รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62  (อ่าน 514955 ครั้ง)

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :oo1:
เรื่องไรอ่ะ ไม่หนักใช่ไหม แม่พะยูนน้อยของพี่งอนเล่น ๆใช่ไหม
 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2017 09:32:30 โดย Yarkrak »

ออฟไลน์ duckk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่ๆ 2 คนอย่างอนกันเลยน้าาา กลับมาดีกันก่อนค้าา :n1:

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
งอลไรเฮียเขาละน้องพยูน โบราณว่าสามีภรรยาทะเลาะกันบ่อยๆลูกจะดกนะจ๊ะ :mew1:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หวายยยย พี่โจ้ ดูเหมือนกันหรอเนี่ย เอาจริงๆ ตอนดูเรื่องนี้ ก็คิดว่าพี่เป๊ปจะหล่อ พี่โจ้จะน่ารักแบบนี้ไม่ไหม
ผมว่าสงสัยจะยิ่งกว่าในซีรีย์ซะอีกนะครับ ฟรุ้งฟริ้งน่ารักสุดๆ

แล้วพี่โจ้งอลอะไรพี่เป๊ป ค่อยๆคุยกันนะครับ ใจเย็นๆ ผ่านอะไรกันมาตั้งเยอะ จะหาคู๋แบบพี่ได้จากที่ไหนอีก

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีครับทุกท่าน เป๊บครับ คาดว่าทุกท่านคงสบายดี และผมกับตัวขาวก็สบายดีเช่นกันครับ

เช็คงานเสร็จก็เลยถือโอกาสเข้ามาดูในเล้าจน์ เจอตัวขาวมาฟ้องว่าผมไปดุ หนีออกจากคอนโด ก็เป็นความจริงครับ ไหนๆ ก็เล่าสักหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น คือเรื่องเป็นแบบนี้ครับ

เช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมกับตัวข่าวไม่ได้มีงาน หรือ นัดสำคัญ เลยคุยกันว่า น่าจะทำความสะอาดคอนโดครั้งใหญ่ การทำความสะอาด คือ การจัดของของเราสองคน ให้เป็นระเบียบ อาจจะมีการปัดกวาดเช็ดถูของส่วนตัวกันตามประสา และเรื่องราวที่เกิดตรงจุดนี้ละครับ

ระหว่างที่ผมกำลังจัดของในห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงมาจากห้องนอน

"เคร๊ง ตุ๊บๆๆ" เสียงเหมือนอะไรแตกหักแล้วหล่น

"ที่รักอะไรแตกครับ" ผมตะโกนถาม แต่นางไม่ตอบ

ผมเลยเดินมาดูต้นตอของเสียง ปรากฎว่า หุ่นประกอบกันดั้ม ที่เป็นของสะสมส่วนตัวของผม หล่นจากตู้โชว์ แตกหักเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ผมตกใจมาก

"ทำไมถึงหล่นแตกเนี่ย ไปทำอะไร" ผมตะคอกถามตัวขาว

"ก็..เอ่อ....พอดีโจ้เห็นว่าในตู้มีฝุ่น เลยชะเช็ดให้อะเป๊บ"

"ก็เป๊บเคยบอกแล้วไง ว่าอย่ามายุ่งตู้หุ่นกันดั้ม เดี๋ยวทำเอง แล้วทำไมไม่ฟังหา" ผมตะคอกใส่ดังมากด้วยอารมณ์โกรธ

ตัวขาวก็หน้าเสีย

"โจ้ขอโทษนะเป๊บ พยายามระวังแล้ว แต่ก็ไปโดนอะ" ตัวขาวหน้าเสียตกใจ

"ขอโทษแล้วมันจะซ่อมได้มั้ย อะไรกันเนี่ย บอกแล้วบอกอีกว่าอย่ามายุ่ง จะไปไหนก็ไปเลยไป เดี๋ยวทำเอง ไป๊" ผมตะโกนใส่พร้อมโบกมือไล่ไปไกลๆ

ตัวขาวก็เดินออกจากห้องไป ผมก็ไม่ได้สนใจอีก ก้มลงไปเก็บชิ้นส่วนหุ่นกันดั้ม พยายามประกอบกลับเข้าไปให้เหมือนเดิม โชคดีตรงที่ ชิ้นส่วนไม่แตกหัก แค่หลุดจากรอยต่อประกอบเท่านั้นเองครับ ใช้เวลาต่อหุ่น นานพอสมควร จนกระทั่งเสร็จ ก็เช็ดตู้ ปัดฝุ่น จัดนั่นนี่ แล้วเอาหุ่นที่ประกอบเหมือนเดิมใส่เข้าไปในตู้ สวยงามเหมือนเดิม

อารมณ์กลับมาเป็นปกติ ก็เริ่มเอะใจ ทำไมดูเงียบๆ แล้วตัวขาวไปไหน ผมเดินออกมาจากห้อง ไปเปิดอีกห้อง เดินจนทั่วห้อง ไม่เจอตัวขาว หยิบโทรศัพท์มากด

"เลขหมายที่ท่านเรียก....." อ้าวปิดมือถือ

ผมเดินไปดูตรงมุมกุญแจรถ กุญแจรถตัวขาวหายไป นั่น งานงอกละ นางงอนแล้วหนีไปแน่

ผมก็กดโทรศัพท์โทรไปบ้านใหญ่ ถามว่าตัวขาวไปที่นั่นหรือเปล่า ก็ไม่ได้ไป โทรไปที่บ้านตัวขาว ก็ไม่ได้ไป โทรไปตามบ้านเพื่อนที่ตัวขาวเคยไปบ้าง ก็ไม่ได้ไป ผมเริ่มกระสับกระส่าย เป็นห่วงมาก พลางคิดในใจ

"ไม่น่าโกรธเลยกู งอนหนักแน่ ทำไงดีวะ"

อยากจะขับรถออกไปตาม แต่ก็ไม่รู้ว่านางไปไหน ผมนั่งรอด้วยความทุกข์ พยายามโทรเข้ามือถือ นางก็ปิดเครื่อง ส่งไลน์ไป นางก็ไม่อ่าน จนราวๆ ทุ่มนิดๆ แม่ยายผม (แม่ตัวขาว) โทรเข้ามา ผมรีบกดรับ

"ครับแม่ เจอโจ้แล้วหรือครับ" ผมถาม

"ทะเลาะอะไรกันหรือลูก นี่โจ้เขากลับมาบ้าน ทำหน้าซึมมา"

"ก็...นิดหน่อยครับแม่ เรื่องไร้สาระครับ"

"แม่ก็ว่า พ่อกับแม่ถาม ก็ไม่ยอมบอก กินข้าวก็นิดเดียว นั่งเงียบๆ แล้วตอนนี้ขึ้นไปบนห้องแล้ว"

"ครับแม่ แล้วโจ้เข้ากลับมาบ้านนานแล้วหรือครับ"

"มาตอนประมาณห้าโมงนะลูก แถมกำชับว่า ไม่ให้แม่บอกลูกเป๊บ นี่แม่ก็แอบโทรมาบอกนะ" แม่พูดเสียงขำๆ

"ครับๆ งั้นเดี๋ยวผมรีบไปที่บ้านนะครับ"

"จ๊ะลูก ขับรถอย่าเร็วมากๆ รีบมาง้อ ป่านนี้นอนร้องไห้บนห้องนะแหละ" แม่พูดเสียงฮาๆ

"ครับแม่"

วางสายเสร็จ ผมก็รีบซิ่งไปบ้านตัวขาว รถติดพอสมควร กว่าจะถึงก็ประมาณเกือบสี่ทุ่มแล้ว จอดรถเสร็จ เดินเข้าไปในบ้าน

"พ่อแม่ สวัสดีครับ" ผมยกมือไหว้

"สวัสดีลูก กินอะไรมายังนี่" พ่อรับไหว้แบบยิ้มๆ แม่รับไหว้พร้อมถาม

"เอาจริงๆ ยังเลยครับ แต่ยังไม่หิวครับ แล้วโจ้ละครับ" พ่อชี้ไปข้างบน

"ขึ้นไปง้อเถอะ ทำใจหน่อยนะ ลูกแม่โตขนาดนี้แล้ว เขาก็ยังชอบน้อยใจแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก" แม่เปรยๆ

"ครับแม่ งั้นผมขึ้นไปง้อก่อนนะครับ" ผมตอบแบบขำๆ

ผมค่อยๆ เดินขึ้นไปแบบเบาๆ ไปหยุดหน้าห้อง เคาะประตู ลองบิดประตู ล๊อก

"โจ้นอนแล้วคับแม่" ตัวขาวตะโกนมา แหนะ นอนแบบไหนยังตะโกนได้

ผมเลยหยิบกุญแจห้องตัวขาว โชคดีมาก ที่ก่อนออกมาจากคอนโด หยิบกุญแจห้องมาด้วย ผมไขประตูแล้วเปิด

ห้องปิดไฟมืด มีเพียงไฟสลัวๆ จากตรงหัวเตียง ตัวขาวนอนคะแคงบนเตียง ได้ยินเสียงเปิดประตู เลยเอี้ยวตัวมามอง เจอผมยืนอยู่ นางทำหน้าตกใจไม่ถึงสามวินาที นางก็ทำหน้าไม่พอใจ

"มาทำไม รู้ได้ไง เข้ามาได้ไง" ตัวขาวตะคอกถาม

"ก็ไขประตูเข้ามาครับ" ผมตอบยิ้มๆ พร้อมโชว์กุญแจห้อง

"ออกไปเลย บ้านนี้ไม่ต้อนรับ" ตัวขาวเขวี้ยงหมอนใส่ผมด้วย สงสัยจะงอนหนัก ผมเลยพุ่งเข้าไปกอด

"ปล่อยนะเป๊บ ออกไป ไม่ต้องมาจับตัว" นางดิ้นใหญ่ โวยวาย

"เป๊บขอโทษครับๆ ขอโทษนะที่ตะคอก ให้อภัยเป๊บนะ" นางดิ้นน้อยลง

"ไม่ให้อภัย ไปเลยออกไป ไม่ต้องมาคุยเลย...ฮือๆๆ" นางทั้งทุบ ทั้งตี แรงเยอะมาก ร้องไห้อีก

"ขอโทษๆๆนะครับ อย่าโกรธเป๊บเลยนะ" ผมกอดนางแน่น นางเริ่มไม่ดิ้น

"ตะคอกโจ้ทำไมอะ บอกแล้วไงว่าไม่ชอบให้ตะคอก ฮือๆๆ" นางยังร้องไห้

"โอ๋ๆๆ ครับๆ เป๊บขอโทษนะ คราวหลังไม่ตะคอกแล้ว" ผมกอด หอมแก้ม จุ๊บหน้าผาก ง้อไปเรื่อย นางเริ่มสงบ

"หายโกรธเป๊บยัง" ผมถามยิ้มๆ

"ยัง...ผัวบ้า อยากจะชกให้น่วมเลย" นางยังแสดงอภินิหาร

"อะชกเลยครับ ถ้าทำให้โจ้สบายใจ เป๊บยอม" นางก็ชกที่แก้มเบาๆ  แสดงว่าง้อได้ผล

"หายโกรธยัง"

"อื้อ" นางพยักหน้าอยู่บนตักผม

"งั้นกลับคอนโดกันมั้ยครับ"

"ไม่เอาอะ ดึกแล้ว นอนนี่เถอะ"

"โอเคๆ งั้นนอนนี่เนอะ" ตามใจนาง ผมก็ปล่อยนางออกจากอ้อมกอด

"เป๊บ...โจ้ขอโทษนะ ไม่ได้ตั้งใจเรื่องหุ่นกันดั้ม"

"ครับ เป๊บก็ขอโทษที่ขาดสติไป โจ้เข้าใจเป๊บนะ ของสะสมนั่นเป็นของเล่นที่พี่ปริมกับพี่ปันซื้อให้ตั้งแต่เป๊บยังเด็กๆ มีคุณค่าทางจิตใจกับเป๊บมาก เราเคยคุยกันแล้วไง ว่าอยู่ด้วยกันจะไม่มายุ่งเรื่องส่วนนี้"

"อื้อ" นางพยักหน้า

เสียงเคาะประตู ผมลุกขึ้นไปเปิด

"เคลียร์กันลงตัวแล้วใช่มั้ยลูก" แม่ถามยิ้มๆ

"ครับแม่" ผมตอบ

"แม่อะ โทรบอกเป๊บว่าโจ้อยู่นี่ใช่ป่าว" โจ้ถามแบบงอนๆ

"แหมก็ใช่นะแหละ โตจนป่านนี้ทะเลาะกับสามีเป็นเด็กๆไปได้ แม่เลยโทรไปบอกลูกเป๊บให้มาง้อนี่แหละ สมใจเรายังละ"

"หึ๋ยยยย แม่อะ ไปบอกทำไม ชิส์" นางบ่นใส่แม่

"ฮ่าๆๆๆ" ผมกับแม่หัวเราะพร้อมกัน

"เอ้ายังไงลงตัวแล้ว แม่ว่าลูกเป๊บลงไปทานข้าวต้ม แม่เตรียมให้แล้วไปกินได้แล้ว"

"ครับแม่" ผมลุกขึ้นเดินลงไปข้างล่าง

ตัวขาวนางก็ตามลงมาด้วย พร้อมกับนางบ่นว่าหิว แม่แซวว่า พออารมณ์ดีก็กินมากทันที นางก็ง๊องแง๊งไปตามประสา

เป็นไงบ้างครับ ปฏิบัติง้อเมียสุดที่รัก กว่าจะสำเร็จ เหนื่อยมาก

การอยู่ด้วยกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน ย่อมมีกระทบกันบ้างเป็นธรรมดา เมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะต้องรีบแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด หากปล่อยไว้เรื้อรัง ย่อมไม่เป็นผลดีต่อชีวิตคู่นะครับ ท่านใดมีปัญหากับคนรัก อย่าละเลยนะครับ ชีวิตรักจะได้ราบรื่น

เล่าเรื่องตัวขาวเท่านี้นะครับ ตอนนี้นางนอนเล่นไอแพด ยิ้มคิกคักอยู่ ยิ่งมองยิ่งน่ารัก เมียใครหว่าเนี่ย  :hao6: :hao7:


ฝันดีครับ  :katai2-1: :katai5:

Pep

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 :-[ อย่างอนกันนานเลยเนอะ อิอิ 

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :impress2: เป็นการเปลียนบรรยากาศและสถานที่ในการสร้างสีสันให้กับชีวิตรักครับ อิอิ
และแล้วคืนนั้นน้องพยูนน้อย(ที่กำลังเริ่มตั้งท้อง)ของพี่ก็โดนสามีทำโทษไปหลายดอก :-[
ในฐานะที่ทำให้สามีต้องกินข้าวดึกจึงต้องเบิร์นไขมันก่อนนอน  :mew3 :mew4: :mew3: :mew1:

น้องพยูนน้อยมีการทิ้งความน่ารักไว้อีกว่า " ไม่ชอบให้มาตะคอก "
สามี " ครับ "
น้องพยูนน้อยค้อนไปหนึ่งค้อนใหญ่ ๆ และจุ๊บสามีเบา ๆ ส่วนคุณสามีเอาคืนด้วยจุ๊บใหญ่ ๆ หลายฟอด
แล้วพากันไปเพิ่มไขมันให้กับร่างกายที่ห้องอาหาร
 :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-07-2017 01:47:12 โดย Yarkrak »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
:impress2: เป็นการเปลียนบรรยากาศและสถานที่ในการสร้างสีสันให้กับชีวิตรักครับ อิอิ
และแล้วคืนนั้นน้องพยูนน้อย(ที่กำลังเริ่มตั้งท้อง)ของพี่ก็โดนสามีทำโทษไปหลายดอก :-[
ในฐานะที่ทำให้สามีต้องกินข้าวดึกจึงต้องเบิร์นไขมันก่อนนอน  :mew3  :mew4:  :mew3:  :mew1:

น้องพยูนน้อยมีการทิ้งความน่ารักไว้อีกว่า " ไม่ชอบให้มาตะคอก "
สามี " ครับ "
น้องพยูนน้อยค้อนไปหนึ่งค้อนใหญ่ ๆ และจุ๊บสามีเบา ๆ ส่วนคุณสามีเอาคืนด้วยจุ๊บใหญ่ ๆ หลายฟอด
แล้วพากันไปเพิ่มไขมันให้กับร่างกายที่ห้องอาหาร
  :กอด1:

ใช่เลย เป็นคู่ชีวิตที่น่ารักมาก
เป๊บ โจ้   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
หวัดดีค้าบบบบ เลิกงานกันยังง่า นี่มองจากห้องทำงานอะ รถติดยาวเลยยยยย ตอนนี้ยังมะได้กลับคอนโดอะคับ รอลุงเขาเซ็นต์งานเสร็จ เลยว่างๆ เข้ามาดูในเล้าจน์

เห็นลุงมาเม้าท์เรื่องงอนนะแหละ ชิส์ จะไม่งอนได้ไงอะ อยู่ด้วยกันมาตั้งนานก็รู้อะว่า ไม่ชอบให้ตะคอก

เอาเข้าจริงก็แอบผิดนะแหละ ไปแตะของสะสมลุงอะ ลุงรักหุ่นกันดั้มมากๆ ไม่เคยมีใครได้แตะเลย เอ ทำไมถึงรักมากนะหรือคับ เท่าที่ลุงเคยเล่าพอจำได้ ประมาณว่า แด๊ด มัม พี่ๆ ไปทำงานกันหมด แล้วเหมือนว่า ลุงอยากได้หุ่นประกอบกันดั้มจากญี่ปุ่น แด๊ดกับมัมลืมซื้อมาให้ แต่พี่ปริมพี่ปัน จำได้ เลยซื้อมาให้ชุดใหญ่ ลุงเลยฝังใจมากประมาณนั้นอะคับ

แต่ตอนโดนตะคอก ตกใจ น้อยใจอะแหละ ก็สามีดุอะเนอะ เป๊บอะเป็นคนโรแมนติก หวานๆ ชอบมาคลอเคลีย น่ารักมากมาย พอเวลาเป็นทางการจะจริงจังมาก จนคนรอบข้างเกรงบารมี ตอนโกรธก็น่ากลัวมากๆ พอมาตะคอก ก็กลัว โกรธ งอน น้อยใจ หนีดีก่า 555+

ลุงไลน์มาแล้ว บอกว่า เซ็นต์งานเสร็จแล้ว ไปเจอกันที่ห้องลุง ไปก่อนนะค้าบบบบ ตอนต่อไปกำลังปั่นๆน้า ที่ช้าเพราะนึกไม่ออกว่าช่วงนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไปค้นไดอารี่ ก็เขียนไม่ต่อเนื่องด้วยอะ ขอเวลานึกซักแปบนะคับ

เดินทางกลับบ้านดีๆ น้า  :mew1: :mew1:

คิดถึงทุกคนค้าบบบบ  :mew1:

ตอบเม้นๆ ก่อน

patchylove : หายงอนละค้าบบบบบ มาง้อถึงเตียงง่า  :mew3: :mew3:

Yarkrak : 555+ พี่อะ แซวน้องงงง รู้ได้ไงว่าเกิดเหตุการณ์แบบนั้นง่าาาาาา เขิลลลลลลล  :mew3: :mew3: :mew1:

♥►MAGNOLIA◄♥ : 555+ ขอบคุณค้าบบบบ นานๆ ทะเลาะกันที เร่าร้อนเป็นบางช่วงเน้ออออ  :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :กอด1:
ไม่งอนกันนะ
รักกัน รักกัน
ปล.งอนกันบ้างเถียงกันบ้างสีสีนชีวิต
 :mew1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เอาจริงพี่เป็นโจ้ก็ตกใจนะ ไม่เห็นจะห่วงเลยว่าโจ้เจ็บหรือเปล่า
แต่ดีแล้ว งอนกันก็รีบง้อเนอะ

จะบอกว่าน้ำตาไหลสงสารที่โจ้โดนตะคอกอ่ะ
อารมณ์คนท้องอ่ะนะ อ่อนไหวสุดๆ 555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ปกติค่ะลิ้นกับฟันนะดีแล้วที่รีบง้อกัน

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :mew4: :hao6:
เป็นการงอนกันที่น่ารักมาก ไม่ปล่อยไว้นาน ง้อนิดเดียวก็ดีกัน
นี่แหละคือชีวิตคู่ที่ดี ชอบมาก ๆ น่ารักทั้งผัวทั้งเมีย
 :mew1:

รักแล้วรักเลยและให้รักกันตลอดไปเน้อ คู่หวานตลอดปี

 :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อิอิ เฮโหลพี่โจ้

เป็นการง้อที่น่ารักมากนะฮะ งอลนักต้องจัดให้หายงอล นอนตัวแข็งกันไปเลยทีเดียว อิอิ
วันหลังพี่โจ้ก็จะไม่กล้างอลละ อิอิ หรือจะงอลบ่อยขึ้นป่าวก็ไม่รู้เนอะ

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
คิดถึงครับคู่หวานตลอดปี
 :mew3:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หายไปไหนหนอออ คิดถึงจัง ยังรออยู่นะครับ

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีทุกคนนะค้าบบบบ ขอโทษค้าบบบบที่หายไปนานมากกกก เหตุผลเดิมๆ งานเยอะจริง งานเยอะมาก เหนื่อยมากอะค้าบบบ นี่ตาลุงก็นั่งเซ็นต์เอกสารอยู่ มานั่งรอที่ห้องลุงนะแหละ กินหนมไป กดไอแพดไป 5555+ เดี๋ยวคืนนี้ถ้าไม่ง่วงมาก จะมาพิมพ์เม้าๆ เน้อ ส่วนเรื่องตอนต่อไปใกล้เขียนเสร็จแร้วคับ อาจจะลงซักวันพฤหัส ถ้าไม่ติดงานด่วนอะไรน้า เม้าหวานๆ นิดหน่อยดีก่า

เลิกประชุมบริษัทของจิมช่วงเที่ยง ลงมาซื้อขนมด้านล่าง ก็กดไลน์หาลุง

"ลุง กินหนมโตเกียวเจ้าเดิมป่าว"

"อ๋อ เจ้าที่ที่รักซื้อ 500 ชิ้นแล้วกินคนเดียวหมดนะหรือครับ"

"สติกเกอร์ถีบ"

"ฮ่าๆๆๆ ได้ครับ รีบมานะเมีย รอกิน"

"จ้าผัว เดี๋ยวรีบไป"

"ป้าเอาไส้เบคอน ไส้กรอกไข่นก แฮมน้ำพริกเผา อย่างละ 50  ชิ้นนะคับ เสรน็จแล้วป้าเรียกยามคนนั้นเลยนะ"

"ได้คะๆ เดี๋ยวป้าทำให้ นานหน่อยนะคะ"

"รอได้คับ"

"ผมจ่ายตังค์เลย กี่บาทคับป้า"

" 750 บาทคะ"

"ป้า 50 ชิ้นแรกใส่รวมเลยนะครับ ส่วน อีก 100 ชิ้น ป้าคละๆกันแบ่งถุงละ 10 ชิ้นนะ"

"ได้ค่ะๆ"

หลังจากจ่ายเงินเรียบร้อย ผมก็เดินกลับขึ้นบริษัท และฝากบอกยามให้เอาขนมไปไว้ในรถ

ขึ้นไปกินข้าวกับจิม กินเสร็จเรียบร้อยประมาณบ่ายสอง ยามโทรมาบอกขนมอยู่ในรถแล้ว ผมก็ซิ่งไปบริษัทเป๊บ ถึงปุ๊บก็เดินแจกขนมให้ยาม พนักงาน เลขา เสร็จเรียบร้อยก็เดินมาถึงห้องเป๊บ

"คุณเป๊บละ" ผมถามเลขาหน้าห้อง

"คุณเป๊บอยู่ห้องท่านประธานคะคุณโจ้ ให้นุชไปเรียนท่านมั้ยคะ"

"ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวไปรอด้านในละกันนะ"

"ค่ะๆ ได้คะ มีอะไรเรียกได้นะคะ"

ผมพยักหน้ายิ้มๆ ให้ เดินเข้าไปรอในห้องทำงานเป๊บ ตกใจ เห็นเอกสารกองบนโต๊ะทำงานเยอะมาก

"โห ทำไมดูรกแบบนี้เนี่ย งานเยอะจริงจังมาก" ผมยืนดูไปบ่นไป แต่ก็ไม่กล้าไปแตะเอกสาร เดี๋ยวเป๊บมาจะหาไม่เจอ

ด้วยความที่รอนาน ก็หยิบหูฟังเสียบโทรศัพท์ฟังเพลงจากแอพ JOOX ยืนฟังไปดูวิวจากห้องทำงานไป เรื่อยๆ เพลินๆดี

อยู่ดีๆ มีใครมากอด หอมแก้มฟอดใหญ่ ผมหันไปเหลียวมองดึงหูฟังออก หันหน้ามาชนกันเป๊บยังโอบกอดอยู่

"มานานยังครับ" เป๊บยิ้มหน้าบาน

"20 นาทีเองเป๊บ ยืนฟังเพลง ดูวิวรอเนี่ย"

"หือ อารมณ์ไหนครับ มิน่าเป๊บเปิดประตูมา เห็นยืนนิ่งเชียว ใส่หูฟังนี่เอง"

"แหมก็ฟังเพลงไปรอไป"

"แล้วนี่ถ้ามีหนุ่มอื่นมากอดลวนลามจะทำยังไง จะรู้ตัวมั้ยเนี่ย"

"โอ้ยยย ก็กอดจากด้านหลังรู้แล้วว่าใคร จะกลัวอะไรอะลุง"

"รู้หรือว่าเป๊บมากอด"

"ไม่รู้มั้งงงง ผัวมากอดไม่รู้ได้ไง" ผมตอบแบบวีนๆยิ้มๆ

"น่ารักเสมอเลยเมียเป๊บเนี่ย...จุ๊ฟฟฟ" ลุงโน้มตัวมาจุ๊ฟปากสองที ไม่ขัดขืน บอกเลย สมยอม 5555+  :mew3: :mew3:

"พอเลย กินหนมกันเถอะ"

"จากถุงดูแล้ว เป๊บขอห้าชิ้นเหมือนเดิมนะครับ ที่เหลือที่รักกินละกันนะ"

"แหมมมม เกรงจายยยย แต่ก็ยินดี แฮ่ๆๆ"

นี่ก็กินหมดไปนานแล้ว หันไปมองลุงยังนั่งหน้าเครียด เลยแวะมาพิมพ์เม้าๆ ละคับบบบ..

เดี๋ยวดึกๆ ถ้ายังไม่ง่วงจะแวะมาเม้าอีกรอบน้า ตอนนี้ไปบีบนวดลุงให้หลายเครียดก่อนนนน เดี๋ยวตีนกาขึ้นมะหล่อละยุ่งเลยย

คิดถึงทุกคนนะค้าบบบ ขอโทษทุกคนที่หายไปนานมากๆ นะคับบบ  :mew1: :mew1: :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2017 23:19:16 โดย jonathan2624 »

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบที่เป็บแซวโจ้
ซื้อห้าร้อยชิ้น แล้วโจ้กินหมดคนเดียว อะจ๊ากกกกก ความจริงใช่ปะ

แล้วพอซื้อขนมโตเกียวใหม่
ขนมส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ที่ท้องโจ้ตามเคย
โจ้อย่าตามใจปากมากเกินไปนะ
กลัวโจ้พุงป่อง เดี๋ยวหมดหล่อนะ
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
 o13 ทานขนมเยอะ ต้องออกกำลังกายด้วยนะคะทั้งสองคน เพื่อความฟิตแอนด์เฟิมเนอะ  :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
45 ชิ้น ที่เหลือคือของโจ้ใช่ไหม อิอิ

ยังรออ่านเนื้อเรื่องตอนหลักอยู่น๊า  :pig4:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
45 ชิ้นกินคนเดียว โอ้วววววว คงอร่อยมาก ๆ
แล้วโตเกียวเจ้านี้เขาขายตรงไหนเนี่ย อยากไปชิมสัก 30 ชิ้น
ว่าจะอร่อยจริงหรือเปล่า ตามที่น้องโจ้โฆษณา

รอต่อไปครับ
รักแล้วรักเลยรักตลอดปีและตลอดไป

 :mew4: :mew1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2017 23:09:26 โดย Yarkrak »

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
อุ่ย พิมปุ๊ปก็มาเลย คิดถึงพี่โจ้สุดน่ารักจังเลยฮับ
ผมยังรออยู่นะฮับครับผม

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีตอนดึกๆ ค้าบบบบ แหะๆ มาส่งการบ้านตอนต่อไปแล้วน้า ลงตอนนี้เสร็จ ตอนต่อไปคงลงหลังงานพระราชพิธีของในหลวงรัชกาลที่ 9 เลยนะค้าบบบบ ยังไงอ่านตอนนี้ถ้าลืมๆ ก็ย้อนกลับไปอ่านตอนก่อนหน้านี้น่า อ่านให้สนุกนะค้าบบบ คิดถึงทุกคนเลยยย  :mew1: :mew1: :mew1:

ตอบเม้นๆ ค้าบบบ

♥►MAGNOLIA◄♥ : 5555+ ก็หนมโตเกียวอร่อยอะค้าบบบ ตอนนี้ลงพุงแล้ว ทำไงดีง่า ฮือออ  :mew6: :mew6:

patchylove : แอะ ให้ออกกำลังกายแบบไหนง่า เป๊บโน่นฟิตแอนด์เฟิม ชิกแพคยังแน่น ไอ้เราเป็นวันแพคแล้วง่า ฮืออ  :mew6: :mew6:

 j123 : เอาตอนหลักมาลงให้แล้วนะค้าบบบ โตเกียว 45 ชิ้นฟาดเรียบ  :mew1: :mew1:

Yarkrak : เจ้านี้อร่อยมากคับพี่ 5555+ กินเยอะทุกทีเลยอะ เอาตอนต่อไปมาลงแล้วนะค้าบบบ  :mew1: :mew1:

noy : ขอบคุณมากนะค้าบที่คิดถึงกัน เอาตอนต่อไปมาส่งแล้ววว  :mew1: :mew1:

nutto : ดีนะเจ้านัทไม่ได้จุดธูปเรียกพี่อะ 5555+ เป็นยังไงบ้าง สบายดีน้า คิดถึงๆเหมือนกัน มีแฟนยังอะ  :mew1: :mew1:


ตอนที่ 56 ต่อสู้กับพญามาร

   วันนี้เป็นการตื่นช่วงเวลาตีสี่ ต่อเนื่องมาเป็นวันที่เจ็ด ตลอดทั้ง 7 วันที่ผ่านมา ครอบครัวของเราทั้งสอง ได้เดินทางไปใส่บาตรพระเป๊บทุกวัน หากวันไหนไปเร็วก็จะไปรอที่ตลาดอันเป็นเส้นทางที่พระอาจารย์และพระเป๊บเดินผ่าน หากวันไหนไปช้าหน่อย ก็จะไปดักทางเข้าหน้าวัด ซึ่งทั้งพระอาจารย์และพระเป๊บ จะถืออาหารคาวหวานมาเต็มเลยทีเดียว สำหรับในเช้าวันที่เจ็ดนี่ มาช้ากันไปนิด เลยมาดักทางเข้าหน้าวัดแทน พวกลูกน้องกับเด็กแม่บ้าน กางโต๊ะจัดเตรียมวางของที่ใส่บาตร ไม่นานนัก ก็เห็นพระทั้งสองรูปเดินมาไกลๆ
“นายท่านคะ พระคุณเจ้ามาแล้วค่ะ” ป้าจันทร์บอกแด๊ด
   ทุกคนรวมทั้งผมก็เตรียมตัวใส่บาตร
“นิมนต์ครับพระคุณเจ้า” แด๊ดเอ่ยนิมนต์
   พระอาจารย์ท่านหยุดรับบาตรด้วยสีหน้าอมยิ้ม ไม่ต่างจากพระเป๊บที่ดูผ่องใสมาก หน้าตาอิ่มเอิบ อมยิ้มเช่นกัน
   หลังจากทุกคนใส่บาตรครบแล้ว
“โยมทุกคนตั้งใจรับพรนะ....สัพพิติโย.......อายุวรรณโน สุขัง พลัง” เสียงใสกังวานมาก
“พระคุณเจ้าเดี๋ยวให้ลูกน้องผมช่วยขนของบิณบาตรนะครับ” แด๊ดนำเสนอ
“ได้โยม”
   หลังจากถ่ายเทของในบาตรกับย่ามเสร็จ พระอาจารย์กับพระเป๊บก็เดินเข้าไปในวัดและเข้ากุฎิไป
   พวกเราทุกคนก็มาที่โรงฉันท์ ด้วยว่า ถือโอกาสเลี้ยงเพลพระครบ 7 วันไปด้วย เมื่อถึงเวลาประมาณ 7 โมงเช้า คุณลุงที่ดูแลโรงฉันท์ตีกลอง เพื่อให้พระท่านทราบว่าการเตรียมเพลพร้อมแล้ว
   พิธีกรรมการถวายเพลเสร็จเรียบร้อย พวกเราทั้งหมดก็เริ่มทานข้าวกัน พระอาจารย์กับพระเป๊บก็เดินไปที่กุฎิ หลังจากพวกเราทานข้าวเสร็จ  ก็เดินมากราบนมัสการลาพระอาจารย์กับพระเป๊บ และได้มีโอกาสคุยกันบ้าง
“ท่านเป็นยังไงบ้างครับ บวชมาครบสัปดาห์นึงแล้ว” พี่ปริมถามพระเป๊บ
“ก็ดีนะโยมพี่ อาตมาพบความสงบ พบกับความสุขใจในอีกรูปแบบหนึ่งอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน”
“อาตมาสอนท่านเป๊บให้ภาวนาสมาธิด้วยตัวเอง ท่านเป๊บสามารถปฎิบัติได้ดีมาก เรียนรู้อะไรได้เร็วมากจนน่าอัศจรรย์ใจ” พระอาจารย์กล่าวเสริมขึ้นมา
“ขอบพระคุณพระอาจารย์มากเลยนะครับ ที่แนะนำพระท่าน” แด๊ดยกมือไหว้พระอาจารย์พร้อมกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไรหรอกโยม เป็นหน้าที่ของอาตมาอยู่แล้ว”
“แล้วนี่ขาดเหลืออะไรบ้างค่ะ” มัมถามพระอาจารย์กับพระเป๊บ
“ไม่มีอะไรขาดเลยโยมแม่ ทุกอย่างครบถ้วนดี”
“ถ้าขาดเหลืออะไรบอกได้นะครับ เดี๋ยวจะจัดการมาให้ทันที” พี่ปันกล่าวเสริมขึ้นมา
“อ๋อ โยม อาตมามีเรื่องจะบอก หลังจากพระเป๊บบวชได้ 15 วัน อาตมาจะพาพระเป๊บไปธุดงค์ที่ประเทศพม่าราวๆ 15-20 วัน โยมคิดว่าอย่างไรบ้าง” พระอาจารย์หันไปถามแด๊ด
   ผมได้ยินที่พระอาจารย์ถามแด๊ด ก็ตกใจเหมือนกัน เพราะคิดว่า การธุดงค์ คือ การเดินเท้าเปล่าข้ามป่าข้ามเขาไปประเทศพม่า แล้วพระเป๊บจะไหวหรือ ยังไงอย่างไร รู้สึกเป็นห่วง
“เอ่อ...หมายความว่า พระอาจารย์จะเดินเท้าเปล่าไปนะหรือครับ” แด๊ดถามแบบกังวล
“หือ...ไม่ขนาดนั้นโยม  ก็เดินทางโดยเครื่องบินนี่แหละ ถ้าอาตมาไปเองคงเท้าเปล่าได้ แต่พาพระท่านไปด้วย คงไม่ไหวแน่” พระอาจารย์กล่าวยิ้มๆ
“โล่งใจเลยครับท่าน หากเดินเท้าเปล่าไปผมคงเครียดมากแน่ ถึงแม้ว่าพระท่านจะเป็นลูกพระพุทธเจ้าในช่วงนี้ ผมก็อดห่วงไม่ได้ครับ” แด๊ดพูดแบบโล่งใจ
“แล้วพวกเราตามไปได้มั้ยครับพระอาจารย์” พี่ปริมถามขึ้นมา
“จริงๆ อาตมาอยากให้เป็นการธุงดงค์จริงๆ มากกว่า แต่ถ้าหากโยมตามไปก็อาจจะติดตามได้ไม่เกินสามวันนะ ที่เหลืออาตมากับท่านเป๊บจะธุดงค์ต่อเอง”
“งั้นถ้าแบบนั้น ผมขอถวายปัจจัยทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบินทั้งไปและกลับ ค่าเดินทางต่างๆ นะครับ” แด๊ดเสนอตัวขึ้นมา
“แล้วแต่โยมสะดวกเลย”
“ศักดิ์ บันทึกไว้แล้วไปแจ้งเลขาชั้นด้วย” แด๊ดหันไปสั่งศักดิ์
“ครับนาย ผมจะจัดการให้ครับ”
“ว่าแต่โยมโจ้ละ นับจากพรุ่งนี้สนใจมาเป็นเด็กวัดเดินตามท่านเป๊บมั้ย”
“สนใจครับพระอาจารย์ แล้วยังไงอย่างไรครับ”
“ก็พรุ่งนี้มาถึงวัดประมาณตีสี่ เสร็จเรียบร้อยก็กลับบ้าน แต่ถ้าหากขับไปกลับทุกวันไม่ไหว ค้างที่กุฎินี้ได้นะ แต่ต่อเนื่องไม่เกินสามวันนะ”
“ค้างได้หรือครับ แสดงว่าพรุ่งนี้ถ้าผมค้างก็เตรียมเสื้อผ้ามาเลยใช่มั้ยครับ”
“ใช่แล้วโยม ยังไงลองพิจารณาดูนะ”
“ครับๆ”
“อาตมาขอตัวนะ โยมคุยกับพระเป๊บไปก่อนนะ”
“งั้นพวกผมกราบลาล่วงหน้าเลยนะครับพระอาจารย์” ทุกคนก้มกราบ
“เจริญพรโยมทุกคนนะ ขอให้ประสบแต่ความสุขความเจริญนะ” แล้วพระอาจารย์ก็เดินเข้ากุฎิไป
   หลังจากพระอาจารย์เข้ากุฎิไปแล้ว
“ท่านปฎิบัติธรรมแล้วเป็นยังไงบ้างครับ” พี่ปริมถามพระเป๊บ
“ก็สงบดีนะโยมพี่ แล้วโยมพี่เป็นยังไงบ้าง”
“สบายดีครับ แต่ว่าแด๊ดกับมัม นอนไม่ค่อยหลับ บ่นว่าห่วงท่านเรื่อยเลย”
“นี่เจ้าปริม พอเลยอย่าไปบอกพระท่าน เดี๋ยวท่านเป็นห่วง” แด๊ดดุพี่ปริมแบบยิ้มๆ มัมก็ตีพี่ปริมเบาๆ
   พระเป๊บยิ้มนิดๆ ในสายตาผมนะ พระท่านดูมีเมตตามาก สงบเยือกเย็นดีจริงๆ
“โยมแด๊ด โยมมัม โยมพี่ โยมโจ้ อย่าได้ห่วงหรือกังวลไปเลย อาตมาสุขสบายดี มีความสุขดี ตอนนี้อาตมาตั้งใจเพียงแค่ปฎิบัติธรรมให้ได้มากที่สุด และอุทิศผลบุญทั้งหมดให้ทุกคน ดังนั้นอย่าได้กังวลเลย”
“ได้ยินท่านพูดแบบนี้ก็สบายใจ ยังไงถ้าขาดเหลืออะไรก็บอกนะครับ” พี่ปริมบอกพระท่าน
“ขอบใจมากโยมพี่ นี่ก็สายมากแล้ว กลับไปพักผ่อนกันเถอะ โยมแด๊ดโยมมัมรักษาสุขภาพด้วยนะ”
   ทุกคนขึ้นรถหมดแล้ว เหลือแค่ผมที่ยืนอยู่กำลังจะขึ้นไปนั่งข้างคนขับรถ พระเป๊บก็ทักขึ้นมา
“แล้วโยมโจ้จะมาค้างหรือไม่”
“เดี๋ยวดูอีกทีครับท่าน”
“เอาที่โยมสะดวกนะ เจริญพร”
“กราบละครับท่าน” ผมยกมือไหว้พระเป๊บงามๆ
   ระหว่างเดินทางกลับบ้านใหญ่ ทุกคนต่างพูดคุยแสดงความคิดเห็นเรื่องพระอาจารย์จะพาพระเป๊บไปธุดงค์ที่ประเทศพม่า
“ตกลงเราจะยังไงดีครับแด๊ด มัม” พี่ปริมถามขึ้นมา
“ตามไปดีมั้ยคุณ” แด๊ดหันไปถามมัม
“ตามก็ดีนะคะคุณพี่ เราอาจจะไปลงที่ร่างกุ้ง แล้วไปกราบพระวัดวาอาราม นอนสักคืนนึง แล้วบินกลับรุ่งขึ้นน่าจะดีนะคะ”
“ปริมเห็นด้วยกับมัมครับแด๊ด”
“ปันเห็นด้วยครับ แต่เราควรไปเสาร์กลับอาทิตย์ จะได้ไม่กระทบงานครับ”
“เออแล้วโจ้ละลูก” แด๊ดหันมาถามผม
“ได้หมดเลยครับแด๊ด ยังไงโจ้ตามไปด้วยอยู่แล้ว” ผมตอบยิ้มๆ
“งั้นเดี๋ยวแด๊ดให้เพื่อนที่ทำทัวร์จัดการให้ทั้งหมดละกัน แล้วโจ้ลูก ที่บ้านไปด้วยกันมั้ย” แด๊ดถามผม
“ไปแหละครับ แต่ยังไงเดี๋ยวผมโทรบอกที่บ้านอีกทีนะครับ”
   
   กลับมานอนที่บ้าน ได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลุก เป็นเวลาตีสามผมรีบอาบน้ำแต่งตัว เสร็จเรียบร้อยก็คว้ากระเป๋าเสื้อผ้า เดินทางไปที่วัด ตั้งใจจะไปค้างสองคืน มาถึงวัดราวๆ ประมาณตีสี่ครึ่ง จอดหน้ากุฏิพระเป๊บ ผมมองเข้าไปเห็นไฟเปิดอยู่แล้ว เวลาประมาณตีห้า ทั้งพระอาจารย์และพระเป๊บก็ออกมาจากกุฏิ ผมเองก็ลงจากรถ ยกมือไหว้พระอาจารย์ พระเป๊บ
“มาถึงนานหรือยังโยมโจ้” พระเป๊บถาม
“ประมาณครึ่งชั่วโมงครับท่าน”
“แล้วทำไมไม่เคาะเรียกละ” พระเป๊บถามต่อ
“ไม่เป็นไรครับ กลัวรบกวน เลยนั่งรอในรถ”
“โยมจะเอากระเป๋าเก็บในกุฏิก่อนมั้ย” พระอาจารย์ถาม
“ไม่เป็นไรครับพระอาจารย์ เดี๋ยวกลับมาค่อยเอาไปไว้ก็ได้ครับ มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ”
“ท่านเป๊บส่งย่ามสะพายให้โยมโจ้” พระอาจารย์บอกพระเป๊บ
   พระเป๊บส่งย่ามมาให้ ผมรับสะพายไว้บนบ่าขวา แล้วก็เดินตามไปบิณฑบาต เส้นทางการเดินออกจากประตูวัด เลี้ยวซ้าย มุ่งหน้าไปทางตลาด อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าเริ่มมีแสงอาทิตย์จากขอบฟ้า ผมมองไปไกลๆ ด้านหน้ามีคนรอใส่บาตร
“โยมโจ้ หากได้ยินหรือเสียงใดๆ อย่าได้เก็บมากังวลใจนะ” พระอาจารย์พูดขึ้นมาจนผมงงๆ
“อะ...ครับๆ” ผมตอบรับคำไป
   พระเป๊บไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เหมือนจะสำรวมมาก นิ่งมาก ไม่ใช่เป๊บคนเดิมที่ผมรู้จัก
“นิมนต์ค่ะท่าน” คุณป้าเอ่ยนิมนต์ ผมหันไปมองเห็นคุณป้ายืนกับผู้หญิงวัยรุ่นคนนึง แต่งตัวจัดๆ ดูแปลกๆ และที่สำคัญเล่นหูเล่นกับพระเป๊บ พระอาจารย์และพระเป๊บหยุด เปิดฝาบาตร ระหว่างการตักบาตร
“หลวงพี่คะ วันนี้หนูตื่นมาทำแกงเองเลยนะคะ” สาวคนนั้นบอกพระเป๊บ ผมหันไปมองพระเป๊บ ซึ่งทำหน้านิ่งเฉยไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
“โยมรับพร....สัพพีติโย.......อายุวรรณโร สุขัง พลัง” พระอาจารย์กับพระเป๊บให้พรทั้งสองคน
   หลังจากให้พรเสร็จ ผมก็เดินไปหยิบของจากในบาตรมาใส่ในย่ามที่สะพายไว้ ท่ามกลางสาวสองคนจ้องมองผมแบบแปลกๆ หยิบของเสร็จ พระอาจารย์กับพระเป๊บก็เดินไปตามเส้นทางต่อ ขณะที่กำลังจะเดินออก ผมได้ยินเสียงซุบซิบตามหลังมา
“คนนี้หรือแม่”
“ใช่ๆ”
   ผมไม่ได้หันไปมอง แต่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เดินตามมาได้สักระยะก็ถึงบริเวณตลาด มีคนมารอใส่บาตรเยอะพอสมควร ย่ามที่สะพายบ่าไว้แทบใส่ไม่พอเลยครับ
“พระรูปนี้หรือที่เขาเล่าว่าลูกเศรษฐี” เสียงใครสักคนพูดมา
“ใช่ๆ หล่อมากเลยนะเธอ”
“ยังกะดารา แต่ฉันได้ยินมาว่าเป็นเกย์มีเมียชาย”
“บ้า ไม่จริงมั้ง หล่อๆ แบบนี้ไม่น่าจะผิดเพศ”
   หูผมมันได้ยินเอง หูผมมันไม่ดี อารมณ์ตอนนั้นปริ๊ดเลยครับ หันไปมองต้นเสียงด้วยสายตาที่แสดงออกเลยว่าไม่พอใจ ก็เห็นพวกป้าๆ ยืนเม้านินทาคล้อยตามหลัง พวกนางคงเห็นเลยสลายกลุ่มไป
“ห่า แม่ง ตกลงมาทำบุญหรือมานินทาวะ แก่แล้วยังปากชั่ว” จริงๆ ด่าในใจหยาบกว่านี้มาก
   เดินจากจุดนั้นมาอีกประมาณห้าสิบเมตร ก็เจอคนมารุมใส่บาตร ผมเริ่มกังวลใจ เพราะย่ามแน่นมากแล้ว ทำยังไงดีละนี่
“นี่ๆ พระรูปนี้ไงลูกเศรษฐี หน้าผิวพรรณดีมากนะเธอ”
“ใช่ๆ วันก่อนฉันไปร่วมงานบุญพระท่านมาใหญ่โตเชียวเธอ”
“หรือๆ เสียดายวันนั้นฉันไม่ว่างไป เอ้ย นี่ แต่คนข้างบ้านบอก พระท่านมีแฟนเป็นผู้ชายจริงหรือเธอ”
“ก็เขาว่าแบบนั้นแหละ ฉันก็ยังไม่เห็นแฟนพระท่าน แต่เห็นว่าหน้าตายังกะผู้หญิง แถมรวยด้วยเธอ”
“เสียดายนะเธอ ไม่น่าผิดเพศเลย”
   ณ ตอนนั้นผมรู้สึกสังเวชใจมากครับ ไม่เข้าใจว่า จะทำบุญเพื่ออะไร ถ้ายังมายืนนินทาพระตามหลังฉอดๆ รู้สึกว่าตัวเองโดนนินทา พาลคิดต่อไปว่า ก็มันเลือกเกิดไม่ได้ ใครจะอยากเกิดเป็นเกย์มาชอบผู้ชายละ น้ำตารื่นๆ จะร้องแล้วครับ
“คุณโจ้ครับ ผมช่วยถือครับ” ผมหันไปมอง เห็นเวช มากับลูกน้องอีกสองคน
“อ้าวเวช มาได้ไงเนี่ย”
“คุณท่านให้ผมมาครับ ท่านบอกว่า คุณโจ้เหนื่อยแน่ ผมเลยรีบขับรถตามมาครับ”
   ผมส่งย่ามที่มีของสารพัดอัดแน่น พร้อมถุงหิ้วในมืออีกหลายถุง พระอาจารย์กับพระเป๊บก็รับบาตรจนสุดทาง ของชุดสุดท้ายถูกส่งมาที่มือผมแล้ว ก็กำลังจะกลับวัด
“พระอาจารย์ขึ้นรถกลับมั้ยครับ” ผมถามขึ้นมา เพราะรถอัลพาร์ดจอดเปิดไฟกระพริบใกล้ๆ
“ไม่หรอกโยม ถ้าโยมโจ้เหนื่อย ขึ้นรถกลับไปเถอะ”
“ไม่เป็นไรครับ งั้นเวช เอาของทั้งหมดไปจัดรอที่โรงฉันท์นะ”
“ครับๆ” เวชรับคำก็ขึ้นรถขับกลับไปวัด
   พระอาจารย์ พระเป๊บ และผม ก็เดินกลับวัด มีผู้คนแวะใส่บาตรอีกเล็กน้อย เมื่อถึงวัด พระอาจารย์กับพระเป๊บ แวะเข้าไปล้างเท้า พักผ่อนในกุฏิ ส่วนผมก็รีบเดินมาที่โรงฉันท์ เห็นคุณป้าแม่ชีช่วยกันจัดสำรับภัตาหาร โดยมีเวชกับลูกน้องอีกสามคนช่วยบ้าง แต่ดูเก้ๆกังๆ
“เวช ถ้าพรุ่งนี้มา พาเด็กแม่บ้านมาด้วยสองสามคนนะ งานพวกนี้เวชไม่ถนัดหรอก”
“ครับๆ” เวชรับคำยิ้มๆ เหมือนรู้ตัว
   ประมาณเจ็ดโมงเช้า พระหลายรูปที่บิณฑบาตเสร็ตมาพร้อมกันที่โรงฉันท์ ท่านเจ้าอาวาสก็ลงมาร่วมด้วย เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของวัดนี้
   ผมคอยเป็นลูกมืออยู่ใกล้พระอาจารย์กับพระเป๊บ ส่วนพวกเวชก็ไปดูแลพระรูปอื่น ผมมองกับข้าวที่ทาน คือ พระทุกรูปจะตักกับข้าวทุกอย่างใส่ลงในบาตรของตัวเอง แล้วก็ฉันจากในบาตร ผมเห็นพระเป๊บ ใส่แกงเขียวหวาน เทโพ มัสมั่น ผัดผัก ผสมๆ ลงไป ผมอึ้งมาก คือ มันจะกินเข้าไปได้ยังไง
   ตักกับข้าวใส่ในบาตรเสร็จ พระทุกรูปก็เริ่มสวด หลังจากนั้นก็เริ่มฉัน พระเป๊บฉันอย่างเงียบๆ แบบไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ในขณะที่ผมรู้สึกมันแบบผะอืดผะอม ผสมกันขนาดนั้น กินไปได้ยังไงเนี่ย
   อารมณ์ผมแปรปรวนมาก ตั้งแต่ได้ฟังคำนินทา มาเจออาหารที่ดูรวมๆกันแล้ว รู้สึกไม่ดีเลย ผ่านไปสักพัก พระทานเสร็จเรียบร้อย ผมกับเวช ก็ทานกับข้าวก้นบาตรส่วนที่พระท่านไม่ได้ฉัน กับข้าวดีๆ ทั้งนั้นเลย รสชาติดีมากๆครับ
   ทานเสร็จเรียบร้อย ผมก็ให้เวชเดินทางกลับ ผมเองก็เดินกลับมาที่กฎิ ก็เจอพระอาจารย์กับพระเป๊บ นั่งอยู่หน้ากุฎิ
“เป็นยังไงบ้างโยม การเป็นเด็กวัดวันแรก” พระอาจารย์ถาม
“ก็สนุกดีครับ” ผมตอบเจื่อนๆ ในใจคิด ไม่สนุกเลย
“อาหารอร่อยมั้ย” พระอาจารย์ถามยิ้มๆ
“อร่อยมากครับมีแต่ของดีๆ ทั้งนั้นเลย”
“อร่อยอาตมาก็ดีใจด้วยนะ...แต่ของอร่อย มันไปรวมในท้องหมดเลย ดูเละเทะ ไม่ต่างจากข้าวในบาตรเลย”
   ผมอึ้ง เงียบ เอ้ย จริง ใช่มันไปรวมในท้อง
“ฟังดูน่าขยะแขยงนะโยม ทำไมถึงกินไปอย่างอร่อยละ” พระอาจารย์ถามต่อ
   ตอนนั้นผมหน้าชาครับ เหมือนโดนตบอย่างแรง มันเป็นความจริงที่ผมไม่รู้จะเถียงยังไง ผมมองหน้าพระเป๊บ พระเป๊บก็หน้านิ่งๆ เฉยๆ
“เข้าไปนั่งในกุฎิเถอะ” พระอาจารย์ชวน
   เข้ามานั่งในกุฎิ พระอาจารย์ก็เปิดแอร์ และเราทั้งสามคนก็นั่งห่างๆกัน
“นานๆ มีคนมาเยี่ยมกุฎิ เปิดแอร์สักครั้งก็ไม่เป็นไร” พระอาจารย์พูดยิ้มๆ แต่ผมนั่งหน้าหงอยไปแล้วครับ มันเหมือนมีอารมณ์มากระทบมากมายเหลือเกิน
“มนุษย์ทุกคนเกิดมาบนความทุกข์ นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ชอบ โน่นก็ไม่เอา นี่ก็ลำบาก นั่นไม่ถูกใจ แต่ละคนไม่เคยรู้เลยว่า นั่นคือเหตุแห่งทุกข์ ไม่ยอมดับที่ใจเรา แต่ไปดับที่ข้างนอก ข้าวไม่อร่อยก็ดั้นด้นไปหาของอร่อยมากิน สุขชั่วคราว แต่ทุกข์ใจเรื่องการไปหามากิน มนุษย์พร้อมโทษรอบข้างก่อนตัวเองเสมอ”
“ทุกข์ใจเรื่องมีแฟนผู้ชายมั้ยโยม” พระอาจารย์เอ่ยขึ้นมา ผมอึ้งอีกรอบ
“หูนี่ก็เหมือนกัน มันเป็นอวัยวะที่มีทั้งคุณและโทษ พอเจอคำหวานๆ ไปได้ยินก็ชอบ พอเจอคำนินทา ไปได้ยินก็โกรธแค้น มนุษย์ปล่อยใจไปกับอารมณ์เหลือเกิน เราไปห้ามหูห้ามปากใครไม่ได้หรอกโยม สำคัญที่เมื่อได้ยิน อย่าปล่อยใจตามไปต่างหาก” พระอาจารย์พูดไปยิ้มไป
“คนเราชอบโทษว่า มารมันชั่ว มารมันทำร้าย มารมันไม่ดี มารมันเป็นต้นหตุของการขวางบุญ มารแบบนั้นมารแบบนี้....รู้อะไรมั้ย มารที่เกิดขึ้น โยมโจ้ สร้างขึ้นมาเองทั้งหมดเลย แค่จิตของเราไม่คิดจะสร้างมาร ไม่ว่าใครมาทำอะไร ก็ไม่มีวันสะเทือน”
   
   สิ้นสุดเสียงคำสอนของพระอาจารย์ ผมก้มหน้าร้องไห้เหมือนเด็ก ผมไม่รู้เหมือนกันว่าร้องไห้หนักขนาดนั้นทำไม พระอาจารย์ท่านไม่ได้ด่า ไม่ได้ว่า แต่ทำไมมันเจ็บไปถึงขั้วหัวใจ ผมร้องไห้จนตัวสั่นไปหมด พระอาจารย์ท่านก็ลุกขึ้นมานั่งต่อหน้าผม พร้อมเอามือลูบศรีษะ
“โยม...อุตส่าลงมาเกิดเป็นมนุษย์แล้ว รู้เท่าทันมารเถอะนะ” ผมก้มหน้าร้องไห้บนตักพระอาจารย์จนจีวรพระอาจารย์เปียก
   ร้องไห้นานมากๆ จนเริ่มประคองสติได้
“เข้าใจที่อาตมาสอนใช่มั้ย”
“ครับ เข้าใจแจ่มแจ้ง”
“ไปเอาเสื้อผ้า จัดแจงธุระให้เสร็จเถอะ เดี่ยวช่วงเย็นจะได้ไปทำวัตรเย็น”
   ผมทำตามที่พระอาจารย์บอกด้วยอารมณ์ผ่องใส ความอัดอั้นตันใจในช่วงเช้าไม่มีเหลือแม้แต่น้อย
   พระอาจารย์กับพระเป๊บขึ้นไปจำวัตรชั้นบน ผมเองก็จัดการตัวเองเสร็จ นั่งอ่านหนังสือธรรมะ อะไรไปเรื่อยๆ ตกช่วงบ่าย เริ่มหิวแต่ก็ไม่กล้าออกไปกิน ไม่นานนักพระเป๊บเดินลงมาจากชั้นบน
“โยม ทานข้าวซิ” พระเป๊บส่งมาให้
“หา..เอ่อ..”
“โยมเป็นฆราวาสทานได้ปกติ อาตมารู้ว่าโยมต้องหิวแน่ เลยหยิบข้าวหมูแดงมาไว้ให้ ทานซิ” ผมยกมือไหวรับข้าวมา
“ขอบคุณท่านมากครับ”
   ผมนั่งทานข้าวหมูแดงไป พระเป๊บก็นั่งนิ่งๆ มองผมไป คือ ไม่กล้าชวนคุยอะไรเลย ทำตัวไม่ถูกครับ
“รสชาติเป็นยังไงบ้างโยม”
“ก็ดีครับ...ทานได้”
“เรื่องตอนเช้ายังคิดมากอยู่มั้ย”
“ไม่แล้วครับ...แต่ก็อาจจะมีบ้างถ้าเผลอไปคิด”
“โยมอย่าได้ไปใส่ใจเลย คนเรามักจะคิดในสิ่งที่ตัวเองอยากจะให้เป็นแบบนั้นแบบนี้เสมอ ไม่ว่าจะยังไงก็แล้วแต่ ไม่มีใครรู้ใจเราได้เท่ากับตัวเราเอง”
“ครับท่าน....ต้องกราบขอโทษท่านด้วยนะครับที่ให้เป็นห่วง”
“ไม่เป็นไรหรอกโยม อาตมาอยากจะให้โยมคิดว่า ตอนนี้อาตมามีหน้าที่ในการรับใช้พระพุทธเจ้า อย่าได้คิดอะไรนอกเหนือจากนั้นเลย”
“ครับ”
   พระเป๊บก็เดินขึ้นไปชั้นสองเพื่อจำวัตร ผมรู้สึกผิดจังที่ทำให้พระท่านต้องมากังวล ตั้งใจว่าจะนอนคืนนี้คืนเดียว พรุ่งนี้จะกลับบ้าน แล้วจะไม่มีหาพระท่านอีก ปล่อยให้พระท่านได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมไป
   หลังจากทานข้าวหมูแดงเสร็จ ผมก็นั่งๆ นอนๆ อ่านหนังสือธรรมะไปเรื่อย จนเผลอหลับไป รู้สึกตัวอีกที ก็ได้ยินเสียงพระอาจารย์เรียกปลุก พร้อมได้ยินเสียงตีระฆัง ถึงเวลาสวดมนต์ทำวัตรเย็น ผมก็เดินตามพระอาจารย์เข้าไปในโบสถ์
   เป็นการสวดมนต์ที่ผมรู้สึกสงบมาก มันเย็นสบายใจอย่างบอกไม่ถูก หลังจากสวดมนต์เสร็จ ท่านเจ้าอาวาสก็ให้พระทุกรูปรวมถึงฆราวาสนั่งสมาธิ ใจผมสงบมาก จนได้ยินเสียงท่านเจ้าอาวาส ออกจากสมาธิ ก็เดินตามพระอาจารย์กับพระเป๊บกลับมาที่กุฏิ ก็พบเจอกับป้าแม่ลูกที่ใส่บาตรตอนเช้า
“พระอาจารย์อิชั้นกับลูกสาวเอาน้ำปาณะมาถวายค่ะ”
“เป็นน้ำเก๊กฮวยค่ะ หนูต้มเองเลยนะคะ ตั้งใจนำมาถวายพระอาจารย์กับหลวงพี่” หญิงสาวนั้นพูดไปมองหน้าพระเป๊บไป
   ผมคิดในใจ อีนี่นิ นรกจะกินหัวเอา พระมาบวชยังจะมาเล่นหูเล่นตา
“ประเคนได้เลยโยม” พระอาจารย์เอาผ้ารับประเคนมาเตรียมไว้ ป้าแม่ลูกก็เอาน้ำปาณะวางบนผ้าประเคน
“รับพรนะโยม สัพพิติโย.....อายุวรรณโน สุขัง พลัง เจริญพรนะโยม”
“โยมโจ้ เอาน้ำปาณะไปเก็บในตู้เย็น” พระอาจารย์ใช้ผม
“ครับๆ ได้ครับ” ผมรีบลุกไปหยิงถุงน้ำปาณะ เพื่อเดินเข้าไปด้านในกุฏิ
“เด็กวัดใหม่หรือคะพระอาจารย์” ผมได้ยินเสียงป้าคนนั้นถามพระอาจารย์ เสียงมันเบา พอสมควรเพราะผมเดินเข้ามาด้านในกุฏิแล้ว ผมรีบนำของใส่ตู้เย็นแล้วรีบเดินจะกลับไปนั่งที่เดิม ยังไม่ทันจะได้ออกจากกุฏิ
“โยมคิดว่า เด็กวัดจะผิวพรรณผุดผ่องแตกต่างจากคนทั่วไปแบบนั้นหรือ” พระอาจารย์ถามกลับ ผมเองก็ชะงัก ไม่กล้าออกไป
“อะ...เอ่อ....” ป้าคนนั้นอึกอัก
“หนูว่าคงไม่ใช่เด็กวัดละค่ะ แล้วเขาเป็นใครหรือคะ” ลูกสาวป้าถามขึ้นมา
“โยมอยากจะรู้ไปทำไมหรือ” พระอาจารย์ถาม แต่สองนางไม่ตอบ
“เขาเป็นคนรักของอาตมาและในอนาคตเป็นคู่ชีวิตของอาตมา” พระเป๊บเอ่ยขึ้นมาด้วยเสียงนิ่งๆ
   ผมตกใจมาก และรู้สึกไม่ดีเลย ที่สองคนนี้มาทำให้พระต้องมาพูดอะไรแบบนี้ ถามว่าผมโกรธมั้ย ก็มีบ้างครับ แต่จากที่พระอาจารย์สอนตอนเช้าแล้ว จิตของผมนิ่งกว่าเดิมมาก แทนที่ผมจะโทษสองคนนี้กลับโทษตัวเองมากกว่าที่มายุ่มย่ามกับพระท่านจนถูกติฉินนินทาขนาดนี้
“หรือคะ...แล้วมาอยู่กุฎิเดียวกันแบบนี้ไม่ผิดหรือคะ” ป้าคนนั้นถามเหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง
“การผิดหรือไม่ อยู่ที่เจตนานะโยม อาตมามีเจตนาที่บริสุทธิ์ ย่อมจะกล่าวหาว่าผิดไม่ได้ เจตนานั้นเป็นการสร้างบาปกรรมที่รุนแรงมาก คนเราหากทำสิ่งใดโดยมีเจตนาไม่ดีแต่แรกแล้ว ย่อมเป็นการสร้างบาปใช่มั้ยโยม” พระเป๊บพูดยาวเชิงสอนไปด้วย 
   ผมยืนอยู่หลังประตูได้ยินเสียงจากเหตุการณ์ทั้งหมด ยังไม่ทันจะได้ทำอะไร ได้ยินเสียงรถมาจอดหน้ากุฏิ
“นมัสการครับพระอาจารย์ พระคุณเจ้า....อ้าวมีแขกหรอครับ” เสียงแด๊ดดังขึ้นมา
   อ้าวแด๊ดมาหรือนี่ ผมเลยรีบเปิดประตูออกไป
“แด๊ดสวัสดีครับ ไม่ใช่แขกสำคัญอะไรหรอกครับ ศักดิ์ช่วยส่งแขกด้วย” ผมกล่าวทักทายแด๊ด พร้อมบอกศักดิ์ แด๊ดจากยิ้มๆ พอรู้ว่าผมพูดแบบนี้  แด๊ดคงเดาได้ว่าจะต้องมีอะไร จากสีหน้ายิ้มเปลี่ยนเป็นหน้าขรึมทันที
“ศักดิ์ นิค ส่งคุณสองคนนี้ด้วย”
“ครับคุณท่าน....คุณสองคนเชิญครับ”
ศักดิ์กับนิคเดินปรี่เข้ามาประชิดตัวสองแม่ลูก ที่หน้าเสียอย่างมาก สองแม่ลูกคงตกใจมาก เลยรีบลุกไปโดยไม่ได้กราบละพระท่าน หลังจากที่สองแม่ลูกหายลับไปแล้ว
“โจ้เกิดอะไรขึ้นลูก” แด๊ดถามผม พร้อมทำสีหน้าสงสัยมองพระอาจารย์กับพระเป๊บสลับกันไปมา
“ไม่มีอะไรหรอกโยม มารมันทดสอบนิดหน่อย” พระอาจารย์ตอบติดตลก
“หา...มาร...สองคนนั้นนะหรือครับ” แด๊ดทำหน้างง
“ช่างเถอะโยม ว่าแต่มีเหตุใดถึงมาซะเกือบค่ำ”
“พอดีผมมาตรวจงานที่ชลบุรี ขากลับเลยแวะนำน้ำปาณะมาถวายนี่ละครับ” แด๊ดตอบพระอาจารย์ ศักดิ์กับลูกน้องขนน้ำมาหลายลัง
“จริงๆ ซื้อมาเยอะเกินไปนะโยม ท่านเป๊บ รับประเคนซิ”

   

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
พระเป๊บรับประเคนจากแด๊ด พร้อมให้พร
“โยมแด๊ดรับพร....สัพพิติโย....อายุวรรณโน สุขัง พลัง” พระเป๊บกล่าวบทให้พรคล่องมากๆ
“ส่วนเรื่องที่จะไปพม่า.....” แด๊ดกำลังจะเอ่ยบอกพระอาจารย์
“แด๊ดครับ โจ้ว่า เรื่องไปพม่าน่าจะทบทวนกันอีกรอบนะครับ”
“อ้าว...ทำไมละลูก” แด๊ดทำหน้างงมากระคนด้วยความสงสัยอย่างมาก
   ผมแกล้งเปลี่ยนเรื่องคุยอื่นๆ ที่สำคัญมากกว่า จนล่วงเข้าสู่พลบค่ำ น่าจะได้เวลากลับบ้าน
“งั้นคืนนี้ผมเปลี่ยนใจไม่นอนค้างแล้วนะครับพระอาจารย์ ผมกลับพร้อมแด๊ดเลย”
“อ้าวทำไมละโยมโจ้ พรุ่งนี้ไม่ไปช่วยแล้วหรือ” พระอาจารย์ถามยิ้มๆ
“ไม่แล้วละครับ ผมเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว”
“อ้าวแล้วโจ้ลูก...ไม่นอนละ” แด๊ดทำหน้างงไปใหญ่
“กลับกันเถอะครับแด๊ด....นิคขับรถกลับไปบ้านใหญ่นะ เดี๋ยวโจ้จะกลับไปกับแด๊ด” ผมส่งกุญแจให้นิค
“ผมกราบลานะครับพระอาจารย์” ผมกราบลาพระอาจารย์พร้อมแด๊ด
“ผมลานะครับท่าน”
“เจริญพระโยม”
“อะ..เอ่อ...ผมขอกราบที่ตักลาท่านได้มั้ยครับ” คือ ที่พูดไปแบบนั้น เพราะไม่แน่ใจว่า ด้วยสถานภาพที่เราสองคนเป็นแบบนี้จะทำให้พระอาบัติหรือไม่ พระเป๊บหันไปมองพระอาจารย์
“ได้ซิ เจตนาโยมบริสุทธิ์ ไม่อาบัติหรอก”
   ผมเดินคุกเข่าเข้าไปหาพระเป๊บ ก้มกราบลงบนตัก
“ผมกราบลานะครับ...คงไม่ได้มาดูแลท่านอีก...”
“เจริญพรนะโยมโจ้...ด้วยบุญที่อาตมาได้ทำนี้จงส่งถึงโยมให้ประสบแต่ความสุขความเจริญนะ” พระเป๊บเอามือมาลูบศรีษะผม น้ำตาผมไหลด้วยความซึ้งใจ
“ขอบพระคุณครับท่าน ลาละนะครับ” ผมยกมือไหว้พระเป๊บอีกครั้ง  แล้วเดินขึ้นรถทันที
   ระหว่างการเดินทาง แด๊ดถามผม
“โจ้เกิดอะไรขึ้นลูก ทำไมยกเลิกไปพม่า แล้วไม่ได้มาดูแลคืออะไร ลูกจะไปไหน” แด๊ดถามผมรัวๆ
“คือแบบนี้ครับแด๊ด”
   ผมก็ถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่ตอนเช้าจนมาจบในช่วงเย็นอย่างละเอียด
“จริงหรือลูก...เป็นแบบนี้นี่เอง”
“ใช่ครับแด๊ด โจ้เลยคิดว่า น่าจะให้พระท่านให้อยู่ในเส้นทางของธรรมะ เราอย่ามาทำให้พระท่านกังวลเลยครับ”
“เออจริง เห็นด้วยนะลูก แต่เมื่อกี้ถ้าแด๊ดรู้ว่าสองคนนั้นเป็นแบบนั้น จะสั่งสอนซักหน่อย”
“ช่างเถอะครับแด๊ด เขาก็คิดในแบบของเขา อย่าไปสร้างกรรมเลยครับ”
   กลับมาถึงบ้านใหญ่ ผมก็เล่าเรื่องราวแบบละเอียดเช่นเดียวกับที่เล่าแด๊ดบนรถให้ทุกคนได้รับฟัง
“งั้นตกลงยกเลิกไปพม่า แต่เราอำนวยความสะดวกพระท่านยังไงดีครับแด๊ด” พี่ปริมถามแด๊ด
“ถวายปัจจัยทั้งหมดให้พระท่านดีมั้ยคะคุณพี่” มัมเสนอขึ้นมา
“ปันเห็นด้วยกับมัมนะครับ ถึงแม้เราไม่ได้ติดตามไป ปัจจัยอาจจะช่วยอำนวยความสะดวกได้บ้าง”
“งั้นเอาตามนั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกเราไปที่วัดคุยกับพระอาจารย์อีกครั้งละกันนะ”
   ทุกคนตอบรับคำ ยกเว้นผม
“โจ้ขอไม่ไปนะครับ”
“อ้าวทำไมละลูก” มัมถาม
“ก็เหตุผลตามที่เล่าไปครับ”
“เอ้ยคิดมากไปป่าว” พี่ปันถาม
“ไม่หรอกพี่ปัน ผมว่าถ้าไปเจอพระอีก ท่านคงไม่มีสมาธิ เจอกันอีกทีตอนสึกจะดีกว่าครับ”
“งั้นก็แล้วแต่น้องนะ”
   จบการสนทนากับทุกคน ผมก็ขอตัวกลับบ้าน ท่ามกลางการคัดค้านและชวนให้นอนที่บ้านใหญ่ ถึงผมจะนอนห้องเป๊บ ยังไงก็ไม่หลับหรอกครับ สู้กลับไปนอนที่บ้านจะดีมากกว่า
   กลับมาถึงบ้าน ทุกคนก็นอนกันหมดแล้ว ผมก็เดินขึ้นไปบนห้องนอน อาบน้ำแต่งชุดนอนเรียบร้อย ก็เดินมาที่ห้องพระ สวดมนต์นั่งสมาธิพักหนึ่ง แล้วก็เข้านอน
   นับจากวันที่กราบลา ผมไม่ได้ไปวัดและไม่เจอพระเป๊บอีกเลย การใช้ชีวิตประวันของผมหมดไปกับการอ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง แล้วก็ไปเที่ยวกับพวกเพื่อนๆ ฉัตร เบิด โอ๊ต ทราย เวลาว่างมีเยอะจริงครับ เพราะทุกคนก็ส่งเล่มวิทยานิพนธ์ ทำเรื่องเรียนจบ รอการรับปริญญาในปีถัดไป
   พวกเพื่อนๆ ก็ไปแวะหาพระเป๊บบ้าง เว้นผมที่ไม่ไป ฉัตรก็มาเล่าว่า พระท่านก็ไม่ได้ถามถึง มีแต่ฉัตรเองที่บอกไปว่า โจ้ไม่ยอมมา พระท่านก็ได้แต่ยิ้มๆ
   วันหนึ่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมดูหน้าจอ อ้าวพี่ปริม
“ครับพี่ปริม”
“สะใภ้ พรุ่งนี้พระท่านจะเดินทางไปพม่าแล้วนะ จะไปส่งป่าว”
“อืม...เอ่อ....”
“นี่อย่าบอกนะว่าตั้งแต่วันนั้น โจ้ไม่ได้ไปกราบพระท่านเลยหรือ”
“ครับพี่ปริม ไม่ได้ไปเลยครับ”
“เอ้ย อะไรจะขนาดนั้น ทำไมไม่ไปบ้าง”
“ไม่เอาอะครับพี่ กลัวไปรบกวนพระท่าน”
“แล้วพรุ่งนี้จะไปส่งมั้ย”
“เอ่อ...โจ้ว่า...ไม่ดีกว่าครับ”
“เอ้ยจริงอะ ใจเด็ดไปป่าวน้อง”
“ตัดสินใจแล้วครับพี่ปริม ผมไม่ไปส่งนะครับ ฝากสวัสดีแด๊ดมัม และกราบพระท่านด้วยนะครับ”
“เออๆ โอเคๆ ยังไงถ้าไปส่งก็เจอเช็คอินการบินไทยแถว B ละกันนะ ประมาณ 9 โมงเช้า”
“ครับขอบคุณครับพี่ สวัสดีครับ”
   ผมกดวางสายด้วยใจที่อยากไปส่งมากที่สุด แต่เมื่อย้อนไปคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาเกือบเดือน การไม่ไปเจอจะเป็นการดีที่สุด
   นับจากวันที่พระอาจารย์กับพระเป๊บไปพม่า ผมก็ไม่ได้ข่าวคราวจากพระท่านอีกเลย ในตอนเช้าของทุกวันผมตื่นมาใส่บาตร สวดมนต์นั่งสมาธิ จนพ่อแม่และจิม แซวผมว่าพฤติกรรมและนิสัยเปลี่ยนไป จากคนที่กินยาก เรื่องมาก ก็กลับกินง่ายอยู่ง่ายอย่างน่าประหลาดใจ จากคนที่ชอบบ่น ขี้วีน ผมก็นิ่งเฉยมากขึ้น ผมมองโลกรอบตัวในอีกแบบอย่างที่ไม่เคยมองมาก่อน
   ด้วยความที่มีเวลาเยอะมาก ผมเลยเข้าไปเรียนรู้งานในบริษัทของพ่อ พ่อบอกว่าอีกไม่นานพอจิมเรียนจบก็จะวางมือและให้เราสองคนพี่น้องสานต่อกิจการที่พ่อได้วางไว้ ผมเข้าไปเรียนรู้ก็สนุกไปอีกแบบ เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ วันเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน สองเดือน ผมก็ไปๆ มาๆ ระหว่างบ้านผมและบ้านใหญ่ วันนี้ช่วยงานพ่อที่บริษัทเสร็จ ผมก็เห็นว่าไม่ได้ไปบ้านใหญ่นานแล้ว
“แด๊ด มัม พี่ปริม พี่ปัน พี่เน็ต พี่ลิน สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทักทาย
“เอ้ยยยย ลมอะไรพัดมา ไม่ได้มานานจนพี่จะตัดออกจากความเป็นสะใภ้แล้วเนี่ย” พี่ปริมแซว
“นี่ปริมพอๆ อย่าไปแซวน้องเค้าลูก” มัมปรามพี่ปริม
“ไหนๆ ก็มาแล้วทานข้าวกับแด๊ดสักมื้อนะ” แด๊ดชวนผมทานข้าว
“ได้ครับ หิวพอดีเลย” ผมก็นั่งประจำที่
   แตกต่างตรงที่ เก้าอี้นั่งทานข้าวของเป๊บที่อยู่ระหว่างพี่ปันกับผม เว้นว่างไว้
“คิดถึงพระท่านหรือ” แด๊ดถามผม เพราะเห็นผมมองเก้าอี้
“อะ..อ่อ...เปล่าครับ” ผมปฏิเสธไม่อยากไปขัดขวางการปฏิบัติธรรมของพระท่าน
“นี่พระท่านก็ไปพม่าตั้งสองเดือนแล้ว ตั้งแต่วันไปถึงก็โทรมาบอกครั้งเดียวแล้วหายไปเลยนะคะคุณพี่” มัมกล่าวด้วยความเป็นห่วง
“นั่นซิคุณ ก็คิดถึงเหมือนกันแต่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
“ปันว่าแด๊ดกับมัมอย่ากังวลเลยครับ พระท่านอาจจะธุดงค์กับพระอาจารย์ ปลอดภัยแน่นอนครับ”
“เออก็จริง ช่างเถอะ ทานข้าวๆ” แด๊ดตอบรับ
   ทุกคนก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่อยๆ ผมก็นั่งกินข้าวเงียบบ้างคุยบ้าง ในใจพลันก็พลางคิดถึงพระท่าน จะเป็นยังไงบ้างนะ กินอยู่ยังไงอย่างไร แต่ก็ได้แค่คิดละครับ
   วันเวลาผ่านไปอีกหลายวัน ผมนึกคิดถึงอาม่าขึ้นมา เลยตัดสินใจขับรถไปหาอาม่า ถึงบ้านอาม่าช่วงบ่ายๆ
“พี่สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้พี่ลูกสาวอาม่า
“อ้าวน้อง สวัสดีคะ”
“แวะมาเยี่ยมอาม่าครับ”
“ห้องเดิมเลยนะ เดี๋ยวพี่ว่างจะเข้าไปคุยด้วยนะ”
“ครับๆ”
   ผมเดินมาหลังร้านตรงห้องนอนอาม่า เห็นอาม่ากำลังดูทีวีอยู่
“อาม่าสวัสดีครับ” อาม่าหันมามอง
“ไอหย๋าอาตี๋เล็ก คิดเถิงๆน่า มาให้อาม่ากอดทีมามะ”
   ผมเข้าไปกอดอาม่าด้วยความคิดถึงเช่นกัน
“ไม่ล่ายเจอกังตั้งนางน่า ดุเปล่งปลั่งขึ้งน่า สวกมงทุกวันละซิ” อาม่าแซว
“อาม่ารู้ด้วยหรือครับ”
“ฮะๆๆ ก็ตมมประสาคงแก่ๆ เดาปายเลื่อยๆ” อาม่าหัวเราะร่า
“อาม่าสบายดีนะครับ”
“ตามปะสาน่าอาตี๋ พะคุงเจ้าก็สบายลีน่า ม่ายต้องห่วงหลอก อาตี๋ทามถูกแล้วน่า ปล่อยให้ท่างศึกษาพะทัมปายน่า ทงเหงาหน่อย เดี๋ยวท่างก็จาสึกเลี่ยว”
   อาม่า ก็ยังคงเป็น อาม่า ที่หยั่งรู้เสมอ ผมไม่รู้จะตอบอาม่ายังไง อยู่ดีๆน้ำตาก็ไหลออกมา
“ฮึกๆๆ ฮือ” ผมร้องไห้ออกมา ท่ามกลางอ้อมกอดอาม่า
“อาตี๋เอ้ย ความพักพากเป็งสิ่งที่คงเลาไม่ต้องกางน่า ต่อไปจงจำความลู้สึกนี่ไว้น่า รักอาตี๋หญ่ายมากๆ มีอาลายก็ถะหนอมน้ามใจกังน่า ให้สมกับ ความเหงาของลื้อในวังนี้น่า”
“ฮึกๆ ครับอาม่า”
   ผมนั่งคุยกับอาม่านานมากๆ พี่สาวลูกอาม่าก็มาชวนคุยเป็นระยะ เพราะติดลูกค้าที่เข้ามาซื้อของในร้าน จนกระทั่งพลบค่ำ ผมก็ขอตัวกลับบ้าน โดยรับปากอาม่าไว้ว่า ถ้ามีโอกาสจะมานอนค้างด้วยแน่นอน
   วันเวลาผ่านไปเข้าสู่เดือนที่สาม ชีวิตประจำวันของผมหมดไปกับการศึกษางานในบริษัท ดูหนัง ฟังเพลง เที่ยวกับเพื่อนๆ สิ่งที่ทำนั้นคลายความเหงาลงไปได้มาก บ่อยครั้งถ้านั่งเฉยๆ ว่างๆ ไม่ได้ทำอะไร ก็จะมีแอบคิดถึงพระเป๊บเหมือนกัน ถ้ารู้ตัวว่าคิดถึง ก็จะสลัดความคิดนั้นทันที
   
   ผมรู้สึกตัว ลืมตาในตอนเช้า เพราะแสงแดดส่องทะลุม่านมากระทบที่ตา
“ว้า...ทำไมถึงได้ตื่นสายเนี่ย อดใส่บาตรเลย” ผมแปลกใจเหมือนกัน ปกติจะรู้สึกตัวตอนตีห้ามาใส่บาตรเป็นประจำ แต่วันนี้กลับนอนตื่นสาย

   ผมล้างหน้าแปรงฟัน อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อย ก็ลงมาด้านล่าง เห็นแม่ทำกับข้าวในครัว มีจิมเป็นลูกมือ ส่วนพ่อก็ออกไปรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน ผมก็รู้สึกแปลกใจเหมือน ทำไมดูทุกคนเตรียมการเยอะสิ่ง
“แม่ ใครจะมาหรือครับ” ผมถามแม่
“ไม่มีนี่ลูก ทำไมหรือ”
“ก็เห็นทำกับข้าวหลายอย่าง เหมือนจะเตรียมรับแขก”
“แหมพี่ ก็วันนี้วันหยุด แม่เลยทำกับข้าวกินกันไง”
“อ่อ...เออๆ”
   ผมก็เดินออกมาหน้าบ้าน กะว่าช่วยพ่อรดน้ำต้นไม้
“พ่อให้ช่วยมั้ยครับ”
“ถ้าจะช่วยไปรดน้ำตรงเรือนกล้วยไม้หลังบ้านละกันลูก”
“ได้ครับ”
   หลังจากรับคำที่พ่อบอก ผมก็เดินไปเรือนกล้วยไม้หลังบ้าน เตรียมสายรดน้ำแบบสเปร์ ด้วยความที่สายยางมันเชื่อมต่อกับระบบน้ำที่ติดกับครัว เวลาในครัวใช้น้ำ จะใช้ตรงเรือนกล้วยไม้ไม่ได้ ผมเลยต้องสลับกับการบอกจิมตลอด
“จิม สลับน้ำได้แล้ว เดี๋ยวหยุดเดี๋ยวไหล เมื่อไหร่จะเสร็จ”
“รู้แล้วๆ แปบนึงพี่”
   น้ำไหลเหมือนเดิมผมก็รดน้ำไปเรื่อยๆ เพลินๆไป ผมเงยหน้ามองท้องฟ้า
“วันนี้อากาศดี ฟ้าใส แดดสวยดีจัง” ผมเอ่ยเบาๆ รดน้ำไปเรื่อยๆ

“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน คิดถึงกันบ้างมั้ยครับ”
   เสียงทักนั้นดังมาจากด้านหลัง เป็นเสียงที่ผมจำได้ เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคย เป็นเสียงที่ผมไม่มีวันลืม ผมหันตัวกลับมามองต้นเสียงนั้นด้วยใจเต้นแรง

   เป๊บอยู่ในชุดขาว สวมหมวกสีขาว ยืนยิ้มกว้างกระทบกับแสงอาทิตย์ที่ส่องมา ความหน้าใส ความมีออร่า เห็นได้อย่างชัดเจน เป๊บยังคงหล่อเหมือนเดิม

   ผมโผเข้าไปกอดเป๊บอย่างแนบแน่น พร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน  :mew6: :mew6:

จบตอน :mew1: :mew1:


ออฟไลน์ Keeper

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 9
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
 :pig4: :pig4: :pig4:

ยาวจุใจสุดท้ายตัดฉับตามสไตล์ของคนน่ารักที่ชอบทำให้คนอ่านอารมณ์ค้าง

ผ่านการทดสอบความอดทนอดกลั้นที่คนหนึ่งครองผ้าเหลืองอีกคนนุ่งขาวในบางครั้ง อิอิ
ถือว่าก็ได้บุญเหมือนกัน อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

คู่รักมาเจอกันที่สวนท่ามกลางดอกไม้ที่สวยงามสดชื่นในตอนเช้า โผเข้ากอดกันด้วยความคิดถึง
โอว์ โรแมนติกมาก ๆ คืนนี้มีฉลอง ๆ ฮ่า ฮ่า

ระหว่างให้รอตอนต่อไป ก็เข้ามาพูดคุยกันบ้างนะครับน้องรัก นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดี

 :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ มิรินลันตา

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 18
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
แอบน้ำตาซึมตามเลย ดีใจแทน ว่าแต่โจ้ได้บวชรึยังคะเนี่ย ถ้าโจ้ได้บวชเป๊ปเองก็คงจะเหงาเหมือนกับโจ้ตอนนี้แน่ๆเลย ^_^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด