ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปู- ฝน โดย aoikyosuke
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปู- ฝน โดย aoikyosuke  (อ่าน 214142 ครั้ง)

ballza

  • บุคคลทั่วไป
 :o8:   o7
น่ารัก  หวาน แบบเศร้าๆ  อะ  งง กันไม๊
 :serius2: :serius2:

niph

  • บุคคลทั่วไป
เหมือนอะไร ๆ จะดีขึ้นนะ แต่มันก็ยังไม่ชัดเจนอยู่ดี

อาจารย์..สีฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
สุขแบบเหงาๆๆ...เศร้าแบบยิ้มๆๆ

แต่ก็ขอให้ทั้งคู่สมหวังในรักนะ

ballza

  • บุคคลทั่วไป
 o7
อ่านรอบแรก  ซึ้งๆๆๆ
 :o12: :o12:
อ่านรอบที่สอง
" แต่กลับไม่สามารถหยุดเวลาเอาไว้ได้
ได้แต่ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความแค่ความทรงจำที่สวยงาม......และพัดผ่านจากไป..เป็นแค่ช่วงเวลาที่สวยงามช่วงหนึ่งในชีวิตเท่านั้น "
เศร้า โคตร   :m15:


My name M

  • บุคคลทั่วไป
 :sad2: :sad2: :sad2:

"ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาอีกสักคำ
มีเพียงความสับสนและไม่แน่ใจกับสิ่งที่ทำอยู่
ไม่รู้ว่าจะต้องทนทุกข์กับความรู้สึกนี้ไปอีกนานแค่ไหน
รู้เพียงแค่ว่า วินาที อบอุ่นจนไม่อยากแยกจากกัน

แต่กลับไม่สามารถหยุดเวลาเอาไว้ได้
ได้แต่ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความแค่ความทรงจำที่สวยงาม
......และพัดผ่านจากไป..เป็นแค่ช่วงเวลาที่สวยงามช่วงหนึ่งในชีวิตเท่านั้น "

................บอกได้คำเดียวว่าเศร้าจริง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ตอนสุดท้าย คงไม่ต้องพูดว่ามันจะเศร้าเพียงใด   :sad2:

KriT_SuN

  • บุคคลทั่วไป
อยากต่อว่าฟ้าดินที่ให้เราพบเจอ แต่ไม่ยอมจับเราคู่กัน
ฟ้าดินจงใจแกล้งเรา เธอว่าหรือเปล่า
ทำไมนะต้องห้ามรักกัน ความเหมาะสมหนะหรือที่ยืนยาว
ถึงในใจมันค้านสุดท้ายต้องยอมจำนน

ก่อนถนนของเราแยกกัน ก่อนความฝันของเราสิ้นลง
แค่อยากพบกับเธอสักหน สบตาอีกครั้ง

แค่ให้ฉันได้บอกเธอสักคำ พูดในวันที่จำต้องจาก
อยากให้รู้ว่ารักเธอมาก และจะรัก รักตลอดไป
เกิดชาตินี้แค่ได้พบเจอ เกิดชาติหน้าค่อยฝันกันใหม่
วันนี้ใจสลาย ยอมจำนนให้ฟ้าดินแยกเราไกลกัน

พอใจแล้วใช่ไหมฟ้าดิน ที่ได้เห็นว่าคนต้อยต่ำ
ต้องเจ็บต้องช้ำต้องน้ำตาตก
โลกใบนี้มีคนมากมาย ทำไมต้องเป็นเราสองคน
ยอมจำนนให้แล้วหวังว่าคงพอใจ

คนรักกันใยฟ้าดินถึงไม่เข้าใจ

 :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
 :m15:
มายเศร้าจิตตกอย่างงี้อ่ะคับ

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1

ballza

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
มาต่อแล้วน๊า  อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าทุกๆช่วงเวลามีความสำคัญมากขึ้นจริงๆ  :m15:

ความเดิมตอนที่แล้ว

"ผมรักคุณปูนะครับ" เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยบอก ความอ่อนโยนถูกส่งผ่านจากคำพูดสู่ฝ่ามือและถ่ายทอดไปถึงหัวใจของคนฟัง
อากาศภายนอกหนาวเย็น....แต่ภายในกลับอบอุ่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

"รู้แล้ว"

เสียงที่ตอบกลับมาทำให้น้ำฝนเหม่อมองออกไปนอกรถ
ข้อความที่พูดออกไป ส่งผ่านไปถึงสมองส่วนรับรู้ของร่างที่นั่งอยู่เคียงข้าง
แค่การตอบรับเท่านั้น.......ไม่มีอะไรมากกว่าการรับรู้

ต่างฝ่ายต่างสับสน และจมอยู่ในความคิดของตัวเอง
ฝ่ามือที่คว่ำวางไว้บนหัวเข่าค่อยหงายขึ้นและประสานมือกับคนที่กุมเอาไว้

ดวงตาสองคู่ที่หันกลับมาประสานกันนิ่งนาน... ก่อนจะหันกลับไปมองสายฝนที่หยดลงที่หน้าต่างอีกครั้ง

ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาอีกสักคำ
มีเพียงความสับสนและไม่แน่ใจกับสิ่งที่ทำอยู่
ไม่รู้ว่าจะต้องทนทุกข์กับความรู้สึกนี้ไปอีกนานแค่ไหน
รู้เพียงแค่ว่า วินาที อบอุ่นจนไม่อยากแยกจากกัน

แต่กลับไม่สามารถหยุดเวลาเอาไว้ได้
ได้แต่ปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นความแค่ความทรงจำที่สวยงาม......และพัดผ่านจากไป..เป็นแค่ช่วงเวลาที่สวยงามช่วงหนึ่งในชีวิตเท่านั้น


ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปู-ฝน ตอน แค่ความทรงจำสีจาง

เสียงกดออดที่หน้าห้อง ทำให้น้ำฝนต้องลุกพรวดพราดออกไปเปิดประตูรับ
เพราะเมื่อเหลือบมองที่นาฬิกาแล้วก็เป็นเวลากลับของคนที่ไปทำงานในช่วงกลางคืนที่ถึงเวลาที่จะกลับมาถึงที่พัก เหมือนเช่นทุกวัน

ร่างที่ก้าวเดินเข้ามา สะบัดร่มที่มีหยดน้ำเกาะอยู่ และวางไว้ตรงทางเดิน ก่อนจะถอดรองเท้าผ้าใบออก
และก้าวเดินเข้ามาในห้องพัก โดยมีใครอีกคนเดินตาม

"กลับมาแล้วเหรอครับ...น้องกุ้งหลับแล้วล่ะครับ...ทำการบ้านเสร็จก็หลับเลย...ฝนตกหนักมั้ยข้างนอก"

เสียงทักทายดังขึ้นและไอ้ปูก็ส่ายหน้า ก่อนจะก้าวเดินมานั่งพักบนโซฟาและยืดขาออกไปจนสุด

"ยังตกอยู่ แต่ไม่เยอะแล้ว ตอนหัวค่ำตกหนักกว่านี้..."

หนุ่มร่างสูงเอ่ยบอกและรับแก้วนมอุ่น ๆ จากมือของคนที่นำมายื่นให้ ก่อนจะยกขึ้นจรดริมฝีปาก
และวางแก้วเอาไว้ที่โต๊ะเตี้ย ๆ ด้านหน้า

น้ำฝนลงนั่งที่โซฟาอีกตัว ก่อนจะลุกขึ้นมานั่งลงข้าง ๆ กับร่างอีกร่าง

"ตัวเปียกหมดแล้ว...อาบน้ำก่อนดีกว่านะ..เดี๋ยวไม่สบายไปจะแย่"

ฝ่ามืออบอุ่น แตะเข้าที่หน้าผากมนและไอ้ปูก็สะบัดหน้าหนีการสัมผัส ก่อนจะถอนใจยาว
หันไปมองใบหน้าของน้ำฝนที่ละมือออกและนั่งนิ่ง อยู่ข้าง ๆ

"คุยมา.....จะคุยอะไรก็คุยมา....ไม่อยากอ้อมไปอ้อมมาอีก...ว่ายังไงจะคุยอะไรก็ว่ามาเลย"

คำพูดที่กลั้นใจถามออกไปเหมือนขวานผ่าซาก มีผลให้ใครอีกคนที่นั่งอยู่เคียงข้าง ต้องนิ่งเงียบเสียงลง

"อาบน้ำเถอะครับ...เดี๋ยวจะได้นอนพักผ่อน....วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว"

น้ำฝนลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหยิบผ้าขนหนูมาส่งให้กับคนที่นั่งหน้าเครียด พร้อมกับส่งเสื้อผ้าชุดลำลองให้
ก่อนจะเดินไปนั่งที่ข้างประตูกระจก และเหม่อมองสายฝนที่ยังไม่หยุดตก

ครุ่นคิดถึงอะไรบางอย่างไปมาอยู่อย่างนั้น

"ฝน.....จะให้อะไรมันค้างคาอยู่อย่างนี้หรือไง....จะเอายังไงก็ว่ามาสักอย่าง....แบบนี้มันอึดอัดใจ"

ไอ้ปูเดินมาทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นและจ้องมองใบหน้าของคนทีเอาแต่มองออกไปนอกหน้าต่างไม่ยอมที่จะคุยด้วยเลยสักคำ
แต่สุดท้ายก็มีแต่ความเงียบงัน น้ำฝนยังจ้องมองสายฝนที่ซัดเข้ามากระทบประตูกระจก และใช้นิ้วเขียนข้อความบนกระจกไปเรื่อย ๆ ก่อนจะใช้ฝ่ามือลบมันออก และเมื่อละอองฝนซัดเข้ามาอีกครั้ง ก็สามารถเขียนข้อความอื่นได้

"ไอ้น้ำฝน....มึงจะเอายังไงก็ว่ามาสิวะ....จะเอายังไง..มึงอยากพูดอะไรมึงอยากคุยอะไรมึงก็พูดมาเลยดีกว่า"

น้ำเสียงที่บ่งบอกให้รู้ว่ากำลังโมโห อย่างถึงที่สุด ไม่ทำให้ร่างสูงใหญ่นั้นรับรู้อะไรเลยสักนิด
สายตายังคงทอดมองไปไกลแสนไกล ตอนนี้ไม่มีอะไรจะสูญเสียอีก ไม่มีสิ่งที่ต้องกลัวเลยสักอย่างเดียว

ภาพของคนตรงหน้าทำให้ไอ้ปูสุดจะทนจนต้องลุกพรวดพราดขึ้นยืน
อยากจะต่อยหน้าไอ้คนตรงหน้านี้สักหมัดสองหมัดให้สะใจ ให้มันรู้กันไปเลยดีกว่า ว่าจะเอายังไงกันแน่

แต่กลับถูกฉุดแขนเอาไว้ ให้นั่งลง และฝ่ามือแกร่งนั้น ก็ดึงให้มานั่งอยู่เคียงข้าง

ก่อนจะเอื้อมมือคว้าร่างนั้นเอาไว้

แผ่นหลังนุ่มนวลที่เมื่อคืนได้สัมผัสลูบไล้ตลอดทั้งคืน เอนลงสัมผัสกับลาดไหล่กว้าง

โดยมีท่อนแขนแข็งแรงโอบกอดเอาไว้จากด้านหลัง ก่อนจะกดศรีษะมนให้เอนลงมาซบในท่านั่งที่สบายที่สุด

อยากจะขัดขืน อยากจะโมโห แต่ก็ปฏิเสธความอบอุ่นนี้ไม่ได้
ใบหน้าคมแหงนเงยขึ้นมองใบหน้าของคนที่กอดเอาไว้ และก้มกลับลงมาอีกครั้ง
ก่อนจะมองไปที่ข้อความเลือนลางบนกระจกที่มีหยดน้ำเกาะอยู่

....ผมยอมให้เกลียดไปจนตาย.....
....ถ้ามันจะทำให้ช่วงเวลานี้เป็นความทรงจำระหว่างเรา.....

ไอ้ปูทอดสายตามองข้อความนั้น ด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ร่างทั้งร่างสั่นสะท้าน
เจ็บ....ปวด....กลัว....แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด

ความอบอุ่นที่ถูกถ่ายทอดมาให้ ความอ่อนโยนทีไม่อยากผละจาก

ฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบไล้เส้นผมนิ่มไปมา ทอดสายตามองออกไปไกลแสนไกล
โดยมีร่างอีกร่างซบนิ่งอยู่ที่ลาดไหล่

หยดน้ำใสไหลรินหยดลงที่ข้างแก้มและไอ้ปูก็ยกแขนขึ้นปาดมันทิ้ง
ร่างกายสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นไห้...หัวใจปวดร้าวแสนสาหัส

ฝ่ามืออบอุ่นยังลูบไล้เส้นผมนิ่มไปมา
ก่อนจะจรดปลายจมูกลงที่ศรีษะมนของร่างที่กกกอดเอาไว้แนบแน่น

กอดกระชับให้มากขึ้น...
อยากถ่ายทอดความอบอุ่นไปให้

คุณปูไม่บอกว่ารักกันสักคำ...
มีแต่ความรู้สึกเจ็บปวดเสียใจเพียงอย่างเดียว

แล้วคนอย่างน้ำฝนจะทำอะไรได้
นอกจากปล่อยให้แต่ละวันผ่านไปอย่างช้า ๆ
และรอคอยวันเวลาที่จะต้องแยกจากกัน

อ้อมแขนอบอุ่นกระชับร่างในอ้อมแขนให้แน่นขึ้น
และเหม่อมองไปไกลแสนไกล

สายฝนยังซัดโถมกระหน่ำในยามดึก

อากาศภายนอกช่างเหน็บหนาว
แต่เวลานี้ นาทีนี้ ขอแค่รู้สึกถึงความสุขเพียงเล็กน้อย
ที่เจือจางมากับสายฝน

แค่ให้แต่ละวันที่จะกลายเป็นอดีต ขอแค่ความสุขเพียงนิด
ให้เจือจางอยู่ในทุกความรู้สึก

วันหนึ่งเมื่อรู้ว่าไม่มีทางเป็นจริง
จะได้เก็บช่วงเวลานี้เอาไว้ให้เป็นความทรงจำแสนงดงามที่จะแบ่งบานอยู่ในใจตลอดไป


TBC....
 :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1

อาจารย์..สีฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
แล้วฝนรู้ได้อย่างไรว่าคุณปูเค้าไม่รัก...ดูที่การกระทำซิ..ถ้าคุณปูไม่รักแล้วเค้าจะกอดฝนทำไม่ละ

อ่านเรื่องนี้ต่อทีไร..น้ำตาเจ้ากรรมดันไหลออกมาทุกที..สงสารรรรรรรรรรรร :m15: :m15: :m15:

My name M

  • บุคคลทั่วไป
 :o12: :o12: :o12:...............จะให้ร้องไห้ไปถึงไหนครับ  :o12:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
 :เฮ้อ:
ผมก็เป็นคนนึงนะ
ที่ตามใจที่บ้านมาตลอด
อยากให้ทำไรก็ทำให้
พยายามสำนึกบุญคุณมาตลอด
แต่ตอนนี้มันถึงช่วงที่สัญญากับตัวเองเอาไว้
ว่าจะต้องทำตามความฝันที่ตั้งใจไว้ให้ได้
ไงๆก็สู้ๆนะน้ำฝน :m13:

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
รีบๆมาต่อนะคับ
อยากรู้ตอนต่อไปอ่าคับ

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
 :m15: บางครั้งอุปสรรค ก็ช่วยพิสูจน์ความรัก และสร้างสายใยยึดหัวใจคนสองคนให้อยู่ด้วยกันแม้กายจะห่างกัน  :m15:

ต่อกันเลยดีกว่า


“ตอนแรกผมว่าจะทอดไข่ดาวแล้วก็ทำอาหารเช้า...เมื่อวานผมกับน้องกุ้งเลยไปซื้อของมาเต็มตู้เย็นเลย...แล้วกลายเป็นว่าคุณปูต้องมานั่งทำเองอย่างนี้....ผมใช้ไม่ได้เลยเนอะ”

เสียงบ่นงึมงำมาพร้อมกับที่หนุ่มร่างสูงใหญ่ ทำได้แค่เป็นคนสังเกตการณ์และหยิบนั่นหยิบนี่ส่งให้เป็นบางครั้ง

“ถ้วย....” คำสั่งของไอ้ปู ทำให้น้ำฝนต้องรีบคว้าถ้วยมาส่งให้

โดยมีเด็กหญิงตัวเล็กอีกคน กำลังนั่งเด็ดผักอยู่ห่างออกไปเพื่อจะให้พี่ชายใช้ในการประกอบอาหาร

“พี่ปูหนูเด็ดใบตำลึงเสร็จแล้ว” เสียงแหลมเล็กของเด็กหญิง เรียกให้พี่ชายหันกลับมามอง และชูตระกร้าใส่ผักให้พี่ชายดู

“เก่ง ๆ งั้นตีไข่ด้วย....” เสียงตอบกลับทำให้เด็กหญิงตัวเล็กขะมักเขม้นกับการตอกไข่ใส่ถ้วย และใช้ช้อนส้อมคนไปมา

“แล้วผมทำอะไรอ่ะ…ยืนส่งจานให้คุณปูเหรอ....ผมก็อยากทำอย่างอื่นบ้างเหมือนกันนะครับ”

เสียงบ่นงึมงำพร้อมกับที่น้ำฝนทำหน้ายุ่งเหยิง

ยืนมองแกงส้มในหม้อที่กำลังเดือด สีสันน่ากิน เห็นแล้วก็เริ่มหิวขึ้นมา

“อยากจะลองทำเองมั้ยล่ะ...จะได้ให้ทำ” ไอ้ปูหันมายักคิ้วให้กับคนที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่ข้าง ๆ แล้วน้ำฝนก็ทำได้แค่เบะหน้า แล้วก็ยืนมองพ่อครัวทำอาหารต่อไป

“แค่ไข่ดาวยังไม่รอดเลยครับ....อย่างอื่นสงสัยจะกินไม่ได้” ร่างสูงใหญ่เดินมานั่งข้าง ๆ เด็กหญิงและนั่งมองว่าจะทำอะไรได้บ้าง

“พี่ปูทำกับข้าวอร่อยที่สุดในโลก...รองจากแม่จ๋าของหนูเล้ย” เสียงหัวเราะทำให้น้ำฝนหันไปมองคนที่กำลังขะมักเขม้นกับการเติมเครื่องปรุงลงในหม้อ

“พี่ก็คิดว่างั้นแหละน้องกุ้ง....เสียอย่างเดียว...โหดไปหน่อย...ชอบเอาพี่ไปทำกระสอบทรายเตะเล่น”
ใบหน้าคมหัวเราะเสียงเบา จงใจประชดให้ไอ้ปูได้ยิน และก็ได้ผล เมื่อคำพูดนั้นยุให้คนที่กำลังทำอาหารหันหน้ามามองก่อนจะทำท่าเหมือนจะขว้างทัพพีมาใส่คนพูด

“เดี๋ยวโดน...เดี๋ยวโดน...จะกินดี ๆ หรือจะกินด้วยน้ำตา” เสียงดังโวยวายของไอ้ปู ทำให้ทั้งเด็กหญิงตัวเล็กและน้ำฝนต้องหัวเราะขำกันอยู่สองคน

“พี่บอกแล้วว่าพี่ปูโหด....เห็นมั้ยน้องกุ้ง...พูดยังไม่ทันขาดคำเลย...” เสียงกระซิบกระซาบตามมาด้วยเสียงหัวเราะ

ทำให้ไอ้ปูนึกขำอยู่ในใจ......
มีกระซิบกระซาบกันด้วยนะ ชักจะเข้ากันเกินไปแล้ว

“ฝน...ชิมดิ..เปรี้ยวไปมั้ย....ไหนมาลองชิมก่อน...เดี๋ยวไม่ถูกใจเจ้าของบ้านจะมาว่าคนทำไม่ได้นะ”

น้ำฝนลุกขึ้นยืนและเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อครัว
และทัพพีที่มีน้ำแกงส้มร้อน ๆ ก็ถูกเป่าให้คลายร้อนก่อนจะส่งให้ชิมรสชาด

“อือ...รสนี้ก็ได้ครับ...ไม่ค่อยเผ็ด...อร่อยดี...” คำบอกเล่า ทำให้ไอ้ปูตักน้ำแกงมาชิมอีกครั้ง และก็ยกหม้อลงจากเตา ก่อนจะตั้งหม้อน้ำเพื่อทำต้มจืดเป็นกับข้าวอีกอย่าง
“สับหมูเสร็จหรือยัง...เดี๋ยวจะเอามาสับใส่กระเทียม...น้ำซุปจะได้หอม ๆ “

คำสั่งทำให้น้ำฝนต้องเดินไปหั่นหมูชิ้นใหญ่ใส่เขียงอย่างทุลักทุเล ก่อนจะรีบหันไปเอ่ยถาม

“มันจะพอเหรอครับ....แค่นี้...แล้วหั่นชิ้นใหญ่มั้ยครับ” เสียงที่ถามทำให้ไอ้ปู ต้องรีบเดินมาคว้ามีดเพื่อสาธิตการหั่นให้น้ำฝนดูเป็นตัวอย่าง....

“เป็นมั้ยเนี่ย..ชิ้นประมาณนี้แหละ...แล้วก็เอาแค่ครึ่งเดียวแล้วกัน...ไหนจะวุ้นเส้นไหนจะผักอีก...เนี่ยแหละ
แล้วก็สับให้ละเอียดด้วย....”

พ่อครัวสั่งลูกมือ ก่อนจะหันไปสนใจกับหม้อน้ำบนเตา

“พี่น้ำฝนหนูปอกกระเทียมเสร็จแล้ว....เอาใส่เลยนะ...”

กระเทียมเม็ดเล็ก ๆ ถูกนำมาโปรยใส่หมูบนเขียง และที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของน้ำฝนแค่นั้นเอง
เสียงสับดังสนั่น และภายในเวลาไม่ถึงสามนาที หมูบนเขียงก็แหลกละเอียด
“ได้ยังอ่ะครับ....แค่นี้ใช้ได้หรือยัง”

ต้องถามเป็นระยะ เพราะไม่มีความสามารถในการทำอาหารจริง ๆ ต้มมาม่ากินเองได้ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว

“เอาใส่ชามมาเลย จะเอาใส่หม้อแล้ว น้ำเดือดพอดี” หมูสับบนเขียง ถูกลำเลียงใส่ถ้วย และถูกปั้นเป็นก้อนกลม ๆ หย่อนลงในหม้อน้ำเดือด จนหมด

“พี่ปู...ใส่ผักตำลึง...หนูเด็ดเสร็จแล้ว....”

ตระกร้าผักถูกนำมายื่นให้กับพี่ชาย และผักในตระกร้าก็ลงไปอยู่ในหม้อน้ำ

“ตักแกงสิ....แล้วก็ยกข้าวออกไปเลย.....เตรียมจานออกไปได้แล้ว...หิวว่ะ”

คำสั่งถูกส่งผ่านมาถึงลูกมือ และทั้งเด็กหญิงตัวเล็ก กับชายหนุ่มตัวโต ก็กลายเป็นพนักงานเสริฟอาหารในทันใด

“เดี๋ยวทำต้มจืดเสร็จ เดี๋ยวยกออกไปเอง.......ตักข้าวไว้ก่อนก็ได้....เดี๋ยวจะร้อนเกิน”

ไอ้ปูสาละวนอยู่กับการชิมรสชาติของแกงจืด...และก็ยืนรอให้ส่วนผสมในหม้อเข้ากันเท่านั้น

ส่วนคนรอกินข้าว ก็ไปยืนรอที่โต๊ะอาหารนอกครัวแล้ว

เป็นนานจนน้ำฝนต้องเดินเข้ามาหาคนในครัว ที่ยืนนิ่งเฉยอยู่......ไม่ยอมออกไปสักที

และภาพที่เห็น....คนที่เคยเอาแต่เอะอะโวยวายกำลัง ยกแขนขึ้นปาดน้ำตา....ที่ไหลลงอย่างช้า ๆ

เหมือนกำลังนิ่งคิดอะไรบางอย่าง.......ทำไมเวลาของความสุขไม่หยุดอยู่แค่นี้...
ทำไมเข็มนาฬิกาต้องเดินไปไม่ยอมหยุด

“คุณปูครับ.....”

เสียงของคนที่เรียกชื่อทำให้เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะรีบหันหลังกลับไปขะมักเขม้นกับการตักแกงจืดใส่ชาม และใช้จานรองไว้กันร้อน ก่อนจะถือเอาไว้ เพื่อน้ำไปเสริฟ

แต่ก็ถูกอีกฝ่ายคว้าเอวเอาไว้ และถูกสวมกอดจากด้านหลัง
“ไอ้ฝน....ถ้าถ้วยแกงจืดตกแตก....มึงรับผิดชอบเลยนะ” เสียงเอ็ดไม่ได้ทำให้น้ำฝนสะทกสะท้านเลยสักนิด

“ครับ...” การตอบรับเบา ๆ พร้อมกับที่สองร่างหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ...แต่ก็ทำได้แค่นี้เท่านั้น
ไม่นานนัก....อ้อมแขนแข็งแกร่งก็ปล่อยให้ร่างนั้นเป็นอิสระ ก่อนจะค่อย ๆ เดินตามออกมาจากในครัว

“หนูหิวแล้ว....หนูอยากกินไข่เจียวแล้ว” เสียงใสแจ๋วของเด็กหญิง ทำให้ทั้งไอ้ปู และน้ำฝน ต้องรีบเอาถ้วยต้มจืดมาวางเอาไว้บนโต๊ะ

ผ้ากันเปื้อนถูกปลดออกและก็ติดสายผูกข้างหลังจนทำให้แกะไม่ออก จนน้ำฝนต้องเป็นคนเอื้อมมือไปแกะปมผ้าให้

“พี่ปูกับพี่น้ำฝน....เหมือนพ่อกับแม่เลยเนอะ....แล้วกุ้งก็เป็นลูก”

คำพูดของเด็กหญิง ไม่มีเจตนาแอบแฝง แต่ก็ทำให้ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากัน ก่อนจะชะงักนิ่งอยู่อย่างนั้น
ปมผ้าถูกแกะออกแล้ว โดยที่ทั้งไอ้ปู และน้ำฝน ต้องทำทีเป็นสนใจกับอาหารตรงหน้า

“กินผักด้วยกุ้ง....อันนี้กุ้งชอบ....อร่อยด้วยหมูสับนะ...” ต้มจืดในถ้วยถูกตักใส่จานข้าวของเด็กหญิง
ใบหน้าคมมีรอยยิ้มเจือจาง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ พร้อมกับที่ไอ้ปูส่งยิ้มเศร้า ๆ กลับไป
ก่อนจะก้มหน้าลง ทำทีเป็นสนใจกับการตักอาหารใส่จานข้าวของน้องสาว

ไม่ต่างกับน้ำฝน........ที่เก็บบันทึกสิ่งดี ๆ ในวันนี้....เอาไว้หมดทุกอย่าง...เก็บเอาไว้จนหมด...ทุกวินาที.....
ใบหน้าคมหมองเศร้าลง........เมื่อรู้ว่าเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกัน...เหลือน้อยลงทุกที

เหลืออีกกี่วันนะ........กี่วันที่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้........เหลือเวลาอีกกี่วัน

TBC….

ออฟไลน์ korn_ken

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 68
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
 
  หือ   หือ   
 
     เรื่องมัน  :m15:    :m15:
 
       :o12:    :o12:    :o12:

ballza

  • บุคคลทั่วไป

unagan

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดี่ยวเลย 11 หน้่า

เศร้ามาก ๆ เลยอะ  :m15:

ทำไมจิ้มได้แต่เรื่องเศร้า ๆ  :m15: :m15: :m15:

premkoe

  • บุคคลทั่วไป
รีบๆมาต่อนะคับ
สงสารทั้งคู่มากมาย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ~ScAreD:SAcreD~

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1811
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-2
อ่านไป เศร้าไป :m15:

ยิ่งอ่าน ยิ่งจิตตก  :sad2:

ฮืออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ :o12:

ออฟไลน์ mcquack

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 23
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อ่านแล้วเศร้าจัง

มาต่อเร็วๆนะครับ อยากรู้ว่าความเศร้าจะจบลงตรงไหน

boyboy

  • บุคคลทั่วไป

My name M

  • บุคคลทั่วไป
 :sad2: :sad2: :sad2: :sad2: :sad2:

ความประทับใจ  ถูกเก็บไว้ในความทรงจำ

ถึงระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันอาจจะไม่มากนัก

แต่ความรู้สึกที่ปูกับฝนมีให้กันมันมาก จนสร้างสามารถก่อเกิดคำสั้น ๆ ที่เรียกว่า.............รัก

niph

  • บุคคลทั่วไป

Pztor

  • บุคคลทั่วไป

three

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Lucifer

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-1

baros

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงบรรยากาศเศร้ากันก่อนนะ  :m15: (โพสต์ไปก็เศร้าไปด้วย ฮือ ฮือ  :m15:)

ต่อเลยละกัน (เศร้าจิตเหลือเกิน)


ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค ปู-ฝน ตอน คำตอบสุดท้าย

“ไม่ใช่หรอก.....ก็วันก่อนฝนไปแล้ว...อันที่กินอ่ะมันหมด...บอกให้ปูซื้อกลับมา ก็ไม่เห็นซื้อเลย...รอกินบราวนี่
แต่ไม่ได้กินอีกแล้ว....ปูแกล้งลืมมากกว่า”

เสียงบ่นงึมงำเหมือนเด็กเอาแต่ใจ ทำให้ไอ้ปูต้องหน้างอใส่คนที่มาเปิดประตูให้ และ กระแทกเท้าเดินหนี

“ก็บอกว่าวันนี้เขาไม่ได้ทำขาย ไม่เข้าใจเหรอวะ.....แม่งกว่าจะกลับมาอีกล่ะ...กว่าจะอาบน้ำกว่าจะได้นอนอีกแล้วมาโวยวายจะกินบราวนี่อะไรตอนเที่ยงคืนวะ”

เสียงบ่นงึมงำ ตามมาด้วยการมองหน้าอย่างขวาง ๆ ของไอ้ปู

“เนี่ย.....ตอนเย็นฝนไปกินบะหมี่เกี๊ยวกับน้องกุ้งที่ซอยถัดไปอีกสองซอยแหละ.........อร่อยดีเลยซื้อกลับมาด้วย.....ปูกินเลยมั้ยล่ะเดี๋ยวอุ่นให้เลย”

การเปลี่ยนเรื่องคือวิธีที่ดีที่สุด เพราะเมื่อปฏิกิริยาแล้วคุณปูเขาคงกำลังอารมณ์เสียอยู่แน่ ๆ ที่ไปงอแงใส่แบบนั้น

ถุงบะหมี่ถูกเทใส่ชามแล้วเอาไปอุ่นในไมโครเวฟ

พร้อมกับที่ไอ้ปูเดินเข้ามาในครัวและกดน้ำเย็น ๆ มาดื่ม ยืนมองชามบะหมี่ที่อยู่ในเตาไมโครเวฟ

“พรุ่งนี้จะเอาบราวนี่มาให้...อยากกินจริง ๆ เดี๋ยวซื้อกลับมา 4 ชิ้นเลย...แล้ว...กุ้งหลับนานยัง”

น้ำถูกยกขึ้นจิบโดยมีคนอีกคน กำลังเปิดเตาไมโครเวฟและใส่ถุงมือยกชามที่อุ่นอาหารเรียบร้อยมาวางไว้ให้
บนโต๊ะ ก่อนจะถือตะเกียบมาวางบนชาม และนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม

“หลับไปตอนสามทุ่ม...พอดีฝนทำโปรแกรมด้วยแหละ....รุ่นน้องให้ช่วยเขียน...ฟ้าร้องด้วย วันนี้เห็นปูไม่ได้เอาร่มไป....ว่าจะไปรับอยู่พอดี..”

คนพูดนั่งเท้าคางมองใบหน้าของคนที่คีบเส้นบะหมี่ใส่ปาก และยกช้อนขึ้นซดน้ำซุปอุ่น ๆ

“เก่งเนอะ....กูคงทำไม่ได้ว่ะ.....มึงเก่งดี...กูก็ทำได้แค่ขนม..ทำกับข้าว..ไอ้ที่มันไม่ต้องใช้สมองเยอะล่ะมั้ง”

คำพูดที่เอ่ยบอกทำให้น้ำฝนต้องนิ่วหน้า ก่อนจะรีบพูด
“ไม่เห็นเกี่ยวเลย....ฝนทำกับข้าวไม่เป็น...ทำขนมก็ไม่เป็น...ยากจะตาย...ปูทำได้ไง..นี่ขนาดทำไข่ดาวยังทำไม่ได้เลย....น่ากลัวน้ำมันจะกระเด็นใส่....ปูทำได้ไง..แปลกดี”

ดวงตาของคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม จับจ้องอยู่ที่ร่างที่สนใจอยู่กับการกินบะหมี่ในชาม ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชู่ส่งให้เช็ดปาก และยกชามไปล้างที่อ่างล้าง จนเสร็จเรียบร้อย โดยมีแก้วอีกหนึ่งใบ ถูกนำมาวางเพิ่ม

“ถามหน่อยดิ......”

ไอ้ปูมายืนอยู่ข้าง ๆ มองใบหน้าของคนที่กำลังล้างชาม และแก้วน้ำ อยากจะรู้

“ครับ....จะถามอะไรล่ะครับ”

ชามถูกยกขึ้นมาวาง และน้ำฝนก็เดินไปเช็ดมือเปียก ๆ ที่ผ้าเช็ดมือ และเดินออกมานั่งที่โซฟาโดยมีไอ้ปูเดินมานั่งอยู่ที่พื้นพรมและเอนหลังให้ซบอยู่บนเบาะนั่ง

“ก็ว่าจะถามว่าไอ้ที่บอกว่ารักนักรักหนาน่ะ........โกหกป่าววะ....คือกูดูแล้วเนี่ย...กูไม่มีอะไรน่าจะทำให้รักได้เลยนะ.....มึงหลงผิดอะไรอยู่หรือเปล่า......”

น้ำเสียงที่ถามเหมือนเป็นการหยอกล้ออยู่ในที และคนที่นั่งอยู่บนโซฟาก็ลงมานั่งที่พื้นพรม...ก่อนจะเอนศรีษะซบอยู่บนเบาะนั่ง และจ้องมองใบหน้าของอีกคนในระยะประชิด ส่งยิ้มมาให้ และเอ่ยบอก

“ก็รักเพราะว่าเป็นคุณปูมั้งครับ....ถ้าไม่ใช่คุณปูผมก็ไม่รัก”

ดวงตาคมสบตากับดวงตาสีน้ำตาลอ่อน....นิ่งอยู่อย่างนั้น ก่อนจะ เอื้อมมือไปลูบไล้เส้นผมนิ่มเล่น และแตะปลายจมูกเข้าหาที่ข้างแก้มของคนที่นั่งอยู่ใกล้ชิดกัน

ก่อนจะค่อย ๆ ผละใบหน้าออกห่าง และเอื้อมมือคว้ามือของร่างตรงหน้ามากุมเอาไว้ และลูบไล้เล่นแผ่วเบา

“อย่างกูไม่เห็นมีอะไรสมควรจะทำให้คนอย่างมึงมารักได้เลย.....แต่งงานแล้ว...ก็รีบ ๆ ลืมกันไปเร็ว ๆ เลยยิ่งดีฝน......เราต่างก็มีหน้าที่.....กูก็มีหน้าที่....มึงก็มีหน้าที่....จะให้เอาความรู้สึกตัวเองมาเป็นที่ตั้ง...โดยไม่มองคนรอบข้างก็คงไม่ได้........ตกลงว่าเขาให้เลื่อนไปถึงปลายปีใช่มั้ยที่บ้านน่ะ.....อย่าคิดต่อต้านมาทำอะไรเหมือนพระเอกหนังไทยก็แล้วกัน........ประเภทหนีตามกันอันนั้นคงไม่ไหว......คนทำพ่อแม่เสียใจ....เขาเรียกว่าเลวเรียกว่าอกตัญญู........”
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน หรี่ปรือลงอย่างช้า ๆ และยกมืออีกข้างขึ้นกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้

“ผมรู้ครับ........ที่จริงรู้มานานแล้ว...ตั้งแต่วันนั้น....รู้ว่าปูต้องพูดแบบนี้....ผมไม่เสียใจหรอกถ้าต้องแต่งงานเพื่อทำหน้าที่ของลูก.....แต่ตอนนี้อยากมีความสุข...อยากให้ปูอยู่กับผม.....แล้วผมก็อยู่กับปู...เลิกเกลียดผมบ้างหรือเปล่า....ถ้าเกลียดคงไม่ให้ผมจับมือหรอกเนอะ.....”

เสียงหัวเราะแผ่ว ๆ เสียงหัวเราะอย่างฝืน ๆ
ทำให้ไอ้ปูต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้อย่างสุดความสามารถ
ไม่ต่างจากน้ำฝนที่ค่อยหรี่ตาลงอย่างช้า ๆ และดึงร่างของอีกคนมากอดไว้แน่น

“ถ้าไม่รักผม........ก็คงไม่ยอมให้กอด........ถ้าไม่รักผม.....ก็คงไม่ยอมอ่อนข้อให้มากขนาดนี้.........ใช่มั้ยล่ะครับ”

หยดน้ำใสหลั่งรินลงอย่างสุดจะกลั้น

ไม่มีคำตอบมาสักคำ........แต่น้ำฝนก็ไม่ได้ต้องการคำตอบ

กอดร่างในอ้อมแขนเอาไว้แน่น และลูบไล้ที่ศรีษะของไอ้ปูเบา ๆ กดปลายจมูกลงที่เส้นผมนุ่ม
ก่อนจะหรี่ตาลงอย่างช้า ๆ

ร่างในอ้อมแขนอบอุ่น

หัวใจอบอุ่น

เวลาแสนสุขมักเดินไปอย่างรวดเร็วเสมอ

ขอแค่เก็บเวลานี้ไว้ให้นานแสนนาน

เก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป

เก็บไว้ในความรู้สึกของคนสองคน

TBC…..

สปอยตอนหน้านิดหนึ่งละกัน เรื่องนี้ใกล้จบแล้ว อ่านแล้วอย่างเพิ่งด่าคนโพสต์น๊า  เค้าก็เศร้าเหมือนกัน

“ฝนวันนี้มีความสุขมั้ย.......”
ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนทอดมองใบหน้าของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า

“วันนี้ฝนมีความสุขที่สุด……แล้ววันนี้ปูมีความสุขที่สุดมั้ย”

เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถามร่างตรงหน้า ก่อนจะค่อยคว้าร่างนั้นมากอดกระชับเอาไว้ ลูบไล้เส้นผมนิ่มไปมา
และประทับริมฝีปากลงไปเป็นครั้งสุดท้าย

“วันนี้ปูก็มีความสุขที่สุดเหมือนกัน.....”

ไอ้ปูเงยหน้าขึ้นและส่งยิ้มที่สดใสที่สุดในชีวิตให้กับคนที่อยู่ตรงหน้า

เวลาแห่งความสุขหมดลงแล้ว......

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด