รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62  (อ่าน 574941 ครั้ง)

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่เป๊บเกิดเรื่องจนได้ สงสารทั้งคุณโจ้-เป๊บ
มองคนที่เรารักนอนป่วยอยู่มันปวดใจและทรมานมาก
บางทีคิดว่าเราเจ็บเองดีกว่า ตอนที่คุณโจ้เจ็บพี่เป๊บก็คงเหมือนกันน

รอมาเล่าต่อนะ

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13

skynat

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อ่านแล้วใจหายแทนโจ้เลยค่ะ สงสัยหลังจากที่เหตุการณ์นี้
เป๊บคงจะไม่กล้าที่จะดื้อหรือขัดคำสั่งของโจ้อีกเลยใช่ไม๊คะ



มาต่อเร็ว ๆ นะคะ เห็นว่าไกล้จะจบแล้วเหรอ
ถ้าเรื่องต่อเนื่องจบ ก็มาอัพเป็นเรื่องๆไปก็ได้ค่ะ

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4

emoboy

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณพี่ทั้งสองที่ได้นำเรื่องราวที่ดีๆมาแบ่งปันให้ได้อ่านนะคับ ได้อ่านเรื่องนี้ครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน และยังติดตามมาจนถึงปัจจุบัน ชอบเรื่องราวของพี่ทั้งสองมากๆคับ ตอนล่าสุดสงสารพี่เป๊บและเห็นใจพี่โจ้มากๆเลย ถึงเรื่องราวจะผ่านมาแล้วก็ตาม ขอบคุณคับ

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
เป๊บทำไมดื้ออย่างนี้ :angry2: :angry2: :angry2:  เมียบอกอะไรทำไมไม่ฟัง :serius2: :serius2: :serius2:

ค้างมากเลยค่ะ รีบๆมาต่อนะค่ะ รอตอนต่อไปค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ขอบคุณมากครับพี่โจ้เรื่องพระอาจารย์ แต่เล่นมาแบบนี้ทำเอาผมค้างนะครับ
พี่เป๊ปก็ดื้อได้โล่จริงๆ ทำเอาพี่โจ้ใจกระตุกขนาดนี้ ยังไงคนดีพระท่านต้องคุ้มครองนะครับ

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
อย่าจบแล้วจบเลยนะ หมั่นเข้ามาทักทายกันด้วย ติดตามตลอด  รีบๆเข้ามาเล่าต่อนะ ค้างอ่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-08-2013 09:56:28 โดย อยากรัก »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ k@_raMae

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 42
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ง่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!! นึกว่าจะไ่มีอะไรเเล้วนะ โถ่!!!!!!!  :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4: :sad4:
ปล. หนังสือเรียนช่วงนี้ไม่ค่อยมีอ่านหรอกพี่โจ้ ลงมือปฏิบัติล้วนๆ อาศัยอารมณ์อย่างเดียวเลย  :heaven

ออฟไลน์ anukul

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3088
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +32/-6
มารอพี่เป๊ปพี่โจ้ครับ  มาไวๆนะพี่

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีครับ ผมเป๊บครับ....หายไปนานเหมือนกัน....เคลียร์แฟ้มงานเสร็จเลยแวะเข้ามาอ่านดูว่าตัวขาวแอบเผาอะไรผมบ้าง...ตอนนี้ตัวขาวหายซ่าอยู่ครับ นอนป่วยพะงาบๆ มาสองวันแล้ว ฮ่าๆๆๆ อาการไม่ได้หนักมากหรอกครับ อาการอาหารเป็นพิษ ทำให้อาเจียนจนอ่อนเพลียครับ ผมก็ไม่แน่ใจว่าไปกินอะไรแปลกๆ มาหรือเปล่า แต่พอป่วยทีไร โรคขี้อ้อนกำเริบ จนผมต้องมานั่งเอาใจ ไม่งั้นตัวขาวจะงอนยาวนานเลยละครับ

เช้าวันนี้
"ที่รักครับ...เป๊บไปทำงานก่อนนะ...อย่าลืมตื่นมาทานยาแล้วก็ข้าวเช้านะ"
"อือ..อื้อ...เป๊บอะ...โจ้ป่วยอยู่นะ ไม่คิดจะลางานดูแลหรือ..." โรคอ้อนกำเริบแล้วครับ
"เมื่อวานก็ลางานแล้วไงครับ....วันนี้เช้าเป๊บมีประชุมคณะกรรมการบริหารนะ...ถ้าไม่ไปโดนพี่ปริมต่อว่าแน่...เดี๋ยวช่วงบ่ายจะรีบกลับมานะครับคนดี" ผมอ้างยกแม่น้ำทั้งห้า พร้อมก้มลงไปหอมแก้มทีนึง
"คนจายร้ายยย...คนบ้าาาา...คนม่ายมีหัวจายยยยย" ขนาดนอนป่วยยังมีแรงด่า เมียใครเนี่ย ฮ่าๆๆๆ
"ไม่ได้ใจร้ายนะ..แต่งานสำคัญนะครับ...อย่างอแงซิที่รัก...เดี่ยวบ่ายๆ เป๊บกลับมานะ"
"งอลลลล...คิงคองบ้า...คิงคองบ๊องง...คอยดูนะถ้าโจ้หายจะทำงานให้หนักๆๆแกล้งเป๊บคืนเลย" ขนาดนอนพะงาบๆ ยังจะขู่อีกแนะ
"โอ๋ๆๆ..อย่างอแงซิ...เดี๋ยวเป๊บจับปล้ำสามรอบเลยนะ...จะลองมั้ยละ" ผมทำหน้าหื่นๆใส่ ตัวขาวเงียบกริบ ฮ๋าๆๆๆๆ
"ชิ...ไปทำงานเลยไป๊...เมียป่วยทั้งคน ยังจะห่วงงาน" ผมละส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้ม ป่วยทีไร อ้อนตลอด
"จ้า...เป๊บจะรีบกลับมานะ...อย่าลืมทานยากับข้าวเช้านะครับ" ผมจุ๊บแก้มขาวๆทีนึง

         ออกจากคอนโดเดินทางมาถึงบริษัท ผมก็เข้าประชุมทันที วันนี้พี่ปริมเข้ามาตรวจงานชุดใหญ่ครับ การประชุมเครียดมากๆ จนผมแทบไม่มีเวลาจะกดโทรศัพท์หาตัวขาวเลย พี่ปริมจะเข้มงวดเรื่องนี้มากระหว่างการชุมห้ามเล่นโทรศัพท์ทุกกรณี เพราะจะทำให้เสียสมาธิ การประชุมเสร็จสิ้นเที่ยงครึ่ง กรรมการทุกคนทยอยเดินออกจากห้องประชุม
"ไอ้เสือ...สะใภ้เหล็กไม่มาหรือ"
"นอนป่วยอยู่คอนโดครับพี่ปริม"
"อ้าว..ไม่สบายเป็นอะไรละ"
"อาหารเป็นพิษครับ...นอนพะงาบๆ มาสองวันแล้ว"
"ฮ่าๆๆๆ...แล้วไม่ลางานไปดูแล"
"เมื่อวานลาแล้วครับ...วันนี้เป๊บเห็นว่ามีประชุมใหญ่ ไม่ควรจะขาด"
"ดีแล้วๆ....ช่วงนี้ต้องระวังความผันผวนทางเศรษฐกิจให้มากนะ...พี่นั่งวิเคราะห์ภาพรวมแล้ว ระบบเศรษฐกิจกำลังจะถดถอย ถ้าเราไม่ระวังขาดทุนมโหฬารแน่"
"ครับพี่...เป๊บเองก็กังวล พยายามติดตามข้อมูลอยู่...พี่คิดว่าบริษัทในเครือของเราจะได้รับผลกระทบมั้ยครับ"
"โดนแน่นอน แต่พี่ว่าคงไม่ขาดทุน อาจจะกำไรลดลง...แต่ไม่เป็นไรหรอก ถือว่ากำไรให้กับสังคมไป"
"ครับๆ"
               หลังจากนั้นพี่ปริมก็ชวนผมคุยเรื่องงานแนวนี้ยาวเลยครับ จนเวลาล่วงมาพักใหญ่
"พี่ปริมทานข้าวยังครับ"
"เออ...ลืม...แล้วนี่กินข้าวยัง"
"ยังพี่...ผมหิวแล้วเลยถาม...ไปหาอะไรทานกันเถอะพี่"
"เออดีๆ"
              ผมกับพี่ปริมทานข้าวไปคุยกันไป ระหว่างทานผมก็หยิบโทรศัพท์มากด ตกใจมากครับ ยุ่งแล้ว ลืมกดกลับมาตั้งเสียง หน้าจอ มิสคอลจากตัวขาว 32 สาย ไลน์จากตัวขาว 49 ข้อความ และคนอื่นๆ อีกมากมาย ฮ่าๆๆๆ คนอื่นช่างมัน รีบตอบเมียก่อน ผมกดอ่านไลน์ ส่วนมากจะเป็นสติกเกอร์โหดๆ ฮ่าๆๆ ข้อความประมาณว่า สนใจบ้าง ทำไมเงียบ คิงคองบ้าาาา งอลแล้ว....ผัวบ้า...ทิ้งเมีย ประมาณนี้ครับ ผมอ่านไปขำไป ฮามากๆๆๆ
"ขำอะไรไอ้เสือ"
"ตลกโจ้อะพี่ ส่งไลน์มาต่อว่า เป๊บลืมตั้งเสียง"
"ฮ่าๆๆ หรือ โทรกลับซิ เดี๋ยวพี่คุยเอง"
"ครับๆ" ผมกดโทรศัพท์กลับไปพร้อมเปิดสปีกเกอร์โฟน ตัวขาวรับสาย ไม่ทันพี่ปริมจะพูด ตัวขาวตะโกนมาทันที
"มีเวลาโทรกลับมาแล้วหรือเป๊บ...เคยสนใจบ้างมั้ยเนี่ยยยย....เมียนอนป่วยทั้งคน ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กิน หิวแล้วนะ กลับมาจัดการให้ด้วยยย....เป๊นสามีแบบไหนเนี่ย...ไม่ดูแลๆๆ ฉอดๆๆๆ อีกยาวครับ
          ผมมองหน้าพี่ปริมที่มีอาการหน้าเหวอๆ แล้ว ฮามากๆๆๆๆ
"สะใภ้เหล็ก...นี่พี่เอง" ตัวขาวเงียบกริบ
"พี่ปริมไง จำเสียงไม่ได้หรือ" พี่ปริมย้ำ
"อ้าวพี่ปริม แล้วเป๊บละค้าบ"
"นั่งหัวเราะตรงข้ามพี่เนี่ย คือพี่เป็นห่วงเราเห็นไอ้เสือเล่าว่าไม่สบาย เลยให้กดโทรศัพท์จะถามอาการ"
"แหะๆ..ขอโทษอะค้าบพี่ปริม ก็โจ้ไม่รู้นี่น่า"
"ไม่เป็นไรๆ แต่พี่ว่าคงหายป่วยแล้วแหละ จ้อได้ขนาดนี้ อะหายเร็วๆ คุยกะไอ้เสือต่อละกัน"
        พี่ปริมส่งโทรศัพท์กลับมาให้ผม ผมกดปิดสปีคเกอร์ ตัวขาวพูดทันทีว่า กลับมาตายยยยย แล้วกดวางสาย โถ ใครจะกลัวววว ฮ่าๆๆๆ

        ทานข้าวเสร็จผมก็ขอตัวกลับคอนโด พี่ปริมก็กลับบ้านใหญ่ตามปกครับ ผมแวะซื้อของโปรดตัวขาวกลับไปด้วย กว่าจะถึงคอนโดก็ประมาณสี่โมงนิดๆ เปิดประตูเข้าไปในห้อง ตัวขาวนอนบนโซฟา ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ตัวขาวก็เด้งตัวขึ้นมาหมายมั่นว่าจะเอาเท้าถีบผม แต่เสียใจ ผมรู้ทันเลยหลบ คว้าตัวมากอดระดมจูบให้หนำใจ
"ว๊ากกก...เป๊บบ้าาาา..ปล่อยเลยนะ" ตัวขาวดิ้นใหญ่
"จะทำร้ายผัวหรือไง มานี่เลยนะ ต้องทำโทษ" ผมแกล้งทำหน้าหื่นจะปล้ำ
"ป่าวน้าๆๆ ปล่อยๆๆ ว๊ากกกกก...ขอโต้ดดดดด" ตัวขาวดิ้นใหญ่
"ไม่ให้อภัย มานี่ทำโทษๆๆ" ตัวขาวดิ้นหลุด เตะก้นผมป๊าบใหญ่ แล้ววิ่งเข้าห้องไปหลบ เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แรงเยอะเหมือนกัน
"ฮ่าๆๆๆ...ที่รักไม่ต้องหนี เป๊บไม่แกล้งแล้ว ออกมาทานข้าวได้แล้ว" ตัวขาวแง้มประตูออกมา

               เราสองคนก็ทานข้าวด้วยกัน วันนี้ทานเร็วนิดนึงครับ
"อาการป่วยดีขึ้นมั้ยครับ"
"ดีขึ้นมากแล้วละเป๊บ ยังมีอาการมวนท้องนิดๆ แต่ไม่อ๊วกแล้วคับ"
"พรุ่งนี้พักอีกวันละกันนะ ไปทำงานอีกทีวันจันทร์"
"ค้าบๆๆ...เป๊บทำงานป่าว"
"ไม่ครับ พรุ่งนี้ลาดูแลเมีย"

                ตัวขาวยิ้มกว้าง
"แล้ววันนี้ประชุมเป็นไงบ้างอะ" ตัวขาวถาม
               ผมก็เล่าคร่าวๆ เรื่องที่คุยกับพี่ปริม ตัวขาวก็วิเคราะห์แสดงความคิดเห็น จนทานข้าวเสร็จ เราสองคนก็นั่งดูทีวีไปเรื่อยๆ จนตัวขาวบอกว่า

"เป๊บ เรื่องเล่าโจ้เขียนตอนอุบัติเหตุของเป๊บแล้วนะ"
"อ้าวหรือครับ ที่รักจำได้หรือ"
"ก็ดูไดอารี่ นั่งนึกๆ บ้างอะเป๊บ...แต่โจ้ว่าจะเขียนเรื่องที่เป๊บเจอ"
"อ๋อ แต่มันนานมาแล้วนะครับ ที่รักจะเขียนได้หรือ"
"เขียนได้ไม่หมดหรอก เป๊บจะต้องมาตรวจให้นะ"
"ได้ครับๆ ที่รักลองเขียน เดี๋ยวเป๊บอ่านจะเพิ่มให้นะครับ"
"ค้าบบบบ...คืนนี้ก่อนนอนเข้าไปแวะทักทายในกระทู้บ้างละ"
"จ้าเมียบังเกิดเกล้า"
"แหะๆ .....รักเป๊บนะคับ"
"รักที่รักนะครับ"
              ตัวขาวอยู่ในอ้อมกอดผมไปดูทีวีไป จนกระทั่งตัวขาวเข้านอน ผมถึงได้แวะมาพิมพ์เล่านี่แหละครับ

             ผมเล่าไม่เก่งเท่าตัวขาว คงจะพอกล้อมแกล้มไปได้นะครับ สำหรับเรื่องเล่าตอนสำคัญ ผมจะมาเขียนเพิ่มเติมจากประสบการณ์ให้นะครับ ขอบคุณครับ :pig4:


เป๊บ : ตัวขาว....ดึ่งดึ๋ง  :hao6:

โจ้ : ทะลึ่งงงง ป่วยอยู่เนี่ย ไปห้องน้ำเลยไป๊  :angry2:

เป๊บ : นิดนึงๆๆ นะ ดึงดึ๋งๆๆ  :hao6: มานี่  :oo1:

โจ้ : แว๊กกกกกกกกก  :hao7:

ออฟไลน์ คนอ่าน

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-13

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Yarkrak

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-3
เป็นคู่ที่น่ารักตลอด  หายไวไวนะน้องโจ้

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ตัวขาวนี่ตอนป่วยนี่อ้อนเก่งจังเลยนะ
อ่านเรื่องตัวขาวป่วย แต่เราดันอ่านไปยิ้มไป
ก็เวลาเป๊บพูดถึงโจ้นะ รับรู้ในความรักที่มีให้กันได้


ปล.เป๊บก็ถ่ายทอดเรื่องเก่งนะคะ โดยเฉพาะเวาลาพูดถึงโจ้ :o8:
ปลล.ขอให้โจ้และเป๊บดูแลตัวเองด้วยนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนบ่อยด้วย

ออฟไลน์ Noo_Patchy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1055
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-4

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
น่ารักอ่ะ่ :o8:
ขอให้หายเร็วๆนะแล้วก็ขอให้สุขภาพแข็งแรงด้วยนะคะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
หายป่วยเร็วๆนะคุณโจ้ เวลานี่อ้อนพี่เป๊บน่าดูเลย
พี่เป๊บก็อย่าหื่นใส่คนป่วยนะ เดี๋ยวไข้กลับ

ปล.คนขยันวันจันทร์หน้าไม่หยุดไปทำบุญวันอาสาฯ
วันอังคารเข้าพรรษาต่อ

Angel

  • บุคคลทั่วไป
พี่เป๊ปเล่าถึงพี่โจ้รู้สึกว่าพี่โจ้อ้อนได้น่ารักมากๆ เลยอ่ะค่ะ   :mew3:

พี่โจ้แอบไปทานอะไรมา ขอให้หายเร็วๆ นะคะ

หมูกระต่าย

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ Monkey D lufy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +245/-4
555  น่ารักอ่ะ

รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะทั้ง2คน

zalapao14

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงพี่โจ้ พี่เป็ปแล้ว

อยากเห็นรูปพี่เป็ปกับพี่โจ้ตัวจริงอ่ะ  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ nutto

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
รอคอยเธอมาแสนนานนนนนนนนน ทรมานนนนนนวิญญาณหนักหนา ระทมอยู่ในอุรา แก้วกานดาชั้นรอพี่โจ้เพียงผู้เดียววววว
หายป่วยแล้วอย่าลืมมาต่อให้ได้อ่านกันนะครับ วันนี้มาเป็นเพลงเลยกดกีทีกี่ทีก็ยังไม่เจอ  :katai1:  :katai1:  :katai4:  :katai1:

ออฟไลน์ ชางหลง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 48
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หายป่วยยัง มาต่อได้แล้วอยากรู้เรื่องต่ออะ อ่านไปแล้วก็ขนลุกไป
เชื่อเรื่องนี้เหมือนกันนะ ถึงจะไม่เคยเจอกับตัว แต่ก็เห็นมาบ้าง
เรื่องคล้าย ๆ กันเลย  เราอยากรู้ว่าทำอยางไรถึงรอดมาได้อะ :mew6:

MangoBlue

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาอ่านตั้งแต่ตอนแรกอีกรอบระหว่างรอพี่เป๊ปพี่โจ้....

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบบ ทุกคนค้าบบบ ขอโทษมากๆ ที่หายไปนานมากมาย ติดภารกิจสำคัญสุดๆ เลยต้องไปจัดการแก้ไขเรียบร้อยแล้วค้าบบบ สำหรับในตอนนี้ก็เขียนยากมากคับ เพราะผ่านมานาน เลยต้องรื้อฟื้นข้อมูลที่พอจะจำได้ ส่วนตอนหน้าเป็นหน้าที่คิงคองแล้วละคับว่า รอดตายมาได้ยังไง ติดตามอ่านกันเลยนะค้าบบบบบบ  :mew1:

ตอบเม้นๆ
หมูกระต่าย : หายไปเลย หายไปไหนอากาศ หายไปกับสายลม อิอิ  :mew1:

dewdew : ค้างนานเลยอะ มาต่อให้แล้วนะคับบบ :mew1:

8X : ค้าบพี่ อ่านแล้วอย่าเครียดมากนะค้าบ ฮ่าๆๆ หลังจากตอนนี้ผ่านพ้นไปก็ใกล้จบแล้วละคับ ส่วนตอนพิเศษมีให้แน่ รับรองว่าอ่านแล้ว หวาน ซึ้ง อึ้ง ฮา ออกแนวเผาๆ ค้าบบบบ  :mew1:

 Angel : มาต่อให้แล้วนะค้าบบบบ  :mew1:

MangoBlue : ใช่ๆๆ ดื้อมากๆ ต้องกระโดดถีบให้เข็ด  :mew1:

maemix : ทรมานมากๆ เลยอะคับ เข้าใจว่าคนที่สูญเสียคนรักเสียใจมากขนาดไหนอะคับบบ  :mew2: :mew1:

คนอ่าน : ขอบคุณมากค้าบบบบบ  :mew1:

skynat : มาต่อให้แล้วค้าบบบ ฮ่าๆๆ  :mew1:

snowboxs : ฮ่าๆๆ หลังจากเหตุการณ์นี้เป๊บขับรถช้าลงค้าบ ระมัดระวังมากขึ้น เชื่อฟังมากขึ้น หล่อมากขึ้น (เอ๊ะมะเกี่ยวแร้วววว อิิอิ) :mew1:

Monkey D lufy : มาต่อให้แล้วค้าบบบบ  :mew1:

emoboy : ขอบคุณมากค้าบบบ อย่าลืมตามอ่านเรื่อยๆ น้า  :mew1:

fay 13 : รอดตายมาละค้าบบบ  :mew1:

noy : ใช่ๆๆๆ ดื้อมากๆๆ แบบนี้ต้องถีบบบบ  :mew1:

nutto : คร้าบบบ มาต่อให้แล้วน้า  :mew1:

อยากรัก : ได้ค้าบบบ ถ้าจบแล้วจะมีตอนพิเศษให้อ่านน้า  :mew1:

k@_raMae : ฮ่าๆๆๆๆๆ  :mew1:

anukul : มาแล้วจ้าน้องรักกกก มามะหอมแก้มสองที  :mew1:

ตอบตอนเป๊บมาเม้าท์ฺ

คนอ่าน : คิงคองน่าถีบมากอะ เอามาแฉหมดง่า  :mew3:

Simply Blue : ฮ่าๆๆ ขอบคุณค้าบบบบ :mew1:

MangoBlue : ขอบคุณค้าบบบบ  :mew1:

อยากรัก : ขอบคุณค้าบบบ  :mew1:

snowboxs : อิอิ ให้ความน่ารักอ้อนอะคับบบบ คิงคองเอาใจใหญ่ แต่ช่วงเอาคืนนี่แทบทรุดง่า  :hao7:

Noo_Patchy : ฮ่าๆๆๆๆ  :hao6: :hao6:

mnara : ขอบคุณมากค้าบบบบ  :mew1:

maemix : ทำงานไปทำบุญไป วิ่งรอกเลยละค้าบบบ  :hao7:

Angel : อิอิ น่าจะทานของไม่สะอาดแน่เลยอะ กำลังคิดว่าเป็นส้มตำแน่เลย  :mew2:

หมูกระต่าย : คิดถึงมากๆ ด้วยคับบบบ  :mew1:

Monkey D lufy : ขอบคุณค้าบบบบ  :mew1:

zalapao14 : รูปโพรไฟล์ก็ตัวจริงน้า รูปคิงคองค่อยเอามาลงนะค้าบบบ  :mew1:

nutto : ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ เพลงสุดยอดมากค้าบบบบ  :mew1:

ชางหลง : ติดตามอ่านได้เลยค้าบบบบ  :mew1:

MangoBlue : โหยยย อ่านหลายครั้งมะเบื่อหรือ อิอิ  :hao6:

ตอนที่ 43 อาฆาต + เคราะห์กรรม ภาคสอง
   เป๊บนอนอยู่บนเตียง มีเครื่องมืออุปกรณ์ระโยงรยางค์เต็มไปหมด ศรีษะของเป๊บพันด้วยผ้า มีเลือดสีแดงซึมออกมา ท่อออกซิเจนสอดเข้าไปในปาก ด้านข้างเตียงก็มีที่แขวนขวดเลือดกับน้ำเกลือ ตามแขนขาของเป๊บก็มีผ้าพันแผล  ผมชายสายตามองไปทางซ้าย พี่ปริมนอนโซฟาข้างเตียง
   ผมยืนมองเป๊บด้วยอาการตัวสั่นสะท้าน น้ำตาไหลเป็นทาง ทำอะไรไม่ถูก คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งมองเป๊บอยู่แบบนั้น จนพี่ปริมรู้สึกตัว
“เอ้ย...โจ้...มาตั้งแต่เมื่อไหร่” พี่ปริมลืมตามาเห็นผมก็ลุกขึ้นทันทีครับ
“ก็สักสิบนาทีแล้วครับพี่ปริม” ผมตอบพี่ปริมพร้อมเอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นทาง
   ผมค่อยๆ เดินมาที่ข้างเตียง ค่อยๆ เอามือที่สั่น จับแขนเป๊บ พร้อมกับโน้มตัวไปที่ข้างๆ หูเป๊บ
“ฮึกๆๆ เป๊บ...โจ้มาแล้วนะคับ...ฮึกๆ โจ้ขอโทษที่มาช้า...เป๊บจะต้องหายนะ...อดทนนะเป๊บ...อย่าทิ้งโจ้ไปนะ” ตัวผมสั่นสะท้านไปหมด อารมณ์ตอนนั้นมันไม่ไหวจริงๆ ครับ
“น้อง...เข้มแข็งไว้นะ...พี่เชื่อว่า เป๊บ มันสู้เพื่อน้องแน่...อดทนๆ นะ” พี่ปริมปลอบผม
“ขอบคุณคับพี่ปริม....คุณหมอว่าไงบ้างคับ” ผมถามพี่ปริมไปพลางปาดน้ำตาไป
“ก่อนที่น้องจะมาคุณหมอเพิ่งมาตรวจอาการภาพรวม...ก็ไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นัก ตอนเกิดอุบัติเหตุสมองเป๊บได้รับการกระทบกระเทือน กระดูกซี่โครงหัก ซ้ายสองซี่ ขวาหนึ่งซี่ ทางด้านขวากระดูกที่หักดันไปเสียบอวัยวะภายในฉีกขาด แต่หมอผ่าตัดเย็บแผลให้แล้ว ส่วนสมองมีอาการเลือดคั่ง แต่คุณหมอประเมินแล้วยังไม่ตัดสินใจผ่า เพราะลองให้ยาลดอาการสมองบวม ถ้าร่างกายเป๊บตอบสนองต่อยา ก็จะไม่ผ่า แต่สิ่งที่สำคัญคือ ตอนนี้ม่านตาไม่ค่อยตอบสนองต่อแสง ซึ่งคุณหมอก็หนักใจ”
   ผมฟังอาการที่พี่ปริมเล่าจบ แทบทรุดนั่งลงกับพื้น ดีที่พี่ปริมพยุงตัวผมไว้ทัน ผมร้องไห้โฮใหญ่ ไม่อายใครแล้วครับ พี่ปริมก็ได้แต่กอดผมแน่น
“ใจเย็นๆ นะน้อง พี่เองก็เสียใจไม่แพ้น้องเหมือนกัน...แต่เราต้องเข้มแข็งนะ ยังไม่สิ้นหวัง มีทางรักษาเป๊บให้หายแน่นอน”
“คะ...คับบบ...ฮือๆๆๆ”
“เข้มแข็งๆๆๆ” พี่ปริมกอดผมแน่น แต่ตัวพี่ปริมเองก็น้ำตาไหลเหมือนกัน
“ฮือๆๆ ฮึกๆๆๆ....พี่...ปริม...ถ้าเป๊บเป็นอะไรไป...ผม...คง...ไม่...ไหว....”
“เป๊บมันต้องหายเป็นปกติ...เชื่อพี่นะๆ”
   ครืดดดดดด....ผมหันไปมองเพราะมีคนเปิดผ้าม่าน แด็ด มัม พี่ปัน เดินเข้ามาพอดี ผมเห็นดังนั้นก็โผเข้ากอด
“ฮือๆๆๆๆ....แด๊ด....ผมขอโทษๆๆๆ ที่ไม่ได้ดูแลเป๊บ….ฮือๆๆๆๆ”
“ไม่เอาลูก...อย่าโทษตัวเอง...ลูกไม่ได้ผิด....มันเป็นคราวซวยของเจ้าเป๊บเอง” แด๊ดปลอบผม
“ใช่ลูก...ใจเย็นๆ นะ...มัมว่า...เป๊บจะต้องอาการดีขึ้นจนหายเป็นปกติแน่นอน” มัมน้ำตาไหล แต่เข้มแข็งมาก จับมือผมแน่นมากๆ
   ไม่กี่นาที จิมก็เดินมาถึง ก็ไหว้ทักทายทุกคน ผมร้องไห้นานมากๆ จนเริ่มตั้งสติได้ ค่อยๆ ทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“คุณอาครับ คุณหมอว่ายังไงบ้าง” จิมเอ่ยถามขึ้นมา
“ก็...โดยภาพรวมยังโคม่า....หมอประเมินสถานการณ์ชั่วโมงต่อชั่วโมง....อยู่ที่คนเจ็บจะสู้ไหวมั้ย” ผมนั่งฟังโดยที่ไม่ตอบอะไรสักคำ ผมเริ่มทำใจ แต่ลึกๆ ก็ยังร้องไห้เสียใจมาก
“ผมเชื่อว่าพี่เป๊บจะสู้ครับ...พี่เป๊บต้องหายแน่นอน”
“พี่ก็เชื่อแบบนั้น ไอ้เสือมันไม่ใช่คนอ่อนแอ มันต้องสู้แน่” พี่ปันเสริม
   ผมได้แต่นั่งฟังนิ่งๆ สายตาจับจ้องไปที่เป๊บ แทบจะไม่ได้คิดหรือรับรู้อะไร
“โจ้..ลูก...คุณหมอจะมาตรวจอาการเจ้าเป๊บนะลูก” ผมนั่งมองเป๊บแบบเหม่อลอย มารู้ตัวอีกทีตอนได้ยินเสียงแด๊ด
“คะ...ครับ” ผมรีบลุกขึ้น หลีกทางให้คุณหมอตรวจเป๊บ
   คณะทีมแพทย์มีห้าคนครับ แต่ละคนก็เป็นระดับอาจารย์หมอ สูงอายุแทบทั้งกลุ่ม บรรดาคุณหมอตรวจนั่นนี่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเสร็จ
“อาการลูกผมเป็นยังไงบ้างครับ”
“โดยรวมยังน่าเป็นห่วงครับ...ม่านตายังคงตอบสนองต่อแสงน้อยมาก...แต่อาการสมองบวมผู้ป่วยตอบสนองต่อยาได้ดีมาก..ระบบความดันไม่คงที่...หมอจะให้พยาบาลฉีดยาควบคุมระดับความดันให้เป็นปกติ...ส่วนอาการบอบช้ำภายใน คาดว่าแผลที่เย็บยังคงมีเลือดออกมาบ้างดูจากท่อสายยางระบายเลือดซึ่งคงจะต้องให้เลือดต่อไปอีกสักระยะ...โดยภาพรวมก็ยังพอประคองได้นะครับ...แต่สิ่งที่สำคัญคือหมอกลัวว่า.....”
“อะไรหรือครับคุณหมอ” พี่ปันถามขึ้นมา
“ผู้ป่วยเลือดกรุ๊ปบี...ตอนนี้คลังเลือดขาดแคลนมากๆ....ถ้ายังให้เลือดต่อไปแบบนี้ ถ้าขาดเลือดจะลำบากนะครับ...”
“ญาติผู้ป่วยท่านใดเลือดกรุ๊ปบีบ้างคะ” คุณหมอหญิงท่านนึงถามขึ้นมา
“ดิฉันคะ..กรุ๊ปบี” มัมพูดขึ้นมา
“หมอว่าคุณแม่อาจจะสูงอายุเกินไปที่จะบริจาคคะ...อาจจะมีผลต่อสุขภาพคะ”
“ผมครับ เลือดกรุ๊ปบี” ผมพูดขึ้นมาบ้าง
“โจ้กรุ๊ปบีหรือลูก”
“ครับแด๊ด...คุณหมอครับ ห้องบริจาคเลือดอยู่ที่ไหนครับ...ผมยินดีบริจาคเต็มที่”
   บรรดาคุณหมอคงจะงงเล็กน้อยครับ คงเป็นเพราะสงสัยในความสัมพันธ์ว่าเป็นอะไรกับคนเจ็บ ญาติ พี่น้องก็ไม่น่าจะใช่ ประมาณนั้นครับ
“ได้คะๆ งั้นเชิญที่ห้องตรวจเลือดก่อนนะคะ หมอจะตรวจสอบพวกเกล็ดเลือดและพลาสม่านะคะ”
   ผมเดินตามหมอออกมาโดยไม่ได้กล่าวอะไรกับทุกคน เดินมาสักพักจนถึงห้องบริจาคโลหิต(ชื่อหน้าห้องเขียนแบบนั้นนะครับ) นั่งรอคุณหมอสักพัก
“หมอขอเจาะปลายนิ้วนิดนึงนะคะ จะตรวจเลือดว่าตรงตามที่ต้องการหรือไม่”
“ได้ครับ”
“ขออนุญาตสอบถามประวัตินะคะ...เพื่อความมั่นใจของกรุ๊ปเลือด....เป็นญาติกับผู้ป่วยมั้ยคะ”
“ไม่ใช่ครับ”
“พี่น้องใช่มั้ยคะ”
“ไม่ใช่ครับ”
   ผมตอบปฏิเสธด้วยเสียงเรียบๆ คุณหมอเองทำหน้าสงสัยเล็กน้อย คงไม่กล้าถามต่อแล้วครับ
“เราสองคนเป็นแฟนกันครับคุณหมอ” ผมตอบหมอไป เพราะไม่มีประโยชน์ที่จะปิดบัง เผื่อว่าข้อมูลอาจจะพอช่วยเป๊บได้บ้าง
“เข้าใจแล้วคะ....ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล...หมอขอตรวจเลือดวิเคราะห์ผลสักครู่นะคะ” หมอเอาเข็มจิ้มปลายนิ้วชี้ เก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจ ถามว่าเจ็บมั้ย เจ็บครับ แต่เพื่อเป๊บ ผมยอมทุกอย่าง
   คุณหมอใช้เวลาตรวจประมาณครึ่งชั่วโมง
“เรียบร้อยนะคะ เชิญที่เครื่อง(ผมเรียกไม่ถูกว่าเครื่องอะไรอะครับ คล้ายๆ เก้าอี้หมอฟัน พอนอนบนเก้าอี้ บีบลูกบอลเล็ก เลือดก็จะวิ่งเข้าถุงเก็บเลือดครับ)คะ”
   ผมทำตามที่คุณหมอสั่งอย่างว่าง่าย พยาบาลผู้ช่วยคุณหมอเอาเข็มที่ใหญ่พอสมควร มาจิ้มบริเวณข้อผับที่แขน
“อาจจะเจ็บเล็กน้อยนะคะ...” พยาบาลบอกผม เจ็บเหมือนกันครับ แต่ทนได้
“ฟังสัญญานจากหมอนะคะ แล้วเริ่มบีบลูกบอลได้เลย.....เริ่มได้เลยคะ”
   ผมก็นอนบีบลูกบอลไปเรื่อยๆ พยาบาลก็เดินออกจากห้องไป คุณหมอก็ยืนดูเป็นระยะๆ
“ถ้ารู้สึกเวียนศรีษะหน้ามืด หรือมีอาการยังไง บอกหมอนะคะ”
“ไม่มีเลยครับ...คุณหมอเอาเลือดไปเยอะๆ นะครับ ผมยินดีให้หมดตัวเลย”
“อุ้ย..คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกคะ...ถ้าเอาเลือดหมดตัว คุณจะเสียชีวิตนะคะ” คุณหมอพูดแซวยิ้มๆ
“ผมยอมครับคุณหมอ...ถ้าไม่มีเค้า...ผมอยู่ไม่ได้หรอกครับ” คุณหมอดูอึ้งๆ ไป แวบนึงกลับมายิ้ม
“คนป่วยจะต้องหายแน่นอนคะ...หมอที่นี่เก่งทุกคน....หมอเองก็เป็นหนึ่งในทีมรักษา...หมอสัญญานะคะจะใช้ความรู้ที่มีทั้งหมดอย่างเต็มความสามารถ...สบายใจได้นะคะ”
“ขอบคุณมากครับ...ขอบคุณมากๆ ครับ” ผมตอบขอบคุณด้วยเสียงเครือๆ น้ำตาไม่ไหลครับ มันเกินที่จะน้ำตาไหลแล้ว
   การบริจาคเลือดเสร็จเรียบร้อย ผมหันไปมองที่ถุงเลือด ได้ไปถุงใหญ่เลยครับ
“นี่คือยาบำรุงเลือดนะคะ พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสร้างเม็ดเลือดนะคะ”
“ขอบคุณมากครับคุณหมอ ถ้าเลือดไม่พอ ผมยินดีให้อีกนะครับ”
“ให้มากกว่านี้อาจจะมีผลต่อสุขภาพคุณนะคะ...สบายใจเถอะคะ ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี” คุณหมอยิ้ม
   ผมเดินกลับมาที่ห้องไอซียู ด้วยอาการเบลอๆ สมองคิดอะไรไม่ออกเลยครับ นอกจากเป็นห่วงเป๊บมากๆ มาถึงที่ห้อง พ่อกับแม่ผมก็มาแล้ว
“เป็นไงบ้างลูก” แม่ผมถาม
“ไปบริจาคเลือดให้เป๊บมาครับแม่...ปกติดีครับ” สายตาทุกคนมองมาที่ผมด้วยความเป็นห่วง
“แล้วนี่ทานอะไรหรือยัง” พ่อผมถาม
“ไม่หิวครับพ่อ”
“ไม่ได้นะ ไปบริจาคเลือดมา ต้องทานเยอะๆ นะลูก” แด๊ดย้ำ
“ใช่ๆ งั้นมากินข้าวนี่เลยมา” พี่ปันดึงมือผมไปนั่งตรงโต๊ะทานข้าวด้านหลังห้องอีกส่วนนึง ผมเดินไปตามแรงดึงของพี่ปัน
   พี่ปันยกข้าวกล่องพร้อมขนมมากมายมาให้ผมที่โต๊ะ ผมเปิดกล่องข้าว ค่อยๆ กิน โดยไม่รับรู้รสชาติ พี่ปันลากเก้าอี้มานั่งตรงข้ามผม
“พี่เข้าใจน้องนะว่าห่วงไอ้เสือมัน...แต่ถ้าน้องหมดกำลังใจ...อาจจะส่งผลให้ร่างกายรับไม่ไหว ล้มป่วยไปอีกคน...น้องคิดว่าไอ้เสือมันจะดีใจหรือเสียใจ”
   ผมฉุกคิดตามคำพูดของพี่ปัน
“เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไปแล้ว ณ เวลานี้ ตอนนี้ เราจะต้องแก้ไขให้ดีที่สุด...การมีกำลังใจและความหวัง พี่ว่ามันสำคัญมากนะ”
   ผมยังคงนิ่งเงียบและคิดตามพี่ปัน
“พี่กับพี่ปริมดูแลไอ้เสือมาตั้งแต่เด็กๆ....พี่ก็รักมันมาก ไม่น้อยไปกว่าที่น้องรักมัน...แต่เราต้องมีสติ ศรัทธา และความหวัง เราต้องเข้มแข็งและเผชิญหน้าสู้กับมัน...พี่อยากให้น้องกลับมาเข้มแข็ง ไอ้เสือมันจะหายเป็นปกติแน่นอน”
   ผมตักข้าวเข้าปากไป ยังคงนั่งเงียบและคิดตามที่พี่ปันพูด
“สู้ๆ นะน้อง...” พี่ปันลุกขึ้น ปล่อยให้ผมนั่งคิดพิจารณาคนเดียว
   เป็นการทานข้าวกล่องที่ไร้รสชาติมากที่สุดในชีวิต ผมเคยได้ยินคนอื่นพูดกันว่า เมื่อเกิดความเสียใจมากๆ จะทานอะไรไม่ลง ผมมาเข้าใจก็วันนี้แหละครับ
   ทานข้าวเสร็จผมก็กลับมานั่งที่ข้างเตียง เหมือนเดิม ทุกๆ คน ก็ยังคงพูดคุยอะไรไปเรื่อยๆ ผมแทบไม่สนใจอะไรเลยครับ กลายเป็นคนเซื่องซึมไปโดยอัตโนมัติ
“โจ้ลูก...เฝ้าเป๊บไหวมั้ย...” แด๊ดถามขึ้นมา
“ไหวครับ...ทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนเถอะครับ...โจ้จะดูแลเป๊บเอง”
“เดี๋ยวพ่อกับแม่กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วจะกลับมาในช่วงค่ำนะลูก” แม่ผมบอก
“เดี๋ยวผมจัดเสื้อผ้าเอามาให้พี่ละกันนะ” ผมพยักหน้าให้จิม
   ทุกคนก็เดินออกจากห้องไป ผมนั่งเฝ้าเป๊บท่ามกลางความเงียบพร้อมกับเสียงอุปกรณ์ช่วยชีวิตดัง ปิ๊บๆๆๆ
   ผมลุกขึ้นยืนข้างเตียง โน้มตัวไปใกล้ๆ หูเป๊บ
“เป๊บ....อดทนนะ...สู้ๆ นะคับเป๊บ....อย่าทิ้งโจ้ไปนะ....เข้มแข็งนะคับ...ไม่ว่าเป๊บจะเป็นยังไง ขอให้ฟื้นมา....โจ้ดูแลเป๊บได้ตลอดชีวิต...ถ้าเป๊บได้ยินโจ้...ส่งสัญญานอะไรก็ได้นะ” หลังจากพูดจบ ผมเห็นเป๊บกระดิกนิ้ว (เหมือนละครเลยเนอะ ฮ่าๆๆๆ) รู้สึกดีใจ แสดงว่าเป๊บยังรับรู้ครับ
   ไม่ถึงห้านาที ก็มีเสียงเคาะประตู คุณหมอกับพยาบาลขออนุญาตเข้ามาฉีดยาควบคุมความดัน ผมบอกหมอไปว่า พูดข้างหูเป๊บ เป๊บตอบสนองด้วยการกระดิกนิ้ว หมอตอบมาว่า เป็นอาการรีเฟล็กของกล้ามเนื้อธรรมดา ผมก็ใจแป๊วไปนิดนึงครับ แต่ยังไงก็มีความหวังว่าเป๊บจะต้องหายเป็นปกติแน่นอน หลังจากฉีดยาเสร็จ ผมก็นั่งมองเป๊บท่ามกลางเสียง ปิ๊บๆๆๆ
   สักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ผมหันไปมอง คนที่มาเยี่ยม ฉัตร ทราย เบิด โอ๊ต ก็เดินเข้ามาในห้อง ฉัตรเห็นสีหน้าผม ก็รีบเดินเข้ามาหาทันที ไม่ต้องพูดอะไรมาก ไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำใด ผมเข้าโผกอดฉัตร พร้อมร้องไห้โฮเสียงดังชนิดที่ว่าไม่อายใคร ฉัตรกอดผมแน่นมากๆ
“ใจเย็นๆ นะเมิง....อดทน..เข้มแข็งไว้...” ฉัตรกอดแน่นพยายามปลอบผม ส่วนทรายต่อมน้ำแตกไปด้วยครับ
“ไอ้เป๊บเอ้ย...มันเวรกรรมอะไรนักหนาขนาดนี้วะเนี่ย” เบิดจับแขนเป๊บที่มีผ้าพันแผล พร้อมบ่น
“เมิงอย่าทิ้งไอ้โจ้มันนะเว้ย...อดทนนะเพื่อน” โอ๊ตกระซิบข้างหูเป๊บ
“แล้วนี่อาการไอ้เป๊บเป็นไงบ้างวะ” ฉัตรถามผมหลังจากหายอาการสะอื้น
“หมอบอกว่า อาการยังโคม่า เฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง ม่านตาตอบสนองต่อแสงน้อย อาการสมองบวมดีขึ้น ระบบความดันไม่คงที่แต่ก่อนหน้าที่พวกเมิงจะกรูก็ไปบริจาคเลือดมา สักพักพยาบาลก็มาฉีดยาควบคุมให้แล้ว ส่วนอาการบอบช้ำภายในหมอคาดว่า อาจจะยังมีเลือดซึม”
“โห....เยอะเหมือนกันนะเมิง...แต่เอาน่า...ไอ้เป๊บมันแข็งแรง..มันไม่ทิ้งเมิงไปหรอก” ฉัตรปลอบ
“ถ้าเป๊บเป็นอะไรไป...กรูอยู่ไม่ได้หรอกเมิง...”
“ไม่เอาอย่าพูดแบบนั้น....ท่ามกลางความมืดมิดมันยังมีแสงสว่างนะเมิง...ถ้าเรามีสติ...จะเห็นแสงสว่างนั้นแน่นอน” ฉัตรปลอบผม
“ขอบคุณมากนะฉัตร....ขอบคุณทุกคนเลยนะที่มาเยี่ยมเป๊บ”
“เอ้ยเมิง...เพื่อนกันทั้งนั้น ไม่มาก็เลวละวะ” เบิดแซว
“แล้วนี่เมิงกินไรยัง” ฉัตรถาม
“กินข้าวที่พี่ปันซื้อมาแล้ว” ผมตอบเสียงเรียบๆ
“เออดีแล้วไปบริจาคเลือดมาก็กินเยอะๆ จะได้มีแรง....เมิงต้องดูแลตัวเองให้มากๆ นะ ล้มป่วยไปอีกคนลำบากแย่”
“ขอบใจเมิงมากนะที่เป็นห่วง”
“ว่าแต่ ไอ้เป๊บมันเลือดกรุ๊ปเดียวกับเมิงหรือ” เบิดถาม
“เออ กรุ๊ปบีเหมือนกรูอะ”
   ผมนั่งมองเป๊บไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ ก็พูดปลอบใจผม แต่ก็ไม่ค่อยได้ฟังจับใจความเท่าไหร่คับ ประมาณสักสิบนาที ก็มีเสียง ติ๊ดๆๆๆๆ ปิ๊ปๆๆๆ เครื่องอะไรสักอย่างส่งเสียงร้องพร้อมหน้าจอเปลี่ยนเป็นสีแดง ผมตกใจมาก
“เฮ้ย...เกิดอะไรขึ้นวะ” เบิดอุทานออกมา เพื่อนๆ คนอื่นก็งงไปตามๆ กัน
   สิ้นเสียงเบิด เหมือนร่างกายเป๊บสั่นๆ ผมตกใจมากๆ
“เฮ้ยย...ไอ้เป๊บเป็นอะไร ทำไมมันสั่น”
“เป๊บๆๆ....เป็นอะไรอะ...เป๊บๆๆๆ” ผมตกใจลนลานทำอะไรไม่ถูก
“ไอ้โอ๊ต...เมิงไปวิ่งตามหมอมา” ฉัตรสั่งโอ๊ต โอ๊ตรีบวิ่งออกไปเร็วมาก ส่วนทรายเหมือนมีสติมากกว่าใครๆ รีบกดปุ่มเรียกพยาบาลตรงหัวเตียง
   ไม่ถึงนาที หมอกับพยาบาลวิ่งเข้ามาในห้อง
“ขอเชิญญาติผู้ป่วยออกไปรอด้านนอกก่อนนะคะ” พยาบาลรีบกันพวกผมออกไปนอกห้อง ตอนนั้นผมน้ำตาไหลแล้วครับ พวกเราออกมายืนนอกห้อง
“ฮือๆๆๆๆ....” ผมร้องไห้แบบไม่อายใคร ฉัตรได้แต่กอดปลอบใจ
“ไม่เอาน่าเมิง...อย่าร้องๆๆ...หมอกำลังช่วยอยู่...ใจเย็นๆๆ”
   ฉัตรกอดผมแน่นมาก เพื่อนคนอื่นๆ ก็หน้าเสียไปตามๆ กัน
“กรูไม่ไหวแล้วฉัตร....เป๊บคงทรมานมาก...ให้กรูเป็นแทนดีกว่า....ฮือๆๆๆ”
“เมิงอย่าคิดแบบนั้น...ตอนเมิงเป็นหนักเมื่อปีที่แล้ว...ไอ้เป๊บมันก็จะตายให้ได้...แทนที่เมิงจะมาคร่ำครวญแบบนี้...เมิงน่าจะตั้งสตินะอีโจ้....”
“ฮือๆๆๆๆ”
   หมอกับพยาบาลเดินออกมาจากห้อง ผมรีบพุ่งเข้าไปถาม
“คุณหมอครับ....เป๊บเป็นยังไงบ้างงงงง”
“ปลอดภัยแล้วครับ...คนไข้กำลังจะหัวใจวาย...โชคดีมากๆ ที่เข้ามาทันเวลาพอดี ไม่งั้นคงแย่แน่เลยครับ”
   ผมกับเพื่อนๆ อึ้ง ตกใจ ถึงขั้นหัวใจวายเลยหรือ
“คุณหมอ หัวใจวายเพราะอะไรครับ แล้วจะมีโอกาสเกิดขึ้นอีกมั้ย” ผมถามด้วยอารมณ์ร้อนใจ
“หมอก็ยังหาคำตอบไม่ได้นะครับ แต่เท่าที่สังเกตน่าจะมีเลือดซึมในก้านสมอง จนไปเบียดระบบประสาทอัตโนมัติ เดี๋ยวยังไงหมอจะนำตัวผู้ป่วยไปสแกนสมองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ....ส่วนจะเกิดขึ้นอีกมั้ย ก็มีโอกาสครับ เพราะยังไม่พ้นอาการโคม่า...แต่สบายใจได้นะครับ หมอจะช่วยอย่างสุดความสามารถ....ขอตัวก่อนนะครับ”
“ครับ...ขอบคุณครับ” หมอกับพยาบาลก็เดินไป ผมทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะพูดหรือเอ่ยอะไรออกมาดี
“ใจเย็นๆ เมิง .... หมอพยายามช่วยอยู่....”
“เอ่อคุณคะ....ไม่ทราบว่าสร้อยข้อมือนี่ของใครคะ” พยาบาลที่เดินออกไปกับหมอเดินวกกลับมาหาพวกผมอีก
“ของหนูเองคะ...” ทรายรีบตอบ
“เมื่อกี้เจอตกที่พื้นในห้องผู้ป่วยนะคะ” พยาบาลส่งคืนให้
“ขอบคุณมากคะ”
   ผมได้ยินคำว่า สร้อย เลยนึกถึง สร้อยที่พระอาจารย์มอบให้
“คุณพยาบาลครับ...ตอนที่ผู้ป่วยส่งตัวมาที่นี่ ไม่ทราบว่าสร้อยคออยู่ไหนครับ” ผมถามพยาบาล
“อ๋อ..สร้อยพระนะหรือคะ พอดีส่งคืนให้ทางญาติผู้ป่วยแล้ว แต่ทางญาติแจ้งว่า ให้ทางโรงพยาบาลเก็บไว้ก่อน คงจะวุ่นๆ กับเรื่องการรักษานะคะ ตอนนี้สร้อยอยู่ในเซฟ จะรับคืนเลยมั้ยคะ จะได้ไปเอามาให้”
“ได้ครับๆ รบกวนด้วยครับ” พยาบาลรับคำก็เดินไปเอาสร้อยพระ
   ไม่นานนักพยาบาลก็เดินกลับมาที่ห้อง พร้อมนำสร้อยพระมาให้ ผมรับไว้พร้อมกล่าวขอบคุณ หลังจากพยาบาลออกจากห้องไป ผมกุมสร้อยพระแล้วจั้งจิตอฐิษฐานในใจ
“หลวงปู่ทวดครับ หลวงตาครับ ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้ผมรู้สึกแย่มากๆ มีคนบอกว่า ผมทำบุญมาเยอะ....หลวงปู่ทวดครับ หลวงตาครับ ผมขอตั้งอฐิษฐานให้ผลบุญที่ผมได้ทำมาทุกภพชาติ ช่วยเหลือเป๊บ ซึ่งเป็นคนที่ผมรักมาก ให้รอดปลอดภัยกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมนะครับ...สาธุ”
   อฐิษฐานเสร็จ ผมก็เอาสร้อยไปคล้องคอเป๊บ สิ่งที่น่าอัศจรรย์เกิดขึ้นก็คือ หน้าจอมอนิเตอร์ที่แสดงผลการทำงานต่างของร่างกายเป๊บ ไม่มีตัวสีแดง กลายเป็นตัวสีเขียวแทน พร้อมกับ ร่างกายของเป๊บดูไม่เกร็ง ผ่อนคลาย จนเพื่อนๆ ที่อยู่ในห้องต่างก็ประหลาดใจไปตามๆ กัน
“เฮ้ย...อะไรวะ ทำไมหลังจากเมิงใส่สร้อยให้เป๊บแล้วมันดูดีขึ้น” โอ๊ตตกใจถามขึ้นมา
“นั่นดิๆ พระอะไรวะเมิง” เบิดถาม
“หลวงปู่ทวด พระอาจารย์ที่นับถือบอกว่าเป๊บจะมีเคราะห์ เลยให้มาพกติดตัวไว้” ผมตอบเบิดไป
“ศักดิ์สิทธิ์มากๆ อะเมิง เหลือเชื่อวะแบบนี้ไอ้เป๊บมันหายแน่ๆ” ฉัตรพูดให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น
“กรูก็หวังเช่นนั้น ขอบใจมากนะเมิง”
   พวกเพื่อนๆ ก็พูดวิจารณ์พระเครื่องไปเรื่อยครับ ผมเองก็ฟังบ้างไม่ได้ฟังบ้าง จนกระทั่งสมควรแก่เวลา เพื่อนๆ ก็เดินทางกลับ
   ผมก็ยังคงนั่งเฝ้าเป๊บอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเผลอฟุบหลับข้างเตียงเป๊บ มารู้ตัวอีกทีก็มีเสียงข้อความโทรศัพท์ดังขึ้นมา ผมกดอ่าน ฉัตร ส่งข้อความมา “ อีโจ้ กรู เบิด โอ๊ต ไปบริจาคเลือดให้ไอ้เป๊บมาแล้วนะ ไม่น่าเชื่อกรุ๊ปบีเหมือนกันเลยวะ ส่วนอีทรายมันเลือดกรุ๊ปเอ มันก็อยากจะบริจาค กรูเลยด่ามันว่าจะบริจาคหาสวรรค์วิมานหอกอะไร มันเลยโวยวายใหญ่ ฮ่าๆๆ ยังไงเมิงสู้ๆ นะ มีอะไรโทรจิกกรูได้” ผมซึ้งใจกับเพื่อนๆ มากครับ อุตส่าไปบริจาคเลือด เลยพิมพ์ข้อความตอบกลับไปว่า ขอบคุณมากๆ จนกระทั่งประมาณสัก สี่โมงเย็น พยาบาลก็เดินเข้ามาถาม
 “คุณคะๆ.....มีพระคุณเจ้ามาเยี่ยมคะ”
“หา...ใครหรือครับ”
“มีพระคุณเจ้ามาเยี่ยมผู้ป่วยนะคะ...จะได้นิมนต์ท่านมาเลยมั้ยคะ”
“หา...เอ...พระ...หรือครับ.....ได้ครับๆ” ผมยังงงๆ พระที่ไหนมา แล้วผมไปรู้จักได้ยังไง แต่ก็บอกให้พยาบาลนิมนต์ท่านมาครับ
   พยาบาลเดินออกไปนิมนต์พระ ประมาณนาทีนึง พยาบาลก็เดินนำพระเข้ามาในห้อง ผมตกใจมาก พระอาจารย์อุดม ท่านมาเยี่ยมเป๊บครับ
“พระอาจารย์....กราบนมัสการครับ” ผมเดินเข้าไปหาท่าน พร้อมคุกเข่าก้มลงกราบ
“เจริญพร....เป็นยังไงบ้างโยม”
   เคยได้ยินมั้ยครับว่า เวลาคนเราหมดหวังในชีวิตหรือเจอเรื่องเสียใจมากๆ ทุกๆ อย่างรอบตัวมันดูแย่ไปเสียหมด เมื่อเราเจอสภาวะนั้น ก็จะไขว่คว้าหาที่พึ่ง เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
“โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ.....ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ผมโผเข้ากอดที่ขาของพระอาจารย์ ร้องไห้เสียงดังมาก ด้วยความดีใจ เสียใจ ที่ปะปนกัน
“ร้องไห้ให้เต็มที่เถอะโยม....เมื่อเต็มที่กับมันแล้ว...ขอให้โยมได้ตั้งสติ...พิจารณาถึงความไม่จีรัง...แล้วจะเจอแสงสว่างในการแก้ไขปัญหานั้น” พระอาจารย์เอามือมาลูบศรีษะผม พร้อมสอนด้วยน้ำเสียงที่มีความเมตตามากครับ
   ผมร้องไห้จนเสียงแหบแห้ง จนเริ่มตั้งสติได้ เช็ดน้ำตา ก็เอ่ยถามพระอาจารย์
“พระอาจารย์ทราบได้ยังไงครับ” ผมถามในขณะที่ถวายน้ำปาณะ
“เป็นเรื่องบังเอิญมากนะโยม โยมที่เคยมาช่วยงานวัด เค้าเดินทางมาพบหมอที่โรงพยาบาลนี้ในตอนเช้า พบหมอเสร็จกำลังจะเดินทางกลับราวๆ 11 โมง ก็เห็นโยม(หมายถึงผม) วิ่งเข้ามาในโรงพยาบาล ไปถามอะไรสักอย่างที่โต๊ะประชาสัมพันธ์ แล้ววิ่งขึ้นชั้นบนไป โยมเค้าจำได้ว่าโยมเคยไปที่วัดบ่อยๆ เลยเดินไปถามที่โต๊ะ จึงได้รู้ว่ามาเยี่ยมเพื่อนที่ประสบอุบัติเหตุ จนกระทั่งราวๆ บ่ายโมงโยมคนนั้นกลับมาแวะเยี่ยมพระอาจารย์ที่วัด เค้าก็เอ่ยว่า เจอโยมที่โรงพยาบาล จนเดาได้ว่าน่าจะเกิดเรื่องไม่ดี จึงเดินทางมาเยี่ยมนี่แหละ” โลกเรากลมมากๆ นะครับ อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น
“ขอบพระคุณมากครับพระอาจารย์....” ผมยกมือไหว้
“โยมเป๊บอาการเป็นยังไงบ้าง”
“คณะแพทย์บอกว่า อาการยังโคม่าครับ ม่านตาไม่ตอบสนองต่อแสง ถ้าภายใน 24 ชั่มโมง ยังไม่พ้นอาการโคม่า จะต้องวินิจฉัยการรักษาด้วยวิธีอื่นครับ” ผมตอบด้วยอารมณ์เศร้า
“สุดท้ายแล้ว...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมนะโยม...ไม่ว่าพยายามแก้ไขมากเท่าไหร่ อะไรจะเกิดมันก็จะต้องเกิด”
“ครับพระอาจารย์...ผมเองก็ยังคงทำใจไม่ได้ครับ”
“ตั้งสตินะโยม....มีสติ จะเกิดปัญญา แล้วโยมจะเจอวิธีการแก้ไขปัญหา”
   ผมคุยกับพระอาจารย์สักพักใหญ่ ส่วนมากท่านจะปลอบผมมากกว่าครับ จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังสามครั้ง แด๊ด มัม พี่ปริม พี่ปัน  จิม มาครบทีมเลยครับ เดินเข้ามาเจอพระอาจารย์ทุกคนก็ทำหน้างงปนตกใจนิดๆ
“ทุกคนครับ....พระอาจารย์อุดมที่ผมเคยเล่ามาเยี่ยมเป๊บครับ”
   ทุกคนยกมือไหว้พระอาจารย์


ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
“เจริญพรโยมทุกคน....”
“รู้สึกดีที่พระคุณเจ้ามาเยี่ยมเจ้าเป๊บครับ....ห้องอาจจะไม่เป็นสัดเป็นส่วนเท่าไหร่ เพราะแพทย์ไม่อนุญาตให้แยกห้องครับ” แด๊ดพูด
“ไม่เป็นไรหรอกโยม อาตมาเองก็กำลังจะกลับแล้ว”
“ทำไมรีบกลับละครับ นิมนต์ฉัตน้ำปาณะก่อนครับ” แด๊ดท้วง
“อาตมามานานแล้วละโยม ส่วนน้ำปาณะ โยมโจ้ได้ถวายแล้ว”
“พระคุณเจ้าเดินทางมายังไงครับ”
“ติดรถโยมเค้ามาลงที่โรงพยาบาลนี่แหละ...”
“งั้นเดี๋ยวผมให้ลูกน้องไปส่งนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกโยม เดี๋ยวเดินทางกลับรถประจำทางได้”
“ไม่เป็นไรครับ ให้ลูกน้องผมไปส่งสะดวกกว่า...ปล่อยให้พระคุณเจ้าเดินทางกลับเอง ผมบาปแน่ๆ”
“โยมจิตใจดี ไม่น่าแปลกที่ลูกชายของโยมจะเป็นคนดี” พระอาจารย์กล่าวยิ้มๆ
   พระอาจารย์ลุกขึ้น เดินไปที่เตียง ยืนมองเป๊บด้วยสายตาแห่งความเมตตา สักแป๊บนึง พระอาจารย์หยิบลูกประคำในย่าม กำไว้ในมือพร้อมหลับตาบริกรรมคาถา หลังจากนั้นก็เอาลูกประคำไปแปะไว้ที่หน้าผากเป๊บ พร้อมกล่าวว่า
“พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา ด้วยความดีที่โยมได้ประกอบมาทุกภพชาติ รวมถึงอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด และ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ขออำนวยพรให้โยมมีชีวิตใหม่เป็นปกติ หายจากอาการบาดเจ็บในเร็ววัน มีความสุขตลอดกาลนาน....เทอญ”
   สิ้นเสียงพระอาจารย์ ราวกับว่า มีลมพัดอ่อนๆ เข้ามาในห้อง ทุกคนต่างรับรู้ได้ และตกใจมากว่า ลมนั่นมาจากไหน เพราะเป็นห้องปรับอากาศ ไม่ได้เปิดประตูหน้าต่างครับ
“โยม....คนเราทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง...อยู่ที่ว่าบุญที่ทำมานั้นจะช่วยทุเลาได้มากน้อยแค่ไหน...อาตมาได้ช่วยสุดความสามารถแล้ว...ที่เหลือก็เป็นบุญของโยมเป๊บนะ”
“ขอบพระคุณมากครับพระคุณเจ้า....หากลูกชายผมหายดีแล้ว ผมจะไม่ลืมพระคุณเลยตลอดชีวิต” แด๊ดก้มกราบพระอาจารย์
“เจริญพรนะโยม แต่อย่าคิดเป็นว่าบุญคุณเลยนะ อาตมาทำตามคำสัญญา สุดท้ายแล้วก็แต่บุญโยมเป๊บนะ.....อาตมาขอตัวกลับวัดนะ”
“กราบนมัสการลาครับ” ทุกคนในห้องก้มกราบอย่างพร้อมเพรียง
“เจริญพรๆ” แด๊ด มัม เดินตามออกไปส่งพระอาจารย์
   ในห้องก็เหลือ พ่อ แม่ จิม พี่ปัน พี่ปริม
“โหหหหห....สะใภ้เหล็กๆ พระท่านมีคาถาอาคมด้วย สุดยอดๆ” พี่ปันตื่นเต้นใหญ่
“นั่นดิพี่...ผมนึกว่าพระธรรมดาทั่วๆไป” จิมตื่นเต้นตาม
“เอ...แล้วอะไรทำให้คิดว่ามีคาถาอะ” ผมถาม
“ก็ลมพัดไง” พี่ปันพูด
“เอ้ยไอ้ปัน ลมแอร์หรือเปล่า” พี่ปริมถาม
“โถ่พี่ปริม...พี่เองก็รู้ว่ามีลมพัด จะเป็นแอร์ได้ไงพี่ ห้องปิดขนาดนี้ แล้วแอร์ก็ไม่ได้ลมแรงขนาดนั้น”
“เออจริง..พี่นึกไปว่า รู้สึกลมพัดอยู่คนเดียว นี่แสดงว่าทุกคนรู้สึกเหมือนกันว่าลมพัด”
   ทุกคนต่างก็พยักหน้า ผมเองก็รู้สึกครับ สักพัก แด๊ด กับ มัม กลับเข้ามา พร้อมมีแพทย์กับพยาบาล เดินตามเข้ามาตรวจร่างกายเป๊บรอบเย็นครับ
   คุณหมอตรวจร่างกาย ตามปกติ จนกระทั่งเสร็จ
“คุณหมอครับ ลูกผมอาการเป็นยังไงบ้าง” แด๊ดถาม
“เอ่อ....คือ หมอเองก็แปลกใจ อาการผู้ป่วยดีขึ้นนะครับ ม่านตาตอบสนองต่อแสงมากขึ้นในระดับที่น่าพอใจ ระบบการเต้นของหัวใจ ความดัน ระบบเลือด โดยรวมดีขึ้น แตกต่างอย่างมากเมื่อเทียบกับช่วงบ่าย....ถ้าผู้ป่วยอาการดีขึ้นแบบนี้ หมอคิดว่าน่าจะพ้นอาการโคม่าก่อนครบ 24 ชั่วโมงแน่นอนครับ”
“จริงหรือคะ” มัมอุทานด้วยความดีใจ
   ทุกๆคน รวมผม รู้สึกดีใจมากๆ ที่เป๊บอาการดีขึ้น จนกระทั่งหมอขอตัวออกจากห้องไป ทุกคนก็นั่งเฝ้าไปตามประสาครับ ผมก็ขอตัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะคืนนี้จะนอนเฝ้าเป๊บ จัดการตัวเองเสร็จสรรพ กลับมาถึงห้อง พ่อกับแม่ก็มาเยี่ยมเป๊บ พร้อมอาหารกับข้าวเยอะแยะเลยครับ ผมก็พยายามทานอาหารให้มากๆ กันตัวเองล้มป่วยไปอีกคน จนกระทั่งเวลาประมาณ 2 ทุ่ม หมดเวลาเยี่ยมทุกคนก็เดินทางกลับ ผมก็นอนดูทีวีไป เฝ้าเป๊บไป ในช่วงสี่ทุ่ม คุณหมอกับพยาบาลก็มาตรวจอาการอีกครั้ง โดยภาพรวมอาการดีขึ้นพอสมควรครับ
   เช้าวันรุ่งขึ้น ผมตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันตามปกติ คุณหมอกับพยาบาลก็มาตรวจ ทุกๆ คนรวมถึงเพื่อนๆ  ก็มาเยี่ยมเหมือนเดิม ผมก็เริ่มรู้สึกดีมากขึ้น เพราะเป๊บพ้นอาการโคม่าแล้วครับ
   
   แต่ในคืนที่สอง อาการของเป๊บกลับมาทรุดเหมือนเดิมอีก ทำให้ผมแทบใจสลายอีกครั้ง


เป๊บ : ที่รัก พรุ่งนี้วันอะไรอะ.... :hao4:

โจ้ : วันจันทร์ เป็นวันแม่ไงเป๊บ  :hao3:

เป๊บ : อยากเป็นแม่เปล่าละ  :ruready

โจ้ : อยากๆ เป็นแม่จะได้สอนให้ลูกเป็นคนดีอ่า  :mew3:

เป๊บ : งั้นมานี่ !!!! มาทำลูกกันนนนนน  :hao6:

โจ้ : แว๊กกกก เดี๋ยวววว....คนละความหมายแล้ววววววว  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด