รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62  (อ่าน 514930 ครั้ง)

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13
ทำไมภรรยาหล่อ  แล้วสามีจะขนาดไหนเนี่ย555

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
ต้องหาโอกาสไปเชียงรายสักครั้ง ตามรอยคู่รักหวานตลอดปีบ้าง คริคริ
 :mew1:

ออฟไลน์ Unlimited

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
รูปโปรนี่ใครอ่ะค่ะ อ๊ายยแอบจิ้น~~ :really2:
ปล.พึ่งกลับมาอ่านหลังจากหายไปนาน(หาชื่อกระทู้ไม่เจออ่า)

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
555กลัวก็ยังจะถ่ายเนอะ แต่ทางที่ดีต้องถ่ายคู่นะตัวขาวจะได้หายกลัวมีเป๊บอยู่ด้วยอบอุ่นจนร้อน :katai2-1:เอารูปคู่มาแปะบ้างอยากเห็นนนนน คิดถึงทั้งสองคนนะจ๊ะ รอตอนต่อไปจร้า

ออฟไลน์ white feather

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
คิดถึงๆ น่ารักกันจัง>\\<

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
สงกรานต์หยุดยาว คู่หวานตลอดปีไปสวีทกันที่ไหนน๊า
 :mew1:

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
อาโหลลลลลล สวัสดีค้าบบบบบบบ นอนกันยังง่า อย่าด่าน้า หายไปนานมากๆๆ ข้ออ้างเหมือนเดิม งานเยอะมาก (กอไก่แสนตัว) ฮ่าๆๆๆ วันนี้เอาตอนต่อไปมาลงแล้วนะค้าบ น่าจะสักครึ่งนึง เดี๋ยวเขียนจบครบถ้วนจะมาลงให้อีกน้า สำหรับการตอบเม้นๆ ย้อนไปอ่านดู เยอะมากกกกกก ตอบตอนนี้มะไหวแน่เลย ตาจะปิดแล้วค้าบบบ คิงคองก็นอนกรนคร๊อกๆ ไปแล้ว งั้นค่อยรวบยอดตอบเม้นๆ หลังจากตอนนี้ละกันน้า

หวังว่าทุกคนคงสบายดีน้าค้าบบบบ คิดถึงๆๆๆ  :mew1: :mew1:

ฝันดีน้าค้าบบบบบบ  :mew3: :mew3:

ตอนที่ 55 ร่มกาสาวพัสตร์
   ชีวิตของเราสองคนกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง เพื่อนๆแต่ละคนต่างก็มุ่งเร่งทำวิทยานิพนธ์ ผมกับเป๊บก็เช่นกันครับ
“โอยยยยย มึนไปหมดแล้วง่า” ผมฟุบกับโต๊ะพลางบ่นในห้องส่วนตัวของห้องสมุดที่มหาวิทยาลัย
“กรูก็มึนด้วยยยยยย” ฉัตรฟุบตามไปอีกคน
“ถึงมึนยังไงก็ต้องกัดฟันทำวะ เฮ้อ” เบิดบ่น
“มึนมากมั้ยครับ เอาน้ำหรือขนมอะไรมั้ยเดี๋ยวเป๊บไปซื้อให้” เป๊บเอามือมาอังที่หน้าผากผม
“โอ้ยยยยต้ายตายยยยยยยยยยย เพื่อนทั้งโขลงมึนเหมือนกันไม่ได้คิดจะถามห่วงหาอาดูร” ฉัตรแหกปากขึ้นมา
“ช่ายค่าคุณแม่ หลงเมียลืมเพื่อนนนนนนนน” ทรายแซว
“ฮ่าๆๆ พวกเมิงนี่ก็นะ ก็ห่วงเมียนี่หว่า เมิงจะแดกน้ำอะไรกันบ้าง” เป๊บหัวเราะพร้อมถามขึ้นมา
   กลายเป็นว่าออเดอร์เพียบ ผมกับเป๊บเลยอาสาลงจากห้องสมุดมาซื้อซะงั้นอะ
“เหนื่อยอะเป๊บ ทำเค้าโครงส่งไปหลายรอบแล้ว อาจารย์ให้แก้ไขตลอดอะ”
“เป๊บโดนเหมือนกันครับ แต่ยังไงอย่าท้อเลยครับ เชื่อตามที่อาจารย์บอกงานเราจะออกมาดี สอบป้องกันผ่านแน่ครับ”
“ก็นั่นแหละ เนอะยังไงก็ต้องสู้อะ ถ้าสอบผ่านก็เรียนจบแล้ว”
“ใช่ครับ ว่าแต่ที่รักศึกษาบริษัทตัวเองป่าว”
“ใช่ๆ อาจารย์ว่าเอาเคสบริษัทตัวเองเลย จะได้สะดวก เป๊บเหมือนกันป่าว”
“เหมือนกันครับ ยังไงจะลองปรึกษาอาจารย์อีกทีครับ”
   ขนน้ำกับขนมขึ้นมาห้องสมุด นั่งกินไปเม้าไป แล้วนั่งทำงานกันต่อ จนกระทั่งเวลาประมาณทุ่มนึงห้องสมุดถึงเวลาปิด
   ลงมาจากห้องสมุดต่างคนต่างก็แยกย้ายกลับบ้านของตัวเอง ผมก็มานอนบ้านใหญ่กับเป๊บ ใช้เวลเดินทางไม่นานนัก ก็มาถึงบ้านใหญ่ เดินเข้ามาผ่านห้องรับแขก แด๊ดมัม และพี่ๆ กำลังนั่งคุยอะไรสักอย่าง
“อ้าวเจ้าเป๊บกับลูกโจ้มาพอดี มานี่” แด๊ดกวักมือเรียกเราสองคน
“สวัสดีครับแด๊ด มัม พี่ปริมพี่ปัน มีอะไรหรือครับ” เป๊บถาม
“เรื่องงานบวชทันเข้าพรรษามั้ยลูก” แด๊ดถาม
   เออจริงซิ มัวยุ่งกับการเรียนมา จนลืมไปว่า ครอบครัวของเป๊บกำลังจัดเตรียมงานบวชอยู่
“น่าจะไม่ทันครับแด๊ด เพราะช่วงกันยายนนี้กำลังสอบป้องกันพอดีเลยครับ”
“งั้นหรือลูก เอายังไงดีคุณ” แด๊ดหันไปถามมัม
“หรือผมว่าลองบวชหลังจากออกพรรษาดีมั้ยครับแด๊ด พระอาจารย์ท่านจะได้ไม่ติดการเข้าพรรษา คงจะช่วยอะไรได้มาก และเป๊บเองได้บวชอย่างสบายใจด้วยครับ” ผมนำเสนอความคิดเห็น
“เออฟังแล้วดูดีนะ งั้นเดี๋ยวแด๊ดจะลองปรึกษากับพระอาจารย์ ยังไงลูกก็จัดการเรื่องเรียนนะ ส่วนโจ้แด๊ดฝากดูแลเรื่องส่วนตัวเจ้าเป๊บด้วยนะลูก”
“ได้ครับบบ” ผมรับคำ
   เราสองคนขอตัวไปพักผ่อน อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ก็มาล้มตัวลงนอนกอดเป๊บ
“ถ้าไม่สึก....โจ้ทำไงอะ” ผมถามขณะนอนหนุนไหล่เป๊บ
“สึกแน่นอนครับที่รัก ไม่ต้องห่วง สบายใจได้”
“ก็...คิดเผื่อไงเป๊บ ถึงเวลานั้นเป๊บซาบซึ้งรสพระธรรมขึ้นมา ไม่สึก โจ้จะไปบังคับก็บาปแย่”
“คิดมากครับที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกนะ เป๊บคงสึกแน่นอน เพราะยังมีห่วงอีกมาก ทั้งแด๊ด มัม พี่ๆ ธุรกิจ รวมถึงเมียคนนี้” เป๊บหอมแก้มผมทีนึง
“ให้มันจริงอะ ถึงเวลาไม่สึกขึ้นมา โจ้คง.......”
“หือ....คงอะไรครับ”
“หาผัวใหม่อะ”
“อ้าววววววว ทำไมงั้นละครับ ไม่รอเป๊บละ” นางลุกขึ้นมามองหน้า
“โว้ รอไรละ หาใหม่มากินอร่อยกว่า” ผมแกล้งบ่นยิ้มๆ
“แต่หาแบบเป๊บยากนะครับ รูปหล่อ พ่อรวย หล่อล่ำ หำใหญ่....ที่รักจะไปหาจากไหน”
“ฮ่าๆๆ เดี๋ยวไปเดินหาเอา น่าจะหลงมาบ้างแหละ”
“ซะงั้นอะ...มานี่เลยพูดมากไม่เข้าหู ทำโทษดีกว่า”
“เอ้ย เดี๋ยวๆ มันไม่เกี่ยวกัน....แว๊กกกกกก....”
   เต็มๆ สองรอบ ขาสั่นกันเลยทีเดียว....โอยยยย.....นี่มั่นใจอะนะว่าจะไปบวช ลดความหื่นมั่งเถอะคิงคองงงงงงงง
   วันเวลาผ่านไปตามความชัดเจนของวิทยานิพนธ์ ในช่วงระยะหลังมานี้อาจารย์ที่ปรึกษาให้แก้ไขน้อยมาก ซึ่งผมกับเป๊บและเพื่อนๆ ต่างตั้งใจทำเล่มให้เสร็จเพื่อให้ทันสอบป้องกันวิทยานิพนธ์รอบเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้
“เบิด สอบทันปะอะ” ผมถามเบิดขณะที่กำลังพิมพ์งานไปด้วย
“คิดว่าทันวะ เมิงละ”
“น่าจะทันนะ เหลือไม่มากแล้ว รออาจารย์ตรวจอีกนิด”
“เออรอกรูด้วย ไม่อยากสอบนอกรอบ” ฉัตรบ่นๆ
“เมิงถึงไหนแล้วละ รีบๆ” ผมบ่น
“เร่งอยู่เนี่ย เออแล้วอีเป๊บละ ถึงไหนแล้ว”
   วันนี้เป๊บไม่ได้มาร่วมพิมพ์งานกับพวกเรา เพราะต้องไปซ้อมการท่องบทขอบวชกับพระอาจารย์ แต่เท่าที่ผมถามมาตลอด น่าจะทันตามกำหนดเหมือนกัน
“กรูว่าน่าจะทันนะ เพราะวันนี้ไปซ้อมท่องบทขอบวช ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“เออบวชวันไหนวะ” ฉัตรถาม
“22 พฤศจิกายน”
“เอองานสำคัญแบบนี้ไม่พลาด ว่าแต่มีอะไรให้พวกกรูช่วยมั้ยวะ”
“เรื่องเตรียมงานคงไม่มีนะ แต่วันงานคงไปถือพวกเครื่องบวชอะไรพวกนั้น”
“สบายมาก แต่เมิงอย่าถือหมอนนะ เชื่อกันว่าจะเลิกกัน” ฉัตรย้ำ
“จริงหรือ งั้นเดี๋ยวไปถืออย่างอื่นละกันอะ”
“เออ เดี๋ยวกรูถือหมอนไง ใครมาแย่ง ตบๆๆๆ” ฉัตรแอคติ้งออกทันที เอ่อคือ งานบวช ไม่ใช่ไปรบ
“งานบวชชชชช งดการใช้ความรุนแรง” ผมย้ำ
“ฮ่าๆๆ เออลืมไป พิมพ์งานต่อ เดี๋ยวไม่ทัน”
   อีก 7 วันจะถึงวันสอบป้องกันวิทยานิพนธ์แล้ว ผมกับเพื่อนๆ เครียดพอสมควรครับ จะต้องส่งให้อาจารย์ที่ปรึกษาดูล่วงหน้าก่อนประมาณ 4 วัน เท่ากับว่า วันมะรืนผมต้องทำงานให้เสร็จพร้อมส่งแล้ว ไม่อยากคิดมาก ขับรถกลับบ้านใหญ่ เข้ามาในบ้าน เห็นรถเป๊บจอดอยู่ไกลๆ กลับมาแล้วละซิ เดินเข้าตัวบ้าน เห็นป้าจันทร์กับแม่บ้านช่วยกันจัดโต๊ะอาหารเย็น
   ผมเลยเดินขึ้นไปห้องนอน เป๊บน่าจะอยู่บนห้อง เดินจะเปิดประตูห้อง ได้ยินเสียง
“ปาณาติปาตา เวรมณี.......”
   เป๊บกำลังท่องบทขอบวชอยู่นี่เอง เปิดประตูเข้าไป นางหันมายิ้มหล่อให้ ว่าไป คนใกล้บวชออร่ากระจายมาก เป๊บดูสว่างๆ เลยทีเดียว
“กลับมานานยังเป๊บ”
“สักชั่วโมงนึงครับ กลับมาถึงก็ท่องบทบวชครับ”
“วันนี้ซ้อมกับพระอาจารย์เป็นยังไงบ้างอะ”
“ก็ภาพรวมดูดีครับ แต่ขั้นตอนมีมาก เป๊บยังจำไม่ได้ไม่ครบครับ”
“ยังไงอะเป๊บที่ว่ามาก”
“ก็ประมาณว่า พอกล่าวถึงท่อนนี้ หันตัวกลับมารับผ้าไตร แล้วหันตัวกลับไปกราบเจ้าอาวาส นั่นนี่ ประมาณนั้นครับ”
“โห ยากจริงด้วยอะ แล้วนี่จะต้องไปซ้อมกี่วัน”
“จนกว่าจะคล่องนะครับ พระอาจารย์ท่านไม่อยากให้ผิดพลาด เลยตั้งใจมาก
“แล้วใกล้จะสอบ แบ่งเวลาทันหรือเป๊บ”
“ต้องทันครับ จะพยายามทำให้ได้ครับ”
   ได้ยินเสียงเคาะประตู เด็กแม่บ้านตามไปทานข้าว  ลงมาถึงห้องทานอาหาร ทุกคนมาพร้อมหมดแล้ว
“วันนี้ซ้อมเป็นยังไงบ้างลูก” มัมถาม
“ก็โอเคเลยครับมัม แต่ขั้นตอนเยอะ เป๊บยังจำไม่ค่อยได้ครับ”
“ซ้อมบ่อยๆ น่าจะจำได้คล่องนะ แล้วต้องไปซ้อมกี่วัน” พี่ปริมถาม
“พระอาจารย์บอกว่า จนกว่าจะคล่องครับ”
“เออแล้วนี่ทางวัดให้เราไปเตรียมงานได้ล่วงหน้ากี่วัน” แด๊ดถาม
“ไม่ทราบเลยครับแด๊ด เดี๋ยวผมถามให้นะครับ”
“คุณคะ เราน่าจะไปติดต่อเองให้ดูเป็นทางการนะคะ จะได้เตรียมความพร้อม”
“ดีเหมือนกันคุณ แล้วนี่ลูกซ้อมอีกวันไหน” แด๊ดถาม
“วันมะรืนครับ ตอนนี้สลับวันเว้นวัน พระอาจารย์กลัวเจ็บเข่า เพราะต้องใช้เข่าเดินเวลารับผ้าไตรครับ”
“งั้นวันมะรืนแด๊ดกับมัมไปด้วยนะ.....แล้วถ้าพวกแกว่างก็ไปด้วย” แด๊ดหันมาสั่งพี่ปริมกับพี่ปัน
“ได้ครับ” พี่ปริมกับพี่ปันรับคำสั่ง
   ทานอาหารเสร็จ ก็เดินขึ้นมาบนห้องเพื่อพักผ่อน หลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย ผมเดินออกมาจากห้องแต่งตัว เห็นเป๊บกำลังนอนท่องบทบวชบนเตียง ดูตั้งใจท่องอย่างมาก
“วิกาละโภชนา เวรมณี....ณัฐคีตะวา...เอ่อ....อะไรแล้วละนี่...” เป๊บคงจำไม่ได้ เห็นบ่นพึมพำพลางดูบทสวด ผมละยืนขำแบบเงียบๆ อยู่ห่างๆ เวลาเป๊บตั้งใจทำอะไร แล้วทำหน้ายุ่งๆ ก็จะดูหล่อและมีเสน่ห์ไปอีกแบบ
“ค่อยๆท่องอะเป๊บ ไปเร่งให้มันจำเหมือนจะสอบ จำไม่ได้หรอก”
“เป๊บกลัวพลาดนะครับ แล้วอีกอย่างเวลาท่องจะมาติดท่อนนี้ประจำ เลยอยากจะให้จำได้แม่นๆ ครับ”
“เข้าใจนะเป๊บ ใจเย็นๆ เดี๋ยวซ้ำหลายๆ รอบจำได้เอง”
“ครับ” แล้วนางก็หันไปท่องพึมพำต่อ
“โจ้ว่า นอนกันเถอะดึกแล้วนะ พรุ่งนี้ต้องเข้ามหาลัยไปพิมพ์งานนี่”
“อีกแปบนะครับ ที่รักนอนก่อนเลยครับ”
   ผมไม่เซ้าซี้มาก ล้มตัวลงบนที่นอนนุ่มๆ ไม่นานนักเป๊บก็ปิดไฟมานอนกอด พร้อมหอมแก้มผมฟอดนึง
“นี่จะบวชแล้วยังจะมาหอมแก้ม”
“เอ...พระอาจารย์ไม่ได้ห้ามนะครับว่าหอมแก้มเมียไม่ได้” นั่นมีย้อน
“นี่พอเลย ถึงพระอาจารย์ไม่ได้ห้ามก็หัดสำรวมก่อน จะมาทะลึ่งตึงตังไม่ได้”
“ก็หอมแก้มตุนไว้ก่อนไงครับ ตอนบวชจะได้ไม่คิดถึงมาก” นางยิ้มหล่อ
“อย่าไม่คิดถึงจนไม่สึกละ” ผมเปรย
“หือ...สึกซิครับ ต้องมาดูแล เมียคนนี้”
“ให้มันจริงเหอะ กลัวบรรลุพระธรรมไปนั่งในถ้ำ”
“ฮ่าๆๆ เกินไปครับ แล้วถ้าเป๊บไม่สึกโจ้จะทำยังไงครับ”
“คง...ไปบวชด้วย....อาจจะบวชที่อื่นไกลๆ ไม่ต้องเจอกัน ไม่ก็ อยู่คนเดียวไปจนตาย”
“หืมมม ขนาดนั้นเลย เห็นครั้งก่อนเป๊บถามแบบนี้ยังบอกเลยว่าจะไปหาผัวใหม่”
“โอ้ยยยย หน้าตาดี มีรถขับ โทรศัพท์มีกล้อง บ้านรวย หล่อล่ำ หำใหญ่ จะไปหาแบบนี้ที่ไหน อยู่โสดแหละดี”
“ฮ่าๆๆ สโลแกนแปลกๆ นะครับ คิดเองปะเนี่ย”
“คิดเองอยู่แล้วเหอะ”
“ตกลงไม่มีคิดจะมีแฟนใหม่เพราะอะไรครับ”
“ไม่มีพื้นที่จะมอบความรักให้ใครแล้วเป๊บ ทั้งหมดที่มีให้เป๊บหมดแล้ว ถ้าเป๊บไม่สึก ก็ไปรักกันชาติหน้า โจ้ยอมเสียสละเอง”
   ผมมองแววตาเป๊บที่มีน้ำตาแววๆ เหมือนนางจะซึ้ง แต่ผมก็พูดความจริงจากใจ ซึ่งก็บอกเป๊บไปหมดแล้ว
“นอนกันเถอะครับ” นางตัดบท
“อื้อ”
   เราสองคนซุกใต้ผ้าห่ม เป๊บขยับตัวเข้ามากอด
“รักนะครับ ตัวขาว”
“รักเหมือนกันนะคิงคอง” ผมยิ้มให้ จุ๊บๆ ทีนึง
เราสองคนก็หลับยาวไปจนถึงรุ่งเช้า
วันเวลาผ่านไปเร็วมาก เช้าวันนี้ เป็นวันสอบป้องกันวิทยานิพนธ์ของเราสองคนรวมถึง ฉัตร เบิด และเพื่อนคนอื่นๆ ร่วมรุ่น ด้วยความตื่นเต้น มาถึงมหาวิทยาลัยเช้ามาก ก็พบฉัตรกับเบิดมานั่งอยู่ก่อนแล้ว
“เมิงสองตัวมาเร็วเนอะ” ผมแซวฉัตรกับเบิด
“เออดิ ตื่นเต้นตายห่า นอนไม่หลับ เลยมานั่งทำใจก่อนเนี่ย” ฉัตรบ่น
“แล้วเมิงพร้อมยัง” เบิดถามผม
“ก็น่าจะพร้อมนะ แอบตื่นเต้นเหมือนกัน”
“แล้วเมิงละอีนาค พร้อมยัง” ฉัตรแซวเป๊บ
“พร้อมแล้ว สบายมาก”
“คร่าอีเก่งกาจ อยากสมองดีเหมือนเมิงบ้างอะอีเป๊บ”
“งั้นควรกินปลาเยอะๆ” เป๊บแซว
“กรูแดกทั้งมหาสมุทรก็ไม่ทันแล้ว แม่มสมองตีบ”
“ฮ่าๆๆ เกินไปเมิง”
“เป๊บเมิงสอบห้องไหนวะ” เบิดถาม
“ไม่รู้วะ แต่คงชั้นเดียวกันมั้ง เมิงพร้อมยัง”
“ก็น่าจะ กลัวแม่งตอบคำถามไม่ได้ แก้งานเยอะแน่”
“เอ้ยสบาย เมิงเรียนเก่ง ตอบได้อยู่แล้ว”
“แต่กรูโง่อะ ตอบไม่ได้ทำไง” ฉัตรบ่น
“กระโดดน้ำตายเลยมั้ย” ผมถาม
“ไม่ตายอะ ว่ายน้ำเก่งคะ ฉายาฉลามฉัตรงี้”
“จ้าแม่ฉลามบุกกกกกก” ผมแซว
   เวลาสอบก็มาถึง เพื่อนๆ หลายคนก็มาให้กำลังใจ รวมถึงทรายและโอ๊ตด้วย สองคนนี้สอบรอบหน้า การสอบของผม ฉัตร และเบิด ผ่านไปได้ด้วยดี อาจารย์คณะกรรมการสอบถามคำถามยากมาก แต่ด้วยที่พวกเราเตรียมข้อมูลมาครบถ้วน การแก้ไขงานจึงไม่มากเท่าไหร่ ท้ายสุด การสอบสิ้นสุดลง
“สำหรับการสอบวันนี้ทุกคนทำได้ดีมากนะคะ ตามที่คณะกรรมการได้แนะนำให้ปรับปรุงแก้ไข ทางคณาจารย์ได้ปรึกษากันแล้วว่า ควรให้ปรับปรุงแก้ไขส่งไปยังอาจารย์ที่ปรึกษาของแต่ละคนภายใน 90 วัน หลังจากนั้นจะหารือเรื่องการอนุมัติการทำเล่มว่าผ่านในช่วงไหนนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีคะ”
   หลังจากที่คณาจารย์ออกจากห้องสอบไปแล้ว
“โอ้ยยยยย โล่งอะเมิงงงงงง เหมือนยกภูเขาออกจากอก”
“เออแม่ง กรูแบบน้ำตาจะไหล จะเรียนจบแล้ว” เบิดเปรย
“เหมือนกันวะ ไหนๆ สอบผ่านละ ไปหาไรกินมะ”
“เออน่าสน แล้วอีโอ๊ตกะอีทรายละ” ฉัตรถาม
“ไม่เห็นวะ ไปไหนแล้ว”
“เออเดี๋ยวกรูโทรตาม” ฉัตรกดโทรศัพท์ตาม
   โอ๊ตกับทรายไปพบอาจารย์ที่ปรึกษา และกลายเป็นว่า พวกเราเลื่อนการเลี้ยงฉลองออกไปก่อน เพราะสองคนนั้นไม่ว่าง เราสามคนเดินออกมาจากห้องสอบ ก็พบเป๊บเดินออกมาพอดี
“เป็นไงบ้างอะเป๊บ”
“ผ่านสบายๆ ครับ แก้ไขนิดหน่อย ที่รักละ”
“เหมือนกันๆ”
“เหอะ เบื่อพวกผัวเมียเรียนเก่ง แก้นิดหน่อยก็ผ่านละ เชอะ” ฉัตรแซว
“แหมเมิง ของเมิงก็แก้ไม่มากอะไรนี่” ผมตอบ
“ไม่มากก็จริง แต่ก็มากกว่าพวกเมิงอะ”
“เอาน่า แก้ให้เสร็จก็เรียบร้อย อย่าคิดมาก” เบิดปลอบ
“เออ แล้วนี่ตกลงเลื่อนการเลี้ยงฉลอง แล้วจะไปไหนกันดีวะ” ฉัตรถาม
“เป๊บไปไหนดีละ” ผมหันไปถามเป๊บ
“อืม คือจริงๆ เป๊บจะชวนโจ้ไปหาอาม่านะครับ อยากเอาการ์ดงานบวชไปเชิญอาม่าด้วย อีกยี่สิบวันจะบวชแล้ว กลัวว่าถ้าไม่ได้ไปวันนี้อาจจะไม่ว่างยาวเลยครับ”
“เออดีเหมือนกันนะ อาม่าคงดีใจแน่เลย”
“อาม่าไหนวะ งง แล้วไปที่ไหน”
   สรุป ผม เป๊บ ฉัตร เบิด ก็เดินทางไปหาอาม่าที่ชลบุรี นำการ์ดงานบวชเป๊บไปเชิญครอบครัวอาม่า ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมง ก็ถึงบ้านอาม่า
“สวัสดีครับพี่” ผมกับเป๊บทักทายพี่ที่เป็นลูกสาวอาม่า
“อ้าวน้อง ลมอะไรพัดมาเนี่ย หายไปตั้งนานคิดถึงๆ”
“พอดียุ่งเรืองเรียนกันนะครับ แล้วอาม่าละครับ” เป๊บถาม
“อยู่ในห้องเดิมนะแหละ น้องกับเพื่อนเข้าไปก่อนซิ เดี๋ยวพี่ขายของเสร็จตามเข้าไป”
“ครับๆ”
   พวกเราก็เดินมายังห้องนอนอาม่า อยู่หลังร้าน
“เมิงสนิมสนมกับบ้านนี้หรือวะ” ฉัตรถาม
“ก็...ใช่นะ ผู้มีพระคุณของเป๊บ” ผมตอบฉัตร
“หือ ขนาดนั้นเลยหรือ จริงหรือวะเป๊บ” ฉัตรหันไปถามเป๊บ
“อื้อ...ถ้าไม่มีอาม่า กรูคงตายไปแล้ว...รอดมาได้เพราะอาม่านี่แหละ”
“โห ขนาดนั้น”
   เป๊บเปิดประตูห้องนอนอาม่า เห็นอาม่านั่งบนเก้าอี้กำลังดูทีวี อาม่าได้ยินเสียงเลื่อนประตู เลยหันมามอง พร้อมยิ้ม
“ไอหย๋า อาฝรั่งกับอาตี๋ มามามา อาม่ากอกโหน่ย คิกถึงๆ” ผมกับเป๊บเข้าไปกราบอาม่าที่ตัก
“อาม่าสบายดีนะครับ” เป๊บถาม
“สบายลีๆ ลื้อละ อาฝรั่ง เปงงายบ้าง”
“สบายดีเพิ่งสอบเสร็จครับ เลยแวะมาบอกข่าวดีอาม่า”
“ลีแล้วๆ สอบผ่างๆ สบายมาก เรียงจบแน่นองอ่า ข่าวลีที่ว่า จะบวกช่ายป่าวอ่า”
“อุ้ย อาม่าทราบหรือครับ” ผมอุทาน
“โฮะๆๆ แหมอาตี๋เล็กอ่า ถึงอาม่าจะไม่ค่อยได้ปายหนาย แต่ก็เห็นหมกแหละ อะไรยังไง บวกดีน้าอาฝรั่ง ลื้อบุญมากน้า บวกครั้งนี้ชีวิตจาเริงๆ”
“ครับ เลยมาเชิญอาม่าเป็นแขกพิเศษที่ผมเคารพรักครับ” เป๊บตอบ
“ล่ายๆ งานบวกของลูกหลาน อาม่าไปแน่นองอ่า แล้วอาตี๋เล็กอ่าลื้อไม่บวกหรือ”
“หลังจากเป๊บครับอาม่า ผลัดกันครับ”
“อ๋อ ลีๆ พระคุณเจ้าทั่งนั้นคงแนะนำละซี่ ลีๆ ชีวิตจะได้ราบรื่นอ่า”
   ผมกับเป๊บก็อึ้งนิดๆ อาม่าไม่เคยเจอกับพระอาจารย์ แล้วรู้ได้ยังไง แต่ก็ไม่ได้สงสัยมากครับ อาม่ามีอภิญญารู้เห็น ไม่แปลกที่จะรู้จักพระอาจารย์
“แล้วอีหนูกะอาตี๋อ้วนนี่เพื่อนลื้อหรือ” อาม่าหันมาถามผม”
“ใช่ครับ เพื่อนสนิทครับ”
“สวัสดีคะ ครับ อาม่า” ฉัตรกับเบิดไหว้อาม่า
“สะหวักลีน่า แหม๋ ภพชาติวงเวียนกังปายน่า สุกท้ายก็ล่ายมาเจอกัง อาตี๋เล็ก อีหนูนี่เป็นคงลีมากน่า ในอนาคต อีจะเปงเพื่อนที่ลีมาก ลื้อมีปังหาก็ไปให้อีช่วย ทุกอย่างราบรื่งน่า.....อีหนู อนาคตลื้อจะได้ผัวเป็นอภิมหาเศกฐีน่า มีเงินทอง ชื่อเสียงมากมายน่า แล้วไปใช้ชีวิกที่เมืองนอกเลยน่า ไม่ได้อยู่ไทยเลี่ยว”
“จริงหรือคะอาม่า แต่หนูไม่อยากอยู่เมืองนอก อยู่เมืองไทยสบายกว่าคะ”
“ชะตามังกำหนดมาแบบนั้ง ลื้อต้องไปอยู่ที่นั่ง ต้องช่วยเหลือคนอีกมากมายน่า อาตี๋อ้วน ลื้อเป็นคงลีมากน่า กลับไปทำธุระกิกของครอบครัวลื้อ แล้วลื้อจะร่ำรวยมากน่า”
“จริงหรือครับอาม่า แล้วผมจะมีเมียมั้ยครับ”
“ฮ่าๆๆ ไอหย๋า มีอยู่เลี่ยวววว ลื้อจะเจอสาวเนื้อคู่ในอีกสามปีนับจากนี้ อีเป็นคงต่างชาติน่า ลื้อจะเจอเอง ไม่ต้องห่วงน่า”
   ถึงแม้วันนี้  อาม่าจะไม่อยู่แล้ว ผมกับเป๊บยังจำคำสอนและคำพยากรณ์ของอาม่าได้ทุกคำ แต่ละคำที่อาม่าพูดนั้น ล้วนเป็นจริง ฉัตรได้สามีที่รวยมากๆ และอยู่ที่นิวยอร์ค มีชีวิต มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ส่วนเบิดหลังจากเรียนจบก็กลับไปช่วยธุรกิจที่บ้าน และสามปีนับจากที่อาม่าพูด เบิดเจอสาวน่ารักเป็นชาวสิงคโปร์ โดยบังเอิญด้วยการที่สาวคนนี้มาติดต่อธุรกิจกับครอบครัวเบิด เบิดเล่าว่า ตอนสบตาเหมือนมีไฟช๊อต แบบใจเต้นแรงมาก เลยนึกถึงที่อาม่าเคยบอก เบิดตามจีบจนได้แต่งงานกัน และมีครอบครัวที่อบอุ่นน่ารัก
“ขอบคุณครับอาม่า กลัวจะโสดนี่ละครับ” เบิดยิ้มๆ
“ไม่โสกๆ มีเมียแน่นอง ฮะๆๆ”
   คุยกันได้สักพัก ก็ขอตัวกลับให้อาม่าได้พักผ่อน
“ขอบใจพวกลื้อมากน่า ที่ยังคิกถึงแวะมาเยี่ยมเยียนคงแก่”
“ครับอาม่า รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ผมกราบลาก่อน เจอกันวันบวชนะครับ” ผมกับเป๊บกราบที่ตักอาม่า
“บุงรักษาน้าอาฝรั่ง อาตี๋เล็ก อาตี๋อ้วน อีหนู ขอให้จาเริงๆน่า” อาม่าลูบศรีษะเราสองคน
   ล่ำลาเสร็จเรียบร้อย ก็เดินมาเจอพี่ลูกสาวอาม่า
“อุ้ย ทำไมกลับเร็วจังอะน้อง วันนี้ลูกค้าเยอะมาก พี่ไม่ได้เข้าไปคุยด้วยเลย”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ครับ พอดีผมจะบวชเลยเอาการ์ดมาเชิญ”
“อุ้ยจริงหรือ อนุโมทนานะ วัดไหนละนี่” พี่เขาอ่านการ์ดเชิญ
“อยากให้พี่กับอาม่าไปร่วมครับ ผมส่งรถตู้มารับนะครับ” เป๊บบอก
“พี่พาแม่ไปเองได้นะ...แต่ถ้าได้รถตู้ก็ดีนะ แม่จะได้ขึ้นรถสะดวก”
“ได้ครับพี่ งั้นผมจะส่งรถมารับ มีเก้าอี้ไฟฟ้าให้อาม่าขึ้นลงได้ จะได้ไม่ลำบากครับ”
“ขอบคุณมากนะน้อง ยังไงอนุโมทนาล่วงหน้านะ เจอกันที่วัดวันบวชนะ”
“ครับพี่ ขอบคุณครับ”
   พวกเราทั้งหมดก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ระหว่างการเดินทาง
“เมิงๆ อาม่าแกเป็นแนวๆ แบบ หยั่งรู้อนาคตหรือวะ” ฉัตรถาม
“เออนั่นดิ หรือเป็นหมอดู” เบิดถาม
“ไม่รู้วะ แต่อาม่า คือ คนที่ช่วยกรูจากเจ้ากรรมนายเวรที่ตามเอาชีวิต พวกเมิงจำเรื่องที่กรูเล่าตอนอุบัติเหตุใหญ่ได้มั้ยละ” เป๊บถาม เบิดกับฉัตร พยักหน้า
   เป๊บก็เล่าเรื่องราวซ้ำอีกครั้ง ฉัตรกับเบิดก็ทำหน้าแบบตั้งใจฟังมาก
“อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง โลกเรามีอะไรที่ซ่อนอีกเยอะวะ” ฉัตรบ่น
“แสดงว่าสิ่งที่อาม่าพูดไม่เคยผิดพลาดเลยหรือวะ” เบิดถามเป๊บ
“อื้อ....ไม่มีผิดเลยจริงๆ” เป๊บพยักหน้าตอบ
   ผมกับเป๊บมาแวะส่งฉัตรกับเบิดที่มหาวิทยาลัย หลังจากแยกย้ายกันหมดแล้ว เราสองคนก็เดินทางกลับบ้านใหญ่ ช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วัน ผมก็ไปรับไปส่งเป๊บระหว่างบ้านใหญ่กับวัด เพื่อซ้อมพิธีการบวชให้คล่องมากยิ่งขึ้น จนถึงคืนก่อนวันงาน บ้านใหญ่ดูครึกครื้นและวุ่นวายมาก บรรดาแม่บ้าน กับ บรรดาลูกน้อง วิ่งไปมาจัดเตรียมงานสำคัญของวันพรุ่งนี้
“พี่จันทร์อาหารพรุ่งนี้เรียบร้อยมั้ย” แด๊ดถาม ป้าจันทร์หัวหน้าแม่บ้าน
“คะคุณท่าน ทุกอย่างเรียบร้อยคะ”
“ขอบคุณมากพี่จันทร์ มอบอำนาจให้พี่จันทร์ดูแลอาหารและเครื่องดื่มนะ ขาดเหลืออะไรตัดสินใจได้เลย”
“ได้คะคุณท่าน”
“เออแล้วเรื่องรถรับส่งเป็นไงบ้างศักดิ์” แด๊ดหันไปถามศักดิ์ที่ยืนด้านหลัง
“จัดการหมดแล้วครับคุณท่าน ผมให้ทุกคนประจำรถตามหน้าที่ และเรียกรถกองกลางในเครือเรามาเพิ่มเติมแล้วครับ”
“แล้วที่วัดละ”
“นิคไปรอที่นั่นแล้วครับ แจ้งมาว่าสถานที่จัดการเรียบร้อยแล้ว คืนนี้จะมีทีมแม่บ้านบางส่วนไปจัดการล่วงหน้าที่วัดครับ”
“เออดีๆ ฝากบอกทุกคนเหนื่อยกันหน่อยนะ ขอบคุณมากๆ ขาดเหลืออะไรศักดิ์จัดการละกันนะ”
“ได้ครับคุณท่าน ด้วยความเต็มใจเลยละครับ”
   แด๊ดเดินเข้ามาในห้องรับแขก ทุกคนกำลังง่วนอยู่กับการเตรียมตัว โดยเฉพาะผมกับเป๊บที่กำลังซ้อมบทสวดและขั้นตอนอย่างเคร่งครัด โดยสมมติว่าผมเป็นพระอาจารย์ แล้วเป๊บแสดงขั้นตอนขอบวช มีฮาบ้างตามประสา จนแด๊ดเดินเข้ามา
“แล้วนี่ในโบสถ์พรุ่งนี้แด๊ดกับมัมต้องทำอะไรบ้าง” แด๊ดเอ่ยถามเป๊บ
“ยกผ้าไตรถวายครับ แต่พระอาจารย์บอกว่า จะมีผู้ช่วยแนะนำขั้นตอนอีกทีครับ”
“เออดีๆ แล้วครอบครัวลูกละ จะเจอที่วัดยังไง แด๊ดว่าให้มานอนที่นี่มั้ย พรุ่งนี้จะได้ไปด้วยกัน” แด๊ดหันมาถามผม
“ตอนเย็นโทรไปบอกแล้วครับ โจ้ว่าคงกำลังเดินทางกันมาครับ”
“ดีๆ แล้วลูกให้แม่บ้านไปจัดห้องให้หรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
“ยังไงก็รีบพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องตื่นกันเช้ามากๆ”
“ครับแด๊ด” พวกเรารับคำ
   หลังจากแด๊ดเดินออกไป เราสองคนก็ซ้อมกันต่อ
“อะเป๊บ ถึงไหนละอะ มาซ้อมกันต่อ”
ถึงบทสวด ช่วงที่ต้องรับผ้าไตรจากบิดามารดา แล้วต้องหันกลับมาประเคนให้กับพระอุปัฌชาย์ ด้วยความที่คุกเข่า แล้วต้องกระดึ๊บๆ ตัวกลับหลัง ลำบากเหมือนกัน ผมเองก็ต้องสมมติเป็นคนรับผ้าไตรทั้งสองฝั่ง
“เป๊บดูเก้งก้างอะ”
“จุดนี้ยากครับ นอกจากเมื่อยขาแล้ว เวลาหมุนตัวทั้งที่คุกเข่านี่ ไม่สะดวกเลยครับ”
“นั่นซิ แล้วพรุ่งนี้ทำยังไงอะ”
“ก็อาจจะทำแบบนี้ละครับ แต่ตั้งสติให้มากหน่อย”
“ไหวหรือ”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องไหวครับ”
“งั้นโจ้ว่า เลิกซ้อมดีมั้ย ไปพักผ่อนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นตีสี่เลยนะ”
“ได้ครับๆ”
   พี่ปริมก็แวะเข้ามาในห้องรับแขกพอดี
“ไอ้เสือพร้อมยัง” พี่ปริมถาม
“น่าจะนะพี่ ซ้อมเยอะมากแล้วครับ”
“แล้วนี่สะใภ้เหล็กช่วยซ้อมหรือยัง”
“ก็ช่วยแหละพี่ปริม จะไปนอนแล้วเนี่ย”
“เออแค่ซ้อมพอนะ อย่ากินน้องชายพี่ละ พรุ่งนี้หมดแรงบวชไม่ไหว”
“บ้าแล้วววว รู้แหละ ใครจะมาทะลึ่งก่อนบวช ชิส์” ผมแลบลิ้นใส่
“ฮ่าๆๆ ไปนอนๆ พรุ่งนี้ตื่นตีสี่อีก”
“พี่ปริมทุกอย่างเตรียมพร้อมแล้วหรือครับ ให้เป๊บไปช่วยอะไรป่าว”
“ไม่ต้องๆ หน้าที่แกคือ ไปเตรียมบวช ที่เหลือพี่จัดการเอง”
“ครับ แล้วพี่ปันละครับ ยังไม่เห็นเลย”
“ปันมันอยู่ที่วัด เตรียมงานอยู่ เดี๋ยวคงกลับมาถึงละมั้ง”
“ครับๆ งั้นผมไปนอนก่อนนะครับ”
“ไปๆ เดี๋ยวพี่ดูงานอีกแป๊บนึง”
   เราสองคนก็เดินขึ้นมาห้องนอน เป๊บบอกให้ผมไปอาบน้ำก่อน ก็เลยผลัดผ้าเตรียมเข้าอาบน้ำ มองกระจก
“อุ้ย มีหนวด โกนก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นมาไม่มีเวลาโกน” ผมบ่นคนเดียวเบาๆ แล้วเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อหยิบใบมีดโกนหนวด เห็นเป๊บเปิดลำโพงโทรศัพท์คุยอยู่กับใครหว่า
“งานที่วัดเป็นไงบ้างครับพี่” อ๋อ เป๊บคุยกับพี่ปันนี่เอง
“เตรียมเสร็จหมดแล้ว นี่พี่กำลังนัดแนะกับพระอาจารย์ ไม่ต้องห่วงๆ”
“นี่ก็สามทุ่มแล้วยังไม่กลับหรือครับ”
“อีกแป๊บๆ กำลังจะกลับแล้ว แกไปนอนเถอะ”
“ครับพี่ ขอโทษนะครับพี่ปันที่ทำให้ลำบาก”
“เอ้ย น้องพี่จะบวชทั้งคน ลำบากอะไรตรงไหน ไปทำหน้าที่ตัวเองให้เต็มที่ ให้สมกับที่ทุกคนช่วยเหลือแกนะ”
“ครับพี่ ขอบคุณครับ รักพี่นะครับ”
“เออ พี่ก็รักแก ไปนอนๆ เดี๋ยวพี่กลับแล้ว พรุ่งนี้ตื่นเช้าอีก”
“ครับ ขอบคุณครับ” เป๊บกดวางสาย
   ต่อหน้าคนอื่นหรือมีคนอื่นอยู่ด้วย เป๊บไม่บอกรักพี่หรอกครับ เว้นว่าอยู่ส่วนตัวหรือคนเดียว ผมแอบอมยิ้มตรงที่ สามพี่น้องสุดหล่อนี่เขารักกันมาก สิบปีที่ผมคลุกคลี ไม่ว่าในสามพี่น้องใครจะเกิดปัญหา ทั้งสามคนจะสุมหัวช่วยเหลือกัน ต่อหน้าทำเป็นเฉยๆ ลับหลังทีไรมุ้งมิ้งกันตลอด แต่เป๊บจะได้เปรียบตรงที่เป็นน้องเล็กไงครับ พี่ทั้งสองเลยตามใจเป็นธรรมดา ก่อนที่เป๊บจะหันมาเจอผมฟังโดยบังเอิญ ต้องรีบเข้าห้องน้ำก่อน
   


ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
คิดถึงมากๆ รอนานมากเข้ามาดูทุกวันว่าจะเข้ามาทักทายกันไหม

 :mew1: :mew1: :pig4: :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-04-2017 01:20:48 โดย noy »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
คิดถึงทั้งสองนะคะมาต่อซัก ถึงจะบวชไปนานแล้วแต่ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะคะ  o13

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :pig4: :pig4: :pig4:
อนุโมทนา สาธุนะคะ
อยากอ่านตอนบวชแล้ว
ปล.ถ้าว่างก็มาต่อไวไวนะ
รักนะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ดีใจที่มาต่อตอนหลักแล้ว รออ่านตอนต่อไปค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ดีใจๆโจ้มาต่อเรื่อง จะเรื่องอดีตหรือปัจจุบันก็ชอบทั้งนั้น

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีค้าบบบบบ ทำไรกันง่า อิอิ ตอนนี้ดูบ่วงหงส์อยู่ค้าบบบ ตอนอวสานด้วย พอโฆษณาก็รีบมาทักทายและลงเรื่องเล่าที่ค้างไว้ อาจจะไม่หวือหวา แต่ก็สนุกแบบเพลินๆน้าค้าบบบ คาดว่าอีกสองสามตอนจะจบแล้ว จะเร่งเขียนน้าคับบบ รักทุกคนน้า จุ๊บๆๆ  :mew1:

ตอบเม้นๆ

noy : ขอบคุณมากน้าค้าบที่เข้ามาทุกวัน จะพยายามมาบ่อยๆน้า กอดๆ  :mew1: :กอด1:

sugarcane_aoi : ขอบคุณมากค้าบบบบบ จุ๊บๆๆ  :mew1: :mew1:

Kfc_Pizza : มาต่อไวๆ มาม่าๆ แล้ว อิอิ  :mew1: :mew1:

j123 : ขอบคุณค้าบบบบบ  :mew3: :mew1:

snowboxs : ขอบคุณมากค้าบบบบบ อีกไม่กี่ตอนจะจบแล้วน้าคับบ อย่าลืมตามมาอ่านน้า  :mew1: :mew1:

อาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องน้ำ เห็นเป๊บกำลังท่องบทสวดซ้ำอีกรอบ
“เป๊บไปอาบน้ำเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้ามากนะ”
“ครับๆ เดี๋ยวท่องจบบทนี้แล้วจะเข้าไปอาบน้ำครับ”
“แล้วนี่ชุดนาคอยู่ไหนอะ เดี๋ยวโจ้จะได้นำมาเตรียมไว้”
“อยู่ในตู้เสื้อผ้าใหญ่ครับ ขอบคุณครับที่รัก”
   ผมนำชุดนาคมาจัดเตรียมใส่พาน พร้อมกับที่ครอบมงคล รัดประคด เป๊บท่องเสร็จก็ไปอาบน้ำเรียบร้อย จนมานอนพักผ่อน
“ที่รักยังไม่นอนหรือครับ”
“อีกแป๊บๆ จัดของนิดนึง”
“สี่ทุ่มแล้วนะครับ นอนเถอะต้องตื่นตีสี่”
“เป๊บนอนก่อนเลย อีกสามนาทีนะ”
   เตรียมของที่จะนำไปงานบวชพรุ่งนี้เรียบร้อย ผมก็มานอนซุกในผ้าห่ม
“ที่รักเป๊บไปบวชช่วงนึง อย่าไปมีคนอื่นละ” ดูคำบอกเล่าของคิงคอง
“ทำไมคิดแบบนั้นเนี่ย เดี๋ยวตีอะ” ถึงกับลุกขึ้นมานั่งมองคิงคอง
“อ้าวก็กลัวว่าเป๊บบวชนาน ที่รักไปเจอใครหล่อกว่า ดูดีกว่า แล้วปันใจไปรัก ทำไงละครับ”
“โว้วววว บอกกี่รอบแล้วเนี่ย ว่าไม่รักใครแล้ว นอกจากคิงคองเนี่ย เข้าใจป่าว” ผมก้มเอาจมูกไปชนจมูกเป๊บ
“แล้วรุ่นน้องหล่อๆ คนนั้นละครับ”
“หือ โอห์มนะหรือ ปล่อยเขาไปเถอะ โจ้บอกไปแล้วว่าได้แค่พี่น้อง”
“ที่รักไม่ได้ชอบเขาหรือ”
“หึ ไม่อะเป๊บ เคมีไม่เข้ากันอะ ไม่รู้ซิ ตอนที่เราสองคนเกิดเรื่องกันอะ โจ้ก็ลองไปศึกษาดูนะ แต่ก็งั้นๆ อะ”
“หือ มีช่วงศึกษาด้วยหรือ” เป๊บลุกขึ้นมานั่งมองหน้า ทำตาหึงใส่ อะไรเนี่ย ทีตัวเองไปอยู่กับเก๋ละ เชอะ
“ก็ช่วงที่เป๊บนอกใจไปนะแหละ” เป๊บดูนิ่งๆไป
“มันผ่านมาแล้วนะเป๊บ เอาเป็นว่า ตอนนี้โจ้รักเป๊บคนเดียวนะ เป๊บละถ้าหมดรักโจ้ก็บอกด้วย”
“จะหมดได้ยังไงครับ รักมากขึ้นทุกวันเนี่ย มามะกอดหน่อยนะครับ”
   เราสองคนกอดกันบนเตียง ด้วยความรักที่มีให้กัน ไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นความรู้สึกแบบไหนดีครับ แต่อุ่นใจ ปลอดภัย รู้สึกดีมากๆ นะครับ
“เป๊บไม่ต้องห่วงนะ บวชให้สบายใจ ตัดเรื่องทางโลก โจ้จะเป็นโยมอุปฐากเป๊บเอง”
“ขอบคุณมากนะครับที่รัก ที่ยืนอยู่เคียงข้าง เป๊บไม่ใช่ผู้ชายที่ดีที่สุด แต่สัญญาว่านับจากนี้ จะดูแลที่รักให้ดีที่สุดเลยนะครับ”
“ขอบคุณมากนะเป๊บ โจ้จะดูแลเป๊บดีที่สุดเช่นกันนะ....นอนเถอะเป๊บ พรุ่งนี้วันสำคัญ”
“ครับๆ”
   ผมลืมตาอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลุก หันไปมองเป๊บราวกับว่าอาบน้ำเตรียมตัวแล้วเรียบร้อย”
“หวายเป๊บ เสร็จหมดแล้วหรือ” ผมตกใจ
“เป๊บนอนไม่หลับครับ เลยลุกขึ้นตอนตีสามมาอาบน้ำ เตรียมตัวนี่ละครับ”
“หา....งั้นรอโจ้แป๊บนึงนะ จะรีบไปจัดการทุกอย่างก่อน”
   ผมรีบอาบน้ำ แต่งตัวเสร็จ ไม่เห็นเป๊บรอ คงไปด้านล่างแล้ว ผมรีบหยิบพานสีทองที่ใส่ชุดนาค วิ่งลงมาด้านล่าง แด๊ด มัม พี่ปริมพี่ปัน พี่สะใภ้ พร้อมกับครอบครัวผม เตรียมตัวพร้อมหมดแล้ว และนั่งรอที่ห้องรับแขก ป้าจันทร์ ป้าศรี เด็กๆแม่บ้าน ลูกน้องแด๊ด ต่างเดินไปมา ตรวจสอบของให้เรียบร้อย บรรยากาศดูครึกครื้นมาก
“ตื่นสายนะเราอะ” พี่ปริมแซว
“โหยยยพี่ปริม นี่ตีสี่ยี่สิบนาทีเอง ตามเวลาเป๊ะ ทุกคนเร็วไปต่างหาก”
“ฮ่าๆๆ ไม่มีใครนอนหลับหรอกลูก ตื่นเต้นกันหมด ลูกชายคนสุดท้องบวชย่อมตื่นเต้นเป็นธรรมดา” แด๊ดยิ้มร่า
“งั้นผมว่าเดินทางกันเถอะครับ จะได้ถึงวัดเร็วหน่อย เผื่อเวลาเตรียมตัวอย่างอื่นอีก” พ่อผมเอ่ยขึ้นมา
   พวกเราทั้งหมดเตรียมตัวขึ้นรถ กลุ่มผู้ใหญ่คันหน้าสุด ตามด้วยกลุ่มพี่ๆ แล้วมารถผมกับเป๊บ ปิดท้ายด้วยกลุ่มรถแม่บ้านและลูกน้องแด๊ดบางส่วน
“ตำรวจมาทำอะไรอะเป๊บ” ผมถามขึ้นมาเห็นตำรวจรอหน้าบ้าน
“แด๊ดไหว้วานให้เพื่อนที่เป็นตำรวจส่งลูกน้องมาอำนวยความสะดวกนำทางนะครับ”
“โห วีไอพีมากกกกก” งานใหญ่จริงๆ
   รถเคลื่อนตัวออกจากบ้านใหญ่ มุ่งหน้าไปวัด การจราจรโล่งอย่างมาก ระหว่างเดินทางเห็นเป๊บนั่งหลับตาเงียบๆ คงนั่งสมาธิ ผมเองก็ไม่อยากกวน เลยนั่งเงียบๆด้วย
“เวช มีรถไปรับอาม่าตามที่บอกไว้หรือยัง” เป๊บเอ่ยถามขึ้นมาหลังจากนั่งเงียบไปนาน
“เรียบร้อยแล้วครับคุณหนูเล็ก ผมให้ชัยนำรถอัลพาร์ดไปรับแล้วครับ”
“คันที่มีเก้าอี้ไฟฟ้าหรือเปล่า”
“ใช่ครับๆ”
“ขอบใจมากเวช ฝากเวชบอกเด็กแม่บ้านสักสองสามคนไปดูแลครอบครัวอ่าด้วยนะ” เป๊บก็นั่งหลับตาต่อ
“ได้ครับๆ”
   เอาจริงๆ ผมลืมอาม่าไปเลยนะนี่ เดินทางถึงวัดเวลาราวๆ หกโมงเช้า การจัดงานใหญ่โตมาก เต็นท์ที่นั่งพียบพร้อม ไม่นานนักพวกเราทั้งหมดก็เดินไปหาพระอาจารย์ที่กุฎิ
“นมัสการครับพระอาจารย์” พวกเราทุกคนก้มกราบ
“เจริญพรโยมทุกคนนะ วันนี้เป็นวันดี เป็นวันมงคล ผู้มีบุญมากจะเข้าสู่ร่มกาสาวพัตร น่าปลื้มใจจริงๆ”
“อนุโมทนาด้วยครับพระอาจารย์ แล้วพิธีการจะเริ่มกี่โมงดีครับ” แด๊ดถาม
“เจ็ดโมงจะทำการโกนเส้นผม คิ้ว โยมเป๊บเพื่อบวชนาค ประมาณเก้าโมงก็จะเริ่มพิธีแห่นาคเพื่อบวช หลังจากนั้นประมาณสิบโมงก็ไปฉลองพระใหม่ที่ศาลาการเปรียญ โยมทุกคนจะได้ตักบาตรกันนะ”
“ครับพระอาจารย์” งั้นผมฝากลูกชายผมด้วยนะครับ เดี่ยวจะออกไปดูงานเล็กน้อยว่าเตรียมพร้อมหรือยังนะครับ...โจ้อยู่กับเป๊บนะลูก” แด๊ดกล่าวพระอาจารย์แล้วหันมาสั่งผม”
“ครับแด๊ด”
   ทุกคนออกไปข้างนอกกุฎิหมดแล้ว เหลือผมกับเป๊บสองคน
“โยมเป๊บพร้อมหรือยัง” พระอาจารย์ถามยิ้มๆ
“พร้อมแล้วครับพระอาจารย์ ผมตั้งสติดีแล้วครับ”
“เจริญพรนะ วันนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่าได้หวั่นไหว ขอให้จิตตั้งมั่น มีสติทุกลมหายใจนะ”
“ครับพระอาจารย์ ผมจะตั้งสติเต็มที่ครับ” ด้วยความที่ผมสงสัย เลยถามพระอาจารย์ไปว่า
“พระอาจารย์ ราวกับว่าจะเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
“ไม่รู้ซิโยมโจ้ แต่คนมีบุญมากเวลามาบวช มักจะเกิดเหตุการณ์สำคัญเสมอ อาตมาเกรงว่า หากโยมเป๊บไม่ได้ตั้งสติให้มั่น อาจจะตกใจได้”
“ครับๆ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหรือครับ”
“ลองจับตาดูก็แล้วกัน” พระอาจารย์ยิ้มๆ
“โยมเป๊บ เตรียมตัวไปโกนผมเถอะ ไปรอที่หน้าโรงฉันท์นะ”
“ครับๆ”
   เราสองคนก็เดินออกจากกุฎิ ผมก็เดินไปบอกทุกคนว่าพระอาจารย์ให้เตรียมไปรอที่หน้าโรงฉันท์ สิ้นคำที่ผมบอกพระอาจารย์ก็เดินออกจากกุฎิ อยู่ดีๆ พระอาจารย์ก็ยืนหยุดนิ่งมองไปทางหน้าวัด ทำให้ทุกคนหยุดนิ่งตามไปด้วย
“มีอะไรหรือครับพระอาจารย์” ผมถามขึ้นมามองตามไปทางหน้าวัด ก็ไม่มีอะไร
“ผู้มีอภิญญาสูงมาแล้ว” พระอาจารย์มองไปทางหน้าวัดแล้วยิ้ม
   ผมและทุกคนทำหน้างง แต่เป๊บยิ้มทำหน้าเฉยๆ ราวกับรู้ว่าพระอาจารย์หมายถึงใคร ยังไม่ทันจะถามเป๊บ รถอัลพาร์ดสีบรอนซ์เงินเลี้ยวเข้ามา อ๋อ อาม่ามาแล้ว พระอาจารย์รู้ได้ยังไง
“แด๊ดครับ มัมครับ อาม่ามาแล้วครับ” เป๊บหันไปบอกแด๊ดกับมัม
“อาม่า...อ๋อ ท่านที่ช่วยลูกไว้นะหรือ” แด๊ดถาม เป๊บพยักหน้า
   รถอัลพาร์ดมาจอดตรงบริเวณที่พวกเราเดินพอดี ชัยลูกน้องแด๊ดรีบลงมาเปิดประตูรถ ประตูรถค่อยๆ เปิด พร้อมกับเห็นอาม่ายิ้มให้กับพวกเราทุกคน อยู่ดีๆ ก็มีกระแสลมแบบปานกลางพัดเข้ามาในวัด จนต้นไม้ในวัดลู่ไปตามลม ผมแปลกใจมาก ทั้งๆที่ เมื่อกี้ใบไม้แทบไม่กระดิก
“กราบนมัสกางพระคุงเจ้าค่า” อาม่าไหว้พระอาจารย์อย่างนอบน้อมมาก
“เจริญพรโยมผู้มีอภิญญา รู้สึกดีอย่างมากที่ได้พบโยม” พระอาจารย์ยิ้มให้ด้วยความเมตตา
“เกิงไปค่าพะคุงเจ้า ฉันคงทำมาดานี่แหล่ค่า” อาม่าตอบแบบยิ้มๆ
“ถ้าธรรมดาคงไม่มีลมพัด เทพเทวดาอวยพรโยมขนาดนี้”
   อาม่าไม่ตอบได้แต่ยิ้มมีความสุข
“อาม่าสวัสดีครับ/คะ” ทุกคนไหว้อาม่าอย่างนอบน้อมเช่นกัน
“สาหวักลีทุกคงน่า เจริงๆ มีความสุขมากๆน่า” อาม่ายกมือรับไหว้ทุกคน
“เดินทางเหนื่อยมั้ยครับอาม่า” เป๊บถาม
“ม่ายเหนื่อยๆ น้าอาฝาหรั่ง อาม่าไม่ค่อยล่ายออกปายหนายน่า นางๆทีนึง ก็ตื่งเต้งดีน่า”
“ครับอาม่า ยังไงขาดเหลือแจ้งเด็กแม่บ้านเลยนะครับ ผมให้ดูแลอาม่าไว้สองคน...พี่มีอะไรใช้เด็กได้เลยนะครับ” เป๊บบอกอาม่าและหันไปบอกพี่ลูกสาวอาม่า
“คะๆ ขอบคุณมากนะคะ”
“งั้นถ้าพร้อมแล้วพวกเราไปเริ่มพิธีกันเถอะครับ” พี่ปริมเอ่ยขึ้นมา
   ทุกคนก็เดินมารวมตัวที่จุดโกนผมบวชนาคแถวๆ หน้าศาลาการเปรียญ
“พิธีจะเริ่มต้นจากการให้โยมพ่อโยมแม่โกนก่อนนะ หลังจากนั้นตามด้วยผู้อาวุโส พี่ชาย น้องชาย ญาติ เพื่อนฝูง คนรัก แล้วอาตมาจะปิดท้ายเอง...โยมโจ้มาถือใบบัวตรงนี้” พระอาจารย์อธิบายพร้อมเรียกผมไปยืนข้างๆ เป๊บ
“โยมเป๊บ ระหว่างที่ทุกคนโกนผม ขอให้โยมสำรวมกาย วาจา ใจ ให้มีสติ มีสมาธิตั้งมั่น และทุกคนระหว่างโกนผมโยมเป๊บ ให้ขออโหสิกรรมในใจนะ” ทุกคนตอบรับคำพระอาจารย์
   พระอาจารย์ส่งกรรไกรให้แด๊ดเป็นคนแรก ผมมองหน้าตาแด๊ด อิ่มเอิบมาก แด๊ดดูมีความสุขมากที่ลูกชายคนสุดท้องของตระกูลได้อุปสมบทในพระพุทธศาสนา
“ขอให้ลูก ได้ตั้งใจศึกษาพระธรรมของพระพุทธองค์ ตั้งใจเป็นพระที่ดี สิ่งใดที่แด๊ดเคยทำให้ลูกขุ่นข้องหมองใจ ไม่พอใจ แด๊ดขออโหสิกรรมด้วยนะลูก” แด๊ดกล่าวด้วยอาการตาแดงๆ พร้อมตัดผมสามครั้ง
“ของขวัญที่วิเศษที่สุดของแม่ คือ การที่ลูกได้กำเนิดมา นับจากนี้ขอให้ลูกได้ตั้งใจรับใช้พระพุทธศาสนา สิ่งใดที่แม่ทำไม่ดีให้ลูกได้ไม่สบายใจ เสียใจ อโหสิกรรมให้แม่ด้วยนะ” มัมน้ำตาไหลระหว่างตัดผมพร้อมกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ
   เสร็จจากมัมก็เป็นพี่ๆ ทั้งสอง
“พี่อาจจะไม่ได้เป็นพี่ชายที่ดีที่สุด แต่พี่ก็รักแกมาก การบวชครั้งนี้ขอให้ตั้งใจปฏิบัติให้มากที่สุด สิ่งใดที่พี่เคยทำไม่ดี อโหสิกรรมให้พี่ด้วยนะ” พี่ปริมตัดผมไปพูดไป น้ำตารื่นๆ
“พี่ไม่ได้ดูแลแกเท่าพี่ปริม เพราะต้องไปช่วยงานแด๊ดที่เมืองนอก เวลาพี่กลับมาไทยทีไร แกมักจะต่อว่าพี่เสมอ ว่าพี่ไม่สนใจ ไม่รักบ้าง พี่อยากจะบอกแกว่า เปล่าเลย พี่รักแกไม่น้อยไปกว่าพี่ปริม ถึงพี่จะอยู่ต่างประเทศ ห่างไกลแก พี่ก็จะถามถึงแกผ่านพี่ปริมเสมอ ตั้งใจบวชนะน้อง สิ่งใดที่พี่เคยทำไม่ดีกับแกไว้ อโหสิกรรมให้พี่ด้วยนะ” พี่ปันน้ำตาไหล เป็นความในใจที่ผมก็เพิ่งทราบนะนี่
   ส่วนเป๊บนั่งหลับตาน้ำตาไหลตั้งแต่แด๊ดโกนผมเป็นคนแรก สิ่งที่ผมเห็นแสดงถึงความรู้สึกของคนในครอบครัวเป๊บเป็นอย่างดี
   หลังจากที่พี่ปันตัดเสร็จ ก็ตามด้วย ญาติๆ เพื่อนๆ และมาถึงคนสำคัญคือ อาม่า
   จริงๆ อาม่าแทบลุกขึ้นหรือเดินด้วยตัวเองไม่ค่อยไหวหรอกครับ แต่ในงานบวชของเป๊บอาม่าดูแข็งแรงกว่ามาก ราวกับว่าเป็นคนละคนเลยทีเดียว อาม่าลุกขึ้นจากรถเข็น เดินมาสองสามเก้าโดยที่ไม่มีใครพยุง
“อาฝาหรั่ง ขอให้ลื้อตั้งจายศึกษาพระธรรมคำสอนน่า ตั้งใจบวกให้มากๆ น่า ขอให้พระมหาโพธิสัตว์กวงสี่อิมผู่สัก (พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร) คุ้มครองลื้อน่า” แล้วอาม่าก็เหมือนขมุบขมิบปากสวดอะไรบางอย่าง
“โยมทุกคนได้ตัดผมแล้วใช่มั้ย งั้นมาถึงคนสุดท้าย โยมโจ้ มาตัดผม ให้โยมคนนี้ถือใบบัวแทน” พระอาจารย์เรียกศักดิ์มาถือใบบัวแทนผม ส่วนผมก็จับกรรไกรพร้อมตัด
   เป๊บเอี้ยวตัวมามองยิ้มๆ ผมยิ้มตอบ
“ตั้งใจบวชนะเป๊บ อย่าได้กังวลกับสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น คำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ โจ้ไม่เคยลืม สิ่งใดที่โจ้เคยทำไม่ดี ทำให้เป๊บไม่พอใจ โจ้ขออโหสิกรรมนะ” ผมกล่าวบอกเป๊บระหว่างตัดผมสามครั้ง
   หลังจากที่ผมตัดผมเสร็จเรียบร้อย พระอาจารย์ก็หยิบใบมีดโกน มาโกนผม ผมเองก็ตื่นเต้น เพราะตั้งแต่คบเป๊บมา ไม่เคยเห็นเป๊บตอนศรีษะโล้น พระอาจารย์โกนผมเสร็จ เป๊บดูแปลกตาไปทันที ศรีษะเป๊บกลมสวยมาก ไม่มีริ้วรอยสิวหรือรอยด่างอะไรเลย หลังจากนั้นพระอาจารย์ก็นำขมิ้นชันมาทาศรีษะเป๊บ เหลืองอร่ามกันเลยทีเดียว ผมก็ขำคิกคักไปกับเพื่อนๆ เพราะดูแปลกตาดีจริงๆ
“พิธีการตรงนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วนะ เดี๋ยวโยมโจ้พาโยมเป๊บไปอาบน้ำ พร้อมใส่ชุดนาคให้เรียบร้อยนะ สำหรับพิธีการอุปสมบททางโยมก็เริ่มตามกำหนดเวลาได้เลย เดี๋ยวอาตมาจะประสานเรื่องพระไปนั่งบนโบสถ์เองนะ”
“ได้ครับพระอาจารย์” ผมรับคำพระอาจารย์
   ผมรีบพาเป๊บไปอาบน้ำในห้องน้ำของวัด ซึ่งก็ค่อนข้างสบายดี เนื่องด้วยทางแด๊ดให้แม่บ้านมาเตรียมห้องน้ำไว้เรียบร้อยแล้ว
“เป๊บให้โจ้เข้าไปช่วยอาบมั้ยอะ”
“ก็ดีนะครับ เป๊บกลัวล้างขมิ้นไม่หมด เดี๋ยวจะเลอะชุดนาคครับ”
   ผมเข้าไปในห้องน้ำกับเป๊บ ช่วยล้างตัวและถูสบู่ เป๊บเช็ดตัวก็ช่วยนำชุดนาคสีขาวมาแต่งตัวให้เป๊บด้วย
“ต้องใส่กางเกงในมั้ยครับ” เป๊บถาม
“เออนั่นซิ โจ้ก็ไม่รู้อะ ถ้าไม่ใส่จะเป็นไงอะ”
“เป๊บกลัวกางเกงหลุดนะครับ ได้โชว์อนาคอนด้าแน่”
“ไม่ต้องมาโชว์พาวตอนนี้เลยอะ เหลือแค่หนอนพอ” ผมแซว
“ฮ่าๆๆ คงเป็นหนอนยากครับ”
“รอแปบๆ เดี๋ยวโจ้ไปถามพระอาจารย์ให้”
   ผมเดินออกมาถามพระอาจารย์เรื่องชุดชั้นใน พระอาจารย์ตอบว่า ใส่ได้ให้เน้นสีขาวจะดีมาก ผมเลยเดินกลับมา พร้อมกับหยิบกางเกงในสีขาวให้เป๊บ
“พระอาจารย์ให้ใส่สีขาวอะเป๊บ” ผมส่งให้
“ครับๆ” เป๊บหยิบกางเกงในไปสวม
“เสร็จยังเป๊บ เช็คความแน่นหนา เดี๋ยวหลุด” ผมแซว
“เป๊บว่าแน่นแล้วนะครับ ไม่น่าจะหลุด”
“อะเป๊บ ใส่ครอบมงคล” ผมส่งครอบมงคลให้เป๊บ เป๊บสวมครอบมงคล
“เหมือนหงอคงในไซอิ๋วอะเป๊บ ฮ่าๆๆ” ผมแซว
“จริงหรือครับ ถ้าเพิ่มหนวดใช่เลย หงอคงตัวนี้หล่อด้วย” นางมองกระจกแล้วชมตัวเองอะนะ ทำไปได้
“พูดเอง ชมเองอะนะ เสร็จแล้วออกไปได้แล้ว”
   เราสองคนออกมาบริเวณที่ตั้งขบวนแห่นาค การเตรียมการพร้อมมากแล้ว แด๊ดกับมัมกับพี่ๆ ก็เปลี่ยนชุดเสร็จแล้ว ทุกคน แต่งตัวสวยหล่อมาก ดูดีมากๆ พี่ปริมพี่ปัน ราวกับคุณชาย เพื่อนพ้องน้องพี่ทั้งหลายก็พร้อม
“ดูแปลกตาเลยนะลูก” แด๊ดแซว
“นั่นซิครับแด๊ด ปริมว่าเสือดูผ่องๆ” พี่ปริมแซว
“เขาว่ากันว่าคนมีบุญบวชจะผ่อง เสือมีบุญเยอะนะนี่” พี่ปันแซว
“ลูกแม่ใส่จีวรคงงามมาก” มัมแซวยิ้มร่า
   เป๊บได้แต่ยิ้มกว้าง ว่าไปก็ผ่องตามที่ทุกคนบอกจริงๆ นะแหละ พวกเราก็ยืนกันสักแป๊บ ไม่นานนักเสียงวงกลองยาวเริ่มดังขึ้น ถือว่าเป็นเวลาฤกษ์ในการแห่นาค ทุกคนต่างช่วยกันถือของและไปตั้งแถวพร้อมเดินขบวนแห่นาค แด๊ดสะพายบาตร มัมกับพี่ปริมถือชุดผ้าไตร พี่ปันถือเครื่องอัฐบริขาร พี่สะใภ้ถือชุดสังฆทาน
“นี่ๆ อีหอย เขาถือกันว่าแฟนห้ามถือหมอนที่เป็นเครื่องอัฐบริขาร ถือแล้วจะเลิกกันนะเมิง” ฉัตรพูดขึ้นมาในขณะที่ผมกำลังจะหยิบหมอนสีเหลืองมาถือพอดี
“จริงหรือวะ” ผมกลัวขึ้นมา
“เขาว่ากันแบบนั้นวะ กรูก็ไม่แน่ใจ” ฉัตรทำหน้าลังเล
“เมิงลองไปถามอาม่ามั้ยวะ น่าจะมีคำตอบ” เบิดแนะนำ ผมเห็นด้วยเลยไปถามอาม่า
   อาม่าให้คำตอบมาว่า ไม่เป็นไรหรอก ถือได้ เพราะที่เขาว่ากันแบบนั้นคือ แฟนผู้หญิง แต่ถ้าเป็นผู้ชายไม่มีตำราไหนห้าม ผมลยสบายใจ มาถือหมอนต่อ
   ญาติพี่น้องเพื่อนฝูงลูกน้องต่างก็ช่วยถือเครื่องบวช นับว่าเป็นงานใหญ่เลยทีเดียว ทุกคนดูตื่นเต้น ไม่เว้นพนักงานทุกระดับของบริษัทในเครือ ต่างมาร่วมงานกันมากมาย อย่างว่าแหละ ลูกชายคนเล็กของเจ้าของบริษัทบวช ย่อมมาร่วมยินดีเป็นธรรมดา
   เสียงบรรเลงกลองยาวเริ่มต้นขึ้นด้านหน้า มีหลายกลุ่มไปรำด้านหน้า ส่วนผมเลือกที่จะเดินในขบวนตามหลังเป๊บห่างๆ ขบวนแห่นาคดูสนุกสนานรื่นเริงมาก เป๊บเองก็เดินแบบมีสมาธิมาก ราวกับว่าเจ้าตัวตั้งใจกับการบวชในครั้งนี้มาก ขบวนเคลื่อนตัวไปได้ไม่มาก อยู่ดีๆ ก็มีเมฆมาบดบังแสงแดด เกิดร่มเงา ทำให้อากาศไม่ร้อนมาก ทุกคนเลยสบายไปด้วย
“อีเป๊บบุญมากวะ ไม่ทันไรเกิดร่มเงาละ” ฉัตรเปรยขึ้นมา
“คิดเหมือนกรูเลยวะ ฟ้าใสแจ๋วเมฆมาจากไหน” เบิดเปรย
“แล้วนี่อีโอ๊ตไปไหนอีทราย” ฉัตรถาม
“ไปรอหน้าประตูโบสถ์ค่าคุณแม่ เห็นว่าจะไปอุ้มนาคแตะขอบประตูโบสถ์”
“อ้าวหรือวะ แล้วโอ๊ตมันไหวเรอะ อีเบิดเมิงไม่ไปช่วย”
“เออกรูถามโอ๊ตแล้ว มันบอกไหว งั้นเมิงช่วยกรูถือสังฆทาน เดี๋ยวกรูไปช่วยโอ๊ต” เบิดส่งสังฆทานให้ฉัตร ฉัตรรับไว้แล้วเบิดก็ปลีกตัวไปหน้าประตูโบสถ์


ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
วนครบสามรอบแล้ว ลุงที่นำพิธี (ขอเรียกมัคทายกนะครับ) แกนำเป๊บไปจุดธูปไหว้ขอขมาตรงหน้าโบสถ์ โดยมีครอบครัวไปนั่งด้านหลังด้วย หลังจากขอขมากรรมเสร็จ เป๊บก็ขึ้นไปตรงประตูโบสถ์ ทำการโปรยกัมพฤกษ์ ทุกคนที่มาร่วมงานส่งเสียงเฮฮากริ๊ดกร๊าด ต่างวิ่งรุมแย่งกัมพฤกษ์กันอย่างสนุกสนาน เป๊บคายกัมพฤกษ์จากปาก ส่งมาให้ผม ผมรับไว้ หลังจากนั้น โอ๊ตกับเบิด ก็อุ้มเป๊บขึ้นไปสูงมากพอสมควร เพื่อให้เป๊บแตะขอบประตูโบสถ์ เป๊บแตะประตูโบสถ์สามครั้ง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปในโบสถ์ พร้อมด้วยครอบครัว และทุกคนที่อยากมีส่วนร่วมในการพิธี ส่วนคนอื่นที่ไม่ได้เข้าในโบสถ์ก็ไปร่วมรับประทานอาหาร
   เป๊บเข้าประจำที่ เจ้าอาวาสและพระอาจารย์รวมถึงพระอื่นๆก็นั่งประจำที่เรียบร้อย พวกเราทุกคนอยู่ในอาการสงบ จนกระทั่งมัคทายกวัดได้เริ่มพิธี
“หากเจ้านาคและครอบครัวรวมถึงทุกท่านพร้อมแล้ว ให้กล่าวนะโมตัสสะสามจบ...นะโมตัสสะ ภะคะวะโต.......” พวกเราพร้อมใจกันกล่าวสามจบ
“ลำดับถัดไปขอเชิญเจ้านาคได้เริ่มกล่าวบทบวชอุปสมบท” มัคทายกบอกเป๊บ
   ทุกคนต่างนิ่งเงียบ สำรวมอยู่ในอาการสงบ ต่างจ้องมองมาที่เป๊บเป็นตาเดียวกัน เป๊บดูมีสมาธิและตั้งใจมาก
เอสาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ละเภยยาหัง ภันเต, ตัสสะ ภะคะวะโต, ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, ละเภยยัง อุปะสัมปะทังฯ
        ทุติยัมปาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ละเภยยาหัง ภันเต, ตัสสะ ภะคะวะโต,ธัมมะวินะเย ปัพพัชชัง, ละเภยยัง อุปะสัมปะทังฯ
        ตะติยัมปาหัง ภันเต, สุจิระปะรินิพพุตัมปิ, ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คัจฉามิ, ธัมมัญจะ ภิกขุสังฆัญจะ, ละเภยยาหัง ภันเต, ตัสสะ ภะคะวะโต, ธัมมะวินะเยปัพพัชชัง, ละเภยยัง อุปะสัมปะทังฯ
        อะหัง ภันเต, ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะฯ
     ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต, ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตะวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะฯ
        ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต, ปัพพัชชัง ยาจามิ, อิมานิ กาสายานิ วัตถานิ คะเหตะวา, ปัพพาเชถะ มัง ภันเต, อะนุกัมปัง อุปาทายะฯ
   
   เป๊บกล่าวบทขออุปสมบทเป็นภาษาบาลีได้อย่างไพเราะมาก เสียงดังกังวานอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนรวมถึงผมต่างรู้สึกขนลุกไปตามๆ กัน สิ่งอัศจรรย์ที่น่าประหลาดได้เกิดขึ้นคือ ระหว่างที่เป๊บท่องบทขออุปสมบท มีเสียงฟ้าลั่น ดังถึงสามครั้ง ทั้งๆ ที่ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดเมฆฝนหรือฝนกำลังจะตกแต่อย่างใด ผมพลางคิดในใจ นี่คือ สิ่งอัศจรรย์ที่พระอาจารย์ได้บอกไว้ซินะ หลังจากเป๊บท่องบทขออุปสมบทช่วงแรกเสร็จ
“ลำดับถัดไป ให้เจ้านาคหันกลับมารับผ้าไตรจากบิดามารดาและครอบครัว” เป๊บหันตัวกลับมารับผ้าไตร
“ให้เจ้านาคได้กล่าวคำขอขมาตามข้าพเจ้า......ข้าแต่คุณบิดา มารดา พี่ชายทั้งสอง รวมถึงญาติสนิทมิตรสหาย ข้าพเจ้ามีจิตศรัทธาอันเป็นกุศล ในการเข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ข้าพเจ้าขอขมากรรมทั้งหลายที่ได้ล่วงเกินบิดา มารดา พี่ชายทั้งสอง รวมถึงญาติสนิทมิตรสหาย โปรดอโหสิกรรมให้กับข้าพเจ้าด้วย เทอญ”
เป๊บกล่าวคำขอขมากับแด๊ด มัม พี่ปริม และพี่ปัน ผมกับอาม่านั่งติดหลังพี่ปริม เอามือแตะหลังพี่ปริม ส่วนคนอื่นๆ ก็เอามือแตะต่อไปตามลำดับ

“อาตี๋เล็กอ่า ท่างหลวงปู่ทวดกับท่างพระมหาโพธิสัตว์กวงสี่อิม ท่างมาร่วมในงางเลี่ยวน่า” อาม่ากระซิบบอกผม
“จริงหรือครับอาม่า ท่านประทับตรงไหนครับ”
“หลวงปู่ทวดท่างอยู่ตงกลางพระประธางน่าอาตี๋ ท่างกวงสี่อิมอยู่ล่างลงมาหน่อยน่า”
   อาม่าไม่ทันจะพูดจบ ก็มีกระแสลมเย็นๆ อ่อนๆ ไหลเวียนพัดมาในโบสถ์ ทุกคนมองหน้าไปมาต่างแปลกใจไปตามๆกัน
   เป็นกล่าวขอขมากรรมเสร็จ แด๊ด มัม ก็วางผ้าไตรลงบนมือของเป๊บที่พนมมือเตรียมรอรับผ้า ผ้าไตรจีวรลงบนมือเป๊บ ก็มีเสียงฟ้าร้องดังเปรี้ยงใหญ่ หนึ่งครั้ง
“อีโจ้วๆ กรูว่าอีเป๊บมันเป็นเทพลงมาเกิดแน่ แม่มกรูขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย อภินิหารอะไรนักหนา” ฉัตรสะกิดผมพร้อมบ่นเบาๆ
“กรูก็ว่าเหมือนกัน อภินิหารเว่อร์มาก” เบิดแซวทับ
“กรูก็ไม่รู้เนี่ย ตกใจเหมือนกัน”
“เมิงมีผัวเป็นเทพพพพพพ เลิศมากกกก” ฉัตรแซว (ผมคิดในใจ อีนี่ในโบสถ์ยังจะมาผงผัว น่าตบจริง)
   (ประโยคนี้ถามเป๊บมานะครับ หลังจากสึกแล้วเกิดอะไรขึ้นในจุดนี้ เป๊บเล่าว่า ตอนนั้นสมาธินิ่งมาก มีสติอย่างมาก ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป๊บรับรู้ได้ทั้งหมด เป๊บเล่าต่อว่า ตอนที่กำลังรับผ้าไตร เป๊บตั้งจิตอฐิษฐานว่า “ข้าแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีคุณอันประเสริฐ หลวงปู่ทวด พระมหาโพธิสัตว์กวนอิมอวโลกิเตศวร เทพ มหาเทพ พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์ ทั่วทั้งจักรวาล รวมถึง เทวดาทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นเทวดาทั้งหลาย ข้าพเจ้ามีจิตอันเป็นกุศลในการเข้าอุปสมบท ขอให้ผลบุญกุศลนี้จงบังเกิดกับทุกท่าน ขอให้ทุกท่านได้รับผลบุญอันยิ่งใหญ่นี้และมีความสุขตลอดกาลนาน เทอญ........พอผ้าไตรลงถึงมือ ก็มีเสียงฟ้าลั่น....เป๊บเล่าแบบนี้นะครับ)
“ลำดับถัดไป ขอให้เจ้านาคได้หันกลับมาประเคนให้พระอุปัชฌาย์ พร้อมรับคำสอนต่อไป”
   เป๊บหันตัวกลับไปประเคนชุดผ้าไตร พร้อมเครื่องบูชาสักการะให้กับพระอุปัชฌาย์ ท่านก็มอบโอวาทพระธรรมคำสอนให้กับเป๊บ ดูเป๊บตั้งใจฟังมาก หลังจากมอบโอวาทเสร็จแล้ว พระอุปัชฌาย์ บอกตะจะปัญจะกะกัมมัฏฐาน ให้ว่าตามไปทีละบท โดยอนุโลม (ไปข้างหน้า) และปฏิโลม (ทวนกลับ) ดังนี้
เกสา โลมา นะขา ทันตา ตะโจ (อนุโลม)
ตะโจ ทันตา นะขา โลมา เกสา (ปฏิโลม)

   หลังจากให้โอวาทเสร็จแล้ว พระอุปัชฌาย์ก็ดึงอังสะจากชุดผ้าไตรมาสวมให้เป๊บ แล้วสั่งออกไปให้ครองผ้าไตรจีวร เป๊บก็ลุกขึ้นเดินไปยังด้านหลังโบสถ์ โดยมีพระพี่เลี้ยงตามไปหลายรูป
   เวลาไม่นานนัก เป๊บเดินกลับเข้ามาในสถานะใหม่ คือ พระเป๊บ ช่วงเวลานั้นผมจำได้ว่า ทุกคนที่อยู่หน้าพิธีอุปสมบท ต่างรู้สึกตะลึง เพราะเป๊บดูผ่องใสมาก คือ ปกติ ผิวพรรณเป็นขาวเนียนอยู่แล้ว พอทรงจีวรครบชุด ราวกับว่ามีออร่าเป็นแสงแผ่ประกายออกมา
“เมิงๆ พระท่านออร่ามาก กรูจนลุก” ฉัตรสะกิดผมพร้อมพูดเบาๆ
“จริงเมิง เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย” เบิดก็เปรยออก
   ผมนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไร หันไปมองอาม่า อาม่าก็นั่งหลับตาเหมือนเข้าสมาธิอะไรสักอย่าง
“ลำดับถัดไป ขอให้พระใหม่ดำเนินการกล่าวบทขออุปสมบทต่อไป”
   สิ้นเสียงมัคทายก เป๊บก็เริ่มอีกครั้ง
“อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิฯ
     ทุติยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิฯ
     ตะติยัมปิ อะหัง ภันเต, สะระณะสีลัง ยาจามิฯ”
   เป๊บท่องบทสวดอีกยาวมาก ขอละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ จนกระทั่งการบวชเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย พระอาจารย์อุปัชฌาย์ ได้กล่าวว่า
“เจริญพรญาติโยมทั้งหลาย บัดนี้การอุปสมบทได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พระใหม่ที่บวชนั้นได้รับฉายาว่า กตปุญโญ (กะตะปุนโย) แปลว่า ผู้ที่มีปัญญาเปรียบประดุจแสงสว่าง (ประมาณนั้นนะครับ) ขอเชิญญาติโยมทั้งหลายร่วมถวายเพลฉลองพระใหม่ที่โรงฉันท์”
   คณะพระสงฆ์ก็กราบพระประธาน และทยอยออกจากโบสถ์ พวกเราก็รุมเข้าไปถ่ายรูปตามลำดับ ณ ตอนนั้น ผมทำตัวไม่ถูกเลยครับ ไม่รู้ว่าจะเรียกหรือจะยังไงอย่างไร
   แด๊ด มัม พี่ปริม พี่ปัน และญาติๆ ดูมีความสุขกันมาก ช่างภาพรุมถ่ายรูปกันใหญ่
“นมัสกางพระคุงเจ้าน่า ท่างดูผ่องใสมากน้า” อาม่ายกมือไหว้กล่าวกับพระเป๊บ
“เจริญพรโยมอาม่า ขอให้โยมอาม่าได้รับผลบุญนี้ สุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆ นะโยม” พระเป๊บกล่าวด้วยน้ำเสียงที่มีเมตตาและนิ่งมาก
   คือ เป๊บเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ทำให้ผมและเพื่อนๆ เกร็งอย่างมากๆๆ คือ ทำตัวไม่ถูกเลยครับ ไม่รู้จะเรียกอะไรยังไง อย่างไร ฉัตร เบิด โอ๊ต  ทราย ก็นิ่งสนิทไปเหมือนกัน
“เมิงๆ กรูจะต้องเรียกพระเป๊บยังไงอะ” ฉัตรถามผม
“ไม่รู้เลยเมิง กรูเกร็งมาก ทำไงดี”
“กรูว่าไปถามพระอาจารย์มั้ย เผื่อได้คำตอบ” เบิดเสนอความเห็น
“เออเข้าท่า น่าจะดี”
   ระหว่างที่ทุกคนกำลังถ่ายรูปร่วมกับพระเป๊บ พวกเราก็ยืนปรึกษาแบบเกร็งๆ โชคดีมาก ที่พระอาจารย์อุดม ท่านเข้ามาในโบสถ์เพื่อมาตามพระเป๊บไปฉลองพระใหม่ที่โรงฉันท์ พวกเราเลยถือโอกาสเข้าไปถาม
“พระอาจารย์ครับ คือ ผมทำตัวไม่ถูก จะเรียกพระเป๊บว่ายังไง แล้วทำตัวยังไงครับ”
“พวกโยมอายุน้อยหรือมากกว่าพระเป๊บละ” พระอาจารย์ถาม
“ผมน้อยกว่า ครับ”
   เพื่อนๆ ทุกคนอายุน้อยกว่าเป๊บหมด อ่อนวันบ้าง เดือนบ้าง ปีบ้าง พระอาจารย์เลยสรุปว่า
“ง่ายมากเลยโยม ถ้าอายุน้อยกว่า เรียกว่าหลวงพี่ หรือ ท่าน ก็ได้ ถ้าอายุมากกว่า เรียกท่านหรือพระคุณเจ้าก็ได้ สำหรับผู้หญิงห้ามแตะตัวพระเป๊บ ผู้ชายแตะตัวได้ปกติ ยกเว้นโยมโจ้”
“หา ทำไมหรือคะพระอาจารย์” ฉัตรงง เพราะผมก็ผู้ชาย
“โยมโจ้เป็นผู้ชายก็จริง แต่อยูในสถานะเป็นคนรักของพระเป๊บ การไปแตะเนื้อต้องตัวไม่ต่างอะไรจากสามีภรรยาแตะตัวกัน อาตมาเกรงว่าจะเกิดอารมณ์ฟุ้งซ่านไปไกล แล้วจะบาปเอานะ” ฟังเหตุผลแล้วผมก็ตกใจเหมือนกัน
“อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง ดังนั้นห้ามแตะตัวพระเป๊บนะ” ฉัตรหันมาสั่งผม ผมพยักหน้ารับ
“พวกโยมรีบไปถ่ายรูปเถอะ ใกล้เวลาฉลองพระใหม่แล้ว” พระอาจารย์แนะนำพวกเรา
   ผมกับเพื่อนๆ เลยเดินมาต่อคิวถ่ายรูปกับพระเป๊บ พระเป๊บดูผ่องมาก ดูหน้าตาอิ่มบุญมาก มีออร่ามาก ไม่รู้จะบรรยายยังไง
“อะ...เอ่อ...หลวงพี่ ขออนุญาตฉายพระรูปเพคะ” ฉัตรเอ่ยขึ้นมา
“อุ๊ปส์ ฮ่าๆๆ...” ผม เบิด โอ๊ต ทราย อดหัวเราะไม่ได้
“อีนี่นิ ขำไรยะ” นางหันมาวีน พระเป๊บก็อมยิ้ม
“ร้อยวันพันปี เคยพูดแบบนี้ที่ไหนละ ดูขัดกันมาก” ผมอธิบายไปพร้อมหัวเราะไป
“ทำตัวตามสบายโยม อย่าเกร็ง อาตมาก็เป็นคนเหมือนเดิม” พระเป๊บเอ่ยขึ้นมากแบบยิ้มๆ
   หลังจากถ่ายรูปเสร็จ พระเป๊บก็เดินตามพระอาจารย์ไปโรงฉันท์ พวกเราก็เดินตามไปด้วย ทุกคนดูไปพร้อมกันที่โรงฉันท์แล้ว
“เมิงๆ หลวงพี่ดูอลังการมาก กรูไม่คิดเลยว่าจะได้เห็นหลวงพี่ในอีกบทบาทนึง” ฉัตรเปรยขึ้นกับผม
“กรูก็ไม่คิดเลยเมิง อยู่กับเป๊บแทบจะ 24 ชั่วโมง เจอบทบาทแบบนี้ไปไม่ถูกเลยวะ” ผมตอบฉัตร
“กรูเชื่อเลยคนมีบุญมากๆ เป็นแบบนี้นี่เองวะ พวกเมิงเห็นแสงนวลขาวอ่อนๆ มะ กรูว่าเหมือนออกมาจากผิวหนังพระท่าน หรือกรูตาฝาด มันแบบแสงผ่องๆ” เบิดเปรยขึ้นมา
“เออกรูก็เห็น กรูว่าหลวงพี่ผิวขาวอยู่แล้ว พอมาบวชเลยดูผ่องใสมาก ตอนกรูอุ้มหลวงพี่แตะประตูโบสถ์ ขนลุกเลยวะ ไม่รู้เป็นไรเหมือนกัน” โอ๊ตเปรย
“เอ้ย กรูก็ขนลุก” เบิดเห็นด้วยกะโอ๊ต
   งานพิธีในโรงฉันท์เริ่มขึ้น หลวงพี่ไปนั่งตรงมุมที่เตรียมไว้ พร้อมพนมมือกับสายสิญจน์ พระทุกรูปนั่งประจำที่ พร้อมทั้งสวดมนต์ให้กับพระใหม่
“เรียนเชิญพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหาย ร่วมตักบาตรพระใหม่ได้เลยครับ” มัคทายกประกาศให้ทุกคนทราบ
   แด๊ด มัม พี่ปริม พี่ปัน พี่สะใภ้ ญาติพี่น้อง รวมทุกพวกเรา ต่างต่อแถวตักบาตรพระใหม่ อาหารคาวหวานอลังการมากๆ มาทราบภายหลังว่า แด๊ดใช้บริการห้องครัวจากโรงแรมชื่อดัง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแด๊ด และเขาก็มาร่วมงานด้วย
   หลังจากสวดฉลองพระใหม่เสร็จ หลวงพี่ก็ได้ลุกขึ้นไปร่วมวงฉันท์อาหารกับพระอาจารย์อุดม และพระรูปอื่นๆ สำหรับคนอื่นๆ ก็ไปนั่งรับประทานอาหารตามโต๊ะที่จัดไว้ ระหว่างนั้น แด๊ด มัม พี่ปริมพี่ปัน รวมถึงพวกผมทั้งหมด ต่างก็ช่วยประเคนอาหารพระ พระท่านก็ฉันท์ภัตตาหารไปอย่างสงบ
“นายท่านครับ ไปทานข้าวเถอะครับ เดี๋ยวพวกผมดูแลพระท่านเองครับ” ศักดิ์บอกแด๊ด
“แล้วแกกินข้าวหรือยัง” แด๊ดถามศักดิ์
“เรียบร้อยแล้วครับ กินเสร็จก็จะมาผลัดเปลี่ยนนายท่านนี่แหละครับ”
“โยมแด๊ดไปทานข้าวเถอะครับ อาตมาดูแลตัวเองได้” หลวงพี่บอกแด๊ด
“งั้นลูก....เอ้ย....เอ่อ...ถ้าพระคุณเจ้าขาดอะไร เรียกใช้ศักดิ์ได้นะครับ” พวกเราแอบขำแด๊ดเบาๆ แด๊ดเองก็เรียกไม่ถูกเหมือนกัน
   ผมและเพื่อนๆ ก็เดินตามแด๊ด มัม พี่ปริมพี่ปัน มาทานข้าวในเต็นท์ที่ติดกับโรงฉันท์ จำได้ว่า อาหารคาวหวาน อร่อยและหรูหรามาก มีระบบการบริการอย่างดีมาก ราวกับว่า จ้างออแกไนซ์จัดงานกันเลยทีเดียว สำหรับในส่วนของเพื่อนแด๊ด มัม ที่มาร่วมงาน ส่วนใหญ่เป็นคนระดับสูงๆ ของสังคม มีหลายคนที่เป็นนักการเมืองและพวกเราก็รู้จักดี หลายคนก็เป็นนักธุรกิจที่ร่ำรวยมาก และพวกเราก็รู้จักกันดีเช่นกัน
“อาหารอลังการมากอีหอย สุดยอด” ฉัตรชม
“เออวะเหมือนเอาจากโรงแรมห้าดาวมาเลย” เบิดเปรยเหมือนถาม
“ไม่รู้เหมือนกันอะว่าเอามาจากไหน แต่เท่าที่ดูเหมือนจะจัดที่เมืองทองธานีได้เลย” ผมเปรยออกมา
“จริงวะ หรูมาก เออเมิง แขกหลายคนดังๆ ทั้งนั้น กรูก็รู้จักเยอะ เพราะเคยไปหาพ่อกรูที่บ้านบ้าง” ฉัตรบอกผม
“เออวะ แล้วเมิงไม่ไปทักทาย”
“ไม่ละคะ เดี๋ยวถามมาก นั่งแอบๆ อยู่เนี่ย เนียนไว้”
“แล้วพ่อเมิงอะไม่มาหรือ” ผมถามเพราะพ่อฉัตรกับเป๊บรู้จักกัน
“กรูมาแทนไง แกไปทำงานที่เมกาโน่นแล้ว ฝากซองมาด้วย”
“กรูอยากรู้ใส่ซองกี่บาท” เบิดทำหน้าอยากรู้อยากเห็น
“อีนี่เสียมารยาท แกใส่เช็คมามั้ง บางเฉียบ” ฉัตรพูดพลางโชว์ซองงานบวช
“แกเลยได้ปะวะ อยากรู้” โอ๊ตย้ำ
“ห่านี่ ไม่ได้ อยากรู้ก็ให้อีโจ้วไปสืบหลังงานเสร็จ” ผมทำหน้าเหวอ
“บ้า เดี๋ยวแด๊ด มัม ดุเอา ไม่กล้าอะ”
“แหมเมิงก็เป็นสะใภ้ เนียนๆ ไปช่วยนับเงินก็ได้”
   ผมไม่ได้ตอบรับคำอะไร ใจไปอยู่ที่หลวงพี่มากกว่า ผมคอยชะเง้อว่าหลวงพี่ขาดเหลืออะไรบ้าง ยังไงอย่างไร
   แขกเหรื่อส่วนใหญ่ต่างทยอยเดินทางกลับกันมากพอสมควร ผมหันไปมองหลวงพี่ ไม่อยู่ในโรงฉันท์ น่าจะกลับไปกุฏิของพระอาจารย์ เลยชวนแด๊ด มัม พี่ๆ อาม่าและเพื่อนๆ ไปหาหลวงพี่ที่กุฎิ
   เดินไปถึงกุฎิก็พบหลวงพี่กำลังจัดข้าวของเครื่ออัฐบริขารในห้องกุฏิ พอเห็นพวกเราเดินมา หลวงพี่ก็ออกมาคุยด้านหน้ากุฎิโดยมีพระอาจารย์ท่านนั่งอยู่ด้วย
“อะ..เอ่อ...ห้องในกุฎิอยู่ได้มั้ยครับพระคุณเจ้า” แด๊ดถามหลวงพี่
“อยู่ได้ครับโยมแด๊ด สบายมากครับ ไม่ต้องกังวล”
“แล้วข้าวของเครื่องใช้ต้องการอะไรเพิ่มมั้ยคะ” มัมถาม
“พอแล้วครับโยมมัม มีเท่านี้อยู่ได้สบายแล้ว”
“โยมไม่ต้องเป็นห่วงหรอก พระใหม่เขาปรับตัวได้” พระอาจารย์บอกแด๊ดและมัม
“ครับพระอาจารย์ แต่ก็อดเป็นห่วงลูกไม่ได้ครับ” แด๊ดเปรย
“เข้าใจโยมนะ แต่อย่างไรตอนนี้ขอให้โยมได้คิดว่า ลูกชายของโยมมาเป็นลูกของพระพุทธเจ้าเพื่อสร้างบุญบารมี ด้วยบารมีของพระพุทธเจ้า เทพเทวดา ปกป้องดูแลรักษาแน่นอน”
“ช่ายคะพะอาจาง ตอนในโบก เทวาดามาเยอะมากๆ เลยนะค่า หลวงปู่ทวกก็มา ทางกวนสี่อิมก็มาน่า คุงๆ ทั้งสอง สบายจายด้ายน่า พะคุงเจ้าเป็งคงมีบุงมากๆ เทพเทวาดาดูแลน่า”
“โยมอาม่า แล้วเจ้ากรรมนายเวรอาตมาเขามามั้ยครับ” หลวงพี่ถาม
“มาค่าพะคุงเจ้า เขามารับบุงแล้วน่า เขาไปเสวยสุขบงสาหวังเลี่ยว ไม่ต้องกังวงค่า” อาม่าตอบแบบยิ้มร่า
“ได้ฟังโยมอาม่าบอกแบบนี้ อาตมาก็สบายใจ” หลวงพี่นั่งยิ้ม
“แล้วพวกโยมวางแผนการใส่บาตรอย่างไรบ้าง” พระอาจารย์ถามขึ้นมา
“ยังไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังเลยครับ พระอาจารย์มีความคิดเห็นว่าไงบ้างครับ” แด๊ดถาม
“แล้วแต่โยมสะดวกเลย แต่ตามประเพณี บิดามารดา ควรใส่บาตรสามวันแรก ส่วนวันอื่นๆ แล้วแต่สะดวกหรืออาจจะจัดเลี้ยงเพลพระเป็นกรณีไปก็ได้”
“งั้นผมใส่บาตรสามวันแรกเป็นการเบื้องต้นก่อน ส่วนวันอื่นๆ ค่อยว่ากันนะครับ” แด๊ดบอกพระอาจารย์
“ไม่ทราบว่าพระอาจารย์ออกบิณฑบาตกี่โมงคะ” มัมถาม
“ประมาณตีห้าครึ่งก็ออกเดินแล้วโยม ไปและแวกแถวนี้ไม่ไกลมาก ตามบ้านที่รับบาตรประจำ จะกลับเข้าวัดมาก็ราวๆ สักหกโมงครึ่ง โยมมาดักหน้าวัดก็ได้นะ เพราะบ้านกับวัดไกลพอสมควรเหมือนกัน”
“ได้ครับๆ งั้นพรุ่งนี้จะมาตามเวลาครับ งั้นพวกผมไม่รบกนพระอาจารย์กับพระคุณเจ้าแล้วครับ จะได้จำวัดพักผ่อน”
“เจริญพรนะโยม แล้วโยมโจ้สนใจจะมาเป็นเด็กวัดเดินตามบิณฑบาตมั้ย” พระอาจารย์ถามผม
“น่าสนใจดีนะครับ ต้องเริ่มวันไหนครับ”
“ให้ผ่านไปสัก 7 วันก่อน แล้วค่อยมาเดินตามในตอนเช้านะ”
“ได้ครับๆ”
“งั้นทุกคนกลับไปพักผ่อนกันเถอะ โยมไม่ต้องห่วงพระใหม่นะ อาตมาจะดูแลเอง” พระอาจารย์บอกครอบครัวเป๊บ
“กราบนมัสการลาครับ” ทุกคนก้มกราบ
“พะคุงเจ้า งั้นอิชั้นลาละนะค่า” อาม่าก้มกราบหลวงพี่
“เจริญพรครับโยมอาม่า บุญวันนี้จงถึงแก่อาม่า ให้มีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุขมากๆนะครับ” หลวงพี่เอ่ยด้วยสีหน้าที่มีเมตตาอย่างมาก
“อนุโมทะนานะค่า”
   พวกเราทั้งหมดรวมถึงพระอาจารย์และหลวงพี่ เดินมาส่งอาม่าที่รถ
“ขอบคุณนะครับอาม่าที่มาร่วมงานในวันนี้ ขอบคุณมากครับ” แด๊ดยกมือไหว้อาม่า
“ยิงดีนะค่า ขอให้คุงๆ ทั้งหลายมีความสุกมากๆ น้า จาเริงๆ นะค่า” อาม่ารับไหว้ทุกคน”
“วินอย่าขับเร็วมาก ดูแลอาม่าด้วยนะ” แด๊ดหันไปสั่งลูกน้องที่ขับรถ
“ครับนายท่าน ผมจะดูแลอย่างดีครับ”
   รถอาม่าเคลื่อนตัวออกจากวัดไปแล้ว ศักดิ์ก็นำรถมาเทียบหน้ากุฏิรอรับแด๊ดและทุกคน
“งั้นผมลาละครับพระอาจารย์ หากมีอะไรเพิ่มเติม ติดต่อไปนะครับ” แด๊ดลาพระอาจารย์
“ศักดิ์ แล้วเรื่องอื่นๆละ เรียบร้อยมั้ย”
“เรียบร้อยแล้วครับนายท่าน ผมดำเนินการตามแผนที่วางไว้แล้วครับ”
“ดีๆ พี่จันทร์เรื่องค่าใช้จ่ายทั้งหมด ฝากพี่จัดการด้วยนะ แจ้งฝ่ายการเงินได้เลย” แด๊ดหันไปบอกป้าจันทร์
“ได้คะคุณท่าน  เดี๋ยวจันทร์จัดการเองคะ”
“พี่จันทร์แล้วเด็กๆ กลับยังไง”
“ประสานรถตู้ไว้แล้วคะ เดี๋ยวจัดการเองคะคุณท่าน”
“โอเคๆ ขาดเหลืออะไรพี่จันทร์แจ้งเวช(คนขับรถประจำตัวเป๊บ)ละกันนะ”
“ได้คะๆ”
   ขบวนรถของครอบครัวเป๊บก็ออกจากวัดไป และทุกคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เหลือแต่ผมกับเพื่อนๆ นี่ละครับ
“แล้วพวกโยมยังไม่กลับหรือ” พระอาจารย์ถาม
“อ๋อ...ก็....” ผมอึกอัก เหมือนพระอาจารย์คงรู้ว่าพวกเราอยากคุยส่วนตัวกับหลวงพี่
“งั้นโยมคุยกับท่านเป๊บไปก่อนนะ” พระอาจารย์ท่านก็เดินกลับเข้ากุฎิไป
“หลวงพี่เป็นยังไงบ้างเพคะ ทรงสำราญดีรึ” ฉัตรถามหลวงพี่
“ฮ่าๆๆ” ทุกคนหัวเราะ หลวงพี่ก็อมยิ้ม
“อ้าวอีนี่นิ หัวเราะไรนี่”
“ก็ขัดกับภาพลักษณ์เมิงมากอะ เลยฮา” โอ๊ตบอก
“สบายใจดีโยม สงบดี เงียบดี” หลวงพี่ตอบ
“ดีแล้วเพคะ หากหลวงพี่ต้องการสิ่งอื่นใด โปรดส่งนกพิราบสื่อสารมาบอกอิชั้นได้นะคะ”
“ฮ่าๆๆ โทรบอกก็ได้มั้ง” เบิดฮา
“เออนั่นดิ กลัวนกพิราบจะโดนยิงจับไปผัดเผ็ดก่อน” โอ๊ตฮาด้วย
“ก็นั่นแหละ พวกเมิงนี่ ยังไงหลวงพี่ก็บอกอีโจ้วได้นะคะ หม่อมชั้นจะรีบปรี่มาถวาย”
“ได้โยม ไม่ต้องกังวลหรอก กลับไปพักผ่อนกันเถอะ”
“เพคะหลวงพี่ หม่อมชั้นกับไพร่ทาสขี้ข้าบริวารกราบบังคมทูลลา” ฉัตรก้มกราบงามๆ
“เดี๋ยวๆ ใครเป็นไพร่ทาสขี้ข้า” เบิดถาม
“โอ้ยยยย เรื่องมาก ก็พวกเมิงเนี่ยแหละ กรูเป็นเจ้าหญิง โอเคปะ” นางแหกปากขึ้นมา
“คร่า เจ้าหญิงงงงงงงงง” ทรายแซว
“แล้วอีโจ้วไม่ทรงเอื้อนเอ่ยสิ่งใดกับหลวงพี่เลยหรือเพคะ”
   ไม่รู้ซิ ผมไม่กล้าพูดอะไรมาก วางตัวไม่ถูกจริงๆ ครับ เป๊บเปลี่ยนไปเป็นคนละคน แววตาสงบ เมตตา ไม่มีแววตาของคนรักเลย เหมือนเราสองคนเป็นคนที่ไม่รู้จักกันซะงั้น ใจผมหวิวๆ แบบประหลาดนะครับ
“อะ..เอ่อ...ก็ งั้นผมกราบลานะครับ พรุ่งนี้จะมาใส่บาตรครับ” ผมเอ่ยกับหลวงพี่
“ได้โยม กลับไปพักผ่อนกันเถอะ เจริญพรทุกคนนะ” หลวงพี่ยิ้ม
“เพคะ อิชั้นกราบทูลลา”
“เตรง เตร็ง แตร่ง แตร้งงงงง แตร๊งๆๆๆ” เบิดกับโอ๊ตทำเสียงลิเก
“ฮ่าๆๆ ถรุยยยยยย” ฉัตรหัวเราะพร้อมทำท่าถุยน้ำลายใส่
   ทุกคนกลับรถของฉัตร ขากลับฉัตรอาสาไปส่งผมที่บ้านใหญ่ ระหว่างเดินทาง
“หอยเป็นไร ดูซึมๆ” ฉัตรถาม
“เปล่า”
“อีนี่ ยังจะหลอก เป็นไร”
“ก็ หวิวๆ แปลกๆ”
“ยังไง”
“ก็หลวงพี่แววตาไม่เหมือนเดิม”
“หือ อีนี่ หลวงพี่บวชพระ เขาอยู่ในศีล จะมาเหมือนเดิมได้ไง”
“รู้แหละ แต่แอบคิดไง”
“เอ้ยอย่าคิดมากเมิง เป๊บไปทำหน้าที่ อย่าคิดเป็นอื่น” เบิดบอกผม
“อืมๆ”
“แล้วพรุ่งนี้พวกเมิงมาใส่บาตรปะ” ผมถาม
“ถ้าตื่นไหวนะ” ทุกคนพร้อมใจกันตอบ แปลว่า ตื่นไม่ไหวชัวร์
   รถของฉัตรมาส่งผมถึงบ้านใหญ่ เจอเด็กแม่บ้าน ถามไปว่าทุกคนไปไหน เด็กแม่บ้านตอบว่า คุณๆ เขาขึ้นไปพักผ่อนกันหมด เออก็จริง เมื่อคืนแทบไม่ได้นอน ผมก็เดินขึ้นมายังห้องเป๊บ เปิดประตูเข้าห้องไป ก็มีความเหงา ว้าเหว่ ปกติจะเห็นเป๊บนั่งตรงโต๊ะทำงานบ้าง นอนเล่นบนเตียงบ้าง ผมไม่อยากคิดมาก เลยล้มตัวลงนอนแล้วผล็อยหลับไป
   ลืมตามาอีกที ได้ยินเสียงอินเตอร์คอมดัง ผมกดรับ
“ลูกโจ้ ลงมาทานข้าวได้แล้วลูก” เสียงมัมตามไปทานข้าว
“ได้ครับมัม สามนาทีลงไปครับ” ผมลุกขึ้นไปล้างหน้า
   เดินลงมาห้องทานอาหาร นั่งประจำที่ ที่นั่งของเป๊บว่างไว้ ผมก็มองๆ ด้วยอารมณ์เหงาๆ
“นี่ไม่รู้ว่าพระจะหิวมั้ยนี่” แด๊ดเปรยขึ้นมาระหว่างทานข้าว
“นั่นซิคะคุณพี่” มัมสำทับ
“ปริมว่าวันแรกๆ อาจจะหิวนะครับ แต่พระอาจจะดื่มน้ำปาณะแล้วก็ได้นะครับ”
“ใช่ครับ ปันว่าแด๊ดกับมัมอย่าได้ห่วงเลยครับ”
“เออรู้แหละ เจ้าเป๊บ...เอ้ย...พระท่านเคยห่างจากบ้านไปนานๆ แบบนี้ซะที่ไหนละ แด๊ดกับมัมก็เป็นห่วงเป็นธรรมดา”
“โจ้ว่า พรุ่งนี้ไปใส่บาตรแล้วนำน้ำปาณะไปถวายเพิ่มดีมั้ยครับ”
“เออดีลูก นี่ๆ ใครก็ได้ไปตามพี่จันทร์มาด้วย” แด๊ดตะโกนบอกเด็กแม่บ้าน
   ไม่นานนักป้าจันทร์ก็เดินออกมา
“คะคุณท่าน”
“พี่จันทร์ เตรียมน้ำปาณะถวายพระด้วยนะ เตรียมน้ำที่พระชอบ”
“ได้คะคุณท่าน เดี๋ยวจะให้คนรถไปซื้อเตรียมไว้นะคะ แล้วพรุ่งนี้คุณท่านเดินทางกี่โมงคะ”
“น่าจะตีสี่ครึ่งนะ คงถึงหน้าวัดราวๆ หกโมงพอดี พี่จันทร์ฝากบอกศักดิ์ด้วยให้เตรียมรถไว้นะ”
“ได้คะคุณท่าน เดี๋ยวจัดการให้คะ”
   หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทุกคนต่างแยกย้ายไปพักผ่อน และนัดแนะเจอกันตอนตีสี่ ผมขึ้นมาบนห้องเป๊บ อาบน้ำ แต่งตัว ลืมตัวลงนอน
“ฮือ...ทำไมเหงาแบบนี้อะ...ฮึกๆๆ” ผมแอบร้องไห้คนเดียวจนผลอยหลับไป


จบตอน


ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3
อ่านตอนนี้แล้วประทับใจจริงๆ  :mew1:

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
หายไปนานมาก(ก.ไก่ล้านตัว) เลยมาแบบจัดเต็ม :pig4:

รอตอนต่อไปจร้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
แอบสงสารโจ้ คงเหงาน่าดู เป๊บบวชกี่วันนะตอนนั้น

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
ถึงจะเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว แต่อ่านแล้วรู้สึกปีติ น้ำตาไหลเลยทีเดียว ^^

ระหว่างที่เป๊บบวชน่าจะไปปฏิบัติธรรมด้วย จะได้ไม่ปรุงแต่ง ฟุ้งซ่าน ได้ประโยชน์สูงสุดทั้งสองฝ่าย
แล้วของโจ้บวชตอนไหนคะ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โจ้ ต้องเหงาแน่ๆอยู่แล้ว
อดทนห่างกัน ระยะนี้
หลังจากนี้ก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ sugarcane_aoi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 301
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
อนุโมทนาสาธุค่ะ รอตอนต่อไปของน้องทั้งสองนะคะ :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
แอร๊กกกกกกกก พี่โจ้มาแล้ววววววววว
คิดถึงมาก(ก.ไก่ล้านตัว) ในที่สุดที่ก็มาต่อสักกะที ซาบซึ้งน้ำตาไหลเป็นสายนที  :sad4:  :sad4:  :sad4:

ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่รู้จะบรรยายยังไง เอาว่าอ่านตอนนี้แล้วขนลุกตามที่สุดเลยทีเดียวเชียวและ
คนผู้มีบุญมากย่อมได้รับผลบุญนั้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง ผู้มีกรรมย่อมได้รับผลกรรมนั้นเช่นเดียวกัน

แต่พี่โจ้บรรยายได้ดีมากเลยครับ ผมรู้สึกและสัมผัสได้ ถึงความอิ่มเอมใจ ความปิติที่รู้สึกเลย
ถึงแม้มันจะเป้นเรื่องที่นานมาแล้วสำหรับพี่ๆ แต่ก็อธิบายได้ละเอียดละออครบถ้วนทุกกระบวนการเลยทีเดียว

เอาว่าไม่อยากให้จบเลยอะ เห็นพี่เขียนว่าอีก สองสามตอนก็จบแล้ว น้องละใจหายไปอยู่ที่ตาตุ่มเลย
กว่า 6 ปีที่ติดตามอ่านเรื่องราวของพี่มา ก็แทบจะครึ่งรอบกันแล้วทีเดียว จากเด็กน้อยวัยมหาลัย
จนตอนนี้เรียนจบทำงานแล้วนะครับ พี่โจ้จะคอยให้เรื่องราวและแนวคิดดีๆเสมอๆ
อยากให้พี่เข้ามาเขียนเหมือนเป็นไดอารี่เล่มนึง เข้ามาคอยอัพเดท เข้ามาระบายก็ได้นะฮะ

รักและเคารพ พี่โจ้พี่เป๊ปเสมอนะครับ
จาก น้องถั่ว เด็กบ้า ของพี่โจ้ 555

ออฟไลน์ habanice

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 90
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ขอบคุณเรื่องดีๆที่มามอบให้นะครับ รู้สึกตอนบวชปีนี้เลยครับ แต่พลังบุญคงเทียบเทียมไม่ได้พี่ นานเหมือนกันที่ได้อ่านจากผู้ฝึกสอนมาเป็นข้าราชการ คิดถึงวันแรกๆที่อ่านจังครับ อยากให้แนะนำวัดที่ไปบวชจังครับศรัทธาอยากไทำบุญจัง จะติดตามผลงานตลอดไป

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
หวัดดีค้าบบบบ ทำงานกันอยู่ป่าว อิอิ หายไปแสนปี ขอโทษน้าค้าบบบ เหตุผลเดิมๆ งานเยอะมากกกกกกก ก ไก่แสนตัว แถมตอนต่อไปยังมะได้เริ่มเขียนเลยง่า  :mew6: แต่มะต้องห่วงนะคับ เดี๋ยวว่างๆๆๆๆ จะเขียนสะสมไว้น้า ผลจากการหายไปนานๆ แฟนคลับหายหมดแล้ว ช่างน่าเศร้า  :mew6: แต่มะเป็นไรเนอะ ยังไงก็คิดถึงทุกคนเหมือนเดิมนะค้าบ  :mew1:

ไหนๆ มาแล้วก็มาตอบเม้นๆ ล่าสุดกันดีก่า

♥►MAGNOLIA◄♥ : ขอบคุณมากนะค้าบบบบ แฟนคลับเหนียวแน่นมาก จุ๊บๆ สามที  :mew1: :mew1: :mew1:

mild-dy : จุ๊บๆๆ ค้าบ  :mew1: :mew1:

patee : ขอบคุณมากค้าบบบบบ ขนาดเขียนเล่าเอง นึกถึงทีไรยังประทับใจ อิ่มบุญเหมือนกันอะคับบบ  :mew3: :mew3:

Yarkrak : หวัดีดีค้าบพี่ ก ไก่ล้านตัวเลยหรือง่า เยอะไปแร้วววว ฮ่าๆๆๆ หายไปนานจริงๆ อะคับบบ อย่าโกรธน้องน้า จุ๊ฟฟฟฟ :mew1: :mew1:

snowboxs : ช่ายๆ คับ ตอนนั้นเหงามาก แต่ก็ไปดูแลเป๊บทุกวันอะคับ เท่าที่จำได้ เป๊บบวช 62 วันอะคับ กว่าจะสึกนี่ต้องมีเหตุบังคับเลยน้า ตอนนั้นใจหวิวๆ กลัวผัวบรรลุอรหันค์อะคับ  :mew2: :mew2:

j123 : ช่ายๆ เขียนไปก็ซาบซึ้งไปด้วยอะคับ ตอนเป๊บบวชก็แอบไปปฏิบัติธรรมบ้าง แต่ส่วนมากพระอาจารย์ท่านก็ห้าม ไม่อยากให้พระเป๊บมาเจอทุกวันอะ เลยไปบ้างไม่ไปบ้างอะคับ ถ้าบวชน่าจะหลังจากเป๊บราวๆ ครึ่งปีอะคับ

♥►MAGNOLIA◄♥ : ช่ายคับ แต่มาอยู่ด้วยกันจริงๆ ก็ตอนแต่งงานแล้วอะน้าคับ ตอนไปเรียนนอกด้วยกัน ก็อยู่ด้วยกันแหละ แต่เรียนคนละสาขา บางทีเจอกันแค่ตอนนอนแล้วอะคับ หลังจากแต่ง อยู่ด้วยกันจนทะเลาะกันบ่อยเลยง่า ฮ่าๆๆ  :mew1:

sugarcane_aoi : ขอบคุณมากค้าบพี่ แหะๆ ตอนต่อไปยังไม่ได้เขียนเลยง่า แต่ก็จะรีบๆ เขียนนะค้าบบบ อิอิ  :mew1: :mew1:

nutto : ฮ่าๆๆ เจ้านัท กอ ไก่เยอะไปแล้วอะ ตามอ่านมาหกปีแล้วหรือ จริงอะ เหมือนแปบๆ เอง แต่จำได้ว่ามาลาตอนไปเรียนนอก แปบๆ กลับมาทำงานแล้ว เร็วมากกกก แล้วนี่มีแฟนยังอะ รีบๆ หา เดี๋ยวเสื่อมนะ คิคิ เขียนจบแล้วนานๆ มาทักทายนะแหละ มะต้องห่วงน้า จุ๊บๆๆ  :mew1: :mew1:

habanice : ขอบคุณมากค้าบบบบ  ติดตามอ่านนานเหมือนกันแล้วนะเนี่ย ส่วนเรื่องวัดที่บวชเอาไงดีละนี่ ถ้าวัดที่พระอาจารย์อยู่ ก็ไม่ได้เจอพระอาจารย์แล้วนะซิ ตอนนี้ท่านไปอยู่วัดที่พม่าแล้วอะคับ ท่านบอกว่าอยากปฏิบัติธรรมขั้นสูง แต่ปีนึงๆ ก็กลับมาไทยมารับนิมนต์บ้านแด๊ดอะน้า แต่สนับสนุนให้บวชน้า สึกมา ชีวิตจะดีขึ้นเลย ลองศึกษาดูนะคับ จุ๊ฟฟฟฟฟ  :mew1: :mew1:

" อื้อออ...เบื่ออะ ไม่อยากตื่นเลยยยย" เช้าวันจันทร์ที่แสนน่าเบื่อ ลืมตามาก็บ่นทันที

ผมตั้งสติได้ก็มองหาเป๊บ ไม่เจอ ไปไหนหว่า มองนาฬิกา อุ้ย แปดโมงแล้วหรือ

"ตายแล้ว ตื่นสาย สงสัยตาลุงออกไปทำงานแล้วแน่" กดโทรศัพท์หาเป๊บ

"ครับที่รัก ตื่นแล้วหรือ"

"ช่ายอะ เพิ่งตื่นเลยอะ แล้วนี่ออกเช้าจังอะลุง" ผมพูดเสียงงัวเงีย

"วันนี้พี่ปริมนัดประชุมเก้าโมงเช้าครับ เป๊บกลัวสายเลยรีบออกมาก่อน"

"อ้าวหรือ แล้วโจ้ต้องเข้ามั้ยอะ"

"ไม่มีวาระของที่รักครับ เป๊บเลยไม่ได้บอก แล้วนี่ที่รักไปทำงานมั้ย"

"ไปๆ แต่อาจจะเข้าบ่ายๆ นะลุง พอดีสิบโมงเช้า ประชุมที่บริษัทจิมก่อน"

"ได้ครับๆ งั้นรีบไปอาบน้ำแต่งตัวนะ อย่ามัวนอนอืดเป็นพยูนอยู่"

"เดี๋ยวยิงตายอะ มาว่าเป็นพยูน" ช่วงนี้น้ำหนักขึ้น อ้วนด้วย ลุงเพี้ยนชอบแซว ชิส์

"นับวันยิ่งโหดนะครับ เมียแบบไหนยิงผัวเนี่ย" คิงคองแซว

"ช่ายเซะ ต้องโหดอะ ผัวเพี้ยนๆ ไม่โหดเดี๋ยวลามปาม ชิส์"

"ฮ่าๆๆ งั้นรีบไปอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วครับ รถติดมากด้วย เดี๋ยวสายนะ อ่อ แล้วอย่าลืมทานอาหารเช้าบนโต๊ะนะเป๊บเตรียมให้แล้ว"

"อะเครๆ ขับดีๆนะผัว รักผัวนะ จุ๊บๆ" ทำเสียงจุ๊บๆ

"รักเหมือนกันครับ" แล้วนางก็วางสายไป

ผมก็ลากสังขารเข้าห้องน้ำ อาบน้ำเสร็จ แต่งตัวเรียบร้อย เดินออกมาตรงโต๊ะอาหาร เป๊บเขียนโนีตไว้

<<<มีสลัดแฮม ไข่ดาว ไส้กรอก หมูทอด กับขนมปังไข่ซีส ทานให้หมดนะพยูนที่รัก>>>

สงสัยไม่เคยตาย มาเรียกพยูน หึ๋ยยยยย มองกระจก พยูนอะไรจะน่ารักขนาดนี้ เชอะ ผัวบ้า (บ่นคนเดียว)

ใช้เวลาไม่นาน กินซะเรียบ เอ๊ะ หรือเราจะเป็นพยูน จริงๆ ฮ่าๆๆ

กระทืบคันเร่ง fast and furious มาถึงบริษัทจิม เลทสิบนาที รีบเดินตรงไปเข้าห้องประชุม เลขาวิ่งตามแทบไม่ทัน

"โอ้ว ท่านรองประธานมาพอดี สวัสดีครับท่านรองประธาน รีบชี้แจงเลยครับ" ยังไม่ทันจะหายใจ ประธานจิมสั่งซะละ ชิส์ น้องบ้า ชอบแกล้ง

"สวัสดีคณะกรรมการทุกท่านครับ....บลาๆๆๆๆๆ" ร่ายยาวรวด พร้อมตอบคำถามสองสามประเด็น

"สรุปว่าทางคณะกรรมการคงพอรับทราบข้อมูลและเข้าใจตรงกันนะครับ นี่ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี เชิญทุกท่านทานอาหารด้วยกันครับ" ถ้ามีประชุมเช้า จิมชอบเลี้ยงข้าวเที่ยงเสมอ

ทุกคนออกจากห้องไปแล้ว ผมยังคงนั่งอยู่ จิมเห็นผมนั่งเฉยเลยถาม

"พี่ไป กินข้าว"

"อื้อ"

"เป็นไรนี่ เหนื่อยหรือ"

"อื้อ" พูดคนเดียว ชม ครึ่ง ไม่เหนื่อยได้ไง แต่ละคนกว่าจะเข้าใจ อธิบายปากฉีก

"เอายาดม ยาลม ยาหม่องมั้ยพี่ ไหวป่าว" จิมแซวยิ้มๆ

"ไม่ต้องเลยน้องเพี้ยน นับวันงานยิ่งซับซ้อน เหนื่อยเนี่ย"

"เอาน่าพี่ ถ้าไม่ใช่พี่ใครจะไหว ทุกวันนี้ระบบงานลงตัวเพราะพี่มาวางไว้ ไม่งั้นผมแย่แน่"

"จ้าน้องบังเกิดเกล้า เพราะพวกแก่ๆรุ่นพ่อที่มันโกงไง เลยต้องรื้อโครงสร้างใหม่หมด เหนื่อยเนี่ย"

"นั่นแหละพี่ แต่ก็ผ่านมาได้เพราะบารมีพี่นะแหละ ไม่งั้นบริษัทของพ่อกับแม่คงต้องยุบ"

"ใครจะยอมให้ยุบ ยาก ระดับรองประธานโจ้ โฮะๆๆๆ" ผมหัวเราะราวกับหนังจีนกำลังภายใน จิมทำหน้างง ฮ่าๆๆ

ผมเดินออกมาห้องกินข้าว นั่งกินไปเม้าๆ กับผู้ถือหุ้นไป กินเกือบเสร็จ ไลน์ไปหาผัว

"ผัว กินไรยัง"

"ยังครับ ยังไม่เลิกประชุมเลยครับ"

"อ้าว หิวแย่เลยเนี่ย แล้วให้เลขาเตรียมไว้ยัง"

"ยังครับ ไม่คิดว่าจะเลิกช้า"

"นี่โจ้กินข้าวกับจิม จิมเลี้ยงคณะกรรมการ เดี๋ยวแพคห่อไปให้ เอาป่าว"

"ได้ครับ ขอเยอะๆ ครับ หิวจะกินพยูนได้แล้ว" สติกเกอร์แลบลิ้น

"เคยตายป่าว อยู่ๆ แล้ววูบไปอะ" สติกเกอร์ถีบ

"ฮ่าๆๆ ไม่เคยครับ รีบๆมา นะครับ หิวมาก"

"ชิส์ รอไป เดี๋ยวจัดให้"

"ครับเมีย" สติกเกอร์จูบ

ไลน์หาพี่ปริม

"พี่ผัว หวัดดีครับ ผัวน้องหิวข้าวมาก เลิกประชุมได้แล้ว" นางอ่าน แต่ยังไม่ตอบ เลยหันไปสั่ง

"นี่นุช ไปแพ๊คอาหารทั้งหมดให้ชุดนึง ชุดใหญ่นะ แล้วให้ลุงยามไปใส่ในรถด้วย" หันไปสั่งเลขาจิม

"ได้คะท่าน จัดการให้คะ"

"เอาไปฝากพี่เป๊บหรือพี่"

"อื้อ เห็นว่ายังไม่เลิกประชุม ยังไม่ได้กินข้าว เลยแพ๊คไปให้เนี่ย"

"ดีๆ เอาไปเยอะๆ  ผมว่าเหลือแน่เนี่ย"

"งั้นเหมาหมดนะ"

"ตามสบายๆ"

เสร็จเรียบร้อย กระทืบคันเร่งมาบริษัทเป๊บ จอดรถเรียบร้อย

"ให้แม่บ้านไปเตรียมด้วยนะ แล้วอีกถุงเอาไปแบ่งกันนะ" เอามาเผื่อ รปภ กับแม่บ้านด้วย

"ได้ครับท่าน" หัวหน้า รปภ รับคำ

ออกจากลิฟท์มา เดินพุ่งไปห้องทำงานเป๊บ เจอเลขาเป๊บ

"คุณเป๊บยังไม่เลิกหรือ"

"ยังคะคุณโจ้ คาดว่าอีกสักพักน่าจะเลิกคะ"

"คุณเป๊บมาบอกว่า รออยู่ห้องทานข้าวนะ"

"ได้คะ"

ผมกดไลน์ไปบอกพี่ปริม

<<<พี่ผัว ห้านาทียังไม่เลิก น้องจะบุกเข้าไปชิงตัวผัวมากินข้าว อย่าหาว่าน้องไม่เตือน ชิส์>>> พี่ปริมอ่านแล้วตอบมาว่า

<<<บุกมาชิงตัวพี่ด้วย หิวมาก สติกเกอร์น้ำตาไหล>>>

<<<สติกเกอร์หัวเราะ>>> แต่ผมฮาจริงนะ พี่ปริมคงหิวหนัก

ผมเดินไปคอยที่ห้องทานข้าว ประมาณสิบนาที ใกล้เวลาบ่ายสอง สองเสือผู้หิวกระหาย วิ่งเข้ามาจู่โจมเหยื่ออย่างเมามันส์

"เอ่อ ค่อยๆ กินก็ได้มั้ง" ผมเปรยขึ้นมา

สองหนุ่มทำหน้าเหมือนเข้าใจ แต่ก็กินเร็วมาก ผ่านไปสิบนาที

"รอดตายไป" พี่ปริมบ่น

"ขนาดนั้นเลยหรือพี่ แล้วทำไมนานครับ" ผมถาม

"ก็รายเดิม ถามมาก เหนื่อยกับอธิบาย"

"อีกแล้วหรือ น้องฉะไปหลายรอบยังไม่เข็ด" คือมันมีผู้ถือหุ้นคนนึง รับช่วงต่อจากพ่อเขาที่เคยร่วมกันกับแด๊ด ชอบสร้างปัญหาและถามมาก ผมเคยนำเสนอว่าซื้อหุ้นมันคืน แต่ติดที่ แด๊ดเกรงใจพ่อเขา ร่วมงานกันมานาน บางเรื่องเลยยอมมองผ่านๆไป

"ช่างเถอะ ทนๆกันไป อิ่มแล้วพี่ไปทำงานก่อนนะ แล้วเสือจะทำอะไรต่อ"

"เดี๋ยวผมไปดูแฟ้มครับ ถ้ามีก็จะเคลียร์"

"เออได้ๆ กลับบ้านใหญ่บ้าง แด๊ด มัม ตัวแสบบ่นคิดถึง"

"ได้ครับพี่ ว่างแล้วจะไปบ้านใหญ่ครับ" พี่ปริมออกไปแล้ว

"ที่รักทำอะไรต่อ"

"เดี๋ยวไปดูแฟ้มบ้าง เผื่อมี"

"กลับกี่โมงดีครับ"

"กลับบ้านใหญ่มั้ย" ผมชวน เป๊บหน้าระรื่น

"ดีครับ ที่รักอยากกลับหรือ"

"ไม่ไปนานละ กินข้าวบ้านใหญ่ดีก่า เบื่อคอนโดบ้างไรงี้"

"ได้ครับๆ งั้นห้าโมงเจอกันนะครับ เป๊บไปเซ็นงานก่อน"

"จ้าผัว"

"ครับพยูน" เป๊บทำปากจุ๊บๆ

"เคยตายมั้ย" ผมแยกเขี้ยวถาม

"ฮ่าๆๆๆ" แล้วนางหัวเราะเดินไปแบบเนียนๆ ผัวบ้า

ผมเดินมาห้องทำงาน เจอแฟ้มกอง 5 แฟ้ม แทบกริ๊ดดดด ดีที่มีเอกสารในแฟ้มไม่มาก เคลียร์เสร็จ ก็นั่งเขียนให้อ่านกันนี่ละครับ

16.35 น.แล้ว เก็บของก่อนนะค้าบ คืนนี้นอนบ้านใหญ่ สนุกสนานแน่นอน อิอิ

คิดถึงทุกคนนะค้าบบบบบ จุ๊ฟฟฟฟ  :mew1: :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Kfc_Pizza

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-1
 :L2: :L2: :L2:
คิดถึงมากมาย
 :กอด1:
 :กอด1:
 :กอด1:

ออฟไลน์ YouandMe

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1

ออฟไลน์ duckk

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
หูยยยย คิดถึงมากอ่า พี่ๆหายไปนานม๊ากกก ทำงานกันหนักก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะคะ :mew1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด