รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รักวุ่นวายของนายตัวขาวสุดซ่า ตอนอวสาน (THE END) Up 11/5/62  (อ่าน 515075 ครั้ง)

ออฟไลน์ wisky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-18
พี่เป๊บหายป่วยไวไวนะค่ะ

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ได้คนดูแลดี เป๊บหายไวๆนะ

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบบ เพิ่งปั่นต้นฉบับเสร็จก็เอามาลงด่วนเลยค้าบบบ สำหรับตอนนี้ไม่มีอะไรวาบหวิวนะครับ เขียนความน่ารักของเป๊บแทนละกันค้าบบบ ยังไงก็ติดตามอ่านเลยคร้าบบบ

ปล. ขอบคุณทุกคนมากๆ ที่เป็นห่วงและอวยพรให้เป๊บหายเร็วๆ ถ้าเป๊บตื่นมาจะบอกให้นะคร้าบบบ :pig4:


Chapter 27 การเอาใจใส่ที่น่ารักของเป๊บ

   ตลอดระยะเวลาพักฟื้นสามวัน เป๊บดูแลผมเป็นอย่างดีเลยละครับ ทั้งเรื่องเข้าห้องน้ำ อาหารการกิน การทำกายภาพบำบัด คุณพ่อกับคุณแม่ของผมท่านเองก็สบายใจที่เป๊บดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษครับ ระหว่างที่พักฟื้นคุณพ่อคุณแม่ของเป๊บและพี่ชายทั้งสองก็แวะมาเยี่ยมเท่าที่มีโอกาสเอื้ออำนวยครับ ผมเองก็รู้สึกดีมากๆ เลยน้า ที่มีเป๊บคอยเอาใจอะ ในช่วงบ่ายวันที่สามของการพักฟื้น บรรดาเพื่อนๆ มาเยี่ยมครับ
“หอยยยย อาการเป็นยังไงมั่ง” ฉัตรเดินปรี่เข้ามาในห้อง พร้อมถามทันที
“เออเกือบจะหายเป็นปกติแล้วละ” ผมตอบพร้อมยิ้มให้ฉัตรไปครับ
“ดีแล้ววะเมิงงั้นโครงการเกาะเสม็ดยังคงเดิมนะโว้ย” เบิดพูดย้ำขึ้นมา
“หืมม ไอ้เบิด รอแฟนกรูหายเป็นปกติก่อน ค่อยว่ากัน” เป๊บตอบกลับครับ
“ต้ายยยยตายยยย หวงห่วงกันจริงนะยะ ชั้นละเบื่อออ ดูหน้าตาอีโจ้มันเซ่ สดใสร่าเริงอยากจะไปเที่ยวแล้ววววว” ทรายพูดแขวะเป๊บครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” ทุกคนหัวเราะในความเปิ่นของทรายครับ
“โอเคๆๆ เดี๋ยวถ้าหายแล้ว ค่อยนัดวันไปนะ” ผมบอกเพื่อนๆ ทุกคนครับ
“เออดีๆ รีบๆ หายนะอีหอย” ฉัตรยิ้มตอบผมครับ
   พวกเรานั่งคุยเฮฮากันไปเรื่อยๆ สักพักคุณหมอกับพยาบาลก็เข้ามาตรวจร่างกายครับ คุณหมอบอกกับเป๊บและเพื่อนๆ ว่า อาการของผมดีขึ้นมากแล้ว วันนี้คงทำกายภาพบำบัดเป็นวันสุดท้าย พรุ่งนี้เช้ากลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ครับ ได้ยินแบบนั้นแล้ว ผมละดีใจมากมายยยย ฮิฮิ
   หลังจากที่คุณหมอออกจากห้องไปแล้ว บุรุษพยาบาลก็แจ้งว่าถึงเวลาในการทำกายภาพบำบัด ผมก็ลุกขึ้นโดยมีเป๊บพยุงลงจากเตียง เพื่อมานั่งบนรถเข็น เป๊บก็พาผมไปที่ห้องกายภาพบำบัดส่วนพวกเพื่อนๆ นั่งคอยในห้องครับ
   มาถึงห้องกายภาพฯ คุณหมอก็เริ่มการทำกายภาพบำบัด ผมเดินได้คล่องขึ้นมากครับ แต่สำหรับวันนี้คุณหมอแจ้งว่า ให้ลองใช้ปลายเท้ายกตัวขึ้นเพื่อทดสอบมวลกระดูกว่าปกติหรือไม่ แต่เพื่อความมั่นใจคุณหมอให้บุรุษพยาบาลที่เป็นผู้ช่วยพยุงตัวผมไว้ครับ

“คุณหมอครับ ผมพยุงแทนได้มั้ย” เป๊บถามคุณหมอ จนผมหันไปมองหน้าเป๊บเลยละครับ แปลกใจที่เป๊บถามขึ้นมาแบบนั้นอะ
“อ๋อ ได้ซิครับ จับบริเวณเอวผู้ป่วยไว้นะครับ เวลายกตัวขึ้นก็เคลื่อนมือตาม แต่ห้ามใช้แรงของเรายกนะครับ หมอจะทดสอบมวลกระดูกครับ”
“ครับผมๆ” เป๊บตอบรับคำคุณหมอครับ
   หลังจากเข้าใจในสิ่งที่คุณหมอแนะนำ ผมลุกขึ้นจากรถเข็น จับราวเหล็กเดินไปช่องทางเดินครับ โดยมีเป๊บจับเอวผมพยุงเดินไปตลอดทาง คุณหมอก็สั่งให้ผมยกตัวขึ้นโดยใช้แรงดันจากปลายเท้า ครั้งแรกก็ผ่านไปด้วยดีครับ
“รู้สึกเจ็บหรือมีอาการแปล๊บๆ มั้ยครับ” คุณหมอถามผมครับ
“ไม่ครับคุณหมอ แต่มันเหมือนหน่วงๆ นะครับ” ผมตอบคุณหมอไป
“โอเคๆ ครับ งั้นยกตัวครั้งที่สองนะ”
   ผมยกตัวขึ้นครั้งที่สอง คราวนี้แหละครับเกิดการเจ็บแปล๊บขึ้นมา จนเสียการทรงตัว ตัวผมก็เลยร่วงลงเลยละครับ
“ปึ๊กกกกกกกก” ผมได้ยินเสียงกระแทกทางซ้ายมือ หันหน้าไปดู มือของเป๊บไปกระแทกขอบราวเหล็ก เพราะว่า เป๊บเอามือพยุงตัวผมไว้ไม่ให้ไปกระแทกราวเหล็กและล้มลงไปกองกับพื้นครับ
“เป๊บบบบ เจ็บหรือเปล่าครับบบ” ผมถามเป๊บด้วยความตกใจมาก
“ไม่เป็นไรๆ ครับ เป๊บไม่เจ็บ” เป๊บตอบยิ้มๆ แต่สีหน้าแววตารู้เลยว่าเจ็บอะ
“หยุดทำกายภาพก่อนครับ เอ่อคุณ เดี๋ยวหมอขอดูข้อมือนะว่าเจ็บมากมั้ย”
   บุรุษพยาบาลพยุงผมไปนั่งบนรถเข็น ส่วนเป๊บก็โดนคุณหมอตรวจข้อมือยกใหญ่เลยละครับ สักแป๊บ การตรวจก็เสร็จสิ้น คุณหมอแจ้งว่า ระบบปลายประสาทกล้ามเนื้ออาจจะยังไม่สมบูรณ์ แต่ก็อนุญาตให้ไปพักฟื้นที่บ้านได้ครับ เป๊บก็เข็นรถกลับไปยังห้องพักฟื้น ระหว่างทางผมถามเป๊บด้วยความเป็นห่วง
“เป๊บ เจ็บข้อมือมากมั้ย”
“นิดหน่อยครับที่รัก ไม่ต้องห่วงนะ ไกลหัวใจ” เป๊บตอบยิ้มๆ พร้อมเอามือตบตรงหัวใจ ผมยิ้มพร้อมกับหมั่นไส้ทำเก่งอะ ชิชิชิ
“โจ้ขอโทษนะครับ ที่ทำตัวให้เป๊บลำบาก จนเป๊บต้องมาเดือดร้อนอะ”
“พูดเกินไปที่รัก เป๊บไม่ปล่อยให้ที่รักล้มไปกองกับพื้นหรอกครับ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนั้น เป๊บยอมเจ็บตัวแทนดีกว่า”
   ผมเงยหน้าไปมองเป๊บพร้อมน้ำตาคลอเบ้าครับ เป๊บมองสบสายตาพร้อมก้มมาจุ๊บๆ ศรีษะอะ น่ารักจริงๆ แฟนครายเนี่ยยยยย อิอิ
   กลับมาถึงห้องพักฟื้น พวกเพื่อนๆ กำลังนั่งหม่ำๆ ของเยี่ยมไข้ ผมละหมั่นไส้อีกรอบ มันจะมากินหรือเยี่ยมเนี่ย ชิชิชิ
“อ้าวไอ้เป๊บ ข้อมือไปโดนไรมาถึงได้พันผ้ามาเนี่ย” ฉัตรถามขึ้นมาครับ
“อุบัติเหตุนิดหน่อยวะ แต่กรูสบายมาก”
“แล้วอุบัติเหตุที่ว่ามันอะไรละวะ” เบิดถามต่อครับ
“ก็พอดีกรูพยุงโจ้ทำกายภาพ จังหวะที่เสียการทรงตัว ข้อมือกรูเลยไปกระแทกราวเหล็กนะ” เป๊บอธิบายครับ
“โหหหห จริงๆ ปล่อยให้อีโจ้ร่วงไปเล้ยยยย” ทรายแขวะขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆๆ” ฉัตร เบิด เป๊บ ขำขึ้นพร้อมกันครับ
   เราทั้งหมดก็เฮฮากันไปสักพักนึง จนฉัตรและเพื่อนๆ ขอตัวลากลับ ในห้องเหลือผมกับเป๊บสองคนครับ
“เป๊บ พรุ่งนี้คุณหมอให้กลับกี่โมงอะ”
“เอ..เป๊บก็ไม่ได้ถามคุณหมอนะ...เอาเป็นว่าช่วงเย็นถ้าเจ้าหน้าที่เอาข้าวเย็นมาให้ ค่อยถามก็ได้ครับ” เป๊บยิ้มตอบผม พร้อมกับบีบๆ ข้อมือ
“เป๊บ..เจ็บมากมั้ย มามะให้โจ้ดูหน่อยค้าบบบบ” ผมมองไปที่ข้อมือเป๊บพร้อมกับกวักมือเรียก เป๊บลุกขึ้นเดินเข้ามาหาผมที่เตียง
“ที่รักเป๊บไม่เป็นอะไรมากครับ...โอ้ยยยยยย”
“อ้าว..ไหนว่าไม่เป็นอะไรอะเป๊บ..เจ็บมากละซิเนี่ย” ผมจับข้อมือเป๊บด้วยความเบามือ
“ก็....แหะๆ..ก็เป๊บกลัวโจ้กังวลนี่ครับ...แต่ไม่เป็นไรนะ เจ็บแค่นี้เป๊บทนได้” ผมสบตาเป๊บ รู้สึกแย่จังครับ ทำให้เป๊บลำบากอีกแล้ว
“ว่าแต่ทำไมเป๊บไม่ให้บุรุษพยาบาลเค้าประคองโจ้อะครับ” ผมถามด้วยความสงสัย
“ก็....เอ่อ....เป๊บหึงนี่น่า..ถ้าให้คนอื่นพยุงที่รัก เป๊บทำเองดีกว่า” เป๊บพูดด้วยสีหน้าเขินๆอายๆ
“โหหหหห คิดได้อะนะ เว่อร์ไปแล้วคร้าบบบ”
“ไม่รู้แหละ หึง หวง ห่วง” เป๊บพูดไปทำหน้าเป็นตูดลิงไป
“ฮ่าๆๆๆ” ผมขำในท่าทางของเป๊บ น่ารักจริงๆ เล้ยยยย
“แต่ยังไงโจ้ก็ขอโทษนะเป๊บ...ขอโทษที่ทำให้เจ็บนะครับ...” ผมขอโทษเป๊บด้วยเสียงเศร้าๆ ครับ
“ที่รักอย่าคิดมากครับ...เป๊บรักโจ้นะ...อะไรที่เป๊บรับแทนได้...เป๊บยอมรับดีกว่าให้โจ้เจ็บนะครับ”

ผมซึ้งกับคำพูดเป๊บมาก จนพูดอะไรไม่ออกครับ

“เอางี้ งั้นเดี๋ยวโจ้จะเป่าเวทมนต์ละกันนะครับ เพี้ยงๆๆๆ จงหายๆๆๆ ฟู่วววววว”
“ฮ่าๆๆๆๆ..ทำอะไรอะที่รัก..ตลกอะ เดี๋ยวเป๊บก็หายแล้ว...ดูซิน้ำลายพุ่งมาเปื้อนเต็มเลยอะ ฮ่าๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆ” ผมก็หัวเราะไปกับเป๊บด้วยครับ

   ก๊อกๆๆๆ หลังจากสิ้นเสียงเคาะ ประตูก็ถูกเปิดออก คุณพ่อคุณแม่และเจ้าจิมมาเยี่ยมผมครับ
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่” เป๊บไหว้ครับ
“สวัสดีครับพี่เป๊บ” เจ้าจิมไหว้เป๊บครับ
“สวัสดีจ๊ะลูกเป๊บ”
“แล้วนี่ทำอะไรกัน พ่อได้ยินเสียงหัวเราะดังไปถึงนอกห้อง” พ่อผมถามขึ้นมาครับ
“อ๋อ...ก็โจ้เป่าเวทมนต์ใส่ข้อมือผมครับพ่อ เป๊บเห็นโจ้ทำท่าทางตลก เลยหัวเราะนะครับ” เป๊บตอบยิ้มๆ
“เอ้าแล้วเป๊บทำไมข้อมือเจ็บละลูก” แม่ผมถามด้วยความเป็นห่วงครับ
   เป๊บก็เล่าถึงสาเหตุที่ข้อมือเจ็บให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับฟัง
“โหพี่เป๊บ เท่ห์อะ ไม่งั้นเฮียล้มหัวฟาดพื้นตายคาที่แน่เลยอะ” เจ้าจิมแซวขึ้นมา
“ไอ้น้องบ้า..เว่อร์แล้วววว มาแช่งทำไมเนี่ยยยย” ผมตะโกนใส่เจ้าจิมครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ทุกคนหัวเราะพร้อมกันเลยอะ ชิชิชิ แกล้งคนป่วยยยย
“แล้วนี่ตกลงคุณหมอให้ออกวันไหนลูก” คุณแม่หันมาถามผมครับ
“ไม่ทราบอะครับแม่ โจ้ว่าจะรอถามเหมือนกัน”

   ก๊อกๆๆ มีคนมาเยี่ยมอีกแล้วครับ ผมหันมองตามเสียงเคาะ คุณพ่อคุณแม่ของเป๊บมาเยี่ยมเดินมาพร้อมกับลุงผู้อำนวยการโรงพยาบาลครับ
“สวัสดีครับ” ผมไหว้คุณพ่อคุณแม่เป๊บครับ พร้อมกับในห้องต่างคนต่างไหว้
“ไงไอ้ตัวแสบ สะใภ้พ่อหายยังเนี่ย” เป๊บโดนคุณพ่อแซวครับ
“ดีขึ้นมากแล้วละครับพ่อ” เป๊บตอบครับ
“ดีขึ้นตรงไหนลูกเป๊บ แม่เห็นโจ้ยังหน้าแดงอยู่เลย” คุณแม่เป๊บพูดขึ้นมา ทุกคนหันหน้ามามองผม ทำไมหน้าแดงนะหรือครับ เขินตรงคำว่า สะใภ้ นะครับ แงๆๆ เขินหน้าแดงแก้ไม่หายอะ
“ฮ่าๆๆๆๆ โจ้เขินนะครับแม่” เป๊บหัวเราะพร้อมตอบแม่ครับ
“ฮ่าๆๆ ลุงหมอว่า ถ้านอนหน้าแดงได้ขนาดนี้แสดงว่าระบบเลือดสูบฉีดดีขึ้น น่าจะกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วละ พรุ่งนี้แจ้งได้ก่อนเที่ยงเลยนะ”
“จริงหรือครับลุงหมอ ดีจังๆ ได้กลับบ้านแล้ว” ผมพูดขึ้นมาด้วยความดีใจ
“ว่าแต่ลูกโจ้จะกลับไปพักที่บ้านหรือบ้านพ่อละลูก” คุณพ่อเป๊บถามผมครับ พร้อมกับหันไปมองคุณพ่อผมด้วย ผมก็เลิกลั่กไม่ได้กล้าตอบนะครับ เป๊บเองก็ไม่กล้าตัดสินใจอะไรครับ
“ผมว่าเดี๋ยวเราน่าจะไปคุยในห้องรับแขกดีมั้ยครับว่าจะเอายังไงดี เผื่อให้คุณหมอสรุปอาการให้ฟังด้วยครับ” คุณพ่อผมเสนอความคิดเห็นครับ บรรดาคุณพ่อคุณแม่เลยเดินเข้าไปในห้องรับแขกครับ
   คราวนี้ก็เหลือผม เป๊บ และเจ้าจิมละครับ
“เฮียตกลงจะไปพักฟื้นที่บ้านหรือบ้านพี่เป๊บอะ” จิมถามขึ้นมาครับ
“ไม่รู้เลยจิม คงแล้วแต่ผู้ใหญ่จะตกลงว่ายังไงอะ”
“จิมว่าเฮียไปพักฟื้นบ้านพี่เป๊บก็ดีนะ ช่วงนี้พ่อกับแม่ลุยงานเยอะเลยละ จิมว่าจะไปช่วยทำด้วย ถ้าเฮียอยู่กับป้าศรีที่บ้าน ป้าศรีจะดูแลไม่ไหวเอาน่า”
“ก็ดีนะจิม โจ้ไปพักบ้านเป๊บดีกว่า เป๊บดูแลเอง” เป๊บเสนอความคิดเห็นขึ้นมา แต่ทำหน้าหื่นๆ ใส่ ชิ ทะลึ่งงงง
   ประมาณสักสิบนาที บรรดาคุณพ่อคุณแม่ก็ออกมาจากห้องรับแขก
“ตกลงลูกโจ้ไปพักบ้านพ่อนะ เจ้าตัวแสบจะได้ดูแลใกล้ชิด” คุณพ่อเป๊บบอกกับผมครับ จนผมหันไปสบตากับคุณพ่อคุณแม่
“เอาตามนั้นนะลูก ทางบ้านเป๊บจะได้ดูแล ช่วงนี้พ่อกับแม่เร่งเคลียร์งานไตรมาสที่สองด้วยนะ” คุณพ่อบอกกับผมครับ
“ได้ครับๆ แต่ถ้าเป๊บดูแลโจ้ไม่ดี พ่อกับแม่มารับด่วนนนนเลยน้า” ผมตอบตกลงพร้อมพูดอ้อนๆๆ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” คนทั้งห้องฮาครืนเลยครับ
   พูดคุยกันได้สักพัก จนหมดเวลาเยี่ยมครับ ในห้องก็เหลือผมกับเป๊บสองคน ก็นั่งคุยเล่นดูโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ ครับ จนกระทั่งผมผลอยหลับไป ในคืนก่อนออกจากโรงพยาบาลผมฝันถึงคุณยายครับ
   ในความฝันผมเห็นคุณยายยืนเรียกผมอยู่ข้างเตียงในห้องที่ผมนอนพักฟื้น
“ไอ้หนูๆๆ ยายเองลูก” ผมได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นๆ เลยลืมตาขึ้นมา
“คุณยายยยยยยยยย” ผมดีใจที่เห็นคุณยาย เลยเผลอตะโกนออกพร้อมโผเข้ากอดครับ
“โอ้ยยยยยย” จังหวะที่โผเข้ากอด รู้สึกเจ็บช่วงบั้นเอวถึงปลายขาครับ
“ไอ้หนูเจ็บหรือลูก” คุณยายกอดพร้อมเอามือมาลูบศรีษะครับ
“นิดหน่อยครับคุณยาย แล้วนี่คุณยายมาได้ยังไงครับ” ผมตอบคุณยายพร้อมมองไปรอบๆ เป๊บล๊อกประตูแล้วนี่น่า ผมยังมองไปที่โซฟาเป๊บก็นอนหลับสนิทไม่รู้เรื่องอะไรเลยละครับ
“เรื่องนั้นอย่าได้สนใจเลยไอ้หนู...วันนี้ก็จะออกจากโรงพยาบาลแล้วใช่มั้ย”
“ครับคุณยาย”
“แล้วอาการเจ็บดีขึ้นมั้ยลูก”
“ดีขึ้นเยอะแล้วละครับ ยังมีเจ็บๆ ช่วงบั้นเอวถึงปลายขาบ้างครับ”
“ดีแล้วจ๊ะ...เหตุการณ์ร้ายๆ ผ่านพ้นไปแล้วนะไอ้หนู ชีวิตหลังจากนี้จะเจอแต่เรื่องดีๆ อาจจะมีความลำบากบ้าง ต้องอดทนนะจ๊ะ”
“ครับคุณยาย” ผมเงยหน้ามองคุณยาย ท่านยิ้มให้ผมด้วยครับ
“หนุ่มคนนั้นเค้าเป็นคนที่จะดูแลไอ้หนูของยายไปตลอดชีวิต จำคำของยายไว้นะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน อย่าทอดทิ้งกัน แล้วหลานกับแฟนของหลานจะมีความสุขตลอดไป”
“ครับคุณยาย ขอบคุณมากครับ”
“ยายไปก่อนนะ หนูจะได้พักผ่อนด้วย”
“มาแป๊บเดียวเองอะคุณยาย จะรีบไปไหนครับ”
“ยายมานานแล้วนะ ถึงเวลาต้องไปแล้ว...ไอ้หนูมาให้ยายกอดอีกทีนึง หลับตาด้วยนะ”
“ครับ” ผมโน้มตัวไปกอดคุณยายพร้อมหลับตา
“ไอ้หนูเอ้ย...ด้วยผลบุญที่หลานของยายสะสมมาทุกภพชาติ ขอให้ผลบุญนั้นจงแสดงปาฏิหาริย์ให้หลานของยายหายจากการบาดเจ็บด้วยเถอะ”
   หลังจากที่คุณยายพูดจบ ร่างกายของผมสัมผัสถึงกระแสไออุ่นบางอย่าง มันสบายตัวอย่างบอกไม่ถูกจนผมหลับสนิทไปเลยละครับ

ต่อตอนหน้าคร้าบบบบ


โจ้ (นั่งเฝ้าไข้อยู่ข้างเตียง) กับ เป๊บ (ออดอ้อนให้คนเฝ้าไข้ไปนอนบนเีตียง)

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
ดีแล้วล่ะจ้ะที่โจ้ยังอยู่ข้างเตียง  ถ้าไม่สบายทั้งคู่แล้วใครจะดูแลล่ะ

ออฟไลน์ iamao12

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 78
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0

naiyana

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้เป๊บหายจากอาการป่วยเร็วๆ :L2:
ดีใจนะคะที่โจ้มาต่อแล้ว เป็นกำลังใจให้นะคะ
แล้วจะรออ่านตอนต่อไป มาต่อเร็วๆนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ wisky

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 529
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-18
แฟนใครเนี่ย(พี่โจ้ไง55+)น่ารักได้อีกมีอีกไหมผู้ชายแบบนี้พี่โจ้ก็ดูแลตัวเองด้วยนะค่ะ><

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
หวานตลอด อยากมีคนเรียกที่รักมั่งเนาะคุณโจ้


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






N_Penquin

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ lovelypolly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ตอนนี้ก็หวานอีกล่ะ อิ อิ จะหวานกันไปถึงไหน

แต่ก็ชอบอ่ะ หายป่วยเร็วๆนะค่ะ

รอตอนต่อไป  :L2:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3
ตามมาเป็น FC ด้วยครับ น่ารักทั้งคู่เลย

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
Chapter 28 กลับบ้านเรา....รักรออยู่

   การฝันถึงคุณยายเมื่อคืน ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ สำหรับผมเลยละครับ ตื่นมาก็อารมณ์ดีทันทีเลยละ ผมลืมตาช้าๆ มองไปที่นาฬิกาตรงผนังปลายเตียง เวลา 7 โมงเช้าแล้วครับ ชายสายตามองไปที่โซฟา เป๊บยังนอนหลับสนิทอยู่ คนอะไร ขนาดนอนยังหล่อมากมายก่ายกอง ฮิฮิ นอนมองเป๊บไปสักพัก เริ่มหิวน้ำแล้วครับ จะเรียกเป๊บก็รู้สึกเกรงใจ ผมเลยขยับตัวเพื่อจะลุกขึ้นนั่งและรินน้ำใส่แก้วที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียง
   เคร้งงงงงงงงงงง ด้วยความที่ยังทรงตัวไม่ค่อยดีครับ เลยพลาดทำขวดล้มกระแทกแก้ว เป๊บคงได้ยินเสียง เลยลืมตาขึ้นทันทีครับ
“ที่รักกกก..ทำอะไรครับ” เป๊บลืมตาลุกขึนนั่งมองมาที่ผมทันที
“อ๋อ...แหะๆ คือ โจ้อยากดื่มน้ำนะครับเป๊บ เลยลุกขึ้นมารินน้ำ แต่พอดีพลาด..” ผมตอบเป๊บไปยิ้มไป
“อ้าวแล้วทำไมไม่เรียกเป๊บละครับ ถ้าเกิดพลาดตกเตียงขึ้นมาจะทำยังไงนะ” เป๊บขวมดคิ้วทำเสียงดุๆ ใส่ผมอะครับ จนผมหน้าเจื่อนเลยอะ
“ก็...โจ้เห็นเป๊บนอนหลับสบายนี่น่า...เลยไม่กล้าปลุกอะครับ...” ผมตอบเป๊บแบบหน้าเจื่อนๆ ไป อะครับ ปกติเป๊บไม่ค่อยดุผมอะ
“ไม่เอานะที่รัก ยังไงก็ต้องปลุกเป๊บนะ เป๊บเป็นห่วงนะครับ เรื่องแค่นี้เป๊บทำให้ได้” เป๊บยิ้มแย้มไม่ดุแล้วครับ พร้อมเดินมารินน้ำให้ด้วย
“น้ำครับ...ค่อยๆ ดูดนะ ระวังสำลักนะครับ” เป๊บรินน้ำใส่แล้วพร้อมหลอดจ่อที่ปากผมเลยละครับ น้ำจืดเนอะ แต่ผมดื่มแล้วทำไมหวานง่า ฮ่าๆๆๆ

“โจ้นอนพักก่อนนะ เดี๋ยวเป๊บไปเตรียมผ้าเช็ดตัวกับน้ำอุ่นมาเช็ดตัวให้ครับ” เป๊บพูดจบก็รีบเดินไปที่ห้องน้ำเลยละครับ ผมก็เชื่อฟังขยับตัวนอนรอเป๊บมาเช็ดตัวครับ
“มาแล้วครับๆๆ ผ้าเช็ดตัวพร้อมน้ำอุ่น” เป๊บยกกาละมังจิ๋วมาครับ
“อะที่รักเป๊บเริ่มเช็ดตัวนะครับ”
“ครับเป๊บ”
   ระหว่างที่เป๊บกำลังเช็ดตัวไป เราสองคนก็คุยไปเรื่อยๆ ครับ มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง จนผมนึกถึงความฝันเมื่อคืน
“เป๊บค้าบบบ เมื่อคืนโจ้ฝันถึงคุณยายด้วยอะ”
“หา..จริงหรือครับ แล้วฝันถึงคุณยายยังไงบ้าง”
“คุณยายมาเยี่ยมโจ้นะเป๊บ แกมาพูดคุยไม่นานแล้วก็กอดโจ้ แต่ที่น่าแปลกคือ คุณยายบอกว่าถึงเวลาที่จะต้องกลับแล้ว ก็มากอดโจ้อะ มีกระแสอุ่นๆ ทำให้นอนหลับสบายเลยละครับ
“โห เป๊บว่าคุณยายอยากให้โจ้หายเร็วๆ แน่เลย”
“นั่นนะซิเป๊บ คิดถึงคุณยายมากมายเลยอะ”
“ครับ” เป๊บยิ้มๆ เช็ดตัวไปเรื่อยๆ
“อะที่รัก ถอดกางเกงครับ” ผมตกใจตาโตเลยละครับที่ได้ยินคำสั่งของเป๊บให้ถอดกางเกง
“บ้าแล้วเป๊บบบบบบ ทะลึ่งงงงง จะมาทำอะไรตอนเช้าแบบนี้อะ” ผมตะโกนต่อว่าเป๊บครับ
“หือ...ที่รักหมายความว่ายังไงนะ...ไม่ใช่แบบนั้น เป๊บหมายถึงจะเช็ดตัวให้สะอาดครับ” เป๊บตอบพร้อมทำหน้ายิ้มๆ
“โหหหหห ไม่เอาแล้วเป๊บ เช็ดแค่ท่อนบนก็ได้ ท่อนล่างไม่เป็นไรครับ”
“ไม่ได้ๆ ต้องเช็ดให้หมดซิครับ...แล้วโจ้จะอายอะไรครับเนี่ย เราสองคนก็เห็นหมดแล้ว” เป๊บตอบพร้อมทำสายตาหื่นๆ นิดๆ ใส่ผมด้วยอะ
   ผมละเครียดกับคำสั่งนี้จริงๆ เล้ยยย แฟนใครเนี่ยยย จะดูแลดีเกินเหตุแล้ววววว ฮ่าๆๆ เมื่อไม่มีทางเลือก ผมก็ขยับตัว เป๊บก็เอื้อมมือช่วยถอดกางเกงผมอะครับ ขอบอกเลยนะ ชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลนี่ออกแบบมาให้เสียตัวง่ายหรือยังไง ถอดง่ายมั๊กมากกกกก ชิชิชิ
   เมื่อกางเกงหลุดพ้นตัวไป เป๊บก็บอกให้ผมนอนหงาย โหยยย อายอะครับ นอนหน้าแดง..เขินนนน... เป๊บก็เอาผ้าชุบน้ำเช็ดส่วนล่าง ไล่ตั้งแต่ปลายเท้า ขึ้นมาเรื่อยๆ ครับ
“ที่รักผิวดีจังเลยนะครับ...แทบไม่มีริ้วรอยอะไรเลยนะ..ขาวเนียนมากๆ เลย” เป๊บเอ่ยปากชมผมครับ
“กรรมพันธ์มั้งเป๊บ” ผมตอบได้แค่นั้นจริงๆ ครับ คือ มันเขินมาก
   เป๊บเช็ดตัวขึ้นมาเรื่อยจนถึงขาอ่อน กำลังจะเข้าไปเช็ดโจ้น้อยแล้วววว ว๊ากกกก
“เป๊บๆๆๆๆๆ พอแล้วๆ คร้าบบบบ ตรงนั้นไม่ต้องเช็ดก็ด้ายยยยยยย”
“อ้าวที่รักไม่ได้นะครับบบ ถ้ามันอับชื้นขึ้นราจะทำยังไงอะ”
“บ้าแล้ววววว โจ้ดูแลรักษาความสะอาดอย่างดีนะ จะขึ้นราได้ยังไงละ” ผมแหกปากใส่เป๊บ
“ฮ่าๆๆๆ งั้นถ้าเป็นคนรักความสะอาด ก็ต้องให้เป๊บเช็ดครับ” ดูซิ แฟนใครเนี่ย เถียงคำไม่ตกฟาก ชิ
   เป๊บก็เริ่มเช็ดส่วนลับของผมแล้วละครับ มันเป็นธรรมดาของคนหนุ่มแน่นใช่มั้ยครับ มือไม้ไปถูกนิดๆ หน่อยๆ มังกรก็ผงาดขึ้นมา
“อ้าวที่รัก...จะแข็งทำไมครับเนี่ย” เป๊บพูดพร้อมกับยิ้มเจ้าเล่ห์มากๆ ครับ
“โห..ก็..มันมีอะไรไปกระตุ้นนี่เป๊บ ก็เลยขึ้นเป็นธรรมดาอะ” หน้าแดง นอนเขินอยู่นั่นแหละ แงๆ
“ฮ่าๆๆๆ ครับๆ แสดงว่าหนูน้อยโจ้ยังตื่นตัว เอาไว้โจ้ใหญ่หายเมื่อไหร่ โจ้น้อยเตรียมตัวเหนื่อยนะจ๊ะ” เป๊บพูดพร้อมกับไปพูดกับหนูน้อยผมด้วยอะ แฟนใครเนี่ยยยยยยย ทะลึ่งโคตรรรรรรรร

   หลังจากที่เช็ดตัวเสร็จครับ เป๊บก็ช่วยผมแต่งตัวเหมือนเดิม ไม่เกินสิบนาทีมีเสียงเคาะประตูห้อง เป๊บลุกขึ้นไปเปิด เจ้าหน้าที่เอาอาหารเช้ามาส่งครับ เป๊บก็จัดแจงป้อนข้าวป้อนน้ำสารพัด จนผมอิ่มแล้ว คุณพ่อคุณแม่และเจ้าจิมมาถึงพอดี ตามด้วยคุณพ่อคุณแม่ของเป๊บพร้อมคุณลุงหมอครับ
“เป็นไงบ้างหลาน อาการดีขึ้นมากหรือยัง วันนี้กลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วนะ” คุณลุงหมอบอกกับผมครับ
“โดยรวมก็ดีแล้วคร้าบบบ แต่ถ้าให้ดีกว่านี้กลับไปพักฟื้นที่บ้านคงจะหายสนิทค้าบบบ” ผมตอบแหย่แซวลุงหมอไป
“ฮ่าๆๆๆๆ” คนในห้องหัวเราะพร้อมกันเลยละครับ
“จ้าลูก งั้นเชื่อลุงหมอกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แม่เอาชุดจากบ้านมาแล้ว ไปเปลี่ยนชุดดีกว่าลูก” แม่ผมเอาชุดมาให้อะครับ
“ครับแม่” ผมตอบรับคำสั่งแม่ไป
“คุณแม่ครับ งั้นเดี๋ยวผมจัดการเรื่องที่โจ้เปลี่ยนชุดเองนะครับ คุณพ่อกับคุณแม่ไปนั่งพักก่อนนะครับ” เป๊บอาสาครับ
“โอเค งั้นเดี๋ยวหลานโจ้เปลี่ยนชุดก่อนนะครับ ส่วนทุกท่านรบกวนเชิญที่ห้องวีไอพีนะครับ”
“แม่ครับๆ แล้วจิมต้องไปด้วยมั้ย”
“รอเป็นเพื่อนพี่เค้าดีกว่าลูก เดี๋ยวทางนี้ผู้ใหญ่จัดการเอง”
“ครับ งั้นจิมรอที่นี่ละกันนะ” แม่พยักหน้ารับคำของจิมครับ
“เฮียดีใจป่าวได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว รีบๆ เปลี่ยนชุดด่วนนนน”
“เออๆๆ เป๊บค้าบ เปลี่ยนชุดกันเถอะครับ” ผมหันไปอ้อนๆ เป๊บครับ อยากกลับบ้านแล้ว
   ใช้เวลาเปลี่ยนชุดไม่นานครับ สักพักมีเจ้าหน้าที่นำรถเข็นมารอแล้วละครับ เป๊บกับจิมพยุงผมไปนั่งบนรถเข็น เราสามคนพร้อมเจ้าหน้าที่ก็ลงมาที่ล๊อบบี้ของโรงพยาบาล ก็เจอกับบรรดาคุณพ่อคุณแม่รออยู่แล้วละครับ
   เป๊บเข็นผมไปที่รถตู้โฟล์คที่บรอนซ์ทองที่จอดคอยอยู่ตรงประตูทางเข้าอาคารครับ คุณพ่อคุณแม่ของผมและเจ้าจิม นั่งไปด้วยกัน คุณพ่อคุณแม่ของเป๊บไปนั่งรถตู้อีกคันนึง ขับตามหลังกันไปครับ
“เป๊บค้าบ รถคันนี้ของใครหรือครับ เหมือนเพิ่งซื้อเลยนะ โจ้ไม่เคยเห็นอะ”
“อ๋อ พ่อเป๊บเพิ่งซื้อมานะครับ แทนคันเดิมที่ขายไป”
“หือ ขายอัลพาร์ดไปหรือครับ”
“ใช่ครับ คันที่พาโจ้มาส่งโรงพยาบาลนะแหละ คุณพ่อรู้สึกไม่ดีเลยขายทิ้งไปเลยครับ”
“โห...ขนาดนั้นเลยหรือเป๊บ โจ้รู้สึกไม่ดีเลย เปลืองเงินครับ”
“โจ้อย่ากังวลเลยครับ คุณพ่อตัดสินใจขายไปนานแล้ว ช่างมันเถอะครับ” เป๊บตอบยิ้มๆ
“แล้วนี่ตกลงโจ้พักบ้านไหนอะครับ”
“บ้านเราแหละลูก” พ่อผมตอบครับ
“จริงหรือครับพ่อ ดีใจจัง แต่เท่าที่โจ้จำได้ เหมือนว่าคุณพ่อเป๊บให้พักที่บ้านท่านนี่น่า”
“แหมมม ความจำดีนะจ๊ะลูก ตอนแรกที่คุยก็ตกลงแบบนั้นแหละ แต่พ่อกับแม่เป็นห่วงลูก คุณพ่อของเป๊บเลยให้ไปพักที่บ้านเรา แต่มีข้อแม้คือ ให้เป๊บตามไปดูแลด้วยนะจ๊ะ” แม่ผมตอบร่ายยาวครับ
“ใช่แล้วเฮีย พูดง่ายๆ คือ พี่เป๊บไปนอนเฝ้าเฮียแหละ”
“ฮ่าๆๆๆ” ทุกคนในรถหัวเราะพร้อมกันเลยอะ
“ใช่แล้วครับโจ้ เป๊บดูแลแบบถึงพริกถึงขิง รับรองว่าโจ้หายสนิทแน่ แฮ่ๆๆ”

เป๊บหันมาพูดเบาๆ ข้างหู แต่ขอบอก แววตาแพรวพราวมากๆๆ งานนี้...แย่แน่...แง้ๆๆๆๆ
   
ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบ :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6
แย่อะไรกันโจ้ ให้เป๊บมาดูแลที่บ้านอะดีแล้ว แหม่ๆๆ ทำยังกะเป๊บไม่เคยมาพักที่บ้านอย่างนั้นแหละ   :m20:

ออฟไลน์ ChiOln

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

tawan

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26
การดูแลของเป๊บขณะโจ้กลับไปพักฟื้นที่บ้านจะอลังการขนาดไหน
รอตอนต่อไปอยู่ค่ะ

LoveFoolJoao

  • บุคคลทั่วไป
เกรงว่าเป๊ปจะไม่ให้โจ้ได้พักนะสิครับ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
ดูแลยังไงคะแบบถึงพริกถึงขิงน่ะ อิอิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ lovelypolly

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +59/-3
ได้กลับบ้านแล้วเย้! เป๊บจะดูแลโจ้ยังไงบ้างนะ
(แอบลุ้นจากสายตาของเป๊บ) :o8:
รออ่านต่ออยู่ค่ะ

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบ FC ทุกท่าน วันนี้นำตอนใหม่แบบยาวๆ มาอัพให้จุใจ อาจจะหายไปหลายวัน คิดถึงกันบ้างนะคร้าบบบบ  :pig4:


Chapter 29 การพักฟื้นที่อบอุ่น ความจริงของหลวงตา

   หลังจากที่เป๊บกระซิบข้างหูว่าจะดูแลผมแบบถึงพริกถึงขิง ผมก็นั่งตกใจมาตลอดทางละครับ ก็จะอะไรละ เป๊บชอบทำเสียงสยิวใส่นี่ มันเซ็กซี่นี่น่า ฮ่าๆๆ จนผมนึกถึงเรื่องที่ฝันเมื่อคืน จึงตัดสินใจที่จะเล่าคุณแม่ครับ
“แม่ครับ เมื่อคืนโจ้ฝันถึงคุณยายด้วยละครับ” ผมเล่าคุณแม่ ท่านทำตาโตเลยละครับ
“จริงหรือลูก ฝันว่ายังไงบ้าง” คุณแม่ถามผม คุณพ่อและเจ้าจิมหันมาสนใจด้วยครับ
“คุณยายมาเยี่ยมครับแม่ ท่านบอกว่าเป็นห่วง และอวยพรให้ผมหายเร็วๆ แล้วก็….”
“แล้วก็อะไรอะเฮีย” จิมถามขึ้นมาเมื่อเห็นผมเงียบไป
“ก็..คุณยายบอกว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นคนที่ดูแลผมตลอดไปด้วยครับ” ผมพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่เป๊บ เขินอะ หน้าแดงอีก
“โอ้วววววว” เจ้าจิมทะลึ่งแหกปากตะโกนออกมา จนพ่อกับแม่หัวเราะเลยละครับ ส่วนเป๊บอมยิ้มราวกับว่าดีใจที่คุณยายพูดแบบนั้น เชอะ
“งั้นก็คงต้องยึดถือความคิดเห็นของคุณยายนะลูก...เป๊บแม่ฝากโจ้ด้วยนะจ๊ะ” แม่ผมเออ ออ ตามนั้นพร้อมหันไปบอกเป๊บอะครับ
“ครับแม่ ผมจะดูแลโจ้ให้ยิ่งกว่าชีวิตของผมเลยครับ” เป๊บตอบแม่พร้อมสบตากับผมครับ....ขอบอก ทำสายตายังกะพี่หลิวฯ ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ งั้นอะ ฮ่าๆๆๆๆ
“เว่อร์แล้วเป๊บ..โจ้ดูแลตัวเองได้..แบร่ๆ” ผมพูดพร้อมแลบลิ้นใส่เป๊บครับ
“ฮ่าๆๆๆๆ” เรียกเสียงหัวเราะทั้งรถได้เป็นอย่างดี
   ประมาณครึ่งชั่วโมง รถก็เคลื่อนที่มาถึงบ้านผมแล้วละครับ เป๊บพยุงผมลงจากรถ ป้าศรีเดินกึ่งวิ่งออกมารับด้วยความเป็นห่วง ป้าศรีดูเป็นห่วงผมมากเลยครับ เข้ามากอด จับตัว พร้อมถามว่าเป็นยังไงบ้าง ยังไงอย่างไร จนป้าศรีรู้สึกว่าผมใกล้จะหายจากการบาดเจ็บแกก็เลยคลายความกังวลครับ
   ในช่วงที่ผมกำลังเดินเข้าไปในตัวบ้าน รถตู้ของคุณพ่อคุณแม่เป๊บก็ตามมาถึงพอดีครับ ผมรู้สึกคิดถึงบ้านมากๆ เพราะว่าต้องไปนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งหลายวัน ในใจก็อยากจะขึ้นไปบนห้องเพื่อเช็คเมล์ กับพวกข้อมูลส่วนตัว แต่ติดที่ว่ายังเดินไม่ค่อยแข็งแรงครับ เป๊บเองก็ไม่ปล่อยให้คลาดสายตา
   คุณแม่ผมชวนคุณพ่อคุณแม่เป๊บทานข้าวเย็นด้วยกัน ท่านก็ตอบตกลงครับ คุณพ่อเป๊บท่านก็กำชับเป๊บว่าให้ดูแลผมให้ดี อะไรจะเป็นห่วงกันขนาดนั้น แต่ก็รู้สึกดีนะครับที่มีคนเอาใจอะ ผมนั่งในห้องเล่นดูโทรทัศน์ไปเรื่อยๆ เป๊บกับเจ้าจิมก็นั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องทำงานอีกห้องนึง คุณพ่อผมกับคุณพ่อเป๊บนั่งคุยกัน ส่วนบรรดาคุณแม่ก็เข้าไปช่วยทำอาหารในครัวครับ ผมนั่งมองบรรยากาศรอบๆ บ้าน ดูแล้วมีความสุขจังเลยครับ ราวกับว่าครอบครัวของเราใหญ่ขึ้น จึงทำให้เกิดความครึกครื้น ไม่เงียบเหงาแล้วละครับ สุขใจจังเล้ยยยยยย
   จนเวลาประมาณหกโมงเย็นครับ เป๊บก็เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับบอกว่าตั้งโต๊ะอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว เป๊บจึงพยุงผมเดินไปที่ห้องรับประทานอาหารซึ่งอยู่ติดกับห้องครัวครับ ระหว่างที่กำลังเดินไป ผมกับเป๊บได้ยินเสียงรถเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน เราสองคนมองไปตามเสียงรถครับ จิมอยู่ใกล้หน้าบ้านที่สุด เลยเดินออกไปดู ก็บอกกับผมว่า
“เฮียยย พี่ฉัตรกับพี่เบิด มาอะ”
“จริงอะ..เป๊บโจ้ลืมโทรบอกฉัตรเลยอะว่าออกจากโรงพยาบาลแล้ว” ผมเงยหน้าบอกเป๊บครับ
“นั่นซิโจ้..เป๊บก็ลืมโทรเหมือนกันครับ ฉัตรจะด่ามั้ยเนี่ย”
“หือ..โจ้ว่าคงไม่.....” ผมกำลังจะตอบเป๊บครับ ก็ได้ยินเสียงฉัตร
“ต้ายยยยยยยยยยยยยย...ตายยยยยยยยยยยย..อีสวิงหอกหักกกกกกก....เมิงออกจากโรงพยาบาลไม่คิดจะโทรบอกรูมั่งเร้ออออออออออออ” ไม่ทันขาดคำ ชีแกก็แว๊ดใส่เลยละครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ” คำพูดของฉัตรเรียกเสียงหัวเราะของผมกับเป๊บและจิมได้เป็นอย่างดีครับ
“ขอโทษๆๆๆ วะฉัตร กรูลืมโทรบอกอะ มัวยุ่งๆ กับเรื่องเคลียร์กับโรงพยาบาล” เป๊บตอบเชิงขอโทษฉัตรครับ
“นั่นดิไอ้เป๊บ กรูกะฉัตรไปโรงพยาบาลมา เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าออกไปตั้งแต่ช่วงเที่ยง” เบิดตอบแทนฉัตรครับ
“กรูเลยยืนหน้าแหกหน้าเคาเตอร์นั่นแหละ พวกเมิงเนี่ยนะ ทำให้ผู้ดีไฮโซแบบกรูต้องดูหม่นหมองในสายตาสาธารณชน” ฉัตรร่ายยาวต่อเลยครับ
“เว่ออออออออออออออร์” ผมแหกปากใส่ฉัตรไป
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ฉัตรกับเบิดหัวเราะพร้อมกัน
   สิ้นเสียงหัวเราะคุณแม่ผมก็เดินออกมาหน้าบ้านพอดีครับ
“อุ้ย คุณแม่สวัสดีคะ / ครับ”
“สวัสดีจ๊ะลูก แม่กำลังเตรียมอาหารเย็น ไหนๆ แวะมาเยี่ยมโจ้แล้ว ทานข้าวด้วยกันเลยนะ”
“เกรงใจจังคะแม่ แต่ถ้าได้ทานฝีมือแม่คงโชคดีไม่น้อยค่า” ฉัตรตอบแม่พร้อมยิ้มกว้าง
“ผมก็คิดเหมือนฉัตรครับแม่” เบิดผสมโรง
“เรอะ...เนียนเนอะ” ผมแซวครับ
“ฮ่าๆๆๆๆ แหมเมิงก็ นานๆ มาเยี่ยมเมิง ขอชิมฝีมือคุณแม่ทีเห้อออ” ฉัตรตอบผมครับ
   พวกเราทั้งหมดก็เดินไปที่ห้องรับประทานอาหารครับ ฉัตรกับเบิดก็ไหว้ทักทายบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหมด หลังจากพูดคุยกันนิดนึงก็เริ่มทานข้าวกัน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารครื้นเครงดีครับ สนุกสนาน เฮฮา ฉัตรก็ชมคุณแม่ไม่ขาดปากว่าอาหารอร่อยเหมือนโรงแรมสิบดาว เว่อร์มากๆ แต่เห็นเพื่อนรักมีความสุขก็ดีใจครับ ป้าศรีก็วุ่นๆ กับการตั้งโต๊ะให้กับคนติดตามของคุณพ่อเป๊บเพิ่มด้วย
   ใช้เวลาในการทานอาหารพักใหญ่เหมือนกันครับ จนได้เวลาสมควร คุณพ่อคุณแม่เป๊บก็ขอตัวกลับ พร้อมกับกำชับให้เป๊บดูแลผมให้ดี แถมคุณพ่อเป๊บมากอดผมทีนึงด้วย ตายละ เขินนนน นึกไม่ถึงว่าท่านจะมากอดด้วยความเอ็นดูนะครับ ฉัตรกับเบิดก็นั่งเม้าท์ๆ กับผม จนได้เวลาก็ขอตัวกลับ เป๊บก็เอ่ยขึ้นมาว่า
“โจ้ครับ ขึ้นไปพักผ่อนดีกว่านะ เค้ากลับกันหมดแล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายอีก”
“ได้ครับเป๊บ” ผมตอบรับคำไปพร้อมกับจะลุกขึ้น เป๊บก็รีบเดินเข้ามาช่วยพยุงตัวครับ
“ขึ้นบันไดไหวมั้ยครับ”
“เดี๋ยวคงต้องลองขึ้นดูนะเป๊บ โจ้ว่าน่าจะไหว”
   ผมจับราวบันได พร้อมกับก้าวขาขึ้นไปทีละขั้น ไม่น่าเชื่อนะครับว่าบันไดที่ผมขึ้นลงวันละหลายๆ รอบตั้งแต่เด็กจนโตขนาดนี้ ณ เวลานี้ผมกลับก้าวขาขึ้นแทบไม่ไหว มันรู้สึกชาที่ปลายเท้านะครับ เป๊บเห็นว่าผมคงขึ้นลำบาก เลย...อุ้มผมเลยละครับ
“แว๊กกก...เป๊บๆๆ โจ้ขึ้นเองได้ อย่าอุ้มๆๆ” ผมโวยวายใส่เป๊บครับ
“ไม่เอานะที่รัก อย่าดื้อ ขึ้นไหวที่ไหนกัน ขาดูสั่นขนาดนั้น เดี๋ยวตกบันไดอาการหนักกว่าเดิมอีก” เป๊บพูดเสียงดุๆ ใส่ จนผมไม่กล้าเถียงเลยอะ
   เป๊บอุ้มผมเดินขึ้นบันได ราวกับว่าเป๊บอุ้มสำลีละครับ ทำไมดูคล่องจัง
“เป๊บ..ไม่หนักหรือครับ”
“หนักตรงไหน ตัวเบายังกะนุ่น แค่นี้สบายมาก” เป๊บตอบผมพร้อมกับยิ้ม
   มาถึงหน้าห้อง เป๊บก็ปล่อยผมลงครับ ผมเดินเข้าห้องไปนั่งบนเตียง เป๊บก็ถามว่าจะอาบน้ำหรือเช็ดตัว ตอนอยู่โรงพยาบาลไม่ได้อาบน้ำเลยนี่น่า โดนเช็ดตัวตลอด ตัดสินใจอาบน้ำดีกว่า เลยบอกเป๊บไปว่า อาบน้ำครับ
“งั้นเป๊บไปเตรียมน้ำอุ่นในอ่างก่อนนะ โจ้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลยครับ เดี๋ยวเป๊บอาบให้” ผมตกใจกับสิ่งที่เป๊บบอกอะ
“ว๊ากก..โจ้อาบเองได้อะเป๊บ ไม่ได้เป็นอัมพาตนะที่จะอาบเองไม่ได้อะ” ผมพูดเสียงดุๆ เป๊บ
“ไม่ได้นะที่รัก เข้าไปอาบเองถ้าลื่นหัวฟาดพื้นทำยังไงอะ ไม่รู้แหละ เป๊บจะอาบน้ำให้ เปลี่ยนผ้าเลย ไม่งั้นคืนนี้จับปล้ำ” เป๊บพูดเสียงดุๆ ในตอนแรก พอตอนขู่ทำสายตาระยิบระยับ ชิ แฟนใครเนี่ยยยยย
“โหยยยย ก็ได้อะครับ” ผมกลัวเป๊บปล้ำอะครับ เลยยอมๆ ให้อาบน้ำ เชอะ
   เปลี่ยนผ้าเสร็จ เป๊บพยุงผมเดินเข้าห้องน้ำครับ ผมนั่งแช่น้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ เป๊บก็ลงมาในอ่างด้วยอะ ผมตกใจเหมือนกัน แต่จริงๆ เราสองคนก็อาบด้วยกันแบบนี้บ่อยไปครับ ฮิฮิ
“ผิวที่รักขาวจังเลยนะ แถมผิวลื่นถูง่ายด้วยนะครับ” เป๊บชมผมครับ
“อย่าชมมากซิเป๊บ เขินอะ อิอิ เป๊บก็ผิวดีนะครับ กล้ามก็แน่นปึ๊ก” ผมชมเป๊บด้วยครับ
“ก็เป๊บแมนทั้งแท่งนี่น่า เลยต้องแข็งแรงซิ”
“แหวะ ทำมาโม้....” ผมแซวครับ
“ไม่ได้โม้นะ แมนทั้งแท่ง แถมแข็งด้วยนะ” เป๊บพูดพร้อมเอามือผมไปแตะเป๊บน้อยอะ
“แว๊กกกก ทะลึ่งอะเป๊บ แบร่ๆๆ” ผมแกล้งโวยวายแลบลิ้นใส่ แต่หน้าแดง เขินนน
“ฮ่าๆๆๆ” เป๊บหัวเราะร่าเลยครับ
“เป๊บครับ ถ้าโจ้หายดีแล้ว เราไปกราบหลวงตากันนะ” ผมเอ่ยปากชวนเป๊บครับ
“ดีเหมือนกันครับ เป๊บอยากไปกราบท่านเหมือนกัน ดังนั้นโจ้ต้องรีบๆ หายละ จะได้ไปกราบท่าน”
“ครับเป๊บ” ผมตอบรับคำ เป๊บก็ถูหลังผมไปด้วยครับ
“น้องชายโจ้จะให้เป๊บถูให้หรือถูเองครับ”
“บ้าแล้วววว...โจ้ถูเองอะ เป๊บไม่ต้องเลยนะ” ผมโวยวายใส่ครับ
“หือ..แล้วที่รักจะโวยวายทำไมนะ เป๊บยังไม่ได้ว่าอะไรเลย ฮ่าๆๆ” ตลอดเลยอะเป๊บ กะล่อนไปเรื่อย ชิ แฟนใครอีกเนี่ยยยยยยย คิคิ

   อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เป๊บพยุงผมมานอนที่เตียงครับ ผมเอนหลังพักผ่อนเป๊บก็กระโดดขึ้นเตียง กระดึ๋บๆ ขยับตัวรีบมานอนข้างๆ พร้อมกับเอามือมาโอบกอดอะครับ
“แอะเป๊บ เอามือออกเลยนะ อึดอัดๆๆ”
“หือ...ขอเป๊บนอนกอดหน่อยนะ ไม่ได้กอดมาตั้งหลายวันแล้ว..ตัวนิ่มๆๆ หอมๆๆ แหะๆ” เป๊บพูดพร้อมกับหอมแก้มผมครับ
   ผมไม่ตอบอะไรเป๊บครับ เลยตามเลย ด้วยความเหนื่อยมาตลอดวันผมกับเป๊บก็หลับภายในเวลาอันรวดเร็วครับ

ห้าวันผ่านไป............

   ผมกลับมาพักที่บ้านเป็นวันที่ห้าแล้วครับ อาการโดยรวมดีขึ้นมาก ผมสามารถเดินได้โดยที่เป๊บไม่ต้องพยุงแล้ว เพียงแต่ยังยกของหนักมากไม่ได้รวมถึง กระโดด หรือ เขย่งยังมีอาการชาปลายเท้าครับ แต่ถ้าเดินปกติ ไม่แสดงอาการอะไรแล้วครับ เมื่ออาการดีขึ้นมาก ผมเลยตัดสินใจชวนเป๊บไปกราบนมัสการหลวงตาตามที่เราคุยไว้ตั้งแต่แรกว่าถ้าผมหายดีแล้ว เราสองคนจะไปกราบท่านอะครับ
“ฮัลโหล...เป๊บครับวันนี้ว่างมั้ย..โจ้อยากไปกราบนมัสการหลวงตานะครับ” ช่วงเช้ามืดเป๊บกลับไปที่บ้านเพื่อจัดเสื้อผ้าชุดใหม่มาค้างที่บ้านผมครับ
“อ๋อ...ได้ครับที่รัก..ไปกี่โมงดีครับ”
“อืมมม..ตอนนี้แปดโมงเช้า เราไปกันประมาณสิบโมงดีมั้ยครับ อาจจะไม่ทันถวายเพล แต่ถ้าไปถึงช่วงบ่ายค่อยถวายน้ำปาณะก็ได้ครับ”
“ได้ครับๆ งั้นประมาณสิบโมงเป๊บจะไปถึงบ้านนะครับ โจ้เตรียมตัวเลยนะ”
“ครับ” ผมก็วางสายเป๊บครับ พร้อมกับเดินเข้าไปในครัวเพื่อถามป้าศรีว่าพอมีเครื่องดื่มอะไรที่พอถวายหลวงตาได้บ้าง
“คุณหนูใหญ่จะรับอะไรหรือคะ” ป้าศรีถามเมื่อเห็นผมยืนมองแถวๆ ตู้เย็นครับ
“อ๋อ..พอดีจะไปกราบนมัสการหลวงตานะครับ โจ้เลยมาดูเครื่องดื่มว่าพอมีอะไรบ้าง”
“คะ..ถ้ามีป้าว่าน่าจะถวายไม่ได้นะคะเพราะเราแกะเตรียมแช่ตู้เย็นหมดแล้ว เอาแบบนี้มั้ยคะ เดี๋ยวป้าจะใช้เจ้าจอมไปซื้อให้คุณหนูเอง” จอมเป็นหลานชายของป้าศรีครับ พ่อแม่ของจอม ฝากมาเรียนในกรุงเทพฯ เพื่อความประหยัดคุณแม่ผมท่านเลยอนุญาตให้มาค้างโดยช่วยเหลืองานบ้านเล็กน้อยแทนป้าศรีในบางโอกาสครับ
“ดีเหมือนกันครับ ยังไงฝากป้าศรีบอกจอมด้วยนะ”
“ได้คะ งั้นเครื่องดื่มป้าเลือกให้เลยนะคะ”
“ครับ”

   ผมนั่งดูรายการโทรทัศน์รอเป๊บมารับในเวลาสิบโมงครับ ใกล้เวลาที่นัดเป๊บก็มาถึงพอดี รถเบนซ์ E240 คันโปรดของเป๊บเข้ามาจอดที่ทางเข้าหน้าบ้านครับ
“ที่รัก พร้อมเดินทางหรือยังครับ”
“คร้าบๆๆ พร้อมแล้ว เดินทางกันเล้ยยย” ผมอารมณ์ดีเป็นพิเศษครับ ดีใจที่ได้ไปกราบหลวงตาอีกครั้ง เดินลงมาเพื่อขึ้นรถก็เห็นจอมกุลีกุจอเอาของที่เตรียมถวายใส่กระโปรงหลังรถครับ
“เดินทางปลอดภัยนะลูก อย่ากลับค่ำมากนะ เย็นนี้แม่ทำของโปรดไว้ให้” แม่ผมเดินออกมาส่งครับ
“ครับแม่ จะรีบไปรีบกลับนะครับ” ผมตอบรับแม่ไปครับ

   ออกจากบ้านได้ไม่นานก็เข้าสู่เส้นทางหลักที่เดินทางไปวัดครับ คงเป็นเพราะการจราจรไม่ติดขัดมากนัก ผมกับเป๊บก็เดินทางมาเกือบครึ่งทางแล้ว เราสองคนคุยสัพเพเหระไปเรื่อยครับ
“โจ้ครับ...ฉัตรโทรมาถามเป๊บว่าเรื่องไปเสม็ดวันไหนดี”
“อ๋อ..วันไหนก็ได้ครับเป๊บ ตอนนี้โจ้หายดีแล้วละ”
“อืม...เอาเป็นช่วงกลางสัปดาห์ดีมั้ยครับ คนไม่เยอะ น่าจะสงบและเป็นส่วนตัวดีนะ”
“ก็ดีนะเป๊บ..แล้วฉัตรมันว่าไงอะ”
“โจ้ลองโทรไปคุยกะฉัตรดีมั้ยครับ เผื่อจะได้ตกลงวันเวลาให้ชัดเจน”
“ครับๆ” ผมตอบรับคำเป๊บพลางก็หยิบโทรศัพท์กดไปหาฉัตรครับ

“ฮัลโหล..ฉัตรกรูเอง”
“เออ...ว่าไงราก มีอะไรให้กรูรับใช้”
“เมิงก็เว่อร์ไปอะ กรูจะโทรมาตกลงเรื่องวันเวลาไปเสม็ดไง”
“เออวะ เมิงสะดวกวันไหนอีหอยกรอบ”
“คุยกับเป๊บว่าน่าจะเป็นกลางสัปดาห์นะ เอาเป็นวันอังคาร พุธ พฤหัส หน้าดีมั้ย”
“เออได้ๆ เดี๋ยวกรูประสานเพื่อนๆ เอง และจะจัดการเรื่องที่พักด้วย”
“โอเคๆ ขอบใจนะเมิง”
“เออๆ แค่นี้นะราก ไว้คุยกัน”
“เออๆ” ผมละงงกับสรรพนามที่มันเรียกจริงๆ เล้ย สารพัดจะตั้งชื่อให้ผมอะ ฮ่าๆๆๆ
“ฉัตรว่าไงครับที่รัก” เป๊บถามผมหลังจากที่วางสายฉัตรครับ
“ตกลงกับฉัตรว่าเดินทางอังคาร พุธ พฤหัส หน้าครับ”
“แล้วเพื่อนๆ ละครับ”
“ฉัตรรับปากจะจัดการเองทั้งหมดเลยค้าบบบบ”

   การเดินทางใช้เวลาอีกไม่นานนักก็ถึงถึงวัดแล้วละครับ เป๊บขับรถไปจอดบริเวณใกล้ๆ กับโบสถ์ ซึ่งคิดว่าน่าจะใกล้กุฏิหลวงตาครับ
   ผมกับเป๊บลงจากรถ เป๊บเดินไปเอาของถวายด้านหลังรถ ส่วนผมก็ยืนหันไปมาสอดส่องสายตาหากุฏิของหลวงตา คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็นกุฏิหลังนั้น
“เป๊บค้าบบ กุฏิหลังนั้นของหลวงตามั้ยอะ” ผมถามเป๊บพลางชี้นิ้วไปทางซ้ายมือ
“ไม่แน่ใจเหมือนกันนะครับ เป๊บว่าลองเข้าไปถามดีมั้ย”
“ค้าบๆ มามะโจ้ช่วยถือ” ผมเดินเข้าไปช่วยเป๊บ
“ไม่ต้องๆ โจ้ยังถือของหนักไม่ได้ เป๊บจัดการเองครับ”
   เป๊บปฏิเสธไม่ให้ผมถือของครับ ผมก็เลยเดินนำลิ่วไปที่กุฏิ ว่าจะลองถามดู หลวงตาน่าจะอยู่หลังนี้แหละ กำลังจะเดินไปถึงกุฏิ ก็ได้ยินเสียงทักครับ
“คุณโยมมาหาใครหรือ” มีพระรูปนึงดูไม่สูงอายุมาก เข้ามาถามผมครับ
“อ๋อ นมัสการครับ พอดีผมมาหาหลวงตา เอ่อ...” ผมพยายามตอบท่านไป แต่จำชื่อหลวงตาไม่ได้ครับ
“คุณโยมหมายถึงหลวงตาเงื่อมหรือ”
“ท่านครับ จริงๆ ผมก็จำไม่ได้ แต่น่าจะเป็นหลวงตาที่เอ่ยถึงครับ”
“งั้นคุณโยมทั้งสองเข้าไปในกุฏิกับอาตมาเถอะ”
   ผมกับเป๊บเดินตามพระท่านไปตามคำชวนครับ พอเข้าไปด้านในกุฏิ ผมกับเป๊บเห็นรูปหลวงตาแขวนอยู่บนผนังกุฏิครับ
“เป๊บ รูปหลวงตาจริงๆ ด้วย แสดงว่ามาถูกกุฏิแล้วละ” ผมหันไปบอกเป๊บ เป๊บพยักหน้าให้ผมครับ
“ท่านครับ แล้วหลวงตาท่านอยู่ไหนหรือครับ” เป๊บยืนหันไปมามองรอบๆ เมื่อไม่เห็นหลวงตาจึงเอ่ยถามขึ้นมา
“คุณโยม หลวงตาท่านได้ละสังขารแล้ว”
“หา...อะไรนะครับบบบบบบ” ผมกับเป๊บอุทานด้วยความตกใจพร้อมกันเลยครับ
“ใช่แล้วคุณโยมทั้งสองได้ยินไม่ผิดหรอก หลวงตาท่านได้ละสังขารไปตั้งแต่วันที่ 22 เดือนที่แล้ว”
   ผมกับเป๊บตกใจในสิ่งที่พระท่านบอกมากๆ ครับ ไม่นึกว่า หลวงตาท่านจะไม่อยู่ให้เราสองคนได้กราบขอบพระคุณอีกแล้ว
“จริงหรือครับ” ผมทวนคำถามทั้งๆ ที่หลวงตาไม่อยู่แล้วจริงๆ น้ำตาก็ไหลเอ่อออกจากดวงตาครับ
“วันที่ 22 เดือนที่แล้ว ผมกับแฟนยังมากราบนมัสการหลวงตาเลยครับ ไม่น่าเชื่อว่า ท่านจะละสังขารแล้ว” เป๊บบอกเล่าพระท่านด้วยเสียงเศร้าๆ
“สัพเพ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สรรพสิ่งไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ความทุกข์ไม่จีรังยั่งยืน ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ชั่วขณะหนึ่ง แล้วก็ดับไปนะคุณโยม”
“ครับ” ผมกับเป๊บตอบรับคำสอนพระท่านพร้อมยกมือไหว้อนุโมทนาครับ
“การมาของคุณโยมทั้งสองเป็นสิ่งที่หลวงตาท่านได้กล่าวกับอาตมาไว้แล้ว ท่านสั่งอาตมาไว้ว่า เมื่อคุณโยมทั้งสองมาแล้ว ให้นำเอกสารแผ่นผับที่หลวงตาท่านได้เขียนไว้บรรจุใต้ฐานพระโต๊ะหมู่บูชา นำออกมาแล้วให้อาตมาอ่านให้โยมทั้งสองฟัง เพื่อให้ความตั้งใจของหลวงตาท่านสมความปรารถนา อาตมาจะนำเอกสารนั้นออกมานะ” พระท่านพูดจบก็เดินไปที่ฐานพระ ผมกับเป๊บก็ได้แต่นั่งพยักหน้าครับ
   พระท่านใช้เวลาในการค้นเอกสารไม่นานนัก ท่านเดินกลับมาพร้อมกับเอกสารในมือครับ
“คุณโยม อาตมาจะอ่านเนื้อความในเอกสารตามที่หลวงตาได้เขียนไว้ ขอให้คุณโยมได้ตั้งใจฟังนะ” ผมกับเป๊บพนมมือรับฟังข้อความของหลวงตาครับ

“โยมหลาน เมื่อได้ฟังข้อความนี้ หลวงตาคงไม่มีสังขารให้เห็นอีกแล้ว อย่าได้เศร้าโศก เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย เพราะสังขารของคนเรานั้น เกิดมาเพื่อตั้งอยู่ เกิดมาเพื่อแปรปรวน และสุดท้ายก็ดับไป ขอให้โยมหลานประกอบแต่ความดี ละเว้นการกระทำความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส คำสอนนี้ไม่ใช่เป็นคำสอนหลวงตา แต่เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นในอดีต และอนาคต จงยึดคำสอนนี้ให้มั่นและปฏิบัติตลอดจนหมดอายุขัยนะ” พระท่านอ่านจบ ผมก็น้ำตาแตกไปแล้วครับ ส่วนเป๊บตาแดงๆ คงเศร้าเหมือนกัน
“ขอบคุณครับหลวงตา ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆ ครับ ฮึกๆๆ..ฮือ...” ถึงแม้ผมได้เจอหลวงตาเพียงครั้งเดียวแต่ความรู้สึกของผมราวกับว่ามีความผูกพันกับหลวงตามานานแสนนาน ผมก้มกราบรูปหลวงตาพร้อมกับร้องไห้สะอื้นด้วยความเสียใจครับ
“คุณโยม อย่าได้เสียใจไปเลย การตายนั้นมันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าหรอก คุณโยมตั้งใจปฏิบัติในสิ่งที่หลวงตาได้บอกไว้ จะเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่นะ”
“ขอบคุณครับท่าน.....” ผมกับเป๊บก้มกราบพระท่าน พร้อมกับผมทำหน้าสงสัยว่าท่านชื่ออะไร
“อาตมาชื่อ พระมหาอุดม นะคุณโยม หรือชาวบ้านแถวนี้จะเรียกอาตมาว่า พระอาจารย์ ก็ไม่ผิดหรอกคุณโยม”
“ครับพระอาจารย์” ผมยิ้มพร้อมกับปาดน้ำตาไปด้วยครับ
“พระอาจารย์ครับ เครื่องดื่มนี้ตั้งใจจะนำมาถวายให้กับหลวงตา เพื่อไม่ให้เสียความตั้งใจ ผมขอถวายพระอาจารย์แทนนะครับ” เป๊บบอกกับพระอาจารย์ครับ
“เจริญพรนะคุณโยมทั้งสอง” ผมกับเป๊บประเคนเครื่องดื่มที่นำมาถวายกับพระอาจารย์ครับ
   หลังจากประเคนน้ำปาณะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราสองคนก็สนทนาธรรมกับพระอาจารย์สักครู่นึง จนได้เวลาจึงขอตัวกลับครับ ตลอดการเดินทางกลับ ผมกับเป๊บไม่ค่อยได้พูดอะไรกันเลย อาจจะเป็นเพราะยังตกใจกับการจากไปของหลวงตา และ อิ่มในรสพระธรรมคำสอนที่หลวงตาได้มอบให้เราสองคนด้วยความเมตตา
“เป๊บครับ รู้สึกดีเหมือนโจ้มั้ย วันนี้โจ้ว่าเราคุ้มนะ”
“นั่นซิครับโจ้ เอาไว้ถ้าวันไหนว่าง ค่อยมาหาพระอาจารย์กันอีกนะ”
“ได้ครับๆ ชวนพวกเพื่อนมาด้วยๆ” ผมยิ้มกว้างตอบเป๊บไปครับ เป๊บยิ้มตอบ
   เราสองคนถึงบ้านประมาณหกโมงเย็นครับ มาทันในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งโต๊ะอาหารเย็นพอดีเลย พวกเราทั้งหมดทานข้าวพร้อมกัน ผมก็เล่าในเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับหลวงตาทั้งหมดให้คุณพ่อกับคุณแม่ฟัง คุณแม่ท่านก็ตกใจครับ เพราะว่าคุณยายเคยพูดถึงหลวงตาเงื่อมด้วย คุณแม่จำได้คร่าวๆ ว่าคุณยายเล่าว่าหลวงตาจะละสังขารเมื่อช่วยหลานโยมช่วงสำเร็จ ซึ่งคุณยายเล่าเรื่องนี้มาสามสิบปีตั้งแต่คุณแม่ยังสาวๆ ซึ่งตอนนั้นผมยังไม่ได้เกิดมาเลยครับ ผมกับเป๊บหันไปมองหน้ากันด้วยอารมณ์ที่เกินจะบรรยาย แสดงว่า กรรมที่เราทำร่วมกัน เป็นเครื่องผูกพันชั้นเลิศเลยนะครับ
   หลังจากเก็บกวาดจากการทานอาหารเสร็จ ผมกับเป๊บก็ขึ้นมาบนห้องเตรียมตัวอาบน้ำนอนแล้วครับ ก่อนนอนผมนั่งสวดมนต์ ภาวนานึกถึงพระคุณหลวงตา เป๊บเองก็ทำด้วย ตลอดคืนนั้นเราสองคนนอนหลับสนิทด้วยความสุขครับ

ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบบบ :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
คุณเป๊บเป็นพระเอกในอุดมคติจริง ๆ อบอุ่น อ่อนโยน


ออฟไลน์ yeyong

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5857
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +917/-26

ออฟไลน์ เฉาก๊วย

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +251/-6

naiyana

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นดีจัง มีความรักที่จริงใจ มีความห่วงใย
ให้กันและกัน ความรักของเป๊บกับโจ้คงเป็นแบบอย่างให้ใครๆ
ได้หลายๆคน  จะเป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ ao16

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +253/-4

ออฟไลน์ jonathan2624

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 839
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-1
สวัสดีคร้าบบบ นำอีกตอนสั้นๆ มาลงให้อ่านก่อนครับ อิอิ ติดตามอ่านได้เลยคร้าบบบ :pig4: :pig4:

malula : พระเอกจริงๆ เลยคร้าบบบ ดูแลผมทุกเรื่องอะครับ อิอิ

tawan : ขอบคุณคร้าบบบบ

yeyong : ใช่ครับพี่ เหลือเชื่อมากๆ เลยครับ

เฉาก๊วย : ขอบคุณคร้าบบบบ

naiyana : ขอบคุณมากครับที่เป็นกำลังใจให้คร้าบบบ

ao16 : ขอบคุณคร้าบบบบบ


Chapter 30 เกาะเสม็ดเสร็จทุกรายภาค 1

   วันเวลาผ่านไปเร็วยังกับจรวด ก็มาถึงช่วงวันเวลาที่นัดกันไปเที่ยวเกาะเสม็ดครับ ในตอนเช้าของวันอังคาร ผมกับเป๊บกำลังวุ่นๆ อยู่กับการจัดกระเป๋าเสื้อผ้า ขอบอกเลยว่าขนเสื้อผ้าไปเยอะเลยละครับ เพราะแผนการเที่ยวส่วนใหญ่เกี่ยวกับการเล่นน้ำทะเล การดำน้ำ สารพัดเกี่ยวกับน้ำๆ ครับ ฮ่าๆๆ
“เป๊บค้าบบบ จัดเสร็จยัง ฉัตรมันออกจากบ้านมารับแล้วนะ” ผมตะโกนถามเป๊บจากชั้นล่างครับ
“ครับๆๆ กำลังจะเสร็จนะ”
   เป๊บจัดกระเป๋าเสร็จก็รีบเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกระเป๋าลากแบบล้อเลื่อนใบใหญ่ กระเป๋าของผมก็ใหญ่ไม่แพ้กันครับ
“โห..เป๊บนี่จะไปเมืองนอกป่าวอะ กระเป๋าใบใหญ่มาก เอาอะไรไปนักหนาเนี่ย” ผมแซวเป๊บครับ
“ฮ่าๆๆ ก็นิดนึงนะครับ ว่าแต่ตัวเองเหอะ ใบก็ใหญ่ไม่แพ้เป๊บหรอก” ผมแซวคืนครับ ผมก็ยิ้มๆ แหละ เพราะมันใหญ่จริงๆ นี่น่า
“แล้วนี่ไปกี่วันละ จะกลับกันวันไหน” คุณพ่อผมถามขึ้นมาครับ
“น่าจะวันพฤหัสหรือไม่ก็วันศุกร์นะครับพ่อ” ผมตอบพ่อไปครับ
“ยังไงก็อย่าประมาท ระวังตัวด้วยนะลูก เป๊บ โจ้ว่ายน้ำไม่คล่องเท่าไหร่ ดูแลโจ้ด้วยนะ”
“ครับพ่อ ฉลามเป๊บจะดูแลเป็นอย่างดีครับ”
“ฮ่าๆๆๆ” คุณพ่อผมขำในความตลกของเป๊บ
“ทั้งพ่อและลูกพร้อมลูกเขย มาทานข้าวเช้าได้แล้วจ๊ะ” แม่ผมเรียกมาจากในห้องรับประทานอาหารครับ
   เราทั้งสามคนก็ทานข้าวเช้ากัน คุณพ่อผมทานเสร็จก่อนก็ขอตัวไปทำงาน ส่วนเจ้าจิมออกไปตั้งแต่เช้า เห็นว่ามีนัดกับแฟนครับ จนเวลาประมาณ 9 โมงเช้า รถของฉัตรก็มาถึงหน้าบ้านผมละครับ
“สวัสดีคะคุณพ่อคุณแม่ โจ้กับเป๊บเสร็จหรือยังคะ”
“เสร็จแล้วจ๊ะลูก น่าจะขึ้นไปบนห้องล้างปากแปรงฟันนะจ๊ะ”
“คะ”
“แล้วนี่ลูกทานอะไรมาหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วคะแม่” ฉัตรยิ้มตอบแม่ไปครับ
“แล้วนี่ไปกี่คนละลูก”
“อ๋อ มีฉัตร เบิด ทราย โอ๊ต รวมทั้งหมด 6 คนคะแม่”
“อ๋อจ๊ะ ยังไงก็ฝากดูแลโจ้ด้วยนะ อาจจะเรื่องมาก เพราะตั้งแต่เด็ก็แพ้แดดง่าย ว่ายน้ำไม่คล่อง กินอะไรก็ลำบาก อย่าถือสานะ”
“สบายมากคะแม่ งวดนี้ไปเที่ยวแบบไฮโซเลยคะ พ่อฉัตรจัดการให้หมดแล้ว ระดับสิบดาวเลยคะแม่” ฉัตรตอบให้แม่สบายใจครับ
“เสร็จแล้วๆๆ ขอโทษที่ทำให้รอนาน” ผมวิ่งลงบันไดมา พร้อมตะโกนบอกฉัตร ส่วนเป๊บก็ตามมาติดๆ พร้อมตะโกนตามหลังว่าอย่าวิ่ง หายดีแล้วหรือนั่น ฮ่าๆๆ
“ฮ่าๆๆ โอเค งั้นฉัตรขอตัวนะคะแม่ จะนำโจ้กลับมาส่งอีกสองสามวันคะ”
“จ้าเดินทางปลอดภัย พระคุ้มครองนะ”
“แม่ค้าบบบโจ้ไปก่อนนะ สวัสดีค้าบบบ” ผมกอดแม่ทีนึงพร้อมไหว้ เป๊บก็ไหว้แม่ด้วยครับ ฮิฮิ

   ผมกับเป๊บเดินมาถึงรถ เห็นจอมกำลังเอากระเป๋าใส่ท้ายรถครับ การเดินทางวันนี้ฉัตรเอารถตู้คันใหญ่มาเลยครับ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ Alphad Hybrid  นะครับ นั่งได้ 6 คนพอดีเป๊ะเลย แต่สิ่งที่ฮามากๆ คือ ทริปนี้ เจ้าโอ๊ตเป็นคนขับครับ โดยมีเบิดนั่งคู่ด้านหน้า เป็น Navigator ละ ฮ่าๆๆ
   ฉัตรกับทรายคุณเธอสองคนนั่งตรงกลางรถ ผมกับเป๊บนั่งถัดมาครับ เมื่อเสร็จทุกอย่าง รถก็เคลื่อนออกจากบ้านผมมุ่งหน้าไปเกาะเสม็ดครับ
“แล้วทำไมกรูต้องมาขับด้วยเนี่ยยยยย” โอ๊ตแหกปากขึ้นมา
“ใช่แล้วทำไมกรูต้องมาเป็นคนนำทางวะเนี่ยยย” เบิดแหกปากผสมมา
“อ้าวอีนี่ ถ้าเอาคนขับรถมา มันจะพอนั่งกันมะ แล้วเมิงเป็นผู้ชายมีหำคนละแท่ง จะให้กรูขับหรือไง” ฉัตรแหกปากขึ้นมา
“ฮ่าๆๆๆๆๆ แม่มไอ้ฉัตร ทำไมเมิงไม่ให้ไอ้เป๊บขับวะ” โอ๊ตกับเบิดหัวเราะพร้อมกัน คราวนี้โอ๊ตหันไปแขวะเป๊บด้วยครับ
“อ้าวอีห่านี่ เสือกถามไม่ได้ดู ก็ไอ้เป๊บมันมากะเมียมัน จะให้มันมาขับได้ยังไงวะ” ฉัตรแหกปากด่าอีกรอบ
“ยังไม่ได้เป็นเมียโว้ยยยย แฟนโว้ยแฟนนนนน” ผมแหกปากสวนมาครับ
“ฮ่าๆๆๆ อีรากเอ้ยยยย ทริปนี้เมิงได้เป็นเมียแน่ จริงมั้ยวะเป๊บ” ฉัตรแหกปากกลับใส่ผม พร้อมหันมาขยิบตากับเป๊บ ผมหันไปมองเป๊บที่ยิ้มพร้อมกับทำสายตาระยิบระยับ ด้วยความหมั่นไส้ผมเอาศอกกระทุ้งไปทีนึงครับ
“โอ้ยยยย...ทำอะไรอะที่รัก...เป๊บเจ็บนะ” เป๊บร้องเบาๆ ทำมาอ้อนโอดโอยครับ จริงๆ ไม่ได้เจ็บสักหน่อย ผมละไม่อยากจะเถียงต่อเพราะกลัวแพ้ เลยหันหน้าออกไปมองนอกรถ พร้อมกับอาการเขินหน้าแดงครับ ฮ่าๆๆ
“ต้ายยยตายยยย หน้าแดงอีกแล้วนะยะคุณขา” ทรายแขวะผมครับ
“ฮ่าๆๆๆๆๆ” ทุกคนหัวเราะใส่ผมเลยอะ
“ดังนั้นมีหน้าที่ก็ขับไป เหยียบเร็วๆ แต่ให้มันปลอดภัย เข้าใจมะ” ฉัตรสั่งโอ๊ตครับ
“จ้า คุณนายยยยย จะขับเร็วไปถึงไหน เปลืองน้ำมัน”
“อย่าได้แคร์สื่อ ขับไปเดี๋ยวกรูเติมเอง เออถ้าเจอปั๊ม ปตท แวะด้วย จะแดกกาแฟอเมซอน”
“เรื่องมากเนอะ” เบิดแขวะฉัตรครับ
“ฮ่าๆๆๆ” ผมกับเป๊บหัวเราะครับ
   พวกเราแวะปั๊ม ปตท เพื่อซื้อขนม เครื่องดื่ม ไว้ทานเล่นในคืนนี้ครับ ผมละตกใจกับบรรดาเพื่อนๆ จะซื้ออะไรเยอะแยะไปหมด กำลังคิดว่าจะไปอยู่สองเดือนหรือยังไง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ปั๊ม ปตท เราก็เดินทางมุ่งหน้าไปยังบ้านเพ จังหวัดระยอง
   เมื่อมาถึงบ้านเพ ฉัตรก็โทรหาคนที่ประสานงานไว้ครับ เอารถไปจอดไว้ที่บ้านใครสักคนนึง ซึ่งอยู่บริเวณใกล้ๆ ท่าเรือครับ หลังจากนั้นก็มีลุงคนนึง เข้ามาคุยกับฉัตรพร้อมกับพาพวกเราไปที่ท่าเรือเพื่อขึ้นเรือสปีดโบท ไปเกาะเสม็ดครับ ผมละตื่นเต้นเพราะเป็นการนั่งเรือสปีทโบทครั้งแรกครับ ฮิฮิ หลังจากที่คุณลุงมาส่งที่ท่าเรือ พวกเราก็ไหว้ขอบคุณครับ พร้อมกับก้าวลงเรือนั่งประจำที่  เรือที่พวกเราใช้เดินทางในทริปนี้ เป็นเรือเร็วของโรงแรม ปารดี ครับ
“ทุกท่านครับ วันนี้คลื่นกับลมแรงเล็กน้อยนะครับ ยังไงรบกวนสวมเสื้อชูชีพ พร้อมกับเกาะแน่นๆ นิดนึงนะครับ” คนขับเรือบอกกับพวกเราครับ
“โจ้ มานั่งตรงนี้ครับ” เป๊บชวนผมให้ไปนั่งข้างๆ ครับ
“นั่งตรงนี้ก็ได้อะเป๊บ”
“ไม่ได้นะ ตัวยิ่งเบาๆ เดี๋ยวปลิวไปตามลมละแย่เลย” เหตุผลของเป๊บทำให้ผมละงงจริงๆ เล้ยยยยคนนะไม่ใช่กระดาษจะได้ปลิวง่ายๆ นะ
   หลังจากที่พวกเรานั่งเสร็จเรียบร้อย เรือก็พุ่งออกจากท่าเรือมุ่งหน้าสู่โรงแรมปารดี บนเกาะเสม็ดครับ เรือแล่นเร็วมากๆๆ เวลาเจอคลื่น ก็จะกระเด้งๆ ครับ ทำให้ทุกคนหัวเราะ กริ๊ดกร๊าดกันใหญ่ ด้วยความที่เรือแล่นเร็วมากๆ เป๊บคงกลัวผมไม่ปลอดภัยครับ เลยคว้าตัวผมไปนั่งระหว่างขาเป๊บ เป๊บก็กอดผมไว้ด้านหลัง (คงพอนึกภาพออกนะครับ)
   นั่งเรือมาประมาณ 25 นาที เรือก็เข้าเทียบท่าที่โรงแรมปารดีแล้วครับ โรงแรมไฮโซมากๆ สมกับสิ่งที่ฉัตรนำเสนอไว้ พวกเราทั้งหมดขึ้นจากเรือ มีพนักงานของโรงแรมออกมาต้อนรับและพาพวกเราไปเช็คอินที่เค้าเตอร์ครับ
   เดินไปถึงเค้าเตอร์ก็มี welcome drink ด้วยละครับ อร่อยๆๆ ชื่นใจ ฮิฮิ
“สวัสดีคะ จองไว้ในนามคุณอะไรคะ” พนักงานที่เค้าเตอร์ยกมือไหว้และกล่าวต้อนรับดีมากๆ ครับ
“จองไว้ชื่อ XXX กลุ่ม XXX คะ” ฉัตรตอบพนักงานไปครับ
“คะ..จองห้อง วิลลาหน้าหาด 3 ห้องนะคะ”
“น่าจะใช่นะคะ เป็นห้องแบบไหนหรือคะ มีดีกว่านี้มั้ย”
“เป็นห้องที่ติดริมหาดและมีสระว่ายน้ำส่วนตัวทุกห้องเลยคะ ในข้อมูลการจองมีการระบุไว้ว่าให้ทั้งสามห้องมีทางเชื่อมเดินถึงกัน ทางเราจัดการให้แล้วนะคะ สามห้องนี้ดีที่สุดของโรงแรมเลยคะ”
“คะ ขอบคุณนะคะ” ฉัตรกล่าวขอบคุณพนักงานครับ
“ขอบคุณคะ จะให้พนักงานจัดการเรื่องกระเป๋าให้นะคะ นี่คีย์การ์ดคะ ตารางกิจกรรมการเที่ยวสอบถามได้ตลอดนะคะ ขอบให้เพลิดเพลินกับบริการของเราคะ”
   ฉัตรแบ่งคีย์การ์ดให้แต่ละคนครับ ผมนอนคู่กับเป๊บ(มันแน่อยู่แล้ว แฮ่ๆๆ) โอ๊ตนอนคู่เบิด ฉัตรนอนคู่ทราย ลงตัวพอดีครับ เมื่อได้กุญแจต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปพักผ่อนเป็นการชั่วคราว โดยประมาณบ่ายสามนัดเจอกันที่ล๊อบบี้โรงแรมเพื่อทานข้าวครับ
   ผมกับเป๊บเดินมาถึงห้องพัก เอาคีย์การ์ดแตะที่ประตู เดินเข้าไปในห้อง โอ้โห ห้องสวยมากๆ ครับ ระเบียงด้านนอกของห้องติดริมชายหาด มีโต๊ะกับเก้าอี้ไว้นั่งผ่อนคลาย เตียงนอนนุ่มขนาดใหญ่ ปลายเตียงมีหน้าต่างขนาดใหญ่มองเห็นวิวทะเลริมชายหาดด้วยครับ
“เป๊บ..ห้องสวยอะ วิวดีด้วย”
“นั่นซิที่รัก...วิวสวยมากครับ”
   ผมก็เดินสำรวจห้องทุกซอกทุกมุมครับ จนกระทั่งมาเจอห้องอาบน้ำ
“โว้ววว..เป๊บค้าบบบบ ห้องอาบน้ำๆ”
“อะไรครับโจ้...” เป๊บตกใจกับเสียงแหกปากของผมครับ รีบวิ่งมาที่ผมยืนอยู่
   ผมแหกปากตกใจเพราะ ห้องอาบน้ำมันออกแนวๆ กลางแจ้งอะครับ เวลาอาบน้ำจะมีคนแอบดูมั้ยเนี่ยย
“ก็ห้องอาบน้ำมันดูกลางแจ้งไปนี่น่าเป๊บ”
“นึกว่าอะไรอีกครับ...ดีออกกลางแจ้ง เร้าใจดี” เป๊บตอบยิ้มๆ
“แอะ...หมายความว่าไงอะ” ผมหันไปมองเป๊บพร้อมทำหน้างง
“อ๊ะ..อ๋อ..เปล่าครับ เป๊บหมายถึงอาบแล้วตื่นเต้นดี”
“หรือออ” ผมมองเป๊บด้วยสายตาไม่เชื่อ ต้องมีแผนแอบหื่นแน่ ฝันไปเถอะ อิอิ
   หลังจากหมดปัญหาคาใจกับห้องน้ำ ผมก็เดินมาพร้อมกับกระโดดลงบนเตียงครับ
“โอ้ววว..เตียงนุ่มนิ่มจังค้าบบเป๊บ” ผมตอนคว่ำหน้าลงบนเตียง ก็มันนุ่มนิ่มนี่น่าสบายตัวด้วยค้าบบบ
“ใช่คร้าบบบ นุ่มสบายตัวจริงด้วยอะ” เป๊บก็ชมว่านุ่มเหมือนกันครับ แต่ประเด็นก็คือ ทำไมต้องมานอนทับคร่อมตัวผมด้วยละเนี่ยยยย
“นี่ๆๆ จะนุ่มได้ยังไงละนั่น นอนทับโจ้อยู่อะ”
“อ้าวหรือครับ โจ้ตัวนุ่มไง ฮ่าๆๆ” เป๊บตอบแบบเนียนๆ ครับ กะล่อนนนน แฟนใครเนี่ยยยย ชิ
“โหยยย...ลุกขึ้นเลยนะ หนักๆๆๆ”
“ไม่หนักหรอกคร้าบ นะๆๆ ขอนอนแบบนี้นิดนึงนะ รู้สึกดีจังครับ”
“ไม่เอาอะ..หนักๆๆๆ ลุกขึ้นเลยนะ” ผมดิ้นดุ๊กดิ๊กไปมา ให้หลุดจากร่างของเป๊บที่คร่อมผมอยู่ครับ
   ดิ้นไปดิ้นมา จากที่ผมนอนคว่ำกลายมาเป็นผมนอนหงายได้ไงเนี่ย เมื่อนอนหงายกลายเป็นว่าเป๊บก็ยังคร่อมผมอยู่ เราสองคนสบสายตากัน(ซวยแล้วกรู)
“วันนี้โจ้ดูน่ารักเป็นพิเศษเลยนะครับ” เป๊บจ้องมองมาในดวงตาผมครับ ผมเห็นเป๊บแอบเขินๆ :o8: เหมือนกันนะ แต่แววตาเซ็กซี่มาก
“อะ..เอ่อ..ก็..” ผมหน้าแดงแปร๊ดไปแล้วครับ เล่นชมกันแบบนี้จะให้ตอบยังไงอะ

   ไม่มีคำพูดอะไรออกจากปากของเป๊บ เพราะเป๊บโน้มตัวลงมาจูบผมเต็มๆ เป็นการจูบที่ร้อนแรงมาก :-[ เราสองคนจูบกันเนิ่นนาน.........จน.......

ต่อตอนหน้าคร้าบบบบบ  :pig4:
[/color]

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด