัน” คนชื่อปีโป้ชวนผม

“มาเป็นเพื่อนกันเดช เพื่อนเยอะๆสนุกออก” นายที่ชื่อโอ๊ตชวนผม ผมหันไปยิ้มให้เขาก่อนพยักหน้าหงึกๆ เชิญตกลง



และนี่คือเพื่อนกลุ่มแรกของผมในวิทยาลัยเทคนิคแห่งนี้






วันเวลาผ่านไปไวเป็นปีๆ กลุ่มของพวกเราก็มีสมาชิกเพิ่มขึ้น แต่คนที่ผมสนิทกลับไปไม่ใช่สองคนแรกที่ผมรู้จัก กลับเป็นไอ้บ่าว หนุ่มใต้จริงใจ ที่มันรับรู้เรื่องราวของผม ที่ผมยินดีจะเล่าให้มันฟังเกือบทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเดียว





เรื่องที่ผมชอบเพื่อนของผมเอง





ผมรู้สึกว่าผมชอบไอ้โอ๊ตมาตั้งแต่วันแรกๆที่รู้จักมัน ถึงจะมองออกว่ามันชอบไอ้โป้ก็ตามแต่เถอะ แต่ยังไงผมก็ยังชอบมัน และเหมือนมันจะรู้ว่าผมชอบมัน ผมไม่เคยแสดงออกให้คนอื่นรู้หรอก แต่ผมจะแสดงออกให้มันรู้เพียงคนเดียว เช่น อาสาไปส่งหอ อาสาไปรับ ซื้อข้าวไปให้ เช่าหนังไปดุเป็นเพื่อนมัน ไปรับมันที่คิวรถ ไปส่ง เรื่องพวกนี้ไม่มีเพื่อนในกลุ่มคนไหนรู้ มีแค่ผมกับมันเท่านั้น  .. ที่รับรู้ความรู้สึกนี้









“อ่ะมึง กูซื้อก๋วยเตี๋ยวมาฝาก” ผมบอกพร้อมกับยื่นถุงก๋วยเตี๋ยวให้มัน มันรับแล้วเอาไปวางที่โต๊ะ แล้วก็นั่งเล่นคอมของมันต่อไป

“งานชิ้นนี้มึงส่งแล้วนี่” ผมทักเมื่อเห็นมันทำการบ้านที่มันส่งไปแล้ว

“ของไอ้โป้ กูทำให้มัน เห็นมันไม่ยอมทำเองสักที” มันตอบผมทั้งที่หน้าตาของมันก็ยังจดจ่ออยู่กับงานหน้าคอมนั้น




ผมนั่งลงบนเตียง ไม่มีเรี่ยวแรงจะถอนหายใจ ได้แต่มองแผ่นหลังของมันที่กำลังทำงานให้กับคนที่มันรัก โดยที่มันไม่เคยจะหันมามองคนที่อยู่ข้างหลังมัน ที่รู้สึกไม่ต่างจากที่มันรู้สึกกับไอ้โป้เลย



“ฮัลโหลว่าไงมึง” เสียงมือถือของมันเข้ามาครับ ทายไม่ผิดก็น่าจะเป็นไอ้โป้

“ยังไม่กินเลย  ... เออได้  .. เออ เดี๋ยวกูไปรับที่หอ” พอมันวางสายก็ลุกขึ้นจัดการตัวเอง แต่งตัวและออกไป



สุดท้ายก๋วยเตี๋ยวผมก็เป็นหมัน ทิ้งมันเน่าอยู่บนโต๊ะนั้น และเป็นผมเองซะอีก ที่ต้องเก็บเอาไปทิ้งเอง








และชีวิตของผมกับมันก็ยังคงดำเนินไปเช่นนั้น ใครว่าน้ำมนต์ที่เย็นชา ถ้ามาเจอไอ้โอ๊ต จะรู้ว่ามันเย็นชากว่า เรียกว่าเยือกเย็นคงจะได้ ตั้งแต่มันชอบไอ้โป้ มันก็ไม่เคยชายตามามองคนอื่นอีกเลย มีคนมากมายเข้ามาจีบมัน ไม่มีใครที่มันจะรับพิจารณาสักคน  รวมแม้กระทั่งผม ถึงแม้ไม่เคยบอกมันว่ารู้สึกอย่างไร แต่ที่ทำลงไป มันน่าจะรับรู้บ้าง






จนวันนั้นมาถึง วันที่มันเมา ผมก็เมา มันเศร้าเพราะว่าไอ้โป้ไปคบเด็กมัธยมโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดูจนออกนอกหน้า  ชื่อว่าน้องเดียว ถึงไอ้โป้มันเคยจะมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหน้า แต่มันก็ไม่เคยคบกันใครจริงจังเหมือนคนนี้  มันชวนผมมากินเหล้าที่ห้องมัน มันพยายามทำเป็นหน้าชื่นเวลาอยู่กับไอ้โป้ แต่ต้องมาอกตรมเวลาอยู่กับผม ปากก็พร่ำว่าทำไมไอ้โป้ถึงไม่เลือกมัน





“มึงงงงงง กูไม่ดีหรือไงวะ ทำไมมันไม่สนใจกูบ้าง ทำไมวะมึงงงงง”  ไอ้โอ๊ตพูดกับผมไม่ค่อยเป็นภา ซึ่งตอนนี้มันคงเมาได้ที่แล้ว

“มึงอย่าคิดไรมาก คนไม่รักทำยังไงก็ไม่รัก คนที่มันรัก ทำยังไงมันก็ตัดใจไม่ลงหรอก” ผมบอกมันก่อนยกเหล้าวดเพียวเข้าปาก พูดเองก็เจ็บเองเว๊ย คนเรา

“แต่กูรักมันนะ กูทำให้มันตั้งเยอะแยะมากมาย ทำไมมันไม่สนใจกูบ้างวะ” ผมปล่อยให้มันพูดไป เพราะผมก็คิดตามมัน ผมก็ทำอะไรให้มันเยอะแยะมากมายไม่ต่างจากที่มันทำให้ไอ้โป้หรอก ทางของเราคงเหมือนเส้นขนาด มันไม่เคยอยากเข้ามาเดินทางเดียวกับผม ไม่เคยแม้แต่จะเอียงเส้นทางของมันเองเข้าหาผมเลยสักครั้ง



และเช่นเดียวกัน ทางของไอ้โป้กับมันก็ไม่ต่างอะไรจากผม





“แต่มึงยังมีกูนะไอ้โอ๊ต ยังมีกูที่อยู่ข้างมึงเสมอ” ผมบอกมัน ด้วยแววตาที่จริงจัง เหมือนกับคำพูดที่บอกมัน ไม่ว่ามันจะคิดกับผมยังไง ผมก็ยังยืนอยู่ข้างมัน ไม่ว่ามันต้องการหรือไม่ต้องการ ผมก็ยังจะยืนในมุมหนึ่งของผม มุมมืดๆ ที่ไม่เคยมีแสงส่อง


มันมองสวนผมกลับมาด้วยสายตาที่เชื่อมด้วยความเมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ปากของมันฉ่ำด้วยเหล้าเพียวที่พึงซดเข้าไป ผมยื่นปากของตัวเองเข้าหามันอย่างกับปากนั้นมีมนต์เสน่ห์และแรงดึงดูด เช่นเดียวกันมันก็ไม่ได้หลบหรือป้องอะไรจากตัวผมทั้งสิ้น ผมจูบกันมันอยู่เนิ่นนาน  ก่อนที่เรื่องทุกอย่างจะลบลงบนเตียงแคบๆสามฟุตครึ่ง แต่เต็มไปด้วยร่างเปลือยเปล่าของชายหนุ่มที่กอดกันไวจนถึงเช้า







ไอ้โอ๊ตตื่นด้วยอาการสะลึมสะลือ ก่อนจะรีบปลุกผมให้ตื่นตามมัน หน้าตามันตกใจอย่างกับไฟไหม้ตึก

“นี่มันอะไรกันวะ” มันถามผมมาหน้าตาจริงจัง

“ก็อย่างที่เห็น” ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง

“โธ่เว๊ย มันเกิดอะไรบ้าๆแบบนี้ขึ้นได้ไงวะเนี่ย” มันเริ่มหัวเสีย ลุกออกจากเตียง คว้าเอาบ็อกเซอร์ของมันมาใส่อย่างลวกๆ เดินไปมาในห้องแคบๆของมัน อย่างกับจะคิดทำอะไร





“กูขอโทษ กูเมา” ผมปริปากขอโทษมัน เพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี

“ขอโทษแล้วไง ก็ไม่มีไรดีขึ้น แล้วนี่มึงเป็นแบบนี้ด้วยเหรอ มึงชอบผู้ชายด้วยเหรอ” มันถามผม

“กูได้ทั้งนั้น”

“เออ ก็ดี ว่าแต่มึงไม่ได้คิดอะไรกับกูใช่มั๊ย ?” มันหันมาถามผมด้วยสีหน้าจริงจัง จ้องอย่างกับอย่าให้คำตอบนั้นไม่เหมือนอย่างที่มันหวังไว้นะ




ถึงแม้ที่ผ่านมาผมจะทำดีกับมันมากมาย แต่มันคงไม่รับรู้อะไร เพราะหัวใจของมันมีแต่ไอ้โป้ทั้งใจ ไม่เคยมีพื้นที่ให้ใครเข้าไปเลย มันจึงไม่เคยรับรู้ความดี




“ไงมึง กูถาม อย่าบอกนะว่ามึง ..”

“เออ กูไม่ได้ชอบมึง พอใจยัง” ผมพูดพร้อมกับลุกขึ้น ใส่เสื้อผ้าของตัวเองบ้าง และคิดว่าคงผมคงต้องกลับแล้ว กลับไปพร้อมกับจติใจที่ไม่ได้ดีขึ้นเลย







“ดีเลย งั้นมึงจัดการน้องเดียวให้กูหน่อยสิ”  เสียงพูดที่ดังมาจากด้านหลัง มันเจ็บยิ่งกว่าคำพูดว่าผมไม่ได้คิดอะไรกับมันเมื่อกี้เสียอีก เราสองคนยืนหนังหลังให้กันในความเงียบ ผมรู้ดี ว่าประโยคนั้นของมันมันไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ และมันต้องการให้ผมจัดการน้องเดียว ไปจากชีวิตไอ้โป้ เหมือนอย่างที่มันคิดจริงๆ





.


.


.


.





ก็อย่างที่บอก ถ้าผมย้อนเวลาได้ ผมจะบอกมันตั้งแต่วันนั้น บอกมันว่าผมคิดอะไรกับมัน ถ้าผมกล้าบอกความรู้สึก เรื่องราวต่างๆ คงไม่วุ่นวาย และยากจะเข้าใจเหมือนดังทุกวันนี้








ผมโดนตีหน้าว่าแย่งแฟนเพื่อน เป็นชู้กับเมียคนอื่น  ใช่ครับ ผมทำให้น้องเดียวหลุดมาจากวงโคจรจากไอ้โป้ได้จริง ด้วยแผนของไอ้โอ๊ต ที่หลอกให้น้องเดียวมานอนกับผม แต่จะโทษผมคนเดียวคงไม่ได้ ในเมื่อเด็กมันยั่วผมขนาดนั้น ถึงจะมีไอ้โป้ที่หล่อ รวยอยู่แล้ว แต่มันก็คงอยากลิ้มรสน้องชายผมไม่แพ้กัน จะว่ามันร่าน ก็คงไม่ผิด และผมก็จัดให้น้องเดียวชุดเต็ม ติดใจยิ่งกว่ารสของไอ้โป้อีก




และสิ่งที่มันได้ตอบกลับ คือภาพที่ไอ้โป้ กับไอ้โอ๊ตเข้ามาเห็นพวกเราสองคนนอนเหนื่อยไร้เสื้อผ้า ซึ่งเป็นภาพทีไอ้โอ๊ตได้จัดแจงไว้แล้ว





และหลังจากวันนั้นไม่ใช่แค่ความสัมพันธ์ของไอ้โป้กับน้องเดียวที่เปลี่ยนไป ผมกับไอ้โป้ก็ไม่เหมือนเดิม ใครมันจะกล้าคบกับคนที่ตีท้ายครัวคนอื่น ผมรู้ดีตั้งแต่ก่อนจะทำแล้ว ผมแค่หวังว่าไอ้โอ๊ตมันจะเห็นความดีที่ผมทำบ้าง




แต่เปล่า มันกลับทำตัวเหินห่างกับผม อย่างกับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด มันอ้างว่าไอ้โป้ไม่ให้ยุ่งกับผม ตอนนั้นผมโกรธไอ้โป้มาก ที่มันกล้ามาสั่งเพื่อนๆในกลุ่มแบนผม แต่พอมารู้อีกทีจากไอ้บ่าว มันบอกว่าไอ้โป้ไม่เคยพูด และมันก็ยังอยากเป็นเพื่อนกับผมอยู่ แต่ยังไม่พร้อมก็แค่นั้น





หลังจากนั้นผมก็ประสบปัญหากับการเรียน เพราะมัวแต่ไปสนใจไอ้โอ๊ต ผมไปหามันเมื่อมันเรียกหา เมื่อมันต้องการให้ผมสำเร็จความใคร่ที่กักตุนของมัน ผมไปอย่างเต็มใจ ผมไปอย่างมีความสุข ถึงแม้รู้ว่านั่นแค่ความสัมพันธ์ชั่วคราว ที่มันจะเรียกหาเมื่อมีอารมณ์ทางเพศกับผมเท่านั้น





หลังผมออกจากวิทยาลัยมา ผมก็คิดจะถอยห่างจากเรื่องนี้ หาแฟนคบคนอื่นไปทั่ว เปลี่ยนแฟนบ่อย ยอมรับว่าทำตัวประชด เลิกไปหาไอ้โอ๊ต เวลามันโทรมาก็บอกว่าอยู่กับแฟน คิดว่ามันคงจะมีอารมณ์หึง หวงผมบ้าง แต่ก็นั่นแหละ ผมคงหวังจากมันเกินไป






และในสุด .. ผมก็กลับมามีค่าอีกครั้งในสายตามัน เมื่อไอ้โป้มีน้ำมนต์เข้ามาพัวพัน และไอ้โป้จริงจัซะยิ่งกว่าคนไหนที่ผ่านมา มันทุรนทุรายแทบอกแตกตายเวลาที่สองคนนี้จีบกัน และตอนนั้นมันก็นึกถึงผม





ผมทำได้แค่เข้าไปจีบน้องน้ำมนต์ แต่ก็ไม่ได้เต็มที่อะไรมากนัก  ผมรู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำอย่างตัวเองเป็นหุ่นเชิด ที่จะให้ผมทำอะไรก็ได้ตามใจเขา ผมไม่เข้าใจหัวใจตัวเอง ว่าที่ทำทุกวันนี้ทำไปทำไม เพื่อใคร และผมได้อะไรกลับมา






“กูรู้นะเดช ว่ามึงรักกู” ครั้งหนึ่งมันเคยพูดกับผมแบบนี้เมื่อเสร็จภารกิจรีดน้ำกาม

“มึงรู้” ผมสวนคำพูดมัน

“กูก็รักมึงนะ แต่ความรัก คือการเห็นคนที่ตัวเองรักมีความสุขไม่ใช่เหรอ” มันพูดพร้อมกับมือที่ลูบไล้ไปบนหน้าท้องของผม

“มึงทำยังไงก็ได้ ให้น้ำมนต์กับปีโป้ไม่ลงเอยกัน”





คำว่ารักของมัน พูดมาเพื่อผลประโยชน์ในตัวมันทั้งนั้น ผมรู้ ผมซึ้งดี แต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้ แรงรัก กับแรงเกลียดในตัวผมมีให้มันพอๆกัน และท่าทางจะหนักไปทางด้านรักมากกว่า ถึงจะรู้ว่าหลอกใช้ยังไง ก็ยอมเป็นทาสถวายใจให้มันย่ำยีอย่างไร้ค่า






“เจ็บปวดทน ฉันก็จะทน รักเธอจนไม่มีหัวใจให้ใคร
ก็อย่างที่รู้ รู้ๆเธอมีคู่ใจ ฉันก็ยังไม่วายเปิดใจหลงใหลในเธอ


หลอกทำไม รักฉันทำไม ทั้งที่ใจเธอมีเขาเป็นคนครอง
อย่าบอกว่าเธอรักฉันเพียงเธออยากลอง ได้ดังใจปองกลับมองข้ามไป


เกลียดเธอยิ่งนักที่หลอกฉัน เกลียดนักมาหลอกกัน
เธอทำกับฉันเจ็บช้ำอย่าบอกใคร รักก็สุดรัก ไม่อยากรุนแรงไป
ก็ใจไม่เข้มแข็งพอ ทั้งรักและทั้งเกลียด สุมแน่นในหัวใจ.....สุดทำ”







เสียงเพลงที่เปิดคลอเวลานี้ ช่างเหมาะกับผมจริงๆ น้ำตาที่เคยร่ำไห้จากการรักคนๆหนึ่ง มันไหลออกมาจนหมด จนวันนี้เหือดแห้งและตกใน ไม่มีน้ำตา ใช่ว่าไม่เจ็บ




เจ็บ .. เจ็บจนบรรยายให้ฟังไม่ถูก






แต่ถึงจะเจ็บเท่าไหร่ , ผมก็รักมากเท่ากันอยู่ดี






“ฮัลโหล” ผมรับสายจากมันอีกครั้ง ในเวลาเดิมๆ ของวันเดิมๆ

“มึงทำไรอยู่” ปลายสายก็ถามคำถามเดิมๆ

“เปล่า” และผมก็ตอบแบบเดิมๆ

“มาหากูหน่อยสิ แค่นี้นะ”








และทุกอย่างก็วนเวียนอยู่แบบเดิมๆ .. ผมก็ยังคงเป็นไอ้คนเดิมที่งมงายกับอะไรที่ยังไม่มีทางออก




...



ปีโป้กับน้ำมนต์มาตอนหน้าแล้วนะ ...  :bye2:


ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ตอนแรกน่าสงสารโอ๊ตนะ แต่พออ่านตอนนี้ ไม่ชอบล่ะ เห็นแก่ตัว

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ไอโอ๊ต  ไอเลว

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41
โอ๊ตโคตรเห็นแก่ตัวเลย
ขอ :z6:สักที

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
เดชกับโอ๊ตเป็นคู่ทรหดไปก็แล้วกัน
เดชทำให้โอ๊ตได้ทุกอย่าง แต่ก็หัดแข็งข้อบ้างในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
ยอมซะขนาดนั้น ก็หงอเกินไป

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด