ตอนที่ 17 เฮฮากีฬาภายใน (ครึ่งหลัง)“นี่ มึงก็มีเบอร์มันนี่น่า ทำไมไม่โทรเองวะ?”ผมหันไปมองไอ้วินเซอร์แล้วเอ่ยอย่างเซ็งๆ ไอ้บ้านั้นก็ทำหน้าเหมือนเพิ่งคิดได้ เอาเข้าไป! ไอ้วินเซอร์ก็หยิบมือถือของตัวเองมากดทันที พอผมหันมามองทั้งสองคนที่ยังเล่นสงครามประสาทกันก็ถอนหายใจหันมาเจอะเข้ากับสายตาทิ่มแทงของเจ๊ปาล์มมี่ เวร อันนี้ก็อีกคน!
“เออๆ เข้าใจล่ะๆ เดี๋ยวกูเอาให้”ผมล้วงเอามือถือของตัวเองมากดค้นหาเบอร์ของไอ้ฮอยฮักให้กับอีเจ๊ปาล์มมี่ เรื่องมันจะได้จบๆ กันไปเสียที จ้องเขม็งบังคับกันซะขนาดนั้น มันน่ากลัวนะโว้ย!! ผมกดลงมาถึงหมวดฮอนกฮูก ก็มีแค่สองชื่อ
ชื่อแรกของ...ไอ้ฮัก นี่เพื่อนสมัยเด็กอีกคนของผมเอง ไม่ได้ติดต่อมันมานานเหมือนกันครับ รู้สึกว่ามันจะยุ่งๆ ไม่ค่อยมีเวลา แหงล่ะ เพื่อนของผมน่ะเป็นถึงนายแบบชื่อดังเชียวนะ!! คนหน้าตาดีย่อมคบกับคนหน้าตาดีเหมือนกัน โฮะๆ ว่างๆ ไว้ค่อยชวนมันไปเที่ยวล่ะกัน ผมกดลงมาอีกชื่อนั้นก็คือเบอร์ของไอ้ฮอยฮัก
หือ?รู้สึกว่าเบอร์มันเหมือนกันกับเบอร์เมื่อกี้เลยแฮะ แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไงสงสัยผมจะจำผิด เบอร์มันจะเหมือนกันได้อย่างไง ผมเลิกสนใจเรื่องเบอร์แล้วยื่นมือถือไปให้กับเจ๊ปาล์มมี่ พอเจ๊ปาล์มมี่ได้เบอร์ไปก็รีบกดโทรออกทันที แต่ว่านะ ไอ้วินเซอร์มันโทรไปก่อนยังไม่เห็นจะติด แล้วคิดเหรอว่าเจ๊ปาล์มมี่จะโทรติดน่ะ!!
“ฮอยปิดมือถือทำไมมมม~”
เหอะๆ เห็นไหมล่ะ? สองคนนี้ก็ทำหน้าเหมือนหมาง่อยเพราะโทรไม่ติดไอ้ฮอยมัน สม! แล้วทำไมผมถึงโทรติดน่ะเหรอ? เปล๊า ผมไม่ได้โทรนะ ไอ้ฮอยนู้นมันโทรมาบอกให้ผมลาให้น่ะ สงสัยมันยุ่งมากถึงได้ปิดมือถือไว้ล่ะมั้ง ผมหันมามองมือของไอ้โซโล่ที่มาโอบไหล่ของผม เวร ลามปามวะ! ผมปัดมือมันออกจากไหล่ของตัวเองทันที ไอ้บ้านั้นก็หันมามองผมอย่างไม่พอใจ อะไรของมึงวะ? กูทำอะไรผิด ร้อนจะตายห่า จะมานั่งเบียนกันทำไม?
“ขยับไปสิวะ”
“ไม่ มึงมานั่งนี้”ไอ้โซโล่มันไม่ขยับห่างผมก็ต้องขยับห่างเอง แต่ไอ้บ้านี้เสือกดึงผมเข้ามาใกล้ตัวเองแล้วโอบเอวมาชิดตัวมันซะ เฮ้! สายตาแต่ละคนมองมาที่ผมกับไอ้โซโล่ทันที เอาล่ะสิ ไอ้บ้านี่ เดี๋ยวคนอื่นเขาก็เข้าใจผิดเอาไปเม้าท์แปลกๆ อีกหรอก!
“เอ่อ...ฉันว่าจะถามนานแล้วล่ะ นี่ใครเหรอวะพรีสต์?”ยัยเมย์มองมาที่ผมแล้วถามขึ้น ผมใส่ศอกไอ้โซโล่แล้วขยับตัวออกห่างจากมันทันที ไอ้เวรนี่! มาลวนลามอะไรกูท่ามกลางประชาชีแบบนี้วะ!!
“ไอ้นี่น่ะเหรอ? เพื่อนฉันเองแหละ มันชื่อโซโล่ ส่วนหมอนี้ชื่อวินเซอร์ คนนี้ชื่อชิน!”ผมก็แนะนำให้พวกเพื่อนๆ รู้จักสามหนุ่มจากวิศวะที่วันนี้มาเสนอหน้านั่งกินข้าวด้วยตั้งนาน ไอ้พวกเพื่อนของผมมันจะต่อมรับรู้ช้าไปไหม? มาถามอะไรตอนที่มันจะกินข้าวกล่องหมดแล้วเนี่ยนะ!?
“ใครเป็นเพื่อนมึงวะ”ไอ้วินเซอร์กระซิบกัดเบาๆ ผมก็กระซิบตอบมันกลับไป
“งั้นเป็นเพื่อนเขยเหรอ?”
“...”
สม!! เถียงใครไม่เถียง มาเถียงกู!!
“ผมรู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาพวกเขามากเลยนะครับพรีสต์”ไอ้ภู่เพื่อนอีกคนในสาขามันเอ่ยออกมาชัดถ้อยชัดคำมาก พวกคุณกรุณาจินตนาการถึงพวกนักข่าวที่อ่านข่าวด้วยคำตัวรอเรือตัวควบคล้ำชัดยิ่งกว่าชัดและช้าๆ เนิบๆ นั้นแหละครับ!!
“สงสัยมึงจะเห็นตอนชนคณะล่ะมั้ง?”
“อ้อ เจ้าคนที่แพ้ไอ้ฮอยน่ะเหรอวะ?”ไอ้ปาตี้มันพูดออกมาเร็วมาไอ้นี่มันปากไวครับ แต่มันไม่ได้ตั้งใจหรอก มันไม่ได้จะตอกย้ำ มันพูดตามนั้นแหละ แต่มันดันไม่ถูกหูคนฟังเนี่ยแหละ ไอ้คนแพ้มันหันไปมองไอ้ปาตี้เขม็งทำเอาไอ้ปากไวปาตี้กระโดดหลบไปด้านหลังไอ้ภู่ นั่นแหละ สม ปากไวนัก!!
“ฮ่าๆๆๆ ใช่ๆ คนนั้นแหละปาตี้ ไอ้คนที่แพ้ฮอยนั้นแหละ”ไอ้พี่เพ้นต์ที่ได้ทำเลที่นั่งข้างๆ ไอ้โจ้ก็พูดด้วยใบหน้ายิ้มๆ เหมือนไม่ได้จงใจตอกย้ำอะไรมาก ไม่ม๊ากเลย ไอ้โซโล่มันหน้าแดงแน่ะ ก็แค่แพ้ไอ้ฮอย ไอ้จืดๆ เท่านั้นเอ๊ง ไม่มีอะไรต้องอายเลยนี่หว่า ไอ้วินเซอร์มันก็แพ้ มันยังหน้าด้านนั่งกินหน้าตาเฉย!
( พี่น้องคร้าบบบ~ พร้อมหรือยังสำหรับช่วงบ่าย! ให้เวลากินอีกห้านาทีแล้วมารวมตัวกันที่ลานหน้าคณะเหมือนเดิม!! รอฉันรอเธออยู่ แต่ไม่รู้เธออยู่หนใด เธอจะมาๆ เมื่อไร นัดฉันไว้ทำไมไม่มา~ )
เสียงพี่แทนดังขึ้นไปทั่วคณะเมื่อได้ยินพวกผมก็รีบแดกกันอย่างรวดเร็วแล้วรีบไปรวมตัวกันที่หน้าคณะ ไอ้สามตัวแห่งวิศวะมันจรลีหายไปสองตัวเหลือแต่ไอ้โซโล่ ไอ้พวกนี้มันมากินข้าวฟรีกันหรือไงวะ ที่บ้านขาดแคลนเหรอไงเนี่ย ไอ้โซโล่เดินเข้ามาจับแขนของผมไว้ อะไรอีกวะ กูกำลังรีบไป!
“กูจะกลับล่ะ ดูแลตัวเองดีๆ ล่ะ”
มึงจะไปก็ไปไม่ต้องบอกกูหรอก อีกอย่างกูดูแลตัวเองดีแน่ๆ ไม่ต้องบอกหรอกเฟ้ย!! ไอ้โซโล่มันเหลือบมองพี่เพ้นต์ที่เดินออกไปก่อนหน้าเล็กน้อยแล้วหันกลับมามองผม มันยิ้มเจ้าเล่ห์
“เดี๋ยวกูจะกลับไปรอที่บ้าน แข่งเสร็จแล้วรีบกลับล่ะ”
“เออ”
ผมมองรอยยิ้มมันแล้วไม่ไว้ใจเลยวะ!? มึงคิดจะทำอะไรอีกวะ? ไอ้โซโล่ปล่อยแขนของผมแล้วโบกมือออกไป ผมมองตามมันอย่างครุ่นคิด คงไม่ใช่ว่ากูกลับไปแล้วจะโดนจัดหนักหรอกนะ เฮ้ย!! วันนี้กูไม่กลับได้ไหมวะ!?
( เอาล่ะครับ! สำหรับเกมต่อไป เป็นเกมเบาๆ ไว้ย่อยข้าวในท้อง )
เสียงขอพี่แทนดังขึ้นทำเอาผมต้องรีบออกตัววิ่งไปรวมกับพวกเพื่อนๆ ไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของไอ้โซโล่มันอีก พอมาถึงลานผมก็เห็นมีเก้าอี้วางเป็นวงกลมขนาดใหญ่ จะเล่นอะไรอีกวะเนี่ย? พี่แทนแกยืนอยู่กวางวงเก้าอี้เพื่ออธิบายเกมให้พวกเราฟังครับ
( เกมนี้มีชื่อว่าเก้าอี้ดนตรีตาลปัตร! ปกติเก้าอี้ดนตรีจะแย่งกันนั่งใช่ไหมครับ? แต่เกมนี้เราจะให้คนนั่งเก้าอี้ออก!! ทำอย่างไงก็ได้ให้ฝั่งตรงกันข้ามนั่งเก้าอี้ให้ได้ เพื่อให้อีกฝ่ายออก เกมนี้ฝ่ายไหนยังเหลือเป็นคนสุดท้าย ฝ่ายนั้นชนะครับ! )
ผมหันซ้ายหันขวามองเหยื่อที่จะจับมันยัดใส่เก้าอี้ แต่ละสีเดินแยกย้ายกันยืนล้อมรอบเก้าอี้เป็นวงกลม ผมเล็งเหยื่อใกล้ตัวมากที่สุด คนๆ นั้นคือไอ้แซมที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมเนี่ยแหละ มึงไม่ระวังตัวเอง มึงตายยยย!
( เดินไปรอบๆ ไปเรื่อยๆ จนกว่าเพลงที่เปิดจะหยุด เมื่อเพลงหยุดแล้วให้ทำทุกวิธีเพื่อให้อีกฝ่ายนั่งเก้าอี้จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดเป่าให้หยุดนะครับ เอาล่ะ มิวสิค เร็ทโกเด้อ~!!! )
( ใครไม่เต้นไม่โยก เราจะปรับแพ้นะครับ~ )
( เพียง.... กระซิบบอก บอกฉันซักคำ เธอไม่รัก ไม่อยากจดจำ จำ... จดความสัมพันธ์ ครั้งก่อน .... เคยหวานชื่น ต่างคนเว้าวอน รอยความรัก เกินกว่าจะถอน เลือนจากจิตใจ รักละมุนละไมติดตรึงไว้ในความทรงจำ ทุก ๆ การกระทำจดจำไว้ พิษรักรอยระบม ขื่นและขมระทมทรวงใน จดจำไว้..... จนชีพวาย... )
เมื่อเพลงหยุดทุกอย่างชุลมุนเป็นที่สุด แต่ละคนก็จับไอ้คนที่ใกล้ตัวยัดลงเก้าอี้ ผมจับไอ้แซมแล้วรีบยัดมันใส่เก้าอี้ ไอ้นั้นก็ดิ้นไปมาแล้วลุกขึ้น ผมก็ผลักมันลงเก้าอี้ มีถีบให้อีกดอก! ไอ้แซมมันก็พยายามสุดขีดชีวิตที่จะลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเสียงนกหวีดก็ดังขึ้น พวกคนที่รอดก็ส่งเสียงเฮทันที
“มึงจำไว้เลยไอ้พรีสต์!”ไอ้แซมลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วชี้หน้าผมอย่างแค้นจัด มันเดินส่ายก้นออกไปจากวง คนแพ้ก็ได้แยกตัวออกไปรอลุ้นรอเชียร์ต่อไป ส่วนคนที่เหลือก็น้อยลงกว่าเหมือนตอนแรก ผมมองไอ้โจ้กับไอ้บู๊ลิ้มที่ยังเหลือรอด เพื่อนคนอื่นๆ ก็รอดเยอะ สีน้ำตาลก็รอดเยอะ ไอ้สตางค์มันยังรอดครับ เช่นเดียวกับไอ้พี่เพ้นต์
( รอบที่สอง เริ่มได้! )
( ไปเที่ยวกันไหม จะไปก็รีบไป ไปกับพี่แล้วสบาย เดี๋ยวพี่พาไปกินตับ ตัวพี่ชอบกินตับหวาน ส่วนตัวน้องนั้นชอบทานตำไทย ตำมั่ว ตำซั่ว ตำแตง จะมัวออกแรง นั่งตำทำไม ตับหวานน้องสนใจไหม ตับหวานน้องสนใจไหม ตับหมูตับไก่อยากให้น้องกินตับ ตับตับ ตับ ตับ ตับตับ ตับ ตับ... )
เพลงหยุดลงอีกครั้ง นรกก็แตกอีกรอบสร้างความวุ่นวายได้อีก ผมดันเดินไปเต้นไปมาถึงพี่เพ้นต์ เวร! กูจะต้องหนีสินะ ไม่หนีกูก็โดนอีกฝ่ายจับแน่ๆ ผมก็รีบถอยห่างจากพี่เพ้นต์ทันที เฮียแกส่งยิ้มสยองมาให้ก่อนแล้วเข้ามารวบตัวผมอย่างรวดเร็ว ม่ายยยย!!! ด้วยแรงมหาศาลอย่างกับช้างแกลากผมมานั่งเก้าอี้จนได้
“ขอโทษนะครับพรีสต์ บังเอิญเธออยู่ใกล้พี่”
ครับ ผมมันเซ่อแดกเอง!! เต้นกินตับไม่ดูตาม้าตาเรือไปหน่อย เต้นไปเต้นมาดันมาอยู่หลังพี่เพ้นต์ โถ! ชีวิตกู!! แล้วผมก็แพ้ไปตามระเบียบนั้นแหละครับ แต่ไม่เป็นไร ยังมีไอ้โจ้กับไอ้บู๊ลิ้มอยู่ แล้วรอบที่สามรอบชิงแล้วล่ะมั้ง เริ่มต้นพร้อมกับเพลงชิมิๆ
( ทำเป็นถามหนักกี่โล อยากได้เบอร์โทร ชิมิชิมิ แล้วถามว่าเรียนกี่โมง อยากจะไปส่ง ชิมิชิมิ บอกเธอว่าไม่เป็นไร แต่ว่าในใจ ได้สิได้สิ ต้นเหตุทั้งหมด ต้นเหตุทั้งหมด เป็นเพราะความสวย ชิมิ )
ผมเต้นชิมิๆ อยู่ข้างสนามเชียร์ไอ้โจ้ที่หันไปจับไอ้พี่เพ้นต์ จัดการมันนนนน!! แก้แค้นให้กูด้วยยยย!!! ไอ้โจ้เหวี่ยงพี่เพ้นต์ พี่เพ้นต์ก็เหวี่ยงไอ้โจ้ ไม่มีใครยอมใครสักคน ส่วนไอ้บู๊ลิ้มต้องสู้กับไอ้เตี้ยเมียมันเอง ผมมองอย่างไงก็เหมือนพวกมันกำลังหยอกเล่นกันน่ารักคิขุ โว้ยยยย!!! ไม่ใช่เวลามาสวีตกันนะโว้ย!!
“เฮียยอมแพ้สิคร้าบบบบ~!”
“มึงนั้นแหละไอ้โจ้ ยอมแพ้ซะ!!!”
ไอ้โจ้โดนพี่เพ้นต์บังคับนั่งเก้าอี้ไอ้ห่าโจ้ก็เป็นดั่งนกฟินิกซ์ลุกขึ้นแล้วยักพี่เพ้นต์นั่งลงแทน ทั้งสองผลักกันนั่งเก้าอี้ไปมา เมามันส์ช่างต่างจากคู่ไอ้เตี้ยเหลือเกิน พวกมันสองคนกำลังเปายิงชุบกันอยู่ครับ ตัดสินแบบปัญญาอ่อนมาก!! แล้วสุดท้ายไอ้เตี้ยสตางค์ก็แพ้เลยได้นั่งเก้าอี้โดยมีไอ้บู๊ลิ้มคอยนวดไหล่เอาใจ ตามใจมันมากเดี๋ยวไอ้เตี้ยเหลิงนะโว้ย!
( ปรี๊ดดดดดดดดดดด!!! )
เสียงนกหวีดดังขึ้น ทุกคนก็หยุดเคลื่อนไหว ปรากฏว่าไอ้โจ้กับไอ้พี่เพ้นต์นั่งเก้าอี้ตัวเดียวกันจะบีบคอกันอยู่แล้ว เหลือแค่ไอ้บู๊ลิ้มที่ยืนอยู่ พี่แทนกระแอมเล็กน้อย
( ผู้ชนะได้แก่บู๊ลิ้ม สีขาวววววว!!!! รับไปห้าสิบแต้ม! )
ไอ้คนชนะยืนงงเลยครับ แต่คนเชียร์สีขาวไม่งงเพราะตูค่อยส่งเสียงโห่ร้องอยู่แล้ว เต้นฉลองชัยไปแป๊บหนึ่ง พี่แทนก็มาเบรกอาการออกหน้าออกตาของสีขาวที่นำไปอีกห้าสิบแต้ม ผมหันไปมองกระดานแต้ม สีขาวอยู่ที่ 200 แต้ม ส่วนสีน้ำตาลอยู่ที่ 140 แต้ม ถ้าชนะไปเรื่อยๆ ล่ะก็สีขาวชนะแน่ๆ!!
( เกมย่อยอาหารของเราท่าทางจะได้ผลนะครับ แต่ละคนลิ้นห้อยเชียว เครื่องกำลังร้อนแบบนี้อย่ารอช้าครับ เรามาเล่นอีกเกมกันดีกว่า! )
แล้วเด็กปีหนึ่งก็แบกเชือกขนาดใหญ่เข้ามาครับ ไม่รู้ว่าจะเล่นอะไรอีกคราวนี้ พี่แทนรับเชือกจากเด็กปีหนึ่งแล้วเดินเข้ามายืนตรงลานกว้าง
( เกมนี้คือเกมชักคะเย่อ! แต่ไม่ใช่เกมชักคะเย่อธรรมดาแน่นอนครับ!! ปกติแล้วเราจะแบ่งเป็นสองฝั่งแล้วดึง ฝ่ายนั้นดึงให้อีกฝ่ายเข้ามาให้เขตตัวเองก็ถือว่าเป็นฝ่ายชนะใช่ไหมครับ? แต่เกมนี้เราจะแบ่งเป็นสองฝั่งโดยที่ทั้งสองฝั่งมีสองทีมอยู่ด้วยกัน จะแบ่งออกเป็นฝั่งดึงและฝั่งก่อกวน ฝ่ายดึงก็พยายามดึงอีกฝ่ายเล่นตามปกตินั้นแหละครับ แต่ฝ่ายก่อกวน พูดง่ายๆ ก็คือกวนฝ่ายดึงของอีกฝ่ายไม่ให้มันดึงฝ่ายเรามานั้นแหละ เราจะแข่งจนกระทั่งฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูกดึงเข้าเขตของอีกฝ่าย เอาล่ะ! เริ่มเล่นกันเลย!! )
อย่างผมต้องเป็นตัวก่อกวนเท่านั้น ฮ่าๆๆๆ ตัวก่อกวนของสีขาวก็มาประจำที่อยู่กับฝ่ายดึงของสีน้ำตาลครับ เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มการแข่งขันได้ เป้าหมายกูอยู่ตรงหน้าแล้ว ไอ้แซม!!! ผมตรงเข้ามาจี้เอวมันทันที ไอ้บ้านี่มันบ้าจี้ครับ!! ไอ้แซมมันดึงไปสักพักแล้วมันก็ล่วงไปหัวเราะกับพื้น แล้วผมก็ปฏิบัติการก่อกวนคนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อให้ฝั่งตัวเองดึงเชือก อีกนิ๊ดเดียวก็จะดึงเข้าฝั่งตัวเองอยู่แล้วแต่สีน้ำตาลมันถึกดึงกลับมาเท่าเดิม
“พรีสต์ มาจี้เอวพี่ก็ได้นะ”ไอ้พี่เพ้นต์หันมาพูดกับผม อย่างพี่ใครจะกล้าล่ะครับ!! ผมก็เดินผ่านพี่แกไปแกล้งคนอื่นดีกว่า ไอ้คนสมยอมให้แกล้งน่ะแกล้งแล้วไม่สนุกหรอก!
ชักคะเย่ออยู่นานสองนานจนกระทั่งสีน้ำตาลชนะไปในที่สุด หรือเพราะว่าผมไม่กวนไอ้พี่เพ้นต์วะ เฮียแกยิ่งแรงช้างแรงควายอยู่! ตอนนี้คะแนนของสีน้ำตาลตีตื้นเป็น 170 แต้มแล้ว อีกสามสิบคะแนนก็ตามทันสีขาว อย่างนี้จะต้องทำแต้มหนี!!
( ให้เวลาพักสิบนาทีเพื่อเตรียมตัวผู้เล่นสีละสามสิบคน คัดเอาแต่คนมือแม่นๆ คีบเก่งๆ ประมาณว่าเซียนตะเกียบนะครับพี่น้อง เพราะเกมต่อไปเป็นเกมเกี่ยวกับตะเกียบ! )
หวังว่าจะไม่ใช้ตะเกียบมาดีดหน้าผากอีกนะครับพี่แทน โดนครั้งนั้นผมก็จำจนตายแล้วล่ะ!! ฝ่ายสวัสดิการเริ่มแจกน้ำแจกท่าให้กินกันครับ พร้อมขนมเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งได้ทุนจากคณะนั้นเอง พวกเรากินไปด้วยแล้วคัดเลือกคนที่คิดว่าตัวเองเซียนตะเกียบ
(เอาล่ะครับ พักกินน้ำขี้เยี่ยวเสร็จ เราก็มาต่อเกมต่อไปกันเลยดีกว่า! เกมนี้ง่ายมากครับ! )
เอ่อ...พี่แทน พูดเว้นวรรคหน่อยก็ได้นะครับ กินขี้เยี่ยวนี้มันก็เกินไปหน่อย! แล้วเด็กขายแรงอย่างปีหนึ่งก็ปีนบันไดพับมาสองตัวมาตั้งไว้ครับ แล้วพี่แทนและผู้ช่วยอีกคนก็ปีนขึ้นไปนั่งบนบันได ในมือมาทิชชู่บางๆ
( แต่ละสีมาต่อแถวที่หน้าบันไดเลยครับ เกมนี้ง่ายมา เราจะแจกตะเกียบให้สีละคู่ แล้วใช้ตะเกียบนั้นคีบทิชชู่ที่ผมจะปล่อยลงไปแบบนี้ให้ได้ก่อนที่มันจะตกพื้น เข้าใจไหมครับ? ถ้าเข้าใจแล้ว เรามาเริ่มกันดีกว่า! )
ผมไม่ถนัดใช้ตะเกียบ กูเข็ดขยาดกับตะเกียบ ขอเซย์โนกับเกมนี้แล้วปล่อยให้พวกเพื่อนๆ ลงแข่งครับ ฝั่งสีน้ำตาลมีไอ้แซมเป็นคนแรก พอทิชชู่ปลิวลงมาจากมือคนที่ปล่อย มันก็พยายามใช้ตะเกียบคีบทิชชู่แผ่นบางๆ นั้น คีบแล้วคีบอีกจนทิชชู่จะตกพื้น ไอ้บ้านั้นก็ลงทุนไถลตัวไปคีบกับพื้นแล้วเสือกคีบได้อีกแน่ะ!!!
แต่ละสีก็พยายามใช้ตะเกียบน้อยคีบทิชชู่ที่ปลิวละล่องลงมาอย่างกับเป็นขนนก คีบกันหน้าดำคร่ำเครียดจนกระทั่งครบสามสิบคนในแต่ละสี พี่แทนก็รวบรวมสถิติแล้วประกาศว่าใครคือผู้ชนะ
( สีที่ชนะได้แก่ สี...สี...สี...สี...น้ำตาลลลลล!!! รับไปอีกสามสิบแต้ม!!! )
เวร! ตอนนี้คะแนนสีน้ำตาลกับสีขาวเท่ากันเรียบร้อย โอ๊ยหนอ! จะต้องทำคะแนนนำให้ได้! ไม่ยอมแพ้หรอก!! เกมต่อไปในการแข่งขันคือ...
( เกมยิงกวาง!!!! )
แล้วสีที่ได้เป็นฝ่ายเล่นก่อนคือสีน้ำตาลครับ แหม กำจัดกวางให้เร็วที่สุด สีไหนยิงกวางหมดเร็วที่สุดสีนั้นเป็นฝ่ายชนะครับ ลูกบอลที่โยนมีด้วยกันสี่ลูก อยู่ในมือผมหนึ่งลูกนอกจากก็กระจายไปให้คนอื่นๆ ถือ เกมเริ่มต้นขึ้นเมื่อพี่แทนเป่านกหวีด ผมก็โยนใส่อีกฝ่ายที่มีกันเยอะมากเป็นฝูงมด โยนแต่ละทีออกเป็นสิบกว่าคนแน่ะ จับบอลได้โยนลูกเดียวครับ ไม่ต้องเสียเวลาเล็งให้ยาก กวางก็ถูกยิงไปค่อนสนาม
ลูกบอลทั้งสี่ยิงกวางสีน้ำตาลแบบไม่ปรานีกันสักนิด แต่ละคนเล็งจุดหมายเดียวกันครับ ใครน่ะเหรอ? ไอ้พี่เพ้นต์น่ะสิ!! โดยเฉพาะไอ้โจ้กับไอ้บู๊ลิ้มโยนแบบกะจะเอาให้ตาย ไอ้พี่เพ้นต์ก็กระโดดหลบอย่างชำนิชำนาญ เฮียแกเป็นลิงหรือไงวะ หลบอย่างว่องอ่ะ ผมเล็งบอลอยู่นานก็ขว้างใส่พี่เพ้นต์เต็มเหนี่ยวในระหว่างที่พี่แกระวังบอลจากไอ้โจ้และไอ้บู๊ลิ้ม
ผัวะ!!!ผมยืนนิ่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทันทีที่บอลถูกหัวเฮียแกแบบจังๆ พี่เพ้นต์เซไปข้างหน้าเกือบล้มแน่ะครับ เอ่อ...ก็นึกว่าจะหลบได้อ่าครับ ไม่ได้ตั้งใจอ่า พี่เพ้นต์หันมามองฝั่งพวกผมตาแทบจะถลนจากเบ้า น่ากลัวที่ซู้ดดดด!!! ไอ้พวกเพื่อนรักดีก็รีบชี้คนร้ายตัวจริงทันทีก่อนที่พี่เพ้นต์จะถามซะอีก
“พรีสต์งั้นเหรอ? ไม่เป็นไร เจ็บนี้เพื่อเธอ พี่ทนได้”
“โอ๊ยยย เสี่ยวแดกอย่างแรงคร้าบ พี่เพ้นต์”แต่ละคนโห่ร้องออกมาอย่างสุดจะทนครับ หนึ่งในนั้นก็ผมเนี่ยแหละ โห เฮียแกจะเสี่ยวไปไหนวะ!? พี่เพ้นต์ยิ้มแล้วยักไหล่ก่อนจะเดินออกไป พวกผมก็เริ่มโยนบอลฆ่าตัวพยาธิที่ไม่ยอมตายสักที ใครน่ะเหรอครับ?
อีเจ๊ปาล์มมี่นี่แหละ!!มันหลบบอลซะพลิ้ว หมุนตัวอย่างกับเต้นบัลเล่ต์แน่ะ เหลือเจ๊นี่คนเดียวแต่ทำไมมันจัดการยากแบบนี้วะ บอลสี่ลูกขว้างใส่พร้อมกันยังหลบได้อีกแน่ะ ป๊าดดด!!! แน่มากเจ๊! ไอ้โจ้ทนไม่ไหวครับ มันทำท่าคิดแล้วชี้นิ้วออกไปพร้อมกับตะโกนไม้ตายฆ่าอีเจ๊ปาล์มมี่
“ไอ้ฮอยมา!!!”
“ไหนๆ ฮอยมาแล้วเหรอ ฮอยอยู่ไหน...”
ผัวะ!!!!!“กรี๊ดดดดด!!!!!! อีโจ้ อีบ้า!!!!!”ระหว่างที่เจ๊ปาล์มมี่มันหันมองหาผัวฮอยของมันไอ้โจ้ก็ขว้างบอลด้วยความเร็วสูงไปถูกอีกฝ่ายเข้าเต็มๆ ไอ้โจ้มันหัวเราะสะใจทันที และแล้วเกมนี้สีขาวของพวกผมก็ชนะไปครับ
เล่นอยู่หลายเกมจนกระทั่งรวมคะแนนทั้งหมด สีขาวเป็นฝ่ายชนะไป สีน้ำตาลก็โดนทำโทษให้เก็บสถานที่เนื่องจากเป็นฝ่ายแพ้ ผมก็เก็บกระเป๋าเตรียมตัวจะกลับบ้าน พี่เพ้นต์ก็เดินเข้ามา
“เดี๋ยวพี่ไปส่งไหมพรีสต์?”
“เอ่อ...ไม่ต้องหรอกครับ ผมขี่ไอ้เหลืองมาเอง”
“งั้นเหรอ งั้นกลับดีๆ นะ พี่เป็นห่วง”
“อ้อ ครับ ขอบคุณ”ผมยิ้มรับแห้งๆ แล้วก้มหัวขอตัวเดินออกมา เฮียเพ้นต์อาทิตย์น่ากลัวมาก พูดเสี่ยว พูดเลี่ยนขึ้น กูจะบ้า!! แถมยังทำตัวอย่างกับจีบสาวอยู่แน่ะ โอ๊ยยย!!! ทั้งดอกไม้ ทั้งตุ๊กตาหอบมาให้กับผมอย่างกับเมื่อสมัยผมเคยจีบสาวพอตัวเองเจอบ้างแล้วรู้สึกแปลกๆ วะ ออกจะน่าขนลุกขนพอง!!
ผมเดินมาที่ที่ไอ้เหลืองจอดไว้แต่กลับไม่เห็น อ้าว ผมลืมที่จอดรถไว้งั้นเหรอ? เฮ้ย แต่จำได้ว่าผมจอดอยู่ตรงนี้นี่น่า จนกระทั่งผมเห็นรถสีแดงแปร๊ดจอดอยู่พร้อมกับไอ้คุณชายยืนกอดอกวางมาด มันก็เห็นผมเหมือนกันครับ ไอ้โซโล่ก็เดินเข้ามาหาผม
“กลับบ้าน”
“กูกลับเองได้”
“กลับไง กูสั่งให้เขาเอาเจ้าเหลืองกลับบ้านแล้ว มึงจะเดินกลับก็แล้วแต่ล่ะกัน”
“...”
ตอนไหนวะ? มึงมีกุญแจรถไอ้เหลืองงั้นเหรอ? โธ่โว้ย!!! มันชักจะวุ่นวายกับชีวิตกูเกินไปล่ะ!! ไอ้โซโล่หันมามองผมที่ยังยืนนิ่ง มันเลิกคิ้วขึ้นเดินเข้ามาเหมือนเดิมแล้วจับแขนผมลากให้เดินไปด้วย
“อะไรวะไอ้พรีสต์ เดี๋ยวนี้กลับเองไม่ได้งั้นเหรอวะ ต้องมีราชรถมารับกลับน่ะ”
“หุบปากไปเลยไอ้โจ้!!!”
“เธอเสร็จเขาแล้วใช่ไหม? เธอจึงไปกับเขา โว้ๆๆ~”ผมส่ายหน้าไปมา เพื่อนกูแต่ละคน! ไอ้เตี้ยแสยะยิ้มให้กับผมอย่างกวนตีนที่สุด แล้วผัวมันน่ะกวนตีนมากกว่าอีก เสือกร้องเพลงห่าอะไรไม่รู้ มีประโยคเดียว ร้องซ้ำไปซ้ำมาอยู่นั้นแหละ!!!
“พวกมึง...ตายยยย!!!!”
“เอาเมียมึงไปฉีดยากันบ้าด้วยนะโว้ยโซโล่ แว๊กกกกกก!!!!”ไอ้แซมที่อยู่ใกล้สุดโดนตีนผมไปเต็มๆ วันนี้ไอ้แซมมันซวยจริงๆ โดนผมถีบตั้งหลายดอก ไอ้โจ้ก็วิ่งแตกกระจายไปหาที่ปลอดภัย ไม่วายจะตะโกนกวนตีนกลับมา ไอ้โซโล่หัวเราะขำแล้วพึมพำกับตัวเอง
“ฉีดยาอยู่ทุกวันวะแต่ดูท่าจะไม่มีผลวะ”
“น้ำยามึงไม่ดีไงล่ะ!”ผมหันกลับมาตวาดใส่มันหน้าแดง พูดจาสื่อไปทางนั้นตลอดเหอะมึง!! ไอ้โซโล่หันมามองผมแล้วยิ้มให้อย่างยั่วๆ
“เหรอ ไม่ดีจริงเหรอวะ? กูจำได้ว่าเมื่อคืนนี้น่ะใครก็ไม่รู้มัน...”
“ตกลงมึงจะกลับไหมวะ!!!?”ผมตะโกนกลบเสียงไอ้โซโล่ทันที จะมาพูดเรื่องอะไรแบบนี้ในที่สาธารณะวะ กูรับไม่ได้!!! ไอ้โซโล่ยักไหล่แล้วเดินมาที่รถ ผมก็เดินกระทืบเท้าตามมันไปแบบโกรธๆ ก็ไม่ได้โกรธจริงหรอก แบบว่ากูไม่พอใจนิดๆ เท่านั้นทั้งๆ ที่น่าจะโกรธมากกว่านี้ คิดๆ ขึ้นมาแล้วก็เหมือนผมกำลังจะเสพติดอะไรบางอย่างเข้าให้แล้วล่ะ
เฮ้อ~ นี่กูเสพติดยาอันตรายที่เรียกว่า...โซโล่เข้าแล้วเหรอวะ?TBC.ตอนต่อไปเข้าสู่ช่วงความหื่นกระจายของโซโล่~!!
อุตส่าห์เฮียแกหลบไปเตรียมการโดยเฉพาะ
พริตตี้...หึๆ เจอกับมหากาพย์โซโล่แน่!!!!! 
คือ เรื่องราวทิ้งระเบิดไว้เยอะ ผูกปมเป็นเงื่อนพิรอดเข้าไปกันใหญ่
ตั้งแต่ตอนประลองแระ คือเราสงสัย คนอื่นเข้าใจแต่เราสงสัยว่ะ
1. พี่เพ้นต์เค้าแกล้งแพ้ แต่ทำโซโล่แขนเดาะไปแล้วชิมิ [ พี่เพ้นต์แพ้จริงๆ ไม่ได้แกล้งแพ้น่า เฮียแกแพ้แล้วค่อยทำแขนของโซโล่เดาะ ]
2. ส่วนเจ้าฮอยก็เข้าไปช่วยล้มให้ จะได้ไม่เดาะกว่านี้ ชิมิชิมิ [ อันนี้ช่ายยยย ]
3. แต่เจ้าฮอยเค้าเจือกไม่เข้าข้างรุ่นพี่ตัวเอง ฮอยฮักคะ น้องรู้เรื่องเบื้องหลังบัตรเดท แล้วรู้เรื่องอะไรมอปลายคะ? [ ฮอยเค้าบังเอิญรู้เบื้องหลังน่ะ อีกอย่างเรื่องมอปลายฮอยเขาก็รู้อ่านะ ]
4. ซุปเปอร์ฮอยมีมุมน่ารักเว่อ เพราะเจ้าวินเซอร์ อันนี้เข้าใจ เพราะน้องฮอยรักเค้า [ ฮอยเค้ามีมุมน่ารักเยอะอยู่นะ ]
5. พี่เพ้นต์มีเบื้องหลังอะไรน่ากลัวกว่านี้อีกคะ แต่เพราะพี่เค้าหล่อ และดีกะพรีสต์ รักพรีสต์มาก เราก็แอบเชียร์พี่เค้าเบาๆนะคะ [ พี่เพ้นต์เหรอ? ไม่หรอก พี่แกก็แค่เคยเป็นนักเลงนิดหน่อยเท่านั้นแหละ ]
6. ปมเยอะสัดอ่ะ (อุ๊ปส์!!!) ไม่เป็นไรค่ะ จะรอเฉลยต่อ [ ปมเยอะเหรอ อะไรบ้างหว่า จำไม่ได้ ฮ่าๆ ]
7. อย่าลืมบอกด้วยนะคะ ว่าอิวินเซอร์ลากน้องฮอยไปทำอะไร หรือว่า ฮอยทำอะไรวินเซอร์ กรี๊ดดดดดด [ แล้วจะบอกนะ ]
คาดว่าจะหวาน(?)และเขิล(?)ขึ้นเรื่อยๆ... โซโล่ลุย!!!! [ ช่ายยยยยยยยย!!!!! หวานก่อนจะเข้าตอนเศร้า(?) ]
ขอโทษที่ตอบช้า เห็นบอกให้ตอบด้วย ก็เลยตอบ
อันที่จริงเค้าก็อยากจะตอบเม้นทุกคน แต่ลืมตลอด 