สวัสดีคร้าบบบบ FC ทุกท่าน เป็นยังไงกันบ้างครับ สบายกันดีหรือเปล่า ฮิ้วววววว ฮ่าๆๆๆ ก่อนอื่นต้องขอโทษที่หายไปหลายวัน ติดภารกิจพร้อมกับแอบไปอ่านเรื่องของพี่หมอไม้กับพี่หมอติ๊บมาอะคร้าบบ ชอบมากๆ เลยอะ น่ารักสุดๆ อิอิ ดังนั้นอาจจะมีการเลียนแบบคำเหมือนบางคำนะคร้าบบบ (ขออนุญาตพี่หมอไม้กับพี่หมอติ๊บยืมมาใช้คร้าบบบ) สำหรับตอนนี้ก็เป็นเรื่องราวเบาๆ ลองติดตามอ่านครับผมมมม

tawan : มาต่อให้แล้วคร้าบบบ
เฉาก๊วย : ขอบคุณคร้าบบบบ
POPEA : ฮ่าๆๆ เป๊บหื่นมากๆ ปัจจุบันนี้ก็ยังหื่น แต่ไม่บ่อยแล้วละ แก่แล้วววว คิคิ
ChiOln : ใช่ค้าบบบ ด่าเป๊บเลยอะ หึงให้มันน้อยๆๆ เซ่
maruko : โหถึงขั้นวิ่งรอบบ้านเลยหรือ ระวังล้มน้าค้าบบ เด๋วจะบอกให้พี่เป๊บหึงแบบหน้าสว่างละกันนะ เป๊บไม่ได้ตรวจหรอกค้าบบ เผื่อเข้ามาอ่านจะได้ดีใจที่ชมว่าหล่อ อิอิ
gookgik : ฮ่าๆๆ ก็พี่ปริมหล่อจริงอะครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคร้าบบบ
anukul : ใช่ค้าบบบใจแข็งมากๆ อย่างอื่นก็แข็งนะ ฮ่าๆๆๆ
aofaof : โหยยยย รายนั้นไม่เบาหรอกค้าบ พอหื่นได้ทีละเต็มกำลัง เจ็บตัวตลอดเลยอะ
● MaYa~Boy ● : ขอบคุณคร้าบบบบ

หมูกระต่าย : ฮ่าๆๆ กรรมมาเร็วจี๋เลยคร้าบบบ มาต่อให้แล้วคร้าบบบ
malula : ฮ่าๆๆ ไม่รุนแรงแล้ว แต่หื่นหนักกว่าเดิมอะ
bud-sob : ขอบคุณคร้าบบบบ จุ๊บๆๆ
bbyuqin : ง้อน่ารักมากๆ ครับ ขอบคุณคร้าบบบ
naiyana : ขอบคุณคร้าบบพี่คร้าบบบ
ao16 : ใช่ครับ หื่นตลอดเลยอะ อิอิ
pinkky_kiku : ขอบคุณคร้าบบบ
Sabaijai : ขอบคุณคร้าบบบ อย่าลืมติดตามอ่านเรื่อยๆ น้า
lovelypolly : เข็ดนานเลยค้าบบบ หื่นมากๆ เลยอะ
8X : มาต่อให้แล้วคร้าบบพี่คร้าบบบบ
Chapter 33 วันแห่งครอบครัว เปิดตัวพี่สะใภ้
หลังจากที่ผมกับเป๊บคืนดีกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การใช้ชีวิตของเราสองคนก็ปกติดีครับ ไปกินข้าว ดูหนัง เที่ยวตามประสาไปเรื่อย จนก่อนวันเปิดเทอมใหม่ ประมาณ 4 วัน เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดูหน้าจอโชว์ชื่อเป๊บ ผมรีบกดรับสายทันทีครับ
“ค้าบเป๊บ”
“ที่รักคร้าบ....ทำอะไรอยู่”
“อ๋อ.ก็จัดห้องไปเรื่อยละค้าบ อีกไม่กี่วันเปิดเรียนแล้วอะ กะให้ห้องโล่งๆ”
“อ้าว..นึกว่าจะตอบว่า คิดถึงเป๊บ อยู่ ว้าไม่โรแมนติกเลย”
“โหยยย..ใครจะตอบแบบนั้น..แบร่ๆ ใครจะไปคิดถึง..ฮ่าๆๆ”
“อะไรกันอะ..น่าน้อยใจนัก...” เป๊บต่อว่าทำเสียงเศร้าๆ ครับ
“ฮ่าๆๆ...ล้อเล่นค้าบเป๊บ สำหรับเป๊บมากกว่าคำว่าคิดถึงแล้ว เพราะเป๊บอยู่ในใจโจ้เสมออะ” ฮิ้วววว....เขินนนนน ว๊ากกกกก
“จริงอะ....เป๊บก็เหมือนกันครับ...” เขินทั้งคู่เลยนะเนี่ย
“แล้วนี่เป๊บโทรมามีอะไรหรือเปล่าครับ” ผมถามเป๊บไปเพราะช่วงเวลานี้เป๊บจะไม่ค่อยโทรมาครับ
“อ๋อๆๆ คือ เย็นนี้ที่บ้านเป๊บจะจัดงานเลี้ยงนะครับ เนื่องในโอกาสทั้งบ้านว่างพร้อมกันในรอบสองเดือน...อยากชวนโจ้กับที่บ้านมาด้วยนะครับ”
ผมฟังที่เป๊บพูด พลางสงสัยว่า มีงานเลี้ยงแบบนั้นด้วยหรือเนี่ย ฮ่าๆๆ แต่ก็นะน้ำเสียงเป๊บดูดีใจเป็นพิเศษที่ทุกคนในครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตากันนะครับ
“ได้คร้าบเป๊บ..เดี๋ยวโจ้จะถามพ่อแม่และจิมให้นะ งานเริ่มกี่โมงครับ”
“บ่ายสามครับที่รัก มีปาร์ตี้เล็กๆ ของกินเพียบ ชวนมาให้ได้นะครับ”
“ครับๆๆ บ่ายสามเจอกันนะ”
“ต้องมาให้ได้นะ พ่อกับแม่เป๊บอยากเจอบ้านโจ้ทั้งหมดเลยนะ”
“คร้าบบบบบ”
“คิดถึง...รักนะที่รัก..จุ๊บๆๆ” เป๊บบอกรักทำเสียงจุ๊บๆ ผมละเขินจริงๆ เล้ย
“ค้าบบบ...จุ๊บๆๆ” ผมก็เล่นด้วยละ ฮิ้วววววว ฮ่าๆๆๆ
วางสายเป๊บผมก็เดินลงไปด้านล่างเพื่อถามพ่อกับแม่และจิมครับ เป็นความโชคดีมากๆ ที่ทั้งสามคนว่างพอดีและตกลงไปร่วมงานบ้านเป๊บครับ
ทางครอบครัวบ้านของผมเดินทางในเวลาประมาณบ่ายสองครับ ด้วยการจราจรที่พอคล่องตัวบ้างก็ถึงบ้านเป๊บประมาณบ่ายสามพอดี สำหรับบ้านเป๊บผมมาบ่อยจนคุ้นเคย แต่เป็นสิ่งที่สร้างความตื่นเต้นให้กับพ่อแม่และจิมมากเพราะเป็นการมาครั้งแรกครับ
“โอ้โหวววว...พี่ๆๆ บ้านพี่เป๊บใหญ่เว่อร์อะ” เจ้าจิมอุทานมาด้วยความตกใจเมื่อรถเลี้ยวเข้าประตูบ้านเป๊บครับ
“เกินไปแล้วจิม...แต่ก็นะพี่ยังเดินไม่ทั่วเลย” ผมตอบจิมครับ
“แล้วนี่ทางบ้านเป๊บเค้าอยู่กันกี่คนละลูก” พ่อผมถามครับ
“รวมจริงๆ 5 คนครับพ่อ มี พ่อ แม่ พี่ปริม พี่ปัน แล้วก็เป๊บ แต่โดยส่วนมากจะกระจายไปทำงานกันหมด เป๊บอยู่คนเดียวกับแม่นมป้าจันทร์และแม่บ้านเป็นส่วนใหญ่ครับ”
“นั่นซิ มิน่าละลูกเป๊บดูแววตาเศร้าๆ บางทีคงเหงาที่อยู่คนเดียวบ่อยๆ” แม่ผมเปรยขึ้นมาครับ
คำพูดที่แม่ผมเปรยออกมา ผมเห็นด้วยเลยนะครับ เอ...แต่ความรู้สึกผมนะ เป๊บดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากๆ ตั้งแต่มาเป็นแฟนผมอะครับ อิอิ
รถของครอบครัวผมมาจอดบริเวณทางขึ้นบ้านเป๊บ โดยมีครอบครัวเป๊บออกมาต้อนรับครับ ลงจากรถก็ไหว้ทักทายกันเป็นการใหญ่ ถามนั่นถามนี่ โดยเฉพาะคุณพ่อเป๊บถึงกับเดินมากอดผมทีนึงด้วยละ ฮ่าๆๆๆ กลายเป็นลูกรักไปแล้ว ส่วนแววตาเป๊บไม่ต้องพูดเลยครับ ดูมีความสุขมากๆๆ พวกเราทั้งหมดก็เดินเข้าบ้านกันครับ แยกย้ายกันไปคนละมุมเลยอะ บรรดาคุณพ่อคุณแม่ก็นั่งเม้าๆ กัน จิมก็ไปตีซี้กับพี่ปริม พี่ปัน เดินไปดูทั่วบ้าน ผมก็เดินแยกเข้าไปในครับ เผื่อว่าจะมีอะไรช่วยป้าจันทร์ได้บ้างครับ
“อ้าวคุณโจ้ สวัสดีคะ อยากได้อะไรหรือคะ” ผมยกมือไหว้ ป้าจันทร์ก็ทักทายถามผมครับ
“ไม่ครับป้า พอดีเข้ามาดูเผื่อช่วยป้าเตรียมอาหารครับ” ผมยิ้มตอบป้าจันทร์ไป
“อุ้ย..ไม่ต้องขนาดนั้นหรอกคะ วันนี้คุณท่านสั่งอาหารทั้งหมดมาจากโรงแรมคะ มีพนักงานบริการครบเรียบร้อย คุณโจ้สบายๆ ได้เลยคะ”
“ครับๆๆ”
คุยกับป้าจันทร์เสร็จผมก็เดินกลับออกมาจากห้องครัว
“หมับ...ที่รักหายไปไหนมา เป๊บเดินตามทั่วเลยครับ” เป๊บคว้าเอวผมไปกอดพร้อมหอมแก้มฟอดใหญ่
“ไปในครัวมาค้าบบ เผื่อว่าจะช่วยป้าจันทร์เตรียมอาหาร แต่พอดีเห็นป้าบอกว่าสั่งอาหารมาจากโรงแรมครับ”
“อ๋อ..ที่รักนี่ใจดีจังเลยนะ จริงๆ พ่อกับแม่เห็นใจป้าจันทร์กับแม่บ้านนะครับ ทำอาหารเลี้ยงมันจะเหนื่อยมากเลยสั่งมาจากโรงแรมแทนครับ”
“ค้าบบบบ..”
“ที่รักไปว่ายน้ำกันมั้ย...พี่ปริมกับพี่ปันก็ว่ายน้ำด้วยนะว่าจะเล่นโปโลกันครับ”
“อ้าว..ไม่รู้ว่าจะว่ายน้ำกันนี่น่าโจ้ไม่ได้เอากางเกงว่ายน้ำมาอะ”
“กางเกงว่ายน้ำอยู่ห้องเป๊บครับ วันก่อนโจ้ไม่ได้เอากระเป๋าใบเล็กกลับไป เป๊บเห็นมีพวกเสื้อผ้าเปียกเลยให้แม่บ้านจัดการซักให้เรียบร้อยแล้ว
“อ้าวจริงอะ...ตายละลืมกระเป๋าใบนั้นสนิทเลยอะ”
“ฮ่าๆๆๆ..ยังไม่ทันแก่ก็ขี้ลืมแล้วววว” เป๊บแซวผมครับ
“แอะ..อะไรอะ..โจ้แก่แล้วยังจะรักปะละ” ผมแหย่เป๊บกลับครับ
“รักคร้าบบบบ...รักที่สุดเลยนะ...จะรักจนกว่าเป๊บจะตายเลย” เป๊บหอมแก้มผมฟอดใหญ่
“อย่าพูดเรื่องตายซิ..ไม่เอาอะ...ไปว่ายน้ำกันดีกว่าเป๊บ”
ผมวิ่งขึ้นไปห้องเป๊บเพื่อเปลี่ยนเป็นกางเกงว่ายน้ำครับ เปลี่ยนเสร็จเรียบร้อยก็วิ่งไปที่สระน้ำอยู่หลังบ้านใหญ่ ต้องตกตะลึงกับบรรยากาศงานปาร์ตี้ริมสระน้ำ อาหารน่ากินทั้งนั้นเลยละครับ มีลูกโป่ง ซุ้ม ดูสวยงามอะ นี่ถ้าเป็นงานปาร์ตี้ใหญ่จะขนาดไหนเนี่ยยยย
ตกตะลึงรอบที่สอง เพราะทั้งสามพี่น้องอยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำ โหวววววว พี่ปริมในชุดว่ายน้ำสีน้ำเงิน ตัดกับผิวขาวเรียบเนียนซิกแพค (น้ำหมากไหลลลล) พี่ปัน อยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำสีเทา ผิวสีแทนน้ำผึ้งเนื้อละเอียดเนียนซิกแพคไร้ไขมัน (น้ำลายไหลลลล) เป๊บ อยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำสีขาว ผิวขาวเนียนซิกแพค มีไรขนอ่อนๆ ลงไปในกางเกงว่ายน้ำ (โอ้วววน้ำไหลลล ฮ่าๆๆๆๆๆ)
“วู้วววว สะใภ้เหล็ก มาเล่นโปโลกัน” พี่ปริมตะโกนเรียกผมที่ยืนอึ้งอยู่ครับ
“แล้วจะยืนตกใจอะไรละสะใภ้เหล็ก” พี่ปันยิ้มแซว อ๊ากกก น่ารักกกกกก
“สงสัยจะตะลึงในความหล่อละเซ่ ฮ่าๆๆๆ” พี่ปันแซวต่อครับ
“พี่ปริมพี่ปัน พอเลยอะ เมียผมยิ่งเขินง่ายอยู่” เป๊บหันไปปรามพี่ๆ พร้อมเดินมาจูงมือผมอะ
คือขอบอกเลยนะครับว่า เขินจริงๆ สามพี่น้องทำบุญด้วยอะไรเนี่ย สุดๆ จริงๆ ครับ โอยยยจะเป็นลมมมม ฮ่าๆๆ
เป๊บมาจูงมือผมเดินไปที่สระน้ำ ผมก็ยังเขินๆ หน้าแดง พี่ปริมพี่ปันส่งเสียงแซวอยู่อะ ชิ แงๆๆ เสียเปรียบง่า ทั้งสามหนุ่มกระโดดลงน้ำตูมใหญ่พร้อมกับลูกบอลสีเหลืองที่จะเล่นโปโลกันครับ ผมเดินไปที่เก้าอี้summer bed ริมสระน้ำ ถอดเสื้อคลุมพาดไว้กับเก้าอี้ หันกลับมาจะกระโดดลงสระบ้างก็พบกับ
ทั้งสามหนุ่มตะลึงพร้อมๆ กัน จนผมงงเลยละว่าจะตะลึงอะไรเนี่ย จังหวะนั้นก็พลันคิดได้ว่า ผมอยู่ในกางเกงว่ายน้ำตัวเล็กสีดำ มันตัดกับผิวเนียนขาวละเอียดไร้ริ้วรอยของผมได้เป็นอย่างดี ตะลึงเลยละเซ่ ฮ่าๆๆๆ บอกแล้วว่าไม่ได้มีดีแค่น่ารักเพียงอย่างเดียว
“พี่ปริม พี่ปัน อย่ามองเมียผมมาก ผมหวงนะ” เป๊บหันไปมองพี่ทั้งสองกำลังตะลึง เลยแซวห้ามปรามครับ
“ตะลึงใช่ป่าวพี่ปริม พี่ปัน ฮิฮิ” ผมแซวด้วยครับ
กว่าพี่ทั้งสองจะตั้งสติได้ ผมก็กระโดดลงสระน้ำแล้วละครับ เราทั้งสี่คนแบ่งเป็นฝ่ายละสองคน เล่นโปโลกันสนุกมาก ผมสำลักน้ำหลายรอบเลยอะ จนกระทั่งรู้สึกว่าสมควรแก่เวลา ก็เลยขึ้นจากสระน้ำไปแต่งตัวรอทานปาร์ตี้มื้อค่ำครับ
ผมใส่เสื้อคลุมกำลังเดินขึ้นห้องเป๊บเพื่อที่จะไปอาบน้ำโดยมีเป๊บเดินตามมาติดๆ ครับ กำลังจะเดินเข้าห้องน้ำ เป๊บก็อาศัยจังหวะแทรกตัวเข้ามาด้วย
“แว๊ก..อะไรอะเป๊บ ขอโจ้อาบก่อนง่า”
“แหมที่รัก..เป๊บก็ขออาบด้วยไง อาบพร้อมกันเลยประหยัดเวลาดีออก”
“ไม่เอาอะ..ออกไปเลยนะ..จะอาบคนเดียว”
“อาบด้วยคนนะคร้าบ..นะๆๆ ว่าไปที่รักอยู่ชุดกางเกงว่ายน้ำก็ดูดีน่ารักไปอีกแบบนะ” เป๊บชมผมพร้อมส่งสายตากรุ้มกริ่ม
ไม่ทันจะตอบเป๊บก็เอาปากมาประกบจูบด้วยความร้อนแรง อื้อ...อ่า... หนึ่งรอบใหญ่เต็มๆ เจ็บตัวอีกแล้ววววว แงๆๆๆ
หลังจากเสร็จภารกิจในห้องน้ำ ฮ่าๆๆ เราสองคนก็แต่งตัวเดินลงมาที่สระน้ำครับ ผมเห็นผู้หญิงสวยมากๆ สองคน ยืนข้างๆ พี่ปริมกับพี่ปันด้วย เลยสงสัยว่าใครมาร่วมงานด้วยอะ เดินไปถึงสระน้ำพี่ปริมก็แนะนำสาวสวยคนที่ยืนข้างๆ ให้รู้จักเลยละครับ
“สะใภ้เหล็กๆ นี่พี่ลินดา แฟนพี่เอง...ลินดานี่น้องโจ้ แฟนเป๊บครับ” พี่ปริมแนะนำแฟนให้รู้จัก ผมยกมือไหว้ตามมารยาทครับ
“สวัสดีครับพี่ลินดา”
พี่ลินดาเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมันครับ ผมสลวยยาว ผิวสีขาวละเอียด นัยต์ตาสีน้ำตาล จัดได้ว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ ครับ
“สวัสดีคะน้องโจ้ น่ารักสมกับที่ปริมเล่าจริงๆ ดูไกลๆ พี่นึกว่าสาวน้อยที่ไหน” พี่ลินดาแซวผมครับ
“ขอบคุณคร้าบบบบ” ผมยิ้มเขินๆ ให้พี่ลินดาไปครับ
“เห็นป่าวพี่ลิน แฟนเป๊บน่ารักใช่มั้ยยยย” เป๊บถาม
“น่ารักมากเลยน้องเป๊บ ตาถึงจริงๆ นะเรา”
“สะใภ้เหล็กๆ มาทางนี้ๆ” พี่ปันตะโกนเรียกผมให้เดินไปหาครับ
“นี่พี่แนทแฟนพี่เอง แนท...นี่น้องโจ้แฟนเจ้าเป๊บมัน” พี่ปันแนะนำแฟนให้รู้จักครับ
พี่แนทค่อนข้างแตกต่างจากพี่ลินดาพอสมควรเลยครับ เพราะพี่เค้าเป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ผิวขาว ผมสั้น หน้าใสกิ๊ก ที่สำคัญดูร่าเริงคิกขุๆ เพิ่งรู้ว่าสเป๊คของพี่ปันมาแนวนี้อะ แต่ก็เหมาะกับพี่ปันดีครับ หล่อเทพ สวยน่ารักเทพ หลานผมต้องเทพๆๆๆ คิคิ
“สวัสดีคะน้องโจ้...น่ารักจังเลยคะ...น่ารักกว่าผู้หญิงบางคนอีกนะ” พี่แนททักทายผมด้วยความเป็นมิตรพร้อมกับหยิกแก้มผมเบาๆ ด้วยครับ
“สวัสดีคร้าบบบพี่แนท...ขอบคุณคร้าบบบ” ผมยิ้มกว้างตอบไป
“เป็นไงบ้างพี่แนท แฟนผมน่ารักมั้ย” เป๊บถามครับ
“สุดๆ เลยจ้าเป๊บ..ว่าแต่ปันทำไมเรียกน้องโจ้ว่า สะใภ้เหล็กละ” พี่แนทถามขึ้นมาด้วยความสงสัยครับ
“อ๋อ..ฮ่าๆๆ..เรื่องมันยาวนะแนท..เอาไว้ค่อยเล่าให้ฟัง...” พี่ปันตอบพี่แนท
“เป๊บเล่าเองพี่ ที่ได้ฉายาแบบนั้นเพราะ โจ้อึดมาก จนเป๊บเหนื่อยเลยละ” เป๊บยิงมุขมากครับ ทะลึ่งง่า
“ปึ๊กกกกก...โอ้ยยยยที่รักเป๊บเจ็บ” ผมทุบที่ไหล่เป๊บทีนึง ทะลึ่งนักกก แฟนใครเนี่ยยยยยย ชิ
“โจ้ๆๆ...ลูก ชวนพี่ๆ มานั่งโต๊ะได้แล้ว” คุณพ่อเป๊บตะโกนเรียกพวกเราที่กำลังยืนเม้าท์อย่างเมามันส์ครับ
“คร้าบบบพ่อ...พี่ๆ คร้าบ ไปนั่งกันได้แล้ว”
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารครื้นเครงมากเลยครับ ดูสนุกสนานมีความสุขมากๆ โดยเฉพาะเป๊บที่ดูมีความสุขมากกว่าใครๆ ทานอาหารไปได้สักพัก คุณพ่อเป๊บก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“ปริม ลูกจะมีข่าวดีกับลินดาช่วงไหน พ่อกับแม่อยากอุ้มหลานแล้วนะ”
“โห แด๊ด เล่นถามกลางงานแบบนี้จะให้ผมตอบยังไงละคร้าบบ ปริมว่ารอให้เจ้าปันลงเอยก่อนดีกว่า” พี่ปริมตอบเชิงเล่นๆ ขำๆ ทุกคนก็พลอยขำไปด้วย แต่ผมสังเกตุเห็นพี่ลินดายิ้มเจื่อนๆ ครับ
“โอ้วไม่ได้นะมายซัน จะให้น้องแต่งก่อนพี่ มัมว่าไม่เหมาะสม”
“ฮ่าๆๆ มัมครับ ถ้าพี่ปริมสละโสด ปันจ่อคิวรอตามเลย จริงมั้ยจ๊ะแนทจ๋า” พี่ปันตอบคุณแม่ไปพร้อมหันไปหวานกับพี่แนท จนพี่แนทเขินแล้วทุบเบาๆ ทีนึงอะ
“แล้วโจ้ละลูกจะแต่งกับเป๊บเมื่อไหร่” พ่อเป๊บหันมาแซวผมบ้างครับ
“แค๊กๆๆๆ” ผมตกใจจนสำลักน้ำพั้นซ์เลยอะครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ทั้งโต๊ะฮาครืนพร้อมกันเลยอะ เป๊บเอาทิชชู่มาเช็ดให้ผมครับ
“เอาไว้เรียนจบแล้วค่อยแต่งคร้าบแด๊ดดดด” เป๊บตอบแทนจนผมเขินหน้าแดงอะ
“ดีเลยไอ้เสือลูกรัก แต่งกับลูกโจ้ ปั๊มหลานให้พ่อสิบคน”
“ปั๊มทุกวันเลยแด๊ด..แต่โจ้ไม่ยอมท้องเลยคร้าบบบ” เป๊บก็เล่นกับพ่อด้วยนะนั่น
“บ้าแล้วววว จะท้องได้ไงอะ โจ้ไม่มีมดลูกกกก” ผมแหกปากขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ฮาครืนกันอีกรอบครับ
พวกเราทั้งหมดก็ทานอาหารและคุยต่อไปเรื่อยๆ แซวคนนั้นบ้าง คนนี้บ้าง พ่อแม่และจิมก็ดูสนุกสนานกับปาร์ตี้เล็กๆ ของบ้านเป๊บมากๆ ครับ จนผมเริ่มสังเกตว่าพี่ลินดาหายไป แต่ก็ไม่ได้แปลกใจอะไรมากครับ พี่เค้าคงไปห้องน้ำ ไม่นานนักการดื่มน้ำหวานเยอะก็ทำให้ผมปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำขึ้นมา กระซิปบอกเป๊บลุกขึ้นไปห้องน้ำ
เข้าห้องน้ำเสร็จเรียบร้อยกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ ผมเห็นพี่ลินดายืนอยู่ตรงซุ้มริมสวนอีกด้านนึงครับ เลยตัดสินใจเดินเข้าไปทัก
“พี่ลินดามาทำอะไรตรงนี้ครับ”
“อะ..อ๋อ..ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะน้องโจ้..มายืนรับลมนะ” พี่ลินดาตกใจเล็กน้อยที่ผมเข้ามาทัก ผมเห็นพี่ลินดาเอามือปาดน้ำตาด้วยครับ
“พี่..เป็นอะไรหรือครับ ร้องไห้ทำไมครับ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง
“อ๋อ...ฝุ่นเข้าตานะ..ไม่มีอะไรหรอก” โหข้ออ้างนางเอกยอดฮิต บ้านเป๊บอะนะมีฝุ่น สะอาดสุดๆ ฝุ่นจะมาจากไหนเนี่ย
“ไม่เนียนเลยพี่..มีเรื่องอะไรปรึกษาผมได้นะ” ผมถามพี่เค้าอีกครั้งด้วยความจริงใจ จนพี่ลินดาหันมามองแบบยิ้มๆ พร้อมชวนผมไปนั่งที่ซุ้มครับ
“พี่ลินดา..ตกลงร้องไห้เรื่องอะไรหรือครับ”
“เรื่องไม่มีสาระเท่าไหร่นะคะ...แต่พี่ก็แอบคิดเหมือนกันนะ”
พี่ลินดาอาจจะยังไม่กล้าที่จะเล่าอะไรมาก ผมเลยลองเดาดู แถมตรงเผงซะด้วย
“ให้ผมเดานะ..เรื่องที่คุณพ่อแซวการแต่งงานกับพี่ปริมใช่มั้ยครับ” พี่ลินดาดูอึ้งเล็กน้อย คิดว่าตรงจุดพอดี
“นิดหน่อยนะจ๊ะ”
“พี่ลินดา อย่าเห็นผมเป็นคนอื่นไกลเลยนะครับ อย่างน้อยผมอาจจะแก้ปัญหาได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็เป็นที่ปรึกษาได้นะครับ
พี่ลินดาดูอ้ำอึ้งเล็กน้อย สุดท้ายก็ตัดสินใจเล่าครับ
“พี่รักปริมมากเลยนะโจ้ พี่กับปริมคบกันมานานพอสมควรแล้ว เรารู้จักกันตั้งแต่ปริมไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ จนกลับมาเมืองไทยก็ยังคบกันเรื่อยมา แต่โจ้เชื่อมั้ย ปริมยังไม่เคยบอกรักพี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว พี่ไม่รู้ว่าปริมจะคบกับพี่ไปเรื่อยๆ ในสถานภาพนี้นานแค่ไหน ผู้หญิงหลายๆ คนก็เข้ามาหาปริมเยอะมาก บางครั้งพี่ก็หึง บางครั้งพี่ก็ระแวง จนนำไปสู่การทะเลาะที่บ่อยขึ้นพอสมควร จนมาวันนี้ที่คุณพ่อแซวนั่นแหละคะ แต่พี่ไม่โทษคุณพ่อนะ เพราะคุณพ่อไม่ทราบหรอกว่า ปริมเค้าทำตัวแบบไหนกับพี่” พี่ลินดาร่ายยาวพร้อมหยดน้ำตาใสๆ ไหลรินอาบแก้มเลยละครับ
“พี่ลินดาครับ โจ้ว่าพี่ปริมเค้ารักพี่มากนะ ทำไมนะหรือครับ โจ้สังเกตจากแววตาและสีหน้าเวลาที่พี่ปริมเค้ามองพี่บ่อยๆ และในทุกครั้งที่พี่หันมาสบตากับพี่ปริม พี่ปริมจะเปลี่ยนแววตาลักษณะท่าทางทันที พูดง่ายๆ นะครับ ก็คือเป็นประเภทพวกฟอร์มเยอะ ขี้เก๊ก”
“ฮ่าๆๆๆ..จริงหรือน้องโจ้” พี่ลินดาแอบขำในขณะที่เอามือปาดน้ำตา
“จริงซิครับพี่...พี่ลินดาในฐานะที่ผมเป็นผู้ชายคนนึง อาจจะไม่ได้แมน 100% แต่ผมก็ยังมีความรู้สึกของการเป็นผู้ชายบ้างนะครับ ผู้ชายเป็นเพศที่มีความฝัน มีจุดมุ่งหมาย มีความทะเยอทะยานมากเลยนะพี่ เค้าเกิดมาเพื่อเป็นเพศที่ดูแลและปกป้อง บางครั้งการเอ่ยคำว่ารักมันอาจจะติดอยู่ที่คอ เค้าอาจจะรอตัดสินใจเพื่อให้เกิดความแน่ใจแล้วค่อยบอกพี่ทีเดียว เพราะอะไรนะหรือครับ เพศชายหากตัดสินใจอะไรลงไปแล้ว จะไม่มีทางกลับคำเด็ดขาด เพราะเค้าถูกสร้างมาแบบนั้น” พี่ลินดาฟังผมร่ายยาวจนเริ่มคิดได้และอมยิ้มครับ
“ตอนที่เป๊บขอผมเป็นแฟนนะพี่ ก็หลังจากที่คบกับผมตั้งสามเดือนแหนะ...ถ้าไม่ได้เพื่อนช่วยวางแผนให้ ผมก็ยังไม่รู้สถานะภาพเล้ยยยย”
“อุ้ย จริงหรือน้องโจ้ ขอคบช้ามากเลย แล้วน้องไม่เครียดหรือคะ”
“ไม่ครับพี่ เพราะถึงแม้เป๊บไม่พูด แววตาและการกระทำมันก็บ่งบอกแล้วครับว่าเค้าคิดยังไงกับเรา”
“แล้วน้องเป๊บเค้าบอกรักน้องโจ้ครั้งแรกเมื่อไหร่คะ”
“หลังจากคบกันประมาณสี่เดือนครับพี่ ตอนนั้นเป๊บเค้าเขินหน้าแดงมากๆ เลยนะ ผมยังแอบลุ้นในใจเลย แต่สุดท้ายเป๊บก็พูดออกมาจนได้ พอพูดได้แล้วบอกรักผมตลอดจนแอบเบื่อเลยละครับ ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ” พี่ลินดาก็ขำในความตลกของเป๊บอะครับ
“นั่นแหละพี่ เข้าใจพี่ปริมเถอะครับ อีกไม่นานผมเชื่อว่าพี่ปริมต้องบอกรักพี่อย่างแน่นอน เค้าเลือกพี่แล้วละครับ” พี่ลินดาพยักหน้าพร้อมยิ้มให้ผม
“ขอบคุณน้องโจ้มากนะคะ..พี่สบายใจขึ้นมากเลย”
“ครับพี่...ผมว่าเราสองคนหายมานานแล้วนะ..กลับเข้าไปในงานดีกว่า”
“คะ”
ผมกับพี่ลินดาเดินกลับเข้ามาในงานสองคน พี่ปริมกับเป๊บก็รุมถามว่าหายไปไหนกันมา ผมก็ตอบเลี่ยงๆ ไปว่านั่งดูละครกับพี่ลินดาในห้องรับแขก แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยครับ จนกระทั่งงานเลี้ยงสิ้นสุด พ่อแม่และจิมก็เตรียมตัวกลับบ้าน แต่ผมไม่ได้กลับด้วยนะซิ เพราะคุณพ่อเป๊บรั้งไว้ให้นอนพักที่บ้านอะครับ เป๊บเองก็พยักหน้าเห็นด้วย แทนที่พ่อกับแม่และจิมจะช่วยพูดกลับส่งเสริมซะงั้น
“ลูกก็นอนที่นี่แหละ...มีคนรักเป็นตัวเป็นตนแล้วจะกลับไปนอนที่บ้านทำไม เปลืองน้ำเปลืองไฟ” นี่คือคำพูดแซวของพ่อผมอะ ชิชิชิ งอลลลลลพ่อแล้วววว
รถของบ้านผมลับสายตาไป ทั้งบ้านเป๊บและผมก็เดินกลับเข้ามาพร้อมแยกย้ายกันไปพักผ่อนครับ หลังจากอาบน้ำเสร็จ ด้วยความเหนื่อยล้าจากการเล่นโปโลและงานเลี้ยง ผมก็ล้มตัวลงนอนทันทีครับ เป๊บก็เลื้อยตัวมานอนกอด
“แฮะๆๆ กอดหน่อยน้าที่รัก..ตัวหอมจังเลย...จุ๊บๆๆ” เป๊บเลื้อยตัวมากอดพร้อมหอมที่ต้นแขนครับ
“ที่รักคุยอะไรกับพี่ลินดาหรือครับ” เป๊บคงสงสัยเลยถามอีกครั้งครับ
“เรื่อง........” ผมก็เล่าเป๊บเท่าที่รู้ทั้งหมดครับ
“นั่นซินะ...นิสัยพี่ปริมเป็นแบบนั้นละที่รัก ถ้ายังไม่มั่นใจจะไม่มีทางเอ่ยอะไรออกไปเด็ดขาด..เป๊บก็รู้นะว่าพี่ปริมรักพี่ลินมาก ไม่งั้นเลิกไปนานเหมือนกันคนก่อนๆ แล้วละ”
“จริงหรือเป๊บ..แสดงว่าพี่ปริมแฟนเยอะละซิ”
“เพียบเลยที่รัก...ฟันแล้วทิ้งก็มีนะ พี่ปริมเค้าเสน่ห์แรงมีคนมาเสนอตลอดแหละ แต่พอเจอพี่ลินดา พี่ปริมก็ถอดเขี้ยวเล็บไปเยอะนะ
“โห..ขนาดนั้นเลยหรือ..แล้วเป๊บฟันแล้วทิ้งมั้ยอะ” ผมหันไปถามเป๊บทำหน้าดุๆ ขณะที่เรานอนกอดกันอยู่
“ก็...แหะๆ..ตอนนั้นยังวัยรุ่นนี่ครับ มันก็มีบ้างตามประสา แต่ตอนนี้มีที่รักคนดียวนะ”
“ก็ลองมีคนอื่นดูซิ จะจับเฉือนทิ้งชักโครกกก” ผมทำหน้าและเสียงดุๆ ใส่
“ไม่มีคร้าบๆๆ ถ้าเฉือนแล้วที่รักจะเอาอะไรอมอะ” เป๊บทำหน้าทะเล้นใส่พร้อมเอามือไปกุมเป๊บน้อย
“บ้าแล้วววววววววว...ทะลึ่งงงง” ผมแหกปากด้วยความเขินนน หน้าแดงแปร๊ดอีก ตีเป๊บสองที ชิ
“ฮ่าๆๆๆๆ.....โจ้ครับ....ถึงแม้เป๊บจะไม่ได้เป็นผู้ชายที่ดีที่สุด...แต่อยากให้ที่รักรู้ว่า ผู้ชายคนนี้รักโจ้มากที่สุด และจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงนะครับ” คำพูดหวานของเป๊บทำให้น้ำตาผมเอ่อล้นออกมา
จุ๊ฟฟฟฟฟฟ..........เราสองคนจูบกันเนิ่นนานนนนน....เร่าร้อน....สยิวกิ้วว..ดิ๋วๆๆ จัดเต็มๆ อีกหนึ่งรอบบบบบบบบ.......วันนี้สองรอบแล้วนะ.....หื่นจริงๆ แฟนใครเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบบ