“หึๆๆๆ ฮ่าๆๆๆ ก๊ากๆๆๆ”
“หุบปากไปเลยไอ้เอ๋อ มึงจะหัวเราะเอาโล่เหรอ หา!”
ไอ้วินเซอร์ทนไม่ไหวลุกพรวดขึ้นเข้ามาหาเรื่องผม แต่โดนไอ้โซโล่มาขวางไว้ก่อน
ผมมองหน้าไอ้วินเซอร์แล้วขำจนน้ำตาเล็ด ท่าทางมันจะเจ็บจริงว่ะ ตาปูดเลยอะ
ผมกลั้นยิ้ม หน้าหล่อๆ ของไอ้วินเซอร์แต้มรอยช้ำเด่นเชียว สงสัยไอ้เสียงเมื่อคืนแน่ๆ!
“เหี้ยโซโล่! หลีกไปเลยนะมึง เมียมึงกล้าหัวเราะกูได้ยังไง!?”
“ใจเย็นน่าไอ้วินเซอร์”
ไอ้โซโล่ทำหน้ารำคาญเล็กน้อย ผมแอบเห็นมันหัวเราะด้วยแหละ!
ก็หน้าไอ้วินเซอร์มันฮาจริงๆ นะครับ ถามถึงต้นเหตุน่ะเหรอ
มันกลับไปตั้งแต่เช้าตรู่แล้วล่ะครับ ดูเหมือนจะหงุดหงิดมากกว่าเมื่อวานอีก
ไอ้วินเซอร์ดันไปเหยียบกับระเบิดเข้าให้ มึงทำยังไงถึงทำให้ไอ้คุณฮักไม่พอใจวะ
“แล้วมึงทำอะไรพี่เลิฟเขาวะ? ถึงได้สะบัดตูดกลับตั้งแต่ไก่โห่นู้น”
“...เรื่องของกู”
เออ มันเรื่องของมึง! ไอ้เวรนี่ตอบกวนตีนทุกที เดี๋ยวกูก็เตะออกจากบ้านนี้ซะหรอก
ฮึ! รู้เอาไว้บ้านนี้กูใหญ่! ไอ้โซโล่ถอนหายใจเบาๆ เมื่อผมกับไอ้วินเซอร์สงบศึกกันได้
มันรอปะทุอีกน่ะสิ เหี้ยนี่ปากมอมกวนตีนตลอด ไม่นานไอ้วินเซอร์ก็ขอตัวกลับ เหลือผมกับไอ้โซโล่
“เดี๋ยวกูไปส่ง”
“ไม่ต้อง กูไปเองได้ ปกติกูก็ไปเอง”
“กูจะไปส่ง”
“แล้วแต่มึงล่ะกัน!”
พูดเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช้สายตามาข่มขู่กู ชิ! ไม่ได้กลัวมึงหรอกนะ
แค่ไม่อยากจะยุ่งยาก พวกเรากินข้าวเสร็จไอ้โซโล่ก็พาผมมาส่งถึงคณะอย่างรวดเร็วด้วยรถคันโก้ของมัน
พอจอดหน้าคณะผมเท่านั้นแหละ คนมองกันพรึบ! จนผมไม่กล้าลงจากรถ
“มึงไปจอดที่ไกลตาคนกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไงวะเหี้ยโซโล่!?”
“ทำไม ตรงนี้ใกล้ดี”
มันตอบกลับมาหน้านิ่งๆ และด้านสุดๆ นี่มึงไม่รับรู้ความลำบากใจของกูเลยหรือไงวะ!?
กูกล้าเดินลงไปจากรถมึงไหมล่ะคราวนี้
ผมมองไอ้โซโล่ที่เปิดประตูออกไปแล้วเดินอ้อมมาเปิดประตูให้กับผม
กูไม่ต้องการให้มึงมาเปิดประตูโว้ยยย!
“เชิญมึงเสด็จลงมา”
เร่งกูอีก! สายตาของผู้คนที่มองมาอย่างอยากรู้อยากเห็น
แทบจะทำให้ผมอยากหลอมตัวเป็นหนึ่งเดียวกับเบาะรถ
ฉิบ! แค่รถนอกเขาก็มองกันจะตายห่าอยู่แล้ว
นี่ยังมีไอ้หล่อระดับพระกาฬมาเปิดประตูรถให้อีก
ถ้ากูเป็นสาวน้อยแฉล่มกูจะยืดอกชูคออย่างภาคภูมิใจเลย เอ้า!
แต่นี่อะไร ผู้ชายนะโว้ย!
“เร็วๆ กูมีเรียนเช้า”
“เออๆ”
ผมก้าวลงมาจากรถ มองซ้ายขวาหาลู่ทางวิ่งหนีออกจากที่นี้ให้เร็วที่สุด
ก่อนที่ผมจะระเบิดฝีเท้า ไอ้โซโล่จับแขนของผมไว้ก่อน อะไรของมึงอีกวะ!?
“เลิกเรียนตอนไหน?”
“เย็นนู้น”
ผมตอบไปสั้นกระชับเพื่อจะตัดบทสนทนา
ไอ้บ้าโซโล่ยังไม่รับรู้เหตุการณ์รอบข้าง
พวกนั้นซุบซิบกันแถมชี้มือมาที่พวกเราอีกต่างหาก
หมดแหละ หมดกัน! เขาเอากูไปเม้าธ์มอยแน่ๆ!
“เดี๋ยวกูมารับ”
“ไม่ต้อง กูกลับเอง”
“มึงจะกลับยังไง?”
“มึงจะถามอะไรมากมายวะ คนแม่งมองกันเต็ม มีอะไรก็รีบๆ พูดมา”
ผมแว้ดใส่มันอย่างอดไม่ได้ ให้ตายสิจอร์จ! สายตาแต่ละคู่นี่นานาจิตตังมาก
ไอ้โซโล่มันมองไปรอบๆ ด้วยสายตาเลเซอร์ชิ้งๆ
ใครสบตามันมีอันต้องบาดเจ็บ พวกนั้นหลบตากันพัลวัน
“ถ้ามึงอายมาก เดี๋ยวกูเดินไปเป็นเพื่อน”
โอ๊ยยยหนอ!!!
แบบนั้นกูอายกว่าไม่ใช่เหรอ เหี้ย!!!
ไอ้คุณสามีไม่พูดอะไรมากความเดินลากผมเข้าคณะแบบไม่กลัวตายอะไรใดๆ
คนในคณะมองผมกับไอ้โซโล่ด้วยหน้าประหลาดๆ กันเป็นแถว
กูโคตรอายเลยอ่า แล้วนี่กูจะเอาหน้าไปไถกับอะไรดีถึงจะด้านได้แบบไอ้โซโล่มัน!
“เรียนห้องไหน?”
ไอ้โซโล่หันมาถามผมที่กำลังจะหมดลมหายใจอย่างรอมร่อ
เมื่อก่อนก็ไม่ได้แคร์ว่าสายตาของคนอื่นจะมองมามันเป็นอะไรยังไง
แต่ตอนนี้กูโคตรอาย! ไอ้พรีสต์มีผู้ชายวิศวะเดินมาถึงหน้าห้องเรียน!?
โฮ~ โคตรเจ๋ง ซะเมื่อไหร่!!!? อ๊ากกกก!!!
“เอ่อ... กูไปเองได้ มึงไปเรียนเถอะ”
ผมตอบเสียงเบา ไอ้พวกนั้นทำหน้าสอดรู้สอดเห็นจริงๆ
กูกับไอ้โซโล่ไม่พูดจาสวีตหวานให้พวกมึงได้ยินหรอกโว้ย!
แล้วแม่งไอ้พวกตัวผู้หน้าเหี้ยนั้นก็ซุบซิบทำท่ารังเกียจ
ทำหน้ายี้ใส่อีก อะไรของพวกมึงวะ!? เดี๋ยวกูแม่งบอกให้ไอ้ฮักมาจัดการหรอก
(ผมมีเรื่องไม่ได้ครับ โอนให้ไอ้ฮักมันดีกว่า)
“แม่ง กูว่าล่ะ เกย์ว่ะ หน้ามันก็ตุ๊ดซี่จะตาย มีผัวไปซะแล้ว ฮ่าๆๆๆ”
“เหอะ ไอ้พวกวิปริตผิดเพศ แม่ง อย่าไปมองพวกมันเลย เสียสายตาว่ะ”
“โทษเถอะว่ะ ถ้ามึงไม่หุบปาก กูคงจะต้องวิปริตจริงๆ อยากตายแบบไหน บอกกูมา”
ไอ้โซโล่หันไปมองพวกนั้นที่หัวเราะคิกคักอย่างสนุก
ผมห้ามมันไม่ทัน มันเดินหรี่ฉับๆ ไปกระชากคอเสื้อพวกมันจนกระดุมหลุดกระเด็นเพราะแรงถึกๆ ของมัน
“ทำไมวะไอ้ตุ๊ด กูจะตายแบบไหนก็เรื่องของกู!”
ไอ้พวกหน้าเหี้ยนั่นมองไอ้โซโล่หน้าซีด แต่ยังปากดีอีกแน่ะ
เดี๋ยวก็ตายไม่ดีหรอกมึง
ไอ้โซโล่ไม่พูดอะไร มันยืนนิ่ง
สีหน้าของคนอับโชคกลับเขียวคล้ำทรมานอย่างไม่รู้สาเหตุ
มันพยายามคว้ามือของไอ้โซโล่ออกจากคอมัน
ผมรีบเดินมาห้ามอย่างตกใจ มึงจะฆ่ามันหรือไงไอ้โซโล่!?
หน้าไอ้โซโล่น่ากลัวมากครับ นิ่งเสียจนผมแอบหวั่น
“โซโล่พอเถอะ”
ไอ้โซโล่เหลือบมามองผมเล็กน้อย สายตาแม่งโคตรเย็นชาเลย
ไม่เอา! ผมไม่อยากได้โซโล่แบบตอนที่เจอกันครั้งแรก!
เอาโซโล่แฟนกูตอนเมื่อวานคืนมานะเฟ้ย!
สักพักไอ้โซโล่ก็ปล่อยมือจากคอเสื้อไอ้บ้านั้น
พวกเพื่อนๆ ของมันวิ่งหนีกระเจิงไปตั้งนานแล้วครับ
“แค่กๆๆๆ ไอ้เหี้ย...ค...ยเอ๊ย!! มึง...”
“ถ้าอยากมีชีวิตอยู่ มึงรีบไสหัวไปไกลๆ จากกู”
ไอ้โซโล่ยกเท้าเหยียบบนกลางลำตัวของเจ้าหมอนั้นแล้วก้มหน้าพูดเสียงเหี้ยม
เจ้านั่นตัวสั่นพับๆ รีบโกยจากไปแบบไม่คิดชีวิต
คนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างถอยห่างแล้วรีบวิ่งไปจากทันที
แต่ละคนทำหน้าหวาดผวาอย่างกับเจอปีศาจ ผมยืนเกาะชายเสื้อของไอ้โซโล่
สักพักก็ถอนหายใจโล่งออกมา ไม่มีคนตาย เฮอ!
“ถ้ามันว่าให้กูคนเดียวก็พอทำหูทวนลมไปได้ แต่มันว่ามึงด้วย กูเลยทำหูหนวกต่อไม่ไหวว่ะ”
“ช่างมันเถอะ คนเรามันก็มีกันอยู่หลายประเภท”
ผมยิ้มเล็กน้อย อย่างน้อยมันก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทนผม อ่า! โซโล่เท่ฉิบเป๋ง!
“กูจะไปส่งที่ห้องเรียน”
ไอ้โซโล่เงียบหันไปทำอารมณ์เล็กน้อยแล้วหันมาเอ่ยกับผม
โอบเอวของผมพาเดินขึ้นบันไดแต่เดินไปไม่เท่าไร
ก็ไปเจอพี่เพ้นต์ที่ยืนกอดอกทำหน้าอย่างกับเจ้าหนี้มาท้วงเงิน
ผมมองเขาอย่างหวั่นๆ
ไอ้โซโล่มองพี่เพ้นต์เล็กน้อยแล้วมันก็พาผมเดินผ่านไปแบบไม่สนใจเลยสักนิด
“พรีสต์”
“ครับ?”
ผมหยุดเดินหันไปมองพี่เพ้นต์อย่างกล้าๆ กลัวๆ อย่ามีเรื่องกันเลย ขอร้อง!
พี่เพ้นต์หันมามองผมนิ่ง สายตาพี่แกทำเอาผมรู้สึกผิด มันตัดพ้อและเศร้ามากๆ
ขอโทษครับพี่ ผมไม่รู้ว่าทำอะไรผิดแต่ผมก็ขอโทษจริงๆ
พี่เพ้นต์หันหน้าหนีผมแล้วถอนหายใจแรงๆ
“ทำไมล่ะครับ มันดีกว่าพี่ตรงไหน!?”
พี่เพ้นต์หันกลับมาตวาดถามเสียงดัง ผมสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจกลัว
ตอนนี้หน้าพี่เพ้นต์มันวิวัฒนาการเลยความโหดแล้วล่ะ
ตอนที่เป็นพี่ว๊ากไม่ได้ครึ่งเสี้ยวตอนนี้เลย!
“พรีสต์! ตอบพี่มาสิ พี่ดีกว่ามัน! พี่รู้จักเธอดีกว่ามัน! พี่ชอบเธอมากกว่ามัน! แล้วทำไม!?”
“เฮ้ย ใจเย็นสิวะ”
ไอ้โซโล่เข้ามายืนขวางผมไว้ ไม่ให้พี่เพ้นต์เข้ามาถึงตัวผมได้
พี่เพ้นต์หรี่ตามองไอ้โซโล่แล้วแสยะยิ้มหัวเราะในลำคอ
ผมส่ายหน้าไปมา คนๆ นี้เป็นใครกันเนี่ย!?
ไม่ใช่พี่เพ้นต์! พี่เพ้นต์ไม่ได้เป็นคนแบบนี้!
“โซโล่มึงทำยังไงให้น้องเขาชอบมึงได้วะ? เอาอะไรล่อ?”
“ไอ้เพ้นต์ กูว่ามึงสงบสติก่อนดีกว่า”
“มึงนั่นแหละเงียบ! กูรักของกู ทำไมมึงต้องมาแย่งกูด้วย!”
“พรีสต์ไม่ใช่ของมึง”
ไอ้โซโล่มันตอบกลับไปอย่างรวดเร็วและน้ำเสียงนิ่งมาก
พี่เพ้นต์ตาแดงก่ำอย่างน่ากลัวเหลือบมองไอ้โซโล่ด้วยหางตา
ผมมองพี่เขาแล้วถอนหายใจ ทำไมกลายเป็นแบบนี้?
เพราะเขาชอบผมงั้นเหรอ? ถึงจะชอบแต่ไม่น่าจะเสียสติไปมากขนาดนี้
พี่เพ้นต์คนนี้มันใครกัน!?
“เหอะ ของมึงงั้นสิ? ไอ้สันดาน!”
ผัวะ!!!
ไอ้โซโล่ถลาไปด้วยแรงหมัดของพี่เพ้นต์ที่ออกหมัดสุดแรง
ผมอุทานตกใจมองพี่เพ้นต์ รีบเข้าไปพยุงไอ้โซโล่ที่ค่อยๆ หันหน้ามา
แว๊กกก!!! ปากแตกเลือดซึมเลย ไม่นะ!
ไอ้บ้าโซโล่เช็ดเลือดที่มุมปากของมันแล้วกระตุกยิ้ม
ให้ตายสิ โคตรเท่! อ้าวเฮ้ย! ไม่ใช่แหละ ผิดประเด็นไปหน่อย แหะๆ
“มึงชกแล้วเหรอวะ? กูนึกว่าเอาขาหลังสะกิด”
ดูปากมันพูดสิครับ กวนส้นมาก ขาหลังบ้านมึงสะกิดแล้วเลือดปากมันไหลเหรอวะ โฮ~! ผมพยายามบอกให้ไอ้โซโล่หุบปาก แม่ง ไม่แสบปากหรือไง พูดอยู่นั่นแหละ!
ไอ้โซโล่ปัดความหวังดีของผมไปกองข้างๆ มันลุกขึ้นยืนประชันหน้ากับพี่เพ้นต์
“แขนเดาะแล้วไม่เข็ดล่ะก็กูจะสงเคราะห์อัดมึงให้ตายคาตีนให้”
“หึๆ อย่าเก่งแต่ปากล่ะกัน”
ไอ้ผู้ชายสองคนนี้มันยังไงกันวะ จ้องกันเขม็งแล้วพุ่งซัดกันเป็นบ้าเป็นหลัง
ผมตะโกนบอกให้พวกมันหยุดก็ไม่หยุดสักที
ผู้คนที่เดินขึ้นมาเจอฉากห้ำหั่นกันก็ตกใจรีบวิ่งหนีไป
ผัวะ!!! ผัวะ!!! ผัวะ!!!
“หยุด!!! ไอ้โซโล่!!! เฮ้ย!!! หยุด!!!”
ไม่มีใครฟังเสียงผมเลยสักคน
เสียงต่อยกันดังผัวะๆ หน้าของแต่ละคนนี่ดูไม่ได้เอาซะเลย!
ผมยืนนิ่งไม่รู้จะทำยังไง ได้แต่ตะโกนบอกให้พวกบ้าเลือดนี่หยุด
ตะโกนจนคอแหบคอแห้งก็ไม่มีใครสนใจ
มองพี่ชายที่นับถือกับคนรักชกกันหน้าเละ แบบนี้มันก็เจ็บทั้งคู่นั่นแหละ
สู้กันทำไมวะ!?
แปะๆๆๆ
ไอ้ฮอยฮักไม่รู้ว่าโผล่มาตอนไหน มันยืนดูพร้อมปรบมือเชียร์หน้าตาเฉย
ไอ้เวรนี่กวนส้นอีกคน! แต่ที่ผมตกใจมากกว่านั้นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ไอ้ฮอยฮักน่ะสิ!
นั่น... มัน... มัน....
คณบดีไม่ใช่เหรอ!!?
คณบดีคณะของผมเองครับ!!!
ผมมองท่านแล้วเหลือบมองพวกที่สู้กันอุตลุดแบบไม่สนใจหน้าพระพรหมพระอินทร์
พวกมึงหยุดดดด!!! ได้พักเรียนกันถ้วนหน้าแหงๆ!!! โอ๊ยยยยย หยุด!!!
ท่านคณบดีใส่แว่นเหมือนกับไอ้ฮอยฮักเป๊ะนั้นส่งยิ้มเย็นๆ ให้กับผม
ผมหันไปส่งสายตาขอความช่วยเหลือกับไอ้ฮอยฮัก
ไอ้ฮักกกก มาช่วยหน่อยเซ่!!!
“ไม่เป็นไรๆ นี่พ่อริน พ่อกูเอง เดี๋ยวกูพูดให้”
ไอ้ฮอยฮักหันมาบอกกับผมแล้วชี้ไปที่ท่านคณบดีที่ยืนมองการต่อสู้อันดุเดือดด้วยใบหน้ายิ้มๆ
ไม่ช่ายยยย!!! กูไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น!!! กูบอกให้มาหยุดพวกมัน!!!
“อ๊ะ ฮัก ตีกันนี่มันผิดกฎของมหาวิทยาลัยไม่ใช่เหรอ?”
ท่านคณบดีหันไปถามไอ้ฮักที่ยืนเชียร์ไอ้โซโล่ที่กำลังได้เปรียบ
ไอ้ฮักหันมามองหน้าท่านแล้วพยักหน้านิ่งๆ
ท่านคณบดีคร้าบบบบ
เพิ่งคิดได้หลังจากยืนดูตั้งนานงั้นเหรอคร้าบบบบ!!!?
“ผิด? งั้นเราต้องห้ามพวกเขาน่ะสิ”
“แต่พ่อรินครับ กำลังสนุกอยู่เลยน่า”
“แต่มันผิดนะลูก ไม่ควรสู้กัน”
“เฮ้อ กำลังมันเลย”
ไอ้ฮอยฮักถอนหายใจ แต่มันก็ทำตามคุณพ่อรินของมันเป็นอย่างดี
พวกเอ็งสองคนจะใจเย็นไปไหนครับบบบ!? รีบๆ มาช่วยทางนี้ทีเถอะ
กูจะประสาทแดกอยู่แล้ว มัวแต่สนทนาพาทีปราศรัยกันอยู่นั่นแหละ
ไอ้ฮอยฮักชวนผมไปหยิบถังในห้องน้ำที่ใส่น้ำมาเต็มถัง
แล้วบรรจงสาดให้ไอ้หมาสองตัวที่ฟัดกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ทั้งสองชะงักตัว สภาพแต่ละคนดูไม่ได้เลย!
“โซโล่”
ผมวิ่งมาดูไอ้โซโล่ พี่เพ้นต์มองมาตาลุกวาว
ให้ตายเถอะ! ผมอยากจะตาย ทำไมหนอ
ต้องมาตีกันเพราะผมด้วย แย่งผมนี่นะ ให้ตายเถอะ
กูกลายเป็นเฮเลนแห่งเมืองทรอยไปแล้วววว!!!
ท่านคณบดีตบมือเบาๆ เรียกความสนใจจากมวยคู่เอก
ท่านยิ้มเย็นๆ ให้พวกผม ทำเอาผมเย็นวูบ
มันช่างเหมือนรอยยิ้มที่แสนชั่วร้ายของไอ้ฮักเลย!
“เอาล่ะ ขอคุยกับพวกเธอหน่อยนะ”
กูว่าแล้ว งานเข้าทุกคน!!!TBC.วันนี้ตลกข้อสอบที่สอบมากเลยอ่ะ เขียนไปยิ้มไป เพื่อนหาว่าตูเป็นบ้า
" กันเป็นหน้าตาดี เรียนดี มารยาทดี แต่กันรู้สึกหวงเพื่อนสนิทที่มีผู้หญิงมาสนใจ
ไม่กล้าบอกเพื่อน กลัวคนอื่นรู้ว่าชอบเพศเดียวกัน กันมาขอปรึกษาคุณ "
...เวอร์ชั่นในใจแต่ไม่ได้ตอบ >>> ใจเย็นๆ กัน มึงแค่เป็นเกย์ กร๊ากกกกกกก!!!
และแล้วก็มาต่อจนได้ เนี่ยยังไม่ได้นอนเลยนะ ตั้งแต่เมื่อวาน แฮ่~
อ่านหนังสือสอบสองวิชา แล้วเสือกนั่งดูอินุยาฉะ ท่านเสตโซมารู~!!! <<< หล่อดีแท้ อิๆ
จนต้องอ่านหนังสือยันเช้า เข้าห้องสอบปานศพ ช่วงบ่ายกลายเป็นผี
พอสอบเสร็จมานั่งปั่นนิยายต่อ ทำงานตัวเป็นเกรียวมาก ไม่ให้มันผีได้ไงวะ
งานราษฎร์งานหลวงต้องเอาให้มันสุดๆ!!! เฮ้อ~ เหนื่อยเน้อเหนื่อยแต่สนุกดี ฮิๆ
ปล.อยากแต่งนิยายแนวย้อนยุคไทยโบราณ แบบว่าข้า เจ้า อะไรงี้ ท่าทางจะเท่ไม่หยอก
คิดพล็อตไว้แล้ว ใครกล้าอ่านปอยก็กล้าแต่งแต่หลังจากเรื่องนี้จบอ่านะ